Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.17 23/3/18 END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.17 23/3/18 END  (อ่าน 27968 ครั้ง)

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.7 14/3/18
«ตอบ #30 เมื่อ15-03-2018 12:49:22 »

โอ้ยยเขินนน
อร๊ายย

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.7 14/3/18
«ตอบ #31 เมื่อ15-03-2018 12:50:13 »

โอ้ยสนุก อ่านรวดเดียวเลยค่ะ บิวแกชอบเฟรนไม่รู้ตัวแล้ว เด่วอีกหน่อยต้องหวงเฟรนหนักมากแน่ๆ ส่วนโป้งอีกหน่อยต้องเสร็จโอที่แอบชอบโป้งอยู่แน่ๆ จ่ายแสนนึงให้บิวด้วยนะโป้ง

งานนี้โป้งมีแต่เสีย บิวมีแต่ได้ 55

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.8 15/3/18
«ตอบ #32 เมื่อ15-03-2018 13:59:36 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.8 15/3/18
«ตอบ #33 เมื่อ16-03-2018 02:37:26 »

อ่านตอนนี้ชักไม่ชอบเฮียบิวแล้ว รู้สึกว่าเฮียจะมีหางงอกออกมานิดหน่อยนะ คนที่น่าสงสารสุดตอนนี้คงหนีไม่พ้นเฟรน  :katai1:

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.9 16/3/18
«ตอบ #34 เมื่อ16-03-2018 10:22:20 »

บอกแล้วว่าพระเอกมันชั่ววววววว คนอื่นดีหมด ยกเว้นมันแหละ

อย่าหลงกลนังบิวเชียวนะ



9

 

แคร้งๆๆ ซ่า...

 

“นี่ด้วยนะ แต้งกิ้ว”

 

โป้งเหล่มองหน้าโอและกองจานชามเลอะเทอะที่ถูกนำมาวางบนเคาน์เตอร์ครัวอีกชุดหนึ่ง เมื่อคืนนี้โอเรียกเพื่อนที่คณะมาสังสรรค์กันที่ห้อง ไม่รู้เนื่องในโอกาสเห้อะไร โป้งคิดอย่างหงุดหงิดพลางยกแขนขึ้นเช็ดเหงื่อและฟองน้ำยาล้างจานที่ติดหน้า มือก็จับฟองน้ำถูจานลอตต่อไป โดยมีโอยืนเอาก้นพิงกับขอบเคาน์เตอร์อยู่ข้างๆ แถมยังมีหน้ามาจุดบุหรี่สูบอีก

 

“เหม็น ไปสูบนอกระเบียงดิ” โป้งขมวดคิ้วสะบัดเสียงใส่ แต่โอดันยื่นหน้าไปหาแล้วพ่นควันใส่ข้างหูซะงั้น

 

“มึงไม่มีสิทธิสั่งกู เพราะเป็นแค่ทาส หัดจำซะมั่ง”

 

“ไอ้เหี้ยโอ! กูไม่อยากเป็นมะเร็งปอดตายเพราะควันบุหรี่ของมึงหรอกนะ” โป้งโวยวาย มือบีบฟองน้ำแน่น

 

“ลองขอกูดีๆ สิ” โอแสยะยิ้ม ลอยหน้าลอยตาพ่นควันมันต่อไปคล้ายจงใจแกล้ง

 

เมื่อก่อนไม่เห็นเคยเป็นแบบนี้ โป้งย่นคิ้วเข้าหากัน ความหงุดหงิดทวีคูณ จะให้ขอ ขอยังไง ขออะไรวะ

 

“ทำไม่เป็นอีกดิ ไอ้เด็กเอาแต่ใจ” โอหัวเราะใส่หน้า โป้งยิ่งหน้าหงิกกว่าเดิม รีบๆ ล้างจานให้เสร็จ ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับมันดีที่สุด ยิ่งพูดด้วยยิ่งหงุดหงิด อยากจะสูบให้ปอดพังก็ตามใจ

 

จริงๆ โอก็ไม่ได้อยากแกล้งหรอก แต่มันหมั่นไส้ อยากดัดนิสัยเสียๆ ของโป้งบ้าง ทนดูมาหลายปีแล้ว พูดว่าอะไรไปก็เท่านั้น มันต้องทำให้รู้สึกกับตัวเอง จะได้รู้ซึ้ง ว่าการเอาแต่กลั่นแกล้งและล้อเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นมันเป็นยังไง

 

“ล้านจานเสร็จ เอาผ้าไปตากให้ด้วยนะ นู่น” โอยักคิ้วบุ้ยปากไปทางตะกร้าผ้าที่ปั่นมาเรียบร้อยแล้วตรงหน้าห้องตัวเอง โป้งชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ แต่ก็ทำได้แค่นั้น เพราะยังไงก็ต้องทำให้โออยู่ดี

 

จากที่คิดว่าแค่ครึ่งปี ยอมทนๆ ไปแป้ปเดียวก็จบ แต่นี่เพิ่งผ่านมาแค่ 2 วัน ก็จะทนไม่ไหวแล้ว

 

“ไอ้โอ! ไอ้เหี้ยโอ!” โป้งโผล่หน้ามาจากระเบียง ร้องเรียกเสียงดังลั่นห้อง โอที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาเหลียวหลังไปมองด้วยความสงสัย “กูไม่ตากกางเกงในให้มึงนะ! มาทำเอง!”

 

“ไม่! นั่นก็หน้าที่มึง” โอตะโกนบอกแล้วหันกลับไปอ่านหนังสือต่อ

 

“ไอ้สัส! ไอ้หน้าด้าน!” โป้งกระทืบเท้าปึงปัง ก่นด่าสารพัดตอนที่หยิบชั้นในของโอขึ้นมาตากอย่างรังเกียจ ต้องใช้ปลายนิ้วคีบไว้ห่างๆ ตัว

 

“ถ้ามันหล่นลงพื้นมึงโดนแน่” เสียงเข้มดังขึ้นข้างหลังเล่นเอาโป้งสะดุ้งโหยง ไอ้ที่คีบไว้หลุดพรืดออกจากมือ โป้งตาโต ลนลานเก็บขึ้นมาแล้วหันไปมองหน้าโอที่ออกจะบึ้งตึงเล็กน้อย

 

“กะ ก็กูตกใจ จู่ๆ มึงโผล่มา” โป้งแกตัวทันทีทั้งที่โอยังไม่ได้ว่าอะไร ตอนนี้กล้าจับแบบเต็มๆ มือแล้ว แถมกำไว้แนบอกเสียแน่น

 

“ไปซักมาใหม่” โอเอ่ยเสียงเย็น โป้งเบิกตาโพลง

 

“อะไรวะ! ไม่ใช่ความผิดกูนะ!”

 

“มึงเป็นคนทำตก” หน้าตาของโอจริงจังเสียจนโป้งเหงื่อตก เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ไม่เคยเห็นโอมุมนี้มาก่อนเลย ปกติจะกวนตีนกันแค่ไหน แต่โอก็ยอมให้เสมอ

 

“ก็ได้ ชิ” โป้งสบถใส่หน้า เดินกระแทกส้นเท้าเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อจะซักชั้นในที่ทำตกให้ใหม่

 

แค่ 2 วันก็จะบ้าตายอยู่แล้วว้อยยยยยย

 

******

 

เหลือเวลาอีกไม่ถึงครึ่งเดือน กับการแสดงเป็นแฟนหลอกๆ ก่อนที่จะสอบเสร็จและปิดเทอมการศึกษาภาคปลาย ต่อหน้าคนอื่น บิวกับเฟรนก็ยังเล่นบทคนรักกันได้อย่างแนบเนียน แม้บางครั้งบิวจะสังเกตเห็นสีหน้าเศร้าๆ ของอีกคนอยู่เนืองๆ ก็ตาม

 

“สอบวันสุดท้ายวันไหน” สองคนนั่งกินข้าวเช้าด้วยกันตามปกติ บิวยังคงดูแลเอาใจใส่เหมือนเคย ทั้งซื้อข้าวซื้อน้ำให้ แบ่งกับข้าวให้ ถ้ามีกุ้งมีหอยก็จะแกะแต่เนื้อมาให้ น่องไก่ก็ตัดแบ่งเอาแต่เนื้อให้ ทำแบบนี้มาตลอดเทอมนึงที่ผ่านมา

 

แต่อีกไม่นานมันก็จะจบแล้วจริงๆ

 

เฟรนอดเหงาไม่ได้ พอคิดว่าอีกไม่นานจะต้องนั่งกินข้าวคนเดียว ไม่มีคนข้างๆ คอยเอาใจ

 

“25 พฤษภา”

 

“วันเดียวกันนี่ เย็นกลับบ้านด้วยกันมั้ย ยังไงก็ใกล้ๆ กัน” บิวเอ่ยชวน หน้าตายิ้มแย้มตามปกติ แต่ความรู้สึกมันต่างออกไปจากเดิม

 

ความรู้สึกของเฟรนนี่แหละที่ต่างจากเดิม

 

ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งได้รู้จัก ยิ่งได้รับการดูแลเอาใจใส่ ใจของเฟรนก็ยิ่งหวั่นไหว

 

ทั้งที่รู้ว่าบิวแค่แสดง ทุกสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้มันแค่การแสดง ถ้ากลับมาเป็นเพื่อนกัน ก็คงห่างกันไปเอง

 

“อือ แล้วแต่” เฟรนแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่อยากออกตัวว่าต้องการอยู่ด้วยกันมากเกินไป

 

“แสดงไม่เก่งเลยนะ” เสียงพึมพำของบิว ทำให้เฟรนเงยหน้าหันไปมอง แต่บิวก็ทำเหมือนไม่ได้พูดอะไร

 

กินข้าวเช้าเสร็จ บิวก็พาเฟรนไปส่งที่หน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ตามหน้าที่

 

“เย็นนี้ไม่ต้องมารับนะ ต้องช่วยงานที่คณะ คงดึก เดี๋ยวกลับกับสนได้” เฟรนบอกหลังจากลงจากรถและถอดหมวกกันน็อคคืนให้ บิวรับไปแขวนไว้

 

“ดึกแค่ไหนก็มารับได้ โทรมาบอกด้วย”

 

“ไม่เป็นไร อย่าลำบากเลย” เฟรนก้มหน้าก้มตาตอบ พอเห็นว่าบิวนิ่งเงียบไป ก็ทำท่าจะหันหลังให้ “ไปนะ”

 

หมับ!

 

แรงกระชากที่แขนไม่ใช่น้อยๆ ร่างเล็กเกือบหงายหลัง ดีที่มีอกของบิวรองรับไว้ หวิดหัวจะโขกกับหมวกกันน็อคที่บิวสวมอยู่ โชคดีที่บิวเอียงคอหลบทัน

 

“โทรมาด้วย จะมารับ” เน้นทุกคำแบบชัดเจนอยู่ข้างหู ทั้งที่มีหมวกกันน็อคกั้นไว้ เฟรนใจเต้นตึก แขนถูกปล่อยเป็นอิสระ และบิวก็เลื่อนหน้ากากหมวกกันน็อคลง ก่อนจะบิดรถกลับไปคณะตัวเอง

 

แม้บิวจะลับสายตาไปแล้ว และเฟรนก็ก้าวขาขึ้นไปบนตึกด้วยสีหน้าที่พยายามควบคุมให้เป็นปกติ แต่หัวใจของเฟรนตอนนี้ก็ยังเต้นแรงจนแทบกระเด็นออกมานอกอก

 

เกือบตี 2 ครึ่งแล้ว เฟรนมองนาฬิกาข้อมืออย่างครุ่นคิด ป่านนี้บิวอาจจะหลับไปแล้ว ไม่อยากโทรไปรบกวน เลยตัดสินใจว่าจะขอติดรถของสนกลับหอ ช่วยกันเก็บของสำหรับงานบายเนียร์รุ่นพี่ปี 4 วันเสาร์นี้เสร็จ ก็เดินออกจากตึกคณะพร้อมเพื่อนๆ ที่อยู่หอนอกเหมือนกัน พวกที่อยู่หอในช่วยทำงานได้แค่ถึง 4 ทุ่ม เพราะหอในปิดเร็ว แต่เด็กหอนอกอย่างพวกเฟรน จะกลับกี่โมงก็ได้

 

“ตกลงมึงไปกับกูนะ เดี๋ยวไปวนรถออกมาหน้าตึก” สนกำลังจะวิ่งไปเอารถที่วันนี้จอดไกลไปหน่อย แต่พอก้าวขาพ้นตึกก็ชะงักไป แล้วหันไปหาเฟรนที่นั่งรออยู่ “ไอ้เฟรน! แฟนมึงมารับแล้วนี่”

 

เฟรนขมวดคิ้ว ได้ยินคำว่า “แฟน” ก็รู้แล้วว่าใคร ถึงจะไม่ใช่แฟนจริงๆ ก็เถอะ

 

“งั้นกูกลับเลยนะ เจอกันพรุ่งนี้เว้ย” สนโบกมือบ๊ายบายเฟรน และไม่ลืมหันไปโบกมือให้บิวด้วย บิวพยักหน้านิดๆ ยิ้มให้สน ก่อนจะหยิบหมวกกันน็อคเตรียมไว้ให้เฟรน

 

ร่างเล็กก้าวขาฉับๆ มาหาเขาอย่างรีบร้อน “มารอตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!”

 

“สักชั่วโมงก่อนได้” บิวตอบหน้านิ่ง คว้าเอวเฟรนไปใกล้ๆ ให้ยืนอยู่ตรงหว่างขา เพราะตัวเขากึ่งนั่งอยู่บนเบาะรถ ก่อนจะสวมหมวกกันน็อคให้คนตัวเล็กอย่างที่ทำอยู่ทุกวัน “ทำไมไม่โทรมาล่ะ”

 

“ก็มันดึกเกิน” เฟรนตอบอ้อมแอ้ม แม้จะค่อนข้างมืดสลัว แต่บิวก็เห็นว่าแก้มใสนั้นเจือสีชมพูจางๆ และโครตน่ารักในความคิดของบิว

 

“ไปดูที่ห้อง เห็นยังไม่กลับ เลยขี่รถออกมาเรื่อยๆ เผื่อเจอระหว่างทาง” บิวคลี่ยิ้มเมื่อสวมหมวกให้เสร็จ “ป่ะ กลับกัน”

 

“ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้” เฟรนพึมพำเบาๆ ก้มหน้าก้มตากระโดดขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คันสีแดง จะว่าเขินก็เขิน ดีใจก็ดีใจ แต่อีกใจก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าบิวยังตีบทแตกขนาดนี้ หัวใจของตนคงยิ่งเจ็บหนัก ตอนที่ต้องเลิกกัน หรือจริงๆ แล้วบิวก็อยากให้เป็นแบบนั้น เพื่อความสมจริง?

 

นั่นสินะ ก็แค่ให้มันสมจริง

 

เล่นจริง เจ็บจริง

 

******

 

“พักนี้ไอ้โป้งกับไอ้โอหายหน้าหายตาไปไหนวะ” เรือรบเอนตัวพิงโซฟาพร้อมยกแก้วที่มีน้ำสีอำพันสะท้อนแสงระยิบระยับขึ้นจิบ ปิดเทอมใหญ่สามเดือน เป็นช่วงเวลาปลดปล่อยของเหล่าเด็กหนุ่ม หลังจากผ่านพ้นช่วงสอบปลายภาคอันหฤโหดในรั้วมหาวิทยาลัย

 

“เห็นโอมันบอกว่าต้องไปช่วยงานพ่อที่เมกาป่ะ คงพาไอ้โป้งไปด้วยมั้ง” คิงว่า ในบรรดาเพื่อนๆ ทั้งหมดที่เรียนมาด้วยกันสมัยม.ปลาย เรื่องข่าวสารต้องยกให้คิง “พอดีกูเห็นในเฟซ มันอัพว่าอยู่เมกาทั้งคู่เลย”

 

“เอาจริงๆ นะ กูว่าเชี่ยโอแม่งชอบไอ้โป้งว่ะ” บิวยื่นหน้าเข้ามาในวงสนทนาพลางโคลงแก้วเหล้าไปมา “เทอมหน้าอาจจะมีอะไรเด็ดๆ ฮ่าๆ”

 

“มึงนี่ก็...สนุกไปทุกเรื่องล่ะ แล้วเรื่องไอ้เฟรนเป็นไงมั่ง” เอ็มหันไปหรี่ตามองเพื่อนอย่างเอือมระอา

 

“เฮ้ย ชิวน่า เดี๋ยวกูจะทำให้มันเลิกกับกูเอง” บิวยักคิ้วให้เอ็ม

 

“ด้วยการจีบผู้หญิงต่อหน้ามัน?” เรื่องที่เอ็มพูด ทำให้ทุกคนหันมาสนใจบิวกันหมด วันนี้ไม่ได้มีแค่เพื่อนที่เรียนมหาลัยเดียวกัน แต่ยังมีเพื่อนสมัยมัธยมอีกกลุ่มหนึ่งมาด้วย 

 

“ที่บอกชื่อแอล อะไรนั่นน่ะนะ? มีรูปมั้ยวะ” เรือรบตาวาวทันที เอ็มหยิบมือถือส่งรูปให้เพื่อนดู เพราะเป็นคนที่บิววานให้ช่วยไปส่งขนมและดอกไม้ให้แอลแทบทุกวัน เอ็มก็เลยสนิทกับแอลไปด้วย เรือรบรับรูปไปดูพลันตาโตกว่าเดิม เพื่อนๆ รับไปดูต่อรอบวง

 

“สวยสู้กูไม่ได้หรอก เชอะ” มิ้ว สาวน้อยตัวแม่ในวงชายหนุ่มเชิดหน้าใส่บิว “ดูแล้วแรดเงียบ ร้าย”

 

“มึงอย่าปากดีอีมิ้ว ออกมาแรดซึ่งหน้าอย่างมึง เดี๋ยวกูบอกพี่ไมค์เลยนี่” บิวกระแทกเสียงใส่หน้าเพื่อนสาวอย่างหมั่นไส้ แต่ก็แค่หมั่นไส้แบบขำๆ ไม่ได้จริงจัง พอพูดถึงพี่ชายจองเฮี้ยบของมิ้ว สาวเจ้าก็ทำหน้าเหยเก ยกมือยอมแพ้บิวทันที

 

“แล้วไงวะบิว เขาจะเชื่อเหรอว่ามึงไม่เกย์ เล่นควงผู้ชายร่อนทั่วมอมาทั้งเทอม แถมเทอมแรกยังแต่งหญิงไปเรียนอีก” คิงหัวเราะร่วน เพื่อนๆ คนอื่นก็หัวเราะตาม

 

“เรื่องแต่งหญิงอ่ะเคลียร์นานแล้ว ว่าพนันกับเพื่อน แต่เรื่องหลังเนี่ย เดี๋ยวกูจัดทีเดียว” บิวยกมุมปากขึ้นข้างหนึ่ง หน้าตาเจ้าเล่ห์ร้ายกาจจนเอ็มไม่อยากมอง คงเพราะอยู่กับน้องน้ำนานไปหน่อย เอ็มเลยค่อนข้างติดนิสัยรังเกียจผู้ชายนิสัยอย่างบิวไปแล้ว

 

“กูไปดีกว่า ฟังมันพูดเรื่องนี้ทีไร แม่งเครียด” เอ็มตบบ่าเรือรบเบาๆ แล้วขอตัวเดินออกไปนอกผับ เกินจะรับเรื่องนี้ไหวจริงๆ

 

“เชี่ยเอ็มเป็นไรวะ ทำตัวเหมือนไอ้น้ำเข้าไปทุกวัน” คิงเหลือบสายตามองตามเอ็มไป

 

“สงสัยกูคงปล่อยให้อยู่กับไอ้น้ำมากไป เริ่มจะตุ๊ดแตก ฮ่าๆ” บิวหัวเราะเสียงดัง ชวนเพื่อนๆ เฮฮากันต่อ ไม่สนใจอาการนอยแดกของเพื่อนรัก

 

กว่าจะแยกย้ายกันกลับจากผับก็ตี 2 เข้าไปแล้ว อยู่ในกรุงเทพฯ บิวไม่ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ เพราะเกิดเมาขึ้นมาจะลำบาก เลยใช้บริการเรียกแท็กซี่หรือไม่ก็อูเบอร์

 

มือเรียวกดเรียกอูเบอร์ระบุพิกัดเรียบร้อย พลันนึกถึงหน้าใครบางคน ก็เลยลองส่งไลน์เข้าไปหา

 

ติ้ง

 

แม้จะดึกมากแล้ว แต่เฟรนก็ยังนั่งดูหนังอยู่บนเตียง เพราะคืนนี้บิวบอกว่าจะออกไปผับกับเพื่อนสมัยมัธยม เลยอยู่รอ พอได้ยินเสียงไลน์ดัง ก็รีบหยิบสมาร์ทโฟนสีขาวมาดู

 

เพื่อนบิว (เฟรนเปลี่ยนชื่อใหม่อีกรอบ): นอนยังวะ

F.T.: ยัง

 

เพราะคนตอบ ตอบมาเร็วมาก ทำให้บิวหลุดยิ้มกับตัวเอง

 

F.T.: กลับแล้วเหรอ

เพื่อนบิว: กำลังจะ

 

รถที่เรียกไว้มารับพอดี บิวเลยเก็บมือถือแล้วขึ้นรถ หลับยาวจนถึงพิกัดที่ระบุไว้ เพราะเป็นอูเบอร์ เลยมั่นใจในความปลอดภัย พอไปถึงที่หมาย คนขับก็จะปลุกเอง บิวลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย เอ่ยขอบคุณเจ้าของรถที่พามาส่งก่อนจะลงจากรถและเปิดไลน์ ส่งข้อความไปอีกรอบ

 

เพื่อนบิว: ลงมารับหน่อยดิ

F.T.: สติ๊กเกอร์รูปหมีทำหน้างงพร้อมเครื่องหมาย ?

เพื่อนบิว: อยู่หน้าบ้านมึงอ่ะ

 

เฟรนตาโต รีบวิ่งลงไปดูที่หน้าบ้าน แล้วก็เห็นคนตัวสูงในชุดเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์สกินนี่ขาดๆ กับแจ๊คเกตสีน้ำเงินยืนหันหลังพิงรั้วบ้านรออยู่จริงๆ

 

“มันดึกแล้ว มาทำไมเนี่ย” เฟรนขมวดคิ้วเหมือนไม่พอใจ แต่จริงๆ ก็ดีใจที่บิวมาหา ถึงจะดึกไปหน่อยก็ตาม “บ้านตัวเองไม่มีไง? ได้ข่าวอยู่ถัดไปสามซอย” บ่นไปงั้น แต่ก็เปิดประตูให้บิวเข้าบ้าน

 

“กูเมาไง กลับไปได้เจอแม่สวดยับ” บิวคว้าคอร่างเล็กไปกอดไว้ “ขอนอนด้วยคืนนึง”

 

“เออๆ ก็มาแล้วนี่ เบาๆ นะ เขาหลับกันหมดแล้ว” เฟรนหันหน้าหนี ไม่ให้บิวเห็นแก้มที่แดงระเรื่อ พาบิวขึ้นไปบนห้องนอน หาเสื้อผ้าให้เปลี่ยน “จะอาบน้ำมั้ย”

 

“อือ ก็ดี” บิวขานรับ เหมือนจะทั้งเมาแล้วก็ง่วงด้วย

 

******

 

ร้านอาหารไทย “ดินแดนสยาม” เป็นร้านขึ้นชื่อในเมืองบอสตัน เมืองหลวงของรัฐแมสซาชูเซตส์ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเจ้าของกิจการก็คือพ่อของโอนั่นเอง นอกจากสาขาที่นี่แล้ว ในไทยก็ยังมีอีกหลายสาขาทั่วประเทศ และนี่คืองานที่โอเคยบอกว่าช่วยพ่อดูแลอยู่

 

“โต๊ะ 4 โต๊ะ 5 เก็บจาน โต๊ะ 12 ใครว่างรับออเดอร์ที” เสียงผู้จัดการร้านดังอยู่ตลอดเวลา เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ และคนค่อนข้างเนืองแน่นเป็นพิเศษ เนื่องจากเมืองนี้ขึ้นชื่อด้านการศึกษา จึงมีนักเรียนต่างชาติ โดยเฉพาะคนไทย เยอะเป็นพิเศษ

 

“ครับๆ รับอะไรดีครับ” โป้งรีบกุลีกุจอเข้าไปต้อนรับลูกค้าที่โต๊ะ 12 ดูจากหน้าตาก็พอเดาได้ว่าคนไทยแน่นอน แถมยังเป็นสาวสวยตั้ง 3 คนด้วย

 

“ขอผัดผักบุ้งไฟแดง ปลาเก๋าราดพริกกับต้มยำกุ้งค่ะ” หนึ่งในนั้นสั่งอาหารพร้อมรอยยิ้มหวาน โป้งก็ยิ้มให้พวกเธอทั้งโต๊ะพลางกดจิ้มออเดอร์ที่สั่งในไอแพดของทางร้าน ซึ่งจะส่งตรงเข้าเครื่องของพ่อครัว ให้ทำตามเมนูที่สั่งได้เลยทันที ไม่ต้องรอพนักงานไปบอกหลังร้าน เมื่ออาหารตามที่สั่งเรียบร้อยแล้ว พ่อครัวจะกดส่งสัญญาณมาให้ และโป้งก็จะไปรับอาหารมาเสิร์ฟ

 

ตอนมาที่นี่วันแรก บอกเลยว่า โป้งโครตจะหงุดหงิดและหัวปั่นกับบรรดาลูกค้าและระบบการทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยทำงานมาก่อนในชีวิต แม้แต่ร้านขายยาที่มีเป็นสิบๆ สาขาของป๊า โป้งก็ไม่เคยแวะเวียนไปดูแล แต่กลับถูกโอบังคับพามาที่บอสตัน แล้วให้ทำงานในร้านตามข้อตกลงที่ทำไว้

 

“โป้ง พี่ฝากล้างจานด้วยนะ เสร็จตรงนี้ก็ไปพักได้เลยครับ” พี่จรัญ หรือพี่รัล ผู้จัดการร้านชะโงกเข้ามาบอกในครัว โป้งพยักหน้ารับแล้วลงมือทำงานที่ได้รับมอบหมาย นั่นคือการล้างจาน

 

ล้างที่บ้านไอ้โอแล้วยังต้องมาล้างที่ร้านอีก โครตเซ็ง

 

โป้งคิดพลางถูๆ ขัดๆ จานแต่ละใบอย่างสะอาดเอี่ยมอ่อง ทำงานมาเป็นอาทิตย์แล้ว ก็เริ่มจะคุ้นเคยขึ้นมาบ้าง แต่เรื่องที่ทำให้หงุดหงิดหัวเสียก็คือ ไอ้ตัวดีที่เอาเขามาปล่อยไว้ แม่งหายหัวไปตั้งแต่วันแรกจนตอนนี้ก็ยังไม่โผล่มา

 

“สัสโอ อย่าให้กูเจอนะ แม่ง...”

 

“ทำไม เจอแล้วจะทำไมวะ”

 

เพล้ง!

 

เพราะจู่ๆ โอก็โผล่มาข้างหลังแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง โป้งเลยตกใจหน้าเหวอแถมเผลอทำจานหลุดมือลงพื้นอีกต่างหาก

 

“เฮ้ยๆ! อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวบาดเท้า” โอรีบนั่งลงเก็บเศษจานที่หล่นแตกกระจายแถวเท้าของโป้ง เขาก้มมองโอที่นั่งยองๆ ค่อยๆ ใช้มือเปล่าหยิบเศษจานที่แตกทีละชิ้น

 

จะใจเต้นทำเห้อะไรครับไอ้โป้ง

 

เพราะโอบอกให้อยู่นิ่งๆ โป้งก็อยู่นิ่งจริงๆ ยืนหลับตาปี๋ เอามือกุมอกแน่น ก็หัวไอ้เพื่อนตัวดีมันอยู่ข้างหน้า ตรงหว่างขาพอดีเลยน่ะสิ!

 

โอเก็บเศษจานเสร็จแล้ว พอเงยหน้ามองโป้งก็เห็นตัวเกร็ง หลับตาปี๋ ท่าทางน่าขันจนต้องอมยิ้มให้ ร่างสูงกว่าโป้งแค่สามสี่เซนยืดตัวขึ้นช้าๆ ไม่ให้อีกคนรู้ตัว พลางจ้องมองใบหน้าของโป้ง

 

ตาปิดสนิท ปากเม้มแน่น แพขนตางอนๆ สั่นระริกเชียว

 

โป้งเป็นคนหน้าตาดี ไม่ถึงกับหล่อจัด แต่เพราะรูปร่างและเล่นบาสเก่ง เลยทำให้สาวๆ คลั่งไคล้เพราะความเท่ ตัวสูง 181 ซม. มีกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายดูสมส่วน และน่าจะพอดีมือเวลากอด โอคิดพลางเลียริมฝีปาก

 

“เก็บเสร็จยัง...” มันนานเกินไปแล้ว จนโป้งต้องขอถามทั้งที่ยังหลับตา

 

“ก็ลืมตาดูสิ” เสียงกระซิบข้างหูทำเอาโป้งลืมตาโพลง ยกมือขึ้นดันอกอีกคนด้วยปฏิกิริยาอัตโนมัติ

 

“เฮ้ย! เล่นบ้าอะไรเนี่ย เดี๋ยวได้แตกทั้งกะละมัง!” หลังที่เอนหนี ถูกมือหนาเกี่ยวเอวไว้ไม่ให้ชนกับกะละมังใบใหญ่ด้านหลัง โดนรั้งทั้งร่างเข้าไปแนบชิดสนิทแน่นกับคนตัวสูงกว่า ยิ่งทำให้โป้งลนลานหนักกว่าเดิม

 

“อย่าดิ้นดิ ถ้าแตกอีก กูให้มึงจ่ายนะ” โอดุแบบไม่จริงจังนัก แต่โป้งก็หยุดนิ่งทันที แม้มือจะพยายามดันอกหนาๆ ของอีกคนไว้ก็ตาม

 

“มึงก็อย่าเล่นบ้าๆ! ปล่อยกู!” หน้าแดงๆ ถมึงทึงด้วยความไม่พอใจ โอหัวเราะในคอเบาๆ ยอมปล่อยมือออกจากเอวของโป้งแต่โดยดี เพราะไม่ได้มาเพื่อแกล้ง แต่มีข่าวเด็ดจะบอก

 

“มึงเห็นในเฟซยัง?”

 

“เฟซ? เห็นอะไร? กูทำงานให้มึงตัวเป็นเกลียวขนาดนี้ จะเอาเวลาที่ไหนไปเช็คเฟซห๊ะ!?” อดไม่ได้ที่จะโวยใส่เบาๆ ขืนดังมากเดี๋ยวโดนมันแกล้งอีก

 

โอไม่ได้ตอบ แค่ยิ้มมุมปากแล้วยื่นสมาร์ทโฟนที่มีสัญลักษณ์แอปเปิ้ลแหว่งให้ดู โป้งรับไปดู พลันต้องถลึงตาโต ก่อนที่คิ้วจะค่อยๆ ขมวดเป็นปม กัดปากตัวเองจนเลือดซึม พอเห็นแบบนั้น โอก็รีบแย่งมือถือคืนไป

 

“กูไม่รู้นะว่ามันจริงจังแค่ไหน แต่คนอย่างไอ้บิว อะไรที่มันอยากได้ มันก็ต้องได้อยู่แล้ว” โอเขยิบเข้าไปยืนชิดกับคนที่หน้ามุ่ยไม่หาย

 

“ถ้ามันชอบผู้ชายได้ ทำไมมันถึงไม่ชอบกู!” โป้งโวยวายหน้าแดงก่ำ น้ำตาคลอ ลูกผู้ชายอย่างโป้งไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น แต่ยกเว้นโอไว้คนนึง โอไม่ได้พูดอะไร แค่ดึงโป้งไปกอดไว้แนบอก ลูบหัวให้เบาๆ อย่างปลอบโยน

 

ภาพบนหน้าจอมือถือของโอ เป็นภาพจากในเฟซบุ๊คของบิว

 

เพิ่งอัพเดทไปไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เป็นภาพของบิวที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกับเฟรน ในห้องของเฟรน คนตัวเล็กนอนซุกอยู่ในผ้าห่ม กำลังหลับสบายซบไหล่และกอดแขนของบิวไว้ ส่วนบิวไม่ได้ใส่เสื้อ และแนบริมฝีปากไว้บนแก้มของคนที่นอนหลับอยู่ข้างๆ

 

โป้งคว้าอกเสื้อของโอขยุ้มจนยับยู่ยี่ ซบหน้าบนลาดไหล่กว้างของร่างสูงกว่า ปล่อยให้น้ำตาไหลทุกหยาดหยดลงบนเสื้อของอีกฝ่าย โอกอดไหล่ที่สั่นเทานั้นพลางลูบเบาๆ

 

“ลืมมันซะ คนอย่างมัน ไม่คู่ควรกับมึงหรอก” เสียงอ่อนโยนปลอบอยู่ข้างหู โป้งยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม

 

“ฮือ...แล้วคนแบบไหน...จะเหมาะกับกูล่ะ ทำไม...ทำไม...มันถึงไม่ชอบกู” โป้งกอดโออย่างลืมอาย กอดแน่นจนเหมือนรัด โอนิ่งเงียบ ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวออกจากอ้อมกอดของโป้ง เชยคางมนขึ้นสบตา ทั้งที่โป้งยังมีน้ำตาไหลอาบแก้ม

 

ไม่มีคำตอบ มีเพียงแค่สัมผัสบางเบาจากริมฝีปากอุ่นๆ ที่ทำให้โป้งต้องหลับตาลงอีกครั้งทั้งน้ำตา

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.10 16/3/18 new up 7:34pm
«ตอบ #35 เมื่อ16-03-2018 19:36:36 »

มีความเซ็นเซอร์ตัดไปที่ฝ้ากระจกห้องนอน ฮ่าๆๆๆๆๆ



10

โอยืนกอดอกพิงบาร์ที่ด้านในสุดของร้าน สายตาคอยไล่ตามร่างสูงหุ่นนักกีฬาน่ากอดที่อยู่ในชุดพนักงานเสิร์ฟของที่ร้านซึ่งกำลังวิ่งวุ่นรับลูกค้าและคอยเก็บโต๊ะมาตั้งแต่บ่าย

 

“ช่วงนี้ขยันมากเลย น้องโป้งน่ะ” พี่รัล ผู้จัดการร้านเจ้าเก่าเดินเข้ามาเอาไหล่สะกิดลูกชายเจ้าของร้าน ซึ่งมีหน้าที่บริหารงานที่สาขาบอสตันแทนพ่อ เพราะโอเคยมาเรียนที่นี่ พ่อของเขาถึงได้ตัดสินใจมาเปิดร้านไว้ เวลาปิดเทอมก็ให้โอมาดูแล และมีเงินเดือนให้ตามสมควร

 

“หึ ก็ดีแล้วนี่ครับ” โอยักยิ้ม

 

รัลเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของเจ้านาย “แค่ “ก็ดี” เองเหรอ? น่าจะมีรางวัลให้หน่อยนะ เงินค่าแรงก็ไม่ได้ไม่ใช่เหรอครับคุณโอ”

 

โอหัวเราะในคอ ใครบอกว่าไม่ได้ค่าแรงกัน ให้ไปตั้งแสนนึงแล้ว และหลังจากนี้คงต้องเสียเงินอีกเยอะ ถ้าคิดจะเปย์น้องโป้งของพี่รัล “ผมว่าพี่ไปทำงานเหอะ ไม่ต้องโอ๋มันมากนักหรอก ใช้งานหนักๆ เอาให้คุ้มเลยพี่” มือหนาวางบนบ่าของหนุ่มรุ่นพี่ที่เป็นพนักงานของตัวเองก่อนจะเดินเข้าหลังร้านไป ทิ้งให้รัลมองตามแบบงงๆ

 

แม้โป้งจะเป็นเด็กเอาแต่ใจ ชอบทำตัวเหมือนนักเลงหัวไม้ แต่จริงๆ มนุษยสัมพันธ์ดีมาก แถมลูกอ้อนลูกชนแพรวพราว โดยเฉพาะกับคนที่อายุมากกว่า ไม่อย่างนั้นผู้จัดการจอมเฮี้ยบอย่างพี่รัลคงไม่หลงน้องโป้ง ถึงขนาดมาบอกให้ตบรางวัลหรอก

 

แต่กับเพื่อนสนิทที่อยู่ด้วยกันมาแต่เล็กแต่น้อย รู้ไส้รู้พุงกันมามาก โอไม่คิดว่าแค่นี้จะดัดนิสัยเสียๆ ของโป้งได้อยู่หมัด แค่สอนให้รู้จักทำมาหากิน จะได้รู้จักคุณค่าของเงินแต่ละบาทแค่นั้น

 

โป้งทำงานช่วงบ่ายเสร็จแล้ว พี่รัลบอกให้ออกไปนั่งพักได้ ก็เลยมานั่งเล่นมือถืออยู่หลังร้าน เช็คเฟซบุ๊คและไลน์จากเพื่อนๆ แม้จะรู้ว่าต้องทนเห็นภาพบาดตาอีกเยอะจากไอ้คนที่ไม่เคยคิดจะสนใจกันสักครั้ง

 

ช่วงปิดเทอม บิวแทบจะอยู่กับเฟรนตลอดเวลา ถ่ายรูปคู่กันตอนไปเที่ยวบ้าง ไปกินข้าวบ้าง แถมยังเข้าออกบ้านกันเป็นว่าเล่น พ่อแม่พี่น้องก็รู้จักกันไปหมด เพราะบ้านละแวกเดียวกัน ดูยังไงก็สมเป็นแฟนกันจริงจัง

 

“นั่งถอนหายใจอยู่ได้ จะดูให้มันเจ็บใจทำไมวะ” จู่ๆ โอก็โผล่มาข้างหลังอีกแล้ว โป้งสะดุ้งโหยง รีบเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง

 

“แล้วมึงโรคจิตเหรอ ชอบมาข้างหลังเงียบๆ” หันไปแขวะเข้าให้ ก่อนจะแยกเขี้ยวใส่เมื่อได้ยินคำตอบของโอ

 

“ก็กูชอบเข้าข้างหลัง มึงสนใจลองสักทีมั้ยล่ะ”

 

“ส้นตีนเหอะ” แถมด้วยนิ้วกลางกระแทกหน้าอีกที

 

“ทำงานครบเดือนแล้วนะ” โอนั่งลงข้างๆ เตรียมจะจุดบุหรี่สูบ แต่โป้งกระชากซองบุหรี่ออกไปจากมือของเขาเสียก่อน โอมองหน้าโป้งแล้วขมวดคิ้ว

 

“เลิกสูบสักทีเหอะ มันเหม็น!” คิ้มเข้มมุ่นเข้าหากัน ริมฝีปากสีอมชมพูเข้มทั้งที่ไม่ได้ทาลิปสติกเบะนิดๆ คล้ายไม่พอใจ และมันก็ดูน่ารักดีไม่หยอก

 

“กูก็สูบมาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นมึงเคยห้าม อย่างมากก็แค่ไล่ไปสูบไกลๆ ทำไมรอบนี้บอกให้เลิกเลยวะ” โอถามยาวจนโป้งชักมึน เลยพลั้งปากตอบเสียงดัง

 

“กลิ่นมันติดปากกู!” พอรู้ตัวว่าตอบอะไรออกไป หน้าบึ้งๆ ก็แดงเถือกเหมือนมะเขือเทศสุก

 

“อ้อ” โอผิวปากหวือพลางพยักหน้าว่าเข้าใจ นึกถึงบางครั้งที่จะจูบกันแล้วโป้งสำลักกลิ่นบุหรี่ที่ติดในปากของเขา เลยไม่ยอมให้จูบต่อ

 

“อ้อพ่องสิ ถ้าไม่เลิกสูบก็ห้ามมายุ่งกับปากกู!” เอามือปิดปากให้ดูด้วย หลังจากสองครั้งแรก ที่โดนจูบแบบตั้งตัวไม่ติดกับตอนที่กำลังร้องไห้แล้ว พักนี้ก็โดนจูบบ่อยขึ้นเรื่อยๆ แทบจะทุกวัน วันละหลายครั้ง จนโป้งห่วงว่าปากตัวเองจะเปื่อยเสียก่อน แถมกลัวมะเร็งปอดเพราะกลิ่นควันที่เหลือในปากของโอมันอัดเข้าปอดไปด้วย

 

โอยังคงพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะหยิบลูกอมในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตมาแกะใส่ปาก ก่อนจะคว้าคางของโป้งไว้ในระดับที่พอดีกัน พอได้กลิ่นรสมิ้นท์หอมเย็นจางๆ โป้งเลยยอมเอามือออกจากปากตัวเอง และหลับตารอ มืออีกข้างของโอวางทาบบนต้นขาเล่นเอาสะดุ้งสุดตัว แต่ไม่ทันได้ลืมตามอง ริมฝีปากอุ่นๆ ก็ประกบลงมา

 

แม้ไม่อยากยอมรับก็ต้องยอม เพราะโอจูบเก่งมาก เก่งจนเกินไป และทำให้โป้งต้องเข่าอ่อนมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ดีที่วันนี้อยู่ในท่านั่ง แม้ขาจะสั่นก็ยังไม่ทรุดลงบนพื้น โอบีบคางเบาๆ แล้วคลึงไปมาเหมือนทุกครั้ง ทำให้โป้งยอมเผยอปากออกให้สอดลิ้นเข้าไป ลูกอมที่ยังไม่ละลายดีถูกส่งผ่านจากปากของโอเข้าสู่โพรงปากของโป้ง โอดึงลิ้นออกและเลียน้ำลายที่ไหลติดริมฝีปากสีชมพูเข้มเพื่อทำความสะอาดให้ แต่น่าจะยิ่งเลอะกว่าเดิม

 

“อือ...” โป้งหรี่ตามองหน้าโอที่กำลังเลียปากตัวเอง แถมโอยังไม่ยอมหลับตาตั้งแต่แรก พอสบตากัน โป้งรู้สึกใจสั่นจนเก็บอาการไม่อยู่ มือไม้อ่อนแรงได้แต่เกาะไหล่หนาไว้เป็นที่พึ่ง ขาสองข้างหนีบพรึ่บเข้าหากัน แต่โอก็ดันมันออกจนได้ ร่างใหญ่ทัดเทียมกันแทรกเข้าไปตรงกลาง สองมือกระชากเอวของโป้งยกตัวให้ขึ้นไปนั่งบนตักและประโคมจูบหนักหน่วงทั้งกัดและบดขยี้ริมฝีปากอิ่มจนแดงช้ำ โดยไม่ใช้ลิ้น เพราะกลัวลูกอมในปากโป้งจะหลุดลงคอ จากที่แค่เกาะบ่า โป้งเลยต้องกอดคอร่างใหญ่ไว้แทนพลางหลับตาปี๋ ปากที่ถูกบดจูบเจ็บระบมไปหมด

 

เมื่อโอผละออกมา โป้งก็หอบถี่ เอามือทุบไหล่ร่างใหญ่ไปที “เป็นหมารึไง ปากกูช้ำหมดแล้ว” บ่นพลางยกมือขึ้นแตะปากตัวเอง ยังเจ็บแปลบๆ อยู่เลย ดีที่เลือดไม่ออก

 

“ไม่เหม็นบุหรี่แล้วใช่มั้ย? รสชาติใหม่ หอมสดชื่นมั้ยครับ?” โอยิ้มยียวน ยื่นปลายจมูกไปชนกัน โป้งรีบเอียงคอหลบด้วยความอาย

 

“ถ้าลูกอมติดคอกูตาย จะเป็นผีมาบีบคอมึง” โป้งหน้าหงิก หยิกแก้มของโอแล้วก็ดึงให้มันยืดย้วยด้วยความหมั่นไส้ แต่โอก็ยังจะหัวเราะอารมณ์ดี ดูเหมือนโป้งจะลืมไปด้วยว่า กำลังนั่งอยู่บนตักในท่าคร่อมขาของโอที่ดูหมิ่นเหม่ โอเลยยิ่งชอบใจ กอดเอวโป้งแล้วลูบๆ คลำๆ แถวบั้นท้ายเล่นสนุกมือ

 

“เออ เมื่อกี้พูดค้างอยู่ มึงทำงานครบเดือนแล้ว” โอหยุดหัวเราะเมื่อนึกถึงจุดประสงค์ที่มาหาโป้ง

 

“แล้ว?” โป้งก็ยังไม่รู้ตัวอยู่ดีว่านั่งอยู่ท่าไหน แถมยังเอียงคอสงสัยได้โครตจะน่ารัก จนโอนึกอยากจะฟัดอีกสักรอบ แต่รอบนี้คงไม่ใช่แค่ที่ปาก

 

“พรุ่งนี้ เก็บของเตรียมตัวรอได้เลย เราจะกลับไทยกัน” โอบอกพร้อมรอยยิ้มหวาน ส่วนโป้งถึงกับตาโตด้วยความดีใจ โผเข้ากอดคออีกคนแน่น จนโอนึกอยากจะจับกดมันตรงนี้จริงๆ

 

“เย้! ไม่ต้องทำงานแล้วสินะ! กลับบ้านๆๆๆ”

 

******

 

กลับไทยจริง โอไม่ได้โกหก แต่แค่บอกไม่หมด ว่าไม่ได้จะพากลับบ้าน...

 

มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตกันตอนตี 2 ครึ่ง และโป้งก็ยืนเคว้ง เพราะมันไม่ใช่กรุงเทพฯ!!!

 

“ไอ้เหี้ยโอ!!! พากูมาที่นี่ทำไมเนี่ย!!!!” ร่างสูงโวยลั่นกระชากคอเสื้อเพื่อนที่กลั้นขำจนน้ำตาเล็ด โอปัดมือโป้งออกแล้วกลับมาตีหน้านิ่งตามเดิม

 

“กูบอกว่ากลับไทย ไม่ได้บอกจะพามึงกลับบ้านสักคำ” โอยักคิ้วให้พลางยิ้มขำ

 

เออ ก็จริงของมัน...โป้งนิ่งคิด แต่พอคิดแล้วก็ต้องหน้าตึง “สัส! มึงหลอกลวงกู! กูจะกลับกรุงเทพฯ เดี๋ยวนี้!”

 

“สัญญา” โอฟันฉับแสกหน้า โป้งถึงกับสะอึก สัญญาที่โอให้เซ็นก่อนจะมอบเงินแสนให้ฟรีๆ ครั้งนั้นยังอยู่ในกำมือมาร หน้าที่งอไปแล้วเลยยิ่งหงิกกว่าเดิมร้อยเท่า โอหัวเราะในคอ ดึงกระเป๋าเป้ที่โป้งสะพายบ่าไว้มาถือให้ พร้อมเข็นรถที่ใช้ขนกระเป๋าเดินทางสามใบ เดินนำไปที่รถของทางรีสอร์ทที่โทรเรียกไว้

 

โป้งรีบวิ่งตามร่างใหญ่ไปติดๆ “มึงคงไม่ได้พากูมาเที่ยวแน่ๆ บอกมา จะพากูมาใช้แรงงานอะไรอีก!”

 

“กูมาทำงาน ส่วนมึง...” โอหยุดเดินเมื่อมาถึงรถตู้ VIP สีเงินที่มีป้ายระบุว่า รีสอร์ทแดนไทย “อยากจะทำอะไรก็ทำ”

 

โป้งตาโตอย่างตื่นเต้น “จริงเปล่า? มึงให้กูมาเที่ยวจริงเหรอวะ”

 

โอพยักหน้ารับ รอให้คนขับรถช่วยขนกระเป๋าเก็บท้ายรถเรียบร้อยแล้วก็คว้ามือโป้งให้ขึ้นไปนั่งบนรถก่อน “รางวัลที่มึงยอมทำงานที่บอสตันถึงเดือน”

 

“เย้! มึงนี่น่ารักที่สุดเลย” ลืมตัวอีกแล้ว กระโดดกอดโอพร้อมหอมแก้มแรงๆ ไปที ก่อนจะเด้งขึ้นรถอย่างไว โอถอนหายใจพลางส่ายหน้า แต่ก็อมยิ้มนิดๆ ที่เห็นหน้าตาสดใสของโป้ง

 

รีสอร์ทแดนไทย จากชื่อก็รู้แล้วว่าเป็นของพ่อโออีกตามเคย โป้งก็พอคุ้นเคยกับบ้านของโออยู่ไม่น้อย แต่ไม่เคยไปยุ่มย่ามกับกิจการหรือธุรกิจของบ้านโอเลยสักครั้ง รู้แค่ทุกปิดเทอม โอจะต้องทำงานกับพ่อตั้งแต่อายุ 15 แล้ว เลยมีบุคลิกที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน

 

พ่อของโอไม่เคยมาที่โรงเรียนแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว โป้งเคยเจอที่บ้านของโอ เวลาไปเที่ยวเล่นหรือทำงานด้วยกันแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น พ่อของโอเป็นชายหนุ่มที่ดูแล้วอายุไม่น่าเกิน 40 ด้วยซ้ำ แต่โอบอกว่าพ่ออายุเกือบ 50 แล้ว เลยรีบร้อนสอนงานโอน่าดู เพราะกลัวจะอยู่ได้ไม่นาน ก็เล่นโหมงานหนักไม่มีเวลาพักขนาดนั้น

 

โอไม่มีแม่ เห็นว่าเสียไปตอนโออายุ 10 ขวบ ปีหนึ่งเต็มๆ ที่โอไม่ยอมไปโรงเรียน เลยต้องมาเข้าเรียนซ้ำ และมาอยู่รุ่นเดียวกับโป้ง ตอนนั้นโอยังดูตัวเล็กๆ หน้าตาน่ารัก ผิวพรรณขาวผ่อง ซึ่งตอนนี้ก็ยังขาวอยู่แหละ แต่ไม่ซีดเหมือนตอนเด็กๆ แล้ว แถมสูงใหญ่สมชายชาตรีจนน่าหมั่นไส้นิดๆ

 

อาจจะเพราะไม่มีแม่ แถมพ่อก็ไม่มีเวลาให้ โอเลยค่อนข้างขาดความอบอุ่น และโหยหาความรักจากทั้งหญิงและชาย ตอนม.3 โอบอกเองว่าเป็นไบ พอม.4 ก็จีบน้องน้ำอยู่พักหนึ่ง พอรู้ว่ามีแฟนแล้วก็เลิกยุ่ง มีผู้หญิงหรือผู้ชายคนไหนเข้าหาก็เล่นด้วยหมด แต่โอป้องกันดีและมีกฎของตัวเอง ที่จะไม่ล้ำเส้นกับใคร และไม่ให้ใครมาล้ำเส้นของตัวเอง ส่วนใหญ่เลยเป็นพวกวันไนท์แสตนด์ คืนเดียวจบ แต่ลึกๆ แล้วโอก็ยังต้องการรักแท้จากใครสักคน ซึ่งโป้งรู้ดีที่สุด

 

แต่โป้งไม่เคยคิดจะสนใจหรือมองโอในแง่นั้น เพราะความเป็นเพื่อนสนิทที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ป.5 แก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันมาตั้งหลายครั้ง จะให้ไปคิดอะไรเกินเลยกับเพื่อนตัวเองมันก็แปลกๆ แม้ตอนนี้จะเลยเถิดไปพอสมควรแล้วก็ตาม

 

โป้งเผลอหลับไปในขณะที่คิดถึงเรื่องสมัยเด็กและเรื่องของโอ รู้สึกตัวอีกทีก็มานอนอยู่บนเตียงสีขาวนุ่มๆ แล้ว ร่างสูงขมวดคิ้วหน้าย่น งุนงงว่ามาตรงนี้ได้ยังไง

 

“ไม่ต้องทำหน้างั้น กูแบกมึงมาเองแหละ” โอเดินเข้ามาในห้องพอดี เห็นอีกคนกำลังทำหน้ายุ่งก็รู้แล้วว่าคิดอะไรอยู่

 

โป้งเงยหน้ามองโอ คิ้วยังขมวดปม “ปลุกก็ได้มั้ย นึกว่าแรงเยอะนักรึไง”

 

“เยอะไม่เยอะก็อุ้มมึงตัวลอยได้แล้วกัน”

 

ตุ้บ!

 

ยังไม่ทันได้หัวเราะ ก็โดนหมอนปาใส่หน้าเต็มๆ โอทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว ไม่คิดว่าโป้งจะปาหมอนใส่ กับแค่แหย่เล่นนิดเดียว

 

“กี่โมงแล้วเนี่ย” โป้งหันไปมองทางหน้าต่าง มีแสงแดดรำไรส่องผ่านผ้าม่านผืนบางเข้ามาจนแสบตานิดๆ

 

“แปดโมงครึ่ง” โอตอบก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเตียง โป้งสะดุ้งถอยหนีไปอีกฝั่ง จนเกือบตกเตียง “กลัวอะไรเนี่ย” โอหันไปมองหน้าโป้งแล้วแค่นยิ้ม

 

“ไม่ได้กลัว! ไหนบอกมาทำงานไง รีบไปดิ” โบกมือไล่ไปอีก

 

โอส่ายหน้ายิ้มๆ “ก่อนไป ขอจูบที” นี่ก็ด้านกว่า ยื่นมือสองข้างออกไปคล้ายจะกอด แต่โป้งไม่ยอมเข้ามาหา โอก็เลยคลานเข้าไปหาเอง คว้าตัวได้หมับก็จับจูบไม่ยั้ง เล่นเอาคนเพิ่งตื่นนอนตัวอ่อนยวบ

 

“เชี่ย! กูยังไม่ได้แปรงฟัน!” โป้งดันหน้าโอออก ก่อนที่จะโดนจู่โจมด้วยลิ้นร้อนๆ

 

“กูไม่ถือ” โอว่าพลางงับเบาๆ ที่ริมฝีปากล่างของคนที่ตัวสั่นกึกๆ ในอ้อมกอดให้เปิดปากออกและสอดลิ้นเข้าไปอย่างดูดดื่ม

 

“อื้อ!” แผ่นหลังเอนลงตามแรงโน้มถ่วงจนแปะลงบนผืนเตียงกว้างอย่างไม่ทันตั้งตัว โป้งสะดุ้งโหยงเมื่อโอสอดมือเข้าไปในเสื้อยืด มันแตะเบาๆ ตรงหน้าท้องแล้วค่อยๆ นวดคลึงจนต้องหดตัวหนีเพราะความเสียว “พอเลย! ไปทำงานได้แล้ว” โป้งผลักหน้าของโอออกพร้อมกับเท้าถีบที่เตียง เร่งดันตัวออกห่าง อยู่บนเตียงแบบนี้โครตอันตราย

 

“โอเค เดี๋ยวบ่ายๆ มาหา จะออกไปเดินเล่นหรือจะเอาอะไรก็กดเรียกพนักงานนะ กูบอกไว้แล้วว่ามึงเป็นแขก VIP” โอแสยะยิ้ม เลียปากนิดๆ ให้โป้งหน้าขึ้นสี ก่อนจะลุกออกจากห้องนั้นไป

 

******

 

โอไปทำงานแล้ว ส่วนโป้งก็ว่างจัด อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ กินข้าวที่มีคนเอามาเสิร์ฟให้ที่ห้องแล้วก็ออกไปเดินเล่นแถวรีสอร์ท ซึ่งมีหาดส่วนตัวอยู่ด้านหน้ารีสอร์ทด้วย แดดร้อนจัดทีเดียว แต่โป้งไม่กลัวดำหรอก เพราะยังไงก็เป็นนักกีฬา ไม่ได้ตัวขาวจั๊วแต่แรกอยู่แล้ว

 

เห็นทะเลตรงหน้ามันก็อยากจะลงไปเล่นน้ำขึ้นมาตงิดๆ โป้งเหลียวซ้ายแลขวา ด้วยความที่เป็นหาดส่วนตัวเลยไม่ค่อยมีคน มีฝรั่งหัวแดงไม่กี่คนที่นอนอาบแดด และคงไม่มาสนใจมอง โป้งเลยถอดเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ออก วางพาดไว้กับเก้าอี้ชายหาดแถวนั้น เหลือแค่บ็อกเซอร์สีดำตัวเดียวแล้ววิ่งลงไปในทะเล เล่นน้ำอย่างสนุกสนานท่ามกลางแดดจ้า

 

บ่ายคล้อย แดดยังร้อนแรง โป้งยังไม่ยอมขึ้นจากน้ำ ขนาดมือเริ่มเปื่อยแล้วก็ยังสนุกไม่หาย เพราะไม่ได้มาเที่ยวทะเลนานมากแล้ว เพลินจนไม่ทันมองว่ามีคนมายืนดูอยู่ที่ริมหาด

 

“เล่นตั้งแต่กี่โมง” โอหันไปถามพนักงานที่เดินมาเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ เป็นคนที่เขาฝากให้ช่วยจับตาดูโป้งไว้ เผื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้นจะได้รายงานทัน

 

“สัก 11 โมงกว่าๆ ได้ครับ ไม่ยอมขึ้นมาเลย” พนักงานคนนั้นตอบด้วยสีหน้าเป็นกังวลเล็กน้อย “ผมเรียกแล้ว แต่ไม่ยอมมา”

 

“เด็กเอ๊ย...” โอสบถเบาๆ พยักหน้าให้พนักงานกลับไปทำงานด้านในบาร์ตามเดิม ก่อนจะปลดเนคไท พับแขนเสื้อและขากางเกงขึ้น เดินลุยน้ำลงไปคว้าเจ้าตัวดีขึ้นมาจากทะเล

 

“เหวอออ!!” โป้งร้องเสียงหลงเมื่อถูกกระชากแขน พอหันไปเจอโอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ตกใจหมด! ไอ้บ้า!”

 

“ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด เดี๋ยวพาไปหาอะไรกิน” โอสังเกตเห็นมือซีดๆ เปื่อยๆ ก็หงุดหงิดขึ้นมาบอกไม่ถูก “เป็นเด็กประถมรึไง เล่นจนตัวเปื่อยแล้ว แดดก็ร้อน อยากเป็นไข้ตายใช่มั้ย”

 

น้ำเสียงหงุดหงิดของโอ ทำให้โป้งหน้ายู่ “ก็มันสนุกนี่ ลืมตัวอ่ะลืมตัว เข้าใจมั้ย!”

 

“ยังจะเถียง! อย่าลืมว่าต้องทำตามคำสั่งกู” โอดุเสียงดังพลางลากแขนร่างสูงไปทางบ้านพัก VIP หลังเดิมกับเมื่อเช้า

 

“ฮึ่ย...” โป้งหัวเสียเล็กน้อย เพราะโดนขัดจังหวะตอนกำลังสนุก

 

“แล้วดูแต่งตัวดิ” โอเหวี่ยงร่างของโป้งเข้าไปในห้องน้ำ แล้วตามเข้าไปเปิดน้ำจากฝักบัว ปรับให้อุ่นพอดี สายน้ำไหลซู่ตั้งแต่หัวจนถึงปลายเท้าของร่างสูง มือหนาเกี่ยวขอบบ็อกเซอร์สีดำของโป้งทำท่าจะรั้งมันลง จนโป้งต้องรีบยื้อไว้

 

“จะทำอะไร!? ไม่ต้องเลย! กูถอดเอง อาบเองได้”

 

โอแค่นยิ้ม “อายอะไร เมื่อก่อนก็แก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันบ่อยไป” มือหนาคว้าหมับที่ขอบกางเกงแล้วดึงพรวดเดียวลงมาที่ต้นขา โป้งตกใจตาโต เอามือมาปิดของสงวนทันที

 

“ไอ้เหี้ยโอ! ออกไป!” ร้องโวยวาย แต่มือไม่ว่างผลัก เพราะปิดหว่างขาอยู่ โอหัวเราะหึอย่างชอบใจกับท่าทางร้อนรนและแก้มแดงๆ นั้น

 

“แค่อาบน้ำ ไม่ได้จะทำอะไรหรอกน่า”

 

โป้งกัดฟันกรอด ในเมื่อไล่มันไม่ไป ก็เลยหันหลังให้ซะเลย แต่ก็ลืมอีกแหละ ว่าการหันหลังก็ยิ่งไม่ปลอดภัยเข้าไปใหญ่

 

โอยกมุมปากขึ้นข้างหนึ่งก่อนจะเบียดตัวเองชิดด้านหลังของโป้ง แม้จะยังสวมเสื้อผ้าครบทุกชิ้นก็ตาม ทำเอาโป้งสะดุ้งโหยง จะหันหน้าก็กลัว แต่หันหลังอยู่แบบนี้ก็ยิ่งเสียว

 

“ไอ้เหี้ยโอ! ไม่เล่นนะ! ออกไป!” ออกปากไล่เสียงดังพลางเอาศอกดันอกอีกคนออกห่าง เอี้ยวตัวไปมองเห็นแค่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ทำให้หัวใจเต้นแรง หน้าร้อนวูบวาบไปหมด

 

โอค่อยๆ ถอดเสื้อออกช้าๆ ดันร่างของโป้งไปชิดผนัง ก่อนจะปลดกางเกงลง “กูอาบด้วย”

 

“จะบ้าเหรอวะ! ไม่เอา! ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว จะมาอาบด้วยกันได้ไง!” โป้งโวยลั่นหน้าแดงก่ำ ศอกกระทุ้งอกกับท้องอีกฝ่ายไม่หยุด แต่ไอ้กล้ามเนื้อแข็งๆ ข้างหลังแม่งไม่มีทีท่าจะเจ็บปวด

 

“ล่าสุดก็ตอนม.6 เพิ่งผ่านมาไม่นานนี้เอง” โอแนบริมฝีปากกระซิบข้างหลังใบหู มือโอบกอดเอวคอดจากด้านหลัง

 

“แต่ไม่ได้อาบท่านี้ ไอ้สัส! แล้วมันก็ตั้งปีกว่าแล้ว ไอ้โอ!!!” โป้งเด้งตัวหนีสุดชีวิต แต่ถูกรัดเอวเสียแน่นหนา ยิ่งบั้นท้ายสัมผัสกับอะไรแข็งๆ ข้างหลังที่ก็รู้เต็มอกว่าคืออะไรยิ่งตัวเกร็งสะท้าน “อือ...” กัดปากจนเลือดซิบ กลัวจนอยากจะร้องไห้

 

“แป้ปเดียว กูจะไม่แตะต้องมึง ขอกูอยู่แบบนี้แป้ปเดียวนะ” เสียงสั่นแหบพร่าของร่างใหญ่ทำเอาโป้งไม่กล้าขยับมากกว่านั้น ได้แต่ยืนนิ่งเกาะกำแพงไว้ ปล่อยให้อีกคนเบียดตัวเข้าหาพร้อมกับใช้มือปรนเปรอทุเลาความร้อนรุ่มของตัวมันเองอยู่ข้างหลัง โป้งก้มหน้ากัดปากแน่น เสียงครางแผ่วๆ ของโอทำให้ร่างกายเสียวปลาบ ทั้งที่โอไม่ได้ทำอะไรบนร่างกายของโป้งเลยแม้แต่น้อย

 

โอหลับตาลง ซุกหน้ากับแผ่นหลังของโป้ง เส้นผมเปียกๆ ที่ละไปตามแนวสันหลังทำเอาร่างสูงตัวสั่นกึกๆ ฝ่ามือที่ขยับยุกยิก ทำให้โป้งยิ่งตัวเกร็ง ความร้อนจากร่างกายของคนที่ทาบอยู่ด้านหลังส่งผ่านมาถึง จนอะไรๆ มันชักจะเกิดปฏิกิริยา

 

“ไอ้โอ...เสร็จยังวะ...กู...เมื่อย” โป้งกัดฟันพูดออกไปแบบนั้น ทั้งที่จริง มันไม่ใช่ความเมื่อยล้า แต่เบื้องล่างต่างหากที่ปวดหนึบ

 

“อือ” โอครางรับ จัดการทำความสะอาดของตัวเองเสร็จก็คว้าผ้าขนหนูมาพันเอว “ขอโทษที่ทำให้ตกใจ รีบๆ อาบล่ะ” เสียงทุ้มๆ พูดทิ้งท้ายแล้วจากนั้นก็ได้ยินแค่เสียงประตูปิดเบาๆ

 

โป้งพรูลมหายใจอย่างโล่งอก ทรุดตัวลงบนพื้น มือค่อยๆ เกาะกุมร่างกายที่มีปฏิกิริยาจากการกระทำเมื่อครู่ของอีกฝ่าย สายน้ำไหลชำระล้างคราบต่างๆ ไปพร้อมกับสติสัมปชัญญะที่รางเลือน

 

******

 

ช่วงกลางคืน ริมหาดหน้ารีสอร์ทประดับประดาด้วยไฟระย้าสีส้มสว่างสดใส ช่วงนี้มีคนมาพักไม่มาก ส่วนใหญ่มีแต่ชาวต่างชาติที่มาเป็นคู่ โอพาโป้งมานั่งกินลมชมวิวตอนกลางคืนที่บาร์เล็กๆ ใกล้หาด มีเครื่องดื่มมึนเมาเล็กน้อย พอกรุ้มกริ่ม

 

แต่บรรยากาศจะดีแค่ไหน สองคนที่นั่งตรงข้ามกันกลับไม่อินกับมันเอาเสียเลย ต่างคนต่างนั่งหันหน้าไปคนละทาง โอมองเพดาน ส่วนโป้งก็เอาแต่มองพื้น พนักงานที่เดินผ่านไปมายังสงสัยว่าเป็นอะไรกัน ถึงได้ดูเหนื่อยล้าและหน้าเครียดพิกล

 

“เอ่อ...จะรับอะไรเพิ่มมั้ยคะ? คุณโอ คุณโป้ง” สาวเสิร์ฟเป็นตัวแทนเพื่อนๆ เสี่ยงตายเข้ามาถามคนแรก เพราะคิดว่าให้ผู้หญิงมาถามน่าจะดีที่สุด ผู้ชายมาอาจจะโดนเจ้านายต่อยเอาได้

 

“ไม่” สองเสียงตอบพร้อมกัน โดยไม่มองไปที่คนถามแม้แต่น้อย พอตอบเสร็จก็มองหน้ากันทีหนึ่ง แล้วหันหลบกันไปคนละทางเหมือนเดิม สาวเสิร์ฟผู้หวังดีเลยรีบจรลีจากไปทันที

 

เป็นฝ่ายโอที่ทนไม่ไหว กำปั้นทุบลงบนโต๊ะดังปึง เล่นเอาทั้งโป้งและรอบข้างสะดุ้งเป็นแถบ

 

โอจ้องมองอย่างตรงไปตรงมา แต่โป้งกลับหลบสายตา “กูมีเรื่องต้องพูดกับมึง”

 

“...” โป้งแค่เหลือบสายตามองก่อนจะหันหนี รู้สึกเลยว่าหน้าร้อนจนแทบไหม้ ภาพในห้องน้ำเมื่อตอนบ่าย ผุดเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ

 

“กลับห้องกัน” โอลุกขึ้นฉุดข้อมืออีกคนให้ลุกตาม แต่โป้งขืนไว้จะไม่ไปด้วย “สัญญา”

 

คำเดียวที่คล้ายเป็นคำสั่งกลายๆ ทำให้โป้งต้องลุกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ การได้ทำงานที่ร้านอาหารในบอสตันตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ทำให้โป้งรู้แล้วว่าเงินแต่ละบาทกว่าจะได้มานั้นมันยากเย็นแค่ไหน และเงินตั้งแสนที่โอยอมควักจ่ายให้ ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ที่แค่จะใช้หมดได้ในระยะเวลาแค่ 6 เดือน

 

สองคนกลับเข้าไปในห้องพักอย่างเงียบเชียบ โอกำชับพนักงานไว้แล้วว่าห้ามใครผ่านมารบกวนแถวนี้เด็ดขาด บรรยากาศรอบข้างเลยยิ่งเงียบราวอยู่ในป่าช้า

 

“กูว่า...พวกเรามาไกลเกินไปแล้วว่ะ” โอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เขานั่งลงบนโซฟา ใช้ศอกยันเข่าและประสานมือไว้ที่หน้าผาก ท่าทางเคร่งเครียด “เรื่องเมื่อตอนบ่าย...”

 

“พอ! ไม่ต้องพูดแล้ว เอาเป็นว่า จบแค่นั้น กูจะลืม และมันจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก” โป้งยกมือขึ้นเบรกทันที โอเงยหน้ามองแล้วผุดลุกขึ้น สาวเท้าเข้าไปหา โป้งถอยหนีจนชิดประตูห้องนอนด้านในที่เป็นแค่กระจกใส

 

“แต่มึงมีอารมณ์” โอเอามือท้าวกับกระจกใสข้างหลังโป้ง ใบหน้าอยู่ใกล้กันจนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆ โป้งกำชายเสื้อตัวเองไว้แน่น ยืนตัวแข็งเกร็ง

 

“เพราะมึงทำแบบนั้น...” โป้งโต้กลับ แก้มแดงก่ำ เหงื่อไหลซึมบนหน้าผาก หัวใจสั่นอย่างแรง

 

“เวลาจูบกันก็ด้วย” โอขมวดคิ้ว จ้องหน้าไม่ลดละ จนโป้งต้องเบือนหน้าหนี ปฏิเสธไม่ได้ เพราะมีอารมณ์เวลาจูบกันจริงๆ

 

“มันก็แค่...ปฏิกิริยาตอบสนองทางกายป่ะวะ” โป้งยังคงเถียงอย่างดื้อแพ่ง โอถอนหายใจ

 

“มึงมีอารมณ์กับคนที่ไม่ได้รักได้ด้วยเหรอ ถ้าโดนจับโดนบีบแล้วแข็งก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ไม่ได้ทำอะไรเลย แค่จูบกัน แค่ยืนอยู่ใกล้ๆ ได้กลิ่นมึง กูก็แทบคลั่งแล้ว” ร่างใหญ่ซบหน้าลงบนไหล่ของโป้ง คนตัวเล็กกว่านิดหน่อยถึงกับนิ่งทื่อ ริมฝีปากเม้มแน่น “โป้ง”

 

เสียงทุ้มๆ ที่เรียกชื่อทำเอาโป้งสั่นสะท้าน แค่เสียงก็แทบควบคุมสติตัวเองไม่ไหวแล้วเหมือนกัน แต่ยังไม่อยากยอมรับว่าคิดอะไรแบบนั้นกับเพื่อนสนิทของตัวเอง โป้งเลยส่ายหน้าไปมารัวๆ สองมือดันแผ่นอกหนาไม่ให้เข้ามาใกล้เกินกว่านี้

 

“โป้ง...ทำกัน...นะ” เสียงนั้นแหบพร่าและฟังดูเซ็กซี่จนโป้งเกือบเคลิ้มคล้อย แต่ก็พยายามสะบัดไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัว

 

“ไม่!” กำปั้นทุบรัวบนแผงอกหนา จนโอต้องผละออกมาเล็กน้อย

 

“โป้ง...” โอคว้าข้อมือทั้งสองข้างของโป้งไว้ เอ่ยเรียกด้วยเสียงออดอ้อนจนคนถูกเรียกหน้าร้อนฉ่า แรงจะขัดขืนลดฮวบ พอสบสายตาที่เปล่งประกายแฝงความนัย ร่างกายก็สั่นสะท้านจนแทบยืนไม่อยู่

 

ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันอีกครั้ง อกซ้ายปวดหนึบจนแทบชา ความคิดในสมองตีกันยุ่งเหยิงไปหมด ทั้งที่อายแทบตาย แต่กลับไม่กล้าละสายตาจากดวงตาคู่นั้น

 

“กู...ชอบมึงนะ โป้ง”

 

นั่นคือเสียงพูดคุยประโยคสุดท้ายที่ดังก้องในหัว ก่อนที่จะเหลือแค่เสียงหอบหายใจและเสียงครางกระเส่า ที่ไม่อยากรับรู้ว่าเป็นของใคร...

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.8 15/3/18
«ตอบ #36 เมื่อ16-03-2018 20:22:37 »

อ่านตอนนี้ชักไม่ชอบเฮียบิวแล้ว รู้สึกว่าเฮียจะมีหางงอกออกมานิดหน่อยนะ คนที่น่าสงสารสุดตอนนี้คงหนีไม่พ้นเฟรน  :katai1:
อย่าเพิ่งเกลียดเฮียบิวววว

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.10 16/3/18 new up 7:34pm
«ตอบ #37 เมื่อ16-03-2018 21:04:34 »

โป้งว่า "ไม่" แต่  :oo1: กับโอ
คงหมายถึง "ไม่ปฏิเสธ"  :mew4:

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.9 16/3/18
«ตอบ #38 เมื่อ16-03-2018 23:47:02 »

อยากจะด่าบิวจริงๆ วางแผนจะบอกเลิกเค้ายังไงเนี่ย ไปห้องเค้าไปเนียนถ่ายรูปให้คนอื่นเข้าใจผิด ว่ารักกันลึกซึ้ง แต่แกก็กะจะเลิกเป็นแฟนหลอกๆไปจีบหญิง เดี๋ยวเฟรนหนีขึ้นมาจะรู้สึก ส่วนโอโป้งนี่ คู่นี้น่ารัก เหมือนโอจะคุมโป้งอยู่เลยค่ะ คล้ายๆเจ้ากรรมนายเวรไม่ก็เนื้อคู่ไรประมาณนี้

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.11 17/3/18
«ตอบ #39 เมื่อ17-03-2018 09:22:11 »

โอโป้งไปไหนต่อไหนละ อีคู่หลักยัง...



11

“อือ กูทำตามที่มึงบอกแล้ว มีแค่คลิปเสียงนะ กูไม่อยากถ่ายเป็นภาพเคลื่อนไหว แค่นี้ก็เกินพอแล้วว่ะ เออ ไอ้เหี้ยบิว เจอกัน”

 

โป้งสลึมสลือตื่นขึ้นมาในตอนสายของอีกวัน เห็นโอที่สวมแค่กางเกงยีนส์ตัวเดียวยืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้านนอกห้องนอน เลยไม่ได้ยินว่าคุยเรื่องอะไรกับใคร และโอก็วางสายพอดีกับที่หันมาเจอโป้ง จึงเลื่อนบานกระจกใสเข้ามาด้านใน

 

“ตื่นแล้วเหรอ? ลุกไหวมั้ย” โอยังดูเป็นปกติ เอ่ยถามด้วยความห่วงใยพลางนั่งลงข้างๆ มือลูบเส้นผมชื้นเหงื่อของโป้งแผ่วเบา

 

“เมื่อกี้...แค่ก” พอจะพูดเสียงก็แหบเครือจนรู้สึกกระดากอาย โอมองแก้มแดงระเรื่อนั้นด้วยความเอ็นดู

 

“พ่อโทรมาน่ะ ไม่มีอะไรหรอก เรื่องงาน” โอคลี่ยิ้มบางๆ

 

“อือ” โป้งครางรับพลางเอียงคอหลบริมฝีปากร้อนๆ ที่ฉกลงมาตรงซอกคอ “หื่นแต่เช้า...”

 

“ก็ตัวมึงหอมไง ได้กลิ่นแล้วแม่งก็อยาก” โอหัวเราะเบาๆ พูดออกมาได้หน้าตาเฉยจนอีกคนต้องอายแทน

 

“เหนียวตัวอ่ะ จะอาบน้ำแล้ว” โป้งร้องบอกเสียงสั่น ขืนปล่อยให้ดมนานกว่านี้มีหวังได้เจ็บตัวอีกรอบ เมื่อคืนก็ล่อเกือบรุ่งสางไปทีแล้ว ไม่รู้มันอดอยากปากแห้งมาจากไหน

 

“ให้อุ้มไปมั้ย?” โอยิ้มแฉ่งทำท่าจะอุ้มโป้งขึ้น แต่ร่างสูงรีบส่ายหน้า

 

“ไม่ต้อง กูยังเดินได้อยู่ ไม่ได้ขาหัก” ว่าแล้วก็ค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นจากเตียง รับผ้าขนหนูจากโอมาพันเอวแล้วเดินขาเปลี้ยไปทางห้องน้ำด้วยตัวเอง อดไม่ได้ที่จะสบถลอดไรฟันเบาๆ ด้วยความเจ็บไม่ให้อีกคนได้ยิน

 

******

 

บิวกดหยุดคลิปเสียงที่ปล่อยให้เล่นมาได้สักพักพลางผิวปากอย่างอารมณ์ดี เงินแสนนึงที่ได้มาถูกโอนกลับไปยังเจ้าของคนเดิมของมัน

 

ข้อตกลงบรรลุผลแล้ว

 

“แม่ ผมออกไปข้างนอกหน่อยนะ” บิวถอดหูฟังแล้วเดินไปสวมรองเท้าตรงหน้าบ้านพลางตะโกนบอกแม่ ที่น่าจะอยู่ในครัว

 

“ไปไหนน่ะ บ้านน้องเฟรนหรือเปล่า” แม่รีบวิ่งออกมาจากครัว

 

“ครับ มีอะไรรึเปล่า”

 

“รอเดี๋ยวนะ แม่ฝากขนมตาลไปให้บ้านน้องเฟรนหน่อย วันก่อนเจอคุณแม่น้อง เลยคุยกันเรื่องขนมไทย ว่าจะแบ่งกันชิม” แม่ร่ายยาว วิ่งเข้าครัวไปอีกรอบแล้วกลับออกมาพร้อมถุงขนม บิวรับมาแล้วเดินไปคว้าจักรยานมาขี่ เพราะบ้านห่างไปแค่สามซอย เลยไม่อยากใช้มอเตอร์ไซค์ให้เปลืองน้ำมัน อีกอย่าง ยัยพี่สาวตัวดีก็ยืมไปขี่ช่วงนี้ด้วย

 

บิวอยู่กับแม่และพี่สาวแค่สามคน ฐานะทางบ้านไม่ถึงกับลำบาก เพราะมีเงินประกันของพ่อที่ยังเหลือใช้ พอให้เบธตี้กับบิวตี้ได้เรียนจนจบปริญญาตรี พ่อของพวกบิวเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุในที่ทำงานเมื่อ 4 ปีก่อน เหตุเกิดจากความประมาทเลินเล่อของฝ่ายผลิตและฝ่ายซ่อมบำรุง ที่ปล่อยเครื่องจักรทำงานจนเสื่อมสภาพและไม่ได้มีการเช็คสภาพล่วงหน้าหรือซ่อมบำรุงตามกำหนด พ่อของบิวเป็นวิศวกรในโรงงานนั้นและเข้าไปตรวจงาน เลยเกิดเหตุสลดขึ้นเพราะเครื่องจักรเกิดระเบิด จึงได้ทั้งเงินประกันและเงินชดเชยจากทางเจ้าของโรงงาน พออยู่พอกินได้สบาย แต่แม่ก็ยังต้องทำงาน ทั้งงานในบริษัทและวันหยุดก็ทำขนมส่งขายตามร้านค้า

 

ส่วนเรื่องชื่อของบิว ก็เพราะพี่สาวที่เกิดก่อนแค่ปีเดียวดันชื่อเบธตี้ และตอนนั้นพ่อกับแม่คิดว่าบิวจะเป็นเด็กผู้หญิง เลยเตรียมชื่อบิวตี้ไว้ให้ ปรากฏว่าออกมาเป็นเด็กผู้ชายมันเสียอย่างนั้น แต่บิวก็ไม่ได้รังเกียจชื่อนี้นักหรอก ออกจะชอบด้วยซ้ำ

 

ตั้งแต่พ่อเสีย บิวก็ต้องใช้จ่ายเงินอย่างประหยัดมากขึ้น พอดีกับได้เจอโป้งที่โรงเรียนตอนม.ปลาย และไอ้โป้งขาใหญ่พ่อรวย ก็ช่างกระเป๋าหนัก สรรหาเรื่องพิเรนๆ มาพนันกับเขา จนบิวเสพติดการพนันกับโป้ง เพราะมักจะชนะและได้เงินตอบแทนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเอามาใช้กินใช้เที่ยวตามประสาเด็กผู้ชายวัยรุ่น แม้จะมีบางครั้งที่เสมอกันเพราะคนที่โดนโยงเข้ามาเอี่ยวรู้ตัวก่อน เลยโดนตบหน้าชากลับมาทั้งคู่ก็ตาม

 

ขี่จักรยานตามทางมาจนถึงหน้าบ้านของเฟรน มองลอดผ่านรั้ว เห็นเฟรนกำลังเล่นกับน้องชาย เด็กน้อยอายุแค่ 10 ขวบ เป็นลูกหลงที่เกิดห่างกับเฟรนเกือบ 10 ปี แต่ก็ดูเป็นพี่น้องที่สนิทสนมรักใคร่กันดี

 

“พี่บิว!” โทโมะ น้องชายตัวน้อยเห็นบิวเข้าก่อน รีบวิ่งมาหาสีหน้าเบิกบาน เฟรนหันมามองเขาแล้วยิ้มให้ ก่อนจะเดินมาเปิดประตูบ้าน เจ้าตัวเล็กโผเข้าเกาะเอวบิวทันที

 

“แม่ฝากขนมมาให้” บิวชูถุงขนมตาลในมือให้ดู เฟรนรับไป ส่วนบิวก็เข็นจักรยานเข้ามาเก็บแล้วลูบหัวเจ้าตัวเล็กที่กอดเอวอยู่

 

“พี่บิว! วันนี้พี่เฟรนบอกว่าจะพาไปเล่นบาส”

 

บิวหันไปมองหน้าเฟรน คนตัวเล็กพยักหน้ารับ “นัดเพื่อนเก่าๆ ไว้ด้วยน่ะ ไปมั้ย”

 

“ไปดิ” ถ้าเฟรนชวน มีหรือที่บิวจะปฏิเสธ

 

******

 

อยู่ที่ภูเก็ตมาอาทิตย์กว่าแล้ว โอดูแลเอาใจใส่อย่างดีอย่างกับเป็นแฟนกัน จนโป้งก็รู้สึกเขินแปลกๆ มีอะไรกันก็แค่คืนนั้นคืนเดียว แม้จะหลายรอบก็เถอะ หลังจากนั้นดูเหมือนโอจะงานยุ่งตลอด ต้องออกไปคุยกับลูกค้าที่อื่นบ้าง พากรุ๊ปทัวร์ไปท่องเที่ยวบ้าง ทั้งที่เป็นระดับผู้บริหาร แต่กลับต้องทำงานงกๆ เหมือนพนักงานทั่วไปอย่างนั้นแหละ

 

“คืนนี้ว่าง จะกลับมาเล่นด้วยนะครับ” ไอ้วิธีพูดเพราะๆ นี่ก็อีก ฟังทีไรก็จั๊กจี้ทุกที โป้งมองหน้าโอที่ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนใบหน้านั้นจะเคลื่อนลงมาหาและกดจูบเบาๆ ที่ข้างแก้ม

 

“เล่นบ้าอะไร...กว่ามึงจะมา กูก็หลับคร่อกทุกที” โป้งหน้ามุ่ย นั่งกอดอกขัดสมาธิอยู่บนเตียง จะหอมแก้มจะจูบจะจับอะไรตรงไหนก็ตามสบาย แต่ไม่หายงอนหรอก เล่นทิ้งไว้ที่นี่คนเดียวทุกวัน ใครมันจะไปสนุกลง

 

“คืนนี้สัญญาเลยว่าจะมาก่อนสองทุ่ม” โอชูนิ้วสองนิ้วขึ้นแทนการสาบาน เว่อร์จนโป้งอยากจะเอาเท้าลูบหน้าหล่อๆ ของโอสักที

 

“เรื่องมึงดิ” หันหลังให้มันซะเลย อาจจะดูงี่เง่าไปหน่อย แต่โป้งก็ทำแบบนี้เป็นประจำตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้ว จะงอนจะงี่เง่า ก็ทำกับโอคนเดียว ไม่เคยทำให้คนอื่นเห็น

 

โอถอนหายใจทั้งที่ยังยิ้ม น่ารักก็น่ารัก แต่ถ้ายังน่ารักนานกว่านี้ เดี๋ยวได้ยกเลิกประชุมกับทีมงานจากรีสอร์ทในเครือกันพอดี “คืนนี้อยากออกไปไหนหรืออยากได้อะไร บอกมาเลย จะทำให้ทุกอย่าง”

 

พอได้ยินแบบนั้น คนขี้งอนก็หูกระดิกขึ้นมานิดหน่อย

 

“จริงสิ คืนนี้มีฟูลมูนปาร์ตี้ที่พาราไดซ์บีช สนใจมั้ย?” ยิ่งได้ยินคำล่อลวง ยิ่งหูกระดิกเข้าไปใหญ่ สุดท้ายก็ทนไม่ไหว หันควับไปมองอีกคนด้วยตาลุกวาว

 

“สน!”

 

******

 

โป้งตื่นตาตื่นใจอย่างมากกับงานฟูลมูนปาร์ตี้ครั้งแรกในชีวิต บนชายหาดทอดยาวที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว การแสดงโชว์ตระการตาและหวาดเสียว เสียงเพลงแนว EDM ดังกระหึ่มและบริการเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิดให้เลือกซื้อ

 

ไม่ว่าทางไหนก็มีแต่คนเมาและกำลังเต้นกันสนุกสนาน หัวใจเต้นแรงไปกับเสียงเพลงจนอดไม่ได้ที่จะขยับตัวตามจังหวะ โดยมีโอคอยตามประกบไม่ห่าง

 

“อย่าดื่มเยอะ” โอคอยห้ามคอยจะคว้าแก้วเหล้าออกไปจากปากของโป้งตลอดเวลา แต่โป้งก็ไม่ยอมง่ายๆ

 

“ไหนบอกว่าตามใจกูไง อย่าบ่นเป็นคนแก่ดิวะ” ริมฝีปากสีชมพูเข้มบิดจนเกือบเป็นเลข 8 กระดกเหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าเข้าปากรัวๆ จนหน้าแดงก่ำ ลามไปถึงร่างกายที่เริ่มจะย้อมสีแดงไปด้วย เพราะโป้งใส่แค่เสื้อกล้ามโชว์เนื้อหนังมังสาเต็มที่ ส่วนโอสวมเสื้อเชิ้ตบางๆ ตัวเดียว

 

โอรู้สึกคิดผิดจริงๆ ที่เสนองานนี้ให้โป้งมาเดินเที่ยว ด้วยความวุ่นวายและผู้คนมากหน้าหลายตาเบียดเสียด พอเมาก็มั่วกันไปหมด โป้งถูกคนเมาหลายคนที่ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งตัวล่ำบึก ไม่ก็สาวฝรั่งในชุดวาบหวิว คว้าคอเข้าไปจะจูบ แต่โอก็ดึงกลับมาได้ทุกครั้ง รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยอย่างแรง จนต้องลากแขนไอ้ขี้เมาตัวดีให้ไปนั่งหลบมุมริมหาดด้วยกันสองคน ไกลจากสายตาประชาชี

 

“อืออออ ดื่มอีกกก” คนเมาเซไปมาจนร่วงปุลงตามแรงฉุดของโอ แถวนี้ค่อนข้างมืด ไม่มีใครผ่านไปมา เพราะมัวแต่สนุกอยู่ในงาน โอนั่งบนหาดทราย ยกขาสองข้างขึ้นขนาบข้างตัวคนเมาที่นั่งพับเข่าอยู่ตรงหว่างขา ในมือยังถือแก้วเหล้าที่พร่องไปค่อนแก้วแล้ว

 

“พอได้แล้ว” เขาคว้าแก้วเหล้าออกจากมือของโป้ง แต่ไอ้ตัวดีไม่ยอมท่าเดียว จะดึงกลับไปดื่มให้ได้ โอเลยกระดกเข้าปากเสียเองจนหมดแก้ว เขาไม่อยากดื่มเยอะ เพราะเดี๋ยวต้องขับรถกลับไปที่พัก

 

พอเห็นเหล้าในแก้วหายวับไปในปากของร่างใหญ่ โป้งก็หน้างอหงิก กระชากคอเสื้อของโอเข้าไปประกบปากด้วยตัวเอง เพราะจะเอาเหล้าที่โอดื่มเข้าไป โอไม่ได้ตกใจหรือแสดงท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด กลับปล่อยให้โป้งทำตามใจอย่างง่ายดาย กลิ่นเหล้าคลุ้งทั่วปาก ยิ่งจูบก็ยิ่งเมามาย โป้งครางฮือในคอ หลับตาพริ้มรัวลิ้นใส่ไม่ยั้งตามแรงอารมณ์ที่โหมกระพือ

 

มือหนาหยาบกระด้างรั้งเอวคอดเข้าหา โป้งเลยต้องขยับตัวลุกขึ้นคุกเข่า โน้มตัวลงบดบี้ริมฝีปากแข่งกับอีกคน สองมือประคองใบหน้าของโอแนบแน่น เสียงเพลงที่ดังแว่วมายังไม่เท่าเสียงดูดปากและเสียงน้ำลายที่หล่อหลอมปนกันอยู่ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ

 

โอลูบไล้ฝ่ามือจากสะโพกมาที่บั้นท้าย คว้าหมับที่แก้มก้นสองข้างบีบคลึงไปมาอย่างเมามัน ในขณะที่ส่งเรียวลิ้นร้อนระอุตอบรับคนเมาที่ดูจะเร่าร้อนกว่าทุกที แต่ถึงจะเมายังไง โป้งก็ยังรู้สึกตัวและเลื่อนมือลงไปคว้ามือของโอไว้

 

“ไม่เอาที่นี่” ใบหน้าแดงก่ำเอ่ยเว้าวอน แม้จะเสียดายที่ถูกขัดอารมณ์ แต่โอก็พยายามประคองสติที่กำลังจะกระเจิดกระเจิงและตอบกลับไปเสียงพร่า

 

“งั้นกลับห้องกัน”

 

******

 

ตื่นเช้ามา โป้งแทบจะเอาหน้ามุดเตียง ไม่อยากเผชิญหน้ากับใครทั้งนั้น โดยเฉพาะไอ้คนที่ยังนอนก่ายแขนอยู่บนตัวเขาตอนนี้

 

ในความทรงจำเลือนราง แม้จะเมาแค่ไหนก็ยังชัดเจน ทั้งภาพทั้งเสียงเรียกว่าคมชัดระดับ 4K

 

“ตื่นเร็วจัง...” เสียงทุ้มๆ ทำเอาสะดุ้งสุดตัวเหมือนแมวขนพอง โป้งหันหลังให้โอทันที “เป็นอะไรน่ะ?” โอขมวดคิ้วสงสัย พลางยันตัวลุกขึ้นทั้งที่กอดโป้งไว้แนบอก

 

โป้งนอนซุกใต้ผ้าห่มเอามือปิดหน้าปิดตา แต่ก็เห็นว่าสีแดงๆ มันกระจายไปทั่วตัวและทั้งหน้า ไม่ใช่แค่สีแดงจากความอับอาย แต่มีร่องรอยแดงเป็นจ้ำคล้ายกลีบกุหลาบอีกหลายจุดตามเนื้อตัว ซึ่งโอเองก็มีไม่ต่างกัน แถมดูจะเยอะกว่า เพราะโอผิวขาวจัด และนั่นแหละที่ทำให้โป้งมองแล้วยิ่งอายกว่าเดิม

 

เมื่อคืนเป็นฝ่ายรุกเข้าหาเองตั้งแต่หน้าห้องจนถึงเตียงเลยทีเดียว แถมยัง...ออนท็อป!!!

 

“ฮื้ออออ” โป้งครางยาวคล้ายเสียงร้องไห้ อับอายที่สุดในชีวิตก็ไอ้ออนท็อปนั่นแหละ เคยเห็นแต่ใน AV ที่ผู้หญิงทำกัน ตอนนั้นยังจินตนาการอยู่เลยว่าจะมีคนมาทำแบบนั้นบนตัว แล้วนี่อะไร๊!!! ไปทำแบบนั้นเสียเอง!!! อายโครตๆ อายแบบไม่เคยอายมาก่อน อยากตายให้พ้นๆ!!!

 

โอนิ่งไปนานอย่างครุ่นคิด พอจะรู้แล้วล่ะว่าทำไม แต่ก็อยากแกล้งเล่นนิดหน่อย เลยก้มไปจูบหัวไหล่เนียนดังจ๊วบ ให้อีกคนสะดุ้งตัวเกร็ง

 

“อืออออ ไม่เอาแล้ววววว” โป้งซุกหน้าลงบนหมอนใบโต ท่าจะอายจัดจริงๆ โอหัวเราะเบาๆ แล้วจูบซ้ำที่หัวไหล่ไล่มาที่แผ่นหลัง โป้งเด้งตัวออกจากผ้าห่ม ตั้งใจจะร่นหนีไปขอบเตียง แต่ก็ไม่พ้นมือมาร โดนคว้าเอวไปกอดไว้แล้วโดนระดมจูบไปทั่วตัวทั้งที่ยังเช้าตรู่ แดดส่องจ้า

 

“จะได้ชิน” โอผละออกมาน้ำลายยืดย้อยคาปาก หัวนมสองข้างของโป้งแวววาวไปด้วยน้ำลายของอีกฝ่าย

 

“ไอ้ทุเรศ! ลามก!” ก่นด่าด้วยความอายได้แค่นั้นก็ต้องรีบมุดเข้าใต้ผ้าห่ม

 

“ไปอาบน้ำกัน เร็วๆ เดี๋ยวพาไปเที่ยว ถ้าลุกไหวอ่ะนะ” โอยื้อผ้าห่มออก แต่โป้งก็ดึงกลับ

 

“ไม่เอา! ไม่ไปไหนทั้งนั้น!”

 

พอได้ยินแบบนั้น โอก็แสยะยิ้ม “งั้นก็...เอากันทั้งวันเลยแล้วกัน”

 

“เฮ้ย! ไม่เอาเว้ย!!! ไปแล้ว ไปอาบน้ำแล้ว!!!” โป้งเด้งตัวลุกจากเตียงลืมทั้งความอายและความเจ็บร้าวที่ช่วงล่างเสียสนิท รีบคว้าผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำทันที โดยมีเสียงหัวเราะของโอดังไล่หลังไป

 

******

 

บิวนั่งมองเฟรนที่กำลังเล่นบาสในสนามกับเพื่อนสมัยมัธยม ทุกคนดูสนิทกันดีจนบิวรู้สึกไม่ค่อยชอบใจนิดหน่อย โดยเฉพาะคนที่ตัวสูงที่สุดในกลุ่ม ที่ชื่อ ภัทร

 

“มึงเร็วขึ้นกว่าเดิมนะ” มือใหญ่ๆ ของภัทรขยี้ผมของเฟรนจนยุ่งเหยิง เฟรนเอามือปัดออก แม้จะทำหน้ามุ่ยเหมือนไม่พอใจแต่กลับหัวเราะเสียงดัง เวลาอยู่กับเพื่อนสนิท เฟรนดูจะร่าเริงมากเป็นพิเศษ บิวจ้องตามร่างเล็กตาแทบไม่กะพริบ ในอกปั่นป่วนร้อนรุ่ม มือที่ถือกล่องน้ำผลไม้บีบมันจนยับยู่ยี่ น้ำผลไม้ที่ยังหลงเหลือก้นกล่องถูกดันขึ้นมาจนล้นเลอะฝ่ามือ

 

“บิว!” พอเฟรนวิ่งมาหา บิวก็รีบยิ้มให้ตามปกติ โยนกล่องน้ำผลไม้ทิ้งลงถังขยะแล้วรีบเช็ดมือกับกางเกงขาสั้นที่ใส่อยู่ “เบื่อเปล่า? มาเล่นด้วยกันมั้ย”

 

บิวเหลือบมองไปด้านหลัง คนชื่อภัทรก็มองมาทางบิวด้วยสีหน้านิ่งๆ ไม่สิ คล้ายกับกำลังสงสัยอะไรมากกว่า

 

“ไม่เป็นไร กูเล่นไม่เป็น”

 

“จริงอ่ะ? ไม่ยากหรอก บิวตัวสูง เล่นได้อยู่แล้ว มาดิ จะสอนให้” เฟรนว่าพลางคว้ามือร่างสูงฉุดให้ลุกขึ้น

 

“ไอ้หน้าหวานนั่นมันใครวะภัทร” คนกลุ่มใหม่ที่เดินเข้ามาปรี่เข้ามาถามภัทร ซึ่งยืนมองเฟรนกำลังฉุดแขนบิว ภัทรหันไปหาเพื่อนแล้วส่ายหน้า

 

“ไม่รู้จัก ไอ้เฟรนพามา บอกเป็นเพื่อนที่มหาลัย”

 

“อ้อ น่ารักดีว่ะ หน้าเหมือนผู้หญิงเลย” คนมาใหม่หัวเราะคิกคัก

 

“แต่ก็ผู้ชายอยู่ดีป่ะ” ภัทรขมวดคิ้ว โยนลูกบาสใส่อกเพื่อนแล้วเดินหนีไปอีกทาง แต่คนมาใหม่ก็ยังเดินตาม

 

“สมัยนี้แล้วมึง ไม่ถือกันแล้ว ถ้าน่ารักแบบนั้น ก็น่าลอง”

 

“เห็นบอกว่าชื่อบิว ตัวมันสูงดีนะ แต่ไม่ใช่พวกสายกีฬา” เก็ต เพื่อนอีกคนในกลุ่มที่เล่นกับเฟรนเมื่อครู่นี้เข้ามาสมทบ เพราะได้ยินที่ภัทรคุยกับคนมาใหม่

 

“เหยๆ งั้นแบบนี้ต้องเนียนสอนให้เล่น แล้วหลอกแต๊ะอั๋งรัวๆ กูจัดเอง!” คนมาใหม่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกะลุยเต็มที่ จนเพื่อนอีกสองคนต้องส่ายหน้า

 

“เชี่ยต้าแม่ง หน้าม่อไม่เปลี่ยน” เก็ตหัวเราะแห้งๆ ด้วยความเซ็ง

 

“ไอ้เฟรน! ไงวะ”

 

เฟรนหันไปมองคนเรียก “อ้าว? ไอ้ต้า มึงมาสายนะ”

 

“เออน่า ต้องให้อาหารไอ้แอร์แม็กซ์กับนโปเลียนของคุณนายเขา” ต้าพูดถึงหมากับแมวที่แม่เลี้ยงไว้นั่นเอง ก่อนจะกระซิบคุยกับเฟรน ทำเอาบิวขมวดคิ้วฉับอย่างไม่พอใจ “แล้วนี่ ใครวะมึง”

 

“อ่า นี่บิว เพื่อนที่มหาลัย” เฟรนผายมือไปทางบิวที่หน้าตาไม่เป็นมิตรเข้าไปทุกที ไม่รู้ทำไม แต่เฟรนก็รู้สึกถึงรังสีแปลกๆ ของร่างสูงที่ส่งมา

 

“หวัดดีคร้าบ ผมชื่อต้านะ เป็นเพื่อนร้ากกกของไอ้เฟรนตั้งแต่ประถมแล้ว แต่ดันโง่สอบไม่ติด เลยเรียนเอกชนตอนนี้ ฮ่าๆ” ต้าไม่ได้สนใจหน้าตาบึ้งตึงของบิว กลับชวนคุยเหมือนสนิทสนมกันมานาน บิวเลยคลายคิ้วที่ขมวดปมลงเล็กน้อย

 

“อือ หวัดดีครับ”

 

“เรียนที่เดียวกับไอ้เฟรน ก็เด็กวิดวะอ่ะดิ?” ต้าดึงแขนเฟรนให้หลบไปอีกทางแล้วเข้าประกบบิวทันที เฟรนมองตามเพื่อนด้วยสีหน้าไม่พอใจ ไอ้นี่มันหน้าม่อทุกที่ทุกเวลา และกับทุกคนจริงๆ

 

“เปล่า ผมเรียนอักษร” บิวตอบหน้านิ่ง ลักษณะท่าทางของต้าไม่ต่างจากโป้งเท่าไหร่ มาแนวนี้ก็พอรู้แหละว่าจะทำอะไร บิวเจอมาเยอะ จนชินชาแล้ว

 

พอได้ยินว่าเรียนอักษร ต้าก็ผิวปากหวืออย่างชอบใจกว่าเดิม พลางเข้าไปกอดคอบิว และเพิ่งสังเกตว่าบิวตัวสูงกว่าตนเสียอีก “หูยยย เด็กอักษรเนี่ย เขาว่ามีแต่น่ารักๆ เห็นทีจะจริงว่ะ เนอะไอ้เฟรน”

 

“ต้า มึงเมาป่ะเนี่ย อย่ามาเกาะแกะเพื่อนกู ไปเล่นกับพวกไอ้ภัทรนู่น” เฟรนเองก็ชักไม่ไว้ใจเพื่อนตัวเอง ดึงแขนต้าให้ออกห่างบิว แต่สู้แรงไม่ไหว เพราะถึงจะตัวเล็กกว่าบิว แต่ต้าก็ยังตัวใหญ่กว่าเฟรนอยู่ดี

 

“อะไรเล่ามึง กูแค่อยากเป็นเพื่อนกับบิวไง นะครับ มาเป็นเพื่อนกันเนอะบิว” ต้าหันไปส่งยิ้มหวานให้บิว บิวเหลือบสายตาลงมองคนที่สูงแค่ปลายคิ้วของตนแล้วยักยิ้ม

 

“อืม เป็นเพื่อนก็ได้อยู่ งั้นช่วยสอนผมเล่นบาสทีสิ ต้า”

 

“บิว!” เฟรนตาโตทันที เมื่อกี้บอกจะสอนให้ก็ไม่ยอม แล้วทีนี้ทำไมจะให้ไอ้ต้าหน้าม่อนี่มันสอน บิวคิดอะไรอยู่กันแน่!?

 

“มึงเล่นกับพวกนั้นต่อเหอะ ต้า ผมขอตัวต่อตัวนะครับ” บิวดันหลังเฟรนให้ออกไปจากตรงนี้และขยิบตาให้ต้าอย่างน่ารัก เจอแบบนี้พี่ต้าก็ฮึดเต็มพิกัด เตรียมจะลวนลามผ่านการเทรนแบบออกนอกหน้ามากจนบิวหัวเราะหึในคอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.11 17/3/18
« ตอบ #39 เมื่อ: 17-03-2018 09:22:11 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.10 16/3/18 new up 7:34pm
«ตอบ #40 เมื่อ17-03-2018 09:56:22 »

โป้งว่า "ไม่" แต่  :oo1: กับโอ
คงหมายถึง "ไม่ปฏิเสธ"  :mew4:
น้องโป้งสายซึน

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.9 16/3/18
«ตอบ #41 เมื่อ17-03-2018 09:57:30 »

อยากจะด่าบิวจริงๆ วางแผนจะบอกเลิกเค้ายังไงเนี่ย ไปห้องเค้าไปเนียนถ่ายรูปให้คนอื่นเข้าใจผิด ว่ารักกันลึกซึ้ง แต่แกก็กะจะเลิกเป็นแฟนหลอกๆไปจีบหญิง เดี๋ยวเฟรนหนีขึ้นมาจะรู้สึก ส่วนโอโป้งนี่ คู่นี้น่ารัก เหมือนโอจะคุมโป้งอยู่เลยค่ะ คล้ายๆเจ้ากรรมนายเวรไม่ก็เนื้อคู่ไรประมาณนี้
บิวมันเจ้าแผนการ ต้องรอดูไป อิๆ ส่วนโอโป้งนี่ไม่ต้องพูดถึง รับรองความแซ่บ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.11-12 17/3/18
«ตอบ #42 เมื่อ17-03-2018 14:08:16 »

เดี๋ยวจะว่าคู่หลักไม่คืบหน้าไปไหนเลยยยย



12

เวลาผ่านไปราวๆ ครึ่งชั่วโมง

 

เฟรน ภัทร เก็ตและเพื่อนๆ อีกสองสามคนที่เล่นบาสกันอยู่ในสนามอีกฝั่งต่างหยุดนิ่งและมองไปทางต้ากับบิวเป็นตาเดียวด้วยความตื่นตะลึง

 

“ไหนบอกเล่นไม่เป็น...” เฟรนแอบบ่นเบาๆ หน้าตาหงุดหงิดนิดหน่อย ก็ดูที่บิวเล่นกับต้าสิ

 

ต้าแทบจะตามเก็บลูกไม่ทัน เหนื่อยหอบเหงื่อซ่ก ส่วนสูงก็ยิ่งเสียเปรียบอยู่แล้วด้วย บิวเล่นแย่งลูกรัวๆ พลิกไปพลิกมา ทั้งดังค์ทั้งชู้ตสามแต้ม แถมยังตะโกนสั่งต้าให้คอยเก็บลูกหน้าตาโหดสุด จนไอ้ต้าไม่กล้าหือไปแล้ว

 

“ไปเก็บมา! ให้ไว!” บิวตะโกนพลางชี้นิ้วไปทางลูกบาสที่กลิ้งออกนอกสนาม ท่าทางอย่างกับโค้ชทีมชาติ ต้าก็วิ่งกระหืดกระหอบไปเก็บมา

 

“พอยังอ่ะบิว กูไม่ไหวแล้ว” พอเล่นกันไปเรื่อยๆ ต้าก็ชักจะไม่เห็นความน่ารักของบิวเหมือนตอนแรกแล้ว สรรพนามมันเลยเปลี่ยนไปอย่างที่เห็น

 

“อะไรวะ! ยังไม่ถึงชั่วโมงเลย แบบนี้มึงลงสนามไหวได้ไง! ได้วิ่งมั่งรึเปล่าห๊ะ!? แย่งลูกจากกูให้ได้สักลูก แล้วจะให้พัก!”

 

“ไอ้สัสบิววววว” คำสบถด่ากันก็มาครับงานนี้ เพื่อนๆ นี่อึ้งไปเลย มันสนิทกันเฉย

 

จบการดวล 1 VS 1 ของต้ากับบิว และบิวก็ชนะไปแบบขาดลอยด้วยสกอร์ 21-0 ต้าหอบแรงทิ้งตัวลงกลิ้งบนพื้นซีเมนต์ ส่วนบิวแค่ยกคอเสื้อขึ้นมาเช็ดเหงื่อพลางหายใจหอบเหนื่อย แต่ไม่มากเท่าต้า

 

“บิว!” คนตัวเล็กวิ่งเข้ามาหาเหมือนเคย “ไหนบอกเล่นไม่เป็นไง” แอบงอนนิดๆ ที่ถูกหลอกจนบิวอดขำเบาๆ กับหน้างอๆ ของเฟรนไม่ได้

 

“มันร้อน ขี้เกียจเล่น เลยบอกไปงั้นแหละ” ก็ดูสิ เหงื่อแตกพลั่กขนาดนี้ บิวค่อนข้างจะเป็นหนุ่มเจ้าสำอางเสียด้วย

 

“โหหห นี่ขนาดขี้เกียจ เอาซะไอ้ต้าหอบเป็นหมาเลย ฮ่าๆ” เก็ตหัวเราะเยาะใส่หน้าเพื่อนที่นอนกลิ้งบนพื้นอย่างหมดแรง เลยโดนต้าสวนกลับด้วยนิ้วกลางไปตามระเบียบ

 

“กูว่าแล้ว หน้าแม่งคุ้นๆ” จู่ๆ ภัทรที่เงียบมานานก็โพล่งขึ้น หน้าตานิ่งๆ ตอนแรกหายไป กลายเป็นหน้าตื่นเต้นดีใจ “บิวนี่ ใช่บิวตี้ป่ะ บุณยวีย์ ปิ่นกิจ กูจำชื่อมึงได้!”

 

บิวหันไปมองภัทรอย่างงุนงง “ก็ใช่อ่ะ ทำไม?”

 

“เชี่ยแม่ง พวกมึงจำมันไม่ได้เหรอ ตอนม.5 รอบชิงของเซ้นส์สเตฟานกับสุทธินโรดม” ภัทรกวาดสายตามองเพื่อนๆ รอบวง หลายคนเริ่มพยักหน้าว่าจำได้ เพราะการแข่งรอบนั้นพวกเขาก็ไปดูอยู่ เฟรนนิ่งไปนาน เหมือนจะนึกออกเช่นกัน

 

“ที่สาวๆ แม่งถือป้ายเชียร์กันบ้าคลั่ง กับคนชื่อโป้งอะไรนั่นป่ะ” เก็ตตาวาว “เซ็นเตอร์ของสุทธิฯ ไอ้บิว!!!”

 

“อือ” บิวตอบรับในคอเบาๆ รู้สึกอายเหมือนกันที่มาเสียงดังโวยวายเรื่องในอดีตกันตรงนี้ เพื่อนๆ ของเฟรนดูจะตื่นเต้นดีใจกันมากที่เจอบิวตัวเป็นๆ เพราะเคยฝากผลงานไว้ตอนนั้นอย่างเจ็บแสบ ชนิดที่อีกทีมก็ไม่น่าจะลืมลง แต่บิวเลิกเล่นบาสไปตอนม.6 เพราะต้องเตรียมสอบเข้า และที่ลงเล่นตอนนั้นเพราะพนันกับไอ้โป้งด้วยแหละ

 

เพราะอย่างนั้นเอง ตอนที่เฟรนเจอบิวครั้งแรก แม้บิวจะแต่งหญิง แต่ก็ยังรู้สึกคุ้นๆ ยิ่งเจอตอนแต่งแมนครั้งแรกที่ผับนั่นก็ยิ่งคุ้น

 

บุณยวีย์ ปิ่นกิจ เซ็นเตอร์เบอร์ 4 ของโรงเรียนชายล้วนสุทธินโรดม เมื่อ 2 ปีก่อน คนที่เฟรนได้แต่มองอยู่ไกลๆ และลุ้นตัวโก่งกับการทำแต้มทั้งดังค์และชู้ตสามแต้มแสนจะแม่นยำนั้น

 

พอรู้ว่าบิวเป็นคนที่พวกเขาเคยชื่นชมกันมาก่อน ทุกคนก็ดูตื่นเต้นดีใจมาก เลยพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเฮฮาจนเย็นย่ำ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน บิวขี่จักรยานพาเฟรนซ้อนกลับไปส่งที่บ้าน ถ้าวันนี้บิวไม่ได้แวะมา เฟรนก็คงแค่พาเจ้าตัวเล็กไปเล่นด้วยเฉยๆ แต่จักรยานซ้อนได้แค่คนเดียว น้องโทโมะเลยโดนพี่ชายทิ้งไว้บ้านซะงั้น

 

“เล่นเก่งขนาดนั้นก็ไม่บอก” เมื่อลงจากจักรยานของบิว เฟรนก็หน้ามุ่ยเอ่ยตัดพ้อเล็กๆ

 

“ไม่ได้เก่งอะไรนี่ ไม่เล่นมาสองปีแล้ว ฝีมือก็ตกลงตั้งเยอะ” บิวหัวเราะเบาๆ วางมือบนหัวคนตัวเล็กแล้วโคลงไปมา

 

“ใครบอก! เล่นซะไอ้ต้าหอบเกือบตายแน่ะ แบบนั้นไม่เรียกฝีมือตกแล้ว” เฟรนปัดมือของบิวออก ท่าทางกระเง้ากระงอดไม่หาย แต่กลับน่าเอ็นดูสำหรับบิว

 

“โอ๋ๆ ไม่งอนน้า น้องหนู ไว้พี่บิวพาไปเลี้ยงขนม” บิวหัวเราะอารมณ์ดี ยื่นมือไปลูบหัวอีกรอบ และคราวนี้ไม่ยอมให้ปัดออกด้วย

 

“กูไม่ชอบกินขนม!” เฟรนพยายามไล่ปัดมือของบิว แต่บิวไม่ยอมปล่อย เลยได้แต่คว้าข้อมือบิวไว้

 

ค่ำแล้ว แถวนี้แทบไม่มีคนหรือรถแล่นผ่าน แสงไฟสลัวๆ จากเสาไฟข้างทางไม่ได้ช่วยให้บริเวณนี้สว่างนัก แต่ก็ยังมีแสงไฟจากในบ้านของเฟรนช่วยให้มองเห็น

 

บิวลูบหัวเฟรนเบาๆ จ้องมองใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีระเรื่อของร่างเล็กอย่างเผลอไผล เฟรนยังเอามือจับที่ข้อมือของบิวข้างที่วางบนหัวตัวเอง ไม่กล้าสบสายตาตรงๆ แต่ก็เหลือบมองเป็นระยะ และทุกครั้งที่เหลือบมอง ก็เห็นแววตาเปล่งประกายคู่นั้นกำลังจดจ้องจนเหมือนจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว พาให้หัวใจเต้นรัว

 

ไม่รู้อะไรดลใจให้เงยหน้ามองบิวเต็มๆ ตา และพอเงยหน้าก็ต้องนิ่งงัน เพราะจู่ๆ ใบหน้าสวยคมที่มีรอยยิ้มหวานบาดใจก็โน้มลงมาแนบริมฝีปากกับปากเรียวเล็กของตน

 

เพียงแค่ชั่วเสี้ยววินาทีก็ผละจาก

 

“โทษที กลับก่อนนะ” บิวเอ่ยเบาๆ จนแทบไม่ได้ยิน ก่อนจะรีบหักรถเลี้ยวออกจากตรงนั้นไป ทิ้งให้เฟรนยืนนิ่งอึ้งใจสั่นรัว พอตั้งสติได้ก็รีบพาหน้าแดงๆ ของตนวิ่งหนีเข้าบ้านด้วยความอาย

 

******

 

หลายวันแล้วที่บิวไม่กล้าไปเจอหน้าเฟรน ตั้งแต่เผลอจูบไปคราวนั้น ไม่รู้ว่าเฟรนรังเกียจหรือเปล่า กลัวจะโดนเกลียดจนเครียดไปหมด ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งเจอกัน บิวยิ่งรู้สึกว่าเฟรนน่ารักขึ้นทุกที จนจะห้ามใจตัวเองไม่ไหวแล้ว

 

“เอ้าๆ แดกเข้าไป เหล้าเนี่ย เป็นไรของมึงวะไอ้บิว มาถึงก็กระดกเอาๆ” เอ็มตบบ่าเพื่อนปุๆ พลางนั่งลงข้างๆ แล้วยกแก้วคอกเทลขึ้นจิบ “แหม ได้เงินพนันเป็นแสน เที่ยวรัวเลยนะมึง”

 

“ได้เหี้ยไรล่ะ” บิวสบถเบาๆ เอ็มหันมามองหน้าอย่างสงสัย

 

“มึงว่าไรนะ?”

 

“เปล่า...” บิวส่ายหน้าแล้วกระดกเหล้าเข้าปากต่อ

 

“เพลาๆ หน่อยมะ เออ เห็นไอ้โอมันพาไอ้โป้งกลับมาบ้านแล้วนี่ อัพรูปคู่กันด้วย แม่งต้องมีอะไรแน่ๆ” เอ็มแย่งแก้วจากมือบิวมาดื่มต่อ

 

“มีอยู่แล้วแหละ” บิวแค่นยิ้มกับตัวเอง จะไม่มีได้ไง ก็กูเนี่ย ยุไอ้โอเองกับมือ ทีนี้ก็สลัดไอ้โป้งหลุดเสียที หมดเวรหมดกรรม

 

“มึงด้วย! รูปที่ลงคู่ไอ้เฟรนรัวๆ มันหมายความว่าไงวะ ไหนมึงบอกจะเลิกไง”

 

บิวเงียบ แย่งแก้วเหล้าในมือเอ็มมาชงเหล้าเข้าไปอีก แล้วกระดกรัว จนเอ็มห้ามไม่ทัน

 

“เฮ้ยๆๆ อย่าเพิ่งเมามึง อธิบายมาก่อน ไอ้เหี้ยบิว!”

 

เอ็มหน้ามุ่ยคว้าแขนบิวมาพาดบ่าแล้วพยุงขึ้น “ห่าราก...ทำกูลำบากอีก บอกไม่ให้เมาๆ ไอ้สัสบิวแม่ง...” บ่นด้วยความหงุดหงิดพลางพาเพื่อนรักเดินออกจากผับที่ใกล้จะปิดเต็มที

 

ตี 2 แล้ว

 

เอ็มกดเรียกอูเบอร์ในมือถือของบิว เพราะมันระบุพิกัดไว้ แต่พอพาเพื่อนมาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง เอ็มก็มึนๆ งงๆ อาจจะเพราะตัวเองก็เมานิดหน่อยด้วย เลยไม่แน่ใจว่ามาถูกบ้านหรือเปล่า จะลองกดออดก็กลัวรบกวนคนในบ้านและเพื่อนบ้าน เลยได้แต่ยืนชะเง้อคอมองผ่านรั้วเข้าไป

 

เฟรนได้ยินเสียงรถยนต์มาจอดสักพักแล้วตอนที่อยู่ในห้องน้ำ พอเดินออกมาส่องหน้าต่างดูก็เห็นเอ็มพยุงบิวยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าบ้าน

 

เพราะทุกครั้งที่จะไปผับ บิวจะส่งไลน์มาบอกเสมอ เฟรนก็เลยอยู่รอ เผื่อว่าบิวเมามา ก็จะมานอนด้วยตลอด

 

ร่างเล็กรีบวิ่งลงบันได ออกไปเปิดประตูหน้าบ้านให้เอ็ม

 

“อ้าว? นี่บ้านมึงเหรอวะ” เอ็มเอ่ยทัก เฟรนพยักหน้ารับ

 

“แล้วมึงกลับไงอ่ะ นอนด้วยกันเลยมั้ย?” ยังไงก็เพื่อนๆ กัน เฟรนเลยเป็นห่วงเอ็มไปด้วย แต่เอ็มส่ายหน้า บอกว่าเดี๋ยวเรียกรถมารับกลับบ้าน ไม่งั้นพ่อจะด่าเอา เฟรนเลยรอจนเอ็มได้ขึ้นรถแล้ว ค่อยพาบิวกลับเข้าบ้าน

 

ปกติบิวจะไม่เมาขนาดนี้ อย่างมากก็พอกรึ่มๆ พูดคุยกันรู้เรื่อง และเดินเหินเองได้ แต่ครั้งนี้น่าจะหนักหน่อย ถึงขนาดเอ็มต้องพามาส่ง

 

“จะเมาอะไรนักหนาวะ แดกแทนน้ำรึไง” อดบ่นไม่ได้ แต่ก็พยุงร่างสูงที่ตัวหนักอย่างกับหมีไปจนถึงเตียงจนได้

 

พอทิ้งร่างคนเมาไม่ได้สติลงบนเตียงได้แล้ว เฟรนก็นั่งลงถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ทั้งที่อาบน้ำแล้ว แต่เหงื่อดันออกอีก เฟรนเลยอยากจะอาบน้ำอีกรอบก่อนนอน

 

เสียงน้ำในห้องน้ำปลุกคนเมาให้สลึมสลือลุกขึ้นมานั่งโงนเงนอยู่บนเตียงขนาด 5 ฟุตครึ่งในห้องนอนคุ้นตา ตู้เสื้อผ้าสีขาว แมคบุ๊คสีขาวบนโต๊ะไม้เล็กๆ ข้างตู้ ผ้าม่านสีขาว แค่เห็นก็รู้ว่าห้องใคร บิวอมยิ้มอารมณ์ดี จำได้รางๆ ว่าเอ็มพามาส่ง ช่างส่งได้ถูกที่จริงๆ เอ็มเพื่อนรัก

 

เฟรนอาบน้ำพอให้หายร้อนและล้างคราบเหงื่อไคล ก่อนจะนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเปิดประตูออกมา พลันต้องชะงักตาโตเมื่อเปิดประตูมาเจอไอ้คนที่คิดว่าหลับคร่อกไปแล้วยืนเกาะขอบประตูยิ้มตาหยีมาให้

 

“เหี้ย!” อุทานได้น่ารักมาก บิวกลอกตาไปมาอย่างเอือมๆ

 

“เหี้ยที่ไหนหล่อได้ขนาดนี้” แล้วก็กลับมาถามหน้าตายพร้อมเลิกคิ้วใส่คนตัวเล็ก

 

เฟรนยู่ปากน้อยๆ “มายืนทำไรเนี่ย ถอยไป” แขนเล็กยกขึ้นดันร่างสูงที่ยืนขวางหน้าประตูห้องน้ำ

 

“แอบดูคนอาบน้ำมั้ง” คำตอบหน้าตายของบิว ทำเอาคนตัวเล็กแก้มแดงปลั่ง เผลอโวยวายเสียงดัง ก่อนจะรีบเอามือตะครุบปากตัวเองไว้

 

“ก็มีเหมือนๆ มึงนั่นแหละ”

 

“ไม่เหมือนดิ ของมึงเล็กกว่า” บิวหัวเราะ

 

“สัส! ถอยไปเลย มันหนาว!” เฟรนสบถใส่หน้าแล้วผลักอย่างจงใจ บิวเลยยอมเบี่ยงตัวหลบให้ พลางส่งสายตามองตามร่างบางๆ ผิวขาวอมชมพูที่เดินไปหน้าตู้เสื้อผ้าสีขาว หยดน้ำที่เกาะพราวบนแผ่นหลังเล็ก ทำให้รู้สึกกระหายแปลกๆ

 

“อี๊!” เฟรนร้องเสียงหลงสะดุ้งเฮือก โดนดันจนหน้าแนบตู้และร้อนวาบที่สันหลัง จะหันไปมองก็ไม่เห็นอยู่ดีว่าเกิดอะไรขึ้น จนบิวเงยหน้าขึ้นมาคลี่ยิ้ม “มึงเมามากไปแล้ว ไอ้บิว!”

 

คนที่เพิ่งเลียน้ำบนหลังของร่างเล็กเมื่อครู่ไม่โต้ตอบอะไร ปลายจมูกไซร้พรืดเข้าที่หลังหูและแก้มใสที่เจือสีแดงจางๆ ทั้งดมทั้งหอมทั้งไซร้ จนเฟรนตัวเกร็งขึง ไม่รู้จะโวยวายหรือทำยังไงดี มันเสียวปลาบไปทั้งร่างจนแรงเริ่มถดถอยทีละน้อย

 

บิวยอมรับว่าตัวเองกำลังเมา และเมามากด้วย แต่น่าจะไม่ใช่เพราะเหล้า

 

“บิว...ปล่อย...” เสียงที่สั่นเหมือนร้องไห้ทำให้บิวได้สติ ร่างสูงเบิกตาโพลง มองมือตัวเองที่กำข้อมือเล็กๆ ทั้งสองข้างไว้แน่นจนกระดูกแทบแตกด้วยความตระหนก กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแชมพูอาบน้ำจากร่างเล็กราวกับยั่วยวนให้สูดดมใกล้ๆ อีกครั้ง แต่บิวก็พยายามตั้งสติสุดชีวิต สะบัดหน้าแรงๆ แล้วปล่อยมือจากข้อมือบาง

 

“กู...มึนๆ ว่ะ โทษที” บิวเดินโซเซไปที่เตียง ทิ้งตัวลงนอนแผ่ตามเดิม

 

เฟรนถอนหายใจดังฟู่อย่างโล่งอก ก่อนจะรีบแต่งตัวแล้วคว้าหมอนกับผ้าห่มลงมาปูนอนบนพื้น บิวขมวดคิ้ว เด้งตัวลุกขึ้นนั่งมองคนตัวเล็กที่บนพื้น

 

“ทำไมไม่นอนข้างบน”

 

“มึงนอนไปเหอะ กูอยากนอนข้างล่าง” เฟรนตอบพลางพลิกตัวนอนหันหลังให้

 

“ไม่เอาดิ มานอนด้วยกันข้างบน ไม่งั้นก็ให้กูลงไปนอนพื้นเอง” บิวกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเฝือน เจ็บร้าวที่อกข้างซ้ายจนอยากจะร้องไห้

 

เฟรนรังเกียจเขา

 

“มึงเกลียดกูเหรอ รังเกียจกูมากใช่มั้ย” คงเพราะยังเมาอยู่ บิวเลยกล้าพูดสิ่งที่คิดออกมา คิดมานานแล้วว่าเฟรนรังเกียจหรือเปล่า ถึงได้ชอบหลบตา ไม่ค่อยอยากให้เข้าใกล้หรือให้ทำอะไรให้ บางทีก็ดูเหินห่างแปลกๆ ทั้งที่บิวอยากอยู่ข้างๆ อยากเอาใจเฟรน

 

“บิว...มึงเมาอ่ะ นอนเหอะ” เฟรนข่มตาลง ริมฝีปากเม้มแน่นจนสั่นระริก ทำไมบิวต้องขยันทำให้ใจสั่นนักก็ไม่รู้ ทั้งที่ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย

 

ไม่เคยรู้สึกอะไรเลย

 

“บิว!” จู่ๆ คนตัวสูงก็กระโจนลงมาจับพลิกนอนหงายแล้วกดแขนไว้ เฟรนดิ้นพล่านแม้จะสู้แรงไม่ได้ แต่ด้วยความตกใจมันเลยต้องสู้

 

“มึงรังเกียจกู! ทำไมวะ! เพราะกูเป็นเกย์เหรอ!?” บิวโวยวายหน้าแดงหน้าดำ

 

“พูดเหี้ยอะไรเนี่ย!? มึงเมามากไปแล้วจริงๆ บิว...ไปนอนไป” เฟรนหยุดดิ้นและจ้องมองดวงตาคู่สวยที่มีน้ำตาคลอของบิว พลันนึกถึงที่บิวหลุดปากออกมา เมื่อกี้บิวพูดว่าไงนะ?

 

เป็นเกย์?

 

ตั้งแต่เมื่อไหร่?

 

ได้ยังไง?

 

“เฟรน...กู...” บิวเรียกชื่อด้วยเสียงแผ่วเบา รู้สึกถึงน้ำตาที่หยดลงบนแก้ม กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนจมูกและความร้อนชื้นที่ดึงดันแทรกเข้าสู่โพรงปาก

 

เฟรนหลับตาลง จะอะไรก็ช่างมันแล้ว

 

******

 

บิวไม่โผล่หน้ามาอีกเลยจนกระทั่งก่อนเปิดเทอม

 

 “พี่เฟรนจากลับหอแล้วอ่า!!!” น้องชายตัวน้อยของเฟรนกอดแขนกอดขาพี่ชายเสียแน่นหนา ไม่อยากให้เพื่อนเล่นเพียงคนเดียวที่บ้านกลับไปอยู่หอพัก

 

“ไม่ต้องมาอ้อนเลย พี่ต้องไปเรียนนะ” เฟรนลูบหัวน้องชายเบาๆ แต่เจ้าตัวเล็กยังไม่ยอมปล่อยมือ จนแม่กับพ่อต้องมาช่วยกันลากออกไป

 

“เดินทางดีๆ นะลูก ตั้งใจเรียนนะคะ” แม่ยิ้มให้ ส่วนพ่อก็ตบบ่าเบาๆ เป็นการให้กำลังใจ เฟรนสะพายเป้หนึ่งใบและหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ทรงกระบอกอีกใบที่มีลูกบาสห้อยติดไว้ เดินออกไปหน้าบ้าน โดยมีทุกคนในบ้านเดินตามไปส่ง

 

“ไม่ให้พ่อไปส่งแน่นะ?” พอเดินออกมาถึงหน้าบ้าน พ่อก็ถามขึ้น เพราะเฟรนบอกจะโบกแท็กซี่ไปต่อรถตู้เอา

 

“ไม่เป็นไรครับ อยากให้พักผ่อน วันหยุดทั้งที” ลูกชายแสนดีคนนี้ทำเอาพ่อกับแม่ต้องหันไปยิ้มให้กัน

 

ปิ๊นๆๆ

 

เสียงบีบแตรรถดังลั่นซอย เฟรนกับครอบครัวหันไปตามเสียงนั้น และเห็นบิวที่จอดมอเตอร์ไซค์รออยู่หน้ารั้วบ้าน

 

“อ้าว? ไม่เห็นหน้าตั้งหลายวันแน่ะ นี่เองสาเหตุที่ไม่ให้พ่อไปส่ง” พ่อแซวเล่นขำๆ แต่เฟรนรีบหันไปปฏิเสธตาโต ส่วนบิวก็ลงจากรถแล้วมาไหว้ลาพ่อกับแม่ของเฟรน ไม่ลืมลาเจ้าตัวเล็กด้วย

 

“ไปกันหมดเลยอ่า โทโมะก็เหงาสิ” เด็กน้อยยู่ปาก ทำหน้าตาน่ารักเหมือนพี่ชายไม่มีผิด บิวคิดพลางหัวเราะ

 

“ขับรถดีๆ นะลูก ระวังกันด้วย” แม่เอ่ยอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นบิวคว้ากระเป๋าของเฟรนไปสะพายเอง ให้เฟรนถือไว้แค่กระเป๋าทรงกระบอกกับลูกบาส พลางขึ้นไปสตาร์ทรถ

 

“ผมจะดูแลลูกแม่ด้วยชีวิตเลยครับ” บิวยิ้มหวานตาหยีให้พ่อกับแม่ก่อนจะปิดหน้ากากหมวกกันน็อคลง รอให้เฟรนสวมหมวกเสร็จขึ้นไปซ้อนท้าย ก็ออกเดินทางได้

 

ที่บอกว่าจะดูแลด้วยชีวิต

 

พอนึกถึงคำพูดเมื่อครู่ เฟรนก็อดหน้าแดงด้วยความเขินอายไม่ได้ บิวเล่นพูดกับพ่อแม่อย่างนั้น หมายความว่ายังไงก็ไม่รู้ เฟรนขยับตัวเอามือกุมอก หัวใจเต้นแรงอีกแล้ว

 

“กอดแน่นๆ เดี๋ยวตกรถไป กูจะซิ่งนะ” บิวเอี้ยวตัวหันไปมองคนที่นั่งเกร็งกอดกระเป๋าอยู่ข้างหลัง

 

“อือ” เฟรนครางรับในคอ หน้าร้อนผ่าวไม่กล้าสบสายตา ถึงจะบอกให้กอดก็ไม่กล้าอีก เลยแค่เกาะท้ายรถไว้จนเจ็บมือไปหมด

 

เอี๊ยดดด

 

ตุ้บ!

 

จู่ๆ คนขับก็เบรกเข้าข้างทางกะทันหันจนคนตัวเล็กตั้งหลักไม่ทัน หน้ากระแทกกับหลังแข็งๆ เข้าอย่างจัง

 

“อะไรมึงเนี่ย...” เฟรนโอดครวญพลางลูบหน้าตัวเองป้อยๆ

 

“กูบอกให้กอด! ถ้าต้องเบรกแบบเมื่อกี้อีก มึงได้หน้าแหกพอดี กอดมา!” เสียงเข้มเอ่ยสั่ง เฟรนย่นคิ้วไม่ค่อยพอใจ ทำไมต้องดุ แขนเล็กๆ ค่อยๆ เอื้อมไปข้างหน้าข้างหนึ่ง เกาะเสื้อแจ็คเกตสีน้ำเงินของบิวไว้

 

ตลอดทางหลังจากนั้น มีแต่ความเงียบ

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.11-12 17/3/18
«ตอบ #43 เมื่อ17-03-2018 14:24:58 »

แหมะบิว สมใจแกหล่ะสิ มีบังคับเค้ากอดด้วยนะ สงสัยจะเลิกกันไม่ได้แล้ว ต้องเป็นแฟนกันจริงๆแล้วหล่ะ ส่วนคู่โอโป้งนี้คืบหน้าไปไกลแล้วจริงๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.11-12 17/3/18
«ตอบ #44 เมื่อ18-03-2018 02:15:49 »

บิว รับมาเสียดี ๆ ไปพนันเรื่องโป้งกับโอใช่ปะ นิสัยไม่ดีโผล่ออกมาเยอะแล้วนะ  :angry2:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.11-12 17/3/18
«ตอบ #45 เมื่อ18-03-2018 11:27:29 »

บิว ปากแข็งนะเนี่ย บอกชอบสักทีสิ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.13 18/3/18
«ตอบ #46 เมื่อ18-03-2018 15:32:12 »

13
บิวไม่ได้พูดถึงเรื่องในคืนนั้น บางทีอาจจะแค่เมา แล้วก็ลืมเรื่องทั้งหมดไปแล้ว

แต่คนที่ยังจำได้ไม่ลืม จะให้ทำยังไงถึงจะลืม

“ข้อนี้ต้องแทนค่าตรงนี้ครับ ส่วนอันนี้ใช้สูตร...เฟรน? น้องเฟรน?” กั้มเขย่าไหล่ร่างเล็กเบาๆ เพื่อเรียกสติ วันนี้พี่ปี 3 นัดมาติวให้น้องปี 2 ซึ่งเฟรนเป็นสายรหัสของกั้มด้วย เฟรนสะดุ้งเงยหน้ามองรุ่นพี่ที่ยืนสอนอยู่

“เหม่อเชียวเรา เหนื่อยก็พักก่อนมั้ย” กั้มยิ้มให้พลางลูบหัวน้องรหัสอย่างเอ็นดู

“งั้นผมขอพักแป้ปนะครับพี่กั้ม” เฟรนบอกเบาๆ แล้วเดินไปสูดอากาศด้านนอกตึก พลันเหลือบเห็นคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังซ้อมร้องเพลงเชียร์อยู่ไกลๆ แถวหอพักนักศึกษาหญิงในมหาวิทยาลัย

ผู้ชายร่างสูงโปร่งผมสีน้ำตาลอ่อนที่คุ้นตากำลังปรบมือตามจังหวะเพลงและก้มลงไปคุยกับสาวสวยผมยาวตรงที่ยืนอยู่ข้างกัน สองคนหัวเราะและยิ้มให้กัน ท่าทางสนิทสนม

การเดิมพันมันจบลงแล้ว

“ช่วงนี้ก็ห่างๆ กันไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวข่าวเรื่องที่เราคบกันมันก็ซาไปเอง กูจะเริ่มต้นจีบแอลแบบจริงจังด้วยตัวเองแล้ว”

บิวคงไม่รู้ ว่าสิ่งที่พูดออกมาทำร้ายจิตใจคนฟังแค่ไหน

ห่างๆ กันไป

แม้แต่ความเป็นเพื่อนก็จะไม่เหลือไว้ให้เลยเหรอ

“ไอ้เฟ...เอ่อ...” นนท์วิ่งออกมาหา เห็นเฟรนยืนเหม่อมองไปทางกลุ่มเด็กอักษรที่ซ้อมเพลงเชียร์อยู่ก็ไม่กล้าเรียกเสียงดัง เลยวิ่งไปหาใกล้ๆ แล้วค่อยสะกิดไหล่ “กูจะไปหาอะไรกิน มึงไปด้วยกันเลยมั้ย” จากตอนแรกแค่จะถามว่าเอาอะไรมั้ย เลยกลายเป็นว่า ชวนไปด้วยกันจะดีกว่า

“อือ ไปดิ” เฟรนกะพริบตาไล่ความรู้สึกที่เอ่อท้นตรงขอบตาแล้วหันหลังเดินนำเพื่อนไปที่รถของนนท์

นนท์พยายามชวนคุย เล่นมุกตลกให้ขำ หยิบขนมแปลกๆ มาให้ดู แต่เฟรนก็ทำได้แค่ยิ้มอ่อนให้ ไม่อยู่ในอารมณ์จะเฮฮาด้วยเลยสักนิด

“มึง มีอะไรอยากระบายมั้ยวะ” เพราะเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ก็รู้ว่าเฟรนกับบิวเคยคบกันเมื่อเทอมก่อน แต่ไม่รู้ทำไม จู่ๆ มาเทอมนี้ก็ห่างกันจนเห็นได้ชัด แถมมีข่าวแว่วมาว่าบิวกลับตัวกลับใจเป็นผู้ชายเต็มร้อย ตามจีบสาวสวยแห่งคณะอักษร ถึงขนาดขอไปช่วยงานพี่กลุ่มพี่เชียร์ ที่แอลเป็นสมาชิกอยู่ แม้จะมีกระแสต่อต้านจากสาวๆ ที่ชอบบิวเฟรนมากมาย แต่บิวก็หาได้สนใจไม่

“ไม่มีอ่ะ รีบไปติวเหอะ อยากได้ความรู้จะแย่ละ” เฟรนพยายามทำตัวตามปกติ แต่ยังไงมันก็ไม่ปกติอยู่ดี โดยเฉพาะในสายตาของเพื่อนๆ

เฟรนตั้งสมาธิมุ่งมั่นกับการติวของพี่ๆ ปี 3 เทอมนี้แยกสาขาแล้ว และเลือกเรียนสาขาที่ยากที่สุดของที่นี่เสียด้วย นั่นคือ ปิโตรเลียม ดังนั้น ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องไร้สาระอีกแล้ว

เฟรนติดรถของสนกลับมาที่หอพักในตอนค่ำ เกือบสองทุ่มแล้ว เพราะมัวแต่แวะกินบุฟเฟ่หน้ามอกันหลังติวเสร็จ พวกรุ่นพี่ทั้งติวให้และยังเลี้ยงข้าวอีก ถึงคราวงานแต้งพี่ตอนพวกพี่กั้มขึ้นปี 4 คงต้องจัดให้หนักๆ หน่อยแล้ว

ตอนที่เดินเข้าไปในหอพัก บังเอิญสวนกับพวกบิวที่น่าจะกำลังออกเที่ยวกลางคืนกัน น้องน้ำกับเอ็มมองเฟรนแล้วยิ้มให้ แต่บิวกลับเดินเลยไป หน้าก็ไม่มองกันเลยด้วยซ้ำ

เฟรนกำมือแน่น รีบสาวเท้าเข้าไปในลิฟท์ มือกดชั้นที่จะไปรัวๆ อยากไปให้พ้นจากตรงนี้เร็วที่สุด

“มึงทำเกินไปเปล่าวะไอ้บิว” เอ็มอดถามไม่ได้ ตั้งแต่เปิดเทอม บิวก็ทำตัวไม่เหมือนเดิม เมินเฟรนแบบเห็นได้ชัด แถมยังตามจีบแอลอย่างเปิดเผย

บิวไม่ตอบ ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์แล้วสตาร์ทออกไปทันที

เขาไม่ได้ลืมจูบในคืนนั้นเลยแม้แต่น้อย กระทั่งรสหอมหวานก็ยังคงติดตรึงที่ปลายลิ้น อุตส่าห์ตามไปง้อ ให้กลับหอด้วยกัน แต่เฟรนก็ยังทำท่าทีเหมือนรังเกียจ หรืออาจจะกลัวไปแล้วก็ไม่รู้


แล้วจะให้มองหน้ากันติดได้ยังไง จะให้ทำตัวเหมือนเดิมได้ยังไง

บิวทำไม่ได้ รับไม่ไหวกับท่าทางรังเกียจแบบนั้น บอกให้กอด ก็ไม่ยอมกอด แถมยังแค่ดึงเสื้อไว้ มาถึงหอก็รีบขนข้าวของหนีขึ้นห้อง แล้วจะให้คิดยังไง

เฟรนเกลียดเกย์ บิวรู้

แต่เขารักเฟรนไปแล้ว กลายเป็นเกย์ไปแล้ว แล้วจะให้ทำยังไง จะตัดใจให้ได้ ก็มีแต่ต้องใช้วิธีหักดิบแบบนี้เท่านั้น ไม่ต้องเสวนากัน ไม่ต้องมองหน้า หันไปจีบแอล ต้องกลับไปชอบผู้หญิงให้ได้ มันมีแค่วิธีนี้เท่านั้น

ยอมให้เพื่อนมองว่าเลว ยอมให้ทุกคนมองว่าเลว ยังดีกว่าให้เฟรนมองเขาด้วยสายตารังเกียจ

“ดีค่ะ เราแป้งนะ” เป็นปกติที่จะมีสาวๆ อวบอึ๋มมาคลอเคลียเวลาออกเที่ยวกลางคืน คืนนี้มีพวกบิวและคิงกับเรือรบ โอกับโป้งไม่ได้มาด้วย

“ดีครับ ผมบิว” บิวยิ้มหวานให้สาวชุดแดงพลางยกแก้วขึ้นชนกับของเธอ ถ้าเป็นทุกที รูปร่างเย้ายวนและกลิ่นน้ำหอมราคาแพงของเจ้าหล่อนคงทำให้บิวมีอารมณ์ร่วมได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้ ไม่ว่าจะทำยังไง มันก็นึกถึงแต่ริมฝีปากเล็กๆ สีอ่อนแสนหวานกับเรือนร่างบอบบางที่ไร้ส่วนโค้งเว้า แถมยังมีกล้ามเนื้อแบบผู้ชายของเฟรน

“มาบ่อยมั้ยคะ”

“นานๆ ทีครับ ถ้าไม่มีสอบ”

เอ็มกับน้องน้ำมองเพื่อนที่นั่งคุยกับสาวชุดแดงอย่างออกรสด้วยสายตาค่อนไปทางตำหนิ ก็ผู้หญิงคนนั้นเล่นนั่งเบียดเอาหน้าอกแนบแขนของบิวเสียขนาดนั้น จงใจก้มเล็กน้อยให้เห็นร่องอก แถมยังไขว้ขาจนกระโปรงที่สั้นเสมอหูอยู่แล้วถกขึ้นไปถึงชั้นใน ส่วนไอ้เพื่อนตัวดีก็ยิ้มเรี่ยราด มองหน้าอกกับหว่างขาของสาวเจ้าแบบไม่มีปิดบัง

 “กูจะไม่ไหวละนะ นังชะนีนั่น!” น้องน้ำเริ่มของขึ้น คันมือยิบๆ อยากตบชะนี แต่เอ็มรั้งคอเสื้อไว้

“มึงเป็นเมียมันรึไง จะไปยุ่งอะไร ปล่อยแม่งไปเหอะ”

“ก็มึงดูมันทำดิ กูสงสารเฟรน เห็นหน้ามันมั้ย ตอนที่มองตามไอ้บิว ดูก็รู้ว่ามันรู้สึกยังไง ไอ้เหี้ยบิวแม่งงงง โง่ยิ่งกว่าควาย!” น้องน้ำโวยวายหัวเสียสุดฤทธิ์

“ก็แปลกนะ ทั้งที่คิดว่าเฟรนเกลียดเกย์ แต่ทำไมชอบบิววะ” เอ็มสงสัย

“ไม่แน่ใจหรอก แต่สายตามันบอกจริงๆ นะ เอ็ม! กูเคยเป็นแบบนั้นมาก่อน กูรู้ดี มันต้องชอบไอ้บิวมากแน่ๆ”

“น้ำ กูว่าเพื่อนมึงเองก็ชอบเขาว่ะ”

“มึงหมายความว่าไง” น้องน้ำยิ่งฉงนเข้าไปใหญ่

“กูว่ามันทำประชดอ่ะ กับแอลก็เหมือนไม่เต็มที่เท่าไหร่ ตอนพนันเรื่องจีบเฟรน ยังจีบจริงจังกว่าอีก” เอ็มอธิบาย “มึงคิดดูนะ เพื่อนเรามันเหี้ยแค่ไหน ไม่เคยมีแฟน แต่ก็คั่วไปเรื่อยป่ะ ของฟรีแม่งเอาหมด พนันเรื่องเหี้ยๆ กับไอ้โป้งมาก็มาก ไม่เห็นมันเคยรู้สึกรู้สาอะไรกับใคร แต่ตอนมันไปจีบเฟรน เป็นแฟนกับไอ้เฟรน มันไม่ยุ่งกับใครเลย ไปรับไปส่งไอ้เฟรนตลอด อยู่ด้วยกันบ่อยกว่าพวกเราอีก ดูแลเอาอกเอาใจ ถึงตอนแรกจะคิดว่าแม่งตอแหลโครตเก่งก็เหอะ แต่หลังๆ กูว่าไม่ใช่ว่ะ”

“มึงจะบอกว่ามันตั้งใจทำเหรอ?” น้องน้ำนิ่งคิด พลางมองที่สองคนซึ่งแทบจะนั่งตักกันอยู่แล้วอย่างหมั่นไส้

“กูแค่เดานะ แต่มันก็น่าเสี่ยง เผื่อจะทำให้เพื่อนมึงมันเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้าง ตอนคบกับเฟรน แม่งโครตดีอ่ะ กูบอกไม่ถูก แต่มันดีขึ้นจริงๆ” เอ็มเขย่าแขนน้องน้ำ “มาทดสอบกันดูมั้ย”

“ทดสอบ?”

******

“วันนี้กูไปกับมึงนะบิว” น้องน้ำตรงดิ่งไปที่มอเตอร์ไซค์คันสีแดง ในขณะที่บิวกำลังจะสวมหมวกกันน็อค

“อ้าว? ไอ้เอ็มอ่ะ?” บิวทำหน้างง น้องน้ำพยักเพยิดไปด้านหลัง บิวหันไปมองตาม เห็นเอ็มกำลังเปิดประตูให้ใครบางคนออกมาจากหอ พลันต้องชะงักไป

เฟรนยิ้มขอบคุณที่เอ็มเปิดประตูให้ราวกับเป็นเจ้าหญิง ท่าทางขัดๆ เขินนั่นเหมือนตอนที่อยู่กับบิวไม่มีผิด

“เชี่ยเอ็ม!” บิวสบถลอดไรฟัน ทำท่าจะเข้าไปหาทั้งคู่ แต่น้องน้ำฉุดไว้ก่อน

“ไปยังเนี่ย เร็วดิ”

บิวกัดฟันกรอด ยอมขี่มอเตอร์ไซค์พาน้องน้ำไปเรียนอย่างหัวเสีย ใจพาลคิดไปต่างๆ นานา

ทำไมเอ็มไปสนิทกับเฟรนได้ เปิดประตูให้ พาไปส่งที่คณะ มันเหมือนที่เขาเคยทำไม่มีผิด

แถมยัง...

“นี่ๆ เราให้ เฟรนชอบกินไม่ใช่เหรอ” เอ็มตักกุ้งที่แกะเปลือกแล้วส่งให้ เฟรนเงยหน้ามองพลางส่งยิ้มแหยๆ เอ็มทำเหมือนที่บิวเคยทำก็จริง แต่ความรู้สึกมันต่างออกไป

“ขอบใจ”

“กินเยอะๆ เลยนะ ไม่พอเราไปสั่งกับมาเพิ่มให้อีกได้” เอ็มยิ้มกว้างอย่างน่ารัก

เมื่อคืน จู่ๆ เอ็มกับน้องน้ำก็มาขอให้ช่วยอะไรบางอย่าง และไอ้อะไรบางอย่างก็คือที่เอ็มทำเหมือนจะจีบอยู่ตอนนี้นี่แหละ

ทำไปก็เท่านั้น บิวไม่มีทางสนใจหรอก

“ไอ้เอ็ม...” บิวกับน้องน้ำนั่งอยู่อีกมุมหนึ่ง และมองเห็นทั้งคู่ตลอดเวลา บิวกัดฟันกรอดๆ ตลอดเวลาจนน้องน้ำเริ่มหวั่นๆ กลัวเพื่อนจะฟันสึกเสียก่อน

“มึงเป็นไรวะบิว ทำหน้าเหมือนอยากฆ่าคน” เสียงโอลอยมาเข้าหู บิวที่กำลังอารมณ์ไม่ดี เงยหน้าขึ้นชูนิ้วกลางกระแทกหน้าเพื่อนเต็มๆ

“จะอะไร ก็แค่ลืมฉีดยาไง ไอ้น้ำมึงพามันไปฉีดกันบ้ามั่งนะ ปีนี้ระบาด” วันนี้มันเป็นอะไร ไอ้ผองเพื่อนต่างคณะถึงได้มาแดกข้าวพร้อมหน้าที่โรงอาหารกลางกันหมด บิวคิดอย่างหัวเสีย รู้สึกพาลไปทั่ว

“มึงก็ว่าไปไอ้คิง กูพาไปฉีดทุกปีนะ แต่แม่งบ้าไม่เลิกเอง ฮ่าๆ” น้องน้ำด่าได้สะใจมาก เพื่อนหัวเราะครืนทั้งโต๊ะ

“ว่าแต่ พวกมึงนี่ยังไงๆ” เรือรบหันไปหาเรื่องโป้งกับโอแทน ปล่อยหมาบ้ามันบ้าไปก่อน

“อะไรยังไง” โป้งทำหน้านิ่ง รับแก้วน้ำจากมือโอมาดูด แล้วโอก็เอาไปกินต่อ แถมยังมีตักข้าวป้อนกัน หยอกกันไปมา เพื่อนๆ ถึงกับตาโต

“ไม่ต้องบอกละ กูรู้แล้ว” เรือรบพยักหน้าเหมือนเข้าใจกับตัวเอง

“รู้เหี้ยไรของมึงไอ้รบ” โป้งแหวใส่ แล้วหยิบขนมในถุงปาใส่หัวเพื่อน เรือรบก็ไม่น้อยหน้าเอาไอ้อันที่ปามานั่นแหละปากลับไป ตีกันเหมือนเด็กประถม จนโอต้องจับแยก

ตึง!

“เหี้ย!” น้องน้ำสะดุ้งเฮือกสบถลั่น เมื่อจู่ๆ บิวที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็เอามือทุบโต๊ะแล้วเดินปึงปังออกไป “เฮ้ย! ฉิบหายแล้วไอ้เอ็ม!”

“อะไรของมันวะ น้ำ” คิงผู้แสนสอดรู้มองตามบิวไปอย่าง งงๆ

“องค์ลงแล้วมึง!” น้องน้ำร้องบอกเพื่อนๆ แล้วรีบวิ่งตามบิวไป พอบอก “องค์ลง” เท่านั้นแหละ ทุกคนลุกพรึ่บทันทีอย่างรู้กัน แม้แต่โป้งก็ยังต้องทิ้งข้าวปลาอาหารที่กำลังกินตามไป

บิวเดินเร็วจนแทบจะวิ่ง ยิ่งเห็นเอ็มก้อร่อก้อติกกับคนตัวเล็กยิ่งของขึ้น แขนยาวยื่นพรวดกระชากคอเสื้อของเพื่อนรักขึ้นมาจากโต๊ะ เสียงคนรอบข้างวี้ดว้ายด้วยความตกใจ จานข้าวของเอ็มกระเด็นกระจัดกระจายเต็มพื้น เฟรนผุดลุกตาม ท่าทางตกใจ

“ไอ้สัสเอ็ม!”

ผัวะ

ร่างของเอ็มที่เล็กกว่าบิว กระเด็นไปกระแทกโต๊ะข้างหลัง นักศึกษาที่นั่งกินข้าวกันอยู่แตกฮือ คนเริ่มมามุงด้วยความสนใจ หลายคนยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปถ่ายวิดีโอ จนพวกโป้งที่วิ่งตามมาต้องรีบห้ามไม่ให้บันทึกภาพ เกิดมีภาพหลุดไป บิวอาจโดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัยได้

“บิว! หยุด!” เฟรนตั้งสติได้ รีบเข้าไปคว้าแขนบิวไว้ ก่อนที่จะตามไปซ้ำบนหน้าของเพื่อน เวลาปกติก็สู้แรงบิวไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้จะเอาอะไรไปห้ามได้

“มึงพอ ไอ้บิว!” โอวิ่งเข้ามาคว้าตัวบิวไว้ทันก่อนเอ็มจะโดนกระทืบท้อง “เป็นเหี้ยไรเนี่ย!? นี่เพื่อนมึงนะ!”

ขนาดโอที่ตัวใหญ่ที่สุดในกลุ่มยังแทบไม่ไหว ต้องให้เรือรบกับคิงช่วยอีกแรง เวลาบิวหน้ามืดขาดสติมักจะเป็นแบบนี้ประจำ เพื่อนที่เรียนมาด้วยกันหลายปีจะรู้ดี

เพราะตอนเด็กๆ บิวตัวเล็ก หน้าก็เหมือนผู้หญิง เลยโดนแกล้งบ่อย แถมชื่อก็โดนล้อเลียนประจำ หาว่าเป็นตุ๊ดเป็นแต๋ว จนวันหนึ่งตอนป.3 บิวทนไม่ไหว ลุกขึ้นสู้กับเด็กผู้ชายในห้อง 5 คนที่มารุมรังแกตั้งแต่ป.1 จนเลือดตกยางออก ตอนนั้นพ่อของบิวถูกเรียกมาที่โรงเรียน พ่อไม่ว่าอะไรบิวเลยสักคำ แถมยังส่งบิวไปเรียนยูโดกับเทควันโด้ แต่พอพ่อเสีย บิวก็หมดกำลังใจจะเล่นต่อ

เพราะพ่อเข้าใจบิวที่สุด รู้ว่าต้องอดทนแค่ไหนกับการถูกกลั่นแกล้งมาตลอด 3 ปี บิวพยายามฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก จนตัวโตกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน กลายเป็นนักกีฬาที่อยู่ในกรอบมาตลอด หากไม่มีใครมาทำให้หัวเสียจนสติหลุด ก็จะไม่ทำใครก่อน มีเรื่องกันก็เลี่ยงด้วยการหนีตลอด

แต่ครั้งนี้ บททดสอบของเอ็มดันไปกระตุ้นสัญชาตญาณดิบของบิวเข้าแล้ว

น้องน้ำกับเอ็มจำได้ดี ตอนม.3 ที่บิวมีเรื่องและพวกนั้นมันดูถูกชื่อกับหน้าหวานๆ ของบิว ทำให้บิวขาดสติ อัดพวกมันจนยับ และโดนทำทัณฑ์บน ส่วนพวกโป้งก็เคยเห็นตอนบิวขาดสติมาแล้วเหมือนกัน

โป้งประคองเอ็มขึ้นจากพื้น เลือดไหลโชกจากมุมปาก ไม่รู้ว่าฟันหักด้วยหรือเปล่า น้องน้ำตัวสั่นด้วยความกลัว ไม่น่าใช้วิธีนี้ทดสอบเพื่อนเลย ได้ผลดี แถมยังดีเกินไป ดีจนเกือบตาย

“ตั้งสติหน่อยมึง!” คิงตบๆ ที่หน้าของบิว เรือรบกอดขา โอล็อคแขน บิวได้สติและหันไปมองคนตัวเล็กที่เข้าไปดูอาการของเอ็ม พลันหัวก็เหมือนโดนไฟเผาขึ้นมาอีกระลอก

“โดนต่อยทีเดียว ไม่ถึงตายหรอกว่ะ มาให้กูกระทืบให้จมตีนดีกว่าไอ้เอ็ม!” บิวดิ้นพล่าน จะให้หลุดจากโอและเรือรบ เฟรนฉุนกึก หันควับไปตบหน้าบิวเต็มฝ่ามือ ทุกคนอึ้ง

“เป็นบ้าอะไร! นี่เพื่อนมึงไม่ใช่รึไง! ทำไมถึงได้ชอบทำร้ายคนอื่นนัก” แววตาตำหนิของเฟรนทำเอาบิวนิ่งงัน ความคลุ้มคลั่งค่อยๆ หดหาย เหลือแค่เสียงหัวใจที่ยังเต้นแรง

“ก็มัน...มันมายุ่งกับมึง” บิวว่าเสียงอ่อย โอกับเรือรบมองหน้ากัน ก่อนจะยอมปล่อยตัวบิว เพราะดูท่าจะเย็นลงมากแล้ว

“ไปเคลียร์กันที่อื่นเหอะ ตรงนี้คนเยอะ” โอตบบ่าบิวแล้วกระซิบบอก บิวพยักหน้า คว้ามือเฟรนแล้วลากออกไปจากตรงนั้น

“จะไปไหน กูมีเรียนนะ ไอ้บิว!” เฟรนที่โดนลากแขนไปร้องโวยวายจะสะบัดให้หลุด แต่บิวไม่ยอมปล่อย ลากร่างเล็กไปที่ห้องน้ำหลังโรงอาหาร ซึ่งไม่มีคนใช้ ปิดประตูล็อคกลอน เฟรนหน้าซีดเผือดเมื่อแสงสว่างในห้องน้ำจางหาย มองไม่เห็นหน้าของบิวชัดเจนนัก ความกลัวคืบคลานเข้าหาเมื่อบิวสาวเท้าเข้ามาใกล้ๆ

ร่างเล็กถอยกรูดจนหลังชนกำแพง กลัวอย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อน บิวตอนนี้อารมณ์ไหนก็ไม่รู้ แถมเมื่อกี้ดันเผลอตบหน้าไปอีก จะโดนโกรธ โดนทำร้ายหรือเปล่า

“กู...ทนไม่ไหวแล้ว!” บิวกระแทกฝ่ามือลงบนกำแพงข้างตัวร่างเล็กที่เริ่มสั่นเกร็ง เฟรนไม่ทันได้ตกใจนานกว่านั้น ก็ต้องเบิกตาโพลง เมื่อริมฝีปากร้อนๆ บดขยี้ลงมาจนรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ปาก และครั้งนี้ บิวไม่ได้เมา

“อื้อ” เฟรนยกมือขึ้นดันแผ่นอกหนา ผลักจนกลายเป็นขยุ้มอกเสื้อของอีกคนจนยับยู่ยี่ เมื่อบิวสอดลิ้นเข้าสู่โพรงปาก กวาดต้อนลิ้นเล็กๆ ทั้งดูดและดุนดันจนหายใจแทบไม่ทัน เข่าที่แทรกตรงหว่างขากระตุกเบาๆ ให้ร่างเล็กสั่นสะท้าน มืออุ่นจนร้อนข้างหนึ่งกดท้ายทอยไว้แน่น

ผละออกมาเพียงเสี้ยววินาที แล้วก็กดจูบซ้ำลงมาอีกอย่างกระหาย เฟรนตัวสั่นกึกๆ มือที่ขยุ้มอกเสื้อเปลี่ยนมาบีบที่หัวไหล่ของร่างสูง พยายามตอบรับลิ้นร้อนสากอย่างไม่ประสีประสา ในหัวขาวโพลนไปหมด ร่างกายเสียวปลาบราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน

นานทีเดียวกว่าบิวจะยอมปล่อย เฟรนหอบถี่หน้าแดงก่ำ ทรุดตัวลงกองบนพื้นอย่างอ่อนแรง บิวนั่งยองๆ เอียงหน้าซบเข่าตัวเองมองดูคนตัวเล็กที่ก้มหน้ากับเข่าตัวเองด้วยความอาย

“เกลียดกูมั้ย? รังเกียจมั้ย?”

เฟรนไม่ตอบคำถามนั้น เอาแต่ก้มหน้าหนี

“งั้นเปลี่ยนใหม่ ชอบกูมั้ย?”

“!” เฟรนเงยหน้าทันที พอสบตากันก็อายจนเลือดแทบพุ่งออกจากหน้า รีบก้มหลบตามเดิม “ถะ ถาม ถามอะไรวะ”

“กูชอบมึงอ่ะ ตั้งแต่แกล้งเป็นแฟนหลอกๆ แล้ว ที่ทำไปทั้งหมด กูทำจากใจนะ ไม่ได้แสดงอะไรเลย” บทจะพูดออกมาตรงๆ ก็ตรงเสียจนอีกคนไปไม่เป็น

“แล้วไหน...บอกจะจีบแอล” เฟรนหน้ายู่

“ก็กูคิดว่ามึงรังเกียจกู เลยพยายามจะชอบผู้หญิงเหมือนเดิม แต่เมื่อกี้...มึงจูบตอบกูนี่?” บิวถามหน้าซื่อตาใส ไม่ได้มีความเขินอายแม้แต่น้อย

“อะ อารมณ์พาไป” เฟรนเสมองไปอีกทาง หน้าร้อนผ่าวๆ

“เหรอ งั้นให้อารมณ์พาไปอีกรอบมั้ย” บิวหัวเราะคิก เฟรนหน้างอกว่าเดิม

“จะให้เชื่อได้ไง มึงแสดงเก่งออกจะตาย อาจจะหลอกกูอยู่ก็ได้”

“ก็บอกว่าไม่ได้แสดงไง ทำจากใจ” บิวยืนยันหน้าตาจริงจัง “ทำไงถึงจะเชื่อ”

เฟรนมองหน้าบิวก่อนจะคลี่ยิ้มหวาน จนบิวใจเต้นรัว นิ้วเล็กๆ แสนน่ารักเชยคางของคนตัวสูงขึ้น

“พิสูจน์สิ”

******

ทางด้านเอ็มกับน้องน้ำ

“เป็นไงมึง เจ็บตัว แลกกับทำให้ไอ้บิวตาสว่าง” น้องน้ำพาเอ็มกลับมาทำแผลที่ห้อง เอ็มร้องซี้ดซ้าดด้วยความเจ็บ ดีที่ฟันไม่ได้หัก แต่หน้านี่บวมช้ำไปข้าง

“เชี่ยบิวแม่ง หมัดโครตหนัก” เอ็มสบถลอดไรฟัน ปากแทบขยับไม่ไหว

“ก็มันเป็นมวย สะใจดีมั้ยละมึง ฮ่าๆ” คิงหัวเราะเยาะเพื่อน ตอนนี้แผนของสองคนเป็นที่รู้กันหมดแล้ว

“ไม่น่าเชื่อเนอะ ไอ้บิวแม่งหลงรักเหยื่อตัวเองได้” เรือรบโยนกล่องยาไปมา ยังไม่ค่อยอยากเชื่อสายตาเท่าไหร่ว่าคนอย่างบิวจะหลงเหยื่อพนันของตัวเองเข้าจริงๆ แถมเหยื่อครั้งนี้ยังเป็นผู้ชายอีกด้วย

“คงเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อยแล้วมั้ง ดูกันต่อไป ว่าจะไปได้กี่น้ำ หึ” โป้งแค่นหัวเราะในคอ โอเลยตบหัวไปทีด้วยความหมั่นไส้

“อย่างมึงยังกล้าพูด”

“เชี่ยโอ!”

“พอๆ อย่ามากัดกันในห้องกู! แต่ถ้าจะกินกัน เดี๋ยวกูขอตั้งกล้องแป้ป” น้องน้ำก็ช่างสนับสนุนให้เพื่อนกินกันเองจริงๆ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.11-12 17/3/18
«ตอบ #47 เมื่อ18-03-2018 15:32:53 »

แหมะบิว สมใจแกหล่ะสิ มีบังคับเค้ากอดด้วยนะ สงสัยจะเลิกกันไม่ได้แล้ว ต้องเป็นแฟนกันจริงๆแล้วหล่ะ ส่วนคู่โอโป้งนี้คืบหน้าไปไกลแล้วจริงๆ
น้องเฟรนเหมือนจะง่าย แต่ไม่ง่ายนะ อิๆ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.11-12 17/3/18
«ตอบ #48 เมื่อ18-03-2018 15:33:55 »

บิว รับมาเสียดี ๆ ไปพนันเรื่องโป้งกับโอใช่ปะ นิสัยไม่ดีโผล่ออกมาเยอะแล้วนะ  :angry2:
เดี๋ยวเรื่องนี้ต้องเคลียร์อีกรอบ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.11-12 17/3/18
«ตอบ #49 เมื่อ18-03-2018 15:34:51 »

บิว ปากแข็งนะเนี่ย บอกชอบสักทีสิ
มันกลัวเขารังเกียจไง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.11-12 17/3/18
« ตอบ #49 เมื่อ: 18-03-2018 15:34:51 »





ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.13 18/3/18
«ตอบ #50 เมื่อ18-03-2018 15:54:59 »

อุ๊แม่จ้าว....  นังบิวหึงโหดไแไหมเนี่ย  :a5:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.13 18/3/18
«ตอบ #51 เมื่อ18-03-2018 16:13:38 »

 อย่าลืมเคลียร์เรื่องแอลล่ะ ตามจีบแอลอยู่นะอย่าลืม
เดี๋ยวจะมีปัญหา

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.13 18/3/18
«ตอบ #52 เมื่อ18-03-2018 18:24:29 »

 :pig4:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.13 18/3/18
«ตอบ #53 เมื่อ18-03-2018 18:37:07 »

อ่านรวดเลย สนุก อ่านเพลิิน

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.13 18/3/18
«ตอบ #54 เมื่อ18-03-2018 20:14:06 »

เอาแล้ว พิสูจน์เลยบิว เรารอดูแกอยู่ เค้าจะหวานกันแล้ว

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.13 18/3/18
«ตอบ #55 เมื่อ19-03-2018 02:10:58 »

รู้ใจตัวเองสักที

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.14 19/3/18
«ตอบ #56 เมื่อ19-03-2018 09:50:31 »

14
...ไอ้ “พิสูจน์” ของเฟรนนี่มัน...

งานเบ๊ชัดๆ นี่หว่า!!!

“บิวครับ ช่วยไปเอากล่องพลาสติกสีฟ้าในห้องเก็บของหลังตึกมาหน่อยครับ”

“บิวๆๆ ช่วยไปเอาข้าวกล่องที่สั่งไว้ที่ร้านxxxทีนะคะ”

“บิวครับ” “บิวคะ” “น้องบิว” “พี่บิวครับ”

“โว้ยยยยย”

แคร้ง

บิวเตะลูกบอลเก่าๆ ที่กลิ้งอยู่ในห้องเก็บของไปชนตะแกรงเหล็กเสียงดังก้องอย่างหงุดหงิด เฟรนบอกให้มาช่วยงานของคณะวิศวะช่วงเย็น แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น มีแต่คนเรียกใช้งานไม่ขาดสาย นี่เขาไม่ใช่อาสาสมัครนะเว้ย!

ขนาดงานของคณะตัวเองยังแทบไม่เคยเข้าร่วมเลย แต่นี่ต้องมาทำงานให้คณะอื่นซะงั้น ถ้าไม่ติดว่าเป็นคำสั่งของคนที่ตามจีบอยู่ กูไม่ทำแน่! บิวกัดฟันกรอดๆ พลางขนลังอุปกรณ์ออกไปวางกองไว้หน้าห้องเก็บของเสียงดังปึงปัง

“นี่ ถ้ามันพังขึ้นมา มึงจ่ายนะ” คนตัวเล็กแย้มหน้ามาดูผลงาน คณะวิศวะขาดคนช่วยงานจิปาถะอยู่พอดี ก็เลยเรียกบิวมาใช้งาน เพราะปี 2 คนอื่นๆ ต้องคอยดูแลน้องๆ แม้จะไม่มีการว้ากแล้ว แต่ก็ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมการเข้าระเบียบมากมาย ที่สร้างความเครียดความกดดันให้รุ่นน้องจนถึงขั้นเป็นลมเป็นแล้งกันได้

บิวก็ไม่เข้าใจหรอกว่าจะรักษาระเบียบอะไรกันนักหนา เพราะคณะของเขาค่อนข้างฟรีสไตล์ ไม่เคยมีระบบว้าก ใครอยากทำกิจกรรมก็ทำ ไม่อยากก็ไม่ต้องทำ เรียนแบบตัวใครตัวมัน นานๆ จะมีงานกลุ่มสักที ซึ่งที่ผ่านมาก็มีงานกลุ่มประจำภาควิชาแค่ครั้งเดียว เพราะยังไม่ได้เข้าเอกโท ต้องรอเทอมหน้าขึ่งจะได้เอกโทเต็มตัว และมีกิจกรรมของเอกเพิ่มมา แถมเวลาไปเรียน จะใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ไปก็ยังได้ ยกเว้นแค่ตอนสอบที่ต้องใส่ชุดนักศึกษา

“ขอโทษคร้าบ จะระวังคร้าบ” บิวตอบเสียงยานคางอย่างกวนๆ ค่อยๆ บรรจงวางลังทีละชั้นแล้วยิ้มหวานให้เฟรน

“ขนเสร็จแล้วก็มากินข้าวนะ สั่งเผื่อไว้เยอะแยะเลย”

“จ้า~”

หลังจากขนลังไปวางไว้หน้าคณะวิศวะแล้ว บิวก็เดินไปหาเฟรนที่หน่วยสวัสดิการ เพื่อรับข้าวเย็น เวลาตอนนี้ก็เกือบหกโมงครึ่งแล้ว ฟ้าเริ่มสลัว

“อ่ะ ของมึง” เฟรนยื่นข้าวกล่องให้ ข้าวผัดกุ้ง เมนูโปรดของบิว

อุตส่าห์กั๊กไว้ให้สินะ บิวคิดพลางอมยิ้ม หาที่นั่งแถวๆ นั้นลงมือกินข้าวด้วยความหิวโหย เพราะใช้แรงงานจนหมดพลัง

“เหนื่อยมั้ยครับ” ขวดน้ำเปล่าเย็นๆ ถูกยื่นมาตรงหน้า บิวเงยหน้ามอง ผู้ชายตัวสูงหน้าคุ้นๆ

“อ่า ขอบคุณครับ พี่กั้ม” บิวรับขวดน้ำมาวางไว้ข้างตัว กั้มนั่งขัดสมาธิลงข้างๆ

“ขอบคุณนะที่มาช่วย ทั้งที่ไม่ใช่งานของคณะบิวเลย” กั้มยิ้มให้อย่างเป็นมิตร คนคนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนพี่ชาย เหมือนพ่อ และบิวก็ค่อนข้างถูกชะตาไม่น้อย

“ชิวๆ ฮะ งานแค่นี้สบายมาก” บิวทำท่าเบ่งกล้ามโชว์ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไหร่ แต่ก็พอมีอยู่บ้าง

“ผมยาวแล้วนะ เดี๋ยวตาเขหรอก” กั้มหัวเราะพลางเอามือปัดผมม้าที่ปรกหน้าแทบจะปิดตาของบิวออกให้ เป็นโมเมนท์ที่ชวนให้สาวกรี้ด รุ่นน้องหลายคนที่นั่งกินข้าวกันอยู่แอบกรี้ดเบาๆ นั่งดูรุ่นพี่ทั้งสองสวีทกันในจินตนาการ

“อ่ะ ฮะฮะ แต้งฮะ” บิวหัวเราะแหยๆ เอามือปัดๆ ผมตัวเองจนมันยุ่งเหยิง แล้วจู่ๆ ก็เหมือนโดนกระชากหัวดังฟึ่บ

“มัดให้” เงยหน้ามองก็เห็นคนตัวเล็กยืนค้ำหัวทำหน้าหงิก มือกำผมม้าของเขาไว้แล้วเอาหนังยางมามัดจุกให้

“เดี๋ยว! น้องหนู! นี่มันยางรัดแกงนี่เฮ้ย มันกินผมกู!!” เจ็บไปสิ เฟรนเชิดหน้าใส่แล้วเดินหันหลังฉับๆ จากไป

กว่างานกิจกรรมจะเลิกก็ราวสองทุ่ม บิวยังดึงจุกบนหัวไม่ออก เพราะมันพันกันยุ่งเหยิง สงสัยเสาร์นี้ต้องไปตัดผมเสียที

“หึ” พอเฟรนเดินมาที่รถ เห็นบิวที่ยังมัดจุกหน้าม้าก็หัวเราะในคอ

“ขำ ขำ เดี๋ยวจะโดน มานี่เลย!” บิวกระชากเอวบางเข้าหา หยิบหนังยางมาจะมัดจุกให้เฟรนบ้าง แต่คนตัวเล็กร้องลั่นไม่ยอมให้รัด

“ไอ้บ้าบิว! ไม่เอาเว้ย!” ร่างเล็กขืนตัวออกจากมือของบิว

“มัดให้เหมือนกันไง กูไม่ใจร้ายใช้หนังยางรัดแกงแบบมึงหรอก มานี่!” บิวรั้งเอวเข้าไปหาอีกรอบแล้วจัดการมัดจุกบนหัวเฟรนให้เหมือนกัน ผมนุ่มๆ หอมๆ ของเฟรนทำให้อดไม่ได้ที่จะกดจมูกสูดดมดังฟอดแล้วค่อยปล่อย

แก้มใสขึ้นสีชมพูเข้มด้วยความอาย คนเดินผ่านไปมาก็มอง ยิ่งโครตอาย ไอ้บ้าบิวทำอะไรไม่สนใจรอบข้างเลย!

วันนี้เลยไม่ได้สวมหมวกกันน็อค เพราะไอ้จุกบนหัว (ไม่ควรเลียนแบบ) แล้วบิวก็พาเฟรนกลับหอโดยสวัสดิภาพ

******

“ตกลงมันได้ผลแน่เหรอวะ ทำไมมันยังตามจีบแอลอยู่อ่ะ” น้องน้ำสะกิดเอ็มให้หันไปมองเพื่อนตัวดีที่เมื่อวานยังหึงโหด แต่วันนี้กลับเดินกระหนุงกระหนิงมากับสาวอีกคนซะงั้น

“กูจะรู้มั้ยล่ะ อูย ไม่ใช่โดนต่อยฟรีนะเนี่ย” เอ็มชักแขนออกจากมือน้องน้ำ สีหน้าเหยเกด้วยความเจ็บบนใบหน้า

“อะไรวะ แล้วไอ้เฟรนอ่ะ ตกลงมันเคลียร์ยังเนี่ย” น้องน้ำบุ้ยปากไปมาอย่างหงุดหงิด เหล่มองบิวที่ช่วยแอลถือเอกสารขึ้นไปให้อาจารย์บนตึก คุยกันท่าทางสนิทสนมมากด้วย

“เรื่องของมันแล้วล่ะ กูไม่รู้ด้วยละ” เอ็มไม่อยากหันไปมองให้เสียสายตา จะยังไงก็ช่างมันแล้ว ไม่อยากเจ็บตัวรอบสอง

บิวช่วยแอลขนเอกสารกองโตไปส่งอาจารย์ภาคญี่ปุ่นบนตึกแล้วก็เดินคุยกันลงมา “เฮ้ย จริงๆ มันเป็นคนแบบนั้นแหละ โครตซื่อบื้อ ทื่อมากด้วย”

“ขนาดนั้นเชียว แล้วแบบนี้จะทำไงดีอ่ะ” แอลมีสีหน้ากังวลใจ

“ไว้ใจเราเลย แอล รับรองผล 100%” บิวชูนิ้วโป้งให้อย่างมั่นอกมั่นใจ น้องน้ำดูอยู่ไกลๆ ไม่รู้ว่าสองคนคุยอะไรกัน แต่ถึงได้ยินก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรอยู่ดี ก่อนที่บิวจะโบกมือบ๊ายบายสาวสวยแล้ววิ่งมาหาเพื่อนๆ ที่นั่งหน้าตึงกันอยู่

“เฮ้ย เดี๋ยวกูไปหาเฟรนนะ มีไรโทรตามละกัน” มาบอกแค่นั้นแล้วก็วิ่งเลยไปที่ลานจอดรถหน้าตึก สีหน้าเบิกบานจนน้องน้ำหมั่นไส้นิดๆ

“ตกลงมันจะควบสองเลยเหรอวะ ทั้งชายหญิง”

******

ทุกเย็นจะต้องมาช่วยงานที่คณะวิศวะ จนเด็กคณะนี้แทบทุกคนต้องรู้จักบิว ปี 1 ยกมือไหว้ทักทาย ปี 2 ด้วยกันก็ทักทายเหมือนเป็นเพื่อนร่วมคณะ รุ่นพี่ปี 3 ปี 4 ก็เช่นกัน ขนาดอาจารย์บางคนยังจำบิวได้

“มันก็ขยันดีนะมึง มาทุ๊กวันไม่ขาด ไม่ใจอ่อนเหรอวะ” นนท์ชะเง้อมองบิวที่กำลังช่วยแจกน้ำและขนมให้น้องๆ ระหว่างพักซ้อมเชียร์ ทำแบบนี้ร่วมเดือนจนจะหมดกิจกรรมแล้ว คาดว่าออกค่ายรอบสุดท้ายคงมีบิวติดรถไปด้วยในฐานะGB (เจเนรัล เบ๊) แน่นอน “หายโกรธมันได้แล้วม้าง”

“ไม่ได้โกรธ” เฟรนตอบหน้านิ่ง ก็ไม่ได้โกรธจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันด้วย เรื่องของแอลก็เข้าใจกันแล้ว

“ถ้าไม่ได้โกรธเรื่องที่มันไปหลีหญิงคราวก่อน แล้วจะแกล้งใช้แรงงานมันทำไมวะ” สนเกิดความสงสัยขึ้นมา เพราะทุกคนยังคงเข้าใจว่าบิวกับเฟรนเป็นแฟนกัน แล้วจู่ๆ บิวก็ไปตามจีบสาวคณะเดียวกัน ทำให้สองคนทะเลาะกันถึงขั้นไม่พูดจาไม่มองหน้ากันเป็นเดือน

“เออน่า มันเป็นบทลงโทษเล็กๆ น้อยๆ” เฟรนว่าแล้วหมุนตัวกลับไปที่หน่วยสวัสดิการ ปล่อยให้เพื่อนสองคนมองหน้ากันพลางยักไหล่อย่างไม่เข้าใจ

หลังจบกิจกรรมและช่วยกันเก็บสถานที่เรียบร้อยแล้ว บิวก็พาเฟรนกลับหอตามปกติ

ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกนานแค่ไหนกว่าที่เฟรนจะใจอ่อน ยอมเชื่อใจว่าที่ทุ่มทุนทำทุกอย่างให้เนี่ย จากใจล้วนๆ

“จะไปค่ายอาทิตย์หน้าด้วยมั้ย” พอลงจากรถ เฟรนก็ถามขึ้น เรื่องไปค่ายไม่อยากบังคับ เพราะมันต้องเดินทางไกลและค่อนข้างลำบาก แล้วคนเจ้าสำอาง ขี้ร้อน แถมขี้เกียจตัวเป็นขนอย่างบิว ไม่น่าจะชอบ

“ไปได้เหรอ? คนนอกนะ?” บิวชี้หน้าตัวเองอย่าง งงๆ

“ทุกวันนี้ก็เหมือนคนในแล้วป่ะ ถ้าอยากไปก็ไปได้ แต่บอกก่อนว่าลำบากแน่ๆ” คล้ายเป็นคำขู่ แต่บิวกลับอยากลอง ถ้ามันจะยิ่งทำให้เฟรนเชื่อใจ

“โอเค งั้นกูไป”

******

“เหี้ยยยย เมื่อไหร่จะถึงวะ กูจะตายแล้วน้องหนู” เสียงโอดครวญจากคนที่คุณก็รู้ว่าใคร รั้งท้ายอยู่ปลายแถวของขบวนนักศึกษาคณะวิศวะที่ต้องไปกางเต๊นท์นอนกันบนดอย ทั้งที่มีฝนตกเฉอะแฉะเกือบตลอดเวลา ดีที่ใกล้จะเข้าหน้าหนาวแล้ว ก็เลยแค่ตกปรอยๆ พอให้อากาศเย็นสบาย

“อีกนิดเดียวน่า” ราวๆ 2 กิโลเอง เฟรนนึกในใจ ไม่บอกจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นไอ้บ้าข้างหลังคงโวยวายหนวกหูเจ้าป่าเจ้าเขาเป็นแน่

“มึงบอกนิดเดียวมาตั้งแต่ตีนเขาแล้วสัส”

“ด่าเหรอ! ตบปากเลยนะ!” เฟรนหันไปถลึงตาใส่ ตอนนี้บิวต้องเชื่อฟังอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งนั้น ห้ามขึ้นเสียง ห้ามด่า ห้ามขัดคำสั่งของเฟรน

“อุ้ย ขอโทษครับน้องหนู” บิวหน้าสลดทันที เอามือตบปากตัวเองเบาๆ

“ไหวมั้ยบิว ถ้าไม่ไหวจริงๆ พี่จะพาไปนั่งพักแล้วค่อยเดินต่อ” พี่กั้มช่างแสนดีเสมอต้นเสมอปลาย เดินถอยร่นลงมาเพื่อดูอาการเด็กนอกคณะอย่างเป็นห่วง จนเฟรนอดเบะปากหมั่นไส้ไม่ได้ พี่รหัสแสนดีคนนี้ดูจะเอาอกเอาใจไอ้จอมแสบนี่มากไปแล้ว

“ไหวฮะ ไหว” บิวตอบพลางใช้กิ่งไม้ที่เก็บมาค้ำยันแทนไม้ท้าวเดินขึ้นเขาต่อไป

ด้วยระยะ 5.5 กิโลเมตร และตอนนี้ก็เกินครึ่งทางมาแล้ว บิวเริ่มจะล้าลงทุกที แม้จะมีจุดให้แวะพักเป็นระยะก็ตาม แต่ถ้าแวะบ่อยเกิน มันก็จะยิ่งเสียเวลา

ในที่สุดบิวก็พาสังขารมาจนถึงจุดกางเต็นท์ ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งยองๆ เหงื่อไหลโชกปนกับสายฝน ทั้งหนาวและร้อนปนเปกันไปหมด

ไอ้ค่ายเห้นี่ ทำไมมันโหดงี้วะ ทำไมไม่ไปเที่ยวทะเล นอนอาบแดด เล่นทราย ไอ้สาดดดดด

อยากจะตะโกนดังๆ ให้เสียงสะท้อนขุนเขา แต่ก็ทำได้แค่นั่งยองๆ หอบหายใจอยู่อย่างนั้นแหละ พลันรู้สึกเหมือนอะไรเย็นๆ มาแตะที่มือ บิวเงยหน้ามอง เห็นคนตัวเล็กยื่นน้ำหวานเย็นๆ มาให้ ก็รีบยิ้มกว้างรับมาดื่มดับกระหาย

“บอกแล้วว่าลำบาก อยากมานักนี่” เฟรนยังคงยืนค้ำหัว ทำให้ดูตัวสูงกว่ามาก

“ก็อยากอยู่กับแฟน” บิวยิ้มแฉ่ง เลยโดนโบกหัวไปที

“ตลก ใครแฟนมึง”

“กูก็ยังไม่ได้เอ่ยชื่อนี่” คนตอบลอยหน้าลอยตาใส่ ช่างน่าหมั่นไส้

“กวนตีน!” แล้วก็งอนไปตามระเบียบ เดินสะบัดบ๊อบ (แม้จะไม่มีก็ตาม) หนีไปดูน้องๆ กางเต็นท์ ไม่สนใจบิวอีกต่อไป

“บิวจะกางเลยมั้ยครับ เดี๋ยวพี่ช่วย” พอเฟรนไป พี่ชายแสนดีก็เดินเข้ามาต่อ บิวพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจจนชายเสื้อยืดถลกขึ้นสูง เพราะชอบใส่เสื้อพอดีตัว ตัวเสื้อมันก็สั้น ยกแขนนิดหน่อยก็เห็นหน้าท้องโผล่แล้ว แถมบิวก็ผิวขาวจั๊วตามแบบฉบับหนุ่มเจ้าสำอาง เล่นเอาพี่กั้มเลือดกำเดาเกือบพุ่ง เพราะยังติดภาพบิวตอนแต่งหญิงอยู่

“มีไรพี่ ทำหน้าแปลกๆ นะ” บิวเหลือบมองสีหน้ากระอักกระอ่วนของอีกคน
“ปะ เปล่าๆ ไปกางแถวนั้นกันนะ” แล้วกั้มก็รีบเดินหอบเต็นท์นำหน้าไป มีบิววิ่งตาม

กว่าจะกางเต็นท์เสร็จ ก็เล่นเอาหอบอีกรอบ (แม้จะให้กั้มเป็นคนจัดการเสียส่วนใหญ่ก็ตาม) คราวนี้ยอมนั่งกับพื้นแฉะๆ เลยทีเดียว เพราะยังไงก็ต้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ดี

“หนาวรึเปล่า รีบไปอาบน้ำกันดีกว่า เดี๋ยวเย็นกว่านี้จะยิ่งแย่” กั้มเอ่ยชวนพลางยื่นมือไปให้บิวจับ ก็แปลกที่รุ่นพี่คนนี้มีเวลามาคอยดูแลบิวเป็นพิเศษ แทนที่จะไปช่วยคนอื่นดูแลเด็กปี 1 ในคณะตัวเอง แต่บิวก็ไม่ได้สนใจนักหรอก มีคนมาคอยทำนู่นนี่ให้ก็ดีแล้ว เพราะยังไงก็โดนเฟรนใช้งานอีกต่ออยู่ดี

กั้มพาบิวไปที่ห้องอาบน้ำ ซึ่งแบ่งเป็นห้องแยก คนเยอะพอสมควร เพราะหลายๆ คนก็อยากรีบอาบก่อนจะมืดและอากาศหนาวกว่านี้ เลยต้องต่อคิวกันสักพักกว่าจะได้อาบ

ถ้าจะเย็นขนาดนี้ บิวคิดว่าคงอาบแค่คืนนี้แหละ พรุ่งนี้เช้าไม่อาบมันแล้ว

พออาบน้ำเสร็จ เดินออกมาก็เห็นเฟรนนั่งล้อมวงอยู่กับเพื่อนๆ กำลังร้องรำทำเพลงเหมือนเวลาเข้าค่ายลูกเสือสมัยเด็กๆ ช่วงนี้นักท่องเที่ยวบนดอยยังมีไม่เยอะ ส่วนใหญ่เลยมีแต่เด็กคณะวิศวะเดินกันเต็มไปหมด

“อาบน้ำแล้วเหรอ” พอเห็นบิวเดินมานั่งเบียดข้างๆ เฟรนก็หันไปถาม โดยที่มือคอยปรบตามจังหวะเสียงกีต้าร์โปร่งของสน

“อือ โครตเย็น เครื่องทำน้ำอุ่นก็ไม่มี” มีบ่นนิดหน่อย “หนาวอ่ะ ขอกอดทีดิ” ไม่รอคำอนุญาตด้วย กอดหมับเข้าที่เอวเล็กๆ ทันที

เฟรนถลึงตาโต เอาศอกถองท้องของบิวเบาๆ “คนอื่นอยู่เต็ม...ไม่เอา”

“ก็มันหนาวนี่”

“อะแฮ่มๆๆๆ เกรงใจเพื่อนที่ยังโสดด้วยครับพวกคุณ” สนแซวดัง แต่มือยังดีดกีต้าร์ เพื่อนคนอื่นเลยหันมามองพวกเฟรนเป็นตาเดียวพร้อมส่งเสียงแซวกันลั่นอย่างสนุกสนาน เฟรนเลยตีแขนบิวเสียงดับเพี๊ยะ แต่มันหนาวมากจริงๆ จะตีให้ตาย คนหน้าด้านก็ไม่ยอมเลิกกอดอยู่ดี

เสียงเพลงเบาลงอีกนิดเพราะเริ่มดึก หลายคนทยอยเข้านอน เนื่องจากวันนี้เดินทางกันมาทั้งวัน ร่างกายก็อ่อนล้าอยากพักผ่อนเร็ว บิวเองก็หาววอดๆ กอดเอวเอนซบบนบ่าของร่างเล็กเหมือนเด็กๆ

เฟรนอมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของบิว มือเล็กลูบหัวให้แผ่วเบาคล้ายขับกล่อม

“จะพามันไปนอนไหวมั้ยน่ะ” นนท์พยักเพยิดไปทางบิวที่น่าจะหลับสนิทไปแล้วเรียบร้อย

“อือ เดี๋ยวค่อยๆ ลากไป” เฟรนตอบกลั้วหัวเราะ

“ให้พี่ช่วยพยุงไปก็ได้ คงไม่มีใครอุ้มไหวอยู่แล้ว” กั้มลุกขึ้น เตรียมจะเข้าไปช่วยพยุงบิวขึ้น แต่คิดอีกที “เฟรนช่วยจับบิวมาพาดหลังพี่เลยดีกว่า เดี๋ยวแบกไป ไวกว่า”

ในเมื่อมีรุ่นพี่ใจดีอาสาแบกให้ เฟรนก็ไม่ขัดศรัธา ช่วยกันกับนนท์ยกร่างบิวขึ้นบนหลังของกั้ม แล้วปล่อยให้รุ่นพี่แบกบิวไปที่เต๊นท์ เฟรนเดินตาม คอยส่องไฟฉายให้

“โอเค เรียบร้อยนะ” กั้มวางบิวลงเมื่อถึงในเต็นท์ ก่อนจะเดินกลับออกมาบอกเฟรนที่ยืนชะเง้อมอง

“ขอบคุณครับพี่”

“งั้นพี่ไปนอนดีกว่า เริ่มง่วงละ เรานอนกับบิวเหรอ?” กั้มมองหน้าเฟรนแล้วหันไปชี้ทีเต็นท์ของบิว เฟรนพยักหน้ารับ กั้มไม่ได้ว่าอะไร แค่โบกมือราตรีสวัสดิ์แล้วเดินไปเข้าต็นท์ตัวเอง

จริงๆ เฟรนมีเต็นท์ของตัวเอง แต่เห็นบิวหลับสนิทขนาดนี้ก็อดห่วงไม่ได้ เลยกะจะอยู่ดูอีกสักพักค่อยออกไป ร่างเล็กนั่งขัดสมาธิ คอยลูบเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนที่ปรกหน้าของบิวให้ เวลาหลับดูสงบนิ่งราวกับรูปปั้น หน้าตาบิวออกฝรั่งนิดๆ ติดไปทางหวาน เป็นผู้หญิงก็คงสวยเหมือนพี่สาว ซึ่งเฟรนเคยเจอที่บ้านบิวอยู่หลายครั้งเมื่อปิดเทอมที่ผ่านมา เห็นบอกว่าพ่อเป็นลูกครึ่งเยอรมัน พวกบิวเลยเป็นลูกเสี้ยวอีกที พี่เบธตี้ก็ตัวสูงอย่างกับนางแบบ แต่หุ่นเพรียวบางกว่าบิว

“หึ ไม่อยากจะชมหรอกนะว่าหล่อ น่าหมั่นไส้ที่สุด” เฟรนพูดงึมงำเอามือบีบจมูกที่โด่งเป็นสันของบิวบิดไปมา แต่จู่ๆ ไอ้คนที่นอนอยู่ดันลืมตาโพลงขึ้นมา เล่นเอาสะดุ้งเกือบทำเต็นท์พัง

ดวงตาคมกริบส่องประกายในความมืดสลัว จ้องมองมาพร้อมมือที่คว้าจับแขนไว้แน่น เฟรนหัวใจเต้นตึกตอนที่สบตากันในความมืด รู้สึกหน้าร้อนพิกลที่โดนจ้องขนาดนี้

บิวไม่พูดอะไร แค่จ้องอยู่อย่างนั้น ส่วนเฟรนก็นั่งนิ่งไม่กล้าขยับ กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็รู้สึกถึงสัมผัสอุ่นๆ บนริมฝีปากเหมือนครั้งก่อนๆ แล้ว

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.13 18/3/18
«ตอบ #57 เมื่อ19-03-2018 09:52:04 »

อุ๊แม่จ้าว....  นังบิวหึงโหดไแไหมเนี่ย  :a5:
นางสติหลุดง่าย

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.13 18/3/18
«ตอบ #58 เมื่อ19-03-2018 09:53:27 »

อย่าลืมเคลียร์เรื่องแอลล่ะ ตามจีบแอลอยู่นะอย่าลืม
เดี๋ยวจะมีปัญหา

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

เรื่องนี้มีเงื่อนงำนิดหน่อย

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.13 18/3/18
«ตอบ #59 เมื่อ19-03-2018 09:54:01 »


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด