- U N C L E -
“ทำอะไรอีกแล้วเนี่ย...” น้ำเสียงแหบทุ้มถามขึ้นหลังจากถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาโดยพละการ ผมเอี้ยวตัวหันไปมองคนมาใหม่ที่กำลังทำหน้าปั้นบึ้ง คิ้วคู่สวยของเขาขมวดเข้าหากันทันทีที่โน้มหน้าลงมาแล้วเห็นตัวอักษรหมื่นกว่าคำบนหน้าเวิร์ดที่เปิดค้างไว้
“เขียนนิยายอะ...ทำไม? หิวหรอ” ผมหันไปถาม
‘เขา’พลางกะเทาะกล่องอาร์คติคแบล็คในมือแล้วบีบเจ้าปุ่มเพิ่มความเย็นเล็ก ๆ ก่อนจะคาบมันแล้วจุดไฟแช็กจ่อเปลวอ่อนลนตรงปลาย
“อือออออ หิว หิวตั้งแต่เช้าแล้ว หิวจนปวดท้องไปหมดเลยเนี่ย” เขาบ่นออกมาเสียงอ่อนก่อนจะซบหัวลงบนหลังผม กดจูบเบา ๆ แล้วผงกขึ้นมาแย่งบุหรี่ในปากผมไปดูด ริมฝีปากเล็ก ๆ ที่ผมเคยบอกชอบนักชอบหนาเวลานี้กำลังพ่นกลุ่มควันสีเทาอ่อนออกมาจนบดบังจอด้านหน้าไปหมด
“หิวแล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ยังไม่เปิดเวิร์ดล่ะ... งั้นรอแป๊บนึงได้ไหม ขอพิมพ์ย่อหน้านี้เสร็จก่อน แล้วค่อยไปหาอะไรกินกันนะ”
ผมพูดกับ
‘แฟนหนุ่ม’ เบา ๆ แต่แทนที่เขาจะพยักหน้ารับหมอนั่นกลับทำหน้าตึงกว่าเดิม
ฉลาม ก็เป็นอย่างนี้ทุกที ทั้งที่เมื่อเช้าก็เห็นดูใส่ใจกับนิตยาสารแฟชั่นของปักษ์นี้ดีแล้วแท้ ๆ แต่ไม่ถึงสองชั่วโมงก็เดินกระทืบเท้าทำหน้างอเข้ามาหา แล้วใช่ว่าผมจะเดาใจไม่ถูกซะที่ไหน แต่เพราะนี่มันเป็นนิสัยส่วนตัวของเขาอยู่แล้ว เอาแต่ใจ อยากได้อะไรต้องได้... อาจเพราะเขาเป็นคนหน้าตาดี ไม่ว่าจะทำอะไร พูดอะไร ใคร ๆ ก็พากันล้อมหน้าล้อมหลัง อยากจะเอาอกเอาใจกันซะเต็มประดา ถึงได้นิสัยเสียอย่างนี้
ผิดกับผม... ผมมันก็แค่นักเขียนจน ๆ คนนึง ที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ (เว้นแต่ตอนไปโชว์ตัวที่งานหนังสือน่ะนะ) วัน ๆ เอาแต่ใช้ชีวิตอยู่หน้าจอคอมจนบางทีแฟนขี้งอนก็ชอบแซวว่าเป็นพวก ‘ฮิคิโคโมริ’ อะไรเทือก นั้น
แต่ถามหน่อยเถอะ ก็งานผมมันต้องนั่งอยู่หน้าคอมนี่หว่า แล้ววัน ๆ จะให้กระเสือกกะสนดิ้นรนออกไปไหนนักหนา? ไปช็อปปิ้งอย่างคุณแฟนน่ะหรอ? โทษทีนะที่ผมเป็นพวกเซ้นส์ด้านแฟชั่นตายด้านไปหน่อย
นั่นไง พูดไม่ทันขาดคำก็ทำกระเง้ากระงอดอีกแล้ว
“
พี่ตนุ”
“ว่า...”
“ถามจริงเหอะ ไอ้นิยายวายเวรอะไรนี่มันดีตรงไหนวะ”
คราวนี้มีขึ้นเสียงนิดๆ แฮะ... ผมหมุนเก้าอี้กลับไปเลิกคิ้วมองเค้าทั้งยังคาบบุหรี่ในปาก ก่อนฉลามจะกลอกตาแล้วผ่อนลมหายใจออกมาแรง ๆ อย่างหัวเสีย
“ชอบเห็นแฟนตัวเองเป็นเมียคนอื่นนักหรือไง กับ
พี่สิงโตก็เคยเจอกันแล้วไม่ใช่หรอ ก็รู้ไม่ใช่หรอว่าไอ้นั่นมันมีแฟนเป็นผู้หญิงอ่ะ”
หวังว่าเขาจะไม่เห็นรอยยิ้มที่มุมปากผมนะ... รู้สึกดีจังเลยเวลาเห็นเขางอแงงุ้งงิ้งอะไรแบบนี้ มันเหมือนกับว่าผมกำลังโดนเขาจูงมือแล้วพาย้อนวัยยังไงอย่างงั้น เวลาเขางอแงเนี่ย--น่ามันตลกเป็นบ้า คนบ้าอะไรทำตัวเจ้าปัญหาได้น่ารักขนาดนี้วะ
“งอแงจังเลย ให้เป็นฝ่ายรับจะได้ไม่เหนื่อยไง ไม่ดีหรอ”
แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องเอาน้ำเย็นเข้าลูบ... น้ำเย็นเข้าลูบน่ะรู้จักไหม? ที่ไม่ใช่เดินไปเอาน้ำเย็นในตู้เย็นมาราดลงบนตัวเขาแล้วลากลิ้นเลียทั่วแผ่นอกเหมือนอาทิตย์ก่อนนะ... อา นี่ผมพร่ำอะไรกันวะ ลามกซะจริง
“ไม่ดี! แล้วก็ไม่ได้งอแงที่เป็นฝ่ายรับ! แต่งอแงที่ที่โดนแฟนตัวเองยัดเยียดให้เป็นเมียคนอื่นต่างหาก ไอ้โง่!” ริมฝีปากสีชมพูเข้มนั่นบ่นเสียงขรม ไม่พูดอย่างเดียวแต่ทำกระทืบมือกระทืบตีนไปด้วยนะ “ไม่รู้ล่ะ ถ้ายังไม่เลิกเขียนภายใน 5 นาทีนี้จะกลับคอนโดแล้ว!”
“เด็กจริงๆ...” คราวนี้ผมหัวเราะให้เห็นกันจะ ๆ ถามว่าน้องฉลามตอบรับปฏิกิริยานี้ด้วยท่าทางยังไงน่ะหรอ ก็ถลึงตาโตเท่าไข่นกกระจอกเทศแล้วยกมือขึ้นชี้หน้าผมน่ะสิ หมอนั่นกัดปากตัวเองจนไม่กลัวว่ารีเทนเนอร์ที่ใส่ไว้ในฟันด้านในจะเบี้ยวตามแรง มันเลยดูตลกมาก ๆ เมื่อเขาเสยผมอย่างหัวเสียแล้วถลาตัวเข้ามาใกล้ ๆ พร้อมกับกระชากคอเสื้อผมขึ้นไปหาแบบเนี้ยะ
“บ่นมากแล้วมาคบกับเด็กทำไมล่ะวะ ไอ้ลุงประสาทกลับนี่!”
คำก็ลุงสองคำก็ลุง... จะว่าชอบก็ชอบ จะว่าเกลียดก็เกลียดแฮะ เอาเป็นว่าอธิบายก่อนแล้วกันนะว่าทำไมถึงชอบ...
ข้อหนึ่ง มันดูภูมิฐานละเป็นผู้ใหญ่กว่าแฟนเอาแต่ใจที่ยืนหน้าบูดหน้าเบี้ยวตรงหน้านี่โขเลย
ข้อสอง สิทธิ์ในการเป็นลุงทำให้ผมไม่ต้องขับรถไปไหนมาไหนเอง เพราะแฟนหนุ่มของผมแทบจะถวายตัวขับให้ทุกครั้ง
ข้อสาม...มันฟังดูน่ารักมากเพราะฉลามจะสามารถอ้อนผมได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงวัยของตัวเองที่ปีนี้ใกล้จะย่างเข้าสู่เบญจเพสแล้ว
ส่วนข้อเสียน่ะหรอ...มันทำให้ผมดู
แก่กว่าวัยอันควรไง
“เออ...สงสัยจะประสาทกลับแล้วจริง ๆ ...หรือว่าหญ้าอ่อนจะไม่ค่อยมีสารอาหารกันนะ”
“หุบปากไปเลยถ้าจะพูดจาเป็นเชิงเปรียบเทียบอะไรแบบนั้น ฟังแล้วปวดหัวเป็นบ้า”
เขาทำให้ผมยิ้มอีกแล้ว ให้ตายเหอะ...ทำไมเขาน่ารักแบบนี้นะ ดูเอาเถอะ พอใช้ปากนั้นว่าผมด้วยคำพูดร้าย ๆ ยังไม่ทันทิ้งห่างออกมาจ้องตากันถึงห้านาทีก็พุ่งเข้ามา ประคองศีรษะผมเข้าไปบดริมฝีปากอย่างแรงซะแล้ว การกระทำของเด็กนี่ทำให้ผมชักเริ่มสงสัยว่าตกลงปากนี้หิวอะไรกันแน่
“จะใช้ปากให้หรอ” ผมถามเมื่อเขากดจูบไล่จากสันกรามไล่ไปจนถึงคางและต้นคอ มือของฉลามเลื่อนต่ำลงเรื่อย ๆ พร้อมกับตัวเขาที่ค่อย ๆ ย่อขานั่งลงตรงหน้า มือเรียวขาวจัดนั่นบรรจงลูบไล้ แกล้งปัดผ่านหน้าขาผมหลายครั้งแถมยังยิ้มยั่วอย่างจงใจ เขาทิ้งตัวลงนั่งแล้วเริ่มเอาปากรูดซิปกางเกงผมแทนที่จะเป็นมือ เพราะรู้ว่าผมจะทนอยู่ในสภาพนี้ได้ไม่นานไง ...ผมล่ะเบื่อจริงๆ เวลาที่ฉลามมันทำเป็นรู้ทันไปซะทุกอย่างเนี่ย
“เราไม่ได้มีเซ็กส์กันเลยนะลุง มันนานเป็นอาทิตย์แล้ว...ไม่เข้าใจหรอว่ามันหมายความว่าอะไร”
“จะอะไรล่ะ นอกจากเวลาพี่เหนื่อยจะไม่มีอารมณ์...อีกอย่างไม่มีพี่ นายก็ไปเอากับพวกตัวประกอบอยู่แล้วนี่?” ผมตอบอย่างขอไปที... อาชีพอย่างผมดูเหมือนจะไม่เหนื่อยนะ แต่มันล้าสมอง... อาชีพอย่างเขาก็เหมือนกัน...พวกดาราน่ะ...เจอคนเยอะอย่างกับอะไรดี
“ผมว่าลุงเสื่อมสมรรถภาพทางเพศแล้วล่ะ” เขาพูดพลางกดนิ้วลงบนบรีฟสีขาวของผม พักหนึ่งก็เงยหน้าขึ้นมาช้อนตามอง “สงสัยต้องกระตุ้นกันหน่อยแล้ว”
จบคำก็ก้มลงอ้าปากงับเสียเต็มแรง... ให้ตายเถอะ นี่มันทำร้ายกันทางอ้อมชัด ๆ อะไรคือการที่เอาปากงับ ๆ แล้วยังเอาลิ้นดุนผ่านเนื้อผ้าแบบนี้?
ให้ตายเถอะ แล้วผมจะอดทนไม่จิกหัวเขาแล้วรีบโหย่งตัวให้รูดกางเกงในสีขาวนั่นออกจากตัวได้หรอ
“เขยิบเข้ามา”
ผมเริ่มออกคำสั่ง มันเป็นเรื่องปกติเวลาที่เรามีเซ็กส์กันแล้วนิสัยจริงของผมจะโผล่ มันก็เหมือนเอาก้อนหินโง่ ๆ โยนถม ๆ กันเพื่อกลบอะไรบางอย่างนะว่าไหม ยังไงมันก็มีรูลอดและปิดไม่มิดอยู่ดี
มันเหมือนความต้องการของผมตอนนี้ ผมคิดว่าฉลามรู้แล้วว่าผมมีอารมณ์ร่วม... ไม่อยากจะเชื่อเลย กับคนที่เพิ่งบนหิวไส้จะขาดไปเมื่อครู่ตอนนี้กำลังผงกหัวขึ้นลงเบื้องล่าง แต่ก็นั่นแหละ เจ้าเด็กนี่คงจะไม่อิ่ม ถึงได้เลื่อนปากลงไปงับพวงแฝดของผมจนต้องผวาจิกหัวหมอนั่นให้ริมฝีปากบดเข้ามาชิดกว่าเดิม
“แค่ก แค่ก แค่ก....ไอ้..ลุง...เวรเอ้ย”
เขาผละใบหน้าออกแล้วหันไปทำท่าจะอ่อก ไม่ใช่เพราะว่าเขารังเกียจอะไรผมหรอกนะ แต่เพราะเมื่อครู่ผมคงทำเกินกว่าเหตุไปหน่อย ... แต่จะโทษผมคนเดียวก็ไม่ได้นะ ต้องโทษเขาด้วยที่ทำหน้าตายั่วกันโต้ง ๆ แบบนั้น
“ทำแบบนี้ผมคออักเสบได้เลยนะ ! แม่งเอ้ย”
“โทษทีนะ”
“...”
“พอแล้วเหรอ”
ผมเอ่ยปากเสียงอ่อน แต่การกระทำนี่ตรงกันข้ามสุด ๆ ให้ทายว่าผมทำอะไร... ใช่! คุณเดาถูก ผมเอื้อมมือไปโน้มหน้าเขาให้เข้ามาใกล้อีกรอบ แล้วประคองท่อนเอ็นร้อน ๆ บดกับริมฝีปากสีแดงนั่น
น้ำเยิ้ม ๆ ที่ซึมออกมาจากส่วนหัวชะโลมปากเขาจนเงาวับ ไม่ต้องเดานะว่าเขากำลังทำหน้าตาแบบไหนใส่ผม มันคงไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่ถ้าหากผมบอกว่าสามีแห่งชาติในตอนนี้กำลังมองค้อนใส่ทั้งที่ปากและคางเคลือบไปด้วยน้ำของผมแบบนั้น
น่าดูชมทีเดียว “ถามแบบนี้จะพอได้ไง” เขาถอนหายใจออกมาทีนึงก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาใกล้แล้วประคองมันเข้าปากอีกครั้ง คราวนี้ฉลามใช้ทักษะในการห่อปากที่ผมเคยสอนให้ได้อย่างดี เมื่อบวกเข้ากับดวงตาคู่สวยที่ช้อนมองกลับมาและลิ้นที่ตวัดวนตรงส่วนปลาย
มันช่าง...
“อ๊ะ...เดี๋ยว...ฉลาม...ทำอะ...ไร”
เขาไม่ปล่อยให้ผมได้แหงนหน้าแล้วทิ้งตัวเอนหลังอย่างสงบ เพราะไม่ทันที่ผมจะได้อ้าปากครางแบบไม่มีเสียง เขาก็ถอนปากออกแล้วจิกเล็บนิ้วก้อยลงมาบนส่วนหัวอย่างแรง... แล้วมันไม่ใช่แค่จิก... ผมจะบ้าตาย!! กำลังจะบ้าตายจริง ๆ แล้วเมื่อเขาใช้นิ้วก้อยบดขยี้บนร่องที่ใช้อัดฉีดแบบนี้ !
“นี่หรอ...ก็กระตุ้นไง ไม่อยากให้ลุงเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไปซะก่อน” เขาตอบพลางแลบลิ้นเลยตั้งแต่โคนขึ้นมาถึงตรงที่นิ้วของเขาอุดมันเอาไว้ “ทดลองถึงโดยที่ไม่ต้องปลดปล่อยดูไหมครับ...จะได้รู้ ว่ามันเป็นยังไง”
“คิดจะแก้แค้นกันหรือไง”
ผมกัดฟันพูด ใช้แขนทั้งสองข้างพยุงตัวเองขึ้น แล้วจ้องสบตากับเขา
นัยน์ตาของฉลามมีแต่คำว่า
สนุกจัง เป็นล้าน ๆ คำซ่อนเอาไว้ ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะปิดบังความหฤหรรษ์ของตัวเองหรอกนะ แต่ท่าทางจะจงใจอยากให้ตาลุงคนนี้เป็นคนเอ่ยปากมากกว่า บางทีเราก็เล่นกันเหมือนเป็นเด็ก ๆ นะว่าไหม มันมากไปจนบางทีก็นึกอยากจะจับเขาทุ่มแล้วกระชากหัว จากนั้นก็เอาคืนซะให้สาแก่ใจ
“ก็อยากไม่สนใจกันเองนี่” ฉลามว่าพลางเบะปากใส่น้อย ๆ “จะอะไรกันนักกันหนากับฟิคชั่น งานการมีก็ไม่รู้จักทำ ชอบมาทำตอนใกล้ ๆ แล้วก็นอนไม่เป็นเวลา ยิ่งแก่ ๆ อยู่ด้วย ถ้าล้มไปใครจะหาม”
“ก็ให้นายหามไง” ผมพูดยิ้ม ๆ แล้วจิ้มนิ้วไปบนแก้มนุ่มนั่น “ที่เขียนฟิคก็มีนายเป็นแรงบันดาลใจทั้งนั้น อีกอย่างก็แค่อยากคลายเครียดจากงานที่ทำก็เท่านั้นเอง...”
“ทั้ง ๆ ที่บทใกล้จะส่งอยู่อีกไม่กี่อาทิตย์เนี่ยนะ?”
“ก็มันยังไม่มีแรงบันดาลใจนี่นา”
“แต่มีแรงบันดาลใจมามโนฉากลามกให้ผมโดนพี่สิงโตเอาเนี่ยน่ะหรอ?” ฉลามระบายลมหายใจแล้วกำรอบหัวน้องชายผมแรงขึ้น “หรือจริง ๆ แล้วลุงต้องการอะไรที่แปลกใหม่...อย่างเช่นมีเซ็กส์กันสามคน..แบบว่า... ทำแซนวิชประกบ ให้ลุงตรงกลางอะไรอย่างนั้นหรอ”
“...”
โอยให้ตายเถอะไอ้เด็กนี่... เห็นเขาถามหน้าซื่อใจคดแล้วยิ่งฟังก็ยิ่งไม่รู้ว่ามันไปเอาความคิดพวกนี้มาจากไหน แฟนเด็กของผมนี่มันอะไรกันวะ เดี๋ยวก็งอแงเดี๋ยวก็งุ้งงิ้ง ตัดภาพมาอีกทีก็พูดจาติดหื่นออกมาได้ไม่กระดาก อายผีสางเทวดาบ้านนี้บ้างเถอะ นอกจากจะใช้ปากให้กันกลางวันแสก ๆ แล้ว ยังมีหน้ามาหาว่าแฟนแก่ ๆ ของมันอยากสามพีจนใจแทบขาดอีก
“ไปเอาความคิดพวกนั้นมาจากไหนเนี่ย” ผมบ่นเบา ๆ แล้วเอื้อมมือไปกดท้ายทอยฉลามให้ต่ำลง “พูดไปด้วยทำไปด้วยก็ได้นะ ค้างจะแย่อยู่แล้ว”
“อ่า ผมล่ะเกลียดลุงจริง ๆ”
ถึงจะพูดออกมาอย่างนั้นแต่ก็โน้มหน้าลงแล้วเอาปากถูกับแท่งร้อนที่กำลังปวดหนุบได้ที่ของผม ฉลามงับมันเบา ๆ ตรงส่วนปลาย ก่อนจะก็อ้าปากสวมมันทีเดียวจนมิดคำ
“อา...”
ผมครางเบา ๆ แล้วจิกหัวฉลามเมื่อเขาขยับไปซ้ายที ขวาที เสียดสีกับแนวฟันแล้วจึงไล้ไปถึงกระพุ้งแก้ม... อืม...จะว่ายังไงดี มันจี๊ดขึ้นมาหน่อย ๆ ตอนที่สัมผัสได้ว่าเขาดูดมันจนดังจ๊วบแล้วค่อย ๆ ลากลิ้นเกลี่ยวนเหมือนจะปลอบใจน้องชายผมไม่ให้ปวดเกินไปกว่านี้
ก็ไม่รู้ว่าไปตายอดตายอยากมาจากไหน แต่ฉลามทำเหมือนกับว่าจะรีดน้ำผมออกมากินรองท้องแก้หิวไปพลาง ๆ ชักเจ็บ ๆ แล้วแฮะ ดูดแรงขนาดนี้ จากปกติไม่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศก็จะได้มาเสื่อมคาปากของมันนี่ล่ะ
“เบา ๆ หน่อย”
ผมพูดเสียงต่ำบอกคนที่กำลังผงกหัวขึ้นลงอยู่ตรงหว่างขา เคยได้ยินคำว่างูเห่ายังไงก็เลี้ยงไม่เชื่องไหมครับ นั่นล่ะสถานการณ์ตอนนี้... ลองนึกภาพสามีแห่งชาติที่เคยไม่ประสาเรื่องผู้ชาย ถูกฟูมฟักโดยรุ่นพี่ที่แทบจะเป็นอามันได้ ที่สอนมันทุกเรื่องตั้งแต่ปากยันขาสิ วันนี้สิ่งที่ผมสั่งสอนมันทุกระบวนท่ากลับแว้งกลับมากัดเอ็นผมจนต้องสูดปากครางหวือ...
อยากจะบ้าตาย ใครเขาบอกให้เอาฟันครูดเบาๆ อย่างนั้น มันเสียวจนผมต้องจิกเล็บเท้าลงกับหน้าขาของฉลาม สามีแห่งชาติคนใหม่ซึ่งเป็นที่รักของมวลมหาประชาชีที่เวลานี้กำลังปรนเปรอให้นักเขียนอายุเทียบเท่าลุงของพวกเธออย่างถึงใจ ก็อย่างที่บอกว่าฉลามเป็นคนหัวรั้น เพราะงั้นถึงขอร้องออกไปด้วยน้ำเสียงน่าฟังอย่างไรแฟนหนุ่มนิสัยดีคนนี้ก็คงจะไม่มีทางออมแรงให้ผมเป็นแน่
แล้วก็ใช่... ผลัดจากการรูดรั้งตัวประกันของผมจนสาแก่ใจมันก็เลื่อนนิ้วกลางข้างซ้ายลงมาที่ปากจีบ ผมหรี่ตาข้างนึง แอบเห็นนะว่ามันทำหน้ายังไง ฉลามกำลังยิ้มสดใสเหมือนในโฆษณายาสีฟันที่เขาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ไอ้เด็กนี่จูบหัวปลายหยักของน้องชายผมทีนึงเพื่อสั่งลา ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาสอดนิ้วเข้าประสานเป็นหนึ่งเดียวกับแนวผนังอ่อนนุ่มที่คุ้นเคย...
“อึก...”
ผมเม้มปากกลั้นเสียงสุดฤทธิ์ จะว่าตอนนี้ตาขวางอยู่ก็คงจะใช่ เพราะแรงดันที่ค่อยๆแทรกเข้ามาไม่ได้ตั้งใจจะถนอมกันหรอก แต่ตั้งใจให้ผมเป็นบ้ามากกว่า หมอนั่นจงใจแกล้งผมชัด ๆ ท่าท่าจะสะใจไม่น้อยที่ได้เอาคืนจากคราวก่อนที่ผมแยงนิ้วเข้าไปในช่องทางของเขาตอนกำลังทำให้ด้วย ‘ปาก’
ท่าเดิม รูปแบบเดิม แต่เปลี่ยนเหยื่อ...
“ชอบใช่ไหมล่ะ...”
เห็นริมฝีปากเล็ก ๆ สีแดงฝาดนั่นแล้วก็นึกอยากคาดโทษขึ้นมาเสียฉิบ ถ้าถามว่าลุงแก่ ๆ คนนี้หลงใหลได้ปลื้มอะไรในตัวเจ้าเด็กที่อ่อนกว่าเกือบยี่สิบปีก็คงต้องตอบว่า ‘ปาก’ นั่นล่ะ... จะหาว่าโรคจิตก็ได้นะ แต่เวลาทำอะไรกันอย่างนี้ สิ่งแรกที่ผมจะมองก็คือปากของเขานั่นแหละ
นึกไปถึงครั้งแรกที่เราเจอกันเลยแฮะ... เหลือเชื่อเป็นบ้าที่คนอย่างผมกับดาราหนุ่มสุดฮอตอย่างเขามาสมสู่กันได้ ซึ่งได้ไม่ได้ก็ต้องขอบคุณผู้จัดละครเรื่องนั้นนั่นล่ะ ขอบคุณนะครับที่นอกจากจะเลือกบทประพันธ์ของผมไปสร้างเป็นซีรี่ส์แล้ว ยังพาให้ผมมาพบพานกับไอ้เด็กนี่อีก...
ช่างเป็นการเติมเต็มที่เยี่ยมยอดสุด ๆ ไปเลยนะว่าไหม?
“ตอบหน่อยสิลุง...ชอบใช่ไหม”
เห็นผมเงียบไปก็คงใจไม่ดีนัก เพราะงั้นฉลามจึงไม่หยุดเอ่ยปากถามเลยซักนาทีหลังจากที่เขาสอดนิ้วเข้ามา ชำแรกนั้นมันเหมือนโดนของ หมอนั่นรู้ดีที่สุดแล้วว่าจุดอ่อนไหวของผมมันอยู่ตรงไหน แล้วพอจงใจงอนิ้วครูดเข้าออกย้ำ ๆ ไปแต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับให้ชื่นใจก็เดาได้ไม่ยากหรอกว่าคงกำลังเสียเซลฟ์สุดขีด
“ดีแล้ว...ดี” ผมตอบปลอบใจ
แต่ใบหน้าขาวออร่านั่นก็ยังง้ำงออยู่ดี “แล้วทำไมตอบช้า”
“กำลังคิด...” ผมเว้นจังหวะให้เขาลุ้นเล่น ๆ “....คิด”
“คิดอะไรเล่า” ฉลามทำเสียงกระฟัดกระเฟียดแล้วชะงักมือลง คนอย่างเขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับการถูกขัดใจ... และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงมัดใจเขาเอาไว้ได้
“คิดว่าวันนี้เป็นวันคู่...อันที่จริงวันนี้พี่ควรได้พักไหมฉลาม”
เขาผ่อนลมออกจากปากอย่างโล่งใจแล้วจึงขยับนิ้วควงต่อ “...ตกใจหมด นึกว่าคิดเป็นจริงเป็นจังเรื่องนั้น”
“หืม?” ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม... เรื่องนั้นล่ะเรื่องไหน
“ก็เรื่องสามพี”
“...”
“เห็นหมู่นี้ชอบเขียนนิยายที่นางเอกถูกแย่ง...ไม่ใช่ว่าชอบสามพีหรอกหรือไง” ฉลามตอบอ้อมแอ้มเสียงเบา สัมผัสได้เลยว่าเขากำลังอ่อนโยนขึ้น หมอนั่นขยับนิ้วช้า ๆ แล้วก้มหน้าลงไปครอบครองลำตัวผมด้วยปากอีกครั้ง จูบย้ำ ๆ แล้วช้อนตามองอย่างเอาใจ “...แต่...ถ้า...ชอบก็บอกได้นะ แค่อย่าแอบไปทำอะไรลับหลังผมโดยพละการ... ขอแค่นี้อ่ะ ได้ไหม?”
“....” ผมกระพริบตามองเขาปริบ ๆ
“ลุง!”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...” ประมวลทุกอย่างได้จนเข้าใจก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันทีที่หายอึ้ง เห็นเขาจ้องสบตาเหมือนหมากัดไม่ปล่อยแล้วก็ต้องถามตัวเองในใจว่า
จริงดิ... ไอ้ที่ขมวดคิ้วตีหน้างอตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องก็เพราะแอบไปอ่านนิยายที่เพิ่งออกใหม่ของผมมาหรอกหรือ
“หัวเราะอะไรเล่า”
“ฮ่าฮ่าฮ่า....ฮึก...โอ้ย แม่ง...ขำเป็นบ้า”
“นี่ซีเรียสนะ!”
เขาตะโกนแหวสวนเสียงหัวเราะลั่นของผม ริมฝีปากสีแดงเลือดฝาดนั่นเบะเป็นรูปตัวยูคว่ำอีกแล้ว น่ารักจริง ๆ เลยโว้ย แฟนใครวะ!
“แล้วถ้าบอก...ฮ่าฮ่า...อุบ...ถ้าบอกว่า อยากสามพี....ไม่ทำโดยพละการแล้วจะหาใครมาร่วมวงด้วย” ผมถามกลั้วหัวเราะ ตาก็จ้องแฟนเด็กไม่วางตา ฉลามเงียบไปพักนึง เขาขมวดคิ้วเข้าหากันเหมือนคิดว่าจะตอบออกมาดีไหม แล้วในที่สุดก็ยอมตอบออกมา
“ก็พี่สิงโตไง...”
“...”
“เห็นหมอนั่นเคยบอกว่าอยากลองดู” สิงหภัทร หรือสิงโตเนี่ย เป็นคนยังไง? ครั้งแรกที่ผมเห็นเขาในทีวี
สิงโตเป็นพระเอกที่มีสีหน้าดูทรงพลัง ทุกประโยคในการลงน้ำเสียงของเขาดูมีจังหวะจะโคลน ลื่นหูน่าฟัง และที่สำคัญมันทำให้สาว ๆ เคลิ้มได้
โอเค ยอมรับก็ได้ว่าเวลาเขียนนิยายเขามักจะเป็นตัวเลือกหนึ่งในห้าอันดับที่ผมชอบหยิบมาใช้เป็นคาแร็กเตอร์พระเอก แน่นอนว่าสาวน้อยสาวใหญ่ต่างก็หลงใหลเขา และมันก็ฟังดูเข้าท่าเมื่อจับท่าทางการวางตัว หรือแม้แต่สีหน้าของเขามารวมกันแล้วมันได้คำว่า ‘เพอร์เฟกต์’
ผู้หญิงชอบความเพอร์เฟกต์ น้อยคนนักที่จะฟินกับคาแร็กเตอร์พระเอกซึ่งเป็นนักเขียนไส้แห้งแถมไม่สนใจโลกอย่างผม นั่นทำให้เรื่องดูลำบากขึ้นหน่อยถ้าหากวันหนึ่งนึกผมอุตริอยากจะใช้ตัวเองเป็นต้นแบบตัวละคร มันคงขายออกยากอยู่ เพราะเจ้าพระเอกคนนี้น่ะ ดูจะไม่ได้ดั่งใจพวกหล่อนสักเท่าไหร่
“ลุง...แน่ใจเหรอว่าจะทำแบบนี้อ่ะ”
เสียงหนึ่งเอ่ยถามขึ้นขณะที่ผมยกแก้วแปดออนซ์ขึ้นจรดริมฝีปาก ฉลามในสภาพเหมือนโจรแหกคุก ใส่แว่นตาดำกับที่ปิดปากส่งสายตามองมาอย่างไม่ไว้ใจ หลังจากวันนั้นที่ตอบตกลงไปอย่างง่ายดายก็ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กน้อยจะเหงาหงอยลงไปผิดวิสัย ฉลามในช่วงนี้ดูไม่เอาแต่ใจและขี้งอแงเหมือนเดิม
“ก็เอาไปพูดให้เขาฟังหมดแล้วไม่ใช่เหรอ อีกอย่างนายก็พูดเองว่าฝ่ายนั้นเขาโอเค”
อันที่จริงตาลุงแก่ ๆ คนนี้ไม่ได้มีนิสัยชอบลองของแปลกหรอก เพียงแต่รู้สึกขัดใจกับการกระทำของแฟนเด็กที่ดันพลั้งปากเอาไปเล่าให้เพื่อนร่วมงานฟังหมดตั้งแต่ลีลาท่าทาง ยาวไปยันเรื่องที่ว่าเวลาสีหน้าของผมว่า
ตอนนั้นเป็นอย่างไร เหตุผลทั้งมวลนั่นล่ะที่ทำให้ผมตัดสินใจจะดัดนิสัยเด็กด้วยการกระทำหลอก ๆ อย่างนี้
ผมไม่ได้คิดว่าเขาจะนัดสิงโตให้ผมจริงหรอก
ก็แค่อยากเห็นปฏิกิริยาที่น่ารักของเด็กน้อยเวลาขัดใจก็เท่านั้นเอง
ซึ่งเจ้าฉลามก็ดูจะหงุดหงิดงุ่นง่านมากอยู่ อันที่จริงผมอยากจะเห็นแฟนเด็กเป็นบ้าเป็นหลังกว่านี้ถ้าหากนักแสดงหนุ่มร่างสูงนั่นไม่โผล่มาขัดจังหวะเสียก่อน การรอคอยช่างแสนสั้น เมื่อเขาเข้าร้านมาทิ้งตัวลงนั่งที่ฝั่งตรงข้ามกับผม
“หวัดดี”
“ครับ” เขาเอ่ยทักฉลามที่ยิ้มเจื่อน ๆ เจ้าเด็กน้อยของผมทักทายด้วยมือก่อนจะเสหน้าไปอีกทาง เห็นอย่างนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทผมจึงเอ่ยทักเขาบ้าง
“สวัสดี สิงโต”
อันที่จริงนี่เป็นข้อดีสำหรับการเป็นคนแก่สุดในวงสนทนานะ ผมสามารถโปรยยิ้มให้ดูใจดีแค่ไหนก็ได้ตราบใดที่เราทั้งสามคนยังไม่มีเซ็กส์กัน ด้านสิงโตเมื่อเห็นผมยิ้มอย่างนั้นเขาก็อมยิ้มออกมาภายใต้แว่นกันแดดที่มองดูยังไงก็รู้ว่าเป็นดารา
“สวัสดีครับ”
เสียงทุ้มของเขาฟังลื่นหูไม่ต่างจากฟังในทีวี หมอนี่รู้ดีว่าควรวางตัวยังไงกับคนแก่กว่า มองดูแล้วก็รู้สึกแปลกใจเพราะแฟนเด็กนั้นช่างดูแตกต่าง... ก็ฉลามน่ะ ดื้อ ขี้ตื้อ แถมงอแงเป็นที่หนึ่ง
“แล้ว...เราจะไปกันหรือยังล่ะ”
ผมเลิกคิ้วถามเขาที่มองผ่านแว่นตามา สิงโตทำเพียงแค่ระบายยิ้ม ส่วนเจ้าฉลามแสดงท่าทีกระฟัดกระเฟียดออกหน้า เห็นแล้วอยากจะแกล้งให้โมโหขึ้นอีกนิด
“ว่ายังไง” ผมเร่ง “อยากจะลองไม่ใช่หรือ?”
ถือว่าเป็นคนแก่กว่าจะพูดอะไร ยังไงก็ไม่ถูทุเรศหู ผมอมยิ้มมุมปากแล้วออกแรงเตะเท้าคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ให้หันมาสนใจคนที่ตัวเองชวน ก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปทางคนมาใหม่ ให้เขาออกความเห็น
“ผมยังไงก็ได้”
เขาตอบด้วยท่าทีสบาย ๆ ร่างสูงเอนหลังพิงพนักแล้วกอดอกมองผมกับฉลามเล่นขากันอยู่ใต้โต๊ะ ไอ้เด็กนี่ก็ช่างยั่วเสียจริง พอผมเตะเข้าให้ที่น่อง มันก็ยื่นมือมาขยำเป้าผมอย่างแรงจนแทบเก็บอาการไม่อยู่
“แต่ผมเปลี่ยนใจแล้ว...ที่จริงผมแค่จะเอาแฟนมาอวดพี่ต่างหาก”
สุดท้ายหลังจากน้องมันทำโทษผมอย่างสาแก่ใจ เจ้าฉลามก็หันไปโพลงใส่คนมาใหม่ด้วยท่าทางเหมือนหมาหวงเจ้าของ สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีนักที่ผมเอาแต่นั่งกอดอกทำท่าสบาย ๆ ทั้งที่มันคับพองเต็มกางเกง จะมาเล่นกับคนรุ่นโตกว่าก็ต้องตั้งการ์ดให้แข็งแรงหน่อยนะ เพราะถึงมันจะยั่วผมแค่ไหน แต่
พี่ตนุผู้กร้านโลกก็ไม่มีทางหลุดเสียงอิ๊อ๊ะออกไปให้อายใครหรอก
“เหรอ...ฉันก็คิดว่านายคงไม่ยอมหรอก” แต่ที่น่าอัศจรรย์ใจกว่าคือสิงโตพูดพร้อมระบายยิ้มออกมา เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วยกมือขึ้นดันแว่นตาสีดำอันโตให้ติดจมูก “แต่ที่มานี่...ก็แค่อยากเห็นแฟนของนายเท่านั้นแหละ”
ก็ไม่รู้ว่าแฟนเด็กของผมเอาผมไปพูดอย่างไรบ้าง น้ำเสียงของพ่อดาราหนุ่มถึงได้ฟังเหมือนกับว่าจะตกเบ็ดให้ปลางับเสียอย่างนั้น ผมจับกระแสในคำพูดได้ว่ามันต้องมีอะไร คิดว่ารู้ทันเกมหมอนี่เหมือนกัน แต่ยังไม่ทันได้ตอบโต้ออกไป เจ้าฉลามก็โพลงขึ้นมาอีกรอบ
“ดีแล้ว แค่นี้แหละ ไปๆ ลุกเลยนะลุง อย่าโปรยยิ้มให้ชาวบ้านเขาเกลื่อนกลาดสิ”
ฉลามยังไงก็ยังเป็นฉลาม แฟนหนุ่มนิสัยดีแต่ขี้หวงของผมเร้าให้ลุกขึ้นทั้งที่ผมยังไม่นึกอยากจะลุก แต่พอไม่ลุกหมอนี่ก็หันมาทำเป็นเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่ ดูเขาเถอะ...ทำท่าเหมือนหมาเข้าไปทุกวัน จะเรียกว่าน่ารักหรือน่าชังดีล่ะเนี่ย
“งั้นต้องขอตัวก่อนนะครับ ไว้เจอกันโอกาสหน้า”
ถึงแม้จะมีโอกาสได้คุยกันต่อหน้ากับดาราดังอย่างนี้ แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะแสดงมารยาท สิงโตทำเพียงค้อมหัวให้เล็กน้อย ก่อนรู้ตัวอีกทีทั้งแขนผมก็ถูกรั้งให้ลุกขึ้นยืนด้วยพลังปลาฉลามเสียแล้ว
“แล้วเจอกันครับ”
สิงโตเอ่ยลา ในขณะที่ฉลามลากผมผ่านตัวเขาด้วยท่าทางที่เปิดเผย เชื่อเถอะว่าผมเดินขมวดคิ้วตามแรงลากของอีกคนจนออกมาถึงหน้าร้านด้วยความประหลาดใจ ทีแรกไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนดังอย่างเขาถึงได้พูดอย่างนั้นกับคนที่ไม่มีทางเจอกันได้อีก...
จนความรู้สึกหน่วง ๆ ที่กระเป๋ากางเกงผมสะกิดเรียกให้สนใจ...
ผมหยิบมือถือขึ้นมาเช็ค เผื่อว่าจะมีใครส่งไลน์มาให้เรื่องงาน แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน เพราะเจอข้อความแปลกๆ จากคนที่น่าจะยังคงนั่งต่อในร้านที่ผมเพิ่งจากมาเมื่อครู่
ชัดเจน ไอ้ตนุ
โดนเด็กมันเล่นเข้าให้แล้วไหมล่ะ!
SINGTO- nowอันนี้ไลน์ส่วนตัวครับ ผมมีเบอร์พี่อยู่แล้ว
Slide to replySINGTO- nowผมยังสนใจข้อเสนอนะ แต่สนใจแค่กับพี่คนเดียว
Slide to replySINGTO- nowถ้าพี่โอเค ตอบกลับมานะครับ ผมจะรอ
Slide to reply_____________________________________________________
ให้อารมณ์นอนคุยกันมากว่ามีอะไรกันเนอะ แต่ก็บรรยายซะเยอะเลย นี่ก็แก้เยอะแล้วค่าฮื้อ 55555 แง
ไม่รู้จะคุยอะไร 5555 ขอให้มีความสุขในวันหยุดแล้วกันนะคะ
#ลุงของฉลามแวะมาพูดคุย ติดต่อได้ที่
Twitterไม่ค่อยเล่นทวิต แต่จะพยายามเข้ามาดูบ่อยๆจ้า