lเรื่องสั้นจบแล้วl ช่อดอกไม้และ20cmของเรา (กานต์xฐา)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: lเรื่องสั้นจบแล้วl ช่อดอกไม้และ20cmของเรา (กานต์xฐา)  (อ่าน 8065 ครั้ง)

ออฟไลน์ skylover☁

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ skylover☁

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-2
l เรื่องสั้น l
ช่อดอกไม้กับ20cmของเรา
[/size]





“ไปรับดอกไม้เร็ว!”  นั่นคือคำเชิญของหนึ่งในเพื่อนเจ้าสาว


คำเชิญที่มาพร้อมกับการฉุดลาก!


คนตัวเล็กในชุดสูทสีเทาผูกโบว์สีชมพูนั้นลอบถอนหายใจออกมา ฐากรณ์มองว่าการต้องไปแย่งดอกไม้ด้วยความเชื่อเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องไร้สาระ แต่พวกผู้หญิงเหล่านั้นมองเป็นเรื่องสนุกที่ได้แกล้ง เขาพยายามแล้วที่จะมองมันให้เป็นเรื่องปกติที่ได้เป็นชายเดียวในกลุ่มหญิงล้วน แต่ยิ่งกระดากอายเมื่อพิธีการที่ควรจะเริ่มได้แล้วกลับถูกค้างไว้ด้วยเพราะเพื่อนเจ้าสาวอีกสามคนเอาแต่ฉุดเขาให้ลุกขึ้นไปร่วมวงด้วยแบบนี้


“ฐา! ลุกขึ้น!”


“ไม่ อย่ามาบังคับเรา!”  ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงนั้นแรงเยอะขนาดนี้ แต่จริงๆฐาผิดเองที่แรงน้อยเกินมาตรฐานผู้ชายไปเสียมากจึงต้องตกมาเป็นเบี้ยล่างแบบนี้


“มาแล้วครับคุณฐากรณ์ผู้กลัวฝนของเรา ได้ข่าวว่านี่มันหน้าร้อนฝนไม่ตกใส่มึงหรอกครับ อย่าลีลาท่ามาก เร็วๆ!” แม้แต่พิธีกรที่ชงเก่งยิ่งกว่าชงกาแฟก็ยังเร่งเร้า มันจะอะไรนักหนากับแค่ไม่เล่นด้วยกันวะ ปล่อยกูอยู่เฉยๆไม่ได้เลยหรือไงนี่! กูยังกินไม่คุ้มค่าซองเลยห่ารากกกกกกก!!!!!!


“บอกพนักงานใส่ถุงให้กูด้วย” ฐาหันไปสั่งกับเพื่อนสาวที่ท้องอ่อนๆจึงไม่เข้าร่วมข้างๆ ในที่สุดความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จของเพื่อนสาวก็เป็นจริง เขาจึงลุกขึ้นและพาร่างที่สู้ใครไม่ไหว มาอยู่ที่หน้าเวที นึกในใจถึงแผนการเอาตัวรอด ท่ามกลางการปรบมือทั่วห้องที่ในที่สุดคนดื้อด้านก็เลิกลีลาซักที คนอื่นเขารอช่อดอกไม้จนอยากจะจับไอ้ฐาโยนใส่หินแกะสลักรูปหงส์ตรงกลางห้องนั้นจะแย่แล้ว ไอ้ชิหัย ทำไมกูเด่นจังวะ


“ก็ถ้ามึงไม่อยากได้ก็ไม่ต้องรับ ยืนเฉยๆ”  พิงค์เพื่อนเจ้าสาวอีกคนหันมากระซิบกระซาบ ดูจากทิศทางแล้วโอกาสชวดของเขาก็สูงไม่ใช่น้อย คนน่ารำคาญประจำงานแต่งปี2018นั้นพยักหน้า ฐาเลือกที่จะยืนมุมๆ เข้าร่วมพิธีทึ้งดอกไม้อย่างเงียบๆพร้อมภาวนาให้เสียงก่นด่าจบไปเสียที เขาจะไปอยากได้ดอกไม้งานแต่งกลับบ้านทำไมวะ ไร้สาระ


แฟนก็ไม่มีได้ไปจะไปแต่งกับหม้อน้ำที่ไหน….


ไลน์!


ใครไลน์มาวะ


MAMA : แม่เอง


อ่อ….แม่….



“ไอ้ฐา เขาจะโยนช่อแรกกันแล้วนะมึง” 


“ก็ไหนพิงค์บอกให้เราไม่ต้องรับก็ได้ไง”


“ก็บอกไม่ต้องรับ แต่ไม่ใช่มายืนกลางวงเป็นพวกสังคมก้มหน้าแบบนี้ ว้าย!!! ช่อแรกโยนแล้ว”  พิงค์หวีดร้อง แต่ฐาก็ยังหาสนใจไหม จะว่าไปแล้วเขาก็รู้สึกว่าดอกไม้ช่อแรกถูกโยนไปกลางวงซึ่งเขาคงไม่ไปรุมตรงนั้นเหมือนปลาสวายแย่งอาหารปลาให้เป็นที่น่าอดสูด้วยเป็นชายเดียวในกลุ่มสาวโสดเหล่านี้ อีกทั้งแม่ก็ยังย้ำไม่หยุดเรื่องซื้ออะไรกลับไปให้กินที่บ้าน ตอนนี้ฐากำลังยุ่ง ยุ่งกับการคิดว่าจะเอาอะไรในงานกลับไปให้แม่กินดี….


“กรี๊ดดดดดดดดดดด ช่อที่สอง”  ดูเหมือนช่อที่สองกำลังจะถูกโยน พิงค์ที่อยู่ข้างๆได้รับมันไป ช่างเป็นโชคดีของเพื่อน พิงค์อยากแต่งงานกับแฟนมานานแล้ว บางทีนี่แหละคือโอกาสที่จะกดดันในเมื่ออ่อยดีๆแล้วไม่รู้เรื่อง


“ยินดีด้วยนะ”  ผู้ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกสังคมก้มหน้านั้นหันไปยิ้มให้พลางเก็บมือถือ ช่อที่สองก็มาทางนี้แล้ว ฐามั่นใจไม่ใช่น้อยว่าช่อสุดท้ายต้องไปตรงอีกฟาก ดูแล้วคนอื่นก็คิดแบบนั้นเพราะเริ่มมีกระแสเบียดไปทางนั้น พิงค์ยังคงปราบปลื้มวุ่นวายชวนคุย และเพราะเอาแต่โม้ลืมโลกแบบนั้น


ตุ้บ….

“………”

“………”

“ฐา”

ชิหัย


“มึง”


อะไรตกใส่หัว


“………”


และค่อยๆล่วงตกใส่มือ


“ฐา!!!!!!!!!!!!!”


ชิหัย แล้วใครใช้ให้มึงเอามือรองรับหะไอ้ฐา!!!!!!!!!!!!!!!


“ขอเชิญเจ้าของช่อดอกไม้ขึ้นมาให้สัมทุกคนด้วยครับ โดยเฉพาะมึงขึ้นมาเลยไอ้น้องฐา!!!”  โดยเฉพาะคนหลังนี้ขอเน้นๆเลยนะครับมึง! หมั่นไส้กันเป็นการส่วนตัวหรือเปล่านี่! เขาบอกเพื่อนไปแล้ว ว่าอย่าเอาเพื่อนที่คณะมาเป็นพิธีกรดำเนินงาน!


กูขอให้มึงขึ้นคานเลยเอาจริงๆ =_=


เสมือนจิตวิญญาณของเพื่อนเจ้าสาวอย่างฐากรณ์ได้หลุดลอยอย่างกู่ไม่กลับแท้จริง เจ้าของร่างเล็กนั้นเดินอ่อนระโหยลงจากเวทีหลังจากถูกเชิญขึ้นไปซักด้วยไฮเตอร์ แต่ละคำถามที่ถูกถามนั้นราวกับถูกลากไปตบหน้ากลางห้าแยกลาดพร้าว ไม่แปลกเลยที่คนซึ่งรับดอกไม้แบบงงๆ จะลงมาแบบมึนๆ ฐานั้นหลงลืมแม้แต่เรื่องจะเอาอาหารใส่ถุงกลับบ้านไป เพราะตอนนี้ในอ้อมกอดของตนมีดอกไม้ช่อใหญ่ที่เจ้าสาวใช้ถือตลอดงาน ช่อสุดท้ายด้วยนะมึง ช่อสุดท้ายที่อลังการที่สุดของงานด้วยนะมึง ทำไมต้องเป็นกูด้วยวะ


“นังฐา ดีดดิ้งเล่นตัวไม่ไปรับดอกไม้นะมึง แล้วไงตอนนี้ ช่อใหญ่สุดเลยนะ”  เพลงที่หมายมั่นปั้นมืออดไม่ได้จะแซะ หล่อนอุตสาห์ไปอีกด้านด้วยคิดว่านังเจ้าสาวต้องโยนไปทางนั้นแน่q สับขาหลอกเก่งกว่านักบอลก็เจ้าสาวงานนี้นี่แหละครัช เสร็จไอ้ฐาที่มาโง่ๆไปเสียได้


“ได้ข่าวเมื่อกี๊เรียกไอ้ตอนนี้เปลี่ยนเป็นนังเลยนะเพลง”


“ก็เพื่อนจะมีผัวแล้ว”  ผัวบ้าผัวบออะไร!


“มาเอาดอกไม้ไปไหมเพลง เราให้”  ฐาเสนอให้อย่างใจปล้ำ


“ไม่เอา ฉันไม่ใช้ผู้ชายต่อจากใคร”  นี่มันดอกไม้เว้ยครับ! ไม่มีผู้ชายจะให้โว้ย!


ฐาหน้าตาบูดบึ้ง จะมีใครซวยได้เท่าฐากรณ์ในวันนี้ที่มีแต่คนรังเกียจหรือไม่ เดิมทีเขาซึ่งเป็นผู้ชายก็ไม่ควรมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวอยู่แล้ว ทว่าตัวเจ้าสาวที่สนิทกันรีเควสว่าต้องเป็นกลุ่มเพื่อนมหาลัยเท่านั้น มันไม่ใช่เขาซวยวันนี้หรอก ซวยมาตั้งนานแล้วที่ไปเรียนเอกหญิงล้วนทำไม ขนาดจบมาก็หลายปีแล้ว ทุกวันนี้ยังใช้หนี้ใช้กรรมไม่หมดเลยเว้ยเฮ้ย นี่จำได้ว่าไม่ได้กู้กยส.แล้วทำไมกูรู้สึกเหมือนใช้หนี้กรรมอยู่ยังไงไม่รู้


“แต่จริงๆเป็นอีฐาได้ไปก็ดีนะเพลง”  ไอซ์ที่เดินกลับมานั่งแบบนกๆก็กล่าวเช่นนั้น ทุกคนต่างพยักหน้า ใช่….ในบรรดาทุกคน ฐาเป็นคนที่น่าอิจฉาน้อยสุดเพราะมัน……ไม่มีผัว…..และไม่อิจฉาเท่าชะนีด้วยกันเท่าไหร่


“เออ จบงานนี้ไปรีบมีผัวซะนะนังน้องฐา อย่าให้ดอกไม้ที่พี่ๆสละให้ต้องไร้ค่าเปล่าประโยชน์!” ฐาปรือตาใส่  มันเรื่องอะไรที่เขาจะต้องหาผัวล่ะ!


“มึงไม่คิดว่ากูจะควงเมียไปยื่นการ์ดให้เหรอ” แต่ให้มีเมียแล้วเผด็จการแบบนี้ เขาก็ไม่รู้จะมีไว้ทรมานตัวเองทำไมเหมือนกัน


“ฝันไปเถอะ พวกฉันไม่ยอมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวหรอกเว้ย!”  กลุ่มสาวล้วนหันมาตะโกนด่าเขาอย่างพร้อมเพรียงสามัคคียิ่งกว่าครั้งไหน ฐากรณ์เบ้ปากออกมา แล้วที่เอาเขามาเป็นเพื่อนเจ้าสาวพวกมันคิดอะไรอยู่ เออ กูมันเสียงส่วนน้อยซินะ! ต่อให้แต่งงาน….คิดบ้างดิว่าใครจะเอากลุ่มชะนีขี้บ่นไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวกัน!


“แล้วดูสารร่าง มีปัญญาจะไปเป็นผัวใครคะน้องฐา มีผัวน่ะถูกต้องแล้ว”  ขยี้เก่งนะเพื่อนของฐากรณ์นี่!


“ว่าแต่ฐา มึงอ่ะ…”  เพลงหันมาถาม


“อะไร”


“วันนี้จะอยู่อาฟเตอร์ปาร์ตี้ไหม”


“อยู่รอมึงอ่ะเพลง ในบอกว่าจะเอากูไปส่งบ้านไง”


“เออกูเลยถามไงว่ายังจะให้ไปส่งหรือเปล่า กูจะอยู่นะ เพื่อนแต่งงานแค่ครั้งเดียวนะเว้ย” โห….พูดงี้ก็ชวนเจ้าบ่าวมาต่อยเลยดีกว่า ให้กูหลบข้างหลังนะ กูไม่เกี่ยว


“กูก็อยู่ได้ เดี๋ยวไปหาที่รอ”


“มึงจะไปรอที่ไหน”


“ก็ว่าจะไปขอรอที่ห้องแต่งตัวชั้นบนนะ”


“อีฐา นั่นเรือนหอเพื่อน!”


“อ้าว ก็บ่าวสาวมันอยู่ที่นี่ กูขอไปนั่งรอ พอมันจะส่งตัวก็กลับ ไม่ไปส่งกับมันนี่!”


“อีน้องฐา นังคนไร้มารยาท มึงควรสำนึกว่าหมาอย่างมึงควรไปนอนรอที่ล้อบบี้ ไม่ใช่ที่เรือนหอเพื่อน นอกซะจากมึงอยากเป็นเจ้าสาววันนี้ กูบอกพี่เขาให้นะว่ามึงอยากเป็นเมียเขา”  ฐากรณ์เบ้ปาก เขาก็รู้อยู่หรอกว่าอะไรควรไม่ควร แต่ถ้าไม่ได้กวนตีน ก็รู้สึกเหมือนจะไม่คุ้มค่าซองเหมือนกินบุฟเฟต์ไม่คุ้มเช่นกัน


พิธีการได้จบลงไปและเวลาออกกำลังกายของเหล่าเพื่อนเจ้าสาวได้มาถึง ถามว่างานนี้มีการเก็บรักษาหน้าเผื่อไว้ถูกจีบหรือไม่ ตอบได้เลยว่าไม่มีเลยจริงๆ ก็คนคุ้นเคยกันทั้งนั้นถ่ายรูปลงอินสตาแกรมจึงเป็นทาร์เก็ตหลักของการแต่งหน้าห้าชั่วโมงในวันนี้ หาใช่เพื่อนเจ้าบ่าวไม่ ฐากรณ์นั้นเลือกที่จะนั่งที่เดิมพลางละเลียดของว่างที่ตักแล้วตักอีก เขาไม่ใช่สายบดหรือสายเบียด เห็นได้อย่างชัดเจนว่านี่คือสายแดกที่ไปงานไหนก็คุ้มค่าซอง เพลงจังหวะมันๆนั้นทำให้ต้องผงกหัวตาม ทว่าดวงตาของตนนั้นก็ยังคงเอาแต่จ้องมือถือไถฟีตและมืออีกข้างก็ยังไม่หยุดจิ้มขนมกิน


อร่อย….อยากให้เพื่อนแต่งบ่อยๆแต่พูดไปก็กลัวโดนเขาตบ


“ฐา….มึงอย่าเอาแต่แดก!”  เพลงที่กำลังมันเมื่อหันมาเห็นก็นึกรำคาญ สาวเจ้ากำลังเดินเข้ามาลาก แต่เหมือนฐากรณ์จะรู้ตัวเลยชิงหยิบมือถือขึ้นมา


“เพลง แม่กูโทรมา ขอไปคุยกับแม่ก่อนนะ”  แม่เม่อที่ไหน ฐากรณ์ที่คนไม่รักน่ะเหรอจะมีคนโทรหา


เจ้าของร่างเล็กออกจากห้องจัดงานมายังล็อบบี้ที่อยู่ชั้นหนึ่ง ปกติเขาไม่ใช่คนแบบนี้ เรียกว่าเต้นแรงกว่าใครเพื่อนด้วยซ้ำ แต่วันนี้อารมณ์จะเต้นนั้นเหมือนลืมไว้กับสติที่บ้าน เมื่อวานกว่าจะเคลียร์งานเสร็จ รู้สึกเหมือนยังไม่ทันได้นอนดีก็โดนเพื่อนลากมาแต่งตัวสำหรับงานเช้า การเป็นเพื่อนเจ้าสาวงานเช้าที่ได้ซองกั้นประตูนั้นทำให้ไม่ปฏิเสธที่จะเข้าร่วม เหนือกว่าการได้เงิน การไถเงินก็เป็นความสนุกรูปแบบหนึ่ง ทว่าในตอนนี้สภาพที่เหลือแบตไม่กี่เปอร์เซนทำให้ต้องเลือกที่จะอยู่ในโหมดประหยัดพลังงาน ฐาเองก็ไม่ได้อายุน้อยๆแล้วที่จะฝืนทำอะไรแบบนั้น และการอยู่อย่างสงบไถมือถือทำร้ายสายตาก็ไม่ได้ทำให้เขาเบื่อหน่ายแต่อย่างใด ร่างเล็กคิดเช่นนั้นอย่างสบายใจก่อนจะเปลี่ยนท่านั่งให้ตัวเองรู้สึกสบายประหนึ่งอยู่บ้าน


โดยไม่รู้เลยว่าใครบางคนมองเขาอยู่…..นานแล้ว…..

.
.
.
.

ในส่วนของคนแอบมองนั้น….


น้องฐา…..เขาเกือบจะลืมชื่อเพื่อนของเพื่อนคนนี้ไปแล้ว……


กานต์ภพไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นถูกต้องไหม เขาไม่ควรหยิบของที่เป็นของคนอื่นมาโดยพลการ ในช่วงที่ผู้คนมากมายกำลังสนใจกับเสียงเพลงโดยไม่เผลอไปเหยียบเท้าคนข้างๆมากกว่าดอกไม้ช่อนี้ กานต์ภพถือวิสาสะไปหยิบมันและเดินตามเจ้าของที่ออกมาข้างนอกโดยไม่มีใครรั้งเอาไว้ น่าสงสารดอกไม้นัก ก่อนนี้ก็มีผู้คนแย่งชิง แต่พอมันมีเจ้าของ คนอื่นก็เลิกใส่ใจมัน อย่างไรก็ตาม….การที่เจ้าของคนใหม่เองก็ไม่ใส่ใจมันนี่สิ….น่าสงสารเหลือเกิน….


น้องฐาของเพื่อนๆยังใจร้ายเหมือนเดิมเลยนะครับ…..



กานต์ภพได้เจอกับคนหน้าหวานคนนี้ครั้งแรกเมื่อตอนที่เขายังเรียนมัธยมปลาย การที่ใครๆเรียกฐากรณ์ว่าน้องฐา ไม่ได้หมายความว่าฐาเป็นน้องจริงๆ เขาเองก็ไม่แน่ใจนักว่าทำไมทุกคนต้องเรียกน้องฐา สำหรับเขา ก็แค่เห็นว่าคำว่าน้องนั้นเหมาะกับอีกคนดี ต่อให้อายุเท่ากันเขาก็จะรั้นเรียกน้อง แม้คนที่รั้นกว่าจะสั่งห้ามหรือจะค้อนกันจนตาคว่ำเขาก็จะไม่หยุดเรียก เพราะคนน่ารัก….เหมาะจะเป็นน้องแหละถูกแล้ว


“ไง”  เขาตัดสินใจเดินเข้าไปทัก เอาจริงๆเขาเคยคิดว่ามันยากที่จะรวบรวมความกล้า แต่เวลาร่วมสิบปีทำให้เขามีความกล้าเก็บออมไว้มากมายจนล้น ถ้านับเป็นเงินก็ถือว่ารวย วันนี้เมื่อได้เจอ เขาก็คิดว่าคงต้องเอามันออกมาใช้ได้แล้ว


ไม่งั้นโอกาสงามๆก็คงจะหลุดไปอีก


“………”   ฐากรณ์มองหน้ากันอย่างงงงวย เวลาสิบปีทำให้อะไรเปลี่ยนไปมาก บางทีอีกฝ่ายก็คงจะจำเขาไม่ได้แล้ว


“เรากานต์ไง กานต์ที่เป็นเพื่อนกับพฤกษ์ เพื่อนฐาสมัยมัธยมปลายไง” ใช้เวลาไม่นานฐากรณ์คงนึกได้ พฤกษ์ซึ่งเป็นเพื่อนของเราทั้งคู่ได้บอกเขาว่ายังคุยกับฐาดูบ้าง และถ้าฐากรณ์ไม่ใจร้ายเกินไป ก็คงจะจำเขาได้บ้าง….


คนที่ตัวเองเคยปฏิเสธไม่ให้จีบก่อนหน้านี้…..


“อ๋อ กานต์ที่เรียนอยู่เตรียม”  เกือบจะใจดีแล้ว แต่จำได้แค่นี้เขาก็ชื่นใจ


“นี่ดอกไม้ของฐาใช่ไหม เราเอามาให้”  คนตัวเล็กรับดอกไม้จากเขาไปอย่างงงๆ ก็จะไม่งงได้ไง อยู่ๆไอ้บ้าที่ไหนก็ขโมยดอกไม้มาคืนให้ จริงๆแล้วฐากรณ์ไม่ได้สนใจใยดีดอกไม้ด้วยซ้ำ เขามองคนๆนี้มาตลอดทั้งงาน ทำไมจะไม่รู้


คนตัวสูงถือวิสาสะนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม จริงๆเขาไม่จำเป็นต้องอยู่อาฟเตอร์ปาร์ตี้หรอกในเมื่อเขามากับญาติผู้ใหญ่ ไม่ได้มากับเพื่อนเหมือนอีกฝ่าย คนอื่นๆในงานก็ไม่มีคนรู้จักเหลืออยู่แล้ว ถ้าฐากรณ์ไม่อยู่ที่นี่ เขาคงกลับไปอาบน้ำนอนเป็นที่เรียบร้อย

กานต์ภพถือวิสาสะสำรวจใบหน้าอีกฝ่าย ในที่สว่างและได้มองใกล้ๆระดับสายตาแบบนี้ เขายอมรับว่าคนตัวเล็กโตขึ้นมากเช่นกัน  จากเด็กในชุดเสื้อยืดกับกางเกงสีน้ำเงินขาสั้นของโรงเรียนคาทอลิค ฐากรณ์ในวัย 28 แม้จะดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ก็ยังน่ารัก ตัวเล็กๆยังคงดูน่ากอดเหมือนเดิม……ถึงกานต์ภพจะยังไม่เคยไปถึงขั้นที่จะกอดได้ก็ตาม


เขาพยายามหาเรื่องชวนคุย ต้องใช้คำว่าเขานี่แหละที่พยายาม จริงๆแล้วฐากรณ์ในความทรงจำเป็นคนพูดมากกว่านี้ อย่างน้อยก็ต่อปากต่อคำเก่งกว่านี้ ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายเกร็งไม่ใช่น้อยกับการเข้าหาอย่างกระทันหันของเขา แต่กานต์ภพไม่ได้โกรธเคือง การแสดงออกของฐากรณ์ในตอนนี้เลย เพราะมันทำให้เขาแอบคิดว่าอีกฝ่ายคงจะจดจำได้ว่าระหว่างเราเคยเกิดอะไรขึ้น….อา…..มันก็สิบปีแล้วนะ



วันที่เราเจอกันที่บ้านหญิงสาขาสยามในวันนั้น…..


.
.
.
.
.


“กานต์กูอยู่นี่!”  ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก เขาก็เห็นไอ้พฤกษ์ที่โวยวายจนคนหันมามองเขาทั้งร้านทันที


ร่างสูงของเด็กหนุ่มที่ชื่อกานต์ภพหรือกานต์แทบจะปรี่ไปตบหัวเพื่อนที่รบกวนกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทว่าเมื่อมาถึงแทนที่เขาจะได้เงื้อมือ สายตาก็หยุดอยู่ทีร่างเล็กของเด็กคนนึงซึ่งนั่งตรงข้ามไอ้พฤกษ์ อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมามองเขา ดวงตาคู่นั้นเป็นประกายธรรมชาติ แก้มใสที่ดูน่าบีบเล่นทำให้เขารู้สึกเผลอไผลจนต้องส่ายหัวให้กับความบ้าบอของตัวเอง  เขาไม่อยากจะเชื่อ ว่าคนน่ารักขนาดนี้มานั่งร่วมโลกกับไอ้พฤกษ์เพื่อนของเขา


“มึงเสียงดังไปไหม”  แต่เขาก็ปรับสีหน้าให้เป็นธรรมชาติอย่างรวดเร็ว เขาลงไปนั่งข้างๆเพื่อนโดยไม่ต้องรอให้ขออนุญาต จากที่อยากจะรีบมาแล้วรีบกลับ เขากลับรู้สึกหิวขึ้นมา ควรจะกินข้าวกลางวันที่ร้านนี้นี่แหละ ไม่กินที่นี่ จะไปกินที่ไหนได้ละเนอะ


“ไอ้กานต์มึงกินไรมายัง”  พฤกษ์ถาม ซึ่งเขารู้สึกชื่นชมเพื่อนของเขาอยู่นิดๆ แม้มันไม่รู้อะไร แต่ก็ถือว่าทำได้ดีเป็นที่น่าพอใจ


“ยัง ขอกูนั่งกินด้วยนะ”


“เออสั่งเลยมึงเดี๋ยวกูกับไอ้เตี้ยนี่เลี้ยงเอง ฐา….นี่เพื่อนกู”  ชื่อฐาเหรอ เขาหันไปมองเพื่อนใหม่ที่นั่งตรงข้าม


“หวัดดีเราชื่อฐา”  น่ารัก….คือคำที่ไม่ได้หลุดออกมาจากปากเขา แต่หลุดออกมาจากใจซ้ำๆในระยะเวลาไม่ถึงนาทีนี้


เขาสั่งอาหารมาเพิ่ม สำรวจคนตรงหน้าบ้างเพื่อไม่ให้ดูน่าสงสัย ฐาคงเป็นเพื่อนกับพฤกษ์ที่เรียนที่เดียวกัน นี่คงจะเพิ่งเลิกเรียนพิเศษแล้วมารอเขาให้เอาชีทสรุปติวมาให้สินะ ไม่นาน อาหารก็มาวางอยู่ตรงหน้า พวกเขาเด็กผู้ชายสามคนเริ่มลงมือจัดการ ระหว่างนั้นก็มีบทสนทนาบ้างเพื่อให้ตัวเองได้เริ่มเรียนรู้ และสิ่งที่เขาได้ทราบหลังจากกินข้าวไปได้ครึ่งจานก็ทำให้ต้องลอบยิ้ม หน้าตาน่ารักดูน่าบีบของอีกฝ่าย จริงๆมันไม่ได้น่าบีบเท่าไหร่นัก


เรียกว่าน่าบี้คามือเสียดีกว่า……โอ้ยหมั่นเขี้ยว…..กูต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ


“ฐากูว่ามึงลงบาสไม่ได้หรอก”  เขานั่งฟังไอ้พฤกษ์พูด แอบเห็นด้วยในใจ


“ทำไมกูจะลงไม่ได้” คนตัวเล็กแย้ง


“มึงดูร่างตัวเองด้วย สูงกว่าหลักกิโลนิดนึง”


“ห่า เดียวกูก็ถีบลงแป้นสักที”


“ฮึ”  เขาพยายามแล้วนะที่จะกั้นหัวเราะ น้องฐานั่นแป้นบ้าน ไม่ใช่โกลฟุตบอล จะเอาไอ้เปรตพฤกษ์ลงห่วงยังไงล่ะนี่


“หืม”  อีกฝ่ายนั้นหันมามองกันขวับ คงจะคิดว่าเพื่อนใหม่ไม่มีมารยาท แต่เขาพยายามแล้ว


พยายามจะไม่เอ็นดู


“ตลกเหรอ”


“เล่นบาสเป็นด้วยเหรอ” 


“กำลังจะด่าว่าเตี้ยใช่ไหม” คิดมากจัง


“เปล่านะ แค่คาดไม่ถึง”  ว่าจะชวนไปเล่นด้วย


“ถ้าเล่นไม่เป็นจะเสนอตัวทำไม”


“เล่นเป็นก็ดี นี่อยากเล่นด้วย” ก็บอกแล้วว่าอยากเล่นด้วยจริงๆ


“เออไอ้กานต์มันเล่นบาสเก่งนะมึง”  ฐากรณ์มองหน้าอีกฝ่าย จะว่าไปก็ดูน่าจะเล่นบาสอยู่หรอก เพราะอีกฝ่ายสูงชะลูดแข่งกับแป้นบาสแบบนี้  ฐากรณ์ที่หวังแค่ 175 นั้นนึกอิจฉาไม่น้อย


“ไปเล่นด้วยกันไหม นี่หาเพื่อนเล่นพอดีเลย”


“ไม่เอา เดี๋ยวแพ้” แม้ไม่ได้เรียนสถิติ แต่ฐากรณ์ก็มั่นใจในความพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มจับลูกบาสของตัวเอง


“เอ้า!”  มีงี้ด้วย นี่ว่าจะอ่อนให้นะ กับฐากรณ์น่ะ เขาต่อให้แบบสุดๆไปเลยก็ย่อมได้

ออฟไลน์ skylover☁

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-2
“เอาไว้หลังเอนท์ติดล่ะกัน”  เขายิ้มให้อีกฝ่าย ก็ดีไม่ใช่น้อยที่ฐาไม่ได้ตัดเยื่อใยเสียทีเดียว


“ว่าแต่ฐาเลือกที่ไหนไว้อ่ะ นิเทศเหมือนไอ้พฤกษ์เหรอ”


“ว่าจะเข้าอักษรน่ะ ว่าแต่นายอ่ะ”  จะว่าไปอักษรก็ดูเหมาะกับอีกฝ่ายไม่น้อย เขายิ้มที่มีโอกาสได้ตอบคำถามบ้าง


“คิดว่าเศรษฐศาสตร์นะ”  แต่พอเขาพูดชื่อคณะ อีกฝ่ายก็ถอยหนี


“ไอ้ฐามันเกลียดกลัวตัวเลขขึ้นสมองน่ะ”  เขาเกือบหัวเราะออกมา


“ไม่ต้องกลัว นี่ไม่ได้จะให้ช่วยทำการบ้านซะหน่อย” 


“ถ้ายังรักชีวิตก็ไม่ควรฝากมันไว้กับฐากรณ์ จำไว้”  เขายิ้ม กับคำพูดที่ดูสนิทสนมกันขึ้นมาอีก


เราพูดคุยกันเรื่อยเปื่อย ทัศนคติของอีกฝ่ายอาจจะไม่ได้ดูเหมือนเขาทุกอย่างแต่กานต์ภพก็ไม่ได้ต้องการใครที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วในชีวิต เขาแค่ต้องการคนที่ให้ความรู้สึกสบายตาและสบายใจ ซึ่งเพื่อนของไอ้พฤกษ์ก็เข้าข่ายเป็นไปได้เลยเหมือนกัน จนกระทั่งไอ้พฤกษ์เรียกเก็บเงิน เขาก็ได้แต่นึกเสียดายว่าเรากำลังจะต้องแยกจากกันหรือนี่ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้อยู่ต่ออีกหน่อย แต่มึงจะไปทำอะไรอย่างนั้นได้ที่ไหน ก็เป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่า ‘กูเอามาให้แค่ชีทนะ เดี๋ยวต้องกลับไปเกาะแม่แดกอีก’


“เดี๋ยวไปมิลค์พลัสไหม”


“ไม่มีร้านอื่นเหรอมึง” ฐาเถียงไอ้พฤกษ์ ใบหน้าน่ารักยู่อย่างไม่พอใจ


“ทำไม มึงจะทำไม”  แต่พฤกษ์ไม่อ่อนโยนเอาเสียเลย


“กูไม่แดกนม”  เขาหลุดขำพรืดออกมาอีกครั้ง ความเอาแต่ใจที่ดูน่ารักนี่ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมฐาถึงตัวเท่านี้


“ขำอีกแล้วนะ เพิ่งเจอกันนะเว้ย ไว้หน้ากันหน่อยสิ”  ฐากรณ์อดจะแซะกันตรงๆไม่ได้ นี่ไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าตัวเองตลกได้น่ารักขนาดไหน


“ยังเหลือให้ไว้อีกเหรอฐากรณ์”  ใบหน้าอีกฝ่ายขึ้นสี เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอเรียกชื่อเต็มๆของอีกฝ่ายไป ว่าแต่กานต์ไปรู้ได้ไงน่ะเหรอ ถามได้….เขาก็เห็นที่มุมชีทของอีกฝ่ายน่ะสิ ความช่างสังเกตของเขา ทำให้บางคนเขินแบบมึนๆเข้าแล้ว


“เหลือสิ แม่ง เจอกันวันเดียว ไม่ต้องเล่นใหญ่ใส่กันมากก็ได้นะเว้ย”


“นี่ว่ายังน้อยนะ ฐากรณ์คงมีเรื่องเด๋ออีกเยอะเลยใช่ไหม” น่าศึกษา


“กานต์ภพ” 


“รู้ชื่อจริงเราได้ไงอ่ะ!”  ได้ทีเขาขี่ม้าไล่ ว่าแต่อีกฝ่ายไปรู้ได้ไง เขาเขียนไว้ที่มุมชีทของเขาที่ซีรอกมาให้ไว้เหรอ??


ใบหน้าของอีกฝ่ายขึ้นสี ในที่สุดก็ไม่ได้ตัดสินใจเลือกร้าน เขาจึงเนียนตามไปมิลค์พลัสด้วย กานต์ไม่ได้คิดแม้แต่จะช่วยเรื่องเลือกร้าน เพราะแทนที่เขาควรจะปกป้องอีกฝ่าย ดันไปสนุกกับการแกล้งมากกว่า โดยไม่รู้ตัวเราก็เดินเถียงไปตลอดทาง เขาเพิ่งได้เห็นชัดๆว่าตนเองต้องก้มลงมองอีกฝ่าย ส่วนสูงของฐานั้นไม่แตะ 170 และอาจจะอยู่ต้น 160 ด้วยซ้ำ เขามองคนตัวเล็กด้วยแววตาเป็นประกายขำขัน ฐากรณ์ถือเป็นเรื่องราวดีๆในช่วงการสอบสุดโหดของชีวิตเด็กมัธยมปลาย


“มองอะไรนักหนา!”  ยิ่งเขินก็ยิ่งเสียงดังนะ


“เปล่าแค่สงสัย”


“อะไร มีอะไรติดที่หน้าเราเหรอ”


“เปล๊า” ถ้าตอบว่ามีความน่ารัก แน่นอนว่าเขาต้องได้เลือดล้างปากก่อนกินนม


“แล้วอะไรมันน่าสงสัยนักเล่า!”


“อากาศน่ะ”


“……..”


“ข้างล่างอากาศเป็นไงบ้าง อยากรู้”  โห…..มุกอะไรของกูเนี่ย อยากเรียกเลือดในตัวให้ทะลักออกปากจริงๆสินะ


“หะ….ไอ้….”


“หายใจสะดวกไหม”  คาดว่าฐากรณ์หายใจติดขัดไม่น้อย ไม่ใช่เพราะอากาศหรอก แต่เป็นเพราะเขาที่รุกมึนๆใส่แบบนี้


“ไอ้! การที่สูงแค่180ไม่ได้หมายความว่านายจะหายใจระดับโอโซนได้นะเว้ย!”  นี่คือความพยายามของเด็กสายศิลป์ที่อยากจะด่าโดยใช้ความรู้ของสายวิทย์เข้ามาช่วย เขายิ้มจนตาปิด โดนด่ายังว่าน่ารัก นี่เขาแม่งไม่ปกติที่สุดในชีวิตเลยล่ะ ชอบ….


“เราสูง 183” 


“ส่วนไอ้ฐาสูง 163”  พฤกษ์ที่ไม่มีบทบาทมานานได้พูดแทรก เรียกสายตาเคียดแค้นไปทางมัน ก่อนที่จะหันกลับมาที่เขาซึ่งหัวเราะดังลั่น ให้ตายเหอะ คนที่ร้านมิลค์พลัสคงอยากเอานมมาราดหัว โทษฐานน่ารำคาญ


“20 เซ็นเลยนะ” เป็นความสูงที่ดีต่อใจเหลือเกิน วันนี้เลือดลมสูบฉีดเป็นพิเศษจริงๆ


ปึ้ก!
และเลือดอาจจะห้อที่ตรงไหล่เป็นพิเศษ
หนังสือคอร์ส intensive ของอาจารย์ปิงและอะไรไม่รู้ของ Enconcept  ก็ไม่ได้บางขนาดนั้นนะครับ ฐากรณ์….


ฐากรณ์ไม่ชอบกินนม แต่ก็สั่งนมเย็นมากิน…..เขาส่ายหน้าให้กับความประหลาดของเด็กคนนี้ แต่ก็จริงที่ฐาไม่ชอบ สั่งมาก็แค่จิบๆ เจ้าตัวยังคงลอกเนื้อหาที่คาดว่าโดดคลาสอาจารย์ปิงจากหนังสือของพฤกษ์ ท่าทางที่ดูตั้งใจนั้นทำให้เขาจดจ้องเป็นพิเศษ แม้จะยังติดพันพูดคุยกับพฤกษ์อยู่บ้าง


เขาเพิ่งรู้ว่าละแวกบ้านของเขากับฐากรณ์อยู่ไม่ไกลกัน ก็นั่นแหละ กานต์ไม่เคยอยู่ติดบ้าง หรือถ้าอยู่ก็เอาแต่สิงในห้องนอน จะเอาปัญญาที่ไหนมาเจอฐากรณ์เดินเล่นอยู่ที่ห้างแถวบ้านล่ะ เอะอะเขาก็มาสยามซะแบบนี้ ถ้าไม่มีเพื่อนนัดมาเจอ เขาคงไม่มีทางได้รู้จักหรือแม้แต่เจอ อื้ม….ใครใช้ให้ฐากรณ์ตัวเล็กกว่าตั้ง 20 เซ็นล่ะ หายากนะรู้ไหม /ห้ามตี


“ฐามึงจะลอกเสร็จไหมเนี่ยวันนี้”


“เสร็จดิวะ ยังไงก็ต้องเสร็จ”


“มึงจะมาเสร็จก่อนสอบโอเน็ตไม่ได้นะมึง”


“กูจะเสร็จวันนี้แหละ เร่งจังนะมึง ควรไปเรียนไฟแนนซ์น่ะเนี่ย ทวงหนี้น่าจะเก่ง”  อีกอย่างที่เขาชอบไม่ใช่แค่การที่ร่างเล็กเถียงเขา แต่ไม่ว่าจะเถียงกับใครก็ดีไปเสียหมด ไอ้กานต์ต้องเข้าข่ายบ้าไปแล้วแน่ๆครับ ชอบคำถูกด่าและดูคนด่า


“จะว่าไปค่าอาหารที่เราเลี้ยงไอ้กานต์กันเมื่อกี๊ มึงยังไม่คืนกูนะ”


“ไอ้เหี้ยให้แล้ว!!!!”  เรื่องเงินก็ดูเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่น้อย ฐากรณ์เสียงสูงที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยินมา


“กานต์ให้แล้ว กูเห็น” เขาได้กล่าวสมทบเข้าไป แต่แน่นอน….ไร้คำขอบคุณจากเด็กที่คาดว่ายังงอนเขาอยู่นิดๆ เฮ้อ….วันเดียวที่ได้รู้จักกัน เขาทำให้คนที่เพิ่งเจองอนได้แล้ว เก่งจังว่ะไอ้กานต์


อย่างที่ได้กล่าวไว้ ฐาไม่ได้ตั้งใจจะนั่งลอกหนังสือเพื่อนจนสอบโอเน็ต ใช้เวลาไม่นานก็ลอกเสร็จ แต่คงอีกนานกว่านมนั้นจะหมดแก้ว ฐากรณ์ที่ดูจะงกไม่ธรรมดานั้นยอมที่จะทิ้งนมผสมน้ำแข็งที่ละลายไว้อย่างนั้น และเราสามคนก็เดินออกมา เขาจำได้ว่าตัวเองมาสยามก็เกือบบ่ายแล้ว ไม่แปลกเลยที่ฟ้าจะเริ่มมืด แต่…..เวลามันผ่านเร็วเกินไปไหม


“กูกลับล่ะ ไอ้ฐาคืนหนังสือกูซะที”  พฤกษ์โบกมือลาเพราะต้องขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน เขาไม่ได้รังเกียจเพื่อนนะ แต่ส่วนนึงก็ดีใจที่มันจะกลับไปสักที


“เออกูก็อยากกลับล่ะ เหนื่อย” แต่กับคนนี้เขาไม่ได้อยากให้กลับเลยเสียหน่อย!


พวกเรามาส่งพฤกษ์ที่สถานีสยาม โบกมือลาจนร่างควายๆนั้นหายไปลับตา ก่อนที่ร่างเล็กนั้นจะหันมาเขา ใบหน้าของฐาดูอ่อนล้า แต่ก็เป็นไปได้ เท่าที่ฟังไม่ผิดคือทั้งสองมาที่นี่ตั้งแต่เช้า และนี่ก็กำลังจะมืดแล้ว แม้เสียดายแต่เขาก็ควรจะปล่อยให้อีกฝ่ายไปพักผ่อนจริงๆ


“กลับไงอ่ะ”  ฐาเอ่ยปากถามออกมา


“รถเมล์มั้ง”  ปกติเขาจะนั่งรถเมล์เพราะมันจอดหน้าซอยบ้านเลย


“อืมเราก็รถเมล์เหมือนกัน แต่ต้องไปขึ้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ว่ะ” อา….เขานึกภาพออกทันที ต้องไปขึ้นที่นั่นเพราะสายรถเมล์ที่เขานั่งประจำไม่จอดหน้าบ้านสินะ อืม…..งั้นเราคงต้องแยกกันตรงนี้


ก็…ได้เหรอวะ….


“ของกานต์นั่งที่ไหนอ่ะ” 


“เราเหรอ”


“อืม นั่งหน้ามาบุญครองใช่ไหม” ก็ใช่อ่ะนะ แต่ว่า…..โดยไม่รู้ตัว เขาเผลอกัดริมฝีปากออกไป เขาไม่อยากให้ฐาเดินมาส่งเขาที่ป้ายรถเมล์แม้จะอยากยืดเวลาออกไปอีกนิด ดังนั้นมันจึงมีทางเดียวเท่านั้นแหละ


คือต้องไปส่งฐานั่งรถเมล์


“ไปด้วยดิ”


“หะ”  เย็นๆแบบนี้สมองของฐากรณ์อาจจะประมวลข้อความได้ไม่ดีนัก แรมต่ำ…เขาเข้าใจ


“จะไปขึ้นรถเมล์ที่นั่นพอดีเลย จะแวะตลาดน่ะ”  เขาอธิบายเหตุผล จริงๆแล้วเขาไม่ได้อยากแวะอะไร จากป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุด ก็ยังต้องเดินเกือบกิโลเพื่อไปยังบ้านเขา แต่มันก็คุ้มเพราะระยะทางจากสถานีสยามไปยังเซ็นทรัลเวิลด์ และจากที่นั่นไปถึงบ้านของฐา ราวๆชั่วโมงครึ่งก็ดูคุ้มค่าพอให้เดินอีกกิโลเพื่อกลับบ้าน คิดยังไงก็ไม่ขาดทุน สมกับที่จะเป็นเฟรชชี่คณะเศรษฐศาสตร์จริงๆ….


ส่อแววเรียนไม่จบตั้งแต่ยังไม่เข้าเลยกู -*-


คนตัวเล็กพยักหน้ารับความต้องการของเขาอย่างมึนๆและเราก็เริ่มเดินไปด้วยกัน สยามในยามเย็นวันเสาร์นั้นคนเยอะไม่ใช่น้อย แม้บทสนทนากวนส้นของเขาจะวนลูปเดิม และความรุนแรงของอีกฝ่ายจะทวีคูนมากขึ้น แต่กานต์ภพก็ไม่มีที่จะโกรธเคือง  อา…..เมื่อกี๊เจ้าตัวแสบไม่ได้เอาสันหนังสือเคาะหัวเขาใช่ไหม ปลื้มในความพยายามของคนสูง 163 ดีจัง เขาเริ่มจะชอบสันหนังสืออาจารย์ปิงของอีกฝ่ายขึ้นมาบ้างแล้ว


“วันหลังเจอกันก็เอาบันไดมาปีนเนอะ จะตีหัวกันก็ไม่ต้องเขย่ง”


“ไอ้เลว”  ปึก…อีกแล้ว โอ้ยเจ็บจัง


“ไม่ไปเดินเบียดคนอื่นสิ ตัวแค่นี้เดี๋ยวหายไป เราหาไปคืนพ่อแม่ให้ไม่ได้นะ”


“ไอ้กานต์”  ดีเว้ย! แค่หนึ่งวันจากเป็นกานต์เฉยๆไม่ชอบ…ชอบถูกเรียกว่าไอ้….


ความอึดอัดพลันเกิดขึ้นเมื่อเขาเลิกแหย่คนตัวเล็กที่นั่งข้างๆ โชคดีที่นั่งบนรถเมล์นั้นเหลือแค่สองที่นี้พอดี ไม่งั้นอีกฝ่ายคงหนีไปนั่งไกลๆเขา แก้มที่ดูนิ่มของฐานั้นขึ้นสีระเรื่อ เจ้าตัวคงร้อนและเหนื่อยไม่ใช่น้อย ระยะทางกลับบ้านก็ไม่ได้ใกล้หรือไกลจนเกินไป ปกติแล้วเขาคงหยิบเครื่องเล่นmp3ขึ้นมาเปิดเพลงฟัง แต่ในตอนนี้ เขาแค่อยากให้หูของตัวเองนั้นปลอดโปร่ง เผื่อที่ว่าหากคนข้างๆอยากพูดอะไรสักอย่าง เขาจะได้ตอบทันที นี่….ไม่ได้หวังเกินไปหรอกเนอะ


“อยากเข้าจุฬาเหรอ”  แต่ก็เป็นเขาที่พูดด้วยก่อน อีกฝ่ายไม่ได้หยิ่งหรอกนะ แต่เขาคงแกล้งมากเกินไปจนคร้านจะคุย แต่ชอบอ่ะ สนุกดี


“เปล่า ที่ไหนก็ได้ขอแค่ได้เรียนภาษาจีน”


“เรียนเอกจีนอยู่เหรอ”


“อื้ม ก็ไม่รู้จะเรียนอะไรอ่ะ” เป็นหลักการง่ายๆ ฐากรณ์คงเลือกเรียนอะไรที่ถนัดโดยไม่ได้คาดหวังเป็นพิเศษ หนังสือเรียนพิเศษที่เจ้าตัวเอามาฟาดหัวเขานั้นมาจากหลายสถาบัน คาดว่าคงติวหนักน่าดู แต่ว่านะ นี่ก็จะเทอมสองแล้ว อีกไม่กี่เดือนก็จะสอบโอเน็ตแล้ว ไม่แปลกเลยที่จะจริงจัง แต่กานต์ย้ำ….ว่าอยากเจอคนจริงจัง


น่อวววววววว…..


คุยกันสักพัก รถที่ติดก็ยังไม่ทำให้เราขยับไปไหน คนตัวเล็กนั้นเริ่มง่วงจนแทบจะทนไม่อยู่ ไม่นานก็พิงศรีษะตัวเองกับกระจกก่อนจะเข้าสู่นิทรา กานต์ภพยิ้มที่มุมปาก จริงๆฐากรณ์อาจจะไม่ได้คิดอะไรเลย แต่การที่มาหลับข้างๆเขาที่เพิ่งรู้จักได้หนึ่งวันแบบนี้ ถ้าไม่ง่วงมาก ก็แสดงว่ารู้สึกวางใจในตัวเขาในระดับนึง เอาเถอะ เขาจะปล่อยให้นอนก็ได้ กานต์ภพเอ็นดูเด็กคนนี้ไม่ใช่น้อย เขาหยิบmp3ของตนขึ้นมา ก่อนจะเลือกเพลงที่อยากฟัง


ปึก…


อา….กรรมตามสนองนักหวดเสียแล้ว


“นอนดีๆ”  เขาพูดพร้อมสะกิดอีกฝ่ายที่หัวโขกกับกระจก ไม่รู้ทำไมเสียงถึงได้ดูอบอุ่นเหมือนไม่ใช่ตัวเองแบบนั้น กานต์ไม่ได้ให้ฐาเอนซบไหล่ตัวเองเหมือนในหนัง เขาเพียงแค่สะกิดให้อีกฝ่ายรู้ตัว และปล่อยให้อีกคนได้นอนพักต่อ แม้รู้ว่าการนอนก้มหน้าแบบนั้นจะทำให้อีกฝ่ายปวดคอเมื่อตื่น แต่เขาไม่มีสิทธิ์มากไปกว่านั้นหรอกนะ


ระหว่างเรายังมีช่องอีกเยอะที่รอให้มันลดลง


“ใกล้ถึงแล้วหรือเปล่า”  เขากระซิบเบาๆ เปลือกตาสีอ่อนค่อยๆเปิดออกมา กานต์ไม่แน่ใจนักว่าบ้านของอีกฝ่ายอยู่แถวไหน แต่ก็ไม่อยากให้คนตัวเล็กนั่งเลยป้ายจึงเลือกที่จะปลุกต่อ ฐายังดูมึนงงกับสถานที่ข้างหน้า ท่าทางที่ดูไร้การป้องกันทำให้เขายิ่งเอ็นดู ไม่แน่ใจว่าหุบยิ้มทันไหม แต่ช่างเถอะ ถ้าฐากรณ์จะเห็นเขายิ้มให้แบบนั้นก็ไม่เป็นไร


ขอแค่หวั่นไหวบ้างก็พอ….


“อีกสามป้าย”


“พอดีเลย”


“งืมมมมมมม”


“อย่าเพิ่งนอนต่อ กลับบ้านค่อยนอนยาวๆ” เขาพยายามรั้ง อีกแค่สามป้ายก็จะลงแล้ว ฐากรณ์พยายามลืมตาเต็มที่ มือเล็กตบแก้มตัวเองให้เขานึกอิจฉามือที่ดูจะนิ่มมากนั่น ช่วงเวลากำลังเริ่มนับ สามป้ายที่ว่า ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติ เขาคงเฝ้ารอให้มันมาถึงอย่างใจจดจ่อเพราะอยากจะทิ้งตัวลงบนที่นอน แต่วันนี้เขาอยากให้ไฟแดงนานกว่านี้สักนิด ฐากรณ์ยังคงมึนงงไม่พร้อมจะตอกกลับคำหยอกล้อ เขาเลยไม่ทู่ซี้กวนใจ และเมื่อได้ยินเสียงกดกริ่งเพื่อขอลง ความรู้สึกเสียดายก็พุ่งแล่นขึ้นมา ยังแกล้งไม่คุ้มเลย เอาจริงๆ


“ไปนะ”


“อืม”  เขาตอบรับสั้นๆ คนตัวเล็กค่อยๆลุกขึ้นเพื่อเดินไปยืนรอลงรถ ในตอนนั้นเขาก็ตัดสินใจขึ้นมา


“ฐา” 


“หืม”


“เดี๋ยวเราแอดเฟซไปนะ”


“อ๋อ อืม”


“รับเพื่อนด้วยล่ะ”


“เออๆ ถามหาเฟซจากไอ้พฤกษ์ได้เลย”  เขายิ้ม ใช่….ดันมาถามหาเฟซตอนอีกฝ่ายจะลงรถแล้วคงไม่มีใครมาตอบ แต่ก็ขอบคุณที่ชี้แนะช่องทาง ดูเหมือนว่าแค่เดินกลับบ้านคงไม่พอแล้วจริงๆ


เขาต้องรีบวิ่งกลับไปเปิดคอมที่บ้านแล้วแหละ!


.
.
.
.
.
.


“อ๋อ คือกานต์เป็นญาติฝั่งเจ้าบ่าวสินะ”  ฐากรณ์พึมพำ เจ้าตัวเองก็ไม่เคยรู้แม้ว่าตนจะคิดว่ารู้จักเจ้าบ่าวและเพื่อนทุกคนแล้วก็ตาม อืม….กานต์เป็นญาติที่ไม่เคยถูกแนะนำให้รู้จักเพราะไม่ได้สนิทสนมนัก ที่มานี่ก็คงตามมารยาท แต่โลกชักกลมนักเชียว


โลกที่หมุนรอบตัวของฐากรณ์ ไม่นึกว่าจะมีกานต์ภพรอบตัวเยอะแบบนี้


“เรางงงมาก คุ้นๆตอนเห็นเพื่อนฉุดไปเอาช่อดอกไม้”  กานต์พูดออกมา แต่จริงๆเขาเห็นตั้งแต่ยังไม่ได้เข้างาน เรื่องแซวฐากรณ์นี่ก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเจอกี่ครั้ง เขาก็ทำได้ดีเสมอจนตัวเองยังแปลกใจ และก็ยืนยันว่าทำได้ดีจริงๆ เพราะอีกฝ่ายนั้นดูจะเขินไม่ใช่น้อย รออีกสักหน่อยเถอะ ความเขินจะเปลี่ยนเป็นความชังน้ำหน้า


“รู้งี้ไม่เดินมาทักล่ะ”


“ไม่เอา เราไม่อยากไปแย่งดอกไม้กับนายนี่หว่า”


“เราก็ไม่อยากไปแย่งกับใครนะเว้ย”  แม้จะเริ่มพูดคุยได้มากขึ้น แต่ฐาก็ยอมรับว่าอึดอัดไม่ใช่น้อย ส่วนนึงเป็นเพราะระยะเวลาที่ไม่ได้เจอกัน และช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน


เรารู้จักกันสั้นเกินไป
และไม่ได้เจอกันนานเกินไป
มิหนำซ้ำ…..เรายังเลือกที่จะปฏิเสธกันเร็วเกินไป




.
.
.
.
.

หลังจากที่ตอบรับการขอเป็นเพื่อน ก็ไม่มีบทสนทนาอะไรระหว่างเราเกิดขึ้น


การพบเจอที่ก่อให้เกิดความรู้สึกประหลาดนั้นยังคงติดตรึง แม้จะจดจำทุกประโยคที่คนตัวสูงพูดไม่ได้ แต่ใบหน้า รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะมีเสน่ห์นั้นยังคงน่าประทับใจอย่างน่าหมั่นไส้ แม่งเอ้ย คนบ้าอะไรกวนตีนได้ละมุนดีแท้ แม้จะอึดอัดอยู่บ้างตามประสาคนเพิ่งรู้จัก แต่ฐากรณ์ก็คิดว่าตนค่อนข้างสบายใจและรู้สึกไหลลื่นเมื่อได้พูดคุยกับอีกฝ่าย ถึงบทสนทนาจะไม่ถูกหู แต่กลับกลายเป็นว่าถูกใจ….อย่างนั้นก็ได้เหรอ


เทอมสุดท้ายของมัธยมปลายกำลังวุ่นวายไม่น้อย งานกีฬาสีที่กำลังจะมาถึงและการสอบโอเน็ตเอเน็ตที่ใกล้เข้ามาทำให้ความเครียดรุมเร้า เด็กมัธยมที่ไม่เคยรับผิดชอบอะไรมากมายขนาดนี้พร้อมจะปล่อยเททุกสิ่งอย่างเอาแต่ใจ ทุกวันฐากรณ์ต้องลุกขึ้นมาสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆและท่องคำว่าเพื่อแม่ๆ ทั้งที่ไม่มีใครคาดหวังให้เขาสอบติดมหาวิทยาลัยดังๆเลยสักคน อืม….คนอื่นไม่ค่อยคาดหวังหรอก แต่คนที่ไปนั่งเรียนพิเศษอย่างไม่มีวันหยุดอย่างตนเองนั่นแหละที่คาดหวัง!


ความเครียดจากกิจกรรมที่ต้องรับผิดชอบและการสอบที่วุ่นวายทำให้คนตัวเล็กหน้ายุ่งอยู่ทุกวัน ทว่าก็ยังพอมีเวลาคิดถึงเพื่อนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในชีวิตอยู่บ้าง เป็นติ่งของบางส่วนในสมอง ทว่ามีตัวตนที่ชัดเจน ฐากรณ์จำได้ ว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยงอนใครได้บ่อยขนาดนั้นในวันเดียวเลยด้วยซ้ำ และนั่นเป็นเรื่องที่ทำให้ต้องยิ้มออกมาเหรอ! ไม่สิ ต้องตีหน้าบึ่งแบบนี้สิ แง่ม!


“ฐา มึงอ่านหนังสือจบไหม”


“มึงคิดว่าถามใครอยู่เหรอพฤกษ์”  ฐากรณ์นั้นตอบด้วยน้ำเสียงแห้งๆ ได้ข่าวว่าก็กำลังทำป้ายด้วยกันอยู่นี่ กูจะเอาเวลาที่ไหนไปอ่านนำมึง!


“กูแม่งเริ่มกลัวแล้วว่ะ”


“ไอ้สัด ท็อปห้องอย่างมึงกลัว กูนี่ไม่หัวโล้นแล้วเหรอ”


“ผมมึงก็ยังเต็มหัวนะ ให้กูช่วยถอนให้ไหม”


“อย่ามายุ่งกับหัวกู”  ฐากรณ์ปัดมือใหญ่ของพฤกษ์ออกพัลวัน จริงๆแล้วพฤกษ์เองก็กวนตีนไม่น้อย แต่ทำไมความกวนตีนนี้ มันช่างต่างกับอีกคนนักนะ


“เฮ้อหรือว่ากูจะไปขอให้ไอ้กานต์มันช่วยเรื่องเลขดี”


“ก็ไปดิ”  แล้วจะขอไปด้วยดีไหมน้า อา….ไอ้พฤกษ์จะไปขอติวเลข แล้วกูจะไปทำไม ไม่ได้ใช้เลขยื่นอักษร =_=


“เออไปดีไหม แต่ก็เกรงใจมันอ่ะ”


“คนอย่างมึงเกรงใจคนเป็นด้วยเหรอวะ”


“ฐา….มึงนี่”


“ก็ไม่เคยเห็นมึงจะเกรงใจกู”


“มึงกับมันเหมือนกันที่ไหน”


“อ้าว ก็เพื่อนเหมือนกันปะวะ เกรงใจกูหน่อยซี่”


“ปกติกูก็ไม่ค่อยเกรงใจมันเหมือนกันนั่นแหละ”


“แล้วทำไมจู่ๆถึงมีมารยาทวะ”


“ไม่รู้ดิ”


“ไม่รู้ตัวเองอีก”


“ก็แบบแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกไปของไอ้กานต์แม่งผีเข้าผีออก กูไม่ได้แค่เกรงใจหรอก รำคาญด้วย”


“………..”


“เห็นหล่อน้อยกว่ากูอย่างนั้นแต่มันมีแฟนนะเว้ย เพิ่งเลิกกัน ได้ยินว่าเฮิร์ทอยู่ กูเลยเกรงใจไง เผื่อมันจะเอาเวลาไปง้อเมีย”


“……….อ๋อ” 


“จริงๆไอ้กานต์มันอาจจะไม่เอาอะไรแล้ว แต่เหมือนแฟนมันอยากคืนดีมั้ง มันเองก็ดูเคยรักแฟนมาก อาจจะยังมีใจ”


“มึงเลยไม่อยากไปกวนมันใช่ไหม”


“เอออะดิ กลัวไอ้กานต์ผีเข้าผีออกตามแฟนมันเหมือนกัน”


“ก็ดูเพื่อนมึงก็ผีๆเหมือนมึงอยู่นะ”  ฐาคิดว่าโทนเสียงและความกวนตีนของตนมันไม่ได้แปลกไป แต่ทำไมใจ….มันหายๆวะ


“เออช่วงนี้แม่งผีจริง วันก่อนมันก็โทรเร่งกูให้ส่งเฟซมึงให้”


“อ๋อ เออกูเป็นเพื่อนมันแล้ว”


“แล้วแม่งยังมาขอเบอร์มึงจากกูอีก”


“…………..”


“เห็นว่าอยากได้เบอร์มึงไปนัดเล่นบาส”


“อ๋อ”


“กูไม่มีเบอร์ใหม่มึงไง เลยไม่ได้ให้ไป ว่าแต่กูให้เบอร์มึงได้ไหมวะ”  มึงเพิ่งคิดได้ว่าควรถามเหรอ แต่จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก แมนๆเตะบอลกันครัชทั้งนั้น


แต่ทำไมกันนะ


“ไม่ต้องหรอก”


“หือ”


“กูมีเวลานอนที่ไหนล่ะไอ้เชี่ย” งานก็ยุ่ง เรียนก็ยุ่ง แถม….ใครบางคนก็ยุ่งมากด้วย….ยุ่งกับหัวใจคนที่งานยุ่งมากแบบนั้น มันไม่ดีเท่าไหร่มั้ง….


“เอางั้นเหรอ”


“เออ ไม่ต้องให้หรอก ช่วงนี้กูไม่รับมือถือใคร”  แล้วกานต์ก็ตัดสินใจไปอย่างนั้น


เป็นความเด็ดขาดที่แฝงความลังเลใจอยู่ไม่น้อย 

ออฟไลน์ skylover☁

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-2

.
.
.
.
.


จนแล้วจนรอดจนเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้วเราก็ไม่ได้เล่นบาสด้วยกัน ฐาได้เห็นอีกฝ่ายผ่านหน้าไทม์ไลน์เฟซบุคบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทักทาย พูดคุย ประหนึ่งว่าเราเป็นคนรู้จักที่ไม่สนิทสนม ใช่ เราไม่สนิทสนมแม้เคยคิดว่าสนิทสนมกันได้ก็คงจะดี การมีเพื่อนหรือคนรู้จักเยอะก็ไม่เสียหาย คำปฏิเสธที่ชัดเจนต่อหน้าพฤกษ์ในวันนั้นเป็นการเลือกข้างอย่างชัดเจนของฐากรณ์ กานต์ภพไม่เคยคิดจะตื้อขอหรือติดต่อมาแม้จะเห็นกันหน้าไทม์ไลน์แบบนี้ ความรู้สึกแปลกๆมันชัดเจนขึ้นมาเรื่อยๆ


ฐากรณ์แอบมีใจให้กานต์ภพ
และคิดว่ากานต์ภพเองก็มีใจให้กันอยู่บ้างในวันแรกที่เจอ


แต่ทุกอย่างมันจบลงแล้วเพราะการตัดสินใจที่รวดเร็วของคนตัวเล็กในวันนั้น ทั้งเรื่องเรียน กิจกรรม และไหนจะเรื่องแฟนเก่าบ้าบอที่ตนไม่รู้ดีนั่น ฐากรณ์ในตอนนั้นเหนื่อยเกินกว่าจะเพิ่มความซับซ้อนทางความสัมพันธ์ระหว่างใครให้ตัวเอง เขายังจัดการกับความยุ่งเหยิงข้างหน้าได้ไม่ดี และไม่คิดอยากให้ความวุ่นวายมาเพิ่มใส่ตัว ทว่าเวลาผ่านไป ความเสียดายก็ยิ่งตอกย้ำให้รู้ว่าตนได้เลือกผิด อย่างน้อยถ้าวันนั้นให้พฤกษ์บอกเบอร์ตัวเองไปแล้วล่ะก็ บางทีความรู้สึกเสียดายอาจจะไม่เกิดขึ้นเลย


แต่ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดความรู้สึกแบบอื่นขึ้นมา


ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์แต่มันก็ต่างกับความว่างเปล่าที่เผชิญจนชินชา ฐาเคยคิด ว่าถ้าเราจีบกันไปมาต่อจากนั้น สุดท้ายแล้วมันจะจบแบบไหนก็ไม่น่าเสียดายเท่านี้ แต่อีกใจก็คิดว่ามันดีแค่ไหนที่ไม่ต้องรับรู้ ตนเองในตอนนั้นไม่พร้อมหรอกกับความผิดหวัง จนกระทั่งตอนนี้ จะรับมือกันมันได้ไหมก็ไม่รู้เลย ดวงตากลมมองคนข้างหน้า กานต์ภพโตขึ้นมาก เขาดูต่างจากเด็กหนุ่มขี้เล่นในวันวาน แต่ก็ยังเป็นคนขี้เล่นอยู่เรื่อยๆจากทุกประโยคที่ได้พูดคุย


“สรุปนี่เราก็ยังไม่ได้เล่นบาสกับฐาเลย”


“เออ ตอนนี้ก็เล่นไม่ได้แล้ว กระดูกกระเดี้ยว”


“แก่แล้วเหรอ”


“หึ…ข้อเท้าไม่ค่อยดี หมอไม่ให้เล่นน่ะ” 


“งั้นเหรอ”  อา ไอ้ฐา….ตบปากแกซะ


ฐากรณ์กำลังปิดโอกาสในการชิดใกล้อีกครั้งงั้นเหรอ ไม่….ฐาไม่ได้ตั้งใจ แต่บางทีกานต์เองก็อาจจะไม่ได้คิดอะไรเลยก็เป็นได้ เขาคงแค่พูดคุยไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดจะชวนกันจริงๆจังๆหรอก อย่างว่า เราก็ไม่ได้เจอกันนาน ยิ่งอายุเยอะ ยิ่งชอบพูดเรื่องเก่าๆ แม้ว่าเราจะมีเรื่องเก่าๆระหว่างกันให้แชร์น้อยมากเหลือเกิน แต่ฐากรณ์ก็อยากจะขุดมันออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงสุดท้ายเรื่องราวระหว่างเขากับกานต์ภพจะถึงทางตันเร็วไปนิด แต่การมีเพื่อนคุยในวันนี้เป็นเรื่องที่ดียิ่งนัก ยิ่งถ้าเพื่อนคนนั้น คือหนึ่งในสุดยอดความทรงจำของช่วงวัยมัธยมของฐากรณ์ อืม….สุดยอดความทรงจำเลยเหรอ เราคุยกันแค่วันเดียว แถมยังไปหลับใส่เขาอีกเนี่ยนะ


“แล้วนี่กลับกี่โมงเหรอ” กานต์ภพถาม


“ก็รอเพื่อนไปส่งอ่ะ”


“ยังอยู่บ้านเดิมหรือเปล่า”


“อืมอยู่ที่เดิมอะแหละ นายล่ะ”


“จริงๆเราอยู่คอนโด แต่นี่ว่าจะกลับบ้านอ่ะ”  มิน่า….ไม่เคยได้เจอ เอ่อม จะว่าไปก็ไม่เคยเห็นเลยนี่….


“จะรออาฟเตอร์ปาร์ตี้เหรอ อีกนานนะเราว่า”  ฐากรณ์เองก็รอเพื่อนอยู่เหมือนกัน คนตัวเล็กก้มลงมองนาฬิกาก่อนจะเบ้ปาก รู้สึกว่านั่งเวิ่นเว้อตั้งนาน แต่จริงๆไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ


“อ่อ คงไม่อ่ะ”


“จะกลับแล้วเหรอ งั้นบ้ายบายนะ”


“……..”


“……..”


“……..”


ไอ้ฐา…..ไอ้ชิบหาย…..มึงทำอะไรพลาดไปอีกแล้วเหรอวะ


“เฮ้ย เราไม่ได้ไล่นะเว้ย เชิญตามสบาย”


“แล้วใครว่าฐาว่าไล่เรา”


“ง่า…..”  เอาล่ะครับ ไปไม่ถูกเลย ทำไมอ่อยคนไม่ให้ดูโจ่งแจ้งมันยากจังวะ ฐากรณ์อยากจะมีความสามารถในการทำตาวุบวิบให้ดูไม่แรดจนเกินไปแบบคนอื่นบ้างจัง


ใบหน้าหวานที่แดงระเรื่อนั้นหลุบต่ำ เขาหมดหนทางให้กับสถานการณ์นี้จริงๆ เจ้าของร่างสูงนั้นหลุดหัวเราะออกมาให้ต้องขมวดคิ้ว แต่ฐากรณ์ยอม ก็เขามันเด๋อจริงๆนี่นา อายุมากขึ้นตั้งสิบปี แต่นิสัยเด๋อๆนี่ก็ยังแก้ไม่หายจริงๆ เขาอยากจะทำตัวเท่ได้บ้าง ทว่ามันก็ได้แค่พยายาม ในความเป็นจริง การเป็นคนเท่นั้นเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน และเด๋ออย่างเดียวไม่พอ เวลาเผลอก็ชอบใช้ความรุนแรง กานต์ภพจะรู้ไหม ว่าใครต้องเก็บมือเก็บไม้ไม่ให้เผลอหลุดตี เวลาที่ถูกกวนหัวใจ


“ไปส่งไหม”


“หะ”


“ก็บอกว่ารอเพื่อนไปส่งบ้านไม่ใช่เหรอ กว่าปาร์ตี้จะเลิกอีกนานเลย เราไปส่งไหม”


“เอ่อจะดีเหรอ”


“ดีสิ หรือว่าเพื่อนไม่ยอมให้กลับกับเรา มาเหอะ เราไม่เอาไปหลอกขายนะ มามะ เดี๋ยวให้ลูกอมนะ”


“เราโตแล้วเหอะ”


“ตัวยังเท่าเดิม อย่างนี้ไม่เรียกว่าโตรู้ไหม”


“เราสูงขึ้นเหอะ ตอนนี้ 165 แล้วเว้ย”


“เรา 185 แล้วนะ”


“………..”


“ยังห่างกัน 20 เซ็นเหมือนเดิมเลย”


20 เซ็นเหมือนเดิมในรอบสิบปี ช่างเป็นความต่างที่ดีต่อใจจริงๆ


และทันทีที่ลองพูดกับเพื่อนว่าจะกลับกับกานต์ภพ ฟ้าดินก็เป็นใจให้เจ้าของรถทุกคันที่เคยแย่งกันจะไปส่งตอนนั้น แทบจะถีบหัวส่งออกจากโรงแรมในตอนนี้ หากเหล่าเพื่อนเจ้าสาวทำได้ ทุกคนคงยอมเดินออกจากงานปาร์ตี้และอุ้มเขามาใส่รถให้ฐากรณ์แล้ว แววตาของอีกฝ่ายวิบวับรู้ทันความคิดของผู้หวังดี ฐากรณ์ควรจะหงุดหงิดใจที่ทุกคนส่งเสริมเพื่อนให้ผู้ชายที่เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร ไม่ใช่มาหงุดหงิดที่เหยื่อตัวสูงส่อแววยินดีที่จะตกเป็นของเขาตามความต้องการของเพื่อนทุกคนเส่ะ!


“ฐากรณ์นี่มีแต่เพื่อนดีๆนะ”  เพื่อนที่ยินดีส่งเพื่อนไปเสียตัว


“เรายกให้ เอามะ”


“ไม่เอา เราไม่อยากสนิทกับเพื่อนฐากรณ์”


“ไร้มนุษย์สัมพันธ์”


“เพราะเราต้องสนิทกับฐากรณ์ให้ได้ในระดับนึงก่อนแล้วค่อยเริ่มสนิทกับเพื่อนฐากรณ์ จะได้เข้าทางเพื่อน”


“…………..”  อะไรของมันวะแม่ง .///.


รถเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ คนตัวเล็กกำลังสงสัยจนต้องลอบมองว่าอีกฝ่ายเหยียบคันเร่งบ้างหรือเปล่า แต่ฐากรณ์จะหงุดหงิดอยากวาบตัวถึงบ้านเร็วๆก็ต่อเมื่อถูกหยอกให้เขินเท่านั้น ซึ่งมันก็เป็นส่วนใหญ่ของบทสนทนา กานต์ภพยังชวนพูดคุยแกมหยอกเหมือนเราสนิทกันม้ากมาก แต่อย่างนี้แหละที่ทำให้ฐารู้สึกว่าเราอยู่ด้วยกันได้ไม่อึดอัดดี คนตัวเล็กลอบมองคนร่างสูง มือที่จับพวงมาลัยนั้นดูใหญ่กว่ามือของตน ก็สมควรล่ะ สูงกว่าตั้ง 20 เซ็นนี่เนอะ


“นี่วันนี้ฐากรณ์ได้ดอกไม้งานแต่งแล้ว งานต่อไปไม่ต้องไปรอรับแล้วนะ เดี๋ยวขึ้นคาน ที่บ้านเราถือ”


“งานเดียวยังอายไม่พอหรือไง”  เขาพูดแบบเซ็งๆ อยากจะขอแวะข้างทางเพื่อทิ้งช่อดอกไม้ที่วางกองอยู่ที่เบาะหลังรถจะแย่ ทั้งๆที่ตั้งใจลืมวางไว้ที่โรงแรมแล้วแท้ๆ แต่อีกฝ่ายก็ถือตามออกมาให้ จะไปเดินห่างๆก็ไม่ได้ มันเขินนะเวลามีคนมอง มันยิ่งกว่าให้เขาถือดอกไม้เดินออกมาจากงานแต่งคนเดียวเสียอีก เมื่อมีคนตัวสูงคนนึงถือดอกไม้และเดินตามมาจับแขนให้รอกันอย่างนั้น


“กลับไปก็เอาไปแช่น้ำซะนะ จะได้อยู่นานๆ”


“กานต์ นายเอากลับบ้านไปไหม เราไม่อยากให้แม่เราเห็น”


“แม่ไม่โกรธหรอก เราว่าแม่ต้องดีใจที่ลูกจะขายออก” 


“รู้ดีไปอีก ได้ข่าวว่าไม่เคยเจอแม่” 


“ก็ถ้าแม่ยังไม่นอน เราก็อยากไปเจอนะ แลกกันปะละ เราเอาดอกไม้กลับให้ แต่ต้องให้เราเจอแม่”


“จะบ้าเหรอ แม่เรานอนแล้ว”  ทำไมฐาต้องเสียงดังด้วย และหน้าน่ะ ทำไมร้อนได้ขนาดนี้ แอร์ก็เย็นไม่ใช่เหรอ


กานต์ภพหัวเราะให้กับความดื้อรั้นเช่นนั้น เขาขับรถมาเรื่อยๆ แม้ไม่อยากให้ช่วงเวลาเหล่านี้สิ้นสุดลงแต่เขาก็ยอมรับว่ามันดึกเกินไปแล้ว และตอนนี้มันก็ไม่เหมือนตอนนั้นอีกต่อไป หากเขาจริงจังกับการเดินหน้าในครั้งนี้ เขามั่นใจว่าต่อให้ฐาปฏิเสธจะให้เบอร์ เขาก็จะไม่หยุดแค่นั้นเหมือนตอนนั้น ตอนที่เขารับฟังคำตอบจากพฤกษ์และเลือกที่จะยอมรับมันง่ายดายเพราะตนเองก็ยังคาราคาซังกับแฟนเก่าอยู่จริง สิบปีผ่านไป ทางเลือกมากมายทำให้เขาคิดว่าบางทีเบอร์โทรก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป


“ฐา”


“หืม”


“ขอไลน์ได้ป่ะ”


“…………”


“คราวนี้เราขอตรงๆไม่ผ่านใครแล้วนะ”  ใช่….ครั้งนี้เป็นเขาที่ขอกับเจ้าตัวเอง


แล้วฐาล่ะ จะปฏิเสธตรงๆอีกไหม


“เราไม่แน่ใจไอดีไลน์อ่ะ”


อา….ไม่ปฏิเสธตรงๆ แต่อ้อมๆใช่ไหม


“ไม่เป็นไร เราจำของตัวเองได้ แอดเรามาไหมล่ะ” แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ กานต์ภพอ่อยให้ขนาดนี้แล้วนะ!


“มือถือเราแบตจะหมดแล้วอ่ะ”


“………..”


“เมมเบอร์เราไว้แทนได้ไหม”


“……………”


“……………”


“……………”


“เดี๋ยวเราจดไว้ให้ก็ได้นะ”  อา…ฐากรณ์….


ทำไมน่ารักอย่างนี้……


เขาหันไปส่งยิ้มให้ก่อนจะส่งมือถือ บอกรหัสปลดล็อกให้อีกฝ่ายทราบ ยินยอมให้คนรู้จักแค่ผิวเผินแตะต้องมือถือได้ตามอำเภอใจ ในตอนนี้เขาไม่ได้ต้องการอะไรแล้ว ในเมื่อได้สิ่งที่หวังมานานไว้กับมือ สิบปีเชียวนะ กับแค่เบอร์โทรของคนๆนึง สิบปีเชียวนะ ที่เขามักนึกถึงเจ้าของแก้มยุ้ย ที่มักจะกระทำความรุนแรงต่อกายด้วยสันหนังสือ จนทะลุมาถึงหัวใจให้สั่นไหว


“จอดข้างหน้านี้แหละ” 


“หลังนี้ใช่ไหม”  เขาค่อยๆหักไปทางขวาเพื่อจอดเลียบ ช่วงเวลาของเราในวันนี้ มันกำลังจะหมดแล้วสินะ


เราสองคนนั่งนิ่ง ฐากรณ์ยังไม่ลงไปจากรถ และแน่นอน เขาก็ไม่ไล่ด้วย จะไล่ไปทำไมล่ะ จริงๆแล้วอยากจะเปลี่ยนเกียร์แล้วพาวนรอบกรุงเทพอีกสักรอบ ก่อนจะเอามาส่งถึงบ้านอีกครั้งด้วยซ้ำ เจ้าของช่อดอกไม้นั้นค่อยๆเอื้อมไปหยิบมันมากอดไว้ ท่าทางน่ารักของคนตัวเล็กทำให้เขารู้สึกเอ็นดูขึ้นมาอีกนิด ฐากรณ์เก่งจริงๆนะ เขาจะก่อกวนเท่าไหร่ เจ้าตัวก็ก่อกวนหัวใจเขาได้เก่งมากเช่นกัน


“ขอบคุณที่มาส่งนะ”


“อย่าทิ้งดอกไม้ล่ะ”


“ยุ่งอะไรด้วยล่ะ”


“เสียดายแทน”


“……….”


“ช่อดอกไม้เจ้าสาวน่ะ ใครๆก็อยากได้รู้ไหม”


“เรา….เราไม่เห็นอยากได้เลย”


“กลัวอะไรเหรอครับ”


ตึก….ตัก….ตึก…ตัก…..


“ไม่มีใครทำอะไรฐาได้หรอกนะ”


ตึก….ตัก….ตึก…ตัก…..



“เชื่อเราสิ”


ตึก….ตัก….ตึก…ตัก…..
ให้ตายเหอะ…..
ใจบางเหลือเกิน


ก็อกๆ


“แม่”  ทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะ เขาก็รีบเอากระจกลง หญิงวัยกลางคนนั้นมองคนในรถอย่างสงสัย ทำไมเจ้าตัวเล็กลูกของเธอถึงยังไม่ลงมาสักที


“อุ้ย สวัสดีค่ะ เพื่อนน้องฐาเหรอคะ”  น้องฐา….


“แม่รอผมอยู่เหรอ”


“ก็ใช่น่ะสิ นี่เพื่อนเหรอ เชิญลงมานั่งกินน้ำในบ้านก่อนไหม”


“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมจะกลับแล้ว ไม่รบกวนดีกว่า”  ความคิดที่ว่าอยากพาฐากรณ์นั่งรถรอบกรุงเทพได้ถูกดับหมอด เขาหันมายิ้มให้คนตัวเล็กอีกครั้ง ความตั้งใจที่อยากจะไหว้แม่ของเจ้าตัว วันนี้เขาได้ไหว้แล้ว


ดูเหมือนต้องทำตามสัญญาสินะ


“กลับดีๆนะ” ฐาบอกกับเขา เจ้าตัวกำลังจะเปิดประตูออกไป แต่ก็เป็นกานต์นั่นแหละที่รั้งเอาไว้ คนตัวเล็กมองจ้องเขาอย่างตกใจ


“ดอกไม้น่ะ”


“หือ”


“เอามาสิ เราเอาไปจัดการให้”


“อ้าว ไหนบอกว่า”  ห้ามทิ้ง ใช่…เขาห้ามไม่ให้ฐาเอาไปทิ้ง


“ก็เราได้เจอแม่ของฐาแล้วไง”


“อา…”  ฐากรณ์ยังมึนๆงงๆ แต่ว่าก็ยอมส่งดอกไม้ให้เขาแต่โดยดี กานต์ภพตั้งใจเอาไปจัดการให้สวย ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และหาเรื่องมาที่นี่อีก ให้ตายเหอะ เขารอจะเจอไม่ไหวแล้ว


“ฝันดีนะ”


“อื้ม เช่นกัน” ดอกไม้ของฐา….เขาจะดูแลอย่างดี


ฐากรณ์เองก็เช่นกัน….เขาจะดูแลอย่างดี


.
.
.
.
.

ฐากรณ์เพิ่งตื่น


เมื่อวานเขาเหมือนได้เอาพลังงานชีวิตทั้งหมดทั้งชีวิตมาใช้ วันนี้ตั้งใจจะนอนยาวๆเป็นการชาร์ตแบต คาดว่าเพื่อนคนอื่นก็คงจะยังไม่ตื่นเช่นกัน แต่ก็ช่างหัวมันเหอะ ขนาดยังไม่ตื่น ไลน์เขาก็เด้งมาเป็นร้อย เดาได้ว่าไลน์กรุ๊ปคงเต็มไปด้วยรูปเซลฟี่มากมายที่ฐากรณ์ไม่นึกใส่ใจอยากจะดู แต่พอจะเข้าไปเคลียร์แชต ก็เห็นว่าไม่ใช่แค่รูปที่ถล่มทลาย ตัวเขาเองก็โดนเพื่อนซักอย่างถล่มทลายเช่นกัน


กานต์ภพ….


การกลับมาเจอกันระหว่างเขาและกานต์ภพนั้นยิ่งกว่าฝูงผึ้งแตกรัง เขาสัญญาว่าจะวางมือถือห่างๆตัว หนีไปไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่พร้อมตอบคำถามอะไรเกี่ยวกับคนรู้จักที่ขอติดรถกลับบ้านมาเมื่อวานในขณะนี้ เพราะฐากรณ์เองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจอะไรเช่นกัน จึงอยากที่จะเงียบไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  เฮ้อ….นอนต่อดีกว่า เจ้าของร่างเล็กที่นอนก่ายหมอนเน่าคิดเช่นนั้น จนกระทั่งได้เห็นแชตที่ไม่คุ้นตาซึ่งโดนดันไปอยู่ข้างล่างเพราะเพื่อนมากมายเอาแต่ไลน์หารัวๆแบบไม่หยุดยั้ง


‘Karn’


กานต์ภพ….ส่งสติกเกอร์แพนด้านอนหลับมาให้


ความตั้งใจที่ปิดแอพพลิเคชั่นหายไปในทันทีเมื่อฐากรณ์เลือกที่จะเข้าไปดูแชต อา….กานต์ภพได้ทั้งเบอร์ แถมยังได้ทั้งไลน์ไอดีเลยหรือนี่ ให้ตายเหอะ อีกฝ่ายจะไม่คิดใช่ไหม ว่าเขาตั้งใจอ่อยขนาดไหน ก็มีเฟซบุคตั้งสิบปียังไม่เคยทักมา ให้ไลน์ไปจะยอมคุยไหม


ก็ให้เบอร์ไปล่ะกัน เห็นอยากได้นักไม่ใช่เหรอ


Karn – ตื่นแล้วเหรอ
Thakorn – งือ
Karn – ยังไม่ตื่นดีสินะ


ใช่….เขาคิดว่ากำลังฝันไป


Thakorn – เรายังงง่วงอยู่เลย
Karn – งั้นไปนอนต่อเถอะ อย่าลืมกินข้าวด้วยนะ
Thakorn - งืม เราไปนอนต่อนะ
Karn – ฝันดีอีกรอบ

ฐากดปิดแอพพลิเคชั่นอย่างจริงจังและตั้งใจว่าจะนอน ทว่าพลิกไปมาก็ยังไม่หลับอยู่ดี แม้ยังเพลียอยู่มาก แต่ก็ยากจะข่มตาหลับเหลือเกิน เมื่อใครบางคนลอยไปลอยมาอยู่เต็มหัว….ใครบางคนที่สูงกว่าตั้ง 20 เซ็น

Karnpop Watthanakun added a photo of you.


หืม….


“…….”  กานต์ภพ กับเฟซร้างๆของเขา…


ที่อยู่ๆก็แท้กเราอย่างนั้นเหรอ….


‘ดอกไม้ของฐากรณ์’


“……….” บ้า….


ไอ้บ้า….


“โอ้ย แม่ง”  แต่คนกดไลค์….คงบ้ากว่า



โทษที มือลั่น….

.
.
.
.

Thakorn Pattamakul like your photo
และ ‘ฐากรณ์ ปัตธมกุล’ คนนี้อ่ะ…ชอบ ‘กานต์ภพ วัฒนากูล’ แล้วหรือยัง??




end:


talk: ไม่รู้คนอื่นจะงงไหม แต่จริงเนื้อหาในเรื่องตัดเป็นปัจจุบันกับเมื่อสิบปีก่อนที่การสอบเข้ามหาลัยยังเป็นระบบแอดมิทชั่น แม้แต่บีบีก็ยังไม่ฮิตเท่าไหร่เลยค่ะ สมัยนั้นไฮไฟว์ยังมีคนเล่นเยอะ และเฟซบุคกำลังเริ่มเป็นที่นิยม กานต์เลยต้องรีบวิ่งมาแอดเฟซในคอมที่บ้าน เพราะสมาร์ทโฟนยังไม่เป็นที่นิยม55555

เราติดค้างนิยายอีกสองเรื่อง ที่ลงไปแล้วไม่ได้แต่งต่อทันทีเนื่องจากงานเยอะมากกกกก แต่เราจะพยายามมาลงต่อให้จบนะคะ
ขอบคุณทุกคนมากๆค่ะที่เข้ามาอ่าน หากติดขัดหรืออยากบอกอะไร คอมเมนท์บอกเราได้นะคะ :)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เรื่องน่ารักดี แต่อ่านแล้วรู้สึกว่าเราแก่อ่ะ 55555

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ mamamamuay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตัวเองดีมากเลยอ่ะ  คือบางคน เรื่องบางเรื่องก็ต้องเวลาจริงๆนะ ความพร้อใ ปัจจัยหลายๆอย่าง
เหมือนกานต์-ฐา  ใช้เวลาตั้ง10ปีแหนะ

ออฟไลน์ tuuili

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เรื่องน่ารักดีอะะะ พรหมลิขิตชักพาให้มาสานสัมพันธ์กันอีกครั้ง โรแมนติกดีนะคะ

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
งุ้ยยยยน่ารักคลุ้นมากว่าพระเอกจะโผ่ลมายังไง มาตอนไหน ไม่คิดว่าตะเคยชอบกันมาก่อน :mew1:

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
น้องฐาน่ารักจริงๆ เลยน้าาาา. กานต์ก็น่ารัก.
เรื่องสนุกมากเลยค่ะ. ความรักก็ต้องมาให้พร้อมกับเวลาและโอกาสแหละเนอะ
ขอบคุณที่ลงให้อ่านน้าาาา
เป็นกำลังใจให้เรื่องยาวด้วยค่าาาาาา
 :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Sykes

  • ♥ Hope Heals the Heart ♥
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai2-1: :katai2-1: อยากบีบแก้มน้องฐาาา

ออฟไลน์ vy0Cik

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เป็นเรื่องที่น่ารักมากเลย เขิลๆ

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
น่ารักมากกก 10 ปีไม่ใช่เวลาน้อยๆเลย แต่ทั้งสองคนยังโสดรอกันมานานขนาดนี้ ใจบางไปหมดดด

ออฟไลน์ Meen_Emp

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
ฐาน่ารักมาก ลูก   :mew1:

เป็นเรื่องสั้นที่น่ารักมาก

ขอบคุณค่ะ
 :pig4:

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
มีความต่างฝ่ายต่างชอบแต่งๆกันไปเลยยยย 55555

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :hao7: น่ารักมากกกกกก

ออฟไลน์ punpunn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
กลับมาอ่านซ้ำคิดถึงงง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
 น่ารักมากเลย :-[

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ HappyYaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
น่ารักมากเลยค่าา

ขอบคุณคนเขียนนะคะ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
มีต่ออีกไหม อยากรู้ๆๆๆๆ

ออฟไลน์ naezapril

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
น่ารักกกกกดดดดด​

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
อยากให้มีต่อจัง  :o8:

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ Fufufeel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด