{ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62  (อ่าน 69277 ครั้ง)

ออฟไลน์ สามภพ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
«ตอบ #30 เมื่อ18-02-2018 10:09:12 »






ไอ้เอ๋อ 4



ความอร่อยของเค้กในวันนี้ไอ้เอ๋อมันจะไม่มีวันลืมเด็ดขาด แต่ไม่รู้ว่าปากมันเล็กไปหรือเค้กมันชิ้นใหญ่ไป หน้ามันถึงได้เต็มไปด้วยครีมสดของเค้ก สิงห์คอยเช็ดคราบเลอะๆ ให้จนเขาแอบบ่น

“กินเลอะจังเลยครับ”

“งืม ง่ำๆ อะหย็อยๆ ง่ำๆ” ตอนนี้มันเลอะไปทั้งมือแล้ว เพราะช้อนมีนะแต่มันไม่ใช้ ถนัดสุดก็มือนี่แหละ กินไปดูดนิ้วไป ดูน่าอร่อย กินไปเกือบครึ่งหนึ่ง ไอ้เอ๋อก็นั่งตบพุงกางๆ ของมันเบาๆ

“อะ เอา กลับวัดได้ไหม นะโมอยากเอา ไปแบ่งน้องๆ แบ่งเพื่อน” มันถามพร้อมกับชี้ไปที่เค้กที่เหลือ แล้วมองสิงห์อย่างมีความหวัง ถึงมันจะเอ๋อมันจะโง่แต่มันก็นึกคนอื่นเสมอ มันใจดีกับเด็กๆ แล้วก็พวกสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยด้วย เพื่อนมันเยอะมาก มาก มากจนนับไม่ถูก

“ได้สิ อยากกินอะไรอีกไหม เดี๋ยวพี่พาไปซื้อ” ไอ้เอ๋อมันทำหน้าลังเล มันอยากกินอีก แต่ท้องของมันรับอะไรไม่ไหวแล้ว ดวงตากลมโตกวาดสายตาไปทั่วๆ ร้าน จนกระทั่งมันไปสะดุดเข้ากับกล่องคุกกี้ลายน่ารักๆ เข้า

“อะ เอา อันนั้น อันสีชมพู เอาไปฝากหลวงตา” นิ้วเรียวชี้ไปที่ชั้นวางขนม ตากลมๆ ของมันโตขึ้นแทบจะทัน

“ได้ครับ ปะเราเอาเค้กไปใส่กล่อง แล้วไปจ่ายเงินกันนะ นะโมไปหยิบ ของที่อยากได้มาสิ” พอได้รับอนุญาตมันก็เดินไปที่ชั้นวางขนมทันทีแล้วหยิบกล่องขนมกล่องที่ใหญ่ที่สุดออกมา ไหนๆ ก็จะซื้อให้แล้ว มันเลยอยากได้กล่องใหญ่ๆ จะได้แบ่งกันกินหลายๆ คน มันหยิบมากอดไว้แนบอก เหมือนกลัวว่าขนมจะหายไป จนสิงห์ต้องเดินไปแย่งมาจ่ายเงิน แล้วพามันออกจากร้าน ด้านหลังมีไอ้เอ๋อเดินกอดถุงขนมไว้แน่น



หลังจากนั้นเขาก็พามันกลับมาที่วัด ตะวันก็เกือบจะตกดินแล้ว แต่แทนที่มันจะยิ้ม มันกลับค่อยๆ หุบยิ้มลงอย่างช้าๆ ก่อนจะสะดุ้งแรง สายตามันมองไปยังจุดจุดเดียวคือหน้ากุฏิหลวงตา ร่างสูงยืนกอดอกมองมาที่มัน

“ลูกพี่ ยะ ยะแย่แล้ว แย่แล้ว” ไอ้เอ๋อยืนตัวสั่นๆ มันจิกเล็บตัวเองไปมา เหมือนกลัวอะไรสักอย่าง มันค่อยๆ เดินไปหา ไอ้ต้าร์ลูกพี่ของมัน

“ไปไหนมา” ไอ้ต้าถามมันด้วยน้ำเสียงต่ำๆ มันอุตส่าห์รีบกลับมาหากลัวไอ้เอ๋อมันจะเหงา แต่พอมาถึงไอ้เอ๋อมันกลับไม่อยู่เสียนี่ ใจก็นึกห่วงกลัวว่ามันจะเป็นอันตรายแต่พอมารู้จากปากพระลูกวัดว่ามีคนมารับมันออกไปข้างนอก ไอ้ต้าร์มันรู้ได้ทันทีเลยว่าใครเป็นคนมารับไอ้เอ๋อออกไป และมันก็เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ เมื่อได้ยินเสียงรถบิ๊กไบค์แล่นเข้ามาจอด ภาพที่เห็นคือไอ้เอ๋อมันกอดเอวอีกคนไว้แน่น แค่นั้นมือใหญ่ของมันก็กำแน่นจนเห็นเส้นเลือด

“ปะ ปะไป กินขนม” มันตอบ ไอ้ตาร์สูดลมหายใจลึก พร้อมกับยืนเท้าเอว อย่างสงบสติอารมณ์ ดวงตาดุๆ ของมันกวาดมองทั่วร่างกายของไอ้เอ๋อ

“เสื้อผ้าพวกนี้ ใครซื้อให้” มันจับแขนเสื้อของไอ้เอ๋อแล้วสะบัดทิ้ง

“พะ..พี่สิงห์จ้ะ พะ พี่สิงห์พาไปร้านขายของที่ใหญ่ๆ”

“แล้วมึงไปทำไมวะ!! ” ต้าร์เผลอตะคอกใส่ไอ้เอ๋อ ไอ้เอ๋อมันตกใจจนต้องก้าวถอยหลังไปหลายก้าว สิงห์ที่ยืนเฝ้าสังเกตอยู่เห็นท่าไม่ดี เขาเลยเดินไปหานะโมที่ยืนตัวสั่นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่

“ใจเย็นสิน้อง น้องทำให้นะโมกลัว” สิงห์เอ่ยเสียงนุ่มๆ แต่สายตาของเขามันไม่ได้ดูนุ่มนวลเหมือนน้ำเสียง สายตาของสิงห์แข็งกร้าวและดูไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ เขาเดินมาจับไหล่ของนะโมไว้ และปลอบให้นะโมสงบลง

“มึงมาเสือกอะไรด้วย!! ” ต้าร์มันตวาดใส่เสียงลั่น

“หึหึ พูดจาไม่น่ารักเลยนะครับ น้องต้าร์” สิงห์ยิ้มเหี้ยมใส่

“ใครน้องมึงมิทราบ กูไม่เคยมีพี่หน้าตาแบบมึง ไสหัวไปได้แล้ว!! ส่วนมึงไอ้อ๋อ ตามกูมานี่เลย” พูดจบมันก็กระชากแขนไอ้เอ๋อให้เดินตาม สิงห์เป็นคนที่อารมณ์เย็น เขายกยิ้มมุมปากแล้วเดินตามสองคนนั้นไปอย่างเงียบๆ เขาได้ยินไอ้ต้าร์มันสบถหยาบออกมาหลายคำพร้อมกับทำหน้าดุไอ้เอ๋อไปด้วย

“ไอ้เอ๋อมึงนี่นะทำไมชอบให้กูโมโหอยู่เรื่อยเลยวะ กูบอกว่าเย็นๆ จะมารับ แล้วเสือกหนีไปกับใครก็ไม่รู้ -*- “

“นะโม เปล่านะ นะโมไม่ได้หนี นะโมไปเที่ยว ลูกพี่อย่าโกรธเลยนะๆ นี่ นะโมเอาขนมมาฝากด้วยนะ” ไอ้เอ๋อมันพยายามเอาใจลูกพี่มันสุดๆ มันไม่สนแรงบีบที่แขนของมันด้วยซ้ำมันกลัวอยู่อย่างเดียว คือกลัวไอ้ต้าร์จะทิ้งมัน ไม่เล่นกับมัน มันคิดอยู่แค่นั้น สิงห์มองพฤติกรรมทุกอย่างของไอ้เอ๋อพร้อมกับคิดวิเคราะห์ไปด้วย ประเมินจากสายตา “ไอ้ต้าร์มีความสำคัญกับไอ้เอ๋อไม่ใช่น้อย” และสิงห์ก็คิดว่าเขาจะต้องทำยังไงให้มีความสำคัญมากกว่าไอ้ต้าร์ ลูกพี่ขี้หวงของไอ้เอ๋อ ให้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสนุก สิงห์ไม่ได้เจออะไรที่ท้าทายความรู้สึกแบบนี้มานานแล้ว

“กูไม่กิน ของจากคนแปลกหน้า มึงเองก็ด้วยทิ้งไปให้หมดเลยนะของพวกนี้” ไอ้ต้าร์พยายามจะแย้งขนมในมือไอ้เอ๋อไปแต่ ไอ้เอ๋อมันเอาหลบ ไม่ยอมให้ มันหวงของของ มันเหมือนกัน

“ไม่เอา นี่มันของๆ นะโมนะ ลูกพี่จะแย่งมันไปไม่ได้!! ”

“นี่มึงกล้าขึ้นเสียงกับกูแล้วเหรอไอ้เอ๋อ” มันได้ขึ้นเสียงใส่มันแค่ตกใจ

“ไม่นะ ไม่ใช่ อย่าเอาของนะโมไป” ไอ้ต้าร์มันพยายามยื้อแย่งกล่องเค้กในมือไอ้เอ๋อ

“เอามาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้เอ๋ออ ไอ้เชี้ยะ เอ๋อออ” สองคนยื้อยุดกันไปมาต่างคนต่างไม่ยอม

“พอได้แล้วครับเด็กๆ” สิงห์เอ่ยแทรกระหว่างสงครามการแย่งขนมด้วยเสียงนุ่มๆ

“พี่จ๋า ฮึก ขนมของนะโม”

“^^ครับ เดี๋ยวพี่คุยให้เองนะ” สิงห์สบโอกาสดึงนะโมมาอยู่ข้างๆ กายอีกครั้ง

“เหอะทำเป็นพูดจาหวานหู กูรู้หรอกว่ามึงคิดอะไรอยู่” ไอ้ต้าร์กัดฟันพูด

“ก็ไม่ต่างจากน้องสักเท่าไหร่หรอก ว่าไหมครับ? ^^ เรามาคุยกันดีๆ ดีกว่านะครับ เรื่องแค่นี้เอง” แม้คำพูดจะฟังดูแล้วนุ่มหู แต่สายตานี่เชือดเฉือนฝ่ายตรงข้ามย่อยยับ

“กูไม่คุยอะไรกับมึงทั้งนั้น “ไอ้ต้าร์หันหลังให้ “อ่อ แล้วอีกอย่าง มึงห้ามมายุ่งกับไอ้เอ๋อมันอีกเป็นอันขาด อย่าหาว่ากูไม่เตือนก็แล้วกัน”

“คงไม่ได้หรอกครับ พี่ว่าพี่รู้สึกถูกชะตากับนะโมมากๆ อยากจะมาเจอบ่อยๆ อีกอย่างพี่ก็อายุเยอะกว่าน้องหลายปี กรุณาพูดจาให้ความเคารพกันนิดนึงก็ดี อย่าหาว่าพี่สั่งสอนเลยนะ แต่กิริยาแบบน้องแถวบ้านพี่เค้าเรียกว่าก้าวร้าว ไร้การอบรมสั่งสอนที่ดีมา คนอื่นเค้าจะมองไม่ดี ^^”

“นี่มึง!! ” ไอ้ต้าร์มันรู้ว่ามันโดนด่าแบบผู้ดี สองมือมันกำแน่นด้วยความคับแค้นใจ มันหันไปมองไอ้เอ๋อที่ยืนมองอยู่ กับมือที่กำลังจับกับมือสิงห์ไว้แน่น เพราะว่ามันดันเสียงดัง มันกำลังโกรธและนั่นทำให้ไอ้เอ๋อของมันยิ่งหวาดกลัวในตัวของมัน ไอ้ต้าร์สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะเดินหนีออกไป ด้วยความคุกรุ่นในใจ

“ละ ลูกพี่ พี่ต้าร์” ไอ้เอ๋อมันพยายามจะเรียกไอ้ต้าร์เอาไว้ แต่ก็โดนสิงห์ห้ามไว้เสียก่อน

“ปล่อยต้าร์เค้าไปเถอะ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง เรานะเอาของไปเก็บก่อนไหม” สิงห์ชูถุงเสื้อผ้ากับถุงขนมให้นะโมดู ไอ้เอ๋อมันพยักหน้าก่อนจะเดินนำไปที่ห้องนอนของตัวเองซึ่งอยู่ถัดไปจากห้องของหลวงตา แต่ขณะที่มันเดินมันก็ยังเหลียวหลังไปมองทางที่ไอ้ต้าร์มันพึ่งเดินหนีไป สายตามันดูเศร้าๆ และเป็นกังวล พอมาถึงไอ้เอ๋อมันเปิดประตูห้องมันเข้าไป โดยที่มีสิงห์เดินตาม ในห้องของไอ้เอ๋อมีแค่ฟูกที่นอนเก่าๆ กับหมอนแล้วก็ผ้าห่มที่พับเรียบร้อย มีพัดลมตัวเล็กๆ ตั้งอยู่ที่ปลายฟูกมุ้งถูกตลบเก็บไว้อย่างดี สิงห์กวาดสายมองไปรอบๆ เขาอดที่จะทึ่งไม่ได้ว่า ห้องของมันจะสะอาดและเรียบร้อยขนาดนี้ ในห้องแทบจะไม่มีฝุ่นเลย สิงห์วางถุงเสื้อผ้าลงบนที่นอนของไอ้เอ๋อ

“เราไม่มีตู้เสื้อเหรอนะโม” ไอ้เอ๋อมันส่ายหน้าบอกว่าไม่มี

“แล้วอยากได้ไหม?” สิงห์เริ่มเสนอของที่ตัวเองอยากจะซื้อให้ทันที อะไรที่พอจะช่วยเหลือได้เขาก็จะช่วย

“ไม่อยากได้ นะโมมีราวตากผ้าแล้ว” ไอ้เอ๋อมันตอบยิ้มๆ มันไม่มีตู้เสื้อผ้ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เสื้อผ้ามันทุกตัวถูกแขวนที่ราวที่ใต้ถุนมาตลอด มันไม่จำเป็นสำหรับคนอย่างไอ้เอ๋อ

“อย่างนั้นเหรอ นะโมไม่อยากมีของใช้ที่เป็นของตัวเองบ้างเลยเหรอครับ หืม” ไอ้เอ๋อมันได้ฟังก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“คิคิคิ นะโมไม่เคยอยากได้อะไรหรอกนะโม นะอยู่แบบพอเพียง” มันตอบเสียงใสพร้อมทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นไม้ตรงข้ามกับพี่จ๋าของมัน ในหัวมันนึกถึงน้องๆ แล้วก็หลวงตา ว่าจะแบ่งขนมยังให้เท่าๆ กัน

“หึหึ เป็นเด็กดีจริงๆ นะเรานะ” สิงห์ยกมือขึ้นลูบหัวไอ้เอ๋อมันอย่างเอ็นดู ไอ้เอ๋อมันเลยส่งยิ้มหวานมาให้แทน

“คิคิคิ นะโม เด็กดี นะโมไม่ดื้อ ด้วยน้า^^”

“ครับ รู้แล้วเรานะไม่ดื้อเลยยยยย” สิงห์ใช้น้ำเสียงกึ่งประชดกึ่งขำ เขาเอื้อมมือไปหยิกแก้มยุ้ยๆ ของนะโมอีกครั้งด้วยความหมันเขี้ยว

“อร้ายยย นะโมเจ็บๆ >0<” ด้วยความน่ารักแบบเอ๋อๆ มันได้สร้างความรู้สึกที่ดีต่อคนที่ได้สัมผัสอย่างสิงห์ รอยยิ้มของมันทำให้หัวใจของใครบางคนเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ สิงห์ได้แต่เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ในก้นบึ้งของหัวใจรอวันที่มันเติมจนเต็ม วันนั้นเขาคงเผยความรู้สึกนี้ออกมาได้โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ หมอหมายิ้มรับกับความใสซื่อของเด็กผู้ชายคนหนึ่งด้วยความบริสุทธิ์ใจ เขาแค่ต้องรอ รอให้น้องโตกว่านี้อีกหน่อย จิตอกุศลของถึงจะทำงาน ตอนนี้ เป็นพี่ชายที่แสนดีไปก่อนละกัน



“นะโมเอ๊ยยย นะโม อยู่ไหมลูก” เสียงแหบๆ ของหลวงตาตะโกนเรียกไอ้เอ๋อจากประตู

“จ๊ะ หลวงตา นะโมอยู่นี่” พอได้ยินเสียงเรียกของหลวงตาไอ้เอ๋อก็ลุกพรวดแล้ววิ่งไปที่ประตู

“อ่าวอยู่ในห้องเรอะ วันนี้หายไปไหนมาทั้งวันเลยเอ็ง”

“ไปกินขนมกับพี่จ๋ามาจ้ะ” มันตอบซื่อๆ หลวงตาขมวดคิ้วยุ่ง เพราะเสื้อผ้าที่ไอ้เอ๋อมันใส่ สิงห์เดินออกมาจากห้องนะโมพอดี และยกมือไหว้หลวงตา

“นมัสการครับหลวงพ่อ ผมพานะโมไปกินขนมเองครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไปโดยไม่บอก” สิงห์เอ่ยเสียงสุภาพพร้อมส่งยิ้ม ไอ้เอ๋อมันก็ยิ้มแล้ววิ่งกลับไปด้านใน ก่อนจะออกมาพร้อมกับขนมกล่องใหญ่

“พี่จ๋าซื้อให้ นะโมเอามาให้หลวงตานะ หลวงตาจะได้กินกับน้ำขมๆ” ไอ้เอ๋อมันรีบบอกเพราะกลัวหลวงตาจะดุเอาเรื่องหนีไปเที่ยวไกลๆ หลวงตามองมันด้วยความอ่อนใจ เพราะมันเป็นแบบนี้หลวงตาถึงได้ห่วง มันไม่รู้ว่าคนที่เขาหามันนั้นมีจุดประสงค์อะไรบ้าง หลวงตาเบนสายตากลับมาที่พี่จ๋าของมัน หลวงตาวันชราภาพมองหน้าของสิงห์พินิจพิเคราะห์ชคนแก่ไม่เคยไว้ใจใคร ไม่มีใครที่เอ็นดูไอ้เอ๋อของเขาแล้วไม่หวังผลอะไร เว้นเสียแต่ตัวเขาเองที่รักไอ้เอ๋อเหมือนลูกแท้ๆ คนหนึ่ง

“เกรงใจโยมจริงๆ วันหลังอย่าไปตามใจมันมากมันจะเสียคนเอา อาตมาเองก็ไม่มีเงินมากพอจะซื้อเสื้อผ้าสวยๆ ให้มันใส่หรอก ถ้าเกิดวันหนึ่งมันอยากได้ขึ้นมาอาตมาจะลำบาก เพราะอาตมาไม่มีให้มัน” หลวงตาเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

“......”

“แล้วนี่โยมจะกลับเลยไหม อาตมาจะได้ให้นะโมเขาไปทำธุระให้”

“ครับก็กะว่าจะกลับแล้วเหมือนกัน” ในเมื่อโดนไล่แบบนี้ เขาก็ไม่ควรที่จะอยู่ต่อ สิงห์กราบลาหลวงตาแล้วหันไปลาไอ้เอ๋อ

“พี่ไปก่อนนะ แล้วจะแวะมาเล่นด้วยใหม่” สิงห์ยิ้มอ่อนให้ไอ้เอ๋อที่ยืนมองเขาอยู่ด้วยแววตาเศร้าๆ เพราะไม่มีใครมาเล่นกับมัน ไอ้ต้าร์ก็งอนมันหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้ พอสิงห์ขี่รถกลับไปหลวงตาจึงเรียกนะโมไปอบรมเรื่องการไปไหนกับคนแปลกหน้า





ด้านไอ้ต้าร์ที่ทั้งโมโหแล้วก็น้อยใจไอ้เอ๋อ มันเดินหิวปลาตัวใหญ่กลับมาที่ริมคลอง ตรงนั้นมันเตรียมอุปกรณ์สำหรับย่างปลาไว้พร้อม มันจะไปรับไอ้เอ๋อมากินปลาย่างที่มันตกได้ แค่ความภาคภูมิมิใจทั้งหมดของมันต้องพังทลายเพราะของแพงๆ ที่ไอ้เอ๋อมันได้มานั้นเทียบไม่ติดกับปลาของมันสักนิด ปลาตัวใหญ่มันไร้ค่าไปโดยปริยาย ไอ้ต้าร์มันโยนปลาลงถัง แล้วนั่งบนพื้นหญ้าริมคลองอย่างเจ็บใจ

“ไอ้เชี้ยะ เอ๋อออ มึงนะมีง” มันพึมพำออกมา พร้อมกับทอดสายตามองไปยังผืนน้ำด้านล่าง อย่างเหม่อลอย





...



หลังจากวันนั้น ไอ้เอ๋อมันก็ไม่เห็นไอ้ต้าร์อยู่หลายวัน พอไปที่บ้านพ่อกับแม่ของไอ้ต้าร์ก็บอกว่า ต้าร์มันไปค่ายที่ต่างจังหวัด พรุ่งนี้ถึงจะกลับ ไอ้เอ๋อมันเลยเดินคอตกกลับมา ด้วยความที่ไม่รู้จะไปไหน มันเลยเดินไปที่โรงน้ำชา ที่นั่นมักจะมีคนแก่ๆ ออกมาเล่นหมากรุกกันเป็นประจำ มันเปลี่ยนเส้นทางที่จะกลับวัดไปเป็นที่โรงน้ำชาแทน แค่มันก้าวเข้าไปที่โรงน้ำชากลางหมู่บ้าน เสียงร้องทักมันก็ดังลั่น

“อาเอ๋อออ หายหน้าไปนานเลยนะเอ็ง” แปะซ้งเอ่ยทักทายไอ้เอ๋อทันทีที่มันก้าวเข้ามา แปะซ้งเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ที่เดินทางมากับเรือสำเภากับพ่อแม่ตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง และตั้งรกรากอยู่ในเมืองไทยสืบทอดมาจนปัจจุบัน อายุก็ใกล้จะลงโรงแล้ว มือเหี่ยวๆ กวักเรียกไอ้เอ๋อให้เข้าไปหา

“สวัสดีจ้า แปะซ้ง วันนี้นะโม ว่างก็เลยแวะมาหา อิอิ^^” มันพูดทักทายแต่สายตามันจับจ้องที่กล่องเหล็กเก่าบนชั้นวางของ ในกล่องคือชุดหมากรุกที่ทำจากไม้ ของรักของหวงของมัน เพราะมันใช้แรงงานหาเงินมาซื้อด้วยตัวของมันเอง

“เหรออออ นึกว่าไม่มีคนเล่นด้วยถึงได้มา” เจ๊กลากเสียงยาวล้อเลียนไอ้เอ๋อ เขาทั้งเอ็นดูและรักมันเหมือนหลานคนหนึ่ง

“มาๆ วันนี้มาประลองกันสักตั้ง” ซ้งรีบท้าไอ้เอ๋อมันแข่งหมากรุกทันที เรื่องหมากรุกไว้ใจไอ้เอ๋อได้ แต่ยังไม่ทันจะแข่ง จู่ๆก็มีชายชุดดำประมาณสี่ห้าคนเดินเข้ามา พวกมันไม่พูดอะไรมากมันมาถามหา แปะซ้งนั่นแหละ พอแปะซ้งเห็นคนพวกนั้นก็รีบวิ่งไปหลบที่ด้านหลังร้านด้วยความหวาดกลัว ชายแก่ได้แต่แอบมองมาจากหลังร้านผ่านรูเล็กๆ ที่กำแพง พอพวกนั้นไม่ได้คำตอบที่ต้องการมันก็ทำลายข้าวของจนเสียหาย ยังดีที่มันไม่ได้ทำร้ายใคร ไอ้เอ๋อ มันเห็นแบบนั้นก็รีบห้าม

“พี่ อย่า อย่า ทำ อย่า” มันเข้าไปจับแขนของหนึ่งในพวกนั้นเอาไว้ไม่ให้ทำลายของ ของแปะซ้ง

“ไอ้เด็กนี่ เกะกะ ออกไป!!! ” มันผลักไอ้เอ๋อจนกระเด็นล้มกลิ้งลงกับพื้น แต่ถึงอย่างนั้นไอ้เอ๋อมันก็ไม่ได้ลดละความพยายาม มีหลายคนหนีออกจากโรงน้ำชาไปแล้ว เหลือแต่พวกที่อยากรู้อยากเห็นกับหลานของแปะซ้ง ที่คอยห้ามไอ้เอ๋อไม่ให้เข้าไปยุ่ง แต่ไอ้หลิวมันแค่เด็กปอ6จะไปมีปัญญาห้ามไอ้เอ๋อที่โตกว่ายังไงไหว มันร้องไห้จ้า ปากก็ร้องห้ามไอ้เอ๋อไปด้วย

“ไม่นะ อบ่ายุ่งกับของๆ นะโมนะ” ทันทีที่พวกนั้นแตะกล่องเหล็กไอ้เอ๋อมันก็รีบลุกไปคว้า แต่ไม่ทันมันถูกถีบออกมาจนล้มกลิ้งอีกครั้ง ไอ้เอ๋อพยายามจะแย่งกล่องเหล็กคืน มันคลานไปจับขาของพวกคนร้ายเอาไว้อย่างไม่นึกกลัว ผลที่ได้คือมันโดนเตะจนล้มคว่ำไปอีกรอบ ครั้งนี้เลือดกบปากมันแน่นอน

“ไอ้เอ๋อออ” เสียงร้องของคนที่เหลือดังขึ้นทันที เพราะไอ้เอ๋อมันแน่นิ่งไป ถ้าสังเกตดีๆ มือของมันยังไม่ปล่อยขากางเกงของไอ้คนที่ทำร้ายมันด้วยซ้ำ แปะซ้งที่ทนดูไม่ไหว จำต้องออกมาจากที่ซ่อนเพื่อปกป้องไอ้เอ๋อ ไม่มีใครรู้ว่าแปะซ้งไปทำอะไรไว้กับคนพวกนี้ พวกมันถึงได้ตามมาเล่นเขาถึงที่ ชายชราพาตัวเองออกไปขวางไม่ให้คนพวกนั้นทำร้ายนะโมอีก

“อย่าทำมันเลย อย่าทำมัน” เจ๊กรีบยกมือไหว้ขอร้องไม่ให้ทำร้ายไอ้เอ๋อมันอีก

“หึ ยอมออกมาแล้วเหรอไอ้แก่ หนี้ที่ค้างไว้เมื่อไหร่จะจ่าย เฮียเค้าให้มาทวง!! ” มันตะคอกใส่เจ็กที่กำลังพยุงไอ้เอ๋อให้ลุกขึ้นมันยังรู้สึกมึนและเจ็บหลังมากๆ สติมันอยู่ครบแล้วตอนนี้ สายตามันมองไปที่กล่องเหล็กที่พื้น มันพยายามจะคลานไปเก็บ แต่ก็ถูกไอ้คนใจร้ายเตะทิ้งจนตัวหมากรุกระเด็นไปทั่ว มันพยายามจะไปเก็บแต่แรงมันไม่มีสักนิด

“ยะ อย่า เอาของนะโมคืนมานะ” เสียงมันเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน

“ว่ายังไง! เจ๊ก หรือต้องให้ไอ้เด็กนี่มันเจ็บตัวมากกว่า แปะถึงจะยอมจ่าย” หนึ่งในพวกนั้นกระชากหัวไอ้เอ๋อมันขึ้นจากพื้น มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับพยายามจะสู้ตามที่กำลังมันจะมี น้ำตามันไหลพรากด้วยความกลัว



“ไอ้เอ๋อมันไม่เกี่ยว มันไม่รู้เรื่องอย่าไปยุ่งกับมัน ลื้อปล่อยมันไปเถอะ” แปะร้องออกมาทันที ไอ้เอ๋อตัวมันสั่นสะท้าน และเริ่มหายใจติดขัด มันไม่ชอบความรุนแรงและกลัวมากๆ ด้วย เพราะตอนเด็กๆ มันโดนทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง และหนึ่งในนั้นก็ไอ้ต้าร์ลูกพี่ของมัน

“อย่า ทำ เจ็บ ฮึก อย่าทำนะโม ฮรือออ หลวงตาจ๋า” มันร้องออกมาเสียงดังสองมือของมันยกขึ้นกุมหัวตัวเองโดยสัญชาตญาณ ภาพในหัวมันคืออดีตที่ มันกำลังโดนทำร้าย ดวงตากลมหลับแน่น

“ไอ้พงศ์มึงปล่อยมันไปเหอะ ดูดิ แมร่งกลัวจนฉี่ราดแล้วนั่น” คนที่ชื่อพงศ์ก้มมองไอ้เอ๋อแล้วมันกำทำหน้ายี้ใส่ก่อนจะเหวี่ยงไอ้เอ๋อให้กระเด็นไปอีกทาง ด้วยความขยะแขยง ไอ้เอ๋อล้มกลิ้งไปบนพื้นปูนจนเป็นแผลถลอกเลือดซิบออกมาจากผิวสวยๆ ของมัน

“พงศ์ฉันขอเวลาสักสองสามวันนะ ลูกชายยังไม่กลับจากส่งของที่ภาคใต้เลย เดี๋ยวได้เงินมาฉันจะรีบเอาไปคืนให้เลยนะ วันนี้ฉันไม่มีจริงๆ” แปะพยายามจะขอร้อง พวกมันมองแปะซ้งด้วยแววตาหยามเหยียด

“ก็ได้ แค่สามวันเท่านั้นนะ ถ้าผิดนัดอีกละก็ ทั้งเจ๊ก ทั้งไอ้เด็กปัญญาอ่อนนี่ โดนดีแน่” มันขู่ พร้อมกับเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีก แปะซ้งรีบประคองไอ้เอ๋อมันลุกแล้วพาไปทำแผลทั้งที่มันยังมีอาการหวาดผวาอยู่ เรื่องนี้เขาเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่ทำให้ไอ้เอ๋อมันมารับเคราะห์แทนแบบนี้ แต่ที่น่าเจ็บใจที่สุด คือคนสติดีๆ มีปัญญาครบไม่มีใครออกตัวมาช่วยเหลือเขาหรือไอ้เอ๋อเลยสักคน ชายชราทำแผลให้ไอ้เอ๋อด้วยน้ำตาคลอหน่วย

“อั๊ว ขอโทษนะเอ๋อเอ้ยย อั๊วไม่รู้ว่าอีพวกนั้นมันจะชั่วเกินมนุษย์แบบนี้” แปะบอกด้วยความรู้สึกผิดและสงสาร ใบหน้าสวยๆ ของไอ้เอ๋อมันเหยเกทุกครั้งที่แป๊ะทายาให้มัน

“นะโมกลัวจ้ะ แปะ T^T” พอแปะได้ยินสีหน้าของเขาก็เครียดลงอีก เพราะคำขู่ของคนพวกนั้น แปะกลัวไอ้เอ๋อจะเดือดร้อนไปด้วย เรื่องนี้เขาคงต้องปรึกษาหลวงตาบัว แปะถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ มันมืดแปดด้านไปหมด ไอ้ที่บอกว่าอีกสามวันมันก็ใช่ว่าจะแน่นอน เขาแค่คาดเดาว่าบุตรชายคนโต ตัวต้นเหตุที่ทำให้ทั้งเขาและไอ้เอ๋อต้องมาเจ็บตัวแบบนี้มันจะกลับมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้าพร้อมกับเงินที่เขาไปกู้ให้มันไปลงทุนขายของ ตั้งแต่ได้เงินมันก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆติดต่อไม่ได้มาหลายวันแล้ว

“ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว” ก่อนจะหันไปสั่งหลิวหลานชายให้ช่วยเก็บกวาดของที่หล่นกระจาย ยังดีที่ไม่ลามไปถึงของขายในร้าน ส่วนใหญ่ที่มันพังก็จะมีแค่โต๊ะกับกระดานหมากรุกเท่านั้น ดวงตาสีอ่อนกวาดมองร้านของตนเองอีกครั้งด้วยความปวดใจ พร้อมกับลูบหัวปลอบไอ้เอ๋อไปด้วย





แปะซ้งพาไอ้เอ๋อมาส่งที่วัดพร้อมกับคำอธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แปะดูเครียดมากกว่าเดิมเมื่อหลวงตาแสดงท่าทีหนักใจ

“อาตมาก็ไม่รู้ว่าจะดูแลมันได้อีกนานเท่าไหร่” หลวงตาทอดสายตาไปยังไอ้เอ๋อที่นอนหลับอยู่ในห้อง พร้อมกับนึกถึงเวลาที่เหลืออยู่ของตนเองที่ชราภาพมากแล้ว

“กระผมต้องขอโทษหลวงตาด้วยนะครับที่เป็นต้นเหตุให้ไอ้เอ๋อมันมาเดือดร้อนด้วย”

“เรื่องนั้นเป็นเหตุสุดวิสัย แล้วอีกอย่างไอ้เอ๋อมันก็คงจะรักโยมกับโรงน้ำชานั้นมาก เลยไม่อยากให้ใครมาทำลาย แต่ปัญหาจากตรงนี้นี่สิถ้าโยมชัยไม่กลับมา โยมซ้งจะทำยังไง” หลวงตาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่หนักใจ แปะซ้งก้มหน้าเงียบไม่พูดเพราะเองก็คิดไม่ตก บทสนทนาของคนสองคน นั้นทำให้หมอหมาที่เดินเข้ามาหาไอ้เอ๋อได้ยินเข้าพอดี



“ให้น้องไปอยู่กับผมไหมครับ?”

“!!!!!! ”


+++++++++++++++++++

โปรดเม้นต์ถ้าโดนใจ โปรดให้กำลังใจถ้ารัก น้องเอ๋อออ นะคะ

ปล.ต้องขอบคุณ นักอ่านที่น่ารักทุกคนนะคะที่ให้กำลังกับคนเขียน ทั้งช่วยแนะนำเรื่องคำผิด และ อื่นๆอีก คนเขียนจะพยายามจะไม่ให้มีคำผิดค่ะ แต่ถ้าเจอก็ช่วยบอก คนเขียนด้วยนะคะ บางทีอาจจะตกหล่นไปบ้าง คนเขียนพรูฟอักษรสองรอบก่อนลงแล้วนะ สงสัยโปรแกรมมันจะอ่านบางคำไม่ได้เลยไม่ขึ้นแถบแดงให้ แหะๆ รักทุกคนนะ :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
«ตอบ #31 เมื่อ18-02-2018 12:05:00 »

 :katai2-1: :katai2-1:  :katai2-1:
รอๆ :z2:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
«ตอบ #32 เมื่อ18-02-2018 13:43:58 »

 :m31:


 :3123: :pig4: :3123:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
«ตอบ #33 เมื่อ18-02-2018 17:43:06 »

โผล่มาจากไหนล่ะนั่น

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
«ตอบ #34 เมื่อ19-02-2018 02:36:15 »

ทั้งสงสาร ทั้งเป็นห่วงเอ๋อกับแปะ จะปลอดภัยจากพวกทวงหนี้ในครั้งหน้าไหมหนอ  :hao4:

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
«ตอบ #35 เมื่อ19-02-2018 23:02:51 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
«ตอบ #36 เมื่อ20-02-2018 01:46:24 »

คุณพี่หมอนี่ใจไม่ซื่อตั้งแต่แรกเลยนะคะ หวังจะเคลมน้องเอ๋อกันซึ่งๆหน้า แต่หวังว่าคุณพี่คงไม่ได้แค่หวังสนุกๆนะคะ สงสารน้อง

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
«ตอบ #37 เมื่อ21-02-2018 22:59:45 »

คือมันมีเคมีของ สิงห์xต้าร์ อยู่อะค่ะ  o18
ไม่รู้สึกว่าพี่สิงห์เป็นพระเอกเลยค่ะ ดูเป็นพวกตัวร้ายมากกว่า  :laugh:


ออฟไลน์ สามภพ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
«ตอบ #38 เมื่อ27-02-2018 08:07:48 »













05

+++++++++++





“ให้น้องไปอยู่กับผมไหมครับ?” เสียงที่ดังแหวกอากาศท่ามกลางความเงียบ ทำเอาคู่สนทนาพากันหันไปมอง ร่างสูงสง่าเดินขึ้นมาบนกุฏิก่อนจะก้มลงกราบหลวงตาบังอย่างอ่อนน้อม สิงห์ได้ยินเรื่องราวเกือบทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้ชัดเจนอะไรมากมาย หลวงตาบัวหลี่ตาลงมองชายหนุ่มที่เสนอตัวดูแลนะโมให้อย่างไม่ไว้ใจ

“เรื่องนี้ อาตมาว่า...”

“ผมคิดว่าถ้านะโมอยู่กับผมน่าจะปลอดภัยกว่า หลวงตาคงไม่รู้จักผมมาก่อนเลยไม่ไว้ใจสินะครับ” สิงห์พูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนุ่มพร้อมกับรอยยิ้ม เขาไม่เว้นช่องว่างให้หลวงตาได้แย้ง

“ถ้าอย่างนั้นผมขอแนะนำตัวเลยก็แล้วกันนะครับ ผมนายสัตวแพทย์ ราชสีห์ ถิ่นเทวา เป็นลูกชายคนเล็กของนายนาค ถิ่นเทวา เจ้าของไร่เทวา ตอนนี้ผมเป็นสัตวแพทย์ เปิดคลินิกรักษาสัตว์อยู่ในตัวเมืองครับ หลวงตาคงเคยได้ยินชื่อของพ่อผมอยู่บ้าง หวังว่าหลวงตาจะไว้ใจผม” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น หลวงตากับแปะซ้งพอได้รู้ถึงประวัติอีกคนก็ถึงกับตกใจ ทั้งคู่รู้ว่านายนาคเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดเล็กๆ ที่พวกเขาอาศัยอยู่ แม้จะไม่ได้อยู่ในระดับมหาเศรษฐี แต่ถือว่าตระกูลนี้ร่ำรวยสุดก็ว่าได้ ไร่เทวาตั้งอยู่เหนือหมู่บ้านของพวกเขาไป ไม่ไกลมาก ถือว่าเป็นต้นตระกูลที่เก่าแก่และขึ้นชื่อในเรื่องของความตงฉิน มาก

“นี่โยมเป็นลูกของโยมนาคหรอกรึ” แม้จะคลายความกังวลและความประหลาดใจไปได้เพียงนิดแต่ไม่ว่าใครหลวงตาก็ไม่อาจจะวางใจได้สักคน

“ครับ ผมถูกพ่อส่งไปเรียนในกรุงเทพตั้งตั้งแต่ยังเล็ก เลยไม่ค่อยมีใครรู้จักผมสักเท่าไหร่ ถ้าหลวงพ่อไม่เชื่อผมโทรหาพ่อผมให้ก็ได้นะครับ” สิงห์พูดย้ำ เขาส่งยิ้มน้อยๆ ไปให้แปะซ้งที่นั่งอ้าปากค้าง

“เอาเถอะๆ เรื่องนี้เราไว้ค่อยคุยกันทีหลัง รอให้นะโมมันตื่นก่อน แล้วค่อยว่ากัน” หลวงตาบอกปัด เพราะไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ในตอนนี้ ไม่แน่เรื่องที่เป็นกังวลอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้ พวกเขาอาจจะกังวลกันไปเอง

“แต่ผมว่าเรื่องแบบนี้ ชักช้าอาจจะไม่ทันการนะครับ น้องอาจจะไม่ปลอดภัย และที่สำคัญพวกนั้นอาจจะลงมือตอนที่เราเผลอก็ได้” สิงห์เป็นคนที่คิดไกลและรอบคอบเสมอ แต่การที่ออกตัวแรงแบบนี้ยิ่งจะทำให้หลวงตาไม่ไว้ใจหนักมากขึ้นไปอีก

“โยมสิงห์ อาตมาถามจริงๆ เถอะนะ โยมมีเจตนาอะไรกับนะโมมันรึเปล่า” หลวงตาไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป

“ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดีนะครับ ผมแค่เอ็นดูน้องก็เท่านั้น น้องเป็นเด็กน่ารักครับ ผมว่าถ้าน้องได้รับการดูแลที่ดีกว่านี้ ในอนาคตน้องจะได้เอาตัวรอดได้ในสังคม ในวันที่หลวงตาไม่อยู่” สิงห์พูดจาหว่านล้อมด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

“นะโมเรียนรู้ได้เร็ว ถ้าเราให้น้องได้รับการศึกษาที่สูงกว่านี้ และรักษาน้องไปด้วย ผมว่าน้องน่าจะมีอาการที่ดีขึ้นนะครับ”

“นี่โยมหมายความว่ายังไง โยมสิงห์” หลวงตาพอจะเดาความคิดของสิงห์ได้

“ผมอยากจะอุปการะน้องครับ ผมมีงานมีที่พักที่ปลอดภัย และผมพร้อมจะดูแลน้องในทุกๆ เรื่องทั้งค่ารักษาและค่ากินค่าอยู่ ผมจะรับนะโมเป็นน้องบุญธรรมครับ” เรื่องนี้เขาคิดมาอย่างดีแล้ว แม้จะรู้จักนะโมได้ไม่กี่วัน แต่เขากลับอยากที่จะดูแลเด็กคนนี้ มันเป็นเรื่องยากที่ใครๆ เข้าใจและยอมรับได้

“นี่โยม..” หลวงตาบัวพูดไม่ออก ในหัวสับสนไปหมด

“ผมมั้นใจว่าผมดูแลน้องได้ น้องจะมีงานทำ น้องจะได้รักษาตัว และที่สำคัญน้องจะมีการศึกษา ชีวิตน้องจะดีขึ้นนะครับ”

“เอาเถอะเรื่องนี้เราอย่าพึ่งรีบตัดสินใจ รอนะโมเถอะ อาตมาขอร้อง อย่าเร่งรัดอาตมาเลย” หลวงตาเอ่ยออกมาอย่าลำบากใจ เรื่องอนาคตของนะโมเป็นเรื่องสำคัญสำหรับหลวงตามากๆ เพราะนั่นหมายถึงชีวิตที่เหลืออยู่ของนะโมเลยว่าจะเป็นไปแบบไหน ถ้าเขาเลือกทางให้ผิดก็เหมือนผลักนะโมให้ตกนรก แต่เลือกถูกนะโมก็จะสุขสบายไปทั้งชีวิต หลวงตาเองก็จะได้หมดกังวลเมื่อถึงเวลาละสังขาร

“ครับ ผมรอได้ ผมรอน้องได้ทั้งชีวิต” คำพูดที่ดูเหมือนไม่มีนัยแอบแฝงใดๆ ใครจะรู้ว่าใต้รอยยิ้มนั้นจะซ่อนซาตานหรือเทวดาเอาไว้ ไม่มีใครรู้

ตกเย็นนะโมนอนซมเพราะพิษไข้เดือดร้อนต้องพาส่งโรงพยาบาลดีที่ตอนนั้นสิงห์ยังไม่ได้กลับ ไปไหนเขายังนั่งเฝ้าเด็กเอ๋อของเขาอยู่ สิงห์แอบมองนะโมตอนหลับ มือหนาลูบลงบนแผลแตกที่คิ้วและมุมปากอย่างเจ็บใจ ไม่รู้คนทำจิตใจมันทำด้วยอะไรที่ทำร้ายเด็กไม่สมประกอบอย่านะโมได้ เพราะมือที่ลูบลงไปนั่นแหละถึงได้รู้ว่าน้องตัวร้อนเหมือนไฟ สองมือจับร่างบางแล้วเขย่าเบาๆ เพื่อเรียกสติ แต่น้องไม่ตอบรับยังแน่นิ่ง สิงห์กลัวว่าน้องจะช็อกจึงตัดสินใจอุ้มน้องออกจากห้อง และพาขึ้นรถยนต์โชคดีที่เขาขับมันมาในวันนี้ไม่ได้แว้นมาเหมือนแต่ก่อน หลวงตานั่งสมาธิอยู่ก็พลอยตกใจไปด้วยเพราะเสียงโวยวายของสิงห์ แต่กว่าจะเยื้องย่างออกมาจากอาสนะสิงห์ก็พานะโมออกไปแล้ว

เมื่อถึงโรงพยาบาลสิงห์ก็อุ้มน้องลงจากรถแล้วพุ่งไปที่ห้องฉุกเฉินทันที ไอ้เอ๋อต้องแอดมิดทันทีเพราะไข้ขึ้นสูงถึงสามสิบเก้าองศา วันนี้หมอรุ่นน้องของเขาไม่อยู่ เพราะไปออกค่ายกับกลุ่มเด็กนักเรียนช่างประจำจังหวัด สิงห์ให้คนโทรไปรายงานกับหลวงตาว่านะโมปลอดภัยแล้ว แต่ต้องนอนโรงพยาบาลสองสามวัน ส่วนตัวเขาก็ไปจัดการเรื่องห้องพักพิเศษให้ไอ้เอ๋อ

“คุณสิงห์ จะเฝ้าน้องเองใช่ไหมคะ”

“ครับ ผมจะเฝ้าน้องเอง”

“ถ้าอย่างนั้นรบกวนคุณสิงห์เช็ดตัวให้น้องทุกๆ สามชั่วโมงด้วยนะคะ นี่ค่ะอุปกรณ์” พยาบาลสาวยื่นอ่างน้ำขนาดเล็กกับผ้าให้เขา สิงห์รับมาอย่างเต็มใจ พอนางพยาบาลออกไปสิงห์จึงถึงเดินไปรองน้ำในห้องน้ำมาจัดการเช็ดตัวให้ไอ้เอ๋อ ร่างสูงค่อยๆ แก้ผมเชือกผ้าทีละปมๆ ด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ มือสั่นด้วยความตื่นเต้น สิงห์พยายามควบคุมมือไม่ให้สั่น ยามเห็นเนื้อขาวเนียนของไอ้เอ๋อ เขาไม่ควรหวั่นไหว คิดไม่ซื่อกับคนป่วยแบบนี้ เขาตบมือที่สั่นไม่หยุดเสียงดังเพียะก่อนจะตั้งใจเช็ดตัวให้น้อง

“อื้ออ หนาว อือออ” เสียงหวานครางอือๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นชื้นบนร่างกาย ก่อนจะพลิกตัวหนีความหนาวเหน็บนี้ สิงห์จึงค่อยๆ ใส่เสื้อกลับให้ไอ้เอ๋อ เหลือแต่ท่อนล่างที่เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง จะปล่อยไว้แบบนั้นดีไหม สองจิตสองใจ

“เอาวะ รีบทำรีบเสร็จ อย่าคิดมาก อย่าคิดลึกไอ้สิงห์ นั้นน้อง น้องจำเอาไว้” สิงห์ใช้ความพยายามอย่างหนักในการล้วงมือเข้าไปเช็ดทำความสะอาดช่วงล่างของไอ้เอ๋อ มือหนาลากผ่านเรียวขาทั้งสองข้างดดยเว้นจุดศูนย์กลางเอาไว้

“เห้ออ เสร็จสักที” ยกมือขึ้นปาดเหงื่อออก พร้อมกับมองไอ้เอ๋อไปด้วย

“เรานะสร้างความลำบากให้พี่รู้ไหม” เขาบีบจมูกเล็กๆ นั่นด้วยความมันเขี้ยว ไม่ได้หมายความตามที่พูด หลังจากเช็ดตัวเรียบร้อยสิงห์ก็เช็กงานผ่านไอแพด บ้านที่เขากำลังรีโนเวจใหม่กำลังจะเสร็จ เหลือแค่ตกแต่งภายใน เขาเลือกห้องให้คนที่เป็นไข้หวัดไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นคือข้างๆ ห้องของเขาโดยมีประตูเชื่อมตรงกลางระหว่างผนัง ห้องเขาใช้โทนดำขาว ส่วนของไอ้เอ๋อเขาใช้สีฟ้าพาสเทล สดใส เหมาะกับมัน เพราะไม่ว่ายังไง ไอ้เอ๋อ ก็ต้องไปอยู่กับเขาอยู่แล้ว

หลวงตาออกจากวัดมาไม่ได้ จึงจำเป็นต้องพึ่งสิงห์อย่างจำใจ เพราะไม่อยากติดค้างอะไรกับสิงห์ ไอ้เอ๋อไข้มันคอยจะขึ้นยิ่งดึกๆ ไข้ยิ่งสูง สิงห์จึงต้องคอยเช็ดตัวป้อนยาให้ตลอด ไอ้เอ๋อมันก็ดันดื้อไม่ชอบกินยา ต้องจับกรอกอย่างเดียวเล่นเอาหมอหมาเหนื่อยเป็นพักๆ ยิ่งตอนมันร้องครางอือๆ เห็นแล้วยิ่งสงสารมันคงทรมาน ใจก็อยากจะไปนอนกอดจะได้อุ่นๆ แต่มันไม่สมควร เดี๋ยวใครมาเห็นจะหาว่าเขาโรคจิตคิดอกุศลได้ ต้องทนฟังเสียงฟันกระทบกันเกือบทั้งคืน

เช้ามาไอ้เอ๋อมันตื่นก่อนพี่จ๋าของมัน มันมองไปรอบๆ ห้องพอมันเห็นสายน้ำเกลือที่เสียบอยู่ที่มือก็ร้องลั่น มันเกลียดโรงพยาบาลมันเกลียดเข็ม พอเจอเข็มเจาะเข้าเนื้อก็ร้องกรี๊ดออกมาจนสิงห์ที่นอนอยู่บนโซฟา ตกใจล้มกลิ้งตกลงมา

“อะไร อะไร นะโมเป็นอะไรครับ!! ” สิงห์รีบเดินมาหานะโมทันทีที่เขาลุกจากพื้นได้ ใบหน้าหล่อคมดูตลกเวลาตกใจแบบนี้

“เข็ม เจ็บ ฮึกไม่เอา ฮรืออกลัว นะโมกลัว”

“อา กลัวเข็มเหรอ ไม่ต้องกลัวนะ” สิงห์ปลอบเสี่ยงนุ่ม พร้อมกับกอดไอ้เอ๋อไว้หลวมๆ

“เอาออกไป” ไอ้เอ๋อมันจะดึงเข็มออก สิงห์รีบจับมือไอ้เอ๋อไม่ให้มันดึงเข็มน้ำเกลือออกจากมือ

“ไม่เอานะครับไม่ดื้อนะ นะโมยังเอาออกไม่ได้ ต้องรอหมอมาถอดออกให้นะ” สิงห์พูดเสียงนุ่มเขาจับมือไอ้เอ๋อเอาไว้

“ทำไมครับ ทำไมถึงเอาออกไม่ได้ ฮึก”

“ก็เพราะว่า มันจะทำให้นะโมหายไม่สบายช้าลงยังไงละครับ” สิงห์อธิบายพร้อมกับรอยยิ้ม

“ฮึก อยากกลับวัด”

“กลับตอนนี้ ไม่ได้ครับ นะโมยังมีไข้อยู่เลย”

“ปวดหัว เป่าๆ ” ไอ้เอ๋อมันบ่นออกมาเบาๆ พร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆ ห้อง แต่หัวมันดันยื่นไปตรงหน้าของสิงห์คล้ายๆ ว่าจะให้สิงห์เป่าคาถาใส่หัวให้

“ฟู่ๆ เสกคาถาให้หน่อย” มันว่าอีก พร้อมกับชี้ไปที่หัวของตัวเอง

“หืมม อะไรครับ?”

“เสกคาถาใส่หัวให้นะโมหน่อย ต้าร์ชอบทำให้เวลานะโมไม่บาย เวลานะโมปวดหัว ต้าจะเสกคาถาให้” ไอ้เอ๋อ มันบอกเสียงอ้อน มันไม่รู้เลยว่าแค่ประโยคสั้นๆ ของมันจะทำให้เลือดในกายของหมอหมาเดือดปุดๆ ขึ้นมาได้

“แต่พี่มีอะไรที่ทำให้นะโมหายปวดหัวมากกว่า เสกคาถาอีกนะอีกนะ” สิงห์พูดด้วยรอยยิ้ม มือของเขาลูบไปบนโครงหน้าของไอ้เอ๋ออย่างแผ่วเบา ดวงตาคมจ้องมองไปยังดวงตาคู่สวย สิงห์เชยคางของไอ้เอ๋อให้เชิดขึ้น ไอ้เอ๋อมันไม่รู้ว่าพี่จ๋าของมันจะทำอะไร มันได้แต่มองพี่จ๋าด้วยแววตาที่ใสซื่อ ผิดกับอีกคนที่มองมันด้วยแววตาของหมาป่าหุ้มหนังแกะ

“อะไร หรออออ” มันเอียงคอถาม

“แบบนี้ไงครับ”

จุ๊บ

*0* >-<

สิงห์ยึดปลายคางของมันไว้แน่นก่อนจะประทับริมฝีปากลงไป บนปากนุ่มๆ ของไอ้เอ๋อ สัมผัสแรกที่ไอ้เอ๋อมันไม่รู้จัก ก่อนจะยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อมันรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมในโพรงปากอุ่นของมัน ไอ้เอ๋อมันไม่รู้ว่าสิ่งที่อีกคนมอบให้มันคืออะไร มันพยายามจะผลักอีกคนให้ออกห่าง แต่ทว่าเรี่ยวแรงของมันกลับหายไปไม่มีเหลือ เพราะโดนคนที่อ้างว่ามีวิธีทำให้หายปวดหัว สูบพลังออกไปหมด สิงห์กำลังตะกละตะกลาม กับรสหวานของเนื้อกระต่าย ยิ่งกินยิ่งไม่พอ เขาทั้งดูดดุนและไล่ต้อนลิ้นเล็กที่เอาแต่หนีเขา ไอ้เอ๋อกำลังทรมานเพราะหายใจไม่ออก !!

“อื้ออ อื้มมม”

“นะโม” สิงห์เรียกชื่อไอ้เอ๋อเสียงกระเส่า เขาถอนจูบออกมาอย่างช้าๆ ไอ้เอ๋อตามันฉ่ำปรือ พร้อมกับหอบหายใจ แก้มมันแดง รวมถึงปากของมันด้วย มือหนาลูบไปบนริมฝีปากคู่นั้น อย่างหวงแหน

“พี่จ๋าเอาไข้ของนะโมมาไว้ที่พี่จ๋าแล้วนะ เดี๋ยวก็หายนะครับ” สิงห์ชี้ไปที่ปากของตัวเอง เขาแลบลิ้นเลียมันอย่างช้าๆ ราวกับว่ามันอร่อยเหมือนขนมหวาน

“เอาไปได้ยังไง พี่จ๋าทำได้เหรอ? อ๊ะ เจ็บT^T” ไอ้เอ๋อมันเอามือจับปากตัวเอง แล้วก็ร้องออกมา

“หึหึหึ ได้สิ พี่จ๋าดูดออกมาจากปากนะโมเมื่อกี้ไง ต่อจากนี้ไปนะถ้านะโมเจ็บตรงไหน หรือไม่สบายเมื่อไหร่ มาหาพี่จ๋าพี่จ๋าจะดูดดอกให้” สิงห์พูดพร้อมกับลูบหัวไอ้เอ๋อไปด้วย แววตาที่มองไอ้เอ๋อนั้น มัน ร้ายไม่เบา!! ถ้าจะให้พูดสิงห์คือหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ดีๆ นี่เอง

“ทำแบบเมื่อกี้เหรอ ทำแบบนั้นนะโมหายใจไม่ออก” มันบอกด้วยสีหน้าแบบว่าไม่ชอบสุดๆ

“ไว้วันหลังพี่จ๋าจะบอกวิธีที่ทำให้หายใจออกมานะครับ วันนี้ พอแค่นี้ก่อน” สิงห์ยิ้มอ่อนโยน เขาจะสอนนะโมในทุกๆ เรื่องเอง

“นะโมไม่อยากรู้..สักหน่อย” มันพูดเสียงอ่อยๆ พร้อมกับมองหน้าพี่จ๋าของมันอย่างไม่ชอบใจ

แกรกก เสียงเปิดประตูห้องเรียกให้สายตาของคนทั้งคู่ให้หันไปมอง นางพยาบาลคนเมื่อคืนเข็นรถใส่ถาดอาหารเข้ามา พร้อมกับยาอีกหลายเม็ด ไอ้เอ๋อมันสนใจแต่ข้าวต้มร้อนๆ ในถาดหลุม ที่พี่พยาบาลยกวางไว้บนโต๊ะให้มัน

“ข้าว ข้าว หิวแล้ว” มันตบมืออย่างดีใจ ที่ใครๆ เห็นก็ต้องเอ็นดูมัน โดยเฉพาะกับสิงห์ หมาป่าตัวร้ายที่ใครๆ ก็เห็นว่าเขาเป็นเพียงพี่หมีผู้ใจดี

“ทานข้าวแล้วทานยาด้วยนะคะ น้องนะโม” ช้อนที่กำลังจะเข้าปากถึงกับชะงัก เมื่อได้ยินคำว่า กินกินยา

“ไม่อาวว นะโมจะกินแต่ข้าว” ว่าแล้วก็ตักข้าวต้มเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ มันไม่มองยาในมือของสิงห์ด้วยซ้ำ เรื่องอะไรมันจะมองละ ของแสลงของมัน

“จ้าๆ ฝากด้วยนะคะคุณสิงห์ อีกสักพักหมอไม้เมืองก็จะเข้าเวรแล้วค่ะ เห็นว่าจะมาตรวจไข้น้องด้วย”

“ครับ^^”

“แค๊กๆ น้ำๆ” เพราะว่ามันรีบกินกลัวจะได้กินยา มันเลยสำลักข้าวที่กินอยู่เดือดร้อนพี่จ๋าของมันต้องมาป้อนน้ำให้อีก

“อิ่มรึยังเอ่ยคนเก่ง”

“เอิ๊อกกก อิ่มแล้วจ้ะ” มันเรอออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ รอยยิ้มหวานๆ ของมันส่งตรงไปยังคนตัวสูง

“อิ่มแล้วกินยานะครับ” สิงห์ยื่นยาให้ไอ้เอ๋อ

“*0* ไม่เอาไม่” พอบอกว่าจะต้องกินยามันหุบปากฉับ ปิดสนิทไม่ยอมเปิด

“อย่าดื้อนะครับ กินยาก่อนจะได้หายไวๆ ไง”

“>X<” มันส่ายหน้าอย่างไม่ยอม สิงห์พยายามจะอ้าปากมัน แต่มันก็เบี่ยงหนี ไม่ยอมท่าเดียว

“อ้า ปากสิ อ้า อ้า” มือหนาที่จับปากไอ้เอ๋อไว้ได้แล้ว เขาก็ออกคำสั่งให้มันอ้าปาก แต่ว่ามันไม่ยอมอ้านี่สิ สิงห์ไม่อยากจะทำรุนแรงกับไอ้เอ๋อมัน กลัวมันเจ็บ

“>X<”

“พี่เหนื่อยแล้วนะครับ อย่าให้พี่จ๋าต้องใจร้ายนะ” สิงห์ปรับน้ำเสียงให้แข็งขึ้นแต่ก็ใช้ไม่ได้ผล ไอ้เอ๋อมันดื้อ ไม่ยอมท่าเดียว

“นะโมดื้อกับพี่หรอครับ” สิงห์ยิ้มเหี้ยมออกมา ไอ้เอ๋อมันชะงัก แต่ก็ไม่ยอมอ้าปาก มันกลัวยามากกว่าพี่จ๋าของมัน

เสียอีก ถ้าให้มันกินยามันยอมกินมะเขือพวงดีกว่า

“ไม่ชอบ ไม่ชอบ ขม ขม” มันยอมอ้าปากพูดกับสิงห์อีกครั้ง

“ขมที่ไหน หวานจะตาย” สิงห์หลอกล่อไอ้เอ๋อ

“ยาไม่หวาน นะโมไม่โง่นะ” มันเบะปากใส่ พลางกอดอกเชิดหน้า สิงห์หลุดหัวเราะออกมานิดๆ เขาทำมาดเข้มใส่ไอ้เอ๋อไม่เคยได้เลยสักครั้ง มันชอบทำให้เขาหลุดลุคตลอด

“รู้อีก หึหึหึ มากินยาครับ ไม่กินพี่ไม่พาไปหาหลวงตานะ” พออ้างหลวงตามันก็แอบหันมามองหน้าพี่จ๋าของมัน ทำเหมือนไม่สนใจแต่ก็อยากให้สิงห์พากลับวัด คนอย่างไอ้เอ๋อดูออกง่ายจะตาย

“อยากลับวัดไปหาหลวงตาไหมเอ่ยย...”

“ (- _-) (_ _) (-_-) (_ _) (-_-) ”

“ถ้าอย่างนั้น นะโมต้องกินยาก่อนนะจะได้หายไวๆ”

“งะ ...ผมหายแล้ว นะโมหายแล้ว” มันลุกขึ้นแล้วเบ่งกล้ามแห้งๆ ของมันให้ดู

“จะให้วิ่งให้ดูก็ได้นะ” มันพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะบอกสิงห์ว่ามันหายแล้วเพื่อจะได้ไม่ต้องกินยา ทั้งๆ ที่มันรู้สึกปวดหัว ปวดตัวจนแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว โดยเฉพาะแผลที่หัว มันคงกัดฟันทนกับความเจ็บแบบนี้ไปเรื่อย สิงห์ส่ายหน้าเบาๆ กับความลั้นของไอ้เอ๋อ

“ไม่ต้องเลย นั่งเฉยๆ ครับเดี๊ยวสายน้ำเกลือก็หลุดหรอก” สิงห์ว่าเสียงดุก่อนจะยกตัวของไอ้เอ๋อให้มันกลับไปนั่งบนเตียงคนไข้

“พี่จ๋า นะโมหายแล้วจริงๆ นะ พี่จ๋าดูดไปแล้วไง จำไม่ได้เหรอ” มันยังยืนยันคำเดิม

“รู้เยอะจริงๆ เลยนะเรานะ ถ้าไม่กินพี่จ๋าไม่รักนะเอาไหม พี่จ๋าไม่ชอบเด็กดื้อ” สิงห์แกล้งหันให้พร้อมกับพูดเสียงเข้มๆ ไอ้เอ๋อพอได้ยินพี่จ๋าพูดแบบนั้นมันก็ทำตาโต ส่ายหน้าดิ๊กๆ

“ไม่เอา นะ พี่จ๋ารักนะโม ไม่เอา” มันกระโดดลงจากที่นอนลากเสาน้ำเกลือวิ่งเข้าไปกอดสิงห์จากด้านหลัง มันเอาหน้าถูไปมากับแผ่นหลังกว้างๆ นั่นเหมือนลูกแมวอ้อนไม่มีผิด ร่างสูงขนกายลุกซู่ และเกร็งไปทั้งตัว

“ทำไมชอบทำให้พี่ตะบะแตกอยู่เรื่อย” สิงห์กระซิบเสียงเครียด เขาหันไปหาไอ้เอ๋อ

“พี่จ่าพูดว่าอะไรนะจ๊ะ นะโมฟังไม่ถนัด? ...”

“เห้อไม่มีอะไรหรอก ถ้านะโมไม่อยากให้พี่ไม่รักนะโมต้องกินยานะ ตกลงไหม”

“งือออ นะโมไม่ชอบยา แต่ถ้ากินแล้วพี่จ๋าจะรักนะโม นะโมกินก็ได้ -3- “มือเล็กๆ ของมันยื่นไปรับยาจากสิงห์ มันมองยาสามเม็ดในมืออย่างชั่งใจ พร้อมกับถอนหายใจออกมาเสียงดัง

“เห้อออ ไม่อยากกินเล้ยยย” มันบ่นออกมาเสียงดัง ก่อนจะเดินไปหยิบน้ำมาถือไว้แล้วกินยารวดเดียวหมด มีสำลักบ้างเล็กน้อยแต่ก็ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี สิงห์พามันกลับไปนอนที่เตียง ยกผ้าห่มขึ้นห่มให้มันทำตามที่สิงห์สั่งอย่างว่าง่าย ดวงตากลมๆ ของมันคอยแต่จะมองตามพี่จ๋าของมันตลอด ไม่ว่าพี่จ๋าจะนั่ง จะเดิน จะทำอะไรก็ตามมันจะคอยมองตลอด จนสิงห์อดสงสัยไม่ได้

“มองตามพี่มีอะไรรึเปล่าครับ?”

“กลัวพี่จ๋าหาย กลัวพี่จ๋าทิ้ง” มันตอบ

“หึหึหึ เด็กน้อยเอ้ย พี่จะทิ้งเราไปไหนได้ละ หลงซะขนาดนี้” สิงห์ยิ้มหวาน เขาเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ กับเตียงของมันยกมือนุ่มนิ่มของมันขึ้นจรดปาก สายตาของสิงห์ช่างอ่อนโยน จนไอ้เอ๋อมันจ้องตอบด้วยสายตารักใคร่ มันมองมือที่โดนสิงห์จูบแล้วยิ้มออกมานิดๆ เหมือนจะชอบ

“พี่ไม่ทิ้งนะโมไปไหนหรอก พี่จะอยู่ดูแลนะโมเอง”

“สัญญาสิ” มันชูนิ้วก้อยขึ้นมา สิงห์เกี่ยวก้อยกับมันเป็นการสัญญา พอมันมั่นใจว่าหมอจะไม่ทิ้งมันไปไหน ดวงตาที่เคยเบิกกว้างก็ค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ และปิดสนิทในที่สุดโดยที่ไอ้เอ๋อมันไม่ปล่อยมือ สิงห์เองก็เช่นกัน เขาเหนื่อยและล้ามาทั้งคืน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะนอนจับมือกันนอน

++++++++++++++++++++++++++



ช่วงนี้เค้าไม่ค่อนสบาย หวัดลงคอ ไอจนเลือดออก คิดแก็กไม่ค่อยออกเลยมาช้า มากๆ ต้องขอโทษด้วยนะคะ น้องยักษ์ก็เช่นกัน รออีกนิดนะ ฮ่าๆ ฝากน้องด้วยนะ กำลังใจเค้าจะได้มาเยอะๆ​

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
«ตอบ #39 เมื่อ27-02-2018 09:35:47 »

ขอให้หายเร็วๆนะครับ....


 :L2: :pig4: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
« ตอบ #39 เมื่อ: 27-02-2018 09:35:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
«ตอบ #40 เมื่อ27-02-2018 11:33:27 »

น้องเอ๋อน่ารักน่าฟัดมากชอบเนื้อเรื่องตาม
อ่านตลอด

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
«ตอบ #41 เมื่อ27-02-2018 12:31:11 »

มารออ่านทุกวันเลยค่ะ
ดีใจที่วันนี้ นะโมกลับมา ...
ป.ล. ดูแลสุขภาพ และขอให้หายป่วย..สบายดีในเร็ววันนะคะ :call:

ออฟไลน์ pktherabbit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
«ตอบ #42 เมื่อ27-02-2018 17:01:02 »

สตันท์กะฉากจูบนิดหน่อย
คิดว่าเร็วไป นึกว่าจะแค่จุ๊บหน้าผาก

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
«ตอบ #43 เมื่อ28-02-2018 04:06:01 »

อีพี่รุกหนักเกินไปป่ะ เอ๋อตามไม่ทันนะ  :laugh:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
«ตอบ #44 เมื่อ28-02-2018 11:16:17 »

ใจเย็นๆ เดี๋ยวน้องวิ่งหนี ^^

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
«ตอบ #45 เมื่อ28-02-2018 20:51:57 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
«ตอบ #46 เมื่อ01-03-2018 23:26:21 »

เอ็นดูน้อง เรื่องนี้ สามพีมั้ยคะ ต้าแกจะสู้พี่หมอหมาเค้าได้หรอเนี่ย

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
«ตอบ #47 เมื่อ02-03-2018 07:50:59 »

เอ็นดูน้องนะโม น่ารักจิงๆเลย
แล้วหมอจะอดทนได้นานแค่ไหนน๊า 5555555

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
«ตอบ #48 เมื่อ03-03-2018 21:27:27 »

พี่สิงห์จะอดใจได้นานแค่ไหน อิอิ
หายไวๆๆๆน่ะ

ออฟไลน์ สามภพ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
«ตอบ #49 เมื่อ08-03-2018 08:35:59 »











06





ตกบ่าย ไอ้เอ๋อถูกปลุกด้วยเสียงดังเอะอะของไอ้ตาร์ มันพึ่งกลับจากค่าย มาพร้อมกับหลวงตาบัว มาแบบทั้งชุดพละน้ำท่าไม่ยอมอาบ ทันทีที่รู้ว่าไอ้เอ๋อโดนซ้อมและไข้ขึ้นจนต้องพาส่งโรงพยาบาล มันรู้มันก็แทบคลั่ง จะไปเอาเรื่องคนที่ทำร้ายไอ้เอ๋อให้ได้ ดีที่หลวงตาแกห้ามเอาไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นเรื่องมันคงจะบานปลายมากกว่านี้แน่ๆ เพราะคนที่มันจะไปเอาเรื่องนั้นร้ายใช่ย่อยแถมแค่ลำพังตัวมันคนเดียวขืนไปมีหวังกลับมาแบบเป็นศพแน่นอน

“พี่ต้าร์ งือออ” ไอ้เอ๋อมันลุกขึ้นมาด้วยสีหน้ายุ่งๆ หัวฟูฟ่องไม่เป็นทรง มันยกมือขึ้นมายีขี้ตาด้วยความงัวเงีย ไข้มันลดลงไปเยอะแล้ว แต่หน้ามันยังมีรอยเขียวช้ำอยู่ สิงห์ยกมือไหว้หลวงตาแล้วหลีกทางให้ ไอ้ต้าร์มันหันมามองสิงห์ตาเขม็งก่อนจะเดินไปหาไอ้เอ๋อ

“เป็นยังไงบ้างวะ ทำไมหน้ามึงเป็นแบบนี้ละ?” มันสำรวจหน้าไอ้เอ๋อด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก นี่แค่มันไปค่ายแค่สามวันกลับมาหน้าไอ้เอ๋อยังเละขนาดนี้

“พวกคนใจร้าย หะ ห้าววว มันตีนะโม” ไอ้เอ๋อมันตอบไปด้วยหาวไปด้วยอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน

“พวกไหนวะ แมร่ง แล้วมึงก็โง่ให้มันตีเหรอ ไอ้ที่กูเคยสอนมันไม่เข้าหัวเลยรึไง” มันพูดเหมือนโกรธไอ้เอ๋อ แต่น้ำเสียงมันกลับดูเป็นห่วงเสียมากกว่า

“เอาน่าไอ้ต้าร์เรื่องมันผ่านไปแล้วก็แล้วกันเถอะ ถึงเอ็งสอนมวยมันมันก็ไม่ทำร้ายใครหรอก คนอย่างไอ้เอ๋อเคยทำใครเจ็บที่ไหน” หลวงตาบังพูดขัด แล้วลูบหัวไอ้เอ๋อเป็นการเรียกขวัญ หลวงตาห่วงมันจนนอนไม่หลับทั้งคืน มือเหี่ยวๆ ลูบลงอย่างอ่อนโยน เมื่อไหร่ที่เขาหมดห่วงเรื่องไอ้เอ๋อเมื่อนั้นเขาคงจะตายตาหลับ

“หลวงตาจ๋า นี่” มันยกแขนข้างที่เจาะน้ำเกลือให้หลวงตาดู แล้วทำหน้าอ้อนๆ

“อะไรของเอ็ง” คิ้วเหี่ยวๆ เริกขึ้นอย่างสงสัย

“เอาออก ได้ไหมจ๊ะ นะโมเจ็บจ้ะหลวงตา” มันทำหน้าอ้อนใส่หลวงตา

“อ่า เอ่อ หมอเค้าให้เอาออกแล้วเหรอ โยมสิงห์” หลวงตาหันไปถามร่างสูงที่ยืนดูนิ่งๆ อย่างถามความเห็น

“ยังครับ คงต้องรอตรวจอีกรอบ”

“งะ -3- “

“ไม่ดื้อนะ นะโมเอ้ย”

“แต่หนูเจ็บนี่จ้ะ” เป็นครั้งแรกที่สิงห์ได้ยินไอ้เอ๋อมันแทนตัวเองว่าหนู เขายินถึงกับใจกระตุก เพราะไอ้เอ๋อมันทำหน้าอ้อนๆ แบบนั้นด้วย ส่วนหลวงตากับไอ้ต้าร์ได้ยินจนชินเวลาไอ้เอ๋อมันอยากอ้อนขึ้นมา

“เจ็บก็ต้องทนดิวะ มึงเป็นผู้ชายนะไอ้เอ๋อ” ไอ้ต้าดุไอ้เอ๋อด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ไอ้เอ๋อหันมามองลูกพี่ของมันอย่างไม่เข้าใจ

“ผู้ชายต้องอดทนหรอ? อดทนยังไงอะ? พี่ต้าอดทนเก่งเหรอ?” มันย้อนถาม ไอ้ต้าร์ถึงกับคิ้วกระตุกนิดๆ

“เออ กูอดทนเก่ง (//ถ้ากูอดทนไม่เก่งมึงไม่รอดมาจนถึงตอนนี้หรอกไอ้เหี้ยเอ๋อ//) ”

ในขณะที่พวกเขาคุยกันนั้น จู่ๆ ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมร่างของคุณหมอวัยใสที่มาพร้อมกับใบหน้าอิดโรยจากความเหนื่อยล้า หมอไม้เมืองเดินยิ้มอ่อนๆ ส่งให้รุ่นพี่แล้วหันไปหาไอ้เอ๋อ คิ้วเรียวคู่สวยมุ่นลงอีกครั้ง

“มึง/มึง!!! ” ทั้งไม้เมืองและไอ้ต้าร์อุทานออกมาพร้อมกัน พร้อมกับสีหน้าที่แทบจะฆ่ากันให้ตาย

“มาทำไม!! เป็นหมอหนุ่มที่ตะคอกใส่คนเด็กกว่าไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปมีเรื่องอะไรกันมาถึงได้แทบจะตีกันแบบนี้

“เรื่องของกู! ”

“อะไรกันโยม จะเสียงดังใส่กันทำไม” หลวงตาที่นั่งพักอยู่เอ่ยออกมาเสียงดุ

“อ่าว ขอโทษครับหลวงตา ผมไม่ทันได้มองว่าหลวงตาอยู่ด้วย” ไม้เมืองยกมือขึ้นขอขมาหลวงตาทันที

“ช่างเถอะโยม แล้วจะทะเล่ากันทำไม ไอ้ต้าร์เอ็งก็อีกคนไปขึ้นเสียงกับโยมหมอได้ยังไงกันเอ็งเด็กกว่าเขาตั้งเยอะ” หลวงตาบัวเอ็ดไอ้ต้าร์เสียงเข้ม มันพอสลดลงบ้างมีแต่ไอ้เอ๋อที่ยังยิ้มให้หมอหนุ่ม มันเริ่มจะใช้หน้าอ้อนๆ กับหมออีกคน

“” คุณหมอจ๋า นะโมหายแล้ว ถอดสายน้ำเกลือให้นะโมทีนะจ้ะ” มันทำเสียงออดอ้อนหมอไม้เมืองหมอหนุ่มยิ้มตาหยี>-<

“ต้องให้พี่หมอตรวจก่อนนะครับ ไหนดูซิ” ไม้เมืองเริ่มตรวจอาการของไอ้เอ๋อ

“ไข้ลดลงเยอะแล้ว เหลือแต่แผลช้ำๆ เนอะ” หมอเมืองบอกด้วยเสียงนุ่มๆ ลุคดูเป็นหมอผู้ใจดี

“คิคิคิคิ”

“หมอจะถอดสายน้ำเกลือให้นะครับ” พอได้ยินแบบนั้นไอ้เอ๋อมันก็ยิ้มกว้างจนคนมองแอบหมั่นไส้เบาๆ เมื่อไม้เมืองแกะสายน้ำเกลือให้ไอ้เอ๋ออย่างเบามือด้วยสีหน้าอ่อนละมุน ไม่ว่าใครมาเห็นหมอในลุคนี้ต้องมีหลงกันมั่งแหละ ใจดีออกซะขนาดนี้ เว้นเสียแต่...

“เสร็จแล้วครับ”

“เย้ๆ ๆ ๆ ๆ ขอบคุณครับพี่หมอสุดหล่อ” พอได้ดั่งใจปากมันก็หวานขึ้นมาทันที ขี้ประจบใช่ย่อยนะไอ้เอ๋ออออ หลวงตาที่มองอยู่ก็ยิ้มเอ็นดูก่อนจะเอ่ยถามหมอถึงเรื่องค่ารักษาพยาบาล

“นะโมมันมีบัตรคนพิการอยู่ไม่ใช่เหรอครับหลวงตา” ไอ้ตาร์มันพูดขึ้นมาพร้อมกับค้นอะไรสักอย่างในกระเป๋าก่อนจะหยิบบัตรคนพิการกับบัตรประชาชนของไอ้เอ๋อออกมา มันยื่นให้หมอไม้เมืองแบบขอไปที

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลก่อนนะครับ” เป็นสิงห์ที่เอ่ยออกมาพร้อมกับยื่นมือไปรับบัติของไอ้เอ๋อที่หมอรุ่นน้องส่งมาให้ พอสิงห์ออกไปหมอก็ขอออกไปบ้าง ตอนนี้เหลือแค่หลวงตากับไอ้ต้าร์เท่านั้น

“หลวงตาจ้ะนะโมจะได้กลับวัดแล้วใช่ไหม ^-^

“เอออกลับได้แล้ว เอ็งนี่จะติดวัดมากเกินไปแล้วนะ นะโม” หลวงตาว่าอย่างไม่จริงจังนัก ต้าร์อาสาพานะโมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง ถึงแม้ว่าจะเคยเห็นเรือนร่างของอีกฝ่ายมาตั้งแต่เด็กจนโตแต่ไอ้ต้าร์มันก็ไม่เคยชินกับภาพตรงหน้าสักที มันลอบมองผิวกายขาวเนียนของไอ้เอ๋ออยู่บ่อยครั้งใจก็อยากจะสัมผัสผิวขาวเหมือนน้ำนมนั่นสักครั้งแต่มันก็ไม่กล้า ได้แต่แอบมอง แอบคิดอกุศลของมันไปเรื่อย มันยืนมองไอ้เอ๋อไปอย่างเนียนๆ มีดุบ้างเวลาไอ้เอ๋อมันใส่ผิด เสร็จแล้วก็พากันออกมาจากห้องน้ำ ก็เจอใครบางคนที่ยืนรออยู่เงียบๆ สายตาคมสองคู่ประสานกันอย่างกับนัดหมายกันไว้ ต่างคนต่างมองด้วยแววตาที่ดุดัน และไม่มีใครยอมใครจนหลวงตาบัวต้องกระแอมใส่ สิงห์รักษาระยะห่างจากน้องเล็กน้อยทั้งที่ในใจอยากจะกระชากตัวนะโมออกจากไอ้ต้าร์เต็มที่ เพราะไม่อยากให้หลวงตาดูเขาไม่ดี สิงห์ถึงได้ยืนนิ่งๆ ผิดกับไอ้ต้าร์ที่แสดงออกอย่างเต็มที่ว่ามันหวงไอ้เอ๋อต่อหน้าเขาและหลวงตา สองมือหนาประคองไอ้เอ๋อไม่ห่างจนสิงห์แทบจะทนไม่ไหว มันมากเกินไป!! แถมไอ้ต้าร์มันยังกันท่าเขาทุกวิถีทาง

“ขอบใจโยมสิงห์มากนะที่อุตส่าห์เป็นธุระเรื่องนะโมให้”

“ไม่เป็นไรครับหลวงพ่อ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว” สิงห์ไม่ได้ต้องการจะย้ำเรื่องที่เขาอยากจะรับเลี้ยงไอ้เอ๋อ แต่ปากมันพาไป หลวงตามีสีหน้าที่หม่นลง เพราะยังคิดไม่ตกถึงเรื่องนี้

“หน้าที่อะไร มันใช่เรื่องเหรอ มึงเป็นคนนอกไม่ต้องมาทำพูดว่าหน้าที่หรอก” ต้าร์แขวะใส่ขณะพากันเดินออกมาจากโรงพยาบาล

“เดี๋ยวพี่จ๋าไปส่งนะโมที่วัดนะครับ” สิงห์พูดพร้อมกับเดินนำไปที่รถโดยไม่สนว่าต้าร์จะตามมาด้วยหรือไม่เขานิมนต์หลวงตาขึ้นรถและพานะโมไปนั่งที่ด้านหลังคนขับพร้อมกับรัดเข็มขัดให้ ไอ้ต้าร์มันไม่ได้ขึ้นรถมาด้วยมันขี่มอเตอร์ไชต์คู่ใจมา เห็นอีกทีมันก็บิดออกไปแล้วนี่คงไปรอพวกเขาที่วัด ขับรถเข้ามาจอดที่ลานวัด เข็มขัดยังไม่ทันได้ปลด ไอ้ต้าร์มันก็รีบพาไอ้เอ๋อลงจากรถกึ่งลากกึ่งจูงไปที่ห้องของมันทันที

“เก็บเสื้อผ้าไปอยู่บ้านกู” ไอ้ต้าร์มันสั่ง

“ไปทำไมจ้ะพี่ต้าร์” มันเอียงคอถามอย่างไม่เข้าใจ

“อย่าถามมากรีบเก็บ” มันเร่งพร้อมกับช่วยเอาเสื้อที่พับไว้มุมห้องมาใส่กระเป๋าให้ ยังเหลือเสื้อผ้าใต้ถุนกุฏิอีก

“นั่นพวกเอ็งทำอะไร? ไอ้ต้าเอ็งจะพานะโมมันไปไหน” หลวงตาที่ขึ้นกุฏิมาเอ่ยถามเสียงลั่น ส่วนสิงห์นั้นกลับไปดูบ้านที่กำลังตกแต่ง เพราะเขาเพิ่มในส่วนของไอ้เอ๋อเข้าไปด้วย

“ผมจะพาไอ้เอ๋อไปอยู่ด้วย ปล่อยมันไว้คนเดียวคงไม่ปลอดภัยเท่าไหร่”

“นี่เอ็งจะมาตัดสินใจแทนอาตมาได้ยังไง” หลวงตาว่าเสียงดุ ไอ้ต้าร์มันสลดลงทันที มันคิดน้อยไป มันห่วงแค่เรื่องของไอ้เอ๋อ

“แต่ ว่า ...”

“ให้อาตมาคิดสักนิดเถอะ บางทีเรื่องมันอาจจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้”

“มีเรื่องอะไรกันเหรอจ๊ะ” น้ำสียงใสๆ เอ่ยขัดบรรยากาศมาคุ

“ไม่มีอะไรนะโมไปพักเถอะลูกไป” หลวงตาไล่มันไปนอนพัก ไอ้เอ๋อมันว่าง่ายอยู่แล้วหลวงตาสั่งอะไรมันก็ทำ มันเดินหอบเสื้อผ้ากลับเข้าไปในห้องตามคำสั่ง ไอ้ต้าร์หน้าเจื่อนไปนิด

“ถ้าอย่างนั้นผมขอมานอนเป็นเพื่อนมันละกันนะครับหลวงตา”

“แล้วแต่เอ็งเถอะไอ้ต้าร์” หลวงตาบอกแค่นั้นก็กลับเข้าไปจำวัดในกุฏิ มันไม่รอช้ารีบตรงดิ่งกลับไปที่บ้านไปขนเสื้อผ้ามาอยู่กับไอ้เอ๋อทันที รอไม่นานมันก็กลับมาพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบเขื่องนี่กะอยู่ยันไอ้เอ๋อบวชเลยใช่ไหม-*-

“ไอ้เอ๋อ ตื่นได้แล้ว จะมืดแล้ว ลุกขึ้นมากินข้าวกินยา” ไอ้ต้าร์มันอาบน้ำตัวหอมฉุยนั่งลงข้างๆ ที่นอนแล้วใช้เท้าเขี่ยๆ ไอ้เอ๋อ มือมันใช้ยีหัวอยู่ไม่ว่าง สะกิดแค่เบาๆ ไอ้เอ๋อมันก็งัวเงียขึ้นมาทำหน้ายุ่งๆ ใส่ไอ้ต้าร์ลูกพี่ของมัน

“ง่วง = = ปลุกทำมายย”

“จิ๊ -*- ไอ้นี่ ตื่นไปอาบน้ำกินข้าว.! .”

“ข้าว *0*” ยังไม่ทันพูดว่ายาไอ้เอ๋อมันก็ตาวาว ไอ้ตาร์รู้ดีว่าจะจัดการเด็กดื้อยานี่ยังไง

“เออ ไป ไปอาบน้ำอาบท่ากูจะไปหาข้าวให้กิน” มันดึงไอ้เอ๋อให้ลุกจากที่นอนเก่าๆ ของมัน

“กินก่อนไม่ได้เหรอ^0^”

“ไม่ได้ ไปอาบน้ำเร็วๆ เข้า”

“จ้า จ้า อาบน้ำอาบน้ำ นะโมอาบน้ำ” มันพูดด้วยเสียงยานๆ ก่อนจะเดินลงจากกุฏิไปอาบน้ำที่ตุ่มน้ำด้านหลัง ส่วนไอ้ต้าร์มันก็เดินไปที่โรงครัว ที่ตอนนี้มีงานพิธีปนกิจศพอยู่ มันเดินไปขอข้าวต้มในโรงครัวมาสองชาม น้ำเป็บซี่อีกขวดใหญ่ พร้อมน้ำแข็ง ไอ้เอ๋อมันจะสบายไปไหนมีแต่คนคอยบริการมันตลอดแบบนี้ กลับมาก็เจอไอ้เอ๋อยืนตัวเปียกกำลังใส่เสื้อผ้าอยู่

“ไอ้เหี้ยเอ๋อออ เช็ดตัวด้วยดิวะ” มันถูกลูกพี่ต้าร์ดุอีกแล้ว มันลนลานรีบหาผ้าขึ้นมาเช็ดตัวทันที

“ดุยิ่งกว่า แม่ด่างอีก” มันบ่นงุบงิบไอ้ต้าร์มันไม่ได้ทันได้ยินหรอกเพราะว่าด่าเสร็จมันก็เดินขึ้นกุฏิไปเลย ไอ้เอ๋อรีบแต่งตัวเพราะว่ามันจะได้รีบไปกินข้าว แต่หารู้ไม่ว่าลูกพี่สุดหล่อของมันเตรียมอะไรไว้ให้มันบ้าง

“ข้าวๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จ๋านะโมมาแว้ววว” มันกระโดดมานั่งแหมะที่โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กๆ ที่กว้างแค่วางจานข้าวไม่กี่ใบ ข้าวต้มหมูชามโตวางอยู่ตรงหน้ามันพร้อมกับแก้วน้ำที่ใส่เป็บซี่เย็นๆ มาเต็มแก้ว

“ใจเย็นไอ้เอ๋อ กินนี่ก่อน” นี่ไงละของที่ไอ้ต้าร์มันเตรียมไว้ไห้ ยาเม็ดเขื่องบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้งแล้วปั้นเป็นลูกกร

“อะไร อะ”

“ลูกอม”

“ลูกอมเหรอ?” มันรับเม็ดยามาถือไว้

“เออกินซะสิจะได้กินข้าว” ก้บอกแล้วไอ้เอ๋อมันว่าง่ายมันเอายานั่นเข้าปากก่อนจะเคี้ยว ยิ่งเคี้ยวสีหน้ามันยิ่งเปลี่ยนจากยิ้มสดในเริ่มจะเหยเก

“ลูกอม ขม แอ๋” มันแทบจะคายทิ้งแต่โดนสายตาดุๆ ของลูกพี่คนหล่อของมัน ไอ้เอ๋อเลยต้องฝืนกลืนยาลงไป ไอ้ต้าร์ส่งน้ำเปล่าให้มันกิน นี่ยังเหลือยาหลังอาหารอีกสองเม็ดที่มันจะต้องกล้ำกลืนฝืนกิน คิดแล้วก็รู้สึกสงสาร พอได้ลิ้มลองรสฝืดคอก็มาถึงรสที่มันปรารถนา ข้าวต้มร้อนๆ ที่มันค่อยๆ ตักเข้าปาก

“โอ๊ะ อู้ววว ร้อนอะ” ช้อนแทบร่วงทันทีที่ข้าสัมผัสปาก มันจือปากแดงๆ ของมันไปทางคนตัวสูง ไอ้ต้าร์ส่ายหัวเบาๆ ก่อยจะเป่าปากมันให้ ซึ่งมันก็ทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้วเวลาไอ้เอ๋อทำอะไรทำนองนี้ เพราะเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ถึงจะอยู่ในถานะเบ้จิปาถะ แต่มันก็ได้รับความใส่และการดูแลจากไอ้ต้าร์มากว่าเพื่อนเล่นคนอื่นๆ ถือได้ว่ามันจะได้รับอภิสิทธิ์พิเศษอื่นๆ ก่อนใครเสมอๆ

“รีบแดกไงละ ร้อนก็หัดเป่าสิวะ! ”

“หิวนี้ ต้าเป่าให้หน่อย” มันทำเสียงอ้อน

“ปากก็มีเป่าเองสิ กูก็ต้องกินเหมือนกัน”

“วุ้ว ใจดำอะ ใจดำ” มันว่าใส่ ไอ้ต้าร์ถึงกับชี้นิ้วใส่ มันถึงได้สลด หดคอหนี

“ปากเก่งขึ้นทุกวันเลยนะมึง -*- “มันว่าไอ้เอ๋อ

“ฟู่ ๆ ๆ อ้ามมม อาหย่อย” มันกินไปยิ้มไป ไอ้ต้าร์ก็กินของมันไปเงียบๆ มีบ้างที่เหลือบมองไอ้เอ๋อเป็นระยะๆ วันนี้เป็นครังแรกที่มันจะได้นอนร่วมห้องกับไอ้เอ๋อ มันรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ จนเกือบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่

“อิ่มยังวะ จะได้เอาจานไปเก็บ” คนตัวสูงถามเสียงหน่ายๆ ไอ้เอ๋อมันพยักหน้าแล้วยิ้มให้

“เอ้า อิ่มแล้วก็ลุกดิวะ จะนั่งทำสากกะเบืออะไรละ เอาชามไปเก็บวู้ว ต้องให้สั่งตลอดเลยมึง”

ทั้งคู่ช่วยกันยกชามไปเก็บที่โรงครัว ตอนไปเอาไอ้ต้าร์มันเดินทางด้านหน้าโบถ์ แต่ขาเอาของไปเก็บมันดันพาไอ้เอ๋ออ้อมมาด้านหลังเพราะว่าทางมันใกล้มากกว่า แต่มันลืมอะไรไปรึเปล่าว่าทางนี้ต้องเดินผ่านลานเผาศพกับเมรุด้วย ทั้งคู่เดินไปกันเงียบๆ แต่ จู่ๆ ไอ้เอ๋อมันหยุดเดิน แล้ววมองไปยังต้นโพธิ์ต้นใหญ่ใกล้กับเมรุ

“ลุงชา ลูงงงงงงง ไปยืนทำอะไรตรงนั้น” มันร้องเรียกลุงที่มันเห็นแต่ไอ้ต้าร์มันไม่เห็น ชื่อที่ไอ้ต้าร์ได้ยินแล้วหัวใจมันหล่นไปถึงตาตุ่ม จะชื่อใครเสียได้ก็ชื่อเจ้าของข้าวต้มที่พวกมันกินกันอยู่นี่ไงศพยังนอนอยู่บนศาลาอยู่เลย

“เชี้ยะเอ๋อ !! มึงเอาอีกแล้วนะ ไอ้ห่าเอ้ย” ไอ้ต้าร์มันรีบลากไอ้เอ๋อออกจากที่ตรงนั้น

“เดี๋ยว เดี๋ยวลุงชา....กินข้าววว พี่ต้าร์ลุงชามาแล้ว รอก่อนๆ” มันยังจะตะโกนเรียกผีลุงชามากินข้าว ไอ้ต้าร์มันได้ยินขาก็แทบทรุด

“นี่กูมาทำอะไรที่นี่วะ”

บะ บะ บรู๊ววววววววววววววววว

“โหลุงชาเดินไวมากเลย^0^” ยัง ยัง ไม่หยุดอีก ไอ้ต้าร์ฉี่มันจะราดอยู่แล้ว ไหนหมามันจะหอนรับกันเป็นทอดๆ อีก

“ไอ้เชี้ยะเอ๋ออออออออออ มึงจะเรียกลุงแกมาทำม้ายยยย” เท่านั้นแหละไอ้ต้ามันก็ใส่เกียหมาชามที่ถือมาก็วางมันไว้กลางทางนั่นแหละ แล้วกระชากไอ้เอ๋อมันวิ่ง

“เรียกใครไม่เรียกเสือกไปเรียกลุงชา มึงนะมึง” พอพ้นเขตเมรุ พวกมันก็ มายืนหอบอยู่หน้ากุฏิที่มีแสงสว่างให้อุ่นใจ

“ทำไมอะ ทำไมถึงเรียกไม่ได้” สภาพไอ้เอ๋อมันก็ไม่ต่างจากไอ้ต้าร์มากเท่าไหร่ ยืนหอบพร้อมกับเท้าเอว เจ็บซี่ดครงไปหมด จากที่อาบน้ำมาตัวหอมตอนนี้มีแต่เหงื่อเต็มไปหมด

“ก็มึงเรียกผีไง ไอ้โง่ ลุงชาแกหัวใจตายเมื่อตอนเย็นนี่มึงไม่รู้รึไง!! ” ไอ้เอ๋อมันจะไปรู้อะไรมันหลับทั้งวัน

“ตาย!! ตาย T^Tตายแล้วไปอยู่กะพี่เปรี้ยวหรอ”มันทำปากเบะๆเมื่อได้ยินคำว่าตาย มันคิดถึงอีเปรี้ยวขึ้นมาทันที ไอ้ต้ากุมหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด เพราะไอ้เอ๋อมันทำท่าจะร้องไห้ออกมา

“เออออ ที่หลังมึงเห็นอะไรตอนกลางคืนไม่ต้องร้องทักไม่ต้องเรียกมานะมึง หัวใจกูจะวาย สาสสเอ้ย เล่นซะกูเสียหลักหมด”

หลังจากอบรมไอ้เอ๋อเรื่องสัมผัสที่หกแล้วก็พันไปล้างมือล้างเท้าแล้วพากันเข้านอนดีหน่อยที่วันพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์อาทิตย์ไอ้ต้าร์มันเลยไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน ต้ามันปูเสื่อนอนข้างๆ ฟูกของไอ้เอ๋อ หมอนผ้าห่มก็เอาของที่วัดมาใช้ ช่วยกันกางมุ้งคลอบที่นอนดีที่มุ้งมันใหญ่พอที่จะเอาทุกอย่างเข้ามาได้ พัดลมเก่าๆ เวลาเปิดมันก็จะดังแกรกๆ เหมือนจะระเบิดใส่อยู่ตลอดเวลา จัดมุ้งจัดที่นอนเรียบร้อยก็พากันนอนเล่นดูหนังในมือถือ และหนังที่ดูก็ไม่พ้นหนังผี ไม่รู้ไอ้คนตัวสูงมันคิดอะไรถึงได้เปิดหนังผีให้ไอ้เอ๋อมันดู

ไอ้เอ๋อมันชอบปะแป้งเย็นๆ ก่อนนอนตอนนี้มันเลยดูเหมือนหมูชุบแป้งทอดพอถึงเวลาปิดไฟหน้าขาวๆ ของมันก็จะลอยเด่นจนไอ้ต้าร์ผวาตกใจจนต้องรีบปิดหนังในมือ ไม่รู้ว่ามันไปทาเอาตอนไหน

“เชี้ยะเอ๋อ” ไอ้ตาร์มันร้องใส่

“คึคึคึ” คนไม่รู้เรื่องถึงกับขำออกมา

“ขำพ่อง กูตกใจเห็นไหมเนี่ยะ นอนๆ แล้วไม่ต้องเสือกหันหน้ามาทางกูละ” ไอ้ต้าร์มันสั่งเสียงเหี้ยมที่สั่งไม่ใช่เพราะหลอนอะไรหรอกมันกลัวใจตัวเองต่างหาก กลัวว่าจะเผลอทำอะไรไอ้เอ๋อเข้า แค่ได้นอนข้างๆ กันแบบนั้นใจมันพาลแต่จะสั่นไม่หยุด กว่าจะข่มตาหลับได้ก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน

5.00น.

ไอ้เอ๋อมันตื่นก่อนเพราะต้องตามหลวงตาไปบิณฑบาตแต่เช้า มันย่องออกจากมุ้งด้วยความงัวเงีย ลงไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วถือปิ่นโตกับย่ามเดินตามหลวงตาออกจากวัดไป

พอกลับมาไอ้ต้าร์มันก็ตื่นเต้มตาเก็บที่นอนหมอนมุ้งเรียบร้อย มันนั่งรอไอ้เอ๋อที่บันไดหน้ากุฏิ เห็นมาเดินตามหลวงตาต้อยๆ ในมือถือของพะรุงพะรังไปหมด มันเลยเดินไปช่วยไอ้เอ๋อจัดอาหารถวายพระด้วยเลย วันนี้ได้ไข่พะโล้มาสองถุงหวานไอ้เอ๋อมันละ ทั้งคู่รอจนหลวงตาฉันเสร็จก็ยกอาหารมานั่งกินรวมกับเด็กวัด

“โหยย พี่นะโม แบ่งผมบ้าง” ไอ้จ้อยร้องโหยหวนเมื่อไอ้เอ๋อเล่นตกไข่ใส่ชามก่อนครเพื่อน

“ไม่แบ่ง คึคึคึ” อย่างเดียวนี่และมั่งที่ทำให้มันกลายเป็นคนขี้หวง กลายเป็นคนตะกละตะกลาม กินไม่แบ่งแบบนี้

“มึงนี่นะ อะไอ้จ้อยเอาของพี่ไปกินจะได้ไม่ต้องไปแย่งมัน” ต้าร์มันเอาหมูสามชั้นชิ้นโตใส่จานให้ไอ้จ้อยเพื่อที่มันจะได้ไม่ไปแย่งไอ้เอ๋อ มื้อเช้าจึงผ่านไปด้วยดี กินเสร็จก็ต้องทำงาน ไอ้ต้าร์มันขัดพื้นให้ ส่วนไอ้เอ๋อมันก็ขัดบาตรของมันไป ขัดจนเปียกไปทั้งตัวจนโดนไอ้ต้ามันเอ็ดใส่ ก่อนจะพากันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

“วันนี้ไปไหนดีพี่ต้า ไปเล่นกันไหม?”

“เล่นอะไรละ ยังไม่หายดีมึงจะซ่าอีกแล้วหรอ” ไอ้ต้าร์มันบ่นใส่ แต่ในหัวก็คิดหาอะไรทำกับไอ้เอ๋อ ระหว่างรอไปเตะบอลตอนเย็น

“ตกปลา?”

“แดดร้อนปานนี้จะตกไงไหว เดี๋ยวได้เป็นลมเป็นแล้งไป”

“งั้น อืม งั้น เล่นน้ำ”

“ไข้พึ่งจะหาย เล่นไม่ได้”

“วู้วว อะไรๆ ก็ไม่ด้าย นะโมนอนเล่นนิ้วมือตัวเองก็ได้ ชิ”

“ไอ้เอ๋อออ กวนตีนละมึง งั้นมานอนดุหนังนี่ เมื่อคืนยังดูไม่จบ”

สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการหอบเอาเสื่อกับหมอนไปนอนดูหนังที่แคร่ใต้ต้นมะม่วง นอนดูหนังจนเผลอหลับกันไปทั้งคู่ ไอ้เอ๋อมันนอนดิ้น จนไอ้ต้าร์ต้องใช้ขาเกี่ยวเอวคอดๆ ของมันเอาไว้กันตกแคร่ เป็นอันว่าตอนนี้พวกมันสองคนนอนกอดกันกลมดิ๊กแข็งขาพันกันไปหมด

++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณคร๊าฟฟฟสำหรับทุกความเอ็นดูที่มีให้น้องนะโม หรือไอ้เอ๋อ ของเราและรวมถึงตัวคนแต่งด้วย หายไอแล้วนะคะ ตอนนี้ยกให้พี่ต้าร์เขาไป ถึงจะไม่มีโมเม้นต์หวานๆแต่ยังมีความฮาของน้องอยู่บ้าง พี่ต้าร์เค้ารักในแบบดิบๆเถื่อนๆตามสไตร์เด็กช่าง เนอะๆ




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
« ตอบ #49 เมื่อ: 08-03-2018 08:35:59 »





ออฟไลน์ A_bookworm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
«ตอบ #50 เมื่อ08-03-2018 09:16:42 »

 :hao5: :hao5:ทำไมเค้ากดบวกเป็ดให้ไม่ได้อ่าาาาา   :impress2: :impress2: :impress2:ชอบต้าร์มากกว่าพี่หมอสิงห์ ดูแล้วลูกพี่ต้าร์ไม่ค่อยลวนลามน้อง ถึงอยากแต่ไม่กล้าไง  :hao6: :hao6: แต่ดูๆแล้วคู่ของลูกพี่ต้าร์นี่หมอไม้เมืองน่าจะไม่ธรรมดา  :hao3: :hao3: รอๆๆตอนต่อไป เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์จร้าาา

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
«ตอบ #51 เมื่อ08-03-2018 09:20:07 »

 :3123: :pig4: :3123:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
«ตอบ #52 เมื่อ08-03-2018 10:25:07 »

ตอนนี้อยากให้ต้าร์เป็นพระเอกจุงเบย แต่ดูกลิ่น เหมือนต้าร์จะคู่หมออะเปล่าค๊าาา

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
«ตอบ #53 เมื่อ08-03-2018 11:47:00 »

ถ้าพีสิงห์มาเห็นสภาพการนอน
แบบนีได้หึงจนรีบหาวิธีเอานะโม
มาเร็วขึ้นแน่

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
«ตอบ #54 เมื่อ08-03-2018 17:44:32 »

 o13 รอติดตามตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
«ตอบ #55 เมื่อ09-03-2018 03:57:06 »

เอ๋อน่าเอ็นดูมาก ๆ เลย  :กอด1:

ปล. +เป็ดไม่ได้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นที่ระบบหรือเปล่า แต่ก็เห็นคะแนน + เป็ดคนที่อ่านก่อนหน้านะ แต่พอเรากดมันไม่ขึ้นอ่ะ  :z3:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
«ตอบ #56 เมื่อ10-03-2018 05:15:45 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
«ตอบ #57 เมื่อ10-03-2018 08:16:19 »

พี่ต้ามีคู่แล้ว เชียร์หมอไม้ อิอิ

ออฟไลน์ สามภพ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.07 28/3/61
«ตอบ #58 เมื่อ28-03-2018 23:49:02 »

 



07

มันจะมีอะไรเหนื่อยไปกว่าการคุยกับไอ้เอ๋อไปได้อีก เหนื่อย! เหนื่อย! ในใจของไอ้ต้าร์มันกรีดร้องออกมาอย่างหนัก ทั้งที่มันควรจะเข้าใจไอ้เอ๋อมากกว่าใคร แต่ครั้งนี้มันเหนื่อยจริงๆ

“ไอ้เอ๋อ กูบอกว่าให้ใช้ขาเตะไม่ใช่ ใช้มือจับลูกแล้ววิ่ง! ” เสียงตะโกนรอบที่สิบของไอ้ต้าร์ดังลั่นสนามบอลที่ลานอเนกประสงค์ประจำหมู่บ้าน ไอ้เอ๋อใส่เสื้อยืดย้วยๆ ตัวเก่งกับกางเกงบอลสีเข้มหลวมๆ รัดด้วยเชือกฟางที่ไอ้ต้าร์มันบันจงมัดให้อย่างดี รวมถึงผมที่มัดเป็นจุกอยู่ด้านหน้า เหตุเพราะมันยาวลงมาปิดยังสายตา แต่ดูเหมือนไอ้ต้าร์มันจะคิดผิด เพราะตั้งแต่ไอ้เอ๋อมันก้าวเท้าเข้ามาที่สนามเสียงโห่ร้องแซวมันก็ดังขึ้นติดๆ จนไอ้คนที่มัดจุกให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันตา (//มองเหี้ยอะไรนักหนา เดี๊ยวก็ควักลูกตาแมร่ง//) ไอ้ต้าร์มันได้แต่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะใส่เพื่อนๆ อย่างคนที่ทำอะไรมากไม่ได้ แถมตอนนี้ไอ้เอ๋อมันก็รู้จักอาบน้ำเช้าเย็นไม่ทำตัวมอมแมมแบบเมื่อก่อนแล้ว เรียกได้ว่าเหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทอง มันเผยเนื้อแท้ออกมาจนทุกคนตะลึง และคนที่บอกที่สอนให้มันทำตัวสะอาดๆ ก็ไม่ใช่ใคร พี่จ๋าของมันนั่นแหละ เชื่อฟังกันดีจนไอ้ต้าร์มันนึกหมั่นไส้

“อ้าววว หรอ แฮะๆ” มันยืนเกาหัวอยู่กลางสนามพร้อมกับหัวเราะออกมาแบบเขินๆ ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่ให้มันเล่นด้วย

“วางลูกลงสิวะ! แล้วใช้ขาเตะมันส่งมาให้กู” เสียงของต้าร์สั่งกำกับไอ้เอ๋อไม่หยุด ทุกๆ คนในทีมดูเหมือนเห็นเป็นเรื่องสนุก ทุกคนขำ ทุกคนหัวเราะ ไม่ได้แสดงท่าทีลำคานแต่อย่างใด บางคนช่วยสอนบางคนก็ช่วยด่า วันนี้ถือว่าเป็นการเล่นฟุตบอลที่เหนื่อยที่สุดทีเคยเล่นมา แต่ก็สนุกกว่าวันไหนๆ เล่นกันจนมืดตะวันตกดิน ไอ้ต้าร์ก็พาไอ้เอ๋อกลับวัด อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยก็พากันหาข้าวกิน ก็ข้าวจากงานศพลุงชานั่นแหละอิ่มอร่อยไปสามมื้อไม่เสียตังสักบาท เพราะสำนึกในบุญคุณ วันนี้พวกมันทั้งสองคนเลยอยู่ช่วยงานศพลุงชาเป็นการตอบแทน ทั้งเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟอาหารเป็นการทดแทน ไอ้เอ๋อมันทำได้ดีเพราะมันทำบ่อย มันชอบที่จะช่วยเหลือคนอื่นๆ เสมอ เวลาสี่ทุ่มหลังจากล้างจานเสร็จก็พากันกลับกุฏิ อาบน้ำอีกรอบเพราะเหนียวเหงื่อไคก่อนจะเตรียมตัวเข้านอน พวกเขาเหนื่อยจนไม่กางมุ้งนอนด้วยซ้ำ ไอ้เอ๋อมันไม่ลืมที่จะประแป้งหน้าขาวแล้วนอนลงข้างๆ ลูกพี่ของมันด้วยความอ่อนล้า

“พี่ต้าร์ พรุ่งนี้เราไปตกปลากันมะ” มันเอ่ยชวนลูกพี่ของมันด้วยเสียงยานๆ จะหลับแหล่มิหลับแหล่มันพลิกกายหันหลังไปกอดหมอนข้างแล้วเอามือล้วงเข้าไปในกางเกงเพื่อเกาตูด มันละเมอยิ้มออกมานิดๆ

“ = = พรุ่งนี้กูไปเรียน เอาไว้วันไหนกูมีเรียนแค่ภาคเช้ากูจะพาไป” เสียงทุ้มติดเก๊กนิดๆ เอ่ยตอบมันแต่ไอ้ต้ากลับไม่ได้ยินเสียงใดๆ ตอบกลับมา มีแต่เสียงที่ฟังแล้วชวนให้มันหงุดหงิด

“คร๊อกกกก ฟี้ คร๊อกกกฟี้” นี่มันไม่ได้ฟังคำตอบของไอ้ต้าร์สักนิดถามจบก็หลับเลย ไอ้ต้าร์มันยกมือจะเขกหัวไอ้เอ๋อ โทษฐานหลับตอนที่มันกำลังพูด แต่ทว่ามือที่มันยกกลับไม่ได้ฟาดลงไปแต่อย่างใด มันกลับใช้ความรู้สึกทั้งหมดของมันมองไปที่ไอ้เอ๋อ สายตาของมันบ่งบอกทุกอย่างว่ามันรู้สึกยังไงกับไอ้เอ๋อ ไอ้ต้าร์ค่อยๆ ลดมือลงและลูบหัวของไอ้เอ๋อเบาๆ มันใช้มือข้างหนึ่งเกลี่ยปอยผมให้พ้นใบหน้า ก่อนจะค่อยๆ ยื่นใบหน้าหล่อๆ ของมันเข้าใกล้ใบหน้าหวานๆ ของไอ้เอ๋อ...อีกนิด....อีกนิด..ก่อนที่ริมฝีปากจะประทับลงบนริมฝีปากอีกคนอย่างแผ่วเบา มันถอนตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ

“กูชอบมึงนะ ไอ้เอ๋อ” ไอ้ต้าร์บอกความในใจออกไปแล้วแต่คนหลับมันไม่ได้ยินหรือรู้สึกอะไรหรอก เพราะว่าคนที่มันบอกหลับสนิทไปนานแล้วปล่อยให้มันนอนใจเต้นแรงอยู่คนเดียวจนเกือบค่อนคืน

.

สามวันแล้วที่ไอ้เอ๋อมันไม่เจอพี่จ๋าของมัน ตาก็คอยมองหูก็คอยฟังว่าเสียงมอเตอร์ไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เมื่อไหร่จะแล่นเข้ามา มันนั่งซักผ้าอยู่ที่หลังกุฏิ มือเล็กๆ ขยำจีวรของหลวงตากับน้ำแฟป ไอ้เอ๋อมันชอบฟองเยอะๆ มันเลยใส่แฟบไปหมดถุง จนโดนหลวงตาดุบ่อยๆ เพราะมันล้างแฟบออกไม่หมด

วันนี้มันก็ทำเหมือนเดิม ฟองท่วมหัวท่วมหูมันไปหมด มันเอาฟองที่ตั้งเป็นยอดวางไว้บนหัว แตะไว้ที่แก้มทั้งสองดูตลกๆ แต่มันชอบ กว่าจะซักเสร็จก็เปียกเหมือนมันอาบน้ำ ไอ้เอ๋อเอาจีวรหลวงตากับเสื้อผ้าของมันไปตากที่ราวลวดที่ทำจากลำไม้ไผ่ตอกเป็นเสาสี่ด้านแล้วขึงลวดรอบด้านมันค่อยๆ ตากอย่างบันจงจนครบทุกตัว

บรื้นๆ เสียงรถดังคุ้นหูแล่นเข้ามาจอดที่ลานหน้ากุฏิ ไอ้เอ๋อมันทิ้งกะละมังที่กำลังจะแขวนเก็บลงกับพื้นแล้ววิ่งไปหน้ากุฏิทันที

“พี่จ๋า...^0^” มันโผเข้ากอดสิงห์ทันที

“หึหึ ทำอะไรอยู่ครับ ถึงได้เปียกแบบนี้หืมมม” สิงห์ดันไอ้เอ๋อแล้วมองสำรวจ

“ซักผ้า” มันตอบเสียงใส

“ซักผ้าหรือเล่นน้ำครับ ดูสิฟองเต็มหัวเลย” สิงห์ใช่มือปัดฟองออกจากหัวของไอ้เอ๋อ

“คึคึ พี่จ๋ามาทำไร” ไอ้เอ๋อมันไม่ได้สนใจสิ่งที่สิงห์ถามสักนิดมันอยากรู้ว่าพี่จ๋าของมันมาทำอะไร มาหามันรึเปล่าเท่านั้นเอง ใบหน้าหวานๆ ของไอ้เอ๋อเอียงไปเอียงมา

“มาหานะโมไง พี่คิดถึง^^”

“นะโมก็คิดถึง><” เป็นคำตอบที่ถูกใจมันมาก มันส่งยิ้มซื่อๆ ไปให้อีกคน สิงห์จับเสื้อผ้าเปียกๆ ของมันแล้วทำหน้าดุๆ แต่น้ำเสียงกลับอ่อนโยนแสดงถึงความเป็นห่วง

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่ารับ เดี๋ยวจะไม่สบายเอาอีก”

“อื้อ” รับคำก็วิ่งหายไปหลังกุฏิ กลับมาอีกทีมันก็เปลี่ยนเสื้อผ้ามาเรียบร้อย

วันนี้สิงห์ตั้งใจจะพาไอ้เอ๋อมันไปดูบ้านที่เขาพึ่งจะรีโนเวจเสร็จ กะให้มันไปทำความคุ้นเคยเอาไว้ เขาเลยจะมาคุยกับหลวงตาเรื่องจะจ้างไอ้เอ๋อมันทำความสะอาดบ้านพักอาทิตย์ละห้าวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เขาจูงไอ้เอ๋อขึ้นไปหาหลวงตาที่โบถ

“อ่าวโยมสิงห์ มีธุระอะไรรึเปล่า” หลวงตาเอ่ยทักเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินมากับไอ้เอ๋อ

“นมัสการครับหลวงตา^^” สิงห์ตอบเสียงสุภาพพร้อมกับยกมือไหว้

“มีเรื่องอะไรรึเปล่าโยม ถึงได้มาหาอาตมาถึงที่นี่” หลวงตามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ ไอ้เอ๋อ อย่างพิจารณา หลวงตาเองก็พอจะรู้ว่าสิงห์มาด้วยเรื่องอะไร เขาพอคิดไว้บ้างแล้วถึงเรื่องของไอ้เอ๋อ

“พอดีว่าผมจะมาขอหลวงตา เรื่องนะโมนะครับ” เป็นดั่งที่หลวงตาคิด หลวงตาบัวหน้าตึงขึ้นมานิดๆ

“เรื่อง?”

“ผมจะจ้างนะโมไปทำความสะอาดบ้านนะครับ”

“.....”

“ผมจะจ้างน้องเดือนละ หนึ่งหมื่นแปดพันบาท รวมถึงค่าที่อยู่และค่ากิน” สิงห์เว้นจังหวะหลวงตากำลังคิด เงินก็ไม่ใช่น้อยๆ ถ้านะโมมันมีเงินเก็บบ้างเขาก็พอจะเบาใจ แต่พอมาคิดๆ ดูทำทุกวันแบบนี้นะโมไม่ต้องไปอยู่กับสิงห์หรอกหรือ? จะไว้ใจได้ไหม? กับผู้ชายที่แค่เอ็นดูนะโม หลวงตาคิด

“หมายความว่านะโมต้องไปอยู่กับโยมที่บ้านด้วยอย่างนั้นเหรอ?” สีหน้าหลวงตาดูจะตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าสิงห์จะใช้วิธีนี้เพื่อหว่านล้อมตน

“ครับ อีกอย่าง ผมมีเพื่อนที่เป็นหมอเฉพาะทางเกี่ยวกับอาการของนะโม ผมจะรักษาน้องควบคู่ไปด้วยหลวงพ่อคิดเห็นว่ายังไงครับถ้าผมจะพานะโมไปอยู่ด้วย” สิงห์ยิ้มด้วยรอยยิ้มการค้าอย่างเต็มที่

“เอาอย่างนี้ละกันนะโยมสิงห์ อาตมาคงต้องถามความสมัคใจของนะโมก่อน เรื่องแบบนี้อาตมาบังคับนะโมมันไม่ได้หรอก” หลวงตาแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะข้อเสนอที่จะรักษานะโมมันทำให้หลวงตาเริ่มใจอ่อน สิงห์จับสีหน้าของหลวงตาได้เขาจึงเริ่มเพิ่มข้อเสนอให้อีก

“ถ้าหลวงตาให้น้องไปอยู่กับผม น้องจะได้เรียนหนังสือ ผมจะให้น้องลงเรียนศึกษาผู้ใหญ่แล้วสอบเทียบเอา ผมจะส่งน้องเรียน”

“แต่ไอ้เอ๋อมันไม่มีหัวทางด้านเรียนหรอกนะโยม” หลวงตาพูดด้วยน้ำเสียงติดกังวล

“แต่น้องก็เรียนจบ ม.3ไม่ใช่เหรอครับ? ผมมั่นใจว่าน้องทำได้”

“ก็พึ่งจะจบเมื่อตอนอายุ18นี่เอง ยากนะโยมที่จะเข็นนะโมมันขึ้นภูเขา” หลวงตาบัวถอนหายใจหนักๆ

“ไม่มีอะไรสายเกินเรียนหรอกครับหลวงตา ขอแค่น้องมีโอกาส”

“อะ ...เอ่ออ คืออ พี่จ๋า ปะปล่อยมือนะโมหน่อย” ใช่ตั้งแต่เดินมาที่โบถ์สิงห์ยังไม่ได้ปล่อยมือไอ้เอ๋อมันเลย มือเล็กๆ พยายามจะบิดออกแต่สิงห์ไม่ยอมปล่อย หันมาอีกทีก็เห็นไอ้เอ๋อมันยืนบิดไปมาท่าทางพิกล

“เป็นอะไรของเอ็ง ห๊ะนะโม” หลวงตาเอ่ยถาม

“ฉะ ...ฉี่ หนู ปวดฉี่ อร๊ายยย จะไม่ไหวแล้ว พี่จ๋าปล่อยหนูก่อน” ไอ้เอ๋อแทบจะกรีดร้องออกมา มันเอามือกุมไข่เอาไว้ พร้อมกับทำหน้าทรมาน

“เอ้า แล้วก็ไม่บอก” สิงห์รีบปล่อยมือ พอเป็นอิสระไอ้เอ๋อมันก็รีบวิ่งหายไปเลย ส่วนสิงห์ก็ยืนรอคำตอบจากหลวงตาไปด้วย

หลังจากเข้าห้องไอ้เอ๋อมันเดินกลับมา กางเกงที่ใส่เปียกนิดๆ แสดงว่ามันเกือบไปเข้าห้องน้ำไม่ทัน ไอ้เอ๋อมันยิ้มแห้งๆ พร้อมกับกำเป้ากางเกงชื้นๆ ของมัน

“หนู ถอดกางเกงไม่ทันมันเลย..งือออ” แก้มป่องๆ ของมันขึ้นสีแดง มันคงจะอายที่ฉี่รดกางเกงแบบนั้น สิงห์แกล้งทำสายตาล้อๆ

“งื้ออออ พี่จ๋าล้อนะโมT^T”

“หึหึ ไม่ได้ล้อครับ” สิงห์อมยิ้มกลั้นขำเอาไว้

“โกหก ก็เห็นว่ายิ้มล้ออยู่คิดว่านะโมโง่รึไงเชอะ-3- “

“อย่าพึ่งโกรธ สิ ^^ พี่มีอะไรจะถามเรา”

“หึ-3- มีอะไรละครับ” มันพูดด้วยเสียงที่ขึ้นจมูก (มีความพัฒนาด้านอารมณ์เหมือนกันนะไอ้เอ๋อ)

“เราสนใจไปทำงานที่บ้านพี่ไหม”

“ทำงาน เหรอ ทำๆ ได้ตังค์ไหม ผมอยากได้ตังเยอะๆ มาให้หลวงตากับน้องๆ” มันยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

“หลวงตาจ๋าให้หนูทำนะ หนูอยากทำ น้า น้า ให้หนูทำนะ” มันอ้อนตาใสหลวงตาอึกอัก ตอบไม่ถูก

“เอาเป็นว่าตกนะครับหลวงตา น้องตอบแบบนี้” สิงห์ยิ้ม ผิดกับอีกคนที่ทำหน้าเครียดๆ เหมือนกับว่าตนเองทำอะไรไม่ได้แล้วอย่างนั้น

“แล้วแต่โยมเถอะ อาตมาคงค้านอะไรไม่ได้ในเมื่อนะโมมันอยากทำ” พอได้ยินคำตอบสิงห์ก็ยิ้มกว้างออกมา

“เย้ๆ แล้วได้ตังเท่าไหร่ หรอ 50 บาทหรอ หรือ100นะโมทำได้หมดเลยนะทั้งกวาดบ้าน ตัดหญ้า ขุดหลุม เลี้ยงน้อง นะโมทำได้หมดเลย” มันกระตือรือร้นเสนองานที่ตนเองเคยทำและจำนวนเงินที่เขากดขี่มัน คนฟังพอได้ยินก็รู้สึกหดหู่ในใจ สิงห์หันไปยิ้มเอ็นดู ส่วนหลวงตาก็ได้แต่ถอนหายใจ เขาจะลองวัดใจกับสิงห์ดูสักตั้ง เพื่ออนาคตที่ดีของคนที่เขารักมากที่สุด เขาจะยอมเสี่ยงดู

“ได้มากกว่านั้นครับ”

“เหรอ มากพอจะซื้อขนมเลี้ยงน้องได้ไหม *0* “ไอ้เอ๋อตาวาวขึ้นมาทันที

“ได้ครับ^^”

“งั้นทำเลย ปะ พี่จ๋า พานะโมไปทำงานเลยนะๆ”

“ใจเย็นครับ เดี๋ยวได้ทำแน่ๆ ^^ เดี๋ยวพี่พาเราไปดูบ้านนะครับ” สิงห์โอบไหล่นะโมไว้หลวมๆ

“โยมคิดดีแล้วใช่ไหม การที่โยมทำแบบนี้โยมจะไม่นึกเสียใจทีหลังใช่ไหม โยมจะไม่ทิ้ง เขา จะไม่ทำร้ายเขาเมื่อทำอะไรที่ผิดพลาด นะโมไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ โยมเข้าใจใช่ไหม?” หลวงตาบัวจ้องลึกเข้าไปยังดวงตาสีเข้ม

“ครับผมเข้าใจดี หลวงตาไม่ต้องห่วง ผมเอาสัญญาการจ้างงานมาด้วยหลวงตาจะได้สบายใจ นี่ครับเอกสาร” สิงห์หยิบเอกสารการจ้างงานออกจากแฟ้มที่ถือติดมือมาด้วย ยื่นให้หลวงตาอ่านรายละเอียดต่างๆ ในสัญญา

“พร้อมเซ็นเมื่อไหร่ก็บอกผมนะครับ ผมขอตัวพานะโมไปดูบ้านก่อนนะครับ”

“ไปเถอะ ฝากนะโมมันด้วยละกัน” หลวงตามองตามแผ่นหลังของทั้งคู่ที่เดินออกไปด้วยความกังวลใจ เขาไม่ได้ห่วงเรื่องเงินแต่เขาห่วงเรื่องอื่นมากกว่า

“จะรอดไหมนะโมเอ้ยยย เห้อ”

หลังจากบาหลวงตา สิงห์ก็พานะโมมาที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านที่พอเห็นแล้วนะดมถึงกับร้องว้าวๆ พร้อมกับตบมือ

“บ้านที่ผมมาถอนหญ้า พี่จ๋าจะให้นะโมมาถอนหญ้าเหรอ ได้ๆ” ไอ้เอ๋อมันตั้งท่าจะถอนหญ้าที่สั้นโกร๋นอยู่แล้วอย่างเดียวมันถลกแขนเสื้อขึ้น

“ไม่ใช่ครับ พี่ไม่ได้พาเรามาถอนหญ้า พี่พาเรามาดูบ้านของเราไง” สิงห์รู้สึกใจเต้นแรงนิดเวลาพูดคำว่าบ้านของเรา นี่เขาท่าจะบ้ามากเกินไปแล้ว ใจมันสั่นไปหมด ร่างสูงกำมือนิ่มเอาไว้แล้วจูงขึ้นบันได บ้านทรงไทยประยุกต์ที่รีโนเวทใหม่หมด ด้านในตกแต่งแบบเน้นงานไม้และลายไม้เป็นส่วนใหญ่รวมถึงเฟอร์นิเจอร์เองก็ด้วย ไอ้เอ๋อมันร้องว้าวตลอดการเดินชมบ้าน มันชอบของสวยๆ งามๆ เป็นทุนเดิมอยู่พอได้มาเห็นอะไรแบบนี้แล้วก็ยิ่งอยากมาทุกวัน

“ชอบไหม ด้านหลังมีสระน้ำด้วยนะ”

“สระน้ำ เล่นน้ำเหรอ”

“หึหึ ดูทำหน้าเข้าสิ พี่จ้างมาทำงานนะครับไม่ใช้จ้างมาเล่น” สิงห์ยกมือเขกหัวไอ้เอ๋อมันเบาๆ

“อร๊ายยย เจ็บนะ”

“เจ็บเหรอ นี่แหละ เด็กดื้อ” สิงห์เขกหัวไอ้เอ๋อมันอีกครั้งด้วยความหมั่นไส้ในน้ำเสียงของไอ้เอ๋อ

“หนูไม่ดื้อนะ ไม่ดื้อ” ไอ้เอ๋อหัวเราะคิกคักปฏิเสธเสียงหวาน

“หึหึหึ นะโมอยากมาอยู่ที่นี่กับพี่ไหมครับ” สิงห์จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของไอ้เอ๋อ

“อยู่ที่นี่เหรอ*0*” เหมือนมันจะดีใจแค่แวบเดียวหน้ามันก็หุบลงเหมือนดอกไม้เหี่ยว จนสิงห์อดที่จะสงสัยไม่ได้

“เป็นอะไรครับ? ทำไมทำหน้าแบบนั้นละ”

“ก็ถ้ามาอยู่ที่นี่ใครจะดูแลหลวงตาละจ้ะพี่จ๋า” ไอ่เอ๋อยังห่วงหลวงตาอยู่

“เอ่อเรื่องนั้น”

“ถ้าหนูมาอยู่ที่นี่หนูก็จะได้เงินเอาไปให้หลวงตากับน้องๆ ฮรืออออ คิดไม่ออกเลย หนูคิดไม่ออกอะT^T” ไอ้เอ๋อมันกัดปากตัวเอง เพราะความสคิดที่สับสนสองจิตสองใจห่วงหลวงตาก็ห่วงอยากได้เงินก็อยาก สิงห์เห็นท่าทางสับสนของไอ้เอ๋อก็อมยิ้มขำ

“อยู่กับพี่จ๋านี่แหละดีแล้ว เราจะได้มีเงินซื้อขนมให้น้องมีเงินพาหลวงตาไปหาหมอไง ที่วัดก็มีน้องๆ ดูแลหลวงตาอยู่นะโมไม่ต้องห่วงนะ” สิงห์โน้มน้าวให้ไอ้เอ๋อมันคล้อยตามได้อย่างง่ายดายเมื่อใบหน้าหวานหยดของมันพยักขึ้นลงอย่างช้าๆ

“ถ้าอย่างนั้นเราไปดูห้องของนะโมกันดีกว่าเนอะ” สิงห์จูงร่างบางให้เดินไปที่ห้องข้างๆ ห้องของตนเอง เขาเปิดประตูไม้บานพับแบบโบราณโดยพับไปด้านหนึ่ง สิ่งแรกที่ไอ้เอ๋อมันเห็นคือเตียงไม้สี่เสา มีโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า ทีวีจอใหญ่บนผนังไม้เครื่องปรับอากาศ ที่ไอ้เอ๋อมันไม่เคยได้สัมผัสความหนาวจากมัน ดวงตากลมลุกวาวด้วยความรู้สึกตื่นเต้น มันปล่อยมือพี่จ๋าของมันแล้ววิ่งวนไปมารอบๆ ห้อง

“ห้องหนูเหรอ นี่ห้องของหนู” สิงห์พยักหน้ารับ

“ว้าววววววว*0*” ไอ้เอ๋อตื่นเต้นจนแสดงออกมาทางสีหน้า มันเป็นคนที่ดูออกง่ายมากว่าคิดอะไรอยู่

“ชอบไหมครับ?”

“ง่าส์ หนูไม่เคยใช้ หนูไม่รู้หรอกจ้ะว่าชอบหรือเปล่า^-^” ไอ้เอ๋อมันตอบซื่อๆ รอยยิ้มของมันเหมือนน้ำเย็นที่คอยหล่อหลอมหัวใจคนมอง สิงห์ยิ้มละมุนเขาไม่คิดว่าเขาจะยิ้มให้กับเด็กคนหนึ่งซึ่งไม่มีอะไรตรงสเปคเขาสักอย่างแถมยังเป็นออทิสติกอีก แต่ไอ่เอ๋อกลับทำให้เขาหยุดนิ่งอยู่กับที่ได้โดยง่าย เพียงแค่มันยิ้ม....


ออฟไลน์ สามภพ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 28/3/61
«ตอบ #59 เมื่อ28-03-2018 23:49:23 »

(สิงห์พาท)

ผมเป็นหมอสัตว์ซึ่งทุกคนอาจจะรู้จักผมแล้ว แต่ถ้าอยากรู้เรื่องราวของผมมากขึ้นก็แค่อดใจรอ ใครๆ ก็บอกว่าผมนะหล่อ รวย นิสัยดี อบอุ่น และดูเป็นมิตรกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ครับผมไม่เถียง แต่ใครๆ คงลืมไปว่าเนื้อแท้ของคนแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน อ่า อย่าพึ่งคิดว่าผมนี่ต้องแอบร้ายนะครับ ผมไม่ได้ร้ายโดยสันดาน แต่ผมจะร้ายเมื่อผมอยากจะร้ายเท่านั้น ผมเป็นหนุ่มโสดแต่ไม่ซิง เป็นที่รู้กันในหมู่แก๊งอเวนเจอร์ โดยที่เหล่าบรรดาสาวแท้สาวเทียมเป็นคนตั้งให้ หึหึหึ แค่ชื่อแก๊งก็น่าจะรู้นะครับว่ามันเป็นยังไง ผมไม่เคยเชื่อในรักแท้ ไม่ศรัทธาในความรักบริสุทธิ์ เพราะคนบางคนทำให้ผมรู้สึกแบบนั้น เธอทำลายความเชื่อของผมไปจนหมด ตั้งแต่นั้นมาผมก็เย็นชากับทุกๆ คนที่เข้ามาหาผม จนกระทั่ง ผมได้สบตากับดวงตาคู่หนึ่ง ดวงตาที่มีแต่ความใสซื่อและความบริสุทธิ์ในนั้น

“น้องไม่ปรกติ” นั่นคือสิ่งที่ผมได้รับรู้น้องเป็นออทิสติก ที่สมองพัฒนาช้ากว่าเด็กทั่วไปแม้ร่างกายจะเติบโตแต่สมองน้องก็ไม่ได้พัฒนาทันร่างกาย จากการที่ได้สอบถามพูดคุยกับตำรวจและหลวงตาที่เลี้ยงดูน้องมา น้องเป็นเด็กที่น่าสงสาร น้องเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่เกิดแถมร่างกายยังไม่สมบูรณ์อีก นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกสงสารน้องมากๆ และอยากจะรับน้องมาอุปการะ อยากเลี้ยงดูน้องให้มีชีวิตที่ดีกว่านี้ จากแรกๆ แค่สงสารแต่ตอนนี้เริ่มจะสงสัยในตัวเองว่า ผมอาจจะหลงเด็กคนนี้แล้วก็ได้ เพราะไม่ว่าน้องจะทำอะไรหรือพูดอะไรผมจะสนอกสนใจน้องมากกว่าคนอื่นใจอยากแต่จะไปหาน้อง แบบนี้ไม่ให้เรียกว่าหลงแล้วจะให้เรียกว่าอะไร ผมไม่เคยพยายามทำอะไรมากมายขนาดนี้ ผมไม่เคยขอร้องใคร แต่กับน้องผมถึงขั้นหาวิถีทางเพื่อที่จะได้น้องมาอยู่ใกล้ๆ

“พี่จ๋า นี่ประตูอะไรหรอ” น้องเดินไปที่ประตูบานหนึ่ง ประตูที่เชื่อมไปยังห้องของผม

“ประตูวิเศษ” ผมตอบน้อง น้องมองหน้าผมด้วยความไม่เข้าใจ

“วิเศษเหรอ?”

“ครับ เวลานะโมกลัว นะโมหิว หรืออยากเจอพี่ นะโมก็แค่เปิดประตู” ผมยิ้มอ่อน

“*0*”

“หึหึหึ” นี่ผมไม่ได้โกหกน้องนะ

... (จบพาทสิงห์) ...

ในรสหวานละมุนมักจะซ่อนรสขมไว้เสมอ สิงห์ยิ้มอย่างพอใจเขาเดินไปเปิดประตูบานนั้นเผยให้เห็นว่ามีห้องนอนอยู่อีกด้านห้องที่ดูเรียบหรูดูแพงกว่าห้องของไอ้เอ๋อหลายเท่า แถมยังดูเท่กว่าอีก ไอ้เอ๋อมันมองอย่างอึ้งๆ มันชอบกลิ่นเมนต์ทอลและกลิ่นหอมภายในห้องของสิงห์ มันชวนให้หลงใหลอย่างที่มันไม่เคยเจอและไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“หอมอะไร” มันพยายามใช้จมูกเล็กๆ ของมันดมหาต้นตอของกลิ่นโดยที่มีสิงห์ยืนกอดอกมองนิ่งๆ ว่ามันจะทำอะไร ไอ้เอ๋อมันเดินดมกลิ่นไปทั่วห้องจนกระทั่ง

ปึก..จมูกของมันชนเข้ากับแผงอกกว้างกลิ่นที่มันพยายามหาอยู่ตรงหน้านี้แล้วไอ้เอ๋อมันสูดกลิ่นกายหอมๆ ของสิงห์เข้าเต็มปอดมันใช้จมูกถูไปมาเหมือนลูกแมวเชื่องๆ

“อยู่ตรงนี้นี่เอง” ไอ้เอ๋อมันพึมพำของมันไปโดยไม่รู้ว่าเลยว่าไอ้คนตัวสูงๆ ที่มันกำลังเอาหน้าถูอกอยู่นั้นรู้สึกใจเต้นแรงขนาดไหน สองมือของสิงห์กำแน่นอย่างอดกลั้น

“กลิ่นน้ำหอมพี่เอง เราชอบเหรอ” แม้ว่าเสียงของเขาจะสั่นเล็กน้อยตาก็ยังควบคุมได้ดี

“ชอบจ้ะ” มันตอบด้วยแววตาใสซื่อจนสิงห์แทบจะลบความคิดอกุศลออกไปจากหัวไม่ได้ ดังนั้นเขาต้องเลี่ยงสถานการณ์แบบนี้ ดดยการเปลี่ยนเรื่องให้ไวที่สุด

“เอ่อ หิวหรือยังเดี๋ยวพี่พาไปหาอะไรกิน แล้วตอนเย็นเราไปขนของมาไว้ที่บ้านเรากันนะครับ” เย็นไว้ไอ้สิงห์นั่นน้อง น้องที่มึงจะต้องดูแล !!!

“อื้อ หนูหิวแล้ว” มันลูบท้องแบนราบของมันไปด้วย สิงห์พาไอ้เอ๋อไปกินข้าวในตลาด กินร้านตามสั่งเจ้าประจำ ไอ้เอ๋อมันไม่เคยกินหรอกเพราะมันไม่ค่อยมีเงินที่จะซื้อ ข้าวที่กินแต่ละมื้อก็มาจากข้าวก้นบาตรของที่วัด มันเลยรู้สึกประหม่านิดๆ

“นะโมอยากกินอะไรครับ” สิงห์เอ่ยถามหลังจากตักน้ำในกระติกใบใหญ่มาสองแก้วเพราะร้านข้างทางต้องบริการตนเอง มันมองไปรอบๆ ร้านจนสายตามันหยุดอยู่ที่ป้ายเมนูอาหารมันรู้ว่าต้องสั่งจากป้ายใหญ่ๆ ป้ายนั้น แต่มันอ่านหนังสือได้ช้าบวกกับความประหม่า ไอ้เอ๋อก็เลยพูดติดอ่างขึ้นมาซะอย่างนั้น

“อะ เอ่ออ ผะ ผัด...กะ กะ เพรา หมูกรอบจ้ะ เห้ออ” กว่าจะอ่านได้พี่จ๋าของมันลุ้นแทบตายพออ่านเสร็จมันก็พ่นลมหายใจออกมาดังฟู่พร้อมกับยู่หน้านิดๆ อย่างไม่ชอบใจตัวเองที่ทำอะไรน่าอายอีกแล้ว สิงห์เห็นเข้าพอดีจึงแอบอมยิ้ม

“ผมเอาผัดพริกแกงไก่ไข่ดาวครับ” สิงห์สั่งของตนเองบ้าง เขามองหน้าไอ้เอ๋อที่เริ่มนั่งยุกๆ ยิกๆ

“เป็นอะไรครับ”

“หนูปวดฉี่” พอได้ยินสิงห์ก็รีบลุกแล้วพาไอ้เอ๋อมันไปเข้าห้องน้ำทันที เกือบไม่ทันแบบเมื่อเช้าเสียแล้ว

หลังจากเข้าห้องน้ำสิงห์สอนให้ไอ้เอ๋อมันล้างมือให้สะอาดทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำหรือจะกินอาหารโดยค่อยอธิบายว่าถ้าไม่ล้างเชื้อโรคจะเข้ามาทำร้ายทำให้ไอ้เอ๋อป่วยและหมอจะฉีดยา ไอ้เอ๋อมันรีบเข้าใจทันทีเพราะมันไม่ชอบฉีดยา หลังจากนั้นก็พากันกลับมาที่โต๊ะ ที่ตอนนี้มีเด็กช่างนั่งอยู่เต็มร้าน และหนึ่งในนั้นก็มีไอ้พี่ต้าของไอ้เอ๋อนั่งรวมอยู่ด้วย สิงห์มองเห็นตั้งแต่แรกแต่ไอ้เอ๋อยังไม่เห็น ไอ้เอ๋อมันตกใจนิดๆ ที่จู่ๆ คนก็เยอะมากขึ้น แถมมีแต่เด็กผู้ชายหน้าตาโหดๆ ทั้งนั้น มันเลยเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ไอ้ต้าร์มันมองเบ้จิปาถะของมันด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะหันไปปะทะสายตากับสิงห์ คนที่อายุมากกว่ายกยิ้มมุมปากพลางนั่งเอนหลังกอดอกอย่างสบายๆ แต่สายตากลับกำลังฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตายกับอีกคน จนเสียงๆ หนึ่งดังขัด

“อ่าวพี่สิงห์ น้องนะโม” เสียงห้าวๆ ของหมอหนุ่มนามไม้เมืองดังขึ้นท่ามกลางเสียโหวกเหวกของเด็กช่างที่พากันมากินมื้อกลางวันที่นี่ เหมือนฟ้าจงใจให้หมอหนุ่มมาเจอกับเด็กช่างตัวแสบที่ร้านนี้ มีสายตาหลายคู่มองผู้มาใหม่พร้อมกับมองเพื่อนตัวเองที่นั่งกัดฟันจนเส้นเลือดขึ้น อะไรมันจะซวยแบบนี้!! ไอ้ต้าร์มันสบถออกมา จากที่หงุดหงิดอยู่แล้วตอนนี้มันหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมอีก

(“ใจเย็นมึง”)

“อ่าวไอ้หมอ มากินข้าวเหมือนกันเหรอ มานั่งด้วยกันสิ” สิงห์เรียกรุ่นน้องของตัวเองให้นั่งร่วมโต๊ะหมอหนุ่มนั่งลงข้างๆ ไอ้เอ๋อ

“ขอบคุณครับพี่ ว่าไงเราสบายดีไหมครับ” ประโยคหลังไม้เมืองหันไปถามไอ้เอ๋อที่นั่งยิ้มหวานส่งไปให้ ไม้เมืองยกมือขึ้นยีผมของไอ้เอ๋อด้วยความเอ็นดู

“แล้วไปไงมาไงพี่ถึงได้มากับน้องได้ละครับ” หมอไม้เมืองเอ่ยถามพร้อมกับจดรายการอาหารส่งให้ป้าเจ้าของร้าน

“ก็ไปรับมาจากวัด ว่าจะพาไปอยู่ด้วย” สิงห์พูดเสียงดังหวังให้ใครบางคนได้ยินจนหัวร้อน ซึ่งก็ได้ผล ต้ามันแทบจะลุกไปหาเรื่องสิงห์แต่ก็โดนเพื่อนกดไหล่เอาไว้

“ไปอยู่ด้วย นี่พี่เอาจริงหรอ เรื่องนั้น”

“อืม น้องจะได้มีงานทำ พี่จะได้ดูแลน้องได้ถนัดๆ หน่อย แล้วเรื่องที่พี่ให้ไปติดต่อเขาว่าไงบ้าง”

“อ่อ พี่เมษตกลงจะดูแลเคสนี้ให้ เห็นว่าน้องยังมีโอกาสรักษาอยู่”

“อืมดี ทางนี้ก็ตอบตกลงแล้วเหมือนกัน เย็นนี้พี่จะพาน้องไปขนของมาไว้ที่บ้านเลย ขืนช้าเดี๋ยวหลวงตาเปลี่ยนใจ” สิงห์แสยะยิ้มท้ายประโยคแม้จะพูดกับไม่เมืองแต่ตาของสิงห์ก็ชำเลืองไปทางต้าร์อยู่และนั่นทำให้ไม้เมืองมองตามสายตาของสิงห์ หมอหนุ่มแสยะยิ้มนิดๆ เหมือนจะรู้ว่าที่สิงห์พูดเรื่องนะโมตอนนี้เพราะอะไร

“ไอ้เด้กบ้านั่น หึหึ” ไม้เมืองเริ่มรู้สึกสะใจนิดๆ จากการที่ได้ฟังสิงห์เล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา พวกเขาสองคนเห็นตรงกันว่า ไอ้ต้าร์มันชอบไอ้เอ๋อ อยู่!!

“เห็นมันมองพี่ไหม เหมือนอยากจะฆ่าพี่ให้ตาย”

“คุยอารายกานนน ทำไมไม่คุยกะหนูบ้างเลย” ไอ้เอ๋อที่นั่งฟังทั้งสองคุยกันมันไม่ค่อยเข้าใจ แต่มันไม่ชอบให้ใครเมินมันแบบนี้ มือเล็กๆ นั่นเลยกระตุกเสื้อของหมอไม้พร้อมกับตั้งคำถามใส่

“คึคึ งอนเหรอครับ” ไม่เมืองแกล้งบีบจมูกน้อง ปัง!! จู่ๆ ก็มีเสียงทุบโต๊ะดังขึ้นจนไอ้เอ๋อมันสะดุ้ง

“ตะ ตกใจหมดเลย T^Tใครทำเสียงดัง” ไอ้เอ๋อมันลูบหน้าอกตัวเองพร้อมกับบ่นออกมา

ไอ้ต้าร์ที่ทนแทบไม่ไหวมันระบายออกมาด้วยการทุบโต๊ะ มันส่งสายตาโหดๆ ไปหาไอ้เอ๋อที่นั่งหันหลังให้มันด้วยความเจ็บใจ

“กระเพราหมูกรอบได้แล้วจ้า” ข้าวจานแรกเป็นของไอ้เอ๋อ ตามด้วยของสิงห์

“ผัดซีอิ้วไม่เอาผักของใครจ้ะ ป้าจำไม่ได้” ป้าที่เดินออกมาพร้อมกับผัดซีอิ้วสองจานในมือ จานหนึ่งใส่ผักอีกจานไม่ใส่

“ของไอ้ต้าร์มันป้า” เสียงของกลุ่มเด็กช่างคนหนึ่งตะโกนออกมา

“เด็กชะมัดผักไม่แดก” ไม้เมืองเอ่ยลอยๆ แต่ได้ยินแบบทั่วถึง เจ้าของผัดซีอิ๊วไม่ใส่ผักคิ้วกระตุกทันทีที่ได้ยิน     ขามันกระตุกอยากจะลุกขึ้นไปเตะใส่ปากคนบางคน

“ก็ดีกว่าผู้ใหญ่บางคนแดกเผ็ดไม่เป็น” อีกเสียงหนึ่งดังลอดออกมาเช่นกัน ไอ้เอ๋อมันหันกลับไปมองต้นเสียงก่อนตาของมันจะลุกวาว

“พี่ต้าร์” มันร้องเรียกลูกพี่มันเสียงดัง นี่มันจะรู้ไหมว่ามีผู้ชายกำลังจะเปิดศึกแย่งมันอยู่ไอ้เอ๋อมันไม่รู้อะไรทั้งนั้น

“เห็นกูอยู่ในสายตาแล้วรึไง” มันประชดใส่ไอ้เอ๋อ

“อ่าว ก็หนูหันหลังหนูจะเห็นได้ยังไงละ-3- “มันยู่ปากใส่

“มานั่งกินกับกูไอ้เอ๋อ” ไอ้ต้ามันหันไปสั่ง ไอ้เอ๋อมันส่ายหน้าดิ๊กๆ ว่าไม่ไปวันนี้พี่หมอของมันมานั่งด้วยมันเลยคิดจะอ้อนพี่หมอ เวลามันป่วยพี่หมอจะได้ไม่ฉีดยามันเหมือนหมอคนอื่นๆ

“ไม่เอาหรอกวันนี้หนูจะนั่งกับพี่หมอ” คำตอบของไอ้เอ๋อเหมือนมีดที่จามแสกหน้ามัน มือหนากำแน่น พร้อมกับส่งสายตาโกรธๆ ไปให้ไอ้เอ๋อ

“เออ มึงจำไว้เลยนะไอ้เอ๋อทีหลังไม่ต้องมาเรียกร้องหากูเลยนะ!! ”

“หึหึ” สองหมอแอบลอบยิ้มสะใจ ไอ้เอ๋อมันก็ยังเป็นไอ้เอ๋อ มันหันมาสนใจของกินมากกว่าผู้ชายที่คอยหาจังหวะงาบมัน กะเพราหมูกรอบเป็นอะไรที่ตื่นเต้นสำหรับมันไม่เคยได้กินแบบจริงๆ จังๆ แบบนี้ ส่วนมากมันจะได้กินแค่น้ำกะเพรากับเศษใบกะเพราเท่านั้นหมูกรอบนั้นแทบจะไม่ได้แตะเพราะมันแย่งคนอื่นๆ ไม่ทัน มือนี้แหละที่มันจะได้ลิ้มรสของหมูกรอบจริงๆ ไอ้เอ๋อมันกำลังดื่มด่ำกับหมูกรอบตรงหน้า โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ว่าตอนนี้กำลังจะเกิดการนองเลือดขึ้นโดยมีมันเป็นต้นเหตุ...

“หัวเราะเหี้ยอะไร”

“ใครหัวเราะ หูหาเรื่องไม่เคยเปลี่ยนสันดานเด็กไม่มีสำมาคารวะก็แบบนี้” ไม้เมืองที่ปากร้ายไม่แพ้ไอ้ต้าร์พูดออกมาด้วยเสียงเยาะๆ

“เหรอ งั้นมึงก็เป็นผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักโต ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด”

“กลับไปทบทวนดูดีกว่าไหมหนูว่าใครกันแน่ที่ผิด หูหาเรื่องไม่พอปากยังหาเรื่องอีก” ครั้งนี้หมอไม้เมืองเดินออกไปประจันหน้ากับไอ้ต้าร์ ความสูงที่ต่างกันไม่มากทำให้หน้าของทั้งสองแทบจะชิดกัน ป้าเจ้าของร้านที่ได้ยินเสียงดังเอะอะก็ถือกระทะกับตะหลิวออกมาห้ามศึก

“เอ้าจะกินไหมข้าวนะ หรืออยากจะกินลาบเลือดกัน ไหนคนไหนอยากจะกิน เอาหัวมาให้ป้าเอาตะหลิวจามสักทีสองทีจะได้หยุดกัดกัน!! ” ป้าแกจ้องหน้าทุกคนแบบรายตัว หมอหนุ่มกับไอ้ต้าร์ถึงได้ยอมนั่งลง

“ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้หมอปากหมา” ต้าร์ชี้หน้า

“อย่าลืมมาเอาคืนละกันไอ้เด็กเชี้ยะ”

......................................................

ปล.ปล่อยให้น้องได้ลิ้มรสของหมูกรอบสักครั้งเนอะ ส่วนสามคนนั้นก็ปล่อยให้เขารบรากันเอาเอง ให้น้องได้กินอิ่มนอนหลับเป็นพอ ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด