Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.17 23/3/18 END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.17 23/3/18 END  (อ่าน 28063 ครั้ง)

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.17 23/3/18 END
« เมื่อ08-03-2018 18:25:46 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม :o12:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-03-2018 11:49:33 โดย ichiichi »

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The Little Cutie or Beast??? [Y 18+] EP.1
«ตอบ #1 เมื่อ08-03-2018 18:27:16 »

Intro เบาๆ


ยิ่งเกลียดยิ่งเจอ!

ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้ จะได้รู้ซึ้งถึงคำนี้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย

จะไปที่ไหน ทำอะไร ก็ต้องเจอ “มัน”

หรือจะลองรักมันดูสักตั้ง จะได้ไม่ต้องพบเจอกันอีก!

******

“สวัสดีค่ะ เราชื่อบิวนะ เรียกบิวตี้ก็ได้ เรียนคณะอักษรศาสตร์ ยังไม่มีเอก แต่อยากเรียนญี่ปุ่น สวย โสด ไม่โหด จีบได้ นะคะ ปิ๊งๆ” สาวน้อย (?) รูปร่างสูงโปร่งที่ยืนตระหง่านอยู่ต่อหน้ารุ่นพี่และปี 1 ด้วยกันย่อขาขยิบตาอย่างน่ารักกับการแนะนำตัวเรียบง่ายของเธอ

ทุกคนในที่นั้นต่างนิ่งอึ้งไปนาน ไม่ได้มีแค่คณะเดียวกันกับบิว แต่มีเด็กจากคณะอื่นที่ต้องวนมารับน้องกับรุ่นพี่ต่างคณะให้ครบทั้งมหาวิทยาลัยด้วย และตอนนี้ก็อยู่ในซุ้มรับน้องของคณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะที่ขึ้นชื่อเรื่องหนุ่มหล่อ พ่อรวย ใครได้แฟนคณะนี้เหมือนถูกหวยสามสิบล้าน แบบไม่ต้องแจ้งความสลากหายหรือโดนใครขโมยไปเลยทีเดียว

แต่สาวอักษรที่ขึ้นชื่อว่ามีแต่ขาว สวย หมวย เอ็กซ์ ว่อนคณะ รวมทั้งเก้งกวางบ่างชะนีเด็ดดวงทั้งหลาย ก็ไม่น้อยหน้า และบิวตี้ ก็คือหนึ่งใน...

“เหี้ย กะเทยนี่หว่า”

“กะเทยแล้วหนักหัวพ่อมึงรึไงล่ะ...คะ” เมื่อมีเสียงทักมา บิวตี้ก็ไม่รอช้าที่จะตอบโต้ด้วยรอยยิ้มสวย หวาน และขวานผ่าซากแบบไพเราะเพราะพริ้ง พร้อมกับส่งสายตาหยาดเยิ้มไปให้เด็กหนุ่มผู้โชคดีที่ได้ฉะกับสาวสวยตั้งแต่วันแรกของการรับน้องแบบรวมคณะ

บิวมองแผ่นป้ายสีแสดที่เด็กหนุ่มผู้โชคดีแขวนคอไว้พลางแสยะยิ้มเย้ยหยัน “ตัวเท่าลูกหมา เสือกเรียนวิศวะ ระวังจะตายก่อนจบนะคะ คุณเฟรนลี่ ผู้ปี้สาวไม่เป็น”

“ไอ้กะเทยควาย!” คนที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลผุดลุกขึ้นจะกระชากคอเสื้อยืดตัวบางของสาวน้อย แต่พวกรุ่นพี่กับเพื่อนๆ ร้องห้ามกันเสียงหลง หนุ่มน้อยก็เลยต้องนั่งลงอย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะถูกถากถางด้วยสายตาจากกะเทยสาวสวยอีกครั้ง ให้ได้ขุ่นข้อง
หมองใจจนอยากจะลุกไปกระทืบกะเทยให้รู้แล้วรู้รอด

“เอ่อ ใจเย็นๆ กันนะครับน้องๆ คนต่อไปแนะนำตัวเลยครับ เชิญ” รุ่นพี่ปี 2 มาดแมนแฮนซั่ม ดีกรีเดือนคณะวิศวะปีที่แล้วเอ่ยเสียงสั่นเล็กน้อย เพราะเหตุเมื่อครู่เกือบทำเอาซุ้มคณะกลายเป็นลานประลองยุทธ์ระหว่างหนุ่มน้อยหน้าละอ่อนกับกะเทยตัวแม่

ทุกคนในที่นั้นต่างลอบถอนหายใจเมื่อเหตุร้ายดูจะคลี่คลายลงแล้ว แต่สายตาของสองคนที่ได้ปะทะฝีปากกันเมื่อครู่นั้นยังจดจ้องกันอย่างเร่าร้อนรุนแรง จนเพื่อนๆ ที่นั่งคั่นกลางต้องเอนตัวหลบรังสีพิฆาตของทั้งสองด้วยความหวาดเสียว

“ไอ้เหี้ย ตัวเท่าฝ่าตีนกู บังอาจปากหมาใส่ เจออีกทีจะแผ่นกบาลแม่งให้แยกเลย” บิวตี้ สาวน้อย(?) ร่างสูง ราวๆ 180 ซม. เดินกระแทกเท้าหนักๆ ขึ้นบันไดโรงอาหารกลางอย่างหงุดหงิดหัวเสีย โดยมีเพื่อนรักที่เคยเรียนด้วยกันตั้งแต่ม.ต้นอย่าง ชะเอมเทศ หรือเอ็ม และหนุ่มน้อยร่างเล็กกะทัดรัด หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มอย่าง น้องน้ำ เดินตามหลังมาติดๆ พร้อมกับเพื่อนสาวร่วมคณะอีกกลุ่มหนึ่ง เนื่องจากคณะของพวกเขาผู้หญิงเยอะมากกกก ถึงมากที่สุด เพื่อนส่วนใหญ่ก็เลยมีแต่ผู้หญิงหลากหลายสไตล์

“มึงก็ใจเย็นๆ ดิวะอีบิว ไปสนใจทำไมเสียงนกเสียงกา แค่เทอมเดียว มึงก็ได้เป็นไทแล้ว ทนๆ ไป” น้องน้ำ หน้าตาน่ารักแต่ปากไม่น่ารักอย่างหน้าหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูขึ้นมาอ่านข้อความในไลน์จากแฟนหนุ่มก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง “พี่ภาคบอกว่าจะพากูไปกินข้าวนอกมอว่ะพวกมึง ไปก่อนนะ เจอกัน”

“อ้าว? อีน้ำ! สัส เห็นผัวดีกว่าเพื่อนตั้งแต่วันแรกเลยนะ” บิวก่นด่าไล่หลังเพื่อนรักที่วิ่งหายไปไวๆ พลางส่ายหน้าเซ็งๆ “แดกไรดีวะ”

“เอากุ้งกะเทียมราดข้าว ฝากสั่งด้วย เดี๋ยวกูไปจองที่ให้” เอ็มตบบ่าบิวแล้วแยกเดินไปอีกทาง ส่วนเพื่อนสาวกลุ่มที่มาด้วยก็แยกย้ายกันไปสั่งข้าวสั่งน้ำมากินเช่นกัน

ร่างสูงโปร่ง ผมยาวสยายถึงกลางหลัง ในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวบางเน้นสัดส่วนกับกางเกงวอร์มสีดำพับขาขึ้นมาถึงเข่ายืนกอดอกรออาหารที่สั่งไว้อยู่หน้าร้านอาหารตามสั่งป้าพิมพ์ใจ สั่งปุ๊บได้ปั๊บ ทันใจไวเว่อร์ (ชื่อร้านจะยาวไปไหนวะครับ: บิวตี้)

“ป้าครับ ขอกระดาษจดหน่อย” เสียงเหมือนจะคุ้น คล้ายๆ ว่าได้ยินเมื่อบ่ายหมาดๆ ทำให้บิวต้องขมวดคิ้วหันไปมอง แต่อนิจจา คนพูดแม่งเสือกเตี้ยโครตๆ จนต้องก้มหน้าเหลือบตาลงมอง และคนมาใหม่ก็เหมือนจะสะกิดใจกับคนตัวสูงผมยาวสยายข้างๆ จนต้องเงยหน้ามองเช่นกัน

“อีกะเทยควาย!”

“ไอ้เตี้ยตูดเป็ด!”

ราวกับมีสายฟ้าฟาดเปรี๊ยะๆ ออกจากดวงตาของทั้งคู่แล่นปราดมาปะทะกัน บิวแสยะยิ้มทั้งที่ยังกอดอก

“แดกนมก่อนมั้ย จะได้สูงๆ”

“มึงนั่นแหละ ไม่ได้แดกหญ้าเป็นอาหารเหรอวะ กะเทยควายๆๆๆ” คนตัวเล็กกว่าแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ล้อเลียนบิวซ้ำๆ เหมือนเด็กประถม แต่ก็ทำให้สาวน้อยของเราของขึ้นได้พอสมควร

“ไอ้เตี้ย!”

“อีกะเทยควาย!”

“เอ่อ” เสียงหนึ่งแทรกขึ้นระหว่างสงครามน้ำลาย หนึ่งหนุ่มหนึ่งสาว (?) ต่างหันขวับไปมอง ป้าพิมพ์ใจนั่นเอง “จะสั่งอะไรมั้ยลูก พ่อหนุ่มตัวเล็กนั่นน่ะ”

ยิ่งมีคนมาเรียกตัวเล็ก เฟรนยิ่งเสียหน้า ร่างเล็กหันไปจดรายการอาหารของตัวเองและที่เพื่อนฝากมารัวๆ แล้วยื่นส่งให้ป้า ก่อนจะรีบเร่งฝีเท้าหนีไปจากตรงนั้น พยายามไม่สนใจสายตาเย้ยหยันของคู่อริอีก

มันคือการเจอหน้ากันครั้งแรกที่โครตแย่ และต่างคนต่างก็ไม่เคยคาดคิดว่าชีวิตนี้จะต้องเวียนวนมาพบเจอกันอีกรัวๆ ในภายภาคหน้า

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The Little Cutie or Beast??? [Y 18+] EP.1
«ตอบ #2 เมื่อ08-03-2018 18:31:36 »

เปิดเรื่องใหม่หลังเรื่องเก่าทันที ฮ่าๆ อีกเรื่องก็ยังค้างคา เอาน่า ค่อยเป็นค่อยไป
ว่างๆ จะมาต่ออีก ช่วงนี้งานรุมเร้าอีกละ ฮือๆ
บิวตี้นี่ใครก็รู้ๆ อยู่ อีกสองหน่อก็อยู่ตรงนี้แหละ

1
“ครับแม่ โอเคมากครับ ฮ่าๆๆ ครับๆ คณะนี้ทำให้ผมโครตฮอตเลย ผู้ชายมีเท่าหยิบมือ โอ๊ยยย ลูกแม่หล่อที่สุดในสามโลก เดี๋ยวก็หาได้ครับ แฟนน่ะ ไม่ต้องรีบร้อนนะครับ ได้อุ้มหลานเหลนโหลนแน่นอน”

คุยกับแม่เสร็จ สาวน้อยบิวตี้ก็กดตัดสายพลางถอนหายใจยาวเป็นวา จนแทบจะเอาลมหายใจมาวาดเป็นวงขดๆๆ ได้หลายตลบ

“เพิ่งปี 1 แม่มึงจะให้หาเมียแล้วเหรอวะ” เอ็มนั่งเคี้ยวปาปริก้ากรุบกรับมองเพื่อนรักที่โดนคุณนายแม่โทรมาปลุกแต่เช้าตรู่วันอาทิตย์ ก่อนเปิดเทอม

“ก็ยัยเบธดันเอารูปกูตอนแต่งหญิงให้แม่ดูไง เลยกลัวลูกชายจะเป็นหมัน ได้ผัวแทนเมีย! อยากเห็นแฟนกูยิกๆ แล้วจะไปเอาที่ไหนมาให้วะ เทอมนี้ทั้งเทอมกูต้องแต่งหญิงไปเรียนอีก ชีวิตแม่งบัดซบสิ้นดี” บิวเดินวนไปวนมาเหมือนหนูติดจั่น พี่สาวตัวดีดันจับแต่งหญิงถ่ายรูปก่อนย้ายมาอยู่หอ แล้วเอาให้แม่ดู จนแม่เกิดอาการแพนิคขั้นสุดยอด กลัวลูกชายเป็นตุ๊ด เลยร่ำร้องเร่าๆ ให้หาแฟนสาวไปเปิดตัวด่วนที่สุด

“มึงก็ไม่น่าไปรับคำท้าพวกไอ้โป้งตอนนั้น”

“คนอย่างกู ฆ่าได้หยามไม่ได้ ท้าแล้วไม่รับแม่งหน้าตัวเมีย รับคำท้ามาแล้วกูก็ต้องทำให้สุด! จะให้พวกมันอ้าปากค้างไปทั้งเทอมเลยพวกมึงคอยดูแล้วกัน!” ดูเป็นคนจริงจังแปลกๆ จนเพื่อนๆ ต่างพากันส่ายหน้าว่า ทำตัวเองชัดๆ แบบนี้...

เช้าวันเปิดเทอมวันแรก บิว หรือสาวน้อยบิวตี้ จัดหนักจัดเต็มด้วย (วิก) ผมยาวสยาย แต่งหน้า (ที่พี่เบธตี้สอนมา) ด้วยสีเบจอ่อนๆ ดูสวยใสเป็นธรรมชาติ กับชุดนักศึกษาพอดีตัวและกระโปรงพลีทยาวแค่เข่าบานพลิ้วและรองเท้าส้นสูง (ที่ฝึกเดินมาแล้ว) 3 นิ้ว ยิ่งทำให้รูปร่างที่สูงโปร่งอยู่แล้วดูสูงชะลูดราวกับนางแบบฝรั่งในนิตยสารหรือบนแคทวอล์ค

“โอ้โห ไอ้เหี้ย”

บิวเบะปากตบหัวเพื่อนไปที “จะตื่นเต้นหรือจะด่ากูเอาดีๆ”

“แม่ง โครตสวยอ่ะมึง พี่เบธสอนมาดีขนาดนี้เชียว” เอ็มตาลุกวาว เมื่อนึกถึงพี่สาวคนสวยของเพื่อนรัก อันที่จริงหน้าตาของบิวก็ละม้ายคล้ายคลึงพี่สาวมากๆ แต่งหญิงเลยยิ่งออกมาสวยส่องประกายเยี่ยงนี้ ถ้าไม่ติดว่ามันสูงตั้ง 180 ซม. แถมซิกแพคที่ท้องเป็นลอนๆ อ่ะนะ

“มึงถ่ายรูปส่งไปให้พวกไอ้โป้งดิ” บิวยักคิ้วบอกเพื่อน เอ็มหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายให้แล้วกดส่งไปยังไลน์กลุ่มเพื่อนสมัยม.ปลายทันที

ระวังเจอไข้โป้ง: เหี้ยบิว มึงเอาจริงสินะ กูก็เอาจริงเหมือนกัน!
Beauty: เอาจริงเหี้ยไรมึง
ระวังเจอไข้โป้ง: พร้อมจะเป็นแฟนกูเทอมนึงยัง น้องบิวตี้คนสวย
Beauty: พ่องสิ สัส
ระวังเจอไข้โป้ง: ออกมาเจอหน้าหอ บัดนาว กูรออยู่
MMM: พวกมึงจะกินกันเองจริงดิ
สากใหญ่แค่ไหน ก็เล็กกว่าครก: แฟนมึงสวยว่ะไอ้โป้ง 555
พี่ไม่หล่อ แต่พ่อพี่ก็จน <King>: ขอกูควงมั่ง วันนึง
N’Nam: อย่าแกล้งบิว!!!
ODYSSY EMBLEM: เลิกกับพี่ภาควันไหนครับน้องน้ำ
N’Nam: อยากตายเหรอสัสโอ!
ODYSSY EMBLEM: ทำไมร้ายกับพี่โอ (สติ๊กเกอร์ร้องไห้รัวๆ)

“ไอ้เหี้ยโป้ง...” บิวกำโทรศัพท์ในมือแน่นจนมันแทบแหลกคามือ บทสนทนาหลังจากนั้นไม่จำเป็นต้องอ่านอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อไอ้เจ้าของชื่อระวังไข้โป้ง ที่บิวเมมไว้อีกชื่อว่า เหี้ยยันเงา ได้ส่งไลน์ส่วนตัวมาเร่งให้ออกไปหายิกๆ “กูไปก่อนแล้วกัน เจอที่คณะ”

“ระวังด้วยนะบิว ไอ้โป้งแม่งไม่รู้เอาจริงแค่ไหน กูกลัวมึงจะได้ผัวก่อนเรียนจบ”

ฝ่ามือเรียวสวยสะบัดใส่หัวเพื่อนดังป้าบ “หน้ามึงตอแหลมากอีน้ำ” แล้วคนสวยก็เดินสะบัดผมฉับๆ จากไป

หน้าหอพักรวม ซึ่งเป็นหอนอกมหาวิทยาลัย ผู้ชายตัวสูงพอๆ กับบิวแต่รูปร่างหนากว่าเล็กน้อยกำลังนั่งกอดอกรออยู่บนมอเตอร์ไซค์สีดำเงาวับของตน ในชุดนักศึกษาผูกเนคไทถูกระเบียบเป๊ะ บ่งบอกว่าเป็นเด็กปี 1 เหมือนกัน

“ช้าว่ะ ทำเหี้ยไรอยู่ จัดทรงเสื้อชั้นในรึไง”

บิวไม่ตอบแต่ส่งนิ้วกลางไปให้แทน

“ฮ่าๆ ขอดูใกล้ๆ หน่อยดิ” โป้งขยับมาใกล้ ยื่นมือมาจับคางบิว แต่กลับถูกปัดออกอย่างแรงจนแขนสั่น และมันทำให้ลูกผู้ชายชื่อโป้งออกอาการหัวร้อนเบาๆ “อย่าสะบัดสะบิ้งนักเลยว่ะ ยังไงเทอมนี้มึงต้องเป็นเมียกู”

“คิดว่าทำได้ก็ลองดู” แววตาของบิวคมกล้าอย่างไม่หวั่นเกรง

“แหวะ~เกย์ กะเทย ขยะแขยงฉิบหาย” เสียงก่นด่าที่จงใจให้ได้ยิน ทำเอาสองหนุ่มหันไปมองพร้อมกัน

“อ้าว? ไอ้เหี้ยนี่ปากดี คณะไรวะสัส” โป้งออกตัวก่อน ทำท่าจะเข้าไปเอาเรื่องคนตัวเล็กที่แกล้งพูดเสียงดังลอยๆ แม้ว่าเพื่อนๆ ของเฟรนจะพยายามยั้งไว้ก็ไม่ทัน เพราะคนตัวเล็กแต่ปากโครตใหญ่ออกตัวแรงไปเสียแล้ว

“มันปากดีใส่กูตั้งแต่ตอนรับน้องแล้ว อย่าสนใจแม่งเลย ไปเหอะ” แม้บิวจะไม่พอใจเหมือนกัน แต่ไม่อยากมีเรื่องตอนนี้ และโป้งไม่ใช่คนใจเย็นพอจะมายืนด่ากับคนแปลกหน้าเหมือนอย่างเขา ไม่พอใจคือมือตีนต้องไปลูกเดียวเท่านั้น แล้วไอ้ลูกหมาปากมอมตัวแค่นี้ ไม่มีทางเป็นที่รองมือรองเท้าให้ไอ้โป้งได้แน่นอน

“เห็นแก่เมียกู จะปล่อยไปแล้วกัน อย่าให้เจอ” โป้งชี้หน้าคาดโทษเฟรนไว้ ก่อนจะรีบสตาร์ทรถให้บิวซ้อนท้ายอย่างหัวเสีย

บิวขมวดคิ้ว เอาขาเตะรถของโป้ง ท่าทางหงุดหงิดไม่แพ้กัน “ใครเมียมึง ไอ้สัส!”

******

“น้องบิวตี้คนสวย กลางวันนี้จะให้พี่โป้งมารับไปกินข้าวที่ไหนดี” คนกวนตีนก็ยังกวนตีนได้โล่ บิวเหล่มองผู้ชายตัวสูงใหญ่ข้างๆ อย่างเอือมระอา

“มึงพูดปกติได้ป่ะ กูจะอ้วก”

“เอ้า ก็ตอนนี้มึงเป็นแฟนกู ก็ต้องพูดกันเพราะๆ สิครับ อย่าให้กูขึ้นนะบิว ไม่งั้นพนันครั้งนี้ มึงเสียทั้งเงินทั้งตัวแน่”

“เสียตัวพ่องสิ! อย่ามาใกล้!” บิวเอามือดันหัวโป้งที่เอียงมาหาจนหน้าจะติดกัน ไม่ได้เขินอาย แต่โครตรำคาญ ไอ้ท่าทางก้อร่อก้อติกของอีกฝ่าย

“กูต้องไปเรียนก่อนล่ะ ไว้กลางวันจะมารับหน้าคณะ รอด้วย ห้ามเบี้ยวนะครับคนสวย” ไม่วายแกล้งเชยคางบิวให้คนสวยได้หน้าหงิกเล่นอีกรอบ แถมด้วยนิ้วกลางสมทบเข้าอีกดอก แต่โป้งก็ยังหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะจากไป

“กระหนุงกระหนิงกันแต่เช้าเลย น่ารักจัง” เสียงเพื่อนสาวร่วมคณะทักทายมาแต่ไกล บิวหันไปยิ้มหวานให้เธอ ก็สาวคนนี้คือคนที่เขาเล็งไว้ตั้งแต่ปฐมนิเทศน์ ว่าจะให้เป็นแม่ของลูกในอนาคต แต่อนิจจา...ดันต้องแต่งหญิงอย่างนี้ จีบสาวก็ไม่ได้ กลับไปแมนเมื่อไหร่จะเดินหน้าลุยเต็มสูบแน่นอน

“มันกวนประสาทบิวแต่เช้าน่ะสิ ไม่ได้หนุงหนิงอะไรเล้ย” บิวตี้คนสวยเบะปากนิดๆ ต่อหน้าคนที่แอบชอบต้องทำตัวให้น่ารักเข้าไว้

“แหม แฟนกันก็อย่างนี้ล่ะนะ” เจ้าหล่อนหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ

“ไม่ใช่แฟน! บิวไม่มีรสนิยมเลี้ยงสัตว์ประหลาดเป็นแฟนนะแอล!” สะบัดตัวนิดๆ ให้ดูยิ่งน่ารักแบบสาวน้อยเข้าไปอี๊ก

“ไม่ต้องเขินน่า ว่าแต่เขาเรียนอะไรเหรอ”

“เห็นหน้าอย่างนั้นนะ เรียนเภสัชว่ะ ฮ่าๆๆ” อุ้ยตาย หลุด “เอ่อ มัน เอ้ย เขาเรียนเภสัชน่ะจ้ะ บ้านมั...เขาเป็นร้านขายยา ก็เลยเลือกเรียนคณะนี้” วอนจะหลุดปากแบบเดิมๆ อยู่หลายที จนอยากเอามือตบปากตัวเอง แต่ก็ได้แค่ยิ้มแหยๆ แก้ขัดไปก่อน ซึ่งสาวเจ้าก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่พยักหน้าว่าฟังอยู่

“เออ แล้วบิวกินข้าวมายัง ไปกินด้วยกันมั้ย”

“ยังๆ ไปกันเลย ป่ะ” เพราะแต่งหญิงอยู่ ก็เลยขอเนียนควงแขนเพื่อนสาวซะเลย ในใจของบิวลิงโลดสุดขีด เป็นกะเทยอาจจะดีกว่าที่คิดก็ได้


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: Beauty & The Little Cutie or Beast??? [Y 18+] EP.1
«ตอบ #3 เมื่อ09-03-2018 03:46:41 »

น้องบิวตี้คนนี้ ท่าทางจะแจ่มพอตัวแฮะ ชอบ ชอบ  :laugh3:

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The Little Cutie or Beast??? [Y 18+] EP.1
«ตอบ #4 เมื่อ10-03-2018 10:55:13 »

แววพระเอกมันเริ่มมาละ
2
บิวไม่เคยเชื่อว่าสำนวนคร่ำครึอย่าง เกลียดอะไรได้อย่างนั้น หรือยิ่งเกลียดยิ่งเจอ มันจะเป็นความจริง

“มึงอีกแล้วเหรอไอ้เตี้ย! มีปัญหาอะไรกับกูมากมั้ยห๊ะ? อยากโดนส้นสูงตบหน้าสักทีมั้ย!” สาวร่างสูงโปร่งยืนเท้าสะเอวจ้องหน้าเด็กหนุ่มตัวเล็กที่โก่งคอเตรียมเถียงสุดชีวิตไม่แพ้กัน

“มึงซุ่มซ่ามเดินมาชนกูเองนะ! กูไม่โง่ขนาดมองไม่เห็นควายตัวเท่าบ้านอย่างมึงหรอก อีกะเทยควาย!”

บิวเหลือบสายตาลงมองก้อนขนมปังที่ถูกเหยียบย่ำด้วยเท้าเล็กๆ ของเฟรนอย่างเคียดแค้น เดินชนมันไม่พอ ขนมปังในมือดันร่วง แล้วไอ้เตี้ยหมาตื่นนี่ก็ดันก้าวขาเหยียบซ้ำ แถมยังแอบขยี้ไม่มีชิ้นดี

“ไม่รู้แหละ มึงเหยียบขนมปังกู หลักฐานคาตา มึงต้องชดใช้!” มือเรียวสวยกรีดกรายชี้ไปที่ก้อนขนมปัง เฟรนก้มมองตามแล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงรีบหดขาหนีแทบไม่ทัน

“เฮ้ย! อันนี้กูไม่เห็นจริงๆ”

“ไม่เห็นเหี้ยไร เต็มตีนขนาดนั้น ไม่รู้สึกหยึยๆ ที่ตีนมึงมั่งรึไง ห๊ะ! ไอ้เตี้ย!” บิวก้าวเท้าเข้าประชิดตัว แต่คนตัวเล็กก็รีบถอยหนีอย่างไว

“กูซื้อให้ใหม่ก็ได้!” แล้วเฟรนก็รีบวิ่งไปที่ร้านค้า บิวสาวเท้าตามไปติดๆ เพราะกลัวคู่กรณีจะชิ่งหนี แต่คนตัวเล็กก็รักศักดิ์ศรียิ่งชีพ บอกจะซื้อคืนก็ซื้อมาจริงๆ “อ่ะ เอาไปดิ หายกันรอบนี้”

บิวจิ๊ปากเบาๆ ฉวยคว้าขนมปังที่เฟรนยื่นมาตรงหน้า “เออ ทางใครทางมัน”

******

ตกเย็น หลังเลิกเรียนอันมีกิจกรรมรับน้อง ซ้อมร้องเพลงเชียร์และอื่นๆ รออยู่ แต่เพื่อนรักของบิวกลับร้อนรนอยากจะไปคณะวิศวกรรมศาสตร์อันเลื่องชื่อลือชาด้านหนุ่มหล่อเสียเหลือเกิน

“กูได้ยินว่ามีอาจารย์คณะอื่นมาตอแยพี่ภาคกู ต้องไปเฝ้าสักหน่อย!” น้องน้ำส่งเสียงฮึดฮัดทำท่าทางเตรียมบุกถิ่นวิศวะเต็มที่ แต่บิวคว้าแขนเพื่อนตัวเล็กไว้ได้ก่อน

“เดี๋ยวๆ ไอ้น้ำ แล้วมึงจะไม่เข้ากิจกรรม?”

“ไปแป้ปเดียว แค่ส่อง” น้ำสะบัดแขนออก “มึงเอามอไซค์ไปส่งกูทีดิบิว ผัวมึงให้กุญแจไว้นี่”

“อยากโดนตีนตบปากมั้ยไอ้น้ำ จะให้ไปส่งก็พูดดีๆ” บิวชักมีน้ำโห เพราะน้ำดันพูดถึงไอ้คู่อริเบอร์ 1 ที่เมื่อเช้าขี่มอเตอไซค์มาส่งแล้วก็จอดทิ้งไว้พร้อมให้กุญแจ ก่อนที่จะติดรถเพื่อนคณะเภสัชไปเรียน เพราะเหตุว่าตอนเย็นมีนัดซ้อมบาสฯ ของคณะ ไม่ว่างมารับบิวกลับหอ แต่จะให้บิวเป็นคนไปรับกลับแทน

“เพื่อนบิวคนสวยคร้าบบบบ ไปส่งน้องน้ำที่ตึกวิดวะทีคร้าบ นะคร้าบเพื่อนรัก” น้องน้ำเปลี่ยนเป็นฝ่ายฉุดแขนบิว อ้อนวอนร้องขอจะให้ไปส่งให้ได้ และบิวก็ยอมใจอ่อนในที่สุด

ตึกเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์มีป้ายโดดเด่นเห็นแต่ไกล บิวจอดมอเตอร์ไซค์คันสีดำมันเงาที่หน้าตึก ปล่อยให้เพื่อนตัวเล็กวิ่งลัลล้าไปหาสามีที่เป็นอาจารย์สอนวิชาเคมีของคณะนี้

ระหว่างรอน้องน้ำ บิวก็ไม่มีอะไรทำ เลยอยากจะสำรวจคณะวิศวกรรมสักเล็กน้อย ตึกมีทั้งหมด 3 ตึกด้วยกัน ตั้งล้อมกันเป็นรูปตัว U จำนวนชั้นเท่ากันคือ 12 ชั้น อาคารค่อนข้างใหม่เอี่ยม เพราะเป็นคณะที่เปิดมาไม่ถึงสิบปี

“กว้างขวางใหญ่โตดีนี่หว่า รู้งี้กูเลือกเข้าคณะนี้ดีกว่ามั้ยเนี่ย...แต่ก็ไม่ทันละ” จริงๆ บิวลังเลระหว่างวิศวะ อักษรและสถาปัตย์ แต่ก็เลือกอักษร เพราะสาวสวยเยอะ ซึ่งไม่เกี่ยวเห้อะไรกับการเรียนหนังสือเลยแม้แต่น้อย

“คณะกูมีกะเทยแต่งหญิงด้วยเหรอวะ” เสียงก่นด่าคุ้นหูมาก แทบไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร บิวค่อยๆ เหลือบแค่หางตา ก่อนจะสะบัดผมและกระโปรงพลีทพร้อมๆ กัน เพื่อหันทั้งตัวไปหาต้นเสียง

“แล้วคณะนี้มันมีฮอบบิทด้วยเหรอวะ โอ้โห คนแคระอ่ะ กูเพิ่งเคยเห็น” บิวยกมือขึ้นโบกแถวๆ หน้าผากพลางชะเง้อคอเหมือนมองดูอะไรสักอย่างที่เบื้องล่าง

“คนแคระบ้านพ่องสิ! กูไม่ได้เตี้ยขนาดนั้น!” เฟรนกำหมัดแน่น กัดฟันกรอดๆ ด้วยความเกรี้ยวกราด

“แต่ก็เตี้ยกว่ากูมากนะ เหมือนพ่อกับลูกเลย” บิวเหลือบสายตาลงมองเหยียดๆ เฟรนตัวเล็กมากเมื่อเทียบกับบิว ส่วนสูงต่างกันเกือบ 12 ซม. แถมเฟรนยังผอมบางร่างน้อยอีก “มึงดูต่ำกว่ามาตรฐานชายไทยอีกนะเนี่ย”

“อีกะเทยควาย! เลิกพูดถึงปมด้อยคนอื่นสักที!” เฟรนโวยลั่นอ่างเหลืออด จนคนแถวนั้นเริ่มหันมาสนใจ

“มึงก็เลิกด่ากูว่ากะเทยควายสักทีสิวะ!” บิวเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ ในใจก็นึกไปว่า ใครกันแน่ที่ขุดปมคนอื่นมาล้อเลียนก่อน

“ก็มันเรื่องจริง มึงมันกะเทยควาย!”

“กูก็พูดเรื่องจริง มึงมันเตี้ย ทั้งเตี้ยทั้งสั้น วันๆ ได้แต่เห่าเป็นหมาคอร์กี้!”

“ไอ้เหี้ยนี่!” เฟรนกระโดดเข้าคว้าคอเสื้อคนตัวสูงกว่ากระชากจนตุ้งติ้งที่ปกเสื้อหลุดกระเด็น บิวตกใจจะผลักคนตัวเล็กออก แต่ไม่ทันแล้ว เพราะรองเท้าส้นสูงที่ใส่อยู่มันทำให้เสียหลักเซหงายหลังลง

หมับ!

“เป็นอะไรรึเปล่าครับ?” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามอย่างสุภาพชน ชายหนุ่มร่างสูงรูปร่างใกล้เคียงกับบิวส่งยิ้มหวานพร้อมสายตาห่วงใย แขนข้างหนึ่งของหนุ่มหล่อผู้นี้โอบรัดอยู่ที่เอว (เกือบ) บางของบิว

โมเม้นท์นี้จะดีต่อใจมากกว่านี้ ถ้าบิวเป็นกะเทยที่ชอบผู้ชาย

“เหวอ!” สาวน้อยบิวตี้ (?) ร้องลั่นหน้าเหรอหรารีบตั้งหลักกลับมายืนด้วยขาตัวเอง “ขะ ขอบใจ” สะบัดผมนิดหน่อยพอสวยงาม

“ขาพลิกรึเปล่าครับ เจ็บตรงไหนมั้ย?” จู่ๆ ผู้ชายมาดแมนแฮนซั่มแถมยังโครตสุภาพบุรุษสุดตรีนก็นั่งคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นตรงหน้าบิว มือคว้าข้อเท้าของร่างโปร่งเพื่อจะดูว่าเจ็บหรือเปล่า เล่นเอาทั้งบิวทั้งเฟรนโครตอึ้ง

“อี๋ พี่กั้ม จะไปห่วงอะไรมันเล่า อีกะเทยควายเนี่ยมันถึกจะตายไป” เฟรนเบะปากใส่ด้วยความหมั่นไส้ บิวกอดอก ขมวดคิ้ว

“แล้วมึงเสือกอะไรล่ะไอ้เตี้ย พี่เขามีน้ำใจไง ไม่เหมือนมึง แค่น้ำยายังไม่มีเลยมั้ง”

“ไอ้!”

“พอๆ เฟรน พี่ขอ” คนที่เฟรนเรียกว่าพี่กั้มยกมือขึ้นห้าม “ไม่เจ็บใช่มั้ยครับ” แล้วก็เงยหน้าถามประโยคนี้กับบิว

สาวน้อยบิวตี้เลยต้องรีบเปลี่ยนท่าที แกล้งออกอาการดัดจริตเล็กน้อย “เจ็บนิดๆ อ่ะค่ะ สงสัยจะแพลง”

“เฮ้ย แบบนั้นไม่นิดนะครับ เดี๋ยวผมพาไปห้องพยาบาลก่อนดีกว่า เดินไหวมั้ย?” กั้มลุกขึ้นจะเข้ามาช่วยประคอง บิวก็ถลาซบอกทันที เพราะกั้มตัวสูงกว่านิดหน่อย

“เกรงใจจังค่ะ รบกวน” สาวบิวตี้เล่นหูเล่นตาสมบทบาทพลางแกล้งเซให้กั้มพยุงแนบชิด ไม่วายขยิบตาใส่คนตัวเล็กที่ยืนมองด้วยความไม่พอใจ

“ไม่เป็นไรครับ รีบไปกันเลยเนอะ”

กั้มพยุงบิวที่แกล้งเจ็บขามาจนถึงห้องพยาบาล หายามาทาให้และพันผ้าที่ข้อเท้าให้เรียบร้อย

“พอเดินไหวแล้วยังครับ?”

“คะ ค่ะ ไหวค่ะ” บิวเอ่ยเสียงอ่อย รู้สึกผิดนิดหน่อยที่โกหกคนใจดีขนาดนี้ แต่อีกใจก็คิด มึงผิดเองนะที่เข้ามาเสือก

“เอ่อ ผมชื่อกั้มนะครับ อยู่ปี 2 วิศวะอุตสาหการ คุณ?” กั้มมองหน้าบิวอย่างพินิจพิจารณา

“อ้อ ผม เอ๊ย ฉันบิวตี้ค่ะ เรียกบิวเฉยๆ ก็ได้ อักษรปี 1” บิวยิ้มแหยๆ ให้ ก่อนจะลงจากเตียงผู้ป่วย โดยมีกั้มคอยช่วยตลอดไม่ยอมห่าง “เดินเองได้แล้วค่ะ ไม่เป็นไร”

“ไหวแน่นะครับ ว่าแต่มาทำอะไรแถวนี้อ่ะครับ”

คำถามของกั้ม ทำให้บิวได้แต่เอียงคอน้อยๆ แล้วก็บิดริมฝีปากยิ้มแหยๆ

อ้าว? ฉิบหาย กูลืมไอ้น้องน้ำไว้ที่ไหนวะเนี่ย!?

******

“เหี้ยบิว! มึงหายไปไหนมาเนี่ย!? กูนึกว่าโดนฉุดไปรุมกระทืบแล้ว” น้องน้ำวิ่งหน้าตาตื่นมาหาบิวที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องพยาบาล มีกั้มเดินตามหลังมาด้วยความห่วงใยแปลกๆ

“รุมกระทืบบ้านพ่องสิ กูสวยออกขนาดนี้ มีแต่คนจะรุมโทรมสิไม่ว่า!” บิวปราดเข้าไปหยิกแก้มเพื่อนเบาๆ พองาม

“หูยยย กล้าพูดนะมึง” น้องน้ำลูบแก้มตัวเองป้อยๆ พลางเบะปากมองบนใส่ “แล้วนี่ใครอ่ะ? หล่อจัง” น้ำกระดี๊กระด๊าเข้ามาเกาะแขนบิวแอบลอบมองหนุ่มหล่อวิศวะ

“เอ่อ พี่กั้ม เขาพากูไปพันขามานี่ไง ขาแพลงนิดหน่อย” บิวชี้ที่ข้อเท้าให้ดู น้องน้ำหาได้สนใจอาการของเพื่อนแม้แต่น้อย หันไปยิ้มหวานให้หนุ่มหล่อซะงั้น “นี่ น้อยๆ หน่อยนังน้องน้ำ เดี๋ยวพี่ภาคก็มาลากไปหรอก”

“แหม นิดหน่อยเอง พี่กั้ม ผมน้องน้ำนะครับ” มีเล่นหูเล่นตาอีก บิวส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับตุ๊ดเด็กหน้าม่อ ก่อนจะกระชากคอเจ้าตัวเล็กไปขึ้นรถ โดยไม่ลืมโบกมือลาพี่กั้มคนหล่อ

******

“เลิกเชียร์เย็นนี้ไปต่อไหนกันดีวะบิว” เอ็ม เพื่อนผู้ชายแท้ๆ เพียงคนเดียวในกลุ่มตอนนี้เอ่ยถามขึ้นพลางกดเกมมือถือยิกๆ ระหว่างนั่งพักจากการแหกปากร้องเพลงเชียร์

“กูเห็นแถวนี้มีหลายร้านเลย ลองสักร้านมั้ยวะ เทอมนี้ค่อยๆ ตระเวนไป เดี๋ยวก็ครบ” บิวหันไปตอบเพื่อน

“ชวนพวกไอ้โป้งไปด้วยดิ คนจะได้เยอะๆ” เอ็มเอาศอกกระทุ้งๆ สีข้างของบิว

“ทำไมต้องชวนแม่งวะ” บิวขมวดคิ้ว

“แล้วมึงจะชวนสาวๆ พวกนี้ไปเมาด้วยกันมั้ยล่ะ เผื่อหิ้วกลับห้องไปสวิงกิ้งไงล่ะ ไอ้สัส!” พูดเองตบหัวเพื่อนเอง อะไรของมันวะ บิวงง โดนตบหัวเฉยเลย

“เออๆ ไลน์ไป กูไม่คุยนะ เซ็ง เบื่อขี้หน้าเหี้ยโป้ง”

“เหมือนมันจีบมึงเลยเนอะ” เอ็มเหล่มองเพื่อน “มารับทุกเช้า เย็นก็ต้องรอกลับพร้อมกัน โครตแฟนอ่ะ นี่พนันกันเฉยๆ แน่นะ? ไม่ใช่จริงจังแล้ว?”

“เหี้ยเหอะ กูไม่นิยมไม้ป่าเดียวกัน ที่สำคัญ ถึกอย่างควายงั้น แดกไม่ลงว่ะ ถ้าน่ารักๆ อย่างไอ้น้ำว่าไปอย่าง”

“ไหนบอกไม่นิยมไม้ป่าเดียวกัน”

“ก็ถ้าน่ารัก แค่เอามาเล่นแก้ขัดก็โอเคว่ะ” บิวยักคิ้วจึ้กๆ ให้เอ็มอย่างรู้กัน

ค่ำวันนั้น หลังเลิกซ้อมเชียร์ตอนทุ่มตรง บิวกับเอ็มกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่หอ ก่อนจะก็พากันไปรอพวกโป้งที่ผับใกล้ๆ มหาวิทยาลัยที่นัดแนะกันไว้ในไลน์กลุ่ม

“ทำไมมึงแต่งตัวงี้” โป้งลงจากรถฮอนด้าซีวิคสีขาวของโอ มาเจอสภาพแมนเต็มร้อยของบิวก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ พอลบเครื่องสำอางกับเอาวิกออก แล้วกลับมาใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ บิวก็ดูเหมือนผู้ชายปกติ แถมยังหล่อมีออร่าโดดเด่นจนสาวๆ เหลียวมองแล้วมองอีก

“นี่นอกมอ นอกเวลาเรียน กูจะแต่งไงก็ได้ ที่พนันไว้มันแค่ในมอ” บิวกอดอกจ้องหน้ากันไม่ลดละ เหมือนโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางไหน จนเอ็มต้องบอกให้พอ จะได้เข้าไปดื่มกันให้ชุ่มปอดเสียที

นอกจากโป้งกับโอที่เรียนคณะเภสัชแล้ว ยังมีคิง คณะวิทยาศาสตร์ และ เรือรบ คณะมัณฑนศิลป์ ที่เป็นเพื่อนสมัยม.ปลาย เรียนด้วยกันมาตลอด 3 ปี และมาเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันอีก

“เฮ้ย เดี๋ยวกูมานะ ไปฉี่แป้ป” บิวตะโกนบอกเอ็มที่เริ่มหาสาวมาเต้นด้วย ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ก็กำลังสนุกกับการดื่มและคุยกับสาวๆ ที่เข้ามาหาเป็นระยะ ยกเว้นโป้งที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด จนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้

บิวไม่ได้สนใจโป้งว่าจะพอใจหรือไม่พอใจกับการแหกกฎครั้งนี้ เพราะตามข้อตกลงก็แค่แต่งชุดนักศึกษาหญิงไปเรียนตลอดหนึ่งเทอมและยอมเป็นแฟนโป้งในระหว่างนั้น ดูว่าใครจะทนไม่ไหวก่อนกัน แต่ชุดอื่นนอกมหาวิทยาลัย ไม่ได้มีการตกลงกันไว้ ดังนั้น หากบิวจะแต่งตัวตามปกติก็ว่าไม่ได้ และมันก็ทำให้โป้งหงุดหงิดอยู่ตอนนี้

“ปากดีนักเหรอวะ ไอ้เปี๊ยก!”

ผลั่ก!

เสียงเอะอะโวยวายกับเสียงเหมือนคนต่อยกันที่หลังร้าน ทำให้บิวชะงักขาที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ เสียงเพลงในผับดังขนาดนี้คงไม่มีใครได้ยิน แต่เพราะเขาอยู่ใกล้ๆ พอดีเลยได้ยินแว่วๆ มา คิดว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ เลยขอแอบดูเสียหน่อย แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อไอ้คนที่กำลังมีเรื่องกับนักเลงรอยสักเต็มแขน หน้าโครตโหดนั่น คือไอ้เตี้ยหมาตื่นเจ้าเก่า! คนที่เจอหน้ากันทีไรต้องกัดกันประจำกับเขา

“เพื่อนกูไม่ผิด! พวกมึงต่างหากมาชนมันก่อน” ตัวเล็กนิดเดียว แต่ใจโครตใหญ่ มีการออกตัวแทนเพื่อนที่ยืนหน้าซีดตัวสั่นไปแล้ว แถมเพื่อนมันก็ตัวโตกว่ามันอีก ป๊อดฉิบหาย บิวถอนใจพลางส่ายหน้าเซ็งๆ กะจะไม่เข้าไปยุ่งแล้วเชียว ถ้าไอ้รอยสักมันไม่ชักมีดมาขู่

“เหี้ยแล้ว! หลบเว้ย!” บิวไหวตัวทันเป็นคนแรกตั้งแต่เห็นมันล้วงไปในกางเกง ขายาวๆ ก้าวพรวดไปคว้าแขนไอ้ตัวเล็กใจใหญ่อย่างไม่ทันคิดอะไรทั้งนั้นแล้วกระชากสุดแรงให้พ้นระยะมีด “วิ่ง!” เขาออกคำสั่งหลังจากนั้นทันทีพร้อมออกวิ่งนำ มือยังกำแขนเล็กๆ นั่นแน่น

“เฮ้ย! เดี๋ยว ใครวะเนี่ย!?” เฟรนร้องลั่นด้วยความตกใจกับทุกสิ่งทุกอย่างในช่วงชุลมุน เพื่อนที่มาด้วยกันก็ไม่รู้หายไปไหน เหลือแต่ไอ้ตัวโย่งที่ฉุดให้วิ่งตามกันมา จนออกไปพ้นหน้าผับ

บิวไม่ตอบ แต่มองหารถมอเตอร์ไซค์ที่ขี่มาจนเจอ

“ไปให้พ้นจากที่นี่ก่อนค่อยว่ากัน เร็วๆ” บิวชี้ไปที่รถของโป้งที่มันอยากทิ้งไว้ให้ขี่ดีนัก

“เฮ้ย! พวกมันอยู่นั่น” เสียงโวยวายดังตามหลังมาไกลๆ เฟรนสะดุ้งเฮือก ไม่มีเวลามาลังเลแล้ว จึงยอมกระโดดซ้อนท้ายรับหมวกกันน็อคมาสวมอย่างไว ก่อนที่บิวจะบิดรถออกไปจากบริเวณนั้นด้วยความเร็วเต็มพิกัด

พ้นจากแถวผับนั้นมาได้ บิวก็เลี้ยวรถไปจอดในซอยแคบๆ ซอยหนึ่งซึ่งไม่ค่อยมีคนผ่านไปมา เฟรนลงจากรถ ยื่นหมวกกันน็อคคืนให้

“ขอบใจที่ช่วย”

“เออ” บิวตอบรับห้วนๆ พลางขมวดคิ้ว “ไม่ได้จะปล่อยมึงลงแถวนี้ แค่แวะพักหายใจ เมื่อกี้ตื่นเต้นฉิบหาย” ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีเรื่องมีราว แต่น้อยครั้งที่จะต้องหนีอาวุธ

“กูว่ากูไม่เคยรู้จักมึงนะ แต่ก็อุตส่าห์ช่วยไว้ ส่งกูแค่นี้แหละ เดินไปไม่ไกลก็ถึงหอกูแล้ว”

“ไม่ไกลเหี้ยไร อีกเป็นกิโล เดินกลับไม่ถึงห้องตอนตี 2 รึไง” เพราะอยู่หอเดียวกัน บิวก็เลยรู้ระยะทาง แต่เฟรนถึงกับชะงัก

“รู้ได้ไงว่าหอกูอยู่ไหน”

“รู้แล้วกัน ไป ขึ้นมาเร็ว ไปด้วยกันเนี่ยแหละ” บิวว่าพลางยืดตัวตรงเตรียมสตาร์ทรถพลางพยักเพยิดให้คนตัวเล็กขึ้นไปซ้อนท้ายตามเดิม แม้ว่าเฟรนจะรู้สึกไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่ แต่ดึกดื่นป่านนี้ แถมแถวนี้ก็เปลี่ยวมาก ไม่รู้ว่าที่ไหนจะให้ใครมารับคงลำบากอีก สุดท้ายก็เลยยอมซ้อนรถของบิวกลับหออย่างช่วยไม่ได้

เมื่อกี้ตอนหนีตายจากผับ เฟรนไม่ทันสังเกตผู้ชายที่จู่ๆ ก็โผล่มาช่วยเหมือนอัศวินขี่ม้าขาว เสียตรงที่เฟรนไม่ใช่เจ้าหญิง คนที่อยู่ตรงหน้ารูปร่างสูงโปร่ง แต่มองจากด้านหลังก็ดูไหล่กว้าง ตัวใหญ่พอสมควร ผมสีน้ำตาลอ่อนๆ ยาวประบ่าปลิวตามแรงลม หน้าไม่ได้สังเกต แต่เสียงมันโครตคุ้นหูแปลกๆ

“ลงๆๆ” เพราะมัวแต่มองเพลิน จนไม่ทันรู้ตัวว่าบิวพามาส่งถึงหน้าหอพักเรียบร้อยแล้ว แถมยังเอารถเข้าจอดหน้าตึกด้วย

“เอ๊ะ? อยู่หอนี้เหมือนกันเหรอ” เฟรนทำหน้าฉงนได้น่ารักสุดๆ จนบิวต้องกลั้นขำ ใจหนึ่งอยากบอกความจริง แต่อีกใจก็อยากแกล้งเล่นสักพัก

“ก็เออสิ ถ้าอยากรู้จักกู จะตามไปที่ห้องก็ได้นะ” บิวแกล้งยิ้มมุมปากสาวเท้าเข้าประชิดตัวร่างเล็ก เฟรนรีบถอยหนี หน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นดันอกร่างสูงอย่างลนลาน ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบออกไปอีกทาง แต่ก็ไม่ลืมหันไปบอกลา

“ไม่เป็นไร งั้นแยกกันตรงนี้เลยนะ บาย~” เฟรนโบกมือลาแล้วรีบวิ่งหายเข้าไปในตึกหอพัก ทิ้งให้บิวยืนหัวเราะเหมือนบ้าอยู่คนเดียวด้วยความสะใจที่ได้แกล้งคนเล่น


ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The Little Cutie or Beast??? [Y 18+] EP.1
«ตอบ #5 เมื่อ10-03-2018 11:00:06 »

น้องบิวตี้คนนี้ ท่าทางจะแจ่มพอตัวแฮะ ชอบ ชอบ  :laugh3:
เด๋วมีแจ่มกว่าเน้อีก ฮ่าๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: Beauty & The Little Cutie or Beast??? [Y 18+] EP.2 10/3/18
«ตอบ #6 เมื่อ10-03-2018 14:35:07 »

จากแจ่มๆ เปลี่ยนเป็นแมนๆ ก็เท่ห์ไม่เบานะเฮียบิว ระวังความหล่อจะเข้าตาเจ้เฟรนลี่ล่ะ  :hao3:

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Beauty & The Little Cutie or Beast??? [Y 18+] EP.2 10/3/18
«ตอบ #7 เมื่อ10-03-2018 17:56:50 »

บิวกับเฟรนไหมนะ แต่ดูโป้งน่าจะคิดอะไรกับบิวเกินเพื่อนอะ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The Little Cutie or Beast??? [Y 18+] EP.3 11/3/18
«ตอบ #8 เมื่อ11-03-2018 17:53:58 »

3
ความจริงบิวก็เริ่มจะทนไม่ไหวกับการแต่งหญิงแล้วเหมือนกัน ทั้งโดนเฟรนคอยหาเรื่อง ทั้งไอ้โป้งที่มาตามตอแยกวนตีนใส่ เหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนจะชนะพนันครั้งนี้แล้ว ต้องอดทนไว้ อีกนิดเดียวเท่านั้น

“ช่วงสอบปลายภาค กูต้องกลับมาใส่ชุดนักศึกษาชายปกติตามระเบียบ เพราะงั้นการเดิมพันครั้งนี้จะจบลงวันนั้น โอเคมั้ยวะ” บิวกอดอกมองหน้าโป้ง ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่บริเวณลานจอดรถของคณะเภสัช และบิวยังอยู่ในชุดนักศึกษาหญิง

“ก็ตามนั้น” โป้งออกอาการเซ็งนิดๆ จุดประสงค์ของการเดิมพันครั้งนี้ เพียงแค่อยากเห็นบิวแต่งหญิงแค่นั้นแหละ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ใจมันอยากให้บิวเป็นผู้หญิงขึ้นมาจริงๆ บอกไม่ถูก

“แล้วมึงจะซ้อมบาสฯเสร็จกี่โมงกี่ยาม ถ้านานก็เอารถมึงไปเลย เดี๋ยวกูโทรเรียกไอ้เอ็มมารับ” บิวยื่นกุญแจรถคืนให้ แต่โป้งไม่รับ แถมยังกระชากแขนไปจับไว้

“รอกู ห้ามไปไหน”

“รอทำเหี้ยไร เสียเวลา” บิวโพล่งออกมาทันทีพร้อมสะบัดแขนออก แต่โป้งก็คว้าไปจับไว้อีก “อะไรของมึงเนี่ย”

“ไปดูกูซ้อม แป้ปเดียว” โป้งพยายามลากแขนบิวให้เดินตามไป จนเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกันแปลกๆ 

“ไม่เอาเว้ย! กูจะกลับไปทำรายงาน! ไอ้เหี้ยโป้ง!”

ต่อให้โวยวายดิ้นรนยังไง สุดท้ายก็โดนจับไปนั่งเฝ้าข้างสนามอยู่ดี บิวนั่งกอดอกหน้างอหงิกอย่างไม่สบอารมณ์ ทนดูไอ้ควายถึกเล่นบาสฯได้ไม่เท่าไหร่ ก็เบื่อจนต้องหยิบมือถือมากดเล่น เข้าแอพนั้นแอพนี้ เล่นเกมก็แล้ว แต่ก็ไม่หายเบื่อ

“ไงบิว มารอผัวเหรอวะ” เสียงชวนไม่สบอารมณ์มากกว่าเดิมดังลอยมาแต่ไกล บิวหันไปมองหน้าโออย่างเคืองๆ อยากจะยกขาถีบสักที ถ้าไม่ติดว่าใส่กระโปรงอยู่ล่ะก็นะ

“ผัวพ่องสิสัส ล้อกันจัง อยากให้เพื่อนมึงเป็นเกย์นักรึไง” แม้จะเรียนด้วยกันสมัยม.ปลาย แต่ก็คนละกลุ่ม บิวไม่ได้สนิทสนมกับโอมากเท่าโป้ง ไอ้สองตัวนี้มันเพื่อนซี้มาตั้งแต่ประถม ถึงขนาดตามมาเข้าคณะเดียวกันอีก

“ก็พูดไปงั้นล่ะวะ เอาจริงๆ กูก็ไม่อยากเห็นควายสองตัวขวิดกันเท่าไหร่นะ มันคงเป็นภาพที่ไม่น่าดูและเสียสายตาสุดๆ” โอยักคิ้วยิ้มมุมปากให้ทีหนึ่ง ก่อนจะนั่งลงข้างๆ บิว ยื่นขนมยื่นน้ำไปให้ตามมารยาท ซึ่งคนอย่างบิวก็ไม่เคยขัดศรัทธาใคร

“รอบสุดท้ายแข่งกับคณะไรวะ” มือหยิบมันฝรั่งมาเคี้ยวกรอบๆ พลางมองนักกีฬาที่วิ่งกันอยู่ในสนาม โป้งเล่นบาสฯ มาตั้งแต่ม.ต้น ฝีมือก็พอตัว แต่บิวไม่ได้สนใจเท่าไหร่

งานกีฬาเฟรชชี่รอบสุดท้ายของมหาวิทยาลัย จะมีขึ้นก่อนเข้าสู่ช่วงสอบปลายภาค 1 อาทิตย์ นั่นคือ อาทิตย์หน้านี้นั่นเอง

“อืม...รู้สึกจะวิดวะนะ” โอคิดครู่หนึ่งก่อนตอบ

“อ้อ” คณะไอ้เปี๊ยกปากมอมนั่นเอง บิวพยักหน้า จู่ๆ ก็นึกถึงหน้าไอ้ตัวเล็กใจใหญ่ แถมปากหมาสุดๆ ที่หมู่นี้หายหน้าหายตาไป สงสัยจะเรียนหนัก เพราะใกล้สอบ

และแล้วก็ถึงวันแข่งกีฬาเฟรชชี่รอบชิง คณะที่เข้ารอบสองคณะสุดท้ายแต่ละประเภทกีฬาต้องมาแข่งขันชิงชัยตำแหน่งแชมป์กัน ซึ่งประเภทหลักๆ ที่มีคนรอเชียร์เยอะก็คือ ฟุตบอลและบาสเกตบอล ฝั่งฟุตบอลเป็นรอบชิงของคณะวิศวกรรมศาสตร์และศึกษาศาสตร์ ส่วนรอบชิงของบาสฯคือ วิศวะและเภสัช

“มึงไปเชียร์ไอ้โป้งแข่งบาสฯ ดิ?” เอ็มยักคิ้วยิ้มมุมปากอย่างรู้ทันเพื่อนที่กำลังจะบึ่งมอเตอร์ไซค์ไปโรงยิมท้ายมอ

“กูไม่ได้เชียร์ แค่ไปดู ใจป่ะ?” บิวว่าพลางสตาร์ทรถทั้งกระโปรงพลีท

“กูอยากรู้จัง ถ้ามึงกลับมาแต่งตัวปกติ มันจะยังตามตอแยมึงมั้ยวะ” เอ็มเองก็ต้องไปดูการแข่งของเพื่อนโป้งเช่นกัน เลยเตรียมบิดมอเตอร์ไซค์ของตัวเองบ้าง

“พูดเชี่ยไรของมึง อย่างไอ้โป้งเนี่ยนะ มันก็แค่แกล้งกวนตีนกูแค่นั้นแหละ” บิวยักไหล่ก่อนจะเลี้ยวรถนำออกไปก่อน ไม่ให้เอ็มได้วิพากษ์วิจารณ์มากกว่านั้น

ณ โรงยิม

“คนอย่างเยอะอ่ะสัส ไอ้น้ำไปแรดกับผัวมันเหรอวะวันนี้” เอ็มขมวดคิ้วเพราะไม่ชอบปริมาณผู้คนในโรงยิมแออัดนี่เท่าไหร่นัก มือล้วงหามือถือในกระเป๋ากางเกง

“งั้นมั้ง เห็นไลน์มาบอกว่าพี่ภาคๆ อะไรเนี่ย” ไม่ได้อ่านนั่นเอง

“อ้อ มันบอกไปดูบอลวิดวะxศึกษากับพี่ภาค” เอ็มเปิดอ่านไลน์กลุ่มด้วยตัวเองก่อนจะเก็บกลับเข้ากระเป๋ากางเกงตามเดิม “พี่ภาคเคยเป็นนักฟุตบอลของวิศวะมาก่อนนี่ คงอยากดูทางนั้นมากกว่า”

“เหรอวะ” บิวไม่ได้สนใจเรื่องแฟนของน้ำเท่าไหร่ รู้แค่เป็นศิษย์เก่าที่นี่ คณะวิศวะ พอจบก็เรียนโทต่อที่อังกฤษ และกลับมาเป็นอาจารย์สอนเคมี จำได้ว่ารู้จักกับน้องน้ำตั้งแต่อยู่ม.ต้น คบกันยาวนานมาก

เฮๆๆๆๆ ตึงๆๆๆ

เสียงกลองและเสียงเชียร์ของสองคณะดังกระหึ่มขึ้นเมื่อถึงเวลานักกีฬาลงสนาม โป้งอยู่ในชุดสีชมพูของคณะเภสัช เบอร์ 4 ตำแหน่งเซ็นเตอร์ ส่งจูบและโบกมือโบกไม้มาทางฝั่งคนดู แต่คนที่ตั้งใจจะส่งจูบให้จริงๆ ดันยืนหน้าเป็นตูดเอาแต่ก้มมองหน้าจอมือถือกดอะไรอยู่ยิกๆ ไม่รู้

กรี้ดดดดด

เสียงสาวๆ ร้องกันสนั่นโรงยิม ราวกับเห็นแมลงสาบ เมื่อนักกีฬาหนุ่มร่างสูงใหญ่ หน้าตาคมคาย วิ่งตรงดิ่งมาที่แสตนด์ฝั่งเภสัช เอ็มยกศอกขึ้นสะกิดเพื่อนที่มัวแต่เล่นเกมในมือถือให้เงยหน้ามองคนที่วิ่งมาหา

“ทำเหี้ยไร ดูกูเล่นด้วย” ฝ่ามือหนักๆ หนาๆ ของควายถึกชื่อโป้งที่บิวแสนจะรังเกียจตบผัวะลงมาบนหัว เล่นเอามึนไม่น้อย

“ไอ้สัสโป้ง! ตบหัวกูทำไมเนี่ย!” บิวก่นด่าหน้าตาเหยเกด้วยความเจ็บ ตีมือไอ้คนบ้าพลังไปหลายทีตามแรงแค้น

“บอกให้ดูกูเล่นไง อย่าเอาแต่เล่นเกมไอ้สัส ดูกูๆๆๆ เงยหน้ามองไว้” มือหนาๆ สองข้างประกบเข้าที่แก้ม ยกใบหน้าที่ทารองพื้นไว้หนาเตอะให้เงยแหงนสบสายตา บิวไม่ทันตั้งตัวเลยได้แต่ตกใจ พอตั้งสติได้ก็เอาเท้าถีบเข้าที่ท้องของโป้ง แต่ไม่ได้ออกแรงมากนัก เพราะกลัวมันจะบาดเจ็บก่อนลงแข่ง

“ไอ้เหี้ย!” บิวสบถเสียงดัง สองคนด่าทอตบตีกันไปมาโดยลืมว่ามีสายตาหลายคู่จ้องมองอยู่

“ว้าย นั่นมันกะเทยนี่ ทำไมโป้งไปยุ่งกับคนแบบนั้น”
“หรือโป้งเป็นเกย์อ่ะแก”
“ไม่มีทางย่ะ โป้งไม่เอากะเทยถึกแบบนั้นหรอก!”

และสารพัดเสียงนินทาจากสาวๆ แฟนคลับของโป้งที่ดังลอดเข้ามาในหูของบิว ใบหน้าสวยคมที่ผ่านการแต่งด้วยเครื่องสำอางอย่างหนาแทบจะบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ

ทำไมจะต้องทนให้คนด่าขนาดนี้

จะทนไม่ไหวแล้วว้อยยยย

“ไอ้บิวๆๆ” เสียงเอ็มดังขัดขึ้น โป้งละมือจากบิว ส่วนบิวก็หันไปมองตามมือของเอ็มที่ชี้ไปทางฝั่งวิศวะ “นั่นมันคู่อริมึงนี่ ไอ้เตี้ยนั่น”

บิวขมวดคิ้วเพ่งมองไปที่คนตัวเล็กๆ ถึงจะตัวเล็กมาก แต่บิวก็มองเห็น

เฟรนในชุดนักกีฬาบาสเกตบอลสีแสดของคณะวิศวะ เบอร์ 9 กำลังผูกเชือกรองเท้าอยู่ใกล้ๆ แสตนด์ฝั่งวิศวะ

“เตี้ยแบบนั้นเสือกเล่นบาสด้วยว่ะ” เสียงโป้งเย้ยหยัน จำได้แม่นว่าเป็นไอ้เปี๊ยกปากหมาที่เคยเจอที่หอของบิว “เดี๋ยวกูจะจัดให้หนัก”

“ไอ้เหี้ยโป้ง! มึงจะทำอะไรมัน” บิวได้ยินถนัดชัดเจน หันไปแหวใส่เสียงดัง แต่โป้งแค่เลิกคิ้วยักไหล่ แล้ววิ่งกลับไปสมทบกับทีมของตัวเอง

ตึงๆๆๆๆ

เสียงรัวกลองของสองฝั่งดังกระหึ่ม เสียงเชียร์ไม่ขาดระยะ และเสียงกรี้ดก็ดังทุกครั้งที่โป้งได้จับลูก บิวรู้สึกหมั่นไส้ไอ้ความเด่นดังของควายถึกอย่างบอกไม่ถูก

นี่ถ้ากลับไปแต่งแมนเมื่อไหร่ จะเรียกคะแนนสาวๆ คืนมาให้เรียบ

“มึงว่าไอ้โป้งมันจะแกล้งไอ้เตี้ยนั่นป่ะวะ” เอ็มกอดอกยืนมองสภาพในสนาม ที่ตอนนี้อยู่ระหว่างแข่งขันและคะแนนของวิศวะนำอยู่ 2 แต้ม

“เหี้ยยันเงาอย่างนั้น จะเหลือเหรอ” บิวส่ายหน้าอย่างระอาใจ

“มึงก็ว่าไป นั่นเพื่อนมึงนะเว้ย”

“ก็เพราะเป็นเพื่อนไง กูถึงรู้สันดานมันดี ดูต่อไป”

เป็นอย่างที่บิวว่าจริงๆ เมื่อแรงกดดันในสนามเพิ่มขึ้นจากคะแนนที่ไล่ตามกันตลอดเวลา ทำแต้มเท่า อีกฝ่ายก็รีบบุกนำ โป้งปาดเช็ดเหงื่อด้วยความคับแค้น ตัวเล็กเท่าลูกหมา แต่เฟรนวิ่งเร็วมาก จับแทบไม่ทัน เป็น PG (พอยท์การ์ด) ตัวส่งลูกที่แม่นยำ แม้จะไม่ได้มีหน้าที่ในการชู้ตก็ตาม แถมยังคุมเกมอยู่หมัด

โป้งขยับตัวเข้าแย่งลูกจากฝั่งตรงข้ามแล้ววิ่งยาวกะจะดังค์ใต้แป้นแบบเท่ๆ แต่ไอ้ตัวเล็กที่มีฝีเท้าไวที่สุดในทีมวิศวะโผล่พรวดเข้าไปดักทาง ทั้งที่ส่วนสูงก็ต่างกันมาก แต่แรงกระโดดของเฟรนไม่น้อยหน้า แขนยืดยาวบดบังตรงหน้าแป้น โป้งสบถอย่างหัวเสีย นึกโมโหและหมั่นไส้ในคราเดียว พลันจงใจใช้ศอกกระทุ้งที่อกร่างเล็กในขณะที่กระโดดประจันหน้ากัน ร่างของเฟรนโดนแรงกระแทกเจ็บจุกร่วงลงสู่พื้น และโป้งก็ชู้ตเข้าห่วงไปได้อย่างสวยงาม

ปรี้ดดดดดด

เสียงนกหวีดยาวดังลั่นสนาม กองเชียร์เงียบกริบ เฟรนนอนคดตัว มือจับที่ข้อเท้าตัวเอง ตอนโดนกระแทกหล่นลงมา ขาคงพลิกด้วย โป้งยืนก้มมองสายตาเย็นชา ก่อนจะเดินหันหลังให้ พลันต้องชะงักตาโตที่เห็นบิววิ่งพรวดพราดเข้ามาในสนาม

“มึงจงใจกระแทกมัน!” บิวกระชากคอเสื้อของเพื่อนที่ตัวสูงทัดเทียมกัน

“มึงเป็นกรรมการรึไงไอ้บิว” โป้งปัดมือของบิวออกจากคอเสื้อ บิวสบถลอดไรฟัน วิ่งเข้าไปหาคนตัวเล็กที่กำลังจะถูกหามขึ้นเปล

โป้งมองตามร่างของบิวอย่างไม่พอใจ “จะห่วงแม่งทำไมนักหนา มันไม่ถูกกับมึงไม่ใช่รึไง”

“คนเจ็บกูก็ต้องห่วงมั้ยวะ เป็นมึงกูก็ห่วง ยังไงก็รู้จักกัน” บิวหันไปตวาดใส่

“แน่ใจ?” โป้งจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง บิวไม่อยากเสียเวลาโต้เถียงด้วย หันหลังวิ่งตามเฟรนไปที่ห้องพยาบาลทันที ไม่สนใจคนที่ทิ้งไว้ข้างหลังอีกต่อไป แม้จะได้ยินเสียงสบถด่าของโป้งดังไล่หลังก็ตาม

“ไอ้เหี้ย!” โป้งคว้าผ้าขนหนูเขวี้ยงลงพื้น เพื่อนๆ ต้องเข้ามาห้ามปรามให้ใจเย็นลง เพราะการแข่งยังไม่จบ และโป้งก็โดนฟาล์วไปเรียบร้อยแล้วครั้งหนึ่ง

******

“กูขอโทษแทนเพื่อนกูด้วยนะ” เมื่อทุกคนออกไปหมดแล้วและเฟรนก็ได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้ว ที่ข้อเท้ามีผ้าพันไว้ ดีที่แค่แพลง ไม่ได้หักหรือเอ็นฉีก

“ช่างเหอะ” เฟรนเอ่ยปัดๆ ทำท่าจะลงจากเตียง บิวเลยรีบเข้าไปช่วยประคอง

“กูไม่ยักรู้ว่ามึงเล่นบาสฯด้วย”

“จะบอกว่าตัวเท่าลูกหมา เสือกเล่นบาสฯก็บอก” เฟรนถอนหายใจ หันหน้าหนีไปอีกทาง แต่ก็ยอมให้ช่วยประคองใต้รักแร้ไว้

“มึงนี่มองกูในแง่ร้ายตลอดนะไอ้เปี๊ยก” บิวลองเปลี่ยนมาเรียกอีกแบบ เฟรนทำหน้าเหมือนประหลาดใจนิดหน่อย “ค่อยๆ เดิน”

“ยุ่งไรกับกูเนี่ย ไปเชียร์เพื่อนมึงสิ”

“งอน?” บิวหัวเราะหึในคอ

“งอนพ่อง...” เฟรนย่นคิ้ว “เพื่อนก็ไม่ใช่ จะมายุ่งอะไรนักหนา ถ้ารู้สึกผิดแทนเพื่อนมึง ก็กลับไปเหอะ กูไม่ได้โกรธอะไร”

“กูก็แค่อยากช่วยไง” ชักหงุดหงิด ไอ้เตี้ยนี่พูดจาไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย

“ไม่อยากรับความหวังดีจากกะเทยควายอย่างมึงอ่ะ” เฟรนยักไหล่ กวนบาทาขั้นสุด

บิวกัดฟันกรอด มือที่ประคองใต้รักแร้ร่างเล็กปล่อยพรืด เฟรนเลยเซจะล้มหน้าทิ่ม แต่บิวก็อดไม่ได้อีกแหละที่จะช่วย

ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

“ปากดี เดินเองยังจะไม่ไหว” คราวนี้ไม่แค่ประคองไว้ แต่บิวยกร่างเล็กขึ้นอุ้มเหมือนอุ้มเด็กสองขวบเข้าเอว

“เฮ้ย! ไอ้เหี้ย! ปล่อยกู!” เฟรนร้องลั่นด้วยความตกใจ แขนขาขัดขืนทั้งเตะและตบเข้าที่ร่างสูง บิวแสยะยิ้มกวนอารมณ์ สะใจที่ได้แกล้ง

แกร๊ก

“ไอ้เฟรน...” ดูเหมือนจะมีเพื่อนของเฟรนมาตาม หรือไม่ก็จะพากลับหอ แต่พอเปิดระตูเข้ามาเจอฉากเพื่อนตัวเล็กโดนสาวร่างสูงโปร่งผมยาวสยายอุ้มเข้าเอวก็อึ้งไปนานก่อนจะรีบปิดประตูอย่างไว

“เชี่ยสน!!! อย่าเพิ่งไป ช่วยกูก่อน!!!”

******

สุดท้ายเฟรนก็ติดรถ (ของโป้ง) ที่บิวเป็นคนขับกลับมาที่หอพัก

“ขอบใจที่มาส่ง” แม้จะไม่ถูกกันแค่ไหน แต่เรื่องวันนี้ก็ทำให้เฟรนรู้ว่า บิวไม่ใช่คนที่จะเข้าข้างเพื่อนตัวเอง ผิดคือผิด แถมยังเป็นห่วงเป็นใยอุ้มไปขึ้นรถ

พอคิดถึงตอนที่โดนอุ้มเข้าเอวเดินออกมาจากห้องพยาบาล เฟรนก็หน้าร้อนขึ้นมาอีกระลอกใหญ่

“กูไปล่ะ” ด้วยความเขินจัด ร่างเล็กบอกลาแล้วรีบวิ่งพรวดๆ เข้าหอไป บิวไม่ได้ตาม ไม่ได้ห้าม แค่ยืนยิ้มมุมปากมองส่งจนลับสายตา

แปลก

จู่ๆ ก็รู้สึกว่าไอ้ตัวเล็กปากดีมันน่ารักขึ้นบอกไม่ถูก

“ยืนยิ้มเหี้ยไรครับเพื่อน ไม่เข้าหอไง?” ท่าทางบิวจะยืนยิ้มนานเกิน ขนาดว่าเอ็มกลับมายังไม่ทันรู้ตัว

“อ้าว? แข่งจบแล้วเหรอวะ” บิวหันไปมองเพื่อน

“เออ วิศวะชนะตามคาด ไอ้โป้งหัวเสียหายไปไหนไม่รู้ ไอ้โอคงตามไปปลอบเองแหละ พวกมันอยู่ด้วยกันนี่” เอ็มตบบ่าบิวแรงๆ อีกที “จะเข้าหอป่ะเนี่ยมึง”

“เออๆ ไปแล้วๆ” แล้วบิวก็วิ่งตามเพื่อนเข้าไปในตึก

******

อาทิตย์สุดท้ายของการแต่งหญิง ในที่สุดบิวก็ชนะพนันในครั้งนี้ ด้วยเงินเดิมพันถึง 30,000 บาท ไม่ใช่น้อยๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมทุ่มสุดตัวขนาดนี้ และโป้งก็ยอมจ่ายแบบง่ายๆ ก่อนจะขอตัวไปไหนก็ไม่รู้

“พรุ่งนี้มึงก็แต่งปกติแล้วดิวะ กูล่ะเสียดาย ถึงเหมือนกะเทยควาย แต่แม่งก็สวยจริงจังนะเว้ย” เอ็มว่าพลางกระดกขวดน้ำขึ้นดื่ม วันนี้มาติวหนังสือที่ห้องของบิว ด้วยกันกับน้องน้ำ

“พอๆ หมดเวรหมดกรรมกับเครื่องสำอางพวกนี้แล้ว ชาตินี้กูจะไม่แต่งอีก เสียเวลาฉิบหาย เข้าใจพวกผู้หญิงขึ้นมาเลย ต้องแหกขี้ตาตื่นแต่ตี 4 ตี 5 มาทำผมแต่งหน้า โครตเซ็ง” บิวบ่นยาวพลางไถลตัวลงนอนบนโต๊ะญี่ปุ่นที่กางไว้เพื่ออ่านหนังสือ

“แหม ได้เงินพนันตั้งสามหมื่นนะมึง พาเพื่อนไปเลี้ยงด้วย” น้องน้ำกรีดกรายปลายนิ้วแบมือมาตรงหน้าบิว “คืนนี้จัดเลย”

“อีน้ำ ผัวมึงเพิ่งสั่งหยกๆ ว่าห้ามแดกเหล้าไง แล้วพรุ่งนี้ก็สอบ” บิวตบมือที่แบมาเต็มแรง น้องน้ำเบ้หน้าด้วยความเจ็บ

“งั้นหลังสอบเสร็จก็ได้ กูจะชวนพี่ภาคไปด้วย คงไม่ว่าอะไรหอรกมั้ง”

“เออๆ หลังสอบก็ได้อยู่”

“โอเค ตามนั้น” สองเสียงประสาน ทั้งน้องน้ำและเอ็ม บิวได้แต่ส่ายหน้าเซ็งๆ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The Little Cutie or Beast??? [Y 18+] EP.2 10/3/18
«ตอบ #9 เมื่อ11-03-2018 17:54:56 »

จากแจ่มๆ เปลี่ยนเป็นแมนๆ ก็เท่ห์ไม่เบานะเฮียบิว ระวังความหล่อจะเข้าตาเจ้เฟรนลี่ล่ะ  :hao3:
นางจะแมนแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Beauty & The Little Cutie or Beast??? [Y 18+] EP.2 10/3/18
« ตอบ #9 เมื่อ: 11-03-2018 17:54:56 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The Little Cutie or Beast??? [Y 18+] EP.2 10/3/18
«ตอบ #10 เมื่อ11-03-2018 17:55:37 »

บิวกับเฟรนไหมนะ แต่ดูโป้งน่าจะคิดอะไรกับบิวเกินเพื่อนอะ
อิๆ มันก็หลายๆ คู่หน่อย

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Beauty & The Little Cutie or Beast??? [Y 18+] EP.3 11/3/18
«ตอบ #11 เมื่อ11-03-2018 22:22:21 »

อ่านตอนบิวอุ้มเฟรนเข้าเอวนึกภาพตามแล้วขำ เฟรนดูตัวเล็กตัวน้อยมากอะ
บิวแมนๆจะกลับมาแร้ว คนอื่นๆจะว่าไงบ้างนะ รออ่านตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: Beauty & The Little Cutie or Beast??? [Y 18+] EP.3 11/3/18
«ตอบ #12 เมื่อ11-03-2018 23:45:33 »

ครั้งหน้าบิวจะหล่อแล้ว  :m11:

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The Little Cutie or Beast??? [Y 18+] EP.3 11/3/18
«ตอบ #13 เมื่อ12-03-2018 11:35:53 »

4
วันแรกของการสอบปลายภาค

บิวในชุดนักศึกษาชายเต็มยศ ผูกเนคไทสีเขียวตามระเบียบเป๊ะ เดินสะพายเป้ใบเดิมขึ้นไปบนตึกคณะอักษรศาสตร์ เรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาสาวๆ รุ่นพี่และรุ่นเดียวกันที่มาสอบ

“นั่นใครอ่ะ! หล่อมากกกก”
“เฮ้ยๆ อยู่มาเทอมนึงทำไมเพิ่งเห็น”
“ใครวะแก ตอนประกวดดาวเดือนเค้าหายไปไหนมา!”
“โอ๊ยยย พ่อของลูกกู!”

ช่างแตกต่างกับตอนแต่งหญิงเป็นกะเทยถึกโดยสิ้นเชิง บิวขมวดคิ้ว รู้สึกอึดอัดกับสายตาหลายคู่ที่จ้องมอง ใจก็พาลคิด หรือเป็นกะเทยอย่างเดิมมันจะดีกว่า

“ไอ้บิวววว!!!” น้องน้ำวิ่งแหกปากมาแต่ไกล คนแถวนั้นมองมาเป็นแถบ ได้ยินชื่อที่น้องน้ำเรียกยิ่งตาโต

“บิว?”
“บิวไหนวะ?”
“ที่เป็นกะเทย?”
“กรี้ดดดไม่จริง!”

เสียงรอบข้างดังอย่างไม่มีเกรงใจ บิวทำหน้าไม่ถูก อยากจะกลับไปเปลี่ยนชุดเป็นกะเทยดังเดิมขึ้นมาทันที ทำไมผู้ชายอย่างเขาจะต้องไม่มั่นใจกับการแต่งตัวเป็นตัวของตัวเองด้วยวะเนี่ย คิดแล้วงงตัวเอง

น้องน้ำไม่สนใจสายตาประชาชี กระโดดเกาะไหล่เพื่อนตัวสูงแนบแน่น ให้บิวลากเดินไปตามทาง ทั้งที่แต่งตัวตามปกติ แต่ดันรู้สึกอึดอัด บิวเริ่มสยองตัวเองขึ้นทุกที

“ฉลองเพื่อนบิวกลับมาเป็นหนุ่มหล่อ คืนนี้ไปกัน”

“ไปก็เหี้ยละสัส สอบ!” บิวเขกหัวน้องน้ำไปที พร้อมสะบัดแขน “หนักมั้ยเนี่ยมึง ปล่อย!”

“โหยยย ก็กูอยากเกาะแกะคนหล่ออ่ะ ไม่ได้เห็นมึงแต่งหล่อมานาน โครตคิดถึงงงง ไม่นับตอนอยู่หอกับออกไปแรด” บิวรู้ว่าน้องน้ำมันก็แค่อยากอวดเพื่อนแค่นั้นแหละ

“โทษนะคะ” เสียงสาวที่ไหนเรียกมา บิวกับน้องน้ำต่างหันไปมอง เธอเป็นรุ่นพี่ที่เคยสอนพวกเขาซ้อมเชียร์ ชื่อพี่เนย จำหน้าและชื่อกันได้แม่นยำ “นี่น้องบิวจริงๆ เหรอ?”

สีหน้าสงสัยมากของหล่อนทำเอาบิวหลุดยิ้มขำๆ “ครับ ผมเอง”

ละลายสิจ๊ะ รออะไร พี่เนยเจอรอยยิ้มหวานของบิวเข้าไป ตายไปแล้วเรียบร้อย แล้วหลังจากนั้น ข่าวลือเรื่องที่บิวตี้กลายเป็นหนุ่มหล่อมาดแมนแฮนซั่มก็สะพัดไปทั่วมอ

******

สอบวันที่สอง

บิวมีสอบสองวิชา เช้ากับบ่าย พอสอบรอบบ่ายเสร็จ ก็กะจะไปหอสมุดเพื่อหาหนังสืออ่าน เตรียมตัวสอบวิชาต่อไปของพรุ่งนี้ เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะเข้าเอกภาษาญี่ปุ่น โทประวัติศาสตร์ จึงเลือกเก็บรายวิชาเกี่ยวกับสาขาทั้งสองเป็นหลัก ส่วนอีกวิชาที่เสริมไว้คือทัศนสิลป์ นอกนั้นเป็นวิชาบังคับของปี 1

และช่างบังเอิญที่คนที่กำลังคิดถึงช่วงนี้ก็มานั่งอ่านหนังสือสอบที่หอสมุดเหมือนกัน

“ไง”

เสียงทักทายทำให้คนตัวเล็กเงยหน้าจากหนังสือเล่มหนาขึ้นมองเจ้าของเสียง พลันขมวดคิ้ว “นาย?”

“จำกูได้ช่ะ?” บิวว่าพลางนั่งลงตรงข้ามกัน หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านบ้าง

“เรียนที่นี่ด้วยเหรอ?” เฟรนกะพริบตาปริบๆ มองคนตรงหน้าอย่างจดจ้อง คืนนั้นมันค่อนข้างมืด ตอนไปถึงหอก็รีบร้อน เลยเพิ่งจะได้สังเกตอีกฝ่ายแบบชัดๆ ผมสีน้ำตาลอ่อนของบิวยาวประบ่าดูพลิ้วไหว ผิวขาวผ่อง โครงหน้าเรียวสวย นัยน์ตาคมสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากได้รูป หน้าตาดีจนน่าจะเป็นดาราได้เลย

“นี่จำกูได้จริงป่ะเนี่ย?” บิวยกยิ้มมุมปาก ไม่ได้จะกวนตีนแต่อย่างใด แค่สงสัยว่าจำคนที่กัดกันทุกครั้งที่เจอหน้าได้จริงๆ หรือเปล่าเท่านั้น

“เอ๊ะ? ก็...จำได้สิ เจอกันที่ผับตอนนั้นไง” เฟรนทำหน้างง

“งั้นบอกชื่อกูสิ ถ้าจำได้”

“ใครจะไปรู้วะ ไม่ได้ถามชื่อไว้สักหน่อย” ปากเล็กๆ บิดเข้าหากัน รู้สึกเหมือนโดนกวนประสาทแปลกๆ

“แต่กูรู้ชื่อมึงนะ ไอ้เฟรน” อยากจะแกล้งเล่นอีกสักนิด แต่ก็ทนไม่ไหวที่จะเฉลยคำตอบเร็วๆ อยากให้คนตัวเล็กตกใจ อยากให้อึ้งอ้าปากค้าง

เฟรนชะงักไปนานที่อีกฝ่ายรู้ชื่อทั้งที่ยังไม่เคยบอก สมองครุ่นคิดหนักว่าเคยแนะนำตัวกันไปตอนไหน แต่ก็นึกไม่ออกอยู่ดี พอเห็นหน้าเอ๋อๆ ของเฟรน บิวก็หัวเราะชอบใจ

“ขามึงอ่ะ หายยัง”

ขา? เฟรนขมวดคิ้วจนหน้าย่น “ไปดูแข่งบาสอาทิตย์ก่อนด้วยเหรอ”

“ไปดิ มึงใส่เสื้อเบอร์ 9” บิวพยายามจะบิ้วให้นึกออกให้ได้ ใจก็ลุ้นระทึก จริงๆ บอกไปเลยก็ได้ แต่มันไม่สนุก “วิ่งโครตเร็ว ตัวก็นิดเดียว กูนี่โครตลุ้นว่ามึงจะสู้กับไอ้ยักษ์พวกนั้นยังไง”

“มึงก็พูดเว่อร์ไปป่ะ แค่แข่งบาส อาศัยแค่เทคนิคกับความเร็วก็พอแล้ว”

“โห พูดจาดูดีมีภูมิ”

“อ่ะ แน่นอน นี่ระดับเทพจุติเชียวนะครับ” เฟรนยืดอกเบ่งเต็มที่ พลันต้องแปลกใจกับตัวเองที่จู่ๆ ก็พูดคุยกับคนแปลกหน้าได้อย่างสนิทสนมขนาดนี้ ทั้งที่เพิ่งเจอกันครั้งที่สอง

บิวยิ้มกริ่ม ทีตอนแต่งหญิง น้อยครั้งมากที่จะพูดคุยกันดีๆ แบบนี้ได้ จริงๆ ไอ้ตัวเล็กนี่ก็พูดเก่งเป็นต่อยหอยแถมยังขี้โม้อีกต่างหาก น่ารักดีเหมือนกัน

เอ๊ะ? เดี๋ยวนะ น่ารักเหรอวะ

พอคิดแบบนั้นก็ชักนั่งไม่ติดที่ บิวไม่เคยมีแฟน แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะมองผู้ชายด้วยกันในเชิงนั้น แต่ยิ่งมองก็ยิ่งเห็นว่าไอ้เปี๊ยกตรงหน้าแม่งโครตน่ารัก

ตัวเล็กๆ บางๆ หน้าตาจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อย ตากลมโตสดใส ปากนี่ถ้าไม่พ่นแต่คำหยาบ ก็คงจะ...

“เอ่อ...ตกลงมึงชื่ออะไรล่ะ ไม่เห็นบอกสักที” บิวเหมือนจะเพิ่งได้สติตอนที่เฟรนเอามือมาโบกๆ ข้างหน้า ร่างสูงเอนตัวไปด้านหลังด้วยความตกใจ

“มึงรู้ว่ากูชื่ออะไร เจอกันมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ตั้งแต่รับน้อง”

นั่นยิ่งทำเอาเฟรนคิดหนัก จนบิวถึงกับถอนหายใจในความซื่อบื้อของอีกคน สุดท้ายก็ทนเล่นเกมนี้ต่อไปไม่ไหว ต้องยอมเฉลยออกมาด้วยตัวเอง

“กูไง...คนที่อุ้มมึงไปขึ้นรถกลับหออาทิตย์ก่อน”

******

ขาเล็กๆ ก้าวฉับๆ เหมือนเร่งรีบสุดชีวิต ตั้งแต่ออกจากหอสมุดก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดินตลอดทางจนออกมาพ้นมหาวิทยาลัย

“เฮ้ ให้พี่ไปส่งมั้ยจ๊ะหนูน้อย” หลังจากข้ามถนนเดินเข้ามาในซอย ก็มีรถมอเตอร์ไซค์สีแดงตามประกบข้างๆ เร่งฝีเท้าหนีแค่ไหนก็สลัดไม่หลุดเสียที

“นี่ เฟรน ทางกลับหอมันไกลมากนะเว้ย ไปกับกูเหอะน่า” บิวยื่นมือออกไปหมายจะคว้าข้อมือเล็ก แต่เฟรนไหวตัวทันสะบัดแขนหนีเสียก่อน “อ่ะๆ เล่นตัวอีกคนเรา เคยซ้อนกูมาแล้วไม่ใช่เหรอ กลัวไรวะ”

“ไม่ได้กลัว!” เฟรนหันไปถลึงตาใส่ แล้วรีบเดินกึ่งวิ่งหนีรัวๆ พลางหยิบมือถือมากดโทรหาเพื่อน กะจะให้มารับระหว่างทาง แต่ก็ไม่ติดเลย

“ไปกับกูเหอะน่า อย่าดื้อเลยว่ะ” เสียงเจื้อยแจ้วของอีกคนช่างน่ารำคาญ เฟรนพ่นลมหายใจแรงๆ นิ้วยังพยายามกดโทรศัพท์ต่อ

“อย่ามายุ่งได้ป่ะ จะไปไหนก็ไป” ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโกรธเรื่องอะไร แต่มันโมโหที่เหมือนโดนหลอก เดี๋ยวแต่งหญิงเดี๋ยวแต่งชาย ไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตแน่ เจอแบบนี้เฟรนก็หงุดหงิดบอกไม่ถูก ตอนที่รู้ความจริงในหอสมุดถึงกับร้องเสียงดังจนเกือบโดนอาจารย์บรรณารักษ์ด่า ด้วยความอายก็เลยรีบชิ่งหนีออกมา แต่ก็ดันโดนตามทันอีก

“ขี้งอนจังอ่ะ ตอนกูไม่แต่งหญิง ออกจะทำตัวน่ารัก คุยกับกูดี๊ดี” บิวเบะปาก “เนี่ย กูถึงไม่อยากบอกไง บอกแล้วมึงก็เมินกูเฉย”

“กูไม่ชอบเสวนากับพวกสองเพศ” เฟรนตัดบท แต่ถ้อยคำไม่น่ารักสมตัวทำเอาบิวของขึ้น

“ทำไมวะ! มึงมีปัญหาอะไรนักหนากับกะเทยรึไง! เรื่องมากนักใช่มั้ย!” ถึงจะไม่ใช่กะเทยจริงๆ แต่บิวก็รับรู้ถึงความรู้สึกของคนที่ถูกดูถูกเหยียดหยามมาตลอดทั้งเทอม มาโดนพูดใส่แบบไม่ไว้หน้าอย่างนี้มันก็เหลืออด ร่างสูงจอดรถแล้วกระโดดลงมาคว้าแขนเล็ก

“จะทำอะไร ปล่อยกู!” เฟรนร้องโวยวายยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมา

ร่างเล็กถูกยกขึ้นจนตัวลอย ไม่ทันได้ขัดขืนก็โดนจับไปวางแปะบนเบาะรถ บิวยังกำแขนไว้แน่น ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ซ้อนด้านหลังคนตัวเล็ก แขนข้างหนึ่งบิดแฮนด์ อีกข้างรวบแขนสองข้างของเฟรน กอดรัดรวบไว้ที่เอว

“ไอ้เหี้ย! ปล่อย!” เฟรนยังไม่ยอมแพ้ ตั้งท่าจะดิ้นลูกเดียว

“เดี๋ยวรถล้ม!” บิวตะคอกเสียงดัง จนเฟรนตัวเกร็ง ถึงจะขับไม่เร็วมาก แต่ก็อันตรายอยู่ดีถ้ายังดิ้นไม่เลิก แล้วจะให้ทำยังไงได้ นอกจากนั่งเฉยๆ ยอมให้คนตัวโตข้างหลังกอดต่อไป จนถึงหอ

“ถึงแล้วก็ปล่อยดิวะ!” เฟรนยังโดนรวบข้อมือไว้แน่น คนรอบข้างมองมาด้วยความสงสัยตลอดทาง จนตอนนี้ก็ยังมีหลายสายตาที่จ้องมอง เฟรนทั้งอายทั้งหงุดหงิด ทั้งรูปร่างและพละกำลังโครตแตกต่าง รู้สึกสมเพชตัวเองขึ้นมาจริงๆ

บิวยังคงไม่พูดไม่จา ล็อครถเสร็จด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะลากร่างเล็กเข้าไปในลิฟท์

ในลิฟท์แคบๆ แต่ก็มีที่พอให้ยืนสำหรับคนแค่สองคนมากมาย แต่บิวดันเลือกยืนเบียดคนตัวเล็กจนชิดมุม เอาตัวบังไว้จนมิด ไม่ให้มีทางหนี

ติ้ง

ลิฟท์เปิดออก แล้วเฟรนก็ถูกกระชากแขนให้เดินตามคนตัวสูงไปอีกครั้ง จนถึงหน้าห้องของบิว เขาล้วงหากุญแจมาไขห้อง แต่เพราะใช้มือเดียวมันเลยทุลักทุเลอยู่ไม่น้อย

“เหี้ยเอ๊ย...” บิวสบถลอดไรฟันด้วยความหงุดหงิดกับการตั้งสมาธิไขกุญแจ โดยมีคนตัวเล็กยืนชิดประตูห้อง มีตัวเขาทาบทับไว้แน่นหนา มุมนี้ทำให้มองไม่เห็นรูกุญแจ เลยยิ่งไขลำบากเข้าไปอีก

ติ้ง

เสียงลิฟท์ตัวเดิมดังขึ้นอีกครั้ง เฟรนตัวเกร็งขึ้นมาทันที เพราะรู้ว่ามีคนกำลังเดินมา ร่างเล็กหน้าซีดเผือด ไม่อยากให้ใครมาเห็นสภาพน่าอับอาย บิวเองก็รู้ตัว เลยยิ่งก้มตัวบังร่างเล็กไว้ไม่ให้คนเห็น แต่จากสายตาคนอื่นดูยังไงก็เหมือนคนยืนจูบกันหน้าห้อง

“โห Outdoor ว่ะมึง” เสียงผู้ชายซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ดังแว่วมา เพราะทางเดินแคบ เสียงมันเลยสะท้อน แม้จะไม่ได้พูดเสียงดังก็ตาม เฟรนกัดปาก หลับตาปี๋ด้วยความกลัว ไม่อยากโดนเห็นหน้าตอนนี้

“ผู้ชายว่ะ เกย์ชัวร์ ฮ่าๆ” เสียงอีกคนที่น่าจะมาด้วยกันดังขึ้นกว่าเมื่อครู่ แล้วเสียงฝีเท้าพวกนั้นก็หายไปพร้อมกับเสียงประตูที่เปิดและปิดลง

พอดีกับที่บิวไขกุญแจเข้าห้องได้ เขาใช้ทั้งตัวดันร่างเล็กเข้าไปในห้อง ปิดประตูล็อคกลอน เฟรนอาศัยจังหวะนี้ยกขาขึ้นจะเตะผ่าหมาก แต่บิวไหวตัวทันก่อน เขาพลิกตัวหันกลับมาคว้าขาเล็กๆ นั่นไว้จนเฟรนแทบหงายหลัง

“บอกก่อน กูเป็นยูโดสายดำ” น้ำเสียงของบิวเย็นเยียบ เฟรนตัวสั่นกึก ร่างเล็กถูกกระชากแล้วอุ้มขึ้นจนตัวลอยหวือ ไม่ทันได้โวยวายก็ต้องเจ็บจุกเมื่อร่างทั้งร่างถูกกระแทกลงบนเตียง

“จะทำ...” หน้าซีดเผือดทันทีที่บิวตามลงมาคร่อมทับไว้ แววตาของอีกคนไม่เหมือนล้อเล่น น่าจะโกรธจัดที่โดนดูถูก แต่มันไม่ใช่แค่นั้นหรอก บิวเก็บกดความรู้สึกนี้มาตลอดหนึ่งเทอมที่ผ่านมา ทั้งจากเฟรนและคนอื่นๆ ต้องทนกับคำถากถางเยาะเย้ย และสายตาเหยียดหยามหลายๆ คู่ จนตอนนี้มันเหมือนจะระเบิดออกมาใส่ใครสักคนที่อยู่ตรงหน้าให้ได้

เฟรนยิ่งดิ้นรนหนัก เมื่อบิวดึงเข็มขัดกางเกงของตัวเองออกมาพันรัดข้อมือเล็ก “ไอ้เหี้ย! ไอ้กะเทยควาย!”

“คำก็กะเทย! สองคำก็กะเทย! อยากรู้นักว่าลูกหมาอย่างมึงตอนครางหงิงๆ เพราะโดนกะเทยเอามันจะเป็นยังไง!” บิวสบถดังลั่น จัดการมัดข้อมือเสร็จก็ปลดกางเกงแล้วดึงกระชากออกจากขาของเฟรนทันที คนตัวเล็กไม่ทันตั้งตัวใดๆ ทั้งสิ้น เพราะมัวแต่ตกใจกับสีหน้าโหดเหี้ยมของบิว

“ไอ้เหี้ย! ปล่อยกู! ไม่เอา!” ร่างเล็กดิ้นพล่าน ยกขาขึ้นหมายจะถีบหน้าของบิว แต่กลับถูกคว้าไว้แล้วดึงพรืดจนร่างทั้งร่างกลับมานอนแอ้งแม้งใต้ร่างสูง บิวไม่พูดพล่ามทำเพลงอีกต่อไป จับเฟรนนอนคว่ำ แหกขาออกแล้วยัดนิ้วสามนิ้วเข้าไปในช่องทางข้างหลังแบบไม่มีเล้าโลมใดๆ ทั้งสิ้น ทำเพราะความโกรธล้วนๆ

“อ๊า!!! เจ็บ...กูเจ็บ! ปล่อย...ฮึก” เฟรนสั่นไปทั้งร่าง เจ็บแบบที่ไม่เคยเจ็บมาก่อนในชีวิต ยิ่งกว่าตอนที่โดนต่อยเพราะปากเสียๆ นี่อีก น้ำตาไหลเล็ด แต่พยายามไม่ส่งเสียงร้องออกมา

“ฮึก...บิว...เจ็บ...” เสียงครางแผ่วๆ แต่ได้ยินชัดเจน บิวสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินชื่อตัวเองจากปากของร่างเล็ก เป็นครั้งแรกที่เฟรนยอมเรียกชื่อเขา สติสตังที่ขาดหายไปเลยเหมือนจะกลับคืนมา

บิวก้มมองคนตัวเล็กที่นอนคว่ำส่งเสียงครางอย่างทรมาน มองไล่ลงไปที่มือของตัวเอง แล้วก็ต้องตกใจแทบช็อค เขารีบถอนนิ้วออก ปล่อยข้อมือเล็กเป็นอิสระ แล้วโยนกางเกงคืนให้

“ไปซะ! ถ้าไม่อยากโดนมากกว่านี้ก็ไปให้พ้นหน้ากู!” บิวตวาดใส่ นั่งหันหลังกุมขมับอย่างเครียดขึง พยายามควานหาคำตอบในใจว่าทำอะไรลงไป ทำแบบนี้ทำไม

เฟรนมองแผ่นหลังของบิวด้วยน้ำตาคลอ รีบสวมกางเกงลวกๆ แล้ววิ่งออกไปจากห้องนั้นอย่างลนลาน

******

สอบวันที่ 3

วันนี้บิวมาถึงมหาลัยในสภาพอิดโรยสุดๆ ไม่ใช่เพราะอ่านหนังสือหนักทั้งคืน แต่เพราะนอนไม่หลับเกือบทั้งคืนต่างหากล่ะ

“เฮ้ย! ซอมบี้มาเลยมึง โหมอ่านอะไรขนาดนั้น เพิ่งปี 1 นะเว้ย” เอ็มเดินมากอดคอเพื่อนเขย่าไปมา แต่บิวโครตจะปวดหัวเลยไม่ได้พูดอะไร

“เป็นไรวะมึง ตาโหลมาเลย หมดหล่อพอดี” น้องน้ำเอามือตีๆ ที่แก้มของบิวแล้วจับคางเอียงไปมาดูหน้าตาให้ชัดๆ “โหย ยังกะศพ”

บิวปัดมือน้องน้ำออก “พอเลยไอ้น้ำ ไอ้เอ็ม กูแค่นอนไม่ค่อยหลับ”

“เป็นไรล่ะนอนไม่หลับ ตื่นเต้นจะสอบ? นี่วันที่ 3 แล้วมึง เพิ่งตื่นเต้นเหรอวะ โครตกากอ่ะ” เอ็มแขวะเบาๆ พลางหัวเราะ

“ไม่ใช่เรื่องสอบหรอกว่ะ” บิวส่ายหน้า พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นคู่กรณี ตัวต้นเหตุที่ทำให้นอนไม่หลับ กำลังเดินมากับกลุ่มเพื่อน คงจะมากินข้าว เพราะวันนี้มีสอบวิชารวมที่หอประชุมใหญ่หรือที่นิยมเรียกกันว่า ตึกกระทะ

“อ้าวๆ นั่นมันอริมึงนี่” เอ็มก็เห็นเหมือนกัน บิวมองตามคนตัวเล็กที่รีบก้มหน้าก้มตาเดินฉับๆ ผ่านไป โดยพยายามเอาเพื่อนตัวเองเป็นกำบัง

หลบหน้ากันเห็นๆ

“สงสัยมันจำมึงไม่ได้แหง” น้องน้ำว่า “ไปหาไรแดกเหอะ หิวมากเลยเนี่ย”

“เออ ไปดิ” เอ็มหันไปตอบน้องน้ำ สองคนไม่ได้สนใจบิวที่ยืนนิ่งและสายตาก็ยังไล่ตามเฟรนไปไม่หยุด จนพวกเฟรนหาที่นั่งได้แล้ว ก็ยังมองอยู่

“มึงๆ รู้จักป่ะวะ กูเห็นมันมองตามมึงอ่ะ” นนท์ที่กำลังจะเดินไปซื้อข้าว ชะงักขาเมื่อเห็นบิว แต่สายตาของบิวไม่ได้มองที่นนท์ จ้องไปจ้องมาก็เลยรู้ว่ามองใคร

“ไม่รู้จัก” เฟรนตอบเสียงสั่น “ฝากซื้อด้วย เอากะเพราะหมูสับ” แล้วก็รีบดันหลังเพื่อนให้เดินไป อย่าถามให้มากความ นนท์ก็เลยยอมไปแบบงงๆ

เฟรนเองก็พอรู้สึกถึงสายตาของอีกคนที่จ้องมา รู้สึกอึดอัดแปลกๆ กับสายตาคู่นั้นจนต้องขอเปลี่ยนที่นั่งกับเพื่อน เพื่อให้เพื่อนช่วยบังไว้ให้ ไม่นาน บิวก็โดนเอ็มมาลากตัวไป เฟรนถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

“เดี๋ยวไปซื้อน้ำก่อน” พอนนท์กลับมาที่โต๊ะพร้อมข้าวสองจาน เฟรนก็อาสาไปซื้อน้ำให้เพื่อนต่อ

ร่างเล็กเลือกร้านขายน้ำร้านริมซ้ายสุด เพื่อเลี่ยงที่จะเจอกับบิว ซึ่งนั่งอยู่อีกฝั่ง

“เอามะนาวโซดากับปีโป้ปั่นครับ” สั่งน้ำเสร็จก็ยืนเล่นมือถือรอ คนค่อนข้างเยอะ ต้องรออีกสองคิว เฟรนเลยหันหลังจะเอาก้นพิงกับขอบที่วางของหน้าร้าน พลันต้องสะดุ้งโหยง เมื่อหันมาแล้วเจอคนตัวสูงยืนขวางอยู่ข้างหน้า พอจะหลบ ก็โดนแขนยาวๆ สองข้างโอบลงมา จะเรียกว่าโอบก็ไม่เชิง เพราะบิวแค่เอามือท้าวกับขอบที่วางของ แต่ดันวางขนาบข้างตัวของเฟรน เล่นเอาสาวๆ แถวนั้นกรี้ดแบบเก็บอาการไม่อยู่

“แดงโซดา 2 ครับ” บิวสั่งน้ำทั้งที่อยู่ในท่านั้น คนขายก็อมยิ้มพยักหน้าให้ แต่คนตัวเล็กที่โดนกักตัวไว้โครตอาย หน้าตาหูเหอแดงก่ำ มือสองข้างที่ถือสมาร์ทโฟนสีขาวสั่นกึกๆ

“อยู่นิ่งๆ ไม่งั้นได้อายกว่านี้แน่” บิวยิ้มมุมปากกระซิบเบาๆ ให้ได้ยินแค่สองคน เฟรนตัวเกร็งไม่กล้าขยับหนี คนทั้งโรงอาหารกำลังจ้องมองมาด้วยความสงสัย สาวๆ บางคนหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกันรัวๆ

“ทำบ้าอะไรของมึง” เฟรนถลึงตาใส่ พอบิวโน้มตัวเบียดเข้ามา ก็ยกศอกขึ้นดันไว้

“ถ้าไม่หนี กูจะปล่อย” บิวยังคงใช้เสียงกระซิบเบาๆ พร้อมรอยยิ้ม เหมือนคุยกันกระหนุงกระหนิงในสายตาคนอื่น เฟรนกัดฟันกรอด ยอมตกลงที่จะไม่หนี บิวจึงยอมขยับออกไป แต่ก็ยังฉวยคว้ามือถือในมือของเฟรนตอนทีเผลอมายึดไว้

“เอาคืนมา!” เฟรนโวยลั่น จนคนที่มารอซื้อน้ำ รวมทั้งคนขายตกใจกันเป็นแถบ

“เดี๋ยวดิวะ” บิวว่าพลางเอามือข้างหนึ่งดันไหล่เฟรนไว้ “ปลดล็อคดิ แอดไลน์กัน”

“ไม่! เอาของกูคืนมา”

“บอกรหัสมา”

“บอกว่าไม่ไง!”

“จะบอกดีๆ หรืออยากบอกทั้งน้ำตาวะ! ไอ้เปี๊ยก!”

“!” เฟรนตกใจจนตัวสั่นเมื่อบิวขึ้นเสียงใส่ เรื่องเมื่อวานทำให้กลัวคนคนนี้จับใจ และอาการสั่นเกร็งนั้นก็ส่งไปถึงบิวด้วย เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เผลอทำตัวแย่ๆ ใส่อีกแล้ว

“ขอโทษน่า แอดไลน์กูมาซะดีๆ อย่าให้หงุดหงิด” บิวคืนมือถือให้ พร้อมกับหยิบของตัวเองมายื่นให้เฟรนด้วย “เร็วๆ เลย น้องหนู”

“ใครน้องมึง!” แม้จะกลัว ก็ยังใจสู้อยู่ แต่พอบิวจ้อง ก็รีบหลบสายตาแล้วกดเข้าแอพสีเขียว แอดไลน์ให้เรียบร้อย

บิวรับมือถือคืนมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง “ก็แค่เนี้ย เจอกันเย็นนี้นะจ๊ะ น้องหนู”

“ไอ้สัสบิว!” เฟรนก่นด่าไล่หลัง แต่มีหรือที่บิวจะสะทกสะท้าน ร่างสูงหัวเราะร่าเดินจากไปอย่างอารมณ์ดีสุดๆ

******

บิวยืนกอดอกหน้านิ่ง สายตามองหน้าจอมือถือที่อยู่ตรงหน้าแบบผ่านๆ แต่ก็เห็นแล้วล่ะว่าเป็นรูปในเพจของมหาลัย รูปของเขากับเฟรนเมื่อกลางวันนั่นเอง

“นี่มันเหี้ยอะไรวะไอ้บิว” เจ้าของมือถือขมวดคิ้วถาม หน้าตาบูดบึ้งมาก แต่บิวก็เฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไร

“แล้วมึงอ่ะ เป็นเหี้ยอะไร ไอ้โป้ง ถ่อมาหากูที่หอ รบกวนเวลาอ่านหนังสือ เพื่อจะถามเรื่องไร้สาระเนี่ยนะ?” บิวส่ายหน้าเซ็งๆ ทำท่าจะเดินหันหลังกลับเข้าหอ แต่โป้งก็คว้าไหล่ไว้แน่น

“ตอบกูมาก่อน มึงกับไอ้เตี้ยนี่มันยังไง” โป้งดูจริงจังแปลกๆ แต่บิวก็แค่เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

“แล้วเกี่ยวเห้อะไรกับมึงวะครับเพื่อนโป้ง”

“เกี่ยวดิ!” โป้งหลุดพูดออกมา ก่อนจะรีบหุบปากนิ่งสนิท

“เกี่ยวยังไงมิทราบครับ เสียเวลาว่ะแม่ง กูไม่คุยกับมึงละ กลับหอมึงไปเหอะ” บิวปัดมือโป้งออก จะหันหลังเดินหนีอีกรอบ แต่คราวนี้โป้งวิ่งไปดักหน้า บิวชักสีหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ “อะไรมึงอีก”

“เอางี้ มาพนันกันดีกว่าบิว”

บิวขมวดคิ้ว พนันอีกแล้ว? อะไรนักหนาของไอ้โป้ง “มึงนี่ชอบเสียเงินจังนะ”

“เรื่องของกู มึงจะรับคำท้ามั้ยล่ะ รอบนี้กูให้ 50,000” โป้งยักคิ้วให้อย่างท้าทาย

“โอ้โห โครตป๋าว่ะ เอาดิ บอกมาเลยให้ทำไร”

“กูท้าให้มึงจีบไอ้เตี้ยนั่นให้ติดภายในเทอมหน้า ถ้ามึงทำได้เอาไปเลย 50,000 แต่!” โป้งเว้นระยะครู่หนึ่ง บิวยืนลุ้นตัวโก่งว่าจะมีข้อแม้อะไรอีก คราวก่อนโป้งท้าพนันให้แต่งหญิงกลางวงเหล้า ท้าตอนเมาสติสตังไม่ครบถ้วนดี บิวเลยค่อนข้างได้เปรียบ เพราะโป้งไม่ได้ตั้งเงื่อนไขใดๆ ไว้เลย นอกจากแต่งหญิงมาเรียนมหาลัยเทอมเดียว

“แต่ถ้ามึงแพ้ มึงต้องมาเป็นเมียกู!”

“ไอ้เหี้ย! ตัวกูแลกกับห้าหมื่นเนี่ยนะ ไม่แฟร์ว่ะ” บิวส่ายหน้าดิก

“งั้นกูเพิ่มเป็นแสนนึง!” แววตาของโป้งเอาจริงมาก จนบิวนึกขยาดขึ้นมานิดหน่อย แถมนี่ไม่ได้เมาเหมือนตอนนั้นด้วย “กูมั่นใจ ยังไงมึงก็จีบผู้ชายไม่ติด!”

คำดูถูกของโป้งทำเอาบิวของขึ้น หน้าตาเหยเกด้วยความโกรธ จะผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าเขาเอาจริง มันต้องได้สิวะ!

บิวพยักหน้าหงึกหงัก บิดริมฝีปากอย่างแค้นเคือง ก่อนจะรับคำท้าเต็มตัว

“ได้ ไอ้โป้ง เตรียมแสนนึงของมึงไว้รอกูได้เลย!”

******

โป้งมาแนวนี้อีกแหล่ว แต่คราวนี้มีเงื่อนไข ไม่ได้กะเสียแต่เงิน ฮ่าๆๆๆ
บิวจะเสียตัวหรือจะได้แฟนดีล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นังโป้ง นังเด็กเลววววววว  :m31:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หูยยย ถ้าจีบติดแล้วรู้เรื่องนี้นะ ดราม่าแน่ๆ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
5
“อะไรนะ!? พนันเหี้ยไรของพวกมึงอีกแล้ววะ แล้วมึงไปรับคำท้ามันทำไมอีกเนี่ย!” น้องน้ำกอดอกหน้าเครียดสุดชีวิต เมื่อเพื่อนบิวมาขอคำปรึกษาเรื่องการ “จีบผู้ชาย”

“แม่งดูถูกกูอ่ะ บอกว่ากูจีบไอ้เตี้ยไม่ติดหรอก แล้วโดนท้ามา กูก็ต้องกล้ารับป่ะวะ ไม่งั้นแม่งก็เหมือนป๊อดอีก” บิวก็ทำหน้าไม่ถูกเหมือนกัน ตอนโดนท้าทายก็ไม่ทันคิดอะไร แถมเงินจำนวนไม่ใช่น้อยๆ ความโลภมันก็เข้าครอบงำพอดู

“เหตุผลมึงโครตแถ จะรักศักดิ์ศรีที่แดกไม่ได้อะไรนักหนา กูล่ะไม่เข้าใจพวกหน้าตัวผู้อย่างพวกมึงเลยจริงๆ พนันสนุกๆ ก็พอว่า แต่นี่เงินแสนเดียวแลกกับร่างกายมึงเนี่ยนะ! ไอ้เหี้ยโป้งมันกะฟันมึงแต่แรกเลยอ่ะ เพราะยังไงมึงก็ไม่มีทางจีบผู้ชายได้!” น้องน้ำโวยวายลั่นทุ่ง เพื่อนเอ็มก็ได้แต่นั่งมองสองคนคุยกัน เพราะเกินจะพูดอะไรออกไปได้ในตอนนี้

“ทำไมวะ มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วทำไมพี่ภาคจีบมึงติดอ่ะ”

“กูเป็นตุ๊ดอยู่แล้วมั้ยล่ะ!” น้ำแหวใส่ทันที “คือ กูจะบอกว่า ผู้ชายแท้ๆ ที่ไม่มีวี่แววเบี่ยงเบนสักแอะ แถมเกลียดตุ๊ดเกลียดเกย์เข้าไส้อย่างไอ้เตี้ยเฟรนอ่ะ เล่นยากมากนะมึง”

“เปลี่ยนผู้ชายเป็นเกย์มันยากอย่างนั้นเลยเหรอวะ” บิวทำหน้าเหยเก อันที่จริงจะให้ผู้ชายอย่างเขาจีบผู้ชายด้วยกันมันก็ยากแล้วล่ะ แล้วนี่ต้องจีบให้ติดอีก

“แล้วมึงเปลี่ยนตัวเองง่ายๆ ได้ขนาดนั้นมั้ยล่ะ” น้องน้ำจ้องหน้าบิวอย่างคาดคั้น “ขนาดมึงที่มีเพื่อนเป็นเกย์เต็มไปหมด ยังเปลี่ยนตัวเองให้ชอบผู้ชายด้วยกันยากเลย แล้วไอ้เฟรนแม่งเกลียดเกย์ มีแต่เพื่อนแมนๆ เรียนวิศวะอีก มึงคิดว่าจะง่ายมั้ย มีเวลาแค่ไม่กี่เดือนอีกต่างหาก ยากสัสๆ”

“แต่มันก็...น่าจะจีบได้ป่ะวะ หรือกูจับกดเลยดี? จะได้จบ”

ผัวะ!

เสียงฝ่ามือเพื่อนเอ็ม โดนไปเต็มๆ ไม่ต้องรอให้น้องน้ำลงมือเอง บิวเงยหน้ามองเอ็มสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าว เพราะเจ็บแบบจริงจังกว่าทุกที

“ผู้ชายบางคน ต่อให้เสียตูดครั้งสองครั้ง ก็ไม่ถือเป็นเกย์ ถ้ามันไม่ได้ชอบผู้ชาย” เอ็มเอ่ยเสียงนิ่ง

“จริงของไอ้เอ็มมัน ต่อให้เสียตัวให้ผู้ชายด้วยกัน แต่ถ้าใจมันไม่หวั่นไหว ใจไม่ฝักใฝ่ มึงเอามันจนพรุน มันก็เกลียดมึงอยู่ดี” น้องน้ำสมทบ บิวยิ่งเครียดหนัก

“กูขอปรึกษาพี่ภาคได้มั้ยวะ” แฟนของน้องน้ำเองก็ไม่ได้เป็นเกย์แต่แรก แถมมีแฟนผู้หญิงมาตั้งหลายคนก่อนจะมาตามจีบน้องน้ำ บิวเลยคิดว่าอาจจะได้เรื่องอะไรบ้าง

“กูจะลองถามให้แล้วกัน แต่ยังไงก็ยากบิว แค่มึงจะเข้าไปคุยกับมันดีๆ สักคำยังยาก แล้วจะเอาอะไรไปทำให้มันมาชอบมึงวะ” น้องน้ำรับปากได้แค่เรื่องให้พี่ภาคมาช่วยแนะนำ แต่ก็ไม่รับประกันว่าจะจีบติดอยู่ดี งานนี้บิวคงต้องพยายามหนักกว่าทุกที

อย่างที่เพื่อนๆ บอก การจะจีบผู้ชายปกติให้ติด มันแสนจะยากเย็น จู่ๆ จะเข้าไปทำดีด้วย ทำหวานใส่ มันก็คงเลี่ยนๆ แปลกๆ อีก แต่ถ้ายังกัดกันเหมือนเดิม เปอร์เซ็นต์จะรักกันยิ่งน้อยกว่า

จะทำยังไงกับคนที่เกลียดเกย์

อืม...บิวครุ่นคิดพลางเอามือเกาคาง ไอ้ตัวเล็กนั่นมันต้องมีปมอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่ๆ ถึงได้แสดงท่าทีรังเกียจเพศที่สามแบบชัดเจนขนาดนั้น หรือจะแก้ที่เรื่องนั้นก่อน แล้วจะไปรู้ได้ไงว่ามันมีปมอะไรให้แก้ เออ...ว่ะ

******

อีกสองวันก็จะปิดเทอมแล้ว สอบเสร็จเรียบร้อย รอแค่ขนของกลับบ้านช่วงปิดเทอมราวๆ 1 เดือนนี้ บิวที่ค่อนข้างจะว่างงาน ก็ยังคงคิดหาหนทางจีบผู้ชายต่อไป พยายามบอกกับตัวเองว่า ที่จริงจัง เพราะไม่อยากเป็นเมียไอ้โป้ง ก็แค่นั้น

ระยะเวลาการจีบคือเทอมหน้า หนึ่งเทอมเต็มๆ ราว 5 เดือนที่จะต้องหาทางทำอะไรก็ได้ เพื่อให้เฟรนหันมาชอบ

เรียนก็คนละคณะ เวลาที่จะได้เจอกันมันก็ไม่ได้มีเยอะแยะมากมาย จะตามจีบแบบทุ่มสุดตัวให้อีกฝ่ายที่เป็นผู้ชายเกลียดเกย์หันมาเป็นเกย์ ชอบผู้ชายด้วยกันเสียเอง คิดยังไงก็คิดไม่ออกจริงๆ

“เอาวะ ลองดู” บิวฮึดสู้ ลองส่งไลน์ไปหาเฟรน ที่เคยบังคับแอดกันไว้เมื่อไม่กี่วันก่อน ทั้งที่ตั้งแต่แอดไลน์กัน ก็ไม่เคยส่งข้อความคุยกันสักคำ ที่ทำไปเพราะแค่อยากแกล้งเฟรนล้วนๆ

ติ้ง

เสียงไลน์ดังขัดจังหวะร่างเล็กที่กำลังซิทอัพ ฟิตร่างกายอยู่ที่พื้น เฟรนลุกขึ้น เอื้อมมือไปควานหาสมาร์ทโฟนสีขาวบนโต๊ะคอมฯ ข้างๆ ตัว พอเห็นว่าใครเป็นคนส่งข้อความมาก็แทบจะปาทิ้ง

สัสบิว พ่องตาย (ชื่อไลน์ของบิวที่น้องเฟรนเปลี่ยนให้): สอบเสร็จยัง

เฟรนขมวดคิ้ว ถอนหายใจแรงๆ ทีหนึ่ง ไม่อยากตอบกลับ ไม่อยากเสวนาด้วย แถมไม่กดเข้าไปอ่านอีกต่างหาก แค่อ่านจากแจ้งเตือนที่เด้งมาหน้าจอเฉยๆ แต่พอจะวางมือถือกลับที่

ติ้ง

สัสบิว พ่องตาย: กูรู้นะว่ามึงอ่านแล้ว อย่าเนียนไอ้เปี๊ยก
   ออกมาหาหน่อยดิ รออยู่หน้าหอ
   ไม่ลงมา กูไปตามถึงห้อง
   มึงรู้ว่ากูเอาจริง
   เงียบ
   อยากให้ขึ้นไปฉุด
   รอกู 5 นาที!

ปังๆๆๆๆ

“เหี้ย!” เฟรนสะดุ้งโหยงเพราะเสียงเคาะประตูที่ดังสนั่นสั่นสะเทือนไปแทบทั้งตึก กลัวคนอื่นจะลุกออกมาด่าพ่อเอา เลยรีบวิ่งไปส่องดูที่ช่องตาแมว แล้วก็เจอไอ้คนเหี้ยที่โครตเกลียดขี้หน้ายืนหน้าหงิกอยู่หน้าประตูจริงๆ

“เคาะหาพ่อมึงเหรอ รบกวนคนอื่นเขา!” เฟรนตะโกนกลับไป ไม่ยอมเปิดประตูให้

ปังๆๆๆๆ

บิวยังคงกระหน่ำทุบประตูไม่มีกลัวเกรง ใครออกมาด่าจะกระทืบแม่งให้เละนาทีนี้ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีคนอยู่ที่หอแล้ว เลยไม่มีวี่แววคนอื่นออกมาก่อดราม่า

“เปิด!”

ตึง!

บิวยกเท้าขึ้นถีบประตูปึงปัง เฟรนเอามืออุดหูด้วยความตกใจ ประตูหอก็เป็นแค่ไม้ที่ไม่ได้ใหม่เอี่ยมอะไรมาก ขืนพังไปล่ะยุ่งแน่ เลยต้องรีบเปิดประตูให้ แต่เป็นจังหวะเดียวกับที่บิวกำลังยกเท้าพอดี พอประตูจู่ๆ ก็เปิดโครม เลยยั้งไม่ทัน ถีบเข้าท้องของเฟรนไปเต็มๆ

“โอ๊ย! ไอ้เหี้ยบิว!” เฟรนก่นด่า งอตัวเอามือกุมท้องด้วยความทรมาน จุกแบบอ้วกแทบพุ่งออกปาก

“เฮ้ย! ขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจ” บิวรีบเข้าไปช่วยประคองร่างเล็กให้นั่งลงบนเก้าอี้ที่ใกล้ที่สุด เป็นห่วงจับใจจริงๆ เพราะไม่ได้คาดคิดว่าจะทำให้อีกคนต้องเจ็บตัว

“มาทำเหี้ยไร! ถ้าจะหาเรื่องแกล้งกู ก็ออกไปไกลๆ ตีน!” ยิ่งไม่ชอบหน้าอยู่แล้ว คราวนี้คงยิ่งเกลียดเข้ากระดูกดำแน่ๆ บิวอยากจะร้องไห้ หรือจะต้องเสียตัวให้ไอ้โป้งจริงๆ

“คือ กูมีเรื่องจะคุยกับมึง” บิวปั้นหน้าจริงจังสุดชีวิต

“คุย? ทุบประตูห้องกู ถีบกู แล้วบอกจะคุย? มึงเพี้ยนเหรอ ไอ้กะ...” เกือบหลุดปากคำต้องห้าม ตั้งแต่บิวกลับมาแต่งแมน เฟรนก็ไม่ค่อยอยากไปเรียกแบบนั้นเท่าไหร่ วันที่เกือบโดนบิวขืนใจเพราะไปด่าด้วยคำนั้นยังฝังอยู่ในหัว

“ไอ้กะอะไรของมึง จะด่ากูก็ด่ามาเลย” บิวท้าทาย เฟรนเริ่มหายจุกแล้ว รีบลุกหนีไปมุมห้องใกล้ๆ ประตู เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นจะได้วิ่งออกไปทัน บิวก็สาวเท้าตามไม่ให้ห่าง ต้อนจนคนตัวเล็กหมดทางหนี ยืดตัวลีบอยู่ข้างประตู

“ว่าไง กล้าด่ากูมั้ยวะ เอาสิ ที่มึงชอบพูดไง” บิวแสยะยิ้ม ลืมเรื่องที่จะมาคุยเสียสนิท เพราะตอนนี้กำลังสนุกกับหน้าซีดๆ ของเฟรน

“มะ มีอะไรจะพูดก็พูดดิ จะคุยไร” เฟรนยังทำใจดีสู้เสือ อยากจะเอาขาเตะบิวก็ทำไม่ได้ เพราะบิวเล่นใช้ขาข้างหนึ่งแทรกตรงหว่างขาขัดขาไว้ ส่วนอีกข้างแม่งเหยียบตีนจนกระดูกแทบหัก ร่างเล็กเม้มปากแน่น ไม่อยากส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดให้อีกฝ่ายสะใจ ได้แต่นึกสมเพชตัวเองที่สู้ไอ้กะเทยถึกนี่ไม่เคยได้สักที

“แสดงว่าไม่กล้า” บิวยังไม่เข้าเรื่อง จนเฟรนเริ่มจะหงุดหงิด

“ไม่กล้าเหี้ยไร ก็มึงเป็นป่ะล่ะ ถ้ามึงไม่เป็น กูจะด่าทำไมให้เสียปาก มีอะไรก็ว่ามาเร็วๆ”

“มาเป็นแฟนกูที”
 
“ห๊ะ!” เฟรนตาโตอย่างไม่เชื่อหู จู่ๆ บิวก็โพล่งอะไรออกมา “ว่าไงนะ”

“มาเป็นแฟนให้กูที เทอมเดียว เฮ้ยๆๆ อย่าเข้าใจผิดนะ กูมีเหตุผล!” บิวรีบอธิบายทันที เพราะเฟรนเริ่มเหงื่อตก หน้าตาบ่งบอกว่าสยองขวัญมาก

“เหตุผลเชี่ยไร มึงจะแกล้งกู!”

“ไม่ๆ ไม่ได้แกล้ง กูพนันกับเพื่อนไว้” บิวพยายามอธิบายต่อ

“พนัน?” เฟรนนิ่งงัน เกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที “เล่นอะไรกันวะ?”

“คือ เพื่อนกูอ่ะ ไอ้คนที่ทำมึงขาแพลงไง” พอบิวพูดถึงตรงนี้ เฟรนก็พยักหน้าว่าจำได้ “แม่งโครตเลว มันจะให้กูจีบมึงให้ติดในเทอมหน้า แต่ถ้าไม่ติด กูต้องไปเป็นเมียมันอ่ะ”

“โห พวกมึงนี่แม่ง มีแต่เกย์เนอะ” เฟรนเบ้ปากใส่ แต่บิวไม่สนใจ ตอนนี้มีเรื่องสำคัญกว่ามานั่งกัดกันไปมา

“กูเลยอยากให้มึงช่วย แบบกูจะทำเป็นจีบมึงสักสองสามเดือน แล้วมึงก็ตกลงเป็นแฟนกู เอาเงินมาแบ่งกัน กูให้ 50-50 สนป่ะ” บิวยื่นข้อเสนอแบบแฟร์ๆ เฟรนกลอกตาไปมาอย่างครุ่นคิด

“เท่าไหร่ เงินพนันที่จะได้”

“แสนนึง ว่าไง?” บิวตอบทันทีด้วยสีหน้าลุ้นระทึก เพราะถ้าลองถามแบบนี้ แสดงว่าไอ้ตัวเล็กนี่ต้องสนเงินแน่นอน

เฟรนยังคงครุ่นคิด ครึ่งนึงก็ห้าหมื่น เงินไม่ใช่น้อยๆ ซื้อรองเท้าเล่นบาสฯ คู่ใหม่ อุปกรณ์ออกกำลังกาย ยาบำรุงเสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ และอื่นๆ ได้อีกเหลือเฟือ

แลกกับการยอมให้ผู้ชายมาทำเป็นจีบ คบกันแป้ปๆ แล้วค่อยเลิกกันทีหลังก็ได้

“อืม...น่าสน” เฟรนยักยิ้มมุมปาก “ทำสัญญาก่อนได้ป่ะ ว่ามึงจะไม่เบี้ยวเงินกู”

บิวคลี่ยิ้มหน้าบาน “ได้เลยเพื่อน”

******

แต่เรื่องที่พวกเขาตกลงกันนี้ จะบอกใครไม่ได้เด็ดขาด แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างพวกน้องน้ำหรือนนท์ เพื่อนของฝั่งเฟรนก็ตาม เป็นข้อตกลงลับเพื่อฟันเงินพนันจากไอ้โป้งเหนาะๆ เพราะทั้งบิวและเฟรนก็ไม่ได้ชอบขี้หน้าโป้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

หมดปิดเทอมเมื่อไหร่ บิวก็จะเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ ด้วยการทำเป็นเข้าไปจีบเฟรนแบบเปิดเผย กะว่าต้องมีสาวๆ ถ่ายรูปไปลงเพจมหาลัยแน่นอน

ทางด้านเฟรนก็ต้องทำเป็นรังเกียจทีแรกเหมือนเวลาปกติ แต่พอสักพักก็จะค่อยๆ ใจอ่อน และตอบตกลงเป็นแฟนกันก่อนจะถึงช่วงสอบปลายภาค หลังได้เงินแล้ว ก็กะจะแกล้งมีปัญหากัน เลิกรากันในเทอมต่อไปให้คนอื่นเป็นสักขีพยานด้วย เป็นอันจบเกม

“ถามจริงๆ มึงเป็นป่ะวะ” ช่วงปิดเทอม สองคนนัดแนะกันออกมาวางแผนสำหรับเทอมหน้าที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วัน ดีที่บ้านของเฟรนและบิวไม่ได้ไกลกันมาก เพิ่งมารู้เมื่อตอนปิดเทอมว่าอยู่ห่างกันแค่สามซอยเท่านั้น

“เป็นก็เหี้ยละสัส กูชอบผู้หญิงมั้ยล่ะ กะจะจีบน้องแอลคนสวย เสือกเจอไอ้โป้งสกัดดาวรุ่งตั้งแต่เทอมก่อน” เพราะการแต่งหญิงของบิวทำให้ตอนนี้หลายๆ คนก็ยังไม่เชื่อว่าเขาเป็นผู้ชายปกติ โดนมองว่าเป็นเกย์ไปเรียบร้อย

“ฮ่าๆ ก็สมควร เสือกชอบเล่นอะไรพิเรนๆ กันนี่” หลังจากตกลงร่วมมือกันแล้ว บิวก็เล่าเรื่องพนันครั้งก่อนให้ฟังด้วย ตอนนี้เฟรนก็เลยไม่ค่อยแสดงท่าทีรังเกียจเท่าไหร่ เพราะอย่างน้อยก็พอจะเชื่อใจได้ว่าบิวจะไม่หันมาเอาจริงกับการเล่นสนุกเพื่อเงินในครั้งนี้ ส่วนเรื่องที่เคยเกือบโดนกระทำชำเรา เฟรนก็ไม่ติดใจถือสาหาความอะไร ตั้งใจจะลืมๆ มันไป จะได้ไม่ต้องตะขิดตะขวงใจกันอีก

“แล้วแบบนี้มึงจะจีบสาวคนนั้นได้เหรอวะ มัวแต่เล่นอยู่อย่างนี้ เดี๋ยวหมาคาบไปแดกนะเว้ย” เฟรนกอดอกยืดตัวพิงเก้าอี้ วันนี้มานั่งคุยกันในร้านคาเฟ่แถวบ้าน เพราะบิวชอบกินเค้กร้านนี้

“กูคงฝากไอ้เอ็มไปจีบแทนก่อนอ่ะ อย่างน้อยก็จะได้ให้มันคอยกันท่าคนอื่น” บิวว่าพลางตักเครปเค้กเรนโบว์หลากสีสันเข้าปาก เฟรนมองตามสีหน้าปุเลี่ยนๆ เพราะไม่ค่อยชอบกินของหวาน ไม่เข้าใจว่าบิวกระเดือกเข้าไปได้ยังไง “ไมทำหน้างั้น อยากแดก?” บิวเงยหน้าขึ้นแสยะยิ้ม ยื่นส้อมที่มีเครปเค้กสีหวานส่งไปจ่อที่ปากของเฟรน

เฟรนส่ายหน้าหน้าตาเหยเก แต่บิวก็ตื้อไม่เลิก ซึ่งคงเป็นนิสัยปกติของเจ้าตัว “ไม่ อื้อ” เข้าปากไปแล้วเรียบร้อย “ไอ้เอี้ย...”

“อร่อยดิ? ไม่หวานหรอก” บิวยักคิ้วยิ้มมุมปาก เมื่อเห็นเฟรนยอมเคี้ยวแล้วกลืนมันลงไป หน้าตาดูดีขึ้นกว่าตอนแรก เพราะรสชาติของเครปเค้กที่โดนบังคับให้กินไม่ได้หวานเลี่ยนอย่างที่คิด

“ก็ดี” เฟรนเสมองไปทางอื่น รู้สึกเขินแปลกๆ ที่โดนป้อนกะทันหัน ความหวานหอมนุ่มลิ้นยังคงติดอยู่ในปาก

บิวพยักหน้าอมยิ้มพลางตักเค้กเข้าปากตัวเองบ้างด้วยส้อมอันเดิม ก่อนจะทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ ชูส้อมนั้นขึ้น ส่งสายตาไปทางคนที่กำลังจะดื่มเอ็กเพรสโซ่อุ่นๆ ในแก้ว “เฮ้ย จูบทางอ้อมว่ะ”

“แค่กๆๆ” เฟรนถึงกับสำลักกาแฟ แก้มขึ้นสีชมพูจางๆ “สัส พูดไรของมึงวะ”

“ซ้อมไว้ไง เดี๋ยวเปิดเทอม ต้องตามหยอดมึงรัวๆ แล้ว มึงก็เอาแบบเมื่อกี้แหละ เป็นธรรมชาติดี อย่าลืมนะ ต้องค่อยๆ ใจอ่อนกับกูด้วย ทำตัวน่ารักๆ เลย” บิวพูดกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ที่จริงก็ชอบเวลาเฟรนเขิน มันตลกดี

“กูต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ” เฟรนทำหน้าเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก รสขมๆ ของเอ็กเพรสโซ่ร้อนช่วยให้หัวใจที่จู่ๆ ก็เต้นแรงกลับคืนสู่สภาวะปกติ

ก็แค่แกล้งจีบกัน แกล้งรักกัน แกล้งเป็นแฟนกัน

ง่ายๆ แค่นั้นเอง ไม่เห็นต้องคิดมากอะไร

“เออ ขนาดนั้นแหละ อ้อนนิดๆ ให้ดูน่ารักๆ” บิวแนะนำพลางดีดนิ้ว แต่เฟรนเหมือนไม่ค่อยอยากทำตามที่บอกเท่าไหร่

“อ้อน? ยังไงวะ? เกิดมากูก็ไม่เคยอ้อนใคร”

“ไม่เคยมีแฟน?” บิวเบิกตาโพลงด้วยความประหลาดใจ แต่คิดอีกที หล่อๆ อย่างเขายังไม่เคยมี แล้วไอ้เปี๊ยกหน้าเอ๋อนี่มันจะไปหาที่ไหนได้ แต่จริงๆ มีสาวๆ มาขายขนมจีบให้อยู่หรอกนะ แค่บิวไม่ชอบ ก็เลยไม่คบด้วยเฉยๆ

เฟรนส่ายหน้า ส่วนบิวก็นิ่งคิดนิดหน่อยก่อนจะคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์จนอีกคนสะดุ้ง

“งั้นให้กูอ้อนมึงแทนแล้วกัน จะจัดให้เด็ดๆ เลย”

******

และแล้วก็ถึงวันเปิดเทอมที่รอคอย (ใครรอวะ!: เฟรน)

บิวเริ่มต้นการเดิมพันในวันแรกด้วย...

“กูถือให้” มือเรียวสวยกระชากกระเป๋าเป้ที่ใส่สมุดหนังสือ ชีทที่ใช้เรียนและอื่นๆ ของคนตัวเล็กไปถือไว้ เฟรนที่เตี๊ยมกันมาแล้ว ก็ต้องทำตัวปกติ แต่...

“เฮ้ย! ไม่ต้อง กูถือเองได้” แข็งเป็นหิน เล่นไม่เนียนจนบิวอยากจะเคาะกบาลสักที แต่ก็ต้องยิ้มไว้พลางก้มหน้าลงในระดับใบหูอีกฝ่ายแล้วกระซิบบอก “อย่าเกร็งดิวะ”

“อะ เอาคืนมา!” เฟรนรับคำด้วยการขึ้นเสียงใส่พร้อมกระชากกระเป๋าคืน แต่บิวไม่ยอมปล่อย ยื้อกันไปมาจนน้องน้ำกับเอ็มที่เพิ่งเดินออกมาจากหอยืนมองอย่าง งงๆ

“นี่มันเอาจริง?” น้องน้ำเงยหน้าไปถามเอ็ม เพราะเอ็มตัวสูงกว่านิดหน่อย แต่ก็ยังน้อยกว่าบิว

เอ็มยักไหล่พลางส่ายหน้า “ไม่รู้ว่ะ”

เสียงโวยวายยามเช้าของบิวและเฟรนจบลง เมื่อมีสักขีพยานการจีบครั้งนี้โผล่มาถึงสองหน่อด้วยกัน บิวทำทีว่าบังคับเอากระเป๋าเฟรนไปได้สำเร็จและสั่งให้ขึ้นรถไปด้วยกัน ก่อนจะรีบบิดมอเตอร์ไซค์ไปมหาวิทยาลัย

จะจีบกันมันก็ต้องมีโมเม้นท์ให้คนเห็นเยอะๆ บิวพาเฟรนไปกินข้าวเช้าที่โรงอาหารกลางใกล้ตึกกระทะ เพื่อจะได้เป็นเป้าสายตา เพราะไม่ได้เดินกันไปเฉยๆ มีตีกันเถียงกันตลอดทางให้ดูเป็นปกติของคู่นี้ที่สุด

“นั่งรอนี่ เดี๋ยวกูไปซื้อข้าวให้ เอาไร?” บิวชี้นิ้วสั่ง ให้นั่งรอที่โต๊ะแถวกลางของโรงอาหารเพื่อจะได้เป็นจุดเด่น เฟรนก็แสดงท่าทีว่าไม่อยาก แต่สุดท้ายก็โดนบังคับให้นั่งไป

บิวซื้อทั้งข้าวทั้งน้ำมาเสิร์ฟให้ตรงหน้า แถมยังนั่งลงข้างกัน เอาตัวมาเบียดใกล้ๆ เฟรนก็รู้ว่ามันคือการแสดง ทั้งหมดที่ทำอยู่นี้ คือการแสดง และมันจะจบลงหลังจากได้เงินพนันแล้ว

“กินดิ หรือจะให้ป้อน” เพราะมัวแต่คิดเรื่อยเปื่อย บิวที่กินข้าวไปเกือบครึ่งจานแล้วเลยต้องสะกิดบอกให้คนตัวเล็กข้างๆ ลงมือกินได้แล้ว แต่ก็ไม่วายหยอดใส่ตามบทที่วางไว้

“อ่ะ อืม” เฟรนได้สติกลับมาพร้อมกับหยิบช้อนส้อม รู้สึกกระอักกระอ่วนแปลกๆ กับท่าทีที่บิว “แสดง” อยู่ตอนนี้ ทั้งที่ตอนปิดเทอมก็ยังคุยกันได้ปกติ วางแผนด้วยกันมาตั้งเยอะ

แต่พอเอาเข้าจริง

“กูให้ แดกเยอะๆ ได้โตไวๆ” เฟรนเงยหน้ามองคนข้างๆ ที่ใช้ช้อนตัดไก่ทอดเป็นคำๆ ส่งมาให้ในจาน บิวยิ้มหวาน ยักคิ้วให้ “กินดิ”

จริงๆ แล้วต้องฮึดฮัดไม่พอใจที่บิวมาคอยตามตอแยในช่วงแรกๆ แต่ไม่รู้ทำไม เฟรนทำแบบนั้นไม่ลง เลยได้แค่ถอนหายใจเบาๆ แล้วตักไก่ทอดที่บิวให้มาเข้าปาก

การแสดงของบิวโครตไร้ที่ติ จนเฟรนรู้สึกกลัว

กลัว...หัวใจตัวเองนี่แหละ
******

บิวอับจนหนทางเลยขอหารเงินซะงั้น แต่ดูแล้วไม่รู้แสดงหรือเอาจริง ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
นังโป้ง นังเด็กเลววววววว  :m31:
เอาจิงๆ ชั่วทั้งคู่ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
หูยยย ถ้าจีบติดแล้วรู้เรื่องนี้นะ ดราม่าแน่ๆ
พลิกนิดหน่อย แต่ดราม่าแน่นอน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.5 13/3/18
«ตอบ #19 เมื่อ13-03-2018 20:00:47 »

งวดนี้เฮียบิวหัวแหลมดี สุมหัวกับเฟรนหลอกกินเงินนังโป้ง หวังว่าคงไม่ตลบหลังกินตับเฟรนนะ  o17

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.5 13/3/18
« ตอบ #19 เมื่อ: 13-03-2018 20:00:47 »





ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.5 13/3/18
«ตอบ #20 เมื่อ13-03-2018 23:29:55 »

ของฝากอีกตอนจากพี่โอ ฮ่าๆๆ

6
ตุ้บ!

โป้งมองหน้าเพื่อนแล้วก้มมองสมาร์ทโฟนเครื่องสีดำที่ถูกโยนใส่บนเตียง พอหยิบมันขึ้นมาดูก็ชะงักไปเล็กน้อย

“กูว่ามึงได้เสียเงินแสนนึงแน่ไอ้โป้ง ไปยกเลิกพนันครั้งนี้ซะ!” สีหน้าโอไม่ได้ล้อเล่นแม้แต่น้อย ออกจะซีเรียสสุดๆ เลยด้วย ร่างสูงยิ่งกว่าโป้งนั่งลงบนเตียงของเจ้าของห้อง กอดอกอย่างเคร่งเครียด

โป้งยังไม่ค่อยอยากเชื่อภาพที่เห็นในเพจของมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่เป็นรูปของบิวกับเฟรน ตลอดสองเดือนมานี้ทั้งคู่ดูเหมือนจะสนิทสนมกันมากกว่าเทอมก่อนเยอะมาก ทั้งที่อยู่คนละคณะ แต่ก็มามอด้วยกัน กลับด้วยกัน บางทีบิวก็ไปหาถึงคณะวิศวะ กินข้าวด้วยกันบ้าง ไปดูเฟรนซ้อมบาสฯ บ้าง บางรูปดูสนิทกันมากถึงขั้นกอดเอวกอดไหล่

“มันเป็นไปได้ไงวะ” โป้งเลื่อนดูรูปในอัลบั้มที่ชื่อ B.F. อย่างไม่เชื่อสายตา แค่สองเดือนบิวทำได้ขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าครบเทอมแล้วจะยังไงต่อ

“กูก็ไม่อยากเชื่อ พวกไอ้เอ็มก็ยังไม่อยากเชื่อ เพราะตอนแรกไอ้เตี้ยนั่นมันเกลียดไอ้บิวจะตายห่า” โอถอนหายใจแรงมากทีหนึ่ง “มึงแพ้แน่”

“ไอ้เหี้ย...แต่กูไม่อยากเสียหน้า ท้ามันไปแล้ว จะให้ทำไงวะ” โป้งโยนมือถือคืนให้โอ หน้าตาเครียดไม่แพ้กันแล้วนาทีนี้

“งั้นมึงก็ต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่ใช่มานั่งๆ นอนๆ อยู่แบบนี้ คนอย่างไอ้บิว ถ้ามันจริงจังขึ้นมา มึงจะเสียทั้งเงิน และเสียมันไปด้วย” โอหันไปมองหน้าเพื่อน “กูรู้ว่ามึงชอบมันจริงจัง ทำไมเอาแต่เล่นพนันบ้าบอ ไม่รุกจีบแม่งซึ่งหน้าไปเลยวะ”

“กูไม่ได้ชอบมัน!” โป้งโวยทันที แต่หน้านี่แดงก่ำ

“ทำหน้าแบบนั้นจะให้เชื่อ? กูไม่อะไรหรอกนะกับแค่เพื่อนชอบผู้ชายด้วยกัน ยอมรับตัวเองหน่อยดิ”

“กูไม่ได้ชอบไง! ก็แค่หมั่นไส้แม่งเฉยๆ เก๊กหล่อตลอดเวลาดีนัก!” โป้งหน้านิ่วคิ้วขมวด โอเลยขี้เกียจพูดต่อ คบกันมาตั้งแต่ป.5 นิสัยเพื่อนคนนี้มีหรือจะเดาไม่ออก โป้งตามตอแยบิวมาตั้งแต่ม.4 แกล้งบ้าง ยั่วโมโหบ้าง ท้าพนันไร้สาระไปวันๆ เล่นกันเหมือนเด็กๆ แต่ก็ทำให้สนิทกันขึ้นมาเรื่อยๆ แม้จะเป็นความสนิทสนมในเชิงที่บิวไม่ค่อยพอใจนักก็ตาม

“เอาไงก็แล้วแต่มึงนะ แต่งานนี้ไอ้บิวแม่งเอามึงเจ็บแน่” โอลุกขึ้น ทิ้งท้ายแค่นั้นแล้วออกจากห้องไป

ส่วนโป้งก็ยังหน้าเครียด เรื่องเงินไม่เท่าไหร่ แต่เสียหน้ากับเสียคนที่อยากได้ไป มันคงเจ็บใจไม่น้อย

******

เฟรนยิ้มแหยๆ แอบหยิกแขนร่างสูงข้างๆ “ไม่ต้องเนียนมากนักก็ได้ มือเนี่ย”

“อูยยย อย่าบิด กูเจ็บนะไอ้เปี๊ยก” บิวร้องเบาๆ ยอมปล่อยมือที่โอบเอวคนตัวเล็กออก ปกติแค่โอบเอวเฉยๆ เฟรนก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่นี่ดันเผลอไปลูบสะโพกเข้า ก็มือมันลื่น

“ไปนั่งรอเลย กูจะลงแข่งแล้ว” เฟรนชี้ไปที่เก้าอี้ข้างสนาม วันนี้มีซ้อมแข่งบาสฯ กับคณะวิทยาศาสตร์ บิวก็เลยมารอกลับหอพร้อมกัน

“อยากได้กำลังใจจากพี่มั้ยจ๊ะน้องหนู จุ๊บเหม่งสักทีจะได้ชนะรวด” บิวคว้าใบหน้าของเฟรนให้หันมา ทำปากจู๋จะจูบหน้าผาก เฟรนโวยลั่นเอามือปัดพัลวัน

“ไอ้เหี้ย! ไม่เล่น! อายเค้า!”

“สนุกกันจังนะพวกมึง” เสียงบุคคลที่สาม ซึ่งบิวค่อนข้างคุ้นเคยดีดังขึ้น เฟรนเห็นแล้วว่าเป็นใคร ส่วนบิวเพิ่งจะหันหลังไปมองอย่างเย้ยๆ

“ไมวะ อีกไม่นานมันก็ต้องเป็นแฟนกูอยู่แล้ว จะสนุกกัน สวีทกันไปถึงไหนต่อไหนก็ไม่แปลกป่ะ” ยักคิ้วให้โป้งสองทีพร้อมยิ้มเยาะสุดฤทธิ์ โป้งเหมือนจะเลือดขึ้นหน้านิดๆ

“แฟนพ่อง” เฟรนก็เล่นตามบทด้วยการถองศอกใส่บิวเบาๆ เขินอายได้อย่างสมจริงสมจัง (ก็อายจริงๆ นั่นแหละ)

“อ๊ะๆ อย่าเขินดิ แก้มแดงเลย โอ๊ยยย น่ารักว่ะ” บิวแกล้งหยิกแก้มนุ่มๆ เล่นอย่างเอ็นดู เฟรนก็เอามือปัดๆ แถมยังแก้มแดงจริงๆ อย่างที่บิวว่าด้วย โป้งเห็นแบบนั้นยิ่งเดือดดาล กำมือแน่นด้วยความแค้น

“ได้ ถ้ามึงจะเอาแบบนี้ กูขอเล่นเกมนี้ด้วยแล้วกัน” จู่ๆ โป้งก็โพล่งอะไรไม่รู้เรื่องออกมา บิวทำหน้างง เฟรนเองก็งง “กูจะจีบมึง! ไม่ให้ไอ้เตี้ยนี่ได้รักกับมึงง่ายๆ หรอก ไอ้บิว!”

ทั้งบิวและเฟรนตาโตด้วยความประหลาดใจ ต่างร้องออกมาพร้อมกัน “ห๊ะ!?”

เฟรนลงสนามไปแล้ว ส่วนบิวนั่งเหล่มองไอ้ควายถึกข้างๆ อย่างหวาดระแวง ไม่รู้มันมาไม้ไหน จู่ๆ ก็มาประกาศจะเข้าร่วมศึกครั้งนี้ ด้วยการจีบบิว ซึ่งจริงๆ แล้วมันน่าจะแข่งกันจีบไอ้ตัวเล็กหรือเปล่า บิวงงในงง

“ไม่ต้องนั่งห่างกูขนาดนั้นก็ได้ป่ะ กูไม่มีเชื้อโรค” โป้งหันไปทำหน้าเซ็งใส่ เพราะบิวทำเหมือนขยะแขยงกันเต็มที่

“แต่มึงมีเชื้อบ้าไง”

“สัส!”

ระหว่างที่สองคนด่ากันไปมา อีกคนในสนามก็มองมาเรื่อยๆ ด้วยความกังวลใจ ตั้งแต่ที่โป้งบอกว่าจะจีบบิว เฟรนก็รู้สึกใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอาเสียเลย

เรื่องที่บิวแกล้งทำเป็นจีบตน มันก็แค่การแสดงที่ตกลงกันไว้ ไม่ใช่เรื่องจริง บิวไม่ได้ชอบตนจริงๆ

แต่กับคนชื่อโป้ง

แววตามุ่งมั่นเอาจริงของโป้ง มันบอกชัดเจนว่าคิดอย่างไรกับบิว

แล้วทำไม ในหัวใจมันถึงได้ปวดพิลึก

เฟรนพยายามอย่างมากที่จะตั้งสมาธิกับการซ้อมแข่ง แต่ทำยังไงก็สลัดเรื่องของโป้งและบิวออกจากหัวไม่ได้เลย สายตาก็คอยแต่จะมองไปทางนั้น ยิ่งเห็นสองคนดูสนิทกันมาก เพราะเป็นเพื่อนกันมานานกว่า หัวใจยิ่งเจ็บ

ได้แต่ก่นด่าตัวเองในใจว่าเป็นอะไรนักหนา ทำไมต้องคิดเรื่องนั้น ทำไมต้องสนใจ

“ไอ้เฟรน!” เสียงของเพื่อนร่วมทีมตะโกนเรียกลั่นสนาม แต่กว่าเฟรนจะรู้ตัวลูกบาสหนักๆ ก็กระแทกเข้าเต็มๆ หน้า บิวตกใจผุดลุกขึ้นจะวิ่งเข้าไปหา แต่ถูกโป้งรั้งแขนไว้แน่น

“ปล่อยกู! กูจะไปดูมัน!” บิวสะบัดแขนอย่างแรง แต่ก็ยังไม่หลุด โป้งจ้องมานิ่งๆ

“นั่งลง คนอื่นเยอะแยะ มึงจะสนใจทำไม หรือมึงจริงจังกับมัน”

บิวกัดปากอย่างหงุดหงิด “จะจริงไม่จริง มันก็เพื่อนกู!”

“แล้วเพื่อนมึงที่นั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ” บิวสบตากับโป้ง สีหน้างงงัน

“พูดเหี้ยไรมึงเนี่ย! ปล่อยดิวะ!”

เฟรนมองไม่ค่อยเห็นคนสองคนที่อยู่ข้างสนามแล้ว ดวงตามันพร่าเบลอเพราะน้ำตาที่ไหลออกมาเมื่อไหร่ไม่รู้ อาจจะเพราะเจ็บมาก น้ำตาก็เลยไหลออกมาเอง แถมได้กลิ่นเลือดด้วย

“เหี้ยยยย เลือดกำเดา ก้มหน้าไว้มึง กูบีบจมูกให้ ขอถุงน้ำแข็งที” เสียงใครบ้างไม่รู้ คงเป็นพวกเพื่อนๆ ร้องโวยวายกันวุ่นวาย เฟรนนั่งก้มหน้านิ่ง ไม่รู้ว่าเจ็บที่ตรงไหนมากกว่ากัน ระหว่างจมูกที่โดนกระแทกเมื่อครู่กับ...หัวใจ

จะให้ยอมรับก็ได้ว่าชอบบิวตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นตอนรับน้องแล้ว แต่ตอนนั้นคิดว่าเป็นผู้หญิงจริงๆ พอบิวแนะนำตัว เลยรู้ว่าเป็นผู้ชาย ก็เลยพลั้งปากโพล่งออกไปแบบนั้น ไม่คิดว่าจะไปสะกิดต่อมของบิวเข้าอย่างจัง

แล้วหลังจากนั้นก็อย่างที่รู้ เจอหน้าก็อยากเข้าไปคุย แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะทักกันดีๆ ได้ ตอนเจอบิวที่อยู่ในคราบผู้ชายแมนเต็มร้อย ก็รู้สึกคุ้นๆ อยู่ แต่ไม่ได้ติดใจสงสัยมากมาย พอรู้ความจริง ก็โมโหทั้งบิวทั้งตัวเอง

ตอนแต่งหญิงก็ว่าสวยแล้ว พอบิวกลับมาเป็นผู้ชายก็ยังมองว่ายิ่งดูดีขึ้นไปอีกหลายสิบเท่า ทั้งที่ไม่เคยคิดว่าจะสนใจผู้ชายด้วยกัน แต่ดันมองผู้ชายอย่างบิวว่าโครตหล่อไปแล้ว

เวลาโดนแกล้งมันไม่พอใจ ไม่รู้ว่าทำไมถึงคุยกันดีๆ ไม่ได้ ทำไมบิวต้องแกล้ง ต้องทำให้โมโห ทำให้อับอาย ทำให้กลัว...แถมยังชอบทำให้ใจเต้นแปลกๆ

เรื่องเงินพนันก็อยากได้อยู่ แต่ได้อยู่ใกล้บิวมันดีใจยิ่งกว่า แม้จะรู้ว่าบิวไม่มีทางชอบผู้ชายด้วยกัน เพราะยืนยันหนักแน่นขนาดนั้นแล้ว แต่ก็อยากอยู่ใกล้ๆ อยากพูดคุยกันดีๆ เหมือนอย่างตอนนี้ที่เป็นอยู่

แค่เพื่อนก็ได้

แต่...พอโป้งโผล่มา มันก็หวั่นใจ กลัวว่าโป้งจะจีบบิวจริงจัง แล้วถ้าเกิดบิวเปลี่ยนใจไปชอบโป้งขึ้นมา จะทำยังไง

ไม่หรอก บิวไม่มีทางชอบผู้ชาย

ยิ่งคิดแบบนั้น ก็ยิ่งเหมือนตอกย้ำตัวเองเข้าไปอีก

แล้วน้ำตามันก็ยิ่งไหล

“เฮ้ย...เจ็บมากเลยเหรอวะ ร้องไห้ใหญ่แล้วอ่ะ ทำไงดีวะ” เพื่อนๆ พากันตกอกตกใจ เพราะแม้เลือดจะหยุดไหล แต่เฟรนก็ยังร้องไห้อยู่อย่างนั้น

“ขอทางหน่อยดิ” เสียงคุ้นหูดังขึ้น เฟรนพยายามจะมองหน้าคนที่ก้มลงมาหา แต่ดวงตาก็ยังพร่าเบลอเพราะน้ำตา ในหัวอื้ออึงคล้ายคนจะเป็นลม รู้สึกแค่ร่างกายถูกยกลอยหวือเหมือนเป็นตุ๊กตาตัวหนึ่ง

“เดี๋ยวผมพาไปห้องพยาบาลเอง ซ้อมกันต่อเหอะ” เสียงหัวใจที่เต้นอยู่ข้างหูตอนนี้ทำให้สงบลงอย่างประหลาด เฟรนค่อยๆ หลับตาลง เอียงแก้มซบกับอกข้างซ้ายของคนที่อุ้มตนเองอยู่

ความเจ็บปวด...ทุเลาลงแล้ว

บิวอุ้มเฟรนไปที่รถ (บิวมีมอเตอร์ไซค์สีแดงของตัวเอง แต่ไม่ได้ใช้ในช่วงที่พนันเรื่องแต่งหญิงกับโป้ง เพราะเอารถของโป้งมาใช้แทน) ไม่ได้ไปห้องพยาบาลอย่างที่ว่า “นั่งดีๆ นะ ไหวป่ะเนี่ย” ถามไปก็เท่านั้น เพราะเฟรนไม่ยอมตอบอะไรเลยตั้งแต่อุ้มมา

ในเมื่อยังเงียบและนิ่งเป็นตุ๊กตาอย่างนี้ บิวก็เลยต้องจับให้เฟรนนั่งข้างหน้า และตัวเองซ้อนอยู่ข้างหลังแทน เพื่อจะได้คอยกอดไว้ ไม่ให้คนตัวเล็กตกรถ

“เป็นอะไรวะ เจ็บมากเลยเหรอ” บิวเกยคางบนไหล่เล็ก ขี่รถไปเรื่อยๆ อย่างเชื่องช้าราวเต่าคลาน “มึงนี่น้า คราวก่อนก็ขาแพลง นี่เหม่อจนลูกบาสกระแทกหน้าอีก คราวหน้าจะโดนอะไรอีกมั้ยวะ” บิวเอ่ยติดตลก อยากให้บรรยากาศมันผ่อนคลายลง

แต่เฟรนก็ยังนิ่งเงียบ น้ำตาไม่ได้ไหลแล้ว แต่จมูกกับตายังแดงก่ำ

******

บิวพาเฟรนไปส่งถึงห้อง แกะข้าวกล่องที่แวะซื้อมาจากร้านหน้าหอ พร้อมเปิดขวดน้ำอัดลมให้เสร็จสรรพ

“เอ้า กินๆ เว้ย จะได้โตๆ” บิวนั่งลงกับพื้น เพราะโต๊ะที่ใช้กินข้าวเป็นโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ยๆ เฟรนนั่งลงอีกฝั่ง หยิบช้อนส้อมเตรียมกิน บรรยากาศระหว่างสองคนเหมือนจะดีขึ้นเล็กน้อย ด้วยความขี้เล่นและช่างเจรจาของบิว

“เลิกพูดเหมือนกูเป็นเด็กได้ป่ะ แค่เรื่องส่วนสูงก็เป็นปมจะแย่ละ”

“กูไม่ได้จะล้อเลียนสักหน่อย แค่พูดไปตามเรื่อง เออน่า กินเหอะ อย่านอยบ่อย เดี๋ยวโบกให้เลยนี่” บิวถลึงตาใส่ ก่อนจะลงมือกินข้าวผัดกุ้งในกล่องของตัวเอง ส่วนของเฟรนเป็นกะเพราหมูสับของโปรด บิวจำได้ก็เลยสั่งมาให้

“ไม่มีใครเห็นสักหน่อย ไม่ต้องทำดีกับกูขนาดนี้ก็ได้” เฟรนเขี่ยๆ กะเพราในกล่องออก ไม่ยอมมองหน้าบิวตอนที่พูดอย่างนั้น แต่บิวมองอยู่ทุกการกระทำของเฟรน

“ทำไม? ไม่ชอบ? อยากให้กูร้าย?”

เฟรนหน้ามุ่ย เงยหน้ามองบิวแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินข้าว ท่าทางเหมือนงอนๆ แปลกๆ ทำให้บิวอมยิ้ม “เปล่า แค่ไม่ชอบให้ดีเกินไป”

“จะได้เอาไว้เป็นสาเหตุบอกเลิกกูทีหลังไง ไม่ดีเหรอ”

“มึงพูดเหมือนกูชอบคนเลวงั้นแหละ ไอ้สัส...” พอเงยหน้าด่า ก็ต้องชะงักกับรอยยิ้มหวานๆ ของบิวและสายตาที่มองมาอย่างมีเลศนัย ต่อให้โง่แค่ไหนก็ดูออก ว่าบิวจงใจแกล้งให้เขิน “ไม่ต้องทำตาเยิ้มงั้นเลย”

“ไมอ่ะ กูหล่อเกินไป?” บิวยักคิ้วใส่ หน้าตากวนประสาทได้โล่

“หลงตัวเอง” เฟรนยู่ปากอย่างขัดใจ

บิวหัวเราะ ตักข้าวกินต่อและไม่ได้คุยอะไรกันอีก

******

โป้งยังนั่งอยู่ที่เดิม ตั้งแต่ที่บิวอุ้มเฟรนออกไปจากโรงยิม ไม่สิ ตั้งแต่ที่บิวสะบัดแขนออกสุดแรงจนโป้งถึงกับหงายหลังกระแทกกับแสตนด์ เพื่อจะไปหาเฟรน

เพราะเฟรนร้องไห้ บิวเลยยิ่งร้อนรน อย่างเห็นได้ชัด

ถ้าคนที่ร้องไห้อยู่ตรงนั้นเป็นโป้งบ้าง บิวจะทำเหมือนกันมั้ย

ไม่มีทางหรอก

บิวมันจะอุ้มเราไหวได้ไง โป้งคิดแล้วก็หัวเราะเยาะตัวเองเหมือนคนบ้า

มือใครบางคนแตะลงบนบ่า โป้งเงยหน้ามอง เพราะตอนนี้เขานั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นโรงยิม

“กลับเหอะ” โอตบบ่าเบาๆ สองสามที เรียกสติเพื่อนให้กลับมา “ไปรถกู”

โป้งไม่ได้ตอบ แค่พยักหน้าแล้วจับมือของโอที่ยื่นมาให้ ลุกขึ้นตามแรงฉุดของเพื่อนซี้ที่คบกันมายาวนานกว่าใคร และรู้ใจดียิ่งกว่าใคร

ภายในรถมีเพียงเสียงแอร์และเสียงเครื่องยนต์เบาๆ โอขับรถช้ามาก จนโป้งนึกอยากจะด่า แต่ไม่มีกะจิตกะใจจะทำแบบนั้น

“ขับวนไปมาทำเหี้ยอะไร” สุดท้ายก็ทนไม่ไหว โพล่งออกมาจนได้ ก็ไอ้เพื่อนซี้ตัวดีเล่นขับรถวนอยู่บนถนนนานสองนาน ไม่เลี้ยวไปทางหอพักสักที

“มีอะไรจะพูดมั้ย”

“พูดเหี้ยไรของมึง กลับหอ!”

เอี๊ยดดด

เสียงรถเบรกลั่นเข้าข้างทาง ดีที่โป้งคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ ไม่งั้นคงได้หัวโขกคอนโซลตายคาที่ พอหันไปมองไอ้คนขับตัวดีอย่างเอาเรื่อง พลันต้องเบิกตาโพลง เมื่อสารถีส่วนตัวเสือกปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยของตัวเองตอนไหนไม่รู้ ถึงได้เขยิบมาจนหน้าชนกันขนาดนี้

โป้งตกใจถอยหนีทันที แต่ไม่ไวพอ มือหนาๆ ของโอคว้าคางไว้แน่น ริมฝีปากอุ่นๆ แนบลงมาจนขนลุกชัน

“อื้อ!” โป้งหลับตาปี๋ เมื่อถูกลิ้นร้อนๆ เลียที่ปาก เกิดมาจนอายุ 18 ไม่เคยจูบใครหรือถูกใครจูบมาก่อนในชีวิต ได้แต่นั่งตัวเกร็ง ไม่กล้าแม้แต่จะต่อต้านขัดขืน

“วิธีรุกที่ถูกต้อง มันต้องแบบนี้” โอละริมฝีปากออกพลางเลียปากตัวเอง ส่วนโป้งตัวแข็งแทบจะเป็นหิน

“มะ...มึง มึง ทำเหี้ยอะไร” สีแดงเริ่มลามตั้งแต่คอขึ้นไปจนถึงหน้าผาก

“สอนมึงไง จะจีบใครก็ต้องหัดรุกให้เป็น ไม่ใช่ทำตัวเหมือนเด็กประถม คอยหาเรื่องให้มันหัวเสียเล่น เห็นแล้วรำคาญว่ะ ทนไม่ได้จริงๆ” โอแสยะยิ้ม เป็นรอยยิ้มแบบที่โป้งไม่เคยมาก่อน เอ๊ะ หรือว่าเคย แต่ไม่ได้สนใจวะ? เออ ช่างแม่ง ตอนนี้คือ...

โครตอายยยยย

โป้งแทบจะเอาหัวมุดเสื้อตัวเอง แต่มันมุดไม่ได้ไง เลยหดคองอเข่ากอดตัวเองอยู่บนเบาะรถ โอหัวเราะเบาๆ แล้วค่อยขับรถต่อ ถึงเวลาพากลับหอจริงๆ เสียที


ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.5 13/3/18
«ตอบ #21 เมื่อ13-03-2018 23:31:47 »

งวดนี้เฮียบิวหัวแหลมดี สุมหัวกับเฟรนหลอกกินเงินนังโป้ง หวังว่าคงไม่ตลบหลังกินตับเฟรนนะ  o17
จะเหลือเหรอ อิๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.6 13/3/18
«ตอบ #22 เมื่อ14-03-2018 00:54:26 »

โอ้โห  ว้าว.....   ไหน ๆ เฮียโอก็สอนรุกโป้งแล้ว ก็รุกจริงๆ ไปเลยแล้วกัน นางน่าจะสอนง่ายเนอะ  :katai3:

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.7 14/3/18
«ตอบ #23 เมื่อ14-03-2018 14:33:32 »

บิวเริ่มหื่น...น้องเฟรนตกอยู่ในอันตรายแว้ววว



7

โป้งยังนั่งกอดเข่าท่าเดียวกับตอนอยู่ในรถ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาอยู่บนเตียงแทนแล้ว

 

ห้องพักของหอนี้ค่อนข้างใหญ่กว่าหออื่น เพราะหนึ่งห้องใหญ่ แบ่งเป็นสองห้อง มีโซนตรงกลางสำหรับนั่งเล่นและทำครัว ซึ่งโป้งกับโอแชร์อยู่ด้วยกัน

 

แกร๊ก!

 

โป้งสะดุ้งโหยง หันควับไปมองประตูแล้วรีบถอยกรูดไปชิดขอบเตียงอีกฝั่ง กอดเข่ามองโอที่เดินเข้ามาอย่างหวาดๆ

 

“เป็นเหี้ยไร? กูไม่ใช่ผี ยืมเลคเชอร์จารย์เสกหน่อยดิวะ” โป้งมองตามมือหนาๆ ที่ยื่นมาตรงหน้า เหลือบสายตาขึ้นมองโอ

 

ใจโครตสั่น

 

“ยะ อยู่บนโต๊ะ” โป้งพยักเพยิดไปทางโต๊ะคอมฯ ที่อยู่ข้างประตู โอเลยหันหลังเดินไปหยิบเอง แต่ก่อนจะออกจากห้องนั้น ก็หันไปยักยิ้มกวนๆ ใส่เพื่อนที่นั่งขดตัวเกร็งไม่เลิกรา

 

“เวลามึงกลัวตัวสั่น ก็น่ารักดีนะ” โอหัวเราะแล้วรีบชิ่งหนีออกจากห้อง ก่อนที่โป้งจะเขวี้ยงนาฬิกาปลุกตรงหัวเตียงใส่หน้าด้วยความโมโห

 

“กูไม่ได้กลัว! ไอ้เชี่ยโอ!!!”

 

******

 

โอเคยบอกว่าเป็นไบ โป้งจำได้ เหมือนจะบอกแค่ครั้งเดียวตอนม.3 แล้วก็ไม่เคยพูดถึงอีกเลย ตอนม.ปลาย เห็นตามจีบน้องน้ำ เพื่อนสนิทของไอ้บิว แต่น้องน้ำมีแฟนแล้วก็เลยแห้วแดกไปตามระเบียบ หลังจากนั้นมา ก็เห็นโอควงผู้หญิงบ้าง ผู้ชายบ้าง แต่ไม่ได้คบใครจริงจัง

 

แม้จะถูกเลียปาก แล้วก็เหมือนจะจูบนิดหน่อย แต่โป้งยังไม่อยากนับว่านั่นคือจูบแรก

 

จูบแรก ถ้าต้องเสียให้เพื่อนสนิทตัวเอง แม่งโครตเฟลสุดๆ ในชีวิต!!!

 

“ฮือออ ไอ้เหี้ยโอ! สารเลว! เอาความบริสุทธิ์ของปากกูคืนมา!!!”

 

แต่จะร้องโวยวายแค่ไหน ไอ้ที่เสียไปแล้ว ยังไงก็เรียกกลับคืนมาไม่ได้หรอก เรื่องนั้นโป้งก็รู้ดี...

 

******

 

เอ็มกับน้องน้ำเดินลงมาใต้ตึก ก็เห็นบิวกับเฟรนเหมือนเช่นทุกวัน แต่วันนี้บรรยากาศดูแปลกกว่าเดิมนิดหน่อย สองคนไม่ทะเลาะตบตีกัน (หลอกๆ) แล้ว แต่ดูยิ่งสนิทกันแนบแน่นจนน่าสงสัย

 

“ดูๆ ไป มันก็สมกันดีนะกูว่า” น้องน้ำอมยิ้ม มองดูบิวที่สวมหมวกกันน็อคให้เฟรน เฟรนก็ดูขัดๆ เขินๆ ยืนนิ่งตัวเกร็ง แก้มแดงระเรื่อ ดูไกลๆ ยังเห็น

 

“แต่ไอ้บิวมันแค่จะเอาเงินป่ะวะ เรื่องแสดงเก่งยกให้แม่งเลย ได้เรื่องมาหลายทีแล้วนี่ มึงก็รู้” เอ็มส่ายหน้า โยนหมวกกันน็อคส่งให้น้องน้ำ ปกติสองคนจะไปเรียนด้วยกัน เพราะเอ็มมีมอเตอร์ไซค์

 

เรื่องที่เอ็มพูดมามันก็จริง เวลาบิวกับโป้งเล่นพนันกัน เป็นต้องได้เรื่อง ทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วยตลอด ตั้งแต่พวกมันรู้จักกันตอนม.4 แล้ว แรกๆ ก็พนันกันเรื่องจีบสาว สุดท้ายก็แห้วแดกทั้งคู่ เพราะความแตก น้องน้ำจำได้แม่นว่าตอนนั้นหัวเราะเยาะพวกมันอย่างสะใจ ไอ้พวกชอบเล่นกับความรู้สึกคนอื่น โดนผู้หญิงตบ หน้าชากันมายังไม่พอ มันยังสรรหาเรื่องพิเรนๆ มาเล่นกันได้อีก

 

แต่ครั้งนี้น้องน้ำกับเอ็มดูจะเข้าใจผิดไปนิดหน่อย เพราะไม่รู้เรื่องที่บิวไปตกลงทำสัญญาหารเงินพนันกับเฟรนไว้

 

บิวพาเฟรนไปกินข้าวเช้าด้วยกันที่ประจำ ภาพของสองคนที่นั่งกินข้าวข้างๆ กันกระหนุงกระหนิงกลายเป็นภาพที่ชินตาหลายๆ คนไปแล้ว

 

“เรื่องแอลเป็นไงมั่ง” จู่ๆ เฟรนก็ถามถึงผู้หญิงที่บิวเคยบอกว่าจะส่งเอ็มไปคอยกันท่าชายอื่น ซึ่งบิวก็ทำแบบนั้นอยู่จริงๆ โดยให้เอ็มคอยจับตาดูแอล ส่งน้ำส่งขนมและดอกไม้ไปให้เจ้าหล่อนทุกวัน

 

“ก็เรื่อยๆ ว่ะ จบภารกิจกับมึงเมื่อไหร่ กูจะรุกหนักๆ ให้แอลหลงกูหัวปักหัวปำเลย มึงคอยดู” บิวว่าพลางตักกับข้าวแบ่งให้เฟรนเหมือนทุกที

 

เฟรนก้มหน้ามองกุ้งที่บิวแบ่งให้ เอาเปลือกส่วนหัวส่วนหางออกให้เรียบร้อยแล้วด้วย ขนาดแค่เล่นๆ ยังดูแลดีขนาดนี้ ถ้าคนอย่างบิวคิดจะจริงจังจีบใครสักคน ยังไงก็สำเร็จ ผู้หญิงคนนั้นโชคดีมากที่จะได้ผู้ชายคนนี้ไป

 

พอคิดแบบนั้น ใจมันก็โหวงๆ อีก

 

“เป็นอะไร หน้าหงอยเชียว ไม่สบายเหรอ” บิวสังเกตเห็นสีหน้าของเฟรนเข้าพอดี มือแกร่งโอบข้ามไหล่วกมาจับคางของคนตัวเล็กให้เงยหน้าหันมาหา ท่าทางเหมือนจะจูบกัน ทำเอาสาวๆ แถวนั้นกรี้ดลั่นตามเคย

 

เฟรนสะดุ้งตอนที่ได้ยินเสียงกรี้ด รีบเอนตัวถอยหนี แต่บิวก็ขยับตามเอาหน้าผากมาแตะที่หน้าผากของเฟรน เพื่อจะวัดไข้

 

“อย่า...” เฟรนร้องห้ามพลางเอามือดันอกร่างสูง แก้มใสแดงก่ำเหมือนมะเขือเทศฉ่ำน้ำ

 

“อายอะไรเล่า แค่วัดไข้ ตัวไม่ร้อนนี่” บิวผละออกมานั่งตามปกติ

 

“บ้านมึงวัดไข้กันแบบนี้เหรอ...แค่เอาหลังมือแตะก็พอป่ะ” เฟรนกัดปากนิดๆ หน้ายังร้อนผ่าวๆ

 

“อ้าว? เดี๋ยวไม่ได้โมเม้นท์เว้ย มึงดูดิ สาวๆ ถ่ายรูปกันใหญ่เลย ได้ภาพสวยแน่ ไอ้โป้งมันจะได้เห็นไง ว่ากูกับมึงโครตจะรักกัน” คนทะเล้นยิ้มกริ่มอย่างไม่คิดมาก แค่สนุกกับการตกเป็นข่าว เพื่อเงินเดิมพัน

 

อดคิดไม่ได้จริงๆ ว่าหลังจากชนะพนันแล้ว ตอนที่ต้องบอกเลิกกัน จะยังคบกันเป็นเพื่อนเหมือนเดิมได้อีกมั้ย

 

ที่คบกันอยู่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อย ทำไมตอนเลิกกันจะกลับมาเป็นเพื่อนไม่ได้ล่ะ

 

เฟรนถอนหายใจเบาๆ

 

ไม่ว่ายังไงก็ต้องเดินตามเกมต่อไป จนกว่าทุกอย่างจะสิ้นสุด

 

พอกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ก็คงต้องทำใจกับความเปลี่ยนแปลงของบิว

 

******

 

วันนี้เฟรนเลิกเรียนเร็ว เพราะอาจารย์คาบบ่ายยกเลิกคลาสกะทันหัน ก็เลยส่งข้อความไปบอกบิว ไม่รู้จะบอกทำไมเหมือนกัน แต่ก็อยากบอก

 

“ไปไหนดีวะ ว่างอ่ะ” นนท์ที่เดินตามหลังมา โผเข้ากอดคอเพื่อน เฟรนหันไปมอง ก่อนจะรีบเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง “อะไร? แหมๆ ส่งไปบอกสามีเหรอจ๊ะ”

 

“สามีเชี่ยไรล่ะ” เฟรนขมวดคิ้วเหมือนไม่พอใจ แต่แก้มก็ขึ้นสีชมพูจางๆ ด้วยความเขิน


“แน่ะๆ ทำเป็นกั๊ก ใครๆ ก็รู้ว่ามึงกับมันเป็นอะไรกันป่ะวะ” นนท์หัวเราะร่า ไม่มีใครรู้เรื่องที่บิวกับเฟรนตกลงกันไว้ และการที่ทุกคนจะมองว่าทั้งคู่เป็นแฟนกันจริงๆ ก็ไม่แปลก

 

“เป็นก็ดี” เฟรนตอบเสียงเบาหวิว

 

“ว่าไรนะ?” นนท์ก้มลงจะฟังให้ถนัดถนี่ แต่เฟรนก็ส่ายหน้าว่าไม่มีอะไร พอดีกับเสียงไลน์ที่ดังเข้ามา เฟรนรีบเปิดดู

 

สุดหล่อของน้องเฟรน (บิวเอามือถือเฟรนไปเมมชื่อใหม่): กูมีเรียนถึงบ่ายสาม รอไหวป่ะ

F.T.: รอที่หอสมุดนะ

สุดหล่อของน้องเฟรน: ชอบจังนะ ห้องสมุดเนี่ย

F.T.: ยุ่ง

สุดหล่อของน้องเฟรน: รอนะ จะรีบไปรับ

 

“แน่ะๆ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยว่ะเพื่อนกู ท่าจะเป็นเอามาก ตอนแรกนี่เกลียดขี้หน้ากันจะเป็นจะตาย” สนเอ่ยแซว หันไปยักคิ้วกับนนท์อย่างรู้กัน

 

“ไม่ได้ยิ้ม!” เฟรนโวยวายกลบเกลื่อน พยายามจะทำหน้าบึ้ง แต่ก็หลุดอมยิ้มอยู่ดี เลยโดนเพื่อนๆ แซวไปอีก

 

เฟรนให้สนขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งที่หอสมุดและนั่งอ่านหนังสือรอบิวอยู่ที่นั่นจนถึงบ่ายสามโมง มีเผลอหลับบ้างเป็นพักๆ เพราะแอร์มันเย็นสบาย

 

“เฮ้ย...”

 

เฟรนที่กำลังนอนฟุบหน้ากับแขนตัวเองบนโต๊ะกึ่งหลับกึ่งตื่นเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียกและแรงเคาะเบาๆ แถวไหล่ จากสันแฟ้มที่คนปลุกถืออยู่

 

“ให้อุ้มไปมั้ย หึหึ” บิวหัวเราะในคอ มองเฟรนที่สลึมสลือปรือตามอง

 

“ตลก” เฟรนหน้างอ

 

“หน้าเป็นรอยเลย” มืออุ่นๆ แตะลงมาที่แก้ม ซึ่งมีรอยจากการกดทับขึ้นเป็นริ้ว เฟรนสะดุ้งโหยง รีบเอียงคอหลบแล้วลุกขึ้นคว้ากระเป๋ามาสะพาย

 

“มา ถือให้” บิวยังคงทำหน้าที่แฟน (ปลอมๆ) ที่ดี ด้วยการดึงเป้จากไหล่ของคนตัวเล็กมาถือ เฟรนไม่ได้ว่าอะไร เดินตามบิวไปขึ้นรถที่จอดรออยู่นอกหอสมุดอย่างเงียบๆ

 

******

 

“คืนนี้พวกไอ้เอ็มนัดกันที่ Bordeaux (บอร์โดซ์) ไปมั้ย” พอมาถึงหอพัก บิวก็เอ่ยชวน วันนี้วันศุกร์พอดีด้วย

 

“คนชื่อโป้งไปด้วยป่ะ” เฟรนนิ่งคิดแล้วก็ถามออกมา ทุกทีไม่เคยชวน แสดงว่าต้องทำเพื่ออะไรสักอย่าง และมันก็เป็นตามคาด

 

“อยู่แล้ว กูถึงได้ชวนมึงไง มันจะได้เห็นว่าแฟนกูน่ารักขนาดไหน” บิวยักคิ้วให้

 

พูดออกมาเต็มปากว่า “แฟน” ทั้งที่ตัวเองก็กำลังจีบผู้หญิงอีกคนอยู่

 

เฟรนถอนหายใจเบาๆ “เออ ไปก็ไป”

 

“งั้นสองทุ่ม เจอกันตรงนี้นะครับน้องหนู จุ๊บ”

 

เฟรนสะดุ้งเฮือก เมื่อจู่ๆ ก็โดนขโมยจุ๊บแก้มแบบไม่ทันตั้งตัว มือเล็กยกขึ้นถูแก้มตัวเองแรงๆ อีกมือก็ทุบไหล่บิว “ไอ้เหี้ยบิว! ทำไรเนี่ย!”

 

“นิดหน่อยน่า จะได้สมจริง ไปล่ะ สองทุ่มนะ ห้ามเบี้ยว!” บิวยิ้มหวานวิ่งเข้าไปในตึก โบกไม้โบกมือให้อย่างอารมณ์ดี ส่วนเฟรนได้แต่ยืนหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจ ที่ถูกทำให้หัวใจเต้นแรงอีกแล้ว

 

******

 

ในผับมืดสลัว เสียงเพลงดังกระหึ่ม มีทั้งนักศึกษาที่อยู่ในคราบนักท่องราตรีและวัยทำงานหลายคนกำลังพูดคุยและเต้นกันอย่างสนุกสนาน พวกบิวเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนักศึกษาที่เปลี่ยนชุดมาพร้อมรบสำหรับคืนนี้

 

“วันนี้กูพาแฟนมาเปิดตัวเว้ย!” บิวส่งเสียงดังกลบเสียงเพลง เพื่อนๆ หันมองกันเป็นตาเดียว น้องน้ำกับเอ็มหันมองหน้ากันอีกทีพลางกลืนน้ำลายดังเอื๊อก

 

“เอาจริงดิไอ้บิว?” น้องน้ำเหลือบมองคนที่อยู่ข้างหลังบิว

 

“จริงสิวะ! มาเฟรน มาทักทายเพื่อนๆ บิวหน่อยครับ” บิวตกลงกับเฟรนไว้แล้วว่าระหว่างเล่นเป็นแฟนกัน จะเรียกชื่อตัวเองกับอีกฝ่าย ไม่ใช้กูมึง เพื่อจะได้ดูรักกันจริงจัง

 

“สวัสดี” เฟรนยิ้มนิดๆ ให้ทุกคน ยกเว้นโป้งที่นั่งหน้าเป็นยักษ์มารน่ากลัวอยู่คนเดียว

 

“ไงมึง แสนนึงพร้อมมั้ยวะ” โอแกล้งก้มลงกระซิบข้างหูโป้งพร้อมรอยยิ้มเยาะนิดๆ ที่มุมปาก ทำเอาโป้งหน้าม้าน ต่อยไหล่เพื่อนตัวดีไปทีหนึ่ง เรื่องเสียเงินไม่เท่าไหร่ แค่ขอป๊าโอนให้จึ๊กเดียวก็จบ อาศัยว่าเป็นบ้านคนจีน ลูกชายคนโตอยากได้อะไร ป๊ากับม๊าของโป้งไม่เคยอิดออด แค่ออกปากก็ได้ทันที แต่เรื่องเสียหน้า นี่แหละที่โครตจะไม่ชอบใจ

 

โป้งลุกขึ้น ยืนประจันหน้ากับบิวและเฟรน เหล่มองเฟรนที่แค่เหลือบตาขึ้นมองตนผ่านๆ เหมือนไม่ค่อยอยากญาติดีด้วยเท่าไหร่แล้วโป้งก็แค่นยิ้ม

 

“จะให้กูเชื่อเหรอ ว่าพวกมึงเป็นแฟนกันจริง?”

 

“อย่าเรื่องเยอะว่ะ ไอ้โป้ง ก็เห็นๆ อยู่ว่ากูกับมันรักกันแค่ไหน ดูๆๆ” บิวยกมือข้างที่จับมือเฟรนชูขึ้นให้เห็นเต็มๆ ตา

 

“ก็แค่จับมือป่ะ” โป้งเลิกคิ้ว “แน่จริงดูดปากให้กูดูดิ”

 

“เฮ้ย...” บิวอุทานเบาๆ พลางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “แต่คนเยอะนะมึง อุจาดตาไปเปล่า”

 

“ไม่มีใครสนใจหรอกน่า เดี๋ยวกูยืนบังให้ พวกมึงนั่งที่โซฟา จูบแบบดูดดื่มแลกลิ้นให้กูดูที” โป้งยิ้มเยาะ บิวเหงื่อตก ส่วนเฟรนก็กระตุกชายเสื้อบิวเป็นเชิงว่าไม่เอานะเว้ย

 

บิวชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับคำท้า “ได้ กูจะทำให้ดู”

 

“ไอ้บิว!” เฟรนตาโต ดึงชายเสื้อบิวอย่างแรง “กูไม่เอานะ”

 

บิวเหล่มองโป้ง ก่อนจะกระซิบข้างหูเฟรนให้พอได้ยินกันแค่สองคน “หลับหูหลับตาทำไป ครั้งเดียวจบเลย”

 

“แต่...” เฟรนใจเต้นรัว ต้องจูบกับบิวแล้วจะให้ทนไหวได้ยังไง ต้องแย่แน่ๆ บิวต้องรู้ตัวแน่ๆ

 

ไม่อยากให้รู้ ไม่อยากเสียตำแหน่งความเป็นเพื่อนตรงนี้ไป

 

“ต้องเล่นใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอวะไอ้โป้ง” เอ็มขัดขึ้น

 

“ถ้าพวกมันเล่นตุกติก กูก็เสียเงินฟรีสิ” โป้งว่าพลางจ้องตาบิวนิ่งๆ บิวกัดฟันกรอด

 

“เออ ตามนั้นแหละ เดี๋ยวทำให้ดู พวกมึงบังไว้แล้วกัน กูไม่อยากให้แฟนกูอายคน” บิวกำมือของเฟรนแน่น ต่างคนต่างรู้สึกถึงเหงื่อที่ชื้นบนฝ่ามือ

 

ถึงจะไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตน แต่ก็เคยจูบมาบ้าง บิวเลยไม่ได้ตื่นเต้นมากเท่าอีกคน แค่รู้สึกแปลกๆ ที่จะต้องจูบผู้ชายด้วยกัน แถมผู้ชายคนนั้นเป็นไอ้ตัวเล็กที่มองว่าน่ารักอยู่ช่วงนี้อีก

 

กลัวอดใจไม่ไหว?

 

เฮ้ย! บ้าแล้วไอ้บิว นี่มันผู้ชายๆๆๆ จะน่ารักยังไงก็ผู้ชายเว้ย! มันก็แค่ตัวเล็ก หน้าตาจิ้มลิ้มแค่นั้นเอง ไม่ได้มีตรงไหนเหมือนผู้หญิงเลยสักนิด บิวพยายามบอกตัวเองในใจ ที่ตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะต้องจูบต่อหน้าคนอื่นต่างหากล่ะ!

 

“เอาจริงเหรอบิว?” เฟรนหน้าซีดเหงื่อซึม พอนั่งลงบนโซฟา บิวก็พับเข่าข้างหนึ่งขึ้นขยับตัวโน้มมาหาใกล้ๆ พยายามเอาตัวบังร่างเล็กไว้

 

“แค่อึดใจเดียว กลั้นใจทำๆ ไป” บิวพยักหน้านิดๆ ตามองที่ริมฝีปากสีอ่อนของเฟรน ไอ้ที่พูดนั่นคล้ายจะพูดกับตัวเองเสียมากกว่า เฟรนกำอกเสื้อของบิวไว้แน่น มือสั่นกึกๆ และบิวก็รู้สึกได้ เลยกุมมือสองข้างนั้นไว้ด้วยมือเดียวของตัวเอง ก่อนจะเอียงหน้าลงให้ได้องศาพอดีกับการประกบปาก เฟรนสะดุ้งเฮือกรีบหลับตาลง เมื่อบิวแตะริมฝีปากทาบลงมา

 

“ทนดูไม่ได้...” น้องน้ำเอามือปิดหน้าปิดตาด้วยความเขินอาย แต่ก็ยังแอบมองผ่านช่องระหว่างนิ้วอยู่ดี

 

“แลกลิ้นด้วย” เสียงโอดังขึ้น โป้งหันไปจ้องหน้าโอตาเขม็ง โอก็แค่ยักไหล่ยิ้มนิดๆ

 

“อือ...” มือเล็กๆ ที่บิวรวบไว้สั่นยิ่งกว่าเมื่อครู่จนบิวต้องบีบเบาๆ ให้ผ่อนคลาย ร่างสูงโถมตัวทิ้งน้ำหนักลงกดริมฝีปากแรงขึ้นจนแทบกลายเป็นบดขยี้ ก่อนที่จะส่งเรียวลิ้นร้อนระอุเข้าไปภายในนั้น เฟรนเบิกตาโพลง หดลิ้นเล็กๆ หนี แต่ลิ้นของร่างสูงก็ตามไปโลมเลีย เสียงดูดดังจ๊วบ โป้งกำมือแน่นจนขึ้นข้อขาว กัดฟันกรอดๆ ด้วยความเจ็บใจ

 

“เฮ้ย พอๆ” เอ็มคว้าไหล่ของบิวให้ปล่อยเฟรนได้แล้ว เพราะแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเฟรนยอมเป็นแฟนด้วยจริงๆ และเอ็มไม่อยากให้เฟรนต้องเจ็บไปมากกว่านี้ หากว่ารู้ความจริงเรื่องที่พนันกันไว้

 

แต่บิวกลับสะบัดไหล่ออกจากมือของเอ็ม ทุกคนตะลึงงัน เพราะดูเหมือนบิวจะจุดติดจนฉุดไม่อยู่แล้ว

 

“เวรกรรมล่ะมึง” น้องน้ำตบหน้าผากตัวเองเบาๆ รีบชิ่งหนีไปทางอื่น โอดึงแขนโป้งให้ออกจากตรงนั้น เพราะถ้าอยู่นานกว่านี้ โป้งคงคลุ้มคลั่งแน่ ส่วนเอ็มก็นั่งหันหลังให้แล้ว

 

เสียงครางแผ่วๆ ในคอของร่างเล็กเป็นตัวกระตุ้นให้บิวหน้ามืด เฟรนน้ำตาเล็ด รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง แต่บิวยังจูบไม่ปล่อย ลิ้นร้อนสากดึงดันหยอกล้อกับลิ้นเล็กๆ โลมเลียไปทั่วโพรงปาก ทั้งฟันบนฟันล่างและเพดานปาก น้ำลายยืดย้อยติดคางเล็ก

 

“อือ...” เฟรนพยายามกระตุกแขนออกจากมือใหญ่ แต่ก็ทำไม่ได้สักที “หะ...หายใจ...” พอบิวละริมฝีปากออกมา ก็พยายามจะบอกว่าหายใจไม่ออกแล้ว แต่ก็เอ่ยได้แค่คำสองคำ ก่อนจะถูกปิดปากแนบสนิทอีกครั้งอย่างเร่าร้อน

 

มันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบ

 

“จะต่อกันก็กลับห้องนะพวกมึง ตรงนี้คนเยอะเกิน” เอ็มที่ยังนั่งหันหลังบังไว้ให้พูดเสียงดังพอให้ได้ยิน เฟรนชะงักกึก ดิ้นรนสุดชีวิตให้บิวได้สติ

 

“บะ...อื้อ” โดนจูบซ้ำๆ อีกแล้ว ไอ้ลิ้นนี่ก็ตามวอแวไม่เลิกรา เฟรนหลับตาปี๋ หัวใจเต้นรัว แม้จะเคลิ้มคล้อย แต่สติก็ยังมีมากกว่าบิว “พอ...” มือข้างหนึ่งหลุดจากการเกาะกุม เฟรนผลักอกร่างสูงสุดแรงให้ออกห่างที่สุดเท่าที่ทำได้ ปลายนิ้วเผลอสะกิดไปโดนยอดอกใต้ร่มผ้าของบิวเข้า ร่างสูงตัวเกร็งผึงขึ้นมาทันที สติสตังกลับคืนสู่สัมปชัญญะ

 

“อ่ะ...” บิวผละออกมา จ้องมองร่างเล็กที่น้ำตาคลอพยายามเอามือดันอกของตัวเองไว้ ด้วยความตื่นตระหนก “ขะ ขอโทษที”

 

เหมือนเมื่อตอนนั้นอีกแล้ว

 

แต่ครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะโกรธ

 

บิวปล่อยมือออก เฟรนเลยรีบวิ่งหนีไปทันที เอ็มถอนหายใจยาว ดูท่างานนี้จะมีคนต้องเจ็บเจียนตายแน่นอน

 

“ตามไปดิ เดี๋ยวก็โดนลากไปหรอก” เอ็มโพล่งขึ้น บิวยังมึนงงกับตัวเองอยู่ แต่พอได้ยินที่พูดก็รีบวิ่งตามเฟรนออกไป

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.6 13/3/18
«ตอบ #24 เมื่อ14-03-2018 14:35:29 »

โอ้โห  ว้าว.....   ไหน ๆ เฮียโอก็สอนรุกโป้งแล้ว ก็รุกจริงๆ ไปเลยแล้วกัน นางน่าจะสอนง่ายเนอะ  :katai3:

เดี๋ยวได้สอนยาวววววแน่นอน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.7 14/3/18
«ตอบ #25 เมื่อ14-03-2018 14:44:39 »

 :a5: นังบิวววววว ทำกับเฟรนแบบนี้ได้ไง หื่นไม่ดูสถานที่เลย  :serius2:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.7 14/3/18
«ตอบ #26 เมื่อ14-03-2018 23:33:48 »

โอ้ยยเขินนน

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.7 14/3/18
«ตอบ #27 เมื่อ15-03-2018 00:01:09 »

โอ้ยสนุก อ่านรวดเดียวเลยค่ะ บิวแกชอบเฟรนไม่รู้ตัวแล้ว เด่วอีกหน่อยต้องหวงเฟรนหนักมากแน่ๆ ส่วนโป้งอีกหน่อยต้องเสร็จโอที่แอบชอบโป้งอยู่แน่ๆ จ่ายแสนนึงให้บิวด้วยนะโป้ง

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.8 15/3/18
«ตอบ #28 เมื่อ15-03-2018 12:35:35 »

ดราม่าาาาาา

8
บิววิ่งออกมาหน้าร้าน แต่ไม่เจอคนตัวเล็กที่ออกมาก่อนหน้านั้นแล้ว ระยะทางจากที่นี่ไปหอไม่ใช่ใกล้ๆ ไม่น่าจะเดินไปได้ไกล บิวเลยรีบย้อนกลับไปเอามอเตอร์ไซค์ ขับตามออกไป

เฟรนไปได้ไม่ไกลอย่างที่คิด ร่างเล็กนั่งยองๆ ก้มหน้าซบบนเข่าตัวเองอยู่ข้างทางแถวนั้น บิวส่องไฟหน้ารถไปที่ร่างนั้น ถอนหายใจอย่างโล่งอกพลางกระโดดลงจากรถ วิ่งไปหาเฟรน

“เฟรน...” บิวยื่นมือไปจับไหล่เล็กๆ ที่สั่นน้อยๆ ตอนแรกคิดว่าร้องไห้ แต่พอเฟรนเงยหน้าขึ้น ก็ไม่ได้มีน้ำตาสักหยด “กลับหอกัน”

“อือ” เฟรนจับมือที่ยื่นไปให้แล้วลุกขึ้นตามแรงฉุด เดินตามไปขึ้นรถเงียบๆ เงียบมากจนบิวรู้สึกอึดอัด

“โกรธป่ะวะ? เรื่องเมื่อกี้”

“เปล่า แค่ตกใจแล้วก็...” เฟรนหรุบตาลงมองพื้น “อาย”

บิวพยักหน้า เป็นใครก็คงอาย โดนจูบขนาดนั้นต่อหน้าคนตั้งมากมาย แม้มันจะค่อนข้างมืดและมีเพื่อนๆ ยืนบังไว้ แต่ก็ใช่จะไม่มีใครเห็นล่ะนะ

“ขอโทษด้วยแล้วกัน ที่กูทำแบบนั้น” นาทีนี้ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงดี จะบอกไม่ได้ตั้งใจมันก็ไม่ใช่ หรือจะว่าอารมณ์พาไปก็ยิ่งดูแย่กว่าเก่า มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก

แค่ตอนที่ปากสัมผัสกัน มันก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว

ราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นปราดจนขนลุกชัน เลือดในกายพลุ่งพล่าน ปากของเฟรนทั้งนิ่มและหอมหวาน จนไม่อยากจะปล่อย ที่ทำไปเพราะความต้องการส่วนตัวล้วนๆ

แต่จะให้เฟรนรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเกิดรู้แล้วรังเกียจ ไม่ยอมเป็นแฟนหลอกๆ จนจบเทอม มีหวังเขาต้องแพ้พนันกลายเป็นเมียไอ้โป้งแน่

******

โป้งทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างอ่อนล้าทั้งกายและใจ เรื่องที่ต้องแพ้พนันไม่ได้ทำให้เจ็บใจเท่าการที่บิวกล้าจูบกับผู้ชายด้วยกัน มันก็แค่การพนัน ไม่คิดว่าบิวจะเอาจริงขนาดนั้น แถมยังเอาจริงชนิดเบรกไม่อยู่ด้วย แค่นั้นก็รู้แล้วว่าบิวคิดยังไงกับไอ้เตี้ยนั่น

ยิ่งคิดยิ่งแค้นใจ

หรือเพราะตัวเขาไม่ดีเองที่เอาแต่เรียกร้องความสนใจบิวด้วยวิธีแปลกๆ น่าจะรุกจีบแบบที่โอบอกแต่แรกหรือเปล่า? แล้วตอนนี้มันจะยังทันอยู่มั้ย

“นอยแดกอีกสิ ก็บอกแล้วว่าให้ทำอะไรสักอย่างแต่แรก” โอเดินตามเข้ามาในห้อง นั่งลงข้างกัน เพราะขับรถยนต์ก็เลยมาถึงช้ากว่าเล็กน้อย ตอนที่ลากโป้งออกมาจากผับ จริงๆ จะให้กลับด้วยกัน แต่โป้งยืนยันว่าขี่มอเตอร์ไซค์ไหว

“กูก็ทำแล้วไง! แต่มึงก็เห็น ว่ามันไม่เคยคิดจะสนใจกู! ใช่สิ กูไม่ได้ตัวเล็กๆ น่ารักอย่างนั้นนี่!” โป้งโวยอย่างเหลืออด เขยิบตัวหนีโอจนชิดมุมโซฟา

“รูปลักษณ์ภายนอกก็อาจมีส่วน แต่กูว่าอยู่ที่นิสัยมึงล้วนๆ ว่ะ ฮ่าๆ” โอหัวเราะเสียงดังอย่างสะใจ เลยโดนหมอนอิงปาใส่หน้าเต็มๆ เขาคว้าหมอนที่แปะบนหน้ามากอดไว้ แล้วเขยิบไปหาโป้งที่นั่งเสียชิดติดขอบอีกข้าง โป้งทำท่าจะลุกหนี แต่โอรั้งเอวไว้ให้นั่งลงตามเดิม

“อะไร?” คิ้วเข้มขมวดฉับ มองหน้าเพื่อนที่พักนี้ชอบทำตัวแปลกๆ ใส่ แต่พอเห็นโอกดยิ้มมุมปากโน้มตัวเข้าหา ก็รีบยกแขนขึ้นบังหน้าเป็นรูปกากบาททันที

“เศษด้ายติดหน้ามึงน่ะ กูแค่จะเอาออกให้” ปลายนิ้วหยาบคีบเศษด้ายสีๆ ที่คงหลุดมาจากหมอนอิงบนแก้มซ้ายของโป้งออกให้ พร้อมชูให้ดูพลางยักคิ้วกวนอารมณ์ ก่อนจะปัดเศษด้ายที่ปลายนิ้วทิ้งไป

โป้งหน้าแดงพรึ่บ รู้สึกอับอายสุดๆ ที่เข้าใจผิดไปเสียไกลลิบ เพราะเรื่องในรถของโอคราวก่อน ทำให้ไม่ค่อยไว้ใจเพื่อนตัวเองขึ้นมา ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยระวังตัวเวลาอยู่กับโอเลยสักครั้งเดียว

“กู...เข้าห้องล่ะ” ด้วยความอับอาย โป้งรีบเด้งตัวลุกพรวด วิ่งหนีเข้าห้องตัวเองไป พยายามไม่สนใจเสียงหัวเราะของโอที่ดังไล่หลังมา

เช้าวันต่อมา

“อะไรนะป๊า!? ได้ไงอ่ะ ก็โป้งต้องใช้ด่วน! ไหนบอกว่าขาดเหลืออะไรให้บอกไง!” คุณชายผู้แสนเอาแต่ใจโวยวายใส่มือถือเสียงดัง จนคนที่ยังนอนอยู่ในห้องตื่นขึ้นมาอย่างัวเงีย โอลุกจากเตียง เดินไปเงี่ยหูฟังตรงประตู ได้ยินเสียงโป้งเอะอะอะไรแต่เช้า

สงสัยจะเรื่องเงินแสนนึงที่ตกลงกับไอ้บิวไว้ เขาคิดพลางมุ่นคิ้ว กอดอกเอนตัวพิงประตู แอบฟังต่ออีกสักนิดแล้วกัน

“ไม่ได้ดิป๊า! ก็โป้งจำเป็นมากจริงๆ” โป้งยังโวยไม่เลิก หน้าตาเริ่มบูดบึ้ง

[จำเป็นอะไรนักหนา เงินตั้งแสนนะอาโป้ง แค่หลักหมื่นป๊ายังพอหาให้ได้ แสนนึงยังไงก็ไม่ได้ ตั้งแต่ลื้อไปอยู่หอ ค่าใช้จ่ายมันเยอะแค่ไหนรู้มั้ย]

“ป๊าอ่ะ ไม่รักโป้งแล้วเหรอ” พอโวยวายไม่ได้ผล ก็ใช้ลูกอ้อนด้วยเสียงเครือเหมือนจะร้องไห้ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนป๊าของเขาจะไม่ใจอ่อนให้ง่ายๆ

[ป๊าให้ได้แค่ 50,000 อย่าใช้เงินให้มันเกินตัวนัก ยังเรียนไม่ทันจบเลยนะอาโป้ง] เพราะปล่อยปละละเลย ตามใจมามากพอแล้ว จากหลักพันเป็นหลักหมื่น ป๊าก็ยังพอทนไหว แต่นี่หลักแสน ยังไงก็ต้องสอนลูกบ้างล่ะ

“ป๊าอ่ะ...” โป้งเสียงอ่อนลงจนแทบจะเป็นเสียงคราง

โอที่แอบฟังอยู่อดอมยิ้มไม่ได้ นี่ถ้ามาอ้อนแบบนั้นข้างๆ หู จะทุ่มให้ไม่อั้นเลย

แกร๊ก

เสียงประตูเปิดออก โป้งหันขวับไปมอง พอเห็นหน้าโอ อารมณ์ที่ขุ่นมัวจากเรื่องที่โดนป๊าสวดยับ แถมยังไม่ได้เงินมาจ่ายบิว ก็ทำให้โป้งหน้าหงิกทันที

“ไง ป๊ามึงไม่ให้ล่ะสิ” โอเลิกคิ้วถามกวนๆ ก่อนจะเดินไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ สักพักก็กลับออกมา ยังเห็นโป้งนั่งหน้างอเหมือนเดิม “ขาดเท่าไหร่วะ”

“ห้าหมื่น” โป้งสะบัดเสียงตอบอย่างหงุดหงิด หันหน้าหนีไปอีกทาง เมื่อโอนั่งลงข้างๆ

“แล้วมึงจะทำไง จ่ายทีละครึ่งเหรอ ไอ้บิวจะยอมเหรอวะ”

“แล้วจะให้กูทำไง ตั้งห้าหมื่น”

“ทีนี้มึงเข็ดรึยังล่ะ ชอบพนันกันดีนัก ป๊ามึงใจดีมากแล้วนะที่ยอมให้มึงถลุงเงินเล่นขนาดนี้ เป็นพ่อกูเหรอ โดนต่อยหน้าแหกแล้ว” โอหัวเราะในคอเบาๆ โป้งส่งเสียงฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ โดนป๊าสวดแล้วยังมาโดนไอ้เพื่อนทรยศเทศน์อีก

พอเห็นโป้งเงียบไป แถมยังทำหน้าเหมือนเครียดกับชีวิตเสียเต็มประดา โอก็นึกอะไรสนุกๆ ได้

“เอางี้ กูจะจ่ายให้เอง แสนนึง”

โป้งหันไปมองหน้าโอทันที “ห๊ะ? แล้วมึงจะเอาจากไหน” เมื่อกี้ยังบอกหยกๆ ว่าพ่อโหด

“พอดีกูมีเงินเก็บจากตอนไปเวิร์คที่เมกา” พอโอว่าอย่างนั้น โป้งก็เหมือนจะนึกออกลางๆ ว่าช่วงปิดเทอมก่อนเข้ามหาลัย โอใช้เวลาว่างด้วยการสมัครไป Work & Travel เพราะอายุครบ 18 ตั้งแต่อยู่ม.6 แล้ว ต่างจากโป้งที่เพิ่งอายุ 18 ตอนเรียนมหาวิทยาลัย นั่นคือโอเรียนช้าไป 1 ปี ตอนที่โอย้ายโรงเรียนมาตอนป.5 พวกเขาเลยได้เจอกัน และกลายเป็นเพื่อนซี้กันมานับแต่นั้น

“มีถึงแสนเลยเหรอวะ” โป้งทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อเท่าไหร่ โอยิ้มบางๆ

“ช่วยงานพ่อก็ได้เงินมาบ้าง แค่แสนเดียวจิ๊บๆ กูให้มึงได้อยู่แล้ว แต่...”

ไอ้คำว่า แต่ ด้วยเสียงเน้นหนักของโอ ทำเอาโป้งสะดุ้งโหยง รู้สึกถึงลางสังหรณ์แปลกๆ และยิ่งคนตัวโตกว่าเขยิบเข้ามาใกล้ พอจะลุกหนีก็โดนขึ้นคร่อม ทำให้หนีไปไหนไม่ได้ บวกกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายที่โป้งไม่เคยเห็นมาก่อนของเพื่อนรัก ยิ่งทำให้เหงื่อไหลซึมบนหน้าผากและฝ่ามืออย่างยากจะห้าม

“มึงต้องยอมเป็นทาสกู ครึ่งปี”

“ทาส?” โป้งขมวดคิ้วด้วยความงุนงง “คนรับใช้อ่ะนะ? แบบให้คอยรับคำสั่งจากมึงอ่ะเหรอ?”

“ก็ประมาณนั้น ทำให้กูพอใจ แล้วกูจะยกเงินแสนนึงให้มึงฟรีๆ ถือว่าพนันกัน ว่ามึงจะทนทำตามที่กูสั่งได้ถึงครึ่งปีมั้ย”

โป้งชั่งใจ แสนนึงแลกกับเป็นคนรับใช้ของโอ แค่ครึ่งปีเอง...แป้ปเดียวเท่านั้น เอาวะ

“ก็ได้ กูตกลง”

******

บิว น้องน้ำ และเอ็ม กำลังสุมหัวกันอยู่ที่โต๊ะม้าหินใต้ตึกคณะอักษรศาสตร์

“แม่งงงง สุดยอดดดด ไอ้บิว!!! เงินตั้งแสนเลยนะเว้ย!” สองหน่อตาโตเมื่อเห็นยอดเงินที่โอนเข้ามาผ่านการแจ้งเตือนจาก SMS ในมือถือของบิว

100,000 บาท ขาดตัว!

“แล้วจากนี้มึงจะเอาไงต่อ ได้เงินแล้ว จะบอกเลิกกับไอ้เฟรนเหรอวะ” เอ็มถามสีหน้ากังวล

“ก็ต้องอย่างนั้นแหละว่ะ” บิวยังไม่อยากเล่าให้เพื่อนฟัง ความลับนี้ยังไงก็ต้องเก็บไว้ให้มิดชิด เกิดเข้าหูโป้งขึ้นมามีหวังซวยกันหมด

“กูสงสารมันยังไงไม่รู้” น้องน้ำตีหน้าเศร้า สลดใจกับการกระทำของเพื่อน ทั้งโป้งและบิวพนันขันต่อกันเป็นปกติ และหลายครั้งที่ดึงคนอื่นเข้าไปเกี่ยวจนเกิดเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ทำลายความรู้สึกคนอื่นมาก็มาก และครั้งนี้ก็เช่นกัน

“น่า มึงไม่ต้องเครียดไป กูจัดการได้” บิวตบบ่าน้องน้ำเบาๆ “เดี๋ยวกูไปหาเฟรนก่อนนะ วันนี้นัดไปดูหนังกัน”

“มึงไม่ได้จริงจังแล้วใช่มั้ยบิว?” เอ็มถามอย่างสงสัย รู้ว่าจีบเพราะพนันไว้ แต่บางทีบิวก็ดูจริงจังกับเฟรนแปลกๆ

“เฮ้ย คิดมาก กูยังชอบแอลอยู่เว้ย ฝากมึงเอาดอกไม้ไปให้ด้วยนะ เจอกันเว้ย” แล้วบิวก็รีบวิ่งหายไป ทิ้งให้เพื่อนทั้งสองต้องถอนหายใจยาว

บิวนัดกับเฟรนจริง แต่ไม่ได้นัดไปดูหนังอย่างที่ว่า แค่นัดมาโอนเงินค่าพนันที่ได้จากโป้งเท่านั้น

“เดี๋ยวกูโอนให้มึง 50,000” บิวกดเข้าแอพธนาคาร แต่เฟรนดึงมือเขาไว้ก่อน

“ไม่ต้องหรอก เก็บไว้เหอะ”

“อ้าว? ได้ไงวะ มึงยอมช่วยกูตั้งขนาดนี้แล้ว เราตกลงกันแล้วไง” บิวย่นคิ้วเข้าหากัน เฟรนยอมเล่นตามบทบาทที่วางไว้ให้ แถมยอมขนาดให้จูบด้วย แล้วจะไม่แบ่งเงินกันได้ไง

“กูไม่อยากได้แล้วว่ะ สัญญานี่กูฉีกทิ้งเอง” พูดจบ เฟรนก็ฉีกสัญญาที่ทำร่วมกันต่อหน้าบิวทันที ก่อนจะขยำๆ รวมกันแล้วทิ้งถังขยะในห้องพัก “แล้วเราจะบอกเลิกกันตอนไหน ยังไงดี”

สีหน้าของเฟรนนิ่งมากจนเหมือนเย็นชา บิวรู้สึกใจหายวาบ ปวดแปลบๆ ที่อก

“เอ่อ...ก็...เทอมหน้ากูจะจีบแอล แล้วให้มึงมาบอกเลิกกู”

“งั้นก็ตามนั้น เดี๋ยวเพื่อนกูจะมาทำงานกันที่ห้อง มึงหมดธุระแล้วก็กลับไปเหอะ” มือเล็กดันหลังร่างสูงให้เดินไปที่ประตู

“อ้าว? เฮ้ย เออๆ ไปก็ไป” บิวยังงุนงง แต่ก็ยอมให้คนตัวเล็กดันหลังไปจนถึงประตู เขาคว้าลูกบิด และหันไปมองเฟรนอีกครั้ง “เรา...ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่มั้ยวะ?”

“ก็ถ้ามึงอยากเป็น” เฟรนตอบทันทีโดยไม่มองหน้า

“มึงไม่เอาเงินแน่นะ?” บิวยังกังวลอยู่ ไม่รู้ทำไมจู่ๆ เฟรนก็ไม่อยากได้เงินขึ้นมา “ไม่โกรธกูทีหลังนะเว้ย?”

“ไม่โกรธ ออกไปเหอะ เดี๋ยวเพื่อนกูมาแล้ว”

“เออ ไปแล้ว ไล่จังว่ะ ไอ้เปี๊ยกนี่” คำเรียกแบบเดิมๆ กลับมาแล้ว เฟรนถอนหายใจ ก่อนจะปิดประตูล็อคกลอน เสียงฝีเท้านอกห้องค่อยๆ เงียบหายไป

ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งกอดเข่าพิงประตูอย่างอ่อนแรง

อีกนิดเดียวเท่านั้น

มันจะจบแล้ว

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: Beauty & The BET??? [Y 18+] EP.7 14/3/18
«ตอบ #29 เมื่อ15-03-2018 12:48:50 »

:a5: นังบิวววววว ทำกับเฟรนแบบนี้ได้ไง หื่นไม่ดูสถานที่เลย  :serius2:
หน้ามืดไปหน่อยเอ๊งงง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด