CHAPTER 11
I still remember the night i fell in love with you.
กันต์ใช้เวลาอาบน้ำนานกว่าปกติเล็กน้อยอาจเป็นเพราะสายน้ำเย็น ๆ ที่ไหลผ่านร่างกายทำให้ผ่อนคลายจากเรื่องราวเครียดที่กัดกินใจเขาตลอดหลายวันที่ผ่านมา และพอได้ใช้เวลากับตัวเองก็ย้อนคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะจากพี่แทนคุณหรือพี่แทนรักก็ทำให้เขาสะเทือนใจทั้งนั้น อีกทั้งยังรู้สึกไม่ดีกับผู้หญิงอย่างนิลินมากขึ้นไปอีกเพราะผู้ชายดี ๆ สองคนไม่ควรมาเจอคนเห็นแก่ตัวเองแบบนี้เลย
ทุกอย่างที่ได้ฟังใช่ว่าจะทำให้ความรู้สึกเขากลับมาเป็นปกติได้ทั้งหมด เรียกว่าเข้าใจได้น่าจะดีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมาจากเพราะความไม่รู้และความเห็นแก่ตัวของคน จะให้เขากล่าวโทษใครไปตอนนี้มันก็เท่านั้น ได้แต่หวังว่าเวลาจะช่วยเยียวยาพี่ทั้งสองคน
และเพราะเรื่องนี้ทำให้กันต์เรียนรู้ว่าต่อให้เป็นคู่ชะตาฟ้าลิขิตอย่างไรก็ใช่ว่าจะเข้ากันได้ดีเสมอไป จริงอยู่คนที่เป็นคู่แท้ย่อมต้องเข้ากันได้ดีกว่าคนอื่น ถึงอย่างนั้นทุกคนก็เป็นปุถุชนที่ต้องมีกิเลสในใจตัวเอง ต่อให้ฟ้ากำหนดว่าเป็นคู่กันแต่ถ้าไม่รัก ไม่ซื่อสัตย์ หัวใจมันไม่ได้สัมพันธ์กับร่างกาย ความเป็นคู่กันก็ไม่ได้เกิดประโยชน์
ถ้าเมื่อใดในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่แปรผกผันกันนั่นก็ย่อมเจ็บปวดเป็นธรรมดา แต่ทุกคนมีทางเลือกเป็นของตัวเอง เมื่อเป็นเช่นนี้เขาก็ได้แต่หวังว่าพี่แทนรักจะเลือกทางที่ตัวเองบาดเจ็บน้อยที่สุด
แต่เรื่องของคนอื่นน่ะช่างมันก่อนแค่เรื่องของตัวเองยังเอาไม่รอด เมื่อครู่ที่พี่เขาถามว่าตัวเลขกลับมาที่ 50 หรือยัง เขาเองก็ไม่ทันได้สังเกตเพิ่งมาเห็นเหมือนกันว่ามันยังไม่กลับมาปกติ เพียงเท่านี้ก็รู้ว่าการปรับความเข้าใจ การสัมผัสที่ทำกันอย่างทุกครั้งยังไม่เพียงพอกับความรู้สึกที่เสียไป
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“กันต์ ... กันต์! เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมอาบน้ำนานจัง” เสียงเจ้าของห้องดังเข้ามาทำให้กันต์รีบปิดฝักบัวและห่อหุ้มร่างกายด้วยผ้าเช็ดตัว สำนึกได้ว่าอาบนานเกินไปจริง ๆ ก็ตอนเห็นนิ้วมือตัวเองเปื่อยย่น
“ครับ ๆ เสร็จแล้วครับ กันต์กำลังแต่งตัวอยู่”
ตุ๊กตาหน้ารถหนึ่งเดียวเหลือบมองร่างสูงใหญ่ของคนด้านข้างด้วยความสงสัย ตั้งแต่ออกมาจากห้องพี่เขาก็ดูเหมือนมีอะไรในใจ แต่กันต์ก็ไม่ใช่คนชอบเซ้าซี้จึงอดทนรอให้พี่เขาเป็นฝ่ายพูดเองคงจะดีกว่า ดูท่าทางแล้วไม่น่าใช่เรื่องใหญ่อะไรมากนักหรอกมั้ง แค่เหมือนคนกำลังใช้ความคิดตลอดเวลาเท่านั้น
จากคอนโดมาถึงร้านบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลแถบชานเมืองใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง ดีที่ว่าแทนคุณโทรมาจองโต๊ะก่อนไม่อย่างนั้นช่วงเวลามื้อเย็นแบบนี้โต๊ะคงจะเต็มแน่นอน เข้ามาถึงด้านในพนักงานของทางร้านพามาจนถึงโต๊ะที่จองเอาไว้เป็นโต๊ะสำหรับสองที่นั่งติดริมทะเลสาบของทางร้าน ลมเย็นกับท้องฟ้ายามโพล้เพล้ประดับแสงสีม่วงอมส้มส่งผลให้ดูโรแมนติกมากกว่าที่คิด
“ร้านสวยมากเลยครับพี่แทน กันต์ไม่เคยมาร้านนี้เลย พี่แทนรู้จักได้ยังไง” คนน้องที่กำลังตื่นเต้นกับบรรยากาศร้านและส่วนกลางบุฟเฟ่ต์ที่เต็มไปด้วยอาหารทะเลสด ๆ มากมายเอ่ยถามด้วยแววตาพราวระยับ
“ร้านของคนรู้จักพี่เอง”
“ดีจัง ขอบคุณนะครับ”
“เอ้าสั่งซะ อยากกินอะไรก็เต็มที่เลยนะ” แทนคุณพูดพลางเลื่อนเมนูไปให้น้องพร้อมลูบหัวเล็กน้อยก่อนจะได้รับรอยยิ้มคืนมา เพียงแค่รอยยิ้มของน้องนี่แหละที่คนอย่างเขายอมพาตัวเองขับรถนาน ๆ มาถึงนี่ เพราะเป็นคน ๆ นี้แทนคุณจึงยอมทุกอย่าง
“กันต์ขอถ่ายรูปก่อนนะพี่” กันต์รีบพูดทันทีที่อาหารทยอยเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะ คนเด็กกว่ากระตือรือร้นดูอารมณ์ดีจนคนพามาก็ดีใจ
ร้านบุฟเฟ่ต์ทะเลแห่งนี้เป็นร้านที่เพียงแค่สั่งว่าอยากได้อะไร แบบไหน เท่าไร เขาก็จะไปจัดมาเสิร์ฟให้ บริการดี บรรยากาศเป็นใจ อาหารก็สด แน่นอนอยู่แล้วว่าราคาไม่มีทางธรรมดา แต่ก็อีกนั่นแหละเพื่อกระต่ายตัวน้อยแล้วแทนคุณยอมจ่าย
“พี่แทนกินเถอะครับ เดี๋ยวกันต์แกะเองก็ได้” กันต์เอ่ยปากอย่างเกรงใจเมื่อพี่เขาเอาแต่แกะกุ้งกับปูให้เเสียจนเต็มจานต่างจากจานตัวเองที่มีแค่เปลือกเท่านั้น
“เดี๋ยวพี่แกะให้เราก่อนก็ได้ จะได้ไม่เจ็บมือ”
“พี่แทน กันต์เป็นผู้ชายนะไอ้พวกนี้กันต์กินเองแกะเองได้สบายมาก” คนน้องเถียงอีกครั้งด้วยความไม่คุ้นชินกับการถูกตามใจเท่าไรนัก เคยแต่เป็นฝ่ายตามใจคนอื่นเขา
“พี่แค่เป็นห่วงแล้วก็อยากทำให้เฉย ๆ ... โอเค งั้นตัวนี้ตัวสุดท้าย” แทนคุณยอมวางกุ้งตัวสุดท้ายลงบนจานน้องแล้วหันมาแกะให้ตัวเอง กันต์อมยิ้มเมื่อเห็นคนโตกว่านั่งกินเงียบ ๆ ไม่หือไม่อือ กลายเป็นตอนนี้เขาโดนคนแก่งอนเสียแล้ว
“พี่แทนครับ อ้าม อ้ามเร็ว” กุ้งตัวขาวอวบอาบไปด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดดูน่ากินถูกยื่นมาตรงหน้าของแทนคุณพร้อมกับรอยยิ้มของกันต์ที่หวานกว่ารสเนื้อกุ้งเสียอีก
“ขอบคุณครับ” เพียงแค่เท่านี้คนที่แอบน้อยใจก็หายเป็นปลิดทิ้งราวกับเมื่อครู่ไม่ได้งอนน้องแต่อย่างใด
ใช้เวลาอยู่กับอาหารทะเลตรงหน้าจนเกือบครบเวลา คนตัวผอมนั่งลูบพุงน้อย ๆ ของตัวเองที่ยื่นออกมาเพราะกุ้งหอยปูปลาเต็มกระเพาะ
“หนังท้องตึงหนังตาหย่อนเลยนะ”
“ฮื่อ อิ่มมากเลยพี่แทน ไม่ได้กินบุฟเฟ่ต์มานานแล้วอ่ะพอวันนี้มากินก็กินจนเหนื่อยเลย” หลังจากจัดการค่าอาหารที่แทนคุณไม่ยอมให้น้องช่วยจ่ายเสร็จเรียบร้อยก็พากันเดินออกจากร้าน ด้วยสภาพที่แทนคุณต้องคอยจับแขนคนเด็กกว่าเอาไว้เพราะดูท่าจะอิ่มจนเดินไม่ไหว
“พรุ่งนี้ไม่มีเรียนใช่ไหม” แทนคุณหันมาถามเด็กน้อยของตัวเองที่นั่งเอนหลังเอียงหน้ามาทางนี้
“ใช่ครับ”
“งั้นพักแถวนี้สักคืนดีไหม พี่ไม่ไหวขับรถเข้าเมืองแล้วล่ะ”
“แล้วพรุ่งนี้พี่ไม่ทำงานเหรอ”
“ลาที่โรง’บาลไป 3 วันน่ะ”
กันต์อยากจะแย้งแต่ก็ไม่อยากเถียงกับคนขับเพราะกว่าจะถึงคอนโดคงดึกมากแน่ ไหนจะก่อนหน้านี้เรายังทะเลาะกันหนักหน่วงถ้าได้ใช้เวลาด้วยกันสักหน่อยก็น่าจะดี จึงพยักหน้ารับก่อนจะปิดเปลือกตาลงอย่างง่วงงุนไม่รับรู้อะไรอีก
แทนคุณขับห่างออกจากร้านอาหารแวะร้านขายเสื้อผ้าริมทางและร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อของใช้จำเป็นให้เรียบร้อย และขับต่อไปไม่กี่อึดใจก็มาถึงโรงแรมมชายทะเลไม่ไกลจากตัวเมืองหลวงเท่าไรนัก ความเงียบสงบของบ้านพักแต่ละหลังที่เรียงตัวกันริมทะเล นั่นทำให้แทนคุณคิดว่ามันคงจะดีไม่น้อยถ้าเขาและน้องได้สร้างความรู้สึกและความทรงจำดี ๆ ร่วมกันที่นี่
“กันต์ตื่นก่อนครับ ถึงโรงแรมแล้วนะ”
คนถูกปลุกทำหน้างอแงใส่แต่ก็ยอมลงจากรถเดินตามพี่เขาไปต้อย ๆ แต่พอเข้ามาถึงด้านในคนที่ง่วงเมื่อครู่ก็ตาสว่างเมื่อเห็นบริเวณโดยรอบของโรงแรมเป็นทะเล อีกทั้งการตกแต่งสไตล์ลอฟต์ก็ดูดีจนอดตื่นเต้นไม่ได้
“เชิญทางนี้ครับ”
พนักงานโรงแรมพามาขึ้นรถกอล์ฟเพื่อไปส่งยังบ้านพักที่แทนคุณได้เลือกเอาไว้ บ้านพักขนาดเล็กหนึ่งห้องนอนที่อยู่ห่างไกลจากล็อบบี้และนักท่องเที่ยว ส่วนคนน้องก็ไม่ได้สนใจอะไรมัวแต่มองบรรยากาศข้างทางไม่ได้สังเกตเลยว่า แววตาอบอุ่นใจดีของพี่เขาตอนนี้กำลังวาววับแค่ไหน
“ยังง่วงอยู่หรือเปล่า” แทนคุณเดินเข้าไปยืนซ้อนหลังคนน้องที่กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศทะเลยามค่ำคืนอยู่
“ไม่เลย ตอนนี้กันต์ตาสว่างมาก พี่แทนขับรถมาเหนื่อย ๆ ไปอาบน้ำแล้วนอนพักไหมครับ” แทนคุณส่ายหน้าก่อนจะวาดแขนโอบรอบเอวของน้องพลางวางคางลงบนบ่าแคบ
คนถูกอ้อนกลาย ๆ อมยิ้มพลางวางมือทาบทับลงกับฝ่ามือใหญ่ ใบหน้าของพี่เขาซุกซบลงกับซอกคอและลาดไหล่อย่างถือโอกาส แต่เจ้าของร่างกายก็ไม่ได้คิดปริปากบ่นอะไรเพราะตอนนี้กันต์กำลังรู้สึกดีมากทีเดียว การที่เราได้เป็นที่รัก เป็นที่ต้องการของใครสักคนโดยไม่ต้องพยายามให้เหนื่อยมันดีจริง ๆ
“ชอบไหม”
“หมายถึงทะเล?”
“หมายถึงพี่”
“ฮ่ะ ๆ ... ไม่ว่าทะเลหรือพี่
กันต์ก็ชอบหมดนั่นแหละครับ” กันต์เอียงหน้าหลบสายตาคมกริบของคนพี่ที่จ้องไม่วางตา เขินจนอยากจะเดินหนีแต่ก็ติดว่าเอวยังถูกรวบกอดเอาไว้อย่างแน่นหนา
“กันต์” เสียงเรียกชื่อมาพร้อมกับปลายจมูกโด่งที่คลอเคลียอยู่ข้างแก้ม ทำเอาคนถูกเรียกถึงกับขนลุกซู่ทำตัวไม่ถูกกับการกระทำของพี่เขา
“ครับ”
“พี่ขอบคุณจริง ๆ นะที่ยอมฟังพี่และยังอยู่กับพี่ตรงนี้” กันต์คล้ายกับคนหูอื้อตาพร่าไปหมดเมื่อคนด้านหลังไม่ยอมพูดเปล่ากลับทั้งคลอเคลียทั้งกดจูบย้ำ ๆ อยู่ข้างแก้มและซอกคอ มือขาวกำราวระเบียงบ้านเอาไว้แน่นเพื่อตั้งสติตัวเอง
“ค ครับ อื้อ พี่แทน .. เดี๋ยวครับ อื้อ ฟังกันต์พูดก่อน” คนถูกหยอกเย้าขืนตัวเอาไว้แล้วดันพี่เขาให้ห่างออกจากกายเล็กน้อยก่อนจะหันมาเผชิญหน้าจึงได้สบเข้ากับดวงตาคมกริบที่มองมา กันต์กำลังรู้สึกราวกับว่าตัวเองเปลือยเปล่าเพียงแค่ถูกจับจ้อง ทำเอาเลือดลมในกายพุ่งทะยานจนผิวขาว ๆ เริ่มแดงเถือก
“หืม ว่าไงครับ” แทนคุณกักตัวน้องเอาไว้ด้วยแขนทั้งสองข้างที่วางลงราวระเบียง
“กันต์อยากจะขอว่า ต่อไปนี้มีอะไรก็คุยกันบอกกันตรง ๆ นะ”
แทนคุณอยากจะบ้าตายจากตอนแรกที่ถูกน้องดันออกมาแต่ตอนนี้กลับถูกกระต่ายใช้ดวงตากลมสีดำสนิทของตัวเองช้อนมอง น้องอาจจะทำไปโดยไม่รู้ตัวแต่เขาที่ใจไม่บริสุทธิ์แต่แรกนี่สิที่กำลังจะคลั่งตาย
“ตกลงครับ”
“งั้นเรา— อื้อ!!”
ปากเล็กที่ขยับขมุบขมิบแลดูนุ่มนิ่มถูกคนเจ้าเล่ห์ครอบครองอย่างไม่ทันตั้งตัว ถึงอย่างนั้นกันต์ก็ไม่ได้ขัดขืนปล่อยให้อีกคนตักตวงจากริมฝีปากตัวเองพลางจูบตอบกลับไป
แทนคุณผละออกมาแล้วใช้นิ้วมือลูบไล้ปากเริ่มบวมเจ่อของน้องเบา ๆ เป็นการขอโทษเพราะเมื่อครู่อดใจไม่ไหวจึงใจร้อนใส่ ถึงจะกลัวอีกฝ่ายเจ็บแต่ก็ยังไม่ยอมเลิกคลอเคลีย ปลายจมูกโด่งไล้ไปตามแก้มนุ่มจนถึงลำคอยาวที่เชิดขึ้นเล็กน้อย ทำให้กลายเป็นเปิดทางให้คนเลี้ยงกระต่ายแสนเจ้าเล่ห์ได้สัมผัส แรงขบและดูดเบา ๆ ก็ทำให้เป็นรอยแดงจาง ๆ ได้เหมือนกัน
“พี่ขอได้ไหม”
กันต์ไม่ใช่คนไร้เดียงสาขนาดนั้นการสัมผัสกันมันเป็นเรื่องปกติของคนรักกัน และรู้ดีว่าอารมณ์ของเราทั้งคู่ในเวลานี้มันมากเกินกว่าใกล้ชิดทั่วไปที่เคยทำกันมา ก็พอจะเดาเหตุผลที่ทำให้พี่เขาเป็นแบบนี้ได้อาจจะเพราะตัวเลขบนอกของเราหรืออาจจะเป็นเพราะบรรยากาศและอารมณ์ที่พาไป แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้กันต์คิดจะปฏิเสธ เพราะไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรกันต์ก็ยินยอมที่จะเป็นของพี่เขาทั้งหมด
ดวงตาเรียวที่เปิดอยู่เพื่อสบตาคนตรงหน้าค้นหาความมั่นใจก่อนจะค่อย ๆ ปิดลงเป็นเชิงยินยอมเรื่องราวต่อจากนี้ เพราะความรู้สึกที่ตรงกัน ความต้องการที่เหมือนกัน นั่นจึงทำให้กันต์ยอมปล่อยทั้งหัวใจและร่างกายของตัวเองให้กับอีกคนช่วยดูแล
แทนคุณดึงน้องให้นั่งลงทับตักตัวเองโดยที่ริมฝีปากของเราทั้งคู่โรมรันไม่ห่างกันสักวินาที มือทั้งสองวางลงบนเอวของน้องบีบเค้นอย่างมันส์มือ ไม่ต้องเดาก็คงจะรู้ว่าตอนนี้ผิวเนื้อขาวของกันต์กำลังแดงจัดจากฝีมือของเขา
“อ อื้อ”
ใบหน้าน่ารักราวกับกระต่ายในสายตาของแทนคุณเชิดขึ้นเมื่อถูกโอ้โลมจนตัวกันต์อ่อนปวกเปียก ต่างคนต่างช่วยกันปลดกระดุมเสื้อจนกระทั่งร่างของเราทั้งคู่เปลือยเปล่า
ภายใต้ร่มผ้าที่แทนคุณได้เห็นนั้นทำเอาแทบจะอดใจไม่ไหว น้องที่แม้จะตัวเล็กกว่าเขาแต่ก็ยังสูงโปร่งทำให้ร่างกายส่วนบนดูเพรียวระหง ช่วงเอวบางทว่าก็มีน้ำมีนวลเล็กน้อยจากความเป็นคนชอบกิน ไหนจะยังจุดเล็ก ๆ สีอ่อนทั้งสองข้างของน้องดูน่ารักน่ารังแกจนแทนคุณรีบใช้ปากของตัวเองเพื่อทำการครอบครอง
“พ พี่แทน อื้อ ฮะ อึก”
เพราะอกทั้งสองข้างถูกสัมผัสจากการโลมเลียและดูดดุนทำให้ร่างกายของกันต์บิดพริ้วไปมาเพราะความรู้สึกหวิวไหวตีขึ้นมาในช่วงท้อง ในขณะที่แผ่นหลังแอ่นสู้กับริมฝีปากของพี่เขา ช่วงสะโพกก็ขยับไปมาเสียดสีกับหน้าขาของอีกฝ่ายจนทำให้อะไร ๆ สัมผัสกัน
“เข้าไปในห้องกันดีกว่า” แทนคุณช้อนใต้สะโพกของน้องอุ้มพากลับเข้ามาในห้อง ด้วยกลัวว่าถ้าจะบรรเลงเพลงรักริมระเบียงท่ามกลางอากาศเย็น ๆ ในช่วงกลางคืนน้องจะไม่สบายไปเสียก่อน
แผ่นหลังเปลือยสัมผัสกับความนุ่มของที่นอนร่างกายปล่อยไปตามแรงโน้มถ่วง ทั้งเนื้อทั้งตัวของกันต์เหลือเพียงกางเกงเท่านั้นที่ต่อมาก็ถูกแทนคุณลอกคราบออกจนเหลือเพียงแต่ผิวหนัง เฉกเช่นเดียวกันกับร่างกายสูงใหญ่ตามกรรมพันธุ์และการออกกำลังกายของแทนคุณก็ไร้อาภรณ์ปกคลุม จึงทำให้เห็นกล้ามเนื้อทุกสัดส่วน คนตัวโตยืนเข่าอยู่ปลายเตียงมองน้องที่นอนบิดกายไปมาอย่างเขินอายด้วยแววตาที่สื่ออารมณ์ทุกอย่าง
เขาเข้าไปสอดหน้าขาข้างใต้ร่างของน้องทำให้ช่วงสะโพกลอยไม่ติดพื้นเตียง ก้อนเนื้อนุ่มทั้งสองด้านหลังแนบไปกับต้นขาแกร่ง แทนคุณมองตัวเลขสีเหลืองบนตำแหน่งขั้วหัวใจที่กำลังวิ่งวนไปมาก่อนจะกดจูบลงไป กดย้ำอยู่แบบนั้นทำเอาคนถูกจูบเขินอายแต่ก็ลุกขึ้นสู้ด้วยการจูบลงบนตำแหน่งเดียวกันบนร่างกายของพี่เขา แทนคำพูดและความรู้สึกภายใน
“อ๊ะ! พ พี่!” กันต์หวีดร้องเสียงดังเมื่อถูกแตะลงบนปลายหัวมนในช่วงที่กำลังเคลิบเคลิ้มไม่ทันตั้งตัว ส่วนที่มีแต่เขาเคยสัมผัสเท่านั้นในเวลานี้กลับถูกอีกฝ่ายรับมันเข้าไปในโพรงปาก
สัมผัสลามเลียตั้งแต่โคนจรดปลายแก่นทำเอาความรู้สึกลุกโชน กันต์ตัวสั่นระริก ปลายเท้าที่ลอยอยู่จิกเกร็งกลางอากาศ บิดเอวไปมาเพื่อบรรเทาเอาความเสียดเสียวแต่มันกลับยิ่งทำให้รู้สึกมากกว่าเดิม พอใกล้ถึงปลายทางกันต์พยายามดันพี่เขาออกแต่ไม่เป็นผล หยาดน้ำรินไหลและแทนคุณรับมันเข้าไปบางส่วนด้วยความเต็มใจ
ส่วนกายร้อนผ่าวแตะหยอกเย้ากระเซ้าอยู่ปากทาง ทำเอาคนถูกแกล้งครางฮือออกมาอย่างน่าสงสาร สะโพกกลมส่ายไปมาเพื่อร้องขอการเติมเต็ม คนเป็นพี่ยิ้มร้ายเมื่อเห็นท่าทางยั่วยวนไม่ได้ตั้งใจของคนน้อง หลังจากเปิดปากทางได้สักพักก็ดาหน้าเข้ามาอย่างเต็มกำลัง
“บ เบา พี่”
แทนคุณเคยมีประสบการณ์มาบ้างแต่กับผู้ชายนี่คือครั้งแรกเช่นกัน ไม่เคยนึกถึงตอนที่ตัวเองจะมีคู่แท้เป็นผู้ชายเลยสักครั้งแม้มันจะมีโอกาสเป็นไปได้ก็ตาม แต่พอถึงเวลาแทนคุณก็พบว่ามันมีความต่างอยู่ไม่น้อย ไม่ใช่ความต่างทางเพศสภาพทว่าเป็นความต่างทางความรู้สึก
การมีเซ็กส์กับการร่วมรัก เขาเพิ่งเข้าใจในตอนนี้ ตอนที่เขาค่อย ๆ ปลอบประโลมน้อง ค่อย ๆ อ่อนโยน ค่อย ๆ ใส่ตัวตนของเขาเข้าไป ตอนที่เราได้จับมือกันระหว่างจะไปถึงขั้วสุดของอารมณ์ ตอนที่เราจูบพร้อมกับมองตากัน ตอนที่ความรู้สึกของเราสอดประสานเป็นหนึ่งเดียว ตอนนั้นที่แทนคุณได้เข้าใจถึงความสัมพันธ์บางอย่างระหว่างคู่แท้ มันกำลังผูกเราเอาไว้ด้วยกันทั้งหัวใจและร่างกาย
“อ่ะะ!!”
ช่วงเวลาที่เสียงครางต่ำเคล้าคลอกับเสียงคลื่นลม ส่วนหนึ่งของเราทั้งคู่พุ่งทะยานคล้ายกับพลุที่ถูกจุดประกายเต็มท้องฟ้า เมื่อเราบอกรักกันผ่านภาษากายในตอนนั้นเองที่ตัวเลขสีเหลืองขยับกลับมาที่กึ่งกลาง
“พี่รักกันต์”
ในคืนนั้นเราทั้งคู่จมสู่ห้วงความฝันที่มีแต่เราทั้งสองตระกองกอดอยู่ในอ้อมแขนของกันและกัน เป็นคืนที่ทำลายฝันร้ายตลอดหลายวันที่ผ่านมาจนแทบหมดสิ้น รอเพียงเวลาที่จะเยียวยาเศษความรู้สึกบางอย่างให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้งเท่านั้นเอง
2 มีนาคม 2xxx หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างกันต์และแทนคุณก็ดำเนินไปได้ด้วยดี ดีเสียยิ่งกว่าดี ดั่งที่เขาบอกกันว่าหลังพายุฝนเราจะพบสายรุ้งที่สวยงาม ในตอนแรกหลังจากเลิกเรียนกันต์กะไว้ว่าจะไปหาพี่เขาที่โรงพยาบาลแต่เมื่อส่งข้อความไปก็ถูกปฏิเสธเนื่องจากวันนี้พี่เขาต้องเข้าประชุมของพวกหมอด้วยกัน อะไรสักอย่างที่เขาเองก็ไม่เข้าใจนัก
นอนกลิ้งไปกลิ้งมาเพื่อรอมื้อเย็นฝีมือแม่อย่างทุกวัน เล่นเกมจนเบื่อหน่ายก็เปลี่ยนกลับมาที่แอคเคาท์ออนไลน์ต่าง ๆ ของตัวเอง สอดส่องเรื่องราวของชาวบ้านไปตามประสา จนกระทั่งโทรศัพท์สั่นเตือนข้อความเข้าเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็เกือบทำโทรศัพท์ตกใส่หน้าตัวเอง
PAANN : สวัสดี ๆ กันต์ใช่ไหม นี่แพนเองนะะ
ตั้งแต่วันที่แลกไอดีกันไปก็เป็นครั้งแรกที่ได้คุยกัน กันต์เผลอมีความสุขจนลืมว่ายังมีอีกหนึ่งปัญหาที่กำลังรอให้แก้ไข ให้ตายเถอะ ปุณณกันต์มึงมันโง่จริง ๆ ลืมเรื่องสำคัญขนาดนี้ได้ยังไง เขาได้แต่ตีอกชกหัวตัวเอง
หวัดดีครับแพน : Punnakann
PAANN : กันต์ทำอะไรอยู่
PAANN : เราทักมากวนหรือเปล่า
เรานอนเล่นอยู่ ไม่กวน ๆ : Punnakann
แพนมีอะไรเหรอ : Punnakann
PAANN : พอดีเรามีเรื่องจะรบกวนกันต์หน่อยจ้า
PAANN : เรากำลังทำพรีเซนเทชั่นโปรเจกต์
PAANN : แล้วมันต้องถ่ายรูปงานที่เราออกแบบน่ะค่ะ
PAANN : กันต์จะมาช่วยเราได้ไหมคะ .__.
PAANN : คือ หรือถ้ากันต์ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรน้า
ถ่ายงานอะไรเหรอ พวก landscape หรือ portrait ครับ : Punnakann
PAANN : แลนด์สเคปจ้า ๆ เป็นแบบออกแบบตกแต่งห้องน่ะ
ช่วงไหนเหรอ : Punnakann
PAANN : อาทิตย์หน้าค่ะ
กันต์กำลังใช้ความคิดอย่างหนักเพราะตัวเองก็พอมีฝีมือด้านนี้อยู่บ้างจากการเรียนและรับจ็อบถ่ายให้พวกรุ่นพี่มา ถ้าจะให้ช่วยก็ช่วยได้แต่คงต้องลากไอ้ดิมไปด้วยกันเพราะเขาไม่อยากให้มีปัญหาหรือมีอะไรเกิดขึ้นมากกว่าการเพื่อนช่วยงานเพื่อน
ได้นะ เดี๋ยวเราไปช่วยได้ : Punnakann
เดี๋ยวเราลากไอ้ดิมไปด้วย ไอ้นี่ก็ถ่ายรูปเก่ง : Punnakann
PAANN : หูยย ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะกันต์
PAANN : ขอโทษด้วยจริง ๆ ที่ต้องรบกวน
PAANN : เดี๋ยวงานเสร็จอยากได้อะไรอยากกินอะไรบอกได้เลยนะ
PAANN :
*Sent sticker* เขาทำเพียงแค่กดสติกเกอร์โอเคและส่งข้อความปิดท้ายว่าจะให้ไปวันไหนก็ให้บอกได้เลย ก่อนจะกดออกจากห้องสนทนา ไม่อยากต่อให้ยาวสาวให้ยืด จากตอนแรกที่คิดจะโพล่งบอกไปเลยก็กำลังคิดว่าจะใช้โอกาสนี้สังเกตท่าทีของแพน หากมันเป็นไปอย่างที่เขาและดิมคิดก็จะได้ปฏิเสธไปให้ชัดเจนในตอนนั้น แต่ถ้าไม่ใช่ เป็นเขาคิดมากไปเอง อย่างน้อยก็จะได้ไม่เสียเพื่อน
“กันต์ กันต์ครับ เย็นแล้วไปกินข้าวกัน” แรงเขย่าที่แขนและเสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูเพื่อปลุกคนกำลังนอนหลับตาพริ้มจนลืมเวลากินข้าว
“อื้อ แม่เดี๋ยวกันต์ลงไป” กระต่ายน้องของพี่แทนคุณไม่ยอมตื่นขึ้นมาง่าย ๆ หันหนีเสียงเรียกด้วยการมุดหน้าลงกับหมอนนุ่มแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมตัว แต่คนปลุกก็ไม่ย่อท้อสอดตัวแทรกเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันโอบรัดรอบตัวคนขี้เซาเอาไว้
“ถ้ากันต์ไม่ตื่นไปกินข้าว กันต์จะถูกกินแทนแล้วนะ” แรงขบกัดตรงใบหูทำเอาคนนอนอยู่สะดุ้งเฮือกหันขวับมาหาตัวต้นเหตุ
“พี่แทน!!”
“พี่เอง”
“มาได้ไงอ่ะ แล้วนี่ขึ้นมาได้ยังไง” กันต์พยายามดิ้นหนีแต่ก็ไม่เป็นผล แขนแข็งแรงทั้งสองข้างโอบรัดรอบเอวไว้แน่นไม่ปล่อยเหยื่อตัวเองไปง่าย ๆ
“ก็ขับรถมา เสร็จแล้วก็เดินขึ้นมา”
“ฮึ่ย ไม่ใช่สิ พี่เข้ามาในห้องกันต์ได้ยังไง แล้วพ่อกับแม่ล่ะ”
“คุณพ่อกับคุณแม่นั่งรอเราอยู่ข้างล่างน่ะสิ ปะ ไปกินข้าวกัน” แทนคุณอุ้มน้องขึ้นจากที่นอนจนตัวลอย ทำเอากันต์นิ่วหน้าพลางคิดว่าตัวเบาขนาดที่พี่เขาสามารถอุ้มได้ง่าย ๆ ขนาดนี้เลยอย่างนั้นเหรอ แต่ก็คงใช่ เพราะวันนั้นพี่เขาก็อุ้ม ... เชี่ย! กันต์มึงคิดอะไรลามกวะเนี่ย
“เอ้า ๆ หน้าแดง คิดอะไรลามกอยู่แน่ ๆ โดนอุ้มแค่นี้เอง”
“พี่แทนอ่ะ! ปล่อยกันต์เลย ปล่อยสิครับจะล้างหน้า จะได้ไปกินข้าวไง” คนขี้แกล้งยอมปล่อยน้องลงกับพื้นพอตั้งหลักได้กระต่ายน้อยก็กระโดดพรวดเข้าห้องน้ำไป
“อื้อออ พี่แทน”
พอเดินออกมาจากห้องน้ำแก้มใสก็ถูกพี่เขาขโมยหอมไปฟอดใหญ่ จมูกกับปากจมลงไปกับเนื้อนุ่ม ๆ ของกันต์ ข้างเดียวไม่พอแทนคุณฟัดทั้งแก้มซ้ายแก้มขวาจนแก้มขึ้นสีแดง
“ชื่นใจ หายเหนื่อยละ”
“ขี้แกล้ง!” กันต์บึนปากใส่ก่อนจะรีบวิ่งหนีลงมาข้างล่าง โดยมีคนเจ้าเล่ห์เดินล้วงกระเป๋ากางเกงตามมาด้วยความขบขัน
“ขอโทษที่ทำให้รอครับ” แทนคุณเอ่ยขอโทษผู้ใหญ่ทั้งสองที่ต้องรอนาน ทั้งที่เสนอตัวขออนุญาตไปปลุกน้องแต่ก็ชวนน้องเล่นจนเสียเวลา
“ไม่เป็นไรจ้า นั่งเถอะ ๆ จะได้กินข้าว”
บทสนทนาบนโต๊ะอาหารมีเพียงเสียงของพ่อแม่และแทนคุณเท่านั้นที่แลกเปลี่ยนเรื่องราวกันอย่างมีอรรถรส ส่วนลูกตัวจริงอย่างกันต์ได้แต่กินข้าวไปมองพ่อแม่ตัวเองและคนรักไปด้วยความสับสน ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมเขาไม่รู้
“เอ้า ๆ ทำหน้างงอะไรแบบนั้นเจ้ากันต์” คนเป็นพ่อหันมาเห็นลูกชายตัวเองกำลังมองมาอย่างสงสัยก็เอ่ยแซวขึ้น
“ก็งงสิพ่อ ทำไมพ่อกับแม่สนิทกับพี่แทนจังอ่ะ เพิ่งเคยเจอเองไม่ใช่เหรอ”
“ไม่บอกหรอก”
“พ่ออ่ะ ... แม่บอกกันต์หน่อย~” ถามพ่อไม่สำเร็จก็หันไปอ้อนแม่ที่นั่งอมยิ้มอย่างเดียวไม่ยอมพูด เรื่องแกล้งลูกน่ะขอให้บอกเลยเชียว พอเหลือบมองพี่เขาก็นั่งยิ้มลอยหน้าลอยตา ดูทรงแล้วคนนี้น่ะขี้แกล้งที่สุดคงไม่เล่าแน่ ๆ
“เอาหน่า ไม่มีอะไรหรอก ผู้ใหญ่เขาคุยกัน แล้วเราน่ะก็อย่าดื้อกับพี่เขาให้มากรู้ไหม”
“ถ้าน้องดื้อมากแทนจัดการได้เลยนะลูก แต่ยังไงแม่ก็ไม่รับคืนแล้วนะจ๊ะ”
“ยินดีครับ”
คนถูกแกล้งมุ่ยหน้าเมื่อถูกหยอกแต่ความรู้สึกภายในกลับเต็มตื้นและถูกเติมเต็ม เพราะชีวิตรักที่ผ่านมามีแต่ความเจ็บช้ำและไม่เที่ยงแท้ พอได้มาเจอ ได้สัมผัสกับคำว่าคู่แท้เหมือนอย่างคนอื่นเขา ก็โชคดีที่ได้เจอรักที่ดี ยินดีที่เรารู้สึกไปในทางเดียวกัน ภูมิใจที่มันเป็นมากกว่าการรักชีวิตตัวเองแต่มันคือการรักชีวิตซึ่งกันและกัน
“ขับรถดี ๆ นะครับ ถึงแล้วบอกกันต์ด้วยนะ”
“ครับผม คิดถึงนะครับ ขอโทษนะที่ช่วงนี้ไม่ว่างมาเจอเลย”
“ไม่เป็นไรเลย กันต์เข้าใจ” เวลาว่างที่พี่เขาจัดสรรมาให้นั่นก็มากเกินกว่าที่กันต์คาดคิดแล้ว เพราะคนเป็นหมอไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้น มีอะไรหลายอย่างที่ต้องทำและเกี่ยวพันกับชีวิตและจิตใจของผู้คน
ในเมื่อเลือกแล้วที่จะรักก็ต้องเลือกที่จะเข้าใจด้วยเช่นกัน
“น่ารักจริง ๆ แฟนใครวะเนี่ย” แทนคุณยีหัวน้องด้วยความมันเขี้ยว ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเล็ก ๆ ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งแม้จะต้องนอนน้อยลงไปอีกชั่วโมง แต่เพื่อการได้เจอน้องหนึ่งชั่วโมงเขาก็ยอม
“กลับเถอะพี่ ดึกแล้ว” กันต์เดินไปส่งจนถึงประตูรถก่อนจะถูกคว้าคอไปกดจูบลงบนเยลลี่นุ่มหยุ่นส่วนตัวเสียงลั่นดังจ๊วบทำเอาคนถูกจูบเขินหน้าดำหน้าแดง
“ชื่นใจ!”
To be continued.
_____________________________________
TALK : *จับน้องใส่พาลยื่นให้*
พี่แทนเป็นคนรุงรัง เหม็นความรักเนอะ
ว่าแต่มีใครอยากเห็นนังพี่แทนหึงบ้าง ชูมือหน่อยค่า *^*/
ฝากคอมเมนต์หรือแท็กทวิตเตอร์เป็นกำลังใจให้กันด้วยน้า
ช่วงนี้กำลังใจห่อเหี่ยวมากเลยจ้ะพี่จ๋า TT
TWITTER ♡
#ครึ่งชีวิตของผม