เหตุเกิดจากความหิว
บทส่งท้าย
พี่ต้นน้ำคนดีของพาย
กาลเวลาหมุนเวียนไปจนพายเรียนจบการศึกษาแล้ว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะ การรับปริญญาถือเป็นวันยืนยันว่าพายนั้นมีชีวิตรอดแม้จะรู้สึกอิดออดว่าต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเข้าหอประชุมแต่ไม่เป็นไรถือเป็นประสบการณ์เท่ๆ กำหนดการคือซ้อมย่อยหนึ่งวันซ้อมใหญ่หนึ่งวันและวันรับจริงซึ่งคณะของพายดันได้รับรอบเช้า(มาก)
ค่าใช้จ่ายในการรับปริญญานั้นค่อนข้างเยอะถ้าให้เทียบคือพายสามารถนำเงินจำนวนนี้ไปกินชาบูได้หลายมื้อแต่ไม่เสียดายหรอกเพราะป๊าเป็นคนออกให้หมดเลย พายตื่นลืมตาขึ้นมาในตอนตีสามครึ่งเพื่ออาบน้ำแต่งตัวส่วนหน้าผมนั้นพี่สาวคนดีของพายเป็นคนจัดการให้ทั้งหมดซึ่งมั่นใจได้ว่าหน้าจะไม่หนาเท่าโบกปูนแน่นอน
“พาย ลืมตาหน่อย” พี่แพรวพูดขึ้น
“ลืมตางี้ยายร้องไห้แงๆแน่เลย”
“ตลก”
“ขำสิ อิอิ”
“พาย” แพรวกดเสียงต่ำลง
“โอเคๆ”
ว่าที่บัณฑิตป้ายแดงทำตามช่างผมช่างหน้าส่วนตัวอย่างดี แพรวเช็กความเรียบร้อยอีกนิดก่อนจะปล่อยให้น้องชายตัวเองออกเดินทางไปมหาลัยแต่ตัวเองขอตัวลาไปนอนหลับสักตื่นแล้วจะออกไปหา โชคดีสัญญาการเช่าหอพักข้างมหาวิทยาลัยนั้นหมดหลังวันรับเสร็จแบบพอดี
“แล้วให้พายไปไง ป๊ากับม๊ามาหลังพายรับเสร็จอะ”
“แฟนเธอไง มาถึงแล้วมั้ง”
“พี่ต้นจะมาได้ไงเมื่อวานพี่เขาไปไซต์งานไม่ใช่เหรอ”
“ฉันจะรู้ไหมล่ะ”
แต่พอจบคำพูดของเสียงเคาะห้องเป็นจังหวะก็ดังขึ้นมา จังหวะคุ้นเคยจังหวะกวนประสาทน่ะนะ พายเดินไปเปิดประตูห้องก็เจอกับต้นน้ำในสภาพเหมือนคนเพิ่งลุกออกมาจากเตียง ตาคมดูเบลอๆกับทรงผมอันเดอร์คัทที่ยุ่งเหยิงเหมือนคนไม่ได้หวีมาชาติหนึ่งแถมชุดที่ใส่คือเสื้อยืดสีดำกับกางเกงกีฬาขาสั้นพร้อมรองเท้าแตะ ถ้าให้พูดรอบกายเขานี้ไม่ได้มีใครพร้อมไปกับเขาเลย
“ไหนบอกเมื่อวานอยู่ไซต์งานไง”
“เซอร์ไพรส์ ไม่ดีเหรอน้องพาย”
“ก็ดีแล้วนี่พี่จะไปม.ด้วยสภาพนี้เหรอ”
“เออ ไปส่งพายก่อนเดี๋ยวแวะกลับมานอนที่นี้แล้วจะไปหาอีกรอบ”
“นอนนี้?”
“ครับ พอดีเจ้าของหอบอกเหลือห้องอยู่เลยเช่าอยู่วันหนึ่ง”
พายพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามรั้งผู้ชายตัวสูงใหญ่ที่ตอนนี้ดูมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเดิมถึงจะอยู่ในสภาพคนเพิ่งตื่นก็เถอะ
รถยนต์สัญชาติยุโรปสีดำสนิทของต้นน้ำค่อยๆเคลื่อนไปจอดลงที่ด้านหลังมหาลัยซึ่งทางเข้าตรงกับหอประชุมใหญ่พอดิบพอดี ตรงบริเวณมีรถมาจอดเรียงอยู่ไม่น้อยและส่วนใหญ่ก็พาบัณฑิตป้ายแดงมาส่งกันทั้งนั้นโดยที่ตรงทางเท้าก็มีร้านขายของมาตั้งอยู่จำนวนหนึ่ง ต้นน้ำเปิดสัญญาณไฟกะพริบ
“ออกจากหอประชุมแล้วมาเจอตรงที่หน้าตึกแดงนะพาย”
“โอเค”
“แล้วหันหลังมาหน่อย”
พายทำตามที่อีกฝ่ายบอกก่อนจะสัมผัสได้ว่าที่ฮู้ดของชุดครุยตัวเองนั้นมันขยับ เขาเอี้ยวตัวมามองก็พบกับแท่งช็อกโกแลตสองสามอันในมือของต้นน้ำซึ่งไอ้เจ้าขนมพวกนี้กำลังจะถูกกลืนหายไปในช่องลับในฮู้ดของชุด
“เดี๋ยวหิวแล้วอาละวาด”
“นิสัย”
“ไปได้แล้ว เขารวมแถวแล้วมั้งน่ะ”
“แล้วพายจะไม่โดนว่าใช่ปะ”
“พี่รู้ว่าพายสามารถทำตัวให้ไม่ถูกว่าได้” ต้นน้ำยกมือขึ้นวางทาบที่แก้มนุ่ม "สำหรับของกินพายเก่งเสมอ”
“จริง งั้นผมไปละ เจอกันนะพี่”
“ครับ”
ต้นน้ำมองพายเดินลงจากรถจนกระทั่งร่างสูงโปร่งในชุดครุยสีดำแทบแดงเลือดหมูเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัยจนลับสายตาเขาถึงตัดสินขยับรถออกจากที่จอดอยู่เพื่อวนกลับไปที่หอพักเก่าที่คุ้นเคย ความรู้สึกที่ได้ส่งพายในเช้านี้เหมือนพ่อลูกมากกว่าแฟนกันเสียอีกแต่คิดอีกทีพายบางทีก็ทำตัวเหมือนลูกจริงๆ
11.30น.
เป็นเวลาที่บัณฑิตในรอบเช้าทยอยออกจากหอประชุมกันแล้ว ช่วงเวลาเท่ๆที่พายคิดนั้นจบลงอย่างรวดเร็ว พูดก็พูดเขารู้สึกรนอยู่ไม่น้อยตอนก้าวเข้าไปรับพระราชทานปริญญาบัตรน่ะแถมชื่อเขาก็อยู่ลำดับต้นๆเพราะเป็นชื่อปิดท้ายของคนที่ได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งน่ะนะ
“พวกมึงนัดที่บ้านแถวไหน กูไปแถวหน้าคณะอินเตอร์วะ” แมนพูดขึ้น
“ของกูนัดไว้ที่คณะ” กันต์ตอบขึ้น
“เหมือนกัน”
“เอองั้นไว้ค่อยเจอกันแถวคณะถ่ายรูป”
“เออ/จ้า” กันต์พูดก่อนจะเป็นพายพูดด้วยเสียงสดใส
พวกเขาพากันเดินแยกไปตามทางเดินที่ตอนนี้มีคนพลุกพล่าน พายมองโน้นมองนี้เพลินตาโดยที่มีกันต์คอยจับแขนเอาไว้เพื่อเจ้าตัวสะดุดล้มหน้าคะมำซึ่งระหว่างทางเดินไปพายก็พูดโน้นพูดนี่และทุกประโยคจะลงท้ายว่าหิว คำพูดติดปากตั้งแต่รู้จักยันปัจจุบันคำนี้ก็ไม่สามารถหลุดไปไหนได้เลย
“กูไปหาที่บ้านตรงตึกขาวนะ เดินดีๆเข้าใจไหมน้องพาย”
“เออ รู้แล้วบ่นเป็นพี่ต้นไปได้”
“แล้วรบกวนบอกแฟนมึงด้วยว่ามาถ่ายรูปกับน้องรหัสคนนี้ด้วยไม่ใช่ถ่ายแต่กับแฟน หมั่นไส้”
“บ่นๆ กูไปดีไป แต่หิวฉิบหายเลย ไส้ขาดเป็นสิบท่อนแล้วเนี้ย”
เจ้าของกลีบปากนุ่มนิ่มบ่นไปเรื่อยก่อนจะรีบสาวเท้ามองหาคนที่บ้านและพี่ต้นน้ำ ณ เวลานี้พายเดินตามหาคนตามสัญชาตญาณตัวเองล้วนๆเพราะบัณฑิตเขาไม่ให้พกมือถือเข้าไปในหอประชุม ดวงตากลมโตเบิกกว้างกว่าเก่านิดๆเพื่อสแกนหาบุคคลที่เป็นเป้าหมาย
“หิวจนอยากจะล้มตัวลงนอนตรงนี้จังเลย”
พายบ่นแต่สองเท้าภายใต้รองเท้าหนังสีดำเงาก็เดินเอื่อยๆไปจนเจอคนที่บ้านที่กำลังนั่งรออยู่ พายยกยิ้มดีใจที่วันนี้ม๊าไม่ทำผมทรงตีโป่งเหมือนพวกคุณหญิงคุณนาย พูดก็พูดนะเขาว่าทรงผมแบบนั้นมันตลกแต่เขาไม่ได้เหยียดนะมันแค่รสนิยมส่วนตัว
“น้องพาย” ม๊าพูดขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาสวมกอด "เก่งที่สุดเลยครับ”
“พายหิวแล้วอะม๊า”
“เจ้าเด็กคนนี้นิ มาๆถ่ายรูปกันก่อนแล้วค่อยมากินข้าว”
“เย้ มาๆถ่่ายเลยเอาแบบรัวๆเลยนะ พายจะได้ไปกินไวๆ”
“ม๊าว่าตอนม๊าท้องพายม๊าก็ไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองอดมื้อกินมื้อนะ”
“สงสัยคลอดมาแล้วกระเพาะมันขยายมั้งม๊า” พี่แพรวพูดขึ้นแทรก
“เหอะ งอน”
การพูดคุยพาเรียกเสียงหัวเราะจากคนในครอบครัวเป็นอย่างดีรวมถึงต้นน้ำที่วันนี้พาคนที่บ้านมาร่วมยินดีด้วย ความสนิทสนมระหว่างครอบครัวพายกับต้นน้ำน่ะเพิ่มขึ้นทุกวันเพราะพวกผู้ใหญ่น่ะพูดกันถูกคอแถมเด็กทั้งคู่ก็รักใคร่กันดีก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปแยกพวกเขาออกจากกัน โชคดีที่ครอบครัวทั้งคู่ถือคติคล้ายๆกันอย่างลูกเลี้ยงได้แต่ตัวแต่หัวใจเขาเราเลี้ยงไม่ได้ อะไรที่เป็นความสุขแล้วไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนคนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมเห็นด้วย ประโยคต้นอาจฟังดูเหมือนไม่ใส่ใจแต่มองอีกมุมมันก็คือความจริง
พวกเขาถ่ายรูปกันอยู่สักพักต่างครอบครัวก็พากันทยอยกลับไปที่บ้านของต้นน้ำซึ่งก็คือห้างใหญ่ใจกลางเมืองนั่นแหละพวกเราตกลงกันว่าจะกินเลี้ยงฉลองที่นั่นซึ่งคุณแม่พี่ต้นน้ำก็เต็มใจเลือกเมนูอาหารเอาไว้ให้ พายได้รับช่อดอกไม้มาเต็มอ้อมกอดและนั่นทำให้เขายกยิ้มเต็มแก้ม
“ไปนั่งกินในห้องสโมฯไหมหรือจะกินตรงม้านั่งข้างนอกนี่” ต้นน้ำถามพร้อมกับยกทิชชู่ขึ้นซับเหงื่อให้
“อยากนั่งที่ห้องสโมฯนะแอร์เย็นแต่เดินต่อไปไม่ไหวแล้วนั่งนี่แหละ”
แล้วกล่องข้าวที่ทำโดยม๊าของพายก็ถูกเปิดอย่างรวดเร็วโดยที่ในกล่องขนาดกลางมีกับข้าวราดอยู่สามอย่างผัดผักบุ้ง หมูทอดกระเทียมและแกงจืดหมูสามชั้น สามสิ่งนี้พายขอเรียกว่าสุดยอดแห่งความอร่อย ส่วนอีกกล่องของต้นน้ำก็คล้ายๆกัน
“โอ๊ะ! อันนี้มีเผื่อพี่ช่างกล้องด้วย พี่มาทานด้วยกันนะครับ” พายหยิบกล่องโฟมอีกอันยื่นให้ช่างภาพที่เขาจ้างมาซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ต้นน้ำจ้างเมื่อปีที่แล้ว
“ขอบคุณครับน้อง”
ช่างภาพหน้าตาติสๆเป็นคนรู้จักของญาติของพี่ต้นน้ำเลยได้ราคาพิเศษมานิดเดียวแต่ถึงอย่างนั้นพายก็เต็มใจจะจ่ายในราคาว่าจ้างปกติมากกว่าใช้ราคาพิเศษ เกรงใจน่ะแถมต้องมาเดินตามเขาทั้งแดดร้อนอบอ้าวอีก
พวกเขาใช้เวลากินข้าวกันอยู่สักพักใหญ่ถึงจะพากันไปถ่ายรูปต่อ ถ่ายให้คุ้มกับค่าจ้าง พายเดินไปพบปะเพื่อนสมัยมัธยมปลาย เพื่อนคณะอื่น และสายรหัสตัวเองส่วนต้นน้ำก็อยู่กับเขาสักพักก่อนจะไปหาสายรหัสของตัวเองแล้ววนกลับมาหาเขาเพื่อมาช่วยถือของและยกพัดลมพกพาจ่อหน้า
“ยินดีด้วยนะมึง อีกสองปีมางานรับฯกูด้วยนะ” เพื่อนร่วมชั้นตอนมัธยมคนหนึ่งพูดขึ้น
“เออไม่ลืมๆ แต่ถ้าให้ชัวร์รบกวนเตือนกวนอีกที ฮ่าๆ”
“กูคงต้องทำแบบนั้นอะ ไม่งั้นมึงลืมแน่พาย”
“ว่าแต่นั่นใครวะ” เพื่อนอีกคนถามขึ้นโดยที่นิ้วก็ชี้ไปที่ต้นน้ำที่ยืนอยู่ไม่ไกล "กูเห็นเขาตามเฝ้ามึงไม่ห่าง”
“คนนั้นน่ะนะ ทาสกูเอง”
“ทาส?”
“ฮึ คนรักกูเอง”
“ไม่ธรรมดาเว้ย”
แล้วเพื่อนที่ยืนรุมล้อมก็เริ่มโห่แซวแบบที่ไม่ได้เกรงใจใครเลยและนั่นส่งผลให้พายเริ่มหน้าแดงหูแดงอย่างควบคุมไม่ได้ จากที่หน้าแดงเพราะอากาศร้อนอยู่แล้วนี่ก็แดงขึ้นเพราะอาการเขินแต่ท่ามกลางการถูกแซวช่างภาพก็กดรัวชัตเตอร์ไปด้วย
กว่าจะถ่ายรูปอะไรเสร็จก็ห้าโมงเย็นพอดีและที่ได้กลับช้าเพราะทวดรหัสของสายรหัสพายนั้นมาถึงช้า พายได้รับของขวัญประหลาดมาก็ไม่น้อยและที่น่าตลกสุดคือของจากน้องรหัสซึ่งก็คือโมเดลอาหารเหมือนจริงในเซตใหญ่ เจ้าตัวรีบโม้ว่าไปตามหาที่ญี่ปุ่นมาเพื่อเขา แทบจะก้มกราบน้องดีใจที่น้องจำได้ว่าพี่รหัสคนนี้ชอบของกินมากแค่ไหน
แต่มันกินไม่ได้!
“อีกหนึ่งอาทิตย์พี่จะส่งรูปให้นะแล้วก็พรุ่งนี้พี่จะส่งรูปสองสามรูปไปให้”
“ได้เลยครับ”
“อยากถ่ายตรงมุมไหนอีกไหม”
“ไม่แล้วดีกว่า ขอบคุณนะครับพี่สำหรับวันนี้”
“ครับผม”
ทั้งพายและต้นน้ำเอ่ยลากับช่างภาพหนุ่มโดยที่พวกเขาก็เดินแยกไปอีกทาง ต้นน้ำบอกกับพายว่าต้องไปหารถแท็กซี่ข้างนอกขึ้นเพื่อกลับหอพักเพราะไม่ได้เอารถเข้ามาจอดแถวๆมหาลัย ต้นน้ำเดินจับมือพายไว้ส่วนมืออีกข้างก็ถือถุงใส่ช่อดอกไม้ถุงใหญ่ไว้
พายอมยิ้มให้กับการกระทำเล็กๆแบบนี้ เขายกมือถือในมือขึ้นมากดถ่ายวิดีโอลงสตอรี่ในอินสตราแกรมของตนเอง—ภาพของมือที่ประสานกันของเราสองคนกับใบหน้าด้านข้างของต้นน้ำที่ตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน
'พี่ต้นน้ำคนดีของพาย♥'
“พี่ต้นน้ำครับ”
“ครับ?”
“ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่างนะครับ ขอบคุณที่พี่ยังอยู่ตรงนี้กับพายแล้วก็...”
พายเขย่งตัวเองขึ้นมานิดๆก่อนจะโน้มหน้าไปหาเพื่อกระซิบคำบางคำ
“ผมรักพี่มากกว่าชาบูทุกร้านที่มีอยู่บนโลกใบนี้” ที่ทำให้ต้นน้ำใจเต้นแรงเพราะโดนเด็กอย่างพายทำปั่นป่วน
“เด็กเด๋อของพี่”
----------------------------------------------------------------------
ส่งท้ายกันแล้วสำหรับพี่ต้นน้ำและน้องพาย
อยากบอกว่าขอบคุณคนอ่านทุกๆคนจากใจนะคะ ขอบคุณมากๆที่ชื่นชอบเรื่องนี้ /ไหว้ย่อ
ท้ายนี้ขอให้ร้านชาบูสถิตย์ในใจเราทุกคน เย้!
#ต้นน้ำพาย