Partner of life คู่ชีวิต
ตอนที่8
“ชาเป็นไงบ้าง” เขาถามอีกฝ่ายลอดสาย มือถือโทรศัพท์สั่นเล็กน้อย เขานั่งมองข้าวของในห้องที่บางส่วนโดนเก็บออกไปแล้ว ของที่เป็นของสำคัญของอีกฝ่าย
“ชาคิดถึงพีท” ชาตอบเสียงอ่อน
พีทยิ่งได้ยินแบบนั้นเขายิ่งอยากจะขับรถไปหาอีกฝ่ายที่บ้านซะเดี๋ยวนี้
“พีทก็คิดถึงชา” พีทตอบพร้อมกับเม้มปากแน่นความคิดถึงเอ่อล้นในใจ “ให้พีทไปรับมั้ย แล้วเราสองคนมาอยู่ด้วยกัน”
ชาได้ยินแบบนั้นความคิดแว่บนึงก็อยากทำ แต่สำนึกดีก็ห้ามไว้
“อย่าเลยพีท ชาไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่ไปมากกว่านี้”
“ทำไมล่ะ ชาไม่รักพีทแล้วเหรอ” พีทรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
“ชารักพีทสิ แต่พีทลองคิดดูนะ ถ้าเราสองคนลอบเจอกันอีก ถ้าโดนจับได้ ชาอาจจะโดนแม่คุมชาหนักกว่าเดิม เราอาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลยนะ” ชาพยายามพูดอย่างใจเย็น
“แต่พีทอยากเจอชา พีทกลัว..” พีทพูดประโยคหลังเสียงแผ่วเบา เขากลัว กลัวเหลือเกินว่าจะไม่ได้เจออีกฝ่ายอีก
“พีทต้องใจเย็นนะ เราต้องค่อยๆคิด”
“แต่พีทกลัวว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก!” เขาเริ่มใจร้อน คิดมากไปหมด ทำไมชายังใจเย็นได้นะ
“แต่ถ้าเราลอบเจอกันมันอาจจะหนักกว่าเดิมนะ”
“งั้นก็หนีตามกันไปเลยดีมั้ย ไหนๆก็เรียนจบแล้ว!”
คำพูดของพีททำเอาชาสะอึกไม่น้อย ทำไมอีกฝ่ายไม่มองอะไรที่มันกว้างกว่านี้ กลับเอาแต่อารมณ์
“พีทคิดง่ายไปไหม”
“แล้วจะคิดอะไรให้มากมายล่ะ พีทกลัว กลัวพ่อแม่ชาจะไม่ให้เราเจอกันอีก กลัวเราต้องเลิกกัน!” พีทกำหมัดแน่น ความกลัวเอ่อล้น ภาพของแม่ชาที่พูดกับเขายังติดตา คำว่าพูดที่บอกให้ออกจากชีวิตชาซะยังก้องอยู่ในหัว
“พีทต้องโตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้วนะ!” ชาพูดเสียงแข็งบ้าง
“เลิกพูดเรื่องผู้ใหญ่สักที! ทำไมต้องทำอะไรให้มันยุ่งยาก หนีไปกับพีททเถอะ พีทจะดูแลชาเอง!” พีทพูดพร้อมเดินไปมาอย่างหนูติดจั่น เขาทำอะไรไม่ถูกเลย
“พีท...” ชาเรียกคนรักเสียงแผ่วเบา เขารู้สึกอ่อนแรงไปหมด พีทไม่เคยจะคิดได้
“หนีมากับพีทนะ เดี๋ยวพีทจะดูแลชาเอง” พีทพูดพร้อมเดินไปหยิบกุญแจรถ
“พอเถอะพีท ใจเย็นก่อน”
“ไม่เย็นแล้ว ออกมานะชา” พีทพูดเสียงอ้อนแกมขอร้อง
ชากำโทรศัพท์แน่น เขาไม่รู้จะทำยังไงดี เขารักพีทมาก แต่สุดท้ายเขาก็รักครอบครัวตัวเองเหมือนกัน
“ชาว่าพีทอย่าเพิ่งสนใจเรื่องนี้เลย เอาเวลาไปอ่านหนังสือสอบไฟนอลก่อน สอบเสร็จเราจะมาหาทางออกกันอีกที” ชาพยายามพูดอย่างใจเย็น ไม่ให้อีกฝ่ายร้อนไปมากกว่านี้
“พีทจะไปอ่านหนังสือรู้เรื่องได้ไง เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้!” พีทหมุนกุญแจรถในมือไปมา เขาควรทำยังไงดี
“ชาขอนะ อ่านหนังสือก่อน สอบเสร็จเราจะมาหาทางออกเรื่องนี้ด้วยกัน”
“สรุปคือชาจะไม่หนีไปกับพีทใช่มั้ย!” พีทพูดเสียงแข็ง
“สนใจเรื่องสอบก่อนนะ อีกไม่กี่วันก็สอบแล้ว”
“ได้!!” พีทตอบเสียงประชดพร้อมวางสายอย่างโมโห
“โถ่เว้ย!!”
“ปัง!!” เสียงโทรศัพท์กระทบประตูห้องเสียงดัง เขารู้สึกโมโห เสียใจ ผิดหวังไปหมด
ทำไมชาถึงไม่ออกมาด้วยกัน
หรือชาจะไม่รักเขาแล้ว ต้องการให้เขาเป็นผู้ใหญ่แต่ทำไมชาไม่เคยคิดจะออกมาเริ่มด้วยกันล่ะ!
“ไอ้พีทมึงใจเย็นๆ” ต้นมองหน้าเฟรมที่มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตั้งแต่เขามา ไอ้พีทก็กระดกเหล้าไม่หยุด
“มันเป็นไรวะ” เจมส์พูดขึ้น
“กูก็ไม่รู้ถามไรก็ไม่ตอบ โทรจิกให้กูมา พอมาถึงก็กระดกเหล้าไม่หยุด” เฟรมตอบ เขามาถึงคนแรก พีทโทรตามให้เขามาที่ผับของที่บ้านมันโดยบอกว่ามีปัญหา แต่ก็ไม่บอกอะไร
“มึงมีไรเล่าให้พวกกูฟังได้นะ” ต้นหันไปตบบ่าเพื่อน
พีทนั่งนิ่งเสียงเพลงดังสนั่นในผับไม่เข้าโสตประสาทเขาสักนิด มุมที่เขานั่งคือวีไอพี คนจึงไม่พลุกพล่านนัก
“พ่อแม่ชาจับได้ว่ากูกับชาอยู่ด้วยกัน” พีทเอ่ยปากพูดออกมาเป็นประโยคแรกตั้งแต่นั่ง
“เฮ้ย!!” เพื่อนทั้งสามคนตะโกนออกมาเสียงดัง
“แล้วเขาว่าไงบ้างวะ” เฟรมถามขึ้น
“หึ แม่ชาก็ด่ากูปาวๆ แถมยังไล่ให้กูออกจากชีวิตลูกเขา” พีทตอบพร้อมยิ้มกระดกเหล้าต่ออย่างสมเพชตัวเอง
“ทำไมร้ายแรงขนาดนั้นวะ” เจมส์ถามอีกคน
“พ่อแม่ชาเป็นผู้ดีในวัง มีขนบธรรมเนียม แล้วกูคงไปทำลูกเขาออกจากกรอบเลยไม่พอใจ”พีทตอบพร้อมยิ้มเหยียด
เพื่อนทั้งสามมองหน้ากัน พวกเขาพอจะรู้เรื่องที่บ้านชามาบ้างแต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้
“และที่สำคัญเขาด่าว่ากูไม่มีอนาคต!” พีทบีบแก้วเหล้าในมือจนแก้วสั่น เขาเจ็บใจ แค้นใจในสิ่งที่แม่ชาพูด และเขาก็เถียงไม่ไดสักนิด เหมือนว่าเงินที่เขามีจะไม่พอสำหรับอีกฝ่าย
“ใจเย็นๆนะมึง ทำไมเขาถึงพูดอย่างนั้นวะ” ต้นถามขึ้นพร้อมตบบ่าเพื่อนอย่างปลอบใจ คู่นี้ไม่เคยเจออุปสรรค และไม่ค่อยจะทะเลาะกันร้ายแรง แต่เมื่อเจอก็เจออุปสรรคใหญ่เลยทีเดียว
“เขาถามว่าวางแผนอนาคตไรไว้บ้าง กูตอบไม่ได้ เพราะกูยังไม่คิด แม่ง! ต้องคิดอะไรมากวะ สุดท้ายกูก็ต้องมาช่วยกิจการที่บ้าน” พีทกำหมัดแน่นยิ้มเยาะตัวเองก่อนจะพูดต่อ “พอกูบอกว่าที่บ้านทำธุรกิจอะไรก็เหยียดกูซะ บอกว่าธุรกิจที่บ้านกูป่าเถื่อน น่ากลัว ไม่เหมาะกับผู้ดีแบบเขา!”
พีทพูดจบเพื่อนทั้งสามมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจ ปัญหาใหญ่เลยนะนี่
“แล้วมึงจะเอาไงต่อวะ” เฟรมถามขึ้น
“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่บ้านเขากีดกันกูกับชา แต่พอกูบอกชาให้หนีไปด้วยกัน เขาก็ไม่ยอม!”
คำพูดของพีททำเอาเพื่อนทั้งสามตกใจ
“เฮ้ย! ทำไมมึงถึงพูดงั้นวะ” เจมส์ปรามเพื่อน
“ใช่ มึงไม่ควรทำงั้น ทำเป็นเด็กๆไปได้ มันไม่ใช่เด็กมัธยมที่จะมาหนีตามกันปะ”เฟรมพูดต่อ
“แล้วกูต้องทำไงละสัส ใครๆก็บอกว่าให้กูเป็นผู้ใหญ่ แล้วผู้ใหญ่ต้องเป็นไงล่ะ แค่รักกันอยากอยู่ด้วยกันมันไม่พอเหรอวะ!”พีทพูดขึ้นเสียงดังมองเพื่อนอย่างไม่พอใจ เพื่อนทั้งสามคนเลยต้องนิ่งลง
“เอะอะไรเสียงดังวะ” เสียงทุ้มดังขั้น ร่างสูงในเสื้อเชิร์ตปลดกระดุมสามเม็ดเดินเข้ามาหาน้องชายที่แหกปากเสียงดังลั่น
“พี่พลสวัสดีครับ” ทั้งสามคนยกมือไหว้ ยกเว้นผู้เป็นน้องชาย พลพยักหน้าให้เพื่อนน้องชายก่อนจะนั่งตรงข้ามน้องชายแล้วมองหน้า
“มึงเป็นไรไอ้พีท”ตาคมดุแบบเดียวกับน้องชาย หน้าตาที่ละม้ายคล้ายกันจ้องหน้าคนตรงหน้า
“....” พีทไม่ตอบแต่จ้องหน้าพี่ชายของตน
“เอ่อ มันมีปัญหากับแฟนนิดหน่อยอะครับ” ต้นเป็นฝ่ายตอบแทน
“น้องชาแสนน่ารักอะเหรอ ทำไมวะ เค้าทิ้งมึงแล้วเหรอ” พลพูดพร้อมกระตุกยิ้มอย่างยียวน
“เฮ้ย!!” เพื่อนทั้งสามลุกขึ้นห้ามทันทีเมื่อเห็นพีทลุกขึ้นจะเอาเรื่องพี่ชายของตน
“ฮ่าๆๆ มึงมันหมาบ้าชัดๆไอ้พีท” พลหัวเราะเสียงดังลั่นเมื่อเห็นท่าทีน้องชาย
“มึงหุบปากเดี๋ยวนี้เลย!” พีทพูดเสียงเข้มใส่พี่ชายพร้อมยอมนั่งลงแต่โดยดี
“ไหน มึงมีอะไร พูดกับกูดิ” พลพูดเสียงจริงจัง จ้องหน้าน้องชาย ลึกๆเขาเป็นห่วงไม่น้อย แต่กวนไปงั้น เพราะตีกันมาตั้งแต่เด็กเลยชิน
“ที่บ้านชาเขาขอให้ผมเลิกยุ่งกับชา” พีทพูดขึ้น เขาไม่อยากเล่าเรื่องเดิมๆซ้ำๆ มันเจ็บใจ
“เพราะไรวะ เพราะมึงเป็นแบบนี้เหรอ ใจร้อน เอาแต่ใจ ปากหมา พาลูกเขาไปกกโดยไม่เข้าตามตรอกออกตามประตู”
คำพูดของพลทำเอาพีทชะงัก อีกฝ่ายรู้ได้ไง
พลเห็นท่าทีของน้องชายละนึกขำที่เขาบังเอิญพูดถูก
“มึงคิดดีๆนะพีท ถ้าวันนึงมึงมีลูก แล้วลูกมึงโดนผู้ชายที่ไหนไม่รู้ที่หน้าตาเลวๆ บ้านมีอิทธิพล พาลูกเขาไปกกไว้โดยมาสนใจอะไร มึงจะรู้สึกไงวะ”
พีทนั่งนิ่ง ถ้าเป็นเขา เขาก็คงไม่ยอม
“ใครก็ไม่ยอมทั้งนั้นถูกปะวะ”
“แต่ผมรักชา ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี เราแค่อยู่ด้วยกัน ดูแลกัน” พีทพยายามพูด
“ใช่ แค่พ่อแม่เขารู้เหรอ อยู่ดีดีมาเจอมึงกับลูกเขาแบบนั้นคงช็อก”
พีทขมวดคิ้วแน่น มันรู้ได้ไง “มึงรู้ได้ไงพล”
“กูแอบฟัง” พลกระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนพูดต่อ “พ่อแม่ชาผู้ดีเก่าขนาดนั้นคงยิ่งแล้วใหญ่ เขาหัวโบราณจะให้มาไม่คิดมากเหมือนบ้านเราไม่ได้”
พลสอนน้องอย่างคนผ่านโลกมาก่อน ทำไมเขาจะไม่รู้จักน้องชายดี ลูกชายคนเล็ก ที่บ้านโอ๋สุดๆ อยากได้ไรก็ได้ ไม่เคยมีใครขัดใจ พ่อแม่ตามใจทุกอย่าง ตอนมอปลายพาแฟนผู้ชายไปเอาในบ้าน พ่อเจอยังไม่ด่าแม่งเลย
“แล้วผมต้องทำไง”
“เขาต้องการอะไรจากมึงละ เขาด่าอะไรมึงเยอะสุด”
“เขาบอกผมไม่มีอนาคต” พีทตอบพร้อมเม้มปากแน่น
“งั้นมึงทำให้เขาเห็นสิว่ามึงมีอนาคต! ไม่ใช่ไปชวนลูกเขาหนีตามแบบนี้!” พลพูดพร้อมส่ายหน้าสมกับเป็นไอ้พีทจริงๆ เอาแต่ใจ!
“ก็ผมกลัว กลัวว่าจะไม่ได้เจอชาอีก” พีทพูดเสียงแผ่ว ความคิดในสมองตีกันไปหมด
“ถ้ามึงยังรั้น ระวังมึงจะไม่ได้เจอเขาอีกตลอดชีวิต!” พลเตือนน้องชายที่หน้าเริ่มนิ่ง
พลพูดจบพีทไม่ตอบอะไรได้แต่ยกแก้วเหล้ากระดกไม่หยุด
“เออๆ ซดไป กูให้มึงวันนึง เดี๋ยวกูเปิดวิสกี้ให้” พลพูดพร้อมจะยกมือสั่ง
“ไม่ต้อง เหม็น!”พีทกระแทกเสียงใส่ เขาเหม็นเลยเลือกที่จะกินเหล้าที่ไม่แพงมากแทน ทั้งที่ปกติแทบไม่กิน
“เอ้า ไอ้นี่ปกติแดกแต่เหล้าแพง วันนี้เสือกอย่างแดกถูกๆ ก็ตามใจไม่เปลือง” พลไม่พูดอะไรต่อได้แต่มองน้องชายนิ่งๆ
เพื่อนทั้งสามมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจ ดีนะที่เฮียพลมา ไม่งั้นพวกเขาคงหยุดหมาบ้าอย่างไอ้พีทไม่ได้
พลหิ้วปีกน้องชายที่เมาเละขึ้นรถพร้อมหันไปถามเพื่อนน้องชาย
“มันสอบอีกทีวันไหน”
“อีกสองวันพี่” เจมส์เป็นฝ่ายตอบ
“จะสอบแล้วหนังสือก็ยังไม่อ่าน เอาแต่มาเมาหัวราน้ำ” พลบ่นพร้อมมองน้องชายแล้วส่ายหน้า ถ้าพ่อแม่ชามาเห็นสภาพนี้รับรอง ไมได้เกิดแน่!
“เดี๋ยวกูพามันกลับบ้านเอง พวกมึงกลับเถอะ”
เพื่อนทั้งสามพยักหน้าเข้าใจ
ครืน ครืน เสียงโทรศัพท์พีทสั่น พลหยิบมาดู เห็นเบอร์ที่โทรเข้ามาแล้วก็คิดหนักไม่น้อย
“โหล”
“พีท หายโกรธชายัง” ชาถามเสียงอ่อย เขานอนไม่หลับเลยกับท่าทางล่าสุดของอีกฝ่ายที่คุยกัน ไลน์ไปก็ไม่ตอบ
“เอ่อ ไอ้พีทมันเมา นี่พี่พล พี่ไอ้พีท” พลเป็นฝ่ายตอบ
“อ้าวเหรอ ชาขอโทษครับ แล้วพีทเป็นไงบ้าง” ชาปวดหนึบในใจไม่น้อยเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายเมาอีกแล้ว
จะสอบแล้วยังกินเหล้าอีกเหรอ เขารู้ว่าเสียใจ เขาก็เสียใจ แต่เขายังไม่เห็นต้องกินเหล้าเลย
“มันเมามากอะ” พลตอบแค่นั้นไม่อยากพูดมากให้อีกฝ่ายคิดมาก ฟังจากเสียงก็น่าคิดมากไม่น้อยแล้ว
“งั้นฝากพี่พลดูแลพีทด้วยนะครับ ยังไงเดี๋ยวชาโทรหาพีทพรุ่งนี้”
“โอเคๆ”
ชาวางสายเสร็จเขานั่งนิ่งมอบรูปที่ถ่ายกับพีทบนหน้าจอโทรศัพท์ไม่หยุด แววตาสับสนไปหมด เมื่อไหร่จะเลิกแก้ปัญหาด้วยการกินเหล้าซะที ดีใจก็กินเหล้า เสียใจก็กินเหล้า
เมื่อไหร่จะโตสักที!
เช้าวันต่อมา พีทตื่นขึ้นมาในตอนสาย เขาปวดหัวไปหมด เมื่อคืนกินหนักแถมกินเหล้ายี่ห้อที่นานๆจะกินก็แฮงค์ไปเลย
“พีทเป็นไงบ้างลูก” เขามองผู้หญิงที่ถือแก้วกาแฟดำมาให้เขา ผู้หญิงที่น่ารักที่สุดในชีวิตเขา
“แม่ครับ” พีทยิ้มน้อยๆ “ผมปวดหัว”
“เมื่อคืนเมาเละซะขนาดนั้นก็ไม่แปลกหรอก พี่พลแบกเรามาแม่เห็นละตกใจเลย”ดาราพูดกับลูกชาย เขามองใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู ไม่ว่าพีทจะโตขนาดไหนก็ยังดูเป็นเด็กเสมอสำหรับเธอ
“ไปเจออะไรมาละไอ้เสือ ถึงปล่อยให้เมาหัวราน้ำขนาดนั้น” พัฒน์ผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาอีกคนพร้อมมองสภาพลูกชายที่น่าตลกไม่น้อย
พีทนั่งนิ่งไม่ตอบอะไรเขามึนหัวไปหมด
“เอานี่ กาแฟกำกินซะ จะได้หายแฮงค์” ดารายื่นแก้วให้ลูก
“หื้ม เหม็นอะแม่ กาแฟไรเนี้ย” พีทปิดจมูกพร้อมรู้สึกคลื่นไส้ทันที
เขารีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ
“อ้วกกกกก !!” ผู้เป็นแม่ตกใจรีบเข้าไปดู
พัฒน์ส่ายหน้าเล็กน้อย สงสัยลูกยังค้างจากเมื่อคืนเลยอ้วกไม่หยุด
**********************************************************
มาต่อแล้วครับ พีทเหม็นเก่ง อ้วกเก่งนะช่วงนี้ อิอิ
อ่านคอมเมนต์มีคนกลัวแบดเอนดิ้ง บอกเลยเรื่องนี้ไม่แบดเอนดิ้งนะครับ แฮปปี้ดีฮ่าๆ
ขอบคุณทุกคนที่แ่านและคอมเม้นต์ครับ