Of Vivid Creatures 02
Mark Anthony & Nikolai & Sasha
“เราทุกคนต่างสวมหน้ากาก
และแล้ววันหนึ่ง ก็จะถึงเวลาที่เราไม่อาจถอดมันได้
โดยไม่กระชากผิวตนติดออกไปด้วย”
André Berthiaume
Case 1-1
“มาร์ค เราหย่ากันเถอะ”
วันที่นิโคไลบอกเลิกมาร์คเป็นวันอากาศดี ทั้งคู่ยืนอยู่ในสวนสไตล์อิตาลีหรูหราของบ้านนิโคไล ลมทะเลเย็นจัดพัดผ่านพุ่มดอกไม้สีขาว ต้นไม้สูงตัดแต่งเป็นทรงกรวยไหวน้อยๆ ตามแรงลม สีเขียวของพรรณไม้ตัดกับสีขาวของตัวอาคารโอ่อ่าด้านหลัง ตรงบ่อน้ำพุกลางสวน หยดน้ำไหลเอื่อยแนบไปกับผิวสำริดของรูปหล่อวีนัสดูคล้ายหยดน้ำตา
ทว่าชายหนุ่มหน้าสวยผู้บอกเลิกสามีไม่มีความเศร้าหมองบนใบหน้า เขาแค่สูบบุหรี่ด้วยสีหน้าเย็นชา และเอ่ยอย่างติดรำคาญ
“ผมจะคืนแหวนให้”
มาร์ครับฟังนิโคโลอย่างสงบ ทว่าข้างในจุกอย่างไม่สามารถบรรยายอาการเป็นคำพูดได้ จุกแบบหน่วงๆ หรือจุกแบบมีอาการเจ็บแปลบเข้าร่วมด้วย...ก็ไม่ใช่ทั้งนั้น เขาไม่อาจเปรียบเทียบสิ่งที่สัมผัสในขณะนี้ กับอีกสิ่งหนึ่งที่เห็นภาพเป็นรูปธรรมกว่าให้คนฟังเข้าใจได้ โดยเฉพาะตัวเขาเอง การทราบว่าจุกแบบไหน หน่วงๆ หรือเจ็บแปลบ จะทำให้สามารถ ‘จัดการ’ ความจุกนั้นได้ในขั้นต่อไป ดังเช่นหมอซักประวัติคนไข้อย่างละเอียดเพื่อจัดการรักษาได้ถูกจุด
คำพูดของนิโคไลหรือนิกกี้ทำให้เขาจุกแบบไหนกัน
เขาไม่สามารถจัดการมันได้อย่างมืออาชีพเลย
“ขอโอกาสได้หรือเปล่า” มาร์คไม่นึกเลยว่าจะมีวันที่เขาควานหาเสียงของตัวเองไม่เจอ ความจุกที่ระบุอาการชัดเจนไม่ได้ทำให้หูอื้อ กว่าเขาจะพูดประโยคนี้ออกมาได้ ก็ใช้เวลาควานหาเสียงนานเกินไป แถมเสียงดังกล่าวยังแหบระโหย เบาหวิว และคล้ายเจือเสียงสะอื้นเล็กน้อย
คนไข้คนไหนมาฟังเสียงมาร์คตอนนี้คงให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่า เสียงแบบนี้ไม่ใช่เสียงปกติของคุณหมอมาร์ค แอนโธนี—จิตแพทย์ผู้ใจดี ใจเย็น เสียงนุ่ม ทุ้ม ฟังแล้วผ่อนคลายหรือถึงขั้นปลอดภัย
แต่เวลานี้ออกจะเหมือนชายหนุ่มใจสลายมากกว่า
“ซองที่คุณถือมา…” นิโคไลปรายตามองซองเอกสารสีน้ำตาลในมือมาร์ค “ดูภาพข้างในแล้วไม่ใช่เหรอ”
ซองเอกสารนี้ถูกส่งไปที่ทำงานของมาร์คเมื่อสองวันก่อน ช่วงเวลาเดียวกับที่นิโคไลไม่อยู่บ้าน นิโคไลร่ำรวยด้วยมรดกจากบิดามารดาซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว เขาไม่ต้องทำงาน หลังแต่งงานกับมาร์คก็ย้ายไปอยู่บ้านสามี ทว่ายังกลับคฤหาสน์ของตนเป็นประจำ และนัดเที่ยวกับเพื่อนคนรวยบ่อย
สามวันก่อนนิโคไลแค่เดินสะโพกสวยมาหอมแก้มมาร์ค และบอกว่าจะไปเที่ยว วันต่อมา ภาพถ่ายของนิโคไลในซองปิดผนึกถูกส่งมาถึงมาร์คโดยไม่ระบุชื่อผู้ส่ง ในภาพ นิโคไลในชุดวาบหวิวกำลังเมามายและเฟลิร์ตกับชายหนุ่มมากหน้าหลายตา
“ผมนอกใจคุณ ขี้เกียจปิดบังแล้วด้วย เราหย่ากันดีกว่า” นิโคไลพ่นควันบุหรี่ เขากอดอกมองวิวทะเลจากเนินสวน ไม่มองมาร์คตั้งแต่ต้นจนจบ
“ผมรู้” มาร์คจับลำคอของตัวเอง เขาจุกมาถึงตรงนี้ “ผมเลยขอโอกาสที่จะเป็นสามีที่ดี...ไม่ทำให้คุณเบื่อ”
“มันไม่เกี่ยวว่าดีหรือไม่ดีมาร์ค ผมไม่ได้นอกใจครั้งแรก ผมพยายามแล้ว แต่มันไม่ได้ผล ผมเลยจะปล่อยคุณไปเสียที”
“คุณไม่รักผมแล้วหรือ”
นิโคไลพ่นลมหายใจ เขาเหลือบตาไปเห็นร่างหนึ่งกำลังแอบมองตนกับมาร์คจากด้านหลังต้นไม้สูง ไม่ต้องเดาก็ทราบว่าเป็น ‘โรเมโอ’ น้องชายคนเดียวของเขา ผู้รัก ชื่นชม และสนิทสนมกับมาร์ค
ชายหนุ่มร่างเล็กผู้ดูสวยร้ายไปทั้งตัวหันมาเผชิญหน้าสามีที่ตนเพิ่งขอหย่า เขาดึงเน็กไทมาร์ค ให้อีกฝ่ายก้มลงมา แล้วขโมยจูบ เป็นจูบที่อ้อยอิ่งด้วยการขบริมฝีปาก ก่อนจะรุกหนักด้วยการกัดและสอดลิ้น ขัดกับอารมณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างทั้งคู่
มันควรแปลว่าอะไรมาร์คจับใบหน้าของนิกกี้ เขาพยายามแปลความหมายของคำพูดที่ขัดแย้งกับการกระทำของคนรัก เขาเป็นจิตแพทย์ ก็ควรแปลมันออกไม่ใช่หรือ แต่ไม่...เขาแปลไม่ออกเลยสักทาง
มาร์คได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่ไม่คุ้นเคยจากตัวคนรัก เมื่อปล่อยจูบ นิโคไลหน้าแดงนิดๆ และดูเร่าร้อนไปทั้งตัว กระทั่งรสขมของบุหรี่ก็ทำให้รู้สึกซาบซ่านด้วยความต้องการทางเพศ
รอยยิ้มของคนหน้าสวยยิ่งร้ายกาจ เมื่อมาพร้อมกับประโยคตัดเยื่อใยถัดมา
“ผมจูบคุณได้แบบนี้ จูบคนอื่นก็ได้แบบนี้ มันไม่ต่างกันเลย รวมถึงเรื่องบนเตียงด้วย เพราะงั้น ทำให้มันจบๆ ไปเถอะมาร์ค”
แล้วนั่นก็นำไปสู่การหย่าของมาร์ค แอนโธนีและนิโคไล
————————————————-
“จะไปยุ่งกับมันทำไม”
คำถามนั้นทำให้มาร์คถอนใจ เขามาหาฮันเตอร์ผู้เป็นพี่ชายทุกวันอาทิตย์เหมือนไปโบสถ์ และถูกพี่ชายสวดเรื่อง ‘อย่าไปยุ่งกับเมียเก่า’ ทุกครั้งจนหน่าย
“เขามีปัญหา ผมก็แค่ให้คำปรึกษา” มาร์คถอนหายใจอีกคำรบ ส่วนใหญ่นิกกี้จะมาหาเขาด้วยเรื่องของโรเมโอ—เด็กหนุ่มผู้มีปัญหาด้านการเสพติดความเจ็บปวด
อันที่จริงเขาไม่สามารถรักษาโรเมโอได้อย่างเต็มที่ เพราะเกิดความผูกพันซึ่งเกินความเป็นหมอรักษาไข้ แต่โรเมโอไม่ยอมไปหาจิตแพทย์คนอื่น เขาจึงทำหน้าที่รับฟังและให้คำปรึกษา แต่ไม่ได้ลงมือรักษาเต็มรูปแบบ และเพียรบอกนิโคไลว่าโรเมโอต้องการหมอคนใหม่
“ไม่” ฮันเตอร์ยกนิ้วขึ้น “ฟังฉัน แกจะแย่ถ้าไม่ตัดให้ขาด ฉันไม่อยากเห็นแกแย่” แววตาเขาจริงจังและเอาเรื่อง
“พี่...ผมโอเค เราเป็นเพื่อนกัน ผมก็มองหาคนใหม่อยู่” มาร์คโกหก...และทุกคนก็รู้ว่าเขาโกหก
จิล—เจเรไมน์ยืนถือถาดใส่แก้วน้ำสำหรับแขก แอบฟังบทสนทนาของสองพี่น้อง เขาหลบอยู่ตรงทางเข้าห้องนั่งเล่น โดยมีอัลเฟรด ลูกชายพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์แกว่งหางเบาๆ อยู่ข้างกัน
จิลมองออกว่ามาร์คยังรักนิโคไล ความพยายามครั้งล่าสุดของเขาในการทำให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกัน คือการเชิญทั้งคู่มาร่วมรับประทานอาหารในงานเลี้ยงฉลองขึ้นบ้านใหม่ ทว่าจบลงด้วยความล้มเหลว เป็นความล้มเหลวที่เหมือนเพิ่งผ่านมาเมื่อวาน ทั้งๆ ที่ผ่านมาได้สองสามเดือนแล้ว
จิลยิ่งเบ้ปากเมื่อฮันเตอร์ให้เหตุผลว่า ‘เพราะนิโคไลช่างนอกใจ มาร์คจึงควรตัดให้ขาดเสียที’ ...ทุกวันนี้เขายังคอยดมกลิ่นเสื้อฮันเตอร์เวลากลับมาบ้าน ว่ามีกลิ่นเด็กหนุ่มติดมาด้วยหรือเปล่า
ก่อนที่พี่น้องจะมีปากเสียงด้วยเรื่องเดิมๆ จิลก็ถลาเข้าไป
“เครื่องดื่มชูใจ!” เขาประกาศ จิลทำเวอร์จิ้นโมฮิโต้สูตรของมาร์คที่ใช้ดื่มเรียกกำลังใจมาให้
“ฉันเจอคนที่เหมาะกับแก” ฮันเตอร์เอื้อมไปหยิบเครื่องดื่มโดยไม่ยอมให้บทสนทนาขาดตอน
จิลตีมือสามี “นี่ของมาร์ค” เขายกเครื่องดื่มมาแก้วเดียว
“แล้วฉันล่ะ” ฮันเตอร์ตาละห้อย
“อ่า ลืม ขอโทษที” จิลแกล้งทำตาใสซื่อ แต่เหตุผลหลักๆ ที่ไม่ยกเครื่องดื่มมาให้สามีก็เพราะหมั่นไส้นั่นแหละ
ฮันเตอร์ทำตาละห้อยอีกครั้ง คราวนี้แทบจะมีคำว่า ‘เมียจ๋า…’ ลอยออกมา
อุ… จิลซึ่งพยายามทำใจแข็ง อ่อนยวบกับสีหน้านี้
“พี่ดื่มเถอะ” มาร์คหัวเราะ ผายมือให้ฮันเตอร์ เขาทำเมินหัวข้อที่พี่ชายยกขึ้นมา
“โรเมโอเป็นยังไงบ้าง” จิลช่วยเปลี่ยนเรื่องอีกแรง เขารู้จักนิกกี้ ย่อมรู้จักโรเมโอ และมาร์คก็เป็นจิตแพทย์ของน้องชายนิกกี้ตั้งแต่ก่อนหย่า
“อา...ก็ไม่มีอะไรร้ายแรง โรมให้ความร่วมมือดี” มาร์คตอบแบบกลางๆ
“เดี๋ยว ทุกคนอย่าเปลี่ยนเรื่อง” ฮันเตอร์ยกมือซึ่งถือเครื่องดื่มขึ้นแทรกระหว่างมาร์คและจิล “เราควรพูดถึงอะไรที่สดชื่นๆ เหมือนโมฮิโต้ อย่างเช่นคนที่ฉันเลือกให้แก”
“พี่…” มาร์คอยากนวดขมับ
“อัลฟีโอ” ฮันเตอร์วางเครื่องดื่ม นั่งเอนหลังและเปิดหาภาพอัลฟีโอในโทรศัพท์มือถือ
“แกต้องชอบ เชื่อฉันสิ”
“เดี๋ยว ฮันท์—ฮันเตอร์ ทำไมนายถึงมีภาพ ‘อัลฟีโอ’ อะไรนี่ในโทรศัพท์มือถือ” จิลวางถาด เขากอดอกและปรายตามองสามีอย่างไม่ไว้ใจ
“โฮ่งๆ!” อัลเฟรดเห่ารับอย่างร่าเริงกับความน่าเกรงขามของแม่
“ฉันเห็นเขาหาแฟนอยู่ เลยบอกว่า ‘น้องชายฉันโสด สนใจไหม’ ไม่มีอะไรเลยจิล” ถึงปากจะพูดว่า ‘จิล’ แต่สายตาร่ำร้องว่า ‘เมียจ๋า...เมีย’ ชัดๆ
จิลพ่นลมหายใจแล้วแย่งแก้วโมฮิโต้ที่ยังไม่ถูกดื่มจากมือฮันเตอร์มาให้มาร์ค “เดี๋ยวทำมาให้อีกแก้วนะ” เขาอยากหยิกแก้มสามีโทษฐานขยันทำสายตาออดอ้อนจนคนมองร้อนไปหมดทั้งตัว!
จิลปล่อยให้ฮันเตอร์พรีเซนต์ภาพในโทรศัพท์มือถือแก่มาร์ค ส่วนเขาขอตัวไปทำเครื่องดื่มมาเพิ่ม ทว่าระหว่างทางเดินกลับไปห้องครัว เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น
จิลเดินไปดูว่าใครมาหา พลางคิดว่าไม่น่าใช่เพื่อนที่ทำ ‘งานนอก’ ของฮันท์หรอกน่า แม้คนทั่วไป (รวมถึงมาร์ค) จะเห็นว่าเขากับฮันท์เป็นคู่รักปกติ แต่ที่จริงพวกเขามีความลับดำมืดซึ่งอันตรายถึงตาย
‘ถึงตาย’ ในที่นี้ หมายถึงความตายของแท้ เพราะฮันเตอร์เป็น ‘นักล่า’ ส่วนจิลเองแม้เป็นนักล่าที่วางมือแล้ว ก็ไม่มีปัญหากับงานนอกของสามี
อธิบายอย่างสั้น เท่าที่จิลผู้ไม่ได้อยู่ในสมาคมใต้ดินเข้าใจ งานนอกของฮันเตอร์คืองาน ‘จัดหาวัตถุดิบ’ ให้กับสมาคมใต้ดิน—สมาคมที่อยู่ในเงามืดของอิตาลี โยงใยกับมาเฟียและกลุ่มอิทธิพลระดับประเทศ เป็นทั้งสถานที่พบปะของนักสร้างสรรค์งานศิลปะทุกแขนง อันรวมไปถึงงาน ‘เฉพาะตัว’ ที่สร้างจาก ‘มนุษย์’ และสถานที่ดำเนินกิจการด้านมืดซึ่งมีเงินไหลสะพัดจำนวนมหาศาล
“ออกไปดูให้หน่อยสิ มาร์ค” ฮันเตอร์ว่า
“ครับ” มาร์ครับคำ ในทีแรกเขาไม่ได้คิดอะไร ทว่าวินาทีถัดมาก็ชะงัก เขาเกิดลางสังหรณ์ว่าคนที่มากดกริ่งจะเป็นอัลฟีโอ
“ใช่ อย่างที่นายคิดนั่นละ” ฮันเตอร์ยิ้มร้าย
“ให้ตายเถอะพี่” มาร์คสบถเบาๆ ถึงอย่างนั้นก็เดินไปเปิดประตูให้แขก ระหว่างทางเขานึกถึงนิโคไล ครั้งแรกที่ได้พบเป็นอย่างไรกัน...
ในห้วงระลึก มาร์คคล้ายได้ยินเสียงคลื่น และรู้สึกถึงไออุ่นจากแดดหน้าร้อนทาบบนใบหน้า ใบหน้าเขาร้อนเห่ออยู่ใต้แสงนั้น ก่อนจะถูกลูบไล้ด้วยลมทะเลเย็นฉ่ำ สาเหตุที่ทำให้ใบหน้าของมาร์คร้อนและหัวใจเต้นแรงคือนิโคไล ซึ่งในตอนนั้นเขายังไม่ทราบชื่ออีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ
นิโคไลยืนหันหลังย้อนแสงอยู่กลางน้ำทะเลสูงถึงขาอ่อนกลมกลึง สวมกางเกงหนังขาสั้นสีดำรัดแนบไปกับสัดส่วนราวผิวหนังชั้นที่สอง กับเสื้อผูกคอทำจากผ้าเช็ดหน้าเวอร์ซาเช่ หนุ่มสะโพกสวยแต่งตัวเปรี้ยวเกินชาย ทว่าเข้ากันเหมาะเจาะกับรูปร่างเซ็กซี่ของเขา
พอนิโคไลหันมาเพราะคล้ายรู้ว่าถูกจ้องมอง มาร์คเห็นไฝน้ำตาใต้หางตาสองข้างของอีกฝ่ายเป็นอย่างแรก ตามด้วยสีหน้าผ่อนคลายและดูร้ายกาจอยู่ในที ริมฝีปากอิ่มสีชมพูสูบบุหรี่ ก่อนพ่นควันสีเทาจางออกมาอย่างไม่รีบร้อน
ฟองคลื่นซัดต้นขานิโคไลราวกับพยายามแทรกเข้าไปใต้เนื้อผ้า ทั้งเร้าอารมณ์และจาบจ้วง มาร์คนึกถึง ‘ริปไทด์’ กระแสน้ำที่ไหลต้านกระแสน้ำอื่น เป็นคลื่นที่พัดออกจากฝั่ง ม้วนคนเล่นน้ำผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ให้ออกจากจุดปลอดภัย
นิโคไลผู้ซึ่งในอนาคตจะกลายเป็นคลื่นลูกใหญ่ นำพามาร์คออกจากจุดปลอดภัย ยกยิ้มให้แล้วเอ่ยว่า...
“สวัสดี”“สวัสดีครับ” อัลฟีโอเอ่ยกับคนที่มาเปิดประตู เขาเป็นชายหนุ่มร่างเล็กหน้าตาสุภาพน่ามอง ผมสีทองเข้มเหมือนนิโคไล ความสูงก็ใกล้เคียงกัน หากมองเพียงรูปร่างก็ดูคล้ายกันอย่างไม่น่าเชื่อ ทว่าแตกต่างกันที่อัลฟีโอสวมแว่นตาซึ่งขับให้ใบหน้าเกลี้ยงเกลาอย่างคนสุขภาพดีดูน่ารัก เสื้อผ้าที่สวมก็เป็นเสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแลคเข้ารูป ไม่หวือหวาแบบชุดของนิกกี้
“ผมมาหาคุณฮันเตอร์” อัลฟีโอชูกระเช้าผลไม้เมืองร้อนที่นำมาเป็นของฝาก “คุณคือ...มาร์ค?”
มาร์คยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้า รอยยิ้มเขาอบอุ่น อ่อนโยน เป็นรอยยิ้มมาตรฐานซึ่งทุกคนได้รับโดยเท่าเทียม
ทว่าเพียงรอยยิ้มนี้ อัลฟีโอก็ถึงกับเหม่อมอง
“มาร์ค แอนโธนีครับ” จิตแพทย์หนุ่มทักทายเรียบร้อยก็เอ่ยขอบคุณสำหรับของฝาก รับมาจากมือของอัลฟีโอ แล้วผายมือให้อีกฝ่ายเข้าไปในบ้านก่อน
“พี่ชายผมรออยู่ด้านใน ผมขอตัวไปทำผลไม้ให้คุณก่อนนะครับ”
“เอ่อ ครับ” ชายหนุ่มสวมแว่นตาเดินเข้ามาอย่างว่าง่าย ตอนนั้นเองที่มีชายหนุ่มอีกคนออกมาต้อนรับเขา ชายคนนี้หน้าสวยและมีดวงตาสีแปลก เพราะลูกตาดำเหมือนผืนผ้าใบของจิตรกร ระบายสีน้ำเงิน เขียว และทองผสมกันอย่างลงตัว “คุณคงเป็นเจเรไมน์” อัลฟีโอบอก
จิลยิ้มให้แขก เขามาเปิดประตูไม่ทันมาร์ค แต่ไม่อยากพลาดฉากเด็ดจึงอยู่ดูต่อ “คุณคงเป็นอัลฟีโอ” ประโยคทักทายถูกกล่าวออกมา แม้จิลสงสัยว่าอีกฝ่ายรู้จักเขาได้อย่างไร
“ใช่ครับ อัลฟีโอ ยินดีที่ได้รู้จัก ซินญอร์ฮันเตอร์เคยอวดภาพคุณให้ผมดู เขาพูดถึงคุณบ่อยๆ ครับ” ผู้เป็นแขกเฉลย เขาน้อมศีรษะนิดๆ แล้วเดินตามจิล
ไม่นานมาร์คก็ตามมาสมทบ เขาจัดการปอกผลไม้และจัดใส่จานอย่างมีศิลปะ บางส่วนก็นำไปทำเป็นน้ำปั่น เขาพอมีฝีมือทางด้านการครัว ยอมรับว่าเมื่อก่อนหัดทำอาหารเพราะอยากให้คนรักประทับใจ ผู้ชายเข้าครัวก็โรแมนติกดีไม่ใช่หรือ
มาร์ควางถาดผลไม้ตรงกลางโต๊ะรับแขก ตามด้วยเหยือกน้ำปั่นสีสดใส เขาพับแขนเสื้อขึ้นเกือบถึงข้อศอก เห็นท่อนแขนแกร่งอย่างคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ เส้นเลือดซึ่งแล่นจากหลังมือขึ้นไปยังท่อนแขนดูเซ็กซี่ สมคำร่ำลือว่าเป็นจิตแพทย์ที่น่าหลงใหลยิ่งกว่านายแบบ ทำเอาคนไข้ลืมเรื่องปรึกษาเสียสนิท
เสน่ห์นี้อาจไม่มีผลกับจิลที่นั่งเกาะแขนฮันเตอร์อยู่บนโซฟาอย่างคู่สามีที่รักกันดี แต่มีผลกับอัลฟีโอที่นั่งใกล้มาร์คอย่างแรง ตอนมาร์คเข้ามา พวกเขากำลังคุยกันว่าอัลฟีโอพบฮันเตอร์ได้อย่างไร จากการพูดนำของจิล (ที่เหมือนสอบสวนสามีไปพร้อมกัน) ได้ความว่าอัลฟีโอเป็นอาจารย์ไฮสคูล รู้จักกับฮันเตอร์เพราะอีกฝ่ายมาติดต่อเรื่องขายอุปกรณ์การศึกษา
“อ้อ ใช่ครับ สามีผมเขาชอบขายของเล่น ‘เด็ก’ ” จิลเน้นคำว่าเด็กอย่างจงใจ และแอบหยิกแขนฮันเตอร์แบบเนียนๆ ทั้งที่ยิ้มแย้มพูดคุยกับอัลฟีโอ งานบังหน้าของฮันเตอร์คือเป็นผู้จัดการฝ่ายขายในบริษัทผลิตของเล่นเด็ก ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์การศึกษาที่ว่า
“เป็นอาจารย์ไฮสคูลหนักไหมครับ” มาร์คชวนอัลฟีโอคุย เขาชอบบรรยากาศสงบนิ่งของอีกฝ่าย
“นิดหน่อยครับ แต่ผมชอบงานนี้นะ” ที่จริงอัลฟีโอมาตามคำเชิญของฮันเตอร์เพื่อรับแคตตาล็อกอุปกรณ์การศึกษาชุดใหม่ ซึ่งเขาต้องเอากลับไปอ่านและนำเสนอหัวหน้าอาจารย์ในวันจันทร์ ตรงนี้จิลสอบถามแล้ว ส่วนเรื่องคุณครูหนุ่มกำลังหาแฟนอยู่...ดูเหมือนฮันเตอร์จะกุขึ้นมา
จิลหมั่นไส้ในความกระตือรือร้นหาแฟนใหม่ให้มาร์คของฮันเตอร์อย่างไรก็ไม่รู้ แล้วที่นั่งอยู่ในบ้านนี่ก็ ‘เหยื่อ’ ชัดๆ เป็นประเภทที่ถูกล่าอย่างง่ายดายเสียด้วย เขาพอเข้าใจฮันเตอร์ที่คิดหาคนธรรมดาให้มาร์คที่เป็นคนธรรมดาเหมือนกัน แต่เกรงว่าต่อไปถ้าใกล้ชิดกันขึ้นมาจริงๆ อัลฟีโอจะรับมือพี่ชายสามีได้ดีเหมือนนิโคไลหรือเปล่านะ (ใช่ จิลคิดเผื่อล่วงหน้าหลายสเต็ป หากมาร์คแต่งงานกับอัลฟีโอ)
“ทำไมถึงมาทำงานเป็นอาจารย์ล่ะครับ ขอโทษถ้าละลาบละล้วงนะ ผมแค่สงสัย” มาร์คยิ้มเป็นมิตร
“ไม่เป็นไรเลยครับ” หนุ่มสวมแว่นหยิบแก้วน้ำปั่นขึ้นมาจิบ “ผมสอนวิชาวรรณคดี สมัยเรียนเคยมีอาจารย์ที่นับถือทำงานตรงนี้ เลยนึกอยากเป็นอาจารย์บ้าง แล้วการเป็นอาจารย์ของรัฐก็สามารถขอทุนวิจัย ผมมีโครงการที่อยากทำหลายอย่าง...”
อัลฟีโอเอ่ยถึงสิ่งที่เขาอยากทำ ถ้อยคำภูมิใจทว่าไม่โอ้อวด เขาดูมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองเลือก มองออกว่าทำไปด้วยความปรารถนาดี
ดูเป็นคนดี...ที่มีสุขภาพจิตดี จิลนิยามอัลฟีโอในใจ เรื่องวิชาการที่อีกฝ่ายเล่าเขาไม่เข้าใจเท่าไรนัก อาจเพราะไม่มีหัวทางนี้และเรียนไม่จบไฮสคูล
มาร์คตั้งใจฟัง พออัลฟีโอพูดจบก็พยักหน้ารับ เขาสานต่อบทสนทนาได้อย่างลื่นไหล จากคำถามพื้นๆ ไปสู่คำถามซึ่งลึกขึ้นโดยคู่สนทนาไม่อึดอัด
มาร์คยังไม่ทราบว่าอัลฟีโอมาที่นี่เพื่อชมแคตตาล็อก ไม่ใช่มาเพราะเรื่อง ‘อื่นๆ’ จิตแพทย์หนุ่มเข้าใจว่าอีกฝ่ายเผชิญชะตากรรมถูกจับคู่เหมือนกัน และในเมื่อเขาเชิญตัวเองและอัลฟีโอกลับบ้านไม่ได้ จึงชวนคุยให้ผ่อนคลายแทน
เขาพบว่าอาจารย์หนุ่มเป็นคนน่าสนใจ น่ารัก ยิ้มมาตรฐานเริ่มเปลี่ยนเป็นยิ้มจากใจ ซึ่งดูต่างจากปกติเล็กน้อย คล้ายรอยยิ้มของเด็กชายที่ได้พบสิ่งถูกใจ
จิลลอบสังเกตสีหน้ามาร์ค ไม่รู้ทำไมจึงเหมือนเห็นรอยยิ้มแบบฮันเตอร์แฝงอยู่ในนั้น เขาขยี้ตาตัวเองแล้วขมวดคิ้ว
“แล้ว...คุณรู้จักร้านอาหารเม็กซิกันดีๆ บ้างไหมครับ เผื่อผมไปชิมบ้าง” บทสนทนาย้ายมาที่เรื่องอาหาร มาร์คหันไปทางจิล “ถ้าพูดถึงเรื่องแนะนำร้านอาหาร ผมยกความดีให้จิล เขาชอบตระเวนชิม ได้รายชื่อร้านดีๆ มาจากจิลเยอะ”
“งั้นผมคงต้องขอบ้าง บอกตามตรงว่าผมไม่เคยกินอาหารเม็กซิกันครับ” อัลฟีโอหันไปทางจิล
จิลตอบรับด้วยรอยยิ้มและหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดแอปพลิเคชั่นแนะนำร้านอาหาร การพูดคุยออกรสและจบลงด้วยการชวนกันรับประทานอาหารเม็กซิกันแบบง่ายๆ โดยฝีมือเข้าครัวของจิล
“ฉันขอเข้าไปเป็นลูกมือ ฝากดูแลอาจารย์ด้วยนะมาร์ค” ฮันเตอร์ขยิบตาใส่น้องชาย ซึ่งทำให้มาร์คถอนหายใจอย่างหนักหน่วงอยู่ในใจ
ในห้องครัว ฮันเตอร์ยืนประชิดจิลจากด้านหลัง มือฟอนเฟ้นสะโพกแน่น ปากเม้มใบหูของเมียรักเล่น
“ดูไปกันได้ดีนะ” เขาวิจารณ์
“ฮันเตอร์ ทำไมเอาเหยื่อเข้าบ้าน อือ…” จิลหยุดมือที่เตรียมของแล้วพูดเสียงแข็งสลับอ่อน กลิ่นนักล่าของฮันเตอร์ฟุ้งจนปิดไม่มิด ชวนให้คิดว่าเมื่อครู่อีกฝ่ายกดความต้องการล่าไว้มากแค่ไหน “ก็ดูไปกันได้ดี จนวันหนึ่งนายจะอยากล่าอัลฟีโอขึ้นมา” เขาหลับตาขณะจมอยู่ในกลิ่นของฮันท์ ร่างกายที่แนบชิดกับมือไม้ไม่อยู่สุขช่างน่าตี เพราะมันดีจนอาจทำให้เขาหลุดแล้วกระโจนใส่สามี
“ถ้ามาร์คจะเอา ฉันก็ไม่ล่า” ฮันเตอร์ลูบหน้าขาของจิลขณะเบียดเข้าไปใกล้จนไม่อาจใกล้กว่านี้ได้
“มีคนอยู่ในบ้าน” จิลกระซิบ มือจิกขอบเคาน์เตอร์
“แต่ไม่มีใครอยู่ในครัว” ฮันเตอร์จูบท้ายทอยของเมียรัก “เห็นแขนซ้ายของมาร์คไหม ที่เอาผ้าพันแผลพันไว้”
“อืม เห็นอยู่...” จิลขยับแยกขาให้ฮันเตอร์พร้อมส่งเสียงครางด้วยความวาบหวิว
“ขอให้มาร์คมันแกะผ้าหน่อยซี เมียจ๋า...ฉันอยากรู้ว่ามันเป็นอะไร”
“ฮันท์...พี่...ต้องทำอะไรสักอย่างกับกลิ่นนี่นะ” ใบหูของจิลแดงไปหมด เขาได้ยินสิ่งที่ฮันท์พูดและตอบรับอืออา ด้วยกลิ่นเร้าอารมณ์ที่ฟุ้งอยู่ในจมูกทำให้เขาเผลอเรียกอีกฝ่ายแบบสมัยก่อน
“ต้องสั่งน้ำหอมไหม” ฮันเตอร์ตะปบก้นจิล คลึงเคล้นอย่างถือสิทธิ์ โดยให้คนรักทำอาหารไปด้วย
“ไม่เอา ผมชอบกลิ่นพี่” จิลเม้มปาก เขาเพิ่งเริ่มหั่นผัก “แต่ช่วยทำให้กลิ่นมัน…” เสียงหั่นสะดุด “อา! ช่างเถอะ!” จิลหันมากอดคอฮันท์ทั้งที่ยังถือมีด ถูไถริมฝีปากกับแก้มสากคล้ายต้องการสูดกลิ่นของอีกฝ่ายให้ลึกขึ้น
ฮันเตอร์ดันหน้าเข้าไปจูบจิล ลิ้นสอดเข้าไปกระหวัดเกี่ยวพัวพันทันที เขาชอบเวลาเมียถือมีด มันเซ็กซี่จนแทบอดรนทนไม่ไหว
จิลจูบตอบทั้งที่มีดทำครัวคมกริบพาดอยู่บนหลังคอฮันท์...ดูเหมือนสามีต้องควบคุมภรรยาของเขาให้ดี
และดูท่ามาร์คกับอัลฟีโอต้องรอมื้อนี้ไปอีกนาน…
อีกด้านหนึ่ง ผ่านไปเกือบชั่วโมง มาร์คถึงเอะใจว่าเจเรไมน์ใช้เวลานานเกินไป
“ขอโทษครับ ผมคุยเพลินไม่ได้ดูเวลา คุณน่าจะหิวแล้ว เดี๋ยวผมไปตามพวกเขาให้”
ทว่ามาร์คยังไม่ทันถึงห้องครัว เจเรไมน์ก็เข้ามาเรียกอัลฟีโอกับเขาเสียก่อน
“อาหารเสร็จแล้วครับ ฮันเตอร์จัดโต๊ะอยู่ ไปนั่งกันเถอะ”
มาร์คซึ่งเกือบเดินชนเจเรไมน์ที่กรอบประตูห้องครัวสังเกตเห็นประกายอิ่มเอิบในดวงตาคนรักของพี่ พร้อมได้กลิ่นซึ่งยามปกติไม่เคยสัมผัสจากอีกฝ่าย มันเป็นกลิ่นหอมหวานเหมือนเซ็กซ์ แต่ก็หนักและฝาดจมูกคล้ายสนิม
หรืออาจเป็นเลือด...
“มาร์ค...มาร์ค” เสียงจิลเรียกเหมือนมาจากที่ไกลๆ
มาร์ครู้สึกตัว...พบว่าตนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว โดยมีอัลฟีโอมองมาอย่างเป็นห่วงและสงสัย
“นายใจลอยไปถึงไหน” จิลถามด้วยเสียงคล้ายดังมาจากความฝัน เขาแตะแขนมาร์คเบาๆ “ผ้าพันแผลนี่...ไปโดนอะไรมา มันพันแน่นไปหรือเปล่า ฉันช่วยพันให้ใหม่ไหม”
“ไม่เป็นไร…” มาร์คกระแอม กะพริบตาถี่ จากนั้นค่อยยิ้ม
โดยไม่รู้ตัวเลยว่า…
วูบหนึ่ง ดวงตาทั้งสองข้างของตนเรืองสีแดง
--------------------------------------------
A/N สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องใหม่ของ ILLREI นะคะ คิดถึงนักอ่านในเล้าจังเลยค่ะ
นิยายเรื่องนี้มีกำหนดการอัปเดตทุกวันจนจบ เพราะเรากับคุณ FOULSOUL เขียนเสร็จแล้วค่ะ
เนื้อเรื่องจะเป็นแนวทริลเลอร์ เหมาะสำหรับนักอ่านที่ชอบแนวซีรีส์ฝรั่ง Netflix
ขึ้นชื่อเรื่องสามคน แต่ไม่ใช่นิยาย 3P นะคะ ^^a (เผื่อบางท่านคาดหวัง)
เล่มนี้เป็นเล่ม 2 หากไม่เคยอ่านเล่ม 1 กรุณาตาม Link ไปนะคะ
อ่านแล้วมีข้อติชม อยากบอกรักนักเขียน ทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้เลย
หรือจะฝากความถึงไปถึงนักเขียนอีกท่านก็ได้นะคะ!
ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz