ตอนนี้หอประชุมตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งไม่มีแม้แต่เสียงขยับตัว ตั้งแต่พวกพี่ว้ากกลุ่มเดิมเดินเข้ามาบรรยากาศที่กินข้าวพูดคุยอย่างครื้นเครงตอนแรกก็หนักอึ้งจนผมแอบเห็นเหงื่อบางคนไหลตามกรอบหน้าทั้งๆที่อากาศในหอประชุมไม่เฉียดคำว่าร้อนเลยสักนิด
ผ่านมาสิบนาทีแล้วที่พวกผมถูกสั่งให้ก้มหน้าลงพื้นหมุนป้ายชื่อให้เข้าหาตัวเอง ผมพยายามทำเป็นไม่สนใจพี่ว้ากตัวปัญหา ที่เสี่ยงทำเรื่องร้าวฉานระหว่างผมกับคนรัก เหลือบตามองนนท์ข้างๆ ร่างเหมือนคนขาดสารอาหารสั่นนิดๆพร้อมกับมือที่พยายามปกปิดป้ายชื่อที่ขาดครึ่งของตัวเอง ท่าทางที่ดูเป็นพิรุธขนาดนั้น ทำเอาผมต้องถอนหายใจดังเฮือก
ยังไม่ได้ยินเสียงเฮดว้ากเลยแฮะ
เดี๋ยว! ผิดประเด็นละไอ้ทศ!!!
ผมนิ่วหน้าส่ายหัวเบาๆให้กับความคิดตัวเอง ถึงตอนนี้เหตุการณ์ข้างนอกจะดูยุ่งเหยิงกับกิจกรรมเรื่อยเปื่อยของกลุ่มคนเสื้อช็อปสีแดง แต่ผมของพนันเลยว่าในหัวผมยุ่งเหยิงกว่าเยอะ!
"รหัส 0021 เงยหน้าแล้วลุกขึ้นยืน!" เสียงถอนหายใจโล่งอกดังขึ้นแผ่วๆทันทีที่สิ้นคำพูดพี่ว้ากหน้าแถว ผิดกับคนที่ถูกเรียกขึ้นยืน ผมเดาว่าตอนนี้คงหน้าซีดไปแล้ว แต่คนที่หน้าซีดกว่าคนรหัส 0021 คงเป็นคนที่ถูกเลือกไปห้านาทีที่แล้วมากกว่า
เขาเป็นผู้ชายร่างสูงผอมอยู่ถัดข้างผมไปสามคน ผมจำได้แค่ว่ารหัสประจำตัวเขามีเลขห้าประกอบ อีกฝ่ายกลืนน้ำลายลงคออีกครั้งคิ้วบางขมวดเข้าหากันทันทีที่พี่ว้ากถามชื่อเล่นคนรหัส0021ที่ถูกเลือกมาใหม่ ใบหน้าที่ผมเห็นลางๆว่าซีดหลับตาเม้มปากแน่นก่อนที่จะเอ่ยออกมาเบาๆ
".....เจมส์ครับ" และหอประชุมก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าอีกฝ่ายเครียดแค่ไหน แต่สักพักความเครียดของหน้าอีกฝ่ายก็คลายลงทันทีที่คนรหัส0021พลิกป้ายชื่อกลับมา
“จักริน รหัส0021 ขออนุญาตแนะนำตัวครับ!"
"คุณชื่อเล่นว่าอะไร?"
"เจมส์ครับ!"
"รหัส 0045 เชิญนั่ง!!" อ่อ... ที่แท้ก็45นี่เอง ผมพยักหน้าเบาๆแสดงว่าความจำผมก็ยังดีอยู่อะนะ หน้าของ0045ดูดีใจมาก เขาขอบคุณรุ่นพี่หน้าแถวเสียงดังก่อนที่จะนั่งไปอย่างรวดเร็วต่างกับตอนยืนลิบลับ สงสัยจะลืมไปแล้วว่าไอ้คนที่เขาขอบคุณด้วยความยินดีน่ะ เป็นคนที่ทำให้เครียดไปห้านาทีก่อน
เหอๆ ตลกจริงๆคนเรา
"ทีนี้ผมจะสุ่มคนใหม่ ถ้าพวกคุณที่ถูกสุ่มสามคนสุดท้าย สามารถบอกชื่อเล่นของเพื่อนพวกคุณได้ถูกต้อง! ผมจะถือว่าวันนี้พวกคุณผ่านวันแรกสำหรับพวกผม รับทราบ!!" เสียงคนสั่งหน้าแถวดูน่ากลัว แต่ก็สู้ความน่าเกรงขามของเฮดว้ากตัวปัญหาไม่ได้อยู่ดี ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อคิดได้ว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่เข้าตอนบ่ายและ
วันนี้ผมอาจจะไม่ได้เจอเขาอีก
เดี๋ยว!
แล้วผมจะไปนึกถึงเขาทำไมนักหนาวะ!!
ผมทำเสียงจิ๊จ้ะในลำคอ ไม่ชอบอาการแปลกๆที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทุกครั้งเวลาคิดถึงใครคนๆนั้นก็คือพี่ฟิวเท่านั้น พอคิดถึงเรื่องพี่ฟิวผมก็เพิ่งนึกได้ว่าวันนี้ทั้งวันยังไม่เห็นอีกคนโผล่มาเลยทั้งๆที่เรียนคณะเดียวกันแท้ๆ
ไหนอีกฝ่ายบอกรีบมาเตรียมรับน้อง หรือจะอยู่ฝ่ายสวัส? แม้แต่ฝ่ายพยาบาลก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะแฟนของผมถึงจะดูหยาบกระด้างแต่เวลาเขาทำแผลให้ผม มือเขาจะเบาสุดๆ
ว่าแล้วก็คิดถึงจัง
ผมเข้าสู่ภวังค์หลงแฟนสักพัก ยังรู้สึกฟินไม่เท่าไหร่ก็ต้องตื่นมารับความจริงเพราะแรงสะกิดยิกๆที่ข้างขวา
นนท์... มีอะไรวะ? ผมเอียงคอส่งสายตาสงสัยให้อีกฝ่ายไม่ทันที่อีกฝ่ายจะตอบผมก็ต้องสะดุ้งกับเสียงดังทั้งๆเมื่อกี้แทรกเข้าสู่ความคิดผมไม่ได้เลยสักนิด
"รหัส 0015 คุณจะไม่ลุกขึ้นใช่ไหม!!"
“ทศกัณฐ์ รหัส 0015 ขออนุญาตครับ!” ผมยกมือรอให้อีกฝ่ายพยักหน้ารับถึงจะค่อยลุกขึ้น บอกตามตรง ผมโคตรไม่ชินกับขั้นตอนอะไรแบบนี้เลย รู้สึกแปลกๆไปหมดได้แต่คิดว่าคงมีเหตุผลกับการกระทำแบบนี้ เช่น รุ่นพี่จำหน้าผมได้ เพื่อนจำชื่อผมได้ หรือพี่รหัสจะได้รู้ว่าผมเป็นใคร พอคิดแบบนั้นก็พอจะหายขุ่นใจอยู่บ้าง
"รหัส0021 เพื่อนคุณชื่อเล่นว่าอะไรครับ!" เสียงอีกฝ่ายยังดังและรบกวนเส้นประสาทการรับรู้ผมเหมือนเดิม รู้สึกนับถือที่เสียงอีกฝ่ายไม่ลดลงเลยสักนิดถึงจะผ่านมาสิบกว่านาทีแล้วก็ตาม 0021 เอ่อ... ชื่ออะไรนะ อ๋อ เจมส์ เจมส์มองผมนิ่งอีกฝ่ายทำหน้าโล่งใจผิดกับ0045คนเก่าลิบลับ ไม่ต้องให้พี่ถามย้ำเขาก็ตอบได้เต็มปากเต็มคำ
"ทศครับ!" และดูจะมั่นใจ...มาก ผมเลิกคิ้วให้อีกฝ่ายเพราะถ้ายิ้มรับคงโดนคนหน้าโหดหาเรื่อง ใบหน้าเจมส์ดูมั่นใจจนรู้สึกอยากจะพลิกกระดาษแล้วเปลี่ยนเป็นชื่ออื่นแกล้งอีกฝ่าย แต่ก็ทำได้เพียงแค่คิด ผมพลิกหน้าป้ายโชว์ชื่อเล่นของตัวเองแล้วพูดตอบรับตามคอนเซ็ปต์
"ทศกัณฐ์ รหัส 0015 ขออนุญาตแนะนำตัวครับ!" ทำไมต้องพูดซ้ำอีกรอบ อันนี้ผมสงสัยจริงๆ
"คุณชื่อเล่นว่าอะไร?"
"ทศครับ!"
"0021 เชิญนั่ง!" คนตอบถูกพูดขอบคุณเสียงดังพลางส่งยิ้มขอบคุณให้ผมจนผมอยากจะบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เพราะผมไม่ได้ทำอะไรเลย ยืนโง่ๆเฉยๆอย่างเดียว แอบสงสัยเหมือนกันว่าอีกฝ่ายรู้ชื่อผมได้ยังไงในเมื่อผมนี่แอบหลังนนท์แอบหลังชัยทุกครั้งที่มีโอกาส
รุ่นพี่หน้าเข้มคิ้วหนาที่ตอนนี้เดินมาอยู่ข้างซ้ายผมห่างประมาณสองสามช่วงคน จนเห็นอะไรๆในหน้าพี่เขาชัดขึ้น อีกฝ่ายไม่ปล่อยให้พวกผมลุ้นนานก็ประกาศผู้ถูกเลือกอีกครั้ง
"รหัส 0032 เงยหน้าแล้วลุกขึ้น!!"
ผมพยายามยืนนิ่งๆรออีกคนลุกขึ้น กลั้นหาวแล้วกลั้นหาวอีก แต่พอรู้สึกถึงคนข้างๆลุก อาการง่วงของผมก็หายไปปลิดทิ้ง
นะ...
นนท์!!!!
ผู้ชายผอมแห้งหน้าตาเด็กเรียนข้างผมสั่นงกๆ ยิ่งมือที่จับอยู่ตรงป้ายบวมๆที่อีกฝ่ายพยายามจับให้มันต่อกันอยู่ยิ่งสั่นเขาไปใหญ่ ผมกลืนน้ำลายลงคอรู้สึกว่าอยู่ๆมันก็เหนียวขึ้นมา
"รหัส 0015 เพื่อนคุณชื่อเล่นว่าอะไร!" คำถามเดิมถูกถามมาที่ผม แต่แทนที่จะรู้สึกเบื่อหน่าย ครั้งนี้ผมกลับรู้สึกตื่นเต้นจนประหม่าแทน ผมเม้มปากนิดๆพยายามหาทางออกจากเหตุการณ์นี้ ผมบอกอีกครั้งเลยว่าผมไม่อยากเด่นจางไปกับอากาศได้ยิ่งดี แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าใจความต้องการผมเอาซะเลย ผมสูดหายใจเข้าก่อนจะตอบคำถามด้วยเสียงไม่มั่นใจ ไม่ใช่ว่าผมไม่มั่นใจกับคำตอบแต่ผมไม่มั่นใจกับเหตุการณ์ต่อจากนี้ต่างหาก
"เขาชื่อ...นนท์ครับ" สิ้นเสียงผม หน้านนท์ก็ซีดลงยิ่งกว่ากระดาษซะอีก อีกฝ่ายยืนนิ่งแต่เสียงดังกึกๆที่ออกมาทำให้ผมรู้ว่าเพื่อนใหม่ของผมเครียดจนกัดฟัน
ตอนนี้นนท์ต้องพลิกป้ายโชว์ชื่อเล่นได้แล้ว แต่เพราะเขาไม่ขยับ รุ่นพี่หน้าโหดด้านซ้ายที่ห่างจากผมไปแค่สองสามคนก็ก้าวเข้าไปหานนท์ทางขวาของผมพร้อมกับเสียงที่เอ่ยกดดันไปด้วย
"ไม่ได้ยินที่เพื่อนคุณพูดหรอ หรือคุณไม่อยากให้เพื่อนคุณรู้จัก!!" ยังไม่ทันที่นนท์จะตอบ รุ่นพี่ก็ผ่านผมเดินไปถึงหน้านนท์พอดี ผมเห็นคิ้วเข้มของอีกฝ่ายขมวดฉับทันทีที่เห็นสภาพป้ายชื่อของเพื่อนใหม่ ร่างขาวซีดก้มหน้าจนผมไม่รู้ว่าเขาทำหน้ายังไงอยู่ แต่ร่างกายที่สั่นจนไม่สังเกตก็เห็นทำเอาผมรู้สึกผิดจับใจ
"นี่คุณ--"
"ขออนุญาตครับ!!!!" ผมยกมือพูดขัดกลบเสียงคนใส่ช็อปสีแดง อีกฝ่ายละสายตาจากนนนท์แล้วหันมาที่ผมข้างๆแทน
"คุณไม่ได้ฟังที่เพื่อนผมสอนเลยใช่ไหม! ก่อนที่คุณจะพูดกับผม คุณต้องทำยังไง!!" อยู่แค่นี้ทำไมต้องตะโกนด้วยวะ ผมเริ่มไม่สบอารมณ์คนข้างหน้านิดๆ
"ทศกัณฐ์ รหัส 0015 ขออนุญาตครับ!"
"คุณมีอะไร"
"ผมทำป้ายชื่อเพื่อนพังครับ!" ผมพูดเสียงดัง ย้ำเน้นๆตรงคำว่าทำด้วย กลัวเหลือเกินว่าอีกฝ่ายจะไม่เข้าใจ
"เพื่อนของคุณคนไหน!!" ก็มีคนเดียวไหมละ ผมขมวดคิ้วนิดๆแต่ก็พูดต่อ
"ผมทำป้ายชื่อนนท์พังครับ"
"อ๋อ... ป้ายชื่อคุณพังหรอ?" แต่ครั้งนี้อีกฝ่ายไม่คุยกับผม ผมขมวดคิ้วกว่าเดิมทันทีที่เห็นรุ่นพี่หน้าเข้มหันไปหาเรื่องนนท์อีกครั้ง อะไรวะ ไม่เห็นรึไงว่าเพื่อนผมมันกลัวจนจะเป็นลมแล้ว จะไปหาเรื่องมันอีกทำไม?
"ผมทำป้ายชื่อเขาพังครับ!" ผมพูดขัดอีกครั้ง อีกฝ่ายส่งสายตาเขียวให้ผม แต่ผมสิควรจะส่งสายตาแบบนี้ให้อีกฝ่าย เขาเมินคำพูดผมชัดๆ โคตรไร้มารยาทเลย!
"ผมไม่ได้อนุญาตให้คุณพูด!!" ผมขมวดคิ้วมากกว่าเดิม แล้วตอบกลับอีกฝ่ายไปไม่แน่ใจว่าน้ำเสียงเป็นยังไง แต่ที่รู้ๆผมโคตรหงุดหงิด
"แต่ผมเป็นคนทำ ถ้าพี่จะถามก็ถามผมสิครับ"
"งั้นทศกัณฐ์" ผมเลิกคิ้ว จำชื่อได้ด้วยแฮะ
"ครับ"
"คุณจะรับผิดชอบการกระทำของคุณยังไง?" อีกฝ่ายหันหน้ามาคุยกับผมจริงจัง แต่เพราะอะไรไม่รู้ ผมถึงรู้สึกว่าหน้าอีกฝ่ายดูกวนตีนตงิดๆ
"ผม..." รับผิดชอบยังไงดีละ หากระดาษมาทำให้ใหม่หรอ? แต่พอเหลือบตามองนนท์ปุ๊บผมก็เอ่ยตอบออกไป
"ขอรับบทลงโทษแทนเขาครับ" เพราะถ้าอีกฝ่ายเป็นคนรับเอง ร่างผอมๆนั่นจะหักรึเปล่าก็ไม่รู้
นนท์เงยหน้ามองผมนิดๆ ดวงตาใต้กรอบแว่นแดงก่ำจนสงสาร จริงๆบทลงโทษสำหรับผมไม่เป็นไรหรอก ผมค่อนข้างออกกำลังกายเป็นประจำไม่น่าจะหนักหนามาก
"แต่แค่ป้ายชื่อของตัวเองเพื่อนคุณยังรักษาไม่ได้ คุณทศกัณฐ์บอกผมหน่อยสิผมควรจะจัดการเพื่อนคุณยังไง"ก็บอกว่าเดี๋ยวรับผิดชอบเอง ทำไมไม่เข้าใจวะ ผมสูดหายใจเข้าลึกๆพยายามระงับอารมณ์ร้อนที่อยู่ๆก็พุ่งเข้ามา ถึงข้างในผมจะร้อนแค่ไหนแต่เสียงที่ผมเอ่ยออกไปก็พยายามให้ไม่ใส่อารมณ์ คนร้อนกว่าถือว่าแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม นี่คือสิ่งที่บ้านผมสอนมา
"ผมว่ารุ่นพี่คงเข้าใจผิดนะครับ"ผมมองอีกฝ่ายนิ่งๆ พยายามบอกตัวเองว่าที่เห็นอีกฝ่ายทำหน้ากวนตีนนั้นผมคิดไปเอง
"ผมเป็นคนทำไม่ใช่เขา ถึงเขาจะแขวนป้ายที่คอตัวเองหรือแขวนที่คอรุ่นพี่ ถ้าผมจะทำมันพังมันก็พังครับ เขาไม่จำเป็นต้องรับโทษอีกเพราะเขาได้รับไปแล้วจากการกระทำของผม และตอนนี้เขาเป็นฝ่ายเสียหายแต่ผม..."ผมชี้เข้าหาตัวเองพลางยิ้มบางๆให้อีกฝ่าย "ผมที่เป็นสาเหตุยังไม่ได้รับผลจากการกระทำที่เกิดขึ้น
รุ่นพี่ที่มีวุฒิภาวะมากกว่าผม คงเข้าใจสิ่งที่ผมพูดนะครับ"
ผมเลิกคิ้วเชิงถามอีกฝ่ายเป็นครั้งสุดท้ายแต่ก็ทำเพียงแค่เสี้ยววินาที ถ้าคนที่ไม่สังเกตก็คงไม่เห็น แต่คนที่ยืนอยู่หน้าผมพร้อมจ้องทุกการกระทำที่ผมพูดอีก จะบอกว่าไม่เห็นก็โคตรจะตาบอด
ครับ ผมจงใจย้ำคำว่าวุฒิภาวะ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจรึเปลล่าว่าผมกวนตีนเขาอยู่ แต่ตอนนี้แน่ใจแล้ว
ผมลอบมองมืออีกฝ่ายที่กำแน่นอยู่ข้างๆตัวทั้งๆที่หน้ายังนิ่งไม่เคลื่อนไหว ผมถือว่าเขาเป็นคนเก็บอารมณ์เก่งคนนึงเลย ถ้าคนที่ไม่เห็นมือเขาคงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังโกธรอยู่
หอประชุมตอนนี้เงียบเหมือนไม่มีสิ่งมีชีวิตแต่เพราะสายตาของหลายๆคนที่ทิ่มแทงผมอยู่ทำเอาเสียวสันหลังวาบๆเหมือนกัน
แก๊งพี่ว้ากแกไม่ใช่คนน้อยๆนะที่จริง ผมจะแอบหวั่นก็ไม่แปลกหรอก
คนใส่ช็อปสีแดงตรงหน้าผมเงียบไปสักพักก่อนจะเปิดปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ไม่ทันที่อีกฝ่ายจะพูด เสียงคนจากฝั่งเวทีก็ดังขัดขึ้นมาก่อน จนใจผมแอบเต้นจังหวะเร็วขึ้นอีกนิด
โอเค ก็ไม่นิดหรอก เยอะเลยแหละ ผมหวังว่าที่เต้นแรงเนี่ยเพราะตกใจกับเสียงเกรี้ยวกราดของอีกฝ่าย ไม่ใช่เพราะสิ่งที่ทำให้ผมผิดศีลธรรมละกัน
คิดว่าใครละครับ?
ครับใช่...
เฮดว้ากนั่นแหละ
"ทศกัณฐ์! คุณมีปัญหาอะไรกับเพื่อนผมไม่ทราบ!!!" ก็เพื่อนคุณมันมีปัญหากับผมเองรึเปล่าละ! ผมจิ๊จ๊ะในใจ รู้สึกไม่สบอารมณ์แรงๆ ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายตะโกนใส่ผมนะ เอ่อ.. มันก็มีส่วน แต่ที่ทำให้ผมโคตรจะอารมณ์เสียเลยก็คือ...
ผมแม่งใจเต้นตอนเขาเรียกชื่อนี้แหละ โอยยย จะตื่นเต้นทำบ้าอะไรวะไอ้ทศ!
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วหันกลับไปพูดกับคนบนเวทีที่ตอนนี้ผมยังคงเห็นเป็นเส้นสีแดงๆมัวๆเหมือนเดิม ทำไมเขาไม่เดินมาคุยใกล้ๆนะ อยู่ไกลแบบนั้นกลัวคอไม่แตกรึไง
"ผมทำป้ายชื่อเพื่อนพังครับ ผมควรได้รับบทลงโทษ" ผมพูดรวบรัดในตอนเดียว ไม่รู้ว่าเขาเพิ่งมาหรือมองอยู่นานแล้ว
"คุณอยากได้รับบทลงโทษ?" อีกฝ่ายถามผมเสียงเข้ม "ดี! งั้นคุณกับเพื่อนของคุณไปวิ่งรอบสนามคนละสิบรอบ ปฏิบัติ!!!" สิ้นเสียงเอ่ยคำสั่งที่ดังก้องทั่วหอประชุม ผมก็ต้องรีบดึงนนท์ที่ทำท่าจะออกไปข้างนอกไว้ แล้วหันไปตะโกนพูดกับคนที่อยู่บนเวทีอีกครั้ง
"ผมเป็นคนทำป้ายชื่อเขาพัง! เขาไม่ควรรับ--"
"ผมไม่อนุญาตให้คุณพูด!!!!" Dammit!! โคตรไร้มารยาทเลย! ตอนนี้ผมหงุดหงิดมาก ผมยอมรับ อีกฝ่ายไม่คิดจะฟังเหตุผลผมด้วยซ้ำ!!!
"แต่เขาไม่ได้ผิ---"
"เพิ่มเป็นสิบห้ารอบ!!!!!!"
"แต่---"
"ยี่สิบ!!!!!!"
"
ทำไมผมต้องทำด้วยวะ!!!!!!" ผมหลุดตะโกนสุดเสียงกลบอีกฝ่าย คำสงคำสอนอะไรไม่อยู่ในหัวแล้ว รู้สึกอยากจะพ่นไฟใส่ด้วยซ้ำ! เหตุผลเขาก็ไม่ฟัง! พูดขัดผมไม่พอยังสั่งนู่นสั่งนี่อีก ให้ตายเถอะ! เกิดมาเพิ่งเคยเจอคนแบบนี้
หอประชุมเงียบอีกครั้ง พร้อมกับแอร์เย็นๆในห้องที่กระทบหน้าผม แต่บอกตามตรงไม่ได้ช่วยให้ผมเย็นขึ้นเลย ผมมองอีกฝ่ายที่นิ่งไปก่อนที่เสียงเข้มนั่นจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง
"ทศกัณฐ์" โธ่เอ๊ย ผมจะมาใจเต้นทำไมตอนนี้! "คุณจะทำตามที่ผมสั่งหรือจะให้เพื่อนคุณออกจากประชุมเชียร์แล้วไม่ต้องกลับมาอีก คุณเลือกเอา"
อีกฝ่ายไม่ตะโกนใส่เหมือนที่ผมตะโกน แต่ประโยคที่พูดมาก็ทำให้ผมต้องกัดฟันกรอดเหมือนโดนอีกฝ่ายจี้จุด ผมหันไปทางนนท์ที่สะกิดผมยิกๆ คนตัวผอมตาแดงก่ำเหมือนน้ำตาจะไหลแหล่ไม่ไหลแหล่ ผมกำลังจากถามว่าเขาจะเอายังไง อยากเข้าประชุมเชียร์ต่อไหม เพื่อนใหม่ผมก็ยกมือขึ้นสูงซะก่อน
“นนทกร รหัส 0032 ขออนุญาตครับ" ผมมองคนข้างงงๆ เด็กเรียนนี่เขาคิดจะทำอะไร
"นนทกร คุณมีอะไร"
"ผมกับเพื่อนจะวิ่งรอบสนามครับ!!" WHAT!!!! ผมเบิกตากว้าง หันขวับไปหาร่างผอมแห้งข้างๆ ผมพูดตอนไหนว่าจะไป!!
"ดี! งั้นคุณกับเพื่อนของคุณวิ่งรอบสนามยี่สิบรอบ ปฏิบัติ!!" สิ้นคำสั่งร่างผอมบางของนนท์ก็ทำท่าจะเดินออกจากแถว ผมมองอีกฝ่ายนิ่งไม่คิดจะขยับแล้วหันหน้าเข้าหาเวทีอีกครั้งพร้อมกับเปิดปากจะเถียงคนออกคำสั่ง แต่ไม่ทันที่จะเอ่ยตอกกลับอย่างที่คิดประโยคของนนท์ก็ทำเอาผมชะงักไว้ก่อน
"ทศ กูขอ" อีกฝ่ายพึมพำเสียงเบาเหมือนพูดกับตัวเอง แล้วร่างผอมก็เดินผ่านหน้าผมไป ผมมองร่างเล็กนั่นอย่างไม่เข้าใจ ประชุมเชียร์บ้าๆนี่มันมีดีตรงไหน แต่ถ้าปล่อยอีกฝ่ายไปผมก็โคตรจะรู้สึกผิดมากกว่าเดิมถึงจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายแพ้ก็เถอะ ผมพ่นหายใจแรงๆมองตาขวางใส่ไอ้พี่ว้ากคิ้วหนากับเฮดว้ากที่อยู่บนเวทีก่อนจะวิ่งตามเด็กเรียนนั่นออกไป
คอยดูนะกลับไป ผมจะฟ้องพี่ฟิว!!!
______________________________________________________________________________
TBC
จบไปอีกตอนค่ดเหนื่อยยยยย ก็ยังไม่ถึงไหนอยู่ดี55555 จะบอกว่าเราไปเจอคนที่เอานิยายไปลงที่อื่นนะคะ (ขอบคุณคุณchaleeisisมากค่ะ )เราลงแค่ fictionlogกับ thaiboyslove เท่านั้นนะยู คนที่เอาไปลงช่วยลบออกเถอะนะคะ ถ้าอยากอ่านในเว็บนั้นเดี๋ยวเราเอาไปลงเองก็ได้ค่ะ ลบออกเถอะเนอะ เราเพิ่งลงตอนที่หนึ่งเอง อย่าทำร้ายเราเลยยย
ปล. ขอโทษที่หายไปนานค่ะ ติดสอบพอดี เพิ่งสอบเสร็จวันอาทิตย์รู้สึกผิดมากที่เปิดนิยายก่อนสอบ เราขอโทษนะออเจ้า
ปล.2 ซีนอารมณ์ถ้าแข็งทื่อไปบอกได้นะคะ บอกตามตรงว่าเขียนแนวเกรี้ยวกราดไม่เก่ง เป็นคนใจดี รักโลก รักสัตว์5555
ปล.3 เรื่องหัวกระทู้ที่ให้อัพเดทไม่รู้ว่าทำถูกรึเปล่านะคะ ไม่แน่ใจเลยยยย.