>>อุบัติรักฟีโรโมน<< Omegaverse - ตอนพิเศษ ขำๆ วันช๊อต [28-05-62]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >>อุบัติรักฟีโรโมน<< Omegaverse - ตอนพิเศษ ขำๆ วันช๊อต [28-05-62]  (อ่าน 241726 ครั้ง)

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เห็นเปลี่ยนหัวแล้ว อยู่ไหนอ่ะตอน20

รำคาญอีธานที่โง่แต่ไม่รู้ตัว

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
เห็นเปลี่ยนหัวแล้ว อยู่ไหนอ่ะตอน20

รำคาญอีธานที่โง่แต่ไม่รู้ตัว


ตอนที่ 20 อยู่หน้า 19 ค่ะ ^^

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ทิฐิในใจก็ลดๆลงบ้าง มันกินไม่ได้นาจาอีธานนนนน

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
เข้ามารอคร่า ^^

ออฟไลน์ MR.J

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อีธานอย่าครึ่งๆกลางๆกับความรู้สึกแบบนี้ ภูดูเป็นคนที่ตัดสินใจฉับๆมากถ้าวันนึงภูตัดอีธานออกจากชีวิต วันนั้นจะรู้สึก

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
รู้สึกอึมครึมแปลกๆ ขอให้เข้าใจกันดีก็พอ

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ขอให้ภูริมี อัลฟ่า เจ๋งๆมาจีบ หึ

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>….ตอนที่ 21 [100%]….<

กฎของห้องพักรวมในโรงพยาบาลทุกโรงพยาบาลคือห้ามญาติอยู่เฝ้า ยกเว้นว่าคนไข้คนนั้นจะมีอาการที่ย่ำแย่มากจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และปล่อยให้อยู่คนเดียวจะเกิดอันตราย น้องสาวของภูริไม่ได้เป็นหนักถึงขั้นที่จะได้รับการยกเว้น ดังนั้นเขาก็จำเป็นต้องกลับบ้านเมื่อหมดเวลาเยี่ยมไข้

ภูริไม่ไปไหน ภูฟ้าก็ไม่อยากให้ภูริไป แต่ก็เท่านั้นแหละ สุดท้ายแล้วสองพี่น้องก็ต้องร่ำรากัน ภูริจะมาหาพรุ่งนี้ถ้าเขาว่าง หรือเลิกงานไม่ดึก ใบหน้าที่ประดับรอยยิ้มนิดๆ ของภูริทำให้น้องสาวสบายใจ แม้ว่าข้างในของเขาจะไม่มั่นใจเลยว่าพรุ่งนี้จะไม่โดนอะไร

อีธานเดินนำออกมาก่อน ช่วงเวลาของสองพี่น้องเขาก็ไม่อยาจะเข้าไปยุ่งเท่าไหร่ รอบกายเขาไม่มีใครเพราะทุกคนกลัวที่จะเฉียดเข้ามาใกล้ อีธานเห็นญาติที่มาเฝ้าไข้ต่างรีบพากันขึ้นลิฟต์ อัดเข้าไปแน่นๆ แล้วหายไปจากสาตาของเขา หน้าลิฟต์ของโรงพยาบาลจึงมีแค่อีธานคนเดียวในตอนนี้

“ขอโทษที่ให้รอครับ” ภูริสีหน้าไม่ดีเลย อีธานพยักหน้ารับแล้วเดินไปกดเรียกลิฟต์

“ทำไมไม่ให้น้องพักห้องพิเศษล่ะ” อีธานถาม ลิฟต์ที่เรียกก็มาถึงตรงหน้าพวกเขาพอดี

“ห้องพักรวมแบบนั้นน่ะมันมีเชื้อโรคเยอะมาก อันตรายสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้รุนแรงอย่างน้องคุณนะ” เข้ามาในลิฟต์แล้วอีธานก็ใช้เหตุผลกับภูริต่อ

“ผมไม่มีเงินขนาดนั้นหรอกคุณอีธาน ห้องพักพิเศษคืนหนึ่งเท่าไหร่คุณรู้ไหม...ไหนจะค่ารักษาพยาบาลที่ค่อนข้างหนัก เงินผมน่ะมันต้องเอาไปใช้จ่ายหลายอย่างมากเลย นี่ถ้าผมไม่ได้ใช้สิทธิ์จากสวัสดิการของบริษัท ผมก็คงไม่มีเงินมารักษาน้องหรอก” ขนาดใช้สิทธิ์แล้ว ยังมีส่วนต่างที่ภูริต้องออกเองทุกรอบอีก คิดแล้วตลก...ชะตาตัวเองนี่แม่งไม่รู้จะเอาไปเทียบกับอะไรดีเลย

“งั้นก็ทำโอทีสิ ทำยอดให้ได้เยอะๆ” จากที่เขาลองให้ภูริไปขายของวันนั้น ภูริทำหน้าที่ตัวเองได้ดีเพราะเขาสามารถขายได้เกินที่คาดการณ์

“ฮ่าๆ...” เสียงหัวเราะฝืดฝืนดังออกมา อีธานไม่เข้าใจ เขาหันไปมองหน้าอีกฝ่ายแล้วก็เห็นรอยยิ้มหยันที่เขาก็ไม่รู้ว่าภูริตั้งใจมอบมันให้กับใคร

แน่นอนไม่ใช่อีธานหรอก ภูริน่ะยิ้มหยันให้ตัวเองต่างหาก...คนบ้าอะไร ซวยได้มากขนาดนี้ จริงมะ ยังไม่นับเรื่องเงินเขาเหลือแค่พันกว่าบาทนะ...แม่ง ซวยเสียยิ่งกว่าซวยซะอีก ก็เดือนที่ผ่านมาแม่ก็เข้าโรงพยาบาล หนี้บัตรเครดิตก็ตั้งหลายใบ เวลาเงินมันขาดมือ เขาจำเป็นต้องไปเอาจากพวกบัตรกดเงินสดอะ แล้วเป็นไง...เป็นหนี้ไง!

ประตูลิฟต์เปิดเมื่อถึงชั้นล่างสุด ภูริไม่อธิบายอะไรเกี่ยวกับเสียงหัวเราะอันไม่น่าฟังของตนเอง เขาเดินนำออกมาก่อนตามด้วยอีธาน แต่แค่ไม่กี่ก้าวภูริก็เดินช้าลงเพื่อให้ร่างใหญ่ของอีกฝ่ายนำไปที่รถ เขาไม่รู้นี่ว่ารถของอีธานจอดอยู่ตรงไหนอะ

จะว่าไป...ปัญหามันยังไม่จบนะ ยังเหลือแม่ที่ภูริต้องเคลียร์อีกคนหนึ่ง ปกติแล้วแม่ไม่ค่อยช่วยค่ารักษาพยาบาลเขาหรอก มีแต่บ่นด้วยซ้ำเรื่องเงินเรื่องทอง บางทีก็ชอบว่าเขาทำงานอยู่บริษัทใหญ่เสียเปล่าแต่เงินเดือนน้อยนิด แค่จะเลี้ยงน้องกับแม่ให้สบายมันยังไม่ได้เลย

ลูกชายต้องเลี้ยงพ่อแม่ให้ได้ ต้องให้พ่อแม่สบายแล้วตัวเองก็ทำงานงกๆ ชุดความคิดแบบนี้มันไม่ผิดหรอกนะ เพราะพ่อแม่ก็เลี้ยงเรามาก่อน วันหนึ่งพวกท่านไม่ไหวเราก็ต้องดูแลและเลี้ยงดูท่านเหมือนที่ท่านเคยทำกับเรา

แต่ทำไมล่ะ...ทำไมแม่เขาถึงไม่ค่อยให้กำลังใจเท่าที่ควรเลย

ภูริมักจะเลี่ยงพูดเรื่องเงินเรื่องทองกับแม่ เดือนหนึ่งเขาก็ให้แม่ได้เท่าที่ให้ได้ หักค่าใช้จ่ายต่างๆ มันก็พอต่อความต้องการของแม่บ้างและไม่พอบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าเดือนนั้นๆ เขาต้องเสียไปกับค่าอะไรบ้าง

สิ่งที่เขาไม่ชอบที่สุดในคำพูดของแม่ก็คงจะเป็นทำไมเขาไม่ขยันเลย ถ้าเขาขยันเขาคงมีเงินมาเลี้ยงดูแม่กับน้องได้มากกว่านี้ ฟังคำพูดแม่แล้วหันมามองที่ทำงานตัวเอง เขาเดินขาแทบขวิด เดินจนแทบจะกลายเป็นการเดินมาราธอนอยู่แล้ว นี่เหรอเขาไม่ขยัน...ถ้าขยันมากกว่านี้นี่เขาคงไม่ต้องพักหายใจหรือพักกินข้าวกันแล้วมั้ง

“เฮ้อ...” พอเข้ามาในรถ ภูริก็ถอนหายใจเบาๆ เขาหยิบมือถือออกมาเพื่อกดหาเบอร์โทรของแม่ เห็นแล้วก็อดถอนหายใจไม่ได้

อีธานลอบมองใบหน้าของภูริ เสี้ยวหน้านั้นมีแต่ความทุกข์ใจอย่างที่ไม่เคยเห็น ไม่ใช่ความราบเรียบที่แฝงความไม่สนใจอะไรเอาไว้อย่างที่เคยเป็น เขาก็อยากจะเข้าใจภูรินะว่าแค่น้องเข้าโรงพยาบาลแค่นี้มันจะเหนื่อยใจอะไรขนาดนั้น อาจจะเป็นเรื่องเงิน

มาคิดถึงคำว่าเงินแล้วอีธานก็นึกถึงใบรายงานผลการทำงานของภูริขึ้นมา อันที่จริงเขาคิดว่าเงินเดือนเท่านั้นน่าจะเพียงพอต่อการใช้ขีวิตอยู่ของหนุ่มโสดคนหนึ่งที่ไม่ใช่เขา แต่เพราะภูริมีภาระเยอะล่ะมั้ง

แอบรู้สึกผิดนิดหน่อยที่เคยต่อว่าภูริติดการพนัน ทั้งที่เอาเข้าจริง เงินเดือนภูริแทบจะจุลเจือครอบครัวได้ไม่พออยู่แล้ว มันจะเจียดไปเล่นพนันได้ยังไงละเนอะ แต่อีธานก็ไม่คิดจะขอโทษ เขาคิดเผื่อเอาไว้ว่า...ความคิดแรกเขาอาจจะถูกก็ได้

“แม่ครับ...” ภูริเอ่ยขึ้นเบาๆ ในรถหรูมีแค่แอร์คอนดิชั่นที่ส่งเสียงออกมานอกจากเสียงของภูริเอง

(ไงไอ้ภู น้องอยู่กับแกไหมเนี่ย) เสียงของแม่ห้วนมาก เป็นเสียงปกติของแม่ล่ะนะ

“น้องเข้าโรงพยาบาลนะแม่ น้องภูมิแพ้กำเริบอะ วันนี้ต้องแอดมิทคงไม่ได้กลับบ้าน” ภูริมองไปที่มือขอตัวเองขณะรอแม่พูด

(เข้าโรงบาลอีกแล้ว มันไปโดนอะไรทำไมถึงอาการกำเริบได้ล่ะ แม่ก็บอกมันแล้วว่าให้ดูแลตัวเองดีๆ อะไรกันเนี่ย...แล้วเงินจะพอไหม ตอนนี้เอ็งเหลือเงินเท่าไหร่ แม่ไม่มีแล้วนะไอ้ภู เงินแม่ก็ต้องเอามาใช้หมุนเวียนในร้านนะ) ยังไม่ได้พูดเรื่องเงินเลยปะวะ ทำไมแม่ต้องรีบชิ่งด้วย..โอ้ย เบื่อวะ ภูริคิดอย่างขุ่นเคือง

“โดนควันบุหรี่อะแม่”

(แล้วมันจะเข้าไปใกล้ควันบุหรี่ทำไม หรือแฟนมันดูด แฟนมันไม่รู้เหรอว่าไอ้ฟ้ามันเป็นภูมิแพ้อะ) ภูฟ้ามีแฟนที่ไหนล่ะ...ยิ่งคุยยิ่งซึม ข้างในใจภูริน่ะมันค่อนข้างจะเถียงแม่ แต่เขาไม่ได้พูดมันออกไปเท่านั้นเอง

“เปล่า มันบังเอิญน่ะแม่”

(บังเอิญ? บังเอิญตายด้วยไหมล่ะ รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองแพ้อะไรบ้างก็ยังจะเข้าไปใกล้มัน ไม่น่าเอามันเข้าโรงพยาบาลให้เปลืองเงินหรอก แต่เอาเถอะ ประกันสังคมเอ็งใช้ได้อยู่ใช่ไหม ส่วนต่างอะหมอบอกมาหรือยัง)

“ยังครับ”

(เอ้า แล้วทำไมไม่ถาม ปากมีก็ถามสิ เป็นพนักงานขายน่าจะพูดเก่งไม่ใช่หรือไง แล้วอย่างนี้จะรู้ได้ไงว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ ถ้าเยอะนี่มีจ่ายไหม...แม่ไม่มีให้ แม่เองก็ว่าจะขอเงินเอ็งเนี่ย) ขอเงิน...อีกแล้วเหรอ ร้องไห้ได้ปะ เหนื่อยวะ ภูริกัดปากตัวเอง ก็นะ...นี่ชีวิตเขาไง เขาก็ต้องฝ่ามันไป

“หมอบอกจะขอดูอาการ ยาตัวเก่าใช้ไม่ได้...ผมไม่รู้ว่าเงินจะพอไหม แต่คงไม่มีเหลือให้แม่”

(ไม่มีแล้วแม่จะเอาที่ไหนกินล่ะไอ้ภู แม่ก็บอกแล้วว่าเดือนนี้แม่ต้องใช้เงินเยอะ โอ้ย อะไรกันนักกันหนาเนี่ยเอ็ง แม่มีลูกก็อยากจะพึ่งพาลูกนะ ไม่ใช่เอ่ยปากขอทีไรก็บอกแม่ว่าไม่มีตลอดเลย แล้วอย่างนี้จะเลี้ยงมาให้เสียข้าวสุกทำไม งานเนี่ย ถ้ามันทำแล้วมันได้เงินไม่พอกินไม่พอใช้ก็เปลี่ยนๆ งานแม่งไปซะ จนทำไปทำไมนักหนา สวัสดิการที่อื่นเขาก็มีไม่ได้มีที่นี่ที่เดียวสักหน่อย นี่แม่จะบอกให้นะ...ลูกค้าแม่เขาเล่นหุ้นเหิ้นอะไรเนี่ยเขารวยจะตาย เอ็งออกจากงานมาอยู่บ้านเล่นหุ้นแบบเขาเอาก็ได้แล้วเงินเดือนแค่นั้นน่ะ) ยิ่งฟังก็ยิ่งเหนื่อย...ภูริเหนื่อยมากเลย

“แค่นี้นะแม่ ภูกลับห้องก่อน...”

(เดี๋ยว สรุปมีเงินให้แม่ไหมเนี่ย)

“ไม่มีครับแม่”

(เอ็งนี่มันเลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ เลย แค่นี้แหละ) แล้วแม่ก็วางสายไป ทิ้งให้ภูรินั่งกำมือถือตัวเองแน่นด้วยความรู้สึกที่...มันยากที่จะพูด เขาอึดอัด เขาไม่ชอบแบบนี้

ภูริรู้ว่าแม่ของเขาน่ะไม่มีอะไรหรอก เป็นคนขี้บ่นที่บ่นไปเรื่อยเวลาไม่ได้อะไรที่ตัวเองต้องการ ใจจริงของแม่ก็คือแม่อะ แต่แบบ...มันทำให้เขายิ่งเหนื่อยอะ คำพูดแม่บางครั้งมันทำให้เขารู้สึกว่าที่เขาพยายามอยู่ทุกวันนี้มันไม่มีความหมายอะไรเลย

แต่ก็นะ...จะมีใครเห็นล่ะว่าเขาพยายามอยู่ มีแค่ตัวเขาเท่านั้นที่รู้ คนอื่นแม่งก็เห็นแค่ตัวเองเท่านั้นแหละ เบื่อ เซ็ง ภูริเก็บมือถือใส่กระเป๋าแล้วทอดสายตาเหม่อลอยไปนอกหน้าต่าง เวลาที่อารมณ์แม่งดาวน์เนี่ย ทำไมสิ่งต่างๆ ยิ่งเข้ามาทำให้มันดาวน์เข้าไปอีกวะ

ความเงียบในห้องโดยสารทำให้อีธานได้ยินเสียงเล็กแหลมที่ลอดปลายสาย คำพูดของแม่ภูริจัดว่าร้ายกาจประมาณหนึ่ง มิน่า ภูริถึงมีท่าทีเหนื่อยอกเหนื่อยใจตอนที่หยิบมือถือมาจะกดโทรออก

อีธานเข้าใจภูริทั้งหมดไม่ได้หรอกเพราะเขาไม่ใช่ภูริ แต่เขาไม่ชอบพ่อแม่แบบนี้เลย พ่อแม่ที่มีลูกไว้เพื่อให้ตัวเองสบายในตอนแก่ ไม่คิดบ้างเหรอว่าลูกก็มีชีวิตที่เป็นของลูก เขาโตมาเขาจะดูแลเราไหมหรือเขาไม่ดูแลเราก็เป็นสิทธิ์ของเขา

ที่ที่อีธานโตมาไม่มีชุดความคิดอย่างนี้ ทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง เป็นครอบครัวกันแต่ก็ไม่ได้ต้องมาเลี้ยงดูปูเสื่อให้กันขนาดนี้ เดือดร้อนก็ช่วยเหลือกันไป แต่ทุกคนต้องทำเพื่อตัวเองด้วยสิ ไม่ใช่รอลูกรอหลานมาทำให้อย่างเดียว

ไม่โอเคเลย...อยากจะพูดแบบนี้ใส่ภูริมาก อยากจะบอกว่าแม่นายมันนิสัยแย่ แต่นั่นก็คือแม่ของภูริและเขาคิดว่าเขาไม่ควรก้าวก่ายคนที่ภูริเคารพรัก คิดง่ายๆ มันก็เรื่องของภูริไม่ใช่เรื่องของเขานั่นแหละ

“หิวไหม...” อีธานถาม เป็นเรื่องเดียวที่พอจะพูดได้ในตอนนี้

“ไม่อะ” กินไม่ลงมากกว่า อีธานก็เข้าใจนะ เวลาเครียดความอยากอาหารมันจะลดลงแล้วความอยากแอลกอฮอล์มันจะเยอะขึ้น

“ไม่อยากกินอะไรเหรอ ผมเลี้ยง” ภูริหันมองหน้าอีธาน เลิกคิ้วหน่อยๆ กับคำว่าอยากเลี้ยงของอีกฝ่าย

“วันนี้คุณใจดีผิดปกตินะ ก็ดี ผมกินอะไรก็ได้ คุณเลี้ยงอะไรก็กินอันนั้น”

“กินง่ายอยู่ง่ายจังนะ”

“ชีวิตผมเลือกมากไม่ได้” ภูริไหวไหล่เบาๆ เขาหันไปมองทิวทัศน์ข้างทางต่อ

จะว่าไป...วันนี้เป็นวันที่เขาอารมณ์หนักหน่วงที่สุด ไหนโหมดเฮฮา ไหนโหมดร่าเริง ให้ตายเหอะ ช่วงเวลาแบบนี้มันขำไม่ออกจริงๆ จะนึกมุกสักมุกให้ตัวเองยิ้มยังทำไม่ได้เลยอะ อาจจะต้องขอเวลาสักคืนเพื่อชาจแบตให้กับตัวเอง พรุ่งนี้ภูริก็จะกลับมาเป็นภูริ

คิดว่างั้น...

เขาจมอยู่กับความเครียดมากไม่ได้หรอก ชีวิตมีแต่เรื่องเครียดทั้งนั้น ถ้ามัวแต่จมลงไปแล้วเราจะมีความสุขได้ยังไงล่ะเนอะ เพียงแค่...ขอเวลาซีเรียสบ้างก็ยังดี ปัญหาเยอะขนาดนี้ใครไม่เครียดมาสอนภูริบ้างเหอะนะ!

อีธานเลี้ยวรถเข้ามาในซอยมืดๆ ซอยหนึ่ง ขับไปตามทางอีกไม่นานก็เจอกับร้านอาหารที่ตั้งอยู่กลางบ่อน้ำ รอบด้านโปร่งสบายและมีลมโกรธ วิวสวย...ภาพท้องฟ้ายามค่ำคืนกับแสงดาวสะท้อนอยู่บนผิวน้ำนั้นเป็นอะไรที่ภูริเห็นแค่ในภาพวิวตามอินเตอร์เน็ต  ตอนนี้เขาเห็นภาพจริงๆ ของมันแล้ว มันสวยเอาเรื่องเลย

“ที่นี่เป็นร้านอาหารไทยที่บรรยากาศดีมาก ผมชอบมาทานบ่อยๆ คิดว่าคุณก็น่าจะชอบ...” อีธานพูดก่อนจะลงจากรถไปคนแรก

อีธานเดินนำเข้าไปด้านใน เขาบอกกับพนักงานต้อนรับว่าเขามากันสองคนและต้องการโต๊ะริมน้ำที่เป็นส่วนตัวประมาณหนึ่ง พนักงานต้อนรับจึงเดินนำทั้งคู่ที่มีกลิ่นอายหวานๆ บางอย่างคล้ายกับขนมหรือดอกไม้บางชนิดไปยังสถานที่ที่อีธานต้องการ พนักงานหนุ่มอีกคนตรงเข้ามาเลื่อนเก้าอี้ให้ภูริส่วนพนักงานต้อนรับคนแรกเลื่อนเก้าอี้ให้อีธาน

ภูริมองไปยังท้องน้ำสีดำ แสงสะท้อนของหลอดไฟ ดวงดาวหรือพระจันทร์เสี้ยวกระจัดกระจายอยู่บนนั้น ราวกับเป็นผืนผ้าใบสีดำที่มีชีวิต ยามสายลมพัดผ่าน ผิวน้ำจะกระเพื่อมแล้วทำให้แสงสะท้อนนั้นกระเพื่อมตามดูระยิบระยับ

มันไม่เชิงเป็นภาพแปลกตา ถ้าไปที่คลองก็มองเห็นได้ ไปแม่น้ำเจ้าพระยาก็เห็นอะไรแบบนี้ แต่ที่นี่มันดึงดูดก็เพราะมันสงบและร่มเย็นต่างหาก รอบๆ บริเวณบ่อน้ำมีต้นไม้ขนาดกลางและดอกไม้ปลูกง่ายแต่สวยประดับประดาอยู่ ระหว่างต้นไม้แต่ละต้นก็มีโคมไฟขนาดย่อมปักอยู่ข้าง ทำให้ในไม่วังเวงและดูน่ากลัว กลับร่มรื่นเข้ากับธรรมชาติอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี

ภูริอดสูดอากาศฉ่ำๆ เข้าปอดไม่ได้ กลิ่นน้ำ กลิ่นดินและกลิ่นต้นไม้มันเป็นกลิ่นที่คนทำงานออฟฟิตอย่างเขาไม่ค่อยได้สัมผัสเท่าไหร่นัก อย่างมากก็สนามหญ้า ช่วงที่ฝนตกใหม่ๆ กลิ่นธรรมชาติเหล่านี้ก็จะฟุ้งเยอะจนชื่นใจอยู่

“อาหารไทยประเภทยำเข้ากับเบียร์อยู่นะ” อีธานเอ่ยขึ้นท่ามกลางความสงบของธรรมชาติ ภูริหันไปมองท่านประธานของเขา คิดว่าจะพูดกับเราที่ไหนได้เขาก้มหน้ามองเมนูอยู่

“ผมเอาข้าวผัดก็ได้นะ ข้าวผัดหมู” พนักงานเตรียมจำสิ่งที่ภูริบอก

“ผมเลี้ยงทั้งทีกินข้าวผัดหมูเนี่ยนะ อันนั้นเก็บไว้กินที่โรงอาหารบริษัทเถอะ” อีธานสั่งให้พนักงานจดรายการตามที่เขาบอกโดยให้เอาข้าวผัดหมูของภูริออกจากรายการอาหารไป

อืม...อาจเป็นความใจดีของคนหยิ่งยโสแบบนั้นก็ได้

ภูริมองไปยังท้องน้ำอีกครั้งขณะที่อีธานเริ่มจะเอาไอแพดของตัวเองขึ้นมมาจิ้มๆ บนหน้าจอ ต่างคนก็ต่างมีอะไรต้องคิด ต้องทำล่ะเนอะ เสียงพูดคุยกับเสียงลมกรีดกรายใบไม้ใบหญ้าดังคลอเคลียกับบรรยากาศสบายยามค่ำคืน

มันก็ดูดีจนเหมือนจะปล่อยวางอะไรลงไปได้บ้าง แต่ก็ไม่ ภูริไม่ได้คิดมากแล้วเพราะทางเลือกของเขามันมีน้อยมาก ถ้าค่าใช้จ่ายสองพันกว่า คิดว่าเขาต้องทำยังไง? คนอื่นอาจมีทางออกหรือมีเงินสำรองเอาไว้ ทว่านั่นไม่ใช่กับภูริเลย ถ้ามันไม่พอ ทางเดียวที่เขาจะทำได้คือไปหายืมเงินใครสักคนมาจ่ายแล้วสิ้นเดือนค่อยคืน เพราะเขาไม่รู้จริงๆ ว่าแม่จะยอมออกเงินช่วยเขาไหม

อย่างว่า แม่เองก็มีรายได้จากร้านสักรีดของตัวเองแค่ไม่เท่าไหร่ มันซื้ออหารได้ ใช้จ่ายกับอะไรจุกจิกก็พอได้ แต่มันกลับไม่มากพอจะเจียดมาให้เขาเลย หรือไม่แม่ก็มีแค่ไม่ให้เขาเท่านั้น อาจเก็บไว้ในวันที่มันเดือดร้อนจริงๆ

มันก็เดือดร้อนจริงๆ ไหมล่ะสถานการณ์อย่างเนี่ย มันมีเหรอ เงินหมดเพราะค่ารักษาพยาบาลแล้วจะกลายเป็นเดือดร้อนเล่นๆ อะ ให้ตายเถอะ เขาเพิ่งจะผ่านต้นเดือนมาแค่อาทิตย์กว่าเกือบสองอาทิตย์เอง แต่เงินเขาดันไม่มีใช้แล้ว ไม่พอจริงๆ

ไอ้จะเอาของมีค่าไปขายมันก็มีแค่ทีวีในบ้าน เครื่องซักผ้าของแม่ แม่คงให้เขาเอาไปขายอะนะ มือถือเครื่องนี้เคยเอาไปจำแล้วยังได้ไม่ถึงพันเลย ครั้นจะเอาทองไปจำก็อนาถอีก เพราะที่จำไว้ยังไม่ได้ไปถอนเลย

บางคนอาจมองว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่เราจะจนตรอกได้ขนาดนี้ เหอะ คนพวกนั้นไม่รู้อะไรซะแล้ว เวลาจนตรอกอะมันก็จนตรอกจริงๆ นะเว้ย เขานึกถึงเพื่อนของเขาที่ชอบชวนไปที่ยว ไปดื่มอะไรเถือกนั้น แล้วเขาบอกว่าไม่มีเงิน เขามักจะเจอสายตาประมาณว่า เฮ้ย มึงจะโกหกทั้งทีมึงก็เอาให้เนียนหน่อย ชายโสดกับเงินเดือนสองหมื่นกว่าบาทมันจะไม่มีเป็นไปได้ที่ไหน

มาเป็นเขาสิ จะได้รู้ว่ามันเป็นไปได้เสียยิ่งกว่าเป็นไปได้อีก แค่ค่าบ้านนี่ก็ตกเดือนละหมื่นแล้ว ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟที่หนักหนาสาหัสมากเพราะบบ้านเขาทำร้านซักรีด แม่มักจะช่วยออกแค่ครึ่งเดียว แต่อีกครึ่งที่แม่ไม่ออกนี่ก็นับว่าเยอะทีเดียว จากนั้นก็มีค่าบัตรกดเงินสดที่ไปเอามาใช้หมุนยามน้องต้องใช้เงินทำรายงาน ค่าชุด ค่าหนังสือ ค่าเทอม สารพัดค่าใช้จ่าย ดีที่เขาไม่ต้องออกค่าไปเรียนน้องในแต่ละวัน

เมื่อไหร่น้องจะทำงานได้นะ...

เขาน่ะเคยอยากให้น้องทำงานไปเรียนไป แต่แม่บอกน้องเป็นผู้หญิงนะ ให้น้องไปทำอะไรหนักๆ แบบนั้นน้องมันจะไปไหวได้ยังไง เขาเป็นพี่ก็ต้องดูแลน้องไปสิ เรื่องแค่นี้ไม่น่าจะเกินความสามารถของพี่ชายหรอก ดูเอาเถอะ...เกินไม่เกินก็มีหนี้เกินตัวอะ

“ขออนุญาตค่ะ” กำลังนั่งคิดอะไรไปเพลินๆ พนักงานก็เริ่มเอาอาหารมาเสิร์ฟ

ภูริมองอาหารตรงหน้า ท้องเขาร้องโครกครากได้น่าเกลียดมากและคิดว่าอีธานได้ยิน ไม่งั้นไม่มองมาที่หน้าเขาพลางยิ้มมุมปากแบบนั้นหรอก โอเค ไม่ปฏิเสธว่าหิว แต่ก็ไม่มีอารมณ์อยากกินเท่าไหร่ จนกระทั้งพนักงานเสิร์ฟเบียร์ให้กับเขาเนี่ยแหละ...อืม อยากกินขึ้นมาเลย ยอดข้าวนะไม่ใช่ข้าวสวย

“คุณไม่ดื่มเหรอ” เห็นว่าแก้วของอีธานเป็นแค่น้ำเปล่าเขาก็ถาม

“ไม่ล่ะ ผมจะกินข้าว” อีธานไม่นิยมทานข้าวพร้อมกับเบียร์เท่าไหร่

“อ๋อ” ภูริพยักหน้ารับเบาๆ เขาเอื้อมไปตักยำปลากะพงทอดกรอบมาชิม เป็นรสชาติที่จัดจ้านสมกับเป็นอาหารไทยมาก จากนั้นตามด้วยเบียร์เย็นๆ โห...มันดีจริงๆ

ฟากของอีธานมีจานข้าวสวย แต่ภูริมีเพียงจานเปล่าสำหรับทานอาหารเท่านั้น ก็ดีนะ เขาดื่มเบียร์แบบนี้มันก็กินข้าวไม่ค่อยลงอยู่ดี ภูริมองอีธาน ดูอีกฝ่ายทานอาหารของตัวเองโดยไม่ได้จับไอแพด เวลากินก็คือเวลากินงั้นสินะ

อีธานได้แต่หวังว่า เบียร์เย็นๆ กับอาหารที่รสชาติดีบวกบรรยากาศดีๆ เหล่านี้จะทำให้ภูริรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง เวลาที่ภูริตีหน้ามึนเพราะกวนประสาทน่ะมันดูดีกว่าภูริที่ซึมเพราะคิดมาก ใจเขามันกระวลกระวาย มันไม่อยากให้ภูริจมอยู่กับทุกข์ของตัวเอง เพราะอีธานคิดว่ายังไงซะ...เขาก็จะช่วยเหลือภูริ

แต่ให้ตาย...มันขัดกับอีกใจหนึ่งของเขาจริงๆ เลย!

“ขอบคุณนะครับ” ภูริพูดขึ้นมาดื้อๆ สายลมยามค่ำคืนและเสียงพูดคุยของโต๊ะไม่อาจกลบคำพูดที่ออกมาจากใจของภูริได้

“กินให้อร่อยเถอะ กลับไปก็พักผ่อนซะ” อีธานอยากบอกต่อว่า...วันนี้คุณเจออะไรมาเยอะแล้ว แต่เขาก็เลือกที่จะเงียบแล้วทำเป็นทานอาหารไม่สนใจภูริอีก ทั้งที่เขาเองก็คอยเหลือบตามองอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา...

….100%….

ทำไมภูริไม่พูด ทำไมภูริต้องยอม ก็นะ…เขาเจอแม่เป็นแบบนี้ตลอดเลยไม่อะไรกับใครนักหนา คนที่ว่าคนที่เหยียดหรือประชดเราได้เจ็บที่สุด คงไม่พ้นคนในครอบครัว

เจอกันอีกทีวันจันทร์นะคะ ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เห้อออออ อย่างที่ภูริว่า พอมันจนตรอกทุกอย่างมันก็จะโถมเข้ามาพร้อมกัน  สู้ๆนะภูริ

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อึดอัดแทนภูริอ่ะ เห้ออออออออ

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ภูริ  :sad4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พ่อแม่ ก็มีหลายแบบ..........
แบบที่รักลูกทูนหัวทูนเกล้า อะไรๆก็ออกให้ลูกหมด  ลูกสบาย
แบบที่ไม่สนใจลูก ก็ไม่สนจริงๆจะยังไง ไม่วุ่นวาย
แบบที่ตามวุ่นวายลูกให้ตามใจพ่อแม่ ให้หมั้นคนนั้น แต่งกับคนนี้ นี่ก็น่าเบื่อ
แบบที่เรียกร้องให้ลูกเลี้ยงดูแบบแม่ภูริก็มีจริงๆ นี่เลวร้ายสุดๆ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ยังบ่นด่า จิกกัดอีก ไม่ให้กำลังใจ ลูกไม่เป็นตัวของตัวเอง

อีธาน  เข้าใจภูริซักที   :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เบื่อ ครอบครัวแบบนี้ แบบผู้หญิงทำงานไปเรียนไปไม่ได้ เป็นตรรกะที่แบบงอมืองอเท้า แม่แบบนี้มีความคิดมือไม่พายเอาเท้าราน้ำมากอ่ะ อย่ามีมันเลยลูก อยู่คนเดียวไปเหอะ!!!  :katai5:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
อีธานก็เข้าใจภูริมากขึ้นอีกนิดนะ

ออฟไลน์ Kumamon_Kung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

อึดอัดมากอ่ะ ร้องไห้กับตอนนี้อินกับตอนนี้สุด สงสารภูริมากๆ เราก็นิสัยคล้ายๆภูริคือชินชากับเสียงบ่นอ่ะ เข้าใจนะว่าบ่นเพราะรักบ่นเพราะห่วง แต่บางเรื่องมันไม่ได้ทำให้มีแรงสู้เลยอ่ะ มันตัดกำลังใจซะมากกว่าอีก แง่งงงง รอนะคะ

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สู้ๆนะน้องภู

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ความจนเป็นปัญหาของครอบครัวชนชั้นล่างไม่ใช่แค่ในนิยายเท่านั้น :mew6:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ชีวิตภูรินี่ช่างลำบากจริงๆ

ออฟไลน์ orloftin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮือออออ เข้าใจภูริเบย
คำพูดที่บั่นทอนจิตใจมากที่สุดก็มาจาก
พ่อกับแม่เรานี่ล่ะ  :o12:

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อ้อหออออ  :katai1: เจอแม่ภูรินี่เราไปไม่ถูกเลยทีเดียว

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :mew4: :mew4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อยากให้ความขยันของภูริเป็นเงิน(OT)
อยากให้ภูริได้ทำหน้าที่เซลล์จริงๆจังๆ
ได้รับตามที่ตัวเองทำ เชื้อเถอะภูริจะไม่ต้องไปกดบัตร
ไม่ต้องไปยืมใคร และอีธานก็ไม่ต้องมาออกเงินช่วย
เพราะภูริเก่ง(ขายยาได้เยอะ ค่าคอมก็เยอะ)
แถมขยันทำโอทีอีก อยากกอดภูริแน่นๆ

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
แล้วเราจะรอถึงวันจันทร์ไหวมั้ย  สงสารน้องภู ¥___¥

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อ่านถึงตรงนี้ยิ่งสงสารภูริเจ้าไปใหญ่ เข้าใจเลยว่าใครเหยียดเราก็ไม่ท้อเท่าคนในครอบครัว
ฮืออออออ กอดภูริ

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อึดอัดใจอ่ะ คนอ่านยังร้องไห้

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ลูกชายอายุไม่ถือว่ามาก ทำงานได้ไม่กี่ปี เงินเดือนจะเท่าไหร่กัน แม่ก็โยนภาระมาให้ซะหมดละ  ที่จริงค่ารักษาพยาบาลลูกสาวนี่เป็นหน้าที่ของแม่ผู้ให้กำเนิดมั้ย ประโยคที่พูดคำว่าตายออกมาเหมือนไม่ใช่คนเป็นแม่พูด  เผินๆนึกว่าแม่เลี้ยงซะอีก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด