เหตุผลของมังคุด “อย่าสิวะ โว้ยยยยย อะไรวะเนี่ย”
โห่คุด อย่าทำเสียงแบบนั้นหน่อยเลย เสื้อไปทางโน้นแล้ว ที่เหลือก็แค่กางเกงนี่แหละ จะขัดขืนไปทำไมเนี่ย เดี๋ยวปล้ำซะเลยหมดเรื่อง ชอบให้ใช้กำลัง ชอบหรือไงบทโหด
ถ้าชอบเดี๋ยวจัดให้เลยนะ เอามั้ยเนี่ย หือ เอามั้ย
“นิดเดียว เดี๋ยวก็เสร็จแป๊บเดียวเอง ดิ ดิ ดิ นะ”
ทำหน้าอ้อน พยักหน้าซ้ำหลายครั้ง เหมือนอยากให้คนที่นอนหอบอยู่ใต้ร่างพยักหน้าตอบรับกลับมา
แต่ก็ยังเห็นอยู่เหมือนเดิม อาการเดิม
“ส่ายหัวทำไม ดิ ดิ แป๊บเดียวแหละ น่า”
ฝ่ามือลากไล้สัมผัสแตะต้องลงมาจนถึงยอดอก เคล้นคลึงกระตุ้นให้อีกฝ่ายรู้สึกเพิ่มขึ้น
แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ เมื่อคนที่นอนนิ่งเริ่มบิดร่างกายหนีไปอีกทาง แต่ก็ถูกพลิกให้หันกลับมาหา ตามด้วยริมฝีปากที่แนบลงไปที่ยอดอกสีเข้ม ปลายลิ้นดูดดุนขบเม้ม คลึงเคล้าแผ่วเบาและเร่งเร้าเพิ่มขึ้นเพราะเสียงครางแผ่ว ๆ ในลำคอของคนที่บอกเพียงคำเดียวว่า ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอม ถ้าไม่เมา
“โอ้ยยยยย ฮื่อ พอแล้ว อะไรวะ อึก”
ชอบ
ชอบแต่ไม่ยอม มันหมายความว่าไงวะ แบบนี้มันหมายความว่าไงเนี่ย
“พันซ์ ไม่เอาแล้ว พอเถอะวะ”
คิดว่าหนูคุดมันยอมแล้วนะ มันยอมแล้วเชียว แล้วทำไมถึงได้ลุกพรวดพราดหนีอีกวะเนี่ย
เฮ้ย เดี๋ยว ๆ กว่าจะถอดเสื้อมันได้ ลงแรงไปเยอะแล้วนะ
แล้วนี่ ลุกขึ้นไปคว้าเสื้อมาใส่เฉยเลย เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย มันอะไรวะเนี่ย
“ทำไมไม่ได้วะ ไม่ได้ ยังไงก็ไม่ได้ กี่ครั้งก็ไม่ยอม ไม่ได้ตลอดเลย ถ้าแย่ขนาดนั้นก็บอกมาสิวะ ว่าห่วย จะได้รู้ไงว่ามันเพราะอะไร เพราะอะไรวะคุด บอกมาหน่อยเหอะว่ามันเพราะอะไร”
ทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว
โกรธก็ได้ ไม่ว่า แต่ไม่อยากให้รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำไม่ได้
เหตุผลมันทุเรศ
กูเป็นแบบนี้ หน้าแบบนี้ ถอดหมดจะไปมีอะไรน่าดู ขนาดไม่ถอดยังไม่น่าดู แล้วถ้าถอดจะยิ่งทุเรศขนาดไหน
ใครจะไปเหมือนมึงล่ะครับ หล่อตั้งแต่หัวจรดเท้า หน้าตาผิวพรรณ แบบนี้มันนายแบบชัด ๆ
แล้วคิดสภาพตอนทำอย่างว่ากัน
มันอุบาทว์ตัวเอง อายว่ะ หน้ามันจะแดง ไม่อยากให้ใครเห็น ตอนทำหน้าทุเรศ
ถ้าเมา ๆ พอได้ แต่นี่สติครบ ไอ้คราวก่อนโน้นไม่นับ อันนั้นไม่นับจริง ๆ เพราะตอนนั้นมันเผลอไปเยอะ เลยไปถึงไหนต่อไหน แต่พอมานั่งคิดดูถึงได้รู้ว่าต่อไปต้องไม่ทำอีก เพราะไม่อยากให้ไอ้พันซ์เห็นความทุเรศของตัวเอง
ถึงจะ......อยากมีอะไรด้วย......แต่ก็ไม่ใช่แบบสติครบ ๆ แบบนี้ ทำใจไม่ได้ เวลามองหน้าไอ้พันซ์นั่นแหละ มันจะหล่อไปไหนของมันมากมายวะ เห็นแล้วเครียด
“คุด อย่าเงียบสิวะ บอกมาเถอะ นะ อะไรก็ได้ บอกมาเหอะ รับได้หมดแหละ แค่บอกเหตุผลมาก็พอ จะได้รู้
ทำแบบนี้มัน........มันจะทำให้เป็นบ้า”
น้ำเสียงของคนพูด มีแต่แววตัดพ้อน้อยใจ แววตาที่จ้องมองมายิ่งทำให้อยากหลบหน้า
ฝ่ามือกำแน่นที่ชายเสื้อ ทำได้แค่ก้มหน้าเงียบ ๆ และไม่รู้จะพูดแก้ตัวยังไง
ไม่ใช่ไม่อยากทำ
แต่จะบอกได้ยังไงว่าทุเรศตัวเอง จนบางทีก็อยากจะหลบหน้าไปให้พ้น ๆ
“ไม่มีอะไร ไม่มีจริง ๆ”
ได้แต่พูดคำพูดเดิม ๆ และก้มหน้านิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น
อยากจะบ้าตายแล้วโว้ยยยยยยยยยยยย ทำไมไอ้พันซ์มันต้องหน้าตาดีเกินผู้เกินคนด้วยวะ
เครียดโว้ยยยยยย
“กินเหล้ากัน”
อะไรนะ
อีกแล้วเหรอ
อีกแล้วเหรอ
หนูคุดมันจะกินเหล้าอีกแล้ว
ทำไม ไม่กินเหล้านี่ทำไม่ได้หรือไง บรรยากาศเมา ๆ มันดีตรงไหน นาน ๆ ทีแบบไม่เมาบ้างไม่ได้หรือไง ถ้าไม่เมา ทำไม่ได้ถึงขนาดนั้นเลยเหรอ
“ไม่กิน.....”
ปฎิเสธเสียงแข็ง แล้วหนุ่มคลีโอคนหล่อก็จัดการล็อคคอคนที่นั่งหันหลังกลัดกระดุมเสื้อ ไม่ยอมพูดไม่ยอมจาให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขน กดปลายจมูกลงที่เส้นผมของคนที่เตรียมจะหนีซ้ำ ๆ หลายครั้ง
เอาสิวะ
จะได้รู้กันไป
ไม่บอกก็ไม่บอก ไม่บอกแม่งปล้ำ เอาดิ ปล้ำแม่งเลย อยากทำเห็น ๆ แล้วทำไมต้องเมา ไม่เมานี่แหละดี ให้มันรู้กันไปเลย
“เฮ้ย ก็บอกแล้วไงว่ากินเหล้าก่อน ไม่ได้หรือไง อื้อออออ ไอ้พันซ์ อึก”
เอาเซ่ กินทำไมเหล้า ไม่กิน ให้ตายก็ไม่กิน ให้มันรู้กันไปเลย ว่าหนูคุดมันจะไม่ยอม
“พันซ์ อึก อื้อออออออ ไอ้พันซ์เว้ยยยย อึก โธ่โว้ยยยย”
ผลักให้คนที่นั่งนิ่งเอนกายลงบนฟูกนอน และแนบริมฝีปากลงคลึงเคล้าริมฝีปากของคนไม่ยอม
ที่กำลังจะอ้าปากพูดหาทางเลี่ยงไม่ยอมอีกแน่ ๆ
ถ้าได้พูด ยังไงก็ไม่ยอม
อย่าให้พูดเป็นดีที่สุด
มือไม้อ่อนขนาดนี้ แต่ปากบอกไม่ยอม มันจะอะไรกันนักหนาวะ ให้มันรู้กันไปเลย
เสื้อที่เคยสวมถูกปลดออกอย่างรวดเร็วจากฝีมือของหนุ่มคลีโอคนหล่อ และถูกขยุ้มจนยับยู่ยี่ก่อนจะขว้างทิ้งไปให้ห่างรัศมีของคนที่จะคว้ามาสวมให้มากที่สุด
“พันซ์ ไอ้พันซ์ บ้าแล้ว ฮื่ออออออ อึกกกกกกก ฮ่ะ”
ดูมัน ยอมขนาดนี้
มีอารมณ์ซะขนาดนี้ แต่ยังจะไม่ยอม ดูมันทำ มันน่าโมโหมั้ยแบบนี้ มันน่าโมโห
ริมฝีปากที่คลึงเคล้าผละออกห่างและผละใบหน้าขึ้นจ้องมองคนที่สะบัดหน้าหนี
จัดการตรึงข้อมือไว้แน่นเหนือหัว
และอะไรที่ควรจะถูกปลดออกจากร่างกายก็ลอยละลิ่วปลิวว่อนไปไกล แม้กระทั่งกางเกงในที่ปกปิดสิ่งสุดท้ายในร่างกายที่ควรจะเปิดเผยก็ถูกจัดการรูดทิ้งไปแบบไม่ไยดี
ร่างกายแข็งแกร่งคร่อมทับอยู่เหนือร่าง ซุกไซร้ทั้งปากทั้งจมูกไปทั่ว จนมังคุดร้องไม่ออก
อยากหนี แต่ก็ไม่อยากหนี ชอบที่จะถูกจูบแต่ไม่อยากถูกจูบทั้งตัวแบบนี้ ถึงแม้จะชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้น แต่ก็ไม่อยากให้เกิดตอนที่สติประมวลผลได้ครบถ้วนแบบนี้
ปลายนิ้วร้อนแกร่ง สอดแทรกเข้ามาภายในช่องทางที่เปิดรับ เอียงขาหลบแต่ก็ถูกจับให้แยกกว้างเพื่อรองรับบางอย่างที่กำลังจะถูกเติมเต็มเข้ามาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
“ไม่ยอมนักใช่มั้ย ไม่ยอม ไม่ยอมดีนัก มันก็ต้องเจอแบบนี้” ได้ยินเสียงพูดในลำคอของคนพูดแต่ก็ทำได้แค่เอียงหน้าหนี
หน้าคงแดงไปหมด
แบบนี้มันยิ่งกระตุ้นอารมณ์ยิ่งกว่าเป็นไหน ๆ ยอมรับ แต่ไม่ได้คิดหนีอีกแล้ว เคลิบเคลิ้มเกินกว่าจะคิดอะไรได้อีก
ปลายนิ้วถูกสอดเข้าไปลึกล้ำมากขึ้น พร้อมกับที่ร่างกายส่วนหน้ากำลังแข็งขึงขึ้นจนต้องแอ่นร่างรับสัมผัส
ฝ่ามือที่เคยตรึงข้อมือของมังคุด ผละออกอย่างช้า ๆ และเปลี่ยนเป็นเกาะกุมส่วนที่กำลังแข็งขืนของร่างกายที่ปรากฏตรงหน้า
รูดรั้งแผ่วเบา เชื่องช้า และกดปลายนิ้วที่ส่วนปลายคลึงเคล้าจนหยดน้ำใส เอ่อล้นออกจากส่วนปลายยอดที่กำลังตั้งชัน
“ฮื่อออออออ อ๊า อึก”
คนที่เคยผละหนี หอบหายใจหนัก และหลับตาแน่น เกร็งร่างกายสั่นสะท้านเคลิบเคลิ้มกับรสสัมผัสที่ได้รับ จนเผลอหลุดเสียงครางแผ่ว ๆ ออกมา เรียกรอยยิ้มของหนุ่มคลีโอคนหล่อที่อมยิ้มกับความสำเร็จของตัวเอง
ทั้งเสื้อทั้งกางเกงถูกปลดทิ้ง และเผยร่างกายให้อีกฝ่ายได้เห็น
และมังคุดก็ทำได้แค่รีบหลับตาแน่น เพราะบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหวขยับไปมา ให้เห็น จนต้องรีบหลับตาลงด้วยความอาย
ส่วนของร่างกายที่แข็งขืนเริ่มขยับเข้าหาและสอดแทรกให้แนบชิดกับช่องทางที่เปิดกว้างเตรียมพร้อม กดคลึงอยู่ที่ปากทางก่อนจะชำแรกเข้าไปอย่างเชื่องช้า และค่อย ๆ กดเข้าไปหาจนถึงส่วนลึกเต็มความยาวของร่างกาย
สัมผัสถึงแรงบีบรัดที่เพิ่มขึ้น จนต้องขบริมฝีปากแน่น
และเอนร่างลงกอดรัดคนที่นอนหอบหายใจหนักไม่ต่างกัน
“ฮื่ออออออ อ๊ะ” เสียงครางในลำคอของอีกฝ่าย ทำให้มังคุดต้องปรือตาขึ้นมอง และ รีบหลบตาหนีเมื่อถูกจ้องมองมาด้วยความรู้สึกร้อนแรง
ทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี
ทั้งจังหวะโยกคลึงเชื่องช้า และความรู้สึกที่เอ่อล้นขึ้นมาจนเหมือนจะหยุดเอาไว้ไม่ได้
“อา อึก โอ้ยยยยยย อื่อ”
จากเชื่องช้า คลึงเคล้า
ค่อย ๆ สัมผัส ค่อย ๆ แนบชิดร่างกาย
เรียบเรื่อย
และเริ่มขยับให้แนบชิด จากช้าจนกลายเป็นแรงกระแทกกระทั้นตามจังหวะ
สุดท้ายเมื่อร่างกายเผยความต้องการออกมาจนหมดสิ้น ความรุนแรงจึงปรากฎขึ้นให้เห็น
ร่างกายกระหน่ำใส่กันไม่ยั้ง ส่วนปลายของความแข็งแน่นคลึงเคล้าบิดวนให้สัมผัสภายในที่บีบรัด ลึกล้ำมากขึ้น ถอนออกและกระแทกซ้ำกลับเข้าไปอีกหลายครั้งนับไม่ถ้วน
ร่างที่อยู่เบื้องล่างสั่นสะท้านตามแรง และเกาะเกี่ยวเรียวขาที่สะโพกแกร่งแน่น รองรับทุกความรู้สึกที่โหมกระหน่ำเข้ามาภายใน
“อ้า ฮื้ออออ อ่ะ อ่ะ ฮื่อ”
เสียงร้องครางตามจังหวะร่างกาย ยิ่งกระตุ้นอารมณ์มากยิ่งขึ้น
เรียวขาที่รัดแน่นถูกแยกออกกว้างด้วยฝ่ามือร้อนรุ่ม กดให้พาดแนบอยู่ที่ลาดไหล่ เพื่อจะได้เข้าถึงความรู้สึกของกันและกันมากที่สุด
หยุดนิ่งไม่ถึงอึดใจและเพิ่มแรงกดซ้ำ ๆ รุนแรงเพิ่มขึ้นกว่าในคราวแรก
“อ๊า อุ๊ก อ๊า เร็ว ๆ ไม่ไหวแล้ว อื้อ”
เสียงร้องขอที่สลับกับเสียงครางทำให้ ต้องเพิ่มความถี่ในการกดร่างกายเข้าไปสัมผัสภายในช่องทางที่ตอดรัดแรงขึ้น
ความรู้สึกถึงที่สุดอยู่ตรงหน้า
ลมหายใจหอบหนักและเหมือนโลกทั้งใบกำลังจะดับวูบลง
ร่างที่อยู่เบื้องบนปรนเปรอความชูชันที่สั่นไหวตามแรงกระแทกด้วยฝ่ามือ ร้อนรุ่ม รูดรั้งแรงรัวขึ้น และกระหน่ำร่างกายตามจังหวะการสอดแทรก ไม่ยอมหยุดนิ่ง
“อ๊า ฮื่อ พันซ์ ฮื่อ พันซ์”
ใบหน้าที่สะบัดไปมา เสียงร้องครางแสดงความรู้สึกต้องการ ยิ่งทำให้ความรุนแรงเพิ่มขึ้น
จังหวะสุดท้ายที่กระหน่ำซ้ำ มาพร้อมกับบางอย่างที่หลั่งทะลักออกมาจากส่วนปลายของร่างที่แอ่นกายเกร็งแน่นตอบรับทุกการกระทำที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ภายในที่ตอดรัดสัมผัสได้ถึงแรงฉีดพ่นความร้อนออกจากบางอย่างที่แข็งขืนอยู่ภาย จนต้องบีบรัดซ้ำอีกหลายครั้ง
เพียงไม่นาน
เมื่อความสงบเข้ามาแทนที่
ร่างกายที่เคยแข็งขืนถูกถอดถอนออก แม้จะยังเสียดายความอบอุ่นภายในที่ได้เข้าไปสัมผัส
หนุ่มคลีโอ้คนหล่อทรุดร่างลงแนบชิดกับคนที่นอนหอบหายใจหนัก ๆ และกระพริบตาถี่ ๆ หลายครั้งเหมือนอยากจะปรับสายตาและลมหายใจให้เข้าที่ หลังผ่านบทรักร้อนแรงมาไม่นาน
“ขอโทษ....” น้ำเสียงของคนบอก แสดงความรู้สึกจากใจจริง และแนบปลายจมูกเข้าหาที่ข้างแก้มของมังคุดที่ยังคงนอนนิ่ง ๆ และยกฝ่ามือขึ้นลูบไล้ เส้นผมของคนที่นอนทับร่างกายของตัวเองเอาไว้ไม่ยอมขยับไปไหน
“เรื่องอะไร” เอ่ยถาม และหลับตาลงฟังคำพูดของอีกฝ่ายที่กำลังจะเอ่ยบอก
“ขอโทษที่เอาแรง แทงไม่ยั้ง คราวหน้าไม่ยอมอีก จะเอาให้ยิ่งกว่านี้ ทำมันตอนไม่เมานี่แหละ ไม่ยักกะเป็นอะไร ดีกว่าตอนเมาเป็นไหน ๆ”
รีบผลักใบหน้าของคนที่ทับอยู่ไม่ยอมลุกออกห่างทันทีเมื่อฟังเหตุผลของคนที่ทำเหมือนกำลังสำนึกผิด
มันไม่ได้โกรธ แต่มันแซว แล้วดูมันพูด กูอยากจะบ้า มันจะพูดทำไมวะเนี่ย เพื่ออะไรวะ ตรงเผงแบบนั้นไม่อยากจะฟังแล้วไอ้พันซ์มันเป็นบ้าไปแล้ว ก็เพราะงี้ไงล่ะ เพราะงี้ไง นึกว่าจะไม่มีอะไรแล้ว แต่ก็เป็นแบบนี้อีกจนได้
เพราะอย่างนี้นี่แหละ มันเพราะอย่างนี้ ถึงไม่อยากทำไงเล่า เพราะมันจะโดนแซวแบบนี้ไง ถ้าเมาซะก็หมดเรื่องมันจะได้ไม่ต้องอายแบบนี้ กูอายโว้ยยยยยย โธ่โว้ยยยย
หมอนที่วางอยู่ห่างออกไปถูกดึงมาปิดหน้าของมังคุด ที่ใช้หมอนเป็นที่หลบหน้าในทันที ใบหน้าคงกำลังแดงเถือก ดูทุเรศยิ่งกว่าตอนทำเรื่องอย่างว่าเป็นไหน ๆ
ไม่เอาแล้วโว้ยยยยยยยย ไม่มีคราวหน้าแน่ ๆ ยังไงก็ไม่มี สาบานได้
“เฮ้ย ปิดทำไม คุด หนูคุดปิดทำไม เดี๋ยวก่อนเซ่ เข้าใจหรือยังเรื่องที่พูดอ่ะ เข้าใจมั้ย”
มันยังไม่เลิก ไอ้พันซ์มันยังจะพูดอะไรอีกไม่เลิก แต่ไม่อยากฟังแล้ว ไม่เอา กรูไม่ฟังแล้ว ไม่ฟังอะไรทั้งนั้นแล้ว เลิกแซวกรูซะทีสิวะ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า อาย อย่ามาอาย จำไว้ คราวหน้าถ้าไม่ยอมดี ๆ อายกว่านี้แน่ คอยดู ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
หนุ่มคลีโอหัวเราะอย่างย่ามใจ และยิ้มไม่เลิก ที่ทั้งผ้าห่มทั้งหมอนถูกลากไปคลุมร่างกายของคนที่ไม่ยอมฟังเรื่องที่พูด
เออ อายให้ตาย
อายไปเลย
ดี
อาย ๆ แบบนี้แหละดี ชอบ
หน้าแดง ๆ แบบนี้แหละดี อายเข้าไป จะได้รู้ว่าถ้าไม่ยอมดี ๆ มันจะเป็นยังไง เดี๋ยวจะทำให้อายจนร้องไม่เลิกเลย ระวังตัวเอาไว้ให้ดี ฮ่า ฮ่า ฮ่า แกล้งหนูคุดนี่มันสนุกจริงๆ เลยเว้ยยยย
Fin
จบเจงๆแย้ววว ขอบคุณคนอ่านและคนเม้นท์ทุกๆท่านที่ติดตามให้การสนับสนุนเรื่องนี้มาโดยตลอด ขอบคุณเท็นคนแต่งด้วย เรื่องน่ารักมากมาย เด๋วจะให้เพื่อนแป๋วไปขอให้อีก คึคึ