(จบ) ❀ A day with Our Match ー Last Match ♥ (31/10/2561)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (จบ) ❀ A day with Our Match ー Last Match ♥ (31/10/2561)  (อ่าน 35869 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เหมือนนังฮอนยังไม่ได้ทำไรเลย แค่ทำตัวหงอๆ น้องกิจัดการมันเลยค่ะรูกกกก  :hao7:

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ー 9th Match ♥




…พูดออกไปแล้ว น่าอายเป็นบ้า

หลังจากประโยคนั้นสิ้นสุด กิก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปอีกเลยแม้แต่ประโยคเดียว ปล่อยให้ลูกหมาตัวโตพูดจ้อมาเรื่อย จนกระทั่งล้อรถจอดสนิทที่ลานจอดใต้คอนโด กิรีบก้าวขาลงจากรถ วิ่งเข้าตัวตึกเพื่อมากดรอลิฟต์ขึ้นห้อง เขาเริ่มกระวนกระวายเมื่อเอี้ยวตัวไปมองด้านหลังแล้วเห็นลูกหมาวิ่งตามมาทันท่วงที

มองเห็นใบหน้าอีกคนยิ้มร่าจากหน้าประตูตึกมาแต่ไกล จนกระทั่งวิ่งมาถึงหน้าลิฟต์ที่เขายืนอยู่ เจ้าลูกหมาตัวนั้นก็พักหายใจหอบแฮกๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้เขาอีกรอบ

…ดีใจเกินหน้าเกินตาไปมาก ชนิดที่ว่ามองจากดาวพลูโตคงเห็นฟันไอ้หมานี่ชัดแจ๋ว

“ตามมาทำไม” กิทำใจกล้าทักถามออกไป

“ก็ขึ้นห้องไงคะ”

“จะขึ้นไปทำไม ไม่ต้อง” รีบเอ่ยขัดเมื่อรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงนี้เท่าไหร่นัก

“อ้าว ทำไมล่ะคะ”

“พรุ่งนี้กูจะกลับบ้านแล้ว” ไม่ใช่ข้ออ้างหรือคำโกหกเพื่อหลอกให้ไอ้ฮอนกลับไปแต่อย่างใด เขาวางแผนกลับบ้านมาก่อนหน้าแล้วจริงๆ สิ่งที่ไม่อยู่ในแผนน่ะคือเหตุการณ์บนรถเมื่อครู่นี้ต่างหาก

“เดี๋ยวนะ… บ้านไหน เชียงใหม่?”

“กูมีหลายบ้านรึไงล่ะ”

กิมองรอยยิ้มที่ค่อยๆ หุบลงของอีกฝ่าย ใบหน้าเสียใจอย่างสุดซึ้งปรากฏขึ้นมาแทนรอยยิ้มแฉ่ง เมื่อได้ยินเรื่องดีของเขาแต่คงจะเป็นเรื่องร้ายของมัน ฮอนทำหน้าเหมือนโลกกำลังจะถล่มฟ้ากำลังจะทลาย เอนตัวเปลี้ยไปพิงผนังข้างๆ อย่างไร้เรี่ยวแรง ถ้าไม่อายพี่ยามตรงนู้นมันคงลงไปกองกับพื้นเพราะช็อกแล้วแน่ๆ

“กิ บอกกูทีว่าพูดเล่น”

“จะล้อเล่นทำไม ไม่ได้กลับบ้านหลายเดือนแล้ว ซื้อตั๋วเครื่องไว้ตั้งนานแล้วเนี่ย”

“มึงหลอกกูแน่ๆ เลยกิ”

เขาถอนหายใจพร้อมหันไปมองใบหน้าเคล้าน้ำตาของคนตรงหน้า ใช้มือดันหลังอีกฝ่ายเบาๆ ท่าทีผลักไสไล่ส่งให้กลับบ้านไปได้แล้ว

“รีบไปได้ละ ลิฟต์จะมาแล้ว”

“แต่วันนี้มันเป็นวันแรกของเรานะ กูควรได้อยู่กับมึงสิ”

ฮอนขืนตัวจนเขาต้องออกแรงผลักมากกว่าเดิม

“วันแรกอะไร ไร้สาระ” กิพูดออกไปทันทีที่คำพูดของอีกฝ่ายทำให้เขานึกถึงเรื่องน่าอายบนรถ แต่ดูเหมือนจะมีคนไม่พอใจเท่าไหร่นัก ถึงได้ทำปากยื่นออกมาเหมือนเด็กน้อยโกรธคุณแม่ตอนโดนขัดใจเสียอย่างนั้น

“กูไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระตรงไหน”

กิผละตัว ปล่อยมือออกจากหลังอีกฝ่าย เตรียมรับมือกับลูกหมาโหมดดื้อด้านทันที

“กูแค่จะกลับบ้าน”

“กลับพรุ่งนี้นี่นา วันนี้อยู่ด้วยกันก่อนไม่ได้เหรอคะ”

เขาส่ายหัว “เปิดเทอมค่อยมาใหม่ไป”

“เปิดเทอมก็ได้เจอมึงแค่แป๊บเดียว ตารางเรียนก็ไม่รู้จะตรงกันรึเปล่า เวลากูว่างมึงก็ไม่ค่อยว่าง เนี่ยแค่พูดน้ำตากูก็จะไหลแล้ว กิมึงคิดดูดิ ไม่สงสารกูเหรอ”

“ไม่อะ” กิรีบสวนทันควัน

“ตัวก็แค่นี้ แต่ใจร้ายฉิบหายเลยว่ะ” ท่าทีไร้ความลังเลนั่นทำให้ฮอนต้องยู่ปากใส่อีกรอบ

“จะกลับได้ยัง ลิฟต์มาจนขึ้นไปรอบนึงแล้วนะ” คนตัวเล็กรีบเอ่ยไล่เพื่อตัดบท

ฮอนกอดอกนิ่ง ทำทีคิดอะไรในหัวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดสิ่งที่ต้องการออกมา “พนันกัน ถ้าลิฟต์มาภายในห้าวิกูจะปล่อยมึงไป ถ้าช้ากว่านี้กูจะตามมึงไปถึงห้อง”

กิขมวดคิ้วก่อนจะรีบปฏิเสธ “ไม่เล่น”

“ไม่เล่นก็ไม่กลับ” ไม่ว่าเปล่า ร่างโปร่งก็เดินมากอดคอคนตัวเล็กกว่าจากด้านหลังทันที แปลงสภาพจากลูกหมายักษ์เป็นหมีโคอาล่าเกาะของรักหนึบ

“ตลกปะ”

“ไม่นะ กูจริงจัง”

“ไอ้เหี้ยฮอน ปล่อยได้แล้ว มึงอายคนบ้าง” กิเริ่มดิ้นสะบัดตัวพร้อมแงะมือปลาหมึกบนคอของตัวเองออก เมื่อเห็นว่ามีคนแปลกหน้าเดินมาหยุดรอลิฟต์อยู่ห่างๆ

“งั้นเรียกแฟนจ๋าหน่อยทีนึง” เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบข้างใบหู

กิเอี้ยวตัวไปมองคนด้านหลัง ช้อนตามองก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น “อันนี้ยิ่งตลกไปใหญ่”

“อะไร ไม่ตลกนะเพราะกูจริงจังกว่าเมื่อกี้อีก”

“ก็กูยังไม่ได้ตกลงกับมึงเลย” กิพยายามกลบเกลื่อนเมื่อรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองกำลังร้อนผ่าว เหตุการณ์น่าอายเมื่อครู่ฉายซ้ำขึ้นมาในหัวอีกแล้ว

“คำตอบนั้นไง กูถือว่ามึงตกลงแล้วนะ”

“มึงถือแต่กูไม่ได้ถือนี่” เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะพูดอะไรแบบนั้นออกไปได้ด้วยซ้ำ ขอคำว่าคัทแล้วถ่ายเทคใหม่เหมือนถ่ายหนังได้รึเปล่านะ…

“อ๋อ กูถือแค่คนเดียวสินะ มิน่าทำไมมันหนักจังวะ …ถุ้ย” ฮอนปล่อยมือออกจากลำคออีกฝ่าย เบ้หน้าก่อนจะบีบน้ำเสียงเพื่อเล่นมุกตลกกากๆ ออกมา

คนตัวเล็กขมวดคิ้วพร้อมยิ้มแห้งๆ ให้คนที่ชงมุกเองแล้วตบเองคนเดียวเสร็จสรรพ ก้าวขาเข้าลิฟต์รอบสองที่ลงมาถึงพอดี กดปุ่มเปิดลิฟต์ค้างไว้ให้เพื่อนร่วมคอนโดที่ยืนรอลิฟต์ข้างๆ กันเข้ามาด้วย เพราะเหตุนี้จึงเปิดโอกาสให้ลูกหมาตัวนั้นได้ก้าวขาเข้ามายืนในลิฟต์ด้วยพอดี

ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรเพราะมีบุคคลอื่นยืนอยู่ข้างๆ ลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นสามอย่างรวดเร็ว กิก้าวเท้าออก เลี้ยวขวาและตรงดิ่งไปห้องพักริมสุดทางเดินของตนเอง ก่อนจะล้วงกุญแจในกระเป๋าผ้าออกมาไขล็อกประตู

“หนูกิคะ”

เสียงเรียกชื่อแผ่วๆ จากทางด้านหลังทำให้กิต้องหันไปมอง ทั้งที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะไม่สนใจและรีบเดินเข้าห้องไปแล้วแท้ๆ

“สรุปว่าตอนนี้มึงเป็นแฟนกูแล้ว แต่กูยังไม่ได้เป็นแฟนมึงเหรอ”

“คงงั้นมั้ง”

หลังจากพูดประโยคนี้ออกไป กิก็เหมือนเห็นลูกหมาตัวโตหูลู่หางตก พร้อมครางหงิงๆ อยู่ในลำคอ

ท่าทีสลดลงของเจ้าลูกหมาทำให้เขาอดใจไม่ได้ที่จะลูบหัวลูบหางปลอบ กิยืดตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อเอื้อมมือไปลูบกลุ่มผมสีดำของคนตัวสูงกว่าไปมา

“กลับไปได้แล้ว” ลดมือลงเมื่อเห็นมุมปากของลูกหมากระตุกขึ้นทีละนิด ก่อนจะเอ่ยปากไล่อีกรอบ

“ไม่ได้เห็นหน้าตั้งหลายวัน เดี๋ยวก็จะไม่ได้เจอกันอีกเป็นอาทิตย์เลยนะ” ฮอนทำน้ำเสียงกระเง้ากระงอด จับชายเสื้อเชิ้ตสีขาวของนักศึกษาตรงหน้ากระตุกจึกๆ

“รอก่อนไม่ได้รึไง”

“รอได้สิคะ รอมาหลายวันหลายอาทิตย์แล้วด้วย”

“ก็รอเพิ่มอีกอาทิตย์กว่าๆ เอง เดี๋ยวก็เปิดเทอมแล้ว”

“รู้ แต่มันคิดถึงนี่”

“ก็เปิดเทอมค่อยมาไง บอกหลายครั้งแล้วนะ”

“อยู่มอมันได้เจอแป๊บเดียวเอง ได้อยู่ห้องกับมึงก็ว่าไปอย่าง”

 “…กูว่ากูพูดไปหลายครั้งแล้ว” กิถอนหายใจ แม้จะรู้ว่าตัวเองพูดไม่ชัดเจนเองก็เถอะ ตีความเองไม่ได้รึไงเล่า!

“ก็รู้ อื้อเปิดเทอมถึงจะได้เจอกัน อื้อทนได้ อื้อแค่อาทิตย์เดียวเอง” คนตัวสูงทำเสียงหงอยประชดประชัน

“เปิดเทอมค่อยย้ายมา ครั้งนี้ถ้ายังไม่รู้เรื่องอีกก็เรื่องของมึงแล้ว!”

กิยืนกอดอกทำหน้าหงุดหงิดอยู่หน้าประตู เขาตัดสินใจหันหลังแล้วก้าวขาเข้าไปในห้องทันทีที่พูดจบ ฮอนรีบก้าวเข้าไปใช้มือยันประตูเอาไว้ก่อนที่คนตัวเล็กจะงับปิดได้ทันท่วงที

“หมายถึงให้มาอยู่ด้วยได้?”

“ไม่รู้!” กิพูดเสียงดัง ถ้าให้พูดอีกครั้งขอกัดลิ้นตัวเองคงดีกว่า เขาเบือนหน้าหนีไปทางขวาเพื่อหลบสายตาอีกฝ่ายเมื่อรู้สึกว่าหน้าเริ่มร้อนผ่าวขึ้นอีกรอบ แม้จะพยายามไม่มองแล้วแต่หางตาก็ยังคงเห็นมุมปากของคนตรงข้ามค่อยๆ ยกขึ้นจนกลายเป็นรอยยิ้มกว้างในที่สุด

“งั้นของที่ยังอยู่ในห้องก็เอาไว้งี้ก่อนนะ”

“…เออ”

“ไม่กวนแล้วก็ได้ค่ะ” ฮอนทำทีเป็นปล่อยมือออกจากบานประตู เห็นดังนั้นกิเลยลดแรงที่จับลูกบิดอยู่ลงเพราะนึกว่าอีกคนคงถอดใจไม่ดึงดันเข้ามาในห้องอีกแล้ว

“แต่ขอค่ามัดจำความคิดถึงไว้ก่อนนะ”

กิกำลังจะงับประตูเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยอมถอยหลังออกไป แต่ก็ต้องสะดุ้งตัวโหยง เมื่ออยู่ดีๆ ลูกหมาตัวยักษ์ก็ใช้มือผลักประตูเข้ามาตอนที่เขายังไม่ทันตั้งตัว ขายาวๆ นั่นรีบก้าวเข้ามาประชิด ก่อนจะก้มลงหอมแก้มนุ่มไปฟอดหนึ่งท่าทีชื่นใจ

“เจอกันอาทิตย์หน้าครับแฟน” เจ้าลูกหมายกยิ้มมุมปากท่าทีเจ้าเล่ห์ ยกมือชูขึ้นเหนือหัวยอมจำนนก่อนจะหันหลัง ยอมล่าถอยออกไปในที่สุด

“ไอ้เหี้ยฮอน!” กิโผล่หน้าออกมาจากประตูตะโกนไล่หลังตามไปอย่างสุดทน

----------

เจ้าของห้องหน้ามุ่ย กระแทกกระเป๋าลงบนโซฟาตัวโปรดหลังจากตะเพิดไอ้หมาฮอนออกไปจากห้องได้ จริงๆ เขาไม่ควรเสียพลังงานไปกับอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ เหนื่อยเฉยๆ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไรเลย แต่อีกคนดันดื้อด้านทำให้ยุ่งยาก ทั้งเสียพลังงาน ทั้งโดยลวนลามโดยใช่เหตุ นี่ขนาดบอกไปแล้วว่ายังไม่ตกลงนะมันยังอ้อร้อกับเขาเหมือนเดิมเลย

ชายหนุ่มเอนตัวลงนอนลงบนโซฟา คว้าหมอนอิงสุดรักเข้ามากอดในอ้อมแขน เขาคิดมาตั้งแต่อยู่บนรถแล้วล่ะว่าถ้าพูดประโยคนั้นออกไป เรื่องของพวกเขาสองคนคงเปลี่ยนไปจากเดิมไม่มากก็น้อย ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน ดีรึร้ายก็ไม่กล้าคาดเดา แม้จะพูดออกไปแล้วแต่ดันกลับมาลังเลเหมือนเดิมว่ามันดีจริงๆ แล้วเหรอที่ตัดสินใจพูดแบบนั้นออกไป ทั้งๆ ที่ไอ้ลูกหมาตัวนั้นยังไม่ได้ทำอะไรให้มันดีกว่านี้สักเท่าไหร่เลย

เต็งหนึ่งบอกให้เขาลองทำตามใจตัวเองบ้าง เขาพูดและทำตามคำแนะนำของมันไปแล้วแม้ว่าในใจลึกๆ กลัวว่าตัวเองจะตัดสินใจพลาดไปอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าใจอ่อนง่ายเกินไปรึเปล่า แค่มันมาทำให้หวั่นไหวด้วยประโยคคำถามเนื้อความเดิมแต่ดูดุดันและจริงใจมากกว่าเมื่อก่อน เขาก็ยอมโอนอ่อนตามมันถึงขนาดที่พูดประโยคน่าอายนั่นออกไปแล้วด้วยซ้ำ…

กิยกหมอนขึ้นปิดหน้าซ่อนสีแก้มแดงระเรื่อเหมือนต้องการไม่ให้มีใครเห็น ทั้งที่อยู่ในห้องนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น ตั้งสติอยู่สักพักก็ลดหมอนมากอดไว้ในอ้อมอกเหมือนเดิมเพราะเริ่มหายใจไม่ออก เขาทำหน้ายุ่งเมื่อรู้สึกว่าแก้ปัญหานี้ด้วยตนเองคนเดียวไม่ได้แน่ๆ ตัดสินใจว่าควรปรึกษาผู้ช่วยคงจะดีกว่า คิดได้ดังนั้นก็กดโทรศัพท์ต่อสายหาเพื่อนสนิทในคณะทันที

(โหล) รอสายอยู่ไม่กี่วินาที เสียงทุ้มอันคุ้นเคยก็ดังออกมาจากปลายสาย

“อื้อ มึงว่างคุยปะ”

(ขับรถอยู่ แต่คุยได้ใส่หูฟังละ)

“มึง คือมีเรื่องอยากปรึกษา” กิอ้ำอึ้ง เพราะไม่รู้ว่าต้องเริ่มเล่าเรื่องอย่างไรดี

(อะไรวะ ทำไมน้ำเสียงฟังแปลกๆ)

“แบบ… เอ่อ ยังไงดีล่ะ”

(เรื่อง? ไอ้ฮอนเหรอ)

“มึงแม่ง ทำมาเป็นรู้ดี”

(อะแล้วเป็นไง กูรู้ดีจริงๆ เปล่าล่ะ มันทำอะไรอีก ขอเนื้อๆ ไม่เอาน้ำนะจ๊ะ)

กิมุ่ยหน้าหงุดหงิดใส่ปลายสาย เพราะน้ำเสียงดังชัดของไอ้หนึ่งแสดงความอยากรู้อยากเห็นเรื่องของเขาออกนอกหน้าจนเกินไป

“ฮึ่ย… คือวันนี้อะ มันตามไปหากูตอนกินข้าวกับพวกเล็ก เจอได้ไงไม่รู้ทั้งที่กูไม่ได้บอก”

(อ๋อ กูเป็นคนบอกเองอะ) กิหน้ามุ่ยมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินอย่างนั้น

“ไอ้หนึ่ง! มึงมันคนทรยศ รู้ไหมว่ากูต้องเจอกับอะไรบ้าง”

(เห้ยขอโทษ ก็มันโทรมาเค้นถามแล้วทำน้ำเสียงแบบถ้ากูไม่บอกมันคงจะตามมาฆ่ากูถึงบ้านน่ะสิ แล้วไง มันทำไรมึง)

“เดินเข้าร้านมาโมโหใส่กูใหญ่เลย แล้วแบบตอนขากลับมันมาส่งกูที่ห้อง มันก็… ขออีกอะ” กิเริ่มพูดตะกุกตะกักเมื่อต้องเข้าเรื่องที่ต้องการจะปรึกษา

(ขอไรของมึงกิ พูดให้มันรู้เรื่องซิกิ)

“ก็ขออันนั้นไง อันนั้นอะ”

(ขออะไรวะ ขอทาน?)

“สัด ตลกปะ”

(มึงก็เล่าให้มันรู้เรื่องสิวะ)

“มันขอเป็นแฟนอีกรอบ”

(เออก็แค่นี้ จะเขินจะอายอะไรนักหนา)​

“กระดากปากเฉยๆ โว้ย! แล้วมึง คือแบบมันดูจริงจังอะ บอกว่าหลังจากนี้จะชัดเจนงู้นงี้ แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้จริงๆ รึเปล่า”

(แล้วคำตอบของมึงคืออะไร)

“ไม่รู้ว่ะ เชิงๆ ตกลงมั้ง”

(เอ้า อะไรของมึงเนี่ย)

“เออนั่นแหละ ตกลงล่ะมั้ง มึงว่ากูตัดสินใจถูกปะ”

(เฮ้อ ไอ้กิเอ๊ย) กิได้ยินเสียงถอนหายใจออกมาจากปลายสาย ก้มหน้ามองมือตัวเองจับชายเสื้อเล่นไปมาแสดงความกังวล

(ถามจริง ตอนนี้มึงกลัวอะไรอยู่)​

“ไม่รู้ดิ มันผสมปนเปกันไปหมด)​

(กลัวมันไม่รัก? กลัวโดนทิ้ง? รึอะไร ไหนลองบอกมาสักข้อสิ)​

“กลัวมันทำตัวเหี้ยแบบมึงอะ” รีบเอ่ยตอบทันควันแบบไม่คิดอะไร เมื่อรู้ว่าเพื่อนสนิทอย่างเต็งหนึ่งบ่นลับหลังถึงแฟนแบบไหน

(อะไรอี้กกก กูเหี้ยแล้วไปเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย!)​

“ก็ช่วงนี้มันทำตัวดีเป็นพิเศษ เหมือนที่มึงเรียกว่าช่วงโปรโมชั่นอะ แล้วถ้าหมดช่วงโปรมันจะเป็นยังไง ไหนจะเรื่องที่มันชอบทำตัวเฟรนด์ลี่ไปทั่วอีก มันกะล่อนอะมึงก็รู้ แล้วถ้าทะเลาะกันแรงกว่านี้ล่ะจะทำไงวะ)​

(สรุปง่ายๆ เลยคือมึงกลัวเขาทิ้งว่างั้น)​

กิไม่ได้ตอบอะไร เผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากด้วยความประหม่า

(มันเฟรนด์ลี่เพราะนิสัยมันอยู่แล้วปะ มึงชอบอะไรไม่ชอบอะไรก็บอกมันไปสิ เลิกปากหนักได้แล้วกิ กูบอกให้ทำตามใจตัวเองบ้าง)​

“ก็ลองทำไปแล้วไง แต่มันก็ยังกลัวอยู่อะ กลัวนิสัยเดิมๆ ของมัน” เขาตอบเสียงแผ่ว

เต็งหนึ่งเงียบถอนหายใจได้ไม่กี่วิฯ ก่อนจะเอ่ยโพล่งขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

(เอางี้ กูมีแผนละ)​

“แผน? แผนอะไร”

(กูขอเวลาแป๊บ วางแผนกับหาตัวแปรก่อน โอเคนะ)​

แม้จะงงๆ อยู่ แต่กิก็อือออตอบรับไป เต็งหนึ่งคุยกับเขาได้อีกสักพักก็ขอตัววางสายไปก่อน คนตัวเล็กจึงทิ้งตัวลงนอนครุ่นคิดบนโซฟาอีกรอบ

…หวังว่าแผนที่ว่ามันจะดีนะ




(ต่อด้านล่าง)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2019 13:13:39 โดย Mayongchees »

ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0


-------


บ่ายของวันเสาร์ก่อนเปิดเรียน ฮอนได้รับข้อความสุดพิเศษจากเต็งหนึ่งเพื่อนรักว่าจะมีปาร์ตี้ฉลองเปิดเทอมในคืนวันศุกร์ที่จะถึง ตอนแรกเขาจะเอ่ยปฏิเสธไปเพราะอยากใช้เวลาอยู่ที่ห้องกับกิ แต่คนชวนกลับมีข้อความสุดพิเศษยิ่งกว่านั้นมาเซอไพรส์ เมื่อกิฝากบอกมาว่ายังไม่ให้เขาย้ายมาอยู่ตั้งแต่เปิดเทอมวันแรก แต่ค่อยมาคืนวันศุกร์หลังฉลองเสร็จแทน เขาเลยได้แต่จำยอม ตอบตกลงไปแต่โดยดี

คงเป็นปาร์ตี้ที่ไม่ใช่ปาร์ตี้เท่าไหร่นักเพราะร้านที่นัดกันในวันนี้อยู่ในตลาดนัดชื่อดัง ภายในตัวร้านตกแต่งสไตล์วินเทจ มีโต๊ะและเก้าอี้ไม้พาให้หวนนึกถึงโต๊ะเรียนในช่วงสมัยเด็ก เป็นร้านออกแนวนั่งชิลล์เอาท์กับเพื่อนสบายๆ มากกว่าจะเป็นร้านเหล้าเปิดเพลงตื๊ดๆ แนวอีดีเอ็มเรียกแขกให้ลุกขึ้นเต้น

คนที่มาถึงเป็นคนแรกคือชายหนุ่มร่างโปร่งที่วันนี้มาในลุคสบายๆ เสื้อยืดสีขาวเรียบมีตรายี่ห้อสกรีนขนาดเล็กบริเวณด้านอกซ้าย กางเกงแสลคยาวสีดำพร้อมรองเท้าผ้าใบคู่โปรด เรือนผมที่ก่อนหน้าเคยเป็นสีดำสนิทบัดนี้ถูกย้อมให้เป็นสีน้ำตาลช็อกโกแลต แม้วันนี้จะเป็นลุคผู้ชายสบายๆ แต่เนื่องจากรำคาญผมที่เริ่มยาวแล้ว เขาเลยเซตผมข้างหน้าขึ้นเพื่อเปิดหน้าผากไม่ให้ตัวเองรำคาญที่ต้องคอยเสยผมขึ้นอยู่เรื่อย

ฮอนเดินขึ้นมาจับจองพื้นที่ชั้น Rooftop ของทางร้าน เขาเลือกโต๊ะมุมในสุดติดกับราวระเบียงเพื่อให้มองเห็นภาพวิวโดยรวมในมุมสูง นั่งจิบเครื่องดื่มรอได้สักพัก คนที่เป็นเจ้าภาพเชิญชวนในวันนี้ก็เดินขึ้นบันไดมาพร้อมกับคุณหนูตัวขาวที่เขาไม่ได้เห็นมาหลายวัน มองเห็นจากไกลๆ วันนี้กิก็ยังน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง กวาดสายตามองผ่านๆ ก่อนจะรีบโบกมือทักทายพร้อมกวักมือส่งสัญญาณให้เห็นว่าเขานั่งจับจองโต๊ะอยู่ตรงนี้

แรกเริ่มที่มองเห็นคนตัวเล็กจากไกลๆ เขาไม่ได้เอะใจอะไรกับการแต่งกายของกิในวันนี้เท่าไหร่นัก แต่พอเจ้าตัวเดินเข้ามาใกล้ในระยะประชิดเท่านั้นแหละ เขาต้องรีบลุกไปคว้ามือเจ้าตัวมานั่งเก้าอี้แทบไม่ทัน

เดิมทีกิมักจะใส่กางเกงขายาวอยู่แทบจะตลอดเวลาอยู่แล้ว นอนอยู่ห้องเฉยๆ ยังใส่กางเกงวอร์มเลย นับประสาอะไรกับออกไปข้างนอก แน่นอนว่าต้องเป็นกางเกงขายาวอยู่แล้วล่ะ แต่วันนี้กางเกงที่เจ้าตัวใส่ดันเป็นกางเกงยีนสีดำที่มีรอยขาดเป็นริ้วๆ ไปทั้งตัว แถมช่วงบนยังขาดเป็นช่องขนาดใหญ่ กว้างประมาณ​หนึ่งคืบ ยาวประมาณหนึ่งฝ่ามือ ช่องรอยขาดนั้นกว้างขนาดที่เผยให้เห็นต้นขาขาวๆ ของเจ้าตัวทั้งสองข้างด้วยนี่สิ

แทบบ้า!

เขาทำหน้ามุ่ยมองคนตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์​

“ทำไมกางเกงขาดแบบนี้คะ” รีบเอ่ยทักทันทีที่จูงมืออีกฝ่ายนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ ได้สำเร็จ

“ก็… แฟชั่นไง”

“แฟชงแฟชั่นอะไร กูจะตีเข้าให้” ฮอนเอื้อมมือไปหยิกแก้มนุ่มเป็นการลงโทษแทนการตีอย่างที่ปากว่า ก่อนจะไล่สายตาสำรวจหนูกิไปทั้งตัว

ส่วนบนดูโอเคกว่าส่วนล่างนิดหน่อย ย้ำว่านิดหน่อย เพราะเจ้าตัวดันใส่เสื้อแขนยาวสีขาวแต่เป็นคอปาด เผยให้เห็นไหล่ขาวๆ น่ากัดน่าดูดโผล่ออกมาวับๆ แวมๆ นิดหน่อย แต่มันยังพอให้อภัยได้เมื่อสายตากวาดลงไปเห็นกางเกงที่เจ้าตัวใส่มาวันนี้

รับไม่ได้จริงๆ เมื่อคิดว่าระหว่างทางเดินมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันสายตาจะต้นขาขาวๆ หนูแป้งของเขา นี่ขนาดเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งหลายปีเขายังเห็นแทบจะนับครั้งได้เลย แล้วพวกมันเป็นใคร มาเห็นขาอ่อนแฟนเขาได้ยังไงกันวะ ชายหนุ่มกัดฟันกรอด มองคนตรงหน้าแววตาดุ

“กูจำได้ว่าไม่เคยเห็นชุดแบบนี้อยู่ในตู้มึงนะกิ”

กิเงยหน้าช้อนมองด้วยแววตาท้าทายกลับ

“กูซื้อใหม่ไม่ได้ไง้?”

“ซื้อใหม่แล้วทำไมต้องซื้อแบบนี้ นี่ไม่ใช่สไตล์มึงกูรู้”

กิก้มหน้าพึมพำด่าคนตรงหน้าที่รู้ดีนักเรื่องของคนอื่นเนี่ย ลอบส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากไอ้เพื่อนตัวดีที่เป็นคนบังคับให้เขาใส่ชุดนี้มา เต็งหนึ่งยักคิ้วตอบรับ ก่อนจะทำเป็นกระแอมไอเรียกร้องความสนใจ

“มึงจะดุเพื่อนกูทำไมเนี่ย เห็นหน้ามันไหมนั่น จะร้องไห้แล้วไอ้สัด”

คนตัวเล็กกว่าใครเพื่อนถลึงตามองชายหนุ่มตรงข้ามทันที เลือกจะช่วยแล้วแทนที่จะพูดดีๆ แต่กลับพูดจากวนประสาทแทนเสียนี่

“ร้องไห้บ้าบออะไรเล่า อย่าไปฟังมันมาก” เขารีบพูดขึ้นมาเมื่อฮอนจับใบหน้าเขาเงยขึ้นแล้วจ้องมองลงมาเพื่อพิสูจน์

ฮอนยังคงกุมแก้มป่องๆ ของยัยคุณหนูอยู่อย่างนั้นนานหลายนาที จนกระทั่งกิเริ่มรู้สึกร้อนที่หน้า สายตาลอกแลกไปมาไม่ยอมสบตาคนตัวสูงกลับ เริ่มจะทนไม่ไหวเลยพยายามแงะนิ้วมืออีกคนออกแต่ไม่เป็นผล อีกฝ่ายได้ใจเมื่อเห็นสีหน้าคนในกำมือกำลังเคอะเขิน กดมือลงไปที่แก้มนุ่มเบาๆ จนกิปากยู่ ฮอนหัวเราะออกมาเมื่อกิยกมือฟาดเปรี๊ยะเข้าที่ต้นแขน อยากก้มลงไปจุ๊บแรงๆ ลงบนริมฝีปากอีกฝ่าย แต่ดันทำไม่ได้เพราะคงประเจิดประเจ้อไปหน่อย

“อะแฮ่ม แคกๆๆๆ กูยังอยู่ตรงนี้น้า ช่วยเห็นหัวกูด้วยน้า” เต็งหนึ่งรีบกระแอมไอทักเมื่อเห็นว่าตนเองกำลังจะกลายเป็นหมาหัวเน่า สงสัยจะพากันลืมไปแล้วว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่เราสอง แม้โต๊ะอื่นจะไม่มอง อย่างน้อยก็ยังมีเขานั่งสลอนอยู่ตรงนี้คนนึงนะโว้ย!!

ฮอนปล่อยมือออกจากแก้มนุ่ม ก่อนจะหันมาด่าเต็งหนึ่งที่ทำลายบรรยากาศของพวกเขา กิขยับตัวหันมานั่งตรงหลังจากถูกฮอนดึงตัวไปสำรวจ เขาเอื้อมมือไปหยิบแก้วและถังน้ำแข็งที่อยู่ตรงหน้า เปิดเบียร์ขวดใหม่ออกมารินเพื่อแก้เขินให้ตัวเอง

“อย่ามองกูแบบนั้นสิจ๊ะ” เต็งหนึ่งหันไปยิ้มแหะๆ ให้ไอ้คนที่กำลังทำหน้าถมึงทึงใส่ เหมือนเป็นพวกโหยหาความรักความเมตตา คงเพราะนานๆ ทีถึงจะมีโอกาสแบบนี้

ฮอนเลิกส่งสายตาทิ่มแทงเต็งหนึ่ง หันมามองหนูกิของเขาที่กำลังเติมเบียร์เป็นแก้วที่สองแทน

“ใจเย็น รีบกินอะไรขนาดนั้น” เขาคว้าแก้วอีกฝ่ายที่กำลังยกดื่มอึกๆ ลงมาวางบนโต๊ะ เอื้อมมือไปเช็ดน้ำที่ไหลหยดลงมาตามมุมปากให้เบาๆ

“ดื่มเลอะเทอะเป็นเด็กเลยค่ะ”

“ฮื่อ ยุ่ง” กิปัดมือสากที่ไล้จากมุมปากมาจับบนหลังคอของเขา อีกฝ่ายค่อยๆ ออกแรงบีบนวดจนกิเริ่มทนไม่ไหวเมื่อรู้สึกจั๊กจี้ หันมาเบ้หน้าใส่คนตัวสูงกว่าด้วยความหงุดหงิด

เต็งหนึ่งมองสองคนตรงหน้าที่กำลังเข้าโหมดหยอกล้อมีฉันมีเธอเพียงเราสองด้วยความเบื่อหน่าย เขาหมุนวนแก้วไปมาเมื่อรู้สึกเหงาฉิบหายและเริ่มคิดแล้วว่าตัวเองมาทำอะไรตรงนี้คนเดียว จริงๆ ชวนแฟนมาด้วยแต่แฟนก็บอกว่าไม่ว่างจะอ่านหนังสือ ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกว่าแฟนเขาไม่ใช่แค่เด็กขยันเรียนแล้ว นี่มันเด็กคลั่งการเรียนแล้ว เพิ่งเปิดเทอมอาทิตย์แรกก็โหมนักเสียแล้ว ฮือ พูดแล้วก็เศร้า เหมือนเขามาเป็นกขคงจฉ ที่แปลว่า ก้าง(ตัวเอง)ขวางคองู(ไอ้ฮอน)จะฉก มากๆ เลยโว้ย

นั่งแกร่วมองเพื่อนตัวดีหยอกล้อกันได้อยู่ชั่วครู่ โทรศัพท์ของเขาก็สั่นครืด ข้อความจากตัวแปรสำคัญในคืนนี้ส่งมาบอกว่าถึงแล้ว เขากระยิ้มกระย่อง เริ่มแผนการได้!

“กิ กูอยากเหล้าปั่น”

กิหันหน้ามามองตามเสียงเรียก “ก็สั่งดิ”

“มึงกินช่วยกูนะ”

“เอาดิ” เขาพยักตอบรับ แต่ดันมีคนขัดขึ้นมาเสียก่อน

“มึงกินเหล้าไม่ได้นี่” ฮอนเอ่ยปราม เพราะรู้ว่าสาเหตุที่ทำไมคนตัวเล็กเลือกจะดื่มแค่เบียร์มากกว่าเหล้า ช่วงมัธยมปลายกิเคยโดนเพื่อนจับกรอกเหล้าไปแก้วเดียวก็เมามายหัวทิ่มเสียแล้ว เจ้าตัวเลยเลือกที่จะไม่แตะมันอีกต่อไป

“โหยมึง แอลฯเหล้าปั่นมันก็น้อยพอๆ กับเบียร์นั่นแหละ ไม่เมาหรอกไอ้สัด หวงเว่อไปไหนวะ” เต็งหนึ่งเอ่ยขัด ฮอนหันมามองคนตัวเล็กข้างๆ ก่อนจะยอมพยักหัวแต่โดยดี ไว้ค่อยห้ามตอนนั้นอีกทีก็แล้วกัน

“ไปกิ ลุก”

ฮอนคว้าหมับเข้าที่แขนเมื่อเห็นกิลุกออกจากเก้าอี้ทันที

“เดี๋ยว ไปไหน”

“ก็ไปออเดอร์เพิ่มไง”

“มึงเป็นเด็กประถมเหรอไอ้หนึ่งถึงไปคนเดียวไม่ได้”

“เออ กูมันคนขาดพรรคขาดพวกไม่ได้ ไปไหนคนเดียวไม่เป็น รู้เอาไว้ซะ”

“ไอ้สัดนี่ กินั่งลง เดี๋ยวกูไปกับมันเอง” เขาดึงแขนกิให้นั่งลงก่อนจะยืดตัวลุกขึ้นออกไปจากโต๊ะแทน หลังจากไตร่ตรองกับตัวเองแล้วว่าให้กินั่งอยู่ตรงนี้คงจะดีกว่าเดินออกไปโชว์ไหล่กับขาให้คนอื่นเห็น

กินั่งลงอย่างว่าง่าย โบกมือไล่ให้ทั้งสองรีบๆ ไปเสียที

พอเดินลงจากบันไดมาถึงชั้นล่าง เต็งหนึ่งก็รีบพูดทักก่อนที่จะไม่ทันการณ์ “มึงไปสั่งให้กูที ปวดเหยี่ยวว่ะ กูเอาบลูฮาวายนะ อีกเหยือกให้กิเอาไรอะ มึงเลือกๆ ไปเลยก็ได้”

ฮอนพยักหน้ารับ ไม่ได้สนใจท่าทีแปลกๆ ของเพื่อนเพราะดูท่าทางของมันแล้วคงจะอยากเข้าห้องน้ำจริงๆ ชายหนุ่มเดินตรงไปสั่งเมนูที่เต็งหนึ่งต้องการ นึกว่าสั่งแล้วทางร้านจะนำไปเสิร์ฟให้เองแต่กลับต้องรออยู่รับเองเสียอย่างนั้น

เขายืนนิ่งเล่นโทรศัพท์รอที่บาร์ กดเข้าอินสตาแกรมอัปโหลดรูปลงในสตอรี่ตามประสาหนุ่มโซเชี่ยลคนดัง หลังจากเช็กอินเรียบร้อยแล้วก็มีแรงสะกิดจากทางด้านหลังมาเรียกให้เขาหันไปมอง

“พี่ฮอนคะ” เพชร หญิงสาวหน้าตาสะสวยดีกรีดาวคณะนิเทศปีก่อน โบกมือทักทายไปมาเมื่อเจอรุ่นพี่คนสนิทที่เคยช่วยเหลือตอนงานประกวดดาวเดือน ครั้งนั้นหญิงสาวเครียดมากถึงขนาดป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ก็มีรุ่นพี่ใจดีคนนี้คอยช่วยเหลือ คอยเทคแคร์จนกระทั่งการประกวดจบลงไปด้วยดี

“อ้าวน้องเพชร สวัสดีค…ครับ” ฮอนส่งรอยยิ้มทักกลับไปเมื่อเห็นรุ่นน้องเดินมาสะกิด เกือบจะหลุดใช้คำว่าค่ะลงท้ายประโยคตามความเคยชินเมื่อเจอรุ่นน้องคนสนิท ดีที่ยั้งไว้ได้ทันเพราะเขาตั้งใจจะเปลี่ยนคำพูดตัวเองใหม่แล้ว

“โห พอลงท้ายคำว่าครับแล้วดูห่างเหินไปเลยแฮะ ไม่คะขาแล้วเหรอ เพชรไม่สนิทเหมือนแต่ก่อนแล้วอะดิ” เธอยกยิ้มน้อยๆ พูดแหย่คนที่ทำตัวสุภาพไม่เหมือนเก่า

“สนิทเหมือนเดิมนั่นแหละน่า” เขายิ้มตอบ

“แล้วนี่คนดังมายืนทำอะไรตรงนี้คะ สาวๆ โต๊ะนู้นหันมามองจนคอเคล็ดแล้วมั้งน่ะ” ฮอนเอี้ยวตัวไปมองโต๊ะที่หญิงสาวพยักพเยิดหน้าได้แป๊บเดียวก็หันกลับ

“พี่รอรับออเดอร์อยู่อะ น่าจะอีกนานเลยมั้ง”

“เหรอคะ งั้นเดี๋ยวเพชรยืนรอเป็นเพื่อน”

“เห้ย ไม่ต้องๆ มากับใครเนี่ย เพื่อนไม่รออยู่เหรอ”

“มีแต่เพชรเนี่ยแหละค่ะรอเพื่อน นัดกันสามครึ่งแต่นางบอกขอแต่งตัวอีกแป๊บก่อน เยอะเว่อ”

“ใครอะ พวกน้องตั้มที่ชอบมาเฝ้าเราตอนซ้อมประกวดน่ะเหรอ”

“นั่นแหละค่ะ แก๊งกะเทยขี้โวยวายแห่งปีมีอยู่ไม่มีกลุ่มหรอก แล้วนี่พี่ฮอนมากับใคร อย่าบอกนะว่ามาอ่อยสาวคนเดียวน่ะ”

“เปล่าๆ พี่ก็มากับเพื่อน”

หญิงสาวหรี่ตามองท่าทีไม่เชื่อคำพูดของอีกคน “ใช่เร้อออ”

“จริงๆ มากับแฟนด้วยนะ” ฮอนหัวเราะน้อยๆ ในขณะที่หญิงสาวอ้าปากเหวออย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

“พูดเป็นเล่นน่าพี่ นี่ไม่น่าเชื่อกว่าอีกนะเนี่ย”

“อะไรวะ พี่พูดเรื่องจริงโว้ย”

“ใครคือผู้โชคดีคนนั้นคะ เอ๊ะ รึผู้โชคร้ายกันแน่นะ” เธอพูดติดตลก

“ระดับพี่ต้องโชคดีอยู่แล้วสิ” เขายิ้มรับ ก่อนจะยื่นมือไปรับถาดใส่เหยือกน้ำสีหวาน

“ได้เร็วกว่าที่คิดแฮะ แล้วนี่เพชรจะไปไหนก่อนรึเปล่า”

“คงขึ้นไปจองโต๊ะรอเพื่อนเลยค่ะ”

“งั้นขึ้นไปพร้อมพี่ก็ได้ นี่เพชร ทีหลังอย่าใส่สั้นแบบนี้นะคะ เอ๊ย… ครับ มันอันตราย” ฮอนเอ่ยทักเมื่อเดินไปขึ้นบันได เขาสังเกตมาสักพักแล้วแหละว่าน้องของเขาโดนลวนลามทางสายตาจากคนอื่นน่ะ

“โหยพี่ ก็แฟชั่นอะ เขากำลังฮิตเทรนด์นี้ไง”

“แฟชั่นอีกละ อะไรก็แฟชั่น ใครมันเป็นคนกำหนดวะ” เขาพูดอย่างหัวเสีย

“เดี๋ยวๆ ไปหัวร้อนอะไรมาเนี่ยพี่ฮอน”

“แม่ง มันน่าหงุดหงิดจริงๆ นะเพชร ใครมันเป็นคนกำหนดว่าชุดแบบนี้มันเป็นแฟชั่นวะ ถ้ากูรู้จะไปตั๊นท์หน้ามันแม่ง” ฮอนยังไม่หยุดหัวเสียขณะกำลังค่อยๆ ก้าวขาขึ้นบันไดเพราะกลัวน้ำหก จนกระทั่งถึงชั้นบนในที่สุด

“โอ๊ยตลกอะ ไม่เคยเห็นพี่ฮอนโหมดหัวร้อนแบบนี้ ปกติเป็นพี่ชายใจดีแสนอบอุ่นตลอดเลย” เธอหัวเราะเมื่อเห็นพี่ชายใจดีมีโหมดโมโหร้ายกับเขาบ้าง

“อะไร หยุดขำเลย อยู่กับเพื่อนพี่ก็แบบนี้แหละ แล้วนี่จะนั่งอยู่คนเดียวเหรอเพชร” ฮอนเอ่ยทักเมื่อน้องสาวที่เดินมาด้วยเลือกนั่งลงบนโต๊ะว่างกลางร้าน

“ใช่ค่ะ เดี๋ยวพวกตั้มก็มาแล้วล่ะ”

“เป็นสาวเป็นแส้จะมานั่งคนเดียวได้ยังไง ดูดิมีแต่พวกผู้ชายนะแถวนี้”

“ก็ไม่แปลกนี่พี่ นี่ร้านเหล้านะ” เธอหัวเราะอีกครั้ง

“พี่ฮอนเหมือนพ่อเพชรเลยอะ ฮือหยุดขำไม่ได้ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”

ร่างโปร่งขมวดคิ้วเมื่อได้ยินอย่างนั้น “เอางี้ ระหว่างรอตั้มก็ไปนั่งโต๊ะเดียวกับพี่ก่อน”

“ไม่เป็นไรค่ะ เนี่ยอุตส่ามีโต๊ะว่าง กว่าพวกนังตั้มจะมาคนเต็มร้านก่อนหมดละ”

“เอางั้นเหรอ แต่พี่เป็นห่วงจริงๆ นะ”

“เอาแบบนี้แหละค่ะ เดี๋ยวไปโต๊ะพี่แล้วแฟนพี่หึงเพราะเพชรทำไงอะ แย่เลยดิ”

“ไม่น่ามั้ง แฟนพี่ไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น”

หญิงสาวเลิกคิ้ว “พี่ฮอนแน่ใจได้ยังไงอะ เขาไม่พูดไม่ได้แปลว่าเขาไม่รู้สึกนะคะ แล้วดูพี่ฮอนดิ ใจดีกับเขาไปทั่วแบบนี้เนี่ย”

ชายหนุ่มชะงักกึกตามคำพูดของน้อง ครั้งนั้นที่กิระเบิดความรู้สึกออกมาก็เป็นเพราะอย่างนี้นี่แหละใช่ไหม

“พี่ใจดีไปทั่วจริงเหรอ แต่พี่แค่เป็นห่วงเองนะ”

“จริงค่ะ ใครพูดอะไรก็ยิ้มให้ ใครขออะไรก็ช่วยไปหมด ไหนจะชอบพูดคะขาเหมือนม่อสาวให้ใจสั่นเล่นๆ อีก เพชรยังเคยคิดเข้าข้างตัวเองว่าพี่ฮอนชอบเพชรเลย”

“เห้ยบ้าน่า พี่ก็แค่เอ็นดูน้องๆ เอง เหมือนได้ดูแลน้องสาวอะ”

“เพชรรู้ค่ะ แต่แฟนพี่เขาอาจจะไม่รู้ก็ได้นะ รีบไปได้แล้วไป๊ น้ำแข็งละลายหมดแล้วนั่น” เธอรีบโบกมือไล่ทันที

ฮอนก้าวเดินแม้ว่าใจจะยังคงห่วงน้องสาวในคณะอยู่ดี เขารู้ว่าตัวเองน่ะชอบพูดจาหยอกล้อ เทคแคร์กับคนอื่นไปเรื่อย แต่มันคล้ายจะกลายเป็นนิสัยไปแล้ว ยิ่งเมื่อเจอคนที่เหมือนแฮมน้องสาวของเขา ยิ่งอยากดูแลเข้าไปใหญ่ สงสัยเขาต้องปรับความพี่ชายแสนดีให้มันน้อยลงกว่านี้แล้วแหละ

เขาเดินตรงไปโต๊ะที่กิกำลังนั่งรออยู่ มองเห็นเงาตะคุ่มไกลๆ กำลังยืนคุยกับกิท่าทางออกรส บริเวณชั้นบนของทางร้านค่อนข้างมืด มีเพียงแสงไฟจากร้านค้าด้านล่างที่ให้ความสว่างเท่านั้น เขาจึงไม่เห็นว่ากิกำลังนั่งคุยกับใคร แต่คงไม่ใช่ไอ้เต็งหนึ่งแน่ๆ เพราะคนนี้ดูตัวเตี้ยเกินกว่าจะเป็นมัน

ใช่ แล้วก็ไม่ใช่เต็งหนึ่งจริงๆ เมื่อเขาเดินมาถึงโต๊ะแล้วเห็นใบหน้าของคนคนนี้ชัดๆ

“ไอ้เล็ก!”




(TBC.)

ー #AdaywithWCM

คิดชื่อตัวละครใหม่ไม่ออกแล้วค่ะ มีนายเล็กแล้วก็ใช้ให้คุ้มหน่อย ฮ่าาา
ขอบคุณมากๆๆเลยค่ะ ʕっ•ᴥ•ʔっ

 :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2019 13:14:58 โดย Mayongchees »

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
บททดสอบหัวใจด่านใหม่มาแล้ว
ดูสิว่าฮอนจะทำยังงัย หึหึ
แอบโมโหแทนหนูกิ นิสัยโคตรเฟรนลี่ของฮอนอะ
เพลาๆลงนิดนึง เดี๋ยวหนูกิเข้าใจผิดอีก

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ
แอบมารอทุกวันเลย

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ฮอนนี่ท่าจะเฟรนด์ลี่จริง :เฮ้อ:  เอาแล้วใครจะหึงใคร
ตอนหน้าอย่าดราม่าหนักนะคะ  :z3: อยากให้เค้ารักกันหวานแหววแล้วววววว  :hao5:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
นังฮอนเฟรนด์ไปทั่วเลยเดี๋ยวยุให้นุ้งกิเลิกชิ!!

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ยัง ยังไม่เลิกใจดีอีก...กกกกกกก    :m16: :m16: :m16:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เล็กบอกโดนอีกแล้ว เป็นสนามอารมณ์   :hao7:

ออฟไลน์ CLShunny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ร้านเหล้าหรือสนามมวย เหมือนจะมีคู่ชก5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ถ้ามีแฟนฮอนต้องปรับพฤติกรรม เฟรนลี่เกินแบบนี้หนูกิหนีไปอีกชัวร์
อยากเห็นฮอนหึง 5555

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
เนี่ยรู้ตัวได้แล้วฮอน ว่าใจดีไปทั่วหนูกิก็ไม่ได้สบายใจหรอก ปรับปรุงตัวเร็วๆก่อนหนูกิจะหนีหายไปจริงๆเถอะ

ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ー 10th Match ♥
☁   





“ขอบคุณนะครับน้องเพชร ถึงห้องแล้วไลน์มาบอกพี่ด้วยนะ” เต็งหนึ่งโบกมือลาพร้อมเอ่ยขอบคุณหญิงสาวตัวแปรคนสำคัญที่ไหว้วานเพื่อมาช่วยให้แผนการนี้สำเร็จลุล่วง เขาปิดประตูรถพร้อมส่งยิ้มขอบคุณเป็นการส่งท้าย

หลังจากน้องเพชรแยกกับไอ้ฮอนแล้ว เขาก็ได้ฟังข้อมูลจากเสียงบันทึกพร้อมคำบอกเล่าจากปากน้อง สำหรับคนที่คอยให้คำปรึกษาเพื่อนทั้งคู่เขาคิดว่าเป็นที่น่าพึงพอใจที่ไอ้ฮอนมันคิดจะพยายามปรับตัวเองทีละนิด โดยการเปลี่ยนคำพูดคำจาให้มันเลิกดูกะล่อนลงหน่อย แม้ว่าไอ้นิสัยใจดีเป็นห่วงเขาไปทั่วเนี่ยจะแก้ให้หายภายในครั้งเดียวไม่ได้ก็เถอะ ทีนี้ก็เหลือแค่เพื่อนตัวเล็กของเขานี่แหละ ไอ้อาการซึนๆ ปากหนักๆ เนี่ย จะแก้ให้หายได้ยังไง

เขาเดินกลับมาที่โต๊ะ ก้นเพิ่งจะแตะเก้าอี้ได้ไม่ถึงห้าวินาที รังสีทะมึนจากชายตรงข้ามก็แผ่มาหาเขาทันที เต็งหนึ่งเงยหน้ามองหนุ่มคิวท์บอยที่ตอนนี้กลายเป็นคิ้วขมวดบอยแทนด้วยความงุนงง

“อะไรไอ้ฮอน ทำไมมองกูเหมือนจะฆ่าจะแกงกันแบบนั้น” เขาเริ่มหวั่นในใจ หรือว่าไอ้ฮอนจะรู้แล้วว่าเขาส่งน้องเพชรมาคุยกับมันวะ

“ไอ้สัดหนึ่ง มึงไปทำอะไรมา”

“อะไร้ ก็บอกว่าปวดเหยี่ยว” เวรละ เผลอเสียงสูงไปนี่มันจะสังเกตไหม

“กูนึกว่ามึงตกส้วมตาย ไอ้สัดนี่ หายหัวไปเกือบชั่วโมง”

“อยู่ดีๆ มันก็ปวดหนักว่ะ โทษที” ลอบสังเกตหน้าอีกฝ่ายขณะยกมือไหว้ขอโทษปลกๆ ดูเหมือนมันจะยังไม่รู้เรื่องอะไรหรอก เขาเบือนหน้าหันไปมองอีกคนที่กำลังก้มหน้างุดแทน กิก้มหัวจนคางชิดอกทำให้เขามองไม่เห็นว่าตอนนี้เพื่อนตัวเล็กกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่

“มีไรกันวะ กิมึงเงยหน้าขึ้นมาตอบกูดิ”

“ฮื่อ ไม่มีไร” นับว่ายังมีสติอยู่บ้าง เมื่อได้ยินชื่อคนเรียกชื่อตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้นมาตอบเสียงงัวเงีย

“ไม่มีอะไรได้ยังไง มึงนี่น่าตีจริงๆ” ฮอนเอ่ยขัด

“อะไรวะ เกิดอะไรขึ้น” เต็งหนึ่งทำหน้าเหลอหลา มองเพื่อนสนิทสองคนสลับกันไปมา หายไปไม่ถึงชั่วโมงแต่เหมือนหายไปเป็นวันเลยว่ะ อะไรวะเนี่ย งงไปหมดแล้ว

“ก็ไอ้เล็กเพื่อนมึงอะมาทักกิ ไอ้สัด ไม่จบไม่สิ้นสักทีนะมันอะ”

เต็งหนึ่งได้ยินดังนั้นถึงกับต้องอุทานคำหยาบในใจ ไอ้ฉิบหาย! ตัวแปรนอกแผนการมาได้ยังไงวะเนี่ย!

“แล้วจอมดื้อคนนี้ก็เหลือเกิน กูบอกหลายครั้งแล้วว่าห้ามคุยกับมันก็ไม่ยอมฟัง ยิ้มโปรยเสน่ห์ใส่เขาเฉย แล้วดูเสื้อสิเนี่ย มันเห็นไปถึงไหนแล้วฮะ ทำไมไม่รีบตัดบท ปล่อยให้มันมาจีบอยู่ได้”

“ก็เขามาทักจะให้ทำยังไงเล่า มึงนั่นแหละไปพูดแบบนั้นได้ยังไง” กิรีบแย้งเมื่อโดนดุยาว ก่อนจะขมวดคิ้วพร้อมหลับตาหยีเรียกสติเมื่อรู้สึกมึนๆ หัว

ฮอนทนไม่ไหว เอื้อมมือไปบีบปากเล็กๆ นั่นอย่างมันเขี้ยว

“ค่ะ กูผิดเองค่ะ” ร่างสูงบีบเสียงประชดประชัน

“อะไร มึงพูดอะไรวะ ช่วยเล่าให้กูรู้เรื่องด้วยจ้ะพวกมึงทั้งสอง” เต็งหนึ่งขมวดคิ้วท่าทีใคร่รู้จึงชะโงกหน้าไปใกล้เพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้ามทันที

“กูเดินขึ้นมาเจอมันมาม่อกิอยู่ใช่ไหม เลยพูดกระแทกใส่หน้ามันไปว่าเลิกยุ่งกับแฟนกูสักที แม่งได้ยินแล้วหน้าหงายเลยดิ เฮอะ” ฮอนกระแทกแก้วลงบนโต๊ะเสียงดังปึกตามแรงอารมณ์

“ไอ้เหี้ย เอาเรื่องจังวะ”

“รำคาญหน้าชิบหาย มันจะบังเอิญอะไรขนาดที่มากินร้านเดียวกันได้วะ”

“กูไม่ได้บอกมันนะ อย่ามามองกูแบบนั้น” เต็งหนึ่งกระวนกระวายรีบบอกปฏิเสธเมื่อไอ้ฮอนส่งสายตาสงสัยมาทางเขา

“แล้วไป อย่าให้กูรู้นะว่ามึงเป็นคนบอกมันอะ” ฮอนยกน้ำสีอำพันขึ้นดื่มอีกครั้งเพื่อระงับความฉุนเฉียวของตัวเอง

“กูไม่ได้บอกจริงๆ เลิกสงสัยกูได้แล้วโว้ย” รีบยืนยันคำพูดตัวเองหนักแน่น มองไอ้คนที่กล่าวหาเขายักไหล่ตอบด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะเบือนสายตาไปหาเหล่าปั่นที่สั่งไว้

“แล้วใครกินบลูฮาวายกูหมดเหยือกเนี่ย เชี่ย! อย่าบอกนะว่ามึงอะกิ” เขาหันขวับไปทางกิอย่างรวดเร็ว

คนตัวเล็กพึมพำในลำคอ เต็งหนึ่งชะโงกหน้าเข้าไปใกล้เมื่อไม่ได้ยินว่าเพื่อนสนิทกำลังจะบอกอะไรเพราะเสียงอื้ออึงรอบข้าง

“ไอ้ตัวดื้อนี่นะแหละ กูห้ามก็ไม่ฟัง รั้นจะกินให้ได้” ฮอนตอบแทน

“กิ มึงไหวปะเนี่ย เงยหน้าขึ้นมาคุยกับกูดิ” เต็งหนึ่งโบกไม้โบกมือใกล้ใบหน้ากิเพื่อเรียกสติ

“อื้อ ปวดหัว” คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาบ่นงึมงำ

“เวรละมึง เหล้าปั่นเหยือกเดียวออกฤทธิ์ขนาดนี้เลยเหรอวะ”

ฮอนก้มมองคนตัวเล็กกว่า อยู่ห้องกระดกเบียร์ไปหลายกระป๋อง หนักสุดก็แค่มึนๆ แต่วันนี้ดันออกอาการหนักกว่าหลายครั้งที่เคยเห็นมา ท่าทีมึนๆ ทำให้เขาเอื้อมมือไปโอบไหล่ของอีกฝ่ายเอาไว้แล้วออกแรงเขย่าเบาๆ

เต็งหนึ่งกวาดสายตามองของบนโต๊ะ มีแก้วปริศนาใบหนึ่งเกินมาจากจำนวนคนในโต๊ะถูกวางไว้ใกล้ๆ แก้วเบียร์ของกิ เขามองแก้วเปล่าใบนั้นก่อนจะคว้าขึ้นมาดมกลิ่นใกล้ๆ

“แก้วเหล้านี่หว่า ของมึงเหรอไอ้ฮอน”

คนถูกถามส่ายหัวตอบ “กูกินแก้วนี้แก้วเดียว”

“แสดงว่าของมึงเหรอกิ”

ฮอนมองคนข้างๆ ที่ผงกหัวไปมา ท่าทียอมรับว่า ใช่ นั่นแก้วกูเอง มีปัญหาอะไรเหรอ?

“เห้ย มึงชงดื่มเองเหรอกิ ไหนบอกว่าไม่ชอบไง” เต็งหนึ่งอุทานตกใจเสียงดัง แต่กิสั่นหัวปฏิเสธไม่พูดอะไร

“ไม่ได้ชงเอง? แล้วมันจะมาจากไหน มีใครเอามาให้เหรอ สัดเอ๊ย ไอ้เล็กใช่ไหมกิ” ฮอนตบโต๊ะดังปังหลังคาดเดาเอาเองมั่วซั่ว โชคดีหน่อยที่เสียงเร้ารอบข้างดังมากกว่าเสียงฝ่ามือเลยไม่มีใครสนใจ

“จบเลย เลิกๆ เดี๋ยวกูไปเช็กบิลก่อน”

ฮอนพยุงคนตัวเล็กที่ดวงตาปรือปรอยใกล้จะหลับมิหลับแหล่ลงบันได หยุดรอเต็งหนึ่งครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่ามันโบกมือให้หยุดอยู่ตรงนี้ก่อน

“มึง เดี๋ยวกูไปขับไปห้องมันเอง ส่งมันมาๆ” เต็งหนึ่งวิ่งมาหาเพื่อนทั้งสองที่รออยู่แถวทางออกร้าน ก่อนจะทำทีกวักมือขอกิไปช่วยพยุงเอง

ฮอนเบี่ยงตัวหลบ “ไม่ต้อง กูจะย้ายไปห้องนั้นอยู่แล้ว มึงจะไปทำไมให้เสียเวลา”

“เห้ย ไม่เสียเวลาหรอก กูว่าวันนี้มึงกลับบ้านก่อนดีกว่าว่ะ มาส่งมันมา”

“ก็บอกว่าไม่ต้อง อะไรของมึงเนี่ย”

“ก็ดูมันเมาดิ น้ำหน้าอย่างมึงอะ คิดว่าในหัวกูคิดอะไรอยู่ล่ะ”

“สัด กูไม่ทำอะไรมันหรอก”

“กูไม่เชื่อมึงหรอก!”

“เรื่องของมึง กูไปละ”

ยังไม่ทันได้ทักท้วงอะไร ฮอนก็ตบบ่าเขาอย่างแรงไปหนึ่งที ก่อนจะก้าวเท้าเดินพยุงกิไปลานจอดรถใกล้ๆ เสียแล้ว เต็งหนึ่งมองทั้งคู่เดินออกไปไกลจากสายตา แผนของเขาคือบอกให้กิแกล้งเมาเฉยๆ แต่ดูท่าทางแล้วเพื่อนสนิทเขาคงจะเมาจริงๆ สังเกตเห็นจากเบียร์หลายแก้ว เหล้าปั่นหมดเหยือก แล้วยังจะมีแก้วเหล้าที่ไม่ถูกโฉลกด้วยอีก ทุกอย่างมันคงจะไปตีรวนในท้องจนทำให้ปวดหัวแบบนี้น่ะสิ

ตอนนี้เขาเหมือนเป็นพ่อแก่ๆ กำลังมองลูกสาวตัวเองเดินเข้าหอกับลูกเขยไปด้วยความเจ็บปวด แม้แฟนลูกคนนั้นมันจะรับปากว่าไม่ทำอะไรลูกเขาก็เถอะ แต่มันเชื่อได้ที่ไหนกันวะว่าจะไม่ทำอะไรในวันที่เป็นใจอย่างนี้น่ะ!

ขอให้มึงรอดปลอดภัยนะกิ กูช่วยมึงได้แค่นี้แหละ T_T

 

----------



เขาไม่เคยรับมือกิตอนเมาหนักๆ มาก่อน เลยไม่รู้ว่าต้องจัดการกับหนูแป้งของเขาตอนนี้อย่างไรดี

ฮอนยืนทุลักทุเลเมื่อมือขวาต้องคอยจับคนอยู่ไม่นิ่ง ดิ้นจะออกจากวงแขนตลอดเวลาที่เดินมาถึงลานจอดรถ ส่วนมือซ้ายก็ต้องคอยล้วงกุญแจที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังออกมาปลดล็อกรถ ปกติใช้เวลาหยิบแค่แป๊บเดียว แต่พอคนในอ้อมแขนดิ้นหรือทำทีจะไหลลงไปกองที่พื้นทำให้เขาต้องใช้มืออีกข้างที่กำลังล้วงกระเป๋าออกมาคอยจับคอยพยุงอยู่อย่างนี้

“ฮอน”

“อือ”

ครั้งนี้เขาจับสองแขนของกิดึงขึ้นให้เจ้าตัวยืนตัวตรง ก่อนจะดันให้หลังอีกฝ่ายแนบกับประตูรถแล้วเข้าไปประชิด ใช้ขาหนีบกักตัวอีกฝ่ายเอาไว้ ส่วนมือขวาก็รวบเอวคนตัวเล็กกว่าไว้ในวงแขน

“ไอ้ฮอน”

“อะไรคะ” เขาขานรับ พร้อมใช้มือซ้ายล้วงมือเข้าไปหยิบกุญแจในช่องกางเกง

ฮอนใจกระตุกเมื่ออยู่ดีๆ คนที่โดนกักร่างเอาไว้ในอ้อมแขนก็เอนหัวลงมาซบที่แผ่นอกของเขา ก่อนจะส่ายหัวถูไปมาท่าทีออดอ้อน

“ไอ้เหี้ยฮอน”

“อื้อ ว่าไงคะ” ขานรับอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่องึมงำ

ตอนนี้มือซ้ายของเขาล้วงกุญแจออกมาได้สำเร็จแล้ว ทว่าเขายังไม่อยากปลดล็อกประตูเพื่อทำลายช่วงเวลาแบบนี้ไปสักเท่าไหร่นัก ก้มมองคนที่ไถหัวบนแผ่นอกเขาไม่เลิกอย่างกับเป็นลูกแมว ถ้าจอมดื้อคนนี้ไม่เมาเขาคงไม่ได้เจอหนูกิโหมดอ้อนแบบนี้ใช่ไหม

“ไอ้เหี้ยฮอน ทำไมไม่ตอบ”

คนโดนเรียกทำหน้างง “อะไรคะ ตอบไปตั้งหลายครั้งแล้วนะ”

“ฮื่อ บอกให้ตอบไง”

“ตอบอะไรเล่า”

ปึก!

จากถูหัวอ้อนอยู่ดีๆ กิก็เปลี่ยนมาโขกหัวลงบนแผ่นอกของเขาอย่างแรงแทน

“พอแล้วค่ะ เจ็บ”

“กูก็เจ็บ” ร่างสูงเข้าใจว่าอีกคนคงเจ็บหน้าผาก เลยก้มหัวลงไปจุ๊บบริเวณนั้นเป็นการรักษาหนึ่งที

“เพี้ยง รักษาเรียบร้อยแล้วค่ะ หายเจ็บรึยัง”

“ฮื่อ ไม่ได้เจ็บตรงนั้นสักหน่อย” กิส่ายหัวไปมา

“เอ้า แล้วเจ็บตรงไหน”

“…มึงไม่ตอบ”

ฮอนทำหน้างุนงงเพราะไม่เข้าใจว่ากิต้องการจะสื่ออะไร เขาตัดสินใจรวบคนตัวเล็กกว่ามากอดไว้ในอ้อมแขนถอยห่างออกมาเพื่อดึงประตูแล้วยัดจอมดื้อลงเบาะรถ เขาปิดประตูแล้วเดินอ้อมไปอีกฝั่ง เสียบกุญแจแล้วสตาร์ทเครื่องพุ่งทะยานไปยังห้องที่ไม่ได้ไปเยือนมาหลายอาทิตย์ทันที

ปึก ปึก

เสียงหัวกระทบกับหน้าต่างเมื่อชายหนุ่มผู้ไม่ได้สติเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์กำลังนอนหลับใหลอยู่บนเบาะรถ กิงัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมาขยับเปลี่ยนท่าทางเมื่อสะดุ้งตื่นเพราะหัวเอนไปเขกกระจก

ฮอนลอบขำเมื่อเห็นท่าทีง่วงงุนของคนข้างๆ หัวเขกหน้าต่างรถหนึ่งทีก็ตื่นขึ้นมาหันซ้ายหันขวาเปลี่ยนท่านอนใหม่ แต่เปลี่ยนแล้วหลับได้ไม่กี่นาทีต่อมาหัวก็ไปเขกกระจกอีกครั้ง เสียงปึกๆ ดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนเขาต้องเหยียบคันเร่งให้ไปถึงห้องนอนไวๆ เพราะสงสารใครบางคนที่หัวอาจจะปูดโนขึ้นแล้วก็ได้

ขับรถไปได้ครึ่งทางฮอนก็ถูกทำให้ใจกระตุกอีกรอบ เมื่ออยู่ดีๆ คนตัวเล็กก็ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเบี่ยงตัวเอนหลังไปพิงกระจกรถ ก่อนจะยกขามาวางพาดยาวบนตักเขา

“กิ!” ฮอนร้องเสียงดังลั่นเมื่อตกใจจนเผลอปล่อยมือจากพวงมาลัยก่อนจะหักกลับได้ทันท่วงที

หนุ่มคนขับรถคงจะไม่ตกใจถึงขนาดที่ว่าเกือบเฉี่ยวถังขยะข้างทางได้หรอก ถ้าเท้าของกิดันไม่ขยับมาใกล้ๆ ส่วนอ่อนไหวของเขาน่ะ!

“บ้าชิบ” ฮอนปล่อยมือออกจากพวงมาลัยข้างหนึ่งเพื่อจับข้อเท้าของอีกคนขยับออกห่างจากส่วนที่ว่า

“อื้อออ!” แต่คุณหนูที่ยังนอนหลับตาสบายกลับครางในลำคออย่างขัดใจ ยกเท้าตัวเองกลับไปวางไว้ที่เดิมที่เคยเหยียดแล้วท่าทีสบายมากกว่า

“กิ นี่มึงเมาจริงๆ รึตั้งใจแกล้งกูวะเนี่ย” ฮอนพรูลมหายใจอย่างอดทนอดกลั้น ขยับเท้าอีกฝ่ายแล้วใช้มือกดตรึงเอาไว้

คนที่ไม่รู้ว่าตัวเองเกือบทำให้เกิดอุบัติเหตุค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาใสนั่นมองมาที่เขาปรือปรอย

“หือ เรียกกูเหรอ”

“อือ ตื่นได้แล้วค่ะ ใกล้จะถึงแล้ว” ฮอนดึงเบรกรถเมื่อเห็นสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาหันไปมองคุณหนูที่เหยียดแข้งเหยียดขา นอนพิงหัวสบายใจเฉิบ ทั้งที่เขายังอกสั่นขวัญแขวนยังไม่หาย

“ตื่นแล้วนี่ไง ตาบอดเหรอ”

ฮอนเอื้อมตัวไปบีบปากเล็กๆ นั่นทันทีที่พูดจบ

“อื้อ!” กิร้องโวยวาย

“เมาแล้วยังปากเก่งเหมือนเดิม”

“ใครเมา”

“หนูนั่นแหละค่ะ”

“มึงมั่วอะ”

“มั่วที่ไหน เรื่องจริงเต็มสองตาตอนนี้เลย”

“ไม่ได้เมา!”

“แล้วคนเมาที่ไหนเขายอมรับว่าตัวเองเมา”

“ฮื่อ!” คนไม่ยอมรับว่าตัวเองเมาได้ยินแล้วไม่ชอบใจจึงยกเท้าตัวเองขึ้นสูงก่อนจะปล่อยลงที่ขาของคนขับรถเสียแรง กิหัวเราะคิกคักเมื่อได้ยินเสียงโอดโอยครวญเจ็บดังตามมา

“อย่าให้ถึงห้องนะ” ฮอนจำต้องปล่อยมือซ้ายจากพวงมาลัยมาจับเท้าซนๆ ตรึงไว้อย่างจริงจังเพื่อป้องกันว่าจะโดนประทุษร้ายจากคนเมาอีก



(มีต่อด้านล่างค่า)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2019 13:18:44 โดย Mayongchees »

ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0



ล้อรถเคลื่อนตัวเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนสีและหยุดลงเมื่อถึงลานจอดรถใต้ตึกสูง ฮอนยกเท้าของอีกฝ่ายลงจากตักก่อนจะเปิดประตูแล้วลงจากรถไปช่วงพยุงคุณหนูผู้เดินได้สองสามก้าวก็ล้มพับลงกับพื้น

เขากึ่งพยุงกึ่งอุ้มคนตัวเล็กกว่าในอ้อมแขน เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมก้าวเท้าตามเลยต้องออกแรงยกจนตัวลอย

“หนักว่ะ ขึ้นหลังดีไหมคะคุณหนูขี้เมา”

กิครางฮือ ส่ายหัวตอบ

“ไอ้ฮอน”

“ว่าไง เปลี่ยนใจขึ้นหลังเหรอคะ”

“ทำไมมึงไม่ตอบ”

ชายหนุ่มได้แต่ทำหน้างงเมื่อโดนถามแบบนี้อีกแล้ว

“โอเค ไม่ขึ้นก็ไม่ขึ้นค่ะ เอ้าฮึบ” แม้จะสงสัยแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ เดินมาออกแรงยกคนตัวเล็กจนเท้าอีกฝ่ายลอยขึ้นจากพื้นอีกครั้ง ช่วยพยุงขึ้นลิฟต์จนกระทั่งเดินมาถึงห้องคุ้นตาในที่สุด

เขาวางกิลงบนเตียง ปล่อยให้เจ้าตัวเกลือกกลิ้งไถตัวลงบนหมอนใบโปรด เดินไปกดเปิดสวิตช์ไฟแล้วเปิดตู้เสื้อผ้าค้นหาชุดนอนเพื่อเปลี่ยนให้อีกฝ่ายสบายตัว กางเกงวอร์มขายาวนั่นมันคงจะดีกว่ายีนขาดๆ รัดๆ แน่นอน

เดินกลับมาถึงข้างเตียงเป็นจังหวะเดียวกับที่กิพลิกตัวจากนอนคว่ำเป็นนอนหงาย เขาตกใจจนทำเสื้อผ้าหลุดมือเมื่อเห็นเสื้อแขนยาวสีขาวที่อุตส่าห์ชมว่าดีกว่ากางเกงนิดหน่อย แต่ตอนนี้กลับต้องถอนคำพูดเพราะมันเลวร้ายกว่าอีก!!

คงเพราะบรรยากาศสลัวๆ ไร้แสงไฟสว่างชัดทำให้เขาไม่ทันสังเกตเห็นว่าเสื้อตัวนี้นอกจากจะปาดไหล่ โชว์ไหปลาร้าขาวๆ นั่นแล้วมันยังบางมาก บางจนเห็นนม บางแบบบางเหี้ยๆ หน้าเขายังหนากว่าผ้าของเสื้อตัวนี้เลยเถอะ!

ฮอนโน้มตัวเข้าไปใกล้ เปิดเสื้อของอีกฝ่ายถลกขึ้นเพื่อเช็กว่าใส่เสื้อกล้ามซ้อนอยู่ข้างในหรือเปล่า แต่ก็พบว่าไม่มีเสื้อซ้อนอย่างที่หวัง ไม่มีอะไรอยู่ข้างในทั้งนั้น ไม่มีเลยแม้แต่ชิ้นเดียว!

เขาสบถกับตัวเองเมื่ออีกฝ่ายลืมตาปรือปรอยขึ้นมามองสบตา

“ฮื่อ” กิส่ายหัวไปมา มือคลำสะเปะสะปะหาหมอนข้างใบโปรดเข้ามากอด คิ้วของคนตัวเล็กเริ่มขมวดเมื่อไม่เจอสิ่งที่ตัวเองต้องการ

จะไปเจอได้ยังไงล่ะ ก็เมื่อสักครู่นี้ตอนเขาเห็นว่าเสื้อมันบางมากขนาดที่ว่าเห็นส่วนลับด้านบนของคนใส่ แค่คิดว่าจะมีใครเห็นจุกสีชมพูนี่ไปแล้วบ้าง เขาก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ดันไม่กล้าทำอะไรจอมดื้อคนนี้เพราะเห็นว่ากำลังหลับตาพริ้ม เลยไปลงกับหมอนข้างด้วยการทุ่มมันลงพื้นแทน

กิครางฮือเสียงหงุดหงิดในลำคอ มือเรียวทั้งสองยื่นขึ้นมาดึงคอเขาลงไปกอด ฮอนโถมตัวลงไปตามแรงดึง คนตัวเล็กผลักเขาออกจากตัวแล้วพลิกกายหันข้างตามมากอด เสียงแจ้บๆ จากริมฝีปากน้อยดังขึ้นสบายอารมณ์ คิ้วน้อยๆ คลายขมวดเมื่อได้กอดสิ่งปรารถนา

กิขยับตัวเข้ามาใกล้ ใบหน้าหวานซุกอยู่บริเวณซอกคอของร่างสูง ปลายจมูกรั้นเกลี่ยไปมาบริเวณสันกรามใกล้ๆ ใบหู ลมหายใจอุ่นระรินรดบนหลังคอของคนที่ทำหน้าที่หมอนข้างจำเป็น

ฮอนกัดฟันขบกรามตัวเองแน่น เริ่มนับเลขอยู่ในใจเพื่อระงับสติตัวเองให้พยายามอดทนอดกลั้นกับคนเมาที่เห็นเขาเป็นหมอนข้างใบโปรดอยู่ตอนนี้

“กิ”

“…”

“กิคะ”

เรียกชื่ออีกฝ่ายเพื่อหวังให้คนเมามีสติขึ้นมาสักนิด

“หนูกิคะ”

“ฮื่อ” ครั้งนี้คนเรียกมีปฏิกิริยาตอบรับครางฮือกลับ ขยับตัวเข้ามาใกล้กว่าเดิมจนแทบจะขึ้นมานอนเกยอยู่บนตัวเขาอยู่แล้ว

ฮอนสบถออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่ากิคงนอนไม่สบายตัวเลยยกขาขึ้นมาก่ายบนตัวเขา ขยับขาถูไปมาเหมือนคนละเมอ แล้วขยับไปโดนตรงไหนไม่โดน น่องขาดันมาถูไถอยู่บริเวณแก่นกลางตัวของเขานี่น่ะสิ ฮอนกัดฟันกรอด กำมือทั้งสองแน่น

เขาเริ่มตื่นตัวเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมจางๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่บนร่างกายของจอมดื้อส่งกลิ่นหอมยั่วยวนปลุกความต้องการ แถมอีกคนยังคงถูขาไปมาเหมือนกำลังหาที่วางให้สบายตัวอยู่อย่างนั้น กว่าจะหยุดถูได้เขาแทบลุกขึ้นมาไหว้แล้ว

…เย็นไว้ไอ้ฮอน เย็นไว้ลูกพ่อ

ได้แต่หายใจเข้าออกและเอ่ยเตือนตัวเอง เริ่มนับตัวเลขอยู่ในใจเพื่อให้สติอยู่กับตนเองมากที่สุด จากที่ตั้งใจว่าจะเข้ามาเปลี่ยนชุดให้เฉยๆ กลับต้องมานอนแข็งทื่อเป็นตอไม้ รับบทหมอนข้างจำเป็นให้เจ้าของห้องได้กกกอดจนกระทั่งเกิดเรื่องลำบากกับตัวเองขึ้น

“หนูกิคะ” เขาพยายามบังคับเสียงให้เข้มขึ้น

“อือออ”

“ตื่นก่อนเร็วเข้า”

“ฮื่อ ปวดหัว” กิพึมพำคล้ายคนละเมอและไม่มีทีท่าว่าจะลืมตาตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด

ตัวเลขที่กำลังนับอยู่ในใจเริ่มสะดุดเป็นห้วงๆ เมื่อเวลาอีกคนพูดแล้วริมฝีปากบางๆ นั่นสัมผัสอยู่บริเวณสันกรามของเขา

 “…กิ” ฮอนพรูลมหายใจออกช้าๆ

“ทำไม… มึงไม่ตอบ” ประโยคนี้อีกแล้ว…

ฮอนหันหน้าไปมองอีกคนที่ค่อยๆ ลืมตาเปิดขึ้นมาทำคิ้วขมวดยุ่ง กระเถิบหัวออกมาให้ห่างนิดหน่อยเมื่อรู้สึกว่าระยะห่างเมื่อครู่ใกล้กันจนเกินไป

แต่ก็ใช่ว่าขยับออกมาแล้วจะไกลกันมากนัก เมื่อระยะห่างจากสายตาห่างกันไม่ถึงสิบเซนติเมตร ส่วนระยะห่างของริมฝีปากมีเพียงไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้น

“คิดอะไรอยู่ฮึ ทำไมคิ้วขมวดแบบนี้”

“มึงไม่ตอบ” …อีกแล้ว

“เอาใหม่ ถามมาใหม่เร็ว เดี๋ยวครั้งนี้จะตอบแล้ว”

“ฮื่อ” คนตัวเล็กคิ้วขมวดมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินอย่างนั้น เหมือนว่าอยากรู้คำตอบแต่กลับไม่ยอมถามออกมา เลยได้แต่กล่าวหาให้เขาเป็นคนผิดไม่ยอมตอบคำถามที่ไม่รู้ว่าคืออะไรนั่นสักที

ฮอนไม่รู้ว่ากิมีสติอยู่ระดับไหนกันแน่… ดวงตากลมโตค่อยๆ ปิดลง ก่อนจะขยับเข้าหาหมอนข้างที่กำลังกอดอยู่ ระยะห่างริมฝีปากที่เคยมีเพียงไม่กี่มิลฯ ตอนนี้กลับลดลงเหลือศูนย์เมื่อรับรู้ว่ามีสัมผัสอุ่นๆ แตะที่ริมฝีปากของกันและกัน

ร่างสูงที่มีสติรับรู้ครบถ้วนเบิกตาโพลง ใจสั่นระรัวมากกว่าครั้งไหนๆ เหมือนใจเขากำลังเต้นเป็นจังหวะเดียวกับตอนรถแฉลบข้างทาง แต่ครั้งนี้จังหวะหัวใจดันเต้นถี่มากกว่านั้นหลายร้อยครั้งเสียอีก

กิไม่ได้ทำเพียงแค่เขยิบหัวมาใกล้จนทำให้ริมฝีปากแตะกันเฉยๆ แต่ครั้งนี้คนตัวเล็กกลับเผยอปากขึ้นเล็กน้อยแล้วใช้ริมฝีปากตัวเองขบเม้มริมฝีปากของเขาด้วยนี่สิ!!

แรงขบเม้มเบาๆ จากเจ้าตัวเรียกเสียงหัวใจที่กำลังรัวเป็นจังหวะกลองชุดให้กลายเป็นจังหวะเสียงเพลงอีดีเอ็มดังตุ้บๆ อยู่ข้างในอกได้ ลิ้นน้อยๆ แลบออกเลียมาปากตัวเอง ก่อนจะยื่นออกมาแตะชิมลางที่ปากล่างของคนตรงข้ามอย่างกล้าๆ กลัวๆ พอเห็นว่าไม่ได้มีอะไรน่ากลัวตอบกลับอย่างที่คิดเลยนึกได้ใจ ส่งลิ้นตัวเองออกมาไล้เลียบนริมฝีปากอิ่มของเขาช้าๆ

จังหวะนับตัวเลขช้าลงเรื่อยๆ และหยุดลงเมื่อสติขาดผึง ฮอนจู่โจมคุณหนูจอมซึนที่ตื่นมาแล้วคงอายม้วนไปถึงไหนต่อไหน กดริมฝีปากของตัวเองเข้ากับอีกคนแน่นก่อนจะส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปากของหนูกิเพื่อทำให้เห็นว่า ‘ไล้เลีย’ ที่จริงแล้วมันเป็นแบบไหนกันแน่ เขาตะโบมจูบให้หายกับความทรมานที่ได้รับตั้งแต่อยู่บนรถ กักเก็บมาแค่ไหนก็ใส่ไปเท่านั้นอย่างไม่ออมแรง

คนตัวเล็กครางฮือขัดใจเมื่อรู้ว่าเริ่มหายใจไม่ออก ฮอนจึงผละตัวขึ้น เสียงหอบหายใจดังกระเส่าขณะดวงตาปรือปรอยช้อนตาขึ้นมามองเขา ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรืออาการเขินอายกันแน่ที่ทำให้ใบหน้าของหนูแป้งของเขาขึ้นสีแดงระเรื่อ น้ำลายสีใสยืดน้อยออกมาตามมุมปากยามผละใบหน้าออกจากกัน

ไอ้บ้าเอ๊ย!! ใครเห็นภาพตรงหน้าเหมือนเขาแล้วทนได้อะแนะนำว่าไปบวชเหอะ เดินเข้าป่าละทางโลกไปเลย!!!

“เมาแล้วยั่วเหรอคะหนูกิ” พูดออกมาในขณะที่มือขวาเริ่มขยับเข้าไปในเสื้อเนื้อบาง ค่อยๆ แตะบนแผ่นหลังเนียนไล้มือไปตามกระดูกสันหลัง

กิครางฮือในลำคอไม่ได้ตอบรับอะไรไปเมื่อรู้สึกง่วงงุนเหลือเกิน

ฮอนไม่ปล่อยให้อีกคนที่ดวงตาปรือปรอยใกล้จะปิดอีกรอบได้หลับสมใจอยาก เขาประทับจูบลงไปบนริมฝีปากนิ่มอีกครั้ง พลิกตัวขยับร่างตัวเองขึ้นข้างบนในขณะที่มือขวาก็เปลี่ยนมาลูบไล้บนหน้าท้องขาวแทน

“ทำไมพุงนิ่มขึ้นคะ ช่วงนี้ไม่ได้ออกกำลังกายใช่ไหมฮึ” เขาพูดเสียงพร่า ใช้มือซ้ายเกลี่ยปอยผมหน้าม้าของอีกฝ่ายออกจากหน้าผาก

“ไม่ได้ออกก็ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวคืนนี้พี่ฮอนพาออกเองเนอะ” เขากระยิ้มกระย่อง ยกมุมปากขึ้นท่าทีเจ้าเล่ห์

ถดตัวลงบนไปจูบบนคอระหงก่อนจะไล่ลงมาที่ไหปลาร้าขาวๆ เสื้อเจ้าปัญหาถอยร่นเปิดโอกาสให้เขาได้ลิ้มรสจนพึงพอใจ ก่อนจะจูบซับผ่านผ้าเนื้อบางมาเรื่อยๆ ถึงจุดสีชมพูที่มองทะลุเนื้อผ้าก็ยังเห็นเด่นชัดว่ามันชูชันขึ้นมาแค่ไหน เขาก้มลงไล้เลียสิ่งนั้นผ่านเนื้อผ้าสลับข้างไปมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเสื้อบริเวณนั้นเปียกชุ่มเป็นดวงๆ

ก่อนหน้าเนื้อผ้าสีขาวว่าบางแล้ว แต่พอเปียกกลับยิ่งทำให้ผ้าส่วนนั้นบางเสียยิ่งกว่าบางเหมือนไม่มีอะไรมาปกปิด ยืดตัวขึ้นมองผลงานที่สร้างไว้ด้วยความพึงพอใจ พยักหัวพร้อมยกยิ้มน้อยๆ กล่าวชมอยู่ในใจว่าแบบนี้สวยงามกว่าเมื่อครู่เสียอีก

กิบิดตัวครางฮือเมื่อเริ่มโดนรุกรานอีกครั้ง ปลายจมูกโด่งของอีกคนซุกไซ้เข้ามาบริเวณซอกคอ สูดดมกลิ่นกายผสมกลิ่นน้ำหอมเข้าเต็มปอด เม้มปากทำรอยสีกุหลาบบนซอกคอขาวบริเวณที่คิดว่าเห็นได้ชัดเจนมากสุด จากที่เคยทำไว้แต่ในร่มผ้าเพื่อป้องกันไม่ให้มีใครเห็น ครั้งนี้เขาทำเด่นชัดขนาดนี้ก็หวังว่าจะไม่มีใครมายุ่งกับคนของเขาได้แล้วนะ…

ไม่ปล่อยให้สองมืออยู่ว่างๆ เขาคลำสะเปะสะปะไปตามลำตัวผ่านหน้าท้องก่อนจะหยุดลงที่กระดุมเม็ดบนสุดของกางเกงยีนสีดำที่เขาเกลียดนักเกลียดหนา ไล่มือปลดกระดุมไปจนหมดก่อนจะรูดซิปลงอย่างอ้อยอิ่ง

ฮอนยืดตัวขึ้น ถอดเสื้อยืดสีดำที่ใส่อยู่ออกจากตัวก่อนจะตามด้วยกางเกงแสลคที่ใส่อยู่ ก้มมองคนใต้ร่างมองปรือปรอยมาทางเขาก่อนที่จะก้มลงถอดกางเกงยีนรัดๆ นั่นออกจากเรียวขาขาว ฝ่ามือก้มแตะส่วนอ่อนไหวที่มีกางเกงชั้นในสีขาวคั่นกลางอยู่อย่างซุนซน ถูไถมือเข้าหาจนกระทั่งกิครางฮือในลำคอตามแรงอารมณ์ที่ถูกปลุก

หนูแป้งของเขาตอนนี้ภายนอกยังคงเป็นแป้งโกกิสีขาวที่ยังไม่ถูกผสมสีอยู่เพราะเสื้อแสนบางตัวนั้นปกปิดร่างกายส่วนแท้จริงไว้ ฮอนใช้มือข้างซ้ายเลิกเสื้อขึ้นสูงเผยให้เห็นหนูกิเวอร์ชันแดงไปทั้งตัวอีกครั้ง…

“หนูกิคะ”

กิตอบรับคำเรียกนั้นโดยการยกมือขึ้นคล้องคออีกฝ่ายเข้ามาจูบ เรียวลิ้นไล้เลียเข้าไปในโพรงปากของคนตัวสูงกว่าเหมือนที่เคยโดนกระทำ

“หือ เก่งขึ้นนะคะ” ฮอนเอ่ยขึ้นมาอย่างพึงพอใจเมื่อทักษะการจูบของคนตัวเล็กดูพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“เดี๋ยวสอนอีกเนอะ เรียนอะไรต่อไปดี” ฮอนก้มมองหนูกิของเขาที่กำลังทำหน้าทำตาใคร่รู้

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น ฮึ ไหนหนูกิอยากได้อะไรคะบอกพี่ฮอนหน่อยซิ” เขาก้มลงไปจูบคนที่กำลังทำหน้าตาน่ารังแกเป็นรอบที่เท่าไหร่ของคืนนี้แล้วก็ไม่รู้ ก็ท่าทีมึนๆ มองมาที่เขาอย่างงงๆ มันทั้งน่ารักและน่ารังแกฉิบหายเลยน่ะสิ

ฝังจมูกลงบนแก้มนุ่มอีกครั้งก่อนจะเอ่ยถามทวงคำตอบ “ว่าไงคะ”

“ว่าไงคะ”

“หือ อะไรนะ”

“…อะไรนะ” เสียงแผ่วๆ ดังออกมาเมื่อกิขยับริมฝีปากพูดเลียนเสียงคำที่ได้ยิน

“อะไรคะ พูดตามเหรอ”

“พูด… ตามเหรอ”

“เด็กไม่ดี”

“เด็กไม่ดี” ฮอนยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อมีคนพูดตามในสิ่งที่เขาพูด ชายหนุ่มเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์บนหัวเตียงก่อนจะกดเข้าโปรแกรมบันทึกเสียง

“หนูกิคะ”

“หนูกิคะ” ชายหนุ่มเริ่มสนุก กดบันทึกเสียงเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐานเผื่อวันรุ่งขึ้นมีคนไม่เชื่อว่าตัวเองเคยพูดแบบนี้จริงๆ

“พี่ฮอนขา” เขาก้มลงไปกระซิบข้างใบหูคนใต้ร่าง พยายามพูดเสียงเบาเพื่อให้เสียงตนเองติดเข้าไปในเสียงบันทึกน้อยที่สุด

 “พี่ฮอนขา” ฮอนยกยิ้มเมื่อได้ยินเสียงหวานๆ ที่ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากเจ้าของเสียงเลยสักครั้ง

“หนูกิอนุญาตพี่ฮอนแล้วนะคะ” เขานึกสนุกเมื่อในหัวเริ่มผุดสิ่งที่อยากได้ยินขึ้นมาเต็มไปหมด อยากได้ยินคำพูดหวานๆ เสียงอ้อนๆ ไหนจะพวก Dirty Talk ที่ถ้าได้ยินกิพูดเขาคงเหมือนได้ขึ้นลิฟต์ไปสวรรค์ชั้นสูงสุดทะลุขึ้นไปถึงดาวพลูโตแล้ว

“หนูกิอนุญาต… ฮึก พี่ฮอนแล้วนะคะ” เสียงพูดเริ่มตะกุกตะกักเมื่ออยู่ดีๆ คนที่คอยกระซิบก็ใช้ลิ้นชื้นแฉะไล้เลียติ่งหูจนคนถูกกระทำรู้สึกวาบหวาม

“เมี้ยวๆ”

“เมี้ยว ฮื่ออ เมี้ยววว” มือใหญ่เริ่มอยู่ไม่สุขเมื่อได้ยินเสียงออดอ้อนหวานๆ จากคนใต้ร่าง ฮอนล้วงมือเข้าไปในชั้นในสีขาวที่ปกปิดส่วนอ่อนไหวของเจ้าตัวเล็กไว้ ลูบคลำจนกิร้องครางในลำคอแต่ไม่ยอมถอดแล้วจับมันเต็มๆ มือเสียที

“หนูกิอยากให้พี่ฮอนทำแรงๆ ค่ะ” เขาตัดสินใจเอ่ยประโยคที่อยู่ในหัวออกมาในที่สุด หวังว่าจะได้ฟังเสียงหวานๆ พูดคำนี้อีกรอบวนไปวนมาในโทรศัพท์หลายๆ ครั้ง

“ฮึก ฮื่อออ” กิบิดตัวเบ้หน้าด้วยความเสียวซ่านตามแรงอารมณ์ ปลายนิ้วมือหยาบของคนเล่นกีตาร์ยังคงไล้บนอยู่บนส่วนนั้นของเขาไปมาไม่ยอมหยุด

“ไม่พูดเหรอคะ” ฮอนเอ่ยถามขึ้นมาเมื่อรอให้อีกคนพูดแต่ไม่ได้ยินประโยคที่ว่าตอบกลับมาเสียที เขายืดตัวขึ้นสูง ถอนมือออกจากขอบกางเกงสีขาวขึ้นมาจับสะโพกคนใต้ร่างไว้แทน

กิเงยหน้ามองสบคนที่อยู่ข้างบนเมื่ออยู่ดีๆ ความรู้สึกมีความสุขเมื่อครู่ก็หายไป เขากะพริบตาถี่จนกระทั่งหยดน้ำสีใสไหลออกมาตาข้างขวา ปลายจมูกแดงรั้นขึ้นสีเมื่อความวาบหวามที่ได้รับปลุกความรู้สึกวูบไหวอยู่ข้างในอก เขาเบ้ปากน้อยๆ เมื่ออีกคนละตัวจากไป

ฮอนขบกรามตัวเองแน่นเมื่อเห็นใบหน้างอแงของจอมดื้อ เขาอยากก้มลงไปฟัดๆๆๆ ฟัดให้หนูกิของเขาขึ้นสีแดงมากกว่านี้ ฟัดให้กิไม่มีเสียงร้อง ฟัดให้กิช้ำ ฟัดกิยันเช้า อยากฟัดให้หมดแรงกันไปทั้งคู่เลยด้วยซ้ำ

“ไหนพูดซิ หนูกิอยากให้พี่ฮอนทำแรงๆ ค่ะ” เขาเอ่ยย้ำประโยคที่ต้องการฟังอีกครั้ง

“หนูกิอยากให้พี่ฮอน… ทำแรงๆ ค่ะ อื้อออ” สิ้นเสียงหวาน ฮอนก็ก้มลงบดจูบลงไปอีกรอบ ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่สำหรับคืนนี้แล้ว รู้แค่ว่ากี่ครั้งมันก็ไม่เคยพอเลยจริงๆ

เขาประทับจูบลงบนมุมริมฝีปากสีชมพู ก่อนจะไล่แตะลงมาเรื่อยๆ ผ่านจุดชูชันบนแผ่นอก กดจูบลงไปแรงๆ หนึ่งทีผ่านผ้าเนื้อบาง ก่อนจะถดตัวลงมาจนกระทั่งถึงชั้นในสีขาวในที่สุด

กิหวีดร้องออกมาเสียงดังเมื่ออยู่ดีๆ ก็รู้สึกถึงความชื้นแฉะบริเวณส่วนความสุขเมื่อครู่ ผงกหัวขึ้นมามองก็เห็นว่าคนตัวสูงกว่ากำลังอมส่วนนั้นของเขาไว้ในปาก ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้รับทำให้เขาเผลอเอื้อมมือไปจับกลุ่มผมสีน้ำตาลที่อยู่ข้างล่างนั่นเอาไว้แน่น ก้มลงไปมองอีกครั้งก็สบสายตาเข้ากับคนที่ช้อนตาขึ้นมามองทั้งที่กำลังทำหน้าที่ไล้เลียอย่างคนช่ำชองแบบนั้น

คนตัวเล็กเกร็งตัวสั่นเมื่อความสุขที่ว่าลามขึ้นมาถึงช่องท้องของเขาจนต้องกัดปากตัวเองแน่น แรงอารมณ์พุ่งทะยานขึ้นไปเรื่อยๆ เกือบจะแตะเพดานอยู่รอมร่อแต่อยู่ดีๆ มันก็ลดวูบลงให้ตกใจเล่นเมื่ออีกคนผละตัว ถอนริมฝีปากออก

ฮอนนึกอยากแกล้งหนูแป้งตัวขาวที่ดึงรั้นผมของเขาจนเจ็บ

“ไหนลองแทนตัวเองว่าหนูกิหน่อยค่ะ”

“…” กิเบะหน้าใส่เพราะโดนขัดทั้งที่กำลังมีความสุขอยู่แท้ๆ

“เร็วเข้า ไม่งั้นก็หยุดอยู่แค่นี้นะคะ” แน่นอนล่ะว่าเขาพูดเล่น อาการปวดหนึบบริเวณแก่นกลางของตัวเองแล่นขึ้นมาอยู่ทุกวินาทีใครจะไปหยุดได้ลง

“ไหนลองพูดค่ะ หนูกิ”

“ฮื่ออ หนูกิ”

“เรียกพี่ฮอนขาด้วยค่ะ”

“…พี่ฮอนขา”

“โอเคค่ะ ทีนี้หนูกิลองบอกพี่ฮอนซิว่าหนูกิอยากได้อะไรคะ”

“อยากได้… ความสุข”

ฮอนส่ายหัว “ต้องแทนตัวเองว่าหนูกิด้วยค่ะ ลองใหม่ๆ”

“หนูกิ ฮื่อ …อยากได้ความสุข” ฮอนยกยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อได้ยินจอมดื้อแทนตัวเองว่าหนูกิสักที

“ความสุขแบบไหนคะ แบบเมื่อกี้เหรอ”

กิพยักหัวตอบหงึกหงัก ร่างสูงก้มลงไปหอมแก้มคนน่ารังแกฟอดหนึ่ง ก่อนจะถอยตัวลงไปที่เดิมแบบเมื่อสักครู่นี้

“ครั้งนี้ถ้ามีความสุขให้เรียกชื่อพี่ฮอนนะคะ ถ้าไม่เรียกจะหยุดอีกนะ” ฮอนยกยิ้มมุมปากขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นท่าทีรีบพยักหน้าเหมือนเด็กน้อยกลัวไม่ได้กินขนมของกิ ตอนนี้กิกลายเป็นคุณหนูว่าง่าย บอกอะไรก็ยอมไปหมด เห็นแบบนี้แล้วอยากจับมอมเหล้าทุกวันเลยจริงๆ

เขาไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปช้ากว่านี้แล้วเมื่อความเป็นชายของเขาปวดหนึบขึ้นทุกที ก้มลงใช้ริมฝีปากสัมผัสส่วนนั้นเบาๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงร้องครางขึ้นมาอีกรอบ มือเรียวของอีกคนเอื้อมมือมาขย้ำกลุ่มผมของเขาเหมือนต้องการระบายความเสียวซ่าน

“ฮึก… พี่ฮอน ฮื่อออ” กิขย้ำหัวของเขาแน่นกว่าเดิมพร้อมเอ่ยครางชื่อของเขาออกมาตามที่รับปาก ฮอนงัดเทคนิคออกมาใช้ทุกวิธีเมื่อรู้สึกว่าอีกคนใกล้จะแตะเพดานอยู่รอมร่อ ยืดตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อใช้มือเข้ามาช่วยรูดรั้งอยู่อีกพักหนึ่งจนกระทั่งคุณหนูจอมดื้อร้องครางเสียงดังเมื่อความสุขที่ว่าขึ้นสู่จุดสูงสุดแล้วเสียที

เขาคายน้ำสีขาวขุ่นที่ยินดีรับเข้าไปเต็มปากเมื่อครู่นี้ลงบนหน้าท้องเนียนของคนใต้ร่าง เงยหน้ามองคนที่หอบหายใจแฮกด้วยความเหนื่อยอ่อนอย่างรักใคร่ ทั้งที่คนเหนื่อยมากกว่าควรจะเป็นเขาแท้ๆ

ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ตื่นมาจะโดนข้างห้องด่ารึเปล่า… เจ้าตัวดื้อที่คอยปรามเขาให้เบาๆ ทุกครั้งเวลาเชียร์บอลดันร้องเสียงดังกว่าเขาอีกเนี่ยสิ

“หนูกิขา” เขายืดตัวขึ้นมามองใบหน้าน่ารังแกของอีกคนเมื่อเสร็จถึงฝั่งฝัน กิมองสบตาเขาเหมือนเคยแต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าแววตานั่นดูยั่วยวนกว่าทุกที

เขาเอื้อมมือไปคว้าหมอนใบข้างๆ ที่กิไม่ได้ใช้หนุน ล้วงเข้าไปในปลอกหมอนเพื่อควานหาสิ่งที่เอามาซ่อนไว้ตั้งแต่ครั้งนั้น

…ตามซอกโซฟายังมี แล้วที่เบสิกๆ อย่างบนเตียงนี่จะไม่มีได้เหรอ

                เขากระยิ้มกระย่องเมื่อสัมผัสซองสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่คิดว่าใช่ถุงยางแน่นอน เดาว่ากิคงยังไม่รู้เพราะเจ้าตัวไม่ได้หยิบออกไปทิ้งแต่อย่างใด

“รอแป๊บนึงนะคะ” เขาทำท่าเสียดายเมื่อคิดได้ว่าซ่อนขวดเจลหล่อลื่นไว้แค่ที่โซฟา ก้มลงจูบคนใต้ร่างอีกครั้งก่อนจะผละตัวขึ้นเดินออกไปหยิบหาสิ่งจำเป็นอีกอย่าง

                เขาไม่อยากให้กิเจ็บ ยิ่งเจ้าตัวดูไม่มีสติเต็มร้อยแบบนี้ยิ่งต้องถนอมให้มากที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายตื่นมาพรุ่งนี้เช้าแล้วฆ่าเขาตาย

ใช้มือล้วงใต้โซฟาพร้อมคลำมือหาไปมาก็เจอขวดเจลที่ว่านอนกลิ้งอยู่ที่เดิม นึกว่าช่วงที่ไม่อยู่เจ้าของห้องจะทำความสะอาดแล้วกวาดของรักเขาไปหมดเสียแล้ว

                เดินกลับมาที่ห้องอย่างรีบเร่งพร้อมผิวปากหวิวอย่างอารมณ์ดี คุณหนูจอมดื้อคงกำลังนอนรอเขาอย่างทรมานอยู่แล้วล่ะมั้งตอนนี้ แค่คิดภาพที่กินอนส่ายอยู่ใต้ร่างพร้อมเสียงเรียกหวานๆ ว่าพี่ฮอนขาก็ทำให้ความเป็นชายของเขาปวดหนึบขึ้นมาอีกแล้ว กระโจนลงบนเตียงเตรียมฟัดคุณหนูตัวขาวของเขาด้วยพละกำลังกายและใจเต็มร้อย ก่อนที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อครู่จะค่อยๆ จางลงเมื่อพบว่า…

กิ – หลับ – ไป – แล้ว!!!!

ฮอนนั่งคุกเข่าทรุดลงข้างกายของคนที่นอนหลับตาพริ้มทิ้งเขาไว้กลางทางเป็นครั้งที่สอง…

“กิ…” ลองเรียกชื่อเสียงเบาเผื่อว่าอีกคนจะได้สติลืมตาขึ้นมาแล้วบอกว่าอยากได้ความสุขอีกครั้ง แต่รอแล้วรอเล่าจนกระทั่งความรู้สึกบริเวณกลางกายเริ่มลดถอยถึงยอมผละตัวออกจากเตียง

ห้องน้ำอีกครั้งก็ได้ค่ะ!!





TBC.
ー #AdaywithWCM
ฮอนบดก็คื้ออออ คนที่ไม่รักดี จะต้องถูกลงโทษ!!  :hao7:
ใครหวังเราขอโทษนะคะ555555 ไม่อยากไปมากกว่านี้เพราะรังแกหนูกิไม่ลงแล้วๆๆๆๆ สงสารลูก ทำไมต้องมาโดนแกล้งแบบนี้ด้วย คุณแม่จะปกป้องหนุเองคับบบบ
 :pig4:  :pig4:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2019 13:19:32 โดย Mayongchees »

ออฟไลน์ Kx0806

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สมน้ำหน้าอิพี่ฮอน   :hao3:

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
ไม่รู้จะต้องสงสารใครดีหนูกิหรือนังฮอน
 :hao3: :hao3: :hao3:

แต่เอาจริงๆเราว่าฮอนนี้ก้ถนุถนอมนุ้งกิเหมือนกันนะ
ถ้าเปนผช.คนอื่นนุ้งกิอาจโดนเสียบไปละ
แต่นี้เปนนังฮอนเลยมัวแต่หาเจลหาถุง
นุ้งกิเลยรอดตัวไป หลับสบายไปก่อนเลย 5555

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
หนูกิมีความสุขแล้ว หลับสบายเลยลูก 555555555555555555

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
สงสารฮอน 5555
แต่ก็ดูรักหนูกินะ ไม่รีบร้อน แกล้งหนูกิไปเรื่อยๆ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
สงสารพี่ฮอนขา..นก..นก

ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮื่ออออออ เอ็นดูหนูกิ  :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ rcbpdr

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอสมน้ำหน้าได้มั้ย ในฐานะอะไรก็ได้ค่ะ555555555555 วงวารอะ มัวพูดคะขาอยู่นั่นแหละ อด สมหน้าๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-09-2018 14:50:29 โดย rcbpdr »

ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ー 11th Match ♥
   



…เขาฝัน

ในนั้นมีเพียงพรมผืนใหญ่ที่กำลังนั่งอยู่และสุนัขพันธุ์โกลเด้นตัวอ้วนที่นอนแหม่บอยู่ข้างๆ

จำได้เพียงว่าตนเองกำลังเทนมลงบนถ้วยให้เจ้าอ้วนตัวสีน้ำตาลประทังแก้หิวเพราะมันเอาแต่ส่งเสียงร้องงืดๆ ในลำคออยู่อย่างนั้น โกลเด้นตัวอ้วนแลบลิ้นเลียนมในถ้วยได้อยู่ไม่กี่ทีก็ผละตัวถอยห่างออกมาจ้องมองกล่องนมที่อยู่ในมือเขาแทน

“เทให้แล้วนั่นไง กินสิ อยู่ตรงนี้” ชายหนุ่มก้มลงใช้มือเขย่าถ้วยที่มีนมสีขาวอยู่ข้างในเบาๆ เพราะกลัวหกเลอะเทอะ ทำทีซ่อนกล่องนมที่มันกำลังจ้องไว้ด้านหลังตนเอง แล้วยกถ้วยเข้าไปจ่อใกล้ปากของเจ้าหมาอ้วนตัวใหญ่ มันเบือนหน้าหนี เขาจึงยอมแพ้วางถ้วยลงแต่โดยดี

“หรือนมบูด” กิยกกล่องนมขึ้นมาใกล้จมูก พยายามดมกลิ่นนมที่ยังหลงเหลืออยู่ข้างในแต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้แน่ชัด จะกระดกขึ้นดื่มก็ไม่กล้าเพราะเจ้าหมาหิวโซตัวนี้ดันเลียปากกล่องเอาไว้ เขาจึงตัดสินใจเทนมลงบนฝ่ามือตัวเองแล้วแลบลิ้นออกมาแตะๆ ชิมอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะถ้าเกิดเป็นนมบูดขึ้นมาจริงเขาคงไม่นึกยินดีเท่าไหร่นัก

“ไม่ได้บูดนี่” เบือนหน้าไปพูดกับสุนัขที่มองเขาตาละห้อย ยื่นมือไปใกล้ๆ ให้มันเห็นว่าเขาพิสูจน์ด้วยการชิมเองแล้วจริงๆ เจ้าก้อนสีน้ำตาลตัวใหญ่จึงเดินเข้ามาใกล้ ตวัดเลียฝ่ามือเขาแผล็บเดียว นมสีขาวที่เคยเทไว้ก็หายลงไปในปาก ก่อนจะส่งเสียงร้องงืดๆ เรียกให้เจ้านายใจดีเทให้อีก แต่กิกลับสั่นหัว แล้วหยิบยื่นถ้วยที่มีนมเต็มอยู่ในนั้นให้แทน

“นี่ไง เทให้แล้วเนี่ย ทำไมพูดไม่รู้เรื่องฮึ” กิมองจ้องเขม็งไปที่เจ้าอ้วนนิสัยประหลาด เทนมใส่ถ้วยให้ไม่ยอมกินแต่กลับชอบใจมาเลียกินในมือเขาแทน

ที่แปลกกว่าสุนัขก็คงจะเป็นเขาเองที่ทำพูดคุยกับมันเป็นตุเป็นตะ ขมวดคิ้วมองเจ้าหมาอ้วนกำลังทำหน้าอ้อนวอน พอเขาตัดสินใจเทนมลงฝ่ามือ มันก้มลงเลียแผล็บอีกครั้ง ทำแบบนี้อยู่ซ้ำๆ จนปริมาณนมในกล่องเริ่มลดลงเรื่อยๆ

“คิก” กิหลุดหัวเราะมือเริ่มรู้สึกจั๊กจี้ที่ฝ่ามือ ก่อนจะขยับตัวเปลี่ยนท่าเพราะการนั่งยองๆ อยู่ที่พื้นเป็นเวลานานทำให้เริ่มปวดขาหนึบ จังหวะที่กำลังจะเปลี่ยนท่านั่งใหม่ให้สบายกว่าเดิม เจ้าหมาอ้วนตัวนั้นดันเงยหน้าขึ้นมาเลียแผล็บที่แก้มเขาแทนจนทำให้เสียการทรงตัว กระทั่งล้มลงนอนแผ่บนพรมนุ่มผืนใหญ่ที่รองรับไว้ด้านล่างในที่สุด

นมจืดสีขาวที่เหลืออยู่ค่อนกล่องหกรดลงบนบริเวณช่วงคอจนเสื้อผ้าเปียกชุ่ม เจ้าตัวกลมไม่รอช้ารีบวิ่งมาโถมตัวเข้าใส่ คงนึกว่าเขาอยากหยอกเล่นด้วยเลยเข้ามาใกล้ ได้ทีแลบลิ้นเลียใบหน้าเขาแผล็บๆ จนกิต้องหลับตาปี๋พร้อมหันหน้าหนีตามสัญชาตญาณ

“เปียกหมดแล้ว” พยายามจะลุกขึ้นนั่งดีๆ แต่กลับต้องหงายหลังนอนลงบนพื้นพรมอีกครั้งเมื่อต้านแรงโถมของเจ้าหมาตัวใหญ่ไม่ไหว

“อ้วนนนน จั๊กจี้” กิร้องครวญพร้อมกลั้นขำเมื่อเจ้าหมาอ้วนตัวนี้ยังไม่เลิกใช้ลิ้นชื้นแฉะนั่นแลบเลียใบหน้าของเขา ลามเลียไปถึงซอกคอที่ยังมีหยดนมหลงเหลืออยู่ แต่เมื่อมันเห็นเจ้านายนอนนิ่งไม่ยอมเล่นด้วยเหมือนที่มันคิด จึงล้มตัวลงนอนข้างๆ แล้วใช้หัวเกยขึ้นมาบนอกพร้อมครางเสียงงืดๆ อีกครั้งแทน

----------

หนัก อึดอัด ไม่สบายตัว

คือความรู้สึกแรกเมื่อสติค่อยๆ เปิดกว้างรับรู้ถึงแสงแดดยามสายที่ส่องเข้ามากระทบม่านตา พยายามลืมตาครู่หนึ่งแต่ก็ต้องเบือนหน้าหลบเข้าซุกหาหมอนข้างอีกครั้งเมื่อยังไม่พร้อมรับแสงสว่างส่องจ้าวันใหม่จากบานหน้าต่าง

…ไม่ใช่หมอนข้าง

ค่อยๆ หรี่ตามองขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ว่าหมอนข้างใบโปรดที่กอดอยู่ทุกคืนไม่ได้แข็งโป๊กแบบนี้ ไหนจะความรู้สึกอึดอัดบริเวณช่วงเอวที่ถูกรัดแน่นนี่อีก กิใช้เวลาอยู่พักหนึ่งกับการสู้รบยกเปลือกตาตัวเองขึ้นมา สิ่งแรกที่เห็นเด่นชัดก็คือแผ่นอกที่กำลังกระเพื่อมตามจังหวะหายใจของคนสนิท แหงนหน้ามองเจ้าของร่างที่รัดเขาแน่น นิ่งจูนสติอยู่สักพักหนึ่งจนกระทั่งภาพความทรงจำคืนแล่นเข้ามาในหัว พลันใบหน้าหงุดหงิดเมื่อครู่ก็เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อแทน

ภาพที่อีกคนเงยหน้าขึ้นมาสบตาในขณะที่กำลังคลอเคลียอยู่บริเวณนั้นเพื่อช่วยเขาให้ไปถึงฝั่งฝัน ภาพที่เขาหวีดร้องออกมาสุดเสียงพร้อมเรียกชื่ออีกฝ่ายโดยมีคำว่าพี่อยู่ก่อนหน้าตอนถึงระดับสูงสุด มันผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด

น่าอาย น่าอาย น่าอาย!

กิค่อยๆ ยกแขนที่รัดอยู่ออกจากเอวไปวางไว้แนบลำตัวอีกฝ่ายเบาๆ ทั้งที่ปกติตื่นมาเจอแบบนี้จะสะบัดทิ้งออกจากตัวแรงๆ สักทีด้วยความสะใจ แต่เนื่องจากเขายังไม่พร้อมต่อล้อต่อเถียงกับอีกคนตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาแบบนี้ เลยได้แต่พลิกกายเงียบเชียบ พยายามกระถดตัวลงจากเตียงทีละคืบ ทว่ายังไปได้ไม่ถึงไหน กระดึ๊บเป็นตัวหนอนได้ไม่กี่ที ก็โดนมือปลาหมึกคว้าเอวเอาไว้ได้อีกครั้ง

“อือออ” คนแสร้งหลับทำทีส่งเสียงร้องละเมอเหมือนโดนขัดจังหวะจากฝันหวาน ยกยิ้มอยู่ข้างในใจเมื่อคนตัวเล็กข้างๆ ยอมหยุดนิ่งรอดูท่าทีของเขาแต่โดยดีไม่ได้ตอบโต้อะไร

กิแหงนหน้ามองเพื่อนตัวดีที่เริ่มรู้สึกตัวใกล้ลืมตาตื่น ชายหนุ่มหยุดนิ่งอยู่กับที่ ไม่กระดุกกระดิกตัวเพราะกลัวไปปลุกคนที่กำลังหลับอยู่เข้าจริงๆ นับหนึ่งถึงร้อยภายในใจเพื่อรอดูท่าทีอีกสักพัก เมื่อลมหายใจของคนข้างๆ กลับมาสม่ำเสมออีกครั้ง จึงยกแขนที่วางอยู่บนหน้าท้องออก แล้วพยายามขยับตัวกระดึ๊บลงจากเตียงอีกรอบ

ฮอนลอบมองท่าทีที่ค่อยๆ กระถดตัวลงจากเตียงทีละนิดแล้วก็ได้แต่แอบหัวเราะในใจ ปกติตื่นแล้วจะลุกขึ้นถีบเขาแล้วแท้ๆ ท่าทีแบบนี้คงจะอายตัวม้วนถึงขนาดที่ว่าไม่อยากเผชิญหน้าด้วยเลยแน่ๆ

“จะไปไหนคะ” เอ่ยทักไปพร้อมกับวาดวงแขนรัดเอวของคนตัวเล็กกว่าอีกครั้ง มองใบหน้าเหวอๆ ที่หันขวับมาหาทันทีที่ได้ยินเสียง ดวงตากลมเบิกโพลงมองมาที่เขาแสดงอาการตกอกตกใจอย่างปิดไม่มิด

ฮอนดึงรั้งให้ขยับเข้ามาใกล้จนกระทั่งแผ่นหลังคนตัวเล็กชิดติดกับลำตัวของเขา ก้มลงฝังจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่มของคนในอ้อมกอด จนกระทั่งได้ยินเสียงสบถคำหยาบของอีกคนลอยผ่านเบาๆ

“คิดว่าเด็กขี้เซาจะมาตื่นก่อนพี่ฮอนได้เหรอคะ” เขาเอ่ยกระซิบข้างใบหู

“พี่ฮอนเหี้ยไรล่ะ” กิเอ่ยเสียงพร่า พยายามกระแอมไอเพื่อเรียกเสียงตนเองกลับคืนมา

“ทำไมอะ เมื่อคืนยัง พี่ฮอนคะพี่ฮอนขา อยู่เลย จำไม่ได้เหรอคะหนูกิ” แม้จะไม่เห็นหน้าแต่เห็นใบหูที่ขึ้นสีแดงระเรื่อจึงอดแกล้งเอ่ยแซวคนในอ้อมแขนไม่ได้

“สัด จำไม่ได้หรอก กูเมา”

“อ้าว เมื่อคืนยังบอกไม่เมาอยู่เลย ยังไงกันนะ”

“มึงเลิกกวนสักที” กิเอ่ยขัด พยายามขยับตัวขยุกขยิก ดึงแขนจอมเหนียวหนึบนี่ออกจากตัว แต่แขนข้างขวานี้กลับไม่ยอมหลุดออกจากตัวเขาสักทีเหมือนมีกาวตราช้างแปะติดเอาไว้

“จำได้รึเปล่าว่าเมื่อคืนทำอะไรไว้บ้าง”

“ก็บอกว่าจำไม่ได้ไง”

                “เหรอคะ งั้นสงสัยต้องทบทวนความจำหน่อยแล้วล่ะ” ฮอนจับตัวอีกฝ่ายพลิกให้หันมาเผชิญหน้ากันทันทีที่พูดจบ

กิรีบยกมือขึ้นมาขัดคนที่โน้มหน้าลงมาใกล้โดยใช้กำปั้นทุบเข้าไปที่หน้าผากอย่างจังจนคนโดนกระทำหน้าหงายพร้อมร้องครวญ

“รุนแรงแต่เช้าอีกละ เก่งจริงๆ เลยนะตัวก็แค่นี้” ร่างสูงสูดปากเพราะความเจ็บ มึนอึนไปอยู่ชั่วครู่ก่อนจะใช้ขายาวๆ ของตนเองรัดแขนของคนตัวเล็กไว้ติดกับลำตัวแน่นจนกิขยับไม่ได้ เอื้อมมือไปดึงแก้มนิ่มอย่างมันเขี้ยวเบาๆ

“อ่อยอู” กิร้องขัดอย่างไม่ชอบใจแต่คนกระทำกลับลอยหน้าลอยตา ทั้งบีบทั้งดึงแก้มเขาอยู่อย่างนั้น

“บอกก่อนว่าจำได้รึเปล่า ทำอะไรไว้บ้างรู้ไหม หลายกระทงเลยเลยนะเมื่อคืนอะ”

กิลังเลก่อนเอ่ยปากตอบ ชั่งน้ำหนักในใจว่าเขาควรโกหกต่อไปหรือบอกไปตามความจริงดี ถ้าบอกว่าจำได้ออกไปอาจจะโดนแซวให้แก้มร้อนขึ้นมาเล่นๆ ตีมึนว่าจำอะไรไม่ได้ต่อไปคงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

ส่ายหัวตอบกลับคำถามนั้นไป ฮอนละมือออกจากแก้มของเขาก่อนจะเอื้อมไปคว้าโทรศัพท์ที่วางเอาไว้บนหัวเตียง ในขณะที่ใช้ขาหนีบแขนเขาไว้แน่นดังเดิม

ฮอนสไลด์หน้าจออยู่ไม่ถึงนาที เสียงที่บันทึกไว้เมื่อคืนก็พรั่งพรูออกมาจากลำโพงโทรศัพท์ กิอ้าปากเหวอ ช้อนตามองด้วยแววตาอาฆาตก่อนจะตะเบ็งชื่อเล่นเต็มๆ ของอีกฝ่ายออกมาสุดเสียง

“ไอ้เหี้ยฮอน! มึงอัดไว้เพื่อ!!” กิไม่รู้ตัวว่ามันบันทึกเสียงตอนช่วงที่เขาพูดคำน่าอายเหล่านั้นเอาไว้ด้วย จากที่แก้มร้อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ระดับความร้อนยิ่งเพิ่มขึ้นสูงปรี๊ดเป็นเท่าตัว น่าอายโคตรๆ เลย!

ฮอนหัวเราะคิกคักอยู่ในลำคอ “ยังๆ เพิ่งฟังไปได้แค่ประโยคเดียวเอง มีเด็ดกว่านี้นะ”

เสียงบันทึกดำเนินไปต่อเรื่อยๆ หลังจากเมื่อครู่ผู้เป็นเจ้าของกดหยุดชั่วคราวเอาไว้ กิได้แต่ก่นด่าออกมาเมื่อได้ยินเสียงตัวเองยอมพูดอะไรบ้าๆ เหล่านั้นออกไป ยิ่งได้ฟัง ความทรงจำเมื่อคืนยิ่งผุดชัดขึ้นมามากกว่าเก่า

“มึงโคตรน่ารัก” ฮอนอมยิ้มเป็นสุข เอ่ยขึ้นมาขณะที่ได้ยินเสียง เมี้ยวๆ เป็นลูกแมวจอมอ้อนจากหนูแป้งตัวขาวของเขา ก้มมองเจ้าลูกแมวในปัจจุบันที่กำลังหน้าดำหน้าแดง คงทั้งโมโหทั้งเขินจนแสดงอาการไม่ถูกแล้วล่ะ

“ปิดเดี๋ยวนี้ พอแล้ว!”

“เดี๋ยวก่อน รอแป๊บนึง อยากให้มึงฟังช่วงนี้ เผื่อมึงจะจำได้”

“ไม่ต้อง! กูไม่อยากฟัง” กิคัดค้านโดยการใช้หน้าผากโขกไปที่แผ่นอกของอีกคนอย่างแรงพร้อมดิ้นไปมาเพื่อต่อต้าน

ฮอนยอมกดปิดเมื่อตัวดื้อเริ่มออกอาการแผลงฤทธิ์ ใช้มือมากอดรัดไว้ทั้งตัวให้หยุดดิ้น กิหอบหายใจแฮก ยอมหยุดเมื่อรู้สึกว่าแรงกอดมันรัดแน่นกว่าเก่าจนทำให้ดิ้นไปก็เปล่าประโยชน์เพราะหนีออกจากอ้อมกอดนี้ไปไม่ได้ ทั้งยังทำให้ตัวเองเหนื่อยเฉยๆ อีกต่างหาก

ฮอนรัดอีกคนเข้ามาชิดใกล้จนอีกฝ่ายเข้ามาซุกอยู่ในอก เขาใช้คางเกยหัวของจอมดื้อเอาไว้ก่อนจะพูดท้วงถึงความผิดเมื่อคืนออกมา

“เมื่อคืนมึงเกือบทำรถชนข้างทางแล้วด้วยนะรู้เปล่า”

กิทำหน้าฉงน เรื่องนี้ไม่อยู่ในความทรงจำของเขาเท่าไหร่นัก จำได้แค่ว่าตัวเองหลับแล้วหัวโขกหน้าต่างอยู่ซ้ำๆ จนกระทั่งทนรำคาญไม่ไหวจึงเปลี่ยนท่านั่งใหม่เฉยๆ

“มึงเมาเองรึเปล่า อย่ามาโบ้ยกูนะ”

“เมาอะไรล่ะ กูกินไปไม่ถึงสามแก้วเพราะต้องดูแลใครบางคนเนี่ยแหละ”

กิทำหน้างอง้ำ “จำได้ว่าหลับตลอดทาง กูไปทำอะไรตอนไหน”

“ทุกตอนเลยค่ะ น่าตีมาก” ไม่ว่าเปล่าก็ใช้มือที่กอดรัดอยู่นั้นเลื่อนไปตบบั้นท้ายของคนตัวเล็กเบาๆ

“ไอ้เหี้ยฮอน” และไม่วายโดนด่าอีกรอบ

“แล้วชุดมึงน่ะ น่าตีกว่าอีก ไปเอาชุดมาจากไหนฮึ กูแน่ใจว่าไม่ใช่ชุดมึง”

กิก้มหน้าซุกแผงอกเงียบๆ ไม่ยอมตอบ ขณะที่ในหัวก็พยายามคิดหาทางหนีรอดอื่นไว้

“มึงนั่นแหละน่าโดนตี กูเมาแล้วยังจะมาทำตัวรุ่มร่ามใส่อีก ไอ้เหี้ยเอ๊ย”

“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะ” แต่ก็โดนมองออกอยู่ดี

“ก็มึงผิดจริง”

“ยอมรับก็ได้ว่าผิด เออแล้วไง มึงความผิดหลายกระทงกว่ากูอีก รุ่มร่ามแล้วไง ใครเป็นคนเริ่มก่อนฮึ มาทำยั่วริอาจกล้ากัดปากกูก่อนด้วย แล้วใครจะไปทนไหววะ กูว่ากูทนได้ขนาดนี้ก็เก่งมากแล้วนะ” ฮอนมองค้อนคนตัวเล็กกว่าด้วยความมันเขี้ยว

“เดี๋ยว กูทำอะไรนะ”

“กูกำลังจะเปลี่ยนชุดให้ มึงก็ดึงกูไปกอดแล้วก็เข้ามาซุกๆๆๆ เข้ามาจูบมาหอมก่อนด้วย ทั้งที่กูกำลังบำเพ็ญตบะด้วยการนับเลขอยู่แท้ๆ ตบะเลยแตกเพราะหนูกิมายั่วพี่เนี่ยแหละค่ะ” กิอ้าปากเหวอเล็กน้อยเมื่อได้ยินข้อเท็จจริงเรื่องเมื่อคืนอีกอย่างหนึ่งที่เขาจำไม่ได้

“มึงใส่ร้ายกูอีกแล้วอะ”

“ไม่ได้ใส่ร้าย ไม่ได้พูดเกินจากความเป็นจริงเลยด้วย แต่ความเป็นจริงอะเกินเบอร์กว่าที่พูดมาก มึงเข้ามาฟัดกูแบบนี้ๆๆๆ” ฮอนไม่ว่าเปล่า สาธิตเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยการดึงตัวอีกฝ่ายขึ้นมาจูบ ไล่ประทับจูบเร็วๆ จากซอกคอ ขึ้นไปปลายคาง แล้วจบที่ริมฝีปากอิ่มของอีกคนในที่สุด

ร่างสูงแลบลิ้นเลียริมฝีปากอีกคนพร้อมขบเม้มเหมือนที่เคยโดนกระทำ ผละตัวออกมองคุณหนูแป้งตัวขาวที่กำลังถูกย้อมด้วยสีแดงอีกแล้ว

“แบบนี้เลยค่ะ” ฮอนตั้งใจก้มลงกระซิบเสียงพร่าใส่หูคนใต้ร่างเพื่อเพิ่มระดับความแดงบนใบหน้าให้เพิ่มขึ้นมาเล่นๆ

กิพูดไม่ออก พยายามหาเหตุผลมาเข้าข้างตนเองว่าเมื่อคืนนั่นเป็นเพราะเขาเมาถึงได้ทำตัวแบบนั้นลง

“ฮื่อ …กูฝัน”

“ว่า?”

“ฝันว่าได้เล่นกับหมา กูคงละเมออะ”

“ละเมองั้นเหรอ มึงจูบหมาด้วยเหรอกิ หืม”

คนตัวเล็กอ้ำอึ้ง “ไม่รู้โว้ย!”

ฮอนหัวเราะให้คนที่พยายามเถียงข้างๆ คูๆ ก่อนจะกระแอมในลำคอแล้วทำเสียงเข้มบอกความผิดอีกอย่างในคืนก่อนไป

“ความผิดอีกอย่างนะ เรื่องไปคุยกับไอ้เล็กเนี่ย กูบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้คุยกับมัน ยิ้มให้เฉยๆ ก็ห้าม มองก็ห้าม ห้ามห้ามห้าม!”

“สัด ไม่ห้ามกูอยู่ร่วมโลกกับมันเลยล่ะ”             

“อ้าว ได้เหรอ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปฆ่ามันทิ้ง มันจะได้ไม่ต้องใช้อากาศหายใจร่วมกันกับมึง”

“คืออย่าเว่อขนาดนี้ได้ปะ”

“เล่นใหญ่ไปเหรอ”

“เออสิ”

ทั้งที่เมื่อครู่พยายามแอ๊บทำน้ำเสียงจริงจังอยู่แท้ๆ แต่ฮอนกลับหลุดหัวเราะออกมาเพราะบางคนพยายามจะขัดความเล่นใหญ่ของเขา ยกยิ้มมีความสุขก่อนจะก้มลงหอมกลุ่มผมของคนในอ้อมแขน

“หัวเหม็นว่ะหนูกิ”

“แล้วมึงจะดมเพื่ออะไรไอ้สัด ปล่อยกูสักที!” กิสะบัดหัวแรงๆ ให้อีกคนยอมล่าถอยออกไป

“ยังเคลียร์ไม่เสร็จ”

“อะไรอีกเล่า”

“รับปากกูเรื่องไอ้เล็กก่อน ห้ามคุยกับมันอีกนะ”

กิบ่นอุบอิบในลำคอแต่เพื่อตัดบทจึงตอบรับไปแต่โดยดี

“ส่วนเรื่องชุด กูจะเอาไปทิ้ง โอเค้?”

“จะบ้าเหรอ! กูซื้อมาแพงนะ” กิไม่ได้โกหกเพราะเขาเป็นคนหยิบชุดนี้ไปจ่ายตังค์เองจริงๆ แม้จะเป็นการซื้อที่ไม่เต็มใจและไม่ได้เลือกเองก็เถอะ

“เท่าไหร่ เดี๋ยวกูโอนให้”

“สัด มึงช่วยรู้คุณค่าสิ่งของกว่านี้ได้รึเปล่า”

“ก็เพราะรู้นี่ไงถึงได้จะเอาไปทิ้ง มันทั้งโชว์ทั้งโป๊ นมกับขามึงไม่ควรมีใครได้เห็นนอกจากกูปะ”

“เล่นใหญ่อีกแล้ว” เมื่อตีความได้ว่าคุณค่าที่ว่านั่นคือตัวเขาเอง แก้มก็ร้อนขึ้นมาอีกรอบเสียดื้อๆ กิก้มหน้าต่ำซุกอกอีกคนมากกว่าเดิม

“ไม่ใหญ่อะไรทั้งนั้น กูก็หวงของกูอะ”

“ของมึงที่ไหน นี่ร่างกายกู” รีบเอ่ยขัดคนที่ทึกทักโมเมไปเอง

ฮอนละมือขวาขึ้นมาจับคางคุณหนูที่ก้มหน้างุดซุกอยู่แต่อกให้เชิดขึ้นพร้อมจ้องลึกเข้าไปในนัยย์ตาสีดำ

“ก็หนูกิเป็นของพี่ฮอนแล้ว ร่างกายหนูก็เท่ากับของพี่ไงคะ”

ดวงตากลมไหวระริก สองแก้มแดงระเรื่อขึ้นสีเหมือนลูกมะเขือเทศ พยายามสะบัดคางให้หลุดออกจากปลายนิ้วของเขา ทำท่าทีขัดใจแต่การกระทำแบบนี้ฮอนรู้ดีว่าอีกคนกำลังรู้สึกเช่นไร

เขากอดรัดจอมเขินตรงหน้าแน่น “รู้ใช่ไหมว่ากูก็เป็นของมึง เพราะงั้นน่ะไม่ชอบอะไรให้รีบบอกเลยเข้าใจไหม”

กิไม่ยอมตอบจนต้องถามย้ำอีกครั้ง ก่อนจะมีเสียงตอบรับว่า ‘รู้แล้ว’ อู้อี้กลับคืนมา

“ห้ามทิ้งกูไว้กลางคันอีกด้วย ไม่เอาแล้วนะ”

“…”

“ไม่ตอบเหรอคะ คนไม่ดีแบบนี้ต้องถูกทำโทษนะ”

แล้วบทลงโทษที่ว่านั้นก็คือการดึงอีกคนขึ้นมาฟัดอีกรอบ หอมสองแก้มซ้ายขวาที่แดงเป็นลูกมะเขือเทศรัวๆ ด้วยความมันเขี้ยว บทจะดื้อก็เถียงขาดใจ บทจะเขินก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมาทั้งนั้น

“โอ๊ยยย พอแล้ว” ตอนนี้กิเหมือนกำลังโดนหมาโกลเด้นในฝันตัวนั้นเลียแผล็บบนใบหน้าไม่ยอมหยุด เมื่ออีกคนเลื่อนลงไปไซร้คอทำน้ำเสียงมันเขี้ยวเหมือนกำลังแกล้งเด็กตัวเล็กๆ แล้วทำให้เขาจั๊กจี้จนต้องหัวเราะออกมา

ฮอนยอมหยุดแกล้งเมื่อคนตัวเล็กใต้ร่างหัวเราะจนน้ำตาเล็ด ผละตัวขึ้นมองใบหน้าอมชมพูของหนูแป้งตัวขาวใต้ร่าง จ้องดวงตากลมนั่นอีกครั้งก่อนจะยิ้มแล้วทำสีหน้าจริงจัง

“แล้วสรุปตอนนี้เราเป็นแฟนอย่างเป็นทางการรึยังคะ” พร้อมใช้ปลายนิ้วมือเขี่ยผมหน้าของอีกคนเบาๆ

กิสั่นหัวตอบกลับ

“ยังอีกเหรอ ทำไมอะ ไม่อยากมีมึงเป็นแฟนข้างเดียวแล้วนะ”

“ยังก็คือยัง ถามมาก” เขาแค่คิดว่าควรถามเต็งหนึ่งเกี่ยวกับแผนการเมื่อคืนให้แน่ใจก่อนจะพูดอะไรออกไป กลัวจะเป็นเหมือนครั้งก่อนที่หลุดพูดไปตามใจสั่งแล้วก็ต้องกลับมานั่งคิดมากอยู่คนเดียวอีก

“กูจะงอนแล้วนะหนูกิ”

“เรื่องของมึง” กิตอบกลับ

“โป้งแล้ว ง้อด้วยนะ” ฮอนยอมปล่อยตัวกิออกจากอ้อมกอด พลิกตัวหันข้างไปอีกฝั่ง กอดอกแล้วเบ้หน้าทำตัวเหมือนเด็กประถม

“มึงคิดว่าทำหน้าแบบนั้นแล้วน่ารักเหรอ” แม้ปากจะบอกว่าเป็นเรื่องของมัน แต่ใจไม่รักดีกลับสั่งให้พูดง้อฉบับคนซึนออกไปจนได้

 “ฮึ”

“ไอ้เหี้ยฮอน” ครั้งที่สอง

“เหอะ”

“กูหิวข้าวแล้ว” ครั้งที่สาม

สิ้นสุดประโยคนั้น ฮอนก็ดีดตัวลุกขึ้นจากเตียง ตาทำประกายวับหันมาเหมือนอยากอวดอะไรสักอย่าง

“อยากกินอะไรคะ ช่วงกลับบ้านกูเรียนทำอาหารจากแฮมไว้เยอะแยะ ไม่อยากโม้ว่าอร่อยอย่างนี้” ร่างสูงยกนิ้วโป้งซ้ายขึ้นทำสัญลักษณ์เยี่ยมยอดขึ้นเบ่ง

“ข้าวต้มก็ได้”

“จัดไปค่ะ รอแป๊บนึง เดี๋ยวมาเสิร์ฟนะ” กิมองคนที่กระวีกระวาดลุกออกจากเตียงไปทำเสียงก๊องแก๊งอยู่ในห้องครัว ทั้งที่เมื่อครู่ยังทำตัวเป็นเด็กหน้าบึ้งอยู่เลยแท้ๆ

แต่ก็นั่นแหละ มันไม่เคยโกรธเขานานเกินไปได้หรอก

----------

หลังจากพ่อบ้านประจำห้องเดินออกไปแล้ว เสียงโทรศัพท์ที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นเหมือนรู้จังหวะ กิงัวเงียลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้งทั้งที่กำลังจะหลับไปอีกรอบ เงี่ยหูฟังหาที่มาของเสียงแล้วก็พบว่ามาจากกองผ้าในตะกร้า จึงลุกเดินไปคุ้ยโทรศัพท์ออกมาจากในกระเป๋า​กางเกงตัวเมื่อคืน

“โหล” เดินกลับมาที่เตียงล้มตัวลงฟุ่บกับหมอนนุ่มใบที่ใช้หนุนนอนประจำพร้อมกดรับสายเพื่อนสนิทที่โทรเข้ามาหา

(เสียงง่วงจัด ยังไม่ตื่นเหรอ)

“ก็ตื่นแล้วแหละ แต่กำลังจะหลับอีกรอบมึงก็โทรมาปลุกก่อน”

(อ้าว ทำไมกูดูเป็นคนเลวอีกแล้ววะ จะบ่ายสองแล้วนะ ลุกไปหาข้าวกินได้แล้วไป)

“รอกินอยู่”

(คือ?)

“ฮอนกำลังทำ”

(โอ้โห สมกับเป็นคุณหนูกิกับพ่อบ้านของเขาจริงๆ ว่ะ)

“ถ้าไม่มีไรก็วางนะ จะนอน”

(เดี๋ยวๆ ให้กูแซวก่อนหน่อยก็ไม่ได้)

“ง่วง” คนตัวเล็กกล่าวเสียงอิดโรย

(ดูเพลียๆ นะ …เมื่อคืนเข้าหอกันเหรอ) เต็งหนึ่งลอบถามสิ่งที่ค้างคาใจมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ปล่อยให้เพื่อนสนิทเผชิญชะตากรรมตัวคนเดียว

“ถามเหี้ยไรเนี่ย”

(อ้าว ก็อยากเสือก เอ๊ย! เป็นห่วงเพื่อนไง เอ้อ) คนฟังคิ้วกระตุกเมื่อได้ยินคำพูดที่หลุดออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“ไม่ทันละสัดหนึ่ง”

(วุ้ย เข้าเรื่อง กูจะโทรมาบอกว่าส่งไฟล์เสียงช่วงที่น้องเพชรอัดไว้ให้ในเมลล์แล้ว​นะ)

 “แล้วสรุปเมื่อ​คืน​เป็นไงบ้างอะ” กิโงหัวขึ้นจังหมอน สะบัดหัวเรียกสติตัวเองสองสามที

(ก็ตามแผน หลอกไอ้ฮอนลงไปเจอน้องเพชรได้ เหตุการณ์​ก็ตามคลิปที่อัดมา แต่มันไม่ค่อยได้ยินเพราะเสียงรอบข้างดังหน่อยนะ ถ้ามึงฟังไม่รู้เรื่องตรงไหนค่อยมาถามกู)

“คือมึงช่วยสรุปให้เลยได้ไหม ทำไมต้องทำอะไรซ้ำซ้อนวะ” กิตวัดเสียงเริ่มแสดงอาการหงุดหงิด

(มึงอย่าทำเสียงดุใส่กูแบบนั้นได้ไหม ช่วงนี้กูใจบาง เมื่อกี้ก็เพิ่งโดนแฟนดุมา)

“สมน้ำหน้า”

(พูดงี้นะกินะ คราวหลังกูจะไม่ช่วยแล้ว)

“ยังไม่เล่าใช่ปะ งั้นกูนอนก่อนนะ” คนตัวเล็กไม่ได้พูดขู่ เขาทำหน้ายุ่งเลื่อนนิ้วกำลังจะกดวางสายทันทีที่พูดจบแต่มีเสียงท้วงดังขึ้นมาเสียก่อน

(โว้ยเล่าแล้ว จะง้อกูสักนิดก่อนก็ไม่ได้)

“งั้นก็เล่าสักที”

(เออมันทักปกติตามแบบฉบับมันอะ ไอ้เหี้ย เฟรนด์ลี่เว่อ ใจดีเก่ง แสนพ่อพระ น้องโป๊ก็หงุดหงิด น้องนั่งคนเดียวก็หงุดหงิด ชวนไปนั่งด้วยเพราะกลัวโดนคนอื่นลวนลาม แต่มันดูพยายามจะเลิกพูดคะค่ะกับคนอื่นแล้วนะ)

“เหรอ มึงคิดว่าไงอะ กูควรทำไงต่อวะ” กิขมวดคิ้วยุ่งหลังได้ยินเรื่องเล่าจากปลายสาย               

(เอาความเห็นกูนะ คือคิดว่ามันแค่ติดความเป็นพี่ชายที่แสนดีมามากเกินไปว่ะ ดูอย่างมันทำกับมึงดิ ประเคนอะไรได้ก็แทบจะใส่พานมาถวาย อยากกินอะไรก็ได้กิน ได้ข่าวว่าเดี๋ยวนี้ไม่กวาดห้องเองแล้วด้วยใช่ไหมจ๊ะคุณหนูน้องกิ)

“แล้วยุ่งไรด้วยอะ” กิเริ่มฮึดฮัดเพราะคำพูดจาของเพื่อนสนิทตนเอง

(เออนั่นแหละ แค่จะบอกว่ามันก็ไม่ได้กะล่อนอะไรขนาดนั้นในความคิดกู ย้ำอีกครั้งว่าในความคิดกูนะจ๊ะ ส่วนมึงจะเอายังไงก็แล้วแต่ จะอยู่กับความคลุมเครือต่อไปแบบนี้หรือจะรีบตอบรับเป็นเมียแบบออฟฟิเชียลให้หายคลุมเครือกันสักที)

“ไอ้เหี้ยหนึ่ง!” กิโวยแต่เสียงหัวเราะกลับดังออกมาจากปากสายเหมือนเป็นเรื่องสนุกที่ได้แกล้งเขาในเวลานี้

(ก็นั่นแหละ กูหวังดีนะโว้ย ไอ้อาการชอบเขาเหมือนกันแต่ปากหนักกว่าเนี่ย กูขอเหอะ เลิกได้แล้วนะ)

“ก็แล้วถ้ามันกลับไปทำตัวเหมือนเดิมล่ะ”

(มึงอย่าเพิ่งกลัวอนาคตที่ยังมาไม่ถึงขนาดนั้น ลองดูกับปัจจุบันก่อน ถ้าหลังจากนี้มันไม่ปรับอะไรเลยแล้วทำตัวเหี้ยเหมือนเดิม กูเนี่ยจะไปต่อยมันให้เอง เข้าใจรึเปล่า)

“อือ”

(มึงก็ต้องชัดเจนด้วยนะกิ อะไรที่ไอ้ฮอนทำเล่นๆ ไม่จริงจังก็คุยกันให้มันเคลียร์ อย่าปล่อยให้ค้างคาจนกลายเป็นฝังใจแบบเรื่องที่ผ่านๆ มา เข้าใจไหม ตอบเสียงดังๆ ให้คุ้มค่าเหนื่อยกูหน่อย)

“เออ เข้าใจก็ได้”

(ยังจะมาก็ได้ เดี๋ยวกูตี ตกลงเข้าใจรึไม่เข้าใจ)

“โอ๊ย เข้าใจแล้ว พอใจยัง” กิฮึดฮัด

(ก็แค่นั้นแหละ กูเหมือนเป็นพี่อ้อยพี่ฉอดเลยว่ะ ทำไมต้องมาให้คำปรึกษาพวกหัดมีความรักด้วยวะเนี่ย เฮ้อ …แล้วสรุปเมื่อคืนมันทำไรมึงปะ) เต็งหนึ่งถอนหายใจและไม่วายเอ่ยถามสิ่งที่ตนเองสงสัยออกมา

“เสือก!”

(ไม่ได้เหรอ)

“จะนอนแล้ว แค่นี้นะ!”

กิกดวางสายพร้อมพลิกตัวนอนคว่ำก่อนจะดึงหมอนข้างของจริงเข้ามากอด ในหัวเริ่มคิดตามในสิ่งที่ได้ยินจากเต็งหนึ่ง คนกลางของทั้งสองฝั่งที่คงจะมองเห็นปัญหาอย่างเป็นกลางมากกว่าใครอื่น ใจเริ่มโอนอ่อนไปตามคำพูดที่ว่าฮอนคงจะติดนิสัยความเป็นพี่ชายมามากเกินไปจริงๆ นั่นแหละ

…คงต้องเลือกปล่อยผ่านเรื่องในอดีตไปบ้างสักนิด หันมาทำตามที่ใจอยากบ้างสักครั้งแล้วล่ะ




TBC.     

ー #AdaywithWCM

แต่งไปด้วยฟีลลิ่งความอยากฟัดแมวค่ะ แง
ขอบคุณสำหรับทุกเมนต์เลยค่า ร้าก  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2019 13:27:28 โดย Mayongchees »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
รอหนูแป้งขาวใจอ่อน   :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
เจ้าแผนการมาอีกแล้วววว
หนูกิสู้ลูก อดีตโยนทิ้งมัน
มาเริ่มต้นใหม่ สดใส แซ่บๆกันดีกว่า

ออฟไลน์ Kx0806

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คิดถึงน้องกิจะแย่ :hao5: ขออย่าเพิ่งรีบตอบรับฮอนได้มั้ยย อยากเห็นหมายักษ์อ้อนเยอะๆ เอาคืนให้สาสม  :z2:

ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องกิ จุ๊บบบบบบบบ
มาอยู่กับเจ้มั้ย รักน้องคนเดว

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
น้องกิยอมๆ ไปเถอะค่าาา สงสารนังฮอน 5555555555555555555

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
หนูกิน่าฟัดจริงๆๆ สงสารฮอน ใจอ่อนได้แล้วรู้กกกก หงอยเป็นหมาแล้วนั่นน

ออฟไลน์ BloodyBlue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :mew1: ขอบคุณค่ะ หนูกิน่ารักกกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด