❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15  (อ่าน 121244 ครั้ง)

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #360 เมื่อ07-02-2019 05:45:34 »

 :sad4:

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #361 เมื่อ07-02-2019 10:39:07 »

สงสารทั้งคู่ ค่อยยังชั่วที่ฝุ่นมีบูลมาคอยดูแลพอดี
ฮืออออ อยากให้ถึงเวลาที่เหมาะสมเร็วๆ

ออฟไลน์ urmein

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 871
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #362 เมื่อ07-02-2019 12:21:13 »

ㅠㅠㅠㅠㅠ
สู้ๆทั้งคู่เลย ต้องผ่านไปให้ได้นะ!! แงงงง

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #363 เมื่อ07-02-2019 13:28:18 »

 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #364 เมื่อ10-02-2019 07:53:54 »

ฝากบลูดูแลฝุ่นด้วยนะ

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
«ตอบ #365 เมื่อ13-02-2019 21:41:41 »

Chapter Eighteen.

(จะยังไงก็ช่างแต่กลับไปต้องเจอเธอ)

บลูเม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างพยายามกลั้นยิ้ม

เสียงทุ้มดังราบเรียบคล้ายกับกำลังดุ แต่พอลองไตร่ตรองความหมายในประโยคดูแล้วคนฟังกลับรู้สึกดีมากกว่าจะหงอย

“สัญญาว่าคุณกัญจน์เปิดประตูเข้ามาแล้วจะเห็นหน้าบลูทันทีเลย”

แล้วน้ำเสียงที่ตอบกลับไปอย่างสดใสก็ส่งผลให้คนฟังคลายคิ้วที่ขมวดมุ่น ใบหน้าเครียดขึงเปลี่ยนเป็นผ่อนคลาย

(ดูแลตัวเองด้วย มีอะไรก็บอกคนของฉัน) แม้แต่น้ำเสียงยังกลายเป็นทอดอ่อน

“ครับ คุณกัญจน์ทำงานสู้ๆ นะ”

(อืม...ฉันวางแล้วนะ)

“บ๊ายบายครับ”

แม้สายจะถูกตัดไปแล้วแต่บลูก็ยังคงยืนยิ้มอยู่อย่างนั้น กระทั่งได้ยินเสียงประตูห้องน้ำถูกเปิดออกถึงได้หลุดจากภวังค์

“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ”

“อื้อ” ฝุ่นที่เดินมานั่งลงบนเตียงรับคำในลำคอ

“หน้าฝุ่นใสจัง” บลูเดินไปหาเพื่อนแล้วโน้มตัวลงพร้อมทั้งใช้มือแตะที่แก้มเนียนใสแผ่วเบา

“บลูหน้าใสกว่าเราอีก”

“ใสที่ไหน ดูสิ สิวขึ้นด้วย”

นิ้วเล็กๆ ชี้ไปตรงแก้มตัวเองทว่าฝุ่นที่เพ่งมองกลับแทบไม่เห็นร่องรอยอะไรบนนั้น

“ไม่เห็นจะมีเลย”

“มีสิ นี่ไง...ว่าแล้วเราก็ไปอาบน้ำบ้างดีกว่า จะได้ออกมามาส์กหน้า” ว่าแล้วบลูก็วิ่งไปทางกระเป๋าตัวเอง ค้นนู้นค้นนี้อยู่สักพักจึงได้เข้าห้องน้ำไป

ดวงตาคู่สวยที่แม้ตอนนี้จะดูไม่สดใสมองตามเพื่อนไปพร้อมรอยยิ้มอ่อนบนใบหน้า

ฝุ่นออกจากโรงพยาบาลแล้วหลังจากที่หมอดูอาการอยู่สามวัน สภาพร่างกายค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ ถึงสภาพจิตใจจะดีขึ้นไม่มากแต่ก็มีบลูคอยช่วยสร้างรอยยิ้มให้อยู่เสมอ

อีกหนึ่งความโชคดีในชีวิตคือมีเพื่อนที่แสนดีขนาดนี้

ลมหายใจเหนื่อยอ่อนถูกสูดเข้าปอด ก่อนฝุ่นจะค่อยๆ ขยับตัวไปเอนหลังพิงกับเตียง โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงถูกหยิบขึ้นมาส่องความเคลื่อนไหวของคนบางคน

พอเห็นรูปสวนดอกไม้เล็กๆ ที่ถูกอัปลงล่าสุดแล้วก็ระบายยิ้ม

ดีใจที่ปินได้กลับบ้านไปพักผ่อน

นิ้วเรียวไล้ไปตามหน้าจอแผ่วเบาดั่งจะให้สัมผัสนี้ส่งไปถึงเจ้าของแอ็กเคานต์

ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง...จะคิดถึงใจแทบขาดเหมือนกันหรือเปล่า

--

ซ่าๆ

คลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกหอบเอากลิ่นอายของทะเลปะทะจมูกให้คนไม่ได้มาเที่ยวนานอย่างบลูหลับตาพริ้มแล้วสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าจนเต็มปอด

“ฮ๊า กลิ่นทรายกลิ่นทะเลนี่มันสดชื่นจริงๆ เนอะฝุ่น” ใบหน้าน่ารักหันไปพูดกับฝุ่นด้วยรอยยิ้ม

“อื้อ”

“เราไม่ได้มาทะเลนานมาก...มีความสุขจัง”

ได้เห็นความสุขที่ฉายอยู่บนใบหน้าของบลูฝุ่นก็พลอยยิ้มตามไปด้วย

 ดีจังนะ...เขาเองก็อยากมีความสุขและสดใสเหมือนบลูในตอนนี้

“ฝุ่นก็ต้องมีความสุขเหมือนกันรู้ไหม”

ดวงตาคู่สวยหลุบมองหาดทรายตรงหน้าอย่างไม่รู้จะตอบอะไร

จะมีความสุขได้ยังไงในเมื่อไม่มีใครอีกคนอยู่ข้างกาย

“เราควรเริ่มจากอะไรดี? ไปนั่งเล่นริมชายหาดกันไหม” เห็นท่าทางนั้นแล้วบลูก็ไม่คิดจะเซ้าซี้เพื่อนจึงเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นและหาอะไรทำอย่างที่หมอแนะนำ

ต้องให้ฝุ่นได้ทำกิจกรรมอื่นเยอะๆ

“เอาสิ” ฝุ่นเลื่อนสายตากลับมามองคนข้างกายพร้อมทั้งพยักหน้ารับ

“ปะ จะได้ถ่ายรูปด้วย”

คนร่างเพรียวกุลีกุจอไปเอากล้องในห้องพัก แล้วก็ลากฝุ่นลงไปยังชายหาด ดื่มด่ำช่วงเวลาบ่ายไปกับการนอนมองแผ่นน้ำและท้องฟ้าตรงหน้า แม้แดดจะแรงกล้าก็ไม่หวั่น



เมื่อกลางคืนมาถึงเก้าอี้ชายหาดบนหาดทรายแก้ว เกาะเสม็ดก็จะถูกเก็บแล้วเปลี่ยนเป็นโต๊ะสำหรับดินเนอร์ริมทะเล อีกทั้งยังมีไฟประดับเพิ่มบรรยากาศให้ดีขึ้นจนฝุ่นกวาดตามองรอบตัวอย่างชื่นชอบ

สวยจัง

“บลูขอถามอะไรหน่อยสิ”

เสียงของเพื่อนดึงรั้งจิตใจที่ล่องลอยไปกับบรรยากาศให้กลับมา ก่อนฝุ่นจะเลิกคิ้วเป็นการบอกว่าถามมาได้เลย

“ทำไมฝุ่นถึงเลือกมาอยู่ที่ระยองล่ะ” คนถูกถามนิ่งไปนิด จากนั้นจึงค่อยพูดออกมา

“มัน...ไม่ไกลกรุงเทพน่ะ”

แล้วก็ไม่ไกลจากชลบุรี...อีกหนึ่งเหตุผลไม่ได้ถูกพูดออกไป

“อืม ที่เที่ยวก็เยอะด้วยเนอะ”

“อือ”

“หลังจากนี้ฝุ่นจะเปิดร้านอาหารใช่ไหม” ฝุ่นพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มจางๆ

“มีอะไรให้เราช่วยก็บอกนะ”

“เกรงใจบลู แค่นี้ก็ช่วยเรามากแล้ว”

“จะมาเกรงจงเกรงใจอะไรกัน แต่ก่อนฝุ่นก็ช่วยเราไว้ตั้งหลายอย่าง” คิดถึงอดีตแล้วคนทั้งสองก็ยิ้มกว้างขึ้น “เดี๋ยวเรื่องนี้เราค่อยคุยกันอีกที ตอนนี้สั่งอาหารกันดีกว่า”

“อื้อ”

--

ตลอดระยะเวลาเดือนกว่าภายนอกปินยังคงเป็นปิน ปารินทร์คนเดิมที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมไม่มีขาดตกบกพร่อง อีกทั้งข่าวเรื่องนั้นก็ค่อยๆ ซาลงเมื่อมีข่าวใหม่เป็นประเด็นขึ้นมา ทว่าภาวิดาที่เห็นปินในแบบปกติกลับมีความกังวลเพิ่มทุกวัน กระทั่งวันนี้ที่เธอไม่อาจอดทนไหวจึงเอ่ยขึ้นหลังจากมาส่งปินที่ห้อง

“ปิน พี่ว่าพักหน่อยดีกว่านะ เล่นไม่หลับไม่นอนโหมงานแบบนี้ร่างกายจะทรุดเอา” ภาวิดาเอ่ยกับคนที่ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา

“ผมนอนไม่หลับ” มือหนายกขึ้นมาคลึงขมับตัวเองไปมาพลางเอ่ยตอบ

“ถ้าอาการมันหนักขนาดนี้พี่ว่าไปหาหมอดีกว่า”

ในหนึ่งวันปารินทร์หลับไม่ถึงสามชั่วโมง สภาพก่อนแต่งหน้าร่วงโรยขึ้นเรื่อยๆ จนคนเป็นผู้จัดการต้องจัดตารางงานให้เบาลง

“ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวลองทานยาดู”

“ไม่ได้นะปิน เราจะกินทานยานอนหลับโดยไม่ปรึกษาหมอไม่ได้...ไม่รู้ละ มะรืนช่วงเช้าปินไม่มีงาน พี่จะนัดหมอให้”

“แต่...”

“ไม่มีแต่ รู้ไหมว่าตอนนี้สภาพตัวเองแย่แค่ไหน”

“...”

แววตาคนอายุมากกว่ามีความเด็ดขาดจนปินไม่อาจแย้งอะไรได้

“ตามนี้...แล้วก็วันนี้ปินพักผ่อนได้แล้ว เจอกันตอนเช้า”

“สวัสดีครับพี่หวาน”

ปารินทร์ลอบถอนหายใจก่อนจะยกมือไหว้คนตรงหน้า และเมื่อประตูปิดลงก็ทิ้งตัวนอนบนโซฟา ยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก ขณะที่ห้วงความคิดมีเพียงใครบางคนอยู่ในนั้น

ฝุ่นจะเป็นยังไงบ้าง

--

“โอเค จากที่หมอได้ฟังแล้วก็จากแบบสอบถามนี้หมอว่าดีแล้วนะที่รีบมาหาหมอ...เพราะว่าอาการนอนไม่หลับเนี่ย มันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่นำพาไปสู่โรคซึมเศร้าได้”

“ปินจะเป็นโรคซึมเศร้างั้นเหรอคะ” ภาวิดารีบถามหมอด้วยความตกใจ ขณะที่คนเป็นเองทำเพียงนั่งฟังนิ่งๆ

“หมอไม่ได้บอกว่าจะเป็น แต่มันมีโอกาสหากปล่อยให้อาการนอนไม่หลับเรื้อรังไปเรื่อยๆ ยิ่งกับอาชีพแบบนี้แล้วยิ่งมีความเสี่ยงสูง ต้องบอกว่าศิลปินไม่ว่าจะเป็นทางด้านไหนก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าสูงทั้งนั้นเพราะเขาใช้ความคิดในการสร้างสรรค์ผลงานมาก พอตอนนี้มาบวกกับปัญหาบางอย่างในชีวิตที่เราปล่อยวางไม่ได้ หยุดคิดไม่ได้ มันก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก”

คนเป็นหมออธิบายอย่างใจเย็นพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้าที่ทำให้คนไข้และญาติคนไข้คลายความกังวลลง

“แล้วแบบนี้ต้องทำยังไงคะ”

“ขั้นแรกหมอจะแนะนำให้ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตและความคิด...ง่ายที่สุดเลยคือเริ่มจากการเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน อาหารมีผลกับร่างกายเรามาก ไม่ใช่มีผลแค่กับเรื่องของหุ่นเท่านั้น”

จากนั้นจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ค่อยๆ พูดถึงแนวทางการรักษา การแก้ปัญหา และพูดคุยกับปินอย่างเข้าอกเข้าใจ ส่งผลให้คนที่แบกเรื่องบางอย่างไว้ในอกรู้สึกเหมือนได้ปล่อยความหนักอึ้งนั้นออกไปครึ่งหนึ่ง

“โอเค ตามนี้นะ ในส่วนของยาถ้าไม่หนักหนาจริงๆ ก็ไม่ต้องทาน แล้วเดี๋ยวอีกสองอาทิตย์เรามาคุยกันอีกที”

“ขอบคุณครับหมอ”

คนถูกไหว้รับไหว้กลับก่อนที่คนทั้งสองจะหยัดกายขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกจากห้องตรวจไปขึ้นรถอย่างรวดเร็ว

“เดี๋ยวพี่จะให้คนไปรับแม่ปินมาอยู่ด้วย” ภาวิดาเอ่ยบอกเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากโรงพยาบาล

“ครับ” ปินรับคำ “พี่หวาน” แต่แล้วก็เรียกผู้จัดการขึ้นในนาทีต่อมา

“หืม”

“ผมอยากได้ที่อยู่ฝุ่น”

คนฟังเหลือบมองเสี้ยวหน้าหล่อที่ดูซูบผอมกว่าเมื่อก่อนนิ่ง กระทั่งปินเลื่อนสายตามาสบ

กระแสบางอย่างในดวงตาเรียวรีคู่นั้นบ่งบอกว่านี่ไม่ใช้คำขอแต่เป็นคำสั่ง

“พี่จะจัดการให้ แต่ปินรู้ใช่ไหมว่าตอนนี้ยังไม่ควรทำอะไร”

“ผมรู้”

“แต่พี่มีเงื่อนไข...ปินต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น ถ้าอาการดีขึ้นพี่ถึงจะบอกที่อยู่ฝุ่น”

ปารินทร์กดหน้าลงรับจากนั้นจึงหันหน้ากลับไปมองวิวนอกหน้าต่างทางขวามืออีกครั้ง

--

“เรากลับแล้วนะ แล้วเดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะมาหาใหม่” บลูเอ่ยกับคนตรงหน้าขึ้นด้วยสีหน้าเสียดายกับการต้องกลับกรุงเทพ ทั้งยังรู้สึกเป็นห่วงฝุ่นไม่น้อย ขณะที่ฝุ่นก็พยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า

“ฝุ่นต้องดูแลตัวเองดีๆ มีอะไรก็โทรหาเราได้ตลอด พูดออกมาได้ทุกเรื่อง เข้าใจใช่ไหม”

“อื้อ”

“เราเป็นห่วงฝุ่นนะ”

ความเป็นห่วงที่เจืออยู่ในทั้งน้ำเสียงและแววทำให้ฝุ่นระบายยิ้ม

“ขอบใจบลูมากนะ ขอบใจมากจริงๆ”

ปลายหางเสียงสั่นไหวไม่มั่นคงเพราะความซาบซึ้งใจ ก่อนบลูจะเอื้อมมือไปจับอีกคนเอาไว้เพื่อย้ำให้เพื่อนรู้ว่ายังมีใครอยู่ตรงนี้

ฝุ่นเองก็เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่เขามี

“ไม่เป็นไรเลย ไว้เดี๋ยวเจอกัน”

พูดจบบลูก็รั้งร่างที่บางกว่าเข้ามากอดแน่นๆ จากนั้นฝุ่นจึงเดินออกมาส่งเพื่อนขึ้นรถคันหรูที่จอดรออยู่นานแล้ว คนสองคนโบกมือลากันหย็อยๆ กระทั่งรถเคลื่อนไปจนลับสายตาฝุ่นก็เรียกกำลังใจให้ตัวเองด้วยการสูดลมหายใจ

ต้องหาอะไรทำเพื่อไม่ให้ความคิดและร่างกายกลับไปแย่แบบเดิม

--

บลูกลับมาถึงกรุงเทพในเวลาบ่ายแก่ยามที่ใครบางคนจะบินกลับมาถึงเมืองไทยในตอนกลางดึก หลังจากทำนู้นทำนี่จนไม่มีอะไรทำคนร่างเล็กแต่ดูอวบอิ่มก็ไลน์คุยกับเพื่อนไปเรื่อย จวบจนเวลาเกือบจะล่วงเข้าสู่วันใหม่ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ฉุดรั้งให้ผล็อยหลับไปทั้งอย่างนั้น

แกร๊ก

ร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมทั้งกวาดสายตามองหาใครบางคนไปด้วย ทว่ารอแล้วรอเล่าคนที่มองหาก็ไม่ออกมาต้อนรับ คิ้วเข้มเริ่มขมวดเข้าหากัน หากอุณหภูมิห้องไม่บ่งบอกว่ามีคนอยู่กัญจน์คงคิดว่าเด็กดื้อหนีเที่ยวยังไม่กลับ

กึก

ขาแกร่งหยุดชะงักเมื่อเห็นก้อนบางอย่างนอนขดอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่น กัญจน์จึงสาวเท้ายาวๆ ตรงไปแล้วทรุดตัวนั่งลงมองคนที่ตัวเองแสนคิดถึงอย่างเอ็นดู

“อือ” สัมผัสยุกยิกบนแก้มทำให้คนหลับครางรับอย่างรำคาญ ทั้งยังขยับหน้าหนีน้อยๆ ให้คนที่ไล้ปลายนิ้วอยู่กับความนิ่มยกยิ้ม

สุดท้ายกัญจน์ก็ไม่คิดจะกวนเด็กน้อย ร่างเล็กจึงถูกช้อนอุ้มไปวางลงบนเตียงแล้วห่มผ้าให้อย่างดิบดี

“Good night my Kiddie”

เสียงกระซิบอันแสนนุ่มนวลดังขึ้นขณะริมฝีปากได้รูปคลอเคลียอยู่กับริมฝีปากบาง ดั่งประโยคนั้นดังเข้าไปในห้วงความฝันของคนหลับรอยยิ้มน้อยๆ จึงเกิดขึ้นให้กัญจน์ยิ้มตาม

แค่นี้ก็ทำให้คนที่เหนื่อยแสนเหนื่อยจากการบินไปดูธุรกิจที่อเมริการู้สึกหายเหนื่อยได้แล้ว



“อือ” คนที่นอนหลับจนเต็มอิ่มรู้สึกตัวตื่นในเวลาเจ็ดโมงเช้า เปลือกตาสีอ่อนค่อยๆ ขยับเปิดขึ้น ก่อนบลูจะเรียบเรียงเหตุการณ์อยู่ชั่วครู่แล้วหันไปทางข้างตัว

รอยยิ้มกว้างเกิดขึ้นเป็นลำดับต่อมาเมื่อเห็นแผ่นหลังกว้างปรากฏอยู่ตรงหน้า ร่างเล็กขยับเข้าไปชิด แขนเรียวพาดผ่านเอวสอบ ซบหน้าเข้ากับแผ่นหลัง แอบสูดกลิ่นกายที่แสนคิดถึงเข้าปอดลึก

คิดถึงคุณกัญจน์มาก

พรึบ

ร่างหนาพลิกตัวกลับมารั้งเด็กน้อยเข้าหาตัวจนคนไม่ได้ตั้งตัวสะดุ้งเล็กน้อย

“กวนอะไรฉันแต่เช้า” ปลายคางแกร่งวางลงกับหัวเล็กพลางเอ่ยถามด้วยเสียงแหบพร่า

“บลูทำคุณตื่นเหรอครับ”

“อืม”

“ขอโทษครับ...คุณกัญจน์นอนต่อนะ”

มือบางเลื่อนไปลูบแผ่นหลังกว้างเป็นการขับกล่อม แล้วคนที่ยังเหนื่อยกับการเดินทางกว่าสิบชั่วโมงก็หลับลงไปอีกครั้ง



“แย่จริง เมื่อคืนบลูเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้” ประโยคนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดขณะที่บลูค่อยๆ วางจานกับข้าวลงบนโต๊ะ

“ไหนว่ากลับมาก็จะเจอหน้าเธอทันที ฉันยืนรออยู่เป็นนาทีก็ไม่เห็น ไปเห็นหลับอยู่บนโซฟา”

คนที่เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัวหัวเราะแห้งๆ พร้อมทั้งตักข้าวลงใส่จานให้คนพูด

“บลูไม่ได้ตั้งใจ”

กัญจน์โคลงหัวไปมา ก่อนบทสนทนาจะถูกหยุดไว้เท่านั้นแล้วเริ่มต้นมื้อเช้ากันในเวลาสายอย่างเงียบเชียบ



“แล้วเพื่อนเป็นยังไงบ้าง”

เสียงทุ้มดังขึ้นจากคนที่บลูนอนอิงแอบดูข่าวอยู่บนโซฟาเรียกให้ดวงตาโตเลื่อนกลับมายังข้างตัว

“ก็ดีขึ้นนะครับ แต่พออยู่คนเดียวก็ไม่รู้จะเป็นยังไง...อ้อ อาทิตย์หน้าบลูว่าจะขอคุณกัญจน์ไปเยี่ยมเพื่อน ไปเช้ากลับค่ำครับ”

คิ้วเข้มเลิกขึ้นเมื่อได้ฟัง ด้านคนต้องขออนุญาตก็มีสีหน้าไม่มั่นใจเล็กน้อยเนื่องจากกลัวว่าอีกคนจะไม่ให้ไป

“เอาสิ ไปค้างสักสองคืนก็ได้ ฉันไปด้วย” บลูกะพริบตาปริบๆ ให้กับคำตอบนั้น กัญจน์จึงอธิบายต่อ “ถือว่าไปพักผ่อน เช้าเธอก็ไปหาเพื่อน บ่ายหรือค่ำก็ไปกับฉัน”

คนฟังยิ้มรับด้วยความดีใจ

“ได้สิครับ ตอนบลูไปเที่ยวก็คิดถึงคุณกัญจน์ตลอดเลย อยากไปเที่ยวด้วยกัน”

กัญจน์รู้สึกเหมือนปากจะฉีกยิ้มให้กับคำว่าคิดถึงตลอดเลยจนต้องกระแอมไปเพื่อรักษาภาพพจน์

แก่ปูนนี้แล้วจะมานั่งยิ้มเพราะคำว่าคิดถึงงั้นหรือ

“ต่อไปคงมีเวลาเที่ยวเยอะขึ้น”

“ทำไมล่ะครับ” บลูถามขึ้นอย่างแปลกใจ ก่อนคนถูกถามจะนิ่งคิด มุมปากได้รูปยกขึ้นแล้วตอบคำถามในเวลาต่อมา

“ฉันเลือกชีวิตฉัน” แม้คำอธิบายจะสั้นแต่บลูก็เข้าใจความหมายนั้นได้ทันที

คนร่างเล็กไม่ได้ถามอะไรต่อจากนั้นนอกจากเลื่อนแขนไปโอบรอบเอวสอบ เบียดตัวเข้าหาคนตัวโต ซบหน้าเข้ากับอกกว้าง และกัญจน์ก็เข้าใจในความหมายของการกระทำนี้เช่นกัน

เด็กน้อยกำลังให้กำลังใจเขา

--

“แม่ พี่ปินไม่ยอมแบ่งปลาชิ้นสุดท้าย”

เสียงตะโกนจากลูกชายคนเล็กทำให้คนเป็นแม่ที่ง่วนอยู่กับการจัดการเก็บครัวหันไปมองที่โต๊ะอาหารพร้อมถอนหายใจ

โตขนาดนี้แล้วยังแย่งของกินกันเป็นเด็ก

“สองพี่น้องนี่นะ เอาไว้มื้อต่อไปแม่จะทำให้หารกันลงตัวแล้วกัน”

“จ่ายค่าปลามาเลย” คนเป็นน้องหันไปแบมือทวงด้วยความจริงจัง ปินจึงเอ่ยถามอย่างรู้ทัน

“อยากได้อะไร” เพียงเท่านั้นปาล์มก็ยกยิ้ม

“ไอแพดโปรรุ่นจอใหญ่ ความจำเยอะสุด พร้อมปากกา”

“เดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปซื้อ”

“เย้ จะกินปลากี่ชิ้นก็เอาไปเลย”

“ปินนี่ก็ตามใจน้องง่ายเกินไป ไอแพดเครื่องเดิมก็เพิ่งซื้อเมื่อปีที่แล้ว โทรศัพท์เครื่องใหม่ก็เพิ่งซื้อไปหยกๆ” ประภาเอ่ยปรามถึงจะรู้ดีว่าห้ามทั้งคนพี่คนน้องไม่ได้

เหมือนจะชอบเถียงกันแต่ก็ตามใจกันเป็นที่สุด อย่างปาล์ม พอรู้ว่าพี่ค่อยไม่สบายนักก็รีบแจ้นตามมาดูแล ไม่สนใจการขาดเรียนโดยบอกว่ามอหกแล้วที่โรงเรียนไม่ซีเรียส

“แม่ก็รู้ว่ายังไงปาล์มก็หาทางอ้อนเอาได้อยู่ดี ยังไงก็อย่าลืมสัญญาแล้วกัน” ปารินทร์หันไปพูดกับน้องชายอย่างจริงจัง

“รู้แล้วคร้าบ สอบติดแน่นอนไม่ต้องเป็นห่วง”



“ปินไม่ได้วาดรูปกับแม่นานแล้วนะ” ประภาที่นั่งวาดรูปวิวของกรุงเทพอยู่ข้างปินเอ่ยขึ้นพร้อมยิ้ม

กิจกรรมหลังจากมื้อเช้าในวันที่ลูกชายมีงานค่ำคือการวาดรูปที่สองแม่ลูกมักทำด้วยกันเมื่อก่อน ขณะที่ปาล์มเลือกจะนอนเล่นเกม

“ตั้งแต่เป็นนักร้องก็ไม่ค่อยได้มีเวลาทำอะไรเลย” คนเป็นลูกตอบกลับพลางลอบถอนหายใจ

“แล้วอาการนอนไม่หลับดีขึ้นบ้างไหม”

“ก็ดีขึ้นนะครับ หลับสนิทได้มากขึ้นหน่อย คงเพราะมีแม่กับปาล์มมาอยู่ด้วย”

ได้ยินดังนั้นประภาก็เบาใจขึ้น

“เวลามีอะไรปินก็พูดกับแม่ได้ เมื่อก่อนเราก็คุยกันทุกเรื่องเลยใช่ไหม”

“พอผมโตขึ้นก็ไม่อยากทำให้แม่ลำบากใจ ไม่อยากเอาปัญหาของตัวเองไปทำให้แม่พลอยไม่สบายใจไปด้วย” ปินหยุดการวาดรูปแล้วหันมาพูดกับแม่ถึงสิ่งที่ตัวเองคิด

“ไม่มีปัญหาไหนของลูกที่คนเป็นแม่ไม่อยากรับฟัง แม่ไม่อยากให้ปินเก็บความเครียดเอาไว้คนเดียวแล้วจมอยู่กับมัน...โรคซึมเศร้าน่ะมันใกล้ตัวเรามากนะลูก คนรอบข้างแม่เป็นเยอะมากแล้วแม่ก็ไม่อยากให้ปินต้องทรมานแบบนั้น”

“ผมไม่เป็นหรอกครับแม่ไม่ต้องห่วง” ริมฝีปากได้รูปคลี่ออกเป็นรอยยิ้มให้ผู้ให้กำเนิดได้สบายใจ

“งั้นเล่าให้แม่ฟังซิว่าตอนนี้เป็นยังไง คิดอะไรอยู่”

“คิดถึงครับ” คนถูกถามตอบทันใด “คิดถึงฝุ่นทุกวินาที แต่ก็ต้องบอกตัวเองให้ใช้ชีวิตต่อ อดทนที่จะไม่ตามหา แล้วทำทุกอย่างให้เวลาผ่านพ้นไปเพื่อถึงวันนั้น วันที่เหมาะสมสำหรับเราสองคน”

ดวงตาเรียวรีเบือนกลับไปมองวิวตรงหน้าหวังให้ความวูบโหวงในอกบรรเทาลง

“ดีแล้วที่ปินทำแบบนี้ มันทรมานแม่รู้ แต่ปินเองก็รู้ดีว่าฝุ่นรักปินมากแค่ไหน และลูกทั้งสองก็กำลังทำสิ่งนี้เพราะความรักในกันและกัน”

“...”

“อย่าให้ความพยายามของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสูญเปล่า ความรู้สึกของเขาและเราที่อยู่ในนี้จงใช้มันเป็นพลัง”

แผ่นอกกว้างถูกสัมผัสให้รู้ว่าความรู้สึกในนี้นั้นคือตรงไหน

“ครับ ผมจะพยายาม”

 ฝ่ามือหยาบสากวางทับลงมือคนเป็นแม่แล้วหันมายิ้มให้บางๆ

--

“วันแรกก็ขายดีขนาดนี้ ต่อไปคงต้องจ้างลูกจ้างแล้วล่ะ”

บลูหันไปพูดกับฝุ่นด้วยความตื่นเต้นเมื่อการเปิดร้านวันแรกเป็นไปด้วยดีกว่าที่คนทั้งสองคาดหวัง

“ไม่ขนาดนั้นหรอก”

“ไม่ขนาดนั้นยังไง ดูสิ คนมาทานเต็มร้านเลย หรือเป็นเพราะเจ้าของร้านหน้าตาดีกันน้า” ดวงตากลมโตหรี่ลงพร้อทั้งเล่นหูเล่นตาให้ฝุ่นต้องรีบปฏิเสธ

“ไม่ใช่สักหน่อย คงเพราะแถวนี้ไม่มีร้านข้าวแกงเลยมั้ง”

“ยังไงเราก็ยินดีด้วยนะ ไว้เดี๋ยวจะแวะมาช่วยขายบ่อยๆ”

“ไม่เป็นไรหรอก แค่วันนี้บลูมาได้ก็ดีใจแล้ว”

“ฝุ่นโอเคขึ้นบ้างแล้วใช่ไหม?” บลูเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แม้สีหน้าท่าทางเพื่อนจะเริ่มดีขึ้นแต่ก็วางใจไม่ได้เพราะสภาพจิตใจคือสิ่งที่ไม่อาจมองได้ด้วยตาเปล่า

“อืม ยุ่งกับการเปิดร้านก็คิดน้อยลงบ้างน่ะ”

“ดีแล้ว หาอะไรทำจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน อย่าลืมไปออกกำลังกายบ้างล่ะ สนามกีฬาก็อยู่แค่นี้เอง”

ฝุ่นพยักหน้ารับกิจกรรมที่อีกคนย้ำนักย้ำหนา ก่อนการพูดคุยจะถูกหยุดไว้เท่านั้นเนื่องจากมีลูกค้าในร้านเรียกคิดเงิน



“อร่อยกว่าฝีมือเธออีกนะ” ใบหน้าน่ารักกระเง้ากระงอดขึ้นทันใดจนกัญจน์หลุดหัวเราะ “อยากให้ฉันแกล้งชมเธองั้นเหรอ”

บลูส่ายหน้าไปมาน้อยๆ

“บลูรู้ดีว่าตัวเองทำอาหารสู้ฝุ่นไม่ได้”

“ก็สมแล้วที่เขาเปิดร้านอาหาร” กัญจน์ซึ่งได้ชิมฝีมือเพื่อนอีกคนพยักหน้าด้วยความเห็นด้วยกับกิจการนี้

อร่อยจริงๆ โดยเฉพาะต้มยำขาหมู

“งั้นบลูควรเปิดร้านนวดบ้างดีไหม”

คนที่นั่งทานข้าวเย็นอยู่ข้างกันถามขึ้น ทว่าคนฟังกลับขมวดคิ้ว สีหน้าเปลี่ยนเป็นราบเรียบเมื่อนึกไปถึงการนวดแบบที่ตัวเองได้รับ

“ถ้านวดแบบที่นวดให้ฉันก็ไม่ต้องคิด”

คนฟังพยายามกลั้นยิ้ม แสร้งเป็นตีหน้านิ่งไม่รู้เรื่องราวทั้งที่ตอนแรกแค่ตั้งใจพูดเล่นๆ เท่านั้น

“ทำไมครับ ถ้าบลูนวดให้คนอื่นแล้วมันยังไง เดี๋ยวนี้เขาก็นวดแบบนั้นกันเต็มเลยนะ เป็นการนวดคลายเครียด”

จากราบเรียบก็แปรเปลี่ยนเป็นตึงเครียด ถึงขั้นที่ช้อนและส้อมในมือหนาถูกวางลงบนจานจนเกิดเสียง ซึ่งโดยปกติแล้วกัญจน์จะรักษามารยาทบนโต๊ะอาหารยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

“เธอเป็นของฉัน และฉันไม่อนุญาตให้เธอแตะต้องใครแบบที่แตะต้องฉัน”

“บลูก็หาลู่ทางไว้เผื่อคุณกัญจน์ไม่ต่อสัญญา” คนร่างเล็กเอ่ยเสียงเบา หากแต่ไม่ได้มาจากอาการหงอแต่เป็นเพราะกลัวว่าจะไม่ได้ดูแลคนตรงหน้าต่อ

“ฉันไม่ต่อแน่”

แล้วคำตอบนั้นก็ทำให้แววตาบลูไหวสั่น มือบางค่อยๆ วางช้อนส้อมลง

ความจริงจังทั้งในแววตาและน้ำเสียงคนพูดชัดเจนว่าอีกคนไม่ได้ล้อเล่น ปลายจมูกเล็กร้อนผ่าวขึ้นมาทันใด และน้ำตาคงจะไหลมาคลอหน่วยหากคุณกัญจน์ไม่พูดต่อ

“แต่ก็ไม่ปล่อยให้เธอไปไหน...ฉันจะไม่ถามความสมัครใจ ไม่ว่าเธอจะอยากอยู่กับฉันหรือไม่มันก็เป็นเรื่องของเธอ แต่ฉันอยากอยู่กับเธอมันเป็นเรื่องของฉัน”

ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันขณะที่อารมณ์ตีโค้งกลับจนแทบตั้งตัวไม่ทัน

นานหลายนาทีกระทั่งควบคุมอารมณ์และสติได้บลูจึงพูดออกไปอย่างพยายามกลั้นอาการดีใจ

“เอาแต่ใจ”

“ไม่ได้แค่เอาแต่ใจ แต่เอาเธอได้ด้วย”

ดวงตาคนฟังเบิกกว้างขึ้นเนื่องจากตกใจกับประโยคที่แสนทะลึ่งนั้น และยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อร่างกายก็ถูกช้อนอุ้มโดยที่คนร่างสูงก้าวดุ่มๆ ไปทางห้องนอนอย่างไม่ฟังอะไรทั้งนั้น

กัญจน์จะลงโทษเด็กดื้อที่คิดจะไปนวดให้คนอื่น

“คุณกัญจน์ ข้าวเย็น...”

ปึง

“ฉันจะกินเธอแทน”



TBC.

มาแล้ววววว
ขอเอาคู่คุณกัญจน์กับนุ้งบลูมาคั่นความเศร้าหน่อยนะคะ ><
ทุกอย่างมีเวลาของมัน
เพราะงั้นรอการไปเจอกันของหมาปินกับแมวฝุ่นหน่อยนะ
#secrecyลับรัก


   

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
«ตอบ #366 เมื่อ13-02-2019 22:09:44 »

 :katai2-1: :-[

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
«ตอบ #367 เมื่อ13-02-2019 22:13:45 »

น่าสงสารทั้งคู่เลย เปิดวาร์ปไปตอนเค้าได้เจอกันเลยได้มั้ย

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
«ตอบ #368 เมื่อ13-02-2019 22:16:30 »

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
«ตอบ #369 เมื่อ13-02-2019 22:26:55 »

#ทีมคุณกัญจน์    :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
« ตอบ #369 เมื่อ: 13-02-2019 22:26:55 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
«ตอบ #370 เมื่อ13-02-2019 23:32:20 »

เมื่อไหร่จะถึงเวลานั้นของสองคนอ่า   :mew2:

อีกคู่ก็ดูจะลงตัวมีความสุขแล้ว   :katai2-1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
«ตอบ #371 เมื่อ13-02-2019 23:38:27 »

นึกภาพ "บลูฮาวายบนโต๊ะอาหาร" อยากกินจังเลย  :hao6:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
«ตอบ #372 เมื่อ13-02-2019 23:57:37 »

ดูแลตัวเองกันดีๆหน่อยทั้งคู่เลย  :hao5:

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
«ตอบ #373 เมื่อ13-02-2019 23:59:59 »

คุณกัญจน์แซ่บมากก

ส่วนปินฝุ่น สงสารอ่ะะ :katai1: :katai1:

หวังว่าบททดสอบคราวนี้จะทำให้สามารถผ่านเรื่องร้ายๆไปได้นะ :o12:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
«ตอบ #374 เมื่อ14-02-2019 00:16:08 »

โอ๊ยยย สองคู่อารมณ์ต่างกันเลย เฮ้อออ สงสารปินกับฝุ่นมากๆ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
«ตอบ #375 เมื่อ14-02-2019 07:12:07 »

คั่นอารมณ์จริงๆ ค่ะ น้ำตามาเต็มเลยค่ะ
สลับฟีล ก็ยังพอช่วยให้ยิ้มได้

สงสารปินฝุ่น อย่าถึงขั้นเป็นอะไรกันไปมากกว่านี้เลยนะ
ต่างคนต่างพยายามเพื่อกันและกัน เพราะรักอีกคนมาก

ฝุ่นตัดสินใจไม่ผิดหรอก แต่ทรมานตัวเองจังเลยนะ
ปินก็พยายามมาก อยากให้ทุกอย่างดี

เวลานี้ ต่างคนต่างรู้ว่ารักกันมากขนาดไหน คนรอบข้างรับรู้
ปินต้องได้เจอฝุ่นเร็วๆ นี้แน่นอน ฝุ่นก็เปิดร้านรอปินไปรับอยู่นะ

บลูมาช่วยได้เยอะเลย และโชคดีมากที่มาเจอตอนฝุ่นป่วย
คุณกัญจน์จะมาเนียนแบบนี้ไม่ได้นะคะ พร้อมเปิดตัวแล้วล่ะสิ
บลูโชคดีที่เป็นคนถูกเลือกและถูกรักแบบเต็มตัวแล้วนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2019 07:15:48 โดย labelle »

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
«ตอบ #376 เมื่อ14-02-2019 21:24:50 »

คุณกันแซบไปอีก

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
«ตอบ #377 เมื่อ16-02-2019 23:57:24 »

ตามมาทันช่วงดราม่าพอดี

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
«ตอบ #378 เมื่อ20-02-2019 22:06:47 »

Chapter Nineteen.

“ขอโทษนะที่วันนี้ไม่ได้ไปหาฝุ่น” บลูเอ่ยกับคนปลายสายด้วยความรู้สึกผิด ด้านคนฟังซึ่งรับรู้ได้ก็รีบตอบกลับมาในทันใด

(ไม่เป็นไรเลย)

“แต่ยังไงพรุ่งนี้เราก็จะไปหา ยังอยู่ที่ระยองอีกหนึ่งวัน”

(อื้อ บลูพักผ่อนเถอะ)

“โอเค แล้วเดี๋ยวเราโทรหาอีกทีนะ”

พอฝุ่นรับคำสายโทรศัพท์ก็ถูกตัดให้บทสนทนาทางไกลนั้นจบลง

ร่างเล็กในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งหมุนตัวกลับไปมองคนที่นอนทอดกายจิบกาแฟในตอนสายอย่างสบายอารมณ์แล้วยู่ปากใส่น้อยๆ

สาเหตุที่ไปหาฝุ่นไม่ได้ก็เพราะคนแก่แสนหื่นนี้ไงล่ะ...เล่นซะสะโพกยอกเลย

“อารมณ์ดีจังเลยนะครับ”

แก้วกาแฟในมือหนาถูกวางลงบนโต๊ะก่อนกัญจน์จะหันไปยกยิ้มใส่เด็กน้อย

“แน่นอน”

“งั้นก็เชิญคุณกัญจน์อารมณ์ดีต่อไปเลยครับ บลูไปอาบน้ำแล้วดีกว่า”

“มาพักผ่อนทั้งที ทำตัวขี้เกียจสักวันคงไม่เป็นไรหรอก”

คนที่ตั้งท่าจะหยัดกายขึ้นหยุดชะงัก พอลองคิดไปคิดมาบลูก็เห็นด้วยกับคนข้างกาย ความตั้งใจจะไปอาบน้ำจึงแปรเปลี่ยนเป็นเอนกายลงนอนเพื่อทอดมองวิวทิวทัศน์ที่นอกระเบียงตรงหน้า ปล่อยใจไปกับความสงบสุขเล็กๆ จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพไว้

“เย็นนี้คุณกัญจน์จะพาบลูไปไหนเหรอครับ”

“ก็ดินเนอร์กันปกติ นานๆ จะได้เที่ยวที”

ใบหน้าเล็กกดลงรับพร้อมทั้งเลื่อนเฟซบุ๊กดูนั่นดูนี่ แล้วก็ต้องสะดุดกับกระทู้ข่าวในเพจที่ตัวเองติดตาม

‘สามีเซเลปสุดสวย แก้ม มทิรา ลาออกจากการดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้วเรียบร้อย หรือข่าวลือที่ว่าทั้งสองจดทะเบียนหย่ากันแล้วจะเป็นเรื่องจริง!’

ดวงตาคู่สวยเลื่อนไปมองคนที่นอนอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวอีกตัวก่อนจะพบว่าคุณกัญจน์กำลังพักสายตา ถึงอย่างนั้นบลูก็ยังรับรู้ได้ถึงความรู้สึกผ่อนคลายบนใบหน้าคร้ามคม

‘ข่าวในวงการการเมืองพัดโหมกระหน่ำ แต่ทางเราคงจะไม่สนใจอะไรหากไม่ใช่เรื่องของ กัญจน์ ศิวะเกียรติ สามีของเซเลปหญิงคนดังที่หลายคนติดตาม เอ๊ะ ไม่รู้ว่าการลาออกนี้จะเกี่ยวกับเรื่องของการหย่าร้างหรือไม่ หรือว่าการไปเที่ยวของคุณแก้ม มทิรา จะเป็นการไปพักใจและหลบนักข่าวกับประเด็นที่แสนหนาหูว่าทั้งสองได้จดทะเบียนหย่ากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีใครสามารถคอนเฟิร์มเรื่องนี้ได้ คนชอบเผือกอย่างเราๆ คงต้องรอคุณแก้มกลับมาจากต่างประเทศ แล้วฟังคำสัมภาษณ์จากปากเจ้าตัวเอง’

ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเมื่ออ่านเนื้อหาข่าวจนจบขณะที่ในหัวก็เกิดคำถาม

คุณกัญจน์หย่ากับภรรยาแล้วหรือยัง...

บลูหันไปมองคุณกัญจน์อีกครั้ง จับจ้องเสี้ยวหน้าคร้ามคมของคนวัยสี่สิบสองปีอยู่อย่างนั้น กระทั่งเปลือกตาหนาเปิดขึ้นจึงดึงสายตาไปมองทางอื่น

“ร้อนหรือเปล่า” เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อเห็นว่าแดดเริ่มแรง แม้ตรงนี้จะเป็นมุมที่ไม่โดนแสงแต่อุณหภูมิรอบตัวก็สูงไม่น้อย

“ไม่ครับ” คนถูกถามส่ายหน้าน้อยๆ

“มานี่ซิ”

บลูจำต้องเบือนหน้ากลับไปมองคนเรียก เมื่อเห็นอีกฝ่ายขยับตัวให้ข้างกายมีพื้นที่ทั้งยังตบมือบอกให้ไปหาจึงพาตัวเองไปตรงนั้น

“สบาย” กัญจน์เอ่ยขึ้นยามวาดแขนพาดผ่านเอวเล็กแล้วกระชับอีกคนเข้าหาตัว

“คุณกัญจน์ไม่อาบน้ำง่ายเหรอ” บลูถามขึ้นเมื่อคนข้างกายซึ่งยังคงอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปทำอะไร

“ไม่ล่ะ ขี้เกียจ”

ได้ฟังคำตอบแล้วคนร่างเล็กก็ลอบถอนหายใจ

ในเมื่อคุณกัญจน์อยากอยู่แบบเน่าๆ สักวันก็ตามนั้น

--

“มีอะไรอยากจะถามฉันหรือเปล่า” ผ้าเช็ดปากถูกคลี่วางลงบนตักแกร่งยามกัญจน์เอ่ยปากถามคนตรงหน้าขึ้น

ท่าทางครุ่นคิด ทั้งยังอึกอัก เหมือนมีอะไรตลอดทั้งวันนั้นทำให้คนที่ผ่านอะไรมามากรับรู้ได้ไม่ยาก

“...” บลูบีบมือเข้าหากันอย่างไม่กล้าพูดสิ่งที่ตัวเองสงสัยใคร่รู้

“พูดออกมาเถอะ เห็นเธอทำท่าเหมือนมีอะไรแล้วฉันพลอยอึดอัดไปด้วย”

ดวงตาคมจับจ้องไปที่เด็กน้อย พร้อมทั้งสื่อสายตาว่าให้พูดมันออกมา

“ทำไมพาบลูมาดินเนอร์ซะหรูเลยล่ะครับ เนื่องในโอกาสอะไรหรือเปล่า”

“แน่ใจนะว่าเป็นคำถามนี้”

คนถูกรู้ทันกัดริมฝีปากล่างด้วยความสั่นไหว ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองคนอายุมากกว่าแล้วก็หลุบมองจานอาหารบนโต๊ะสลับกันไปมาอยู่อย่างนั้น กระทั่งสุดท้ายก็ตัดสินใจสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วกลั้นใจเรียบเรียงคำพูดออกไปอย่างเชื่องช้า

“...มีข่าวลือว่า...คุณกัญจน์หย่ากับ...คุณแก้มแล้ว” ดวงตาสั่นไหวมองเพียงอาหารตรงหน้า

“ข่าวลืองั้นเหรอ เว็ปไหนหรือว่าเพจไหน ทำไมเขียนข่าวแบบนั้น”

ได้ยินดังนั้นบลูก็เหลือบสายตาขึ้นมองคนพูด เห็นความไม่พอใจเจืออยู่ในดวงตาคมแล้วในอกก็เกิดความวูบโหวง

“แสดงว่ามันไม่ใช่ความจริง...เหรอครับ”

“ไม่ใช่ข่าวลือ แต่เป็นเรื่องจริง” ริมฝีปากได้รูปบิดยิ้ม ต่างจากสีหน้าบลูที่เหมือนยังคงสับสนมึนงง “ฉันหย่ากับแก้มตั้งแต่เดือนที่แล้วแล้ว...แล้วนี่ก็คือโอกาสของการดินเนอร์ในครั้งนี้”

เสียงดนตรีแผ่วเบาแสนสุนทรีย์เหมือนดังไม่เข้าหูบลูเมื่อได้ยินคำว่าหย่า ทั้งที่ไม่ควรจะรู้สึกอะไรแต่ใจกลับเกิดความยินดีอย่างไม่อาจห้าม

“ความจริงก็ว่าจะหาโอกาสบอกเด็กแถวนี้อยู่เหมือนกัน แต่ก็เพิ่งมีโอกาสดีๆ”

“คุณกัญจน์...” คนเรียกไม่รู้ตัวเรียกอีกฝ่ายทำไม เรียกแล้วก็ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อจากนั้น

“ฉันว่าจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ”

“...”

“เธอสนใจหรือเปล่า”

ใจที่หล่นวูบไปในวินาทีแรกถูกกระชากกลับมาที่เดิมจนบลูแทบตั้งตัวไม่ทัน

คะ คุณกัญจน์ชวนไปอยู่ด้วยกันงั้นเหรอ

“ถ้าบลูบอกว่าไม่ล่ะ” ถึงน้ำเสียงจะสั่นไหวทว่าบลูก็ยังแกล้งลองเชิงว่าคนตรงหน้าจะตอบอย่างไร

“ฉันก็จะอุ้มเธอขึ้นฮอฯไป”

คนฟังระบายยิ้มกว้าง มันเป็นไปโดยอัตโนมัติ อีกทั้งดวงตายังร้อนผ่าว ในอกอิ่มเอมกับสิ่งที่ตัวเองได้รับ

คนที่ตัวคนเดียวมาตั้งแต่มอต้นกำลังจะได้อยู่เคียงข้างคนมีเกียรติอย่างคุณกัญจน์งั้นเหรอ

“คุณ...ไม่รังเกียจเด็กขายตัวคนนี้เหรอครับ”

“เลิกคิดอะไรไร้สาระ ถ้ารังเกียจฉันจะอยู่กับเธอมาขนาดนี้ไหม” คิ้วเข้มขมวดมุ่นขณะที่น้ำเสียงก็เข้มดุขึ้นเพราะความคิดที่ไม่สมควรนั้น

“งั้นก็อยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะครับ”

บลูกะพริบตาถี่ไล่หยดน้ำ ทั้งยังระบายยิ้มอย่างออดอ้อน

อยู่ในสถานะไหนก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่ได้อยู่กับคุณกัญจน์

“ก็ขึ้นอยู่ว่าเธออยากอยู่กับคนแก่ๆ แบบฉันไหม” คนแก่เองก็ยิ้มได้ไม่ต่างกัน

ชีวิตที่กัญจน์เลือกแล้ว...มันสุขใจเหลือเกิน

“คุณก็รู้อยู่แล้ว”

“ทีเธอยังไม่รู้ คิดอะไรว่าฉันจะรังเกียจ”

“ก็บลูเป็นแค่เด็กที่มีหน้าที่ดูแลคุณ” คนร่างเล็กเอ่ยเสียงเบา

“ไม่ว่าเราจะเริ่มต้นกันแบบไหนมันก็ไม่สำคัญเท่ากับจะไปต่อกันยังไง...ฉันแก่แล้ว ไม่มานั่งพูดอะไรให้มากความหรอกนะ”

เพียงเท่านั้นเด็กที่แอบคิดอะไรไร้สาระมาโดยตลอดก็สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วยิ้มให้กว้างเท่าที่จะสามารถทำได้

“เข้าใจแล้วครับ”

“ระหว่างนี้ก็เที่ยวเมืองไทยให้เต็มที่ หมดปีนี้แล้วคงจะนานๆ ได้กลับมาที”

“บลูอยู่ได้ทุกที่ ขอแค่มีคุณ” พอมีโอกาสบลูก็หยอดให้คนแก่ไปต่อไม่เป็น สุดท้ายกัญจน์เลยต้องเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นพร้อมทั้งพยายามเก๊กหน้าสุดความสามารถ

 “หึ ทานข้าวเถอะ”

มือหนาหยิบมีดกับส้อมขึ้นมาจัดการกับอาหารตรงหน้า ระหว่างนั้นก็อดลอบมองบลูที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่แทบจะตลอดเวลาไม่ได้

กัญจน์ไม่เคยคิดว่าตัวเองตัดสินใจอะไรถูกเท่านี้มาก่อน

ต่อให้เขาต้องโดนญาติต่อว่า

ต่อให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์จะหุ้นตก

ต่อให้ต้องสูญเสียอะไรหลายอย่างไปแต่มันก็คุ้มแล้วที่ได้ชีวิตตัวเองกลับคืนมา

ชีวิตที่เขาอยากใช้มันมาตลอด

--

“คุณปินจะเข้าห้องน้ำหรือเปล่าครับ”

“ไม่ครับ” ปารินทร์เอ่ยตอบคนขับรถพร้อมรอยยิ้มบาง

“ถ้าอย่างนั้นรอผมสักครู่”

“ตามสบายเลยครับ”

เสียงประตูเปิดและถูกปิดลงดังขึ้นก่อนที่รถแวนจะเหลือเพียงร่างสูงที่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่คนเดียว

ระยองงั้นเหรอ...

ปินเคยมาทำงานที่นี่หลายครั้ง แต่ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้จะได้มาเพราะจุดประสงค์อื่น

‘หมอบอกว่าอาการปินดีขึ้น...งั้นนี่ก็ตามที่สัญญา’

กระดาษแผ่นหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้า แถมมาด้วยรูปแอบถ่ายของคนที่อยู่ในทุกห้วงลมหายใจ

‘ฝุ่นย้ายไปอยู่ระยอง อยู่ชานเมืองหน่อยแต่ก็ยังเป็นอำเภอใหญ่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซื้ออาคารพาณิชย์สามชั้นอยู่ ข้างล่างเปิดเป็นร้านข้าวแกง’

ดวงตาเรียวรีที่เหม่อมองไปนอกรถถูกดึงกลับมามองรูปถ่ายในมือที่ดูมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง จับจ้องคนในรูปที่แสนคิดถึงอยู่อย่างนั้นยามที่หัวใจก็ค่อยๆ เต้นถี่รัวขึ้นมา

วันนี้แล้วที่จะได้เห็นฝุ่นด้วยตาตัวเอง...

--

“พี่ฝุ่น ออเดอร์จ้า”

มือบางเอื้อมไปหยิบกระดาษแผ่นเล็กจากเด็กสาววัยมัธยมปลายพร้อมทั้งส่งยิ้มให้ก่อนจะหันกลับมาตักอาหารใส่จานแล้วนำไปเสิร์ฟ

“เพิ่งจะบ่ายสองเองแต่กับข้าวจะหมดซะแล้ว พี่ฝุ่นไม่คิดจะทำเพิ่มเหรอ”

คนถูกถามส่ายหน้าไปมาช้าๆ

“เท่านี้ก็พอแล้วล่ะ ทำแค่พออยู่พอกิน”

“เดี๋ยวลูกค้าก็มาทำหน้าเสียดายใส่อีก” มะตูมที่มารับจ็อบเสริมในวันหยุดเสาร์อาทิตย์พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ผสมแอคติ้งเข้าไปอีกหนึ่งระดับ

“ก็มีไม่เยอะหรอก”

ปากที่กำลังจะอ้าเพื่อเถียงกลับว่าไม่เยอะซะที่ไหนเป็นอันต้องชะงักเมื่อมีคนเดินเข้าร้านมา แล้วดวงตาของมะตูมก็หรี่ลงมอง พิจารณาคนตรงหน้าอยู่ในใจ

คนนี้อีกแล้ว...

“วันนี้ต้มยำขาหมูหมดแล้วเหรอครับ” คนร่างสูงถามขึ้นเมื่อชะโงกมองกับข้าวในตู้แล้วพบว่าเมนูเด็ดไม่มี

“ครับ เหลือแต่อย่างอื่น”

“เสียดายจัง วันนี้ผมไม่น่ามาช้าเลย” ฝุ่นยิ้มรับคำพูดนั้นตามมารยาท จากนั้นอีกคนจึงเปลี่ยนไปเลือกเมนูอื่น “งั้นเอาเป็นต้มข่าไก่กับไข่ลูกเขยแล้วกันครับ”

“ทานนี่ใช่ไหมครับ”

“ครับ”

“งั้นเชิญข้างในเลยครับ”

ลูกค้าของร้านยิ้มรับ ทว่าก็ไม่ได้เดินไปในทันทีจนฝุ่นต้องทำเป็นหันไปตักข้าวถึงได้เดินต่อเข้าไป

“พี่สุดหล่อเขามาอีกแล้ว มาทุกอาทิตย์เลย ต้องชอบพี่ฝุ่นแน่ๆ” มะตูมโน้มตัวมากระซิบให้ฝุ่นโคลงหัวใส่ด้วยความอ่อนใจ

“มะตูมก็พูดไป เอาน้ำแข็งไปเสิร์ฟด้วยนะ”

“รับทราบค่ะ...แต่ว่ามะตูมไม่ได้พูดเล่นนะ สายตาที่เขามองพี่ฝุ่นมันเป็นแบบนี้เลย” พูดแล้วก็ทำสายตาใส่จนฝุ่นหลุดหัวเราะ แล้วเด็กสาวท่าทางแก่นเซี้ยวก็ผละออกไปตักน้ำแข็งใส่แก้วเพื่อเอาไปเสิร์ฟให้คนที่มาใหม่

“เอ่อ...”

ฝุ่นเงยหน้าขึ้นมองลูกค้าซึ่งยืนอึกอักอยู่ตรงหน้าหลังจากที่ทำออเดอร์เมื่อกี้เสร็จเรียบร้อย

“รับอะไรดีครับ”

“อะไรเป็นเมนูฮิตครับ” คนไม่เคยมาทานถามเสียงเบา ทว่าฝุ่นยังไม่ทันเอ่ยตอบมะตูมที่เดินกลับมาก็ชิงอธิบายแทน

“เมนูฮิตของร้านก็คือต้มยำขาหมู แต่วันนี้หมดแล้วค่ะน้า รับอย่างอื่นไปแทนได้นะ อร่อยเหมือนกัน”

“มะตูม เอาจานนี้ไปเสิร์ฟไป” เจ้าของร้านปรามคนพูดมากพร้อมทั้งมอบงานให้ทำ ตรงนี้จึงกลับมามีความเงียบอีกครั้ง

“งั้นผมเอาทุกเมนู อย่างละกล่องแล้วกันครับ”

คิ้วคู่สวยขมวดเข้าหากันน้อยๆ แต่สุดท้ายฝุ่นก็ยิ้มรับคำแล้วเชิญให้ลูกค้าเข้าไปนั่งรอในร้าน

“ได้ครับ นั่งรอข้างในก่อนสักครู่นะครับ”



“มีขายอยู่หกเมนู เปลี่ยนไปทุกๆ วัน แต่ว่าตอนที่ผมไปเหลือแค่ห้าเพราะเห็นบอกว่าเมนูฮิตหมดแล้วครับ”

ปารินทร์ทอดมองคนร่างเล็กที่กำลังตักอาหารใส่จานอยู่อีกฝั่งด้วยดวงแววตาที่สั่นระริก

ความคิดถึง โหยหา อยากก้าวลงจากรถไปดึงฝุ่นเข้ามากอดมันประทุรุนแรงจนต้องกำมือแน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองทำอย่างนั้น

มันยังไม่ถึงเวลา...ปินพร่ำบอกประโยคนี้เป็นรอบที่ล้าน

“เมนูฮิตคืออะไรครับ”

“ต้มยำขาหมู”

กึก

แล้วคำตอบนั้นก็ทำให้ฝ่ามือหนาทั้งสองข้างเกร็งแน่น เกิดความหวงแหนเนื่องจากคนอื่นได้กินสิ่งที่ตัวเองโปรดปรานจนอยากปิดร้านฝุ่นลงวันนี้

“แล้วร้านเปิดกี่โมงครับ” ลมหายใจวูบโหวงถูกผ่อนออกมาช้าๆ ก่อนจะถามในสิ่งที่ให้คนขับไปสืบ

“เปิดอังคารถึงอาทิตย์ เวลาสิบเอ็ดโมงถึงสี่โมงเย็นครับ แต่เห็นเด็กเสิร์ฟบอกว่าบ่ายสามอาหารก็หมดแล้ว โดยเฉพาะต้มยำขาหมูที่จะหมดเร็วมาก”

ปารินทร์จับจ้องอีกคนโดยไม่วางตา ยิ่งเห็นลูกค้าผู้ชายหน้าตายืนคุยกับฝุ่นนานเกินกว่าที่ควรยิ่งอยากลงไปแสดงตัว

ไม่ว่าจะยังไงฝุ่นก็เป็นของเขาแค่คนเดียว...

“พี่หวานครับ...ติดต่อขอซื้ออาคารพาณิชย์ฝั่งตรงข้ามฝุ่นให้ผมที” ปินกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์เพื่อบอกสิ่งที่ต้องการไปยังปลายสาย

(ปินรู้ใช่ไหมว่าควรหรือไม่ควรทำอะไร)

“ผมรู้ครับ”

(เฮ้อ แต่เท่าที่พี่รู้มาแถวนั้นมีคนอยู่เต็มหมดแล้วนี่)

“เสนอเงินจนกว่าจะมีคนขาย”

(โอเคปิน พี่จะจัดการให้) น้ำเสียงนั้นมีความอ่อนใจเจืออยู่แต่สุดท้ายภาวิดาก็ยอมรับปาก

“แล้วก็ซื้อรถคันใหม่ด้วยนะครับ”

(...ได้)

“ขอบคุณครับพี่หวาน”

--

เฮ้อ

ลมหายใจแห่งความเหนื่อยล้าถูกพรูออกทางปากหลังจากที่ฝุ่นอาบน้ำเสร็จแล้วเดินมาทิ้งตัวลงบนเตียงนอน
เปลือกตาสีอ่อนหลับลงให้การมองเห็นมีเพียงความมืด แล้วภาพของใครบางคนก็เด่นชัดขึ้นมาเหมือนดั่งทุกครั้ง

คิดถึงปิน...

เมื่อความคิดถึงเกิดขึ้นตัวก็พลิกไปหยิบโทรศัพท์มากดเข้าอินสตาแกรม พอไม่เห็นการอัปเดตใดๆ จากอีกคนฝุ่นก็ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง

กว่าครึ่งปีแล้วสำหรับการใช้ชีวิตด้วยตัวเอง มันเหนื่อยหนักหนาอย่างที่ใครหลายคนบ่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้ทรมานกลับไม่ใช่ความเหนื่อยนั้นแต่เป็นความคิดถึงที่มีต่ออีกคน

อยากมีปินคอยกอดเวลาเหนื่อยล้า

เผลอคิดถึงสัมผัสอบอุ่นแล้วน้ำตาก็ไหลมาคลอหน่วยโดยที่ฝุ่นไม่รู้ตัว

มือบางยกขึ้นมาเช็ดน้ำออกจากหน้า ทว่ายิ่งเช็ดกลับยิ่งไหล สุดท้ายฝุ่นจึงปล่อยมันไปทั้งอย่างนั้น

แล้วก็เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่หลับไปพร้อมน้ำตา

--

‘มาแล้วสำหรับซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดจากนักร้องสุดฮอต ปิน ปารินทร์ กับเพลงที่มีชื่อว่า เธอที่แสนไกล เรียกได้ว่าปล่อยออกมาคืนเดียวยอดคนดูก็ทะลุถึงห้าล้านวิว อีกทั้งยังขึ้นอันดับหนึ่งของทุกชาร์ตทุกคลื่นวิทยุแล้วเรียบร้อย นอกจากกระแสเพลงจะมาแรงแล้ว กระแสข่าวซุบซิบเรื่องความสัมพันธ์กับนางเอกเอ็มวีก็มาแรงไม่แพ้กันเลยค่า’

‘เหมือนเดิมครับ...ไม่มีอะไร’

‘คนจะจับตามองว่าไม่มีอะไรเพราะเป็นเกย์หรือเปล่า’

‘เคยพูดไปแล้วครับว่าแล้วแต่ความคิดของทุกคน’

‘งั้นกับไอด้ามีโอกาสพัฒนาไหม’

‘ไม่ขอตอบเรื่องส่วนตัวเหมือนเดิมครับ คุยเรื่องเพลงกันดีกว่า’



คนที่ยืนจัดร้านอยู่เผลอยืนนิ่งงันจนมะตูมเดินมาหยุดอยู่ข้างตัว

เป็นครั้งแรกที่อยากให้ปินพูดถึงเรื่องส่วนตัวบ้าง...

“พี่ฝุ่นเป็นแฟนคลับพี่ปินเหมือนกันเหรอ”

“ปะ เปล่า...พี่ก็ดูอะไรไปเรื่อย” ฝุ่นหันมาตอบคนข้างตัว

“แต่มะตูมเป็นแฟนคลับพี่ปินนะ คนอะไรทั้งหล่อแล้วก็เสียงดีมาก นี่เมื่อคืนก็นอนฟังเพลงเธอที่แสนไกลทั้งคืนเลย พี่ฝุ่นฟังหรือยัง”

“ฟังบ้างแล้วล่ะ”

เพราะฟัง...เช้านี้ถึงต้องเอาน้ำแข็งประคบตาและลงรองพื้นเพื่อกลบความบวมช้ำ

“เพราะเนอะ ถึงจะออกแนวเศร้าๆ หน่อยก็เถอะ”

คนอยู่ตรงนั้นเป็นอย่างไร
คนอยู่ตรงนี้แทบจะขาดใจ
คิดถึง...ต่อให้เธอนั้นจะอยู่ไกลแสนไกล
ไม่อาจไขว่คว้า เหนี่ยวรั้ง อ้อนวอนให้เธอไม่ไป
ฉันนั้นเลยเพียงทำได้ ก้มหน้าแล้วยอมห่างไกลใจตัวเอง


ฝุ่นไม่อยากคิดเข้าข้างว่าปินแต่งเพลงนี้เพราะตัวเอง

“ร้านเปิดหรือยังครับ”

เสียงที่ดังขึ้นเรียกให้คนทั้งสองหันไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นลูกค้าที่แวะเวียนมาแทบทุกอาทิตย์มะตูมจึงร้องทักออกไป

“คุณน้ามาอีกแล้ว!”

ตลอดระยะเวลาประมาณสี่เดือนคุณน้าคนนี้ก็แวะมาซื้อกับข้าวที่ร้านอยู่เรื่อยๆ

“เปิดแล้วครับ เพิ่งเปิดพอดีเลย”

ฝุ่นขยับเก้าอี้ให้เข้าที่อีกเล็กน้อยก่อนจะเดินออกมารับลูกค้าพร้อมรอยยิ้ม

“เอาเหมือนเดิมครับ”

“ทุกเมนูอย่างละกล่อง ยกเว้นต้มยำขาหมูที่เพิ่มเป็นสองกล่อง ใช่ไหมคะ?” มะตูมถามย้ำเพื่อความแน่ใจ กระทั่งอีกฝ่ายตอบรับกลับมาเด็กสาวก็ยิ้มแฉ่ง

“นั่งรอก่อนนะครับ”

ฝุ่นผายมือเชิญจากนั้นจึงเดินไปทางหน้าร้าน โดยมีลูกมืออย่างยะตูมคอยตักข้าวใส่กล่องให้

“คุณน้าย้ายมาอยู่ฝั่งตรงข้ามนี่เหรอคะ เห็นซื้อกับข้าวเสร็จก็เข้าไปตรงนั้นตลอดเลย” มะตูมถามขึ้นขณะที่ส่งถุงกล่องข้าวทั้งสองถุงไปให้อีกฝ่าย

“อ๋อ เจ้านายน่ะครับ เขามาพักผ่อนที่นี่”

“เจ้านายชอบทานกับข้าวร้านพี่ฝุ่นเหรอคะ” คนช่างจ้อถามไปเรื่อย

“ครับ”

“มาเป็นครอบครัวเลยเหรอคะ ซื้อหลายกล่องเชียว”

“เอ่อ...” คนที่คิดคำตอบไม่ทันได้แต่ลากเสียงอยู่ในลำคอ

“มะตูม ถามคุณน้าเยอะไปแล้ว...ไม่รบกวนแล้วดีกว่าครับ”

ดั่งเป็นเสียงช่วยชีวิตของคนขับรถวัยกลางคน ธนาระบายยิ้มอย่างโล่งอกกับการไม่ต้องคิดหาคำตอบนั้น

“ครับ ไว้เดี๋ยวจะมาอุดหนุนใหม่นะครับ”

“ขอบคุณครับ” ฝุ่นเอ่ยขอบคุณพร้อมทั้งส่งยิ้มให้ แล้วลูกค้าประจำที่แวะเวียนมาเป็นระยะก็เดินเข้าไปที่อาคารพาณิชย์ฝั่งตรงข้ามอย่างเคย

--

2 ปีผ่านไป

‘ทำไมปินถึงไม่ต่อสัญญากับค่ายเดิมคะ มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า’
‘ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันครับ คุยกันด้วยดี’
‘แล้วอย่างนี้จะเซ็นสัญญากับค่ายใหม่หรือเปล่าคะ ได้ยินข่าวมาว่ามีหลายค่ายตามจีบ’
‘ไม่ครับ เป็นนักร้องอิสระ’
‘ทำไมล่ะคะ’
‘ไม่อยากให้ใครมามีผลกระทบกับการกระทำของตัวผมเอง ในอนาคตก็อาจจะทำอะไรที่เป็นตัวเองมากขึ้น ลองนู้นลองนี่ ก็ไม่อยากให้ค่ายมาแบกรับความเสี่ยงตรงนี้ไปด้วย’
‘แล้วเมื่อไหร่จะมีคอนเสิร์ตเดี่ยว’
‘เมื่อวันที่รู้สึกว่าตัวเองพร้อมครับ’
‘ปินก็เป็นนักร้องมาจะเจ็ดปีแล้ว มันยังติดตรงไหนยังไง’
‘ไม่ได้ติดตรงไหนยังไงหรอกครับ แค่รอเวลาที่เหมาะสม รอเวลาที่ใจผมบอกว่าใช่...ยังไงก็จะมีแน่ๆ ไม่ต้องเป็นห่วง”

“ติดตามมาตั้งแต่มอต้นจนตอนนี้มะตูมขึ้นมหาลัยแล้ว เฮ้อ เก็บตังรอไปคอนเสิร์ตพี่ปินจนราจะขึ้นแล้วเนี้ย”

เด็กสาวที่กลายเป็นสาวเต็มตัวในวัยยี่สิบปีพร่ำเพ้อกับโทรทัศน์พร้อมทั้งเช็ดโต๊ะไปด้วย

“ขนาดนั้นเลยเหรอมะตูม” ฝุ่นที่เก็บเก้าอี้ไปเรียงกันไว้ด้านข้างเดินกลับมาถาม

“ขนาดนั้นเลยพี่ฝุ่น อยากเห็นพี่ปินร้องเพลงสดๆ อยู่ตรงหน้า ตอนนี้ไปตามที่เซ็นทรัลระยองได้ฟังพี่ปินร้องแค่ไม่กี่เพลงเอง” แฟนคลับปินตัวยงหันมาตอบด้วยท่าทางจริงจัง

“แค่ไม่กี่เพลงก็ยังเอามาเพ้อไปเป็นอาทิตย์”

“ก็เสียงพี่ปินทั้งทุ้ม แล้วก็นุ่มนี่นา”

“พอเลย เพ้ออยู่นั่นเดี๋ยวก็ไปตลาดให้แม่ไม่ทันหรอก...เดี๋ยวที่เหลือพี่เก็บต่อเอง”

“ไม่เป็นไร มะตูมช่วยแป๊บเดียว ค่อยซิ่งไปตลาดให้แม่ทีหลัง”

แล้วร่างมีน้ำมีนวลก็ขยับทำนู้นทำนี่ให้รวดเร็วขึ้น จนไม่กี่นาทีต่อมาร้านก็ถูกเก็บจนเรียบร้อย เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดในวันต่อไป

“มะตูมไปแล้วนะพี่ฝุ่น เดี๋ยวอาทิตย์หน้ามาช่วยงานใหม่”

“อื้ม ตั้งใจเรียนล่ะ”

“ค่า สวัสดีค่ะ”

ฝุ่นโคลงหัวอย่างอ่อนใจยามมองตามมะตูมที่เดินไปสตาร์ทมอเตอร์ไซด์แล้วขับออกไปด้วยความรวดเร็ว

กี่ปีก็แก่นเซี้ยวไม่เปลี่ยน

ตึก ตึก

เสียงฝีเท้าหนักๆ ที่ดังขึ้นจากอีกด้านเรียกให้ฝุ่นหมุนตัวกลับมาจากการมองตามมะตูม ก่อนจะเตรียมเอ่ยปากบอกลูกค้าว่าร้านปิดแล้ว

“ร้านปิดละ...”

ประโยคนั้นไม่อาจเอ่ยจนจบเมื่อหันไปเห็นคนตรงหน้าเต็มตา

แม้จะมีหมวกและแมสก์ปิดหน้าแต่รูปร่างและดวงตาเรียวรีคู่นั้นก็ทำให้ฝุ่นรู้ได้ทันที

ปิน!!



TBC.

อุ๊ยยยย เขาเจอกันแล้วน้าาา
ตอนหน้ามาลุ้นกันว่าปินจะมาหาฝุ่นในแบบไหน อิอิ
เป็นกำลังใจให้หมาปินกับแมวฝุ่นด้วยนะคะะะะ
แล้วก็แอบบอกว่าเล่มกำลังอยู่ในกระบวนการ
หยอดปุกหมูกันได้เล้ย
#secrecyลับรัก


   

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
«ตอบ #379 เมื่อ20-02-2019 22:37:00 »

งุ้ยยย เค้าเจอกันแล้ววว
ในที่สุดดดด  :hao5: :hao5:
ได้อยู่ด้วยกันซักทีนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
« ตอบ #379 เมื่อ: 20-02-2019 22:37:00 »





ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
«ตอบ #380 เมื่อ20-02-2019 22:41:00 »

หลายปีเลยเนอะ
ถ้าเป็านเราคงตรอมใจละ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
«ตอบ #381 เมื่อ20-02-2019 22:49:10 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
«ตอบ #382 เมื่อ20-02-2019 22:52:14 »

Finally... :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Lotsa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
«ตอบ #383 เมื่อ20-02-2019 23:08:48 »

ตื่นเต้นนนนนนนนนน

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
«ตอบ #384 เมื่อ20-02-2019 23:31:06 »

ร้องไห้ ผ่านไปสองปีเลยเหรอ  :hao5:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
«ตอบ #385 เมื่อ20-02-2019 23:42:55 »

2ปีผ่านไปแล้วเข้มแข็งขึ้นแล้วนะทั้งสองคน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
«ตอบ #386 เมื่อ20-02-2019 23:46:07 »

2 ปีแน่ะกว่าจะได้เจอกัน

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
«ตอบ #387 เมื่อ20-02-2019 23:56:02 »

ลุ้นๆๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
«ตอบ #388 เมื่อ20-02-2019 23:56:22 »

2 ปีผ่านไปแล้ว จะมีปัญหาอะไรตามมาอีกป่ะเนี่ย  :hao4:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
«ตอบ #389 เมื่อ21-02-2019 00:23:39 »

เจอกันแล้ว แต่สองปีเลยนะ  :hao5:
คู่คุณกัญจน์ก็แฮปปี้แร้วหวังว่าจะไม่มีปัญหาตามมา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด