"Hope...ต้องมีสักวันที่เป็นวันของเรา" จบภาค ปวช.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "Hope...ต้องมีสักวันที่เป็นวันของเรา" จบภาค ปวช.  (อ่าน 6451 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nuda

  • คนดีสำคัญกว่าทุกสิ่ง Cr.ท่านพุทธทาสภิกขุ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
บทที่ 26 ผมชอบตัน

[วันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2555]

วันนี้เป็นวันที่พวกผมต้องไปเมืองโบราณกัน พวกผมไม่ได้โดดเรียนกันนะครับ พอดีมันอยู่ในวิชาของอาจารย์เขาพอดีแกเลยอนุญาตให้ไปกัน

ผมตื่นมาอีกทีเวลา 5.30 น. ผมลุกขึ้นอาบน้ำ ออกมาก็ 6.00 น. ผมปลุกเพื่อนทุกคน กว่าจะทำอะไรกันเสร็จก็ 8.00 น. เลยครับ พวกผมนัดกับ บาส และแรก ที่คิวรถทัวร์ กรุงเทพ-XXX เมื่อมาถึงเราก็ขึ้นรถกัน การไปเมืองโบราณครั้งนี้เป็นงานถ่ายวิดีโอในวิชาระบบภาพ อาจารย์ให้แบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน โดยมี [บาส ตัน แรก] [น๊อต มั่น โอ๊ต(แต่โอ๊ตไม่มา)] [บิ๊ก ชัย โจ๋(โจ๋ไม่มา)] ส่วนผมอยู่กลุ่ม กบ แชมป์ ซึ่งไปถ่ายทำมาแล้วที่เมืองจำลองพัทยา ที่มารอบนี้คือตันบังคับให้มาและผมก็ยินดีที่จะมาด้วยครับ

พวกเรานั่งรถทัวร์มาลงบางนา ผมพาเพื่อนขึ้นรถเมย์สายปากน้ำ-ศรีเอี่ยม คันสีเขียว ไปลงปากน้ำ จากนั้นต่อรถสองแถว สาย 36 ไปลงหน้าเมืองโบราณ ไปถึงเราก็ซื้อบัตรเช่าจักรยานแล้วลุยงานกันเลย ระหว่างที่อยู่ในเมืองโบราณผมค่อยสังเกตตันอยู่บ่อยๆ เพราะมีอาการซึมๆเงียบๆเป็นบางเวลาคงจะกำลังทำใจเรื่องเมื่อคืนนี้ละมั้งครับ ผมก็คอยอยู่ใกล้ๆหาซื้อน้ำขนมมาให้กิน อยู่ในเมืองโบราณกันจนกระทั่งเวลา 15.00 น. พวกเราก็เดินทางกลับบ้านขากลับผมได้นั่งกับตันด้วย แต่ก็ไม่ได้ยินดีอะไรมากมายหรอกครับเหนื่อยกันทุกคนนอนหลับบนรถทัวร์กันเป็นแถวเลย

เมื่อนั่งรถมาถึงในตัวเมืองจังหวัดผม พวกเราก็ลงรถและแยกย้ายกัน ส่วนผมกับตันขอให้กลับไปนั่งเล่นที่หอน๊อตก่อนแล้วค่อยกลับ หลังจากวันนี้ตันกับป้าจะมาอยู่ที่หอน๊อตด้วยครับ ห้องคงอึดอัดมากขึ้นแน่นอน

[หอน๊อต]

“แม่สวัสดีครับๆ” พวกผมสวัสดีป้า

“สวัสดีๆๆๆๆ”

“เหนื่อยว่ะกูขออาบน้ำก่อนนะ” น๊อตพูด พร้อมกับว่างกระเป๋าแล้วหยิบผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำไป

“กูต่อนะๆ” มั่นพูด

“ตอนที่พวกเองไปเมืองโบราณกัน มิ้งมันโทรมาหาแม่ด้วยนะ โทรมาพูดเสียดายตันใหญ่เลย มันบอกว่าตอนนั้นพูดไปเพราะไม่ทันได้คิด ไม่รู้อะไรของมันผู้หญิงคนนี้ แต่ตันอย่าไปยุ่งกับมันนะลูก” ป้าพูด

“อืม....ตันไม่ยุ่งอยู่แล้วแม่” ตันพูด พร้อมกับถอดเสื้อออก เพราะในห้องร้อนมาก มีพัดลมตัวเดียวเองครับ

“ดีแล้วลูกๆ” พูดจบป้าก็ลุกออกไปข้างนอก

“แม่ไปไหนหรอ” บิ๊กถาม

“แม่จะออกไปนั่งเล่นตรงบันไดสักหน่อยหนะ”

“อินมาเล่นนารูโตะกับกูดิ๊” บิ๊กชวน

“มาๆไอ้สาสกูกำลังรออยู่เลย” ผมลุกไปนั่งเล่นเกมกับบิ๊ก

ผมกับบิ๊กเล่นเกมกันอย่างสนุก ส่วนตันก็นอนคุยโทรศัพท์เงียบๆบนเตียง คงจะคุยกับแอนอยู่มั้งครับเห็นคลุมโปรงคุย

แค่เพราะหัวใจมันบอก อาจไม่ค่อยพอ แต่ฉันก็ยังมั่นใจ ว่าต้องใช่เธอ (เสียงมือถือผมครับ)

“ฮาโหลครับแม่”

“อยู่ไหน”

“หอน๊อตครับ”

“กี่โมงแล้ว เมื่อไหร่มึงจะกลับบ้าน วันนี้ก็ไปเมืองโบราณกันทั้งวันแล้วนะ ยังอยู่ด้วยกันไม่พอใช่ไหมกับเพื่อนหนะ ถ้ารักพวกมันมากมึงก็ไปอยู่กับพวกมันเล๊ย กลับมาดูงานที่บ้านมั้งนะแม่มึงทำจนจะตายแล้ว” แม่ผมพูดมาเป็นชุด ผมหน้าเสียเลยครับ

“ขอโทษครับแม่”

“มึงรีบกลับบ้านเลยนะ ถ้าไม่กลับคงได้เห็นดีกัน” แม่พูดจบก็วางสายไป

“แม่กูโทรมาให้กลับบ้านว่ะ”

“เดี๋ยวกูขออาบน้ำก่อนเดี่ยวไปส่ง” บิ๊กพูด

“มั่นเดี๋ยวกูขออาบน้ำก่อนมึงนะ จะรีบไปส่งอินมัน” บิ๊กพูด มั่นก็พยักหน้า

“งั้นเดี๋ยวกูลงไปรอข้างล่างเลยนนะ”

“เออๆ” บิ๊กพูดพร้อมกับเข้าไปอาบน้ำ เพราะน๊อตออกมาพอดี

ผมสะพายกระเป๋าเดินออกมานอกห้อง กำลังจะเดินลงไปชั้นล่าง (ห้องน๊อตอยู่ชั้น 4 บนสุดเลย) ผมเห็นป้านั่งคุยโทรศัพท์อยู่เงียบๆตรงทางเดินบันได จึงจะเข้าไปสวัสดีก่อนกลับ

“แม่ผมกลับก่อนนะครับ”

“อุ้ย!!!! ตกใจหมด” ป้าสะดุ้งแล้วหันมาหาผม

“ตกใจอะไรแม่ผมเอง”

“ทีหลังมาให้ซุ่มให้เสียงหน่อยสิอินแม่ตกให้หมด”

“ครับแม่ แล้วนี่แม่คุยกับใครอยู่หรอครับ” ผมถามป้า ป้าแกเงียบไปแปบนึงแล้วพูด

“อ๋อ แม่คุยกับเพื่อนที่โรงงานหนะ จะบอกให้มันลางานให้หน่อยแม่ไม่สบายอีกแล้วเนี่ย”

“ครับๆ งั้นผมกลับก่อนนะครับ” ผมกำลังจะสวัสดีป้า

“เดี๋ยวอิน” ป้าเรียกผม

“ครับแม่”

“อินชอบตันหรอลูก…….” แม่พูดคำนี้ออกมาผมถึงกับสะอึกเลยครับ หน้าซีดทำอะไรไม่ถูก

“เอ่อ....”

“บอกมาเถอะลูกแม่สังเกตออกนะ” ป้าเค้นผม ผมนึกในใจว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้วละป้าแกคงรู้หมดแล้ว บวกกับความเป็นเด็กหัวอ่อนจึงกลัวผู้ใหญ่เป็นธรรมดา

“......ครับ......” ผมตอบด้วยเสียงที่เงียบๆ และไม่สบตาป้าด้วยผมตอบทั้งที่ก้มหน้าอยู่แบบนั้น

จากนั้นมีเสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามา ผมจึงหันไปเพราะคิดว่าบิ๊กคงออกมาแล้ว

“อ่าว...ตัน....” ผมหันไปเจอตันครับไม่ใช่บิ๊ก

“อืม” ตันขานรับ

“ได้ยินแล้วใช่ไหมตัน” ป้าพูด

“……….” ตันไม่ตอบอะไร พร้อมกับมองมาที่ผมด้วยสีหน้านิ่งๆ ไม่รู้ว่าคิดอะไรเหมือนกัน

ตันมองผม ผมมองตัน คือผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรในใจกำลังคิดอยู่ว่าตันจะได้ยินสิ่งที่ผมพูดไหม

“นี่อินจะกลับแล้วหรอ” ตันถามผม

“เออใช่ๆ” ผมตอบ

“โอเคงั้นโชคดีนะ” ตันพูดสีหน้าปกติ

“โอเค” ผมพูดจบบิ๊กก็เดินมาพอดี

“อ่าวคิดว่าลงไปรอข้างล่างแล้ว” บิ๊กพูด

“เออกูกำลังจะลงไปนี่ไง”

แล้วบิ๊กก็พาผมไปส่งที่บ้าน เมื่อมาถึงผมรีบลงจากรถเครื่องแล้วบอกลาบิ๊ก บิ๊กก็ขันรถเครื่องออกจากบ้านผมไปเลย ผมรีบเดินเข้าบ้านไปโดยที่ยังไม่ได้เตรียมใจไว้เลยว่าจะโดนแม่ด่าอะไรบ้าง

“แม่สวัสดีครับ พ่อสวัสดีครับ” ผมสวัสดีแม่และพ่อ

“สวัสดีลูก” พ่อผมตอบ ส่วนแม่นั่งกินข้าวเงียบๆ

“ยังรู้จักว่าคนนี้พ่อ คนนี้แม่ด้วยหรอ คิดว่ารู้จักแต่เพื่อน” แม่ผมพูดน้ำเสียงโมโห

“……..” ผมไม่พูดอะไร ส่วนพ่อก็นั่งกินข้าวพร้อมกับดูทีวี เหมือนเขาไม่อยากยุ่งมากกว่าเลยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

“พ่อมึง แม่มึง ทำงานทั้งวันหาเงินมาให้พวกมึงใช้ ให้อยู่สุขสบาย มึงเคยไหมถามพ่อถามแม่ว่าเหนื่อยไหม กินอะไรไหมเดี๋ยวไปซื้อมาให้ เคยไหม” แม่ผมใส่เป็นชุด ผมหน้าเสียเลยครับ

“กูพูดเพื่อให้มึงตอบ” แม่ตะโคกเสียงดัง

“เธอก็ใจเย็นๆ คุยกับลูกมันดีๆหน่อย” พ่อพูดห้ามปรามแม่

“เธออยู่เฉยๆเลย ทีแบบนี้มาปกป้องลูกทีเวลานั้นละบ่นเหมือนกัน” แม่บ่นพ่อ พ่อผมก็เงียบไปเหมือนกันครับ

“กูเนี่ยเนื่อยนะ เหนื่อยมากด้วย ลูกอยากได้อะไรหาให้ได้หมด แต่ลูกไม่เคยสนใจพ่อแม่เลย” แม่ด่าด้วยน้อยใจด้วย ถึงเวลานั้นผมกลั้นน้ำตาไม่อยู่จึงร้องไห้ออกมา สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำสิ่งที่แม่พูดนั้นเป็นจริงทุกอย่าง ผมแทบไม่เคยทำอะไรให้พ่อแม่สบายใจเลย อาจจะมีบ้างแต่มันก็ไม่บ่อย

“มึงจะร้องไห้ทำไม พ่อแม่มึงตายหรอ มึงรีบขึ้นไปอาบน้ำนอนเลยนะ อย่าให้กูเห็นหน้ามึงตอนนี้ กูกำลังอารมณ์ไม่ดี” แม่ผมโมโหใหญ่เลยครับ ผมก็รีบเดินขึ้นห้องไปเลย
.
.
.
.
.
.   
แค่นี้ก่อนนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-04-2018 07:44:41 โดย Nuda »

ออฟไลน์ Nuda

  • คนดีสำคัญกว่าทุกสิ่ง Cr.ท่านพุทธทาสภิกขุ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
บทที่ 27 ทางที่ต้องเลือก

[วันอังคารที่ 24 มกราคม 2555]

วันต่อมาผมลุกตื่นอาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวไปเรียนเหมือนอย่างเคย ลงมาก็สวัสดีแม่ซึ่งแกกำลังรอใส่บาตรอยู่หน้าบ้าน แกก็รับไหว้ปกติคือแกอารมณ์ดีขึ้นแล้วครับ ไม่ได้โกรธอะไรผมแล้ว ผมก็สบายใจแล้วก็ตั้งใจว่าจะไม่ทำให้แกเสียใจอีก

ช่วงนี้เป็นช่วงสัปดาห์ท้ายๆของเทอม ปวช.3 อย่างพวกผมต้องเร่งปั่นวิชาโครงการกัน ผมลืมบอกไปเลยว่าผมเสนอหัวข้อผ่านไปเมื่อหลายเดือนแล้ว ชื่อหัวข้อผมคือ เครื่องช่วยฟังพร้อมฟัง MP3 ได้ และก็มีเรื่องกดดันจากที่บ้านด้วยเพราะพ่อแม่ให้ผมไปสมัครสอบที่ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สจล. ผมสมัครและ ปริ้นท์ใบสมัครสอบมาเรียบร้อยแล้วด้วย แต่ด้วยความที่ผมไม่อยากไปสอบจึงยืนกรานจะต่อ ปวส. ลูกเดียวเลยครับ เพราะในใจผมอยากอยู่กับตันต่อจึงเลือกต่อ ปวส. อีกอย่างเกรดเฉลี่ยผมถึงตามเกณฑ์ที่เทคนิควางไว้ ยังไงผมก็ได้โควตาไม่ต้องสอบครับ สุดท้ายพ่อแม่ผมก็ยอม

[เทคนิค]

หลังจากเมื่อวานที่ผมบอกป้าไปว่าผมชอบตัน และผมก็รู้ด้วยว่าตันได้ยิน วันนี้มาเรียนตันก็ยังคุยเล่นกับผมเหมือนเดิมปกติ ยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่าตันไม่ได้รังเกลียดผม

“อินอาจารย์บุญทันเรียกมึงให้เข้าไปพบที่ห้องอะ” กิ๊ฟเดินมาบอกผม ซึ่งตอนนั้นพวกผมนั่งเล่นกันอยู่แถวๆแผนก

“โอเคๆ แกมีเรื่องอะไรหรือป่าวว่ะ” ผมถาม
“กูก็ไม่รู้ว่ะเจอแกเมื่อกี้ แกเลยถามหามึง” กิ๊ฟพูดจบ ผมก็เดินขึ้นแผนกไปหาอาจารย์บุญทัน

- บนแผนก

“อาจารย์สวัสดีครับ” ผมสวัสดีอาจารย์

“อื้ม...เข้ามาก่อนอนิรุต”

“อาจารย์เรียกหาผมมีอะไรหรอครับ”

“พอดีมีโควตาของคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ที่ สจล. ส่งมาขอเด็กแผนกเราที่มีผลการเรียน 2.75 ขึ้นไป 2 คน ทีนี้มีกลุ่ม 2 เอาไปแล้ว 1 คน แต่ยังเหลืออีก 1 ที่ เธอสนใจไหม” อาจารย์พูด

ครั้งนี้ผมลังเลเพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมมันคืออนาคต และคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ก็เป็นคณะที่ผมใฝ่ฝันจะเรียนเพราะผมอยากเป็นครูช่าง อีกอย่างมันเป็นโควตาไม่ต้องไปแย่งสอบตรงกับเขา แต่อีกใจนึงผมไม่อยากหายไปจากตันผมอยากอยู่กับตันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผมไม่รู้จะตอบว่าอะไรดีจึงยืนเงียบอยู่สักพัก

“ว่าไงอนิรุต” อาจารย์พูดเพื่อขอคำตอบจากผม

“ผมขอต่อ ปวส. นะครับอาจารย์ ตอนนี้ผมยังไม่พร้อม ผมอยากศึกษาวิชาช่างแผนกเราให้มากกว่านี้ครับ จบ ปวส. ผมถึงจะไปต่อ ป.ตรีครับอาจารย์” ผมตอบ

“แต่โอกาสดีๆแบบนี้มันไม่ได้มาบ่อยนะอนิรุทธ์ จบ ปวส. ไปต่อครุศาสตร์อุตสาหกรรมอีกตั้ง 5 ปี มันจะเสียเวลา เสียเงินพ่อแม่นะ” อาจารย์พูดย้ำ

“ครับ....ผมตัดสินใจจะต่อ ปวส. ครับอาจารย์” ผมตอบอาจารย์ อาจารย์ทำหน้าอย่างเสียดาย

“ติดสาวหรือป่าวเนี่ยอนิรุต” อาจารย์แซวผมอย่างไม่เต็มใจแซวเท่าไหร่

“ผมไม่ได้ติดสาว ผมติดผู้ชายครับอาจารย์” ผมตอบไปอย่างไม่คิดอะไร เพราะหลังจากที่ผมบอกชอบตันกับป้าไป วันนี้ผมก็สารภาพกับเพื่อนทุกคน เพื่อนๆก็ตกใจกันยกใหญ่ คือมันอาจจะดูแปลกใช่ไหมครับที่ผมทำแบบนั้น แต่ผมเป็นคนแบบนี้จริงๆครับ ทำอะไรไม่ค่อยคิด พูดอะไรออกไปก็ไม่คิด คิดอย่างเดียวว่าทุกคนต้องรับได้อยู่แล้ว ผมมองโลกในแบบนั้นมาตลอด

“หืม....จริงหรือป่าวเนี่ยอนิรุต” อาจารย์บุญทันพูดพร้อมกับถอดแว่นสายตาออก แล้วทำหน้าตกใจใส่ผม

“จริงครับอาจารย์ ผมก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกเหล่านี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงนะครับ แต่ผมชอบอภินันท์ครับอาจารย์ ชอบมานานแล้วด้วยครับ” ผมบอกความรู้สึกทุกอย่างให้อาจารย์บุญทันผู้เป็นที่ปรึกษาของผมฟังทั้งหมด

“อนิรุต....เรื่องที่เธอจะเป็นอะไรนั้นอาจารย์ไม่ขัดขวางหรอกนะ เพราะลูกศิษย์ก็คือลูกศิษย์ แต่เธอรู้อะไรไหม ในทางพุทธศาสนานั้นเขามักจะบอกว่าเกิดเป็นผู้ชายนับว่าโชคดีเพราะอะไรเธอรู้ไหม” อาจารย์พูด

“ไม่รู้ครับอาจารย์”

“นั่นก็เพราะผู้ชายมีโอกาสได้บวช เพื่อบรรลุธรรมถึงขั้นนิพพานได้อย่างไรละ เธอนับว่าโชคดีมากนะที่เกิดเป็นลูกผู้ชาย” พูดจบ อาจารย์บุญทันก็หยิบย่ามพระที่พับอยู่บนหิ้งพระของห้องแล้วส่งให้ผม ผมก็รับไว้อย่างไม่เข้าใจความหมาย และไม่รู้ว่าอาจารย์ให้มาทำไมด้วย ผมคลี่ย่ามออกมองดูมีลายปักเป็นรูปดอกบัวใต้รูปปักคำว่า ทำดีได้ดี

“ลองไปคิดดูให้ดีๆก็แล้วกัน.....”

“ครับ” ผมรับคำอย่าง งงๆ แล้วก็เดินออกนอกห้องไป

วันนี้หลังเลิกเรียนผมแวะไปหอน๊อตเช่นเคย คงไม่ต้องบอกนะครับว่าอะไรจูงใจให้ผมไป 555+

[หอน๊อต]

มาถึงผมก็สวัสดีป้า ส่วนน๊อต มั่น บิ๊ก รีบแต่งตัวไปทำงาน KFC ก็คงเหลือ ผม ชัย ตัน และป้า เมื่อเพื่อนออกไปทำงานผมก็นั่งเล่นเกมกับชัยสองคน ส่วน ป้ากับตันก็นอนเล่นบนเตียง

“เออ อินซักเสื้อผ้าให้ตันหน่อยสิลูก” ป้าพูด พร้อมกับหยิบเสื้อกับกางเกงของตันมาให้ผม

“ครับๆ ผมขอเล่นเกมตานี้จบก่อนนะครับ”

“จ้า ต้องแบบนี้สิถึงจะสมกับที่เป็นเมียตันเขา” ป้าพูด คือผมไม่ชอบให้ใครมาพูดว่าผมเป็นเมียนะครับ เอาตรงๆผมก็เป็นผู้ชายปกตินี่แหละครับ เพียงแค่ชอบผู้ชายด้วยกันเฉยๆ

เล่นเกมจบผมก็เอาเสื้อผ้าตันไปสักในห้องน้ำ ผมซักไปสักพักป้าก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับโยนเสื้อในแก

“อันนี้ของแม่ผัว แม่ฝากซักด้วยนะลูก” ป้าพูดจบก็ปิดประตูห้องน้ำให้

ผมก็ก้มหน้าก้มตาซักไป ผมเป็นคนที่ซักผ้าด้วยมือเปล่าไม่เป็นนะครับ ปกติอยู่ที่บ้านผมจะซักเครื่อง ครั้งนี้ไม่รู้จะซักยังไงผมเลยเอาแปรงขัดในห้องน้ำนั่นแหละมาขัดเสื้อผ้าและเสื้อในป้าเขา ในใจหวนนึกไปถึงแม่ของตัวเอง เกิดมายังไม่เคยซักเสื้อผ้าให้พ่อแม่เลย แล้วป้าคนนี้แกเป็นใครทำไมเราถึงซักให้เขาได้ คิดไปคิดมาก็นึกว่าเอาเถอะ เพื่อตันผมทำได้หมด คิดดังนั้นผมจึงก้มหน้าก้มตาซักต่อไป

ซักเสร็จเดินออกมาก็ไม่เห็นป้ากับชัยแล้ว ไม่รู้ออกไปไหนมีเพียงตันนอนหลับอยู่ ผมจึงเอาเสื้อผ้าตันกับเสื้อในป้าไปตากที่ระเบียง ตอนออกไปผมเห็นป้านั่งหันหลังคุยอะไรกับชัยก็ไม่รู้ครับเพราะผมไม่ได้ยินตรงบันไดทางลง แต่ผมก็ไม่ได้สนอะไรเดินเข้ามานั่งเล่นเกมต่อ สักพักชัยก็เดินเข้ามาแล้วบอกผมว่าป้าเรียกผมให้ออกไปข้างนอกหน่อย ผมก็เดินออกไปหาป้าครับ

“อิน”

“ครับแม่”

“ตันรู้แล้วนะว่าเราชอบหนะ” ป้าพูด ผมไม่แปลกใจหรอกครับ ผมว่าตันคงรู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

“ครับ”

“แม่ลองถามเขาแล้วนะ ตันมันก็บอกไม่ได้รังเกลียดอะไรเรา” ป้าพูดคำนี้ผมรู้สึกใจชื้นมากเลยครับ

“แม่ขอบใจนะที่คอยดูแลตันตลอดเวลา แต่รู้ใช่ไหมว่าตันกับแอนคบกันอยู่ แล้วสักวันเขาก็ต้องแต่งงานกัน”

“ครับ ผมรู้ครับผมจะอยู่แบบนี้แหละครับ ผมไม่คิดจะครอบครองอยู่แล้วครับ แค่ตันรู้สึกดีและไม่รังเกลียดผมก็พอแล้วครับ” คำพูดที่ผมตอบอาจจะดูเหมือนผู้ใหญ่เข้าใจโลก แต่จริงๆแล้วผมตอบไปแบบนั้นแหละครับ ซึ่งผมยังไม่เข้าใจว่าความรักจริงๆแล้วมันมีอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านี้ทั้งทางบวกและลบ

ป้าแกก็เงียบๆไม่พูดอะไร

“เออ อินจะกลับบ้านตอนไหนหรอ”

“เดี๋ยวอีกสักพักก็จะกลับแล้วละครับ”

“อื้ม ถ้ากลับตอนไหนบอกแม่นะ แม่จะเดินไปส่ง”

“ครับๆ”

“เข้าไปเล่นเกมต่อเถอะลูก แล้วเรียกชัยออกมาให้ที”

“ครับๆ” พูดจบผมก็เดินเข้าไปในห้องเรียกชัยออกไปหาป้า ส่วนผมก็นั่งเล่นเกม

นั่งเล่นไปสักพัก ผมนึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้มีการบ้านวิชาภูมิเศรษฐศาสตร์อยู่ ซึ่งเรียนกับอาจารย์สุดใจ ยังจำอาจารย์สุดใจกันได้อยู่ใช่ไหมครับ ผมจึงหยิบสมุดของตันที่อยู่ในกระเป๋าออกมาทำให้ ขณะที่ตันหลับอยู่ ผมมองดูตันที่นอนหลับอย่างมีความสุข ในใจก็คิดไว้ว่าตัวเราจะอยู่ช่วยเหลือ คอยดูแล และมอบสิ่งดีๆให้คนคนนี้ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ทำเสร็จผมก็นั่งเล่นเกมต่อ แล้วชัยกับป้าก็เดินเข้ามา

“อ่าวชัย มานั่งเล่นด้วยกันดิ เล่นคนเดียวเบื่อๆว่ะ” ผมชวน

“เอาเลยๆกูขอออกไปดูดบุหรี่ก่อน”

“โอเคๆ”

“เดี๋ยวๆ อินมึงหยิบบัตร ATM กูบนที่นอนให้ที” ชัยพูดผมก็หยิบให้ แล้วมันก็เดินออกไปข้างนอก

“แม่ครับผมจะกลับแล้วนะครับ” ผมบอกกับป้าพร้อมกับปิดเครื่องเกมและสะพายกระเป๋า

“อ่าว อินจะกลับแล้วหรอ” ตันตื่นมาพอดีครับ

“ใช่ๆ เออนี่การบ้านของอาจารย์สุดใจ กูทำให้เสร็จแล้วนะอยู่ในกระเป๋าอะ”

“โอเค ขอบใจมาก” ตันพูดยิ้มๆ

“ปะเดี๋ยวแม่ไปส่ง”

ผมเดินออกจากหอมากับป้า เดินคุยไปตามทางเรื่อยๆ สักพักป้าแกก็บ่นเหนื่อยขอนั่งพักแปบนึง แกนั่งอยู่หน้าร้านอะไรสักอย่างนี่แหละครับ นั่งหน้าร้านเขาคงไม่ว่าอะไร เพราะตอนนั้นร้านเขาดึงประตูปิดไปแล้ว

“อิน แม่มีเรื่องจะรบกวนหน่อยหนะลูก”

“อะไรหรอครับแม่”

“ตอนนี้เงินแม่หมดแล้ว เพราะต้องจ่ายให้ตันไปเทคนิคทุกวัน อีกอย่างตั้งแต่แม่มานอนอยู่หอน๊อต แม่ก็ไม่ได้ไปทำงานหลายวันแล้วลูก แต่เดี๋ยวอีกไม่กี่วันเงินเดือนแม่ก็จะออกแล้วแหละ ถ้ายังไงแม่ขอยืมอิน 500 บาท ได้ไหมลูก แล้วพอเงินเดือนแม่ออกแม่จะคืนให้ ถ้าอินรักตันจริงๆขอให้เห็นแก่ตันหน่อยนะลูก แม่ไม่อยากให้ตันรู้ว่าแม่ยืมเงินอิน กลัวตันจะโกรธแม่หนะ” ป้าพูด ตอนนั้นผมสงสารป้ามาก และก็สงสารตันด้วยกลัวตันจะไม่มีมีเงินไปเรียน พอดีตอนนั้นผมมีเงินค่ากิจกรรมอยู่ 700 กว่าบาท ไอ้เงินกิจกรรมที่ว่านี่เป็นเงินที่คนในห้องช่วยกันจ่าย ทำกิจกรรมชมรมวิชาชีพ เป็นกิจกรรมนึงที่ต้องทำทุกเทอมครับ ผมจึงหยิบออกมาให้ป้าโดยไม่คิดอะไร คิดเพียงว่าตันมีความสุขผมก็พอใจแล้ว

“ขอบใจมากนะลูก แม่ไม่ผิดหวังเลยที่คิดให้เราช่วยหนะ” ป้าพูดขอบคุณผมใหญ่เลย

“ไม่เป็นไรครับแม่ อะไรที่ช่วยตันได้ผมพร้อมจะช่วยครับ”
.
.
.
.
.
.
แค่นี้ก่อนนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-04-2018 07:45:24 โดย Nuda »

ออฟไลน์ Nuda

  • คนดีสำคัญกว่าทุกสิ่ง Cr.ท่านพุทธทาสภิกขุ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
บทที่ 28 จิตใจของป้ากับความจริงที่ถูกเปิดเผย

หลังจากที่ผมให้เงินป้าเสร็จ ป้าแกก็ขอส่งผมเท่านี้แกบอกว่าเดินต่อไม่ไหวเหนื่อย ผมจึงเดินไปคิวรถสองแถวคนเดียว เมื่อถึงสะพานลอยที่จะข้ามไปฝั่งคิวรถผมเจอ กร กลุ่ม 6 เดินสวนมาพอดี

“อ่าวกร” ผมทัก

“อ่าว...ว่าไง” กรทักกลับ

“เออเห็นอาจารย์จงบอกว่ามึงทำโปรเจคหัวข้อเดียวกับกูเลยใช่ปะ”

“ใช่ๆ เครื่องช่วยฟังพร้อม MP3 ใช่ไหมละ”

“ใช่ๆ แล้วหาเครื่องเล่น MP3 ได้มั้งยัง”

“ยังเลยเนี่ย ว่าจะเข้าไปหาดูตามตลาด”

“หรอๆ งั้นฝากด้วยดิได้ปะ”

“ได้ๆ”

“เท่าไหร่อะ ต้องให้เงินเลยปะ”

“ใจเย็นๆ ไว้เจอก่อนเดี๋ยวซื้อมาให้แล้วค่อยเก็บเงิน”

“โอเคๆ ขอบใจมาก” พูดจบก็ต่างคนต่างเดิน ผมก็เดินขึ้นรถสองแถวกลับบ้านไป

ขอพูดถึงกรอีกรอบนะครับ แต่เหมือนจะเคยพูดถึงไปแล้วแหละ คือกรเป็นผู้ชายตัวขาวหน้าตาน่ารักออกไปทางผู้ชายหน้าหวาน บุคลิกภายนอกเหมือนผู้ชายตุ้งติ้งพูดง่ายๆน่าจะเป็นเหมือนเกย์รับอะไรประมาณนี้อะครับ
.
.
.
.
.
หลังจากวันนั้น ผมก็เข้าไปหอน๊อตเช่นเคยเหมือนทุกวัน ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าป้าเริ่มแปลกๆ แกชอบหายออกไปข้างนอกแล้วเรียกเพื่อนออกไปหาแกทีละคน พอคนนี้เข้ามาก็จะมาบอกให้อีกคนเดินออกไป คนที่ไม่โดนเรียกเลยน่าจะเป็นบิ๊กคนเดียวเพราะบิ๊กกับป้าไม่ค่อยสนิทกัน  ส่วนเรื่องเงิน 500 บาท ผมไม่เคยทวงแกเลยมีแต่แกบอกว่าให้รอก่อนอีกไม่กี่วันก็จะได้แน่นอน อีกอย่างช่วงพักหลังมานี้ตันไม่ค่อยไปเรียนด้วย ส่วนป้าแกก็ไม่ไปทำงานนานมากแล้ว ไม่รู้ว่าแกโดนไล่ออกแล้วหรือยัง

ระหว่างทางบิ๊กชวนผมคุยเรื่องป้า ว่าป้าแกทำตัวแปลกๆ ไม่น่าไว้ใจ ผมเองก็พูดเรื่องนี้กับบิ๊กเหมือนกัน รวมถึงเรื่องที่ป้าขอยืมเงินผมด้วย บิ๊กยังบอกผมด้วยว่าคนชื่อ “แอน” อาจจะไม่มีตัวตนก็ได้ แอนตัวจริงคงเป็นป้าคนนั้นแหละ เพราะจากที่สังเกตป้าแกก็ทำตัวไม่เหมือนเป็นป้าจริงๆอะครับ มันเกิดป้าไปแล้วมันเหมือนพวกผู้หญิงที่ใช้เงินเลี้ยงเด็กผู้ชายอะไรประมาณนี้ ส่วนแอนนั้นก็คงเป็นนามสมมุติที่ใช้ลอกคนอื่นๆ เพื่อปิดบังตัวเอง เรื่องนี้คงมีแค่ตันกับป้าที่รู้กันอยู่สองคนแน่นอน แต่เรื่องที่ตันไม่รู้อาจจะเป็นเรื่องที่ป้ายืมเงินผม เพราะถ้ารู้ตันคงเลิกยุ่งกับป้าแน่ๆเพราะไม่มีเงินเลี้ยงแล้ว

อันนี้ผมคิดของผมเองนะครับ และบิ๊กยังเล่าอีกว่าป้าเคยเรียกบิ๊กไปคุยอยู่ครั้งนึงประว่ามาณ “เมื่อกี้ป้าคุยกับชัย ชัยบอกว่าไม่ชอบบิ๊ก” คือพูดง่ายๆนะครับ เวลาที่ป้าแกเรียกใครออกไปถ้าไม่พูดยุแยงให้แตกกัน ก็จะเป็นเรื่องยืมเงินนี่แหละ บิ๊กก็เคยโดนยืมเงินไป 300 บาท แล้วไม่คืนด้วย เมื่อรู้แบบนี้บิ๊กก็บอกกับผมว่าให้อยู่ห่างๆแกไว้เป็นดี   หลังจากที่บิ๊กมาส่งผมที่บ้าน ผมก็โดนแม่สวดยับเหมือนเดิม

วันต่อมาน๊อตถามผมว่า “ไปพูดอะไรกับบิ๊ก” ผมก็งงน๊อตเลยเล่าว่า “เมื่อคืนหลังจากที่บิ๊กกลับมาถึงห้องก็เก็บของเดินออกนอกห้องไปเลย” น๊อตก็ถามว่า “จะไปไหน” บิ๊กไม่ยอมบอก บอกแค่ว่า “เป็นอย่างที่คุยไว้กับไอ้อินเลย” พวกนั้นจึงสงสัยและโทรหาผมทั้งคืน ถ้าผมจำไม่ผิด 36 สาย แต่ผมไม่ได้รับเพราะเวลานอนผมจะปิดเสียงตั้งสั่นเอาไว้ ผมก็อธิบายไปประมาณว่า “ไม่มีอะไรนะกูไม่ได้พูดอะไรเลย อีกอย่างที่ไม่ได้รับสายเพราะกูตั้งสั่นเอาไว้” แต่เหมือนไม่มีใครเชื่อ มันก็จริงแหละครับใครจะไปเชื่อ จากนั้นพวกน๊อต ชัย มั่น และตัน ก็ไม่ค่อยพูดคุยกับผมอยู่ 2-3 วัน  ผมตามตื้ออยู่ 1 วัน กว่าจะกลับมาคุยด้วย แล้วผมก็ยังกลับไปที่หอน๊อตนะครับผมหักห้ามใจจากตันไม่ได้จริงๆ แต่การไปในแต่ละครั้งนั้นผมระมัดระวังตัวจากป้ามากขึ้น
ส่วนบิ๊กหลังจากวันที่หนีออกจากหอวันต่อมาก็ไม่มาเรียน โพล่มาทีก็อีกวันเลยพวกน๊อตถามว่าไม่ค้างที่ไหนก็ไม่ยอมบอก เวลาเลิกเรียนบิ๊กจะหายตัวไปไวมากครับ 
.
.
.
.
.
.
วันนี้หลังเลิกเรียนพวกผมนัดกันไปเดินเล่นห้างในเมือง

“เฮ้ย กูถามจริงเถอะ มันมีอะไรหน้าเดินว่ะ เดินมา 3 ปีแล้ว ไม่เบื่อกันหรือว่า 555+” บาสพูด

“เอออัยเอี้ย ไอ้เอื่ออันอื๋อไออ๊ะ” แรกพูด ประมาณว่า เออไอ้เหี้ยไม่เบื่อกันมั้งหรือไงว่ะ

“เออน่ามาดูสาวๆ” น๊อตพูด

เราเดินขึ้งมาชั่งที่ชั้น 2 มันจะมีม้านั่งวางให้คนเดินห้างนั่งครับ

“เฮ่ยๆมึงดูดิคนนี้แม่งแจ่มว่ะว่ามะ” มั่นชี้สาวให้ เพื่อนๆดูแต่คุยกันอยู่เงียบๆนะครับไม่ให้เขารู้ตัว

“ไหนๆคนไหน” ตันร่วมด้วย

ผมนั่งรอเพื่อนๆนั่งเหล่สาวกันอยู่สักพักก็มีกลุ่มสาวอาชีวะกลุ่มนึงเดินมา

“เฮ่ยกูชอบคนนี้ว่ะ” ตันพูด ผมฟังอยู่เงียบๆ
 
“มึงก็ไปขอเบอร์ดิว่ะ อย่าให้เสียโอกาสไอ้สัส” น๊อตพูด

“ไอ่ห่ากูไม่กล้าว่ะ น๊อตมึงขอให้กูทีดินะนะ เดี๋ยวกูเลี้ยงเบียร์เลยคืนนี้ที่หอมึง” ตันขอให้น๊อตช่วย จากนั้นน๊อตจึงลุกเดินไปขอเบอร์สาวอาชีวะคนนั้น เขาก็ให้มาพร้อมบอกชื่อด้วย

ตอนนั้นใจผมกระจ่างขึ้นมาเลยครับ เข้าใจเลยว่ายังไงตันก็ไม่มีวันมาชอบผมหรอก ตันเป็นผู้ชายแท้ๆ ผมไม่จำเป็นต้องรอฟังคำตอบจากปากตันด้วยซ้ำว่าตันชอบผมหรือไม่ เพราะสิ่งที่เห็นมันก็ตอบผมได้อย่างชัดเจน ถ้าตันชอบผมจริงๆตันคงไม่ไปเหล่สาว และให้น๊อตไปขอเบอร์สาวเพื่อหักหาญน้ำใจผมอย่างแน่นอน ตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ผมลุกออกจากที่นั่งบอกเพื่อนๆว่า “กูกลับก่อนนะ” พูดจบ เหมือนเพื่อนๆไม่ได้สนใจอะไรผมเท่าไหร่ ผมจึงเดินลงบันไดเลื่อนกลับบ้านทันที ระหว่างทางกลับบ้านเสียใจอยู่ตลอดทาง แต่แปลกที่ผมไม่เคยเสียน้ำตาให้กับตันเลย หรือมันยังไม่ถึงที่สุดก็ไม่รู้นะครับ

กลับมาถึงบ้าน ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง เกี่ยวกับป้าคนนั้นกับตันรวมถึงเรื่องที่ผมโดนยืมเงิน 500 บาท แล้วไม่คืนด้วย ทีแรกผมก็คิดว่าแม่จะโกรธผมแต่สุดท้ายแม่กลับสอนผมให้ทันคน ส่วนเงิน 500 บาท แม่ผมยินดีจ่ายชดเชยค่ากิจกรรมให้ แม่บอกว่า “ถือว่าซื้อบทเรียนสอนลูกก็แล้วกัน” และแม่ก็สั่งห้ามไม่ให้ผมไปหอน๊อตอีกด้วย

วันต่อมาเวลาที่ผมเจอตันผมจะไม่คุยกับตัน ตันชวนผมคุยบ่อยมากแต่ผมก็เงียบไม่มองหน้าไม่อะไรทั้งนั้น จนตันเริ่มโมโห ผมจำได้แม่นมากตันพูดว่า “มึงเป็นอะไรว่ะ กูไปทำอะไรให้มึงไม่พอใจมึงก็บอกกูดิว่ะ” ตันพูดแบบอารมณ์เสียสุดๆ แต่ผมก็ไม่สนใจอะไรนั่งเงียบๆอย่างเดียว จนสุดท้ายตันก็ไม่คุยกับผมเหมือนกัน

ต่อมาน๊อต ชัย และมั่น มาปรึกษาผมเรื่องป้าคนนั้น คุยกันไปคุยกันมาพวกน๊อตก็โดนเหมือนผมกับบิ๊กเลยครับ ทุกคนจึงวางแผนหาทางให้ป้าคนนั้นออกจากหอน๊อตไป เพราะป้ากับตันมาอยู่นานแล้วไม่ช่วยออกค่าห้องค่าน้ำค่าไฟเลย และป้าก็ดูเป็นตัวอันตรายไปแล้วด้วย

เวลาผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ ใกล้จบ ปวช.3 ขึ้นมาทุกที ทุกคนวุ่นกับโปรเจคมากๆ ผมเองก็เช่นกัน กลุ่มผมมี ผม แรก น๊อต พูดถึงวิชาเรียกในแผนก ช่วงนี้ตันไม่ค่อยมาเรียน จนอาจารย์ถามว่า “ตันหายไปไหนมีปัญหาอะไรที่บ้านหรือป่าว” ผมจึงเล่าเรื่องทุกอย่างให้อาจารย์ฟังเกี่ยวกับตันและป้าคนนั้น อาจารย์จึงประสานไปที่อาจารย์บุญทัน จากนั้นอาจารย์บุญทันก็โทรไปบอกแม่แท้ๆของตัน

ตกดึกมีคนโทรมาหาผม

“ฮาโหล......”  ผมตอบตันอย่างไม่อย่างตอบ

“อินนี่ตันเองนะ ตันรู้เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับป้าแล้วละ ขอโทษนะที่โกรธอินเรื่องที่ไม่คุยกับตันหนะ” ตันพูด จริงๆแล้วที่ผมไม่คุยกับตันสาเหตุคือผมเสียใจอกหักจากตันก็เท่านั้น แต่ผมขี้เกียจจะอธิบายเลยปล่อยไปตามนั้น

“อืม ไม่เป็นไรหรอกตัน”

“ตอนนี้ตันอยู่กับพวกน๊อตนะ กำลังจะไปบ้านมั่นเพื่อปรึกษาพ่อแม่ของมั่นว่าจะรับมือป้ายังไง”

“อ๋อ”

“เดี๋ยวตันเข้าไปรับอินนะ”

“โอเคๆ” พูดจบก็วางสายไป

คืนนั้นผมรอตันมารับอยู่บนห้อง แต่ตันก็ไม่มาสักทีผมมองไปข้างหน้าต่างเห็นรถกระบะตันขับมาจองหน้าบ้าน แล้วก็ขับออกไปคงเพราะเกรงใจไม่กล้าเรียกผมละมั้งครับ เพราะตอนนี้พ่อแม่ผมปิดไฟน้องกันหมดแล้ว เมื่อเห็นรถตันขับออกไปผมก็เลยนอนหลับดีกว่า ก่อนนอนผมเปิดเสียงมือถือไว้เผื่อตันโทรมา

กลางดึกมีคนโทรมา ผมดูชื่อคนโทรเข้าสรุปว่าป้าโทรมาครับ ผมจึงกดรับสายไป ป้าโทรมาร้องไห้พร้อมกับต่อว่าผมต่างๆมากมายเกี่ยวกับที่ผมเอาเรื่องป้าไปบอกอาจารย์ ทำให้อาจารย์ไปบอกแม่ของตัน แล้วทำให้ตันหนีออกจากหอน๊อตไป ตอนนี้ยังไม่กลับ แต่ผมรู้อยู่ในใจแล้วละครับที่พวกนั้นไม่กลับกันเพราะไปปรึกษาพ่อแม่ของมั่นเพื่อหาทางรับมือป้าคนนี้ ต่อว่าผมอยู่สักพักแกก็วางสายไป แล้วบิ๊กก็โทรมา บิ๊กบอกว่า “กูได้ยินทุกอย่างเพราะกูอยู่หอเพื่อนที่อยู่ตรงข้ามกับหอน๊อต ยัยป้าร้องไห้ว่ามึงเสียงดังกูได้ยินหมดเลย ไม่ต้องคิดมากนะเพื่อนมันทำอะไรมึงไม่ได้หรอก” บิ๊กพูดจบก็วางสายไป ผมก็นอนหลับ

มันมีรายละเอียดยิบย่อยอีกมาก แต่ผมขอสรุปที่จะปมนะครับ

- ปมที่ 1 บทที่ 25 “ความรู้สึกของคนไม่ใช่ของเล่น” ตอนที่ตันถูกมิ้งหักอกแล้วขึ้นมานอนบนเตียงกับผมจะมีช่วงที่ป้าแกกดโทรศัพท์ แล้วที่มิ้งโทรมาหาตันเป็นเพราะป้าแกปั่น แกส่ง SMS ไปหามิ้งแต่ผมจำไม่ได้ว่าอะไร เพราะตอนนั้นพวกชัย นอต มั่น แอบเอาโทรศัพท์ป้าแกมาเปิดดูตอนที่แกหลับตอนกลางคืนครับ มี SMS ที่ส่งถึงมิ้งเยอะมากๆ ชัยเล่าว่าเรื่องที่แกส่ง SMS หามิ้งไม่มีเหตุการณ์จริงเลยสักเรื่อง ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังครับ เช่น ตันไม่ได้ชอบมิ้ง แต่ป้าส่ง SMS ไปบอกมิ้งว่าตันชอบมิ้ง อะไรประมาณนี้ครับ แล้วเรื่องของคืนที่มิ้งโทรหาตันตอนที่อกหักนั้นป้าแกก็ปั่นให้มิ้งโทรไปหาครับ

- ปมที่ 2 บทที่ 27 “ทางที่ต้องเลือก” ตอนที่ป้ายืมเงินผมจริงๆแล้วป้าแกตกงาน เนื่องจากมาอยู่หอน๊อตเป็นเดือนๆ จนแกถูกไล่ออกแล้วก็ไม่มีเงินมาเลี้ยงตัน คงกลัวว่าตันจะหนีหายไปจากแกมั้งครับ แกจึงยืมเงินเพื่อนผมแทบทุกคนเลย ชัยก็ด้วยตอนที่ผมกำลังจะกลับบ้านแล้วชัยเดินเข้ามาให้ผมหยิบ ATM ให้มัน มันมาเล่าตอนหลังว่าป้าแกขอยืมเงินแต่ห้ามบอกใคร แกก็อ้างเรื่องตันติดปัญหานู้นนี่นั่น จริงๆแล้วเป็นที่ตัวแกเองทั้งนั้นครับ

- ปมสุดท้าย ทุกตอนที่ตันคุยโทรศัพท์กับคนที่ชื่อ “แอน” จริงๆแล้วแอนไม่มีตัวตนแอนตัวจริงก็คือ “ป้า” แกนั่นแหละครับ ปมนี้ผมและเพื่อนๆคุยกันแล้วตอนนั้นว่าป้ากับตันต้องมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งออกแนวชู้สาวครับ คงประมาณว่าป้าแกเป็นเจ็เลี้ยงเด็กอะไรประมาณนี้ครับ ส่วนตันก็ยังวัยรุ่นอยู่มีคนเอาเงินมาให้มาเปย์ก็คงชอบไม่ใช่น้อย ผู้อ่านทุกท่านสังเกตทุกตอนที่ตันคุยโทรศัพท์ป้าแกจะไม่อยู่ในห้องครับ แกจะออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกแล้วอ้างว่าคุยกับเพื่อนทุกครั้งแกคงคิดว่าพวกผมเป็นเด็กหลอกง่ายมั้งครับ ส่วนเบื้องลึกเบื้องหลังเขาเคยมีอะไรกันไหมเรื่องนี้ไม่มีใครรู้จนถึงทุกวันนี้ครับ เพราะไม่มีใครอยากพูดถึงมันอีก

ผมขอสรุปเรื่องป้าเลยนะครับ หลังจากวันนั้น ป้าก็ทั้งโทรทั้งส่งข้อความมาหาผมมากมาย แต่ผมไม่รับอะไรทั้งนั้น สุดท้ายผมรำคาญจนต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ และป้าแกก็หายไปจากชีวิตของผม จากนั้นแกก็ออกจากหอน๊อตไป

ส่วนมิ้งนั้นผมฟังจากชัยเล่าให้ฟังเขาเป็นผู้หญิงขี้อ่อยทุกท้ายแล้วเขาก็ได้กับเพื่อนผมทุกคน น๊อต มั่น ชัย และบิ๊ก ส่วนตันนั้นชัยไม่ได้พูดถึง และผมยังทราบจากบิ๊กอีกว่าบิ๊กเคยชอบมิ้งมาก่อนที่มิ้งจะเจอกับตันเสียอีก สักเกตใน บทที่ 24 “หึงหวง” ตอนที่ตันโทรมาชวนบิ๊กไปหน้าศาลแล้วบิ๊กทำอารมณ์เสียบอกว่าไม่ไปไม่ค่อยสบายแล้วส่งผมไปแทนนั่นแหละครับ ผมได้รู้จากปากบิ๊กเองนี่แหละว่าบิ๊กเคยชอบมิ้งมาก่อน แต่มาโดนมิ้งหักออกไปเล่นกับตัน

หลังจากนั้นทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ จากเหตุการณ์ที่เกิดนั้นทำให้เพื่อนๆทุกคนรักใคร่ปรองดองกันมากยิ่งขึ้น ก่อนจะถึงวันจบพวกบาสตั้งเฟสกลุ่มของพวกเราขึ้นว่า “My friends.. EN.3/4 ความทรงจำดีๆ ที่พวกเรามี แระจะมีกันตลอดไป” จนในที่สุดก็มาถึงวันที่ทุกๆคนรอค่อยนั่นก็คือวันรับใบประกาศนียบัตร

[วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2555]

ณ วิทยาลัยเทคนิคXXXX

วันนี้ทุกคนแต่งชุดนักเรียนเสื้อขาวทับในกางเกง อาจารย์บุญทันใส่ชุดครุย ป.โท ของมหาวิทยาลัยบูรพา ดูสง่ามากครับ ช่วงเช้าพวกเรากลุ่ม 3-4 ถ่ายรูปหมู่ที่หน้าพระวิษณุกรรม จากนั้นก็เดินถ่ายรูปเล่นกันจนถึง เวลา 13.00 น. ก็เข้าหอประชุม มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้มอบใบประกาศ กลุ่ม 3 จบทุกคน กลุ่ม 4 มีจบแค่ ผม บาส แรก บิ๊ก น๊อต ตัน ส่วน โจ๋ โอ๊ต อาฟู่ และชัย ไม่จบเพราะไม่ส่งโปรเจค ในระหว่างพิธีรับใบประกาศนั้น ผมรู้สึกปวดท้องมาก ไม่ได้ปวดขี้นะครับ มันปวดบิดปวดมากๆ ผมนั่งทนจนเหงื่อหยุดเต็มตัวไปหมด แต่ผมไม่ได้บอกใคร จนกระทั่งพิธีทุกอย่างเสร็จทุกคนก็เดินออกจากหอประชุม ผมเดินไปที่แผนกเจอแม่และอุ้ม มายืนรออยู่ ผมจึงถ่ายรูปกับแม่และอุ้มที่หน้าแผนก จากนั้นก็ถ่ายกับอาจารย์บุญทัน และคนที่สุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือตัน เรายืนถ่ายคู่กันที่หน้าแผนก ความปวดยังคงมีอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายผมจึงบอกแม่และรีบกลับ แม่บอกจะพาไปหาหมอผมก็โอเค ผมเดินขึ้นรถเมล์กับแม่และอุ้ม โดยไม่ล่ำลาเพื่อนๆเลย (แม่ไม่ได้เอารถมาเพราะพ่อเอาไปทำงาน)

ในระหว่างทางกลับผมนอนปวดท้องตลอดเวลารถเมล์ก็ขับช้ามากๆครับ กว่าจะถึงในเมืองเป็นชั่วโมงเลย พอมาถึงในเมืองแม่ก็รีบพาผมไปโรงพยาบาล สรุปว่าผมอาหารเป็นพิษลำไส้อักเสพหมอจ่ายยามา ผมก็กลับไปนอนพักผ่อนที่บ้าน นึกเสียดายนะครับวันจบทั้งทีไม่ได้อยู่กินเลี้ยงกับเพื่อนๆ เช้าวันต่อมาตันโพสต์หน้าไทม์ไลน์ผมว่า

[ตันโพสต์]
นายเมื่อวานไม่มากินหมูย่างว่ะนาย

[ผมตอบ]
หลังจากออกจากเทคนิคก็แวะไปโรงพยาบาล กระเพาะอักเสบอะปวดมาก ปวดตั้งแต่ในห้องประชุมแล้ว (T^T)

[ตันตอบ]
อ่าวแร้วไม่บอกจะได้บอกอาจานให้

[ผมตอบ]
อ๋อไม่เป็นไร

[จบการคอมเม้นท์]

หลังจากวันนั้นความรู้สึกของผมที่มีให้ตันมันก็ยังคงเดิมอยู่ มันเป็นความรู้สึกที่ทรมานอย่างบอกไม่ถูก กินไม่ค่อยได้นอนไม่ค่อยหลับ การตัดใจจากใครบางคนมันยากมากเลยนะครับ แม่เห็นผมเป็นแบบนั้นก็สงสัยแต่ผมก็บอกแม่ว่า “ผมไม่ได้เป็นอะไรแค่เบื่อๆไม่มีอะไรทำ” แม่จึงให้ผมไปเที่ยวหาเมย์ที่สมุทรปราการเผื่ออะไรมันจะดีขึ้น ครั้งนี้ผมได้ไปหาเพื่อนที่ ส.ป. ด้วย ยังจำเพื่อนผมที่ชื่อ เจ็สี่หรือว่าไหม ได้ไหมครับที่เขาปรากฏในบทที่ 2 พอดีช่วงที่ผมไปหาเมย์นั้นเป็นช่วงที่พวกเพื่อนที่ ส.ป. ที่ต่อ ม.4-6 ที่นั่นเขาได้ใบประกาศนียบัตรพอดีจึงได้ไปร่วมแสดงความยินดีกับพวกเขาด้วย การได้เจอเพื่อนเก่ามันก็ดีขึ้นมานิดหน่อยตรงที่ได้เปลี่ยนบรรยากาศให้เราได้ลืมเรื่องเศร้าได้บ้าง

จากนั้นผมก็มาอยู่กับเมย์หลายวันมาก เมย์คอยเทคแคร์ผมตลอดทั้งพาผมไปเที่ยวและพาไปหาอะไรอร่อยๆกิน เมย์บอกกับผมว่า “มันยิ่งใหญ่มาจากไหนว่ะ ทำไมถึงทำให้มึงเป็นได้ขนาดนี้ มึงตัดใจเถอะตันมันเป็นผู้ชาย” พูดเหมือนง่ายแต่ทำสิมันยาก ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจด้วยแหละครับ ทำให้ผมนึกไปถึงตอนใกล้จะจบการศึกษา ปวช. ผมมีโอกาสได้ขึ้นไปคุยปรึกษาปัญหาหัวใจกับอาจารย์สุชาติ อาจารย์บอกผมว่า “ไม่มีของมีค่าอะไรที่ไม่มีวันเสื่อมสลาย คนก็เช่นกัน อย่าไปยึดมั่นถือมั่นมันนัก เรายึดไว้มันถึงทุกข์ ปล่อยเมื่อไหร่ก็สุข” ผมยังจำคำของอาจารย์ได้จนมาถึงทุกวันนี้

จบภาค ปวช.

********************************************************************************************

ถึงผู็ติดตามอ่านทุกท่าน ใครที่ยังติดตามกันอยู่คอมเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจในการลงภาคใหม่ของผมด้วยนะครับ ผมลงหลายตอนมากเงียบมากเลยครับ ยังไงก็ขอขอบคุณผู้ติดตามอ่านทุกท่านนะครับ หลังจากนี้อาจจะนานหน่อยนะครับกว่าผมจะลง เพราะต้องไปนั่งระลึกชาติสมัยเรียน ปวส. ก่อนครับ


เนื้อเรื่องต่อจากนี้โปรดติดตามต่อในลิงค์นี้นะครับ https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69272.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-12-2018 17:00:42 โดย Nuda »

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด