❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15  (อ่าน 121355 ครั้ง)

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
«ตอบ #330 เมื่อ29-01-2019 23:41:16 »

 :sad4: :sad4: เรารู้ว่าเธอสองคนจะผ่านมันไปได้นะะ

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
«ตอบ #331 เมื่อ31-01-2019 19:47:59 »

Chapter Sixteen.

วันเวลาหมุนผ่านไปกว่าสัปดาห์แต่กระแสข่าวเรื่องปินกลับไม่ซาลง อีกทั้งยังมีการพยายามขุดประวัติฝุ่นจนแท็กปินปารินทร์อยู่ในความนิยมแทบจะตลอด

ขวดยาแก้ปวดหัวถูกเขย่าให้เม็ดยาไหลลงฝ่ามือก่อนฝุ่นจะโยนมันเข้าปากแล้วดื่มน้ำตามหวังให้อาการปวดหัวนั้นบรรเทาลง

ร่างเล็กเดินกลับมาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา กล่องช็อกโกแลตหลายสิบกล่องว่างอยู่บนโต๊ะตรงหน้า และเมื่อทนความคิดถึงไม่ไหวก็หยิบอีกชิ้นเข้าปากอีกชิ้น

คิดถึงปิน...

ไม่ได้เจอกันมาเป็นอาทิตย์แล้ว

จะด่าจนกว่าจะเห็น @AntiFanPin
ไม่เห็นจะน่ารักแบบที่เขาว่า #ปินปารินทร์

จะด่าจนกว่าจะเห็น @AntiFanPin
ถ้าส่องแท็กก็ขอให้รู้ไว้ว่ากำลังทำให้ชีวิตปินตกต่ำ #ปินปารินทร์

จะด่าจนกว่าจะเห็น @AntiFanPin
ปินควรจะได้อะไรที่ดี เหมาะสม และคู่ควรมากกว่านี้ #ปินปารินทร์

ฮึก

แม้จะพยายามห้ามใจไม่ให้เข้ามาส่องแอคนี้ยังไงแต่พอว่างฝุ่นก็เผลอกดเข้ามาแทบทุกครั้ง

อยากรู้ว่าถูกพูดถึงว่ายังไง...แล้วพอรู้ก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

เขากำลังทำให้ชีวิตปินตกต่ำจริงๆ

ออดดดดด

เสียงออดหน้าห้องที่ดังขึ้นทำให้ฝุ่นเลื่อนสายตาอันพร่ามัวไปทางประตูราวกับจะเห็นคนมาหา ความหวาดระแวงกับเรื่องที่เกิดขึ้นพาให้นั่งนิ่งไม่กล้าไม่เปิด กระทั่งเสียงกริ่งดังขึ้นอีกครั้งจึงค่อยๆ ลุกไปส่องดู

มือบางยกขึ้นมาปาดน้ำตาก่อนจะทาบตาเข้ากับตาแมว แล้วก็ต้องรีบเปิดประตูเมื่อเห็นว่าคนที่มาหาคือใคร

“คะ คุณน้า” คนถูกเรียกยิ้มรับ

“สวัสดีจ้ะ ปินเขาให้แม่มาอยู่เป็นเพื่อนฝุ่นน่ะลูก”

“...เชิญข้างในก่อนครับ” ฝุ่นรีบเบี่ยงตัวหลบให้คนแม่ของปินเดินเข้ามาพร้อมทั้งรีบอาสาช่วยถือของในมือให้

“อาหารสดทั้งนั้น เอาไปใส่ตู้เย็นไว้ก่อนแล้วกันนะจ๊ะ”

ใบหน้าซีดเซียวกดลงรับจากนั้นจึงเอาของทั้งหมดไปเก็บให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินกลับออกมาพร้อมแก้วน้ำ

“น้ำครับ”

“ขอบใจนะจ๊ะ” ประภารับแก้วน้ำมาจิบเพียงเล็กน้อยแล้ววางมันลงบนโต๊ะพลางทอดมองคนที่นั่งลงบนโซฟาเดี๋ยวอีกตัวด้วยความเอ็นดู

“เป็นยังไงบ้างหืม”

คนถูกถามเม้มริมฝีปากเข้าหากันแล้วก็คลายออกยามเอ่ยตอบ

“ก็...สบายดีครับ”

“โกหกผู้ใหญ่บาปนะ”

“...”

“ดูจากหน้าตาแล้วแม่ก็รู้ว่าฝุ่นเป็นยังไง เครียดแล้วก็กังวลมากเลยใช่ไหม”

“ครับ” ฝุ่นหลุบตาลงมองมือตัวที่บีบกันแน่นอีกทั้งยังพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างสุดความสามารถ

“จำเอาไว้นะฝุ่น ต่อให้เราทำดีแค่ไหนถ้าคนจะไม่ชอบ เขาก็ไม่ชอบอยู่ดี...เขาไม่ชอบก็เป็นเรื่องของเขา เราก็ทำหน้าที่ของเราต่อไป”

น้ำตาที่ไม่อาจกลั้นไหวไหลรินออกทางหางตาคู่สวยช้าๆ หากแต่ฝุ่นก็พยายามเช็ดมันออกอย่างรวดเร็ว

“ปินอยู่กับตรงมานานแล้วก็เข้าใจจุดนี้มาตลอดถึงได้อยู่ได้ ถามว่าคิดไหมมันก็คิดเป็นเรื่องปกติแต่ก็ไม่ได้ขนาดเอามาใส่ใจ ฝุ่นเองก็ควรจะทำแบบปินนะลูก”

“ฝะ ฝุ่นจะพยายาม” เสียงที่ตอบกลับติดขัดเพราะแรงสะอื้น

“มานี่มา มาให้แม่กอดหน่อย”

ดวงตาแดงเรื่อสั่นระริกก่อนฝุ่นจะค่อยๆ ขยับกายไปหาแม่ของปิน แล้วอ้อมแขนอบอุ่นก็โอบรอบร่างกายให้คนที่แทบลืมความรู้สึกนี้ไปแล้วน้ำตาร่วงพรู

คิดถึงแม่

“ปล่อยวางแล้วก็อย่าเก็บความคิดเห็นเหล่านั้นมาคิด”

“ฝุ่น ฮึก ทำให้ปินลำบาก ระ หรือเปล่าครับ”

“ถ้าปินเขาไม่ได้พูดออกมาก็อย่าไปคิดแทนเขาเลย ใครๆ ก็ต้องเจอเรื่องที่ลำบากกันทั้งนั้น” ฝ่ามือเหี่ยวย่นลูบไล้แผ่นหลังบางไปมาแผ่วเบา

“ถือว่ามันเป็นอีกหนึ่งบทเรียนของชีวิตนะลูกนะ”

ฝุ่นซุกหน้าเข้าหาอกอุ่นๆ ที่ใจโหยหา จากนั้นก็ปล่อยน้ำตาให้ไหลลงอย่างเงียบเชียบอยู่อย่างนั้น



“หลับไปแล้วล่ะ ท่าทางคงไม่ค่อยได้นอน หน้าตาซูบเซียวเชียว”

ปารินทร์ถอนหายใจกับสิ่งที่ได้ยิน จากนั้นจึงเอ่ยฝากฝังให้คนเป็นแม่ดูแลอีกคนแทนระหว่างที่ตัวเองไม่สามารถทำได้

(ผมฝากแม่ดูฝุ่นหน่อยนะครับ เป็นไปได้ก็อย่าให้ดูข่าวมากนัก)

“จ้ะ”

(ผมต้องวางแล้ว ไว้ยังไงจะโทรหาอีกที)

“ตั้งใจทำงานนะปิน แล้วก็พยายามปล่อยมันไป”

(ครับ รักแม่นะ)

“แม่ก็รักปิน”

สายโทรศัพท์ถูกตัดไปแล้วคนแก่ก็ลอบถอนหายใจ ก่อนจะหมุนตัวกลับไปทอดมองคนที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียง

สิ่งที่ทั้งสองต้องมีให้มากคือความอดทนที่จะจับมือกันผ่านพ้นไป

--

“คิดดีแล้วใช่ไหมครับ” คนสนิทที่ทำงานด้วยกันมาร่วมสิบปีถามกัญจน์ขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ขณะที่คนนั่งพักสายตาอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ก็ส่งเสียงรับคำ

“อืม”

“คนอื่นๆ จะไม่ว่าอะไรเหรอครับ”

“ว่า แต่ก็แค่นั้นแหละ”

“แต่ว่า...”

ดวงตาคมเปิดลืมขึ้นพร้อมกับการหยัดกายนั่งหลังตรง เป็น กัญจน์ ศิวะเกียรติ แบบที่เคย

“ตอนนี้ประเทศเราไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ฉันเองก็ไม่ได้อยากอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่ต้น เพราะฉะนั้นคงไม่มีเวลาไหนที่จะเหมาะเท่านี้แล้ว”

“มันอาจจะมีเรื่องวุ่นวายตามมาอีกมาก โดยเฉพาะเรื่อง...”

“เรื่องแก้ม...ฉันรู้ แต่ฉันคิดว่าตัวเองจัดการได้” เสียงทุ้มเอ่ยต่อสิ่งที่ฐากูรไม่กล้าพูดให้จบยามที่แววตาก็แสดงออกถึงความหมายมาดจนคนเป็นลูกน้องไม่มีอะไรจะพูดมากกว่านั้น

นายตัดสินใจแล้วเพราะงั้นจะไม่มีอะไรเปลี่ยนได้

“ครับ”

Rrrr

โทรศัพท์ที่มีสายเรียกเข้าอย่างถูกเวลาดังขึ้นให้มือหนาเอื้อมไปหยิบมัน และพอเห็นว่าเป็นใครมุมปากได้รูปก็ยกขึ้น อาจจะเพียงนิดเดียวแต่ฐากูรที่ใกล้ชิดกับกัญจน์มานานรับรู้ได้ทันทีว่านายอารมณ์ดีเพียงเพราะชื่อของคนที่โทรเข้ามา

แล้วคนเป็นลูกน้องก็ค้อมหัวลงจากนั้นจึงเดินออกจากห้องไป

“อืม”

(คุณกัญจน์ว่างคุยหรือเปล่าครับ)

“ว่าง”

(พอดี...บลูมาซื้อของ แล้วตัดสินใจไม่ได้เลยอยากจะขอให้คุณกัญจน์ช่วยตัดสินใจหน่อยได้ไหมครับ)

“เอาสิ ส่งมาให้ดูในไลน์ก็แล้วกัน”

(ขอบคุณครับ แล้วคุณกัญจน์อยากได้อะไรหรือเปล่า หรือว่าอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม)

“อยากได้เธอ แล้วก็อยากกินเธอ” กัญจน์ยกยิ้มเมื่อพูดจบแล้วได้ยินเพียงเสียงจอแจรอบข้าง ไร้เสียงใสๆ ตอบกลับมา

ด้านคนฟังก็ได้แต่ขบกัดริมฝีปาก คำตอบเพียงประโยคเดียวกลับส่งผลต่อหัวใจและร่างกายจนรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ภาพในหัวเผลอจินตนาการว่าอีกคนกำลังใช้สายตาแบบใดยามเอ่ยพูด

ก๊อก ก๊อก

“ฉันอยากแกล้งเธอต่อแต่ดูท่าว่าจะไม่มีเวลาแล้ว ยังไงก็ส่งรูปมาในไลน์แล้วกัน ยังพอมีเวลาช่วยดูให้”

(ครับ)

“ฉันวางแล้วนะ”

(คุณกัญจน์)

“หืม”

(ทำงานสู้ๆ นะครับ)

เป็นประโยคที่ช่างพื้นฐานและฟังดูเด็กทว่ามันกลับทำให้กัญจน์ยกยิ้ม ความเหนื่อยหน่ายกับสิ่งที่ต้องเจอและกำลังจะเจอถูกบรรเทาลงด้วยเด็กน้อยปลายสาย

“อืม” คนอายุมากกว่ารับคำในลำคอเพราะไม่รู้ว่าควรตอบกลับแบบใด จากนั้นจึงกดวางสายเมื่อฐากูรเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า

“ท่านโฆษกมาครับ”

โทรศัพท์ถูกวางลงบนโต๊ะพร้อมด้วยสีหน้าที่แตกต่างจากเมื่อครู่อย่างลิบลับ ลมหายใจหนักอึ้งถูกสูดเข้าปอด ก่อนร่างภูมิฐานจะหยัดกายลุกขึ้น

ติ๊ง

ทว่าความจริงจังเครียดขึงบนใบหน้าคมเป็นอันต้องเปลี่ยนอารมณ์เมื่อเห็นรูปทั้งสองที่ร่างเล็กส่งมา

‘สีไหนดีครับ’

ชุดนอนผู้หญิงลายลูกไม้แบบที่แทบจะซีทรูทั้งตัวมีสีแดงและน้ำเงิน

กัญจน์กระแอมไอเล็กน้อยเมื่อเห็นลูกน้องเลิกคิ้วถามว่ามีอะไรหรือเปล่า ก่อนมือจะพิมพ์ส่งข้อความกลับไปอย่างรวดเร็ว

‘ซื้อมาทั้งสองนั่นแหละ...หรือจะเหมาหมดร้านก็ได้’

แล้วโทรศัพท์เครื่องหรูก็ถูกเก็บลงกระเป๋าด้านในเสื้อสูท ขณะที่บลูก็กัดริมฝีปากแน่น จากนั้นจึงค่อยๆ เดินกลับไปบอกพนักงานเสียงเบา

“เอาทั้งสองเลยครับ”

--

“ฝีมือใช้ได้เลยนะ” คนถูกชมยิ้มรับบางๆ อย่างดีใจ

กิจกรรมในวันต่อมาคือการวาดรูปเพื่อผ่อนคลายความเครียด โดยประภาเริ่มสอนฝุ่นจากการวาดรูปดอกไม้ที่ไม่ยุ่งยาก และคนรุ่นลูกก็ทำได้ดีไม่น้อย

“ตอนฝุ่นเรียนก็ได้วาดดอกไม้บ้างแต่เป็นสีน้ำครับ”

“ก็ยากไปอีกแบบเลยนะ”

“การวาดรูปก็ยากหมดเลย”

คนฟังระบายยิ้ม นอกจากจะเพราะประโยคที่ได้ยินแล้วยังเป็นเพราะความเศร้าสร้อยในดวงตาคู่โตนั้นดูเบาบางลง

“ได้เท่านี้ก็ถือว่าฝีมือฝุ่นไม่แย่เลยนะ”

“คุณน้าสอนดีมากกว่า”

ประภายิ้มรับก่อนจะวางมือจากกระดาษและดินสอตรงหน้าเมื่อนาฬิกาบอกว่าถึงเวลาเตรียมมื้อเย็น

“เดี๋ยวน้าไปซูเปอร์ก่อนนะจ๊ะ”

“ฝุ่นอยากไปด้วยจัง” คนพูดคล้ายจะบ่นพึมพำแบบไม่คิดอะไรแต่ประภาก็เข้าใจความรู้สึกที่เจือมากับประโยคนั้นดี

“เอาไว้วันหลังเนอะ” คนแก่พูดปลอบใจพร้อมทั้งยกมือขึ้นลูบหัวให้ฝุ่นรู้สึกอุ่นซ่านไปทั้งอก ดั่งความเศร้าและความกังวลที่แบกเอาไว้ถูกปัดเป่าออกไปจากใจช้าๆ

เข้าใจแล้วว่าปินอบอุ่นเหมือนใคร

“แม่ไปนะ”

ฝุ่นพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปส่งแม่ของปินที่หน้าประตู กระทั่งทั้งห้องเหลือเพียงตัวเองลมหายใจหนักอึ้งก็ถูกพรูออกแผ่วเบา

จะด่าจนกว่าจะเห็น @AntiFanPin
สงสารปิน เก็บความเครียดไว้ไม่มิดเลย...ทำไมต้องมีข่าวออกมาในช่วงกำลังรุ่งแบบนี้ #ปินปารินทร์

มือซึ่งกำลังถือโทรศัพท์สั่นระริกไม่ต่างจากดวงตาเมื่อได้เห็นหน้าปินในแบบที่ไม่เคยได้เห็น

ตั้งแต่เกิดเรื่องอีกคนมักจะแสดงออกเพียงความเข้มแข็ง ฝุ่นจึงไม่เคยรู้เลยว่าภายใต้รอยยิ้มนั้นมันซ่อนความเครียดเอาไว้มากมายเพียงใด

นิ้วมื้อลูบไล้หน้าจออย่างแผ่วเบาราวกับจะให้สัมผัสนี้ส่งไปถึงคนในรูป

แกร๊ก

คนที่กำลังจมจ่ออยู่กับโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นเมื่อคล้ายกับจะได้ยินเสียงเปิดประตูและเสียงฝีเท้าหนักๆ กระทั่งเห็นคนที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าโทรศัพท์ในมือก็ร่วงผล็อย ร่างกายแข็งค้าง รอบข้างเหมือนมีเพียงความเงียบ แล้วการมองเห็นก็ค่อยๆ พร่ามัวเพราะหยดน้ำตา

“ดีใจก็ต้องยิ้มสิครับ ร้องไห้แบบนี้ผมคิดว่าฝุ่นเสียใจที่เห็นผมนะ” ปินก้าวมาทรุดตัวนั่งลงบนโซฟายามที่ฝ่ามือหนาก็ยกขึ้นแตะแก้มเนียนแผ่วเบา

“ฮึก” ความเครียดและความคิดถึงที่อัดแน่นอยู่ในอกถูกกลั่นกรองออกมาเป็นน้ำตาที่ไม่อาจสะกดกลั้น

ฝุ่นโถมตัวเข้ากอดคนตรงหน้าด้วยความโหยหา พอร่างกายสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ถึงได้เชื่อว่าไม่ใช่ความฝัน การห่างเหินเพียงหนึ่งสัปดาห์ยาวนานราวกับหนึ่งปีในความรู้สึก

“คิดถึงผมไหม”

คนถูกถามทำได้เพียงพยักหน้าหงึกหงักเนื่องจากดีใจจนไม่สามารถพูดอะไรได้

กลิ่นกายอันแสนอบอุ่นกรุ่นอยู่ปลายจมูกตอกย้ำการมีอยู่ ความอบอุ่นที่คะนึงหาแทรกเข้ามาแทนที่ความเปล่าเปลี่ยว

“เป็นยังไงบ้าง แมวฝุ่นดื้อหรือเปล่า” ปารินทร์ผละกายออกห่างเพื่อมองใบหน้าอีกคนให้ชัดหลังจากที่รับรู้ว่าแรงสะอื้นนั้นเบาลง

“ไม่ดื้อ” ฝุ่นส่ายหน้าไปมาช้าๆ

“จริงหรือ แต่จากที่ผมเห็นมันไม่ใช่แบบนั้นนะ” แก้มเนียนที่ไม่นุ่มนิ่มเหมือนเมื่อก่อนถูกลูบไล้ไปมา

“ปินก็ดื้อ” มือบางวางแนบกับแก้มสากเพื่อบอกให้รู้ว่าคนพูดก็ไม่ได้แตกต่างกัน

ปินระบายยิ้มมือถูกว่ากลับ ก่อนมือจะเลื่อนไปทัดผมนิ่มกับใบหูแล้วค่อยๆ โน้มหน้าลงไปใกล้ สุดท้ายริมฝีปากก็จรดเข้ากับส่วนเดียวกัน แนบชิดอยู่อย่างนั้นหลายวินาทีกว่าจะขยับดูดดึง

จูบแห่งความคิดถึงเริ่มต้นอย่างเชื่องช้าและค่อยๆ เป็นไป ดั่งกลัวว่ากันและกันจะเลือนหาย

จุ๊บ

“เข้าห้องกัน” ใบหน้าหล่อผละออกพลางกระซิบชิดริมฝีปากสีสด คำชวนซึ่งบ่งบอกว่ามีจุดประสงค์ใดทำให้ฝุ่นเกิดความลังเล

“แต่แม่ปิน...”

“เสร็จทันแม่กลับมาแน่นอน”

คนฟังรู้สึกร้อนๆ ที่บริเวณข้างแก้ม ทว่ายังไม่ทันจะได้ตกปากรับคำร่างกายก็ลอยขึ้นจากโซฟาด้วยท่อนแขนแกร่ง

“คิดถึงจะตายอยู่แล้ว”

เพียงประโยคเดียวฝุ่นก็ไม่มีคำคัดค้านใดซ้ำยังยกมือขึ้นคล้องลำคอแกร่ง ยอมให้อีกคนพาเข้าห้องไปอย่างง่ายดาย



ฟอด

“คิดถึงแม่จังเลย”

แก้มอวบอิ่มถูกช่วงชิงความหอมโดยปลายจมูกโด่ง ก่อนที่ปารินทร์จะฉวยถุงของมากมายจากมือแม่มาถือเอาไว้

“แน่ใจนะว่าคิดถึงแม่” คนเป็นแม่เลิกคิ้วถามระหว่างที่กำลังเดินไปห้องครัว ด้านคนถูกแซวก็รีบยิ้มกว้างเอาใจ

“ก็คิดถึงทั้งสองคนนั่นแหละครับ นี่ปาล์มคงร่าเริงใหญ่เลยใช่ไหมที่ได้อยู่บ้านคนเดียว”

“ก็ตามประสาวัยรุ่น”

“อย่าให้มากเกินจนแอดไม่ติดก็แล้วกัน”

“เรานี่ ก็รู้อยู่ว่าน้องเอาตัวรอดได้”

“รักจังน้า ลูกคนเล็กเนี้ย” ปินแสร้งทำหน้าน้อยอกน้อยใจจนถูกแม่ย่นจมูกใส่ด้วยความหมั่นไส้

“แม่ก็รักทั้งสองคนนั่นแหละ” ประภาโคลงหัวอย่างอ่อนใจและเมื่อเห็นสีหน้าที่ทำเป็นไม่เชื่อนั้นก็ฟาดมือลงบนท่อนแขนของลูกเบาๆ จากนั้นจึงช่วยจัดของเข้าตู้เย็นให้เรียบร้อย

“ว่าแต่นี่ฝุ่นไปไหน” ร่างอวบอิ่มที่เพิ่งกดหม้อหุงข้าวให้ทำงานหันไปถามร่างสูงซึ่งยืนล้างผักอยู่อีกด้าน

“หลับครับ”

“ทำอะไรล่ะฝุ่นถึงได้ผล็อยหลับไปเวลานี้”

ปารินทร์เอี้ยวตัวกลับมายิ้มกว้างให้คนเป็นแม่

“ก็...ผมอยากให้ฝุ่นพักผ่อน”

“อยากให้ฝุ่นพักหรือเป็นเพราะความหื่นตัวเอง”

“แม่ นี่ปินลูกแม่ไงครับ”

“ก็เพราะเป็นลูกไงถึงได้รู้จักดี” คนเป็นลูกยักไหลอย่างไม่รู้จะพูดอะไร ก่อนจะหันกลับไปล้างผักต่อเมื่อเห็นแม่หยิบกระทะมาวางลงบนเตา

สามสิบนาทีผ่านไปอาหารมื้อเย็นก็เสร็จเรียบร้อยด้วยการร่วมด้วยช่วยกันของสองแม่ลูก

“สรุปว่าคืนนี้ว่าง?” อาหารจานสุดท้ายถูกวางลงบนโต๊ะยามประภาเอ่ยถามปินที่นั่งอยู่ตรงหน้า

“ครับ...แต่ยังไงก็คงค้างที่นี่ไม่ได้”

ถึงรอยยิ้มนั้นจะมีความจืดเจื่อนเจืออยู่จางเพียงใดแต่ผู้ให้กำเนิดที่เลี้ยงดูเจ้าตัวมาตั้งแต่แบเบาะก็รับรู้ได้ในทันที

คนร่างอวบจึงเดินอ้อมไปหาลูกชายพลางรั้งไหล่ปินเข้ามาหาตัว

“เหนื่อยหรือเปล่าลูก” เพียงคำถามเดียวความเข้มแข็งที่มีมาก็พังทลายลงแทบไม่มีเหลือ

ริมฝีปากได้รูปเม้มเข้าหากันพลางพยายามสะกดกลั้นความร้อนผ่าวตรงกระบอกตาเอาไว้

“นิดหน่อยครับแม่” เอ่ยคำว่านิดหน่อยทว่าเสียงพูดกลับสั่นเครือจนมือเหี่ยวย่นต้องวางลงบนไหล่กว้างแล้วลูบไปมา

“ชีวิตคนเรามันก็แบบนี้ เดี๋ยวอะไรๆ ก็ดีขึ้น”

“...ผมเสียใจที่ทำให้หลายคนต้องเสียใจ” ปินพูดออกมาเสียงแผ่ว

“...”

“ผมอยากทำทุกอย่างให้ดีกว่านี้ แต่ก็รู้ว่าต่อให้พยายามแค่ไหนมันก็ยังมีผลกระทบต่อคนอื่นเพราะการที่ผมอยู่ตรงนี้ได้ไม่ใช่แค่เพราะตัวเองเพียงคนเดียว...มันยากจังเลยครับกับการต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อทุกๆ คน”

ไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่มีทั้งแฟนคลับ ค่าย และคนร่วมงานอีกมากมาย

“ค่อยๆ ทำค่อยๆ แก้ไป ปินต้องทำใจแล้วก็ยอมรับว่ามันเป็นธรรมชาติของอาชีพนี้”

สองแขนแกร่งยกขึ้นโอบรอบเอวของคนเป็นแม่ทั้งยังซบหน้าเข้าหาหน้าท้องนิ่มด้วยความเหนื่อยอ่อน

มีเพียงที่ตรงนี้ที่ปินแสดงออกถึงความอ่อนแอได้เสมอ

“เราไม่สามารถทำให้มันดีสำหรับคนทุกคนได้หรอกนะลูก” ประภาได้แต่ปลอบคนเป็นลูกด้วยถ้อยคำและสัมผัสอันแสนอบอุ่น หวังให้ปินเข้มแข็งให้มากและผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างราบรื่นที่สุด

“แม่ผิดหวังไหมที่ปินรักฝุ่น” คนถูกถามเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“แม่ดูผิดหวังเหรอ”

“ก็เผื่อแม่ผิดหวังแต่ไม่แสดงออก”

“ปินมีสิทธิ์ที่จะเลือกทุกอย่างในชีวิตด้วยตัวลูกเอง ตอนปินบอกแม่ก็รู้สึกตกใจอยู่เล็กๆ แต่ไม่ได้มากมายอะไร”

“...”

“แม่เข้าใจ ความรักมันห้ามกันไม่ได้หรอก”

ปารินทร์เงยหน้าขึ้นมองคนที่เข้าใจตัวเองที่สุดพร้อมรอยยิ้มบาง

“ปินรักแม่ที่สุดเลย” มือเหี่ยวย่นวางลงบนหน้าผากลูกแล้วตีไปมาเบาๆ

“ฮึบทุกอย่างไว้แล้วก็ไปปลุกฝุ่นมาทานข้าวได้แล้ว”

ลมหายใจที่เจือความเหนื่อยล้าถูกสูดเข้าปอดลึกเพื่อเรียกพลังกายและใจกลับมา ก่อนร่างสูงจะลุกขึ้นหอมแก้มนิ่มดังฟอด

“ครับ”

ประภามองตามลูกชายไปอย่างความอ่อนใจ จากนั้นจึงเดินกลับไปเอาน้ำมาตั้งไว้บนโต๊ะ ขณะที่ปินเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน

“ผมกำลังจะมาปลุกพอดีเลย” ปินเอ่ยทักคนที่กำลังใช้ผ้าซับหยดน้ำออกจากใบหน้าขึ้นพร้อมทั้งเดินตรงไปหา

“ตื่นแล้ว”

“งั้นก็ออกไปทานข้าวกัน”

“อื้ม” ผ้าเช็ดตัวถูกนำไปแขวนให้เรียบร้อย แล้วร่างเล็กก็เดินตามคนตัวโตออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกกระดากอายต่อแม่อีกคนเล็กๆ

--

“ทำไมทานข้าวน้อยจังหืม” ปารินทร์เอ่ยถามขึ้นเมื่อห้องครัวเหลือเพียงตัวเองและคนที่กำลังยืนล้างจานอยู่ข้างตัว

“ไม่ค่อยหิวเลย”

“ไม่หิวก็ทานให้เยอะกว่านี้หน่อย อย่าทำให้ผมเป็นห่วงสิครับ”

คนถูกเป็นห่วงระบายยิ้มก่อนจะถามถึงอีกเรื่องที่เพิ่งจำได้

“ตอนแรกปินบอกว่าวันนี้มีงานไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงแวะมาที่นี่ได้ล่ะ”

“สื่อสารกันผิดพลาดนิดหน่อยน่ะ แต่ก็ดีแล้วแหละเพราะได้มีเวลามาหาแม่กับฝุ่นพอดีเลย”

คนฟังพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้าจากนั้นจึงหันกลับไปล้างจานต่อโดยมีเจ้าหมาตัวใหญ่คอยก่อกวนด้วยการหอมนู่นหอมนี่อยู่ไม่ห่าง



“ไม่อยากกลับเลย” มือเล็กถูกมือหนาจับเอาไว้ทั้งสองข้างพร้อมทั้งแกว่งไปมาเบาๆ ขณะที่ดวงตาเรียวรีทอดมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกอาลัย

“อย่างอแงสิ ไว้มีเวลาก็ค่อยแวะมาใหม่ก็ได้”

“ไม่รู้เมื่อไหร่ถึงจะว่าง”

“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น” ฝุ่นกระชับมือที่จับกันเอาไว้อย่างให้กำลังใจคนทำงาน แล้วร่างบางก็ค่อยๆ ขยับกายเข้าหาแผ่นอกของเจ้าหมาตัวโต สองแขนเลื่อนไปโอบรอบเอวสอบแน่น

“ไม่ว่าต้องเจอกับอะไรฝุ่นก็จะเอาใจช่วยปินเสมอ” เปลือกตาสีอ่อนหลับลงยามที่ปารินทร์ก็วาดแขนกอดอีกคนกลับ

“ผมรู้...เราจะผ่านมันไปด้วยกัน”

“รักปินมาก รู้ใช่ไหม”

“ครับ ผมก็รักฝุ่นมาก”

ฝุ่นเงยหน้ามองคนที่ตัวเองหมดหัวใจ ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อทาบทับริมฝีปากเข้าหาเป็นจูบลึกซึ้ง

รักปินเหลือเกิน

“เดี๋ยวถึงโรงแรมแล้วผมจะโทรหานะ”

ปลายจมูกโด่งยังคงคลอเคลียกับปลายจมูกเล็กยามฝุ่นพยักหน้ารับ สุดท้ายปินก็ค่อยๆ จรดจมูกลงบนแก้มเนียน สูดกลิ่นกายที่แสนตรึงใจเข้าปอดเพื่อเพิ่มพลัง

“ขับรถดีๆ” ฝุ่นเอ่ยบอกเมื่ออีกคนขยับออกห่าง เตรียมตัวกลับ

“ครับ” ปินส่งยิ้มให้พร้อมทั้งเอื้อมมือไปเปิดประตู แล้วร่างสูงก็ก้าวออกจากห้อง ตามด้วยประตูที่ถูกปิดลง


TBC.

ขอกำลังใจให้หมาปิน ฝุ่น แล้วก็คนเขียนรัวๆ เลยยยย
ตอนนี้สั้นเพราะตัดบางส่วนออกไป
เพราะงั้นตอนต่อไปอาจมาเร็วขึ้นนะคะ
(แต่ช่วงนี้ยุ่งก็อาจจะมาอาทิตย์หน้าเหมือนเดิม><)
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า
#secrecyลับรัก


   

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
«ตอบ #332 เมื่อ31-01-2019 20:02:45 »

เอาใจช่วยใก้ผ่านอุปสรรคไปได้ทั้งสองคน   :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
«ตอบ #333 เมื่อ31-01-2019 20:09:58 »

ฝุ่นไหวไหม  :กอด1:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
«ตอบ #334 เมื่อ31-01-2019 20:12:51 »

แมวฝุ่นหมาปินสู้ๆ

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
«ตอบ #335 เมื่อ31-01-2019 20:34:58 »

เอาใจช่วยนะทั้งสองคน

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
«ตอบ #336 เมื่อ31-01-2019 21:15:36 »

 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
«ตอบ #337 เมื่อ31-01-2019 21:22:52 »

เอาใจช่วยทั้งคู่ให้ผ่านไปให้ได้
ฟ้าหลังฝนมักสวยงาม​ สู้ๆนะ

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
«ตอบ #338 เมื่อ31-01-2019 22:04:38 »

สู้ๆน้าาาาาาา

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
«ตอบ #339 เมื่อ31-01-2019 22:14:11 »

รักน้าาทั้งสองคน รักคนเขียนด้วย!!
เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป จับมือกันไว้แน่นๆน้าา :hao5: :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
« ตอบ #339 เมื่อ: 31-01-2019 22:14:11 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Lotsa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
«ตอบ #340 เมื่อ31-01-2019 22:43:30 »

สู้ๆ หมาปิน แมวฝุ่น และโซแอลลลล

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
«ตอบ #341 เมื่อ01-02-2019 04:41:46 »

เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่เลย ประเด็นนี้ค่อนข้างเรียลมากเว่อร์เลยนะคะ จริงๆความปสด.ของคนบางกลุ่มทำชีวิตคนคนหนึ่งพังได้เลยนะ อยากให้ผ่ายช่วงนี้ไปเร็วๆ สงสารฝุ่น;^;

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
«ตอบ #342 เมื่อ01-02-2019 07:40:07 »

สู้ๆ นะทั้งสองคน จูงมือผ่านมันไปด้วยกันนะ.  :กอด1:

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
«ตอบ #343 เมื่อ01-02-2019 13:16:45 »

สู้กับความเป็นจริงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #344 เมื่อ06-02-2019 20:26:09 »

Chapter Seventeen.

“ฝุ่นไม่สบายหรือเปล่าลูก หน้าตาดูไม่สดใสเลย” ประโยคคำถามถูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเมื่อประภาเห็นว่าสีหน้าของฝุ่นดูร่วงโรย แม้แววตาท่าทางจะแสดงออกถึงความสดใสแต่ร่างกายภายนอกกลับไม่เป็นอย่างนั้น

ใต้ตาดำคล้ำ ใบหน้าซีดขาว อีกทั้งยังใช้รองพื้นกลบเอาไว้ทั้งที่ปกติไม่มีความจำเป็น

คนแก่วิเคราะห์กับตัวเองเงียบๆ

“นอนไม่หลับน่ะครับ” ฝุ่นตอบเสียงเบาด้วยรอยยิ้ม ขณะมือยังคงวาดรูปไปเรื่อยๆ

“แต่แม่ว่าเหมือนจะไม่ใช่แค่นอนไม่หลับนะ ฝุ่นทานข้าวน้อยด้วย” สามวันที่ผ่านมาคนรุ่นลูกกินข้าวในแต่ละมื้อไม่เกินสิบคำ ต่อให้คะยั้นคะยอเพียงใดก็เอาแต่ส่ายหน้าบอกว่าไม่ไหว

“มัน...ไม่ค่อยหิว”

“ไปหาหมอดีไหม”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวก็ดีขึ้น วาดรูปกันต่อดีกว่า”

คนแก่ลอบถอนหายใจหากแต่ก็ไม่เซ้าซี้อะไรต่อให้ฝุ่นต้องอึดอัดใจ



“แม่ก็เป็นห่วงอยู่เหมือนกันว่าถ้าฝุ่นอยู่คนเดียวสามวันนี้จะไหวไหม” ประภาคุยกับคนเป็นลูกอย่างเป็นกังวลเนื่องจากตัวเองต้องกลับไปดูบ้านราวๆ สามวัน

(ผมไม่รู้เลยว่าฝุ่นเครียดอะไรเพราะเรื่องข่าวมันก็ทรงตัว ท่าทางภายนอกเขาก็แสดงออกปกติ แต่ร่างกายที่อ่อนแอมันปิดเราไม่มิด)

ความไม่สบายทางกายใช่ว่าปินจะไม่เห็น เวลาวิดีโอคุยกันเขาสังเกตได้ว่าฝุ่นซูบผอมลง อีกทั้งใบหน้ายังดูซีดเซียว ทว่าพอถามอีกคนก็บอกแค่เพียงว่าไม่เป็นไรแล้วก็ยิ้มหวานให้เสียทุกครั้ง

“นั่นสิ แม่อยากให้ไปหาหมอเจ้าตัวก็ปฏิเสธ”

(อาทิตย์หน้าผมมีวันว่างหนึ่งวัน ไว้จะลองคุยดูครับ)

“ยังไงช่วงที่แม่ไม่อยู่ถ้าระหว่างวันปินมีเวลาบ้างก็หมั่นโทรหาฝุ่นบ่อยๆ นะ”

(ครับแม่)

แล้วปารินทร์ก็ขอตัวไปทำงานต่อจากนั้นจึงวางสายไป ทิ้งให้ประภาครุ่นคิดถึงท่าทีของฝุ่นอยู่อย่างนั้น

พรุ่งนี้เธอต้องกลับบ้าน ฝุ่นจะอยู่ได้หรือเปล่า...

--

“ฝุ่นอยู่ได้นะลูก”

“ได้สิครับ สามวันเอง” เป็นอีกครั้งที่ฝุ่นตอบคำถามพร้อมรอยยิ้มเพื่อให้คนตรงหน้าสบายใจ

“ถ้ามีอะไรก็โทรหาแม่ได้นะ”

“ขอบคุณคุณน้ามากนะครับ” ฝุ่นกล่าวขอบคุณแม่ปินด้วยความซาบซึ้ง ด้านประภาก็ยิ้มรับพลางกล่าวคำบอกลา

“จ้ะ งั้นแม่ไปนะ”

“สวัสดีครับ”

คนถูกไหว้พยักหน้ารับก่อนจะเดินออกจากห้องไปแล้วเดินตรงไปทางลิฟต์

ขณะที่คนในห้องค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นราวกับพลังกายที่ทำเป็นว่ามีหมดลงในทันใด

ฮึก

เสียงสะอื้นไห้ถูกเปล่งออกมาโดยไม่มีปิดบังเมื่อทั้งห้องเหลือเพียงตัวเองคนเดียว

‘มันยากจังเลยครับกับการต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อทุกๆ คน’

ร่างเล็กทิ้งตัวซบลงกับประตูอย่างไร้เรี่ยวแรง พร้อมกับที่ประโยคของปินไหลวนเข้ามาในหัว

จะไม่ทำให้ปินต้องเหนื่อยอีกแล้ว...

--

“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าปิน” ภาวิดาถามขึ้นเมื่อหลังจากคุยงานแล้วขึ้นรถมาปินก็เอาแต่ง่วนอยู่กับโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ผมติดต่อฝุ่นไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ปิดเครื่องตลอดเลย” ปินตอบกลับขณะที่มือก็ยังกดโทรออกไม่หยุด ในอกเกิดความร้อนรนขึ้นมาครามครันเพราะถึงเวลานี้มันเริ่มชัดเจนว่าเป็นความผิดปกติ

“อาจจะแบตหมดหรือเปล่า”

“แบตหมดก็ต้องชาร์จสิครับ...ก่อนแม่จะกลับแม่บอกฝุ่นท่าทางไม่ค่อยดี”

ได้ยินดังนั้นภาวิดาก็พลอยไม่สบายใจไปด้วย ทว่าต้องพยายามเก็บอาการเพื่อไม่ให้ปินยิ่งเครียดไปกว่าเดิม

“เอาอย่างนี้ เดี๋ยวเสร็จงานตอนเย็นแล้วเราไปหาฝุ่นที่ห้องกัน”

“ครับ” ปารินทร์ได้แต่รับคำเพราะไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจไปหาอีกคนในตอนนี้ได้



ยิ่งเร่งรีบร้อนรนทุกอย่างยิ่งดูช้าในความรู้สึก กว่างานจะเสร็จ กว่ารถจะขับไปถึง กว่าจะเดินขึ้นห้อง...ปินรู้สึกว่ามันช้ากว่าที่ใจต้องการไปมาก หากแต่สุดท้ายก็มายืนอยู่หน้าห้อง คีย์การ์ดถูกทาบตามด้วยการสแกนนิ้วมือ เมื่อความปลอดภัยถูกตรวจสอบจนเสร็จสิ้นลูกบิดประตูก็คลายการล็อกให้คนด้านนอกเปิดเข้าไปได้

ปินขมวดคิ้วเมื่อในห้องมีเพียงความมืดมิด พอเอื้อมมือไปเปิดไฟก็หันไปมองหน้าผู้จัดการที่มีสีหน้าสงสัยไม่แพ้กัน

“ฝุ่นอาจจะอยู่ในห้องนอนก็ได้” ภาวิดาเอ่ยปลอบทั้งที่ใจเริ่มรู้สึกแปลก กระทั่งปินก้าวยาวๆ ไปเปิดประตูห้องนอนแล้วเดินตามหาอีกคนจนทั่วก็พบเพียงความว่างเปล่า

 “ปิน...ปิน!”

คนถูกเรียกรีบวิ่งกลับออกมา ก่อนจะจับจ้องกระดาษในมือพี่หวานเป็นการถามว่ามันคืออะไร

“จดหมายของฝุ่น”

ดั่งความกลัวที่พยายามพร่ำบอกตัวเองว่าไม่มีอะไรถูกทลายลงด้วยประโยคนั้น

ปินเอื้อมไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาด้วยมือที่สั่นระริก ในอกเหมือนถูกกระชากหัวใจออกไปให้เหลือเพียงความวูบโหวงว่างเปล่า ริมฝีปากได้รูปเม้มเข้าหากันแน่น หลายวินาทีกว่าดวงตาเรียวรีจะเลื่อนไปกวาดอ่านข้อความบนนั้น

‘ถึง...ปิน
ถ้าปินเห็นจดหมายก็หมายความว่าคงไม่เห็นฝุ่นแล้ว
ฝุ่นไม่ได้เป็นอะไร สบายดี และทุกอย่างคือสิ่งที่ฝุ่นตัดสินใจเอง
คิดดีแล้วว่าเวลานี้ กับ ตรงนี้ มันอาจไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมสำหรับเรา
ต่อให้เรื่องมันจะซาลงแต่หลังจากนี้ก็ต้องระวังเรื่องของเราไม่จบสิ้น
สุดท้ายมันก็อาจจะมิสิ่งที่ทำให้ปินต้องเสียหายอีก
ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นแล้ว...
คงถึงเวลาที่ฝุ่นจะได้ใช้ชีวิตแบบคนอื่นๆ ได้เรียนรู้ชีวิตแบบคนทั่วไป
ขณะที่ปินก็จะได้ใช้ชีวิตของ ปิน ปารินทร์ อย่างเต็มที่
ฝุ่นไม่ได้ทิ้งปิน แต่แค่รอจนกว่าจะถึงวันนั้น...วันที่เวลาและอะไรมันเหมาะสมกับเรา
จะติดตามและเป็นกำลังใจให้เสมอ
รู้อยู่แล้วใช่ไหมว่ารักมาก?
                          จะรอ
                         ...ฝุ่น’


เมื่ออ่านจบร่างสูงก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง เหมือนสมองมืดแปดด้าน ราวกับมึนงงแต่ก็ราวกับจะเข้าใจสิ่งที่ฝุ่นทำ

“ปิน” ภาวิดาวางมือลงบนไหล่กว้างแผ่วเบา

“...ฝุ่นไม่อยู่ที่นี่แล้ว” ปินเปล่งเสียงออกมาแทบจะมีเพียงลม

“แล้วปินจะเอายังไง ให้พี่ตามหาฝุ่นให้ไหม”

“...” ไม่มีเสียงตอบรับใด ก่อนปินจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าอย่างเชื่องช้า แล้วมือที่วางอยู่บนไหล่ก็ทำให้ภาวิดารู้ว่าคนตรงหน้ากำลังร่ำไห้

คนเป็นผู้จัดการได้แต่ลูบแผ่นหลังกว้างไปมาเพื่อปลอบประโลม

ไม่มีคำใดถูกเอื้อนเอ่ยออกมานอกจากท่าทางแตกสลายแบบที่เธอไม่เคยได้เห็นจากคนที่ตัวเองดูแลมากว่าสี่ปี



“ปินจะเอายังไงเรื่องฝุ่น”

ภาวิดาทรุดตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามหลังจากที่วางแก้วน้ำส้มลงตรงหน้าปินซึ่งยังมีท่าทีเหม่อลอย

สามชั่วโมงมันมากพอจะให้ปินมีสติมากขึ้นแต่ไม่มากพอจะให้ทำใจได้

“บางที...ผมอาจจะให้เวลาฝุ่นได้ใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป” ประโยคแรกถูกเอ่ยออกมาอย่างเชื่องช้าโดยที่ดวงตาเรียวรีนั้นมองไปทางอื่นดั่งคุยกับความคิดตัวเองไปด้วย

“มันก็จริง หลังจากนี้เราก็ต้องระวังเรื่องนี้ไม่จบสิ้น ผมกับฝุ่นอาจจะต้องรอเวลาที่เหมาะสม”

“หมายความว่าปินจะปล่อยฝุ่นไปอย่างนี้เหรอ”

“ความจริงผมมีวิธีที่จะจัดการเรื่องนี้เอาไว้อยู่แล้ว แต่ในเมื่อฝุ่นอยากทำแบบนี้ผมก็จะเคารพการตัดสินใจของเขา” ริมฝีปากได้รูปถูกขบกัดจนความเจ็บเปลี่ยนเป็นชาหนึบ

“ปิน...”

คนถูกเรียกดึงสายตากลับมามองคนตรงหน้า

“ผมรู้ว่าการตามหาตัวฝุ่นมันไม่ยาก...แต่ผมจะให้เวลาเขาและให้เวลาเราสองคน”

“...”

“และเมื่อเวลานั้นมาถึง ผมจะไปหาเขาเอง”

--

“ฝุ่นตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม”

บลูถามคนเป็นเพื่อนด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่ฝุ่นโทรมาบอกเบอร์ใหม่และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นคร่าวๆ ให้ฟัง

(อื้อ)

“ถ้าอย่างนั้นก็ทำใจให้สบาย ปล่อยวางเรื่องนี้ไปก่อน แล้วเดี๋ยวถ้าว่างเราจะไปหานะ”

(อืม...บ๊ายบาย)

“บาย” วางสายแล้วบลูก็ถอนหายใจออกมาจนคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเอ่ยถามขึ้น

“เป็นอะไร ทำไมถอนหายใจแบบนั้น” ร่างสูงในชุดเสื้อยืดกางเกงนอนก้าวขึ้นเตียง ก่อนเด็กน้อยซึ่งมีสีหน้ากังวลใจจะขยับมานั่งอยู่ข้างตัว

“เรื่องเพื่อนน่ะครับ”

“ทำไม?”

“มีปัญหาชีวิตนิดหน่อย แต่เดี๋ยวเวลาคงทำให้ดีขึ้น”

กัญจน์พยักหน้ารับจากนั้นจึงเอี้ยวตัวไปหยิบไอแพดมาเช็กข่าวสารต่างๆ ด้านบลูก็เอนตัวลงนอนแล้วจับจ้องคนตรงหน้าอยู่อย่างนั้น กระทั่งคนถูกมองหันมาถาม

“มองฉันทำไม”

“แค่อยากมองครับ”

คิ้วเข้มเลิกขึ้นแล้วก็ขมวดเข้าหากันเพราะคำตอบ

“เพราะฉันหล่อใช่ไหม” กัญจน์ถามอย่างเย้าหยอกหากแต่สิ่งที่บลูตอบกลับทำให้รู้สึกเหมือนคิ้วกระตุก

“บลูจะดูว่ามีตีนกาเพิ่มขึ้นกี่เส้นต่างหาก” พูดไปพร้อมยิ้มแฉ่งทั้งยังหลุดหัวเราะอย่างขบขัน พาให้คนถูกว่าว่าแก่ต้องวางไอแพดลงบนโต๊ะข้างหัวเตียงแล้วหันไปตรึงแขนเล็กไว้กับเตียง

“เหมือนเด็กแถวนี้จะไม่อยากนอน” คนที่คร่อมอยู่ด้านบนพูดด้วยสีหน้าที่บลูมองแล้วถึงกับขนลุกซู่

“คะ คุณกัญจน์ บลูแค่พูดเล่นไปอย่างนั้นเอง”

“ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าถึงจะแก่ แต่ก็ยังแข็งแล้วก็แรง”

“อื้อ!”

แล้วคืนนั้นบลูก็ได้รู้อย่างถ่องแท้ว่าคุณกัญจน์ยังคงแข็งแรง พร้อมทั้งได้เรียนรู้ว่าไม่ควรจะแหย่คนอายุมากกว่าว่าแก่อีกต่อไป

--

“นายครับ คุณแก้มมารอแต่เช้าเลย”

กัญจน์พยักหน้ารับเมื่อได้ฟังสิ่งที่คนสนิทรายงานขณะเดินตรงไปยังห้องทำงานด้วยสีหน้าที่ไม่ต่างจากเดิมทั้งที่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้

“คุณคิดจะทำอะไร!”

เสียงหวานแหลมดังขึ้นทันทีที่ก้าวเท้าเข้าห้องจนฐากูรที่เป็นคนเปิดประตูให้นายจากด้านนอกต้องรีบปิดลง

“หมายถึงเรื่องอะไร”

ร่างสูงใหญ่เดินผ่านหน้ามทิราไปนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานด้วยท่าทางไม่ยี่หระ ต่างจากคนซึ่งกำลังจะกลายเป็นอดีตภรรยาที่มีสีหน้าราวกับระเบิดลง

“คุณยื่นเรื่องลาออกจากตำแหน่งงั้นเหรอ”

ร่างบอบบางในชุดเดรสราคาแพงยืนหน้าดำหน้าแดงอยู่ตรงหน้า อีกทั้งมือเล็กยังกำเข้าหากันแน่น บ่งบอกอารมณ์เจ้าตัวว่ากำลังไม่พอใจเพียงใด

“ข่าวไวดีหนิ”

“ไม่ต้องมาพูดถึงเรื่องฉัน คุณคิดที่จะทำอะไรกันแน่”

“คุณเคยพูดว่าระหว่างผมกับคุณใครจะเสียมากกว่า...ตอนนี้ผมไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว” ริมฝีปากได้รูปบิดยิ้มให้คนมองยิ่งรู้สึกเดือดดาน

“หมายความว่ายังไง” น้ำเสียงนั้นดังรอดไรฟัน

“ปกติคุณไม่ใช่คนโง่นี่”

“คุณกัญจน์!”

“ผมไม่จำเป็นต้องใช้หน้าตาทางสังคมอีกต่อไป เพราะฉะนั้นคงรู้ใช่ไหมว่าหลังจากนี้ถ้าผมจะฟ้องหย่าคุณมันก็ง่ายมาก” นิ้วแกร่งเคาะลงบนโต๊ะทำงานช้าๆ ขณะเอียงคอถาม

ด้านมทิราก็ค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อระงับท่าทางของตัวเองยามนึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกสิ่งที่กัญจน์ต้องรักษา

“คุณไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก ถึงคุณจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้วแต่คุณก็ต้องรักษาชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลอยู่ดี”

“การหย่ากับคุณมันทำให้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลผมพังตรงไหน? มันก็แค่ชีวิตส่วนตัวที่ไปด้วยกันไม่รอด”

“...” คนที่คิดว่ายังมีอีกทางออกชะงักกึก คำพูดที่บอกชัดว่าไม่สนใจทำให้มทิรารู้สึกเหมือนกำลังจะจนตรอก

เธอไม่เคยคาดคิดว่ากัญจน์จะกล้าลาออกจากตำแหน่ง

“หรือต่อให้จะพังผมก็ไม่สน”

“นี่คุณ...”

“ผมเตรียมเอกสารและทนายเอาไว้แล้ว ถ้าคุณยังไม่ยอมหย่าก็ไปเจอกันที่ศาล อ้อ...แล้วบางทีหลักฐานการฟ้องหย่าก็อาจจะทำให้ชื่อเสียงของเซเลปคนดังอย่างคุณพังไม่เป็นท่า ถึงตอนนั้นพ่อคุณจะว่ายังไงบ้างนะ”

คนมีชนักติดหลังหน้าซีดเผือด ดวงตาคมสื่อความหมายชัดว่ามีหลักฐานอยู่มากเพียงใด

“นี่คุณขู่ฉันเหรอ” น้ำเสียงนั้นสั่นไหว แตกต่างจากตอนแรกลิบลับ

“คนอย่าง กัญจน์ ศิวะเกียรติ ไม่เคยขู่ใคร”

ดวงตาคู่สวยที่กรีดอายไลน์เนอร์มาคมกริบไหวสั่นระริก ความพ่ายแพ้ที่กำลังจะพานพบส่งผลให้ร่างกายเย็นเยียบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ในอกวูบโหวงเพราะสิ่งที่จะหลุดลอยไปในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า

มทิราไม่ได้เสียดายกัญจน์ แต่เสียดายความสุขสบายที่มี

“...ห้าร้อยล้านพร้อมบ้านของคุณ ไม่เกี่ยวกับสินสมรส” มทิราเอ่ยต่อรอง

“ผมให้คุณหกร้อยล้านแต่ไม่ให้บ้านหลังนั้น”

“แต่ฉัน...”

“ผมมีเงื่อนไขให้คุณเท่านี้”

ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น

ถึงแม้อยากจะต่อรองมากแค่ไหนแต่มทิราก็รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ได้มากกว่านี้

“ตกลง!”

กัญจน์ยกยิ้มแล้วหยัดกายขึ้นไปเปิดประตูเพื่อเอ่ยสั่งงานคนสนิท

“เชิญนายทะเบียนแล้วก็เรียกทนายมาที่นี่เดี๋ยวนี้”

“ครับคุณกัญจน์” ฐากูรค้อมหัวลงก่อนจะเดินออกไปจัดการตามคำสั่ง

“ถ้าเซ็นใบหย่าตอนนี้แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าจะได้หกร้อยล้าน”

ร่างสูงหมุนตัวกลับมาประจันหน้ากับคนพูด แล้วใบหน้าคมก็ดันขึ้นด้วยท่าทีมีอำนาจ

“อย่ามาดึงเกมทั้งที่คุณก็รู้จักคนอย่างผมดี”

สองมือเล็กกำแน่นเข้าหากันขณะฟันขบเข้าหากันจนเกิดเสียง

เธอไม่มีอะไรมาต่อรองผู้ชายคนนี้อีกต่อไปแล้ว...ไม่มีแล้วจริงๆ

--

“กลับกันดีๆ นะครับ ถึงบ้านแล้วรายงานตัวกันด้วย” ปารินทร์เอ่ยบอกเหล่าแฟนคลับมากมายตรงหน้าด้วยรอยยิ้มบาง

“ค่าาาาา” กลุ่มคนตอบกลับอย่างพร้อมเพรียง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรอกระทั่งนักร้องในดวงใจก้าวขึ้นรถจึงค่อยๆ พากันสลายตัว

ด้านคนบนรถก็ทิ้งตัวพิงกับเบาะอย่างอ่อนแรง รอยยิ้มเมื่อครู่เลือนหายจากใบหน้า เปลือกตาหนาปิดลงให้ภาพของใครบางคนฉายวาบเข้ามาในหัว

“ไหวไหมปิน” ภาวิดาถามคนข้างตัวขึ้นด้วยความเป็นห่วง

ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนปินยังคงเป็นปินคนเดิม หากแต่คนซึ่งมีหน้าที่ดูแลอีกคนรู้ดีว่าใจปินกำลังบอบช้ำเพียงใด

“ครับ” คนถูกถามรับคำโดยที่ดวงตายังคงปิดอยู่เช่นเดิม

“พี่หมายถึงใจน่ะไหวไหม”

คำถามนั้นทำให้ปารินทร์ลืมตาขึ้นมอง สายตาของคนสองวัยมองสบกันด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง ก่อนคนอายุน้อยกว่าจะเอ่ยตอบเสียงราบเรียบ

“ต่อให้ไม่ไหวก็ไม่มีทางเลือกอยู่ดีไม่ใช่เหรอครับ”

ภาวิดากลืนน้ำลายก้อนเหนียวหนืดลงคอเพราะไม่มีคำใดจะตอบกลับ ขณะที่ปินก็ไม่มีอะไรจะพูดต่อจึงเลือกจะปิดเปลือกตาลงตามเดิม

จะมีประโยชน์อะไร คิดถึงแทบตายก็ยังไม่ใช่เวลาที่จะไขว่คว้าฝุ่นกลับมา

--

1 เดือนผ่านไป

“แม่ พี่ปินมาแล้ว”

เสียงตะโกนเรียกคนที่ง่วนอยู่กับสวนดอกไม้เล็กๆ ข้างบ้านดังเข้ามาในหูของคนที่ก้าวขาลงจากรถ ดวงตาเรียวรีกวาดมองไปโดยรอบ แล้วความทรงจำเมื่อครั้งก่อนก็ไหลย้อนเข้ามาในหัว

ครั้งที่กลับมากับใครอีกคน

“ปิน”

คนถูกเรียกหันหน้าไปหาผู้ให้กำเนิด เพราะมัวแต่คิดอะไรกับตัวเองปารินทร์จึงไม่รู้ว่าแม่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่

พรึบ

“เป็นยังไงบ้างหืม”

อ้อมกอดและคำถามนั้นทำให้คนที่คิดว่าตัวเองเข้มแข็งขึ้นจากเดือนที่แล้วรู้ว่ามันไม่ใช่

ไม่รู้เมื่อไหร่ที่แก้มเปียกชื้นด้วยหยดน้ำตา หากไม่มีอ้อมแขนของคนเป็นแม่ร่างคงทรุดลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

“ไม่เป็นไรปินไม่เป็นไร เจ็บก็แค่ร้องไห้ออกมา” ถ้อยคำปลอบประโลมมาพร้อมกับสัมผัสอ่อนโยนบนแผ่นหลังกว้าง ความอ่อนแอครั้งนี้มากเกินกว่าครั้งไหนในชีวิตปิน แม้กระทั่งคนเป็นน้องยังต้องเดินมากอดพี่ชายจากทางด้านหลัง

“ผม...คิดถึงฝุ่น” มีเพียงประโยคเดียวที่ดังออกมาจากริมปากได้รูปอย่างสั่นไหว และนั่นก็ทำให้ประภากอดลูกแน่นยิ่งกว่าเดิม

ลูกชายเธอยังขนาดนี้ แล้วคนที่ไม่มีใครเคียงข้างจะขนาดไหนกัน

--

อึก

ร่างบางทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นห้องน้ำอย่างหมดแรงเมื่ออาหารที่กินเข้าไปเพียงน้อยนิดถูกขย้อนออกมาจนหมดสิ้น พาให้เรี่ยวแรงซึ่งไม่ค่อยมีตั้งแต่แรกปลิวหาย สภาพของฝุ่นในตอนนี้จึงเหมือนดั่งผักเปื่อยเน่า นอนกองอยู่อย่างนั้นจวบจนความอ่อนแรงพรากสติไป



ภาพความดำมืดที่ไร้ซึ่งความคิดและความรู้สึกทำให้คนที่ตกอยู่ในห้วงนั้นอยากอยู่ตรงนี้ตลอดไป ทว่าสุดท้ายแสงสีขาวก็ค่อยๆ แทรกเข้ามาแทนที่ ดึงให้ต้องกลับมาพบเจอกับโลกแห่งความเป็นจริง

“ฝุ่น...ฝุ่น ได้ยินบลูไหม” 

เสียงเรียกนั้นดังเข้ามาในโสตประสาท เปลือกตาสีอ่อนขยับปรือเปิดด้วยความยาก ก่อนความพร่าเลือนตรงหน้าจะแปรเปลี่ยนเป็นแจ่มชัดขึ้น

“บะ บลู”

“เป็นยังไงบ้าง โอเคหรือเปล่า”

ฝุ่นไม่ได้ตอบคำถามเนื่องจากกำลังกวาดสายตามองไปโดยรอบ แล้วก็ยิ่งมึนงงหนักเมื่อที่นี่มันไม่ใช่ห้องนอนในตึกอย่างเคย

“ที่นี่ที่ไหน”

“โรงพยาบาล...รู้ไหมว่าเราตกใจมากที่เปิดประตูห้องน้ำเข้าไปเจอฝุ่นสลบอยู่ ถ้าวันนี้เราไม่บังเอิญมาหาพอดีจะเป็นยังไง”

น้ำเสียงของเพื่อนเต็มไปด้วยความเป็นห่วง ทว่าคนที่อยู่ในอาการสับสนมึนงงยังคงประมวลผลทุกอย่างอย่างเชื่องช้า

โรงพยาบาล...

“มา...ที่นี่ได้ยังไง”

“คนขับรถของเราพามา”

ใบหน้าเล็กกดลงรับ ใจอยากจะลุกขึ้นนั่งหากแต่เรี่ยวแรงมีพอแค่ให้กระดิกนิ้วได้

“ฝุ่นพักเถอะ ดีขึ้นแล้วค่อยตื่นนะ”

ฝุ่นอยากจะลุกมาคุยกับเพื่อน ถามไถ่เรื่องราวต่างๆ ให้รู้เรื่องกว่านี้แต่สุดท้ายก็ไม่อาจฝืนความอ่อนแอทางกายได้



“คนไข้มีภาวะความเครียดสูง ร่างกายอ่อนแรง...แล้วก็ยังเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า” แพทย์หญิงดูผลจากการประเมินแล้วเอ่ยรายงาน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า

“โรคซึมเศร้า?!” บลูถามย้ำด้วยเสียงที่ดังไม่น้อย

“ตอนนี้ยังเป็นภาวะเสี่ยงเท่านั้นค่ะ จากแบบสำรวจแล้วมันยังไม่รุนแรงถึงขั้นที่จะเป็นโรคซึมเศร้าเลย ฉะนั้นเราจึงต้องสร้างกำลังใจให้คนไข้รู้สึกดีขึ้น โดยขั้นแรกหมอจะแนะนำให้คนรอบข้างช่วยกันค่อยๆ ปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตของคนไข้ก่อน”

“แล้วมันต้องทำยังไงบ้างครับ”

จากนั้นคนเป็นหมอก็ค่อยๆ อธิบายรายละเอียดต่างๆ ให้บลูพยักหน้ารับอย่างตั้งใจฟัง



แกร๊ก

เสียงเปิดประตูดังเข้ามาในห้วงความคิดให้คนที่เหม่อมองไปนอกหน้าต่างดึงสายตากลับมา จากนั้นฝุ่นจึงเอ่ยถามบลูออกไปเสียงเบา

“หมอว่ายังไงบ้าง”

คนถูกถามทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงพลางระบายยิ้มสดใสให้คนบนเตียง

“ร่างกายฝุ่นอ่อนแรง ต้องทานอะไรบ้างแล้วนะ”

“...” คนไม่รู้สึกถึงความหิวได้แต่นิ่งเงียบ

“ระหว่างนี้บลูจะอยู่กับฝุ่นไม่ไปไหนเลย “

“เราเกรง...”

“ไม่ต้องเกรงใจ พอดีคุณกัญจน์ไปต่างประเทศ บลูเหงาก็เลยหนีมาเที่ยวระยองสักหน่อย”

“คุณกัญจน์?” คิ้วคู่สวยเลิกขึ้นกับชื่อที่ออกมาจากปากเพื่อน

“คนที่เราดูแลน่ะ” บลูบอกโดยไม่มีปิดบัง เมื่อเผลอนึกถึงคนแก่แล้วแววตาก็แปรเปลี่ยนไปจนฝุ่นสังเกตได้ “ไว้ฝุ่นออกจากโรงบาลแล้วเราไปเที่ยวกัน”

คนที่เผลอแสดงความรู้สึกอ่อนหวานรีบดึงสติกลับมาแล้วเปลี่ยนไปคุยอีกเรื่อง

“อือ” ฝุ่นรับคำก่อนจะยิ้มบางๆ ยามคิดได้ว่าไปผ่อนคลายสักหน่อยคงดีเหมือนกัน

“แต่ว่าจะออกจากโรงบาลได้ต้องร่างกายแข็งแรงก่อน อยากกินอะไรเดี๋ยวเราลงไปซื้อให้”

“ไม่...”

“ห้ามพูดว่าไม่เป็นไร เนี้ย บลูหิวมากๆ เลย ถ้ามีเพื่อนกินข้าวด้วยคงดี” ประโยคของฝุ่นถูกเอ่ยขัดทันใดทั้งยังคล้ายกับเป็นการเว้าวอนให้เจ้าตัวต้องทานข้าวเป็นเพื่อนบลูไปในตัว

“...เอาข้าวผัดก็ได้” สุดท้ายคนบนเตียงก็บอกเมนูที่คิดออกเพียงอย่างเดียวแก่เพื่อนไป

“โอเค บลูชอบกินนมหรือขนมอะไรไหม” ร่างเพรียวหยัดกายลุกขึ้นขณะถามต่ออีกเล็กน้อย

“นม...จืด ขนม...ทาโร่อบกรอบ” สิ่งที่แวบเข้ามาในหัวถูกพูดออกไปอย่างเชื่องช้า ทว่าความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่สิ่งที่คนป่วยชอบ หากแต่เป็นสิ่งที่ใครอีกคนโปรดปราน

คนที่อยู่ในความคิดถึงของฝุ่นทุกลมหายใจ

“ได้เลย งั้นรอแป๊บ”

--

ก๊อก ก๊อก

“เช้าก็ไม่ทานข้าว เที่ยงก็ทานไปนิดเดียว...แม่เลยเอานมร้อนกับขนมปังปิ้งมาให้”

คนที่นั่งเล่นกีตาร์อยู่บนเก้าอี้ตรงระเบียงหันกลับไปมองแม่ที่เดินเข้ามาพร้อมถาดขนมและนมน่าทานในมือ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจทำคนไม่อยากทานอะไรรู้สึกหิว ปินจึงทำเพียงยิ้มรับ

“แม่วางไว้เลยครับ”

“แม่ไม่แค่วาง แต่จะนั่งดูปินทานด้วย”

“ผม...”

“ปินกำลังบกพร่องในหน้าที่นะ...อย่าลืมสิว่านอกจากผลงานแล้วร่างกายก็เป็นของ ปิน ปารินทร์ ด้วยเหมือนกัน”

ประภาเลิกคิ้วขึ้นขณะมองหน้าคนเป็นลูก กระทั่งปินต้องค่อยๆ วางกีตาร์ในมือลงแล้วหยิบนมขึ้นมาดื่ม

เห็นดังนั้นคนเป็นแม่ถึงได้ยิ้มออกมา

“หวานบอกแม่ว่าปินได้หยุดตั้งสามวัน ไม่อยากไปเที่ยวต่างประเทศบ้างเหรอหืม ไปใกล้ๆ บ้านเรานี่ก็ได้ ค้างสักคืนสองคืนแล้วค่อยกลับ”

“อยากอยู่กับแม่มากกว่า” ปารินทร์เอ่ยเอาใจคนที่นั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวให้คนฟังโคลงหัวไปมาเบาๆ

“ปากหวานจริงเชียว...แต่แม่ว่าปินไปพักผ่อนบ้างก็ดีนะ ทำงานเหมือนหุ่นยนต์แบบนี้เดี๋ยวจะไม่ไหวเอา”

“แค่นี้ผมไหวอยู่แล้ว” แก้วนมที่พร่องลงไปกว่าครึ่งถูกวางลงบนโต๊ะโดยที่รอยยิ้มบางบนใบหน้าหล่อเหลาซูบเซียวยังคงอยู่อย่างนั้น “ขนาดไม่มีหัวใจยังอยู่ได้เลย”

ปินยังคงยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่ฝืนเต็มทนในสายคนเป็นแม่

“อดทนนะปิน ฝุ่นเองก็ต้องอดทนมากเพื่อปินเหมือนกัน” มือเหี่ยวย่นวางลงบนฝ่ามือใหญ่ยามที่ประภาเอ่ยปลอบคนเป็นลูกด้วยความเห็นใจ

“บางทีผมก็คิด หรือผมดูจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดีพอฝุ่นเลยทำแบบนี้”

น้ำเสียงทุ้มนุ่มสั่นไหวเล็กๆ จนประภาต้องบีบกระชับมือให้แน่นขึ้น

“มันไม่ใช่ว่าไม่ดีพอ ก็อย่างที่ฝุ่นว่า ให้เวลามันถึงจุดที่เหมาะสมกว่านี้คงดีกว่า”

“...”

“ก็ถือซะว่าปล่อยให้ฝุ่นได้ใช้ชีวิตอย่างที่ฝุ่นควรจะได้ใช้ ไว้ปินกับฝุ่นพร้อมเมื่อไหร่ค่อยว่ากันใหม่...อะไรที่คู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกันหรอกนะลูก”

ปารินทร์ลอบสูดลมหายใจ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงเพื่อระงับความเจ็บปวดวูบโหวงในอก

ขอให้เป็นดั่งที่แม่ว่า


TBC.

มาพร้อมชามมาม่า อิอิ
จริงๆก็ไม่ถนัดและไม่อยากเขียนเลย
แต่มันควรจะมีด้วยเหตุและผล ด้วยความเป็นฝุ่น
เพราะงั้นขอกำลังใจให้พี่ฝุ่นกับหมาปินกันเยอะๆน้า
ให้กำลังใจเราด้วยยย
แล้วเจอกันตอนหน้าค่าาา
#secrecyลับรัก


   

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #345 เมื่อ06-02-2019 20:51:12 »

แงๆๆๆสงสารน้องฝุ่น

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #346 เมื่อ06-02-2019 21:06:26 »

เลาเข้าใจฝุ่น ฝุ่นไม่อยากให้ปินเหนื่อย
น่าสงสารทั้ง2คนมากๆ :hao5:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #347 เมื่อ06-02-2019 21:33:47 »

ชอบคุณกัญจ์ แดดดี่ สุดๆๆๆๆๆๆ   :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #348 เมื่อ06-02-2019 21:46:35 »

เครียด

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #349 เมื่อ06-02-2019 22:00:41 »

มันไม่ง่ายเลยจริงๆ​   สงสารคู่ปินฝุ่นมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
« ตอบ #349 เมื่อ: 06-02-2019 22:00:41 »





ออฟไลน์ tipppppp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #350 เมื่อ06-02-2019 22:02:45 »

ฮืออออออออออออออ เห็นใจทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ btoey

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #351 เมื่อ06-02-2019 22:03:48 »

น้ำตาซึมไปเลย :o12: :o12:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #352 เมื่อ06-02-2019 23:03:51 »

จะเลือกทางไหนก็เจ็บทั้งคู่. แต่เดี๋ยวก็ดีขึ้นเน๊อะ.  :กอด1:

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #353 เมื่อ06-02-2019 23:58:28 »

สู้ๆ นะทั้งสองคน   :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #354 เมื่อ07-02-2019 00:00:54 »

 :hao5: ร้องตามหมาปินไปแล้ว ฮือออ รอแทวฝุ่นให้ไหวนะ :กอด1: ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #355 เมื่อ07-02-2019 00:04:05 »

 :mew6: :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #356 เมื่อ07-02-2019 00:04:33 »

แงง กดดันอ่ะ แล้วจะผ่านไปได้ไหมอ่ะถ้าไม่อยู่ด้วยกัน  :ling3:

ขอให้สองคนได้เจอกันเร็ว ๆ นะ

ส่วนคุณกัญจน์ เด็ดขาดมากค่ะ ส่วนบ้านนั้นเก็บไว้ให้ใครน้าา

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #357 เมื่อ07-02-2019 00:23:44 »

สงสาร  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Lotsa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #358 เมื่อ07-02-2019 00:42:22 »

ฮื้ออออออออ อึมครึมมากค่ะ อ่านไปน้ำตาหล่นแมะ สงสารทั้งสองคนมากๆ ขอให้มันผ่านไปด้วยดีน้าาา

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
«ตอบ #359 เมื่อ07-02-2019 00:53:00 »

มีแต่คนป่วยทั้งนั้น  :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด