(จบ) ❀ A day with Our Match ー Last Match ♥ (31/10/2561)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (จบ) ❀ A day with Our Match ー Last Match ♥ (31/10/2561)  (อ่าน 35813 ครั้ง)

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
เห็นใจฮอน แต่ก็เข้าใจกิ.... แต่ก็อยากให้ได้กัน เอ้ย รักกัน แฮปปี้เร็วๆอะะะะ  :z3:
เต็งหนึ่งคือทำดีมากเป็นทุกอย่างให้คู่นี้แร้วววว  o13 ว่าแต่แฟนนี่แฟนสาวหรือแฟนหนุ่มอะ 555555555555555  :laugh:

ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ー 12th Match ♥
☁   


bgm ; Feel the same - fcj ft. chevy





จากที่ตั้งใจว่าจะหลับต่อสักงีบหลังกดวางสายจากเต็งหนึ่งไป ทว่านอนคิดอะไรฟุ้งซ่านอยู่ในหัวไปเรื่อย ดวงตากลับไม่ยอมปิดเหมือนเมื่อสิบนาทีก่อนแล้วเสียอย่างนั้น ชันกายขึ้นสำรวจสภาพตัวเองหลังจากเมามายไม่ได้สติ ก็พบว่าชุดออกเที่ยวเมื่อคืนกลายเป็นเสื้อยืดกับกางเกงวอร์มตัวเก่งเสียแล้ว

ลุกขึ้นเดินเหินไปมาเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่าหลังจากสติดับวูบไปเขาไม่ได้โดนทำอะไรล่วงเกินโดยไม่รู้สึกตัว ก้าวเดินไปห้องน้ำไม่รู้สึกถึงแรงระบมบริเวณสะโพกอย่างที่เคยเป็นจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไม่ได้มีอะไรอย่างที่นึกกลัวแต่อย่างใด แต่ในขณะที่วักน้ำลูบใบหน้าให้สดชื่นแล้วเงยหน้าขึ้นมองกระจกทรงกลมถึงได้เห็นสภาพภายนอกของตัวเองชัดๆ เต็มสองตา

รอยแดงเป็นจ้ำๆ สองสามจุดบริเวณคอทำให้กิหน้าขึ้นสี หากแต่ขึ้นสีเพราะความโกรธไม่ใช่อาการเขินอายแต่อย่างใด ชายหนุ่มเริ่มหัวเสีย ดึงคอเสื้อต่ำลงเพื่อสำรวจว่ามีร่องรอยอื่นนอกจากจุดสามจุดนี้รึเปล่า เลิกชายเสื้อตัวเองขึ้นสูงเผยให้เห็นรอยขบเม้มประปรายบนแผ่นอกของตนเอง

เขาสบถคำหยาบกับตัวเองเบาๆ บ้วนน้ำหลังจากแปรงฟันเสร็จก็เดินดุ่มๆ ไปหาพ่อบ้านที่กำลังยืนตีไข่อยู่หน้าชั้นวางในห้องครัวทันที

ปึ่ก!

เจ้าของห้องตัวเล็กทำหน้าถมึงทึง เตะเข้าไปที่ข้อพับขาของอีกคนอย่างแรงโดยไม่บอกไม่กล่าวอะไร

ฮอนยืดตัวขึ้นก่อนจะหันขวับมาหาจอมดื้อที่กำลังทำหน้ามุ่ยแสดงความไม่พอใจอะไรสักอย่าง เมื่อครู่นี้หางตาเหลือบเห็นอีกคนเดินตรงรี่เข้ามาหา กำลังจะออกปากทักว่า ‘ขี้เซาตื่นแล้วเหรอ’ แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวแม้กระทั่งอ้าปาก ก็ถูกเตะเข้ามาที่ข้อพับจนทำให้ขาอ่อนย่อล้มเกือบถึงพื้นไปก่อนเสียแล้ว

“อะไรเนี่ยกิ อยู่ดีๆ ก็มาเตะกู” ถ้าสีหน้าคนเรากลายเป็นสัญลักษณ์ได้ ใบหน้าของพ่อบ้านหนุ่มตอนนี้คงมีเครื่องหมายคำถามอยู่เต็มไปหมด

กิไม่ตอบแต่ง้างหมัดชกกำปั้นขึ้นต่อยแขนอีกทีหนึ่งก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อผู้ขออาศัยเสียงดัง

“ไอ้เหี้ยฮอน”

ร่างสูงได้แต่เกาหัวแกรกๆ มองอีกคนอาละวาดเสร็จแล้วเดินจากไปนอนแผ่ที่โซฟาอย่างงุนงง

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมากลิ่นข้าวต้มก็ลอยฉุยออกมาจากในห้องครัว กิดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟาเมื่อถูกเรียกปลุกให้ลุกขึ้นทานข้าว ขยับตัวลงนั่งบนพื้นพร้อมพิงหลังไปกับเบาะโซฟาจุดนั่งประจำ เหลือบมองนาฬิกาบนผนังบอกแล้วก้มมองถ้วยข้าวต้มหมูกับไข่ตุ๋นสีเหลืองฟูน้ำลายสอเพราะความหิวเนื่องจากเลยเวลาทานข้าวเที่ยงมาสองชั่วโมงแล้ว

ฮอนวางแก้วน้ำพร้อมนั่งลงฝั่งตรงข้าม ยักคิ้วข้างเดียวหยั่งเชิงมองหนูแป้งที่กำลังตักข้าวต้มเข้าปากไปเรื่อยๆ ด้วยใบหน้าคาดหวัง

“เป็นไง”

“ดีกว่าเดิมอยู่” คนฟังพยักหัวตอบ

ฮอนถอนหายใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น ก่อนจะก้มตักข้าวต้มในถ้วยของตนเองบ้าง

“แล้วเป็นไร หน้าบึ้งทำไมฮึ” ตักทานได้ไม่กี่คำก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าอีกคนทำหน้าบูดบึ้งเป็นปลาทูคอหักไม่ยอมพูดจาอะไรแม้แต่คำเดียว ไหนจะก่อนหน้าที่เดินเข้ามาเตะทั้งที่เขายังไม่ได้พูดอะไรนั่นอีก

คนตัวเล็กกว่าเหลือบตาขึ้นมองขณะกลืนน้ำซุปลงคอ “มึงทำอะไรไว้ล่ะ”

ทำท่าฮึดฮัดขัดใจเมื่อถามแล้วอีกฝ่ายเลิกคิ้วท่าทางงุนงง จึงดึงคอเสื้อตัวเองลงแล้วใช้นิ้วจิ้มที่คอตัวเองจึกๆ

“ใครใช้ให้มึงทำรอยฮะ” เขาตวาด

“มึงบอกว่าทำได้ไม่ใช่เหรอ ครั้งก่อนก็เคยทำนี่ ใจเย็นๆ” ผู้กระทำได้แต่ส่งยิ้มแหย ยกสองมือขึ้นปลอบให้หัวร้อนๆ ของคนตัวเล็กเย็นลง

“แต่ไม่เคยบอกให้ทำนอกร่มผ้าแบบนี้นะ แล้วกูจะกล้าไปเรียนได้ยังไงวะเนี่ย”

“เดี๋ยวมันก็จางลงน่า”

“กี่วันล่ะไอ้เหี้ย มีเรียนวันจันทร์เนี่ย ยังไงก็จางไม่ทันปะ”

ฮอนไม่รู้จะหาวิธีแก้เรื่องนี้อย่างไรเลยได้แต่เกาคอแก้เก้อ “ขอโทษ… ก็หวงมึงนี่หว่า ตอนนั้นคิดแค่ว่าทำไว้คนอื่นจะได้เลิกยุ่งกับมึงสักทีไง” ประกบมือเอ่ยขอโทษสลับกับทนฟังเสียงด่าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งคุณหนูตัวขาวของเขาเหนื่อยจะบ่นจึงเริ่มต้นทานข้าวต้มใหม่อีกครั้ง

ฮอนยิ้มเผล่เมื่อดูท่าทางจะไม่โดนด่าอีกต่อไปแล้ว ข้าวมื้อเช้าและมื้อเที่ยงวันนี้จึงดำเนินต่อไปได้ด้วยดี

----------

หลังจากทานเข้าเสร็จได้ไม่นาน ทั้งคู่ก็ออกมานั่งดูซีรีส์สอบสวนเรื่องดังที่ดูค้างไว้ในเน็ตฟลิกซ์ กิหยิบหมอนอิงสีน้ำตาลใบโปรดขึ้นมากอดพร้อมจ้องหน้าจอโทรทัศน์ตาแป๋ว

“ปวดหัวรึเปล่า” ฮอนเอ่ยถามขึ้นมาเพราะเห็นว่าอีกคนยังมีท่าทีอิดโรยประมาณหนึ่ง

“นิดนึง”

“เนี่ย ดื้อไงเมื่อคืนอะ”

“ยุ่ง” เจ้าของห้องมาเบ้หน้าใส่ ไถลตัวลงพิงหัวกับพนักโซฟา ฮอนเห็นดังนั้นจึงตบตักตัวเองปุ๊ๆ

“เอนมานี่มา”

หมายจะให้อีกคนเอนหัวลงมานอนตัก แต่คนดื้อยังไงก็คือคนดื้ออยู่วันยังค่ำ กิปรายตามองแล้วเอนตัวลงนอนตามคำเชิญ แต่เป็นการหนุนหมอนอิงแล้วยืดเหยียดขาไปพาดตักชายหนุ่มผู้ที่อุตส่าห์หวังดีให้เขาได้นอนสบายๆ แทนการล้มหัวลงตามคำเชิญ

ฮอนส่ายหัวระอาเบาๆ ทั้งที่กำลังจะทำตัวโรแมนติกหน่อยแท้ๆ หมดกันวันเสาร์อันแสนสุขในมโนภาพ เขาหันมองซีรีส์ที่กำลังฉายบนหน้าจอโทรทัศน์ เสยผมหน้าที่ตกลงมาปรกตาขึ้นพร้อมบ่นพึมพำกับตัวเอง “รำคาญว่ะ”

กิมองต่ำไปทางปลายเท้า ยกขากระแทกตักอีกฝ่ายเหมือนที่เคยทำบนรถเมื่อคืน

ร่างสูงหันขวับ “ทำร้ายร่างกายกูอีกแล้วทำไมเนี่ย”

“รำคาญอะไร” กิเอ่ยถามเสียงแข็งแต่คนฟังกลับหลุดหัวเราะ

“หมายถึงรำคาญผมเนี่ย มันยาวแล้วปรกหน้าตลอด ขี้เกียจเสย” ฮอนมองคุณหนูตัวดื้อที่จ้องมองมาเขม็ง คงคิดว่าเขาบ่นรำคาญตัวเองล่ะสิท่า

“แล้วตอนย้อมสีผมทำไมไม่ตัดผมไปด้วย”

“ตอนนั้นมันยังพอทนได้นี่หว่า แต่ตอนนี้เริ่มรำคาญแล้วอะ” ร่างสูงหันมาเบะปากท่าทีงอแง แต่กิไม่ได้สนใจอะไรนัก ถอนหายใจด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายแล้วเบือนสายตาไปจดจ่ออยู่กับซีรีส์ตรงหน้าแทน

ผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมง จู่ๆ คนตัวเล็กก็ลุกขึ้นจากโซฟา เดินไปในห้องครัวแล้วกลับออกมาพร้อมกับยางมัดถุงแกงสีแดงเส้นหนึ่ง กิเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนตัวสูงกว่า แม้ว่าเมื่อครู่ใจกำลังจดจ่ออยู่กับฉากหนังบนจอโทรทัศน์แต่ในขณะเดียวกันหางตาก็มองเห็นคนปลายเท้ายกมือเสยผมตัวเองขึ้นทุกห้านาที เขานึกรำคาญสายตา เลยตัดสินใจลุกไปหายางเพื่อมัดผมที่ไม่ยอมไปตัดนั่นให้

กิรวบกลุ่มผมเส้นยาวเข้ามาไว้ในมือ แล้วดึงขึ้นรวบมัดเป็นจุกน้ำพุบนหัว

“เจ็บ” ฮอนช้อนตาขึ้นมองคนแสร้งใจร้าย แม้ปากจะบอกรำคาญแต่ก็ใจดีลุกไปหายางมารัดผมให้

“ทนไม่เป็นเหรอ”

“ยางมันกินผมกูอะ”

“อย่าบ่น ก็มีแต่ยางแบบนี้จะให้ทำยังไง”

“บ่นเฉยๆ ไม่ได้เหรอคะ ก็เจ็บอะ” คนตัวสูงทำเสียงจ๋อย ขณะที่สายตาจ้องมองริมฝีปากสีแดงอมชมพูบนใบหน้าใสของคุณหนูตรงหน้า

“กินมันคืนซะสิ”

“ได้เหรอ” ชายหนุ่มยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเมื่อในหัวคิดแผนการหาเศษหาเลยวันละนิดได้

“เออ”

ฮอนยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อกิตอบรับมาอย่างนั้น คว้ามือที่เพิ่งละออกจากกระจุกผมแล้วดึงร่างคนตัวเล็กกว่าลงมานั่งบนตักอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้มลงฟัดแก้มคนที่กำลังเหวอทันทีไม่ให้ทันได้ตั้งตัว

“ไอ้เหี้ยฮอนนนนน กูไม่เล่น!” กิร้องโวยวายเสียงดังเมื่อโดนดึงล้มแล้วถูกรังแกอีกจนได้

“ก็ไม่ได้เล่นสักหน่อย เรื่องแบบนี้กูจริงจังมาก” ว่าจบก็ใช้ริมฝีปากงับแก้มของคนบนตักอย่างมันเขี้ยว

“โอ๊ยยยย เลิกเล่น! กูบอกให้กัดยาง ไม่ได้หมายถึงให้มึงมากัดกูนะ!” กิส่ายหัวหลบ พยายามดิ้นให้หลุดออกจากวงแขนแกร่ง แม้จะทั้งทุบทั้งตีแต่ก็ไม่เคยหลุดจากมือเหนียวๆ นี่ไปได้สักที

“อ้าวกัดยางหรอกเหรอ พอดีในหัวกูมีแต่มึงเต็มไปหมด เลยกัดมึงแทน” ร่างสูงอมยิ้มมองคุณหนูตัวขาวในอ้อมกอด ก่อนจะยอมปล่อยแขนออกให้เป็นอิสระเมื่อเริ่มเจ็บหลังเพราะแรงทุบไม่ยั้งมือของอีกคน แค่ได้แกล้งนิดแกล้งหน่อยวันละครั้งก็พอใจแล้วล่ะ

พอผู้ถูกกระทำได้รับอิสระ ก็เอื้อมมือไปคว้าหมอนอิงอาวุธคู่กายฟาดเข้าที่ต้นแขนของคนชอบรังแกทันที

ป๊าบ!

“ไอ้บ้านี่!”

“โอ๊ย! ยอมแล้วค่ะ กิพอแล้ววว”

เสียงจากจอโทรทัศน์ผสานกับเสียงร้องโอดโอยและเสียงด่าทอทำให้ห้องนั่งเล่นสีขาวแห่งนี้เริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังจากความเงียบโรยตัวเข้ามาเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน แม้ว่าจะไม่ใช่เสียงหัวเราะมีความสุขอย่างคู่อื่นๆ แต่ทั้งสองคนคงคิดเช่นเดียวกันว่ามันดีกว่าเป็นไหนๆ ถ้าเทียบกับห้องที่เคยเต็มไปด้วยอากาศขมุกขมัวเหมือนในวันวาน

----------

“กิมานี่”

วันหยุดถัดมาก็ยังเป็นอีกวันที่ทำให้ทั้งคู่ได้นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงจนกระทั่งตะวันลอยเด่นขึ้นกลางหัว ทานมื้อเช้าพร้อมมื้อเที่ยงด้วยกันเสร็จ ฮอนก็กวักมือเรียกให้คนตัวเล็กกว่าตามมานั่งบนโซฟา

“กูไปเสิร์ชหาวิธีลบรอยดูดมา เขาบอกให้ใช้เหรียญขูด”

กิเลิกคิ้ว “วิธีอะไรวะเนี่ย จ้อจี้รึเปล่า”

“แต่มันมีคนทำแล้วหายนะ”

“ไร้สาระ” คนตัวเล็กส่ายหัว ถอยเท้าเตรียมละออกจากหน้าโซฟาแต่กลับโดนคว้าข้อมือเอาไว้ได้เสียก่อน

“ลองดูก็ไม่เสียหายนี่” คนตัวสูงหรี่ตามองกับคุณหนูที่เป็นกังวลเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวาน ถึงขนาดไล่เขาออกไปซื้อคอนซีลเลอร์มาไว้ให้ใช้ปกปิดรอยแดงนี้เอาไว้

กิชั่งใจเพราะยังไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็ยอมพยักหน้าแล้วเดินมานั่งข้างๆ ลองดูสักนิดคงไม่มีอะไรเสียหายเท่าไหร่หรอกมั้ง โซฟายวบลงในขณะที่ฮอนขยับตัวเข้ามาใกล้พร้อมกับสัมผัสเย็นๆ ของพื้นผิวเหรียญค่อยๆ แตะลงบนลำคอ ฮอนก้มหน้าใช้เหรียญสิบในมือออกแรงขูดรอยสีกุหลาบเบาๆ

“ออกไหม” กิถาม

“ไม่รู้สิ ต้องทำกี่ครั้งวะ”

“อ้าว แล้วทำไมไม่ค้นมาให้มันรู้ ถามกูแล้วจะรู้ไหมฮะ” เจ้าของห้องเอ็ด

“เฮ้ยยย กูสบถกับตัวเองเฉยๆ นี่ก็ดุจัง” รีบแก้ตัวเมื่อโดนทำน้ำเสียงดุใส่ กิฮึ่มฮั่มอยู่ในลำคอ ปล่อยให้อีกคนลงมือขูดไป

นั่งกันไปได้สักพัก จู่ๆ ฮอนก็เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาเมื่อคิดได้ว่ามีเรื่องที่สงสัยในคืนนั้นอยู่

“กิ มึงจำได้ปะว่าเมื่อคืนก่อนมึงเมาแล้วละเมอพูดอะไรขึ้นมาบ่อยๆ”

กิเอียงคอทำท่าสงสัยก่อนจะกระแอมในลำคอ “จะไปจำได้เหรอ ก็บอกว่าเมาไง”

“มึงเอาแต่พูดคำว่า ‘มึงไม่ตอบ’ หลายครั้งมาก กูพูดอะไรไปมึงก็ทุบกูอั่กๆ แล้วก็ด่าว่าทำไมไม่ตอบ ตอนแรกก็งงๆ เพราะนึกว่ามึงไม่ได้ยินที่กูขานรับตอนมึงเรียก แต่ก็ไม่ใช่ พูดอะไรไปมึงก็เอาแต่หาว่าไม่ตอบ แล้วสรุปจะให้ตอบไรอะ” ฮอนชะงักมือซ้ายที่กำลังขยับไปมาบนคอระหงชั่วครู่ เงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าอีกคนที่เบือนไปอีกทางทันทีที่เขาสบตาด้วย ดูมีพิรุธอย่างไรไม่รู้

“กะ กูเมาไง ไม่เคยได้ยินเหรอ อย่าถือสาคนบ้าอย่าว่าคนเมาอะ จะเอาอะไรกับคนไม่มีสติวะ” กิตอบกระอึกกระอัก แท้จริงแล้วเขาจำได้ดีเชียวล่ะว่าคำถามที่ไม่กล้าพูดออกไปได้แต่ถามเสียงดังอยู่ในใจนั้นคือคำถามอะไรกันแน่ มันคือสิ่งที่เขาอยากได้ยินให้แน่ชัดมาโดยตลอดตั้งแต่สี่ปีก่อน

“จริงเหรอ แล้วจะหลบตาทำไมคะ” ฮอนใช้ปลายนิ้วจับคางอีกฝ่ายให้หันมาสบตาด้วย

คนตัวเล็กเริ่มกระอักกระอ่วน รีบคิดหาทางออกให้ตัวเองเร็วรี่ “ไม่ทำต่อแล้วใช่ปะ” ผินหน้าให้หลุดออกจากมืออีกฝ่ายแล้วรีบลุกขึ้นจากโซฟาเดินเข้าอีกห้องทันที

ฮอนมองตามคุณหนูจอมดื้อของเขาด้วยแววตาสงสัย ยังคงค้างคาอยู่ในใจแต่เพราะไม่ได้คำตอบเลยไม่รู้ว่ากิต้องการถามอะไรกันแน่ ขมวดคิ้วสงสัยนึกขึ้นได้ว่าเขายังมีเพื่อนสุดรักอีกคนหนึ่ง ผู้ที่มักเปรียบเปรยตัวเองว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วคนนั้น มือเลื่อนไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นต่อสายหาทันที

(เออ)

“ห้วนจังวะ”

(แล้ว? ต้องให้กูทักว่าไง สวัสดีครับคุณฮอน คุณสบายดีรึเปล่า ไม่ทราบว่าโทรหาผมทำไมครับ อย่างนี้เหรอ)

“ได้เปล่าล่ะ ถ้าได้แบบนั้นก็ดี” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ

(สัด มีไรรีบพูดมา) เต็งหนึ่งรีบรวบรัด

“เออแค่จะถามว่ากิมันมีอะไรในใจรึเปล่า แบบเป็นเรื่องที่บอกกูไม่ได้แต่บอกมึงได้อะ”

(ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่บอกมึงไม่ได้ แล้วมึงมาถามกูเพื่ออะไรคร้าบ ยังไงกิก็ต้องห้ามบอกมึงอยู่แล้วปะ)

“มึงช่วยใบ้หน่อยไม่ได้เหรอวะ กูค้างคาอยู่ในใจเนี่ย” ฮอนขมวดคิ้วยุ่ง ทำน้ำเสียงจริงจังเพื่อให้รู้ว่าครั้งนี้ต้องการคำตอบมากจริงๆ

(บอกแล้วกูจะได้อะไร จ่ายค่าง้างปากกูไหม)

“แล้วมึงจะเอาอะไร” ถ้ามันช่วยให้ความกระจ่างก็คงยอมเสียไป

(ไม่รู้ดิ ขอกูคิดก่อน)

“ไอ้ห่า งั้นก็บอกมาก่อนว่ามันมีไรกันแน่”

(…ก็น่าจะเป็นเรื่องนิสัยเดิมๆ ของมึงล่ะมั้ง แบบไม่รู้ว่ามึงจะเลิกทำเล่นๆ กับมันได้รึยัง)

“ใช่เหรอวะ” ฮอนขมวดคิ้ว แล้วกิต้องการให้เขาตอบอะไรกันล่ะ

(กูแอบกระซิบมึงหน่อยก็ได้ ตอนนี้ก็ง้อๆ มันได้ละนะ ใจเริ่มเหลวแล้ว)

“ถามจริง? รู้ได้ไง แล้วมึงว่ากิจะใจอ่อนรึยังวะ แบบมันจะไม่ปฏิเสธกูอีกแล้วใช่ปะ” น้ำเสียงเคลือบแคลงเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยเสียงระริกรี้ขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น

(ก็น่าจะดีกว่าแต่ก่อนแล้วแหละ กูอุตส่าห์คิดแผนเพื่อทดสอบมึงอะ อย่างน้อยกิมันต้องได้รับผลที่มันพอใจสักจุดบ้างล่ะวะ)

“อะไรนะ ทดสอบอะไร ผลอะไรนะ” ความสงสัยที่ดูเหมือนจะหายไปกลับแล่นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ฮอนขมวดคิ้วสงสัยทันที

(เชี่ย กูพูดอะไรวะ ไม่ๆ กูไม่ได้พูด) เต็งหนึ่งรู้ว่ายิ่งปฏิเสธมากเท่าไหร่ยิ่งดูพิรุธมากกว่าเดิม เขาตบปากตัวเองไปหนึ่งทีแลกกับความปากพล่อยของตนเอง

“มึงพูดไอ้หนึ่ง ถ้ามึงไม่บอกกูตอนนี้กูจะบุกไปถึงบ้านมึง”

(บุกไปเหอะ กูไม่ได้อยู่บ้าน)

“อ๋อ รึจะให้กูบุกไปห้องแฟนมึง น้องอะไรน้า ตัวนอๆ ติดอยู่ที่ปากเนี่ย” ฮอนขมุบขมิบ ลากเสียงยาวแสร้งทำว่าเหนือกว่าเมื่อบังเอิญไปรู้อะไรบางอย่างเข้า

(เชี่ย! มึงรู้ได้ไงวะ) จากที่เคยเป็นต่อ บัดนี้กลับกลายว่าเต็งหนึ่งโดนขู่เอาความลับที่ยังไม่เปิดให้ใครรู้มาข่มได้เสียก่อน

“กูเป็นผู้หยั่งรู้มั้งไอ้สัด บอกมาได้ละว่ามึงวางแผนไปทำอะไรไว้”

(ถ้ากูเล่าแล้ว มึงช่วยทำเป็นไม่รู้เรื่องนั้นก่อนได้ปะวะ)

“เออ ดีล”

(ฮือ กิจะฆ่ากูไหมวะเนี่ย)

“ยังอีก”

(เฮ้อ คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้…)

----------

กิมองคนที่กำลังผิวปากอารมณ์ดีขณะหยิบกีตาร์โปร่งคู่กายขึ้นมาวางบนตัก อีกฝ่ายอารมณ์ดีเหมือนคนเพิ่งไปโดนยาคึกคักตัวไหนมาสักตัวหนึ่ง

“มึงไปโด๊ปยามาปะเนี่ย” กิก้มมองด้วยความหวาดระแวง

“ฮะ เปล่าสักหน่อย” ร่างสูงหันมายิ้มตอบด้วยใบหน้าที่มักใช้ในการโปรยเสน่ห์ ก่อนจะหันไปผิวปากหวิวอีกรอบขณะปรับสายกีตาร์เพื่อจูนเสียง

กิยังคงมองคนที่นั่งเอนหลังพิงโซฟาด้วยใบหน้าหวาดๆ ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปดูซีรีส์ที่กำลังฉายบนหน้าจอแทนเมื่อคิดได้ว่านั่งมองมันไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา

ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงซีรีส์ที่กำลังดูอยู่ก็จบลง กิจิ๊ปากเมื่อตอนที่เพิ่งจบลงคือตอนสุดท้ายบนเว็บ นั่นคือเขาต้องรอไปอีกอาทิตย์ถึงจะได้ดูตอนต่อไป

“กิ ลงมานี่หน่อย”  ขณะที่กำลังเลื่อนหาเรื่องใหม่ดูฆ่าเวลา เขาก็ถูกคว้าข้อมือดึงลงไปนั่งพื้น ฮอนเอื้อมมือไปหยิบรีโมทกดปิดโทรทัศน์ แถมยกกีตาร์มาวางบนตักของเขาแล้วขยับเข้ามาซ้อนหลังแทน

“อะไรของมึง”

“อะแฮ่ม อย่าเพิ่งขัดกูนะตัวดื้อ” ร่างสูงกระแอมในลำคอ

“มึงจะทำอะไร” กิเริ่มหวั่นอยู่ในใจเมื่อรู้สึกถึงการกระทำอันแปลกประหลาด

“กูอะฝันอยากดีดกีตาร์ให้แฟนฟังแบบพระเอกในหนังมานานแล้ว” ชายหนุ่มเก๊กเสียงเข้ม

“พี่แป้งไง มึงไปซื้อกีตาร์มาหัดดีดเพื่อเขานี่” กิอดเอ่ยแซะขึ้นมาไม่ได้ เมื่อได้ยินอีกคนเอ่ยคำพูดที่ทำให้พอจะเดาได้ว่ากำลังคิดทำอะไร

“แหนะ บอกว่าอย่าเพิ่งขัดไงคะ”

ฮอนพรูลมหายใจด้วยความประหม่าเล็กน้อย วางคางลงบนบ่าของคนในวงแขน มือซ้ายยื่นไปจับคอร์ด ส่วนมือขวาก็อ้อมตัวกิไปจับสายกีตาร์ดูเหมือนท่ากอดอยู่กลายๆ

กิขยับตัวยุกยิกคล้ายจะประท้วงว่าท่านี้ทำเขาอึดอัด แต่เมื่อคนข้างหลังเริ่มเกากีตาร์และเมื่อเสียงอินโทรของเพลงอะไรสักอย่างดังขึ้นเขากลับหยุดนิ่ง

“You’ve really caught my eye. I’m usually not this shy but my heart’s gone through some kind of change”

“…”

”We've always been just friends. But lately these feelings for you have gotten in the way”

เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหูเหมือนเสียงกระซิบ แม้ในความเป็นจริงจะไม่ได้เบามากถึงขนาดนั้น แต่กิก็รู้สึกได้ว่ามีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะได้ยินเสียงกระซิบนี้เพียงคนเดียว

“So when the stars all align. I'm gonna make you mine”

เสียงทุ้มหยุดไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะดังขึ้นอีกครั้งพร้อมๆ กับเสียงดีดสายกีตาร์ที่เปลี่ยนไป

“Because you and me, we're like milk and tea. We'll stir it up together and still make something sweet”

“…”

“So don't be afraid and just make my day. Just tell me that your heart can feel the same way”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะลมหายใจที่ระรินบนหลังคอหรือเสียงทุ้มอันคุ้นชินกันแน่ที่ทำให้เขาต้องเม้มปากแน่นอย่างนี้ เสียงกลองตีระรัวอยู่ในอกผสมไปกับจังหวะสบายๆ ของกีตาร์โปร่ง ใบหน้าเริ่มร้อนผะผ่าว กิรู้ตัวว่าตอนนี้ใบหูของเขาคงแดงเถือกและมันจะไล้ลามมาทั้งใบหน้าของเขาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แน่ๆ

“It may be crazy but just give it a chance. Cause what we have is good and I just want this to last”

“…”

“So take my hand and we'll never part. We're meant for each other, this is only the start”

“...”

“รักนะ”

“…”

“คำนี้ใช่ไหมที่อยากได้เป็นคำตอบ”

กิหันขวับมามองหน้าผู้พูดทันทีด้วยความตกใจเมื่อเสียงกีตาร์หยุดลงกะทันหันแล้วแทนด้วยน้ำเสียงจริงจังที่เอ่ยข้างใบหู

“ระ รู้ได้ยังไง” คนตัวเล็กพูดตะกุกตะกัก

ฮอนอมยิ้มตอบกลับ “ก็เคยบอกแล้วไงว่ามึงเป็นของกู คิดอะไรอยู่น่ะรู้หมดแหละ”

หลังจากได้ฟังแผนการในคืนวันศุกร์พร้อมกับความกังวลต่างๆ ของกิที่รู้มาจากเต็งหนึ่ง ฮอนก็พอจะเดาได้ว่าจริงๆ แล้วกิกังวลอะไรมากที่สุด

“กูไม่เคยพูดคำนี้แบบจริงๆ จังๆ เลยใช่รึเปล่า ขอโทษนะ ขอโทษที่ไม่เคยพูดมันออกมาแบบจริงจังสักที ขอโทษที่หลายครั้งทำเป็นหยอกทำเป็นเล่นมาตลอด ขอโทษที่ทำให้มึงฝังใจมาจนถึงขนาดนี้ ขอโทษที่ไม่คิดให้ดีก่อนพูดบ้างเลย”

“…” กิเม้มปากแน่น ก้มหน้างุดไม่ยอมหันไปสบตาด้วย

“ถ้าจะบอกว่าครั้งนี้กูจริงจังและคิดมาดีก่อนพูดแล้ว มึงจะว่ายังไง”

ฮอนผละตัวขึ้นจากลาดบ่า วางกีตาร์ไว้ข้างตัว ก่อนจะขยับตัวเองออกจากหลังให้ได้มองหน้าคนในอ้อมแขนชัดๆ

“เป็นแฟนกันนะ”

น้ำเสียงหนักแน่นทว่าแฝงความเว้าวอนทำให้กิยอมเงยหน้าขึ้นมามองในที่สุด

“กับพี่แป้งน่ะ ไม่เคยเล่นกีตาร์ให้เขาฟังเลยนะ พูดจริงจากใจ สาบานให้ฟ้าผ่าเลยก็ได้ จะมีแค่มึงที่กูนั่งแกะคอร์ด ฝึกเพลงเพื่อมาเล่นให้ฟังแบบนี้ แค่มึงกิ …แค่มึงคนเดียว”

ฮอนมองใบหน้าสีฝาดของคนตรงข้ามแล้วส่งยิ้มบางให้ แต่กิกลับก้มงุดลงจนคางชิดอกตัวเองอีกครั้งทั้งที่เพิ่งสบตากันได้ไม่กี่วินาที

“ฮึ ว่าไง” เขาถามย้ำอีกครั้ง ใจแอบฝ่อลงเล็กน้อยเมื่อกิยังนิ่ง กลัวได้รับคำปฏิเสธตอบมาเหมือนหลายๆ ครั้งก่อน แม้ว่าครั้งนี้เขาจะเทหมดหน้าตักทั้งที่ไม่มีพนันอะไรทั้งนั้นก็ตามเถอะ

มุมปากค่อยๆ เหยียดยิ้มกว้างขึ้นเมื่อศีรษะของคนตรงข้ามผงกไปมาทั้งที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมามองสบตา ร่างสูงคว้าอีกคนเข้ามากอดหมับด้วยความดีใจ ปลายจมูกโด่งหอมฟอดเข้าไปที่กลุ่มผมสีดำทันที

“แล้วรักไหม ขอคำตอบด้วยคนได้รึเปล่า”

“ปล่อยยย” กิร้องโวยวายเมื่อรู้สึกถึงแรงรัดที่แนบแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ

“ตอบก่อนเดี๋ยวปล่อย” ฮอนคลายวงแขนเล็กน้อย ไม่วายหาเศษหาเลยโดยการหอมแก้มคุณหนูจอมเขินในอ้อมกอดไปหลายฟอด

“เร็ว จะตอบไหม” เขาเร่งรัดเอาคำตอบด้วยการพรมจูบลงบนใบหน้าคุณหนูในอ้อมกอดหลายๆ ครั้ง ทั้งหน้าผาก แก้ม และริมฝีปากเพื่อให้คนโดนกระทำรำคาญจนทนไม่ไหว

กิไม่ไหวจะหลบหลีกจึงตะโกนออกมาเสียงดัง “เออ!! ปล่อยได้รึยัง!”

“เอออะไรคะ ไม่รู้เรื่องไม่ผ่านนะ”

“เออรักไงไอ้เหี้ย ปล่อยได้แล้ว!”

ฮอนหลุดขำให้กับคำบอกรักแบบฮาร์ดคอของคนตัวเล็กในอ้อมกอด เผลอคลายวงแขนหละหลวม เปิดโอกาสให้กิฟาดเข้าที่ต้นแขนหนึ่งทีก่อนจะวิ่งหนีเข้าห้องนอนไปจนได้

“หนีอีกแล้วนะ!” ฮอนเอ่ยอย่างไม่จริงจังนัก

เขาฉีกยิ้มกว้างอยู่นานพอกับๆ เสียงหัวใจที่เต้นระรัวดังอยู่ในอกข้างซ้าย สายตายังคงมองไปยังประตูห้องที่ถูกปิดล็อกไว้ทันทีที่หนีเข้าไปได้ อาการขี้อายของจอมเขินคงกำเริบหนัก ตอนนี้กิคงกลายร่างเป็นหนูกิตัวแดงนอนคุดคู้อยู่ในผ้าห่มผืนใหญ่ แล้วก่นด่าเขาทั้งที่ใจเต้นระรัวเหมือนกันอยู่แน่ๆ

จำเป็นต้องบอกอีกครั้งรึเปล่าว่าหนูกิของเขาน่ะ…

…น่ารักที่สุดในโลกเลย :)
 



TBC.

ㅡ #ADayWithWCM
ㅡ รีบปั่นมากๆ กลัวทุกคนลืมแต่สปีดได้แค่นี้ค่ะ ฮือแม่555555
ขอบคุณเพลงน่ารักๆ Feel the same - fcj w/chevy ขอบคุณทุกความเห็นด้วยค่า
 :pig4:  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2019 13:32:24 โดย Mayongchees »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
โง้ยหนูกิ ที่แท้อยากให้บอกรักนี่เองง
หนูแป้งบอกรักรุนแรงจังลูกก เขินรุนแรงอีกต่างหากก
ต่อไปนี้คงหวานกันได้แล้วน้าาา  :hao7: :hao6:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ในที่สุดก็เปงแฟนกันแม้จะเปนผัวเมี- แค่กๆ กันก่อนแล้วก็ตาม 55555555555555555555555

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
โอ้ยยย หนูกิ ได้สักทีนะฮอน จัดการเลยย ตัวแดงขนาดนี้แล้ว อย่าให้รอดไปได้  :hao7:

ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กรี๊ดดดดดดด เป็นแฟนกันซะทีนะคะ รักหนูกิจังอยากหอมหัว

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อยากพนันบอลด้วยจัง  :hao6:
ขอบคุณค่ะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อ๋อยยน้องกิ. อยากฟัดแจ้มมั่ง :pig4:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
หนูกิน่าเอ็นดูละเกิน อ่านแล้วรู้สึกถึงความน้องงง อยากบีบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ー Last Match ♥
☁   





หลังจากผ่านวันนั้นไปก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก เราสองคนต่างก็ใช้ชีวิตกันตามปกติ มีเวลาส่วนตัวของตัวเองแต่ก็แบ่งเวลาให้กันและกันบ้าง วันธรรมดาออกไปเรียน วันหยุดก็นอนดูหนังด้วยกันบนโซฟาตัวเดิมในห้อง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนอกจากสถานะของเราสองคนกับตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของคนตัวเล็ก

กิมักโดนเต็งหนึ่งแซวว่า ‘ผัวเลี้ยงดีเหรอเนื้อหนังถึงนิ่มขึ้นแบบนี้’ ตอนแรกเขาแค่มองค้อนตอบกลับให้รู้ว่าไม่พอใจ แต่พอเต็งหนึ่งพูดขึ้นอีกว่า ‘ระวังมันไปมีกิ๊กนะ เอ๊ะ รึจะหลงกว่าเดิมวะ’ เขาจึงตบปากมันไปหนึ่งที แล้วเถียงฉอดว่าช่วงนี้แค่ไม่ได้ออกกำลังกายเฉยๆ ฝ่ายที่โดนตีถึงยอมเงียบไป

เดิมทีเขาเป็นกังวลตั้งแต่ก่อนตอบตกลงเลื่อนสถานะแล้วว่าคนข้างกายอาจจะเปลี่ยนไป กลัวอาการที่เต็งหนึ่งเรียกว่า ช่วงโปรโมชั่น จะหายไป พร้อมลามไปหมดกับเรื่องอื่นๆ ด้วย

กินั่งกดโทรศัพท์บนรถแอร์เย็นฉ่ำในช่วงค่ำวันศุกร์ที่ไม่ค่อยสุขเท่าไหร่นักอย่างเบื่อหน่าย แยกสุขุมวิทเส้นหลักในการเดินทางรถติดยาวเป็นกิโลฯ เรียกได้ว่าถ้าเปิดกูเกิ้ลแมพเช็กการจราจรคงเห็นเส้นสีแดงยาวเป็นแถบในแผนที่ ฮอนเอ่ยชักชวนเข้าห้างเพื่อรอให้รถบางตากว่านี้ค่อยเดินทางกลับ แรกเริ่มเขาส่ายหัวไม่เห็นด้วยเพราะกว่ารถจะขยับได้คล่องตัวกว่านี้ก็คงต้องรอไปอีกชั่วโมงสองชั่วโมง แต่อีกคนดันหลอกล่อเขาด้วยหนังในจักรวาลโปรดที่กำลังฉายอยู่ในโรง จึงยอมพยักหน้าตอบตกลงไปแต่โดยดี

พอเอนด์เครดิตของหนังจบลง กิก็หันไปพูดจ้อใส่คนข้างกายทันทีที่เดินออกมาจากโรงหนัง ฮอนลอบยิ้มขณะมองเขาเจื้อยแจ้วถึงสิ่งที่เพิ่งดูจบเมื่อครู่อย่างมีความสุข

“วันนี้อยากกินอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นขณะก้าวเท้าลงบันไดเลื่อน ตั้งแต่เปิดเทอมมา แทบจะนับครั้งได้ที่เราสองคนออกมาทานข้าวข้างนอกหรือสั่งอาหารเข้ามากินในห้องเหมือนเมื่อก่อน ชายหนุ่มผู้ผันตัวเป็นพ่อบ้านประจำห้องเอาแต่บอกว่าทำกินเองดีกว่า ทั้งปลอดภัยทั้งไม่มีผงชูรส ทั้งได้ฝึกฝีมือไปด้วยอีกต่างหาก กับข้าวเกือบทุกมื้อในแต่ละวันจึงเป็นฝีมือของคุณพ่อครัวมือใหม่เกือบทั้งหมด

“สุกี้ ชาบู เอ็มเค” กิก้าวเท้าลงจากบันได้มาหยุดอยู่ที่หน้าร้านเอ็มเคพอดิบพอดี จึงคิดลองเอ่ยปากชวนเพราะไหนๆ ก็เข้าห้างมาแล้วทั้งที

“เหรอ ที่ห้องไม่มีหม้อสุกี้อะดิ งั้นเดี๋ยวลงไปซื้อเลย” ฮอนพยักหัวตอบ ไม่ได้สนใจแววตาละห้อยที่กำลังจ้องมองเป็ดย่างในโปสเตอร์ร้านอาหารชื่อดังแต่อย่างใด เขาตกลงกับตัวเองเสร็จสรรพก็กวักมือเรียกให้แฟนเดินตามมา

…ไม่รู้ว่าโดนตามใจจนเสียนิสัยไปแล้วหรือเปล่า เวลาอยากได้หรืออยากทานอะไรแล้วไม่ได้ดั่งใจ มุมปากของเขาจึงค่อยๆ โค้งลงอย่างเห็นได้ชัด

กิก้าวเท้ารี่ คว้าแขนแกร่งเอาไว้ได้ทันท่วงทีก่อนอีกคนจะเดินนำไปไกลมากกว่านี้

“กินนี่เหอะ ไหนๆ ก็มาแล้วเนี่ย” ชายหนุ่มผู้โดนขัดใจสะบัดปลายเสียง ท่าทีไม่พอใจ

“ไม่เอา ทำกินเองดีกว่าค่ะ ได้เยอะกว่าด้วย ไปๆ ซื้อของอย่างอื่นเข้าตู้เย็นด้วยพอดี อยากกินไรอีก” ยังไม่ทันได้แย้งอะไรก็โดนคนเผด็จการคว้ามือไปกุมหลวมๆ แล้วตรงไปโซนมาร์เก็ตทันที

“มึงว่าเอาหม้อแบบไหน เอาแบบปิ้งย่างได้ด้วยไปเลยไหม” ฮอนกอดอกลังเลขณะยืนเลือกหม้อไฟฟ้าอยู่นานสองนาน กิตอบกลับคำถามโดยชี้มือไปทางขวามั่วๆ

“เค งั้นเอาแบบนี้นะ” แล้วก็ได้กระทะไฟฟ้าแบบต้มและปิ้งย่างใส่ลงรถเข็น

…พอโดนขัดใจในเรื่องเล็กๆ ที่ไม่เคยโดนห้าม ทั้งที่อีกฝ่ายตามใจเขามาตลอด อยากได้อะไรก็ได้ ไม่เคยปฏิเสธเลยสักครั้ง ในใจจึงเริ่มแอบหวั่นว่าหรือจริงๆ มันใกล้จะหมดช่วงโปรฯ ที่นึกกลัวขึ้นมาแล้ว

ความคิดกำลังอลหม่านอยู่ในหัว จนกระทั่งเสียงกระซิบบางอย่างดังขึ้นไม่ทันตั้งตัว

“กิ มึงชอบกลิ่นไหน”

ฮอนโน้มตัวเข้ามาพูดเสียงเบาข้างใบหู ใช้มือป้องไม่ให้พนักงานแคชเชียร์อ่านปากได้ กิช้อนตาขึ้นมอง เลิกคิ้วสงสัยว่าอีกคนกำลังหมายถึงอะไร

“กลิ่นอะไร” พูดเสียงเบาตอบกลับ หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึก ไม่ได้กลิ่นอะไรเลยสักอย่างแล้วให้เลือกอะไร?

“ก็ไอ้นั่นไง ที่วางอยู่บนชั้นนั่นน่ะ” ฮอนพยักพเยิดหน้าให้หันไปมองทิศทางซ้ายมือซึ่งมีถุงยางอนามัยเรียงรายไว้บนชั้นวาง กิมองตามสายตาเจ้าเล่ห์ของอีกคน เห็นดังนั้นก็ไม่รอช้า ตีป๊าบเข้าต้นแขนของผู้ที่เอาแต่หมกมุ่นเรื่องแบบนี้ทันที

“ไอ้เหี้ย” ส่ายหน้าระอาพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ใส่ แต่ฮอนกลับหัวเราะเมื่อได้แกล้งให้เขาหัวเสียเล่นๆ

ขอถอนคำพูดแล้วกัน ฮอนยังเหมือนเดิมไม่มีผิด

…หมายถึงเรื่องที่ชอบแกล้งให้เขาอายอยู่เสมอน่ะนะ!

----------

กลับมาถึงห้องตอนเวลาสามทุ่มกว่า กว่าคุณพ่อครัวจะล้างผัก หั่นหมู เตรียมของอะไรต่างๆ เสร็จ หม้อชาบูก็ถูกตั้งในเวลาสี่ทุ่มพอดิบพอดี

“เนี่ยเห็นไหม บอกแล้วว่าทำกินเองดีกว่าเป็นไหนๆ ผักน้อยๆ หมูเยอะๆ แบบที่มึงชอบไง” กิยักไหล่ ไม่พูดอะไรเพราะกำลังเคี้ยวเส้นหมี่หยกอยู่ในปาก มองคนตรงข้ามคีบเนื้อหมูไม่ติดมันแบบที่เขาชอบลงบนส่วนของกระทะร้อน

“ถ้าใส่หมูกรอบได้กูก็จะใส่ให้ แต่ดูแล้วมันคงพิลึกเอาการอยู่นะ หมูกรอบในชาบู” ฮอนทำหน้าปุเลี่ยน

“ถ้าใส่ก็ได้ปะ ใครจะมาว่า ไม่มีคนรู้สักหน่อย” กิพูดขัด

“ก็จริงค่ะคุณหนู ขนาดไข่มุกยังอยู่ในผัดซีอิ๊วได้ ทำไมหมูกรอบจะอยู่ในหม้อชาบูไม่ได้เนอะ” ฮอนหัวเราะ ขณะนึกไปถึงกระแสไข่มุกที่กำลังเป็นไวรัลแพร่หลายในอินเทอร์เน็ตอยู่ในขณะนี้

“ไหนอะ ไปหามาดิหมูกรอบอะ” เจ้าของห้องทักท้วง

“จะกินตอนนี้เลยเหรอ แล้วกูจะไปหามาจากไหนฮึ”

กิเบ้หน้า มองคนที่ทำเป็นพูดอย่างนู้นอย่างนี้ ทั้งที่ไม่มีหมูกรอบให้สักชิ้น

“มัดผมให้หน่อยดิกิ” ร่างสูงรีบเปลี่ยนเรื่อง เสยผมหน้าที่คอยตกลงมายามก้มหัวลงอย่างรำคาญใจ กิวางถ้วยลง ลุกไปหยิบถุงยางมัดผมสีดำที่ซื้อมาไว้ตั้งแต่เมื่อวานก่อนเพราะสงสารคนที่เอาแต่ร้องโอยอยู่ทุกครั้งที่ต้องมัดผม

ฮอนหมุนปิดไฟหม้อไฟฟ้า เมื่อระดับความเร็วการกินของแต่ละคนเริ่มลดถอยลงแต่ของในหม้อยังเต็มจนเกือบล้นออกมา ชายหนุ่มเบี่ยงตัวมาทางขวาเมื่อกินั่งย่อลงข้างๆ ใช้เรียวนิ้วจับกลุ่มผมด้านหน้ารวบเข้าฝ่ามือ

คนตัวเล็กหัวเราะคิกคักอยู่ในลำคอเบาๆ เมื่อผละตัวมองใบหน้าแฟนแล้วเห็นว่าตอนนี้อีกฝ่ายดูเหมือนตัวอะไร

“หัวเราะทำไม” เสียงทุ้มดังขึ้นอย่างฉงน

“มึงเหมือนแมลงสาบอะ แบบมีหนวดเสาอากาศบนหัว” ฮอนไม่รอช้า เอื้อมมือขึ้นไปสัมผัสจุกผมบนหัวทันที

 “แกล้งกูเหรอ” คลำผมที่ชี้โด่เด่อยู่บนหัวสองจุกก็พอจะเดาได้ ว่าทำไมเจ้าของห้องถึงเอาแต่หัวเราะ เขารีบรวบเอวของคุณหนูจอมซนแล้วดึงให้นั่งลงตักตัวเอง ทันทีที่แย่งยางมัดผมสีดำที่เหลืออยู่ในมือเล็กมาได้ก็รีบรวบผมหน้าของกิมัดขึ้นเป็นจุกน้ำพุ

“งั้นมึงก็เป็นพุดเดิ้ล” พูดจบก็ก้มลงไปฟัดแก้มเจ้าพุดเดิ้ลอย่างมันเขี้ยว

กิส่ายหัวหลบหลีกเป็นพัลวัน “โอ้ยยย ไอ้เหี้ยปล่อยก่อนนนน”

“ไม่เหี้ยแล้ว เป็นแมลงสาบค่ะ” ฮอนพูดติดตลก มองหนูแป้งตัวขาวที่ดูนุ่มนิ่มขึ้นกว่าเก่า

“หนูกิอ้วนขึ้นรึเปล่าคะ ฮึบ หนักขึ้นกว่าเดิมใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดขณะยกตัวคนบนตักเปลี่ยนท่านั่งให้หันหน้าเข้าหาตัว

“ก็ดูมึงทำกับข้าวแต่ละอย่างสิ” เรียกได้ว่าเกือบทุกมื้อเขากินดีอยู่ดีจริงๆ นั่นแหละ แม้พ่อบ้านมือใหม่คนนี้จะไม่ได้มีฝีมือการทำอาหารมากเท่าไหร่นัก ทำได้เพียงไม่กี่อย่าง ทว่าแต่ละเมนูล้วนเป็นอาหารโปรดของเขาทั้งสิ้น จะรีเควสต์ขอเพิ่มเนื้อรึเปลี่ยนเป็นทะเลก็ได้ทั้งนั้น แล้วจะไม่ให้เขาอ้วนขึ้นได้ยังไงกัน!

“อันนี้คือชมพี่ฮอนอยู่ใช่ไหมคะหนูกิ” ร่างสูงอมยิ้มเมื่อได้ยินว่าเขานี่เองที่เป็นต้นเหตุหลัก แต่กลับไม่ได้เสียใจเลยแม้แต่น้อย ดีใจเสียอีกที่ฝีมือการทำอาหารของตัวเองพัฒนาขึ้นจนสามารถทำให้คนตัวเล็กมีเนื้อมีหนังกับเขาได้บ้าง

“เปล่า อาจจะเพราะช่วงนี้กูไม่ได้ออกกำลังกายต่างหาก”

“เหรอคะ งั้นเดี๋ยวคืนนี้พาออกทั้งคืนเลยค่ะ โอ๊ยๆๆ กิ! เจ็บค่ะ” กิยกมือขึ้นกระตุกสองหนวดบนหัวของคนที่เอาแต่พูดจาสองแง่สองง่ามอย่างแรงด้วยความสะใจ

“สมน้ำหน้า ให้ดึงจนผมหลุดเลยไหม จะได้ไม่ต้องบ่นว่ารำคาญ” กิกระยิ้มกระย่อง มองคนมุ่ยหน้าเพราะโดนทำร้ายร่างกายด้วยแววตาสนุกอย่างปิดไม่ปิด

“ใจร้ายจริงๆ เลยนะแฟน” ฮอนช้อนตามอง เบะปากอ้อนเป็นเด็ก

กิแลบลิ้นใส่หนึ่งที ตั้งท่าจะลุกออกจากตักแต่กลับถูกมือปลาหมึกรัดเอวไว้แน่นเสียก่อน

“ไม่ให้ไปค่ะ”

“ปล่อยดิ ไหนบอกว่าหนักไง”

“หึยยย ใครพูดกัน หนูกิตัวเบาเหมือนนุ่นเลย”

“ตอแหล” กิใช้มือตีแก้มอีกฝ่ายเบาๆ ไปที

“เขาเรียกอยู่เป็นต่างหาก” ฮอนหัวเราะ

“ถ่ายรูปกันก่อนมา” ร่างสูงคลำมือสะเปะสะปะไปทางด้านหลังของตัวเอง จนกระทั่งเจอสิ่งที่ตามหา เขาเปิดกล้องหน้าโทรศัพท์แล้วรัวกดชัตเตอร์ทันทีไม่บอกไม่กล่าว

กิหันหน้าไปตามเสียงรัวแชะๆ ตะเบ็งเสียงด่าเมื่อรูปในกล้องดันเป็นรูปใบหน้าเหวอของเขา ฮอนหัวเราะ ก่อนจะยอมนับเลขถอยหลังใหม่

“นึง ส่อง ซั่ม”

แชะ แชะ แชะ

เสียงชัตเตอร์ดังรัวตามบริบทที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากช่วงแรกที่ยิ้มโชว์ฟันขาวกันอยู่ดีๆ กิอาศัยว่าอีกคนมีมือเหลือว่างข้างเดียว จึงใช้มือดึงจุกทั้งสองบนหัวของนายแมลงสาบ อีกคนก็ใช้มือดึงกลับ แกล้งกันไปกันมา รูปรองสุดท้ายดันกลายเป็นใบหน้าเหวอๆ ของกิเมื่อโดนริมฝีปากประทับอยู่ข้างแก้มอย่างไม่ทันตั้งตัว

แน่นอนว่ารูปสุดท้ายกลายเป็นใบหน้ายิ้มแฉ่งของฮอน แต่คนตัวเล็กดันทำหน้าบูดใส่กล้องเสียอย่างนั้น

-------

เสียงพูดคุยดังขึ้นจอแจในเที่ยงของวันถัดมาหลังเลิกคลาสเรียน กิเก็บชีทเรียนและของใส่กระเป๋า เพื่อเตรียมกลับห้อง อาจารย์ยังไม่ทันได้เดินไปไหน เพื่อนสนิทคนข้างๆ ก็เอ่ยทักเสียก่อน

“เปิดแล้วดิ?” เต็งหนึ่งโน้มหน้าเข้าถามพร้อมยื่นจอโทรศัพท์ให้ดู

ในนั้นปรากฏรูปที่ฮอนอัปโหลดลงอินสตาแกรมเมื่อคืน เป็นรูปตอนที่พวกเขากดรัวถ่ายจุกบนหัวกันนั่นแหละ

“นี่เรียกว่าเปิดปะ” กิตอบกลับด้วยคำถาม

“อ้าว ตกลงยังไง นี่มึงถามจริงรึกวนกูเล่นๆ เนี่ยกิ” เต็งหนึ่งฮึดฮัดเพราะความอยากรู้อยากเห็นของเขาเอง

“ถามจริงๆ กูก็ไม่แน่ใจ”

ชายหนุ่มผู้เคยเป็นที่ปรึกษารับโทรศัพท์คืน รูปที่อัปโหลดลงค่อนข้างดูเป็นปริศนาเพราะครอปรูปให้เห็นแค่จุกบนหัวกับตาของคนสองคนเท่านั้น แคปชั่นของรูปก็เขียนไว้แค่ว่า ‘คุณหนูพุดเดิ้ลจอมดื้อกับนายแมลงสาบที่น่าสงสารของเขา’ มันกึ่งเปิดตัวแล้วแต่ก็ยังดูกำกวมอยู่ดี

“กูคิดว่ามันเปิดนิดๆ”

“งั้นก็คงเปิดแล้วมั้ง” กิพยักหน้าตอบแต่เต็งหนึ่งกลับขมวดคิ้ว

“มันแบบดูลึกลับกำกวมว่ะ จะไม่บ่นว่ามันไม่ชัดเจนแล้วใช่มะ”

“ไม่บ่นหรอก ก็กูเป็นคนบอกให้มันทำแค่นี้พอแล้ว ตอนแรกมันท้วงบอกจะทำให้ชัดเจนแบบคนทั้งโลกรู้ไปเลย กูถึงต้องปรามเอาให้มันพอดีๆ ก็พอแล้ว”

“ไมอะ จะได้ชัดเจนๆ ไปเลยไง”

“มันก็เยอะไปโว้ย บอกจะลงรูปทุกสื่อโซเชี่ยลแล้วแคปชั่นติดแท็กบอกเลยนะว่าแฟนผม สังคมนี้ไม่ได้มีแค่กูกับมันนะ จะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่มีใครรู้ เกิดวันดีคืนดีโดนแฟนคลับมันรุมด่างี้ทำไง คือมึงเข้าใจไหมว่าชีวิตกูยังต้องการความสงบสุขอยู่”

“เออ ก็พอเข้าใจอยู่” เต็งหนึ่งพยักหน้าเออออ

 “ความชัดเจนสำหรับกูคือมันเลิกทำตัวแบบเดิมก็พอแล้ว แค่มันบอกว่ามีแฟนแล้วครับกับคนที่เข้ามาถามสถานะมัน กูก็พอใจแล้วนะ” พอได้พูดแล้วก็เหมือนได้ปลดปล่อยความอัดอั้นในใจของตัวเองขึ้นมานิดหน่อย เพราะทั้งฮอนและเต็งหนึ่งดูจะคิดถึงความหมายของคำว่าชัดเจนลึกมากเกินไป

“จริง เห็นด้วยมากๆ แล้วแบบถ้ามึงคบกับแฟนมาได้ประมาณนึงแล้ว แต่แฟนมึงไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคนเลย มึงคิดยังไงอะ แบบอันนี้เรื่องของเพื่อนกูนะ มันฝากถามมา กูแค่อยากลองฟังคำตอบของคนอื่นไปบอกมันบ้าง” แม้เต็งหนึ่งจะพูดด้วยน้ำเสียงปกติเหมือนถามสภาพดินฟ้าอากาศ แต่กิก็สังเกตเห็นแววตาที่ไหววูบนั้นได้

“แล้วถามแฟนมึงรึยังว่าทำไมถึงไม่อยากให้คนรู้”

“ไม่รู้ดิ ยังไม่เคยถาม เห้ย! ไม่ใช่แฟนกู ก็บอกว่าเรื่องของเพื่อนไง” เต็งหนึ่งรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน

กิเลิกคิ้ว “เอาแต่บอกให้กูเปิดปากถามเพื่อความชัดเจน มึงน่ะบอกตัวเองก่อนเลยไอ้หนึ่ง” กิส่ายหัวเบาๆ ว่าจบก็ลุกขึ้นสะพายกระเป๋าเดินออกจากโต๊ะ

“ก็บอกว่าเรื่องของเพื่อนไงโว้ย!”

เขาโบกมือลาเพื่อนสนิทขณะก้าวเดินออกจากห้อง ทิ้งให้ที่ปรึกษาซึ่งเก่งในเรื่องของคนอื่นแต่เรื่องของตัวเองดันล้มเหลวนั่งอยู่ในห้องคนเดียว

--------

เสียงก๊องแก๊งของโลหะกระทบกันดังขึ้นยามที่ฮอนหยิบเบียร์กระป๋องออกมาเรียงใส่ตู้เย็น วันนี้กิมีเรียนแค่ช่วงเช้า แต่เขามีเรียนเต็มวัน แฟนตัวนุ่มของเขาเลยกลับมาถึงห้องตั้งแต่บ่าย ขากลับเขาจึงได้แวะซื้อเบียร์เข้ามาตุนสำหรับอยู่ดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในค่ำคืนนี้

“วันนี้มีบอล อยู่ดูเป็นเพื่อนหน่อยดิ” ฮอนเอ่ยพูดขณะเดินออกมาจากห้องครัว ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเดินมาถึงหน้าโซฟา

“ฮึบ ไม่ แฮก… ไม่ดู”

เสียงหอบกระเส่าที่มาจากการลุกนั่งของเจ้าของห้องนั่นเองที่ทำให้เขาชะงัก เมื่อก่อนกิมักจะออกกำลังกายโดยการซิทอัพในตอนเย็นเกือบทุกวันอยู่แล้ว ทว่าตั้งแต่ช่วงย้ายเข้ามาขออาศัยห้องอยู่ด้วยเมื่อตอนปิดเทอมใหญ่ก็ไม่เห็นทำมานานจนลืมไปเสียแล้ว

ฮอนเดินลงไปนั่งย่อข้างกายคนที่ทำขยันขันแข็ง เสียงหอบเหนื่อยดังถี่ขึ้นตามตัวเลขจำนวนครั้งที่เอื้อนเอ่ย

“สาม ฮึบ สะ สิบสี่” ทันทีที่หน้าผากชนหัวเข่า กิก็ปล่อยตัวร่วงลงไปนอนแผ่บนพื้นด้วยความเหนื่อยล้า

ฮอนหัวเราะเบาๆ กับท่าทีหมดสภาพของจอมดื้อ

“นึกคึกยังไงออกกำลังกายฮึ”

“มีแต่คนทักว่ากูอ้วนขึ้น” ประโยคพูดปนกับเสียงหายใจหอบ

“จะไปแคร์อะไร กูอุตส่าห์ขุนมึงขึ้นมาได้ขนาดนี้” ฮอนยิ้ม เอื้อมมือไปขยี้หัวแฟนจอมดื้อเบาๆ

“ไม่รู้ดิ พอคนทักมากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นไม่มั่นใจไปแล้ว”

“อย่าคิดมาก”

“ก็รู้สึกจริงๆ”

“เอ้างั้นฮึบใหม่ มาเดี๋ยวจับขาให้”

“เดี๋ยวววว พักก่อน เหนื่อย” กิร้องโวยวาย สลัดมือที่ถูกจับดึงขึ้นออกด้วยความเหนื่อยอ่อน

ฮอนขยับตัวอ้อมมาที่ปลายเท้าเพื่อหวังจะช่วยจับให้ลุกนั่งง่ายขึ้น หัวเราะในลำคอเบาๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นจอมดื้อกำลังงอแง

“งั้นก็เปลี่ยนกัน มาจับขาให้กูมา” ว่าจบก็ดึงข้อมือคนที่กำลังนอนแผ่อยู่ให้ลุกขึ้นนั่ง แล้วตนเองนอนราบไปบนพื้นแทน

แม้ท่าทีกิจะดูอ่อนแรงแต่ก็ยึดข้อเท้าของอีกคนไว้และจับแน่นยามที่ฮอนเกร็งตัวขึ้นนั่ง

“หนึ่ง” เสียงทุ้มเริ่มเอ่ยนับตัวเลขเมื่อชันตัวขึ้นนั่งสลับวนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มเหนื่อย สปีดเริ่มช้าลงจึงทำทีชวนคุย

“เคยดูคลิปที่เขาแชร์กันเยอะๆ มะ ที่แฟนคู่นึงเขาซิทอัพกันอะ” จู่ๆ คลิปที่เคยดูในเฟซบุ๊กก็โผล่เข้ามาในหัว เขากระยิ้มกระย่องเมื่อหาทางรังแกจอมดื้อได้อีกครั้ง

กิทำหน้าสงสัย ส่ายหัวเบาๆ “เป็นยังไง คิดไม่ออก”

ฮอนยกยิ้มเจ้าเล่ห์ นอนแผ่ราบก่อนจะยันตัวขึ้นนั่งมองหน้ากิครู่หนึ่ง “เขาทำแบบนี้”

จุ๊บ

ริมฝีปากประทับกันและกันเบาๆ ฮอนนอนลงแล้วชันกายขึ้นอีกครั้ง

จุ๊บ

ใบหน้าของคนถูกรุกรานอย่างไม่ทันตั้งตัวเริ่มร้อนผ่าว เส้นเลือดภายในตัวไหลเวียนมากองอยู่บนใบหน้าเมื่อความเขินมาเยือน แก้มนุ่มๆ ขึ้นสีแดงฝาด เผลอปล่อยมือจากข้อเท้าของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

ฮอนชันกายขึ้นอีกครั้ง ก้มลงประทับริมฝีปากอย่างแผ่วเบาพร้อมจับฝ่ามือที่ละไปให้มาแตะข้อเท้าเขาไว้ใหม่

“ทำแบบนี้แล้วรู้สึกหายเหนื่อยเลยเนอะ ซิทอัพอีกร้อยครั้งก็ทำได้แล้วตอนนี้อะ”

กิสบถพร้อมยกฝ่ามือขึ้นฟาดแขนคนที่หาเศษหาเลยกับเขาได้ตลอดเวลา “อีกแล้ว!”

“เอาอีกเหรอคะ” พูดจบก็ก้มลงทาบริมฝีปากกับคนตรงหน้าอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ดูดดื่มขึ้นมากกว่าเก่าเมื่อชายหนุ่มส่งลิ้นเข้าไปคุกคามในโพรงปากพร้อมตวัดปลายลิ้นหยอกล้อ

ผละตัวออกยามห้วงลมหายใจของกิสะดุด มองสีหน้าแดงๆ เพราะความเขินอายที่โดนแกล้งมากี่ครั้ง กิก็ไม่เคยชินเสียที ยิ่งมองยิ่งทนไม่ไหว ยกมือกุมไหล่กิเอาไว้แล้วดึงเข้ามากอดรัดฟัดแก้มนุ่มๆ ของเจ้าตัวหลายๆ ที

“โอ๊ย ปล่อยได้แล้ว” กิรัวกำปั้นทุบหลังของอีกฝ่ายเพื่อให้ยอมปล่อยเขาออก

“ได้วิธีซิทอัพแบบไม่เหนื่อยละ เดี๋ยวพาออกบ่อยๆ เลยทีนี้”

“ไม่ต้องเลย มึงมีแต่ได้ กูเนี่ยเสียเปรียบ”

“เสียอะไรเล่า ก็ได้ออกกำลังกายไง”

“เลิกพูด เงียบ!”

ฮอนเม้มปากแน่นเมื่อโดนแฟนตัวเล็กชี้หน้าพร้อมทำหน้าตาโหดขึงทั้งที่แก้มยังขึ้นสีฝาด

“สรุปอยู่ดูบอลเป็นเพื่อนกูนะ”

“กี่โมง”

“ตีสอง”

“ดึกชิบหาย เรื่องอะไรจะอยู่วะ พรุ่งนี้ก็มีเรียน”

“เรียนบ่ายนี่”

“บ่ายแล้วไง ชีวิตนี้สำหรับกูการนอนสำคัญกว่าการมานั่งดูอะไรที่ไม่เข้าใจอะ”

“ใจร้าย”

“ธรรมดา”

“หนูกิใจร้ายมากๆ”

“ลุกไปทำกับข้าวได้แล้ว หิว!” กิตวาด ยกมือขึ้นพัดใบหน้าร้อนๆ ของตนเองแล้วเดินหนีหายเข้าไปในห้องนอน

พ่อบ้านหนุ่มไม่สามารถทำอะไรได้ เขาลุกขึ้นเดินคอตกไปห้องครัวทันทีที่ได้ยินคำสั่งของคุณหนูประจำห้อง

--------

หลังจากทานมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อย เราสองคนก็นั่งดูซีรีส์ที่ค้างไว้ต่อให้จบ เจ้าของห้องที่เมื่อหลายชั่วโมงก่อนปฏิเสธไม่ยอมดูบอลเป็นเพื่อนเขา สุดท้ายตอนเกือบตีหนึ่งก็ยังนั่งจุมปุ๊กอยู่ข้างๆ โดยอ้างเหตุผลที่ว่ายังดื่มเบียร์ไม่หมดกระป๋อง

ฮอนอมยิ้มอยู่ในใจขณะอ้อนขอให้กิมัดผมให้ แฟนตัวเล็กบ่นอุบอิบเหมือนทุกครั้งแต่ก็ยอมเดินไปหยิบยางมามัดให้เฉกเช่นทุกครา

“หาวกี่ครั้งแล้วเนี่ย” ฮอนหันไปมองคนข้างกายที่ยกมือปิดปากหาวหวอดหลายครั้ง ไม่ยอมไปนอนแบบที่ปากว่า ไว้สักที ดวงตากลมยังคงจับจ้องอยู่บนจอโทรทัศน์ที่กำลังฉายฉากฆาตกรเร้นกายแฝงในความมืดด้วยสีหน้าลุ้นระทึก

“จบตอนนี้ก่อนแล้วกัน” พูดจบก็เอื้อมมือไปหยิบเอ็นไก่ทอดที่เขาทำไว้เป็นกับแกล้มเข้าปาก

หลังซีรีส์ตอนนั้นจบได้สักพัก บอลแมตช์ที่เขารอมาทั้งวันก็เริ่มถ่ายทอดสด ฮอนไม่ได้เอ่ยทักอะไรออกไปอีกเมื่อคนข้างๆ ยังนั่งอยู่ด้วยกัน แม้จะรู้ว่ากิปากแข็งไปอย่างนั้น มักปฏิเสธไว้ก่อนเกือบทุกครั้ง แต่จริงๆ แล้วใจดีเป็นที่หนึ่ง บอกว่าจะไม่ดูแต่ก็ยอมนั่งอยู่ด้วยกัน ถ้าพูดแซวออกไปคงไม่แคล้วโดนโกรธแล้วก็สะบัดก้นเดินเข้าไปนอนทันทีแน่ ดังนั้นเขาจึงตีเนียนนิ่งเงียบเหมือนกิ มีแฟนนั่งดูอยู่ด้วยกันแบบนี้ดีกว่าดูคนเดียวเป็นไหนๆ

“พนันกันปะ” ไม่ทักแต่ก็ใช่ว่าจะไม่พูดอะไร แล้วประโยคนี้ก็เรียกความสนใจจากกิได้เป็นอย่างดี

คนตัวเล็กกว่าหันขวับ “เหี้ยไรอีกอะ ไม่เล่นด้วยนะ”

“โห่ ฟังกันก่อนดิ ครั้งนี้คือหนูกิอยากได้ไรอะ ให้เลือกได้หมดเลยค่ะ พูดจริงๆ ไม่หลอกแบบครั้งก่อนแล้ว”

“ไม่อยากได้ไรทั้งนั้นอะ”

“เล่นเหอะ ไม่งั้นจะบังคับเหมือนตอนนู้นนะ” ฮอนพูดถึงพนันบอลครั้งแรกของพวกเขาที่พยายามหาทางแบบคนเจ้าเล่ห์ให้กิยอมรับคำพนัน

“เหี้ยอะ แล้วถ้ามึงชนะล่ะ” กิหน้ามุ่ย มองฮอนที่กระตือรือร้นขยับกายเข้ามาหาเมื่อได้ยินคำถามอย่างกับได้ยินคำตอบรับแล้วเสียอย่างนั้น

“แทนตัวว่า หนู ได้รึเปล่าคะ แค่วันเดียวก็ยังดี”

“ตลกละ” กิเบือนหน้าหนีเป็นเชิงตอบปฏิเสธ

“นะๆ หนูกิคะ น้าาาาา วันเดียวเอง”

“ไม่ อ่านปากนะ ไม่!” กิหันหน้ามาเน้นย้ำคำปฏิเสธชัดๆ

“ถ้ามึงชนะกูยอมเป็นหมาเลยเอ้า แบบคลานสี่ขา เห่าบ๊อกๆ โฮ่งๆ เป็นหมาเชื่องๆ จะทำอะไรก็แล้วแต่คุณหนูจะบัญชาเลยค่ะ”

กิปรายตามองเมื่อได้ยินข้อเสนอที่ค่อนข้างพิสดารแต่ก็เรียกความสนใจจากเขาได้พอสมควร

“เจ็ดวัน”

“ฮะ? วันเดียวก็พอแล้วม้างงงง” ฮอนเบิกตาโพลงแล้วรีบยิ้มแหยขอลดวันลง ใช่ว่าทีมที่เขาลงพนันจะชนะร้อยเปอร์เซ็นต์เสียหน่อย อะไรก็เกิดขึ้นได้เหมือนแมตช์เยอรมันกับเกาหลีในครั้งนั้นทั้งนั้นแหละ

“ห้าวัน ห้ามต่อ ไม่งั้นก็ไม่ตกลง”

“แสดงว่าถ้ากูยอมรับข้อเสนอเป็นหมาห้าวัน มึงจะยอมตกลงใช่ไหม”

“อื้อ”

“โอเค!” ได้ยินดังนั้นฮอนก็รีบรับปากทันทีด้วยกลัวว่ากิจะเปลี่ยนใจเสียก่อน

หลังจากทำสัญญาเรื่องข้อพนันกันเรียบร้อย กิก็เสนอให้เป่ายิงฉุบเพื่อเลือกทีมอีกครั้ง เขาไม่สันทัดเรื่องทีมฟุตบอลเท่าไหร่นัก เพื่อความยุติธรรมจึงเลือกทีมโดยแบ่งว่าถ้าใครชนะให้อยู่ฝั่งนี้ ใครแพ้ก็อยู่อีกฝั่ง ผลที่ปรากฏออกมาคือฮอนแพ้ไปตามระเบียบ ส่วนเขาผู้เป็นมือดีในการเป่ายิงฉุบก็ชนะฉลุย แม้จะไม่มีดวงเรื่องการพนันเท่าไหร่นักก็ตาม

เวลาผ่านไปได้แค่ครึ่งแรก กิก็เริ่มตาปรือ ฮอนโน้มตัวเข้าไปใกล้ จับไหล่แฟนตัวเล็กให้โน้มตัวล้มลงมานอนบนตักแทนการนั่งท้าวคางสัปหงก กิไม่ได้ขัดขืน เพียงแค่ช้อนสายตามองใบหน้าของฮอนเท่านั้น

“ง่วงก็นอน” เขาพูดเบาๆ

“ฮื่อ ยังไม่ง่วงสักหน่อย” น้ำเสียงฟังดูแผ่วเบาเหมือนดังไกลมาจากในห้วงนิทรา

ฮอนเอื้อมมือไปคว้ารีโมทเพื่อลดเสียงโทรทัศน์ลง มือซ้ายขยับเข้ามาคลึงนวดบนกลุ่มผมสีดำ สัมผัสแผ่วเบาบนศีรษะทำให้กิเริ่มผ่อนคลายและใกล้จะเคลิ้มหลับในที่สุด สบายเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กตัวเล็กที่มีคุณย่ามากล่อมเข้านอนเมื่อนานมาแล้ว

“หลับยัง” ฮอนก้มหน้าถาม ดวงตาที่ก่อนหน้าปรือปรอยแต่ในเวลานี้ปิดสนิทลงเรียบร้อย

“ฮื่อ” กิครางตอบรับให้รู้ว่าเขายังมีสติอยู่ ยังไม่ได้หลับสักหน่อย

ฮอนอมยิ้ม ก้มลงหอมเหม่งหนูแป้งของเขาหนึ่งทีขณะที่มือซ้ายก็ยังคงลูบบนกลุ่มผมแสนนุ่มอยู่แบบนั้นไปเรื่อยๆ

“หลับยัง” ครั้งนี้พูดเสียงเบาคล้ายกระซิบเพราะกลัวไปก่อกวนคุณหนูที่ผ่อนลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอแล้ว ไร้เสียงตอบรับกลับมาแตกต่างจากเหมือนครั้งก่อน

ฮอนคลี่ยิ้ม ก่อนจะกดรีโมตเพื่อปิดโทรทัศน์ลง แม้ว่าฟุตบอลนัดที่เขาตั้งใจรอดูมาทั้งวันจะยังไม่จบลงก็ตาม สอดแขนเข้าช้อนตัวแฟนซึ่งหลับสนิท อาจเพราะเหนื่อยกับการออกกำลังกายเมื่อเย็น ความเหนื่อยผสมกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ในเบียร์คงเสริมให้หลับลึกมากขึ้นถึงได้ไม่รู้สึกตัวยามที่โดนเขาอุ้มขึ้นแบบนี้

เขาค่อยๆ วางตัวคนในอ้อมแขนลงบนเตียงอันคุ้นเคย ล้มตัวลงนอนข้างๆ ก่อนจะตวัดผ้าห่มขึ้นคลุมให้คุณหนูขี้เซาผู้ที่ติดผ้าห่มและหมอนข้างมากกว่าใครๆ

...แท้จริงแล้วแมตช์ของพวกเราสองคนเพิ่งจะเริ่มต้นกันต่างหาก

ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ผลคะแนนจะออกมาเป็นแบบไหน ไม่รู้ว่าทีมไหนจะแพ้หรือจะชนะ ไม่รู้ว่าเขาจะได้กลายเป็นหมาหรือกิจะได้กลายเป็นหนู ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับคนในอ้อมกอดของเขาตอนนี้ยังคงเป็นคนเดิมเหมือนเดิมมาตลอดสี่ห้าปี และเขาก็หวังว่าจะเป็นคนนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ตลอดไปที่ไม่มีอยู่จริง แต่เรื่อยๆ ไปแบบนี้ในทุกวันก็พอใจมากแล้ว

จะยังคงมีแมตช์ของพวกเราในวันพรุ่งนี้ ในเมื่อรืนนี้ ในอาทิตย์หน้า ในเดือนหน้า และในปีหน้าต่อๆ ไป เป็น A Day with Our Match นานตราบนานที่เรามีกันและกันเสมอไป


 
- END –



ー #AdaywithWCM

แง่ม ช่วงแรกๆ คิดว่าค่อยทอล์คยาวๆ ทีเดียวตอนจบแล้วกัน แต่พอถึงตอนจบจริงๆ ดันไม่รู้จะพิมพ์อะไรเลยค่ะ ; _ ;
ทอล์คไม่ค่อยเก่ง มีแต่คำว่า ขอบคุณเสมอ ให้กับทุกๆ คนนะคะ จบแล้วจริงๆ ค่ะ ไม่สั้นหรอกเนอะ ฮ่าาาา เดิมทีมันเป็นแค่ชั่ววูบ อยากแต่งแค่ตอนสองตอนแต่ดันลากมาเป็นสิบนี่ก็คิดว่ายาวเกินไปล้าวววว (ตอนแค่นี้ยังใช้เวลาแต่งสามสี่เดือน โธ่)
เดี๋ยวจะมีตอนพิเศษมาเสิร์ฟให้เรื่อยๆ นะคะ (แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่นอน ._.) อยากเห็นคนเป็นหมากด 1 อยากเห็นคนเป็นหนูกด 2 ไว้ได้เลยค่า ฮ่าาา ♥
 :pig4:  :pig4:  :pig4:  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2019 13:34:40 โดย Mayongchees »

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อ่าวว จบแล้ววว เราคิดถึงน้องกิแน่ๆเลย อยากให้มีตลอดไปค่ะ กดสองรัวๆ หนูแป้งลูกแม่ อยากเห็นน้องแทนตัวเองว่าหนูสักครั้งเป็นบุญตา ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ ตลอดมานะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
กด 2 ตัวหย่ายๆสนุกมากค่ะน่ารักทั้งคู่รู้สึกว่าหนูฮอนรักหนูกิมากๆขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
งื้ออออออออ
จบไปอีกเรื่องแล้ว
นุ้งกิจะได้แทนตัวว่าหนูไหมหนออออ
รอตอนพิเศษนะคะ
 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น่ารักมากๆ รออ่านตอนพิเศษจ้า  :mew1:

ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จบแล้วววว หนูกิน่ารักที่สุดเยยยยยย
รอตอนพิเศษนะคะ กด 2 รัวๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
กด 2 น้าาา
อยากเห็นหนูแป้งเป็นหนูงุ้ยๆ  :mew1:

ออฟไลน์ CLShunny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น่ารักกกกกกกกก เรียบบร้อยยยยยยยย น่ารักกกก อยากชมแบบชมเดกอนุบาลอ่ะค่ะหนูกิ5555555ขอบคุนความมุกมิกค่ะ

ออฟไลน์ grayliette

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
กด2 ค่าาาา อยากเห็นหนูกิเป็นหนู  :hao3:
ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้นะคะ สนุก น่ารัก แอบหน่วง ครบทุกอารมณ์เลยย :mew1:

ออฟไลน์ HappyYaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :pig4: :L1: หนูกิน่ารัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด