ตอนที่ 2 : Anti Fan“มึงหุบยิ้มบ้างก็ได้นะไม่ต้องเกรงใจกู” ผมแซวกล้าเมื่อเห็นเพื่อนรักยิ้มไม่หุบ ดวงตาหวานเชื่อมจ้องมองขึ้นไปบนเวที
“มึง~ น้องโดนัทโคตรน่ารัก ไม่เสียเที่ยวที่กูโดดมา”
“เต็มปากเต็มคำ” ผมส่ายหัว กล้าโดดเรียนวิชาสุดท้ายเพื่อมาดูซ้อมเดินแบบที่คณะผม ก่อนวันงานจริงในวันพรุ่งนี้ เป็นการจัดแสดงผลงานการออกแบบลายผ้าของนักศึกษา ความจริงแล้วผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานนี้โดยตรง แต่เพราะถูกขอให้ช่วยออกแบบสิ่งพิพม์ทุกอย่างที่ใช้เพื่อการโปรโมตงาน จึงขอเป็นการส่วนตัวให้กล้าเข้ามาดูได้
“ขอบคุณมากไอ้ว่าน กูสัญญาว่าจะเลี้ยงข้าวมึง”
“ไม่ต้อง”
“เฮ้ยกูเลี้ยงจริงๆ ไม่ได้พูดเล่น”
“ไม่เป็นไร เอาไว้น้องโดนัทรู้ว่ามึงเกิดมาบนโลกนี้แล้วค่อยเลี้ยงกู”
“อย่าเอาเรื่องจริงมาพูดสิวะ อิจฉาไอ้ตฤนฉิบหายแม่งได้เดินด้วยกันตั้งหลายโชว์”
“ก็นายแบบกับนางแบบ”
“กูนึกว่ามันจะไม่รับงานนี้ซะอีก”
“พี่ที่เข้ารอบคนหนึ่งเป็นญาติกับตฤนเลยไปขอให้ช่วย” ผมเล่าให้กล้าฟังตามที่รู้มา
“เหรอวะ คนไหน” กล้ามองไปรอบๆ เพื่อหาคนที่เข้าข่าย
“คนโน้น” ผมชี้ให้กล้าดูผู้หญิงผมยาว “รุ่นพี่ปีสี่ ชื่อพี่น้ำ”
“สวยว่ะ! โลกโคตรไม่ยุติธรรม”
“มึงจะบ่นทำไมวะหน้าตามึงก็พอใช้ได้ กูยังไม่บ่นสักคำ”
“กูก็บ่นไปงั้น” กล้ายักไหล่ เลิกสนใจผมหันไปมองบนเวทีแทน
“ดูไปนะเดี๋ยวกูมา”
“ไปไหนวะ”
“ห้องน้ำ โชว์สุดท้ายของพี่หนิงใช้นางแบบล้วนมึงคงไม่อยากพลาด รอกูอยู่นี่แหละ” ผมเดินแยกตัวออกมา เพราะเคยเห็นแล้วจึงไม่ตื่นเต้นเท่ากับเพื่อนรัก
“พวกมึงเห็นหน้าไอ้เหี้ยตฤนไหมวะ กูแม่งอยากกระทืบ”
“มันถือว่ามันเป็นนายแบบดัง ถึงไม่เห็นหัวใคร”
“สักวันกูจะดังกว่ามันให้ดู!”
ผมชะงักฝีเท้าเมื่อได้ยินชื่อของตฤน คนที่พูดเป็นนายแบบที่เดินในโชว์เดียวกัน ผมแปลกใจไม่น้อยเพราะจำได้ว่าก่อนเริ่มโชว์ก็เห็นทักทายกันดี
“ใครจะเสียเวลาดู ไร้สาระ” เสียงเย็นชาเรียกสายตาทุกคู่รวมทั้งผมให้หันไปมอง ตฤนยืนสงบนิ่งใบหน้าเรียบเฉย ผมรีบเดินแยกไปทางซ้าย หยุดยืนหลังกำแพง ก่อนจะคิดได้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมสักนิดจะหลบทำไม
“มาเข้าห้องน้ำเหมือนกันเหรอ” ผมอดทึ่งไม่ได้ เมื่อได้ยินคำทักทายตฤน อีกฝ่ายทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ใช่”
“อ๋อ..อืม งั้นกูไปเข้าก่อนเดี๋ยวกลับไปฟังสรุปไม่ทัน”
ผมส่ายหัวเมื่อเจอเข้ากับคนเก่งแต่ปาก พอโดนจับได้ก็พากันเดินหางจุกตูดหนี ไม่เห็นปากดีเหมือนที่วางท่าไว้
“หึ” เสียงหัวเราะหยันดังจากร่างสูง ตฤนในตอนนี้ไม่เหมือนภาพจำของผมสักนิด ดูหยิ่งทะนงและไร้ความรู้สึก
“เฮ้ย!”
เสียงอุทานทำให้ผมตกใจจนเผลอโผล่หน้าออกไปมอง ร่างสูงกระโดดโหยงไปยืนห่างจากจุดเดิม มือชี้ไปยังแมวสีดำตัวอวบอ้วน
“อย่าเข้ามา!”
“บอกว่าอย่าเข้ามา!” เจ้าแมวเหมียวราวกับคิดว่านั่นคือเสียงเรียก มันเดินตรงเข้าหาร่างสูง พยายามพันแข้งพันขาแม้อีกฝ่ายจะเดินหนีเท่าไหร่ก็ตาม
“หึๆ” ผมกลั้นหัวเราะแล้วแต่ไม่สามารถบังคับได้จริงๆ ตฤนหันขวับมามองผมด้วยสายตาดุดัน ผมส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเพราะไหนๆ ก็ถูกจับได้แล้ว
“กลัวแมวเหรอ”
“....”
ผมเดินเข้าไปหาตฤน ก้มลงอุ้มแมวสีดำขึ้นมากอด ลูบหัวเล็กๆ ความเอ็นดู
“เมี้ยวว” เจ้าแมวเหมียวใช้หัวดันมือผม ด้วยท่าทางประจบเอาใจ
“ออกจะน่ารัก” ผมไม่รู้ว่าดวงตาของผมเต้นระยิบระยับแค่ไหน แต่รู้ว่ามันทำให้ใบหน้าของตฤนบึ้งตึงยิ่งขึ้น
“ใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่ใช่เรื่องของนาย”
“งั้นผมวางแมวลงนะ” ท่าทางสะดุ้งน้อยๆ ของตฤน ทำให้ผมอมยิ้ม
“กลัวจริงๆ ด้วย ไม่อยากเชื่อเลย” ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะคิดได้ว่าผมพลั้งปากและแสดงกิริยาไม่เหมาะสมออกไป แต่ก่อนที่จะได้ขอโทษอีกฝ่าย ตฤนก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“อยากเอาไปป่าวประกาศก็ตามสบาย”
“หือ?” ผมเลิกคิ้วขึ้น ทำไมตฤนถึงคิดว่าผมจะเอาเรื่องนี้ไปป่าวประกาศ
“อย่าคิดว่าฉันจะสนใจ” ร่างสูงมองผมด้วยสายตายิ้มเยาะ ก่อนสาวเท้าเดินผ่านไปโดยไม่เปิดโอกาสให้ผมได้พูดหรืออธิบายสักคำ
ผมถอนใจยาว วางแมวที่อุ้มอยู่ลง ไอ้ว่านหนอไอ้ว่าน เป็นแฟนคลับอยู่ดีๆ กลายเป็นanti fanในสายตาเจ้าตัวเสียอย่างนั้น มึงไปหัวเราะใส่เขาแบบนั้นได้ยังไงวะ ไร้มารยาทสิ้นดี ผมได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ
ด้วยความรู้สึกผิด ผมเปลี่ยนเส้นทางจากห้องน้ำไปยังร้านขายของที่ตั้งอยู่ห่างออกไป ได้แต่หวังว่าจะกลับมาทันก่อนเลิกประชุม
ถึงไม่ชอบก็อยากให้กินนะมันมีประโยชน์ wan
ผมแขวนถุงไว้กับกระจกมองข้างฝั่งคนขับเหมือนเดิม ถอนใจออกมาดังๆ มันไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นสักนิด ผมยังรู้สึกผิดที่แสดงกิริยาล้อเลียนอีกฝ่ายโดยไม่ตั้งใจ
• • • • • • • •
“มึงมีอินสตาแกรมของตฤนไหมวะ” ผมถามกล้าระหว่างนั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน กล้าขับรถมาส่งผมที่หอพัก
“ไม่มี กูจะตามมันทำไม มึงอยากได้ก็เสิร์ชหาเอาสิ แค่พิมพ์ชื่อตฤนกับคำว่าอินสตาแกรมกูว่าก็ขึ้นแล้ว”
“อืม”
“มึงจะเอาไปทำไมวะ สนใจชีวิตมันเหรอ”
“ทำนองนั้น”
“กูไม่มีอินสตาแกรมแต่กูมีไลน์ไอ้ตฤนมึงจะเอาไหม ได้มาตั้งแต่ตอนรับน้องปีหนึ่ง”
“เอา” ผมพยักหน้ารับ “ว่าแต่ตฤนไม่มีเพื่อนเลยเหรอวะ กูเจอทีไรไม่เคยเห็นอยู่กับเพื่อน”
“มีสิวะใครจะไม่มีเพื่อน คนหล่ออยู่ด้วยกันไงมึง ต่างคนต่างติดงาน เพื่อนสนิทไอ้ตฤนคนหนึ่งเป็นดารา ส่วนอีกคนเป็นนายแบบเหมือนมัน พวกนี้ไม่เคยโผล่มาครบทีมงานยุ่งทุกคน”
“แบบนี้นี่เอง”
“กูชักสงสัย” กล้าขมวดคิ้วจ้องหน้าผม “มึงสนใจอะไรไอ้ตฤนนักหนาวะ”
“กูเป็นแฟนคลับตฤน” ผมยิ้มกว้าง มองสีหน้าตกใจของเพื่อนด้วยอาการขำ
“มึงพูดจริงพูดเล่นวะ!”
“พูดจริงสิวะใครจะพูดเล่น”
“มึง! มึง..”
“มึงอะไร” ผมหัวเราะเสียงดังเมื่อกล้าทำหน้าตกใจจนเกินเหตุ
“มึงชอบผู้ชายเหรอวะ!”
“เปล่า ผู้ชายเป็นแฟนคลับผู้ชายไมได้เหรอวะผิดตรงไหน กูก็แค่ชอบผลงาน”
“เออก็แล้วไป เล่นเอากูตกใจเกือบตาย เอ้าเอาไป” กล้ากดหาบางอย่างในโทรศัพท์ก่อนยื่นให้ผมดู
“ขอบใจ” ผมจดไอดีไลน์ของตฤนใส่กระดาษ เริ่มลังเล ผมควรแอดไปไหมหรือไม่ควร ถ้าแอดแล้วอีกฝ่ายไม่รับก็แล้วไปแต่ถ้ารับผมจะคุยอะไร เพราะความคิดแตกเป็นหลายฝ่าย ทำให้ผมตัดสินใจยัดกระดาษแผ่นนั้นใส่กระเป๋ากางเกงแทน
• • • • • • • •
ผมเสิร์ชหาอินสตาแกรมของตฤนทันทีหลังเข้าห้องพักแล้ว มันหาได้ง่ายมากอย่างที่กล้าบอก หลังจากกดติดตามเรียบร้อย ผมเลื่อนหน้าจอลงดูรูปที่อีกฝ่ายโพสต์ไว้
รอยยิ้มคลี่ออกช้าๆ ก่อนจะกว้างขึ้น ภาพที่เห็นบนหน้าจอเป็นภาพขวดเครื่องดื่มขนาดเล็กที่ถูกคว่ำลง พร้อมกับคำบรรยาย "ก็
หวาน ดี"
“หวานอะไรกันวะ ว่านโว้ย~” ผมหัวเราะอยู่คนเดียว จ้องภาพนั้นไม่วางตา เข้าใจความรู้สึกของแฟนคลับที่ให้ของศิลปินแล้วศิลปินเอาไปใช้มันให้ความรู้สึกแบบนี้นี่เอง ปลื้มใจ อิ่มใจ อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก
หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เอาวะ ไม่อ่านไม่เป็นไร ผมแค่อยากขอโทษตฤนก็เท่านั้น
ผมคือคนที่อุ้มแมว ไม่ได้ตั้งใจล้อเลียนไม่ได้ๆ ใช้คำว่าล้อเลียนต้องไปกระตุ้นความโกรธแน่ ลบแล้วพิมพ์ใหม่ดีกว่า
ผมคือคนที่อุ้มแมว คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้คิดจะบอกใคร ที่ยิ้มเพราะคิดว่าคุณน่ารักดีจะบ้าเหรอวะไอ้ว่าน พิมพ์ไปแบบนี้คงโกรธฉิบหายแน่
!!!
“เหี้ย!” ผมตะโกนดังลั่นห้อง เมื่อมือเลื่อนไปถูกปุ่มส่งข้อความ คำว่า”คุณน่ารัก”ถูกส่งออกไปอย่างรวดเร็ว พอๆ กับคำว่าread ที่ขึ้นมาทันทีโดยผมไม่มีโอกาสได้กดยกเลิก
“ตายแน่กู ตายแน่ๆ” ผมซบหน้าลงกับหมอน พรุ่งนี้ไม่โผล่ไปที่งานได้ไหมวะ ดันขอที่นั่งด้านหน้าไว้ให้กล้ากับผมสองที่ ไม่ไปพี่ผิงจะด่าหรือเปล่า
“เสียงเตือนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ผมกุมโทรศัพท์ไว้แน่นหลับตาปี๋ไม่กล้าลืมตาขึ้นดู เพี้ยงขอให้เป็นข้อความของคนอื่นเข้ามาเถอะ ผมหยีตาขึ้นช้าๆ แล้วพบว่าคำอธิษฐานไม่เป็นจริง
อยากตายหรือไง ผมจ้องเขม็ง นั่งนิ่งทำอะไรไม่ถูกไปครู่ใหญ่ก่อนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ไม่ได้นึกกลัวประโยคที่ได้รับสักนิด ในหัวไม่มีภาพใบหน้าบึ้งตึง มีแต่ภาพชายหนุ่มเขินที่ถูกจับได้ว่ากลัวแมวตัวนิดเดียว
ฉันเป็นแฟนคลับนายนะ
anti fanมากกว่ามั้ง
ถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้ซื้อดอกไม้ไปให้เลย
อยากตายก็ลองดู ผมนั่งหัวเราะอยู่คนเดียว ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู นายน่ะน่ารักจริงๆ รู้ตัวไหม
งั้นให้ตุ๊กตาแมวดีไหม สิ่งที่ได้รับกลับมาคือสติ๊กเกอร์ชูหนึ่งนิ้ว ผมหัวเราะจนตัวโยน
ขอบใจนะที่รับแอด ไม่มีข้อความตอบกลับมาอีกเลย ผมนั่งมองโทรศัพท์ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะคุยต่อ แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว ตฤนที่ผมรู้จักไม่ได้น่ากลัวสักนิด
อืม~ ว่าแต่พรุ่งนี้ในฐานะแฟนคลับ ผมควรเอาอะไรไปให้อีกฝ่ายดีนะ ไม่เคยรู้ด้วยสิว่าแฟนคลับเขาให้อะไรศิลปินที่ชอบกัน ผมกดเข้าทวิตเตอร์ ในนี้ต้องมีข้อมูลให้ผมบ้างล่ะน่า
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
.
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin