#เพลงรักที่หายไป หนูด้วง+พี่โอบอุ้ม 20 ตอนจบ สารบัญหน้าแรก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เพลงรักที่หายไป หนูด้วง+พี่โอบอุ้ม 20 ตอนจบ สารบัญหน้าแรก  (อ่าน 89127 ครั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
รอเขารีดน้ำ... เอ๊ยรีดนมกันอยู่นะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
บ้านของพี่โอบ  ก็ที่มีหนูด้วงกับแฝด

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
รอว่าเมื่อไรพี่โอบจะตบะแตกสักที  เพราะคนอ่านถือทิชชูรอไว้นานแล้ว 555

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
น้องแฝดน่าจะได้รับความหนูด้วงติดตัวเยอะแล้วหล่ะ
เอ็นดูๆๆๆๆ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
 น้องแฝดไม่ใช่ลูกของพเยีย หรือของตำลึงทองใช่ไหม (จำชื่อไม่เเม่น)

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
เป็นตอนที่อิ่มใจมากค่ะ
อ่านแล้วอบอุ่น ... และหนูด้วงน่ารักเสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ


-- จ่ายค่าอ่านเป็นการพิสูจน์อักษรให้นะคะ --
-------------------------------------------------

โอบอุ้มพูดจบหนูด้วงก็ยืดตัวตรงแล้วกระพริบตาปริบๆ
กะพริบ    (คำว่า กระพริบ ไม่มีค่ะ)

โอบอุ้มทั้งเอ็นดูและหมั่นเขี้ยวความช่างจดช่างจำ
มันเขี้ยว    (ถ้าหมั่น จะเป็น หมั่นไส้)

ติดเตาถ่านสำหรับปิ้งบาบีคิวและหมาล่าอยู่
หนักท้องสุดก็เป็นพวกบาบีคิวหมาล่า
บาร์บีคิว

“หนูเป็นเด็กฝึกงาน จะต้องเริ่มทำทุกหน้าให้เก่งที่ไงฮะ”
หน้าที่ สลับที่กันอยู่นะคะ

“พี่ว่ารอกินมากกว่ามั๊ง
มั้ง     (ม ม้า ไม่มีคำว่า มั๊ย นะคะ ต้องใช้ไม้โทเสมอค่ะ)

ตกลงเรารับรุ่นร้องหรือรุ่นพี่มาเข้าวงวะ
รุ่นน้อง
edit --- คำว่า วะ ถูกต้องแล้วค่ะ
วะ ใช้ถาม / ว่ะ ออกเสียง หวะ ใช้ตอบ


ทั้งสองนางพยายามพยายามยั่วยวนพี่โอบ
ซ้ำกันรึเปล่าคะ   (น่าจะไม่ใช่บริบทเดียวกับ ก็ได้ก็ได้ ของหนูด้วง)

จะหลุดออกมานอกชุดว่ายน้ำอยู่มะรอมมะร่อ
คำนี้ ใช้ "รอมร่อ" เพราะอ่านว่า รอมมะร่อ  อยู่แล้วค่ะ
(จึงไม่มีคำสะกดว่า มะรอมมะร่อ ในพจนานุกรมค่ะ)

หนูด้วยแก้แทนให้
หนูด้วง

“โอ้โห โหมดดุของเด็กแสบน่ากลัวแหะ
แฮะ - คือ คำประกอบท้ายคำเพื่อเน้นความให้หนักแน่นขึ้น
ถ้า แหะ, แหะ ๆ คือ เสียงคนหัวเราะหรือทำเสียงดังเช่นนั้น เช่น เขาไม่พูดอะไรได้แต่แหะ ๆ

ส่วนใหญ่จะมาเพื่อฟังพลงเพราะๆ
เพลงเพราะ ๆ


ช่วยแก้ให้นะคะ เพราะรักเรื่องนี้มาก
แต่ถ้าเคืองขุ่นใจและคิดว่าก้าวก่ายเกินไป ก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ
และจะไม่ทำอีก (จะเป็นเด็กดีแบบหนูด้วงเลย)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2018 22:11:51 โดย Meen2495 »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ไม่เคืองเลยค่ะ ดีใจมากๆๆๆๆๆๆ ที่ช่วยตรวจทานให้ ชอบค่ะ ขอบคุณมากนะคะ เอาอีกๆๆๆ ชอบค่ะ

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
ไม่เคืองเลยค่ะ ดีใจมากๆๆๆๆๆๆ ที่ช่วยตรวจทานให้ ชอบค่ะ ขอบคุณมากนะคะ เอาอีกๆๆๆ ชอบค่ะ

ดีใจจัง ...
ถ้าเจอจะบอกมานะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
หนูด้วงเด็กแสบของพี่ๆ สงสารน้องไม้น้องหม่อน อยากให้ได้ไปเจอยุงพญา เร็วๆ จะได้รวมเป็นครอบครัวใหญ่ พี่หนูด้วกับแฝดน่ารักมากๆ

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
รักตัวละครทุกตัวเลย   :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
หนูด้วง~~ เด็กดีรักจังลูก  :กอด1:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
กลับมาแล้วว เพลงรักไม่หายไปแล้ว
หนูด้วงเป็นเด็กดีมาก น้องจิตใจดีมาก
และก็เติบโตมาให้พี่โอบอุ้มได้อุ่นใจ

ทุกคนรู้หมดแล้ว รอแค่โอบบอก

ทีมเพื่อนน่ารักมากค่ะ ไม่ทิ้งกันเลย
สงสารสิงโตนะ แต่จะเจอคนที่ใช่แล้ว

ทีมทำนุแปะป้ายประกาศคือฮามาก เด็ดเด็ด
ความรั่วนี้ไม่มีตก ไม่มีขาด และทุกคนชอบหนูด้วง

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
เพลงรักที่หายไป
เพลงที่ 9 อยากจะมีเธอ
ศิลปิน ป้อม เกริกศักดิ์


“พี่นโมครับ หมาล่ากับบาร์บีคิวหมดแล้ว วันนี้ลูกค้ามาอุดหนุนเยอะมากเลยนะครับ” พนักงานในร้านมาแจ้งให้โอบอุ้มได้รู้ว่าอาหารบางรายการไม่มีเหลือแล้ว

“ของหมดหลายอย่างเลย วันนี้คงปิดเร็วกว่าปกติ เหนื่อยกันหน่อยนะ ไม่คิดว่าจะมีคนมาเยอะขนาดนี้”

“ไม่เหนื่อยหรอกครับ อยากให้ขายดีแบบนี้ทุกวัน”

พนักงานทุกคนรู้ดีว่าที่ผ่านมาร้านไม่ค่อยมีรายได้มากสักเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าไม่มีคนมาใช้บริการแต่เป็นเพราะพี่นโมใจดี ลูกค้าบางรายมานั่งเอาบรรยากาศ นั่งเป็นชั่วโมงแต่สั่งเครื่องดื่มเพียงแก้วเดียวพี่นโมก็ไม่ว่า ถ้าเป็นผู้สูงอายุมานั่งฟังเพลงก็บริการเครื่องดื่มให้ฟรีอีกต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นพนักงานทุกคนก็ได้เงินเดือนครบแถมยังมีเบี้ยขยันให้อีก พนักงานที่นี่ส่วนใหญ่ก็เป็นนักศึกษาที่ต้องการหาเงินไปด้วยเรียนไปด้วย ทุกคนอยู่กันเหมือนพี่น้องมากกว่าเจ้านายกับลูกจ้าง

“ก็ดูพนักงานเสิร์ฟแต่ละคนสิคะ จะไม่ให้ลูกค้าเยอะได้ไง” ‘นิล’ ชี้ไปที่กลุ่มรุ่นน้องที่มาช่วยเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม นิลเป็นเพื่อนสนิทของเปิ้ล เธอจบคหกรรมฯ พอเรียนจบก็ทำงานอยู่ที่แสงแรกรีสอร์ตและมารับงานพิเศษเป็นแม่ครัวให้ที่ร้านกล่องดนตรีในช่วงเย็น

“ผมก็ว่าแบบนั้นแหละ กลุ่มดาวเด่นทั้งนั้น” พนักงานมองไปแล้วก็นึกเห็นด้วย

“เพื่อนของหนูด้วงเขาอยากมาช่วย” โอบอุ้มห้ามแล้วแต่ทุกคนอยากจะช่วยเลยตามใจ

“น้องสิงโตท่าจะเป็นขวัญใจรุ่นพี่ หล่อมาก สเป็กนิลเลย” นิลชื่นชมสิงโตออกนอกหน้าจนโดนแซวว่าคิดไม่ซื่อกับเด็ก

โอบอุ้มยกยิ้มน้อยๆ แต่ไม่ได้เอ่ยปากแซวนิลเหมือนคนอื่น เมื่อมองไปก็เห็นว่าหนูด้วงกำลังส่งเสียงเจื้อยแจ้วเล่นมุกอยู่บนเวที เจ้าตัวแสบสร้างเสียงหัวเราะให้กับลูกค้าในร้านแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขาอดไม่ได้ที่จะหลุดขำออกมาจนนิลและพนักงานในร้านแปลกใจกับภาพที่ไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยๆ จากเจ้าของร้านคนนี้

“พี่อยู่เอกอิ๊งเหรอฮะ” หนูด้วงถามลูกค้าที่นั่งโต๊ะเสริมติดหน้าเวที

“ใช่ค่ะ”

“งั้นพี่มาดูมาดูเด็กปั้นของหนู อิงลิชจ๋าน้องไม้น้องหม่อนมาแล้ว” หนูด้วงผายมือให้เด็กน้อยทั้งสองคนเดินขึ้นมาบนเวที

“น้องหม่อนชื่อน้องหม่อน แต่คนนี้ชื่อน้องไม้ น้องไม้เป็นพี่น้องหม่อน” น้องหม่อนแนะนำตัวเองและพี่ชายฝาแฝด เมื่อได้ยินเสียงปรบมือก็ยิ้มกว้าง

“พี่หนูด้วงจะถามศัพท์ภาษาอังกฤษนะ มาตอบโชว์พี่ๆ เขาหน่อย”

“ไม่ยาก” น้องไม้กอดอกแล้วทำมาดเข้ม ส่วนน้องหม่อนไม่ได้สนใจคำถามแต่มองลูกชิ้นกุ้งทอดที่พนักงานถือผ่านเวทีไป ทุกคนเห็นแล้วก็พากันนึกเอ็นดูน้องแฝด

“พระภาษาอังกฤษว่ายังไง” หนูด้วงถามคำถามที่ได้นัดแนะซักซ้อมกับน้องหม่อนมาแล้ว

“มั้ง เอ็มโอเอ็นเค ไม่ยาก” น้องไม้เป็นฝ่ายตอบพร้อมกับสะกดให้เสร็จสรรพเพราะสติของน้องหม่อนเพิ่งจะกลับมาจากลูกชิ้นกุ้ง

“เก่งมาก แล้วพระเครื่องล่ะ” หนูด้วงถามต่อ

“มอเตอร์มั้ง” คราวนี้น้องหม่อนแย่งตอบบ้าง ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะจากลูกค้าเจ้าตัวกลมก็ยิ้มกว้าง ส่วนแฝดผู้พี่ได้แต่ทำตาโตเพราะไม่เข้าใจ

“พระนอน” หนูด้วงถามอีก

“ง่วงมั้ง” น้องหม่อนตอบเสร็จทำนุก็ตีกลองตบมุกให้

“พระจำวัด”

“กลัวลืมมั้ง”

“พระบิน”

“ไม่กลับมาแล้วมั้ง”

“พระ...” หนูด้วงยังไม่ทันถามให้จบน้องไม้ก็แย่งไมค์จากน้องหม่อนมาพูดแทรก

“เล่นอะไรไม่รู้ บาปแล้วมั้ง”

“ฮ่าๆๆๆ”

เสียงหัวเราะของลูกค้าดังขึ้นพร้อมกัน หนูด้วงได้แต่ยิ้มแหยๆ เมื่อโดนน้องไม้ทำหน้าดุใส่ ส่วนน้องหม่อนโค้งแล้วโค้งอีกเมื่อได้ยินเสียงปรบมือจากทุกคน มุกคาเฟ่ที่พี่หนูด้วงสอนทำให้คนหัวเราะได้น้องหม่อนก็ดีใจ น้องแฝดไม่เคยได้ออกมาที่ร้านตอนกลางคืนเลยสักครั้ง ครั้งนี้พี่หนูด้วงขออนุญาตให้พ่อนโมถึงยอมให้ทั้งคู่ออกมาได้ มีโอกาสได้มาเห็นบรรยากาศสนุกสนานแบบนี้เป็นครั้งแรก แต่กฎก็คือ...น้องแฝดจะได้มาอยู่ที่ร้านแบบนี้แค่ครึ่งชั่วโมง เฉพาะคืนวันศุกร์กับคืนวันเสาร์เท่านั้น   

“หนูด้วงน่ารักนะคะพี่นโม นิลไม่เคยเห็นน้องแฝดดูมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลย” นิลมองไปแล้วยิ้มตาม

“อืม น่ารัก” โอบอุ้มตอบรับจนนิลกับพนักงานที่ได้ยินต่างพากันประหลาดใจรอบสอง

“พี่นโม...พี่ชอบหนูด้วงเหรอ” นิลถามไปตรงๆ

“ใช่” โอบอุ้มละสายตาจากหนูด้วงและน้องแฝดมามองคนถาม

“ชอบแบบไหน...” ด้วยความอยากรู้นิลจึงพลั้งปากถามต่อ พอถามไปแล้วก็หน้าเสียเพราะมันเสียมารยาท

“คนรัก หนูด้วงคือแฟนพี่เอง”

คราวนี้นิลและพนักงานที่ยืนอยู่บริเวณนั้นพากันอ้าปากค้าง มองไปทางเจ้าของร้านทีมองไปที่หนูด้วงที มองสลับไปมาด้วยความตกใจ เพราะนโมมีลูกแล้วทุกคนจึงไม่คิดว่านโมจะชอบผู้ชายด้วยกัน แต่พอทุกคนได้เห็นสายตาของนโมที่มองไปยังหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักที่กำลังขับกล่อมเพลงให้ลูกค้าต่อจากการแสดงตลกคาเฟ่ไปก็เข้าใจ สายตานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมอย่างเปิดเผย ทุกคนเริ่มเชื่อในสิ่งที่นโมพูดออกมาว่าหนูด้วงคือคนรัก


‘เธอคนนี้ที่ใจฉันหา เธอคนนี้ที่มากับฝัน เหมือนดังดวงตะวัน ให้ฉันพบหนทางสดใส’


“ไม่ได้เหรอ” โอบอุ้มหันกลับมาถามทุกคนเมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความคลางแคลงใจ

“ไม่ใช่ไม่ได้ แค่คิดไม่ถึงค่ะ” นิลก็ตอบกลับไปตรงๆ


‘ให้มีคนนับร้อยพัน ฉันไม่ต้องการใครๆ แค่เพียงคนเดียว ที่ฉันต้องการคือเธอ’


“ทำไม” โอบอุ้มถามรุ่นน้องแต่สายตายังคงมองไปที่เวที

“ก็พวกเรานึกว่าพี่ชอบผู้หญิง ว่าแต่น้องแฝดจะยอมเหรอคะ ที่ผ่านมาไม่เคยยอมให้ใครเข้าใกล้พี่เลย”

“พี่เชื่อว่าน้องแฝดจะรักหนูด้วง”


‘อยากจะมีเธอ ฉันอยากจะมีเธอ เก็บไว้ในใจอย่างนี้ เธอเป็นเหมือนเวลาวันคืนที่ดี ที่ฉันไม่เคยพบเจอ
อยากจะมีเธอ ฉันอยากจะมีเธอไม่ขอมีใครคนไหน วันพรุ่งนี้ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร ฉันจะมีเพียงเธอ คนเดียว’



“เหมือนที่พี่รักใช่ไหม” นิลถามพลางยิ้ม

“อืม”


‘เธอเท่านั้น ที่เป็นเหมือนฝัน เธอเท่านั้น ที่ใจเสาะหา ขอให้วันเวลา หยุดไว้เพื่อรักเธอตลอดไป’


หนูด้วงร้องท่อนสุดท้ายจบก็หันมายิ้มให้โอบอุ้ม เป็นที่รู้กันสองคนว่าเพลงสุดท้ายนี้หนูด้วงตั้งใจร้องให้พี่โอบฟัง ภาพของพี่โอบที่ยืนยิ้มน้อยๆ สองมือล้วงกระเป๋า ไหล่กว้างตั้งตรงพร้อมกับส่งสายตาที่ดูอบอุ่นมาให้นั้นเป็นภาพที่คุ้นตา แม้เวลาจะผ่านมานานแค่ไหนหนูด้วงก็ไม่เคยลืม ตอนเด็กๆ จะต้องวิ่งเข้าไปหาแล้วร้องขอให้อีกฝ่ายอุ้ม อยากซบที่อกกว้างแล้วใช้สองมือโอบรอบคอเอาไว้ให้อุ่นใจว่าได้เจอที่พักพิงที่ดีที่สุด ตอนนี้ก็อยากทำเหมือนตอนเด็กๆ แต่ก็ทำไม่ได้จึงได้แต่ส่งยิ้มหวานไปให้แทน

“หนูด้วง” นกฮูกมาสะกิดให้หนูด้วงดูสิงโตหลังจากที่หนูด้วงลงมาจากเวทีแล้ว

“ทำไมเหรอ” หนูด้วงเห็นสิงโตยืนคุยกับผู้ชายรูปร่างผอมบางคนหนึ่ง ท่าทางดูสนิทสนมดี

“สงสัยจะได้เจอคนมาดามอกแล้ว”

“นกฮูกว่าเขาเป็นคนดีไหม” หนูด้วงรู้สึกว่าแววตาคนที่ยืนคุยกับสิงโตดูเศร้าแม้จะมีรอยยิ้มแต้มที่ใบหน้าก็ตาม

“ไม่รู้สิ”

“เราอยากให้สิงโตมีความสุข แล้วนกฮูกล่ะ มีคนดามใจรึยัง” หนูด้วงถามพลางมองไปที่พี่ป้าย

“ยังไม่เคยอกหัก ไม่ต้องหาคนดามหรอก” นกฮูกรีบเบนสายตาไปทางอื่นเมื่อป้ายเงยหน้าแล้วมองมาที่ตัวเองพอดี

“ไม่หาคนมาดามใจ หาคนมาดูแลใจก็ได้ แถวๆ นี้ก็ดีนะ”

“ไม่ต้องมาชงเลย มาคุยเรื่องนี้ดีกว่า”

“เรื่องอะไร”

“พี่นโมคือพี่โอบอุ้มใช่ไหม” สิ้นคำถามของนกฮูกหนูด้วงก็เบิกตาโต

“นกฮูก..คือ...คือ”

“โอเค รู้คำตอบแล้ว แค่นั้นแหละไม่ต้องอธิบายหรอก” นกฮูกไหวไหล่เพราะได้คำตอบเรื่องที่สงสัยแล้ว

“ทำไมฉลาดแบบนี้อ่า” หนูด้วงไหล่ลู่ลงเพราะไม่เคยปิดบังนกฮูกได้สักเรื่องหนึ่ง

“เราไม่ได้ฉลาดหรอก แต่หนูด้วงไม่เนียน ทำอะไรก็จับได้หมด”

“จริงเหรอ สงสัยต้องฝึกวิทยายุทธ์ให้มากกว่านี้”

“เราไม่บอกใครหรอกไม่ต้องห่วง ว่าแต่พรุ่งนี้ต้องไปแบบเดิมอีกใช่ไหม”

“อืม”

“แล้วจะบอกพี่โอบว่ายังไง” นกฮูกถามเพราะคิดว่าหนูด้วงใสซื่อเกินกว่าจะมีความลับกับใคร

“บอกว่าไปกับทำธุระกับนกฮูกไง”

“ทำไมไม่บอกเขาไปตรงๆ เขาเป็นแฟนของหนูด้วงแล้วนะ”

“ไม่ได้ไม่ได้ เรื่องนี้เราไม่อยากบอกใครจริงๆ”

“โอเค สรุปคืนนี้นอนค้างที่นี่ใช่ไหม มีถุงยางรึยัง”

“มีแล้ว เฮ้ย ยังไม่มี ยังไม่ใช้หรอก นกฮูกอ่า...”

“ฮ่าๆ ล้อเล่น แต่ก็อย่าประมาท คนรักกันอยู่ใกล้กันมันอาจจะอดใจไม่ได้ ยิ่งพี่นโม เอ้ย พี่โอบอยู่ห่างจากหนูด้วงตั้งหลายปี อาจจะทบต้นทบดอกก็ได้นะ หนูด้วงไม่ทันพี่โอบหรอก”

“เรียกพี่นโมนั่นแหละดีแล้ว แล้วก็ไม่ต้องมาแซวเราเลย”

“อายเหรอ ฮ่าๆ” นกฮูกจิ้มแก้มแดงๆ ของเพื่อนรัก

“ไม่ได้อายสักหน่อย แล้วนกฮูกกลับหอยังไง สงสัยสิงโตจะไม่ได้กลับหอแล้วแน่เลย” หนูด้วงเห็นสิงโตเดินจูงมือใครคนนั้นออกไปจากร้านเลยนึกห่วงเพื่อน น้องเม่น น้องมิกิและน้องเกลก็ขอตัวกลับไปแล้ว

“เดี๋ยวมีคนไปส่ง”

“แน่นแน่!”

“พรุ่งนี้เจอกันที่ท่าเรือนะ” นกฮูกรีบหันหลังเดินออกไปยืนเล่นอยู่ที่หน้าร้านก่อนที่หนูด้วงจะแซวมากไปกว่านี้ ปล่อยให้หนูด้วงยืนปิดปากหัวเราะคิกคักที่ทำให้นกฮูกอายคืนได้บ้างตามลำพัง

“น้องหนูด้วง มาถ่ายรูปกันนะคะ” กลุ่มพี่มิ้งเข้ามาดึงหนูด้วงไปถ่ายรูปด้วย

หนูด้วงได้ยินเสียงคนในกลุ่มของพี่มิ้งบ่นเรื่องที่สิงโตไปควงคนอื่นให้ได้ยินก็ยิ้มแห้งๆ เพราะรับรู้มาว่าพี่ๆ กลุ่มนี้จับคู่ให้หนูด้วงกับสิงโตเป็นแฟนกัน เมื่อไปถ่ายรูปเสร็จแล้วกลุ่มพี่ๆ ชมรมโอนลี่วายก็ขอตัวกลับเพราะร้านกำลังจะปิด ลูกค้าคนอื่นๆ ก็เริ่มทยอยกลับเช่นกัน

หนูด้วงเดินไปบอกกับโอบอุ้มว่าจะกลับเข้าไปในบ้านก่อน เห็นพี่นิลกับรุ่นพี่พนักงานคนอื่นๆ ในร้านส่งยิ้มแปลกๆ มาให้ก็ได้แต่ยิ้มตอบ จนได้ยินเสียงใครคนหนึ่งตะโกนมาหนูด้วงถึงกับชะงักพร้อมกับหน้าแดงก่อนจะวิ่งเข้าบ้านไปทันที

“ฝันดีนะอาซ้อ”

“หึหึ พวกมึงอย่าไปแซว” โอบอุ้มหัวเราะก่อนจะกลับเข้าไปในร้านเพื่อเคลียร์บัญชีของวันนี้ให้เสร็จเร็วๆ อยากจะกลับบ้านไปนอนกอดหนูด้วงแล้ว คืนนี้คงเป็นคืนที่มีความสุขที่สุดในรอบ 15 ปี คิดแล้วก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ รู้สึกว่าตัวเองหัวเราะสิ้นเปลืองมากๆ ตั้งแต่ได้กลับมาเจอผู้วิเศษคนนี้ ส่วนสมาชิกในวงคนอื่นๆ ขอนั่งดื่มกันต่อโอบอุ้มก็ไม่ได้ว่าอะไร

...

หนูด้วงกลับขึ้นมานั่งพิมพ์ข้อความไลน์ทักทายทุกคนในครอบครัวตามปกติ นึกโล่งใจที่วันนี้ยุงพญาไม่ว่างมาคุยด้วยไม่อย่างนั้นคงจะโดนถามว่าอยู่ไหน ถึงแม้มีเรื่องต้องปิดบังแต่ก็ไม่อยากโกหกถ้าถูกถาม เลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยง เมื่อคุยเสร็จแล้วก็เดินออกมาดูน้องแฝดที่ห้อง ทั้งคู่นอนหลับไปแล้ว ป้าประนอมก็เพิ่งขอตัวกลับตอนที่หนูด้วงกลับเข้ามาในบ้าน

“น้องไม้ชอบนอนกอดอกเหรอเนี่ย”

หนูด้วงเห็นแล้วนึกขำ นึกสงสัยว่านอนท่านี้มันไม่เมื่อยบ้างรึไง พอหันมาเห็นท่านอนของน้องหม่อนยิ่งขำหนักกว่าเก่า น้องหม่อนนอนกางแขนกางขาอ้าซ่า ปากยังเคี้ยวจับๆ สองแก้มกลมดูเหมือนจะแดงระเรื่อตลอดเวลา ทั้งคู่เป็นฝาแฝดที่ดูแตกต่างกันมากจริงๆ ถ้ามีสิ่งที่เหมือนกันก็คืออาการหวงคุณพ่อนั่นเอง

“ให้พี่หนูด้วงมาเป็นครอบครัวด้วยคนนะ พี่หนูด้วงจะใจดีตลอดไปเลย” หนูด้วงกระซิบน้องแฝดเบาๆ

“ก็ได้ก็ได้....น้องหม่อนให้น้องไม้สองอันก็ได้” น้องหม่อนพูดขึ้นมาจนหนูด้วงสะดุ้งตกใจ จนเห็นน้องหม่อนเอานิ้วไปดูดจึงรู้ว่าอีกฝ่ายละเมอ หนูด้วงค่อยๆ ดึงนิ้วน้องหม่อนออกจากปากก่อนจะห่มผ้าให้เพราะเจ้าของผ้าห่มถีบมันออกจนหล่นไปกองกับพื้น ส่วนน้องไม้นอนตัวตรงเรียบร้อยราวกับเป็นทหาร

“ยังไม่อาบน้ำอีกเหรอ” โอบอุ้มไม่เห็นหนูด้วงอยู่ที่ห้องจึงเข้ามาดูที่ห้องของน้องแฝด แล้วก็เจอหนูด้วงอยู่ที่นี่จริงๆ

“หนูรอพี่”

“รอพี่...รออาบน้ำกับพี่” โอบอุ้มทวนคำก่อนจะเลิกคิ้วแทนการถาม

“ใช่ ก็หนูขี้เกียจอาบเอง”

“หึหึ” โอบอุ้มหัวเราะก่อนจะเดินไปหอมน้องไม้กับน้องหม่อน จากนั้นก็เดินมายื่นมือให้หนูด้วง

“ไม่อาบได้ไหม แอร์มันเย็นตัวก็แห้งแล้ว” หนูด้วงอ้อน

“ไม่ได้ครับ” โอบอุ้มไม่ใจอ่อน โน้มตัวไปดึงมือหนูด้วงให้ลุกยืนก่อนจะจูงกลับไปที่ห้อง

เมื่อเดินมาถึงห้องนอนของโอบอุ้มหนูด้วงก็รีบวิ่งกระโดดขึ้นไปนอนที่เตียง ดึงผ้าห่มมาห่มเรียบร้อย โอบอุ้มยืนกอดอกมองเจ้าตัวแสบที่ม้วนตัวกับผ้าห่มก่อนจะคิดว่าจะจัดการยังไงดี

“พี่จะฟ้องแด๊ดดี้ของหนูด้วง” โอบอุ้มรู้ดีว่ามีคุณเป็นคนรักความสะอาดมากและหนูด้วงก็กลัวมีคุณดุเรื่องความสกปรกมากเช่นกัน

“ถ้าหนูเป็นหวัดจะทำยังไง”

“ถ้าหนูด้วงเป็นเกลื้อนเพราะสกปรกพี่ไม่รู้ด้วยนะ เหาอาจจะมาขึ้นผมด้วย” 

“ไม่เอา หนูไม่เอาเหา หนูอาบน้ำก็ได้” หนูด้วงรีบผุดลุกมาจากที่นอนเพราะมีความหลังฝังใจเรื่องเหาอยู่

“รีบไปอาบนะครับ”

“อาบด้วยกัน” หนูด้วงชวน

โอบอุ้มยืนอึ้งไป ครั้งแรกที่บอกว่ารออาบด้วยกันก็คิดว่าหนูด้วงพูดเล่น แต่พอพูดอีกครั้งชักไม่มั่นใจ ถึงตอนเด็กๆ จะอาบน้ำด้วยกันบ่อยแต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เด็กกันแล้ว ถึงจะตกลงคบกันเป็นแฟนแต่มันเร็วเกินไป เขาไม่อยากผิดคำพูดที่ให้ไว้กับป๊า หนูด้วงอาจจะไม่คิดอะไรเพราะเป็นผู้ชายเหมือนกันและก็โตมาด้วยกัน แต่สำหรับเขา บอกตรงๆ ว่าเขาคิดแน่ๆ คนที่ตัวเองรักมาแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันแบบนี้ใครจะไปทนได้

“หนูด้วงไปอาบก่อนนะ”

“งั้นหนูไม่อาบ”

“อาบเองไม่ได้แบบนี้พี่ต้องถอดเสื้อผ้าให้ด้วยไหมเจ้าตัวยุ่ง” โอบอุ้มคิดว่าหนูด้วงอาจจะแกล้งตัวเองอยู่จึงลองแกล้งกลับไปบ้าง

“ก็ได้ก็ได้” หนูด้วงขยับเข้าไปยืนตรงหน้าพี่โอบ

“เอาจริงดิ” โอบอุ้มเริ่มคิดว่านี่คงไม่ใช่การล้อเล่นจากหนูด้วงเสียแล้ว

“จริงฮะ ตอนนี้หนูขี้เกียจสุดๆ” หนูด้วงขยับเข้าไปใกล้อีกก่อนจะชูมือสองข้างขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายถอดเสื้อให้

โอบอุ้มตัดสินใจถอดเสื้อให้คนตรงหน้า สีหน้าของหนูด้วงยังคงเป็นปกติ แถมยังหาวโชว์เขาอีก ดูท่าฝ่ายนั้นจะไม่ได้คิดอะไรมากมาย คงอยากอ้อนให้ทำให้เหมือนตอนยังเด็ก แต่เจ้าตัวจะรู้ไหมว่ากำลังทำให้พี่ชายคนนี้หายใจไม่ทั่วท้อง

“หนูง่วงแล้ว” หนูด้วงหาวอีกรอบเมื่อเห็นว่าโอบอุ้มนิ่งไปอีก

โอบอุ้มลอบถอนหายใจก่อนจะจัดการถอดกางเกงและปราการด่านสุดท้ายชิ้นน้อยให้เจ้าตัวแสบออกจนหมด ร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนอยู่เบื้องหน้าในระยะประชิด ใจของเขาเต้นรัวยิ่งกว่าเสียงกลองของทำนุแต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ หนูด้วงยืนมองเขาตาปริบๆ เหมือนจะบอกว่า ‘ถอดเสื้อผ้าของพี่สิฮะ หนูง่วงแล้ว’ เขาต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นก่อนจะจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมดเช่นกัน

“ไป อาบน้ำกัน” หนูด้วงคลี่ยิ้มก่อนจะจูงมือโอบอุ้มเข้าไปในห้องน้ำหน้าตาเฉย

นี่ถ้าไม่ใช่หนูด้วง โอบอุ้มคิดว่าตัวเองคงกำลังถูกมอมเมาให้ต้องเสียตัวอยู่แน่ๆ แต่หนูด้วงผู้แสนบริสุทธิ์ของเขาคงไม่ได้คิดอะไรไปไกลขนาดนั้น มันเลยทำให้เขาต้องนับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจว่าให้อดทน

หนูด้วงยื่นฟองน้ำถูตัวให้โอบอุ้มก่อนจะเดินไปยืนใต้ฝักบัว โอบอุ้มเดินตามไปยืนซ้อนด้านหลังก่อนจะกดสบู่เหลวลงก้อนฟองน้ำหนานุ่ม เมื่อหนูด้วงเปิดน้ำให้รินรดตัว แผ่นหลังขาวเนียนก็เริ่มเปียกชุ่ม หยดน้ำใสไหลลงไปยังบั้นท้ายกลมมนตามแรงโน้มถ่วงของโลก แต่บางสิ่งบางอย่างของคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังมันกลับสวนแรงโน้มถ่วงของโลกขึ้นมา มันคงเป็นไปตามแรงปรารถนาของมนุษย์ที่ไม่สามารถฝืนมันได้

“สบู่หอมจัง” หนูด้วงยกแขนของตัวเองขึ้นมาดม

“หอม หอมมาก” โอบอุ้มเหมือนคนที่กำลังตกอยู่ใต้มนต์สะกดของผู้วิเศษ อยากดึงร่างที่เล็กกว่าตรงหน้ามากอดเอาไว้แล้วกดจูบให้สมใจ

“หอมเนอะ พี่ดมสิ” หนูด้วงหันกลับมายกแขนให้โอบอุ้มดม แต่ร่างกายของตัวเองไปชนกับอะไรบางอย่างของพี่ชายจนทำให้ต้องก้มลงไปมอง

“คือ...” โอบอุ้มไม่รู้จะอธิบายยังไง คิดว่าเจ้าหนูจำไมต้องมีคำถามแน่ๆ แต่เขาคิดผิด

หนูด้วงยืนอึ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าไปมองพี่โอบ หยดน้ำจากฝักบัวตกกระทบไปที่ใบหน้าของพี่ชาย มันไหลลู่ลงมาตามเส้นผมและร่างกาย หนูด้วงเอื้อมมือไปเช็ดน้ำที่ใบหน้าออกให้ก่อนค่อยๆ ลากมือลงมาที่ทาบแผ่นอกกว้าง สองมือที่ช่วยกวาดหยดน้ำออกยิ่งสร้างความปั่นป่วนให้เจ้าของร่างสูงหนักกว่าเดิม

“หันหลังไป พี่จะถูหลังให้” โอบอุ้มพยายามสะกดอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน

“หนูไม่ขี้เกียจแล้ว หนูจะอาบน้ำให้พี่ดีกว่าฮะ”

หนูด้วงแย่งฟองน้ำในมือของโอบอุ้มมาลูบตัวให้พี่ชาย ลูบไล้ให้ตั้งแต่คอ บ่าและแผ่นอกอย่างเบามือ ครีมฟองเนื้อนุ่มสีขาวถูกละเลงไปทั่วร่างกายกำยำ สุดท้ายก็ไปหยุดอยู่ที่หน้าท้อง ใบหน้าของหนูด้วงเริ่มแดงระเรื่อ ไม่รู้ว่าเกิดจากอุณหภูมิของน้ำจากเครื่องทำน้ำอุ่นหรือเพราะอุณหภูมิจากร่างกายที่กำลังไต่สูงขึ้นกันแน่

“หนูด้วง...อย่า” โอบอุ้มสะดุ้งมือหนูด้วงทิ้งฟองน้ำในมือแล้วเอื้อมมาสัมผัสส่วนอ่อนไหวของเขาแทน

“ไม่ได้เหรอ หนูไม่ใช่แฟนของพี่เหรอฮะ”

“ใช่ แต่ว่า..”

“หนูรู้ว่ายุงพญาไม่ให้พี่ล่วงเกินหนู ยุงพญาห้ามพี่แต่ยุงพญาไม่ได้ห้ามหนู”

“เอ่อ...มันก็ใช่ แต่ไม่เป็นไร พี่ทนได้”

“แล้วทำไมพี่ต้องทน พี่ทนมามากแล้ว” หนูด้วงขยับมือของตัวเองช้าๆ

โอบอุ้มไม่รู้จะพูดยังไง ทั้งอยากขอบคุณที่หนูด้วงอยากให้ตัวเขามีความสุข ทั้งอยากจะลงโทษเด็กแสบที่ดื้อดึงดันจนทำให้เขายิ่งทรมาน ไม่รู้ว่าเด็กน้อยของเขาไปเรียนรู้เรื่องนี้มาจากไหน พอคิดแล้วเขาก็จับข้อมือของหนูด้วงให้หยุดเคลื่อนไหว

“ไปเรียนรู้มาจากไหนครับ”

“หนูโตแล้ว หนูเก่ง”

“ทำกับตัวเองบ้างรึเปล่า”

“พี่ถามอะไร หนูเขินนะ” หนูด้วงหน้าแดงแจ๋ขึ้นมาทันที โอบอุ้มเลิกคิ้วนึกขำกับอาการคนตรงหน้า ที่เอามือมาจับของเขากลับทำหน้าตาเฉย พอถามตรงๆ กลับไปบ้างอีกฝ่ายดันเขินจนหน้าแดง

“พี่ขอบคุณนะที่อยากให้พี่มีความสุข แต่พี่รอได้จริงๆ พี่อยากให้เรามีความสุขไปพร้อมกัน”

“พี่ว่าหนูดื้อไหมฮะ” หนูด้วงถาม

“ดื้อ”

“ใช่ หนูดื้อ”

หนูด้วงพูดจบก็ขยับมือของตัวเองต่อ แถมยังเร่งจังหวะกว่าเดิม โอบอุ้มถึงกับต้องกัดกรามเพื่อสะกดอารมณ์รุนแรงที่กำลังแล่นพล่านอยู่ภายใน มือน้อยๆ ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำให้พี่โอบมีความสุข โอบอุ้มตัดสินใจเอื้อมมือไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวของคนดื้อบ้าง ร่างบางสะดุ้งและกัดริมฝีปากแน่นเมื่อโดนมืออุ่นสัมผัส มันเหมือนมีกระแสไฟแล่นไปทั่วโดยเฉพาะเจ้าส่วนที่อยู่ในมือของพี่โอบอุ้ม

สองสายตาสบกันอยู่นานเหมือนจะแข่งกันกลายๆ ว่าใครจะทนไม่ได้ก่อนกัน ร่างบางเริ่มอ่อนแรงจนต้องซบหน้ากับอกของคนที่เป็นพี่ แต่มือน้อยก็ยังไม่ยอมแพ้ เสียงครางแผ่วเบาเริ่มหลุดรอดออกมาจากคนตัวเล็กกว่า ต่างฝ่ายต่างนำพาความสุขให้กันและกัน จังหวะมือที่เร่งเร้าขึ้นยิ่งทำให้บรรยากาศในห้องน้ำร้อนระอุ สุดท้ายทั้งคู่ก็เหยียดเกร็งตัวเพื่อปลดปล่อยความสุขสม ลมหายใจของทั้งสองคนถูกพรั่งพรูออกมาในเวลาใกล้เคียงกัน

โอบอุ้มเชยคางของหนูด้วงให้เงยขึ้นมาก่อนจะโน้มตัวไปกดจูบ เด็กดื้อรั้นแทบจะยืนไม่อยู่ ดีว่าได้มือของโอบอุ้มรั้งเอวเอาไว้ให้ร่างบางนั้นชิดแนบกับตัว จูบที่ดื่มด่ำถูกยุติลงเพราะโอบอุ้มกลัวว่าหนูด้วงจะไม่สบายจากการอาบน้ำที่นานเกินไป

“ถึงกับอ่อนแรงเลยเหรอ” โอบอุ้มกระเซ้า

“มันเด็ด เด็ดๆ” หนูด้วงรู้สึกว่าตัวเองยังลอยคว้างในอากาศอยู่

“สรุป เคยทำให้ตัวเองไหม” โอบอุ้มกระซิบถาม

“พี่โอบอ่า...” หนูด้วงเอาหน้าผากของตัวเองโขกไปที่แผ่นอกของโอบอุ้มเบาๆ ทำท่าจะเดินออกจากห้องน้ำไป

“เดี๋ยว ยังอาบน้ำไม่เสร็จเลยเจ้าตัวดี มา...พี่ล้างสบู่ออกให้ก่อนครับ”

“ก็ได้ก็ได้” หนูด้วงกลับมายืนให้โอบอุ้มอาบน้ำให้และหาวโชว์อีกรอบทั้งที่เมื่อครู่ยังดูตื่นตัวอยู่เลย

โอบอุ้มส่ายหน้าพร้อมกับลอบขำ เดาว่าหนูด้วงคงได้อาจารย์ดีสอนมา นึกจะจู่โจมเขาก็ลงมือแบบไม่ทันให้ได้ตั้งตัว แล้วดูเจ้าตัวแสบ...นี่เขาแค่ช่วยให้ฝ่ายนั้นถึงจุดหมายไปแบบเบาๆ เจ้าตัวยังดูระทดระทวย ถ้าเขาตบะแตกขึ้นมาเมื่อไหร่เด็กน้อยของพี่โอบอุ้มคนนี้จะไหวไหมนะ คิดแล้วก็ได้แต่หัวเราะในลำคอ ถ้าถึงวันนั้นเมื่อไหร่...ต่อให้ไม่ไหวเขาก็คงไม่ปล่อยให้หนูด้วงมาหาวโชว์แบบนี้แน่นอน

“พี่โอบอุ้มก็โตแล้วเหมือนกันนะครับเด็กน้อย โตแล้วก็ดุมากด้วย” โอบอุ้มกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูผู้วิเศษ

“ดุเหรอ หนูชอบ” หนูด้วงยกยิ้ม


‘อยากจะมีเธอ ฉันอยากจะมีเธอ เก็บไว้ในใจอย่างนี้ เธอเป็นเหมือนเวลาวันคืนที่ดี ที่ฉันไม่เคยพบเจอ
อยากจะมีเธอ ฉันอยากจะมีเธอไม่ขอมีใครคนไหน วันพรุ่งนี้ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร ฉันจะมีเพียงเธอ คนเดียว’


มีต่อด้านล่างค่ะ
V
V
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2018 01:00:14 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ต่อจากด้านบนค่ะ


‘ความสุข’ หนูด้วงเพิ่งเข้าใจอย่างลึกซึ้งในวันนี้เอง การได้นอนมองหน้าของพี่โอบแบบใกล้ๆ ได้นอนในผ้าห่มผืนเดียวกัน การได้อยู่ในอ้อมกอดของพี่โอบ มันทำให้รู้สึกว่าแค่มองไปที่เพดานแล้วเห็นน้องจิ้งจกเกาะอยู่ก็ทำให้ยิ้มได้ นี่แหละคือความสุขแน่ๆ

“นอนไม่หลับเหรอครับ ไหนว่าง่วงไง” โอบอุ้มถามคนในอ้อมกอดที่นอนยุกยิกไปมา

“หนูกำลังคิดท่านอนในแบบของเราอยู่ พี่โอบกอดหนูแบบนี้เมื่อยไหม”

“ก็เมื่อยนิดหน่อย”

“งั้นลองแบบนี้ พี่โอบกอดหนูใหม่ เมื่อยไหมฮะ” หนูด้วงพลิกตัวหันหลังเพื่อให้โอบอุ้มลองกอด

“ตอนนี้ไม่เมื่อย แต่นอนนานๆ ก็คงเมื่อย”

“ว้า งั้นลองไม่ต้องกอดดูนะฮะ แต่นอนชิดกันแบบนี้ ดีไหมฮะ” หนูด้วงพลิกมานอนหงาย ขยับตัวให้ชิดกับอีกฝ่าย

“พี่อยากกอดหนูด้วง เมื่อยพี่ก็ทนได้”

“ไม่ได้ไม่ได้ หนูไม่อยากให้พี่เมื่อย”

“แล้วจะนอนยังไงดี”

“งั้นลองแบบนี้นะฮะ ดีไหม” หนูด้วงกลิ้งขึ้นมานอนอยู่บนตัวของโอบอุ้มแล้วดึงมือของโอบอุ้มให้มากอดตัวเองเอาไว้

“ก็ดีนะ หนูชอบไหม” โอบอุ้มถามกลับ

“หนูก็ชอบ” หนูด้วงระบายยิ้มก่อนจะซบหน้ากับอกของพี่โอบแล้วหลับตาพริ้ม

“ฝันดีนะครับผู้วิเศษของพี่” โอบอุ้มดึงผ้าห่มมาคลุมก่อนจะสอดมือเข้าไปกอดตัวหนูด้วงเอาไว้อีกครั้ง

“ฝันดีฮะผู้พิเศษของหนู” หนูด้วงจูบที่คางของโอบอุ้ม น้ำเสียงเริ่มอู้อี้เหมือนคนง่วงเต็มทน

ไม่นานคนที่มานอนอยู่บนตัวของโอบอุ้มก็หลับสนิทไป โอบอุ้มหอมที่ผมนุ่มก่อนจะค่อยๆ พลิกตัวเพื่อให้หนูด้วงลงไปนอนบนที่นอนดีๆ รู้ว่าอีกฝ่ายแค่อยากใช้เวลาที่มีให้เต็มที่จึงอ้อนไปสารพัด อ้อนจนหลับคาอกเขาไปเลย

‘ความสุข’ โอบอุ้มได้รับรู้ถึงความหมายของคำๆ นี้แล้ว ต่อให้จิ้งจกบนเพดานกลายเป็นตุ๊กแกที่เขากลัวจับหัวใจมาตั้งแต่เด็กๆ เขาก็คงยิ้มได้เพราะตอนนี้ข้างๆ เขามีผู้วิเศษแล้ว ทุกอย่างไม่น่ากลัวอีกแล้ว นี่แหละคือความสุขแน่ๆ

‘อยากจะมีเธอ ฉันอยากจะมีเธอ เก็บไว้ในใจอย่างนี้ เธอเป็นเหมือนเวลาวันคืนที่ดี ที่ฉันไม่เคยพบเจอ
อยากจะมีเธอ ฉันอยากจะมีเธอ ไม่ขอมีใครคนไหน วันพรุ่งนี้ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร ฉันจะมีเพียงเธอ...คนเดียว’

...

ภาพที่หนูด้วงคิดเอาไว้ว่าเมื่อตื่นเช้ามาคือตัวเองยังคงนอนอยู่บนตัวของพี่โอบพร้อมกับวงแขนอันอบอุ่นของพี่โอบนั้นยังคงกอดรัดตัวเองเอาไว้ แต่เมื่อตื่นมาจริงๆ ก็พบว่าตัวเองนอนกินที่กินทางกางแขนกางขาจนพี่โอบเหลือที่นอนคือตรงริมเตียงแค่นิดเดียว พอเห็นว่าคนข้างๆ ยังไม่ตื่นเลยแอบหยิบโทรศัพท์มาไลน์หาอาน้อง

Dar
อาน้องตื่นรึยังฮะ
YourRabbit
ตื่นแล้วครับ มีอะไรหรือเปล่า
Dar
หนูจะมาส่งข่าวว่าที่หนูมาปรึกษาอาน้อง มันดีมากเลยฮะ
YourRabbit
เหรอ อืม...สรุปว่าที่มาถามอาน้อง ถามไปให้นกฮูกหรือถามให้ใครครับ
Dar
ให้นกฮูกสิฮะ ก็แบบ...นกฮูกฝากมาบอก

YourRabbit
แล้วนกฮูกอยากถามอะไรอาอีกไหม
Dar
ก็...นกฮูกฝากถามว่า ถ้าอยากให้แฟนทำอะไรมากกว่านี้ ต้องทำยังไงต่อฮะ
YourRabbit
แฟนของนกฮูกเขาคงเป็นสุภาพบุรุษเลยไม่อยากทำอะไรมากไปกว่านั้นมั้งครับ
Dar
ใช่เลยฮะ สุภาพบุรุษสุดๆ แต่หนูก็อยากให้ทุกอย่างมันสมบูรณ์
YourRabbit
หนูอยาก?
Dar
อ๋อๆ หนูหมายถึงนกฮูกอยากไงฮะอาน้อง
YourRabbit
บอกนกฮูกว่าอย่าเพิ่งรีบร้อน แฟนของนกฮูกคงรอเวลาที่เหมาะสม ที่เขาไม่ทำมากไปกว่านั้นไม่ได้แปลว่าความรักมันจะไม่สมบูรณ์ เขาอาจจะรักเรามากจนอยากทะนุถนอมเราก็ได้
Dar
ฮะ หนูจะรอก็ได้ก็ได้ เอ้ย หนูจะบอกให้นกฮูกรอก็ได้ก็ได้
YourRabbit
ว่าแต่นกฮูกควรมีถุงยางติดตัวเอาไว้ด้วยนะ เผื่อบรรยากาศมันพาไป เดี๋ยวอาน้องจะส่งตัวอย่างให้ดูพร้อมกับวิธีใช้ เผื่อหนูด้วง เอ้ย เผื่อนกฮูกจะซื้อติดเอาไว้ ไม่ว่าจะรักแค่ไหนก็ต้องใช้ เข้าใจไหมครับ
Dar
ฮะ งั้นแค่นี้ก่อนนะฮะ ฝากจุ๊บๆ ยุงพญาด้วย
YourRabbit
ครับ ดูแลตัวเองด้วยนะ


หนูด้วงวางโทรศัพท์ลงก่อนจะพลิกตัวกลับมา เห็นพี่โอบกำลังมองมาก็แอบตกใจเล็กน้อยเพราะกลัวพี่โอบจับได้ว่าตัวเองไปเรียนวิชามัดใจคนรักจากอาน้อง

“แชทกับใครแต่เช้าเลย” โอบอุ้มถาม

“กับอาน้องฮะ เมื่อคืนยุงพญากับอาน้องไม่ว่างคุยเลยมาทักกันตอนเช้าแทน” หนูด้วงไม่ได้โกหกแต่แค่ไม่ได้พูดทั้งหมด

“ทำไมหนูตื่นเช้า”

“พอดีตอนสายๆ หนูต้องไปธุระกับนกฮูก ไปไม่นานฮะ แล้วหนูจะรีบกลับมา”

“ให้พี่ไปด้วยไหม”

“พี่ต้องรอจัดการเรื่องร้านไม่ใช่เหรอฮะ หนูไปไม่นานหรอก หนูจะรีบกลับเพราะหนูอดคิดถึงพี่ไม่ไหว” หนูด้วงขยับตัวมาให้โอบอุ้มกอด

“อ้อนจริงๆ นะเรา”

“หนูอ้อนเก่ง” หนูด้วงยิ้มรับคำชม

“งั้นดูแลตัวเองดีๆ มีอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดนะครับ”

“ฮะ พี่ตื่นแล้ว งั้น...ไปอาบน้ำกันไหม” หนูด้วงส่งสายตาเป็นประกายไปให้อีกฝ่ายจนโอบอุ้มอดหัวเราะออกมาไม่ได้

“อาบน้ำเฉยๆ หรืออาบแบบเมื่อคืน” โอบอุ้มกระชับกอดก่อนจะแกล้งถาม

“แบบเมื่อคืนก็ได้ หนูชอบ”

“ตัวแสบ” โอบอุ้มฟัดแก้มหนูด้วงด้วยความเอ็นดู นึกในใจว่าความตรงไปตรงมาของหนูด้วงมันช่างปั่นป่วนอารมณ์ของเขาได้ดีจริงๆ

“ไม่ได้เหรอ” หนูด้วงเอียงคอถาม

“จัดให้ครับ” โอบอุ้มยกยิ้มก่อนจะค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าให้คนขี้อ้อนแล้วพาไปอาบน้ำให้แต่โดยดี

...

โอบอุ้มมาส่งหนูด้วงที่ท่าเรือเพราะนกฮูกมารออยู่แล้ว กำชับทั้งคู่อีกครั้งว่าให้ดูแลตัวเองให้ดี หลังจากนั้นเขาก็ขับรถไปหาตะวันที่หมู่บ้าน เจอพี่ก้านกำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่จึงเดินเข้าไปทักทาย

“น้าตวงตื่นรึยังครับพี่ก้าน”

“ตื่นแล้วครับ แต่คงกำลังโยคะอยู่”

“ผมเอางานมาให้น้าตวงตรวจ”

“เข้าไปได้เลย แล้วทานข้าวเช้ามารึยัง” ก้านถาม

“เรียบร้อยแล้วครับ”

“คุณโอบ พี่ว่ามันถึงเวลาที่คุณโอบต้องบอกนายพญาแล้วนะครับ”

“ผมทำไม่ได้จริงๆ ครับพี่ก้าน ผมขอโทษ”

“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ พี่เข้าใจคุณโอบ แต่พี่ไม่อยากให้คุณโอบกับนายพญามาผิดใจกัน”

“ผมเชื่อว่าป๊าจะเข้าใจผม”

“ตามใจคุณโอบก็แล้วกัน แต่มีอะไรที่อยากให้พี่ช่วยคุณโอบอย่าได้เกรงใจเลยนะ พี่เต็มใจช่วย”

“แค่นี้พี่ก้านกับน้าตวงก็ช่วยผมมากจนผมไม่รู้จะตอบแทนยังไงแล้วครับ”

“คนงานมาส่งต้นไม้พอดี คุณโอบเข้าไปในบ้านได้เลย พี่ขอตัวไปดูคนงานก่อน”

“ครับพี่ก้าน”

โอบอุ้มอยู่คุยกับตะวันไม่นานก็ต้องขอตัวกลับเพราะว่าจะต้องกลับไปดูแลน้องแฝดแทนประนอมที่ขอลาหยุดครึ่งวัน เมื่อเดินออกไปถึงหน้าบ้านก็เห็นคนงานคนหนึ่งกำลังเดินเซไปเซมา เขารีบเข้าไปช่วยรับกระสอบดินเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะล้ม

“ขอบคุณครับ” คนงานรีบกล่าวขอบคุณเพราะว่าเมื่อครู่รู้สึกหน้ามืดขึ้นมา ร่างกายของเขาไม่แข็งแรงตั้งแต่ถูกทำร้าย แต่ทำยังไงได้ในเมื่อต้องหาเงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง

“ไม่เป็นไรครับ” โอบอุ้มยกกระสอบดินไปวางให้ที่โคนต้นไม้ก่อนจะเดินออกไปที่รถ

“ใช่แน่ๆ ต้องใช่แน่ๆ” คนงานมองตามโอบอุ้มจนอีกฝ่ายขึ้นรถแล้วขับออกไป

ถึงจะนานมากแค่ไหนก็ตาม คนอย่างสามารถมั่นใจว่าเขาจำเด็กน้อยคนนี้ได้ไม่มีวันลืม แม้จะโตเป็นหนุ่มแล้วแต่เขาคิดว่าต้องใช่ ขอให้รู้แน่ชัดว่าเป็นคนเดียวกัน เขาจะได้เรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองเสียที

...

หลังจากที่หนูด้วงไปทำธุระของตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ชวนนกฮูกแวะซื้อของเล่นและขนมไปฝากน้องแฝดก่อนจะกลับ นกฮูกไม่รู้หรอกว่าหนูด้วงไปที่ไหน หนูด้วงจะให้นกฮูกมารอที่ห้างสรรพสินค้าทุกครั้ง ส่วนเจ้าตัวก็จะหายไปประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วถึงจะกลับมา เมื่อถามแล้วหนูด้วงไม่ยอมบอกก็เลยเลิกถาม คิดว่าเพื่อนคงมีเหตุผลที่ไม่บอก นี่คงเป็นเรื่องเดียวที่หนูด้วงปิดบังเพื่อนอย่างเขาได้อย่างมิดชิด ทีแรกก็นึกว่าจะเป็นเรื่องของพี่โอบอุ้ม แต่นี่หนูด้วงก็ปิดบังพี่โอบอุ้มด้วยเหมือนกัน นกฮูกคิดไม่ออกจริงๆ ว่าหนูด้วงหายไปทำอะไรทุกวันอาทิตย์ที่สามของเดือน

“ไหนว่าจะแวะซื้อของเล่น แล้วทำไมมาอยู่ตรงนี้” นกฮูกถามเมื่อหนูด้วงจูงมือของตัวเองมาหยุดอยู่ตรงชั้นที่วางขายถุงยางอนามัย

“อาน้องบอกว่าให้ซื้อเก็บเอาไว้”

“หนูด้วงไปปรึกษาอาน้องว่ายังไง หรือบอกให้อาน้องรู้แล้วว่าคบกับพี่โอบอยู่”

“เปล่า คือ...แหะๆ เราบอกว่าเราปรึกษาแทนนกฮูกอ่า”

“หนูด้วง!!”

“ขอโทษฮะ” หนูด้วงรีบยกมือไหว้เพื่อนรัก จนอีกฝ่ายถอนหายใจแล้วพยักหน้าหนูด้วงถึงยิ้มออก

“แล้วจะเลือกยังไง” นกฮูกไม่ได้โกรธแค่ตกใจ แต่พอมาคิดแล้วก็เดาได้ว่าอาน้องคงไม่เชื่อแน่ว่าหนูด้วงมาปรึกษาแทนตัวเอง ขนาดนกฮูกยังจับได้ อาน้องก็คงจับผิดหนูด้วงได้เช่นกัน

“อาน้องส่งตัวอย่างพร้อมรายละเอียดมาให้ดู”

“ไหนดูสิ โห สุดยอด บอกละเอียดมาก แล้วเลือกขนาดถูกเหรอ” นกฮูกถามก่อนจะหันไปมองหน้าของหนูด้วง หนูด้วงยิ้มเขินๆ ก่อนจะเล็งกล่องสี่เหลี่ยมหลากสีที่วางเรียงอยู่บนชั้น

“น่าจะอันนี้” หนูด้วงเลือกมาหนึ่งอัน

“น่ะ...น่ะ...หนูด้วง”

“อะไร”

“นั่นมันขนาดใหญ่สุดเลยนะ” นกฮูกตาโตเมื่อดูรายละเอียดบนกล่อง

“ไม่ได้เหรอ” หนูด้วงเอียงคอถามเพื่อนรัก

“เราจะไปรู้ได้ไง ไม่เคยเห็น” นกฮูกหน้าแดงไม่ต่างกัน แถมยังเดินหนีหนูด้วงไปยืนไกลๆ อีกต่างหาก

“ก็ว่าได้แหละ งั้นเราเอาทุกสีเลยนะ มีแบบปุ่มด้วยนะนกฮูก ว้าววว มีกลิ่นราสเบอร์รี่ด้วย เจ๋ง” หนูด้วงตะโกนพูดกับเพื่อนจนคนอื่นๆ หันมามอง

“หนูด้วง!!” นกฮูกอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ก่อนที่หนูด้วงจะพูดอะไรเสียงดังออกมาอีกจึงจำต้องรีบเดินกลับมาจูงมือเพื่อนรักให้ออกมาจากบริเวณนั้นทันที

...

หนูด้วงกับนกฮูกกลับมาถึงเกาะในตอนบ่าย โอบอุ้มพาน้องแฝดมารับทั้งคู่ที่ท่าเรือ จากนั้นก็พาไปทานส้มตำด้วยกัน วันนี้นกฮูกจะอยู่ที่ร้านกล่องดนตรีจนถึงค่ำๆ เพราะจะมาเรียนผสมเครื่องดื่มหลากชนิดกับพี่นิลด้วย วันอาทิตย์พี่นิลได้หยุดงานประจำจึงนัดนกฮูกกับรุ่นน้องอีกสองคนให้มาเรียนพร้อมกัน

“นาโม ลาบเผ็ดจังเลย น้องหม่อนจะพ่นไฟอยู่แล้ว” ใบหม่อนเอามือพัดที่ปากเพราะอยากลองกินลาบที่พี่หนูด้วงสั่งมา

“ยิ่งกินน้ำจะยิ่งเผ็ด เดี๋ยวสั่งผลไม้มาให้ดีกว่า” โอบอุ้มเตือนเมื่อเห็นน้องหม่อนดื่มน้ำแก้วที่สามแล้ว

“เดี๋ยวก็ปวดท้อง แล้วกินเลอะเทอะตลอด” น้องไม้บ่นน้องชายก่อนจะหยิบทิชชูมาเช็ดปากที่แดงเจ่อให้เบาๆ หนูด้วงกับนกฮูกอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นความอ่อนโยนของน้องไม้

“ปากแดงเหมือนทาลิปสติกไหมน้องไม้” น้องหม่อนทำปากจู๋ให้พี่ชายฝาแฝดดูก่อนจะหัวเราะออกมา

“ทะเล้น” น้องไม้ว่าน้องหม่อนเหมือนผู้ใหญ่ว่าเด็ก

“น้องไม้ชอบดุน้องหม่อน” น้องหม่อนเริ่มงอนแต่พี่ชายก็ยังทำเฉย

“พี่มีหมากฝรั่ง ลองเคี้ยวแก้เผ็ดไหม” หนูด้วงรีบเปลี่ยนเรื่อง

“ไม่ได้เอาลงมา อยู่ในรถ” นกฮูกรีบบอกเพราะไม่ได้หยิบถุงขนมที่ซื้อลงมาด้วย

“ผลไม้มาพอดี กินฝรั่งนี่ก่อนนะ” นกฮูกจะจิ้มฝรั่งส่งให้น้องหม่อนแต่น้องไม้ชิงจิ้มชมพู่ส่งให้น้องชายของตัวเองเสียก่อน

“น้องหม่อนชอบชมพู่” น้องไม้พูดลอยๆ น้องหม่อนปรบมือดีใจที่ได้กินของโปรด นกฮูกกับหนูด้วงจึงได้รู้ว่านี่คือการง้อของน้องไม้นั่นเอง

เมื่อทานอาหารกันเสร็จโอบอุ้มก็พาทุกคนกลับบ้าน ระหว่างทางจู่ๆ น้องหม่อนก็ส่งเสียงดีใจจนทุกคนต้องหันมามอง ยกเว้นโอบอุ้มที่ขับรถอยู่

“นาโม...พี่หนูด้วงซื้อหมากฝรั่งมาฝากน้องหม่อนเยอะแยะเลย มีตั้งหลายสี รสอะไรบ้าง น้องหม่อนขอกินเลยได้ไหม นะนาโม น้องหม่อนอยากกินรสนี้ก่อน” น้องหม่อนหยิบกล่องหมากฝรั่งที่ว่ายื่นไปด้านหน้ารถ

“เฮ้ย!!! น้องหม่อน ไม่ใช่ครับ อันนั้นไม่ใช่ของน้องหม่อน คือ คือ...อันนั้นของนาโม” หนูด้วงตกใจเมื่อน้องหม่อนหยิบกล่องถุงยางขึ้นมา นกฮูกเองก็ตกใจไม่แพ้กัน รีบหยิบถุงขนมของเด็กๆ มายื่นให้แทน

“แต่...ของนาโมน่ากินกว่า” น้องหม่อนมองถุงขนมในมือของนกฮูกกับของในมือตัวเองสลับไปมาก่อนจะบอกเสียงอ่อยๆ

“ทำไงดี” หนูด้วงตกใจจนนึกหาทางออกไม่ทัน

“หึหึ ฮ่าๆ” โอบอุ้มอดไม่ได้จนต้องหัวเราะออกมา ทุกคนในรถต้องหันไปมองเพราะไม่เคยเห็นโอบอุ้มหัวเราะเสียงดังมาก่อนเลย

“นาโมขำอะไร” น้องไม้ถาม

“คืออันนั้นมันไม่ใช่ขนมครับ มันคือของใช้ผู้ใหญ่ เห็นรูปข้างกล่องไหม มันมีรูปคนทิ้งขยะด้วย แปลว่ามันไม่ควรกิน” โอบอุ้มจำต้องแก้ไขสถานการณ์นี้ไปก่อน

“จริงด้วย น้องหม่อนเกือบกินขยะไปแล้ว” น้องหม่อนทำท่าโล่งอกพร้อมกับรีบเอากล่องสีแดงสดในมือคืนให้นกฮูกและหยิบถุงขนมในมือของนกฮูกมาถือแทน

“ตัวป่วน” โอบอุ้มพูดเบาๆ กับหนูด้วง พยายามกลั้นขำและตั้งใจขับรถต่อ

หนูด้วงหันไปยิ้มแหยๆ ให้นกฮูกที่ยังหน้าตาตื่นไม่หาย แต่พอเหลือบไปเห็นสายตาสงสัยของน้องไม้ที่มองมาก็ยิ้มเจื่อนๆ อีกรอบ จนกระทั่งมือของโอบอุ้มมายีผมของตัวเองเบาๆ หนูด้วงถึงได้ยิ้มออก พี่โอบคงรู้ว่าหนูด้วงกำลังนึกตำหนิตัวเองที่ไม่ระวังจึงอยากปลอบใจ ก็คงมีพี่โอบที่รับรู้เสมอว่าหนูด้วงกำลังรู้สึกยังไง แล้วแบบนี้จะไม่ให้หนูด้วงรักพี่โอบมากๆ ได้ยังไง ว่าแล้วหนูด้วงก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโพสต์รูปลงในเฟซบุ๊ก เป็นรูปสัตว์สองตัวคือสิงโตกับเสือขาวหยอกล้อเล่นกันอยู่พร้อมกับพิมพ์ข้อความลงไป


หนูด้วงพี่น้องด้าว พูดชัดแล้ว Thezoo กำลังรู้สึกเป็นที่รัก
1 นาที. Kho Sangdad

กฎของเสือคือห้ามหลงรักเหยื่อเด็ดขาด แต่เนื้อคู่ไม่ใช่เหยื่อ..รักได้ แฮร่!
 


โปรดติดตามตอนต่อไป

อาการป่วยกลับมากำเริบเลยหายไปหลายวัน วันนี้เลยมาชดเชยให้ด้วยฉากสยิวกิ้วสั้นๆ 555
หนูด้วงของเรารุกเก่งจริงๆ พี่โอบจะไม่ไหวแล้วนะคะทุกคน
แล้วนกฮูกบอกหนูด้วงไม่ทันพี่โอบ เลิฟว่าไม่รู้ใครไม่ทันใครนะคะ 555
ขอให้มีความสุขกับเพลงรักตอนนี้นะคะ อย่าไปกลัวปม เพื่ออรรถรสสสส
กลับมาแก้คำผิดที่หลุดรอดทีหลังนะคะ ตีสี่แล้ว ตาจะปิด แหะๆ
ขอบคุณคุณ Meen2495 และน้องหนิงที่ช่วยตรวจคำผิด
ขอบคุณคนอ่านที่น่ารักของเลิฟทุกคนท่านเลยนะคะที่ยังอยู่ด้วยกัน
...รัก...
   


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2018 01:00:44 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
หนูด้วงอย่ายั่วพี่โอบบ่อย แถมยังซื้อมาทุกสี ทุกกลิ่นอีก หนูด้วงไม่บอกนกฮูกไปล่ะว่าวัดขนาดมากับมือจะไม่รู้ได้ไง 555

 

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
หนูด้วงศิษย์อาน้อง มือใหม่หัดยั่ว
ที่ปรึกษาดีจริงๆ พี่โอบจะอดทนได้นานแค่ไหน

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
หนูด้วงไม่ใสซะเเล้วลูก

ขอบคุณที่นำเพลงเก่าที่ชอบมากๆกลับมาให้ ลืมไปแล้ว เหมือนได้เจอชีวิตวัยรุ่นอีกครั้ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-07-2018 12:56:37 โดย silverspoon »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kedtawan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตายยย แล้วว หนูด้วงงง แอบหื่นนะเรานะเรา อ่ะ :hao6:

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
หนูด้วงสุดหื่น แล้วนี้มีความลับอะไรกับพี่โอบเนี่ย   :katai1:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
น้องหนูด้วงตัวแสบ ลำพังตัวเองไม่มีใครชี้นำหนูดัวงก็ฉลาดและแสบนำอยู่แล้ว ตอนนี้มีอาน้องเป็นครู ขอให้พี่โอบทำใจค่ะ

หนูด้วงแอบไปสืบเรื่องน้องแฝดรึเปล่า สามารถ จะทำร้ายหนูแฝดไหมนะ ตัวร้ายรุ่นนี้ดูร้ายจริงๆ

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
เพลงรักที่หายไป
เพลงพิเศษ เพราะผูกพัน
ศิลปิน สมิทธ์ – เชน
(นกฮูก)

‘ผมเสพติดความสมบูรณ์แบบ’

ผมจะเรียกพฤติกรรมของตัวเองแบบนี้ได้ไหม

“เจ๋ง ทุกคนมาดูดิ นกฮูกต้องวางดินสอให้มีระยะห่างเท่ากันตลอดเลย ไม่ใช่แค่ดินสอนะ ทุกอย่างเลย ใครไปขยับก็ไม่ได้”

“ดูนกฮูกสิ แค่เอาพิซซ่าใส่ไมโครเวฟยังต้องเล็งกล่องให้อยู่ตรงกลางพอดีเลย วันนี้น้องเกลจะได้กินไหมนกฮูก”

“ทำไมนกฮูกต้องเรียงแพนเค้กให้ซ้อนกันพอดีด้วยล่ะ มันจะอร่อยกว่าเหรอ ขอเราชิมบ้าง”

“เฮ้ย! นกฮูก นี่มันในซุปเปอร์มาร์เก็ตนะ ทำไมต้องไปเรียงผักให้เขาด้วย มันไม่ใช่หน้าที่เรานะ”

ผมตอบคำถามของเพื่อนๆ ไม่ได้ รู้แต่ว่าทำแล้วมันสบายใจ ผมชอบให้ทุกอย่างเป็นระเบียบและมีระยะห่างที่พอดี ช่วงแรกเพื่อนๆ ก็คงอึดอัดใจกับนิสัยของผม แต่สุดท้ายทุกคนก็เริ่มทำอะไรให้เป็นระเบียบเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเห็นผมเสียเวลาทำสิ่งเหล่านั้นเอง

ทุกคืนก่อนนอนผมจะไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ ข้าวของทุกอย่างบนโต๊ะถูกจัดวางเหมือนเดิม ไม่ว่าขนาดของหนังสือที่ต้องเรียงจากเล่มใหญ่ไปจนถึงเล่มเล็กสุด สันของหนังสือจะต้องอยู่ในระนาบเดียวกัน ปากกา ดินสอหรือดินสอสีถูกแยกประเภท ดินสอจะถูกเหลาจนแหลมและต้องมีขนาดเท่ากัน โทนสีของสิ่งของก็ต้องไล่เฉดกัน นั่นคือตัวอย่างความพอดีของผม แต่มันคงเกินความพอดีของคนอื่นๆ

แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ผมมานั่งอยู่ตำแหน่งนี้ทุกคืนก่อนนอน

ผมแค่อยากเห็นใครบางคนก่อนที่ผมจะหลับตาลงเพื่อรอเริ่มต้นวันใหม่ วันใหม่ที่ก็ใช้ชีวิตแบบเดิมวนไป ชีวิตที่รักษาระยะห่างเพื่อความสมบูรณ์แบบ

พ่อกับแม่ของผมเป็นหมอทั้งคู่ ท่านไม่ได้กดดันว่าผมจะต้องเป็นหมอเหมือนท่าน แต่ผมอยากเป็นในสิ่งที่ท่านเป็นเพราะท่านคือแบบอย่างที่ดี แล้วทำไมผมจะต้องเดินไปในทิศทางอื่น

ชีวิตของผมเกือบจะสมบูรณ์แบบอย่างที่ผมวาดฝันเอาไว้ มีเพียงเรื่องเดียวที่ผมไม่สามารถทำให้มันสมบูรณ์ได้...คือเรื่องของใครคนนั้น

เขาคือคนที่อยู่บ้านข้างๆ ห้องของเขาอยู่ตรงกันข้ามกับห้องของผม หน้าต่างห้องของเราตรงกันและห่างกันไม่ถึงสามเมตร ใกล้ขนาดที่ว่าถ้าจะปีนมาหากันก็ไม่ใช่เรื่องยาก ผมเห็นเขาทุกคืนแต่เขาคงไม่เคยเห็นผม นั่นเพราะหน้าต่างของเขาไม่เคยปิดม่าน...ซึ่งต่างจากผม นอกจากเสพติดความสมบูรณ์แบบแล้ว ผมอาจจะเป็นพวกถ้ำมองก็ได้

“ป้าย พ่อบอกแกกี่ครั้งแล้วว่าให้คิดดีๆ จะไปเรียนศิลปะอะไรนั่นพ่อว่ามันไม่มั่นคง ไหนจะเรื่องเป็นนักดนตรีอะไรนั่นอีก ดูอย่างลูกคุณหมอสิ แกทำไมไม่เอาอย่างเขาบ้าง”

ประโยคเดิมๆ ของคุณลุงเจตที่ตำหนิลูกชายดังมาให้ผมได้ยินเป็นประจำจนผมแทบจะท่องตามได้ แต่ผมก็ไม่เคยได้ยินเสียงลูกชายของคุณลุงตอบกลับเลยสักครั้ง เงียบ...เป็นความเงียบที่คงยั่วโมโหผู้ที่เป็นพ่อไม่น้อย ดูได้จากเสียงกระแทกประตูที่ดังขึ้นทุกครั้งเมื่อคุณลุงเจตเดินออกจากห้องของลูกชายตัวเองไป

เขาคิดอะไรอยู่...ทำไมเขาไม่บอกความต้องการของตัวเองไป ลุงเจตน่าจะเข้าใจ ความเงียบไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น

ผมพยายามแหวกผ้าม่านของผมมากกว่าเดิมเพราะรู้ดีว่าหลังจากที่เขาโดนตำหนิ เขาจะปีนหน้าต่างออกมานั่งบนหลังคาเรือนไม้ประดับแล้วสูบบุหรี่ระบายอารมณ์ เขาจะใส่แค่กางเกงยีนส์เพียงตัวเดียว ผมแอบสงสัยในใจว่าเขาไม่หนาวรึไงกัน อยากรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ใบหน้าเรียบเฉยที่เหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดสนิทนั้น...กำลังคิดอะไรอยู่

“ฮัลโหล พรุ่งนี้ที่เดิมเหรอครับ ได้ครับ”

เขารับโทรศัพท์ ผมได้ยินทุกถ้อยคำ เขามักจะมีนัดหมายกับปลายสายเสมอ อาจจะเป็นเพื่อนหรือไม่ก็...คนรัก

ผมค่อยๆ ละสายตาจากเขา ม่านของผมที่เผยอเพียงเล็กน้อยถูกปิดให้สนิทอย่างเดิม ก็แค่นี้เอง ชีวิตของผม ชีวิตยามค่ำคืนของนกฮูก

....

วันนี้เป็นวันเสาร์ เพื่อนนัดกันไปดูหนังแต่ผมปฏิเสธเพราะอยากไปที่ห้องสมุดของจังหวัดมากกว่า ผมอยู่มัธยมปลายแล้ว อีกปีเดียวก็จะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย ถึงมั่นใจว่าสอบติดมหาวิทยาลัยที่ต้องการแต่ผมอยากทำคะแนนให้สูงที่สุด ผมไม่ได้อยากให้ใครมาชื่นชม แค่คิดว่าจะทำอะไรทั้งทีก็ควรทำให้ดีที่สุดแค่นั้นเอง

ผมใช้เวลาอยู่ในห้องสมุดจนเย็น ขณะที่กำลังยืนเรียงหนังสือในชั้นให้เป็นระเบียบ คนที่มาใช้บริการคงเสียบเก็บส่งๆ จนผมรู้สึกรำคาญสายตา ต้องจัดเรียงใหม่ตามตัวอักษร เวลาคนมาค้นหาจะได้ง่ายขึ้น เผอิญว่าสายตาเหลือบไปเห็นเจ้าของห้องตรงกันข้ามกับผมมานั่งอ่านหนังสืออยู่ เขาไม่ได้อ่านที่โต๊ะเหมือนคนอื่นๆ แต่มานั่งอ่านบนพื้นในซอกเล็กๆ ด้านในของห้องสมุด เป็นบริเวณที่มีแสงสว่างน้อยอีกต่างหาก

“มันไม่มืดเหรอครับ ซอกก็แคบ น่าอึดอัด” ผมเอ่ยถาม

“เป็นนกฮูกไม่ชอบความมืดเหรอ” เขาถามผมกลับ

“แล้วพี่ไม่ใช่นกฮูก ถ้าอย่างนั้นมานั่งตรงนี้ทำไม” ผมย้อนถามกลับไปอีกรอบ

“พี่ชอบความมืด ยิ่งมืดมากๆ ยิ่งดี”

เราไม่ต้องทำความรู้จักกันเพราะเราสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก บ้านเราอยู่ติดกัน พ่อแม่ของเราสองคนก็สนิทสนมกันดี พี่เขาชื่อป้าย มีน้องชายฝาแฝดชื่อแปะ แต่พี่แปะเป็นคนอารมณ์ดีและมักจะเป็นฝ่ายเข้ามาทักทายผมก่อนเสมอ ส่วนพี่ป้ายจะเป็นคนเงียบๆ บางทีผมว่าพี่เขาเงียบจนเกินไป

“ผมขอตัวก่อนนะครับ” ผมไม่รู้จะชวนพี่เขาคุยอะไรต่อ ผมก็ไม่ใช่คนคุยเก่ง ที่สำคัญคือผมไม่อยากเผลอแสดงอาการให้เขารู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับเขา

ห้องสมุดในตอนนี้เงียบมากเพราะไม่มีใครใช้บริการแล้ว เหลือแต่พี่บรรณารักษ์ที่สนิทกับผมพอสมควร พี่เขารู้ว่าผมชอบมาเรียงหนังสือให้เลยปล่อยให้ผมทำแม้จะใกล้เวลาที่ปิดทำการแล้ว

“นกฮูก พี่ฝากเฝ้าห้องหน่อยนะ วันนี้ท้องเสีย สงสัยยำมะม่วงทำพิษ”

ผมพยักหน้าให้แทนคำตอบรับ หนังสือเล่มสุดท้ายถูกเก็บเข้าชั้นเรียบร้อย ผมไม่รู้ว่าพี่ป้ายกลับไปหรือยัง แอบหวังสัก 10 เปอร์เซ็นต์ว่าพี่เขาจะชวนกลับบ้านด้วยกัน แต่คิดว่าอีก 90 เปอร์เซ็นต์น่าจะเป็นไปได้มากกว่า

‘ซี๊ดดดด อืมมมม’

ผมได้ยินเสียงครวญครางดังมาจากซอกเล็กๆ ที่พี่ป้ายนั่งอ่านหนังสือ ขาของผมก้าวเดินตามเสียงไปและไปหยุดอยู่ในชั้นหนังสือข้างๆ มือของผมหยิบเอาหนังสือในชั้นออกหนึ่งเล่มเพื่อจะได้เห็นว่าต้นตอของเสียงเกิดขึ้นเพราะอะไร

ผมเห็นภาพหญิงสาวคนหนึ่งกำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้น ใบหน้ากำลังจดจ่ออยู่ที่ส่วนกลางของฝ่ายชาย เธอกำลังดื่มด่ำกับส่วนนั้นราวกับว่ามันเอร็ดอร่อยจนไม่อยากถอนริมฝีปากออก ผมไม่รู้จักเธอ แต่ผมรู้จักเขา ‘พี่ป้าย’

ผมยืนอึ้งและก้าวขาไม่ออก นานจนกระทั่งได้ยินเสียงพี่บรรณารักษ์เรียกหาผม ผมเห็นว่าหญิงสาวมีท่าทางตกใจเล็กน้อยแต่พี่ป้ายดึงเธอขึ้นมาแล้วดันตัวเธอไปชิดกำแพง จากนั้นพี่เขาก็เดินเข้าไปประกบ ผมไม่ได้ดูต่อ รีบเดินออกมาหาพี่บรรณารักษ์เพราะกลัวว่าเขาจะเดินมาตรงนี้ ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงอยากปกป้องคนสองคนที่ทำอะไรน่าอายแบบนั้น

ผมคุยอยู่กับพี่บรรณารักษ์ครู่ใหญ่จนพี่ป้ายกับผู้หญิงคนนั้นเดินออกมา ผมไม่ได้หันไปมองพี่เขาเลย เห็นแต่แผ่นหลังตอนที่เขาเดินออกไป

“สงสัยมาทำอะไรบ้าๆ ในนี้แน่เลย พี่ขอไปดูความเรียบร้อยหน่อย”

“ผมไปดูให้ครับ พี่รีบเก็บของดีกว่าจะได้ปิดห้องสมุด” ผมรีบบอกก่อนจะเป็นฝ่ายเดินกลับไปที่ซอกมืดนั่น

ภาพเมื่อครู่ยังคงฉายชัดในหัวของผม ใจของผมเต้นรัว เกิดมาไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้นมาก่อน ทำไมพี่เขาถึงไม่กลัวคนจับได้ ผมถามตัวเองว่าถ้าเป็นผม ผมจะกล้าทำแบบนั้นไหม

‘Friend service’

ผมหยิบนามบัตรที่ตกอยู่ นามบัตรสีดำสนิทและมีรูปนกฮูกอยู่ตรงกลาง มันมีไอดีไลน์และเว็บไซต์พิมพ์อยู่บนบัตร ผมตัดสินใจเก็บมันใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะเดินออกไปบอกพี่บรรณารักษ์ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี

“ไปกินไอติมกันไหม” คนที่ผมคิดว่ากลับไปแล้วยืนรอผมอยู่ที่หน้าห้องสมุด แถมยังเอ่ยปากชวนผมไปกินไอศกรีม เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจมาก

“ครับ” แล้วผมก็ตอบรับอย่างง่ายดาย

พี่เขาพาผมนั่งรถสองแถว มาลงแถวๆ ตลาด พาผมเดินมาถึงร้านไอศกรีมเล็กๆ ที่ซ่อนตัวในตรอกลึก ร้านนี้ตกแต่งน่ารักมากจนผมอดคิดถึงเพื่อนๆ ไม่ได้ เพื่อนสนิทในกลุ่ม The zoo ของผมชอบหาร้านขนมกิน ยิ่งตกแต่งน่ารักยิ่งชอบ

“คิดถึงเพื่อนเหรอ เอาไว้พามาสิ” พี่เขาเป็นฝ่ายชวนผมคุย

“พี่รู้ได้ไงว่าเพื่อนผมชอบ”

“ก็ได้ยินเวลาคุยกัน”

ผมอึ้งไปนิดหน่อย ลืมไปว่าผมเองยังได้ยินเวลาคุณลุงเจตหรือพี่แปะเข้ามาคุยกับพี่ป้ายในห้อง พี่เขาก็คงได้ยินเหมือนกัน บ้านของเราสองคนเกือบจะเป็นบ้านแฝดเพราะแต่เดิมเจ้าของบ้านทั้งสองหลังเป็นพี่น้องกันจึงปลูกติดกันมาก แล้วพ่อของผมกับพ่อของพี่ป้ายก็มาซื้อต่อพร้อมกับตกแต่งใหม่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“พี่ชอบกินรสไหน” ผมถามพี่ป้ายหลังจากที่พนักงานเอาเมนูมาให้ดู

“กะทิ”

“แก่จัง” ผมยิ้มเมื่อได้ยินไอศกรีมรสโปรดของพี่เขา

“เกี่ยวตรงไหน”

“รสโบราณ โรยถั่วกับนมด้วยไหม”

“ชอบ” พี่เขาตอบสั้นๆ เพราะกำลังพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์อยู่

“เอารสกะทิโรยถั่วกับนมสดสองที่ครับ” ผมสั่งพนักงาน ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของพี่เขา

เมื่อพี่เขาสนใจแต่โทรศัพท์ผมก็เลยไม่ได้ชวนคุย พนักงานเอาช้อน แก้วน้ำและทิชชูมาวางให้ ผมเห็นว่ามันเอียงเรียงไม่เป็นระเบียบจึงจัดทุกอย่างใหม่ วางจนได้องศาและระยะห่างที่สวยงามแล้วถึงได้เงยหน้าขึ้นมา พี่เขากำลังเท้าคางมองผมอยู่พร้อมกับริมฝีปากที่ยกยิ้มน้อยๆ

“มันสบายตา” ผมบอกทั้งที่พี่เขาไม่ได้ถาม

“อืม สบายตาเวลามอง” พี่เขาพูดตอบกลับมา ผมได้ยินแล้วรู้สึกแปลกๆ

“ผู้หญิงคนนั้นแฟนพี่เหรอ” ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมกล้าถาม

“เพื่อน”

คำตอบของพี่ป้ายยิ่งทำให้ผมไม่เข้าใจ เพื่อนกันทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ

“แล้วนกฮูกมีแฟนรึยัง”

“ยัง”

“ไม่อยากมีเหรอ”

“ผมยังเด็กอยู่เลย”

“เด็กดี” พี่เขาชมผม

“พี่มีแฟนไหม” ผมถามเขาบ้าง

“อยากมี แต่ไม่มี”

“ถ้าพี่อยากมีทำไมถึงไม่มี” ผมถามเพราะสงสัยจริงๆ พี่ป้ายเป็นคนหน้าตาดี หาแฟนได้ง่ายๆ ไม่เหมือนผมที่หน้าตาธรรมดา ใส่แว่นหนา ตัวก็เล็ก ไม่อยากใช้คำว่าเตี้ยเพราะมันสะเทือนใจ

“มาตรฐานพี่สูงมั้ง”

“แอบชอบคนสวยเหรอครับ” ผมแซว

“เปล่า ชอบคนดี ดีจนไม่อยากชอบ”

คำตอบของพี่ป้ายทำให้ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อ จนกระทั่งไอศกรีมมาตั้งตรงหน้าเราสองคนถึงได้กินกันเงียบๆ เงียบจนมาถึงหน้าบ้านของเราสองคน พี่เขารอส่งผมเข้าบ้าน พอผมกลับเข้าบ้านแล้วพี่เขาถึงได้เดินเข้าบ้านเขาเช่นกัน

......

‘หาก...ว่าเธอเคยเหงาใจ เมื่อเธอคิดถึงใคร จะรู้ว่าปวดร้าว...หรือเปล่า
หาก...ว่าเธอเคยรักใครและเธอต้องเสียใจ จะรู้และเข้าใจ...ถึงฉัน’


เสียงเพลงจากห้องตรงกันข้ามลอยมาให้ได้ยิน ผมแอบแหวกม่านดูก็เห็นว่าพี่ป้ายกำลังออกกำลังกายอยู่ในห้องพร้อมกับเปิดเพลงเสียงดัง น่าแปลกที่เป็นเพลงช้าแทนที่จะเป็นเพลงเร็วสร้างความคึกคักในการออกกำลังกาย

‘ในความผูกพัน นั้นเจ็บปวด แค่คิดถึงกัน ก็ทรมาน’

ผมลองพิมพ์เนื้อเพลงใส่ลงในช่องค้นหา แล้วชื่อเพลงนี้ก็ปรากฏขึ้นมาที่หน้าจอคอม ‘เพราะผูกพัน’ ผมลองค้นหาเนื้อเพลง เมื่อเจอก็นั่งไล่อ่านทุกตัวอักษร เนื้อหามันดูเจ็บปวด ยิ่งได้ยินเสียงเพลงที่ลอยมาจากห้องตรงข้ามผมยิ่งสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด หรือว่าพี่เขากำลังแอบรักใครแล้วผิดหวัง

‘สักวัน เธออาจจะเข้าใจ เธออาจจะรู้ใจ ในสิ่งที่ฉันเป็นอยู่
สักวัน เธอขาดคนรักไป เธออาจจะได้รู้ แล้วเธอจะเข้าใจเป็นอย่างดี’


ผมแหวกม่านดูอีกครั้งก็เห็นว่าพี่เขาออกมานั่งสูบบุหรี่อยู่ที่หลังคาเรือนไม้ประดับแล้ว ผมตัดสินใจหยิบนามบัตรสีดำที่เก็บได้ในห้องสมุดขึ้นมาแล้วพิมพ์ตามเว็บไซต์ที่ปรากฏอยู่บนบัตร อยากรู้ว่านามบัตรนี้เป็นของพี่ป้ายหรือเปล่า

บอกตรงๆ ว่าผมรู้สึกตกใจ มันคือเว็บไซต์ที่ให้บริการคลายเหงา มือของผมสั่นพอๆ กับหัวใจ

ผมหยิบโทรศัพท์สำรองอีกเครื่องหนึ่งที่ผมไม่ค่อยได้ใช้แล้วแอดไอดีไลน์ตามนามบัตรไป ผมเห็นพี่ป้ายคาบบุหรี่พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา สักพักไลน์ของผมก็ถูกกดรับเป็นเพื่อน นามบัตรนี้เป็นของพี่ป้ายแน่แล้ว ผมไม่ได้รู้สึกผิดหวังหรือรังเกียจเมื่อรู้ความจริง ผมแค่ไม่เข้าใจ พี่เขามีความสุขกับการได้ทำสิ่งนี้อยู่จริงๆ น่ะหรือ

Nightman
สวัสดีครับ

พี่เขาทักผมมาก่อน ผมลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ส่งข้อความกลับไป

Mr.perfect
สวัสดีครับ
Nightman
ต้องการใช้บริการอะไรครับ
Mr.perfect
มีบริการอะไรบ้างครับ
Nightman
ตามในเว็บเลยครับ เข้าไปดูก่อน อยากทราบรายละเอียดอื่นค่อยไลน์มาถามครับ

ผมวางโทรศัพท์ลงก่อนจะเข้าไปดูในเว็บไซต์อีกครั้ง ในนั่นมีรายการให้เลือก ทั้งไปกินข้าว ดูหนัง ไปร้องคาราโอเกะ แต่ไม่เห็นมีบริการอย่างที่พี่ป้ายทำกับผู้หญิงคนนั้น ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความอีกครั้ง

Mr.perfect
มีบริการอื่นนอกเหนือจากในเว็บไหมครับ
Nightman
คุณเป็นผู้ชาย ต้องการอะไรนอกเหนือจากนั้นเหรอครับ
Mr.perfect
เพื่อนนอน

ผมกดส่งข้อความไปแล้วก็เอามือมาทาบหัวใจของตัวเอง ผมกำลังทำอะไรอยู่ มันเป็นสิทธิ์ของพี่เขาว่าจะเลือกอนาคตของตัวเองยังไง ผมไม่น่าเข้าไปยุ่งกับงานพิเศษของเขา ที่สำคัญ...ผมทำเพราะอยากรู้หรือทำเพราะอยากลอง

Nightman
ราคาสูงนะครับ
Mr.perfect
เท่าไหร่

‘หาก....ว่ามีใครซักคน ที่เธอเคยทุ่มเทและรักเขาอย่างฉันรักเธอ
หาก...ตัดใจจากเขาไปและเธอต้องเสียใจ เธอคงจะเข้าใจ...ถึงฉัน’


ผมใจเต้นเมื่อต้องรอคำตอบ เสียงเพลงยังคงเล่นวนซ้ำๆ ผมรอนานจนผมต้องแอบแหวกม่านไปดูพี่เขาอีกครั้ง ผมเห็นพี่เขาต่อบุหรี่อีกมวนและเหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า จนบุหรี่เกือบหมดมวนพี่เขาถึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์

Nightman
ผมไม่รับงานที่ต้องการเพียงเซ็กส์
Mr.perfect
ผมเหงา

ผมตัดสินใจพิมพ์สิ่งรู้สึกลงไปหลังจากที่ได้อ่านข้อความของพี่ป้าย

Nightman
เหงาเพราะอะไร
Mr.perfect
อืม...คงเพราะผมแอบหลงรักใครบางคนแต่เขาไม่เคยมีผมในสายตา
Nightman
ทำไมไม่ลองบอกเขาไป
Mr.perfect
เรารู้จักกัน ผมไม่อยากให้ความรู้สึกของผมทำให้เรากลายเป็นคนไม่รู้จักกัน
Nightman
ถ้านอนกับผม คุณจะตัดใจจากเขาได้เหรอ คุณจะมีความสุขขึ้นหรือเปล่า
Mr.perfect
คงไม่
Nightman
แล้วทำไมถึงตัดสินใจแบบนี้
Mr.perfect
ผมแค่อยากแบ่งปันความเหงาให้ใครสักคน

คราวนี้พี่ป้ายเงียบไปอีก ผมไม่ได้แหวกม่านดู สายตาของผมนั่งจ้องจอโทรศัพท์เพื่อรอคำตอบ พี่เขาเงียบไปนานจนผมคิดว่าพี่เขาคงปฏิเสธที่จะรับงานนี้ ผมถอนหายใจและเตรียมตัวเข้านอน จนได้ยินเสียงข้อความตอบกลับดังมาถึงได้รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

Nightman
ร้านไม้ขีด บ่ายโมง ไปถึงร้านแล้วบอกกับพนักงานว่ามาหาไนท์แมน เขาจะพาไปรอที่ห้อง
Mr.perfect
คิดค่าบริการเท่าไหร่ครับ
Nightman
ค่าบริการ = ความเหงาของคุณ

‘สักวัน เธออาจจะเข้าใจ เธออาจจะรู้ใจ ในสิ่งที่ฉันเป็นอยู่
สักวัน เธอขาดคนรักไป เธออาจจะได้รู้ แล้วเธอจะเข้าใจเป็นอย่างดี’


ผมไม่ได้คิดมาก่อนว่าถ้าพี่เขาตอบตกลงผมจะทำยังไง ผมทำตามที่หัวใจมันสั่งเลยไม่ได้ใช้สมองไตร่ตรองสักนิดเดียว คนเสพติดความสมบูรณ์แบบและชอบวางระยะห่างที่พอดีอย่างผมกำลังทำลายระยะห่างและความสมบูรณ์แบบลง เพียงเพราะผมอยากให้คนที่ป้ายสัมผัสในมุมมืดคนนั้นเป็นตัวเอง ผมยอมทำเรื่องที่น่าอายนี้เพียงเพราะอยากแบ่งปันความคิดถึง ความทรมานจากการ ‘คิดถึง’ ที่ผมต้องอยู่กับมันทุกวันทุกคืน

....

ในที่สุดผมก็มายืนอยู่ที่หน้าร้านไม้ขีดไฟ เป็นร้านขายของเก่าที่คนในจังหวัดรู้จักกันดี ผมก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงกล้ามา การตัดสินใจในครั้งนี้มันอาจจะพังชีวิตของผมเลยก็ได้

“มาดูของเหรอครับ” พนักงานคนหนึ่งเดินมาถามผม

“มาหาไนท์แมนครับ”

“อ๋อ ตามมาเลย” พนักงานมองผมด้วยแววตาประหลาดใจ

พี่ป้ายอาจจะไม่เคยรับลูกค้าที่เป็นผู้ชายมาก่อน ผมไม่รู้ว่าพี่ป้ายสนิทกับพนักงานคนนี้แค่ไหน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สงสัยอะไรเลย ได้แต่เดินนำผมขึ้นไปชั้นบนของร้าน พาผมมาหยุดอยู่ที่ประตูห้องที่ทาสีดำแล้วส่งกุญแจห้องให้ผม ผมไขกุญแจเข้าไปก็ได้ยินเสียงเพลงจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง เป็นเพลงเดียวกับที่พี่ป้ายเปิดเมื่อคืนนี้ ตอนนี้ใจของผมเต้นรัว คิดไปต่างๆ นาๆ ว่าถ้าพี่ป้ายรู้ว่าลูกค้าคนนั้นคือผมพี่เขาจะตกใจขนาดไหน

“มาแล้วเหรอเด็กดี” เสียงของพี่ป้ายทำให้ผมต้องหันไปมอง

“พี่รู้ว่าเป็นผมเหรอ” ผมประหลาดใจเพราะพี่เขาไม่มีท่าทีตกใจเลย

“เพิ่งรู้ตอนที่เห็นว่าเรามายืนทำหน้าสับสนอยู่ที่หน้าร้าน” พี่ป้ายมองไปทางหน้าต่างเหมือนจะบอกให้ผมรู้ว่าพี่เขาเห็นจากตรงนั้น

ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี เกร็งจนต้องยืนนิ่งๆ แล้วพี่ป้ายก็เดินมาจูงมือของผมมานั่งที่โซฟาผ้ากำมะหยี่สีดำสนิท ส่งน้ำมะพร้าวปั่นให้พร้อมกับจานขนม

“ผมไม่หิว” ผมบอกพี่เขา

“เดี๋ยวจะไม่มีแรง”

“พี่...คือ...” ผมทั้งตื่นเต้นทั้งสับสนจนหายใจแทบไม่ออก

“ให้เปลี่ยนใจ”

ผมมองหน้าพี่ป้าย รอยยิ้มแบบที่ผมแอบชื่นชมมาตลอดถูกส่งมาจนใจผมสั่น ผู้ชายคนนี้คือผู้ชายที่ผมรู้สึกสบายใจที่ได้มอง ทั้งที่เนื้อตัวของเขาไม่มีระเบียบอะไรเลย ผมก็ยาว แต่งตัวปอนๆ แม้เขาคือสิ่งที่ไม่สมบูรณ์ในสายตาของผม แต่เขากลับเป็นคนที่เติมเต็มหัวใจของผมได้มากกว่าสิ่งใดๆ

“ผมเหงา” ผมตอบกลับไป

“ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ” พี่เขาถามอีกครั้ง ผมพยักหน้า

แล้วพี่เขาก็ขยับเข้ามาใกล้ๆ นิ้วเรียวยาวของพี่ป้ายเกลี่ยอยู่แถวใบหน้าของผมและมาหยุดตรงท้ายทอย ปลายนิ้วลูบไล้ที่ท้ายทอยเบาๆ ผมเงยหน้าขึ้นพร้อมกับหลับตารับสัมผัสที่อ่อนโยน จนกระทั่งพี่เขาฝังจมูกมาที่ลำคอผมถึงได้สะดุ้ง สัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นจากปลายลิ้นที่ลากจากคอขึ้นมาถึงคาง พี่เขาใช้ปลายนิ้วดันท้ายทอยของผมพร้อมกับแทรกปลายลิ้นเข้ามาที่ริมฝีปาก

จูบครั้งแรกของผม...จากผู้ชายที่ผมแอบรัก

ระหว่างที่ผมตกอยู่ใต้อำนาจของจุมพิต ความเยียบเย็นจากปลายนิ้วของพี่ป้ายก็ล้วงเข้ามาสัมผัสติ่งเล็กๆ ภายใต้เสื้อของผม แค่พี่เขาขยับปลายนิ้วหมุนคลึงเบาๆ ผมก็แทบทรงตัวไม่อยู่

“ให้เปลี่ยนใจ” พี่เขากระซิบที่หูของผม

“ไม่ครับ ไม่เปลี่ยน” ผมตอบกลับไปก่อนที่สติของผมจะกระจัดกระจายจนพูดไม่รู้เรื่อง

แล้วตัวของผมก็ถูกดันลงไปนอนราบบนโซฟาตัวใหญ่ เสื้อยืดสีขาวของผมถูกพี่เขาเลิกขึ้นมาจนพ้นศีรษะ เขาใช้เสื้อพันข้อมือทั้งสองของผมเอาไว้ด้วยกันพร้อมกับดันมันไปอยู่เหนือศีรษะ เมื่อปลายนิ้วของพี่ป้ายลูบเข้าที่ข้างลำตัว ผมถึงกับต้องบิดกายไปมา เสียงครางของตัวเองที่ไม่คิดว่ามันจะหลุดลอดออกมาก็ปรากฏให้ได้ยิน

ตอนนี้ผมไม่เหลือเสื้อผ้าติดตัวเลยสักชิ้น ได้ยินเสียงของพี่ป้ายบอกว่าสีผิวของผมตัดกับโซฟาดีจัง ผมไม่กล้ามองหน้าพี่เขา ได้แต่หลับตา จนยอดอกของผมได้สัมผัสกับความชื้นแฉะผมถึงเข้าใจได้ว่าตอนที่ใจจะขาดมันเป็นยังไง ยิ่งตอนที่พี่เขาใช้ฟันขบแล้วดึงมันขึ้นมาช้าๆ ผมต้องส่งเสียงร้องออกมาเพราะกลัวว่าความทรมานที่อัดแน่นจะแผดเผาร่างกายให้มอดไหม้

นั่นไม่ใช่ความรู้สึกจะขาดใจจริงๆ อย่างที่ผมคิด เพราะเมื่อปลายลิ้นของพี่เขาเปลี่ยนจุดหมายมาถึงส่วนกลางลำตัว มือทั้งสองข้างของผมเริ่มเป็นอิสระจากเสื้อยืดที่พันธนาการเอาไว้ พี่เขาปฏิบัติหน้าที่ด้วยความชำนาญ มือของผมรั้งที่ศีรษะของพี่ป้ายโดยอัตโนมัติ ไม่รู้ว่าทำพี่เขาเจ็บหรือเปล่าเมื่อเผลอไปขยำกลุ่มผมของพี่เขายามที่ร่างกายมันรู้สึกอยากจะบีบรัดใครสักคน

ลมหายใจติดขัด ร่างกายร้อนผ่าว ปวดหนึบและสุขสม ตัวเริ่มเบาเหมือนจะล่องลอยและอยากส่งเสียงร้องเมื่อทุกอย่างมันมาถึงจุดที่อยากปลดปล่อย พี่ป้ายยังไม่ยอมถอนริมฝีปากแม้ผมจะพยายามดันศีรษะพี่เขาออกจากส่วนนั้นเท่าไหร่ก็ตาม

...ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่ไหวแล้ว...

“ภารกิจลุล่วงแล้วเด็กดี” พี่ป้ายยอมถอนริมฝีปากออก พี่เขาเช็ดริมฝีปากของตัวเองก่อนจะหยิบทิชชูแผ่นใหม่มาเช็ดส่วนอ่อนไหวให้ผม

ผมลุกขึ้นมานั่งแล้วพรูลมหายใจ ใจมันยังไหววูบไม่หาย แต่พอพายุอารมณ์มันพัดผ่านไปผมก็ทำหน้าไม่ถูก ทุกอย่างคือครั้งแรกของผม จูบแรก การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ถึงมันจะไม่ได้สมบูรณ์แบบแต่ผมได้เรียนรู้ทุกอย่างครั้งแรกจากผู้ชายที่ผมแอบหลงรักคนนี้

“หายเหงาไหม” พี่ป้ายถามผม

“ครับ” ผมพยักหน้า ยังไม่กล้ามองหน้าพี่เขา

“อย่าทำแบบนี้อีกนะ พี่อยากให้เราเป็นเด็กดี”

“แล้ว...พี่ทำแบบนี้ทำไม ต้องการเงินเหรอครับ” ผมตัดสินใจถามกลับไปบ้าง

“เปล่า”

“ทำไม”

“ไม่รู้สิ”

“พี่ทำเพราะเหงาเหมือนผมหรือเปล่า”

พี่ป้ายไม่ได้ตอบแต่เดินลุกไปหยิบเสื้อผ้ามาใส่ให้ผม จากนั้นพี่เขาก็เดินไปจุดบุหรี่มาสูบ สายตาของพี่เขาดูว่างเปล่าจนผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะได้สัมผัสถึงคำว่าสูญเสีย

“รักใครก็ลองไปบอกเขาดู จะได้ไม่ต้องเหงา” พี่ป้ายพูดกับผม

ผมลุกเดินไปหาพี่เขา ดึงบุหรี่ออกจากปากพี่ป้ายแล้วเป็นฝ่ายจูบพี่เขาก่อน จูบไม่เป็นแต่อยากให้พี่เขารู้ความในใจ เราจูบกันเนิ่นนานจนพี่ป้ายเป็นฝ่ายจับไหล่ผมแล้วดันออกเบาๆ

“กลับบ้านนะ เป็นเด็กดีอย่างที่เคยเป็น เป็นทันตแพทย์ให้ได้ พี่เป็นกำลังใจให้”

“ผมรักพี่ ผมแอบรักพี่มานานแล้ว” ผมตัดสินใจบอกออกไปอย่างที่พี่ป้ายแนะนำ

พี่เขานิ่งไปพักใหญ่ก่อนจะยิ้มออกมา แต่พี่เขาก็ไม่พูดอะไรอีกแล้ว ได้แต่ดับบุหรี่แล้วจูงมือของผมให้เดินลงมาด้านล่าง ผมมองหน้าพี่เขาเหมือนจะรอฟังว่าผมควรทำยังไงต่อไป แล้วผมก็ได้รับคำตอบเป็นความเงียบ

“ผมกลับก่อนนะครับ”

เหมือนโลกจะแตกสลาย ความเงียบคือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด ผมถูกปฏิเสธแล้ว เวลาอกหักมันเป็นแบบนี้เอง

ทรมาน...เจ็บจนหายใจไม่ออก กลับไปร้องไห้ ร้องจนเหนื่อย ร้องจนหลับ แล้วมันก็จะผ่านไป

....

ผมไม่ได้เจอกับพี่ป้ายอีกเลย เว็บไซต์ของพี่เขาก็ปิดไปแล้ว ผมได้แต่มองชื่อไลน์ ‘Nightman’ ทุกคืนโดยที่ไม่ได้กดส่งข้อความไป ตอนนี้ห้องตรงกันข้ามของผมมีม่านสีดำสนิทมาปิดเอาไว้จนผมไม่สามารถเห็นเจ้าของห้องนั้นได้อีกแล้ว

‘มันคงจบแล้วกับรักครั้งแรกของผม’

ผมกดเปิดเพลงในคอมฯ เพลงที่ผมชอบฟังมันมากที่สุด ‘เพราะผูกพัน’

มาถึงตอนนี้ผมทำได้อย่างที่ตั้งใจแล้ว ผมสอบติดคณะที่ตั้งใจด้วยคะแนนที่สูงที่สุด เพื่อนรักทุกคนยังอยู่กันครบและพวกเราก็สนิทกันมากกว่าเดิม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยมีใครรู้เรื่อง ‘ความไม่สมบูรณ์แบบ” ของผม

ชีวิตวัยรุ่นที่สดใสกำลังเริ่มต้นที่นี่ เรื่องในอดีตมันก็คือความทรงจำ มันคงนอนหลับสนิทอยู่ในหัวใจ จนกระทั่งผมได้กลับมาเจอพี่ป้ายอีกครั้ง ความทรงจำที่หลับใหลอยู่ได้ถูกปลุกขึ้นมาแล้ว

แต่ผมได้เรียนรู้แล้วว่าความผิดหวังมันเป็นยังไง บอกกับตัวเองว่าจะไม่มีวันกลับไปรู้สึกแบบนั้นอีก...เพราะผมได้รับวัคซีนแล้ว

‘ในความผูกพัน นั้นเจ็บปวด แค่คิดถึงกัน ก็ทรมาน สักวัน...เธออาจจะเข้าใจ เธออาจจะรู้ใจ ในสิ่งที่ฉันเป็นอยู่ สักวัน..เธอขาดคนรักไป เธออาจจะได้รู้ แล้วเธอจะเข้าใจเป็นอย่างดี’   
 

โปรดติดตามตอนต่อไป

มาแบบสั้นๆ ชีวิตวัยเรียนก็เป็นแบบนี้
ไม่มีใครได้อะไรสมใจไปทุกเรื่อง แต่อย่าหมดศรัทธาในรักนะคะ
ทุกอย่างจะมาเมื่อถึงเวลาเอง สักวันต้องเป็นวันของเรา เย้
...รัก...
 
 


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]





ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ความรักมันก็แบบนี้ รักครั้งแรก บางคนก็สมหวัง บางคนก็ผิดหวัง แต่ไม่เคยเสียใจที่ได้รัก

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
พี่ป้าย ผู้ชายลึกลับ นกฮูก สงสารนะ ขอให้มีความสุข

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ไม่ใช่พี่ป้ายก็ชอบน้องเหรอ หรือเราคิดไปเอง

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
"เธอเป็นคนเข้าใจยาก หรือเพราะเราไม่พยายามทำความเข้าใจ" การคิดว่าน้องดีเกินไปมันเป็นการทำลายโอกาสทั้งของน้องและของตัวเองนะป้าย ลองดูสักครั้งมันจะเป็นไรไป  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด