Photo(3)
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นหลายครั้งภายในห้องนอนสีขาวอันเงียบสงบ มีแสงสว่างจากอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดม่านไว้ บนเตียงมีชายหนุ่มตัวเล็กที่สวมเพียงเสื้อยืดตัวโคร่งนอนคุดคู้อยู่ และผ้าห่มผืนหนาที่ถูกดึงขึ้นมาปิดตัวท่อนบนมากกว่า
"ตื่นได้แล้วครับ ทีจะไปเรียนแล้วนะ" หลังจากเก็บภาพที่ชื่นชอบจนพอใจและเก็บกล้องตัวโปรดเข้าที่เรียบร้อย เจ้าของห้องอีกคนถึงได้ก้มลงไปกระซิบบอกคนที่ยังหลับสบายอยู่บนเตียงผ่านผ้าห่ม แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาใดตอบกลับมา
ไอทียืดตัวขึ้นยืนตรง มองแฟนหนุ่มขี้เซาของตัวเองแล้วอมยิ้มอย่างนึกเอ็นดู ไม่มีสักครั้งเลยที่จะปลุกด้วยคำพูดดีๆ แล้วได้ผล
"มิ้มลุกได้แล้ว เดี๋ยวก็ไปเรียนสายหรอก" ลองเรียกออกไปอีกครั้ง แต่คำตอบยังคงเป็นความเงียบเหมือนเดิม
ไอทีส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนนั่งลงข้างเตียง เขาก้มลงไปหาคนขี้เซาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการกระซิบ ผ้าห่มผืนหนาที่ใช้เป็นที่บังแสงถูกดึงออกให้เห็นหน้าคนหลับชัดๆ ก่อนปลายจมูกโด่งจะไล้ไปบนผิวหน้าเนียนๆ ลากผ่านสันกรามมาเรื่อยๆ จนถึงใบหูแล้วจงใจงับเบาๆ เป็นเหตุให้คนโดนคุกคามในฝันสะดุ้งตื่น
"ที" เสียงงัวเงียเอ่ยเรียก มิ้มลืมตามามองเพียงแป๊บเดียวก็หลับตาลงอีกครั้ง
"ทีจะไปเรียนแล้วนะ"
"อือ"
"ตื่นได้แล้ว"
"ตื่นแล้ว"
"ลุกไปอาบน้ำ"
"เดี๋ยวไป"
"เดี๋ยวนี้ ไม่ใช่เดี๋ยวไป"
"อือ"
"หรือว่าลุกไม่ไหว"
โดนแซวเข้าไปคนฟังเลยรีบลืมตาขึ้นมาทันที ใบหน้าน่ารักที่เข้ากับขนาดตัวเล็กๆ งอง้ำเหมือนเด็ก จนไอทีอดไม่ไหวต้องฝังจมูกลงบนแก้มนิ่มๆ ไปหนึ่งที
"ต้องให้ทีปลุกแบบเมื่อกี้มั้ย"
"ไม่เอาอ่ะ กลัว เหมือนฝันว่าโดนแมวงับหูเลย"
"ยังดีที่เป็นแมว"
"แล้วคิดว่าเป็นอะไร"
"เป็นที่รักของมิ้มไง ลุกได้แล้วครับ รีบอาบน้ำเดี๋ยวก็เรียนไปไม่ทัน ถ้าทีไม่มีเรียนเช้าจะช่วยอาบให้อยู่หรอก"
"เวอร์แล้ว"
"ก็นึกว่าลุกไม่ไหว เมื่อคืนทีคึกมากเลยรู้เปล่า"
ด้วยความหมั่นไส้คนขี้โม้มิ้มเลยลุกขึ้นนั่งแล้วยกมือตีหน้าผากไปหนึ่งที
"ทำร้ายร่างกายได้แสดงว่าไหว"
"ก็ไหวไง"
"งั้นทีไปเรียนก่อนนะ รีบๆ ลุกด้วยห้ามนอนต่อ ถึงแล้วจะไลน์หา"
"ไลน์อย่างเดียวนะ"
"จะพยายามครับ" ไอทียิ้มทะเล้นก่อนหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป
ลองได้รับปากแบบนี้ที่ว่าไลน์หาคงไม่ได้มีแต่ข้อความแน่ๆ ร้อยทั้งร้อยต้องมีรูปเซลฟี่แนบมาด้วย ส่งเยอะจนจะเก็บเป็นคอลเลคชันไปเปิดแกลเลอรีได้อยู่แล้ว
มิ้มมองบานประตูที่ปิดลงแล้วอมยิ้มตามหลัง นึกถึงนิสัยแปลกๆ ของแฟนตัวเองแล้วก็ขำ ไอทีชอบถ่ายรูปตัวเองส่งมาให้ และเขาเองก็ชอบรูปที่อีกฝ่ายส่งมาให้เหมือนกัน
"เมื่อคืนเป็นไงบ้างวะ ไอ้ทัพมันว่าไง" เป็นประโยคแรกที่เอฟเอ่ยถามหลังจากเจอหน้าเพื่อนรักในคลาสวันถัดมา ดูจากสีหน้าแล้วท่าทางจะไม่สบอารมณ์เท่าไร
"ยังปกติดี"
"ปกติ? แต่เมื่อโวยวายลั่นเลยนะมึงน่ะ"
"มันตกใจนี่หว่า ความลับแตกใครไม่ตกใจวะ"
"ก็ยังไม่แตกมั้ยวะ"
"ไม่ได้เจอกับตัว มึงก็พูดได้ดิ"
"กูว่ามึงอย่าคิดมากเลย เราไม่ได้ทำอะไรเสียหายนะเว้ย ไอ้ทัพก็เพื่อนมึงตั้งแต่มัธยม รู้จักกันก่อนกูอีก มันต้องเข้าใจมึงดิ"
"เข้าใจก็เหี้ยแล้วอย่างมันน่ะ อีกอย่างกูไม่ได้สนิทกับมันขนาดนั้น เรียนก็คนละห้อง แค่จำหน้าได้เลยชวนมาอยู่ด้วยกันแค่นั้น"
"เหรอ แค่นั้นเหรอ"
"เสือก"
เอฟหัวเราะเบาๆ เมื่อโดนด่ากลับ เรื่องความสัมพันธ์แปลกๆ ระหว่างสองคนนี้ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ไม่เห็น ไปหาพวกมันที่หอทีไรก็เห็นทัพมันชอบหยอกเพ้นท์แบบถึงเนื้อถึงตัวทุกที เลยกลายเป็นประเด็นที่ทำให้เขาชอบยกมาแซวเพื่อนสนิทบ่อยๆ
"เอาน่ามึง เนียนๆ ไปก่อน ถ้ามันมาจี้ถามว่าไอ้คนในรูปใช่มึงหรือเปล่าค่อยว่ากัน"
"ถ้าเป็นแบบนั้นจริงกูสติแตกแน่ๆ" ขนาดเมื่อวานยังตกใจแบบโคตรมีพิรุธ ฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงเหตุการณ์ที่เอฟยกตัวอย่างมา ไอ้ทัพคงเค้นจากเขาจนรู้ความจริงแน่
"มึงก็ทำใจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ สิวะ เตรียมคำอธิบายไว้เลย ไอ้ทัพแม่งไม่อะไรหรอก กูว่ามันชอบด้วยซ้ำถึงได้ซื้อบุ๊คไป"
"มึงไม่เข้าใจอ่ะเอฟ" เพ้นท์เริ่มงอแง เขาไม่อยากให้ใครรู้ ไม่อยากให้ความลับแตก เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องเป็นความลับตลอดไป คนที่รู้มีแค่เอฟคนเดียวก็พอ
"มึงก็กังวลมากไป"
"รู้"
"งั้นก็หยุดคิด มันไม่รู้หรอกถ้ามึงไม่บอก หรือถ้ามึงคิดจะบอกก็ชวนมันมาถ่ายคู่กันเลย"
"ตลกแดกเหรอมึง ไม่ถ่ายเว้ย!"
"เออ เรื่องของมึง คิดมากว่ะ"
เพ้นท์ถอนหายใจใส่ เรื่องนี้จะให้หยุดคิดไปเลยคงยาก เขาต้องเตรียมคำแก้ตัวดีๆ อย่างที่เอฟบอกหากโดนทัพต้อนจนมุมขึ้นมาจริงๆ แต่อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นเลยจะเป็นการดีกว่า เพราะคำพูดต่างๆ ที่เตรียมไว้ไม่มีทางได้พูดออกไปแน่ๆ เนื่องจากเขาสติแตกก่อน
"แล้วมึงเห็นรูปที่โพสต์เมื่อคืนยัง"
"เห็นแล้ว" เพ้นท์เพิ่งเห็นรูปที่เอฟโพสต์เมื่อเช้า แถมยังตกใจแทบช็อคเพราะตอนเปิดดูรูปไอ้รูมเมทจอมกวนประสาทดันมายืนซ้อนอยู่ด้านหลัง ยังไม่นับที่เมื่อคืนขึ้นมานอนเบียดเขาบนเตียงอีก ยังดีที่อาการช็อคจนสติหลุดเหมือนวิญญาณหนีออกจากร่างช่วยสยบทุกอย่างเอาไว้ได้ ทัพมันเลยแค่แซวเขาเล่นๆ เรื่องติดตาม FxxanPxx แต่ถ้ามันสังเกตดีๆ จะเห็นว่าแอคเคาต์ที่เขาเล่นไม่ใช่คนติดตาม แต่เป็นเจ้าของแอคเคาต์เลยต่างหาก ไม่รู้จะขอบคุณยังไงที่มันตาถั่ว
"คนดูเขาบอกว่าธรรมดาไปว่ะ อยากได้เด็ดกว่านี้"
"ไปเด็ดกิ่งไม้ใบหญ้าไป เรื่องมาก"
เอฟหัวเราะถูกใจกับการปั้นหน้าหงุดหงิดของเพื่อนรัก รู้จักกันมาสามปีก็เห็นมันทำหน้าบึ้งมากกว่ายิ้ม แต่ที่เจอบ่อยสุดเห็นที่จะเป็นตอนเปลือยกับสีหน้าที่โคตรจะยั่วยวน เขายอมรับตรงนี้เลยว่าถ้าไม่คิดกับมันแค่เพื่อนจริงๆ อดทนกับมันไม่ได้แน่นอน
"เออมึง กูคิดคอนเซ็ปต์เดือนหน้าได้แล้วนะว่าจะถ่ายแบบไหน"
"คิดได้เร็วเชียวนะมึงเรื่องแบบนี้"
"แน่นอน"
"แล้วจะถ่ายแบบไหน"
"ชุดยูกาตะ"
"มันก็ทั่วไปมั้ยวะ เคยถ่ายแล้ว"
"แต่เอาท์ดอร์"
"ไม่เอานะ" ตอบปฏิเสธไปแบบไม่ต้องคิด เขาจะไม่ถ่ายที่อื่นเด็ดขาด นอกจากสตูลับๆ ที่ห้องเพื่อนรัก
"รับรองว่าเซฟ กูกับมึงแค่สองคนไม่มีใครรู้ รับประกัน"
"มึงเอาอะไรมารับประกัน แค่มีความคิดว่าจะถ่ายเอาท์ดอร์แม่งก็ไม่ปลอดภัยแล้ว"
"เออน่า เซฟก็เซฟดิ"
เพ้นท์จ้องกลับอย่างไม่ไว้ใจ ถ่ายเล่นกันมาเป็นปีพวกเขายังไม่เคยออกนอกสถานที่เลยสักครั้ง ทุกครั้งจะถ่ายที่ห้องของเอฟเพราะเพื่อนรักคนนี้ไม่มีใครแชร์ห้องด้วย แล้วใช้วิธีเซ็ตฉากเอา
"ก็แค่แพลนอ่ะมึง เดี๋ยวคอนเฟิร์มสถานที่แล้วกูจะบอก มึงก็กลับไปคิดดูอีกทีว่าจะเอาไง โอเคมั้ย"
"อืม"
"ดีมากเพื่อน" เอฟยิ้มกว้างเมื่อเพื่อนยอมฟังตามที่ขอ เรื่องนี้เขาคิดมาดีแล้วถึงกล้าพูด รับรองว่าถ้าได้ถ่ายจริง ผู้ติดตามร่วมแสนต้องชอบอย่างแน่นอน
โดยปกติแล้วเพ้นท์กับเอฟจะถ่ายรูปสำหรับโพสต์ลงทวิตเตอร์เดือนละครั้ง แต่ละครั้งที่ถ่ายจะมีรูปสต็อกไว้หลายสิบรูปสำหรับหนึ่งเดือน ความถี่ในการโพสต์อยู่ที่สัปดาห์ละครั้ง ฉะนั้นภารกิจในเดือนนี้จึงถือว่าเสร็จสิ้น รอเพียงเพ้นท์ตอบรับคอนเซ็ปต์เดือนหน้าเมื่อไรค่อยว่ากันใหม่
ชีวิตนักศึกษาปีสามที่มีงานอริเดกเป็นการถ่ายรูปวาบหวิวไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นนักสำหรับเพ้นท์ หากจะนับเรื่องน่าตื่นเต้นที่สุดคงเป็นการเผชิญหน้ากับรูมเมทจอมกวนประสาทมากกว่า เพราะหลังจากที่รู้ว่าทัพติดตามแอคเคาต์ FxxanPxx ก็รู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบขึ้นเยอะ จากที่แต่ก่อนก็เสียจนไม่รู้จะเสียอะไรแล้ว
หมายถึงโดนแกล้งจนไม่รู้จะต่อกรยังไงแล้วนอกจากการทำนิ่งเฉยเอาไว้
"เหี้ย!"
สัตว์เลื้อยคลานตัวเบ้อเร่อหลุดออกมาเมื่ออยู่ๆ ทัพก็นึกพิเรนท์แกล้งเปิดเสื้อเพ้นท์ที่กำลังล้างจานอยู่ที่อ่างตรงระเบียงจากด้านหลัง ทำเอาคนตกใจง่ายสะดุ้งโหยง
"ไอ้สัดทัพ เล่นอะไรของมึงเนี่ย!" เพ้นท์ว่าสีหน้าเคร่งเครียด ปากด่ามือก็จัดเสื้อยืดที่ถูกเลิกขึ้นจนถึงกลางหลังให้เข้าที่ นับวันชักจะโดนแกล้งแรงขึ้นทุกที
"แค่หยอกเล่นเองมึง"
"หยอกเล่นพ่อมึงสิ ไม่ถอดเสื้อให้กูไปเลยล่ะถ้าจะกระชากขึ้นมาขนาดนี้"
"ได้เหรอ"
เจอสวนมาแบบนี้ทำเอาเพ้นท์หมดคำจะพูด ไม่รู้จะด่าคำไหนแล้วจริงๆ กับคนที่ยืนลอยหน้าลอยตาอยู่ตรงนี้ ถ้าไม่กลัวติดคุกก่อนเรียนจบจะคว้ามีดมาเฉาะหัวให้สิ้นเรื่องสิ้นราว
"รำคาญ"
"เดี๋ยวนี้มึงหยาบคายขึ้นนะ ใจร้ายด้วย" ทัพบอกแล้วอมยิ้มไม่ได้สะมกสะท้านแต่อย่างใด เลยโดนเพ้นท์มองด้วยหางตาไปหนึ่งทีก่อนเจ้าตัวจะกลับไปตั้งใจล้างจานให้เสร็จ
"เพราะมึงนั่นแหละ"
"โทษกูเฉย"
"ไปไกลๆ ตีนกูเลย"
"กูจะสูบบุหรี่"
"รอก่อน ใกล้เสร็จแล้ว"
เพ้นท์วางจานใบสุดท้ายที่เพิ่งล้างน้ำเปล่าเสร็จบนชั้นข้างๆ ตั้งใจจะเดินเข้าห้องก็โดนทัพที่ยืนพิงพนังอีกด้านยกขาขวางประตูเอาไว้
"อะไรอีก" ถามอย่างไม่สบอารมณ์ และถ้ามันยังไม่ยอมเอาขาลงเขาจะเดินชนแรงๆ ให้ขาหักไปเลย หมายถึงถ้าทำได้น่ะนะ
"เปล่า" บอกแล้วก็ยอมเอาขาลง
"กวนตีน" เพ้นท์มองค้อนใส่ไปหนึ่งทีก่อนเดินเข้าไปข้างในจนไม่ทันได้สังเกตเห็นรอยยิ้มแสนสุขของรูมเมทยามได้แกล้งเขา
รอยยิ้มที่มีบางอย่างไม่น่าไว้ใจแฝงอยู่
FxxanPxx ทวีต
ครบหนึ่งสัปดาห์รูปเซ็ตที่สองก็ถูกโพสต์ในช่วงกลางดึก ทัพเปิดดูมันตอนนั่งสูบบุหรี่ที่ระเบียง ส่วนในห้องนั้นรูมเมทผู้ไร้อารมณ์ของเขากำลังหน้าดำคร่ำเครียดกับการทำงาน ท่าทางจริงจังจนอยากจะเข้าไปกวนประสาทให้โดนด่ากลับมาเล่นๆ
รูปที่ถูกโพสต์ครั้งนี้มีสองรูปที่ท่าโพสต์ไม่ได้ต่างกันนัก เป็นภาพที่นายแบบร่างผอมบางคุกเข่าหันหลังให้กล้องแขนของข้างเท้ากับขอบเตียง สะโพกที่แอ่นให้กล้องถูกชายเสื้อเชิ้ตบังไว้ ทำให้เห็นเพียงขาเรียวยาวกับผิวขาวน่ามอง แต่แค่นี้ก็ทำให้รูปน่าดึงดูดจนยากจะละสายตาได้แล้ว
ทัพกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจให้แอคเคาต์นี้สร้างผลงานดีๆ แบบนี้ออกมาเรื่อยๆ ก่อนขยี้บุหรี่ที่สูบไปได้ครึ่งมวนลงกับจานเขี่ยแล้วเปิดประตูก้าวเข้าไปในห้อง
เสียงเปิดปิดประตูของทัพไม่ได้ทำให้คนที่ตั้งสมาธิอยู่กับงานสนใจนัก สายตาเพ้นท์ยังจับจ้องที่หน้าจอโน้ตบุ๊ก มือรัวที่แป้นพิมพ์สลับกับคลิกเม้าส์เป็นระยะ ส่วนสายตาของทัพนั้นกำลังพยายามโฟกัสต้นขาขาวๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้โต๊ะ
ก็เล่นใส่ขาสั้นจนจะเป็นกางเกงในได้แบบนี้มันเลยอดมองไม่ได้จริงๆ
ทัพเดินไปล้มตัวนอนลงบนเตียงหอมกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เขาชอบ ตั้งใจจะแหย่เพ้นท์เล่นและมันก็ได้ผลเมื่อคนที่นั่งทำงานอยู่เหลือบมามองแล้วถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
"กูอาบน้ำแล้ว ที่นอนมึงไม่เหม็นหรอก"
เพ้นท์ไม่ตอบอะไรแถมยังไม่มองเลยด้วยซ้ำ เขาลุกขึ้นกะว่าจะเดินไปหยิบนมในตู้เย็น แต่พอดันเก้าอี้ออกเท่านั้นรูมเมทจอมกวนประสาทก็สร้างเรื่องทันที
ทัพคว้าแขนเพ้นท์ไว้แล้วดึงอย่างแรงจนคนที่ไม่ทันตั้งตัวเซมานั่งบนตักเขาพอดีอย่างที่คาดการณ์ สองแขนรีบจับกุมกักขังเอาไว้ กอดแน่นเสียจนเหยื่อดิ้นรนหนีไปไหนไม่ได้ นอกจากมองกลับมาด้วยสายตาขุ่นเคือง
"กูไม่มีเวลาเล่นกับมึงนะทัพ"
"ใครว่ากูเล่น"
"แล้วที่มึงทำอยู่นี่ไม่เรียกเล่น"
"กูกอดมึง ไม่ได้เล่น"
"แล้วจะกอดหาพ่อมึงเหรอ"
"ด่าอีกละ"
"จะด่ามากกว่านี้อีกถ้ามึงยังไม่ปล่อย"
"เออๆ แป๊บนึง" ทัพรับคำแบบขอไปที เขาวางคางลงบนไหล่ของคนที่นั่งอยู่บนตัก หากแต่สายตากลับโฟกัสที่ขายาวๆ แถมยังเนียนสวยต่างกับขาของเขาอย่างสิ้นเชิง
"มึงจะปล่อยกูได้ยัง"
"กูเพิ่งสังเกตว่าขามึงสวยขนาดนี้" ทัพแกล้งตอบไม่ตรงคำถาม เขาอยากรู้ปฏิกิริยาตอบกลับ และดูเหมือนว่ามันจะได้ผลเมื่อคนในอ้อมกอดหน้าตึงยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะทำร้ายร่างกายเขาด้วยการหยิกแขนแรงๆ จนเผลอปล่อยแขนออก
"รำคาญ"
"แค่นี้ต้องทำร้ายร่างกาย"
"ไปไกลๆ ตีนกูเลยไป"
ทัพยิ้มกับตัวเอง มองตามขาสวยๆ ของคนอารมณ์บูดที่เดินไปหยิบนมในตู้เย็นก่อนกลับมานั่งทำงานที่โต๊ะ แถมยังทำท่าเมินเขาเหมือนเดิม
เห็นท่าทางเมินเฉยเหมือนไม่สนใจแบบนี้ทัพคงไม่รู้ว่าคนที่ทำเป็นนิ่งอยู่นั้นในใจกำลังหวาดหวั่นแค่ไหน อยู่ๆ ก็โดนทักเรื่องขาสวยตอนที่รูปเพิ่งถูกโพสต์แบบนี้ คนที่มีความหวาดระแวงอยู่ในใจจะทำอารมณ์ให้สงบได้ยังไงกัน
หวังว่ารูมเมทจอมกวนประสาทคนนี้คงไม่นึกสงสัยอะไรแปลกๆ ขึ้นมาอีกหรอกนะ
TBC
ตอนนี้เปิดตัวแฟนของไอทีแล้วววว น้องก็ฮอตไม่แพ้น้องเพ้นท์นะเออ
ส่วนยูกาตะแบบเอาท์ดอร์นั้น จะได้ดูกันมั้ยหนออออออ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เจอกันตอนหน้าค่า