บทที่ 10 “เข้าค่ายลูกเสื้อวิสามัญ”********************************************************************
ขออนุญาตข้ามมาช่วงท้ายเทอมเลยนะครับ
เวลาที่ผ่านมาหลังจากตอนที่แล้วนั้น ผมขอเล่าคร่าวๆเพราะลืมไปเยอะมากเลยครับ
ความสัมพันธ์ของผมกับตันไม่มีอะไรเพิ่มขึ้น ทุกอย่างธรรมดาปกติ ช่วงนั้นตันไม่ค่อยมาเรียนมาก็อาจจะมาช่วงบ่าย ไม่ก็มาเช้าแล้วโดดบ่าย จนกระทั้งวันหนึ่งผมได้ข่าวจากเพื่อนๆว่าตันเลิกกับฝ้ายแล้ว
ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงบวกกับความคิดที่ยังไม่โตด้วยในตอนนั้น ทำได้ก็แค่คอยเทคแคร์ตามใจตันในเรื่องที่เขาอยากได้ อย่างเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น ซื้อสมุด ซื้อปากกา ซื้อน้ำ เก็บจานข้าว และอื่นๆ สาเหตุก็คงเป็นเพราะอยากอยู่ใกล้ๆเขา เทคแคร์เขาในยามลำบากละมั้ง เด็กวัยรุ่น อายุ 16-17 มันคงไม่คิดอะไรมากมายหรอกเนอะ จนกระทั้งเราเริ่มสนิทกัน ตันระบายอะไรๆให้ผมฟังในเรื่องที่เขาเป็นทุกข์ จนผมเริ่มที่จะรู้จักเขามากขึ้น (เพิ่งเริ่มจะสนิทกันมากขึ้นเฉยๆ ไม่ถึงขั้นสนิทอะไรมากมายนะครับ)
ส่วนในเรื่องเรียนนั้น โดยเฉพาะวิชาตะไบกว่าจะทำชิ้นงานเสร็จทำเอาแย่เหมือนกัน แต่ก็ผ่านกันไปได้ด้วยดีทุกคน รวมทั้งวิชาอื่นๆด้วย
.
.
.
.
.
.
.
“เอาหละนักเรียน ต่อแถวรับข้าวกล่องแล้วขึ้นประจำรถบัสของตัวเองเลยนะครับ” เสียงอาจารย์พูดใส่โทรโข่ง
“บาส มึงนั่งกับกูนะ” ตันพูด
“เออๆ” บาสพูดระหว่างที่กำลังส่งกระเป๋าเป้ให้เด็กรถบัสโยนเก็บใต้รถ
“อิน มึงนั่งกับกูนะ” ชัยชวนผม
“ได้ๆ มึงขึ้นไปจองที่เลยกูขอนั่งริมหน้าต่างนะ” พูดจบก็ขึ้นไปหาที่นั่งบนรถบัสกัน
พักนี้ผมกับไอ้ชัยก็สนิทๆกันมากขึ้น คุยกันถูกคอเพราะมันคุยตลก และมันก็ย้ายมาจากสมุทรปราการเหมือนผมก็เลยคุยกันรู้เรื่อง
“อ่า คันนี้ขึ้นมาครบแล้วหรือยัง” อาจารย์เข็มถาม แล้วทำท่านับจำนวนพวกผมที่อยู่บนรถ
อาจารย์เข็มเป็นอาจารย์ในแผนกผม และยังเป็นศิษย์เก่าที่นี่ด้วย
จากนั้นรถก็เคลื่อนออกจากเทคนิค มุ่งสู่ แกรนด์ไลน์ ถุย!!! “ค่ายเสือป่าแคมป์” จังหวัดสระบุรี ครับ
ลืมบอกไปว่าวันนี้พวกเราไปเข้าค่ายลูกเสื้อกันครับ เทคนิคก็มีเรียนลูกเสื้อนะ เขาเรียกว่าลูกเสื้อวิสามัญ
ผมนั่งฟังเพลงตลอดทาง ส่วนไอ้ชัยมันก็เดินระรานไปคุยกับคนนั้นทีคนนี้ที สักพักก็มีเสียงเพื่อนหัวเราะขำกันกิ๊กกัก ผมเลยหันไปดูพวกแม่งกำลังเอาเงื่อนเชือกหย่อนลงไปในปากไอ้แรกเลยครับ คือไอ้แรกนอนหลับลึกอ้าปากหวอเลย คงจะขาดออกซิเจนมาก
“เฮ่ยๆ บาสมึงหย่อนดีๆดิค่อยๆหย่อน” น็อตพูด ขณะที่บาสกำลังหย่อนเงื่อนเชือกลงไปเกือบจะลงไปแล้วครับ ผมอย่างฮาเลยแล้วไอ้แรกก็สะดุ้งตื่นเพราะเพื่อนกลั้นหัวเราะไม่อยู่ คือขำดังมากครับ
“ไอ่อ่า เอ่นเอี้ยอะไออันเอี้ยอ้วกเอี้ย” มันพูดประมาณว่า ไอ่ห่า เล่นเหี้ยอะไรกันเนี้ยพวกเหี้ย พูดถึงเหี้ยแล้วหิวไก่เลยครับ 555+
ไอ้แรกโมโหเลยด่า พวกมันจึงกลับที่ใครที่มัน แล้วผมก็หลับไปกับไอ้ชัยจนกระทั้ง......
.
.
.
.
.
.
.
.
ปี๊ด ปี๊ด ปี๊ด!!! เสียงนกหวีดอาจารย์
“เหี้ย!!! ตื่นๆอาจารย์เรียกให้ลงไปจัดแถวข้างล่าง” ไอ้โอ๊ต กับไอ้มอส ตะโกนเรียกเพื่อนๆที่ยังหลับอยู่
“ชัย ตื่นๆ” ผมสะดุ้งตื่นแล้วจึงสะกิดไอ้ชัยต่อ
ทุกคนรีบวิ่งไปลงข้างล่างผมหันไปเจอไอ้แรกแม่งยังหลับอ้าปากอยู่เลย ไอ้ชัยจึงวิ่งไปตบปากที่ห้อยๆของมัน แม่งสะดุ้งเลยครับ แต่เวลานั้นผมคงไม่ฮาจึงรีบลงไปกัน
“หมอบๆๆๆๆ” อาจารย์สั่ง พวกผมก็ค่อยๆก้มหมอบลงไป คือมันไม่ได้โหดอะไรมากมาย แค่เหมือนแกล้งเล่นๆอะครับ
ขณะที่ผมหมอบลงไปรู้สึกว่ามันอึดอัดเพราะหมอบชิดๆกันหมดเลยครับ
“เหี้ย ใครหายใจแรงจังว่ะ” ผมหลับตาบ่นเบาๆ เพราะรู้สึกมีเสียงลมหายใจดังขึ้นข้างๆหู ขณะที่หน้าจมดินอยู่
“กูเองๆ”
“ใครว่ะกูเองอะ”
“ตันๆ”
“อ่าวตันหรอ”
“แล้วมึงใคร” อ่าวคิดว่ามึงรู้ว่าเป็นกู
“อินๆ”
“คุยอะไรกันหมอบอยู่ไม่ใช่หรอ” เสียงอาจารย์ดุใส่
“เอาหละ ใครที่มีพระลุกขึ้นเอาพระมาฝากอาจารย์ เดี๋ยวทำกิจกรรมแล้วจะหายเอา” อาจารย์พูด พวกผมก็ลุกถอดสร้อยพระฝากอาจารย์ไว้แล้วกลับมาหมอบต่อ แต่หมอบลงที่ใหม่นะครับ ผมไม่กล้าหมอบใกล้ตัน มันเหมือนจะสปาร์คไฟดูด
“ลุก” อาจารย์สั่ง
“เดี๋ยวเข้าแถวตามหมู่ของตัวเองแล้วเดินเข้าไปในป่านะ ระหว่างทางจะมีอาจารย์ประจำฐานอยู่ ก่อน 5 โมงเย็น ทุกคนต้องถึง ค่ายเสือป่าแคมป์ นะ” อาจารย์อธิบายพร้อมกับกำชับเวลา
จากนั้นพวกเราก็เข้าแถวเป็นหมู่ใครหมู่มัน เทคนิคผมเขาจัดหมู่ตามกลุ่มที่เรียน เช่นผมกลุ่ม 4 ก็จะได้อยู่หมู่เดียวกันหมด
แล้วเราก็เริ่มเดินทางไกลกันโดยมีไอ้บาสเป็นหัวหน้าหมู่ และผมเป็นรองหัวหน้าหมู่เดินอยู่หลังสุด
เราเดินผ่านกันไปหลายฐานจนมาถึง....
“เอาหละฐานนี้เป็นฐานกู้ระเบิด ตั้งใจฟังกติกากันด้วยนะ” อาจารย์พูด
“เอ่อ...จารย์ครับ” อาฟู่ยกมือขึ้นเรียกอาจารย์ ตัวสั่นริกๆ
“ว่าไงครับ”
“
ผมปวดท้อง ขอตัวไป
ขี้ได้ไหมครับ!!!!” อื้ม...งานหยาบแล้วไงไอ่เหี้ย ในป่าแบบนี้ด้วย
จากนั้นมันก็วิ่งหายไปในป่าเพื่อไปขี้.....เรื่องขี้เป็นนิสัยติดตัวของมันเลยครับจริงๆ
อาจารย์ไม่รอช้าเพราะนี่ก็เริ่มจะเย็นมากแล้ว จึงให้พวกผมทำกิจกรรมกันเลย พอเสร็จไอ้อาฟู่ก็กลับเข้ามาพอดี แล้วพวกเราก็เดินไปข้างหน้ากันต่อ จนกระทั้งถึงค่ายเสือป่าแคมป์ อาจารย์ก็บอกเลขบ้านพักของพวกผมแล้วให้นำกระเป๋าไปเก็บกัน บ้านที่พวกผมพักกันนั้นมันนอนได้ 20 คน ก็มีกลุ่ม 3 ปนมาด้วยไม่กี่คน แล้วก็ กลุ่ม 5 แต่พวกนี้ไม่สนิทกับพวกผมจึงย้ายของไปนอนกับพวกกลุ่มเขา
พวกเราเพียงแค่พาสัมภาระไว้กลางห้องแล้วรีบไปรวมตัวที่ห้องโถงเพื่อฟังรายละเลียดของกิจกรรมที่จะต้องทำให้วันพรุ่งนี้ ส่วนวันนี้ก็เย็นมากแล้วอาจารย์พาพวกผมไปกินข้าวที่โรงครัวใหญ่ อาหารน่ากินฉิบหายเลยครับ แกงส้มผักกาดล้วน ผัดหมู 3 ขีด ผัก 3 กิโล น่าแดกจริงๆนะครับ ให้กูกินเจเลยไหม แต่มันก็แบบนี้แหละไม่งั้นคงไม่เรียกว่าเข้าค่ายสินะ เฮ้อ.....
กินข้าวเสร็จก็มาจัดแจงเรื่องที่หลับที่นอนกันครับ
“เฮ่ย บาสกูนอนใกล้มึงนะ” ตันพูด
มึงสองตัวนี่เป็นอะไรกันมากปะเนี่ย แลตันจะติดไอ้บาสเหลือเกิน
“เออๆ” คำตอบเดิมๆของมัน
ขณะที่เพื่อนๆกำลังหาที่ลงอยู่ผมก็ยืนเก้ๆกังๆ ไม่รู้จะนอนตรงไหนดี
“อิน มานอนตรง...” ตันพูดชวนผมยังไม่ทันจบ
“เหี้ย อินมึงมานี่ๆ มานอนฝั่งพวกกูมา” ไอ้ชัยเรียก ผมก็มองหน้าตัน ตันมองกลับประมาณว่าจะนอนตรงไหนก็เรื่องของมึงเลือกเอาเองโตแล้วไอ้ควาย (คำหลังผมเติมเองนะครับ 555)
สถานการณ์แบบนี้ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าผมต้องไปนอนกับ....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“เออๆ” ผมเดินเอาสัมภาระไปว่างไว้ใกล้ๆไอ้ชัย
ส้นตีนจริงๆเลยนะมึงอะ เฮ้อ....
บ้านนี้มีแค่ชั้นเดียว พัดลมติดอยู่ที่คานไม้ 1 ตัว มีห้องน้ำในตัว และใหญ่อยู่ครับ มีที่นอนอยู่ 2 ฝั่ง ถ้าเดินเข้ามามองไปฝั่งซ้าย เรียงจากหน้าประตูจะเป็น แรก ตัน บาส น็อต โอ๊ต มอส อาฟู่ และบิ๊ก ส่วนอีกฝั่งเป็น เพื่อนกลุ่ม 3 เต้ นิว เล็ก ภีม(เกย์) ต่อมาเป็น ผม ชัย โจ๋ และตาม
เมื่อจัดที่นอนเสร็จก็ได้เวลาอาบน้ำ เอ่อ...แล้ว แล้ว ยังไงละ ห้องน้ำในบ้านมันไว้สำหรับ ขี้เยี่ยวอย่างเดียว สรุปคือกูต้องไปแก้ผ้าอาบห้องรวมใช่ไหม
ไม่เอาน่า
ไม่ๆ
“อาบน้ำ ห้องรวมกูไม่เอานะกูอายอะ” ผมพูดขึ้น
“มึงจะเรื่องมากทำไมกันว่ะ ผู้ชายด้วยกันทั้งนั้นอาบไปเหอะ วิดๆน้ำแปบเดียวก็เสร็จละ” เล็กเพื่อนกลุ่ม 3 พูดขึ้นและเดินเข้ามากับ นิว เต้ ภีม ที่ไปอาบน้ำห้องรวมกันมาเรียบร้อยแล้ว
สรุปพวกกลุ่ม 4 ของผมตัดสินใจกันว่าไม่อาบห้องรวม
อ่าว
แล้วมึงจะอาบกันที่ไหน
อย่าบอกนะว่า
ในห้อง...ขี้...เยี่ยวแห่งนี้!!!!นั่นแหละครับ สรุปก็ต้องอาบกันในนั้น เข้าเป็นคู่ครับ ผมเข้ากับไอ้ชัย คู่ท้ายๆเลย เราอาบน้ำกันโดยการหยิบ ขัน ที่ไว้ใช้ล้างตูดและราดส้วม มาตักน้ำที่เขาไว้ใช้ล้างส้วมอาบกัน นึกภาพประมาณห้องน้ำปั้ม ต่างจังหวัดอ่าครับ แบบนั้นเลย ผมไม่รอช้าควักน้ำตักราด ตักราด ถูสบู่ ล้างๆเรียบร้อย แล้วออกมา ให้คนอื่นเข้าต่อ
ทำกิจธุระของแต่ละคนเสร็จก็ปิดไฟนอนครับ
แต่ คิดจริงๆหรอว่าไอ่พวกบ้านี่มันจะนอน มันรอแกล้งใครหลับโดนป้ายยาสีฟันชัวร์ ผมนี่นอนไม่หลับเลย มองขึ้นไปเพดานก็เจอคานไม้ใหญ่ โอ้วฉิบหาย นึกถึงหนังผีเลยครับ ผมไม่รอช้าลุกขึ้นมานั่งแล้วก็....
“ทำห่าอะไรของมึงว่ะอิน” ชัยพูดขณะนอนอยู่ข้างๆผม
“สวดมนต์....” แล้วผมก็หยิบลูกประคำ ที่เก็บไว้ในเป๋ และหนังสือ “มนต์พิธีแปล” พร้อมกับสวด ชินบัญชร พาหุงมหากา ตามสัญชาติญาณหมอผีของผม บ้าจริงกู 5555+
แต่....ใครว่าผมบ้าคนเดียวละ ไอ้เล็กก็ลุกมาสวดกับผมด้วย
ขณะเดียวกัน มีแสงสีขาววูบวาบในความมืด หรือว่าเขาจะรับรู้ได้ถึงความเมตตาที่ผมแผ่ส่งออกไปได้กันนะ.....ถุย!!!
“ฉิบหาย กระสือ!!!” ไอ้ตามอุทานขึ้น
“กระสือ เหี้ยอะไรละ อาจารย์เขาส่องไฟตามบ้าน ดูว่าใครยังไม่นอนอะดิ” นิว กลุ่ม 3 พูดขึ้น
“เฮ่ย ยังไม่นอนกันอีกหรอว่ะ!!!” เสียงอาจารย์ตะโกนเข้ามาในบ้านที่พวกผมนอนอยู่ พร้อมส่องไฟเข้ามา
ผมนี่ โห่...ไม่อยากจะพูดเลยครับ กำลังอยู่ในอิริยาบถสวดมนต์อยู่แท้ๆ รีบฟุบนอนเหมือนตายเลยครับ
ผีก็ผีเถอะ ยังไงอาจารย์แม่งก็น่ากลัวกว่า 555+
เมื่อพวกผมเงียบ อาจารย์ก็เดินไปหลังต่อๆไป จากนั้นพวกผมก็หลับไปตอนไหนไม่รู้ครับ
เช้าวันต่อมา
กลิ่นปริศนาลี้ลับกลิ่นหนึ่งโชยขึ้น ผมซึ่งนอนหลับอยู่ก็สัมผัสกลิ่นนั้นได้ มันคือนามธรรมเหม็นๆอย่างหนึ่ง ผมสะลึมสะลือตื่นขึ้นมานั่ง เห็นรองเท้าลูกเสื้อของไอ้แรกคือมันเหม็นมาก กลิ่นเหมือนเหี้ยอะไรตายไม่รู้ครับ ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวใครที่ตื่นๆอยู่ก็บ่นๆกัน เหลือเพียงคนคนนึงที่ยังนอนแน่นิ่งอยู่ ผมหันไปมองตันซึ่งหลับอยู่ แต่เหมือนมีอะไรมาสะกิดลูกตาผมให้มองต่ำลงไปเรื่อยๆ
เอ่อ....ฉิบหาย ตันนอนอ้าขา อ้าซ่า แผ่ไพรศาล มองเห็น กกน. ข้างใน เต็ม 2 ลูกตาที่ใหญ่เท่าไข่ห่านของผมเลยครับ เอาตรงๆตอนนั้นก็รู้สึกอยู่นะครับ
คือส่วนลึกผมก็เคยนึกนะว่าตัวเองต้องเป็นแน่ๆ แต่พอมีสติขึ้นมาก็บอกว่าไม่ใช่หรอก ไอ่ห่ามึงไม่ได้เป็น ว่าแล้วผมก็ได้สติแล้วลุกไป เข้าไปแปรงฟันอาบน้ำพร้อมกับไอ้ชัย เพราะ ตาม โจ๋ ออกมาจากห้องน้ำแล้ว
หลังจากที่ทำกิจธุระของแต่ละคนเสร็จก็รีบวิ่งแจ่นกันไปที่ห้องโถงกันเพื่อเข้าแถวตามหมู่และทำกิจกรรมตามฐานต่างๆ
อาจารย์ให้จับคู่กันในหมู่เพื่อทำกิจกรรมพร้อมกับแจก แผ่นพับสีเขียวเล็กๆเอาไว้ปั้มตามฐานต่างๆที่เราผ่านมา ผมก็คงต้องคู่ไอ้ชัยนี่แหละ แล้วเราก็ไปตะลุยตามฐานต่างๆ มีทั้งลอดห่วงยาง ปีนเชือก โหนเชือก โดดหอ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งดูรวมๆแล้วแม่งก็ไม่ต่างจาก “ดรีมเวอร์” สักเท่าไหร่
เข้าฐานกันสนุกสนานเลยครับแต่ละคน คงมีแค่ผมนี่แหละเพราะผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เท่าไหร่เบื่อๆ ผมก็ตามไอ้ชัยไปฐานต่างๆจนกระทั้งบ่ายอ่อนๆ
“อิน มาฐานนี่ดีกว่า โหนเชือกทาร์ซาน” ชัยชวนผม ไอ่โหนเชือกทาร์ซานนี่ผมคิดเองนะครับ คือจำชื่อฐานไม่ได้แล้วครับ
“กูเริ่มเบื่อแล้วว่ะ” ผมบ่น
“ไอ่ห่า มึงเข้าฐานนี้ก่อน เสร็จแล้วค่อยกลับที่พักกัน นี่ก็ได้ตั้งเกือบครบแล้วเนี่ย” ผมโชว์ตราปั้มให้ดู ก็ใกล้ครบอย่างที่มันว่าแหละครับ คือไม่ต้องครบก็ได้ถ้าคิดเป็น % ก็ต้องมากกว่า 80% ถึงจะผ่านวิชาลูกเสื้อนี่ไปได้
“เออๆ เอาก็เอาว่ะ ให้มันจบๆไปห่า” ผมบ่นพร้อมกับเดินไปต่อคิวที่ฐานเพราะตอนนี้มีคน โหนอยู่
ผมก็ดูอยู่หลายคนแม้งโหนกากๆทั้งนั้น โหนไปแล้วขาจุ่มโคลนก็มี บางคนอ้วนๆนี่ลงไปในโคลนเลย ผมก็ค่อยแนะนำคนที่โหนๆอยู่ว่าให้โหนแบบไหน จนกระทั้งถึงตาผมกับไอ้ชัย
“เอายังไง มึงหรือกูก่อน” ชัยถามผม
“มึงก่อนเลย”
พูดจบไอ้ชัยก็โหนพลิ้วเลยครับ เทคเดียวผ่านเพราะแม้งตัวเตี้ยและตัวเล็กด้วย ยังไงก็ผ่านฉลุย
ที่นี้ก็คิวกูแล้วสิ เฮ้อ เอาหละเป็นไงเป็นกัน ผมจับเชือกแล้วโหนโดยที่ไม่จับเชือกถอยหลังแล้ววิ่งแบบคนอื่น คือผมลืมด้วยแหละ แล้วยังไงละ น้ำหนังตัวกูก็ไม่ได้หนักอะไรมากมายนะ 53-54 โดยประมาณ แต่แม้งไม่มีแรงเหวี่ยงอะดิ เพราะไม่ยอมถอยไปสุดแล้ววิ่งมา สรุปกูก็ตกลงไปใน ล่องมรณะนั้น
“โหอิโยอิโยยยยยยยยยยยยยยยยย” ร้องเหมือนทาร์ซานไหมละกู
แบะ ล่วง ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!! เกิดเป็น “โกโก้ครั้นช์” เลยกู รู้สึกอายมากเลยครับ มีแต่เสียงหัวเราะ เพราะอะไรหนะหรอ ก็ผมเล่นไปสอนเขาตั้งหลายคนแล้วพอมาทีตัวเองก็ทำไม่ได้ ไอ้ชัยหัวเราะดัง เฮอเฮ๊อ~ ตามนิสัยของมัน แล้วก็จับมือฉุดผมขึ้นมาจากล่องมรณะ แล้วพาผมกลับที่พักเลยครับ
ไปถึงผมก็เจอ เพื่อนบางคู่กลับมาอยู่ก่อนแล้ว อย่างตัน บาส โอ๊ต น็อต พอผมเข้าไปเพื่อนๆเห็นก็ขำกันฉิบหายเลยครับ อายหนักกว่าเดิมอีกทีนี้ แล้วผมก็เข้าไปอาบน้ำ ล้างชุดที่เปื่อนโคลนแล้วเอาออกมาพึ่งแดดข้างนอก
ตกเย็นทุกคนก็กลับมากันจนครบ เราก็ไปกินข้าวกันที่โรงอาหารตามเวลาที่อาจารย์นัดหมายไว้ กินเสร็จก็ไปห้องโถงใหญ่ มีการแสดงของเด็กอาชีวะ เขามาเต้นรำให้ดู คือ ผอ. เขาส่งหนังสือเชิญให้มาช่วยสร้างความสนุกสนาน ในกิจกรรมรอบกองไฟอ่าครับ จบกิจกรรมทุกคนก็แยกย้ายกันกลับที่พัก
ขณะที่พวกผมเดินผ่าน รถของอาชีวะ ก็มีพวก ผญ. ที่เขามาเต้นรำให้ดูตอนต้นกิจกรรมรอบกองไฟ กำลังเกาะกลุ่มคุยกันตามประสาผู้หญิงอะครับ
“เฮ่ย น่ารักดีว่ะคนนั้นอะ” บาสพูดขึ้น
“เออจริงด้วย ไอ้ตันมึงเอาคนนี้ดิ เดินเข้าไปขอเบอร์เลยจะได้หายโสดสักทีมึง” น็อตพูดขึ้นแล้วสะกิดตัน
“จะดีหรอว่ะ แต่แม่งน่ารักจริง” ตันพูด แล้วเพื่อนๆก็เชียร์กันใหญ่บอกให้ไปขอเบอร์เลย
ตันก็เดินไปจริงๆครับ ผมไม่รู้เขาคุยอะไรกันเพราะระยะมันก็ห่างอยู่พอสมควร คงประมาณว่าขอเบอร์ละมั้งครับ แต่แล้วก็....
“เฮ่ย นี่แฟนกูสัส” เด็กช่างไฟฟ้าเดินมาครับ ฉิบหายแล้วสิตันดันไปจีบคนมีเจ้าของอีก
พวกผมยืนมองด้วยความตกใจ ตันเองก็ด้วยคงทำอะไรไม่ถูก ไอ้ช่างไฟฟ้าคนนั้นทำท่าจะหาเรื่องตัน พร้อมกับพวกของมัน แต่แล้วก็มีพวกช่างยนต์ที่ตันรู้จักผ่านมาเลยเข้ามาดูเชิงอยู่ข้างหลัง พร้อมกับช่างกลพวกของบูม (ยังจำบูมได้ใช่ไหมครับ) เพราะคงเห็นว่าพวกผมเหมือนจะมีเรื่องเลยเข้ามาดูมั้งครับ
“อิน มีอะไรกันว่ะ” บูมถามผม
“ไม่รู้ว่ะ แต่เพื่อนกูจะโดนช่างไฟเล่นแน่ๆเลย” ผมพูดอย่างกังวล พวกบูมก็ยังคงยืนดูเชิงข้างพวกผมเหมือนกัน
“มึงจะเอายังไงว่ะ มึงช่างอะไร” ไอ้ช่างไฟคนนั้นมันถาม
“กูช่างอิเล็ก แล้วไงยังไงว่ะ กูไม่รู้นี่หว่าว่านี่แฟนมึง เพราะเขาก็ยังให้เบอร์ก็อยู่เลย” ตันตอบ อย่างไม่เกรง
ส่วนพวกกลุ่ม ผู้หญิงอาชีวะพวกนั้น ก็นิ่งเงียบคงทำตัวไม่ถูกเหมือนกันแหละครับ โดยเฉพาะผู้หญิงคนที่ตันไปขอเบอร์ หน้าเสียเลยครับ
“เฮ่ย มึงไม่ต้องกลัวมีอะไรเดี่ยวพวกกูช่วย” เพื่อนช่างยนต์ของตัน พูดขึ้นพร้อมเดินเข้ามาแตะไหล่ตัน ขณะที่พวกช่างไฟมันก็จ้องพวกผมอย่างจะเอาเรื่อง
ตอนนี้พวกผมก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันครับ พวกผมคนน้อยด้วยแต่ถ้าจะเอาจริงๆพวกผมก็คงสู้อยู่แล้ว คงมีเพียงผมนี่แหละที่ไม่สู้คน
“เฮ่ยๆ อะไรกัน” อาจารย์พูดแล้วเดินเข้ามาครับ
ตอนนั้นมีอาจารย์เข็ม อาจารย์สุดใจ และอาจารย์ผู้หญิงอีก 2 คน เดินตามเข้ามา
“ไม่มีอะไรครับอาจารย์” ช่างไฟคนนั้นพูด
“อย่าคิดว่าไม่รู้นะว่ามีเรื่องกันหนะ กินข้าวก็จานเดียวกัน ยังจะกัดกันเหมือนหมาให้อายสถาบันอื่นเขาอีก” อาจารย์สุดใจตำหนิ แต่ลึกๆก็แฝงไปด้วยคำสอนเตือนสติ
หลังจากนั้นอาจารย์ก็สลายการชุมนุมของพวกผม
เช้าวันต่อมา พวกเราเตรียมเก็บข้าวของกลับบ้านกัน ผมดีใจสุดๆเลยเพราะผมเบื่อที่นี่มาก ผมไม่ค่อยชอบอะไรแบบนี้เท่าไหร่ เมื่อทุกคนเก็บของเสร็จก็ไปรวมที่ห้องโถงใหญ่ มีการปิดพิธีและถ่ายรูปรวมกัน แล้วก็ขึ้นรบกลับเทคนิค ก่อนกลับผมก็ซื้อกะหรี่ปั๊บไปฝากพ่อแม่และอุ้มน้องสาวผม
จบ ปวช.1
*
*
*
*
*
แค่นี้ก่อนนะครับ
เดี๋ยวผมมาลงให้อีกทีตอนเย็นไม่ก็คืนนี้นะครับ พอดีติดฝึกงานครับ
ยังไงก็ขอขอบคุณสำหรับคำคอมเม้นท์และผู้อ่านทุกท่านนะครับ
ขออภัยคำบางคำไม่สุภาพและเป็นภาษาพูดนะครับ
************************************************************************************