พิมพ์หน้านี้ - {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: สามภพ ที่ 31-01-2018 08:04:35

หัวข้อ: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 31-01-2018 08:04:35
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไอ้เอ๋อ หรือ นะโม เด็กหนุ่มหน้าตาซื่อๆ ที่มีความบกพร่องทางสมองตั้งแต่เกิด

มันจะคิดจะทำอะไรก็จะช้าไปกว่าคนอื่นเสียหมด พูดจาก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง

ดีหน่อยที่หน้าตามันไม่ได้ขี้ริ้วขี่เหล่

ออกจะไปทางสวยเสียมากว่ามันอายุสิบเก้าแล้วแต่พฤติกรรมเหมือนเด็กสิบขวบ กิจวัจประจำวันมันนะเหรอนู้น นั่งเก็บบอลกับเล่นหมากรุกกับคนแก่ที่โรงน้ำชา มันได้เรียนหนังสือนะ จบม.3 กว่าครูจะเข็นมันให้จบได้นี่แทบแย่ เพราะมันสมาธิสั้น นั่งได้แปปๆ ก็หายไปไหนไม่รู้กลับมาเนื้อตัวก็มอมแมมไปหมด โดนเขาแกล้งบ้างละ โดนหลอกใช้งานบ้างละแต่มันไม่เคยนึกโกรธใครสักคน

ข้อดีของมันนะเหรอ มันไม่เคยโกหก สักครั้งหนึ่งมันก็ไม่เคย มันเป็นคนดีคนหนึ่งเลยละ แต่อย่างว่ะละนะ ไอ้เอ๋อมันก็จะเอ๋อๆ เลยโดนแกล้ง บ่อย

มันกลัวคนเมามาก และเพราะคนเมานี่แหละที่ทำให้มันได้เจอกับ"พี่จ๋า"

[/color][/size][/font]

[/color][/size][/size][/font]
+++++++++++++++++++++++++++++++++
(https://uppic.cc/d/68v) (https://uppic.cc/v/68v)


(https://uppic.cc/d/68P) (https://uppic.cc/v/68P)

(https://uppic.cc/d/68Q) (https://uppic.cc/v/68Q)
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 31-01-2018 08:07:14
(https://uppic.cc/d/68R) (https://uppic.cc/v/68R)











ไอ้เอ๋อ





“ไอ้เอ๋ออ มึงจะหนีไปไหน ไอ้เอ๋ออออ” เสียงร้องเรียกแสดงถึงความเกรี้ยวกราดในอารมณ์ของเด็กชายตัวเล็กๆ นับสิบที่วิ่งไล่เด็กผู้ชายคนหนึ่งอย่างบ้าคลั่ง

“งื้อออ ไม่เอานะ อย่าทำนโม อย่า” ดวงตากลมโตกำลังเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว เท้าเล็กๆ สับถี่ๆ เพื่อหนีการจับกุมของกลุ่มเด็กที่โตกว่า อย่างหวาดผวา

ตุบ

“โอ้ยย ฮืออออออ”

“เห้ยมันอยู่นั่น ไปจับมันมาเร็ว” เสียงฝีเท้ามาพร้อมกับเสียงเอะอะโวยวาย ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ นโมนั่งร้องไห้อยู่กับพื้นดินที่เขาพึ่งจะสะดุดล้มลงจนเข่าถลอกเลือดไหล เนื้อตัวมอมแมมไปด้วยเศษฝุ่นและใบไม้แห้ง

“พี่ต้า อย่าทำหนูเลยนะ” ต้าเด็กชายตัวโตวัยในสิบสองย่างสุขุมเข้ามาหานโมด้วยความโมโห ต้าต้องวิ่งไล่ตามเด็กเอ๋อนี่มาตั้งไกล ทั้งเหนื่อยทั้งโมโห

“มึงไปฟ้องครูติ๋มทำไมวะ ว่ากูขโมยไข่ไก่ไปขาย” ร่างอ้วนท้วมตวาดใส่เด็กชายตัวน้อยเสียงดังลั่น

“กะ ก็..ก็ครูติ๋มถาม” ร่างป้อมตอบกลับไปด้วยความใสซื่อ

“มึงนี่มันโง่จริงๆ เลย กูบอกมึงว่ายังไง ถ้าใครถามให้ตอบว่าไม่รู้ไม่เห็น”

“หนูไม่รู้ ฮึกอย่าตีหนูเลยนะ” น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างน่าสงสาร เมื่อเห็นเด็กที่เหลือวิ่งมาสมทบ มันยกมือไหว

“สายไปแล้วมึง กุโดนตีจนตูดแตกมาแล้วเนี้ยะ” มันว่าพร้อมกับถลกกางเกงบอลลงให้อีกฝ่ายดู ก้นดำๆ มาพร้อมกับรอยนูนแดงทำเอานโมผงะ

“มึงต้องชดใช้”

+++++++++++

สิบปีต่อมา

“ไอ้เอ๋อ เก็บบอลให้ที”

“คร๊าบบบบ คึคึคึ” ร่างสูงเพียงร้อยหกสิบห้า กับเสื้อผ้าเก่าๆ ขาดเป็นรูตลงกลางหลัง กางเกงบอลยางยืดที่หลวมจนต้องใช้หนังยางรัดวิ่งทักๆ ออกไปเก็บบอลที่กระเด็นตกไปในพงหญ้าสูงมิดหัว ใบหน้าหวานสวยถูกปิดบังด้วยคราบไคลและคราบดินจนมองไม่เห็นถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ ร่างบาง วิ่งลงพงหญ้าอย่างไม่ลังเล สองมือเล็กควานหญ้าคาจนมัยบาดผิวแสบไปหมดเพื่อหาลูกบอลเก่าๆ ที่มันหวังว่าสักวันหนึ่งมันจะได้ใช้เท้าเตะกับเขาบ้าง ควานจนเจอกับลูกกลมๆ สีขาวแต่มันเล็กเกินว่าจะเป็นลูกบอลได้ มันหยิบขึ้นมาถือไว้ ตาก้มองลูกที่เหลืออีกนับสิบมันไม่รู้ว่าที่มันถืออยู่คืออะไร จนกระทั่งมันเห็นลูกบอลของจริงมันเลยเอื้อมมือไปหยิบอีก ก่อนจะวิ่งกลับมา พร้อมกับของในมือ

“เชี่ยะ ไอ้เอ๋อออ มึงเอาไข่งูกลับมาทำไม!!! ” ทุกคนที่เห็นวิ่งแตกกระเจิงทันที

“เอ้าหนีนโมทำไมละ” มันพูดแล้ววิ่งตามทุกคนที่วิ่งหนีมัน

“ไอ้เอ๋อออ มึงเอาไข่นั่นกลับไปไว้ที่เดิม ไอ้เหี้ยยยย แม่มันออกมาแล้ว หนีโว้ยยย” เมื่อมีคนหนึ่งเหลือบเห็นงูตัวดำเมี่ยมขยับตัวเลื้อยออกมาจาพงหญ้าที่ไอ้เอ๋อมันไปเก็บไข่มา ตัวใครตัวมันละทีนี้

“คึคึคึคึ วิ่งหนีนโมเหรอ คึคึคึ เล่นวิ่งไล่จับกันใช่ไหม?” ร่างเล็กวิ่งไล่ตามทุกคนเพราะคิดว่าเขากำลังเล่นด้วย โดยที่ในมือกำไข่งูไว้แน่น

“วางไข่ลงพื้นสิวะ” ต้าไอ้เด็กอ้วนดำเมื่อสิบปีที่แล้วโตมากลับผอมสูงหุ่นบึกบึนวิ่งมาหาไอ้เอ๋อ พร้อมกับแย่งใข่ในมือแล้ววางลงกับพื้น ก่อนจะลากไอ้ตัวต้นเหตุให้วิ่งตาม

“หาแต่เรื่องไม่เว้นแต่ละวันนะมึง” เมื่อพ้นรัศมีที่แม่งูจะเห็นต้าก็ออกปากด่าเบ้จิปาถะของตัวเองทันที

“คึคึคึ ลูกพี่อยากวิ่งเล่นไล่จับกับนโมอีกไหม”

“เล่นไล่จับพ่องมึงสิไอ้เอ๋อ จะตายกันยกแก้งแล้วยังไม่รู้ตัวอีก” ต้ามันว่าเสียงหอบ ชี้หน้าด่าไอ้เอ๋อไปด้วย

“เล่นอีกๆ”

“เล่นห่าไรละไป กลับบ้านไปเลยไป!! ” ต้าเอ่ยไล่ไอ้เอ๋ออย่างโมโห มันทำเขาเหนื่อยและเสียเวลา

“ใช้ห่าอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง ไอ้โง่!! ” เขาผลักหัวมันก่อนจะเดินกลับบ้านไปอย่างหัวเสีย ทิ้งให้ไอ้เอ๋อยืนยิ้มไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ตรงนั้น

ไอ้เอ๋อไม่ได้แตกต่างไปจากเมื่อก่อนเท่าไหร่นักมันยังโดนแกล้งโดนดุถูก โดนหลอกใช้อยู่ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ถึงจะโดนแกล้งอะไรสารพัดมันไม่เคยโกรธใครเลยสักครั้ง มันจะยิ้มรับกับการกลั่นแกล้งทุกครั้งราวกับต่อมความรู้สึกมันตายด้าน มันหันไปมองแผ่นหลังกว้างๆ ของคนที่มันเรียกว่าลูกพี่ อย่างไม่เข้าใจ

“ไม่เล่นแล้วเหรอ นโมอยากเล่นอีก” ดวงตามันเศร้าสร้อยทันทีที่เมื่อแผ่นหลังนั่นเดินหายจนลับตา นอกจากจะเป็นเด็กเก็บบอลแล้ว ไอ้เอ๋อ ยังเป็นนักเล่นหมากรุกตัวฉกาจ แบบว่าหาตัวจับยากถึงมันจะออกตัวช้า คิดช้า แต่เชื่อเถอะมันไม่เคยแพ้ใครในโรงน้ำชาสักครั้ง เห็นมันเอ๋อๆ แบบนี้ อย่าไปดูถูกสมองมันเชียว มันเรียนจบตั้งม.3เลยนะแต่กว่ามันจะจบม.3ได้ก็แทบแย่ เรียนตั้งแต่อายุสิบสามจบม.3ตอนอายุ18 ถามว่าใครเลี้ยงดูมันมา ไม่ใช่พ่อแม่มันแน่นอน เพราะคนที่เจอมันคนแรกคือไอ้ด่าง หมาวัดที่คาบมันมาวางไว้ตรงกุฏิเจ้าอาวาส กว่าหลวงตาจะออกมาเห็นไอ้เอ๋อมันก็นอนดูดนมอีด่างจนพุงกางไปแล้ว พอ มันโตขึ้นแล้วถามหาแม่มัน หลวงตาก็ชี้ไปที่อีด่างที่นอนเกาเห็บอยู่ข้างๆ โอ่ง มันยิ้มอย่างดีใจ

ตั้งแต่นั้นมามันก็ไหว้ไอ้ด่างทุกวันแถมเรียกว่าแม่จ๋าๆ อีก มันเป็นเรื่องตลกประจำหมู่บ้านไป หลวงตามันเลี้ยงมันแบบตามีตามเกิด อดบ้างอิ่มบ้างแล้วแต่คนที่มาทำบุญที่วัด ไอ้เอ๋อมีหน้าที่อยู่ไม่กี่อย่างที่หลวงพ่อสั่งให้มันทำ

คือ ขัดบาตรพระกับถูพื้น ซึ่งมันก็ทำได้ดีไม่ข้อติ เว้นเสียแต่ตัวมันที่จะเปียกโชกไปทั้งตัว เสื้อผ้ามันก็มีไม่กี่ชุดหรอก แต่ละตัวก็ได้จากการบริจาก จากคนในหมู่บ้าน ที่เขาจะทิ้งแล้วสภาพบางตัวเลยเหมือนผ้าขี้ริ้วไปหน่อย แต่ไอ้เอ๋อมันไม่เคยสนใจขอแค่มีเสื้อใส่ห่อหุ้มร่างกานมันไม่ให้หนาวก็พอ

พอเห็นว่าไม่มีใครอยู่เล่นด้วยมันก็เดินกลับวัดด้วยท่าทีหงอยๆ เดินด้วยรองเท้าหูคีบตราช้างดาวคู่เก่าใส่จนพื้นเป็นรู แถมยังข้างละสีอีกต่างหาก มันเดินอย่างอ้อยอิ่งผ่านตลาดก็จะมี เสียงร้องทักมันดังขึ้นตลอดทางราวกับมันเป็นพี่ตูน วิ่งไปทางไหนเดินไปทางไหนก็มีแต่คนร้องทัก

“ไอ้เอ๋อไปไหนมาวะ” มันก็ได้แต่ส่งยิ้มแบบหงอยๆ ของมันตอบกลับ กว่าจะตอบออกมาเป็นคำพูดเพราะมันคิดช้าคนถามก็เดินหายไปไกล มันจะเป็นแบบนี้เกือบทุกครั้ง บางคนเอ็นดูบางคนรังเกลียดเพราะ มันเนื้อตัวมอมแมมตลอด บางวันก็ได้เลือดกลับวัดลำบากหลวงตาคอยหาหยูกหายาทาให้ เจ็บตัวขนาดไหนมันก็ไม่เคยร้องสักครั้งก็ไม่มี ครั้งสุดท้ายที่ร้องก็ตอนโดนเพื่อนที่โรงเรียนเตะบอลอัดหน้าจนเลือดกำเดาไหลนั่นแหละ

***“***ไอ้เอ๋อยิ่งมึงร้องไห้มึงยิ่งเป็นคนอ่อนแอ ถ้ามึงไม่อยากกลายเป็นไอ่อ่อนมึงต้องไม่ร้องไห้” คนที่บอกมันแบบนั้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ไอ้ลูกพี่ตัวแสบของมันนั้นละ

“หลวงตาทำไมไม่มีคนเล่นกับนโมเลยละ”

“เห้ออโมเอ้ยยย เลิกเล่นได้แล้วโตแล้วนะ” หลวงตาเอ็ดเสียงเหนื่อยๆ เขาก็อายุมากแล้วถ้าตายไปใครจะดูแลมันให้ ญาติที่ไหนก็ไม่มี

“แต่โมอยากเล่นนี่หลวงตา” เด็กน้อยค้านออกมาเสียงดัง

“แล้วมีใครอยากเล่นกับเอ็งบ้างไหมล่ะ ไปๆ อาบน้ำอาบท่า เนื้อตัวมอมแมมไปหมด” ไอ้เอ๋อพยักหน้าหงึกหงัก มันเดินไปหลังกุฏิก่อนจะถอดเสื้อผ้าออกหมดไม่เหลือสักชิ้น แล้วเดินไปที่ตุ่มน้ำใบใหญ่ตัวมันเล็กจนตุ่มทั้งสองบังมันเกือบมิด ไอ้เอ๋อตักน้ำเย็นๆ อาบพร้อมกับส่งเสียงอู้อ้า ตามประสา มันไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาแอบดูมันอาบน้ำไหม หรือจะมีใครคิดไม่ดีกับมันบ้างรึเปล่า เพราะอายุสมองของมันน้อยนิดเลยไม่รู้ว่าการที่มันแก้ผ้าอาบน้ำทุกวันแบบนี้จะนำภัยมาให้มันโดยที่มันไม่รู้ตัวเลย ร่างบอบบางยกมือขึ้นถูสบู่ไปทั่วตัว กลิ่นหอมแรงๆ ของสบู่ก้อนตรานกแก้ว ไอ้เอ๋อมันชอบมากใช้ไม่เคยเปลี่ยน พอมันล้างคราบไคลออกหมดตัว ผิวขาวเนียนละเอียดใบหน้าดูผ่องใสและรอยยิ้มที่ไม่เคยหายไปจากใบหน้าหวานหยดของไอ้เอ๋อ มันเดินแก้ผ้าโทงๆ มุดไปใต้ถุนกุฎิแล้วหยิบเสื้อผ้าเก่าๆ ของมันมาใส่ แล้วเดินขึ้นไปบนกุฎิ ไปปรนนิบัตหลวงตาเป็นกิจวัจประจำวันของมัน ก่อนนอน

ตีห้าของทุกๆ วันมันจะเดินตามหลวงตาไปบิณฑบาต ยืนสวดให้พรตามหลวงตา ให้แก่ญาติโยมบ้าง วันไหนได้ของกินเยอะมันะอารมณ์ดีเป็นพิเศษมันก็จะอวยพรเสริมเข้าให้ไปอีก เรียกเสียงหัวเราะให้กับคนละแวกนั้นเป็นประจำ พอเจ็ดโมงก็เข้าวัด จัดเตรียมอาหารให้พระฉัน จัดสำรับสำหรับพระเสร็จก็ต้องรอพระฉันเสร็จมันถึงจะกินของที่เหลือได้ ดวงตากลมโตของมันจ้องของที่มันหมายตาไว้ไม่กะพริบใจก็คอยลุ้นว่าหลวงตาจะกินหมดไหม เด็กวัดคนอื่นๆ ก็เช่นกัน พวกมันกลืนน้ำลายลงคอกันเป็นแถวๆ มีบ้างที่แอบสบตากับหลวงพี่รูปใกล้ๆ จนหลวงพี่ไม่กล้ากินเยอะ

“อะ พวกเอ็งเอาข้าวไปกินกันได้ละ” คำพูดที่พวกมันรอคอย ทุกคนกรูไปรับสำรับอาหารจากหลวงตามาวางไว้อีกที่ก่อนจะลงมือกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ไข่พะโล้เป็นของโปรดของเด็กทุกคนโดยเฉพาะไอ้เอ๋อ มันชอบมากๆ มันรีบตักไข่ใบใหญ่ใส่จานข้าวของตัวเองก่อนใคร ไม่พอมันยังจ้วงน้ำซุบที่เหลือเสียเกือบหมดถ้วย

“ไอ้พี่เอ๋อออออ” เด็กวัดเรียกชื่อมันเสียงดัง มันหาได้สนใจ ในปากมันมีข้าวกับไข่เต็มกระพุ้มแก้มมันหันไปแจกยิ้มหวานให้กับทุกคน พอกินเสร็จก็ช่วยกันเก็บล้างก่อนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ที่ได้รับ ก่อนจะไปเรียนหนังสือ เว้นเสียไอ้เอ๋อที่มันต้องออกไปทำงาน วันนี้มีคนจ้างมันไปตัดหญ้าให้กับบ้านหลังใหญ่ท้ายหมู่ บ้านที่เขาลือกันว่าผีดุ ไอ้เอ๋ออยู่วัดตั้งแต่เด็กมันไม่กลัวหรอกผีนะมันกลัวแต่ตาลุงขี้เมาเท่านั้นแหละ มันเดินถือมีดพลล้าดายหญ้ากับกระติกน้ำที่ใส่น้ำกับน้ำแข็งไว้เต็ม เดินยิ้มผ่านตัวตลาดไปที่ท้ายหมู่บ้านระหว่างทางมันเจอยายมะลิคนขายขนมที่กำลังจะเข็นรถขึ้นสะพาน มันช่วยยายมะลิเข็นรถขึ้นสะพานไม้เลยได้ขนมตาลมากินอีกห่อใหญ่ ไอ้เอ๋อยิ้มจนแก้มปริอย่างน้อยๆ มันก็มีขนมไว้กินแก้หิว สองมือสวยๆ ยกขึ้นพนมไหว้ขอบคุณ ก่อนจะเดินต่อ เดินไม่นานก็ถึงบ้านหลังที่ว่า มันเดินผ่านรั้วบ้านที่ลุงสมเปิดไว้ให้ ลุงสมแกเป็นสัปเหร่อรู้จักกับเจ้าของบ้านที่พึ่งจะขายบ้านไม้ทรงไทยหลังนี้ได้ เขาเลยให้ไอ้เอ๋อมันมาดายหญ้าไว้ รอวันเจ้าของคนใหม่ย้ายเข้ามา มาถึงมันก็ลงมือทำงาน ใบหน้าหวานๆ แดงเถือกเพราะโดนแดดเผามันร้อนจนเหงื่อหยดเป็นเม็ดๆ แต่มันก็ไม่หยุดมือในสมองมันคิดแค่ว่าต้องทำให้เสร็จ มันไม่ได้คิดว่าคนเราต้องพักต้องเพื่อให้ร่างกายหายเหนื่อย จนมันทำเสร็จไปเกือบครึ่งในเวลาแค่สองชั่วโมง มันเงยหน้าขึ้นมองแดดที่ส่องลงมาแล้วร้องเห้ออออกมาดังๆ เพราะรู้สึกเหนื่อย มือมันพองจนมีตุ่มน้ำใสๆ ขึ้น มันถึงได้เดินไปเปิดกระติกตักน้ำเย็นๆ ขึ้นมาดื่ม

“อ๊า สดชื่นจังเลย...คุณต้นไม้หิวน้ำเหมือนกันไหม” มันหันไปคุยกับต้นไม้ที่ให้ร่มเงากับมันก่อนจะตักน้ำแล้วเทลงตรงราก

“เป็นไงสดชื่นเหมือน นโมไหม คึคึ” มันหัวเราะออกมาถ้ามองผิวเผินก็คงคิดว่ามันปรกติดี แต่ไม่ใช่ มันโตแต่ตัว อายุสมองมันไม่เกินเด็กสิบขวบด้วยซ้ำทั้งที่มันก็อายุ19ปีแล้ว มันทรุดตัวลงนั่งใต้ต้นไม้เพื่อพักเหนื่อย มองไปรอบๆ แล้วมันก็รู้สึกวังเวงนิดๆ เพราะแถวนี้ไม่มีใครกล้าย่างกายเข้ามาสักคนเพราะเสียงเล่าลือถึงความเฮี้ยนของบ้านหลังนี้

ไอ้เอ๋อหยิบเอาขนมตาลที่ได้ขึ้นมากินเพราะความหิวจนมันเหลือบไปเห็นใครบางคนที่เดินออกมาจากสวนกล้วยหลังบ้าน

“ยายจ้ะ กินขนมกับนโมไหมนโมแบ่งให้” มันรีบเรียกหญิงชราที่เดินมาหามันด้วยสีหน้าดุๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่อ่อนโยน

“ไอ้หนูเอ็งมาทำอะไรที่บ้านหลังนี้” เมื่อยายเดินเข้ามาใกล้ก็เอ่ยปากถามไอ้เอ๋อทันที

“มาดายหญ้าจ้ะยายมีคนจ้างนโม ตั้งห้าสิบบาทแหนะ” ได้ยินไม่ผิดหรอก ห้าสิบบาทมันถือว่าเยอะสำหรับมันแล้ว ตาสมหัวหมอจะตาย ค่าจ้างห้าร้อยมันให้ไอ้เอ๋อแค่ห้าสิบ !!!

“งั้นเรอะ แล้วเอ็งทำคนเดียวหมดนี่เลยรึ” ยายแก่ขมวดคิ้วนิดๆ

“จ้ะ นโมทำคนเดียว” มันยิ้มหวานแล้วทำตาลอยๆ มองนู้นมองนี่ไปเรื่อย

“เห้อมนุษย์พวกนี้เห็นแก่ตัวกันดีแท้ ไหนยื่นมือเอ็งมาให้ยายดูหน่อยสิ พองไปทั้งมือเลย เอ็งไม่เจ็บรึไง”

“เจ็บจ้ะยาย” มันตอบซื่อๆ

“เดี๋ยวเอ็งก็หายเจ็บแล้ว ยายจะให้ยาทา” หญิงชราหยิบผอบออกมาจากเหน็บเอวแล้วทายาลงบนแผลของไอ้เอ๋อ ไม่นานแผลนั่นก็ค่อยยุบลงและหายสนิทอย่างน่ามหัศจรรย์

“หูวววว ยายจ๊าเก่งจังเลยๆ” มันปรบมือดีใจใหญ่

“คนดีอย่างเอ็งตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้หรอก แถมผียังคุ้มอีก” ยายแก่พูดเสียงอ่อนโยน มือเหี่ยวๆ ลูบลงบนหัวทุยๆ ของไอ้เอ๋อเบาๆ มันหันมายิ้มให้ยายจนตาหยี มันชอบให้คนลูบหัวมัน สัมผัสที่อ่อนโยน สัมผัสที่มันโหยหา

“เอ็งทำงานเถอะ ยายจะไปแล้ว อย่ากลับบ้านมืดๆ ค่ำละมันอันตราย”

“จ้ะยาย” เพียงมันกะพริบตายายคนนั้นก็หายไปแล้ว ไอ้เอ๋อมันไม่คิดมากมันหันหลังกลับมาดายหญ้าที่เหลือต่อจนกระทั่งตะวันตกดิน ไอ้เอ๋อยังไม่หยุดทำงาน มันรวบรวมกองหญ้าที่มันตัดไว้ไปกองไว้มุมหนึ่งของบ้านมันมองผลงานราคาห้าสิบบาทของมันด้วยความภูมิใจก่อนจะเก็บของแล้วเดินกลับวัด ทางมันมืดจนแทบจะมองอะไรไม่เห็น ไอ้เอ๋อมันไม่กลัวหรอกมันก็เดินของมันไปทั้งมืดนั่นแหละ

สวบ สวบ!!

เสียงฝีเท้าคู่หนึ่งเดินตามมันมาเงียบๆ ไอ้เอ๋อมันหูดีและได้ยินมันเลยหันไปมอง เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเซๆ มาทางมัน ตัวมันแข็งค้าง สิ่งที่มันกลัวมากๆ นอกจากไอ้ต้าแล้ว มันกลัวคนเมา ไอ้ขี้เมา เพราะมันเคยโดยขี้เมาแถววัดจะข่มขืนมัน ดีที่ลูกพี่มันอย่างไอ้ต้าไปช่วยได้ทัน แต่ครั้งนี้ไม่มีใครรู้ว่ามันมาทำงานที่บ้านผีสิง

“กลัว ๆ” มันสับขาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต เสียงฝีเท้าที่วิ่งตามมันมาทำให้มันยิ่งหวาดผวา ตัวมันสั่นขามันสั่น มันหลับหูหลับตาวิ่ง

“ไอ้เอ๋อออออ” เสียงเรียกมันดังอยู่ไม่ห่างนั่นยิ่งทำให้มันแทบจะร้องไห้ออกมา สมองอันน้อยนิดสั่งให้มันวิ่งต่อไปอย่าหยุด เกือบจะถึงปากทางเข้าแล้ว

“แว๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อย่าเข้ามาๆ ออกไปๆ T^T”

แสงสว่างแรกแยงตามันจนต้องยกมือขึ้นมาบัง และหลังจากนั้น

ปิ้นๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

เอี๊ยดดดด

ผลัก!!!!!

ร่างทั้งร่างของไอ้เอ๋อกระแทกเข้ากับรถมอเตอร์ไซต์คันใหญ่จนล้มกลิ้งไปตามพื้นถนนหลายตลบ มันกลิ้งหลุนๆ ไปตามพื้นหยาบๆ อย่างน่ากลัว ก่อนที่จะสงบนิ่งตรงริมทาง

“เห้ยย โผล่มาจากไหนวะ!!!” เสียงสบถปนตกใจของชายหนุ่มเจ้าของรถดังขึ้นเขาถอดหมวกกันน๊อกออกแล้วลงไปดูคนเจ็บทันที ไอ้เอ๋อมันยังไม่หมดสติมันนอนร้องอวดครวญอยู่บนพื้น

“โอ้ย หลวงตาจ๊า นะโมเจ็บ นโมตายแล้ว หลวงตาT^T”

“เป็นอะไรมาไหมคุณ อยู่นิ่งๆ นะผมจะตรวจดูว่าคุณกระดูกหักตรงไหนหรือเปล่า”

“อึก..เจ็บนโมเจ็บที่เอว เจ็บขาด้วย” มันพึมพำเบาๆ เหมือนคนไม่มีสติ พร้อมกับจับตรงที่มันเจ็บไปด้วย ร่างสูงค่อยๆ ตรวจดูร่างกายมันอย่างเบามือ

“ไม่มีอะไรหัก คุณต้องไปโรงพยาบาล” เสียงมันเบามากจนไอ้เอ๋อแทบจะไม่ได้ยิน ตามันค่อยๆ ปิดลงๆ อย่างช้าๆ ภาพสุดท้ายที่มันเห็นคือผู้ชายคนหนึ่งที่มองมันอย่างตกใจ ดวงตาดุคมคู่นั้นจ้องมาที่มัน ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดมิด

“ซวยละ” ชายหนุ่มสบถออกมาทันทีที่เห็นไอ้เอ๋อมันแน่นิ่ง ความจริงวันนี้ตั้งใจจะมาดูบ้านที่แอบซื้อไว้ แต่ดันมาเจอเรื่องแบบนี้สะก่อน เขาจำใจต้องพาคนเจ็บส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ร่างสูงอุ้มคนเจ็บขึ้นมาแล้วตัวไอ้เอ๋อเบามากจนเขาต้องขมวดคิ้ว อุ้มแล้วพาขึ้นมอเตอร์ไซต์ใช้สายรัดรัดตัวเขากับไอ้เอ๋อเอาไว้ก่อนจะพุ่งตรงไปที่โรงพยาบาล

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แวะมาหา ฝากน้องด้วยน้าาาา
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<<
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 31-01-2018 18:09:18
สนุกอ่ะมาต่ออีกไวๆนะรออ่าน :call:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<<
เริ่มหัวข้อโดย: เพียงเพื่อน ที่ 31-01-2018 22:09:55
มีเหนือธรรมชาติชนาดนี้แล้ว น้องเอ๋อก็ต้องหายเอ๋อได้ !!  *-*
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<<
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 31-01-2018 22:40:54
พระเอกมาแล้วววว
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<<
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 31-01-2018 23:53:37
ดีงาม
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<<
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 01-02-2018 00:28:31
ทำไมอ่านแล้วหดหู่  :mew2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<<
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 01-02-2018 01:02:41
มีนิดเดียวเองง
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<<
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-02-2018 01:14:08
นโมเจ็บมากไหมหนู หายไหว ๆ นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<<
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-02-2018 02:23:42
โอ้โห ถ้าจะขนาดนี้ผีต้องช่วยนะโมให้หายได้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<<
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 02-02-2018 10:29:00
น้องเอ๋ออดทนอีกนิดนึงนะลูก  :mew6:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 02
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 03-02-2018 09:33:49




ไอ้เอ๋อ 02



เปลือกตากลมค่อยๆ ขยับปรืออย่างช้าๆ ก่อนจะกะพริบถี่ๆ เพื่อปรับแสง สิ่งแรกที่มันรับรู้คือกลิ่นหอมสะอาดของน้ำยาฆ่าเชื้อกับเพดานสีขาว ต่อมาคือความรู้สึกที่เจ็บไปทั่วสรรพยางค์กาย โดยเฉพาะที่หัว มือเล็กยกขึ้นจับหัวตัวเองแล้วร้องออกมาเสียงดัง มันเจ็บ จนน้ำตาไหล และเริ่มร้องไห้งอแงเหมือนเด็ก

“พี่สิงห์ๆ น้องคนนั้นฟื้นแล้ว” เสียงนายแพทย์หนุ่มประจำห้องฉุกเฉินร้องเรียก ชายหนุ่มที่นั่งรออยู่หน้าห้อง ร่างสูงโปร่งรีบลุกขึ้นและเข้าไปหาคนที่เขาพึ่งจะขี่รถชนหมาดๆ พอเข้าไปเขาถึงได้เห็นใบหน้าชัดๆ ของเด็กหนุ่มเต็มตา

“ผู้ชายหรือผู้หญิงวะ?” เขาเผลออุทานออกมาเสียงเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เด็กคนนั้น ที่บอกว่าเด็กนั่นก็เพราะเขาอายุเข้าเลขสามแล้ว คงไม่มีใครกล้าค้านแน่ๆ

“ฮรืออ นะโมเจ็บครับ ฮรืออ หลวงตาจ๋านะโมเจ็บ” เสียงหวานๆ ร้องไห้จ้า เรียกหาแต่หลวงตา ทั้งคำพูดคำจา พาเอาทั้งแพทย์และพยาบาลพากันสงสัยว่าเด็กคนนี้ปรกติดีอยู่รึเปล่า

“ใจเย็นนะครับน้อง เจ็บตรงไหนเดี๋ยวพี่หมอดูให้นะ” หมอหนุ่มพยายามเดินเข้าไปใกล้ แต่ไอ้เอ๋อของเรามันดันร้องกรี๊ดเสียงดังลั่นห้อง เหตุเพราะว่ามันกลัวหมอฉีดยา จากประสบการณ์ของมัน หมอคือตัวอันตราย พอมันเห็นก็เลยร้องกรี๊ดลั่น จนทุกคนในห้องนั้นพากันตกใจ

“ไอ้เมืองอย่าพึ่งเข้าไปใกล้ กูว่าน้องไม่ปรกติ ถอยออกมาก่อน แล้วมีใครติดต่อญาติได้ไหม?” เสียงของสิงห์ดังขึ้นพร้อมกับจับตัวรุ่นน้องเอาไว้ไม่ให้เขาไปใกล้มากกว่านี้ ไอ้เอ๋อมันขดตัวอยู่บนที่นอนไม่กล้าขยับไปไหนเช่นกัน มันกวาดตามองทุกคนอย่างไม่ไว้ใจ ยิ่งหลวงตากับพี่ต้าของมันไม่อยู่ด้วยยิ่งแล้วใหญ่

“ไม่ได้เลยค่ะคุณสิงห์ น้องไม่เอกสารอะไรติดตัวมาเลย” นางพยาบาลคนหนึ่งตอบ

“ไม่ได้เลยค่ะคุณสิงห์ น้องไม่เอกสารอะไรติดตัวมาเลย” นางพยาบาลคนหนึ่งตอบ

“น้องชื่ออะไรครับ” สิงห์ถามเสียงนุ่ม

“ฮึก..นะโม หนูชื่อ ฮึกนะโม” ไอ้เอ๋อมันตอบกลับเสียงเบาๆ พร้อมกับขยับหนีสิงห์ไปด้วย พอน้องเริ่มตอบสนองและมีอาการที่สงบลง สิงค์จึงใช้โอกาสนี้ขยับเข้าไปใกล้อีก

“ไม่ต้องกลัวพี่นะ พี่เป็นหมอ (หมา) ”

“ฮรืออ นะโมไม่ชอบหมอ ไม่ชอบหมอ ฮรือออ” ไอ้เอ๋อมันร้องจ้าขึ้นมาอีก

“แต่หมอใจดีนะ”

“ฮึก หมอใจร้าย หมอฉีดยาเจ็บ ฮึก หมอใจร้าย” แน่นแล้วเด็กคนนี้น่าจะมีสิทธิ์พิการทางสมองหรือเรียกว่าออทิสติก สิงห์คิดอยู่คนเดียวในใจ

“หมอไม่ฉีดยาแล้วครับ เห็นไหม หมอไม่มีเข็มอยู่ในมือแล้ว” ไอ้เอ๋อมองตามที่มือของสิงห์เมื่อไม่เห็นของที่ว่ามันก็เริ่มสงบลงอีกครั้ง

“นะโมอยากกลับบ้าน” มันส่งสายตาอ้อนๆ ไปให้กับหมอหมาในหมู่หมอคน วินาทีนั้นดูเหมือนหมอหมาจะจะสตั้นไปสักสิบวิได้ เพราะอะไรนะเหรอ เพราะสายตาหวานๆ ของมันทำเอาใจหมอหมาสั่นราวแปดริกเตอร์ได้มั้ง มันเป็นพลังดามเมจขั้นรุนแรง อย่างหมอหมาไม่เคยเจอมาก่อน แย่แล้วไอ้สิงห์!!

“บะ บ้าน เหรอ ดะ ได้สิได้ เดี๋ยวพากลับบ้านะ” สิงห์ก้าวเข้าไปใกล้อีกนิด จนสามารถนั่งอยู่บนเตียงคนไข้ได้ ไอ้เอ๋อเมื่อเห็นว่าไม่มีใครทำอะไรมันแล้วมันก็เริ่มที่จะเข้าหาทุกคนด้วยท่าทีที่ไร้เดียงสาเหมือนเคย พอเริ่มที่จะไว้ใจทุกคนมันก็เริ่มอยากรู้อยากเห็น ทุกอย่างมันดูน่าสนใจไปหมดสำหรับมัน มันยิ้มมันหัวเราะและดูสนอกสนใจหมอหมาเป็นพิเศษ

“พี่จ๋า นะโมหิวน้ำ” มันจะร้องเรียกหมอหมาว่าพี่จ๋าๆ ทุกครั้งที่มันต้องการอะไร และนั่นทำให้หมอหมาต้องคอยอยู่ใกล้ๆ คอยดูแลจนไม้เมืองเริ่มสงสัยถึงพฤติกรรมที่ค่อนข้างแปลกไปของรุ่นพี่ตัวเอง

“พี่สิงห์ตัวร้ายหายไปไหนวะ?” เขาพึมพำกับภาพที่เห็น

รอไม่นานสารวัติก็มาถึงโรงพยาบาล พอเขาเห็นหน้าไอ้เอ๋อก็อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ

“คุณลุงงงงงงงงงงง”

“นะโม มาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี้ยะ หลวงตาตามหาทั่วหมู่บ้าน วุ่นวายกันทั้งหมู่บ้านแล้ว” ใช่เพราะตั้งแต่ไอ้เอ๋อมันไม่กลับวัด หลวงตาก็เกณคนตามหามันเสียจ้าระหวั่น ไอ้เอ๋อมันรู้เรื่องที่ไหนมันนั่งหัวเราะคิกคักอยู่บนเตียงคนไข้ พร้อมกับโยกตัวไปมา มือมันก็กวักเรียกคุณลุงของมันไปด้วย

“มาหานะโมเหรอ จะพานะโมไปกินขนมใช่ไหม? ^^”

“คุณตำรวจรู้จักน้องด้วยเหรอครับ?” สิงค์เอ่ยปากถามเพราะดูท่าทางเด็กเอ๋อคนนี้จะสนิทกับคุณตำรวจเป็นอย่างดี

“ครับ มันเป็นเด็กวัดในหมู่บ้านใกล้ๆ นี่แหละครับ เห้ออ นึกว่าโดนใครลากไปข่มขืนซะแล้ว ยิ่งเอ๋อๆ อยู่ด้วย” นายตำรวจพูดออกมาด้วยความโล่งใจ ไอ้เอ๋อมันก็เป็นเหมือนลูกเหมือนหลานของเขา ที่เห็นมันมาตั้งแต่เล็กๆ คอยดูคอยสอนเวลาเขาไปเยี่ยมหลวงตาที่วัด

“เอ่ออ คุณตำรวจหมายถึง?”

“อ่อ ไอ้เอ๋อ เอ่อหมายถึงนะโมมันเป็นเด็กกำพร้าครับมีคนเอามันมาทิ้งไว้ที่วัดตั้งแต่แบเบาะ เพราะมันเป็นแบบนี้ มันไร้เดียงสา จนบางครั้งมันก็ไม่รู้ว่าคนไหนดีคนไหนร้าย ใครใจดีกับมัน มันก็ตามเขาไปหมดแหละครับ” ทุกๆ คนพยักหน้า พร้อมกับมองไปที่ไอ้เอ๋อเป็นตาเดียว มันเห็นว่าทุกคนมองมาที่มัน มันก็ยิ้ม

“แหนะมอง นะโมทำไม? ชอบนะโมอะจิ คึคึคึ ไม่ได้ๆ ลูกพี่สั่งไว้ ว่าห้ามไม่ให้นะโมชอบใคร” มันพูดออกมาโดยไม่คิดอะไร

“ใครคือ ลูกพี่?” สิงค์เอ่ยถาม

“อ่อ หัวโจกของเด็กวัยรุ่นในหมุ่บ้านนั่นแหละครับ มันชื่อ ไอ้ต้า”

“แล้วนี่มันไปโดนอะไรมาเหรอครับ หรือว่าโดนทำร้าย?”

“เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยครับ คือน้องโดนรถชน”

“ห๊า!!! แล้วใครเป็นคนชนครับ” นายตำรวจอุทานออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ

“ผมเองครับ” สิงค์ยอมรับออกมา

“คุณ?”

“ครับ ผมเอง ผมพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง”



หลังจากคุยธุระเรื่องคดีทั้งหมดจบคุณหมอหมาก็โดนตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทเสียค่าปรับพร้อมกับรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดทั้งค่ารักษาพยาบาลและค่าทำขวัญให้ไอ้เอ๋อ สิงห์อาสาไปส่งไอ้เอ๋อให้เพราะเขาต้องเข้าไปกราบขอโทษหลวงตาด้วยที่ขี่รถชนไอ้เอ๋อมัน

“นั่งดีๆ นะครับ”

“อื้อๆ นั่งดีๆ” ไอ้เอ๋อกระโดดขึ้นไปนั่งบนเบาะรถ หมอหมาเอาหมวกกันน็อกสวมให้ แต่มันเบี่ยงตัวหลบเพราะไม่ชอบ

“ไม่เอา ไม่เอา นะโมไม่ใส่ นะโมอึดอัด” มันบอกพร้อมกับจะถอดหมวกออก

“ไม่ได้ครับต้องใส่มันอันตราย” สิงห์รีบจับหมวกเอาไว้

“งืออ นะ โมไม่ชอบนะโม ไม่อยากใส่ พี่จ๋านะโมไม่ชอบ -3-” มันส่ายหน้าไปมาอย่างน่ารักพร้อมกับทำปากจู๋ใส่

“-////- มะ ไม่ใส่ไม่ได้นะ ถ้าดื้อพี่จะฉีดยานะ” หมอหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก (^///^) น่ารักเกินไปแล้ว!! พอได้ยินคำว่าฉีดยาไอ้เอ๋อมันก็ทำตาโตขึ้นมาทันที

“ไม่ฉีด งื้อืออออ นะโใส่ก็ได้” มันรีบคว้าหมวกกลับมาใส่เหมือนเดิม ถึงจะไม่ชอบแต่มันต้องอดทนเพราะเข็มมันน่ากลัวกว่าหมวกเป็นไหนๆ พอจัดการเด็กเอ๋อเรียบร้อยหมอหมาก็ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์พร้อมกับสตารท์รถ

“*0* ว้าวววววววว” ทันทีที่หน้ามันต้องลมเย็นยามค่ำคืนมันก็ร้องว้าวออกมาพร้อมกับโบกมือไปมาจนรถส่าย

“นะโมนั่งดีๆ สิครับเดี๋ยวตกนะ เอามือกอดเอวพี่จ๋าไว้สิ” ตอนที่บอกกับไอ้เอ๋อถ้ามีใครมาเห็นสีหน้ากรุ้มกริ่มของหมอหมา คงจะคิดได้อย่างเดียวเลยว่า หมอคนนี้กำลังจะพาไอ้เอ๋อไปทำมิดีมิร้ายแน่ๆ แต่ก็นะใครๆ ที่อยู่ใกล้มัน โดนดาเมจความน่ารักเข้าไปใครจะทนไหว

“หืม กอดเหรอ ได้ๆ นะโมชอบกอด” หมับ!! มันกอดเข้าเต็มรักจนอีกคนถึงกับสะดุ้ง “คิคิคิ พี่จ๋าขี่รถเก่งจัง พี่จ๋าขี่เร็วได้ไหม นะโมชอบ ลมมันตีน่าสนุกดี”

“หึหึ” หมอหมาหัวเราะให้กับความใสซื่อแบบเด็กๆ ของไอ้เอ๋อ ถ้าสิงห์เป็นผู้ชายใจร้ายละก็นะโมไม่มีทางถึงวัดแน่ๆ

“พี่จ๋าหัวเราะทำไม?”

“หืม พี่ เอ่อ พี่มีความสุขมั้ง^^”

“อ๋อออออ มีความสุข หลวงตาก็เคยบอกนะโม ถ้าเราหัวเราะเราจะมีความสุข คึคึคึคึคึคึ”



สุดเส้นทางการขี่มอเตอร์ไซโต้ลมของไอ้เอ๋อมันแล้ว สิงค์จอดรถที่หน้ากุฏิหลังใหญ่ แต่เด็กเอ๋อกลับไม่ยอมลงจากรถ ร่างเล็กเอียงคอชะโงกไปด้านหน้า

“พี่จ๋า เอาอีกๆ” มือมันเกาะแน่นอยู่ที่เอวหนาของสิงห์

“ไม่ได้แล้ว ถึงแล้วเราต้องลง” สิงห์เอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ

“ฮึก แต่นะโมไม่อยากลงนี่ -3-”

“นะโมครับ ลงก่อนนะ เราต้องพักผ่อน ไม่เจ็บแผลเหรอ”

“เจ็บกว่านี่ก็เคยแล้ว นะโมทนได้” คำพูดของไอ้เอ๋อมันทำให้สิงค์ใจกระตุก จากคำบอกเล่าของสารวัต นะโม โดนกลั่นแกล้งมาตั้งแต่เด็ก และนั่นทำให้เขานึกสงสารเด็กคนนี้มากๆ สิงค์ยิ้มอ่อนๆ พร้อมกับลงจากมอเตอไซต์คันโต เขาค่อยๆ ถอดหมวกกันน็อกออกจากหัวของนะโม

“เอาไว้พรุ่งนี้พี่มารับไปขี่รถเล่นนะ เรานะ ลงมาก่อน หลวงตาคงเป็นห่วงแย่แล้ว” เขาลูบมือลงบันหัวทุยของไอ้เอ๋อ ที่มีผ้าพันแผลไว้รอบหัวอย่างแผ่วเบา สิงค์รู้สึกเอ็นดูเด็กคนนี้มากๆ

“หลวงตา *0* หลวงตา!! ” เหมือนไอ้เอ๋อมันจะสำนึกได้ว่ามีคนแก่ๆ รอมันอยู่ มันถึงได้รีบลงจากรถแล้วพุ่งไปยังกุฎิหลวงตาทันที โดยมีสิงค์วิ่งตามมาติดๆ

“หลวงตาจ๋า.....” มันเรียกหลวงตาบัวเสียงหวาน จนหลวงตาออกมาจากกุฎิด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก ตอนหลวงตารับโทรศัพท์จากสารวัต ว่าไอ้เอ๋อมันโดนรถชนอยู่โรงพยาบาลก็ลมแทบจับหัวใจจะวาย แต่พอรู้ว่ามันไม่เป็นอะไรมากก็คลายกังวล บนกุฎิไม่ได้มีแค่หลวงตา แต่มีไอ้ต้านั่งคอยไอ้เอ๋ออยู่ด้วย หน้ามันเครียดจนคิ้วขมวดเป็นปม

“ไอ้เอ๋ออออ!! ” ต้าเรียกมันด้วยน้ำเสียงขุ่นๆ เขารู้สึกหงุดหงิดที่รู้ว่ามันหายไปใจหนึ่งก็เป็นห่วงอีกใจก็เบื่อระอา เพราะมันหาแต่เรื่องมาให้ตลอด

“ลูกพี่^^”

“อ่าวแล้วใครละนะโม” หลวงตาถามถึงคนที่ยืนซ้อนหลังไอ้เอ๋ออยู่

“อ๋อพี่จ๋าจ้ะหลวงตา พี่จ๋าขี่มอไซชนนะโมจนกระเด็นเลย ^0^” สิงห์โอบไหล่นะโมไว้ พร้อมกับยิ้มแห้งๆ เขารู้สึกผิดจริงๆ ที่ทำให้น้องเจ็บตัว

“ห๊ะ!! ...นี่มึงเป็นคนขี่รถชนไอ้เอ๋อเองเหรอ” ไอ้ต้ามันเดือดขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นคนทำให้ไอ้เอ๋อเจ็บตัว แถมยังทำท่าสนิทสนมกับเบ้ของมันอีก ยิ่งเห็นมันยิ่งหงุดหงิดแทบจะกระโจนใส่ร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านล่างให้ได้

“ใจเย็นสิไอ้ต้า เอ็งก็รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ” หลวงตาปรามพร้อมกับเรียกให้ไอ้เอ๋อขึ้นไปหา พอขึ้นไปหลวงตาจับมันพลิกไปพลิกมา เมื่อเห็นว่ามันไม่เป็นอะไรมากแค่หัวแตกกับถลอกตามแขนขานิดหน่อย เขาก็โล่งใจ แต่ไอ้ต้ามันกลับรู้สึกตรงกันข้ามมันโมโหสุดๆ

“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับหลวงตาที่ทำน้องเจ็บตัว ผมพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง” สิงห์เอ่ย หมอหมาพร้อมจะรับผิดชอบเด็กคนนี้จริงๆ เขาอยากจะอุปการะไอ้เอ๋อด้วยซ้ำถ้าทำได้ เขารู้สึกถูกชะตากับเด็กนี่สุดๆ เวลาสบตามันทำให้เขารู้สึกอยากจะปกป้องดูแล

“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกโยม นะโมมันก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่พามันไปหาหมอก็พอแล้ว” หลวงตาเอ่ยพร้อมกับลูบหัวทุยของไอ้เอ๋อไปด้วย

“ครับ” เขาจำต้องยอมเพราะน้ำเสียงของหลวงตา เหมือนจะไม่อยากให้เขาทำอะไรไปมากกว่านี้ อาจจะเกรงใจหรือไม่ไว้ใจก็ตาม สิงห์หันไปมองเด็กน้อยในสายตาของเขาด้วยความเสียดายเขาอยากจะรู้จักนะโมให้มากกว่านี้แท้ๆ เมื่อคุยธุระเรียบร้อย สิงห์กล่าวขอโทษหลวงตากับนะโมอีกครั้ง

“พี่จ๋าขอโทษนะที่ทำให้นะโมเจ็บตัว^^”

“อื้อ นะโมไม่เจ็บแล้ว พี่จ๋าจะกลับแล้วหรอ?” ไอ้เอ๋อมันเอียงคอถาม

“ครับ” สิงห์ตอบกลับเสียงนุ่มเขายกมือขึ้นยีหัวทุยของไอ้เอ๋อ แต่กลับเจอสายตาไม่พอใจจากไอ้ต้าร์ รุ่นพี่ตัวร้ายของไอ้เอ๋อ แค่เจอหน้ากันครั้งแรกก็สร้างความร้าวแนในชีวิตให้เขาแล้ว

“ไม่กลับไม่ได้เหรอ นอนกับนะโมก็ด้ายยน้า^^”

“ไอ้เอ๋อ!! ขึ้นไปนอนได้แล้วไป” เสียงของต้าร์ตะคอกใส่ พร้อมกับส่งสายตาโหดๆ ไปให้ ไอ้เอ๋อมันเลยผงะไปนิด เพราะกลัวลูกพี่คนนี้สุดๆ มันทั้งรักทั้งกลัวเลยละ

“งือออ อยากให้พี่จ๋านอนด้วย” มันยังดื้อ สิงห์อมยิ้มน้อยๆ กับความซื่อของไอ้เอ๋อ

“ไม่ได้ มึงจะนอนกับคนแปลกหน้าได้ยังไง ขนาดกูคนกันเองยังไม่กล้านอนกับมึงเลย ไปๆ ขึ้นบ้าน” ไม่ว่าเปล่ามันใช้มือของมันผลักไอ้เอ๋อเสียแทบกระเด็น ให้เดินขึ้นกุฏิ

“ถ้าอย่างนั้นผมลาละครับหลวงตา ไว้ผมจะมาเยี่ยมน้องใหม่”

“เจริญพรโยม ไปดีมาดีละ”

“ไปแล้วไม่ต้องกลับมายิ่งดี! ”

“^^ผมจะมาบ่อยๆ นะครับ” สิงห์หันไปพูดกับต้าร์แล้วขี่รถกลับออกไป เขาหัวเราะน้อยๆ ในลำคอเมื่อเห็นลางอะไรบางอย่างจากชายที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกพี่ของเด็กเอ๋อของเขา....


+++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 02 3/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 03-02-2018 09:54:00
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 02 3/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 03-02-2018 10:39:41
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 02 3/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-02-2018 11:48:00
มีคนหวง(ก้าง)หนึ่งอัตรา
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 02 3/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-02-2018 12:32:24
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 02 3/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-02-2018 13:53:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 02 3/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 03-02-2018 15:36:36
รอติดตามจร้า ^^
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 02 3/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: ก้มหน้าก้มตา ที่ 03-02-2018 16:26:47
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 02 3/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-02-2018 20:57:39
เอ๋อ.............น่ารัก  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 02 3/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 04-02-2018 02:42:58
น้องงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 02 3/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-02-2018 03:35:05
ทางไม่สะดวกซะแล้ว มีคนมาขวางทางอย่างเนี่ย  :serius2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 02 3/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 04-02-2018 04:06:00
คำผิดเยอะมากตรวจทานหน่อยก็ดีนะคะ สรุปจะนะโมหรือนโม ต้าหรือตาร์
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 02 3/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 04-02-2018 10:27:12
มีสิ่งกีดขวางแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 02 3/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 05-02-2018 17:19:50
 :z2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 03 8/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 08-02-2018 07:59:47
(http://www.mx7.com/i/17a/RDgzmm.jpg) (http://www.mx7.com/view2/ApZAzZwPITyZdF7F)


03

“อายุ วัณโณ สุขัง พลัง มีความสุขมากนะคร๊าบบบบบ คิคิคิคิ” ใบหน้าหวานยิ้มกว้างหลังจากแย่งหลวงตาให้พรแก่ญาติโยมที่มาตักบาตรตอนเข้าหลังจากแผลที่หัวมันหาย วันนี้มันออกมาบิณฑบาตเป็นเพื่อนหลวงตา

“ไอ้เอ๋อออ” คือน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงอารมณ์ได้หลากหลายทั้งขำทั้งเอือมระอากับมัน วันไหนมันอารมณ์ดีมันก็จะเป็นของมันแบบนี้ วันนี้มันได้ขนมมาหลายอย่างจากการเดินตามหลวงตามาบิณฑบาตที่ตลาด หลายคนก็ถามว่ามันไปโดนอะไรมามันก็ตอบว่า

“โดนพี่จ๋าเอารถวิ่งชนจ้ะป้า” ทั้งๆ ที่มันเป็นคนวิ่งชนรถเขาเองแท้ๆ มีหลายคนสงสารก็ให้ขนมมันเป็นรางวัลปลอบใจ สองมือพนมยกขึ้นไหว้อย่างสวยงาม ก่อนจะเดินตามหลวงตากลับวัด

พอกินข้าวเช้าเรียบร้อยมันก็ทำงานตามที่หลวงตาเคยได้สั่งไว้ คือขัดบาตรกับถูพื้น หลังจากนั้นมันก็ว่างแล้ว วันนี้ไม่มีใครมาจ้างมันไปทำงาน สมองอันน้อยนิดของมันเลยคิดถึงลูกพี่ตัวสูงขึ้นมาทันที

“ไปหาลูกพี่ดีกว่า เนอะๆ” มันยิ้มแล้วใส่รองเท้าแตะออกจากกุฏิหลวงตาไป วันนี้วันเสาร์ลูกพี่มันอยู่บ้านแน่นอน



พอมาถึงบ้านไม้สองชั้นที่มีลานใต้ถุนบ้านมันก็เห็นลูกพี่มันนั่งทำอะไรสักอย่างอยู่บนแคร่ไม้

“ลูก พี่....^^” มันลากเสียงยาวจนคนที่นั่งใจจดใจจ่อกับของในมือต้องเงยขึ้นมา ไอ้ต้าร์แอบอมยิ้มก่อนจะปรับสีหน้าโหดๆ มองไอ้เอ๋อ เบ้จิปาถะ ที่เรียกใช้อะไรก็ง่ายไปหมด

“อะไรของมึงไอ้เอ๋อ แล้วมาทำไมแต่เช้าวะ?”

“มาหา อยากเล่น” ไอ้เอ๋อมันยิ้มหวาน ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ ลูกพี่ของมัน

“เล่นห่าอะไรละ วันนี้กูไม่ว่าง กูจะไปตกปลากะพวกไอ้บาสมัน”

“ตกปลา *0* ไปด้วย” ไอ้เอ๋อมันกระตือรือร้นอยากจะไปกับไอ้ต้าร์ด้วย แต่ไอ้ตาร์มันกลัวไอ้เอ๋อจะเป็นภาระมัน

“ไม่ได้ มันไกล อันตรายด้วย”

“T^T.ลูกพี่ใจร้ายกะนะโม” มันเบะปากจะร้องไห้ ไอ้ต้าร์เลยชี้หน้าห้ามมันไว้

“อย่าร้องนะมึงไม่อย่างนั้นกูเตะตกแคร่!! ” มันไม่ชอบให้ไอ้เอ๋อร้องไห้ มันเสียงดังน่ารำคาญ? เหรอ เปล่ามันไม่ได้รำคาญแต่มันไม่ชอบ ไม่ชอบตั้งวันที่มันไล่ตีไอ้เอ๋อตอนมันไปฟ้องครูติ๋มคราวนั้น

“ลูกพี่จ๋า....ให้นะโมไปด้วยนะ นะโมอยากตกปลา” มันทำเสียงอ้อน ไอ้ต้าร์ถอนหายใจแรงๆ เหนื่อยใจกับเบ๊ของมันสุดๆ

“เพื่อนกูไปเยอะมึงอยากโดนพวกมันแกล้งเอารึไง ไม่ต้องไป อยู่วัด กวาดลานโน้นไป” มันไล่ มีหรือไอ้เอ๋อมันจะฟังง่ายๆ

“พี่บาส พี่เต้ พี่ก้อง นะโมโดนจนชินแล้ว ไม่เป็นไรหรอก” ไอ้ต้าอยากจะตบหน้าผากตัวเองแรงๆ ไอ้พวกนั่นแหละตัวดี แกล้งไอ้เอ๋อแต่ละที เล่นเอามันปวดหัว แกล้งกันเหมือนจะเอาไอ้เอ๋อมันทำเมีย ไอ้ห่านี้ก็โง่ในโง่ ไม่รู้ห่าอะไรเลย

“แต่กูไม่ชอบ นี่มึงจะขัดใจกูเหรอ มึงอยากให้กูทิ้งมึงเหมือนคนอื่นๆ รึไง เอาไหม ไม่ต้องมาเล่นกับพวกกูอีก!! ” ไอ้ต้าร์มันเริ่มใช้ไม้แข็งขู่ใส่ไอ้เอ๋อ หัวทุยๆ สั่นไปมา

“ไม่เอาจ้ะ นะโมอยากเล่นกะลูกพี่” มันพูดเสียงอ่อย

“เออ งั้นมึงก็กลับวัดไปซะ เดี๋ยวกูจะออกบ้านแล้ว ไปๆ”



พอไล่ไอ้เอ๋อไปได้ ไอ้ต้าร์ก็เตรียมตัวออกจากบ้านทันที มันเดินแบกคันเบ็ดขึ้นรถมอเตอร์ไซค์คันเก่งแล้วขี่ออกไปรับไอ้บาสที่บ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านมันสักเท่าไหร่

มาที่ด้านไอ้เอ๋อมันเดินคอตกกลับมาที่วัด ในเมื่อลูกพี่ไม่เล่นกับมัน มันเลยหันไปเล่นกับพี่น้องต่างสายพันธุ์ของมันแทน อีเปรี้ยวลูกอีด่าง!! อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กจนโต เป็นทั้งเพื่อนคุยเพื่อนกิน และพี่เลี้ยงมันไปในตัว จนอีด่างมันตายนั่นแหละ อีเปรี้ยวเลยได้เลื่อนขั้นมาเป็นพี่สาวของมันอย่างภาคภูมิใจ

“พี่เปรี้ยวววว มาเล่นเป็นเพื่อนหนูหน่อยยยย” อีเปรี้ยวมันส่ายหางดิ๊กๆ ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของไอ้เอ๋อ

“เล่นวิ่งไล่จับกันเนอะๆ ” เหมือนหมามันจะเข้าใจในสิ่งที่ไอ้เอ๋อมันพูด อีเปรี้ยวมันวิ่งไล่ไอ้เอ๋อเท่าที่มันมีแรงจะวิ่ง ไอ้เอ๋อมันคงลืมไปว่าอีเปี้ยวพี่สาวมันแก่จนแทบจะเดินไม่ไหว ตายตามอิด่างแม่มันไปอีกตัว ลิ้นของมันห้อยลงพร้อมกับหอบแฮกๆ กำลังมันถดถอยลงไปเยอะ ไหนจะโรคที่กำลังรุมเร้า อีกไม่นานอิเปรี้ยวก็คงจะตายตามแม่มันไป เล่นได้พักเดียวอีเปรี้ยวก็นั่งแหมะน้ำลายยืด ต่างกับน้องชายของมันที่ยังวิ่งไม่หยุด วิ่งไปหัวเราะไปอย่างมีความสุข ทั้งพระทั้งเด็กวัดเห็นภาพแบบนี้จนชินตาไปเสียแล้ว ความสัมพันธุ์แบบนี้มันอาจจะดูตลก แต่สำหรับคนที่นี่มันคือมิตรภาพและสิ่งสวยงาม

“พี่เปรี้ยวๆ เล่นอีกสิ วิ่งหน่อยๆ ” จะวิ่งยังไงไหวมันแก่ขนาดนี้แล้ว สักพักไอ้เอ๋อมันก็ยอมแพ้ มันล้มตัวลงนั่งข้างๆ พี่สาวมัน พร้อมกับลูบขนมันไปด้วย

“พี่เปรี้ยวเหนื่อยเหรอจ๊ะ นะโมก็เหนื้อย เหนื่อยจ้ะ”

“แฮกๆ ” มีแต่เสียงฮอบหนักๆ ของหมาสีน้ำตาล แววตาของมันกำลังบอกว่ามันมีความสุขแค่ไหนที่ได้เล่นกับไอ้เอ๋อ แบบนี้ทุกวันตลอดเวลาสิบกว่าปี

“นะโมรักพี่เปรี้ยววว” ถ้าอีเปรี้ยวมันตอบไอ้เอ๋อได้มันคงจะบอกว่ามันก็รักไอ้เอ๋อเหมือนกัน ทำไงได้ดูดนมเต้าเดียวกันมาตั้งแต่เล็กๆ สองมือลูบไล้ขนหยาบๆ ของหมาแก่ไปตาก็กวาดมองไปทั่วๆ ไอ้เอ๋อมันเห็นรถขายไอติมกะทิอยู่หน้าวัด มันเลยลุกขึ้นยืนก่อนจะวิ่งไปซื้อ โดยมีอีเปรี้ยววิ่งตาม รภไอติมอยู่อีกฝั่งของถนน ไอ้เอ๋อวิ่งข้ามไปแล้ว เหลืออีเปรี้ยวที่วิ่งช้าๆ ตามหลัง หมาแก่สายตาฝ้าฟาง หูก็ตึง ทำให้การมองเห็นของมันไม่ชัดเหมือนสมัยยังสาวๆ มันเดินข้ามถนนแคบๆ อย่างไม่ทันระวังรถยนต์ที่วิ่งสวนมา

เอี๊ยดดดด โครม!! เอ๊ง!!!

เสียงชนอีเปรี้ยวดังสนั่นจนไอ้เอ๋อมันต้องกระโดดหลบด้วยความตกใจ พอมันเห็นว่าอีเปรี้ยวนอนชักอยู่กลางถนนมันก็ร้องลั่นโวยวายเหมือนคนบ้ามันช็อกที่เห็นอีเปรี้ยวร้องเสียงหลงดิ้นชักเลือดออกปากออกจมูก ชาวบ้านแถวนั้นที่เห็นเหตุการณ์รีบจับไอ้เอ๋อเอาไว้เพราะมันกำลังจะวิ่งไปที่กลางถนน เสียงร้องของไอ้เอ๋อมันน่าสงสารมาก

“เปรี้ยว เปรี้ยว เปรี้ยวจ๋าาาา ฮึก.. เปรี้ยว” มันร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจ ไอ้เอ๋อมันรู้จักคำว่าเจ็บคำว่าตาย มันถึงได้เสียใจ ปากมันร่ำเรียกหาแต่ร่างไร้วิญญาณของหมาวัดตัวหนึ่ง มันเป็นภาพที่น่าเวทนาสำหรับคนที่มองอยู่



ในขณะนั้นหมอหมาก็ขี่รถผ่านมาพอดี เขาสังเกตเห็นเด็กน้อยของเขาโดนชาวบ้านรั้งตัวเอาไว้ และตรงหน้าเขาคือหมาตัวหนึ่งที่กำลังจะหมดลมหายใจอย่างช้าๆ สิงห์เดินข้ามถนนไปลากอีเปรี้ยวเข้าข้างทาง ไอ้เอ๋อรีบสะบัดตัวออกจากทุกคนแล้ววิ่งไปหา

“เปรี้ยวจ๋า เปรี๋ยวจ๋า ฮึก ตื่น ตื่น” มันเขย่าร่างไร้วิญญาณไปมา เพื่อหวังเพียงว่าพี่สาวต่างสายพันธุ์ของมันจะตื่นขึ้นมาเล่นกับมันอีก แต่ทว่ามันเปล่าประโยชน์ อีเปรี้ยวตายแล้ว และก็จะไม่มีวันกลับมาเล่นกับมันอีก สิงห์ที่ยืนดูอยู่เงียบๆ ก็นังลงข้างๆ ไอ้เอ๋อ พร้อมกับโอบกอดไอ้เอ๋อเอาไว้ ตอนนี้มันน่าสงสารมาก ไอ้เอ๋อ มันเหมือนขาดที่พึ่งทางใจไปแล้ว

“นะโม เปรี้ยวไปสวรรค์แล้ว” น้ำเสียงนุ่มๆ พยายามจะปลอบเด็กเอ๋อของเขาให้หายเศร้า แต่กลับช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะยังไงไอ้เอ๋อมันก็เศร้าอยู่ดี มันเรียนรู้ความรู้สึกนี้ได้จากอีด่างแม่ อุปโลกน์ของมัน มันรู้ว่าการที่ไม่แม่อยู่บนโลกใบนี้ทรมานมากแค่ไหน

“ไม่เอา ไม่ให้ ไป ฮึก เปรี้ยวจ๋า กลับมาหานะโมสิ ฮึก” ไอ้เอ๋อก้มลงไปกอด มันไม่สนใจว่าตัวมันจะเปื้อนเลือดแค่ไหน

“โม เปรี้ยวตายแล้ว โม”

“ไม่เอาไม่ให้ตาย พี่จ๋าช่วย ช่วยนะ ช่วยสิ” น้ำเสียงสะอื้นปานจะขาดใจของมันยิ่งทำให้สิงห์ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะปลอบ ไอ้เอ๋อมันยังไง

“คุณ พาไอ้เอ๋อมันไปจากที่ตรงนี้เถอะ เดี๋ยวพวกผมจะเอาอีเปรี้ยวมันไปฝังก่อน” เสียงเด็กวัดคนหนึ่งดังขึ้น สิงห์พยักหน้าเข้าใจ ร่างสูงดึงไอ้เอ๋อให้ลุกขึ้น มันขืนเอาไว้สุดฤทธิ์ เอามือจับขาอีเปรี้ยวไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“ปล่อยก่อนนะครับ เดี๋ยวพวกพี่เขาจะพาเปรี้ยวไปหาหมอแล้ว”

“ฮืออ โกหก จะพาเปรี้ยวไปหาหมอได้ไง เปรี้ยวตายแล้ว ฮึก เปรี้ยวไม่รักนะโมแล้ว เปรี้ยวทิ้งนะโม ฮึก” อ่าใครว่าไอ้เอ๋อมันโง่มันก็ไม่ได้โง่นิใช่ไหม?

“งะ งั้น เราไปกินขนมกันไหม?” เขาไม่รู้ว่าจะเอามุกไหนมาปลอบเด็กคนนี้แล้ว พอได้ยินคำว่าขนม ไอ้เอ๋อมันก็เบนสายตามามองพี่จ๋าของมันทันที มันสะอื้นนิดๆ และยังมีคราบน้ำตาอยู่บนใบหน้า มันเหมือนเด็กเล็กๆ ที่กำลังร้องไห้แล้วโดนผู้ใหญ่เอาขนมหรือของเล่นมาล่อ

“ขะ หนม เหรอ? T^T”

“อะ อื้อ ขนมเค้ก กินไหม?” ตั้งแต่เกิดมาไอ้เอ๋อมันไม่เคยได้กินสักครั้ง มันเคยแต่เห็นในทีวีกับในตู้โชว์ในตลาด เวลาเห็นมันจะกลืนน้ำลายลงคอทุกครั้ง

“กิน ฮึก กิน แต่เปี้ยว ฮึก ทำไง? นะโมทำไงดี” ตอนนี้มันกำลังสับสนเต็มที่ มันทั้งอยากกินขนมเค้ก ทั้งที่ไม่อยากห่างจากอีเปรี้ยว สมองของมันยังคิดเป็นกระบวนการไม่ได้ มันหันไปมองหมอหมาที หมาที อย่างสับสน จนคนที่โตกว่าต้องค่อยๆ จูงไอ้เอ๋อ ออกมาจากที่ตรงนั้นแล้วปล่อยให้เด็กวัดจัดการที่เหลือแทน ก่อนอื่นเขาต้องพามันไปอาบน้ำก่อน เลือดหมาเต็มตัวไปหมด

“งั้นนะโมไปอาบน้ำนะครับ แล้วพี่จะพาไปกินเค้ก ^^” เขายิ้มอย่างใจดีให้ไอ้เอ๋อ

“เอาก้อนหย่ายๆ นะ เอาหย่ายๆ ฮึก” มันทำมือใหญ่ๆ ไปด้วย สิงห์เห็นแล้วรู้สึกเอ็นดูขึ้นมากไปอีก

“ครับเอาใหญ่ๆ เลยเนอะ” พอได้ยินไอ้เอ๋อมันก็ยิ้มพร้อมกับปรบมือดีใจไปด้วย มันเดินนำหมอหมาไปที่กุฎิของหลวงตา มุดใต้ถุนไปที่โอ่งน้ำด้านหลัง ก่อนจะถอดเสื้อผ้าออก แต่หมอหมาไม่คิดว่าไอ้เอ๋อมันจะแก้ผ้าแบบหมดทั้งตัวต่อหน้าเขา

“เห้ย!!!! นะโมทำอะไร! ”

“อาบน้ำจ้ะ” ยังมีหน้าหันมายิ้มแฉ่งใส่อีก เล่นเอาสิงห์ทำตัวไม่ถูก เงอะงะจนหันไปชนกับต้นเสาของกุฏิเสียงดังลั่น ไอ้เอ๋อมันเห็นเข้าก็เลยหัวเราะไม่หยุด หมอหมาได้แต่กุมหัวตัวเองเดินหนีออกไป ปล่อยให้ไอ้เอ๋อมันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ไอ้เอ๋ออาบน้ำไม่นานมันก็เดินโทงๆ ไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาห่มตัวเองไว้ ห่มของมันในที่นี้คือห่มแต่ด้านบนด้านล่างปล่อยโล่งไว้ให้จ้อนน้อยส่ายไปมา สิงห์เห็นสมควรว่าเขาควรที่จะสอนการปฏิบัติตัวให้นะโมใหม่หมด นะโมเป็นแบบนี้มันอันตรายเกินไป ทั้งกับตัวสิงห์เองแล้วก็นะโมด้วย พอเจ้าตัวเดินออกมาหลังจากใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ สิงห์ก็รับรู้อีกอย่างหนึ่งว่า นอกจากจะพาไปกินเค้กแล้วเขาควรจะซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ให้น้องใส่ด้วย เพราะดูจากสภาพแล้ว มันดูไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วสักเท่าไหร่ เห็นแล้วก็สงสาร สองมือเอื้อมไปจับบ่าเล็กๆ ไว้ก่อนจะดึงเข้าหาตัว ไม่รู้ทำไมสิงห์ถึงได้ทำแบบนี้ เขาคิดแค่ว่าเด็กคนนี้น่าสงสารเหลือเกิน ไอ้เอ๋อพอรู้ตัวว่าโดนกอดมันก็หัวเราคิกคักพร้อมกับกอดตอนอีกคนเสียแน่น พร้อมกับโยกตัวไปมา มันเงยหน้าขึ้นมองพี่จ๋าของมันแล้วยิ้มหวานส่งไปให้ เล่นเอาคนแก่หัวใจกระตุก

“ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้วะ!! ” สิงห์พึมพำอยู่คนเดียว พอ กอดกันเรียบร้อยเขาก็จับมือไอ้เอ๋อไปที่รถโดยเลี่ยงบริเวณที่เด็กวัดกำลังขุดหลุมฝังพี่สาว ของมัน อีเปรี้ยวมันไปดีแล้ว หมดเวรหมดกรรมของมัน เหลือแต่ไอ้เอ๋อนี่แหละที่ต้องอยู่ใช้เวรใช้กรรมของมันไป นี่ก็ไม่รู้ว่าสิ้นบุญหลวงตาแล้วมันจะอยู่ยังไง สิงห์พาไอ้เอ๋อซ้อนท้ายบิ๊กไบค์ขันงามพาเข้าไปในตัวเมืองที่อยู่ไม่กลจากวัดเท่าไหร่นัก ต่างจังหวัดก็แบบนี้ อะไรๆ มันก็ไม่ได้เจริญไปหมดเสียทุกอย่าง อย่างน้อยๆ ก็มีห้างประจำจังหวัดอยู่แหละนะ พอมาถึงที่ห้าง อย่างแรกที่สิงห์ต้องทำคือ จับไอ้เอ๋อเอาไว้ให้มั่น เพราะไม่ว่ามันจะเดินไปทางไหนมันก็สร้างความวุ่นวายไม่หยุด ทุกๆ อย่างที่นี่สำหรับมันคือสนามเด็กเล่น ทุกๆ อย่างดูน่าตื่นเต้นไปหมดสำหรับมัน ไม่เว้นแม้แต่มาสคอตของร้านอาหารร้านหนึ่งที่ตัวสีเขียวๆ มันวิ่งเข้าไปฟัดแล้วก็คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวมีการถามตอบกันอย่างสนุก ซึ่งมันสนุกอยู่คนเดียว พนักงานหน้าร้านก็ไม่ได้ว่าอะไรออกจะมองไอ้เอ๋อแบบขำๆ ด้วยซ้ำ แต่มีบางคนที่เดินผ่านมาแล้วทำท่าทางรังเกียจใส่ไอ้เอ๋อ อย่างไม่มีปกปิด ทำเอาสิงห์ที่มองอยู่ถึงกับสบถออกมาเบาๆ ก่อนจะลากไอ้เอ๋อไปที่อื่น วันนี้เขาจะหาเสื้อผ้าดีๆ ให้ไอ้เอ๋อใส่

“ไปกันได้แล้วครับนะโม” สิงห์พยายามใช้แรงดึงให้นะโมเดินตาม เขาพามันมาที่โซนขายเสื้อผ้า บังคับให้มันยืนนิ่งๆ เพื่อเทียบไซต์ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เด็กอย่างไอ้เอ๋อมันยืนนิ่งๆ ได้เกินสองนาที สิงห์เลือกชุดให้ไอ้เอ๋อไว้หลายชุดส่วนใหญ่จะเป็นชุดเอี๊ยมหลายๆ สีกับเสื้อยืดลายการ์ตูนสีพื้น พอได้ชุดที่ต้องการแล้ว ทำการจ่ายเงินแล้วให้ไอ้เอ๋อเปลี่ยนใส่ทันที แต่ปัญหาอยู่ที่ ไอ่เอ๋อมันใส่ชุดพวกนี้ไม่เป็น

“พี่จ๋าT^T” มันเดิออกมาจากห้องลองเสื้อในสภาพที่ล่อแหลม คือมันใส่แต่เสื้อกับชั้นในออกมา กางเกงไม่ใส่ในมือถือเอี๊ยมสีแดงสดเอาไว้ ปากมันเบะออกนิดๆ มันพยายามแล้วที่จะใส่เสื้อตัวนี้ แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ใส่ไม่ได้สักที มันเลยเดินถือเอี๊ยมออกมามาหาสิงห์

“เชี้ยะละ! ” เขาสบถออกมารอบที่ร้อย รีบเดินไปเอาตัวบังร่างของไอ้เอ๋อเอาไว้แล้วพาเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้าและจัดการช่วยไอ้เอ๋อมันใส่ชุดเอี๊ยมเจ้าปัญหา พร้อมกับสอนมันไปด้วย สิงห์ต้องใช้พลังใจอย่างสูงในการที่จะไม่คิดอกุศลกับไอ้เอ๋อ พึงระลึกเอาไว้เสมอว่าน้องน่าสงสาร น้องยังเด็ก เขาถึงได้ผ่านพ้นช่วงเวลาน่าอึดอัดนั้นมาได้ สิงห์ยืนซ้อนหลังไอ้เอ๋อเอาไว้พร้อมกับมองมันในกระจก ไอ้เอ๋อวันนี้ เปลี่ยนจากเด็กวัดกลายเป็นคุณหนูขึ้นมาทันที สิงห์อมยิ้มน้อยๆ พร้อมกับมองน้องด้วยสายตาชื่นชม ก่อนจะก้มลงหอมหัวน้องด้วยความเผลอตัว กว่าจะตั้งสติได้ห็หอมไปเสียหลายฟอด ชุ่มปอดกันเลยทีเดียว

หลังจากนั้นก็พากันไปที่ร้านเค้กร้านดัง จากที่ได้เห็นแค่ในตู้ ตอนนี้เค้กก้อนใหญ่อยู่ตรงหน้ามันแล้ว มือน้อยๆ ของมันสั่นจนดูตลก ปากบางจิ้มลิ้มฉีกยิ้มจนกว้าง

“คะ เค้ก คะเ ค้ก ของจริง หู้วววว” มันร้องแบบนั้นจนสิงห์หัวเราะออกมา เสือยิ้มยาก หนุ่มมาดแมดอย่างเขาต้องมาหลุดก็เพราะเด็กเอ๋อๆ อย่างนะโม

“ของจริงสิ กินเลยไหมพี่จะตัดให้” สิงห์ถามเสียงนุ่มในมือถืจานกับมีดตัดเค้กไว้ นะโมตอนนี้เป็นเป้าสายของทุกคนในร้าน ทุกคนดูออกว่าไอ้เอ๋อมันไม่ปรกติ มันยิ้มให้กับทุกคนอย่างเป็นมิตรตอนนี้รูปลักษณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว จึงมีแต่คนยิ้มตอบแล้วก็ชมว่ามันน่ารัก ผิดกับตอนแรกที่ใครๆ ก็พากันหันหน้าหนี วันนี้มันจะได้กินเค้กสมใจ ตั้งเกิดมามันไม่เคยได้ลิ้มลองสักครั้ง

“กินๆ ๆ อยากกิน” มันชูมือขึ้นทั้งสองข้างพร้อมกับกระแทกตัวบนเก้าอี้ สิงห์ยกยิ้มมุมปาก

“อยากกิน ก็ต้องเชื่อฟังพี่สิงห์นะครับ ไหนลองเรียกพี่ว่าพี่สิงห์ซิ^^”

“พี่สิงห์จ๋า...” ไอ้เอ๋อเรียกชื่อเขาด้วยเสียงหวานๆ

“หึหึหึ น่ารักมากๆ เลยครับ” สิงห์บอกพร้อมกับเอามือลูบหัวไอ้เอ๋อ ไปด้วย ก่อนจะตัดเค้กให้มันชิ้นใหญ่ มือน้อยๆ ของมันสั่นนิดๆ ตอนตักเค้กเข้าปาก รสชาติของเค้กคำแรกทำเอามันเบิกตากว้าง รสหวานละมุนของเค้กวานิลลากับครีมรสนุ่มหอมหวานทำเอาไอ้เอ๋อร้องไห้ออกมาด้วยความปลื้มปริ่ม มันไม่ได้ตักเค้กเข้าปากอีก มันอมเค้กคำนั้นไว้ไม่ยอมกลืน เพราะกลัวเค้กจะหมดแล้วมันจะไม่ได้กินอีก ความผิดปรกตินี้สิงห์เองก็สังเกตได้

“ไม่กลืนลงไปละครับนะโม” ไอ้เอ๋อมันไม่ยอมตอบ มันส่ายหน้าไปมาแรงๆ

“ไม่อร่อยเหรอ หรือว่าไม่ชอบ” ใครบอกว่ามันไม่ชอบ มันชอบมากๆ เลยต่างหากละโดยเฉพาะไอ้ลูกสีแดงๆ หวานๆ บนยอดครีมสีขาวนั่น มันแทบจะแอบเก็บใส่กระเป๋าไปกินที่วัด

“.....” มันส่ายหัวอีก

“แล้วทำไมไม่กินละครับ”

“กลัวหมด” มันตอบเสียงอ้อมแอ้ม เล่นเอาคนที่ได้ยินหลุดขำออกมาเบาๆ

“ไม่หมดหรอกเค้กตั้งสองปอนด์”

“2? ปอนด์? คืออะไร”

“หึหึ คือขนาดของเค้กไงครับ กินเถอะ ไม่ต้องกลัวหมด ถ้าหมดเดี๋ยวพี่ซื้อให้ใหม่” สิงห์ตอบอย่างใจดี วันนี้ต่อให้เงินหมดกระเป๋าเขาก็พร้อมจะเปย์ให้อีกฝ่ายอย่างเต็มที่ พอได้ยินแบบนั้น สมองอันน้อยนิดของไอ้เอ๋อมันก็เปิดโหมดกระเพาะหลุมดำทันที มันกินเค้กจนหมดไปครึ่ง มันเก็บเชอร์รี่ไว้ไม่ยอมแตะ และไม่ยอมให้สิงห์แต่ลูกสีแดงๆ ของมันด้วย

“อย่านะ อย่าเอาสีแดงของนะโมไปนะ” ไอ้เอ๋มมันจ้องมือที่กำลังจะหยิบลูกเชอร์รี่ของมันไปตาไม่กะพริบพร้อมกับยกมือขึ้นจะตีมือที่กำลังจะหยิบของรักของหวงของมัน สิงห์ได้หัวเราะออกมาอีก เพราะเห็นสีหน้าที่เอาเรื่องของไอ้เอ๋อมัน

“หวงพี่เหรอครับ” สิงห์แกล้งพูดเสียงเศร้าๆ ทำเอาไอ้เอ๋อมันชะงัก แล้วมองพี่สิงห์ของตาแป๋วๆ

“ไม่ มะ ใช่ นะโม งื้ออ ทำไงดี นะโมทำไงดี” มันหวงของก็จริงแต่มันดันเป็นคนขี้สงสาร ยิ่งเห็นสีหน้าของสิงห์ที่เศร้าๆ ด้วยแล้วสมองมันเลยรวน

“แบ่งพี่สิงห์กินด้วยได้ไหมครับ?”

“บะ แบ่ง ๆ อื้อ ไม่แบ่งๆ ไม่ด้ มีน้อย มันมีน้อย” ไอ้เอ๋อพูดจาสับสน พร้อมกับยกมือขึ้นปกป้องลูกเชอร์รี่ของมันอย่างเต็มที่

“แต่ถ้าพี่สิงห์ไม่ได้กิน พี่สิงห์ก็จะไม่มีแรงพานะโมกลับวัดนะ”

“งะ..หูยยย แต่นี่มันของนะโมนะ ตะ แต่ว่าพี่จ๋าก็หิว ถ้างั้นนะโมแบ่งให้ก็ได้ แต่นิดเดียว ให้นิดเดียว” ไอ้เอ๋อมันยอมแบ่งให้ในที่สุด บอกพร้อมกับทำท่าให้ดูว่านิดเดียวของมันนะแค่ไหน มันยกมือขึ้นมาจีบให้ดูว่านิดเดียวคือแค่นี้ สิงห์เห็นแล้วก็อดที่จะเอ็นดูมันไม่ได้ ไอ้เอ๋อมันกัดลูกเชอร์รี่ออกครึ่งหนึ่งด้วยปากของมัน แต่แทนที่มันจะเอาส่วนที่อยู่ด้านนอกให้สิงห์มันดันเอาอันที่อยู่ในปากยื่นให้สิงห์แทนด้วยเหตุผลที่ว่า อันด้านในมันเล็กกว่า

“ป้อน^^” ไอ้เอ๋อมันพูดพร้อมกับยื่นเชอร์รี่ชิ้นเล็กในมือไปจ่อที่ปากพี่จ๋าของมัน

“อ่า อื้อออครับ” สิงห์ยอมอ้าปากหลังจากที่อึ้งอยู่ได้สักนาทีมั้ง มันเกินความคาดคิดของเขาเสียด้วยซ้ำ

“พอแล้วนะ พอแล้ว” พอป้อนสิงห์เสร็จมันก็รีบบอกทันที

“ครับๆ พอก็ได้” สิงห์ยื่นมือไปบีบจมูกของไอ้เอ๋อมันเบาๆ

“อ๊า เจ็บๆ นะโมเจ็บนะ -3-”

“หึหึหึ”


(http://www.mx7.com/i/0e5/u1shwr.jpg) (http://www.mx7.com/view2/ApZAFFbKg56S2bpj)


ขอบคุณมากๆนะครับที่เข้ามาอ่าน ขอให้มีความสุขกับไอ้เอ๋อนะจ้ะ

หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 03 8/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 08-02-2018 10:06:41
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 03 8/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 08-02-2018 12:32:41
สงสารเปรี้ยววว   
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 03 8/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 09-02-2018 00:59:43
เรื้อเรื่องน่ารักดีแต่คำผิดค่อนข้างจะเยอะมากๆเลยค่ะ ยังไงตรวจทานคำผิดก่อนลงสักนิดก็ดีนะคะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< 03 8/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-02-2018 02:08:48
ขอให้เปรี้ยวไปเกิดในที่ดี ๆ นะ แล้วมาพบกับนโมใหม่นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 18-02-2018 10:09:12





ไอ้เอ๋อ 4



ความอร่อยของเค้กในวันนี้ไอ้เอ๋อมันจะไม่มีวันลืมเด็ดขาด แต่ไม่รู้ว่าปากมันเล็กไปหรือเค้กมันชิ้นใหญ่ไป หน้ามันถึงได้เต็มไปด้วยครีมสดของเค้ก สิงห์คอยเช็ดคราบเลอะๆ ให้จนเขาแอบบ่น

“กินเลอะจังเลยครับ”

“งืม ง่ำๆ อะหย็อยๆ ง่ำๆ” ตอนนี้มันเลอะไปทั้งมือแล้ว เพราะช้อนมีนะแต่มันไม่ใช้ ถนัดสุดก็มือนี่แหละ กินไปดูดนิ้วไป ดูน่าอร่อย กินไปเกือบครึ่งหนึ่ง ไอ้เอ๋อก็นั่งตบพุงกางๆ ของมันเบาๆ

“อะ เอา กลับวัดได้ไหม นะโมอยากเอา ไปแบ่งน้องๆ แบ่งเพื่อน” มันถามพร้อมกับชี้ไปที่เค้กที่เหลือ แล้วมองสิงห์อย่างมีความหวัง ถึงมันจะเอ๋อมันจะโง่แต่มันก็นึกคนอื่นเสมอ มันใจดีกับเด็กๆ แล้วก็พวกสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยด้วย เพื่อนมันเยอะมาก มาก มากจนนับไม่ถูก

“ได้สิ อยากกินอะไรอีกไหม เดี๋ยวพี่พาไปซื้อ” ไอ้เอ๋อมันทำหน้าลังเล มันอยากกินอีก แต่ท้องของมันรับอะไรไม่ไหวแล้ว ดวงตากลมโตกวาดสายตาไปทั่วๆ ร้าน จนกระทั่งมันไปสะดุดเข้ากับกล่องคุกกี้ลายน่ารักๆ เข้า

“อะ เอา อันนั้น อันสีชมพู เอาไปฝากหลวงตา” นิ้วเรียวชี้ไปที่ชั้นวางขนม ตากลมๆ ของมันโตขึ้นแทบจะทัน

“ได้ครับ ปะเราเอาเค้กไปใส่กล่อง แล้วไปจ่ายเงินกันนะ นะโมไปหยิบ ของที่อยากได้มาสิ” พอได้รับอนุญาตมันก็เดินไปที่ชั้นวางขนมทันทีแล้วหยิบกล่องขนมกล่องที่ใหญ่ที่สุดออกมา ไหนๆ ก็จะซื้อให้แล้ว มันเลยอยากได้กล่องใหญ่ๆ จะได้แบ่งกันกินหลายๆ คน มันหยิบมากอดไว้แนบอก เหมือนกลัวว่าขนมจะหายไป จนสิงห์ต้องเดินไปแย่งมาจ่ายเงิน แล้วพามันออกจากร้าน ด้านหลังมีไอ้เอ๋อเดินกอดถุงขนมไว้แน่น



หลังจากนั้นเขาก็พามันกลับมาที่วัด ตะวันก็เกือบจะตกดินแล้ว แต่แทนที่มันจะยิ้ม มันกลับค่อยๆ หุบยิ้มลงอย่างช้าๆ ก่อนจะสะดุ้งแรง สายตามันมองไปยังจุดจุดเดียวคือหน้ากุฏิหลวงตา ร่างสูงยืนกอดอกมองมาที่มัน

“ลูกพี่ ยะ ยะแย่แล้ว แย่แล้ว” ไอ้เอ๋อยืนตัวสั่นๆ มันจิกเล็บตัวเองไปมา เหมือนกลัวอะไรสักอย่าง มันค่อยๆ เดินไปหา ไอ้ต้าร์ลูกพี่ของมัน

“ไปไหนมา” ไอ้ต้าถามมันด้วยน้ำเสียงต่ำๆ มันอุตส่าห์รีบกลับมาหากลัวไอ้เอ๋อมันจะเหงา แต่พอมาถึงไอ้เอ๋อมันกลับไม่อยู่เสียนี่ ใจก็นึกห่วงกลัวว่ามันจะเป็นอันตรายแต่พอมารู้จากปากพระลูกวัดว่ามีคนมารับมันออกไปข้างนอก ไอ้ต้าร์มันรู้ได้ทันทีเลยว่าใครเป็นคนมารับไอ้เอ๋อออกไป และมันก็เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ เมื่อได้ยินเสียงรถบิ๊กไบค์แล่นเข้ามาจอด ภาพที่เห็นคือไอ้เอ๋อมันกอดเอวอีกคนไว้แน่น แค่นั้นมือใหญ่ของมันก็กำแน่นจนเห็นเส้นเลือด

“ปะ ปะไป กินขนม” มันตอบ ไอ้ตาร์สูดลมหายใจลึก พร้อมกับยืนเท้าเอว อย่างสงบสติอารมณ์ ดวงตาดุๆ ของมันกวาดมองทั่วร่างกายของไอ้เอ๋อ

“เสื้อผ้าพวกนี้ ใครซื้อให้” มันจับแขนเสื้อของไอ้เอ๋อแล้วสะบัดทิ้ง

“พะ..พี่สิงห์จ้ะ พะ พี่สิงห์พาไปร้านขายของที่ใหญ่ๆ”

“แล้วมึงไปทำไมวะ!! ” ต้าร์เผลอตะคอกใส่ไอ้เอ๋อ ไอ้เอ๋อมันตกใจจนต้องก้าวถอยหลังไปหลายก้าว สิงห์ที่ยืนเฝ้าสังเกตอยู่เห็นท่าไม่ดี เขาเลยเดินไปหานะโมที่ยืนตัวสั่นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่

“ใจเย็นสิน้อง น้องทำให้นะโมกลัว” สิงห์เอ่ยเสียงนุ่มๆ แต่สายตาของเขามันไม่ได้ดูนุ่มนวลเหมือนน้ำเสียง สายตาของสิงห์แข็งกร้าวและดูไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ เขาเดินมาจับไหล่ของนะโมไว้ และปลอบให้นะโมสงบลง

“มึงมาเสือกอะไรด้วย!! ” ต้าร์มันตวาดใส่เสียงลั่น

“หึหึ พูดจาไม่น่ารักเลยนะครับ น้องต้าร์” สิงห์ยิ้มเหี้ยมใส่

“ใครน้องมึงมิทราบ กูไม่เคยมีพี่หน้าตาแบบมึง ไสหัวไปได้แล้ว!! ส่วนมึงไอ้อ๋อ ตามกูมานี่เลย” พูดจบมันก็กระชากแขนไอ้เอ๋อให้เดินตาม สิงห์เป็นคนที่อารมณ์เย็น เขายกยิ้มมุมปากแล้วเดินตามสองคนนั้นไปอย่างเงียบๆ เขาได้ยินไอ้ต้าร์มันสบถหยาบออกมาหลายคำพร้อมกับทำหน้าดุไอ้เอ๋อไปด้วย

“ไอ้เอ๋อมึงนี่นะทำไมชอบให้กูโมโหอยู่เรื่อยเลยวะ กูบอกว่าเย็นๆ จะมารับ แล้วเสือกหนีไปกับใครก็ไม่รู้ -*- “

“นะโม เปล่านะ นะโมไม่ได้หนี นะโมไปเที่ยว ลูกพี่อย่าโกรธเลยนะๆ นี่ นะโมเอาขนมมาฝากด้วยนะ” ไอ้เอ๋อมันพยายามเอาใจลูกพี่มันสุดๆ มันไม่สนแรงบีบที่แขนของมันด้วยซ้ำมันกลัวอยู่อย่างเดียว คือกลัวไอ้ต้าร์จะทิ้งมัน ไม่เล่นกับมัน มันคิดอยู่แค่นั้น สิงห์มองพฤติกรรมทุกอย่างของไอ้เอ๋อพร้อมกับคิดวิเคราะห์ไปด้วย ประเมินจากสายตา “ไอ้ต้าร์มีความสำคัญกับไอ้เอ๋อไม่ใช่น้อย” และสิงห์ก็คิดว่าเขาจะต้องทำยังไงให้มีความสำคัญมากกว่าไอ้ต้าร์ ลูกพี่ขี้หวงของไอ้เอ๋อ ให้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสนุก สิงห์ไม่ได้เจออะไรที่ท้าทายความรู้สึกแบบนี้มานานแล้ว

“กูไม่กิน ของจากคนแปลกหน้า มึงเองก็ด้วยทิ้งไปให้หมดเลยนะของพวกนี้” ไอ้ต้าร์พยายามจะแย้งขนมในมือไอ้เอ๋อไปแต่ ไอ้เอ๋อมันเอาหลบ ไม่ยอมให้ มันหวงของของ มันเหมือนกัน

“ไม่เอา นี่มันของๆ นะโมนะ ลูกพี่จะแย่งมันไปไม่ได้!! ”

“นี่มึงกล้าขึ้นเสียงกับกูแล้วเหรอไอ้เอ๋อ” มันได้ขึ้นเสียงใส่มันแค่ตกใจ

“ไม่นะ ไม่ใช่ อย่าเอาของนะโมไป” ไอ้ต้าร์มันพยายามยื้อแย่งกล่องเค้กในมือไอ้เอ๋อ

“เอามาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้เอ๋ออ ไอ้เชี้ยะ เอ๋อออ” สองคนยื้อยุดกันไปมาต่างคนต่างไม่ยอม

“พอได้แล้วครับเด็กๆ” สิงห์เอ่ยแทรกระหว่างสงครามการแย่งขนมด้วยเสียงนุ่มๆ

“พี่จ๋า ฮึก ขนมของนะโม”

“^^ครับ เดี๋ยวพี่คุยให้เองนะ” สิงห์สบโอกาสดึงนะโมมาอยู่ข้างๆ กายอีกครั้ง

“เหอะทำเป็นพูดจาหวานหู กูรู้หรอกว่ามึงคิดอะไรอยู่” ไอ้ต้าร์กัดฟันพูด

“ก็ไม่ต่างจากน้องสักเท่าไหร่หรอก ว่าไหมครับ? ^^ เรามาคุยกันดีๆ ดีกว่านะครับ เรื่องแค่นี้เอง” แม้คำพูดจะฟังดูแล้วนุ่มหู แต่สายตานี่เชือดเฉือนฝ่ายตรงข้ามย่อยยับ

“กูไม่คุยอะไรกับมึงทั้งนั้น “ไอ้ต้าร์หันหลังให้ “อ่อ แล้วอีกอย่าง มึงห้ามมายุ่งกับไอ้เอ๋อมันอีกเป็นอันขาด อย่าหาว่ากูไม่เตือนก็แล้วกัน”

“คงไม่ได้หรอกครับ พี่ว่าพี่รู้สึกถูกชะตากับนะโมมากๆ อยากจะมาเจอบ่อยๆ อีกอย่างพี่ก็อายุเยอะกว่าน้องหลายปี กรุณาพูดจาให้ความเคารพกันนิดนึงก็ดี อย่าหาว่าพี่สั่งสอนเลยนะ แต่กิริยาแบบน้องแถวบ้านพี่เค้าเรียกว่าก้าวร้าว ไร้การอบรมสั่งสอนที่ดีมา คนอื่นเค้าจะมองไม่ดี ^^”

“นี่มึง!! ” ไอ้ต้าร์มันรู้ว่ามันโดนด่าแบบผู้ดี สองมือมันกำแน่นด้วยความคับแค้นใจ มันหันไปมองไอ้เอ๋อที่ยืนมองอยู่ กับมือที่กำลังจับกับมือสิงห์ไว้แน่น เพราะว่ามันดันเสียงดัง มันกำลังโกรธและนั่นทำให้ไอ้เอ๋อของมันยิ่งหวาดกลัวในตัวของมัน ไอ้ต้าร์สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะเดินหนีออกไป ด้วยความคุกรุ่นในใจ

“ละ ลูกพี่ พี่ต้าร์” ไอ้เอ๋อมันพยายามจะเรียกไอ้ต้าร์เอาไว้ แต่ก็โดนสิงห์ห้ามไว้เสียก่อน

“ปล่อยต้าร์เค้าไปเถอะ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง เรานะเอาของไปเก็บก่อนไหม” สิงห์ชูถุงเสื้อผ้ากับถุงขนมให้นะโมดู ไอ้เอ๋อมันพยักหน้าก่อนจะเดินนำไปที่ห้องนอนของตัวเองซึ่งอยู่ถัดไปจากห้องของหลวงตา แต่ขณะที่มันเดินมันก็ยังเหลียวหลังไปมองทางที่ไอ้ต้าร์มันพึ่งเดินหนีไป สายตามันดูเศร้าๆ และเป็นกังวล พอมาถึงไอ้เอ๋อมันเปิดประตูห้องมันเข้าไป โดยที่มีสิงห์เดินตาม ในห้องของไอ้เอ๋อมีแค่ฟูกที่นอนเก่าๆ กับหมอนแล้วก็ผ้าห่มที่พับเรียบร้อย มีพัดลมตัวเล็กๆ ตั้งอยู่ที่ปลายฟูกมุ้งถูกตลบเก็บไว้อย่างดี สิงห์กวาดสายมองไปรอบๆ เขาอดที่จะทึ่งไม่ได้ว่า ห้องของมันจะสะอาดและเรียบร้อยขนาดนี้ ในห้องแทบจะไม่มีฝุ่นเลย สิงห์วางถุงเสื้อผ้าลงบนที่นอนของไอ้เอ๋อ

“เราไม่มีตู้เสื้อเหรอนะโม” ไอ้เอ๋อมันส่ายหน้าบอกว่าไม่มี

“แล้วอยากได้ไหม?” สิงห์เริ่มเสนอของที่ตัวเองอยากจะซื้อให้ทันที อะไรที่พอจะช่วยเหลือได้เขาก็จะช่วย

“ไม่อยากได้ นะโมมีราวตากผ้าแล้ว” ไอ้เอ๋อมันตอบยิ้มๆ มันไม่มีตู้เสื้อผ้ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เสื้อผ้ามันทุกตัวถูกแขวนที่ราวที่ใต้ถุนมาตลอด มันไม่จำเป็นสำหรับคนอย่างไอ้เอ๋อ

“อย่างนั้นเหรอ นะโมไม่อยากมีของใช้ที่เป็นของตัวเองบ้างเลยเหรอครับ หืม” ไอ้เอ๋อมันได้ฟังก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“คิคิคิ นะโมไม่เคยอยากได้อะไรหรอกนะโม นะอยู่แบบพอเพียง” มันตอบเสียงใสพร้อมทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นไม้ตรงข้ามกับพี่จ๋าของมัน ในหัวมันนึกถึงน้องๆ แล้วก็หลวงตา ว่าจะแบ่งขนมยังให้เท่าๆ กัน

“หึหึ เป็นเด็กดีจริงๆ นะเรานะ” สิงห์ยกมือขึ้นลูบหัวไอ้เอ๋อมันอย่างเอ็นดู ไอ้เอ๋อมันเลยส่งยิ้มหวานมาให้แทน

“คิคิคิ นะโม เด็กดี นะโมไม่ดื้อ ด้วยน้า^^”

“ครับ รู้แล้วเรานะไม่ดื้อเลยยยยย” สิงห์ใช้น้ำเสียงกึ่งประชดกึ่งขำ เขาเอื้อมมือไปหยิกแก้มยุ้ยๆ ของนะโมอีกครั้งด้วยความหมันเขี้ยว

“อร้ายยย นะโมเจ็บๆ >0<” ด้วยความน่ารักแบบเอ๋อๆ มันได้สร้างความรู้สึกที่ดีต่อคนที่ได้สัมผัสอย่างสิงห์ รอยยิ้มของมันทำให้หัวใจของใครบางคนเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ สิงห์ได้แต่เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ในก้นบึ้งของหัวใจรอวันที่มันเติมจนเต็ม วันนั้นเขาคงเผยความรู้สึกนี้ออกมาได้โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ หมอหมายิ้มรับกับความใสซื่อของเด็กผู้ชายคนหนึ่งด้วยความบริสุทธิ์ใจ เขาแค่ต้องรอ รอให้น้องโตกว่านี้อีกหน่อย จิตอกุศลของถึงจะทำงาน ตอนนี้ เป็นพี่ชายที่แสนดีไปก่อนละกัน



“นะโมเอ๊ยยย นะโม อยู่ไหมลูก” เสียงแหบๆ ของหลวงตาตะโกนเรียกไอ้เอ๋อจากประตู

“จ๊ะ หลวงตา นะโมอยู่นี่” พอได้ยินเสียงเรียกของหลวงตาไอ้เอ๋อก็ลุกพรวดแล้ววิ่งไปที่ประตู

“อ่าวอยู่ในห้องเรอะ วันนี้หายไปไหนมาทั้งวันเลยเอ็ง”

“ไปกินขนมกับพี่จ๋ามาจ้ะ” มันตอบซื่อๆ หลวงตาขมวดคิ้วยุ่ง เพราะเสื้อผ้าที่ไอ้เอ๋อมันใส่ สิงห์เดินออกมาจากห้องนะโมพอดี และยกมือไหว้หลวงตา

“นมัสการครับหลวงพ่อ ผมพานะโมไปกินขนมเองครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไปโดยไม่บอก” สิงห์เอ่ยเสียงสุภาพพร้อมส่งยิ้ม ไอ้เอ๋อมันก็ยิ้มแล้ววิ่งกลับไปด้านใน ก่อนจะออกมาพร้อมกับขนมกล่องใหญ่

“พี่จ๋าซื้อให้ นะโมเอามาให้หลวงตานะ หลวงตาจะได้กินกับน้ำขมๆ” ไอ้เอ๋อมันรีบบอกเพราะกลัวหลวงตาจะดุเอาเรื่องหนีไปเที่ยวไกลๆ หลวงตามองมันด้วยความอ่อนใจ เพราะมันเป็นแบบนี้หลวงตาถึงได้ห่วง มันไม่รู้ว่าคนที่เขาหามันนั้นมีจุดประสงค์อะไรบ้าง หลวงตาเบนสายตากลับมาที่พี่จ๋าของมัน หลวงตาวันชราภาพมองหน้าของสิงห์พินิจพิเคราะห์ชคนแก่ไม่เคยไว้ใจใคร ไม่มีใครที่เอ็นดูไอ้เอ๋อของเขาแล้วไม่หวังผลอะไร เว้นเสียแต่ตัวเขาเองที่รักไอ้เอ๋อเหมือนลูกแท้ๆ คนหนึ่ง

“เกรงใจโยมจริงๆ วันหลังอย่าไปตามใจมันมากมันจะเสียคนเอา อาตมาเองก็ไม่มีเงินมากพอจะซื้อเสื้อผ้าสวยๆ ให้มันใส่หรอก ถ้าเกิดวันหนึ่งมันอยากได้ขึ้นมาอาตมาจะลำบาก เพราะอาตมาไม่มีให้มัน” หลวงตาเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

“......”

“แล้วนี่โยมจะกลับเลยไหม อาตมาจะได้ให้นะโมเขาไปทำธุระให้”

“ครับก็กะว่าจะกลับแล้วเหมือนกัน” ในเมื่อโดนไล่แบบนี้ เขาก็ไม่ควรที่จะอยู่ต่อ สิงห์กราบลาหลวงตาแล้วหันไปลาไอ้เอ๋อ

“พี่ไปก่อนนะ แล้วจะแวะมาเล่นด้วยใหม่” สิงห์ยิ้มอ่อนให้ไอ้เอ๋อที่ยืนมองเขาอยู่ด้วยแววตาเศร้าๆ เพราะไม่มีใครมาเล่นกับมัน ไอ้ต้าร์ก็งอนมันหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้ พอสิงห์ขี่รถกลับไปหลวงตาจึงเรียกนะโมไปอบรมเรื่องการไปไหนกับคนแปลกหน้า





ด้านไอ้ต้าร์ที่ทั้งโมโหแล้วก็น้อยใจไอ้เอ๋อ มันเดินหิวปลาตัวใหญ่กลับมาที่ริมคลอง ตรงนั้นมันเตรียมอุปกรณ์สำหรับย่างปลาไว้พร้อม มันจะไปรับไอ้เอ๋อมากินปลาย่างที่มันตกได้ แค่ความภาคภูมิมิใจทั้งหมดของมันต้องพังทลายเพราะของแพงๆ ที่ไอ้เอ๋อมันได้มานั้นเทียบไม่ติดกับปลาของมันสักนิด ปลาตัวใหญ่มันไร้ค่าไปโดยปริยาย ไอ้ต้าร์มันโยนปลาลงถัง แล้วนั่งบนพื้นหญ้าริมคลองอย่างเจ็บใจ

“ไอ้เชี้ยะ เอ๋อออ มึงนะมีง” มันพึมพำออกมา พร้อมกับทอดสายตามองไปยังผืนน้ำด้านล่าง อย่างเหม่อลอย





...



หลังจากวันนั้น ไอ้เอ๋อมันก็ไม่เห็นไอ้ต้าร์อยู่หลายวัน พอไปที่บ้านพ่อกับแม่ของไอ้ต้าร์ก็บอกว่า ต้าร์มันไปค่ายที่ต่างจังหวัด พรุ่งนี้ถึงจะกลับ ไอ้เอ๋อมันเลยเดินคอตกกลับมา ด้วยความที่ไม่รู้จะไปไหน มันเลยเดินไปที่โรงน้ำชา ที่นั่นมักจะมีคนแก่ๆ ออกมาเล่นหมากรุกกันเป็นประจำ มันเปลี่ยนเส้นทางที่จะกลับวัดไปเป็นที่โรงน้ำชาแทน แค่มันก้าวเข้าไปที่โรงน้ำชากลางหมู่บ้าน เสียงร้องทักมันก็ดังลั่น

“อาเอ๋อออ หายหน้าไปนานเลยนะเอ็ง” แปะซ้งเอ่ยทักทายไอ้เอ๋อทันทีที่มันก้าวเข้ามา แปะซ้งเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ที่เดินทางมากับเรือสำเภากับพ่อแม่ตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง และตั้งรกรากอยู่ในเมืองไทยสืบทอดมาจนปัจจุบัน อายุก็ใกล้จะลงโรงแล้ว มือเหี่ยวๆ กวักเรียกไอ้เอ๋อให้เข้าไปหา

“สวัสดีจ้า แปะซ้ง วันนี้นะโม ว่างก็เลยแวะมาหา อิอิ^^” มันพูดทักทายแต่สายตามันจับจ้องที่กล่องเหล็กเก่าบนชั้นวางของ ในกล่องคือชุดหมากรุกที่ทำจากไม้ ของรักของหวงของมัน เพราะมันใช้แรงงานหาเงินมาซื้อด้วยตัวของมันเอง

“เหรออออ นึกว่าไม่มีคนเล่นด้วยถึงได้มา” เจ๊กลากเสียงยาวล้อเลียนไอ้เอ๋อ เขาทั้งเอ็นดูและรักมันเหมือนหลานคนหนึ่ง

“มาๆ วันนี้มาประลองกันสักตั้ง” ซ้งรีบท้าไอ้เอ๋อมันแข่งหมากรุกทันที เรื่องหมากรุกไว้ใจไอ้เอ๋อได้ แต่ยังไม่ทันจะแข่ง จู่ๆก็มีชายชุดดำประมาณสี่ห้าคนเดินเข้ามา พวกมันไม่พูดอะไรมากมันมาถามหา แปะซ้งนั่นแหละ พอแปะซ้งเห็นคนพวกนั้นก็รีบวิ่งไปหลบที่ด้านหลังร้านด้วยความหวาดกลัว ชายแก่ได้แต่แอบมองมาจากหลังร้านผ่านรูเล็กๆ ที่กำแพง พอพวกนั้นไม่ได้คำตอบที่ต้องการมันก็ทำลายข้าวของจนเสียหาย ยังดีที่มันไม่ได้ทำร้ายใคร ไอ้เอ๋อ มันเห็นแบบนั้นก็รีบห้าม

“พี่ อย่า อย่า ทำ อย่า” มันเข้าไปจับแขนของหนึ่งในพวกนั้นเอาไว้ไม่ให้ทำลายของ ของแปะซ้ง

“ไอ้เด็กนี่ เกะกะ ออกไป!!! ” มันผลักไอ้เอ๋อจนกระเด็นล้มกลิ้งลงกับพื้น แต่ถึงอย่างนั้นไอ้เอ๋อมันก็ไม่ได้ลดละความพยายาม มีหลายคนหนีออกจากโรงน้ำชาไปแล้ว เหลือแต่พวกที่อยากรู้อยากเห็นกับหลานของแปะซ้ง ที่คอยห้ามไอ้เอ๋อไม่ให้เข้าไปยุ่ง แต่ไอ้หลิวมันแค่เด็กปอ6จะไปมีปัญญาห้ามไอ้เอ๋อที่โตกว่ายังไงไหว มันร้องไห้จ้า ปากก็ร้องห้ามไอ้เอ๋อไปด้วย

“ไม่นะ อบ่ายุ่งกับของๆ นะโมนะ” ทันทีที่พวกนั้นแตะกล่องเหล็กไอ้เอ๋อมันก็รีบลุกไปคว้า แต่ไม่ทันมันถูกถีบออกมาจนล้มกลิ้งอีกครั้ง ไอ้เอ๋อพยายามจะแย่งกล่องเหล็กคืน มันคลานไปจับขาของพวกคนร้ายเอาไว้อย่างไม่นึกกลัว ผลที่ได้คือมันโดนเตะจนล้มคว่ำไปอีกรอบ ครั้งนี้เลือดกบปากมันแน่นอน

“ไอ้เอ๋อออ” เสียงร้องของคนที่เหลือดังขึ้นทันที เพราะไอ้เอ๋อมันแน่นิ่งไป ถ้าสังเกตดีๆ มือของมันยังไม่ปล่อยขากางเกงของไอ้คนที่ทำร้ายมันด้วยซ้ำ แปะซ้งที่ทนดูไม่ไหว จำต้องออกมาจากที่ซ่อนเพื่อปกป้องไอ้เอ๋อ ไม่มีใครรู้ว่าแปะซ้งไปทำอะไรไว้กับคนพวกนี้ พวกมันถึงได้ตามมาเล่นเขาถึงที่ ชายชราพาตัวเองออกไปขวางไม่ให้คนพวกนั้นทำร้ายนะโมอีก

“อย่าทำมันเลย อย่าทำมัน” เจ๊กรีบยกมือไหว้ขอร้องไม่ให้ทำร้ายไอ้เอ๋อมันอีก

“หึ ยอมออกมาแล้วเหรอไอ้แก่ หนี้ที่ค้างไว้เมื่อไหร่จะจ่าย เฮียเค้าให้มาทวง!! ” มันตะคอกใส่เจ็กที่กำลังพยุงไอ้เอ๋อให้ลุกขึ้นมันยังรู้สึกมึนและเจ็บหลังมากๆ สติมันอยู่ครบแล้วตอนนี้ สายตามันมองไปที่กล่องเหล็กที่พื้น มันพยายามจะคลานไปเก็บ แต่ก็ถูกไอ้คนใจร้ายเตะทิ้งจนตัวหมากรุกระเด็นไปทั่ว มันพยายามจะไปเก็บแต่แรงมันไม่มีสักนิด

“ยะ อย่า เอาของนะโมคืนมานะ” เสียงมันเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน

“ว่ายังไง! เจ๊ก หรือต้องให้ไอ้เด็กนี่มันเจ็บตัวมากกว่า แปะถึงจะยอมจ่าย” หนึ่งในพวกนั้นกระชากหัวไอ้เอ๋อมันขึ้นจากพื้น มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับพยายามจะสู้ตามที่กำลังมันจะมี น้ำตามันไหลพรากด้วยความกลัว



“ไอ้เอ๋อมันไม่เกี่ยว มันไม่รู้เรื่องอย่าไปยุ่งกับมัน ลื้อปล่อยมันไปเถอะ” แปะร้องออกมาทันที ไอ้เอ๋อตัวมันสั่นสะท้าน และเริ่มหายใจติดขัด มันไม่ชอบความรุนแรงและกลัวมากๆ ด้วย เพราะตอนเด็กๆ มันโดนทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง และหนึ่งในนั้นก็ไอ้ต้าร์ลูกพี่ของมัน

“อย่า ทำ เจ็บ ฮึก อย่าทำนะโม ฮรือออ หลวงตาจ๋า” มันร้องออกมาเสียงดังสองมือของมันยกขึ้นกุมหัวตัวเองโดยสัญชาตญาณ ภาพในหัวมันคืออดีตที่ มันกำลังโดนทำร้าย ดวงตากลมหลับแน่น

“ไอ้พงศ์มึงปล่อยมันไปเหอะ ดูดิ แมร่งกลัวจนฉี่ราดแล้วนั่น” คนที่ชื่อพงศ์ก้มมองไอ้เอ๋อแล้วมันกำทำหน้ายี้ใส่ก่อนจะเหวี่ยงไอ้เอ๋อให้กระเด็นไปอีกทาง ด้วยความขยะแขยง ไอ้เอ๋อล้มกลิ้งไปบนพื้นปูนจนเป็นแผลถลอกเลือดซิบออกมาจากผิวสวยๆ ของมัน

“พงศ์ฉันขอเวลาสักสองสามวันนะ ลูกชายยังไม่กลับจากส่งของที่ภาคใต้เลย เดี๋ยวได้เงินมาฉันจะรีบเอาไปคืนให้เลยนะ วันนี้ฉันไม่มีจริงๆ” แปะพยายามจะขอร้อง พวกมันมองแปะซ้งด้วยแววตาหยามเหยียด

“ก็ได้ แค่สามวันเท่านั้นนะ ถ้าผิดนัดอีกละก็ ทั้งเจ๊ก ทั้งไอ้เด็กปัญญาอ่อนนี่ โดนดีแน่” มันขู่ พร้อมกับเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีก แปะซ้งรีบประคองไอ้เอ๋อมันลุกแล้วพาไปทำแผลทั้งที่มันยังมีอาการหวาดผวาอยู่ เรื่องนี้เขาเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่ทำให้ไอ้เอ๋อมันมารับเคราะห์แทนแบบนี้ แต่ที่น่าเจ็บใจที่สุด คือคนสติดีๆ มีปัญญาครบไม่มีใครออกตัวมาช่วยเหลือเขาหรือไอ้เอ๋อเลยสักคน ชายชราทำแผลให้ไอ้เอ๋อด้วยน้ำตาคลอหน่วย

“อั๊ว ขอโทษนะเอ๋อเอ้ยย อั๊วไม่รู้ว่าอีพวกนั้นมันจะชั่วเกินมนุษย์แบบนี้” แปะบอกด้วยความรู้สึกผิดและสงสาร ใบหน้าสวยๆ ของไอ้เอ๋อมันเหยเกทุกครั้งที่แป๊ะทายาให้มัน

“นะโมกลัวจ้ะ แปะ T^T” พอแปะได้ยินสีหน้าของเขาก็เครียดลงอีก เพราะคำขู่ของคนพวกนั้น แปะกลัวไอ้เอ๋อจะเดือดร้อนไปด้วย เรื่องนี้เขาคงต้องปรึกษาหลวงตาบัว แปะถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ มันมืดแปดด้านไปหมด ไอ้ที่บอกว่าอีกสามวันมันก็ใช่ว่าจะแน่นอน เขาแค่คาดเดาว่าบุตรชายคนโต ตัวต้นเหตุที่ทำให้ทั้งเขาและไอ้เอ๋อต้องมาเจ็บตัวแบบนี้มันจะกลับมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้าพร้อมกับเงินที่เขาไปกู้ให้มันไปลงทุนขายของ ตั้งแต่ได้เงินมันก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆติดต่อไม่ได้มาหลายวันแล้ว

“ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว” ก่อนจะหันไปสั่งหลิวหลานชายให้ช่วยเก็บกวาดของที่หล่นกระจาย ยังดีที่ไม่ลามไปถึงของขายในร้าน ส่วนใหญ่ที่มันพังก็จะมีแค่โต๊ะกับกระดานหมากรุกเท่านั้น ดวงตาสีอ่อนกวาดมองร้านของตนเองอีกครั้งด้วยความปวดใจ พร้อมกับลูบหัวปลอบไอ้เอ๋อไปด้วย





แปะซ้งพาไอ้เอ๋อมาส่งที่วัดพร้อมกับคำอธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แปะดูเครียดมากกว่าเดิมเมื่อหลวงตาแสดงท่าทีหนักใจ

“อาตมาก็ไม่รู้ว่าจะดูแลมันได้อีกนานเท่าไหร่” หลวงตาทอดสายตาไปยังไอ้เอ๋อที่นอนหลับอยู่ในห้อง พร้อมกับนึกถึงเวลาที่เหลืออยู่ของตนเองที่ชราภาพมากแล้ว

“กระผมต้องขอโทษหลวงตาด้วยนะครับที่เป็นต้นเหตุให้ไอ้เอ๋อมันมาเดือดร้อนด้วย”

“เรื่องนั้นเป็นเหตุสุดวิสัย แล้วอีกอย่างไอ้เอ๋อมันก็คงจะรักโยมกับโรงน้ำชานั้นมาก เลยไม่อยากให้ใครมาทำลาย แต่ปัญหาจากตรงนี้นี่สิถ้าโยมชัยไม่กลับมา โยมซ้งจะทำยังไง” หลวงตาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่หนักใจ แปะซ้งก้มหน้าเงียบไม่พูดเพราะเองก็คิดไม่ตก บทสนทนาของคนสองคน นั้นทำให้หมอหมาที่เดินเข้ามาหาไอ้เอ๋อได้ยินเข้าพอดี



“ให้น้องไปอยู่กับผมไหมครับ?”

“!!!!!! ”


+++++++++++++++++++

โปรดเม้นต์ถ้าโดนใจ โปรดให้กำลังใจถ้ารัก น้องเอ๋อออ นะคะ

ปล.ต้องขอบคุณ นักอ่านที่น่ารักทุกคนนะคะที่ให้กำลังกับคนเขียน ทั้งช่วยแนะนำเรื่องคำผิด และ อื่นๆอีก คนเขียนจะพยายามจะไม่ให้มีคำผิดค่ะ แต่ถ้าเจอก็ช่วยบอก คนเขียนด้วยนะคะ บางทีอาจจะตกหล่นไปบ้าง คนเขียนพรูฟอักษรสองรอบก่อนลงแล้วนะ สงสัยโปรแกรมมันจะอ่านบางคำไม่ได้เลยไม่ขึ้นแถบแดงให้ แหะๆ รักทุกคนนะ :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 18-02-2018 12:05:00
 :katai2-1: :katai2-1:  :katai2-1:
รอๆ :z2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 18-02-2018 13:43:58
 :m31:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-02-2018 17:43:06
โผล่มาจากไหนล่ะนั่น
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-02-2018 02:36:15
ทั้งสงสาร ทั้งเป็นห่วงเอ๋อกับแปะ จะปลอดภัยจากพวกทวงหนี้ในครั้งหน้าไหมหนอ  :hao4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 19-02-2018 23:02:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 20-02-2018 01:46:24
คุณพี่หมอนี่ใจไม่ซื่อตั้งแต่แรกเลยนะคะ หวังจะเคลมน้องเอ๋อกันซึ่งๆหน้า แต่หวังว่าคุณพี่คงไม่ได้แค่หวังสนุกๆนะคะ สงสารน้อง
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.04 18/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 21-02-2018 22:59:45
คือมันมีเคมีของ สิงห์xต้าร์ อยู่อะค่ะ  o18
ไม่รู้สึกว่าพี่สิงห์เป็นพระเอกเลยค่ะ ดูเป็นพวกตัวร้ายมากกว่า  :laugh:

หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 27-02-2018 08:07:48












05

+++++++++++





“ให้น้องไปอยู่กับผมไหมครับ?” เสียงที่ดังแหวกอากาศท่ามกลางความเงียบ ทำเอาคู่สนทนาพากันหันไปมอง ร่างสูงสง่าเดินขึ้นมาบนกุฏิก่อนจะก้มลงกราบหลวงตาบังอย่างอ่อนน้อม สิงห์ได้ยินเรื่องราวเกือบทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้ชัดเจนอะไรมากมาย หลวงตาบัวหลี่ตาลงมองชายหนุ่มที่เสนอตัวดูแลนะโมให้อย่างไม่ไว้ใจ

“เรื่องนี้ อาตมาว่า...”

“ผมคิดว่าถ้านะโมอยู่กับผมน่าจะปลอดภัยกว่า หลวงตาคงไม่รู้จักผมมาก่อนเลยไม่ไว้ใจสินะครับ” สิงห์พูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนุ่มพร้อมกับรอยยิ้ม เขาไม่เว้นช่องว่างให้หลวงตาได้แย้ง

“ถ้าอย่างนั้นผมขอแนะนำตัวเลยก็แล้วกันนะครับ ผมนายสัตวแพทย์ ราชสีห์ ถิ่นเทวา เป็นลูกชายคนเล็กของนายนาค ถิ่นเทวา เจ้าของไร่เทวา ตอนนี้ผมเป็นสัตวแพทย์ เปิดคลินิกรักษาสัตว์อยู่ในตัวเมืองครับ หลวงตาคงเคยได้ยินชื่อของพ่อผมอยู่บ้าง หวังว่าหลวงตาจะไว้ใจผม” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น หลวงตากับแปะซ้งพอได้รู้ถึงประวัติอีกคนก็ถึงกับตกใจ ทั้งคู่รู้ว่านายนาคเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดเล็กๆ ที่พวกเขาอาศัยอยู่ แม้จะไม่ได้อยู่ในระดับมหาเศรษฐี แต่ถือว่าตระกูลนี้ร่ำรวยสุดก็ว่าได้ ไร่เทวาตั้งอยู่เหนือหมู่บ้านของพวกเขาไป ไม่ไกลมาก ถือว่าเป็นต้นตระกูลที่เก่าแก่และขึ้นชื่อในเรื่องของความตงฉิน มาก

“นี่โยมเป็นลูกของโยมนาคหรอกรึ” แม้จะคลายความกังวลและความประหลาดใจไปได้เพียงนิดแต่ไม่ว่าใครหลวงตาก็ไม่อาจจะวางใจได้สักคน

“ครับ ผมถูกพ่อส่งไปเรียนในกรุงเทพตั้งตั้งแต่ยังเล็ก เลยไม่ค่อยมีใครรู้จักผมสักเท่าไหร่ ถ้าหลวงพ่อไม่เชื่อผมโทรหาพ่อผมให้ก็ได้นะครับ” สิงห์พูดย้ำ เขาส่งยิ้มน้อยๆ ไปให้แปะซ้งที่นั่งอ้าปากค้าง

“เอาเถอะๆ เรื่องนี้เราไว้ค่อยคุยกันทีหลัง รอให้นะโมมันตื่นก่อน แล้วค่อยว่ากัน” หลวงตาบอกปัด เพราะไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ในตอนนี้ ไม่แน่เรื่องที่เป็นกังวลอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้ พวกเขาอาจจะกังวลกันไปเอง

“แต่ผมว่าเรื่องแบบนี้ ชักช้าอาจจะไม่ทันการนะครับ น้องอาจจะไม่ปลอดภัย และที่สำคัญพวกนั้นอาจจะลงมือตอนที่เราเผลอก็ได้” สิงห์เป็นคนที่คิดไกลและรอบคอบเสมอ แต่การที่ออกตัวแรงแบบนี้ยิ่งจะทำให้หลวงตาไม่ไว้ใจหนักมากขึ้นไปอีก

“โยมสิงห์ อาตมาถามจริงๆ เถอะนะ โยมมีเจตนาอะไรกับนะโมมันรึเปล่า” หลวงตาไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป

“ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดีนะครับ ผมแค่เอ็นดูน้องก็เท่านั้น น้องเป็นเด็กน่ารักครับ ผมว่าถ้าน้องได้รับการดูแลที่ดีกว่านี้ ในอนาคตน้องจะได้เอาตัวรอดได้ในสังคม ในวันที่หลวงตาไม่อยู่” สิงห์พูดจาหว่านล้อมด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

“นะโมเรียนรู้ได้เร็ว ถ้าเราให้น้องได้รับการศึกษาที่สูงกว่านี้ และรักษาน้องไปด้วย ผมว่าน้องน่าจะมีอาการที่ดีขึ้นนะครับ”

“นี่โยมหมายความว่ายังไง โยมสิงห์” หลวงตาพอจะเดาความคิดของสิงห์ได้

“ผมอยากจะอุปการะน้องครับ ผมมีงานมีที่พักที่ปลอดภัย และผมพร้อมจะดูแลน้องในทุกๆ เรื่องทั้งค่ารักษาและค่ากินค่าอยู่ ผมจะรับนะโมเป็นน้องบุญธรรมครับ” เรื่องนี้เขาคิดมาอย่างดีแล้ว แม้จะรู้จักนะโมได้ไม่กี่วัน แต่เขากลับอยากที่จะดูแลเด็กคนนี้ มันเป็นเรื่องยากที่ใครๆ เข้าใจและยอมรับได้

“นี่โยม..” หลวงตาบัวพูดไม่ออก ในหัวสับสนไปหมด

“ผมมั้นใจว่าผมดูแลน้องได้ น้องจะมีงานทำ น้องจะได้รักษาตัว และที่สำคัญน้องจะมีการศึกษา ชีวิตน้องจะดีขึ้นนะครับ”

“เอาเถอะเรื่องนี้เราอย่าพึ่งรีบตัดสินใจ รอนะโมเถอะ อาตมาขอร้อง อย่าเร่งรัดอาตมาเลย” หลวงตาเอ่ยออกมาอย่าลำบากใจ เรื่องอนาคตของนะโมเป็นเรื่องสำคัญสำหรับหลวงตามากๆ เพราะนั่นหมายถึงชีวิตที่เหลืออยู่ของนะโมเลยว่าจะเป็นไปแบบไหน ถ้าเขาเลือกทางให้ผิดก็เหมือนผลักนะโมให้ตกนรก แต่เลือกถูกนะโมก็จะสุขสบายไปทั้งชีวิต หลวงตาเองก็จะได้หมดกังวลเมื่อถึงเวลาละสังขาร

“ครับ ผมรอได้ ผมรอน้องได้ทั้งชีวิต” คำพูดที่ดูเหมือนไม่มีนัยแอบแฝงใดๆ ใครจะรู้ว่าใต้รอยยิ้มนั้นจะซ่อนซาตานหรือเทวดาเอาไว้ ไม่มีใครรู้

ตกเย็นนะโมนอนซมเพราะพิษไข้เดือดร้อนต้องพาส่งโรงพยาบาลดีที่ตอนนั้นสิงห์ยังไม่ได้กลับ ไปไหนเขายังนั่งเฝ้าเด็กเอ๋อของเขาอยู่ สิงห์แอบมองนะโมตอนหลับ มือหนาลูบลงบนแผลแตกที่คิ้วและมุมปากอย่างเจ็บใจ ไม่รู้คนทำจิตใจมันทำด้วยอะไรที่ทำร้ายเด็กไม่สมประกอบอย่านะโมได้ เพราะมือที่ลูบลงไปนั่นแหละถึงได้รู้ว่าน้องตัวร้อนเหมือนไฟ สองมือจับร่างบางแล้วเขย่าเบาๆ เพื่อเรียกสติ แต่น้องไม่ตอบรับยังแน่นิ่ง สิงห์กลัวว่าน้องจะช็อกจึงตัดสินใจอุ้มน้องออกจากห้อง และพาขึ้นรถยนต์โชคดีที่เขาขับมันมาในวันนี้ไม่ได้แว้นมาเหมือนแต่ก่อน หลวงตานั่งสมาธิอยู่ก็พลอยตกใจไปด้วยเพราะเสียงโวยวายของสิงห์ แต่กว่าจะเยื้องย่างออกมาจากอาสนะสิงห์ก็พานะโมออกไปแล้ว

เมื่อถึงโรงพยาบาลสิงห์ก็อุ้มน้องลงจากรถแล้วพุ่งไปที่ห้องฉุกเฉินทันที ไอ้เอ๋อต้องแอดมิดทันทีเพราะไข้ขึ้นสูงถึงสามสิบเก้าองศา วันนี้หมอรุ่นน้องของเขาไม่อยู่ เพราะไปออกค่ายกับกลุ่มเด็กนักเรียนช่างประจำจังหวัด สิงห์ให้คนโทรไปรายงานกับหลวงตาว่านะโมปลอดภัยแล้ว แต่ต้องนอนโรงพยาบาลสองสามวัน ส่วนตัวเขาก็ไปจัดการเรื่องห้องพักพิเศษให้ไอ้เอ๋อ

“คุณสิงห์ จะเฝ้าน้องเองใช่ไหมคะ”

“ครับ ผมจะเฝ้าน้องเอง”

“ถ้าอย่างนั้นรบกวนคุณสิงห์เช็ดตัวให้น้องทุกๆ สามชั่วโมงด้วยนะคะ นี่ค่ะอุปกรณ์” พยาบาลสาวยื่นอ่างน้ำขนาดเล็กกับผ้าให้เขา สิงห์รับมาอย่างเต็มใจ พอนางพยาบาลออกไปสิงห์จึงถึงเดินไปรองน้ำในห้องน้ำมาจัดการเช็ดตัวให้ไอ้เอ๋อ ร่างสูงค่อยๆ แก้ผมเชือกผ้าทีละปมๆ ด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ มือสั่นด้วยความตื่นเต้น สิงห์พยายามควบคุมมือไม่ให้สั่น ยามเห็นเนื้อขาวเนียนของไอ้เอ๋อ เขาไม่ควรหวั่นไหว คิดไม่ซื่อกับคนป่วยแบบนี้ เขาตบมือที่สั่นไม่หยุดเสียงดังเพียะก่อนจะตั้งใจเช็ดตัวให้น้อง

“อื้ออ หนาว อือออ” เสียงหวานครางอือๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นชื้นบนร่างกาย ก่อนจะพลิกตัวหนีความหนาวเหน็บนี้ สิงห์จึงค่อยๆ ใส่เสื้อกลับให้ไอ้เอ๋อ เหลือแต่ท่อนล่างที่เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง จะปล่อยไว้แบบนั้นดีไหม สองจิตสองใจ

“เอาวะ รีบทำรีบเสร็จ อย่าคิดมาก อย่าคิดลึกไอ้สิงห์ นั้นน้อง น้องจำเอาไว้” สิงห์ใช้ความพยายามอย่างหนักในการล้วงมือเข้าไปเช็ดทำความสะอาดช่วงล่างของไอ้เอ๋อ มือหนาลากผ่านเรียวขาทั้งสองข้างดดยเว้นจุดศูนย์กลางเอาไว้

“เห้ออ เสร็จสักที” ยกมือขึ้นปาดเหงื่อออก พร้อมกับมองไอ้เอ๋อไปด้วย

“เรานะสร้างความลำบากให้พี่รู้ไหม” เขาบีบจมูกเล็กๆ นั่นด้วยความมันเขี้ยว ไม่ได้หมายความตามที่พูด หลังจากเช็ดตัวเรียบร้อยสิงห์ก็เช็กงานผ่านไอแพด บ้านที่เขากำลังรีโนเวจใหม่กำลังจะเสร็จ เหลือแค่ตกแต่งภายใน เขาเลือกห้องให้คนที่เป็นไข้หวัดไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นคือข้างๆ ห้องของเขาโดยมีประตูเชื่อมตรงกลางระหว่างผนัง ห้องเขาใช้โทนดำขาว ส่วนของไอ้เอ๋อเขาใช้สีฟ้าพาสเทล สดใส เหมาะกับมัน เพราะไม่ว่ายังไง ไอ้เอ๋อ ก็ต้องไปอยู่กับเขาอยู่แล้ว

หลวงตาออกจากวัดมาไม่ได้ จึงจำเป็นต้องพึ่งสิงห์อย่างจำใจ เพราะไม่อยากติดค้างอะไรกับสิงห์ ไอ้เอ๋อไข้มันคอยจะขึ้นยิ่งดึกๆ ไข้ยิ่งสูง สิงห์จึงต้องคอยเช็ดตัวป้อนยาให้ตลอด ไอ้เอ๋อมันก็ดันดื้อไม่ชอบกินยา ต้องจับกรอกอย่างเดียวเล่นเอาหมอหมาเหนื่อยเป็นพักๆ ยิ่งตอนมันร้องครางอือๆ เห็นแล้วยิ่งสงสารมันคงทรมาน ใจก็อยากจะไปนอนกอดจะได้อุ่นๆ แต่มันไม่สมควร เดี๋ยวใครมาเห็นจะหาว่าเขาโรคจิตคิดอกุศลได้ ต้องทนฟังเสียงฟันกระทบกันเกือบทั้งคืน

เช้ามาไอ้เอ๋อมันตื่นก่อนพี่จ๋าของมัน มันมองไปรอบๆ ห้องพอมันเห็นสายน้ำเกลือที่เสียบอยู่ที่มือก็ร้องลั่น มันเกลียดโรงพยาบาลมันเกลียดเข็ม พอเจอเข็มเจาะเข้าเนื้อก็ร้องกรี๊ดออกมาจนสิงห์ที่นอนอยู่บนโซฟา ตกใจล้มกลิ้งตกลงมา

“อะไร อะไร นะโมเป็นอะไรครับ!! ” สิงห์รีบเดินมาหานะโมทันทีที่เขาลุกจากพื้นได้ ใบหน้าหล่อคมดูตลกเวลาตกใจแบบนี้

“เข็ม เจ็บ ฮึกไม่เอา ฮรืออกลัว นะโมกลัว”

“อา กลัวเข็มเหรอ ไม่ต้องกลัวนะ” สิงห์ปลอบเสี่ยงนุ่ม พร้อมกับกอดไอ้เอ๋อไว้หลวมๆ

“เอาออกไป” ไอ้เอ๋อมันจะดึงเข็มออก สิงห์รีบจับมือไอ้เอ๋อไม่ให้มันดึงเข็มน้ำเกลือออกจากมือ

“ไม่เอานะครับไม่ดื้อนะ นะโมยังเอาออกไม่ได้ ต้องรอหมอมาถอดออกให้นะ” สิงห์พูดเสียงนุ่มเขาจับมือไอ้เอ๋อเอาไว้

“ทำไมครับ ทำไมถึงเอาออกไม่ได้ ฮึก”

“ก็เพราะว่า มันจะทำให้นะโมหายไม่สบายช้าลงยังไงละครับ” สิงห์อธิบายพร้อมกับรอยยิ้ม

“ฮึก อยากกลับวัด”

“กลับตอนนี้ ไม่ได้ครับ นะโมยังมีไข้อยู่เลย”

“ปวดหัว เป่าๆ ” ไอ้เอ๋อมันบ่นออกมาเบาๆ พร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆ ห้อง แต่หัวมันดันยื่นไปตรงหน้าของสิงห์คล้ายๆ ว่าจะให้สิงห์เป่าคาถาใส่หัวให้

“ฟู่ๆ เสกคาถาให้หน่อย” มันว่าอีก พร้อมกับชี้ไปที่หัวของตัวเอง

“หืมม อะไรครับ?”

“เสกคาถาใส่หัวให้นะโมหน่อย ต้าร์ชอบทำให้เวลานะโมไม่บาย เวลานะโมปวดหัว ต้าจะเสกคาถาให้” ไอ้เอ๋อ มันบอกเสียงอ้อน มันไม่รู้เลยว่าแค่ประโยคสั้นๆ ของมันจะทำให้เลือดในกายของหมอหมาเดือดปุดๆ ขึ้นมาได้

“แต่พี่มีอะไรที่ทำให้นะโมหายปวดหัวมากกว่า เสกคาถาอีกนะอีกนะ” สิงห์พูดด้วยรอยยิ้ม มือของเขาลูบไปบนโครงหน้าของไอ้เอ๋ออย่างแผ่วเบา ดวงตาคมจ้องมองไปยังดวงตาคู่สวย สิงห์เชยคางของไอ้เอ๋อให้เชิดขึ้น ไอ้เอ๋อมันไม่รู้ว่าพี่จ๋าของมันจะทำอะไร มันได้แต่มองพี่จ๋าด้วยแววตาที่ใสซื่อ ผิดกับอีกคนที่มองมันด้วยแววตาของหมาป่าหุ้มหนังแกะ

“อะไร หรออออ” มันเอียงคอถาม

“แบบนี้ไงครับ”

จุ๊บ

*0* >-<

สิงห์ยึดปลายคางของมันไว้แน่นก่อนจะประทับริมฝีปากลงไป บนปากนุ่มๆ ของไอ้เอ๋อ สัมผัสแรกที่ไอ้เอ๋อมันไม่รู้จัก ก่อนจะยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อมันรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมในโพรงปากอุ่นของมัน ไอ้เอ๋อมันไม่รู้ว่าสิ่งที่อีกคนมอบให้มันคืออะไร มันพยายามจะผลักอีกคนให้ออกห่าง แต่ทว่าเรี่ยวแรงของมันกลับหายไปไม่มีเหลือ เพราะโดนคนที่อ้างว่ามีวิธีทำให้หายปวดหัว สูบพลังออกไปหมด สิงห์กำลังตะกละตะกลาม กับรสหวานของเนื้อกระต่าย ยิ่งกินยิ่งไม่พอ เขาทั้งดูดดุนและไล่ต้อนลิ้นเล็กที่เอาแต่หนีเขา ไอ้เอ๋อกำลังทรมานเพราะหายใจไม่ออก !!

“อื้ออ อื้มมม”

“นะโม” สิงห์เรียกชื่อไอ้เอ๋อเสียงกระเส่า เขาถอนจูบออกมาอย่างช้าๆ ไอ้เอ๋อตามันฉ่ำปรือ พร้อมกับหอบหายใจ แก้มมันแดง รวมถึงปากของมันด้วย มือหนาลูบไปบนริมฝีปากคู่นั้น อย่างหวงแหน

“พี่จ๋าเอาไข้ของนะโมมาไว้ที่พี่จ๋าแล้วนะ เดี๋ยวก็หายนะครับ” สิงห์ชี้ไปที่ปากของตัวเอง เขาแลบลิ้นเลียมันอย่างช้าๆ ราวกับว่ามันอร่อยเหมือนขนมหวาน

“เอาไปได้ยังไง พี่จ๋าทำได้เหรอ? อ๊ะ เจ็บT^T” ไอ้เอ๋อมันเอามือจับปากตัวเอง แล้วก็ร้องออกมา

“หึหึหึ ได้สิ พี่จ๋าดูดออกมาจากปากนะโมเมื่อกี้ไง ต่อจากนี้ไปนะถ้านะโมเจ็บตรงไหน หรือไม่สบายเมื่อไหร่ มาหาพี่จ๋าพี่จ๋าจะดูดดอกให้” สิงห์พูดพร้อมกับลูบหัวไอ้เอ๋อไปด้วย แววตาที่มองไอ้เอ๋อนั้น มัน ร้ายไม่เบา!! ถ้าจะให้พูดสิงห์คือหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ดีๆ นี่เอง

“ทำแบบเมื่อกี้เหรอ ทำแบบนั้นนะโมหายใจไม่ออก” มันบอกด้วยสีหน้าแบบว่าไม่ชอบสุดๆ

“ไว้วันหลังพี่จ๋าจะบอกวิธีที่ทำให้หายใจออกมานะครับ วันนี้ พอแค่นี้ก่อน” สิงห์ยิ้มอ่อนโยน เขาจะสอนนะโมในทุกๆ เรื่องเอง

“นะโมไม่อยากรู้..สักหน่อย” มันพูดเสียงอ่อยๆ พร้อมกับมองหน้าพี่จ๋าของมันอย่างไม่ชอบใจ

แกรกก เสียงเปิดประตูห้องเรียกให้สายตาของคนทั้งคู่ให้หันไปมอง นางพยาบาลคนเมื่อคืนเข็นรถใส่ถาดอาหารเข้ามา พร้อมกับยาอีกหลายเม็ด ไอ้เอ๋อมันสนใจแต่ข้าวต้มร้อนๆ ในถาดหลุม ที่พี่พยาบาลยกวางไว้บนโต๊ะให้มัน

“ข้าว ข้าว หิวแล้ว” มันตบมืออย่างดีใจ ที่ใครๆ เห็นก็ต้องเอ็นดูมัน โดยเฉพาะกับสิงห์ หมาป่าตัวร้ายที่ใครๆ ก็เห็นว่าเขาเป็นเพียงพี่หมีผู้ใจดี

“ทานข้าวแล้วทานยาด้วยนะคะ น้องนะโม” ช้อนที่กำลังจะเข้าปากถึงกับชะงัก เมื่อได้ยินคำว่า กินกินยา

“ไม่อาวว นะโมจะกินแต่ข้าว” ว่าแล้วก็ตักข้าวต้มเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ มันไม่มองยาในมือของสิงห์ด้วยซ้ำ เรื่องอะไรมันจะมองละ ของแสลงของมัน

“จ้าๆ ฝากด้วยนะคะคุณสิงห์ อีกสักพักหมอไม้เมืองก็จะเข้าเวรแล้วค่ะ เห็นว่าจะมาตรวจไข้น้องด้วย”

“ครับ^^”

“แค๊กๆ น้ำๆ” เพราะว่ามันรีบกินกลัวจะได้กินยา มันเลยสำลักข้าวที่กินอยู่เดือดร้อนพี่จ๋าของมันต้องมาป้อนน้ำให้อีก

“อิ่มรึยังเอ่ยคนเก่ง”

“เอิ๊อกกก อิ่มแล้วจ้ะ” มันเรอออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ รอยยิ้มหวานๆ ของมันส่งตรงไปยังคนตัวสูง

“อิ่มแล้วกินยานะครับ” สิงห์ยื่นยาให้ไอ้เอ๋อ

“*0* ไม่เอาไม่” พอบอกว่าจะต้องกินยามันหุบปากฉับ ปิดสนิทไม่ยอมเปิด

“อย่าดื้อนะครับ กินยาก่อนจะได้หายไวๆ ไง”

“>X<” มันส่ายหน้าอย่างไม่ยอม สิงห์พยายามจะอ้าปากมัน แต่มันก็เบี่ยงหนี ไม่ยอมท่าเดียว

“อ้า ปากสิ อ้า อ้า” มือหนาที่จับปากไอ้เอ๋อไว้ได้แล้ว เขาก็ออกคำสั่งให้มันอ้าปาก แต่ว่ามันไม่ยอมอ้านี่สิ สิงห์ไม่อยากจะทำรุนแรงกับไอ้เอ๋อมัน กลัวมันเจ็บ

“>X<”

“พี่เหนื่อยแล้วนะครับ อย่าให้พี่จ๋าต้องใจร้ายนะ” สิงห์ปรับน้ำเสียงให้แข็งขึ้นแต่ก็ใช้ไม่ได้ผล ไอ้เอ๋อมันดื้อ ไม่ยอมท่าเดียว

“นะโมดื้อกับพี่หรอครับ” สิงห์ยิ้มเหี้ยมออกมา ไอ้เอ๋อมันชะงัก แต่ก็ไม่ยอมอ้าปาก มันกลัวยามากกว่าพี่จ๋าของมัน

เสียอีก ถ้าให้มันกินยามันยอมกินมะเขือพวงดีกว่า

“ไม่ชอบ ไม่ชอบ ขม ขม” มันยอมอ้าปากพูดกับสิงห์อีกครั้ง

“ขมที่ไหน หวานจะตาย” สิงห์หลอกล่อไอ้เอ๋อ

“ยาไม่หวาน นะโมไม่โง่นะ” มันเบะปากใส่ พลางกอดอกเชิดหน้า สิงห์หลุดหัวเราะออกมานิดๆ เขาทำมาดเข้มใส่ไอ้เอ๋อไม่เคยได้เลยสักครั้ง มันชอบทำให้เขาหลุดลุคตลอด

“รู้อีก หึหึหึ มากินยาครับ ไม่กินพี่ไม่พาไปหาหลวงตานะ” พออ้างหลวงตามันก็แอบหันมามองหน้าพี่จ๋าของมัน ทำเหมือนไม่สนใจแต่ก็อยากให้สิงห์พากลับวัด คนอย่างไอ้เอ๋อดูออกง่ายจะตาย

“อยากลับวัดไปหาหลวงตาไหมเอ่ยย...”

“ (- _-) (_ _) (-_-) (_ _) (-_-) ”

“ถ้าอย่างนั้น นะโมต้องกินยาก่อนนะจะได้หายไวๆ”

“งะ ...ผมหายแล้ว นะโมหายแล้ว” มันลุกขึ้นแล้วเบ่งกล้ามแห้งๆ ของมันให้ดู

“จะให้วิ่งให้ดูก็ได้นะ” มันพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะบอกสิงห์ว่ามันหายแล้วเพื่อจะได้ไม่ต้องกินยา ทั้งๆ ที่มันรู้สึกปวดหัว ปวดตัวจนแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว โดยเฉพาะแผลที่หัว มันคงกัดฟันทนกับความเจ็บแบบนี้ไปเรื่อย สิงห์ส่ายหน้าเบาๆ กับความลั้นของไอ้เอ๋อ

“ไม่ต้องเลย นั่งเฉยๆ ครับเดี๊ยวสายน้ำเกลือก็หลุดหรอก” สิงห์ว่าเสียงดุก่อนจะยกตัวของไอ้เอ๋อให้มันกลับไปนั่งบนเตียงคนไข้

“พี่จ๋า นะโมหายแล้วจริงๆ นะ พี่จ๋าดูดไปแล้วไง จำไม่ได้เหรอ” มันยังยืนยันคำเดิม

“รู้เยอะจริงๆ เลยนะเรานะ ถ้าไม่กินพี่จ๋าไม่รักนะเอาไหม พี่จ๋าไม่ชอบเด็กดื้อ” สิงห์แกล้งหันให้พร้อมกับพูดเสียงเข้มๆ ไอ้เอ๋อพอได้ยินพี่จ๋าพูดแบบนั้นมันก็ทำตาโต ส่ายหน้าดิ๊กๆ

“ไม่เอา นะ พี่จ๋ารักนะโม ไม่เอา” มันกระโดดลงจากที่นอนลากเสาน้ำเกลือวิ่งเข้าไปกอดสิงห์จากด้านหลัง มันเอาหน้าถูไปมากับแผ่นหลังกว้างๆ นั่นเหมือนลูกแมวอ้อนไม่มีผิด ร่างสูงขนกายลุกซู่ และเกร็งไปทั้งตัว

“ทำไมชอบทำให้พี่ตะบะแตกอยู่เรื่อย” สิงห์กระซิบเสียงเครียด เขาหันไปหาไอ้เอ๋อ

“พี่จ่าพูดว่าอะไรนะจ๊ะ นะโมฟังไม่ถนัด? ...”

“เห้อไม่มีอะไรหรอก ถ้านะโมไม่อยากให้พี่ไม่รักนะโมต้องกินยานะ ตกลงไหม”

“งือออ นะโมไม่ชอบยา แต่ถ้ากินแล้วพี่จ๋าจะรักนะโม นะโมกินก็ได้ -3- “มือเล็กๆ ของมันยื่นไปรับยาจากสิงห์ มันมองยาสามเม็ดในมืออย่างชั่งใจ พร้อมกับถอนหายใจออกมาเสียงดัง

“เห้อออ ไม่อยากกินเล้ยยย” มันบ่นออกมาเสียงดัง ก่อนจะเดินไปหยิบน้ำมาถือไว้แล้วกินยารวดเดียวหมด มีสำลักบ้างเล็กน้อยแต่ก็ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี สิงห์พามันกลับไปนอนที่เตียง ยกผ้าห่มขึ้นห่มให้มันทำตามที่สิงห์สั่งอย่างว่าง่าย ดวงตากลมๆ ของมันคอยแต่จะมองตามพี่จ๋าของมันตลอด ไม่ว่าพี่จ๋าจะนั่ง จะเดิน จะทำอะไรก็ตามมันจะคอยมองตลอด จนสิงห์อดสงสัยไม่ได้

“มองตามพี่มีอะไรรึเปล่าครับ?”

“กลัวพี่จ๋าหาย กลัวพี่จ๋าทิ้ง” มันตอบ

“หึหึหึ เด็กน้อยเอ้ย พี่จะทิ้งเราไปไหนได้ละ หลงซะขนาดนี้” สิงห์ยิ้มหวาน เขาเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ กับเตียงของมันยกมือนุ่มนิ่มของมันขึ้นจรดปาก สายตาของสิงห์ช่างอ่อนโยน จนไอ้เอ๋อมันจ้องตอบด้วยสายตารักใคร่ มันมองมือที่โดนสิงห์จูบแล้วยิ้มออกมานิดๆ เหมือนจะชอบ

“พี่ไม่ทิ้งนะโมไปไหนหรอก พี่จะอยู่ดูแลนะโมเอง”

“สัญญาสิ” มันชูนิ้วก้อยขึ้นมา สิงห์เกี่ยวก้อยกับมันเป็นการสัญญา พอมันมั่นใจว่าหมอจะไม่ทิ้งมันไปไหน ดวงตาที่เคยเบิกกว้างก็ค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ และปิดสนิทในที่สุดโดยที่ไอ้เอ๋อมันไม่ปล่อยมือ สิงห์เองก็เช่นกัน เขาเหนื่อยและล้ามาทั้งคืน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะนอนจับมือกันนอน

++++++++++++++++++++++++++



ช่วงนี้เค้าไม่ค่อนสบาย หวัดลงคอ ไอจนเลือดออก คิดแก็กไม่ค่อยออกเลยมาช้า มากๆ ต้องขอโทษด้วยนะคะ น้องยักษ์ก็เช่นกัน รออีกนิดนะ ฮ่าๆ ฝากน้องด้วยนะ กำลังใจเค้าจะได้มาเยอะๆ​
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 27-02-2018 09:35:47
ขอให้หายเร็วๆนะครับ....


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 27-02-2018 11:33:27
น้องเอ๋อน่ารักน่าฟัดมากชอบเนื้อเรื่องตาม
อ่านตลอด
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 27-02-2018 12:31:11
มารออ่านทุกวันเลยค่ะ
ดีใจที่วันนี้ นะโมกลับมา ...
ป.ล. ดูแลสุขภาพ และขอให้หายป่วย..สบายดีในเร็ววันนะคะ :call:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 27-02-2018 17:01:02
สตันท์กะฉากจูบนิดหน่อย
คิดว่าเร็วไป นึกว่าจะแค่จุ๊บหน้าผาก
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-02-2018 04:06:01
อีพี่รุกหนักเกินไปป่ะ เอ๋อตามไม่ทันนะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-02-2018 11:16:17
ใจเย็นๆ เดี๋ยวน้องวิ่งหนี ^^
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 28-02-2018 20:51:57
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 01-03-2018 23:26:21
เอ็นดูน้อง เรื่องนี้ สามพีมั้ยคะ ต้าแกจะสู้พี่หมอหมาเค้าได้หรอเนี่ย
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 02-03-2018 07:50:59
เอ็นดูน้องนะโม น่ารักจิงๆเลย
แล้วหมอจะอดทนได้นานแค่ไหนน๊า 5555555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.05 27/2/61
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 03-03-2018 21:27:27
พี่สิงห์จะอดใจได้นานแค่ไหน อิอิ
หายไวๆๆๆน่ะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 08-03-2018 08:35:59










06





ตกบ่าย ไอ้เอ๋อถูกปลุกด้วยเสียงดังเอะอะของไอ้ตาร์ มันพึ่งกลับจากค่าย มาพร้อมกับหลวงตาบัว มาแบบทั้งชุดพละน้ำท่าไม่ยอมอาบ ทันทีที่รู้ว่าไอ้เอ๋อโดนซ้อมและไข้ขึ้นจนต้องพาส่งโรงพยาบาล มันรู้มันก็แทบคลั่ง จะไปเอาเรื่องคนที่ทำร้ายไอ้เอ๋อให้ได้ ดีที่หลวงตาแกห้ามเอาไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นเรื่องมันคงจะบานปลายมากกว่านี้แน่ๆ เพราะคนที่มันจะไปเอาเรื่องนั้นร้ายใช่ย่อยแถมแค่ลำพังตัวมันคนเดียวขืนไปมีหวังกลับมาแบบเป็นศพแน่นอน

“พี่ต้าร์ งือออ” ไอ้เอ๋อมันลุกขึ้นมาด้วยสีหน้ายุ่งๆ หัวฟูฟ่องไม่เป็นทรง มันยกมือขึ้นมายีขี้ตาด้วยความงัวเงีย ไข้มันลดลงไปเยอะแล้ว แต่หน้ามันยังมีรอยเขียวช้ำอยู่ สิงห์ยกมือไหว้หลวงตาแล้วหลีกทางให้ ไอ้ต้าร์มันหันมามองสิงห์ตาเขม็งก่อนจะเดินไปหาไอ้เอ๋อ

“เป็นยังไงบ้างวะ ทำไมหน้ามึงเป็นแบบนี้ละ?” มันสำรวจหน้าไอ้เอ๋อด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก นี่แค่มันไปค่ายแค่สามวันกลับมาหน้าไอ้เอ๋อยังเละขนาดนี้

“พวกคนใจร้าย หะ ห้าววว มันตีนะโม” ไอ้เอ๋อมันตอบไปด้วยหาวไปด้วยอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน

“พวกไหนวะ แมร่ง แล้วมึงก็โง่ให้มันตีเหรอ ไอ้ที่กูเคยสอนมันไม่เข้าหัวเลยรึไง” มันพูดเหมือนโกรธไอ้เอ๋อ แต่น้ำเสียงมันกลับดูเป็นห่วงเสียมากกว่า

“เอาน่าไอ้ต้าร์เรื่องมันผ่านไปแล้วก็แล้วกันเถอะ ถึงเอ็งสอนมวยมันมันก็ไม่ทำร้ายใครหรอก คนอย่างไอ้เอ๋อเคยทำใครเจ็บที่ไหน” หลวงตาบังพูดขัด แล้วลูบหัวไอ้เอ๋อเป็นการเรียกขวัญ หลวงตาห่วงมันจนนอนไม่หลับทั้งคืน มือเหี่ยวๆ ลูบลงอย่างอ่อนโยน เมื่อไหร่ที่เขาหมดห่วงเรื่องไอ้เอ๋อเมื่อนั้นเขาคงจะตายตาหลับ

“หลวงตาจ๋า นี่” มันยกแขนข้างที่เจาะน้ำเกลือให้หลวงตาดู แล้วทำหน้าอ้อนๆ

“อะไรของเอ็ง” คิ้วเหี่ยวๆ เริกขึ้นอย่างสงสัย

“เอาออก ได้ไหมจ๊ะ นะโมเจ็บจ้ะหลวงตา” มันทำหน้าอ้อนใส่หลวงตา

“อ่า เอ่อ หมอเค้าให้เอาออกแล้วเหรอ โยมสิงห์” หลวงตาหันไปถามร่างสูงที่ยืนดูนิ่งๆ อย่างถามความเห็น

“ยังครับ คงต้องรอตรวจอีกรอบ”

“งะ -3- “

“ไม่ดื้อนะ นะโมเอ้ย”

“แต่หนูเจ็บนี่จ้ะ” เป็นครั้งแรกที่สิงห์ได้ยินไอ้เอ๋อมันแทนตัวเองว่าหนู เขายินถึงกับใจกระตุก เพราะไอ้เอ๋อมันทำหน้าอ้อนๆ แบบนั้นด้วย ส่วนหลวงตากับไอ้ต้าร์ได้ยินจนชินเวลาไอ้เอ๋อมันอยากอ้อนขึ้นมา

“เจ็บก็ต้องทนดิวะ มึงเป็นผู้ชายนะไอ้เอ๋อ” ไอ้ต้าดุไอ้เอ๋อด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ไอ้เอ๋อหันมามองลูกพี่ของมันอย่างไม่เข้าใจ

“ผู้ชายต้องอดทนหรอ? อดทนยังไงอะ? พี่ต้าอดทนเก่งเหรอ?” มันย้อนถาม ไอ้ต้าร์ถึงกับคิ้วกระตุกนิดๆ

“เออ กูอดทนเก่ง (//ถ้ากูอดทนไม่เก่งมึงไม่รอดมาจนถึงตอนนี้หรอกไอ้เหี้ยเอ๋อ//) ”

ในขณะที่พวกเขาคุยกันนั้น จู่ๆ ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมร่างของคุณหมอวัยใสที่มาพร้อมกับใบหน้าอิดโรยจากความเหนื่อยล้า หมอไม้เมืองเดินยิ้มอ่อนๆ ส่งให้รุ่นพี่แล้วหันไปหาไอ้เอ๋อ คิ้วเรียวคู่สวยมุ่นลงอีกครั้ง

“มึง/มึง!!! ” ทั้งไม้เมืองและไอ้ต้าร์อุทานออกมาพร้อมกัน พร้อมกับสีหน้าที่แทบจะฆ่ากันให้ตาย

“มาทำไม!! เป็นหมอหนุ่มที่ตะคอกใส่คนเด็กกว่าไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปมีเรื่องอะไรกันมาถึงได้แทบจะตีกันแบบนี้

“เรื่องของกู! ”

“อะไรกันโยม จะเสียงดังใส่กันทำไม” หลวงตาที่นั่งพักอยู่เอ่ยออกมาเสียงดุ

“อ่าว ขอโทษครับหลวงตา ผมไม่ทันได้มองว่าหลวงตาอยู่ด้วย” ไม้เมืองยกมือขึ้นขอขมาหลวงตาทันที

“ช่างเถอะโยม แล้วจะทะเล่ากันทำไม ไอ้ต้าร์เอ็งก็อีกคนไปขึ้นเสียงกับโยมหมอได้ยังไงกันเอ็งเด็กกว่าเขาตั้งเยอะ” หลวงตาบัวเอ็ดไอ้ต้าร์เสียงเข้ม มันพอสลดลงบ้างมีแต่ไอ้เอ๋อที่ยังยิ้มให้หมอหนุ่ม มันเริ่มจะใช้หน้าอ้อนๆ กับหมออีกคน

“” คุณหมอจ๋า นะโมหายแล้ว ถอดสายน้ำเกลือให้นะโมทีนะจ้ะ” มันทำเสียงออดอ้อนหมอไม้เมืองหมอหนุ่มยิ้มตาหยี>-<

“ต้องให้พี่หมอตรวจก่อนนะครับ ไหนดูซิ” ไม้เมืองเริ่มตรวจอาการของไอ้เอ๋อ

“ไข้ลดลงเยอะแล้ว เหลือแต่แผลช้ำๆ เนอะ” หมอเมืองบอกด้วยเสียงนุ่มๆ ลุคดูเป็นหมอผู้ใจดี

“คิคิคิคิ”

“หมอจะถอดสายน้ำเกลือให้นะครับ” พอได้ยินแบบนั้นไอ้เอ๋อมันก็ยิ้มกว้างจนคนมองแอบหมั่นไส้เบาๆ เมื่อไม้เมืองแกะสายน้ำเกลือให้ไอ้เอ๋ออย่างเบามือด้วยสีหน้าอ่อนละมุน ไม่ว่าใครมาเห็นหมอในลุคนี้ต้องมีหลงกันมั่งแหละ ใจดีออกซะขนาดนี้ เว้นเสียแต่...

“เสร็จแล้วครับ”

“เย้ๆ ๆ ๆ ๆ ขอบคุณครับพี่หมอสุดหล่อ” พอได้ดั่งใจปากมันก็หวานขึ้นมาทันที ขี้ประจบใช่ย่อยนะไอ้เอ๋ออออ หลวงตาที่มองอยู่ก็ยิ้มเอ็นดูก่อนจะเอ่ยถามหมอถึงเรื่องค่ารักษาพยาบาล

“นะโมมันมีบัตรคนพิการอยู่ไม่ใช่เหรอครับหลวงตา” ไอ้ตาร์มันพูดขึ้นมาพร้อมกับค้นอะไรสักอย่างในกระเป๋าก่อนจะหยิบบัตรคนพิการกับบัตรประชาชนของไอ้เอ๋อออกมา มันยื่นให้หมอไม้เมืองแบบขอไปที

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลก่อนนะครับ” เป็นสิงห์ที่เอ่ยออกมาพร้อมกับยื่นมือไปรับบัติของไอ้เอ๋อที่หมอรุ่นน้องส่งมาให้ พอสิงห์ออกไปหมอก็ขอออกไปบ้าง ตอนนี้เหลือแค่หลวงตากับไอ้ต้าร์เท่านั้น

“หลวงตาจ้ะนะโมจะได้กลับวัดแล้วใช่ไหม ^-^”

“เอออกลับได้แล้ว เอ็งนี่จะติดวัดมากเกินไปแล้วนะ นะโม” หลวงตาว่าอย่างไม่จริงจังนัก ต้าร์อาสาพานะโมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง ถึงแม้ว่าจะเคยเห็นเรือนร่างของอีกฝ่ายมาตั้งแต่เด็กจนโตแต่ไอ้ต้าร์มันก็ไม่เคยชินกับภาพตรงหน้าสักที มันลอบมองผิวกายขาวเนียนของไอ้เอ๋ออยู่บ่อยครั้งใจก็อยากจะสัมผัสผิวขาวเหมือนน้ำนมนั่นสักครั้งแต่มันก็ไม่กล้า ได้แต่แอบมอง แอบคิดอกุศลของมันไปเรื่อย มันยืนมองไอ้เอ๋อไปอย่างเนียนๆ มีดุบ้างเวลาไอ้เอ๋อมันใส่ผิด เสร็จแล้วก็พากันออกมาจากห้องน้ำ ก็เจอใครบางคนที่ยืนรออยู่เงียบๆ สายตาคมสองคู่ประสานกันอย่างกับนัดหมายกันไว้ ต่างคนต่างมองด้วยแววตาที่ดุดัน และไม่มีใครยอมใครจนหลวงตาบัวต้องกระแอมใส่ สิงห์รักษาระยะห่างจากน้องเล็กน้อยทั้งที่ในใจอยากจะกระชากตัวนะโมออกจากไอ้ต้าร์เต็มที่ เพราะไม่อยากให้หลวงตาดูเขาไม่ดี สิงห์ถึงได้ยืนนิ่งๆ ผิดกับไอ้ต้าร์ที่แสดงออกอย่างเต็มที่ว่ามันหวงไอ้เอ๋อต่อหน้าเขาและหลวงตา สองมือหนาประคองไอ้เอ๋อไม่ห่างจนสิงห์แทบจะทนไม่ไหว มันมากเกินไป!! แถมไอ้ต้าร์มันยังกันท่าเขาทุกวิถีทาง

“ขอบใจโยมสิงห์มากนะที่อุตส่าห์เป็นธุระเรื่องนะโมให้”

“ไม่เป็นไรครับหลวงพ่อ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว” สิงห์ไม่ได้ต้องการจะย้ำเรื่องที่เขาอยากจะรับเลี้ยงไอ้เอ๋อ แต่ปากมันพาไป หลวงตามีสีหน้าที่หม่นลง เพราะยังคิดไม่ตกถึงเรื่องนี้

“หน้าที่อะไร มันใช่เรื่องเหรอ มึงเป็นคนนอกไม่ต้องมาทำพูดว่าหน้าที่หรอก” ต้าร์แขวะใส่ขณะพากันเดินออกมาจากโรงพยาบาล

“เดี๋ยวพี่จ๋าไปส่งนะโมที่วัดนะครับ” สิงห์พูดพร้อมกับเดินนำไปที่รถโดยไม่สนว่าต้าร์จะตามมาด้วยหรือไม่เขานิมนต์หลวงตาขึ้นรถและพานะโมไปนั่งที่ด้านหลังคนขับพร้อมกับรัดเข็มขัดให้ ไอ้ต้าร์มันไม่ได้ขึ้นรถมาด้วยมันขี่มอเตอร์ไชต์คู่ใจมา เห็นอีกทีมันก็บิดออกไปแล้วนี่คงไปรอพวกเขาที่วัด ขับรถเข้ามาจอดที่ลานวัด เข็มขัดยังไม่ทันได้ปลด ไอ้ต้าร์มันก็รีบพาไอ้เอ๋อลงจากรถกึ่งลากกึ่งจูงไปที่ห้องของมันทันที

“เก็บเสื้อผ้าไปอยู่บ้านกู” ไอ้ต้าร์มันสั่ง

“ไปทำไมจ้ะพี่ต้าร์” มันเอียงคอถามอย่างไม่เข้าใจ

“อย่าถามมากรีบเก็บ” มันเร่งพร้อมกับช่วยเอาเสื้อที่พับไว้มุมห้องมาใส่กระเป๋าให้ ยังเหลือเสื้อผ้าใต้ถุนกุฏิอีก

“นั่นพวกเอ็งทำอะไร? ไอ้ต้าเอ็งจะพานะโมมันไปไหน” หลวงตาที่ขึ้นกุฏิมาเอ่ยถามเสียงลั่น ส่วนสิงห์นั้นกลับไปดูบ้านที่กำลังตกแต่ง เพราะเขาเพิ่มในส่วนของไอ้เอ๋อเข้าไปด้วย

“ผมจะพาไอ้เอ๋อไปอยู่ด้วย ปล่อยมันไว้คนเดียวคงไม่ปลอดภัยเท่าไหร่”

“นี่เอ็งจะมาตัดสินใจแทนอาตมาได้ยังไง” หลวงตาว่าเสียงดุ ไอ้ต้าร์มันสลดลงทันที มันคิดน้อยไป มันห่วงแค่เรื่องของไอ้เอ๋อ

“แต่ ว่า ...”

“ให้อาตมาคิดสักนิดเถอะ บางทีเรื่องมันอาจจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้”

“มีเรื่องอะไรกันเหรอจ๊ะ” น้ำสียงใสๆ เอ่ยขัดบรรยากาศมาคุ

“ไม่มีอะไรนะโมไปพักเถอะลูกไป” หลวงตาไล่มันไปนอนพัก ไอ้เอ๋อมันว่าง่ายอยู่แล้วหลวงตาสั่งอะไรมันก็ทำ มันเดินหอบเสื้อผ้ากลับเข้าไปในห้องตามคำสั่ง ไอ้ต้าร์หน้าเจื่อนไปนิด

“ถ้าอย่างนั้นผมขอมานอนเป็นเพื่อนมันละกันนะครับหลวงตา”

“แล้วแต่เอ็งเถอะไอ้ต้าร์” หลวงตาบอกแค่นั้นก็กลับเข้าไปจำวัดในกุฏิ มันไม่รอช้ารีบตรงดิ่งกลับไปที่บ้านไปขนเสื้อผ้ามาอยู่กับไอ้เอ๋อทันที รอไม่นานมันก็กลับมาพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบเขื่องนี่กะอยู่ยันไอ้เอ๋อบวชเลยใช่ไหม-*-

“ไอ้เอ๋อ ตื่นได้แล้ว จะมืดแล้ว ลุกขึ้นมากินข้าวกินยา” ไอ้ต้าร์มันอาบน้ำตัวหอมฉุยนั่งลงข้างๆ ที่นอนแล้วใช้เท้าเขี่ยๆ ไอ้เอ๋อ มือมันใช้ยีหัวอยู่ไม่ว่าง สะกิดแค่เบาๆ ไอ้เอ๋อมันก็งัวเงียขึ้นมาทำหน้ายุ่งๆ ใส่ไอ้ต้าร์ลูกพี่ของมัน

“ง่วง = = ปลุกทำมายย”

“จิ๊ -*- ไอ้นี่ ตื่นไปอาบน้ำกินข้าว.! .”

“ข้าว *0*” ยังไม่ทันพูดว่ายาไอ้เอ๋อมันก็ตาวาว ไอ้ตาร์รู้ดีว่าจะจัดการเด็กดื้อยานี่ยังไง

“เออ ไป ไปอาบน้ำอาบท่ากูจะไปหาข้าวให้กิน” มันดึงไอ้เอ๋อให้ลุกจากที่นอนเก่าๆ ของมัน

“กินก่อนไม่ได้เหรอ^0^”

“ไม่ได้ ไปอาบน้ำเร็วๆ เข้า”

“จ้า จ้า อาบน้ำอาบน้ำ นะโมอาบน้ำ” มันพูดด้วยเสียงยานๆ ก่อนจะเดินลงจากกุฏิไปอาบน้ำที่ตุ่มน้ำด้านหลัง ส่วนไอ้ต้าร์มันก็เดินไปที่โรงครัว ที่ตอนนี้มีงานพิธีปนกิจศพอยู่ มันเดินไปขอข้าวต้มในโรงครัวมาสองชาม น้ำเป็บซี่อีกขวดใหญ่ พร้อมน้ำแข็ง ไอ้เอ๋อมันจะสบายไปไหนมีแต่คนคอยบริการมันตลอดแบบนี้ กลับมาก็เจอไอ้เอ๋อยืนตัวเปียกกำลังใส่เสื้อผ้าอยู่

“ไอ้เหี้ยเอ๋อออ เช็ดตัวด้วยดิวะ” มันถูกลูกพี่ต้าร์ดุอีกแล้ว มันลนลานรีบหาผ้าขึ้นมาเช็ดตัวทันที

“ดุยิ่งกว่า แม่ด่างอีก” มันบ่นงุบงิบไอ้ต้าร์มันไม่ได้ทันได้ยินหรอกเพราะว่าด่าเสร็จมันก็เดินขึ้นกุฏิไปเลย ไอ้เอ๋อรีบแต่งตัวเพราะว่ามันจะได้รีบไปกินข้าว แต่หารู้ไม่ว่าลูกพี่สุดหล่อของมันเตรียมอะไรไว้ให้มันบ้าง

“ข้าวๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จ๋านะโมมาแว้ววว” มันกระโดดมานั่งแหมะที่โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กๆ ที่กว้างแค่วางจานข้าวไม่กี่ใบ ข้าวต้มหมูชามโตวางอยู่ตรงหน้ามันพร้อมกับแก้วน้ำที่ใส่เป็บซี่เย็นๆ มาเต็มแก้ว

“ใจเย็นไอ้เอ๋อ กินนี่ก่อน” นี่ไงละของที่ไอ้ต้าร์มันเตรียมไว้ไห้ ยาเม็ดเขื่องบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้งแล้วปั้นเป็นลูกกร

“อะไร อะ”

“ลูกอม”

“ลูกอมเหรอ?” มันรับเม็ดยามาถือไว้

“เออกินซะสิจะได้กินข้าว” ก้บอกแล้วไอ้เอ๋อมันว่าง่ายมันเอายานั่นเข้าปากก่อนจะเคี้ยว ยิ่งเคี้ยวสีหน้ามันยิ่งเปลี่ยนจากยิ้มสดในเริ่มจะเหยเก

“ลูกอม ขม แอ๋” มันแทบจะคายทิ้งแต่โดนสายตาดุๆ ของลูกพี่คนหล่อของมัน ไอ้เอ๋อเลยต้องฝืนกลืนยาลงไป ไอ้ต้าร์ส่งน้ำเปล่าให้มันกิน นี่ยังเหลือยาหลังอาหารอีกสองเม็ดที่มันจะต้องกล้ำกลืนฝืนกิน คิดแล้วก็รู้สึกสงสาร พอได้ลิ้มลองรสฝืดคอก็มาถึงรสที่มันปรารถนา ข้าวต้มร้อนๆ ที่มันค่อยๆ ตักเข้าปาก

“โอ๊ะ อู้ววว ร้อนอะ” ช้อนแทบร่วงทันทีที่ข้าสัมผัสปาก มันจือปากแดงๆ ของมันไปทางคนตัวสูง ไอ้ต้าร์ส่ายหัวเบาๆ ก่อยจะเป่าปากมันให้ ซึ่งมันก็ทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้วเวลาไอ้เอ๋อทำอะไรทำนองนี้ เพราะเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ถึงจะอยู่ในถานะเบ้จิปาถะ แต่มันก็ได้รับความใส่และการดูแลจากไอ้ต้าร์มากว่าเพื่อนเล่นคนอื่นๆ ถือได้ว่ามันจะได้รับอภิสิทธิ์พิเศษอื่นๆ ก่อนใครเสมอๆ

“รีบแดกไงละ ร้อนก็หัดเป่าสิวะ! ”

“หิวนี้ ต้าเป่าให้หน่อย” มันทำเสียงอ้อน

“ปากก็มีเป่าเองสิ กูก็ต้องกินเหมือนกัน”

“วุ้ว ใจดำอะ ใจดำ” มันว่าใส่ ไอ้ต้าร์ถึงกับชี้นิ้วใส่ มันถึงได้สลด หดคอหนี

“ปากเก่งขึ้นทุกวันเลยนะมึง -*- “มันว่าไอ้เอ๋อ

“ฟู่ ๆ ๆ อ้ามมม อาหย่อย” มันกินไปยิ้มไป ไอ้ต้าร์ก็กินของมันไปเงียบๆ มีบ้างที่เหลือบมองไอ้เอ๋อเป็นระยะๆ วันนี้เป็นครังแรกที่มันจะได้นอนร่วมห้องกับไอ้เอ๋อ มันรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ จนเกือบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่

“อิ่มยังวะ จะได้เอาจานไปเก็บ” คนตัวสูงถามเสียงหน่ายๆ ไอ้เอ๋อมันพยักหน้าแล้วยิ้มให้

“เอ้า อิ่มแล้วก็ลุกดิวะ จะนั่งทำสากกะเบืออะไรละ เอาชามไปเก็บวู้ว ต้องให้สั่งตลอดเลยมึง”

ทั้งคู่ช่วยกันยกชามไปเก็บที่โรงครัว ตอนไปเอาไอ้ต้าร์มันเดินทางด้านหน้าโบถ์ แต่ขาเอาของไปเก็บมันดันพาไอ้เอ๋ออ้อมมาด้านหลังเพราะว่าทางมันใกล้มากกว่า แต่มันลืมอะไรไปรึเปล่าว่าทางนี้ต้องเดินผ่านลานเผาศพกับเมรุด้วย ทั้งคู่เดินไปกันเงียบๆ แต่ จู่ๆ ไอ้เอ๋อมันหยุดเดิน แล้ววมองไปยังต้นโพธิ์ต้นใหญ่ใกล้กับเมรุ

“ลุงชา ลูงงงงงงง ไปยืนทำอะไรตรงนั้น” มันร้องเรียกลุงที่มันเห็นแต่ไอ้ต้าร์มันไม่เห็น ชื่อที่ไอ้ต้าร์ได้ยินแล้วหัวใจมันหล่นไปถึงตาตุ่ม จะชื่อใครเสียได้ก็ชื่อเจ้าของข้าวต้มที่พวกมันกินกันอยู่นี่ไงศพยังนอนอยู่บนศาลาอยู่เลย

“เชี้ยะเอ๋อ !! มึงเอาอีกแล้วนะ ไอ้ห่าเอ้ย” ไอ้ต้าร์มันรีบลากไอ้เอ๋อออกจากที่ตรงนั้น

“เดี๋ยว เดี๋ยวลุงชา....กินข้าววว พี่ต้าร์ลุงชามาแล้ว รอก่อนๆ” มันยังจะตะโกนเรียกผีลุงชามากินข้าว ไอ้ต้าร์มันได้ยินขาก็แทบทรุด

“นี่กูมาทำอะไรที่นี่วะ”

บะ บะ บรู๊ววววววววววววววววว

“โหลุงชาเดินไวมากเลย^0^” ยัง ยัง ไม่หยุดอีก ไอ้ต้าร์ฉี่มันจะราดอยู่แล้ว ไหนหมามันจะหอนรับกันเป็นทอดๆ อีก

“ไอ้เชี้ยะเอ๋ออออออออออ มึงจะเรียกลุงแกมาทำม้ายยยย” เท่านั้นแหละไอ้ต้ามันก็ใส่เกียหมาชามที่ถือมาก็วางมันไว้กลางทางนั่นแหละ แล้วกระชากไอ้เอ๋อมันวิ่ง

“เรียกใครไม่เรียกเสือกไปเรียกลุงชา มึงนะมึง” พอพ้นเขตเมรุ พวกมันก็ มายืนหอบอยู่หน้ากุฏิที่มีแสงสว่างให้อุ่นใจ

“ทำไมอะ ทำไมถึงเรียกไม่ได้” สภาพไอ้เอ๋อมันก็ไม่ต่างจากไอ้ต้าร์มากเท่าไหร่ ยืนหอบพร้อมกับเท้าเอว เจ็บซี่ดครงไปหมด จากที่อาบน้ำมาตัวหอมตอนนี้มีแต่เหงื่อเต็มไปหมด

“ก็มึงเรียกผีไง ไอ้โง่ ลุงชาแกหัวใจตายเมื่อตอนเย็นนี่มึงไม่รู้รึไง!! ” ไอ้เอ๋อมันจะไปรู้อะไรมันหลับทั้งวัน

“ตาย!! ตาย T^Tตายแล้วไปอยู่กะพี่เปรี้ยวหรอ”มันทำปากเบะๆเมื่อได้ยินคำว่าตาย มันคิดถึงอีเปรี้ยวขึ้นมาทันที ไอ้ต้ากุมหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด เพราะไอ้เอ๋อมันทำท่าจะร้องไห้ออกมา

“เออออ ที่หลังมึงเห็นอะไรตอนกลางคืนไม่ต้องร้องทักไม่ต้องเรียกมานะมึง หัวใจกูจะวาย สาสสเอ้ย เล่นซะกูเสียหลักหมด”

หลังจากอบรมไอ้เอ๋อเรื่องสัมผัสที่หกแล้วก็พันไปล้างมือล้างเท้าแล้วพากันเข้านอนดีหน่อยที่วันพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์อาทิตย์ไอ้ต้าร์มันเลยไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน ต้ามันปูเสื่อนอนข้างๆ ฟูกของไอ้เอ๋อ หมอนผ้าห่มก็เอาของที่วัดมาใช้ ช่วยกันกางมุ้งคลอบที่นอนดีที่มุ้งมันใหญ่พอที่จะเอาทุกอย่างเข้ามาได้ พัดลมเก่าๆ เวลาเปิดมันก็จะดังแกรกๆ เหมือนจะระเบิดใส่อยู่ตลอดเวลา จัดมุ้งจัดที่นอนเรียบร้อยก็พากันนอนเล่นดูหนังในมือถือ และหนังที่ดูก็ไม่พ้นหนังผี ไม่รู้ไอ้คนตัวสูงมันคิดอะไรถึงได้เปิดหนังผีให้ไอ้เอ๋อมันดู

ไอ้เอ๋อมันชอบปะแป้งเย็นๆ ก่อนนอนตอนนี้มันเลยดูเหมือนหมูชุบแป้งทอดพอถึงเวลาปิดไฟหน้าขาวๆ ของมันก็จะลอยเด่นจนไอ้ต้าร์ผวาตกใจจนต้องรีบปิดหนังในมือ ไม่รู้ว่ามันไปทาเอาตอนไหน

“เชี้ยะเอ๋อ” ไอ้ตาร์มันร้องใส่

“คึคึคึ” คนไม่รู้เรื่องถึงกับขำออกมา

“ขำพ่อง กูตกใจเห็นไหมเนี่ยะ นอนๆ แล้วไม่ต้องเสือกหันหน้ามาทางกูละ” ไอ้ต้าร์มันสั่งเสียงเหี้ยมที่สั่งไม่ใช่เพราะหลอนอะไรหรอกมันกลัวใจตัวเองต่างหาก กลัวว่าจะเผลอทำอะไรไอ้เอ๋อเข้า แค่ได้นอนข้างๆ กันแบบนั้นใจมันพาลแต่จะสั่นไม่หยุด กว่าจะข่มตาหลับได้ก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน

5.00น.

ไอ้เอ๋อมันตื่นก่อนเพราะต้องตามหลวงตาไปบิณฑบาตแต่เช้า มันย่องออกจากมุ้งด้วยความงัวเงีย ลงไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วถือปิ่นโตกับย่ามเดินตามหลวงตาออกจากวัดไป

พอกลับมาไอ้ต้าร์มันก็ตื่นเต้มตาเก็บที่นอนหมอนมุ้งเรียบร้อย มันนั่งรอไอ้เอ๋อที่บันไดหน้ากุฏิ เห็นมาเดินตามหลวงตาต้อยๆ ในมือถือของพะรุงพะรังไปหมด มันเลยเดินไปช่วยไอ้เอ๋อจัดอาหารถวายพระด้วยเลย วันนี้ได้ไข่พะโล้มาสองถุงหวานไอ้เอ๋อมันละ ทั้งคู่รอจนหลวงตาฉันเสร็จก็ยกอาหารมานั่งกินรวมกับเด็กวัด

“โหยย พี่นะโม แบ่งผมบ้าง” ไอ้จ้อยร้องโหยหวนเมื่อไอ้เอ๋อเล่นตกไข่ใส่ชามก่อนครเพื่อน

“ไม่แบ่ง คึคึคึ” อย่างเดียวนี่และมั่งที่ทำให้มันกลายเป็นคนขี้หวง กลายเป็นคนตะกละตะกลาม กินไม่แบ่งแบบนี้

“มึงนี่นะ อะไอ้จ้อยเอาของพี่ไปกินจะได้ไม่ต้องไปแย่งมัน” ต้าร์มันเอาหมูสามชั้นชิ้นโตใส่จานให้ไอ้จ้อยเพื่อที่มันจะได้ไม่ไปแย่งไอ้เอ๋อ มื้อเช้าจึงผ่านไปด้วยดี กินเสร็จก็ต้องทำงาน ไอ้ต้าร์มันขัดพื้นให้ ส่วนไอ้เอ๋อมันก็ขัดบาตรของมันไป ขัดจนเปียกไปทั้งตัวจนโดนไอ้ต้ามันเอ็ดใส่ ก่อนจะพากันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

“วันนี้ไปไหนดีพี่ต้า ไปเล่นกันไหม?”

“เล่นอะไรละ ยังไม่หายดีมึงจะซ่าอีกแล้วหรอ” ไอ้ต้าร์มันบ่นใส่ แต่ในหัวก็คิดหาอะไรทำกับไอ้เอ๋อ ระหว่างรอไปเตะบอลตอนเย็น

“ตกปลา?”

“แดดร้อนปานนี้จะตกไงไหว เดี๋ยวได้เป็นลมเป็นแล้งไป”

“งั้น อืม งั้น เล่นน้ำ”

“ไข้พึ่งจะหาย เล่นไม่ได้”

“วู้วว อะไรๆ ก็ไม่ด้าย นะโมนอนเล่นนิ้วมือตัวเองก็ได้ ชิ”

“ไอ้เอ๋อออ กวนตีนละมึง งั้นมานอนดุหนังนี่ เมื่อคืนยังดูไม่จบ”

สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการหอบเอาเสื่อกับหมอนไปนอนดูหนังที่แคร่ใต้ต้นมะม่วง นอนดูหนังจนเผลอหลับกันไปทั้งคู่ ไอ้เอ๋อมันนอนดิ้น จนไอ้ต้าร์ต้องใช้ขาเกี่ยวเอวคอดๆ ของมันเอาไว้กันตกแคร่ เป็นอันว่าตอนนี้พวกมันสองคนนอนกอดกันกลมดิ๊กแข็งขาพันกันไปหมด

++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณคร๊าฟฟฟสำหรับทุกความเอ็นดูที่มีให้น้องนะโม หรือไอ้เอ๋อ ของเราและรวมถึงตัวคนแต่งด้วย หายไอแล้วนะคะ ตอนนี้ยกให้พี่ต้าร์เขาไป ถึงจะไม่มีโมเม้นต์หวานๆแต่ยังมีความฮาของน้องอยู่บ้าง พี่ต้าร์เค้ารักในแบบดิบๆเถื่อนๆตามสไตร์เด็กช่าง เนอะๆ



หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: A_bookworm ที่ 08-03-2018 09:16:42
 :hao5: :hao5:ทำไมเค้ากดบวกเป็ดให้ไม่ได้อ่าาาาา   :impress2: :impress2: :impress2:ชอบต้าร์มากกว่าพี่หมอสิงห์ ดูแล้วลูกพี่ต้าร์ไม่ค่อยลวนลามน้อง ถึงอยากแต่ไม่กล้าไง  :hao6: :hao6: แต่ดูๆแล้วคู่ของลูกพี่ต้าร์นี่หมอไม้เมืองน่าจะไม่ธรรมดา  :hao3: :hao3: รอๆๆตอนต่อไป เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์จร้าาา
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 08-03-2018 09:20:07
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 08-03-2018 10:25:07
ตอนนี้อยากให้ต้าร์เป็นพระเอกจุงเบย แต่ดูกลิ่น เหมือนต้าร์จะคู่หมออะเปล่าค๊าาา
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 08-03-2018 11:47:00
ถ้าพีสิงห์มาเห็นสภาพการนอน
แบบนีได้หึงจนรีบหาวิธีเอานะโม
มาเร็วขึ้นแน่
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 08-03-2018 17:44:32
 o13 รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-03-2018 03:57:06
เอ๋อน่าเอ็นดูมาก ๆ เลย  :กอด1:

ปล. +เป็ดไม่ได้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นที่ระบบหรือเปล่า แต่ก็เห็นคะแนน + เป็ดคนที่อ่านก่อนหน้านะ แต่พอเรากดมันไม่ขึ้นอ่ะ  :z3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 10-03-2018 05:15:45
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 8/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 10-03-2018 08:16:19
พี่ต้ามีคู่แล้ว เชียร์หมอไม้ อิอิ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.07 28/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 28-03-2018 23:49:02
 



07

มันจะมีอะไรเหนื่อยไปกว่าการคุยกับไอ้เอ๋อไปได้อีก เหนื่อย! เหนื่อย! ในใจของไอ้ต้าร์มันกรีดร้องออกมาอย่างหนัก ทั้งที่มันควรจะเข้าใจไอ้เอ๋อมากกว่าใคร แต่ครั้งนี้มันเหนื่อยจริงๆ

“ไอ้เอ๋อ กูบอกว่าให้ใช้ขาเตะไม่ใช่ ใช้มือจับลูกแล้ววิ่ง! ” เสียงตะโกนรอบที่สิบของไอ้ต้าร์ดังลั่นสนามบอลที่ลานอเนกประสงค์ประจำหมู่บ้าน ไอ้เอ๋อใส่เสื้อยืดย้วยๆ ตัวเก่งกับกางเกงบอลสีเข้มหลวมๆ รัดด้วยเชือกฟางที่ไอ้ต้าร์มันบันจงมัดให้อย่างดี รวมถึงผมที่มัดเป็นจุกอยู่ด้านหน้า เหตุเพราะมันยาวลงมาปิดยังสายตา แต่ดูเหมือนไอ้ต้าร์มันจะคิดผิด เพราะตั้งแต่ไอ้เอ๋อมันก้าวเท้าเข้ามาที่สนามเสียงโห่ร้องแซวมันก็ดังขึ้นติดๆ จนไอ้คนที่มัดจุกให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันตา (//มองเหี้ยอะไรนักหนา เดี๊ยวก็ควักลูกตาแมร่ง//) ไอ้ต้าร์มันได้แต่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะใส่เพื่อนๆ อย่างคนที่ทำอะไรมากไม่ได้ แถมตอนนี้ไอ้เอ๋อมันก็รู้จักอาบน้ำเช้าเย็นไม่ทำตัวมอมแมมแบบเมื่อก่อนแล้ว เรียกได้ว่าเหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทอง มันเผยเนื้อแท้ออกมาจนทุกคนตะลึง และคนที่บอกที่สอนให้มันทำตัวสะอาดๆ ก็ไม่ใช่ใคร พี่จ๋าของมันนั่นแหละ เชื่อฟังกันดีจนไอ้ต้าร์มันนึกหมั่นไส้

“อ้าววว หรอ แฮะๆ” มันยืนเกาหัวอยู่กลางสนามพร้อมกับหัวเราะออกมาแบบเขินๆ ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่ให้มันเล่นด้วย

“วางลูกลงสิวะ! แล้วใช้ขาเตะมันส่งมาให้กู” เสียงของต้าร์สั่งกำกับไอ้เอ๋อไม่หยุด ทุกๆ คนในทีมดูเหมือนเห็นเป็นเรื่องสนุก ทุกคนขำ ทุกคนหัวเราะ ไม่ได้แสดงท่าทีลำคานแต่อย่างใด บางคนช่วยสอนบางคนก็ช่วยด่า วันนี้ถือว่าเป็นการเล่นฟุตบอลที่เหนื่อยที่สุดทีเคยเล่นมา แต่ก็สนุกกว่าวันไหนๆ เล่นกันจนมืดตะวันตกดิน ไอ้ต้าร์ก็พาไอ้เอ๋อกลับวัด อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยก็พากันหาข้าวกิน ก็ข้าวจากงานศพลุงชานั่นแหละอิ่มอร่อยไปสามมื้อไม่เสียตังสักบาท เพราะสำนึกในบุญคุณ วันนี้พวกมันทั้งสองคนเลยอยู่ช่วยงานศพลุงชาเป็นการตอบแทน ทั้งเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟอาหารเป็นการทดแทน ไอ้เอ๋อมันทำได้ดีเพราะมันทำบ่อย มันชอบที่จะช่วยเหลือคนอื่นๆ เสมอ เวลาสี่ทุ่มหลังจากล้างจานเสร็จก็พากันกลับกุฏิ อาบน้ำอีกรอบเพราะเหนียวเหงื่อไคก่อนจะเตรียมตัวเข้านอน พวกเขาเหนื่อยจนไม่กางมุ้งนอนด้วยซ้ำ ไอ้เอ๋อมันไม่ลืมที่จะประแป้งหน้าขาวแล้วนอนลงข้างๆ ลูกพี่ของมันด้วยความอ่อนล้า

“พี่ต้าร์ พรุ่งนี้เราไปตกปลากันมะ” มันเอ่ยชวนลูกพี่ของมันด้วยเสียงยานๆ จะหลับแหล่มิหลับแหล่มันพลิกกายหันหลังไปกอดหมอนข้างแล้วเอามือล้วงเข้าไปในกางเกงเพื่อเกาตูด มันละเมอยิ้มออกมานิดๆ

“ = = พรุ่งนี้กูไปเรียน เอาไว้วันไหนกูมีเรียนแค่ภาคเช้ากูจะพาไป” เสียงทุ้มติดเก๊กนิดๆ เอ่ยตอบมันแต่ไอ้ต้ากลับไม่ได้ยินเสียงใดๆ ตอบกลับมา มีแต่เสียงที่ฟังแล้วชวนให้มันหงุดหงิด

“คร๊อกกกก ฟี้ คร๊อกกกฟี้” นี่มันไม่ได้ฟังคำตอบของไอ้ต้าร์สักนิดถามจบก็หลับเลย ไอ้ต้าร์มันยกมือจะเขกหัวไอ้เอ๋อ โทษฐานหลับตอนที่มันกำลังพูด แต่ทว่ามือที่มันยกกลับไม่ได้ฟาดลงไปแต่อย่างใด มันกลับใช้ความรู้สึกทั้งหมดของมันมองไปที่ไอ้เอ๋อ สายตาของมันบ่งบอกทุกอย่างว่ามันรู้สึกยังไงกับไอ้เอ๋อ ไอ้ต้าร์ค่อยๆ ลดมือลงและลูบหัวของไอ้เอ๋อเบาๆ มันใช้มือข้างหนึ่งเกลี่ยปอยผมให้พ้นใบหน้า ก่อนจะค่อยๆ ยื่นใบหน้าหล่อๆ ของมันเข้าใกล้ใบหน้าหวานๆ ของไอ้เอ๋อ...อีกนิด....อีกนิด..ก่อนที่ริมฝีปากจะประทับลงบนริมฝีปากอีกคนอย่างแผ่วเบา มันถอนตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ

“กูชอบมึงนะ ไอ้เอ๋อ” ไอ้ต้าร์บอกความในใจออกไปแล้วแต่คนหลับมันไม่ได้ยินหรือรู้สึกอะไรหรอก เพราะว่าคนที่มันบอกหลับสนิทไปนานแล้วปล่อยให้มันนอนใจเต้นแรงอยู่คนเดียวจนเกือบค่อนคืน

.

สามวันแล้วที่ไอ้เอ๋อมันไม่เจอพี่จ๋าของมัน ตาก็คอยมองหูก็คอยฟังว่าเสียงมอเตอร์ไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เมื่อไหร่จะแล่นเข้ามา มันนั่งซักผ้าอยู่ที่หลังกุฏิ มือเล็กๆ ขยำจีวรของหลวงตากับน้ำแฟป ไอ้เอ๋อมันชอบฟองเยอะๆ มันเลยใส่แฟบไปหมดถุง จนโดนหลวงตาดุบ่อยๆ เพราะมันล้างแฟบออกไม่หมด

วันนี้มันก็ทำเหมือนเดิม ฟองท่วมหัวท่วมหูมันไปหมด มันเอาฟองที่ตั้งเป็นยอดวางไว้บนหัว แตะไว้ที่แก้มทั้งสองดูตลกๆ แต่มันชอบ กว่าจะซักเสร็จก็เปียกเหมือนมันอาบน้ำ ไอ้เอ๋อเอาจีวรหลวงตากับเสื้อผ้าของมันไปตากที่ราวลวดที่ทำจากลำไม้ไผ่ตอกเป็นเสาสี่ด้านแล้วขึงลวดรอบด้านมันค่อยๆ ตากอย่างบันจงจนครบทุกตัว

บรื้นๆ เสียงรถดังคุ้นหูแล่นเข้ามาจอดที่ลานหน้ากุฏิ ไอ้เอ๋อมันทิ้งกะละมังที่กำลังจะแขวนเก็บลงกับพื้นแล้ววิ่งไปหน้ากุฏิทันที

“พี่จ๋า...^0^” มันโผเข้ากอดสิงห์ทันที

“หึหึ ทำอะไรอยู่ครับ ถึงได้เปียกแบบนี้หืมมม” สิงห์ดันไอ้เอ๋อแล้วมองสำรวจ

“ซักผ้า” มันตอบเสียงใส

“ซักผ้าหรือเล่นน้ำครับ ดูสิฟองเต็มหัวเลย” สิงห์ใช่มือปัดฟองออกจากหัวของไอ้เอ๋อ

“คึคึ พี่จ๋ามาทำไร” ไอ้เอ๋อมันไม่ได้สนใจสิ่งที่สิงห์ถามสักนิดมันอยากรู้ว่าพี่จ๋าของมันมาทำอะไร มาหามันรึเปล่าเท่านั้นเอง ใบหน้าหวานๆ ของไอ้เอ๋อเอียงไปเอียงมา

“มาหานะโมไง พี่คิดถึง^^”

“นะโมก็คิดถึง><” เป็นคำตอบที่ถูกใจมันมาก มันส่งยิ้มซื่อๆ ไปให้อีกคน สิงห์จับเสื้อผ้าเปียกๆ ของมันแล้วทำหน้าดุๆ แต่น้ำเสียงกลับอ่อนโยนแสดงถึงความเป็นห่วง

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่ารับ เดี๋ยวจะไม่สบายเอาอีก”

“อื้อ” รับคำก็วิ่งหายไปหลังกุฏิ กลับมาอีกทีมันก็เปลี่ยนเสื้อผ้ามาเรียบร้อย

วันนี้สิงห์ตั้งใจจะพาไอ้เอ๋อมันไปดูบ้านที่เขาพึ่งจะรีโนเวจเสร็จ กะให้มันไปทำความคุ้นเคยเอาไว้ เขาเลยจะมาคุยกับหลวงตาเรื่องจะจ้างไอ้เอ๋อมันทำความสะอาดบ้านพักอาทิตย์ละห้าวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เขาจูงไอ้เอ๋อขึ้นไปหาหลวงตาที่โบถ

“อ่าวโยมสิงห์ มีธุระอะไรรึเปล่า” หลวงตาเอ่ยทักเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินมากับไอ้เอ๋อ

“นมัสการครับหลวงตา^^” สิงห์ตอบเสียงสุภาพพร้อมกับยกมือไหว้

“มีเรื่องอะไรรึเปล่าโยม ถึงได้มาหาอาตมาถึงที่นี่” หลวงตามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ ไอ้เอ๋อ อย่างพิจารณา หลวงตาเองก็พอจะรู้ว่าสิงห์มาด้วยเรื่องอะไร เขาพอคิดไว้บ้างแล้วถึงเรื่องของไอ้เอ๋อ

“พอดีว่าผมจะมาขอหลวงตา เรื่องนะโมนะครับ” เป็นดั่งที่หลวงตาคิด หลวงตาบัวหน้าตึงขึ้นมานิดๆ

“เรื่อง?”

“ผมจะจ้างนะโมไปทำความสะอาดบ้านนะครับ”

“.....”

“ผมจะจ้างน้องเดือนละ หนึ่งหมื่นแปดพันบาท รวมถึงค่าที่อยู่และค่ากิน” สิงห์เว้นจังหวะหลวงตากำลังคิด เงินก็ไม่ใช่น้อยๆ ถ้านะโมมันมีเงินเก็บบ้างเขาก็พอจะเบาใจ แต่พอมาคิดๆ ดูทำทุกวันแบบนี้นะโมไม่ต้องไปอยู่กับสิงห์หรอกหรือ? จะไว้ใจได้ไหม? กับผู้ชายที่แค่เอ็นดูนะโม หลวงตาคิด

“หมายความว่านะโมต้องไปอยู่กับโยมที่บ้านด้วยอย่างนั้นเหรอ?” สีหน้าหลวงตาดูจะตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าสิงห์จะใช้วิธีนี้เพื่อหว่านล้อมตน

“ครับ อีกอย่าง ผมมีเพื่อนที่เป็นหมอเฉพาะทางเกี่ยวกับอาการของนะโม ผมจะรักษาน้องควบคู่ไปด้วยหลวงพ่อคิดเห็นว่ายังไงครับถ้าผมจะพานะโมไปอยู่ด้วย” สิงห์ยิ้มด้วยรอยยิ้มการค้าอย่างเต็มที่

“เอาอย่างนี้ละกันนะโยมสิงห์ อาตมาคงต้องถามความสมัคใจของนะโมก่อน เรื่องแบบนี้อาตมาบังคับนะโมมันไม่ได้หรอก” หลวงตาแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะข้อเสนอที่จะรักษานะโมมันทำให้หลวงตาเริ่มใจอ่อน สิงห์จับสีหน้าของหลวงตาได้เขาจึงเริ่มเพิ่มข้อเสนอให้อีก

“ถ้าหลวงตาให้น้องไปอยู่กับผม น้องจะได้เรียนหนังสือ ผมจะให้น้องลงเรียนศึกษาผู้ใหญ่แล้วสอบเทียบเอา ผมจะส่งน้องเรียน”

“แต่ไอ้เอ๋อมันไม่มีหัวทางด้านเรียนหรอกนะโยม” หลวงตาพูดด้วยน้ำเสียงติดกังวล

“แต่น้องก็เรียนจบ ม.3ไม่ใช่เหรอครับ? ผมมั่นใจว่าน้องทำได้”

“ก็พึ่งจะจบเมื่อตอนอายุ18นี่เอง ยากนะโยมที่จะเข็นนะโมมันขึ้นภูเขา” หลวงตาบัวถอนหายใจหนักๆ

“ไม่มีอะไรสายเกินเรียนหรอกครับหลวงตา ขอแค่น้องมีโอกาส”

“อะ ...เอ่ออ คืออ พี่จ๋า ปะปล่อยมือนะโมหน่อย” ใช่ตั้งแต่เดินมาที่โบถ์สิงห์ยังไม่ได้ปล่อยมือไอ้เอ๋อมันเลย มือเล็กๆ พยายามจะบิดออกแต่สิงห์ไม่ยอมปล่อย หันมาอีกทีก็เห็นไอ้เอ๋อมันยืนบิดไปมาท่าทางพิกล

“เป็นอะไรของเอ็ง ห๊ะนะโม” หลวงตาเอ่ยถาม

“ฉะ ...ฉี่ หนู ปวดฉี่ อร๊ายยย จะไม่ไหวแล้ว พี่จ๋าปล่อยหนูก่อน” ไอ้เอ๋อแทบจะกรีดร้องออกมา มันเอามือกุมไข่เอาไว้ พร้อมกับทำหน้าทรมาน

“เอ้า แล้วก็ไม่บอก” สิงห์รีบปล่อยมือ พอเป็นอิสระไอ้เอ๋อมันก็รีบวิ่งหายไปเลย ส่วนสิงห์ก็ยืนรอคำตอบจากหลวงตาไปด้วย

หลังจากเข้าห้องไอ้เอ๋อมันเดินกลับมา กางเกงที่ใส่เปียกนิดๆ แสดงว่ามันเกือบไปเข้าห้องน้ำไม่ทัน ไอ้เอ๋อมันยิ้มแห้งๆ พร้อมกับกำเป้ากางเกงชื้นๆ ของมัน

“หนู ถอดกางเกงไม่ทันมันเลย..งือออ” แก้มป่องๆ ของมันขึ้นสีแดง มันคงจะอายที่ฉี่รดกางเกงแบบนั้น สิงห์แกล้งทำสายตาล้อๆ

“งื้ออออ พี่จ๋าล้อนะโมT^T”

“หึหึ ไม่ได้ล้อครับ” สิงห์อมยิ้มกลั้นขำเอาไว้

“โกหก ก็เห็นว่ายิ้มล้ออยู่คิดว่านะโมโง่รึไงเชอะ-3- “

“อย่าพึ่งโกรธ สิ ^^ พี่มีอะไรจะถามเรา”

“หึ-3- มีอะไรละครับ” มันพูดด้วยเสียงที่ขึ้นจมูก (มีความพัฒนาด้านอารมณ์เหมือนกันนะไอ้เอ๋อ)

“เราสนใจไปทำงานที่บ้านพี่ไหม”

“ทำงาน เหรอ ทำๆ ได้ตังค์ไหม ผมอยากได้ตังเยอะๆ มาให้หลวงตากับน้องๆ” มันยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

“หลวงตาจ๋าให้หนูทำนะ หนูอยากทำ น้า น้า ให้หนูทำนะ” มันอ้อนตาใสหลวงตาอึกอัก ตอบไม่ถูก

“เอาเป็นว่าตกนะครับหลวงตา น้องตอบแบบนี้” สิงห์ยิ้ม ผิดกับอีกคนที่ทำหน้าเครียดๆ เหมือนกับว่าตนเองทำอะไรไม่ได้แล้วอย่างนั้น

“แล้วแต่โยมเถอะ อาตมาคงค้านอะไรไม่ได้ในเมื่อนะโมมันอยากทำ” พอได้ยินคำตอบสิงห์ก็ยิ้มกว้างออกมา

“เย้ๆ แล้วได้ตังเท่าไหร่ หรอ 50 บาทหรอ หรือ100นะโมทำได้หมดเลยนะทั้งกวาดบ้าน ตัดหญ้า ขุดหลุม เลี้ยงน้อง นะโมทำได้หมดเลย” มันกระตือรือร้นเสนองานที่ตนเองเคยทำและจำนวนเงินที่เขากดขี่มัน คนฟังพอได้ยินก็รู้สึกหดหู่ในใจ สิงห์หันไปยิ้มเอ็นดู ส่วนหลวงตาก็ได้แต่ถอนหายใจ เขาจะลองวัดใจกับสิงห์ดูสักตั้ง เพื่ออนาคตที่ดีของคนที่เขารักมากที่สุด เขาจะยอมเสี่ยงดู

“ได้มากกว่านั้นครับ”

“เหรอ มากพอจะซื้อขนมเลี้ยงน้องได้ไหม *0* “ไอ้เอ๋อตาวาวขึ้นมาทันที

“ได้ครับ^^”

“งั้นทำเลย ปะ พี่จ๋า พานะโมไปทำงานเลยนะๆ”

“ใจเย็นครับ เดี๋ยวได้ทำแน่ๆ ^^ เดี๋ยวพี่พาเราไปดูบ้านนะครับ” สิงห์โอบไหล่นะโมไว้หลวมๆ

“โยมคิดดีแล้วใช่ไหม การที่โยมทำแบบนี้โยมจะไม่นึกเสียใจทีหลังใช่ไหม โยมจะไม่ทิ้ง เขา จะไม่ทำร้ายเขาเมื่อทำอะไรที่ผิดพลาด นะโมไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ โยมเข้าใจใช่ไหม?” หลวงตาบัวจ้องลึกเข้าไปยังดวงตาสีเข้ม

“ครับผมเข้าใจดี หลวงตาไม่ต้องห่วง ผมเอาสัญญาการจ้างงานมาด้วยหลวงตาจะได้สบายใจ นี่ครับเอกสาร” สิงห์หยิบเอกสารการจ้างงานออกจากแฟ้มที่ถือติดมือมาด้วย ยื่นให้หลวงตาอ่านรายละเอียดต่างๆ ในสัญญา

“พร้อมเซ็นเมื่อไหร่ก็บอกผมนะครับ ผมขอตัวพานะโมไปดูบ้านก่อนนะครับ”

“ไปเถอะ ฝากนะโมมันด้วยละกัน” หลวงตามองตามแผ่นหลังของทั้งคู่ที่เดินออกไปด้วยความกังวลใจ เขาไม่ได้ห่วงเรื่องเงินแต่เขาห่วงเรื่องอื่นมากกว่า

“จะรอดไหมนะโมเอ้ยยย เห้อ”

หลังจากบาหลวงตา สิงห์ก็พานะโมมาที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านที่พอเห็นแล้วนะดมถึงกับร้องว้าวๆ พร้อมกับตบมือ

“บ้านที่ผมมาถอนหญ้า พี่จ๋าจะให้นะโมมาถอนหญ้าเหรอ ได้ๆ” ไอ้เอ๋อมันตั้งท่าจะถอนหญ้าที่สั้นโกร๋นอยู่แล้วอย่างเดียวมันถลกแขนเสื้อขึ้น

“ไม่ใช่ครับ พี่ไม่ได้พาเรามาถอนหญ้า พี่พาเรามาดูบ้านของเราไง” สิงห์รู้สึกใจเต้นแรงนิดเวลาพูดคำว่าบ้านของเรา นี่เขาท่าจะบ้ามากเกินไปแล้ว ใจมันสั่นไปหมด ร่างสูงกำมือนิ่มเอาไว้แล้วจูงขึ้นบันได บ้านทรงไทยประยุกต์ที่รีโนเวทใหม่หมด ด้านในตกแต่งแบบเน้นงานไม้และลายไม้เป็นส่วนใหญ่รวมถึงเฟอร์นิเจอร์เองก็ด้วย ไอ้เอ๋อมันร้องว้าวตลอดการเดินชมบ้าน มันชอบของสวยๆ งามๆ เป็นทุนเดิมอยู่พอได้มาเห็นอะไรแบบนี้แล้วก็ยิ่งอยากมาทุกวัน

“ชอบไหม ด้านหลังมีสระน้ำด้วยนะ”

“สระน้ำ เล่นน้ำเหรอ”

“หึหึ ดูทำหน้าเข้าสิ พี่จ้างมาทำงานนะครับไม่ใช้จ้างมาเล่น” สิงห์ยกมือเขกหัวไอ้เอ๋อมันเบาๆ

“อร๊ายยย เจ็บนะ”

“เจ็บเหรอ นี่แหละ เด็กดื้อ” สิงห์เขกหัวไอ้เอ๋อมันอีกครั้งด้วยความหมั่นไส้ในน้ำเสียงของไอ้เอ๋อ

“หนูไม่ดื้อนะ ไม่ดื้อ” ไอ้เอ๋อหัวเราะคิกคักปฏิเสธเสียงหวาน

“หึหึหึ นะโมอยากมาอยู่ที่นี่กับพี่ไหมครับ” สิงห์จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของไอ้เอ๋อ

“อยู่ที่นี่เหรอ*0*” เหมือนมันจะดีใจแค่แวบเดียวหน้ามันก็หุบลงเหมือนดอกไม้เหี่ยว จนสิงห์อดที่จะสงสัยไม่ได้

“เป็นอะไรครับ? ทำไมทำหน้าแบบนั้นละ”

“ก็ถ้ามาอยู่ที่นี่ใครจะดูแลหลวงตาละจ้ะพี่จ๋า” ไอ่เอ๋อยังห่วงหลวงตาอยู่

“เอ่อเรื่องนั้น”

“ถ้าหนูมาอยู่ที่นี่หนูก็จะได้เงินเอาไปให้หลวงตากับน้องๆ ฮรืออออ คิดไม่ออกเลย หนูคิดไม่ออกอะT^T” ไอ้เอ๋อมันกัดปากตัวเอง เพราะความสคิดที่สับสนสองจิตสองใจห่วงหลวงตาก็ห่วงอยากได้เงินก็อยาก สิงห์เห็นท่าทางสับสนของไอ้เอ๋อก็อมยิ้มขำ

“อยู่กับพี่จ๋านี่แหละดีแล้ว เราจะได้มีเงินซื้อขนมให้น้องมีเงินพาหลวงตาไปหาหมอไง ที่วัดก็มีน้องๆ ดูแลหลวงตาอยู่นะโมไม่ต้องห่วงนะ” สิงห์โน้มน้าวให้ไอ้เอ๋อมันคล้อยตามได้อย่างง่ายดายเมื่อใบหน้าหวานหยดของมันพยักขึ้นลงอย่างช้าๆ

“ถ้าอย่างนั้นเราไปดูห้องของนะโมกันดีกว่าเนอะ” สิงห์จูงร่างบางให้เดินไปที่ห้องข้างๆ ห้องของตนเอง เขาเปิดประตูไม้บานพับแบบโบราณโดยพับไปด้านหนึ่ง สิ่งแรกที่ไอ้เอ๋อมันเห็นคือเตียงไม้สี่เสา มีโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า ทีวีจอใหญ่บนผนังไม้เครื่องปรับอากาศ ที่ไอ้เอ๋อมันไม่เคยได้สัมผัสความหนาวจากมัน ดวงตากลมลุกวาวด้วยความรู้สึกตื่นเต้น มันปล่อยมือพี่จ๋าของมันแล้ววิ่งวนไปมารอบๆ ห้อง

“ห้องหนูเหรอ นี่ห้องของหนู” สิงห์พยักหน้ารับ

“ว้าววววววว*0*” ไอ้เอ๋อตื่นเต้นจนแสดงออกมาทางสีหน้า มันเป็นคนที่ดูออกง่ายมากว่าคิดอะไรอยู่

“ชอบไหมครับ?”

“ง่าส์ หนูไม่เคยใช้ หนูไม่รู้หรอกจ้ะว่าชอบหรือเปล่า^-^” ไอ้เอ๋อมันตอบซื่อๆ รอยยิ้มของมันเหมือนน้ำเย็นที่คอยหล่อหลอมหัวใจคนมอง สิงห์ยิ้มละมุนเขาไม่คิดว่าเขาจะยิ้มให้กับเด็กคนหนึ่งซึ่งไม่มีอะไรตรงสเปคเขาสักอย่างแถมยังเป็นออทิสติกอีก แต่ไอ่เอ๋อกลับทำให้เขาหยุดนิ่งอยู่กับที่ได้โดยง่าย เพียงแค่มันยิ้ม....

หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.06 28/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 28-03-2018 23:49:23
(สิงห์พาท)

ผมเป็นหมอสัตว์ซึ่งทุกคนอาจจะรู้จักผมแล้ว แต่ถ้าอยากรู้เรื่องราวของผมมากขึ้นก็แค่อดใจรอ ใครๆ ก็บอกว่าผมนะหล่อ รวย นิสัยดี อบอุ่น และดูเป็นมิตรกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ครับผมไม่เถียง แต่ใครๆ คงลืมไปว่าเนื้อแท้ของคนแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน อ่า อย่าพึ่งคิดว่าผมนี่ต้องแอบร้ายนะครับ ผมไม่ได้ร้ายโดยสันดาน แต่ผมจะร้ายเมื่อผมอยากจะร้ายเท่านั้น ผมเป็นหนุ่มโสดแต่ไม่ซิง เป็นที่รู้กันในหมู่แก๊งอเวนเจอร์ โดยที่เหล่าบรรดาสาวแท้สาวเทียมเป็นคนตั้งให้ หึหึหึ แค่ชื่อแก๊งก็น่าจะรู้นะครับว่ามันเป็นยังไง ผมไม่เคยเชื่อในรักแท้ ไม่ศรัทธาในความรักบริสุทธิ์ เพราะคนบางคนทำให้ผมรู้สึกแบบนั้น เธอทำลายความเชื่อของผมไปจนหมด ตั้งแต่นั้นมาผมก็เย็นชากับทุกๆ คนที่เข้ามาหาผม จนกระทั่ง ผมได้สบตากับดวงตาคู่หนึ่ง ดวงตาที่มีแต่ความใสซื่อและความบริสุทธิ์ในนั้น

“น้องไม่ปรกติ” นั่นคือสิ่งที่ผมได้รับรู้น้องเป็นออทิสติก ที่สมองพัฒนาช้ากว่าเด็กทั่วไปแม้ร่างกายจะเติบโตแต่สมองน้องก็ไม่ได้พัฒนาทันร่างกาย จากการที่ได้สอบถามพูดคุยกับตำรวจและหลวงตาที่เลี้ยงดูน้องมา น้องเป็นเด็กที่น่าสงสาร น้องเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่เกิดแถมร่างกายยังไม่สมบูรณ์อีก นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกสงสารน้องมากๆ และอยากจะรับน้องมาอุปการะ อยากเลี้ยงดูน้องให้มีชีวิตที่ดีกว่านี้ จากแรกๆ แค่สงสารแต่ตอนนี้เริ่มจะสงสัยในตัวเองว่า ผมอาจจะหลงเด็กคนนี้แล้วก็ได้ เพราะไม่ว่าน้องจะทำอะไรหรือพูดอะไรผมจะสนอกสนใจน้องมากกว่าคนอื่นใจอยากแต่จะไปหาน้อง แบบนี้ไม่ให้เรียกว่าหลงแล้วจะให้เรียกว่าอะไร ผมไม่เคยพยายามทำอะไรมากมายขนาดนี้ ผมไม่เคยขอร้องใคร แต่กับน้องผมถึงขั้นหาวิถีทางเพื่อที่จะได้น้องมาอยู่ใกล้ๆ

“พี่จ๋า นี่ประตูอะไรหรอ” น้องเดินไปที่ประตูบานหนึ่ง ประตูที่เชื่อมไปยังห้องของผม

“ประตูวิเศษ” ผมตอบน้อง น้องมองหน้าผมด้วยความไม่เข้าใจ

“วิเศษเหรอ?”

“ครับ เวลานะโมกลัว นะโมหิว หรืออยากเจอพี่ นะโมก็แค่เปิดประตู” ผมยิ้มอ่อน

“*0*”

“หึหึหึ” นี่ผมไม่ได้โกหกน้องนะ

... (จบพาทสิงห์) ...

ในรสหวานละมุนมักจะซ่อนรสขมไว้เสมอ สิงห์ยิ้มอย่างพอใจเขาเดินไปเปิดประตูบานนั้นเผยให้เห็นว่ามีห้องนอนอยู่อีกด้านห้องที่ดูเรียบหรูดูแพงกว่าห้องของไอ้เอ๋อหลายเท่า แถมยังดูเท่กว่าอีก ไอ้เอ๋อมันมองอย่างอึ้งๆ มันชอบกลิ่นเมนต์ทอลและกลิ่นหอมภายในห้องของสิงห์ มันชวนให้หลงใหลอย่างที่มันไม่เคยเจอและไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“หอมอะไร” มันพยายามใช้จมูกเล็กๆ ของมันดมหาต้นตอของกลิ่นโดยที่มีสิงห์ยืนกอดอกมองนิ่งๆ ว่ามันจะทำอะไร ไอ้เอ๋อมันเดินดมกลิ่นไปทั่วห้องจนกระทั่ง

ปึก..จมูกของมันชนเข้ากับแผงอกกว้างกลิ่นที่มันพยายามหาอยู่ตรงหน้านี้แล้วไอ้เอ๋อมันสูดกลิ่นกายหอมๆ ของสิงห์เข้าเต็มปอดมันใช้จมูกถูไปมาเหมือนลูกแมวเชื่องๆ

“อยู่ตรงนี้นี่เอง” ไอ้เอ๋อมันพึมพำของมันไปโดยไม่รู้ว่าเลยว่าไอ้คนตัวสูงๆ ที่มันกำลังเอาหน้าถูอกอยู่นั้นรู้สึกใจเต้นแรงขนาดไหน สองมือของสิงห์กำแน่นอย่างอดกลั้น

“กลิ่นน้ำหอมพี่เอง เราชอบเหรอ” แม้ว่าเสียงของเขาจะสั่นเล็กน้อยตาก็ยังควบคุมได้ดี

“ชอบจ้ะ” มันตอบด้วยแววตาใสซื่อจนสิงห์แทบจะลบความคิดอกุศลออกไปจากหัวไม่ได้ ดังนั้นเขาต้องเลี่ยงสถานการณ์แบบนี้ ดดยการเปลี่ยนเรื่องให้ไวที่สุด

“เอ่อ หิวหรือยังเดี๋ยวพี่พาไปหาอะไรกิน แล้วตอนเย็นเราไปขนของมาไว้ที่บ้านเรากันนะครับ” เย็นไว้ไอ้สิงห์นั่นน้อง น้องที่มึงจะต้องดูแล !!!

“อื้อ หนูหิวแล้ว” มันลูบท้องแบนราบของมันไปด้วย สิงห์พาไอ้เอ๋อไปกินข้าวในตลาด กินร้านตามสั่งเจ้าประจำ ไอ้เอ๋อมันไม่เคยกินหรอกเพราะมันไม่ค่อยมีเงินที่จะซื้อ ข้าวที่กินแต่ละมื้อก็มาจากข้าวก้นบาตรของที่วัด มันเลยรู้สึกประหม่านิดๆ

“นะโมอยากกินอะไรครับ” สิงห์เอ่ยถามหลังจากตักน้ำในกระติกใบใหญ่มาสองแก้วเพราะร้านข้างทางต้องบริการตนเอง มันมองไปรอบๆ ร้านจนสายตามันหยุดอยู่ที่ป้ายเมนูอาหารมันรู้ว่าต้องสั่งจากป้ายใหญ่ๆ ป้ายนั้น แต่มันอ่านหนังสือได้ช้าบวกกับความประหม่า ไอ้เอ๋อก็เลยพูดติดอ่างขึ้นมาซะอย่างนั้น

“อะ เอ่ออ ผะ ผัด...กะ กะ เพรา หมูกรอบจ้ะ เห้ออ” กว่าจะอ่านได้พี่จ๋าของมันลุ้นแทบตายพออ่านเสร็จมันก็พ่นลมหายใจออกมาดังฟู่พร้อมกับยู่หน้านิดๆ อย่างไม่ชอบใจตัวเองที่ทำอะไรน่าอายอีกแล้ว สิงห์เห็นเข้าพอดีจึงแอบอมยิ้ม

“ผมเอาผัดพริกแกงไก่ไข่ดาวครับ” สิงห์สั่งของตนเองบ้าง เขามองหน้าไอ้เอ๋อที่เริ่มนั่งยุกๆ ยิกๆ

“เป็นอะไรครับ”

“หนูปวดฉี่” พอได้ยินสิงห์ก็รีบลุกแล้วพาไอ้เอ๋อมันไปเข้าห้องน้ำทันที เกือบไม่ทันแบบเมื่อเช้าเสียแล้ว

หลังจากเข้าห้องน้ำสิงห์สอนให้ไอ้เอ๋อมันล้างมือให้สะอาดทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำหรือจะกินอาหารโดยค่อยอธิบายว่าถ้าไม่ล้างเชื้อโรคจะเข้ามาทำร้ายทำให้ไอ้เอ๋อป่วยและหมอจะฉีดยา ไอ้เอ๋อมันรีบเข้าใจทันทีเพราะมันไม่ชอบฉีดยา หลังจากนั้นก็พากันกลับมาที่โต๊ะ ที่ตอนนี้มีเด็กช่างนั่งอยู่เต็มร้าน และหนึ่งในนั้นก็มีไอ้พี่ต้าของไอ้เอ๋อนั่งรวมอยู่ด้วย สิงห์มองเห็นตั้งแต่แรกแต่ไอ้เอ๋อยังไม่เห็น ไอ้เอ๋อมันตกใจนิดๆ ที่จู่ๆ คนก็เยอะมากขึ้น แถมมีแต่เด็กผู้ชายหน้าตาโหดๆ ทั้งนั้น มันเลยเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ไอ้ต้าร์มันมองเบ้จิปาถะของมันด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะหันไปปะทะสายตากับสิงห์ คนที่อายุมากกว่ายกยิ้มมุมปากพลางนั่งเอนหลังกอดอกอย่างสบายๆ แต่สายตากลับกำลังฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตายกับอีกคน จนเสียงๆ หนึ่งดังขัด

“อ่าวพี่สิงห์ น้องนะโม” เสียงห้าวๆ ของหมอหนุ่มนามไม้เมืองดังขึ้นท่ามกลางเสียโหวกเหวกของเด็กช่างที่พากันมากินมื้อกลางวันที่นี่ เหมือนฟ้าจงใจให้หมอหนุ่มมาเจอกับเด็กช่างตัวแสบที่ร้านนี้ มีสายตาหลายคู่มองผู้มาใหม่พร้อมกับมองเพื่อนตัวเองที่นั่งกัดฟันจนเส้นเลือดขึ้น อะไรมันจะซวยแบบนี้!! ไอ้ต้าร์มันสบถออกมา จากที่หงุดหงิดอยู่แล้วตอนนี้มันหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมอีก

(“ใจเย็นมึง”)

“อ่าวไอ้หมอ มากินข้าวเหมือนกันเหรอ มานั่งด้วยกันสิ” สิงห์เรียกรุ่นน้องของตัวเองให้นั่งร่วมโต๊ะหมอหนุ่มนั่งลงข้างๆ ไอ้เอ๋อ

“ขอบคุณครับพี่ ว่าไงเราสบายดีไหมครับ” ประโยคหลังไม้เมืองหันไปถามไอ้เอ๋อที่นั่งยิ้มหวานส่งไปให้ ไม้เมืองยกมือขึ้นยีผมของไอ้เอ๋อด้วยความเอ็นดู

“แล้วไปไงมาไงพี่ถึงได้มากับน้องได้ละครับ” หมอไม้เมืองเอ่ยถามพร้อมกับจดรายการอาหารส่งให้ป้าเจ้าของร้าน

“ก็ไปรับมาจากวัด ว่าจะพาไปอยู่ด้วย” สิงห์พูดเสียงดังหวังให้ใครบางคนได้ยินจนหัวร้อน ซึ่งก็ได้ผล ต้ามันแทบจะลุกไปหาเรื่องสิงห์แต่ก็โดนเพื่อนกดไหล่เอาไว้

“ไปอยู่ด้วย นี่พี่เอาจริงหรอ เรื่องนั้น”

“อืม น้องจะได้มีงานทำ พี่จะได้ดูแลน้องได้ถนัดๆ หน่อย แล้วเรื่องที่พี่ให้ไปติดต่อเขาว่าไงบ้าง”

“อ่อ พี่เมษตกลงจะดูแลเคสนี้ให้ เห็นว่าน้องยังมีโอกาสรักษาอยู่”

“อืมดี ทางนี้ก็ตอบตกลงแล้วเหมือนกัน เย็นนี้พี่จะพาน้องไปขนของมาไว้ที่บ้านเลย ขืนช้าเดี๋ยวหลวงตาเปลี่ยนใจ” สิงห์แสยะยิ้มท้ายประโยคแม้จะพูดกับไม่เมืองแต่ตาของสิงห์ก็ชำเลืองไปทางต้าร์อยู่และนั่นทำให้ไม้เมืองมองตามสายตาของสิงห์ หมอหนุ่มแสยะยิ้มนิดๆ เหมือนจะรู้ว่าที่สิงห์พูดเรื่องนะโมตอนนี้เพราะอะไร

“ไอ้เด้กบ้านั่น หึหึ” ไม้เมืองเริ่มรู้สึกสะใจนิดๆ จากการที่ได้ฟังสิงห์เล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา พวกเขาสองคนเห็นตรงกันว่า ไอ้ต้าร์มันชอบไอ้เอ๋อ อยู่!!

“เห็นมันมองพี่ไหม เหมือนอยากจะฆ่าพี่ให้ตาย”

“คุยอารายกานนน ทำไมไม่คุยกะหนูบ้างเลย” ไอ้เอ๋อที่นั่งฟังทั้งสองคุยกันมันไม่ค่อยเข้าใจ แต่มันไม่ชอบให้ใครเมินมันแบบนี้ มือเล็กๆ นั่นเลยกระตุกเสื้อของหมอไม้พร้อมกับตั้งคำถามใส่

“คึคึ งอนเหรอครับ” ไม่เมืองแกล้งบีบจมูกน้อง ปัง!! จู่ๆ ก็มีเสียงทุบโต๊ะดังขึ้นจนไอ้เอ๋อมันสะดุ้ง

“ตะ ตกใจหมดเลย T^Tใครทำเสียงดัง” ไอ้เอ๋อมันลูบหน้าอกตัวเองพร้อมกับบ่นออกมา

ไอ้ต้าร์ที่ทนแทบไม่ไหวมันระบายออกมาด้วยการทุบโต๊ะ มันส่งสายตาโหดๆ ไปหาไอ้เอ๋อที่นั่งหันหลังให้มันด้วยความเจ็บใจ

“กระเพราหมูกรอบได้แล้วจ้า” ข้าวจานแรกเป็นของไอ้เอ๋อ ตามด้วยของสิงห์

“ผัดซีอิ้วไม่เอาผักของใครจ้ะ ป้าจำไม่ได้” ป้าที่เดินออกมาพร้อมกับผัดซีอิ้วสองจานในมือ จานหนึ่งใส่ผักอีกจานไม่ใส่

“ของไอ้ต้าร์มันป้า” เสียงของกลุ่มเด็กช่างคนหนึ่งตะโกนออกมา

“เด็กชะมัดผักไม่แดก” ไม้เมืองเอ่ยลอยๆ แต่ได้ยินแบบทั่วถึง เจ้าของผัดซีอิ๊วไม่ใส่ผักคิ้วกระตุกทันทีที่ได้ยิน     ขามันกระตุกอยากจะลุกขึ้นไปเตะใส่ปากคนบางคน

“ก็ดีกว่าผู้ใหญ่บางคนแดกเผ็ดไม่เป็น” อีกเสียงหนึ่งดังลอดออกมาเช่นกัน ไอ้เอ๋อมันหันกลับไปมองต้นเสียงก่อนตาของมันจะลุกวาว

“พี่ต้าร์” มันร้องเรียกลูกพี่มันเสียงดัง นี่มันจะรู้ไหมว่ามีผู้ชายกำลังจะเปิดศึกแย่งมันอยู่ไอ้เอ๋อมันไม่รู้อะไรทั้งนั้น

“เห็นกูอยู่ในสายตาแล้วรึไง” มันประชดใส่ไอ้เอ๋อ

“อ่าว ก็หนูหันหลังหนูจะเห็นได้ยังไงละ-3- “มันยู่ปากใส่

“มานั่งกินกับกูไอ้เอ๋อ” ไอ้ต้ามันหันไปสั่ง ไอ้เอ๋อมันส่ายหน้าดิ๊กๆ ว่าไม่ไปวันนี้พี่หมอของมันมานั่งด้วยมันเลยคิดจะอ้อนพี่หมอ เวลามันป่วยพี่หมอจะได้ไม่ฉีดยามันเหมือนหมอคนอื่นๆ

“ไม่เอาหรอกวันนี้หนูจะนั่งกับพี่หมอ” คำตอบของไอ้เอ๋อเหมือนมีดที่จามแสกหน้ามัน มือหนากำแน่น พร้อมกับส่งสายตาโกรธๆ ไปให้ไอ้เอ๋อ

“เออ มึงจำไว้เลยนะไอ้เอ๋อทีหลังไม่ต้องมาเรียกร้องหากูเลยนะ!! ”

“หึหึ” สองหมอแอบลอบยิ้มสะใจ ไอ้เอ๋อมันก็ยังเป็นไอ้เอ๋อ มันหันมาสนใจของกินมากกว่าผู้ชายที่คอยหาจังหวะงาบมัน กะเพราหมูกรอบเป็นอะไรที่ตื่นเต้นสำหรับมันไม่เคยได้กินแบบจริงๆ จังๆ แบบนี้ ส่วนมากมันจะได้กินแค่น้ำกะเพรากับเศษใบกะเพราเท่านั้นหมูกรอบนั้นแทบจะไม่ได้แตะเพราะมันแย่งคนอื่นๆ ไม่ทัน มือนี้แหละที่มันจะได้ลิ้มรสของหมูกรอบจริงๆ ไอ้เอ๋อมันกำลังดื่มด่ำกับหมูกรอบตรงหน้า โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ว่าตอนนี้กำลังจะเกิดการนองเลือดขึ้นโดยมีมันเป็นต้นเหตุ...

“หัวเราะเหี้ยอะไร”

“ใครหัวเราะ หูหาเรื่องไม่เคยเปลี่ยนสันดานเด็กไม่มีสำมาคารวะก็แบบนี้” ไม้เมืองที่ปากร้ายไม่แพ้ไอ้ต้าร์พูดออกมาด้วยเสียงเยาะๆ

“เหรอ งั้นมึงก็เป็นผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักโต ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด”

“กลับไปทบทวนดูดีกว่าไหมหนูว่าใครกันแน่ที่ผิด หูหาเรื่องไม่พอปากยังหาเรื่องอีก” ครั้งนี้หมอไม้เมืองเดินออกไปประจันหน้ากับไอ้ต้าร์ ความสูงที่ต่างกันไม่มากทำให้หน้าของทั้งสองแทบจะชิดกัน ป้าเจ้าของร้านที่ได้ยินเสียงดังเอะอะก็ถือกระทะกับตะหลิวออกมาห้ามศึก

“เอ้าจะกินไหมข้าวนะ หรืออยากจะกินลาบเลือดกัน ไหนคนไหนอยากจะกิน เอาหัวมาให้ป้าเอาตะหลิวจามสักทีสองทีจะได้หยุดกัดกัน!! ” ป้าแกจ้องหน้าทุกคนแบบรายตัว หมอหนุ่มกับไอ้ต้าร์ถึงได้ยอมนั่งลง

“ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้หมอปากหมา” ต้าร์ชี้หน้า

“อย่าลืมมาเอาคืนละกันไอ้เด็กเชี้ยะ”

......................................................

ปล.ปล่อยให้น้องได้ลิ้มรสของหมูกรอบสักครั้งเนอะ ส่วนสามคนนั้นก็ปล่อยให้เขารบรากันเอาเอง ให้น้องได้กินอิ่มนอนหลับเป็นพอ ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.07 28/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 29-03-2018 01:10:13
หมอไม้เลี้ยงหมาพันธุ์อะไรเนี่ยกัดต้า
จนเลือดขึ้น
พี่สิงห์เนี่ยก็ร้ายนะสะกิดจนต้าหัวร้อน
ชอบเรื่องนี้ตามส่องรอคุณนักเขียนอัพ
ตลอด  น้องเอ๋อน่ารักจริง

หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.07 28/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 29-03-2018 03:09:07
เอ๋อได้กินหมูกรอบสมใจอยากแล้ว คราวหน้าถ้าจะกินอีกอย่าลืมสั่งไข่ดาวด้วยล่ะ  :mew4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.07 28/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-03-2018 03:45:33
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.07 28/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 29-03-2018 09:42:55
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.07 28/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-03-2018 10:02:02
เอ๋อ.........น่าร้ากกกกกกกกกกกก   :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.07 28/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 29-03-2018 13:55:39
เอ๋อ มากินหนมกับพี่ไหม? ป่ะๆ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.07 28/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-03-2018 00:49:40
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.07 28/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 31-03-2018 08:23:09
พี่หมอ กับพี่ต้าร์ 2 คนเอาแต่ทะเลาะกันเอง
พี่สิงห์รอเอานะโม ไปกินอยู่พอดี 5555555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.07 28/3/61
เริ่มหัวข้อโดย: Kirana9165 ที่ 31-03-2018 13:20:13
คิดถึงน้องเอ๋อ จังเลย
 :mew1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.08 11/4/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 11-04-2018 09:40:10






08



เจ้าของร่างสูงร้อยแปดสิบเซ็น กำลังมีสีหน้าที่บูดบึ้งเมื่อรับรู้ว่าเบ้ประจำตัวของตนถูกแย่งไปอย่างหน้าด้านๆ มันใช้เวลาตั้งนานกว่ามันจะทำให้ไอ้เอ๋อเลิกกลัวและไว้ใจมันได้ แต่นี่อะไร กับไอ้คนที่พึ่งจะเจอดันชุบมือเปิบไปเฉย แต่ที่ตลกร้ายกว่านั้นคือกับไอ้คนที่ชื่อ ไม้เมืองดันมาเป็นรุ่นน้องของสิงห์ไปเสียได้ นี่ไม่เท่ากับว่า ไอ้ต้าร์มันมีศัตรูถึงสองคนเลยทีเดียวมันถึงได้ทำหน้าบึ้งเป็นหมีกินผึ้งอยู่แบบนี้

บรรยากาศในร้านอาหารตามสั่งยังไม่ลดความตึงเครียดลงสักเท่าไหร่ พวกเขายังฟาดฟันกันทางสายตาไม่หยุด แต่ดูเหมือนทั้งร้านจะมีแต่ไอ้เอ๋อละมั้งที่กำลังมีความสุขสบายใจอยู่คนเดียว ไอ้เอ๋อมันนั่งกินข้าวกะเพราหมูกรอบไปซี๊ดปากไปเพราะผัดกะเพรามันเผ็ดไปนิด มันกินโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างด้วยซ้ำมันสนใจแต่หมูกรอบแสนอร่อยตรงหน้าเท่านั้น

สิงห์ เองก็อยากจะรีบกินรีบไป แต่สายตาของเขาก็ดันไปปะทะกับกลุ่มของต้าร์อยู่ตลอดเวลา แต่ไม่มีใครมองแบบหาเรื่องเขาสักคนยกเว้น ไอ้หัวโจกอย่าง ต้าร์ วิศวะกลโยธา ปี3คนนั้น ไม่รู้ว่าไปโกรธแค้นกันตั้งแต่ชาติปางไหนหรืออาจเป็นเพราะสิงห์ไปแย่งของรักมันมา แต่ว่าเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ใครดีใครได้ ของใครมันจะแรงกว่ากัน หันมาทางไอ้เอ๋อ ปากมันขยับเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ ไม่สนหน้าอินหน้าพรหม มันมีแอบเขี่ยใบกะเพราออกไว้ข้างๆ จาน กินจนเกือยจะหมด เหลือบไปเห็นไข่ดาวของพี่สิงห์คนหล่อ มันจดๆ จ้องๆ เม้มปากนิดๆ ไข่ดาวไม่สุก ไข่แดงเยิ้มๆ แค่คิดมันก็เลยริมฝีปากตัวเองแล้ว ไอ้เอ๋อมันแอบมองหน้าพี่จ๋าของมันนิดๆ ก่อนจะค่อยๆ ใช้ช้อนไปตักไข่ใบนั้นมาใส่จานของตัวเองโดยที่สิงห์ไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่หันไปจ้องมองไอ้เด็กช่างฝั่งตรงข้ามอยู่

“คึคึ ไข่เป็นของนะโมแล้วว นะโมจะกินไข่พี่สิงห์แล้ววว” มันร้องเพลงออกมาเบาๆ กว่าที่สิงห์จะรู้ตัวไข่ดาวใบสวยก็ลงสู่ท้องของไอ้เอ๋อเรียบร้อย

“อ้าวไข่ดาวกูไปไหนวะ!! ” หันมาไม่เจอไข่ดาวก็ร้องหา พี่สิงห์คนหล่อนั่งทำหน้าตกใจ จนไอ้เอ๋อมันหัวเราะคิกๆ นั่นแหละ

“นะโมมมมมม” เขาหรี่ตามองขโมยวัยใส

“หนูป่าวว น้า>-<”

“แสบนักนะเรา” สิงห์รู้ว่าไอ้เอ๋อมนัแอบกินไข่ดาวเขาไป จะไม่ให้จับได้อย่างไงละก็ในเมื่อขอบปากมันมีแต่คราบไข่แดง มือหนายกขึ้นยีหัวอีกคนด้วยความเอ็นดู

"คึคึ ไข่พี่สิงห์ อยู่นี้แล้ว แบร่ๆ” มันจิ้มลงที่ท้องป่องๆ ของมันแล้วหัวเราะร่วน รวมถึงหมอหนุ่มก็ต้องยอมกับความน่ารักของไอ้เอ๋อมัน

“ร้ายนักนะเรานะ” หมอไม้ว่าให้

“^-^”

ทุกการสนทนาของไอ้เอ๋อกับสิงห์และหมอไม้มันได้สร้างความหงุดหงิดและความอิจฉาตาร้อนให้กับใครบางคนถึงขั้นทนดูไม่ได้ ลุกพรวดแล้วจ้ำอ้าวออกจากร้านไป โดยที่มีเพื่อนตะโกนไล่หลังด้วยความงง งวย

“แล้วค่าข้าวมันใครจะจ่ายวะ?” หนึ่งในนั้นพูดออกมาอย่างหัวเสีย

“เดี๋ยวผมจ่ายให้เองครับ อ่า ของน้องๆ ทุกคนด้วย” หมอหนุ่มเอ่ยอย่างใจดี เพราะรู้จักกันตอนออกค่ายอาสาอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดว่าเขาดันไปผิดใจกับตัวหัวโจกของกลุ่มเข้าพวกเขาคงได้สนิทกันมากกว่านี้

“จะดีหรอหมอ” ปากก็บอกจะดีเหรอแต่น้ำเสียงนี่คืออะไร พวกมันชอบของฟรีอยู่แล้วแต่ที่พูดไปนั่นเพราะแค่มารยาทเท่านั้น

“เออ ดี รีบกินก็รีบกลับไปเรียนได้แล้ว”

“ขอบคุณคร๊าบบคุณหมอ” พวกนั้นเอ่ยขอบคุณหมอไม้ก่อนจะรีบหันไปกินข้าวของตัวเองต่อ ส่วนทางด้านสิงห์กับไอ้เอ๋อกินอิ่มแล้ว

“พี่สิงห์จะไปไหนต่อพี่ พอดีผมออกเวรแล้ว”

“ไปขนเสื้อผ้ากับของใช้ให้นะโมนะ” สิงห์ตอบเสียงเหนื่อยๆ

“เหรองั้นผมไปด้วยดิ จะได้ช่วยขน”

“อืมตามใจละกัน”

หลังจากจ่ายเงินค่าข้าวเสร็จก็พากันไปที่วัด โดยมีหมอไม้เมืองขับรถกระบะตามมาทีหลัง ไอ้เอ๋อมันนั่งซ้อนท้ายสองมือมันกอดเอวสิงห์ไว้แน่น มันเงยหน้ารับลมที่ปะทะเข้ามาพร้อมกับอ้าปากรับลมส่งเสียงร้องอย่างสนุกสนาน

“กินข้าวไม่อิ่มหรอครับนะโม” สิงห์แซวพร้อมกับยิ้มขำ พอไอ้เอ๋อมันได้ยินมันก็หุบปากฉับ แล้วก้มหน้าลงนิดๆ

“อิ่มแล้วครับ”

“เหรอนึกว่าไม่อิ่มพี่เห็นเรากินลมเข้าไปเยอะ^^”

“งะ พี่จ๋า” มันอายเลยเอาหน้าซุกลงกับหลังสิงห์เพื่อหลบสายตาที่มองมันผ่านกระข้าง

“หึหึหึ”

พอถึงวัดพวกเขาก็ไม่คิดว่าจะเจอใครบางคนที่นี่ ไอ้ต้าร์มันยืนกอดอกรอไอ้เอ๋อที่ระเบียงกุฏิ

“จะเอาตัวไอ้เอ๋อไปมันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก หึ”

“พี่ต้าร์....มาหาหนูเหรอ ^^?” ทั้งๆ ที่พึ่งจะเจอกันที่ร้านข้าวไอ้เอ๋อมันก็ดันลืมไปเสียได้ หมอปากเสียแอบหัวเราะเยาะเบาๆ ไอ้ต้าร์มันเห็นมันเลยเบะปากคว่ำใส่ สิงห์เดินนำทุกคนขึ้นไปบนกุฏิ

“นะโมไปนิมนต์หลวงตาออกจากห้องทีสิ” สิงห์บอกไอ้เอ๋อ มันก็รีบวิ่งไปเคาะห้องของหลวงตา แล้วเปิดประตูเข้าไปเห็นหลวงตากำลังนั่งทำสมาธิอยู่ มันเลยคลานเข่าเข้าไป เรียกหลวงตาให้ออกจากสมาธิ

“หลวงตาจ้ะ หลวงตา พี่สิงห์มาหาจ้ะ”

“.....” หลวงตาออกจากสมาธิแล้วพยักหน้า ก่อนจะก้มกราบองค์พระพุทธรูป

“ไปเรียกพวกนั้นเข้ามาสิ”

“จ้ะ” ไอ้เอ๋อมันคลานเข่อออกไปตามพวกที่อยู่ด้านนอกให้เข้าไปพบหลวงตาด้านใน

“มีอะไรอีกละโยมสิงห์...อ่อ เรื่องสัญญา อาตมาเซ็นต์ให้เรียบร้อยแล้วละไม่อะไรที่อาตมาจะต้องกังวลอีก โยมสิงห์เห็นเป็นเช่นไรก็แล้วแต่โยมสิงห์เถอะ โยมเองก็โตๆ กันแล้ว จะคิดจะทำอะไรก็คิดให้มันลึกๆ คิดให้มันดีๆ” สิ้นเสียงไอ้ต้าร์มันก็ร้องเสียงหลง

“ไม่ได้นะครับหลวงตา หลวงจะยอมให้ไอ้เอ๋อไปอยู่กับมันได้ยังไง รู้จักกันก็ไม่ดีเท่าไหร่ ไว้ใจได้เปล่าก็ไม่รู้ มันอาจจะมาหลอกนะโมก็ได้นะครับหลวงตา” ไอ้ต้าร์มันใส่เต็มที่ มันไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น ดวงตาคู่คมมองไปยังไอ้เด็กเอ๋อที่ยืนคุยกับจิ้งจก ด้วยความรู้สึกหวงแหน มันไม่อยากให้ใครพรากนะโมไปจากมัน มันเลี้ยงไอ้เอ๋อมา จู่ๆ จะมาชุบมือเปิบไปได้ยังไง

“ใจเย็นสิเว้ยไอ้เด็กคนนี้” หลวงตาเอ็ดใส่มันอย่างระอา ไอ้ต้ามันจะดื้อด้านก็ต่อเมื่อเป็นเรื่องของไอ้เอ๋อเท่านั้น

“เย็นไม่ได้แล้วครับหลวงตา นี่มันเรื่องใหญ่นะครับ เรารู้จักพวกเขาดีพอแล้วหรอ ถ้าเกิดว่าเขาทำอะไรไอ้เอ๋อมันละ ดูหน้าตาไว้ใจได้ซะที่ไหน” มันจงใจพูดใส่ไม้

“เอาเถอะน่า อาตมารู้ว่าอะไรเป็นอะไร เงียบๆ ไว้เถอะไอ้ต้าร์ เอ็งนะยังเด็กงานก็ยังไม่มีเรียนก็ยังไม่จบ เอ็งจะดูแลอะไรไอ้เอ๋อมันได้ โยมสิงห์เค้าหางาน หาที่เรียนให้ไอ้เอ๋อมัน เอ็งก็น่าจะดีใจที่ไอ้เอ๋อมันจะมีอนาคตที่ดีกับเขาบ้างไม่ใช่เรอะ!! ”

ดีใจกับผีอะไรละ คนเค้าอุตส่าห์เฝ้าถนุถนอมมาตังแต่เด็กๆ จู่ๆ ก็มาโดนแย่งใครมันจะไปยอม!!

“แต่ว่าหลวงตา ผมไม่ไว้ใจพวกมัน มันต้องมีจุดประสงค์อะไรแน่ๆ จู่ๆ จะมานึกเอ็นดูไอ้เอ๋อ ปัญญาอ่อนแบบนี้ ไม่มีทาง!! ” ไอ้ต้ามันว่าใส่เสียงแข็ง หมอไม่ที่อดทนอยู่นานอดไม่ไหวจริงๆ

“ก็เพราะว่ามีแต่ความคิดร้ายๆ แบบนี้ไง ถึงไม่มีใครเขาเอา เหอะ!! แล้วทำมาพูดดี ที่แท้ก็จะเก็บนะโมไว้คนเดียวละสิ นายนะแค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่หมดแล้ว คิดอะไรอยู่อย่านึกว่าคนอื่นเค้าจะไม่รู้ อีกอย่างนะถ้านายเอาสิ่งที่พวกเราทำไปคิดดูดีๆ ว่าที่ทำไปนะเพราะอนาคตของน้องทั้งนั้น มีแต่นายนั่นแหละที่เห็นแก่ตัว!!! ” คำพูดของหมอไม้ทำเอาไอ้ต้ามันสะอึก เพื่ออนาคตของไอ้เอ๋อ คำคำนี้ทำไมเขาถึงไม่เคยคิด ไอ้ต้าร์มันกัดฟันกำมือตัวเองแน่นด้วยความเจ็บใจ

ก็บอกแล้วว่าแข่งเรือแข่งพายมันแข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนามันยาก มันนะคนละระดับกับสิงห์ชนิดที่เรียกว่าเทียบไม่ติด มองไม่เห็นฝุ่นเลยละ

“ไอ้เอ๋อ” เมื่อสิ้นหวังในทุกๆ อย่างมันก็หันไปหาต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ไอ้เอ๋อมันละสายตาจากเพื่อนจิ้งจกของมันแล้วส่งยิ้มหวานให้กับไอ้ต้าร์

“จ๋าพี่ต้าร์”

“มึงอยากกอยู่กับไอ้..เอ่ออ คุณสิงห์เหรอ? มึงไม่อยากอยู่กับหลวงตากับกูแล้วเหรอ?”

“หืมม เอ๋...พี่ต้าพูดอะไร หนูน่ะจะไปทำงานเอาเงินมาเลี้ยงน้องเลี้ยงหลวงตาจ้ะ ไม่ได้หนีไปไหนนี่ หนูก็ต้องอยากอยู่กับพี่กับหลวงตาสิ”

“งั้นมึงก็ไม่ต้องย้ายไปไหนสิ!! ”

“อ่า..แต่ถ้าไม่ไปหนูก็จะไม่ได้เงิน>-< หนูอยากได้เงิน ๆ ๆ ๆ T^T” แม้จะสื่อสารกันผิดนิดหน่อยแต่กับสิ่งที่ไอ้เอ๋อมันแสดงออกมาไอ้ต้าร์มันแพ้ราบคาบ เพราะไอ้เด็กเอ๋อของมันเดินไปอยู่ข้างๆ คนที่เหนือกว่ามันทุกอย่างนั้นมันคือคำตอบของทุกอย่างแล้ว แววตาไอ้ต้าร์มันดูผิดหวังจนคนที่ยืนขำอยู่เงียบถึงกับหยุดชะงัก

“ไอ้เอ๋อ..ต่อจากนี้ไปกูจะไม่มาหามึงอีก” เสียงมันแผ่วในตอนท้าย ไอ้ต้ามันมองหน้าทุกคน (ยกเว้นหลวงตาที่มันกราบลา) ด้วยแววตาชิงชังก่อนจะมาหยุดที่ไอ้เอ๋อแววตาของมันเปลี่ยนไปในทันที แววตาของไอ้ต้าร์มันเศร้าแล้วก็สิ้นหวัง ไอ้เอ๋อมันเอียงคอมองกลับด้วยความที่ไม่เข้าใจ

“พี่ต้า...เป็นอะไรจ้ะ” ต้ามันไม่ตอบมันเดินลงบันไดไปแล้วหายไปเลย

“ปล่อยมันไปสักพักเถอะโยม นี่คงจะไปขัดใจมัน มันเลยโมโหแบบนั้น จะมาขนของให้นะโมมันใช่ไหม”

“ครับหลวงตา”

“อืมถ้าอย่างนั้นก็ตามสบายนะอาตมาจะเข้าไปทำสมาธิ”

“ขอบพระคุณครับหลวงตา” สิงห์ยกมือขึ้นไหว้หลวงตาก่อนจะแยกย้าย พอเข้ามาในห้องของนะโมสิงห์เห็นกองข้าวของของ ใครบางคนที่ไม่ใช่ของนะโมเข้า คิ้วสีเข้มเริ่มกระตุกอีกครั้ง สิงห์ปั้นยิ้มหันไปถามคนตัวเล็กที่ง่วนกับการเก็บของใส่ถุง

“นะโมครับ มีใครมานอนที่นี่ด้วยหรอครับ” แม้น้ำเสียงของสิงห์จะนุ่มนวลแต่ไม่เมืองรุ้ดีว่ารุ่นพี่คนนี้กำลังเดือดแค่ไหน

“อ๋อ พี่ต้าจ่ะ พี่ต้ามานอนเป็นเพื่อนหนู” สิ้นคำสติสิงห์แทบจะขาดผึงใบหน้าหล่อตึงถูกซ่อนเอาไว้ใต้รอยยิ้ม

“หรอ แล้วนะโจะเอาอะไรไปบ้างครับพี่จะได้ช่วยหยิบ”

“เอากล่องๆ สีแดง” มันชี้ไปที่กล่องคุกกี้สีแดงบนหิ้งพระ ไม้เมืองเดินไปหยิบให้ก่อนจะเขย่ามันเบาๆ ด้วยความสงสัย

“นี่อะไรครับ”

“กระดูกแม่ด่างครับ ฮี่ๆ” ของรักของมันอีกชิ้น ไอ้เอ๋อมันฉีกยิ้มจนกว้างก่อนจะรับกล่องคุกกี้เอามาแนบอก

“แม่ด่างเราไปอยู่บ้านสวยๆ กันนะ” มันคุยกับกล่องสีแดงในมือ

“ใครวะพี่ชื่อเหมือนหมาเลย” สิงห์รีบสะกิดให้ไม้เมืองหุบปาก

“//ก็หมานะสิ จู๊ๆ หมาที่คาบนะโมมาให้หลวงตาเลี้ยงไง” สิงห์บอกเสียงกระซิบไม่เมืองรีบเอามือปิดปาก

“จริงดิ งั้นที่เคยได้ยินว่านะโมกินนมหมาก็ *0*!! ”

“เออออ จะตกใจอะไร เราสิต้องขอบคุณแม่ด่างที่เลี้ยงน้องมาจนโต”

“นี่มุข?”

“บ้าไม่ใช่ ไปๆ ขนของขึ้นรถจะได้รับไปจัดห้องให้น้อง” สิงห์ไล่พร้อมกับลอบมองไอ้เอ๋อไปด้วย

“ของมีแค่นี้ใช่ไหมครับ” ไอ้เอ๋อมันพยักหน้ารับ

“เสร็จแล้วก็ไปลาหลวงตากันนะครับ”

สิงห์พาไอ้เอ๋อมันไปลาหลวงตาที่ห้องข้างๆ หลวงตาฝากฝังให้สิงห์ดูแลนะโมให้ดี ถ้านะโมก่อปัญหาอะไรก็ให้เอานะโมมาส่งคืน สิงห์รับคำ ก่อนที่ทั้งหมดจะก้มลงกราบหลวงตาและเดินทางกลับมาที่บ้านของสิงห์อันที่จริงก็ไม่ได้อยู่ไกลจากวัดเท่าไหร่หรอกแค่อยากทำให้ถูกต้องก็เท่านั้น ทั้งสามช่วยกันจัดข้าวของจนเรียบร้อยกว่าจะรู้ตัวก็ค่ำมืด หมอไม้ขอตัวกลับก่อนเพราะต้องเข้าเวรต่อ เหลือไว้แต่เจ้าของบ้านกับคนอาศัยที่ดูจะตื่นเต้นกับทุกอย่างโดยเฉพาะชักโครกอัตโนมัติ

“อ๊า มันยิงน้ำใสหนูพี่จ๋าอ๊ากกก อย่านะ อื้ออออมันเปียก” ไม่ต้องคิดถึงสภาพของไอ้เอ๋อ มันแดกน้ำในโถชักโครกไปหลายอึกแล้ว สิงห์ก็ดันลืมไปว่าของพวกนี้นะโมไม่เคยใช้ พอได้ยินเสียงน้องร้องลั่นเจ้าตัวที่กำลังจะหุงข้าวก็รีบวิ่งมาดู

นะโมในสภาพเปียกแต่ไม่เปียกธรรมดามันเปลือยท่อนบนด้วย สิงห์ชะงักก่อนจะรีบเอาตัวไปบังน้ำที่พุ่งใส่หน้าไอ้เอ๋อไม่หยุด เขากอดมันไว้ในอ้อมอก แล้วเอื้อมมือไปกดปิดสวิสทุกอย่างถึงได้สงบลง ไอ้เอ๋อมันยืนหอบ ผมเรียบลู่น้ำหยดติ้งๆ สิงห์อมยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นปัดน้ำออกจากใบหน้าหวานๆ นั่น

“มะ..มันพุ่งใส่หน้าหนู แฮกๆ มะ มีผีสิงอยู่แน่ๆ เลย*0*” ดูความเพ้อเจ้อของมัน-*-เพราะความคิดแบบนี้ เพราะมันเป็นแบบนี้สิงห์ถึงได้มีรอยยิ้มทั้งๆ ที่เป็นคนยิ้มยาก

“ผี? หึหึ ไม่มีหรอกครับที่นี่ มีแต่ผีทะเล” น้ำเสียงติดหื่นของสิงห์ทำเอาไอ้เอ๋อมันเอียงคอมอง

“ผีทะเลอะไรหรอจ้ะ” -////-ร่างสูงรับดามเมจไปแบบเต็มๆ จนแทบจะตั้งตัวไม่อยู่ สองมือที่กอดเอวน้องอยู่กระชับแน่นขึ้น

“อะ เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกครับ ฟู่” เขาถอนหายใจออกมา

“พี่จ๋าหนูอึดอัด อย่ารัดแน่นสิ อื้ออ” ไอ้เอ๋อมันไม่ได้มองว่าสิงห์มองมันด้วยสายตาแบบไหน ดวงหน้าหวานฉ่ำสะบัดไปมาพร้อมกับพยายามแกะมือตุ๊กแกของสิงห์ไปด้วยมันอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก

“อะ..อ้อโทษที” เมื่อรู้ตัวว่ากำลังทำน้องหายใจไม่ออกก็คลายวงแขนออกแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อย

“อาบน้ำดีกว่าไหม? ดูสิเปียกไปหมดเลย”

“หนูอยากลงอ่าง!!! ” พอบอกว่าจะให้อาบน้ำมันก็รีบชี้ไปที่อ่างอาบที่ทำจากถังไม้ขนาดใหญ่ทันที

“เอาสิครับ” สิงห์เดินไปเปิดน้ำใส่อ่างไว้ให้นะโม พอหันหลังมาไอ้เอ๋อมันก็แก้ผ้ารอเตรียมโดดลงอ่างแล้ว!! ดีที่มันยังเอามือกุมไข่มันเอาไว้!!

“เห้ยนะโม....-///- ทำอะไรเนี้ยะ”

สิงห์ตบหน้าตัวเองฉาดใหญ่เพื่อเรียกสติตัวเอง เขาต้องใช้ความอดทนกับสมาธิมากขนาดไหนถึงจะเดินออกมาจากห้องน้ำได้นั่นได้โดยไม่จับไอ้เอ๋อมันกดในห้องน้ำ

“....^0^...”

“เอ่อ ยะ อย่าอาบนานนะ พี่จะไปทำข้าวเย็นให้” เขาหันหลังให้ไอ้เอ๋อแล้วพูดบอก เป็นอีกครั้งที่หมอหนุ่มต้องบอกกับตัวเองให้ตั้งสติ อย่าทำน้อง น้องยังเด็ก

หมอหมาใจบางโคตรๆ เลยตอนนี้...

“จ้ะ หนูอาบไม่นาน เย้ๆ” มันเอาตัวลงไปในอ่างที่มีน้ำอุ่นกับฟองสบู่ลอยฟ่องนั่งตีฟองพับๆ เป็นเด็กเจอน้ำ

หลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำได้สิงห์ก็ยืนทำใจอยู่สักพักก็เริ่มทำอาหารง่ายๆ ที่เขาพอจะได้อย่างข้าวไข่เจียวหมูสับแต่กว่าจะทำได้ไข่ก็หมดไปเกือบแผงเพราะเป็นแบบนี้ยังไงละสิงห์ถึงต้องแม่บ้าน แต่เขาอาจจะลืมอะไรบางอย่างไปก็ได้ ว่าไอ้เอ๋อมันจะทำกับข้าวเป็นไหม?

“ไปตามน้องมากินข้าวดีกว่า” พูดแค่นั้นก็เดินไปยังห้องน้ำที่ไอ้เอ๋อมันอยู่ มือหนาค้างอยู่ที่ลูกบิดเขาสูดลมหายใจลึกก่อนจะบิดลูกบิดเข้าไป เห็นไอ้เอ๋อมันเอาคอพาดขอบอ่างแล้วหลับไป นี่คงจะสบายตัวจนเคลิ้มหลับ

“หึหึ ขนาดหลับยังน่ารักน่ากินขนาดนี้ อย่าทำให้พี่อดใจไม่ไหวไปมากกว่านี้เลยนะครับ” สิงห์เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาไว้ในมือก่อนจะช้อนตัวนะโมขึ้นจากอ่างน้ำแล้วใช้ผ้าคลุมร่างกายขาวเนียนของไอ้เอ๋อเอาไว้ มันปรือตาขึ้นมามองนิดๆ มุมปากของมันยกยิ้มให้สิงห์ก่อนจะซุกหน้าลงกับอกกว้างๆ ของสิงห์แล้วหลับต่อ

“เห้อออ นะโม” สิงห์อุ้มไอ้เอ๋อมาไว้ในห้องนอนของเขาวันนี้เขาจะให้มันนอนกับเข้าก่อนพอวางร่างอ่อนนุ่มลงบนที่ของของตัวเองแล้วก็ต้องมายืนเกาหัวอีกรอบ

“นี่กูจะทำยังไงดีวะเนี้ยะ” จะอะไรซะอีกละ เขาต้องแต่งตัวให้น้องแต่ในสภาพจิตใจเขงเขาตอนนี้มันยากมาก ยากมากที่จะไม่เผลอทำอะไรกับร่างกายที่มีผลต่อจิตใจเขามากมายขนาดนี้....

“สติเว้ย ไอ้สิงห์ สติ!!! ”

+++++++++++++++++++++++++++++++

ถ้าตกหล่นเขียนผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะ ออเจ้า >///<

อย่าลืมให้กำลังใจเค้าด้วยนะออเจ้า
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.08 11/4/61
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 11-04-2018 09:58:54
 o13 พี่หมอหมาจะสติแตกขับน้องขย้ำเมื่อไหร่น้าาาา  :hao6:  :hao6:  :hao6: จะรอทุกวันเลยยยย  :hao7:  :hao7:  :hao7:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.08 11/4/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 11-04-2018 10:22:15
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.08 11/4/61
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 11-04-2018 10:32:53
ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาดัง ๆ
ตอนอ่านเจอนะโม...แอบจิ๊กไข่สิงห์
แล้วร้องออกมาเป็นเพลง  :m20:

รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.08 11/4/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-04-2018 21:07:03
ชอบๆ ตอนนะโมเสกไข่ลงท้อง สิงห์ถึงกับอึ้ง :m20:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.08 11/4/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 12-04-2018 00:40:44
นะโมน่ารักมากทำเอาใจพี่สิงห์จะหลุดจากอกมากองที่เท้าน้องแล้วชอบเรื่องนี้ชอบความออทิสติกแบบนะโมไม่ก้าวร้าวการพูดการจาน่ารักสอนง่ายแม้ต้องอธิบายยากหน่อย
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.08 11/4/61
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 13-04-2018 02:05:27
แนะนำให้นั่งสมาธิก่อนนอนนะคะพี่ สติค่ะ!! ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.08 11/4/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 13-04-2018 03:19:42
พี่สิงห์จ๊ะ clam down ท่องไว้จ๊ะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.08 11/4/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 20-04-2018 18:39:07
คิดถึงน้องเอ๋อกับพี่เสือ :ling1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.09 29/4/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 29-04-2018 10:24:40


09

           อยู่ด้วยกันแค่สองวัน ความบรรลัยก็บังเกิด เมื่อสิงห์สั่งให้ไอ้เอ๋อมันทำกับข้าวให้กิน พอได้รับคำสั่งไอ้เอ๋อมันก็วิ่งลงจากบ้านหายไปพักหนึ่ง จนสิงห์เกิดความสงสัยว่าไอ้เอ๋อมันหายไปไหน เดินหาจนไปเจอที่ลานซักล้างหลังบ้าน มันกำลังตั้งหน้าตั้งตาจุดเตาถ่านอย่างเอาเป็นเอาตาย ใบหน้าขาวๆ ของมันเปื้อนถ่านจนเป็นสีดำไปทั้งหน้า สิงห์เลยรีบห้ามมันเอาไว้ก่อนที่มันจะเผาบ้านของเขา แล้วพาไอ้เอ๋อเข้าไปในครัวแทนแต่กว่าจะได้ลงมือก็ต้องเสียเวลาสอนมันจุดเตาแก๊สที่เป็นระบบไฟฟ้าอีก ด้วยความที่ไว้ใจไอ้เอ๋อ สิงห์ทิ้งให้มันทำอาหารเช้าเพียงลำพังส่วนตัวเองนั้นก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวเข้าคลินิก ซึ่งสิงห์ไม่รู้เลยว่าขุมนรกกำลังรอเขาอยู่ตรงหน้านี้แล้ว ด้วยฝีมือการทำอาหารของมัน

เมนู มื้อแรกของวันนี้ได้แก่ ไข่เจียวชาโค!!! หอมกลิ่นไหม้ๆ และรสชาติไม่ต้องพูดถึง อีกนิดก็จะเรียกว่ามหาสมุทร คำแรกที่สิงห์ได้ชิมนั้นทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะเคี้ยวลงคอ ไอ้เอ๋อมันคงอ่านสีหน้าของเขามันเลยตักไข่เจียวสีเข้มเข้าปาก ก่อนจะทำหน้าพะอืดพะอม

“ฮรืออ ไม่อร่อยเลย ขมด้วย แหวะ” ไอ้เอ๋อมันตักไข่เจียวที่มันทำเข้าปากก่อนจะคายออกมา

“พี่ก็ว่างั้น แล้วไอ้สีแดงๆ นี่คืออะไรครับ” สิงห์รีบคายไข่ออกจากปาก จานถัดมามีลักษณะคล้ายกับเลือดผสมกับผัก

“ยำปลากระป๋อง^^” มันยิ้มอันนี้มันมั่นใจว่าต้องอร่อย

“แน่ใจเหรอครับนี่ยำปลากระป๋อง” นี่เป็นครั้งแรกที่ใจเขาสั่นไหวรุนแรงโดยที่ไม่ได้เกิดจากไอ้เอ๋อ แต่เกิดจากอาหารตรงหน้า ไม่ได้สั่นไหวด้วยความรักแต่เป็นความรู้สึกกลัว

“แน่ใจ พี่ต้าสอนมานะโมจำด้ายย” สิงห์กลืนน้ำลายฝืดคอ เขาค่อยเอาช้อนแตะๆ ยำปลากระป๋องของไอ้เอ๋อมันอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะเอาปลายช้อนมาแต่ที่ลิ้นเพื่อรับรู้รสชาติ

“อึก!!! เค็ม!! ” เขาแทบจะบ้วนทิ้งดีที่แตะไปนิดเดียว เห็นทีมื้อเช้ามื้อนี้คงกินได้แต่ข้าวคลุกพริกน้ำปลา

“เค็มหรอ ไหนๆ งั่มๆ งือออ เค็มจริงด้วย หนูใส่น้ำปลาไปแค่สามช้อนเองน้า” พูดจบก็เดินไปหยิบข้อนที่ว่ามาให้ดู

“นี่ไง!! ”

“นี่มันกระบวยตักซุปนะโม!! ” สิงห์แทบหน้ามืดเมื่อเห็นช้อนของไอ้เอ๋อมัน

“กินเขาไปนี่โรคไตถามหาแน่นอน = = ”

“อ่าวว แฮะๆ” มันหัวเราะแห้งออกมาพร้อมกับเอาแก้มตัวเองไปด้วย เอาเป็นว่ามื้อนี้คงต้องกินไข่ดาวประทังชีวิตไปก่อน สิงห์เป็นคนทำในครั้งนี้ ส่วนไอ้เอ๋อมันยืนถือจานข้าวสองใบอยู่ในมือ ใบหน้าหล่อคมมองกระทะด้วยสมาธิในมือมีไข่ไก่สองใบสุดท้าย จะหมู่หรือจ่าก็คราวนี้แหละ

“อุ อู้วววว ของหนูเอาไข่ไม่สุก เอาแบบมีน้ำเยิ้มๆ หนูชอบ”

“หึหึหึ” สิงห์หัวเราะพร้อมกับยีหัวไอ้เอ๋อด้วยความเอ็นดู ใช้เวลาไม่นานไข่ดาวกับข้าวสวยร้อนๆ ก็พร้อมกิน ไอ้เอ๋อใส่น้ำปลาหมอหมาใส่ซอสแม็กกี้ กินกันเงียบๆ ก่อนไอ้เอ๋อมันจะเก็บล้างจนสะอาดเอี่ยม

“นะโมครับพี่ไปทำงานก่อนนะ แล้วพี่จะรีบกลับนะ”

“ครับ เดี๋ยวหนูจะทำงานบ้านรอนะ”

“ครับ อย่าซนนะรู้ไหม แล้วห้ามจุดเตาแล้วนะ” สิงห์กำชับ ไอ้เอ๋อมันพยักหน้ารับหงึกหงัก

“^^”

หลังจากสิงห์ออกไปไอ้เอ๋อมันก็ไม่ได้อยู่นิ่ง มันเริ่มจับไม่กวาดปัดกวาดเช็ดถูบ้านอย่างขะมักเขม้น ผ่านไปครึ่งวันเสร็จแค่กวาดบ้านกับถูบ้าน กวาดสี่รอบถูห้ารอบ มันเป็นอาการของเด็กพิเศษแบบไอ้เอ๋อที่สมองจะสั่งให้ทำอะไรซ้ำๆ ไปมา เมื่อมันมีสมาธิมากๆ แถมมันยังถูด้วยมืออีกต่างหาก แบบนี้ยังไงละมันถึงได้เสร็จเอาตอนตะวันตรงหัวพอดี เนื้อตัวมันมอมแมมไปหมด สองมือเล็กๆ ของมันคอยยกขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่ไหลย้อยลงมารบกวน ปากเล็กๆ ของมันก็คอยแต่พูดคุยกับไม้กวาดบ้างพื้นบ้านบ้าง ตามประสาของมัน จนกระทั่งสิงห์กลับมาในตอนบ่ายพร้อมกับ กับข้าวสองสามอย่าง เขายอมทนหิวหิ้วท้องกลับมากินกับไอ้เอ๋อ ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยต้องทนกับอะไรแบบนี้

พอได้ยินเสียงรถวิ่งมาจอดไอ้เอ๋อมันก็รีบวิ่งไปหาทันที สองเท้าเล็กวิ่งตึ่งๆ ลงบันไดหน้าบ้านมาหาอย่างรีบร้อนจนสะดุดรองเท้าตัวเองล้มหน้าคว่ำแต่ก็รีบลุกขึ้นมาทันที

“พี่จ๋า กลับมาแล้ว” ปากมันยิ้มจนกว้างจนสิงห์อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ ร่างสูงดึงคนตัวมอมแมมเข้าไปหาพร้อมกับปัดฝุ่นที่ขาให้

“เจ็บไหม ที่หลังอย่าวิ่งอีกนะครับ แล้วหิวรึยัง พี่ซื้อไข่พะโล้มาฝากด้วยนะ” สิงห์ชูถุงกับข้าวให้ดู ไอ้เอ๋อมันร้องว้าวออกมาเสียงดังกว่าเสียงที่ล้มเสียอีก

“หิว หิว หิว พะโล้ พะโล้” มันพูดติดอ่างนิดๆ แล้ววนซ้ำไปมา ที่เป็นแบบนี้เพราะอาการผิดปรกติของมันบางคนอาจจะลำคานที่มันเป็นแบบนี้แต่กับสิงห์ไม่ใช่ เพราะเขาเข้าใจถึงอาการของเด็กพิเศษแบบนี้ดี (ผลจากมีเพื่อนเป็นหมอนั่นแหละ)

“หึหึหึ ไปครับขึ้นบ้านดีกว่าแดดร้อน”

“อื้อออ” ทั้งสองพากันขึ้นไปบนบ้าน ไอ้เอ๋อมันเอากับข้าวไปเทใส่จานระหว่างรอสิงห์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามันตักข้าวใส่จานเตรียมไว้แต่ดูเหมือนมันจะเอาเปรียบเจ้าของบ้านไปนิดเพราะจานของมันมีข้าวพูนจานแต่ของสิงห์มันกลับตกให้แค่ทัพพีเดียว พอสิงห์เดินเข้ามาในห้องครัวก็เห็นเอ๋อมันนั่งถือช้อนรอเขาอยู่ดวงตากลมสุกใสเอาแต่จ้องไข่ในชามพร้อมกับตั้งท่าจะจ้วงไข่ใส่ชามมุมปากมันมีน้ำใสๆ ไหลออกมานิดๆ

“หึหึ กินได้แล้วครับ” สิ้นเสียงไอ้เอ๋อมันก็จ้วงไข่พะโลทันทีด้วยความหิวโหย จนสิงห์ไม่กล้าที่จะแย่งไข่พะโล้มันเลย

“งั่มๆ ๆ หย่อยๆ งั่มๆ”

“อร่อยก็กินเยอะๆ นะครับ” สิงห์ยิ้มพร้อมกับตักหมุหวานใส่จานให้ไอ้เอ๋อมัน

“อ๋าๆ ๆ หมูซ้ามซั้นๆ” ไอ้เอ๋อมันพูดไม่ชัดเรียกเสียงหัวเราะกับรอยยิ้มให้สิงห์ได้อีก

“สามชั้น ไหนพูดใหม่ซิครับ?”

“ซ้ามซั้น”

“สามม ชั้น”

“งือออ ไข่จะกินไข่” มันอยากกินไข่มากกว่าจะหัดพูดให้ชัดเรื่องกินคือเรื่องใหญ่สำหรับมันและที่สำคัญมันกินจุ บางครั้งกินข้าวเป็นหม้อๆ ก็มี

“พูดก่อนครับสามชั้น” สิงห์แกล้งให้มันพูดก่อน

“งื้ออออ สะ สาม ชะ ซั้น..-3-” ทำยังไงช.ช้างมันก็กลายเป็นซ.โซ่อยู่ดี มันพูดจนเหนื่อยหิวก็หิวมันเลยยู่ปากใส่สิงห์ด้วยความโกระนิดๆ ดีที่ไอ้เอ๋อมันไม่ใช่เด็กอารมณ์รุนแรงถ้าไม่ทำให้มันโกรธมากๆ

“หนูจะกินไข่ จะกินไข่ ฮรือออ” ความน่ารักน่าหยิกของไอ้เอ๋อทำเอาหัวใจของหมอหมาสั่นไหวจนต้องยกมือขึ้นมาลูบอกตัวเอง

“หึหึ กินได้แล้วครับ”

“จริงนะ- -”

“จริง^^” ไอ้เอ๋อมันมองพี่จ๋าของมันอย่างไม่ไว้ใจ

“งั่ม ไข่ ขอไข่พี่จ๋าได้ไหมน้า” ไข่ใบสุดท้ายที่สิงห์กำลังจะตักจู่ๆ ไอ้เอ๋อมันก็พูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับจ้องไข่ในช้อนของสิงห์

“อะ เอ่อออ ก็ได้ครับ^^” เขารู้สึกเสียดายนิดๆ เพราะไข่พะโล้เจานี้เป็นร้านที่เขาชอบ สิงห์จำใจต้องตักน้ำพะโล้มาซดแทน

“งืออ พี่จ๋าใจดี *0*”

“ครับถ้าอยากให้พี่ใจดีนะโมก็ห้ามดื้อกับพี่นะรู้ไหม^^”

“อื้ออ หนูไม่ดื้อ หนูไม่ดื้อ”

หลังจากทานข้าวเสร็จสิงห์ก็สอนไอ้เอ๋อมันใช้เครื่องสักผ้า ใช้เวลาสอนไม่นานไอ้เอ๋อมันก็เข้าใจและการสอนมันในครั้งนี้ทำให้สิงห์รู้ว่าไอ้เอ๋อมันอ่านภาษาอังกฤษได้ ถือเป็นความอัศจรรย์อย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้และนั่นทำให้สิงห์คิดอะไรบางอย่างออกร่างสูงเดินเข้าไปในห้องนอนของตัว เขาตรงดิ่งไปที่ชั้นหนังสือเกี่ยวกับการแพทย์ทางด้านสัตว์วิทยาออกมา พอไอ้เอ๋อมันเห็นรูปสัตว์บนน่าปกมันก็ยิ่งสนใจ มันรีบเดินมานั่งข้างๆ สิงห์อย่างอยากรู้อยากเห็นทันที

“นี่หนังสืออะไรหรอครับ?” มันถามออกไปพร้อมกับแย่งหนังสืออกมาจากมือสิงห์ทันทีในใจมันคิดว่าต้องเป็นนิทานรูปสัตว์อย่างที่มันชอบแน่ๆ แต่พอเปิดมาเท่านั้น

“ไม่เห็นมีคุณแมวน้ำเลย = =” ไอ้เอ๋อมันคิดว่ามันจะเจอคุณแมวน้ำในจินตนาการของมันในนั่นสะอีกมันเลยแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาเล็กน้อย สิงห์เลยเปิดหน้าที่คิดว่าไอ้เอ๋อมันจะสนใจ

“น้องแกะ!!! ”

“ชอบเหรอครับ” สิงห์ถามเสียงนุ่ม เขาอุ้มไอ้เอ๋อให้นั่งตรงระหว่างขาของตัวเองเพื่อที่ไอ้เอ๋อมันจะได้ดูถนัดๆ (ใช่เหรอออออ!! )

“อื้อ น้องแกะน่ารักหนูชอบ” มันตอบเสียงใสพร้อมกับลูบมือไปบนภาพแกะ

“แล้วนะโมอยากรู้ไหมว่าแกะเกิดมายังไง?” สิงห์เริ่มโน้มน้าวให้มันอยากรู้มากขึ้น

“เกิดจากแม่แกะครับ ^^” เออ ก็ถูกของมัน คำตอบของไอ้เอ๋อเล่นเอาคนตัวโตกว่าหัวเราะก๊ากออกมาทันที

“ฮ่าๆ ครับพี่ไม่เถียง แล้วเราอยากรู้ไหมว่าในตัวแกะมีอะไรบ้าง” แขนหนึ่งโอบเอวเล็กไว้อีกมือก็คอยเปิดหน้าหนังสือ

“อยากครับ พี่จ๋าจะพาไปดูเหรอ”

“นี่ไงครับ สิ่งที่นะโมอยากรุ้มันอยู่ในหนังสือเล่มนี้หมดเลยนะ”

“ในนี้เหรอ ไหนๆ” มันจ้องเข้าไปในหนังหวังจะเห็นตับไตไส้พุงของสัตว์ในรูป

“นะโมต้องอ่านมันครับ” สิงห์บอก ไอ้เอ๋อมันหันหน้ากลมๆ ของมันกลับมามองคนที่นั่งคร่อมมันอยู่ด้านหลังด้วยความไม่เข้าใจ

“แต่มันเป็นภาษาอังกฤษ”

“พี่รู้ว่านะโมอ่านได้” สิงห์จับแก้มทั้งสองข้างของไอ้เอ๋อด้วยมือของเขาแล้วบีบมันเบาๆ

“งืออ แต่หนูไม่ชอบ”

“ถ้าอ่านได้จบเล่มพี่จะพาไปเที่ยวสวนสัตว์เอาไหม? ^^” สิงห์หาแรงจูงใจให้ไอ้เอ๋อมันอ่านหนังสือ

“สวนสัตว์*0* ไป ไป หนูจะไปๆ”

“ถ้าอยากไปนะโมต้องทำยังไงครับ^^”

“อ่านหนังสือ*0*” หลังจากนั้งไอ้เอ๋อมันก็นั่งอ่านหนังที่สิงห์เอาให้มันยังนั่งอยู่ในท่าเดิมนั่นคือระหว่างขาของสิงห์ ร่างสูงใช้โอกาสนี่ตอดเล็กตอดน้อยไปเรื่อยๆ ทั้งแอบหอมผม หอมแก้มบ้างโดยที่ไอ้เอ๋อมันไม่ได้รู้สึกหรือสังเกตอะไร มันยังอ่านออกเสียงเบาๆ ให้พอได้ยิน สิงห์อดที่จะทึ่งไม่ได้กับความสามารถที่ซ่อนอยู่ของไอ้เอ๋อไม่ได้ เขาคิดไม่ผิดจริงๆ ตั้งใจจะส่งไอ้เอ๋อมันเรียนหนังสือเขาอยากจะดึงความสามารถของมันออกให้เต็มที่ เขาอยากจะลองหลายๆ อย่าง ออยากให้ไอ้เอ๋อมันได้เรียนรู้และค้นพบเส้นทางของตัวเอง

+++++++

ความในใจของเอ๋อ

งืออออ มือพี่จ๋าอุ่นจังตอนนี้พี่จ๋ากำลังกอดหนูอยู่ หนูไม่รู้ว่าทำไมพี่จ๋าถึงใจดีกับหนูแบบนี้ ตั้งแต่เกิดมาหนูยังไม่เคยเจอใครที่ใจดีแบบพี่จ๋าเลย พี่จ๋าพาหนูไปซื้อเสื้อผ้า พี่จ๋าชอบยิ้มให้หนู พี่จ๋าไม่รังเกียจหนูที่หนูเป็นแบบนี้ หนูดีใจ^^ พี่จ๋าทำให้หนูรู้สึกถึงความปลอดภัยเพียงแค่เขาจับมือหนูมันต่างจากพี่ต้าร์มากสำหรับพี่ต้าร์เขาทำให้หนูรู้สึกกลัวมากกว่า แต่หนูก็รู้ว่าพี่ต้าร์สามารถปกป้องหนูได้แต่หนูไม่ชอบแบบนั้น

พี่จ๋าให้งานหนูทำถึงมันจะเป็นเรื่องยากสำหรับหนูแต่หนูทำได้เพราะหนูอยากได้ตังค์ หนูอยากมีตังค์ไปเลี้ยงน้องที่วัดอยากพาตาไปรักษาถึงใครๆ จะบอกว่าหนูโง่ หนูบ้า หนูปัญญาอ่อน หนูไม่สนหรอกหนูรู้ว่าหนูเป็นอะไรถึงหนูจะป่วยหนูก็ป่วยแค่ร่างกายแต่ใจหนูไม่ได้ป่วย หนูยังดีกว่าเด็กออทิสติกคนอื่นๆ ที่เขาเป็นหนักกว่าหนู หนูยังมีโอกาสได้เรียนหนังสือในโรงเรียนของคนปรกติถึงแม้ว่ามันจะลำบากต้องทนกับเสียงกดดัน เสียงของคนที่พูดจาไม่ดีใส่ มันทำให้หนูไม่อยากไปโรงเรียนและไม่อยากเรียนหนังสือแต่ก็โดนคุณครูบังคับ -*- คุณครูมาตามหนูถึงวัดถือไม้เรียวมาด้วยตอนนั้นหนูกลัวมากกลัวจนฉี่ราดเลย T^Tอับอายสุดๆ

หนูมาอยู่บ้านพี่จ๋าได้สองวันวันแรกหนูนอนเกือบทั้งวันเลย พี่จ๋าบังคับนอน พี่จ๋าบอกตัวหนูร้อน เรื่องนี้ต้องโทษไอ้เครื่องฉีดน้ำนั่น หนูกินน้ำไปตั้งหลายอึก หนูแค้นมัน!! คอยดูนะถ้ามันทำร้ายหนูอีกเมื่อไหร่รับรองคราวนี้หนูจะสู้กับมันแน่นอน!

พอวันที่สองที่จ๋าบอกให้หนูทำกับข้าวให้กิน หนูดีใจมากเลยทีหนูจะได้แสดงฝีมือด้านนี้หนูแอบฝึกฝนกับป้าแม่ครัวที่มาทำอาหารให้วัดอยู่บ่อยๆ แต่แปลกที่ป้าแม่ครัวไม่ค่อยชมหนูเลย หนูว่าหนูมีพรสวรรค์ด้านนี้อยู่นะอีกอย่างพี่ต้าร์กินก็ยังชมว่าหนูทำอร่อยเลย-3- แต่ทว่าวันนี้ผมกลับทำอะไรที่น่าอายออกไปกับข้าวที่ผมอุตส่าห์ตั้งใจทำมันดันไม่ได้เป็นอย่างที่หนูคิดมันผิดไปหมดดีที่พี่จ๋าไม่ดุหนูกลัวพี่จ่าจะดุหนูมากๆ เลย วันนี้พี่จ๋าเอาสมุดภาพมาให้หนูดูในนั้นมีรูปสัตว์หนูอ่านมันออกนะแต่ต้องใช้สมาธิมากๆ แถมบางคำสมองหนูจะจำตัวอักษรเป็นภาพดังนั้นกว่าจะอ่านออกมันเลยตะกุกตะกักหรือจะช้าบ้าง พี่จ๋าบอกว่าถาหนูอ่านหนังสือจบเล่มพี่จ๋าจะพาไปสวนสัตว์ หนูอยากไปสวนสัตว์ อยากไป อยากไป หนูเลยตั้งใจอ่านหนังสือ

แต่ว่า...ถ้าพี่จ๋ายังกอดหนูอยู่แบบนี้หนูไม่มีสมาธิเลยใจหนูสั่น มันหวิวๆ แล้วก็รู้สึกตรงนั้น มือพี่จ๋าร้อนมากเวลาเขาจับเอวหนู แค่พี่จ๋าจับเอวตัวหนูก็สั่นไปหมด ร่างกายหนูมันเติบโตตามอายุดังนั้นเรื่องอารมณ์หนูมีแน่นอน ที่ผ่านมาหนูพยายามจะไม่ให้ใครจับเอวเพราะหนูไม่รู้วิธีจัดการมัน เวลามันรู้สึกหนูจะทรมานมากๆ ทรมานจนร้องไห้เลย ตะ..แต่ว่า..ครั้งนี้พี่จ๋าจับมันนานเกินไปหนูทรมานจังแต่หนูไม่กล้าที่จะบอกพี่จ๋า หนูอายT^T

“ทำไมตัวสั่นจังครับนะโม” เสียงพี่จ๋ากระซิบถาม ผมจะบอกว่ายังไงดี ทำยังไงดี T^T

“นะ หนู อื้ออ พี่จ๋า ฮรืออออ”

“อะ อ่าววเป็นอะไรครับไหนบอกพี่จ๋าซิ”

“งืออ บอกไม่ได้ บอกไม่ได้”

“ปวดอึหรอ หรือปวดฉี่” ไม่ได้ปวดฉี่แต่หนูปวดจู๋งื้อออ

“อื้ออ แฮกๆ”

“หรือว่า”

(จบพาทนะโม)

ร่างสูงของสิงห์สังเกตได้ถึงความผิดปรกติของไอ้เอ๋อ กางเกงขาสั้นเจเจที่ไอ้เอ๋อมันใส่ตรงกลางเป้ามองพองออกมาแถมเจ้าตัวก้นั่งบิดไปบิดมาอีก

“พี่จ๋า หนู ฮรืออออ ทำไงดี” ดวงกลมโตคลอไปด้วยน้ำตา

“ชู่ววใจเย็นนะ ใจเย็นก่อน” สิงห์ไม่ได้ปลอบน้องแต่กำลังปลอบตัวเองต่างหาก ปลอบให้มันสงบลง ยิ่งเขาร้อนรุ่มไอ้เอ๋อมันจะยิ่งไม่ปลอดภัย

“เจ็บมันเจ็บ” ไอ้เอ๋อมันร้องออกมาพร้อมกับน้ำตา

“ปรกติเวลานะโมเป็นแบบนี้นะโมต้องทำยังไงครับ” สิงห์ถามเสียงสั่น เขากำลังควบคุมสติตัวเองไม่ให้มันแตกกระเจิง เพราะท่าทางที่แสนทรมานของไอ้เอ๋อมันไปสะกิดต่อมอารมณ์ของเขาเต็มๆ

“ไม่ทำ ไม่ทำ อื้อ ไม่รู้จัก” มันก้มหน้าลงพร้อมกับกุมเป้าตัวเองไว้

“ฉิบหายละ” สิงห์รู้ว่าถ้าไม่จัดการอะไรกับมันมีหวังไอ้เอ๋อมันทรมานตายแน่ๆ

“ช่วยหนูด้วย ฮรืออ หนูจะตายไหมT^T”

“ไม่ตายครับ ไม่ตาย (แต่พี่นี่แหละที่จะตาย) ”

“เอ่อ เอาไงดีวะ” สิงห์เริ่มจะกุมขมับตัวเองไม่รู้จะเริ่มสอนไอ้เอ๋อมันยังไง เรื่องแบบนี้จะให้เขาทำให้ก็ดูจะเลวเกินไป

“ฮรืออ ปวด พี่จ๋าปล่อยหนู”

“เอางี้นะ คือ นะโมรู้ใช่ไหมที่เราเป็นแบบนี้เพราะอะไร” ไอ้เอ๋อมันพยักหน้า มันรู้ว่ามันเป็นอะไรแต่ไม่รู้วิธีจัดการตัวเองเท่านั้นเอง

“ดี ถ้าอยากหายนะโมต้องเอามันออกมา”

“เอาอะไรออก?”

“เอ่ออ คืออ เห้ออ นะโมเห็นนิ้วพี่ไหมแล้วจินตนาการว่าเป็นตรงนั้น”

“ครับ”

“จับมันไว้แบบนี้นะแล้วทำแบบนี้” สิงห์สาธิตให้นะโมดู

“อื้ออ แฮกๆ ปวดจังหนูปวด”

“ทำแบบนี้กับตรงนั้น เรารู้สึกยังไงก็ปลดปล่อยมันออกมา อย่าอั้นไว้นะ มันจะรู้สึกเหมือนปวดฉี่มากๆ พอปวดมากๆ ก็ปล่อยมันออกมาเลยนะ” สิงห์ใช้คำพูดที่พอจะเข้าง่ายๆ ให้ไอ้เอ๋อฟัง

“ครับ T^T”

“ไปเข้าห้องน้ำ แล้วทำตามที่พี่บอก” เขาอุ้มนะโมไปที่ห้องน้ำ เขาออกมาแล้วปิดประตูทันทีทิ้งให้ไอ้เอ๋อยืนงงกุมเป้าตัวเองอยู่ในห้องน้ำอย่าง งงๆ

“เอาเลยนะโมทำเลยแบบที่พี่สอน” เขาตะโกนจากหน้าห้องน้ำ

“อื้ออ หนูทำไม่ได้ ฮรืออ” ไอ้เอ๋อมันตอบเสียงสั่นมันทำอะไรไม่ถูกสักอย่าง

“ในเย็นนะ ค่อยทำตามที่พี่บอกนะครับ” สิงห์นั่งลงเอาหลังพิงประตูห้องน้ำไว้เขากำลังทำแบบที่เขาจะสอนไอ้เอ๋อ ร่างสูงลูดซิปกางเกงตัวเองลง

“ถอดกางเกงครับนะโม”

“...อือออ” ตอนนี้ส่วนแข็งขืนของเขาขยายใหญ่จนน่ากลัว สิงห์สูดลมหายใจลึกก่อนจะเริ่มขยับมือตัวเอง

“กำของนะโมเอาไว้ในมือไม่ต้องแน่นมากนะครับ”

“อื้ออ แฮกๆ” ไอ้เอ๋อมันทำตามที่สิงห์บอกทุกอย่าง

“ขยับมันขึ้นลง..อะ..แฮกๆ”

“อื้ออ อ๊ะ..” เสียงหวานครางออกมาเป็นระยะๆ

“อะอื้ออ อย่างนั้นและครับ เก่งมาก ที่นี่รองเร่งให้มันเร็วขึ้นนะ” มือของเขาก็ขยับเร็วมากขึ้นเช่นกัน ไอ้เอ่อมันนั่งอยู่บนชักโครกกางเกงถูกถอดออกจนหมด มันกำลังทำตามคำสั่งของพี่จ๋าอย่าเคร่งครัด ใบหน้าหวานเหยเก มันไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน รู้สึกเสียว ความรู้สึกแปลกใหม่นี้ทำเอามันแทบจะทรงตัวไม่อยู่

“อ๊ะ อ๋า พี่จ๋า มันอื้ออ” ไอ้เอ๋อมันร้องเรียกพี่จ๋าของมันเสียงดัง

“เร่งอีกครับ เอาให้สุด เอาให้มันออกมานะครับไม่อย่างนั้นไม่หายนะ อ๊ะ..ซี๊ดด” ใช้ถ้าเขาไม่เสร็จก่อนนะโม มีหวังเขาต้องไปลงกับน้องแน่ๆ มือใหญ่เร่งมือจนเอวสอบลอยขึ้นเหนือพื้น สิงหืใช้เสียงของไอ้เอ๋อเร่งเร้าอารมณ์ตัวเองจินตนาการว่าตัวเองทำกับน้อง เพียงไม่กี่ชั่วอึดใจ

“อ๊ะ อื้อ มันจะออกแล้ว อ๊า / อื้ออ นะโม นะโม อ๊ะ แฮกๆ ๆ” จะบอกว่าเสร็จสมพร้อมกันก็จะดูเป็นพรหมลิขิตเกินไปแต่ทั้งคู่เข้าสู่จุดสูงสุดพร้อมกันจริงๆ ไอ้เอ๋อมันปลดปล่อยออกมาเลอะหน้าขากับหน้าท้องตัวเองไปหมด

สิงห์ปล่อยให้ไอ้เอ๋อได้พักระหว่างที่เขาทำความสะอาดตัวเองก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปเพื่อดูว่าไอ้เอ๋อมันจัดการตัวเองเสร็จรึยัง

แกรกก

“นะโมครับ เห้ย!!! ” พอเข้ามาสิงห์เห็นว่าไอ้เอ๋อมันล้มอยู่ในห้องน้ำเนื้อตัวยังเปื้อนคราบน้ำสีขาวๆ ส่งกลิ่นคาวคลุ้ง

“อืออเหนื่อย..เวียนหัว” มันพูดแค่นั้นไอ้เอ๋อก็สลบไปเลย

“เห้ออ ครั้งแรกสินะถึงได้ออกมาเยอะแบบนี้ เก่งมากครับคนดีของพี่” สิงห์ลูบหัวไอ้เอ๋ออย่างรักใคร่ ก่อนจะทำความสะอาดตรงจุดนั้นให้และพามันไปนอนในห้อง

“ครั้งหน้าพี่ไม่สอนแล้วนะครับ”

จุ๊บ

“งืออออ”

+++++++++++++++++

ยอมใจพี่จ๋ามัน เห้อสงสาร 5555+
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.09 29/4/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-04-2018 11:55:45
พี่สิงห์พาน้องใจแตก
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.09 29/4/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 29-04-2018 11:56:40
เรื่องแบบนี้ มันต้องสอนกันตัวต่อตัวไม่ใช่หรอเฮียสิงห์  :o8:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.08 11/4/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-04-2018 16:35:18
ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาดัง ๆ
ตอนอ่านเจอนะโม...แอบจิ๊กไข่สิงห์
แล้วร้องออกมาเป็นเพลง  :m20:

รอตอนต่อไปนะคะ

ขำ ตอนเดียวกันเลย
นะโม มีขโมยไข่ดาวพี่สิงห์กิน
แล้วหลักฐาน ก็ไข่แดงเปื้อนปากตัวเอง  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

นะโม น่ารัก มีคุยกับจิ้งจกเพื่อนรักซะด้วย
พี่สิงห์  นะโม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: 
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.10 13/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 13-05-2018 10:50:10
10



“ไอ้เอ๋อออออออออออออออออออออออออออ” เสียงเรียกชื่อของไอ้เอ๋อดังลั่นหน้าบ้านหมอหนุ่ม น้ำเสียงดูจะร้อนรนจนไอ้เอ่อที่กำลังล้างจานอยู่ถึงกับต้องรีบวางของในมือลง แล้ววิ่งแจ้นไปที่หน้าบ้านทั้งๆ ที่ฟองสบู่ยังเต็มมือ

“พี่ต้าร์!!! ”

“เออกูเอง มาเปิดประตูดิ๊ ร้อนจะตายห่าอยู่ละ” ต้าบ่นพร้อมกับกระพือเสื้อตัวเองไปด้วย

“ครับๆ” มันเดินมาเปิดประตูให้ต้าร์แล้วเดินกลับเข้าบ้านไม่ได้สนใจคนที่อุตส่าห์บากหน้ามาหามันถึงที่นี่ เพราะสมองของมันกำลังสั่งให้มันกลับล้างจานให้เสร็จ เหมือนถูกตั้งโปรแกรมไว้ ร่างสูงของต้าร์เดินตามไอ้เอ๋อเข้าไปด้านในอย่างปลงๆ มองดูก็รู้ว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่ให้กวนใจ

“เป็นไงบ้างมึง ตั้งแต่มาอยู่กับมันไม่มีไปหากูเลยนะ” ต้าร์แกล้งพูดเหมือนน้อยใจที่ไอ้เอ๋อลืม ไอ้เอ๋อมันหันมามองหน้าลูกพี่ตัวสูงของมันอย่างรู้สึกผิดทันที

“ขะ..ขอ..ขอโทษครับ”

“เออ ช่างมันเถอะ ว่าแต่วันนี้มึงว่างไหม ไปตกปลากับกูเปล่า?” วันนี้มันกะลักพาตัวไอ้เอ๋อเต็มที่

“ปะ ปะ..ไป”

“เออดีงั้นเปลี่ยนเสื้อผ้า”

“ไม่ได้ ยะ ยังพูดไม่จบเลย” วันนี้ไอ้เอ๋อมันดันตื่นเต้นที่ต้าร์จะพามันไปตกปลา เพราะความตื่นเต้นดีใจอาการมันเลยกำเริบอีกมันจะเป็นๆ หายๆ อยู่แบบนี้ตลอด ไอ่อาการติดอ่างกะทันหัน

“-*- ไอ้นี่ แล้วมึงทำอะไรอยู่”

“ล้าง จาน หนูล้างจานอยู่” มับตอบพร้อมกับขัดจานในมือไปด้วยจานแค่ห้าหกใบมันใช้เวลาค่อนข้างจะนานในการทำความสะอาดเนื้อตัวครึ่งบนเปียกไปครึ่งท่อน พอเช็ดจานจนแห้งแล้ววางไว้บนชั้น มันเอามือเช็ดเสื้อตัวเองแล้วเดินไปหาไอ้ต้าร์

“มา มา มา” มันกวักมือเรียกให้ไอ้ต้าร์เดินตามมันไป ไอ้เอ๋อเดินลงบันไดไปที่ใต้ถุนบ้าน ตรงนั้นมีตั่งไม้สี่เหลี่ยมลักษณะคล้ายกับโซฟาวางอยู่เป็นชุดรับแขกแบบโบราณมีโต๊ะกระจกตั้งอยู่ตรงกลาง

“นั่งก่อนนะ” บอกให้เขานั่งแต่มันดันนั่งก่อนเขาใบหน้าขาวๆ ชื้นเหงื่อนิดๆ

“นี่มึงเหลืออะไรที่ต้องทำบ้างวะกุจะพามึงไปเที่ยวเนี้ยะ”

“เหลืออะไรที่ต้องทำเหรอ เหลือ เหลืออ อืมมม อ่า เหลือกวาดใบไม้ กับซักผ้า” มันตอบ

“งั้นรีบไปทำสิจะได้เสร็จๆ” มันส่ายหัว

“ไม่รีบ หนูไม่รีบ รอพี่จ๋ากลับมา” พอได้ยินว่าไอ้เอ๋อมันจะรอสิงห์กลับมา ไอ้ต้าร์มันก็ฉุนขาด หงุดหงิดขึ้นมาทันที มันตีหน้ายักษ์ใส่ไอ้เอ๋อ

“จะรอมันทำไม มันเป็นพ่อมึงเหรอไอ้เอ๋อ!! ”

“เฮือกกก!! ดุ ดุ อย่าดุหนูT^T”

“โธ่ เว้ย! ..เออไม่ต้องเบะนะมึง ไม่ไปก็ไม่ไป แมร่งขัดใจก็ได้ทุกอย่าง” ในเมื่อไอ้เอ๋อมันไม่ยอมไปต้าร์มันก็เลยจะอยู่ที่นี่กับไอ้เอ๋อแทน จากการที่จะมันไปซื้อสมุดวาดรูปเป็นอันต้องยกเลิก ปลาก็ไม่ต้องตก ทุกอย่างที่มันคิดไว้ถูกพับเก็บเป็นที่เรียบร้อย

“ซักผ้านะ หนูซักผ้าก่อนนะพี่ต้าร์” มันบอกพร้อมกับขยับตัวลุกขึ้น

“เออ มึงไปซักผ้าไปเดี๋ยวกูกวาดใบไม้ให้”

“ครับ” ต่างคนต่างทำงานไอ้เอ๋อมันเก็บเสื้อผ้าที่ใส่แล้วใส่ตะกร้าก่อนจะนำลงเครื่องซักผ้ามันจำที่สิงห์สอนมันได้ดี หนึ่งคนซักผ้าอีกคนกวาดใบไม้พองานทุกอย่างเรียบร้อยไอ้เอ๋อมันก็มานั่งรอพี่จ่ามันที่ใต้ถุนบ้าน

“หิววะ”

“หิวหรอ หิวหรอ หนูก็หิวแต่รอพี่จ๋ากลับมาก่อน” ไอ้เอ๋อมันบอกพร้อมกับนั่งโยกตัวไปด้วย

“ทอดไข่ให้กินหน่อย” ต้าร์หันไปพูดกับมันที่นั่งมองออกไปทางหน้าบ้าน ไอ้เอ๋อมันเบนสายตากลับมา มันมองลูกของมันพร้อมกับเอียงคอนิดๆ อย่างคนใช้ความคิด

“ทอดไข่? อ๋อออออพี่ต้าหิว”

“เออหิว ครัวอยู่ไหน?” พอถามไอ้เอ๋อมันก็ชี้ไปบนบ้าน ไอ้ต้าร์มันทำหน้าเอือมใส่นี่มันกะให้เขาขึ้นไปเองใช่ไหม เดี๋ยวนี้ชักจะหัวหมอขึ้นทุกวันๆ ไม่ได้เกรงใจคนที่อุตส่าห์ดูแลมันมาตั้งแต่เล็กๆ เลยคิ้วเรียวของต้าร์กระตุกนิดๆ

“ขึ้นไปทำให้กูแดกสิวะ!! ” ความหงุดหงิดบวกกับอากาศร้อนๆ ทำให้ต้าร์เผลอตะคอกใส่ไอ้เอ๋อ

“งะ เฮือออก” ไอ้เอ๋อมันสะดุ้งเสียงตะคอกของไอ้ต้าร์

“เร็ว! ”

“แต่ แต่หนูรอพี่จ๋า พี่จ๋าจะกลับมากินข้าวด้วย”

“-*- มันกับกู เลือกมาว่ามึงจะอยู่ข้างใคร จะรอไอ้สิงห์กลับมาแล้วมึงกับกูก็ไม่ต้องมาเจอกันอีก หรือจะขึ้นไปทอดไข่ให้กูกินแล้วทุกอย่างเหมือนเดิม” เงื่อนไขง่ายๆ ที่ยากสำหรับไอ้เอ๋อมันเลือกไม่ได้เพราะสองคนสำคัญสำหรับมันมาก

“งืออ เลือก เลือกสิ งือออ เลือกเหรอออออT^T” ไอ้ต้าร์มันหงุดหงิดที่ไอ้เอ๋อมันให้ความสำคัญกับสิงห์มากกว่าขอแค่ไข่ดาวไอ้เอ๋อยังไม่เห็นค่าเลย

“ทอดไข่ นี่คือคำสั่ง”

“ทอดไข่นี่คือคคำสั่ง!! ได้คำสั่ง ทอดไข่” พอบอกแบบนี้ต้าร์มันถึงจะได้กิน ป้อนข้อมูลที่เป็นระบบคำสั่งที่ทำงานด้วยระบบสมองไม่ใช่หัวใจ มันน้อยใจนะที่คนที่มันให้ความสำคัญที่สุดเห็นมันเป็นคนสุดท้ายแบบนี้ ไอ้เอ๋อขึ้นไปบนบ้านลงมือทอดไข่ดาวให้ไอ้ต้าร์ร่างสูงยืนมองจากด้านหลังมองมันด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย อยากจะเข้าไปกอด อยากจะเอามันไปอยู่ด้วยอยากจะดูแลมันให้ได้ดี แต่ในเมื่อมันยังเป็นแค่เด็กนักเรียนบ้านก็ไม่ได้รวยมันจะเอาปัญญาที่ไหนมาเลี้ยงไอ้เอ๋อจะเอาเงินที่ไหนมารักษามัน

“ทอดไข่ เสร็จแล้ว ทอดไข่เสร็จพี่ต้าร์กิน” มันวางจานที่มีไข่ดาวสีเข้มไว้ตรงโต๊ะกินข้าวร่างสูงเดินไปตักข้าวใส่จานไข่แล้วเหยาะน้ำปลาก่อนจะตักข้าวกินพร้อมกับมองไอ้เอ๋อที่ชะเง้อ ออกไปมองหน้าบ้านอยู่ตลอดเวลา ทุกๆ วันสิงห์จะกลับมาเวลาเที่ยงสิบห้านาที ไอ้เอ๋อมันจะเตรียมจานเตรียมช้อนเอาไว้รอ

“ต้องเตรียมไว้? ถ้ามันไม่กลับมาละ” ต้าร์ลองหยั่งเชิง พอได้ยินว่าสิงห์อาจจะไม่กลับไอ้เอ๋อมันก็หน้าบึ้งทันที

“กลับมาสิ กลับมา พี่จ๋าไม่ทิ้งหนู”

“ถ้าทิ้งละ”

“T^T” ไอ้เอ๋อเริ่มเบะ

“ถ้ามันทิ้งมึงกูจะเป็นคนมารับมึงกลับไปเองไม่ต้องกลัว” เหมือนคำมั่นสัญญาที่ให้ไอ้เอ๋อมันค่อยๆ คลายคิ้วของมันออก

“จริงนะ”

“เอออออ” ต้าร์ลากเสียงยาวใส่ด้วยความหมั่นไส้นิดๆ พอกินข้าวเสร็จก็เอาจานไปล้าง ไอ้เอ๋อมันจะได้ไม่ต้องมานั่งล้างอีก พอเครื่องซักผ้าส่งเสียงเตือนไอ้เอ๋อมันก็สะดุ้งนิดๆ ก่อนจะเดินถือตะกร้าไปเอาผ้าที่ซักไว้ไปตากตรงราวตากในสวน ต้าร์เดินตามไอ้เอ๋อมันทุกฝีก้าว และช่วยมันตากผ้าด้วย

โค๊รกกก ครากกกก เสียงท้องร้องของไอ้เอ๋อดังมาเป็นระยะๆ เที่ยงกว่าแล้วสิงห์ยังไม่กลับมาสักที ไอ้เอ๋อมันยิ่งฝังใจกับคำพูดของไอ้ต้าร์อยู่ด้วย

“พี่จ๋าไม่มาสักที -*- “

“เดี๋ยวมันก็มา ไปๆ ตากเสร็จแล้วก็เข้าร่มมายืนตากแดดทำไม” ต้าร์ดันแผ่นหลังชื้นเหงื่อของไอ้เอ๋อให้เข้าไปนั่งที่ใต้ถุนบ้าน

“พี่จ๋าเมื่อไหร่จะกลับ เมื่อไหร่จะกลับ หิว หิว” มันพูดวนอยู่แบบนั้นซ้ำๆ จนต้าร์นึกลำคานทั้งๆ ที่เขาก็นั่งอยู่ตรงนั้นมันกลับมองข้ามไป สักพักก็มีรถขับมาจอดที่หน้าบ้าน พอไอ้เอ๋อมันเห็นมันก้วิ่งไปที่หน้าบ้านทันที แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะคนที่มาไม่ใช่สิงห์แต่เป็นหมอไม้เมือง ที่เดินลงมาพร้อมกับถุงกับข้าวมากมาย

“พี่หมอ พี่จ๋าละจ้ะ พี่จ๋าละ” มันพยามจะมองหาพี่จ๋าของมันแต่ก็ไม่เจอ

“อ่า พี่หมอติดธุระครับ นะโมรอพี่สิงห์หรอครับ” หมอไม้พูดเสียงอ่อนโยนพร้อมกับลูบหัวไอ้เอ๋อไปด้วย

“อื้อ หนูรอพี่จ๋า กินข้าว” มันตอบด้วยสีหน้าที่ผิดหวังนิดๆ

“หิวแล้วใช่ไหม พี่จ๋าของนะโมฝากไข่พะโล้มาให้ด้วยนะ” ว่าพร้อมกับชูถุงไข่พะโล้ของโปรดไอ้เอ๋อ ให้มันได้เห็น ถึงจะดีใจที่จะได้กินพะโล้แต่มันกลับรู้สึกเศร้าๆ หงอยๆ

“คิดถึงพี่สิงห์เหรอ?”

“ครับ...T^T”

“เข้าบ้านดีกว่าเนอะ แดดร้อน” ไม้เมืองรีบต้อนไอ้เอ๋อเข้าไปในบ้านก่อนที่สิงห์จะรู้ว่าเขาพาไอ้เอ๋อมันตาก

พอเข้ามาเขาก็เจอคนที่กำลังนึกถึงนั่งไขว่ห้างอ่านนิตยสารอยู่

“หึหึ กะแล้ว ว่าต้องเจอมึงที่นี่” ไม่เมืองหัวเราะในลำคอก่อนจะเดินผ่านต้ารืขึ้นไปบนบ้าน ส่วนต้าร์แค่เหลือบมองหมอไม้เมืองเท่านั้น ก่อนจะลุกขึ้นและตามพวกเข้าขึ้นไปบนบ้าน ไม่ว่าใครต้าร์มันก็ไม่ไว้ใจ

“มาทำอะไร?” ต้าร์เอ่ยถามเสียงขุ่น

“แล้วมึงละมาทำอะไร?”

“มาหาไอ้เอ๋อ”

“กูก็มาหานะโมเหมือนกัน/นะโมไปเอาจานมาให้พี่ทีครับ ตักข้าวมาด้วยนะ”

“ครับ”

“กวนตีนกูเหรอ!! ”

“นี่คนที่กวนตีนกูก่อนคือมึงไม่ใช่เหรอไอ้เด็กช่าง ตั้งแต่ที่ค่ายละ” ไม้เมืองว่าเสียงดุ

“เหรอ ถ้ามึงไม่แย่งกูจีบครูเขากูจะกวนตีนมึงไหม!! ”

“หึหึ เด็กไม่หย่านมแบบมึงครูลิสาเค้าไม่สนใจหรอก!! ” ไม่เมืองว่าเสียงเยาะ ซึ่งมันก็เป็นดั่งไม้เมืองว่า เพราะคนที่จีบครุสาวสวยติดคือหมอไม้ที่คีบลุคเท่สุขุมนุ่มลึกกว่าเด็กช่างใจร้อนอย่างต้าร์

“มึง!! ”

“อ๊ะๆ ลงไม้ลงมือกับกูอย่าหาว่าไม่เตือน เด้กแบบมึงโดนกุปราบมานักต่อนัก อย่าเชี่ยวนะ” ไม้เมืองชี้หน้าใส่ขณะที่อีกคนยกกำปั้นหมายจะซัดใส่

“ฮึ้ยย ฝากไว้ก่อนเถอะมึง” ต้าร์เป็นฝ่ายยอมล่าถอยเพราะขนาดตัวของเขากับหมอต่างกันต้าร์ตัวสูงแต่ไม่ได้หนาเท่าหมอที่ทั้งสูงและหนา อาการปึงปังหงุดหงิดไม่พอใจของต้าร์ ทำให้หมอไม้เมืองรู้สึกสนุกและสะใจอย่างบอกไม่ถูก คิดจะปีนเกลัยวกับเขาคิดผิดถนัด แต่ทว่าเด็กช่างขี้หงุดหงิดไม่ได้ยอมแพ้ง่ายๆ ต้าร์ส่งสายตาเคียดแค้นและหมั่นไส้ไปให้หมอหนุ่มจนไอ้เอ๋อมันเดินกลับมาพร้อมจานชามอีกมือมีหม้อหุงข้าวติดมือมาด้วย

“คุยไรกานนนน คุยด้วย คึคึ”

“พี่ช่วยนะครับ” ไม้เมืองช่วยไอ้เอ๋อมันเทกับข้าวใส่จานพร้อมกับตักข้าวให้

“กินด้วยกันไหม?” ปากถามแต่ตาไม่ได้มอง

“ไม่แดก”

“ก็สมควรที่จะตอบแบบนั้น ความจริงก็ไม่ได้อยากชวนหรอก แต่มันเป็นมารยาท :J”

“ไอ้ ไอ้!! แมร่ง ไอ้เอ๋อกูกลับละอยู่ไปก็อารมณ์เสีย!! ” ต้าหันไปหาไอ้เอ๋อแล้วกอดมันเบาๆ

“อ่าว หนูไม่ไปส่งนะ หนูจะกินไข่พะโล้*0*” ขนาดไข่พะโล้ยังชนะมันเลยคิดดู ต้าร์กระแทกเท้าลงจากบ้านด้วยความโมโห พอออกมาหน้าบ้านเห็นรถของหมอไม้จอดอยู่

“หึหึหึ” รอยยิ้มร้ายปรากฏบนใบหน้าหล่อๆ นั่น ก่อนที่มันจะหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋า

+++++++++++

หมอไม้อยู่เป็นเพื่อนไอ้เอ๋อจนถึงเย็น ไอ้เอ๋อมันนั่งรอพี่หมอของมันไม่ไปไหน คอก็คอยชะเง้อมีบ้างที่มันวิ่งไปปากซอย ที่วิ่งไม่ใช่อะไร มันวิ่งเพราะได้ยินเสียงรถไอศกรีม หมอไม้เมืองตกใจวิ่งตามมันไปรองเท้าก็ไม่ได้ใส่ พอรูสาเหตุที่มันวิ่งก็ถึงกับตบหน้าผากตัวเอง ไอ้เอ๋อมันเกาะท้ายรถไอติมพร้อมกับร้องกรี๊ดๆ ออกมาด้วยความดีใจ

“ลุงๆ ๆ ๆ ๆ ๆ คิดถึงหนูม้ายยยย” มันสนิทกับลุงขายไอ้ติมตักเจ้าประจำในหมู่บ้าน

“เออลุงไม่เห็นเอ็งหลายวันไปไหนมาวะ?”

“อยู่บ้านนู้นๆ ทำงาน ทำงาน คึคึคึ”

“วันนี้เอาอะไรดี ขนมปังหรือเอาถ้วยมาใส่ละ”

“เอาขนมปังๆ สองอันๆ” มันยิ้มกว้างพร้อมกับชูสองนิ้ว หมอไม้เมืองเดินเท้าเอวมาหามันด้วยสีหน้าซีดๆ เพราะวิ่งเร็วเกินไปเขาเลยรู้สึกจุก

“ยี่สิบ อะนี่โคนกรอบๆ ลุงแถมให้^^” ลุงขายไอศกรีมเอาโคนเปล่าคว่ำใส่ไอติมของไอ้เอ๋อให้

“ว้าวววววววววววว*0*ขอบคุณครับ” มันควักเหรียญสิบบาทออกมาสองเหรียญแล้วยื่นให้ ก่อนจะรับไอติมมาถือไว้

“อ่าวพี่หมอ^0^ ทำไมไม่ใส่รองเท้า ไม่ใส่รองเท้าดื้อนะรู้ไหม? ไปๆ กินติมหนูเลี้ยง” มันพูดเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมกับยื่นไอติมให้หมอหนุ่มซึ่งรับมาอย่างงงๆ ตอนนนี้ฝ่าเท้าเขาร้อนไปหมด ก่อนที่ต่างคนต่างวิ่งกลับเข้าบ้านเพราะแดดมันร้อนเกิน



“พี่สิงห์จะเอาน้องอยู่ไหมเนี้ยะ” ไม้เมืองคิดขณะนั่งเล็มไอติมในมือไปด้วย



บรื่นนน เอี๊ยด จนกระทั่งเสียงจอดรถอันแสนคุ้นเคยดังขึ้น ไอ้เอ๋อมันนอนอยู่ใต้ถุนบ้านส่วนหมออยู่บนบ้าน พอมันได้ยินเสียงรถมันก้ลุกพรวดขึ้นทันที

“พี่จ๋า...”

“หึหึหึ.” ร่างสูงของสิงห์ยิ้มละไมเพราะเสียงเรียกของไอ้เอ๋อ เขาลงจากรถในมือมีกล่องเค้กติดมือมาด้วย แต่ก่อนจะเข้าบ้านเขาสังเกตเห็นรถของหมอรุ่นน้อง ที่ยางทั้งสี่ข้างแฟบลงเหมือนโดนคนเจาะยาง

“แสบใช่เล่น กล้าทำลูกรักไอ้ไม้เดี๋ยวมึงได้เจอของดีแน่ๆ ไอ้ต้าร์” สิงห์สำรวจรอบๆ รถก่อนจะเดินมาจับมือไอ้เอ๋อแล้วพาเข้าบ้าน หมอไม้พอเห็ว่าสิงห์มาแล้วก้จะขอตัวกลับเลยเพราะมีนัดกินข้าวกับหมอสาวที่ทำงานด้วยกัน

“ผมกลับก่อนนะพี่ พอดีมีนัด”

“เหรอ อะเอานี่ไป” สิงห์โยนกุญแจรถของตัวเองให้หมอหนุ่ม

“เอามาทำไมพี่รถผมก็มี” ไม้เมืองทำหน้างงๆ

“ลงไปที่รถแล้วจะรู้เอง หึหึ กูว่ามึงเจอตอเข้าให้แล้ววะ” พอได้ยินที่สิงห์พูดไม้เมืองก็รู้ได้ทันทีว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับรถของเขาแน่ๆ ถึงได้วิ่งลงไปอย่างรีบร้อน

“พี่หมอปวดอึแน่ๆ เลยเนอะพี่จ๋า วิ่งไวจัง” ไอ้เอ๋อมันมองตามแผ่นหลังนั้นออกไป

“อืมปวดอึ มันต้องปวดมากๆ แน่ ^^ “สิงห์อมยิ้มกับความคิดที่วิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ของไอ้เอ๋อ เขาพามันเข้าไปในครัว ช่วยกันอุ่นกับข้าวที่ซื้อมาเมื่อทุกๆ มื้อจะต้องมีไข่พะโล้ สิงห์จับสังเกตได้ถ้ามื้อไหนไม่มีไข่พะโล้ไอ้เอ๋อมันจะนั่งนิ่งๆ ไม่สนใจ หรือกินได้น้อยมากๆ แต่ถ้าวันไหนมีไข่พะโล้มันจะกินข้าวได้เยอะมาก เยอะจนสิงห์ตกใจ

“ไข่พะโล้*0*”

“แบ่งกันคนละสามลูกนะครับ^^”

“-3-หนูยังเด็กอยู่นะหนูต้องได้เยอะกว่าสิ” เรื่องกินคือเรื่องใหญ่สำหรับมัน มันยู่ปากเหมือนเด็กเอาแต่ใจ

“กินไข่เยอะไม่ดีต่อสุขภาพนะครับ พี่จ๋าให้แค่สามฟองนะ” สิงห์กำลังสอนให้ไอ้เอ๋อรู้จักแบ่งปันและความพอเหมาะพอดี

“แต่หนูอยากกินเยอะๆ นี่ -3- สี่ฟองนะๆ”

“ไม่ได้ครับ” สิงห์ไม่ได้ใช้น้ำเสียงที่ดูดุ หรือแข็งๆ ใส่ แต่เขาพูดด้วยโทนเสียงที่นิ่งๆ แต่นุ่มนวล

“T^Tพี่จ๋าหวงไข่หรอ”

“ซะงั้น” ใบหน้าที่กำลังจะมีน้ำตากับปากที่เริ่มเบะคว่ำของไอ้เอ๋อเล่นเอาสิงห์ทำตัวไม่ถูก

“พี่จ๋าหวงไข่กะหนู ฮึกT^T...”

“ไม่ใช่อย่างนั้น เฮ้อออ เอาอย่างนี้นะครับ ถ้านะโมทำตามที่พี่จ๋าบอกพี่จ๋าจะให้นะโมกินขนมเค้กเอาไหม” ไอ้เอ๋อมันไม่ได้ทันเห็นเค้กที่สิงห์แช่ไว้ในตู้เย็น พอได้ยินมันก็หูผึ่งยกมือขึ้นปาดน้ำตาป้อยๆ

“จริงหยออออ ^0^” มุมปากมันคลี่ออกจนกว้างหมดเค้าเด็กงอแงเมื่อกี้นี้ไปเสียหมด

“อื้อ ไข่สามใบกับเค้กหนึ่งชิ้น” สิงห์ต่อรอง

“ครับ ไข่สามใบต่อเค้กหนึ่งชิ้น ต่อเค้กหนึ่งชิ้น หุหุหุ กำไลๆ” มันคิดออกมาเป็นคำพูดพร้อมกับนับนิ้วไปด้วย มันได้กินทั้งไข่ทั้งขนมถือว่าคุ้ม เมื่อตกลงกันเรียบร้อยก็ลงมือกินข้าวเย็นสิงห์มองว่านะโมชอบกินอะไรนอกเหนือจากไข่พะโล้ และสิ่งที่เขารู้คือไม่มีอะไรเลยนอกจากไข่พะโล้ทั้งผัดผัก แกงเขียวหวาน ไอ้เอ๋อมันแทบจะไม่แตะ แบบนี้คงแย่แน่ๆ เพราะไอ้เอ๋อมันจะไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ สิงห์คิดถึงวิธีที่จะทำให้นะโมยอมกินอาหารอย่างอื่นด้วย แต่ขณะที่คิดอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น สิงห์เดินไปรับแล้วออกไปคุยทานระเบียงหน้าบ้าน พอเห็นว่าพี่จ๋าของมันลุกออกไป ไอ้เอ๋อมันได้โอกาส จ้วงไข่ในชามจนหมดครบทุกใบไม่เหลือ ก่อนจะเดินไปเอาเค้กที่สิงห์ตัดแบ่งไว้มากินจนหมด ก่อนที่สิงห์จะกลับมาที่โต๊ะด้วยซ้ำ

“นะโม!!! ”

“กรี๊ดๆ ๆ ๆ คิคิคิคิ ไข่หาย ไข่หายหมดเลย” ไอ้เอ๋อมันทำหน้าล้อเลียนพี่จ๋าของมันทันทีที่สิงห์รู้ว่าไข่ของเขาโดนขโมยจนเกลี้ยง

“แสบนักนะเรา มาให้พี่ทำโทษซะดีๆ !! ” สิงห์ไม่ได้โกรธหรือโมโหอะไร เขาแกล้งวิ่งไล่ให้ไอ้เอ๋อมันกลัวเล่นๆ

“กรี๊ดๆ ๆ อย่าน้าๆ ไม่ทำโทษไม่ทำ คิคิคิ” สิงห์คว้าตัวไอ้เอ๋อที่วิ่งไปมารอบๆ ห้องนั่งเล่นก่อนจะสะดุดล้มลงบนเบาะนุ่มที่เอาไว้นั่งดูทีวี ไอ้เอ๋อมันยังหัวเราะไม่หยุดทั้งที่ใบหน้ามันอยู่ห่างจากใบหน้าหล่อคมของสิงห์เพียงน้อยนิด ร่างสูงของสิงห์ทับมันไว้แค่ครึ่งตัว สองแขนกำยำเท้าลงกับเบาะกั้นมันเอาไว้

“ทำผิดต้องโดนลงดทษนะครับรู้ไหม? ^^” เขายิ้มหื่นๆ พร้อมกับใช้มือเกลื่อยผมออกจากหน้าผากของไอ้เอ๋อ

“คิคิ หนูไม่ผิด พี่จ๋าผิด พี่จ่าไม่ยอมมากินข้าว คึคึ”

“แต่เราสัญญากันแล้วนะ เพราะฉะนั้น เด็กดื้อต้องถูกลงโทษ” สิงห์ยิ้มเจ้าเล่ห์ เขากำลังใช้ความไร้เดียงสาของไอ้เอ๋อทำให้เขาบรรลุเป้าหมาย

จุ๊บ

“งื้อออออ -////- “

“พี่ลงโทษเราแล้วนะ ทีหลังอย่าทำอีกนะครับ” สิงห์จูบลงบนหน้าผากสวยๆ ของไอ้เอ๋อก่อนจะดันตัวให้ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ใครจะรู้ว่าตอนนี้หัวใจของเขาเต้นแรงแทบจะกระเด็นออกมานอกอกเมื่อสบตากับเด็กน้อยของเขาระยะใกล้ชิดขนาดนั้น สิงห์ต้องข่มใจอย่างหนักที่จะไม่ล่วงเกินมันไปมากกว่านี้ ส่วนตัวต้นเรื่องตอนนี้นอนฟังเสียงหัวใจตัวเองด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

“พี่จ๋า..หัวใจหนูเต้นแรงจัง>//<”







++++++++++++++++++++++++++++

รักน้องด้วยนะคะ นี่เป็นข้อมุลเพียงบางส่วนที่ไรท์พยามศึกษาเพื่อที่จะเข้าใจความคิดความอ่านของน้องเอ๋อมากขึ้น และนิยายเรื่องนี้มันเป็นเพียงจินตาการของไรท์นะคะโดยใช้ข้อมูลในการอ้างอิงบางส่วนในเรื่อง

ออทิสติก

กลุ่มอาการแอสเพอร์เกอร์ (Asperger Syndrome)

กลุ่มอาการแอสเพอร์เกอร์ (Asperger Syndrome) คือ กลุ่มอาการที่เกิดจากความผิดปกติทางการทำงานของระบบประสาท ที่จัดอยู่ในกลุ่มของโรคกลุ่มออทิสติค (Autistic spectrum disorders) ซึ่งเป็นกลุ่มอาการของโรคที่มีปัญหาทางด้านพฤติกรรม และพัฒนาการทางด้านการพูด เช่น โรคออติสติค (Autism) และพฤติกรรมแปลกอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายออทิสติค

เหตุที่จัดเป็นกลุ่มอาการของโรค เนื่องจากอาการของผู้ป่วยแต่ละคน จะมีความแตกต่างกันได้หลากหลาย ทั้งทางด้านรูปแบบของอาการแสดง และความรุนแรงของปัญหา แม้ผู้ป่วยสองคนจะมีการวินิจฉัยโรคเหมือนกัน แต่จะพบว่า อาการแสดงและความสามารถทางด้านทักษะของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันได้ค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงมักแบ่งอาการเหล่านี้ ออกตามความสามารถ และทักษะของผู้ป่วย เช่น

@ Low-functioning คือ กลุ่มที่มีความสามารถในการพูด การใช้ภาษาและการปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นๆ ได้น้อย)

@ High-functioning คือ กลุ่มที่สามารถพูด ใช้ภาษาและปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นๆ ได้ดี

@ Autistic tendencies คือ กลุ่มที่มีอาการคล้ายออทิสติค

@ Pervasive developmental disorder คือ กลุ่มที่มีปัญหาทางด้านพัฒนาการผิดปกติ ทำอะไรซ้ำๆ ย้ำคิดย้ำทำ เพื่อใช้เรียกผู้ป่วยที่มีอาการแสดงของออทิสติค ที่มีความสามารถและทักษะต่างๆ กัน ซึ่งผู้ป่วยที่มีอาการอยู่ในกลุ่มแอสเพอร์เกอร์นี้ มักจะมีความสามารถและทักษะต่างๆ ค่อนข้างดี เหมือนกับกลุ่มที่จัดเป็น high-functioning autism

อาการแสดงที่เป็นลักษณะของแอสเพอร์เกอร์ คือ การที่มีปัญหาในการเข้าสังคมกับคนอื่นๆ ไม่ค่อยมีปฎิสัมพันธ์กับผู้อื่น มีความหมกมุ่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เหมือนเป็นแบบย้ำคิดย้ำทำ มีลักษณะการพูดที่แปลกๆ รวมทั้งพฤติกรรมบางอย่างที่แปลกไปจากธรรมดา เด็กเหล่านี้มักจะไม่ค่อยมีสีหน้าที่แสดงอารมณ์ต่างๆ เท่าไรนัก และมักจะมีปัญหาในการอ่านใจ และภาษาท่าทางของคนอื่นๆ ที่ตนเองสนทนาด้วย

มักจะชอบทำอะไรซ้ำๆ หรือมีรายละเอียดในการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันที่เหมือนๆ เดิมเสมอ และบางรายจะมีความไวต่อสิ่งเร้า ที่มาจากภายนอกค่อนข้างมากกว่าคนทั่วไป เช่น อาจจะรู้สึกรำคาญหงุดหงิดกับแสงไฟเล็กๆ บนเพดาน ในขณะที่คนอื่นๆ แทบจะไม่ได้สังเกตว่า ไฟดวงนั้นได้ถูกเปิดทิ้งไว้ หรืออาจจะชอบที่จะสวมใส่เสื้อผ้าบางชนิดซ้ำๆ กัน โดยไม่ยอมใช้เสื้อผ้าประเภทอื่นเลย

โดยทั่วไปเด็กที่มีปัญหาในกลุ่มอาการแอสเพอร์เกอร์นี้ ส่วนใหญ่จะสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ แต่อาจจะมีปัญหาบ้าง เมื่อต้องมีปฎิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ โดยอาจมีพฤติกรรมการแสดงออก ที่ไม่สมกับวัย ดูเด็กกว่าวัย (socially immature) หรือมีลักษณะแปลกๆ ต่างจากเด็กคนอื่นๆ

ลักษณะอื่นๆ ที่อาจพบได้ในแอสเพอร์เกอร์ คือ การพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว และกล้ามเนื้อ ค่อนข้างช้า หรือไม่คล่องตัวเหมือนเด็กทั่วไป ดูเหมือนงุ่มง่ามกว่า ไม่ค่อยสนใจสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว และอาจจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องบางเรื่องอย่างมาก เช่น อาจสนใจ หรือพูดแต่เรื่องไดโนเสาร์อย่างเดียวตลอดเวลา หมกมุ่นมากเกินกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

เมื่อเด็กเหล่านี้โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ก็ยังจะมีปัญหาในการเข้าสังคมกับผู้อื่น เช่น อาจจะไม่ค่อยสนใจในความรู้สึกของผู้อื่น ไม่ค่อยมีความเห็นอกเห็นใจ หรือมีอารมณ์ร่วมกับคนอื่นๆ ทำให้มีปัญหาในการปฎิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน และคนรอบข้าง พบว่าปัญหาเหล่านี้ จะยังคงอยู่ไปตลอด แม้ว่าจะมีอายุมากขึ้น และมีวุฒิภาวะมากขึ้น ตามวัยแล้วก็ตาม แต่อาการแสดงต่างๆ อาจจะมีมาก หรือน้อยเป็นช่วงๆ ได้

เนื้อหาบางส่วนไรทืศึกษาจากน้องคนนี้นะคะ ลองเข้าไปอ่านดูจะเข้าใจพฤติกรรมน้องมากขึ้น

https://pantip.com/topic/32585970 (https://pantip.com/topic/32585970)
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.10 13/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 13-05-2018 11:32:01
พี่สิงห์ร้ายอ่ะ :hao3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.10 13/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 13-05-2018 11:41:26
ลำคาน เขียนแบบนี้ รำคาญ

รออ่านเรื่องตลอดชอบมากชอบความน่ารักของนะโมความอบอุ่นของพี่สิงห์
คู่ของไม้กับตาร์ก็แสบคันๆๆดี
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.10 13/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 13-05-2018 13:35:17
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.10 13/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-05-2018 13:47:43
สิงห์จะเอานโมอยู่ไหมนะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.10 13/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-05-2018 17:48:57
รักษาคำสั่งดีมาก เอ๋อ  :katai2-1:
เอ๋อ น่ารัก  :mew1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.10 13/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 13-05-2018 18:32:00
น้องเอ๋อน่าร๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.11 29/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 29-05-2018 06:26:10
ตอนที่ 11

หนึ่งเดือนผ่านไปไวเหมื้อนนนนโกหก ช่วงเวลาสงบสุขของไอ้เอ๋อ กำลังดำเนินต่อไปอย่างเงียบๆ และเรียบง่ายสุดๆ เช้ามาเตรียมอาหารเช้าให้สิงห์ อาหารง่ายๆ อย่างไข่ดาวกับขนมปัง แล้วก็กาแฟ แต่กว่าจะได้เมนูนี้เล่นเอาทั้งสิงห์และหมอไม้เมืองปวดหัวไปตามๆ กัน กว่าไอ้เอ๋อมันจะทอดไข่โดยที่ไม่ไหมได้เขาหมดไข่ไปสามแผง แต่หลังจากนั้นมันก็ทำได้ดีมาตลอด ส่วนงานบ้านงานเรือนมันก็ทำได้ดีไม่ขาดตกบกพร่องแต่อาจจะช้าหน่อยเพราะมันความย้ำคิดย้ำทำของมัน มีบ้างที่ทำน้ำท่วมห้องน้ำเพราะมันอยากจะแช่น้ำในอ่างแต่ก็นั่นละไอ้เอ๋อพอมันตกใจก็ร้องโวยวายลั่นบ้าน จนสิงห์ต้องมาช่วยกันวิดน้ำออก เกือบลามเข้าห้องนอนเขาแล้ว อีกวันมันก็ทะเลาะกับชักโครกเพราะดันลืมสิ่งที่สิงห์เคยสอนเรื่องการใช้ชักโครก มันเอาไม้กวาดมาตีจนชักโครกแทบแตก!! เพราะว่ามันโมโหที่ชักโครกฉีดน้ำใส่ไข่มันแทบปลิว ตีไปร้องไห้ไปด้วยความเจ็บ

อ่อแล้วอีกอย่างที่ทำให้พี่สิงห์ของมันต้องขนหัวลุก นั่นคือมันคุยคนเดียว คุยแบบออกรสออกชาติมาก บางวันมันก็คุยกับต้นไม้หลังบ้าน บางวันมันก็ยืนคุยที่รั้วหน้าบ้าน ที่สำคัญมันคุยตอนกลางคืนดึกๆ สิงห์เคยถามมัน มันก็ตอบแบบว่าหน้าตายิ้มแย้มว่าคุยกับคุณยายคุณยายมาเยี่ยม ทั้งๆ ที่เขาก็ไม่เห็นใครสักคน (ทีนี้ก็รู้แล้วนะว่าบ้านหลังไหนคึคึคึ)

07.30น.

“-0- ง่วงอ่า” ไอ้เอ๋อมันบ่นออกมาพร้อมกับขยี้ตาตัวเองไปด้วยเมื่อคืนมันนอนดึกเพราะเร่งอ่านหนังสือจนจบมันจะได้ไปสวนสัตว์ตามที่สิงห์ให้สัญญากับมัน มันเดินมาที่ครัวก่อนเป็นอันดับแรก แล้วหยิบกระทะมาตั้งเตาทอดไข่ดาวกับปิ้งขนมปังแล้วหยิบแยม ที่เมื่ออาทิตย์ก่อนสิงห์พามันไปโลตัส ซื้อของกินของใช้เข้าบ้าน พามันไปเลือกแยม และสิ่งที่ไอ้เอ๋อมันเลือก คือ เนยถั่วกับนูลเทล่ามาสิงห์ตกใจนิดหน่อยที่มันกอดขวดแยมเดินมาหาแล้วยื่นให้ พอถามถึงได้รู้

“พี่ต้าเคยพาหนูไปซื้อเครปแล้วสั่งไส้แบบนี้ให้ นูเทล่า กับเนยถั่วๆ” “แบบนี้เองสินะ” สิงห์เอ่อยอออกมาเบาๆ ก่อนจะพาไอ้เอ๋อมันไปยังฝั่งที่ขายเครื่องครัวเรือน อย่างน้อยๆ น่าจะมีของของ เขาที่เลือกให้ไอ้เอ๋อบ้าง

“ช้อนส้อมดีกว่านะโมจะได้ใช้ทุกวัน” สิงห์พาไอ้เอ๋อเลือกซื้อช้อนส้อมของตัวเองมันเดินเลือกอยู่สักพักก็ได้ช้อนลายการ์ตูนดิสนี่มา ที่หัวด้ามจับจะมีหัวตุ๊กตาอันใหญ่

“มิกกี้เม้าส์?”

“หนูน่ารักดีครับ^^” มันตอบเขาเลยเลือกจานลายเดียวกันให้มันอีกใบไอ้เอ๋อมันแทบจะร้องกรี๊ด เพราะมันชอบมา แต่ที่แน่ไปกว่านั้น คือมัน พยายามบังคับให้สิงห์ใช้เหมือนมันด้วย จนสุดท้ายคนโตกว่าก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป

“ลา ลา น่ารัก ชอบๆ” สิงได้ชุดจานลายอียอว์จากเรื่องวินนี่เดอะพูห์มา เขาพลิกจานในมือแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ ถ้าคนที่บ้านมาเห็นว่าเขาใช้จานชุดสำหรับเด็กแล้วละก็...ล้อกันยันลูกบวช

และทุกครั้งที่กินข้าวพวกเขาจะใช้จานชุดของใครของมัน ติดจนใช้จานชุดนั้นทุกวันไม่เว้นแม้กระทั่งสิงห์ ส่วนเรื่องอื่นๆ ไอ้เอ๋อมันไม่มีปัญหาอะไร มันทำทุกอย่างได้เหมือนคนปรกติแค่จะช้าเท่านั้นเอง หนึ่งเดือนกับการอยู่ร่วมชายคา ทำให้สิงห์ได้รับรู้อะไรหลายๆ อย่างจากไอ้เอ๋อ

ไอ้เอ๋อเป็นเด็กที่มองโลกในแง่ดี มีความซื่อสัตย์ พูดจาเพราะและไม่ค่อยมีอารมณ์ก้าวร้าวเหมือนเด็กออทิสติกคนอื่นๆ แต่จะควบคุมอารมณ์ตื่นเต้น หรือตกใจกลัวมากๆ ไม่ได้ วันหนึ่งมันเจอคนเมาอาละวาดตอนเดินตลาดกับสิงห์และหมอไม้ ไอ้เอ๋อเกิดอาการตัวสั่นและร้องไห้กรีดร้องออกมา และพยายามจะวิ่งหนี จนสิงห์กับไม้เมืองต้องช่วยกันจับเอาไว้ คนในตลาดรู้ดีว่าไอ้เอ๋อมันกลัวคนเมา และสาเหตุของอาการกลัวแบบนี้ทำให้สิงห์ยิ่งสงสารนะโมมากขึ้น

“เห้อ ไอ้เอ๋อมันเป็นเด็กที่น่าสงสาร พ่อแม่ก็ไม่มี แถมยังมาพิการอีก ตอนเด็กมันเคยโดนพวกขี้เมาขี้ยาแถวๆ หลังวัดลากไปหวังจะข่มขืนมัน ดีที่ไอ้ต้าร์มันมาเห็นเข้าพอดีเลยช่วยไว้ได้ทัน ช่วงนั้นนะแค่มดเดินผ่านมันก็ร้องแล้ว” คำบอกเล่าจากคนในตลาดทำให้ทั้งสองคนรู้สึกสะเทือนใจ สิงห์เหลือบมองไอ้เอ๋อพร้อมกับสัญญากับตัวเองว่าเขาจะไม่มีวันทำให้ไอ้เอ๋อต้องเจออะไรที่มันเลวร้ายอีก

++++++++++++++++++++

วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันหยุดที่สิงห์จะพาไอ้เอ๋อมันไปเที่ยว และจุดหมายปลายทางคือสวนสัตว์ ไอ้เอ๋อมันตาลุกวาวตื่นเต้นสุดๆ มันจะได้เจอพี่ช้างกับน้องกวาง น้องต่ายของมันแล้ว สิงห์จัดการแต่งตัวให้ไอ้เอ๋อมันแต่เช้า เขาให้มันใส่ชุดเอี้ยมแบบเต็มตัว ดูน่ารักส่วนตัวเองนั้นใส่เสื้อยืดกางเกงยีนสีเทาธรรมดาๆ กับรองเท้าผ้าใบ สวนสัตว์ที่ว่าอยู่ไกลหน่อยเลยต้องออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืด

นี่เป็นครั้งแรกที่ไอ้เอ๋อมันออกมาไกลบ้านไกลวัด มันนั่งเกาะขอบหน้าต่างดูข้างทางอย่างไม่วางสายตา มันตื่นเต้นกับทุกสิ่งทุกอย่าง ปากเล็กๆ ของมันฉีกยิ้มกว้าง บ้างก็ร้องอู้วว อ้า ตามประสา ท่าทางของมันใครเห็นก็ต้องเอ็นดู เพราะมันใสซื่อ เหมือนผ้าขาว และโปร่งใส และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ ไอ้เอ๋อมันต้องเรียนรู้ในการใช้ชีวิตอีกมาก มันจะต้องได้รับการรักษาในทางที่ถูกต้อง ไม่เหมือนๆ กับที่มันใช้ชีวิตแบบที่ผ่านๆ มาสิงห์กำลังปูทางเดินให้ไอ้เอ๋อมันใหม่

13.45น. ณ สวนสัตว์

ขาสั่นๆ ของไอ้เอ๋อมันค่อยๆ ก้าวลงจากรถ สองมือกำเสื้อตัวเองเอาไว้จนแน่น มันยืนนิ่งรอสิงห์ลงจากรถ

“ไปครับ นะโมอยากดูอะไรก่อนดี^^” สิงห์เอื้อมมือไปจับมือมันเอาไว้ ไอ้เอ๋อมันเลยเงยหน้าขึ้นมองพี่จ๋าของมันสลับกับมือที่โดนจับ ความรู้สึกอุ่นวาบในหัวใจทำให้มันยิ้มออกมา แค่นี้มันก็มีรู้สึกกลัวอะไรแล้ว

“หนูอยากดูพี่ช้างงง”

“ปะ ถ้าอย่างนั้นเราไปดูพี่ช้างกันนะ” สิงห์จูงมือไอ้เอ๋อไปยังคอกช้าง ก่อนจะตามด้วยยีราฟและหมีควาย แต่เพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุดคนเลยเยอะมากกว่าปรกติ กว่าไอ้เอ่อมันจะเบียดเด็กที่มุงดูกันอยู่เข้าไปได้ ก็โดนเด็กมันมองค้อนไปหลายดอก

“พี่ อะไรของพี่เนี่ยะ อย่าเบียดหนูสิ”

“ไม่เบียด ดู ดู” มันกระโดดชี้ๆ ไปที่ยีราฟอย่างชอบใจ แถมตบมืออีกต่างหาก หลายคนมองมันเหมือนกับตัวประหลาด แต่มันไม่สนใจหรอกเรื่องแบบนี้มันสนใจยีราฟมากกว่า

“พี่จ๋าดู ดู คอยาววววว” มันทำท่ายืดคอเหมือนยีราฟให้สิงห์ดู

“หึหึ” รอยยิ้มถูกจุดขึ้นที่มุมปากของเขา สิงห์เฝ้ามองเด็กตรงหน้าด้วยใจที่เป็นสุข นี่เขาไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว ความสุขที่ไม่ต้องลงทุน ความสุขใจที่รับมาโดยไม่ต้องร้องขอ สิงห์กระชับมือบางเอาไว้แน่น

“พี่จ๋า ไปลิงกัน”

“ครับ” พูดจบก็โดนลากไปที่กรงลิงอุรังอุตัง ไอ้เอ๋อมันจ้องมองไปยังสัตว์ที่แสนวิเศษตัวนั้นแล้วยิ้ม

สิงห์โดนไอ้เอ๋อลากไปลากมาอย่างไม่มีหยุด ด้วยความสนุกของมัน จนมันเหนื่อยนั่นแหละถึงได้หยุดพัก

“ปวดขา ปวดขา” ปากเล็กบ่นออกมา

“หึหึ ก็เราเล่นวิ่งไปทั่วเลยนี่ครับไม่ปวดก็แปลกแล้ว ไปนั่งตรงม้านั่งตรงนั้นกันดีกว่า” สิงห์ชี้ไปยังม้านั่งตัวยาวที่ไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวนั่งพัก พอมาถึงไอ้เอ๋อมันก็นั่งแหมะแล้วนวดขาตัวเองสิงห์กวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อหาร้านขายน้ำ ดูท่าเด็กน้อยของเขาจะหิวน้ำไม่น้อย

“นั่งรอพี่ตรงนี้นะครับ เดี๋ยวพี่ไปซื้อน้ำมาให้” พอได้ยินว่าตัวเองจะต้องอยู่คนเดียวมันก็จับแขนเสื้อของสิงห์ไว้แน่นพร้อมกับส่ายหน้าไปมา

“ไม่เอา อย่าทิ้งหนู” ไอ้เอ๋อมันไม่ยอมให้สิงห์ไปไหน สิงห์ย่อตัวลงนั่งตรงหน้าของมันแล้วมองเข้าไปในดวงตากลมคู่นั้น

“พี่ไม่ได้ทิ้งครับ พี่จะไปซื้อน้ำให้นะโมไง นะโมไม่หิวน้ำหรอ”

“หิวครับ”

“ถ้าอย่างนั้นนะโมรอพี่อยู่ตรงนี้.. อย่าไปไหนเข้าใจไหมครับ”

“เข้าใจครับ..แต่ว่า หนูกลัว” มันยังไม่ยอมปล่อยมือจากเสื้อของเขา

“ไม่ต้องกลัวนะ” สิงห์ถอดสร้อยที่ตนเองสวมอยู่ทุกวันให้ไอ้เอ๋อ สร้อยที่มีจี้เป็นปีกอินทรีย์ตรงกลางมีพลอยทับทิมรูปหัวใจดวงเล็กๆ ฝังอยู่มันเป็นของสำคัญของเขา

“สร้อยเส้นนี้เป็นของพ่อที่มอบให้แม่พี่ ของขวัญชิ้นแรกของท่าน ปีกอินทรีย์จะปกป้องดวงใจ เห็นไหมครับ^^”

เพียงมันถูกสวมอยู่บนคอความรู้สึกกลัวก็ค่อยๆ หายไปจนมันรู้สึกที่จะแปลกใจไม่ได้มันกำสร้อยเส้นนั้นไว้แล้วมองหน้าสิงห์

“พี่สัญญาว่าจะกลับมาครับ”

“อื้อ หนูจะรอพี่จ๋าอยู่ตรงนี้ พี่จ๋ารีบกลับมานะ” ในที่สุดมันก็ยอมปล่อยมือจากเขา

“ครับ เป็นเด็กดีนั่งอยู่ตรงนี้นะครับ” สิงห์ลูบหัวมัน

“ครับ^^”

(พาทสิงห์)

ผมเดินจากที่ตรงนั้นมาแต่ก็ยังมองนะโมอยู่  นะโมลากผมเดินไปจนทั่วสวนสัตว์ ซุ้มขายน้ำอยู่ไม่ไกลจากที่นะโมนั่งสักเท่าไหร่ ความจริงผมก็กลัวเหมือนกันที่จะทิ้งเขาไว้คนเดียว ดังนั้นผมคงต้องรีบซื้อแล้วกลับไปหาน้อง

“แม่ๆ ดูสิช้างมันอะไรไม่รู้ นอนชักใหญ่เลย” เสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งฉุดให้ผมหยุดก้าวเท้า

“ไหนๆ พาแม่ไปดูหน่อย” มันไม่ใช่เรื่องดีที่จู่ๆ ช้างจะเกิดอาการชักผมรีบสาวเท้าก้าวตามก่อนที่ผมจะเห็นช้างเชือกหนึ่งกำลังชักน้ำลายฟูมปาก และร้องออกมาอย่างทรมาน อาการของมันคือกินสารพิษเข้าไปในปริมาณที่สูง

“แย่ละ” อาการของมันเข้าคั่นโคม่าท่าไม่รีบช่วยมันตายแน่ๆ ผมเป็นสัตวแพทย์ผมรู้ดีว่าต้องทำยังไง ผมรอช้าไม่ได้ ผมกระโดดลงไปในคอกช้าง ตรวจหาสาเหตุพร้อมปฐมพยาบาลเบื้องต้นทันทีเท่าที่จะทำได้ พร้อมกับตะโกนบอกให้คนที่มุงดูอยู่ไปตามเจ้าหน้าที่มาช่วย ทุกอย่างดูตึงเครียดเพราะช้างเชือกนี้อายุมากแล้ว ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็มาพร้อมแพทย์ที่ดูแลช้างเชือกนี้มันถูกนำออกจากคอกแล้วพาไปยังสถานพยาบาลทันที ผมจึงรีบตามไปและแจ้งอาการและสาเหตุเบื้องต้น

“มันกินหญ้าที่มียาฆ่าหญ้าเข้าไป ในปริมาณที่สูงมากครับ ผมเป็นสัตวแพทย์ขอโทษที่ก้าวก่ายงานของคุณ แต่ผมจำเป็นต้องช่วยชีวิตมัน” ผมบอกกับเจ้าหน้าที่ไปแบบนั้น

“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณ ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยบุญยืนของเราไว้ เสื้อผ้าคุณเปื้อนหมดเลย ถ้าไม่รังเกียจ นี่ครับใส่เสื้อผมไปก่อน” หมอหนุ่มที่ดูจะอายุมากกว่าผมอยู่หลายปียื่นเสื้อยืดสกรีนลายสวนสัตว์ไว้ตรงอกให้ผมรับเอาไว้ พร้อมกับก้มหัวของคุณ

“ห้องน้ำอยู่ด้านซ้ายมือครับ”

“ขอบคุณครับ”

หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าผมก็นึกขึ้นได้ว่าทิ้งนะโมเอาไว้ผมก้มมองดูนาฬิกา เขาลืมน้องไว้เกือบสองชั่วโมง

ชิบหายยยยยยยย

ใจผมแทบร่วงมาอยู่ที่ตาตุ่ม มันหวิวไปหมด ผมวิ่งอย่างสุดกำลังเพื่อมาตรงที่ทิ้งนะโมเอาไว้ นี่มันจะห้าโมงเย็นแล้ว ผมนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ พอมาถึงก็เห็นนะโมนั่งกอดเข่าตัวเองเอาไว้ไม่ขยับ ผมใจชื้นขึ้นมาทันที รีบวิ่งเข้าไปหา พอน้องเห็นว่าผมกลับมาแล้วก็รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งมาหาผมทันที

“ฮึกพี่จ๋า ฮึกพี่จ๋าไปไหนมาฮึก นานนT^T”

“พี่ขอโทษนะครับ พี่ขอโทษ” ผมกอดเขาเอาไว้แน่น พร้อมกับจับใบหน้าเปื้อนน้ำตานั้นเอาไว้แล้วเช็ดหยดน้ำตาออกให้ นี่ผมทำอะไรลงไปให้ตายสิ ผมอยากจะชกหน้าตัวเองจริงๆ ทั้งๆ ที่สัญญากับน้องไว้แล้วแท้ๆ ว่าจะไม่ทิ้งเค้า

“หนูกลัว ฮึกมีคนมา ฮึก จะพาหนูไปฮึกแต่หนูไม่ไป ฮึก เขาบอกว่าจะพาหนูไปหา ฮึกแม่ แต่แม่ด่างหนูตายแล้ว ฮรือออออออออออออออออออออออออออออออออออ” น้องสะอื้นออกมาไม่หยุดปากก็เล่าไปด้วยนั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก ยิ่งสงสารเขามากขึ้นไปอีก น้องรอ้งไห้จนผมจะขาดใจตายแทน

“ดีแล้วครับที่ไม่ไปกับเขา พี่ขอโทษนะครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งนะโมไว้ พอดีพี่เจอลุงช้าง ลุงช้างไม่สบายพี่เลยต้องช่วยลุงช้างนะครับ”

“ฮึก..” พอเขาเริ่มหยุดสะอื้น น้องก็ดันตัวเองออกจากอ้อมกอดผม

“หนู ฮึก โกรธ พี่จ๋าผิดสัญญา ฮึก ถึงพี่จ๋าจะช่วยลุงช้า แต่พี่จ๋าลืมหนู ฮึก” น้องเม้มปากตัวเองเองไว้แล้วยืนหันหลังให้ผมสีหน้าน้องแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่ากำลังโกรธและงอนผม

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นน้องเป็นแบบนี้ ผมเริ่มจะทำตัวไม่ถูกและรู้สึกตกใจด้วย ผมเอื้อมมือจะจับมือเขาเขาก็ขยับหนี

“ฮึก..หนูน้อยใจ หนูไม่ชอบ ..ฮึก..การถูกทิ้ง” คำพูดแค่ไม่กี่คำมันกลับทำร้ายหัวใจผมได้มากมายขนาดนี้ ผมคนที่ได้รับฉายาว่า สิงห์ราชาผู้ไร้หัวใจ ผมไม่เคยสนใจน้ำตาของใครไม่เคยสนด้วยว่าใครจะรู้สึกยังไง กับทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ผมเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอย่างอิสระ อยากทำอะไรทำ อยากได้อะไรก็ต้องไปคว้ามันมาให้ได้ แต่กับเด็กคนนี้ เด็กคนนี้เพียงคนเดียวที่ทำให้ผมหลุดจากลุคคนเย็นชา คนไม่มีหัวใจ ผมคว้าตัวน้องเข้ามากอด เขาพยามดิ้นแต่ผมไม่ปล่อยหรอก

“พี่จะไม่ทำแบบนั้นอีก พี่จะไม่ไปไหนพี่จะไม่ทิ้งหนูนะครับ”

“โกหก ฮรือออ” เขาพูดออกมาเสียงสั่น นะโมไม่ไว้ใจผมอีก

“ไม่ครับ ไม่โกหก”

“อยากกลับบ้านT^T” น้องพูดพร้อมกับหันมาจ้องผมด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ผมต้องใจเย็นกว่านี้ ผมจูงมือเขาเดินกลับมาที่รถยังดีที่เขาไม่สะบัดออกอีก...แต่จะว่าไปเวลาน้องโกรธก็น่ารักดีนะครับว่าไหม...

จบพาทสิงห์

เพราะมัวแต่เสียเวลาไปกับการช่วยช้างเชือกนั้นทำให้ร่างสูงต้องหาที่พักในตัวเมืองแทนที่จะขับรถกลับบ้าน เขาเหนื่อเกินกว่าจะขับรถไปไหวอีกอย่างนะโมก็ยังไม่ยอมคุยกับเขาเด้กหนุ่มนั่งเงียบมาตลอดทาง ดวงตากลมเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างตลอดเวลา นะโมโกรธจริง

“นะโมครับ หันมาคุยกับพี่จ๋าหน่อยนะครับ”

“....”

“วันนี้เรากลับบ้านไม่ทันแล้ว เราต้องนอนค้างที่นี่นะครับ” สิงห์พยายามหาเรื่องคุย

“....”

“เอ ว่าแต่วันนี้คุณยีราฟให้นะโมจับด้วยใช่ไหมเอ่ย”

“.....” นะโมยังเงียบไม่ยอมคุย

“พี่จ๋าหิวน้ำจังเลย เด็กดีคนไหนจะเอาน้ำให้พี่จ๋ากินได้น้า” นะโมชะงักไปนิดก่อนจะหดมือที่กำลังจะเอื้อมไปหยิบน้ำมาป้อนให้สิงห์ พร้อมทำปากขมุบขมิบเบาๆ สิงห์เหลือบมองแล้วอมยิ้มนิดๆ

“คอพี่จ๋าแห้งมากเลย แคกๆ” ร่างสูงแกล้งไอเจ็บคอนะโมหันมามองนิดๆ พร้อมกับทำสีหน้าที่ลังเล คือยังโกรธเขาอยู่แต่ก็รู้สึกเป็นห่วงด้วย

“...-3-...”

“โอยย หิวน้ำ เจ็บคอจังเลย พี่จ๋าต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้กินน้ำ” ร่างสูงทำเสียงทรมาน

“กินสิ -3- “นะโนอดใจไม่ไหวหยิบขวดน้ำป้อนให้กับร่างสูง

“ไม่โกรธที่จ๋าแล้วหรอครับ”

“หนูโกรธ แต่หนูกลัวพี่จ๋าตายมากกว่า” นะโมเหมือนแก้วใสมีอะไรก็จะพูดออกมาตามที่ใจคิด ไม่มีเสแสร้ง หรือโกหก มองภายนอกนะโมคือเด็กหนุ่มวัยสิบเก้าปี กำลังย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นอย่างเต็มตัว แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปแล้วเขาเป็นเพียงเด็กวัยสิบขวบ ที่ต้องการความรักและการเอาใจใส่มากกว่าคนปรกติทั่วไป

“แล้วถ้าพี่จ๋าตายนะโมจะหายโกรธพี่จ๋าไหม” สิงห์แสร้งทำเสียงเศร้าตีหน้าละห้อย พอได้ยินคำว่าตายอีกครั้ง นะโมถึงกับทำตาโตมันส่ายหัวไปมาเร็วๆ แล้วรีบกอดสิงห์ไว้แน่น เล่นรถแทบเสียหลักลงข้างทางดีที่เขาจับพวงมาลัยเอาไว้แน่น

“ไม่เอาไม่ตาย อย่าพูด เดี๋ยวตีปากเลยT^T”

“ก็นะโมโกรธพี่นี่ครับ”

“หายโกรธก็ด้ายย ฮึกแต่พี่จ๋าห้ามตายนะ ไม่เอานะ” ครั้งนี้ไอ้เอ๋อมันร้องไห้หนักกว่าเดิมจนสิงห์ต้องหาจอดรถข้างทางแล้วกอดปลอบมันใบหน้าหวานสวยของมันซุกอยู่ตรงอกเขา สิงห์ใจเต้นแรงขึ้นมาทันที

“ไม่ร้องนะครับ โอ๋ๆ”

“อย่าตาย”

“ไม่ตายครับไม่ตาย พี่จ๋าจะอยู่กับนะโมไปจนกว่านะโมจะแกเลยนะ”

“เกี่ยวก้อย ฮึก”

“เกี่ยวก้อยๆ” สิงห์เกี่ยวนิ้วเข้ากับนิ้วเรียวๆ ของมันเป็นการสัญญาไอ้เอ๋อมันยกมือขึ้นปาดน้ำตาอย่างลวกๆ ยกชายเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตาน้ำมูกของตัวเอง

“ฮึก..ฮึก..สัญ ยะ ญาแล้วนะ ฮึก”

“ครับ พี่สัญญา หยุดร้องไห้ได้แล้ว ตาบวมแล้วครับ” สิงห์ใช้นิ้วโป้งลูบลงบนเปลือกตาของมันอย่างอ่อนโยน ไอ้เอ๋อมันรีบจับมือแล้วเอาหน้ามันแนบลงกับฝ่ามือของสิงห์อย่างอ้อนๆ มันช้อนตาบวมๆ ของมันมองคนตรงหน้า

ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก เสียงหัวใจของสิงห์ก้องออกมา ไอ้เอ๋อมันทำเอฟเฟกใส่เขาอีกแล้วชายหนุ่มเริ่มหายใจติดๆ ขัดๆ เลือดในกายแล่นพล่านไปหมด ใครเจอแบบเขาต่อให้เอาหลวงตามานั่งตรงหน้าเขาก็อดทนไม่ไหว มันขบปากบางอมชมพูของมันเบาๆ

“นะ..โม”

“หนูหิว...”

“ห๊ะ?”

“หนูหิว พี่จ๋าหนูหิว” มันมองเขาด้วยแววตาใสซื่อ ซื้อจนเขาต้องสำนึกผิดจากบาปที่ตัวเองก็ขึ้นในใจ เกือบไปแล้ว เกือบไปแล้วจริงๆ

หมดเงินอีกสองร้อยกับค่าอาหารและขนมของไอ้เอ๋อ ดีหน่อยเขาได้โรงแรมใกล้กับแหล่งชอปแหล่งกินของจังหวัด ไอ้เอ๋อมันถือของกินไว้เต็มสองมือลามไปให้สิงห์ช่วยถืออีกเดินย่อยจนหายจุกถึงพากันกลับโรงแรม

“อาบน้ำก่อนนะครับแล้วค่อยมานอน” สิงห์บอกกับไอ้เอ๋อ

“อาบด้วยกัน”

“หืม? ว่ายังไงนะครับ”

“อาบด้วยกัน”

“-///- “แทนที่คนชวนจะเขินแต่กลับเป็นเขาที่ต้องเลือดขึ้นหน้าอีกรอบ ให้ตายสิ นี่ไอ้เอ๋อมันกะจะฆ่าเขาทางอ้อมใช่ไหม?

“อาบไหม?”

“อะ อาบสิ อาบ” อย่าตื่นเต้นไอ้สิงห์ แค่อาบน้ำ อย่าตื่นเต้น!!!!!!



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เออ ระหว่างสองคนนี้ใครมันจะใจง่ายกว่ากัน ใครมันจะแพ้ก่อนคนหนึ่งก้ซื้อซื่อ อีกคนก็เจ้าเล่ห์

มาช้าใช่ไหมเค้าขอโทษนะ

รักคนอ่านทุกคนนนะ อย่าลืมเค้านะ ให้กไลังใจเค้าเยอะๆนะจะได้มีแรงปั่น

จุ๊ฟ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.11 29/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-05-2018 07:12:09
สิงห์ ลืมเอ๋อ..........ม่ายยยยยยยยยย    o22 :serius2: :m16:
ทิ้งน้องได้ยังไง  :fire: :fire: :fire:
ถ้าเอ๋อไม่รู้ว่าแม่ด่างตายแล้วคงตามใครไปไหนต่อไหน
จะตามตัวกลับมาได้ยังไง  :z3: :z3: :z3:
สมควรที่น้องจะงอน จะโกรธ   :angry2:  โกรธสิงห์ด้วยอีกคน   
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.11 29/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-05-2018 09:05:13
ดีนะที่ง้อน้องได้
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.11 29/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: Kuayyai ที่ 29-05-2018 09:35:30
น้องน่ารักดี ขำมากตอนน้องวิ่งไล่ตามรถไอติม
ทั้งขำทั้งเอ็นดูเลย ฮ่าๆๆ 

อย่าทิ้งน้องไว้คนเดียวอีกนะพี่สิงห์
ดีนะน้องไม่ไปกับคนที่ไม่หวังดี
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.11 29/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 29-05-2018 11:47:52
เป็นไง โดนโกรธของจริงจากนะโมเข้าให้ เข็ดยัง  :hao3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.11 29/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 29-05-2018 12:27:30
รักนะโมจริง ๆ เล้ยยยย
ขำนางทุกเรื่อง มีเรื่องให้ขำทุกชั่วโมงจริง ๆ
แค่นึกภาพนางวิ่งตามรถไอติม ... ทะเลาะกับชักโครก
ขำก๊ากกกกเลย

แต่ก็โกรธพี่จ๋า ... ลืมน้องได้นานขนาดนั้น ไม่ไหวเลย
สมควรแล้วที่นะโมจะโกรธ
ถ้ามีคนลากน้องหายไป จะทำไงฟระพี่ ... แย่มาก
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.11 29/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 29-05-2018 13:03:34
โอ๊ย น่ารักมากเราชอบเรื่องตามส่องรออัพตอนใหม่ตลอดเลยชอบความอบอุ่นของพี่สิงห์ความไร้เดียงสาของนะโม ชอบคู่ต้าร์กับหมอไม้ด้วยคู่นี้น่าจะแซ่บ 
นะโมดูเหมือนจะมีสัมผัสที่หกด้วยมั้ยแบบเห็นผีงะ เพราะเจอคุณยายเจ้าที่
กับลุงที่งานศพตอนอยู่วัดจนต้าร์จูงมือวิ่งหนี ติดตามเนอะชอบๆๆ :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.11 29/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 29-05-2018 13:29:43
สนุกมากค่ะ
มาต่อไวๆน้าา
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.11 29/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 31-05-2018 00:37:07
อาบด้วยกันแบบนี้พี่จ๋าจะอดใจไหวมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.11 29/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 31-05-2018 10:46:43
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.12 5/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 05-06-2018 22:32:43


ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้น้องเอ๋อนะคะ คนเขียนรู้สึกดีใจเวลาที่มีคนอ่านินยายแล้วนักอ่านคอมเม้นบอกความรู้สึกกับตัวละคร ปลื้มมากค่ะ คนเขียนอ่านทุกคอมเม้นเลยนะ อ่านไปยิ้มไป มีกำลังใจเยอะเลยค่ะ เสียอย่างเดียว+เป็ดให้ไม่ได้ไม่รู้มันเป็นอะไร งงใจมากค่ะ แต่อยากให้รู้ว่าเค้ารักทุกคนนะ จุฟ
ปล.ลงรูปแก๊งหมอไม่ได้อะ 5555 :pig4: :pig4:


12

=นะโม=



บอกตรงๆ หนูโกรธพี่จ๋ามาก น้อยใจด้วยที่พี่จ๋าทิ้งหนูไว้ที่นั่นทั้งๆ ที่เราก็สัญญากันไว้แล้วแท้ๆ นั่งมองพี่จ๋าได้นิดเดียวก็ต้องหายงอลเพราะพี่จ่าขู่ว่าจะตาย หนูไม่ชอบคำนี้ ไม่ชอบๆ เพราะหนูรักพี่จ๋า ไม่อยากให้พี่จ๋าตาย แค่คิดน้ำตาก็ไหล ไม่อยากเสียใจ ไม่อยากร้องไห้อีกแล้ว

พี่จ๋าบอกว่าเรากลับบ้านไม่ทันแล้วตอนนี้ถนนมืดไปหมด แถมหนูก็หิวด้วย พี่จ๋ามองหน้าหนูพร้อมกับยิ้มหวานให้มองอยู่นาน นานจนท้องมันร้องเสียงดัง

“พี่จ๋า หิว หนูหิว” แค่หนูบอกว่าหิวพี่จ๋าก็พาไปหาข้าวกินทันทีเลย หนูได้ของอร่อยๆ มาหลายอย่างพี่จ๋าตามใจหนูหมดเลยไม่ว่าหนูอยากจะกินอะไรพี่จ๋าก็ซื้อให้หนูไม่บนเลยสักคำ หรือว่าพี่จ๋าจะกลัวหนูโกรธอีกก็ไม่รู้ คึคึคึ ระหว่างทางมีแต่คนมองหนูกับพี่จ๋าเต็มไปหมดมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาหาพี่จ๋าด้วย หน้าตาพี่เขาเหมือนจะกินพี่จ๋าของหนูให้ได้ ดูหิวมากๆ หนูเลยยื่นลูกชิ้นให้พี่เขาไปไม้หนึ่ง ความจริงหนูหวงนะของกินนะ แต่ว่าหนูกลัวพี่เขาจะกินพี่จ๋าหนูมากกว่า บอกเลยว่าจำใจสุดไม่อยากยื่นมือออกไปเลยด้วยซ้ำ

“อะหนูให้ พี่สาวดูท่าจะหิว” พอพี่คนนั้นได้ยินหนูพูดแบบนั้นออกไป เขาก็ทำหน้ายักษ์ใส่หนู พี่จ๋าก็หัวเราะออกมาเบาๆ นี่หนูทำอะไรผิดหรอ

“ห๊ะ? พี่ไม่ได้หิวค่ะน้อง-*-”

“หึหึหึ” พี่จ๋าหัวเราะทำไม

“คือ ว่า หนูขอเบอร์พี่หน่อยได้ไหมคะ ไลน์ก็ได้” เบอร์หนูรู้จักแต่ไลน์คืออะไรหนูไม่เข้าใจ

“ขออะไรเหรอ พี่สาว?” หนูถามดีๆ ทำไมต้องจิกตาใส่หนูด้วยละ

“เป็นเด็กอย่ายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่สิจ๊ะ” *0*หนูก็ผู้ใหญ่แล้วนะ

“งะ ใครบอกหนูเด็ก หนูอายุ 19แล้วนะ-3- “

“พี่ไม่ได้หมายถึงอายุน้องค่ะ/ว่าแต่พี่ชื่ออะไรคะ” หูยยยไม่สนใจคำพูดหนูเลยอะสนใจแต่พี่จ๋า.....อ๋อออออหนูรู้แล้ว

“ไม่ได้หมายถึงอายุแล้วหมายถึงอะไร อ่า พี่จ๋า” หนูรู้แล้วว่าพี่คนนี้ว่าหนูปัญญาอ่อน หนูรู้แล้วว่าเขามาพี่จ๋าทำไม หนูไม่ยอมหรอกนะ หนูรีบเกาะแขนพี่จ๋าเอาก่อนที่พี่จ๋าจะบอกเบอร์กับพี่สาวคนนั้น หนูลองทำหน้าอ้อนๆ ใส่พี่จ๋า ทำตาปรือๆ เหมือนคนง่วง

“หนูง่วงแล้ว หนูง่วงแล้ว พี่จ๋าพาหนูไปนอนน้า”

“เอ๊ะ น้องคะพี่ยังคุยธุระไม่เสร็จเลย”

“ง่วงแล้วเหรอ ขอตัวนะครับ ^^” พี่จ๋ากอดไหล่หนูเอาไว้แล้วพาเดินกลับห้องโดยที่ไม่หันไปมองพี่สาวอีกเลย คึคึคึ ดีจัง พี่สาวดูท่าจะไม่ชอบใจสุดๆ ด้วย แถมทำหน้าน่ากลัวใส่หนูอีก แต่หนูไม่กลัวหรอกหนูมีพี่จ๋าอยู่ทั้งคน



พอถึงห้องพี่จ๋าก็บอกให้หนูไปอาบน้ำ แต่ว่า พอหนูเดินเข้าห้องน้ำไปก็มีคนอยู่ในนั้น แต่ว่าทำไมเขาต้องทำหน้าดุใส่หนูด้วยละ

“พี่ พี่จะอาบน้ำเหรอ?” พี่เขาไม่ตอบตาหันมาแสยะยิ้มให้แต่ยิ้มพี่เขาดูน่ากลัวT^Tมีเลือดไหลออกมาด้วย น่ากลัววว

“พี่จ๋าอาบน้ำด้วยกัน” ผมเดินออกไปแล้วบอกพี่เขาเสียงเบาๆ หนูอาย แต่หนูกลัวพี่ที่อยู่ข้างในมากว่า

“อาบด้วยกัน”

“หืม? ว่ายังไงนะครับ” พี่จ๋าทำเหมือนไม่ได้ยินที่หนูพูดนี่หนูพูดเสียงดังแล้วนะ

“อาบด้วยกัน”

-///- ทำไมพี่จ๋าต้องหน้าแดงด้วยล่ะ ถ้าพี่จ๋าเห็นพี่ที่อยู่ในห้องน้ำพี่จ๋าจะยิ้มไม่ออก เพราะฉะนั้นตอนนี้รีบเขามาอาบน้ำเป็นเพื่อนหนูไวๆ เลย



บทบรรยาย



ทันทีได้ยินคำชวนของเด็กเอ๋อ เลือดในกายก็แล่นพล่านไปทั่วเหมือนเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง เดินแทรกตัวผ่านเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่ชั้นใน เผยให้เห็นมัดกล้ามที่ขึ้นเรียงตัวชัดเจน หากไม่ได้ถอดเสื้อนะโมคงไม่เห็นรอยสักรูปสิงห์ตรงสะบักหลังด้านซ้าย เด็กน้อยมองลวดลายบนตัวร่างสูงด้วยความชื่นชอบ ไหนจะกล้ามท้องแข็งอีก เด็กเอ๋อวัย19ก้มลงมองหน้าท้องตัวเองที่ป่องเป็นก้อนกลมเล็กๆ ถึงกับขมวดคิ้วนิดๆ

“ทำไมของหนูไม่เห็นเหมือนของพี่จ๋าเลย?”

“อยากมีเหมือนพี่เหรอ?”

“อื้อ ว่าแต่ พี่คนนั้นหายไปแล้ว ฟู่วววว” ร่างบางเป่าลมออกมาอย่างโล่งใจพร้อมกับมองสำรวจไปรอบๆ ไม่เห็นแล้วความน่ากลัวเมื่อครู่

“คนไหนครับ นะโมหมายถึงใคร” ร่างแกร่งถามด้วยความสงสัยปนหวั่นๆ เพราะการที่มีใครอื่นนอกจากเขาและนะโมแล้ว ที่เหลือก็ไม่น่าจะใช่คน

“อ่า...หนูไม่รู้แต่พอพี่จ๋าเข้ามาเขาก็หายไป พี่จ๋าเยี่ยมที่สุดเลย”

“อะ เอ่ออ” จากคำบอกเล่าของนะโมทำเอาความหื่นของร่างสูงดับวูบลง นะโมถอดเสื้อผ้าออกใส่แต่กางเกงชั้นในสีชมพู ร่างผอมบางผิวกายขาวเนียนปรากฏต่อสายตา ร่างกำยำลอบกลืนน้ำลายลงคออีกครั้งด้วยความยากลำบาก และพยายามควบคุมจังหวะหัวใจให้คงที่ สิงห์จูงนะโมไปยืนใต้ฝักบัวให้สายน้ำอุ่นๆ ทำหน้าที่ชำระร่างกายมือหนาหันไปหยิบสบู่ก้อนเล็กๆ ของโรงแรมมาถูกับมือเพื่อให้เกิดฟอง เขาชั่งใจนิดๆ ว่าจะถูให้น้องก่อนหรือถูให้ตัวเองก่อนดี แต่พอเห็นสายตาหวานแหววของร่างบางมือมันก็ทำหน้าที่มันอย่างอัตโนมัติ เขาลูบไล้สบู่ไปทั่วเนื้อกายขาวอย่างเบามือ เด็กน้อยยืนยุกยิกๆ ปล่อยให้ร่างสูงฟอกสบู่ให้

“หนูอาบให้พี่จ๋าด้วย” มือเล็กแย่งสบู่ไปจากมือแล้วเริ่มฟอกสบู่ให้อีกฝ่าย แม้จะดูเก้ๆกังๆแต่ก็สร้างความพึงพอใจให้กับร่างสูงไม่น้อย เพราะมือของเด็กน้อยนั้นทั้งนุ่มทั้งเบา นะโมลูบมือไปตามไหล่กว้าง ซอกแขนลามไปถึงใบหน้าหล่อคม

“เสร็จแล้ว” พูดจบก็เปิดน้ำล้างตัว สิงห์จ้องมองเรือนร่างตรงหน้า นะโมหันหลังให้เขาพร้อมกับล้างคราบสบู่ไปด้วยไม่รู้ในหัวเขาคิดอะไรอยู่ ร่างสูงเอื้อมมือไปคว้าเอวเล็กนั่นแล้วรั้งให้มาชิดกับแผงอกแกร่งของตน เขากอดเอวเล็กนั้นไว้หลวมๆ ก่อนจะใช้จมูกคลอเคลียที่ตนขอสวย นะโมหดคอตัวเองแล้วหัวเราะ

“ จั๊กจี้ คึคึคึ” เขาฉวยโอกาสกับร่างบางที่ไม่รู้เรื่องอะไรใบหน้าหวานๆ แหงนมองคนด้านหลังเพียงแค่ชั่ววินาทีที่สบตา ร่างสุงควบคุมสติตัวเองไม่อยู่อีกแล้ว เขาก้มลงประทับจูบลงบนปากอิ่มนั่นทันที มือหนาล็อกใบหน้าสวยไว้ไม่ให้หันหนี เขาสอดแทรกลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดอย่างเอาแต่ใจ เด็กหนุ่มไร้เดียงสาเรื่องแบบนี้ได้แต่ดีดดิ้นและพยายามจะผลักอีกคนให้ออกห่าง ทั้งตกใจแล้วก็ตื่นเต้นปนหวาดกลัว ความรู้สึกของนะโมสับสนปนเปกันไปหมด ถ้าเปรียบได้สิงห์คือหมาป่าผู้หิวกระหาย ส่วนนะโมเป็นกระต่ายตัวอ้วนที่กำลังจะโดนกิน

“อื้อ”

“ระ ...รีบล้างตัวดีกว่าครับ” ดูเหมือนฟางเส้นสุดท้ายจะยังไม่ขาดสะบั้น สิงห์หักห้ามตัวเองไว้ได้ทัน เขาไม่อาจจะทำร้ายน้องได้แค่นี้ก็ฉวยโอกาสมากเกินไปแล้ว ความรู้สึกผิดบาปก่อนเกิดขึ้นในใจ เขาถอนจูบอันแสนเร้าร้อนนั้นก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ ตอนนี้ทำได้เพียงจูบกระหม่อมหอมของอีกฝ่ายเอาไว้

“กูเป็นคนบ้ากามตั้งแต่เมื่อไหร่ ไอ้สิงห์ ไอ้เลว” เขาสบถด่าตัวเองเบาๆ พร้อมกับยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองแล้วมองเด็กเอ๋อที่ยืนปากเจ่อตรงหน้า นะโมขมวดคิ้วเป็นปม

“งือ พี่จ๋า กัดปากหนูอีกแล้ว -3- พี่จ๋าหิวข้าวเหรอ” คำพูดที่ดูไร้เดียงสาทำเอาร่างสูงถึงกับอ่อนใจ อยากจะบอกให้รู้ว่าที่เขาทำนั้นไม่ได้รู้สึกหิวแต่อย่างใด แต่มันเป็นความรู้สึกที่ผู้ใหญ่เขามีกัน คืออยากร่วมรัก อาการกำหนัดก่อเกิดขึ้นมาแล้วยากที่จะดับ เหมือนลมแรงที่พัดกระพือกองไฟ แต่ในเมื่อเนื้อตรงหน้ายังไม่นุ่มพอที่จะกิน หมาป่าจึงได้แต่ล่าถอยออกมา

“ครับหิวมาก มากจนจะกินะโมเป็นอาหารแล้วครับ” ร่างสูงแกล้งงับลงบนท้ายทอย พร้อมกับสร้างรอยสีกุหลาบเอาไว้

“งื้อออ ไม่เอานะ หนูกินไม่อร่อยหรอก” เด็กน้อยรีบดีดตัวออกจากอ้อมกอดของสิงห์ทันที

หลังจากนั้นก็รีบพากันออกมาแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดเดิมเพราะไม่ได้เตรียมอะไรมา ยังดีที่แอร์เย็นเหงื่อเลยไม่ออก นอนหลับได้สบายๆ นะโมนอนติดกำแพงด้านในส่วนสิงห์นอนด้านนอก แต่จู่ๆ ร่างเล็กก็รีบพลิกตัวม้วนมากอดสิงห์ไว้แน่น

“เป็นอะไรครับ”

“ปะ ป่าว นอนเถอะๆ หนูง่วง><” จะไม่ให้ง่วงได้ยังในเมื่อมีใครอีกคนนอนอยู่ตรงนั้นนอนซ้อนทับที่ที่เขานอนเมื่อครู่ วงแขนเล็กกระชับแน่นอยู่บนเอวหนา แถมตัวยังสั่น จนร่างสูงที่นอนให้กอดนิ่งๆ ต้องกอดตอบ ถามก็ไม่ยอมพูดเอาแต่ส่ายหน้าไปมา พอถามหนักๆ เข้าก็แกล้งโกรนใส่หน้าเขาอีก จำใจต้องข่มตานอนด้วยความหวาดระแวง ดีแล้วที่เขาไม่เห็นไม่อย่างนั้นสติคงได้กระเจิงกับภาพที่นะโมเห็นเป็นแน่



เช้าวันต่อมา



“ตื่นได้แล้วครับคนเก่ง” เสียงกระซิบแหบพร่าดังอยู่ใกล้ๆ กับใบหูนิ่ม

(จบบรรยาย)



ไอ้เอ๋อผุดลุกขึ้นนั่งพร้อมกับมองพี่จ๋าของมันด้วยความตกใจ มันกำลังจะเอ่ยปากเล่าสิ่งที่มันเห็นเมื่อคืนให้อีกคนฟัง

“ไม่ต้องเล่าครับ พี่จ๋าเข้าใจ” สิงห์ไม่อยากเสี่ยงหัวใจวายตาย เขาเบรกไม่ให้ไอ้เอ๋อมันพูด แล้วดึงเอ๋อให้ขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากอุ่นเป็นการรับอรุณ

“ทำไรอะ?” ไอ้เอ๋อมันจับปากตัวเองเบาๆ แล้วมองหน้าสิงห์ มันรู้ว่านี่คือการจูบแต่จูบมันทำไม

“จูบรับตอนเช้าไงครับ”

“อ่อ..>x< จุ๊บ” นี่มันรู้ตัวบ้างไหมว่าทำอะไรลงไป มันจูบกลับสิงห์

“!!! ”

“จุ๊บตอนเช้า”

“หึหึ ครับ นะโมทำแบบนี้ได้เฉพาะกับพี่จ๋าคนเดียวนะครับ ห้ามทำกับคนอื่น” สิงห์บอก แล้วใช้นิ้วไล้ที่ริมฝีปากของไอ้เอ๋อเบาๆ เริ่มรู้สึกว่าหวงแหนปากคู่นี้มาซะอย่างนั้น

“อื้อ หนูจะทำกับพี่จ๋าคนเดียว” มันผูกมัดตัวเองกับสิงห์อย่างไม่รู้ตัว และมันก็สร้างเชือกเส้นหนาผูกสิงห์ไว้กับมันเช่นเดียวกัน

“พี่ก็จะทำกับนะโมแค่คนเดียวครับ”



++++++

กว่าจะถึงบ้านก็เกือบบ่ายดีที่แวะซื้อกับข้าวเข้ามาก่อนไม่อย่างนั้นได้นั่งหิวกันยันเย็นแน่ ไอ้เอ๋อมันรู้ว่าสิงห์ล้ามันรีบจัดเตรียมเทกับข้าวใส่จาน เพื่อที่จะได้รีบกินรีบพัก ต่างคนต่างกินโดยที่ไม่พูดไม่จา เพราะเหนื่อยเกิดกว่าจะพูดอะไรกัน พอกินเสร็จไอ้เอ๋อมันก็เอาจานไปล้างส่วนสิงห์เดินไปอาบน้ำออกมาก็ไม่เจอคนของตัวเอง เลยเดินหากันรอบบ้าน เจอมันอีกทีก็นอนกรนอยู่บนเปลญวนใต้ถุนบ้านน้ำท่าก็ไม่อาบ สิงห์เองก็ไม่อยากจะปลุก แต่อยากให้มันสบายกว่านี้เลยเดินไปอุ้มมันจากเปลแล้วพาขึ้นบ้าน ไอ้เอ๋อมันหลับลึกไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น สิงห์วางมันลงบนที่นอนนุ่มอย่างเบามือ ที่นอนที่กว้างกว่าของมันถึงสองเท่า แถมยังเปิดแอร์เย็นฉ่ำ

“ขนาดหลับยังน่ารักขนาดนี้ รู้ตัวบ้างไหมครับ”

“.....”

“พี่ชักจะหวงเรามากขึ้นทุกวันแล้วนะ” สองนิ้วไล้ไปทั่วโครงหน้าหวานๆ ของไอ้เอ๋อ ก่อนจะหยุดลงที่ริมฝีปากนิ่มคู่นั้นปากที่เป็นเหมือนน้ำหวานที่หลอกล่อแมลงอย่างเขาให้ลุ่มหลงอย่างไม่รู้ตัว สิงห์ฉวยโอกาสกับปากอิ่มอีกครั้ง เขาลิ้มลองน้ำหวานบ่อน้อยอย่างย่ามใจ

“อืออ หายใจไม่ออก” ไอ้เอ๋อมันขยับหน้าหนีเมื่อถูกรบกวนหนักเข้า

“หึหึ พอแล้วก็ได้ไว้หนูโตอีกหน่อยพี่จ๋าไม่ปล่อยหนูไว้แน่ๆ” เขาก้มลงจูบหน้าผากมนอีกครั้งยอมรับอย่างลูกผู้ชายเลยว่านะโมทำให้เขาต้องออกกำลังกายขายเกือบทุกวันตั้งแต่อยู่ร่วมชายคากันมา วันนี้ก็ด้วยสิงห์ผละจากไอ้เอ๋อแล้วพุ่งตรงไปยังห้องน้ำก่อนจะทำลายเผ่าพันธุ์ของตัวเองนับล้านตัวในเวลาไม่นาน พอจัดการตัวเองเรียบร้อยก็กลับมานอนเคียงข้างไอ้เอ๋อ เขาดึงมันเข้าสู่อ้อมกอดและเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน





+++++++++++++



“ไอ้เอ๋ออยู่ป่าว ไอ้เอ๋อ” เสียงร้องเรียกดังอยู่ที่ประตูบ้านเรียกให้เจ้าของบ้านตัวจริงเดินออกมาดูไอ้เอ๋อมันยังคงทำงานบ้านตามหน้าที่ของมัน พอได้ยินเสียงเรียกก็จะเดินไปหาแต่สิงห์เรียกเอาไว้ก่อน

“เดี๋ยวพี่ออกไปดูเองเราทำงานต่อไปเถอะ”

“อื้อ” มันหันไปตั้งหน้าตั้งตากวาดบ้านต่อ รอจนสิงห์พาต้าร์เข้ามาในบ้าน

“ไอ้เอ๋อทำงานเสร็จรึยังวะกูจะชวนไปเตะบอล” ต้ามันไม่ได้สนใจเจ้าของบ้านอย่างสิงห์สักนิดมันเดินไปหาไอ้เอ๋อพร้อมกับจับมือเอาไว้

“เตะบอลลลลลลลหรอ*0*” นานเท่าไหร่แล้วที่มันไม่ได้ออกไปเล่นเหมือนแต่ก่อนพอได้ยินว่าต้าจะพาไปเตะบอลมันแทบจะทิ้งไม้กวาดในมือ

“เออทำงานเสร็จรึยัง”

“ยังเลย-3-”

“งั้นเดี๊ยวกูช่วย” สิงห์มองค้อนคนมาใหม่นิดๆ แต่ก็ไม่อยากจะแสดงท่าที่อะไรมากมาย เพราะเห็นว่าต้ายังเป็นคนสำคัญของไอ้เอ๋ออยู่อีกอย่างถ้าโวยวายไปไอ้เอ๋อคงจะมองเขาไม่ดีแน่ๆ สิงห์เลยได้แต่ปั้นหน้ายิ้มให้ไอ้เอ๋อ

“พี่จ๋าหนูไปได้ไหม?”

“ไปได้ครับ ว่าแต่พี่จ๋าไปด้วยได้ไหมครับ^^”

“พี่จ๋าจะไปเตะบอลกับหนูหรอ ไปๆ ไดๆ ไปๆ ๆ ๆ ๆ” ไอ้เอ๋อมันแทบจะกระโดดตัวลอยพอได้ยินว่าสิงห์จะตามมันไปด้วย ช่วงนี้มันติดพี่จ๋าของมันมาก ผิดกับอีกคนที่เริ่มก้าวข้ามเขตมาไม่ถึงนับวันยิ่งห่างไกล

“ใครอนุญาต ไม่ได้มาชวนอย่าสะเออะ! ” ต้าพูดตอกใส่หน้าอย่างไม่เกรงกลัว

“หึหึ อยากโดนไอ้หมอไม้มันอีกรอบเหรอที่โดนมาไม่เข็ดใช่ไหม” สิงห์กระซิบเสียงเข้มพร้อมกับบีบไหล่ของต้าร์ไปด้วย เด็กหนุ่มวัยใจร้อนร้องออกมาเบาๆ แต่ก็ยังคงเก๊กหน้าเอาไว้กลัวเสียงฟร์อม

“ไอ้พี่หมอมันเกี่ยวอะไรด้วย เรื่องของกูกับมันจบไปแล้ว”

“มึงคิดว่าเพื่อนกูจะจบด้วยไหมล่ะ ได้ข่าวว่ามันกำลังตามหาตัวมึงอยู่ไม่ใช่เหรอ” ต้าร์สะบัดตัวออก

“ตามทำไม เหอะไอ้ที่ได้ไปมันไม่พอสินะ เพื่อนมึงมันชั่ว ตัวมึงเองก็คงไม่ต่างกัน”คำพูดที่แสนแค้นเคืองสาดใส่สิงห์ไม่หยุด

“กูชั่วกับเฉพาะบางคน โดยเฉพาะคนอย่างมึง”

“คุยอะไรกันหนูคุยด้วย” ไอ้เอ๋อที่แอบมองสองคนนั้นมาสักพักแล้วอดที่จะพูดแทรกเพื่อเรียกร้องความสนใจขึ้นทัน

“คุยไรละเสร็จรึยังงานนะชักช้ากูไปก่อนนะมึง” ต้าไม่ได้หมายความอย่างที่พูดหรอกมันแค่ขู่แกล้งไอ้เอ๋อเล่นเท่านั้น เพราะยังไงวันนี้ไอ้เอ่อก็ต้องอยู่กับมันทั้งวัน ใช้เวลาไม่นานงานของไอ้เอ๋อก็เสร็จ เพราะมีทั้งสิงห์และต้าร์ช่วยกันแย่งทำ ต้าร์ไล่มันไปอาบแต่งตัวใหม่ก่อนจะพากันออกจากบ้านไอ้เอ๋อมันรีบไปซ้อนมอเตอร์ไซน์ฟีโน่คันเดิม ไอ้ต้ารหันไปยิ้มเยาะใส่สิงห์อย่างผู้ชนะ แต่รู้อะไรไหมต้าร์มันรู้จักหมอหมาของเราน้อยไป สิงห์เดินนิ่งๆ ไปที่รถของต้าก่อนจะนั่งซ้อนปิดท้ายพร้อมกับกอดเวไอ้เอ๋อไว้แน่น

“คิคิคิไปด้วยกันๆ”

สนามฟุตบอลหลังวัด

“อ่าวไอ้เอ๋อ” เสียงของหมีเพื่อนสนิทของต้าเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มล้อๆ

“พี่หมี พี่อิน พี่กัส กรี๊ดดดด” มันกระโดดลงจากเบาะหลังทันทีที่มันเห็นว่าเพื่อนๆ ของต้าร์นั่งอยู่ขอบสนาม

มันวิ่งๆ เข้าไปโถมตัวใส่กัสที่อ้าแขนรับมันอยู่แล้ว พวกเพื่อนของต้าไม่ได้เจอไอ้เอ๋อมันนานเลยคิดถึงกันเป็นธรรมดา รอยยิ้มสดใสของมันโปรยไปทั่วสนามหลายคนเดินมาทักมันบ้างก็แกล้งมัน สิงห์มองดูแล้วรู้สึกว่าตัวเองกักขังน้องไว้เกินไปรึเปล่า

“เตะบอล พี่กัสหนูจะเตะบอล”

“มึงจะเตะบอลหรือบอลจะเตะมึงกันแน่ไอ้เอ๋อ ดูพวกพี่ๆ เขาเล่นก็พอมานั่งนี่มา” กัสพูดหยอกไอ้เอ๋อพร้อมกับตบมือลงบนพื้นให้มันข้างๆ

“งะ ไหนพี่ต้าบอกจะพามาเตะบอล-3- “

“โอ๊ยไอ้ซื่อ!! มันพามาให้กำลังใจเว้ยมึงอะมีหน้าที่นั่งปรบมือให้ไอ้ต้าร์มันก็พอ” อินหรืออินทรีพูดเสียงกรั้วหัวเราะพร้อมกับโห่แซวไอ้ต้าร์เพื่อนรักไปด้วย

“กำลังใจมึงมาละอย่าแพ้นะมึง ไม่งั้นกูกระทืบมึงซ้ำแน่” หมีหนึ่งในนักเตะที่ลงสนามชี้หน้าต้าร์ขำๆ

“อะไรอะ ขำทำไม ขำพี่ต้าทำไม?”

“เอ้าจะสงสัยอะไรปรบมือสิวะ” กัสจับมือไอ้เอ๋อปรบ มันก็ทำตามอย่างว่าง่ายพร้อมหัวเราะเอิ๊กอ๊าก อะไรมันก็ไม่รู้หรอกมันรู้แค่ว่าต้องนั่งปรบมือเข้าไว้

“พี่ขอลงแข่งด้วยสิ” จู่ๆ สิงห์ก็เดินเข้ามาในสนามพร้อมกับบอกจุดประสงค์คือของตัวเองใบหน้าหล่อคมยกยิ้มหว่านเสน่ห์ให้กับแรงเชียร์ทั่วสนาม ทำเอาสาวๆ ที่นั่งดูอยู่กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่

“พี่มีทีมเหรอ 6คนนะพี่” กัสเดินเข้ามาสมทบพร้อมกับกันไม่ให้สองคนนี้เข้าใกล้กันจนเกินไป กัสรู้นิสัยเพื่อนตัวเองดีว่าใจร้อนแค่ไหน

“ครบสิเรารอได้รึเปล่าละ”

“พวกผมไม่ได้ว่างขนาดนั้นพี่ เวลาเป็นเงินเป็นทอง”

“หมื่นหนึ่งสำหรับเดิมพัน ห้าพันสำหรับค่ารอ” นี่เท่ากับว่าฝั่งต้าร์ถ้าแพ้ก็เสียแค่ห้าพัน กัสทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะตอบตกลง

“ก็ได้พี่ ครึ่งชั่วโมงต้องพร้อมถ้าไม่พร้อมถือว่าแพ้ฟาวล์นะครับ เงินทุกบาททุกสตางค์พวกผมริบหมด”

“ได้เสมอ..หึหึหึ”







ถึงเวลาของแก๊งหมอโหดและโฉดชั่วแล้วค่ะ

หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.12 5/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 05-06-2018 22:53:17
นะโม้ ... นะโหม๋ ... นะโมมมมมมมมมม :hao7:
เอ่อ ... แบบพี่กะรู้ว่าน้องเป็นเอ๋อยานทิพย์อะเนอะ
แต่แบบนี้ สยองอะ ... มาแบบพี่ผีดี ๆ ไม่ได้เรอะ แบบว่าสงสารน้องเลย
แต่งานนี้ พี่จ๋ากำไรเน้น ๆ แถมไม่ยอมแบ่งฟัน เอ้ย รับฟังที่น้องจะแชร์อีกแน่ะ o18
ขอหัวเราะแบบนะโม คึคึคึ (ชอบเสียงหัวเราะของนะโม เจ้าเล่ห์มากไอ้เอ๋อเอ้ยยย)
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.12 5/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 06-06-2018 00:46:00
โดนถล่มยับแน่พี่ต้า พี่สิงห์ร้ายนะเอาพี่หมอฟาดแข็งก้บต้า
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.12 5/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-06-2018 01:49:32
รอดูแก็งค์คุณหมอ  :m4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.12 5/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-06-2018 06:30:53
โอยๆ..........เอ๋อ น่ารัก    :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.12 5/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 06-06-2018 13:17:57
อิพี่หมอมันร้าย~ :hao3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.12 5/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 06-06-2018 13:41:31
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.12 5/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 07-06-2018 08:31:37
ชอบๆๆๆ รอจร้า  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.13 12/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 12-06-2018 05:25:51
13



เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที จู่ๆ ก็มีเสียงรถยนต์ที่ฟังก็รู้ว่าราคานั้นแพงแค่ไหน แล่นเข้ามาจอดเทียบข้างสนามจำนวนสี่คันเหมือนกับในซีรี่ย์แบบเป๊ะๆ ทำเอาฝุ่นตลบไปหมด ไอ้เอ๋อที่นั่งอยู่ถึงกับลุกขึ้นยืนดูด้วยความสนใจแววตาของมันทอประกายวิบวับ

“ใครหรอพี่จ๋า” มันเดินไปเกาะแขนสิงห์แล้วเงยหน้าถาม มันทั้งตื่นเต้นและประหม่าในเวลาเดียวกัน

“เพื่อนพี่เองครับ” สิงห์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มพร้อมกับกอดไหล่ไอ้เอ๋อเอาไว้

“เพื่อนหรออ*0*” มันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอเพื่อนของสิงห์เพราะสิงห์ไม่เคยพาเพื่อนๆ มาที่บ้านเลยสักครั้งยกเว้นหมอไม้เมืองที่มาดูแลมันบ่อยๆ ตอนสิงห์ไม่ว่าง

“อื้อ มีพี่หมอไม้ พี่หมอพันวา พี่หมอพลัส พี่หมอชา พี่หมอคิท” สิงห์ชี้ไปที่แต่ละคนที่ลงจากรถคันหรูและกำลังเดินมาทางพวกเขา ทุกคนจับจ้องเพื่อนๆ ของสิงห์เป็นตาเดียว

“หยั่งกะบอยแบร์น...คิดว่ามาเดินแบบรึไงกัน” อินเดินมาเกาะไหล่ไอ้เอ๋อแล้วมองไปยังแก๊งหมอพวกนั้นด้วยความหมั่นไส้นิดๆ อิจฉาในความร่ำรวยของเหล่าบรรดาแก๊งหมอวายร้าย ร่างสูงสง่าค่อยๆ เดินมาสมทบกับสิงห์ ทุกคนจดจ้องอยู่ที่พวกเขาเป็นสายตาเดียว

ต้าร์ที่เห็นไม้เมืองลงจากรถก็กัดฟันกรอดมองหมอไม้เมืองด้วยสายตาเคียดแค้นมือเขาสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ ร่องรอยตราบาปยังฝังติดในใจของเขา แม้จะหลบหน้ามากเท่าไหร่แต่ดูเหมือนเขาจะหนีไม่พ้นเงื้อมมือมัจจุราชคู่นี้อยู่ดี ไม้เมืองหันมาหาต้าร์ที่ยืนอยู่พร้อมกับเดินมาหา ทำให้ตาร์ก้าวถอยหลังอย่างอัตโนมัติ ไม้เมืองแสยะยิ้มเล็กน้อยเหมือนเห็นของเล่นชิ้นโปรดที่ตัวเองทำหายรอยยิ้มร้ายๆ ที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็น ไม้เมืองมักจะมีภาพของหนุ่มหล่อใจดีแต่แท้จริงแล้วคือซาตานที่จำแลงกายในคราบเทพบุตร

“กลัวเหรอ ไหนว่าแน่นักแน่หนาไง? ตั้งใจหลบหน้ากู คิดจะหนีกูอย่างนั้นเหรอ?” ถึงแม้ถ้อยคำจะดูถากถางแต่น้ำเสียงนั้นกลับล้อเลียนเสียมากกว่า

“เสือก! ” ต้าร์ขยับหนีมือที่กำลังจะจับตัวเขาอย่างรังเกียจ

“หึ อย่าให้กูต้องลากมึงกลับนะไอ้ต้าร์ หลบหน้ากูมาเป็นอาทิตย์คิดว่ากูจะปล่อยมึงไปง่ายๆ เหรอ?” ไม้เมืองกระซิบเสียงเหี้ยมพร้อมกับจับข้อมือของต้าเอาไว้แน่นเขากดแรงบีบจนข้อมือที่แข็งแรงของต้าเกิดรอยแดงขึ้นทันตา

“กูไม่กลับไปไหนทั้งนั้นแล้วกูก็ไม่ได้หลบหน้าเน่าๆ อย่างมึงด้วย เลิกตอแยกูสักทีเถอะ” ต้าร์บิดแขนตัวเองออก

“เลิกยากวะ” ไม้เมืองแสยะยิ้มอีกครั้ง

“....”

“กูเป็นคนติดเมีย” ไม้เมืองไม่ได้พูดเสียงดังแต่ก็ดังพอที่คนที่อยู่ใกล้ๆ จะได้ยิน ต้าร์เบิกตาโพลงไม่คิดว่าไม้เมืองจะพูดมันออกมา

“ไอ้นรก!! มึง!! ”

“อ๊ะๆ เอะอะใช้กำลังนะมึงนะ อย่าลืมนะว่ามึงติดค้างอะไรกูไว้ หนีเก่ายังใช้ไม่หมดจะสร้างหนี้ใหม่แล้วเหรอ เก็บแรงไว้ฟัดกับกูบนเตียงของเราดีกว่า หึหึหึ”

ไอ้เอ๋อมันจับสังเกตถึงความผิดปรกติของลูกพี่มันได้ ร่างบางวิ่งทักๆ เข้าไปคั่นกลางระหว่างทั้งสอง

“อย่าตีกันๆ แยกๆ เดี๋ยวเลือดออก แยกๆ” ไอ้เอ๋อมันผลักร่างใหญ่ๆ ของหมอไม้ให้ออกห่างพร้อมใช้หัวดันอกต้าร์ให้ถอยเช่นกัน

“อะไรของมึง ไอ้เอ๋อ กลับไปนั่งที่ไป” ต้าร์จับหัวไอ้เอ๋อแล้วโยกเบาๆ อารมณ์ต่างจากคุยกับไม้เมืองจากหน้ามือเป็นหลังมือ

“หนูรู้นะว่าทะเลาะกัน” มันกอดอกทำหน้าดุใส่ ซึ่งนั่นเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ ให้หมอไม้

“พี่ไม่ทะเลาะกับเมียหรอกครับนะโม พี่นะรักเมียจะตาย” ไม้เมืองกัดฟันพูดเน้นคำว่าเมียให้อีกฝ่ายระลึกถึงสถานะของตัวเอง

“เมีย? เมียใครไหนเมีย พี่ต้าไหนเมีย” ร่างสูงหน้าแดงเถือกที่ไม่แดงเพราะเขินอายแต่อย่างใดแต่มันเกิดจากความกรุ่นโกรธหัวร้อนแทบไหม้

“นี่ไงเมีย”

“เมียพ่องมึงสิ” คำพูดมักใช้ไม่ได้กับต้าร์คำพูดมันมักจะไปพร้อมๆ กับหมัดลุ่นๆ เสมอ

ผั่วะ!!! หมัดหนักๆ ซัดเข้าเต็มหน้าของหมอไม้ เหล่าบรรดาคนที่อยู่ในสนามต่างพากันอึ้ง แก๊งหมอวายร้ายทำท่าจะเข้าไปแต่สิงห์ห้ามไว้ปล่อยให้คนทั้งสองเคลียกันเอง ส่วนตัวเขาเดินไปดึงไอ้เอ๋อที่ยืนนิ่งราวกับหินมันตกใจมากที่เห็นความรุนแรง มันอ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้

“พะ พะ พะ พี่ ตะ ต้า ฮึก..อย่า พะ พะ พี่ หมอ อย่าทำ ยะ อย่าฮึก” ไอ้เอ๋อเริ่มร้องไห้ออกมามันพยายามจะเอาตัวเองเข้าไปหาต้าร์

“ชู่วว เค้าแค่เล่นกันครับไม่มีอะไร” คำปลอบของสิงห์ทำเอาพลัสที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กลอกตาใส่หลอกได้แค่ไอ้เอ๋อคนเดียวนี่แหละ

“มึงจะปล่อยให้มันตีกันแบบนี้นะเหรอ”

“มึงไม่เคยได้ยินรึไงว่าทะเลาะกันบ่อยๆ ลูกจะดก” คิทแคท หรือหมอคิทบอกขำๆ

“ลูกกะโปกอะดิ มึงดูนั่นเหมือนเอามดมาสู้กับหมาพิทบลู” พลัสพูดขึ้นมาอีก

“อย่างไอ้ต้าร์มันมดทั้งรังมึงไม่รู้เหรอวะ” พันวาที่สนิทกับไม้เมืองมากกว่าใครตอบอย่างมีเลสนัย เพื่อนๆ ต่างหันมามองพร้อมกับทำหน้าสงสัย

“ทั้งแสบทั้งคัน” พันวาเสริมให้อีก

“แล้วจะปล่อยให้มันฟัดกันแบบนั้นนะเหรอ เรียกพวกกูมาเพื่อมาดูหมากัดกัน?” ชาเอ่ยถามเสียงเรียบ ชาเป็นผู้ชายที่เงียบๆ แต่เก็บรายละเอียดทุกเม็ด

“เรียกมาแข่งบอลนี่แหละนานๆ จะได้ออกกำลังสักที” สิงห์บอกแล้วยกยิ้มนิดๆ

“เรียกมาอัดไอ้เด็กนั่นมากกว่า เสียเวลากูฉิบหาย” พลัสที่ต้องยกเลิกนัดกะทันหันเพราะเพื่อนรักเรียกตัวด่วนเอ่ยออกมาด้วยความเซ็งจิต

“แหมมึง ทำมาเป็น กูรู้หรอกว่ามึงเล็งเพื่อนได้เด็กแสบนั่นอยู่” ชาพูดออกมาแทบจะทันทีอย่างคนรู้ทัน

“สู่รู้ ตกลงเอาไง”

“เดี๋ยวกูไปแยกพวกมันเอง” คิทแคทเดินไปหาสองคนที่ยังฟัดกันไม่เลิก แต่ไม่รู้ฟัดกันอีท่าไหนต้าร์ถึงได้อยู่ในอ้อมกอดของหมอไม้แบบนั้น

“แยกๆ ได้ละพวกมึงอะ ถ้าจะฟัดกันต่อก็กลับไปฟัดกันที่บ้าน”

“พูดเหี้ยอะไรของพวกพี่วะ มึงก็ปล่อยกูได้ละสัส!! ” หันไปด่าคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างคนหัวร้อน ต้าสะบัดตัวออกจาอ้อมแขนแกร่งจนหลุดออกมา พอหันไปทางนะโมที่ยืนเป่าปี่อยู่ก็รู้สึกใจหายแต่เห็นสิงห์กอดปลอบไอ้เอ๋อมันกลับรู้สึกเจ็บที่อกมากกว่า ต้าร์ยืนกำมือแน่นอิจฉาที่ไอ้เอ๋อมันเลือกอีกคนที่ไม่ใช่ตัวเอง

“อะไรที่ไม่ใช่ของตัวเองมึงก็อย่าฝืนไปแย่งเอามาเลยวะ เห็นแล้วสมเพช” ไม้เมืองกระซิบข้างๆ หู

“ไม่ต้องเสือก” ต้าร์ตะคอกใส่หน้าพร้อมกับรีบเดินไปหาไอ้เอ๋อ พอไอ้เอ๋อมันเห็นว่าต้าเดินมาหามันก็อ้าแขนวิ่งไปหาเหมือนเด็กที่ต้องการให้คนอุ้ม

“พี่ต้า ตี ตี ตี กันทำไม เจ็บไหมT^T” หน้าหวานๆ ของมันนองไปด้วยน้ำตามันกำลังเสียใจ

“เจ็บอะไรล่ะ กูตีกันที่ไหนกูเล่นกันเฉยๆ” สิงห์แทบจะหลุดขำกับคำแก้ตัวของต้าร์แต่ยังคงรักษาใบหน้านิ่งๆ เอาไว้ได้อย่างดี

“ไม่เจ็บได้ไงเลือดออกด้วย” มือเล็กๆ ของไอ้เอ๋อแตะลงบนหางคิ้วที่มีรอยถลอกจนเลือดซึมอออกมา

“ไหน? นี่มันน้ำแดง” (น้ำแดงพ่อง) -หมี)

“อย่ามาโกหกหนูนะ-3-หนูไม่ได้โง่ขนาดนั้น ฮึก” มันทำเสียงขึ้นจมูกและเดินไปหาไม้เมืองที่ยืนคุยกับพลัสอยู่

“โป้งงงงงง หนูโป้งพี่หมอแล้ว” มันยกนิ้วโป้งใส่ไม้เมืองไม่ได้ยกข้างเดียวด้วยมันยกทั้งสองข้างซึ่งแปลว่ามันโกรธมากๆ โป้งเค้าเสร็จก็สะบัดหน้าหนีวิ่งกลับมาหาสิงห์

“จะแข่งไหมบอลนะ” สิงห์เอ่ยถามหลังจากที่เรื่องสงบลง

“แข่งสิ มาแล้วก็ต้องแข่ง แต่กูมีเงื่อนไขพิเศษ” ไม่เมืองเดินกอดอกเข้ามาหาต้าร์ใบหน้าของหมอหนุ่มยังหมดดจดไร้ร่องรอยใดๆ นอกจากรอยแตกเล็กๆ ที่มุมปากจากหมัดแรกของต้าร์หมอไม้แสยะยิ้ม

“กูวางเงินให้อีกสองแสนต่างหากและมึงจะเป็นอิสระ และถ้ามึงแพ้กูมึงต้องกลับไปกับกูโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น” ข้อเสนอที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้ เพื่อแลกกับอิสรภาพ ต้าร์ไม่ยอมรามืออยู่แล้ว

“ตกลง จำคำพูดมึงไว้ด้วยละ” ต้าร์ชี้หน้าหมอไม้พร้อมกับยกยิ้ม

“มึงแน่ใจนะ?” สิงห์ถามต้าร์พร้อมยกยิ้ม

“แน่ใจถึงเรื่องอื่นกูจะสู้มันไม่ได้แต่เรื่องเตะบอลกูไม่เคยแพ้ใคร”

“มั่นใจแบบนั้นก็ดี อ้อ กูลืมบอกไป ไอ้ไม้อะมันเป็นอดีตนักฟุตบอลประจำมหาลัยและก็อดีตทีมชาติด้วยนะมึงก็ใจสู้หน่อยละกัน เพราะมันเป็นศูนย์หน้า” สิงห์ทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะเดินไปรวมตัวกับเพื่อนๆ เพื่อวอร์มร่างกายก่อนลงสนาม พวกเด็กช่างก็ทำด้วยเหมือนกัน พลัสหันไปยักคิ้วใส่เจี๊ยบที่ยืดเส้นอยู่ใกล้ๆ

“คิ้วพี่มันปัญหาหรอครับ?” เจี๊ยบส่งยิ้มแบบกวนๆ ไปให้พลัสไม่ได้ตอบโต้แต่กลับเสนอให้เล่นแบบสตรีทบอลคือไม่มีกติกายิงลูกเข้าประตูเป็นพอ นั่นเท่ากับพวกเขาจะเล่นตุกติกอะไรก็ได้ทุกคนยอมรับ ทั้งหมี อินทรี เจี๊ยบ ต้าร์ กัสและเพื่อนนอกกลุ่มอีกคนต่างช่วยกันวอมร่างกาย

พลัสหมายตาเจี๊ยบเอาไว้ตั้งแต่แรกจึงได้แต่ส่งยิ้มไปให้ เขารอเวลาลงสนามเพื่อที่จะได้จัดกับเด็กๆ อย่างสนุกมือ

วินาทีนั้นหวังว่าไอ้ต้าร์มันคงรู้ชะตากรรมตัวเองว่าจะจบแบบไหน....



“เราไม่เล่นเด็กมันแรงไปหรอวะ?” พลัสพูดพร้อมกับกลั้วหัวเราะแต่ไม่ได้รู้สึกอย่างที่ปากพูด ฝั่งนั้นเจ็บกว่าพวกเขาหลายเท่าและที่หนักสุดเหมือนจะเป็นไอ้ต้าร์ที่ทั้งสิงห์และไม้เมืองต่างพากันรุมสะกำมันด้วยเหตุผลส่วนตัวล้วนๆ

“เอ้า นี่มึงยังคิดว่าแรงไปเหรอดูแผลที่คิ้วมึงด้วย ห่า ดันเสือกไปบอกว่าจะแข่งแบบไม่มีกติกาเป็นไงละมึง หน้าแหกกันเป็นแถบๆ” ชาบ่นออกเสียไม่ได้เพราะตัวเองเป็นหนุ่มเจ้าสำอางอนามัยจัด ที่ใบหน้าขาวสะอาดของตนมีรอยแปดเปื้อน ชายกมือขึ้นแตะมุมปากตัวเองแล้วร้องซี๊ดออกมาเบาๆ

“เด็กเหี้ยอะไรตีนหนักกันฉิบหาย”

“แต่มือน้องเจี๊ยบนุ้มนุ่ม” พลัสพูดออกมาลอยๆ เหมือนคนเพ้อ

“มือนุ่มห่าไรละดูเบ้าตากุนี่ หม่อมเกศสุรางค์เอากูตายแน่” คิทชี้ไปที่เบ้าตาตัวเองที่มีรอยเขียวช้ำอยู่

“ไอ้พลัสหลอกแต๊ะอั๋งเด็กหรอไอ้ฟายยยย กูว่าละทำไมมันกระตือรือร้นจัง” พันวาพูดว่าใส่พร้อมกับผลักหัวพลัสแรงด้วยความหมันไส้

“แหมทำยังกะมึงไม่ทำ”

“กูแนบเนียนไม่เหมือนมึงไง”

“ชั่วพอๆ กัน” คิทแคท

“จ้าพี่คิทคนดี พ่อเทวดา เทวดาในร่างซาตานนะมึงนะ” พลัส

“แล้วไอ้ไม้มันลากเมียมันไปไหนแล้วนั่น”

“หายไปตั้งแต่แข่งจบแล้ว พวกมึงมัวแต่หื่นกันอยู่นี่ไง” สิงห์

“หิวข้าวT^T” ไอ้เอ๋อ



คำว่าหิวข้าวของไอ้เอ๋อคือการตัดบทที่น่าเอ็นดูที่สุด เพราะมัวแต่นั่งทำแผลนั่งเหล่เด็กๆ จนลืมอีกคนไปเสียสนิท ไอ้เอ๋อมันนั่งท้องร้องตั้งแต่ทีมเด็กช่างโดนยิงตั้งแต่ประตูแรก จบสกอร์ที่ห้าต่อศูนย์คิดดูว่ามันจะหิวขนาดไหน หิวจนจะเอาหญ้าในมือยัดปากดีที่กัสมันเห็นเสียก่อนไม่อย่างนั้นละมึงเอ้ยยยย จากไอ้เอ๋อธรรมดา จะกลายเป็นไอ้เอ๋อแดกหญ้าไปในทันที

ทุกคนตกลงมารวมตัวกันที่บ้านของสิงห์ขาดแต่หมอไม้ที่ต้องไปจัดการเรื่องของตัวเอง วันนี้ไอ้เอ๋อมันจะได้ลิ้มลองพิซซ่าเป็นครั้งแรกในชีวิต มันตั้งตารอว่าเมื่อไหร่พิซซ่าจะมาส่ง

“นั่งลงก็ได้มั้งหนู พี่เวียนหัว” พลัสเดินไปจับไอ้เอ๋อให้มานั่งที่โซฟาเพื่อที่มันจะได้ไม่ต้องเดินไปเดินมาจนเขาเวียนหัวแบบนี้

“แต่ว่าหนูกลัวพี่คนส่งพิซซ่าจะมาบ้านไม่ถูกหนูไปรอที่หน้าปากซอยดีกว่า” มันจะลุกออกไปข้างนอกจริงๆ สิงห์เดินถือเบียร์มามาห้ากระป๋องให้เพื่อนๆ ของตัวเอง ไอ้เอ๋อมันไม่ได้รับอนุญาตให้ดื่มของมึนเมามันเลยได้แต่มองแล้วกลืนน้ำลายตาม ในชีวิตมันก็อยากจะลิ้มลองน้ำเมาดูสักครั้งเหมือนกัน

“ไม่ต้องครับ พี่เค้ามาถูกนะโมมานั่งข้างๆ พี่มา” สิงห์ตบลงพื้นที่ว่างข้างๆ ตัวเองไอ้เอ๋อมันว่าง่ายเดินไปนั่งพร้อมกับมองกระป๋องเบียร์ในมือสิงห์พร้อมกับแลบลิ้นไปด้วย

“แฮร่ๆ”

“แฮร่ๆ อะไรครับเรากินไม่ได้ไม่ต้องมาทำตาอ้อนใส่พี่” สิงห์บีบปากเล็กเบาๆ อย่างหมันเคี่ยวไอ้เอ๋อมันขยันทำตัวน่ารักใส่คนเลี้ยงอย่างสิงห์ไม่หยุดหย่อน

“เออว่าแต่เรื่องรักษาน้องมึงจะเอายังไง ให้กูบอกพี่กาแฟเลยป่าว?” ชาเอ่ยถามสิงห์

“อืมฝากนัดพี่กาแฟเลยก็ได้” สิงห์ตอบกลับพร้อมกับลูบหัวไอ้เอ๋อไปด้วย

“แล้วเรื่องเรียน?”

“กูทำเรื่องเรียน ก.ส.นให้น้องแล้ว”

“น้องจะไหวเหรอมึง” พลัสเอ่ยถามอย่างที่ตัวเองรู้สึก

“น่าจะไหวดูแล้วน้องก็ไม่ได้บกพร่องอะไรมาก แค่เป็นเด็กย้ำคิดย้ำทำ แล้วก็ช้ากว่าคนปรกติทั่วไปเท่านั้นเอง” ชา

“กูอยากจะให้มึงดูอะไร” สิงห์เดินไปหยิบหนังสือสัตว์วิทยาออกมาแต่เป็นฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษ แล้วเดินกลับมานั่งที่ เขายื่นหนังสือเล่มนั้นให้ไอ้เอ๋อ ไอ้เอ๋อมันรับมาอย่างงงๆ

“อ่านให้พี่จ๋าฟังหน่อยสิครับ^^”

“งืออ ไม่อยากอ่าน” มันดันหนังสือกลับอย่างไม่สนใจตามันจ้องมองแต่หน้าบ้าน

“หึหึ” คิทแคท

“ถ้านะโมอ่านหน้านี้ให้พี่ฟังพี่จะพาไปเที่ยวสวนน้ำเอาไหมครับ” มาดูกันว่าระหว่างพิซซ่ากับสวนน้ำอันไหนมันจะชนะ

“เมื่อไหร่พิซซ่าจะมาหนูหิว=^=”

พิซซ่าชนะ....

“เอาไว้หลังกินพิซซ่าก็ได้ครับ” ไอ้เอ๋อปล่อยให้พวกพี่ๆ ลุ้นแทบตายสุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ให้กับเรื่องกิน ไม่นานพิซซ่าถาดใหญ่สามถาดก็มาส่ง พอเห็นว่ามีรถมาจอดหน้าบ้านไอ้เอ๋อมันก็วิ่งหน้าตั้งออกไปหาทันทีรองท้งรองเท้าไม่มีใส่เท้าเจ็บได้แต่ท้องต้องอิ่มมันวิ่งไปส่งยิ้มหวานให้คนส่งพิซซ่า

“หนึ่งพันสี่ร้อยห้าสิบห้าครับ”

“หูยยยยย หนูมีแค่ห้าบาทเอง*0*อะเอาไป” มันควักเหรีญห้าออกมาจากกระเป๋ากางเกงมันแล้วยื่นส่งให้นพักงานส่ง

“ห๊ะ..ห้าบาท นี่น้องโทรแกล้งพี่เหรอ?” คนส่งพิซซ่ากำลังจะด่าไอ้เอ๋อดีที่สิงห์ออกมาทันเสียก่อน

“เท่าไหร่น้อง? /นะโมใจเย็นๆ ครับ” ไอ้เอ๋อมะนจะแย่งพิซซ่าจากมือ

“1455 บาทครับ”

“นี่ครับไม่ต้องทอน” สิงห์ส่งเงินไปพันห้าแล้วจูงไอ้เอ๋อเข้าบ้าน

“อันไหนของหนูๆ” มันมองของกินตรงหน้าอย่างเลือกกินไม่ถูกเพราะมันไม่รู้จักเลยสักอย่าง

“กินได้หมดทุกอย่างครับ”

“จริงหรอ*0*”

“ครับ^^”

มือสั่นๆ ของไอ้เอ๋อมันคว้าพิซซ่าใส่ปากเป็นอย่างแรก ทันทีที่มันลิ้มรสชาติในปากมันก็ทำตาโตร้องอื้อๆ ๆ ๆ ไม่หยุด

“อร่อย อร่อยๆ งั่มๆ” น้ำตามันแทบจะไหลเกิดมายังไม่เคยได้กินของอร่อยแบบนี้เลย มือทั้งสองข้างมันไม่ว่างเลยแม้แต่นีเดียวพอหมดก็หยิบอีกย่างจนเต็มมือเต็มปาก แก๊งหมอวายร้ายมองเด็กน้อยของเพื่อนรักอย่างอึ้งๆ

“กินจุฉิบหาย กูแดกไม่ทันเลยเนี้ยะ” พลัสเป็นคนแรกที่เสียสละไก่นิวออรีนชิ้นสุดท้ายให้มันไป

“คึคึคึ หนูกินจุหรอ*0*” มันถามหน้าซื่อ

“ไม่จุเลยครับพิซซ่าห้าชิ้น มักกะโรนีอบชีส ไก่สี่อัน ปังกระเทียมอีกกล่อง นะโมเอาไปเก็บไว้ไหนครับหืมมม” ชาแซวไอ้เอ๋อรพ้อมกับหัวเราะไปด้วย เพราะเขาก็เป็นหนึ่งในผู้โชคร้ายที่กินไม่ทันไอ้เอ๋อมัน

“คึคึ อร่อยหนูชอบ เอิ๊ก -0-” มันตอบพร้อมกับเรอออกมาเบาๆ

กว่าแก๊งหมอจะเข้าหาไอ้เอ๋อได้ก็กินเวลาเป็นชั่วโมงโดยเฉพาะพลัสที่ชอบทำหน้านิ่งๆ ใส่ แต่คนที่เข้ากับไอ้เอ๋อได้ง่ายสุดเห็นจะเป็นพันวารายนั้นชอบมีมุกตลกมาให้ไอ้เอ๋อมันขำตลอด พอมันไว้ใจก็ง่ายที่จะคุยกับมันแต่คุยจะเข้าใจกันไหมนั่นอีกเรื่อง

กินเสร็จก็ช่วยกันเก็บขยะไปทิ้งไอ้เอ๋อนอนตีพุงอยู่หน้าทีวีดูรายการโปรดอย่างจีโอกราฟฟี่ สารคดีสัตว์โลกอย่างสบายใจเหล่าแก๊งหมอวายร้ายก็พากันนั่งเรียงแถว ถึงเวลาที่สิงห์จะทดสอบไอ้เอ๋อให้เพื่อนดูแล้ว ร่างสูงส่งหนังสือให้ไอ้เอ๋ออีกครั้ง

“-3- “

“อ่านให้พี่จ๋าฟังหน่อยสิครับ” น้ำเสียงของเขาทำเอาเพื่อนหันมามองอย่างไม่เชื่อสายตา

“เชี้ยะ ไอ้สิงห์มีเสียงสอง” พลัสแสร้งเอามือทาบอก

“อย่าเสือกไอ้พลัส แล้วดูนี่”

“งืมมมมม” หลังจากที่ทุกคนเงียบนะโมก็เริ่มอ่านบทความภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและชัดถ้อยชัดคำ อ่านไปก็คุยกับรูปภาพไปมีถามเองตอบเองด้วยนะ เพียงแค่นี้ก็ทำเอาหมอหนุ่มทั้งหลายตะลึงกันตาค้าง

“พอแล้วครับ ไว้วันหยุดคราวหน้าเราไปเที่ยวทะเลกันเนอะ”

“*0*ทะเลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล” มันลากเสียงยาวด้วยความตื่นเต้น

“ครับทะเล”

“ไปๆ ปะๆ เก็บเสื้อผ้า” มันรีบ?

“คึคึน้องน่ารักดีวะ” ชาหยิกแก้มย้วยๆ ของนะโมด้วยความเอ็นดูแต่ก็ต้องถูกปัดออกด้วยมือเจ้าของบ้าน

“ของกูอย่าแตะ กูหวง”

“แหวะเบื่อไอ้พวกหวงก้าง”

“ก้างกูหมามันเอาไปแทะละไม่ต้องห่วง” เขาหมายถึงต้าร์กับไม้เมือง ร่างสูงยิ้มร้ายกับเพื่อนๆ อย่างรู้กัน

อยู่กันได้สักพักก็พากันแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมันนัดกันอีกก็คงตอนไปเที่ยวละเลแหละมั้งสิงห์ลงไปส่งเพื่อนๆ ที่หน้าบ้าน คิทแคทกับพลัสบ้านอยู่ในเมืองชากับพันวาอยู่อีกจังหวัดใกล้กันเหมือนกทมกับสมุทรปราการจึงไม่ลำบากเท่าไหร่เวลาไปมาหาสู่กันส่งเสร็จก็ปิดบ้านพากันอาบน้ำเตรียมตัวนอน วันนี้ไอ้เอ๋อมันอ้อนจะนอนห้องสิงห์ให้ได้ เพราะอะไรนะเหรอ



“พี่จ๋าเปิดให้หน่อย” มันชี้ไปที่คอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานของสิงห์

“ดึกแล้วนะครับ?”

“หนูอยากเล่น” ไอ้เอ๋อมันกำลังติดเกมฝึกทักษะที่สิงห์ติดตั้งไว้เพื่อเสริมการเรียนรู้ให้ไอ้เอ๋อและสอนหนังสอมันไปในตัวด้วย

“เล่นก้ได้ครับแต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน^^” สิงห์ยิ้ม

“อะไรหรอ?” มันเอียงคอถาม

“นี่ไง” สิงห์ชี้ไปที่แก้มของตัวเอง

“อ๋อออ” มันวิ่งไปนั่งตักสิงห์ที่อยู่บนเตียง กอดคอร่างสูงเอาไว้ก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาแรงๆ

“หึหึ ไปครับพี่จ๋าจะสอนหนูทำแบบฝึกหัดนะ”

“อื้อ” สิงห์เดินไปเปิดคอมพ์ให้แล้วนั่งลงไอ้เอ๋อมันรีบนังตักทันที

“หนักนะเราวันนี้?”

“งะ -3- “

“ล้อเล่นครับ หึหึหึ” รอยยิ้มถูกจุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่ออีกครั้งเขาใช้มือข่างหนึ่งคล้องเอวของไอ้เอ๋อเอาไว้ วางคงไว้บนไหล่ของมันแล้วพูดสอนให้มันอ่านแบบฝึก ลมหายใจร้อนเป่ารดต้นคอไอ้เอ่อเรื่อยๆ จนมันรู้สึกจั๊กกระจี้

“คิคิคิ อย่าสิ”

“อะไรครับ”

“พี่จ๋าจะกินคอหนูหรอ”

“หึหึ”

“แล้วให้กินไหมล่ะครับ” เขาถามอย่างคนเจ้าเล่ห์

“งืออ ไม่เอากลัวเจ็บ เลือดออกเดี๋ยวหนูตาย”

“ไม่เจ้บไม่ตายครับ...อืมถ้าพี่จ๋าได้กินพี่จ๋าจะมีความสุขมากๆ” เขาแอบเหล่ตามองอาการของไอ้เอ๋อ มันก้มหน้าลงอย่างคนกำลังใช้ความคิด

“กินแล้วพี่จ๋ามีความสุข งืออถ้านะโมตายละใครจะดูแลหลวงตากับน้องๆ แต่ว่าพี่จ๋าจะมีความสุขนะ” มันคุยโต้ตอบกับตัวเองโดยที่ไม่รู้ว่าอีกคนกำลังยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะแทบจะตายอยู่แล้ว

“เห้อ...อยากกินคอนะโมจังเลยน้า” สิงห์พูดออกมาลอยๆ

“ก็ได้!! ให้กินก็ได้แต่อย่ากินเยอะนะเดี๋ยวหนูไม่มีคอใช้” คำตอบของมันเล่นเอาสิงห์ขำก๊ากกออกมา

“ครับๆ พี่จะเหลือคอไว้ให้นะโมใช้นะ” ตอบมันเสร็จร่างสูงก็ค่อยๆ จับหัวมันเอียงข้างเผยให้เห็นต้นคอสวย ไอ้เอ๋อมันกลืนน้ำลายลงคอนิดๆ

อึก

สิงห์กดจูบเบาๆ ไปที่ต้นคอขาวๆ ของมันอย่างเชื่องช้าใช้ลิ้นร้อนค่อยๆ ลากจากใต้คางลงมาถึงลำคอด้านล่างกลิ่นกายของไอ้เอ๋อมันหอมหวนชวนให้ลิ้มลอง สิงห์ค่อยใช้ฟันขบกัดลงไปเบาๆ

“อ๊ะ..T^T”

“..อืมนะโม..ตัวหอมจังเลยครับ”

“พี่ จะ จ๋า” สิงห์ค่อยๆ สร้างรอยสีกุหลาบบนต้นคอสวยทีละลอยๆ ไอ้เอ๋อตัวสั่นไปหมด ใจมันก็เต้นแรง

“อืมม พี่อยากกินนะโมทั้งตัวเลยรู้ไหมครับ” เสียงอขงเขาช่างแหบพร่ามือที่ว่างก็ลูบไปตัวขาวๆ ของไอ้เอ๋อไปด้วย

“อ๊ะ..อะ ไรทิ่มตูด อะไรทิ่มตูด” มันรู้สึกได้ถึงสิ่งแปลกๆ ที่กำลังนูนขึ้นจากตักของสิงห์

“ไม่มีอะไรครับ อึก พี่อิ่มแล้วนะโมไปนอนได้แล้วครับ”

“อิ่มแล้วหรอ” มันรีบจับคอตัวเองอย่างไวเพื่อเช็กว่าคอหายไปเยอะไหม

“ไปนอนก่อนนะครับ พ่อปวดท้องขอเข้าห้องน้ำก่อน”

“อื้อ รีบมานะ” มันลุกลงจากตักของเขาแล้วพุ่งตัวลงใส่ที่นอนนุ่ม ส่วนสิงห์ก็รีบปิดคอมพ์แล้วพุ่งไปที่ห้องน้ำทันที



“อืมมมม นะโม อะ อื้อนะโม” เสียงประหลาดดังออกมาจากห้องน้ำไอ้เอ๋อยังไม่หลับมันเลยขานรับ

“ค๊าบบบบบบบบบบบบบ”

“อะ นะโม”

“พี่จ๋าอึไม่ออกหรออออ เรียกชื่อหนูทำมายยยย” มันเดินไปเคาะประตูห้องน้ำพร้อมกับถามคำถามที่ทำเอาคนด้านในอยากจะจับมาตีก้น

“รักนะครับ อ๊า”

“อ่อ หนูก็รักพี่จ๋าเหมือนกัน อึออกยัง”

“ออกแล้วครับ ออกมาหมดเลย หึหึ”



+++++++++++++++++

หื่นในช่วงท้าย พี่หมอมันจ้องจะกินน้องทุกวันเลยอะ

ขอบคุณทุกๆ กำลังใจนะคะรักที่สุด

เรื่องของต้าถ้าจบเอ๋อแล้วน่าจะเริ่มเขียนนะคะ คู่นี่น่าจะแซบsm

ใครซิบคู่วันนาวันคู่ไหนแนะนำหน่อยค่ะ จับคู่ไม่ค่อยจะถูกช่วยแนะนำด้วยนะคะ



หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.13 12/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 12-06-2018 06:33:48
โถพี่สิงห์ต้องอดกลั่นอดใจไม่กินน้องเออต้ากับไม้ไปกินตับกันตอนไหนเนี่ยสงสัยต้องย้อนกลับไปอ่านอีกรอบ
จะรออ่านคู่หมอไม้กับต้าด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.13 12/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-06-2018 08:04:25
โถพี่สิงห์ต้องอดกลั่นอดใจไม่กินน้องเออต้ากับไม้ไปกินตับกันตอนเนี่ยสงสัยต้องย้อนกลับไปอ่านอีกรอบ[/size18]

มีด้วยเหรอ...............
ตอนหมอไม้กินตาร์  อยากอ่านอ่ะ   :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.13 12/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 12-06-2018 08:10:28
อิพี่หมอหื่นนนนนนนนนนนนน :oo1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.13 12/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 12-06-2018 12:42:23
ขำนะโมเช่นเดิม
เด็กอะไร เอ๋อได้น่าเลี้ยงมากกกก :mew3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.13 12/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-06-2018 12:48:27
รอวันนะโมหิวบ้างนะ พี่สิงห์  :hao6:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.13 12/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 12-06-2018 16:12:31
พี่สิงห์หื่นตลอดอ่ะ~~~~~ -.,-
ส่วนแกงค์คุณหมอนี่ หมอเถื่อน หมอเจ็บทั้งนั้น ปลื้มมมมมม
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.13 12/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 12-06-2018 22:29:33
โถ่วนะโมลูก​เอ็นดู​หนูจังเลย​
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.13 12/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 13-06-2018 00:42:30
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.13 12/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-06-2018 04:38:38
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.13 12/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 13-06-2018 17:00:19
เออเฮ้ยย!!สนุกหว่ะ เห็นอัพ 13 ตอนก็เออ อัพเยอะแล้วหนิ ลองอ่านดูวะ ละพออ่านจบรวดเดียว 13ตอนไม่พ๊ออออ มาต๊อออออี๊กกกก 555555 อ่านเพลินมาก ช่วงแรกร้องไห้ให้กับความเป็นนะโม สถานภาพ สภาพแวดล้อมความเป็นอยู่+สิ่งที่เจอมา สงสารรรรร รันทด อาภัพมาก ทั้งแม่ด่างพี่เปรี้ยวก็ตายจากไป :m15: //แต่ตั้งแต่ได้เจอกับพี่จ๋า น้ำตานี้ก็เริ่มแห้งละ เริ่มยิ้มออก หลังๆมาหัวเราะหนักเลย นะโมน่ารักมาก น่าเอ็นดู๊ววว แต่ในความน่าเอ็นดูนั้น มีความกวนชิบหาย กวนแบบหน้าซื่อตาใสโดยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังกวน5555 แบบจะโกรธจะด่าจะว่าก็ไม่กล้าทำไม่ลงอ่ะ ขำมากตอนที่เอาลูกชิ้นปิ้งให้ชะนีที่ดูท่าว่าจะอยากกินพี่จ๋า เนี้ยกวนตีนแบบซื่อๆ5555555 และก็แกล้งทำตาปรือๆง่วงนอนๆ ละเอ้ยยไอ้เอ๋ออออ คิดนานไหมแผนนี้ 5555555 //ชอบความรู้สำนึกตัวเองว่าเป็นอะไรแต่ไม่โง่อ่ะ ถึงตะเปิ่นเวลาที่เจออะไรแปลกใหม่ ชอบความอู้ววววว อาาาา ว้าวววตาวิบวับเป็นประกายเวลาเจอสิ่งใหม่ ตื่นเต้นไปด้วย น่ารักมาก แต่กิน ไม่สิสำหรับนะโน เรียกแดกเถอะ 5555 แดกเยอะชิบหาย แต่ก็นะขุนไปเถอะพี่สิงห์ ลูกชายคนเล็กเจ้าของไร่ ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก เปย์เลย 555 กินจุไม่พอแถมเห็นผีได้อีก แต่อย่าเห็นบ่อยนะนะโม หลอนแทนพี่จ๋า 5555 //พี่สิงห์ดีแล้วที่คิดอยากจะช่วยและพัฒนานะโม  :katai2-1: แต่เรื่องความหื่นนี้แอบเห็นใจอยู่นะ ตอดเล็กตอดน้อยค่อยๆสัมผัสไปให้ชิน จะทนไหวไหมเนี้ย 5555 รึเราจะยอมให้ไปปลดปล่อยข้างนอกก็ได้ รออีกหน่อยให้นะโมรู้ไรกว่านี้นิดนึงค่อยจับกินโลดเด้อ555555//แก๊งค์เพื่อนๆพี่สิงห์ก็แหมมมมมมF4มาเลย แต่ละคนตลก เตะบอลนะ มีบอกเล่นเด็กแรงไปไหม แต่ตัวเองเบ้าตาแตก ปากแตก 5555555  เออเนี้ยครบคู่เลยกับเพื่อนของต้าร์ แต่ละคู่ดูเหมือนจะสมน้ำสมเนื้อหมั่นไส้กันตั้งแต่เจอหน้า5555555 นี้รอกรี๊ดดดคู่คือไม้เมืองกับต้าร์ คู่รัก SM โวววววววนี้ถ่างตารออ่านเลย แรงปะทะร้าย พังพัง เตียงพัง ต่อยกัน555555ป๊าวววที่ไหนละ เขาเรียกกันเมียๆแล้ว ไปจัดกันตอนไหมขอพาร์ทไม้เมืองต้าร์ด่วนค่ะ 55555 //เฮ้ยยยสนุกอ่ะ ชอบๆค่ะ รอพี่กาแฟมารักษานะโม หนทางนี้อีกยาวไกล จะเป็นยังไงต่อนะ รออ่านตอนต่อไปค่ะ  สู้ๆค่ะไรท์ ขอบคุณที่แต่งและอัพ สนุกมาก ชอบ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.13 12/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: Kuayyai ที่ 13-06-2018 18:09:11
เอ็นดูน้อง 555
ขำมาก ตอนรอพิซซ่า น่ารัก

ฮาตอนท้ายด้วย พี่จ๋าเขาไม่ได้อึนะลูก
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.13 12/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 23-06-2018 00:03:28
14

         นี่มันหายนะชัดๆ ไอ้เอ๋อมันกรีดร้องอยู่ในใจ เมื่อได้ยินคำว่า เรียนหนังสือ ใช่เรียนหนังสือ ที่มันคิดว่ามันหลุดพ้นมาแล้ว มันไม่ชอบ ไม่ชอบเลยจริงๆ กับการไปโรงเรียน ไปเจอคนหมู่มากๆ ที่ไม่ใช่เพื่อนหรือคนรู้จัก มันไม่ชอบคำพูดจาร้ายๆ ไม่ชอบสายตาที่ดูถูกมัน หรือล้อเลียนมัน แม้ว่ามันพยายามจะไม่สนใจ ทำเป็นไม่เห็น หรือได้ยิน ก็ยิ่งโดนหนักกว่าเดิม ซึ่งความจริงแล้วมันไม่รู้หรอกว่าที่มันไม่ชอบเรียนหนังสือนั้นไม่ใช้เพราะเนื้อหา แต่เป็นเพราะผู้คน คนรอบๆ ตัวมันต่างหากที่ทำให้มันเกลียดโรงเรียน เกลียดการเรียน

“ฮรือออ พี่จ๋าไม่ไปไม่ได้หรอ นะๆ” มันอ้อน

“ไม่ได้ครับ เรียนแค่วันอาทิตย์เองนะครับ”

“-3- “

“ไม่ดื้อนะครับ”

“แต่หนูไม่ชอบไปโรงเรียน”

“ครั้งนี้นะโมต้องชอบแน่ๆ ครับ นะโมจะได้มีเพื่อนไงครับ”

“เพื่อนที่โรงเรียนหนูไม่ชอบ!! ” จุ่มันก็พูดใส่เขาเสียงดังคิ้วมันเริ่มจะผูกโบว์นิดๆ

“ทำไมละครับ?” สิงห์เอ่ยถามด้วยความสงสัย

“เพราะเขาไม่ชอบหนู ชอบไล่หนู ชอบว่าหนูว่าหนูโง่ หนูไม่ได้โง่สักหน่อย!! ” น้อยครั้งที่เขาจะเห็นไอ้อ๋อมันเกรี้ยวกราด สิงห์จับมือของมันแล้วบีบเบาๆ

“พวกนั้นชอบตีหนู ตีตรงนี้” มันเอามือตีที่หัวตัวเองเพื่อทำท่าให้เขาดูถ้าใครมาเห็นภาพนี้คงจะสะเทือนใจแบบสิงห์แน่ๆ ร่างสูงหวั่นไหวและเริ่มเป็นกังวล

“.....”

“พวกตัวใหญ่ๆ ชอบไล่เตะ พอหนูจะเตะคืนก็เตะไม่ถึงสักที”

“.....”

“พวกนั้นชอบเอารองเท้าหนูไปซ่อนด้วย!! ”
สิงห์เริ่มจะเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างในตัวมันแล้ว เพราะเจอแบบนี้เลยไม่ชอบไปเรียน ไม่ชอบโรงเรียน

“หนูอยากอยู่บ้านมากกว่า ไม่ได้หรอ” มันเริ่มจะงอแง

“เอาไว้พี่คิดดูอีกทีนะครับ” สิงห์เองก็หนักใจไม่แพ้กันพรุ่งนี้เขาจะพามันไปหาพี่หมอกาแฟ จะได้เริ่มรักษากันสักที

8.30น

“ไปครับขึ้นรถ เราไปหาพี่หมอกาแฟกัน”

“ =^= หมอเหรอ หนูไม่ชอบหมอ”

“หมอหล่อนนะใจดีด้วย ที่ห้องพี่หมอมีอมยิ้มอันเท่าบ้านเลยนะ”

“*0* อันเท่าบ้านเลยหรอออออออออออ” มันลากเสียงยาวอย่างตื่นเต้น

“ใช่ แต่ถ้าไปช้าคนอื่นจะแย่งหมดนะ”

“งั้น รีบไปสิครับ อ๊ากๆ ๆ อมยิ้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม” เพราะมันถูกห้ามไม่ให้กินลูกอมมาได้เกือบสองอาทิตย์แล้ว เพราะมันโดนจับได้ว่าแอบกินก่อนนอนแล้วไม่ยอมแปรงฟัน จนทำให้ฟันผุและมันก็ปวดฟันนอนร้องไห้เกือบทั้งคืน พอสิงห์ถามก็ไม่ยอมพูดเอาแต่ร้องจนสิงห์ต้องเข้าไปค้นห้อง ก็เจอกล่องใส่รองเท้าที่อัดไปด้วยขนมลูกอมและช็อกโกแลตอยุ่เต็มกล่องไม่รุ้ไปเอมาจากไหน สิงห์โกรธมากแต่ก็ไม่ได้ลงโทษอะไรที่รุนแรง แค่ยึดของกินมันแค่นั้นมันก็ใจจะขาดแล้ว ดังนั้นพอได้ยินว่าอมยิ้มอันเท่าบ้าน มันก็จินตนาการไปไกลทันที แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่ในหัวมันดันไปคิดถึงตอนที่ถอนฟันกับหมอชาแล้วไอ้เอ๋อมันรู้สึกขนลุกขึ้นมทันที

โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง

“คุณนะโม เชิญค่ะ” นางพยาบาลเอ่ยเรียกชื่อมัน เสียงดังไอ้เอ๋อมันสะดุ้งนิดๆ จากตอนแรกก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอยู่แล้วพอโดนเรียกชื่อด้วยเสียงแหลมๆ อีกมันก็สั่นเป็นเจ้าเข้า ร็สึกเหมือนมันจะโดนพาไปเชือด จากประสบการณ์ที่แล้วๆ ในโรงพยาบาลมันไม่เคยรอดพ้นเข็มฉีดยาเลยสักครั้ง

“ปะครับ ไปกัน”

“งือออ.” มันทำหน้ายู่ใส่ มือก็แอบยึดขอบเก้าอี้ไว้

“มาครับพี่ไม่ได้พาไปฉีดยาสักหน่อย” สิงห์เอ่ยเสียงนุ่ม

“แน่นะ อย่าหลอกหนูนะ โกหกมันบาปรู้ไหม!! ”

      หมอกาแฟเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเด็กออทิสติก หมอกาแฟที่มีรูปร่างสูงโปร่งอายุสามสิบต้นๆ และหน้าตาเข้าขั้นดารามีรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์แต่ไม่มีใครรู้ว่ารอยยิ้มนั้นมีปีศาจร้ายซ่อนตัวอยู่ พี่กับน้องก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ สิงห์กับไอ้เอ๋อเข้าไปในห้องของหมอกาแฟ ทั้งสองคนนั่งลงตรงข้ามกับหมอ กาแฟมองหน้ารุ่นน้องตัวเองสลับกับไอ้เอ๋อด้วยใบหน้าที่ยิ้มๆ เพราะแววตาของสิงห์เปลี่ยนไปจากแต่เดิมมากในดวงตาคู่คมนั้นมีร่องรอยของความอ่อนโยนซ่อนอยู่ซึ่งมันหาไม่ค่อยได้ในตัวของสิงห์ และเขาก็เชื่อว่าการที่สิงห์รับอุปการะเด็กคนนี้ต้องมีอย่างอื่นด้วยแน่นอน เคยได้ยินไหมว่าเลี้ยงหมูไว้รอเชือด...

“พี่หมอสวัสดีครับ^^” สิงห์ยกมือไหว้ทักทาย

“หวัดครับพี่หมอ” ไอ้เอ๋อมันยกมือไหว้ด้วย หมอกาแฟยิ้มรับพร้อมกับมองสำรวจไอ้เอ๋อไปในตัว

“เป็นยังไงบ้างเราไม่เจอนาน” น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามรุ่นน้องอย่างเป็นกันเอง

“ก็เรื่อยๆ ครับพี่” สิงห์ตอบพร้อมกับสบตาหมอหนุ่มไปด้วย

“แล้วนะโมละครับเป็นยังไงบ้างสบายดีเนอะ” หมอกาแฟถามไอ้เอ๋อที่เอาแต่นั่งก้มหน้า

“ครับ” มันตอบหมอแต่ไม่ยอมสบตา เป็นอาการโดยปรกติของเด็กพิเศษที่เวลาไม่คุ้นเคยกับใครก็จะไม่ยอมสบตากับคนคนนั้น

“เริ่มตรวจกันดีกว่าเนอะ” พอบอกจะตรวจมันก็ทำท่าจะวิ่งสิงห์เลยต้องล็อกตัวเอาไว้

“ตรวจ ตรวจอะไร ฉีดยาไม่เอานะ หนูไม่ฉีดยานะ” มันโบกมือไปมาแต่ก้ยังไม่ยอมสบตาหมออยู่ดี

“ไม่ได้ฉีดยาครับแค่ทำข้อสอบเฉยๆ ไหนใครอยากได้รางวัลบ้าง^^” กาแฟหยิบอมยิ้มออกมาจากลิ้นชักโต๊ะทำงาน

“หนูอยากได้!! หนู หนู” มันชี้ที่ตัวเองตาก็มองอมยิ้มในมือหมอ...
เพื่อไม่ใช้เสียเวลากาแฟลงมือทดสอบด้านการพัฒนาทางร่างกายและสมองของไอ้เอ๋อ และผลที่ได้ก็ไม่ได้น่าเป็นห่วงมากนักอาจจะดีกว่าเด็กพิเศษโดยทั่วๆ เสียด้วยซ้ำ

“ยังดีที่น้องไม่ได้อาการแย่มาก แค่เรียนรู้ได้ช้ากว่าคนปรกติทั่วไปเท่านั้น พฤติกรรมโดยรวมก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อาจจะมีเรื่องการเข้าสังคมบ้างต้องลองให้น้องไปเจอคนเยอะๆ หรือเข้าสังคมใหม่ๆ บ้างน้องจะได้ทำความคุ้นเคยและไม่ตื่นตระหนก ส่วนเรื่องชอบย้ำคิดย้ำทำ เราต้องค่อยๆ ฝึกน้องสอนน้องและอธิบายให้น้องเข้าใจ เรื่องการสื่อสารจะมีแค่ตอนตื่นเต้น หรือตกใจมากๆ ใช่ไหม”

“ครับพี่” สิงห์ฟังสิ่งที่รุ่นพี่บอกอย่างตั้งใจและพยายามเก็บรายละเอียดทุกอย่างเพื่อที่เขาจะได้เข้าใจและดูแลไอ้เอ๋อมันได้มากขึ้น

“อันนี้ถือว่าไม่ร้ายแรง เด็กบางคนไม่สามารถสื่อสารได้ หรือพูดเป็นประโยคยาวๆ ได้ นะโมถือว่าโชคดีที่สื่อสารกันพอรู้เรื่องไม่สลับคำไม่ติดอ่าง”

“แล้วเราจะรักษาน้องยังไงครับ”

“กินยาควบคู่กับการเรียนการสอน สิงห์ต้องเอาใจใส่น้องเป็นพิเศษเพราะเขาจะจิตใจอ่อนไหวง่ายกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะกับคนที่เขาใกล้ชิด ห้ามอารมณ์ร้อนใส่เพราะนั่นจะยิ่งทำให้น้องต่อต้านเรา เราต้องใจเย็น หากิจกรรมเสริมทักษะให้น้อง เราจะได้รู้ว่าน้องมีพรสวรรค์ในด้านไหน”

“นะโมอ่านภาษาอังกฤษได้ดีครับทั้งที่ผมก็ไม่เคยได้สอน” มือหนายกลูบหัวทุยที่นั่งอยู่ข้างๆ เห็นมันเงียบๆ นี่คือปากไม่ว่างอมอมยิ้มอยู่มันแอบผิดหวังกับขนาดของอมยิ้มนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

“อ่านออกด้วยเหรอ”

“ครับแต่เขียนไม่ได้”

“อืม แล้วลองให้น้องวาดรูป หรือพาไปเรียนด้านศิลปะ ดนตรี หรือจะเป็นพวกกีฬาก็ได้ แต่อย่าไปบังคับน้องนะให้น้องเลือกเอาที่น้องชอบน้องสนใจจริงๆ” พอได้ยินแบบนั้นสิงห์นึกได้ว่าเขาไม่เคย ให้น้องได้ลองทำอะไรเลยนอกจากให้อ่านหนังสือกับทำงานบ้าน

“ครับพี่กาแฟ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วก็ไปรับยาได้เลย แล้วก็อย่าลืมมาตามที่พี่นัดด้วยล่ะ ส่วนผลการทดสอบเรื่องEQกับIQไว้พี่จะแจ้งไปทีหลังแล้วกัน”

“เออพี่แฟ ว่างๆ ไปสังสรรค์ที่บ้านผมบ้างดิ จะได้รวมแก๊งหมอเถื่อนสักที” สิงห์หันไปหาหมอแกฟา

“หาเรื่องแดกเหล้ากันมากกว่ามั้งพวกมึงอะ” หมอกาแฟว่าขำๆ สิงห์เรียกให้ไอ้เอ๋อไปรับยาโดยที่มีหมอกาแฟเดินมาส่งด้วย

“นะโมครับ ไว้มาหาพี่หมออีกนะครับ”

“ครับ ครั้งหน้าถ้ามาเอาอมยิ้มอันใหญ่เท่าบ้านด้วยนะครับ อันเล็กแบบนี้หนูกินไม่อิ่ม”

“ฮ่าๆ ครับไว้พี่หมอจะหาอันใหญ่กว่านี้มาให้นะ” กาแฟยิ้มอบอุ่น

“ไว้เจอกันพี่ แล้วอย่าลืมละไปหาพวกผมบ้าง”

“เออ พี่ไปทำงานต่อละ”

       กลับจากโรงพยาบาลสิงห์ก็พาไอ้เอ๋อมันแวะห้างในตัวเมืองวันนี้เขาจะพามันไปกินชาบู สายพาน แน่นอนไอ้เอ๋อมันไม่เคยกินอยู่แล้ว ห้างใหญ่ประจำจังหวัดคนย่อมเยอะอยู่แล้วเป็นธรรมดาแต่สำหรับไอ้เอ๋อที่มันคุ้นชินแค่ห้างเล็กๆ คนไม่เยอะมาเจอแบบนี้เข้ามันแทบจะไม่มองทางหรือสบตาใครเลยมันกำมือสิงห์จนแน่นแล้วก้มหน้ามองพื้นอย่างเดียว มือข้างซ้ายของมันคอยแต่กระตุกเบาๆ

“นะโมครับเงยหน้าขึ้นมามองพี่หน่อยสิครับ” สิงห์เห็นว่าไอ้เอ๋อเอาแต่ก้มมองพื้นก็เลยหยุดเดินและเรียกให้มันเงยหน้าขึ้นมอง แต่ไอ้เอ๋อมันกลับส่ายหน้า

“ไม่เอา ไม่เอา คนมองหนูเยอะ”

“เขินหรอ”

“หึ หนูอาย เค้ามองหนูปัญญาอ่อน” น้ำเสียงของมันดูไม่มั่นใจดวงตากลมดูหลุกหลิก

“ไม่เอาครับไม่พูดแบบนี้ หนูไม่ได้ปัญญาอ่อนครับ มองหน้าพี่จ๋านะ หนูน่ารักจะตาย” สิงห์เอ่ยชมจากใจ เพราะนะโมน่ารักในสายตาเขาและสิงห์ก็มั่นใจว่าหลายคนก็มองว่าไอ้เอ๋อมันน่ารักด้วย

“งือออ-3- “

“เร็วสิ ไม่งั้นพี่จ๋าไม่รักนะ”

“ไม่ได้นะ!! ” มันเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับตะโกนใส่หน้าสิงห์อย่างตื่นๆ

“ไม่ได้นะ ไม่ได้ พี่จ๋าจะไม่รักหนูไม่ได้นะ” มันส่ายหน้าเร็วๆ แล้วกอดแขนสิงห์ไว้แน่น

“ถ้าอยากให้พี่รักนะโมก็ต้องเงยหน้าขึ้นมามองพี่นะครับ มองรอบๆ ด้วย หนูเป็นคนปรกติ หนูไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเลยนะครับ” สิงห์จับใบหน้าหวานๆ ของมันให้เงยขึ้นสบตากับเขา มันไม่หลบตาสิงห์แต่มันกลับชอบสบตากับเขามากกว่า

“อื้อ หนูจะไม่หลบสายตาใครก็ได้ แต่ว่าหนูนะกลัวนะ กลัวคนอื่นจะไม่ชอบพี่จ๋าด้วย”

“ทำไมละครับ?”
“ก็เวลาที่มีเพื่อนใหม่มาเล่นกับหนูที่โรงเรียน เพื่อนๆ ในห้องก็จะพากันไม่ชอบเพื่อนคนนั้นไปด้วย จนไม่มีใครมาเล่นกับหนูเลย ไม่มีใครมาเล่นกับหนูอีก ไม่มี”

“อ่า ถ้าไม่มีใครอยากเล่นด้วยนะโมลองทำแบบนี้นะครับ......”

          หลังจากกินมื้อกลางวันเสร็จแบบเกือบจะวุ่นวาย เพราะไอ้เอ๋อมันไม่อยู่นิ่งเลย มันคอยแต่จะเดินตามพนักงานที่เดินเก็บโต๊ะ เพื่อที่จะไปช่วยเขาเก็บโต๊ะด้วย แถมยังถามน้องพนักงานด้วยว่าถ้ามันช่วยเก็บโต๊ะมันจะได้ตังค์ไหม เล่นเอาขำกันทั้งร้าน หรือไม่ก็จานอาหารในสายพาน ยังดีที่สิงห์ควบคุมมันได้ดีแม้จะต้องใช้น้ำเสียงที่เข้มขึ้นก็ตาม พอกกินกันจนอิ่มก็พากันออกจากร้าน ก่อนออกมันยังหันไปทำมือบ๊ายบายให้กับคนในร้านอีกด้วยพอมันไม่กลัวมันก็จะเป็นแบบนี้กับทุกคน เพราะแบบนี้หลวงตาเลยห่วงมันมาก เพราะถ้ามีใครใจดีกับมัน มันก็จะไว้ใจเค้าไปหมด ถ้าเจอคนใจดีแต่เจตนาร้ายเข้าไอ้เอ๋อมันคงไม่รอด
ไอ้เอ๋อมันเดินอืดๆ มือหนึ่งจับมือสิงห์เอาไว้อีกมือก็แกว่งไปมา มันเริ่มจะมองสิ่งรอบๆ ตัวแล้ว และเริ่มสนอกสนใจอย่างอื่นมากขึ้น สิงห์พามันไปที่ร้านขายเครื่องเขียนซื้ออุปกรณ์การเรียนและสมุดวาดภาพพร้อมกับสีน้ำปลอดสารพิษพร้อมอุปกรณ์การวาดภาพ ไอ้เอ๋อมันสนใจเรื่องการวาดภาพมันเดินไปหาหนังสือรูปสัตว์มาหลายเล่มมันชอบดูรูปและอ่านเรื่องที่เกี่ยวกับสัตว์มากๆ พอจ่ายเงินเรียบร้อยก็พากันกลับบ้าน พร้อมกับซื้อมื้อเย็นกลับไปด้วย
++++++

“พี่จ๋าสวยไหม” ไอ้เอ๋อมันเดินถือสมุดวาดรูปมาหาสิงห์ในเช้าวันหยุด รูปของกระต่ายที่สวยงามเสมือนมีชีวิตปรากฏในสายตาของเขามันสมบูรณ์แบบทั้งแสง เงาและองค์ประกอบของภาพ

“สวยมากเลยครับ” สิงห์แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองไอ้เอ๋อมันมีพรสวรรค์เข้าขั้นอัจฉริยะเลยก็ว่าได้

“คึคึ หนูชอบวาดรูปนะ ในห้องที่วัดมีเยอะเลยหนูลืมเอามา” ถึงว่าทำไมเขาไม่เคยเห็นหรือรู้เลยนี่เขาเกือบพาน้องเดินผิดทางแล้วไหม

“ถ้าหนูชอบวาดพี่จ๋าก้จะให้หนูวาดเนอะ” สิงห์ยิ้มอ่อนโยน การดูแลเด็กคนหนึ่งมันไม่ใช่เรื่อง่ายเลยโดยเฉพาะเด็กพิเศษแบบไอ้เอ๋อมันโชคดีที่มีหลวงตาคอยดูแลและต้าร์คอยประคับประคองแม้จะไม่มีการเลี้ยงดูที่ถูกต้องนักแต่ก็เลี้ยงให้มันเติบโตขึ้นมาอย่างไม่เคยเดือดร้อนใครๆ ไอ้เอ๋อมันช่วยเหลือตัวเองได้แม้จะช้ามากๆ แต่ก็ไม่ได้ลำบากให้คนอื่นช่วยเหลือมันตลอด มันเริ่มช่วยเหลือตัวเองได้ตอนประมาณห้าขวบ สิ่งแรกที่มันทำได้คือการถอดกางเกงเพื่อฉี่ ทุกๆ ครั้งที่มันปวดฉี่มันจะฉี่รดกางเกงตัวเองตลอด หลวงตากับเด็กวัดที่โตกว่าต้องคอยสอนมันอยู่ตลอดจนมันทำได้ เมื่อรู้ว่าตัวเองปวดฉี่มันจะแก้กางเกงตัวเองทันทีโดยไม่สนว่าที่ตรงนั้นจะมีใครอยู่บ้าง

        แม้ร่างกายและฮอร์โมนมันจะเจริญตามวัยแต่ความนึกคิดมันจะยังอยู่ที่เด็กสิบขวบก็ตาม สมองมันสามารถพัฒนาได้และอาจจะรักษาให้หายได้ขึ้นอยู่กับคนตัวโตว่าจะสู้ไปกับมันได้มากแค่ไหน....
หลายวันผ่านไป รูปภาพก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไอ้เอ๋อมันมีสมาธิมากขึ้น และเริ่มเปิดใจเข้าเรียนในโรงเรียนที่รับเด็กพิเศษอย่างมันเข้าเรียนในชั้นมอปลายแม้อายุของมันจะเลยช่วงชั้นมาแล้วก็ตาม

วันแรกของการไปโรงเรียน

เริ่มจากการแนะนำตัวเองหน้าชั้นเรียน มันประหม่าเพราะต้องออกมายืนหน้าชั้น ทุกคนมองมาที่มันเป็นจุดเดียว

“คะ..คือหนูชื่อ นะโม อะ อายุ..19 ขวบ ชอบกินไข่พะโล้ ไม่ชอบคนพูดจาไม่เพราะและชอบใช้กำลัง หนูชอบคุณหมี ไม่ชอบคุณงู ..ละแล้วก็ นะ หนู อยากเป็นเพื่อน กับทุกคน” ประโยคสุดท้ายเสียงมันแผ่วลงจนเกือบไม่ได้ยิน มือมันสั่น ใจมันสั่น ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาใคร มันกลัวเสียงหัวเราะ มันกลัวสายตาที่ดูหมิ่น กลัวไปหมดทุกอย่าง


“จารย์เด็กใหม่มันเป็นเอ๋อเหรอครับ” เสียงเด็กนักเรียนในชั้นเอ่ยถามออก แค่คำว่าเอ๋อใจมันก็แป้วแล้ว

“สุพจน์พูดจาให้เกียรติเพื่อนด้วยสิ” อาจารย์ประจำชั้นพูดเสียงดุ

“ก็มันน่าสงสัยนี่ครับจารย์”

“ขอโทษเพื่อนเดี๋ยวนี้นะสุพจน์ ไม่มีมารยาทเลยนะเรานะ”

“-*- ขอโทษ” สุพจน์พูดบอกอย่างไม่ค่อยพอใจ ไอ้เอ๋อมันหลบตาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองแถมไปยืนหลบหลังอาจารย์ประจำชั้นอีกต่างหาก

“เอาละดูแลเพื่อนใหม่ด้วยนะหัวหน้าห้อง อย่าให้มีปัญหา นะโมไปหาที่นั่งได้แล้วครับ”
“ครับ” มันไม่เงยหน้าขึ้นมามองอะไรเลยเอาแต่ก้มหน้าเดินมันเลยไม่รู้ว่าที่มันเดินไปนั้นต้องผ่านสุพจน์หรือปิงด้วย พอเห็นว่าไอ้เอ๋อมันเดินมาทางนี้ปิงเลยยกขาขึ้นขัด
“อ๊ะ...”
ปึก!!

“งื้ออออออออออออออออออ” หน้ามันคว่ำลงกับพื้นทันทีเรียกเสียงหัวเราะดังลั่นห้องดีที่มีเด็กคนหนึ่งช่วยพยุงมันลุก

“เจ็บไหมนะโม” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วง

“เจ็บT^Tเขาแกล้งหนู”

“ปิงถ้ามึงยังอยากเรียนอย่างสงบๆ มึงช่วยอยู่เฉยๆ ได้ไหม”
“เหอะ!! ”

“มานั่งข้างๆ ผม”

“อย่ามาทำตัวเป็นคนดีหน่อยเลยไอ้หัวหน้าห้องเห็นแล้วหมั่นไส้”

“แล้วมึงคิดว่าการที่มึงทำตัวแย่ๆ มันดีไปกว่ากูนักเหรอ”

“สร้างพภาพ!! ”

“งืออทะเลาะกัน ทะเลาะกันไม่ได้นะ” ไอ้เอ๋อมันไม่ชอบเวลาเห็นคนทะเลาะกันเลยพูดออกไป

“อย่าเสือกไอ้ปัญญาอ่อน!! ”

“ปิง! ”

“เฮือกกกกT^T”

“ไม่ต้องไปสนใจมันนะโม เอากระเป๋ามานี่แล้วนั่งลง อีกเดี๋ยวอาจารย์จะเข้าสอนแล้ว” ไอ้เอ๋อโดนจับให้นั่งตรงที่ว่างข้างๆ มันมองเพื่อนใหม่ของมันอย่างไม่เข้าใจ

“งืออ”

“กูชื่อติส เป็นหัวหน้าห้อง”

“อื้อ” ไอ้เอ๋อมันไม่ยอมสบตา

“ถ้าจะคุยกับกูก็ต้องมองหน้ากูด้วย” มันหันมามองหน้าตามคำสั่ง


“มีปัญหาอะไรก็บอกกู ใครแกล้งก็มาหากูเดี๋ยวกูจัดการให้” ทุกประโยคติสไม่ได้หันหน้าไปทางไอ้เอ๋อแต่กลับหันหน้าไปทางปิง ดวงตาเรียวดุคมจ้องไปที่ตัวปัญหา อย่างปิง!!
กว่าจะผ่านพ้นวันทำเอาไอ้เอ๋อมันเหนื่อยจนอยากจะกลับบ้านไปนอน มาเรียนวันแรกมันก็สร้างศัตรูแบบไม่ได้ตั้งใจ และดูเหมือนมันจะมีเพื่อนคนแรกแล้วด้วย

15.30น.

           สิงห์ขับรถมารับไอ้เอ๋อที่โรงเรียน เห็นมันยืนซื้อชานมไข่มุกอยู่ มันดูเข้ากับชุดนักเรียนของที่นี่เสื้อแขนยาวสีเทาอมฟ้ากับกางเกงขายาวสีดำผูกไท้สีดำสวมทับด้วยเสื้อกั๊กสีดำอีกชั้น ข้างๆ กันมีเด็กนักเรียนคนหนึ่งยืนอยู่และไอ้เอ๋อก็คุยด้วย ทำให้สิงห์แปลกใจ แม้เด็กคนนั้นจะมีสีหน้าที่ยุ่งๆ แต่ก็ยอมคุยโต้ตอบกับไอ้เอ๋อ

“ติสสส รอใครเหรอ?” ความจริงติสไม่ได้รอใครหรอกเขาขี่มอเตอร์ไซน์มาเรียนแต่ที่มายืนให้เหงื่อออกนี่ก็เพราะไอ้เอ๋อล้วนๆ

“รอแม่” ติสตอบสั้นๆ พร้อมกับกระพือเสื้อนักเรียนไปด้วย

“นะโมรอพี่จ๋ามารับ” เออ ก็เพราะมึงยังรออยู่นี่ไงกูถึงได้ทนร้อนอยู่แบบนี้!!
“เออ แล้วเมื่อไหร่มาละ ไม่โทรหา?”

“นะโมไม่มีโทสับ”

“งั้นบอกเบอร์มาเดี๋ยวโทรให้”
“แฮะๆ นะโมไม่รู้อะ”

“= =;”
สิงห์เห็นว่าติสสนิทกับไอ้เอ๋อใจเขาก็เริ่มคันยุบยิบทนไม่ไหวต้องรีบหาที่จอดรถแล้วเดินไปหา

“อ๊ะ พี่จ๋ามาแล้ว” พอมันเห็นสิงห์เดินเข้ามาหามันก็ยิ้มกว้าง

“มาได้สักที” ติสบ่นออกมาเบาๆ

“เป็นยังบ้างครับมาเรียนวันแรก” สิงห์ลูบหัวทุยของมันพร้อมกับยิ้มหวานแต่ตาหันไปมองติสที่ยืนหน้าเครียดอยู่ข้างๆ

“เหนื่อย กว่ากวาดบ้านอีกT^T”

“แล้วนี่เพื่อนเหรอครับ” สิงห์ชี้ไปที่ติส

“ครับ คุณหัวหน้าห้องติส ติสช่วยหนูทุกอย่างเลย”

“อย่างนั้นเหรอครับ^^ขอบใจมากนะที่ช่วยดูแลนะโมให้”

“ครับมันเป็นหน้าที่ของผม ถ้ามารับนะโมแล้วผมกลับก่อนละกัน” ติสยกมือไหว้สิงห์แล้วหันหลังเดินจากไป

“ปะครับ กลับบ้านกัน”

           ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถไอ้เอ๋อมันก็พูดเล่าถึงที่โรงเรียนให้ฟังว่ามันโดนแกล้งแล้วติสก้ช่วยเอาไว้และสอนการบ้านมันด้วยถึงมันจะอัจฉริยะด้านศิลป์และภาษาแต่มันตายด้านในเรื่องการคำนวณ เจอตัวเลขเยอะๆ เข้าไปมันถึงกับมึนหัวไปไม่เป็นนั่งเอ๋อยิ่งกว่าเดิม ติสก็ช่วยมันทำอีก พาไปกินข้าว พาไปห้องน้ำ พาไปหาครู พาไปซื้อขนม พาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตอนวิชาพละ ตลอดเวลายี่สิบกว่านาที สิงห์ได้ยินแต่ชื่อ ติส ๆ ๆ ๆ ๆ เต็มไปหมด ไม่มีชื่อเขาเอ่ยออกมาสักคำ
ในรถเปิดแอร์เย็นฉ่ำแต่ใครบางคนกลับหัวร้อนกับเสียงเจื้อยแจ้วของนกขุนทองที่ชื่อนะโม อดทนไม่ไหวจนต้องจอดรถเข้าข้างทางแล้วก็จัดการปิดปากไอ้คนพูดมากด้วยปากของตัวเอง

“อะ อื้ออ” จูบหนักๆ ตามแรงอารมณ์จนไอ้เอ๋อมันตกใจสิงห์ทั้งดูดทั้งเม้มปากมันจนแดงเจ่อ จูบย้ำซ้ำๆ จนพอใจ จนไอ้เอ๋อมันหยุดพูดชื่อติสให้ได้ยิน

“ไหนพูดชื่อพี่สิงห์ให้ชื่นใจหน่อยสิครับ^^”

“งืออ” ไอ้เอ๋อมันไม่เข้าใจเลยสักนิดกับสิ่งที่สิงห์ทำกับมัน จูบมันทำไม ทำหน้าไม่พอใจใส่มันทำไม แล้วทำไมต้องมองมันด้วยสายตาแบบนั้น แต่เชื่อไหมว่ามันไม่ได้โกรธสิงห์ที่ทำกับมันแบบนั้น แต่มันกลับใจเต้นแรง มันมองหน้าคนที่จูบมัน

“ต่อไปนี้ถ้าพูดชื่อคนอื่นต่อหน้าพี่เกินสามครั้งนะโมจะโดนลงโทษแบบนี้นะครับ^_^”
+++++++++++++++++++++++
พี่สิงห์เกรี้ยวกราดดด บอกเลยเห็นนิ่งๆ แต่ใจเขาไม่นิ่งน้าจร้า
ปล.เรื่องเกี่ยวกับออทิสติกข้อมูลยังไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่เน้อ อาจจะแสดงออกมาได้ไม่ดีพอต้องขออภัยด้วยนะคะ ถ้ามีอะไรที่พอจะแนะนำหรือติชมก็บอกนะคะ ตอนนี้แก๊งหมอยังไม่มาแต่จะพยายามสอดแทรกเอาไว้ให้นะคะ ส่วนเรื่องฉากของคู่ไม้เมืองกับต้าร์คงต้องรอเรื่องของคู่นี้อีกทีหลังจากเอ๋อจบแต่จะแทรกเข้ามาในเอ๋อบ้างแต่ไม่เยอะนะคะ เค้ากลัวเวลาเขียนเรื่องของหมอไม้แล้วมันจะไม่เชื่อมกับเอ๋อ สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทุกแรงใจที่มีให้นะคะ เราชอบอ่านคอมเม้นท์อ่านแล้วมีกำลังใจ อ่านแล้วมีแรงผลักดันมากๆ เลย รักนักอ่านทุกคนนะ จุ๊บ^^

แก้ขนาอักษรค่ะ อ่านได้ไหมอ่า เค้ามีปัญหากับการจัดหน้ามากๆเลยตั้งใช้ขนาดเท่าไหร่T^T
[/font]
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.14 23/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 23-06-2018 00:17:20
ไรท์จ๋าแก้ขนาดตัวอักษรให้หน่อย มันเล็กมากอ่า อ่านยาก พลีสสส
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.14 23/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 23-06-2018 01:09:28
โถ่พี่สิงห์ พ้นจากต้าร์แล้วมาเป็นติสอีก ศัตรูหัวใจงอกยิ่งกว่าเห็ดอีก  เรื่องราวน่ารักเราชอบและตามส่องรออัพตลอดชอบนะโมสิงห์
ต้าร์ไม้   
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.14 23/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-06-2018 02:17:57
ท่าทางปิงจะไม่หยุดแกล้งนะโมแน่ ๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.14 23/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 23-06-2018 02:42:42
 :mew3:
นะโมมาแล้วเหรอออออออออออ คิดถึงอะ
นะโมสบายดีมั้ย ไปโรงเรียนแล้วโอเคหรือเปล่า
อย่าอยู่ห่างคุณหัวหน้าห้องติสนะ เดี๋ยวจะโดนปิงแกล้งแรง ๆ
ไม่อยากให้นะโมเจ็บอะ เป็นห่วงนะโมน้าาาาาาา...
  :กอด1:

ป.ล. โลกของนะโมกำลังขยายกว้างขึ้น
ดีนะคะที่พี่หมอจ๋าพาไปหาพี่หมอกาแฟ
การดูแลน้อง ต้องครบด้านแบบนี้แหละเนอะ

หวังว่า นะโมในบทต่อ ๆ ไป จะไม่โดนบูลี่มากเกินไปนะ
ไม่นิยมอะไรแบบนี้ค่ะ อ่านแล้วจิตตก

อยากเสพพัฒนาการของนะโม อยากยิ้มทุกครั้งกับความเจ้าเล่ห์ของนะโม
ในการแอบจก แอบซ่อน แอบจิกอาหารและขนมให้รอดพ้นสายตาพี่จ๋า .. มากกว่า
เหนืออื่นใด อยากดูความหื่นของพี่จ๋าที่มีต่อนะโม... มากกว่าการบูลี่นะโมนะคะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.14 23/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-06-2018 03:27:11
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.14 23/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 23-06-2018 23:03:58
น้องใส่ชุดนักเรียนต้องน่ารักแน่ๆ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.15 27/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 27-06-2018 08:36:25
15





          หลังจากที่ได้เกรี้ยวกราดใส่น้องร่างสูงก็ขับรถกลับบ้าน ด้วยอารมณ์ที่เย็นขึ้นรอยยิ้มถูกจุดที่มุมปากเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่นั่งก้มหน้าดูก็รู้ว่ากำลังเขินเขาอย่างหนัก มันเป็นความพึงพอใจเล็กที่เขาชอบและอยากได้มันบ่อยๆ เหมือนตาแก่โรคจิตก็ไม่ปาน



“ถึงบ้านแล้วครับ” สิงห์กระซิบเสียงนุ่มพร้อมกับโน้มตัวไปปลดสายเข็มขัดนิรภัยให้ หลังจอดรถที่หน้าบ้าน

“อะ อื้อ” นะโมหันไปหยิบกระเป๋านักเรียนที่เบาะหลังก่อนจะเปิดประตูรีบลงจากรถโดยไม่รอสิงห์มันไม่ได้โกรธแต่มันอายมากกว่า พอเข้ามาในบ้านก็เจอต้าร์นั่งหน้ามุ่ยรออยู่ที่ใต้ถุนอยู่ก่อนแล้ว

“อ๊ะ พี่ต้า”

“เออกูเอง จำกูได้ด้วย” ต้าร์พูดกึ่งประชดพร้อมกับยื่นปิ่นโตที่บรรจุขนมหวานมาเต็มแถว

“หลวงตาให้เอามาให้ขนมที่มึงชอบทั้งนั้น” ปากพูดแต่ส่งสายตาอาฆาตไปให้เจ้าของบ้าน นี่คงได้กุญแจมาจากหมอไม้แน่ๆ ถึงได้เข้าบ้านได้แบบนี้

“หลวงตา หลวงตา” มันยิ้มดีใจ เพราะมันไม่ได้ไปหาหลวงตาที่วัดนานแล้ว

“ส่วนมึงหลวงตาฝากนี่มาให้” ต้าร์ยังแค้นใจเรื่องที่แข่งบอลอยู่และไม่คิดจะพูดจาดีๆ กับสิงห์ด้วย ในมือของต้าร์มีซองเอกสารสีน้ำตาลสิงห์รับมาเปิดดู ด้านในมีสมุดบัญชีกับเอกสารสำคัญหลายอย่าง พร้อมกับจดหมายสองฉบับและมีอีกหนึ่งอย่างที่อยู่ในกล่องกระดาษใบเล็กๆ เท่าฝ่ามือสิงห์เปิดกล่องนั่นดูถึงได้รู้ว่ามันเป็นสร้อยเส้นหนึ่งที่มีแหวนทองคำขาวฝังทับทิมสีเลือดนกเอาไว้ตรงกลางสิงห์คิดว่ามันคงเป็นของไอ้เอ๋อที่หลวงตาทำไว้ให้

“พี่ต้าร์ !!! ในนี้มีทองหยอด ฝอยทอง ทองหยอด ฝอยทอง อ๊ากกหนูจะกินให้หมดเลยยยยยย *0*”

“เรื่องของมึงเถอะ จะกินก็กินไป แต่ต้องแดกข้าวก่อน วันนี้เรียนวันแรกสิ?” ต้ามันถามสารทุกข์สุกดิบของไอ้เอ๋อ

“อื้อ โดนแกล้งด้วยT^T” มันโชว์รอยหัวโนให้ต้าร์ดู “นี่ตรงนี้เจ็บ” แค่เห็นว่าอีกคนเจ็บตัวต้าร์ก็กำหมัดแน่น

“ไหนกูดูดิ๊” ต้าร์ขยับเข้าไปใกล้ๆ จับหัวนะโมแล้วเสยผมนิ่มดูร่องรอย จากแรกที่ใจสั่นทุกครั้งเวลาสัมผัสไอ้เอ๋อตอนนี้มันกลับรู้สึกเฉยๆ ออกจะเป็นห่วงมากกว่าต่างจากอีกคนที่แค่มองตาก็สั่นไปทั้งใจ

“หัวโนเดี๋ยวก็หาย” ต้าร์ตบเบาๆ ตรงรอยปูดมันเป็นวิธีปลอบแบบเด็กช่างอาจจะดูรุนแรงหน่อยแต่รับรองว่าจริงใจสุดๆ

“เป่าๆ” มันยื่นหัวที่ปูดเท่าลูกมะนาวให้ต้าร์เป่า เหมือนกับที่ต้าร์เคยทำให้มันบ่อยๆ เวลามันเจ็บตัวยังไม่ทันจะได้เป่าร่างทั้งร่างของไอ้เอ๋อก็ดดนอีกคนกระชากไป เป่าเสียก่อน

“ฟุ่วววว พี่เป่าให้แล้วครับ^^” ต้าร์มองค้อนสิงห์พร้อมกับเบะปากใส่

“อะ ลงคาถาด้วย” มันยังหลับตารอให้สิงห์ลงคาถาใส่หัวมันให้อยู่

“ (จงรักจงหลง) หายไวๆ นะครับคนเก่งของพี่”

“หายไวๆ นะ” มันจับหัวตัวเองไว้ด้วยพร้อมกับพูดไปด้วยต้าร์กลอกตาบนใส่ก่อนจะเดินออกจากบ้านเหม็นเบื่อคนขี้หวง

“พี่ต้าไปไหน!! ”

“กลับบ้านดิวะ เย็นจนจะมืดอยู่ละ”

“รีบจัง รีบๆ หนูยังไม่ได้เล่นด้วยเลย”

“อยู่กับพี่จ๋ามึงไปเถอะ เห็นกุสำคัญแล้วค่อยมาพูด อ่อหลวงตาบอกให้ไปหาด้วย” ต้าร์พูดทิ้งท้ายเอาไว้

“จ้ะ หนูไปหาหลวงตานะ พี่ต้าไปด้วยไหม๊?”

“กูไปเบื่อและมีแต่มึงนั่นแหละที่ไม่ได้ไป น้องๆ บ่นหามึงกันให้ควัก”

“งื้อออ พี่จ๋าวันหยุดนี้หนูไปหาหลวงตาได้ไหม” มันหันความสนใจไปให้สิงห์อีกครั้งและต้าร์ก็เดินหายไปแล้ว

“ได้สิ^^”

“งั้นพรุ่งนี้หนูเอาเงินไปซื้อขนมให้น้องนะ” มันหมายถึงเงินเก็บในโหลแก้วเงินที่สิงห์ให้ใช้ในแต่ละวันมันจะแบ่งเงินใส่โหลไว้ทุกวัน

“ครับ ไม่ต้องเอาไปเยอะนะ”

“อื้อ..”



++++++++++++++++++++++++

สิงห์ขับรถไปส่งไอ้เอ๋อที่โรงเรียนแต่เช้าเพราะต้องไปเปิดคลินิกด้วย คลินิกที่ไอ้เอ๋อมันไม่เคยได้ไป สิงห์เดินไปส่งมันถึงห้องเรียนพร้อมกับตรวจความเรียบร้อยของมันไปด้วย ทุกๆ ย่างก้าวมีแต่คนมองสิงห์โดยเฉพาะสาวๆ ในโรงเรียน ไอ้เอ๋อมันมองหน้าสิงห์ด้วยสีหน้ายุ่งๆ คิ้วขมวดชนกัน

(“หล่อจัง ใครนะ-///- “)

(ถ้าได้เป็นแฟนแม่จะบวชสักสองเดือน”)

(อย่างหล่ออ กรี๊ดดด)

เพราะเสียงที่มันได้ยินทำให้ใจมันคันยุบยิบไปหมด มันรู้สึกว่าหวงพี่จ๋าของมัน ไม่อยากให้ใครได้เห็นหรือให้สิงห์ได้เห็นใครมันหยุดเดิน สิงห์ชะงัก

“หยุดทำไมครับยังไม่ถึงห้องเรียนเลย” สิงห์ก้มลงมามองหน้ามันนิดๆ

“อย่าพวกนั้นนะ ห้ามมอง มองที่หนู หันมา หันมา” มันจับใบหน้าหล่อคมของสิงห์ให้หันมาหามันคนเดียว เป็นครั้งแรกที่สิงห์เห้นว่ามันเอาแต่ใจ

“นะโม..”

“อย่ามอง มองที่หนู งื้ออห้ามฟังเสียงพวกนั้นด้วย”

“นะโมหนู...-////-..”

“มองตาสิมองตา ไม่งั้นไม่รักแล้วนะ” มันขู่

“หึหึ ครับ มองแค่นะโม แค่นะโมคนเดียวครับ”

“คึคึคึ หนูนะหวงนะ หวงมากด้วย” มันเขย่งตัวเอามือปิดตาสิงห์ไว้ไม่ให้มองเด็กนักเรียนผู้หญิงที่เดินผ่านมาและพยายามส่งสายตาหวานๆ ให้

“มองไร อย่ามองพี่จ๋าของหนูนะ” มันหันไปตะโกนใส่

“ชู่วไม่เอาครับ ไม่เสียงดังนะ”

“แต่เขามองพี่จ๋า เหมือนจะแย่งพี่จ๋าไปจากหนูนี่”

“น้องเค้าไม่ได้มองแบบนั้น อีกอย่างไม่มีใครแย่งพี่ไปจากนะโมได้หรอกครับ แค่นี้พี่ก็หลงจะแย่อยู่แล้ว”

“จริงนะ ไม่หลอกหนูนะ โกหก ตกนรกนะจะบอกให้” ทุกวันนี้พี่ก็ตกอยู่ครับนรกนะแถมเสี่ยงคุกอีกต่างหาก

“ครับไม่โกหก ปะเข้าห้องเรียนดีกว่าเนอะ”

“-3- จุ๊บหนูก่อน “

“หืม?” สิงห์ตกใจไม่น้อยที่จู่ๆ ไอ้เอ๋อจะให้เขาจุ๊บกลางโรงเรียน

“จุ๊บสิจุ๊บ -3- “

สิงห์ต้องลากมันไปที่ลับตาก่อนทีหัวใจเขาจะวายคงต้องทำความเข้าใจกับไอ้เอ๋อสักหน่อย

“ทำไมต้องให้พี่จ๋าจุ๊บด้วยครับ? หืมม” สิงห์ถามเสียงนุ่ม

“ก็ถ้าจุ๊บแสดงว่าเป็นของกันและกัน รักกัน”

“-///- ใครสอนมาครับ”

“หนูดูทีวี ละคร พระเอกทำกับนางเอกแบบนั้น เค้าจุ๊บกันแล้วก็ไม่มีใครมาแย่ง!! ” มันอธิบายด้วยสีหน้าที่จริงจังมาก

“แต่ทำแบบนั้นในที่สาธารณะไม่ได้นะครับ” สิงห์พยายามอธิบายให้ไอ้เอ๋อเข้าใจว่าการจูบกันในที่สาธารณะมันไม่ดี

“ทีอยู่ในรถยังทำได้เลย!! ”

“อ่าอันนั้นเค้าเรียกลงโทษ”

“T^Tแล้วจะทำยังไง อึก ถ้ามีคนมาแย่งพี่จ๋า”

“หนูก็ต้องปั๊มตราจองไว้สิครับ” ความคิดบางอย่างเริ่มผุดขึ้นมาในสมองอันชาญฉลาด (แต่เรื่องหื่นกาม) ของเขา

“ปั๊มตรา ปั๊มไง”

“ตรงนี้ครับ” สิงห์ชี้ไปที่ต้นคอของตัวเอง ต้องทำให้มันมีสีแดง”

“มีสีแดง? มีสีแดงหรอ” สิงห์ทำให้ไอ้เอ๋อมันอยากรู้มากขึ้นดวงตากลมของมันเริ่มขยายกว้าง

“ครับ ต้องดูดถึงจะมีสีแดง”

“ดูด ได้ดูด หนูจะดูด”

“หึหึ” สิงห์นั่งลงกับลังไม้เก่าเพื่อให้ไอ้เอ๋อมันดูดได้ถนัด เขาเอียงคอนิดๆ ไอ้เอ๋อมันขยับเข้าไปแทรกตรงหว่างขามันจับคอพี่จ๋าของมันไว้แล้วออกแรงดูด

“อื้ออ อืมม นะโมครับ” สิงห์รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ต้นคอของตัวเอง พอเหลือตตามองไอ้คนที่ตั้งหน้าตั้งตาดูดก็อมยิ้มออกมา

“อื้ออออ พอยัง” มันดูดจนน้ำลายเยิ้มก่อนจะผละออกแล้วเอ่ยปากถาม

“หึหึพอแล้วครับ แต่ว่าของนะโมก็ต้องมีเหมือนกันนะ ตรงนี้” สิงห์ชี้ตรงไหปลาร้าของไอ้เอ๋อ

“อ๋อ ได้ๆ อะดูดๆ” มันยื่นคอขาวเนียนให้สิงห์ หมาป่าจอมหื่นไม่รอช้าตรงเข้าขย้ำคอขาวทันที เขาออกแรงดูดเพียงนิดก็สร้างรอยสีกุหลาบไปหลายรอย เด่นพอที่จะให้คนที่นั่งใกล้ได้เห็น

“*0*อู้ววววววว จั๊กกะจี้ คึคึ คิกคิก”

“เสร็จแล้วครับ ที่นี้ก็ไม่มีใครกล้าแย่งพี่ไปจากนะโมแล้วครับ”

“คึคึ งั้นไปเข้าเรียนกันเถอะ”

           พอมันสบายใจหัวคิ้วมันก็คลายออกแต่มันจะรู้ไหมว่านี่เป็นการบอกคนอื่นว่ามันมีเจ้าของแล้ว และคนฉลาดอย่างสิงห์ก็ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ตัวแรกคือนะโมที่เขาได้แทะโลมตัวที่ของก็คือไอ้หัวหน้าห้อง!!

“เลิกเรียนแล้วพี่จ๋าจะมารับนะ ห้ามไปไหนกับใครรู้ไหม”

“ครับ ไม่ไปไหนกับใคร”

“ดีมาก”





ตกเย็น



              สิงห์มารับไอ้เอ๋อที่โรงเรียนเวลาเดิม เห็นไอ้เอ๋อมันยืนอยู่กับหัวหน้าห้องแต่เนื้อตัวมันมอมแมมมากเสื้อเปือนดินไปหมดเห็นแล้วเขาต้องตกใจกับสภาพมัน เลยรีบลงรถเดินไปหา พอเห็นหน้าชัดๆก็เจอว่าตามันบวมเหมือนพึ่งร้องไห้มา

“ทำไมน้องกุมีสภาพแบบนี้” สิงห์ถามตัวเสียงเข้ม

“มันตกบ่อเลี้ยงกบ” ตัสตอบด้วยสีหน้านิ่งๆ

“มีคนผลักหนูลงไปฮึก กบ กระโดดใส่หน้าหนูด้วยฮรือออ” มันฟ้อง

“ไม่เป็นไรนะครับ เรากลับบ้านไปอาบน้ำดีกว่าเนอะ” สิงห์ไม่อยากให้ไอ้เอ๋ออยู่ใกล้ซีตัสนานเขาเลยพานะโมกลับ

“เดี๋ยว!! ” พวกเขาโดนซีตัสเรียกไว้

“รอยที่คอนะโมคุณเป้นคนทำให่ไหม!! ”

“อืมกูทำ มีอะไรไหม J ”

!!!!!

+++++++++++++++++++++++++++++++

                 พวกเขาแวะตลาดซื้อกับข้าวสำเร็จกับขนมที่จะซื้อไปฝากเด็กที่วัดอีกนิดหน่อยก็พากันกลับ หลังจากกินข้าวอาบน้ำแล้วก็พากันมาดูหนังในห้องนอนของสิงห์ เปิดแอร์เย็นๆ นอนดูจูลสิกพาร์ค หนังที่มันบ่นว่าอยากดูตอนแรกก็ร้องกรี๊ดๆ เพราะชอบแต่หลังๆ มาร้องกรี๊ดแล้วเอาหน้าซุกอกกว้างๆ ของหมอหมาตลอดเรียกว่าดูกันไม่รู้เรื่องทั้งคนดีและคนสติไม่ดีเพราะมัวแต่ตกใจเสียงกันเอง สิงห์เอามือลูบหลังไอ้เอ๋อมันตลอดแม้ตาจะดูแต่สมาธิกลับมาอยู่ที่ไอ้เอ๋อ

“หูยยยยยยยยย ไดโนเสาร์ น่ารักมากอะ ^0^” และนี่คือคำพูดหลังดูหนังจบ

“ครับ น่ารัก -*- “

“หนูไปนอนนะ ไปนอนก่อน พี่จ๋านอนคนเดียวได้ใช่ไหม?” มันทำท่ายึกยักไม่ไปสักที

“หืม ได้สิครับ”

“พี่จ๋าไม่กลัวไดโนเสาร์กินแน่นะ?”

“ครับไม่กลัว^^”

“ละ ละ แล้ว พี่จ๋าจะไม่ร้องไห้เวลาฝันถึงไดโนเสาฟันแหลมๆ ใช่ไหม” สิงห์ฉลาดพอที่จะจับน้ำเสียงสั่นๆ ของมันได้ว่าทุกอย่างที่มันพูดนั้นหมายถึงตัวมันเองไม่ได้หมายถึงตัวเขาเลยสักนิด

“ครับ”

“งะ งั้น หนูไปนอน ไปนอนแล้วนะ T^T” มันค่อยๆ เดินไปที่ประตูแต่ตามันมองไปที่พี่จ๋าของมัน ปากมันเม้มเข้าหากันมือก็กอดหมอนเน่าของมันเอาไว้แน่น

“หนูไปแล้วนะ ไม่ต้องกลัวนะ ไม่กลัวนะ”

“ไปครับพี่ไปส่ง” สิงห์ลุกจากที่นอนเดินจูงมือมันไปยังห้องฝั่งตรงข้าม แต่ขาเล็กๆ ของมันดันไม่ก้าวตามดึงเท่าไหร่มันก็ไม่ขยับทำตัวเป็นแข็งหิน สิงยกยิ้มเขาอุ้มมันในท่าเจ้าสาว

“งื้ออ ไม่อาววว” มันกอดคอสิงห์ไว้แน่นให้ตายยังไงมันก็ไม่ปล่อยเด็ดขาดสิงห์พามันไปที่เตียงของมันแล้ววางลงแต่ไอ้เอ๋อมันไม่ยอมลงมันกอดคอสิงห์ไว้แน่นกว่าเดิมลหายใจร้อนๆ ดึงฟึดฟัดอยู่ข้างหูเขา ในเอาหน้าซุกคอสิงห์ไว้แล้วบ่นเสียอู้อี้ฟังไม่รู้เรื่อง

“ทำไมละครับ?”

“หนูว่าหนูจะไปนอนเป็นเพื่อนพี่จ๋าดีกว่า หนูรู้ว่าพี่จ๋ากลัวไดโนเสาร์” พูดจบมันก็เอาหน้าซุกลงไปอีก สิงห์ตัวร้ายยกยิ้มมุมปากแล้วอุ้มไอ้เอ๋อกลับมาที่ห้องของตัวเองพอวางมันลงบนที่นอนกว้างไอ้เอ๋อมันถึงปล่อยมือออกจากคอของเขา มันนั่งมองหน้าพี่จ๋าของมันแล้วคลี่ยิ้มอย่างพอใจ

“นอนๆ เนอะๆ”

“หึหึหึ เจ้าเล่ห์จริงนะเรา”

“หนูไม่เจ้าเล่ห์ พี่จ๋านะเจ้าเล่ห์”

“รู้เหรอว่าเจ้าเล่ห์หมายถึงอะไร”

“รู้..ก็พี่จ๋าชอบยิ้มมุมปากหัวเราะหึหึ เหมือนผู้ร้าย” มันตอบเสียงใสคนโดนว่าถึงกับหลุดหัวเราะ

“พี่ว่ากลัวไดโนเสาร์จริงๆ แล้วละสิ”

“อ่าหนูก็กลัวนะ” มันพึมพำ

“แต่ถ้านะโมจูบพี่พี่ก็จะหายกลัว” สิงห์มองหน้าไอ้เอ๋อพร้อมกับใช้นิ้วเกลี่ยริมฝีปากมันไปด้วย

“จะ จูบ หรอ อะไรคือจูบ=^=?”

“ถ้าอย่างนั้นพี่จ๋าจะสอนนะโม แล้วนะโมทำตามนะครับ^^” นี่แหละวิถีของหมาป่าตัวร้ายค่อยๆ ตะล่อม ค่อยๆ แทะเดี๋ยวก็ถึงเนื้อใน ไอ่เอ๋อมันตามหมาป่าตัวพ่อไม่ทันแน่นอน

                  ริมฝีปากอุ่นค่อยๆ โน้มเข้าหาปากอวบอิ่มสีสดอย่างช้าๆ นะโมเบิกตากว้างไม่กล้าขยับ พอได้สัมผัสความนุ่มนิ่มของริมฝีปากสีสดนั้นหมาป่าในร่างคนก็ค่อยๆ ดูดเม้มเบาๆ มือหนาเลื่อนขึ้นมากดปลายคางให้ปากอิ่มเปิดออกก่อนจะสอดปลายลิ้นกวาดต้อนความหวานในโพลงปากอุ่นนั้น ไล่ต้อนลิ้นเล็กที่คอยแต่จะหลบเขาจนสิ้นหนทาง จำต้องปล่อยให้อีกคนได้ดูดดึง เสียงครางอือดังไม่หยุดสลับกับเสียงหายใจหอบ เป็นของ ไอ้เอ๋อที่มันไม่รู้จักวิธีหายใจ มันไม่รู้จักจูบ แต่ตอนนี้มันรู้แล้ว ว่าการที่พี่จ๋าของมัน โมโห หรือหิวปากมัน แบบนี้เรียกว่าจูบ สิงห์ดันตัวให้มันนอนราบไปกับที่นอน กดมันไว้ใต้ร่าง สอดมือประสานกันเอาไว้ ไอ้เอ๋อใจมันเต้นแรงราวกับมีใครเอากลองมาตีอยู่ในใจ มันรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก มันรู้ว่าการกระทำแบบที่ทำอยู่แบบนี้คือการแสดงความรักอย่างหนึ่ง มันเคยอ่านเจอในหนังสือ ร่างสูงกระหายน้ำบ่อน้อยตรงหน้าจนหน้ามืดตามัว กัดกินจนแทบสำลักแต่ก็ไม่รู้สึกอิ่ม ไอ้เอ๋อมันน่ากินจนเกินไป เสียงหอบหายใจของมันเป็นตัวกระตุ้นชั้นดี ดวงตาหวานฉ่ำมองมาที่เขาอย่างเว้าวอนในสายตา ไอ้เอ๋อมันแขนขาอ่อนไปหมด พอหายใจไม่ได้มันก็จิกหัวพี่จ๋าของมันเอาไว้

“อ๊า แฮกๆ หนูหายใจไม่ออก” มันว่าเสียงหอบ

“เดี๋ยวค่อยๆ ฝึกนะครับ หายใจทางจมูกสลับกับปากนะครับ”

“อื้ออ มะ ..อื้อ..ไม่..อะ อื้มมม เอานะ” พอโดนกวาดต้อนหนักเข้ามันก็ทำอะไรไม่ถูกสมองมันเบลอหัวมันขาวโพนในหุได้ยินแต่เสียงพุระเบิด มันตาลายเหมือนจะหน้ามืด สิงห์ยังคงเริ่มบทเรียนรักให้กับมันไม่หยุดและไม่ผ่อนแรง แม้จะไม่รุนแรงแต่ก็สูบพลังของมันไปจนหมดได้เหมือนกัน พอ มันเริ่มนิ่งสิงห์ถึงได้หยุดพอเงยหน้าขึ้นมามันก็หลับแน่น ปากของมันเจ่อแดงเหมือนลูกเชอรี่จมูกมันขึ้นสี ดวงตามีน้ำปริ่มออกมา

“พี่จ๋า ฮึก หนู หนูเจ็บตรงนั้นอีกแล้ว” ที่มันนิ่งเพราะมันเจ็บไข่ มันเกิดอารมณ์ สิงห์ใจหายวูบเพราะตัวเองก็รู้สึกแต่ไม่คิดว่านะโมจะรู้สึกกับเขาด้วยเหมือนกันเพราะที่คิดไว้คือพอจบจากนี้เขาจะเข้าไปสำเร็จโทษตัวเองในห้องน้ำ

“อะ เอ่ออ”

“ฮึก...ฮรืออออออ มันเจ็บ” มันยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วร้องไห้ออกมา

“หนูจำที่พี่สอนได้ไหมครับเวลาเจ็บแบบนี้ต้องทำยังไง” สิงห์พยายามปลอบมันแต่ไม่ได้ผลมันส่ายหน้าจนผมกระจายบนที่นอน

“ไม่ได้ ฮึก โอ๊ยยย” ตัวมันสั่น ใจมันก็สั่น สิงห์อยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆ นี่เขาลืมไปได้ยังไงว่าน้องก็เป็นเด็กผู้ชายเหมือนกันว่าพอมีสิ่งมากระตุ้นน้องก็มีอารมณ์ได้เหมือนกัน ตั้งสติคิดอยู่นาน ทั้งที่ใจยังไม่อยากทำตอนนี้ แต่ว่าสถานการณ์มันบังคับ เขาไม่อยากขืนใจน้อง ไม่อยากทำให้น้องกลัว แต่ภาพตรงหน้ามันชวนให้เขาตะบะแตก ร่างกายผอมบางนอนบิดไปมาบนที่นอนพร้อมกับเสียงหอบกระเส่า.....นี่เขาต้องสำนึกบาปอีกกี่ชาติกัน!!!

“ถ้าอย่างให้พี่จ๋าช่วยนะครับ” เขาตัดสินใจแล้วเรื่องแบบนี้มันต้องเกิดขึ้นสักวันระหว่างเขากับไอ้เอ๋อ แค่มันเกิดขึ้นเร็วไปหน่อยเท่านั้น สิงห์ไม่อาจจะหักห้ามใจตัวเองได้ในขณะนี้ เพราะเขาก็งดเรื่องอย่างว่ามาตั้งแต่ได้เจอกับนะโม นานจะได้ปลดปล่อยตัวเองสักครั้ง แถมครั้งนี้ไม่ต้องพึ่งรูปของมันอีก

“ฮึก ช่วย ช่วยไง? ฮรืออ”

“ทำแบบที่เคยสอน”

“ช่วยแล้วหายเจ็บไหม?” มันถามทั้งน้ำตา ในสายตาของสิงห์นะโมไม่ต่างอะไรกับแมวยั่ว ปากแดงๆ จมูกแดงๆ กับดวงตาที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตายิ่งปลุกสัญชาติญาณดิบของเขา

“หายครับ ถ้าพี่ช่วยนะโมแล้ว นะโมต้องช่วยพี่ด้วยนะ”

“อื้ออ”



                 มือคู่นี้กำลังชักนำพาไอ้เอ๋อเด็กที่ไม่รู้ประสาให้ไปถึงฝั่งฝัน สัมผัสอ่อนโยนที่กลางกายทำเอามันสะดุ้ง เกิดมายังไม่มีใครได้แตะต้อง สิงห์ค่อยๆ กดฝ่ามือลงไปเบาๆ นวดคลึงให้มันผ่อนคลาย ใจเบาหวิวรู้สึกตื่นเต้นและรู้สึกผิดไปพร้อมๆ กัน เขารู้ตัวว่ากำลังฉวยโอกาสกับน้องแต่ทำยังไงได้ น้องน่ารักเกินไป ร่างกายของนะโมไหวสั่น ยามที่โดนอีกคนถอดกางเกงออกจากเรือนร่างของตัวเอง สองขาเรียวหุบเข้าหากันอย่างอัตโนมัติสองมือที่เคยปิดหน้าตอนนี้ยกมาปิดส่วนน่าอาย ใบหน้าหวานหยดกำลังแดงซ่านด้วยความอับอายและขวยเขิน สิงห์ถอดกางเกงตัวเองออกแค่ครึ่งทำให้สิ่งที่มันอัดอั้นอยู่ดีดผึงออกมา

“เอามืออกครับ” สิงห์ออกคำสั่งเสียงนุ่มพร้อมกับจับมือคู่บางออกจากส่วนนั้น ถ้าวัดตามขนาดถือว่าของนะโมยังเล็กกว่าวัยเดียวกัน ตรงจุดนั้นไร้ซึ่งขนสีเข้มที่รกตามีเพียงไรขนอ่อนที่ดูสะอาดสะอ้านในเมื่อโดนเอามือออกมันก็ไม่รู้จะไปวางไว้ที่ไหนจึงยกขึ้นไปปิดหน้าตัวเองอีกครั้ง

“อื้ออ อาย ไม่เอาแล้ว อ๊ะ” สิงห์ใช้มือลูบสัมผัสจุดกลางกายสีอ่อนนั้นอย่างแผ่วเบาก่อนจะจับไอ้เอ๋อมันนั่งคร่อมตักตนเองแล้วรวบส่วนที่แข็งขึ้นทั้งสองเอาไว้

“พร้อมนะครับคนเก่งของพี่” สิงห์จูบลงบนเปลือกตาที่ปิดสนิทไอ้เอ๋อมันไม่กล้าเปิดตามองว่าพี่จ๋ากำลังทำอะไรกับมันด้วยซ้ำ

“อะ อื้ออ หนูเจ็บ”

“ชู่วววเดี๋ยวก็กายครับพี่จ๋าก็เจ็บเหมือนกัน” สิงห์เริ่มขยับมืออย่างช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ เร่งให้เร็วขึ้น ไอ้เอ๋อมันแทบจะกรีดร้องออกมามันทำสีหน้าที่ทรมานอย่างหนัก ความรู้สึกแปลกใหม่กำลังโจมตีมันอย่างหนัก ใจมันเต้นระรัวแทบจะหลุดออกมาด้านนอก ความเสียวกระสันแล่นพล่านไปทั้งตัว

“อะ ฮ๊ะ อื้ออ”

“นะโม อื้มม”

สองมือของมันจิกลงบนไหล่แกร่งของสิงห์จนเลือดซึม มันเม้มปากเกร็งกระตุก

“อย่าอั้นนะครับ รู้สึกเหมือนปวดฉี่ใช่ไหม”

“อะ อื้ออ อ๊ะ..ปวดฉี่”

“ปล่อยออกมาเลยครับนะโม อะ อื้ออ เร็วครับ” สิงห์เร่งมือจนสุดเพื่อที่จะจบความทรมานนี้หน้าท้องแกร่งหดเกร็งก่อนจะปลดปล่อยออกมาพร้อมกับคนบนตักที่ตัวอ่อนเป็นเต้าหู้นอนซบไหล่เขาอยู่หลังจากที่ปลดปล่อยออกมาจนหมด

“อะ อื้อออ ฟู่ววว เก่งมากครับนะโมของพี่” สิงห์จูบลงบนขมับชื้นเหงื่อของไอ้เอ๋ออย่างรักใคร่ในมือเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยของเหลวสีขาวขุ่นทั้งของเขาแล้วก็ของไอ้เอ๋อ สิงห์ค่อยๆ ประคองให้มันนอนลงกับที่นอนใบหน้าหวานแดงซ่าน พร้อมกับปรือตามองพี่จ๋าของมัน

“หายเจ็บแล้ว..งืออแต่หนูเหนื่อยจัง ง่วงด้วย” มันพูดงึมงำอยู่ในปาก

“หึหึหึ อย่างพึ่งนอนครับลุกมาล้างตัวก่อน” สิงห์ช้อนตัวไอ้เอ๋อเอาไว้แล้วอุ้มลงจากที่นอนพาไปล้างตัวในห้องน้ำ ระหว่างที่ทำความสะอาดมันก็ยืนหลับ มือก็ถือชายเสื้อตัวเองไว้ที่อก นั่นหมายความว่าสิงห์จะต้องเป็นคนล้างให้มันสินะ ถ้ามันไม่ง่วงมันคงไม่ยอมให้สิงห์ทำแบบนี้แน่ๆ ร่างสูงของสิงห์ย่อตัวลงทำความสะอาดส่วนนั้นให้กับมันอย่างอ่อนโยน

“จุ๊บ เสร็จแล้วครับ ไปนอนกันเนอะ” สิงห์จุ๊บปากมันเบาๆ

“อุ้มหน่อย” มันชูมือขึ้นเพื่อให้สิงห์อุ้ม นิสัยเหมือนเด็กจริงๆ

“หึหึ ค๊าบได้ทุกอย่างยอมทุกอย่างเลยครับ” สิงห์อุ้มมันขึ้นมาในท่าเข้าเอว แล้วไอ้เอ๋อก็เอาขารัดเอวแกร่งเอาไว้กันตก

พอวางมันลงบนที่นอนมันก็นอนแผ่เป็นปลาหมึกตากแห้งไม่สนใจว่าใครจะเห็นจ้อนน้อยของมัน ตอนนี้มันง่วงเกินกว่าจะสนใจอะไรแล้ว

“ใส่กางเกงก่อนเร็วครับ”

“งืมมม ใส่ห้ายหน่อยย” มันพูดเสียงงัวเงียแล้วก็พลิกตัวหนีลำบากคนตัวโตต้องไปลากมันกลับมาใส่กางเกง

“มันน่าจับตีก้นจริงๆ เลยเด็กคนนี้” สิงห์ใช้แรงที่เหลือจับมันใส่กางเกงได้สำเร็จเขาถึงได้ปล่อยมันนอน ส่วนตัวเองนั้นเดินออกมานอกระเบียงเพื่อสูบบุหรี่ทั้งๆ ที่ไม่ได้สูบมานานร่วมเดือนเพราะมีคนอยู่ร่วมชายคา แผ่นหลังกว้างเอนพิงขอบระเบียงหันหน้าเข้าไปยังห้องนอนดวงตาคู่คมจ้องมองคนที่หลับสนิทอยู่บนที่นอน มองมันด้วยสายตาที่หลากหลายทั้งเอ็นดู รักใคร่ และรู้สึกผิด

“วันนี้พี่มีความสุขที่สุดเลยรู้ไหม หึหึ” แม้จะรู้สึกอิ่มใจแต่ก็รู้สึกไม่สบายใจไปด้วย เพราะเขาฉวยโอกาสกับน้อง ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่มานั่งคิดมากแบบนี้ คงปล่อยไปเลยตามเลยเพราะเขาไม่คิดจะรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่กับนะโมเขากลับรู้สึกอีกแบบ เขารู้สึกอยากครอบครองน้อง อยากให้น้องมาเป็นของตนเองอย่างสมบูรณ์แบบ แต่เขาไม่รู้ว่าน้องคิดยังไง เพราะน้องยังเด็ก เด็กมากในสายตาเขา แม้อายุน้องจะไม่เด็กแล้วก็ตาม

กลุ่มควันสีเทาถูกพ่นออกมาจนหมด บุหรี่ทำให้เขาผ่อนคลายได้เพียงคู่เท่านั้น สิงห์ดับบุหรี่ลงกับกระถางต้นไม้แล้วเดินเข้าห้องก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ กับนะโม รั้งเอวบางให้แนบชิดกับตนก่อนจะกอดน้องเอาไว้ในอ้อมแขนและหลับตาลงพร้อมเข้าสู่ดินแดนแห่งฝัน



7.30น.



“งือออ อึกอัด งืออ งูรัด” ไอ้เอ๋อมันดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดอุ่น มันคิดว่ามันกำลังถูกงูรัดอยู่

“อืมนะโม..”

“งูรัด งืออ งูรัด ออกไป” มันผลักสิงห์ออกทั้งๆ ที่ตายังไม่ลืม

“อย่าดิ้นสิครับ พี่ยังง่วงอยู่เลย”

“อย่ารัดหนู งู อื้ออ”

ผลัก!!!!

ตุบ!!

“นะโมครับถีบพี่ทำไม? !! ” ร่างสูงของสิงห์กระเด็นตกที่นอนด้วยฝ่าเท้าของไอ้เอ๋อมันลุกขึ้นมานั่งทำหน้าง่วงใส่หัวก็ยุ่งน้ำลายก็ย้อย

“งู งู”

“งูอะไรละนี่พี่เอง ลืมตาก่อนสิครับ อูย ตีนหนักชะมัด” สิงห์บ่นอุบเอามือจับเอวตัวเองไว้

“อุ๊..พี่จ๋า *0* >////< “พอมันลืมตาตื่นมันก็ทำท่าตกใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าแดงแล้วก้มหน้าลงกับที่นอนเอาตูดชี้ฟ้า ท่าทางของมันทำเอาสิงห์ งง

“เป็นอะไรครับ?”

“งือไม่เอา อย่ามาให้หนูเห็นหน้าหนูนะ-///-”

“อายเหรอ?” มันพยักหน้า

“อายเรื่อง?” เขารู้อยู่แล้วว่ามันอายเรื่องอะไร

“เรื่อง....>///< งื้ออ ไม่พูดไม่พูด”

“หึหึ ไหนเงยหน้ามามองพี่สิครับ” สิงห์คลานกลับมาบนที่นอนพร้อมกับหัวของมันให้เงยขึ้นมอง

“-////- “

“หึหึหึ น่ารัก”

“...-3-...”

“เรื่องที่เราทำเมื่อคืน นะโมต้องเก็บเป็นความลับนะครับเข้าใจไหม” สิงห์สบตามันนิ่งๆ ใช้นิ้วเกลี่ยผมของมันขึ้นไปทัดที่หู

“คะ ..ครับ”

“และถ้านะโมรู้สึกแบบนั้นอีกให้รีบมาบอกพี่ และอย่าให้ใครช่วยนอกจากพี่นะครับ เข้าใจไหม”

“ขะ เข้าใจ>///< ครับ”

“นะโมของพี่น่ารักที่สุดเลย จุ๊บ”

“พะ พี่จ๋า ก็ห้าม ไปทำแบบนั้นกับใครนะ ห้ามทำ” นี่มันรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกไปแสดงสีหน้าแบบไหนออกไป นี่มันกะจะฆ่าเขาให้ตายเพราะความน่ารักของมันเลยใช่ไหม สิงห์ใจมันเต้นระรัวเป็นกลองชุดเลยทีเดียว



+++++++++++++++++++++

เย้ เกือบได้กันแหนะ แค่ภายนอกเนอะเราว่าน้องยังไม่พร้อมหรอก แต่ก็แอบสงสารพี่สิงห์อยู่เหมือนกัน หลายคนอาจจะไม่ค่อยชอบให้น้องโดนลวนลามแต่เรื่องนี้น้องโดนแน่นอนค่ะ เยอะด้วย เพราะพระเอกของเราเขาหื่น อยากจับน้องกดวันละหลายๆ หนแต่ก็ต้องอดใจไว้ คอยแต่ตอดเล็กตอดน้อยให้พอกระชุ่มกระชวยหัวใจ น้องอายุ19แล้วเนอะไม่พรากผู้เยาว์และแต่จะโดนข้อหาขืนใจแทน กร๊ากกกกกกกกกกกก มีข้อติชมหรือคอมเม้นให้กำลังใจคนเขียนได้นะคะ คึคึคึ

ปล.ต้องของขอบคุณทุกคอมเม้นที่ให้กำลังใจคนเขียนนะคะ มีคนหนึงคอมเม้นยาวมากเค้าตกใตเลยไม่เคยมีใครเขียนให้เราขนาดนี้เลย เราอ่านทุกคอมเม้นเลยนะอ่านไปยิ้มไป ขอบคุณจริงๆค่ะที่ยังไม่ทิ้งกัน

หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.15 27/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 27-06-2018 08:50:24
อิพี่คงอยากกินน้องจนจะลงแดงตายอยู่แล้ว :haun4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.15 27/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 27-06-2018 10:00:06
เราว่าตัสต้องเป็นรายต่อไปที่สิงห์ต้องให้เพื่อนหมอจัดการ
นะโมหนูน่ารักขึ้นทุกตอนเลยพี่สิงห์หลงจนโงหัวไม่ขึ้น

หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.15 27/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-06-2018 11:05:05
 :angry2:  ไม่ชอบที่เด็กแข็งแรงรังแกเด็กอ่อนแอกว่า   :fire: :fire: :fire:

พี่สิงห์ ค้ากำไรเกินควรหรือเปล่านี่    o18

ชอบบบบบบ นะโมรู้จักหวงสิงห์แล้ว
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.15 27/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: Kirana9165 ที่ 27-06-2018 11:46:57
ชอบน้องนะโม พี่สิงห์มาก สงสารชีวิตน้องที่ผ่านมา โชคดีที่ได้มาเจอคนดีๆ น้องน่ารักมากมาย น้องมีพัฒนาที่ดี ส่วนตัวไม่ชอบคนที่รังเกียจ รังแกคนพิเศษ แบบนี้เลย รู้สึกแย่นะ ไม่อยากให้น้องโดนแกล้งมาก ชอบน้องกับพี่ที่หวงกันและกันนะ  ชอบนิยายแนวน่ารักๆ แบบนี้ ไม่ดราม่ามากนัก ขอขอบคุณผู้แต่ง ที่นำนิยายดีๆ มาให้อ่าน ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.15 27/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-06-2018 14:26:26
นะโม  :mew5:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.15 27/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 27-06-2018 15:45:33
อิพี่สิงห์ต้องใจแข็งขนาดไหนเนี่ย555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.15 27/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 28-06-2018 13:32:31
ตายละ!!!ถ้านะโมจะห้ามทำกับใครเด็ดขาดขนาดนั้น งี้ก็ทำกับเจ้าตัวตอดเล็กตอดน้อยได้ตลอดอะดิ เอาเล้ยยยยยยพี่สิงห์  โอเค ได้ ได้ๆ 5555 ว่าแต่จะทนได้นานขนาดไหนเนี้ย ทั้งสุขทั้งกลุ้มนะหลังฃ่วยกันปลดปล่อยแล้ว น่าเห็นใจๆ 5555 เอาน่ะ นะโมก็เริ่มรู้เยอะละว่าอะไรคือการแสดงความรักต่อกันแล้วก็ต้องเรียนรู้กับความรู้สึกตัวเองอีก มีหึงมีหวงด้วยยุบยิบคันหัวใจแปลกๆ ห้ามมองง!! *ขมวดคิ้วแน่น** ไอ้เอ๋อเอ้ยยยย หมั่นเขี้ยวว่ะ 555//ใคร๊ใครมันแกล้งไอ้เอ๋อตกบ่อกบว่ะ ระวังตัวไว้ให้ดีนะมึง อย่าเผลอเชียวเดี๋ยวซีตัสกับไอ้เอ๋อจะเอาคืน 555//ซีตัสคิดว่าเป็นเพื่อนสนิทคิดซื่อๆกับนะโมนะ เหมือนสงสารน่าปกป้องแต่ไม่ได้รักในเชิงชู้บ่าวอ่ะ ที่ถามถึงรอยนั่นคงอาจอยากเช็คเฉยๆว่าใครทำมั้ง อีพี่นี้ก็ดิ้นตาม 5555 เคยเจอมาแล้วไงเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อเลยกันไว้ก่อน แต่ถ้าตัสจะคิดไม่ซื่อกับไอ้เอ๋อนะ พี่ขอบอกไว้ก่อนเลยน้อง รีบถอยออกมาให้ไวเลย ถ้าไม่อยากโดนกัด มีคนหวงบ้าหวงเว่อร์ 5555 //ดีๆๆที่นะโมได้ไปรักษาเบื้องต้นกับพี่หมอกาแฟแล้ว นะโมเก่งอยู่แล้วเนอะ ค่อยๆรักษาไป อีกยาวไกล (ว่าแต่แก๊งค์นี้ไม่มีโฉดๆบ้างไหม ว้อยยยแต่ละคน ปีศาจในคราบเทพบุตร 555 ร้ายแต่ก็ดี) //ดีใจกับต้าร์ตอนนี้ที่ไม่เหลือความรู้สึกรักในเชิงชู้บ่าวแล้ว มีแต่ความห่วงใยแบบเพื่อน นั่นแหน่ะ อุ้ยๆ ให้ใจไปกับอีกคนแล้วอะดิ เว้ยๆ รอคู่นี้อยู่เด้อ 555// เอ๊ะ!!นะโมเป็นลูกใคร ดูมีปริศนามากับสร้อยเส้นนั่น นี้รอเผือกเลย 5555 จดหมายว่าไงบ้างอ่ะ หลวงพ่อบอกไรไว้ป่าว เปิดวาร์ป อยากเผือก นะโมลูกใครรรรรรร 55555 //โอ๊ยยยยยสนุกกกกอะสนุกก ชอบค่ะชอบ มาต่ออีกๆ รอๆตอนต่อไปนะคะ ไม่ต้องรีบเดี๋ยวหาว่ามากดดัน แต่ F5ก่อนค่ะ 555555 (ปล.มีความอิน เม้นเลยยาวซะงั้น5555)
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.15 27/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 29-06-2018 13:30:43
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.16 1/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 01-07-2018 08:20:20
16

ชั่วโมงพละ...



“วิ่งเลยนะโม!! วิ่ง” สิ้นเสียงปล่อยตัวซีตัสก็ตะโกนลั่นเพราะไอ้เอ๋อมันยังไม่ขยับ

“อ๊า...วิ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง แฮกๆ” กว่ามันจะออกตัวคนอื่นก็นำไปหลายก้าวแล้ว แต่ตีนผีวิ่งตามรถไอติมอย่างมันวิ่งนำได้สบายอยู่แล้วถ้า....

“มึงไม่มีทางวิ่งชนะกูหรอก” ปิงที่วิ่งตีคู่กับไอ้เอ๋อกำลังยิ้มเยาะแล้วก็กระแทกตัวใส่มันทันทีโดยที่มันไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ

ปึก!!

“อ๊ะ หน่อยปิงนิสัยไม่ดี!! ” ไอ้เอ่อมันร้อง ครั้งนี้มันโดนกระแทกจนตัวแทบปลิวแต่มันก็ยังไม่ยอมแพ้มันกัดฟันวิ่งเพื่อที่จะเอาชนะปิงให้ได้

“สู้ๆ นะโม” เสียงเชียร์ของเพื่อนเพียงคนเดียวของมันดังลั่นสนามนั่นยิ่งทำให้ปิงหัวร้อนยิ่งกว่าเดิม

“ฝันไปเถอะว่าจะชนะ”

“ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก” มันวิ่งจนสุดฝีเท้า จนจะแซงปิงได้แต่ทว่าคนสมประกอบที่ขี้อิจฉากำลังทำสิ่งที่ใครๆ ไม่คาดคิด แต่ไอ้เอ๋อมันคิดล่วงหน้าไว้แล้วว่าปิงต้องแกล้งมันอีกแน่มันเลยชิงทำก่อน

“นี่แหนะ!! ” มันวิ่งชนปิงจนหน้าคว่ำ

“โอ้ยยย!! ไอ้เอ๋อออ” ร่างสูงโปร่งล้มคลุกไปกับพื้นสนามเรียกเสียงฮาลั่นให้กับทุกคน ปิงชี้หน้าไอ้เอ๋ออย่างเคืองแค้น ไอ้เอ๋อมันวิ่งเข้าเส้นชัยก่อนปิงและนั่นทำให้ซีตัสที่มองอยู่ตลอดแสยะยิ้มร้ายให้กับปิง

“แบร่ :p” ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ที่หนึ่งแต่ก็ชนะปิงมาละกัน มันร้องกรี๊ดดีใจโดยมีซีตัสยืนยิ้มกว้างอยู่ขอบสนามปิงเห็นรอยยิ้มนั้นแล้วก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ละ” ซีตัสพาไอ้เอ๋อมันไปเปลี่ยนเสื้อหลังจากหมดคาบพละในช่วงคาบเรียนบ่ายเหลือเรียนอีกสองวิชาก็กลับบ้านได้ ไอ้เอ๋อมันเริ่มปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนๆ ได้ทีละนิดๆ โดยได้รับการช่วยเหลือจากซีตัส แม้ว่าจะโดนแกล้งแต่ก็ไม่แรงเท่าแรกๆ

“อื้อ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า” หลังจากเปลี่ยนเสื้อเสร็จก็เตรียมตัวเรียนคาบต่อไป นั่นคือวิชาคณิตศาสตร์

“เอาหนังสือเลขขึ้นมาดิ อาจารย์จะสอนแล้ว” ตัสหยิบกระเป๋าไอ้เอาออกมาค้นหาหนังสือกับสมุดวิชาเลขให้

“หา..วิชาเลขหรอ หนูไม่อยากเรียนT^T” มันเบะปาก

“อย่ามาทำตัวขี้เกียจแบบนี้ อยากเป็นคนโง่เหรอไง?” ซีตัสว่าเสียงดุจนไอ้เอ๋อมันหน้าหด

“ปวดหัวจัง เลย โอยยย” มันแกล้งทำท่าปวดหัวใส่อีก แถมทำตาอ้อนๆ ใส้ซีตัสด้วย

“ตอแหล!! ” เสียงของปิงดังขัดขึ้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าด่าใคร

“มึงก็ไม่ต่างกันหรอกไอ้ปิง เงียบปากไปซะอย่าหาว่ากูไม่เตือน” ซีตัสกดเสียงลงต่ำจนดูน่ากลัว ทั้งห้องเงียบกลิบรู้ดีว่าถ้าหัวหน้าห้องโกรธแล้วอะไรจะเกิดขึ้น

“.....”

“งืออ ไม่ปวดแล้วก็ได้-3- ปิงบ้า” มันเห็นท่าไม่ดีกลัวสองคนนั้นจะทะเลาะกันอีกเลยต้องทำหน้าตั้งใจเรียน

“มึงสิบ้า ไอ้ปัญญาอ่อน-*- “ปิงด่าเสียงกระซิบเพราะอาจารย์เดินเข้ามาพอดี

“:p ปิงบ้า ปิงบ้า ปิงนิสียไม่ดี” มันว่าตอบอย่างไม่กลัว

“พอแล้วนะโมอาจารย์เข้าแล้ว” ซีตัสดุใส่

“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง!! ” ปิง



+++++++++++++++++++++++



เลิกเรียนสิงห์มารับนะโมที่หน้าโรงเรียนแต่ไม่ได้ลงจากรถ เพราะโดนสั่งห้ามลงตั้งแต่วันนั้น ไอ้เอ๋อมันเดินยิ้มหวานมาที่รถแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งที่ข้างๆ คนขับ

“จุ๊บ -3- “พอนั่งเสร็จมันก็โน้มตัวเข้าไปหอมแก้มของสิงห์ทันที

“ทำอะไรครับ”

“แสดงความรักครับ”

“-///- อะ ..อะไรนะครับ” เขาแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองนี่น้องไปจำเอาความคิดแบบนี้มาจากไหนกัน แต่ก็ดีเขาชอบ

“ฮื้ออ พี่จ๋าหูไม่ดีแน่เลย หนูบอกว่า แสดงความรักครับ แสดงความรัก” มันว่าพร้อมกับทำท่ารูปหัวใจตรงอกให้ดูด้วย

“หึหึ พี่จ๋าก็อยากแสดงความรักกับหนูบ้างจังเลยครับ” สิงห์พูดเสียงอ้อน

“คึคึคึ อะ อะ จุ๊บๆ” มันยื่นแก้มใสๆ ของมันไปทางสิงห์เพื่อที่สิงห์จะได้แสดงความรักตอบกลับมา

“ของพี่จ๋ารักมากต้องตรงนี้ครับ” สิงห์จิ้มไปที่ปากอมชมพูน่ากินของมันด้วยดวงตามันวาว

“งะ แบบนั้นมัน ไม่เอาหรอกแบบนั้นนะ -3-” มันทำปากยื่นใส่จนสิงห์อดใจไม่ไหวบีบปากมันอย่างมันเขี้ยว

“เดี๋ยวหัดปฏิเสธพี่เหรอ”

“ก็พี่จ๋าชอบทำแรง หนูหายใจไม่ออก”

“ถ้าอย่างนั้นทำเบาๆ ก็ได้”

“ = =’ พี่จ๋าทำไมทำหน้าตาแบบนั้นอะ หื่น หื่นๆ อะ “

“รู้จักคำว่าหื่นด้วยเหรอ? เรานะ”

“รู้สิเพื่อนๆ ชอบพูดใส่กันเวลามองหนู”

“หึหึ”

“แต่พี่จ๋าทำหน้าหื่นกว่า น่ากลัว*0*”

“ว่าพี่เหรอ! ” สิงห์แกล้งขึ้นเสียงใส่

“คึคึ หื่น คึคึ หื่น” ไปโรงเรียนได้แค่อาทิตย์กว่าๆ นี่มันเรียนรู้อะไรมาบ้างเนี้ยะ

“เห้ออ แค่หอมแก้มก็ได้” เขายื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มมันเสียฟอดใหญ่กลิ่นตัวมันยังหอมเหมือนเมื่อเช้าเลย

“อื้อออ หอมแรง!! ” มันทำหน้ายู่เอามือถูแก้มไปด้วย

“ก็รักมากเลยหอมแรงๆ”

“-3-เจ็บ”

“หิวยัง? เย็นนี้อยากกินอะไรครับ”

“พะโล้ *0*”

“กินมาสี่วันติดแล้วครับเปลี่ยนเมนูบ้าง”

“งะ ก็หนูชอบกินอะ อืมมงั้นเอา เอา.. ไรดีน้า” มันทำท่าคิดโดยเอียงคอไปข้างแล้วเอานิ้วจิ้มที่ปากตัวเอง ท่าทางน่ารักแบบนี้ยิ่งทำให้สิงห์อยากจะฟัดมันซะตรงนี้

“หมูทอดไหม? พี่ชอบหมูทอดนะ” เขาลองเสนอสิ่งที่ตนเองชอบบ้าง

“หมูทอด*0*เอาๆ กินๆ”

“หึหึได้ครับเดี๋ยวแวะซื้อที่ตลาดเนอะ แล้วก็ซื้อขนมไปฝากน้องๆ ด้วยเลย”

“ครับ ^0^”

วันนี้มันสัญญาไว้กับน้องๆ ว่าจะซื้อขนมไปฝากพร้อมกับสมุดและดินสอ น้องเริ่มเข้าเรียนกันแล้วถึงเด็กวัดพวกนั้นจะมีพ่อแม่อยู่แต่ครอบครัวก็ยากจนกันทุกคน สิงห์พามันลงที่ตลาด เขาปล่อยให้มันเดินเองไม่จับมือเดิน เพราะว่าที่นี่มันคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก มันวิ่งไปที่ร้านขนมเจ้าประจำที่มีคุณยายใจดีชอบให้ขนมมันกินเมื่อตอนทำงานเข็นผักในตลาด

“ยายจ๋า หนูเอาขนม ขนมไปฝากน้อง” ยังไม่ทันที่มันจะหยิบขนมมันก็จ่ายตังก่อนแล้ว แถมจ่ายแบงก์ร้อยด้วย

“อ้าวนะโมหายหน้าไปนานไปไหนมาลูก” ยายแกทักด้วยน้ำเสียงที่เอ็นดู

“ไปทำงานบ้านพี่จ๋าจ้ะยาย หนูมีตังแล้วน้า หนูจะซื้อขนมยายทุกวันเลย^^” มันยิ้มแป้นอย่างน่ารัก รอยยิ้มที่ใครเห็นก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้

“เออดีแล้ว ไปทำงานกะหมอเค้าเอ็งจะได้ไม่ลำบากโดนเค้าโกงค่าแรง โดนเค้าแกล้งเอา แล้วนี่ใส่ชุดนักเรียนเอ็งเรียนด้วยเรอะ!! ”

“ช่าย หนูเรียนหนังสือ หนูเรียนจะได้ไม่โง่ไงยาย”

“บุญของเอ็งแท้” บทสนทนาของยายกับไอ้เอ๋อเรียกให้คนในตลาดหันมาสนใจบ้างก็ดีใจไปกับมันบ้างก็ติเตียนดูถูกว่าไปสร้างความลำบากให้กับหมอเค้า

“ขอบคุณจ้ะยาย หนูไปแล้วนะวันหลังหนูจะมาใหม่” มันบอกลายายพร้อมกับขนมในมืออีกเพียบ ร้อยหนึ่งได้มาอย่างกะสองร้อย น้องๆ ของมันคงกินอิ่มไปหลายมื้อ หลังจากซื้อขนมมันก็เดินไปร้องเพลงไปทักคนนั้นคนนี้ไปทั่ว โบกมือให้ทุกคนอย่างกระมันเป็นนางสาวไทย สิงห์เดินตามแล้วอมยิ้มตลอด เขามีความสุขที่ได้อยู่กับมัน

พอซื้อกับข้าวกับของที่จะให้น้องครบก็พากันไปที่วัดมันรีบลงรถแล้วพุ่งไปหาหลวงตาที่ยืนรอมันอยู่ที่หน้ากุฏิ หลวงตาดุชราภาพลงไปเยอะดูไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน

“ใจเย็นเว้ยย นะโมข้าไม่ได้แข็งเหมือนแต่ก่อนแล้ว” แม้ปากจะเอ็ดใส่แต่ตากลับยิ้ม แค่เห้นหน้ามันหลวงตาก็ชื่นใจแล้วยิ่งเห็นว่ามันอ้วนขึ้นดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้นเขาก็เบาใจ

“คิดถึงๆ ๆ ๆ ๆ”

“เออๆ ข้ารู้แล้ว นั่งดีๆ”

“ครับ” มันนั่งลงข้างๆ หลวงตาแล้วลงมือบีบนวดขาของหลวงตาทันที

“นมัสการครับหลวงตา”

“เออๆ เจริญพรโยมสิงห์ วันนี้เอาของมาให้พวกเด็กๆ มันละสิอีกประเดี๋ยวก็คงกลับจากโรงเรียนแล้วละ”

คุยกับหลวงตาได้สักพักก็ต้องขอตัวกลับเพราะมืดค่ำแล้ว ขนมก็แจกเด็กๆ ไปเรียบ ไอ้เอ็อมันกราบลาหลวงตาบัวพร้อมกับสิงห์และก็พากันกลับบ้านระหว่างทางท้องไอ้เอ๋อมันก็ร้องโครกคร๊ากเสียงดังจนสิงห์หัวเราะขำออกมา

“มากินข้าวได้แล้วครับนะโม” สิงห์ตะโกนเรียกมันหลังจากที่สั่งให้มันไปอาบน้ำรอก่อนเพราะเขาจะจัดการจัดการกับข้าวเองพอได้ยินว่ากินข้าวเสียงวิ่งตึงๆ ก็ดังมาจากห้องของมัน

“ข้าววววววววววววววววววววววววววววว*0*”

“อย่าวิ่งสิครับเดี๋ยวล้มนะ”

“ข้าว ๆ ๆ หิวหิว *0*” มันเดินไปหยิบช้อนส้อมของตัวเองกับของสิงห์มาถือไว้แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ทันทีมันเอาช้อนวางให้สิงห์ที่กำลังตักข้าวสวยใส่จาน ทุกอย่างพร้อมลงมือทาน ทั้งไอ้เอ๋อกับสิงห์ก็กินกันเงียบไปจนอิ่มแม้จะมีศึกแย่งหมูทอดชิ้นสุดท้ายก็ตาม (ผลคือพี่โดนสายตาอ้อนๆ ของน้องจนสติหายพอสติมาหมูก็อยู่ในปากน้องแล้ว กร๊ากกกกกก)

“นะโมเก็บจานล้างนะครับ พี่จะไปอาบน้ำ”

“อื้อ เดี๋ยวหนูล้างจานเอง” มันรับคำพร้อมกับลุกเก็บจานบนโต๊ะไปล้างที่อ่างล้างจาน สิงห์เดินไปหยิบผ้ากันเปื้อนให้มันใส่

“มาหันหลังมาพี่ใส่ให้” แต่การใส่ผ้ากันเปื้อนของสิงห์เหมือนกับการกอดไอ้เอ๋อมันมากกว่า เรื่องตอดเล็กตอดน้อยขอให้บอกสิงห์ไม่เคยพลาด แถมตอนท้ายยังแอบพ่นลมหายใจร้อนๆ ใส่ข้างแก้มไอ้เอ๋อมันอีก

“-///- “

“อะเสร็จแล้วครับ” สิงห์ผูกปมให้ไว้ด้านหลัง

“ง่า..ไปอาบน้ำได้แล้ว อาบน้ำๆ” มันรีบไล่เพราะใจมันเต้นแรงมากๆ เวลาสิงห์ทำแบบนี้กับมัน ใจมันจะไม่สงบสมาธิมันก็จะไม่มีแล้วก็จะทำอะไรเงอะงะน่าอายออกไป

“ครับๆ รู้แล้ว อย่าล้างจานจนเสื้อผ้าเปียกนะครับ” สิงห์กำชับก่อนจะเดินออกไป

“ฟูวววว เห้อใจอย่าเต้นแรงสิเดี๋ยวพี่จ๋ารู้หมด” มันใช้มือเปื้อนฟองทุบที่อกตัวเองเบาๆ ใช่หัวใจมันกำลังบอกว่ามันรู้สึกยังไง พอล้างจานที่มันพยายามอย่างที่จะไม่ทำให้เสื้อเปียกก็ผ่านพ้นไป แต่ก็ยังเปียกอยู่ดีมันเลยเดินกลับไปที่ห้องเพื่อจะเปลี่ยนเสื้อ พอดีกับสิงห์เดินออกมาจากห้องน้ำ สิงห์พันผ้าแค่ช่วงล่างด้านบนยังมีหยดน้ำเกาะอยู่หัวก็เปียกมองดูแล้วโคตรเซ็กซี่ ไอ้เอ๋อมันเห็นรูปร่างของสิงห์ชัดเจนเต็มสองตา มันกลืนน้ำลายลงคอ หน้ามันแดง ขามันแข็ง แล้วมันก็

“อึก!! ” สะอึกออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

“?”

“อึก...อึก.”

“สะอึก?”

“>///< งืออ อึก” สิงห์ขยับเข้ามาใกล้มัน มันก็เดินถอยหลัง

“เป็นอะไรครับ”

“หนู อึก หนู อึก ไม่เป็นอะไร อึก” มันสะอึกไม่หยุดและมันก็ไม่ยอมเข้าไปใกล้สิงห์ด้วยมันทำให้สิงห์รู้สึกแปลกใจ

“แล้วจะไปไหนครับ”

“เปลี่ยนเสื้อผ้า อึก..ปะ อึก..เปลี่ยนเสื้อผ้า ..ไปนะ.อึก อื้ออ” มันก้มหน้าวิ่งผ่านสิงห์ไปอย่างรีบร้อน

ปัง!!! เสียงปิดประตูห้องของไอ้เอ๋อดังสนั่น

“เป็นอะไรของเขา?” สิงห์เดินเกาหัวอย่างงงๆ เข้าไปในห้องของตัวเองเช่นกัน

ในห้องนอนของไอ้เอ๋อมันนั่งอ่อนแรงบนพื้นห้องมือก็จับหน้าอกตัวเองไว้

“ใจเต้นแรงมากเลย อันตรายๆ” มันรู้ว่าการที่หัวใจเต้นเร็วผิดปรกตินั้นส่งสัญญาณได้ว่ามันอาจกำลังป่วยแต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง

“หื้อออ ทำไงดี” มันค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้นเย็นไปแล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ก่อนจะเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อหาหนังสือมาอ่านเล่นก่อนนอน

“อะ อ่าว” มันเดินออกมาเจอสิงห์กำลังกินน้ำอยู่

“ว่าไงครับหายสะอึกแล้วเหรอ?” สิงห์ยิ้มให้มัน

“อะ อื้อ หายแล้ว”

“วันนี้นะโมจะมานอนห้องพี่ไหมครับ?” สิงห์เอ่ยถามเป็นปรกติเหมือนดั่งเช่นทุกวันและเกือบทุกครั้งที่ถามมันจะตอบตกลงตลอดแต่ว่าวันนี้

“มะ มะไม่ไปครับ ไม่ไป” มันหลบตาดูแปลกๆ สิงห์ขมวดคิ้วนิดๆ ทำไมวันนี้ไอ้เอ๋อมันดูแปลกๆ

“หิม นะโมเป็นอะไรรึเปล่าครับวันนี้หนูดูแปลกๆ นะ” สิงห์เดินมาจับหัวมันแล้วดึงมันเข้าไปกอดก่อนจะเอามือวัดไข้ที่หน้าผากมัน

“ไม่สบายรึเปล่า?”

“อึก..อึก..มะไม่ อึก” มันสะอึกขึ้นมาอีก

“พี่ว่าหนูไม่สบายแน่ๆ”

“ไม่ ไม่สบายหนู แค่ อึก..” แล้วมันก็วิ่งกลับห้องตัวเองทั้งๆ ที่ยังไม่ได้หนังสืออ่านสักเล่ม



++++

เช้าวันนี้มีข้าวต้มกุ้งที่มันทำเองกับมือถึงจะไม่ค่อยมั่นใจนักแต่ก็พอกินได้ สิงห์เดินแต่งตัวด้วยชุดทำงานออกมาจากห้องก็ได้กลิ่นหอมๆ ของข้าวต้มร่างสูงขมวดคิ้วนิดๆ เพราะกลิ่นมื้อเช้ามันผิดแปลกไปจากมื้อที่แล้วมา

“หอมจัง วันนี้ทำอะไรให้กินครับ”

“-///-ข้าวต้มกุ้ง” มันยืนเขินๆ

“ทำเป็นด้วยเหรอ”

“ก็ ครั้งแรก แฮะๆ” สิงห์รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย แม้จะตกใจกับสภาพห้องครัวอยู่แต่ก็นะ ดูจากสิ่งที่คนตรงหน้าทำดุจะตั้งใจสุดๆ สิงห์ส่งยิ้มอ่อนหวานให้กับมัน

“ว้าว น่ากินจังเลยครับ” คำพูดของสิงห์ทำให้หัวใจมันพองโต มันก้มหน้าเกาแก้มตัวเองเบาๆ อย่างคนเก้อเขิน

“ระ เหรอครับ เหรอครับ คึคึ” มันอมยิ้มดีใจสุดๆ ก่อนจะตักข้าวต้มใส่จานให้สิงห์จนแทบล้น สิงห์ยังไม่ลืมรสอาหารมื้อแรกจากฝีมือมัน แต่พอเห็นแววตาของมันแล้วเขาตัดสินใจตักข้าวต้มเข้าปาก

“อืมม อร่อยครับ” ใช่มันอร่อยอย่างที่สิงห์พูด ครั้งนี้มันทำสำเร็จไม่เสียแรงที่ตั้งใจ มันมีเหตุผลที่ไอ้เอ๋ออยากทำกับข้าวให้สิงห์กิน

สองวันก่อน

“นี่แกเห็นนี่รึยัง” เสียงเพื่อนสาวที่จับกลุ่มคุยกันดังขึ้นพร้อมกับหนังสือคู่มือเล่มหนึ่ง

“อะไร? ของแกวะส้ม”

“ก็วิธีมัดใจสามีแบบอยู่หมัดไง เล่มที่ผิงๆ สาวผู้โชคดีที่ได้แต่งงานกับคุณกวีคุณชายสุดหล่อสุดดังยังไงละ” ส้มพูดจีบปากจีบคอ ไอ้เอ๋อมันนั่งอยู่ข้างๆ แม้ตามันจะจ้องไปที่กระดานแต่หูมันนี่กระดิกฟังเลยทีเดียว

“อ๋อออ...สรุปคือใช้ได้ผลจริงเหรอวะ”

“จริงสิไม่อย่างนั้นคุณกวีจะหลงผิงๆ จนโงหัวไม่ขึ้นไม่เห็นรึไง”

“ไหนดูซิว่าเค้าบอกอะไรไว้บ้างง” เสียงลากยาวมาพร้อมกับการเปิดหน้าหนังสือ

“ต้องดูดีและเป็นธรรมชาติ? ยังไงวะ” ส้มยังไม่เกท

“ก็สวยแบบธรรมชาติหน้าไม่หนาไงยะ” แก้วเป็นคนตอบ

“อ๋อ..ดูแลปรนนิบัติเหมือนกับเขาไม่ให้ขาดตกบกพร่องทั้งบนเตียงและนอกเตียง กรี๊ดดด” อันนี้ไอ้เอ๋อมันไม่เข้าใจเพราะสองสาวไม่ยอมอธิบายต่อ



“เสน่ห์ปลายจวักต้องมี ทำกับข้าวต้องเป็น เพราะสามีจะได้ไม่ไปกินที่ไหนเพราะจะติดรสมือเรา”

“อ๋อออออ” อันนี้เสียงไอ้เอ๋อ ทำให้สองสาวหัวควับมาที่มันทันที

“แอบฟังหรอนะโม?”

“ปะ เปล่านะ ก็ส้มกับแก้วพูดเสียงดัง เราก็ได้ยินสิ -3-”

“แอบฟังแบบนี้แสดงว่ากำลังมีแฟนละสิ อันแน่ ชอบหัวหน้าห้องเหรอนะโม” ส้มแซวเล่นขำๆ

“ไม่ ไม่ใช่นะ ไม่ใช่” มันรีบหันไปหาซีตัสที่นั่งอ่านหนังสือเงียบๆ มันส่ายหน้าไปมา ซีตัสแสยะยิ้มนิดๆ

“แล้วถ้าใช่ละ” แขนแกร่งโอบกอดไหล่ไอ้เอ่อทันที

“มะ ไม่ งือ ซีตัส อย่าแกล้งเรา” มันทำหน้างอใส่ ซีตัสหัวเราะรวมถึงสองสาวนั่นด้วย

ตึง!! โต๊ะล้มลงกับพื้น

เฮือกกก!! ไอ้เอ๋อมันสะดุ้งทันที พอเห็นว่าเป็นปิงถีบโต๊ะตัวเองล้มก็ทำหน้าเหม็นๆ ใส่ทันที

“น่ารำคาญ!! อยากจะสวีทกันก็ไปสวีทที่อื่นเห็นแล้วเกะกะลูกตา” จู่ๆ ปิงก็อารมณ์เสียตวาดใส่ไอ้เอ๋อดังลั่นห้อง

“งื้ออ เสียงดัง เราไม่ได้สวีท ไม่ได้หวานสักหน่อย ปิงเอาอะไรมาพูด!! ”

“โง่แล้วยังเสือกโง่อีกนะมึง!! ” ปิงว่าใส่อีก

“เลิกบ้าได้ยัง กูรำคาญ” น้ำเสียงเย็นๆ ดังมาจากหัวหน้าห้องอย่างซีตัสเขาจ้องเขม็งไปยังร่างผอมบางตรงหน้าอย่างไม่ชอบใจ

“คนบ้านะไม่ใช่กูแต่เป็นมึง ไอ้ตัส มึงนั่นแหละบ้า” ปิงตะโกนใส่หน้าร่างสูงเหมือนโกรธกันมาเป็นชาติ

“เหรอถ้ากูบ้ามึงก็อย่ามาบ้าตามกูสิ อยู่ในที่ที่ ของมึงไป ความจริงคนอย่างมึงไม่สมควรจะอยู่ต่อหน้ากูด้วยซ้ำ ไอ้คนหลอกลวงสับปลับคนใจบาปอย่างมึงนะ” ซีตัสเองก็ระเบิดอารมณ์ออกมาเช่นกัน แววตาของซีตัสมีแต่ความเจ็บปวดและความแค้นเคืองอยู่เต็มอก

“เพราะมึงทำให้ซีเรียลต้อง...อึก” ซีตัสหยุดแค่นั้นสองมือกำหมัดจนแน่นก่อนจะค่อยๆ คลายออก

“......”

“ไปให้พ้นหน้ากู” ซีตัสกัดฟันพูด ปิงเม้มปากตัวเองแน่น สายตากำลังตัดพ้ออะไรบางสิ่งก่อนจะเดินกระแทกเท้าออกไป ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเป็นเพื่อนสนิทกันแท้ๆ ซีตัสหันมาหาไอ้เอ๋อที่ยืนสั่นอยู่

“กลัวเหรอ”

“อือ เราไม่ชอบเห็นคนทะเลาะกัน เรากลัว อย่าทะเลาะกับปิงเลยนะ”

“หึ ยากวะ เอาเป็นว่าวันนี้มึงทำดีมากที่กล้าต่อปากต่อคำกับมัน จำได้ไหมที่กูสอย อย่าอ่อนแอ อย่าอ่อนข้อให้มัน อย่าร้องไห้ให้มัน”

“อื้อ เราจำได้” พ้นเรื่องของปิงในห้องก็กลับมาสงบอีกครั้งทุกคนคุยกันต่อเพื่อรอเปลี่ยนคาบเรียนและวันนั้นไอ้เอ๋อมันก็ไม่เห็นปิงเข้าเรียนอีกเลยตลอดทั้งวัน....

มาปัจจุบัน

หลังจากกินมื้อเช้าเรียบร้อยไอ้เอ๋อมันก็กวาดบ้านถูบ้านก่อนจะอาบไปโรงเรียนโดยที่มีสิงห์ไปส่งเหมือนเคย

“ตอนเย็นพี่จะมารับนะครับ”

“ครับ”

พอลงรถมันก็วิ่งเข้าประตูไปสิงห์มองตามจนลับตาถึงได้ขับรถไปที่คลินิกของตนเองวันนี้เขาต้องทำการผ่าตัดน้องหมา เปิดประตูเสร็จพนักงานผู้ช่วยก็เดินตามเข้ามา

“สวัดดีค่ะพี่หมอ” สุนักศึกษาสัตวแพทย์ฝึกหัดเอ่ยทักรุ่นพี่ของตน

“อืม วันนี้มีเคสไหนสำคัญบ้างนอกจากตุ้งติ้ง” สิงห์พูดถึงหมาพันธุ์ปั๊กที่เขาต้องผ่าคลอดให้วันนี้

“ไม่แล้วค่ะ”

“อืม” สิงห์ตอบพร้อมกับเดินเข้าไปยังห้องทำงานของตนเอง ในการทำงานสิงห์จะเว้นระยะห่างกับสุพอสมควรเพื่อที่เขาจะได้คุมลูกน้องอยู่ มันจะมีความเกรงใจกันบ้าง และที่สำคัญเขารู้ว่าสุสนใจในตัวเขาไม่น้อยถ้าเป็นสิงห์คนก่อนป่านนี้คงได้กันไปแล้วแต่นี่ แค่มองหน้าสุหน้าไอ้เอ๋องอนแก้มป่องก็ลอยขึ้นมาทันที สิงห์ถอนหายใจนิดๆ งงตัวเองว่าทำไมถึงให้เด็กคนหนึ่งมีอิทธิพลกับตัวเองได้ขนาดนี้สิงห์คนโฉด โหดและร้ายหายไปไหน

หลังผ่าตัดตุ้งติ้งเสร็จก็ได้ลูกหมาตัวน้อยมาสี่ตัวน่ารักน่าชัง หลังจากนั้นก็มีผู้ป่วย (สัตว์) เข้ามาเรื่อยๆ บ้างก็เอามาฉีดวัคซีน อาบน้ำตัดขน ทั่วๆ ไปจนกระทั่งถึงเวลาปิดคลินิกสิงห์ก็ออกไปรับไอ้เอ๋อที่โรงเรียนแต่วันนี้กลับไม่เห็นว่ามันจะยืนรออยู่ที่เดิม สิงห์ขมวดคิ้วนิดๆ ก่อนจะเดินลงจากรถเพื่อตามหามัน



“ตัสตัส ตัสตัสจะพาเราไปไหนหรอ” ซีตัสเดินจูงไอ้เอ๋อเดินไปตามทางของตึกเรียน

“-*- กระเป๋ามึงหายไม่ใช่รึไง?”

“อื้อกระเป๋าเราหาย แล้วทำไมเราต้องเดินไปมาด้วยละ”

“เห้ออ ของหายก็ต้องหาสิวะ! รีบเข้าเดี๋ยวพี่มึงมาหามึงไม่เจอมันได้แดกหัวกูแน่ๆ” ซีตัสทำหน้าเครียด เครียดเรื่องของตัวเองไม่พอยังจะมาเครียดเรื่องของไอ้เอ๋ออีก

“พี่จ๋าไม่กินหัวคน พี่จ๋าไม่กินหรอก พี่จ๋าชอบกินปากเรา อุ๊บ!! 0x0” มันเผลอพูดสิ่งที่สิงห์ห้ามไว้พอรู้ว่าพูดไปแล้วก็เอามือปิดปากตัวเองแล้วทำหน้าตาตกใจ ซีตัสหลี่ตามองมันอย่างจับผิด

“เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ กูได้ยินไม่ถนัด” ซีตัสถามเสียงเข้มๆ

“ป่าวนี่เราไม่ได้พูด ไม่ได้พูด..”

“-*-โกหกไม่เนียน ตกลงมึงกับพี่มึงเป็นอะไรกัน เป็นพี่น้อง หรือเป็นผัว!! ”

“ผัว.คือไร?”

“ก็คนที่รักกันเอากันอะ แบบว่าได้เสียกัน วู้วว อธิบายมึงให้มึงเข้าใจนี่ยากกว่าแก้โจทย์คณิตอีก” ซีตัสบ่นอย่างไม่จริงจังนักเพราะกำลังเพ่งสมาธิหากระเป๋าให้ไอ้เอ๋อมันมากกว่า

“งืออ นี่ตัสตัส ตัสตัสเรามีอะไรจะถาม” ไอ้เอ๋อมันพูดพร้อมกับหยุดเดิน

“อะไรอีกกกกก”

“สมมุติว่าเวลาเราอยู่ใกล้ใครมากๆ แล้วใจเราเต้นแรงเหมือนมีคนตีกลองอยู่ข้างใน มันหมายความว่ายังไงหรอ เราป่วยหรอ” มันถามพร้อมกับเกาแก้มตัวเองไปด้วย

“นี่มึงอย่าบอกนะว่า..” ซีตัสชี้ไปที่ตัวมันเอง

“ไม่ใช่ ไม่ใช่ ตัสตัส ไม่ใช่ตัสตัส” มันรีบปฏิเสธทันที

“เห้อแล้วไป” ซีตัสรู้สึกโล่งใจนิดๆ

“มึงไม่ได้ป่วยอะไรหรอก นี่กูถามอะไรอย่างสิ พี่สิงห์ของมึงอะ คือคนที่ทำให้มึงใจเต้นแรงใช่ไหม?”

“งือออ>///<”

“แสดงว่าใช่”

“เราไม่รู้อะ ใจเรามันเต้นแรงกับพี่จ๋าตลอดเลย ตะ แต่ ว่าเมื่อวานเราสะอึกด้วยนะ”

“มึงสะอึก? สะอึกเพราะ?”

“เราเห็นพี่จ๋าแก้ผ้า-///- “คำตอบของมันทำเอาซีตัสแทบหงายหลัง

“เชี้ยะ...มึงนี่ก็หื่นกามเหมือนกันนี่หว่า” ซีตัสแซวมันขำๆ

“หะ หื่น หื้อออ ไม่หื่นนะ” มันบอก

“ตกลงเราเป็นอะไรหรอ”

“มึงชอบเขานะโม”

“ชอบ!! เราชอบพี่จ๋าเรารู้”

“ไม่ใช่กูหมายถึงแบบว่าชอบกัน รักกันอยากเป็นแฟนอะ เห้ออกูเหนื่อยจริงๆ” ซีตัสไม่รู้จะอธิบายให้มันเข้าใจยังไง เอาไว้ค่อยๆ สอนมันละกัน

“ระ เหรออ อ่า -///- งื้ออ” จู่ๆ มันก็ยืนเขินบิดไปบิดมา

“อะ นั่นไงกระเป๋ามึง” ซีตัสชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งกระเป๋านักเรียนไอ้เอ๋อมันห้อยอยู่

“สูงฉิบหายใครวะแม่งสันหาวิธีแกล้งมึง” ซีตัสบ่นอย่างนึกโมโหกับคนที่ทำแบบนี้

“เราปีนเองเราปีนได้”

“ได้เหรอ เออๆ มึงปีนเลยเดี๋ยวกูช่วย กูกลัวความสูง”

“อื้อ” ไอ้เอ๋อมันถอดรองเท้านักเรียนออกถลกแขนเสื้อขึ้นแล้วก็ปีนต้นไม้ต้นนั้นเพื่อเก็บกระเป๋าตัวเอง มันปีนได้อย่างคล่องแคล่วเพราะเคยปีนเก็บมะม่วงที่วัดอยู่บ่อยๆ ปีนจนถึงกิ่งที่กระเป๋าห้อยอยู่

“นะโมระวังนะมึงกิ่งนั้นมันแห้งมันจะหักเอา” ซีตัสพูดเตือนด้วยความเป็นห่วง

“อื้อๆ จะถึงแล้วอึ๊บ อึ๊บ”

เปาะ แกรกกกก!!

“เชี๊ยะ!! ”

“อะ *0* กรี๊ดดดดด” จู่ๆ กิ่งที่มันเหยียบอยู่ก็หักลงมาไอ้เอ๋อมันลอยคว้างอยู่ในอากาศมันหลับตาปี๋ด้วยความกลัว

หมับ!!!

“อื้ออ ๆ ๆ กลัวๆ ฮรือออ หนูตายแน่เลยT^T”

“ไม่ตายหรอกครับ ใครจะยอมให้หนูตายกันละ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยกระซิบกับคนในอ้อมกอด ไอ้เอ๋อมันนอนทับตัวสิงห์ที่พุ่งเข้ามารับมันไว้ได้ทันก่อนที่ร่างของมันจะถึงพื้นด้วยซ้ำ

“เสียงพี่จ๋า ฮึกพี่จ๋า” มันปล่อยโฮออกมาทันที

“ไม่ต้องกลัวนะครับพี่อยู่นี่แล้ว” สิงห์ลูบหลังปลอบมัน พร้อมกับดันตัวเองให้ลุกนั่ง ทำให้ไอ้เอ๋อมันนั่งค่อมตักเขาสองมือก็กอดคอสิงห์เอาไว้แน่น

“ลืมตาก่อนนะ ไหนบอกพี่จ๋าสิครับว่าทำไมถึงไปปีนต้นไม้” คำพูดที่ดูห่วงใยตัดกับน้ำเสียงที่ดูจะโมโหนิดๆ สิงห์ตวัดสายตาคมไปหาคนที่ยืนมองเขาอยู่เงียบๆ อย่างหาคำตอบ

“ฮึก หนูจะเก็บกระเป๋า ฮึกมันอยู่บนต้นไม้”

“โดนแกล้งอีกแล้วเหรอ” สิงห์ต้องทำใจให้แข็งเพราะถ้าเขาเข้ามาจัดการเรื่องนี้ปัญหาก็จะไม่จบเขาก็ต้องแก้ให้น้องเรื่อยๆ น้องก็จะไม่ได้เรียนรู้วิธีเอาตัวรอดหรือวิธีเข้าสังคม ภูมิต้านทานน้องด้านนี้จะต่ำ เขาทำได้แค่แนะนำและปลอบโยนเท่านั้น

“ฮึก กระเป๋าอันนั้นพี่จ๋าซื้อให้” มันกอดกระเป๋านักเรียนมันไว้แน่น

“เห้ออออ” สิงห์ถอนหายใจยาว เขาอยากจะโกรธอยากจะดุแต่ก็ทำไม่ลง ทำไม่เคยลงเลยจริงๆ

“กอดกันพอรึยังผมต้องกลับบ้านนะครับคุณพี่ชาย” ซีตัสพูดขึ้นมาพร้อกับกรอกตานิดๆ เขาไม่ชอบสายตาที่สิงห์มองเขามองเหมือนเขาทำอะไรผิดเหมือนเขาไปแย่งยางลบในปากมาอย่างนั้น

“ก็กลับไปสิ ทางนี้พี่จะจัดการเอง” สิงห์บอกเสียงเรียบโดยที่ไม่หันไปมองหน้าซีตัสด้วยซ้ำ

“-*- เออ กลับแล้ว ไปนะ นะโม หวัดดีพี่ชาย! ” ซีตัสพูดกระแทกเสียงใส่ก่อนจะเดินจากไปรู้สึกหมั่นไส้สิงห์มากขึ้นมาทุกวัน



+++++++++++++++++++++++++++++++



กลับมาที่บ้านสิงห์ต้องมานั่งทำแผลให้ไอ้เอ๋ออีกดีที่มีแค่รอยขีดข่วนทั้งคู่นั่งอยู่บนโซฟาที่ห้องนั่งเล่น

“ซี๊ดดด อูยยย” ไอ้เอ๋อมันซี๊ดปากทุกครั้งที่สิงห์แตะยาใส่แผลมัน ร่างสูงมองมันแล้วอมยิ้มอยากจะตีให้หายซนแต่ก็ทำไม่ลง

“ไม่ต้องร้องครับซนเอง” สิงห์แกล้งว่าเสียงดุ

“งื้อออ ใจร้าย ดุ” มันทำปากยื่นใส่สิงห์

“ถ้าเจ็บตัวมากกว่านี้พี่จะทำโทษเรานะ”

“ก็..”

“อย่าเถียง”

“งะ”

“หึหึหึ”

จุ๊บ

“ทำโทษทีทำให้พี่เป็นห่วง” สิงห์ยิ้ม

ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก....

“>///< ..หัวใจหนูไม่ไหวแล้วววววว” ไอ้เอ๋อมันนอนหงายลงกับโซฟาทันทีที่โดนจู๊บปาก ตายอย่างสงบทันที



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หายใจทันไหม?....

ตอนนี้จะเริ่มด้วยการพัฒนาความสัมพันธ์กับความรู้สึกของน้องนะคะ ส่วนของอิพี่มันชัดเจนอยู่แล้ว

ปมซีตัสกับปิงเดี๋ยวค่อยมาเฉลยเนอะ

ต้องขอขอบคุณที่ติดตามและคอมเม้นให้กับคนเขียนนะคะ อ่านแล้วชื่นใจดีใจที่ทุกคนเข้าใจในตัวละคร มีคนแอบเดาถูกอยู่ด้วยนะนิดนึงอิอิ

ปล.รักทุกคนมากๆนะ เจอกันตอนหน้าค่ะ

ปล.2 ---หนูนะโมเองนะหนูคิดถึงทุกคนนะ รักนะจุ๊บๆ

ปล.3---จุ๊บได้แต่พี่คนเดียวสิครับ-*-(สิงห์)

ปล.4---งืออออ-////-







หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.16 1/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 01-07-2018 08:31:53
น้องนะโม อาการรุนแรง พี่จ๋าช่วยได้
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.16 1/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 01-07-2018 09:52:56
นะโมหนูก็หื่นอยู่นะเนี่ย555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.16 1/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-07-2018 12:09:48
รอดูวันที่นะโมล้มปิง  :katai1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.16 1/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 01-07-2018 15:35:59
 :o8:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.16 1/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: anonymous ที่ 01-07-2018 17:42:07
โอ๊ยยย พึ่งได้เข้ามาอ่านครั้งแรกค่ะ เอ็นดูหนูนะโม มาก ๆ เลยค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.16 1/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 02-07-2018 01:05:06
เอ็นดูน้อง
กลัวเศร้า ฮื่อออ

 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.16 1/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 02-07-2018 02:39:34
ขำซีตัส แมนมากๆ ดันกลัวความสูง
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.16 1/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-07-2018 13:05:43
นะโม พัฒนาด้านการมีปฏิสัมพันธ์
เพื่อนที่ดีก็มี เพื่อนที่ชอบกลั่นแกล้งก็มี
อันนี้ก็เป็นปกติไม่ว่าที่ไหนก็มีทั้งคนดี คนไม่ดี
ยังดีที่มีตัส คอยดูแล

สิงห์ ก็หากำไรกับน้องได้ตลอด
น้องเอ๋อ ก็ใจเต้นกับพี่จ๋าแล้ว   :-[

พี่สิงห์  นะโม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.16 1/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 02-07-2018 18:40:39
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.17 8/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 08-07-2018 09:00:46
17





“ตั้งแต่เป็นสาวเต็ม กายย หาผู้ชายถูกใจไม่มี” เสียงไอ้เอ๋อร้องเพลงดังลั่นบ้านไม่ได้มีความเกรงใจเจ้าของบ้านที่กำลังนอนหลับพักผ่อนแม้แต่น้อย มันจีบปากจีบคอร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี ออกสเต็บเต้นตามจินตนาการที่มันสร้างขึ้น

“เมื่อคืน ฝันดี น่าตบฝันฝัน ว่าพบ ผู้ชาย ยอดดีพา ไปเที่ยว ดูหนังพา ไปนั่ง จู๋จี๋แล้วพา ไปเที่ยว ชมสวนเด็ดดอก ลำดวนส่งให้ ด้วยซีเสียบหู ให้ตั้ง หลายหนเสียบหล่น เสียบหล่นตั้งห้า ห๊กทีตกใจ ตื่นตอน ตีสี่แม๊ เสียดาย จังเฮ้อ เสียดาย จัง” มันทำท่าถอนหายใจออกมาแรงๆ ดูแล้วก็น่ารักดี

วันนี้วันหยุดวันที่ไอ้เอ๋อมันสุดจะชอบ มันดี้ด๋าตั้งแต่เช้า กวาดบ้านไปร้องเพลงไป ทั้งคร่อมคีย์ทั้งเพี้ยน มันส่ายตูดดิ๊กๆ ไปมาเห็นแล้วตลก มันทำงานบ้านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแปดโมงกว่าๆ มันก็ไปทำกับข้าว มื้อนี้เป็นผัดผักรวมกุ้ง คือผักทุกอย่างที่มีในตู้เย็นไม่เว้นแม้กระทั่งผักชีใบเลื่อยกับผักชะอมที่เหลือจากชุดผักน้ำพริกเมื่อวันก่อนนี่ยังไม่นับมะเขือเปราะกับแตงกวาที่มันกำลังหั่นอย่างตั้งอกตั้งใจนะ บันเทิงแน่ๆ มื้อเช้านี้



มันจัดโต๊ะเสร็จสิงห์ก็ตื่นมาพอดี ผมยุ่งๆ กับหน้าใสๆ ไร้ริ้วรอยกำลังส่งยิ้มหวานให้ไอ้เอ๋อหวานจนไอ้เอ๋อเขิน มันถอดผ้ากันเปื้อนออกมือยังสั่น ใจยังเต้นแรง มันจะสะอึกแต่อั้นเอาไว้ มีแอบอมยิ้มมุมปากด้วย

“วันนี้ทำอะไรให้พี่กินเอ่ยคนเก่ง” สิงห์มองจานอาหารตรงหน้า คิ้วเข้มขมวดลงนิดๆ ตะลึงกับอาหารมื้อแรกของวัน ร่างสูงกลืนน้ำลายหนืดคอ

“ผัดผัก ผัดผัก ครับมีไข่เจียวหมูสับด้วยนะ” มันตอบพร้อมกับรอยยิ้มสดใส

“ผะ ผัดผัก แน่ใจหรอครับนะโม!! ”

“แน่ใจสิ นี่ไงผัก นี่ก็ผัก นี่ผักๆ ๆ ๆ เต็มไปหมดเลย>0<” มันตอบอย่างมั่นใจ ใช่เขาไม่เถียงว่าในจานมันมีแต่ผัก แต่เป็นผักทั้งตลาด

“= =” (จะกินได้ไหมเนี่ยะ)

“ชิมๆ อร่อยนะ” มันคะยั้นคะยอให้พี่จ๋าของมันชิมด้วยสีหน้าลุ้นๆ มันตั้งใจสุดๆ กับมื้อนี้

“อื้อๆ ครับๆ จะตายไหมเนี้ยะกู” สิงห์ตักแครอทมากินหนึ่งชิ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ คำแรกที่คิดว่าจะต้องเห็นนรกอยู่ตรงหน้าแต่กลับผิดคาดรสชาติดีกว่าที่คิดแต่ติดหวานไปหน่อยเท่านั้น สิงห์กินไปยิ้มไปยังดีที่มีไข่เจียวเค็มๆ มาตัดรสให้

“อร่อยไหม อร่อยไหม” มันถาม

“หึหึหึ อร่อยสิครับก็นะโมทำให้พี่นี่เนอะ” สิงห์พูดอย่างเอาใจ จนมันฉีกยิ้มกว้าง

“คึคึคึ หนูตั้งใจมากเลยน้า” มันส่งยิ้มหวาน

“ครับๆ พี่จ๋าจะกินให้หมดเลยนะ” สิงห์ตอบกลับพร้อมกับเอามือลูบหัวมันด้วย

“-///- “แค่คำชมเล็กๆ น้อยๆ มันก็ดีใจแล้ว

“หนูอยากให้พี่จ๋ามีความสุขนะ

หลังมื้อเช้า ก็พากันไปนั่งดูหนังที่ห้องนั่งเล่นวันนี้ไอ้เอ๋อมันเลือกหนังเรื่องแฮรรี่ พอตเตอร์ สิงห์เอาโต๊ะตัวกลางออกแล้วเอาผ้านวมมาปูเอาหมอนมาวางไว้รอบๆ เปิดพัดลมไอน้ำเย็นฉ่ำเหมือนอยู่ในห้องแอร์ โดยที่มีมือสิงห์นั้นโอบเอวบางๆ ของมันไว้ มันเอนหัวพิงอกแกร่งของสิงห์ ดวงตากลมโตจ้องมองไปที่ทีวีเครื่องใหญ่ มันชอบหนังเรื่องนี้ไม่น้อย เพราะมันจ้องตาไม่กะพริบ แถมยังทำสีหน้าตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา เพราะมันใจจดใจจ่ออยู่กับหนังตรงหน้าเลยไม่ทันได้รู้ว่าพี่จ๋าของมันกำลังคอเคลียออยู่ที่พวงแก้มใสของมันตลอด

ปิ้งป่องงงงงๆ

“หืมใครมา? นะโมนั่งนี่นะเดี๋ยวพี่ไปดูก่อน” สิงห์ลุกขึ้นไปดูที่หน้าประตู ก็เห็นเพื่อนๆ ตัวเองยกขโหยงกันมาครบแก้ง พร้อมด้วยของกินและของมึนเมาติดไม้ติดมือมากอีกเพียบ

“จะมาทำไมไม่บอกกันก่อนวะ?” สิงห์เอ่ยทัก เพราะเขาอยากจะอยู่กับนะโมแค่สองคน

“บอกแล้วจะเซอไพร์หรอ” ไม้ทำหน้ากวนตีนใส่อย่างรู้ทัน

“หรออ นี่ถ้ากูไม่อยู่บ้านจะทำยังไง”

“ก็ปีนรั้วเขาไป”

“ดีเนอะพวกมึงเนี้ยะ” สิงห์ว่าประชดก่อนจะลงไปเปิดประตูรั้วให้เพื่อนๆ

“ใครมาหรอ? *0* พี่ต้า!! ”

“ = = ” ต้าร์

หมับ!!! ไอ้เอ๋อมันกระโดดกอดต้าร์เต็มรักด้วยความคิดถึง มันไม่ได้เจอต้าร์มาเป็นอาทิตย์

“คิดถึง”

“หึหึ กูก็คิดถึงมึง ถึงได้มาหานี่ไง แล้วนี่มึงทำอะไรอยู่” ต้าร์โยกหัวมันไปมาด้วยความเอ็นดู

“ดูหนัง ดูพ่อมด^0^ พี่ๆ สวัสดีครับ” มันยกมือไหว้ทุกคน

“ไม่นั่งดูพัดลมแล้วเดี๋ยวนี้” ต้าร์มันล้อ

“งะ หนูเลิกดูนานแล้วเหอะ”

“ก็เห็นตอนเล็กๆ ชอบดู” ต้าแซวอีก

“-3- “ไอ้เอ๋อมันทำปากยื่นใส่ ด้วยความหมั่นไส้มันเลยโดนมะเหงกของต้าเข้าให้

“ทำร้ายร่างกาย จะฟ้องพี่จ๋า” มันขู่ เดี๋ยวนี้มีขู่ต้าร์ยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ

“เชิญไปฟ้องเลยไปพี่จ๋ามึงนะ กูไม่กลัวหรอก” ต้าร์ท้าทาย

“พี่จ๋า.....” มันวิ่งไปหาพี่จ๋าของมันแล้วก็ฟ้อง ทำท่าให้ดูด้วยว่าโดนมะเหงกยังไงแถมชี้ไปที่ต้าร์อีก แก๊งหมอพอได้ยินก็หัวเราะใหญ่เพราะความน่าเอ็นดูของมัน



“เดี๋ยวพี่ไม้จัดการให้นะครับ” หมอไม้พูดแล้วเหล่มองต้าร์ที่เดินเข้ามาสมทบ

“กล้าเหรอ?” ต้าร์ยักคิ้วใส่อย่างกวนๆ

“คิดว่ากล้าไหมล่ะJ” เพียงแค่สบตากันจู่ๆ ต้าร์มันก็หน้าแดงจนเพื่อนๆ คนอื่นเอ่ยแซวมันกันเป็นแถวมีแต่ไอ้เอ๋อนี่แหละที่มองสองคนนั้นสลับไปสลับมาด้วยความสงสัย

“มีอะไรให้หน้าแดงหรอ หน้าแดง คึคึ พี่ต้าร์หน้าแดง” มันชี้นิ้วแล้วยิ้มล้อเลียน

“จุ้น! ”

“หึหึหึ” สิงห์

“นะโมพี่มีขนมมาฝากด้วยนะ น่ากินไหม^^” ชาเอาเค้กฝอยทองออกจากถุงแล้วยื่นให้นะโม และดูท่าจะเป็นของหวานเพียงอย่างเดียวที่มีส่วนเหลือบนโต๊ะ มีแต่พวกกับแกล้มเหล้าทั้งนั้น ไอ้เอ๋อมันยกมือไหว้แล้วยิ้มหวานให้ชา ในสายตามันคิดว่าชาคือคนที่ใจดีคนหนึ่งไม่น่ากลัวเหมือนพลัสที่ชอบทำหน้าเข้มๆ อยู่ตลอด

“ให้หนูหรอ พี่หมอชาใจดีที่สุดเลยยยย”

“ปากหวานนะเราอ่ะ” ชาว่า

พอเข้ามาในบ้านต่างคนก็ต่างจับจองพื้นที่โดยยึดระเบียงหน้าบ้านเป็นที่สังสรรค์ พันวาเดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมของ

“ไอ้คิทมึงมานี่เลยอย่ามาเนียนนั่งเฉยๆ มาช่วยกูขนแก้ว” พันวาเรียกเสียงติดเข้ม

“โหไรวะ? ค่าเหล้ากูก็เป็นคนออก”

“อย่าบ่นรีบมา”

“เออๆ ” คิทแคทจำใจต้องลุกไปช่วยเพื่อน ส่วนสิงห์ก็กันไอ้เอ๋อไปที่ห้องนั่งเล่นแล้วเปิดหนังให้ดูต่อ

“พี่จ๋า หนูอยากไปนั่งตรงนู้น” มันชี้ไปที่วงเหล้าตรงระเบียงบ้าน

“ไม่ได้ครับตรงนั้นผู้ใหญ่เค้าจะสังสรรค์กัน” สิงห์ห้าม

“หนูก็ผู้ใหญ่”

“ใหญ่ตรงไหนเล็กกว่าพี่อีก นั่งดูหนังไปนี่แหละครับ”

“งืออ ใจร้าย “มันคว่ำปากใส่แต่ก็ยอมนั่งดูหนังอยู่ด้านใน สิงห์นั่งเป็นเพื่อนมันสักพักก็ออกไปหากลุ่มเพื่อนของตัวเองที่กำลังคุยกันสนุก ต้าร์นั่งข้างๆ กับหมอไม้โดยที่มีมือโอบเอวอยู่

“ไงมึงกล่อมลูกนอนได้แล้วเหรอ?” พลัสแซว สิงห์ได้แต่ยกยิ้มมุมปากในความกวนตีนของเพื่อน

“ยัง แต่คงให้มาร่วมวงด้วยไม่ได้น้องยังเด็ก” สิงห์ตอบเสียงเรียบๆ

“ใช่เหรอ สิบเก้าแล้วไม่เด็กแล้วนะมึง^^” พลัสบอกแล้วทำสายตากรุ้มกริ่ม

“น้องกูยังเด็ก อย่าคิดอกุศลเด็ดขาด!!” ต้าร์ขึ้นเสียงใส่อย่างลืมตัว จนโดนไม้ส่งสายตาดุๆ ใส่

“ให้มันรู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่มั้งนะต้าร์พวกกูแก่กว่ามึงตั้งหลายปี” ไม้เมืองพูดสอน เพราะเขาก็ไม่ชอบเด็กก้าวร้าวสักเท่าไหร่ แต่ต้าร์มันไม่ได้หงอมันยังคงเชิดหน้าใส่อย่างไม่เกรงกลัวแต่ก็ไม่ได้พูดคำหยาบออกมาอีก ถือว่ามันยังฟังหมอไม้อยู่บ้าง และนั่นก็ทำให้ไม้เมืองพอใจในระดับหนึ่ง

“กูคิดว่าน้องอาการดีขึ้นเยอะเลยว่ะ ถ้าเทียบกับตอนแรกๆ ” ไม้ที่เฝ้าสังเกตมานานรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ข้อนี้ต้าร์เองก็ยอมรับในข้อนี้ด้วยเพราะตั้งแต่ไอ้เอ๋อมันมาอยู่กับสิงห์ชีวิตมันก็ดีขึ้นมาเรื่อยๆ มันได้เรียนหนังสือ มันมีงานทำ มันมีเงินเก็บ

“อืม ดีกว่าเมื่อก่อน รู้จักยอกย้อน รู้จักฟ้องด้วย กูว่า เอ้ย ไม่รู้ไปติดสันดานใครมา” ต้าร์พูดกึงประชดสิงห์ไปด้วย

“หึหึหึ ระวังปากไว้นะน้องระวังโดนของแข็งกระแทกใส่ J” สิงห์หันไปหาต้าร์ที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ คนร้ายๆ ก็ต้องเจอกับคนที่ร้ายกว่า

“เออว่าแต่พี่ไม่กลับบ้านบ้างเหรอ เห็นคนที่ไร่ลงมารับยาแล้วบ่นว่าพี่ไม่ยอมกลับบ้าน” พอไม้เมืองพูดแบบนั้นสีหน้าของสิงห์ก็เครียดลงอย่างเห็นได้ชัด

“มึงก็รู้ว่าทำไมกูถึงไม่กลับ” สิงห์พูดเสียงเหนื่อยหน่าย พอคิดถึงเรื่องพวกนี้ทีไรความรู้สึกเขามันจมดิ่งลงเหวทุกที

“เพราะแม่เลี้ยงพี่ใช่มะ”

“นี่ยังไม่คิดจะเลิกจับพี่แต่งงานกับลูกสาวเค้าอีกเหรอ”

“ยากบอกเลย ทุกวันนี้โทรตามกูวันละสามเวลา” สิงห์บ่นพร้อมกับยกแก้วขึ้นดื่ม

“แล้วไมพี่ไม่หาแฟนสักคนอะ” ไม้เมืองถาม สิงห์เลยหันหน้าไปทางที่ไอ้เอ๋อมันนั่งอยู่

“รอมันโตก่อน”

“รอโตพอดีมันมีผัวก่อน นะโมมันหัวอ่อนจะตายแถมเป็นแบบนี้อีก เอ๋อแต่สวยโคตร กูว่ามีคนเล็งมันไว้เยอะเหมือนกันนะเว้ย” พลัสเริ่มยุ เขาอยากเห็นเพื่อนตะบะแตกจากพระถัมซังจั๊มให้กลายเป็นมารโลกีย์

“แหมมึงก็ไปยุมัน น้องยังเด็กนะเว้ย” ชาตบหัวพลัสไปทีขอหายุแยงให้ไอ้เอ๋อมันเสียตัว

“นี่พี่คิดจะทำอะไรกันแน่ ที่รับเลี้ยงไอ้เอ๋อมันก็เพราะแบบนี้เหรอ!!” ต้าร์คิดไว้แล้วว่าสิงห์ไม่ได้แค่รู้สึกสงสารไอ้เอ๋อแน่ๆ ต้าร์อารมณ์พลุ่งพล่านทันที

“ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากมึงไม่ใช่เหรอ หึ “สิงห์แสยะยิ้มใส่

“เหอะ!!” ต้าร์เถียงไม่ออกเลย นั่งกอดอกอย่างไม่สบอารมณ์พาลไปหาไม้ที่นั่งดื่มอยู่เงียบๆ

“นี่ก็แดกจัง ออกเวรมาแทนที่จะนอนเสือกมาแดกเหล้า ” ต้าร์หันไปหมอไม้พร้อมกับดึงแก้วเหลืออกจากมือ

“อะไรของมึงอีกเนี้ยะ เอาแก้วกูคืนมา! ” ไม้เมืองจะดึงแก้วคืนแต่ต้าร์ไม่ให้

“พักบ้างเหอะเรื่องเหล้าอะเป็นหมอแท้ๆ ไม่รู้ไงว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ” แม้ว่าปากจะบ่นจะว่าแต่ก้เจือไปด้วยความเป็นห่วง

“รู้ กูรู้ นานๆ แดกทีนี่ไงแล้วมึงจะมางี่เง่าอะไรใส่กูห๊ะ”

“กูไม่ได้งี่เง่า - - ”

“มึงนั่นแหละงี่เง่า” ทุกคนพร้อมใจกันพูดใส่ต้าร์จนมันหน้าเจื่อน

“เอ่อออ กูมันงี่เง่า เงี่ยนแล้วไม่มาเอากูนะไอ้สัส”

“เงี่ยนคือไรหรอพี่ต้าร์ ^-^” ไม่รู้ว่ามันมานั่งข้างๆ พวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะมันเงียบไปสิงห์ก็นึกว่ามันหลับไปแล้ว แต่นี่อะไรมันนั่งมองพวกเขาตาแป๋วแถมยังถามอะไรที่มันไม่ควรจะถามด้วย

“เชี้ยะ..!! ” ทุกคนอุทานออกมาเสียงดัง

“คึคึ เงี่ยนคือไรหรอพี่จ๋า พี่ชา พี่คิท พี่พลัส พี่หมอ” มันไล่ถามที่ละคนๆแต่ไม่มีใครตอบมันสักคนแถมยังหลบตามันอีก

“เอ่อ คือออ เอ่อออ” ไอ้ต้าร์มันอ้ำๆ อึ้งๆ แล้วหันไปหาไม้เมือง

“มึงตอบสิ มึงโตกว่ากูอะ” - -มันเกี่ยวกันไหม?

“อะไรละ พี่สิงห์ตอบน้องดิ” ไม้เมืองก็ปัดไปให้พี่จ๋าของมัน ไอ้เอ๋อนั่งยิ้มสาดใส่ทุกคนเหมือนรอคำตอบ

“หึหึ เอาไว้พี่บอกทีหลังเนอะ แล้วนะโมมานั่งตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ หืม^^”

“นั่งตั้งแต่พี่ต้าร์พูดเสียงดังแล้ว หนูนะ ฟังหนังไม่รู้เรื่องเลย รู้ไหม ไม่รู้เรื่องเลย” มันพูดแล้วทำหน้ายุ่งๆ ใส่ตอนบอกว่าต้าร์เสียงดัง สิงห์ดึงมันให้ลุกมานั่งตักเขามันก็ยอมอย่างว่าง่าย

“มาแอบฟัง?” ทุกคนมองสิงห์กับไอ้เอ๋ออย่างไม่เชื่อสายตาเท่าไหร่ มุมละมุนของสิงห์ที่ใครๆ ก็ไม่เคยได้เห็น

“หึ ไม่ได้แอบฟังนะ ไม่ได้แอบฟัง หนูน่ะ” มันพูดโดยหันหน้าเข้าหาสิงห์แล้วเอานิ้มจิ้มแก้มสิงห์ไปด้วย

“อยากกิน น้ำสีเหลืองๆ นี่ นะๆ ” มันอ้อน

“หึหึไม่ได้ครับ” สิงห์หยิบแก้วตัวเองออกให้ห่างจากมือไอ้เอ๋อ

“ทำไมละ? ทำไมถึงกินไม่ได้” มันถามอย่างข้องใจ ว่าทำไมทุกคนกินได้แต่มันกินไม่ได้ ลำเอียงมันเหรอ

“ให้น้องมันลองหน่อยเป็นไรไป จะได้รู้ว่ามันไม่อร่อย” พลัสพูดยิ้มๆ สายตาเจ้าเล่ห์กำลังจับจ้องไปที่ไอ้เอ๋อ

“เออ ลองหน่อยเป็นไร น้องมันก็โตพอที่จะรู้แล้ว” คิทแคทสมทบพร้อมกับมองตาพลัสไปด้วยอย่างรู้กัน

“ไม่เมาหรอกแค่แก้วสองแก้ว” พันวา พูดพร้อมกับชงเหล้าอ่อนๆ ยื่นให้ไอ้เอ๋อมันยิ้มร่าพร้อมกับยื่นมือไปรับแก้วจากพันวา สิงห์ทำหน้าเครียดนิดๆ แต่ก็แพ้ลูกยุของเพื่อนๆ

“ไม่เป็นไรหรอกมึง กินอยู่กับบ้าน” พลัสตบบ่าสิงห์

“เออก็ได้ แต่แก้วเดียวนะครับนะโม”

“อื้อ ..อัก อัก อัก อ่าส์...อาหย่อย เอาอีก *0* ” มันเล่นดื่มทีเดียวหมดแก้วเหมือนคนอดน้ำมาสามวันแถมยังร้องจะเอาอีก

“อะ ๆ นี่ กิน” พันวาชงให้อีก

“วา! มึงจะบ้าไง พอแล้วกูบอกว่าแก้วเดียวไง” สิงห์บอกเสียงเข้ม

“กูใส่ไปนิดเดียวพอให้ออกสีไม่เมาหรอก”

“คิคิคิคิ อร่อยๆ มันซ่าเหมือนเป็บซี่เลย หนูชอบ” มันนั่งไปขย่มตัวไปแถมหันหลังเอนตัวพิงกับอกของสิงห์ไว้อีก จะสบายมากเกินไปและ

“เห้อออ แล้วแต่เลยงั้นกูไม่ห้ามละ” สิงห์พรูลมหายใจออกมาอย่างจนใจ บางทีเขาก็อยากรู้ว่านะโมเมาแล้วเป็นแบบไหน จะอาละวาดโวยวาย หรือหลับไปเลย เขาเลยปล่อยให้ไอ้เอ๋อมันกินและอีกอย่างเขาก็อยู่ตรงนี้ด้วยคงไม่ต้องห่วงอะไรหรอกมั้ง

ทุกอย่างดำเนินต่อไปเรื่อยๆ กินไปคุยไปจนเย็นแต่ไม่มีใครเมากันสักคน กับแกล้มที่เตรียมมาก็หมดแล้วด้วย สิงห์เลยจะออกไปซื้อ กับแกล้มกับเหล้าเพิ่มด้วย

“นะโมอยากกินอะไรไหม พี่จะได้ซื้อมาให้” เขาเอ่ยถามเด็กน้อยที่ตอนนี้ตาเริ่มจะเยิ้มแล้ว

“กินหมูย่าง ไข่ต้ม น้ำมะพร้าว ไอติม” มันสั่งมาเป็นชุด

“เอาอย่างเดียวครับ”

“หมูย่าง เอาเยอะๆ นะ เอาเยอะๆ *0*”

“ครับ^^”

“กูไปด้วย” คิทแคทลุกแล้วเดินลงไปพร้อมกับสิงห์

หลังจากที่สิงห์ออกไปแล้วพลัสที่รอเวลานี้มานาน สายตาวายร้ายก็เริ่มฉายชัดออกมา มุมปากหยักยกยิ้มนิดและมองไปที่พันวาอย่างรู้กัน พันวาชงเหล้าที่เข้มกว่าเดิมให้ไอ้เอ๋อ แต่พลัสบอกให้เอาเพียวๆ เลย

“มึงแน่ใจ?”

“เออ” พลัสกระซิบคร่อมคีย์ที่เห็นว่สองคนนั้นกำลังจะทำอะไรแผลงๆเลยเอ่ยปากจะห้ามแต่ก็โดนไม้เมืองห้ามเอาไว้

“อยู่เฉยๆ เลยมึง” ไม้เมือง

“พวกพี่จะมอมเหล้าไอ้เอ๋อมันทำไมวะ! บ้าไปแล้วหรอ!! ”

“มึงไม่อยากรู้เหลือว่าเอ๋อๆ แบบน้องเนี้ยะเวลาเมาจะเป็นยังไง อีกอย่างกูอยากเห็นไอ้สิงห์มันหลุดลุค อยากรู้ว่ามันจะทำยังไงกับน้องเว้ย” ความคิดชั่วร้ายของพวกหมอเถื่อนกำลังจะทดสอบไอ้เอ๋อ ต้าร์ชักสีหน้าไม่พอใจ

“พี่ไม้ ทำไมไม่ห้ามเพื่อนพี่บ้างวะ” ต้าร์เริ่มโวยวาย

“มึงไม่อยากแกล้งพี่สิงห์รึไง”

“แกล้งแบบนี้ไม่เอาดิ นั้นน้องนะ ไอ้เอ๋อมันจะไปรู้เรื่องอะไรด้วย อย่าเลยพี่พลัส”

“ไอ้ไม้เอาเมียมึงไปเก็บดิ๊”

“อาไร อ่า เถียงกันทำไม อย่าเถียงกานน จุ๊ๆ ” ไอ้เอ๋อมันทำหน้าดุใส่ทุกคนก่อนจะส่งยิ้มหวานพร้อมกับยื่นมือไปหาพลัสที่ถือแก้วของมันอยู่

“ของหนูๆ ”

“อ่าๆ ของนะโมน้า” พลัสยื่นแก้วส่งให้ ทันทีที่น้ำสีอำพันแบบไม่ผสมมิกเซอนไหลผ่านลงคอ รสขมติดปลายลิ้นทำเอามันหน้าเบ้แถมคอยังร้อนผ่าวๆ มันสบตาทุกคน

“งือ อันนี้ทำไมมันขมอ่า” มันถามตาเยิ้ม

“หื้อขมที่ไหน ลองอีกแก้วอ่ะ” พลัสเทเหล้าใส่แก้วให้อีกครั้งนี้เยอะกว่าครั้งแรก

“เห้ยเยอะไป” ชาปราม พร้อมกับมองแก้วในมือไอ้เอ๋ออย่างนึกกังวล

“เออน่าจะได้เมาเร็วๆ ไง หึหึ”

“อึก...คึคึคึ =///= ขมเหมือนเดิมเลย” มันแลบลิ้นออกนอกปาก หน้ามันเริ่มจะแดง เวนั่งก็นั่งเอนๆ อีก

“หรอๆ งั้นกินนี่ๆ ” ชาผสมโซดาให้

“อ่าส์ มันต้องแบบเน้” ไอ้เอ๋อลากเสียงยาว ตามันหรี่มองซเยมองขวา

“พี่จ๋าของหนูไปไหน” มันเริ่มร้องหาสิงห์

“ไปซื้อหมูย่างให้หนูไง”

“อ๋อออออ คิคิคิ หมูย่าง หมูย่าง อืออ ปวดฉี่” มันบอกแล้วก็ลุกขึ้นยืน คงจะไปเข้าห้องน้ำ

“งื้ออ พื้นทำไมมันไม่อยุ่นิ่งเลย นิ่ง! นิ่ง! ๆ ” มันชี้นิ้วสั่งพื้น เดินเซๆ ไปที่ห้องน้ำ

“เมาแล้วชัว หึหึหึ กุว่ามาแบบนี้เมาแล้วอาละวาดแน่ๆ ” ชาที่นั่งเงียบมานานก็พูดขึ้น

“ระวังเถอะแกล้งเด็กไอ้สิงห์ จะตายไม่ดี” ชาว่า พลัสยิ้มขำอย่างไม่กลัวไม้เมืองมองไปที่ห้องน้ำแล้วหันกลับมามองเด็กของตัวเองที่นั่งหน้าบูดอยู่ข้างๆ

“พวกพี่แมร่งโคตรเลวเลย!!” ต้าว่าเสียงขุ่นๆ ห่วงไอ้เอ๋อ

“พึ่งรู้เหรอว่าพวกกูเลว” ไม้เมืองพูดเยาะๆ พร้อมกับกระชับเอวเล็กให้ขยับเข้ามาใกล้ๆ

“สำหรับมึงกูรู้นานแล้วเหอะ ชั่วยันเส้นเลือด!! ”

“ปากดี” ไม้เมืองบีบปากต้าร์อย่างมันเขี้ยว นี่ถ้าปากดีใส่เขาตอนอยู่บ้านเขาคงสั่งสอนไปนานแล้ว

สักพักรถของสิงห์ก้ขับเข้ามา

“นะโมหายไปไหน -*- ” พอขึ้นมาบนบ้านก็ไม่เจอไอ้เอ๋อสิงห์เลยถามหา

“อ่าวเมื่อกี้บอกไปเข้าห้องน้ำ” พอได้ยินแบบนั้นก็ทำท่าจะเดินไปที่ห้องน้ำ แต่ไอ้เอ๋อมันวิ่งออกมาเสียก่อน แต่ ว่าสิ่งที่ทำเอาวงแตกคือ ไอ้เอ๋อมันแก้ผ้าวิ่งออกมา ตัวมันถูกทาด้วยแป้งเย็นจนทั่ว เหมือนหมูชุบแป้งทอด

“กรี๊ดๆ ๆ ร้อนจังร้อนจัง” มันโบกกางเกงใน ในมือแล้ววิ่งไปรอบๆ บ้าน

“ใครทำอะไรน้องวะ!!” สิงห์พยายามวิ่งไล่จับมันแต่ก็ไม่ทันมันหลบซ้ายทีขวาที มันหัวเราะอย่างสนุกสนาน โดยมีแก๊งหมอยืนขำกันท้องขดท้องแข็ง ไอ้เอ๋อมันวิ่งไปกุมไข่ไป มือหนึ่งก็แก่งกางเกงในไป มีแต่สิงห์ที่ทำหน้ายักษ์ใส่ทุกคน โมโหที่เพื่อนมอมเหล้าน้องจนไม่ได้สติแบบนี้ แต่ที่เหนือกว่านั้นคือนะโมออกมาในสภาพล่อนจ้อน จู๋อันน้อยๆ ของมันไกว่ไปมาเวลาวิ่ง เขาอายแทนมันและก็ไม่อยากให้ใครเห็นของของ มันด้วย

“กิ้วๆ กิ้วๆ คึคึคึ” มันล้อเลียนสิงห์



“นะโมหยุดวิ่งแล้วไปใส่เสื้อผ้า!!” สิงเริ่มมีน้ำโห เขาไม่อยากให้ใครมองเรือนร่างของไอ้เอ๋อ เขาหวง ใจหนึ่งก็อยากจะเข้าไปตั้นหน้าเพื่อนตัวเองที่เล่นอะไรแผลงๆ แบบนี้

“นะโม!! ”

“อารายยย หรอออ” มันเอียงคอตอบ แถมทำหน้ากวนตีนอีก

“มาใส่เสื้อผ้า เดี๊ยวนี้!” สิงห์พูดเสียงดุและดัง

“ไม่ใส่ ไม่ใส่ คิคิคิร้อน หนูร้อนหนูไม่ใส่หรอก” มันแลบลิ้นใส่สิงห์แล้ววิ่งกลับไปที่ห้องนอน โดยมีสิงห์วิ่งตามเข้าไป

“น้องแมร้ง ตลกวะ ฮ่าๆ ” ชา

“ตลกตายละ -//- “ต้าร์

“พวกมึงเล่นเหี้ยอะไรกันวะ ฮ่าๆ ๆ ” คิทแคท

“ก็ไปชากับไอ้พลัสมันมอมเหล้านะโม” ไม้เมือง

“เหี้ยจริงไรจริง” พันวา

“กูคนจริง2018” พลัสยกยิ้มอย่างผู้ชนะแค่ได้เห็นสิงห์หัวร้อนเขาก็พอใจแล้ว แถมยังได้เห็นอาหารตาอีก นับว่ากำไรสุดๆ ชากับแคทเบะปากใส่ส่วนพันวา ได้แต่ถอนหายใจ เตรียมรับมือกับหายนะที่จะเกิดดีกว่า

“กูว่าเราชิ่งเหอะ” คิทแคทพูดเสียงกระซิบ เพราะได้ยินเสียงโวยวายของไอ้เอ๋อกับเสียงหัวร้อนของสิงห์ดังออกมาจากห้องนอน

“ (ว๊ากกกกกกกกกก อย่าจับนะอย่าจับ ว๊ากกกกก) ตึง ตึง โคร้มมม!! ”

“ (อยู่นิ่งๆ สิวะ! ) ” วะก็มา

“เออกลับเหอะปะๆ ” คิแคทเห็นด้วย พวกเขาเก็บของที่กินทิ้งไว้ด้วยความไวแสงแล้วพากันออกจากบ้านโดยที่ไม่ลาเจ้าของบ้านสักคำ



ในห้องนอนของสิงห์

“งื้อออ อย่านะ อย่านะ กรี๊ดๆ ๆ ” มันคลานลงจากที่นอนได้แค่ครึ่งตัว เพราะสิงห์จับขามันไว้แล้วลากมันกลับไปเพื่อจะใส่เสื้อผ้าให้มัน

“อย่าหนีสิวะ โอ้ยย!! ถีบพี่เหรอ” สิงห์โดนเท้าของไอ้เอ๋อที่ดิ้นไปมายันหน้าอกเข้าอย่างจัง

“พูดไม่เพราะๆ คึคึคึ” มันหัวเราะขำ สิงห์ใช้แรงลากมันขึ้นมาบนที่นอนได้สำเร็จและคร่อมทับมันไว้ไม่ให้หนีอีก มันส่งสายตาเยิ้มๆ มาให้พร้อมกับหัวเราคิ๊กคักอย่างคนไม่ได้สติ

“ทดสอบความอดทนพี่อยู่หรอครับนะโม” สิงห์รวบมือมันทั้งสองข้างเอาไว้เหนือหัว ร่างกายเปลือยเปล่าของมันกำลังโดนสายตาคู่คมโรมเลีย

“ทดสอบ ทดสอบ คึคึคึ” มันยังหัวเราะไม่หยุด

“เมามากเลยนะ ทำตัวไม่ดี” สิงห์จ้องมันตาดุ

“งืออออ”

“แถมยังแก้ผ้าให้คนอื่นดูด้วย”

“งื้ออออ”

“ทำแบบนี้พี่โกรธมานะครับรู้ไหม”

“โกรธมากหรออ จุ๊บ คึคึคึ หายโกรธยัง จุ๊บ คิคิคิคิ” มันจูบย้ำๆ พร้อมกับถามสิงห์ว่าหายโกรธมันรึยัง พระเจ้าคงกำลังทดสอบสิงห์อยู่สินะ ร่างสูงขบกรามแน่น พยายามจะไม่มองคนตรงหน้า

“ถ้าไม่อยากเจ็บตัว ก็รีบๆ ใส่เสื้อผ้าซะ ก่อนที่พี่จะใส่อย่างอื่นให้แทน”

“????”

“เร็วสิ! ” สิงห์กดเสียงลงต่ำ

“คึคึคึ ไม่ใส่ ไม่ใส่” มันส่ายหน้าไปมา

“พี่ขอร้องใส่เถอะ นะ..อึก” สิงห์พยายามอดกลั้นความรู้สึกของตัวเองที่พุ่งขึ้นมาอย่างหนัก

“งือออ ง่วงแล้ว อ่า” มันอ้าปากหาวบิดตัวแล้วครางอื้ออในลำคอ ภาพตรงหน้าของสิงห์ไม่ต่างอะไรกับภาพอีโรติก ไอ้เอ๋อมันกำลังยั่ว ยั่วโดยที่มันก็ไม่รู้ว่าสิงที่มันทำคือการยั่วยวน

“ยังนอนไม่ได้ มาใส่เสื้อผ้าก่อนเดี๋ยวไม่สบาย” เส้นความอดทนของสิงห์ใกล้จะขาดเต็มทน

“นอนแบบนี้แหละ สบายดีน้า...” มันลากเสียงพร้อมกับดึงสิงห์ให้ลงมานอนข้างๆ แล้วกอดเอาไว้

“นะ..นะโม อึก พี่จะไม่ทนแล้วนะ”

“ทนไรหรอ งืมม ง่วงแล้ว พี่จ๋า นอนนอน” มันซุกหน้าลงกับอกแกร่งแล้วก็หลับตาลง

“คิดว่าพี่จะให้เรานอนหรอ มารับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำกับพี่ก่อน” ใบหน้าหล่อคมค่อยๆ ก้มลงไปหาริมฝีปากอวบอิ่ม จนแนบชิดมีมีช่องว่างให้ลมลอดผ่าน....



++++ตัดฉับ แว๊กกกกกกกกกกกกก++++



อดอยากปากแห้งต่อไปค่ะพี่สิงห์...ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคอมเมินที่มีให้กะคนเขียนคนนี้นะคะ อยู่เป็นกำลังใจให้เค้าทุกตอนนะ



นะโม: พี่จ๋า....ทำไมหนูเจ็บตูด T^T

สิงห์: เมื่อคืนหนูนอนตกเตียงไงครับ^^

นะโม:แล้วนี่รอยอะไร เต็มไปหมดเลย..

สิงห์: …..หึหึหึ J





 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.17 8/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 08-07-2018 10:16:10
ใจร้ายตัดฉับไร้เยื่อใยเลยง่า  :ling1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.17 8/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 08-07-2018 10:40:00
 :z1:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.17 8/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-07-2018 11:48:04
 :heaven
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.17 8/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-07-2018 12:06:46
 :L2: :pig4:

สงสาร ปนตลก เฮ้ออออ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.17 8/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-07-2018 13:04:25
นะโม   น่ารัก    :mew1:
เพื่อนๆสิงห์  ร้ายๆกันทุกคน  :serius2:
สงสารสิงห์   อดทน อดกลั้นแย่เลย    :z3: :z3: :z3:

แม่เลี้ยงสิงห์ร้ายนะ  จะจับสิงห์ให้แต่งงานกับลูกสาวตัวเอง
ถ้าสำเร็จ  สมบัติจะได้เป็นของตัวเองร้อยเปอร์เซนต์
คิดว่าคนอื่นโง่กว่าตัวเองละสิ  :fire:

สิงห์ นะโม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.17 8/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-07-2018 00:43:43
ไม่รอดแน่ๆงานนี้
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.17 8/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 09-07-2018 03:08:57
ไอ้เอ๋อไอ้เด็กบ้าเมาแล้วรั่วและยั่วฉิบหาย 555555555 เอาแล้วๆๆพี่สิงห์จะจัดการคนเมาละเว้ยยยย 5555 //เกลียดดดดดดแก๊งค์นี้มากกกค่ะ อยากเบิร์ดกะโหลกคนละสามสี่ที มอมเอ๋อ 5555 แต่ก็นะได้รู้ว่าเอ๋อเมาแล้วเป็นไง ไม่ควรปล่อยไปเมาที่อื่นและก็ไม่ควรปล่อยไอ้เอ๋อไว้กับแก๊งค์ผีนี้ด้วยค่ะ 55555 กวนตีนชิบหายเลยว้อยยยยไอ้พวกพี่นี่ 555555 ตลก และรู้เวลาหนีด้วยนะ ชิ่งอย่างไว เดี๋ยวๆรอสิงห์จัดการกับไอ้ตัวดีก่อน แล้วค่อยมาเตะพวกเพื่อนนี้ก็ยังทัน 5555 //อี้~~แม่เลี้ยงนังตัวดี อย่ามาเยอะนะ เมื่อไหร่พ่อของสิงห์จะเบิกเนตรว่าไม่ควรเก็บนางไว้ ฮึยยย หัวร้อน ทำไมเก็บคนแบบนี้ไว้ในบ้านคะ!!!! รอเอ๋อโต เดียะๆพาไปเปิดตัวที่บ้านเลย มีเงิบแน่มึง!!! //ว่าแต่ว่า อะๆ ได้กลิ่นตุๆอ่ะ ตัสกับปิงนี้ยังงายยยยยย ทำไมกลายมาเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดกันได้ ชอบตอนเอ๋อวิ่งแข่ง กล้ามาก เอาคืนปิง 55555 นี้รอเผือกเรื่องของตัสปิงอีกคู่นะเนี้ย คึคึ!! //แหมมมมไม้เมืองต้องมีโอบเอวตลอดเลยเนาะ เหม็นกลิ่นความรักว่ะ ต้าร์เองก็ แหมๆ หน้าแดงๆ 555555 //โอ้ยยชอบค่ะ สนุกดี เม้นสองตอนรวบเลย รอตอนหน้ามาไวๆนะ 555  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.17 8/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Kirana9165 ที่ 09-07-2018 10:32:02
ว๊ากกกกกกกกก ตัดจบได้แบบ อืมมมม น่าจริงๆ รีบเลยค่ะ รีบมาต่อไวๆ เลยค่ะ ชอบน้องนะคะ ไม่อยากเห็นน้องโดนแกล้งมากนักอยากเห็นน้องพัฒนาในทางที่ดีขึ้น และเหมือนน้องมีปมหลังอะไรหรือเปล่าค่ะ เกี่ยวกับของที่หลวงตาให้กับสิงห์มาน่ะค่ะ อยากรู้ๆ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.17 8/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 09-07-2018 14:03:50
ค้างงงง
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.17 8/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: lcortsess ที่ 12-07-2018 14:49:11
นะโม!!!!!!!!! :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.18 15/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 15-07-2018 08:19:38
18

nc+18 กินเอ๋อ



กลีบปากอวบอิ่มถูกครอบครองโดยคนที่มีสติอยู่ครบถ้วน ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงนุ่มอย่างหื่นกระหาย ร่างกายเปลือยเปล่าครางอือในลำคอเพราะเริ่มจะขาดอากาศหายใจ

“อะ อื้ออ พะ พี่จ๋า อื้ออ” สองมือหยาบค่อยๆ แหวกขาเรียวให้แยกออกจากกันพร้อมกับเค้นคลึงจุดนั้นให้แข็งสู้มือ ร่างบางเหมือนกำลังละเมอเพ้อฝัน สองมือปัดป่ายสะเปะสะปะเพราะฤทธิ์น้ำเมา กายขาวเนียนดิ้นพล่านเพราะถูกปลุกเร้า ยามมือหนานวดเค้นไปทั่วร่าง เพราะผิวขาวเนียนลื่นมือจึงลุบได้ไม่เบื่อ ฟันซี่คมขบเม้มไปตามซอกขา จนร่างบางกระตุกเสียว

“งืออ ทำอะไร อื้อออ” เปลือกตาขยับเปิดขึ้นดูมาเพียงน้อยนิดก่อนจะหลับลงอีกครั้งพร้อมกับการดิ้นหนีสัมผัสที่กระอักกระอ่วนใจ

“อย่าดิ้น! ” ร่างสูงใช้น้ำเสียงดุเข้ม ดวงตาหวานปรือมองคนที่กำลังหยอกล้อกับแอ่งสะดืออีกครั้ง ทำไมต้องดุด้วย!!

“พี่จ๋าทำอะไร?”

“ทำอะก็ได้ที่พี่อยากทำ พี่จะลงโทษเรา” ร่างสูงเอ่ยเสียงแหบพร่า ก่อนจะก้มลงไปหยอกล้อกับเม็ดทับทิมสีชมพูอ่อน

“อะ อื้ออ มัน อื้อ อย่า พี่จ๋า อย่า”

“ห้ามก็ไม่หยุดแล้ว” สองมือเล็กพยายามปัดป้องตัวเองจากการรุกรานของร่างสูง จนสิงห์นึกรำคาญรวบข้อมือเล็กเอาในอุ้งมือเดียวแล้วกดเอาไว้เหนือหัว เขาเลื่อนตัวขึ้นมาประกบจูบคนเมาอีกครั้ง และพยายามสอนให้อีกฝ่ายรู้จักตอบโต้เขา ผ่อนหนักผ่อนเบาจนอีกคนเอียงอ่อน

“อืมม ดีมาก” เขาเอ่ยชม คนตัวเล็กพอได้ยินคำชมก็ใจชื้น ยิ่งตอบสนองเขามากกว่าเดิม

“พะ พี่จ๋า...หนู รู้สึก..แปลกๆ” นะโมถอนจูบแล้วเอ่ยเสียงสั่นๆ

“รู้สึกยังไง?”

“เสียวที่ท้องน้อย อึก แล้วก็เหมือนมีอะไรไม่รู้ว่ายอยู่ในท้อง หนู อื้ออ ไม่ชอบเลย” ดวงตาหวานของมันฉ่ำไปด้วยหยดน้ำตา นะโมสบตากับสิงห์ ปากอวบอิ่มเจ่อแดง

“หึหึ โตเป็นหนุ่มแล้ว ก็ต้องรู้สึกแบบนี้บ้าง เวลาโดนปลุกเร้า” ร่างสูงคลายความตึงเครียดลงแล้วอธิบายร่างบอบบางใต้ร่างให้เข้าใจ เรื่องแบบนี้เขาไม่ควรฉวยโอกาส

“หนู อยากหาย”

“อยากหายก็ต้องให้พี่ช่วย” สิงห์ยกยิ้มนิดๆ เขาหรี่ตามมองร่างเปลือยด้วยสายตากรุ้มกริ่ม มองจนคนถูกมองหน้าร้อนฉ่าด้วยความรู้สึกประหม่า

“มองหนูทำไม? อะ..อืออ”

“พี่มองเพราะนะโมน่ารัก”

“น่ารักหรออ?”

“ครับน่ารัก”

“พี่จ๋าก็น่ารักนะ คึคึ” ร้อยวันพันปีไม่เคยมีใครชมตัวร้ายว่าน่ารัก เห็นก็มีแต่คนคนนี้ สิงห์อมยิ้ม เขาก้มลงไปจูบนะโมอีกครั้ง และสอดลิ้นหยอกล้ออย่างเอาใจ

“ทำได้ไหม” ร่างสูงถาม

“ทำอะไร?”

“ทำแบบคนที่เค้ารักกันทำ”

“รัก?”

“นะโมรักพี่สิงห์ไหมครับ?” เขาคลายมือออกให้มือเล็กเป็นอิสระ

“รักสิ นะโมรักพี่จ๋า”

“รักแบบไหน?”

“อืมม รัก รักแบบ ที่ ใจเต้นแรง ไม่อยากห่างไปไหน อยากอยู่ใกล้ๆ แบบนี้” ใบหน้าขาวผ่องเกิดริ้วแดงขึ้นที่สองข้างแก้ม คำตอบของนะโมทำสิงห์มั่นใจว่านะโมก็รู้สึกแบบเดียวกับตนคนเมาไม่โกหก ข้อนี้สิงห์รู้ดี คำตอบที่ได้ทำเอาหัวใจของเขาพองโต “รัก” รักที่เขาไม่ต้องไปเสาะหา ไม่ต้องใช้เงิน หรือรูปร่างหน้าตาซื้อมา

“พี่ก็รักนะโนแบบนั้นครับ”

“อะ อ๊ะ อื้อออ” มือหนึ่งปรนเปรอด้านล่างอีกมือหยอกล้อกับเม็ดทับทิม นะโมกำลังรับรู้ความรู้สึกที่แปลกใหม่กว่าเดิมที่ไม่ใช่แค่ช่วยตัวเอง กายบางบิดพลิ้วดิ้นพล่านอย่างทรมาน เมื่อแก่กายเล็กถูกชักนำให้พุ่งขึ้นสู่สรวงสวรรค์ นะโมปลดปล่อยออกมาเต็มฝ่ามือ สิงห์ป้ายน้ำสีขาวข้นนั่นลงกับช่องแคบที่ปิดสนิท ก่อนจะค่อยๆสอดนิ้วเรียวเข้าไปอย่างช้าๆ

“อ๊ะ เจ็บ อื้อ หนูเจ็บ” ความเจ็บแล่นปราดขึ้นมาทันทีมี่มีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย สิงห์ต้องอดทนเพื่อเตรียมตัวให้นะโม เขาหันเหความสนใจของเด็กน้อยในอ้อมกอดด้วยการก้มลงไปตรงส่วนน่าอายนั่น แล้วใช้ปากกับส่วนนั้น นะโมกรีดร้องออกมาเหมือนคนเสียสติ

“อ๊า อะ พี่จ่า อะ อื้อออ ตรงนั้นมันทำไมมัน อื้ออ ดี จัง อะ” เขาใช้จังหวะที่นะโมกำลังเขวกดนิ้วเรียวเข้าไปจนสุด

ปั๊ก....

“โอ้ยยย” สิงห์โดนฝ่าเท้าเล็กๆ ของนะโมยันเข้าที่ไหล่อย่างแรง เพราะความเจ็บที่ได้รับมันเจ็บปวดเกินไป ร่างกายเลยเป็นไปตามกลไกที่จะปกป้องตัวเอง ร่างสูงใหญ่ของสิงห์กระเด็นตกที่นอนกลิ้งไปสามตลบ ไอ้เอ๋อมันผุดลุกขึ้นนั่งหอบหายใจแรง น้ำตาคลอเบ้า ปากเบ้

“เจ็บ อะ ฮรืออออ”

“อูยย ตีนหนักชิบหาย” สิงห์พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งอารมณ์หื่นหายไปเป็นครึ่งด้วยฤทธิ์ตีนของไอ้เอ๋อ

“ฮึก ฮรือออ เอาอะไรใส่ก้นหนู” เด็กน้อยร้องไห้จ้าด้วยความเจ็บและตกใจ

“เอา เอ่ออ... เจ็บมากเหรอครับ” สิงห์ถามพร้อมกับขึ้นไปบนที่นอนแล้วกอดปลอบเล่นเอาเขาไปไม่เป็นเลยทีเดียว ร่างบางสะอื้นอยู่ในอ้อมอก สิงห์มีสีหน้าที่วิตกกังวล ทรมานทั้งตัวเองแล้วก็น้องด้วย

“อื้อ เจ็บมากๆ”

“แต่พี่จ๋าเจ็บกว่า” ใบหน้าสวยปรือตาขึ้นมอง

“เจ็บตรงไหน...ฮึก หรออ” คนตัวเล็กถามด้วยความเป็นห่วง พี่จ๋าเจ็บนะโมก็เจ็บด้วย

“ตรงนี้ครับ ตรงนี้มันเจ็บมากๆ เลย” สิงห์ชี้ไปที่แก่นกลางกายที่มันกำลังโปงนูนออกมา มันปวดหนึบ

“ตรงนั้น ฮึก...เจ็บมากๆ หรอออฮึกทำไงให้หายเจ็บ” จากใจที่ห่อเหี่ยวมันก็กลับมาพองโตอีกครั้ง สิงห์ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปนอนพิงหัวเตียงใช้หมอนรองแผ่นหลังตัวเองเอาไว้พร้อมกับปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ดอย่างใจเย็น ถ้าเป็นผู้หญิงมาเห็นภาพแบบนี้คงจะกระโจนเข้าหาเขาไปแล้ว แต่นี่เป็นนะโม นะโมที่ไม่รู้เรื่องและไร้เดียงสาได้แต่มองพี่จ๋าด้วยสีหน้าเขินอาย ปากบางเม้มแน่นและพยายามหลบตา

“มานั่งตรงนี้สิครับ” สิงห์ตบมือลงที่พื้นที่ว่าข้างๆ ตัวเอง นะโมคลานช้าๆ เข้าไปหา รู้สึกมึนหัวและโลกเอียง

“อือออ หนู มึนหัว” มันบ่นออกมาเบาๆ สิงห์ดึงมือของนะโมไปจับที่แก่นกลางกายของตัวเอง

“ตรงนี้ของพี่จ๋าเจ็บมากๆ นะโมช่วยพี่จ๋าหน่อยได้ไหม? ครับ” มันมองส่วนที่แข็งขืนในมือของตัวเอง

“ทำยังไง”

“นะโมชอบกินไอติมใช่ไหมครับ”

“อื้อ หนุชอบกินไอติม มากกกกๆ” มันพูดเสียงอ้อแอ้

“นี่ก็เหมือนไอติมที่หนูชอบไงครับ แต่แท่งใหญ่กว่า” สิงห์กดมือเล็กให้แนบชิดมากขึ้น

“...? ....”

“นะโมกินไอติมแท่งนี้ให้พี่หน่อยได้ไหมครับ?” สิงห์ขอเสียงนุ่ม

“ไอติมหรอ...อื้อได้หนูจะกินไอติมให้พี่จ๋านะ” ร่างบางตอบพร้อมกับรอยยิ้มหวาน อะไรที่พอจะช่วยพี่จ๋าของมันได้มันก็พร้อมจะทำด้วยความเต็มใจ

“หึหึหึ ขอบคุณครับคนดีของพี่” รอยยิ้มอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ของชายร่างสูงกำลังผุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่อคมของเขา

“งืออ -///- “ร่างสูงถอดกางเกงยีนสีซีดของตนเองออกอย่างใจเย็น เผยให้เห็นไอติมแท่งยักษ์สีสวย สิงห์อุ้มนะโมให้มานั่งตรงกลางระหว่างขา

“นะโม...นี่ไงไอติมของหนู” นะโมลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจ ใช้ลิ้นของตัวเองแตะเบาๆ ลงบนปลายยอดแท่งร้อน

“อะ อื้มม นะโม” ลิ้นเล็กเลียไล้วนทั่วแท่งร้อน ทำเหมือนกินไอติมจริงๆ ปากเล็กครอบลงไปอย่างเงอะงะ ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติของร่างกาย มือหนาขยุ้มหัวทุยเอาไว้ แล้วครางออกมาเสียงแหบพร่า

“มัน ร้อน..อืออ ร้อนจังเลย พี่จ๋า”

“ลองดูดดูสิครับ..อึก อืมม” ทันทีที่โพรงปากอุ่นดูดดุน เขาก็ครางออก ร่างบางกลืนกินของเขาไปเกือบทั้งแท่ง ดวงตาคมกริบมองถาพยั่วยวนตรงหน้าด้วยใจที่สั่งไหวรุนแรง นะโมมีเสน่ห์ที่เหลือร้าย ริมฝีปากอวบอิ่มกำลังดูดกลืนตรงส่วนนั้นของเขา ดวงตาหวานฉ่ำปรือมองเขาด้วย บอกอารมณ์และความรู้สึกทั้งหมดที่มี

“รัก และเทิดทูล”



“อื้มม อื้ออ..นะโม อ่าส์” สิงห์กำลังสุขสมมือหนาคอยกดหัวทุยขยับขึ้นลงตามจังหวะ

“อื้ออออ อื้ออออ” นะโมร้องประท้วงเสียงเบาอยู่ตลอด มือหนาลูบคลำไปทั้งกายขาวเขาใช้จังหวะที่นะโมเผลอค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปอย่างช้าๆ ดีที่มีน้ำหล่อลื่นหลงเหลืออยู่บ้างจึงทำให้เขาได้ง่ายกว่าเดิม

“อ๊ะ..” ร่างบางสะดุ้งเฮือกทันทีที่นิ้วเรียวสอดเข้าไปจนสุด

“ใจเย็นนะครับ” สิงห์ยังไม่ขยับนิ้วเขาช้อนคางมนขึ้นมาแล้วประกบจูบลงกับริมฝีปากอิ่มพยายามเบนความสนใจของร่างบางเอาไว้ก่อนจะค่อยๆ ขยับนิ้วเข้าออกอย่างช้าๆ เพื่อให้นะโมได้ปรับตัว

“อะ อื้ออ อ๊ะ..ทำไมมัน” นะโมผละออกแล้วซบหน้าลงกับไหลกว้างอย่างไร้เรี่ยวแรง

“หายเจ็บรึยัง?”

“อะ อื้ออ มัน พี่จ๋า หนู อ๊า” นะโมครางเสียงหลงเพราะแรงกดที่ไปโดนจุดนั้นเข้า สิงห์ไม่รอช้าสอดนิ้วที่สองเข้าไปทันที

“โอ้ยย ฮึกก ฮรืออ เจ็บ”

“เดี๋ยวก็หายเจ็บครับ” คำพูดปลอบประโลมแม้จะช่วยอะไรได้ไม่มากแต่ก็ทำให้นะโมอุ่นใจขึ้นและพยายามปรับตัว

“อืออ อ๊ะ..” ความรู้สึกแปลกประหลาดค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ

“พี่จ๋า หนูรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในท้องเลย มัน อะอื้ออ” ยิ่งสิงห์ขยับนิ้วมากเท่าไหร่ช่องทางรักสีสวยก็บีบรัดเขาแน่นมากขึ้นเท่านั้น ร่างสูงไม่อยากคิดเลยว่าถ้าสอดใส่ตัวตนเข้าไปจะรู้สึกดีมากแค่ไหน ยิ่งขยับยิ่งรัดแน่นจนต้องดึงนิ้วออกมา

“พี่ขอได้ไหมตรงนี้” นิ้วเรียวไล้วนรอบปากทางสีสวย

“อะ อื้ออ ขอ? อะไรหรอครับ” ตอนนี้มันเริ่มจะส่างเมาขึ้นมาบ้างแล้ว

“ตรงนี้ของนะโมให้พี่ได้ไหมครับ” สิงห์สอดนิ้วเข้าไปอีกครั้งและควานเป็นวงกลม

“อ๊า..อึก.พี่จ๋า หนู อะ อะ อ๊ะ”

“พี่ทรมานที่ไม่ไหวแล้ว ให้พี่นะครับ” สิงห์ไม่รอคำตอบจับนะโมพลิกตัวให้นอนคว่ำกดหัวทุนแนบกับที่นอนก่อนจะร้องเอวบางให้สูงขึ้น แก่นกายร้อนจ่ออยู่ที่ปากทาง เส้นความอดทนเขาขาดผึงเมื่อเห็นก้นงอนงามพยายามส่ายไปมาเพื่อหนีเขา สิงห์จับปลายแท่งร้อนค่อยๆ กดเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มอย่างช้าๆ

กึด...

“อื้อออ เจ็บ หนูเจ็บ ฮึก” สิงห์เอื้อมมือไปหยอกล้อกับยอดอกเพื่อให้นะโมได้ผ่อนคลาย

“อื้ออ อย่าเกร็งนะครับ อะ แน่นเป็นบ้า” ร่างสูงค่อยๆ ขยับตัวเข้าไป แต่ก็ลำบากเพราะนะโมเกร็งไม่หยุดแถมยังสะอื้นออกมาอีก เล่นเอาใจเขาแป้ว สงสารน้อง

“อึก อื้อออ” สองมือเล็กกำจิกลงบนผ้าปูเพื่อระบายความเจ็บ อดทนเพื่อพี่จ๋า...

“จะสุดแล้วครับ อึก อื้ออ เสียวสัส” สิงห์สูดปากแรงเมื่อเนื้อนุ่มด้านในบีบรัดเขารัวๆ

“อื้ออ” สิงห์ตัดสืนใจดันจนสุดโคนภายในครั้งเดียว ร่างบางสะดุ้งเอือกสั่นสะท้านไปทั้งตัว สองขาแทบหมดแรงกองกับที่นอน

“อ่าส์...”

“อึดอัด...อึดอัด อื้อออ” สิงห์รอให้นะโมได้ปรับตัวไม่นานก็เริ่มขยับ เข้าออกช้าๆ

“อ๊า อะ อื้ออ อื้ออ” เสียงหวานครางอือออกมา ตัวสั่นไปหมด

“นะโม อื้มม เป็นของพี่แล้วนะครับ”

“อะ อ๊า ของพี่จ๋า เป็นของพี่จ๋า อ๊า อ๊ะ”

ร่างกายสอดประสานกันอยู่บนเตียงกว้าง ใบหน้าสวยหวานสะบัดไปมายามที่อีกคนตอกย้ำความเป็นตัวตนเข้ามาไม่หยุดแรงรักแรงอารมณ์ขับเคลื่อนพวกเขาให้หฤหรรษ์กับบทรักอันเร่าร้อน เด็กน้อยใต้ร่างครางเสียงหวาน ยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ดิบเถื่อนของเขาราวกับเอาน้ำมันราดลงบนกองไฟ มือหนาจับอีกคนให้พลิกหงาย อยากจะเห็นใบหน้าของคนตัวเล็กว่าเป็นเช่นไร

ปากอิ่มอ้าออกเพียงนิดเพื่อระบายความร้อนภายใน จมูกแดง แก้มแดง ตัวก็แดง ดวงตากลมเหมือนลูกแมวมองเขาด้วยแววตาหลงใหล มันไม่เจ็บอีกต่อไป รับรู้ถึงความรู้สึกแปลกใหม่ รู้สึกมีความสุขทั้งร่างกายและจิตใจ

“พะ พะ พี่จ๋า..หนู อึก อื้ออ มีความสุข..อ๊ะ” เสียงสั่นๆ เอ่ยออกไปตามความรู้สึก

“พี่ก็เหมือนกัน อื้ออ แน่นจัง อะ อื้ออ พีพี่รักหนูนะ” คำรักที่ไม่ได้มีไว้สำหรับน้องชายแต่มีไว้ให้กับคนรัก

“อะ อะ อื้ออ รัก รัก รัก” นะโมเอ่ยซ้ำๆ อย่างมีความสุข

“พะ พะ พี่จ๋า..หนู อึก อื้ออ มีความสุข..อ๊ะ” เสียงสั่นๆ เอ่ยออกไปตามความรู้สึก

“อ๊า อ๊ะ อื้อ..มันจะออก ฮึกมันจะออก”

“ปล่อยออกมาครับ อย่าอั้นไว้นะ อ่าส์ อื้อ” เอวสอบขยับไม่หยุดราวกับปืนกล เร่งสปีดจนอีกคนปลดปล่อยออกมาเต็มหน้าท้องขาวเนียน

“อื้อออออออออออออออ อ๊า....อึก อื้อ” ร่างบางกระตุกเกร็งซ้ำอย่างเหนื่อยอ่อน ยิ่งกระตุกยิ่งบีบรัดจนสิงห์แทบจะทนไม่ไหว รีบเร่งจนตัวเองเสร็จตาม

“อะ อะ อื้อ อื้ออ นะโม อ๊า” ปลดปล่อยในตัวของนะโมจนครบทุกหยาดหยด มันมากจนล้นออกมา เขาต้องอดแรมเดือนกว่าจะมาถึงวันนี้ วันที่เขากับนะโมเป็นหนึ่งเดียวกัน ต่อจากนี้ไปถ้าใครคิดจะแย่งเมียไปจากเขาคงต้องข้ามศพเขาไปเสียก่อน พอหมดแรงก็เอนตัวล้มทับคนใต้ร่างอย่างเหนื่อยหอบ

“อืมม พี่จ๋า...นะ หนัก..”

“หึหึหึ น่ารัก”

“-///- “

สิงห์พลิกตัวนอนจ้องหน้าใสๆ ที่ที่กำลังขึ้นริ้วสีแดง มือหนาไล้นิ้วไปทั่วใบหน้านั้นอย่างหลงใหล และหวงแหน นะโมเองก็เช่นกันจับใบหน้าของสิงห์จับจมูก เอานิ้วแตะปากแล้วหัวเราะ

“คิกคิก”

“หัวเราะอะไรครับหืม?” สิงห์ถามพร้อมกับดึงร่างบางนั้นเข้ามาสวมกอด

“พี่จ๋าหล่อ” นะโมบอก

“หึหึ พึ่งรู้เหรอว่าพี่หล่อ พี่หล่อมากกกก”

“รู้ รู้ แต่ว่าวันนี้หล่อสุดๆ” เพราะวันนี้เขาได้มองสิงห์ใกล้ๆ ได้มองตาใกล้ๆ แบบนี้

“หึหึ อยากเจ็บตัวอีกรอบเหรอ” สิงห์ไม่พูดเปล่าเขาพลิกให้นะโมนั่งคร่อมตัวเขาไว้ แล้วกดบั้นเอวให้ขยี้ส่วนกลางกาย

“อื้ออ ไม่เอาแล้ว หนูเหนื่อย พี่จ๋า เหนื่อยนะ” มันยู่ปากแล้วยกมือปาดเหงื่อของตัวเอง

“แต่พี่ไม่เหนื่อย^^”

“อ๊า...อย่าน้า..”

คืนนี้ทั้งคืนสิงห์ไม่ปล่อยให้คนตัวเล็กหนีรอดไปไหนแน่นอนและก็เป็นดั่งใจ สิงห์กอบโกยกำไรกับนะโมทั้งคืน กว่าจะรู้ตัวนะโมก็หลับคาอกเขาไปแล้ว

“จุฟ เป็นเมียพี่แล้วนะ” เขาจูบลงบนหน้าผากมน ดวงใจดวงนี่เขาจะรักษามันให้ดีที่สุด

เช้า

แน่นอน ไอ้เอ๋อมันไข้ขึ้น ช่องทางรักบวมแดง สิงห์ได้แต่ขอโทษและโทษตัวเองในใจที่ตักตวงกับน้องมากเกินไป

“นะโมลุกขึ้นมากินข้าวก่อนนะครับ” สิงห์ช้อนร่างของมันขึ้นจากที่นอนโดยที่เขานั่งช้อนหลังเอาไว้

“อือออ เจ็บอะ T^T ทำไมหนูเจ็บก้นแบบนี้อะ” มันร้องบ่นงึมงำตาไม่ลืม

“กินข้าวต้มก่อนนะได้กินยา”

“หนูไม่สบายเหรอ? ทำไมละ หนูป่วย?”

“ครับหนูป่วย คนป่วยต้องพักผ่อนนะครับ”

“ทำไมหนูเจ็บตูด”

“เมื่อคืนหนูตกเตียงไงครับ ^^”

“แล้วทำไมตัวหนูมีแต่รอยแดงๆ?”

“หึหึหึ” อยากจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ไอ้เอ๋อมันจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ มันจำค่ำคืนอันแสนหวานของมันกับเขาไม่ได้

“ยุงกัดหนูเหรอ?”

“ครับยุงตัวเท่าคนเลย”

“*0* ตัวเท่าคนเลยหรอออออ” มันอ้าปากกว้างแล้วตะโกนออกมา มันยังหลอกง่ายเหมือนเดิม

“หึหึหึ ครับ กินข้าวกินยานอนนะ”

“-3-กินแต่ข้าวไม่กินยาได้ไหม” มันต่อรอง ไม่ชอบกินยามาตั้งแต่ไหนแต่ไร กว่าจะยอมอ้าปากกินยาได้ก็ต้องบังคับกัน

หลังจากกินข้าวกินยา สิงห์ก็หาผ้ามาชุบน้ำเช็ดตัวให้มันเพื่อลดไข้ วันนี้เขาไม่เข้าไปที่คลินิก สั่งงานเด็กไว้ว่ามีงานด่วนอะไรให้โทรมา ไอ้เอ๋อไข้ขึ้นสูงจนจมูกแดง ตาก็แดง แต่มันไม่ยอมนอนสักที มันนอนมองเขาตาแป๋ว

“นอนสิครับ หลับตา”

“ไม่อยากหลับเดี๋ยวพี่จ๋าหาย” มันพูดเสียงอ่อน



“ไม่หายไปไหนหรอกครับ หลับตาสิ” สิงห์เอานิ้วจิ้มเบาๆ ที่เปลือกตาร้อนๆ ของมัน

“งืออ มานอนข้างๆ ได้ไหม?” มันร้องอ้อน

“หืม? ได้สิ” สิงห์มุดตัวเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาแล้วกอดมันไว้จากทางด้านหลัง

“อืออ” ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีไอ้เอ๋อมันก็หลับสนิท



++++++++++++++

(นะโม พาท)

“อึก อือออ” หนูรู้สึกตัวตื่นในตอนบ่ายๆ หนูหนาวแล้วก็ปวดหัวมากๆ แต่ว่าพี่จ๋า อึก หายไป หนูพยายามลุกจากที่นอนเพราะรู้สึกปวดฉี่ แต่ว่าทำไมเวลาหนูเดินถึงได้รู้สึกเสียดที่ก้นแถมยังเจ็บมากๆ ด้วย วันก่อนหนูลองกินน้ำสีเหลืองๆ ที่พี่จ๋าชอบเรียกว่าเหล้า มันอร่อยดีซ่าๆ ขมนิดๆ รสชาติแบบผู้ใหญ่ที่หนูอยากจะสัมผัส แต่ว่าหลังจากนั้นหนูก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยหรือจะจำได้นะ หนูรู้สึกว่าที่จ๋าทำหน้ามีความสุข จำได้นิดๆ ว่าหัวสมองหนูมันโล่งๆ แล้วก็รู้สึกดีมากๆ แต่หนูไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นหนูถึงได้รู้สึกแบบนั้น แต่ว่า -///-คึคึ พี่จ๋าบอกว่ารักหนูด้วยนะ

   ไม่รู้ว่ามันเป็นความรึเปล่า แต่ถ้าฝันแบบนี้หนูมีความสุข หนูรู้จักความรักนะ หนูรู้ว่ามันคืออะไรหนูรู้สึกได้ หนูรู้สึกรักพี่จ๋า รักที่ไม่อยากจะแยกจากกัน อยากอยู่ใกล้ๆ อยากให้พี่จ๋ามีความสุข มันเป้นความรักที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคนหนูเข้าใจ แต่ตอนนี้หนูต้องคบานเข้าห้องน้ำ เพราะหนูเริ่มจะเดินไม่ไหว มึนหัว อยากอ้วกด้วย กว่าจะพาตัวเองเข้าห้องน้ำได้กางเกงก็เปียกเป็นดวงแล้วT^Tหนูฉี่รดกางเกงอะ หนูคลานกลับมาที่ห้องพี๋จ๋าแล้วเปลี่ยนกางเกงตัวใหม่

พี่จ๋าไม่อยู่ พี่จ๋าจะทิ้งหนูหรอ ทำไมไม่อยู่กับหนูละ ไหนบอกไม่ไปทำงานไง!! ถ้ากลับมานะหนูจะไม่คุยด้วยเลยคอยดู! นึกโมโหพี่จ๋าไปด้วยคลานขึ้นที่นอนไปด้วย ท้องก็หิว แต่ลุกไปกินไม่ไหว ฮึก อยากให้พี่จ๋ามาป้อนจัง งือออ หนูนอนรอพี่จ๋าจนหลับตื่นมาอีกที่ก็ตอนได้ยินเสียงเรียกที่ข้างหูตกใจตื่นก็เห็นหน้าพี่จ๋าอยู่ใกล้ๆ ใกล้จนจมูกของเราชนกัน หน้าผากเราชนกันเบาๆ

“ตัวหายร้อนแล้วแต่ยังอุ่นอยู่^^” หึ ไม่ต้องมายิ้มให้หนูนะ

“-3- “หนูหันหลังให้ไม่อยากมองหน้าหรอกนะ

“เป็นอะไรครับ เจ็บตรงไหนบอกพี่จ๋าหน่อยนะ” ไม่ต้องมาทำเสียงหวาน ชิ หนูไม่สนใจหรอก แต่ ทำไมใจหนูต้องเต้นแรงด้วย หน๊อยยคุณหัวใจ ทำไมไม่ฟังที่หนูพูดเลยบอกว่าอย่าเต้นแรงไงเล่า

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นละครับ หืมม หันมาหาพี่จ๋าหน่อยสิ” อร๊ายย พูดแบบนี้อีกแล้ว ก็รู้ว่าหนูแพ้เสียงแบบนี้ ไม่นะม้ายยย งืออ

   สุดท้ายหนูก็ต้องหันหน้าไปหาพี่จ๋า T^T แพ้ทุกทีเลย อยากจะชนะบ้าง ไม่ได้หรอ หนูหลับตาไม่อยากมองหน้า แต่ก็โดนพี่จ๋าแหกตาทั้งสองข้าง ตกใจนะแต่ตลกหน้าพี่จ่ามากกว่า หน้ามอมมาก หัวก็ยุ่ง อยากจะหัวเราะแต่โกรธอยู่เลยกลั้นไว้ จนเหงือกกระตุก

“คึคึ..คึ..”

“หึหึ จุ๊บ” จู่ๆ พี่จ๋าก็จุ๊บที่หน้าผากผมแล้วก็ลุกออกไป เห็นว่าหลังกว้างๆ ของพี่จ๋าหายเข้าไปในห้องน้ำ พอออกมาเสื้อพี่จ๋าก็หายไป >///< ไม่รู้หนูป็นอะไรเห็นพี่จ๋าแบบนี้ทีไรมันเขินทุกทีเลยใจสั่นไปหมดแล้ว ยิ่งพี่จ๋าเดินมาใกล้ๆ ใจหนูยิ่งเต้นแรง ไม่ไหวแล้ว หนูพลิกตัวเอาผ้าคลุมโปงทันที แต่ลืมไปว่าเจ็บตูดอยู่ เจ้บน้ำตาเล็ดเลย

“ทำอะไรครับ ลุกขึ้นมาคุยกับพี่จ่าหน่อย งอลอะไรหืม” หนูรู้สึกว่าพี่จ่านั่งอยู่ข้างๆ มือก็ลูบหลังหนูไปด้วย

“หึ..”

“ลุกมากินข้าวกินยานะครับเดี๋ยวพี่ไปเอามาให้” พอได้ยินว่ากินข้าว หนูก็ค่อยๆ แอบแง้มผ้าห่มดูเห็นพี่จ๋าเดินออกจากห้องไปแล้วก็กลับเข้ามาอีกครั้งในมือมีถาดอาหารกับน้ำอยู่ด้วย พี่จ๋าเห็นแล้วว่าหนูแอบมองอยู่

“ตื่นแล้วก็ขึ้นมากินข้าวครับ จะได้กินยา” พี่จ่าลากเก้ามานั่งที่ข้างๆ เตียงนี่พี่จ๋าจะป้อนข้าวหนูใช่ไหม หูยยยดีจัง หนูขยับตัวลุกขึ้นพิงหัวเตียงโดยที่มีพี่จ่าช่วยพยุงแล้วก็เอาหมอนมารองหลังให้ หนูชอบเวลาที่พี่จ๋าใจดีกับหนู

“ข้าวต้มไก่อุ่นๆ พี่ป้อนนะครับ” หนูพยักหน้าหงึกๆ แล้วอ้าปากรอ พี่จ๋าป้อนหนูช้าๆ ทีละคำๆ จนหมดแล้วก็ยื่นยาให้หนู ตอนนี้แหละที่หนูอยากจะแกล้งหลับ ไม่อยากกินยาเลยมันขม แล้วมันก็ชอบติดคอด้วย -3-

“กินเข้าไปครับ”

“งือ..” โดนจ้องตาดุ เลยต้องจำให้เอายาสองสามเม็ดเข้าปาก อี้ขมมากๆ หนูรีบรับน้ำจากพี่จ๋ามาดื่มจนหมด พี่จ๋าเอาจานไปเก็บแล้วบอกให้หนูนอน แต่หนูไม่อยากนอนแล้วหนูเบื่อ หนูอยากเล่น แต่พอจะขยับตัวมันก็เจ็บไปหมดเลย แถมยังมีรอยแดงๆ น่ากลัวๆ นี่อีก พอเห็นแล้วก็สงสัยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เลยถามพี่จ๋า แต่พี่จ๋าไม่ยอมตอบหนูเอาแต่ยิ้มหวานๆ ส่งมาให้ แล้วทำไมหนูก็ต้องส่งยิ้มๆ หวานกลับด้วย!! หนูโกรธพี่จ๋าแล้วววว -) 3 (-



++++++++++++++++++++

สวัสดีคร้าทุกคน เป็นไงกับเอ็นซีป่วงๆ ของไรท์ ไม่ได้เขียนนานมากก นานจนลืมไปแล้วว่ามันเขียนยังไง พยายามมากกวาสามวันในการเค้นอารมณ์แก18+ออกมา อาจจะไม่ถูกใจหรือไม่ชอบก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ไรท์จะพยายามพัฒนาให้มันน่านมากกว่าเดิม อยู่เป็นกำลังใจให้ไรท์คนนี้ด้วย

ปล.ไรท์อ่านทุกคนเม้นเลยนะต้องขอบคุณทุกคนมากๆ เลยคะ เป็นกำลังใจที่ให้ไรท์มีกำลังที่จะปั่นงานเขียนออกมา อ่านแล้วปลื้มอ่านซ้ำไปซ้ำมาอยู่คนเดียว หวังว่าทุกคนจะแนดูน้องต่อไปเรื่อยๆ นะคะ

ปล2. น้องต้องมีพัฒนาการมากขึ้นแน่นอนค่ะ ในความหวงพี่จ๋าของเขา แล้วเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตคู่ ควบคู่ไปด้วย น้องมีทักษะเฉพาะในเรื่องศิลปะกับกระดานหมากรุกนะคะ อ่อรวมถึงเรื่องสัมผัสที่6ด้วย ส่วนเรื่องอื่นก็เป็นไปตามธรรมชาติของน้องเอ๋อเค้า



สิงห์ :หนูจำเรื่องเมื่อไม่ได้เลยเหรอครับ?

นะโม: ม่ายยรู้ หนูรู้แค่ว่าหนูเจ็บ!!! (ทำปากยู่ใส่)

สิงห์: พยายามจำให้ได้ไวๆ นะครับT^T (เจ็บที่น้องจำไม่ได้)



หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.18 15/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 15-07-2018 08:29:28
 :L2: :pig4: :L1:

สงสารพี่จ๋านิดๆ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.18 15/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 15-07-2018 14:11:17
นี่ถ้าไม่ได้เพื่อนหมอมอมเหล้าสิงห์คงไม่ได้กินน้อง :jul1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.18 15/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 15-07-2018 18:40:31
เนื้อเด็กหวานไหมพี่จ๋า แต่น่าสงสารนิดนึง
 น้องมันจำไม่ได้
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.18 15/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-07-2018 18:55:18
แอบกินตับนะโมหรอ  :o8:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.18 15/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 15-07-2018 20:01:36
 :z1:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.18 15/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-07-2018 21:22:31
แล้วสิงห์  ก็ได้กินน้องเอ๋อแล้ว    :z1: :pighaun: :haun4:

สิงห์  นะโม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.18 15/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: M_Y MILD ที่ 16-07-2018 02:38:22
ชอบมากเลยจ้าาา ขอเยอะๆ55555555555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.18 15/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 16-07-2018 10:59:54
สุดท้ายก็ตกเป็นเมียหมอสิงห์555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.18 15/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 17-07-2018 07:26:12
หน่องนะโมโดนกินไปแล้ววววววววว
อิพี่หมอ~ ~ ~ ตบะแตกหมดแล้วจร้า 5555555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.18 15/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 18-07-2018 11:06:06
ความตามต้องมา
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.18 15/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 18-07-2018 12:54:47
เอ๋อเสร็จเรียบร้อยโรงเรียนหมอสิงห์ จนได้สินะ 555555  :jul1: เอ๋อเป็นเมียหมอรู้ตัวยัง วุ้ยๆๆๆๆ สรุปแล้วดูไปดูมาก็ดูหื่นทั้งสองคนอะนะ 55555555 อร๊ายยยยยยย  :-[ นะโมยังน่ารักเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือกลายเป็นเมียหมอเต็มตัว 55555 ตอนนี้เลือดท่วมตัวเลย สำรองแทบไม่ทัน 5555 พี่สิงห์ยิ่งได้เอ๋อยิ่งอ่อนโยน ดูแลดีขึ้นระดับ 10 บุ้ยๆๆ ก็นะ พ่อบ้านใจกล้า 555 สนุกๆ รอตอนต่อไปนะคะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.19 22/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 22-07-2018 08:49:14
19



        หลายวันผ่านพ้น ไอ้เอ๋อหายจากการเป็นไข้และร่องรอยต่างๆ ก็ลบเลือนหายไปเกือบหมดเช้านี้มันรีบตื่นเพื่อที่จะได้ไปโรงเรียนแต่เช้า เพราะสิงห์ตั้งใจจะให้มันไปดูคลินิกก่อนไปส่งที่โรงเรียนเผื่อวันไหนเขาติดงานมันจะได้มาหาเขาถูก วันนี้เลยไม่ต้องทำมื้อเช้าเพราะเขาจะพามันไปกินโจ๊กเจ้าอร่อยใกล้ๆ กับคลินิก

“100 บาท *0*” สิงห์ยื่นค่าขนมต่อวันของมัน ไอ้เอ๋อจะดีใจทุกครั้งที่ได้เงินไปโรงเรียน ทั้งๆ ที่มันใช่ไม่ถึงห้าสิบบาทด้วยซ้ำ กลับมามันก็จะเอาเงินที่เหลือไปหยอดกระปุกเอาไว้

“ใช้ไม่หมดให้หยอดกระปุกนะครับ”

“ค๊าบบ” เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็พากันออกจากบ้าน สิงห์ใช้เวลาขับรถไม่นานก็ถึงที่หมาย เขาขับรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถด้านหลัง ไอ้เอ๋อมันตื่นเต้นๆ เพราะยังไม่เคยมาที่คลินิกรักษาสัตว์ของสิงห์เลยสักครั้ง อีกอย่างมันก็ตื่นเต้นที่จะได้เจอน้องหมาน้องแมวด้วย พอลงรถได้มันก็ทำท่าจะวิ่งเข้าไปด้านในแต่โดนสิงห์เบรกไว้เสียก่อน

“กินข้าวก่อนครับ ไปเร็วครับเดี๋ยวคนเยอะไม่มีที่นั่งนะ” เพราะเป็นร้านอร่อยและตั้งอยู่ในย่านทำเลทองจุดรวมของเหล่าคนทำงานและนักเรียนที่ต้องออกบ้านตั้งแต่เช้า สิงห์จูงมือมันเดินข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม ดีที่ตอนนี้ลูกค้ายังไม่เยอะเลยได้นั่งกินที่ร้านสะดวกไม่ต้องแบ่งปันโต๊ะกับคนอื่น

“โจ๊กใส่ไข่สองครับป้า” สิงห์สั่งโจ๊กให้สำหรับเขากับไอ้เอ๋อ รอไม่นาน โจ๊กร้อนๆ ก็ถูกนำมาเสิร์ฟ

“อื้ออ หืออ อร่อยจัง” มันบอกทันทีที่กินเข้าไป

“ใช่ไหมล่ะ^^ อร่อยก็กินเยอะๆ นะ” มือหนายื่นไปลูบหัวมันอย่างเอ็นดู กินจนอิ่มก็พากันกลับไปที่คลินิก

“สวัสดีค่ะคุณสิงห์ “พนักงานที่กำลังช่วยกันจัดเอกสารและก็เตรียมห้องผ่าตัดเห็นสิงห์เดินเข้ามาก็พากันยกมือไหว้ ก่อนจะทำหน้าตาสงสัยว่าสิงห์พาใครมาด้วยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไปเพราะมันเป็นเรื่องของเจ้านาย

“อืม..มีผ่าตัดด่วนอะไรไหม?” สิงห์ถามพร้อมกับรับแฟ้มงานมาตรวจและดูตารางงานของตัวเองไปด้วยและปล่อยให้ไอ้เอ๋อมันเดินดูรอบๆ มันที่เป็นคนชอบสัตว์อยู่แล้วเลยเดินดูไม่เบื่อ จนใกล้ได้เวลาไปโรงเรียน

“มีตอนบ่ายค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นดูร้านกันไปก่อนนะ ผมจะพานะโมไปส่งที่โรงเรียนก่อน” สิงห์เดินไปกุมมือไอ้เอ๋อเอาไว้ เรียกสายตาแห่งความสงสัยให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดี เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครรู้เรื่องนะโมเลยรู้แต่เรื่องของผู้หญิงคนนั้นเท่านั้น

“น้องชายเหรอครับหมอ” รามพ์ผู้ช่วยสัตวแพทย์หนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับส่งยิ้มให้นะโมอย่างเป็นมิตร ไอ้เอ๋อมันก็ส่งยิ้มกลับเช่นกัน

“น่ารักจังเลยนะครับ” รามยื่นมือมาหมายจะจับแก้มไอ้เอ๋อมัน แต่สิงห์ก็ดึงให้ไอ้เอ๋อมาหลบด้านหลังเสียก่อนพร้อมกับจ้องเขม็ง

“ถ้าว่างพอที่จะอยากรู้เรื่องของคนอื่นมากนักละก็ ไปอาบน้ำให้บ้าบอไป (ล็อตไวเลอร์ตัวโตที่อารมณ์คุ้มดีคุ้มร้าย) ” สิงห์พูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบไร้อารมณ์

“อะ เอ่ออ ดุแท้” รามพ์หน้าจ๋อย และทุกคนก็พากันหางานให้ตัวเองทำทันทีเพราะกลัวจะโดนสายตาอาฆาตจากสิงห์ แบบนี้เค้าเรียกว่าหวงสินะ หวงมากด้วย ไอ้เอ๋อมันคงไม่รู้ว่าตัวมันเองมีอิทธิพลทางอารมณ์ต่อสิงห์มากแค่ไหน กะอีแค่ยิ้มให้คนอื่นสิงห์ยังออกอาการมากขนาดนี้

“ไปโรงเรียนได้แล้วครับ”

“อื้อ ว่าแต่ทำไมพี่จ๋าต้องทำหน้าดุใส่ทุกคนด้วยล่ะ ทำหน้าดุแล้วไม่หล่อเลย คึคึ หน้าเหมือนคนอึไม่ออก คึคึคึ” คำพูดพร้อมเสียงล้อๆ ทำเอาคนอื่นพากันแอบหัวเราะ สิงห์เลยทำหน้าดุกว่าเก่าแล้วส่งยิ้มเหี้ยมไปให้ทุกคน ยกเว้นไอ้เอ๋อที่เขาได้แต่ส่งยิ้มหวานๆ ไปให้ ไม่เรียกว่าสองมาตรฐานแล้วจะให้เรียกว่าอะไร

“ไปได้แล้วครับ^^” สิงห์จูงมือไอ้เอ๋อเดินออกไป แล้วทุกคนก็รวมกลุ่มทันทีด้วยเรื่องของสิงห์กับไอ้แอ๋อ

ตั้งแต่ขึ้นรถมา ไอ้เอ๋อมันก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศมาคุแปลกๆ เพราะสิงห์เงียบตลอดทาง พอมาถึงโรงเรียน ไอ้เอ๋อมันก็จะลงรถแต่สิงห์ห้ามไว้ พร้อมกับจ้องหน้าหวานๆ ของมัน

“คราวหน้าห้ามยิ้มให้ใครมั่วซั่วนะครับ” มันไม่ใช้ประโยคขอร้องแต่เป็นประโยคคำสั่ง

“ครับ” ไอ้เอ๋อมันรับคำเสียงอ่อยถึงจะไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ก็ไม่กล้าถามออกไปเพราะกลัวสิงห์จะโกรธ มันก้มหน้าลง แต่ก็โดนสิงห์จับให้เงยขึ้นแล้วบดริมฝีปากลงที่กลีบปากอิ่มของมัน จูบที่ดุดันและเอาแต่ใจ เพราะแรงขบเม้มที่ริมฝีปากบอกได้ถึงอารมณ์คุกรุ่น จูบจนพอใจก็ผละออก ไอ้เอ๋อมันหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก มันชอบที่สิงห์จูบมันนั่นแปลว่าสิงห์แสดงความรักกับมัน สิงห์มองตามัน

“พี่จ๋ารักหนูนะครับ” สิงห์ยิ้มอ่อน

“หนูก็รักพี่จ๋า หนู หนูไป ได้รึยัง งือออ -///- “

“หึหึหึ ไปได้แล้วครับ” พูดจบไอ้เอ๋อมันก็ลงจากรถเพื่อเข้าโรงเรียน พอดีเจอกับซีตัสเข้า ไอ้เอ๋อมันก็ร้องเรียกเสียงดังแล้ววิ่งไปหาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง สิงห์ที่นั่งมองอยู่ในรถถึงกับคิ้วกระตุก

“-*- ก็พึ่งพูดอยู่เมื่อกี้ว่าอย่ายิ้มให้ใครมั่วซั่ว” มือหนายกขึ้นลูบใบหน้าตัวเองอย่างเครียดๆ นี่เขาหวงน้องมากเกินไปรึเปล่า สิงห์สลัดความคิดแบบนั้นออกแล้วขับรถกลับไปที่คลินิก



+++++

“มาเช้าเหมือนกันนี่มึง”

“อื้อ วันนี้ไปที่ทำงานพี่จ๋ามา ได้กินโจ๊กด้วยละ”

“เออกินข้าวเช้ามาก็ดีเพราะมึงต้องใช้สมองอีกเยอะวันนี้การบ้านมึงเพียบ! ” ซีตัสพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ เพราะสีหน้าไอ้เอ๋อที่ช็อกตาตั้งไปแล้ว

“ไม่นะ ไม่นะ การบ้านเหรอ”

“เออ เยอะมาก” ซีตัสแกล้งพูดอีก ซีตัสเดินกอดคอไอ้เอ๋อเข้าไปในโรงเรียนอย่างสบายอารมณ์

“งะ งั้นหนูขอลอกตัสตัสได้ไหม? น้า...ขอลอกได้ไหมตัสตัส” T^T

“ไม่ได้เว้ย!! แหมนี่มึงเป็นออทิสติกจริงไหมเนี้ยะ เจ้าเล่ห์ฉิบหาย” ซีตัสว่าอย่างไม่จริงจังนัก

“งะ ใจร้าย-3- “

ตอนเช้ามีเรียนแค่สามวิชาที่เหลือคือกิจกรรมเข้าชุมนุมและวิชาเลือก ไอ้เอ๋อมันลงชุมนุมหมากรุกเอาไว้ ส่วนซีตัสลง ฟุตบอล ชุมนุมนี้ไอ้เอ๋อมันต้องอยู่คนเดียว ซีตัสเลยเดินมาส่งที่ห้องของชุมนุม

“หมดชั่วโมงจะมารับไปกินข้าว รอนี่ละ”

“อื้อ”

“ไอ้ยิม กูฝากมันด้วย” ยิมเป็นเพื่อนต่างห้องของซีตัสที่พอจะรู้เรื่องของไอ้เอ๋อมาบ้าง

“เออๆ ไม่ต้องห่วง น่ารักขนาดนี้ใครก็แกล้งไม่ลงหรอก” ยิมบอกยิ้มๆ

“อย่าไปยุ่งกะมันมาก เจ้าของมันดุ กูไปละ ต้องซ้อมอีก” หลังจากส่งมันเสร็จก็เดินไปที่สนามฟุตบอลต่อ

“นะโมใช่ไหม ปะ ลงชื่อเข้าชุมนุมกัน” ยิมพาไอ้เอ๋อมันไปลงชื่อแล้วก็แนะนำตัวให้กับเพื่อนๆ มันประหม่านิดหน่อยแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี วันแรกก็ไม่มีอะไรมากแค่จับคู่แข่งหมากรุกกัน ไอ้เอ๋อมันได้จับได้คู่กับยิมพอดีและยิมก็เป็นหัวหน้าชุมนุมด้วย ทั้งคู่เล่นด้วยกันอย่างสูสี ไอ้เอ๋อมันมีท่าทางที่สงบและมีสมาธิมากกว่าปรกติ มันได้หมากดำเพราะฉะนั้น ยิมจะเป็นฝ่ายเดินก่อน

“เคยเล่นมาก่อนไหม” ยิมถาม

“อื้อเคยๆ หนูชอบเล่นๆ” มันตอบด้วยรอยยิ้มสดใส จนคนอื่นๆ ต้องยิ้มตามมัน

“งั้นเรามาแข่งกันนะ”

“อื้อ แข่งๆ ถ้าหนูชนะยิมจะต้องเลี้ยงไอติมนะ” มันบอก

“หึหึหึได้สิ ถ้านะโมชนะเราอะนะ” ยิมมั่นใจว่ายังไงตนเองก็ชนะแน่ๆ เพราะนอกจากจะเป็นหัวหน้าชมรมแล้วเขายังเป็นนักกีฬาหมากรุกที่ได้แชมป์ระดับจังหวัดมาแล้วด้วย

“หนูจะชนะ คึคึคึ”



10 นาที ผ่านไป

“รุกฆาต!! ”

“เห้ย!! ”

“เย้ๆ คิคิคิคิ ไอติม ไอติม” .

“เป็นไปได้ยังไงเนี้ยะ” ยิมคิดว่าตัวเองหลอกล่อให้นะโมเสียหมากในกระดานเรื่อยๆ จนเหลือแค่เรือหนึ่งตัว เบี้ยหนึ่งตัว แล้วก็ขุนที่เป็นหมากตัวสำคัญ แต่ไม่ว่าจะไล่ต้อนไอ้เอ๋อยังไงเขาก็ไล่ต้อนมันไม่จนมุมสักที รู้ตัวอีกทีหมากในกระดานของเขาก็แทบไม่เหลือ แล้วก็โนรุกฆาต

“คึคึ หนูบอกแล้วว่าหนูจะชนะ” ยิมรู้สึกเสียหน้านิดหน่อยแต่เขาทึ่งมากกว่า ก็เข้าใจอยู่ว่าเด็กพิเศษมักจะมีอะไรที่พิเศษๆ เสมอแต่ไม่คิดว่าตัวเองจะมาเจอตอแบบนี้

“อีกรอบ!! มาแข่งอีกรอบ!! ”

“อื้อ”

“อีก รอบ!! ”

“ครับ^^”

“อีกรอบ!!! ”

“อื้ออ”

“อ๊ากกอีกรอบ”

“คร๊าบบบบบ”

จากที่เล่นกันเป็นคู่ๆ ตอนนี้เหลือแค่ไอ้เอ๋อกับยิมเท่านั้นทุกคนมายืนมุงดูคู่เดือดแห่งปีกันหมด

“นะโมเก่งมากๆ เลยอะ” เสียงชื่นชมมันดังไม่ขาด

“อีกรอบ!! ”

“โคร๊กกกก ครากกก”

“อีกรอบนะๆ”

“ไม่ไหวแล้วยิมยิม หนูหิวข้าวT^T”

“เห้ยย ไม่ได้ เล่นก่อน” ยิมยังไม่ยอมแพ้

“ฮรืออ ถ้ายิมยิมแพ้อีกละ”

“ไม่แพ้ๆ รอบบนี้ชนะชัว”

“ฮรืออก็ได้ๆ แต่ว่าต้องเพิ่มไอติมให้หนูเป็นห้าแท่งนะ”

“เออ สิบแท่งก็ก็ซื้อได้”

15 นาที ผ่านไป

“ชนะ กู ชนะแล้ว กูชนะ นะโมแล้ว” ยิมร้องออกมาอย่างดีใจที่ชนะไอ้เอ๋อได้ในที่สุด

“เห้ออ เมื่อไหร่ตัสตัสจะมารับหิวข้าว =v=”

บ่นได้ไม่ถึงห้านาทีซีตัสก็มารับมันไปกินข้าว ยิมก็ไปด้วยเพราะสัญญาไว้จะเลี้ยงไอติมมัน พอกินข้าวเสร็จก็เดินไปซื้อไอติม มันเดินไปที่ตู้ไอติมวอล แล้วกวาดเอาไอติมแม็กนั่มมาห้าแท่ง

“เชี้ยะ เล่นของแพง” ยิมร้องเสียงหลงไม่คิดว่าคนอย่างไอ้เอ๋อจะกินของแพงแบบนั้น ก่อนจะหยิบกระเป๋าตัวตัวเองแล้วหยิบแบงก์ห้าร้อยที่เหลืออยู่ใบเดียวส่งให้

“คึคึ ยิมยิมใจดี” มันยิ้มหวานแล้วแกะไอติมกินอย่างเอร็ดอร่อยแถมยังแบ่งให้ซีตัสด้วย

“ตัสตัสทำไมมารับช้าละ เนี้ยะหนูเล่นหมากรุกคนปวดสมองเลย” มันเอานิ้วจิ้มๆ ที่หัว

“อาจารย์ปล่อยช้ามีประชุมตอนท้ายด้วย แล้วผลเป็นยังไง” พอพูดถึงผลการแข่งไอ้เอ๋อมันก็ยิ้มแบบมีเลศนัยก่อนจะกวักมือให้ซีตัสก้มลงมาแล้วมันก็กระซิบ ยิมไม่เห็นว่าสองคนนั้นกระซิบอะไรกันเพราะเดินนำหน้าไป

“ (หนูแกล้งแพ้ไม่อย่างนั้นยิมยิมไม่ยอมให้หนูไปกินข้าว) ”

++++++

“ฮ่าๆ รู้จักมันน้อยไปแล้วไอ้ยิม” ซีตัสหัวเราะออกมาเมื่อยิมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ซีตัสเองก็ทึ่งเรื่องของไอ้เอ๋อเหมือนกัน พอถึงคาบบ่ายก็แยกย้ายกันไปเรียน วันนี้ปิงก็ไม่มาเรียนอีก หยุดไปเป็นอาทิตย์แล้ว นะโมจากที่เคยโดนแกล้งทุกวัน พอไม่ได้โดนแกล้งก็รุ้สึกแปลกๆ

“ตัสตัส ปิงไปไหนหรอ”

“หึหึ ไม่รู้สิ อย่าไปสนใจเรื่องของมันเลย สนใจเรื่องของตัวเองดีกว่ามั้ง การบ้านนะเสร็จรึยังวันนี้เค้าจะส่งกันแล้ว” ซีตัสเอ่ยเตือน ไอ้เอ๋อมันตาโตขึ้นมาทันที

“อ๊า แย่แน่เลย หนูลืมทำ!!! ”



+++++++++++++++++++



“พี่มึงจะมารับเมื่อไหร่วะ จะห้าโมงแล้วนะเว้ย” ซีตัสที่นั่งรอสิงห์มารับเป็นเพื่อนมันเอ่ยถามด้วยความหงุดหงิดวันนี้เขามีธุระด้วยสิ

“หนูไม่รู้ “ไอ้เอ๋อมันตอบด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล มันกลัวว่าจะถูกทิ้งอีก

“แล้วมึงมีเบอร์โทรศัพท์พี่มึงไหม?”

“ไม่มี”

“ชิบหาย เอาไงละทีนี้ แล้วที่ทำงานละรู้ไหม”

“รู้ๆ พี่จ๋าเป็นคุณหมอรักษาน้องหมา” มันรีบบอก ถ้าคลินิกรักษาสัตว์ในตัวเมืองมีไม่กี่ที่ ซีตัสพอจะเดาได้

“งั้นเอาอย่างนี้เดี๋ยวกูไปส่งมึงที่ ที่ทำงานพี่มึงละกันกูมีธุระแถวนั้นพอดี”

“ระ เหรอ ตัสตัสๆ จะไปส่งเราหรอ”

“เออ รออยู่นี่กูไปเอารถก่อน อย่าเดินไปไหนละใครชวนไปไหนก็ห้ามไปเข้าใจไหม”

“อื้อ ไม่ไป ไม่ไป” พอเห็นว่ามันเข้าใจที่พูดแล้วซีตัสก็เดินไปเอารถของตัวเองที่โรงจอดของโรงเรียน ไม่นานก็มารับมันที่หน้าโรงเรียน มอเตอร์ไซน์คันโตพามันขับเข้าไปในตัวเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไหร่ ไอ้เอ๋อมันพอจะจำทางได้บ้าง พอเห็นรถก็มั่นใจว่ามาถูกแล้วซีตัสเลยส่งมันที่หน้าคลินิกแล้วบอกให้มันเดินเข้าไป ส่วนตัวเองก็รีบกลับไป เพราะสายมากแล้ว

ด้านใน

“พี่สิงห์เมื่อไหร่จะกลับบ้านสักทีละคะ แป้ง อยากกลับแล้ว” หญิงสาวในชุดสีหวานเข้ากับใบหน้าหวานๆ ของเธอ แขนเล็กๆ คล้องเข้ากับแขนแกร่ง

“แป้งกลับไปเถอะพี่มีงานต่อ” สิงห์พยายามจะบอกปัดน้องสาวต่างสายเลือดของตัวเองอย่างประนีประนอมที่สุด

“แป้งอยากไปบ้านพี่สิงห์บ้างนี่คะ”

“พี่ไม่ชอบให้ใครไปวุ่นวายกับพื้นที่ส่วนตัวของพี่ แป้งกลับไปก่อนนะครับ”

“หึ ก็ได้ค่ะ พี่สิงห์เองก็กลับบ้านไปหาคุณพ่อบ้างนะคะ แป้งไม่อยากได้ยินคุณพ่อเค้าบ่นพี่อีกแล้วนะคะ อีกอย่าง อาทิตย์หน้าพี่สิงห์ต้องพาแป้งไปสวนคุณยายที่เชียงใหม่ตามคำสั่งของคุณแม่ด้วยอย่าลืมซะละ” แป้งพูดออกมาเป็นชุดแม้สีหน้าจะไม่แสดงท่าทีว่าไม่พอใจขนาดไหนแต่ภายในกลับเดือดพล่านไปหมด เพราะสิงห์ขัดใจเธอไปหมดซะทุกอย่าง ร่างงามระหงส์เดินออกจากคลินิก อย่างหงุดหงิดจนไม่ทันได้ดูว่ามีเด็กนักเรียนคนหนึ่งเดินสวนเข้ามา

ปึก!

“อ๊ะ/โอ้ยย อะไรเนี้ยะ” ร่างสองร่างต่างคนต่างหงายท้องเสียงดังโวยวายของแป้งทำให้สิงห์รีบเดินออกมาดูพอเห็นว่าแป้งล้มอยู่ก็พยุงเธอขึ้นมา

“เจ็บไหมแป้ง”

“เจ็บค่ะพี่สิงห์ สงสัยขาแป้งจะพลิกด้วย” สิงห์ไม่ได้มองว่าคนที่เขามานั้นคือไอ้เอ๋อ มันนั่งมองการกระทำของสิงห์อย่างอึ้งๆ มันเจ็บจี๊ดที่หัวใจหน่อยๆ ด้วย มันไม่ได้เอ่ยทักหรือเรียกให้สิงห์ช่วย

“อ่าวนะโม ทำไมมานั่งตรงนี้ละ” รามพ์ที่เดินอุ้มแมวที่พึ่งอาบน้ำเสร็จมาไว้ในตู้ทักขึ้น และเสียงเรียกชื่อของไอ้เอ๋อทำให้สิงห์หันมา ไอ้เอ๋อมันรีบดีดตัวลุกขึ้นก่อนจะส่งยิ้มให้รามพ์แล้วเดินออกจากคลินิกไปในทันที ไม่รู้ทำไมมันถึงได้ไม่อยากมองหน้าสิงห์ในตอนนี้ มันรู้สึกหน่วงๆ ที่ใจ และผู้หญิงคนนั้นที่สิงห์ช่วยพยุงนั้นเหมือนจะสนิทกับสิงห์มาก

“นะโม เดี๋ยว จะไปไหน” สิงห์จะวิ่งตามแต่ก็โดนแป้งฉุดเอาไว้ เพราะขาเธอเจ็บและเดินไม่ได้

“พี่สิงห์แป้งเดินไม่ไหว!! ”

“อะ เอ่ออ จิ๊ รามพ์ตามนะโมไปที” สิงห์ตัดสินใจหันมาหาแป้งก่อนแล้วพาเธอเข้าไปในห้องทำงาน เพื่อปฐมพยาบาลให้ รามพ์พอได้ยินก็รีบวิ่งตามไปทันที

“พี่สิงห์เด็กคนนั้นใครกันน่ะคะ ทำไมพี่ต้องเป็นห่วงด้วย” แป้งถามขณะที่สิงห์ทายาให้ ร่างสูงนิ่งเงียบไม่ตอบ เขานวดข้อเท้าให้แป้งเบาๆ แล้วใช้ผ้ายืดรัดข้อเท้าไว้ให้

“เด็กที่พี่จ้างไว้ทำความสะอาดบ้าน” สิงห์ตอบคำถามด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

“อย่างนั้นหรอกเหรอคะ นึกว่าเด็กที่ไหนมาติดพี่สิงห์ของแป้งซะอีก” เธอยิ้มหวานๆ ให้

“หึ กลับเองได้ใช่ไหม?”

“กลับได้ที่ไหนกันละคะ พี่สิงห์ไปส่งแป้งนะ นะค้า” เธอพูดเสียงอ้อน พร้อมกับกอดแขนสิงห์ไว้แน่น ร่างสูงสูดลมหายใจลึกก่อนจะพ่นมันออกมา อย่างหงุดหงิดใจ

“อืมก็ได้” จำใจต้องตอบรับคำขอทั้งๆ ที่หัวใจกำลังร้อนรุ่มเป็นห่วงคนที่พึ่งวิ่งหนีออกไป

“ดีจัง ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลยก็ได้ค่ะ ป่านี้แม่รอแย่แล้ว” สิงห์พยุงเธอไปที่รถและขับพาออกไประหว่างทาง สิงห์เห็นไอ้เอ๋อมันนั่งอยู่ที่ริมทางโดยมีรามพ์นั่งอยู่ข้างๆ พอมันเห็นรถของสิงห์ขับเข้ามาใกล้ก็รีบลุกขึ้น มันทำหน้าดีใจก่อนที่มันจะหุบยิ้มลงอย่างช้าๆ เมื่อรถของสิงห์ขับเลยผ่านมันไป

“ฮึก...ไหนว่าจะมารับ.ฮึก”

“อะ เอ่อ สงสัยไปส่งคุณแป้ง น้องสาวพี่หมอเค้านะ” คำว่าน้องสาวทำให้มันไม่คิดมาก ถึงยังไงมันก็คนนอก แค่คนใช้จะไปเทียบอะไรกับคนในครอบครัว พอคิดได้แบบนั้นมันก็ยกแขนขึ้นเช็ดน้ำตาจนแห้ง

“พี่รามพ์จ๋าไปส่งหนูที่วัดได้ไหมจ้ะ” มันเงยหน้าขึ้นแล้วมองรามพ์อย่างขอร้อง

“อะ เอ่ออ ได้สิ ถ้าอย่างนั้นเรานั่งสองแถวไปเนอะ คือพี่ไม่มีรถนะ”

“จ้ะ ฮึก” รามพ์พามันไปขึ้นรถสองแถวเพื่อกลับไปที่วัด ตลอดทางมันนั่งเงียบไม่พูดไม่จา ตาก็เหม่อลอย พอรถมาถึงหน้าวัดมันก็ลง แล้วหันไปขอบคุณรามพ์ก่อนจะเดินหายเข้าไปในวัด แต่มันไม่ได้ไปหาหลวงตา มันเดินไปทางที่ฝังร่างของอีเปรี้ยว มันหยิบดอกไม้ติดมือไปด้วย

“ฮึก..พี่เปรี้ยว” มันนั่งข้างๆ กองดินและร้องไห้ออกมา มันไม่รู้ว่าทำไมมันถึงได้เสียใจขนาดนี้ ทำไมมันถึงไปปวดใจมากมายขนาดนี้ มันนั่งโดยที่ไม่สนว่าเสื้อผ้ามันจะเลอะดินมันกอดเข่าตัวเองแล้วสะอื้นออกมา

+++++++++++++++++++

“เออ พี่ ผมพานะโมไปส่งที่วัดแล้วนะ...ก็น้องบอกให้ไปส่งที่นั่น ครับๆ” รามพ์โทรบอกสิงห์ขณะที่นั่งรถกลับเข้าไปในตัวเมือง



        สิงห์พอส่งแป้งเสร็จก็รีบตีรถกลับมา พอได้รับโทรศัพท์จากรุ่นน้อง ก็หัวเสียอีกรอบ เพราะนะโมไม่ได้รอเขาอยู่ที่คลินิกแถมยังไม่กลับบ้านอีก สิงห์ใจร้อนกลัวน้องเตลิดไปไกลและกลัวมันคิดมาก แต่ที่ทำเป็นไม่สนใจเพราะห่วงมันต่างหาก คนอย่างแป้งถ้ารู้ว่าเขายุ่งเกี่ยวกับใครก็จะตามราวีคนคนนั้น อีกเขาไม่อยากให้แป้งมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขา แค่ให้มาเจอที่คลินิกก็มากเกินพอแล้ว ความจริงเขาอยากจะตัดขากับครอบครัวด้วยซ้ำ เขาเกลียดการเสแสร้ง ความร้ายกาจของสองแม่ลูกนั่น แต่พ่อทำให้เขาจำต้องทน เพราะอย่างน้อยๆ เขาก็ขึ้นชื่อว่าลูก

      เพราะไม่ได้ผูกพันทางสายเลือดแป้งถึงได้เข้าหาเขาแบบชนิดที่ว่าพลาดมาคือหายนะถึงขั้นทำลายอนาคตเขาได้เลย แป้งชอบแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขา ชอบกีดกันและกำจัดคู่นอนของเขาหรือใครก็ตามที่เขากำลังจะคบด้วยอย่างเนียนๆ เธอใช้ใบหน้าหวานๆ ไร้เดียงสานั่นหลอกล่อให้ตายใจก่อนจะเชือดทิ้งอย่างเลือดเย็น เขาเคยทะเลาะกับพ่อเพราะสองแม่ลูกนี้มาหลายครั้งหลายหน พ่อไม่เคยเชื่อในสิ่งที่เขาพูด เอาแต่โทษเขาที่อคติกับริสาแม่เลี้ยงของเขาที่ต้องอดทนเพราะเขากลัว กลัวว่าสักวันหนึ่งผู้หญิงคนนี้จะทำอะไรที่มันมากกว่านี้ และผลร้ายจะส่งตรงไปที่พ่อของเขาที่ซึ่งสุขภาพร่างกายไม่ดี จะทรุดลง เขาจะต้องอดทนเมื่อเวลานั้นมาถึง เวลาที่จะกระชากหน้ากากงูพิษออกมา

      พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว รอบๆ ตัวของไอ้เอ๋อมีแต่ความมืดมิด มันร้องไห้จนหลับไปโดยที่ไม่รู้ว่ามีใครอีกคนที่ห่วงมันจนใจแทบขาด ออกเดินตามหาทั่ววัดแล้วก็ยังไม่เจอ ร่างสูงใหญ่เหงื่อเต็มตัว เดินตามหาไอ้เอ๋อจนเหนื่อยแต่ก็ยังไม่เจอ จนตัดสินใจว่าจะเดินไปดูทางหลังวัด



“นะโม..” เขาครางเรียกชื่อร่างบางออกมาอย่างแผ่วเบา รู้สึกสะเทือนใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า ร่างสูงเดินตรงยังร่างบอบบางที่นอนหลับสนิทอยู่ตรงนั้น เขาค่อยๆ ช้อนร่างของนะโมขึ้นมาไว้แนบอก เขาได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอดังมาจากตัวของนะโม

“พี่ขอโทษนะครับ”

“ฮึก”

พอถึงบ้านเขาก็อุ้มนะโมขึ้นบ้าน ก่อนจะค่อยๆ วางบนที่นอนนุ่มอย่างอ่อนโยน และเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แต่นะโมก็ตื่นมาขณะที่เขากำลังใส่เสื้อให้

“ฮึก..พี่จ๋า..ทิ้ง..ฮึก” เมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นใบหน้าของร่างสูงนะโมก็เริ่มที่จะร้องไห้อีกครั้ง

“ขอโทษนะครับ ที่พี่ไม่ได้ช่วยนะโมตอนนั้น”

“ทำไม? ถึงไม่ไปรับหนู” นะโมถามด้วยความน้อยใจ

“พี่ทำงานครับ” ความจริงเขาวานให้ไม้เมืองไปรับแล้ว แต่ดุท่าจะมีอะไรที่ผิดพลาดไป

“ฮึก ..หนูเสียใจ”

“พี่ก็เสียใจครับ”

“หนูเจ็บตรงนี้” มันชี้ไปที่หัวใจ

“พี่ก็เจ็บครับ” เจ็บที่ตอนนั้นปกป้องน้องไม่ได้ ต้องปล่อยให้น้องเข้าใจผิดไปแบบนั้น

“เขาเป็นใครหรอครับ ฮึก พี่จ๋า ห่วงเขามากหรอครับ”

“น้องสาว เป็นน้องสาว”

“ไม่จริง?” นะโมเอ่ยออกไปตามความรู้สึกของตัวเอง

“น้องสาวจริงๆ”

“แล้วหนูละ หนูเป็นน้องของพี่จ๋าใช่ไหม?”

“ไม่ใช่! ” คำว่าไม่ใช่ของร่างสูงเหมือนค้อนที่ทำลายกำแพงใจของตนเองจนแหลกสลาย

“ไม่ใช่หรอ ฮึก หนูเข้าใจแล้ว” เข้าใจแล้วว่าเป็นแค่คนรับใช้ ร่างบางเบือนหน้าไปอีกทางเพื่อเก็บซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้

“ไม่ใช่น้อง แต่เป็นเมีย นะโมเป็นเมียพี่” สิงห์จับใบหน้าหวานๆ ของนะโมให้หันมาหาพร้อมกับยืนยันสถานะของร่างบาง

“เมีย? ฮึกหนูเป็นเมียพี่จ๋าไม่ได้หรอกหนูเป็นผู้ชายนะ ฮึก อีก อย่างหนูไม่ได้สำคัญกับพี่จ๋า”

“เป็นได้สิ และเป็นแล้วด้วย อย่าคิดว่าตัวเองไม่สำคัญ หนูสำคัญกับพี่มากที่สุดนะจำไว้” ร่างสูงบรรจงจูบลงบนริมฝีปากนุ่มอย่างอ่อนโยน และถ่ายทอดความรู้สึกที่มีไปให้

“อึก อืมม -///- “

“หายโกรธนะครับ คนดีของพี่"

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     หวัดดีจ้าทุกคน ตอนนี้เรารีบมากเลยกลัวมาส่งไม่ทัน อาจจะขาดๆเกินๆไปบ้างก็ขออภัยนะคะ จะโกรธพี่สิงห์กันไหม อย่าพึ่งตื๊บพี่สิงห์นะ พี่สิงห์มีเหตผลนะ 

     nc ตอนที่แล้วต้องกราบขออภัยที่มันดุอนุบาลมากๆ ฮ่าๆ ครั้งหน้าจะเขียนให้ดีกว่านี้นะคะ จะไปศึกษาเยอะๆ เพราะห่างจากการเขียนncมานานพอสมควร กร๊ากกกกกกกกกกกก ต้องขอขอบคุณทุกคอมเม้นท์ทุกคนที่เข้ามาอ่านกันมากๆนะคะ คือมีกำลังใจเขียนมากๆ เลยค่ะ



หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.19 22/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 22-07-2018 10:27:11
อย่าดราม่า ... หนักนะคะ
โดยเฉพาะอย่าให้แป้งกับแม่เลี้ยงทำร้ายน้อง ไม่ว่าจะทางกายหรือใจ
เราไม่นิยมดราม่ารุนแรงอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับเด็กพิเศษแบบน้อง
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.19 22/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-07-2018 12:06:44
จัดการแม่เลี้ยงสักที หมั่นไส้ :beat:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.19 22/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 22-07-2018 12:40:03
อยากจิกหัวนังแป้งมาตบชิ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.19 22/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-07-2018 15:13:57
ไม่เห็นต้องตามใจแป้ง เด็กสาวที่คิดไม่ดีกับสิงห์
ลูกแม่เลี้ยง ก็ช่างลูกแม่เลี้ยงสิ ไม่ใช่ลูกพ่อแม่ตัวเอง  :m16:
น่ารำคาญ มาแสดงความเป็นเจ้าของ
มาตามวอแวเพื่อจับผู้ชาย :fire:
หวังจะได้ผู้ชายที่หน้าตาหล่อ อาชัพหมอ ฐานะดี  :angry2: :angry2: :angry2:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.19 22/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 22-07-2018 16:05:00
น้องนะโมร้องไห้เลย พี่สิงห์เนี่ยน่ะ ต้องให้นะโมลงโทษบ้างแล้ว
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.19 22/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 22-07-2018 16:51:37
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.19 22/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Kirana9165 ที่ 22-07-2018 17:14:57
คิดถึงน้องมากกกก แต่ก้อต้องร้องไปกับน้องด้วยนะ เราไม่อยากให้น้องโดนทำร้ายจิตใจอ่ะ รู้ว่านิยายนะ แต่แบบสงสารเด็กพิเศษทุกๆ คน ขอแค่อย่าให้น้องโดนทำร้ายเยอะนะ แล้วก้อให้หาทางกำจัดแม่เลี้ยงลูกเลี้ยง ทำให้พ่อหูตาสว่าง และรักน้องด้วยนะคะ เป็นกำลังใจนะคะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.19 22/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-07-2018 18:57:48
น้องต้องเจออะไรที่มันโหดและทำร้ายจิตใจมากกว่านี้ใช่ไหม  :katai1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.19 22/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: M_Y MILD ที่ 22-07-2018 23:32:38
ncอีกสักตอนไหมจ๊ะ ไหนๆก็คืนดีกันแล้ว ฮิ้วววววว
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.20 29/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 29-07-2018 04:52:32
20 (ตอนนี้จะเป็นบทบรรยายนะคะ)



เมื่อได้สัมผัสกับคำว่าเสียใจ ครั้งนี้นะโมไม่อาจจะทำใจได้เร็วจากปรกติที่เคยเป็น ภาพจำมันยังฝังแน่นในหัวสมอง ไม่ว่าจะอยากลืมเท่าไหร่ก็ไม่อาจจะลืมความรู้สึกนั้นได้ ภาพที่สิงห์ประคองหญิงสาวหน้าตาสะสวยแสดงถึงความห่วงใย จนมองไม่เห็นเขาที่ล้มอยู่ที่พื้นเช่นกัน

แต่ทว่าสัมผัสที่อ่อนโยนกับคำพูดของสิงห์ทำให้นะโมรู้สึกอบอุ่นหัวใจและลืมความเจ็บปวดเมื่อตอนเย็นไปจนหมดสิ้น ตอนนี้ในหัวของเด็กชายวัยสิบเก้ามีเพียงเรื่องของชายร่างสูงที่จ้องมองมาที่ตัวเอง ใบหน้าหล่อคมกำลังยิ้มและดวงตาเรียวทรงเสน่ห์นั่นก็จ้องเขาตาไม่กะพริบ ก่อนจะประทับจูบลงที่ริมฝีปากอวบอิ่มนั่นด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี มันเป็นจูบที่บอกว่าเขากำลังขอโทษกับเจ้าตัว เขาสำนึกผิด และ ร้องขอการให้อภัย

แรงบดเบียดของกลีบปากบางที่ไม่ประสีประสา กัดเขาจนได้เลือด มันเป็นการเอาคืนเล็กๆ ของคนตัวเล็กที่กล้าทำให้เสียใจ สิงห์หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะสอดแทรกลิ้นของตัวเองเข้าไปกวาดเอารสหวาน แต่ดูเหมือนอีกคนจะเรียนรู้เรื่องนี้ได้เร็วพอๆ กับการโขกหมากรุก ลิ้นเล็กตอบสนองเขาในท่าทีเงอะงะแต่ก็สร้างความปั่นป่วนให้กับคนช่ำชองได้ไม่น้อย เสียงจูบหนักๆ ดังออกมาเป็นระยะๆ ดังประสานกับเสียงหายใจหอบถี่ของนะโม ร่างสูงจูบจนอีกคนหมดแรงก่อนจะผละออก ร่างบางมองเขาตาเชื่อมก่อนจะค่อยๆ หลับลงไปอีกครั้ง



++++++++++++++++++



สองวันผ่านพ้น

วันนี้เป็นวันเสาร์ วันหยุดของนะโม วันนี้ไม่ต้องไปเรียนสิงห์เลยอยากให้นอนพักผ่อนเยอะๆ ไม่ต้องตื่นเช้ามาทำงานบ้านแบบทุกๆ วัน

“กินข้าวครับนะโม” วันนี้ร่างสูงตื่นก่อนอีกคนเพื่อทำอาหารเช้าเอาใจ ถึงมันจะเป็นเมนูง่ายๆ อย่างโจ๊กซองที่ฉีกซองใส่น้ำร้อนก็กินได้ แต่อย่างน้อยๆ เขาก็ทำไข่ลวกใส่ลงไปด้วยเพื่อให้มันดูมีอะไรมากขึ้นมากกว่าข้าวโง่ๆ กับผงชูรส แต่ทว่าเขาเรียกนะโมเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ กลับมา เขาจึงละจากโต๊ะอาหารแล้วเดินไปที่ห้องนอนของตัวเอง ที่ตอนนี้กลายเป็นห้องของเขาสองคนไปเรียบร้อย

“มานั่งเหม่ออะไรตรงนี้ครับ” ร่างบางนั่งอยู่ที่ปลายเตียงและกำลังมองออกนอกหน้าต่างใบหน้าหวานดูเศร้าหมอง และกำลังเหม่อ ไม่รู้ด้วยซ้ำเขาเดินมาที่หลัง

“นะโม นะโมครับ”

“เฮือกก!! ” ร่างบางสะดุ้งเฮือกเพราะกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ อะไรบางอย่างที่มันค้างคาอยู่ในใจ

“พี่จ๋า”

“หนูเหม่ออะไรครับ บอกพี่หน่อยได้ไหม” แม้จะไม่ได้ใช้โทนเสียงที่บังคับ แต่กลับใช้สายตากดดัน

“ไม่มีอะไรครับ ไม่มีอะไร หนูแค่ยังง่วงอยู่” ดูก็รู้ว่ากำลังโกหก แต่เขาไม่อยากจะเซ้าซี้อะไรมากนัก นะโมมีอาการแบบนี้ตั้งแต่สองวันที่แล้ว ทั้งเหม่อ ทั้งซึม และดูจะหงุดหงิดใส่เขาเป็นพิเศษ

“ถ้าอย่างนั้น ไปล้างหน้าแปรงฟันนะคะรับ วันนี้เรามีนัดกับพี่หมอกาแฟจำได้ไหม”

“ครับ” พูดจบก็เดินเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการตามที่สิงห์สั่ง ใช้เวลาไม่นานร่างบางก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้าที่สดชื่นกว่าเดิม สิงห์เตรียมเสื้อผ้าไว้ให้ วันนี้เป็นชุดเอี้ยมยีนกับเสื้อยืดสีแดงลายมิกกี้เมาส์

จบมื้อเช้าก็พากันออกไป หาหมอกาแฟตามนัด คุยกันไม่นานก็กลับพร้อมกับรับยา นะโมสามารถปรับตัวได้ดีและมีปัญหาใดๆ นอกจากแววตาเศร้าๆ ที่ปรากฏให้เห็น

“น้องเป็นอะไร ทำไมวันนี้ดูไม่ร่าเริงเลยวะ” กาแฟเอ่ยถามรุ่นน้องคนสนิทด้วยความสงสัยขณะเดินระหว่างไปรับยา

“มีเรื่องนิดหน่อยพี่ แต่ไม่เป็นไรผมแก้ปัญหาได้”

“ระวังเรื่องกระทบจิตใจน้องนะ เพราะมันอาจจะส่งผลถึงการรักษา” หมอกาแฟเอ่ยเตือน

“ครับ ผมจะระวัง”

“อืม ที่เหลือก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วละ อ่อถ้าจะมีก็คงจะมีแต่มึงนั่นแหละ รอยที่คอนั่นอย่าคิดว่ากูไม่รู้ ตัวร้ายอย่างมึงกูไม่ค่อยไวใจ” กาแฟพูดออกมาตรงๆ เขาลอบสังเกตนะโมมาได้สักพักแล้ว

“เหม่ออีกแล้ว?” กาแฟพยักหน้าไปทางนะโมที่เอาแต่เหม่อ

“นะโมครับ นะโม” สิงห์เรียกอยู่หลายครั้งว่าจะหันมา

“ครับ?”

“คิดอะไรอยู่เอ่ยคนเก่ง^^” กาแฟเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม นะโมเหลือบมองคนข้างกายก่อนจะหันไปตอบพี่หมอ

“หนู หนู เห้ออ ไม่มีอะไรครับ” นะโมไม่ยอมตอบสิ่งมันค้างคาในใจ

“มีอะไรบอกพี่หมอได้นะ ถ้าไม่อยากให้ใครแถวนี้รู้” กาแฟพูดบอกพร้อมกับขยิบตาให้

“ได้หรอครับ” ร่างบางที่มีสีหน้ากลัดกลุ้มทำตาลุกวาวนิดๆ บอกแล้วนะโมเป็นเด็กที่ดูง่ายมากๆ กาแฟส่งยิ้มให้กับคนไข้คนโปรด

“ได้สิ” เขากระซิบเหมือนไม่ไห้สิงห์รู้ว่าคุยอะไรกัน

“คึคึ” นะโมหัวเราะออกมาเบาๆ นั่นทำให้คนที่แอบฟังเบาใจขึ้นมาได้บ้างเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของอีกคนแม้ว่าจะเบาบางก็ตาม

“นี่รางวัลสำหรับคนเก่งนะครับ” ครั้งนี้กาแฟเตรียมอมยิ้มอันโตให้กับนะโมตามสัญญา

“*0* อมยิ้มมมมมม” มือบางยื่นไปรับเอาไว้พร้อมกับไหว้ขอบคุณ

“ถ้าอย่างนั้นผมกลับก่อนนะพี่ จะพาน้องไปที่คลินิกด้วย” สิงห์ยกมือไหว้ลา

“อืม ไว้จะแวะไปหาที่บ้าน”

“ครับ”



พอออกจากโรงพยาบาลเขาก็ตรงดิ่งไปที่คลินิก เดินจูงร่างบางเข้าไปด้านใน ก็เจอกับราม กับส้มนั่งเช็ดอุปกรณ์อยู่

“พี่ราม ^^ “พอเห็นรามรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง นะโมยกมือไหว้ทุกคนในคลินิก แต่ยิ้มกว้างให้กับรามคนเดียว

“นะโม ว่าไงครับ” รามยิ้มรับพร้อมกับทักทายโดยการยีหัวทุยเบาๆ โดยลืมสนใจคนที่ยืนตีหน้านิ่งอยู่ข้างๆ

“อยากกินขนมแบบเมื่อวาน”

“ได้ครับเดี๋ยวบ่ายๆ พี่พาไปซื้อนะ”

“อื้อ” นะโมพยักหน้ารัวๆ

“เข้าไปข้างในกับพี่” จู่ๆ สิงห์ก็พูดเสียงแข็งใส่นะโม

“อะ อย่าดึง หนูเจ็บ” เพราะตกใจก็เลยขืนตัวไว้ มันเลยกลายเป็นว่า สิงห์ฉุดน้องจนข้อมือแดง

“พี่สิงห์ เบาสิพี่น้องเจ็บ” รามรีบดึงมือนะโมไว้อีกข้างอย่างลืมตัว

“อย่ายุ่ง! ” แม้จะไม่ได้ตวาดแต่ฟังดูก็รู้ว่าไม่พอใจ ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้เจ้าของคลินิกไม่พอใจเขาแบบนี้ ทุกอย่างถูกจับจ้องจากคนในคลินิก โดยเฉพาะสาที่จ้องมองพวกเขาอย่างเงียบๆ

“พี่สิงห์” เสียงเรียกแผ่วๆ จากคนข้างตัว น้อยครั้งจะได้ยินนะโมเรียกเขาด้วยชื่อแบบนี้ และทุกครั้งที่เรียกนั่นหมายถึงเจ้าตัวอยู่ในอารมณ์ที่ไม่คงที่

“หืม? ว่า” สิงห์พยายามจะไม่แสดงความไม่พอใจออกมาในน้ำเสียง

“จะไปดูน้องหมา ปล่อย” นะโมใช้น้ำเสียงที่นิ่งๆ พร้อมกับบิดข้อมือตัวเองออกจากมือของสิงห์ เขาหน้าเสียไปนิดเพราะไม่คิดว่านะโมจะต่อต้านเขาแบบนี้

“อืม” สิงห์รู้ว่านะโมกำลังอารมณ์เสียเพราะเขา และกำลังแสดงท่าทีมึนตึงใส่ นะโมจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาโกรธเขา

“พี่ราม พาหนูไปหาบ้าบอหน่อยนะ” นะโมหันมาหารามพร้อมกับร้องขอ

“เดี๋ยวพี่พาไปดูเอง” สิงห์

“ไม่ต้อง หนูจะไปกับพี่ราม” นะโมขัดจนร่างสูงเสียหลัก ชะงัก พร้อมกับมองร่างเล็กด้วยสายตาขุ่นๆ

“งะ บ้าบอมันดุนะครับ พี่ว่าเราอย่าเข้าใกล้มันเลยเนอะ” รามเองก็ยังไม่ไว้ใจเจ้าบ้าบอ กลัวมันจะกัดนะโมเอา

“บ้าบอ” เสียงหวานเรียกมัน หมาสีดำตัวโตยืนขึ้นพร้อมกับหางกุดๆ นั่นส่ายไปมาอย่างกระตือรือร้น เพียงแค่มองแววตาของมันก็บอกได้เลยว่ามันใจดีกับนะโมแน่นอน ร่างบางเดินไปหามันแล้วเกาะกรงเอาไว้ พร้อมกับบ่นอะไรบอกเบาๆ เหมือนจะปรับทุกข์ซะมากกว่า มีแอบใช้หางตาชำเลืองมองมาที่สิงห์ด้วย เหมือนจะเคืองอะไรสักอย่าง ทุกคนต่างมองไปที่นะโมเป็นจุดเดียวแล้วก็ขำออกมา ไม่เว้นแม้แต่สิงห์

เมื่อนะโมไม่ยอมเข้าไปที่ห้องทำงานด้วย เขาเลยเข้าไปคนเดียว และทำงานของตัวเอง โดยที่ไม่ปิดประตูห้อง เพราะจะได้ดูนะโมไปด้วย รามที่ทำงานในส่วนของตัวเองเรียบร้อยก็มานั่งเล่นเป็นเพื่อนกับนะโมในโซนของลูกค้า ที่ตอนนี้มีเอาน้องหมามาอาบน้ำตัดขน ทุกอย่างอยู่ในสายตาอันคมกริบของสิงห์ คิ้วหนาเริ่มจะกระตุกนิดๆ เพราะเห็นว่ารามเริ่มจะแตะเนื้อต้องตัวคนของตัวเองมากเกินไป ทั้งจับมือ จับไหล่ หนักสุดคือจับแก้มและนั่นทำให้เส้นความอดทนของเขาขาดกระเด็น

“นะโม!! ” สิงห์เรียกคนของตัวเองเสียงดังจนร่างบางที่กำลังเล่นเพลินๆ สะดุ้งเฮือก นะโมมองตาค้อนใส่ทันที

“มาหาพี่ เดี๋ยวนี้! ” เขาเน้นเสียงทุกคำ นะโมถอนหายใจออกมานิดๆ

“บังคับ บังคับ ไม่ชอบ ไม่ชอบ” ร่างบางบ่นออกมา แต่ก็ยอมลุกและเดินไปหา ด้วยใบหน้าง้ำงอนิดๆ

“มานั่งนี่” เขาตบลงบนตักของตัวเอง นะโมชะงัก ไม่ยอมนั่ง พร้อมกับมองออกไปตรงประตู นะโมรู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องมาที่ตัวเอง

“เร็ว มานั่งนี่” สิงห์บังคับเสียงเข้มแต่นะโมยังไม่ขยับ เพราะไม่อยากให้ใครมองว่าตัวเองเป็นเด็กแก่แดด

“ยังอีก พี่บอกว่าให้มานั่งตรงนี้ไงครับ” ในเมื่อนะโมไม่ขยับ เขาเลยต้องดึงร่างเล็กนั่นให้นั่งลงบนตัก

“อ๊ะ พี่จ๋า ทำอะไร” ร่างบางขัดขืนแต่ก็โดนรวบเอาไว้ทั้งตัว รามมองมาที่ทั้งคู่ผ่านบานประตูที่เปิดเอาไว้ สิงห์มองหน้ารามแล้วแสยะยิ้มมุมปากก่อนจะแอบหอมต้นคอนะโมให้รามเห็น นี่เป็นการเตือนสำหรับรามที่กำลังจะล้ำเส้น

“หิวรึยังครับ พี่พาไปซื้อขนมเอาไหม?” สิงห์ถามเสียงนุ่ม

“งือ ขนมหรอ” นะโมชั่งใจเพราะใจยังโกรธสิงห์อยู่ แต่ขนม ก็สำคัญ

“ไปซื้อขนมกันนะ พี่จ๋าหิว” สิงห์ใช้โทนเสียงที่อ้อนๆ เล่นเอาคนนั่งตักใจสั่นตุบๆ

“งะ..อะ อื้อ ก็ได้ -///-”

เมื่อตกลงกันได้ก็เดินจูงมือ กันออกจากคลินิกไป ทั้งคู่เดินไปที่ตลาดนัดใกล้ๆ สิงห์ไม่ปล่อยมือนะโมแม้มีหลายคนมองมาที่เขากับนะโมก็ตาม พอเห็นของกินที่ละลานตา ร่างบางก็ลืมสนิทว่าตัวเองกำลังโกรธคนที่พามาด้วยมากขนาดไหน เสียงหวานที่กำลังร้องอูว อ้า กับตากลมๆ ที่กำลังลุกวาวยามเห็นของกินอร่อยๆ มือเล็กจับมืออีกคนไว้แน่นแล้วลากไปลากมา ไปร้านนั้น แวะร้านนี้ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงสิงห์หมดเงินไปเกือบเจ็ดร้อยได้ ส่วนใหญ่จะเป็นของกินกับเสื้อผ้าของนะโมซะมากกว่า แต่ที่ดุจะพิเศษกว่าอะไรทั้งหมดเห็นจะเป็นปากกาหัวการ์ตูนที่เจ้าตัวกวาดมาเป็นสิบแท่ง

“อันนี้ให้พี่จ๋า” ร่างบางหยิบปากกาหัวหมาป่าสีเทาส่งให้

“ทำไมให้พี่อันนี้ละครับ” เขาสงสัย เพราะตัวอื่นน่ารักกว่าไอ้หัวหมาป่านี่ตั้งเยอะ

“ตาพี่จ๋าเหมือน ตาเหมือน” คงจะหมายถึงดวงตาเรียวรีที่ดูดุร้ายและเจ้าเล่ห์

“แล้วของหนูละ อันไหน” นะโมหยิบหัวกระต่ายออกมา กระต่ายหูยาวสีชมพูดูน่ารัก

“น้องต่าย น่ารัก คุณแมวของตัสตัส คุณหนูของปิงปิง”

“ปิง?”

“ปิงปิง น่าสงสาร โดนตัสตัสกัดคอแดงเลย” มันเป็นประโยคบอกเล่าที่ทำเอาคนฟังหัวเราะหึหึในลำคอ

เดินจนหนำใจก็พากันเดินกลับไปที่คลินิก นะโมซื้อขนมมาแบ่งทุกคนกิน ระหว่างนั้นสิงห์ก็ทำงานแต่ตาก็สอดส่องดูแลนะโมตลอดจนถึงเวลาเลิกงาน เขาพานะโมกลับบ้าน พอถึงบ้านก็พากันแยกย้ายไปอาบน้ำ นะโมเล่นกับหมากับแมวทั้งวัน ส่วนเขาตัวมีแต่กลิ่นยาฆ่าเชื้อ

“มาอาบน้ำครับ” สิงห์จูงมือเด็กน้อยที่กำลังจะดินกลับเข้าห้องตัวเองให้เดินตามไปที่ห้องน้ำ

“อะ..อาบน้ำด้วยกันหรอ?” นะโมพูดเสียงตะกุกตะกัก สิงห์พยักหน้า

“ครับอาบน้ำด้วยกัน”

“งือ -///- “กว่าจะรู้ตัวร่างบอบบางก็เปลือยเปล่า ยืนรออีกคนที่กำลังถอดเสื้ออยู่ใต้ฝักบัวแล้ว ใช้เวลาถอดเสื้อผ้าไม่ถึงนาทีร่างสูงก็มายืนประกบอยู่ด้านหลังแล้ว สองมือหนาจับเอวคอดเอาไว้ให้ใกล้ชิด แล้วพลิกให้หันหน้ามาทางตัวเอง นะโมก้มหน้างุด แต่พอก้มหน้าก็เจอตอเข้าเต็มตา

“อุ้ย!! ” พอเห็นส่วนแข็งขืนของอีกฝ่ายก็ร้องอุ้ยแล้วหลับตาแน่น

“หึหึ อาบน้ำดีกว่าเนอะ ไหนลืมตา แล้วมองหน้าพี่สิครับ” ยิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายเขินก็ยิ่งอยากจะแกล้ง

“งืออ หนูไม่อยากมอง” นะโมหลบตา

“หืม ทำไมครับ”

“ยังโกรธพี่จ๋าอยู่”

“หึหึ จุ๊บ หายโกรธรึยัง จุ๊บ”

“งะ -///- อื้ออ”

สิงห์ก้มลงไปประกบจูบกับปากอิ่มของนะโมอย่างแผ่วเบา จูบย้ำๆ แล้วผละออก เขาไม่อยากให้มันมากไปกว่านี้ กลัวจะหยุดตัวเองไม่ไหว ไม่อยากทำน้องเจ็บอีก

“อึก อื้มม...พี่จ๋า” นะโมครางเสียงแผ่ว ใจเต้นแรง พร้อมกับความรู้สึกบางอย่างที่ก่อเกิดขึ้นมาอย่างช้าๆ นะโมกำลังรู้สึก สองมือเล็กเลื่อนไปปิดส่วนนั้นของร่างกายด้วยความเขินอาย แต่ช้าไปสิงห์เห็นแล้วว่าส่วนนั้นของนะโมกำลังขยายใหญ่ขึ้น

“รู้สึกเหรอครับ” สิงห์กระซิบถาม นะโมพยักหน้า ด้วยความเขินอีกครั้ง

“ให้พี่ช่วยนะ” สิงห์กระซิบเสียงพร่า

“ตะ..ตะ..แต่ว่า หนูทำเองได้ พี่จ๋าออกไปก่อนนะ” เขาอายเกินกว่าที่จะขอให้อีกคนช่วยเลยบ่ายเบี่ยง

“ให้พี่ทำให้นะ พี่ก็เป็นเหมือนหนูเลยจับดูสิ” สิงห์ดึงมือเล็กไปจับส่วนที่แข็งขืนของตัวเอง

“อ๊ะ..-///- มันร้อนจัง”

“หนูช่วยพี่จ๋าได้ไหม แบบคืนนั้น ที่หนู...ทำให้พี่จ๋า”

“คืนนั้น? คืนไหน?” ร่างบางเอียงคอนิดๆ สิงห์พอเห็นท่าทางไร้เดียงสาแบบนั้นก็อดทนแทบไม่ไหว อยากจะบดขยี้ร่างตรงหน้าให้ร้องครางอยู่ใต้ร่างใจจะขาด สิงห์ดึงใบหน้าสวยเข้ามาจูบอีกครั้งโดยใช้มือจับล็อกที่ต้นคอ บังคับให้นะโมรับบทจูบของตนเองอย่างร้อนแรง ลิ้นร้อนสอดเข้าไปเก็บเกี่ยวด้านในอย่างกระหายน้ำบ่อน้อยตรงหน้า

“อึก อืม...อา” เสียงหวานครางอือในลำคอพยายามจะดันอกอีกคนให้ปล่อยเพราะหายใจไม่ออก แต่ก็ไม่เป็นผล ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน แขนขาเริ่มอ่อนแรงจนสิงห์ต้องรวบตัวเอาไว้ในอ้อมแขน ลิ้นร้อนของสิงห์ไล่ต้อนอีกคนจนหมดหนทางหนี สุดท้ายแล้วก็ต้องยอมให้อีกคนได้ตักตวง ไฟราคะที่พร้อมจะมอดไหม้ทุกสิ่งกำลังลุกโหมใส่คนทั้งคู่ มือหนาเลื่อนต่ำลงและกอบกุมความเป็นชายของตัวเองและอีกคนเอาไว้ ก่อนจะลูดรั้งขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ ปากก็บดจูบอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ ในห้องน้ำตอนนี้กำลังจะลุกเป็นไฟร่างกายกำลังหลอมละลายด้วยเชื้อไฟแห่งกามอารมณ์

“อะ อื้ออ มัน อ๊า” ยิ่งได้ยินเสียงหวานครางใกล้ๆ เขายิ่งเร่งมือ

“ซี๊ดดด นะโม เรียกชื่อพี่หน่อยครับ”

“พี่สิงห์..อะ อื้อ พี่สิงห์” เมื่อทะยานขึ้นมาสู่จุดสูงสุด ร่างสองร่างก็สั่นเกร็งก่อนจะปลดปล่อยออกมาทุกหยาดหยด กายบางทรุดฮวบลงกับพื้นอย่างหมดแรง สิงห์รวบตัวนะโมขึ้นมาจากพื้นก่อน จะก้มลงจูบบนหน้าผากมนอย่างแผ่วเบา นะโมปรือตามอง เพราะเหนื่อยเกินกว่าที่จะทรงตัวให้อยู่ แม้ว่าสิงห์อยากจะทำมากกว่านี้แต่ร่างกายน้องยังรับไม่ไหว เขาก็ไม่อยากจะฝืน สิงห์ใช้เวลาอาบน้ำให้นะโมและตัวเองไม่นาน ก็อุ้มร่างบางออกมาแต่งตัว ทาแป้งเย็นให้เรียบร้อยแล้วพาไปนอน ส่วนตัวเองก็เดินไปใส่เสื้อยืดกับบ็อกเซอร์ แล้วไปที่ห้องครัว ดูว่าในตู้เย็นพอมีอะไรที่ทำกินได้ง่ายๆ บ้าง

“มีแต่ไข่กับไส้กรอก” เขาบ่นพึมพำจะออกไปตลาดตอนนี้ก็ขี้เกียจเกินไป จนเหลือบไปเห็นมาม่าในตู้ ทำตอนนี้มีหวังอืด เพราะคนที่จะกินด้วยยังหลับอยู่เลย เขาเลยต้องพับรายการเก็บ ร่างสูงเดินไปที่กองขนมที่ซื้อมาจากตลาดนัด มีขนมเบื้องกับขนมปังอยู่ไม่กี่ชิ้นเขาเลยหยิบมากินรองท้องไปก่อน ระหว่างที่หยิบขนมกินเขาก็สังเกตเห็นว่ามีใครบางคนแอบซุ่มอยู่แถวๆ ป่าข้างรั้ว ร่างสูงรีบแอบเข้าข้างกำแพง พร้อมกับส่องดุว่าใครมาทำลับๆ ล่อๆ อยู่ที่ข้างรั้ว

ชายชุดดำ ใส่แว่นดำ กำลังแอบสำรวจบ้านของเขาพร้อมกับโทรศัพท์ไปด้วย สิงห์สังหรณ์ใจแปลกๆ ว่าแป้งจะส่งคนแอบตามมาดูเขา สิงห์จึงเดินลงไปด้านล่างพร้อมกับไม้เบสบอล เขาย่องไปเงียบๆ ขณะที่ชายคนดังกล่าวหันหลังให้เขาเพราะกำลังคุยโทรศัพท์อยู่

สิงห์ไม่เคยลังเลที่จะลงมือ เขาง้างไม้เบสบอลจุดสุดวงแขนก่อนจะฟาดลงกลางหลังของชายคนดังกล่าวอย่างเต็มแรง จนชายชุดดำล้มลงกับพื้นและร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

“ใครส่งมึงมา” สิงห์ถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ ดวงตาคมจ้องเขม็งอย่างเอาเรื่อง

“อย่าทำผมเลย ครับ คุณสิงห์ “มันยกมือไหว้เขาด้วยความหวาดกลัวสุดหัวใจ

“กูถามมึงก็ตอบมา!! ” สิงห์ตวาดลั่น พร้อมกับง้างไม้เบสบอลจะฟาดลงไปอีก คนที่ล้มลงกับพื้นรีบลนลานจะคลานหนี เขาเลยฟาดลงที่ขาอีกครั้ง

“อ๊ากกก ยอมแล้ว ยอมแล้ว คุณแป้งครับ คุณแป้งให้ผมมาสืบดูเรื่องคุณกับเด็กรับใช้คนนั้น” มันสารภาพออกมา สิงห์กัดฟันกรอด เพราะมันเป็นไปตามที่เขาคิดจริงๆ ว่าแป้งจะต้องส่งคนมาตามสืบเรื่องของนะโม

“รู้ใช่ไหมต้องทำยังไง กลับไปบอกเจ้านายของมึง ว่าถ้าขืนมายุ่งเรื่องของกู หรือคนของกู กูจะไม่อยู่เฉย ถ้าอยากลองดีกับกูก็เอา” เขาโกรธจริงๆ กับเรื่องนี้และดูท่าจะตามสืบเรื่องเขามาสักพักแล้ว พี่มาหาเขาถึงคลินิกวันนั้นก็มาสืบดูด้วยตัวเอง ร้ายจริงๆ ผู้หญิงคนนี้

“คะ ครับ ผมจะบอกตามที่คุณสั่ง อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ” พูดด้วยความหวาดกลัว คนคนนี้รู้ดีว่าสิงห์เป็นคนแบบไหน เพราะเป็นคนของที่บ้านเขา รู้ว่าสิงห์ร้ายและไม่เกรงกลัวอะไรแม้กระทั่งแม่เลี้ยงของตัวเอง แต่ที่เงียบและอยู่อย่างสงบแบบนี้ก็เพราะคุณท่านคนเดียวเท่านั้น

“ไปได้ละ แล้วอย่ากลับมมาที่นี่อีก ถ้าครั้งหน้ากูเห็นว่าเจ้านายมึงส่งคนมาดูพวกกูอีกมันจะไม่ใช่แค่ไม้เบสบอลง่อยๆ นี่อีก แต่มันจะเป็นลูกตะกั่วแทน”

“คะ ครับ อึก” ลูกน้องของแป้งรู้ว่านี่ไม่ใช่แค่คำขู่ มันพยกหน้ารับก่อนจะวิ่งหนีหายไป สิงห์เดินกลับเข้าไปในบ้าน เขารู้สึกเครียด ร่างสูงเดินไปหยิบบุหรี่ที่ซ่อนไว้ใต้แผ่นไม้กระดาน ทั้งๆ ที่สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะเลิกเพราะนะโมไม่ชอบ สิงห์หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบอยู่ที่หน้าระเบียงบ้าน กลุ่มควันสีขาวลอยคลุ้งไปทั่ว เขาต้องจับตาดูสองแม่ลูกนั่นให้ดี ทั้งเรื่องในบ้านและเรื่องนะโม



 
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.20 29/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 29-07-2018 04:52:54
นะโมตื่นมาตอนสี่ทุ่มกว่าๆ เพราะรู้สึกหิว ลืมตาขึ้นมาไม่เจอสิงห์ก็ร้องหาลั่นบ้าน ร่างสูงที่เอางานมานั่งทำที่ระเบียงหวังรับลมเย็นๆ ตอนกลางคืน ได้ยินเสียงเรียกก็รีบลุกไปหา เปิดประตูเข้าไปก็เห็นร่างน้อยๆ นั่งน้ำตาไหล ร้องไห้เรียกหาเขาเหมือนเด็ก

“พี่อยู่นี่ ครับ พี่อยู่นี่”

“ไปไหน ฮึกไปไหน ทิ้ง ทิ้ง” นะโมร้องพร้อมกับหาว่าสิงห์ทิ้งตนเอง

“ไม่ได้ทิ้ง ครับไม่ได้ทิ้ง พี่ทำงานอยู่ข้างนอก”

“ฮึก ไม่เห็น ในฝัน ฮึกก็ไม่เห็น” เสียงสะอื้นของนะโมทำเอาเขาปวดใจ

“พี่อยู่นี่แล้ว ไงไม่ร้องนะ”

“หนูฝัน ฝันว่า มีคนพาพี่จ๋าไป พี่จ๋าทิ้งหนู ฮึก..”

“ไม่มีใครพาพี่ไปไหนได้ทั้งนั้นครับ หนูไม่ต้องกลัวนะ พี่จะอยู่กับหนูไม่ไปไหนเด็ดขาด” สิงห์พูดหนักแน่น

“จริงนะ” นะโมช้อนตามอง

“ครับ”

“สัญญา”

“สัญญาครับ” สิงห์พูดจบนะโมก็กอดคอสิงห์อย่างอ้อนๆ ใบหน้าสวยซุกลงที่ต้นคอของอีกฝ่าย

“หนูหิว”

“หึหึหึ” สิงห์อุ้มนะโมออกมานั่งที่ระเบียงบ้าน

“รอเดี๋ยวนะครับ พี่จะไปทำอะไรให้กิน” เขาลูบหัวนะโมไปด้วย

“ครับ หนูนั่งรอ”



          มาม่าร้อนๆ ถูกยกออกมาวางที่โต๊ะตัวเล็ก สิงห์จุดยากันยุงตั้งไว้ห่างๆ เพื่อไล่ยุง สองพี่น้อง (ท้องชนกัน) นั่งกินมาม่าด้วยความหิว วันนี้อากาศเย็นไม่ร้อนอบอ้าวเท่าไหร่ นะโมกินไปมองที่รั้วไป ก่อนจะโบกมือยิ้มทักทาย สิงห์มองตาม แต่กลับไม่เห็นใครสักคน

“นะ ..หนูโบกมือให้ใครครับT^T”

“อ๋อ พี่สาวคนสวย”

“อยู่ไหน พี่ไม่เห็นเลย” ถามด้วยใจที่หวาดกลัว

“ยืนอยู่ตรงรั้วไงครับ วันนี้พี่สาวใส่ชุดไทย สวยด้วย”

“งะ ..พะ พี่ อิ่มแล้ว หนะ หนูกินเสร็จก็รีบเข้าบ้านนะครับ พี่ไปอาบน้ำก่อน” สิงห์หันหลังให้นะโมโดยที่ไม่หันกลับมามองแล้วเดินจ้ำแทบจะกลายเป็นวิ่งเข้าไปในบ้าน

“งะ ทิ้ง ไหนว่าจะไม่ทิ้งกันไง!!! -3- “

“พี่สาวออกจะสวย เนอะ^0^”

(ฮิฮิฮิ ไว้พี่จะมาหาใหม่นะ เด็กดี) เสียงเย็นๆ ดังลอยมาตามลม ร่างบางยิ้มรับก่อนจะก้มหน้าก้มตากินมาม่าในชามให้หมด แล้วเก็บของเข้าบ้าน





          เช้าวันจันทร์ สิงห์ไปส่งนะโมไปเรียนตามปรกติ และเหมือนเคย ซีตัสมารับนะโมที่หน้าโรงเรียน แต่วันนี้กลับมีใครอีกคนพ่วงตามมาด้วย น่านปิง เขาจำได้เด็กที่มีปัญหากับนะโม สีหน้าของเด็กคนนั้นดูไม่พอใจอะไรสักอย่าง พอทุกคนเดินเข้าโรงเรียนเขาถึงได้ขับรถออกไป



“ตัสตัส หนูมีของมาให้ มีให้ปิงปิงด้วยนะ” นะโมหยิบเอาปากกาที่ซื้อมาฝากทั้งสองยื่นให้

“ทำไมกูต้องเป็นแมว?” ซีตัสขมวดคิ้วถาม

“ก็ตัสตัสชอบกัดปิงปิงนี่” นะโมตอบด้วยแววตาที่ใสซื่อ คิดอะไรก็ตอบไปแบบนั้น

“แล้วหนู?”

“ของปิงปิง แมวต้องคู่กับหนู”

“ใครสอนว่าแมวต้องคู่กับหนู”

“ก็ทอมแอนเจอร์รี่ไง คัสตัสกับปิงปิง เหมือน”

“เหมือนตรงไหน?” ปิง

“ก็กัดกันตลอดเลย แต่ก็อยู่ด้วยกันตลอดใช่ไหมล่ะ^^”

            คำพูดของนะโมทำให้คนสองคนมองหน้ากันแล้วก็ต่างคนต่างเบือนหน้าหนี ปิงเม้มปากซีตัสยกยิ้มมุมปาก นะโมมองคนทั้งคู่แล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“วันนี้ห้ามไปไหนคนเดียวนะมึง ครั้งที่แล้วก็แอบหนีไปคุยกับใครก็ไม่รู้” ซีตัสชี้หน้าเป็นการเตือน

“มึงไปหาใครไอ้เอ๋อกูว่าจะถามตั้งแต่วันนั้นละ ดูท่าจะเกลียดขี้หน้ามึงมาก” ปิงถามออกมาบ้าง

“น้องสาวพี่จ๋าอะ...” พูดแล้วก็ทำหน้าเศร้า ซีตัสเลยถอนหายใจก่อนจะมองค้อนปิง

“จะพูดขึ้นมาทำเหี้ยอะไรอีก มึงดูหน้ามัน”

“โทษทีกูลืม”

เป็นครั้งแรกที่คนในห้องเห็นว่าปิงไม่แกล้งและไม่ทะเลาะกับซีตัส หลายคนเลยเบาใจ อยากจะให้สองคนนี้กลับมาสนิทกันเหมือนเดิม อะไรๆ มันจะได้ง่ายขึ้น บรรยากาศในห้องก็จะดีขึ้นด้วย

พอถึงเวลาโรงเรียนเลิกนะโมก็เดินมารอสิงห์ที่หน้าโรงเรียนโดยมีซีตัสกับปิงมายืนเป็นเพื่อน วันนี้เงินเหลือมากกว่าปรกติ นะโมเลยเดินไปซื้อน้ำปั่นมากิน ระหว่างนั้นก็มีนักเรียนคนหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วและพุ่งชนนะโมอย่างแรงจน นะโมล้มลงกับพื้น เด้กคนนนั้นหยุดมองแล้วแสยะยิ้มใส่ก่อนจะวิ่งหายไป ซีตัสกับปิงเห็นเข้าพอดีก้รีบวิ่งไปพยุงนะโมขึ้นพร้อมกับสบถด่าคนที่วิงชน

“เป็นไรไหมมึง”

“ไม่เป็นไร แต่ น้ำแตงโมของหนูT^T” นะโมก้มมองแก้วน้ำปั่นที่หกกระจายเต็มพื้นด้วยแววตาเศร้าๆ ปากเบะ เสียดายสุดๆ ระหว่างที่จัดการปัดฝุ่นบนตัว สิงห์ก็มารับนะโมพอดี

“พี่จ่ามารับแล้ว ฮึก ไปแล้วนะ”

“เออ รีบไป เดี๋ยวพี่มึงจะหาว่าพวกกูกักตัวมึงไว้” ซีตัสพูดด้วยความหมั่นไส้นิดๆ นะโมเดินตรงไปที่รถพร้อมกับโบกมือให้คนทั้งสอง พอขึ้นรถก็ทำหน้าตาสดใสเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“วันนี้เป็นยังไงบ้างครับ เรียนสนุกไหม”

“สนุก สนุก ได้เล่นหมากรุกด้วย”

“สนุกก็ดีแล้วครับ วันนี้เราไปกินข้าวนอกบ้านกันไหม”

“กินนนนนนนนนนนน หนูอยากกินไข่พะโล้”

“อ่า อะไรก็แพ้ไข่พะโลสินะ” เพราะวันนี้เขาตั้งใจจะพามันไปกินอาหารญี่ปุ่นในห้าง อยากพาไปเปิดหูเปิดตา เพราะเห็นว่าคนตัวเล็กเครียดๆ

“ไข่พะโล้ไว้กินพรุ่งนี้นะครับ วันนี้พี่จะพาไปกินของอร่อยๆ”

“ไข่พะโล้ก็อร่อยนะ อร่อยๆ”

“หึหึหึ”

สิงห์ขับรถมาที่ห้างใหญ่ในตัวเมือง เดินเข้าร้านอาหาร และได้ที่นั่งติดกับกระจกหน้าร้าน สิงห์สั่งอาหารมาหลายอย่างที่คิดว่านะโมจะชอบ และก็เป็นอย่างที่สิงห์คิด

“ข้าวอันนี้อร่อย อื้มมม ว้าวว *0*”

“อร่อยก็กินยเอะๆ” สิงห์ป้อนให้

“อ้ามมมม”

ระหว่างที่กินอาหารกันอย่างมีความสุขอยู่นั้น พวกเขาไม่ได้รับรู้ถึงการจับจ้องของผู้หญิงคนหนึ่ง สองมือของเธอกำแน่น จนเล็บสวยๆ จิกเข้าไปในเนื้อ ก่อนเธอจะผ่อนลมหายใจออก ปรับอารมณ์ให้คงที่ สองขาเรียวก้าวเข้าไปในร้านที่คนทั้งคู่นั่นกิน



“พี่สิงห์ บังเอิญจังเลยนะคะ ไหนบอกว่าวันนี้ไม่ว่างไงคะ แล้วทำไมถึงมาทานข้าวกับคนรับใช้ได้ละคะ” เธอถามด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแต่ใช้สายตาจิกกัดไปให้นะโม ก่อนจะแทรกตัวเองให้นั่งลงข้างๆ กับสิงห์ มือสวยยกขึ้นคล้องแขนร่างสูงแล้วทำท่าออดอ้อนใส่ สิงห์ดึงแขนตัวเองออกอย่างมีมารยาท

“ก็นี่ไงครับธุระของพี่ พาน้องมากินข้าว” สิงห์ยิ้มตอบ

“ถ้าอย่างนั้นแป้งขอทานด้วยคนได้ไหมคะ ขนาดคนรับ-ใช้ ยังทานร่วมตะกับพี่ชายแป้งได้ แป้งเป็นน้องแท้ๆ ทำไมจะทานไม่ได้ละจริงไหมคะ” แป้งเน้นคำว่า คนรับใช้ใส่หน้านะโม ร่างบางยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะค่อยๆ วางตะเกียบลงอย่างช้าๆ เขารู้สึกไม่ดี รู้สึกไม่ดีตั้งแต่ผู้หญิงคนนี้มาหาที่โรงเรียน และคำพูดในวันนั้นกำลังทิ่มแทงหัวใจเขาอยู่ นะโมมองคนทั้งคู่พร้อมกับมองคนรอบข้าง ที่มองไปยังสิงห์กับแป้ง ทุกคนมองด้วยแววตาชื่นชม มองด้วยแววตาที่บอกว่าเขาทั้งคู่เหมาะสมกัน

“อืม ตามใจละกัน จะสั่งอะไรเพิ่มก็สั่งพี่เลี้ยง” สิงห์พูดด้วยใบหน้าที่นิ่งๆ แต่ในใจร้อนรุ่มไปหมด

“แต่ขอเตือนนะ อย่าสั่งอะไรที่ตัวเองกินไม่ได้” สิงห์พูดขึ้นอีกด้วยน้ำเสียงที่ต่างจากเดิม

“^^ ค่ะ แป้งรู้ค่ะว่าอะไรที่กินได้และกินไม่ได้”

“รู้ก็ดี จะได้ไม่ต้องพูดอะไรมาก”

“นะ หนูอยากไปห้องน้ำ” เสียงสั่นๆ ของนะโมดังขัดขึ้นมา

“เดี๊ยวพี่พาไปครับ” สิงห์ทำท่าจะลุก

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวแป้งพาไปแป้งอยากเข้าห้องน้ำพอดี” แป้งอาสา สิงห์หลี่ตามองอย่างจับผิด คนอย่างแป้งไว้ใจได้ที่ไหน

“พี่สิงห์ไม่ไว้ใจแป้งหรอคะ นี่น้องสาวนะคะพี่สิงห์” แป้งยิ้มหวานส่งให้แต่สิงห์รู้ดีว่านั้นมันน้ำหวานผสมยาพิษหลงกลกินเข้าไปก็ตาย

“ไม่เป็นไร แป้งพี่เองก็ปวดฉี่เหมือนกัน แป้งไปก่อนเลยเดี๋ยวพี่กับนะโมตามไปทีหลังก็ได้”

“หึ เอาอย่างนั้นเหรอคะ^^ งั้นเดี๋ยวแป้งมานะคะ”

“อืม”

หลังจากที่แป้งลุกออกไป สิงห์ก็เรียกเก็บเงินทันที พร้อมกับพานะโมเดินไปซื้อของใช้อย่างอื่นแทน

“พี่จ๋าไม่รอพี่สาวคนนั้นเหรอ?” นะโมหันมาถามสิงห์เห็นร่องรอยแห่งความเศร้าในดวงตาคู่นั้น เขากระชับมือที่กุมมือเล็กนั่นอยู่แล้วบีบเบาๆ

“ไม่รอครับ”

“ตะ แต่ ว่า”

“เราสนใจแต่พี่ก็พอนะ ไม่ต้องไปสนใจคนอื่น”

“แต่นั้นเป็นน้องสาว ส่วนหนู เป็นคนรับใช้T^T”

“หนูเป็นเมียพี่ เป็นคนรักของพี่ ไม่ใช่คนรับใช้ จำไว้นะ หนูเป็นคนรักของพี่ พี่ต้องสนแต่หนูสิครับ ไมเอาไม่ทำหน้าแบบนั้นสิ” สิงห์ดึงนะโมเข้ามากอดปลอบ เพราะรู้ว่านะโมคิดมากเรื่องนี้ เห็นตั้งแต่แป้งก้าวเข้ามา สีหน้าของนะโมเปลี่ยนไปในทันที เหมือนนะโมกลัวแป้ง พยายามหลบตา และนั่งหดตัวอยู่ตลอด

“หนูเคยเจอแป้งมากี่ครั้งแล้วครับ” สิงห์ถามขณะที่กำลังขับรถกลับบ้าน พอได้ยินนะโมก็สะดุ้งพร้อมกับหลบตาของสิงห์

“มะ ไม่- “

“อย่าโกหกนะครับ เพราะพี่ไม่ชอบคนโกหก” สิงห์พูดเสียงดุ นะโมก้มหน้างุดไม่ตอบ นั่นแสดงว่าเจอกันอย่างน้อยสองครั้ง

“แป้งมาพูดอะไรกับหนู ครับ”

“....”

“ตอบพี่มาครับ”

“....”

“ถ้าไม่ตอบพี่ พี่จะไปถามแป้งเองนะ เอาไหม” นะโมรีบหันมาจับแขนเขาเอาไว้แล้วส่ายหน้าห้าม

“ไม่ ..เอา ฮึก ไม่ เขาจะตีหนู ฮึกเขาบอกว่า ห้ามให้พี่สิงห์รู้” พอได้ยินที่นะโมพูดสิงห์ก็กำพวงมาลัยแน่น หักรถเข้าข้างทางทันที

“ที่ชอบเหม่อทำหน้าเศร้าก็เพราะแป้งใช่ไหม?”

“ฮึก..เค้าบอกว่า หนูเป็นคนใช้ไม่มีสิทธิ์ เป็นแค่ลูกจ้างอย่ามาทำตัวสนิทกับเจ้านาย”

“....”

“เค้าพูดว่า ฮึก....ผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายอย่างหนูไม่มีสิทธิ์ หนูจะทำให้พี่จ๋าลำบาก ฮึก ให้พี่จ๋าเดือดร้อน คนจะว่าพี่จ๋า ว่ามีแฟนเป็นคนปัญญาอ่อนพี่จ๋าจะอาย หนูไม่เหมาะกับพี่จ๋าเลยสักนิด” ความรู้สึกที่คั่งค้างในใจพรั่งพรูออกมาจนหมดพร้อมกับหยาดน้ำตาที่กำลังไหลริน ออกมาจากดวงตาคู่สวย สิงห์กำหมัดแน่น แป้งไม่มีสิทธิมาก้าวก่ายหรือคิดแทนเขา ที่สำคัญไม่สมควรมาพูดเป่าหูนะโมแบบนี้

“ไม่ร้องนะครับ พี่ไม่เคยคิดแบบนั้น ไม่เคยเลย หนูสำคัญกับพี่มาก อย่าไปคิดแบบนั้น” เขาดึงร่างบางเข้ามากอดปลอบ นะโมสะอื้นอยู่ที่อกของเขา

“หนู อึก กลัวพี่จ๋าจะเดือดร้อน กลัวพี่จ๋า อาย เพราะว่าพี่จ๋ารักหนู”

“พี่ไม่เคยอายที่จะรักหนูนะ พี่อยากจะเปิดเผยเรื่องของเรา แต่ยังทำตอนนี้ไม่ได้ มันจะกระทบถึงตัวหนู เพราะว่าหนูยังเด็ก รอพี่หน่อยนะครับ พอถึงวันนั้น เราจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข”

“จริงหรอครับ ฮึก พี่จ๋าจะไม่อายใช่ไหม ที่หนูเป็นแบบนี้”

“ครับพี่ไม่อายเพราะฉะนั้นหนูก็หยุดร้องไห้ได้แล้ว ดูสิตาบวมหมดแล้วเนี้ย” สิงห์ใช้นิ้วเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน นะโมจับมือสิงห์ให้แนบแก้มตัวเองพร้อมกับช้อนตามอง

“หนูรักพี่จ๋านะ”

“ครับพี่ก็รักหนู รักมากๆ” สิงห์จูบลงที่กลับปากอุ่นเป็นการสัญญาก่อนจะผละออก ใบหน้าหวานๆ ของนะโมขึ้นสีอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มเขินออกมาอย่างน่ารัก แค่นี้กำลังใจของคนทั้งสองก็เพิ่มขึ้นมาแล้ว

“กลับบ้านกันดีกว่าเนอะ”

“อื้อ”

+++++++++++++++++++++++

มาม่าใส่ไข่ใส่เต้าหู้ไหมละ....คนที่กลัวดราม่า มีแน่นอนค่ะแต่ก็คงไม่มาก ใครรอเอนซี คึคึคึ รออีกนิดนะ ยังหาจุดที่จะพาทั้งสองเดินเข้าสู่เส้นกามยังไม่ได้เลย

ปล.1คู่ไม้เมืองกับต้าร์ยังหาพลอตอยู่ค่ะ ฮ่าๆ ส่วนเรื่องของซีตัสเดี๋ยวไว้แทรกตอนเอาเนอะแต่คิดว่าคงไม่เขียนคู่นี้

ปล.2 ขอบคุณนักอ่านทุกๆ คนที่เป็นกำลังใจให้ตลอดนะคะ สัญญาว่าจะพยายามให้มากขึ้นเพื่อ เอฟซีน้องทุกๆ คนค่ะ



















หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.19 22/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 29-07-2018 05:10:52
โว้ยยยยยยยยยยยยยกูหัวร้อนนนชิบหายยย ยัยแป้ง ก้าวก่ายเกินไปแล้ว สิงห์ทนได้ไงว่ะ สมัยนี้มีวงจรปิดติดที่บ้าน มีกล้องมือถืออัดคลิปอัดเสียง อะไรๆของพวกนางที่แสดงออกมาต่ำๆ ถ้าพ่อดูแล้วยังไม่เชื่ออีก แนะนำให้ไปหาพ่อหมอผีเถอะโดนของแล้วละนั่น 55555 รอเวลาเชือดสองแม่ลูกนี้นิ่มๆ ฮึยยยย!!!! โอ้นะนะโม ความน้อยใจของนะโมนี่ทำกูนอยส์ไปด้วยเลย อยาก ป้าป!!! พี่สิงห์สักที เหอะ!! แต่ก็เอาเถอะ มันก็นะ เหตุผลได้อยู่ แต่ยังไงก็ขอ ป๊าป!!สักทีเถอะ ไม่งั้นมันจะไม่หายหงุดหงิด 5555555 รออออรอตอนต่อไปค่ะ เก่งมากอะเอ๋อ ไม่น่าเชื่อจริง ชนะนักหมากรุกระดับจังหวัด คึคึ 5555 เจ๋งๆ **ยกนิ้วโป้ง** ให้เลย ปล.ปิงไปไหน ปิงไม่อยู่นี่ก็เหงานะ 55555 ตัสทำไรปิงป่าวหืมมมม?? F5รอเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.20 29/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 29-07-2018 22:34:23
อย่าดราม่าหนักนักนะคะ
แค่น้องหงอย ๆ เพราะโดนนางมารร้ายขู่
คนอ่านก็ใจอ่อนยวบแล้วค่ะ สงสารน้อง

ถ้าดราม่าหนักหน่วง
เราว่า เดี๋ยวเราค่อยกลับมาอ่านตอนจบแล้วละกันเนอะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.20 29/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-07-2018 00:42:29
เกลียดนังแป้งเน่าเหม็นบูด นิสัยแย่มาก  ชั่วร้าย   :fire: :fire: :fire:
มาข่มขู่ ทำร้ายนะโม จ้างวานคนทำร้ายนะโมด้วย ชั่วมั่กมาก  :angry2:

สิงห์ ปฏิเสธนาง บอกนางไปตรงๆเลย ไม่ต้องพูดดีกับนาง
และอย่าออมมือถ้าเป็นหญิงนางนี้     :z6: :z6: :z6:
เพราะเพื่อประโยชน์ เพื่อความต้องการของนาง เรื่องเลวทรามนางก็ทำได้

สิงห์ นะโม    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.20 29/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 30-07-2018 01:52:02
สิงห์ช่วยทำอะไรก็ได้ ให้ชะนีไปให้พ้น ๆ ทีซิ รำคาญ  :katai1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.20 29/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 30-07-2018 11:17:43
 :3125:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.20 29/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 30-07-2018 11:24:46
รำคาญนังแป้งสิงห์จัดดการเลยบังอาจมาข่มขู่น้อง
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.20 29/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 30-07-2018 12:43:38
จัดการนังแป้งเลย :z6:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.21 4/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 04-08-2018 07:03:26
21



ชีวิตของคนเรามักจะเจอเรื่องดีและเรื่องร้ายชีวิตไอ้เอ๋อก็เช่นกัน มันเจอทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายสลับกันไปมาแต่ไอ้เอ๋อมันเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี มันชอบเอาตัวเองไปวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ที่มีม้ายูนิคอร์น จิตใจมันบริสุทธิ์เกินกว่าจะคิดร้ายกับใครได้ จนบางครั้งก็อยากจะให้มันร้ายบ้าง เห็นแก่ตัวบ้างก็ได้ อย่างตอนวันที่มันโดนชนจนหน้าทิ่มมันก็ไม่โกรธ มันแค่ตกใจแต่ของเพื่อนมันสองคนเห็นเต็มตาว่าจงใจชนมันล้ม มันก็บอกว่าไม่เป็นไรไม่เจ็บ ปิงที่ว่าแกล้งมัน เห็นตอนนั้นก็โกรธจนหัวร้อนเหมือนกัน

สี่เดือน ที่มันใช้ชีวิตร่วมกับพี่จ๋ามันมีความสุข มันมีรอยยิ้ม และมันมีอนาคต จนหลายๆ คนต้องอิจฉา มีอย่างหนึ่งที่มันยังไม่รู้ ว่ามัน ได้ชื่อ ว่าเป็น ” เมีย” “หมอ” แล้ว มันไม่อาจจะจดจำภาพและความรู้สึกของวันนั้นได้ ถึงจะจำได้ก็คงจะเลือนรางเต็มที มันยังคงทำตัวปรกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่คนที่ไม่ปรกติคือสิงห์ หมอหมาผู้ที่มีจิตใจโหดเหี้ยม แต่จะเข้าโหมดมุ้งมิ้งเวลาอยู่กับไอ้เอ๋อ อันนี้คนรอบข้างสังเกตได้ เพราะออร่าแผ่กระจายออกมาเรี่ยราดมาก



“นะโมบอกผู้ปกครองเรื่องไปเข้าค่ายรึยัง?” เสียงของครูประจำชั้นเอ่ยถามมันตอนคาบโฮมรูม มันหน้าเหวอไปนิดเพราะไม่ได้บอกกับสิงห์เรื่องนี้มันลืม เพราะมีเรื่องของแป้งมากวนใจ

“ยะ. ยัง ยังครับ งืออ หนูลืม”

“เอ้า จะไปอีกสองวันนี้แล้วนะ”

“ดะ เดี๋ยว ตอนเย็นบอกครับ ตอนเย็นบอก”

“จ้ะๆ แล้วอย่าลืมให้ผู้ปกครองเซ็นต์เอกสารกลับมาด้วยละ”

“ครับ”

“อย่าบอกนะว่ายังไม่ได้บอกพี่มึง”

“หนูลืมอะ”

“ตายแน่มึง มึงโดนพี่มึงแดกหัวแน่ๆ” ปิงแกล้งขู่ไปอย่างนั้น เพราะหลังจากขู่ปิงก็หัวเราะออกมา

“ง่าส์ โดนกินหัวเลยหรออ” มันยกมือเล็กๆ ของมันจับหัวตัวเองแล้วทำหน้ายี้

“ตายแต่มึง”

“งื้อออ ปิงปิงทำไมต้อพูดให้กลัว”

“เอ้ากูพูดความจริง มึงมัวแต่นอยใส่เค้า เป็นไงละเรื่องสำคัญไม่ได้บอก ฮ่าๆ ๆ”

“สัด ปิงเยอะแล้วมึง ดูมันด้วย เบะแล้วนั่น” ซีตัสพูดเสียงดุๆ

“แตะไม่ได้เลยนะ -*-”

“ก็มึงไปแกล้งมันไหมล่ะ นะโม อย่าไปฟังมันมากมันเพ้อเจ้อ” ซีตัสบอกปัดพร้อมกับกอดคอมันเดินออกจากห้องเพราะคาบนี้ต้องเปลี่ยนห้องเรียน

วันนี้ทั้งวันไอ่เอ๋อมันก็ทำเครียดๆ แล้วก็มองค้อนปิงตลอด จนปิงหงุดหงิด เดินแยกกันทั้งวัน

ตกเย็นสิงห์มารับมันที่หน้าโรงเรียน ซีตัสเดินเข้าไปหาที่รถพร้อมกับมันแล้วก็ปิงเพื่อที่จะคุยเรื่องเข้าค่ายต่างจังหวัด

“พะ พูดให้หน่อย ตัสตัส” มาถึงมันก็สะกิดเอาซีตัสยิกๆ แถมยังหลบตาสิงห์อีกต่างหาก

“มีไรกัน” แค่น้ำเสียงเข้มๆ ของสิงห์ไอ้เอ๋อมันก็จ๋อยแล้ว

“พี่ลงมาคุยก่อนได้ปะ คุยแบบนี้เมื่อยคอ” ซีตัส

“อืม” พอสิงห์ลงมาไอ้เอ่อมันก็เข้าไปหลบที่หลังปิงทันที สิงห์เลยยิ่งสงสัยใหญ่ คิ้วหนาขมวดลงนิดๆ พร้อมกับมองไอ้เอ๋อไปด้วยสิงห์พยายามจะดึงตัวไอ้เอ๋อให้มาอยู่ใกล้มันก็เบี่ยงตัวหลบตลอด พร้อมทำหน้าอ้อนๆ ใส่ อ้อนเขาแต่หลบอยู่หลังคนอื่นนี่อะนะ

“คืองี้พี่ พวกม.6อะจะมีการเข้าค่ายอบรมณ์เรื่องป่าและธรรมชาติ วันศุกร์เสาร์อาทิตย์ อาจารย์เค้าให้เอกสารมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อน แต่นะโมมันลืมบอกพี่”

“อะ – ไร –นะ- “เน้นย้ำทุกคำ ทั้งตกใจแล้วก็โมโหด้วย

“ผมแค่บอกว่าพวกผมมีเค้าค่าย สามวัน ศุกร์เสาร์อาทิตย์ ผมเลยมาขออนุญาตให้นะโม นี่ครับเอกสาร” สิงห์รับไปอ่าน มือใหญ่สั่นจนกระดาษขยับ

“ (ปิงปิง หน้าพี่สิงห์น่ากลัวT^T) มันกระซิบ

“ (กูบอกแล้วมึงไม่รอดแน่) ”

“ (ปิงปิงงงง อย่าแกล้งเรา) ”

สิงห์หันมาจ้องมันสองคนที่กระซิบกระซาบกัน พร้อมกับทำหน้าดุๆ ใส่ ไอ้เอ๋อมันเลยใช้ลูกอ้อนเข้าสู้ ปิงดันหลังให้มันออกมาเผชิญหน้ากับสิงห์ตรงๆ

“พี่จ๋า...อย่าโกรธน้องน้า” มันใช้แทนตัวเองว่าน้อง ทุกคนหันมามองมันเป็นตาเดียว อยากรู้ว่ามันไปเอาคำคำนี้มาจากไหน

“......”

“น้องลืม น้องขอโทษน้า” มันขยับเข้าไปใกล้แล้วเอาหัวทุยๆ ของมันพิงอกกว้างๆ ของสิงห์

“....”

“พี่สิงห์..” มันได้ยินเสียงหายใจฟึดฟัด ใจก็สั่น เสียงเหมือนเสือโกรธ

“กลับไปคุยกันที่บ้าน พวกเธอสองคนก็กลับไปได้ละ” สิงห์ดึงข้อมมือมันให้ขึ้นรถ แล้วขับออกไปเลย โดยไม่สนใจปิงกับตัสที่ยังตั้งสติไม่ได้กับภาพที่เห็น

“เชี้ยะ เอ๋อ แมร่งอ้อนแล้วโคครน่ารักเลย!! ” ปิงพูดออกมา

“ผัวยืนอยู่นี่ ตรงนี่มองหน้ากูด้วย” ซีตัสชี้ที่ตัวเองด้วยสีหน้าเข้มๆ

“ผัวพ่อง!! ”

“กลับถึงห้องมึงจะโดน ไอ้ปิง”



+++++++++++++++++++

“พี่จ๋าอย่าดึง น้องเจ็บT^T”

“น่าตีจริงๆ ใครสอนให้แทนตัวเองว่าน้องครับ” ใช่น่าจับมาตีก้นให้แดง ตีจนต้องร้องครางใต้ร่าง มันน่านัก!!

“งืออ น้องกลัว งือ น้องขอโทษ”

ลากกันเข้าบ้านก็โดนเหวี่ยงลงกับที่นอน ก่อนจะกระโดดคร่อมทับไอ้เอ๋อมันไว้ ใบหน้าหวานๆ ของมันแดงซ่าน เพราะความเขิน ทั้งเขินทั้งกลัว

“รู้ไหมครับว่าพี่ต้องอดทนกับหนูมากแค่ไหน?” มันส่ายหน้าจนผมแผ่กระจาย

“งืออ น้องขอโทษ”

“น้อง...อึก..พูดน้องอีกแล้ว หนูจะทรมานพี่เหรอครับ” สิงห์ถามมันเสียงแหบๆ พร้อมกับขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆ

“นะ น้อง มะไม่ยู้ววววว” มันหลับตาปี๋ ดีเหมือนกันมันจะได้ไม่รู้ว่าคนแก่ๆ อย่างสิงห์ทำหน้าตาแบบไหนในตอนนี้ ใบหน้าหล่อเหลากลังทำหน้าเหมือนจะคนจะตาย เหมือนตาแก่ตัณหากลับที่จ้องจะกินเด็กเป็นอาหารว่าง!!!

“พี่จูบได้ไหม?”

“หืมม จูบ? อื้ออ” สิงห์ไม่รอคำตอบหรอกเวลาแบบนี้ เขาประกบปากลงกับปากเล็กๆ ของมันอย่างหิวกระหาย ต้องใช้คำว่า หิว! กระ! หาย! เพราะสิงห์ไม่เว้นให้มันได้พักหรือหายใจ ยิ่งจูบยิ่งเหมือนคนตายอดตายอยาก

“อะ อื้ออ แฮกๆ น้อง ไม่ไหว” มันใช้มือที่ไม่โดนล็อกดันหน้าผากของสิงห์ออกสุดแรง จนสิงห์หน้าแทบหงาย

“พี่ก็จะไม่ไหว เพราะหนูเลย! ”

“หิว หิว หิวแล้ว ท้องน้องแสบ แสบ” มันหาข้ออ้างไปทั่ว

“ไม่ได้ครับ ทำพี่เจ็บก็ต้องรับผิดชอบ”

“ให้น้องทำไร”

“ทำกับตรงนี้ ใช้ปากให้พี่”

“งื้อออ ไม่อาวว น้องกลัว”

ปฏิเสธยังไงมันก็ไม่รอด สิงห์จับมันนั่งตรงระหว่างของตัวเอง พร้อมกับใช้สายตากดดัน จนมันน้ำตารื้น ส่งสายตาอ้อนสิงห์ก็ไม่ใจอ่อน มันเอนตัวเข้าหาแก่นกลางกายที่กำลังผงาดอยู่ใต้ร่มผ้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ สิงห์ปลดซิปกางเกงลงให้สิงห์น้อยได้ออกมาสูดอากาศหายใจ มันเด้งตีใส่หน้าไอ้เอ๋อ ด้วย มันสะดุ้ง สิงห์เลยหัวเราะออกมาเบาๆ

“จับมันแบบที่เคยจับสิครับ”

“แต่ว่า..งือ”

“เร็วสิครับ^^”

“มัน มัน งื้ออ”

“หนูก็คิดว่ามันเป็นไอติมสิครับ^^”

เพราะให้คิดว่ามันเป็นไอติมนี่แหละหายนะเลยบังเกิด จากที่ดูดๆ เลียๆ พอให้พี่จ๋ามันได้รู้สึกเสียวๆ อารมณ์กำลังได้ที่ มันดันกัด คืองับ ลงบนส่วนหัว สิงห์คงลืมไปว่าเวลามันกินไอติมมันชอบกัดกินไม่ได้เลียกิน

“อื้ออออ หนู โอ้ยยย”

“งื้ออ ตีน้องทำไมT^T”

“อื้อ ขอโทษครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจ หนูเจ็บมาไหม?” ถามมันแต่ตัวเองเจ็บจนน้ำตาไหลนอนกุมเป้าตัวเอง หดหมดสลายหมดอารมณ์หื่นกามที่สั่งสมมาตั้งแต่หน้าโรงเรียน จะโทษใครไม่ได้ต้องโทษตัวเองที่สอนมาไม่ดีเอง ลืมสอนว่า ห้ามกัด!!



++++++++

“เจ็บมากไหมครับ น้องขอโทษนะ น้องไม่ได้ตั้งใจ” ไอ้เอ๋อมันนั่งกอดคนตัวโตๆ บนที่นอน

“ครับ พี่รู้ พี่ไม่เป็นอะไร” เขากัดฟันพูด จะให้ไม่เป็นได้ยังไงละ ถ้าเกิดมันใช้ไม่ได้ขึ้นมานี่เรื่องใหญ่เลยนะ สิงห์ผู้โหดเหี้ยมจะกลายเป็นแมวอ้วนๆ ที่โดนตัดไข่เลยนะ แค่คิดสิงห์ก็ใจแป้วแล้ว แล้วนี่พึ่งได้น้องแค่ครั้งเดียวเอง ยังอยากจะได้อีกเยอะๆ

“ฮึก แล้วจะให้หนูไปค่ายมั๊ย มันได้คะแนนด้วยนะ”

“ไม่อยากให้ไปเลยพูดตรงๆ พี่เป็นห่วง”

“งืออ แต่น้องอยากไป ตัสตัสไปด้วย”

“ครับ พี่รู้ว่าหนูอยากไป แต่พี่เป็นห่วง ถ้าไปเช้าเย็นกลับพี่ก็ไม่ห่วงเท่าไหร่ แต่เราไปค้างคืน พี่ห่วงตรงนี้มากกว่า” สิงห์พูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง ไอ้เอ๋อมันไม่เคยออกไปค้างคืนที่ไหน อย่างมากก็บ้านไอ้ต้าร์ที่ไปขลุกอยู่ทั้งวันแต่ไม่เคยค้าง

“ไว้พี่ให้คำตอบพรุ้วนี้เช้านะครับ”

“ก็ด้ายยย-3- “

“ตอนนี้เราไปอาบน้ำได้แล้วครับ เราจะได้ไปกินข้าวกัน”

“ครับ”

สลับกันอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็พากันออกไปกินข้าวที่ตลาด ร้านข้าวมันไก่เจ้าดังที่ต้องยืนรอต่อคิวนานสิงห์เลยสั่งกลับบ้านไว้สี่หอ ระหว่างรอก็พาไอ่เอ๋อมันไปเดินเล่นซื้อขนมกลับไปกินบ้าน ไม่นานก็เดินกลับมาเอาข้าวมันไก่ที่สั่งไว้

“อ่าวพี่สิงห์”

“ไอ้ไม้?”

“พี่ต้าร์ *0*”

“มาทำไรกันวะ ไม่เข้าเวรเหรอไง” สิงห์ถามรุ่นน้อง

“ก็เข้าอะ แต่พาหมามากินข้าวก่อน หมามันหิว”

“ใครหมา เดี๋ยวจะโดน” ต้าร์มองค้อน

“มึงไงหมา ว่างเป็นกัดๆ รอยฟันมึงเต็มหลังกูไปหมด” ไม้เมืองพูดขำๆ พร้อมกับโชว์รอยให้สิงห์ดู ต้าร์หน้าแดง เพราะมันไม่ได้มีแค่รอยกัดมันมีรอยเล็บลากยาวติดมาด้วย

“รุนแรงกันจริงนะมึง”

“หมามันชอบ ก็ต้องปล่อย แล้วนี่พี่จะกลับแล้วหรอ”

“อืม พานะโมมาซื้อข้าวกิน”

“อ่า ถ้างั้นผมพาหมาไปซื้อข้าวกินละพี่กลับเถอะ”

“ไปได้แล้วไอ้เอ๋อ เลิกกอดกูได้แล้ว โดตแล้วนะเว้ย” ต้าร์ก้าแขนที่โอบกอดตัวเองไว้แน่นออกเบาๆ เพราะโดนสายตาไม่พอใจจากคนสองคนส่งตรงมามี่ตัวเอง

“ทำไมอ่า อยากกอด กอดไม่ได้เหรอ ทำไม ทำไม” มันถาม

“ก็ เอ่อ เห้ออ พี่เอามันไปได้ละ ก่อนที่มครบางคนแถวนี้มันจะหาวีมาแกล้งผมอีก” ต้าร์ผลักไอ้เอ๋อไปหาสิงห์เบาๆ พร้อมกับย้ายตัวเองไปยืนข้างๆ หมอไม้

“เยอะ” คำเดียวสั้นๆ ที่หลุดออกจากปากหมอหนุ่ม

“นิดเดียวป่าววะ ไปๆ กูหิวแล้ว”

หลังจากแยกย้ายสิงห์พาไอ้เอ๋อกลับบ้าน กลับมากินข้าวมันไก่ พร้อมกับดูหนังไปด้วย ข้าวมันไก่สี่ห่อหมดเกลี้ยงในเวลาไม่นาน ไหนจะขนมที่ซื้อมาอีก กินกันจนพุงกางนั่งอืดลุกกันไม่ขึ้น พอหนังจบก็เก็บจานไปล้าง สิงห์เดินไปปิดบ้านเตรียมตัวเข้านอน

“ไปแปรงฟันก่อนนอนด้วยครับ” สิงห์ทักไอ้เอ๋อก่อนที่มันจะเดินเข้าห้องได้ทัน พักนี้อะไรเนียนได้มันเนียนตลอด

“แงะ”

“ไม่ต้องมาแงะ ไปครับพี่แปรงด้วย” ทั้งคู่ยืนแปรงฟันอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ต่างคนต่างมองกันผ่านกระจก แล้วก็หัวเราะกันเอง พอแปรงฟันเรียบร้อยก็กลับมานอน สิงห์ปิดไฟไอ้เอ๋อมันก็กระโดดขึ้นที่นอนทันทีสิงห์สอดตัวเองเองเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกับมันแล้วดึงมันให้มานอนหนุนไหล่ก่อนที่จะพากันเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน

เช้าของวันต่อมาไอ้เอ๋อมันตื่นแต่เช้า มาทำงานบ้านตามหน้าที่ของมัน พร้อมกับมื้อเช้าที่ต้องลุ้นเอาว่าจะกินได้หรือไม่ได้ มันยกหม้อสเตนเลสขึ้นตั้งไฟใส่น้ำลงไป รอจนเดือด มันทำมื้อเช้าของมันไปเรื่อยๆ จนเสร็จ ก็หกโมงพอดี มันเลยไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อไปโรงเรียน ระหว่างนั้นมันก็ไปปลุกสิงห์ด้วย พอแต่ตัวเรียบร้อยก็ออกไปรอที่โต๊ะอาหาร

“หอมจังเลยครับ” สิงห์เดินเข้ามาที่ครัวแล้วก้มลงหอมแก้มมันเบาๆ

“อ๊ะ พี่จ๋า..หอมอีกแล้ว”

“ก็แก้มหนูหอมนี่ครับ พี่จะหอมอีกข้าง”

ฟอด!!

“งื้อออ”

“หึหึหึ วันนี้ทำอะไรให้กินเอ่ย”

“ข้าวต้มรวมมิตร” มันบอกอย่างภูมิใจ จ้ะรวมมิตรจริงๆ ใส่ยันปลาเค็มที่ซื้อเอาไว้กินกับข้าวต้มกุ้ย

“อ่า น่ากินเนอะ” สิงห์แทบจะกัดฟันพูด เขากินข้าวต้มของไอ้เอ๋อไปเงียบถึงแม่รสชาติจะไม่ได้แย่อะไรมามากมายแต่ถ้าการพูดตรงๆ จะเป็นการทำร้ายไอ้เอ๋อมันเดินไปเขาก็เลี่ยงที่จะไม่พูด

“พี่จ๋า แล้วเรื่องเข้าค่ายของน้องละ พี่จ๋าจะให้ไปไหม?” มันถามตอนที่กำลังนั่งรถไปโรงเรียน สิงห์เองก็พึ่งนึกขึ้นได้

“เอาเอกสารมาให้พี่เซ็นต์ก่อนเข้าเรียนละกันครับ” เขาตัดสินใจให้มันไป เพราะมันจะได้เรียนรู้เรื่องการเอาตัวรอดได้มากขึ้นและจะได้เข้าสังคมกับเขาบ้าง

“พี่จ๋าให้น้องไปหรอ *0* “

“ครับ” สิงห์ตอบยิ้มๆ ใช้เค้าให้น้องไป

หลังจากลงรถไอ้เอ๋อมันก็วิ่งตัวปลิวไปหาซีตัสพร้อมเอกสารในมือ หลังจากส่งนะโมเสร็จเข้าก็เข้าไปที่คลินิก เพื่อที่จะเคลียงานของตัวเองให้เสร็จ



+++++

“ตกลงพี่มึงให้ไปใช่ปะ” ปิงนอนหมอบกับโต๊ะเรียนแล้วหาวออกมา ก่อนจะถามไอ้เอ๋อ

“อื้อ หนูจะได้ไปทะเลแล้ว” เพราะว่าไปค่ายที่ติดทะเลไอ้เอ๋อมันเลยกระตือรือร้นมากๆ

“แล้วเตรียมกระเป๋ารึยัง จะอีกวันสองวันนี้ละเดี๋ยวก็ไม่ทัน” ซีตัสถามเสียงนิ่งๆ

“ยังเลย”

“กลับไปก็รีบจัด”

“จัดไงอะ”

“เห้ออ ไอ้เอ๋อ มึงรู้อะไรบ้างไหมเนี้ยะ” ปิง

“เดี๋ยวจดให้แล้วเอาของทุกอย่างที่จดใส่กระเป๋าให้ครบ” ซีตัสลิสรายการที่จำเป็นให้ไอ้เอ๋อมันรับไว้แล้วใส่ลงในกระเป๋าเสื้อ ระหว่างที่รออาจารย์เข้าสอน อยู่นั้น ยิมก็วิ่งเข้ามา

“นะโม นะโมอยู่ป่าว” ยิมร้องเรียกเสียงดัง

“เราอยู่นี่ ยิมยิม” ไอ้เอ๋อมันลุกขึ้นแล้วโบกมือให้

“อะ นะโมอาจารย์โต้งเรียกอะ เร็วๆ เรื่องด่วน” อาจารย์โต้งเป็นอาจารย์ที่ดูแลชมรมหมากรุกของมันนั่นเอง

“อ๊ะ อ่า อื้อๆ ตัสตัสบอกอาจารย์ให้เราด้วย”

” เออ ไปเถอะ ฝากมันด้วยยิม”

“เออๆ ไปกันนะโม” ยิมจูงมือไอ้เอ๋อวิ่งออกไป

“อิยิม มันจับมือลูกกูไปไหน” ส้มที่เดินเข้ามาพอดีเห็นยิมเข้าพอดี ส้มโวยวายเพราะตอนนี้ไอ้เอ๋อคือนางฟ้าขึ้นหิ้งของห้อง ที่มีแต่คนหวงและปกป้อง เหมือนไข่ในหิน โดยเฉพาะแก้งสาวๆ เรียกมันลูกทุกคำ

“จารย์โต้งเรียกมันไม่รู้มีเรื่องอะไร” ปิงตอบด้วยสีหน้าเหนื่อยๆ เหมือนคนอดนอน

“ไม่พ้นเรื่องแข่งอีกแน่เลย เห็นว่าตอนนี้กำลังมีแข่งหมากรุกชิงแช้มป์ประเทศไทยอยู่ ส้มเดา

“เหรอวะ แล้วลูกมึงจะสู้เค้าได้เหรอ”

“อย่ามาดูถูกลูกโมของกูค่ะ นะโมอะมันลูกเทพรู้ไว้ซะด้วย” ดาวเดินมาสมทบพร้อมกับตบโต๊ะเสียงดัง

“โหยเดี๋ยวนี้แตะไม่ได้” ซีตัสแซว

“กูพึ่งจะรู้ทางสว่างไง ว่าลูกกูนี่เทวดามาเกิดชัดๆ คนอะไรนอกจากจะหน้าตาน่ารักนิสัยยังดีโคตรๆ ไม่เหมือนมึงอิปิง แกล้งลูกกูอยู่ได้” ส้มว่าคนที่นอนตาปรือ เอาหัวซบไหล่ซีตัส

“นั่นมันเมื่อก่อนปะ เดี๋ยวนี้กูก็ดูแลมันปะ”

“เออ กูว่าไปงั้นแหละ”

“เลือกเถียงกันได้แล้วอาจารย์มาแล้ว ไปนั่งที่” ซีตัสไล่สาวๆ ให้ไปนั่งที่ส่วนปิงก็โดนผลักหัวออก เพราะเขาต้องบอกทำความเคารพ



+++++++

“มีแข่ง ว่าแล้วไง”

“เริ่มซ้อมอาทิตย์หน้าวะ หลังกลับจากค่าย” ยิมอธิบาย เพราะให้ไอ้เอ๋อมันพูดวันนี้ก้คงไม่รู้เรื่อง

“ซ้อมตอนเย็นทุกวัน นะโมมันต้องบอกพี่มันให้มารับช้าหน่อย”

“อืมเดี๋ยวกูคุยให้” ซีตัสบอก

“แล้วใครจะเป้นคนซ้อมมือกับมันวะ” ปิงถาม

“ก็พวกกูแล้วก็คนนอกอะ เห็นว่าจะขอให้ชมรมหมากรุกจังหวัดส่งมาอาทิตย์ละคน ซ้อมกับมันทุกวัน จนกว่าจะแข่ง มีเก็บตัวอีก พวกกูก็ต้องลงแข่งด้วย เพราะกูเป็นแช้มป์จังหวัดอยู่แล้ว ส่วนนะโมอาจารย์เค้าส่งเป็นตัวแทนของโรงเรียน” ยิมพูดไปพร้อมกับเล่นกับไอ้เอ๋อไปด้วยทั้งจับแก้มลูบหัว โยกตัวมัน หารู้ไม่ว่ามีใครบางคนกำลังเดินเข้ามาหาอย่างเงียบๆ สิงห์มารับมันนานแล้วแต่จอดรถไกลเลยต้องเดินเข้ามา ทุกคนไม่เห็นสิงห์เลยสักคน

“คึคึคึ อย่าโยกแรงจิ เราเวียนหัว ยิมยิม”

“ก็นะโมตัวเบานี่”

วืดดดดด จู่ไอ้เอ่อมันก็รู้สึกถึงแรงกระชากที่แขน พอเห้นว่าใครกระชากมันก็ยิ้มแป้น

“พี่จ๋ามารับน้องแล้ว”

“อืม” สิงห์ตอบแต่ตาจ้องไปที่ยิมเขม็ง เขาส่งสายตาดุดันและน่ากลัวไปให้

“แล้วเล่นอะไรกันเหรอ ทำไมต้องแตะเนื้อต้องตัวกันด้วย” เขาถามเสียงเรียบๆ

“อะ เอ่ออยิมอึ้งไปพักเพราะสายตาที่สิงห์มองมาที่ตนเองนั้นน่ากลัวจนพูดไม่ออก ซีตัวยืนกลั้นขำเพราะเขาเองก็เคยโดนแบบยิมมาแล้ว ถึงได้รู้ว่าสิงห์หวงนะโมขนาดไหน

“พี่ถามก็ตอบสิครับ ทีหลังอย่าจับน้องพี่โดยพลการอีก พี่ไม่ชอบ” สิงห์เน้นทุกคำจนยิมลมแทบจับ ส่วนไอ้เอ๋อนะเหรอ ไม่ได้สนใจอะไรหรอก มันสนใจรถไอ้ติมที่กำลังวิ่งผ่านมากกว่า

“อมแล้วดูด อมแล้วดูด ดูดๆ แล้วก็อม” มันร้องเพลงประจำรถไอติมที่เปิดเสียงดัง

“ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ไอ้เอ๋อมึงนี่แมร่ง” เป็นปิงที่หลุดหัวเราะออกมาเป็นคนแรก เสียงร้องของไอ้เอ๋อมันไปทำลายบรรยากาศมาคุทีกำลังประทุเข้าให้

“อะไรอ่า”

“กลับบ้านเถอะพี่ บ้านผมไกล” ซีตัสบอกพร้อมกับยกมือไหว้ ทุกคนเลยทำตาแล้วก็พากันสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว สิงห์จูงมือไอ้เอ๋อมาที่รถ วันนี้เขาตั้งใจจะพามันไปซื้อโทรศัพท์สักเครื่องความจริงตั้งใจว่าจะซื้อให้ตั้งนานแล้วลืมเพราะอยู่ใกล้กันตลอด พอจะต้องห่างกันแบบนี้ถึงนึกขึ้นได้ สิงห์พามันไปที่ห้างสรรพสินค้า แล้วพามันไปเลือกซื้อโทรศัพท์ พอเห็นว่าสิงห์พามันเข้าร้านอะไรมันก็ชะงักทำตาโต เม้มปากแน่น

“พี่จ๋าจะซื้อหรอ”

“ครับ ซื้อให้หนูไง”

“แต่หนู ไม่ได้เอาตังมา”

“พี่ซื้อให้”

“งืออ เดี๋ยวหนูทำงานใช้คืนให้นะ” มันบอกเป็นมั่นเป็นเหมาะเพราะว่าคนอย่าง

ไอ้เอ๋อไม่ชอบเอาของใครฟรีๆ มันต้องทำงานแลก มันถึงจะสบายใจ

“หึหึ ได้ครับ แต่งานเดี๋ยวพี่บอกเองว่าต้องทำอะไรนะ”

“อื้อ” สิงห์ยืนเลือกไม่นานเพราะคิดไว้แล้ว ว่าจะเอาเหมือนกับของตัวเอง พร้อมกับซื้อเคสที่เป็นคู่ด้วย ไอ้เอ๋อมันตื่นเต้นกับโทรศัพท์เครื่องใหม่ ของชิ้นแรกที่มันมีเหมือนคนอื่นเค้า

“ชอบไหมครับ”

“ชอบ ชอบมาก ขอบคุณครับ^^” มันกำถุงใส่โทรศัพท์ไว้แนบอก แล้วยิ้มออกมา

“ถ้างั้นเราไปซื้อของใช้เข้าบ้านดีกว่าเนอะ”

“แยมหมดแล้ว น้ำปลาก็หมด ไอติมของน้องก็หมดด้วยละ” ไอ้เอ๋อมันพูดขณะที่สิงห์เข็นรถเข็นไปตามล็อกสินค้า พอบอกว่าไอติมของมันหมดมันก็ทำตาอ้อนๆ มีเหรอที่คนหลงเมียจะไม่ยอม บอกเลยพี่สิงห์พร้อมเปย์น้องนะโมทุกอย่าง ขอเพียงบอกมาเท่านั้น

“พี่จ๋า หมี หมีๆ” มันหยุดเดินตรงชั้นขายเจลลี่แบร์ มือเล็กกระตุกชายเสื้อของสิงห์เบาๆ “หืม ไหนหมี” สิงห์มองหาหมีที่ว่า

“นี่ไงหมีๆ” มันเดินไปหยิบซองเยลลี่หมีมาให้สิงห์

“อยากกินเหรอครับ”

“อื้อ” มันพยักหน้าระรัว

“เอามาสิ แต่ให้แค่ห่อเดียวนะครับ”

“ได้ครับ*0*”

ขณะที่เดินเลือกซื้อของอยู่นั้น มือใหญ่ๆ ก็คอยโอบเอวเล็กๆ เอาไว้ไม่ให้ห่างกาย สายตาคนนอกที่มองทั้งคู่นั้นมีทั้งสงสัยและอยากรู้อยากเห็น

“//พ่อลูกกันมั้ง//”

“//บ้าคนพ่อยังดูหนุ่มอยู่เลย แล้วน้องผู้ชายอีกคนก็ยังแต่ชุดนักเรียนม.ปลาย//”

“//แฟนเหรอ//”

“” //ไม่มั้งคงจะพี่น้องแหละ//”

“//แอบโอบเอวหอมแก้มกันแบบนั้นไม่น่าจะใช่พี่น้องนะ//”

“//ใช่เหรอ ว่าเด็กนั่นน่ารักเป็นบ้าเลย//”

“คนพี่ก็แซบน้า..//” เสียงซุบซิบที่ดังเข้าหูตลอดจนเขาอยากจะพูดใส่หน้าดังๆ ว่า นี่เมียกูครับ เมียกู แล้วกูก็ไม่ใช่พ่อครับ กูเป็นผัว แต่ก็ต้องเงียบเอาไว้ สิงห์รีบพาไอ้เอ๋อเดินไปทางอื่นเพราะไม่อยากให้มันมารับรู้เรื่องอะไรแบบนี้ เดินซื้อของกินของใช้จนครบ ก็พากันไปจ่ายเงิน แล้วก็พากันกลับบ้าน แวะซื้อข้าวหน้าเป็ดกลับมากินด้วยคนละสองห่อ

หลังจากจัดการข้าวหน้าเป็ดจนอิ่มท้องก็พากันไปอาบน้ำเตรียมตัวนอน สิงห์เอาโทรศัพท์ที่ซื้อมาชาจต์แบตไว้ที่หัวนอน แล้วเรียกไอ้เอ๋อให้ขึ้นมานั่งตักตัวเอง ไอ้เอ๋อมันตื่นเต้นทำตาลุกวาวทุกครั้งที่เห็นสิงห์สอนการใช้โทรศัพท์ให้ สอนแปปเดียวมันก็เข้าใจแล้ว นั่งเล่โทรศัพท์เครื่องใหม่กันจนดึกสิงห์เลยบังคับให้ไอ้เอ๋อมันนอน เพราะมันเห่อโทรศัพท์เลยดื้อนิดหน่อย

เช้าของวันถัดมาสิงห์พามันไปกินโจ๊กแล้วไปส่งที่โรงเรียนเหมือนเดิม

“เดี๋ยวพี่โทรหานะ”

“ครับ คึคึคึ เอาแบบเห็นหน้านะ เห็นหน้า”

“ครับ รับให้เป็นละกัน” พูดจบไอ้เอ๋อมันก็หอมแก้มสากๆ ของสิงห์แล้วลงจากรถไป สิงห์นิ่งเป็นหุ่นเลย พอลงรถได้มันก็หันมาส่งยิ้มหวานพร้อมก็ส่งจุ๊บให้ ก่อนจะวิ่งเข้าโรงเรียนไป

“แสบขึ้นทุกวัน” เขายกมือขึ้นปิดรอยยิ้มตัวเองเอาไว้ หูเริ่มแดง กับแก้มที่ยกขึ้นสูง ดูกูรู้ว่ายิ้มไม่หุบอยู่



มาถึงมันก็อวดโทรศัพท์ทันที เหล่าบรรดาแม่ๆ ก็สอนมันเล่นโชเชี่ยล ทั้งไลน์ เฟสบุค อินสตาแกรม ไม่เว้นแม้แต่ทวิสเตอร์ กูเกิล สอนจนมันเป็น ตกเที่ยงมันก็รีบกดโทรศัพท์โทรหาสิงห์ก่อนเป็นอย่างแรกตามที่ปิงได้สอนไว้

“กดตรงนี้ใช่ไหมปิงปิง” มันหันไปถามปิงเพื่อความแน่ใจ มันยกมือที่ถือโทรศัพท์ขึ้นสูงทำมุม45องศา เอียงคอนิดๆ ตามที่ส้มเคยบอก ทำยังไงให้ดูน่ารัก รอไม่นานสิงห์ก็รับ ภาพในโทรศัพท์สิงห์ใส่ชุดกาวน์สีขาวมีแมสปิดเอาไว้ครึ่งหน้าแถมยังใส่แว่นอีก พอสิงห์เห็นมันผ่านหน้าจอ หูก็เริ่มแดงอีกครั้ง

“ว่าไงครับ”

“คิดถึง” มันตอบเสียงหวานพร้อมทำตาวิ้งๆ ใส่

“อึก พี่ก็คิดถึงหนู เที่ยงแล้วกินข้าวรึยังครับ”

“รอคุยกับพี่จ๋าก่อน”

“อื้อ พี่กำลังจะพัก หนูเองก็ไปกินข้าวก่อนนะ ครับ”

“นี่ๆ เพื่อนสอน” มันเรียกให้สิงห์ดูแล้วท่ามินิฮาร์ทยื่นให้ สิงห์มองแล้วเบือนหน้าไปอีกทางเพื่อซ่อนรอยยิ้มของตัวเอง ใบหน้าของเขาแดงไปหมด ภายใต้หน้ากากสีขาวนั่น ปากเขาฉีกยิ้มกว้างจนหุบไม่ลงแล้วตอนนี้

“น่ารักจังครับ พี่อยากจะกลับไปฟัดหนูเสียเดี๋ยวนี้ ทำอะไรไม่เกรงใจพี่เลย”

“คึคึคึ ขอบใช่ไหม นี่ๆ ๆ ๆ” มันยิงมินิฮาร์ทใส่สิงห์ไม่หยุด

“กลับบ้านกันไหมครับ เดี๋ยวพี่ไปรับ พี่จะไม่ไหวแล้ว โอ้ยยใจ” สิงห์พูดออกไปพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้

“พี่เก็บอาการหน่อย วู้ ขนาดแมสปิดผมยังรู้เลยว่าพี่กำลังทำหน้าหื่น ไปๆ นะโม แดกข้าว” ซีตัสแทรกตัวไปที่ด้านหลังของไอ้เอ๋อแล้วพูดใส่ก่อนจะกดวางสาย

“พอแล้ว ไปกินข้าวกูหิวแล้ว” ซัสเดินนำไปที่โรงอาหาร ปิงกับไอ้เอ๋อเลยเดินตาม



เย็น

“พี่จ๋ามาแล้ว เราไปนะ ไปแล้วนะตัสตัส ปิงปิง ส้มส้ม” มันโบกมือลาแล้ววิ่งไปที่รถที่จอดรออยู่ฝั่งตรงข้าม พอขึ้นรถได้สิงห์ก็ดึงมันมาจูบอย่างห้ามใจไม่อยู่ ก่อนจะปล่อยมันให้เป็นอิสระ

“ที่หลังไม่ต้องทำตัวน่ารักมากก็ได้นะครับ พี่จะอดใจไม่ไหวเอา”

“งื้อออออออ >///<”


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

เขินกันไปข้าง มาก่อนให้หนึ่งวันเพราะปั่นเสร็จเร็ว เอาใจคนอ่าน คนอ่านก็เอาใจเค้าด้วยน้าาาาา คิคิคิคิ

มือมันลั่น อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


(https://uppic.cc/d/1Gp) (https://uppic.cc/v/1Gp)
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.21 4/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Hnggnh ที่ 04-08-2018 08:00:56
ชอบเรื่องนี้มว๊ากกก ทำไมน่ารักขนาดนี้ ใช้คำว่าน่ารักเปลืองเกินไปมั้ย ชอบคุณไม้ต้าร์มากอ่าาาาท ส่วนตัวคือจิ้น
Nielong linhoon อยู่แล้วกรี๊ดแตกลยเด้ออออออออออ ลุ้นน้องเอ๋อจะโดนแกล้งมั้ยไปค่าย เป็นห่วงนะลูกนะโม สุดท้ายนี้
อยากเสนอคู่ minhwan คู่นี้น่ารักมากคะ โมเน้นต์ใน wanna one go คือแบบบบบบบ ตายไปรุย ขอบคุณมสกๆๆๆๆนะคะ จะติดตามไปเรื่อยๆ ออกเล่มมาก็จะซื้อไว้ชาบู บูชาเลย อร๊ายยยยยยย
 :z3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.21 4/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 04-08-2018 09:35:57
เป็นตอนที่น่ารักมาก
อย่าว่าแต่พี่สิงห์เลย  คนอ่านก็ยิ้มไม่หุบแล้วเนี่ย

นะโมที่สุดของที่สุดเลย  :mew3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.21 4/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-08-2018 10:05:20
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.21 4/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-08-2018 13:14:18
 :L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.21 4/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-08-2018 19:14:00
น่ารักมากไปแล้ว นะโม  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.21 4/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-08-2018 23:39:53
อิพี่หมอใจละลายแล้ว555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.21 4/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 06-08-2018 00:22:22
อ่านไปยิ้มไปกับความน่ารักของนะโม
ชื่อเพื่อนๆนะโมช่างเรียกนะ  ปิงปิง
ตัสตัส ยิมยิม  ส้มส้ม 
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.21 4/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 06-08-2018 21:47:43
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.21 4/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 07-08-2018 01:14:34
ชอบความเรียกชื่อพื่อน2ครั่ง ตะมุตะมิเหมือนตัวเองให้หมดเลยว่างั้น
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.21 4/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 07-08-2018 02:11:17
น่าร๊ากกก อ่านตอนนี้ละยิ้มไม่หุบเลย ตลกอีพี่มันถึงกับทรุด เข่าอ่อนเลยที่เดียว นะโมส่งมินิฮาร์ทให้ 555555 พี่สิงห์นี่คนหวงเมีย2018 จริง หวงห่วงหื่นหนักมาก 5555 //กลายเป็นขวัญใจเพื่อนไปแล้วนะโม ทุกคนรุมล้อมปกป้อง ก็เพราะนะโมทั้งน่ารักแล้วเก่งหมากรุกอีก รอไปชิงแชมป์มาเลย //ไปเข้าค่าย3วัน2คืนคงสนุกพิลึก55555ทั้งนะโมแล้วเพื่อนแต่ละคนแสบกันใช่ย่อยที่ไหน 5555 ดีแล้วไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ได้ทำกิจกรรมกับเพื่อน คิดถึงก็วีดีโอคอลเอานะพี่สิงห์ 5555 //ตลกซีตัสฉากนี้ “ผัวยืนอยู่นี่ ตรงนี่มองหน้ากูด้วย” นี่ก็แบบ มันใช่หรอวะ ใช่หรอซีตัส มีโหมดนี้ด้วยหรอวะ 55555 ไม่คิดว่าจะมีโหมดหึงปิง โว้ยยยกูตลก 55555 //ก็คิดว่าพี่สิงห์จะขี้หึงคนเดียว ที่ไหนได้ อีกคนก็พอกัน ไม้เมืองนิดหน่อยไม่ได้เลยนะ แหมมม แล้วต้าร์ก็แบบ กลัวเขาวอแวใช่ป่ะ เลยเกรงๆหน่อย 555555 แต่ละคู่ต่างคนต่างหึงกันไปมา บ้าบอ 555555 //สนุกกกกก รอๆตอนต่อไปเลยค่ะ เข้าค่ายจะเป็นไงมั้ง 
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.22 12/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 12-08-2018 10:32:14
22



“จัดกระเป๋าเรียบร้อยแล้วนะครับ”

“ค๊าบบ”

“ยาสีฟันเอาไปรึยัง?”

“อยู่นี่!! ><”

“กางเกงในละ”

“สี่ตัว น้องเอาลายหมีพูกะพิกเลทไป” ชูซองซิบที่ใส่กกน

“ขันละ ขันอยู่ไหน”

“อ่า อ่อ อยู่ในถุงรองเท้าข้างนอก”

“ไม่ขาดอะไรแน่นะ”

“ไม่ขาด ไม่ขาด” ไอ้เอ๋อมันยิ้มแป้น ตื่นเต้นกับวันพรุ่งนี้ วันที่มันจะได้ไปนอนค้างที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง แต่คนที่ตื่นเต้นกว่าเห็นจะเป็นผู้ปกครองสุดหล่อของมัน เดินไปเดินมา เช็กของของ มันเช็กแล้วเช็กอีก เช็กจนไอ้เอ๋อต้องลื้อของในกระเป๋าออกมาให้ดูอีกรอบ

“พี่จ๋า หิวๆ น้องหิวครับ” มันเดินไปนั่งตักแกร่งแล้วพูดอ้อนๆ มันหิวตอนสี่ทุ่ม หิวตอนที่ร้านค้าเค้าเก็บของกลับบ้านกันหมดแล้ว

“อยากกินไข่ดาว กินไข่ดาวน้าๆ”

“ครับๆ ไปที่ครัวกัน” สิงห์จูงมือไอ้เอ๋อเข้าครัว ไปทอดไข่ดาวกินกับข้าวร้อนๆ คนละสองฟอง กินเสร็จก็แปรงฟันนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า แต่กว่ามันจะหลับลงก็พลิกไปพลิกมาหลายรอบสิงห์เห็นท่าไม่ดีก็นอนลูบหลังให้จนมันหลับคาอก

ตีห้า มันลุกไปอาบน้ำ เช้านี้สิงห์บอกว่าจะพามันไปกินโจ๊กเลยไม่ต้องทำอาหารเช้าให้ หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยด้วยความเห่อมันเอากระเป๋ามาวางไว้หน้าบ้าน แล้วเดินไปมาด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับคุยจ้ออยู่คนเดียว มันคุยคนเดียวจนสิงห์เลิกสนใจ

“หนูไม่อยู่บ้านสามวันเลยน้า พี่สาวไม่คิดถึงหนูเหรอ?”

“ (.....) ”

“คึคึ หนูจะซื้อขนมมาฝากเยอะๆ เลย ฝากคุณยายด้วย

“ค๊าบ หนูจะไม่ซน”

สิงห์เดินลงมาจากบ้านด้วยชุดไปรเวทธรรมดาๆ คือเสื้อเชิตสีดำกับกางเกงยีนสีดำรองเท้าผ้าใบสีขาว มีพรอพเป็นแว่นตาสีชา

6.30น. มาถึงร้านโจ๊กเจ้าประจำ

“ป้านีจ๋า หนูเอาโจ๊กหมูใส่ไข่เยอะๆ” มันเดินมาสั่งพร้อมกับยกมือไหว้ป้าเจ้าของร้าน

“อ่าวทำไมวันนี้มาแต่เช้า?” ป้านีทักพร้อมกับรอยยิ้มเอ็นดู

“วันนี้เค้าจะต้องไปค่ายครับ เลยต้องมาแต่เช้า” สิงห์เป็นฝ่ายตอบแทนไอ้เอ๋อมัน ร่างป้อมๆ ของมันเดินไปตักน้ำมาสองแก้ว แล้วเอาไปวางที่โต๊ะ

“แล้วอย่างนี้นะโมจะอยู่คนเดียวได้เหรอคะคุณสิงห์”

“ผมอยากให้น้องลองใช้ชีวิตข้างนอกดูบ้างครับป้า เขาจะได้เรียนรู้”

“ป้าก็ว่าดี นะโมมันดีกว่าคนอื่นเยอะ ดีกว่าที่ป้าเห็น”

ไม่นานโจ๊กอร่อยๆ ก็มาเสิร์ฟ กินแบบไม่ต้องรีบ เพราะเวลาเหลือเยอะ ชามของไอ้เอ๋อมันมีไข่ลวกสามฟอง มันไล่กินส่วนที่เป็นข้างจนหมดเหลือแต่ไข่เอาไว้กินทีหลัง และมันจะกินแบบนี้ทุกๆ ครั้งที่มากินโจ๊กร้านนี้มันค่อยๆ ละเลียดไข่แดงบนช้อนไข่แดงเด้งดึ้ง

“อร่อยยยยยยย*0*”

“หึหึ”

“ (0.0) ไข่ พี่จ๋า น้องกินได้ ป่าวววว” จู่ๆ มันก็พูดขึ้นมาหลังจากที่กินไข่ของตัวเองหมดไปแล้ว สิงห์เงยหน้าขึ้นมาจากชามก็เห็นมันนั่งคาบช้อนมองเขาตาแป๋ว

“=_=”

“ไม่ได้หรอครับ Q^Q” มันทำหน้าน้ำตาคลอใส่ แบบนี้แล้วใครมันจะกล้าปฏิเสธ บาปตายเลย

“ได้สิ เพื่อหนูพี่ให้ได้หมดอยู่แล้วครับ”

“งือออ ขอบคุณครับ” มันจ้วงไข่ลวกในชามของสิงห์ทันที ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้เขาเป็นการตอบแทนค่าไข่

“0////0”

“^-^พี่จ๋าร้อนหรอหน้าแดง หน้าแดงมากๆ เลย”

“ป่าวครับ กินอิ่มรึยังเอ่ย จะได้ไปโรงเรียนกัน”

“อื้อ อิ่มแล้วครับ น้องอิ่มมากกก” มันลากเสียงยางก่อนจะดื่มน้ำปิดท้าย สิงห์ลุกไปจ่ายตังค์ค่าโจ๊ก ก่อนจะพามันไปส่งที่โรงเรียน เด็กนักเรียนชั้นม.หกเริ่มทยอยกันมาบ้างแล้ว สิงห์ถือกระเป๋ามันลงจากรถพร้อมกับกวาดสายตามองไปทั่วๆ

“ตัสตัส” เสียงเรียกชื่อของซีตัสทำให้สิงห์หันไปมอง กลุ่มห้อง6/3 ยืนรวมตัวอยู่ตรงรถทัวร์คนที่สอง ซีตัสกับปิงเดินมาหามัน

“กระเป๋าละ จะเอาไปไว้รถให้” ปิงถามหากระเป๋าของมันทันทีที่มาถึง สิงห์เลยอาสาจะเอากระเป๋าไปใส่รถให้เอง ทุกคนเดินไปที่รถ เหล่านักเรียนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นต่างพากันกรี๊ดกร๊าดใส่ทันทีที่เห็นสิงห์เดินมา เพราะออร่าของเขามันพุ่งกระจายไปหมด มีเด็กนักเรียนบางคนยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเขา แต่ก็โดนไอ้เอ๋อแย่งซีนเสียหมด ไม่ว่าใครจะยกมือถือขึ้นมาถ่ายมันจะเอาหน้าเอ๋อๆ ของมันบังหน้ากล้องทุกครั้ง จนคนแอบถ่ายจนใจเลิกถ่ายไปเอง พอไม่มีใครสนใจสิงห์แล้วมันก็อมยิ้มหัวเราะคิกๆ อย่างชอบใจ

“แหม มึง คิดว่าคนอื่นเขาไม่เห็นไง ทำเป็นหวง” ปิงที่มองมันอยู่ก่อนแล้วถึงอับเอ่ยแซวมันออกมาอย่างหมั่นไส้กับความขี้หวงของมัน

“อารายยยย ทำไมปิงปิงมองเราแบบนั้นละ?”

“ไอ้เอ๋อเอ้ยยยย” ปิงผลักหัวมันเบาๆ

“หึหึ/หึหึ” มีสองคนที่หัวเราะด้วยโทนเสียงต่ำๆ กับภาพที่เห็น พอเอาของใส่รถเรียบร้อยสิงห์ไล่ให้เด็กๆ ขึ้นรถไปจับจองที่นั่ง โดยที่เขาขึ้นไปนั่งเล่นอยู่ด้วย

“อย่าลืมนะครับว่าอย่าไปไหนคนเดียว ไปไหนต้องมีเพื่อนไปด้วย แล้วก็ห้ามปิดมือถือ” สิงห์สั่งก่อนที่รถจะออก

“ครับ”

“อย่างอแงจนเพื่อนรำคาญ มีอะไรให้โทรหาพี่นะครับ”

“อื้อๆ”

“ซีตัสพี่ฝากมันด้วย”

“อืม มีคนดูแลมันเยอะไอ้เอ๋อนะ ไม่ต้องห่วงหรอก”

7.45น.รถเริ่มออกตัว สิงห์ยืนส่งมันไอ้เอ๋อชะโงกหัวออกมาทางหน้าต่างแล้วโบกมือให้มัน รอยยิ้มหวานๆ ของมันส่งมาให้เขา ก่อนที่จะค่อยๆ หุบลง จู่ๆ มันก็ทำหน้าเบะ แล้วก็ร้องออกมา ซีตัสต้องดึงตัวมันเข้ามา ส้มที่นั่งอยู่ด้านหลังก็ย้ายตัวเองมานั่งคู่กับมันทีซีตัสเลยต้องย้ายไปนั่งแทนส้มซึ่งปิงนั่งอยู่ข้างๆ

“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ”

“คิดถึงแล้ว ฮรืออ ไม่ไปได้ไหม”

“ไม่ได้ มึงไม่อยากเล่นน้ำทะเลเหรอ?” ปิงพูดขึ้นมา

“อยากสิ เราอยาก”

“งั้นหยุดร้อง” ปลอบกันได้ไม่กี่ประโยค สิงห์ก็โทรหามันคุยกันอยู่นานจนมันเลิกร้อง และกลับมาสดใสเหมือนเดิม รถทัวร์สามคันแล่นตามกันเรื่อยๆ แววตาสุกใสของไอ้เอ๋อมันลุกวาวกับความแปลกใหม่ของสิ่งรอบๆ ตัวมัน ทั้งรถราที่วิ่งสวน หรือแม้กระทั่งบ้านเรือนที่ดูแปลกตา มันนั่งริมหน้าต่างตาก็สอดส่อง ปากก็เคี้ยวขนมตุ้ยๆ ไม่ต้องสงสัยว่ามันขนมามาจากไหน ก็จากแม่ๆ สมมุติของมันนั่นแหละ ดูจะเอ็นดู ดูแลเอาใจใส่ เลี้ยงเหมือนลูกไม่มีผิด

“ชะ ช้าง ช้าง ช้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง” มันตะโกนแข่งกับเสียงเพลงในรถ ระหว่างทางมันเห็นช้างเร่เดินอยู่ข้างถนน สองมือแปะกับกระจก แถมเอาหน้าแนบจนบี้ อีก มันเรียกให้คนอื่นๆ ดูแต่ก็ไม่มีใครสนใจ ปิงสะกิดให้มันนั่งลงดีๆ นั่งเล่นนั่งคุยได้ไม่นานมันก็หลับ สะดุ้งตื่นอีกทีคือรถแวะจอดที่ปั๊ม มันควักโทรศัพท์ออกมาด้วยสีหน้างัวเงีย

“ตัสตัส เราจะโทรหาพี่จ๋า แต่เราง่วง ปวดฉี่ด้วย” มันดึงชายเสื้อของซีตัสเอาไว้

“ปวดฉี่ก็ลุก”

“งือออ ปิงปิงงงง” มันหันไปอ้อนอีกคนทันที

“เห้อ นี่มึงเป็นเพื่อนหรือเป็นลูกกูกันแน่วะ เอ๊าลุก” ปิงเดินย้อนไปหามันก่อนจะดึงมันให้ลุกขึ้นตาม มือเรียวกอบกุมมือนุ่มๆ ของมันไว้แล้วออกแรงลากให้ลงจากรถ

“ไปเข้าห้องน้ำไป เดี๋ยวพวกกูยืนรอ ตรงนี้” ห้องน้ำตอนนี้เต็มไปด้วยนักเรียนชายม.6กับนักท่องเที่ยวทั่วไป ไอ้เอ๋อมันยืนรอไม่นานก็ได้เข้า แต่มีชายคนหนึ่งเดินตามมันเข้าไปและยืนรออยู่หน้าประตูท่าทางไม่น่าไว้ใจ พอมันเดินออกมาชายคนนั้นก็เดินตามออกมาอีก

“หนู หนู ช่วยอะไรลุงสักอย่างสิ” มันถูกดึงให้หยุดและลากไปหลังพุ่มไม้

“อะไร อะไร อื้อ อย่าจับหนู” ไอ้เอ๋อมันร้องออกมาด้วยความตกใจและขืนตัวเองเอาไว้ไม่ให้ไปตามแรงลาก

“ช่วยไปดูที่รถกับลุงหน่อย รถมันเสีย” ชายคนดังกล่าวพยายามจะลากมันไปที่รถแต่ไอ้เอ๋อมันขืนตัวไว้

“ไม่ ไม่ไป ไม่ไป ซ่อมไม่ได้ ปล่อยนะ ตะ- “

“มากับกูเงียบๆ ไอ้ปัญญาอ่อน!! ” จู่ๆ มันก็โดนตะคอก จากผู้ชายคนนั้น ใบหน้าที่ดูใจดีในตอนแรกแปลเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว มันตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัวสุดขีด

“!!!! ” ปากมันถูกปิดสนิทก่อนจะถูกผู้ชายคนนั้นลากไปทางด้านหลัง

“อื้ออออ ๆ อ่อย อ่อน อ้า อ้วยยอ้วยยย” ไอ้เอ๋อมันพยายามร้องให้คนช่วย น้ำตามันไหลพราก ความทรงจำในวัยเด็กค่อยๆ ผุดขึ้นมา ความรู้สึกขยะแขยงและหวาดกลัวค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมันตัวชาดิก ไม่มีแรง

“เห้ย!! ทำอะไรเพื่อนกู”

ผลั้วววว

“ฮรือออ ยิมยิม ช่วยเราด้วย ฮรืออ ยิมมมมมม”

“มึงเสือกอะไรด้วยวะ! ”

“ไอ้ตัส ไอ้ตัส ไอ้ปิง” ยิมตะโกนเรียกเพื่อนตัวเอง พอสองคนนั้นได้ยินก็รีบวิ่งมา พอเห็นสภาพไอ้เอ๋อกับชายแปลกหน้า เขาก็รู้ทันทีว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับไอ้เอ๋อแน่ๆ ปิงที่ใจร้อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็สวนหมัดลุ่นๆ เข้าเต็มเบ้า

“มึงทำอะไรไอ้เอ๋อ!! ” ปิงตวาดเสียงลั่น

“ไอ้เด็กพวกนี้มันจะมากไปแล้วนะ”

“ปิงปิง ฮึก ลุง ลุงจับ ฮึกจับเรา”

“มึงจะลักพาตัวเพื่อนกูเหรอ ไอ้เหี้ย!! ”

พอเห็นว่าสู้ไม่ได้ก็ต้องถอย ชายแปลกหน้าผลักปิงจนหงายหลังไปชนกับซีตัสที่ตั้งท่าจะเข้าไปทำร้ายจนเซไปอีกคน แล้วก็วิ่งหนีหายไป เหลือไว้เพียงความโกรธและก็ความสงสัยไว้

“เกือบไปแล้วไหมล่ะ ดีนะกูเดินมาทางนี้พอดี” ยิมพูดออกมาด้วความรู้สึกโล่งใจ เพราะถ้าตนเองไม่มาทางนี้ไอ้เอ๋อมันจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้

“แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ไอ้เอ๋อ” ปิงยืนกอดมันเอาไว้ ไอ้เอ๋อเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง

“มันหวังจะลักพาตัว หรือหลอกไปข่มขืนวะ” ยิมอออกความเห็น

“กูว่าแมร่งหวังจะข่มขืนไอ้เอ๋อ” ปิง

“แต่กูว่าไม่ มันแปลกๆ กูรู้สึกได้”

พวกเขาตัดประเด็นเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะไอ้เอ๋อมันสะอื้นเสียงดัง พร้อมกับเรียกร้องให้โทรหาพี่จ่าของมันไม่หยุด แต่ซีตัสบอกให้มันหยุดร้องก่อน มันเลยหยุดร้องแต่ก็ยังสะอื้นอยู่

“มึงดุมันทีเดี๋ยวกูโทรไปหาพี่สิงห์ก่อน มึงพามันไปซื้อขนมในเซเว่นก่อนก็ได้ เอ้านี่ตังค์” ซีตัสสั่งปิงพร้อมกับยื่นกระเป๋าให้ ยิมเห็นเลยแซวใหญ่ว่าเดี๋ยวนี้ใช้กระเป๋าเดียวกันแล้วเหรอ มันเลยโดนปิงตบเข้าที่หัวเป็นการแก้เขิน

“เอาซะกูเห็นดาวเลย”



++++

“พี่สิงห์ ผมมีเรื่องจะบอก”



หลังจากคุยกับสิงห์เรียบร้อยซีตัสถึงได้เอาโทรศัพท์ไปให้ไอ้เอ๋อมันคุย

“พี่จ๋า คึคึ อมยิ้มๆ” สิงห์วีดีโอคอลมาหามัน เพราะเขาอยากจะเห็นกับตาว่ามันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ

“เจ็บไหม?” เขาถามด้วยความเป็นห่วงแววตาที่ไอ้เอ๋อมันเห็นจากคนตัวสูงคือความกังวล

“งือ พี่จ๋าหมายความว่ายังไง เจ็บหรอ?”

“ที่โดนจับตัวเมื่อกี้”

“อ่า ไม่เจ็บแล้ว แต่น้องกลัวนะ น้องกลัว ตกใจด้วยนะ”

“ไหวไหม กลับบ้านไหม พี่ไปรับ” มันส่ายหน้าหวือ

“ไม่เอาไม่กลับ” มันรีบบอก พร้อมกับงอแขนลงด้วยความเมื่อยขบ

“อย่าส่ายมือสิครับ พี่เวียนหัว”

“คิคิคิ คิดถึงพี่จ๋านะ” มันยิ้มให้กับคนในโทรศัพท์ ดวงตากลมสุกใสพยายามซ่อนความหวาดกลัวเอาไว้ เพราะไม่อยากให้สิงห์เป็นกังวล มันเลยยิ้มสดใสใส่คนตรงหน้า

“พี่ก็คิดถึงหนูเป็นห่วงหนูมากด้วย คราวหน้าคราวหลังต้องระวังตัวให้มากกว่านี้นะครับพี่เป็นห่วงหนูมากรู้ไหม”

“อื้อ ไม่ต้องห่วงนะ ไม่ต้องห่วงน้อง มีตัสตัสกับปิงปิง ยิมยิมด้วย ปิงปิงแข็งแรงมาก ต่อยคนร้ายคว่ำเลย หงายท้องเลย” มันเล่าพร้อมกับทำท่าให้ดู ปิงพอเห็นท่าเลียนแบบของมันแล้วถึงกับกุมขมับ ซีตัสถึงกับอมยิ้มขำ ส่วนยิมไม่ต้องพูดถึงนู่นยืนกุมท้องตัวเองขำจนจะยืนไม่อยู่ เพราะตอนมันทำท่าน้ำลายกระเด็นใส่หน้าปิงด้วย

“มึงไม่ต้องเล่าออกรสออกชาติขนาดนั้นก็ได้ไอ้เอ๋อ” ปิงคิ้วกระตุกเบาๆ คุยกันได้สักพักก็ต้องขึ้นรถ ดีที่มันซื้อน้ำกับขนมมาไว้แล้ว กว่าจะถึงค่ายก็เกือบมืด ค่ายอยู่ที่สัตหีบ ติดทะเลมีบ้านพักเป็นหลังๆ ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ ด้านหลังเป็นป่าด้านหน้าติดทะเล มีศูนย์เพาะพันธุ์สัตว์ทะเลอยู่ใกล้ๆ เด็กๆ ถูกต้อนให้เรียงแถวตามห้องตามเลขที่ เพื่อที่จะได้แบ่งให้เข้าพักตามบ้าน ที่ทางค่ายจัดเตรียมเอาไว้ให้ พอจัดแถวแบ่งบ้านเรียบร้อยก็พากันเอากระเป๋าเข้าไปเก็บ ห้อง6/2 อยู่บ้านหลังที่ สองที่ติดกับทะเล ด้านหน้ามีต้นมะพร้าวต้นใหญ่ที่ลำต้นเอนขนานกับพื้น มาถึงก็เย็นมากแล้ว อาจารย์ผู้ควบคุมเลยปล่อยให้พักตามอัธยาสัย ก่อนจะเรียกรวมพลอีกทีตอนกินข้าวเย็น

“หูวววววววววววววววววววววว *0*ทะเล ซู๊ดดดดดดดดดดด” มันลากเสียงยาวทันทีที่เห็นหาดทรายและท้องทะเลสีเข้ม มันสูดกลิ่นไอเกลือเข้าไปเต็มปอด สองเท้าเล็กของมันก้าวลงไปยังหาดทรายละเอียดตรงหน้าอย่างเร่งรีบ รองเท้าคู่สวยถูกทอดทิ้งเอาไว้ด้านหลัง มันวิ่งหน้าตั้งลงไปที่คลื่นน้ำที่ซัดเข้ามา เด็กคนอื่นก็ทำแบบมันแต่ไอ่เอ๋อมันต่างออกไปตรงที่มันร้องไห้ไปวิ่งไป มันกำลังดีใจเพราะทั้งขีวิตนี่เป็นครั้งแรกที่มันเห็นทะเลและได้สัมผัสมันจริงๆ ไม่ใช่ในทีวีหรือในหนังสือ ซีตัสต้องเข้าประชุมร่วมกับคณะอาจารย์เพราะเป็นหัวหน้าห้อง ตอนนี้เลยเหลือแค่ปิงกับสาวๆ เท่านั้นที่อยู่เล่นกับมัน ไอ้เอ๋อวิ่งเล่นกับคลื่นที่ซัดเข้ามา เสียงหัวเราะเสียงตะโกนของมันทำให้หลายคนหันมาสนใจ บางคนเบะปากใส่บางคนมองแล้วขำ มันเห็นแต่ทำเป็นไม่สนใจมากกว่า ผ่านไปสักพักซีตัสก็เดินมาสมทบ พร้อมกับเรียกรวมตัวของม.6/2 หัวหน้าห้องคนอื่นๆ ก็เช่นกัน ซีตัสแจกใบกำหนดการให้กับทุกคน ร่างสูงยืนอยู่หน้าสุดโดยหันหน้าเข้าหาเพื่อน ใบหน้าหล่อเข้มดูขรึมลง พร้อมกับเอ่ยสั่งงานด้วยเสียงโทนเรียบๆ

“อ่านให้เข้าใจด้วยล่ะ หลังจากนี้พวกเราจะต้องไปกินข้าวแล้วอาบน้ำเตรียมตัวนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า เข้าใจไหม”

+++++++++++++++

ไอ้เอ๋อมันผ่านคืนแรกไปได้ด้วยดี ที่ไหนกันล่ะ ไอ้เอ๋อมันงอแง เพราะก่อนนอนมันโทรหาสิงห์แต่สิงห์ไม่ยอมรับสายมัน ปิงเห็นว่าดึกแล้วเลยบังคับให้มันนอน แรกๆ มันก็นอนดิ้นไปดิ้นมา เหมือนคนนอนไม่หลับ พอถามถึงได้รู้ว่าปรกติมันจะนอนกับสิงห์และนอนบนไหล่สิงห์ด้วย แบบนี้ทุกคนเลยจนปัญญา เลยได้แต่บอกให้มันนอนๆ ไป

เช้ามาไอ้เอ๋อมันตาโหล หน้าตาบอกบุญไม่รับ ทำหน้ามุ่ยอยู่ตลอด กิจกรรมอย่างแรกที่มันต้องทำคือการออกกำลังกาย การวิ่งรอบหาดทำให้มันอารมณ์ขึ้นมาบ้าง เพราะมันโบกมือทักทายชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆ ราวกับเป็นญาติสนิทหรือรู้จักกันมานาน ไม่มีใครที่นี่รู้ว่ามันไม่ปรกติ ทุกคนเลยโบกมือทักทายมันไปด้วย

“อารมณ์ดีขึ้นแล้วเหรอมึง?” ปิงวิ่งตีคู่กับมันเอ่ยถามขึ้น

“หื้ออ เราไม่ได้อารมณ์เสียสักหน่อย”

“เหรออออออ แล้วเมื่อเช้าใครกันวะ บ่นเป็นหมีกินผึ้ง พี่จ๋าไม่รับโทรศัพท์ พี่จ๋าหยั่งนั้นพี่จ๋าอย่างนี้” ปิงพูดแทงใจดำไอ้เอ๋อ มันหันมามองค้อนทีหนึ่ง ก่อนจะเร่งฝีเท้าตัวเองเพื่อจะหนีสายตาล้อเลียนของปิง มันวิ่งมาอยู่ข้างๆ ซีตัสแทน พอซีตัสเห็นหน้าบูดๆ ของมันก็ถามจี้มันไปอีกทีนี้เลยงอนตุ๊บป่องวิ่งไปอ้อนสาวแทน เหล่าแม่มโนก็พากันโอ๋

“ส้มส้ม ทำไมพี่จ๋าไม่ยอมรับสายเราละ ไม่รับโทรศัพท์” มันพูดออกมาด้วยสีหน้าเศร้าๆ มันคิดถึงสิงห์

“พี่สิงห์ยุ่งหรือเปล่า อาจมีหมามารักษาก็ได้” สิ้มปลอบ

“แต่ว่าพี่จ๋าสัญญากับเราแล้วว่าจะรับสายเรา แต่นี่”

“เอ่อออ ให้เราโทรให้ไหม?” ส้มเสนอ

“เห้ออ ไม่เอา เราอยากโทรเองมากกว่า”



+++++

หลังจากวิ่งเสร็จก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำแล้วกินมื้อเช้าก่อนจะทำกิจกรรมที่กำหนดไว้ ช่วงแรกก็อบรมเรื่องความรู้เกี่ยวกับการรักษาพันธุ์สัตว์น้ำกับการปลูกป่าโกงกาง ไอ้เอ๋อมันสนุกจนลืมเรื่องของสิงห์ไปเสียสนิท มันได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้เจออะไรที่มันไม่เคยเจอ อย่างเช่นไข่เต่าที่มันกำลังดูอยู่ตอนนี้ เจ้าหน้าที่บอกกับมันว่าพรุ่งนี้มันจะฝักออกจากไข่

“ยิมยิม ดูสิ เราจะเป็นแม่ให้พวกเต่าน้อยเอง คุณลุงคนนั้นบอกว่าพรุ่งนี้เราจะปล่อยมันลงทะเล ถ้ามันฝักออกมาแล้วเห็นหน้าเราเป็นคนแรก มันจะต้องคิดว่าเราเป็นแม่ของมันแน่ๆ พรุ่งนี้เราจะมาแต่เช้า ลูกเต่าจะได้เห็นหน้าเราเป็นคนแรก ^0^”

“ถ้างั้นเรามาเป็นเพื่อนนะ เราจะได้เป็นพ่อให้พวกมันไง มีแม่แล้วก็ต้องมีพ่อด้วยจริงไหม”

“อื้อ จริงด้วย งั้นตัสตัส อยากเป็นพ่อหรือเป็นแม่ละ” มันหันไปถามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน

“เป็นพ่อมั้ง?”

“งั้นปิงปิง ก็เป็นแม่ใช่ไหม?” มันหันไปยิ้มให้ปิง

“แล้วทำไมกูต้องเป็นแม่?” ปิงถามอย่างไม่สบอารมณ์

“ก็ปิงปิง น่ารักเหมือนแม่”

“ = =” ปิง

“หึหึหึ” ซีตัส

“-*- “ยิม

พักเที่ยงเป็นอะไรที่มันชอบมาก เพราะว่าจะได้กินข้าว มันไปแอบดูที่โรงครัวมา มันเห็นหม้อไข่พะโล้อยู่ด้วยกับผัดผักกุ้งปลาหมึก มันไม่สนใจอย่างอื่นเลยนอกจากไข่พะโล้ พอเห็นว่ามีของที่ตัวเองชอบก็วิ่งหน้าตั้งกลับที่พักด้วยสีหน้าที่ดีใจสุดๆ

“ไข่พะโล้ๆ” มันกระซิบบอกกับพวกซีตัสไม่หยุด มือสั่นปากสั่นไปหมดเพราะหิวอยากกินไข่พะโล้ไวๆ เพื่อนๆ ในห้องไม่ค่อยได้เห็นมุมนี้ของมันสักเท่าไหร่ แล้วทุกคนจะได้รู้ถึงพลังเทอโบโหมดกินไข่ของไอ้เอ๋อ



“เห้ยไข่ ไข่กูไอ้เอ๋อออออออ” เสียงของปิงกรีดร้องดังลั่นโต๊ะ

“คิกคิกๆ ๆ อยู่ในท้องเราแล้วอะ”

“ไอ้...” ปิงยกมือขึ้นเหมือนจะตี

“เอาของกูไปปะ” ซีตัสตักไข่ของตัวเองให้ปิงแทนลูกที่ไอ้เอ๋อมันขโมยไป

“งั่มๆ ๆ”

“เห้ย!!! ”

“หย่อยๆ อิ่มๆ”

“ไอ้เอ๋ออออออออออออออออออออออออ” ทุกคนพร้อมใจเรียกชื่อมันเสียงดัง

“หวา....ไปดีกว่า คึคึคำพูดจบมันก็ลุกเก็บจานตัวเองแล้ววิ่งหนีหายไปเลย



บนหาดทราย ไอ้เอ๋อมันนั่งแช่อยู่ในน้ำทะเล เล่นน้ำกับเด็กๆ แถวนั้น ก่อกองทรายบ้างตามประสา เวลามันทำอะไรเด็กๆ ก็คอยจะสนใจในสิ่งที่มันทำไปหมด ในขณะที่มันกำลังเล่นอยู่กับเด็กๆ อยู่นั้น มันก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง บางอย่างที่ทำให้มันตาโต แล้วเด้งตัวขึ้น

“ไอติมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม” มันออกตัววิ่งทันทีที่เห็นรถไอติมวิ่งผ่าน พอเด็กๆ เห็นมันวิ่ง ก็วิ่งตาม วิ่งไปเกือบร้อยเมตร รถไอติมถึงได้จอด

“แฮกๆ อะ อะ ไอ ตะติม เอา เอาไอติม” มันสั่งเสียงสั่น เด็กๆ ที่วิ่งตามมันมามองไอติมในมือมันตาเป็นมัน

อึก.. (เสียงกลืนน้ำลายของเด็กๆ) .

“งืออ ลุง เอาให้น้องคนละอันด้วยครับ” มันทนเห็นสายตาแบบนั้นของเด็กๆ ไม่ไหว พอเด็กๆ ได้ยินแบบนั้นก็พากันร้องเฮแล้วก็ขอบคุณมัน

“หูยยย เหลือไม่ถึงร้อยแล้ว” มันส่องกระเป๋าตัวตัวเองแล้วทำหน้าตกใจ

“ไม่พอก็มาขอพี่สิครับ^^”

“!!!! ”

+++++++++++++++++++++++++++++++

รักและคิดถึง

ยังไม่ได้ทวนคำผิดนะคะ จบเมื่อไหร่จะมารีไรท์ให้เน้ออออออ
สุขสันต์วันแม่นะคะ ...



หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.22 12/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 12-08-2018 11:43:36
  นะโมโชคดีมีแต่คนรัก
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.22 12/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-08-2018 13:45:23
อีตาลุงนั่นคือใครอ่ะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.22 12/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 12-08-2018 15:40:44
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.22 12/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-08-2018 15:56:36
ก็มีคนจะจับตัวน้อง  สิงห์จะวางใจได้ยังไง   :serius2:
สิงห์ก็เลย.......ตามไปดูแลซะเลย   :hao3:
 
ฝีมืนังน้องที่อยากได้สิงห์เป็นหลัวแน่ๆ    :angry2: :angry2:
สิงห์ ถ้าจับได้คาหนังคาเขา สาวให้ถึงตัวการ
ก็สำเร็จโทษนังตัวเลวซะเลย  :z6: :z6: :z6:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.22 12/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 12-08-2018 17:12:59
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.22 12/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-08-2018 01:05:07
ชอบน้องเอ่อจัง น่ารัก อิอิ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.22 12/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-08-2018 02:56:44
ใครโผล่มาอีกล่ะเนี่ย  :confuse:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.22 12/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: P_Methayot ที่ 14-08-2018 19:58:17
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.22 12/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Hnggnh ที่ 14-08-2018 22:54:50
อิลุงชั่ววววว ตบมันนนน คถ.เรื่องนี้มากเลยค่าาาาาาาาา มาต่อไวๆน้า รออ่านอยู่ รวมเล่มเค้าซื้อแน่ๆ อยากอ่านไม้เมืองแล้วอ่าาาา
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.23 19/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 19-08-2018 12:17:05
23



“!!!! ”

“หึหึหึ น้องน่ารักจังครับ^^”

“งะ พี่เป็นใคร?”

“พี่ชื่อทะเลครับ พี่ดูแลที่นี่”

“ทะเล?”

“ครับ น้องละชื่ออะไร”

“หนูเหรอ หนูชื่อ – “

“ไอ้เอ๋อคุยกับใคร!! ” น้ำเสียงกึ่งดุดังมาจากอีกฟากของถนน

“ปิงปิง”

“พี่เป็นใครมายุ่งอะไรกับเพื่อนของผม” ปิงดึงไอ้เอ๋อเข้ามาประชิดตัวพร้อมกับจ้องหน้าทะเลนิ่งๆ ตอนนี้เขาไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ทะเลเป็นเจ้าหน้าที่ประจำค่ายนี้เป็นผู้ชายตัวสูงๆ ผิวสีแทน หน้าตาดี หุ่นดี แต่มีแววตาเจ้าเล่ห์ และนั่นทำให้ปิงไม่ไว้ใจ

“เพื่อนกันเหรอ มาเข้าค่ายที่นี่ใช่ไหม ^^”

“อือ แล้วพี่มายุ่งอะไรกับเพื่อนผม”

“ไม่มีอะไรหรอกแค่อยากจะรู้จัก เห็นน้องน่ารักดี” ทะเลตอบไปอย่างที่ใจคิด เพราะเห็นว่าน่ารักเลยเดินมาหา แต่ถ้าสานติดค่อยว่ากันอีกเรื่อง

“เพื่อนผมไม่ได้อยากรู้จักพี่ ไปกลับได้แล้ว” ประโยคหลังปิงหันไปพูดกับไอ้เอ๋อมันพยักหน้า ปิงจูงมือมันเดิน แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะมีอีกมือมาดึงตัวมันไว้

“เดี๋ยวสิ พี่ยังไม่รู้ชื่อน้องเลย”

“-*- ไม่เสือกเนอะพี่”

“แต่พี่อยากเสือกครับ^^”

“พี่จะกวนตีนผมเหรอ” ปิงเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาบ้างแล้ว

“ไม่เอานะปิงปิง อย่ามีเรื่อง อย่ามีเรื่อง”

“เงียบไปเลยไอ้เอ๋อ เผลอไม่ได้เลยมึง หาแต่เรื่อง” ปิงหันมาดุมัน

“งะ ดุอีกละ” ไอ้เอ๋อทำปากจู่ใส่เมื่อตัวเองโดนดุ สายตาของทะเลมองมาที่มันตลอด

“มีเรื่องอะไรกัน!! ”

“ตัสมึงพาไอ้เอ๋อกลับไปก่อนปะ”

“กูถามว่ามีเรื่องอะไรกัน เห็นยืนคุยตั้งนานไม่เดินกลับมาสักที” ซีตัสขมวดคิ้วนิดๆ พร้อมกับมองไปที่ชายแปลกหน้าคนเดียวของกลุ่ม

“พี่แค่อยากรู้ชื่อของน้องคนนั้น”

“หึ มัน ชื่อนะโม” ซีตัสตอบ

“แล้วมีแฟนรึยัง?”

“พี่ก็ไปถามผัวมันดูสิ เดินมานู้นแล้ว” ซีตัสแสยะยิ้มอย่างสะใจเมื่อเห็นสีหน้าบอกบุญไม่รับของทะเล

“หึหึ” ปิงปิง

“*0* พี่จ๋า” พอเห็นว่าใครกำลังเดินมาหามันก็ปล่อยมือของปิงแล้ววิ่งหน้าตั้งไปหา สิงห์ยืนมองอยู่นานแล้ว มองตั้งแต่มันวิ่งตามรถไอติม มันวิ่งไปกอดคนตัวสูงที่ยืนอ้าแขนรับมันอยู่ หัวทุยซุกลงบนอกแล้วถูไปมาเหมือนแมวอ้อน มันช้อนสายตาขึ้นมอง

“ทำไมไม่รับสายน้องเลย”

“พี่ขับรถอยู่ครับ รีบมาก”

“หรอ *0* รีบไปไหน”

“มาหาเด็กดื้อ”

“น้องไม่ดื้อ แล้วใครดื้อ ใครดื้อหรอ” มันกอดเขาแน่น

“น้องไง น้องนะโมดื้อสุดๆ” พอโดนหาว่าดื้อมันก็ทำปากยื่นใส่

“น้องไม่ดื้อสักหน่อย-3- “

“หึหึ คิดถึงพี่ไหม?”

“ตอนแรกก้คิดถึงแต่ตอนนี้ไม่แล้ว” มันหันหลังเดินหนีเขาไปเสียดื้อๆ ที่รีบขับรถมาไกลเป็นร้อยกิโลเพราะว่าคิดถึง และเป็นห่วง แต่ดุมันตอบกลับเขาสิ มันน่าตีจริงๆ

“คิดถึงคนอื่นมากกว่าพี่หรอ”

“หึ ใครบอก พี่จ๋ามั่ว มั่วๆ” มันหันกลับมาตอบ

“ก็ที่ทำอยุ่เหมือนไม่คิดถึงกัน” สิงห์แกล้งพูดด้วยเสียงตัดพ้อ

“...”

“ถ้าอย่างนั้นพี่กลับดีกว่าเนอะ เพราะคนแถวนี้ไม่สนใจ”

“ห้ามกลับ!! ” ไอ้เอ๋อมันหยุดเดินแล้วก้าวขาฉับเดินมาสิงห์ด้วยสีหน้าที่จริงจัง

“?”

“ถ้ากลับน้องโป้ง !! น้องโป้งเข้าใจไหม”

“แต่นะโมไม่สนใจพี่โกรธพี่”

“ไม่ได้โกรธ ไม่ได้โกรธ”

“งอน?”

“โว้ยยวันนี่จะรุ้เรื่องกันไหม? มันเขิน พี่มันเขิน วุ้ว เป็นหมอทำไมโง่!! ” ปิงที่เดินตามทั้งคู่อยู่นานอดทนไม่ไหวถึงได้พูดออกมา

“ไอ้เด็กนี่-*- “

พวกเขาเดินกลับมาที่ค่ายพร้อมกับสิงห์ ไอ้เอ๋อเห็นรถคุ้นตาจอดอยู่ใต้ต้นมะพร้าวก็เดินไปส่องดูว่ามีขนมมาฝากตัวเองรึเปล่า แต่ก็ไม่เจอะอะไร มันทำหน้าผิดหวังเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ไปอาบน้ำไหมมึง เดี๋ยวก้ต้องทำกิจกรรมต่อแล้ว”

“ไม่อาบหรอก ตัสตัส ดูตารางกิจกรรมสิ ปลุกป่าชายเลนนะ” พูดเหมือนรู้ไปซะทุกอย่างแต่ความจริงคือครูพี่เลี้ยงบอกมา ว่าต้องลุยเลนมันเลยไม่เปลี่ยน

“เป็นไงละมึง ให้ไอ้เอ๋อสอน” ปิงหัวเราะ

“เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย อ่อนให้ชักจะเอาใหญ่”

“คึคึ ปิงปิงโดนตัสตัสดุ คึคึ”

“ไม่ต้องมาล้อเลียนกูเลยไอ้เอ๋อ แหม ผัว เอ้ย พี่มาละทำเก่ง”

“อะไรนะ ปิง ปิงปิง พูดอะไร ผัวๆ”

“-*- โง่ในดง่นะมึงอะ ไปๆ ล้างน้ำจืดเลย ไข่เค็มหมดแล้วมั้ง” ตัส

“ยี้เราไม่ชอบไข่เค็มเราชอบไข่พะโล้”

“เออ กูรู้ ไอ้ห่า เล่นแดรกของพวกกูเรียบ”

“หึหึ นะโม จอมกินไข่” สิงห์หัวเราะ

“โดนมาเหมือนกันสิท่า”

“เออ นะโมปะพี่พาไปล้างตัว” สิงห์โอบเอวให้มันเดินไปทางห้องน้ำ

“พี่ ล้างตัวนะพี่ ไม่ใช่ล้างอย่างอื่น เวลามีน้อย” ซีตัสยักคิ้วให้อย่างกวนๆ

“ไอ้เด็กพวกนี้สักวันแมร่งได้แดรกตีนกุแน่ๆ”

“พี่จ๋าพูดว่าอะไร ตีนๆ น้องฟังไม่ทันเลย”

“ไม่ยุ่งสักเรื่องจะได้ไหมเราเนี้ยะ หึหึหึ” สิงห์ว่าเข้าให้ด้วยความหมั่นไส้ปนเอ็นดู ช่วงนี้ดูมันจะอยากรู้อยากเห็นไปเสียหมด มันทำปากอมลมทันที

“หึ ว่าน้อง”

“ไม่ได้ว่า แค่พูดเฉยๆ”

“ไม่เชื่อ!! ”

“พูดจริงไม่ได้ว่า”

“พี่จ่าโกหก ก็ได้ยินอยู่ว่า ว่า”

“ทำไมชอบเถียง? อยากโดนทำโทษเหรอ”

“ไม่-ได้ อุ๊บ.>.<” พอลับตาคนมันก็โดนดึงเข้าไปในห้องน้ำด้านในสุด สิงห์ปิดประตู ลงกอน แล้วหันมาปิดปากมันทันทีด้วยปากของเขา เขาทำโทษเด็กชอบเถียงจนหนำใจ กลีบปากนุ่มนิ่มของมันทำให้สิงห์ไม่อยากจะถอนจูบออกเลย เขาค่อยๆ เล็มปากมันเหมือนกำลังกินขนม ค่อยๆ สูบลมหายใจมันจนเกือบหมด ลิ้นที่สอดเข้าไปก็ควานหารสหวานไม่หยุด ตอนนี้ขาไอ้เอ๋อมันอ่อนแทบจะพับลงกับพื้น

“อื้ออ พอ แล้ว อื้อ อื้มมม”

“ทีหลังห้ามเถียงพี่เข้าใจไหมครับ”

“งื้อออ>^<”

หลังจากที่โดนทำโทษไปหลายยกสิงห์ก็ปล่อยให้มันล้างเนื้อล้างตัวเอาเศษทรายกับความเหนียวจากน้ำทะเลออก เขาถือเสื้อผ้าของมันออกมารอที่หน้าห้องน้ำ รอสักพักมันก็แง้มประตูออกมาแล้วยื่นมือออก

“พี่จ๋า เสื้อๆ”

“อ้า อื้ม นี่ เอาไปผึ่งแดดมา ใกล้จะแห้งแล้ว” เพราะลมแรงเลยทำให้ผ้าแห้งไวสิงห์ยื่นชุดของมันให้

“ขอบคุณครับ” มันรับเสื้อผ้าจากเช้าแล้วก็ผลุบหายไปด้านในอีก พอมันออกมาก็โดนคนพี่รวบตัวเข้าไปกอดอีก กว่าจะปล่อยออกมาได้ก็เสียเวลาไปหลายนาที ทุกคนเค้าเข้าแถวรอกันหมดแล้ว พอมันเดินออกมาจากห้องน้ำทุกคนก็มองมาที่มันเป็นสายตาเดียวกัน ทุกคนมองว่ามันมากับใคร

“มารวมกับแถวตรงนี้เลยนะโม อ่าวคุณสิงห์ มาหาน้องเหรอคะ” อาจารย์ที่ตามมาดูแลเด็กเอ่ยทักสิงห์ด้วยความคุ้นเคย สิงห์ทำแค่เพียงพยักหน้ารับก่อนจะเดินแยกไปนั่งดูนักเรียนทำกิจกรรม และดูเหมือนเขาจะนึกอะไรบางอย่างออก ร่างสูงของสิงห์ลุกออกไปที่รถและหยิบกล้องถ่ายรูปออกมา เขาตั้งใจจะถ่ายรูปไอ้เอ๋อเก็บเอาไว้

เดินกลับมาก็เห็นพวกเด็กๆ เดินแถวออกไปกันแล้ว เขารีบเดินหาแถวของไอ้เอ๋อ สิงห์แอบถ่ายรูปมันไปเรื่อยๆ ทุกๆ ครั้งที่มองผ่านเลนส์เขาจะเห็นใบหน้าของมันมีรอยยิ้มประดับไว้ เสมอ ทุกๆ ช็อตทุกภาพที่เขาถ่ายไม่มีภาพไหนเลยที่ไอ้เอ๋อมันจะไม่ยิ้มออกมา ไม่ว่าหน้ามันจะทิ่มโคลนตอนลงไปปลูกป่าโกงกาง หรือเพราะเห็นปูวิ่งอยู่แล้ววิ่งตาม

“เหวอออออออ อะ >0<”

ก้าวแรกที่ขามันลงไปหน้ามันก็ปักโคลนทันที พอมันเงยหน้าขึ้นมาก็หัวเราะก๊าก กันทุกคนไม่เว้นแม้แต่สิงห์ ที่ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาจนปิงกับตัสหันไปมอง

“อิพี่มันหลุดลุคเว้ย”

“มึงจะกระซิบทำห่าอะไร”

“กูกลัวตีน” ปิงพูดพร้อมกับเหลือบมองคนอายุเยอะสุดด้วยท่าทีหวาดๆ ภาพวันนั้นยังติดตาไม่หาย เขาเชื่อแล้วว่า สายตาสามารถฆ่าคนได้

“มึงลงไปหาไอ้เอ๋อมันได้แล้วไป หน้ามันจะทิ่มเลนอีกรอบละ ไปช่วยมันไป” ซีตัสพูดพร้อมกับยัดต้นกล้าป่าโกงกางใส่มือคนรัก

“โห่ไรอะ แล้วมึงอะไอ้คุณชายจะไม่ลงไปด้วยรึไง” ปิงหันมาถาม

“ก็จะลงนี่ไง “

ระหว่างนั้นสิงห์ก็คอยมองไอ้เอ๋อกับเด็กๆ อยู่ข้างบน เพราะนี่เป็นกิจกรรมของเรียน เขาเป็นคนนอกไม่ควรเข้าไปยุ่ง ไอ้เอ๋อมันได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ รอบตัว เหมือนพามันมาเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้นไม่ใช่เรียนรู้ที่บ้านหรือโรงเรียน เมื่อปลูกป่าจนครบทุกต้น เวลาที่เหลือก็เป็นเวลาว่างใครจะเล่นน้ำหรือนอนพักก็ได้ เรียกรวมอีกทีคือ หกโมงเย็น ตอนนี้สามโมงครึ่ง เจ้าหน้าที่ที่ๆ นี่บอกว่าเราสามารถเก็บหอยแครงได้ตามเลนพวกนี้ และเท่าที่สังเกตก็เห็นชาวบ้านนั่งอยู่บนไม้กระดาน กำลังเก็บหอยอยู่เหมือนกัน

“อยากเก็บหอย เก็บหอยกันไหม?” ไอ้เอ๋อมันเป็นคนเสนอขึ้นมา สิงห์เห็นมันยืนคุยอยู่กับเพื่อนๆ ก็เกิดอาการอยากรู้ว่าคุยอะไรกัน ใจอยากจะลงไปหา แต่ก็ไม่อยากเลอะ

“ไปถามผัวมึงก่อนนู่น ชะเง้อคอยาวอยู่บนฝั่งว่าเขาให้มาจับหอยป่าว” ปิงบอกแล้วชี้ไปที่สิงห์

“ง่าส์ ทำไมชอบพูดอะไรที่เราไม่เข้าใจ ผัว ผัว คือไร?” มันเอียงคอแล้วเกาหัว เพราะเพื่อนๆ ชอบหลุดพูดใส่มันบ่อยๆ

“อยากรู้ก็ไปถามพี่สิงห์สิ เดินไปถามเลย” ปิงยุ

“มึ่งนี่ ยุอะไรของมึง” ซีตัสดุ

“ได้เราจะไปถามพี่จ๋าเอง” มันหันหลังเดินกลับไปยังชายฝั่งด้วยความทุลักทุเลเนื้อตัวเปื้อนโคลนไปหมด กว่าจะเดินถึงมันก็หอบเรียกหาน้ำทันที สิงห์ยื่นขวดน้ำที่เดินไปซื้อตรงร้านค้ามาให้ พอมันรับน้ำไปก็ดื่มไปครึ่งขวด

“อ่าส์ ชื่นใจ อื้ พี่จ๋าน้องมีเรื่องจะถาม”

“ถามว่าอะไรครับ”

“ผัวนี่คืออะไรหรอครับ”

“.....”

“นี่ ทำไมทำหน้าแบบนั้นละ พี่จ๋าไม่ตอบน้อง” มันดันตัวเองให้หลุดพ้นจากโคลน แล้วปีนขึ้นฝั่ง ดวงตากลมสบกับคนตรงหน้าอย่างหาคำตอบ

“พี่ว่าเราไปอาบน้ำดีกว่า เลอะไปหมดแล้ว”ไม่ใช่ไม่อยากตอบ แต่ตอบแล้วน้องจะคิดยังใง ถ้ารู้ว่าเขาคิดอกุศลกับน้องขนาดไหน ใจยังสั่นอยู่เลย 

“งะ ไม่ตอบ อ่อ แล้วถ้าน้องขอไปเก็บหอยจะได้ไหม?” มันส่งสายตาอ้อน และนั่นเกือบทำให้คนขี้หวงใจอ่อนยอมตามใจมัน

“เอาไว้วันหลังดีกว่านะครับแดดร้อนเดี๋ยวไม่สบายเอา”

“แต่น้องอยากเล่นน้ำนะ อยากเล่นน้ำทะเล-3- เล่นได้ไหม?”

“ได้แต่ต้องมีข้อแม้นะครับ”

“อะไรหรอ ห้ามไปไหนไกลจากพี่และเพื่อนเรา สองคนนั้น”

“อ่า ได้ น้องจะเล่นอยู่ใกล้ๆ พี่จ๋า”

“ดีมากครับ ถ้าอย่างนั้นก็เรียกเพื่อนเราขึ้นมาได้แล้ว”

“อื้ออ ตาสสสสสสสสสสสสสสสสสส ปิงงงงงงงงงงงงงงง วู้ววว ขึ้นมาเร็วๆ ไปเล่นน้ำทะเลกัน มันแทบจะกระโดดลงไปในโคลนอีกรอบ ดีที่สิงห์ขว้าแขนมันไว้

“ใจเย็นครับ เดี๋ยวสองคนนั้นก็ตามมาเอง พี่ว่าเราไปหาซื้ออะไรกินก่อนดีกว่าไหม ไม่หิวเหรอ” สิงห์จูงมือมันเดินพร้อมกับพามันเดินไปยังร้านค้าใกล้ๆ แต่ดูเหมือนสิงห์จะลืมอะไรไปบางอย่าง “หน้าไอ้เอ๋อมันยังเลอะโคลนอยู่เลย” ไอ้เอ๋อมันก็คงคิดว่าหน้ามันไม่ได้เลอะอะไร เดินไปทางไหนก็หันไปยิ้มฟันขาวใส่ ทุกคนมองมันเป็นตาเดียวแล้วก็หัวเราะออกมา ตอนแรกมันก็งงๆ จนมันเดินผ่านกระจกตู้แช่น้ำเท่านั้นแหละ มันก็ร้องกรี๊ดออกมาบอกว่าเจอผี ผีอยู่ในกระจก สิงห์ที่หันไปมองอย่าที่มันว่าก็ต้องตกใจ ไม่ใช่ตกใจเห็นผีนะ แต่เห็นหน้ามันนั่นแหละ

“เชี่ยะ ตกใจ หมด นะโม!! ” สิงห์ผงะ พร้อมกับจับหน้ามันแนบอกเอาไว้ เพื่อไม่ให้คนมองหน้าเลอะๆ ของมัน แต่มันไม่ทันแล้วไหม? ไอ้เอ๋อมันพยายามจะมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง

“งะ นะ นะหน้า เราเองนี่นา แฮะๆ ตกใจหมดเลยนึกว่าผี” มันหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะซุกหน้าลงกับอกสิงห์เหมือนเดิม

“พี่จ๋าพาน้องไปล้างหน้าหน่อย>///<”

“ได้ครับ เดี๋ยวพี่พาไปล้างนะ หึหึหึ พี่ก็ลืมมองขอโทษนะครับ”

“ครับ ไม่เป็นไร”



หลังจากพามันไปล้างหน้าแล้ว มันก็วิ่งลงทะเลลืมหมดแล้วขนมที่ซื้อไว้ สิงห์เดินตามหลังมันห่างๆ

“อย่าวิ่งแบบนั้นสิครับ เดี๋ยวล้ม!! ”

++++++

“พี่จ๋า น้องอยาก ไปลึกๆ” สงสัยน้ำแค่เอวมันคงไม่สะใจ มันพยายามลากสิงห์ลงไปที่ลึกๆ

“ไม่กลัวจมเหรอ”

“งือไม่กลัว ไม่กลัว มีพี่จ๋าอยู่ด้วย”

“แล้วถ้าพี่ไม่อยู่ด้วยละครับ..หืม นะโมจะทำยังไง” สิงห์ถามด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

“น้องก็ อืมมม จะขอให้พี่จ๋าไปด้วย นะ น้า นะ” มันกระโดดเกาะคอสิงห์เอาไว้แล้วอ้อนใส่

“ไปกับน้องหน่อยนะ ถ้าไปนะน้องมีรางวัลให้ด้วยนะ ไปไหมๆ” แหนะเดี๋ยวนี้มีของมาล่อ

“รางวัลอะไรครับ”

“จุ๊บๆ แบบที่พี่จ๋าชอบไง”

“หึหึ ร้ายนักนะเรา”

“คึคึคึ..พาไปหน่อย” มันเปลี่ยนจากกอดคอเป็นขี่หลัง สิงห์เลื่อนมือไปรองก้นมันไว้แล้วพาเดินไปยังส่วนที่ลึกกว่านี้ ไอ้เอ๋อมันตื่นเต้นหัวเราะคิกๆ แถมยังดิ้นอยู่บนหลัง มันไม่รู้เลยว่ามือของสิงห์กำลังทำอะไร มือหนากำลังบีบเคล้นบั้นท้ายของมันอย่างมันมือ...หรือบางทีที่มันไม่ถามไม่โวยวาย มันอาจจะชอบอยู่ก็ได้

“ลึกพอแล้วครับ ลงจากหลังพี่ได้แล้ว”

“อื้อ....”

พรวด!!! พอบอกให้มันลงจากหลังมันก็ลงไง แต่น้ำลึกระดับอกสิงห์คือมิดหัวมัน แค่มันปล่อยมือจากคอของสิงห์ร่างมันก็จมลงทะเลไปเลย มันตกใจกระโจนพรวดขึ้นมาจากน้ำ ด้วยสีหน้าตื่นๆ

“หูยย น้ำลึกก็ไม่บอก!! จมเลยเนี่ยะ จมๆ” มันโวยวายใส่สิงห์พร้อมกับทำหน้างอนๆ สิงห์หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วพยุงมันเอาไว้ อยากจะให้เห็นมันตอนนี้จริงๆ กับท่าพยุงตัวของมัน นี่มันหมาลอยคอชัดๆ

“มาใกล้ๆ พี่สิครับ” เขาดึงเอวมันแนบชิด แล้วกอดมันไว้จากทางด้านหลังอย่างหลวมๆ

“งือก็อยากว่ายน้ำ” มันพยายามจะตะกายตัวเองให้ออกห่างจากสิงห์ แล้วมองหาเพื่อนๆ ของตัวเอง แต่ก็ไม่เจอใครสักคน รอบๆ มีแต่หินก้อนใหญ่บดบังหมด

“พี่จ๋า ทำไมพามาไกลจัง น้องหาเพื่อนไม่เจอเลย ( ‘. ‘) ?” มันเงยหน้ามองสิงห์ด้วยความสงสัย แต่สิงห์กลับยิ้มให้มัน

“เพราะพี่อยากอยู่กับหนูแค่สองคนไงครับ”

“หืมม ทำไมละ พี่จ๋าไม่ชอบคนเยอะๆ เหรอ ( ‘.’ ) ?”

“ครับ พี่ชอบอยู่กับหนู”

“น้องก็ชอบอยู่กับพี่จ๋านะ (^^) ”

“แล้วไหนละ รางวัลของพี่” สิงห์ทวงถามถึงรางวัลที่เขาควรจะได้รับด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม

“งืออ อยู่นิ่งๆ นะ นิ่งๆ หลับตาด้วย” มันสั่งก่อนจะว่ายเข้าไปใกล้กับสิงห์มันจับไหล่กว้างของสิงห์เอาไว้



กลีบปากนุ่มสัมผัสกับริมฝีปากแค่เพียงเบาๆ แล้วผละออกใบหน้าหวานสวยคล้ายสตรีเพศแดงก่ำเป็นลูกตำลึงสุก มือทั้งสองยังเกาะแน่นที่ไหล่กว้างและแข็งแรง ไม่นานดวงตาคู่คมก็ลืมขึ้นพร้อมกับมองคนตรงหน้าด้วยสายตาหลงใหล ใช่คนตัวโตกำลังหลงเด็กอย่างไม่อาจจะมีอะไรมาฉุดให้ขึ้นจากหลุมนี้ได้ วงแขนแกร่งโอบรอบเอวคอดเอาไว้ไม่ยอมให้อีกคนห่างกาย เหตุผลที่เขาพาคนตัวเล็กมาหลบมุมแบบนี้ก็เพราะอยากจะทำอะไรๆ ที่มันมากกว่าการแค่จูบ แค่คืนเดียวที่ห่างกันก็ทำให้แทบบ้า ยิ่งรู้ว่าน้องโดนทำร้ายก็ยิ่งห่วง เขาดึงเด็กน้อยในอ้อมกอดให้มาหลบมุมตรงหลังหิน ร่างบางมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ ว่าจะพามาหลบทำไม

เพียงแค่จะเอ่ยปากถาม ก็ต้องกลืนคำถามนั้นลงคอ ได้แต่เอียงหน้ารับบทจูบที่ร่างสูงส่งมอบให้ มือเล็กยกขึ้นขยุ้มคอเสื้ออีกคนเอาไว้ด้วยความรู้สึกที่สั่นไหว สั่นไปทั้งร่างกายและจิตใจ น้ำตรงที่สิงห์พามานั้นตื้นกว่าตอนแรกขาเล็กของนะโมสามารถเหยียบถึงพื้นทรายละเอียดใต้น้ำได้แต่กลับไม่ยอมเหยียบ ของขาเรียวเกี่ยวกับเอวสอบของสิงห์เอาไว้แน่น

“อึก อืมม” เสียงครางต่ำๆ ของสิงห์ทำให้ใจดวงเล็กเต้นแรงกว่าเดิม ใช่ นะโมรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน เรื่องความรู้สึกทางเพศมันเกิดขึ้นได้ไม่เว้นแม้แต่เด็กออทิสติกแบบเขา ยิ่งกับคนที่รักด้วยแล้ว มันยิ่งรู้สึก

“อื้ออ พี่จ๋า..” มันหายใจไม่ออกแล้วตอนนี้ แต่สิงห์ไม่หยุด แม้จะยอมให้นะโมโกยอากาศเข้าปอดแต่ก็ไม่ได้เต็มที่ปากคู่นั้นประกบลงกับกลีบปากนิ่มอีกครั้ง นะโมเผยอปากขึ้นเพื่อรองรับลิ้นที่กำลังไล่เลียไปตามรอยแยกก่อนจะสอดลิ้นเข้ามากวาดต้อนลิ้นเล็กๆ ที่พยายามอย่างหนักที่จะโต้ตอบเขา แต่เพราะด้วยประสบการณ์ก็ได้แต่เอาลิ้นดุนดันตอบกลับเท่านั้น

“หึ่มม นะโม พี่ไม่ไหวแล้วครับ พี่ขอหนูได้ไหม?” สิงห์ทำหน้าทรมานใส่คนตรงหน้า เขาใช้จุดอ่อนของนะโมเพื่อประโยชน์ของตัวเอง นะโมจะใจอ่อนกับเขาทุกครั้งเวลาทำสีหน้าทรมานหรือเจ็บปวด

“พี่จ๋าเป็นอะไร..เจ็บตรงนั้นเหรอ?” ใช่เขาเจ็บและปวดมาก

“ครับ นะโมให้พี่ทำได้ไหม? เป็นของพี่ได้ไหม ให้พี่ทั้งตัวแล้วก็หัวใจ”

“ (>///<) งื้ออ น้อง น้อง ไม่รู้ น้องให้พี่จ๋าได้เหรอ” ใช่นะโมเข้าใจคำว่าให้ใจ แต่กาย นี่ นะโมยังไม่แน่ใจ ว่ามันหมายถึงอะไรกันแน่

“นะครับ พี่สัญญา ว่าจะไม่ทำให้หนูเจ็บ พี่จะทำมันให้ดีที่สุด”

“ทำอะไร (’ ’) ?”

“ตรงนี้ ตรงนี้ให้พี่เข้าไปได้ไหม?” มือหนาล้วงเข้าไปในกางเกงของอีกฝ่านพร้อมกับลูบตรงรอยแยกที่เขาได้เคยลิ้มลองมาแล้ว

“อ๊ะ ตรง นั้น อื้ออ” นะโมครางเสียงนุ่มเพราะสิงห์ใช้นิ้วกดลงไปเบาๆ ตรงช่องทางนุ่ม

“นะครับคนดีของพี่ ให้พี่เป็นเจ้าของหนู ให้พี่เป็นคนรักนะครับ” เขาใช้สายตามองไปที่คนตรงหน้า

“ (. .) น้องไม่รู้ พี่จ๋า ถ้าพี่จ๋าทำพี่จ๋าจะหายทรมานใช่ไหม?”

“ครับพี่จะหาย หนูก็จะรู้สึกดี”

“งืออ งั้นก็ได้ ถ้าพี่จ๋าหาย พี่จ๋าจะเข้ามาอยู่ในตัวน้องก็ได้ แต่อย่าอยู่นานนะเดี๋ยวน้องตาย คุณยายบอกว่า ถ้าโดนสิงเราจะตาย”

“ครับ ไม่ตายหรอกรับรอง”

+++++++++++++++++

สัญญาตอนหน้า nc18+++ ตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไรมากนะคะ อาจจะเบื่อๆบ้าง แต่ตอนหน้า คึคึ น้องจะแซบ น้องจะอ้อน น้องจะเอา เอ้ย ไม่ใช่





หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.23 19/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-08-2018 17:47:51
โอยๆ.................หวานสุดๆ   :impress2:
“นะครับคนดีของพี่ ให้พี่เป็นเจ้าของหนู ให้พี่เป็นคนรักนะครับ”   :-[
สิงห์ เอ๋อ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:

สิงห์มาอยู่กับนะโมแล้ว  :hao3:
ไอ้พวกคนเลวจะโผล่มาไหมนะ 
ถ้ามา สิงห์จัดการพวกเลวนี่ให้สุดๆไปเลย  :z6: :z6: :z6:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.23 19/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-08-2018 18:13:58
รอตอนต่อไป คริคริ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.23 19/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-08-2018 19:12:54
หื่นเต็มพิกัดเลยนะหมอ  :hao6:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.23 19/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 19-08-2018 19:36:55
 :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.23 19/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 19-08-2018 20:28:15
คุณ​ยายแอบเห็นพี่สิงห์​ทำไรน้องรึป่าว555​
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.23 19/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 19-08-2018 23:09:33
สิงห์อุตสาห์ขับรถมานะโมเพื่อมาฟัดน้องเหรอ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.23 19/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 21-08-2018 07:53:12
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.23 19/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 21-08-2018 13:42:56
อิพี่มันพาน้องไปเอาท์ดอร์ :-[
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.24 25 /8/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 25-08-2018 08:21:45
24 (18++)



เค้าว่ากันว่าทะเลจะร้อนระอุก็ต่อเมื่อพระอาทิตย์หล่นใส่ แต่ทว่า ตอนนี้ไม่ต้องรอให้พระอาทิตย์ตกลงมาหรอก เพราะตอนนี้มันกำลังร้อนสุดๆ ร้อนด้วยแรงตัณหาของมนุษย์ผู้หนึ่ง ที่มีต่อเด็กคนหนึ่ง เด็กที่เขาหลงรักตั้งแต่แรกพบ เพียงแค่สบตา หัวใจทั้งดวงก็หลุดลอยไปหา และรักโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ

ท่ามกลางคลื่นลมเย็น กลิ่นอายทะเล กับกระแสคลื่นที่พัดเข้ากระทบกับแผ่นหินหนา มุมอับลับสายตา มีใครบางคนกำลังจะ ถูกกลืนกิน ด้วยริมฝีปาก กายหนาบดเบียดคนที่ตัวเล็กกว่าเข้ากับกำแพงหินที่ลื่นด้วยตะไคร่น้ำ สิงห์บดริมฝีปากลงกับกลีบปากนิ่มอย่างหื่นกระหาย ทั้งขบทั้งเม้ม จนอีกคนตามไม่ทัน ลิ้นร้อนไล่เลียไปตามรอยแยกของริมฝี ก่อนจะสอดแทรกเข้าไป หยอกล้อกับลิ้นเล็กที่ไม่ประสีประสา

ใช่ว่าร่างบางจะไม่รู้เรื่องราวที่กำลังเกิดต่อจากนี้ แต่เขาเชื่อใจคนตรงหน้ามากกว่าว่าจะไม่ทำให้ตนเอง.เสียใจแน่นอน จึงได้ปล่อยให้อีกคนทำตามอำเภอใจ เขาบอกให้อ้าปาก ก็อ้าปาก สั่งให้ดูดลิ้นเขา มันก็ทำ สั่งให้ตอบโต้มันก็ตอบโต้แบบคนไม่เคย

“พี่รักหนูนะ..”

สิ้นคำว่ารักเขาก็ยกตัวมันขึ้น ถอดกางเกงขาสั้นออกเพียงแค่สะโพก ตัวมันลอยขึ้นเหนือน้ำเพียงเล็กน้อย มันรู้สึกถึงความอุ่นร้อนกำลังไร้วนบริเวณช่องทางด้านหลัง สิงห์กำลังใช้แก่นกายถูไปมา ก่อนจะค่อยๆ ดันนิ้วอันเรียวยาวของตัวเองเขาไปเบิกทางก่อน

“อะ เจ็บ พี่จ๋า น้องเจ็บ ไม่ เอา ไม่เอา” เสียงหวานของมันกรีดร้องราวกับจะขาดใจ มันจิกเล็บลงบนไหล่กว้างของสิงห์

“ชู่วว พี่จะค่อยๆ ทำนะ หนูเห็นนี่ไหม” เขาชูนิ้วของตัวเองให้มันดู

“ฮึก เห็น”

“เลียมันให้พี่หน่อยนะ คิดว่าเป็นไอติมไง” ร่างสูงพยายามพูดจาหว่านล้อม ใช้น้ำเสียงหวานๆ ดูออดอ้อน ถ้าให้เปรียบร่างสูงคือดอกไม้ที่กำลังหลอกให้ผึ่งตัวน้อยเข้ามาติดกับ

“แต่มันไม่ใช่ไอติม นี่” สิงห์ไม่ปล่อยให้มันได้คิดอะไรเขาสอดนิ้วของตัวเองเข้าไปในโพรงปากเล็กๆ นั้นแล้วกวาดไปมา ให้ลิ้นเล็กๆ ได้หยอกล้อกับนิ้วของเขา ไอ้เอ๋อมันดูดนิ้วนั่นราวกับเป็นไอติมแสนอร่อยตามที่สิงห์ร้องขอ จนมันลืมไปว่ามีบางอย่างกำลังอยู่ในตัวมัน นิ้วเรียวดันเข้าไปจนสุดยังดีที่มีน้ำทะเลเป็นตัวช่วยเลยทำให้เข้าไปได้ง่าย ก่อนที่เขาจะสอดนิ้วที่สองเข้าไป ครั้งนี้มันผวา น้ำตาซึม สิงห์ถอนนิ้วออกจากปากมัน ก่อนจะประกบปากตัวเองลงไปแทน เขามอบบทจูบที่เร่าร้อน จูบที่ทำให้หัวสมองมันว่าเปล่า กว่าจะรู้ตัวนิ้วที่สองและที่สามก็ดันจนสุดเขาแช่มันไว้สักพักให้ร่างบางได้ปรับตัว เพราะว่าถ้าไม่ทำให้คุ้นชินคนตรงหน้าจะรองรับตัวตนของเขาไม่ได้ และก็ต้องทำความรู้สึกบีบรัดในช่องทางนุ่มอย่างใจเย็น เขารอจนมันผ่อนคลายถึงได้ขยับนิ้ว

“อื้อ มัน อึดอัด เอาออกไปได้ไหม อ๊า” ร่างบางหอบกระเส่า ฝ่ามือเล็กพยายามจะดันหน้าท้องอีกคนให้ออกห่าง แต่มันไม่เป็นผล สิงห์ยังคงขยับนิ้วเข้าออก

“อือ นะโมครับ หนูรัดแน่นเกินไป พี่ขยับนิ้วไม่ได้ ถ้าไม่ทำแบบนี้ หนูจะเจ็บเอานะ” เสียงเขาแหบพร่าเต็มไปด้วยแรงอารมณ์

“อื้อ อื้อ อะ” คนตัวเล็กพยายามจะไม่เกรง และผ่อนคลายตัวเอง

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่บ่นว่าเจ็บแล้ว เขาก็ขยับมือเร็วขึ้น จนไปโดนจุดบางจุดที่ทำให้ร่างบางถึงกับร้องออกมาเสียงหวิว ครางกระเส่าจนอีกคนต้องกดย้ำๆ ร่างกายที่ไม่เคยรับรู้ถึงจุดกระสัน ไม่เคยได้สัมผัสมันมาก่อน ถึงกับหายใจแรง ร่างกายกระตุกเกร็ง ลืมไปแล้วว่ากำลังเจ็บและทรมานแค่ไหนตอนนี้มันรู้สึกแค่ว่ามันกำลังสุข เห็นผีเสื้อนับร้อยนับพันตัวลอยอยู่เต็มท้องฟ้าไปหมด มันกระตุกอีกสองสามครั้งก่อนจะปลดปล่อยน้ำสีขุนออกมา

“อะ อ๊า อ๊ะ”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสุขสมไปแล้ว ก็ถึงตาของเขาบ้าง ร่างสูงถอนนิ้วออกมาก่อนที่สอดบางอย่างที่ใหญ่กว่าเข้าไป อย่างช้าๆ จนสุดความยาว

“อื้อออ อะ ไร อ๊า..แน่น อึดอัด ฮึก น้องเจ็บครับ พอแล้ว” ก็บอกแล้วว่าของเขามันใหญ่สิงห์ไม่อยากใจร้ายกับน้องแต่ตอนนี้เขาไม่ไหวจริงๆ ร่างสูงดันแก่นกายเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มอีกครั้งและดันพรวดเดียวจนสุดความยาว

“โอ๊ยย อุ๊บ” เพราะมันร้องออกมาเสียงดังเขาเลยต้องจูบปิดปากอีกครั้ง และก็ได้ผล ร่างบางแทบจะหมดแรง ได้แต่ส่งเสียงอือๆ ในลำคอ ดวงตากลมหลับพริ้ม สองมืงจิกลงบนแผ่นหลังเพื่อระบายความเจ็บที่ได้รับ ความรู้สึกที่แสนจะอึดอัดและทรมานทำให้มันร้องไห้ออกมา

“อ๊า..น้องอึดอัด ฮึก อื้อ น้องรู้สึก อ๊า.อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” เสียงหวานขาดห้วงไปตามจังหวะการกระแทกตัวตนเข้ามาในร่างกาย จนเกิดเสียงน่าอายดังรอบๆ แข่งกับเสียงคลื่นที่กระทบเข้ากับโขดหิน มันครางไม่หยุด

“หายเจ็บรึยังครับ”

“อื้อ หะ หาย หา –ย แล้ว แต่มัน อ๊า อื้อ” ร่างกายมันกำลังเรียนรู้ถึงความรู้สึกแปลกใหม่ ความรู้สึกที่ทเรียกว่าความเสียว

“แต่มัน หึ่มม ทำไมครับ ซี๊ดหนูรัดพี่แน่นจัง”

“มัน รู้สึกเหมือน มีอะไรไม่รู้บินอยู่ในท้อง”

“หึหึ แล้ว ชอบไหม^^”

“อ๊ะ อื้อ น้องไม่รู้ น้องไม่ อื้ออ รู้”

เพราะเป็นครั้งแรกที่มีสติ กับการร่วมรักกับคนตรงหน้า ร่างบางได้แต่หลับตาไม่กล้ามองหน้าอีกคน รู้แค่ว่าถ้าลืมตาขึ้นมาดูเมื่อไหร่ เขาคงหัวใจวายตายแน่ๆ แค่นี้หัวใจก็เต้นแรงไม่หยุด

“จับพี่แน่นๆ นะครับ” ร่างสูงกระชับบั้นท้ายงอนงามให้แนบชิดกับตัวเองมากขึ้น ร่างบางขยับตัวกอดคอหนาของอีกคนเอาไว้แน่นพร้อมกับซุกใบหน้าลงกับไหล่กว้าง ขอเรียวเล็กถูกอีกฝ่ายคล้องเอาไว้ด้วยลำแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ช่องทางที่ถูกเชื่อมด้วยตัวตนของอีกฝ่ายกำลังขมิบบีบรัดจนร่างสูงต้องครางซี๊ด

“ฮึ่มม ยั่วเก่ง”

“อื้อ..อ๊ะ อ๊ะ..” ร่างบางถูกกระแทกไม่หยุดมันทั้งรุนแรงและหนักหน่วง จนมันต้องระบายออกมาด้วยการกัดที่ต้นคอของสิงห์ เสียงกระทบกันของก้อนเนื้อดัง ขึ้นไม่เว้นจังหวะ ปะปนกับเสียงครางกระเส่าของทั้งสองคน ร่างบางแอ่นอกจนตัวโค้ง สะบัดหน้าไปมาด้วยความเสียวกระสัน หวีดร้องออกมาอย่างสุขแทบคลั่ง

“อื้ออ กัดแรงๆ” สิงห์บอก ยิ่งกัดแรงเท่าไหร่เขายิ่งทำมันแรงมากขึ้นเท่านั้น มันเลื่อนมือจากที่โอบรอบคอสิงห์เอาไว้มาทึ้งผมของเขาข้างหนึ่ง

“อ๊า หนู จะไป ไม่ ไหว ไม่ไหว อ๊ะ”

“อืมม ซี๊ด พี่รักหนูนะครับ อะ..อื้อ”

ปับ! ปับ! ปับ!

“อื้อ รัก..รักแบบไหน” ใช่มันก็สงสัยว่ารักแบบไหน มันเป็นสิ่งที่คาใจมันตลอด มันโง่ มันคิดช้า แต่มันก็คนคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ที่รู้จักคำว่ารัก สมองมันแค่ช้ากว่าคนอื่นเขา แต่เรื่องของความรู้สึกมันก็รู้สึกเหมือนคนทั่วไป

“รัก แบบที่ ไม่ใช่พี่น้อง รักแบบ อ่าส์ คนรัก”

“ฮึก..จริงนะ อะ อื้อ “ดีใจจนต้องร้องไห้ออกมาที่สิงห์ก็รู้สึกแบบเดียวกัน

“จริงสิครับ อ่า อะ รัดพี่แรงๆ เลยครับ อื้ออ”

“อ๊ะ อื้ออ”

“เรียกชื่อพี่ได้ไหมครับ เรียกชื่อพี่หน่อยนะคนดี” เขาอ้อนอีกครั้ง

“พี่สิงห์ อะ อื้ออพี่สิงห์ น้องอื้อ ระ รู้สึก ดี จัง”

ปับ ปัป ปับ สิงห์ครางต่ำพร้อมกับเร่งสะโพกตัวเองอย่างรู้สึกเป็นสุข เขาต้องการมากกว่านี้ ต้องการคนตรงหน้ามากกว่านี้ แต่สถานที่มันไม่อำนวย อีกอย่าง ร่างบางตรงหน้าก็เริ่มจะอ่อนแรง สีหน้าเริ่มซีด เห็นแบบนั้นเขาจึงเร่งเครื่องตัวเองจนถึงขีดสุด แท่งร้อนของเขากระแทกจุดกระสันของอีกคนไม่หยุด จนคนในอ้อมกอดครางไม่หยุด จนต้องปลดปล่อยออกมาอีกรอบ ส่วนตัวเอง กระแทกอีกสักพักก็ปลดปล่อยออกมาทุกหยาดหยดเข้าไปในตัวของคนที่หมดแรงไปแล้ว

“รักเมียมากนะครับ”

“อึก..น้องง่วงแล้วครับ” เพราะหมดแรงไปกับกิจกรรมกลางแจ้งอันแสนร้อนแรงกลางทะเลแบบนี้ มันเลยปล่อยตัวเองให้อีกคนได้ประคองและใส่กางเกงให้

“ทนอีกนิดนะครับ เดี๋ยวพี่เอาของข้างในออกมาก่อน” สิงห์สอดนิ้วเข้าไปในช่องทางด้านหลังอย่างเบามือเขางอนิ้วเพียงเล็กน้อยก่อนจะควานและกวาดเอาของเหลวสีขุ่นออกมาจนหมด

“อื้ออ พี่จ๋า” มันร้องออกมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกแสบ มันอดทนจนสิงห์ทำความสะอาดให้เสร็จ ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง สิงห์ให้มั่นขี่หลังแล้วพาขึ้นฝั่ง โดยที่ไม่มีใครเห็น เขาพามันไปอาบน้ำอีกครั้งที่ห้องพักที่จองไว้ซึ่งอยู่ติดกับค่าย สิงห์เปลี่ยนเสื้อผ้าให้มันเรียบร้อยและพาขึ้นไปนอนบนเตียง ส่วนตัวเขาก็ไปจัดการกับตัวเองทั้งอาบน้และเปลี่ยนเสื้อ ก่อนจะขึ้นมานอนกอดคนที่หลับสนิทด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

“นะโมเป็นของพี่แล้วนะ หึหึหึ ถ้าตื่นมาแล้วจำอะไรไม่ได้อีกละก็ พี่จะเอาให้ลงจากเตียงไม่ได้เลยคอยดู” เขายิ้มให้กับใบหน้านวลตรงหน้าก่อนจะกดจมูกลงไปสัมผัสกับแก้มนุ่มๆ ของมัน และนอนกอดมันตลอดทั้งช่วงเวลาบ่าย จนถึงเวลาที่จะต้องกินข้าว เขาถึงได้ปลุกมันให้ตื่นขึ้นมา แต่ทว่า มันกลับงอแงไม่ยอมตื่น แถมตัวยังอุ่นๆ อีก

“ฮึก ไม่ตื่น น้องไม่ ตื่น น้องเจ็บ ฮืออ เจ็บไปหมดทั้งตัวเลย” มันร้องไห้ออกมาพร้อมกับชี้ๆ ว่าตัวเองเจ็บตรงไหนโดยเฉพาะตรงช่องทางด้านหลัง

“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับคนดีของพี่” สิงห์ปลอบมันด้วยความรู้สึกผิด ที่ดุน้องแรงเกินไป แต่จะให้ทำยังไงได้ ในเมื่อน้องน่ารักขนาดนั้น ใครมันจะทนไหว นี่ขนาดยั้งแรงไว้แล้วแท้ๆ

“พี่จ๋าทำน้องเจ็บ ไหนบอกไม่เจ็บ ไหนบอกจะอ่อนโยน ฮึก” มันตัดพ้อ แต่พอนึกถึงตอนนั้นมันก็ก้มหน้าซ่อนความอายไปซะอย่างนั้น ท่าทางของมันทำให้สิงห์ต้องหันหน้าหนี หันอมยิ้มกับความน่ารักของมันก็เพราะมันเป็นแบบนี้ไง เขาถึงอยากจะดุมันหลายๆ รอบ

“พี่ขอโทษนะ ทีหลังพี่จะอ่อนโยนมากกว่านี้นะ ไม่ดุแล้ว”

“-//- ดุคืออะไร? ( ‘’ ) ตอนนั้นพี่จ๋าดุน้องหรอ!!! ที่ทำแรงๆ เพราะดุน้องใช่ไหม!!! พี่จ๋าใจร้ายกับน้องเหรออ T^T” เออให้มันได้แบบนี้สิ เขาปรับอารมณ์ตามมันไม่ทันแล้ว เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวเกรี้ยวกราดใส่

“คือ เอ่อ พี่ขอโทษนะ พี่ขอโทษ หนูใจเย็นนะครับไม่ร้องนะตาบวมหมดแล้ว”

“ปวดหัว น้องปวดหัว ฮึก” มันกำลังงอแง

“ถ้าอย่างนั้น หนูกินยาก่อนนะ จะได้หายปวดหัว” พอบอกว่าต้องกินยามันก้ส่ายหน้าไม่เอาท่าเดียว

“ไม่กินยาก็ไม่หายนะ ไม่ได้เล่นน้ำทะเลแล้วนะ” สิงห์ลองเอาเรื่องเล่นน้ำมาขู่มัน มันทำท่าคิด แล้วก็เกิดอาการหน้าแดงขึ้นอีก

“เล่น น้ำ -///- แบบวันนี้อะหรอ ไม่เอาหรอกเล่นแล้วเจ็บตัวหนูไม่เล่นแล้ว (-^-) ”

“ไม่เจ็บแล้วครับ ไม่เจ็บ”

“ไม่เชื่อ พี่จ๋าชอบหลอกน้อง (-3-) ”

“พี่สัญญาเลย ถ้าทำหนูเจ็บอีกพี่จะให้หนูลงโทษพี่เลย” สิงห์ชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้วเป็นการสัญญา

“จริงนะ น้องจะตีๆ เลยนะ”

“อื้อพี่จะให้ตีจนกว่าจะพอใจเลย ตีพี่โดยใช้ตรงนี้นะ” เขาจับไปที่ก้นของมันแล้วบีบเบาๆ

“โอ้ยย เจ็บ ฮรืออออ พี่จ๋าทำหนูเจ็บอีกแล้ววววววว”



งอแงอยู่สักพักก็หลับไปอีก สิงห์เห็นว่ามันมีไข้เลยเดินออกไปครูที่ดูแลเด็กแล้วแจ้งว่ามันเล่นนน้ำจนไม่สบายและจะพักอยู่กับเขาไม่ต้องห่วง หลังจากนั้นก็ไปบอกกับเพื่อนๆ ของมัน ว่าไม่ต้องห่วง ระหว่างนั้นเขาก็รู้สึกถึงความไม่ปรกติ รู้สึกเหมือนมีคนแอบมอง แต่พอหันไปก็ไม่เจออะไร เขาเลยเลิกสงสัย

“ทำมันมาละสิใช่ไหม ผมเห็นนะว่าหายกันไปตั้งแต่ขึ้นจากโคลน” ซีตัสพูดขึ้นมาก่อนที่เขาจะเดินออกจากเต็นท์ที่พวกเด็กๆ นั่งเล่นกันอยู่

“รู้ดีจริงๆ”



+++++++++++++++++++++++++++++

เดินกลับมาที่ห้องพร้อมกับยาลดไข้ ยาแก้อักเสบ แล้วก็ยาทา ดีที่เขามีติดรถไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน ร่างสูงเดินไปที่เตียงนอน ร่างนุ่มนิ่มของไอ้เอ๋อนอนขดอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา สิงห์เดินเข้าไปหามันแล้วใช้หลังมือวัดอุณหภูมิตัวมันยังร้อนอยู่ และแน่นอนมันหลับสนิท ร่างสูงของสิงห์ค่อยๆ ดึงผ้าห่มออกแค่ช่วงล่างของมัน เขาถอดกางเกงของมันมากองไว้ที่เข่า แล้วค่อยๆ พลิกให้มันนอนคว่ำ ก่อนจะทายาตรงส่วนนั้นที่ตอนนี้เริ่มบวมขึ้นมาแล้ว สิงห์ทายาให้มันอย่างแผ่วเบา กลัวว่ามันจะเจ็บ ทาเสร็จก็ใส่กางเกงให้มันกลับเหมือนเดิม ห่มผ้าห่มให้ แล้วล้มตัวนอนข้างๆ มัน เขานอนจ้องใบหน้าสวยๆ ของมันแล้วอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ตอกย้ำให้เขารู้ว่าตัวเองนั้นรักคนตรงหน้ามากแค่ไหน มากจนกระทั่งยอมให้คนตรงหน้าแล้วทุกอย่างทั้งที่เมื่อก่อนเขาไม่เคยเป็นแบบนี้ เขาไม่ใช่คนใจเย็น แต่กับไอ้เอ๋อทำให้เขากลายเป็นคนที่คิดอะไรก่อนทำ เขาเป็นคนมักมาก แต่กลับอดทนรอบางสิ่งบางอย่างเพราะมันยังไม่พร้อม เขาเป็นคนใจร้าย แต่กลับอ่อนโยนกับแค่มัน ทุกอย่างในตัวเขาเปลี่ยนไปก็เพราะมัน

ร่างสูงนอนมองคนป่วยอย่างเพลินตาสมองก็คิดเรื่องระหว่างเขาสองคน จะพาน้องไปไหน จะหาอะไรให้น้องกิน อยากพาน้องไปซื้อขนม อยากพาน้องไปเที่ยว ในหัวเขามีแต่คำว่าน้องๆ ๆ เต็มไปหมด มองนานก็เริ่มจะง่วง เขาเลยขยับตัวเข้าไปในผ้าห่มแล้วดึงอีกคนเข้ามานอนกอด ร่างนุ่มนิ่มของมันก็ขยับซุกกับอกแกร่งของสิงห์โดยอัตโนมัติทัน



“ตื่นได้แล้วครับนะโม ลุกมากินข้าวกินยานะ” สิงห์ตื่นขึ้นมาในตอนหัวค่ำ เขาออกไปหาซื้อโจ๊กมาให้มันกิน เป็นมื้อเย็น

“อื้ออ หนาว น้องหนาว อืออ ปวดหัว” มันงึมงำตาไม่ลืม บ่นหนาวแต่เหงื่อแตกพลั้ก ไข้มันขึ้น สิงห์พยายามจะปลุกมัน แต่ก็ไม่เป็นผล เขาเลยจะเช็ดตัวให้มันแทน ร่างสูงถอดเสื้อมันออก แล้วค่อยๆ เช็ดตัวให้มัน อย่างช้าๆ มองหน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลง ร่องรอยที่เขาสร้างมันไว้เด่นชัดในสายตา ปลายนิ้วแตะเบาๆ ที่รอยแรงปื้นนั้นด้วยความหลงใหล เขาเหมือนคนโรคจิตนิดๆ ที่ชื่นชอบให้คนคนที่ตัวเองรักมีร่องรอยของตัวเองฝากฝังเอาไว้ รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าอันหล่อเหลาหลายครั้งหลายครา เพียงแค่คนที่นอนสั่นอยู่บนที่นอนละเมอออกมา แล้วเรียกชื่อเขาอยู่ตลอด

“งืออ พี่จ๋าทำแรง งืออ พี่จ๋าอย่าแย่งไข่น้อง ฮรืออ” แม้จะละเมอออกมา มันก็ยังดูน่าเอ็นดู เช็ดเสร้จก็ปล่อยให้มันนอน ต่อไป แต่ระหว่างนั้นสิงห์ก็ออกไปคุยโทรศัพท์กับใครบางคน

“อืม มันตามมาที่นี่ด้วย”

(แล้วนายจะให้ผมจัดการเลยหรือเปล่าครับ)

“จัดการเลย เดี๋ยวกลับไปฉันจะจัดการที่เหลือเอง”

“ (ครับนาย) ”

วางสายจากลูกน้องคนสนิทที่น้อยคนนักที่จะรู้ เพราะยังไงเขาก็ยังถือเป็นทายาทคนสำคัญของตระกูล เจ้าของไร่ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด แถมยังเป็นเจ้าพ่อเงินกู้อีก ถ้าจะเรียกว่าต้นตระกูลของเขาคือผู้มีอิธิพลและไม่มีใครไม่รู้จัก ใบหน้าของสิงห์เข้มขรึมขึ้น เขาทอดสายตาไปยังทะเลผืนกว้างตรงหน้า

“ถ้าจะกัดไม่ปล่อย กูก็กัดไม่เลือกเหมือนกัน” บุหรี่ที่นานๆ ครั้งเขาจะสูบ ตอนนี้เขาหยิบมันติดมือมาแล้วจุดสูบ ควันสีเทาลอยคลุ้งไปในอากาศ สารนิโคตินถูกอัดลงปอดของเขาอย่างต่อเนื่อง เขาจัดการเรื่องของที่บ้านมาได้สักพักแล้วโดยการส่ง คิม ลูกน้องคนสนิท ไปอยู่กับแม่เลี้ยงของเขา และสืบหาหลักฐานต่างๆ จนมารู้ว่า แม่เลี้ยงคิดไม่ซื้อกับพ่อของเขา หล่อนแอบมีชู้และกำลังจะวางแผนฆ่าพ่อของเขา

จากที่ไม่อยากเข้าไปยุ่ง วันนี้เขาคงปล่อยไปไม่ได้อีกต่อไป ตั้งแต่แม่ตาย ได้ไม่กี่เดือนพ่อเขาก็เอาผู้หญิงคนนี้เขามาในบ้าน บอกว่าเป็นคุณผู้หญิงคนใหม่ และเขาก็มีทั้งแม่และน้องสาวในวันนั้น แม้ไม่อยากจะยอมรับ แต่เพื่อความสบายใจของพ่อเขาต้องทำ ในเมื่อกัดเขาไม่ปล่อยเขาก็ไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรแล้ว ในเมื่อตั้งใจจะทำลายคนรักเขาทั้งสองคน เขาก็จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของผู้หญิงคนนั้นเช่นกัน

พอบุหรี่หมดไปสามมวนเขาก็กลับเข้ามาในห้อง ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ ร่างบางดุงตัวเข้ามากอด

“พี่รักหนูนะ” เขาจูบลงบนหน้าผากอุ่นๆ ของมันก่อนจะหลับตาลง นอนเคียงคู่กันจนถึงเช้า

+++++++++++++++++++++++++

“ไข้ลดแล้วนี่” สิงห์ปลุกมันลุกขึ้นมากินข้าวกินยาแต่เช้า

“งืออ..-0-ห้าววว วันี้ วันนี้ น้องจะหาน้องเต่า ไปได้ไหมครับ”

“ถ้าไม่โดนแดดมาก็ไปได้ครับ” สิงห์บอกพร้อมกับป้อนข้าวมันไปด้วย

“ถ้า งั้น ถ้างั้นพี่จ๋าจะไปด้วยไหม?”

“ไปสิครับ”

“เย้..ถ้างั้นเรารีบไปกันเถอะเดี๋ยว เดี๋ยวน้องเต่ารอ”

“พึ่งจะหกเช้าเองนะครับ หนูจะรีบไปไหน”

“ก็เขามีออกกำลังกายตอนเช้า”

“อ่า แบบนี้เอง ถ้าอย่างนั้นเช็ดตัวแล้วค่อยออกไปนะครับ”

“อื้อ..แต่ว่า -//-”

“แต่ว่าอะไรครับ?”

“น้องอาย (.///.) ”

“หึหึ อายอะไรครับ เห็นของกันมาหมดแล้ว ไม่ต้องอายแล้ว” ใช่มันอาย เพราะว่าเมื่อก่อนยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับคนตัวสูงแต่ตอนนี้ มันคงไม่หน้าด้านขนาดแก้ผ้าให้คนที่ตัวเองชอบดูได้แล้ว

“งือออ พี่จ๋าอะ”

“มา พี่จะเช็ดตัวให้” พอได้ยินมันก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่ก้ยอมให้สิงห์เช็ดตัวให้ มันหลับตาแน่นตลอดเวลาที่สิงห์เช็ดตัวให้ มันอาย อายจนไม่กล้ามองหน้าคนที่ตัวเองชอบ มันตัวสั่นนิดๆ เวลาโดนผ้าเปียกลากผ่านไหปลาร้าและอก

“อื้ออ เย็น เย็น”

“หึหึหึ ตรงนี้ก็ต้องเช็ดนะ ยกก้นหน่อยสิพี่จะถอดกางเกง”

“ห๊ะ (0.0) มะ ไม่ต้อง ตรงนั้นไม่ต้อง นะ นะ น้องทำเอง อือ พี่จ๋าอย่าถอดดดด”



++++++

“ไมหน้าเป็นตูดแบบนั้นวะ? แล้วนี่หายป่วยแล้วไง?” ปิงที่เห็นมันเดินมาหาเป็นคนแรกเอ่ยทักขึ้น

“งื้อ..พี่จ๋าแกล้ง” มันบอกแค่นั้นแล้วก็เดินไปหาซีตัสแทน เพราะสิงห์เดินตามหลังมันมา มันไม่อยากมองหน้าสิงห์ตอนนี้ มันน่าอายเกินกว่าที่จะมองหน้าเขาตรงๆ ได้ ก็ใครใช้ให้สิงห์ทำความสะอาดตรงนั้นด้วยปากกันละ แถมยังให้มันทำให้ด้วย มันเมื่อยปากไปหมด ทั้งโกรธทั้งอาย ไม่อยากมองหน้า ไม่สนแล้ว มันทำหน้ามุ่ยใส่ ทุกครั้งที่หันไปสบตากับสิงห์ ร่างสูงทำเพียงแค่ส่งยิ้มอ่อนๆ อยากง้อนะ แต่เด็กดื้อของเขาไม่ยอมให้เข้าใกล้เลยนี่สิ

“เดินแปลกนะมึงอะ ไม่ไหวก็ไปนั่งพัก ไม่ต้องไปวิ่งหรอกเดี๋ยวกูบอกอาจารย์ให้” ซีตัสสังเกตว่ามันเดินแปลกๆ มาสักพัก ถึงได้พูดออกไป

“งืออ เรารู้สึกเจ็บๆ ที่ก้น อะตัสตัส เสียดๆ ด้วย”

“เห้ออออ มึงนี่นะ พี่มันทำแรงรึไงวะถึงไปเป็นแบบนั้น” ซีตัสพูดออกมาเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา แต่คนฟัง หน้าแดงหูแดงไปหมด

“งื้อออ ตัสตัส พูดอะไร -///- เรา เรา พี่จ๋าไม่ได้ทำแรงสักหน่อย” มันก้มหน้าลงแล้วกัดปากตัวเอง

“เหม็นเบื่อคนมีผัว ไปๆ ไปนั่งเฉยๆ เห็นแล้วหงุดหงิด”

เช้านี้มันเลยไม่ได้วิ่งรอบหาดกับเพื่อนๆ เหล่าแม่มะโนของมันก็คอยเอาอกเอาใจหาข้าวหาน้ำให้กิน เพราะมันไม่ยอมให้สิงห์เข้าใกล้ เจอหน้าทีไรก็ไล่ให้ไปที่อื่นตลอด ลำบากปิงต้องคอยเอานู่นเอานี่จากสิงห์มาส่งให้มัน ไหนจะบังคับมันกินยาอีก วุ่นวายตลอดช่วงเช้า ตกบ่ายก็พากันไปปล่อยเตา

“ให้พี่ปล่อยด้วยได้ไหม พี่มีน้องเต่าด้วยนะ” เขาเอาเต่าตัวเล็กๆ ในมือยื่นให้มันดู มันทำตาโตแล้วทำท่าจะจับแต่ก็ชักมือกลับแล้วทำหน้าบึ้งใส่

“จะปล่อยก็ปล่อยสิ จะมาบอกน้องทำไม หึ (-3-) ”

“หายโกรธเถอะนะ คราวหลังไม่ทำแล้ว”

“ไม่เชื่อหรอก พี่จ๋า ไม่เชื่อแล้ว!! ”



+++++++++++++++++++++++

นี่เราพัฒนาจาก nc อนุบาล เป็นncมัธยมแล้วนะจะบอกให้ 5555555555555555+ เค้าได้กันแล้ว ได้กันรอบที่สองแล้ว เราเปิดเรื่องของ ไม้เมืองกับต้าไปแล้ว “ไม้ I กัน I หมา “ฝากด้วยเน้ออออ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.24 25/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 25-08-2018 11:03:25
 :L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.24 25/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 25-08-2018 12:56:41
อิพี่นี่ก็ไม่พักเรื่องอย่างว่าเลยนะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.24 25/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-08-2018 20:09:30
พี่สิงห์ดุจนน้องเจ็บตูด ฟังแล้ว  :hao6:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.24 25/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-08-2018 20:33:39
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.24 25/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 25-08-2018 22:48:24
 :z1:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.24 25/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 26-08-2018 01:32:57
ถึงจะ NC เด็กมัถยม  แต่ก็ :jul1:  จะติมตามอ่านคู่ไม้กับต้าร์ คู่นี้น่าจะร้อนแรงเตียงหัก
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.24 25/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 26-08-2018 09:50:11
พี่สิงค์กินเด็ก​  หวานไหมเนื้อนะโม :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.24 25/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-08-2018 12:06:27
ดีต่อใจ   :mew1: :mew1: :mew1:

คิดแล้วว่าทางแม่เลี้ยงต้องโลภมากแน่ๆ
คอยให้สิงห์ได้กับลูกสาวตัวเองไม่ไหว
เลยเริ่มแผนลอบฆ่าพ่อสิงห์  o22 :a5:
อย่างนี้กัดมา ก็กัดไป กัดให้จมเขี้ยวเลย  :angry2:

นะโม น่ารัก   :mew1:
สิงห์  นะโม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.24 25/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 27-08-2018 19:50:23
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.25 2/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 02-09-2018 08:48:16
25

1 week leter



“ห้าววว ไม่อยากตื่นเลย ง่วง” เสียงงอแงจากคนข้างกายทำให้ร่างสูงอย่างสิงห์ปมยิ้มน้อยๆ เขาไม่ได้ตั้งใจจะรังแกคนตัวเลยสักนิดถ้า คนขี้งอแงไม่อ้อนเขาเหมือนแมวเมื่อคืนเลยเผลอไปนิด ขนาดทำแค่ข้างนอกน้องยังเพลียขนาดนี้

“แต่หนูต้องโรงเรียนนะครับ จะเจ็ดโมงแล้วเดี๋ยวสายนะ”

“งืออ เมื่อคืนพี่จ๋าแกล้งน้อง”

“ก็หนูอยากทำตัวน่ารักทำไมละ” เขายิ้มพร้อมกับอุ้มคนตัวเล็กให้นั่ง

“พาไปห้องน้ำหน่อย น้องลืมตาไม่ขึ้นเลย”

“ครับๆ” สิงห์ยิ้มอ่อนแล้วอุ้มเด็กขี้เซาในท่าเจ้าสาวเข้าไปให้ห้องน้ำ พาอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันเรียบทั้งคู่ ก่อนจะพากันมาแต่ตัวด้วยความรีบร้อน วันนี้คงกินอะไรไม่ทัน ได้แค่ขนมปังเซเว่นกับนมเท่านั้น

“ตั้งใจเรียนนะครับ ตอนเย็นพี่จะมารับ”

“อื้ออ แต่น้องมีซ้อมหมากรุกนะ มารับ ช้าๆ นะ”

“ครับ” เขาส่งยิ้มให้คนรักก่อนจะขับรถออกไปที่คลินิก



++++

“ปิงปิง เราหิวข้าวววว” เสียงหวานร้องดังให้ได้ยินเป็นรอบที่สาม

“เดี๋ยวก็พักแล้วเนี้ยะ รอก่อนดิวะ! ” ปิงเริ่มจะรำคาญ

“แต่เราหิว เรา เหนื่อยย T^T เมื่อเช้าตื่นสายกินไม่ทัน” พอได้ยินมันพูดแบบนั้นก็ถึงบางอ้อทันที กับความสงสัย ว่าใต้คอปกเสื้อ กับรอยแดงๆ นั่นได้แต่ใดมา

“แรดเอง ช่วยไม่ได้”

“ปิงว่าเราหรอ”

“รู้ด้วยว่าด่า”

“รู้สิ ก็ตัสตัส ว่าปิงปิงบ่อยๆ เราได้ยินเราจำได้”

“ไอ้ตัส ไอ้...” อยากจะด่าแต่ด่าไม่ได้ กลัวไอ้เด็กเอ๋อมันจำเอาไปใช้

“จะด่า?” ซีตัสหันมาตามสียงเรียก

“บ้าใครจะด่า กูแค่จะถามว่าวันนี้จะกินอะไร” ปิงยิ้มหวาน

“เหรอ ยิ้มแบบนี้กูรู้ว่ามึงกำลังตอแหล อยู่!! ”



พักเที่ยง

“ข้าว ข้าว ข้าว ข้าวจ๋ารอเราก่อนนะ” มันวิ่งไปตะโกนไป เหมือนกลัวว่าข้าวจะหมด

“อย่าวิ่ง!! สิอิลูกก ไม่มีใครแย่งข้าวหรอกคร้า” ส้มตะโกนไล่หลัง

“มันคงฟังมึงหรอกวิ่งหน้าตั้งไปนู่นแล้ว” ปิงส่ายหัวพร้อมกับรีบตามไอ้เด็กเอ๋อนั่นไป พอไปถึงมันก็ยืนรอต่อแถวซื้อก๋วยเตี๋ยวเรือ อยู่เป็นอีกเมนูที่มันได้ลองแล้วชอบมากๆ ถ้าวันไหนไม่มีไข่พะโล้มันก็จะกินก๋วยเตี๋ยวเรือแทน พอถึงคิวมันก็สั่ง

“ป้าค๊าบ เอาเส้นเล็กๆ แล้วก็ใส่กระเทียมเจียวเย้อๆ ชามนึงครับ” มันสั่งเสียงใส่ในมือถือช้อนส้อมไว้พร้อม

“จ้าๆ นะโมรอแปปนะลูกนะ”

“ค้าบบบ” พอได้ของที่ต้องการมันก็เดินถือชามก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ กลับมาที่โต๊ะ ระหว่างทางจู่ๆ ก็มีใครบางคนจงใจเดินชนมันจากด้านหลัง

“โอ๊ะ...”

โครม ซ่า!

“โอ้ยยยยยยยย ร้อนๆ” เสียงดังโวยวายของมันเรียกให้เพื่อนที่รออยู่ที่โต๊ะรีบวิ่งมาดู

“เชี้ยะเอ๋อออ” ปิงรีบพยุงมันลุกขึ้น ส้มที่ถือน้ำหวานเย็นๆ อยู่รีบเอาน้ำในแก้วราดใส่ตัวมันทันที เพื่อให้เสื้อที่เปื้อนน้ำก๋วยเตี๋ยวคลายร้อนลง

“มึงรีบพามันไปล้างตัวแล้วไปห้องพยาบาลก่อนที่แผลมันจะพอง” ซีตัส บอกเสียงเครียด ส่วนตัวเองรีบกดโทรศัพท์หาสิงห์ทันที ไอ้เอ๋อถูกพาไปล้างตัวและพาไปห้องพยาบาลมันนั่งน้ำตาซึม เพราะแสบแผลที่ตอนนี้แดงไปทั้งแขนแล้วก็หน้าอก

“ฮึก แสบ”

“ใครวะแมร่ง อย่าให้รู้นะมึง” ปิงว่าออกมาอย่างหัวเสีย

“มึงจะกระทืบเขา” ส้ม

“เออ เอาให้จมเลย”

“แต่ถ้ามันเป็นผู้หญิง” ส้มถามอีก

“กูจับปล้ำแมร่ง”

“กูให้โอกาสมึงพูดใหม่ไอ้ปิง” ซีตัสที่เดินเข้ามาได้ยินเข้าพอดี น้ำเสียงดุๆ ดังมาจากปากคู่สวย

“ดูเกรี้ยวกราด มาดผัวเวอร์” ส้มหัวเราะขำกับท่าทีของซีตัส เพราะใครๆ ก็ดูออกว่าสองคนนี้ต้องมีซัมติงกันแน่นอน

“อะไรของมึง กูก็พูดไปงั้นแหละ ไม่ได้คิดจะทำจริงๆ สักหน่อย” ปิงเถียงแล้วแสร้งเดินไปทางอื่นไม่อยากอยู่ใกล้มือใกล้ตีนของซีตัส

“ให้มันจริง หึ”

“เอ่อ แล้วพี่สิงห์ว่าไงบ้าง” ส้มถามพร้อมกับมองหน้าไอ้เอ๋อไปด้วย

“กำลังออกจากคลินิก”

“ง่าส์ตัสตัสบอกพี่จ๋าเหรอ” มันทำหน้าจ๋อยๆ เพราะกลัวโดนดุ

“อืม ต้องบอก เพราะกูคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” ซีตัสพูดเสียงเครียดๆ เพราะยังหาคนทำไม่ได้ รู้แค่ว่าเป็น ผู้หญิง

“มึงคิดว่า..” ปิงนึกไปถึงตอนที่มีคนตั้งใจชนไอ่เอ๋อล้มตรงถนนหน้าโรงเรียนเมื่อคราวก่อน

“อืม กูคิดว่ามันน่าจะเป็นพวกเดียวกัน เพราะลำพังไอ้เอ๋อมันไม่มีทางไปหาเรื่องใคร หรือทำตัวหน้าหมั่นไส้ให้ใครเค้าเกลียดขี้หน้ามันได้”

“แล้วแมร่งจะทำไปทำไมวะ ลูกกูอ่อนแอขนาดนี้ยังจะรังแก” ส้มพูดออกมาด้วยความกังวล

“คนในโรงเรียนอาจจะไม่ แต่นอกโรงเรียนไม่แน่”

“มึงหมายถึง น้องสาวพี่สิงห์!! ” ปิงอุทานออกมา

“อืม มีคนเดียวที่หมายหัวไอ้เอ๋อ”

“เชี้ยะ..ลูกกูจะไม่ปลอดภัย” ส้มหันไปหาไอ้เอ๋อที่นั่งทำหน้าซื่อๆ ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่พวกเขาคุยกัน

“งือออ”

15 นาที ต่อมา

“นะโม!! ”

“เฮือกกก ตกใจ ตกใจ หมดเลย พี่จ๋า”

หมับ ร่างสูงสวมกอดคนตัวเล็กที่นั่งรอเขาอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความห่วงสุดขีด

“อะ อื้ออ น้องเจ็บครับ น้องเจ็บแผล” เสียงร้องของมันทำให้สิงห์ผละออก

“เจ็บมากไหมครับ” เขาลูบหัวมันพร้อมกับมันที่แขนทั้งสองข้างพันผ้าพันแผลไว้

“นิดหน่อยครับ” มันตอบพร้อมกับก้มหน้าลง เพราะคิดว่าสิงห์จะต้องดุมันแน่ๆ แต่ผิดคาดสิงห์ไม่ดุมัน แถมยังปลอบมันอีก มันดีใจ

“ทีหลังต้องระวังตัวนะครับ อย่าไปคนเดียวอีก”

“ครับ” มันรับคำพร้อมกับยกมือไหว้สิงห์

“น้องขอโทษที่ทำให้พี่จ่าเป็นห่วง” สิงห์เห็นแววตาของมันแล้วก็อดที่จะจูบลงบนหัวมันไม่ได้ มันทั้งเศร้าแล้วก็หวาดกลัว

“ขอบใจพวกเธอด้วยนะ” สิงห์หันไปบอกเพื่อนๆ ของไอ้เอ๋อที่ยืนรออยู่

“ครับ/ค่ะ”

“ไว้พี่จะพาไปเลี้ยงข้าว”

“หมูกระทะได้ป่าวพี่” ส้ม

“ได้สิ”

“ (อิตะกละ) ” ปิงกระซิบด่าส้มเบาๆ

“อิปิง เด๊ะๆ”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่ขอพานะโมกลับบ้านก่อนนะ ช่วงบ่ายมีเรียนกันไหม?”

“อะ ไม่กลับ น้องไม่กลับ นะครับพี่สิงห์ น้องมีซ้อมหมากรุก น้องมีซ้อม” มันรีบบอก สองมือของมันเขย่าแขนของสิงห์ไปด้วย

“แต่ ว่า” สิงห์มองสภาพมันแล้วอดที่จะสงสารไม่ได้

“น้องไหว มือน้องไม่เจ็บ”

“เห้ออออ ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่ออกไปซื้ออะไรมาให้กินละกัน” สิงห์บอกมันอย่างจนใจ เขาแพ้สายตาอ้อนๆ ของมันทุกครั้ง

“ครับ” สิงห์ทำท่าจะเดินออกไปแต่มือเล็กๆ ของมันก็คว้าเอาชายเสื้อด้านหลังเอาไว้

“กลับมาไวๆ นะครับ” มันช้อนตามองเหมือนลูกหมาโดนเจ้าของทิ้ง

“อะ อื้ออ -//-พี่จะรีบกลับ เราก็ไปซ้อมหมากรุกได้แล้ว “

สิงห์เดินเกาแก้มตัวเองออกไปใจเต้นแรงเหมือนกลองเพล จะเขินเรี่ยราดไปไหน บ่นกับตัวเองแล้วเดินขึ้นรถออกไปหาอะไรให้ไอ้เด็กเอ่อกิน







(ข้อความแชท)

“จัดการให้แล้วนะคะ แต่ว่าพี่สิงห์มาหามันที่นี่ดูท่าจะหัวเสียน่าดูที่ไอ้ปัญญาอ่อนนั่นเจ็บตัว”

“อืม จัดการไปเรื่อยๆ เอาให้มันเจ็บตัวก็พอ”

“ค่ะ พี่”

“ส่วนค่าจ้างชั้นจะโอนเข้าบัญชีให้”

“ขอบคุณค่ะพี่ ถ้ามีงานง่ายๆ แบบนี้จ้างหนูอีกนะคะ”

“อืม แล้วอย่าให้ใครสงสัยละ”

“รับรองค่ะว่าไม่มีใครสงสัยแน่นอน”



ช่วงบ่ายไอ่เอ๋อมีซ้อมหมากรุกยาวไปจนถึงช่วงเย็น วันนี้มีคนจากชมรมมาประมือกับมันด้วยสองคนบางคนก็รู้จักมันแล้วเพราะเคยเจอที่โรงน้ำชาของอาแป๊ะ มันยกมือไหว้ทักทายแล้วเริ่มลงมือซ้อม เวลามันมีสมาธิมันจะไม่วอกแวกเลย สายตาสมาธิรวมอยู่จุดเดียวคือที่กระดานหมากรุก แม้มันจะนั่งไม่ตรงคอเอียงไปข้าง แต่ว่าสมองของมันกำลังประมวลผลของผู้ต่อสู้อย่างชาญฉลาด มันชอบทำให้คู่ต่อสู้ตายใจ โดยการให้ฝ่ายตรงข้ามรุกมันจน จนมุมเหลือเพียงเบี้ย เรือ แล้วก็ม้า อย่างละตัว มันโยกหมากในกระดานอย่างสนุก กว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัว ก็เหลือเพียงขุนเพียงตัวเดียว

“หนุรุกฆาต” มันฉีกยิ้มกว้าง

“ฝีมือไม่ตกเลยนะเอ็ง”

“คึคึคึ ลุงคมก็ไม่เก่งเหมือนเดิม คึคึ” มันหัวเราะเบาๆ เวลาแบบนี้ไม่มีใครโกรธกับคำพูดมันหรอก

“เออ ข้าจะสู้อัจฉริยะอย่างได้ไง เล่นด้วยกันตั้งแต่เล็กจนโต ข้าก็ไม่เคยชนะเอ็งสักที”

“คึคึคึ ลุงสอน ชนะครั้งแรกไง” มันทบทวนความจำให้

“เออ วะ ฮ่าๆ” ทั้งลุงคมและคนอื่นๆ ก็พากันหัวเราะขำ พอเล่นกับลุงคมเสร็จ คนจากสโมสรอีกคนก็ขอลองประมือกับมันบ้าง ครั้งนี้สู้กันได้สูสี และสนุกมือมาก ครั้งนี้มันแพ้ชนิดหมากต่อหมาก และที่มันพลาด ก็เพราะสิงห์เดินถือกล่องข้าวที่ซื้อจากข้างนอกมาให้มัน กลิ่นหมูทอดลอยมาแต่ไกล มันเลยเสียมาธิ จบตามันก็ลุกหนีทุกคนไปกินข้าวเหนียวหมูทอดที่สิงห์ซื้อมา มันซัดจนเกลี้ยง

“ขอบคุณครับ อาหร่อยยยมากๆ เลย”

“ครับ อะกินน้ำด้วย” สิงห์ยื่นชาเขียวของชอบให้มันดื่ม

“คึคึ พี่จ๋าน่ารักที่สุดเลย” มันยิ้มจนตาหยี

“หนูก็น่ารักครับ ไปซ้อมเถอะพี่รอหนูอยู่ตรงนี้นะ” สิงห์นั่งรอมันตรงโต๊ะอีกฝั่งของห้องชมรมที่ติดกับหน้าต่าง เวลาเด็กนักเรียนเดินผ่านก็จะพากันมองความหล่อของเขาจนสุดคอ มีบ้างที่เขาส่งยิ้มให้ตามประสา เรียกเสียงกรี๊ดพอกรุบกริบ

“เฮือกกก” เสียงกรี๊ดนั่งทำเอาไอ้เอ๋อมันตกใจหมากในกระดานแทบร่วงหมดโต๊ะ มันหันมาทำตาดุใส่คนตัวสูงที่นั่งอมยิ้ม เขาชอบเวลาเห็นมันทำหน้าดุใส่ หน้าที่เหมือนแมวขู่ ไม่ได้ดูน่ากลัว แต่มันกลับดูน่ารักมากๆ ใสสายตาเขา ยิ่งยั่วให้หึง เขายิ่งชอบ

“พี่จ๋า จู๊ๆ เงียบๆ หน่อย” มันเอานิ้วแนบปากพร้อมทำตาดุๆ

“หึหึหึ ครับ ถ้างั้นพี่ออกไปรอข้างนอกนะ^^”

“ไม่ได้!! ห้ามไปนะ” มันตะโกนใส่

“ทำไมครับ^^”

“ดะ เดี๋ยว พวกผู้หญิง อึก มะ มาขอเบอร์ ไม่ชอบ” มันพูดเสียงตะกุกตะกักพร้อมกับมองไปรอบเหมือนหลบสายตาคนรอบข้างไปด้วย

“อ่า ถ้างั้นพี่อยู่ข้างในนี้ได้ใช่ไหมครับ”

“อื้อ อยู่ ห้ามออกไปไหน”

“หึหึหึ”

หลังจากซ้อมเสร็จก็ลาทุกคนกลับบ้าน สิงห์แวะซื้อข้าวขาหมูกลับมากินด้วย แต่ไอ้เอ๋อมันขอซื้อขนมเพิ่ม สิงห์ไม่เคยปฏิเสธมันเลยแวะร้านสะดวกซื้อ มันลงไปซื้อขนมจากเงินที่เหลือจากเมื่อตอนกลางวัน สิงห์ยืนขนาบข้างมันตลอด เพราะกลัวว่ามันจะซื้อขนมที่ไร้สาระมาแอบตุนไว้ใต้ที่นอนอีก ถึงแม้จะนอนห้องเดียวกันก็ตาม เขาก็รุ้ว่าที่มันแอบไปห้องตัวเองบ่อยๆ เพราะไปแอบกินขนม

“หมี หมีๆ” มันหยิบมาสองห่อแล้วหย่อนลงตะกร้า

“จุ๊บๆ” เดินผ่านโซนลูกอมมันก็หยิบจูป้าจุ๊บมาอีกสามอัน

“น้องแป้งนุ่ม” หยิบมารชเมลโล่มาอีกห่อ คิ้วของสิงห์เริ่มกระตุกนิดๆ

“มีแต่ขนมหวานๆ”

“ก็น้องชอบ กินแล้วอารมณ์ดี”

“ของพี่ก็หวานนะ เผื่อหนูไม่รู้” เขาทำหน้ากรุ้มกริ่มใส่ กับน้องหยอดได้เป็นหยอด

“อะไรหวานหรอ ( ‘- ‘) ?” มันเงยหน้าขึ้นมองคนพี่ด้วยความสงสัย

“เจี้ยวหวาน-///- “สิงห์ก้มลงไปกระซิบข้างๆ หูมัน

ป๊าป!!

“ทะลึ่ง!! พี่จ๋าพูดอะไรเนี้ยะ เจี้ยวๆ -///- “มันฟาดป๊าบเข้าที่ต้นแขนของสิงห์ พูดไปหน้าแดงไป มันรู้ว่าสิงห์พูดถึงอะไร หมอหมาของมันขยันสร้างรอยแดงบนใบหน้าให้มันเหลือเกิน ใจสั่นไม่รู้จะสั่นยังไงแล้ว

“รู้เหรอว่าพี่หมายถึงอะไร” สิงห์แกล้งถาม

“รู้สิ!! ”

“นับวันยิ่งฉลาดนะเรานะ อะไรๆ เดี๋ยวนี้ก็รู้ไปหมด”

“ก็น้องเรียนหนังสือ น้องก็ต้องรู้สิ อีกอย่าง >,,< ปิงปิงสอนน้องไว้หลายอย่างเลย”

“18+แน่ๆ ความจังไรนี่ขยันเอาใส่หัวเมียกูจริงๆ” เขากระซิบกับตัวเองเบาๆ

“อ่า พี่จ๋าพูดว่าอะไรนะน้องฟังไม่ทัน”

“ไม่มีอะไรครับ ซื้อครบรึยังเอ่ย จะได้ไปจ่ายเงิน”

“อื้อ ครบแล้ว เหรอแต่น้องปูไทย” มันวิ่งไปหยิบขนมปูไทยมาอีกสองห่อใหญ่

หลังจากจ่ายเงินก็ขนขนมสองถุงใหญ่ขึ้นรถและตรงกลับบ้านทันที ไอ้เอ๋อลงจากรถแล้วเดินไปเปิดประตูรั้วเพื่อให้สิงห์เอารถเข้ามาด้านใน ระหว่างนั้นมันก็ยกมือไหว้ใครบางคนที่สิงห์มองไม่เห็น มันโบกมือลาแล้ววิ่งเข้าบ้านโดยไม่ลืมที่จะเอาขนมกับกระเป๋าลงไปด้วยสิงห์ถือของหนักๆ ให้ แล้วพากันขึ้นบ้าน สิงห์ไม่อยากถามว่ามันคุยกับใคร เขาเลยเลือกที่จะเดินเลยมันไป

“อาบน้ำแล้ว ออกมากินข้าวนะครับ”

“คร๊าบบบบ” มันหอบถุงขนมที่ซื้อมา กลับไปที่ห้องตัวเองหยิบเอากล่องสมบัติใต้เตียงออกมาแล้วเรียงขนมลงไป เหลือไว้เพียงสองอย่างที่มันจะกินคืนนี้ คือเยลลี่หมีกับปูไทย มันเตรียมเสื้อผ้าเอาไว้บนที่นอน แล้วไปอาบน้ำ แต่มันดันลืมหยิบผ้าเช็ดตัวไปด้วย โผล่หัวออกมาดูว่าสิงห์อยู่ใกล้ๆ รึเปล่า พอทางสะดวกมันก็กุมไข่ออกมาจากห้องน้ำ ตูดขาวๆ ส่ายไปมา พร้อมกับหยดน้ำที่เลอะตามพื้น พอมาถึงแทนที่มันจะเช็ดตัว มันกลับกระโดดใส่ที่นอนแล้วนอนกลิ้งตัวอยู่บนนั้น

“ฮึบๆ ๆ เช็ดตัวแบบ ออ อินวัน” มันกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่หลายรอบจนตัวมันแห้ง มันรู้สึกสนุกเลยหัวเราะออกมา แต่มันไม่รู้เลยว่ากำลังมีสายตาของเสือตัวร้ายจ้องจะเชือดมันอยู่

“อ่า แห้งแล้ว แต่งตัวๆ” มันลุกแล้วหันไปมองที่นอนที่เปียกๆ ของมันก่อนจะแต่งตัวด้วยความไวแสง สิงห์เห็นมันตั้งแต่วิ่งล่อนจ้อนออกมาจากห้องน้ำแล้ว ไม่ได้ตังใจมาแอบดูแก้ผ้าเลยจริงๆ =,,=

“อร่อยไหม”

“อร่อยครับ” มันเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ จนแก้มป่อง

“มีการบ้านไหมวันนี้”

“มีครับ วิชาวาดรูป” มันตอบ

“อ่า ลืมเลย รูปที่หนูวาด วันเสาร์อาทิตย์เราไปขายกันที่สวนไหม?” สวนที่ว่าคือสวนสาธารณะในเมือง จะมีโซนขายของทำมืออยู่

“อื้อ ขายๆ อยากได้ตัง แล้วเมื่อไหร่จะพาหนูไปหาหลวงตาอะ” พอพูดถึงหลวงตา สิงห์ก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเก็บสีหน้าที่ดูเป็นกังวลเอาไว้ไม่ให้ไอ้เอ๋อมันเห็น

“เอาไว้ว่างๆ เราไปกันเนอะ” เขายิ้มอ่อนก่อนจะลูบหัวมันเบาๆ ราวกับกำลังปลอบโยนมัน มันยังเจอหลวงตาตอนนี้ไม่ได้

“อื้อ หนูอยากกอดหลวงตามากๆ เลย”



+++++++

วันเสาร์

มันลุกขึ้นมาทำงานบ้านตามเวลาปรกติของมัน เพิ่มเติมคือตัดหญ้าหน้าบ้านตรงแถวๆ ขอบรั้ว ตื่นมาตั้งแต่ตีห้าเพื่อจัดการงานบ้านทั้งหมด พอเจ็ดโมงมันก็ทำส่วนในบ้านเรียบร้อย เหลือแค่ตัดหญ้ากับทำกับข้าว มันเดินกลับไปที่ครัวลื้อตู้เย็นเพื่อหาวัตถุดิบ

“ทำไมมีแต่ไข่กับหมูสับละ” มันบ่นออกมาเบาๆ เช้านี้คงหนีไม่พ้นไข่เจียวหมูสับ มันเลยรอให้สิงห์ตื่นก่อนค่อยทอดไข่ จะได้กินร้อนๆ มันเลยหุงข้าวทิ้งเอาไว้แล้วลงไปถอนหญ้าหน้าบ้าน ระหว่างที่มันกำลังถอนหญ้าอย่างตั้งอกตั้งใจ มันเห็นอะไรบางอย่างนอนขดอยู่ในพงหญ้า ตัวมันสีดำสนิท

“หืออออ” มันค่อยๆ แหวกหญ้าอย่างเบามือเพื่อดูว่าไอ้ตัวที่ขดอยู่มันคือตัวอะไรกันแน่

“มะ มะ แมว น้องแม้วววววววววววววววววววว” พอมันเห็นชัดว่าอะไรมานอนขดอยู่ ตามันลุกวาวแล้วก็อุ้มแมวสีดำตัวนั้นขึ้นมา ท่าทางมันอ่อนแรง มีขี้ตาเกรอะกรัง ดูน่าสงสาร ไอ้เอ๋ออุ้มแมวตั้วนั้นขึ้นไปบนบ้าน

“พี่จ๋า..พี่จ๋า ช่วย ช่วย แมว” มันตะโกนออกไปไม่เป็นคำ เพราะตื่นเต้นแล้วก็ตกใจ มันรู้ว่าแมวกำลังจะตาย สิงห์พอได้ยินเสียงของมัน ก็เด้งตัวลุกจากที่นอน ด้วยความตกใจ และรีบเดินไปหามันทันที

“แมวนี่ครับ หนูเอามาจากไหน” สิงห์เห็นว่ามันอุ้มแมวใกล้ตายเข้ามาในบ้านคิ้วเข้มก็ขมวดนิดๆ

“ช่วย ช่วย นะ ช่วย” ไอ้เอ๋อมันพูดไปน้ำตาก็จะไหล

“อ่า หนูวางแมวลงก่อนนะ เดี๋ยวพี่จ๋าดูให้” สิงห์อุ้มแมวจากมือมันแล้ววางไว้ที่โต๊ะ ก่อนจะตรวจดูอาการคร่าวๆ

“มันอ่อนแอมาก น่าจะเป็นหวัดแมว พี่ว่าเราต้องพามันไปที่คลินิก” สิงห์บอกกับมัน ก่อนจะจัดการเอาผ้ามาห่อตัวแมวเอาไว้ แล้วเดินไปหยิบกุญแจรถ ไอ้เอ๋อวิ่งตามตูดเขาขึ้นรถ สิงห์วางแมวไว้ที่เบาะหลัง อย่างแผ่วเบา พอมาถึงเขาก็รีบรักษาอาการเบื้องต้นของมันทันทีโดยมีไอ้เอ๋อตามดูทุกอย่างด้วยความเป็นห่วง สิงห์ให้แมวอยู่ในห้องพักฟื้นแยกจากสัตว์ตัวอื่นๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปให้กับสัตว์ตัวอื่นๆ ในคลินิก ตอนนี้อาการมันแค่ห้าสิบห้าสิบ ถ้ามันรอดคืนนี้ได้ โอกาสรอดชีวิตมันก็จะมีมากขึ้น ไอ้เอ๋อยืนเกาะกระจกมองแมวตัวสีดำผอมซูบที่นอนให้น้ำเกลือ อยู่

“มันจะหายไหม?”

“ต้องรอดูครับ ว่ามันจะสู้หรือเปล่า”

“น้องอยากให้มันหายไวๆ”

“อืมครับ พี่ก็ขอให้มันเป็นแบบนั้น”

หลังจากนั้นก็พากันกลับบ้าน สิงห์ให้มันไปอาบน้ำก่อนเพราะมันอุ้มแมวป่วยเดี๋ยวจะติดโรคมาได้ อาบเสร็จก็เตรียมข้าวเช้า ข้าวไข่เจียวหมูสับธรรมดาแต่อร่อยมากๆ เพราะคนที่ทำให้น่ารัก และก็รักมากด้วย ไอ้เอ๋อมันเริ่มทำกับข้าวบางอย่างเป็นแล้ว อย่างต้มยำ ไข่เจียว ไข่ต้ม มาม่า ที่สำคัญมันทอดไข่ไม่ไหม้แล้ว ถามว่ามันเรียนรู้มาจากไหน ก็คงต้องยกความดีให้เหล่าแม่มโนของมัน ที่สอนมันตอนเรียนวิชาคหกรรมบ่อยๆ

วันนี้สิงห์ไม่เข้าคลินิก เพราะต้องการใช้เวลาอยู่กับไอ้เอ๋อในช่วงวันหยุดอยากหาอะทำกับมันสองคน อย่างเช่นดูหนัง หรือกินข้าว อย่างที่คนเป็นแฟนเขาทำกัน วันนี้เขาเลยวางแผนเอาไว้ ว่าหลังจากกลับจากการขายรูปเขาจะพามันไปดูหนังแล้วก็กินข้าว

ตกบ่ายเขาไล่ให้มันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ด้วยชุดใหม่ที่เขาซื้อให้มัน อย่างไอ้เอ๋อต้องบังคับไม่อย่างนั้นมันจะใส่แต่เสื้อคอย้วยๆ ก้มทีเห็นนมที ส่วนตัวเขาก็ไปคัดรูปที่ไอ้เอ๋อมันวาดไว้ออกมาสิบรูปได้ แล้วขนขึ้นรถ เอาขาตั้งรูปติดไปด้วย ดีที่วันนี้แดดไม่ค่อยร้อน ออกจะครึ้มๆ ด้วยซ้ำ หวังว่าฝนคงไม่ตกลงมาตอนที่พวกเขาขายรูปซะก่อน จัดเตรียมของให้เด็กเอ๋อเสร็จตัวเองก็เข้าไปอาบน้ำบ้าง วันนี้เขาแต่งตัวหล่อกว่าปรกตินิดหน่อย เพราะวันนี้เป็นเดทแรกของเขากับไอ้เอ๋อด้วย

ไอ้เอ๋อมันตื่นเต้นที่รูปภาพของมันจะออกขาย มันอยากขายได้เงินเยอะๆ อยากเอาเงินไปให้หลวงตา กับน้องๆ ที่วัด มันยิ้มอยู่ตลอดเวลาที่มันคิดว่ามันได้เงินแล้วเอาเงินไปให้คนที่มันรัก ไปรักษาคนที่มันเป็นห่วงให้หายเจ็บป่วย

ณ ลานขายของแบกับดิน

“จัดรูปเสร็จแล้วใช่ไหมครับ”

“อื้อ”

“ตั้งราคารูปรึยัง”

“ระ ..ราคา? ราคา อ่า อ๋ออ อืมม รูปละ อ่า อืมมม” มันยืนทำท่าคิดอยู่นาน

“300”

“หึหึหึ 300 นะครับ” ความจริงรูปของมันตั้งราคาเกินพันยังได้เลย แต่ถ้ามันจะคิดเท่านี้ก็คือเท่านี้ เขาเขียนป้ายราคาติดไว้ที่รูปให้มัน ส่วนตัวมันเองก็เอาขาตั้งรูปออกมากาง หยิบอุปกรณ์วาดรูปออกมา ทั้งสีน้ำมัน แปรง พู่กัน และถาดสี

“จะวาดรูปเหรอ?”

“อื้อ น้องจะวาดลุงคนนั้น” มันชี้ไปที่เก้าอี้นั่งพักที่มีลุงคนหนึ่งนอนหลับอยู่

“หืมทำไมละ”

“ลุงมีน้องแมวนอนข้างๆ”

“....”

“มีคุณยายนั่งลูบหัว”

“...”

“คุณยายยิ้มสวย^^”

สิงห์ยืนเงียบแล้วไม่หันไปมองตรงนั้นโดยเด็ดขาด เพราะเขาไม่เห็นอะไรอย่างที่มันพูดเลยสักอย่างนอกจากลุงแก่ๆ ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ นอนหลับสนิทอยู่บนนั้น เวลาผ่านไปได้สักพักก็มีนักท่องเที่ยว มากหน้าหลายตามาดูมันวาดรูป บางคนสนใจรูปของมันและซื้อไปก็มี มีหลายคนถรามว่ามันกำลังวาดรูปอะไรอยุ่พอมันอธิบายทุกคนก็ทำหน้าอึ้งๆ สิงห์ยืนอยุ่ข้างๆ มันตลอดและที่สำคัญ สิงห์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนมามุงดูไอ้เอ๋อ เพราะความหล่อเหลาราวกับดาราเกาหลี

“เอ่อพี่คะ รูปนี้ราคาเท่าไหร่หรอคะ” มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาถามเขา สิงห์เดินไปหาผู้หญิงคนนั้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“ครับ อ่า รูปนี้ 300 ครับ”

“อ่า แล้วรูปนี้ละคะ” เธอถามอีก หญิงสาวออกอาการเขินๆ เวลาคุยกับสิงห์

“300 เหมือนกันครับ”

“เออ คือ แล้ว ถ้า เออ ถ่ายรูปคู่กับพี่ คิดเท่าไหร่คะ” เธอกลั้นใจถามออกไป ใบหน้าของเธอแดงจัด แถมยังยืนบิดไปมาอีก

“พี่ปวดฉี่หรอครับ?” จู่ๆไอ้เอ๋อมันก็เลิกสนใจกับการวาดรูปของมัน

“ห๊ะ .”

“นะโมเห็นพี่ยืนบิดไปบิดมาครับ สงสัยพี่สาวต้องปวดฉี่แน่ๆ เลย” มันทำหน้าซื่อๆ พร้อมกับชี้ไปที่หญิงสาว

“อะ คือไม่ได้ปวดค่ะ น้อง”

“อ่าวนึกว่าปวด เห็นยืนบิด”

“แล้วพี่เป็นอะไร หรอครับ”

“-///- พี่เขิน”

“เขิน?”

“คือพี่เขิน พี่ชายน้องอะคะ หล่อมากเลย ถ้าพี่จะขอจีบน้องจะว่าอะไรไหมคะ”

“จีบพี่จ๋า พี่จ๋าของน้องไม่ใช่พี่ชายนะ ครับ” มันทำตาซื่อพร้อมกับเดินไปกอดแขนสิงห์

“อ่าว?”

“พี่จ๋านะเป็น คนรักของน้อง เป็นคนรัก นะพี่สาวรู้จักไหมครับ” มันยิ้มจนตาหยี นี่ถ้าสิงห์ไม่รู้ว่ามันเป็นเด็กพิเศษเขาคงคิดว่ามันเสแสร้งมากกับหน้าซื่อของมัน เรียกได้ว่าร้ายเลยละ ร้ายบริสุทธิ์มาก

“อะ เอ่ออ”

“เนี้ยะ ๆ เดี๋ยวผมทำให้ดู คนรักกันเขาทำแบบนี้” มันเขย่งตัวขึ้นหอมแก้มสากของสิงห์ให้ผู้หญิงคนนั้นดู

“......”

“นี่ๆ ทำแบบนี้ทุกคืนเลยนะ อ่า แล้วก็จุ๊บๆ ที่ปากด้วย”

“.......”

“พี่สาวเขาให้แล้วใช่ไหมษ? ครับ”

“อะ จ้า เข้าใจแล้ว” เธอทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกรู้สึกหน้าแหกอย่างบอกไม่ถูก อยากจะโกรธแต่ก็โกรธไม่ลง เพราะหน้าซื่อๆ ของมัน กับรอยยิ้มที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร

“คึคึคึ พี่สาวฉลาดจังเข้าใจด้วย” มันยิ้มอีก สิงห์รู้ว่ามันกำลังหึงเขา การที่มันทำแบบนี้มันทำให้หัวใจเขาพองโต รู้สึกดีมากๆ

“ถะ ถ้าอย่างนั้นพี่เอารูป นี้ละกัน รูปแฟนน้องพี่ไม่เอาแล้วก็ได้”

“อ่า ครับ สามร้อยบาท แต่เห็นว่าพี่สาวสวยผมลดให้ เหลือ200 พอครับ”

“ขะ ขอบใจนะ พี่ไปนะ” เธอถอยออกมาแล้วเดินกลับไปอย่างเซ็งๆ

“ร้ายนะเรานะ” พอหญิงสาวเดินจากไปสิงห์ก็เอ่ยแซวมันทันที

“ร้าย? ร้ายอะไรหรอครับ”

“ก็เราทำอะไรละ ทุกทีไม่เห็นจะพูดเยอะขนาดนี้”

“ก็พี่จ๋าทำแบบนี้ทุกคืนนี่ น้องไม่ได้โกหกสักหน่อย”

“หึหึ”

ใช่มันได้โกหกอะไรเลย สิงห์ทำแบบนี้ทุกวัน คนรักกันเขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้นแหละใช่ไหม?

สิงห์มองดุนาฬิกา ถึงเวลาที่เขาจะไปเดทกับมันแล้ว จึงสั่งให้เก็บของขึ้นรถและไปล้างไม้ล้างมือให้เรียบร้อย วันนี้มันขายรูปได้สี่รูปได้เงินมาหลายบาทอยู่ ขณะที่มันเดินไปล้างมือนั้น ก็สายหนึ่งโทรเข้ามาหาสิงห์

“ครับ สิงห์พูด ครับ ได้ครับ ผมจะรีบพาน้องไปครับ” สิงห์มีสีหน้าที่เครียดลงอย่างเห็นได้ชัด สายตาของเขามองไปยังร่างบางที่กำลังเดินยิ้มหวานมาทางเขา ด้วยสีหน้าที่กังวลนิดๆ

“พี่จ๋า ทำไมหน้าเครียดจัง โกรธน้องหรอครับ” มันมองเขาตาแป๋ว

“ป่าวครับ รีบขึ้นรถดีกว่าครับ เราต้องไปที่ที่หนึ่งก่อน”



+++++++++++++

เกิดอะไรขึ้น!!! กันแน่ โปรดติดตาม

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่คิดถึงน้องนะคะ ต่อจากนี้ไปเราจะได้เห็นน้องแซบ เอ๊ย แสบกับความพัฒนาของน้องนะ เราอาจจะเขียนบรรยายอาการของเด็กออทิสติกได้ไม่ดีนักแต่ก็จะพยายามยามนะ อยากให้น้องมีความสุข อยากให้พี่จ๋าหื่นได้เต็มที่บ้าง ตอนนี้น้องเริ่มจะออกอาการหึงคนพี่บ้างแล้ว เรียกได้ว่ามีความเป็นขั้นมาบ้าง อิอิ เอ็นดูน้องด้วยเน้อออ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.25 2/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 02-09-2018 12:29:43
หลวงตาไม่สบายอยู่โรงพยาบาลรึเปล่าสิงห์เลยห่วงความรู้สึกน้อง
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.25 2/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: Kirana9165 ที่ 02-09-2018 12:43:24
คิดถึงน้องมากๆ น่ารักกว่าเดิมเยอะเลย พี่สิงห์รักน้องมาก  สนใจ ไม้ กัน หมา นะคะ ลงโพสหรือยังคะ อยากได้ อีกคู่ ปิง ตัส ด้วยค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.25 2/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 02-09-2018 23:16:12
รอๆๆตอนต่อไปจ้า  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.25 2/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-09-2018 23:55:09
หลวงตาจะไปแล้วแน่ๆเลย  :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.25 2/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 03-09-2018 01:59:31
 :hao7: น้องน่ารักรับ.... และ แซบมากกก  :hao7:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.25 2/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-09-2018 03:06:18
รีบไปด่วนเลย เดาว่าเป็นหลวงตานะ   :sad4:
ส่วนนังคนที่ทำร้ายนะโมที่โรงเรียน ถ้าจับได้จะให้ตัสตัสกับปิงปิงลุมตบ แล้วส่งต่อให้ส้มแทงเข่า  :angry2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.25 2/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 03-09-2018 04:16:48
เกิดอะไรกับหลวงตารึเปล่า
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.25 2/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 03-09-2018 20:11:06
เกิดอะไรขึ้น! เรื่องกราม่ารึเปล่า!!!
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 04-09-2018 11:04:35
เกิดแก่เจ็บตาย ธรรมดาเนอะ
แต่ "นางมาร" ที่จ้างคนมาทำร้ายน้องนี่สิ ...
ปล่อยไม่ได้

ขอให้ทีมพิทักษ์น้องจัดการโดยเร็วพลันนะคะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.26 11/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 11-09-2018 06:43:38
26



ในโรงพยาบาลที่คลาคล่ำไปด้วยเหล่าผู้ป่วย พยาบาลและหมอ ทุกอย่างดูวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ดุจะสงบมากกว่าที่อื่น นั่นคือห้องดับจิต สถานที่สุดท้ายของชีวิต สถานที่รวบรวมร่างของคนตายเอาไว้เพื่อรอให้ญาติมารับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ทุกๆ คนต้องมาลงเอยที่ห้องห้องนี้ วัฏจักร เกิด แก่ เจ็บ ตาย ของมนุษย์ที่ไม่มีผู้ใดหลีกหนีได้พ้น

ร่างสูงสง่าเดินเคียงคู่กับร่างบางที่ใบหน้าหวานๆ เต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ปริปากถามอะไรออกไป เพราะเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายที่ดูเครียดผิดปรกติเลยไม่กล้า ทุกๆ ย่างก้าวที่ก้าวเข้ามาในโรงพยาบาลไอ้เอ๋อมันก็รู้สึกแปลกๆ ใจมันหวิวๆ ชอบกล

“เรามาหาพี่หมอไม้หรอครับ” มันตัดสินใจถามในที่สุด

“ปล่าวครับ เรามาหาหลวงตา” แค่คำว่าหลวงตาใจมันก็สั่นไหว ขามันเริ่มไม่ก้าวตาม จู่ๆ มันก็รู้สึกกลัวห้องตรงหน้าขึ้นมา

“มะ มาทำไม หลวงตาเป็นอะไร อึก “

“เข้าไปหาหลวงตาก่อนครับ” สิงห์เปิดประตูห้องพักคนไข้พิเศษให้มัน ในนั้นมีต้าร์หมอไม้ กับลูกศิษย์วัดอีกสองสามคน มันก้าวช้าๆ เข้าไปด้านในทุกอย่างมันบีบหัวใจของมันไปหมดทั้งสีหน้าและแววตาของทุกคนที่มองมาที่มัน บนที่นอนมีร่างร่างหนึ่งนอนหอบหายใจโรยริน รอแค่คนสำคัญมาเขาก็พร้อมที่จะไป

ตึก ตึก ตึก เสียงย่ำเท่าที่ฟังดูแล้วแสนจะบางเบาแต่ในหูของมันกลับดังก้องจนรู้สึกหวาดกลัว

“ละ หลวงตา” มันครางเรียกคนที่นอนนิ่ง เพียงอึดใจหลวงตาของมันก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาฟ่าฟางกำลังมองมันด้วยความคิดถึง รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนริมฝีปากที่แตกและเหี่ยวย่น

“นะโมเอ้ย” เสียงเรียกแผ่วของหลวงตาทำให้มันขยับขาเดินเข้าไปใกล้ๆ น้ำตามันรื้นขึ้นมาทันที

“คะ ครับ หลวงตาเป็นอะไร ฮึก”

“หลวงตาแก่แล้ว ก็ป่วยเป็นธรรมดา เอ็งเป็นยังไงบ้าง”

“ฮึกหนู สบายดี ฮึก” มันสะอื้น หลวงตายิ้ม

“เอ็งสบายดีข้าก็สบายใจแล้ว” หลวงตายิ้มบางออกมารู้แค่ว่ามันสบายเขาก็ตายตาหลับ

“ตั้งใจเรียนนะ นะโมเอ้ย โตไปจะได้ไม่ลำบาก แล้วก็อย่าดื้อให้มาก แค๊กๆ เห้อ ข้าเหนื่อยแล้ว อยากพักแล้ว พวกเอ็งกลับไปกันได้แล้วไป” รู้ว่าร่างกายตัวเองรับไม่ไหวแล้วถึงได้ไล่ไอ้เอ๋อมันกลับ ไม่อยากให้มันมาเห็นวาระสุดท้ายของตัวเอง ไม่อยากเห็นน้ำตามันก่อนจะละสังขาล

“นะโม อยู่เย็นเป็นสุขนะลูกนะ อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฒาปะจายิโน

จัตตาโร ธัมมาวัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พลัง” หลวงตาวางมือลงบนหัวของมันแล้วสวดให้พร มันพนมมือไหว้เทียบตักหลวงตาแล้วสะอื้นออกมา มันรู้สึกเศร้า รู้สึกเหมือนตัวเองจะเสียอะไรไปสักอย่าง

“พามันกลับได้แล้วละโยมสิงห์ อาตมาเหนื่อยแล้ว ฝากดูแลมันด้วยนะโยม”

“ครับ ผมรับปากว่าจะดูแลน้องให้ดีที่สุด”

“พรุ่งนี้หนูมาหาหลวงตาใหม่นะ หนูจะซื้อขนมบัวมาฝาก ขนมที่หลวงตาชอบ”

“อืม พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ ตอนนี้กลับไปได้แล้ว ข้าง่วงแล้ว”

“ครับ” สิงห์จูงมือมันออกมา มันหันกลับไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียง มันสบตาก่อนที่เปลือกตาอ่อนล้าจะปิดลง

ติ๊ด ตี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

“พี่จ๋า อึก ฮึก...” จู่ๆ มันก็ร้องไห้ออกมา

“นะโม ไปกลับบ้านดีกว่านะครับร่างสุงพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของมัน

“น้อง เจ็บตรงนี้ครับ” มันชี้ไปที่ตรงตำแหน่งหัวใจ มือมันกำจดหมายของหลวงตาไว้แน่น

“ไม่เป็นอะไรหรอกครับ ขากลับแวะกินเตี๋ยวเรือไหม? ตรงท่าน้ำ”

“อะ อืม” แม้จะตอบตกลงแต่แววตามันก็ยังเศร้าอยู่ดี ขณะที่เดินตามทางเดิน ต้าร์วิงมาหาพวกเขาสองคน ร่างโปร่งสบตาสิงห์เพียงเล็กน้อยแล้วพยักหน้า เป็นสัญญาณให้รู้ว่าหลวงตาได้ละสังขาลแล้ว สิงห์สูดลมหายใจลึก แล้วดึงตัวมันมากอดไว้ เขายังบอกมันตอนนี้ไม่ได้

“พี่ต้าร์ จะไปกินเตี๋ยวเรือกับหนูเหรอ” มันหันไปถามคนที่พึ่งมาถึง

“ป่าว แค่จะเดินมาส่ง เดี๋ยวต้องกลับไปช่วยไอ้พี่หมอมันอีก” ต้าร์พยายามไม่หลบตามัน ทั้งๆ ที่ในใจมันไหวยวบ

“อ่า อื้อๆ เมื่อไหร่จะมาหาหนูละ”

“ว่างๆ ก่อน ช่วงนี้เรียนหนักใกล้สอบแล้วด้วย”

“อื้อ หนูจะรอนะ”

“กูส่งมึงแค่นี้นะ เอ่อส่วนมึงอะไอ้พี่หมอบอกว่าถึงบ้านแล้วให้โทรหาด้วย” ต้าร์หันไปพูดกับสิงห์ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทางเพราะต้องไปจัดการเรื่องศพของหลวงตาด้วย สิงห์พามันกลับบ้าน ต่างคนต่างนั่งเงียบๆ จนถึงท่าน้ำ ที่มีตลาดขนาดย่อมๆ ที่มีแต่ของกิน สิงห์มันไปนั่งที่โต๊ะริมน้ำ โต๊ะไม้เตี้ยๆ ที่เราต้องนั่งกินกับเสื่อ

“เล็กน้ำตก พิเศษลูกชิ้น ใส่กระเทียมเจียวเยอะๆ กับ ใหญ่น้ำตกเนื้อครับ” สิงห์สั่งก๋วยเตี๋ยวให้มัน พร้อมกับตักน้ำไปให้ด้วย พอก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟ ก็นั่งกินกันเงียบๆ ต่างคนต่างใช้ความคิดของตัวเอง กินเสร็จก็จ่ายเงินเดินทางกลับบ้าน ไอ้เอ๋อมันเดินลงไปเปิดประตูรั้ว ด้วยใจที่เหม่อลอย จนสิงห์เอารถเข้มามาจอด ก็ยังเห็นมันยืนเกาะรั้วไม่ยอมปิดสักที

“นะโม ปิดประตูได้แล้วครับ” สิงห์เดินมาสะกิดมัน

“อะ ครับ” มันตั้งสติตัวเอง ก่อนจะช่วยสิงห์ขนของลงจากรถ ขนเสร็จก็พากันไปอาบน้ำ

“วันนี้อาบน้ำด้วยกันนะครับ”

“งืออ อาบด้วยกัน-///- อาบด้วยกันแล้วห้ามทำอะไรแปลกๆ นะ” มันหันไปหาคนตัวสูง

“อ่า ครับ ไม่ทำอะไรแปลกๆ หรอก” สิงห์แอบไขว้นิ้วไว้ด้านหลัง

“ก็ได้ครับ งั้นน้องไปเปิดน้ำใส่อ่างนะ” พูดจบก็วิ่งปรู๊ดเข้าห้องน้ำไป มันชอบแช่อ่าง ชอบน้ำอุ่นๆ มันชอบฟองนุ่มๆ กับเป็ดน้อยสีเหลือง แต่นานๆ จะแช่สักทีเพราะมันเปลืองน้ำ สิงห์เดินตามไปพร้อมกับถอดเสื้อผ้าไปด้วย พอมาถึงห้องน้ำก็เห็นมันกำลังตีฟองในอ่างอย่างขะมักเขม้น ตีจนฟองแทบจะล้นอ่าง ออกมา มันเอาฟองแปะใส่หัวตัวเองไว้ด้วย

“ถอดเสื้อผ้าได้แล้วครับ” สิงห์บอกมันหันหน้ามาหา แล้วยกสองมือขึ้น

“ถอดให้น้องหน่อยครับ” มันทำตาอ้อนใส่ แล้วแบบนี้จะให้เขาไม่ทำอะไรแปลกๆ กับมันได้ยังไง

“หึหึ ทำไมชอบอ้นพี่จัง หืม”

“คึคึ ก็น้องอยากให้พี่จ๋าสนใจ”

“ตรงไปไหม? แต่แบบนี้แหละพี่ชอบ มีอะไรก็พูดก็บอกพี่ตรงๆ เจ็บก็บอกว่าเจ็บ เสียใจก็บอกว่าเสียใจรู้ไหมครับ” สิงห์สบตามันเวลาพูด เขาอยากให้มันระบายออกมาบ้าง อย่างที่โดนแกล้ง โดนทำร้ายมันก็ไม่ยอมกบบอกว่าเจ็บ ว่ากลัวบ้าง เพราะแต่ละครั้งที่โดนมันก็เอาแต่ยิ้ม จะร้องก็ต่อเมื่อเขาจี้ หรือเจ็บแล้วก็ตกใจ แต่หลังจากนั้นมันคิดอะไรอยู่เขาแทบไม่รู้เลย อย่างเช่นวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นอีกวันที่มันต้องลำบาก เขากังวลเรื่องนี้เป็นที่สุด

“เสร็จแล้วครับ ถอดกางเกงด้วยนะ”

“ครับ *0*” สิงห์ลงอ่างก่อนคนแรกพอไอ้เอ๋อมันถอดกางเกงเสร็จมันก็รีบก้าวลงไปในอ่างทันที สิงห์ดึงให้มันมานั่งตรงหว่างขาของตัวเอง ไอ้เอ๋อมันเอนหลังพิงอกสิงห์เอาไว้ ก่อนจะเล่นเป็ดเหลืองที่มันลอยน้ำเอาไว้ สิงห์หอมหัวมันพร้อมกับกอดมันเอาไว้ มันไม่ดิ้นหนี้แต่หันมายิ้มหวานๆ ให้

“สระผมไหม?” สิงห์ถามมัน

“หัวน้องเหม็นหรอ ( ‘’ ) ”

“หึหึ เหม็นจนเวียนหัว” เหม็นที่ไหนกันละเขาแค่อยากหยอกมันเฉยๆ

“หรอ Q^Q งั้นน้องสระก็ได้” พูดจบมันก็เอาหัวมุดน้ำไปเลย สิงห์ยังตกใจกระชากหัวมันขึ้นมาจากน้ำแทบไม่ทัน เล่นเอาตกอกตกใจ

พรวด!!!

“ทำอะไรครับ!! ”

“สระผมงายยย” มันลูบน้ำออกจากหน้าตัวเองแล้วตอบสิงห์ ตอบมาแบบหน้าซื่อๆ ของมัน

“แต่หนูเอาหัวจุ่มลงไปแบบนั้นไม่ได้ครับ” สิงห์อยากจะขำ เลยได้แต่ยิ้มกลั้นขำเอาไว้

“ทำไมอะ เอาหัวจุ่มแบบนี้” มันเอาหัวมุดน้ำแกรอบแล้วเงยขึ้นมาทันที

“เห็นไหมหัวหนูสะอาดแล้ว”

“ได้ที่ไหนกัน หัดซกมกหรอ” สิงห์ยีมือลงบนหัวมันด้วยความมันเขี้ยว

“งื้อออ ไม่ซกมกๆ พี่จ๋าก็สระให้น้องงายยย เนี้ยๆ สระให้น้อง” มันพูดแต่ก็ไม่ได้หันมามองหน้าเขา สองมือมันก็ทำท่าสระผม สิงห์ยิ้มพร้อมกับกอดรัดมันแน่นขึ้น

“น่ารักเกินไปแล้วนะเรานะ”

“คึคึ”

สิงห์สระผมให้มันอย่างอ่อนโยน แถมถูสบู่ให้มันด้วย ก่อนจะพากันไปล้างตัวที่ฝักบัว เสร็จแล้วก็พากันไปแต่งตัวเตรียมตัวนอน วันนี้เขาจะปล่อยให้มันได้นอนสบายๆ เพราะตื่นมามันคงต้องทำอะไรอีกเยอะ นี่เขายังคิดไม่ตกเลยว่าจะบอกมันเรื่องหลวงตายังไง สิงห์ให้มันนั่งบนที่นอนแล้วเช็ดผมให้ เห็นมันเงียบก็นึกว่ามันกำลังคิดมากเรื่องหลวงตาสิงห์เลยชะโงกหน้าไปดูมันที่ไหนได้มันหลับ หลับ คือ หลับจริงๆ สิงห์เลยต้องให้มันนอนพิงอกเอาไว้เพราะเขายังเช็ดผมมันอยู่ผมยังไม่แห้ง

หลังจากเช็ดผมจนแห้งเขาก็พามันเข้านอน โดยที่ตัวเองก็นอนกอดมันเอาไว้

“พรุ่งนี้พี่ขอให้หนูเข้มแข็งนะครับ จุ๊บ” เขาจูบลงบนกระหม่อมของมัน ก่อนจะกดโทรศัพท์โทรหาเพื่อยรัก



+++++

“ห้าวววววววววววว ตื่นไวจางง” มันลุกขึ้นจากที่นอนก็เห็นสิงห์นั่งมองมันอยู่ก่อนแล้ว

“ไปอาบน้ำแต่งตัวนะครับเดี๋ยวพี่เตรียมชุดไว้ให้” สิงห์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ววันนี้ต้องแต่งชุดดำ เขาเลยเตรียมเสื้อผ้าให้มันด้วย

“ทำไมใส่แต่สีดำ ละครับ”

“อ่า วันนี้เราจะไปลาใครบางคนครับ”

“ลา? ลาใคร?” มันทำหน้าสงสัยสิงห์ไม่ได้ตอบเขาได้แต่ส่งยิ้มจางๆ ไปให้ พอจัดการอะไรเรียบร้อยก็พากันออกจากบ้าน พอมันเห็นเส้นทางอันคุ้นตามันก็ตื่นเต้นทันที

“จะไปหาหลวงตาหรอครับ หลวงตาหายไม่สบายแล้วเหรอ*0*” มันพูดออกมาด้วยความดีใจ สองมือเกาะกระจกรถพร้อมกับมองสิ่งรอบๆ ตัว

“ครับเราจะไปหาหลวงตากัน” มันไม่ได้เอะใจเลยสักนิด ว่าที่มันมาหาหลวงตาในวันนี้มันจะต้องพบเจอกับความสูญเสียอะไรบ้าง พอเข้ามาในเขตตัววัด วันนี้คนพลุกพล่านจนมันผิดสังเกต สิงห์ขับรถเข้าไปจอดตรงศาลาการเปรียญ บนนั้นมีเหล่าลูกศิษย์วัดที่มันรู้จักอยู่หลายคนรวมถึงน้องๆ ของมันด้วย มันแปลกใจที่วันนี้ทุกคนใส่เสื้อดำกันหมด เหมือนมางานศพใคร

“ปะ ขึ้นไปหาหลวงตากันนะครับ” เขาแตะหลังมันเบาๆ ไอ้เอ๋อเดินไปทางกุฏิแต่สิงห์บอกว่าไม่ใช่ทางนั้นมันก็งง พอทุกคนเห็นไอ้เอ๋อมันเดินขึ้นบันไดมา เสียงพูดคุยก็เงียบลง ทุกคนมองไปที่มันเป็นตาเดียว

“มี อะไรกันหรอจ้ะ มาเยี่ยมหลวงตาหรอ หลวงตาอยู่ไหน” มันถามหาหลวงตา ทุกคนไม่ตอบมัน แต่ขยับตัวหลีกทางให้มันได้เห็น ตรงกลางศาลา มันเห็นหลวงตานอนนิ่ง มีผ้าคลุมถึงอก มันรู้ว่าภาพตรงหน้าหมายความถึงอะไร มันเห็นมาตั้งแต่เด็ก เค้ากำลังรดน้ำศพ และคนที่นอนอยู่ตรงนั้นคือน หลวงตาของมัน

“อะ ..อะไร..อึก ทำไมหลวงตานอนตรงนั้น ฮึก ละ..หลวงตา” ขามันทรุดลงกับพื้น ใจมันแตกสลาย น้ำตาของมันไหลนองหน้า มันมองไปที่ทุกคนอย่างหาคำตอบ มันมองหน้าสิงห์ สิงห์ก็หลบตามัน ทุกคนไม่พูดอะไร ได้แต่เวทนา และสงสารมันจับใจ ดวงตากลมที่เต็มไปด้วยน้ำตาเงยขึ้นไปมองสิงห์หวังจะให้คนตรงหน้าตอบมันว่านั่นไม่ใช่หลวงตาของมัน หลวงตาของมันอยู่โรงพยาบาล กำลังพักผ่อน ไม่ใช่มานอนอยู่ตรงหน้ามันแบบนี้ นิ้วเรียวของมันที่กำลังสั่นชี้ไปที่คนที่นอนแน่นิ่ง

“นั่นไม่ใช่หลวงตา ฮึก หลวงตาต้องอยู่โรงพยาบาลสิ ไม่ ไม่ใช่” มันไม่ยอมรับความจริงตรงหน้า

“เข้าไปลาหลวงตานะครับคนดีของพี่” สิงห์พยุงร่างอันปวกเปียกของมันเอาไว้ ไอ้เอ๋อมันแทบจะไม่มีแรงเดินใจมันร้าว หัวสมองมันตันไปหมด คนสำคัญของชีวิตมันไม่เหลือเลยสักคน ทุกคนทิ้งมันไม่เหลือเลยสักคน เกิดมาอาภัพไม่พอยังพิกลพิการให้เขาดูถูกรังแกอีก เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจของมันดังก้องไปทั้งศาลา

“มะ ไม่ ใช่หลวงตา ฮึก ไม่ใช่”

“นะโมครับ ไม่ร้องนะครับ ไปกราบหลวงตากับพี่นะ” สิงห์พูดปลอบมัน ทั้งสองคลานเข่าเข้าไปหาร่างไร้วิญญาณของหลวงตาบัว ต้าร์ยื่นถ้วยเงินที่ใส่น้ำอบน้ำลอยดอกไม้ยื่นให้ มือมันสั่นจนถือถ้วยเงินใบนั้นไม่ไหว จนสิงห์ต้องมาช่วยจับ

“อึก ฮึก ฮือออออออออ” ทันทีที่น้ำไหลผ่านมือซีดของหลวงตามันก็ปล่อยโฮออกมา มันก้มลงกอดร่างตรงหน้าแล้วร้องไห้ เสียงร้องของมันบาดลึกเข้าไปในจิตใจของทุกคนบนศาลา มันร้องจนสลบคาอกสิงห์ จนต้องรีบหามมันออกไป สิงห์เอามันนอนตักแล้วให้ตาร์หาผ้าชุบน้ำมาให้

“ผมว่าพามันกลับดีกว่าไหมพี่ อยู่นี่มีหวังร้องไห้ทั้งวัน” อันนี้สิงห์เห็นด้วยแต่คงต้องรอมันฟื้นแล้วค่อยพากลับบ้าน

“อืม ไปตามไอ้ไม้ให้ทีดิ กูมีเรื่องจะปรึกษามัน”

“อืม อะพัดกะผ้าชุบน้ำ” ต้าร์ยื่นผ้าส่งให้ก่อนจะเดินออกไปตามหาคนรักให้ ผ่านไปสักพักไอ้เอ๋อมันก็ค่อยๆ ปรือตาขึ้นมามอง สิ่งแรกที่มันเห็นคือใบหน้าหล่อเหลาของสิงห์ที่กำลังเป็นห่วงมัน

“ฮึก หลวงตา หลวงตาจ๋า” พอมันตั้งสติได้มันก็ร้องไห้ขึ้นมาอีก สิงห์กอดปลอบมันเอาไว้ ใบหน้าหวานสะอื้นแนบอก มันทำใจไม่ได้ มันยังรับการสูญเสียนี้ไม่ได้ หลวงตาเปรียบเสมือนพ่อและแม่ของมัน คนที่เลี้ยงดูมันจนเติบโต มันไม่เคยคิดว่าหลวงตาจะตายทิ้งมัน ในหัวมันมีแค่ว่าหลวงตาจะอยู่กับมันตลอดไป แต่เปล่าเลยมันลืมคิดไปว่าทุกคนเกิดมาแล้วต้องตายทุกคน

“ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวหลวงตาเป็นห่วง”

“ฮึก ฮืออออ เมื่อวานหลวงตายัง ฮึก ไม่เป็นอะไรเลย” มันเงยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตามองร่างสูง จมูกกับตามันแดงไปหมด สิงห์เห็นแล้วก็ร้าวในใจทันที

“นะโมฟังพี่นะครับ หลวงตาไม่สบาย มานานแล้วและก็แก่มากๆ แล้ว วันนี้หลวงตาได้พักผ่อน หลวงตาจะไม่เหนื่อยอีกแล้ว นะโมให้หลวงตาพักนะครับ”

“หลวงตา ฮึก เหนื่อยหรอ ฮึก หลวงตาไม่เห็นบอกเลย” มันตัดพ้อ

“อ่า แต่หนูรู้ใช่ไหมว่าคนเรามีเกิด แก่ เจ็บ ตาย เกิดมาต้องตายทุกคน” สิงห์อธิบายเพื่อมันได้ปลง

“ฮึก ครับ ฮึก แต่ น้องไม่อยากให้ ฮึก หลวงตา ตาย ไม่อยากให้ตาย ฮรือออ”

“ถ้านะโมยังเสียใจแบบนี้หลวงตาจะไม่ได้พักนะ หลวงจะนอนไม่สบายเพราะห่วงหนูนะ”

“ฮึก นะ น้อง จะไม่ร้อง ฮึก หลวงตาจะได้สบายๆ” มันพยายามฮึบน้ำตามันไว้ไม่ให้มันไหลออกมา แต่ปากนี่เบะเป็นเป็ด

“เก่งมากครับ ไม่ร้องนะเดี๋ยวพี่พากลับบ้าน”

“ไม่กลับ ฮึกจะอยู่กับหลวงตา” ใช่มันไม่ยอมกลับ มันอยากอยู่กับหลวงตา มันรู้ว่างานศพต้องทำอะไรบ้างมันช่วยอะไรได้บ้างมันอยากทำให้หลวงตาเป็นครั้งสุดท้าย พอเริ่มทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันก็เริ่มจากการเสิร์ฟน้ำ และนั่งเฝ้าหน้าโรงคอยหยิบธูปให้คนที่มางาน ตามันแดง จมูกมันแดงเพราะร้องไห้หนัก ดวงตามันเศร้า ข้างกายมันมีสิงห์ที่อยู่ใกล้ไม่เคยห่าง สิงห์ห่วงมัน เพราะตั้งแต่เช้ามันไม่ยอมแตะอะไรเลยนอกจากน้ำ

“พักหน่อยไหม? พี่เอาไข่พะโล้มาให้” ในมือสิงห์มีข้าวราดไข่พะโล้อยู่มันทำเพียงแค่เหลือบมอง ของโปรดของมัน

“น้องไม่หิวครับ” มันตอบเสียงเหนื่อยๆ

“หนูต้องกินข้าวบ้างนะครับ” สิงห์พยายามจะให้มันกินข้าว แต่มันกลับหันหน้าหนี

“น้องไม่หิว น้องไม่กินได้ไหม”

“ไม่ได้ครับ นะโมอยากให้หลวงตาเป็นห่วงเหรอครับ” พอสิงห์พูดบอกมันก็ส่ายหน้า

“ไม่อยากครับ”

“ถ้างั้นกินข้าวนะพี่ป้อน” สิงห์ดึงมันให้เดินตามไปที่โต๊ะสำหรับแขก แล้วป้อนข้าวมันทีละคำ จนได้ครึ่งจานมันก็หันหน้าหนี ไม่กินอีก

“อยากนอนพักไหม”

“ไม่ครับ” พูดจบมันก็ลุกเดินไปนั่งที่ข้างๆ โลงศพแล้วมองรูปหน้าศพอยู่ตลอดเวลา

ใครๆ ที่เห็นมันต่างก็รู้สึกสงสาร บางคนก็ให้กำลังใจมันบางคนก็ห่วงมัน มีเพื่อนๆ ที่โรงเรียนรู้ข่าวก็มาช่วยงาน จนถึงกระทั่งพระสวดศพเสร็จ ไอ้เอ๋อมันบอกจะนอนเป็นเพื่อนหลวงตา สิงห์อ้ำอึ้งไม่อยากนอน แต่ในเมื่อคนของตัวเองยืนยันจะนอนเขาก็จำใจต้องอยู่ด้วย

“ไอ้ไม่คืนนี้มึงกับเมียมานอนเป็นเพื่อนกูด้วย”

“เห้ย ไม่เอาด้วยหรอกพี่ กูกลัวครับ”

“แต่ไอ้ต้าร์มันจะนอนเป็นเพื่อนนะโม มึงก้ต้องนอนด้วยสิวะ” คนกลัวผีno.1

“เรื่องไร มันก็ส่วนมันดิ เมียไม่ใช่แม่ห่างๆ กันบ้างก็ดี” คนกลัวผีno.2

“มึงกลัวก็บอกมาเหอะ! ”

“เออ กูกลัวผีครับพี่ กลัวมากกว่าเมียไม่ให้เอาอีก ผมไปละ”

“เห้ยย มึงจะมาทิ้งกูแบบนี้ไม่ได้!! ” สิงห์โอดครวญ พร้อมกับทำหน้าลำบากใจ เขาพาไอ้เอ๋อกลับบ้านไปอาบน้ำและพามันกลับมาที่วัด น้องๆ ของมันเตรียมที่นอนไว้ให้แล้ว ปูเสื่อกลางมุ้งหน้าโลงพอดิบพอดี สิงห์ลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นที่นอนของตัวเอง แต่ก็อุ่นใจขึ้นมาบ้างเพราะวันนี้มีคนนอนเป็นเพื่อนเยอะอยู่

“จะนอนเลยไหม?”

“ครับ” มันเหนื่อยมาทั้งวันจนถึงตอนนี้ มันล้มตัวนอนสิงห์เองก็ด้วย พอสิงห์นอนลงข้างๆ มันก็หันหน้าเข้าซุกกับอกของเข้าและสะอื้นออกมาเบาๆ วันนี้ทั้งวันมันไม่ร้องเลย แต่พอล้มตัวลงนอนมันก็ร้องออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

“ฮึกน้องคิดถึงหลวงตาครับ ฮึก คิดถึง “

“หลวงตาไม่ได้ไปไหน หลวงตายังอยู่ในนี้นะครับ” สิงห์จับตรงอกข้างซ้ายของมัน

“ฮึกก”



พิธีศพดำเนินมาถึงวันสุดท้าย วันนี้มันจะบวชหน้าไฟอุทิศบุญกุศลให้กับหลวงตาผู้ล่วงลับ สิงห์มองมันด้วยแววตาเศร้าๆ เพราะว่ามันกำลังเสียใจ ตลอดเวลาสามวันที่ผ่านมามันไม่พูดกับใคร ถึงจะพูดก็พูดน้อยมากแม้กระทั่งกับสิงห์มันก็ไม่พูด

ควันสีเทาลอยออกจากปล่องไฟด้านบนสุดของเมรุ เหมือนหัวใจของมันกำลังแหลกสลายมันแหงนหน้ามองจนควันสีเทาหมดระหว่างนั้นน้ำตามันก็ไหลออกมา มันอยากจะเข้มแข็งมันอยากจะยิ้ม มันอยากให้หลวงตาไปสบาย แต่มันก็คน มันเสียใจ หลวงตาคือญาติคนสุดท้ายของมัน จากนี้ไปมันต้องอยู่โดยที่ไม่มีหลวงตาแล้ว มันจะต้องเข้มแข็งให้ได้ สิงห์ยืนมองมันจนทุกคนกลับไปหมดแล้ว เหลือแค่มันกับเข้า

หลังจากลอยอังคารเรียบร้อยไอ้เอ๋อมันเก็บเถ้ากระดูกกลับมาไว้ที่บ้านด้วย ตอนนี้จิตใจของมันดีขึ้นมาบ้างเพราะสิงห์ดูแลมันเป็นอย่างดี เอาใจมันตลอด วันนี้มันไปเรียนเพราะขาดเรียนมาหลายวันแล้ว มันกลัวจะตามเพื่อนไม่ทันไหนจะต้องซ้อมแข่งหมากรุกหลังเลิกเรียนอีก เกิดเป็นมันนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ ช่วงแรกๆ มันไม่มีสมาธิเลยเพระมัวแต่คิดเรื่องหลวงตาของมัน แต่หลายวันเข้ามันก็เลิกเศร้าได้และกลับมาสดใสอีกครั้ง ทำให้คนอื่นๆ สดใสตามมันไปด้วย จากตารางการซ้อมของมันทำให้มันมีการบ้านเยอะขึ้น มีรายงานที่จะต้องทำกับกลุ่มเพื่อน วันเสาร์มันเลยขอสิงห์ไปทำรายงานที่บ้านซีตัส

“น้องขอไปทำรายงานกับเพื่อนได้ไหมจ๊ะพี่สิงห์”

“-*- “แค่บอกว่าจะออกไปข้างนอกหน้าก็บึ้นทันที

“ไม่ทำหน้าแบบนั้นสิใจน้องรู้สึกไม่ดี”

“= =”

“นะจ้ะ รายงานกับตัสตัส ปิงๆ ด้วย”

“ให้เพื่อนมาทำที่บ้านเราสิ บ้านเราออกจะกว้าง” สิงห์เสนอเพราะเขาไม่อยากห่างจากเด็กเอ๋อสักเท่าไหร่ และไม่ชอบให้ไปไหนไกลหูไกลตาด้วย

“งั้นเดี๋ยวน้องลองถาม ตัสตัสก่อนนะ” มันหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาแล้วเข้าโปรแกรมแชท ที่ซัสเคยสอนขึ้นมา

แชทกลุ่มเด็กเอ๋อ (5)

นะโม

“ตัสตัส มาทำรายงานที่บ้านเราไหม? พี่จ๋าบอก

ซีตัสคนจริง

?

คืออะไร

น่านปิง

พี่สิงห์แมร่งไม่ให้ออกบ้านแน่ๆ กูว่า

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อิลูกผัวไม่ให้ออกบ้านก็บอกเหอะ

ว่าแต่ไปบ้านพี่สิงห์ก็ดีนะเผื่อพี่หมอเค้าจะมา

น่านปิง

แรดโผล่

ส้มคนสวยแห้งห้องสาม

เสือกค่ะ!!

นะโม

ตกลงม้ายยยยยย

เราจะได้ซื้อขนมไว้

ซีตัสคนจริง

เออ ไป สิบโมงเจอกันที่บ้านไอ้เอ๋อ

แยก

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

รับทราบ!!

เดี๋ยวเจอกันค่ะ อิลูกสาว

น่านปิง

กูอยากกินแตงโมปั่น

...

(อ่านแล้ว3)

ซีตัสคนจริง

เออ!!!

นะโม

โอเช

เราอยากกินนมเย็นๆ

ซีตัสคนจริง

ไปบอกผัวมึงนู่นครับไอ้เอ๋อ

นะโม

ตัสตัส ไม่อ่อนโยนกับเรา

เราไม่ใช่ปิงปิงนี่

-3-





++++++++++++++++++++++++

มีตัดพ้อเบาๆ กับซีตัสคนจริง

ดราม่ารสต้มยำไปนะคะ ตอนนี้ อยากหวานเดี๋ยวจัดให้
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :bye2: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:






















































































































































หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.26 11/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 11-09-2018 07:49:23
น้ำตาไหลตอนหลวงตาจากไปสงสารนะโมการสูญเสียคนสำคัญมันเจ็บปวดมาก :mew6:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.26 11/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 11-09-2018 09:11:34
สงสานนะโม​  พี่จ๋าดูแลน้องให้ดีนะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.26 11/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 11-09-2018 11:38:19
นะโมผ่านมาได้ก้เก่งแล้ว
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.26 11/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-09-2018 15:38:42
ต้องติดกล้องวงจรปิดที่โรงอาหารละมั้ง  :hao3:
จับตัวคนร้ายให้ได้  :z6: :z6: :z6:

สงสารนะโม หลวงตาละสังขารแล้ว  :mew2:

สิงห์  นะโม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.26 11/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-09-2018 19:13:49
สงสารนะโม  :m15:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.26 11/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-09-2018 19:19:44
 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.26 11/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 11-09-2018 21:57:55
 o18


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.26 11/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 12-09-2018 00:42:29
โฮรรรร แง๊~~ฮรื้ออ ร้องให้ไปกับนะโมหนักมาก RIPหลวงตา :m15: :monkeysad: มายิ้มได้ก็ตอนท้ายนี้ละ "ตัสตัสไม่อ่อนโยนกับเราเลย ก็เราไม่ใช่ปิงปิงนี่" ทีใครทีมันเนอะเอ๋อ 5555555555 สู้ต่อไปนะโม เส้นทางนี้อีกยาวไกล ยังไงก็พี่สิงห์ก็ดูแลอยู่ข้างกาย หายห่วง //รอๆตอนต่อไปค่า ขอบคุณที่มาอัพ พี่สิงห์นี่มันคนหวงเมีย2018จริมๆ 55555555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.26 11/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 12-09-2018 06:49:58
เศร้า~~~~ TTOTT
ถึงจะเข้าใจ แต่ก้อยังเศร้าไปกับน้อง

แต่ชอบตอนท้าย ตัสตัสไม่อ่อนโยนกับน้อง! 55555555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.27 16/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 16-09-2018 06:37:32
27



ณ บ้านหลังใหญ่ท้ายซอย



“มาแล้ว มาแล้ว หูววววววววววว วันนี้ตัสตัส หล่อจัง” มันเอ่ยปากชมเพื่อนเป็นอันดับแรก

“แหม ชมแต่ผู้ชายนะคะ ลูก แม่ยืนหัวโด่วอยู่นี่ชมกูบ้าง”

“งะ ส้มส้ม น่ารัก น่ารักที่สู๊ดดดดดดดด”

“แหม เสียงสูงซะกูเขิน ดูตอแหลมาก”

“หูยย ส้มส้ม พูดหยาบ ไม่ดีไม่ดี”

“งะ มันด่าเบาๆ กูก็เจ็บ เจ็บกว่าอิปิงด่าอีก เห้ออลูกก”

“คึคึ แล้วปิงปิง ของเราละ ปิงปิงไปไหน?”

“เดี๋ยวตามมามันไปรับไอ้บอสที่บ้าน”

“อ๋ออออ บอส”

“เข้าเหอะกูร้อนค่ะ” ส้มควงแขนไอ้เอ๋อแล้วลากเข้าบ้านที่หลังมีเป้ใบใหญ่สะพายอยู่

“อื้อ วันนี้พี่จ๋าอยู่บ้านด้วยละ” มันพาเพื่อนๆ ไปนั่งที่ใต้ถุนบ้าน สิงห์เอาโต๊ะไม้เตี้ยๆ มาตั้งบนเสื่อที่ปูผ้าทับไว้อีกชั้นเวลานั่งจะได้ไม่เจ็บตูด เด็กๆ เอาของที่ตัวเองถือมาวางไว้ ก่อนจะนั่งพักแล้วเริ่มทำรายงาน ไอ้เอ๋อมันยังใช้โน้ตบุคไม่เป็นเลยได้แต่นั่งวาดรูปปกรายงานกับภาพประกอบ ในหัวข้อ ระบบการทำงานของ ปอดและหัวใจมนุษย์

“อิลูก วาดรูปนี้ค่ะ รูปนี้ด้วย” ส้มเอารูป หัวใจ กับปอดให้ไอ้เอ๋อมันดู มันดูแค่แป๊บเดียวก็ลงมือวาดทุกอย่างออกมา ได้สวยงามและสมบูแบบ มันวาดออกมาหลายรูป รวมทั้งรูปกายภาพของมนุษย์ด้วย

“นี่มึงวาดรูปสวยขนาดนี้เลยหรอวะ” ปิงไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

“อื้อ เราวาดสวยใช่ไหมล๊า” มันทำเสียงสูงๆ อวดว่าตัวเองวาดรูปสวย

“เอออ สวย นี่ถ้ามึงไม่ได้เป็นออนะกูว่ามึงนี่อัจฉริยะดีๆ นี่เอง”

“เรากำลังรักษามันอยู่ พี่หมอกาแฟบอกเราหายได้ เราเก่ง” มันยิ้มทุกคนก็ยิ้มไปกับมัน สิงห์นั่งห่างออกไปก็ยังยิ้มให้กับมัน เขาปล่อยให้เด็กได้ทำงานกัน ส่วนตัวเองก็เอาขนมเอาน้ำมาให้ แต่ส่วนใหญ่จะเอาใจแต่ไอ้เอ๋อ ทั้งนม ขนม สารพัด เล่นเอาคนอื่นๆ เบะปากมองบนกันหมดด้วยความหมั่นไส้ปนอิจฉาเล็กๆ โดยเฉพาะส้มที่ไม่มีคู่แบบเขา

“ลูกขา อย่าส่งตาเยิ้มให้ผู้ชายแบบนั้นมันไม่งามค่ะ หันมามองงานตรงหน้าด้วยค่ะ” ส้มแกล้งว่าเสียดุเมื่อเห็นไอ้เอ๋อมันเอาแต่มองพี่จ๋าของมัน

“ง่าส์ ทำไมอะ ทีตัสตัสยังมองปิงปิงได้เลย” มันยอกย้อน พร้อมกับมองไปที่คู่รักหักเหลี่ยมโหด

“นั้นมันพวกกร้านโลกค่ะลูกไม่ใช่หมีน้อยน่ารักแบบหนู” ส้มจิกตาใส่ซีตัส พร้อมกับปาเศษขนมใส่

“หมีน้อย?” มันทวนคำพูด

“เราชอบหมีน้อยยย”

“ไอ้เอ๋ออะหมีน้อยแต่มึงอะชะนีไม่มีผัว! อิจฉาพวกกูละสิ” ปิงว่าให้อย่างไม่จริงจังนักเพราะเขาแค่อยากจะแกล้งสาวเพียงหนึ่งเดียวของกลุ่มเท่านั้น

“อร้าย อิปิงง อิปากร้ายยย”

“คึคึคึคึ ทะเลาะกันอีกแล้ว ส้มส้มเป็นชะนีไม่มีผัว ทำไมต้องเป็นชะนีเป็นลิง เป็นน้องยีราฟไม่ได้เหรอ”

“ไม่ได้อย่างมันชะนีถูกแล้ว เพราะมันร้องหาแต่ผัวๆ ๆ ๆ ๆ” ปิงนี่ก็ปากร้ายใช่เล่น

“กรี๊ดดดดดด อิเลว อิไม่รักดี อินรกกกกกก”

“งะ ส้มส้มทำไมพูดไม่เพราะเลย เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับเรา”

“เอ่อ ทำไมกูรู้สึกเจ็บกว่าอิปิงมันด่าว่าแรดอีกวะ”

“ฮ่าๆ เจ็บไหมมึงด่าแบบเอ๋อๆ” ปิงหัวเราะขำ ซีตัสได้แต่ส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะหันไปหาไอ้เอ๋อที่กำลังตั้งใจฟังสองคนนั้นด่ากันไปมา

“มึง นะโม เอารูปที่วาดเสร็จแล้วมาให้กูหน่อย” ดูเหมือนจะมีแค่ซีตัสกับมันที่สนใจทำรายงานจริงๆ ไอ้เอ๋อมันยื่นรูปวาดที่วาดเสร็จแล้วส่งให้ ร่างสูงรับมาแล้วสอดหน้าเข้ากับรายงานที่ตัวเองพิมพ์ไว้ เหลืออีกไม่กี่หัวข้อก็จะเสร็จ

12.00น.

“พี่สั่งข้าวมาให้แล้ว ลุกมากินกันก่อน” สิงห์สั่งอาหารจากร้านในเมืองมาให้ เพราะอยู่ไม่ไกลจากบ้านเขาเท่าไหร่ ที่สั่งมาก็มีต้มยำทะเล ปลาหมึกผัดไข่เค็ม หมูสามชั้นทอด แล้วก็ผัดผัก ส่วนข้าว ข้าวเขาไปหุงไว้เรียบร้อยตั้งแต่เด็กๆ มา พอเรียกกินข้าวทุกคนก็วางมือไปช่วยสิงห์จัดโต๊ะ

“พี่ว่าทอดไข่เจียวเพิ่มอีกสักจานดีกว่า” สิงห์เสนอเพราะเขาเองก็อยากกินเหมือนกัน

“น้องทอดให้ๆ”

“ทำเป็นด้วยเหรอนะโม” ส้มถามด้วยความไม่เชื่อ

“เป็นสิเก่งด้วย” มันทำหน้าเชิดๆ อวดๆ ใส่ส้ม

“ไหนๆ ลอง” ส้มตามไอ้เอ๋อไปที่ครัว ร่างป้อมหันมายักคิ้วให้หนึ่งทีก่อนจะหยิบไข่ออกมาจากตู้เย็น ห้าฟอง ส้มยืนกอดอกมอง แล้วแอบอมยิ้มขำเพราะท่าทางจริงจังของมัน

“ดูนะ” มันหยิบไข่ขึ้นมาตอก ตอกไปมองหน้าส้มไป

“...”

“หึหึ..อึ้งละสิ” มันว่าพร้อมกับยืดอกนิดๆ

“จ้ะๆ ทำสิ” ส้มแกล้งว่า มันตีไข่เบาๆ ใส่เครื่องปรุงแต่หนักมือไปหน่อย มันทำหน้าเหวอนิดๆ ตอนใส่รสดี เพราะมันเทลงไปเยอะเกิน แต่ก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปรกติ ส้มเห็นแล้วแต่ไม่พูดอะไรเพราะอยากจะเห็นว่ามันจะทำยังไงต่อ

“เทละนะ หึหึแล้วจะรู้ว่ามันน่ากินขนาดไหน” มันหันมาบอกบวกกับรอยยิ้มนั่นทำให้ส้มไม่ทันได้บอกมันว่า เตาแกสยังไม่ได้เปิด พอมันเทไข่ลงไป

“งะทำไมมันไม่ดังฉ่าๆ อะ แล้วทำไมมันไม่ฟูอะ” มันทำหน้าเอ๋อๆ พร้อมกับมองไข่ในกระทะ

“มึงลืมเปิดแก๊สครับ อิลูกมึงไม่ได้เปิดแก๊สสสสสสสสสสสสสส” เสียงร้องโหยหวนของไอ้เอ๋อดังลั่นออกมาจากห้องครัวก่อนจะตามด้วยเสียงหัวเราะ ไม่นานไข่เจียวหอมๆ ก็ถูกตกใส่จานแล้วเอาออกไปที่โต๊ะด้านนอก เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ลงมือกินข้าวเที่ยง อิ่มจนจุก ส้มกับปิงอาสาล้างจานให้ ส่วนไอ้เอ๋อกับซีตัส เดินออกไปซื้อไอติมที่ร้านค้าหน้าปากซอย เหลือแต่สิงห์ที่นั่งทำงานของตัวเองในห้องทำงาน ด้วยสีหน้าเครียดๆ เอกสารในซองสีน้ำตาลที่เขาพึ่งเอาออกมาอ่านหลังจากหลวงตาเสีย มันเป็นพินัยกรรมที่หลวงตาให้เขาไว้ก่อนจะมรณภาพ

“แม่พ่อของนะโม..” อีกทั้งสมุดบัญชีที่หลวงตาเก็บหอมรอมริบเงินปัจจัยเอาไว้ให้ไอ้เอ๋อ เงินก็มากอยู่พอจะเลี้ยงมันได้ไปอีกหลายปีและอีกบัญชีที่มีเงินเข้าตลอดทุกเดือน เดือนละหลายแสน ชื่อบัญชีเป็นชื่อของมัน ในมือเขากำสร้อยเส้นสำคัญเอาไว้ มันเป็นเครื่องยืนยันว่าไอ้เอ๋อคือใคร และมาจากไหน ในจดหมายหลวงตาเขียนไว้ว่า ไอ้เอ๋อไม่ได้ถูกทิ้ง แต่เอามาฝากไว้ รอพ่อเขากลับมารับ ส่วนแม่ได้ตายจากไปแล้ว ปริศนาต่างๆ ของไอ้เอ๋อมีมากมาย ให้เขาได้ค้นหา สิงห์ขมวดคิ้วนิดๆ กับชื่อและนามสกุลของนะโม เอกสารการเปลี่ยนชื่อของไอ้เอ๋อ

ย้อนกลับ สองเดือนก่อนหลวงตาจะล้มป่วย



“โยมสิงห์ อาตมามีเรื่องจะขอร้อง”

“ครับหลวงตา”

“อาตมาจะอยู่ได้อีกไม่นาน โรคมันรุมเร้าเหลือเกิน อาตมาห่วงนะโมมัน”

“ผมจะดูแลน้องเป็นอย่างดีครับ ผมสัญญา”

“เห้ออ อาตมาอยากเห็นมันมีอนาคตที่สดใส อยากให้มันมีความสุข ความปรารถนาสุดท้ายของอาตมา โยมจะทำให้อาตมาได้ไหม ช่วยให้มันได้เจอครอบครัว” หลวงตาเว้นจังหวะด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล

“ครอบครัวเหรอครับ พ่อแม่น้องนะเหรอครับ”

“อืม นะโมมันมีพ่อมีแม่ แต่มันอาภัพ ต้องพลัดพรากจากกัน”

“หลวงตารู้เหรอครับว่าพ่อแม่น้องเป็นใคร” ร่างสูงถามด้วยหัวใจที่เต้นแรง หลวงตาชราภาพมากแล้วแถมยังมีโรครุมเร้า ใบหน้าเหี่ยวย่นพยักเบาๆ

“อาตมารู้”

“แล้วทำไม? “

“ทำไมไม่พามันไปหาพ่อกับแม่นะเหรอ เพราะแม่มันขออาตมาไว้ มันกลัวนะโมจะไม่ปลอดภัย”

“ไม่ปลอดภัย”

“ใช่ เพราะ แม่ของมันเป็นเมียน้อยเศรษฐีผู้ดีจากเมืองนอก หนีเขากลับมาเพราะเมียหลวงจับได้และสั่งฆ่า” พอถึงตรงนี้สิงห์เริ่มหายใจกระตุก

“ตอนนั้นอาตมาปักกลดอยู่ในป่าด้านหลังไร่ของโยมนั่นแหละ แล้วแม่ของนะโมก็มาพบอาตมา ฝากเด็กคนนี้ไว้กับเอกสารและสร้อยพวกนี้ ตอนนั้นสภาพของเธอไม่ต่างอะไรกับคนจรจัด เนื้อตัวมีแต่แผล และเหมือนจะหนีอะไรบางอย่างมา เธอบอกว่ามีคนตามล่าเธอกับลูก ถ้าลูกอยู่กับเธอลูกของเธอจะต้องตาย ตอนนั้นอาตมาทำอะไรไม่ถูกเลย ทั้งสีหน้าและแววตาที่อ้อนวอน อาตมาไม่อาจจะปฏิเสธผู้หญิงคนได้ เธอน่าสงสารเกินกว่าที่อาตมาจะละเลยได้ ทันทีที่อาตมารับเด็กคนนั้นเข้าสู่อ้อมกอดอาตมาสัญญากับตัวเองว่าจะปกป้องดูแลเด็กคนนี้จนกว่าอาตมาจะตาย

“ทำไมละครับ” สิงห์เอ่ยถามเสียงเบาหวิวเมื่อได้รับรู้เรื่องราวจากปากของหลวงพ่อ

“เพราะผู้หญิงคนนั้นคือรักแรกและรักเดียวของอาตมา โยมนิชา อดีตคนรักของอาตมา แต่เพราะครอบครัวอาตมาจน พ่อแม่ของโยมนิชาไม่ชอบ...”

“แล้วหลวงตาจะให้ผมช่วยอะไรครับ”

“ตามหาพ่อของนะโม และ บอกให้เขาได้รู้ว่าเขามีเลือดเนื้อเชื้อไขอยู่ที่นี่อีกหนึ่งคน รับปากอาตมาว่าจะไม่ทอดทิ้งมัน จะดูแลมัน ได้ไหมอาตมาขอแค่นี้”

“ผมรับปากครับหลวงตา” สิงห์ให้คำมั่น เขาเป็นคนที่รักษาสัญญาจะไม่มีวันทำผิดคำพูดแน่นอน

“นะโมมัน ขาดสารอาหารตอนที่มันยังเล็กเพราะโยมแม่ต้องหนีการตามล่าเงินทองก็ไม่มี ได้แต่ขอเศษข้าวเศษน้ำประทังชีวิต มันอาจจะทำให้โยมลำบาก หรือลำคานบ้างโยมอย่าถือสามันเลยนะ”

“ผมไม่เคยลำคานน้องครับ น้องน่ารัก อีกอย่างผมมีเรื่องอยากบอกกับหลวงตาครับ”

“....”

“ผมรักนะโม”

“....”

“ไม่ได้รักแบบพี่น้อง แต่รักแบบคนรักครับ” สิงห์บอกสิ่งที่เขาจะต้องบอกกับหลวงตาไปแล้ว สีหน้าของหลวงพ่อบอกไม่ได้เลยว่าคิดเห็นอย่างไร สิงห์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ด้วยความรู้สึกที่อึดอัด ยากจะบรรยายออกมาเพราะหลวงตาเงียบไม่พูดสิ่งใดๆ ออกมาให้เขาได้สบายใจ เกี่ยวกับเรื่องนี้

ชั่วอึดใจแต่เหมือนนานนับวัน หลวงตาเอ่ยกับคนตรงหน้าด้วยแววตาที่จริงจัง

“โยมแน่ใจแล้วเหรอ โยมมั่นใจไหมว่าวันข้างหน้าโยมจะไม่เปลี่ยนใจ นะโมมันเป็นเด็กผู้ชายแถมยังพิการ ครอบครัวโยมจะรับเรื่องนี้ได้ไหม โยมโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ความผิดชอบชั่วดี โยมย่อมรู้ดีแก่ใจ อาตมาไม่อาตจะไปขวางกั้นความรักของโยมได้ แต่เชื่ออาตมาเถอะขอให้ไตร่ตรองให้ดี ก่อนที่จะพูดอะไรออกมา” หลวงตาเอ่ยเสียงเครียด ไม่เคยคิดว่าสิงห์จะรักนะโมในแบบนั้น คิดว่าเอ็นดูและสงสาร ไม่คิดว่าสิงห์จะเกินเลยขนาดนี้ ความรู้สึกไม่พอใจก่อกำเนิดขึ้น แต่ก็ใช้สติเข้าดับ ใช่ว่าจะไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นเรื่องทำนองแบบนี้แต่ไม่คิดว่าจะเกิดกับคนใกล้ตัว ยามเมื่อเงยหน้าสบตากับร่างสูง แววตาที่ส่งมานั้นคนชราภาพสัมผัสได้ถึงความจริงใจและมุ่งมั่น

“ผมจะทำให้น้องมีแต่ความสุข ผมจะดูแลและรักน้องให้มากเท่าที่ผมจะรักใครคนหนึ่งได้ ผมไม่อาจตอบได้ว่าอนาคตจะเป็นแบบไหนแต่ผมจะทำวันนี้และวันต่อไปให้ดีที่สุด ให้ผมได้ดูแลน้องด้วยนะครับ” มันเป็นคำขออนุญาตของเขากับญาติผู้ใหญ่ของฝั่งนะโม

“เอาเถอะ ถึงยังไงอาตมาก็เข้าไปยุ่งเรื่องของทางโลกไม่ได้อยู่แล้ว ขอแค่โยมไม่บังคับ หรือทำร้ายมันก็พอ” นี่ถือเป็นคำอนุญาตของหลวงตา สิงห์ไม่อาจจะหุบยิ้มลงได้ เกาะเปราะแรกของเขากับนะโมปลดออกแล้ว เหลือแต่ความรู้สึกของนะโมที่มีต่อเขาเท่านั้น



“นี่เป็นเอกสาร พินัยกรรม และของสำคัญ อาตมาขอให้โยมเก็บเอาไว้ เมื่ออาตมามรณภาพ โยมค่อยเอาออกมาดู”

คำสั่งเสียสุดท้ายก่อนที่อาการของหลวงตาจะทรุดหนักจนต้องเข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานนับเดือน สิงห์พยายามทุกวิถีทางที่จะยื้อชีวิตหลวงตาเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจจะฝืนกฎแห่งกรรมได้ วันสุดท้ายหลวงตาขอให้พานะโมไปหา อยากจะสั่งเสีย อยากจะเจอเป็นครั้งสุดท้าย อยากจะบอกลา แต่ก็ไม่อาจพูดออกไปได้เพียงเพราะไม่อยากเห็นน้ำตาของมัน...



กลับมาปัจจุบัน



ร้านค้า หน้าปากซอย..

“ตัสตัส เอาอันนี้ด้วย อันนี้ๆ หูยยย อันนี้ก็อยากกิน มันต้องอร่อยมากๆ เลยเน้อออตาสสๆ” มันหันไปทำตาอ้อนใส่ซีตัส (*0*)

“= =”

“เนี้ยะๆ เราชอบมากเลยยย ซื้อนะตัสตัส” มันทำวิ้งๆ ค์ใส่อีกรอบ ของก็เต็มโต๊ะคิดเงินแล้วมันยังจะร้องเอาอย่างอื่นอีก ซีตัสควักเงินที่ถือติดมาแล้วก็ถอนหายใจออกมาแรงๆ พอคิดเงินค่าขนม เขาเหลือเงินกลับบ้านแค่สองบาท ถ้วนๆ

“คราวหลังเอาตังผัวมึงมาด้วยนะ ไอ้สัส เล่นกูซะจนเลย แม่ม กลับไปไอ้ปิงบ่นกูอีกไอ้ห่านั่นยิ่งงกๆ อยู่ด้วย” ซีตัสบ่นออกมาอย่างไม่จริงจังนัก ส่วนไอ้คนโดนบ่นเอาแต่หัวเราะคิกคักกับขนมของเล่นในมือ

“เล่นของแบบนี้ ไอ้ห่า รีบเดินก็ร้อน”

“วิ่งแข่งกันปะละ เราวิ่งเก่งมากเลยนะ เมื่อก่อนวิ่งแข่งกับพี่เปรี้ยวประจำ”

“ใครวะพี่เปรี้ยว”

“พี่สาวเราเอง แต่ตอนนี้ไปอยู่บนสวรรค์กับหลวงตาแล้ว อยู่กับแม่ด่างด้วย” มันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วโบกมือให้

“...”

“รอหนูหน่อยนะ เดี๋ยวหนูจะขึ้นไปอยู่เป็นเพื่อน” มันส่งยิ้มให้กับคนบนท้องฟ้า แม้ว่ามันจะไม่ได้แสดงออกว่าเศร้าหรือคิดถึงคนบนฟ้าขนาดไหน แต่สำหรับคนมัน มันเจ็บปวดนิดๆ แล้วก็เศร้ากับคำพูดที่ดูไม่คิดอะไรของมัน

“...”

“ตกลงจะวิ่งไม่วิ่ง”

“วิ่งก็วิ่งดิ แพ้แล้วอย่าไปร้องไห้ฟ้องผัวละ”

“เนี้ยะ เราว่าจะถามตัสตัสหลายครั้งแล้ว ว่าผัวคือไร?”

“อ่า ผัว คือ คนที่อยู่บน เมียคือคนที่อยู่ล่าง ในทางพฤตินัย คือคนรัก ในทางปฏิบัติคือคนที่เสียบมึงจากทางด้านหลัง”

“ยังไงอ่า ( ‘’ ) ?”

“ถามจริงมึงได้กับพี่เขายังวะ คือ แบบ เอาไอ้นั่น -*- ทำหน้างงอีก เอาจู๊ยัดตูดมึงยัง โว้ยย ทำไมกูต้องมานั่งอธิบายอะไรแบบนี้ด้วย”

“อ๋ออออออออออออออออ เอาเข้ามาแล้ว แต่มันเจ็บมากเลย เราไม่ชอบ แต่พี่จ๋าชอบ เราเลยโดนเสียบบ่อยๆ”

ฉ่า....ได้ยินเสียงอะไรไหม้ๆ ไหม หัว กับหน้า ซีตัสเอง ทั้งหัวร้อนทั้งหน้าไหม้ด้วยความอาย

“กูขอยาดม!! ”



+++++++

หลังจากสวาปามไอติมกับขนมเรียบร้อยก็มานั่งรวมตัวทำรายงานกันต่อ ทุกคนตั้งหน้าตั้งตาทำในส่วนที่ได้รับมอบหมายโดยที่ไม่มีใครเงยหน้าขึ้นมาเลยสักพักร่างสูงของเจ้าของบ้านก็เดินมานั่งซ้อนหลังไอ้เอ๋อเอาไว้พร้อมกับจับให้หลังมันตั้งตรง

“งื้ออ ทำอะไรครับ น้องจะวาดรูป”

“ขอกอดแบบนี้แป๊บหนึ่ง” ใบหน้าหล่อซุกลงกับซอกคอหอมๆ ของอีกฝ่าย เรื่องของมันทำให้สิงห์ รู้สึกอยากกอดมันให้มากกว่าเดิม

“เหนื่อยไหมครับ” เขาถาม มันหันหน้ากลับมามองเขาแล้วยิ้ม

“ไม่เหนื่อยครับ”

“แล้วอีกนานไหมกว่าจะเสร็จ” เขาถามเสียงเบาเพราะกลัวจะรบกวนคนอื่น

“ไม่รู้ครับ”

“อะ แฮ่ม!!! ถามอย่างเดียวจมูกไม่ต้องคลอเคลียแก้มก็ได้มั้งพี่” เสียงกระแอมของส้มดังขัดการกระทำของเขา

“....”

“เห็นใจคนไม่มีคู่แบบหนูมั้ง -3- “

“ขอความจริง” ปิง

“อิจฉา” เล่นกันเป็นจังหวะซิสคอม จนทุกคนขำกันถ้วนหน้า

“คิคิคิคิ ทำไมส้มๆ ไม่มีแบบที่เรามีละ”

“มันไม่มีคนเอาไง” ปิง

“ปากเสีย อย่าไปฟังมันที่อยู่แบบโสดแค่ยังเลือกไม่ได้เท่านั้นแหละ”

“เลือกไม่ได้หรือไม่มีให้เลือกกันแน่ส้ม” ปิง

“อร้ายยย อิปิง จะไฟว์ใช่ไหม มาเลยมาๆ” ส้มแทบจะลุกไปงับหัวปิงที่นั่งฝั่งตรงข้าม

“อย่าตีกันๆ”

กลายเป็นคุยกันมากกว่าจะทำงาน เวลาล่วงเลยมาถึงเย็นกระดาษรายงานแผ่นสุดท้ายถูกนำเข้าเล่ม

“เสร็จสักที” ปิงถอนหายใจออกมา

“มันควรจะเสร็จตั้งแต่บ่ายสามแล้วไหมถ้าไม่มันแต่เล่นไร้สาระ” ซีตัสว่าดุๆ แต่ทุกคนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ยังคุยยังต่อล้อต่อเถียงกันไม่หยุด

“อยากกินหมูกระทะ ไปกินกันมะ” ส้มเอ่ยขณะที่กำลังเก็บของกลับบ้าน

“เออวะไม่ได้กินนานละ ไปกินไหมตัส” ปิงหันไปถามคนรักที่กำลังเก็บโน๊ตบุ๊คใส่กระเป๋า

“กินๆ ๆ ๆ เราอยากกิน” ไอ้เอ๋อนั่งฟังอยู่ก็พูดขึ้นมา

“ขอผัวยังครับ” ซีตัสถามด้วยสีหน้าเยาะๆ เมื่อเห็นมันทำหน้าจ๋อยๆ รู้อยู่แล้วละว่าสิงห์ต้องให้ไปอยู่แล้วแต่แค่อยากจะแกล้งมันเท่านั้น

“ง่า พี่จ๋า...” มันหันหลังวิ่งขึ้นบ้านเพื่อขอสิงห์ เสียงเท้าวิ่งขึ้นบันไดดังตึ่งๆ บ่งบอกได้ว่ามันอยากไปขนาดไหน สิงห์ได้ยืนเสียงมันวิ่งพร้อมกับเรียกชื่อเขาก็เดินออกมาจากห้องทำงาน

“นะโมอย่าวิ่งสิ!! มีอะไรครับ” เขาดุเสียงเข้มก่อนจะถามมัน ไอ้เอ๋อหน้าจ๋อยอีกแต่ก็บอกสิ่งที่ตัวเองต้องการออกไป

“น้องอยากไปกินหมูกระทะกับเพื่อนครับ” มันบอกเสียงอ้อมแอ้ม

“อยากกินหรอครับ”

“ครับ น้องอยากกิน (n_n) นะๆ”

“หึหึหึ”

“ (`ヘ´) อะไรอ่า จะไม่ให้ไปหรอ”

“ไม่ใช่ครับ อยากไปพี่ก็จะพาไปแต่กลับมาเราต้องให้รางวัลพี่”

“ㅇㅅㅇ รางวัลอะไรหรอพี่จ๋าอยากได้อะไร”

“ไว้กลับมาแล้วพี่จะบอกนะครับ◕‿◕”

“งือเอางั้นก็ได้ครับ แต่ว่าอย่าขอของแพงนะน้องไม่มีตางงง” มันบอกเสียงอ้อนๆ สิงห์ได้แต่หัวเราะออกมา ใครเขาจะเอาเงินกัน เขาอยากจะเอาอย่างอื่นมากกว่า แอบมองคนขี้อ้อนแล้วทำตาเยิ้ม คิดไปไกลถึงช่วงเวลาของคืนนี้

“ลงไปบอกเพื่อนสิครับว่าเดี๋ยวเราไปกินด้วย พี่เลี้ยงเอง” พอได้ยินมันก็วิ่งหน้าตั้งลงไปด้านล่าง แล้วก้บอกว่าสิงห์จะเลี้ยงหมูกระทะ ทุกคนก็ร้องเฮออกมา เพราะอิ่มจังตังอยู่ครบ



18.00น. ร้านหมูกระทะ



วันเสาร์แบบนี้คนเยอะเป็นธรรมดา พอหาตะนั่งได้แล้ว ต่างคนก็ต่างแยกย้านกันไปเลือกของที่จะกินมา ไอ้เอ๋อพึ่งเคยมาครั้งแรกก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ เห็นอะไรก็อยากกินไปหมด จนสิงห์ตักตามไม่ทัน

“ใจเย็นครับ เดี๋ยวเราค่อยมาตักใหม่ก็ได้ ล้นจานแล้วครับ”

“ (゚д゚) อุ้ย!! น้องขอโทษครับ” มันรีบช่วยสิงห์ถือจานที่ตักอาหารมาทันทีด้วยสีหน้าที่ตกใจนิดๆ

“หึหึ น่ารักเกินไปแล้วนะเรานะ ระวังเถอะจะโดนพี่กินแทนหมูกระทะ” สิงห์แอบกระซิบข้างๆ หู

“งะ น้องไม่อร่อยหรอก อย่ากินน้องงงง” มันรีบเดินหนีสิงห์เพราะคิดว่าสิงห์จะกินมันจริงๆ

“หนีไปก็ไม่รอดครับคนดีของพี่” สิงห์เดินตามไปแบบยิ้มๆ



ทุกคนกินของที่ตักมากันอย่างเพลิดเพลิน สิงห์คอยย่างหมูสามชั้น ย่างกุ้งของชอบมันให้ไม่ขาด บริการราวกับลูกค้าวีไอพี สร้างความอิจฉาตาร้อนให้กับคนโสดคนเดียวของโต๊ะ แต่ก็แค่อิจฉาเล่นๆ เพราะส้มไม่คิดมากเรื่องนี้มาแต่แรกอยู่แล้ว กินจนอิ่มพุงจะแตกกันทุกคน ถือว่าคุ้มกับราคา 159 บาทต่อหัว สิงห์เรียกเก็บเงินก่อนจะขับรถไปส่งทุกคนที่บ้านจนครบ



ข้อความแชท

เจี๊ยบ

“ยัยแป้ง ชั้นเห้นคู่หมั้นแกมากินหมูกระทะกับใครไม่รู้

แต่ดูท่าจะสนิทกันน่าดูเลยมีป้อนกันด้วย”

แกนี่มันไม่ได้สนิทธรรมดาแล้วนะ

มีแอบหอมแก้มกันด้วย

จะให้เราเข้าไปถามเลยไหม

แบบนี้มันแอบมีชู้ชัดๆ

แป้ง
[/b]

ขอบใจมากนะเจี๊ยบ

เดี๋ยวแป้งถามพี่สิงห์เอง

แล้วตอนนี้พวกเขากลับกันรึยัง

เจี๊ยบ

กำลังกลับ

ใจเย็นๆ นะแป้ง

เราหวังดีเลยมาบอกไม่อยากให้เพื่อนโดนสวมเขา

แป้ง[/b]

อื้อ ขอบใจนะ^^



++++

٩ (♡ε♡) ۶สวัสดีจ้า นักอ่านที่รักของไรท์ คิดถึงกันม้ายย มาเปิดปมเรื่อง จดหมายของน้องเนอะ ยังเหลือ จม อีกฉบับที่หลวงตาให้น้องไว้ น้องยังไม่ได้อ่าน อยากรู้ว่าครอบครัวน้องเป็นใครละสิ คึคึคึ ยังไม่บอกหรอก กิ้วๆ ต้องแก้ไปทีละปมไปทีละปัญหาเนอะๆ

ต้องขอขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะเป็นกำลังให้เยอะเลย ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปไรท์ขอให้นักอ่านช่วยคำเม้นนิยายไรท์ด้วยได้ไหมคะ นะๆ อิอิ อ้อน แล้วก้ขอบคุณล่วงหน้าด้วยนะ บายคร้า เจอกันตอนหน้าเนอะ











หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.27 16/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 16-09-2018 07:06:55
ติดตามอ่านตลอดชอบมาก
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.27 16/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 16-09-2018 09:30:42
 :L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.27 16/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 16-09-2018 11:02:38
 :z1:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.27 16/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 16-09-2018 13:30:04
เอาแล้วววว :katai1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.27 16/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 16-09-2018 13:51:03
นังชะนีมาอีกแล้ววว
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.27 16/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-09-2018 14:05:31
 :L2: :L1: :3123:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.27 16/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-09-2018 18:14:22
ชะนีแป้งเน่า วุ่นวายไม่รู้จบ  :z3:
ไปสตอกับเพื่อนว่าพี่สิงห์เป็นคู่หมั้นตัวเองสินะ   :เฮ้อ:

สิงห์ นะโม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอแก้ที่ผิดนะ
ผมไม่เคยลำคานน้อง ------ รำคาญ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.27 16/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-09-2018 04:19:07
ตอนหน้าน้องจะโดนอะไรมากไหมเนี่ย  :hao5:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.27 16/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 17-09-2018 17:32:03
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.27 16/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 17-09-2018 21:54:54
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.28 23/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 23-09-2018 07:48:32
28



“แป้ง จะทนไม่ไหวแล้วนะคะคุณแม่ พี่สิงห์ทำให้แป้งโกรธ” หญิงสาวผู้มีใบหน้าสวยงามราวกับเจ้าหญิงบัดนี้กลับแสดงท่าทีที่เกรี้ยวกราด ผิดกับหน้าตา เธอระบายอารมณ์ใส่ข้าวของที่อยู่ใกล้มือจนกระจัดกระจาย หลังได้รับรู้เรื่องราวของฝ่ายชายที่ตัวเองหมายปอง

“ใจเย็นสิยัยแป้ง อีกไม่นานหรอก คนหัวแข็งอย่างสิงห์มันต้องมาก้มกราบลูกของแม่” ระตาบอกอย่างหมายมั่น

“นี่หนูยังใจเย็นไม่พออีกเหรอคะ แล้วอีกอย่างเมื่อไหร่แม่จะส่งคนไปฆ่าไอ้เด็กปัญญาอ่อนนั่นสักที มันเป็นกว้างขวางคอหนู! ” แป้งบอกกับมารดาด้วยน้ำเสียงที่เคียดแค้น

“ยัยแป้ง!! เราจะใจร้อนเกินไปแล้วนะ อีกอย่างอยู่ในบ้าน จะพูดจะจาอะไรหัดระวังมั่ง” ระตาพูดพร้อมกับตีแขนลูกสาวตัวเองเบาๆ

“คุณแม่ จะกลัวอะไรคะ บ้านนี้เป็นของเรา เหลือก็แค่คนป่วยใกล้ตาย”

“ลูกน้องของมันก็ยังอยู่ เราต้องใจเย็น อีกไม่นานหรอกทุกๆ อย่าง ของถิ่นเทวาจะต้องเป็นของเรา” แววตามาดร้ายฉายชัด เมื่อความโลภครอบงำจิตใจ รอยยิ้มเย้ยหยันเมื่อนึกถึงวันที่เธอจะครอบครองทุกอย่างในบ้านหลังนี้ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ยาพิษที่เธอให้สามีกินทุกวันๆ เริ่มเห็นผล เธอทำตัวเป็นแม่พระ ออกทำบุญช่วยเหลืองานการกุศล ปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรม แสร้งเป็นคนดีมีจิตเมตตา แต่แท้จริงแล้ว ระตาคือนางปีศาจเป็นจิ้งจอกดำในคราบหงส์ขาว ลูกสาวของเธอเองก็ไม่ต่างกัน แม่ยังไงลูกก็อย่างนั้น

บ้านหลังใหญ่ในไร่เทวาที่ดูเงียบสงบ แต่ ทว่าภายในกลับมีคลื่นลูกใหญ่ เมื่อนายหญิงคนใหม่หวังจะฮุบสมบัติทุกอย่างของบ้านให้มาเป็นของตัวเอง ระตาเปิดประตูห้องนอนของนาค เจ้าของบ้านวัยห้าสิบที่กำลังนอนป่วยอยู่บนเตียง ในมือมีถาดอาหารพร้อมยา ทันทีที่เห็นใบหน้าโทรมๆ ของสามีเธอก็เบะปากใส่อย่างรังเกียจ ก่อนจะปรับสีหน้าของตัวเองว่าเป็นห่วงสามีนักสามีหนา

“คุณพี่เป็นยังไงบ้างคะ”

“อืออ ระตา” นาค ค่อยๆ ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของเธอ

“ลุกขึ้นมาทานข้าวทานยาก่อนนะคะ” เธอประคองร่างกายอ่อนแอของนากให้ลุกนั่ง

“พี่ไม่หิว”

“ไม่หิวก็ต้องกินค่ะ!! ” เธอเผลอตะคอกใส่สามีเพราะเขาปฏิเสธที่จะกินยาของเธอ นาคมองเธอนิดๆ เขามีสีหน้าที่อิดโรย เหนื่อยเกินกว่าจะกินไร

“แต่พี่..”

“ระตาจะป้อนคุณพี่ คุณพี่ต้องทานนะคะ ไม่อย่างนั้นเมื่อไหร่คุณพี่จะหายสักทีละคะ ระตาเป็นห่วงคุณพี่มากๆ แค่นี่ทำไมคุณพี่ทำให้ระตาไม่ได้” เธอแสร้งทำเป็นน้อยใจ จนนาคยอมกินข้าวกินยาที่เธอนำมาให้ พอป้อนยาให้เธอก็ออกจากห้องไป

“หึ รีบๆ ตายไวๆ นะคะคุณพี่” เธอยิ้มเยาะให้กับโชคชะตาของนาค ก่อนจะเดินลงไปชั้นล่าง ล้างจานชามที่เธอใช้ใส่อาหาร เพื่อทำลายหลักฐานทั้งหมด

เรื่องมันเริ่มตั้งแต่ตอนไหนกัน มันคงเริ่มเมื่อเธอก้าวเข้ามาแทนที่นายหญิงคนเก่าละมั้ง คนในบ้านไม่ได้ให้การต้อนรับเธอกับลูกมากนัก เพราะคนในบ้านยังรักและเทิดทูนนายหญิงคนเก่าอยู่ โดยเฉพาะลูกชายคนเล็กของบ้าน เธอกับลูกต้องอดทนฝืนตัวเองปั้นยิ้มทั้งๆ ที่ในใจกรีดร้อง จนวันหนึ่งเธอได้พบกับความจริงที่ว่า นาคไม่มีทางจดทะเบียนสมรสกับเธอ และทุกๆ อย่างของถิ่นเทวา จะตกเป็นของลูกสาวและลูกชายของเขาเท่านั้น ความอิจฉาริษยาเริ่มก่อเกิดทั้งๆ ที่นาคก็รักและให้เกียรติเธอเสมอเหมือนภรรยาคนหนึ่ง แต่ไม่อาจจะเทียบกับ เพียงฟ้า ภรรยาหนึ่งเดียวในใจของเขา ตั้งวันที่รู้ว่าตัวเองเป็นแค่ภรรยาในนาม ความคิดเธอก็เปลี่ยนไป

เริ่มจากหาทางให้ลูกสาวตัวเองลงเอยกับสิงห์ แต่ทว่า ชายหนุ่มฉลาดเกินกว่าจะตกลงไปในแผนร้ายๆ ของเธอ เขาย้ายตัวเองออกมาจากบ้านหลังนั้น บ้านที่เป็นความทรงจำในวัยเด็ก บ้านที่เขารัก เพียงพ่อบังเกิดเกล้าเพราะโดนแม่เลี้ยงเป่าหู ทำให้เขากับพ่อต้องทะเลาะกัน

เมื่อลูกชายคนเดียวหนีหายไปไม่กลับบ้านคนพ่อก็ได้แต่นึกโทษตัวเอง เสียใจกับการกระทำโง่ๆ ของตัวเอง จนเป็นช่องโหว่ให้สองแม่ลูก เธอบอกกับนาคว่าสิงห์ไม่ยอมบริหารงาน แต่เปล่าเลยเขายังทำงานตามปรกติแต่ไม่เข้าบริษัทเท่านั้น เขาทำงานผ่านเลขาส่วนตัว แม้ในบริษัทจะมีเส้นสายของระตาแต่ก็ไม่อาจจะรอบคอบและลาดทันคนเท่ากับลูกน้องของสิงห์ ทำให้คิดว่าสิงห์ทิ้งบริษัทของครอบครัวไปแล้ว

นานวันเข้าระตาก็ค่อยๆ เข้ามามีบทบาทโดยใช้สิทธิการเป็นภรรยาของนาค แต่งตั้งตำแหน่งให้กับตัวเอง เธอเป็นคนมีความรู้ความสามารถ แต่วามทะเยอทะยานทำให้เธอโลภ การเข้ามามีบทบาทในตำแหน่งสูงๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่คนในจะไว้ใจให้เธอบริหารงาน และอีกส่วนที่มีคนในสนับสนุนเธอ คือเงินใต้โต๊ะ ที่เธอยัดเยียดเพื่อให้มาสนับสนุนเธอ เรื่องนี้สิงห์รู้ดี แต่ที่ทำเป็นปล่อยผ่านเพราะอยากจะให้ฝ่ายนั้นได้ตายใจ เพราะมีเพียงผุ้บริหารระดับสูงเพียงไม่กี่คนที่เป็นพรรคเป็นพวกของเธอ ระตาย่ามใจไม่คิดว่าคนเก่าคนแก่ที่นี้โดนสิงห์ซื้อไปเกือบหมดแล้ว เพราะความประมาทของเธอทำให้สิงห์ค่อยๆ คลืบคลานเข้ามาใกล้ เขาสืบและเก็บหลักฐานอย่างลับๆ มานานแรมปี เงินบัญชีที่ถูกตกแต่งเสียใหม่จากคนของเธอ สิงห์กำลังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเงียบๆ กำลังจะสาวไปจนถึงตัวบงการ ถ้าอยากจะได้ปลาใหญ่เขาก็ต้องใช้เหยื่อตัวใหญ่เช่นกัน และเหยื่อตัวสำคัญ ก็ คือ “แป้ง”



...



ข้อความแชท พี่เลี้ยงเด็กเอ๋อ (5)

ซีตัสคนจริง

ถึงไหนกันแล้ววะ กูรออยู่ที่โรงอาหาร

@ปิง รีบมากูหิวข้าว

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

เบื่อคนติดเมีย

@นะโม

มาไวๆ นะคะลูกเดี๋ยวคุณพ่อจะพระกริ้ว

ปิง

เออ! รู้แล้ว สั่งข้าวเผื่อด้วยกำลังขึ้นรถ

นะโม

กำลังจะถึงแล้ว

วันนี้พี่จ๋าตื่นสาย

เราอยากกินโจ๊กแหละ

^^

ซีตัส

สัส พิมพ์มาแบบนี้คือกุต้องซื้อให้ถูกไหม?

Yimmy

ลำบากมาก เดี๋ยวก็ซื้อเอง

ไอ้คนแล้งน้ำใจ

ซีตัสคนจริง

หยั่งกับมึงจะมาทัน

ขี้เสร็จรึยังเหอะ

Yimmy

สัส!

เบื่อคนรู้ทัน

นะโม

ตัสตัส

ซื้อโจ๊กให้เราได้ไหม?

ตอนนี้ท้องเราร้องดังมากเลย
[/b][/i]
ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

มึงจะใจร้ายกะลูกกูแบบนี้ไม่ได้

ลูกกูต้องได้กินโจ๊ก
[/left]
นะโม

ส้มส้ม

งืออ

ใจดี
ซีตัสคนจริง

แล้วทำไมมึงไม่เดินไปซื้อ

นั่งอยู่กับกูแท้ๆ

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

ก็มึงผู้ชายไงจะให้ผู้หญิงอย่างกูแบกของหนักๆ ได้ไง!!

ซีตัสคนจริง

แต่มึงบึกบึนกว่าผู้ชายอีกเผื่อมึงไม่รู้

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม


อิเลว อิปากนรก อิไม่อ่อานโยน

ปิง


อิช้างน้ำ @ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

นะโม

ช้างน้ำคืออะไร

ส้มส้ม

เราถึงโรงเรียนแล้ว

โจ๊กเราได้กินไหมอ่า

ทุกคนลืมโจ๊กของเราแล้วใช่ไหม

เราร้องไห้



“โจ๊กกกกกกกกกกก *0* ขอบใจนะปิงปิง” มันยิ้มกว้างกับโจ๊กตรงหน้า

“สุดท้ายก็ต้องเป็นกุที่ต้องไปซื้อให้พวกง่อยๆ แดก” ปิงบ่นออกมาพร้อมกับตักโจ๊กของตัวเองกินไปด้วย

“ว่าแต่ ใกล้แข่งหมากรุกแล้ว ต้องซ้อมหนักเลยดิ”

“อื้อ ซ้อมมือกับพวกลุงๆ อะ”

“หลังมานี้มีแต่พวกโหดๆ นะดมจะไหวไหม?” ยิมถามด้วยความเป็นห่วง

“ไหวสิยิมยิม หมากรุกเป็นกีฬาที่ใช้สมองไม่ใช่ใช้กำลังสักหน่อย ยิมยิมน่าจะรู้” มันตอบ

“ทำไมรู้สึกเหมือนโดนด่าเลย” ยิมเกาหัวตัวเองแบบงงๆ

“มันด่ามึงว่าโง่อยู่ ยังไม่รู้ตัวอีก” ซีตัสหัวเราะออกมาเบาๆ

“ไม่ใช่นะ เราไม่ได้ด่ายิมยิมๆ ตัสตัสพูดแบบนั้นเราเสียหายนะ” มันรีบแก้ตัว เพราะกลัวยิมจะเข้าใจผิด

“มึงก็ไปแกล้งมัน รีบๆ กินไอ้เอ๋อจะเข้าแถวแล้ว”

“อื้อ เราจะรีบกินจะเข้าแถวแล้ว”



การเข้าแถวตอนเช้าเป็นอะไรที่น่าเบื่อสุดๆ ทั้งร้อนทั้งหนวกหู อาจารย์ก็อบรมไม่รู้จักจบจักสิ้น ร้อนจนเหงื่อเต็มหน้า จนไอ้เอ๋อนั่งลิ้นห้อย

“ปิงปิง อาจารย์เค้าเหงาเหรอ พูดเหมือนไม่เคยมีใครคุยด้วย เราร้อน จะทนไม่ไหวแล้ว ปิงปิง ไปคุยกับอาจารย์ทีสิ” มันบ่นออกมา ใบหน้าขาวๆ ของมันขึ้นสีแดงไปหมด

“แหม่ พูดเหมือนกูเป็นลูกเขา อดทนสิวะ”

“ฮรืออ ไข่เราจะไหม้แล้วปิงปิง พื้นมันร้อน”

“อิสัส พูดอะไรออกมา ใครสอนเนี้ยะ” ปิงแทบจะตีปากมัน

“ก็..ก็..งือ เราขอโทษ”

สิบห้านาทีผ่านไป

“หน้ากูไหมหมดแล้วววววว อิแดดมึงจะเอ็นดูกูสักวันไม่ได้เลยรึไง” ส้มตวาดใส่พระอาทิตย์เหมือนคนบ้า

“ฮรืออจริงส้มๆ คุณพระอาทิตย์ไม่อ่อนโยนกับหน้าเราเลย เราแสบ” น้ำตามันคลอหน่วย

“โถ่ลูก มาๆ เดี๋ยวแม่คนนี้จะหาครีมทาให้” ส้มจูงมันเข้าห้องเรียนโดยซีตัสกับปิงเดินตามกันมาติดๆ นั่งพักให้หายร้อนก่อนจะเข้าชั่วโมงโฮมรูมในฐานะหัวหน้าห้องซีตัสต้องเตรียมสมุดการบ้านส่งอาจารย์ เขาเลยเดินไล่เก็บที่ละคนๆ จนมาถึงไอ้เอ๋อ

“สมุดการบ้านภาษาไทย”

“นี่ เราทำครบหมดทุกข้อ”

“เออ”

“ปิงสมุดการบ้าน”

“อยู่กับมึงไม่ใช่รึไง เอาไปทำให้ไม่ใช่เหรอ”

“โห่ววว ไอ้คุณหัวหน้า มึงทุจริตเหรออออ” โอ หนุ่มแว่น ท่านมหาของห้อง/3 มหานี่ไม่ได้หมายถึงท่านมหามัคทายกอะไรแบบนั้นนะ

“โถ ไอ้มหาจัญไร มึงนะก็ไม่ได้ต่างอะไรจากกูเลย เอาของกูไปลอกแล้วยังจะปากมากอีก เอาสมุดมากูจะรีบเอาไปส่ง!! ”

“แหมทำมาเป็นเกรี้ยวกราดใส่ ถ้าเป็นไอ้ปิงมึงจะพูดกับกูแบบนี้ไหมห๊ะ”

“ยังอีก! ” ซีตัสแทบจะถวายบาทาลูบพักให้กับท่านมหาเพราะความลีลา ไม่ยอมส่งสมุดการบ้านสักที



เที่ยง

“ไอ้เอ๋อลงไปจองที่ก่อนไป เดี๋ยวกูกับปิงจะเอางานไปส่งที่ห้องพักครู ส้มมึงลงไปกับมันด้วย” ซีตัสฝากมันไว้กับส้ม ก่อนที่ตัวเองจะขนรายงานของห้องไปส่งอาจารย์พร้อมกับปิง ส้มก็เดินลงไปที่โรงอาหารพร้อมกับไอ้เอ๋อ

“อิลูก คือกูปวดฉี่ มึงไปจองที่ก่อนนะแป๊บ เดียว เดี๋ยวมา อ่อถ้ามีอะไรก็ร้องโวยวายเลยนะ” ส้มยืนบิดไปมาพร้อมกับโบกมือไล่ให้มันไปจองที่ก่อน

“อื้อๆ เดี๋ยวเราไปจองที่ รีบๆ มานะ”

“จ้ะลูก”

มันเดินมาถึงโรงอาหาร ก่อนจะมองหาโต๊ะว่าง

“อะ นั่น โต๊ะว่าง” มันเห็นที่ว่างตรงหน้าร้านขนมหวานพอดี ร่างบางวิ่งทักๆ ไปยังพื้นที่เป้าหมายพอถึงโต๊ะมันก็วางกระเป๋าเอาไว้แล้วนั่งรอเพื่อนๆ ระหว่างนั้นมันก็กดโทรศัพท์โทรหาสิงห์ก่อนมื้อเที่ยงทุกวัน

Rrrr

“พี่จ๋าทำอะไรอยู่ครับ”

“ (กำลังคิดถึงเด็กดื้ออยู่ครับ) ”

“พี่จ๋ากินข้าวรึยางงง”

“ (กำลังจะออกไปหาอะไรกินครับ หนูละทำอะไรอยู่) ” สิงห์ถามเสียงนุ่ม

“น้องกำลังจองโต๊ะครับ รอตัสตัสกับปิงๆ มา ส้มส้มเข้าห้องน้ำ”

“ (แล้ววันนี้จะกินอะไรเอ่ย) ”

“วันนี้คุณป้าทำพะโล้ น้องจะกินพะโล้กับหมูทอดครับ”

“ (น่าอร่อยจัง) ”

“กินกับน้องไหม”

“ (พี่อยากกิน้องมากกว่า กินได้ไหมครับ) ”

“งืออ จะกินน้องอีกแล้ว พี่จ๋าๆ เป็นปอบหรอครับทำไมอยากกิน้องบ่อยจัง”

“ (หึหึหึ) ”

“หัวเราะแบบนี้อีกแล้ว น้องกลัว”

“ (คิดถึงจัง อยากหอมหัว) ”

“คึคึคึ อยากหอมหัว หอมหัว อ๊ะ ส้มส้มมาแล้ว”

“ (ถ้าอย่างนั้นพี่วางก่อนนะหนูจะได้กินข้าว) ”

“ครับ รักพี่จ๋านะ”

“ (พี่ก็รักหนูนะครับ) ”



“เราไปซื้อข้าวก่อนนะส้มส้ม วันนี้มีไข่พะโล้ด้วย” มันบอกกับส้มทันทีที่เธอมาถึง

“อะ จ้า รีบไปรีบมากุจะซื้อน้ำเอาน้ำไร”

“น้ำบ๋วยยยหวานๆ”



พอแยกย้ายกันไปซื้ออาหารซีตัสกับปิงก็ตามลงมาพอดี ไอ้เอ๋อเดินไปที่ร้านข้าวร้าดแกงร้านโปรดของมัน

“ป้าจ๋า หนูเอาไข่พะโล้กับหมูทอดครับ” มันสั่งเสียงใส

“จ้า วันนี้มาเร็วนะเรา”

“หนูกลัวหมด หนูเลยรีบมา”

“เอาไข่พะโละกับหมูทอดจานหนึ่งครับป้า” เสียงหนึ่งดังมาจากทางด้านหลัง

“อะ กินเหมือนเราเลย^^” มันหันไปยิ้มให้กับคนที่ต่อแถวจากทางด้านหลัง

“ชื่อนะโมใช่ไหมนายน่ะ?”

“อื้อ เราชื่อนะโม อยู่ห้องสาม”

“หึหึ น่ารักดีไม่เห็นเหมือนที่เขาว่านิ”

“อ่า ( “?) งงนิดหน่อย แต่สัมผัสได้ว่านายใจดี^^”

“คิดงั้น? หึหึ ก็ดี กูชื่อเนมห้องหนึ่ง”

“อื้อ เราไปนะเราอยากกินไข่แล้ว บายๆ เนม”

“อืม”

มันเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับจานข้าว ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข พอมันวางจานข้าวก็มีอีกคนวางตามทันที

“นั่งด้วยดิ ที่อื่นเต็มหมดละ”

“อื้อ”

“ใครวะ?” ส้มที่เดินตามมาทีหลังถามเสียงขุ่นๆ เพราะไม่คุ้นหน้าสักเท่าไหร่ แถมท่าทางยังไม่น่าไว้ใจ เธอต้องระวังตัวไว้ก่อน

“เนมเนม ห้องหนึ่ง” มันบอกโดยที่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากจานข้าวเลยซีตัสเดินมาถึงก็ต้องขมวดคิ้วอีกคน เนมมองหน้าทุกคนแล้วยกยิ้ม

“ไม่คิดว่ามึงจะอยู่กับมันด้วยนะไอ้ตัส หึหึ” เนมชำเลืองมองปิงนิดๆ ก่อนจะหันสายกลับมามองคนที่นั่งเคี้ยวข้าวจนแก้มตุ่ย

“มายุ่งอะไรไอ้เนม กลับที่ของมึงไปซะ”

“กูอยากรู้จักไอ้เด็กนี่” เนมชี้ไปที่ไอ่เอ๋อ

“จะรู้จักเพื่อ”

“มันน่าสนใจดี เป็นออทิสติกที่น่า....ดีวะ” เนมเว้นช่วงตรงน่า..แล้วมองไปที่ไอ้เอ๋อ เหมือนสนใจอะไรบางอย่างในตัวมัน

“อย่ายุ่งกับมันกูขอเตือน ไอ้เอ๋อไม่ใช่คนที่มึงจะมาล้อเล่นด้วย”

“หึหึ คอยดูเอาก็แล้วกัน” พูดจบก็ยกจานข้าวตัวเองเดินกลับไป แต่ก็ยังหันกลับมามองหน้าไอ้เอ๋อที่ไม่สนใจโลกเหมือนเคย

“มันทำไมวะตัส คนที่ชื่อเนมอะ” ส้มถามทันทีที่เนมลุกออกไป เองก็ด้วย

“กูไม่ไว้ใจมัน” ซีตัสบอก

“ทำไมวะ” ส้ม

“มันเคยมีเรื่องกับกูตอนมีต้น ไอ้ห่านี่มันชอบใช้วิธีสกปรกหาเรื่องกู กูกลัวว่ามันจะให้ไอ้เอ๋อเพื่อแกล้งกู”

“มันร้ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ นั่นเด็กห้องหนึ่งเลยนะเว้ย”

“อิส้ม ความรู้มันไม่ได้วัดระดับสันดานคนได้ มันเรียนเก่งแต่นิสัยแมร่งเหี้ย” ปิงพูดเสริม

“มึงก็รู้จักมัน?”

“ไม่อยากรู้จักเลยสักนิด”

“หงุดหงิดวะ” ปิงบ่นออกมานิดๆ



หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.28 23/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 23-09-2018 07:48:54
ตกเย็นไอ้เอ๋อต้องไปซ้อมแข่งหมากรุกระหว่างเดินไปที่ห้องชมรม มันก็เจอเข้ากับเนม

“อ่าวเจอกันอีกแล้ว นี่มึงจะไปไหนให้กูไปส่งไหม?”

“อ่า เนมเนม เราจะไปห้องชมรมหมากรุก แต่เราไปได้เดี๋ยวปิงปิงก็มา ปิงปิงไปซื้อขนมกับตัสตัส” มันตอบ

“เออ เดี๋ยวกูเดินไปส่ง ปล่อยให้เดินคนเดี๋ยวก็โดนแกล้งอีก ไปๆ กูไปส่ง”

“อ่าก็ได้เราขอบใจนายมากนะเนมเนม” มันยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ก่อนจะเดินนำหน้าเนมไป ร่างสูงยกยิ้มนิดๆ แล้วเดินตามคนด้านหน้า พร้อมกับใช้แววตาสำรวจไปด้วย

“ถึงแล้วล่ะ เนมเนม”

“อืม เข้าไปสิกูกลับละไว้เจอกันใหม่”

“อื้อ กลับบ้านดีๆ นะ^^” เนมกลับไปแล้วส่วนมันก็นั่งซ้อมหมากรุกกับคู่ซ้อมไปเรื่อยๆ ซีตัสกับปิงกลับไปแล้ว เหลือแต่มันกับโค็ชแล้วก็นักหมากรุกที่มาขอท้ามัน จนถึงเวลาเลิก สิงห์ก็ยังไม่มารับมัน

“เดี๋ยวผมไปรอพี่ที่หน้าโรงเรียนครับ อาจารย์ก่อนเลยก็ได้” มันบอกด้วยความเกรงใจเพราะเย็นมากแล้ว ทุกคนกลับบ้านกันเกือบหมดโรงเรียน

“อยู่ได้แน่นะให้ครูไปส่งไหม?”

“ไม่เป็นไรครับ พี่จ๋ากำลังมา” มันโกหกเพราะไม่อยากให้ใครเป็นห่วง ความจริงแล้วมันโทรหาสิงห์ตอนไปเข้าห้องน้ำแต่สิงห์ปิดเครื่อง

“ถ้าอย่างนั้นเข้าไปรอในโรงเรียนดีกว่า ข้างนอกมันอันตราย”

“ครับ”

มันเดินกลับเข้าไปในโรงเรียนอาจารย์กลับไปแล้ว เหลือแต่มันคนเดียว ไอ้เอ๋อเดินไปนั่งที่ม้านั่งตรงสวนหย่อมเพื่อรอสิงห์ใจมันก็กลัวเพราะเริ่มมืดแล้ว อีกใจหนึ่งก็ห่วงว่าคนพี่จะเป็นอะไรรึเปล่า มันนั่งรอได้ชั่วโมงกว่าฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว รถเที่ยวสุดท้ายกำลังจะออก มันตัดสินใจกลับบ้านเอง

รถสองแถวสีแดงขาวค่อยๆ เคลื่อนผ่านหน้าโรงเรียน มันรีบเดินไปขึ้นรถแล้วหาที่นั่ง พอถึงหน้าปากซอยบ้านมันก็กดกริ่งและเดินลงไปจ่ายตังค่ารถแปดบาท กว่าจะถึงบ้านฟ้าก็มืดพอดีมันเดินเงียบๆ ไปตามซอย นึกน้อยใจที่สิงห์ไม่ไปรับ มันเดินมาจนถึงบ้านแต่ทว่าสิ่งที่มันเห็นคือรถสิงห์จอดอยู่ด้านในแล้วมีรถที่ไม่คุ้นตาจอดอยู่ รถคันสีขาว มันแปลกใจไม่น้อย มือเล็กๆ ค่อยเปิดประตูรั้วเข้าไป พอถึงบันไดมันก็เห็นรองเท้าผู้หญิงคู่หนึ่งวางเคียงข้างกับรองเท้าสิงห์

“ใครมานะ” ทุกอย่างในบ้านเงียบสงัด ไฟในบ้านเปิดตลบทุกดวงแต่เหมือนไม่มีคนอยู่ มันเดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง

“คิกๆ ๆ พี่สิงห์ก็” เสียงของแป้งดังเข้ามาในโสตประสาทของมัน ภาพที่มันเห็นยิ่งทำให้มันรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจ ภาพที่หญิงสาวกำลังหัวเราะต่อกระซิกกันอย่างสนุกสนาน เพราะอยู่กับผู้หญิงคนนี้พี่จ๋าเลยไม่ไปรับมันที่โรงเรียนอย่างนั้นหรอ มันไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองสักเท่ไหร่ เพราะภาพที่มันเห็นคือสองคนนั้นจับมือกันไว้ และทำท่าเหมือนจะจูบกัน ทำไมต้องอยู่ใกล้กันขนาดนั้น

“พะ พี่จ๋า” มันเรียกชื่อคนที่มันรักหมดใจแผ่วเบาราวกับขนนก

“ทำอะไรกัน หรอ ทำไมทำแบบนั้น” ขามันย่างก้าวเข้าหาสองคนนั้นเรื่อยๆ โดยที่สิงห์กับแป้งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ จนกระทั่งมันมาหยุดตรงหน้าสิงห์

“ทำอะไรกันหรอครับ” มันถามเสียงสั่นๆ สิงห์ตกใจผงะ ก่อนจะดันแป้งออกจากตัว เหมือนพึ่งได้สติ ไอ้เอ๋อมันได้กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั่วตัวของสิงห์

“ป่าว ไม่มีอะไร แล้วทำไมกลับมาไม่ให้สุ้มให้เสียงครับ แล้ว ไอ้หมอมันไปไหน” สิงห์ถามมันเสียงนุ่ม ดวงตาเยิ้ม

“น้องกลับมาคนเดียวครับ แล้วพี่แป้งทำไมต้องทำแบบนั้นกับพี่สิงห์ด้วยครับ” มันหันไปตอบสิงห์ก่อนจะหันไปถามผู้หญิงเพียงคนเดียวที่นั่งหน้าหงิกอยู่ข้างๆ สิงห์

“เป็นเด็กไม่ต้องรู้มาก มาแล้วก็กลับเข้าห้องไปได้แล้ว” แป้งไล่ แต่มันไม่ได้ขยับไปไหน สีหน้าของมันไม่ได้เปลี่ยนไปมาก แต่รอยยิ้มของมันดูผิดหวัง

“พี่แป้งจะทำแบบที่น้องทำกับพี่จ๋าใช่ไหมครับ”

“เอ๊ะไอ้เด็กนี่!!! ”

“ตอบมาสิครับพี่สิงห์” ครั้งนี้มันเรียกชื่อคนตรงหน้า

“ไปอาบน้ำก่อนนะครับคนดี เดี๋ยวพี่เข้าไปคุยด้วยนะ แป้งรอพี่ตรงนี้ก่อนนะเดี๋ยวพี่มา” สิงห์บอกอย่างใจดี เขาลุกและโอบไหล่มันแล้วพาเดินกลับไปที่ห้องนอน ไหล่บางสั่นไหวพร้อมกับช้อนสายตาตัดพ้อมองเขา

“มันไม่มีอะไรครับ หนูอย่าคิดมากนะ พี่ไม่มีวันทำแบบนั้นกับใครนอกจากหนูนะ” เขากอดเด็กน้อยที่กำลังร้องไห้เอาไว้แนบอกพร้อมกับบอกให้อีกคนเข้าใจ

“แล้วทำไมต้องทำแบบนั้น พี่จ๋ากินเหล้าด้วย” มันถามด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อ สิงห์แทบอยากจะล้มเลิกแผนทุกอย่างแล้วเลือกมาปลอบเด็กตรงหน้า แต่เขาทำไม่ได้ ทุกอย่างมันจะต้องดำเนินต่อไป ในเมื่อคนโง่อย่างแป้งกำลังจะงับเหยื่อที่เขาหย่อนไว้

“พี่จำเป็นครับ เชื่อพี่นะว่าพี่รักหนูแค่คนเดียว”

“งืออ แต่น้องไม่ชอบเลยมันเจ็บจี๊ดๆ ตรงนี้” มันจิ้มนิ้วลงกับอกตัวเองแรงๆ

“พี่ก็เจ็บเหมือนกันครับที่เห็นหนูโดนรังแก เจ็บจนอยากจะฆ่ามันให้ตาย” สิงห์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก จนไอ้เอ๋อมันรู้สึกกลัวขึ้นมา

“ทำไมพี่จ๋าทำหน้าดุ” พอได้ยินก็รีบปรับสีหน้าทันที เขายิ้มให้กับคนตรงหน้า

“หนูรอพี่ในนี้นะ อย่าออกไปข้างนอกเด็ดขาดเข้าใจไหม พี่จะรีบคุยธุระให้เสร็จแล้วพี่จะรีบกลับมาหาหนูนะครับ เข้าใจไหม” สิงห์บอกมันเสียงนุ่มพร้อมกับจูบลงบนหน้าผากของมัน ก่อนจะผละออกแล้วลุกเดินออกจาห้องไป ไอ้เอ๋อได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างๆ นั้นด้วยความสงสัยและรู้สึกแปลบๆ ในอก

“น้องเข้าใจแต่น้องไม่อยากให้พี่จ๋าออกไปหาผู้หญิงคนนั้น” มันตอบกลับเสียงเบาโดยที่สิงห์ไม่ได้ยิน



พอออกมาจากห้องนอนของตัวเองร่างหนาก็เดินไปหาหญิงสาวที่ตัวเองพาเข้าบ้านในรอยยิ้มที่อ่อนโยน จนคนมองต้องยิ้มเขิน

“พี่สิงห์ทำไมต้องโอ๋เด็กคนนั้น ขนาดนั้นละคะไหนว่าแค่คนรับใช้” แป้งจีบปากจีบคอว่าใส่

“หึหึ เราอย่าไปสนใจเลย ไหนบอกว่ามีเรื่องอยากจะคุยกับพี่ครับ” เขาถามกลับด้วยใบหน้ายิ้มๆ เหมือนไม่อยากให้เธอใส่ใจกับนะโม แป้งยกยิ้มเล็กน้อยราวกับเธอกำลังถูกใจอะไรบางอย่าง

“แต่แป้งอยากต่อจากที่ค้างไว้เมื่อกี้มากกว่านี่คะ”

“ตอนนี้ไม่ได้แล้ว พี่ว่าเรามาคุยธุระของเราดีกว่าค่ะ” สิงห์ยังคุยด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ

“เห้อ แป้งแค่น้อยใจที่พี่สิงห์ไม่ยอมออกไปไหนกับแป้งเลย พี่เป็นพี่แป้งนะคะทำไมไม่ตามใจแป้งบ้างเลย” สิงห์ยกยิ้มขึ้นนิดๆ อยากจะชูป้ายว่าอิตอแหลใจแทบขาด แต่กำได้แค่ฝืนยิ้มออกไป

“ก็แป้งไม่ค่อยว่างมาหาพี่นี่คะ”

“แป้งว่างสำหรับพี่ตลอดแหละค่ะ”

“หึหึ ถ้างั้นไว้พรุ่งนี้เราทานข้าวกันนะคะ”

“จริงเหรอคะ” เธอร้องออกมาด้วยความดีใจ

“ครับจองร้านไว้เลยนะเดี๋ยวเที่ยงเราไปทานข้าวกัน”

“พี่สิงห์ใจดีจังเลยค่ะ” แป้งกระโดดกอดแขนเขา ไม่คิดว่าสิงห์จะใจอ่อนกับเธอแบบนี้ พอเห้นว่าแป้งดีใจเขาก็ยิ้มร้ายออกมาโดยที่เธอไม่ทันได้เห็น

“ถ้างั้นแป้งกลับก่อนนะคะ จุ๊บ” แป้งฉวยโอกาสที่สิงห์เผลอหอมแก้มเขาก่อนจะผละออก

“!!! ”

“แป้งไปแล้วนะคะ”

“ครับแล้วเจอกัน” พอแป้งกลับไปแล้วสิงห์เห็นนะโมเดินออกมาจากห้อง

“เมื่อกี้เขาจุ๊บๆ พี่จ๋า” ไอ้เอ๋อมันจ้องสิงห์ตาขวางเหมือนจะโกรธที่เขายอมให้ผู้หญิงคนนั้นหอมแก้ม

“อ่า พี่ไม่ได้ตั้งใจให้เขาหอมพี่นะครับ”

“ไปล้างออกเลย ไปล้างงงงงงงงงงงงงง” มันโวยวายให้เขาไปล้างแก้มตรงที่แป้งหอมออก

“หึงพี่เหรอ^^”

“อย่ามายิ้มนะ พี่จ๋าทำผิดอยู่นะ” มันใช้นิ้วชี้หน้าคาดโทษคนตัวโต สิงห์หัวเราะออกมาเบาๆ รู้สึกดีที่มันหึงเขา และจะต้องหึงมากกว่านี้อีกแน่ๆ ถ้ามันรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร

“ไม่ได้ยิ้มสักหน่อย” เขาแกล้งแหย่มัน

“ยิ้มน้องเห็นว่ายิ้ม”

“พี่ยิ้มน้องได้ปะ ยิ้มน้องนะ”

“งะ ยิ้มอะไร ยิ้มน้อง พูดไม่รู้เรื่องเลย!! หึ โกรธแล้วนะ” มันไม่รู้ความหมายของคำพวกนี้หรอก แต่คิดว่าอีกไม่นานก็คงจะรู้

“หึหึ น่ารักจังเลยนะคนอะไรก็ไม่รู้” สิงห์รวบตัวมันเข้ามากอดเอาไว้พร้อมกับหอมแก้มมันไปหลายฟอด

“งื้อออย่ามาจับน้องนะ น้องโกรธ น้องไม่ชอบ งืออ” มันเบะปากยกมือจะตีสิงห์ เหมือนแมวขู่

“ไม่ชอบพี่หรอครับ” สิงห์แกล้งตีหน้าหงอยๆ

“งะ ไม่ใช่ ไม่ใช่ พี่จ๋า” มันลดมือลงแต่ก็ยังไม่ยอมเข้าใกล้สิงห์

“ไม่ชอบ พี่แล้วใช่ไหม” สิงห์สืบเท้าเข้าหามันอย่างช้าๆ แม้น้ำเสียงจะดูหงอยๆ แต่สายตากลับไม่เป็นแบบนั้น สายตาของสิงห์เหมือนเสือ เสือที่กำลังจะขย่ำเหยื่อ ไอ้เอ๋อเดินถอยหลัง จนแผ่นหลังมันชิดติดกำแพง สิงห์กางแขนกั้นมันเอาไว้ แล้วยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้มัน ห่างกันแค่คืบของลมหายใจ

“งืออ พี่จ๋า ทำตัวร้าย น้องสู้ไม่ไหวT^T”

++++++++++++++++

พี่ก็สู้สายตาวร้ายๆ ของพี่สิงห์ไม่ไหวค่ะ

พี่สิงห์เริ่มจัดการนังสองแม่ลุกนั่นแล้วนะคะ..ค่อยเป็นค่อยๆไปเนอะ แต่จะจัดการยังไงนั้นคอยติดตามเอานะ หรือใครพอจะเดาทางได้ก็ไม่ว่ากัน เนมคือใคร ต้องลุ้นเอา จะมาดีๆหรือมาร้ายๆกันแน่

ปล.ขอบคุณที่ให้กำลังใจเค้านะ รักททุกคน จุฟ 
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.27 16/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 23-09-2018 08:33:05
ดีต่อใจ  นะโมหึงได้น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.28 23/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 24-09-2018 02:12:57
พี่จ๋าไปนัวเนียกับแป้งให้น้องเห็น .. แบบนี้
แม้จะเพื่อแผนจับคนชั่ว
แต่ระวัง กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้ไปแล้วเน้อ

คราวนี้ละ ... พี่จ๋าซวยแน่ นอนหนาวเลยแหละถ้าทำน้องร้องไห้
แบบพี่จ๋าน่าจะรู้ ทีมน้องเค้าเยอะนะพี่นะ

... แล้วนี่ยังมี "เนม" เข้ามาอีก
//แอบคิดว่า เนม คือพี่ชายคนละแม่ของนะโมนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.28 23/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-09-2018 03:00:41
รู้ว่าจะจัดการชะนี แล้วทำไมไม่จัดการข้างนอกบ้าน มาทำในบ้านให้นะโมเห็นตำตาทำไม  :katai1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.28 23/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 24-09-2018 03:56:59
เห็นด้วยกับเม้นท์บน o13
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.28 23/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-09-2018 09:59:11
สิงห์ กำลังล่อหลอกให้แป้งเน่าตายใจ  :hao3:
แต่กำลังทำให้นะโมคิดมาก  :mew2:
ถ้าบอกความจริงนะโม จะเก็บไว้ได้ไหม
จะไม่แสดงพิรุจออกมาได้หรือเปล่า  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

เนม จะช่วยปกป้องนะโมอีกคนไหมนะ  :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.28 23/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-09-2018 11:30:21
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:  อีพี่สิงห์ระวันจะเป็นเหยื่อแม่ลูกซะเอง สงสารน้องเอ๋อ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.28 23/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-09-2018 12:31:49
 :hao7:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.28 23/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 24-09-2018 20:41:11
มาทำให้โกรธแล้วก็ทำเป็นง้อนะเออคนเรา สักทีดีไหมพี่จ๋า เนอะเอ๋อ “ปิงปิง อาจารย์เค้าเหงาเหรอ พูดเหมือนไม่เคยมีใครคุยด้วย"
"พี่จ๋าๆ เป็นปอบหรอครับ...." 555555555 ขำมาก  เดี๋ยวนี้โคตรเกรียนอ่ะคำพูดคำจา นี่คิดเองใช่ไหมเอ๋อ 55555 //เนมเป็นใครว่ะ ลืม เพิ่งมาหรือว่ามานานแล้ว นึกไม่ออก แต่ขอเตือนมาไม่ดีมีเจอตีนนะ  55555 //ซ้อมหมากรุกทุกวันเลย สู้ๆนะเอ๋อ //สงสารพ่อของสิงห์ กว่าสิงห์จะหาหลักฐานมัดตัวได้แบบดิ้นไม่หลุด พ่อจะไม่ตายก่อนหรอ เล่นแดกยาพิษทุกวันขนาดนั้น หรือว่าไง? เร็วๆหน่อยเด้อ! สองแม่ลูกนี่ร้ายชิบ รอก่อนๆ 5555 //รอๆตอนต่อไปเลยค่ะ สนุกมาก อ่านแล้วยิ้มตลอดเลย ชอบความแก๊งค์ปกครองลูกรัก แต่ละคนน่ารัก ฮาๆกันดี ^^ ไฟท์ติ้งค่ะไรท์
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.29 30/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 30-09-2018 09:52:43


29

เมื่อโดนรุกหนักจนหัวใจรับไม่ไหวก็ชิ่งหนีแกล้งตายเสียอย่างนั้น ร่างเล็กๆ ในอ้อมกอดของเขาแน่นิ่งทำเป็นแกล้งตาย แต่แอบเหล่ตามองเขา พอรู้ว่าเขากำลังมองก็หลับตาใส่ อย่างคนเจ้าเล่ห์ ร่างสูงหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกับจูบลงบนจมูกเล็กๆ นั่นอย่างรู้สึกมันเขี้ยว

“อย่าทำตัวให้น่ารักไปกว่านี้จะได้ไหม? พี่ไม่อยากทำหนูเจ็บตอนนี้นะครับ” สิงห์กระซิบข้างๆ หู ร่างเล็กย่นคอเพราะไอร้อนที่พ่นออกมารดต้นคอนั่นเป็นเหตุ

“คึคึคึ” ร่างบางหลุดขำออกมา

“....”

“อุ๊ป oXo”

“แกล้งพี่เหรอครับ”

“งื้อออ คิกๆ ๆ ๆ ๆ”

“เจ้าเล่ห์นักนะเรา” ร่างสูงบีบจมูกเล็กๆ ด้วยความหมั้นเขี้ยว

“เจ็บน้า น้องเจ็บ อื้ออออ”

“ไปอาบน้ำดีกว่าเนอะ มืดแล้ว เดี๋ยวเราออกไปหาอะไรกินข้างนอกกัน”

“อื้อ น้องกินก๋วยเตี๋ยวเรือ”

++++++++++++++++++++

เที่ยงของอีกวัน

“พี่สิงห์ถึงไหนแล้วคะ แป้งรออยู่ที่ร้านแล้วนะ” เสียงแหลมของหญิงสาวดังมาจากปลายสาย สิงห์แสยะยิ้มก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ

“ครับพี่กำลังจะออกไป รอพี่หน่อยนะ”

“ค่ะ รีบมานะคะ แป้งคิดถึง”

“แล้วเจอกันครับ” พอกดวางสายร่างสูงก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆ ก่อนจะกดโทรศัพท์หากำลังใจจากคนตัวเล็ก เมื่อได้แรงงใจจนล้นเขาก็เดินขึ้นรถและขับออกไปยังสถานที่ที่ นัดเอาไว้ ร้านอาหารร้านหรูติดริมน้ำบรรยากาศดี แป้งนั่งรอเขา เธอมาในชุดสวยรัดรูปสีครีมใบหน้าสวยถูกฉาบด้วยเครื่องสำอางราคาแพงปกปิดร่องรอยบนใบหน้าของเธอได้อย่างแนบเนียน แทบมองไม่ออกว่าเมื่อคืนผ่านสมรภูมิอะไรมาบ้าง ทั้งปาตี้ยาและผู้ชายร่างสูงมองเธอจากทางด้านหลัง เขาแสยะยิ้มนิดๆ เมื่อนึกถึงภาพที่เลขาเขาส่งมาให้ดูเมื่อคืน มันต่างภาพที่เห็นตรงหน้า ตอนนี้เธอดูสงบเสงี่ยมไม่เหมือนเมื่อคืนที่ดูเร่าร้อนจนพาใครต่อใครกลับเข้าบ้าน

“น้องแป้ง” เขาปรับสีหน้าและน้ำเสียงเมื่อเดินไปถึงโต๊ะ ร่างสุงส่งยิ้มที่ดูเป็นมิตร ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

“สั่งอะไรรึยังเอ่ย?”

“สั่งรอพี่สิงห์ไว้แล้วค่ะ ของโปรดพี่ทั้งนั้น” แป้งยิ้มหวานส่งให้ รอไม่นานอาหารที่สั่งไว้ก็ถูกนำมาเรียงบนโต๊ะ มีทั้งพะแนงหมู ต้มยำทะเล ไข่เจียวปู แกงเขียวหวาน สิงห์อยากจะถามเหลือเกินไหนของโปรดเขา ไม่เห็นมีสักอย่าง เขายังคงนั่งปั้นยิ้มให้กับหญิงสาว

“พี่ว่าพี่จะกลับบ้านไปเอาของสักหน่อย” เขาจบบทสนทนาบนโต๊ะอาหารทันทีที่ทานอิ่ม ร่างสูงพูดเหมือนที่บ้านไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนไม่ได้รับรู้เรื่องของที่บ้าน

“เอ่อออ พี่สิงห์คะ คุณลุงเค้า ไม่ค่อยสบาย แป้งว่าให้แป้งไปเอาของให้ดีกว่านะคะ”

“ทำไมแป้งไม่เคยบอกพี่ว่าพ่อพี่ไม่สบาย” สิงห์ทำเสียงไม่พอใจพร้อมกับชักสีหน้าทันที ความโกรธเคืองมันสุมในอกทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

“เอ่อ คือแป้ง คือ คุณแม่บอกว่ากลัวพี่สิงห์คิดมากเลยไม่ไห้บอกค่ะ พี่สิงห์อย่าโกรธคุณแม่กับแป้งเลยนะคะ คุณแม่ห่วงพี่สิงห์ไม่อยากให้พี่สิงห์คิดมากนะคะ” แป้งทำหน้าสลดแต่ในใจกลับหวาดระแวง กลัวว่าสิงห์จะรู้เรื่องชั่วๆ ของเธอ

“แป้ง แป้งก็น่าจะบอกพี่ ถึงยังไงพี่ก็เป็นลูกของเขา เป็นลูกชายคนเดียวของเขา” สิงห์เน้นคำว่าลูกคนเดียวพร้อมจ้องลึกไปในดวงตาคู่สวยคู่นั้น แป้งลอบกลืนน้ำลาย เธอรู้สึกคอแห้งขึ้นมาทันที

“พี่จะกลับไปดูพ่อ หวังว่าคนที่บ้านจะยอมให้พี่เข้าไปนะแป้ง” สิงห์พูดแล้วเดินออกจากร้านมุ่งตรงไปที่รถของตัวเองที่จอดอยู่ไม่ได้ให้หญิงสาวตามมาแต่อย่างใด เส้นทางที่เขามุ่งตรงไปคือบ้านหลังใหญ่ในไร่เทวา บ้านที่เขาอยู่มาตั้งแต่เกิดบ้านที่เคยสงบสุขและมีแต่เสียงหัวเราะ

ยามที่รถยนต์คันหรูแล่นไปตามถนน เหล่าคนงานที่ทำงานอยู่ต่างก็มองรถคันนั้นเป็นตาเดียว ก่อนจะพากันร้องเฮด้วยความดีใจ

“นายน้อยกลับบ้านแล้วพวกมึง!! ” มีหลายคนวิ่งตามรถของสิงห์ไปจนถึงหน้าเรือนไม้หลังใหญ่

“นายน้อย นายน้อย นายน้องกลับมาแล้ว” เสียงร้องต้อนรับเขาจากคนงานในสวนสิงห์หันไปยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าบ้าน

“กรอยู่ไหน” ก้าวแรกที่เหยียบธรณีประตูเขาก็ถามหาลูกน้องคนสนิทที่ยังคงอยู่บ้านหลังนี้ตามคำสั่งของเขา

“พี่กร ออกไปตรวจงานในไร่ค่ะ” สาวใช้เอ่ยกับเขา

“พ่อละ”

“พักอยู่ด้านบนค่ะ” ยังไม่ทันที่สาวใช้จะพูดจบร่างสูงก็เดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนใหญ่ของบิดาตัวเองทันที ในนั้นมืดสนิท มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วๆ กับแอร์ที่เปิดอยู่ บนเตียงมีร่างของนาค ผู้ที่เคยแข็งแรง สิงห์มองภาพตรงหน้าด้วยใจที่สั่นไหว สองมือกำแน่น ก่อนจะเปิดไฟหรี่เพิ่มแสงสว่างในห้อง

“พ่อครับ” เขาเรียกคนที่นอนนิ่งเสียงแผ่ว

“....”

“คุณพ่อครับ”

“สิงห์เหรอ” ดวงตาอ่อนล้าค่อยๆ ปรือขึ้นมองบุตรชายที่ตนเองห่วงหาอยู่ตลอดเวลา

“ครับ พ่อเป็นยังไงบ้าง”

“หึ ก็อย่างที่เห็น ใกล้ตายลงทุกวัน”

“พ่อเป็นแบบนี้ รู้ไหมเพราะอะไร”

“พอสงสัยบ้าง”

“แล้วจะจัดการยังไง ผมเคยบอกพ่อแล้วใช่ไหมว่าพ่อกำลังเลี้ยงงูพิษไว้ในบ้าน ทำไมพ่อไม่เคยฟังผม” สิงห์พูดกึ่งประชด ขณะพยุงร่างของพ่อให้นั่งพิงกับหัวเตียง ใบหน้าอ่อนแรงส่งยิ้มอ่อนๆ ให้ลูกชายของตัวเอง

“จัดการตามที่แกต้องการได้เลย ไม่ต้องห่วงพ่อหรอก”

“นอนเป็นผักแบบนี้จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง แล้วยานั่นกินมันไปเยอะเหรอครับถึงได้เป็นขนาดนี้” สิงห์ถามเสียงเครียด

“ก็กว่าจะรู้ตัว มันก็เยอะไปแล้ว กรแอบเปลี่ยนยาให้ นี่ก็ดีขึ้นมากแล้วละ” นากเอื้อมมือไปจับหัวทุยๆ ของสิงห์

“อดทนอีกนิดนะครับ ผมจะเอาทุกอย่างคืนจากสองแม่ลูกนั่นเอง”

“อือ พ่อจะรอ รอวันที่เราจะกลับมาพร้อมหน้า”

“ครับ”

แผนการทั้งหมดมันเริ่มตั้งแต่กร รายงานมาว่าพ่อเขาจู่ๆ ก็ล้มป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน ระตาจ้างหมอมาตรวจถึงที่บ้านไม่ยอมพาไปโรงพยาบาล นั่นสร้างความสงสัยให้กับกรที่ดูแลนาคอยู่ เขาจึงรีบรายงานสถานการณ์ให้สิงห์รู้ทันที สิงห์สั่งให้กรจับตาดูสองแม่ลูกเอาไว้พร้อมกับดูแลพ่อของตนไปด้วย เพราะเขากำลังรวบรวมหลักฐานจากในบริษัทเพื่อเอาผิดสองแม่ลูกคู่นี้อยู่ จนกระทั่งกรสังเกตว่าระตาจะเป็นคนจัดยาให้นาคทุกวัน

“ยาอะไรกินแล้วทรุดลงทุกวันๆ” เพราะความสงสัยเขาเลยแอบเข้าไปหานาคและบอกถึงจุดประสงค์ของตน

“คุณท่านครับ ได้ยินผมไหม”

“อืม”

“ยาที่คุณระตาเอามาให้คุณท่าน คุณท่านอย่าทานมันได้ไหมครับ เก็บยานั่นเอาไว้ให้ผม”

“นี่แกกำลังสงสัยอะไร” นาคถามด้วยความขุ่นใจที่ลูกน้องในบ้านสงสัยเจ้านายตัวเอง

กรจึงบอกเหตุผลและสถานการณ์ทั้งหมดให้นาคฟัง นาคอึ้งจนพูดไม่ออกไม่คิดว่าคนที่ตนเองไว้ใจจะร้ายเหมือนงูพิษแบบนี้ พอได้ตัวอย่างยาเขาก็ส่งยาไปตรวจสอบทัน ผลที่ได้มัน คือพิษที่แทรกซึมเข้าไปทำลายระบบต่างๆ ของร่างกาย อย่างช้าๆ และไม่มีสารตกค้างในร่างกาย

พอผลออกมาเขาก็แจ้งให้กับสิงห์และแอบเปลี่ยนยาทันที โดยที่สองแม่ลูกไม่มีทางรู้

กลับมาปัจจุบัน

“ผมต้องกลับแล้ว พ่ออย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะครับ” เขาอยู่ที่นี่นานเกินไปไม่ได้ เพราะมีคนของระตาเฝ้าอยู่ตลอดอีกไม่นานสองแม่ลูกนั่นคงถึงที่บ้าน แต่ก็ช้าไปเพียงเสี้ยวนาที เขาเดินออกมาจากบ้านพร้อมๆ กับรถของระตาเทียบเข้าจอด

“อ้าว ตาสิงห์กลับมาบ้านทำไมไม่บอกน้า” ระตาแกล้งทำเป็นตกใจซึ่งความจริงแล้วเธอรู้ตั้งแต่แรกว่าสิงห์มาที่บ้านเพราะแป้งเป็นคนโทรบอก

“ผมแค่แวะมาเอาของแล้วมาเยี่ยมเขาเท่านั้นครับ”

“อ่า น้าขอโทษนะที่ไม่ได้บอกเธอเรื่องคุณท่าน” ระตาทำหน้าสลด

“หึ ไม่เป็นไรครับ เพราะยังไงผมก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว”

“อ่า อย่างนั้นเหรอ แต่ถ้าคุณท่านได้ยินจะเสียใจเอานะคะ ที่ลูกชายพูดแบบนี้”

“ก็ช่างเค้าสิครับ ว่าแต่พ่อผมป่วยเป็นผักแบบนี้คุณน้าไม่ได้อยู่ดูแลพ่อผมเหรอครับ” สิงห์เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบขี้หน้าคนตรงหน้า ระตาส่งยิ้มกลับ

“น้าไปงานการกุศลมาน่ะ คุณท่านไปไม่ได้น้าเลยต้องไปแทน” ระตาตอบต่างคนต่างฟาดฟันกันทางสายตา

“เหรอครับ หมดไปเท่าไหร่ละคราวนี้ แสน สองแสน หรือสามล้าน” สิงห์ถามจี้พร้อมกับรอยยิ้มเยาะ

“นี่!! ..เอ่อ หมดไม่เท่าไหร่หรอก ไม่กี่หมื่น ทุนการศึกษาเด็ก”

“เด็กมหาลัย ที่ชื่อ แดน รึเปล่าครับ หึหึ ผมไปแล้วดีกว่าอยู่นานเดี๋ยวเชื้อความโลภมันจะเข้าตัว” สิงห์แสยะยิ้มร้ายใส่ก่อนจะเดินไปขึ้นรถที่จอดไว้ หญิงวัยสามสิบกว่าได้แต่ยืนกำหมัดแน่น และจ้องตามแผ่นหลังกว้างอย่างนึกโกรธแค้น

“ไอ้เด็กนรก รู้ไปซะทุกอย่าง ถ้ายัยแป้งไม่ข้อป่านนี้แกกลายเป็นศพก่อนพ่อของแกอีก!! ”

หลังจากที่ออกมาจากบ้านหลังนั้นเขาก็มุ่งตรงไปยังสำนักงานใหญ่ในตัวเมือง บริษัทที่เป็นทั้งหมดทุกอย่างของพ่อ รายได้หลักที่มาจากการทำธุรกิจเกี่ยวกับการก่อสร้างและการโรงแรมที่มีอยู่ทั่วทุกภาค แม้จะไม่ได้ใหญ่มากแต่ก็มีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อย ระตากำลังจะกว้านซื้อหุ้นจากคณะกรรมการในบริษัท ซึ่งตอนนี้ก็ได้ไปเยอะแล้ว ยังดีที่สิงห์มีหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่งตำแหน่งประธานจึงยังไม่สั่นคลอน และมีเรื่องที่น่าสงสัยอีกอย่าง ผู้หญิงแค่คนเดียวแต่ทำไมถึงได้ทำงานใหญ่แบบนี้ได้คล่อง ระตาต้องมีคนคอยหนุนหลังอยู่แน่ๆ และการเข้ามาบริษัทวันนี้ทำให้เขาได้รู้ว่า คนที่ระตาเอามานั่งตำแหน่งตัวเองนั้นคือ นายบดิน สามีเก่าของตัวเองที่เลิกรากันไปนานแล้ว ก่อนที่พ่อของเขาจะเจอเธอโดยที่เธอบอกกับคนอื่นว่าบดินทร์เป็น ลูกพี่ลูกน้องที่เรียนจบโทบริหารจากเมืองนอกมา ในเมื่อนายหญิงพูดมาแบบนี้ก็ไม่มีใครกล้าสงสัยอะไร บดินทร์เป็นชายร่างสูงผอมผิวขาวมีแววตาเจ้าเล่ห์ และรอยยิ้มที่ดูมีเสน่ห์ ดูเป็นมิตรกับคนทั่วไป ผิดกับสิงห์ที่มองออกทุกอย่างว่าเขาตีสองหน้าได้เก่งขนาดไหน

“นี่นะเหรอลูกชายของคุณนาค หน้าตาดีมากเลยนะครับ” คำทักทายที่ดูจะเป็นมิตร แต่น้ำเสียกลับฟังดูแล้วเย้ยหยัน แม้จะเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก บดิทร์ก็เลือกที่จะแข็งข้อกับเขา บดินทร์จ้องมองร่างสูงสง่าด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา สิงห์ยกยิ้มเพียงเล็กน้อย อย่างคนใจเย็น

“หึ ผมไม่ดีมีดีแค่หน้าตานะครับ เผื่อคุณยังไม่รู้ วันนี้ผมจะทำงาน รบกวนคุณบดินทร์ช่วยส่งรายงานผลสรุปของไตรมาตนี้ให้ผมด้วยนะครับ อ่อ ก่อนเข้าประชุมนะครับพอดีว่าผมรีบ” รอยยิ้มเคลือบยาถ่ายของสิงห์ส่งต่อไปยังบดินทร์ที่ยืนอ้ำอึ้งอยู่ เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา สิงห์ทำงานให้บริษัทตลอด คนที่อยู่เบื้องหลังคนที่คอยพยุงไม่ให้บริษัทล้มก็คือเขาทั้งหมด

ตอนนี้ทุกคนต่างวุ่นวายเพราะท่านประธานเรียกประชุมด่วน ทุกแผนกจึงยุ่งวุ่นวาย ตามหาเอกสารกันให้ขวัก เพราะไม่คิดว่าสิงห์จะเรียกหาเอกสารย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี ตั้งแต่ บดินทร์เข้ามารับตำแหน่ง

“ขอโทษนะครับที่เรียกประชุมกันในเวลาแบบนี้ แต่ผมมีเรื่องด่วนจริงๆ” สิงห์เปิดการประชุมด้วยประโยคที่ตึงเครียด

” วันนี้ผมจะมาแจ้งให้ทุกๆ ท่านทราบถึงโครงการที่เรากำลังจะดำเนินกลาง คือการเปิดโรงแรมแห่งใหม่ที่ เชียงใหม่ ผมต้องการทีมงานและวิศวกรเพื่อไปสำรวจพื้นที่ที่เราจะลงทุนในครั้งนี้ ฝ่ายบัญชีและฝ่ายจัดซื้อพวกคุณช่วยจัดการรายการสั่งซื้อให้ผมด้วย อ่อผมหวังว่ามันจะไม่บานปลายเหมือนครั้งก่อนๆ นะครับ” สิงห์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง ดวงตาดุคมกวาดมองไปทั่วทั้งห้องประชุม ก่อนจะหยุดลงที่บดินทร์ สิงห์จ้องเขาเพียงครู่ก่อนจะเริ่มประชุมต่อ เล่นเอาหลายคนสะดุ้งนิดๆ เหมือนมีชนักติดหลัง แต่วันนี้เขาไม่ได้จะมาจับโจรเขาแค่มาวางเงินล่อโจรเท่านั้น หลังจากจบการประชุมทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำงาน สิงห์เดินกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเอง

ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ประจำตำแหน่ง สองมือวางลงบนโต๊ะพร้อมกับเคาะนิ้วเป็นจังหวะ อย่างสุขใจ อีกไม่นานเขาจะกระชากหน้ากากของสองแม่ลูกนั่นออกมาให้ทุกคนได้รับรู้ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้มาก เพราะระตามีคนหนุนหลังเธอเยอะ ทำอะไรเขาต้องรอบคอบ

16.30น โรงเรียนของนะโม

“พี่จ๋ามาแล้ว ทำไมวันนี้มาเร็วจังครับ” ร่างบางที่พึ่งซ้อมหมากรุกเสร็จและกำลังจะเก็บของ ร่างสูงก็เดินเดินเข้ามาในห้องชมรม

“พี่กลัวหนูรอ” เขาส่งยิ้มหวานๆ ไปให้

“หนูคิดถึงพี่จ๋า ขอกอดหน่อย” มันอ้าแขนเพื่อให้สิงห์เข้ามากอดมัน

“หึหึ น่ารักจังครับ” สิงห์เดินเข้าไปกอดมัน

“อื้อแน่น วันนี้พี่จ๋าใส่น้ำหอมหรอ ไปหาใครมา”

“รู้ได้ยังไงว่าพี่ไปหาใครมาครับ”

“ก็กลิ่นน้ำหอมไม่ใช่ของพี่จ๋า”

“อ่า พี่ไม่ได้ไปไหนครับ วันนี้พี่มีธุระคุยกับลูกค้านิดหน่อย”

“หรอครับ” มันยิ้มเหมือนเชื่อเขาไม่ได้เต็มร้อย ไอ้เอ๋อมันจำกลิ่นน้ำหอมนี้ได้ กลิ่นน้ำหอม ของแป้ง

“กลับกันได้แล้วใช่ไหมครับ” สิงห์ถาม

“ครับ”

ระหว่างทางสิงห์พามันไปกินข้าวที่ร้านอาหารริมน้ำและไปซื้อของที่ห้างใกล้ๆ เพราะของใช้ในบ้านเริ่มจะหมดแล้วทั้งสบู่ยาสีฟัน ทั้งของกินของแห้ง สิงห์พามันเดินไปยังโซนของสด

“อีกกินแกงเขียวหวานจัง” สิงห์แกล้งบ่นว่าอยากกิน คนตัวเล็กแอบมองคนข้างตัวนิดๆ ปากบางเม้มเบ้าๆ

“พี่สิงห์อยากกินหรอ”

“ครับ”

มันแอบเปิดแชทถามพวกเพื่อนๆ ทัน

องครักษ์พิทักษ์เอ๋อ (5)
นะโม

เพื่อนๆ เรามีเรื่องจะถาม

แกงเขียวหวานทำยังไง

รีบตอบเรานะ

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อะไรคะลูก

จะทำแกงเขียวหวานหรอ
นะโม

อื้อ พี่จ๋าอยากกิน

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

แหม่ม อิจฉา คนมีผัว

ปิง

มันแต่ลีลาวันนี้จะได้แดรกไหม?

ไอ้เอ๋อมึงไปซื้อของตามที่กูบอกนะ

เนื้อสะโพกไก่ พริกแกงเขียวหวาน มะเขือเปราะ

เลือดไก่ ใบโหระพา พริกชี้ฟ้า กะทิ น้ำตาลปี๊บ
นะโม

หูยยยย เยอะจัง *0*

แล้วเราจะซื้อหมดไหมเนี้ยะ

ปิง

อยากทำให้ผัวก็ต้องอดทน

ซื้อเสร็จละบอกจะสอนวิธีทำ

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม


มุงทำกับข้าวเป้นหรอวะอิปิง

ปิง

กูไม่ใช่มึงอิชะนีที่เป็นแต่แดก

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อิปิ้งงงงงงงงงงง

อิคว๊ายย

ซีตัสคนจริง

มาทะเลาะอะไรกันในนี้

กูรำคาญ!!
นะโม

ส้มส้มพูดไม่เพราะเลย

ปิงปิง เดี๋ยวเราซื้อของเสร็จจะโทรหานะ

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

มึงทำให้อิลูกด่ากู

ปิง

ไปอาบน้ำนอนเถอะอิชะนี

ตัสมึงจะกินอะไรกูจะได้ทำไปให้ที่ห้อง

ซีตัสคนจริง

เอาตัวมึงมาก็พอ

ถึงห้องแล้วก็จะบอก

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อะ

แชทมีแต่คนมีผัว อวดผัว

กูโสดอยู่คนเดียว

โอเคหายหมด

กุปิดแชทเอง

อิยิมกูรู้มึงเสือกอยู่ ออกมาคุยกับกูวววเดี๋ยวนี้



(read4)







พอได้ข้อความจากปิงมันก็เดินหาซื้อของตามที่ปิงได้บอกไว้ สิงห์ลอบสังเกตมันตลอดและแอบอมยิ้มกับมันด้วย สิงห์รู้ว่ามันทำไม่เป็นหรอกแกงเขียวหวาน แต่เขาเห็นถึงความพยายามของมันที่จะทำให้เขากิน เขาถึงได้ทำเป็นไม่รู้ว่ามันกำลังเลือกซื้ออะไร เขาทำเพียงแค่เดินเข็นรถเข็นตามมันไปเรื่อยๆ จนได้ของครบ ทั้งของกินของให้ มีขนมอีกหลายอย่างที่มันหยิบมาใส่รถเข็นด้วย หลังจากจ่ายเงิน สิงห์ก็พามันเข้าร้านไอศกรีมทั้งคู่นั่งโต๊ะที่ติดกระจกด้านหน้าร้าน เพราะจอดรถเข็นเอาไว้ด้านนอกตรงที่เขานั่งพอดี

“เอาวานิลลา รัมลูกเกด แล้วก็สตอเบอรี่ครับ”

“หนูเอาลูกแดงๆ เยอะๆ”

“งั้นเพิ่มลูกเชอรี่ด้วยครับ” เขาหันไปสั่งเพิ่มกับพนักงานด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

“แล้วพี่จะรับอะไรไหมคะ -//- “พนักงานสาวเอ่ยถามอย่างเขินๆ เธอใจสั่นกับความหล่อเหลาของสิงห์

“ผมขอกาแฟแก้วหนึ่งแล้วกันครับ”

“ค่ะ-///-”

“อย่ายิ้มสิ” พอพนักงานเดินกลับไปไอ้เอ๋อก็ทำหน้าดุใส่

“หึหึ หึง พูดอย่างงี้ครับ”

“หึงไร อะไรคือหึง -3- “

“แบบนี้ไงที่เรียกว่าหึง” สิงห์บอก ไอ้เอ๋อมันหน้าร้อนจนต้องก้มหลบสายตา

“น้องป่าวสักหน่อย” มันแทบจะหยิกขาตัวเองเรียกสติ เพราะทนความเขินสายตาสิงห์ไม่ไหว

ด้านนอกร้านถ้าสังเกตพวกเขาทั้งคู่จะเห็นว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองมายังพวกเขาทั้งคู่ ด้วยความรู้สึกสงสัยในสิ่งที่ตนเองเห็น

“ทำไมทำตัวเหมือนเป็นแฟนกันจังวะ ไหนบอกเป็นพี่ชาย”

ระหว่างที่นั่งกินไอติมสิงห์ก็เอาแต่แกล้งเด็กน้อยของตัวเอง ทั้งแย่งลูกเชอรี่ทั้งแอบหอมแก้ม ตอดเล็กตอดน้อยไม่แคร์สายตาใคร

แชท (แป้ง)

ลูกเจี๊ยบสีชมพู


แป้ง

แกชั้นเจอพี่สิงห์อยู่กับเด็กคนนั้นอีกแล้ว

แป้ง

?

ใครหรอเจี๊ยบ

ลูกเจี๊ยบสีชมพู

ก็เด็กคนนั้นไงที่เจอที่ร้านหมูกระทะ

วันนี้พากันมากินไอติม

แกไหนว่าจะจัดการไง

แบบนี้มันไม่ได้นะเว้ย

พี่สิงห์จะทำแบบนี้กับแกไม่ได้นะแป้ง

แกไม่ใช่ของตายนะแป้ง

แป้ง

เจี๊ยบเจอที่ไหนหรอ

ลูกเจี๊ยบสีชมพู

ที่ห้างxxx

แป้ง
เดี๋ยวเราไปจัดการเอง

แป้งอยู่ที่นั่นพอดี

ขอบใจนะเจี๊ยบ

ลูกเจี๊ยบสีชมพู

ก็แป้งเป็นเพื่อนเจี๊ยบเจี๊ยบก็ต้องช่วยสิ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อิเจี๊ยบบบบบบบบ อิวอก ตอนแรกว่าจะดราม่า แต่พักยกไว้ก่อน จะปูพื้นถล่มสองแม่ลูกให้ย่อยยับ หลายคนลุ้นว่าเนมคือใคร อยากให้ลุ้นกันต่อไปค่ะ 55555555555555 ยังไม่บอกแต่เนมสำคัญแน่นอน ไรท์จะคลายปมครอบครัวสิงห์ก่อนนะคะ แล้วค่อยคลายปมน้อง ผูกไว้เยอะเกิน ต้องไล่อ่านใหม่ เอาเป็นว่า อย่าพึ่งเทน้องกันเน้ออออ

ปล.รักและห่วงใยเสมอ เค้ามีเพจfb ด้วยนะ อยู่หน้าแรกของนิยาย ฝากกดไลค์ด้วยเน้อออ







หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.29 30/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 30-09-2018 10:45:47
อิเจี๊ยบอย่าเลียบด่วนนะมึง ตบหัวทิ่ม
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.29 30/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 30-09-2018 12:36:56
ขอแบบถล่มสองแม่ลูกทีเดียว เหมือนระเบิดรังปลวกเลยได้ไหม555 เอาให้ไม่มีที่ยืนเลย
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.29 30/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-09-2018 14:09:06
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.29 30/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-09-2018 14:31:05
มาเล้ยยย.........แป้งเน่า เหอะ   :hao3:
ใครจะจัดการใครกันแน่  :z6: :z6: :z6:
สิงห์ ใส่ให้หน้าซีด ไปไม่เป็นไปเลย 
พวกชอบมโน แล้วไปเล่าความมโนให้เพื่อนฟัง  :m20: :laugh:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.29 30/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 30-09-2018 17:04:29
  :3125:


:L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.29 30/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 30-09-2018 17:27:21
นะโมกินเยอะๆ ลูก เด๋วหนูจะได้ออกกำลังกายแล้ว  :hao3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.30 7/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 07-10-2018 07:39:06
30

นะโมพาท

เวลาของความสุขมันมักจะผ่านไปเร็วเสมอเลยหนูไม่รู้ว่า หนูจะมีความสุขแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน พี่จ๋าจะเบื่อหนูไหม พี่จ๋าจะอายไหมที่หนูไม่ปรกติ บางครั้งหนูก็ไม่กล้าที่จับมือพี่จ๋าเดิน เพราะอายสายตาที่คนอื่นมองมาที่หนูกับพี่จ๋า หนูกลัวพี่จ๋าไม่ชอบ เพราะถูกมองไม่ดีบ่อยๆ แต่ว่า แต่ว่าพี่จ๋าไม่เคยเลย ไม่เคยที่จะปล่อยมือหนูเลยสักครั้ง พี่จ๋าชอบเอามือหนูไปจับบ่อยๆ ชอบหอมแก้มหนูบ่อยๆ บอกตรงๆ ว่าหนูเขินมากๆ เวลาพี่จ๋าชอบมองหนูแบบหื่นๆ ตัวหนูสั่นไปหมดขนลุกด้วย แต่หนูก็ชอบที่พี่จ๋ามองหนูแบบนั้น เพราะพี่จ๋ามองแบบนั้นกับหนูคนเดียว

วันนี้เรามาซื้อของเข้าบ้าน ซื้อเสร็จก็มากินไอติมกัน หนูชอบไอติมมากๆ โดยเฉพาะลูกแดงๆ ที่อยู่ข้างบน พี่จ๋าสั่งเพิ่มให้หนูด้วย ดีใจจนยิ้มแก้มปริ พี่จ๋ามองหน้าหนูแล้วยิ้มหล่อส่งมาให้ ใจหนูยิ่งเต้นแรง หนูชอบเวลาที่พี่จ๋ายิ้มหวาน พี่จ๋าดูใจดีแล้วก็อบอุ่นมากๆ ระหว่างที่เรากำลังกินไอติมจู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็เดินเข้ามาพวกเรา ใบหน้าสวยๆ ของพี่แป้งกำลังดูไม่พอใจหนูกับพี่จ๋ามากๆ แต่เขายังยิ้ม ยิ้มน่าเกลียด

“พี่สิงห์ มาเที่ยวทำไมไม่ชวนแป้งด้วยละคะ” หญิงสาวถามเสียงกระเง้ากระงอด

“พี่แค่แวะมาซื้อของเข้าบ้าน” พี่จ๋าตอบผู้หญิงคนนั้นกลับไป สีหน้าพี่จ๋าดูไม่ดีเลย เหมือนหงุดหงิด แต่พี่จ๋าก็ยังคุยดีกับพี่แป้งอยู่ พี่จ๋าชวนพี่แป้งนั่งกับเราด้วย

“แล้วเด็กนี่” พี่แป้งชี้หน้าหนูพร้อมกับทำหน้าไม่พอใจใส่

“พี่พาเขามาด้วย พามากินข้าว”

“ทำไมพี่สิงห์ต้องดูแลคนรับใช้ดีขนาดนี้คะ” คนรับใช้หรอหนูไม่ใช่..อึก แต่ที่จริงมันก็ใช่ นี่นา พี่สิงห์หันมามองหน้าหนูแล้วบีบมือหนูเบาๆ อยู่ใต้โต๊ะ

“แป้งก็รู้ว่าน้องไม่ปรกติ พี่จะดูแลนะโมดีกว่าคนอื่นก็ไม่แปลก เพราะพี่รับเลี้ยงเค้า” คำพูดของพี่จ๋าทำไมทำให้หนูเจ็บที่หัวใจจัง หนูมองหน้าพี่จ๋า น้ำตามันจะไหลออกมา หนูอยากออกจากที่ตรงนั้นแต่พี่จ๋าจับมือหนูเอาไว้แน่น

“ถ้านั่นเป็นเหตุผลจริงๆ แป้งก็จะเชื่อแบบนั้นค่ะ” พี่แป้งมองหนูด้วยสายตาที่ไม่ชอบหนูเอามากๆ หนูกลัว

“อืม แป้งอยากกินอะไรก็สั่งเพิ่มละกัน พี่เลี้ยงเอง”

“ค่ะ นี่แกนะย้ายไปนั่งฝั่งนู้นไป ชั้นจะนั่งกับพี่ชายของชั้น” พี่แป้งจิกเสื้อนักเรียนของหนูแล้วดึงหนูออกจากเก้าอี้ พี่จ๋ามองหน้าพี่แป้งนิดๆ แล้วสูดลมหายใจลึก หนูมองหน้าพี่จ๋าสื่อว่าหนูไม่อยากลุกไปไหน แต่พี่จ๋ากลับบอกในสิ่งที่ตรงกันข้ามกัน

“นะโมหนูย้ายไปนั่งฝั่งนั้นก่อนนะครับ” หนูไม่เข้าใจทำไมหนูต้องไปนั่งฝั่งนั้นด้วย

“ทำไมครับ ทำไมน้องไปนั่งฝั่งนู้น ทำไมน้องนั่งข้างพี่จ่าไม่ได้”

“อย่างอแงนะครับ” หนูไม่ได้งอแง หนูแค่ไม่เข้าใจก็หนูนั่งก่อน

“แต่น้องนั่งก่อน น้องนั่งก่อนนี่ครับ” หนูบอกกับพี่จ๋าไปแบบนั้น พี่จ๋ามองหน้าหนูดุๆ ทำไมละ? ทำไมต้องทำหน้าน่ากลัวแบบนั้นด้วย เพราะพี่แป้งหรอ

“นะโม พี่บอกว่าให้ไปนั่งฝั่งนู้น” เสียงพี่จ๋าเข้มขึ้น ..ฮึก พี่จ๋าดุหนู จู่ๆ น้ำตาหนูมันก็ไหลออกมา หนูไม่อยากให้พี่จ๋าโกรธหนู หนูเลยลุกจากเก้าอี้ย้ายไปอีกฝั่ง แต่พี่จ๋าจับมือหนูไว้ก่อน

“อย่าทำหน้าแบบนั้น พี่แค่ให้เราไปนั่งฝั่งตรงข้าม” น้ำเสียงพี่จ๋าอ่อนลง มือใหญ่ของพี่จ๋าบีบมือหนูเบาๆ หนูไม่อยากคิดเองว่าพี่จ๋ากำลังง้อ เพราะท่าทีของพี่จ๋าจะเปลี่ยนไปเสมอเมื่อเจอกับพี่แป้ง หนูมองหน้าเขา น้ำตามันไหลไม่หยุด หนูไม่อยากอยู่ตรงนี้เลย เจอทั้งสายตารังเกียจจากพี่แป้งแล้วก็สายตาจากคนอื่นๆ ด้วย หนูโตแล้วหนูไม่ควรร้องไห้

“น้องอยากเข้าห้องน้ำ”

“ก็ไปสิ หรือต้องให้ไปส่ง” เสียงพี่แป้งแทรกขึ้นมาเหมือนกำลังหงุดหงิด

“น้องไปเองได้ครับ” หนูบอก เพราะห้องน้ำอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านไอติมนี่เอง พี่จ๋าค่อยๆ ปล่อยมือหนู

“เอาโทรศัพท์ไปด้วย เข้าเสร็จก็รีบกลับมานะครับ พี่เป็นห่วง”

“ครับ” หนูหยิบเอาโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย เดินหน้าเศร้าๆ ออกจากร้าน แอบเหลือบตามองเห็นพี่แป้งยิ้มเยาะเย้ย น้ำตามันยิ่งไหล รู้สึกเหมือนโดแย่งอะไรไปสักอย่าง หนูเดินมาที่ห้องน้ำเข้าไปนั่งอยู่ในห้องน้ำห้องว่างๆ ปิดแล้วล็อกมันไว้ ก่อนจะปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา

ก๊อกๆ

ใครมาเคาะ ฮึก ห้องอื่นก็ว่าง หนูไม่อยากสนใจอะไรทั้งนั้นแต่ว่า เขาเคาะไม่หยุดเลย

“ฮึก มีคนเข้า ฮึก มีคนเข้า ครับ”

“ออกมาได้แล้ว” เสียงใคร?

“ฮึก ใครครับ”

“กูเอง เนม ออกมากูรู้ว่ามึงแอบร้องไห้อยู่ในนั้น”

“เนม ฮึกเนมเนมหรอ”

“เออ กูเองเป็นอะไรของมึงเดินร้องไห้ออกมา”

“ฮึกเรา เราไม่รู้”

“ออกมาได้ละ กูจะพาไปส่งบ้าน” เนมเนมบอกพร้อมกับเคาะประตูอีก

“แต่พี่จ๋ายังอยู่ที่ร้านกับผู้หญิง เอ่อ พี่แป้ง”

“พี่ชายมึงเหรอ”

“อา อื้ออ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ออกมาได้ละ”

“แต่เรายังไม่อยากออกไป”

“เราไม่อยากเจอ”

“เห้ออ อะไรของมึงวะ ออกมา! ”

“งืออ ทำไมต้องเสียงดังกับเรา”

“-*- เออ กูขอโทษ ออกมาได้แล้ว” เนมเนมเร่ง หนูรีบเช็ดน้ำตาแล้วเปิดประตูห้องน้ำทันทีที่เนมเห็นหนู คิ้วเค้าก็ขมวดยุ่ง

“มึงร้องไห้”

“หนูป่าว หนูเผลอเอานิ้มจิ้มตา”

“ = = ถ้าจะโกหกมึงช่วยเอาให้เนียนกว่านี้หน่อย ไปล้างหน้าไปกูจะพาไปหาพี่มึง”

“ไม่ไป ไม่ไปได้ไหม” หนูยังไม่อยากไปหาพี่จ๋าตอนนี้

“ไม่ไปแล้วจะไปไหน?”

“ปะ ไป ไปเดินเล่นได้ไหม” หนูลองขอเนมเนม

“- -* แล้วพี่มึงละ”

“ก็เดี๋ยวขอไง” ไม่ขอหรอกถ้าก็ไม่ได้ไป หนูแกล้งทำเป็นกดโทรศัพท์ส่งข้อไปหาพี่จ๋า

“เราบอกพี่แล้วว่าจะเดินเล่น ไปเถอะเนมเนม” เพราะเราอยู่กันหน้าทางเข้าห้องน้ำ

พอดี อีกอย่างหนูกลัวพี่จ๋าจะเห็นด้วย หนูเลยลากเนมเนมออกมาจากที่ตรงนั้น แอบกลัวพี่จ๋าเห็นอยู่เหมือน

“จะลากกูไปไหน ช้าๆ ก็ได้”

“พาเราไปจับตุ๊กตาหน่อย” หนูขอเนมเนมอีกครั้ง เขาก็ชอบทำหน้ายุ่งๆ ใส่หนูแต่ก็ยอมพาไป เราเดินไปที่โซนของเล่น เนมเนมไปแลกเหรียญให้ ได้มาสิบเหรียญเขาให้หนูถือไว้

“จะเอาตัวไหน”

“ตัวสีชมพู”

“อืม” เราสองคนใจจดใจจ่อกับตู้คีบตุ๊กตาตรงหน้า สายตามุ่งมั่นที่จะเอาตุ๊กตาตัวนั้นมาให้ได้เนมเนมตั้งใจและใช้สมาธิอย่างหนักหนูก็ด้วยเกาะตู้ลุ้นจนมือเท้าเกร็งไปหมด

“อ๊ากกกก มันหลุด” เนมเนมตะโกนออกมาเพราะที่คีบมันไม่เหนี่ยวรั้งน้องหมูสีชมพูเลย หนูกับเนมเนมทำหน้าเซ็ง แต่เหรียญเราเหลือเยอะ แค่นี้หนูไม่ยอมแพ้หรอก เนมเนมหยอดเหรียญลงไปอีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้ง จนเราเหลือเหรียญในมือแค่เหรียญเดียว

“งืออ น้องหมู น้องหมู เนมเนม เราจะได้น้องหมูไหม” หนูหันไปถาม เนมเนมทำสีหน้าเครียดๆ แต่ก็ยิ้มให้หนู

“ได้ดิ รอบนี้ได้แน่นอน” เสียงของเนมเนมจริงจังมาก

“อื้อ” หนูกำมือชูขึ้นให้กำลังใจ เราสบตากัน ก่อนจะเพ่งสมาธิไปที่ตู้คีบ โทรศัพท์หนูสั่นนานแล้ว แอบดูก็เป็นเบอร์พี่จ๋าโทรมา แต่หนูยังไม่อยากรับตอนนี้เลย เก็บโทรศัพท์กลับใส่กระเป๋ากางเกงไว้แล้วหันไปสนใจเนมเนมต่อ

ที่คีบหย่อนลงตรงตุ๊กตาน้องหมูแล้วคีบขึ้นมา ทั้งหนูทั้งเนมลุ้นมากมือสั่นใจสั่น

“เย้ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ได้แล้วๆ” ในที่สุดหนูก็ได้มันมาเราสองคนร้องเฮลั่นแล้วกระโดดกอดกันอย่างดีใจสุดๆ เนมเนมล้วงหยิบน้องหมูสีชมพูขึ้นมาให้หนู

“อะของมึง หายเศร้าแล้วดิ” ใช่หนูลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังเศร้า หนูส่งยิ้มให้เนมเหมือนเป็นคำขอบคุณ เพราะเนมทำให้หนูไม่คิดเรื่องของพี่จ๋า

“อื้อ เรามีน้องหมูแล้วเราไม่เศร้าก็ได้”

“อือ ก็ดี ป่านนี้พี่มึงหามึงให้วุ่นแล้วมั้ง มานานขนาดนี้” ยังไม่ทันที่จะเดินกลับไปหาเสียงของใครก็ตวาดดังจนทุกคนสะดุ้ง

“นะโม!! ”

“เฮือกกก!! T^T”

“ใครวะไอ้เอ๋อ”

“ทำไมไม่รับโทรศัพท์พี่!! ” หน้าพี่จ๋าดูน่ากลัวมาก น่ากลัวจนหนูก้าวขาไม่ออกหน้าพี่จ๋าเต็มไปด้วยเหงื่อ เสื้อก็เปียก

“กูถามว่ามันเป็นใคร ทำไมมันต้องโมโหมึงขนาดนั้นด้วย” เนมเนมถาม พร้อมกับดันหนูให้ไปอยู่ด้านหลัง

“พะ พะ พะ พะพี่ เป็น พี่” เวลาหนูกลัวหนูจะพูดติดอ่าง กว่าจะพูดออกมาได้แต่ละคำยากเหลือเกิน ยิงหนูหลบอยู่หลังเนมเนม พี่จ๋ายิ่งดุน่ากลัว

“เดินมาหาพี่เดี๋ยวนี้นะโม!! ” พี่จ๋าเสียงดังมาก หนูกลัว

“มะ มะ มะไม่ ไม่เอา พะ พี่ จะ จ๋าน่ากลัว ฮรืออ” หนูเกาะหลังเนมเนมแน่น

“มึงปล่อยคนของกูกลับมาได้แล้ว” พี่จ๋ามองจิก

“ใจเย็นดิพี่ ไอ้เอ๋อมันกลัวแล้วเห็นไหมเนี๊ยะ”

“มาหาพี่เดี๋ยวนี้! ”

“พี่จ๋าก็อยู่กับพี่แป้ง” หนูบอกกับคนตรงหน้า ไม่กล้าสบตาเลย พี่สิงห์มองตาจิก

“แป้งกลับไปแล้ว” พี่จ๋าพูดเสียงนิ่งๆ พร้อมกับเดินมางพวกเรา มีหลายคนหยุดมองพวกเรา เนมเนมก้มมามองหนูนิดๆ

“พี่ชายมึงแน่เหรอวะ ทำไมหน้าไม่เห็นเหมือนกันเลย”

“หึ” พี่จ๋าเดินมาจนถึงตัวเนมเนม เอื้อมมืออ้อมมาจับแขนหนูเอาไว้ ก่อนจะกระซิบอะไรบางอย่างกับเนมเนม

“ไม่ใช่พี่แต่เป็นผัว ทีนี้มึงจะปล่อยเมียกูมาได้รึยัง”

“อะ อะไรนะ” จู่ๆ เนมเนมก็ทำตาโตแล้วหันมามองหนู อะไรพี่จ๋าพูดอะไร เนมเนมปล่อยมือที่จับหนูไว้ แล้วพี่จ๋าก็ลากหนูออกไปจากที่ตรงนั้น พี่จ๋าบีบมือหนูแรงมาก

“เจ็บ..น้องเจ็บครับ” อยากจะแกะมือพี่จ๋าออกแต่ติดตรงที่อีกมือกอดน้องหมูเอาไว้แน่นกลัวมันหล่นหาย ฮึก ทำไมวันนี้พี่จ๋าใจร้ายกับหนูเยอะจัง

“....” โดนลากมาจนถึงรถพี่จ๋าจับหนูยัดเข้าไปแล้วปิดประตูใส่เสียงดัง ตอนนี้น้ำตาหนูไหลออกมาแล้ว ฮึกหนูกลัว

“ไปไหนทำไมไม่บอกพี่” ตอนนี้พี่จ๋าโกรธหนูมากๆ โกรธจนไม่หันมามองหน้าหนู

“ก็...” หนูไม่รู้จะแก้ตัวยังไง แล้วหนูก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย หนูแค่ไม่อยากเห็นพี่จ๋าอยู่กับพี่แป้ง

“ตอบพี่มานะโม ทำไมไปไหนไม่บอกพี่ แล้วไอ้เด็กนั่นอีก รู้จักกันเหรอถึงได้กอดกันขนาดนั้น”

“เนมเนมเป็นเพื่อน”

“เพื่อนแล้วทำไมต้องกอดกันแบบนั้น”

“คืออ น้อง”

“พี่ไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรทั้งนั้น เราทำให้พี่โกรธ และพี่โกรธมาก”

“ฮึก..”

“พี่เป็นห่วงเราขนาดไหนรู้ตัวบ้างไหม! ” พี่จ๋าจับไหล่หนูแน่นแล้วก็เขย่าแรงๆ หนูกลัว พี่จ๋าน่ากลัว ฮรืออ

“หนูกลัว ฮีก อย่าทำแบบนี้ ฮรืออ อย่าทำ ฮรืออ”

“กลัวแต่กับพี่แล้วไอ้เด็กนั่นละไม่กลัวเลยเหรอ ถ้ามันพาเราไปทำอะไรมิดีมิร้ายละ ทำไมไม่คิดบ้าง”

“ฮึก เนมเนม เป็นคนดี”

“เหอะ” พี่จ๋าจ้องหน้าหนู เหมือนโกรธและน้อยใจไปด้วย แล้วหนูละหนูไม่มีสิทธิโกรธพี่จ๋าเลยเหรอ

“ก็พี่จ๋า อยู่กับพี่แป้งแล้วนี่ น้องก็อยากอยู่กับเพื่อนบ้าง”

“....”

“พี่จ๋าเอาแต่ไล่น้อง ทั้งๆ ที่น้องอยากจะนั่งกับพี่จ๋า เพราะพี่แป้งจะนั่ง”

“......”

“สู้น้องไม่อยู่ตรงนั้นซะยังดีกว่า ฮึก “

“แล้วไม่คิดบ้างเหรอว่าพี่จะเป็นห่วงเราแค่ไหน พี่จะบ้าตายอยู่แล้วนะ นะโม”

“ฮึก”

“แค่เห็นเราเดินตามใครก็ไม่รู้ไปพี่ก็แทบคลั่ง โทรหาก็ไม่รับ พี่ตามหาเราทั่วห้าง รู้ไหมว่าพี่กลัวมากขนาดไหน กลัวว่าเราโดนทำร้าย ทำไมไม่คิดถึงใจพี่บ้าง” พี่จ๋าพูดด้วยเสียงที่นิ่งเรียบจนหนูไม่กล้าพูดอะไรออกไป พี่จ๋าน่าเครียดลงมากกว่าเดิม เขาปล่อยมือจากตัวหนูแล้วเอาไปกุมหน้าตัวเอง

“พี่แค่เป็นห่วงเรา”

“ฮึก..”

“เรื่องของแป้ง ครั้งหน้าพี่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก”

“ฮึก”

“พี่ขอโทษนะครับ”

“ฮรืออออออ” จู่ๆ น้ำตามันก็ไหลท่วมใจหนูมันหวิวๆ บอกไม่ถูกแค่เห็นว่าพี่จ๋ามองที่ตาของหนู หนูรับรู้ได้ว่าพี่จ๋าเป็นห่วงหนูขนาดไหน

“ทีหลังอย่าไปไหนกับคนแปลกหน้าแบบนั้นอีกนะรู้ไหม” พี่จ๋าดึงหนูเข้าไปกอดแน่น ความน้อยใจเสียใจวันนี้มันพังทลายหายไปหมดแล้ว เหลือแต่ความดีใจที่มันค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมา หนูกอดตอบพี่จ๋า

“น้องขอโทษ ฮึกน้องขอโทษ”

“.....”

“พี่จ๋าหายโกรธน้องนะ” หนูช้อนตาขึ้นมองอย่างอ้อนๆ ไม่อยากให้พี่จ๋าโกรธแล้ว

“อย่าทำหน้าอ้อนใส่พี่ เราทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ”

“งืออ พี่จ๋าก็ผิด”

“ผิดยังครับ” พี่จ๋าดันตัวหนูออกแล้วดันคางให้หนูเงยหน้าสบตา ใบหน้าหล่อๆ ของพี่จ๋ายื่นเข้ามาใกล้ หนูใจเต้นแรงมาก ไม่กล้าสบตาเลย

“พะ พี่จ๋า ไม่สนใจน้อง พี่จ๋าสนใจแต่พี่แป้ง”

” พี่จำเป็น”

“จำเป็นอะไรหรอครับ ฮึก”

“พี่บอกไม่ได้ครับ”

ทำไม? ทำไมถึงบอกหนูไม่ได้ อยากถามแต่หนูคิดว่าพี่จ๋าคงไม่บอก เลยได้แต่เก็บคำถามไว้ในใจ

“ฮึก”

“กลับบ้านเราจะต้องคุยกันถึงเรื่องบทลงโทษนะครับ”

“งืออออออออออ”

(จบพาทนะโม)



............................................

ติ้ง ติ้ง ติ้ง เสียงแชทของร่างเล็กที่นั่งก้มหน้าก้มตารัวแชทกับเพื่อนในกลุ่ม จนคนข้างกายนึกรำคาญ เพราะหลังจากที่คุยกันเรียบร้อยคนตัวเล็กก็ไม่สนใจตนอีกเลย



แชทองครักษ์พิทักษ์นะโม (5)
[/b]

นะโม

ทุกคนช่วยเราด้วย

พี่จ๋าจะลงโทษเรา

เรื่องเราหนีเที่ยวกับเนมเนม

ซีตัสคนจริง
[/b]

?

ไอ้เนม

มึงไปกับมันได้ยังไงไอ่เอ๋อ

ปิง

ยังไงไหนเล่าดิ๊

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อะไรอิลูกเดี๋ยวนี้มึงแอบซุกผู้ชายเหรอ
นะโม
เราเปล่านะส้ม

คือว่าพี่พาเราไปซื้อของแล้วก็กินขนมแต่ว่าพี่แป้งมา

เราเลยเดินออกไปเข้าห้องน้ำแล้วเจอเนมๆ เข้า

เนมเนมรู้ว่าเราร้องไห้เลยพาเราไปเดินเล่น

พี่จ๋ามาเจอเลยโกรธเรามาก

ซีตัสคนจริง

แล้วมึงไปกับมันทำไม ก็รู้ว่ามันนิสัยไม่ค่อยจะดี

ปิง

มึงก็อย่าพึ่งใส่อารมณ์

ฟังมันก่อน

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

มาถึงก็เกรี้ยวกราด มันต้องมีอะไรที่ลึกกว่านั้นดิ

ไม่งั้นลูกกูไม่ร้องไห้หรอก

เล่าละเอียดๆ

นะโม

คือว่า พี่แป้งเค้า งืออ

พี่จ๋าไล่เราให้ไปนั่งอีกฝั่งเพราะพี่แป้งจะนั่งข้างๆ พี่จ๋า

เราไม่ชอบเราเสียใจ

พี่จ๋าดุเราด้วย เราเลยร้องไห้

ปิง

อะ

กูว่าละ

ใจเย็นมึง พี่สิงห์เค้าไม่ทำอะไรมึงหรอก

ดุไปงั้นแหละ

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

พิษรักแรงหึง

พัดกระจาย

อิดอก

นะโม

พี่จ๋าทำหน้าดุใส่เรา

มองจิกเรากะเนมเนม น่ากลัวมาก

แถมบีบไหล่เราแรงมากๆ

เราเจ็บปิงปิง แล้วพี่จ๋าก็พูดอะไรกับเนมเนมไม่รู้

ปิง

เห้ออออ
ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

พี่สิงห์เกรี้ยวกราดเว้อ

อารมณ์รุนแรง

อยากจะกรี๊ดดกับความ

หึงของพี่มัน
ซีตัสคนจริง

ไม่ต้องกลัว พี่มันไม่ตีมึงหรอก

แต่อย่างอื่นอะไม่แน่

ระวังตูดมึงไว้เถอะ

@ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

มึงชื่อนะโมรึเปล่าละ

ถ้าไม่ใช่อย่าฝันครับ
ปิง

มึงพูดอะไรของมึงเนี้ยะตัส

นี่ไอ้เอ๋อไม่ใช่อิส้ม

ที่จะแรดแบบนั้น
ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

ขอบคุณที่ชมกู

นะโม

ปิง แรดนี่เป็นคำชมเหรอ

ส้มส้ม แรดจังเลย^^

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อิลูกมึงไม่ต้องหัดชมกูค่ะ

อิเหี้ยชมกูแรดได้น่ารักมาก

อิปิงอิคว๊ายยย

ไปตายซะ
ปิง

55555

ซีตัสคนจริง

5555 ตลกวะแมร่งง

Yimmy

คุยไรกันวะ

นะโมจ๋า

เราคิดถึง
นะโม

เราก็คิดถึงเนมเนม

พี่จ๋าดุเราอีกแล้ว

ดุเป็นหมาเลย

Yimmy

นะโมบอกคิดถึงกูด้วย*0*

ซีตัสคนจริง

ขี้มโน วะ

ปิง

มันก็คิดถึงทุกคนมะ

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

วร้ายยย

นะโม

ทุกคนเดี๋ยวเรามาคุยด้วยใหม่นะพี่จ๋า

บอกจะยึดโทรศัพท์เราแล้ว

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อะ คุยกับเพื่อนก็ยังหึง

โอ้ยยย

กุอยากจะเกิดมาเป็นนะโม








.............................................................

“จะเลิกพิมพ์ได้รึยังครับ”

“คุยกับเพื่อนอยู่ครับ”

“จะไม่คุยกับพี่แล้ว?” ร่างสูงทำหน้าดุอีก เขาไม่ชอบที่คนตัวเล็กไม่สนใจตนเองแบบนี้

“ป่าวครับ ก็น้องไม่รู้จะคุยอะไรกับพี่จ๋านี่ พี่จ๋าจะทำโทษน้อง”

“หึ พี่มันไม่สำคัญเท่าเพื่อนๆ เราใช่ไหม”

“ป่าวครับ”

“งั้นคุยกับพี่”

“งืออ พี่จ๋า”

“ไม้คุยพี่จะยึดโทรศัพท์นะ”

“ก็ได้ครับ หื้ออ คนแก่นี่ขี้เหงาเนอะ” ร่างเล็กกระซิบบ่นกับตัวเองเบาๆ

“พี่ได้ยินนะ!! ”

“งะ หูดีอีกแล้ว -3- “



พอถึงบ้านต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันเข้าห้องของตัวเอง สิงห์แปลงใจที่นะโมไม่ยอมตามเข้ามาในห้องแต่กลับเดินไปที่ห้องนอนของตัวเอง พร้อมกับถุงขนม ด้วยความสงสัยเลยแอบตาไปดู เห็นร่างเล็กลากกล่องไม้ใบใหญ่ออกมาจากที่ซ่อน ก่อนจะค่อยๆ เรียงขนมใส่ลงไปใบหน้าหวานอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา ในอ้อมแขนมีตุ๊กตาหมูตัวอ้วนสีชมพู ที่เจ้าตัวกอดไม่ยอมปล่อย

“แอบเอาขนมมาซ่อนไว้ที่นี่เอง ตัวแสบเอ๊ยยย” สิงห์แอบมองคนของตัวเองด้วยรอยยิ้มแล้วหันหลังกลับไปรอร่างเล็กที่ห้องของตัวเอง





.....................................................................

“เจออะไรบ้างไหมเนม” เสียงปลายสายถามออกมาอย่างมีความหวัง

“ยังเลยครับพ่อ พ่อไม่ต้องห่วงนะครับผมจะหาพี่ให้เจอ”

“ขอบใจมากนะลูก พ่อทำผิดกับพี่ของลูกกับแม่ของเขาด้วย พ่ออยากจะไถ่บาป ก่อนพ่อจะตาย”

“ไม่พูดแบบนั้นนะครับ เราจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ผมสัญญา”



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาแล้วปริศนา ว่านะโมเป็นใคร เนมเป็นใคร พื้นฐานครอบครัวไว้ตอนหน้าเนอะ

ฝากน้องด้วยนะคะ

ปล.ขอบคุณล่วงหน้านะคะ





หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.30 7/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 07-10-2018 08:59:28
ก็คิดไว้แล้วว่าเนมต้องเป็นน้องคนละแม่กับนะโมซื้อหวยทำไมไม่ถูกเนี่ย
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.30 7/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-10-2018 09:29:13
เนม เป็นน้องของนะโม ?

ว่าที่จริง พี่สิงห์ก็บอกไรๆให้นะโม รู้บ้างก็ดีนะ
นี่ไม่รู้ไรเลย แถมแป้งเน่าก็มาเกรี้ยวกราด
อยากนั่งข้างพี่ชาย เหอะ.......
ถ้าคิดแค่พี่ นั่งตรงไหนก็ได้ เหม็นแป้งเน่า  :fire: :angry2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.30 7/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-10-2018 20:03:18
 :fcuk: ขอทีที่หัว ตามตัวต่างหาก นังแป้งหมัก
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.30 7/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-10-2018 22:00:19
ง่าา เนมเนมเป็นพี่นะโม เหรออ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.30 7/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 08-10-2018 01:00:10
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.30 7/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 08-10-2018 01:49:46
อ๋อออออออออ! เนมเนม งั้นก็ได้องครักษ์มาพิทักษ์พี่อีกหนึ่งอะดิ อิอิ ลุ้นเชียร์ให้นะโมเจอหน้าพ่อ ดีนะที่เนมเป็นคนดี //รอวันยัยแป้ง เน่าจนขึ้นรา ร้ายนักนะ!! //ไลน์กลุ่มเด็กแสบยังคงฮาเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมไอ้เอ๋อเริ่มจะเม้าท์เก่งละ 55555 //อ๋อ ขอดุนะโมนิดนึงถึงจะโกรธ งอนพี่เขายังไง แต่เราจะไปไหนมาไหนต้องโทรบอกก่อนนะ เพราะถ้าไม่ใช่คนดี ซวยเลยทีนี้ อย่าไว้ใจใครง่ายๆ //นับวันรอพี่สิงห์จัดการครอบครัวนางร้าย และรอวันนะโมเจอหน้าพ่อ อย่าเพิ่งสายเกินไปนะ //รอตอนต่อไปเลยค่ะ ชอบบบบบบ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.30 7/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-10-2018 04:58:31
ปมมาอีก1 เมื่อไหร่ยัยแป้งจะโดนกำจัดสักที
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.28 23/9/61
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 08-10-2018 05:10:07
... แล้วนี่ยังมี "เนม" เข้ามาอีก
//แอบคิดว่า เนม คือพี่ชายคนละแม่ของนะโมนะเนี่ย

ว้าวววว เหมือนถูกล็อตโต้(ที่ไม่เคยซื้อ)รางวัลที่ 2
ผิดแค่ ... เนมเป็นน้องเท่านั้นเอ๊งงงงง

ส่วนอิพี่จ๋า ... ไม่ไหวอะ
ตรงไทป์พระเอกละครน้ำเน่าในทีวีมากไปแล้ว
เป็นการวางแผนที่ไม่ได้สื่อว่า ฉลาด อะไรเลย
เสียดายสมองหมอสัตว์

นะโม ... พอเนมเนมพาไปเจอพ่อ
นะโมไม่ต้องกลับมาหาพี่จ๋านะลูก เล่นตัวเยอะ ๆ
ให้อกแตกตายไปเลยลูก  :katai1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.31 14/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 14-10-2018 10:18:42


31





นั่งรอน้องเดินกลับมาหาแล้วแกล้งทำหน้าดุ จนน้องจะร้องไห้ ผมไม่ได้อยากแกล้งแต่น้องน่าแกล้งจริงๆ ใครเห็นก็คงอยากจะแกล้งเหมือนผม ยอมรับว่าตอนนั้นผมโมโหจริงๆ โมโหที่ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาแทรก โมโหที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้ ผมเห็นว่าน้องเดินออกจากห้องน้ำแล้วไปกับคนแปลกหน้า ใจผมหล่นไปถึงตาตุ่ม ตอนนั้นผมทำอะไรไม่ได้เลย แป้งเกาะติดผมไม่ปล่อย ผมรอจนแป้งขอตัวไปเข้าห้องน้ำผมถึงได้ออกตามหาน้อง แต่รู้อะไรไหมครับ ภาพที่ผมเห็นตอนน้องเดินออกไปกับภาพที่ผมเห็นตอนนี้อารมณ์มันต่างกันอย่างสิ้นเชิง น้องยิ้มน้องหัวเราะ พร้อมกับกระโดดกอดกับไอ้หน้าอ่อนที่พาน้องออกไป ใจผมร้อนรุ่มเหมือนมีคนเอาไฟมาสุม

“นะโม!! ” ผมเรียกน้องเสียงดังเพราะลมหึงมันตีหน้า น้องสะดุ้งตัวโยนก่อนจะวิ่งไปหลบที่หลังของไอ้หน้าอ่อนคนนั้น ยิ่งน้องทำแบบนั้นผมยิ่งไม่พอใจ ผมลากน้องออกมา ที่รถกว่าจะคุยกันรู้เรื่องน้องก็ร้องไห้ไปหลายยกเช่นกัน ครั้งนี้น้องพูดความในใจออกมาหมด คำพูดน้องเหมือนน้ำทิพย์ดับไฟในใจผม ใบหน้าหวานนองไปด้วยน้ำตา ปากบางงุ้มเข้าอย่างน่ามันเขี้ยว

น้องหึงผมกับแป้ง น้องหึง ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก น้องไม่ชอบที่ผมอยู่กับแป้ง ผมเคยบอกแล้วว่าน้องจะต้องร้องไห้อีก เพราะผม และผมจะทำให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้เห็นน้ำตาของคนที่ผมรัก เรากลับมาบ้าน น้องก็หนีเข้าห้องของเขา ผมแอบตามไปดูก็เห็นเขาเอากล่องสมบัติใต้เตียงออกมาเอาขนมที่ซื้อมาซ่อนไว้ ถึงว่าขนมหายไปไหนหมด แอบมาซ่อนเอาไว้ที่นี่เอง ผมเดินกลับมารอเขาที่ห้อง รออยู่นานเขาก็ไม่ยอมเข้ามาสักที ผมเลยเดินกลับไปที่ห้องเขาอีกครั้ง

“หลับแล้ว” ใช่ครับน้องนอนกอดตุ๊กตาหมูสีชมพูอยู่บนที่นอน ดวงตาบวมแดงเห็นแล้วสงสาร ผมค่อยๆ ช้อนตัวเขาขึ้นมาแล้วพาไปที่ห้องของตัวเอง วางเขาบนที่นอนแล้วก็ถอดเสื้อนักเรียนเขาออก ผิวขาวผ่องปรากฏให้ผมเห็นแล้วกลืนน้ำลายเล่นๆ ขาวมาก ขาวจนอยากจะทำรอยเอาไว้

“งือออ เย็น อย่า” น้องส่งเสียงร้องออกมาพร้อมกับปัดมือผมที่กำลังจะแก้กางเกงเขาออก

“จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ไงครับ”

“พี่จ๋า*0*” เขาสะดุ้งตื่นลุกขึ้นมาแล้วทำตาโตใส่ผม เหมือนตกใจ

“อ้าว ถ้า ตื่นแล้วก็ลุกไปอาบน้ำครับ”

“งือ -///- พี่จ่าแอบดูนมน้องหรอ” น้องยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเอง แล้วมองหน้าผม ใบหน้าสวยๆ ของเขาขึ้นสีระเรื่อทัน

“ใส่ร้ายพี่อีกแล้ว พี่แค่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เราเฉยๆ”

“จริงหรอ? พี่จ๋าแค่จะเปลี่ยนเสื้อจริงหรอ” มาทำเอียงคอใส่อีก

“อย่าทำหน้าแบบนั้นใส่พี่นะครับ ถ้าหนูไม่อยากเจ็บตัว”

“พูดแบบนี้อีกแล้วนะ พี่จ๋านะ พี่จ๋าเป็นคนชอบทำร้ายร่างกายคนอื่นหรอ”

“หืมม เดี๋ยวนี้ทำไมต่อปากต่อคำเก่ง” ผมว่าเขาอย่างไม่จริงจังนักออกจะขำซะด้วยซ้ำไป น้องมีพัฒนาการมากในหลายๆ ด้าน อาจจะเพราะเขาเริ่มมีเพื่อนมีสังคม แต่โลกภายนอกก็ยังอันตรายสำหรับเขา ถ้าวันนี้คนที่พาน้องไปไม่ใช่เพื่อนน้องจะเป็นยังไงผมไม่อยากคิดเลย และเราต้องคุยกันเรื่องนี้ด้วย น้องเงยหน้ามองผมอย่างเอาเรื่อง แต่ผมมองเหมือนแมวขู่มากกว่า

“ทำไมว่าน้อง!! หึ พี่จ๋านะ ไม่รู้อะไรเล้ยย ดีแต่ทำหน้าดุใส่น้อง” แหนะยังมีว่าผมอีก

“ดุยังไงครับ” ผมถามกลับ เขาก็ทำหน้าดุให้ผมดู

“ดุ ดุ แบบนี้ หึ่มๆ จิกตาใส่ด้วย จิกเป็นไก่เลยด้วย”

“หึหึ”

“นะ ว่าแล้วยังจะมาหัวเราะใส่ อีก นิสัยไม่ดี นิสัยไม่ดี” น้องพูดด้วยใบหน้าที่งองุ้ม ดูแล้วก็ตลก

“น่ารักจังครับ”

“-///- นะ น่ารักอะไร นี่หน้าน้องกำลังดุ ดุงาย”

“อย่ามาทำเป็นดุพี่กลบเกลื่อนความผิดตัวเองนะครับ”

“*0* โอ๊ะ น้องปวดท้อง” พอรู้ว่าผมจะไม่ปล่อยผ่านเรื่องเมื่อเย็น เขาก็แกล้งร้องว่าปวดท้องเพื่อจะหนีการลงโทษ เจ้าเล่ห์จริงๆ

“จะไปไหนครับ” เขาทำท่าจะวิ่งลงจากที่นอน ผมเลยคว้าเอวเขามากอดไว้

“งื้อออ” น้องดิ้นอยู่บนตักผม ยิ่งดิ้นผมยิ่งกอดแน่น แล้วก็หอมเขาไปหลายฟอด หอมจนแก้มเขาแดงและค่อยๆ หยุดดิ้น

“ทำอารายยแบบนี้ น้องเขินนะรู้ไหม? ( ‘’ ) ” โอ้ยยยย น้องงง ผมอยากจะกรีดร้องออกมาเสียงดังๆ กับท่าทางแบบแมวๆ ของเขา ช้อนตาขึ้นมามองผมแล้วพูดแบบนั้น คิดว่าผมจะอดใจไหวไหม

“อย่าทำแบบนี้ พี่ขอ”

“ขออะไร ขอได้นะ น้องให้พี่จ่าได้หมดทุกอย่างเลย” เนี้ยะ น้องเป็นแบบนี้อะ แล้วคนห่ามแบบผมจะทนไหวไหม

“ให้พี่จริงเหรอครับ” ผมยิ้มพร้อมกับใช้มือลูบแก้มเขา

“อื้อ ให้ได้หมดถ้าพี่จ๋าไม่ตีน้อง” ใครแมร่งจะไปทำลงวะ!! ผมช้อนตัวไอ้เด็กแสบที่มาท้าทายพลังมืดในตัวผม ขึ้นพาดบ่า เขาร้องโวยวายออกมาเพราะว่ากลัวจะตก ผมจับเขาไว้แน่นพอไม่มีทางตกลงมาแน่นอน เดินพาเขาไปที่ห้องน้ำ วันนี้เราจะลงโทษกันในนั้น

“งื้อออ อย่านะ อื้มมม อื้ออ” ทันทีที่ผมวางเขาลงผมก็จู่โจมด้วยการจูบเขา ปากเล็กนุ่มนิ่มกำลังโดนผมบดเบียดริมฝีกปากลงไป อาจจะรุนแรงไปนิดแต่รับรองน้องไม่ต่อต้านแน่ๆ เพราะเขาออกจะชอบ ร่างกายของเราสองคนกำลังบดเบียดเข้าหากัน เหมือนกับโหยหากันมานาน น้องเรียนรู้เรื่องแบบนี้ได้ดีพอๆ กับการเรียน แต่ก็ยังไม่เก่งเท่าผม

“อืมม อื้ออ” เสียงครางหวานๆ ดังออกมาเป็นระยะๆ ผมยังไม่ถอนปากออกแต่ก็พักให้เขาได้หายใจ พอน้องเริ่มเผลอผมก็สอดลิ้นร้อนๆ เข้าไปในโพรงปากของเขา กวาดต้อนลิ้นเล็กๆ ของเขาอย่างหิวกระหาย กับน้องผมไม่เคยจะพอ ต่อให้ตักตวงมากเท่าไหร่มันก็เหมือนน้ำซึมบ่อทรายที่ให้เท่าไหร่มันก็ไม่เคยพอ ผมถอนริมฝีปากออกก่อนจะงับลงที่ต้อนคอเขาเบาๆ อยากทำรอย แต่ทำไมได้ เลยต้องเลื่อนลงไปที่ไหปลาร้า ดูดเม้มสร้างรอยรักเอาไว้

“อื้อ เจ็บ งือ พี่จ๋า” น้องร้องออกมาเบาๆ ตอนนี้ร่างกายของเราเปลือยเปล่าไม่มีเสื้อผ้าให้เกะกะสักชิ้น ผมลากน้องมาที่ใต้ฝักบัวหันหน้าน้องเข้ากับผนังโดยที่มีผมยืนซ้อนหลังอยู่

“จะทำอะไรหรอ?” สองมือเล็กยันกับผนังก่อนเอี้ยวหน้ามาถามผม หน้าน้องดูเหมือนคนเป็นไข้ ดวงตากลมสวยหวานเยิ้ม

“ทำโทษไงครับ”

“อื้ออ แต่ว่าแบบนี้ อื้ออ” ผมเอื้อมมือไปทางด้านหน้าแล้วกดมือลงกับส่วนอ่อนไหวของน้อง น้องตัวสั่นไปหมด สองขาอ่อนแทบจะยืนไม่อยู่ ผมลูดชักจนมันแข็งสู้มือ เสียงน้องครางหวิว

“อ่ะ อา อ่ะ อื้ออ” ผมจับใบหน้าหวานๆ ให้หันมาตอบรับจูบของผม มือผมลูบไล้ตามเนื้อตัวขาวๆ ผิวน้องลื่นมือมากจนผมอดที่จะบีบเค้นมันแรงๆ ไม่ได้

“อ๊า เจ็บ” น้องร้องออกมาพร้อมกับทำหน้าดุใส่ผม

“หึหึ” เสียงหัวเราะของผมมันดูเหมือนคนโรคจิต พอเห็นคนตรงหน้าทำสีหน้าที่เจ็บปวดแบบนั้น

“พี่จ๋า น้อง อื้ออ” ยิ่งผมสัมผัสร่างกายน้องมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้ยินเสียงครางดังมากขึ้นเท่านั้น

“พร้อมให้พี่ลงโทษรึยังครับ?”

“ไม่เอา อื้ออ อ่ะ อย่า” ผมเลื่อนมือขึ้นไปขยี้ยอดอกสีสวย น้องกระตุกเฮือกทันที ผมพลิกให้ร่างบางตรงหน้าหันมทางผมดันเขาจนติดกำแพง แล้วคุกเข่าลงกับพื้น ก่อนครอบปากลงกับส่วนนั้นของเขา

“อ๊า..อื้ออ” เสียงหวานครางหวิวออกมา น้องตัวสั่นระริก มือเล็กยกขึ้นขยุ่มลงบนหัวของผมพร้อมกับขยับสะโพกตามจังหวะของริมฝีปากของผม น้องเปล่งเสียงครางออกมาไม่หยุด เพื่อระบายความเสียวออกมา

“อื้อ พี่จ๋า อ๊า อ๊ะ น้อง ว่า น้องไม่ไหวแล้ว อ่ะ อื้อ”

“พี่ก็จะไม่ไหวเหมือนกันครับ” ผมกำลังตักตวงรสหวานจากปลายยอด น้ำสีใสเอ่อล้นออกมาผมใช้ลิ้นเลียมันจนหมด ร่างบางสั่นเทิ้มก่อนจะกระตุกแรงๆ สองสามครั้ง น้องปลดปล่อยออกมา ผมกลืนน้ำนมสีข้นลงคอ หน้าน้องแดงตอนมองผมกลืนกินส่วนนั้นของเขา

“อ่ะ อา”

ผมยืดตัวขึ้นพร้อมกับกอดน้องไว้แนบอก เสียงหอบหายใจของน้องดังอยู่ข้างๆ หูผม น้องคงจะเหนื่อย ผมเปิดน้ำฝักบัวเพื่อให้น้ำไหลผ่านช่องทางอ่อนนุ่ม มันเป็นตัวช่วยที่จะทำให้น้องไม่ต้องเจ็บมาก ผมลากนิ้วผ่านกลางหลังไล่ลงไปตรงช่องทางด้านหลังอย่างช้าๆ น้องตัวสั่นด้วยความตื่นเต้นและหวาดกลัว

“อื้ออ” ผมต่อยๆ กดนิ้วลงไปด้านใน ข้างในตัวน้องอุ่นร้อนและตอดรัดนิ้วผมแน่น

“ถ้าเจ็บ กัดไหล่พี่ก็ได้นะ” ผมกระซิบบอกเขา ไม่นานน้องก็กัดลงมาจริงๆ เจ็บครับแต่ทนได้ ผมกวาดนิ้วเพื่อขยายช่องทางให้รับตัวตนของผมได้ จากหนึ่งเป็นสองและสาม เมื่อผมความโดนจุดจุดหนึ่งที่ทำให้น้องต้องกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง ผมเลยต้องกดย้ำๆ จนเขาครางหวานออกมาไม่หยุดสองมือจิกลงที่หลังของผมปากก็กัดลงที่ไหล่

“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ พี่ พะ พี่สิงห์ พี่สิงห์” เขาครางชื่อผมออกมาเสียงกระเส่า เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกชื่อผมโดยที่ผมไม่ต้องบังคับบอก ดวงตาหวานฉ่ำ สบมองผมอย่างเย้ายวน เขาเย้ายวน หลอกล่อให้ผมติดกับได้โดยธรรมชาติไม่ต้องมีการปั้นแต่งใดๆ ผมก้มลงบดจูบ ส่งมอบจุบที่แสนเร่าร้อน ลิ้นเราพันกันไปมา อย่างไม่รู้จบ สูบพลังที่เหลือน้อยนิดของน้องออกมาจนหมด

มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รับรู้ถึงบทรักอันร้อนแรงของเรา ผมพลิกน้องให้หน้าเข้ากำแพงอีกครั้ง กดหัวเขาลงต่ำแล้วกระชับเอวเขาไว้ ผมลากท่อนเอ็นของผมผ่านร่องลึกนั่นก่อนจะค่อยๆ กดส่วนปลายหัวเขาไปอย่างช้าๆ น้ำเป็นตัวหล่อลื่นชั้นดี เพราะมันเข้าไปได้ง่ายกว่าครั้งแรกที่เรามีอะไรกัน ผมดันตัวตนเข้าไปจนสุดความยาว น้องผวาเฮือกแล้วสะอื้นออกมาเบาๆ

“เจ็บเหรอครับ” ผมถามแต่น้องส่ายหน้าเบาๆ อ่า ทำไมถึงได้น่ารักแบบนี้นะ จะทำให้ผมหลงไปถึงไหน น้องทำหน้าอึดอัด และผ่อนลมหายใจเข้าออกเพื่อระบายความอึดอัดที่คับแน่นอยู่ที่ด้านหลัง ผมไม่ขยับเพื่อให้น้องได้ปรับตัว แต่ว่าน้องกลับบีบรัดแท่งร้อนผมไม่หยุด

“อะ อืออ -///- มัน อา พี่จ๋า”

“มันทำไมครับ”

“อึดอัด อึก อื้อ”

“พี่จะขยับแล้วนะครับ” พูดจบผมจึงขยับเอวสอบกระแทกลงไป

ปึก

“อ๊ะ”

ปึก ปึก

“อะอ๊ะ อื้อ” เสียงน้องหวานจนใจผมสั่นไปหมดตื่นเต้นยิ่งกว่าขึ้นครูครั้งแรกเสียอีก ผมมองร่างกายของเราที่เชื่อมต่อกัน ตอกย้ำความสัมพันธุ์ที่เกิดขึ้น มันคือการร่วมรักไม่ใช่แค่เซ็กผมไล่สายตามองส่วนกลางกายที่ขยับเข้าไปทักทายกลีบเนื้อบางนุ่ม ยามที่สอดแทรกด้านในก็จะบีบรัดจนเขาอยากจะกระแทกลงไปแรงๆ

“อืมม ตอดพี่เก่งจังครับ”

“อะอ๊า..พี่จ๋าน้อง รู้สึกดีจัง” ใช่จะไม่ให้รู้สึกดีได้ยังไง ผมตั้งใจทำให้น้องมีความสุข ผมกระแทกเอวลงกับบั้นท้ายน้องเพิ่มกำลังรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนน้องตัวโยก และกรีดร้องเสียงหลง

“อะ ซี๊ดดดดดดด นะโม” แรงบีบรัดระรัวทำเอาผมแทบคลั่ง ร่างกายเราสองคนร้อนละอุจนน้ำก็ไม่อาจทำให้เราเย็นขึ้น

พั่บ พั่บ

เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นในพื้นที่ส่วนเล็กๆ อย่างห้องน้ำ บรรยากาศมันร้อนด้วยแรงราคะที่ถ่าโถมเข้าหากัน น้องจิกเล็บลงกับผนังห้องน้ำ กัดปากตัวเองแล้วมองผมอย่างยั่วยวน สายตาเว้าวอนกำลังบอกผมว่าแค่นี้มันไม่พอ!!

ปึกปึกปึก

“อะ อื้อ อ๊ะ อื้ออ อ๊า พี่สิงห์ พี่จ๋า อื้อ” ทั้งกรีดร้องและบดเบียดสะโพกใส่ผม นี่น้องไปเรียนรู้เรื่องแบบนี้มาจากไหน

“อืมม นะโมครับ รู้สึกดีไหม”

“อื้อ ดี ดี อ๊ะ ดีจัง” คำบอกที่ทำเอาหัวใจผมพองโต ผมเอื้อมมือไปด้านหน้ารูดรั้งส่วนอ่อนไหวปรนเปรอให้อีกฝ่ายได้มีความสุขมากขึ้น

“อื้อ อื้อ อ๊า มันจะออกมาแล้ว อ๊าน้องปลดปล่อยออกมาครั้งที่สองแต่ผมยังไม่ได้ปลดปล่อยเลยสักครั้ง ผมถอนแก่นกายออกจากตัวน้องแล้วอุ้มช้อนคนตัวเบาออกมาจากห้องน้ำที่คับแคบไปสำหรับการระเริงรัก ผมพาน้องมาที่เตียงนอนของเรา แล้ววางเขาลง น้องตาปรือ ยื่นมาทั้งสองข้างเรียกร้องผมให้เข้าไปหา ร่างกายขาวบางกำลังบิดไปมาอย่างเย้ายวน

ผมคลานขึ้นไปค่อมตัวน้องเอาไว้ก่อนจะมอบจูบที่รุนแรงไปให้ มือบางโอบรอบต้นคอผมไว้พร้อมกับเอียงรับใบหน้าตอบรับแรงบดจูบ ร่างกายน้องตอบสนองตามกลไกธรรมชาติ

“พะ พี่สิงห์ อะ อ๊า” เสียงหวานขานเรียกชื่อผมอีกครั้ง เมื่อผมรั้งสะโพกเขาให้เกยตักก่อนจะสอดแก่นกายเข้าไปอีกครั้ง มันฝืดเล็กน้อยแต่ไม่มากพอที่จะทำให้น้องเจ็บได้อีก

“อะ อือ ตอดแรงจังครับ” ใบหน้าหวานเห่อร้อนแหงนเชิดขึ้น ริมฝีปากบางเผยอขึ้นด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ร่างกายน้องกำลังตอบสนองผมอย่างเก้ๆ กังๆ แต่กลับยั่วอารมณ์ผมได้เป็นอย่างดี จุดกระสันที่โดนผมกระตุ้นด้วยการกระแทกย้ำๆ จนน้องต้องใช้เล็บจิกลงบนแผ่นหลังของผม มันแสบแต่ได้อารมณ์

“อะ อ๊า ฮ๊า อ๊า.” เสียงหวานด้วยไฟอารมณ์กรีดร้องจนสุดเสียง เมื่อผมกระแทกแรงลงไปด้วยความถี่กระชั้น อกบางแอ่นลอยขึ้นเหนือที่นอน ผมไม่รอช้าก้มลงใช้ลิ้นลงโทษกับยอดอกที่บวมเป่งสีแดงสด ร่างกายเล็กบิดเร่าจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ผมเองก็ด้วย ไม่สามารถอ่อนโยนกับน้องในตอนนี้ได้จริงๆ ผมมองภาพความเซ็กซี่ยั่วยวนสะกดสายตา น้องกัดมือตัวเองไว้อีกมือก็จิกลงกับหมอนที่หนุนอยู่ ผมจะไม่ทน!! โถมแรงทั้งหมดที่มีใส่น้องไม่ยั้ง

พั่บ พั่บ พั่บ

“อะ อะ อื้อ อ๊า ไม่ไหว อ๊า ไม่ไหว”

“ซี๊ดดดด นะโมครับ อื้ออ พี่ รักหนูจัง ซี๊ดด อูยย” ในตัวน้องอุ่นร้อนมากขึ้นทุกที มันดีมากจนผมไม่สามารถเก็บความรู้สึกที่มีไว้ได้ ผมตักตวงความสุขจากน้องจนเต็มอิ่ม ปลดปล่อยออกมาทุกหยาดหยด ร่างกายผมกระตุกเกร็ง น้องก็ด้วย น้องปลดปล่อยออกมาพร้อมกับผม น้ำสีขาวขุ่นไหลเปอะหน้าท้องแบนราบ และช่องทางที่เอ่อล้นด้วยน้ำรักของผม

“พะ สิงห์ น้องเหนื่อย น้องเหนื่อย ลงโทษน้องพอรึยังครับ”

“หึหึ รู้ด้วยเหรอว่าพี่กำลังลงโทษเรา”

“ครั้งที่แล้วพี่จ๋าบอกว่าจะลงโทษ น้องก็โดนแบบนี้” น้องพูดออกมาด้วยแววตาที่ใสซื่อ

“ครับพี่ลงโทษเรา แต่โทษแค่นี้ยังไม่พอสำหรับความผิดที่หนีพี่เลยนะครับ”

“อ่า..แต่หนูไม่ไหวแล้ว”

“หึหึ เหนื่อยก็นอนครับ ที่เหลือพี่จัดการเอง”

การลงโทษเด็กดื้อมันไม่จบแค่รอบเดียวหรอกครับ ลงโทษเด็กแบบนะโมอย่างน้อยมันต้องสามรอบ แน่นอนว่าเราจะได้เจอกันในตอนเช้า ไปก่อนนะครับ น้องส่งสายตามาให้อีกแล้ว

“ไหนบอกเหนื่อย ยิ้มยั่วพี่แบบนี้ไม่ต้องนอนแล้วครับ”

“อื้ออ พี่จ๋า....อื้ออ”

(จบพาทสิงห์)

...

เวลาผ่านไปได้ไม่นานหลักฐานต่างๆ ที่สิงห์เตรียมไว้กำลังจะครบและสมบูรณ์ แป้งคงไม่คิดว่าร่างสูงจะทำกับเธอแบบนี้ วันนี้เขานัดเจ้าตัวให้ออกมากินข้าวด้วยกัน แน่นอนว่าสิงห์ไม่ได้มีเจตนาแค่กินข้าวอย่างเดียวเท่านั้น สิงห์สืบรู้มาว่า แป้งคบกับผู้ชายคนหนึ่งอย่างลับๆ และมันก็ลับถึงขั้นระตาเองก็ไม่รู้ว่าตนเองใช้ผัวคนเดียวกันกับลูกสาว สิงห์รับรู้เรื่องราวของสองแม่ลูกคู่นี้ก็ถึงกับหัวเราะลั่น เขารู้แล้วว่าจะจัดการกับสองแม่ลูกนี้ยังไง โกงเงินพ่อเขาไปบำเรอผู้ชายแมงดาอย่างแดน สิงห์ไปมาหาสู่แป้งทุกวันทำเหมือนมีใจให้ พาไปกินอาหารอร่อยๆ ไม่ว่าเธอจะขออะไรสิงห์ก็ไม่เคยปฏิเสธ เรียกได้ว่าจากหลังมือเป็นหน้ามือ ดูแลเอาใจใส่จนหญิงสาวคิดทึกทักไปเอง ไปประกาศกับใครต่อใครว่าสิงห์คือแฟนที่กำลังจะแต่งงานกัน เรื่องนี้เข้าหูสิงห์ในเวลาไม่นาน และที่สำคัญ นะโมรับรู้เรื่องนี้ จากเพื่อนๆ ในโรงเรียน

ไอ้เอ๋อมันนอยไปหลายวัน ยังดีที่มันยังมีแก้งเพื่อนทับสามคอยปลอบ แถมด้วยเนมที่แวะเวียนมาหาจนเป็นเรื่องปรกติ แต่ก็ยังคงทะเลาะกับซีตัสอยู่บ่อยๆ เรื่องการแอบทำร้ายมันเริ่มซาไปบ้างแล้ว แทบจะไม่มีด้วยซ้ำ มันถึงเวลาที่สิงห์จะรวบหัวรวบหางสองแม่ลูกระยำคู่นี้

เริ่มจากลูกสาวแสนสวยของเธอก่อนเลยละกัน...

“พี่สิงห์คะ ถึงไหนแล้ว” เสียหวานเอ่ยถามหลังจากที่รอร่างสูงมาได้สักพัก

“กำลังถึงครับ แป้งออกมารอพี่ที่ลานหน้าห้องได้ไหม?”

“ได้ค่ะ” หญิงสาวอมยิ้มกับตัวเอง ลานกว้างบริเวณหน้าห้องมีจอโปรเจคเตอร์โฆษณาขนาดยักษ์ เธอคิดไปเองว่าสิงห์มีใจให้ พอเดินมาถึง ลานกว้างที่เคยเต็มไปด้วยผุ้คน ตอนนี้มันเต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดใส แถมยังเป็นดอกไม้ที่เธอชอบมากไอย่างดอกกุหลาบสีแดงสด มันถูกประดับอยู่เต็มลาน

“นี่มันอะไรกัน” เธอยิ้มกว้างกับสิงห์ที่เห็นอยู่ตรงหน้า แป้งเดินช้าๆ ไปตรงกลาง หัวใจที่ทำจากกลีบดอกกุหลาบสีแดง เหนือหัวของเธอมีบอลลูนสีขาวนับร้อยลูกลอยเคว้งทุกอย่างถูกจัดขึ้นอย่างกับจะมีการขอแต่งงาน รูปสวยๆ ของเธอประดับไปทั่วบริเวณลานกว้างแห่งนั้น หญิงสาวยิ้มแก้มปริ ผู้คนต่างยืนดูเธอด้วยความอิจฉา ไม่นานก็มีสายเรียกเข้า เธอยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู พอเห็นว่าใครโทรมาก็หน้าแดง

“พี่สิงห์ทำอะไรคะ แป้งอายคนเค้านะคะ” เธอกรอกเสียงลงไป

“เหรอครับ พี่มีเซอไพร์มากกว่านี้อีก แป้งหันหน้าไปมองที่จอโฆษณาสิครับ” เธอหันไปมองตามที่บอก เขายังไม่ปรากฏตัวให้แป้งเห็น ทำเพียงนั่งมองจากบนตึกสูงฝั่งตรงข้าม

หน้าจอโฆษณากำลังฉายภาพที่คล้ายกับการมีเพศสัมพันธุ์ของชายหญิงคู่หนึ่ง อย่างเร่าร้อน เสียงครางหวิวดังก้องไปทั่วทั้งลานกว้าง ผู้หญิงในจอจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสาวสวยเพียงหนึ่งเดียวที่ยืนอยู่ตรงกลาง แป้งนิ่งงันราวกับโดนสตาฟไว้ ใบหน้าของเธอกำลังเริงรักกับแดน ทุกอย่างถูกถ่ายเอาไว้โดยที่ไม่เห็นหน้าผู้ชาย เห็นแต่หน้าสวยๆ ของเธอ ทั้งเรือนร่างและลีลาบนเตียง ผู้คนนับร้อยกำลังส่ง้สียงฮือฮาและมองมาที่เธอเป็นจุดเดียว ในขณะที่ภาพกำลังฉายหนังสด จู่ๆ ลูกบอลลูนก็แตกออกมา ภาพของเธอทุกรูปทุกใบเป็นภาพวาบหวิวกับคนหลายๆ คนที่เธอไปนอนด้วย ปลิวว่อนไปทั่วลานแห่งนั้น

“กรี๊ดดดด” เสียงกรีดกร้องโหยหวนเหมือนตนเสียสติดังไปทั่ว หญิงสาวลงไปชักดิ้นอยู่ที่พื้น สติของเธอหายไปหมดไม่เหลือ เอพยายามก้มเก็บลูบที่ปลิวมาไว้แต่ก็ไม่ทันอยู่ดีเมื่อทุกๆ คนเก็บมันขึ้นมาดู บางคนยังถ่ายวิดีโอเอาไว้

“กรี๊ดดพี่สิงห์ พี่สิงห์ ไอ้เลว ไอ้ชั่ว มาทำแบบนี้กับกูได้ยังไง!!! ” เธอตะโกนลั่นด้วยความคับแค้น

“หึหึ ขอแต่งงานเหรอ นี่ไงละ การขอแต่งงานที่เธออยากได้” ร่างสูงมองลงพร้อมกับแสยะยิ้มร้าย “ยังไม่หมดหรอกนะยังเหลือแม่ของเธออีกคน” ร่างสูงหันหลังให้ก่อนจะเดินออกไปจากห้องห้องนั้นทิ้งไว้เพียงความสะใจของเขา

................................................

มันอาจจะรวบรัดไปหน่อยนะคะ แต่จะพยายามให้ดีที่สุดนะคะ ฝากน้องเราด้วย เอ็นดูน้องด้วยน้า อย่ารำคาญพี่สิงห์เลยสงสารคนแก่

รักคนอ่านทุกคนนะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำติชมและการกดไลค์ค่ะ เจอกันใหม่ตอนหน้า ถึงตาอิแม่ แล้ว
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.31 14/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 14-10-2018 11:36:09
หายอยากไปเลยนังแป้งสมน้ำหน้า
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.31 14/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-10-2018 13:04:26
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.31 14/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-10-2018 18:27:07
รอดูการโจมตีชะนีตัวแม่   :hao3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.31 14/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 14-10-2018 19:42:21
 :laugh:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.31 14/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-10-2018 22:09:57
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.31 14/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 15-10-2018 02:36:36
รอจัดการยัยแม่นี่แหละ555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.31 14/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 17-10-2018 14:20:14
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.32 21/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 21-10-2018 07:05:18

32

“ยัยแป้งหายไปไหน?” สามวันแล้วที่เธอติดต่อลูกสาวไม่ได้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับแป้งระตาไม่รู้เรื่องอะไร เพราะวันเอาแต่เข้าบ่อนกับปรนเปรอผู้ชาย เธอใช้ให้สามีเก่าบดินทร์หาทางยักยอกเงินในบริษัทให้เธอใช้พร้อมกับส่วนแบ่ง บดิทร์เป็นเพียงหมากที่ระตาหลอกเอามาใช้งาน เพราะเมื่อก่อนตอนที่คบกันบดินทร์เคยเป็นนักธุรกิจแต่โดนพิษเศรษฐกิจเล่นงาน ระตาเป็นคนรักสบายและเห็นแก่ตัวเธอหอบลูกหนีสามีไปอยู่กับแม่ทางภาคเหนือ ทำงานเป็นพนักงานบัญชีในบริษัท ของตระกูลถิ่นเทวา จนกระทั่งเธอได้พบกับ นาค และนั่นทำให้เธอพยายามทำทุกสิ่งให้เขาสนใจและตกหลุมรัก รู้ทั้งรู้ว่านาคไม่ใช่ชายโสด เขามีลูกมีเมีย แต่ความโลภครอบงำจิตใจ ทำให้เธอไม่สนอะไรทั้งนั้นขอแค่ลูกและเธออยู่สบายก็พอ เธอรอจนกระทั่ง มุตาภรรยาของนาคเสีย ถึงได้ขอร้องให้นาคพาเธอเข้าบ้านและให้เธอเป็นคุณหญิงของบ้าน

ตอนนั้นสิงห์พึ่งจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย พอรู้ว่าพ่อพาผู้หญิงคนอื่นเข้าบ้านที่ไม่ใช่ก็เกิดการระหองระแหงกับพ่อทันที ไม่นานเขาก็ย้ายออกมาอยู่คนเดียวเพื่อความสบายใจ เรื่องเงินไม่ต้องห่วงเพราะแม่เขาเป็นคนรอบคอบเก็บเงินไว้ให้ต่างหาก ซึ่งมันเป็นเงินของแม่ มันมากพอที่จะทำให้เขาอยู่สบายๆ โดยไม่ต้องทำอะไรเลยไปจนแก่ แต่สิงห์เลือกที่จะเอามาลงทุนต่อยอดโดยการซื้อหุ้นในบริษัทเอาไว้อย่างลับๆ และหุ้นในอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เขามีเงินเก็บเป็นของตัวเอง

เวลาผ่านไปทิฐิในใจที่มีต่อก็จางหายแต่คนหัวดื้อไม่ยอมง่ายๆ เขาทำเป็นไม่สนใจเรื่องของบริษัท ไม่สนใจพ่อ แต่ใครจะรู้ว่าเขามีลูกน้องมากพอที่จะเป็นเส้นสายและทำงานแทนเขาได้ โดยที่เขาไม่ต้องลงมือทำเอง ส่งคนไปเฝ้าดูแลพ่อและสืบจนรู้ว่าแม่เลี้ยงหน้าเนื้อใจเสือกำลังคิดทำอะไร นอกจากจะคิดฮุบสมบัติของเขาแล้วยังจะคิดฆ่าพ่อเขาอีก แบบนี้คงปล่อยเอาไว้ไม่ได้

หลังจากที่สิงห์เข้าไปหาพ่อในวันนั้นเขาก็เตรียมพร้อมทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อย โดยมีเพื่อนอย่างพลัสเป็นคนช่วยสืบอีกแรง

“พลัสมึงส่งข้อมูลมาที่เมลกูที อ่า อย่าลืมเบลอหน้าไอ้แดนด้วยล่ะ ยังไงมันก็รุ่นน้องกู” มันจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ก็ตาม แดนเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยมันอ่อนกว่าผมสามปี มันเรียนเก่ง หน้าตาดี แต่บ้านจน มันเลยหากินโดยการเกาะผู้หญิง หรือเรียกง่ายๆ ว่าพวกแมงดา

“เออรู้แล้ว ไอ้ห่านี่แสบตั้งแต่ปี1ดีนะกูไม่หลงเอามัน ไม่งั้นกูล้มละลายแน่ๆ”

“แล้วเรื่องไอ้คิทถึงไหนแล้ว สี่ปีแล้วนะมึงยังไม่บอกมันอีกเหรอ” สิงห์หันไปสบตาเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“ไม่รู้วะ กูไม่คิดว่ามันจะรู้ตัวช้าแบบนี้ ทุกวันนี้กูยังทำอะไรไม่ชัดเจนอีกหรอวะ” หมอหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยใจ เขาเก่งทุกเรื่องยกเว้นเรื่องเดียว คือเรื่องของคิท

“มันอาจจะโง่ก็ได้นะมึงเรื่องแบบนี้ มึงก็ลองบอกมันไปตรงๆ เลยดิ”

“แหม่แค่มองตามันกูก็ง่อยละไหม แมร่งชอบย้ำว่าเพื่อนกันๆ อยู่นั่นแหละ ไอ้ฉิบหาย”

“รงบหัวรวบหางเลยดิ จะไปยากอะไร”

“ทำจังไรแบบที่มึงทำกะน้องนะโมอะหรอ ไอ้สัส กูอยากถนอมมันเว้ย อยากให้มันรู้สึกกับกู ไม่ใช่ ใช้กำลังแล้วมันยอม”

“วู้ เรื่องมาก ไฟล์อะเสร็จยัง จะได้ไปแดกข้าว นัดพวกมันไว้ที่บ้านตอนเย็นเนี้ยะ กูต้องไปรับเมียอีก วันนี้เมียซ้อมหมากรุกวันสุดท้าย จะไปแข่งแล้ว” สิงห์เร่งให้อีกคนส่งไฟล์ข้อมูลการยักยอกทรัพ์กับคลิปวิดีโอที่แดนส่งมาให้

“อ่าวแล้วไมพึ่งมาบอก”

“เอ้า ไลน์กลุ่มก็อ่านบ้างไม่ใช่อ่านแต่ไลน์ไอ้คิท”

“สัสแดกดันกู อะส่งให้ละ แล้วมึงจะทำยังไงต่อ”

“บอกพ่อมมึงให้มาจับตัวอิระตาได้เลยพรุ่งนี้”

“ที่งานเลี้ยงฉลองครบรอบ ห้าสิบปี บริษัท ถิ่นเทวาอะนะ เห้ย แล้วงี้ชื่อเสียงบริษัทมึงไม่ย่อยยับหรอ”งานเลี้ยงที่จัดขึ้นพร้อมกับงานการกุศลด้วย

“หึหึ เสียดิ หุ้นกูตกแน่นอน แต่ไม่ต้องห่วงกูจัดการไว้หมดละ ห่วงแต่พ่อมึงเถอะพรุ่งนี้ได้ปวดกระบาลแน่ๆ ไว้จบเรื่องกูจะเอาเหล้าหมักร้อยปีของเก่าแก่ของปู่กูไปเซ่นไหว้”

“เห้ยเอาจริง อากูขอนานเป็นปีไม่เคยได้ ขอจนท้องจนเลิกขออายตัวเอง” พลัสพูดเสียงกลั้วหัวเราะ

“เออ เพื่ออากูทำได้”

“ทำไงวะ”

“ขโมย”

“ไอ้สัส งี้พ่อกูก็เข้าข่ายรับของโจรดิ”

“สัส พลัส ไปได้ละ ป่านนี้เมียกูรอแย่”

“เออ งั้นเจอที่บ้าน กูไปรับไอ้คิทก่อนไม่อยากให้มันนั่งรถแท็กซี่มาเอง”

“ห่วงกันขนาดนี้ทำไม่ไปขอเขาเลยละ”

“ก็อยากอยู่ แต่มันไม่ยอมไง”

หลังจากที่แยกย้ายกันไปรับคนของตัวเองสิงห์แวะไปเอากับข้าวที่สั่งไว้ที่ร้านอาหารริมแม่น้ำร้านประจำที่ชอบกินก่อนจะไปรับไอ้เอ๋อที่โรงเรียน แต่ว่าไปแล้วไม่เจอมัน

Rrrrr

(ซีตัส)

“เออ นะโมอยู่กับมึงปะไอ้ตัส”

“ (ผมก้จะโทรมาบอกพี่เรื่องนี้แหละ มันอยู่กับพวกผม พามันมาห้างอะ มันบอกอยากคีบตุ๊กตา) ”

“อืม รออยู่นั่นแหละเดี๋ยวก็วนไปรับ วันนี้มากินข้าวบ้านกู กูเลี้ยง” เขาพูด

“ (จริงดิ แต่มีไอ้เนมด้วยนะพี่”)

“เออ เอามาเหอะ ไอ้เด็กนั่นเดี๋ยวกูจัดการเอง ชอบมาเกาะแกะเมียกูจัง”

“ (ครับ รีบมาพี่มึง เงินพวกกูจะหมดแล้ว คีบให้มันไม่ได้สักที”) ซีตัสบ่นออกมา เพราะหมดเงินไปแล้วเหลือแต่เศษตัง แต่ไอ้เอ๋อมันก็ร้องจะเอาให้ได้ วันนี้มันจะเอาตุ๊กตาแมวสีฟ้า มันบอกว่าน้องหมูไม่มีเพื่อนจะเอาแมวไปอยู่เป็นเพื่อน เพราะพี่จ๋าไม่ยอมให้เลี้ยงแมวจริงๆ แมวที่เคยช่วยไว้มีคนรับไปเลี้ยงแล้ว มันเลยอยากได้ใหม่

“//เนมมมม เราจะเอา เราจะเอา น้าๆ เนมน้า///” เสียงหวานๆ ที่กำลังออดอ้อนเพื่อนของตัวเองดังลอดเข้ามา สิงห์กำโทรศัพท์แน่น เขาพยายามจะระงับอารมณ์หึงของตัวเองเพราะคดีเก่าที่นะโมเห็นเขาไปไปเที่ยวกับแป้งทั้งๆ ที่บอกกับมันไว้ว่ามีนัดกับลูกค้า เขาเลยฝากมันไว้กับซีตัสแต่พวกมันดันพาไอ้เอ๋อไปห้าง แล้วเจอเขากำลังเดินอยู่กับแป้งเข้า เท่านั้นแหละ เป็นเรื่องเลย

สิงห์ขับรถย้อนไปที่ห้างเพื่อไปรับเด็กๆ แต่พอไอ้เอ๋อมันเห็นหน้าเขามันก็เชิดใส่ทันที งอนมาเป็นอาทิตย์แล้วเนี้ยะ ร่างสูงเดินยิ้มทำใจดีสู้แมว ไม่อยากทำให้แมวโกรธมากไปกว่านี้

“มาทำไม! ” นั่นไงแค่เดินเข้าใกล้ก็โดนรังสีความงอนเข้าปะทะ

“มารับหนูกลับบ้านไงคะ^^”

“ไม่ต้องมาคะ เชอะ!! ” มันงอนคนตัวสูงหนักเพราะเรื่องของแป้งสิงห์เอามือลูบหน้า ไอ้เอ๋อเวลามันอารมณ์ไม่ดีหรือกำลังงอนมันจะรับมือยากมาก มันพร้อมเหวี่ยง พร้อมเบะได้ตลอดเวลา ใบหน้าแมวๆ ของมันงองุ้มไม่สบตาไม่มองหน้าคนตัวสูงที่พยายามจะง้อมันด้วยซ้ำ

“เอาไงดีพี่สิงห์ มันเป็นแบบนี้กับพี่ทั้งอาทิตย์แล้วไม่ใช่เหรอ”

“กุจัดการแป้งไปเรียบร้อยแล้ว มันไม่กล้าเข้ามายุ่งกับพี่กับนะโมแล้วตอนนี้”

“เรื่องขอพี่แป้งดังมาก คนเค้าพูดกันให้ทั่ว แล้วนี่พี่รู้ไหมว่าพี่แป้งไปหลบอยู่ที่ไหน?” ซีตัสถามด้วยความอยากรู้ เห็นว่าเป็นคนเงียบๆ แต่ก็พร้อมเสือกได้ทุกเวลานะครับ

“ก็คงจะแถบๆ ชายแดนมั้ง หึ” สิงห์แสยะยิ้ม

“แล้วแม่เค้าไม่รู้เหรอพี่ว่าลูกตัวเองทำงามหน้าเอาไว้”

“เดี๋ยวก็รู้” เขาตอบก่อนจะเดินเข้าไปสวมกอดเด็กเอ๋อของตัวเองไว้อย่างหลวมๆ มันดิ้นเล็กน้อยพอเป็นพิธี ก่อนจะแอบก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มเอาไว้

“มากอดน้องทำไม ชอบให้คนอื่นกอดไม่ใช่หรอ” สิงห์สูดลมหายใจลึกนี่น้องไปหัดหาคำประชดเค้ามาจากไหน

“ประชดพี่หรอครับ”

“เชอะ” มีช้งมีเชอะ มันน่าหยิกจริงๆ สิงห์หัวเราะออกมาเบาๆ แต่ก็ทำให้คนในอ้อมกอดหันมามองค้อนใส่

“มึงนี่มองค้อนเค้าหรือจะจกตาเค้าห๊ะไอ้เอ๋อ” ซีตัสหัวเราะใส่เลยโดนด้วยอีกคน เนมกับปิงยังคงง่วนอยู่กับการคีบตุ๊กตาให้ไอ้เด็กแสบ อย่างเอาเป็นเอาตาย หมดไปเป็นร้อยแล้วได้แค่คีบลม

“จะให้พี่ง้อยังไงครับ? หืม”

“ง้อ? ง้อคืออะไร”

“ก็แบบ ให้พี่ทำอะไรก็ได้ที่ทำให้หนูหายโกรธพี่ หายงอนพี่”

“อ๋ออ” มันพยักหน้าเข้าใจก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา

“ให้ทำอะไรก็ได้หรอ”

“อื้อ ทำอะไรก็ได้ พี่ยอมทุกอย่าง”

“พูดแล้วนะ”

“ครับ^^”

“น้องจะไปนอนบ้านตัสตัส” มันบอกพร้อมกับรอยยิ้มหวาน

“เห้ยไม่เอา!! กูจะนอนกับเมีย! ” ซีตัสรีบปฏิเสธ

“ไม่เอาเราจะนอน เมียตัสตัสก็เพื่อนเราทำไมเราจะนอนไม่ได้”

“มึงรู้เหรอว่าใคร?”

“รู้สิเราไม่ได้โง่สักหน่อย” อะเอาเป็นว่ามันกวนตีนใส่ซีตัส

“นอนไม่ได้ ไม่ให้นอน”

“ทำไมตัสตัสใจร้าย”

“อะ กูผิดอีก พี่ทำอะไรสักอย่างดิ๊” ซีตัสหันไปหาสิงห์ที่ยืนยิ้มจนหน้ายับตาขึ้นสามขีดให้กับความน่ารักของคนตัวเล็กขาใหญ่อย่างไอ้เอ๋อ

“พี่!! ยืนยิ้มอยู่ได้ จัดการเมียพี่ด้วยครับ! ”

“หึหึ หนูมาหาพี่มา เดี๋ยวพี่พาไปกินหนม” เหมือนเอาขนมมาล่อแล้วน้องมันจะยอม

“หนม*0*” ร่างบางหันมาทำตาวาวใส่ รอยยิ้มบางบนปากของสิงห์กระตุกนิดๆ

“ใช่ครับในรถ มีเยอะเลย^^”

“เยอะเลยหรอ *0*”

“ครับ อยากกินไหม

“อยากๆ อ๊ะ ไม่สิไม่อยาก งื้ออกินก็ได้” โลเลเรื่องขนมมันมาเป็นที่หนึ่ง

“มีอมยิ้มด้วยนะ (ไปตามเพื่อนมาเถอะ เพื่อนพี่น่าจะถึงบ้านแล้ว) ” สิงห์หันไปบอกซีตัสที่ยืนมองไอ้เอ๋ออยู่

“ครับ”

“ตกลงจะกินไหมครับ ถ้าไม่กินพี่จะเอาให้คนอื่นนะ”

“กินสิ!! ห้ามให้คนอื่น”

“หึหึหึ ถ้าอยากกินต้องหายโกรธพี่จ๋านะ”

“งะ =_= “

“ว่าไงครับ^^”

“งื้ออ ก็ได้ ตามไม่ทันเลย ลื่นเหมือนปลาไหลน้องตามไม่ทันจริงๆ” มันบ่นเสียงเบาๆ เหมือนตัวเองหัวช้ากับสิงห์ตลอด

“ปะ กลับบ้านดีกว่า วันนี้มีคนมาหาหนูด้วยนะเค้ารอเราอยู่ที่บ้าน”

“หืม ( ‘’ ) ใครหรอครับ?”

ไม่บอกอยากให้ไปเห็นเอง” ถ้ามันรู้ว่าใครมาบ้างมันคงกรี๊ดบ้านแตก ซีตัสกลับมาหลังจากไปเรียกพวกที่เหลือ พวกนั้นเดินกลับมาพร้อมกับตุ๊กตาแมวสีฟ้า

“น้องแม้ววววววววววววววววววววว” มันวิ่งเข้าใส่คนที่ถือตุ๊กตากลับมา และคนที่ถือรู้ไหมว่าใคร เนม สิงห์คว้าตัวไอ้เอ่อมันไม่ทัน พอมันไปกอดตุ๊กตาก็เหมือนกับกอดเนมไปในตัว

“สัส กูกลับมาเหลือแต่กระเป๋าตังไม่มีสักบาท เพื่อไอ้น้องแมวของมึงเนี้ยะ” ถึงปากจะบ่นแต่บนใบหน้ากลับมีรอยยิ้มประทับอยู่

“ขอบคุณนะเนมเนม” มันส่งยิ้มหวานให้

“เออ ไปๆ กลับบ้าน”

“อื้อ”

หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.32 21/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 21-10-2018 07:05:40
ระหว่างทางเสียงเถียงกันไปมาระหว่างเนมกับสิงห์ก็ดังอยู่เป็นพักๆ ส่วนใหญ่จะเกทับกันมากกว่า ถือได้ว่าสองคนนี้ไม่ลงรอยกันพอควรไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุผลแต่ มันเกิดเพราะไอ้เด็กแสบที่นั่งจุ๊บน้องแมวไม่สนโลกใดๆ

“ไอ้เอ๋อ!! ” เสียงเรียกที่ดังมาจากระเบียงบ้านทำเอามันที่กำลังลงจากรถสะดุ้งก่อนจะร้องกรี๊ดดเสียงดัง

“ลูกพี่!!! ” มันวิ่งขึ้นบันไดไปหาต้าร์แล้วกระโดดกอดด้วยความคิดถึง ไม่เจอลูกพี่ของมันเป็นเดือน กอดแล้วพากันหมุนๆ ไปรอบๆ

“คิดถึงวะ โตขึ้นเยอะเลย”

“อื้อ หนูโตแล้วก้ลาดขึ้นด้วย” มันยิ้มแป้น

“ว่าไงคนเอ๋อของพี่”

“อ๊ะ พี่หมอ พี่คิท พี่พลัส พี่ชา พี่วา”

“หึหึ กุบอกแล้วว่ามันต้องดีใจถ้าเห็นหน้ากู” ต้าร์หันไปอวดกับไม้เมือง

“เหรออออออ” วุ่นวายที่พึ่งเคยเจอไอ้เอ๋อครั้งแรกยังอดที่ยิ้มไปกับมันไม่ได้ วันนี้เพื่อนของต้าร์ก็มาด้วย

“ใครอะพี่ต้าร์” มันถาม

“เพื่อนกู นี่ท่านขุน วุ่นวายแล้วก็ไอ้อิฐ”

“สวัสดีครับ” มันยกมือไหว้

“เพื่อนหนูก็มาด้วยนะ นี่เนมเนม ตัสตัส ปิงปิง ตัสตัสกับปิงปิงเป็นผัวเมียกันด้วยแหละ ฮิฮิ” มันแนะนำเสร็จสรรพ เกือบจะโดนมะเหงกของปิงลงกระบาลเพื่อระบายความหน้าร้อนใส่มัน

“พูดมาก! ” ปิงบอกพร้อมกับเดินเลี่ยงไปที่อื่น

วันนี้คนก็จะเยอะหน่อยๆ พื้นที่บนบ้านไม่พอเลยต้องลงไปตั้งโต๊ะกันที่สวนด้านล่างแทน ปาร์ตี้หมูกระทะ ดูจะคึกครื้นมากกว่าปรกติ เพราะมีคนเปิดเพลงใส่ลำโพงพกพา เปิดเพลงฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างBurn It Up ของวงวันนาวัน ไอ้เอ๋อมันถึงขั้นลุกขึ้นมาเต้นเลยทีเดียวเชียว เต้นจนหมูกระทะที่กินไปจะขย้อนออกมา

ถามว่าสุรามีไหมสำหรับแก้งนี้มีแน่นอน เรื่องนี้พวกหมอเถื่อนไม่มีพลาด ส่วนเด็กๆ ถึงจะห้ามมันก็ไม่ฟังกันหรอก แอบขโมยมาใส่แก้วโค้กกันทุกคน ดีหน่อยที่ไอ้เอ๋อมันนั่งข้างหับสิงห์ไม่อย่างนั้นละก็ เรื่องจังไรจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน

“เออ พวกพี่นี่คบกันมานานแล้วหรอ” ขุนเอ่ยถามขึ้นขณะที่คีบหมูสามชั้นเข้าปาก

“อืม ตั้งมอต้น” พลัสตอบด้วยเสียงยานๆ ข้างกายมีหมอคิทนั่งดื่มอยู่เงียบๆ รอฟังพวกเพื่อนๆ คุยกัน

“งี้ก็สนิทกันมากเลยดิ”

“ก็ อืม สนิทจนอยากจะแนบแนบชิด” หมอพลัสหันไปมองคนข้างกายนิดๆ

“.....”

“เหมือนพวกผมเลย” ต้าร์พูด “เรียนด้วยกันตั้งแต่มอต้น ยกเว้นอิวุ่นพึ่งมาเจอมันที่วิทยาลัย”

“แล้วพวกมึงอะไอ้ตัส เรียนที่เดียวกันหมดเลยเหรอ?” ชา

“ครับ เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันตั้งแต่มอต้น”

“เออ ดีสนิทกันไว้ เพื่อนอะมันไม่ทิ้งกันหรอกเหมือนพวกกูนี่แหละถึงจะอยู่ต่างอำเภอ เรียนจบมาทำงานคนละที่ แต่ก็ไม่เคยทิ้งกันไปไหน” พันวา

“มึงรู้ป่าวตอนพวกกูเรียนพวกกูมีฉายาด้วยนะเว้ย” ไม้เมืองยกยิ้มนิดๆ

“อะไรอะพี่”

“แก้งหมอ โหดและโฉดชั่ว เอฟโฟร์แห่งมอ.xxx” สิงห์ แก้งหมอยกยิ้มเหมือนภูมิใจในฉายาของตนเองยกเว้นคิทที่ทำหน้าเอือมใส่

“อย่ากูเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องชั่วๆ ของพวกมึง กูเป็นคนดีครับ” คิทพูดบอกเรียกเสียงหัวให้กับทุกคน

“เมื่อก่อนพวกพี่ร้ายกันหรอ?” ปิง

“ก็ไม่เชิงอะ พวกกูเรียนหมอไง เรียนหนักก็ต้องหาทางระบายออก” หมอไม้เล่าเสียงเนิบๆ

“โดยการปล่อยน้ำออกจากตัว พวกได้แล้วทิ้ง” อันนี้ต้าร์เป็นคนพูดออกมาด้วยความหมั่นไส้

“หูยยยย ร้ายอะ” วุ่นวายบอกพร้อมกับทำหน้าขยาด

“ก็ไม่ขนาดนั้นไง แบบ วันไนท์ อะ ไม่ผูกมัด น้ำแตกแล้วแยกทาง” พลัสตอบ

“งะ มีงี้ด้วยหรอ แล้วไมพวกพี่ไม่หาแฟนอะ ไม่กลัวติดโรค?” ปิง

“กลัวไรเรียนหมอ รู้วิธีป้องกัน แล้วที่สำคัญพวกกูสะอาดกูเลือกคนด้วยเว้ย”

“หึ พวกได้แล้วทิ้ง พวกมึงดูหน้ากันเอาไว้นะเว้ย อย่าไปหลงคารมพวกมัน” ต้าร์พูดบอกพร้อมกับจิกตาใส่หมอไม้

“เหมือนมึงอะหรอต้าร์ที่หลงคารมเพื่อนกุจนไปไหนไม่รอด คึคึ”

“ไอ้สัสพี่สิงห์ ไอ้ ค_ย”

“เรียกกูแบบนี้ ไม่ต้องมีคำว่าพี่ก็ได้” คนที่ถูกพาดพิงยกยิ้มนิดๆ พร้อมกับยีหัวต้าร์

“ไอ้พี่หมออย่าเล่นหัวดิ” ต้าร์ส่งสายตาค้อนไปให้

“แต่เล่นหัวล่างได้” พลัสยิ้มกริ่ม

“ไอ้ พวกพี่เหี้ยยยยย” ต้าร์หน้าร้อนขึ้นมาทันที

“หัวล่าง หัวล่างไรหรอ” อะลืมไปเลยว่ามีเด็กใสซื่อนั่งปะปนอยู่ด้วย นี่มันนั่งเสือกแบบเงียบๆ อยู่นานแล้วใช่ไหม สิงห์หัวเราะเบาๆ พร้อมกับกระซิบอะไรบางอย่างให้มันฟัง

“//จู๋น้อยไงครับหัวล่างที่ว่า//” แล้วมันก็หน้าแดง

“แล้วพวกพี่นี่ใครร้ายสุดอะ” วุ่นวายเป็นคนถาม

“คุณสิงห์ร้ายสุด เพราะสาวๆ มันกวาดเรียบ ร้ายไปกว่านั้นคือ มันใจร้ายกับทุกคนที่เข้ามาหามัน ไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไรจากมัน ตื่นมาเจอแค่เงินบนหัวเตียง”

“ไอ้พลัส ไอ้สัส น้องนั่งฟังอยู่”

“มึงก็ไช่ย่อย เหมือนมันหมดทุกอย่าง ทำมาเป็นพูด” คิทว่าใส่

“ยกเว้นมึงนะ ถ้ามึงตื่นมาจะมีกูอยู่ในทุกๆ เช้า” พลัสหยอดใส่เพื่อนข้างกาย ใครๆ ก็ดูออกว่าเขาคิดไม่ซื่อกับเพื่อนตัวเอง จะมีก็แค่คิทที่ยังคงไม่รู้อะไรเลย

“กูว่ามึงยังไม่ได้นอนไอ้พลัส”

“กูพูดจริง”

“อะ เป็นหมอนอนน้อยกูเข้าใจ”

เวลาล่วงเลยจนดึกดีหน่อยที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุด หลังจากเก็บข้องสิงห์ก็ขับรถไปส่งพวกซีตัสที่บ้าน จนครบหมดทุกคน เพื่อนๆ ต่างก็แยกย้ายกันกลับ

ไอ้เอ๋อง่วงจัดจนสิงห์ต้องรีบพามันไปอาบน้ำนอน และที่สำคัญพรุ่งนี้เขาต้องไปทำเรื่องสำคัญด้วย สิงห์ตื่นแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัว เขาเขียนโน้ตแปะไว้ที่ตู้เย็น ว่าเขาไปทำธุระ เย็นๆ จะกลับให้น้อง อยู่บ้านรอแล้วจะพาไปกินของอร่อย



งานการกุศลสำหรับเด็กกำพร้าและเด็กที่ด้อยโอกาสทางการศึกษางานนี้เป็นงานใหญ่ระดับภาคที่มีพวกคุณหญิงคุณนาย ส.ส และนักธุรกิจใจบุญมาร่วมงานกันมากมาย ในเมื่องานใหญ่แบบนี้จะไม่มีนักข่าวก็คงจะเป็นไปไม่ได้ นักข่าวเกือบทุกสำนักมาทำข่าวกัน เพราะมีเซเลปชื่อดังมาร่วมงานด้วย สิงห์เป็นทายาทคนสำคัญของถิ่นเทวา ไม่แปลกที่เขาจะอยู่ในงานด้วย เพราะคนที่เป็นแม่งานไม่ใช่ใครที่ไหนแม่เลี้ยงคนดีของเขานั่นเอง สิงห์แต่งตัวเต็มยศใส่สูทผูกไทน์ งานนี้เขาเรียกเพื่อนๆ ของเขาทุกคนมาด้วย

“พร้อมจะจัดการแล้วใช่ไหมมึง” พลัสถามเพื่อนตนเองด้วยสีหน้านิ่งๆ

“พร้อมนานละ พวกมึงเตรียมตัวสนุกกันไว้ได้เลย” พวกเขาเดินไปทั่วงาน วันนี้พวกเขาไม่ได้มาในฐานะหมอแต่มาในฐานะทายาทเจ้าของธุรกิจ พลัสที่บ้านเปิดร้านทองที่มาสาขาอยู่ทั่วประเทศและคลินิกทำฟันที่ดีที่สุดในจังหวัด ชาครอบครัวเป็นหมอ ที่มีสถาบันความงามและคลินิก บ้านหมอไม้เป็นเจ้าของวิทยาลัยเอกชนและโรงพญาบาล คิท พ่อแม่ทำธุกิจอยู่ที่ฮ่องกง ส่วนพันวา ทำรีสอร์ตและการท่องเที่ยว เรียกได้ว่าพวกเขาเป็นลูกคนรวยที่มีพร้อมทั้งหน้าตาและการศึกษา เป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะกับสาวๆ ที่มากับพ่อแม่มองพวกเขาตาเป็นมัน ไม่รู้ว่าจะมางานกุศลหรือจะมาหาผัวกันแน่ ระหว่างที่พวกลูกท่านหลานเธอแวะมาขายขนมจีบ สิงห์ก็สั่งให้ กรพาคุณพ่อเข้ามาในงาน

“คิม มึงจัดการได้เลย” เขาบอกให้ลูกน้องจัดการตามแผนตอนเห็นระตาเดินขึ้นไปบนเวที เพื่อกล่าวเปิดงาน

“สวัสดีค่ะท่านผู้มีเกรียติทุกท่าน วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของดิชั้น วันที่ชั้นจะได้มอบโอกาสให้กับเด็กๆ ได้ต่อชีวิตให้พวกเค้า ทุนการศึกษาที่ได้จากการระดมทุนจากทุกท่าน เด็กตาดำๆ พวกนี้” ระตาชี้ไปที่ภาพสไล ภาพของเด็กยากจนที่ได้รับทุนการศึกษา

“พวกเขาได้รับโอกาส ก็เพราะจิตใจอันเมตตาของพวกท่านที่บริจาคเงินมากมายมาให้พวกเค้า” เสียงของเธอดังท่ามกลางเสียงฮือฮา ที่ดูเหมือนจะไม่ได้ปลื้มใจสักเท่าไหร่

“นี่ผมถามจริงๆ เถอะ เมื่อไหร่คุณจะจัดการฆ่าผัวเก่าคุณสักทีผมรอไม่ไหวแล้วนะ” เสียงใครบางคนดังขึ้น

“จะรีบร้อนไปไหน จะช้าจะเร็วมันก็ตายอยู่ดี นอนเป็นผักอยู่บนเตียงแบบนั้น” ระตาอึ้ง เพราะภาพสไลได้เปลี่ยนเป็นภาพของเธอกับบดินทร์ที่นอนคุยกันอยู่บนที่นอน ในห้องนอนในบ้านของนาค ทั้งที่มีนาคนอนป่วยอยู่อีกห้อง

“คุณคิดว่ามันโง่เหรอ คนแบบคุณนาคเค้าไม่โง่หรอกนะ”

“ถ้ามันไม่โง่มันคงไม่เอาชั้นมาเป็นเมียหรอกยะ คิดมาก น่ารำคาญ กลับไปได้แล้วไป” แล้วภาพก็ตัดไป ก่อนจะขึ้นคลิปชุดใหม่ เป็นคลิบของเธอกับแดน

“นะ..นี่มันอะไรกัน ใครทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้” ระตาโวยวาย

“....”

“ใครมันใส่ร้ายชั้นแบบนี้ ไม่จริงนะคะทุกคน นี่มันภาพตัดต่อชัดๆ” ระตาเริ่มจะสติแตก เธอสั่งให้คนรีบปิดสไล แต่ไม่มีใครทำตาม ด้วยความโมโหเธอวิ่งไปดึงแผ่นสไลจนขาด ไม่มีภาพแต่ก็ยังมีเสียง เสียงครวญครางอย่างสุขสมของเธอ ดังลั่นไปทั่วฮอล ระตาหน้าเสีย เธอทั้งอับอายและโกรธแค้น บดินทร์ที่รู้ตัวว่าจะต้องโดนหางเลขด้วยนั้นก็รีบชิ่งหนีไปก่อนระตากำลังจะวิ่งหนีแต่ก็โดนคนของสิงห์ดักไว้ทุกทาง ร่างสูงเข็ญวิลแชร์ของนาคไปที่ด้านหน้าเวที ร่างสูงแสยะยิ้มให้กับแม่เลี้ยงของตัวเอง

“ยังไม่หมดนะครับ คุณแม่ ^^” สิงห์เดินขึ้นไปเสียงแฟชไดฟ์ลงกับคอมพิวเตอร์ จอทีวีขนาดยักษ์เหนือแผ่นสไล เปิดภาพที่เธอกำลังเล่นพนันในบ่อน และ กำลังเสพยา

“แม่พระของสังคม เน่าเฟะจนหาความดีไม่เจอ” สิงห์พูดเสียงเรียบๆ

“แก..ไอ้เด็กทรพี” ระตาด่ากราดตอนนี้เฮไม่จำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์แม่เลี้ยงผู้ใจดีอีกต่อไป

“อ่า ลูกทรพี นี่คงหมายถึงแป้งด้วยป่าวครับ?”

“ทำไม ยัยแป้ง หรือว่าแก แก ทำอะไรลูกชั้น” ระตาเริ่มรนเพราะรอยยิ้มของสิงห์

“ก็ไม่ได้ทำอะไรแค่ขอน้องแต่งงานท่ามกลางสาธารณชน” แล้วเขาก็เปิดคลิปให้ระตาดูบนจอทีวี ภาพของแป้งที่กำลังกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ทำเอาระตาเข่าอ่อน

“เป็นไงครับ ลูกทรพีพอไหม ที่ใช้ผัวคนเดียวกับแม่”

“แก..แก ไอ้สารเลวแกทำแบบนั้นกับลูกของชั้นได้ยังไง”

“หึ แล้วที่ลูกคุณมาทำคนของผมละ เธอทำแบบนั้นได้ยังไง ผมบอกแล้วถ้าคนของผมเจ็บคุณจะเจ็บเป็นร้อยเท่า”

“ชั้นจะฆ่าพวกแกให้หมดทุกคน ชั้นจะฆ่าแก กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” ระตาเริ่มอาละวาดขว้างปาข้าวของไปทั่ว และทุกอย่างถูกนักข่าวถ่ายทำไว้หมด และที่สำคัญมันเป็นรายงานสดที่ถ่ายทอดไปทั่วประเทศ

“นี่ถือว่าเป็นการข่มขู่นะครับ คุณแม่^^”

“ไปตายซะไอ้ชั่ว ไอ้เลว ฮรือออ คุณขา คุณอย่าไปฟังมันนะคะมันใส่ร้ายตา ฮึก นาค นาคต้องฟังตานะ” ระตาคลานเข่าไปหานาคเพื่อหาที่พึ่ง แต่นาคไม่มองไมสบตา เขาสะบัดขาที่ระตาเกาะออก

“คุณลุงครับเข้ามาได้เลยครับ” สิงห์กดโทรศัพท์บอกให้พ่อของพลัสเข้ามา ตำรวจชั้นผู้ใหญ่กับนายตำรวจกรูเข้าและจับตัวระตาไว้

“"คุณมีสิทธิที่จะไม่พูด เพราะสิ่งที่คุณพูดเราจะใช้ปรักปรำคุณในศาลได้ คุณมีสิทธิ์ที่จะเรียกทนายความ หากคุณไม่มีทนาย ทางรัฐจะจัดหาให้ และคุณมีสิทธิ์ที่จะไม่ตอบคำถามใดๆ อ่อ แต่จะให้ ตามหลักความจริง คุณไม่มีทางออกมาเห็นเดือนเห็นตะอีกพักใหญ่ๆ เลยละคุณผู้หญิง เอาตัวเธอไปโรงพัก" ระตาถูกจับออกไปพร้อมกับเสียงแฟรชที่ดังไม่หยุดนักข่าวลุมถามคำถามไม่หยุด หญิงสาวเหมือนคนที่ไร้วิญญาณสติเธอหลุดลอย ก่อนจะหันไปมองด้านหลัง นาคลุกขึ้นยืนและแสยะยิ้มให้เธอ

“ขอบใจเอ็งมากนะไอ้เขม ที่ช่วยสืบคดีให้ เออ ไอ้พลัสมันหลานข้า เพื่อนไอ้พลัสก้เหมือนหลานข้าเหมือนแต่มึง นะเพื่อนกูนะเว้ย กูไม่คิดเลยว่ามึงจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้”

“คนดวงมันซวย ลูกทิ้งเมียมีชู้”

“เออ ซวยจริง”

สิงห์ปล่อยให้เพื่อนเก่าคุยกัน ก่อนจะเดินไปหา กลุ่มเพื่อนตัวเองที่ยืนหัวเราะเยาะกับวีรกรรมการแก้แค้นของเพื่อน

“มึงนี่ โคตร เหี้ยอะ นั่นผู้หญิงนะเว้ย” คิท

“ช่างแมร่งดิ มันไม่ใช่แม่กูสักหน่อย” สิงห์ตอบอย่างไม่หยีระ

“แต่ว่ามึงนี่ เก่งเนอะไม่น่ามาเรียนหมอกับพวกกูเลย”

“กูเรียนเพราะจะได้รักษาหมาในมึงไง”

“อะ พาลงเรื่องเศร้า แล้วนี่งานวันนี้มันล่มแล้วจะเอาไงต่อวะ”

“เดี๋ยวกูขึ้นไปจัดการต่อเอง ทุนพวกนี้เป็นเงินสะอาดเด็กๆ สมควรจะได้มัน แขกก็น่าจะพอเหลืออยู่” สิงห์ตอบ ก่อนจะเดินขึ้นเวทีและประกาศเรื่องให้ทุกท่านได้ทราบและจะดำเนินงานต่อ เขาขอร้องให้แขกในงานอยู่ในความสงบ เขาใช้เวลาไม่นานก็จัดการทุกอย่างให้เข้าที่พีกรเดินขึ้นมารับช่วงต่อจากสิงห์ทัน งานดำเนินต่อไปอย่างสงบราบรื่น เด็กได้ทุนทุกคนปลื้มใจแต่ก็ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี จบงานสิงห์พาพ่อกลับบ้านพวกแก้งหมอก็แยกย้ายกันไปทำงานบ้านหลังใหญ่ที่เคยเงียบเหงาและมีแต่รอยร้อยตอนนี้เริ่มจะสดใสขึ้น

“สิงห์กลับมาอยู่บ้านไม่ได้เหรอลูก” นาคเอ่ยถามลูกชายคนเล็กด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า

“ผมขอคิดดูก่อนนะครับ เพราะตอนนี้ผมมีบ้านแล้ว และที่สำคัญผมมีคนที่ต้องปกป้องดูแล” สิงห์เอ่ยพร้อมกับเรียกให้กรมาดูแลนาคแทนตน

“นี่ลูกยังไม่หายโกรธพ่ออีกเหรอ?”

“ผมไม่ได้โกรธพ่อแล้วครับ แต่ก็อย่างที่ผมบอกผมอยู่แบบนั้นสบายใจกว่า” สิงห์ตอบเขานั่งคุกเข่าลงตรงหน้าสิงห์

“ไว้พ่อหายดีเมื่อไหร่ผมจะพาน้องมาหา”

“น้อง? น้องไหน แกเป็นลูกคนสุดท้องของพ่อ” นาคมองใบหน้าอันหล่อเหลาของลูกชายด้วยความงุนงง

“น้องที่ท้องชนกันนะครับ ไว้น้องพร้อมเมื่อไหร่ผมจะพาน้องมาหา” สิงห์ยิ้มอ่อนโยนให้กับคนตรงหน้าเมื่อนึกถึงเด็กที่รอเขาอยู่ที่บ้าน

“นี่แกอย่าบอกนะว่า แอบซุกเมียไว้นะ!!! ”

“ครับ เมียเด็กด้วย ผมไปก่อนนะครับปล่อยน้องไว้คนเดียวนานแล้วเดี๋ยวจะงอแงอีก ฝากพ่อด้วยนะกร”

“ครับนายน้อย” กรก้มหัวให้นายของตัวเอง พร้อมกับพานาคขึ้นไปพัก

“นี่เจ้ากร แกรู้เรื่องของ เด็กคนนั้นไหม?” นาคถามลูกน้องคนสนิท

“ครับ ก็พอรู้บ้าง^^”



+++++++++++++++++



จบไปกับการล้างบางคู่แม่ลูกอาจจะไม่สะใจใครหลายคน ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ พระเอกเราก็ร้ายเงียบ มากๆ คลายปมจะหมดแล้ว เหลือแค่ตัวน้องเท่านั้น สู้ตาย ซีนหวานๆ ก็คงจะตอนหน้า เรื่องร้ายๆ กำลังจะผ่านพ้น ยังไงก็ช่วยอยู่เป้นกำลังใจให้น้องด้วยนะ คอมเม้นท์บอกน้องด้วยก็ได้ค่ะ

ปล.รักนักอ่านทุกคนนะ แล้วก็ของคุณมากที่เข้ามาติชมผลงานของไรท์ ใกล้จะจบแล้วสำหรับเรื่องนี้ ส่วนน้องยักษ์ ไรท์ว่าจะปรับเนื้อหาใหม่ทั้งหมด เพราะจู่ๆ มันก็ตันขึ้นมาสะงั้นส่วนคู่รอง กำลังจะคลอดแล้ว รอน้องจบก่อนเด้อ

รักนะจุ๊บๆ







หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.32 21/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 21-10-2018 09:26:45
 :katai2-1: :laugh: :katai2-1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.32 21/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 21-10-2018 10:14:07
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.32 21/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-10-2018 13:05:48
แม่ ลูกกันจริงๆ นิสัยเหมือนกันสุดๆ
ชอบเซ็กส์เหมือนๆกัน ใช้ผู้ชายหลายคน เสพติดเซ็กส์ป๊ะเนี่ย  :really2:
เอ่อ....ผู้ชายคนเดียวกันก็มี อะจ๊ากกกกก   :serius2: :serius2: :serius2:
โลภเซ็กส์ ลาภเลยหาย  นังร้ายตกตึก เข้าคุก กรรมตามสนอง  :z6:
แป้งคงไม่มาเวิ่นเว้อทำร้ายนะโมนะ

พี่สิงห์  นะโม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.32 21/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-10-2018 18:24:40
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.32 21/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-10-2018 01:33:05
และแล้วชะนีเลว ๆ ก็สูญพันธุ์ไปจากเรื่องนี้  :katai3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.32 21/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-10-2018 02:10:37
พี่สิงห์มันร้ายยย5555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.33 28/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 28-10-2018 09:27:28
33.



หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตคาดเดาไม่ได้ หุ้นในบริษัทตกฮวบตั้งแต่มีข่าวคาว ของระตาแพร่ออกไป แน่นอนเจ้าของบริษัทตัวจริงอย่างสิงห์ไม่ปล่อยให้มันเป็นไปได้นานอยู่แล้วเขาแค่รอเวลาหนอนบ่อนไส้เผยตัวออก ในเมื่อหุ้นตก คนที่มีหุ้นอยู่ในมือก็อยากจะปล่อยเพราะมันเสี่ยง ปลาอย่างสิงห์ก็แค่คอยฮุบเหยื่อเท่านั้น ไม่ถึงสองวันคนที่รู้ตัวว่าตนเองอยู่บริษัทต่อไปไม่ได้แล้วก็เทหุ้นทิ้ง สิงห์ก็แค่กว้านซื้อมาจนหมด หุ้นของบริษัทอยู่ในมือเขาเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

“จัดการคนพวกนี้ให้หมด อย่าสงสารเพราะว่าตอนที่เขาทำเขายังไม่คิดที่จะสงสารเรา” นาคเอ่ยสั่งกับสิงห์ด้วยสีหน้าที่เคร่งขึม เขาเครียดเพราะคนส่วนใหญ่ที่คดโกงเป็นพนักงานเก่าแก่ บางคนนาคปูตำแหน่งให้สูง แต่ก็ไม่พอ หลงใหลกับเม็ดเงินที่ระตาปั้นแต่งให้ หลอกขายฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง

“ครับพ่อ จัดการเลยเมฆ” สิงห์หันไปสั่งเมฆที่ยืนรอรับคำสั่งจากเขา

“ครับนายน้อย” เมฆรับคำสั่งแล้วก็ออกไปจากห้องทำงานใหญ่

“พ่อหายดีเมื่อไหร่ผมจะคืนตำแหน่งให้นะครับ” สิงห์พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง เขาไม่อยากได้ตำแหน่งนี้

“พ่อไม่อยากได้แล้ว” นาคเอ่ยออกมาจากใจ เขาสมควรจะได้พัก หน้าที่ของเขาควรจะได้รับการสืบทอดสักที

“แต่ผมก็ไม่พร้อมที่จะทำเหมือนกัน” สิงห์ตอบพ่อของเขาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เขารู้ว่าพ่อเหนื่อยแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขารัก

“แต่บริษัทเป็นของลูก”

“พี่ๆ ก็อยู่”

“เค้าก็มี ของเค้าแล้ว”

“ผมก็มีของผมเหมือนกัน”

“สัตวแพทย์จะทำเงินได้เท่าไหร่กัน”

“แต่มันเป็นงานที่ผมรัก แค่นี้ผมก็มีใช้ไม่หมดแล้ว”

“จะพอเลี้ยงเมียเลี้ยงลูกเหรอ”

“พอครับ”

“เอาไว้เราค่อยคุยกันเรื่องนี้ทีละกัน พ่อก็ไม่ได้อยากจะเร่งอะไรเรามากมาย”

“ครับ^^ ผมไปก่อนนะครับ”

“เห้อออ พ่อก็แก่แล้วอยากพักบ้าง”

“ก็พักสิครับ ตอนนี้พักให้เต็มที่”

“ว่างๆ ก็พาน้องมาเจอพ่อบ้างสิ^^”

“หึ ไว้ถึงเวลาพ่อได้เจอแน่” พูดจบร่างสูงก็เดินออกไปทิ้งไว้เพียงชายแก่วัยห้าสิบที่กำลังสงสัยอะไรบางอย่างเกี่ยวกับ น้องที่ สิงห์บอกว่าเป็นเมีย ถามกร ก็ไม่พูด เขาละหงุดหงิดอยากรู้

“ผมรับเงินเดือนจากนายน้อยครับ ขอโทษนะครับนายท่าน”



.......................................................................

วันซ้อมใหญ่ ที่ไอ้เอ๋อมันจะต้องไปเก็บตัวที่สถานที่แข่งขันหนึ่งคืน เป็นค่ายที่รวมตัวของผู้เข้าแข่งขันในระดับจังหวัด

“ไม่ เราไม่ได้บอกพี่เลย!! ” ใช่สิงห์พึ่งจะรู้ แต่ความจริงคือนะโมบอกไปตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่สิงห์ดันลืม

“น้องบอกแล้วครับ” ไอ้เอ๋อมันพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ ขณะที่กำลังลงมือจัดกระเป๋าด้วยตัวเอง

“บะ บอกตอนไหน” ไม่อยากจะยอมรับว่าตนเองผิดอีกอย่างเขาอยากจะแกล้งคนตัวเล็กมากกว่า

“วันแรกเลยครับ น้องบอกตั้งแต่วันแรก กางเกงลิง นี่! ” มันชูของในมือให้สิงห์ดูก่อนจะยัดกางเกงในลงกระเป๋าเป็นอย่างสุดท้าย

“ไม่รู้แหละแบบนี้ถือว่าไม่ได้บอก หนูต้องโดนลงโทษ!! ” เหตุผลหลักที่ยืนโวยวายใส่คนตัวเล็กคืออยากหาเรื่องลงโทษเขา

“งะ = = พี่จ๋าทำหน้าหื่นอีกแล้ว”

“หื่นอะไรไม่หื่น ไหนเดินมาหาพี่ซิ”

“ไม่เอาไม่ไป พี่จ๋าน่ากลัว” มันส่ายหน้าแล้วทำท่าจะลุกหนี แต่สิงห์คนเจ้าเล่ห์ เขาไวกว่าคว้าเอวเล็กเอาไว้ได้ทันก่อนที่มันจะหนีเขา

“อ๊ากก ปล่อย น้อง คิกๆ อย่าฟัดพุง คิกๆ อื้อ อะ” ร่างสูงอุ้มคนตัวเล็กไปในห้องนอนแล้วจับฟัดพุงด้วยความมันเขี้ยว เสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากดังลั่นบ้าน ท่ามกลางความเงียบสงบยามค่ำคืน จู่ๆ ค่ำคืนที่ดูสงบเงียบแต่มันกลับเป็นคืนที่เร่าร้อนของคนในบ้าน สิงห์จัดการลงโทษเด็กดื้อของเขาจนเต็มอิ่ม ไอ้เอ๋อนอนหอบอยู่บนตัวเขา มันมีความสุขทุกครั้งที่สิงห์แสดงความรักกับมันแบบนี้ มีความสุขจนอยากจะตอบแทนคนตรงหน้าให้ได้มากที่สุด นั่นคือตามใจคนตัวสูงทุกอย่าง แต่มันไม่เคยรู้หรอกว่าคนอย่างสิงห์เติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม ยิ่งให้ยิ่งอยากได้ ดังนั้นไม่ผิดที่สิงห์จะกลายเป็นคนโลภมาก กับร่างบาง



“ไอ้เอ๋อ ไมมึงเดินแปลกๆ วะ” ปิงที่เดินมารับมันขมวดคิ้วนิดๆ

“งือ ปิงปิง เราเจ็บตูด พี่จ๋าทำโทษเราเมื่อคืน” มันตอบหน้าซื่อ แต่คนที่ฟังมันหน้าแดงตามวิถีธรรมชาติ

“ (สัส พี่สิงห์) ไหวไหมเนี้ยะนั่งรถไกลนะมึง กว่าจะถึงค่าย” ปิงถามมันด้วยความเป้นห่วง

“งือ เราไม่รู้ แล้วตัสตัสไปไหนอะ”

“รออยู่ที่รถ” เพราะไอ้เอ๋อมันเป็นเด็กพิเศษ มันจำเป็นต้องมีพี่เลี้ยง หน้าที่นั้นเลยตกเป็นของเพื่อนทั้งสอง ซีตัสเอารถที่บ้านไป เพราะไม่อยากไปนั่งเบียดกันบนรถตู้

“หรองั้นไปหาตัสตัสกัน เราจะฟ้องว่าพี่จ๋าทำเราเจ็บ”

“เออ ไป ฟ้องมันแล้วหยั่งกะมันจะไปต่อยพี่สิงห์ให้”

“ไม่ได้ให้ต่อย แต่เราจะให้ดุ”

“ผัวมึงคงกลัวอะ”

นั่งรถนานเป็นชั่วโมงไอ้เอ๋อมันร้องโอดโอย เพราะเจ็บก้น หน้ามันซี๊ดๆ จนปิงโมโหโทรศัพท์ไปด่าสิงห์ทันที

“ไอ้พี่เหี้ย!! ” ด่าจบก็วางสายใส่ไม่ต้องรอให้อีกคนได้พูดอะไร ปิงหันมาทำหน้าบูดใส่คนข้างกายด้วยความหงุดหงิดใจ

“ทำหน้าให้มันดีๆ มันเจ็บไม่ใช่มึงเจ็บ”

“ก็มึงดูมันดิแบบนี้จะทำอะไรกับเค้าได้บ้าง เดินก็ล้มแล้วมั้ง ไหนจะรอยพวกนี้อีก อิสัสกูนึกว่ามันเป็นโรค” ปิงชี้ให้ดูรอยจ้ำๆ ตรงบริเวณโคนขากับช่วงอก

“ที่หงุดหงิดมันนี้คืออยากมีบ้าง อิจฉามันหรอ” ซีตัสเอ่ยถามด้วยสีหน้ายิ้มๆ

“อิจฉา ห่าไรละ คนจะมองมันไม่ดี”

“คึคึ หน้าปิงปิง ทำไมแดง” มันเอ่ยแซวเพื่อนคนสำคัญ ซีตัสอมยิ้มนิดๆ รู้ว่าคนรักของตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่

“ไอ้นี่นิ่ เดี๋ยวเถอะ จะโดนทุบ”

“งะ อย่าทุบเรา เราอ่อนแอ” มันบอกพร้อมกับซุกตักอ้อนปิง เพราะมันเป็นคนน่ารักแบบนี้ใครๆ ถึงได้โอ๋ได้รักมัน

พอมาถึงค่าย มันก็ต้องไปรายงานตัวและรับป้ายชื่อก่อนจะจับฉลากเพื่อจับคู่แข่งขัน มันได้แข่งกับตัวแทนของอีกอำเภอหนึ่งซึ่งถือว่าเก่งพอตัว พอรู้ว่าต้องแข่งกับใครมันก็ลงมือซ้อมกับยิม ปิงกับซีตัสเอาของเข้าไปเก็บในห้องพักให้ ระหว่างนั้น ก็มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ มีการพูดคุยกันเป็นกลุ่มๆ ทำให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนรู้ว่าไอ้เอ๋อมันเป็นเด็กพิเศษหลายคนเอ็นดูหลายคนดูถูก ต่างคนต่างความคิด ยิมตามประกบไอ้เอ๋อตลอดเพราะพี่เลี้ยงไม่สามารถเข้ามาร่วมกิจกรรมได้ หน้าที่ดูแลไอ้เอ๋อเลยตกเป็นของยิม

“ยิมยิม พวกเขามองเราทำไม?” มันถามเพราะรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมา มีหลายคนอยากจะประลองฝีมือกับมันแต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาท้า เพราะคิดว่าถ้าท้าไปจะกลายเป็นการรังแกและดูถูกกัน ตกเย็นมีการเลี้ยงมื้อค่ำเป็นโต๊ะจีน เพราะการแข่งขันครั้งนี้มีผู้เข้าแข่งขันหนึ่งร้อยคน แบ่งเป็นสี่กลุ่ม คือ a b c และ d ไอ้เอ๋ออยู่สาย a ที่จะต้องเจอกับสายb แข่งแบบแพ้คัดออก จนเหลือคนสุดท้ายของแต่ละกลุ่มมาแข่งกันเพื่อหาที่หนึ่ง

“ยิมยิม เราอยากกินอันนั้น ลูกสีขาวๆ” มันชี้ไปที่แห้วในจานไก่ผัดเม็ดมะม่วง

“อะ กินเยอะๆ” ยิมตักให้มัน

“ตัสตัสตักพริกให้ปิงปิงทำไม ทำไมตัสตัสใจร้าย” มันเอ่ยทักซีตัสที่กำลังจะแกล้งปิงด้วยการยัดพริกลงในชิ้นไก่ แล้วจะป้อนให้ปิงกิน

“ไอ่เด็กนี่ -*- “

“มึงจะแกล้งกูเหรอ งั้นเอามานี้ อ้าปาก!! ” ปิงแย่งไก่ชิ้นมาถือไว้แล้วบังคับให้ซีตัสกินแทน

“คึคึคึคึ...ตลก...คึคึคึ”

“มึงขำได้ตอแหลมากไอ้เอ๋อ” ซีตัสพูดใส่พร้อมกับผลักหัวมันเบาๆ ก่อนจะตักเลือกตักแต่เม็ดมะม่วงหิมพานต์กับแห้วไว้ให้มัน ส่วนปิงเขาตักไก่กับหอมใหญ่ให้

“นะโม อะ นี่ผักมีประโยชน์”

“งะ” ไอ้เอ๋อมันมองหน้ายิม

“ประโยชน์พ่อง!! ก้านผักชี” ปิงเอาก้านผักชีในจานไอ้เอ๋อโยนใส่

“เอ้ามึง ดูถูกก้านผักชีกู นี่ของบำรุงสมอง จะได้ฉลาดๆ อย่างกู”

“บำรุงสมองมึงเถอะ ไอ้คว๊าย ฉลาดให้เท่าลูกกูก่อนเถอะ” ปิงบอกด้วยความรู้สึกหมั่นไส้ รู้ว่าที่ยิมพูดไม่ได้หมายถึงจะว่าไอ้เอ๋อมัน

“เออ กูไม่สู้ลูกมึงหลอก ห่า” ยิมบอกขำๆ ก่อนจะตักอาหารกิน

ติ้ง ติ้ง ติ้ง

(แชท องคืรักษ์พิทักษ์ไอ้เอ๋อ)

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

มึง

เงียบกันหมด ลูกกูเป็นไงบ้าง

ตอบ อิสัส

นะโม

ส้มส้ม เราสบายดี กำลังกินแห้วเลย

ซีตัสคนจริง

ลูกมึงตอบแล้วพอใจยัง

เหงาดิ

ปิง

ว้ายย

คนเหงา

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

เหงาที่หน้ามึง

กูมีผู้ชายทั้งสิบเอ็ดของกุ

ไม่ง้อพวกมึงหรอก
ปิง

ให้มันจริง

เหงาพิมพ์งี้

Yimmy

เหงา = แพ้

ถ้าไม่อยากเหงา

ทักเรามา

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

ปล่อยกูไว้กับผู้ชายของกูเหอะ

เลิกหวีดลูกกูเมื่อไหร่ค่อยมาพูด

Yimmy

หึงพิมพ์งี้

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

หึงที่หน้ามึงอะ

อิลูกตั้งใจนะคะ

ขอให้ชนะทุกคนเอาแชมป์กลับมาฝาก

แม่นะลูกนะ

นะโม

หูยยยยย กดดัน

แต่เราจะพยายามนะ

คนเก่งกว่าเรามีเยอะ อะ

แอบกลัว

ซีตัสคนจริง

มึงชนะได้ไอ้เอ๋อ

อย่าไปกลัว

ปิง

มึงเก่งอยู่แล้ว

มึงมันอัจฉริยะ
นะโม

คึคึ

Yimmy

จริงครับ

นะดมเก่งกว่ายิมอีก

สู้ๆ นะ

ปิง

ต้องนับถือบุญเก่ามึง

ที่ทำให้มึงไม่ต้องเจอมันตั้งแต่รอบแรก

Yimmy

สาธุบุญบารมีกูด้วย อิสัส!!

นะโม

ยิมยิมพูดไม่เพราะ

Yimmy

ขอโทษครับ

ปิง

555 กูลั่น

ซีตัส

อิ่มกันรึยัง

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

มึงแดกอะไรกัน

ปิง

(ส่งรูป)

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อิเลวววววววววววววววววววววววว

มึงฆ่ากูด้วยรูป

มึงจะต้องไม่ตายดี
นะโม

ส้มส้ม ส้มส้มจะตายไม่ได้นะ

(ส่งรูป) ขาหมูเยอรมัน

เราเก็บอันนี้ไว้ให้ส้มส้ม กิน

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

มึง

ลู๊กกกกกกกกกกกก

กูตายแปป กูไม่อยู่ให้พวกมึงซ้ำเติมกูแน่นอน

ปิง

โอ้ยยยยลูกมึง

Yimmy

ว้ายย

อิบุญหมด

ซีตัสคนจริง

เลิกคุยก่อน

เค้าจะเก็บโต๊ะแล้ว

ไปอาบน้ำนอน
[/right]
นะโม

เดี๊ววค่อยคุยกันนะส้มส้ม

เราต้องไปอาบน้ำแล้ว

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

จร้า

ดูลูกกูให้ดีๆ นะมึง


หลักจากนั้นพวกไอ้เอ๋อก็พากันไปอาบน้ำเตรียมตัวจะนอน แต่จู่ๆ ไอ้เอ๋อมันก็เดินออกไปข้างนอก ในขณะที่ทุกคนกำลังจะนอน

“น้อง น้อง อยู่ไหน มืดแล้ว พี่ไม่เล่นแล้วนะ” มันตะโกนเรียกเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่มายืนเรียกมันที่หน้าประตูห้อง

“น้อง พี่ต้องนอนแล้ว ออกมาเถอะ ไหนวิว ไง งืออออ” มันเริ่มจะกลัวเพราะเด็กที่มันเดินตาม เดินไวมากจนมันตามไม่ทัน

.....

“ไอ้เอ๋อไปไหน มึงเห็นมันไหม” ซีตัสเอ่ยถามเพื่อนในห้อง

“ก็เห้นมันนั่งอยู่ที่เตียง ไปไหนแล้วอะ” ปิง เดินออกไปดุที่หน้าห้อง

“มันออกไปไหนของมันวะ เห้ย พวกมึงไปเร็วไอ้เอ๋อมันเดินเข้าไปในป่าแล้ว” ปิงรีบใส่รองเท้าแล้ววิ่งตามหลังไอ้เอ๋อไป

“ไอ้เอ๋อมึงหยุด ไอ้เอ๋อ” ปิงตะโกนเรียก แต่ไอ้เอ๋อมันไม่ได้ยิน



“หายไปไหนแล้ว” มันกวาดสายตาไปรอบเพื่อมองหาเด็กคนนั้น

“คิกคิก มาเล่นกะหนูหน่อย หนูเหงา” เสียงเด็กตัวน้อยดังมาตามลม

“อยู่ไหน ออกมาหาพี่เร็ว”

“คิกคิก หาหนูให้เจอสิ” มันมองเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาน่ารัก มัดจุกตรงกลางหัวนุ่งโจงกระเบนสีทอง ใส่สร้อยสังวาล ไม่ใส่รองเท้า

“งือออ น้อง น่ารัก น้องค๊าบ” มันยืนเรียก กว่าจะรู้ตัวมันก้ยืนอยู่ท่ามกลางป่า ที่มืดสนิท

“หูยยยย ทำไมมันมืดแบบนี้ละ น่ากลัว” มันพูดออกมาตามที่ใจคิด และกำลังจะหันหลังเดินกลับ แต่จู่ๆ ก็มีมือใครบางคนมาจับแขนมันไว้ พอมันหันไปมอง

“พี่ อย่าพึ่งไป หนูเหงาเล่นเป็นเพื่อนก่อน” เด็กคนนั้นยิ้มหวานให้มัน

“แต่ว่ามันมืดแล้ว พี่ง่วงแล้ว” มันพยายามจะดึงมือออกแต่เด็กนั่นไม่ยอมปล่อยมือเขาเลย

“หนูกบอกว่า ให้ พี่ เล่น กับ หนู!! ” เด็กน้อยตวาดใส่มันเสียงลั่น มันสะดุ้งโหยง จู่ๆ ก็เกิดลมพัดแรง และเสียงหมาหอน

“หึ้ยยย น้องเล่นอะไรเนี้ยะ ปล่อยพี่”

“ไอ้เอ๋อ!! ซีตัสกับปิงวิ่งตามมาทันและเห็นภาพตรงหน้าชัดเจน

“ตัสตัส ปิงปิง!! ช่วยเราด้วย” สิ่งที่เห็นไม่อาจจะทำให้สิงห์เชื่อได้ว่าผีมีจริงร่างสูงวิ่งตรงไปยังร่างบางที่ยืนตัวแข็งทื่อ ก่อนจะกระชากตัวมันขึ้นพาดบ่าแล้วพากันวิ่งหนี

“ไปเร็วปิงวิ่งๆ” ซีตัสบอก

“เชี้ยะไรวะ ไอ้เอ๋อมึง พาตัวอะไรมาด้วย” ปิงที่วิ่งไปถามไป เขาตกใจกลัว

“เราไม่รู้ แว๊กกกกกกกกกกก น้องมาแล้ว น้อง มาแล้ว*0* ตาสสสสสสสสสสสสสส” มัรกรี๊ดสุดเสียงด้วยความหวาดกลัว

ทั้งสามวิ่งจนสุดชีวิต จนมาถึงบ้านพัก เด็กน้อยคนนั้นหยุดอยู่ที่ริมป่าแล้วมองมาที่พวกเขา

“พี่ใจร้าย! ” ผีเด็กตนนนั้นว่าให้ก่อนจะค่อยๆ จางหายไป

“นี่มึง พาผีมาเหรอไอ้เอ๋อ”

“เราเปล่านะT^T”

อกสั่นขวัญผวากันยกแก๊ง ไอ้เอ่อมันนั่งหน้าซี๊ด ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อยู่ไม่น้อย มันพึ่งจะเจอกับสิ่งความสยองเป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งความจริงมันเจออยู่ตลอดชีวิตของมันแท้ๆ แต่มันแค่ไม่รู้เท่านั้น

“เราว่าเราไม่ไหว เราอยากโทรหาพี่จ๋า” จู่ๆ มันก็ลุกขึ้นพูดก่อนจะคว้าเอาโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรหา

“ฮาโหลล อึก พี่จ่า มาหาน้อง หน่อย ฮรืออ น้องกลัวครับ”

“ใจเย็นครับ เป็นอะไร ใครทำอะไรหนู” สิงห์ตกใจกับเสียงสั่นๆ ของมัน ใจเขาหล่นไปถึงตาตุ่ม

“ผะ ผี ผีจ้ะ ผีหลอกน้อง พี่จ๋ามานอนกับน้องได้ไหมครับน้องกลัว” มันบอก

“ผีเหรอ!! คุณยายเหรอ”

“ไม่ใช้ ฮึก ผีน้องครับ”

“แล้วตัสกับปิงละ”

“นอนคลุมโปงไปแย้ว ฮรืออ พี่จ๋ามาหาน้องนะ ฮึก นะครับ” มันใช้เสียงอ้อนใส่คนตัวสูง

แทบจะทนไม่ไหว เขาพับงานในมือลงกับโต๊ะทำงานทันที

“นะครับพี่สิงห์ มาหาน้องนะ มานอนกับน้อง น้องกลัว”

“ครับ พี่จะไปหาหนูเดี๋ยวนี้แหละ ไม่ต้องกลัวนะ”

“อื้อ รีบมานะ ถ้าพี่จ่ามาเร็วๆ น้องจะจุ๊บๆ”

“คะ ครับ พี่ หยิบกุญแจรถแล้ว!! ” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ารีบแค่ไหน รีบจนไม่ปิดประตูบ้าน จากบ้านไปยังสนามแข่งก็ไม่ใช่ใกล้ๆ แต่เชื่อเถอะ อย่างสิงห์ แค่ครึ่งชั่วโมงถึง ระหว่างทางเขาแวะซื้อขนมไปฝากเด็กๆ ด้วย

“ออกมาเลยครับพี่ถึงแล้ว รออยู่ด้านหน้านะครับ” เขาโทรบอกร่างเล็กที่นั่งรออยู่ในห้องพัก

“ครับ เย้ๆ ปิงปิง ตัสตัส เดี๋ยวเรามานะ ไปหาพี่จ๋า” มันสะกิดคนที่นอนทำตาตื่นๆ อยู่ในผ้าห่ม

“มึง..จะไปคนเดียวเหรอ เห้ย เดี๋ยวกูไปส่ง ไอ้ปิงลุก”

“ไรวะ จะมาทำไมตอนนี้! กูกลัวว” ร่างบางที่กอดคนตัวโตกว่าแน่นเงยหน้าขึ้นมาตอบ

“มันไปแล้วอีกอย่างจะให้ไอ้เอิ๋ไปคนเดียวได้ไง”

“เออก็ได้”

“งื้อ ขอบคุณนะปิงปิง” มันยิ้มหวานเป็นการของคุณ พากันเดินออกมาที่ด้านหน้าเห็นรถคันคุ้นตาจอดอยู่ก็รีบพากันเดินไปหา

“สวัสดีพี่/หวัดดีพี่”

“อืม ขอบใจที่ดูแลน้องให้ เอ้านี่ขนมพี่ซื้อมาฝาก” สิงห์ยื่นถุงขนมที่ซื้อมาจากเซเว่น

“หูยยยยย ไหนของน้องละครับ” มันทำตาโตเมื่อเห็นถึงขนมในมือของซีตัส

“อยู่ในรถครับ เอ่อ พวกนายกลับไปนอนก่อนก็ได้ พี่ขอคุยกับน้องก่อน เดี๋ยวพี่พาไปส่ง” สิงห์ส่งยิ้มให้กับสองคนนั้น พร้อมกับสบตานิ่งๆ เป็นเชิงบอกว่า “กูอยากอยู่กับเมีย” ซึ่งมีแค่ซีตัสที่พอจะรู้เขาเดินจูงมือปิงเดินกับไปที่ห้อง

“อ่าว ไปไหนรอเราก่อน พี่จ๋าไหนขนมน้อง งือ เพื่อนทิ้งแล้ว” มันลุกลี้ลุกลน เพราะไม่อยากเดินกลับคนเดียว

“ไม่เป็นไรครับพี่จะเดินไปส่งเราเอง ตอนนี้เรามาคุยกันในรถดีกว่า” สิงห์ส่งสายตากรุ้มกริ่ม เหมือนกำลังหลอกเด็กไปเชือด

“งือ พี่จ๋ายิ้มแบบนี้อีกแล้ว” มันเริ่มจะหวั่นใจกับรอยยิ้มของหมาป่าตรงหน้า



พอขึ้นรถสิงห์ก็ทวงค่าจ้างกับมันทันที ริมฝีปากบางถูกควบคุมโดยคนที่ประสบการณ์เยอะกว่า อ้อมแขนแกร่งตวัดรัดเอวก่อนจะดึงอีกคนขึ้นมานั่งบนตัก ริมฝีปากที่บรรจงจูบลงมาทำเอาหัวใจดวงน้อยพองโต สิงห์กำลังทำให้มันเสียคน เขากำลังทำให้มันเสพติดการจูบ

“อืออ อื้ม”

“หึหึ ชอบเหรอครับ จุ๊บ” เขางับปากมันเบาๆ

“-///- ครับ” สิงห์ปรับเบาะนอน ตอนนี้มันกำลังนอนเกยอยู่บนตัวเขา

“แล้วเป็นอะไร ครับหืมถึงให้พี่มาหา”

“อ่า อ่อ ผีหลอก น้องกับเพื่อนโดนผีหลอกครับ” แล้วมันก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้สิงห์ฟัง พร้อมกับเล่าเรื่องของวันนี้ให้เขาฟัง ร่างสมตั้งใจฟังสิ่งที่มันพูดโดยที่ไม่มีท่าทีว่าจะเบื่อเลย แม้เรื่องของมันจะเป็นแค่เรื่องธรรมดาอย่างมื้อเย็น มันเป็นเพราะคนเล่ามากกว่าที่ทำให้เขาไม่เบื่อ ฟังได้สักพัก เสียงมันก็ค่อยๆ เบาลงๆ จนกระทั่งเหลือเพียงแต่เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ

“หลับแล้วหรอครับ หึหึ” เขาประทับจูบลงบนผมนุ่มของมันก่อนจะส่งข้อความไปหาซีตัส

(นอนเลยไม่ต้องรอ)



แม้ว่ามันจะเป็นอะไรที่ไร้สาระ แต่แค่นี้เขาก็สุขใจ เขาพอใจกับสิ่งที่ได้กลับมา แค่นี่ ก็สุขใจ



..................

เช้าวันต่อมา หลังจากปลุกคนขี้เซาที่นอนอยู่บนตัวเขาทั้งคืนพากลับไปส่งองครักษ์พิทักษ์เอ๋อ มันยังไม่ลืมตาด้วยซ้ำตอนเขาพามันไปส่ง ก่อนที่ตัวเขาเองจะรีบกลับไปบ้าน เพื่อเข้าบริษัทแต่เช้า สิงห์สัญญาว่าถ้ามันชนะ เขาจะพามันไปทะเล

ท่ามกลางผู้คนมากมาย เวทีการแข่งขันเริ่มขึ้นในตอนสาย ทุกคนจับคู่ตามที่ได้ โต๊ะแข่งขันตั้งเรียงแถวยาว สองแถว แถวละ ยี่สิบห้าคู่ แข่งแบบแพ้คัดออกการแข่งขันรอบแรก มันเอาชนะเขาได้อย่างเฉียดฉิว ยิมเองก็ผ่านรอบแรกมาด้วยเช่นกัน พอถึงช่วงพักเบรกมันรีบโทรบอกสิงห์ทันทีว่ามันผ่านรอบแรกมาได้แล้ว

รอบต่อมามันเจอคู่แข่งที่เก่งกว่า มันใช้สมาธิกับหมากตรงหน้า ดวงตากลมมองไปยังกระดานหมากที่อีกฝ่ายกำลังเสียเปรียบ

“นี่ เป็นเด็กปัญญาอ่อนเหรอ” ชายวัยกลางคนคู่แข่งของมันกระซิบถามด้วยน้ำเสียงที่ดูเยาะ

“ครับ” มันตอบแต่ไม่ยอมสบตา

“ไม่อายเหรอ ที่ปัญญาอ่อน ไอ้ปัญญาอ่อน” คำพูดของคนมีผลต่อจิตใจเสมอ ไอ่เอ๋อเริ่มขยับขา มือเริ่มสั่น อีกคนกำลังทำลายสมาธิของมัน

“แข่งไปก็แพ้ อะไร มือสั่น กลัวเหรอ” คำพูดดูถูกเหยียดยามกำลังดังก้องอยู่หู เสียงต่างรอบตัวมันดูเงียบลงไปหมด มันได้ยินแต่เสียงของคนตรงหน้า เสียงหัวเราะเยาะ มันกำลังเครียด

“อย่าพูด หยุดพูด” มันเค้นเสียงออกมาอย่างยากลำบาก สมาธิมันกำลังแตก กรรมการที่ควบคุมหันมามองมัน ด้วยความสงสัย ตัวมันสั่นมือมันสั่น และไม่ยอมเดินหมากบนกระดาน ซีตัสที่ยืนดูอยู่จากด้านนอก คิ้วเข้มขมวดลง

“ยอมแพ้ไปซะมึงไม่มีทางชนะกูได้หรอกไอ้เด็กปัญญาอ่อน” ฟางเส้นสุดท้ายของมันขาดผึง

“กุบอกให้หุบปาก หุบปาก หุบปาก!!!! ”





********************************************************

น้องจะเก้วกราดดดดด
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.33 28/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: jpjiraporn ที่ 28-10-2018 10:04:33
ไอ้แก่มึงถูกปรับแพ้ไปเลยแก่ไม่เจียมสังขาร
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.33 28/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-10-2018 13:21:17
 :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.33 28/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 28-10-2018 14:13:06
ตัสตัส ปิงปิง!! ช่วยเราด้วย” สิ่งที่เห็นไม่อาจจะทำให้สิงห์เชื่อได้ว่าผีมีจริงร่างสูงวิ่งตรงไปยังร่างบางที่ยืนตัวแข็งทื่อ ก่อนจะกระชากตัวมันขึ้นพาดบ่าแล้วพากันวิ่งหนี
.............................

คุณนักเขียนบรรยายมาประมาณว่าสิงห์แบกน้องหนีผีเด็กจากป่าพร้องตัส
กับปิง  แต่มาท้ายๆตอนสิงห์พึ่งขับรถมาถึงแล้วเรียกออกมา สรุปคือยังไงค่ะหรือเราอ่านไม่เข้าใจเอง :)
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.33 28/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 28-10-2018 14:43:10
เอ๋อลูกพ่อ โอ๋ๆ นะลูก
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.33 28/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-10-2018 16:57:04
 :ling3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.33 28/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-10-2018 20:11:06
นะโมสู้ๆ ลูก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.33 28/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 28-10-2018 23:01:02
น้องวีนแล้วววว
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.33 28/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 28-10-2018 23:21:15
 :hao7:



 :3125:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.34 4/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 04-11-2018 07:44:26
34



“ทำไม ทำไม ทำไมพูดแบบนั้น พูดว่า พูดว่าเราปัญญาอ่อน ทำไม!!! “ไอ้เอ๋อมันโวยวายจนกรรมการต้องออกมาตักเตือน เพราะว่าการลุกออกจากที่นั่งโดยไม่มีเหตุอันสมควรถือว่าผิดกติกามารยาทในการแข่งขัน มันอาจจะโดนตัดสิทธิ์แพ้ฟาวได้ ซึ่งมันรู้กฎพวกนี้ดี แต่คนคู่แข่งของมันกำลังทำให้มันสติแตก

“นะโม ถ้าคุณยังไม่นั่งที่ เราจะตัดสิทธิ์คุณนะครับ คุณทำให้ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ เสียสมาธินะ”

“กรรมการ กรรมการต้องปรับลุงคนนี้แพ้นะ เค้า ล้อเลียนผม เค้าล้อเลียนผม” มันยังโวยวายไม่เลิก และพยายามฟ้องกรรมาการว่าอีกฝ่ายกำลังบลัฟใส่ตนเอง แต่กรรมการไม่เห็น คำพูดของมันเลยไม่มีน้ำหนัก ซีตัสรีบเข้ามาดึงตัวของมันไว้ก่อนที่จะเกิดเรื่องราวมากไปกว่านี้ แต่มันไม่ยอมมันพยายามจะเข้าไปหากรรมการและฟ้อง



“ตัสตัส เค้าว่าเรา ตัสตัวต้องจัดการให้เรา เค้าโกง เค้าโกง ตัสตัส บอกกรรมสิว่าลุงคนนั้นโกง เค้าทำเราเสียสมาธิ” ซีตัสไม่เคยเห็นมันเกรี้ยวกราดขนาดนี้ มันกำลังจะเสียการควบคุม ในตัวเองไป มันเดินไปรอบๆ กัดเล็บและแสดงอาการผิดปรกติออกมา

“ใจเย็นมึง ไอ้เอ๋อตั้งสติก่อน” ซีตัสเบี่ยงเบนความสนใจมันด้วยการเข้าไปจับมันเอาไว้

“ไม่ เข้าว่าเรา เค้าล้อเลียน กรรมการ กรรมการ ต้องจัดการนะ ไม่งั้น ไม่งั้น เราไม่ยอม!!!! ” มันชี้หน้าคู่ต่อสู้ ลุงคนนั้นแสยะยิ้มใส่ มัน ก่อนที่ใครๆ จะเห็น และนั่นยิ่งทำให้มันไม่พอใจ

“หยุดนะคุณนะโม! ถ้าคุณไม่หยุดเราจะให้คุณออกจากการแข่งขันและปรับแพ้ทันที” กรรมการพูดเตือนมันเสียงเข้ม เพราะเสียงของมันดังรบกวนสมาธิของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ

“ฮึกทำไม ทำไมตัสตัส ทำไมกรรมการไม่ว่าลุงคนนั้น” มันกำลังตกที่นั่งลำบากถ้าหากว่ามันยังควบคุมตนเองไม่ได้แบบนี้ ถ้าแข่งระดับประเทศหรือที่ใหญ่กว่านี้มันคงแพ้ไปนานแล้ว

“ตั้งสติ ไอ้เอ๋อ มึงฟัง ถ้ามึงยังโวยวายคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้ มึงจะแพ้เขา” ซีตัสจับไหล่ของมันไว้แล้วพยายามดึงความสนใจของมันอีก แต่ไอ้เอ๋อมันเอาแต่ก้มหน้า เอียงคอมองอีกฝ่ายด้วยสายตาขวางๆ

“นิสัยไม่ดี นิสัยไม่ดี” ซีตัสพยายามปลอบให้มันสงบลงโดยการลูบแขนมันและจับหน้ามันให้มองที่ตัวเอง

“ไอ้เอ๋อ ไอ้เอ๋อมองกู มอง”

“คนไม่ดี คนไม่ดี” มันฝืนหน้าตัวเองไว้และพยายามมองคู่ต่อสู้ของตนเองตลอด

“ใจเย็น หายใจลึกๆ”

“คุณเป็นพี่เลี้ยงของคุณนะโมใช่ไหมครับ ไม่ทราบว่า เขาพร้อมที่จะแข่งขันต่อไหม เพราะเสียเวลามามากแล้ว” กรรมการคุมการแข่งขันเดินมาเตือนพวกเขาอีกครั้ง ทุกอย่างรอบๆ ตัวมันเหมือนหินก้อนยักษ์ที่กำลังกดทับมัน มันกวาดสายตามองไปรอบๆ ทุกสายตาจ้องมาที่มันเป็นจุดเดียว แรงกดดันต่างกำลังถ่าโถมมาที่มัน

“ฮึก..ฮึก..ทำไม ทำไม..” มันยกมือขึ้นมาปิดหูตัวเอง และหลับตา มันไม่อยากรับรู้อะไรแล้วตอนนี้ มันรู้สึกเหมือนทุกคนไม่ยอมรับมัน ทุกคนหาว่ามันโกหก และเป็นตัวปัญาหา สายตาทิ่มแทงจากหลายๆ คนส่งตรงมาที่มัน ยิมเห็นแล้วอยากจะเข้าไปปลอบแต่ตัวเองก็ยังแข่งขันอยู่สถานณ์การเริ่มบีบคั้นมากขึ้นเรื่อยๆ

“ไอ้เอ๋อ ฟังกูนะ มันทำอะไรมึงไม่ได้ มันแค่คนแก่ที่เห็นแก่ตัว มึงอยากแพ้เหรอ” ซีตัสเขย่าตัวมัน

“คุณนะโมคุณจะถูกตัดสิทธิ์ ปรับแพ้ ถ้าหากคุณยังไม่ยอมนั่งที่ และทำการแข่งขันต่อ” เสียงของกรรมการเตือนมันเป็นครั้งที่สองแล้วและสีหน้าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นก็ดูจะไม่พอใจที่มันทำให้เสียสมาธิด้วย ยิมที่แข่งอยู่ก็แสดงสีหน้าเป็นกังวลไปด้วย ห่วงไอ้เอ๋อก็ห่วง ห่วงตัวเองก็ด้วย

“ไอ้เอ๋อ!! ตั้งสติ แล้วฟังนี่” ซีตัสโอบกอดมันไว้ในอ้อมแขน ซีตัสรู้ดีว่าจะต้องทำยังไงกับความแปรปรวนของมัน ซีตัสกวักมือเรียกปิงเข้ามา

“กอดมันไว้ปิง กอดมันรู้ว่ามันยังมีเรา” ปิงเดินมาหามันแล้วกอดมันไว้อีกคน

“ใจเย็นนะมึง พวกกูอยู่นี่ พวกกูอยู่นี่ มึงต้องไม่เอาคำพวกนั้นมาใส่ใจ มึงฉลาดมึงเก่งที่สุด พวกกูอยู่กับมึงตรงนี้ จะไม่มีใครทำอะไรมึงได้” คำพูดของซีตัสกับแรงกอดที่ค่อยๆ ทำให้มันสงบลง ไอ้เอ๋อมันค่อยๆ ยกมือขึ้นกอดตอบ จะมีอะไรที่ดีกว่าการกอดได้อีกไอ้เอ๋อมันรับรู้ได้ว่าอ้อมกอดที่มันกำลังสัมผัสนี้มีแต่ความปลอดภัย เหมือนหลุมหลบภัยที่คอยปกป้องมัน

“อึก..อึก ตัสตัส ปิงปิง” มันเรียกชื่อของสองคนนั้นเสียงเบา อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นกำลังเยียวยามัน เหมือนเชือกที่หย่อนลงไปในหลุมลึกเพื่อดึงมันขึ้นมา

“ใจเย็นนะมึง พวกกูอยู่นี่” คำพูดที่ว่าพวกกูอยู่นี่มันกำลังดังก้องในหูของมัน ค่อยๆ กลบคำว่าร้ายๆ ที่มันเคยได้ยิน จนเสียงนั่นค่อยๆ เบาลง เบาลง จนมันได้ยินแต่เสียงของซีตัส ที่ดังก้อง

“ตัสตัส ตัสตัส”

“เออ กูเอง มึงมองหน้ากูนะ คนคนนั้นไม่ได้น่ากลัว เขาเป็นแค่เศษขยะที่มึงต้องเดินข้ามไป ตั้งสติไอ้เอ๋อ”

“อะ อื้อ ตั้วสติ เราจะต้องตั้งสติ สมาธิ สมาธิ” มันพึมพำก่อนจะหันไปมองลุงคู่ต่อสู้ด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ ปิงพามันกลับไปนั่งที่

“พวกผมพร้อมที่จะแข่งต่อแล้วครับ” น้ำเสียงหนักแน่นของซีตัสได้บอกกับกรรมการควบคุมการแข่งขัน

“มีสมาธิไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น คนแก่ใกล้เข้าโรงอย่างอิลึงนั่นเดี๋ยวกูจัดการเอง” ปิงกระซิบกับมันให้ได้ยินเพียงสองคน สายตาคมกริบของปิงจ้องไปยังลุงคนนั้นนิ่งๆ ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา

“อีกแค่นิดเดียวมึงก็จะถึงฝั่งแล้วตั้งใจ”

“อื้ออ เราจะตั้งใจ”

เมื่อทุกอย่างสงบการแข่งขันก็ดำเนินต่อไป ครั้งนี้ไอ้เอ๋อมันมีสมาธิมากขึ้น มันไม่สนใจสิ่งรอบข้าง หมากบนกระดานเหลืออยู่ไม่กี่ตัว ไม่กี่ตัวที่มันไล่ต้อนอีกฝ่ายจนประสาทเสียไล่ต้อนพอจะจนมุมก็เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้มีที่เดินแต่ไม่นานมันก็ต้อนใหม่เหมือนหมาล่าเนื้อที่ค่อยๆ เล่นกับเหยื่อของตัวเอง

“สนุกเหรอมึง จะรุกฆาตก็ทำสิวะ รำคาญ!! ” ในที่สุดคนแพ้ก็พาล เสียงตะโกนของลุงคนนั้นดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ

“คิกคิก” มันหัวเราะออกมาเบาๆ

“มึงหัวเราะอะไร!! ”

“รุกฆาต ^^ ครับลุง คิกคิก ลุงโง่” เมื่อมันเดินหมากรุกฆาตอีกครั้ง ตอนนี้ตารางเหลือให้เดินหนีเพียงไม่กี่ช่อง ลุงเริ่มเข้าตาจนและเกิดอาการเครียด

“รุกอีกแล้วครับ ลุง คิกคิก”

“ไอ้เด็กเหี้ย ไอ้ปัญญาอ่อนเอ้ย!! ”

“กรรมการครับลุงคนนี้เค้าว่าผม เค้าว่าผมครับ”

“มันพูดกวนประสาทผมก่อน! ”

“ ( ‘’ ) ผมไม่ได้ทำนะครับ ผมแค่พูดว่ารุกฆาต รุก รุก แล้วก็รุก ผมผิดอะไร”

“มึงตอแหล! ”

“จุ๊ๆ ลุงอย่าเสียงดัง ลุงแพ้แล้วเนี้ยะ ผมรุกฆาต รุกฆาต”

“มึงอย่ามาทำเก่งไปหน่อยเลย หึ กูไม่มีทางแพ้เด็กปัญญาอ่อนอย่างมึงหรอก”

“แต่ลุงก็แพ้แล้วนี่ครับ” มันบอกพร้อมกับชี้ไปที่กระดาน คนที่ยอมรับความจริงไม่ได้เริ่มโวยวายและพยายามจะบอกกรรมการว่าไอ้เอ๋อมันโกง

“คุณนะโม คุณชาญชัย กรุณานั่งลงด้วยครับ” กรรมการเดินมาหามันพร้อมกับปิงและซีตัส กรรมการมองดูที่กระดานที่มองดูก็รู้ว่าใครชนะ

“คุณชาญชัย คุณแพ้แล้วก็ควรจะยอมรับนะครับ แล้วสิ่งที่เกิดระหว่างการแข่งขันผมคงต้องพิจารณาว่าคุณมีเจตนา บลัฟคู่ต่อสู้ และปั่นป่วนคุณนะโม จนทำให้เกิดความวุ่นวาย

“คุณเอาอะไรมาพูด จะมากล่าวหาผมแบบลอยๆ ไม่ได้” ชาญชัยเริ่มโวยวายอีกครั้ง

“หลักฐานเหรอ อยากได้ก็ตามมาดูสิ ดูในนี้จะรบกวนคนอื่เขา” ซีตัสพูดเสียงนิ่งๆ

ชาญชัยเดินตามซีตัสและคนอื่นๆ ออกไปนอกบริเวณที่แข่งขัน เพื่อที่จะได้ไม่รบกวนคนอื่นไปมากกว่านี้ ร่างสูงของซีตัสแสยะยิ้ม ก่อนจะเปิดอะไรบางอย่างให้ชาญชัยดู

“ต้องขอบคุณโลกโชเชี่ยล ที่ทำให้การไลฟ์สดของเรามีประโยชน์ จะโทษใครก็คงต้องโทษตัวเอง หึ ดูซะ ดูความชั่วของตัวเองไว้ จะได้เอาไปสอนลูกสอนหลาน ว่าโตมาอย่าไปโกงใครเค้า” ซีตัสพูดเสียงเข้ม โชคดีของไอ้เอ๋อที่สิงห์อยากจะดูมันแข่ง สิงห์เลยขอให้ปิงไลฟ์สดให้ดูและคนที่เห็นว่าไอ้เอ๋อกำลังโดนแกล้งคือสิงห์ ปิงมัวแต่มองดุรอบๆ เลยไม่ได้สังเกตเห็น พอเกิดเรื่องถึงได้รู้เพราะสิงห์เป็นคนบอกและบันทึกการไลฟ์สดไว้ด้วย

“ผมคงต้องพิจารณาโทษของคุณ โดยการแบนการแข่งขัน หนึ่งปี”

“แก!! ไอ้เด็กบ้า” ชาญชัยจะเขามาทำร้ายไอ้เอ๋อด้วยความโมโห

“อ๊ะ คุณจะทำอะไรเพื่อนผม แพ้แล้วพาลเหรอ ไม่เป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย” ปิงรีบเอาตัวมากั้นระหว่างชาญชัยกับไอ้เอ๋อไว้ การกระทำอุกอาจต่อหน้ากรรมการสร้างความไม่พอใจให้กับ ผู้อาวุโสที่เข้ามาดูการแข่งขันครั้งนี้ด้วย ถึงแม้มันจะเป็นแค่ระดับจังหวัดยังเป็นแบบนี้ ระดับภาคคงไม่ต้องหวัง

“เหอะ จำเอาไว้ รอบต่อไปมึงไม่มีทางชนะหรอก ไอ้ปัญญาอ่อน!! ” ชาญชัยตะคอกใส่พวกเด็กๆ

“มึงว่าใครปัญญาอ่อน มิทราบ! ”

ผัวะ!!!

“เห้ย..พี่สิงห์!! ” ซีตัส

“มึงว่าใครปัญญาอ่อน ห๊ะ”

ผลัวะ ตุบ หมัดแรกซัดเข้าที่ปากของชาญชัยก่อนอีกมันจะตามมาด้วยความรวดเร็วจนอีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ ไม่มีใครรู้ว่าสิงห์มาตั้งแต่ตอนไหน รู้อีกทีก็ตอนกระชากชาญชัยแล้วซัดหมัดเข้าใส่ ไอ้เอ๋อมันยืนอึ้ง คนอื่นๆ ก็ด้วย

“โอ๊ย มึงเป็นใครวะ มาต่อยกูทำไม”

“เป็นใครมึงไม่ต้องรู้หรอกแต่ตอนนี้กูจะเอาเลือดปากมึง ออก มึงมีสิทธิอะไรมาว่าคนของกูว่าปัญญาอ่อน ห๊ะ!! ” ตอนนี้ใครก็ไม่กล้าเข้าไปห้าม ตอนนี้สิงห์น่ากลัว ใบหน้าหล่อๆ ของเขากำลังโกรธ และหงุดหงิด

“ปล่อยกู ช่วยด้วย ช่วยด้วย”

“ไม่มีใครช่วยมึงได้หรอก มานี่! ” สิงห์ลากชาญชัยออกด้านนอก ก่อนจะโยนร่างของมันไปที่ลานดิน ทุกคนรีบวิ่งตามมาห้าม ไอ้เอ๋อมันรีบวิ่งไปดึงแขนสิงห์เอาไว้ มันไม่เคยเห็นสิงห์โมโหขนาดนี้

“พี่จ๋า อย่าโมโหนะ อย่าโมโห น่ากลัว น่ากลัว” มันกอดเอวสิงห์เอาไว้แน่นพร้อมกับร้องเอาไว้ไม่ให้สิงห์เข้าไปหาชาญชัยอีก

“อย่านะ อย่านะ พี่จ๋า” สิงห์มองหน้าหวานๆ ของมันถอนหายใจออกมาอย่างจำยอม

“ไสหัวมึงออกไป ก่อนที่กูจะเอาปืนยิงกะบาลมึงทิ้ง!! ” สิงห์ตวาดเสียงลั่น เขาโกรธตั้งแต่เห็นว่าอีกฝ่ายทำกับคนของตัวเองยังไง ต้องโมโหขนาดไหนกับการขับรถมาถึงที่นี่ในเวลาแค่สิบนาที ชาญชัยลนลานรีบวิ่งออกไปด้วยความกลัว

“ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องฟังว่าใครจะว่าอะไรทั้งนั้น หนูไม่ได้เป็นแบบนั้น เข้าใจไหม”

“ครับ” มันกอดสิงห์ไว้แน่น ทั้งดีใจทั้งหวาดกลัว ภาพที่สิงห์ซัดชาญชัยยังติดตามันอยู่

พอปลอบใจและเคลียเรื่องราวทั้งหมดจบ มันก็ต้องเข้าแข่งขันต่อในรอบต่อไป และมันก็ชนะและผ่านเข้าไปสู่รอบชิง ถึงตอนนี้ยิมตกรอบไปอย่างน่าเสียดายยิมเลยมาร่วมเชียมันด้วยอีกคน รอบนี้เหลือผู้เข้าแข่งขันแค่สี่คน คู่แข่งของมันเป็นตัวเต็งและชนะผู้เข้าแข่งขันคนก่อนมาได้อย่างสบายๆ

“พี่ชื่อว่านนะครับ” อีกฝ่ายเป็นคนทักมันก่อน

“นะโมครับ” มันยิ้มตอบเพราะดูแล้วว่านน่าจะเป็นมิตร มันเลยทักเขาตอบ

“เต็มที่นะครับ พี่ได้ยินว่าเราเก่ง พี่จะไม่ออมมือให้หรอกนะ” ว่ายพูดด้วยสีหน้ายิ้มๆ เขาสังเกตไอ้เอ๋อมานานแล้วตั้งแต่เริ่มแข่งขัน เพราะว่านเองก็นั่งถัดจากมันไปไม่กี่คน

“ครับ”

“เริ่มเลยนะ” ทันทีที่พร้อม ว่านก็เดินหมาก ต่างคนต่างผลัดกันเดินหมากกันอย่างสูสี ไอ้เอ๋อมันโดนกินหมากไปแล้วหลายตัวแต่ว่านพึ่งเสียไปแค่เบี้ยตัวเดียว ในการเดินหมากแต่ละครั้งจะมีเวลาให้คิดแค่สามนาที ยิ่งเราเดินหมากไวยิ่งกดดันคู่ต่อสู้ ไอ้เอ๋อมันยังรักษาหมากสำคัญๆ เอาไว้มันค่อยๆ ต้อนม้าของอีกฝ่ายด้วยเรือและใช้ตัวเบี้ยรอจังหวะกินเรือ เสียงกดหยุดเวลาดังถี่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ละวินาทีมันบีบคั้นหัวใจ ถ้ามันชนะรอบนี้ได้มันจะได้เข้าชิง และมีโอกาสได้แช้มป์ หมากบนกระดานตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนเงียบ และดูการแข่งขันด้วยความลุ้นระทึก

“รุก! ” เป็นครั้งแรกที่มันโดนรุก ไอ้เอ๋อขยับขุนหลบม้าที่กำลังต้อนขุนของมัน

“รุก! ” มันโดนรุกอีกครั้ง และต้องโยกขุนหลบอีกครั้ง ตาเดินของมันน้อยลงทุกที มันกำลังเข้าตาจน เสียงสูดลมหายใจของมันดังขึ้นเป็นระยะๆ เหมือนกำลังเครียด ขณะที่อีกคนเดินหมากอย่างสบายๆ มันมองหมากในกระดานอย่างใช้ความคิดและเวลาก็ค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ หมากมันน้อยกว่าหมากของเขามากกว่าครึ่ง มันเสียเรือทั้งสองและม้าอีกหนึ่ง มันเหลือแค่โคน ขุน แล้วก็เบี้ยอีกสองตัว และมันกำลังโดนต้อน ว่านไล่กินตัวเบี้ยมันจนหมด

“อึก ..ยากจัง” มันพูดออกมาเสียงเบา มันขยับโคนมาบังขุนเอาไว้ เพื่อกันอีกฝ่ายบุกเข้ามา และมันก้ใช้เวลาในการเดินหมากมากขึ้นทุกที มันหลบและเอาตัวรอดได้แต่ก็ไม่อาจจะสู้กับอีกฝ่ายที่จำนวนหมากเยอะกว่าได้ ว่านต้อนมันจนไม่สามารถจะเดินหมากได้อีกต่อไป

“รุกฆาต! ”

“อ๊ะ...ฮึก” มันเป็นเด็กที่ไม่เคยแพ้เรื่องหมากรุก มันมั่นใจตลอดว่ามันชนะได้ แต่ครั้งนี้มันเจอคนที่แก่ประสบการณ์กว่า มันเลยแพ้เขา แต่ความที่มันเป็นเด็กพิเศษ การพ่ายแพ้เหมือนสิ่งกระตุ้น มันร้องไห้ออกมา มันเสียใจ และมันกำลังจะเสียงความมั่นใจ

“นะโมเก่งมากเลยรู้ไหมครับ พี่ไม่เคยเล่นหมากรุกแล้วรู้สึกกดดันเท่านี้มาก่อน พี่สนุกมากเลยครับ” ใช่เขาไม่เคยเจอเด็กที่อายุน้อยแล้วเล่นหมากรุกเก่งได้เท่านี้ถึงแม้ว่าหมากเขาจะเหลือเยอะกว่าแต่การที่เขาโดนเด็กคนนี้ตอนจนเกือบจนมุม ด้วยหมากแค่ไม่กี่ตัว แต่ประสบการณ์ทำให้เขารอดพ้นมาได้ ว่านยอมรับว่านะดมเก่งจากใจจริง

“หนูแพ้ ฮึก หนูแพ้” มันร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจ จนสิงห์ต้องเดินมากอดมัน แล้วพาออกไปสงบสติด้านนอก เพื่อรอแข่งกับอีกคนที่แพ้เพื่อหาที่สองละที่สาม

“ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องร้อง” สิงห์กอดมันเอาไว้

“แต่น้องแพ้ ฮึกพี่จ๋าบอกให้ชนะ”

“อ่า เอ่อ ไม่ชนะก็ไม่เป็นอะไรนี่ พี่แค่พูดเฉยๆ เราไม่ชนะพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร” สิงห์อยากจะตบปากตัวเองที่ไปตั้งความหวังให้มันจนมันกดดันตัวเอง เรื่องการแพ้ชนะ

“ฮึก ฮึก ฮืออ”

“เรายังมีที่สองที่สามอยู่นะ ได้ที่เท่าไหร่พี่ไม่ว่าครับ แต่มีของขวัญจะให้หนูถ้าหนูหยุดร้องนะครับ”

“อะไรหรอ”

“ไม่บอกตอนนี้ครับ ไว้เราแข่งจบแล้วพี่จะบอกนะ” พอได้กำลังใจมันก็ค่อยๆ หยุดร้องไห้เหลือแต่เสียงสะอื้น

“ขะ..ขอ เป็นไข่พะ พะโล้ได้ไหม อยาก อยากกิน”

“อ่า เอ่อ ก็ได้ครับ พะโล้ก็พะโล้ (เห้ออ ทำไมรู้สึกเหมือนโดนตีหัวเลยวะ) ” สิงห์ยิ้มแห้งเพราะสิ่งที่เขาจะให้เป็นรางวัลนั้นไม่ได้ใกล้เคียงกับพะโล้เลย

“ยิ้มจางขนาดนี้ พี่ผิดหวังอะไรอยู่สินะ หึหึหึ” ซีตัสยิ้มเยาะใส่คนโตกว่า

“ขี้เสือกจริง” แม้จะไม่ได้แสดงท่าทีหงุดหงิดออกไปแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้มาก สิงห์พามันไปที่โต๊ะ เพื่อจะได้เริ่มแข่ง และมันก็เอาชนะมาได้แบบสบายๆ ได้ที่สามไปครอง แม้มันจะไม่ได้สมหวังกับอันดับที่ตั้งไว้ แต่ว่าการแข่งหมากรุกครั้งนี้ทำให้มันได้เปิดประสบการณ์ ได้เรียนรู้ว่าโลกข้างนอกรั้วบ้านและโรงเรียนมันโหดร้ายมากแค่ไหน มันจะต้องพบเจอกับอะไรบ้างเมือมันโตขึ้น การแก่งแย่งชิงดี ความเห็นแก่ตัว ล้วนรอที่จะเจอมันอยู่ในอนาคต ทุกสิ่งที่สิงห์และเพื่อนๆ ของมันเคยสอนจะหล่อหลอมจนเป็นมัน เป็นเหมือนโล่ที่คอยปกป้องมันเอาไว้

จบการแข่งขัน แน่นอน ว่านได้เป็นแช้มป์ของจังหวัดและรับหน้าที่ไปแข่งระดับภาคต่อไป หลังจากนั้นก็พากันไปเก็บของและออกจากค่ายในช่วงเย็นๆ ซตัสกับปิงแยกกันกลับเพราะเอารถมา โดยขากลับมียิมติดรถไปด้วย บนรถของสิงห์ไอ้เอ๋อมันเอาแต่สนใจเหรียญทองแดงที่สวมอยู่บนคอของมัน พร้อมอมยิ้มอย่างภูมิใจกับสิ่งที่มันได้มาครอบครอง

“ดูสิ พี่จ๋า เหรียญสีสวย”

“ครับ เสียใจไหมที่ไม่ได้ไปแข่งต่อ” สิงห์เอ่ยถามมันเสียนุ่มพร้อมกับลูบหัวมันไปด้วย

“เสียใจที่ไม่ไดที่หนึ่งครับ เพราะน้องสัญญาไว้กับพี่จ๋า” มันตอบออกมาตามความรู้สึกจริงๆ ของมัน เพราะว่าสัญญาเอาไว้เลยอยากจะรักษษสัญญาเอาไว้ให้ได้ มันเงยหน้ามองพี่จ๋าของมันแล้วฝืนยิ้มออกมา น้ำตามันคลอหน่วย พร้อมกับเบะปาก สิงห์เห็นแล้วใจกระตุก แพ้มันทุกทีเขารีบตบไฟเลี้ยว เข้าข้างทางและรีบโอ๋มัน ยิ่งโอ๋ยิ่งร้อง เขาเลยต้องใช้วิธีแบบเดิมๆ

“อึก อื้อออ อื้มม” จูบแบบนอนสต็อป!!



……………………………………………………………………………………………..

เช้าวันจันทร์เป็นเช้าที่มันรู้สึกว่าอยากนอนต่อ ไม่อยากจะตื่นไปเรียนเลย ผิดกับอีกคนที่ต้องตื่นไปทำงานเช้ากว่าเดิมเพระภาระหน้าที่ ที่มากกว่าเดิม สิงห์เดินไปปลุกมันหลังจากที่ตัวเองอาบน้ำแต่ตัวเรียบร้อย เขาเดินไปนั่งที่ข้างๆ ตัวมัน กลิ่นน้ำหอมของสิงห์ลอยไปเตะจมูกมัน กลิ่นที่มันชอบ

“หอมๆ” มันไม่ลืมตาแต่ตัวมันคลานมากอดเอวสิงห์เอาไว้ก่อนจะสูดดมกลิ่นหอมจากตัวของสิงห์

“ตื่นได้แล้วครับคนเก่ง”

“งืออ น้องง่วงจังเลย ไม่ไปโรงเรียนได้ไหมครับ?” มันทำเสียงอ้อนเขา

“เดี่ยวทำไมอ้อนเก่งจัง”

“ก็อยากอ้อน อ้อนกับพี่จ๋าครับ”

“หึหึ น่ารักมากครับ แต่ตอนนี้เราต้องรีบแล้วนะครับ ไม่อย่างนั้นสายแน่ๆ”

“งื้อออออ ง่วงๆ ๆ ๆ ๆ” มันบ่นแล้วพลิกตัวจะนอนต่อ

“ถ้าไม่ตื่นพี่จะทำโทษหนูนะ เอาแบบให้ลุกไม่ขึ้นเลย” คำขู่ที่ทำให้คนฟังอย่างมันต้องรีบเด้งตัวขึ้นมานั่ง หัวมันฟูฟ่องพร้อมกับทำหน้าแมวง่วงใส่ สิงห์อดที่จะจูบมันไม่ได้ เพราะมันน่ารักแบบนี้ไงเขาถึงได้หาเศษหาเลยกับมันบ่อยๆ หลังจากอาบแต่งตัวเรียบร้อยก็พากันออกบ้านไปหาข้าวเช้ากินที่ตลาดกินง่ายๆ อย่างข้าวมันไก่ กินเสร็จสิงห์ก็พามันไปส่งที่โรงเรียน บอกตอนเย็นจะมารับ

“อย่าลืมโทรหาน้องนะ”

“ครับ” สิงห์รับคำก่อนจะขับรถออกไป ความจริงมันแค่แชทหาอีกฝ่ายเมื่อไหร่ก็ได้แต่ การที่ได้ยินเสียงหรือเห็นหน้าคนที่รักมันรู้สึกดีกว่า มันเลยชอบที่จะโทรหาสิงห์มากกว่าการแชทแค่ตัวหนังสือ พวกปิงรอมันอยู่ที่โรงอาหารแล้ว มันเดินทอดน่องไปตามทาง ระหว่างนั้นมันก็เจอกับเนม จะเรียกว่าความบังเอิญก็ไม่ใช่เพราะเนมเป็นฝ่ายมายืนดักรอมมันก่อนอยู่แล้ว

“อ้าวเนมเนม มารอใครหรอ” มันถาม

“รอมึงนั่นแหละ จะไปหาพวกไอ้ปิงใช่ไหมล่ะ งั้นไปพร้อมกันเลย” เนมบอกพร้อมกับโอบไหล่มันเดิน

“-*- โผล่มาได้ทุกวี่ทุกวัน เหม็นขี้หน้า” ปิงพูดแขวะใส่ทันทีที่เห็นว่าเนมเดินมาด้วย ซีตัสไม่ได้พูดอะไร เขามองไปยังใบหน้าลูกครึ่งของเนมอย่างพิจรณา พร้อมกับมองสลับกับนะโม เขาสังเกตมาสักพักแล้ว ว่าสองคนนี้มีอะไรที่คล้ายๆ กัน อย่างเช่น ดวงตากับริมฝีปากที่ถอดแบบกันมาไม่มีผิด

“เนมบ้านมึงพี่น้องกี่คนวะ” ซีตัสเอ่ยถาม

“กูมีพี่ชาย” เนมบอก

“แล้วพี่มึงอยู่ไหนวะ ไม่เห็นเห็นเลย มึงย้ายมาอยู่ที่คนเดียวใช่ปะ”

“อืม กูมาตามหาคนอะ”

“ใคร?” ซีตัสถามอีกเพราะบางทีเขาอาจจะเคยเห็น

“พี่ชายต่างแม่นะ” เนมบอกพร้อมกับมองหน้าทุกคนด้วยความสงสัย เพราะอยู่ดีๆ ก็โดนซักประวัติ

“พี่หาย?”

“อืมหายไปตั้งแต่เกิด พ่อกูเค้าอยากเจอพี่สักครั้งก่อนเค้าตาย” เนมเล่าสิ่งที่ตนเองเคยคิดปิดบังให้กับเพื่อนเก่าที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันซักเท่าไหร่ ให้ฟัง

“แล้วเจอบ้างยัง มีเบาะแสอะไรไหม เผื่อกูจะช่วยได้” ซีตัสพูด

“ร็อกเกตของพ่อที่เคยให้แม่น้อยเอาไว้”

“แล้วถ้าเกิดพี่มึงตายไปแล้วอะ หรือแบบไม่ได้อยู่ที่นี่” ปิงคิดในแง่ร้ายไว้ก่อน

“ก็แค่ตามหา หาจนกว่ากูจะหมดแรงนั่นแหละ”



...

บทพี่น้องจะมาแล้ว เย้!! เรื่องมาถึงตอนท้ายๆ แล้วนะคะ ใกล้จะจบเต็มที เหลือปมอีกไม่กี่ปมเอง ยังไงก็อยู่ให้กำลังใจน้องจนถึงตอนจบด้วยนะคะ รักและคิดถึงรีดเด้อเสมอ





หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.34 4/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 04-11-2018 09:28:31
ยังไม่อยากจบเลยสนุกชอบทุกตัวละครเราอ่านไม่เคยเบื่อจะมีโอกาสรวมเล่มมั้ยคะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.34 4/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-11-2018 15:51:12
รวดเดียวจบ ขอตามด้วยคน ลุ้นไปกะเค้าด้วยยย
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.34 4/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-11-2018 15:59:37
สร้อยๆๆๆๆ อยู่ไหนหว่า  อยู่กับพี่สิงห์ป่ะ.  :hao4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.34 4/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-11-2018 20:40:35
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.34 4/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-11-2018 21:31:28
สิงห์  นะโม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ขอแก้ที่ผิดนะ
ร็อกเกต ------  ล็อกเก็ต
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.34 4/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 04-11-2018 23:03:43
รอนะจ๊ะไรท์
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.34 4/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-11-2018 23:11:59
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.35 11/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 11-11-2018 08:53:13
35



“มีอะไรให้ช่วยก็บอกพวกกูก็แล้วกัน พวกกูเต็มใจ” ซีตัสพูดพร้อมกับตบบ่าของเนมเบาๆ ถึงจะเคยทะเลาะกันมาก่อนแต่นั่นมันก็นานมาแล้ว แถมยังเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันด้วย

“แต่กูไม่! ” ปิงบอกด้วยสีหน้าไม่ชอบใจนัก

“ปิง อย่าเยอะ มึงอะเงียบๆ บ้างก็ได้” ซีตัสปรามคนรัก ปิงเลยเบะปากใส่

“เนมเนม เราช่วยๆ หน้าตาพี่ของเนมเนมเป็นยังไงหรอ”

“อืมม ไม่รู้สิกูเองก็ไม่เคยเห็น กูมีแต่รูปแม่เล็กตอนท้องอะ” เนมหยิบรูปที่เขาเอาติดตัวไว้ตลอด เอาออกมาให้ดู รูปมันเก่าจนสีซีดไปหมดแต่ก็ยังเห็นส่วนต่างๆ ได้ชัดเจน ในรูปใบนั้นเป็นรูปของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังตั้งครรภ์ ท้องกลมนูนออกมา อย่างเห็นได้ชัดกับชายหนุ่มที่ดูก็รู้ว่าเป็นคนรักกัน ใบหน้าพวกเขามีความสุข รอยยิ้มถูกประดับบนในหน้าสวยๆ ของหญิงสาว

“ผู้หญิงในรูปคือแม่เล็ก แม่ของพี่กูเอง” ทุกคนมองเข้าไปในรูปที่ว่า พร้อมกับพยายามจดจำและนึกว่าเคยเห็นที่ไหนบ้างไหม แต่ก็นึกไม่ออก ใบหน้าของหญิงสาวในรูปเขารู้สึกว่าคุ้นหน้าคุ้นตามากแต่มันก็นึกไม่ออก

“เหมือนเคยเห็นตา ตาแบบนี้ที่ไหน จมูกด้วย แมร่งคุ๊นนนคุ้น” ปิงพยามเพ่งดูรูป

“เออ กูก็ว่าคุ้น” ซีตัส

“ถ้ามึงคุ้นแสดงว่ากูก็มาถูกทางแล้ว”

“มีเบาะแสอื่นอีกไหม”

“แม่เล็กมีพี่ชาย และพี่ชายแม่เล็กก็เคยอยู่ที่นี่” เนมบอกข้อมูลเท่าที่ตนเองมี

“ค่อยๆ หาเดี๋ยวก็เจอ จังหวัดนี้มันแคบ หาแป๊บเดียวเดี๋ยวก็เจอ”

“ขอบใจวะ กูหาพี่มาหลายปีแล้ว แต่ไม่เจอสักที บางครั้งกูก็ท้อนะ กลัวพ่อเป็นอะไรไปก่อน ตอนนี้แม่ใหญ่ก็เสียไปแล้ว กูเหลือแต่พ่อ ถ้ากูเจอพี่กูว่าพ่อน่าจะมีกำลังใจ อาจจะสู้กับโรคร้ายพวกนั้น” การตามหาแม่เล็กเหมือนกับการงมเข้มในมหาสมุทร เพราะเขาแทบไม่มีข้อมูลอะไรเลย แม้แต่ชื่อจริง รู้แต่ชื่อเล่นกับรูปถ่าย

“พ่อมึงป่วยเป็นไรวะ”

“โรคหัวใจ” แค่ได้ฟังทุกคนก็ใจหายเพราะโรคนี้มันร้ายแรง ต้องดูแลกันอย่างดี อย่าให้มีอะไรมากระทบกระเทือนจิตใจ

“พอกูเค้ายังหวัง ว่าจะได้เจอแม่เล็กอีกครั้ง แต่กูก็มีรู้ว่าจะได้เจอเขากับพี่ไหม๊” เนมพูดออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน เขาอยากเจอพี่เร็วๆ เพราะอยากจะช่วยพ่อของตนเอง

“เห้ย อย่าพึ่งคิดมาก เพื่อนกูเยอะ ยังก็ช่วยๆ กัน” ซีตัส

“อืม ว่าแต่นะโมมันมองไรวะ กูเห็นมันมองไปทางหน้าโรงเรียนนานละ” เนมที่มองไอ้เอ๋ออยู่อดที่จะถามด้วยความสงสัยไม่ได้ เพราะดวงตากลมมันเอาแต่จ้องไปยังหน้าโรงเรียน

“มองไรวะ?” ปิงมองตามสายตาของมันไป

“อะไรหรอ เค้าขายอะไรหรอปิงปิง สีสวยมากเลย” มันจ้องมองไปที่พ่อค้าหาบเร่ ที่กำลังนั่งพักเหนื่อยอยู่หน้าโรงเรียน

“อ่อ สายไหม มึงกินหรอ” ปิงถาม ไอ้เอ๋อรีบพยักหน้า

“อื้อเราอยากกิน เราไม่เคยกินเลย” มันใช้เสียงอ้อนๆ เพราะถ้าเดินออกไปตอนนี้คงไม่ได้เพราะมีครุเวรเฝ้าอยู่หน้าประตู

“เดี๋ยวถามส้ม ว่าเข้ามายัง” ซีตัสบอกพร้อมกับเข้าโปรแกรมแชท แชทหาเพื่อนทันที



อิส้มเน่า

ซีตัสคนจริง

เข้ามาโรงเรียนยัง

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

ยังกำลังจะถึง

มีไร?
ซีตัสคนจริง

ซื้อสายไหมหน้าโรงเรียนมาให้ลูกมึงด้วย

มองจนน้ำเลยย้อยลงกางเกง

เห็นแล้วสงสาร

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

แล้วไมมึงไม่ออกไปซื้อ

อิแร้งน้ำใจ

มึงจะปล่อยให้ลูกกูน้ำลายไหลใส่กางเกงไม่ได้!!
ซีตัสคนจริง

รีบ

อิสัส มันทำปากแจ๊บๆ ใส่กูแล้ว

สายไหม สามถุง

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

นี่แดกหรือเอาไปถมที่
ซีตัสคนจริง

แดก

แต่พวกกูแดกด้วยไง รีบมา

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

เออ!!

ตังด้วย

ไม่ฟรี


“ส้มส้ม *0* ส้มส้มรู้ได้ไงว่าเราอยากกิน”

“คนสวยก็งี้แหละ ฉลาด^^”

“คึคึ ขอบคุณนะ ง่ำๆ ๆ ๆ”

“น้ำตาไหลเลย อะไรวะแค่กินสายไหมถึงกับร้องไห้” เนมเอาผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้มัน ด้วยนความเอ็นดูปนขำ กะอิแค่ขนมหลอกเด็กแบบนี้ถึงกับหลั่งน้ำตา

“เราไม่เคยกินนี่เนมเนม เราไม่มีตังซื้อ แต่ตอนนี้มีแล้ว มันอร่อยมากเลย” มันพูดไปพร้อมกับยัดสายไหมเข้าปากไม่หยุด รสหวานติดลิ้นยิ่งกินยิ่งชอบ

“เออ ๆ กินๆ ไปจะได้เข้าเรียน”

วันนี้จะมีประกาศรับรางวัลให้กับมันในฐานะทำชื่อเสียงให้กับโรงเรียน และให้เป็นขวัญกำลังใจกับชมรมหมากรุกด้วย มันถูกเรียกตัวอย่างกะทันหันก่อนจะขึ้นเวทีเพียงไม่ถึงชั่วโมง เขาให้มันกล่าวอะไรสักเล็กน้อยบนเวที แน่นอนมันประหม่าจนขาสั่นเดินไปหน้าเสาธงไม่ไหวลำบากปิงต้องพยุงมันขึ้นไปยืน เหล่าอาจารย์ก็เอาแต่ยืนยิ้มให้กำลังใจมัน ไม่มีช่วยมันสักนิด!

“ใจเย็นมึง ค่อยเดิน หายใจลึกๆ เออ อย่างนั้นแหละ”

“ตะ ตะ ตื่นเต้น ตื่น ตื่น เต้น งืออ เราว่าเราไม่ไหวปิงปิงT^T” มันทำท่าจะถอยลงจากเวทีหน้าเสาธง

“เห้ยไม่ได้ ขึ้นไป! ” ปิงคอยดันหลังมันเอาไว้

“แต่เราพูดไม่เป็น เราจะต้องพุดอะไรอะ ปิงปิง ฮรืออ” มันหันมาทำหน้าเบะใส่ จะไม่ขึ้นเวทีท่าเดียว จนอาจารย์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ต้องมาช่วย จนมันขึ้นมายืนอยู่บนเวที

“ปุก ปุก โหล โหล” จู่ๆ มันก็ลองไมค์ ทำเอาทุกคนพากันฮาครื้น

“พูดเลยมึง” ปิงกระซิบ

“อะ งืออ ระ ระ เราชื่อ ว่านะโม นักเรียนมอหกทับสาม ละเลขที่ สิบสองกอ คะ คือว่า งืออ ปิงปิง เราไม่ไหว “จู่มันก็หันหลังให้กับเพื่อนนักเรียนที่กำลังตั้งอกตั้งใจฟังมันอยู่

“ไม่ได้ พูดไปว่ามึงทำอะไรมาบ้าง”

“งือ เรา งือ คือเราได้ไปแข่ง หมากรุก มา ละแล้ว แล้วเราได้ที่สาม มีคนเก่งกว่าเรา เราเลยแพ้ แต่พี่จ๋าบอกว่าไม่เป็นไร พี่จ๋าบอกจะให้รางวัลเป็นไข่พะโล้ ตะ แต่ ว่า พี่บอกว่า มีลางวัลพิเศษให้ด้วย -///- พี่จ๋าปุ๊ๆ กับปากเรา ปุ๊ๆ จนมันเจ่อ เอ่อ คืออันนี้เราต้องบอกไหมอาปิงๆ” มันหันมาถาม แต่ว่าเสียงของมันทุกอย่างดังออกไมค์ไปแล้ว ในเมื่อบอกให้มันพูดมันก็พูด พูดด้วยใบหน้าอันใสซื่อของมัน และนั่นทำเอาหลายคนหงายท้องตึงลงไป โดยเฉพาะ ส้ม ล้มหงายตั้งแต่มันทำท่าปุ๊ๆ ใส่ไมค์



“ชิบหายไอ้เอ๋อมึงพูดอะไรออกป๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” เสียงปิงหวีดร้องอยู่ด้านหลังพร้อมกับพุ่งตัวไปคว้าไมค์มาปิดด้วยสีหน้าที่ตกใจ ซีตัสตบหน้าผากตัวเองสียงดังป๊าป อาจารย์รีบเอามันลงจากเวทีแทบไม่ทัน



“อะไรอ่า เราทำอะไรผิดอีก ก็บอกให้เราพูดเราก็พูดแล้วไง” มันยังไม่รู้ตัวว่าเรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ไม่ควรเอามาพูด

“มึงไม่ผิด กูผิดเองที่บอกให้มึงพูดเรื่องของหมากรุก” ปิงบอกอย่างเหนื่อยใจ เขาควรจะอธิบายให้มันเข้าใจมากกว่านี้ แต่ตอนนั้นมันไม่เวลา พอกลับมาถึงห้องทุกคนก็โห่แซวมัน บางคนไม่รู้ว่าพื้นฐานของไอ้เอ๋อคือเด็กกำพร้า หลายคนคิดว่าสิงห์คือพี่ชายแท้ๆ แต่กับซีตัสกับปิงที่รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา

“ให้บอกไหมว่ามึงกับพี่สิงห์ไม่ใช่พี่แท้ๆ” ปิงถาม

“อ่า บอกก็ได้ เราไม่คิดมากหรอก”

พอมันบอกไม่คิดมากซีตัสก็บอกพวกนั้นไปว่าสิงห์รับเลี้ยงและเป็นผู้ปกครอง และยังบอกด้วยว่ามันเป็นเด็กกำพร้า ทุกคนรู้เรื่องของมันหมดแล้วก็พากันเข้าใจและไม่แกล้งมันอีก ทำให้มันโดนสายตาดูถูกน้อยลงและมีคนเอ็นดูมันมากขึ้น โดยเฉพาะเนม

“นะโม” เสียงเรียกชื่อมันดังขึ้นขณะที่กำลังเดินไปที่โรงอาหารพร้อมกับคนอื่นๆ

“อ่าว เนมเนม มีไรหรอ” เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนตัวสูง

“ไปกินข้าวด้วยดิ”

“ปรกติก็ไปกินอยู่แล้วใช่ไง จะมาขอทำเพื่อ! ” คู่กัดอย่างปิงพูดออกไปพร้อมกับทำปากมุบมิบ

“ขอให้หมาถาม ปะนะโม ไปแดกข้าวกัน” เนมกอดคอพาไอ้เอ๋อเดินไปที่โรงอาหาร

“กวนตีนนะไอ้สัส...มึงดูมันดิ” ปิงหันไปหาซีตัสที่ยืนมองขำๆ

“มึงจะอะไรนักหนา ไปกินข้าวได้แล้วมันแต่ทำหน้าปัญญาอ่อนอยู่นั่นแหละ” ซีตัสจูงมือปิงให้เดินตามไอ้เอ๋อไป

“แหม่ เกรงใจคนไม่มีคู่แบบกูบ้าง อิพวกเหี้ย” เสียงส้มดังขัดขึ้นมา เธอมองเพื่อตัวเองด้วยสายตาหมั่นไส้

“ไอ้ยิมยังว่าง ไปหามันไป” ปิงบอกพร้อมกับผลักเพื่อนตัวเองใส่ยิมที่เดินคู่กันมา

“ส้ม ถึงปิงมันจะผลักแต่มึงจะมาทำตัวเหมือนไม่มีกระดูกไม่ได้ กูหนัก” ยิมที่รับเอาตัวส้มไว้เต็มอ้อมแขนพูดออกมา

“ตบตากเท่าอายุ กูไม่ได้หนัก!! ” ส้มแหวใส่ยิมเสียงดัง ใบหน้าง้ำงอที่ดูแล้วน่ารัก ทำเอาอีกคนเผลอใจเต้นแรง

“-///- อะ อะไร ไม่ตบ”

การกินข้าวมื้อกลางวันเป็นอะไรที่ไอ้เอ๋อมันชอบมาก เพราะทุกคนจะสรรหาของกินมาให้มัน เรียกได้ว่าป๋าเปย์ก็ว่าได้ โดยเฉพาะเนม ที่แทบจะออกทุกอย่างให้มัน วันนี้มันได้กินไข่พะโล้ของโปรดมันเลยอารมณ์ดีเป็นพิเศษกินข้าวเสร็จก็โทรหาสิงห์เหมือนที่ทำทุกวัน คุยกันเสียงกะหนุงกะหนิง จนหมดเวลาพัก ก็พากันขึ้นห้องเรียน

“คณิตศาสตร์อีกแล้ว หรอ ตัสตัส เราป่วยได้ไหม อาจารย์อังดุเราเยอะ เราไม่ไหว” มันโอดครวญเพราะเป็นวิชาที่มันไม่ชอบและไม่ถนัด

“ไม่ได้ ไม่เก่งยิ่งต้องเรียนจะได้รู้เรื่อง” ซีตัสดุมันพร้อมกับบังคับให้มันเอาหนังสือขึ้นมา

“งืออซีตัสโหดร้าย ไม่อ่อนโยนกับเรา”

“แหมะ เดี๋ยวนี้หัดใช้คำพวกนี้นะ”

“เราต้องวัยรุ่นไง”

“เอออ วัยรุ่น แล้ววัยรุ่นจะโง่คณิตไม่ได้”

“งะ”

กว่าจะหมดคาบมันก็นังกุมขมับจ้องมองโจทย์การบ้านที่ได้มา ใจคิดว่าซวยแล้วกลับบ้านไปใครจะสอน สิงห์เองก็ดูเหนื่อยๆ จนมันไม่กล้าที่จะเอ่ยปากให้ช่วยสอน ระหว่างที่นั่งรอเข้าคาบต่อไปมันหยิบเอาสมุดวาดรูปขึ้นมากางบนโต๊ะ แล้วลงมือวาดส่วนที่ค้างคาไว้จากเมื่อครั้งก่อน มันวาดตามความทรงจำที่มีอยู่ในหัว รูปของสิงห์กำลังหันหลังถอดเสื้อ แผ่นหลังกว้างที่อบอุ่นและเซ็กซี่ มันใส่รายละเอียดแม้กระทั่งรอบสักที่อยู่บนสะบักหลังข้างซ้าย

“นี่หลังพี่สิงห์หรอวะ?” ปิงชะโงกหน้าข้ามหัวมันเพื่อดูภาพในสมุด

“อื้อ” มันตอบโดยที่ไม่เงยหน้า

“โคตรคูล รอยสักอย่างเท่ห์” ปิงพูดออกมาอย่างชื่นชมพร้อมกับหันไปหาซีตัสที่นั่งอยู่ข้างๆ

“มึงถ้ากูสักบ้างมันจะเท่ห์ไหมวะ”

“-*- กูไม่ชอบให้ผิวมึงมีรอย ไม่ต้องเสือกยากเท่ห์ เพราะนอกจากกุจะไม่ชอบแล้วมึงจะโดนตีนกูนาบแทนรอยสักด้วย” ซีตัสพูดเสียงเข้มพร้อมกับทำหน้าดุใส่คนรัก

“หูยยยย รุนแรง มึงไม่อ่อนโยน”

“โยนที่หน้ามึงสิ มาทำงาน! ”

“คึคึ ตัสตัส ไม่อ่อนโยน ตัสตัสไม่ใช่แลคตาซิสสักหน่อย” ไอ้เอ๋อพูดเสียงทะเล้น แล้วหันหน้าไปยิ้มหวานให้

“ไอ้นี่..” ซีตัสทำท่าจะเขกหัวมัน

“คึคึ ไม่อ่อนโยน”

หมดไปหนึ่งวันกับการเรียน ตอนเย็นมันมารอสิงห์ที่หน้าโรงเรียนเหมือนเดิมพร้อมกับแก้งองครักษ์ของมัน แต่รอได้ไม่เท่าไหร่สิงห์ก็โทรหามัน

“นะโมครับ วันนี้กลับบ้านเองได้ไหม พี่ติดประชุมคงกลับไปรับหนูไม่ทัน พี่ขอโทษนะครับ” พอมันได้ยินแบบนั้นใบหน้าที่เคยสดใสกลับสลดลง

“ครับ น้องกลับเองได้ พี่จ๋าไม่ต้องเป็นห่วงนะ” ถึงปากจะพูดออกไปแบบนั้นแต่สีหน้ามันกลับตรงกันข้ามไปหมด

“พี่ขอโทษนะครับพี่ติดประชุมจริงๆ เพื่อนพี่ไม่มีใครว่างสักคน”

“อื้อ น้องกลับได้ พี่จ๋ารีบกลับบ้านนะครับ” มันบอกเสียงอ้อน

“ครับ เพื่อนๆ อยู่ตรงนั้นไหม พี่ขอคุยด้วยหน่อยสิ”

“ครับ” มันยื่นดทรศัพท์ให้ซีตัสที่อยู่ใกล้ที่สุด

“ว่าไงพี่”

“กูฝากส่งน้องมันด้วยนะ กูติดประชุมกลับไปไม่ทัน กล้วน้องรอ”

“ได้พี่เดี๋ยวพวกผมไปส่งที่บ้านให้”

“เออขอบจะพวกมึงมาก เดี่ยวซื้อขนมไปฝาก”

“เปลี่ยนเป็นน้ำสีทองๆ ได้ไหมพี่” ซีตัส

“เออ ไว้จะเลี้ยงตอบแทนไอ้ห่า เป็นเด็กเป็นเล็กทำไมแดกแต่เหล้า” สิงห์บ่นแต่ไม่จริงจังเพราะรู้อยู่แล้วว่าเด็กพวกนี้เป็นคนยังไง

“ขอบคุณคร๊าบบ เออ ไม่ต้องห่วงไอ้เอ๋อมันนะพี่เดี๋ยวพวกผมดูแลเอง”

“อืม ขอบใจกูไปละ ต้องเข้าประชุม”



หลังจากวางสายไอ้เอ๋อมันก็เงียบๆ ไม่จ้อเหมือนเดิม จนเนมต้องพาไปกินไอติมปลอบใจกันที่ร้านคาเฟ่ใกล้กับวิทยาลัยชื่อดัง ร้านเล็กที่แน่นไปด้วยเหล่านักเรียนนักศึกษา ร้านนี้เนมมาบ่อย และสนิทกับเจ้าของร้านที่ชื่อฟ้า เนมพาเข้าไปนั่งโซนด้านในเพราะมันเป็นมุมสงบของร้าน อีกอย่างเขาก็ไม่ค่อยชอบความวุ่นวายสักเท่าไหร่

“พี่ฟ้า เอาช็อกโกแลตปั่นสองแก้ว ตัส ปิง เอาไร”

“ผมเอาโฟรสชาเขียวเพิ่มวิป” ปิง

“ผมเอาม็อกค่าปั่นละกัน”

“ขนมละเอาไรไหมเนม” ฟ้าเจ้าของร้านที่เดินมารับเมนูเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

“เอาฮันนี่โทสสำหรับสี่คน แล้วก็เค้กผลไม้ละกันพี่” เนมสั่งตบท้ายก่อนที่ฟ้าจะหายไปหลังร้าน

“มึงเลี้ยงใช่ไหม?” ปิงถามคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม

“เออกูเลี้ยง” เนมรับปากว่าจะเลี้ยงปิงเลยยกยิ้มขึ้นมา ยกเว้นอยู่คนที่เอาแต่นั่งจ้องโทรศัพท์ไม่พูดไม่จา

“ไอ้เอ๋อ จะมาทำหน้าหงอยทำไม เดี๋ยวพี่สิงห์ก็กลับ”

“แต่เราไม่ชอบแบบนี้นี่ ไม่ชอบที่พี่จ๋าไม่มารับ”

“งอแง อะกินเข้าไปขนม จะได้อารมณ์ดี” เนมตักฮันนี้ดทสยัดใส่ปากมัน ระว่างที่นั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย จู่ๆ ก็มีเสียงดังเอะอะอยู่หน้าร้าน พอชะโงกหน้าดูก็เจอเข้ากับกลุ่มนักศึกษาต่างสถาบันที่พากันวิ่งไล่ตีกัน และหนึ่งในนั้น มีต้าร์วิ่งรวมกันอยู่ด้วย ไอ้อ๋อมันเห็นเต้มสองตาว่าต้าร์เนื้อตัวมีแต่แผล

“ลุกพี่ ลูกพี่ ไม่ๆ อย่าทำอย่าทำ” มันลุกขึ้นและรีบวิ่งไปทางหน้าร้าน เนมที่ไวกว่าเพื่อนรีบวิ่งไปจับตัวมันได้ทันก่อนที่มันจะออกจากร้าน

“อะไรวะ มันเกิดอะไรขึ้น” เนมถามด้วยความตกใจกับเหตุการณ์

“พี่ต้าร์ พี่ต้าร์ โดนตี อย่า อย่า จะช่วย จะช่วย” มันกำลังหวาดกลัวและพูดจาซ้ำๆ ดวงตาของมันฉายแววกังวลออกมา

“ใครนะไอ้เอ๋อ” ซีตัสเดินตามออกมา

“พี่ต้าร์ พี่ต้าร์ โดนตี”

“กูว่าละ เห็นหลังคุ้นๆ ใจเย็นมึงเดี๋ยวกูโทรบอกพี่หมอให้” ปากบอกมือก็กดโทรศัพท์หาหมอไม้เมืองถ้าถามว่าไปมีเบอร์กันตอนไหนก็ตอนตั้งวงกินเหล้าที่บ้านสิงห์ครั้งนั้นแหละ พอโทรบอกเรียบร้อยก็พากันกลับไปที่โต๊ะ

“มึงว่าพี่ต้าร์จะเป็นไรป่าววะ?” ปิงเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหวถึงได้ถามออกไปโดยไม่ทันคิด

“ฮึก..ฮึก ลูกพี่” มันเบะทั้งๆ ที่มีขนมอยู่ในปากน้ำตามันคลอเบ้า

“เห้ย!! ไม่ใช่กูหมายถึง เอ่อป่านนี้พี่ต้าร์จะโดนพี่หมอดุว่าอะไรบ้างมึง อย่าร้องนะเว้ย” ปิงอยากจะเอามือตบปากตัวเอง พึ่งปลอบมันเสร็จแท้ๆ

“หาเรื่องจริงๆ เลยมึงนี่ ปลอบมันเองเลยงั้น” ซีตัสดุแฟนตัวเอง

“มึงอะ ไอ้เนมปลบอมันดิ๊”

“เกี่ยวไรกับกูมึงทำมันร้องมึงก็ปลอบมันดิ”

“ (ฮึก ฮืออ ฮึก ฮึก พี่ต้าร์) ”

“อะไรวะเนี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”



กลับจากร้านคาเฟ่ของฟ้าเนมเป็นคนอาสามาส่งไอ้เอ๋อที่บ้านเองเพราะเป็นทางผ่านพอดี สายตาคมมองไปที่บ้านไม้หลังใหญ่

“เข้ามาก่อนสิเนมเนม เดี๋ยวเราเอาน้ำมาให้” มันพาเนมเข้าไปนั่งในบ้าน เนมมองสำรวจไปทั่วๆ พร้อมกับถามมันว่า

“มึงอยู่กับเขาแค่สองคนเหรอ”

“อื้อ เราอยู่กับพี่จ๋าแค่สองคน ทำไมหรอ”

“พ่อแม่พี่สิงห์ละ”

“เราไม่รู้”

“แล้วเมื่อก่อนนะโมอยู่กับใครเหรอ”

“เราอยู่กับหลวงตา”

“หลวงตา?”

“อื้อแต่หลวงตาไปบนสวรรค์แล้ว” มันตอบด้วยเสียงเศร้าๆ มันคิดถึงหลวงตา แต่แค่ไม่พูดออกไปมันเดินวนไปเวียนมา ตาก็เอาแต่มองไปยังหน้าบ้าน จะทุ่มหนึ่งแล้วพี่จ๋ามันยังไม่ยอมกลับมาสักที

“เนมเนม เนมเนมว่าพี่จ๋าจะหลงทางไหม?”

“หืม ทำไมคิดงั้น”

“ก็พี่จ๋าไม่ยอมกลับมาสักที เราคิดว่าพี่จ๋าอาจจะหลงทางอยู่ที่ไหนสักที่”

“แล้วทำไมไม่โทรหาละ?”

“อ๊ะ จริงด้วย เนมเนมนี่ก็ฉลาดเหมือนกันนะเนี้ยะ”

“-*- รู้สึกเหมือนที่ผ่านมากูโง่ยังไงไม่รู้” เนมลูบหน้าตัวเองทั้งๆ ที่ถูกชมแต่รู้สึกเหมือนโดนด่าว่าโง่ไงไม่รู้

“งั้นเนมเนมรอนี่นะเราจะไปเอาโทรศัพท์”

“อืม”

มันวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอนแล้วหยิบเอาโทรศัพท์ในกระเป๋านักเรียนออกมา

“งะ ใครโทรมาหลายสายเลย *0* พี่จ๋าโทรมา” มันเห็นว่ามีคนโทรมาหลายและเป็นเบอร์ของสิงห์มันเลยโทรกลับ

“พี่จ๋า พี่จ๋า ถึงไหนแล้ว” ทันทีที่สิงห์กดรับมันก็กรอกเสียงลงไปโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้พูด

“ทำอะไรอยู่ครับทำไมถึงไม่รับสายพี่!! ” สิงห์ถามมันเสียงเขียว เขาโทรหาหลายสายแต่ไม่มีคนรับ ทำเอาเขาห่วงมันแทบบ้า โทรไปหาซีตัส ซีตัสก็บอกว่า เนมพาไปส่งบ้านแล้ว แต่นั่นไม่ได้ทำให้สิงห์คลายความกังวลไปได้เลย เนมเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้เพราะพึ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานแถมมาคนเดียวด้วย สิงห์ยังไม่ไว้ใจใครง่ายๆ นอกจากพวกของซีตัส

“งูย เสียงดุ หนูไม่ได้ทำอะไรครับ นั่งรอพี่จ๋าอยู่” มันตอบเสียงอ้อนๆ เพราะไม่อยากให้สิงห์โกรธมัน

“แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ เราทำให้พี่เป็นห่วงนะรู้ไหม?”

“คือน้อง เอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋าไว้ครับ น้องขอโทษนะครับ”

“เห้ออ ไม่เป็นไรครับพี่กำลังจะกลับแล้ว เราหิวไหม? พี่จะได้ซื้อของเข้าไป” ยังไงก็แพ้มันอยู่วันยังค่ำแค่ได้ยินเสียงหงอยๆ อ้อนๆ ของมันเขสก็ใจอ่อนใจละลายแล้ว

“หิวครับ” มันตอบตามความจริงมันหิวแต่มันอยากกินพร้อมกับสิงห์

“อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันนะครับ พี่จะรีบกลับ”

“ครับ” หลังจากวางสายมันก็เดินออกไปหาเนมด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มต่างจากตอนแรก จนเนมอดที่จะแซวมันไม่ได้

“พี่เค้าจะกลับมาแล้วดิ ถึงได้ยิ้มหน้าบานขนาดนี้”

“อืม คึคึคึ >///< “

“นี่กูถามอะไรหน่อยได้ปะ” เนมแกคิดถึงคำพูดของซีตัส ที่เคยพูดว่าหน้าเขาคล้ายกับหน้าไอ้เอ๋อขึ้นมาเลยอยากจะถามอะไรบางอย่างให้แน่ใจ

“เคยเห็นหน้าพ่อแม่ไหม หรือมีรูป พ่อแม่รึเปล่า” ไอ้เอ๋อมันเงียบไปพักก่อนจะตัดสินใจพูดมันออกไป

“ไม่เคยเห็นหรอก แม่เอาเรามาทิ้งไว้ที่วัดตั้งแต่เล็กๆ แล้ว จะมีก็แต่แม่ด่าง แต่แม่ด่างก็ตายไปแล้ว หลวงตา” บัว” เลี้ยงเรามา เนมเนมถามทำไมเหรอ” ไอ้เอ๋อมันไม่อยากรื้อความทรงจำขึ้นมา เพราะมันจะคิดถึงคนที่จากไปแล้ว มันเคยน้อยใจนะ ว่าทำไมแม่ต้องทิ้งมัน ทำไมมันต้องไม่เหมือนคนอื่น ทำไมมันไม่มีพ่อไม่มีแม่

“หลวงตาบัว อืม ไม่มีอะไรหรอกเราแค่อยากรู้เฉยๆ” ชื่อหลวงตาบังมันติดหูเขามาก มากเหมือนเคยได้ยินจากที่ไหนสักที่ แต่ก็นึกไม่ออก เนมนั่งคิดอะไรไปเรื่อยๆ หยิบเอาแหวนที่ห้อยคอตลอดออกมาลูบเล่นอย่างเคยชิน แหวนทองคำที่มีเม็ดทับทิมสีแดงประดับ

สักพักก็ได้ยินเสียงรถยนต์เข้ามาจอดหน้าบ้านไอ้เอ๋อมันจำเสียงรถของสิงห์ได้ ร่างป้อมของมันวิ่งลงบันไดไป

“พี่จ๋ามาแล้ว พี่จ๋ามาแล้ว” มันแทบจะกระโดดใส่สิงห์ตอนที่ลงจากรถ

“หึหึ คิดถึงเด็กดื้อจัง”

“คิคิ คิดถึงเหมือนกันครับ อ่อ พี่จ๋า เนมเนมอยู่ด้วยนะ”

“เนม! ” ทันทีที่ได้ยินว่ามีใครอีกคนอยู่บนบ้าน แถมยังเป็นคนที่ทำให้เขาหึงเลือดขึ้นหน้าอีก เขาคิดว่าเนมมาส่งแล้วก็คงกลับไม่คิดว่าจะยังอยู่เฝ้าคนของเขาจนถึงป่านนี้

“ครับ เนมเนม เนมเนมพาไปกินขนมมาด้วย อร่อยมากๆ ๆ ๆ” พูดไปด้วยพร้อมกับทำท่าทางมีความสุขไปด้วย สิงห์มองมันที่ยิ้มเวลาพูดถึงผู้ชายคนแล้วรู้สึกคันยิบๆ ในใจ คิ้วเรียวเริ่มจะขมวดเข้าหากัน มันไม่ได้รู้เลยว่ามันกำลังจะก่อพายุใส่หัวตัวเอง

“สงสัยพี่คงใจดีกับหนูมากเกินไปถึงได้เอาผู้ชายขึ้นบ้านแบบนี้ พี่ว่า เราคงต้องมีการลงโทษกันหน่อยแล้วละครับ” พูดพร้อมกับสาวเท้าเข้าหา

“งะ คะ คือ ไม่ใช่ พี่จ๋าไม่ทำหน้าแบบนั้น น้อง น้องว่าน้องไม่ปลอดภัย”

“หึหึหึ”

“เนมเนม เนมเน้มมมมมมมมมมมมมมมมมมม ออกจากไปบ้านเราได้แล้ว ออกไปเลยเน้มมมมมมม”

“เห้ย อะไรวะ อย่าผลัก ให้กูใส่รองเท้าก่อนไหมล่ะ อะไรของมันวะพี่” เนมตั้งตัวไม่ทันกับท่าทีหวาดหวั่นของเพื่อนตัวน้อย ดูเหมือนเขาจะกลัวอะไรสักอย่าง เขารีบใส่รองเท้าพร้อมกับสบตามองคนตัวสูงที่ยืนแสยะยิ้มให้

“ขอบใจมึงมากทีทำให้กูได้หาเรื่องลงโทษเมียตัวเอง” สิงห์โน้มตัวลงมากระซิบข้างหูเด็กมอปลายที่ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วก็หัวเราะในลำคอ

“พี่นี่มันปีศาจชัดๆ”

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อิพี่...พี่จะหื่นทุกตอนไม่ได้

คิกค้ากกกกกกกกกกกก นะทุกคน

อ่อต้องกลับไปแก้ไขตอนที่แล้วเรื่องล็อกเก็ต มันไม่ใช่ แต่มันเป็นแหวนทับทิม แหวนประจำตระกูล

ขอบคุณที่ช่วยแก้คำผิดให้เค้าด้วยน้าา

เจอกันตอนหน้าค่ะ





















































หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.35 11/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 11-11-2018 09:53:29
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.35 11/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 11-11-2018 10:26:29
อิพี่สิง์ช่างหาเรื่องรังแกนะโมได้ตลอด
หื่นจริงอะไ่รจริง
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.35 11/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 11-11-2018 10:56:49
นะโมจะได้มีครอบครัวแล้วไม่ต้องเป็นเด็กกำพร้าเด็กวัดแล้ว
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.35 11/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-11-2018 14:56:38
จ้ะยอมล้าว
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.35 11/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-11-2018 15:12:25
พี่สิงห์ หื่นนนนนนนนนน   :z3:
หาเรื่องลงโทษนะโมตลอด  :serius2:

พี่สิงห์  นะโม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.35 11/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-11-2018 16:52:57
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.35 11/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: mutyamania ที่ 11-11-2018 18:59:55
แปะไว้ เดี๋ยวมาอ่านจ้า
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.35 11/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-11-2018 19:24:12
ก่อนทำโทษ ถามนะโมก่อนนะว่าการบ้านเสร็จหรือยัง
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.35 11/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-11-2018 19:26:47
หาแต่เรื่องจะลงโทษเด็ก
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.35 11/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-11-2018 00:09:59
อิพี่ อิเลวววว
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.35 11/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 12-11-2018 01:22:07
พี่สิงห์ น้องรู้ทันล๊าว
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.35 11/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 12-11-2018 01:26:06
อย่าให้ถึงเวลานะโมลงโทษบ้างนะ งดหื่นไป3เดือนจะรู้สึก หื่นมากๆ หึหึ!! //ว้อยยยยยลุ้น เส้นผมบังภูเขา จุดใต้ตำตอ อยู่นี้ไง อยู่นี้ื พี่ชายอยู่นี้เอง โว้ยยยยยย พี่สิงห์นี่ละตัวดี เอกสารและของทุกอย่างหลวงพ่อให้มาแล้ว ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะเจอออออออ ก็ได้แต่ฮึ่มแฮ่ใส่กันอยู่อย่างนี้อะนะ เดี๊ยะเบิดกะโลหกคนละทีหนิ 55555 รอค่ะรอ รอความจริงเปิดเผย เพิ่งอัพก็อยากอ่านต่อแล้ว  แต่รอได้ค่ะ ขอบคุณที่มาอัพ รอตอนต่อไปเลยค่ะ ชอบๆ พูดเก่งขึ้นจริงนะโม แต่ยังต้องควบคุมตัวเองอีกเยอะนะ ไปหาพี่หมอบ้างไหม อาการเป็นไงบ้างแล้ว อย่าลืมไปหาพี่หมอนะ จะได้ดีขึ้น  //ว่าแต่ลูกพี่ต้าร์ไปหาเรื่องกับใครมาอ่ะ งานเข้าแล้ว สวัสดีและลาก่อนนะต้าร์ ให้พี่หมอไม้จัดการ 555555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.36 18/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 18-11-2018 08:33:08
36



ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ที่ทอดผ่านตัวบ้านเรือนไทยประยุกต์ ทำให้ตัวบ้านเย็นแทบไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศใดๆ ร่างสูงเจ้าของบ้าน กำลังเตรียมตัวไปทำงานแทนบิดา ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ตาม แต่หน้าที่ก็คือหน้าที่ หน้าที่ของลูกที่ดีและหน้าที่ของคนรัก ร่างบางที่ตื่นมาพร้อมกับร่างสูงกำลังอารมณ์ดี เพราะนอกจากจะได้หยุดอยู่บ้านแล้ววันนี้มันยังจะได้ขายภาพวาดที่สวนสาธารณะด้วย

“พี่จ๋า รีบกลับมานะ” มันเดินออกมาส่งสิงห์ที่หน้าบ้าน คอยเปิดประตูรถให้ สิงห์พอใจกับการกระทำของมัน เหมือนแม่บ้านออกมาส่งสามีทำงาน ก่อนจะขึ้นรถเขาดึงมันมากอด

“พี่จะรีบกลับมามาหานะครับ หนูก็อย่าไปซนที่ไหน อยู่แต่ในบ้านนะครับ แล้วบ่ายๆ พี่จะมารับไปขายรูปที่สวน” สิงห์จูบลงบนกลีบปากนุ่มของมันอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะผละออกมา ใบหน้าหวานสวย กับแก้มอูมๆ กำลังแดงปลั่ง มันไม่สบตาเขาเพราะกำลังเขิน สองมือบีบกันไปมาก

“อื้อ น้องรอนะ”

“ครับ”

พอรถของสิงห์แล่นออกไปมันก็ปิดรั้ว แล้วเริ่มทำงานบ้าน มันเริ่มจากกวาดเศษใบไม้มากองรวมกัน ก่อนจะเก็บใบไม้ใส่ถุงดำแล้วไปไว้ที่ถังขยะหน้าบ้าน จากนั้นก็ตัดหญ้าหน้าบ้าน ทำความสะอาดศาลพระภูมิเจ้าที่ ซึ่งแน่นอน คุณยายกับพี่สาวคนสวยของมันก็ออกมาทักทายและพูดคุยกับมันระหว่างที่ทำความสะอาดไปด้วย

“คุณยาย พักนี่คุณยายหายไปไหนหรอครับ”

“ยายก็อยู่นี่แหละ บำเพ็ญเพียรภวานา สร้างบุญสร้างกุศล”

“แล้วพี่สาวละครับ”

“โถน้องคะ น้องจะให้พี่สิงห์อยู่แต่กับต้นกล้วยเหรอคะ พี่ก็ต้องคบค้าสมาคมกับตานีตนอื่นบ้าง หนูจะให้พี่เป็นผีตานีที่ไร้เพื่อนไม่ได้นะคะ” นางตานีบอกพร้อมทำเสียงขำๆ

“คึคึ มีสมาคมผีตานีด้วย หนูอยากเห็น”

“ว่างๆ พี่จะพาไป” นางตานีคนสวยยิ้มหวานส่งให้พร้อมกับเอาซับเหงื่อให้มันไปด้วย

หลังจากทำความสะอาดศาล ตัดหญ้าเสร็จเวลามันก็ผ่านไปจนเกือบเที่ยง มันเลยเดินมานั่งพักที่ใต้ถุนบ้าน ก่อนจะตักน้ำเย็นๆ จากโอ่งดินเผาน้ำฝนลอยดอกมะลิที่มันเก็บมาจากสวนหลังบ้าน มันใช้ที่ตักที่ทำจากกะลามะพร้าวลูกเล็กๆ พอตักดื่มแล้วเย็นชื่นใจโดยที่ไม่ต้องแช่เย็นเลย

“เห้อออ ชื่นใจสุดๆ” กินเสร็จก็นั่งพักให้ลมโบกจนเหงื่อแห้ง แล้วขึ้นไปอุ่นข้าวต้มที่ทำเหลือไว้เมื่อเช้ามาอุ่นกินรองท้องก่อน เพราะมันทั้งเหนื่อยทั้งหิว กินเสร็จก็ไปอาบน้ำเตรียมภาพวาดที่จะเอาไปขาย ภาพส่วนใหญ่ของมันเป็นภาพสีน้ำมัน และเป็นภาพเหมือน ภาพวิว และสัตว์ต่างๆ พออาบน้ำเรียบร้อยมันก็นั่งดูทีวีรอให้สิงห์มารับ

ติ้ง ติ้ง

องครักษ์พิทักษ์เอ๋อ (5)
[/b]

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

ตื่นกันรึยังคะเพื่อนๆ

คนสวยตื่นนานแล้ว

แต่ไม่เห็นใครทักมาเลย
ปิง

วันหยุดไหมมึง

ให้กูได้พักผ่อนบ้าง
นะโม

ส้มเราตื่น ตื่นมาตั้งแต่หกโมง

ทำข้าวต้ม แล้วก็ทำงานบ้านแหละ

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อิลูกมึงจะตื่นเช้าไปไหน

นะโม

เราตื่นเช้าทุกวันนะ

ตื่นมาทำอาหารเช้าให้พี่จ๋า



ปิง

ดูเป็นแม่บ้านแม่เรือน

ต่างจากอีกคนชิบหาย

ซีตัสคนจริง

หึหึ

ทำไมมึงไม่หัดทำให้กูแดกมั่ง เอาแต่ให้กูทำให้กิน

ปิง

ก็มึงชอบว่ากูทำครัวมึงไหม้อะ

ซีตัสคนจริง

ก็หัดดิ

ไอ้เอ๋อมันยังทำได้เลย

ไม่ลองจะรู้เหรอ
ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

กูยังอยู่ในแชท

โหลลล

เห็นกูม้ายยย

Yimmy

ไอ้ซั๊ด สั่นจนกูตื่น

คุยอะไรกันแต่เช้าวะ

นะโม

ยิม นี่จะเที่ยงแล้ว ไม่เช้าแล้วนะเราว่า

ทำไมทุกคนบอกว่ามันยังเช้า เราไม่เข้าใจเลย

Yimmy

ของนะโมมันเช้าเกินไง เราตื่นไม่ไหวหรอก

ถามจริงตื่นมาทำไรกัน

นะโม

ตื่นมาทำงานบ้านไง

ไม่ทำกันเหรอ

ปิง

ไม่ค่อยได้ทำ

แม่บ้านทำ

ซีตัสคนจริง

กูก็ทำนะ

ถ้าว่าง
ส้มคนสวยแห่งห้องสาม
คนสวยไม่เคยทำเลยค่ะ
นะโม

ต้องทำบ้างนะ

จะได้เก่งๆ

ปิง

แล้วนี่มึงทำอะไรอยู่วะไอ้เอ๋อ

นะโม


เรากำลังรอพี่จ๋ามารับไปขายรูปที่สวนนะ

ทุกคนไปไหม

ซีตัสคนจริง

มึงเอาไงไปป่าวปิง

ปิง

ไปกูไปไปช่วยมันขาย
ส้มคนสวยแห่งห้องสาม
ไปค่ะ

Yimmy

ไปครับ
ซีตัสคนจริง

งั้นไปเจอกันที่สวนตอนสามโมง





สิงห์กลับมาบ้านในช่วงบ่าย ในมือมีกล่องอาหารที่สั่งจากภัตตาคารใกล้บริษัท เขากะจะไปกินที่สวนสาธารณะกับมันระหว่างขายภาพวาด สิงห์เดินเข้ามาในบ้านในท่าทีที่อิโรยเล็กน้อยเพราะเขาต้องทำงานถึงสองที่ทั้งคลินิกและบริษัทของพ่อ

“พี่จ๋า^^”

“ครับ หนูเตรียมของไว้หมดแล้วใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้นขนขึ้นรถได้เลย พี่ขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ”

“คร๊าบบบบ” มันสังเกตได้ว่าสิงห์กำลังเหนื่อย มันเลยเดินตามหลังของสิงห์ไปเงียบๆ ก่อนที่จะ

จุ๊บ

“หนู!! ทะ ทำ อะไรครับ”

“ให้กำลังใจ คึคึ”

“ไหนมานี่เลย” สิงห็คว้าตัวมันมากอดเอาไว้ก่อนจะบดจูบลงริมฝีปากนุ่มของมัน จูบที่ไม่ได้ลึกซึ้งเป็นเพียงริมฝีปากแตะๆ กันเท่านั้น

“ใครสอนให้ทำแบบนี้ครับ ไม่รู้เหรอว่าทำแบบนี้แล้ว หนูจะไม่รอด”

“ก็เห็นพี่จ๋าทำหน้าเหนื่อยๆ” มันตอบเสียงอู้อี้ ไม่สบตาคนตัวสูงที่กอดมันแน่น หน้ามันแดงเป็นลูกตำลึงสุก เพราะคำว่าไม่รอด ของเขา แถมยังพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าใส่หูอีก ถึงแม้จะเป็นเด็กออทิสติก แต่ก็ไม่ได้ไม่รู้ความถึงขนาดนั้น เพราะมันได้ผ่านเรื่องอย่างว่ามาแล้ว ประสบการณ์คือบทเรียนที่ดี

“แค่ได้กอดพี่ก็หายเหนื่อยแล้วครับ”

“ถ้าอย่างนั้น น้องจะกอดพี่จ๋าเยอะๆ ดีไหมครับ”

“ครับ ดีที่สุดเลย” ใช่แค่กอดกับรอยยิ้มของมันก็เติมเต็มให้เขาหายเหนื่อย ร่างบางในอ้อมแขนซุกหน้ากับอกกว้างพร้อมกับถูไปมาเหมือนแมวอ้อน

“น้องรักพี่จ๋านะ”

“พี่จ๋าก็รักนะโมนะครับ”

“งื้ออออ”

บ่ายโมงกว่าๆ ก็พากันออกบ้าน พอถึงสวนก็ขนของลงและจัดหน้าร้าน ภาพหลายภาพถูกซื้อไปในเวลาเพียงไม่นาน เพราะมีหลายคนมารอซื้อรูปสวยๆ ของมันอยู่แล้ว ถึงจะมาขายไม่บ่อยแต่ก็มีคนรอ

“ภาพนี้ราคาเท่าไหร่ครับ” มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาถามราคาภาพ ขณะที่กำลังกินข้าวกับสิงห์อยู่ที่ใต้ต้นไม้ มันรีบลุกขึ้นแล้วกลืนข้าวในปากลงท้องอย่างเร็ว

“ไม่ต้องรีบเดี๋ยวสำลัก” สิงห์พูดเสียงดุ แต่มันก็ไม่ทันได้ฟังรีบวิ่งไปหน้าร้านก่อน

“สะ สี่ร้อยคร๊าบ” มันรีบตอบราคา เสียงใสๆ ของมันทำเอาชายหนุ่มที่ยืนเลือกรูปอยู่อดยิ้มไม่ได้ คนที่เดินตลาดเปิดท้ายในสวนแห่งนี้รู้ดีว่าไอ้เอ๋อมันเป็นเด็กพิเศษ ที่มาซื้อไม่ใช่เพราะสงสารแต่เป็นเพราะความสามารถของมันต่างหาก บวกกับความน่ารักและมีมารยาทนอบน้อม พูดจาเพราะแถมยังหน้าตาน่ารักอีก มันเลยเป็นขวัญใจของคนที่นี่

“ถ้าซื้อสองรูปลดให้ได้ไหม”

“ได้ค๊าบบ เหลือ เจ็ดร้อย” มันยิ้มแล้วรับรูปที่ลูกค้าเลือกไปห่อกระดาษน้ำตาลและแผ่นบับเบิลให้ พอลูกค้าจ่ายตังมันก็ยกมือไหว้ ก่อนจะยัดเงินใส่กระเป๋าผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลลายหมีบาวของมันเอาไว้ ตกบ่ายแก่ๆ เพื่อนๆ ชาวแก้งของมันก็เดินมาหา ในมือมีขนมมาฝากมันด้วย

“ปิงปิง มาแล้วววว” มันยิ้มต้อนรับ สิงห์พอได้ยินว่ามีคนเรียกชื่อคนของตัวเองก็เดินออกมาดู

“อ่าวพี่สิงห์หวัดดีครับ/หวัดดีค่ะพี่สิงห์” เด็กๆ ยกมือไหว้คนที่อายุมากว่า

“อืมแล้วรู้ได้ไงว่าอยู่ตรงนี้”

“เราคุยกันตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วค่ะ วันนี้จะมาช่วยนะโมขายรูป”

“ต้องขายดีแน่ๆ มีแต่คนหน้าตาดีอยู่ที่ร้าน” ส้มพูดเหมือนชมตัวเองไปในตัว ไอ้เอ๋อมันฉีกยิ้มให้ และแน่นอนในเมื่อพ่อค้าร้านนี้มีแต่พ่อค้าแซ่บๆ ลูกย่อยเยอะเป็นธรรมดา แวะมาชมรูปบ้างพ่อค้าบ้าง ซื้อรูปบ้าง ทุกคนดูสนุกเพราะได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนอย่างเช่น เต้นเรียกลูกค้า ซึ่งมันไม่ได้เข้ากันกับการขายภาพวาดเลยแม้แต่น้อย แต่ทุกคนสนุกโดยเฉพาะไอ้เอ๋อ

วันนี้มันขายได้หลายภาพ แทบจะหมดสต๊อกที่มันวาดเอาไว้ ขากลับสิงห์อาสาพาไปเลี้ยงข้าวและพาส่งกลับบ้านจนครบทุกคน ตอบแทนที่วันนี้มาเล่นเป็นเพื่อนไอ้เอ๋อมัน เสต็กลุงหนวดถือเป็นตัสเลือกที่ดีสำหรับช่วงเวลาหัวค่ำแบบนี้ ทุกคนสั่งอาหารตามที่ตนอยากกิน ยกเว้นของไอ้เอ๋อที่สิงห์เป็นคนสั่งให้ เพราะมันไม่เคยกินอะไรแบบนี้ สิงห์สั่งพอคช็อบให้มัน พร้อมกับสลัดทูน่า ส่วนของเขาเป็นสเต๊กเนื้อสัน

“หะ หั่นไง หั่นไง” มันกระซิบถามสิงห์ รู้สึกประหม่าจนมือสั่นไปหมด

“จับซ้อมมือซ้ายมีดมือขวาครับ แล้วแบบนี้” สิงห์ทำเป็นตัวอย่างให้มันดู สองมือเรียวค่อยๆ หั่นสเต๊กของตัวเองอย่างช้าๆ จะใช้ส้อมจิ้มใส่ปาก รสชุ่มฉ่ำของเนื้อหมูที่มันไม่เคยได้สัมผัส กำลังไหลผ่านลำคอของมันอย่างช้าๆ

“อะ อร่อยจัง” มันพูดออกมาทันทีที่กลืนเนื้อชิ้นนั้นหมด แม้จะไม่ได้กินในร้านหรูๆ หรือร้านในโรงแรม แต่สำหรับมันคืออาหารรสเลิศ

“ชอบก็กินเยอะๆ นะครับ” สิงห์ส่งยิ้มให้มันอย่างอบอุ่น อะไรที่ทำให้คนตรงหน้ายิ้มได้เขาจะยอมทำทุกอย่าง อย่างไม่มีเงื่อนไข แค่รอยยิ้มของมัน เขาก็มีกำลังใจไปทั้งวัน ยิ่งวันไหนได้ลงโทษเขาแทบไม่ต้องกินอะไรเลยด้วยซ้ำเรียกได้ว่าอิ่มไปทั้งวัน

“อันนี้เรียกว่าอะไรครับ” มันชี้ไปที่กองทูน่าบนสลัด

“ทูน่าครับ” สิงห์ตอบ

“ทูน่าคืออะไร?”

“ทูน่าเป็นปลาที่อยู่ในทะเล” ปิงหันมาตอบมันแทนสิงห์ที่กำลังเคี้ยวอาหารอยู่

“ปลาหรอ แต่เราไม่ชอบปลา” มันส่ายหน้าพร้อมกับทำหน้ายี้ใส่ ใช่มันไม่ชอบกินปลา เพราะปลาน่ากลัว ตายแล้วชอบอ้าปากใส่มัน ตาก็โบ๋ กลิ่นก็เหม็น มันเลยไม่ชอบ

“อร่อยนะเว้ยย กินแล้วฉลาดด้วย” ปิงบอกอีก แต่ทันกลับทำหน้าไม่เชื่อ พร้อมกับยี้ออกมา สิงห์เห็นแบบนั้น เลยบอกให้มันลองกินดู แต่มันยังไม่ยอม เพราะฝังใจกับปลา อะไรที่ขึ้นชื่อว่าปลา (ยกเว้นปลากระป๋อง) มันส่ายหน้าหนีหมด

“กินสลัดให้หมดนะครับ ถ้าไม่หมดพี่จะโกรธเรา” สิงห์ขู่

“กินแต่ผักได้ไหมครับ” มันต่อรอง แต่สิงห์ไม่ยอมพูดด้วย มันเลยคิดว่าสิงห์อนุญาต

“....”

“กินหมดแล้วครับ” มันเลื่อนจานสลัดที่เหลือแต่ทูน่าให้สิงห์ดู แต่สิงห์ก็ยังทำหน้านิ่งๆ ใส่มัน ทุกคนรุ้ว่าสิงห์กำลังจะดัดนิสัยของไอ้เอ๋อ เขาอยากให้มันไม่เลือกกิน และปลาก็มีประโยชน์มากๆ แต่ไอ้เอ๋อปฏิเสธปลาแบบหัวชนฝา เขาเลยต้องใช้ไม้แข็งบ้าง

“....”

“พี่จ๋า ทำไมหน้าตึงแบบนั้น”

“....”



พอจ่ายเงินค่าอาหารเรียบร้อยก็ทยอยพากันไปส่งบ้าน สิงห์เงียบใส่มันตลอดทาง ไม่มีแม้แต่จะมองหน้า มันเลยเกิดอาการร้อนใจนิดๆ ว่าพี่จ๋าของมันกำลังโกรธมันด้วยเรื่องอะไร แต่คิดยังไงมันก็คิดไม่ออก จนสิงห์ขับรถมาส่งซีตัสที่หอ เป็นคนสุดท้าย

“ตัสตัส เรามีอะไรจะถาม” มันกระซิบเสียงเบาๆ ถามเพื่อนคนสนิท

“มีไร?”

“พี่จ๋าโกรธเราใช่เปล่า”

“อืม นี่มึงไม่รู้อ่อ”

“เรารู้แต่เราไม่รู้ว่าโกรธเรื่องอะไรไง” มันทำหน้าเครียดๆ

“ก็มึงไม่ยอมกินทูน่าไง”

“อ่าว แต่เราคิดว่าพี่จ๋าอนุญาตว่าไม่ต้องกินก็ได้นี่”

“แหม่ หน้าดุขนาดนั้นมึงคิดได้ไงว่าเขาอนุญาต” ซีตัวอยากจะตีหน้าผากมันจริงๆ

“งู้ยยย ก็พี่จ๋าไม่พูดนี่ เราจะไปรู้ได้ไง” มันยิ่งทำหน้าหงิกแล้วหันไปมองค้อนคนที่กำลังขับรถอยู่

“เขาโกรธอยู่มึงต้องง้อเขาสิ ไปทำตาค้อนใส่ได้ไง”

“-3- ก็ทำไมต้องโกรธเราอะ เราทำไรผิด”

“ยังจะมาถาม ระวังนะเว้ยมึงปล่อยให้เค้างอนเค้าโกรธ ระวังเค้าไปรักเด็กคนอื่น นะมึง”

“เห้ย!! ไม่ได้” มันพูดเสียงดังอย่างลืมตัว ก่อนจะเบาเสียงตัวเองลง ส่วนคนที่ทำเป็นหน้านิ่งก็แอบฟังทุกบทสนทนาของทั้งสองคนอย่างเงียบๆ เขาเองก็อยากจะรู้ว่าไอ้เอ๋อมันจะทำยังไงต่อไป

“ไม่ได้แล้วมึงจะทำไง พี่สิงห์เขาโกรธที่มึงไม่กินปลา” มันทำหน้าครุ่นคิด คิ้วเรียวขมวดเป็นปม

“ถ้าเรายอมกินปลาพี่จ่าจะหายโกรธเราไหม” มันถามออกมาอีกครั้ง สิงห์ยกยิ้มมุมปากนิดๆ เมื่อได้ยิน ก่อนจะจอดรถที่ตรงหน้าหอของซีตัส ก่อนลงซีตัสกระซิบอะไรบางอย่างกับมัน แล้วยกยิ้ม

“ขอบคุณที่มาส่งแล้วก็เลี้ยงข้าวนะพี่ ไปละ หวัดครับ กูไปละเจอกันวันจันทร์นะมึง”

“อื้อ บ๊าย บายนะ ตัสตัส”



ตลอดทางกลับบ้านสิงห์ยังคงทำหน้าตึงใส่มันจนกระทั่งรถมาจอดที่หน้าบ้าน ไอ้

เอ๋อเดินหน้ามุ้ยลงไปเปิดรั้ว และรอปิด สิงห์จอดรถและเดินเข้าบ้านเลย ไม่ได้รอมันเหมือนที่เคยเป็น จากตอนแรกก็แอบงอนๆ เขากลับแต่ตอนนี้ ใจมันกลับหวิวๆ เหมือนถูกลดความสำคัญลง ใจมันบางเกินกว่าจะกักเก็บความน้อยใจเอาไว้ ทำบนน้ำตามันแตกเป็นเสี่ยง ขนอุปกรณ์วาดภาพเข้าบ้านทั้งน้ำตา แต่คนตัวโตไม่ได้เห็นเพราะหนีเข้าห้องไปแล้ว และนั่นยิ่งทำให้มันน้อยใจเข้าไปใหญ่ เดินเบะปากร้องไห้เงียบจนขนของเสร็จ มันก็เลยเข้าห้องของตัวเองบ้าง รู้ว่ามันเองก็ผิดแต่มันก็อยากจะน้อยใจ ว่าทำไมคนพี่ไม่ยอมคุยกับมัน มันแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่อธิบายหรือบอกมันตรงๆ มันรู้ว่ามันเป็นคนโง่ มันเข้าใจยาก เพราะตัวเองเป็นออทิสติก

มันทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่มที่นอนที่ไม่ค่อยได้มานอน จะเรียกให้ถูกก็ต้องที่นอนที่ไม่เคยได้นอนเลย เพราะย้ายไปนอนห้องพี่จ๋าของมันตั้งนานแล้ว จะเข้ามาก็ต่อเมื่อมาเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือเอาขนมมาซ่อนในกล่องสมบัติ แต่วันนี้มันไม่กล้าเข้าไปหาคนพี่ เพราะคนพี่กำลังโกรธมัน ไม่ยอมพูดกับมัน ในมือถือโทรศัพท์เอาไว้ใจก็อยากเดินไปหาแต่ก็ไม่กล้า

“หรือจะโทรหาดี ไม่เอาดีกว่าอยู่ด้วยกันจะโทรหาทำไม แต่เราไม่กล้าเดินไปหาพี่จ๋านี่” มันพูดกับตัวเอง พร้อมกับจ้อไปที่โทรศัพท์อย่างชั่งใจ สมองก็คิดถึงคำพูดของซีตัสไปด้วย

“ถ้าส่งไปแค่เสียงละ” มันนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนจะกดเข้าโปรแกรมแชทที่มันใช้งานอยู่เป็นประจำ



ติ้ง

“-*- “

(คลิปเสียง)

(“แด๊ดดี้ นะโมขอโทษครับ”) มือหนากดฟังคลิปเสียงจากคนตัวเล็กที่ส่งมาให้ ก่อนที่โทรศัพท์ราคาแพงจะหล่นลงสู่พื้น พร้อมกับหัวใจที่สั่นไหวรุนแรงของเขา

“-///- ไม่อยากนอนสบายๆ ใช่ไหมไอ้ตัวแสบ” ร่างสุงก้าวพรวดพราดออกจากห้องตรงสู่ประตูห้องฝั่งตรงข้ามทันที และไม่ต้องเดาให้ยากว่าไอ้ตัวแสบ จะตกอยู่ในสภาพไหน

.............cut nc 18+........... (แปะไว้ก่อน)



เช้าวันจันทร์

รถยนต์คันคุ้นตาแล่นเข้ามาจอดในรั้วโรงเรียนของคนตัวเล็กเหมือนในทุกๆ เช้า แต่วันนี้กลับไม่มีรอยยิ้มประดับบนในหน้าหวานๆ ตอนนี้มีแต่หน้ามุ่ยๆ กับตาขวางๆ ของคนตัวเล็กประดับอยู่

“คนใจร้าย” มันว่าแล้วหันหลังเปิดประตูลงจากรถ

“ก็หนูยั่วพี่ก่อนเอง” สิงห์พูดตามท้าย ไม่รู้ว่าตัวแสบจะได้ยินไหมแต่ที่แน่ๆ เขาเต็มอิ่มกับคำว่าแด๊ดดี้มากๆ ฟังทีไรใจมันก็สั่นทุกที เขามองคนรักวัยใสของตัวเดินไปหาเพื่อนๆ จนสุดสายตา อย่างรู้สึกมันเขี้ยว ก่อนจะวนรถออกไปเพื่อไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงเมียเด็ก

“นะโม ทำไมเดินแบบนั้นละ” ส้มทักมันเป็นคนแรกที่ก้าวเท้ามาที่จุดรวมตัวของกลุ่ม นั่นคือโรงอาหาร

“หึ-3- “มันทำปากจู๋ใส่แล้วเดินไปนั่งข้างซีตัส

“เป็นไรของมึงทำหน้าเป็นตูดแต่เช้า” ซีตัสยีหัวมันเบาๆ อย่างเอ็นดู

“เออ มึงเป็นไร ใครทำอะไรมึงอีก” ปิงมองหน้ามันอย่างจับผิด

“ตัสตัส ตัสตัส ทำ” มันชี้ไปที่เพื่อนตัวสูงทันที

“เห้ยทำไร กูยังไม่ได้ทำไร เลยนะ”

“มึงทำอะไรมันอิตัส” ส้มหันมาแว๊ดใส่ซีตัสทันที

“กูป่าว กูพึ่งจะเจอมันจะไปทำอะไรมันได้วะ อีกอย่างกูก็อยู่กับปิงตลอดปะ จะไปทำอะไรตอนไหน” ซีตัสแก้ตัวพร้อมส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน

“ก็ตัสตัส บอกให้พูดกับพี่จ๋า ว่า “แด๊ดดี้ นะโมขอโทษครับ” เนี้ยะ ตัสตัสสอน เราโดนที่จ๋าดุทั้งคืนเลย” มันทำหน้างุ้ยๆ ใส่ แล้วนั่งหันหลังให้

“ไอ้สัสตัส! มึงสอนอะไรมัน” เป็นปิงที่เดินมาตบหัวคนรักเต็มเหนี่ยว ขอหาสอนเรื่องเจ็บตัวให้ไอ้เอ๋อมัน

“กูว่าแล้วทำไมมันเดินแปลกๆ มึงนี่เองตัวการ ร้ายนักนะ” แล้วฝ่ามือก็รัวใส่คนตัวสูงไม่หยุด โทษฐานสอนเรื่องไม่ดีให้ไอ้เอ๋อมัน



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ฝากน้องด้วยนะคะ แล้วก็ขอติดncไว้ตอนหน้านะคะ ขอให้สนุกกับการอ่าน

รักอักอ่านทุกคนค่ะ





หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.36 18/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 18-11-2018 09:14:09
งู้ย.  นะโมจะน่ารักขึ้นทุกวันเลยลูก :impress3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.36 18/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 18-11-2018 10:56:46
นะโม หนูดาเมจแรงมากลูกกกกกก :-[
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.36 18/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-11-2018 16:50:40
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.36 18/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 18-11-2018 17:35:15
ละมุนมว๊าก น้องนะโมงอนแด๊ดดี้
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.36 18/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 18-11-2018 19:17:23
 :z1:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.36 18/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-11-2018 19:21:18
อาจารย์ตัสตัสสอนศิษย์ได้เยี่ยมมากๆ เล่นเอาเป๋ไปเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.37 25/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 25-11-2018 08:48:50
37

เพียงแค่ประโยคธรรมดาๆ ก็ฆ่าคนให้ตายทั้งเป็นได้ “แด๊ดดี้” ประโยคสั้นๆ เพียงประโยคเดียวทำเอาคนตัวสูงถึงกับมือไม้อ่อนทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่ กว่าจะตั้งสติได้ ความรู้สึกก็พุ่งทะลุเพดานเรียกได้ว่าเอาช้างมาฉุดก็ฉุดไม่อยู่ อารมณ์มันขึ้นตั้งแต่ได้ยินเสียงน้อง และแน่นอนเขาไม่ต้องการบันไดที่จะไต่ลงตอนนี้ แต่คนที่จะทำให้เขาลงได้คือไอ้เด็กตัวแสบที่อยู่ห้องฝั่งตรงข้าม เด็กที่บังอาจทำให้เขาต้องหอบร่างหายไปหา แทนที่เจ้าตัวจะมาหาเขาเอง



“พะ พี่จ๋า เข้ามาทำไม”

“มาลงโทษเด็กดื้อ”

“-////- จะตีน้องเหรอครับ ไม่ตีได้ไหม T^T”

“ไม่ต้องมาส่งตาอ้อน ใครสอนให้เรียกพี่แบบนั้น”

“ตะ ตัสตัส สอน แต่น้องไม่รู้นี่ว่าพี่จ๋าจะไม่ชอบ ตัสตัส บอกว่าถ้าเรียกแบบนี้พี่จ๋าจะหายโกรธและรักน้องมากๆ”

คงไม่ต้องพูดให้มากความ ร่างสูงใหญ่ของสิงห์รวบตัวคนที่นั่งทำหน้าเป็นหมาหงอยเข้าไปกอดเสียจมอก อยากจะฟัดใจจะขาด แต่ต้องเก็บความหืดหาดของตัวเองเอาไว้

“ยังไม่หายโกรธน้องหรอครับ แล้วพี่จ๋าไม่ชอบคำว่าแด๊ดดี้เหรอ”

“ชอบ พี่ชอบ แต่พี่ไม่ใช่พ่อหนูไง พี่เป็นผัวหนู” ร่างสูงยิ้มกริ่ม รู้สึกจะถูกใจกับไอ้คำว่าพ่อที่ไม่ได้แปลว่าพ่อซะแล้ว

“ฮึก แล้ว แด๊ดดี้ ไม่แปลว่าพ่อเหรอ” มันถามตาใส

“หึหึ พ่อที่หมายถึงผัวไงครับ มา มาให้แด๊ดดี้คนนี้ลงโทษซะดีๆ” หลงเด็กจนหน้ามืดตามัว โงหัวไม่ขึ้น คงต้องยอมรับแล้วแหละว่าเด็กเอ๋อตัวแสบนี้กุมเขาได้อยู่หมัด เพราะตั้งแต่เจอสิงห์ก็ไม่เคยทำตัวเหลวไหล หมกมุ่นแต่กับคนตัวเล็กจนไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่น และตอนนี้ในหัวของเขาก็มีแต่คำว่าแด๊ดดี้ เต็มไปหมด



กว่าไอ้เอ๋อมันจะรู้ตัว มันก็ตัวเปล่าเปลือยนอนครางอยู่ใต้ร่างของสิงห์ไปแล้ว เสียงหวานๆ ของมันครางไม่เป็นสรรพ สองมือโอบแผ่นหลังกว้างเอาไว้พร้อมกับจิกเล็บลงไป เพื่อระบายความรู้สึกที่มี แก่นกายอุ่นร้อนยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดี แขนแกร่งที่ท้าวลงบนที่นอนนุ่มแข็งกร็งจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน

“จูบหน่อยได้ไหม” ถึงปากจะขอ แต่เขาไม่เคยรอฟังคำอนุญาตเลยสักครั้ง ทันทีที่ริมฝีปากของเขาประกบลงกับกลีบปากนุ่ม เหมือนมาชเมลโล่ รสหวานเหมือนเชอรี่ จูบแล้วจูบเล่าเกิดขึ้น จนเกิดเสียงชื้นแฉะ น่าอาย จูบที่เข้าไม่เคยรู้สึกว่าพอ ยิ่งสัมผัสกับผิวขาวนุ่มลื่นมือแล้วเขายิ่งยั้งตัวเองไม่อยู่

“อื้อ อื้อ พี่จ๋า อะ มันจุก จุก ครับ แรงไป อ๊ะ อ๊า”

“เรียกแด๊ดดี้ ได้ไหมครับ เรียกว่าแด๊ดดี้สิ” สิงห์ขอให้มันเรียกเขาว่าแด๊ดดี้

“อะ อะ อื้อ ดะ แด๊ด แด๊ดดี้ อื้ออ” ใบหน้าหวานแดงซ่านซุกลงกับหมอนเพื่อเก็บซ่อนริ้วรอยแห่งความเขินอายเอาไว้ ไม่ว่าจะสักกี่ครั้ง ไอ้เอ๋อมันไม่เคยต้านทานสายตาของพี่จ๋ามันได้เลย ยิ่งมองยิ่งเร่าร้อน ยิ่งมองยิ่งเหมือนตัวเองโดนกลืนกิน ไปทั้งตัว เสียงหวานครางหวิว จนแทบไม่เหลือเสียงใดๆ ยิ่งโดนแก่นกายใหญ่ตอกย้ำสถานะของตัวเองเสียงหวานก็พานจะหายไปเสียดื้อเหลือเพียงเสียงครางในลำคอที่แห้งผาก เหงื่อกายไหลย้อยตามไรผม ดวงตากลมปรือมองคนที่อยู่เหนือตน สีหน้าของสิงห์กำลังทำให้มันจมดิ่งสู่วังวนของไฟราคะ

“อื้ออ ไม่ไหว น้องจะไม่ไหวแล้ว”

“อดทนอีกนิดนะครับ” ร่างสูงสอดแขนลงกับข้อพับขา ของมันแล้วลากให้สะโพกเกยหน้าขา แล้วยกขาเรียวขึ้นพาดบ่า

ตับ ตับ ตับ ตับ

“อะ อื้อ ไม่ ไม่ อ๊า แรงไป ดะ แด๊ดดี้ มันแรง อ๊า” เสียงหวีดร้องแทบหมดลมหายใจมาพร้อมกับความเสียวกระสันจนไม่อาจจะทนไหว คลื่นอารมณ์ที่คนตัวสูงกักเก็บเอาไว้ ปลดปล่อยออกมาจนกายบางที่รองรับกระตุกเกร็ง มันสุขสมพร้อมกับร่างสูง หยาดหยดสีขาวขุ่นไหลทะลักออกมาราวกับสายน้ำ กลิ่นคาวคลุ้งตีขึ้นจมูกมันจนต้องย่นหน้า มันหอบ และหายใจอย่างติดขัด เหนื่อยจนแทบจะลืมตาไม่ขึ้น

ที่นึกว่าทุกอย่างจบแล้ว เปล่าเลย สิงห์ไม่สามารถหยุดยั้งความคลั่งไคล้ในตัวมันได้ภายในรอบเดียว ร่างสูงพลิกตัวมันให้คว่ำลงโดยที่ตัวเขาซ้อนทับอยู่ที่ด้านหลังแก่นกายใหญ่กระตุกเบาๆ ก่อนจะกดหัวลงกับช่องทางเพียงหนึ่งเดียว

“อื้อออ อะ”

“พี่จะไม่ทน” เขากระซิบ ใช่เขาจะไม่ทน ครั้งเขาจะตักตวง เขาจะเห็นแก่ตัว ร่างสูงลากลิ้นร้อนไล่ไปตามกระดูกสันหลังที่กำลังแอ่นโค้ง สร้างรอยแดงไว้เป็นจุดๆ จนทั่วแผ่นหลังขาว เหมือนภาพศิลปะ ออกแรงกัดเพียงนิดใต้ร่างเขาก็สะดุ้งเฮือกพร้อมกับส่งเสียงร้องออกมา เสียงที่ยั่วให้เขากลายร่างเป็นหมาป่า ที่ไม่สามารถควบคุมได้

แก่นกายใหญ่กดเข้าไปในร่องลึก อย่างช้าๆ จนเข้าไปได้สุด ร่างกายบางสั่นสะท้าน พร้อมกับฟุบหน้าลงกับหมอนอย่างเหนื่อยหอบ

“อ๊ะ อื้อ” สิงห์ไม่รอให้เสียเวลาเขาขยับร่างกายเข้าออก สองมือหนาประคองเอวบางเอาไว้ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วมากขึ้น

“อื้ออ” เด็กตัวแสบหลุดครางออกมาเสียงหวาน สองมือกำผ้าปูที่นอนแน่น รู้สึกอึดอัดตรงส่วนนั้นจนต้องร้องขอ

“มะ มากกว่านี้ ครับ น้องอึดอัด พะ พี่จ๋า”

“อื้มม ซี๊ดดด แม่งง ทำไมยั่วได้ขนาดนี้วะ” เขาครางต่ำเพราะอีกคนกำลังขยับสะโพกตัวเอง โดยที่เขาไม่ต้องชักนำอีกต่อไป ร่างหนาทิ้งตัวลงนอนโดยให้อีกคนนั่งทับอยู่ด้านบนแทน

“ลองขยับดูเองไหม” สิงห์บอกเสียงพร่า ดวงตาเรียวดุคสจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความพึงพอใจ ใบหน้าหวานเหยเกด้วยความเสียวซ่านเพราะส่วนตรงนั้นเข้าลึก สิงห์ปล่อยให้มันควบคุมเกม

“อะ อ๊า..น้องทำไม่เป็น”

“ง่ายๆ แค่หนุขยับตัวขึ้นลง” สิงห์ประคองเอวมันให้ขยับขึ้นลงตามจังหวะ ไม่นานมันก็ทำได้เอง เอวบางกำลังร่อนอยู่บนตัวเขา สิงห์จ้องคนตัวขาวตาไม่กะพริบเขากำลังหลงเด็กคนนี้อย่างหัวปักหัวปำ ดวงตาหวานฉ่ำกำลังมองมาที่เขา ฟันซี่คมขบกัดริมฝีปากจนซีด สิงห์กดคอขาวๆ ของมันให้ก้มต่ำเพื่อรับจูบ ลิ้นร้อนแทรกแซงไปทั่วทั้งโพลงปากอุ่น เก็บเกี่ยวทุกหยาดน้ำหวานจนหมดไม่เหลือ มันทั้งเร่าร้อนและยากที่จะคุม เมื่ออีกฝ่ายจูบตอบมาอย่างเคอะเขินและไม่ประสีประสา เมื่อหมดลมก็ผละออก

“ขยับเร็วกว่านี้ได้ไหมครับคนเก่ง” คำพูดที่เหมือนมนต์สะกด ให้ร่างบางโยกตัวเร็วขึ้น สิงห์มองเห็นส่วนที่เชื่อมต่อกันแล้วร้องซี๊ด พึงพอใจกับภาพที่ร่างบางกำลังขยับโยกอยู่บนตัวเขา ใบหน้าหล่อเหลาเบ้ด้วยความเสียวกระสัน ครั้งนี้ ไอ้เด็กตัวแสบทำเอาเขาอึ้งไปไม่น้อย ริมฝีปากบางแดงเพราะกำลังกลั้นเสียงเอาไว้

“ร้องออกมาสิครับ” สิงห์ยื่นมือไปบดคลึงเบาๆ ที่ริมฝีปากจนมันคลายออกและเปล่งเสียงร้องออกมา

“อื้ออ อะ อ๊ะ ทำไมมันรู้สึกแบบนี้ครับ น้องรู้สึกดี อื้ออ” แค่เสียงก็ทำเอาเขาสติจะหลุด เผลอเด้งเอวสวนจนมันต้องหวีดร้องออกมา เอามือค้ำไว้ที่อกกว้างเพื่อพยุงตัวเองไม่ให้ฟุบลง เสียงเหนื่อยหอบของมันดังจนสิงห์นึกสงสารพลิกตัวให้มันนอนลงแทน

“เหนื่อยก็พักนะครับ ที่เหลือพี่จัดการเอง” เขาก้มลงจูบที่ขมับชื้นเหงื่อของมันอย่างรักใคร่ ก่อนจะบรรเลงเพลงสวาทจนอีกคนตัวโยกคอนเปร่งเสียงหวานออกมาไม่หยุด

ตับๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

“อะ อะอะ อื้ออ เร็วไป” มันครางบอก สองมือก็คอยดันหน้าท้องแกร่งเอาไว้เพื่อยั้งแรง

“อื้อ ..เสียวชิบ นะโม อย่ารัดพี่แน่น อะ แม่งง” สิงห์สบทออกมา เพราะคนใต้ร่างกำลังบีบรัดและตอดเขาถี่เกินไป เสียวจนต้องแหงนหน้าขึ้นมองเพดาน สูดปากร้องออกมาด้วยความสุขที่เอ่อล้น

“เรียกพี่ว่าแด๊ดดี้ สิครับ เรียกพี่หน่อย”

“ดะ แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ อ๊า” เหมือนโดนแกล้ง กับคำพูดของคนใต้ร่าง ที่พูดไปกัดปากยั่วเขาไป

“ยั่วเหรอ อยากกดดนดีใช่ไหม”

“อะ อื้ออ”

“ชอบให้พี่ทำแรงๆ เหรอ?” เอ่ยถามทั้งที่เอวสอบยังไม่หยุดกระแทกเขาหายิ่งส่งเสียงครางเขายิ่งกระแทกแรงๆ

“แรง ระ แรงๆ อีก อะ อื้อ” คำร้องขอได้รับการตอบสนองทันที ร่างบางยันมือลงกับกล้ามท้องแน่นของสิงห์ ใบหน้าหวานเชิดขึ้น แผ่นหลังแอ่นโค้ง ตากลมคลอไปด้วยหยาดน้ำตาเมื่อแก่นกายกระแทกลงจุดเดิมซ้ำๆ จนเสียวไปหมดทั้งร่างกาย สองแขนเรียวโอบไปที่แผ่นหลังกว้างก่อนจะจิกเล็บลงและลากเป็นทางยาวเพื่อระบายความเสียวนั้น

“ซี๊ดดด นะโม อะ ทำไมวันนี้น่ารักแบบนี้ครับ” สิงห์เอ่ยชม

“นะ น่ารัก อะ น้องน่ารัก”

“ครับน่ารักที่สุดเลย”

เสียงที่เกิดจากแรงกระแทกดังขึ้นเพราะเนื้อที่กระทบหากัน เสียงดัง ตับๆ ๆ ๆ ไอ้เอ๋อจิกเกร็งไปทั้งร่างสองมือของมันข่วนแผ่นหลังของสิงห์ครั้งแล้วครั้งเล่าจนเป็นรอยแดงยาวลากลงถึงกลางหลัง หัวทุยๆ ของมันสะบัดไปมา ยามที่โดนรุกล้ำทั้งด้านหน้าด้านหลัง เมื่อสิงห์จับแก่นกายของมันและขยับรูดตามจังหวะเอวที่กระทั่งสวนเข้าออกอย่างไม่มีหยุดพัก ผลที่ได้คือมันหวีดร้องออกมา สัมผัสหวาบหวามที่ทำให้มันปลดปล่อยออกมาในที่สุด น้ำสีขาวข้นพุ่งออกมาไม่หยุด พร้อมๆ กับอีกคนที่เสียวสุดจนปั่นเอวใส่มันไม่ยั้ง ก่อนกายหนาจะกระตุกเกร็งและปลดปล่อยออกมาใส่มัน ความรู้สึกอุ่นวาบในช่องท้องทำเอาตัวสั่น

“ไหวไหม ถ้าที่จะขออีกรอบ” สิงห์กระซิบกับข้างๆ หูของมัน เขาไม่ได้ขอร้องเพียงแต่บอกสิ่งที่ตนเองต้องการ และแน่นอน คนอ่อนแอแบบมันทำได้เพียงนอนครางเสียงหวานๆ และเอ่ยเรียกเขาว่า

“แด๊ดดี้ ดะ แด๊ดดี้” ทั้งคืน



........ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน.....

“โทษกูไม่ได้นะเว้ยย” ซีตัสโวยวายตามุมปากกลับยกขึ้นอย่างคนเจ้าเล่ห์

“กูจะโทษมึง!! อิผัวนรก!! ” ปิงตวาดแว๊ด

“อะ ด่ากูมากๆ ระวังพรุ่งนี้มึงจะเดินเป๋เหมือนไอ้เอ๋อ” เขาไม่ได้ขู่ แต่ตั้งใจจะทำจริงๆ ซีตัสเห็นรอยที่อยู่บนตัวไอ้เอ๋อแล้วรู้สึกอยากจะย่ำยีคนข้างกายซะเดี๋ยงนี้ติดที่ว่าต้องเข้าเรียน

“จังไร..ในหัวนี่มีแต่เรื่องใต้สะดือ! ”

“ก็คิดแต่กะมึงคนเดียวรึเปล่าวะ?” ซีตัสยิ้มกริ่ม เพราะจบประโยคคนรักของตนเองก็หน้าแดงขึ้นทันที

“-////- “

“ทำไมปิงปิง หน้าแดง ตัสตัสพูดไม่ดีใช่ไหม?” ไอ้เอ๋อที่โกรธซีตัสเป็นทุนเดิมอยู่แล้วพอเห็นเพื่อนตัวเองหน้าแดงก็พาลใหญ่

“เออ กูพูดไม่ดี แล้วก็คิดไม่ดีกับมันด้วย หึหึ”

“ทำไม่ตัสตัส ร้าย ตัสร้าย เราจะฟ้องคุณครู”

“-*- “ซีตัส

“ฮ่าๆ ตลกสัส” ปิงขำเสียงดัง เพราะเห็นใบหน้าจริงจังของไอ้เอ๋อ

“ขำไรกันวะ?” เนมที่เดินมาจากไหนไมรู้ถามพวกเขา ก่อนจะยื่นมือไปดึงไอ้เอ๋อมากอดคอ อย่างสนิทสนม ไอ้เอ๋อมันเงยหน้าแมวๆ ของมันมองเนมแล้วบ่น

“ก็ตัสตัสอะ พูดไม่ดี” เนมหันไปมองซีตัส ซีตัสยักไหล่

“กูยังไม่ได้พูดอะไรให้มันเลย ไอ้เอ๋อมันมะโนเก่ง” ซีตัสบอก

“อย่าไปเชื่อนะเนมเนม ตัสตัส บอกให้เราพูดกับพี่จ๋าว่า แด๊ดดี้ พอเราพูดเราก็โดน -////- “มันเงียบไม่ยอมพูดต่อแล้วก็ก้มหน้าซ่อนรอยริ้วแดงๆ บนแก้ม

“โดนไรวะ?” เนมถามเพราะได้ยินไม่ชัดเท่าไหร่

“มึงไม่ต้องเสือกเรื่องของมันหรอก เอาเป็นว่ามันง้อพี่จ๋ามันได้ละกัน” ซีตัสพูดขัดเพราะไม่อยากให้ไอ้เอ๋อมันพูดเรื่องพวกนี้กับคนอื่นๆ มันจะดูไม่ดี

“เชอะ! เราโป้งตัสตัส”

“เห้อออ เออกูขอโทษ ขอโทษคร๊าบบบบ” ซีตัสแทบจะกราบมัน

“ขอโทษเราด้วยคำพูดเราไม่ยอมหรอก ตัสตัส ต้องเอาไข่พะโล้มาขอโทษเรา เราถึงจะหายโกรธ” มันกอดอกเชิดหน้าใส่

“เจ้าเล่ห์” ซีตัสบอก

“พะโล้ พะโล้ พะโล้”

“เออ พะโล้ ก็พะโล้ ไอ้ห่า มึงจะอะไรกับไข่พะโล้นักวะ ชอบมากก็หัดทำแดกเองสิ”

“ก็ทำไม่เป็น” มันตอบแล้วย่นจมูกใส่

“กูสอนเอาไหม” เนมเสนอตัวเอง

“เนมเนมทำได้เหรอ?” มันหันมาถามคนตัวสูงกว่ามันด้วยแววตาที่เป็นประกาย

“เป็นดิ มึงอย่าลืมกูอยู่คนเดียวมาตั้งหลายปี เรื่องกับข้างไว้ในไอ้อนมได้เลย”

“สอนหน่อย สนอเราหน่อยนะ”

“ได้สิ แต่มึงต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”

“อะไรเหรอ?”

“อย่าไปหลอกอะไรมันละมึง ไอ้นี่มันคิดจริงทำจริงนะจะบอกให้ ถ้ามึงเล่นอะไรแผลงๆ พี่สิงห์ตีมึงแน่” ซีตัสเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี

“กูจะไปแกล้งอะไรมันละ ซื่อบื้อขนาดนี้ ใครจะไปแกล้งลง เน้อออออ” เนมหันไปหยอกมัน

“เน้ออออออออ” ไอ้เอ๋อขานรับ

“เน้อออออ พ่องมึงอะอิเนม ไปๆ ขึ้นห้อง อิส้มเน่าเดินมานู่นแล้ว” ปิงหันไปแขวะเนมแล้วจูงไอ้เอ๋อขึ้นห้อง



เรื่องเรียนมันตามเพื่อนได้ทันแล้ว ถึงแม้ว่าวิชาคณิตศาสตร์มันจะอ่อนแต่วิชาอื่นๆ มันก็ไม่ได้แย่ จะเรียกว่าดีก็ได้ โดยเฉพาะวิชาศิลปะและภาษาอังกฤษมันทำคะแนนได้ดีเสมอมา อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะสอบปลายภาค เพื่อนในห้องเลยนัดกันติวหนังสือ โดยเอาวิชาที่แต่ละตนถนัดมาสอนกัน และเริ่มติวกันในอาทิตย์หน้า

วันนี้สิงห์มารับมันช้ากว่าปรกติมันเลยนอยย์เขาหน่อยๆ เพราะสัญญากันเอาไว้แล้วว่าจะมารับให้เร็ว แต่สิงห์ทำงานจนลืมดูเวลา กว่าจะรู้ตัวก็เลขาเดินเข้ามาถามว่าไม่ไปรับน้องเหรอ เท่านั้นแหละเขาก็ทิ้งงานทุกอย่าง แล้วรีบไปรับมันทันที เพราะงานยังไม่เสร็จ เขาเลยพามันมานั่งเล่นที่บริษัทด้วย

“มีการบ้านไหมครับ” สิงห์ถามขณะที่ตาก็จ้อง เอกสารไปด้วย

“มีครับ แต่น้องทำเสร็จแล้วจากที่โรงเรียน” มันตอบเสียงแข็ง เพราะรอนานจนเกือบมืด พวกเพื่อนก็อยู่รอเป็นเพื่อน มันเกรงใจ มันไม่อยากให้ใครมาลำบากกับมัน

“โกรธเหรอครับ พี่ขอโทษนะ” สิงห์เดินมาหามันพร้อมกับหอมหัว

“ป่าวสักหน่อย” พูดว่าป่าวแต่คิ้วนี่ขมวดเป็นปม มันไม่ยอมมองหน้าสิงห์เอาแต่หลบตา แกล้งทำนู่นทำนี่ ที่มันโกรธเพราะใจมันอยากจะกลับบ้านไปพักผ่อน มันกำลังทรมานเพราะรู้สึกเสียดช่องทางด้านหลัง มันเบ้หน้านิดๆ เวลาเผลอเดินหรือนั่งแรงๆ

“แล้วทำไมคิ้วถึงผูกโบแบบนี้ละครับ” เอานิ้วจิ้มระหว่างคิ้วของมันเบาๆ

“ก็น้องเจ็บ พี่จ๋าทำแรง -3- “

“-..- “พอพูดถึงเรื่องเมื่อคืนเขาก็ทำหน้าหืดหาดขึ้นมาทันที

“ก็หนูบอกให้ทำแรงๆ?”

“หงึ -///- น้องป่าวสักหน่อย ห้ามกอดแล้ว ห้ามกอด” มันพยายามแกะมือที่กอดเอวคอดของมันออก พร้อมกับจะลุกหนี แต่ว่ายิ่งขยับมันยิ่งเจ็บ มันยู่หน้า

“ซี๊ดด เจ็บอะ T^T” มันบ่นออกมาพร้อมกับทำหน้าเหยเก

“อ่า เจ็บมากเลยเหรอครับ พี่จ๋าขอโทษนะ” พูดจบเขาก็กดจูบลงบนแก้มนวล ก่อนจะลุกออกไป ทิ้งให้คนตัวเล็กนั่งน้ำตาซึมเพราะทั้งรู้สึกปวดหัวและปวดตัวมาก จากกิจกรรมเข้าจังหวะที่หนักหน่วงเมื่อคืนไหนจะต้องมาเรียนอีก ตอนเย็นก็นั่งรอคนตัวสูงให้มารับ เลยทำให้เป็นไข้ สิงห์ออกไปไม่นานก็กลับมาพร้อมกับยาในมือ

“นอนคว่ำให้พี่หน่อยนะ พี่จะทายาให้” สิงห์บอกเสียงนุ่ม ไอ้เอ๋อมันทำตามอย่างว่าง่ายเพราะมันเหนื่อยและล้าเต็มทน อยากทำอะไรเขาก็ทำ เพราะมันจะไม่ไหวแล้ว พอมันนอนคว่ำลงสิงห์ก็ปลดกางเกงนักเรียนมันออก และร่นกางเกงลง ก้นขาวๆ ปรากฏต่อหน้าเขาสิงห์กลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะค่อยๆ แหวกแก้มก้นขาวๆ นั้นออกเพื่อจะได้ทายา ช่องทางสีแดงสดกำลังบอบช้ำ สิงห์ป้ายยาลงไป ทำเอามันสะดุ้ง

“อดทนอีกนิดนะครับจะเสร็จแล้ว”

“อื้ออ เจ็บ” มันเอาหน้าซุกลงกับเบาะและกัดไว้ จนสิงห์ทายาให้เรียบร้อย เขาก็หยิบยาแก้อักเสบกับแก้ไข้มาให้มันกิน และให้มันนอนพัก



“หลับซะแล้ว เด็กดีของพี่ พี่รักหนูนะ” เขากระซิบลงข้างๆ หูของมันก่อนจะกดจูบลงบนแก้มนุ่มแล้วผละออก สิงหฺเดินไปนั่งอ่านเอกสารอีกนิดหน่อยก่อนจะเข้าประชุมเขาทิ้งให้มันอนในห้องทำงานและออกไปประชุม



แกรก.....

“อือออ อืออออ” มันครางอือออกมาเบาๆ เพราะพิษไข้ ไม่รับรู้ว่ามีใครเข้ามาในห้องทำงานของสิงห์

“ให้หลับแบบนี้ ไม่คิดว่าใครเขาจะมาขโมยเลยสินะ หึหึ ดีเหมือนกัน” เสียงพึมพำดังขึ้นภายในห้องทำงานของสิงห์ก่อนจะก้มตัวลงไปช้อนร่างของไอ้เอ๋อที่หลับสนิทอย่างเบามือ

“ขอยืมตัวก่อนละกันนะครับคุณสิงห์ อย่าโกรธผมเลยนะ”

“งืออ พี่จ๋า น้องหนาว”



+++++++++++++++++++++++++

เอาแล่ว ใครมาขโมยน้องไป อิพี่!!! หมดหนี้ละหนา (cut nc18+)

ฝากคอมเม้นเป็นกำลังใจให้คนเขียนตัวน้อยๆ คนนี้ด้วยนะคะ

รักนะทุกคน



หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.37 25/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-11-2018 09:05:20
 :a5:  ใคร!!!
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.37 25/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-11-2018 09:20:46
มานเป็นไผ๋  :pigangry2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.37 25/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-11-2018 10:54:48
เอ้า เดะอีพี่เปงบ้าอีกกก
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.37 25/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-11-2018 13:10:17
อ้าววว ใครขโมยน้อง
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.37 25/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 25-11-2018 15:45:44
ใครโขมยน้องไป
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.37 25/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 25-11-2018 16:46:49
คุณพ่อสั่งมารึเปล่านะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.37 25/11/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 26-11-2018 22:13:07
 :pighaun: 
พี่สิงห์มีคนโจรมาขโมยน้องแล้ว+1
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.38 2/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 02-12-2018 09:42:23
38



ขอชี้แจงสักเล็กน้อยนะคะ เรื่องการ แทนการเรียกตัวน้องนะคะ ไรท์ขออนุญาตเปลี่ยนจากคำว่า” มัน” เป็นน้อง, ร่างบาง,คนตัวเล็ก,เด็กแสบ นะคะเพื่อความสบายใจในการอ่าน ของทุกคนนะคะ ไร้ท์ไม่ทันคิดอะว่าคำบางคำมันอาจจะดูไม่ดี ขอโทษเด้อ ถ้ามีหลุดบ้างก็อภัยกันด้วยนะ ..ไม่ดรามานะคะ จุฟ







สามทุ่มกว่า เป็นเวลาที่ร่างสูงเดินออกจากห้องประชุม สีหน้าเครียดๆ แสดงออกได้อย่างชัดเจน เขามุ่งตรงไปยังห้องทำงานที่มีร่างเล็กนอนรออยู่ สิงห์รู้ว่าคนตัวเล็กเป็นไข้และเขาอยากจะพาคนเป็นไข้กลับไปพักที่บ้าน แต่ทว่าเด็กดื้อของตนกลับไม่ได้อยู่ที่ห้องอย่างที่คิดเอาไว้

“น้องหายไปไหน?” สิงห์เดินหารอบๆ ห้องแต่ก็ไม่เจอ

“อาจจะไปเข้าห้องน้ำ มั้ง” เขาคิดแต่ความรู้สึกจริงๆ แล้วไม่ใช่ น้องกินยาเข้าไปและไม่มีทางที่จะตื่นขึ้นมา สิงห์รีบเดินไปยังห้องน้ำ แต่กลับไม่เจอและนั่นทำให้เขายิ่งกังวล มือหนึ่งกดโทรหาเพื่อนรักอย่าง พลัส ก่อนจะเรียกให้หน่วยรักษาความปลอดภัยตรวจดูกล้องวงจรปิด เพื่อดูว่าเมียรักของตัวเองเดินหายไปไหน แต่กลับไม่พบ มีภาพบางภาพหายไป ตรงช่วงหน้าห้องทำงานของเขา และนั่นทำให้สิงห์รู้ได้ทันทีว่ามีคนพาน้องออกไปจากอกเขา สิงห์กำมือแน่น เขากำลังโกรธ โกรธที่ตัวเองสะเพร่า แล้วก็โกรธคนที่มันบังอาจพาตัวน้องไปจากเขา

“ไอ้พลัส ส่งคนของมึงออกตามหาเมียกูที เมียกูหาย!! ”

“อืม รอกูแป๊บ” แม้จะตกใจกับสิ่งที่ได้ยินตาคนอย่างพลัส ในเมื่อเพื่อนขอมาเขาก็จัดให้ได้ พลัสส่งลูกน้องของตัวเองออกตามหาคนตัวเล็กช่วยอีกแรง ในขณะที่สิงห์เองก็ให้คนออกตามหา ตอนนี้ร่างสูงแทบจะอยู่ไม่สุข เขาพยายามติดว่าน้องจะไปที่ไหนได้บ้าง หรือไปแอบนอนที่ไหน แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด น้องกำลังไม่สบาย และนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกเป็นกังวล



รอเพียงไม่นาน พลัสก็โทรมา

“ว่าไงมึง ได้เรื่องอะไรบ้าง” สิงห์ถามด้วยความร้อนรน

“ไม่เจอเลยวะ ทั้งกล้องวงจรปิดตามท้องถนน แล้วคนในมีใครน่าสงสัยบ้างไหม”

“ใครมันจะกล้าล้วงคอคนอย่างกูวะ แมร่ง น้องไม่สบายอยู่กูห่วงฉิบหาย กูจะเป็นบ้าอยู่แล้ว! ”

“ใจเย็นนะมึง มึงต้องมีสติ มึงมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่า พวกที่มึงไล่ออกไป กูไม่ได้จะพูดให้มึงไม่สบายใจนะเว้ย แต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ กูจะช่วยมึงตามหาอีกแรง”

เขากำลังจะบ้า และตอนนี้ใครๆ ก็เข้าหน้าเขาไม่ติด หลังจากวางสายสิงห์ แทบจะระเบิดออกมา





...



“อึก อือออ หนาว น้องหนาว”

“อดทนหน่อยนะครับ เดี๋ยวหมอก็มาแล้ว”



.....

“เด็กคนนั้นเป็นยังไงบ้าง แกไม่เห็นบอกฉันเลยว่าเด็กนั่นกำลังป่วย” น้ำเสียงทรงอำนาจเอ่ยถามด้วยความกังวล และอดที่จะเป็นห่วงไม่น้อย สายตาที่มองมานั้นไม่ได้มีแววของความเป็นศัตรูเลย มีแต่ความเอ็นดูมากกว่า

“ขอโทษครับท่าน ตอนไปเอาตัวคุณนะโมมา คุณนะโมตัวร้อนมาก อีกอย่างผมไม่มีเวลาพาไปหาหมอด้วย” กรบอก ด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล

“ถ้างั้นก็ตามหมอมาที่นี่ ระวังด้วยละป่านนี้สิงห์มันคงตามหาให้วุ่น”

“นายท่านแน่ใจนะครับว่าทำแบบนี้แล้วคุณสิงห์จะไม่อาละวาดบ้านแตก” นี่เป็นอีกเรื่องที่กรกลัว นายน้อยเคยกลัวใครที่ไหน

“หึหึ ลูกชายชั้นมันไม่ทำอะไรโง่ๆ หรอก” นาคมั่นใจ ว่าครั้งนี้สิงห์ไม่กล้าอาละวาดใส่เขาแน่นอน

“แต่นี่คนรักของคุณหนูเลยนะครับ”

“ก็เพราะมีเด็กคนนี้นี่แหละ ...หึหึหึ ชั้นก็แค่อยากเจอเด็กที่ทำให้ลูกชายของชั้นมันหยุดทุกสิ่งทุกอย่างก็เท่านั้น”

“แต่ ผมว่าผมไม่น่ารอด คุณท่านครับ คืนน้องให้คุณหนูเถอะครับ”

ทำแบบนี้เหมือนล้วงคองูเห่า แล้วขโมยไข่มาชัดๆ

“เป็นลูกน้องชั้นอย่าใจเสาะสิ” นาคพูดแกมดุใส่กรที่นั่งเช็ดตัวให้ว่าที่สะใภ้ของบ้านอยู่ ใบหน้าหวานหยดราวกับหญิงสาวกำลังหลับตาพริ้มและละเมอเพราะพิษไข้ กรมองคนตรงหน้าแล้วรู้สึกสงสาร

“นายน้อยท่าจะเล่นหนักเหมือนกันนะครับดูจากรอยพวกนี้แล้ว ผมไม่คิดว่าน้องจะรับไหว” กรมองรอยจ้ำๆ บนลำตัวของน้องด้วยสีหน้าทึ่งๆ พร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอ

ตัวเล็กขนาดนี้ จะรับไหวได้ยังไง

“ดุเดือดมาก ไอ้สิงห์มันไม่คิดจะถนอมเลยรึไง ตัวก็เล็กนิดเดียว” นากมองเด็กที่นอนซมด้วยความรู้สึกเห็นใจแล้วก็ตกใจกับร่องรอยบนร่างกายเล็ก เขาไม่คิดว่าลูกชายจะมีรสนิยมแบบนี้และไม่คิดว่าเมียเด็กของมันจะเป็นผู้ชายด้วย ยิ่งได้รู้ว่าคนตรงหน้ามีร่างกายที่ไม่สมบูรณ์เขาก็ยิ่งคิดมากถึงเรื่องอนาคตของคนทั้งคู่



“งือออ หนาว พี่จ๋า อย่า ฮื่อออ” คนเป็นไข้ใช้มือปัดผ้าเย็นๆ ที่กำลังเช็ดตัวอยู่ออก อย่างรำคาญ

“นายครับคุณหมอมาแล้วครับ”

“เออ พาเข้ามาเลย”

ถ้ามีเรื่องอะไรที่มันจะบังเอิญก็คงจะเป็นเรื่องนี้แหละ

“คุณไม้!! ”

“อะ เอ่ออ สวัสดีครับลุงนาค ใครป่วยเหรอครับถึงได้ตามหมอมาที่บ้าน พอดีว่า ไม่มีใครว่างมาเลยผมก็เลย... น้อง!! ” ไม้เมืองที่เดินถือกระเป๋าแพทย์เข้ามาเอ่ยทักทายเจ้าของบ้านก่อนจะหันไปเห็นเมียเพื่อนที่นอนไม่ได้สติ เขาตกใจที่เห็นคนตัวเล็กนอนอยู่ในห้อง โดยที่ไม่มีร่างของเพื่อนเขาอยู่ ไม้เมืองหรี่ตามองอย่างจับผิด

“ใครเป็นคนตามหมอมาวะ” นาคสบทเบาๆ เพราะถ้าหมอไม้รู้ไม่นานสิงห์ก็ต้องรู้

“นี่มันเรื่องอะไรกันครับ น้องนะโมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วไอ้สิงห์ไปไหนครับ” ไม้เมืองส่งคำถามออกมาเป็นชุด

“มาดูน้องก่อนเถอะครับคุณหมอ” พอได้ยินกรพูดแบบนั้นเขาก็รีบเดินมาตรวจอาการทันที แต่ไม่ลืมที่ที่จะตั้งคำถามกับคนที่ยืนดูอยู่ห่างๆ

“โหหหหหห ไอ้เหี้ยสิงห์มึงทำอะไรน้องเนี้ยะ” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสาเหตุที่น้องป่วยเป็นเพราะอะไร ไม้เมืองอยากจะโทรไปด่าเพื่อนตัวเองมากๆ ในตอนนี้ เขาฉีดยาให้น้องไปสองเข็มและกำชับว่าให้น้องพักผ่อนเยอะๆ ยังดีที่ช่องทางยังไม่ได้อักเสบมาก

“คุณลุงตอบผมหน่อยได้ไหมครับว่าทำไมน้องถึงได้มาอยู่ที่นี่” ไม้เมืองหันไปถามนากเพื่อจะเอาคำตอบ แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนมากประสบการณ์

“แค่อยากจะคุยอะไรกับสิงห์มันหน่อย ช่วงนี้ไม่ยอมเข้ามาหาลุงเลย บ่ายเบี่ยงตลอด”

“คุณลุงจะคุยเรื่องการสืบทอดงานในบริษัทใช่ไหมล่ะครับ มันถึงไม่ยอมมาเจอ” ไม้เมืองถามอย่างคนรู้ทัน

“แกก็รู้ดีเหมือนกันนี่เจ้าไม้ เห้ออลุงแกแล้ว อยากวางมือบ้าง แต่สิงห์มันไม่ยอมเลย”

“ลุงเลยจะใช้น้องมาเป็นข้อต่อรองใช่ไหมครับ”

“ก็ใช่” นาคยกยิ้มแต่ไม้เมืองไม่ได้ยิ้มด้วย

“ระวังมันจะแหกอกลุงเอานะครับ เล่นเอาเมียมันมาแบบนี้ ยิ่งน้องเป็นแบบนี้อีก”

“ถ้ามันกล้าก็ลองดู”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”

“อืม เดี๋ยวให้กรไปส่ง”

“ลาละครับ” ไม้เมืองยกมือไหว้นาคก่อนจะเดินออกจากบ้านไปและก็โทรหาสิงห์ทันที

....

“พานะโมไปที่เซฟเฮ้าส์ ก่อนที่ไอ้สิงห์มันจะมา” คำสั่งขั้นเด็ดขาดของนาคทำให้การซ่อนตัวของนะโมถูกดำเนินการอย่างรวดเร็ว ก่อนที่สิงห์จะมาถึง ด้วยซ้ำ



“พ่อ!!! เมียผมอยู่ไหน”

“ใจเย็นสิไอ้ลูกชาย มาถึงก็โวยวาย” นาคเดินออกมาจากห้องทำงานเขารู้อยู่แล้วว่าสิงห์ต้องมาอาละวาดใส่เขา ตอนนี้หน้าของสิงห์ไม่ต่างอะไรกับเสือที่โดนแย่งเนื้อออกจากปาก ร่างสูงกำลังหงุดหงิดเขากวาดสายตามองไปทั่วบ้านเพื่อหาร่างเล็กแต่กลับไม่เจอ

“พ่อ คืนน้องมาให้ผม” สิงห์พูดอย่างใจเย็นทั้งที่ในใจเขาร้อนเป็นไฟ เขารู้ว่าพ่อตัวเองนั้นเจ้าเล่ห์และร้ายขนาดไหน เล่นขโมยน้องมาแบบนี้ ต้องมีแผนอะไรบางอย่างแน่นอน

“น้องไหน” นาคยังคงยิ้มให้กับลูกชาย

“พ่อ!! ผมไม่เล่นนะ”

“หึหึ ไม่คิดว่าคนนิ่งๆ อย่างแกจะมาหลุดลุคเพราะเด็กผู้ชายแค่คนเดียว” นาคเอ่ยเสียงเรียบๆ พร้อมกับใช้สายตาประเมินลูกชายตัวเองไปด้วย

“พ่อ!! น้องไม่สบายอยู่”

“เรื่องนั้นแกไม่ต้องห่วง นะโมมีคนดูแลอยู่”

“แต่นั่นมันเมียผม! ” เขาขบกรามแน่นไม่อยากใจร้อนเพราะน้องอยู่ในมือพ่อ เขาจะบุ่มบ่ามไม่ได้ สิงห์อยากจะบ้าเขาต้องสงบสติอารมณ์ เขาต้องไม่ตกลงหลุมที่พ่อตัวเองขุดไว้เป็นอันขาด

“แล้วถามชั้นรึยังว่า ชั้นจะยอมรับเด็กคนนั้นได้รึเปล่า เด็กผู้ชายที่พิการทางสมอง รู้ถึงไหนอายถึงนั้น”

(เล่นใหญ่รัชดาฯแลนด์เลยนะนานท่าน)



“พ่อหมายความว่ายังไง” สิงห์ขบฟันแน่น นี่แสดงว่าเรื่องของน้องพ่อเขาสืบข้อมูลมาหมดแล้วสินะ ใบหน้าหล่อคมไม่แสดงสีหน้ากังวลออกไปให้เห็น

“เรื่องของเด็กคนนั้นถึงแกจะปิดคนข้างนอกได้ แต่แกปิดชั้นไม่ได้หรอกนะสิงห์ แกเลี้ยงเด็กคนนั้น เอาไว้เป็นเมีย ไม่ได้เอาไว้เป็นน้องอย่างที่ใครๆ เขาเข้าใจ” นาคจ้องมองลูกชายคนเล็กของบ้านแล้วยกยิ้ม เพราะเขาเห็นดวงตาคมคู่นั้นไหววูบ

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่พ่อต้องมาเอาตัวน้องไปด้วย”

“ชั้นจะรับเด็กคนนั้นเป็นลูกบุญธรรม และสิทธิขาดเรื่องการดูแลขึ้นอยู่กับชั้นเพียงแต่ผู้เดียว และก็จะไม่ได้เห็นเด็กคนนั้นอีกเลย แต่ถ้าแกยอมรับการเข้ารับตำแหน่งแทนชั้น ชั้นจะคืนเด็กคนนั้นให้ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น”

“ไม่ได้ ผมไม่ยอม น้องเป็นของผม พ่อจะมาบีบผมแบบนี้ไม่ได้!! ”

“ถ้าแกไม่ยอม แกจะไม่ได้เจอเด็กคนนั้นอีก ชั้นจะส่งเด็กคนนั้นไปอยู่ในที่ที่ แกหาไม่เจอ แกรู้นะว่าชั้นทำอะไรได้บ้าง”

“ทำไมต้องบังคับ พ่อก็รู้ว่าผมไม่ชอบงานพวกนั้น” สิงห์อยากจะเอาหัวทุ่มกำแพงให้ตายไปเลยตอนนี้ถ้าไม่ติดว่าห่วงเมีย

“แต่แกก็ทำมันได้ดี”

“....”

“ยอมรับเถอะว่าแกเองก็ทำงานพวกนี้ได้”

“....”

“มันไม่ได้ยากอะไรเลย กับแค่บริหารโรงแรม ส่วนงานที่ไร่ยังมีพวกกร ชั้นเองก็จะกลับมาดูแลไร่ ไม่อยากทำงานใส่สูทแล้ว”

“เป็นพ่อก็พูดง่ายสิ”

“ตกลงจะทำไม่ทำ”

“แล้วผมเลือกอะไรได้มั่ง พ่อมัดมือผมขนาดนี้ เอาน้องมาเป็นข้อต่อรองกับผม พ่อจะใจร้ายกับผมไปถึงไหน” สิงห์พูดกึงบ่นกึ่งตัดพ้อ มือหนาลูบหน้าตัวเองอย่างคนปลงไม่ตก ไม่คิดว่าพ่อเขาจะเล่นแง่กับเขาแบบนี้ ใช้จุดอ่อนของเขาเรื่องน้องมาบีบให้รับตำแหน่ง

“พูดแบบนี้แสดงว่ายอมแล้ว?” นาคเลิกคิ้วถามพร้อมกับรอยยิ้มที่ปิดไม่มิด รอยยิ้มที่สิงห์ไม่ชอบเอาซะเลย

“ไม่ยอมก็ต้องยอม แต่บอกไว้เลยว่าผมไม่เต็มใจ”

“หึหึหึ” นาคดีใจที่เขาปลดภาระบนบ่าของตนเองได้สำเร็จ ก่อนจะส่งมอบให้ลูกชายคนเล็กดั่งที่ตั้งใจเอาไว้แม้จะใช้วิธีสกปรกก็ตามที

“ทีนี้ก็คืนน้องมาให้ผมสักที! ”

“ค่อยมารับพรุ่งนี้ละกัน ตอนนี้เด็กคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่” นาคแกล้งแหย่ลูกชายตนเองด้วยความสนุก

“พ่อ!! ไม่ได้ คืนน้องมา ไม่อย่างนั้นผมจะเอาไอ้กรกลับ”

“เกี่ยวอะไรกับกร?”

“อย่านึกว่าไม่รู้นะ ว่าคิดจะทำอะไรกับลูกน้องผม” สิงห์หรี่ตามองผู้เป็นพ่อ อย่างจับผิด

“รู้มากจริงไอ้ลูกคนนี้” แม้ปากจะไม่ได้ยอมรับอะไรออกมา แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้คิดอะไรกับลูกน้องคนสนิท เพราะความห่วงใยและความใกล้ชิด ทำเอาคนแก่อย่างนาคที่ใจเคยมืดดับ ตอนนี้มันกลับเต้นแรงให้กับเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวลูก อย่างไร จะว่าไปนาคก็ไม่ได้ดูแย่หรือแก่อะไรมากมายเพราะภายนอกยังดูหนุ่ม เหมือนคนอายุสี่สิบต้นๆ อาจจะเพราะเขาชอบออกกำลังกาย และชอบกินอาหารที่มีประโยชน์ทำให้เขายังดูหนุ่มกว่าอายุ แถมเจ้าตัวยังมีรูปร่างที่หล่อเหลาไม่แพ้ลูกชายอย่างสิงห์เลย

“เอาน้องมาคืนผม ตอนนี้ ก่อนที่ผมจะส่งไอ้กรไปทำงานที่ภูเก็ต” สิงห์ไม่ได้แค่ขู่ แต่เขาทำจริงแน่ๆ ดูจากสายตาดุดัน ทำให้นาคไม่อยากจะเสี่ยง รองได้ให้สิงห์โมโหแล้ว เขาก็ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อตัวเอง นาคเลยไม่อยากเสี่ยง เขาโยนกุญแจเซฟเฮ้าส์ให้ร่างสูง สิงห์รับเอาไว้ แล้วแสยะยิ้ม

“พ่อจำวันนี้ไว้นะ ว่าพ่อทำกับผมไว้ยังไง ผมจะเอาคืนให้ดู” สิงห์ พูดก่อนจะเดินออกจากบ้านใหญ่ และตรงดิ่งไปยังเซฟเฮ้าส์ที่อยู่ถัดไปไม่ไกลจากบ้านใหญ่



ภายในบ้านที่ปกคลุมไปด้วยแมกไม้ และล้อมไปด้วยกำแพงสูง ร่างบางที่กำลังตื่นจากนิทรา ดวงตากลมปรือขึ้นมองรอบๆ ก่อนจะตกใจเพราะที่ที่ ตนเองนอนอยู่ไม่ใช่ที่ทำงานของพี่จ๋า ในห้วงความจำครั้งสุดท้าย ร่างบางจำได้ว่าตนเองกินแล้วนอนในห้องทำงานของสิงห์ แต่ที่นี่ไม่ใช่ แถมคนที่นั่งมองอยู่ก็ไม่ใช่คนที่รู้จัก ร่างบางตกใจและขยับตัวขึ้นยืน แต่ทว่า ร่างกายที่ยังไม่หายจากพิษไข้ทำให้ร่างกายโงนเงนจะล้ม กรที่นั่งมองอยู่ก็รีบพุ่งมารับตัวเอาไว้

“ไม่อย่าจับ พี่จ๋า กรี๊ดดด ช่วยน้อง กรี๊ดดด ช่วยน้อง” มันโวยวาย พร้อมกับดิ้นหนีกรด้วยความหวาดกลัว

“ใจเย็นๆ นะครับ น้องพี่ไม่ได้จะทำร้ายน้องนะ ใจเย็น”

“ไม่ อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นตีนะ ตีเจ็บๆ เลยนะ ฮรือออ พี่จ๋า พี่จ๋า” คนตัวเล็กยกมือขึ้นทำท่าขู่ แต่กรกลับหัวเราะออกมา

น้องน่ารักแบบนี้สินะ นายน้อยถึงได้หลงขนาดนี้



“ไม่เป็นไรนะ พี่ไม่ทำอะไรเรา นั่งลงก่อน ไม่ปวดหัวเหรอ”

“ปวด ฮึก ปวดหัว” นะโมน้ำตาไหลพร้อมกับจับหัวตัวเอง แถมยังมองกรด้วยสายตาไม่ไว้ใจอีก

“กินน้ำไหม พี่ไปเอามาให้” กรพยายามจะสร้างความไว้ใจกับคนตัวเล็กที่กำลังลังเล และพร้อมจะอาละวาดเขาได้ทุกเวลา

“อื้ออ น้องหิวน้ำ ตะ แต่ พี่จ๋าอยู่ไหน ฮึก พี่จับตัวน้องมาใช่ไหม”

“หึหึหึ น่ารักจริงๆ เลยนะเรานี่ รออยู่นี่พี่จะไปเอาน้ำมาให้กิน” กรบอกพร้อมกับเดินออกไป ร่างบางที่พอคนแปลกหน้าออกไปก้รีบควานหาโทรศัพท์ตัวเองทันที แต่กลับไม่เจอ

“หายไปไหน อ่า ฮรืออออ” น่าจะหล่นอยู่บนโซฟา ดวงตากลมกวาดมองไปทั่วๆ ห้อง

แกรก...

“นะโม!! ”

“พี่จ๋า” พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามา คนตัวเล็กก็โผเข้าหาทันที สิงห์กอดน้องเอาไว้แน่นพร้อมกับกดจูบที่เรือนนิ่มทันที เขาทั้งหวงทั้งห่วงคนในอ้อมแขนแทบขาดใจ

“เจ็บตรงไหนไหม? มีใครทำอะไรหนูรึเปล่าครับ” สิงห์ถามเสียงสั่น พร้อมกับลูบแก้มนิ่มของน้องด้วยความห่วงใย กรที่ถือแก้วน้ำเข้ามา เขาเห็นภาพตรงหน้าแล้วก็อดที่จะทึ่งไม่ได้

นายน้อยดูอ่อนโยนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?

“ไม่น้องไม่เจ็บ แต่น้องกลัว ฮึกพี่จ๋าไปไหนมา” คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นถาม ใบหน้าหวานหยดตอนนี้มองเขาด้วยสายที่ตัดพ้อ

“พี่ไม่ได้ไหนครับ พี่ไปทำงานมา” สิงห์แก้ตัวน้ำขุ่นๆ เขาไม่อยากให้ร่างเล็กนี่คิดว่าพ่อของเขาเป็นตัวร้ายที่จับตัวเองมาขังไว้

“แล้วทำไมน้องมาอยู่ที่นี่ พี่คนนั้นเป็นใครครับ ฮึก เขาจะตีน้องไหม” ดวงตากลมเอียงไปมองคนด้านหลัง อย่างไม่ไว้ใจ สิงห์ยกยิ้ม

“ไม่ตีครับ ถ้ากรตีน้องพี่จะก็จะตีกรให้แรงกว่าที่กรตี เอาให้ตายไปเลย” สิงห์ยิ้มเหี้ยมส่งไปให้ลูกน้องตนเอง

“ใครจะไปตีลงละครับ น้องน่ารักขนาดนี้” กรอยากจะดึงน้องมาหอมหัว เขาเอ็นดูเด็กคนนี้ไม่ต่างอะไรกับคนตรงหน้าเลยสักนิด

“น่ารักแต่มึงไม่ต้องมารักด้วย คนนี้ของกู” สิงห์บอก ก่อนที่เขาจะจูงน้องไปนั่งบนที่นอน

“หวงจริง จริ้งงงงง” กรหยอกเจ้านายตนเองด้วยรอยยิ้มขำ

“เออ กูหวง หวงมากด้วย และมึงกล้ามากที่มาขโมยน้องไปจากกู”

“คำสั่งนายท่านนะคร๊าบบ ลูกเพ่จะให้ผมขัดนายท่านเหรอ”

“มึงไม่ขัดเขาแต่มึงกล้าขัดกุอย่างงี้อ่อ”

“อย่าดุแรงครับลูกพี่ ผมกลัวแล่ว” กรบอกอย่างทะเล้นๆ สิงห์ชี้หน้าคาดโทษเอาไว้

“จะไปไหนก็ไปปะ กูจะพาน้องกลับบ้านแล้ว”

“อืออ พี่จ๋าน้องปวดหัว” คนตัวเล็กพูดเสียงอู้อี้ สิงห์ช้อนตัวน้องขึ้นแนบอก

“ครับ เรากลับบ้านกันดีกว่าเนอะ ^^”

“ครับ อึกอืออ ปวดหัวจังเลยครับ” ร่างบางซุกหน้าลงกับแผงอกกว้างก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า ตัวร้อนรุมๆ

“ผมให้หมอไม้ฉีดยาให้น้องแล้วนะครับ ถ้าคืนนี้ไม่ดีขึ้น คงต้องพาไปโรงพยาบาล”

“อืม เข้าใจละ มึงก็กลับไปดูแลพ่อกูได้ละ อ่อ แล้วก็ระวังตัวเอาไว้ละ อย่าไปเชื่อใจใครง่ายๆ โดยเฉพาะคนแก่ๆ ที่บ้าน กุเตือนด้วยความหวังดี” สิงห์พูดทิ้งท้ายเอาก่อนจะอุ้มร่างบางขึ้นรถ และพากลับบ้าน



ตกดึก



“อือออ หนาว ฮึก หนาว หลวงตา อืออ พี่เปรี้ยว ฮึกจะไปไหน อย่าทิ้งหนูไว้ที่นี่ กลับมา ฮือออ” ร่างบางนอนตัวสั่นอยู่บนที่นอนและละเมอออกมา จนทำให้ร่างสูงที่นอนอยู่ข้างกันสะดุ้งตื่น

“นะโมครับ หนู” มือหนาจับที่ตัวอีกคนเพื่อให้สงบ

“ฮึก อย่าทิ้งหนู อย่าไป ฮึก...กลับมา”

สิงห์ลุกจากที่นอน เพื่อที่จะมาเช็ดตัวให้คนที่นอนเพ้อเพราะพิษไข้ ขณะที่เช็ดตัวให้น้องเขาก็พิจารณามอง ถ้าหากเขาได้เจอน้องก่อนหน้านี้ ชีวิตของคนตรงหน้าคงจะมีความสุขมากกว่านี้ สองมือค่อยเช็ดตัวให้อย่างเบามือ และเขาก็ต้องคอยตื่นมาเช็ดตัวป้อนยาให้ทั้งคืน จนกระทั่งเช้า ไข้ถึงได้ลดลง ใบหน้าหล่อก้มมองคนที่หลับตาพริ้มด้วยความห่วงใย แม้จะเหนื่อยแค่ไหนเขาก็ไม่ปริปากบ่น ต่อจากนี้เขาจะมีเวลาให้คนตรงหน้าน้อยลง เพราะหน้าที่ที่เขาต้องแบกอยู่บนบ่า

“พี่รักหนูนะ” ริมฝีปากอุ่นประทับลงบนแก้มนวล ก่อนจะผละออก เขาต้องเตรียมตัวไปทำงานแล้ว วันนี้คงจะให้ไปโรงเรียนไม่ได้ แต่จะให้อยู่คนเดียวก็ไม่ได้อีก

“ (ว่าไงพี่) ” เสียงเข้มติดทะเล้นดังมาตามสาย เขาติดต่อไปยังรุ่นน้องตัวแสบ

“เมียมึงว่างป่าววะวันนี้”

“ (ว่างพี่วันนี้มันไม่มีเรียน จะให้ไปเฝ้าไข้น้องใช่ปะ) ”

“เออ รู้ดีนะมึง รีบให้มันมาที กูจะต้องเข้าบริษัท เดี๋ยวช่วงบ่ายจะเปลี่ยนมาเฝ้าเอง รบกวนมันที”

“ (ได้พี่ เดี๋ยวผมเข้าไปดูอาการน้องด้วย อ่อแล้วจะให้ซื้ออะไรเข้าไปด้วยไหม?”)

“โจ๊กก็ได้”

“ (ได้พี่ ผมอาบน้ำแปป) ”

“ขอบใจมึงมาก กูไปทำงานก่อน รีบมาก่อนที่น้องมันจะตื่นนะเว้ย”

“ (เดี๋ยว งานนี้ไม่ฟรี โอนมาด้วย ห้าพัน!! ) ”

“ไอ้ต้าร์ -*- “

“ (ผัวไม่ขอแต่กูจะขอครับ โอนมาด้วยห้าพัน) ”

“ไอ้หน้าเลือดไอ้ไม้มันเลี้ยงมึงอดๆ อยากๆ รึไง! ”

“ (ป่าว แต่ผมอยากได้รองเท้าคู่ใหม่ ไม่อยากรบกวนเงินผัว ไปแยะ อาบน้ำดีฟ่า) ”

ติ๊ด

“อิสัส -*- “



.................

ณ โรงเรียน



“นะโมไปไหน?” เนมเดินมาหาซีตัสที่ห้องทับสามพร้อมกับเอ่ยถามถึงคนที่ขาดเรียนวันนี้

“พี่สิงห์โทรบอกเมื่อเช้าว่ามันป่วย นอนอยู่บ้าน” ซีตัสบอกพร้อมกับหยิบสมุดการบ้านออกมา

“ไปเยี่ยมมันกันมะ ตอนเย็น” ปิงเสนอ

“อืออ กูก็ว่าจะชวนพวกมึงไปอยู่ ห่วงมันวะ” เนม

“ห่วงตัวเองก่อนเถอะมึงอะ ไม่ไปเรียนรึไง ไปได้แล้ว! ” ส้มที่เดินกลับมาจากการส่งสมุดการบ้านเอ็ดใส่เนม เพราะเนมยืนขวางประตูอยู่

“นี่ก็ดุจัง ชาติที่แล้วเป็นหมารึไง”

“หมาที่หน้ามึงสิอิเนม กลับห้องมึงไปได้แล้วไป๊ ลูกกูไม่อยู่ ไม่ต้องแวะเวียนมาบ่อยๆ เป็นสัมภเวสีแบบนี้” ส้มแซะใส่เนมก่อนจะดันหลังให้เนมกลับห้องไป

“มึงนี่ก็กัดมัน เห็นหน้ามันตอนรู้ว่าไอ้เอ๋อมันไม่สบาย รู้เลยว่าห่วงลูกมึงมาก”

“เย็นนี้ไปหามันกัน ซื้ออะไรไปให้มันกินด้วย ป่านนี้ไม่รู้จะงอแงอะไรบ้าง” ส้มเดินมานั่งที่ของตัวเอง แล้วหันหลังไปคุย

“มันคงกินได้หรอก ไปแต่ตัวนี่แหละ” ซีตัสบอกเสียงหน่ายๆ คุยกันได้สักพักอาจารย์ก็เข้าสอน



บ้านสิงห์ 9.45 น..



“งือออออ หิวน้ำ หิวน้ำ” ร่างบางรู้สึกว่าตัวเองลำคอแห้งผาก ก็ร้องหาน้ำทั้งๆ ที่ตายังไม่ลืม ต้าร์กับไม้เมืองมาถึงตั้งแต่แปดโมงกว่าๆ พอมาถึงก็วัดไข้ เช็ดตัวให้ก่อนจะฉีดยาซ้ำเข้าไปอีกเข็ม ต้าร์เดินเอาน้ำมาให้ก่อนจะประคองร่างบางให้ลุกขึ้นนั่ง พิงหัวเตียงเอาไว้ ร่างบางปรือตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก แพขนตายาวขยับถี่ๆ ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา

“อะ นี่น้ำ ค่อยๆ กิน” ต้าร์เอาหลอดจ่อปากเพื่อให้อีกคนดูดน้ำจากหลอด

อึก อึก อึก

“อืม พี่ต้าร์หรอ อึก น้องคิดถึงพี่ต้าร์ทำไมไม่มาหาบ้างเลย” คนป่วยพูดด้วยเสียงที่ตัดพ้อ ดวงตากลมมีรอยน้ำตาขึ้นมา เพราะว่าป่วยเลยอ่อนไหวง่าย

“กูมีเรียนไหม จะจบแล้วเรียนหนัก มึงเองทำไมไม่ดูแลตัวเอง ปล่อยให้ป่วยแบบนี้ได้ไง” ต้าร์ทำเสียงดุใส่แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร ร

“นึกว่าโดนพี่หมอดุเลยไม่มาหาหนู”

“มันจะกล้าดุอะไรกู แค่ก็ยกมือมันก็หงอแล้ว” ต้าร์พูดอวดออกมาโดยที่ไม่รู้ว่าคนที่ตัวเองพาดพิงอยู่กำลังยืนกอดอกมองมาจากข้างหลัง ไม้เมืองแสยะยิ้ม ก่อนจะเดินเข้าไปกอดคอ พร้อมกับบีบไหล่

“!!! ”

“เหรอต้าร์เหรอ กูกลัวมึงสินะ”

“อะไร ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย เนอะไอ้เอ๋อเนอะ 555”

“หัวเราะซะแห้งเชียวนะมึง นะโมครับ ยังปวดหัวอยู่ไหม?” หันไปบอกคนของตัวเองก่อนจะใช้เสียงสองถามอีกคนที่นั่งยิ้มอยู่บนที่นอน

“ปวดครับ แต่ไม่เยอะแล้ว”

“ไหนพี่หมอขอวัดไข้หน่อยนะ” ไม้เมืองหยิบเอาปรอทวัดไข้ วัดในช่องหูของน้อง

“37.3 ลงมาบ้างแล้วเนอะ เดี๋ยวกินข้าวแล้วกินยานะครับจะได้หายไวๆ”

“ครับ” คนป่วยว่าง่าย ดวงตากลมมองไปรอบๆ เหมือนกำลังมองหาใครสักคน

“มันไปทำงาน ไม่ต้องมองหาหรอก” ต้าร์บอกในสิ่งที่อีกคนอยากรู้ ใบหน้าหวานสลดลง เพราะคนที่อยากเจอ อยากอ้อนไม่อยู่ให้อ้อน

“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น เดี๋ยวบ่ายๆ มันก็กลับมาหาแล้ว”

“จริงนะ พี่หมอไม่หลอกน้องนะ”

“จริงสิพี่จะหลอกหนูทำไม”

“อื้อ หนูเชื่อก็ด๊ะ เอ๊ะ พี่ต้าร์ ทำคอพี่ต้าร์” มันจับที่คอตัวเอง เพราะที่คอของต้าร์มีรอยเหมือนมันไม่มีผิด

“อ้อ เอ่อ ยุง ยุงกัด เนี้ยะคั้นคัน” ต้าร์หน้าแดง รีบยกคอเสื้อขึ้นมาปิดรอยที่คอเอาไว้

“ยุงเหรอ? เหมือนของหนูเลย แต่ของหนูยุงไม่ได้กัด พี่จ๋ากัด ^^”



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ว้ายยุงไม่ได้กัด แต่พี่จ๋ากัด

มันจะเลย40 ตอนไหมเนี้ยะ ฮ่าๆ ปมพี่น้องยังไม่มาเลย ทำไมมันไม่ถึงสักที งงตัวเองเหมือนกัน คิกค๊ากกกกกกกกกกกกกกกก

หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.38 2/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 02-12-2018 13:34:50
บึ้มมม  นะโมทิ้งบอมอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.38 2/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 02-12-2018 14:20:40
เนอะเอ๋อ ใครกัดก็บอกไปเล้ยยย ไม่อายแล้วรุ่นนี้ 5555 มาต่อทีจุใจแต่ป่วยทั้งตอน 555 หายเร็วๆน้าาา //พี่สิงห์รับๆไปเถอะ จะได้ทำงานมีเงินไว้เปย์ไอ้เอ๋อเยอะๆ พ่อก็จะได้พักด้วย แต่แหมมมมมพ่อลูกคู่นี้ร้ายพอกันเว้ย ทำตามใจตัวเองตลอดอ่ะ หึ! ^^ //พักผ่อนนะเอ๋อ อยากทุบไอ้พี่สิงห์ซะจริงเพราะความหื่นเลยทำเอ๋อป่วย เหอะ!! 555 //รอตอนต่อไปค่า สนุกกกกกกก
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.38 2/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-12-2018 17:03:43
นะโม น่ารัก   :mew1:

พี่สิงห์  นะโม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.38 2/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-12-2018 17:27:03
นี่ป่วยยังวางบอมพี่ต้าได้แบบนี้ รอหายป่วยก่อนเถอะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.39 9/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 09-12-2018 08:45:19


39

(นะโม พาท)

หลังจากหายป่วยดูเหมือนอะไรๆ มันก็จะวุ่นวายมากขึ้น พี่จ๋ามีเวลาให้หนูน้อยลง ตั้งแต่วันที่หนูออกจากบ้านคนน่ากลัวๆ พี่จ๋าก็ยุ่งตลอด จากที่หนูเคยตื่นก่อน ตอนนี้พี่จ๋าออกจากบ้านก่อนหนูจะตื่นเสียอีก กว่าจะกลับก็มืดค่ำ หนูไม่อยากทำตัวเป็นภาระ เลยขอพี่จ๋าขึ้นรถกลับเอง เรื่องแบบนี้หนูต้องหัดไว้ และอีกอย่างใกล้จะสอบปลายภาคแล้วด้วยเตรียมตัวขึ้นมอหก พอคิดถึงเรื่องสองหนูก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันทีเลย เพราะซีตัสเอาแต่พูดว่า ติวๆ ๆ ๆ แล้วก็ติว = =

วันนี้พี่จ๋าบอกว่าจะพาหนูไปกินข้าวนอกบ้าน พี่จ๋าจะมารับหนูเอง ดีใจจังหนูไม่ได้นั่งรถกลับบ้านกับพี่จ๋าหลายวันแล้ว อยากเจอไวๆ จัง หนูคิดถึง

“นะโม หนูจะมานั่งยิ้มกับโทรศัพท์แบบนี้ไม่ได้นะคะ สติต้องมาค่ะ” ส้มส้มดีดนิ้วใส่หนู ส้มส้มเป็นผู้หญิงคนเดียวที่สนิทกับหนูมากที่สุดส้มส้มเป็นคนใจดี ชอบหัวเราะ แต่ปิงปิงชอบว่าส้มว่าแรด หนูดูแล้วส้มไม่เห็นมีนอตรงจมูกเลยจะเป็นแรดได้ไง อันนี้หนูสงสัยมากๆ แต่ก็ไม่กล้าถามกลัวโดนโกรธ

“มึงอย่าไปขัดมัน วันนี้พี่สิงห์จะมารับมันไปดินเนอร์ กูเห็นมันยิ้มหน้าบานมาตั้งแต่เช้าละ” ตัสตัสฉลาดมากๆ รู้เรื่องของหนูหมดทุกอย่าง ตัสตัสใส่ใจเรื่องของหนูมากๆ ตอนนี้เรากำลังเดินลงมากินข้าวกลางวันกัน เดินผ่านรุ่นพี่มอหก อ่า ที่จริงหนูเป็นรุ่นพี่สิ ถ้านับอายุแล้ว คึคึ รุ่นพี่หน้าเครียดมาก คิ้วขมวดยุ่งเหมือนคนอึไม่ออก แต่หนูไม่กล้าถามหรอกนะหนูกลัวโดนเตะ เดินมาถึงโรงอาหารก็แทบจะไม่เหลือที่นั่ง เราต้องแย่งชิงกับน้องๆ มอหนึ่ง แน่นอน ตีนผีอย่างหนู วิ่งแข่งกับเด็กได้สบาย แม้ว่าการช่วงชิงโต๊ะจะทำให้หนูโดนสายตาไม่พอใจจากน้องๆ ก็ตาม

วิ่งช้าเองน้า..

พอได้โต๊ะส้มส้มก็อาสาเป็นคนนั่งเฝ้าให้ก่อน หนูกับตัสตัสแล้วก็ปิงปิงเลยไปซื้อข้าว วันนี้มีเมนูหมูทอด แต่ไม่มีไข่พะโล้ของโปรด แอบผิดหวังอยู่เหมือนกันนะ ความจริงหนูอยากจะกินไข่พะโล้ทุกวันแต่ป้าไม่ยอมทำให้เลย เนี้ยะป้าไม่เข้าใจหนูว่าการกินไข่พะโล้มันจะทำให้ร่างกายหนูแข็งแรง ทำให้หนูมีแรงวิ่งไล่จับปีเตอร์ (กิ้งก่า) เนี้ยะป้าไม่เข้าใจ ตอนหนูพยายามบอกป้าแต่ป้าไม่เข้าใจ หนูอยากจะงอนป้าแต่ก็ทำไมได้เพราะป้าชอบแถมกับข้าวให้หนูเยอะหนูเลยไม่โกรธ วันนี้ป้าก็แถมไข่ต้มมาให้ตั้งสองใบแหนะ เดินกลับมาที่โต๊ะทุกคนก็นั่งกันแล้ว รวมไปถึงส้มส้มด้วยวันนี้ส้มส้มกินเกี๋ยวน้ำ ปิงปิงข้าวมันไก่เหมือนกับตัสตัส แต่ตอนนี่ตัสตัสไม่อยู่

“ตัสตัสไปไหนหรอปิงปิง”

“ไปซื้อน้ำวันนี้เวรมันไง”

“อ่อ” วันนี้เป็นเวรของตัสตัสนี่นา รอไม่นานตัสตัสก็กลับมาที่โต๊ะพร้อมกับน้ำสี่แก้ว ของหนูเป็นน้ำมะพร้าวหอมเย็นชื่นจายยยย พวกเรานั่งกินข้าวได้สองคำเนมเนมก็เดินมานั่งด้วย

“ไงไอ้ตัวเล็ก” เนมเนมเรียกใครอะ

“ทำไมต้องทำหน้างง กุเรียกมึงนั่นแหละนะโม”

“งะ เราตัวเล็กเหรอ”

“ป่าวมึงตัวเตี้ย” อันนี้เนมเนมไม่ได้พูดแต่ปิงปิงพูด พูดแล้วก็หัวเราะ

“อิปิงมึงอย่ามาว่าลูกกู อย่างนะโมนี่เรียกว่าตะเรกน่ารัก ไม่ใช่ควายถึกอย่างมึง” ส้มส้มแทบจะพ่นข้าวใส่หน้าปิงปิง คึคึ เห็นแล้วก็อดที่จะขำออกมาไม่ได้

“คึคึ หน้าปิงปิงตลก”

“ต่อจากนี้ไปกูจะเรียกมึงส่าตัวเล็กนะ”

งือ

“แล้วแต่เนมเนมเถอะ เราหิวเราขอกินข้าวก่อนได้ไหม ( ‘’ ) เนมเนมพูดมากๆ เราทนไม่ไหว”

“มันว่ามึงว่าพูดมากอะเนม”

“ไอ้ตัส มึงไม่ต้องย้ำ ตัวเล็กปากคอเราะร้ายนะเรา”

“ยัง ยังไม่หยุดพูดอีก เนมเนม กินข้าว” หนูบอกเนมเนม เพราะเนมเนมเอาแต่พูดข้าวก็ไม่ตักกินจะหมดเวลาพักแล้ว หนูยังอยากกินน้ำแข็งใสอีกเดี๋ยวไม่ทัน

“ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” แล้วทุกคนก็หัวเราะออกมาหนูงงเลย หัวเราะทำไม

ตอนเย็น หนูนั่งรอพี่จ๋าอยู่ที่หน้าโรงเรียน รอจนสี่โมงพี่จ๋าก็ไม่มาสักที เนมเนมที่ยืนรอเป็นเพื่อนก็คอยพัดให้เพราะแดดกำลังร้อนเลย เนมเนมบอกว่าหน้าหนูแดงไปหมด แล้วก็บ่นพี่จ๋าว่ามาช้านู่นนี่นั่น หนูอยากจะโทรไปหาแต่ช่วงนี้พี่จ๋าดุยุ่งๆ หนูกลัวจะโทรไปกวนพี่จ๋า จนเนมเนมทนไม่ไหวโทรหาเอง

“อ่าว ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปส่งมันเอง”

“เราคุยๆ ให้เราคุยเนมเนม” หนูอยากคุยกับพี่จ๋า

“แปปนะพี่ นะโมมันจะคุยด้วย”

“พี่จ๋า^^ เมื่อไหร่จะมารับน้องหรอ”

“ (อะ เอ่ออ นะโมครับ วันนี้หนูกลับบ้านกันเนมเนมก่อนได้ไหมครับ?” ทำไมพี่จ๋าพูดกับหนูแล้วหนูรู้สึกจี๊ดๆ ที่หัวใจ

“มะ หมายความว่ายังไง หรอครับ พี่จ๋า พี่จ่าจะไม่มารับน้องหรอ” ใจหนูสั่นไปหมดจู่ๆ ก็รู้สึกกลัวคำพูดพี่จ๋าขึ้นมา

“คือ พี่มีธุระด่วนที่ต้องไปทำนะครับ หนูกลับไปรอพี่ที่บ้านได้ไหม” เสียงนุ่มๆ ของพี่จ๋าแต่ทำไมหนูฟังแล้วมันเหมือนโดนมีดบาดที่หัวใจเลย

“แต่ว่าพี่จ๋าสัญญาแล้ว สัญญาว่าจะไปกินข้าวด้วยกัน”

“ (อ่อ เอ่ออ คือ พี่ต้องไปพบลูกค้า พี่ขอโทษนะครับ หนูหิวมากไหม ให้เนมพาไปกินอะไรก่อนไหมครับ ถ้าพี่คุยธุระเสร็จแล้วพี่จะตามเราไปนะครับ”)

“ครับ”

“ (พี่ขอคุยกับเนมหน่อยได้ไหม?) ”

“ครับ” หนูยื่นโทรศัพท์คืนให้เนม เนมคุยอะไรไม่รู้กับพี่จ๋าแล้วก็วาง

“ปะ ไปหาอะไรแดกกัน หิวไม่ใช่เหรอ”

“เราไม่หิวแล้ว เนมเนม เราอยากกลับบ้าน” หนูไม่อยากกินอะไรแล้ว ไม่อยากไปไหนด้วยอยากกลับบ้าน

“เห้ยไม่ได้ พี่สิงห์โอนเงินให้กูพามึงไปกินข้าว กินขนมตั้งสองพัน ไปๆ” เนมเนมลากหนูไปที่ลานจอดรถมอเตอร์ไซ วันนี้เนมเนมเอาน้องกุ๊กไก่มา กุ๊กไก่เป็นลูกชายของเนมเนม แต่หนูว่าเนมเนมคงเข้าใจอะไรผิด คนจะออกลูกมาเป็นรถมอเตอร์ไซไม่ได้!!

“ไปขึ้น จะพาแว้น”

“หงึ...เนมเนม กุ๊กไก่จะพาเราตกคลองไหม เรากลัวคันมันใหญ่สูงด้วย” หนูกลัว กลัวกุ๊กไก่ไม่ชอบแล้วพาหนูเจ็บตัว

“เออ ขึ้นมาเถอะไม่ตายหรอก แค่จะพากินข้าวที่ห้อง พาไปซื้อขนมไงไปไหม?”

ถ้าจะเอาขนมมาล่อขนาดนี้หนูยอมขี่หลังกุ๊กไก่ก็ได้ กว่าจะปีนขึ้นกุ๊กไก่จนขึ้นไปนั่งได่เล่นเอาหนูหอบ แอบตีมันไปหนึ่งทีโทษฐานทำหนูเหนื่อย

“อะใส่หมวกด้วย” เนมเนมหันมาใส่หมวกกันน็อกใบใหญ่ให้หนู ก่อนจะสตารท์รถแล้วขี่ออกไป

“เกาะเอวกูด้วย แน่นๆ” เนมเนมดึงมือหนูให้ไปกอดเอว จนหน้าหนูแนบกับหลังของเนมเนม หลังเนมเนมกว้างตาไม่เท่ากับของพี่จ๋า หนูทำตามที่เนมเนมบอกเพราะกลัวจะหล่นจากกุ๊กไก่ แต่ว่าทำไมเนมเนมต้องอมยิ้มด้วยอะ

“อยากกินไร” พอมาถึงเนมเนมก็ถามหนูทันที ก็บอกว่าไม่หิวยังจะบังคับ หนูไม่รุ้จะตอบว่าอะไร

“ทำหน้าบูดเป็นตูดลิงอีก เลือกไม่ได้แดก ฮาจิบังละกัน ไปๆ” โดนลากอีกแล้วลากเหมือนหนูเป็นน้องหมาเลย หนูต้องเดินตามแรงลากของเนมเนมเข้าไปในร้านอาหารร้านหนึ่ง ชื่อบังๆ อะไรสักอย่างแต่พอเข้ามาท้องหนูก็ร้องทันทีเพราะกลิ่นหอมมาก เนมเนมหาที่นั่งติดกับกระจกร้าน

“เอ้าสั่งเลยอยากกินอะไร กูเลี้ยง”

“เงินพี่จ๋าต่างหากเนมเนมขี้ตู่” หนูบอก เนมเนมทำหน้ายู่ใส่ก่อนจะหันไปสั่งอาหารกับพี่พนักงานที่ยืนรออยู่ หนูหยิบเมนูขึ้นมาแล้วไล่สายตาดู มือมันสั่นใจมันเต้นแรง หนูสั่งไม่เป็น อึกอักอยู่นานไม่ยอมสั่ง กลัวพูดไม่ถูกกลัวทำให้เนมเนมต้องอาย มองเมนูอาหาร แล้วตัดสินใจจิ้มมันไปสักเมนู กินได้กินไม่ได้ค่อยมาว่ากันทีหลัง

“เอาอันนี้ครับ”

“เรเมน หนึ่งที่นะคะ รับน้ำอะไรดีคะ มีน้ำฝรั่งเย็น ชาเขียวเย็น น้ำพั้นช์ค่ะ” หูยยยมาเป็นชุดแล้วหนูจะตอบว่ายังไง หันไปหาเนมเนมที่เอาแต่มองเมนู

“เอ่อ คืออ ชะ ชาเขียวครับ” หนูตอบ

“เอ่อ เอาทาโกะ คาราเกะ เกี๊ยวเซท แล้วก็ น้ำฝรั่งครับ”

“กินเสร็จจะพาไปกินติม อ่อ ซื้อเสื้อผ้าด้วย” เนมเนมพูดอะไรเยอะแยะไม่รู้หนูมองออกไปด้านนอก ด้วยสายตาเหม่อๆ อยากให้พี่จ่ามาอยู่ตรงนี้ด้วยจัง หนูทำได้แค่คิดเพราะพี่จ๋ามีงานต้องทำ พออาหารมาเสิร์ฟหนูก็ไม่คิดถึงพี่จ๋าอีก สมองหนูคิดถึงแต่อาหารตรงหน้ามันอร่อยมากๆ เลย เนมๆ คอยคีบนู่นคีบนี่ให้กิน แล้วไอ้ที่หนูสั่งมาก็อร่อยถูกใจมากๆ กินจนปากเลอะ เนมเนมก็เช็ดให้ กินจนพุงแทบแตกเราอิ่มกันแล้วก็พากันเดินไปจ่ายเงิน หนูแทบจะเดินตรงไม่ได้เพราะจุก เลยขอเนมเนมนั่งพัก ตรงม้านั่งหน้าร้านอาหารอิตาเลี่ยน ท้องหนูตึงมาก เลยได้นั่งก้มหน้า พอจะเงยหน้ามองสายตาก็ดันไปเห็นใครคนหนึ่งเข้า ใบหน้าที่หนูแสนจะคิดถึง แต่คนที่นั่งคู่กับพี่จ๋า เขาเป็นใคร

“เห้ย ไอ้เอ๋อมึงจะไปไหน?” เนมเนมเรียกหนู แต่ขาหนูมันไม่ได้หยุดเดินเลย หนูเข้าไปในร้านนั้น เดินไปหาพี่จ๋า พี่จ๋ามองหนูตาไม่กะพริบ เหมือนจะตกใจที่เห็นหนู ผู้หญิงคนนั้นมองเราทั้งคู่ด้วยสีหน้ายิ้มๆ

“ใครหรอคะคุณสิงห์ รู้จักกันหรอ?”

“ทำไมพี่จ๋าถึงอยู่ที่นี่ครับ ไหนว่าทำงาน”

“เอ่อ นะโมมาทำอะไรที่นี่ครับ แล้วมากลับใคร” พี่จ๋าลุกขึ้นแล้วจับมือหนูเอาไว้ ก่อนจะลากหนูออกมาข้างนอก เนมเนมเดินตามหลัง

“พี่จ๋ามากับพี่สาวคนนั้นหรอครับ? มากับเขาแล้วทิ้งน้องไว้” จู่ๆ น้ำตาหนูมันก็ไหล ไหลทำไมไม่เข้าใจเลย ยกมือขึ้นปาด แต่ยิ่งปาดมันก็ยิ่งไหล หนูเจ็บที่หัวใจ พี่จ๋ามากับผู้หญิง

“.....”

“มากับใครทำไมไม่บอกกันตั้งแต่แรก หลอกน้องให้คอยทำไม ผู้หญิงคนนี้สำคัญมากกว่าน้องใช่ไหมครับ”

“นะโมทำไมพูดแบบนั้น พี่มาทำงานครับ คุณแก้วเป็นลูกค้าของพี่ เรามาคุยเรื่องงานกัน ทำไมหนูเสียมารยาทแบบนี้” พี่จ๋าพูดกับหนูเสียงดุ ตาก็ดุ หนูกัดปากตัวเองแล้วก้าวถอยหลัง

“หรอครับ ฮึก ถ้างั้นพี่จ๋าก็ไปทำงานเถอะครับ น้องไม่รู้ว่าพี่จ๋าทำงานแบบนี้ น้องขอโทษ น้องแค่ ฮึก เจ็บตรงนี้” หนูจับที่หัวใจตัวเอง

“ชูววว ไม่ร้องนะครับ” พี่จ๋าจะเช็ดน้ำตาให้แต่หนูเบี่ยงหลบจะเช็ดเอง พี่จ่าชะงักแล้วมองหน้าหนูนิ่งๆ

“นะโมเป็นอะไรครับ ทำไมไม่ให้พี่เช็ดให้” เสียงพี่จ่าดุมากขึ้น

“ป่าวครับ น้องกลับบ้าน อึก จะกลับแล้วครับ พี่จ๋าทำงานเสร็จแล้วกลับบ้านนะครับ”

“....”

“เนมเนม พาเรากลับบ้านที เราง่วงมากเลย” หนูยิ้มให้พี่จ๋าแล้วเดินไปเกาะแขนของเนมเนม

“ยิ้มแห้งมากมึง...ไปจะกลับก็กลับ”

“เดี๋ยว...นะโมกลับไปเรามีเรื่องต้องคุยกันนะครับ เรื่องวันนี้แล้วก็สิ่งที่หนูทำด้วย”

“ครับ..”

............จบพาทน้อง......

หลังจากที่นะโมเดินจากไปสิงห์ก็ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองทันที เขาไม่คิดว่าน้องจะมาเจอเขากินข้าวกับแก้วที่นี่ วันนี้เขามาคุยเรื่องการซื้อขายที่ดินที่ภูเกต เพื่อขยายโรงแรมในเครือ แก้วเป็นเจ้าของที่ดิน

“มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ คุณสิงห์น้องชายคุณดูจะโกรธๆ คุณนะคะ”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ น้องเขาแค่มาทักทาย ผมว่าเรามาคุยเรื่องที่ดินกันต่อดีกว่าครับ” สิงห์อยากจะกลับบ้านไวๆ เขาจึงเร่งหญิงสาว สิงห์รู้ว่านะโมกำลังเข้าใจผิดและกำลังคิดมากเรื่องของเขาเพราะนะโมจะไม่มีทางแสดงสีหน้าแบบนั้นออกมาแน่นอน

20.30น.

“นะโม” สิงห์กลับมาแล้วแต่เขากลับไม่เจอใคร ในบ้านมืดสนิท

“นะโม” ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ กลับมา เขาเดินไปดูที่ห้องนอน ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศลอดออกมาจากช่องว่างระหว่างประตู ทำให้เขาใจชื้นขึ้นมาทันที พอเปิดประตูห้องเข้าไปก็เจอน้องนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มมีเพียงแสงไฟจากหัวเตียงที่ส่องแสงสลัวๆ สิงห์เดินเข้าไปหาแล้วนั่งลงข้างๆ แรงยวบบนที่นอนทำให้นะโมขยับตัวแต่ไม่ตื่นขึ้นมา

“ตาบวมแบบนี้ พี่จะทำโทษหนูลงได้ยังไง” สิงห์กดจูบลงบนแก้มเนียน ก่อนที่ตัวเองจะไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน แต่พอกลับมาคนที่เคยนอนอยู่บนที่นอนตอนนี้กลับไม่อยู่แล้ว สิงห์เดินไปที่ห้องข้างๆ เขามั่นใจว่าน้องต้องงอนกลับมานอนห้องตัวเองแน่ๆ

แกรกๆ ประตูล็อค? พอจะไปหยิบกุญแจสำรอง มันก็ไม่มี แสดงว่าน้องหยิบเอาไปด้วย ร่างสูงกุมขมับ

“นะโมครับ เปิดประตูให้พี่หน่อย”

“....”

“นะโม เปิดประตูให้พี่ก่อนนะครับ”

ตุบ!! มีบางอย่างกระแทกใส่ประตู ให้เดาน่าจะเป็นหมอนที่ถูกปาใส่

“ไปให้พ้น!! ” เสียงหวานตะโกนกลับมา สิงห์รู้ว่าคุยตอนนี้คงไม่มีประโยชน์ในเมื่อน้องไม่ยอมคุยด้วยแบบนี้ เขาเดินกลับห้องของตัวเองแล้วล้มตัวลงนอนตั้งใจว่าพรุ่งนี้เช้าจะคุยกับน้องให้รู้เรื่อง

...

6.00น.

สิ่งแรกที่สิงห์ทำคือเดินมาที่ห้องนอนของอีกคน หวังเพียงว่าจะเจอคนหน้าหวานๆ นอนหลับตาพริ้มอยู่บนที่นอน แต่เปล่าเลยที่นอนถูกพับเก็บเรียบร้อยและไร้วี่แววของเจ้าของห้องสิงห์รีบเดินไปที่ห้องครัว บนโต๊ะกินข้าวมีข้าวต้มวางไว้ สิงห์เดินไปดูมันยังอุ่นๆ อยู่ แต่ดุท่าจะทำไว้ได้สักพักแล้ว สิงห์เดินไปหยิบโทรศัพท์และกดโทรหาคนที่หายไปทันที

Rrrrrr

“ครับ”

“อยู่ไหน! ” สิงห์พยายามระงับอารมณ์กรุ่นๆ ของตัวเองเอาไว้

“อยู่บนรถสองแถวครับ” นะโมตอบกลับมาด้วยเสียงที่นิ่งๆ

“ทำไมรีบไป ไม่รอให้พี่ไปส่ง” สิงห์พูดเสียงดุ

“น้องรีบมาทำรายงานครับ ต้องใช้หนังสือในห้องสมุด” นะโมไม่ได้โกหกแต่เหตุผลจริงๆ คือต้องการหลบหน้าสิงห์ เพราะนะโมยังไม่พร้อมที่จะคุยอะไรในตอนนี้

“แล้วทำไมไม่บอกพี่ พี่จะได้ไปส่งนั่งรถไปเองทำไม”

“น้องไม่อยากรบกวนครับ อีกอย่างพี่จ๋าต้องทำงานด้วย”

“มันไม่เกี่ยวกันเลยนะโม เราต้องการจะหลบหน้าพี่”

“น้องเปล่าครับ เอ่อ แค่นี้ก่อนนะครับจะลงรถแล้ว” นะโมรีบตัดบทเพราะสิงห์เริ่มจะขึ้นเสียงใส่ตนเองแล้ว เพราะไม่ได้อยากจะทะเลาะด้วย จึงเลือกที่จะวางสายร่างสูงแทนที่จะทะเลาะด้วย พอถึงโรงเรียนขาเรียวก็ก้าวไปยังห้องสมุดทันที

องค์รักษ์พิทักษ์เอ๋อ (5)

ซีตัสคนจริงไปเชิญ เนม ภิภพ เข้ากลุ่ม

เนม ภิภพ เข้ากลุ่ม

ซีตัสคนจริง

ตื่นไอ้สัส

ตื่นมารับกรรมร่วมกับกู

ปิง

เป็นเหี้ยอะไรกันเนี้ยะ

ส้มส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อิค๊วายยย มึงดูเวลาด้วย

เช้าขนาดนี้

ซีตัสคนจริง

มึงไปถามลูกมึงนู่นว่าเสือกตื่นมาทำเหี้ยอะไรแต่เช้า

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อิลูกมึงตื่นมารอแม่ไก่ฝักไข่เหรอ

@นะโม

นะโม

ว่าไงส้มส้ม

อ๋อ เราตื่นมาโรงเรียนไง

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

มันเช้าไป มึงจะรีบไปช่วยภารโรงเค้ากวาดพื้นรึไง

นะโม

ป่าวส้มส้ม

เรามาทำรายงานกลุ่มไง

ซีตัสคนจริง

ของอาจารย์สมพร?

มันส่งอาทิตย์หน้าไม่ใช่รึไง

เนม ภิภพ

คุยอะไรกันแต่เช้าวะ!

กูกำลังจะออกใครอยู่โรงเรียนแล้วบ้าง

นะโม

เราเนมเนม เราอยู่

เนม ภิภพ

เออ กูอาบน้ำเสร็จละเดี๋ยวเจอกันที่โรงเรียน

นะโม

ซื้อหมูปิ้งหน้าโรงเรียนมาฝากเราด้วยได้ไหม

เอาหมูห้าไม้ข้าวเหนียวหนึ่งห่อ

Yimmy

กูด้วย เอาเหมือนนะโมเลย

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

+1

ซีตัสคนจริง

+2

เนม ภิภพ

เอาให้ใครวะ?

ซีตัสคนจริง

ซื้อให้เมีย

มีไรไหม?

เนม ภิภพ

ไม่มีค๊าบบ

โหดแต่กะเพื่อนนะไอ้เหี้ย

6.50น.

“ทำไมถึงออกมาเรียนไว” เนมมาถึงก็เอ่ยปากถาม

“มาทำรายงานไง”

“อย่ามาอ้าง กูรู้นะว่ามึงกำลังทะเลาะกับพี่สิงห์”

“เราเปล่า....เราแค่” นะโมไม่ยอมพูด เนมก็ไม่ได้อยากเซ้าซี้เท่าไหร่ทั้งคู่เลยแอบกินข้าวเหนียวหมูปิ้งกันเงียบๆ พอเจ็ดโมงกว่าๆ เพื่อนๆ ที่เหลือก็ตามมา นะดมไม่ได้แสดงอาการผิดปรกติหรือทำหน้าเศร้า แค่คุยน้อยลง ซีตัสที่โดนสิงห์ปลุกแต่เข้าก็เอาแต่นั่งจ้องหน้าเหมือนกำลังจับผิด นะโมทำเป็นไม่สบตา พอถูกถามก็เลี่ยงที่จะไม่ตอบ

“มึงว่ามันผิดปรกติป่าววะ” ปิงกระซิบถามคนอื่นๆ

“ผิด มันเงียบผิดปรกติ” ส้มกระซิบตอบ

“กูก็ว่างั้น มึงดูสายตามันดิ ปรกติไม่ได้เศ้ราขนาดนั้น เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น” ทุกคนหันไปหาเนมที่น่าจะรู้เรื่องมากที่สุด เพราะเนมเป็นคนอยู่กับนะโมเป็นคนสุดท้าย ส้มส่งสายตาคาดคั้น

ติ้ง

ไม่มีไอ้เอ๋อ (5)

เนม ภิภพ เชิญ ซีตัสคนจริง,ส้มคนสวยแห่งห้องสาม,ปิง,yimmyเข้ากลุ่ม

ซีตัสคนจริง,ส้มคนสวยแห่งห้องสาม,ปิง,yimmyได้เข้าร่วมกลุ่มแล้ว



เนม ภิภพ

กลุ่มเอาไว้เสือก

ซีตัสคนจริง

กลุ่มเหี้ยไรอีก
ปิง

มึงจะนินทาลูกกูเหรออิเนม

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

แสดงว่าเมื่อวานมีเรื่อง?

เนม ภิภพ

ก็ไม่เชิง

Yimmy

เล่ามาดิ

ปิง

ทำไม เกิดอะไรขึ้น
เนม ภิภพ

เมื่อวานไอ้เอ๋อมันไปเจอพี่สิงห์ที่ห้าง

ซีตัสคนจริง

ไหนบอกพี่มันจะมารับไปกินข้าว?

เนม ภิภพ

ก็เออ นั่นอีกเรื่องเมื่อวานเขาไม่ได้มารับ

ไปเขาให้กูพามันไปกินข้าวแล้วก็ไปส่งบ้านแทน

ไอ้สัส กูก็ไม่นึกว่าโลกมันจะกลม

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อย่าบอกนะว่ามึงเจอพี่เขามากับผู้หญิง
เนม ภิภพ

เออ แต่เป็นลูกค้า
ซีตัสคนจริง

กูพอจะเดาออกละ

พวกมึงไม่ต้องไปบีบให้มันพูดเรื่องแบบนี้ให้มันได้คิดเองบ้าง

ปิง
มันกำลังเข้าใจผิดถูกมะ

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อิลูกกูคิดไปถึงไหนแล้วนั่น

แล้วพี่สิงห์ไม่อธิบายอะไรเลยเหรอวะ

เนม ภิภพ

ลูกมึงบุกไปหาเขาที่โต๊ะตอนเขากำลังคุยงานไง

พี่สิงห์ดูไม่พอใจเขาดุมันไปหลายคำอยู่ มันคงน้อยใจที่ผิดสัญญามัน

แล้วก็ดันมาโดนดุอีก

ซีตัสคนจริง

อืม

มันนอยส์แหละมั้ง

มันเคยโดนดุซะที่ไหน
ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

มึงมันลุกไปไหนแล้ววะ มัวแต่ก้มหน้าคุยแชท

ปิง

มันไปเข้าห้องน้ำ

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม
อ่อแล้วไป

แล้วเราจะเอาไงช่วยมันไหม
เนม ภิภพ

กูว่าให้พี่สิงห์จัดการเองดีกว่าเราอย่าพึ่งไปยุ่งเลย

เรื่องแบบนี้พูดยาก

ซีตัสคนจริง

อืมกูเห็นด้วย

จบแยก



.............................................





“พี่จ๋า?”

“พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”

หมับ!!

“พี่จ๋า ปล่อยน้องก่อน น้องเจ็บ”

“อย่าดิ้นนะ นะโม” สิงห์บีบข้อมืออีกคนแน่น เพราะนะโมเอาแต่ดิ้นหนี

“เจ็บ”

“ก็หยุดดิ้น!! ” เขาเผลอตวาดใส่ นะโมสะดุ้งเฮือก ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ

“ฮึก T^T”

............................................................................จบตอน......................................................

ฝากด้วยนะคะ ไม่มีมาม่าเน้อ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.39 9/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 09-12-2018 09:43:36
อย่าดุน้องใจเย็นๆพี่สิงห์ :z3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.39 9/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-12-2018 15:07:07
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.39 9/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-12-2018 15:58:09
สิงห์ ก็นะ.............  :z3: :เฮ้อ: :serius2:
ทำไมไม่อธิบายให้ชัดเจน    :m16:
ไหนจะผิดสัญญาเอง พาหญิงไปกินข้าว :angry2:
แล้วยังดุ ตวาดน้อง มันก็ต้องน้อยใจแหละ  :mew2:
ตัวเองผิดเองนะ ยังไม่รู้ตัวอีก  :really2: :really2: :really2:

สิงห์  นะโม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.39 9/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 09-12-2018 17:00:02
ใจร่มๆค่อยๆคุยค่อยๆเคลียร์กันนะ ใจเย็นๆ นะนะโมพี่สิงห์^^ //ตลกการออกมาตั้งอีกกลุ่มเฉพาะ เข้าใจเลยอะ มีกลุ่มใหญ่แล้วมันต้องมีกลุ่มย่อยไว้เผือกคนในกลุ่มใหญ่ 555555 รอตอนต่อไปเลยค่ะ ขอบคุณที่มาอัพน้า ^^ ยังคงสนุกเหมือนเดิม :)
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.39 9/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-12-2018 17:15:46
ทำไมทำกับน้องแบบนี้
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.39 9/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-12-2018 18:43:35
บอกนะโมไปตรงๆ หรือพาไปด้วยให้เห็นว่าทำงานอย่างไง มันยากตรงไหนฟ่ะ นังพี่โซดาสิงห์  :katai1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.39 9/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 09-12-2018 19:40:45
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.39 9/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-12-2018 21:57:24
 :เฮ้อ:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.39 9/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 10-12-2018 00:20:56
พ่อนาคเจ้าเล่ห์นะ จะเขมือบน้องกรด้วย อยากอ่านคู่นี้ เปลี่ยนสรรพนามให้น้องแล้ว ขอบคุณนักเขียนมากๆ อ่านแล้วหลงรักน้องเพิ่มร้อยเท่า
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.39 9/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-12-2018 07:21:18
เอ้าแล้วกัน
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.40 16/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 16-12-2018 10:33:53
40



“ฮึก T^T” เพราะน้อยใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วประจวบเหมาะกับโดนร่างสูงใช้กำลังและตวาดใส่ทำนบน้ำตาที่เคยกลั้นไว้มันก็พังทลายลงมาพร้อมกับใจดวงน้อยที่แตกสลายลง ความหวาดกลัวเข้ามาแทนที่ภาพความรุนแรงที่ตัวเองเคยได้รับเมื่อตอนเด็กๆ ค่อยๆ ปรากฏขึ้นในมโนภาพ นะโมตัวสั่นเทิ้มก้มหน้าต่ำและยกมือขึ้นมาปกป้องตัวเอง

“นะโม หนู นะโม” สิงห์เห็นแล้วใจหล่นวูบ นี่เขาทำอะไรลงไปและ สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือการดึงน้องเขามากอด

“ฮึก ฮึก อย่า กลัว”

“พี่ขอโทษครับ พี่ขอโทษนะ ไม่ต้องกลัวครับ ไม่กลัวนะ พี่จ๋าขอโทษ” รู้ว่าตัวเองทำอะไรที่ไม่สมควรลงไป เขาแค่โมโหที่คนตรงหน้าไม่ยอมที่จะฟังเขาเลย ถึงได้เผลอทำอะไรที่รุนแรง รู้ทั้งรู้ว่าน้องไม่เหมือนคนอื่น น้องไม่สามารถจัดการอารมณ์ของตนเองได้เหมือนคนปรกติ การที่น้องเริ่มต่อต้านเขา ก็เพราะตัวเขาทำให้น้องไม่เชื่อใจเอง

“พะ พี่จ๋า ฮึก ใจร้าย” คำตัดพ้อที่คมกริบเหมือนมีดกรีดหัวใจ สิงห์รู้สึกสะเทือนใจกับน้ำเสียงสั่นเครือของคาใจอ้อมกอด

“.....”

“ทำไมต้อง ฮึก ว่าน้องด้วย ฮึก ทำไมไม่ทำตามสัญญา ฮึก ทำไมต้องไปกับคนอื่น” สิ่งที่มันค้างคาใจอยู่ตั้งแต่เมื่อวานมันพรั่งพรูออกมาจนหมด สิงห์ไม่มีอะไรจะแก้ตัวเรื่องที่ผิดสัญญามันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ เข้าไม่ตั้งใจ แต่เพราะฝากน้องไว้กับเนม เขาตั้งใจจะรีบคุยให้เสร็จแล้วจะได้รีบไปหาน้องแต่คิดว่าโลกมันจะกลมแบบนี้ น้องเจอเขาอยู่กับลูกค้าที่บินมาในวันนี้พอดี แต่ไม่คิดว่าน้องจะเดินมาหาเขาแล้วก็ทำตัวก้าวร้าวใส่ เขาไม่อยากให้ใครมองน้องในทางที่ไม่ดี เขาถึงไปพาออกมาคุยกันข้างนอก และนั่นทำให้เรื่องมันบานปลายมาถึงตอนนี้

“พี่ไม่ดีเอง พี่ผิดเองครับ พี่ขอโทษนะครับ” เขาไม่รู้จะพูดปลอบน้องยังไงแล้ว

“บอกมาว่า เขาเป็นใคร บอกมาว่าทำไมไม่มาหา” น้องเงยหน้าขึ้นมาแล้วเอ่ยถามสิงห์ด้วยแววตาเอาเรื่อง ดวงตากลมช้อนมองคนที่สูงกว่า สองมือจกลงกับแผงอกของเขาเป็นการเอาคืนเล็กที่สร้างความเจ็บแสบให้เขาไม่น้อย นี่ยังไม่รวมรอยฟันที่เจ้าตัวกัดเขา

“อ๊ะ ซี๊ดด อย่าจิกสิครับ”

“ตอบมาสิครับ ฮึก” สิงห์ไม่ตอบแต่เขาจูงน้องไปที่รถ

“ขึ้นรถก่อน แล้วพี่จะอธิบายให้ฟัง” นะโมยอมทำตามอย่างว่าง่ายแม้จะส่งสายตาตัดพ้อใส่เข้าก็ตาม

“.....”

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกค้าครับ เขาบินมาคุยธุระเรื่องซื้อที่ดิน พี่จำเป็นต้องคุยงานกับเขา เพราะมันมีผลกับบริษัทครับ หนูเข้าใจพี่ไหม” สิงห์ถามน้องเสียงนุ่ม

“...”

“พี่ไม่อยากให้หนูคิดว่าพี่ทิ้งหนูนะครับ”

“ฮึก..แล้วทำไมไม่บอกละ จะโกหกทำไม”

“พี่ไม่ได้โกหก พี่แค่ไม่อยากให้หนูรอพี่ เพราะพี่ไม่รู้ว่าจะคุยงานเสร็จกี่โมง ที่พี่ให้หนูไปกับเนมเพราะพี่กลัวหนูหิว” สิงห์อธิบายพร้อมกับลูบใบหน้าหวานๆ ของน้องไปด้วย ดวงตาคู่คมจ้องลึกไปยังดวงตาคู่ใสอย่างสื่อความหมาย

“ฮึก..ฮรือออออ” แล้วปล่อยโฮออกมาแบบนี้จะให้เขายังไงนอกดึงน้องเข้ามากอด กอดอยู่นานกว่าจะหยุดเสียงโทรศัพท์ของน้องก็แจ้งเตือนไม่หยุดจนเขาต้องกดตอบกลับข้อความไป

น้องอยู่กับพี่ คุยธุระเสร็จแล้วจะเอาไปส่ง ฝากบอกครูด้วย



พออีกคนคลายสะอื้นสิงห์ก็บดจูบลงกับริมฝีปากอวบอิ่มไล่จากกลับปากล่างขบเม้มเบาๆ

“หายโกรธพี่ได้ไหม? นะครับ” น้ำเสียงทุ้มออดอ้อนขอให้อีกคนเห็นใจ ก่อนจะลุกล้ำกลีบปากนุ่มอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาทั้งกัดทั้งดูดและแทรกลิ้นเข้าไปในโพลงปากอุ่นอย่างเอาแต่ใจ ไล้ต้อนอีกคนจน จนมุม สองมือเล็กขย่ำเสื้อสุทจนยับยู่เพราะร่างสูงกำลังทำให้คนตัวเล็กขาดอากาศหายใจ นะโมกำมือทุบลงบนอกแกร่งหลายที จนสิงห์ผละออก ผลที่ได้คือน้องหน้าแดงและหายใจหอบ ปากเล็กบวมเจ่อ จนอยากจะจับมาจูบซ้ำ

“หายโกรธพี่ยังครับ หืมม?”

“-3- จะไม่หายโกรธก็เพราะพี่จ๋าทำน้องหายใจไม่ออกนี่แหละครับ” ปากบางคว่ำลงบ่นงุ้ยๆ ให้เขาได้ยิน

ทำไมชอบทำตัวน่ารักนักวะ!!

“ก็พี่อยากขอโทษหนู จูบนี้พี่ให้หนูคนเดียวนี่ครับ หรือจะให้พี่ไปจูบกับคนอื่น” สิงห์แกล้งพูด

“ไม่ได้!! หะ ห้าม ห้ามนะ ไม่ได้ ถ้าจะจูบต้องจูบกับน้อง! ” ไม่รู้ตัวเลยรึไงว่ากำลังจะโดนหมาป่าขย่ำบนรถ สิงห์มองใบหน้าหวานที่กำลังทำหน้าดุใส่เขา พร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากเขาเอาไว้ทั้งสองข้าง เพื่อไม่ให้เขาพูดอะไรที่เจ้าตัวไม่ชอบ

“งั้นขอจูบอีกได้ไหมครับ” ขอไปงั้นเผื่อฟลุ๊กได้ สิงห์ยิ้มกริ่ม

“งะ พี่จ๋า ทำหน้าหื่น อิ๊ หื่น หื่น” น้องชี้หน้าเขาแล้วทำหน้ายี้ใส่ นอกจากจะทำตัวน่ารักแล้ว ตอนนี้น้องยังทำตัวร้ายๆ อีก แสดงว่าสังคมที่โรงเรียนสอนอะไรน้องไปเยอะ เยอะ เยอะเกินไปแล้ว!!!! แหม่ สีน่งสีหน้ามาหมด



...



“กว่าจะกลับมา เอ๊ะ ! ทำไมปากเจ่อ ตาแดงอีก พี่จ่าทำอะไรมึง” ปิงแทบจะวิ่งไปหา ดีที่ซีตัสดึงเอาไว้ สายตาคมๆ ของเพื่อนตัวสูงหรี่มองจนนะโมแอบหลบตา ซีตัสยกยิ้ม

“ไม่ต้องตื่นเต้น มันกับพี่สิงห์คงดีกันแล้ว” ซีตัสพูดขึ้น

“มึงรู้ได้ไง?” ปิงถามพร้อมกับมองหน้าคนรักของตนเองไปด้วย

“มึงดูหน้าลูกมึงด้วย เดินหน้าแดงกลับมา แถมปากจังเจ่อ มึงคิดว่ามันเอาปากไปดูดกับปากขวดมาไง๊”

“กูจะรู้ไหมละ แหม่”

“ก็มึงโง่ไง”

“โง่ที่หน้ามึงอะ แล้วนี่มึงเป็นไงมั้ง ตาแดงไปหมด” ด่าซีตัสเสร็จก็หันมาถามคนตัวเล็กที่กลับมานั่งที่ตัวเองแล้ว ใบหน้าขาวร้อนผ่าวๆ เพราะอายเพื่อน โดยเฉพาะสายตาของเพื่อนๆ ในห้อง ที่กำลังส่งสายตาล้อๆ มาให้

“งือออ อย่าแซวเรานะ เราเขิน”

“โอ้ยยลูกขา จุดๆ นี้มันเลยคำว่าเขินแล้วคร้า” ส้มเดินมาตบบ่าแล้วพูดออกมา

“เลยยังไง”

“เค้าเรียกว่าโคตรเขิน อิเหี้ยยย กูจะเป็นลมตั้งแต่อิตัสมันบอก”

“พี่สิงห์เค้าไม่ทำอะไรมึงใช่ป่าว” ปิง

“ทำ พี่จ๋าปุ๊ๆ ตรงนี้ กัดด้วย” นะโมใช้นิ้วจิ้มไปที่ปากตัวเองเบาๆ

“โอ้ยยใจกู อิปิงจับกูทีกูจะล้ม” ส้มทำท่าจะเป็นลมล้มพับ



...



วันศุกร์ 15.30น



“เก็บของเสร็จรึยังไอ้เอ๋อ” ปิงเดินกลับมาจากไปส่งสมุดการบ้านเอ่ยถามคนตัวเล็ก

“อื้อเสร็จแล้วรอปิงปิงนี่แหละ”

“เออ ไปกัน แล้วอิส้มเน่าละ”

“ส้มส้ม ไปซื้อน้ำ ส้มส้มบอกว่าให้ไปเจอที่สนามบาสเลย”

“เออ ไปๆ เดี๋ยวพวกมันรอ” วันนี้พวกเขานัดกันมาเล่นบาส ซึ่งนะโมโทรไปขอสิงห์แล้วสิงห์อนุญาตเพราะอยากให้น้องได้เที่ยวเล่นบ้าง ทั้งคู่เดินไปที่สนามบาสหลังโรงเรียน ระหว่างทางเจอเนมที่เดินออกมาจากห้องวิชาการพอดีก็เลยชวนมาเล่นด้วยพออยู่กันครบแก้งก็เลยสนุกทั้งสนามมีแต่เสียงหัวเราะเสียงโวยวายเพราะคนตัวเล็กดันอยากจะลองเล่นบ้าง

“เราว่าเรามีพรสวรรค์ด้านนี้นะตัสตัส”

“พรสวรรค์ห่าไรละ มึงเล่นถือลูกแล้ววิ่ง ใครที่ไหนจะไปแย่งมึงได้!! ”

“งะ ตัสตัส ทำไมต้องอิจฉาเรา ตัสตัสทำแบบเราไม่ได้ใช่ไหมล่ะ -3- แล้วมาว่าเรานิสัยไม่ดี! ”

“เออ เอาที่มึงสบายใจ = =”



เล่นกันจนมืดและพากันกลับบ้าน ระหว่างทางก็แวะกินน้ำแข็งไส ให้สดชื่น

“พวกมึงเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบกันยัง?” ยิมเอ่ยถามขณะที่ทุกคนกำลังกินขนมหวานอย่างสบายใจ

“ตบปาก!! เวลามีความสุขใครเค้าให้พูดเรื่องนี้กัน” ส้มโวยวายใส่

“= = มึงนี่กูไง น้องยิมยิมเพื่อนมึงไง”

“ปากไม่เป็นมงคลกูไม่นับเป็นเพื่อน!! ”

“อย่าเก้วกราดใส่กูววว”

“ความจริงไอ้ยิมมันพูดขึ้นมาก็ดีละ เสาร์อาทิตย์ไปติวบ้านกูมะกูอ่านหนังสือคนเดียวเหง้าเหงา” เนมพูดแทรกขึ้นมา ทำเอาส้มถลึงตาใส่ทันที

“มึงรีบเหรออออ กว่าจะสอบอีกตั้งสองอาทิตย์” ส้ม

“แค่สองอาทิตย์มึงพูดใหม่ อิส้ม ขี้เกียจจนตัวเป็นขนแบบนี้จะหาผัวได้ไหม”

“อร้ายยยยย อิเนม อิผี!! กุจะตบมึง เอามัวมึงม๊า”

“อย่าทะเลาะกานนนน ส้มส้มอย่างดิ้น น้ำแข็งใสเราจะหก ส้มมมมมมมมมมมมมมมมมม”

“อิเนม มึงก็อย่าไปกวนมันดิ๊กูลำคาญเสียงมัน” ยิม

หลังจากสงครามเรื่องสอบจบบทสรุปที่ได้คือทุกคนจะไปอ่านหนังสือบ้านเนม และจะค้างคืนกันด้วย หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับหลังจากสิงห์มารับนะโม

“แน่ใจนะว่าไม่ให้พี่ไปส่งมันมืดแล้ว”

“ไปเหอะพี่พวกผมกลับกันเองดีกว่า บ้านอยู่คนละทางกันด้วย”

“แล้วส้มละผู้หญิงคนเดียวกลับเองอันตรายพี่ไปส่งดีกว่า”

“ไม่เป็นไรค่ะพี่สิงห์ ยิมกับส้มบ้านอยู่ทางเดียวกัน เดี๋ยวขึ้นสามล้อกลับ”

“อ่า งั้นแยกย้ายเนอะพี่ไปละ”

“ครับ/ค่ะ”



ณ บ้านสิงห์



“หนูมาอาบน้ำมา ตัวเหนียวเชียว” สิงห์เรียกน้องให้ไปอาบน้ำด้วยกัน คนตัวเล็กพยักหน้าก่อนจะเดินไปถอดเสื้อผ้าที่ห้องของตัวเอง สิงห์เองก็เช่นกันเขาถอดเสื้อออกจนไม่เหลืออะไรก่อนจะเอาผ้าขนหนูคาดเอวแล้วเดินไปรอน้องที่หน้าห้องน้ำ

“พี่จ๋า อยากดูหนัง” คนตัวเล็กเอ่ยขอขณะที่สิงห์กำลังถูสบู่ให้

“หนังเรื่องอะไรครับ”

“กัปตันอเมริกา นะนะ น้องอยากดู”

“ครับๆ ดูก็ดู ไหนหันหน้ามาหาพี่หน่อย” น้องหันหน้าไปทางเขาในมือถือเป็ดยางสีเหลืองเอาไว้

“งืออ -////- “สิงห์ถูสบู่ให้ทุกซอกทุกมุมไม่เว้นแม้แต่จุดซ่อนเร้น น้องก็ยืนเขินหน้าแดง รู้สึกอายทุกครั้งที่โดนสายตาของสิงห์จ้อง มันร้อนๆ หนาวๆ

“อะ ล้างน้ำแล้วออกไปแต่งตัวเลยนะครับ พี่อาบเสร็จจะตามออกไป” สิงห์บอกเสียงนุ่ม ในขณะที่ตัวเองกำลังบังคับจิตใจไม่ให้แกล้งน้องในห้องน้ำ เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะหันไปจัดการตัวเอง หลังจากที่น้องเดินออกไปแล้ว

“อะ อืมมม นะโมหนู อ๊า”

อยากใจแทบขาดแต่น้องดันบอกว่าอยากดูหนัง เขาไม่อยากบังคับน้องถึงได้อดทน

หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยเขาก็ไปหาแผ่นหนังที่ว่าเพื่อมาเปิดให้น้องระหว่างที่หาอยู่นั้น จู่ๆ น้องก็เดินมาหา แล้วยื่นอะไรบางอย่างให้ดู

“พี่จ๋า นี่”

“บัตรประชาชน? เอามาให้พี่ทำไมครับ”

“ของน้อง ดูๆ วัน วันเกิดสิ”

“อ่า 17ธันวา”

“อื้อ วันเกิดน้องๆ” คนตัวเล็กพูดด้วยสีหน้าที่มีความหวัง อยากจะมีงานวันเกิดกับเขาบ้าง เพราะทุกๆ ปีหลวงตาจะให้เค้กก้อนเล็กๆ ที่ฝากเด็กวัดซื้อมาจาก7/11

“หึหึ วันเกิดหนูอยากได้อะไรครับ” สิงห์ดึงน้องมากอดเอาไว้แล้วพาไปนั่งบนโซฟา น้องนั่งอยู่บนตักเขาแล้วทำหน้าครุ่นคิด

“ไม่รู้ น้องไม่เคยได้อะไร ตะ แต่ แต่ ว่าหลวงตาจะซื้อเค้กให้น้องในวันนี้ แล้วก็ แล้วก็สวดมนต์ให้พร น้องจะได้ไปปล่อยปลา สวดมนต์ ด้วย”

“อ่า อย่างนั้นเหรอครับ เอาไว้ถึงวันเกิดหนูแล้วพี่จ๋าจะให้ของขวัญนะ”

“จริงนะ จริงๆ นะ เย้ๆ ๆ ๆ ๆ ของขวัญๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” รอยยิ้มของคนตรงหน้าทำให้หัวใจของสิงห์ชุ่มชื้น เขามองน้องด้วยสายตาละมุนและอบอุ่น อะไรที่น้องอยากได้เขาจะหามาให้

“มาเจอแล้ว หนังที่อยากดู” เขาหยิบแผ่นซีดีขึ้นมาโชว์แล้วใส่แผ่นลงกับเครื่องเล่นซีดี ก่อนจะจูงมือน้องไปนั่งดูที่โซฟา ดูไปได้สักพักท้องดันร้องขึ้นมาเพราะลืมไปว่ายังไม่ได้กินข้าวเย็น

“อ่า หิว หิว” น้องร้องออกมาเบาๆ ก่อนจะเอามือลูบท้องตัวเอง สิ่งที่พอจะทำได้ตอนนี้ก็มีแต่เมนูไข่

“กินไข่ดาวไหม หรทอไข่ตุ๋นดี” สิงห์เสนอ

“ไข่ตุ่น ไข่ตุ๋น น้องทำได้ๆ”

“หึหึ ครับงั้นเราไปช่วยกันทำดีกว่าเนอะ จะได้เสร็จไวๆ”

“อื้อ”

เดินตามกันมาที่ครัว สิงห์หยิบไข่ กุ้ง หมูสับ แล้วก็ต้นหอมออกจากตู้เย็น

“หนูล้างกุ้งให้พี่ทีนะครับ”

“ได้คร๊าบบ” นะโมรับคำเสียงใส่ก่อนจะเอากุ้งไปแกะเปลือกและล้างส่งให้สิงห์หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ส่วนนะโมก็รับหน้าที่ตีไข่ งานถนัดเขาแหละ กรองไข่หนึ่งรอบ ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันปรุงรส พร้อมกับแรปปิดปากถ้วยที่เจาะรูระบายเอาไว้ แล้วก็เอาใส่ถ้วยที่มีน้ำรองก่อนจะเอาเข้าไมโครเวฟโดยใช้ไฟอ่อนแค่สิบนาทีก็ได้กินแล้ว



10 นาทีต่อมา

“*0*หูวววววววววววววววววว น่ากิน”

“หึหึ ...ไปตักข้าวมาสิครับจะได้กินกัน เดี๋ยวยกไปที่โต๊ะหน้าทีวีเลยก็ได้ครับ”

“ค๊าบ” พูดจบก็วิ่งปรู๊ดไปตักข้าวมาสองจานพูนๆ แล้วเดินไปที่โต๊ะหน้าทีวี สิงห์เดินไปหยิบน้ำส้มแช่เย็นออกมาพร้อมกับแก้วสองใบ เมื่อทุกอย่างพร้อมทั้งคู่ก็ลงมือกินข้าวพร้อมกับดูหนังไปด้วย มันอาจจะเป็นแค่เรื่องธรรมดาสำหรับบางคนแต่สำหรับน้องมันคือสิ่งที่ทำให้น้องมีความสุขมาก แค่เวลาสั้นที่อยู่ด้วยกัน แค่นั้นก็พอแล้ว

“กัปต้านนนนนนนนนนน อย่าไป อย่าไป!!! ”

“ฮ่าๆ ใจเย็นครับกัปตันเค้าจะไปช่วยลุงโทนี่ไง ใจเย็นนะ” สิงห์ขำก๊ากกับรีแอคของน้อง

“อ่าหรอ น้องไม่รู้ น้องกลัวกัปตันตาย”

พอกินอิ่มหนังตาก็หย่อน เป็นธรรมดา หนังตานุ่มค่อยๆ ปิดลงช้าๆ จนมันแนบสนิท แพขนตายาวทาบทับกับพวงแก้มนิ่ม สักพักก็ได้ยินเสียงกรนเบาๆ จนคนพี่หันมามอง

“กินอิ่มนอนหลับ สบายจริงๆ เลยนะตัวแสบ” สิงห์มองน้องแล้วยิ้มออกมา เขาค่อยๆ ลุกจากโซฟา แล้วเก็บจานที่กินข้าวเอาไปล้างก่อนจะกลับมาปิดทีวีและปิดไฟ ล็อกประตูบ้านให้เรียบร้อยแล้วเดินมาช้อนตัวน้องขึ้นแนบอก พากลับไปนอนที่ห้อง

ห่มผ้าห่มให้แล้วมุดตัวเข้าไปนอน เขาดึงอีกคนให้เข้าสู่อ้อมกอดก่อนที่เขาจะจมสู่ห้วงนิทราเช่นกัน



7.30 น.



นะโมตื่นแต่มาทำงานบ้านเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ที่ไม่ต้องไปโรงเรียน สิงห์ก็ไม่ได้ไปทำงาน ร่างสูงแพลนเอาไว้แล้วว่าวันนี้เขาจะพาน้องไปเที่ยว แต่ทว่าตื่นมาเขาก็เจอกระเป๋าเสื้อผ้าวางไว้ที่ปลายเตียง

“ของใคร?”



พอล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยก็เดินออกมา เจอน้องพึ่งเดินกลับเข้ามาในมือมีถุงหิ้วพะลุงพะรัง

“หืม นั่นอะไรครับ” เขาถามพร้อกับเดินไปช่วยถือ

“อ๋อออ ของทำกับข้าวครับ วันนี้น้องจะทำกับข้าวให้พี่จ๋ากิน” น้องบอกกับเขาด้วยรอยยิ้มสดใส แต่แอบมีสายตาหลุกหลิกราวกับกำลังปิดซ่อนอะไรไว้และร่างสูงก็จับสังเกตได้ และที่สำคัญมันต้องเกี่ยวกับกระเป๋าเสื้อผ้าในห้องแน่ๆ

“แล้ววันนี้จะทำเมนูอะไรให้พี่กินเอ่ย?” สิงห์วางของทั้งหมดลงบนเค้าเตอร์

“ไข่พะโล้ครับ^-^”

“อะ อ่อ พี่นี่ไม่น่าถามเลยเนอะ แล้วมีอย่างอื่นอีกไหม?”

“มีครับ หมูสามชั้นทอดน้ำปลา น้องศึกษาจากคุณยูทูปเมื่อเช้าครับ”



จะหมู่หรือจะจ่า งานนี้ต้องโทษยูทูปอย่างเดียว

สิงห์ปล่อยให้น้องทำกับข้าวตามลำพังส่วนตัวเองก็ไปลากกระเป๋าใบนั้นออกมาวางไว้ที่หน้าบ้าน สายตาคมกริบจ้องด้านหลังที่กำลังง่วนอยู่กับการทำกับข้าว คนตัวเล็กทำไปดูยูทูปไป มีเกาหัวงงๆ บ้าง เพราะน้องไม่ได้ถนัดด้านนี้สักเท่าไหร่ มีบางจังหวะที่น้องหันมาสบตากับเขา

“ฮี่ๆ รอน้องแปปนะครับ” องหันมายิ้มยิงฟันขาวใส่เขา หึหึ นี่ยังไม่รู้สินะว่าเขากำลังจะโกรธ เรื่องกระเป๋าใบนี้ เขากำลังรอให้น้องพูดเรื่องกระเป๋าอย่างใจเย็น

ผ่านไปเกือบชั่วโมงกับการลงครัวของคนตัวเล็ก เล่นเอาเหงื่อตก แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับคนลงมือทำ เพราะได้ไข่พะโล้มาหม้อใหญ่กินได้หลายวัน กับหมูสามชั้นอีกจานพูนๆ นะโมยืนปาดเหงื่อก่อนจะเดินไปหาสิงห์ที่นั่งรออยู่

“พะ..พี่ อ่าวกระเป๋าน้อง” นะโมยืนนิ่งอยู่หน้ากระเป๋าตัวเองแล้วมองไปที่สิงห์

“ครับกระเป๋าพร้อมกับเสื้อผ้า จะหนีออกจากบ้านเหรอครับ?” แม้น้ำเสียงจะไม่ได้ดุอะไรแต่สีหน้านั้นบอกได้เลยว่าเขากำลังหงุดหงิด

“อะ เอ่อ ปะ ป่าวครับ คือว่า พี่จ๋า คือ น้องจะไปค้างบ้านเนมเนมครับ>_<” น้องแทบจะตะโกนออกมาเพราะกลัวสายตาดุๆ ของเขา สองมือกำชายเสื้อตัวเองแน่น

“อะไรนะ!!!! ”

“คะ คือ น้องจะไปอ่านหนังสือ เตรียมสอบกันครับ”

“....”

“ให้น้องไปนะ นะน้า นะครับ” นะโมพูดเสียงอ้อนหวังว่าคนพี่จะอนุญาตให้ไปค้างบ้านเพื่อน

“จะไปวันไหนครับ” เขากดเสียงต่ำ

“วะ วันนี้ คะ ครับ”

“ห๊ะ!! นี่ล้อพี่เล่นใช่ไหมครับ” สิงห์พยายามจะไม่โวยวาย เพราะที่น้องขอมันก็มีเหตุผล แต่ว่าเขาก็อยากอยู่กับน้องบ้างอะไรบ้างยิ่งช่วงนี้งานก็เยอะเวลาที่จะอยู่ด้วยกันก็น้อยลง เขาไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะไปรับไปส่งน้องได้บ่อยเท่าเมื่อก่อน แค่นี้เขาก้ใจจะขาดแล้ว

“ปะ ป่าวครับ งื้ออ อย่าทำหน้าดุน้องสิ” คนตัวเล็กไม่รู้ว่าจะทำยังไงไม่ให้สิงห์โกรธไปมากกว่านี้

จุ๊บ!!!

“ไม่โกรธได้ไหมครับ นะน้า” จู่ๆ ร่างสูงก็โดนจุ๊บที่ปากเบาๆ แล้วผละออก

“.....” โกรธจนหัวจะไหม้แต่ทำอะไรไม่ได้ แพ้ แพ้ทุกที!



“น้องจะรีบกลับมานะครับ”

“เห้อออ แล้วพี่ทำอะไรได้บ้างวะ หวงนะเว้ยย ไม่ไปไม่ได้เหรอ พาเพื่อนมาติวที่นี่ นะครับ” นี่เสือกำลังอ้อนกระต่ายอยู่ใช่ไหม!!

“ไม่ให้พี่ไปส่งจริงเหรอ”

“อื้อ ไม่ต้องไปส่ง พี่จ๋าจะเหนื่อย เดี๋ยวปิงปิงจะมารับ”

“ก็ได้ครับ เห้ออออออออออออ”

ถอนหายใจเป็นร้อยรอบน้องก็ไม่กลับมานอนด้วยแน่นอน....



เซ็งโว้ยยยยยยยยยยยยย เมียไม่นอนด้วย!



++++++++++++++++++++++++

ตอนหน้าจะมาเข้าปมเรื่องครอบครัวน้องนะคะ ส่วนตอนนี้ เชิญหัวเราะเยาะอิพี่มันไปก่อนนะคะ











หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.40 16/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 16-12-2018 11:04:56
น้องน่ารักมีอ้อนของานวันเกิดด้วย
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.40 16/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-12-2018 11:33:06
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.40 16/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-12-2018 11:47:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.40 16/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 16-12-2018 17:14:39
พี่สิงห์เหี่ยวเฉาแล้วมั้ง555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.40 16/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-12-2018 19:27:09
อย่าเก้วกราดใส่กูววว ------  เกรี้ยวกราด
ลำคาญ  ------  รำคาญ

นะโม จะเจอครอบครัวแล้ว  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.40 16/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-12-2018 22:55:37
เหมือน ๆ อีพี่จะโดนน้องแก้เผ็ด เอ..... หรือจะคิดมากไป อีน้องคงไม่คิดอะไรร้าย ๆ แบบนั้นหรอก  o18
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.40 16/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-12-2018 00:22:40
เมียหนี
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.40 16/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 19-12-2018 00:53:24
 :laugh:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.40 16/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: Cyclopbee ที่ 19-12-2018 13:08:18
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.41 23/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 23-12-2018 09:49:13
41



องครักษ์พิทักษ์เอ๋อ (6)

8.30น

เนม ภิภพ

“อยู่ไหนกันแล้ววะ”

ปิง

“กูมารับไอ้เอ๋ออยู่บ้านมันเนี้ยะ กำลังไป”

“เออ มึงบอกแม่บ้านไม่ต้องทำกับข้าวนะ”

เนม ภิภพ


“ไมวะ”
ปิง

“ลูกมึงทำกับข้าวมาเผื่อ”

ซีตัสคนจริง

ท้องจะเสียไหม?

นะโม

ตัสตัส เราทำอร่อยนะ

ปิง

อร่อยจริงกูชิมแล้ว

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

“คนสวยกำลังนั่งวินไปบ้านอิเนมแล้วนะคร้า”

“เตรียมข้าวไว้ให้แดกด้วย”

“กูหิว!! ”

นะโม

ส้มส้มทำไมพูดไม่เพราะ!
Yimmy

“อย่างมึงนี่นะหิว เค้าเรียกตะกละ อิส้ม”

“แดกบ้านกูแล้วยังจะไปแดกบ้านไอ้เนมอีก”

“ปอบลงกระเพาะมึงเราอะ”

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

“เอ๊ะอิยิม มึงจะขัดกูทำไม!! ”

Yimmy

อิปอบบบบบบ

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม


อิค๊วายยยยยย!!

ซีตัส คนจริง

พวกมึงนี่เหมือนผัวเมียทะเลาะกันเลยเนอะ -_- “

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

“อิตัส ตบปากเดี๋ยวนี้ ผัวเมียไร ขนลุก!! ”

นะโม

ส้มส้ม ไม่ชอบยิมยิมหรอ?

ยิมยิมนิสัยดีนะ

Yimmy

“.....”

เนม ภิภพ

“ลูกมึงเชียร์แล้วส้ม มึงอย่าปล่อยโอกาสการมีผัวไปเชียวนะ”

“ถ้าไม่รีบคว้าไว้ มึงมีโอกาสขึ้นคานสูงมาก”

ปิง

“กูเห็นด้วย”

ซีตัสคนจริง

“เนี้ยะมึง เพื่อนช่วยขนาดนี้แล้ว”

นะโม

ส้มส้ม ยิมยิม นิสันดีมากๆ นะ
อย่าเกลียดยิมยิมเลย

อย่างน้อยๆ ส้มส้มก็น่าจะเห็นใจตอนที่กินข้าวของยิมยิมบ้างนะ



ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

“อย่า มา ยุ่ง กับ กูววววววววววววววววววววววววว”

ปิง

55555555555555

ซีตัสคนจริง

“มึงเขินอยุ่ละสิ อิส้มเน่า นี่คงบิดจนตัวเป็นเลขแปด”

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

สู่รู้!!

นะโม

เราก็รู้นะส้มส้ม เราชอบเห็น

ส้มส้มหน้าแดงเวลายิมยิมมาหา
ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อิลู๊กกกก มึงไปเห็นตอนหนายย



ซีตัสคนจริง

เค้าเรียกว่าเสือกอย่างมีสไตล์

เนม ภิภพ

พบคนซุ่มหนึ่งอัตตรา อ่านอย่างเดียว

ลุ้นอยู่ละสิมึง

Yimmy

เสือกเก่ง



นะโม

เราจะถึงบ้านเนมเนมแล้ว

บ้านหลังสีฟ้าๆ ใช่ไหม?

เนม ภิภพ

“เออ เอารถเข้ามาจอดข้างในเลย”

“อิส้ม ไอ้ยิม มึงยังไม่ถึงอีกเหรอ”

Yimmy

“กูแวะเซเว่นหน้าปากซอยอยู่”

“พวกมึงจะเอาอะไรไหม?”

ปิง

เครื่องดื่มบำรุงกำลัง

ลิโพ กระทิงแดง เอ็มร้อย คาราบาว เอามาอย่างละสองขวด”

“เปปทีน แบรนซุปไก่”

นะโม

*0*

จะกินยังไงหมดเนี้ยะ!!
“ยิมยิม เซเว่นมีขนมเยอะไหม ( ‘_ ‘) ?”

Yimmy

“ก็ เยอะ ทำไมวะ”

นะโม

เราไม่เคยเข้า (_ _”)

เนม ภิภพ

“เห้ยพูดจริง งั้นเดี๋ยวคืนนี้กูพาไปเที่ยวเซเว่น”

นะโม

*0* เนมเนมใจดี




เมื่อทุกคนมากันครบ เนมก็สั่งให้แม่บ้านตั้งโต๊ะโดยที่มีกับข้าวของนะโมอยู่ในนั้นด้วย ถึงแม้รสมือจะไม่ได้เท่ากับแม่ครัวที่บ้านเนมทำแต่ก็พอกินได้ ไม่ได้แย่เหมือนเมื่อก่อน และก็เหมือนเดิมพะโล้ขายดีสุด เพราะคนทำเล่นฟาดไข่เรียบหมด เหลือแต่น้ำกับหมูสามชั้นไว้ให้เพื่อนคนละชิ้นสองชิ้น ดีที่มีกับข้างอย่างอื่นบนโต๊ะไม่อย่างนั้น พวกเขาคงต้องซดน้ำแกงกินกับข้าวเปล่าแทน

บ้านเนมเป็นบ้านเดี่ยวในหมู่บ้านจัดสรรใกล้กับตัวเมือง บ้านหลังใหญ่ที่มีเขากับแม่บ้านและบอดี้การ์ดสองอาศัยอยู่เท่านั้น ภายในตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่ก็ดูหรูหรา มีรูปพ่อกับแม่ของเนมติดอยู่บนกำแพงตรงทางขึ้นบันได เนมบอกให้แม่บ้านจัดห้องนอนให้เพื่อนๆ ที่จะมาค้างด้วยในวันนี้แล้วให้พวกเขายกกระเป๋าขึ้นไปเก็บข้างบน จากนั้นก็ขนหนังสือมานั่งอ่านกันที่ห้องนั่งเล่นโดยแบ่งวิชาที่ถนัดของแต่คนช่วยติวให้กับคนอื่นๆ นะโมถนัดวิชาภาษาอังกฤษเป็นพิเศษทุกคนเลยเลือกนะโมเป็นคนสอน ยิมถนัดเลข ซีตัสถนัดฟิสิก ปิงถนัด ชีวะ เนมถนัด เคมี ส้มถนัดวิชาภาษาไทย ทุกคนโดนยึดมือถือกันหมดเพราะจะทำให้เสียสมาธิ หลังจากนั้น ช่วยกันอ่านช่วยกันติวไปสักพัก นะโมเริ่มจะขี้เกียจ กายบางเอนตัวลงนอนราบกับพื้นพรมนุ่มๆ ก่อนจะอ้าปากหาวออกมา

“งือออ เราง่วงแล้วอ่า เนมเนม พักก่อนได้ไหม T^T”

“เห้อ พักก็พัก ใกล้เที่ยงแล้วด้วย” ไม่รู่ว่าเพราะอะไร เวลาเป็นนะโมขอหรืออ้อนเขาจะใจอ่อนทุกครั้งไป

“เออ พักเหอะกูปวดหัวละ แมร่งยัดอะไรลงใส่สมองกูเต็มไปหมด” ปิงบ่นพร้อมกับหลายหลังนอนตามนะโมไปอีกคน

“แล้วกลางวันจะกินอะไรกัน ตามสั่งไหม กูจะได้โทรสั่งไว้เลย” เนมถาม

“ก็ได้นะมึง ง่ายดี” ซีตัสลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางเอาไว้บนโต๊ะหน้าทีวี

“หืม ไอ้เอ๋อพี่สิงห์โทรมา” ซีตัสชูโทรศัพท์ที่มีสายเข้าให้ดู

“อ๊า พี่จ๋า พี่จ๋า” มันรีบลุกแล้ววิ่งมารับสายทันที



....10 นาที ต่อมา

“ทุกคน พี่จ๋าบอกว่าไม่ต้องสั่งข้าวนะ เดี๋ยวพี่จ๋าสั่ง อะ เอม เอมอาไรน้า หื้ออ เอม เอม งื้ออ เราลืม”

“เอ็มเค?” เนม

“อื้อ ใช่ๆ เอ็มเค” คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงัก ส่งรอยยิ้มแป้นให้ เนมมองแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้ เขาคิดว่าทำไมคนคนนี้ถึงได้น่ารักแบบนี้

รอไม่นานสิงห์ก็มาพร้อมกับชุดสุกี้เอ็มเค? ถุงละห้าสิบบาท จำนวนสิบถุงสั่งพิเศษเครื่องให้หมด

“-*- พี่สิงห์ นีทมันสุกี้ร้านป้าแจ้สในตลาดไม่ใช่เหรอ ไหนไอ้เอ๋อบอกพี่สั่งเอ็มเคมาให้กิน” เนมมองถุงสุกี้ในมือแล้วหันไปถามคนที่มาใหม่ ด้วยความสงสัย

“อร่อยกว่าเอ็มเค ก็ร้านป้าแจ๊สไง” สิงห์บอกด้วยน้ำเสียงกวนๆ

“แบบนี้ก็ได้เหรอพี่ รวยก็รวยทำไมงก” ปิงประชด

“กูจะเก็บเงินไว้เลี้ยงเมีย มึงมีปัญหาอะไรกะกูไหม” สิงห์พูดไปแกะสุกี้ใส่ชามให้น้องไป

“ไม่ได้ชื่อนะโม ไม่มีสิทธิพูดนะครับผ้มมมม” ยิมหัวเราะลั่นพร้อมกับถือชามสุกี้ตัวเองออกไปนั่งกินที่ห้องรับแขกกับคนอื่นๆ น้องยืนรออยู่ข้างๆ สิงห์ ใบหน้าหวานๆ แก้มป่องๆ กำลังมองการกระทำของสิงห์ ด้วยความสุขใจ สุขใจที่ได้อยู่ใกล้ๆ สุขใจที่คนพี่ทำอะไรต่างๆ มากมายให้

“อะ เสร็จแล้ว เรายกไปกินกับเพื่อนนะ พี่จะแกะขนมใส่จาน” สิงห์บอกกับน้องด้วยเสียงนุ่มๆ รอยยิ้มของเขาแค่มองก็อบอุ่นแล้ว นะโมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเขย่งตัวขึ้นหอมแก้มสากๆ ของเขา

ฟอด!!

“ (^///^) รางวัลของคนน่ารักครับ” นะโมพูดยิ้มๆ ก่อนจะรีบหันหลังเดินหนีเขาไปหาเพื่อนๆ ที่นั่งกินข้าวอยู่

“เด็กบ้า” สิงห์ได้แต่ยืนกลั้นยิ้ม เหมือนคนบ้า กว่าจะตั้งสติได้เล่นเอาเสียเวลาไปหลายนาที เขาแกะขนมที่ซื้อมาใส่จานแล้วยกไปให้เด็กๆ ที่นั่งรออยู่ ร่างสูงมองทุกคนกินขนมที่เอามาให้อย่างเอร็ดอร่อย โดยเฉพาะคนของตัวเองที่เคี้ยวจนแก้มตุ่ย เห็นแล้วอยากพากลับบ้านสะเดี๋ยวนี้

“พี่จ๋ากินไหมน้องป้อน” น้องยื่นคุกกี้ผลไม้ให้เขา สิงห์ยิ้มก่อนจะงับคุกกี้ที่น้องป้อน โดยจงใจใช้ลิ้นของตัวเองเลียนิ้วของน้อง พอเห็นใบหน้าหวานเขินอายเขาก็ยกยิ้มอย่างพอใจ

“หึ..ทำอะไรก็เกรงใจเจ้าของบ้านมั่งก็ได้นะพี่” ไม่ใช่สิงห์ที่พูดเสียงกึ่งประชด แต่เป็นเนมที่หันไปเห็นพอดี คิ้วเรียวขมวดยุ่งจู่ๆ เขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา รู้สึกไม่ชอบที่เห็นสายตาของสิงห์ที่ใช้มองนะโม มันไม่อาการหึง แต่มันเป็นอาการหวง เขาไม่ชอบสายตากระลิ้ม กระเรียของสิงห์ มันเหมือนการคุกความทางสายตา

“....”

“นะโมมันยังเด็ก”

“มันอายุเยอะกว่ามึงอีกไอ้เนม เด็กห่าไร” ซีตัสพูดแล้วดึงแก้มป่องๆ ของนะโมด้วยความมันเขี้ยว

“อื้อ ใช่เรานะ อายุ สิบเก้าแล้ว อีก สามวันก็ยี่สิบ ทุกคนต้องเรียกเราว่าพี่! ” คนตัวเล็กบอก พร้อมกับยืดตังขึ้นนิดๆ ปากเล็กขยับมุบมิบ

“อ่าว เหรอ นะโมจะอายุยี่สิบแล้ว”

“นี่มึงไม่รู้เลย” ปิงถามพร้อมกับทำหน้าไม่เชื่อ

“ลูกกูบรรลุนิติภาวะจนมีผัวก่อนใคร มึงจะมาหวงอะไรตอนนี้ไม่ทันแล้วมั้ง ฮ่าๆ” ส้มหัวเราะเพราะเห็นสีหน้าของเนมแล้วตลก

“นึกว่ามันเป็นพี่ที่หายไปของมึงไง” ซีตัสแซว เหมือนไม่ได้คิดอะไร แต่พอมองรูปพ่อของเนมกับใบหน้าของนะโมก็มีส่วนคล้ายอยู่บ้าง เขาเลยเอ่ยถามเรื่องพี่ชายของเนมที่ตามหากันอยู่

“เออพูดถึงเรื่องพี่ชายมึง เรื่องมันไปถึงไหนแล้ววะ” เรื่องของพี่ชายเนมทำให้ทุกคนสนใจแม้กระทั่งสิงห์ก็ตั้งใจฟังด้วยเหมือนกัน

“เห้ออ แมร่งเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ที่กุรู้ตอนนี้คือ ญาติคนสุดท้ายของพี่ชายกูเขาตายไปแล้ว”

“ตายแล้ว? ใครวะ” ยิมพูด

“แกเป็นพระอยู่ที่วัดใกล้ๆ นี่แหละ พึ่งเสียไปได้ไม่นาน นักสืบเขาไปช้าแค่ไม่กี่วันเอง”

“น่าเสียดาย อีกแค่นิดเดียวเอง” ยิม

“อืม ตอนนี้เหลือแค่ สร้อยที่เป็นหลักฐานเพียงชิ้นเดียวที่จะยืนยันตัวตนของพี่กูได้” เนมดึงสร้อยที่ตัวเองสวมเอาไว้ตลอดออกมาให้ทุกคนดู สร้อยที่ทำให้สิงห์ชะงักไปนิด แววตาคมจ้องมองไปยังสร้อยที่แสนจะคุ้นตา

“สมมุตินะมึงถ้ามึงเจอพี่ชายมึงจะทำยังไงต่อ” ซีตัส

“ก็พากลับไปหาพ่อที่เมกา แล้วคงให้อยู่ที่นู้นเลย กูก็ย้ายกลับไปเรียนที่นู้น เพราะบ้านของพวกกูอยู่นั่น”

“งี้ ก็ไม่กลับมาแล้วดิ” ปิง

“อืม ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น” สิ้นคำของเนมสิงห์ใจกระตุก เขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้เส้นเดียวกันไหม แต่เขาก็แอบหวังว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิด ถ้าน้องเป็นพี่ชายของเนมจริงๆ เขาคงทำอะไรไม่ได้ เพราะเนมเป็นคนในครอบครัว กับเขาที่เป็นแค่คนรัก สิงห์เก็บสีหน้าที่เป็นกังวลเอาไว้ ก่อนจะอาสาติวให้เด็กๆ แทน

“พี่สิงห์ติวเข้าใจง่ายกว่าอ่านเองอีก” ส้มพูดออกมาจากใจจริงเพราะโจทย์ที่แก้อยู่นานสองนานก็แก้ไม่ได้พอสิงห์บอกเทคนิคให้ก็แก้ได้โดยง่าย นะโมเองก็ด้วย จากที่คณิตศาสตร์ไม่เคยเข้าสมอง วันนี้กลับทำโจทย์ได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งเพื่อนๆ เลย และเริ่มคิดว่าเลขมันง่ายกว่าที่คิด

ตกเย็นทุกคนพักสมองโดยการนั่งเล่นเกมเศรษฐีและแน่นอนคนที่ล้มละลายคนแรก

“ย๊ากกกกกกกกก เนมเนม บ้านเรา บ้านเราม้ายยย” เสียงร้องโวยวายดังลั่นห้องนั่งเล่น ทุกคนหัวเราะเสียงดังกับท่าทีของเพื่อนต่างวัยคนนี้

“ล้มละลายแล้วครับ เพื่อนเอ๋อออออ” เนมหัวเราะเยาะ

“เนมเนม! ไอ้คนทรยศ ไหนบอกจะช่วยเราไง -3-”

เล่นกันได้สักพักก็เริ่มหิว เนมเลยบอกให้ป้าแม่บ้านตั้งโต๊ะกินมื้อเย็น สิงห์ไม่มีทีท่าว่าจะกลับบ้านแต่อย่างใด

“พี่จ่าไม่กลับบ้านเหรอครับ?” นะโมเอียงคอถามขณะที่กำลังจะเตรียมตัวอาบน้ำ

“ไม่ครับ พี่จะนอนนี่ ^^”

“หืออ นะ..นอนที่นี่?” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ก่อนที่หน้าขาวๆ จะขึ้นริ้วสีแดง คนตัวสูงขยันทำให้คนน้องใจเต้นแรงได้ทุกที นะโมหันหลังไปกลั้นยิ้มดีใจมากจนอยากจะกระโดดกอดคนตัวสูง

“ครับนอนที่นี่ กับ หนูไง”

“-////- “

“พี่จะนอนนี่อ่อ แล้วเสื้อผ้าอะ” ซีตัสที่เดินเข้ามาได้ยินเขาพอดีก็ถามคนตัวสูงทันที เพราะสิงห์มาแต่ตัว

“อยู่ที่รถยังไม่ได้เอาลงมา”

“ง่อววว แสดงว่าเตรียมตัวมาดีกะมานอนกะน้องอยู่แล้วใช่ปะ”

“อืม ใครจะปล่อยเมียให้ไปนอนบ้านคนอื่นคนเดียวละ”

“หวง พูดงี้พี่”

“หึหึ อาบน้ำเสร็จแล้วใช่ไหม พี่จะลงไปเอาเสื้อผ้าที่รถ”

“อืมผมอาบดป็นคนสุดท้าย แล้วมึงละไอ้เอ๋อน้ำจะไม่อาบรึไง?”

“เดี๋ยวมันอาบพร้อทพี่”

“หือออออออออ” ซีตัสลากเสียงยาวก่อนจะมองหน้าคนทั้งสองแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม

“งะ เอ่อ ตัสตัสทำไมมองเราแบบนั้น -//-”

“ไงก็เบาๆ นะพี่ ที่นี่ไม่ใช่บ้านเรา หึหึ”



เบื่อคนรู้มาก!!

แม้ว่าการอาบน้ำครั้งนี้พวกเขาจะไม่ได้ทำอะไร แต่ก็ไม่วายโดนแซว เพราะรอยที่หลังคอของคนตัวเล็กก็เด่นจนเตะตาทุกคน เมื่อทำภารกิจส่วนตัวกันเรียบทุกคนก็เริ่มการอ่านหนังสืออีกครั้ง โดยมีติวเต้อชั้นดีคอยบอกคอยสอน จนกระทั่งร่างกายเริ่มส่งเสียงประท้วง ดึกแล้วแม่บ้านก็นอนกันหมด ไม่มีใครตื่นมาทำมื้อดึกให้กินแน่ๆ สิงห์เลยอาสาจะไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อหน้าหมู่บ้านให้ แต่ไม่รู้ตกลงกันยังไง ยกโขยงกันมาหมด

“ปะ เอ๋อเดี๋ยวพาไปเที่ยว” ยิมบอกคนที่นอนแผ่เป็นปลาหมึกตากแห้งอยู่บนพรมนุ่ม

“ไปเที่ยวววววววว*0*” พอได้ยินว่าจะพาไปเที่ยวนะโมก็ลุกพรวด พร้อมกับทำตาโต

“หึหึ เออไปเที่ยว มีของกินเยอะแยะ แอร์เย็นด้วย ไปไหม?”

“ไปๆ ๆ ๆ พี่จ๋า...” นะโมวิ่งไปหาคนพี่ที่กำลังเตรียมตัวออกไปซื้อของกินกับพวกเด็กๆ

“หึหึ ว่าไงครับ” สิงห์หัวเราะเบาๆ กับสีหน้าตื่นเต้นของคนน้อง ที่มาพร้อมกับสายตาอ้อนๆ ว่าอยากไปด้วย

“ไปเที่ยวกันหรอ พาน้องไปด้วยนะๆ” ส่งสายตาอ้อนไม่พอยังเอาหัวมาถูไหล่เขาอีก ก็บอกว่าเขาแพ้ แพ้ แมวอ้อน ไง!!

“ได้สิ แต่ว่า เราไปแค่ เซเว่น น่าปากซอยเองนะครับ”

“อื้อ แค่ได้ไปน้องก็ดีใจแล้ว” เพราะไม่ค่อยได้เข้าไปซื้อของในนั้น ด้วยเหตุที่ว่า เมื่อก่อนไม่มีเงินพอที่จะซื้อของในนั้น น้องเลยไม่กล้าเข้า ได้แต่ยืนมองจากด้านนอกเอาเท่านั้น แต่ตอนนี้ น้องมีเงินค่าขนมที่สิงห์ให้แล้ว ถึงได้อยากจะเข้าไปบ่อยๆ พอได้รับคำอนุญาต รอยยิ้มหวานก็ปรากฏขึ้นอีกรอบ เล่นเอาอีกคนยิ้มตามจนหน้ายับ



...

“แยกย้ายกันซื้อนะแล้วเอามาวางไว้ที่เคาน์เตอ พี่จ่ายเอง” สิงห์พูดกับเด็กๆ ก่อนที่จะลงรถกัน

“สายเปย์ก็มา” ปิง

“หรืออยากจะจ่ายเอง?” สิงห์

“ไอ้ปิงเงียบปาก อิห่า ของฟรี ท่องไว้ของฟรี กูไม่ได้เอาตัวมา!! ” ส้มโวบวายใส่ปิงให้เลิกแซว

พอลงรถทุกคนก็แยกย้ายไปซื้อขนมตามที่ตัวเองอยากกิน สิงห์ปล่อยให้นะโมได้เลือกของกินตามลำพัง ส่วนตัวเขาก็เดินไปยังโซนกาแฟสดและสั่งกาแฟมากิน เพราะยังไงวันนี้ก้น่าจะนอนดึกกันทั้งหมด



“อื๊บๆ ไม่ถึง งื้ออ” นะโมกำลงัเอื้อมมือขึ้นไปหยิบนมที่อยุ่บนชั้นสูงกว่าที่มือจะเอื้อมถึง

“อะ นี่” กว่ารู้ตัวว่ามีคนยืนซ้อนหลังตัวเองอยู่ก็ตอนนมขวดนั้นถุกหยิบและยื่นส่งให้

“ขอบคุณครับ..งะ เอ่อ” รอยยิ้มหวานฉีกกว้างก่อนจะหุบลงช้าๆ เพราะคนที่หยิบนมให้ไม่ใช่คนที่ตนเองคิดไว้

“มาคนเดียวเหรอ?” ชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้น กำลังยิ้มให้กับคนตรงหน้า

“อะ คือ ป่าวครับ มะ มากับเพื่อน” บอกพร้อมกับชี้ไปที่เนม ที่กำลังเลือกขนมอยู่ไปไม่ไกล

“อ่า หน้าตาน่ารักจังเลย ชื่ออะไรเหรอเรา” เพราะรอยยิ้มที่ดูไม่เป็นอันตราย คนตัวเล็กเลยเผลอยิ้มตอบแล้วก็บอกชื่อของตัวเอง

“นะโมครับ”

“ชื่อก็น่ารัก พี่ชื่อ ดิวนะ”

“พี่ดิว ^^”

“หึหึ อยากกินอะไรเลือกเลยเดี๋ยวพี่ซื้อให้”

“จริงหรออ *0*” พอบอกว่าจะเลี้ยงน้องก็ทำตาลุกวาว

“^^ อื้อ พี่ดืวเลี้ยง”

“.....”

“เย้ๆ หนูซื้อเยอะๆ ได้ไหม?”

“ได้สิ”

“....”

ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาอำมหิตของใครบางคนจ้องมายังพวกเขา ร่างสูงของสิงห์แผ่รังสีทะมึนออกมาอย่างเงียบๆ ขายาวก้าวช้าๆ ราวกับยมทูตที่แผ่ไอแห่งความตายออกมาจากตัว คนแรกที่สัมผัสได้คือ เนม

“นะโม” เสียงเย็นเยียบเอ่ยเรียกคนของตัวเอง

“..อะ...T^T”

“เนมเรียก” เนมที่มองอยู่ถึงกับทำหน้า งง กูไปเรียกมันตอนไหน แต่พอเห็นสายตาของสิงห์

เออ กูเรียกก็ได้ ! เนมกวักมือเรียกนะโมให้เดินไปหาแล้วพอออกไปยังโซนอื่นแทน

“อ่า คุณคงเป็นพี่ชายของนะดมสินะครับ น้องน่ารักดีนะครับ”

“= =” คนที่ถูกหาว่าเป็นพี่ชาย มองดิวตาขวาง อีกไม่นานชะตาก็จะขาดด้วย

“คือ คุณพี่ชายครับ น้องนะโมมีแฟนรึยังครับ”

“ไม่มี” สิงห์ตอบเสียงเรียบ

“งั้นก็ดีเลย ผมขอจีบน้องพี่ได้ไหมครับ ^^”

“มันไม่มีแฟนหรอก มันมีแต่ผัว! ” สิงห์พุดสีหน้าที่เรียบนิ่ง พยายามจะไม่หัวร้อน

“ห๊ะ!! ”

“และผัวมันก็ยืนอยู่ตรงหน้ามึงนี่ไง เหอะ จะจีบมันเหรอ ถามผัวมันยัง?” สิงห์ใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มพร้อมกับมองดิวด้วยสายตาเอาเรื่อง

“ถ้ายังไม่อยากนอนหยอดน้ำข้าวต้ม มึงรีบไสหัวที่มีแต่สมองกลวงๆ ของมึงออกจากที่นี่ไป ก่อนที่มึงจะไม่ได้มีสมองไว้คั่นหู”

“......”

“กูเตือนเลยนะ ไปตัดแว่นซะคราวหน้าจะได้มองเห็นว่าคนเขามีเจ้าของแล้ว” น้ำเสียงกดต่ำของสิงห์ทำเอาอีกคนต้องแอบกลืนน้ำลายลงคอ

“...คะ ครับ.”

“ไปได้ละ”



++++++++++++++++++++



หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.41 23/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 23-12-2018 09:49:39
“ไงละมึง ส่วนสูงของมึงนี่หาตีนมาให้ชัดๆ” ปิงกระซิบข้างหูของนะโมเสียงเบา

“เราไม่รู้อะ ก็มันหยิบไม่ถึง พี่ดิวมาหยิบให้เอง” นะโมกระซิบตอบพร้อมกับทำหน้างุ้ยๆ บ่นมุบมิบ เพราะตัวเองไม่ผิด

“เรียกสิวะ พวกกูก็อยู่ใกล้ๆ”

“-3- ทำไมต้องว่าเราอะ”

“มึงดูหน้าผัวมึงด้วยลูก ดุกว่ายักษ์วัดแจ้งแล้ว กูกลัวว”

“เราไม่ผิดสักหน่อย-3- “

พอถึงบ้านต่างคนต่างลงจากรถและช่วยกันถือขนมเข้าบ้าน เว้นเสียแต่ใครบางคนที่ยังไม่ยอมขยับไปไหน คนตัวเล็กขยับเข้าไปใกล้ใครบางคนที่นั่งเงียบๆ ไม่พูดไม่จา

“รู้ใช่ไหมว่าทำอะไรผิด”

“งืออ น้องไม่ได้ทำอะไรผิดนะ” คนตัวเล็กเถียง

“ยังจะเถียงอีก ขยับมานั่งหน้ากับพี่” สิงห์ใช้น้ำเสียงดุๆ เอ่ยสั่งกับคนตัวเล็กที่แอบดื้อเงียบนั่งนิ่งไม่ขยับ จนเจอสายตาดุๆ จ้องมาถึงได้ลุกข้ามเบาะไปนั่งข้างๆ แต่ก็ยังทำแก้มพองลมยู่ปากแสดงอาการขัดใจ ก็ไม่ได้ทำผิดนี่ทำไมต้องดุด้วย!

มันน่าหงุดหงิด ใช้เขาหงุดหงิด หงุดหงิดตั้งแต่น้องมันยิ้มหวานใส่ไอ้คนชื่อดิวแล้ว อยากจะเดินไปตะบันหน้าไอ้คนที่บังอาจมายุ่งกับคนของเขาแต่ก็ต้องระงับอารมณ์ตัวเองเอาไว้

“น้องไม่ผิด ไม่ผิด”

“ผิด ผิดที่ไปยิ้มให้กับมัน”

“งะ พี่จ๋า พี่จ๋าทำไมขี้หวง”

“ก็หวงไง เราเป็นเมียพี่นะไม่หวงแล้วจะให้ไปหวงใคร” สิงห์ไม่ได้ดุแต่เขากำลังตัดพ้อ ซึ่งมันส่งผลกระทบกับจิตใจอ่อนไหวของคนตัวเล็กที่มองอยู่

“งืออ น้อง งืออไม่รู้ แต่พี่จ๋าไม่โกระน้องได้ไหม ไม่โกรธ ไม่โกรธน้า”

เพราะอีกคนเอาแต่เงียบและตีหน้าขรึม น้องเลยต้องเปิดโหมดอ้อน

“...”

“ไม่โกรธได้ไหม น้องขอโทษครับ”

“....”

“งื้ออ พี่จ๋าคุยกับน้องนะ คุย คุย”

“....”

สิงห์แทบจะทนไม่ไหวกับโหมดอ้อนแบบนี้ เขาพยายามจะมาสบตาหรือหันไปมอง ต้องสวดภวานาให้อดทนให้มากพอที่จะไม่ใจอ่อนแล้วหันไปฟัดน้อง เขาต้องแอบจิกแขนตัวเองเรียกสติ

จู่ๆ นิ้วก้อยถูกชูขึ้นมา น้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนจมูกแทบจะชิดกัน ก่อนที่น้องจะทิ้งหัวซบไหล่เขา พร้อมกับถูไปมา

“ดีกันๆ นี่นิ้ว นิ้วก้อย” มือเล็กจะดึงนิ้วคนพี่ให้เกี่ยวกับนิ้วตัวเอง แต่ก็โดนฝืนเอาไว้ นะโมหน้าเสีย

“....”

“อึก พี่จ๋าดีกันน้องจะปุ๊ๆ ก็ได้ ปุ๊ๆ เลยนะ”

“หึ..”

“งั้น งั้น ปุ๊ๆ แบบมีลิ้น”

“คิดว่าพี่จะหายโกรธเราง่ายๆ เหรอ” สิงห์ตัวร้ายเริ่มออกอาการ

“งั้น งั้น ต้องทำยังไงถึงจะหายโกรธ”

“แน่ใจ ว่าทำได้?”

“อื้อ น้องทำได้”

“กลับไปนอนบ้านกัน”

“- -* “

“ไม่ทำ? งั้นเราก็ไม่ต้องมาคุยกัน”

“ฮรือออ ก้ได้ น้องกลับไปนอนบ้านก็ได้ -3- “

“หึหึหึ มา มาเกี่ยวก้อยกัน” สิงห์ยิ้มร่ากับคำตอบ

คนเจ้าเล่ห์ก็คือคนเจ้าเล่ห์อยู่วันยังค่ำ



“อ่าว ไม่นอนนี่แล้วเหรอพี่” น้ำเสียงสงสัยของเจ้าของบ้านเอ่ยถามด้วยสีหน้าฉงนๆ

“อืม มันงอแง อยากกลับบ้าน”

“ใช่เหรอพี่? ผมว่าไม่น่าใช่” ซีตัสที่เดินเอาสำภาระของนะโมส่งให้สิงห์ถือ

“หึหึ” เขาได้แต่หัวเราะแล้วเดินออกมาจากบ้านของเนม ทิ้งไว้เพียงรอยขมวดคิ้วของเจ้าของบ้านกับเพื่อนๆ เท่านั้น



++++++



ตอนนี้จากสิงห์ตัวร้ายกลายเป็นสิงห์ตัวหื่น

“มานั่งตักพี่” เขาสั่งคนตัวเล็กทำตามอย่างว่าง่าย น้องนั่งพิงอกกว้างๆ ของเขาเอาไว้ใบหน้าน่ารักดูงอแง เพราะโดนบังคับให้กลับบ้าน แต่ก็นะบทจะดื้อก็ดื้อเงียบ พอบอกให้นั่งก็นั่งแต่นั่งแล้วไม่ยอมพูดกับเขา

สงสัยต้องเปิดปากน้องด้วยปากเขา

สิงหฺดึงน้องให้หันหน้ามาทางตน จากนั้นก็โอบเอวเล็กเอาไว้ ไม่ให้หันหนี ก่อนจะไล่พรมจูบไปทั่วใบหน้าหวานๆ อย่างคนเอาแต่ใจก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้ม เขาจงใจบดเบียดจูบให้อีกคนทนไม่ไหวจนต้องเผยอปากอ้ารับสิ่งแปลกปลอมเข้าไปสำรวจโพลงปากด้านใน เขาไล่ลิ้นเลียความอ่อนนุ่ม มอบความเสียวซ่านให้กับร่างที่นั่งอยู่บนตัก จนต้องส่งเสียงประท้วง มือบาจับเอวเล็กไว้แล้วพลิกให้อีกคนอยู่ใต้ร่าง ทั้งๆ ที่ปากยังไม่ได้แยกจากกัน สิงห์สอดมือเข้าไปใต้ชุดนอนตัวโปรดไล้มือสัมผัสผิวนุ่มไปทั่วทุกอณู ไล่ไปถึงตุ่มไตเล็กแล้วสะกิดมันเบาๆ

“อะ อื้อ”

เมื่ออุณหภูมิภายในมันกำลังเดือดพล่าน เสื้อผ้าก็ดูเหมือนจะเป็นเกะกะ ร่างสูงจัดการเปลื้องผ้าอีกคนจนหมดไม่เหลือ เขาไล่สายตาไปตามเรือนร่างขาวเนียน สายตาร้อนเหมือนไฟกำลังแผดเผาให้คนตัวเล็กหลอมละลาย สิงห์ก้มลงชิมยอดอกหวาน และสร้างรอยเอาไว้ทุกที่ที่ริมฝีปากเขาลากผ่าน ไล่ลงไปยังหน้าท้องแบนราบ ลงต่ำเรื่อยๆ หน้าท้องของนะโมขยับเกร็งด้วยความเสียวซ่าน จนมาถึงจุดกึ่งกลาง สิงห์จัดการกับส่วนนั้นด้วยปากของตนเอง

“อะ อื้อ อื้ออ พี่จ๋า”

ทุกๆ อย่างดำเนินไปตามธรรมชาติ ร่างสูงตอกย้ำตัวตนเข้าไปในร่างของคนตัวเล็กราวกับจะบอกให้อีกคนได้รู้ว่าร่างกายนี้เป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น เมื่อโดนกดจุดย้ำๆ คนตัวบางก็หลับตาแน่นครางเสียงหวาน แล้วครูดเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างเพื่อระบายความเสียว ยิ่งคนตัวบางจิกเล็บลงมามากเท่าไหร่เขาก็กระแทกสะโพกลงไปมากขึ้นเท่านั้น

“อะ อื้อออ”

คนตัวเล็กกรีดเสียงครางยาวเมื่อโดนคนตัวโตกว่ายกขาขึ้นพาดบ่าข้างหนึ่งแล้วขยับเข้าออกทั้งเร็วและแรง สิงห์ครางเสียงต่ำสบถกับตัวเองแล้วโหมสะโพกให้แก่นกลางกายเสียดสีกับช่องทางอ่อนนุ่มให้มากขึ้น นะโมบดเบียดช่วงล่างเข้าหาเขาอย่างโหยหาเมื่อแก่นกายตอกย้ำไปโดนจุดกระสันภายใน

“อะอื้ออ ตรงนั้น อะ อื้ออ พี่จ๋า พี่สิงห์” แค่ได้ยินเสียงเรียกชื่อเขาก็โหมแรงทั้งหมดที่มีใส่คนตัวเล็กอย่างบ้าคลั่ง เสียงครางต่ำดังออกไม่หยุด คนตัวเล็กนอนบิดไปมามือเล็กปัดป่ายไปทั่วเพื่อหาที่ยึดเหนี่ยว ไฟรักมันโหมกระพือจนยากที่จะดับได้ในเวลานี้ เสียงหอบกระเส่าดังขึ้นเมื่อมาสุดถึงปลายทาง ทุกอย่างถูกปลดปล่อยออกมาจนหมด ร่างกายเบาหวิวและสมองขาวโพลน สิงห์จ้องมองใบหน้าขาวที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ เสียงหอบเหนื่อย และคราบเหงื่อใครไม่ได้ทำลายความน่ารักน่าเอาของนะโมไปได้ สิงห์ก้มลงจูบที่ริมฝีปากด้วยความรัก เขาอยากจะตักตวงความสุขนี้ให้ได้มากที่สุด อยากจะตักตวงทุกวันทุกคืน แต่ก็สงสารน้อง ยิ่งตอนนี้งานเขาเยอะมากเวลาอยู่กับน้องจึงน้อยลงตามไปด้วย

“อื้ออ อย่าซี่” เสียงบ่นกึ่งรำคาญของคนในอ้อมแขนทำเอาคนพี่ยกยิ้มขำ เพราะเขากำลังคลอเคลียอีกฝ่ายเพื่อเริ่มต้นอีกครั้ง แต่ตาน้องมันกลับปิดสนิท แต่ก็นะคนหื่นอย่างสิงห์ไม่หยุดอยู่ที่รอบเดียวอยู่แล้ว...



++++++++++++++++++

หลังจากเสร็จกิจกรรมบนเตียงเขาก็พาร่างไร้สติของนะโมไปอาบน้ำและล้างคราบน้ำรักของตนเองออกจนหมดพามาแต่งตัวและปล่อยให้นอนสบายๆ ส่วนตัวเขาเองตอนนี้นอนไม่หลับแล้ว เลยเดินไปเอางานที่ทำค้างไว้มาทำต่อในห้องนอน ในขณะนั้นสายตาเขาก็ไปสะดุดกับกล่องกระดาษที่เก็บของของ หลวงตาที่ให้นะโมไว้ เขาหยิบมันขึ้นมาและเปิดดูของบางอย่างในนั้น ความจริงเขาควรจะให้น้องไว้ตั้งนานแล้ว แต่เกิดเรื่องวุ่นขึ้นมากมายจนเขาลืม สิงห์หยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมา เขามองมันอยู่นานชั่งใจว่าจะให้น้องดีไหม เพราะคำพูดของเนมทำให้เขารู้สึกลังเลทั้งๆ ที่ยังไม่แน่ใจเรื่องนั้นสักเท่าไหร่ แต่ว่าครอบครัวคือสิ่งสำคัญในชีวิตเขาไม่ควรจะมาขัดขวางไม่ให้คนในครอบครัวน้องมาเจอกัน สิงห์สวมสร้อยให้น้องด้วยความรู้สึกที่หวิวในอก

“อือออ พี่จ๋าน้องรักพี่จ๋านะ” เสียงงึมงำดังพอที่จะทำให้เขายิ้มออกมา ใช่ขอแค่น้องรักเขาก็พอ ไม่ว่าน้องจะต้องจากเข้าไปไหนเขาก้จะเอาน้องคืนกลับมาให้ได้

“พี่ก็รักหนูครับ เด็กดีของพี่”



++++++++++++++++++++++

ไหนบอกว่าจะมาเรื่องปมน้อง คือก็มาไงแต่มาจึ่งหนึ่ง แล้วเอ็นซีมันมาได้ไง!!!

ขอโทษที่พาออกทะเลนะคะ T^T





หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.41 23/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 23-12-2018 12:01:58
แต่งได้สนุกติดตามไม่พลาดซักตอนชอบความรักของพี่สิงห์ที่มีให้น้องทั้งทีารู้อยู่แก่ใจว่าน้องไม่ปกติแก๊งค์เพื่อนก็ดีคบหาได้สนิทใจถ้ารวมเล่มไม่พลาดแน่นอนของมันต้องเปย์ :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.41 23/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-12-2018 14:03:21
สงสารพี่สิงห์ถ้าน้องต้องไป
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.41 23/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-12-2018 14:35:06
สงสารทั้งทางสิงห์ ทั้งทางครอบครัวนะโม   :mew2: :z3: :serius2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.41 23/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-12-2018 19:03:33
อีพี่สิงห์อย่าเห็นแก่ตัวนะ สงสารน้อง  :hao3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.41 23/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 24-12-2018 04:53:34
พี่สิงห์หื่นตลอดอ่ะ555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.41 23/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-12-2018 21:36:45
อีหาเรื่องเอาตลอด
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.41 23/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 25-12-2018 00:18:22
 :z1:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.42 30/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 30-12-2018 08:58:05
42



เช้าวันต่อมาสิงห์รู้ว่าน้องไปบ้านเนมไม่ไหวแน่ๆ เลยชวนเด็กๆ มาติวที่บ้านเขาแทนโดยเอาหมูกระทะมาล่อ และแน่นอนเด็กวัยกำลังกินกำลังนอนแบบพวกนั้นมีหรือจะปฏิเสธ เขาเลยบอกให้พวกนั้นมาสายๆ หน่อยเพราะอยากจะให้น้องได้นอนมากขึ้นอีกนิด

ร่างสูงเดินออกมาที่ระเบียงบ้านในมือมีกาแฟรสเข้มติดมือมาด้วย เขากวาดมองไปรอบๆ บรรยากาศยามเช้าที่มีหมอกลงอากาศกำลังเย็นสบายมีน้ำค้างลงหน่อยๆ ด้านหน้ามองเห็นภูเขาอยู่ไกลๆ ถ้ามีน้องมาให้ยืนกอดมองวิวแบบนี้ก็คงจะดีเขาเสียดายนิดๆ เมื่อคืนเขาน่าจะออมแรงไว้หน่อย แต่ไม่รู้ทำไมทำกับน้องที่เราเขายั้งตัวเองไม่อยู่ทุกที ริมฝีปากหนักจรดลงกับถ้วยกาแฟกลิ่นหอมกรุ่น หัวสมองมีแต่เรื่องของน้องเต็มหัวไปหมด เขาครุ่นคิดถึงคำพูดของเนมเมื่อวานแล้วรู้สึกใจมันหวิว ถ้าฟังจากคำบอกเล่าของเนม ทำให้เขาประติประต่อเรื่องต่างได้คร่าวๆ น้องอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเนม และถ้าเป็นแบบนั้นจริงสิ่งที่เนมพูดมา น้องจะต้องไป



10.00 น.

เด้กๆ เริ่มทยอยกันมา นะโมที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยรีบออกมาหา พร้อมกับเสียงใสๆ

“ทุกคนนนนนนนนนนน *0*”

“นะโม อย่าวิ่งลงบันไดแบบนั้นสิครับ” สิงห์พูดเสียงดุๆ

“-3- คนหื่นไม่มีสิทธิพูด น้องโกรธ เชอะ!! ” ดวงตากลมหันไปค้อนควักใส่ก่อนจะหันกลับไปหาเพื่อนๆ ของตัวเองด้วยรอยยิ้มสดใส

“อะไรวะนั่น ไอ้เอ๋อพี่สิงห์ทำอะไรมึงอีก”

“พี่จ๋าทำเราเจ็บทั้งคืน”

“ทำ? ทำอะไรเจ็บวะไอ้เอ๋อ?”

“หึหึหึ” สิงห์เดินลงมาแล้วกอดคอร่างเล็กไว้แล้วรั้งให้แนบกับอกของตนเอง

“ไม่ต้องมายุ่งเลย นิสัยไม่ดี -3- “น้องเงยหน้าขึ้นมองแล้วยู่ปากใส

“อย่าบอกนะว่าที่พามันกลับมานอนเพราะ เรื่องนั้น”

“หึหึ”

“โหยยพี่ ไม่ถนอมมันบ้างวะ ลดๆ บ้างก็ได้” ปิงว่า แต่คนพี่ไม่ได้สำนึกอะไรเขายังคงกอดน้องเอาไว้แล้วส่งยิ้มหวานแบบไม่แคร์สายตาหมันไส้ของบรรดาเด็กๆ ที่มองมาแต่อย่างใด

“= =”

“ว่าแล้วยังทำหน้าระรื่นอีก”

“แล้วไงใครแคร์”

“อิพี่...แคร์หนูบ้างก็ดี เห็นใจคนโสดบ้างค่ะ ไปอิลูกมึงอย่ามายืนให้หมาป่ามันแทะแบบนี้” น้ำเสียงประชดนิดๆ มาพร้อมกับสายตาจิกๆ ของส้มทำเอาสิงห์หัวเราะขำ

“ก็รีบหาซะสิ จะได้ไม่ต้องมาอิจฉาพี่แบบนี้”

“ถ้ามันหาง่ายเหมือนหาซื้อผักชีในตลาดป่านนี้หนูมีไปแล้วพี่”

“บางทีมันอาจจะไม่ใช่ผักชีแต่เป็นขี้ตาก็ได้นะ”

“ขี้ตาไรละพี่?”

“ก็อยู่ใกล้จนมองไม่เห็นไง ^^” สิงห์พูดยิ้มๆ พร้อมกับมองไปที่ยิม ฝั่งนั้นพอได้ยินก็ปั้นหน้านิ่ง ส้มเองก็ทำหน้าไม่เข้าใจ ซีตัสส่ายหัวเบาๆ กับความหัวช้าของเพื่อนสาว

“มันโง่พี่ปล่อยมันไปเหอะ” ซีตัสว่าแล้วก็เดินหนีขึ้นไปบนบ้านโดยที่ไม่ลืมจูงมือปิงขึ้นไปด้วย เนมเดินรั้งท้าย

“เนมเนมๆ” นะโมเรียกคนตัวโตเอาไว้

“ว่า มีไร?”

“วันนี้พาเราไปเที่ยวหน่อยสิ *0*”

“แล้วทำไมต้องกระซิบด้วยวะ”

“น่า เดี๋ยวพี่จ๋าได้ยิน เราจะไปซื้อขนมมาใส่กล่องสมบัติของเรา”

“กล่องไรวะ เออๆ เดี๋ยวค่อยออกไปละกัน” เนมบอก

พอจัดการอะไรเรียบร้อยพวกเขาทั้งหมดก็เข้าสู่หมวดจริงจัง ตั้งใจอ่านหนังสือโดยมีสิงห์คอยอธิบายในส่วนที่พวกเขาไม่ค่อยเข้าใจ และเก็บรายละเอียดในบางส่วนให้ เพราะอีกหนึ่งอาทิตย์ก็จะสอบปลายภาคแล้ว พอถึงตอนเที่ยงก็สั่งอาหารตามสั่งมากิน โดยที่เนมอาสาออกเอามาให้ เขาเลยชวนนะโมไปด้วยเพราะสัญญาว่าจะพาไปเซเว่นด้วย สิงห์ไม่ได้ว่าอะไรที่เนมจะเอานะโมไปด้วย นะโมแอบเดินไปหยิบกระเป๋าเงินของตัวเองในห้องแล้วเดินไปหาเนมที่นั่งรออยู่บนน้องกุ๊กไก่ บิ๊กไบค์คันสวย

“น้องกุ๊กไก่ หวัดดีจ้า” มือบางโบกทักทายก่อนจะรับหมวกของเนมมาใส่อย่างรู้หน้าที่

“แวะ 7/11 ก่อนแล้วค่อยไปเอาข้าว”

“อื้อ วันนี้เราจะเติมกล่องสมบัติเราให้เต็ม” นะโมยิ้มกับความคิดของตัวเอง

“กล่องสมบัติอะไรวะ?”

“คึคึ มันเป็นความลับ แต่ถ้าเนมเนมอยากดูเราให้ดูก็ได้นะ” เพื่อนตัวเล็กบอกเสียงใส

“ความลับถ้าบอกคนอื่นมันจะเป็นความลับได้ยังไงละ”

“เอ้าก็ความลับของเราสองคนไง นี่เราอุตส่าห์จะให้ดุกล่องสมบัติเราเลยนะ เนมเนมต้องตื่นเต้นแล้วก็ดีใจสิ”

“เออ แล้วแต่มึงเหอะ เกาะแน่นๆ เดี๋ยวก็หล่นรถ” เนมเอื้อมมือไปจับมือเล็กให้เกาะเอวเขาเอาไว้

“อื้อๆ เนมเนมขี่เร้วๆ ก็ได้นะ เราชอบเอาหน้ารับลม” คนตัวเล็กยิ้มยิงฟันใส่คนที่มองจากกระจกมองข้าง

“เป็นหมาเหรอ?” เนมหยอก

“งะ ถ้าเนมเนมคุยกะเรารู้เรื่องเนมเนมก็เป็นหมานะสิ”

“ (อิเหี้ย) -*- ตอบกวนตีนนะมึง”



ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงเซเว่น นะโมรีบลงไปซื้อขนมที่ตัวเองอยากกินทันที ส่วนเนมก็เดินเลือกของกินเผื่อคนที่บ้านแต่ไม่ได้ซื้อเยอะเพราะตอนเย็นจะต้องออกมาตลาดหาซื้อของทำหมูกระทะกันอีกรอบ เนมเห็นนะโมเลือกขนมใส่ตะกร้าจนล้น แขนเล็กเอียงไปข้างเพราะความหนักของขนม

“เยอะขนาดนั้น?”

“อื้อ นานๆ จะได้เติมมันที เราต้องเอาให้เต็ม”

“มีแต่เยลลี่กับของที่ทำให้ฟันผุ” เนมมองของในตะกร้าแล้วบ่นออกมา เขาเลือกออกสองสามอย่างแล้วหาขนมที่เป็นประโยชน์มากกว่ามาให้ นะโมทำหน้ายู่ เพราะของที่เนมเลือก เขาไม่ชอบเลยสักอย่าง

“กินแต่ของแบบนี้สินะพี่สิงห์ถึงไม่ค่อยพามาซื้อขนม”

“ป่าวสักหน่อย -3- “

“เสร็จแล้วก็ไปจ่ายตังค์ จะได้ไปเอาข้าวเดี๋ยวพวกนั้นมันจะบ่นเอา” เนมสั่งพร้อมกับช่วยนะโมถือตะกร้า

“ทั้งหมด 589 บาทค่ะ” พอได้ยินราคาของก็ตาโตหน่อยๆ ก่อนจะค้อนควักเงินออกมา ในกระเป๋ามีแบ้งค์สีม่วงอยู่หลายแบงก์ นะโมหยิบเงินให้ไปหกร้อยบาท แล้วกัดปากตัวเองเบาๆ

“งือ เนมเนม เงินเราหายไปตั้งสองใบ ทุกทีไม่เห็นมันจะลดเลย” ร่างเล็กรู้สึกเสียดายตังค์ขึ้นมา

“แหม ก็คนจ่ายตังค์มันไม่ใช่มึงไง ผัวมึงจ่าย มึงไม่ได้จ่ายมันจะลดไปไง วู้ว” เนมพูดอย่างหมั่นไส้ เขายีหัวมันเบาๆ ก่อนจะหยิบเอาถุงขนมทั้งหมดไปถือไว้แล้วเดินนำไปที่รถ ห้อยของกับตัวแฮนรถ พอนะโมปีนขึ้นเรียบร้อย เขาก็ใส่หมวกกันน็อกให้ แล้วขี่ไปที่ร้านข้าวกล่องที่สั่งไว้

“มึงถือข้าวนะ”

“อื้อ”



พอได้ทุกอย่างตามที่ตัวเองต้องการ ก็พากันกลับ ขากลับเขาขี่เร็วไม่มากเพราะของที่นะโมถือมันหนักพอสมควร ใช้เวลาไม่เกินสิบห้านาทีพวกเขาก็ขี่รถมาจอดเทียบรั้วบ้าน นะโมลงจากรถไม่ได้เพราะของที่ถืออยู่

“ยิมมมมมมมมมมมมมมยิม มาช่วยเราหน่อยยยย” เสียงหวานเรียกเพื่ออีกคนให้มาช่วย ยิมได้ยินเสียงเรียกก็รีบวิ่งลงมาจากบ้าน

“โห ขนมนี่นะโมจะเอามาถมที่เหรอ” ยิมประชด

“ถมที่ไม่ได้หรอกยิมยิม อันนี้เราเอาไว้กิน ยิมยิมนี่ไม่รู้เรื่องเลย” มันเป็นการโต้ตอบที่ทำให้อีกฝ่ายได้แต่อ้าปากค้าง”

“ถามจริง นี่มึงเอ๋อจริงเอ๋อปลอมวะ นี่กูเหมือนถูกหลอกด่าเลยอะ” ยิมเกาหัวแกร็กๆ อย่างงงๆ ว่าตัวเองกำลังโดนด่าหรือแค่คำพูดธรรมดาๆ ของคนเอ๋อเท่านั้น

“ยิมยิม ติงต๊อง เราจะไม่พูดกับคนติงต๊อง ไป เถอะเนมเนม เราจะเอาขนมไปใส่กล่องสมบัติ” ร่างเล็กจูงมือคนตัวสูงกว่าให้เดินหนียิม

“หึหึ โดนแล้วมึงไอ้ยิม”



พอเดินขึ้นไปบนบ้าน คนตัวเล็กก็คว้าถุงขนมของตัวเองแล้วรีบวิ่งปรู๊ดดเข้าไปยังห้องนอนของตัวเอง แล้วนั่งลงข้างๆ เตียง มือเล็กเอื้อมไปหยิบกล่องสมบัติใต้เตียงออกมา ในนั้นมีของมากมายที่เขาเก็บเอาไว้หนึ่งในนั้นมีจดหมายของหลวงตาที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันอมาอยู่ในนี้ได้ยังไง มือเล็กหยิบมันออกมาแล้ววางไว้บนเตียงเพราะอยากจะเรียงขนมใส่

“เอ๋อ นี่ถุงขนมมึงใช่เปล่า” เนมเดินเอาถุงอีกใบเข้ามาให้

“อ่า อื้อ ของเราๆ”

“แล้วทำอะไร” ร่างสูงของเนมเดินมานั่งบนเตียงแล้วมองเพื่อนตัวเล็กเรียงของลงในกล่อง

“เอาขนมใส่กล่องสมบัติไง นี่เห็นไหม” นะโมโชว์ของสำคัญหลายอย่างให้เนมดู ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ชอบให้ใครมาเห็นกล่องสมบัติ ขนาดสิงห์นะโมยังหวง แต่กับเนมเหมือนมีอะไรบางอย่างที่บอกว่าเนมไว้ใจได้

“นี่แม่เรา” นะโมหยิบรูปของด่างที่ตัวเองวาดเอาไว้จากความทรงจำให้เนมดู

“หมา?”

“นี่พี่เปรี้ยว พี่สาวเรา”

“-*- “

“นี่หลวงตา หลวง..ตา” จู่ๆ เสียงก็สั่นเครือ ดวงตากลมจ้องมองรูปในมือด้วยความคิดถึง

“หลวงตา?”

“หลวงตาทิ้งเราไปอยู่กะแม่ด่างกะพี่เปรี้ยวแล้ว” เนมรับรูปในมือของนะโมขึ้นมาดู คิ้วหนาขมวดลงนิดๆ เพราะรูปในมือมันคุ้นตามาก เหมือนมีอะไรบางอย่าง เนมหยิบโทรศัพตัวเองขึ้นมาแล้วกดถ่ายรูป ภาพนั้นไว้

“หลวงตาชื่ออะไรเหรอไอ้เอ๋อ”

“ชื่อ หลวงตาบัว” นะโมตอบเสียงเบาๆ เหมือนคนหลุดเข้าไปอยู่ในภวังค์

“....”

“อะ เนมเนม นั่งทับจดหมายเรา”

“อะ เอ่อโทษที” เนมหยิบซองจดหมายส่งคืนให้ ก่อนที่คนตัวเล็กจะเอาจดหมายใส่คืนในกล่อง

“แย่ แย่ แย่แน่ๆ กล่องมันปิดไม่ได้ พี่จ่าต้องเห็นแน่ๆ เลย”

“เขาไม่เห็นหลอก เอาใส่ไว้ใต้เตียงไม่ใช่ไง?”

“...”

“นะโม นะโมครับ อยู่ไหน มากินข้าว” เสียงร้องเรียกทำเอาร่างเล็กสะดุ้งแล้วรีบยัดกล่องสมบัติเข้าไปใต้เตียง

เฮือกกก!!!

“ไปเร็วเนมเนม เดี๋ยวพี่จ๋าดุ”



“ไหนมาครับ” สิงห์ถามเสียงนุ่ม

“อะ เอ่อ ไปเอาของที่ห้องครับ”

“เหรอครับ ไปกินข้าวได้แล้วครับ” สิงห์โอบไหล่น้องไว้แล้วพาเดินไปที่ครัว เขาเหลือบสายตามองไปที่เนมนิดๆ เหมือนกำลังจับผิดอะไรบางอย่าง ระหว่างที่กินมื้อกลางวันสิงห์ต้องออกไปทำธุระข้างนอกเขาเลยฝากน้องไว้กับพวกเพื่อนๆ และอาสาซื้อของทำหมูกระทะมาเลย

“พี่จ๋ารีบกลับมานะ” นะโมเดินไปส่งสิงห์ที่ประตูหน้าบ้าน น้องโอบกอดเขาเอาไว้แล้วแหงนหน้ามอง ใบหน้าน่ารักส่งยิ้มหวานมาให้อย่างออดอ้อน มือหนาลุบลงบนหัวทุยก่อนจะก้มประทับจูบบนหน้าผากส่งผ่านความรักที่มีไปให้

“ครับ พี่จะรีบกลับนะ” เขาบอกก่อนจะเดินขึ้นรถและขับออกไป พอมมองที่กระจกหลังก็เห็นเด้กแสบโยนดโบกมือให้ เขาอมยิ้มอย่างเป็นสุขกับภาพที่เห็น



หมอเหี้ย (6)

14.25น
[/b]


หล่อสุดแดนสยาม (ไม้)

พี่ครับ พี่ เมื่อไหร่จะตี้กันสักทีครับ

ร่างกายน้องต้องการแอลกอฮอล์ลล

Singha

ต้องการแอลกอฮอล์หรืต้องการตีน
เอาให้แน่

คิดจะพักคิดถึงคิทแคท (คิท)

กูด้วยครับ อดอยากปากแห้ง

Singha

ตีน?

คิดจะพักคิดถึงคิดแคท (คิท)

ตีน พ่อง!

Panwa (วา)

มึงว่างกันแล้วหรอไอ้พวกหมอเหี้ย

กูมีผ่าอีกสองเคส

Singha

มึงก็เหี้ยไม่ต่างจากกูไอ้วา

น้ำชาน้องกาแฟ (ชา)

พี่แฟฝากบอกว่า ถ้าพวกมึงเป็นมะเร็งตับ

กูจะฉีดยาให้ตาย จะไม่รักษา

เปลืองงบประมาณชาติ

ไอ้พวกหมอเหี้ย อันหลังกูเติมเอง

คิดจะพักคิดถึงคิทแคท (คิท)

ทำไมพี่แฟไม่อ่อนโยน

@singha (สิงห์) ออกมาอย่ามัวกกแต่เมีย

Singha (สิงห์)

ค้วยยยย

มีไรอี๊ก!!

กูไม่ว่าง!
plus ภูวไนย

@singha ระวังพวกกูจะเตะมึงออกจากกลุ่ม

มีเมียแล้วลืมเพื่อน!!

Singha (สิงห์)

พิมพ์ออกมานี่มึงดูตัวเองยัง

อิสัส

อย่าคิดว่ากูไม่รู้

Panwa (วา)

มีไร ไหนเมาส์ซิ

น้ำชาน้องกาแฟ (ชา)

มึงรู้อะไรไอ้สิงห์?

กูกำลังใส่ใจมึงอยู่



คิดจะพักคิดถึงคิทแคท

.......

Plus ภูวไนย

ขี้เสือก!!

Singha (สิงห์)

หึหึ

หล่อสุดแดนสยาม (ไม้)

เออ เมินแชทกูอีก ไอ้พวกพี่เหี้ย

ตอบกู

ตอบกู

ตอบกู

Singha

รำค้านนน!!



Plus ภูวไนย

อยากมานักอออกมาคืนนี้เลยมาเดี๋ยวกุขับรถไปหา

ถ้ากูไปแล้วมึงเบี้ยวนะ

กูจะแช่งให้เมียมึงทิ้ง!

Singha (สิงห์)

เออ จะมาก็มา

มาบ้านกูก็ได้วันนี้ด็กๆ มันจะปาตี้หมูกระทะ

หล่อนสุดแดนสยาม (ไม้)

แล้วใครไปมั้ง

ผมละ1

คิดจะพักคิดถึงคิทแคท

กูไม่รู้วะ

Plus ภูวไนย

คิทมันไปกับกู

คิดจะพักคิดถึงคิดแคท

ถามกูยังว่ากูว่างรึเปล่า

หล่อสุดแดนสยาม

ตกลงไปหมดนะ

Panwa

ยกเว้นกูครับ

ร่างกูจะแหลก

พอก่อน

หล่อสุดแดนสยาม

งั้นหกโมงเจอกันบ้านพี่สิงห์

Singha

หากับแกล้มมากันเองนะเว้ย อย่ามาแย่งน้องแดก

จบแยก



เอาเป็นว่าเขาต้องซื้อของเพิ่ม เพราะไม่รู้ว่าพวกแม่งจะกินกันเยอะขนาดไหน แต่ที่แน่ๆ พวกมันต้องออกค่าเหล้ากันเอง งานนี้ไม่มีเลี้ยง สิงห์ขับรถเข้าไปที่บ้านหลังใหญ่ของตัวเอง เข้ามาเอาเอกสารบางอย่าง แต่สิ่งที่เขาไม่คิดว่าจะเห็นตอนเดินเข้ามาในบ้าน เขาเห็นพ่อตัวกำลังปล้ำจูบลูกน้องคนสนิทอยู่ ถ้าเขาไม่กระแอม พ่อคงไม่หยุด กรปากแดงเจ่อหน้าเห่อร้อนด้วยความอับอาย

“พ่อ -*- นั่นไอ้กรลูกน้องผม”

“ยุ่งจริงไอ้ลูกคนนี้ แล้วนี่นึกไงมาหาพ่อที่บ้าน” ถึงจะขัดใจที่โดนสิงห์มาขัดจังหวะ แต่ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ที่ลูกชายมาหา

“ป่าว ไม่ได้มาหาพ่อ ผมมาเอาเอกสารเรื่องงาน”

เหมือนโดนตีแสกหน้า เจ็บแต่ร้องไม่ได้ นาค พยักหน้าพร้อมกับทำหน้าเจื่อนๆ เหมือนลูกไม่รัก เขาหันไปหากรที่แอบยิ้มสะใจอยู่ข้างๆ

เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย คนแก่หันไปทำตาดุใส่ สิงห์ทำหน้าเอือมก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องทำงานของสิงห์ค้นหาเอกสารออกมาหลายชุดแล้วกลับลงมา ก็ไม่เห็นพ่อกับกรแล้ว

“หนีไปพลอดรักกันที่ไหนอีกละ คอยดูนะถ้าทำให้ไอ้กรเสียใจละก็ หึ! ”





ขากลับเขาแวะซูเปอร์ซื้อของทำหมูกระทะกับกับข้าวอีกสองสามอย่างเผื่อหิวกันตอนดึกๆ ได้ของครบก็ขับรถกลับบ้าน มาถึงบ้านก็เรียกให้เด็กๆ ลงมาช่วยขน นะโมลงมาคนแรกตั้งแต่ได้ยินเสียงรถมาจอด พอเห็นของกินเยอะก็ทำตาโต ซีตัสอาสาเอาหมูและของทะเลไปหมัก ส่วนที่เหลือก็ล้างผักแล้วก็เตรียมสถานที่ วันนี้ใช้ลานหน้าบ้านเป็นสถานที่กินหมูกระทะกัน

ห้าโมงกว่าๆ พวกแก้งหมอก็ทยอยกันมาทีละคน หนึ่งในนั้นคือคนที่ทำให้ นะโมร้องเรียกเสียงดัง เพราะครั้งสุดท้ายที่เห็นคือเจ้าตัวโดนไล่กระทืบ

“ลู๊กกกกกพี่!!! ” ตนตัวเล็กวิ่งเข้าไปกอดคนตัวสูงกว่าแน่น น้ำตาคลอหน่วย

“อะไรของมึงไอ้เอ๋อ ร้องเหมือนกูจะตาย”

“ก็ใช่ไง ลูกพี่จะตาย ฮึก โดนตื๊บ ลูกพี่โดนตื๊บ” นะโมเบะเพราะภาพที่ต้าร์เลือดท่วมแล้ววิ่งหนีคู่อริยังฝังอยู่ในหัว

“มึงสิจะโดนตื๊บ ไอ้ห่า ปากไม่เป็นมงคล” ต้าร์พูดไปเสียงสันหลังไป เพราะโดนสายตาดุๆ ของไม้เมืองมองมาพอดี

“ง่า -3- วันนี้จะมานอนกะหนูป่าว”

“เมาก็นอนไม่เมาก็กลับบ้าน” ต้าร์ตอบแบบขอไปที ตอนนี้เขาแทบจะอุ้มไอ้เด็กเอ๋อเข้าเอวอยู่แล้ว เมื่อก่อนไม่เห็นจะติดขนาดนี้ ตอนนรี้เขาแทบจะขยับไปไหนไม่ได้ เลย

“ไอ้เอ๋อ มึงปล่อยกูก่อน” ต้าร์พยายามแกะมือที่จับแขนเขาไว้ออก ต้าร์ปวดฉี่อยากเข้าห้องน้ำ

“ไปไหน จะไปไหน -*- “

“กูจะไปฉี่”

“แน่นะ ไม่หนีหนูแน่นนะ”

“ว้อยยยย ไอ้เหี้ยพี่สิงห์มึงมาเอามันไปที กูจะบ้า” ต้าร์ตะโกนขึ้นไปบนบ้านอย่างเหลืออด

“ไอ้เอ๋อ มึงมาช่วยกูจุดเตานี่มา ห่า จะติดอะไรพี่เขาขนาดนั้น” เนมเดินมาดึงนะโมออกจากต้าร์ เพราะเขารู้สึกคันยิบๆ ที่หัวใจ เหมือนจะอิจฉาที่นะโมมันติดต้าร์มากว่าตัวเอง

“อะไรอ่า เนมเนม แค่นี้ก็ทำไม่ได้หรอ” มันทำหน้ายู่นิดๆ ก่อนจะเดินไปจุดเตาถ่าน ที่เนมใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมงทำมันติดแต่ก็ไม่ติดนะโมเดินไปทำไม่ถึงหน้านาทีก็ได้เตาถ่านร้อนๆ พร้อมปิ้งย่างแล้ว

“เราเก่งมะ คึคึ”

“เออ มึงเก่ง ห่าแค่นี้ม่ทำอวด”

ระหว่างที่นะโมก้มลงเอาถ่านใส่เตา สายตาของเนมเหลือไปเห็นสร้อยที่อยู่ในเสื้อของนะโม ใจเขากระตุกวูบ แต่เห็นแค่แป๊บเดี๋ยวนะโมก็เงยขึ้น

“เอ๋อ สร้อยที่มึงใส่ กูขอดูได้รึเปล่า”

“สร้อย? อ๋อ สร้อยได้ๆ” นะโมหยิบเอาสร้อยออกมาให้เนมดู

“มะ..ไม่จริง มั้ง” มือเนมสั่นไปหมดตอนเห็นสร้อยที่ห้อยอยู่บนคอของนะโม เพราะมันเหมือนกับของเขาไม่มีผิด

“อะไรเหรอ เนมเนม”

“มึงถอดมาให้กูหน่อยได้ไหม? นะกูขอดูหน่อย” เนมดูร้อนรน เขามองหน้าคนตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต้นแรง

“อะ นี่ คืนเราด้วยนะ ของหลวงตาให้เราไว้”

“ดะ ได้ ได้สิ”

พอได้มาเขาก็เอาสร้อยของตัวเองออกมาเทียบมันเหมือนกันราวกับว่าเป็นอันเดียวกัน เนมปลดสลักที่มีแต่คนในตระกูลเท่านั้นที่จะรู้วิธีเปิดมัน เนมปลดสลักออกโดยมีสายตาของคนขี้สงสัยมองอยู่

“*0* มันเปิดได้” พอเห็นว่าสร้อยที่ตัวเองใส่มันเปิดออกได้ร่างเล็กก็ร้องลั่น

“ฮึก..เจอแล้ว.. เจอแล้ว ฮึก”

หมับ!!!

“เอ้า เนมเนม กอดเราทำไมอะ แล้วทำไมต้องร้องไห้ด้วย เนมเนม” ร่างเล็กตกใจกับเพื่อนที่จู่ๆ ก็มากอดตัวเอง แล้วพูอะไรที่ไม่เข้าใจ

“เจออะไร เนมเนม”

“เจอ พี่ไง พี่ชาย พี่ครับ ! ”

“!!!!!!! ”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Happy new years 2019 นะคะทุกๆ คน ขอให้นักอ่านทุกคนมีแต่ความสุข คิดสิ่งใดก็ขอให้สมหวัง มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามานะคะ รักทุกคนนะ



ปล. พี่น้องเค้าเจอกันละเน้อออ เจอกันง่ายไปไหมน้อ 555 นิยายไรท์ไม่มีไรซับซ้อนมาก อยากจะเจอก็เจองี้แหละ

คิกค้ากกกกก เนอะ



















หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.42 30/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 30-12-2018 10:33:51
 :mew6:น้องจะมีครอบครัวแล้ว
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.42 30/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 30-12-2018 12:29:56
 :mc4:



 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.42 30/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: jpjiraporn ที่ 30-12-2018 15:13:06
 :mew6:  :mew4::pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.42 30/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-12-2018 15:36:46
เอาละสิ..........  :z3:
พี่นะโม....น้องเนม  เจอกัน  รู้กันซะที   :hao3:

ว่าแต่สิงห์จะโดนเมียทิ้งปะเนี่ย   o22  :really2: :serius2:

พี่สิงห์  นะโม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.42 30/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 30-12-2018 17:12:04
เอาแล้ว น้องเจอครอบครัวแล้ว อีพี่ทำไงดี  :hao4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} &gt;&gt;II my stupid boy II&lt;&lt; up ch.42 30/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: nanaexo ที่ 30-12-2018 17:21:07
.


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.42 30/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 30-12-2018 18:35:03
และเราก็หากันจนเจอ~ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.42 30/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-12-2018 19:02:06
รุ้สักที แล้วทีนี้จะทำไงอะ สงสารพี่สิงห์รอเลย
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.42 30/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-01-2019 01:53:56
ยังไงละทีเนี่ย
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.43 6/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 06-01-2019 12:02:05
43



ท่ามกลางสายตาของคนหลายคนที่กำลังยืนงงกับคนทั้งคู่ สิงห์เป็นคนแรกที่เดินเข้ามาแยกคนทั้งคู่ให้ออกจากกัน สีหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำใดๆ ออกมา เนมเด็กหนุ่มวัยมัถยมปลายก็ยิ้มทั้งน้ำตา แล้วบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า

“ผมเจอแล้วพี่ ผมเจอแล้ว นะโม อึก นะโม คือเด็กคนนั้น คนที่หายไป คนที่ผมตามหา”

“.....”

“อะไร หรอเนมเนม เด็กไหน ไหนเด็ก?”

“พี่ครับ ฮึก พี่ เรากลับบ้านกันนะ กลับไปหาพ่อกัน พ่อรอพี่อยู่” เนมพูดกับคนตัวเล็กด้วยสีหน้าที่มีความหวัง ถ้าพ่อเจอนะโมพ่ออาจจะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ อาจจะอยากสู้ต่อ

“พะ พ่อ พ่อใครเนมเนม ร้องไห้ทำไม” สองมือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาให้กับเพื่อนคนสนิท

“พ่อของเรา พ่อของเราไง”

“....”

“ได้โปรดกลับไปหาเขาได้ไหม กลับไปหาเขาเพื่อที่พ่อจะได้อยู่ต่อ”

“เนมเนมพูดอะไรเราไม่เข้าใจ”

“เนมพอก่อน ไอ้เอ๋อมันไม่รู้เรื่องด้วยหรอกมึงต้องใจเย็น” ซีตัสเดินมาดึงสติเพื่อนให้ใจเย็นลง

“มึงกู อึก กู” เนมทำท่าจะอธิบายให้นะโมเข้าใจ

“เออ ใจเย็นมึงดูหน้าพี่สิงห์ด้วย ดูคนอื่นด้วย” ซีตัสตบบ่าเนมเบาๆ ก่อนจะดึงเนมออกไป นะโมทำหน้างงๆ แล้วเอียงคอมอง

“พี่จ๋า เนมเนมหมายความว่ายังไงเหรอ พ่อของหนู? หนูมีพ่อด้วยเหรอ?” สิงห์หลับตาลงเขาเข้าใจดีกับความรู้สึกของเนมตอนนี้และเขาก็เข้าใจว่าน้องกำลังสับสน และเข้าใจว่าหัวใจเขาตอนนี้กังวลขนาดไหน

“นะโมครับ” สิงห์เดินจูงมือคนตัวเล็กเข้าไปคุยในบ้าน เขาจับน้องให้นั่งลงกับเก้าอี้ส่วนตัวเองนั่งยองๆ อยู่ด้านหน้า เขาสบตามองดวงตากลมที่มีแต่ความสงสัยอยู่เต็มไปหมด

“....”

“หนูมีพ่อมีแม่นะครับ” สิงห์พยายามคุมเสียงไม่ให้สั่น สั่นเหมือนใจเขาตอนนี้

“อื้อ มีสิ ก็แม่ด่างไง แม่ด่างตายไปแล้ว” ดวงตากลมหลุกหลิก เหมือนพยายามจะหลีกหนีอะไรบางอย่าง

“ไม่ใช่ครับ แม่ที่เป็นคนเหมือนเรา แม่ที่คลอดหนูมา”

“...”

“มีพ่อ พ่อที่คอยหนูอยู่”

“....”

“นะโมครับ เนมเป็นน้องชายของหนูนะ”

“น้อง น้อง เหรอ?”

“พี่น้องกัน”

“อึก..หนูมีน้องเหรอ” รอยยิ้มค่อยๆ ผุดขึ้นมาจากใบหน้าอันหวานหยด นะโมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีญาติพี่น้องที่ไหน รับรู้ว่าตัวเองตัวคนเดียวมาตลอด กับเนมเคยคิดแต่ว่าเนมเป็นเพื่อนที่ใจดีกับเขามาตลอด แต่มาวันนี้นะโมได้รับรู้อีกอย่าง ว่าเนมคือน้องชายของเขา รอยยิ้มดีใจกำลังสร้างความเจ็บปวดให้กับคนที่มองตรงหน้า ทั้งๆ ที่ควรดีใจกับน้องแต่ทำไมเขากลับไม่ยินดีเลย อาจจะเป็นเพราะเจตนาของเนมที่ตั้งใจจะพาน้องกลับไปหาครอบครัว มันเลยทำให้เขารู้สึกไม่ดี น้องกำลังจะไปจากเขาอย่างนั้นเหรอ สิงห์มองหน้าคนที่รักสุดหัวใจด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งเสียใจ ดีใจ แล้วก็เศร้าใจ

“ครับ นะโมมีน้องชาย ดีใจไหม^^” สิงห์ตอบด้วยรอยยิ้มฝืนๆ เพราะตอนนี้เขาไม่ได้เป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวของน้องแล้ว

“ดีใจครับ *0* ตะ แต่ว่า แต่ว่า น้องดีใจที่มีพี่จ๋ามากกว่านะ” นะโมเห็นสีหน้าของสิงห์แล้วคงจับความรู้สึกได้ ถึงได้พูดเอาใจ เพราะไม่อยากให้สิงห์ทำสีหน้าเศร้าๆ

“หึหึ พี่รู้ครับ พี่รู้ อยากไปหาเนมไหม” นะโมพยักหน้ารับ สิงห์เลยพานะโมไปหาเนมที่ซีตัสให้นั่งสงบจิตใจ

“นะโม!! ” เนมวิ่งเข้ามากอด

“ทำไมกอดเราบ่อยจังเนมเนม เราอึดอัด กอดเนมเนมแล้วไม่รู้สึกอุ่นเหมือนกอดพี่จ๋าเลย” ถึงปากจะพูดแบบนั้นออกไปแต่ตากลับยิ้มรับอ้อมกอดของเนม

“พี่..มึงกูดีใจฉิบหาย..ที่เจอ พี่ชาย” เนมกอดนะโมแน่น ดีใจจนล้นออกมา

“งืออ เรียกเราพี่ก็ได้นะเนมเนม เพราะเนมเนมเป็นน้องนะโม ฮี่ๆ *0*” คนพี่หัวเราะออกมา คนที่เหลือเลยหัวเราะตามเพราะรู้เรื่องราวคร่าวๆ มาบ้างแล้ว ต้าร์มองเนมมองสลับกับนะโม

“เออ ความจริงหน้ามันสองคนก็ดูคล้ายๆ กันนะพี่ ยกเว้นตากับปาก ตาไอ้เนมมันจะดุๆ ส่วนของไอ้เอ๋อมันออกจะหวานๆ ปากก็ด้วย น่ารักน่าฟัด” เพราะคนเคยมีความรู้สึกให้เลยพูดออกไปแบบไม่คิด ผลที่ได้คือโดนบีบเอวจนร้องจ๊าก

“โหดแต่กับเมีย!! ”

“หึหึ นี่ยังมีเยื่อใยอยู่?” ไม้เมืองถามเสียงต่ำ

“น้องไหมล่ะ น้องนะ”

“รู้ว่าน้อง น้องกูก็หึง”

ระหว่างนั้นพวกเพื่อนๆ ของนะโมก็คุยกันถึงเรื่องนี้

“เนมมึงแน่ใจนะว่าเป็นไอ้เอ๋ออะ” ปิงถามเนมที่นั่งยิ้มทั้งน้ำตา

“อืมกูแน่ใจ หลักฐานก็อยู่ที่มัน สร้อยเส้นนั้น มันเป็นของบ้านกู” ทุกคนพยักหน้า ยืนฟังอยู่เงียบๆ

“แล้วมึงจะพามันกลับไปเลยเหรอ จะสอบปลายภาคแล้วนะมึง” ส้มพูดออกมาเพราะอีกแค่ไม่กี่วันก็จะสอบปลายภาคแล้ว สิงห์เหลือบตามองเนมนิดๆ

“กูไม่รู้วะ แต่คือต้องพากลับแน่ๆ” น้ำเสียงจริงจังทำเอากำลังใจของสิงห์หล่นวูบ

“มึงแล้วพี่สิงห์เค้าจะยอมเหรอ มึงก็รู้ว่าสองคนนั้นเค้า..” ซีตัสหันไปมองหน้าสิงห์ ที่ตอนนี้สีหน้าเริ่มเคียดลง

“เรื่องนั้นคงต้องคุยอีกที แต่ตอนนี้กูอยากคุยกับพี่กู” เนมบอกด้วยเสียงที่จริงจัง ดวงตาคมจ้องไปที่อีกคน

“เนมเนม ไม่สิต้องเรียกว่าน้อง คิกๆ” นะโมทักน้องชายต่างมากดาด้วยรอยยิ้ม แม้ร่างกายจะไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่นเขาแต่นะโมก็ไม่ใช่เด็กที่จะไม่รู้เรื่องอะไรเลย น้องแค่บกพร่องรางสติปัญญาที่อาจจะพัฒนาช้าไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าน้องโง่ ดวงตากลมสบมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลายมากกว่าเก่า

“เนมเนม เป็นน้องนะ”

“อื้อ เป็นน้องที่จะปกป้องดูแลพี่อย่างมึงให้ดีที่สุด”

“อื้อ” นะโมยิ้มรับ



ภาพของคนทั้งคู่เรียกรอยยิ้มให้กับคนที่มองได้เป็นอย่างดีอาจจะมีแค่คนเดียวที่ยิ้มฝืนๆ ออกไป เขามองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจหวิวๆ รอยยิ้มของน้องความสุขของน้องเขาควรจะปล่อยน้องไปไหม

“งี้ ก็ต้องฉลองแล้วดิ” พลัสพูดยิ้มๆ เพราะไม่อยากให้เพื่อนเครียด

“งั้นผมไปซื้อเหล้าเพิ่มนะ *0*” ปิงทำตาลุกวาว แต่ก็โดนสิงห์เบรกเอาไว้

“กินได้เฉพาะคนโต เด็กๆ อย่างพวกมึงแดกนู่นน้ำเป็บซี่”

“โห่ววว ไรอะ ไม่เสมอภาคเลย” ปิงบ่นอย่าเซ็งๆ เพราะเป็นของชอบ ซีตัสทำตาดุใส่คนรักทันที

“พรุ่งนี้ไปเรียนกันไม่ใช่เหรอ โตแล้วต้องคิดได้แล้วนะว่าอะไรควรอะไรไม่ควร” สิงห์บอกเสียงเย็น จนปิงเงียบไป ซีตัสส่ายหัวนิดๆ กับคนรัก ก่อนจะเดินไปดูว่าต้องทำอะไรอีก ปล่อยให้พี่น้องเขาคุยกัน สิงห์กับแก้งหมอก็นั่งกินเหล้ากันอยู่ที่โต๊ะ



“เนมเนม เนมเนมเคยเห็นแม่เราไหม? แม่ที่ไม่ใช่แม่ด่าง” น้ำเสียงตอนที่ถามสั่นนิดๆ

“ไม่เคยหรอก เคยเห็นแต่รูป” เนมตอบตามความจริง

“รูป? เราขอดูได้ไหม”

“ได้สิ” เนมเอื้อมมือไปหยิบสร้อยที่คอของนะโมแล้วปลดสลักออก

“นี่ไง แม่ของนะโม สวยไหม”

“...”

เป็นครั้งแรกที่มันพูดอะไรไม่ออกดวงตากลมจ้องมองไปยังรูปเล็กๆ ในมือ ใบหน้าของหญิงสาวที่แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าที่คล้ายกับใบหน้าของตัวเอง นะโมลูบนิ้วลงบนรูปเล็กๆ นั้นอย่างแผ่วเบา ก่อนที่น้ำตาจะหยดลงมาจากดวงตาคู่สวย

“แม่สวยจังเลยเนมเนม ฮึก แต่ทำไม แม่ต้องทิ้งเราละเนมเนม” ดวงตากลมที่นองไปด้วยน้ำตาช้อนมองคนเป็นน้องด้วยความรู้สึกน้อยใจ

“......”

“ทำไมแม่ต้องทิ้งเราไว้ ฮึก แม่ไม่รักเราหรอเนมเนม”

“.....” จะให้บอกยังไงว่าเพราะแม่ของเขาทำให้นะโมต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า

“แม่ทิ้งเรา ฮึก แล้ว แล้ว พ่อละ ฮึก ทำไมไม่เคยมาหาเราเลย”

“พ่ออยากมาหาพี่มากนะ พ่อตามหาพี่ตลอด”

“เหรอ ฮึกแล้วทำไมไม่มาละ ตอนนี้พ่ออยู่ไหน” เสียงสะอื้นของนะโมทำเอาคนฟังอย่างสิงห์ปวดใจ เขาทั้งรักทั้งสงสารนะโม

“พ่อของเราไม่สบายมากๆ มาหาเราตอนนี้ไม่ได้” เนมอธิบายด้วยแววตาแสนเศร้า เวลาของพ่อเหลือน้อยเต็มที

“เหรอ ฮึก เนมเนม พ่อไม่สบาย เหมือนหลวงตาเหรอ”

“อื้อ” ไม่รู้ว่าเหมือนไหมแต่ก็ตอบไปก่อน

“.....”

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น?”

“ถ้าเหมือนหลวงตา พ่อก้จะทิ้งเราไปอีกคนสินะ จะทิ้งเราไปอยู่บนฟ้า” แววตาเศร้าสร้อยสบมองคนเป็นน้อง

“ถ้ามึงไปหาพ่อ พ่ออาจจะอาการดีขึ้น” เนมบอกอย่างมีความหวัง

“หืม” ดวงตากลมฉายแววสงสัยอีกครั้ง

“พ่ออยากเจอมึงมากๆ เลยนะ” เนมบอกไปตามความจริง

“เหรอ ฮึกดีจัง เราจะมีพ่อเหมือนกับคนอื่นเค้าแล้วใช่ไหม แล้วแม่เราละ เรามีแม่ไหมเนมเนม”

“มะ มีสิ” ภาวนาขออย่าให้พี่ชายถามถึงแม่เลย เพราะเขาไม่รู้ว่าจะตอบยังไงเหมือนกัน

“แล้ว แม่ของเราอยู่ไหนเหรอ” ช้อนตาซื่อถามด้วยความหวัง

“เอ่อ คืออ คืออ” เนมไม่กล้าตอบ เขาไม่กล้าทำลายความหวังของคนตรงหน้าจริงๆ

“เนมเนม แม่เราไม่อยู่แล้วใช่ไหม?”

“...”

“คนในรูปนี่คือแม่ของเราใช่ไหม?”

“อืม”

“ฮึก...ฮึก..แม่จ๋า” น้ำตาหยดลงบนฝ่ามือเล็กที่กำสร้อยไว้แน่น

“มึง อย่าร้อง” เนมดึงพี่ชายต่างแม่เข้าไปกอด เขารู้ว่าการสูญเสียคนในครอบครัวมันเจ็บปวดแค่ไหน

“เนมเนม แม่เรา” ดวงตากลมพับลงพร้อมกับนึกถึง วิญญาณที่พบเจออยู่บ่อยๆ พี่สาวคนนั้น พี่สาวที่มีหน้าตาเหมือนคนในรูปไม่มีผิดเพี้ยน เสียงสะอื้นแทบขาดใจของคนตัวเล็กดังก้อง แม่อยู่กับเขาตลอดไม่เคยไปไหนไกล พอคิดได้แบบนั้นความน้อยใจก็ค่อยๆ หายไป นะโมยิ้มออกมาทั้งน้ำตามันทั้งดีใจและเสียใจไปในเวลาเดียวกัน

“เนมเนม เราเจอแม่ด้วยนะ แม่มาหาเราบ่อย แต่แม่ไม่เคยบอกว่าแม่เป็นแม่เลย เราเสียใจ แต่เราก็ดีใจที่ได้รู้” คนพี่เล่าเรื่องราวผ่านม่านน้ำตา

“.....” คนน้องออกอาการงงกับคำบอกเล่า มีเพียงสิงห์เท่านั้นที่พอจะเข้าใจ ผีผู้หญิงที่นะโมคุยด้วยบ่อยๆ

“เลิกร้องไห้ได้แล้ว มึงควรจะดีใจสิที่เราได้เจอกัน” เนมพยายามปลอบ เขาปลอบใครไม่เก่ง เลยได้แต่กอดพี่ชายเอาไว้แน่นๆ

“อืม เราดีใจไสองมือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาออก แล้วคลี่ยิ้มออกมา

“งั้นก็ยิ้มเยอะๆ นะ เพราะตอนนี้ทุกคนรอมึงอยู่” เนมหันไปทางเพื่อนๆ พี่ๆ ที่นั่งมองเขาสองคนเงียบๆ

สิงห์ยิ้มอ่อนโยนให้กับคนรักไม่ว่ายังไงเขาก็พร้อมที่จะดูแลน้องอยู่ตรงนี้ ร่างบางเดินไปหาสิงห์ ด้วยรอยยิ้มเช่นกัน เดินไปตรงหน้าเขา คนที่ครอบครองหัวใจตัวเองเอาไว้ นะโมอยากจะบอกสิงห์ อยากให้สิงห์ได้รู้ว่าเขาเองก็มีพ่อแม่เหมือนกัน เขาไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว เขามีความสุขและอยากจะให้คนที่รักมีความสุขด้วย

“พี่จ๋า น้องมีพ่อแม่แล้วนะจ๊ะ”

“ครับ^^”

“น้องมีความสุข”

“ครับ^^”

“น้องอยากให้พี่จ๋ามีความสุขเหมือนน้องด้วย น้องเลยมาบอก”

“ครับ^^ คนดีของพี่” สิงห์ดึงน้องเข้าไปกอดด้วยความรัก อ้อมกอดอบอุ่นที่นะโมไม่อยากให้มันหายไป

พอทุกอย่างสงบและปรับอารมณ์กันได้ งานฉลองเล็กๆ ก็เริ่มขึ้น กลุ่มเด็กที่แยกออกไปนั่งกินหมูกระทะ กับกลุ่มผู้ใหญ่พี่นั่งดื่มกัน มีบ้างที่คนโตไปแย่งหมูน้องๆ กิน จนเกิดสงครามแย่งหมูในเตาโดยเฉพาะหมูสามชั้นของโปรดของนะโม

“ย๊ากกก พี่หมอไม้ ของหนูนะ คายออกมาเลย!! ” คนตัวเล็กกระโจนจับขาพี่หมอของตัวเองที่คาบเอาหมูชิ้นที่ตัวเองอุตส่าห์ย่างไว้อย่างดี

“ไม่ให้หรอก หึหึหึ” ไม้เมืองหัวเราะอย่างชอบใจ

“ได้ ได้ พี่หมอเลือกเองนะ” คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินไปที่โต๊ะของสิงห์ที่นั่งกันอยู่ สายตาคมกวาดมองหาแก้วของหมอ

“อึก อึก อึก อ่าส์ แย่งดีนัก หนูก็จะแย่งของพี่ไม้กินเหมือนกัน!! ”

“เห้ยยยย น้อง!! ” สิงห์คว้าแก้วเหล้าของไม้ไม่ทัน

“คึคึคึ -///-”

“ซวยแล้วมึง” สิงห์หันไปมองไม้เมืองตาขวาง

“กูปล่าวว นะ น้องกินเอง”

“นะโม วางแก้วลงได้ครับ แล้วเดินมาหาพี่” สิงห์พูดเสียงดุ

“ม่ายยย พี่หมอต้องคายหมูมาคืนหนูก่อน!! ” คนตัวเล็กพูดอย่างไม่ยอม

หมูชิ้นเดียวก็ยอมไม่ได้!!

“เอ้า กูกลืนไปแล้วอะพี่สิงห์” ไม้เมืองทำหน้าเหวอ ไม่คิดว่าหมูชิ้นเดียวจะเป็นเรื่องได้ขนาดนี้

“เห้ออ นะโมครับ เดินมาหาพี่จ๋าหน่อยเร็ว” สิงห์ตบมือลงบนตักตัวเอง นะโมยู่ปากอย่างขัดใจ กำลังสนุกที่ได้แกล้งพี่หมอเลย

“งื้อ อย่าจับซี่ มันจั๊กจี้” นะโมบิดตัวหนีฝ่ามือที่จับเอวบางเอาไว้แน่น

“นั่งนิ่งๆ ก่อนนะครับ พี่มีเรื่องจะบอก”

“อะไรหรอ? ( ‘’ ) ” ช้อนตามองคนที่นั้งช้อนหลังอยู่ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงนิดๆ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่กินเข้าไป

“ไหนสัญญาว่าจะไม่ดื้อไงครับ”

“น้องก็ไม่ดื้อนิ”

“หนูดื้อครับ พี่บอกว่าไม่ให้กินของมึนเมาไง”

“อ๊ะ หนูลืมเลย ก็พี่หมอไม้อะ” เบะปากคว่ำใส่หมอหนุ่มที่ยืนฟัง

“ไอ้ไม้ มึงอะต้นเหตุเลย ไปย่างหมูมาคืนน้องเลยนะมึง” พลัสสั่งแล้วหัวเราะขำ

“ไม่เอาน้องไม่เอาชิ้นใหม่ น้องจะเอาชิ้นที่พี่หมอไม้กินไป คึคึ” รู้ว่าไม่มีทางทำได้ เจ้าตัวเลยหัวเราชอบใจที่สามารถแกล้งหมอไม้ได้

“แสบจริงๆ เลยนะตัวแค่นี้” หมอไม้ยิ้มจนตาปิดกับความแสบของนะโม ต้าร์ที่นั่งอยู่ในกลุ่มเด็กๆ เดินถือหมูสามชั้นย่างมาพูนจาน

“อะ นี่ของมึงกูย่างมาคืนให้” ต้าร์ยื่นจานหมูย่างไปตรงหน้า

“*0* หูวววววววว เยอะ เยอะ คิกๆ ขอบคุณครับลูกพี่” นะโมคว้าจานมาถือไว้แล้วยิ้มกว้าง ทำราวกับมันเป็นสมบัติล้ำค่า

“ยิ้มจนแก้มจะแตกเลยนะมึง กะอีแค่หมุสามชั้น ทะเลาะกันอยู่ได้” ต้าร์บ่นอย่างไม่จริงจังนัก

“คึคึ พี่ต้าร์ใจดี” รอยยิ้มกว้างๆ ของน้องทำเอาคนอื่นยิ้มตาม

“น้องงงง *0* จับกูทีไอ้คิท กูจะล้ม!! ” ชาจับเพื่อนตัวเองไว้กันล้ม

“กูก็ไม่ไหวไหม ไอ่เหี้ย กุพึ่งจะเคยเห็นน้องยิ้มชัดๆ ก็วันนี้ ได้สิงห์มึงแมร่งทำบุญด้วยอะไรวะ!! ”

“หึหึ” สิงห์หัวเราะเยาะเพื่อนๆ เรียกความหมั่นไส้จากคนทั้งโต๊ะ

“น้อง น้องอยากได้อะไรบอกพี่คิทนะครับ” คิทลูบหัวทุยๆ ของนะโมด้วยความเอ็นดู

“พี่หมอจะหาให้หนูหรอ” นะโมเอียงคอถามด้วยดวงตาใสซื่อ

“น้องอยากได้อุ๊งอุ๊ง” นะโมบอกพร้อมกับสายตาอ้อน

“อุ๊งอุ๊งคือไรวะ” คิทหันไปถามพลัสที่นั่งอมยิ้มอยู่เงียบๆ เขารู้ว่าคิทมันแพ้ของน่ารัก แล้วมาเจออะไรที่น่ารักๆ อย่างนะโมแล้วละก็...

“ตุ๊กตาน้องแมวน้ำไง”

“อ่อ โอเค พี่พร้อมเปย์เต็มที่”

“*0* จริงหยอออออ” ดวงตาเยิ้มลุกวาวพร้อมกับเสียงที่เริ่มจะยานคาง

“จริงซี่ พี่คิทพร้อมเปย์ทุกอย่างเลยครับ”

“คิกคิก>.<” รู้ว่ามีคนจะให้ของที่ตัวเองอยากได้ก็หัวเราะชอบใจ เอนหัวซบไหร่คนที่ตะกรองกอดเอาไว้ด้วยความคุ้นชิน

“พี่จ๋า..หนูหิว>< หนูกินได้ไหม?” พอบอกว่าหิวคนพี่ก็จำใจปล่อยให้คนบนตักคีบหมูเข้าปาก

“ป้อนพี่มั่งสิ” สิงห์กระซิบบอก นะโมพยักหน้ารับก่อนจะคีบหมูให้สิงห์กิน ตัวเองกินสองชิ้น สิงห์กินชิ้น พอคนอื่นขอให้ป้อนมั่งสิงห์ก็มองตาขวางใส่

“มึงชื่อสิงห์เหรอ?” พลัสถามไม้เมือง ป้อนกันจนหมูหมดจาน

“อร่อยย”

“อร่อยมากๆ ครับ” ต่างคนต่างยิ้มให้กัน เนมที่คอยมองตลอดก็เกิดอาการหวงพี่ชายตัวเองขึ้นมาตงิดๆ เขาลุกจากวงหมูกระทะ แล้วเดินตรงมาที่นะโม

“เนมเนมจ๋า....” นะโมเรียกน้องชายเสียงหวาน

“พี่มึงเมาแล้ว ขึ้นบ้านไปอาบน้ำนอนไป” เนมดึงพี่ชายตัวเองออกจากตักสิงห์อย่างเนียนๆ ก่อนจะประคองให้นะโมยืนดีๆ

“เมาราย ไม่ มาววว เดี๋ยวเดินให้ดู” นะโมชี้หน้าคาดโทษเนมไว้ ก่อน เดินหน้า สามกว้าว แล้วเดินถอยหลังไปหกก้าว เซซ้ายทีขวาทีเหมือนคนน้ำในหูเท่ากัน

“โห เดินซะตรงเชียว” พลัสแซวขำๆ

“เห็นไหมพี่หมอพลัสยังบอกว่าตรงเลย เนมเนม อะมั่ว อึก”

“ตรงมาก เลยพี่กู ไปๆ ขึ้นบ้าน”

“อะไร เราไม่ขึ้น เราจะอยู่กับพี่จ่า คิกๆ” พูดจบก้เดินเซๆ ไปทางสิงห์ ที่รอรับอยุ่แล้ว

“-*- “

“ทำไมต้องนั่งตักกันด้วย ที่มีตั้งเยอะ! ” เนมแทบจะขึ้นเสียงใส่เมื่อเห้นพี่ชายหมาดๆ ของตัวเองล้มนั่งบนตักของสิงห์

“งะ เนมเนม ตักพี่จ๋านะ คึคึ นุ่มมากกกกกก เราชอบ” ไม่ได้จะอวดอะไรแต่พูดไปตามความรู้สึก

“แต่มัน..ฮึ้ย พี่มึงลุกออกมา ถ้าจะนั่งตักมานั่งตักกู” เนมดึงข้อมืฮเล็กให้ลุกแต่ เจ้าตัวขืนไว้

“ไม่อาววจานั่งตักที่จ๋า เนมเนมปล่อยเรานะ”

“-*- “หน้าเนม

“= =” หน้าคนอื่นๆ

“>0<” หน้านะโม

“ไม่ได้ชื่อสิงห์ ทุกอย่างก็จบครับ ไปไอ้น้องชายไปนั่งกับพวกกู คนเค้ารอแดก มาสะเออะอะไรตรงนี้” ยิมเดินมาลากเนมหลังจากได้ยินเสียโวยวายจากเพื่อนของตัวเอง

“เห้ยอะไร ไม่เอา กูอิ่มแล้ว”

“อิ่มที่หน้ามึงนี่ กินไปไม่กี่คำก็แจ้นมาหาเขาแล้ว!! ”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ฝากน้องด้วยค่ะ เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน นอกจากไรท์ที่เป็นคนเขียนแล้วค่ะ 5555555555555555

คิกค้ากกกกกก เนอะ



หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.43 6/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-01-2019 13:14:55
จริงแหละ...... ไรท์ซับซ้อนนะ  :katai2-1:
ถึงสามารถแต่งเรื่องนี้มาให้อ่านได้

นะโม มีแม่หนึ่งตัว กับอีกหนึ่งคน  :hao3:
แล้วจะได้เจอพ่ออีกด้วย

สิงห์  นะโม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.43 6/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 06-01-2019 15:50:41
ฉลองกันใหญ่ 5555 ดีใจด้วยรู้ความจริงกันหมดแล้ว คราวนี้ก็รอไปเจอพ่อ จะเป็นยังไงบ้าง รออ่านตอนต่อไปเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่แต่งและอัพตลอดเรื่อยมา :)
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.43 6/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-01-2019 17:31:44
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.43 6/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 06-01-2019 18:41:51
 :mc4:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.43 6/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 06-01-2019 18:59:04
ก็น่าจะรู้ได้ล่ะ นี่ตอน. 43 แล้ว อ๊ะๆ. ที่ผ่านๆ มา พี่สิงห์จับน้องกินตล๊อด
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.43 6/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-01-2019 19:25:14
เมาแล้วน่ารัก ก็ปล่อยให้เมาไปเถอะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.43 6/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 06-01-2019 21:54:06
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.43 6/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 07-01-2019 00:37:00
อาการหวงพี่ก็มาจ้า555
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.43 6/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 08-01-2019 17:14:11
น้อววววววว :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.43 6/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 10-01-2019 07:00:04
หึหึ ยังไงต่อละรู้ความจริงละอ่ะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.43 6/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 12-01-2019 14:28:59
 o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.44 20/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 20-01-2019 10:43:36


44

หลังปาร์ตี้หมูกระทะ แน่นอนแก้งหมอเถื่อนเมาเรื้อนกันเกือบทุกคน ลำบากเด็กๆ ต้องแบกกันขึ้นบ้านไปนอน สิงห์บอกให้ปล่อยทิ้งไว้กลางลานบ้านนั่นแหละ ส่วนตัวเองเดินไปหยิบผ้าห่มมาโยนให้ไว้ แถมจุดยากันยุงให้ด้วย

หลังจากนั้นเขาก็ขับรถไปส่งเด็กๆ ทุกคน

“ขอบคุณนะครับพี่สิงห์” ยิมยกมือไหว้หลังจากที่รถมาจอดที่หน้าบ้านของยิม

“อืม ไม่เป็นไรเข้าบ้านไปได้แล้วพี่จะไปส่งคนอื่นต่อ”

“ครับ อ่อ พี่นะโมอะมันเมาแล้วรั่วพี่ก็อย่าไปทำโทษมันนะ พรุ่งนี้มันมีเรียน ถือว่าผมขอ”

“เออ รู้น่า”

“ยิมยิ๊มมมมมมมมมม พรุ่งนี้เจอกันน้า จูฟฟจุ๊บ”

“เออ เมาแล้วมึงนอนเหอะไม่รู้จะตามมาด้วยทำไม”

“เรื่องของราววว คิกคิก”

“อะว่ากูเสือกอีก ห่าเอ๊ยจะโกรธก็โกรธไม่ได้”

พอยิมเข้าบ้านเรียบร้อยสิงห์ก็มาส่งส้ม ตัสและปิง ที่บ้าน เหลือแค่เนมเท่านั้น สิงห์ขับรถมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของเนม

“ถึงแล้วลงไปสิ” สิงห์เหลือบมองเนมในกระจกมองหลัง เด็กหนุ่มยกยิ้มนิดๆ

“พี่มึง วันนี้นอนบ้านเรากันไหม?” เนมเอ่ยชวนนะโมให้นอนที่บ้าน นะโมหันมายิ้มฟันขาวแล้วส่ายหน้าปฏิเสธ

“ม่ายยอาวว เราจะนอนกับพี่จ๋า คิกคิก”

“-*- “

“หึหึ ลงไปได้แล้ว” สิงห์ไล่ให้เนมลงรถ

“พรุ่งนี้ผมจะไปรับพี่ชายผมไปโรงเรียน นะโม พี่พรุ่งนี้อยู่รอกูด้วยนะจะมารับไปโรงเรียน”

“อื้ออ คึคึ นั่งรถสองแถวนะ”

“-*- เดี๋ยวเอากุ๊กไก่ไปรับ”

“งืมม กุ๊กไก่ๆ กุ๊กๆ ๆ ๆ ๆ” ทำเสียงไม่พอยังกระดิกนิ้วเรียกกุ๊กไก่อีก

“กุ๊กที่หน้ามึงอิพี่ เมาก็นอนไปได้แล้ว อ่อแล้วพี่สิงห์ถ้าพรุ่งนี้ผมรู้ว่าพี่ทำอะไรมันละก็ ผมจะพามันกลับเมกาทันที!! ”

“ขู่กู?”

“ไม่ได้ขู่ แต่จะทำจริงๆ ผมจะพามันกลับหลังจากสอบปลายภาคเสร็จ”

“......”

“พี่ก็กลับไปพักผ่อนได้ละ” เนมหันหลังไปเปิดประตูเล็กแล้วดินเข้าบ้านไป

“คึคึ พี่จ๋าหล่อ หล่อที่สุดเลย^^”

++++++++++++++++++++++++++

วันที่ 16 ธันวา

(แชทซีตัส)

Singha



ว่างไหม



พี่มีเรื่องจะคุยด้วย

ซีตัสคนจริง

ว่างพี่

Singha

พรุ่งเป็นวันเกิดของนะโม

พี่จะจัดปาตี้ให้น้อง

ซีตัสคนจริง

อ่าว

ไมพี่บอกช้าอะ

ผมเตรียมของขวัญให้มันไม่ทันนะเนี้ย

Singha

ไม่เป็นไรหรอก

ซีตัสคนจริง

ว่าแต่พี่จะให้ผมช่วยอะไร

Singha

ถ่วงเวลาน้องให้กูที

กูจะจัดบ้าน



วันที่ 17 ธันวาคม

14.30น.

“มึงอย่าลืมไปชวนพี่มึงเล่นบาสตอนเย็นนี้นะไอ้เนม” ซีตัสเดินมาเนมที่ห้องทับหนึ่ง

“เออไม่ลืมหรอกน่า ว่าแต่ของขวัญพวกมึงซื้อกันไว้แล้วหรอวะ”

“ตั้งแต่เมื่อวานละ แล้วมึงอะ”

“หึหึหึ ของกูมันต้องยิ่งใหญ่เว้ย กูจะไม่น้อยหน้าไอ้พี่สิงห์มัน มึงคอยดูเถอะ”

“เหรอออ แต่กุคิดว่าไอ้ที่ยิ่งใหญ่ๆ ของมึงนะไม่มีวันชนะของของ พี่สิงห์หรอก” ซีตัสยิ้มเยาะกับความมั่นหน้าของเนม ว่าของขวัญของตนเองจะชนะสิงห์ได้

“เดี๋ยวก็รู้” เนมพูดอย่างมั่นใจ

“เออ เดี๋ยวรู้เลยว่าใครมันจะหน้าแหก”

15.20น.

“พี่ปะไปซ้อมบาสกัน” เนมเดินมาที่ห้องทับสาม นะโมกำลังเก็บของใส่กระเป๋าพอดี คนพี่หันมายิ้มฟันขาวแล้วรีบพยักหน้าให้

“เนมเนม แต แต่ว่าวันนี้ วันนี้นะเป็นวันสำคัญของเรานะ เราต้องรีบกลับบ้าน ต้องรีบกลับ วันนี้วันสำคัญ” นะโมพูดซ้ำไปซ้ำมาด้วยความตื่นเต้น “เพราะพี่จ๋าสัญญาว่าจะซื้อเค้กให้กิน เนมเนมต้องซ้อมไวๆ นะ”

“อื้อ ปะๆ เอ่อ ไอ้ตัสมึงกูลืมของไว้ที่ร้านอะมึงไปเอาให้กูหน่อยดิ” เนมแอบขยิบตาให้ซีตัส

“อ่า อ่อ เออๆ ได้ๆ” ซีตัสรับคำก่อนจะแยกตัวออกไป

“เออ กูไปด้วยดิ จะไปซื้อน้ำ ยิมส้มฝากดูมันด้วย” ปิงบอกก่อนจะวิ่งตามคนรักออกไป

“อ่าวไปไหนกานนนน”

“ไม่ต้องตามหรอก นั่งดูไอ้เนมมันซ้อมบาสนี่แหละเดี๋ยวมันก็มา” ส้มจับคนตัวเล็กให้นั่งลงบนสแตนด์ดีๆ ก่อนจะเอาหนังสือออกมาอ่านนะโมเห็นก็ทำหน้าเบ้ทันที

“ส้มส้ม ทำไมชอบทำตัวให้เครียด เราเห็นแล้วเราปวดหัวเลย” สองมือยกขึ้นมาจับหัวตัวเองแล้วส่ายไปมา

“-*- จะสอบแล้วค่ะ ต้องขยันอ่านสิ ไม่อ่านแล้วจะสอบผ่านเหรออ”

“ผ่านซี่ เราเก่ง” หันมาตอบแล้วยิ้ม ก่อนจะหยิบสมุดวาดรูปออกมา วาดต่อที่ทำค้างไว้ อย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่มีแม้แต่จะมองสิ่งรอบข้างเลยด้วยซ้ำ ส้มมองไปยังสมุดภาพทีนะโมวาดอยู่

“วาดใครเหรอนะโม ทำไมสวยจัง”

“แม่เราเอง คึคึ แม่เราสวย” รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนใบหน้าหวาน นะโมมองภาพที่ตัวเองตั้งใจวาด แล้วเอามือลูบภาพนั้นอย่างทะนุถนอม เหมือนมันเป็นสิ่งล้ำค่า

“อื้อ สวยมากเลย แล้วนะโมเคยเห็นแม่ด้วยเหรอ” จากที่รู้มานะโมกำพร้าตั้งแต่ยังเล็กๆ ไม่น่าจะจำแม่ตัวเองได้ละเอียดขนาดนี้ ถ้าวาดจากรูปในรอคเกท ภาพเก่ามาอจางจนแทบจะมองไม่เห็น

“เคยสิ แม่มาหาเราบ่อยๆ ตะ ตะแต่ ว่าตอนนั้นเราไม่รู้ว่า พี่สาวเป็นแม่” นะโมเงยหน้าขึ้นมาสบตากับส้ม แววตาเศร้าลงไปนิดแต่ก็แค่ครู่เดียวก็กลับมาสดใส

“คือ เราไม่เข้าใจ” ส้มไม่รู้ว่านะโมมองเห็นวิญญาณได้

“.....”

นะโมไม่ได้ตอบหรือคุยอะไรอีก เพราะกำลังจมดิ่งกับสมาธิ จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกของใครบางคน

“ไอ้เอ๋อ ไปกลับบ้านได้ละ เดี๋ยวกูไปส่ง” ซีตัสกลับมาเข้ามาอีกครั้ง ตอนนี้เกือบหกโมงเย็นแล้ว ฟ้าเริ่มมืดลง

“อ่า อื้อ เนมเนม กลับบ้านนนนนนน” ตะโกนเรียกน้องชายต่างสายเลือดเสียงดังมือก็เก็บอุปกรณ์วาดรูปไปด้วย ยิมเดินเข้ามาช่วยถือ ส้มเดินนำลงไปแล้วตามด้วยนะโมแล้วก็ยิม เดินไปที่รถที่จอดอยู่

“รถพี่จ๋าทำมาอยู่นี่ละ”

“ก็กูขับมารับมึงไง พี่สิงห์ไม่ว่าง” พอได้ยินคำว่าไม่ว่างใบหน้าหวานก็สลดลง เพราะคิดว่าคนพี่จะมารับตนเองในวันสำคัญแบบนี้

“เป็นอะไรอีก ทำหน้าเป็นตูดเชียว” เนมขึ้นมานั่งข้างๆ ส้มนั่งหน้ายิมนั่งฝั่งซ้ายประกบนะโมไว้อีกข้าง ทุกคนหันมามองคนหน้าจ๋อยเป็นตาเดียว

“ปะ ป่าว เราไม่ได้เป็นอะไร”

“เหรอ งั้นกลับบ้านเลยนะ”

“อื้อ”

พอถึงบ้านนะโมก็ลงรถและเดินเข้าบ้านโดยที่ไม่รอใคร บนบ้านมืดสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่ กุญแจบ้านล็อกนะโมเลยไขเข้าไป มือเล็กเอื้อมเปิดสวิสไฟ

แปะ

พรึบ!!

สุขสันต์วันเกิด!!!!!

ปุ้ง ปัง ปุ้ง

“เฮือกกกกกก *0*” พอไปสว่างทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่เห็น พวกแก้งหมอกับพวกของต้าร์ต่างก็ตะโกนจนนะโมตกใจ ก่อนจะยิ้มแก้มปริ

“สุขสันต์วันเกิดครับเด็กดีของพี่” สิงห์ยืนอยู่ตรงกลางโดยที่ในมือถือเค้กก้อนโตเอาไว้ “ฮึก...ฮือออ พี่จ๋า.ฮึก” เพราะความดีใจจนต้องร้องไห้ออกมา นะโมยิ้มและร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ เพราะตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยมีงานวันเกิดเลยสักครั้ง ดวงตากลมมองไปรอบๆ บ้านทุกอย่างถูกตกแต่งด้วยลูกโป่งหลากสีและป้ายงานวันเกิดที่ระบุชื่อตัวเองอยู่บนกำแพง

มองออกไปนอกบ้าน รอบๆ บ้านตกแต่งด้วยไฟกะพริบสวยงาม จนต้องร้องว้าวออกมาดังๆ

“สวยจังเลยครับ”

“ชอบไหมมึง” เนมเป็นคนถาม

“ชอบมากๆ เลย ฮึก”

“เป่าเทียน ได้แล้วครับ”

“อธิษฐานก่อนนะ”

“ (หนูขอให้หนูมีพี่จ๋าตลอดไป) ฟู่วววววว”

หลังจากนั้นก็เริ่มงานเลี้ยงวันเกิดที่ไร้ของมึนเมามีแต่น้ำอัดลมกับน้ำผลไม้ ส่วนกับข้าวสิงห์สั่งจากโรงแรมของตัวเองมา ทุกอย่างดูหรูหราและน่ากินมาก แต่มีอยู่หนึ่งอย่างที่พิเศษสำหรับนะโม

“*0* ไข่พะโล้..”

“ของโปรดมัลละ อย่าคิดไปแย่งเชียว” ต้าร์พูดอย่างขำๆ ทุกคนดูมีความสุข มีแต่เสียงหัวเราะ และรอยิ้ม กินจนอิ่มและไม่มีอะไรเหลือ วันนี้พวกเขาไม่ต้องเก็บกวาดเองเพราะเจ้าของบ้านเรียกพนักงานจากโรงแรมมาทำให้เสร็จสรรพ ไม่ต้องเหนื่อยเก็บเองเวลาผ่านไปไม่นาน ทุกคนทยอยเอาของขวัญมาให้

“อะนี่ของขวัญ มันก็ไม่ได้แพงอะไรแต่กูกับพี่หมอตั้งใจหามาให้เลยนะเว้ย” ต้าร์เดินมาแล้วยื่นกล่องของขวัญให้ ใบหน้าหล่อขึ้นสีนิดๆ นะโมทำตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น

“ขะ ของ ของขวัญ ของหนูเหรอพี่ต้าร์” มือสั่นหน่อยๆ ตอนยื่นออกไปรับ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะได้รับมันจริงๆ ของขวัญ ชิ้นแรกในชีวิต

“อื้อ ของมึงนั่นแหละ เปิดดดูสิ ตอนแรกคิดว่าจะไม่ทันแล้วด้วยซ้ำ” ต้าร์ บอกนะโมค่อยๆ แกะห่อของขวัญในใจก็ลุ้นไปด้วย ของขวัญชิ้นแรกปรากฏสู่สายตาของทุกคน

“*0* หน้าเหมือนหนูเลย” ของขวัญของต้าร์เป็นแสตนดี้รูปเหมือนของตัวเองในอิริยาบถต่างๆ ขนาดห้านิ้ว มีทั้งหมดสิบเอ็ดชิ้นและรูปของทุกคนอีกคนละชิ้น ต้าร์เป็นคนเดียวที่รู้วันเกิดของนะโมอยู่แล้วเลยมีเวลาสั่งทำของพวกนี้ ตู้โชว์ของเขาคงล้นก็คราวนี้ นะโมยิ้มแก้มปริคนให้เองก็ด้วย

“ขอบคุณนะครับพี่หมอ พี่ต้าร์”

“อันนี้ของเรากับส้ม”

“*0* ให้เราอีกเหรอออ”

“อื้อแกะเลย”

“อุปกรณ์วาดรูป*0*มีสีที่เรายังไม่มีด้วย ขอบใจนะส้มส้มยิมยิม”

“อื้อ สุขสันต์วันเกิดนะอิลูก ขอให้มึงมีความสุขนะ ขิให้น่ารักแบบนี้ทุกวันอย่าให้เหมือนน้องมึง” ส้มพูดด้วยรอยยิ้ม

“อื้อ ขอบใจนะส้มส้ม”

“อันนี้ของกูกับปิง หวังว่ามึงคงจะชอบ”

“นะ หนังสือ *0*”

“อืม หนังสือเกี่ยวกับสัตว์ชีววิทยา กูเห็นมึงชอบอ่าน เล่มนี้มึงยังไม่มีนี่”

“ใช่ ใช่ เรายังไม่มี ตัสตัสเก่งจัง รู้ได้ว่าเราอยากได้”

“ก็เห็นมึงถามหาทุกครั้งที่เข้าร้านหนังสือ”

“มันไม่มี สั่งจองก็ยาก” ปากเล็กขยับพูด ดวงตากลมจ้องมองรูปในหนังสือด้วยความหลงใหล ใจอยากจะเปิดอ่านเสียตอนนี้เลยด้วยซ้ำ ต่อมาเป็นของหมอคิท ที่แบกตุ๊กตาอุ๋งอุ๋งลงมาจากหลังรถ ตุ๊กตาแมวน้ำตัวใหญ่กว่านะโนถูกวางไว้ตรงหน้า

“*0* ว้าวววว น้องอุ๋งๆ ๆ” เสียงกรี๊ดของเจ้าของวันเกิดดังลั่นบ้าน เพราะได้ของที่อยากได้

“สุขสันต์วันเกิดครับเด็กดี”

“ขอบคุณครับพี่หมอ”

“ส่วนนี่ของพี่” พลัสยื่นทองเส้นโตพร้อมจี้พระเลี่ยมทอง

“โหววววว ไอ้พลัสที่ของขวัญวันเกิดกูไม่เห็นได้แบบนี้บ้าง คิทหันมาร้องโหใส่ คนอื่นตาวาวกันไปหมด

“ของมึงอะแค่ถุงยางยังแพงไปเลย อย่าพูดมาก” พลัสแขวะใส่ก่อนจะส่งสร้อยให้นะโม

“ขอบคุณครับพี่หมอพลัส” นะโมรับสร้อยมาถือไว้ด้วยมือสั่นๆ นะโมไม่เคยได้จับทองคำเลยสักครั้ง อย่าว่าแต่จะเห็นเลย ระยะใกล้ขนาดนี้เล่นเอาคนตัวเล็กถึงกับกลัวนิดๆ เพราะว่าถ้าทำหายมาคือเรื่องใหญ่มากๆ

ต่อมาคือหมอชาที่ลงทุนวิ่งรถเข้ากรุงเทพเพื่อไปซื้อขนมมาให้ มันเป็นขนมที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่างญี่ปุ่นและเกาหลี มีทั้งช็อกโกแลตและ ขนมอบกรอบ พอรู้ว่าข้างในเป็นขนมเจ้าของวันเกิดก็แทบจะกระโดด

“โห่ ไอ้ชา นี่มึงกะจะให้น้องไปรักษาฟันกับมึงใช่ไหม ดูขนมแต่ละอย่าง” สิงห์บ่นนิดๆ

“แค่ทำฟัน ขนหน้าแข้งมึงไม่ร่วงหรอกไอ้ห่า”

“เออ!! ”

“ไหนของขวัญของมึงอะ” พลัสถามหาของขวัญจากสิงห์ ร่างสูงหันไปยิ้มให้น้องก่อนจะยกมือขึ้นปิดตาน้องแล้วพาเดินออกมาหน้าบ้าน นะโมดูตื่นเต้น เอ่ยปากถามตลอดว่าจะพาไปไหน แต่สิงห์ไม่ยอมตอบคนอื่นๆ ก็คอยมองเช่นว่าของขวัญที่ว่าจะเป็นอะไร สิงห์พานะโมออกมานอกรั้วบ้าน เขาจับนะโมให้หันหน้าไปทางตัวบ้าน แล้วก็เปิดตาออก

“บ้านหลังนี้เป็นของหนูแล้วนะครับ”

“*0* บะ บ้าน”

“ครับ พี่ยกบ้านหลังนี้ให้หนู บ้านพร้อมที่ดิน และเงินในบัญชีของพี่ พี่ยกให้หนูเป็นของขวัญวันเกิด” พอทุกคนได้ยินก็อ้าปากค้างกับความใจปล้ำของสิงห์

“เยสเข้ ของๆ กูแม่รงดูไร้ค่าไปเลย” ชาร้องออกมาแทบจะทันที พร้อมกับหันไปมองกองขนมในกล่อง

“มะ หมายความว่าไง บ้าน บ้านของพี่จ๋า”

“ต่อไปนี้มันเป็นของหนูแล้วครับ”

“ฮึก..หนูไม่เคยมีบ้าน ฮึก..ทำไมพี่จ๋าต้องดีกับหนู ฮึก พี่จ๋า..”

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนนี้น้อยหน่อยได้ไหม T^T เค้ามะสบาย ไอจนปวดหัว ไว้ทบตอนหน้าได้ป่าวคะ   อีกสองตอนจบแล้ว

นะน้า ถือว่าเราขอ  ยังไม่ได้ทวนกับแก้คำผิดเลยนะรีบลง กลัวรอกัน วันนี้เค้าไม่ไหวจริงๆ ขอโทษด้วยนะ

แต่เค้าเอาตอนแรกของ ไม้กันหมา มาลงให้อ่านคั่นน้องด้วยนะ

รักนะจุ๊ฟๆ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.43 6/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 20-01-2019 11:16:34
สุขสันต์วันเกิดจ้านะโม​  ของขวัญเยอะจริงๆ
พี่จ๋าก็จัดใหญ่
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.43 6/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: jpjiraporn ที่ 20-01-2019 11:48:31
ขอให้หายไวๆนะคะ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.45 27/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 27-01-2019 11:04:49


45

ของขวัญที่เรียกว่าบ้าน มันเกินกว่าที่เจ้าตัวคาดหมายเอาไว้มากไหนจะเพื่อนๆ ไหนจะคำอวยพรและของที่ได้รับ มันมากเกินเสียด้วยซ้ำ นะโมน้ำตารื้นหันไปมองรอบๆ ตัวด้วยความตื้นตันใจ ชีวิตของเด็กคนหนึ่งที่ลำบากมาตั้งแต่เล็กแถมยังเป็นออทิสติกให้ใครเขารังเกียจอีก ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีวันนี้ วันที่มีแต่คนรักและเอาใจใส่เขา

“ฮึก ขอบคุณครับ ขอบคุณทุกคนเลย” สองมือยกประนมไหว้ทุกคนด้วยน้ำตาที่เอ่อท้น

“ยังเหลือของกูนะ พี่มึงอย่าลืม” เนมยกยิ้มขึ้นมาใช่เขาแค่รอเวลาเปิดตัวของขวัญของตัวเอง เนมปรบมือสามครั้งเป็นสัญญาณเรียก สักพักก็มีรถคันใหญ่เข้ามาจอด บนกระบะหลังรถมีห่อของขวัญขนาดใหญ่ตั้งอยู่

“ถึงของกูมันจะไม่ทุ่มทุนเท่าพี่สิงห์ แต่ของขวัญชิ้นนี้นะ กูซื้อด้วยเงินเก็บกูเลยนะเว้ย” เนมยืดอกภูมิใจ

“อะ อะไรหรอเนมเนม”

“อยากรู้ก็ขึ้นไปแกะดิ”เนมบอกด้วยเสียงที่ตื่นเต้น

“อะ อื้ออ”

คนตัวเล็กปีนขึ้นไปบนกระบะหลังอย่างทุลักทุเล ก่อนจะมองกล่องใบใหญ่ตรงหน้า คิ้วเรียวขมวดยุ่งก่อนจะลงมือแกะห่อของขวัญที่ทุกคนก็อยากรู้

“*0*..มะ มอไซต์”

“น้องลูกเจี๊ยบ เป็นไงเท่มะ” เจ้าตัวบอกชื่อให้เสร็จสรรพ มันเป็นมอเตอร์ไซน์คันสวยรุ่นใหม่ล่าสุด ตกแต่งพร้อม ราคาเหยียบล้าน อย่างBMW S1000 RR HP Line เจ้าของวันเกิดตาโต ใจเต้นระทึกเพราะเป็นของขวัญที่ถูกใจสุดๆ . แต่ทว่า คนตัวเล็กที่พยายามปีนขึ้นมอไซน์แต่พยายามเท่าไหร่ก็ปีนขึ้นไปนั่งไม่ได้สักที

“งะ เนมเนม ขาเราไม่ถึงแน่ๆ เลย” มองจากสภาพคงต้องรอนะโมโตกว่านี้ก่อน

ผั๊วะ

“โอ้ยยย ส้มมึงจะมาตบหัวกูทำไม!! ” เนมที่จู่ๆ ก็เห็นดาววิ้งขึ้นมาโวยวายใส่ส้มที่ยืนเท้าเอวทำหน้ายักษ์

“นี่มึงอยากให้ลูกกูนอนโลงไวๆ ใช้ไหม ห๊ะ! สมองมีทำไมไม่รู้จักคิด ซื้อมาได้ เอาอีกสักทีดีไหม! ” ส้มฟาดมือลงบนหัวของเนมอย่างจัง ด้วยความโมโห เธอจะไม่ให้นะโมแตะรถคันนี้เด็ดขาด

“ไรวะ ใครจะไปแช่งพี่ตัวเองเองกัน นะโมมันโตแล้วมันต้องมีรถขี่กับเค้าบ้างดิวะ” เนมเถียง

“แล้วมึงคิดว่าน้องมันจะขี่ได้ไหม? ตัวเท่าลูกหมา ขี่จักรยานเอาให้รอดก่อน” ต้าร์ว่าขึ้นมาอีก แต่ดูเหมือนความคิดทุกคนจะขัดใจสองพี่น้องมาก เพราะนะโอเอาแต่ลูบคลำน้องลูกเจี๊ยบ อย่างหลงใหล

“เนมเนม สอน สะสอนหน่อย” สองพี่หันมาสบตากันแล้วยิ้มฟันขาวใส่กัน

“ดะ ...ไ...”

“นะโมครับ ไว้เราโตกว่านี้ดีกว่าเนอะ” สิงห์พูดขัดแล้วเอื้อมมือไปหาหมายจะพาลงมาจากรถ แต่เจ้าตัวดันส่ายหน้าไปมา

“ไม่อาวว อยากขี่” แล้วหันไปส่งสายตาให้เนมอีกครั้ง

“ขาถึงเหรอจะขี่อะ ลงมาเลยไอ้เตี้ย” ซีตัสกวักมือให้ลง

“เราอยากขี่ ตัสตัส พี่จ๋าสอนน้องหน่อยได้ไหม?” ช้อนตาอ้อนใส่คนพี่ใจมันก็จะอ่อนหน่อยๆ จนต้องรีบปั้นหน้าขรึม ต่อสู้กับแววตาอ้อนวอนของแมวตรงหน้า

จะทนได้สักกี่น้ำ

“มึงอย่าแพ้น้องนะเว้ย ฮึบไว้มึงฮึบไว้” พลัสดึงสติให้สิงห์

“กะ กู เชี้ยะ แมร่ง ไม่ไหว” สิงห์หลบตาน้องแล้วหันหลังเดินเข้าบ้าน

“อะไร ทิ้งหนูเหรอ ไม่ได้นะ กลับมานี่นะ พี่จ๋า” เสียงหวานตะโกนใส่แล้ววิ่งตามเข้าบ้าน ทุกคนเองก็ด้วย ต้าร์มองรถคันสวยด้วยสายตาแวววาว อยากจะลองขี่สักครั้ง ไม้เมืองมองหน้าเมียตัวเองแล้วบีบต้นคอสวยเบาๆ เป็นการเตือน

“อย่าแม้แต่จะคิด กูยังไม่อยากได้เมียใหม่ ไม่ต้องหาเรื่อง”

“อะไรของมึง กุ กู ไม่ได้อยากขี่สักหน่อย”

“หึหึ แค่มึงอ้าปากกูก็เห็นลิ้นไก่แล้วไอ้ต้าร์ ไปเข้าบ้านไปหว่านล้อมน้องให้ขี่จักรยานแทนนู้นไป”

“-*- ไอ้ฟันจอบ ฝากไว้ก่อนเถอะมึงรู้ดีนัก” ต้าร์ก่นด่าเบาๆ

“กูได้ยิน ไอ้หน้าแมว! ”

“หูดีเหมือนหมา”

“กลับไปมึงเจอหมาเลียปากแน่”

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา จบการให้ของขวัญก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ไปพักผ่อน เหลือเพียงแต่เจ้าของบ้านคนใหม่กับผู้อาศัยคนเก่าที่ตอนนี้กำลังจ้องตากันไม่กะพริบ และไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยอมก่อน

“พี่จ๋าทำไมไม่ยอม! ”นะโมพูดเสียงดังทำแก้มพองลม

“หนูดื้อ”

“ไม่ดื้อ -3- “

“ดื้อสิ ไม่ดื้อจะมายืนเถียงกับพี่แบบนี้ได้ยังไง?”

นะโมพาท

พี่จ๋าต่างหากที่ดื้อ เนมเนมอุตส่าห์ซื้อมาให้ แต่พี่จ๋าไม่ยอมให้หนูขี่ ลูกเจี๊ยบออกจะเท่ขนาดนั้น แค่เห็นหนูก็หลงรักเลย แต่ทำไม ทำไมทุกคนถึงห้ามหนูละ พี่จ๋านี่อีก ยืนทำหน้ายักษ์ใส่อีกถ้าหนูมีไม้หนูจะจับตีเลย

“น้องอยากขี่” หนูเถียงออกไปพี่จ๋ากุมขมับแล้วหายใจแรงๆ เสียงเหมือนวัวกำลังโมโหน่ากลัวสุดๆ แต่หนูไม่ยอมแพ้หรอกนะ เพราะหนูรู้ว่าพี่จ๋านะแพ้อะไร คึคึคึ

“นะ น้า นะ นะ นะครับ” ส่งสายตาอ้อนๆ พูดเสียงหวานๆ ทำวิ้งคึใส่สักสองสามที แค่นี้พี่จ๋าของหนูก็แพ้ราบคาบ

“-/////- อึก อย่าทำหน้าแบบนั้น ถะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัวคืนนี้”

“เจ็บตัว? คือไรอะ พี่จ๋าตอบน้องก่อน อย่าเดินหนีซี่” เนี้ยะพอตัวเองตอบไม่ได้ก็เดินหนี แล้วหนูจะรู้ไหมว่าจะได้ขี่น้องเจี๊ยบเมื่อไหร่ หนูเดินตามพี่จ๋าเข้าไปในครัว พี่จ๋าตัวสูงยืนกินน้ำอยู่หน้าตู้เย็น หนูชอบมองเวลาพี่จ๋ากินน้ำมันดูดี แถม เอ่อ เอ่ออ >///< ดูเซ็กซี่มากด้วย หนูไม่ได้หื่นนะ แต่มันอดมองไม่ได้นี่ ยืนเขินหน้าแดง เขินกับสายตาที่เหลือบมองมาจากด้านข้าง เขินกับรอยยิ้มมุมปาก ยืนบิดจะเป็นเลขแปดอยู่แล้วเนี้ยะ ใจก็เต้นแรง -///- พี่จ๋าร้ายเกินไปแล้ว! ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอมองไปนานแค่ไหนรู้ตัวอีกทีพี่จ๋าก็มายืนยิ้มหวานอยู่ตรงหน้าแล้ว ตกใจจนเผลอก้าวถอยหลัง แต่ก็โดนพี่จ๋ารวบตัวเอาไว้

“อุ้ย -//- แหะๆ นะ หนูหิวน้ำ น้ำ” ตื่นเต้นจนติดอ่างอีกแล้ว ใบหน้าหล่อๆ อยู่ใกล้แค่คืบ

“หึ”

“อะ อื้อออ” จู่ๆ ก็โดนจูบ จูบที่บอกว่าพี่จ๋าจะไม่พอแค่นี้ ถึงหนูจะโง่ในสายตาคนอื่น แต่หนูก็รู้ในเรื่องที่ควรรู้และรู้ในสิ่งที่สมควรจะรู้ มือพี่จ๋าไม่อยู่นิ่งลูบหนูไปทั้งตัว จนหนูสั่นไปหมดใจก็สั่น พี่จ๋าลากลิ้นลงมาที่คอ ไล่ไปตามไหปลาร้า

“อะ อื้ออ พะ พี่”

“อืม หอมจัง ทำไมตัวหนูหอมแบบนี้ครับ” เสียงพี่จ๋าแหบพร่า เงยหน้าขึ้นมามองหนูด้วยสายตายั่วยวน ความจริงหนูต่างหากที่จะต้องมองพี่จ่าด้วยสายตาแบบนั้น แต่ทำไมเวลาโดนมองกลับมาบ้างถึงได้รู้สึกอยากโดนกอดมากกว่านี้อีกละ โอ๊ย ไม่นะ แบบนี้หนูจะดูใจแตกมากไปรึเปล่า ฮรืออ แต่ว่า โดนแบบนี้ หนูว่าหนูไม่ไหว อยากโดนกอด >///<

โดนพี่จ๋าอุ้มกลับมาที่ห้องนอนของเรา วันนี้มันดูแปลกตา ในห้องมีลูกโป่งที่มีตัวหนังสือเขียนไว้ว่าสุขสันต์วันเกิด นะครับที่รัก อ่านแล้วก็ยิ่งเขิน ที่รักเหรอ หนูหันไปมองพี่จ๋า เขาส่งยิ้มหวานมาให้

“พี่มีของขวัฐชิ้นสุดท้ายมาให้หนู” พี่จ่าเดินขึ้นไปบนที่นอน ที่เต็มไปด้วยกลีบดอกไม้ แล้วหยิบเอาโบมาติดไว้ตรงหัว

“หืมม?”

“มาแกะสิครับ”

“-///- “อะไรของเค้าจะขยันทำให้หนูใจสั่นมากไปแล้วนะ

“มาเร็ว” เขากวักมือเรียกพร้อมส่งสายตาเชื้อเชิญมาให้ นี่หนูต้องทำยังไง จะต้องเดินไปหาพี่เขาจริงๆ หรอ ไปให้พี่จ๋าขย่ำ โอ๊ยทำไงดี

“อะ เอ่ออ แกะ อะไรหรอ?”

“เสื้อผ้าพี่ หนูชอบไม่ใช่เหรอ กล้ามข้างใต้เสื้อตัวนี้ มาสิ มาจับมัน” ทำไมต้องพูดด้วยเสียงต่ำแบบนี้ด้วย มองพี่จ๋าที่นอนรออยู่บนเตียง แล้วแอบกลืนน้ำลาย ใช่หนูชอบมันมาก ชอบกล้ามท้องที่เป็นรอนสวยๆ ของพี่จ๋า มองทีไรน้ำลายจะยืดทุกที หลายคนอาจจะคิดว่าหนูใสๆ แต่ความจริงแล้วหนูก็มนุษย์คนหนึ่งที่มีอารมณ์ทางเพศมันอาจจะไม่ได้ช่ำชองเหมือนคนปรกติทั่วไป เหมือนที่หนูช่วยตัวเองครั้งแรกโดยมีพี่จ๋าเป็นคนสอนเพราะพึ่งเคยเจอกับสิ่งเร้าเป็นครั้งแรกความคิดหนูไม่มีอะไรซับซ้อน แค่ต้องทำความเข้าใจมันนิดหน่อย และหนูก็มีความรู้สึกแบบนั้นเวลาอยู่กับพี่จ๋ามากๆ ยิ่งพี่จ๋าสัมผัสหนู หนูยิ่งรู้สึกหนูเลยต้องหัดควบคุมเวลาอยู่กับพี่จ๋า ศึกษาจากกูเกิลบ้าง แอบถามตัสตัสบ้าง มันเป็นแบบนี้ตลอดแต่หนูไม่เคยบอกพี่จ๋าหรอก อายจะตายใครจะไปกล้าบอก

“พี่จ๋า...-///- “

“มาสิครับ”

“งือออ”

อ่อ ลืมบอกอีกอย่าง ก่อนหน้านี้ตัสตัสเคยสอนให้หนูดูอะไรบางอย่าง ตัสตัสบอกว่าเอาไว้ง้อพี่จ๋า แต่หนูว่า หนุต้องจำเอาสิ่งที่หนูดูออกมาใช้กับพี่จ๋าวันนี้ อยากเอาหัวโขกกำแพงให้สลบไปเลยตอนนี้ T^T

จบพาทนะโม

ใบหน้าใสซื่อมองคนผมที่นอนรออยู่บนที่นอนด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ อายก็อายแต่ก็อยากให้คนรักมีความสุข นะโมค่อยๆ คลานขึ้นเตียงดวงตากลมสบตากับอีกคนอยู่ตลอด ทั้งตื่นเต้นทั้งเขินอาย

“ครั้งนี้ พี่จะเป็นลูกเจี๊ยบให้หนูขี่เอง”

“-////- “

“ขี่พี่ให้คล่องแล้วค่อยไปขี่ลูกเจี๊ยบนะครับ” สิงห์ดึงคนตัวเล็กให้ขึ้นไปนั่งตักเขาโดยที่นะโมนั่งหันหน้าเขาหาเขา สองมือหนาประคองเอวบางเอาไว้แล้วกดให้สะโพกกลมบดเบียดกับลำแท่งยาวที่กำลังแข็งขืนขึ้นมา พอได้สัมผัสกับส่วนนั้นคนบนตักก็หน้าแดงขึ้นมาทันที

“อะ อืออ” เสียงหวานร้องออกมาเบาๆ เมื่อสิงห์ดึงใบหน้าหวานให้มารับจูบของเขา จูบดูดดื่ม ทันทีที่ปากของเขาทั้งสองประกบกัน

สิงห์พาท

ทันทีที่ปากของเราประกบเข้าหากัน ลิ้นร้อนของผมก็เริ่มทำงาน ผมเร้าอารมณ์น้องด้วยจูบที่เร่าร้อน กวาดต้อนจนน้องไม่มีทางหนี ดูดดึงเกี่ยวพันกันจนเกิดเสียงชื้นแฉะน่าอาย น้องหายใจหอบ แต่ก็ไม่ยอมผละออกอย่างที่เคย ดวงตากลมที่หลับแน่นทุกครั้งเวลาโดนผมจูบแต่ตอนนี้กลับลืมขึ้นมาสู้กับสายตาผม วันนี้น้องแปลกๆ มือเล็กที่กำคอเสื้อตอนนี้ค่อยๆ แกะกระดุมทีละเม็ดๆ ผมเฝ้ามองการกระทำของเขาอย่างใจจดใจจ่อ นะโมโหมดนี้ผมไม่เคยเจอ

เหมือนลูกแมวยั่วสวาท

เสียงสูดหายใจลึก กับปลายนิ้วที่ไล้วนไปตามกล้ามเนื้อที่เป็นลอนตรงหน้าท้องของผม สีหน้าและแววตาของน้องดูหลงใหลและชอบมันมาก ผมรู้ดี พอเสื้อของผมหลุดออกจากตัวผมก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองเสียเปรียบ รีบถอดเสื้อนักเรียนของน้องออกทันที ผิวขาวเนียนนุ่มปรากฏสู่สายตา ผิวขาวที่มองกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ เป็นผิวที่เหมาะกับรอยแดงๆ มากที่สุด ผมใช้มือประคองแผ่นหลังของน้องแล้วเอนตัวให้น้องนอนลงแทรกตัวเข้าไปอยู่ระหว่างขาเรียว ก่อนจะประทับรอยเอาไว้ทั่วแผ่นอกสวยๆ ลากลิ้นไปหยอกล้อกับเม็ดทับทิมรสหวาน จนร่างน้องกระตุกเบาๆ

“อะ อื้ออ อย่ากัดนะ อ๊ะ “น้องบอกผมด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก จนอยากจะจับน้องใส่ปากแล้วเคี้ยวๆ กลืน ไม่อยากให้ใครได้ยินหรือได้ฟังเสียงแบบนี้เลยนอกจากผม แต่จู่ๆ น้องก็ผลักผมให้นอนลง แล้วนั่งทับตัวผมเอาไว้

“นะโม”

“ไหนบอกว่าจะให้ขี่แทนลูกเจี๊ยบไง” ถึงจะก้มหน้าซ่อนความเขินของตัวเองเอาไว้ผมก็เห็นมันอยู่ดี ถ้ามองจากมุมนี้มุมที่มองเข้าจากด้านล่าง

“หึหึ เดี๋ยวนี้กล้าทำแบบนี้แล้วหรอครับ”

ปัก!

“พูดมาก-///- “เขินแล้วรุนแรง น้องตีมือลงมาบนหน้าอกผม แล้วกัดปากตัวเอง

“ไหน วันนี้วันเกิด พี่ให้สิทธิ์เราเต็มที่ กับร่างกายของพี่ อยากทำอะไรกับมันก็ทำเลย^^” ใช่วันนี้ผมจะให้น้องทำตามใจตัวเอง

“อะ อื้อ พูดแล้วนะ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่มุมปากสวย อ่า วันนี้คงมีอะไรเซอไพร์ผมแน่ๆ

มันไม่มีอะไรสุขเท่ากับที่คนตัวเล็กทำให้เขาตอนนี้ ไม่รู้ว่าไปหัดไปจำมาจากไหนถึงได้ร้อนแรงอยู่บนตัวของเขา แรงโยกตัวที่ทำให้เขาแทบทนไม่ไหว ใบหน้าหวานสะบัดไปมายามแก่นกายใหญ่ตอกย้ำเข้าไปในส่วนลึก

“อื้ออ อะ อ๊ะ อ๊ะ มันเสียวจังเลยครับ”

“ทำไมวันนี้พูด อะ อืออ แบบนี้ ใครสอนครับ อ๊า บอกพี่หน่อย” นะโมไม่ตอบได้แต่กัดปากตัวเองแน่น สองมือดันกับอกแกร่งเอาไว้ส่วนท้ายก็โยกไปมาดูเก้ๆ กังๆ ขยับผิดจังหวะบ้างก็มี ดูจากสีหน้าเหมือนจะไม่ไหวแล้วแต่ก็ยังอดทนทำต่อ จนสิงห์เห็นแล้วสงสาร

“ชะ ชอบไหม อะ อื้อ พี่จ๋าชอบไหมครับ แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ อื้อ ชอบให้ หนูทำแบบนี้ไหม” จู่ๆ ก็ถามเสียงกระเส่า พร้อมกับช้อนตาปรือ มองใส่

“ชอบสิ ชอบมาก ชอบที่สุด”

“ถ้าหนูขี่เก่ง พี่จ๋าจะยอมให้ขี่ลูกเจี๊ยบใช่ไหม”

“อะ อ่า ครับแต่เราต้องเก่งกว่านี้นะ อะ ตอนนี้ยังไม่เก่ง ต้องฝึกบ่อยๆ”

“ฝึกบ่อยๆ อะ อ๊ะ พี่จ๋า” เสียงหวานขาดห้วงเพราะคนใต้ร่างกระแทกตัวสวนขึ้นมา เขาแค่อยากแกล้งให้อีกคนร้องออกมาด้วยเสียงหวานๆ เขาแค่อยากฟัง

“หึหึหึ”

“ขี้แกล้ง!! ”

ใบหน้าหวานงองุ้ม ก่อนจะฟาดมือลงบนอีกเขาอีกรอบ สีหน้าของนะโมแดงจัดและเริ่มหอบ

“เหนื่อยไหมครับ”

“นะ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว T^T” เหนื่อยสิจะไม่ให้เหนื่อยได้ยังไง เล่นควบอยู่บนตัวเขาตั้งครึ่งชั่วโมง บอกให้หยุดก็ไม่หยุด

“หึหึ น่ารัก” สิงห์จับนะโมให้นอนลงกับที่นอนแล้วคล่อมทับตัวน้องเอาไว้ ส่งสายตาหวานอย่างสื่อความหมาย แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของร่างกายและหัวใจของทั้งสองคน  แพลนกล้องไปที่โคมไฟบนหัวเตียง ให้ทั้งสองได้ดื่มด่ำกับรสรักให้เต็มที่แล้วค่อยมาเจอกันในตอนเช้า

.......................... ((คึคึ อ้าปากค้างอยู่ละสิ) ).........

ยามแสงอาทิตย์สาดส่องผ่านรอยแยกม่านเข้ามากระทบกับผิวเนื้อขาว ร่างเล็กในอ้อมกอดอุ่นขยับตัวน้อยๆ แล้วพลิกตัวหันหน้าเข้าหาอีกฝ่าย ใบหน้าหวานจมอยู่ในอกแกร่งด้วยความเคยชิน นะโมไม่อยากตื่นเช้า เพราะเมื่อคืนเขาใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีไปหมดแล้ว ร่างสูงกระชับกอดมากขึ้น ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา ใบหน้าหวานอยู่ใกล้เพียงลมหายใจ เขาจุดยิ้มที่มุมปากแล้วกดจูบลงบนกลุ่มผมนุ่ม เมื่อคืนคนในอ้อมทำให้สิงห์ได้เรียนรู้อีกมุมหนึ่งของคนตัวเล็ก

ว่าเด็กออทิสติกก็มีมุมหื่นเช่นกัน เขาตกใจนิดหน่อยกับการที่น้องรุกเขาแบบนั้น แต่ก็อดทึ่งไม่ได้กับความอดทนของน้องที่รองรับอารมณ์ของเขาได้จนสุดทาง

เขานอนมองแพขนตายาวที่ทาบทับแก้มนวล ก่อนจะใช้นิ้วไล้ไปตามโครงหน้าเรียว ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะมีวันนี้ วันที่สามารถยกหัวใจให้ใครได้ทั้งหมดโดยไม่มีข้อแม้หรือเงื่อนไขใดๆ ตอนนี้เขาเหมือนเสือถอดเขี้ยว ยอมสยบให้กับแมวน้อยที่แค่เขามองตาขาก็อ่อนแรง สิงห์ค่อยๆ ขยับตัวลุกจากที่นอนให้เบาที่สุดเพราะไม่อยากให้ตัวเล็กตื่นขึ้นมา อยากให้ได้นอนพักบ้าง

สิงห์เดินมาที่ครัวก่อนจะจัดการมื้อเช้าอย่างง่ายอย่างขนมปังไข่ดาวให้กับตัวเอง ส่วนของคนรักที่หลับสนิทอยู่คงหนีไม่พ้นไข่พะโล้ที่เจ้าตัวเก็บไว้เต็มหม้อ เขาเดินไปอุ่นไข่พะโล้ และชงกาแฟรสเข้ม ส่งกลิ่นหอมกรุ่น นั่งจิบกาแฟและอ่านหนังสือพิมพ์ไปด้วย จนกาแฟหมดถ้วย

เช้านี้ไม่มีงานอะไรที่สำคัญสิงห์เลยเลือกที่จะอยู่บ้านกับคนรัก มากกว่าออกไปไหน อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากๆ ชดเชยเวลาที่เขาเสียไปกับการทำงานหามรุ่งหามค่ำมาหลายอาทิตย์

แกรกกก เสียงประตูห้องนอนเปิดออกอย่างช้าๆ คนที่เดินออกมาคือเด็กหนุ่มร่างบางหัวฟู และเดินเปลือยท่อนล่างออกมา นะโมใส่เพียงเสื้อยืดคอกลมที่สิงห์เป็นคนใส่ให้เมื่อคืน เดินออกมาทำหน้ายุ่งๆ

“พี่จ๋าอยู่หนายยยย” เสียงหวานแหบลงและร้องหาคนรัก

“....”

“ฮือออ พี่จ๋า อยู่หนายยยย” เสียงเริ่มเบะเพราะยังไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดๆ

“.....”

“ฮึก...พี่จ๋า น้องหาไม่เจอ”

สิงห์รดน้ำต้นไม้อยู่ด้านล่างเลยไม่ได้ยินเสียงคนตัวเล็กเรียก จนกระทั่งมองไปที่ชานระเบียง ก็เห็นคนตัวเล็กยืนขยี้ตา โชว์ขาอ่อนแต่เช้าให้เขาดู

“นะโม! ทำไมแต่งตัวไม่เรียบร้อยครับ” เขาสาวเท้ายาวๆ ขึ้นบันไดแล้วรวบตัวน้องเอาไว้

“งืออ หนูฝัน ฮึกเห็นแม่..แม่มาหา..พี่จ๋าหนูคิดถึงแม่” นะโมกอดเขาแน่นพร้อมกับซุกหน้าลงกับไหล่ของเขา ร่างสูงกอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่น ตอนนี้นะโมต้องการคนปลอบโยนกับเรื่องที่ตัวเองเสียใจมา

“ฝันว่าอะไรครับ”

“แม่บอกกับหนูว่า ขอโทษที่ไม่ได้ดูแลหนูให้นานกว่านี้ ขอโทษที่ทำให้ลำบาก”

“......”

“แม่บอกว่าแม่รักหนูมาก ฮึก หนูรู้ ฮึก ว่าแม่ไม่เคยไปไหน แม่อยู่ข้างๆ หนูตลอดเลย”

“....”

“แม่บอกว่าแม่ต้องไป ฮึก แล้ว เพราะว่าหนูมีความสุขแล้ว แม่หมดห่วงแล้ว”

“....”

“แต่หนูไม่อยากให้แม่ไป ฮึก พี่จ๋า หนูไม่มีความสุขแล้วก็ได้ หนูอยากให้แม่อยู่ ฮึกกับหนูเหมือนเดิม” ร่างบางสะอื้นตัวโยน ดวงตากลมเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความเศร้าโศก สิงห์สูดลมหายใจลึกแล้วลูบหัวน้องไปด้วย

“นะโมครับ นะโมอยากให้แม่มีความสุขไหม?”

“อยาก ฮึก ครับ หนูอยากให้แม่มีความสุข”

“ถ้างั้นหนูก็ต้องมีความสุขสิครับ เพราะความสุขของแม่คือหนูนะ ถ้าหนูไม่มีความสุขแม่ก็ไม่มีความสุข ถ้าหนูร้องไห้แม่ก็จะไม่สบายใจแล้วก็เป็นทุกข์”

“ฮึก..ฮืออ แม่จะไม่มีความสุขเหรอ ถ้าหนูร้องไห้ ฮึก แม่จะไม่ยิ้ม”

“ครับ เพราะฉะนั้น หนูต้องมีความสุข เพื่อแม่นะครับ”

“ฮึก หนูจะมีความสุขเพื่อแม่..ฮึก”

“ดีมากครับคนเก่ง” สิงห์พาน้องเข้ามาในบ้าน จัดแจงตักข้าวมาให้น้องกินเป็นมื้อเช้า วันจันทร์นี้ก็จะสอบแล้ว วันนี้เขาจะให้น้องพักก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยพาอ่านหนังสือ พอกินข้าวเสร็จก็ไปอาบน้ำ ปรกตินะโมจะใช้เวลาอาบน้ำนานแต่วันนี้เหมือนน้องวิ่งผ่านน้ำเอา เห็นอีกทีก็นู้นลงไปนั่งลูบนั่งคลำลูกเจี๊ยบอยู่ใต้ถุนบ้านแล้ว

“หรือว่าวันนี้จะพาไปเที่ยวดีวะ จะได้เลิกสนใจอินังลูกเจี๊ยบนั่นสักที”

++++++++++++++++++++++

“คุณหนูจะให้ผมรายงานเรื่องคุณนะโมเลยไหมครับ ทางนั้นเร่งเรามาแล้ว” ลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามนายตัวเองด้วยสีหน้าเครียดๆ คิ้วเรียวของเนมขมวดยุ่งอย่างคนคิดไม่ตก

“เดี๋ยวผมคุยกับพ่อเอง พี่คิมไปทำงานต่อเถอะครับ”

“ได้ครับคุณหนู ส่วนนี้บัญชีรายรับจากผับครับ”

“ขอบคุณครับ” ร่างสูงรับแฟ้มงานมาเปิดอ่าน นอกจากเรื่องเรียนแล้วเขายังมีหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบด้วยนั้นคือดูแลร้านสาขาย่อยที่เป็นธุรกิจในครัวเรือนอย่างผับที่เปิดอยู่อีกในตัวเมืองใหญ่ ห่างจากอำเภอที่เขาอยู่ไปไม่กี่อำเภอ และรายได้คือเงินที่เขาใช้กินอยู่มาตลอดหลายปีที่อยู่เมืองไทย เนมเหลือบสายตาไปมองโทรศัพท์ที่วางเอาไว้ ก่อนจะตัดสินใจหยิบมันขึ้นมา แล้วกดโทรหาคนทางไกล

“พ่อครับผมหาพี่เจอแล้วนะครับ”

++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณทุกความห่วงใยนะคะ รักรีดเด้อทุกคนเด้ออออ ฝากน้อยด้วย อ่อ เรื่องของหนูต้าร์กะหมอไม้อัพตอนแรกให้แล้วหนาไปอ่านกันได้เลยเผื่อยังไม่รู้กัน

หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.45 27/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 27-01-2019 11:51:10
พ่อเนมน่ามาอยู่เมืองไทยจะได้ไม่เหงานะโมก็จะได้อยู่กับพี่สิงห์และครอบครัวตัวเอง
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.45 27/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-01-2019 12:37:18
อีพ่อกลับมาไทยเถอะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.45 27/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 27-01-2019 12:44:16
 :z1:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.45 27/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 27-01-2019 13:22:19
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.45 27/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-01-2019 15:32:56
จะเป็นไงต่อละทีนี้
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.45 27/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 27-01-2019 16:50:23
งานวันเกิดนะโมอบอุ่นมาก ซึ้งใจแทนเลย ทุกคนทำเพื่อนะโมจริงๆ แต่อิพี่จ๋านี่โคตรล่อลวง บอกหัดขี่พี่ให้คล่องก่อน ค่อยขี่มอไซต์ บ้าเฮ้ย ตล็อดดดด 5555 //คุณแม่หายห่วงได้แล้วนะคะ นะโมเป็นฝั่งเป็นฝาไปแล้วค่ะ ได้ผัวดีมีเพื่อนรัก ได้เจอน้องอีกหน่อยก็เจอพ่อ ไม่ต้องห่วงนะคะ นะโมไม่ร้องนะ คุณแม่รักน้องนะ //จะเป็นยังไงบ้างต่อจากนี้ รอวันไปเจอพ่อ พ่อก็ยังฮึบสู้รออยู่รอเจอหน้าลูกชาย //สนุกกกกกกเช่นเดิม รอตอนต่อไปเลย จะเกิดไรขึ้นบ้าง ขอบคุณที่แต่งและมาอัพต่อนะคะ ^_^
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.45 27/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-01-2019 01:07:15
ยังไงละทีเนี่ย
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.45 27/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-01-2019 10:23:11
พี่สิงห์............  :katai2-1:
เข้าใจว่านะโม อยากขี่ลูกเจี๊ยบมาก  :z3:
เนียนเลยนะ ฝึกให้นะโมขี่พี่สิงห์ก่อน จะได้เก่ง นุดยอดไปเลย   :z1: :haun4:

ท่าทางวันที่พี่สิงห์กับนะโม ต้องห่างกันใกล้เข้ามาแล้ว
พี่สิงห์  นะโม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.45 27/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 28-01-2019 21:44:39
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.45 27/1/62
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-01-2019 09:35:09
เป็นนิยายที่สมควรเอามาทำเป็นซีรีย์อย่างยิ่ง :hao7:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.46 3/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 03-02-2019 12:05:38

46



“พ่อครับผมหาพี่เจอแล้วนะครับ” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยกับปลายสาย คนฟังเงียบไปชั่วขณะ จนเขาได้ยินเสียงสะอื้นจากอีกฝั่ง พ่อเขากำลังร้องไห้เหมือนภาระอันหนักอึ้งได้ถูกปลดลงจากบ่า

“พะ พาพี่มาหาพ่อได้ไหม เนม พาเขากลับมาบ้านเรา” เจ้าสัวคณินเอ่ยกับลูกชายคนเล็กด้วยเสียงสั่นๆ เขาไม่อยากรอแล้ว ตราบาปในใจมันกำลังจะถูกลบล้าง

“ตอนนี้ยังไม่ได้ครับ แต่มีสิ่งหนึ่งที่พ่อจะต้องรู้” เนมบอกแล้วเงียบไปพัก

“...” อคิณเงียบรอฟัง

“พี่เป็นออทิสติก”

“...ฮึก..” คนเป็นพ่อได้ฟังถึงกับน้ำตาไหล สงสารลูกชายคนโตจับใจ มันเป็นความผิดเขา ความผิดเขาเพียงคนเดียว



“แล้ว นดาละ แม่ของเขา” แม้มันจะเป็นความหวังเพียงเล็กๆ อคิณก็ยังหวัง หวังว่านดายังมีชีวิตอยู่ ยังรอเขาตามคำสัญญา

“เสียไปนานแล้วครับ พี่อยู่กับหลวงตาที่เป็นลุง และตอนนี้หลวงตาก็เสียแล้วด้วย พ่อน่าจะได้เห็นว่าที่ผ่านมาพี่เป็นอยู่ยังไง พ่อครับพี่ลำบากมาก ลำบากมาตลอด เพราะแม่ของผม แม่ทำให้พี่ต้องกำพร้า” คนฟังหัวใจกระตุกยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น

“พ่ออยากเจอเขา ได้โปรดเนม พาเขามาหาพ่อได้ไหม” อคิณเอ่อยขอร้อง

“ได้นะมันได้อยู่ แต่การจะพาพี่ไปหาพ่อผมคงต้องขอพี่สิงห์ก่อน”

“เขาเป็นใคร?”

“ผมตอบให้ไม่ได้แต่เขาเป็นคนที่ดูแลพี่มาตลอด และที่สำคัญ พี่สิงห์เป็นคนรักของพี่นะโม”

“พ่ออยากคุยกับเขา ให้พ่อคุยกับเขาได้ไหม?”

“ครับแล้วผมจะจัดการให้ อ่อถ้าเป็นไปได้พ่อมาหาพี่ที่นี่น่าจะสะดวกกว่า”

“พ่อจะพยายาม..”

“ผมต้องวางแล้ว วันนี้จะเข้าไปดูร้าน ก่อนสอบพรุ่งนี้”

“อืม ขอบใจมากนะเนม พ่อขอบใจแกจริงๆ” อคิณเอ่ยขอบคุณจากใจ

“ไม่เป็นไรครับเพราะผมก็อยากจะไถ่บาปให้แม่เหมือนกัน”



เวลาล่วงเลยเข้าสู่ช่วงสอบปลายภาค ทุกคนเลยเข้าสู่หมวดจริงจัง นะโม ซีตัส ปิงส้ม ยืนทบทวนบทเรียนอยู่หน้าห้องสอบ ต่างคนต่างอ่านแล้วหันไปทวนกับเพื่อน ถามตอบสลับกันไปมา นะโมมีใบหน้าเคร่งเครียด คิ้วเรียวขมวดยุ่ง ผิดกับน้องชายที่นั่งอยู่ถัดไปอีกสองห้อง ร่างสูงนั่งเอนตัวพิงต้นเสาอย่างสบายใจ เขาฉลาดที่สุดในห้อง ติดท็อปแทบทุกวิชา เกรดเฉลี่ยไม่เคยต่ำกว่าสี่จุดศูนย์ แม้อายุยังน้อยแต่ระดับมันสมองไม่ต่างจากจบปริญญา เนมมีความเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ ทั้งนิสัยและการปฏิบัติตัว ทำให้เจ้าสัวไว้ใจให้เขาดูแลกิจการร้านอาหารกึ่งผับซึ่งเนมก็ทำมันได้ดี



หลังจากผ่านการสอบมาอย่างหนักหน่วง เข้าสู่วันสุดท้าย



“เย้..สอบเสร็จแล้วโว้ยยยยยย” ปิงเดินออกมาจากห้องสอบพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ ก่อนจะตะโกนออกมา เหมือนยกภูเขาออกจากอก มันโล่งสบายไม่ต้องมานั่งเครียดอะไรอีก

“เหอะ ทำเป็นยิ้ม รอดูผลสอบก่อนเถอะมึง” ซีตัสเอานิ้วจิ้มหน้าผากแฟนตัวเองเบาๆ

“กูทำได้หรอกรับรอง ไม่ตกสักวิชา”

“จ้า ทำได้ อิสัส สะกิดกูยิกๆ” ส้มหันมาแขวะใส่อย่างรุ้สึกหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปทางนะโมที่ทำหน้า ไม่มั่นใจสักเท่าไหร่

“อิลูก ไมทำหน้าแบบนั้น”

“เราไม่ค่อยมั่นใจเลยส้มส้ม T^T”

“เชื่อมันสมองมึงเถอะ กุเชื่อว่ามึงทำได้”

“เหรอ ส้มส้มคิดแบบนั้นเหรอ”

“เอ้ออออ” ส้มยิ้มแล้วยกมือขึ้นยีหัวคนขี้กังวล

“เออ แล้วน้องมึงไปไหน หายหัวตั้งแต่ออกมา”

“ไม่รู้” นะโมตอบ พร้อมกับกวาดสาตามองไปรอบๆ ก่อนจะเห็นเนมเดินไปที่ร้านน้ำ

“อ๋อ สงสัยไปซื้อน้ำกินมั้ง”

“เออ ปิดเทอมแล้ว พวกเราไปเที่ยวกันมะ” ปิงเอ่ยชวน

“น่าสน แล้วจะไปไหนอะ” ยิมเดินมานั่งรวมกลุ่มกับพวกเขา

“ทะเลมะ” ส้มเสนอ

“*0*ทะเล”

“เบื่อแล้ว ไปภูเขามั่ง” ซีตัส

“ภูเขา*0*”

“เข้าแต่ป่า วุ้ว อย่างเราต้อง กทม ดิวะ” ยิม

“หึหึ ไปเมกาไหม ไปหาพ่อ” ข้อเสนอของเนมทำเอาทุกคนเงียบกริบ หันหน้ามองกันเลิ่กลั่ก เพราะตั้งแต่ผ่านวันเกิดมาก็ไม่มีใครพูดถึงพ่อของนะโมอีก ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มีใครกล้าที่จะเอ่ยถึง อาจจะเป็นเพราะเกรงใจสิงห์

“เมกาคือที่ไหนหรอ” เสียงหวานเอ่ยถาม

“อยู่ต่างประเทศ มีเมืองสวยๆ มีดอกไม้ มีหิมะด้วยนะ อยากไปไหม?” เนมตอบด้วยรอยยิ้ม ซีตัสสะกิดเพื่อนตัวเอง

“มึงกุขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ”

“อืม”

ร่างสุงของสองหนุ่มเดินมาคุยกันที่หลังห้องน้ำ ซีตัสมีสีหน้าที่เป็นกังวล ก่อนจะเอ่ยอะไรบางอย่างกับเพื่อนรักอย่างเนม

“มึงจะพามันกลับเมกาจริงๆ เหรอวะ แบบกลับไปแล้วอยู่ที่นู่นเลย”

“กูคิดไว้อย่างนั้น กูตั้งใจจะพามันไปรักษา ที่นั่นมีแพทย์เฉพาะทาง เขาจะดูแลพี่กูได้ดีกว่าหมอที่นี่

“แต่ตอนนี้มันก็ดูเป็นคนปรกติแล้วนี่ ไม่มีอะไรน่าห่วง”

“.....”

“เนมก่อนมึงจะพามันไปมึงควรถามมันก่อนว่ามันอยากไปรึเปล่า กูขอแค่นี้เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของครอบครัวมึง แต่ที่กุพูดเพราะกูเป็นห่วงมันเหมือนกันมึงก็รู้ว่ามันรักพี่สิงห์ขนาดไหนแล้วพี่สิงห์ก็รักมันมากมึงคงไม่พรากพวกเขาให้แยกจากกันหรอกใช่ไหม?”

สิ่งที่ตัสพูดออกมาทำให้เนมได้หยุดคิดทบทวนอะไรบางอย่าง สำหรับเขาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเขาก็อยู่ได้ทั้งนั้น แต่ถ้าการพี่ไปอยู่ที่เมกาแล้วมันดีเขาก็ควรจะทำใช่ไหม

“ค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้กูยังตัดสินใจอะไรไม่ได้” เนมบอกปัด ออกไปเพราะใจเขายังลังเลและสับสน ว่าสิ่งไหนมันจะดีที่สุดสำหรับพี่ชายของเขา เนมกับซีตัสเดินกลับมาที่โต๊ะนั่ง ทุกคนรู้ว่าเนมกับซีตัสไปคุยกันเรื่องอะไรยกเว้นนะโมที่นั่งดูดโกโก้ปั่น อย่างสบายอารมณ์ขณะที่วีดีโอคอลกับสิงห์ไปด้วย ใบหน้าหวานยิ้มสดใสให้กับทุกคนที่มองมา

( (“น่ารักเรี่ยราดอีกแล้ว เมียใครวะ”) )เสียงของสิงห์ดังลอดออกมา ทำเอาพวกเพื่อนๆ ของนะโมทำหน้าเหม็นเบื่อ

“มึงๆ มดกัดไหม ทำไมมดกัดกู รึว่าคนแถวนี้มันหวาน” ส้มทำเสียงล้อเลียนใส่

“งื้ออ ส้มส้ม อะ อย่าแซวสิ” นะโมก้มหน้าซ่อนความเขินอายของตัวเอง

“ ((อีกสักพักพี่ไปรับนะ หนูรอหน่อยได้ไหม?) )

“ได้ครับ ตะ แต่ว่า หนู หนูไปหาพี่จ๋าที่ ที่ทำงานได้ไหม?”

“ ((หืม มาแล้วจะไม่เบื่อเหรอครับ) )

“ม่ายเบื่อหรอก” ร่างบางตอบยิ้มๆ

“ ((ถ้าอย่างนั้นให้เนมมาส่งนะครับ อย่านั่งรถมาเอง) )

“ครับ ฮี่ๆ” หลังจากวางสายก็หันไปอ้อนน้องชายตัวสูงของตัวเอง

“เนมเนมจ๋า พาเราไปหาพี่จ๋าหน่อยนะ” แค่ทำหน้าอ้อนเนมก้ยอมทำให้ทุกอย่าง อาการหลงพี่นี่มันเป็นกันไวขนาดนี้เลยเหรอ ปิงกับส้มหันหน้ามาสบตากัน เหมือนรู้อยู่แล้วว่ายังไงซะก้ต้องตามใจ โดนตกไปอีกคน

“บอกแล้วไงคะ ว่านังนี่มันร้ายค่ะ” ส้มกระซิบ

“มันร้ายมานานแล้วค่ะ ไม่อย่างนั้นพวกกูจะหลงมันเหรอออ”

“ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ จริงของมึง” ทั้งคู่หัวเราะออกมาเสียงดังหลังจากที่กระซิบคุยกัน นะโมหันมามองแล้วทำหน้างงใส่ นั่งพักจนหายเหนื่อยก็พากันแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน ไว้นัดรวมตัวกันใหม่ เนมเดินไปกุ๊กไก่ที่ลานจอดรถออกมารับคนพี่ที่หน้ารโรงเรียน

“เนมเนม เมื่อไหร่จะสอนเราขี่ลูกเจี๊ยบสักทีละ” แรงกระตุกเสื้อเบาๆ มาจากคนด้านหลัง ที่ยังคงถามเขาทุกวี่วันว่าเมื่อไหร่จะสอน

“ไปถามผัวตัวเองเหอะ ว่าจะให้สอนรึเปล่า”

“งะ ถามพี่จ๋าก็ไม่ได้ขี่สิ” ร่างเล็กทำหน้าบุ้ย

“แล้วจะให้ทำไง?” คนน้องถามอย่างจนปัญญา

“แอบไง เนมเนมรู้จักไหม แอบขี่อะ”

“อะหาเรื่องมาให้กูอีกละ ไปหัดขี่จักรยานก่อนไหม? ครับพี่ครับ”

“เอ๊ะ! เราหัดขี่มาแล้ว”

“ขี่อะไรกูยังไม่เคยเห็นพี่มึงขี่เลย”

“ขี่พี่จ๋า ไง พี่จ๋าบอก” พูดออกไปอย่างหน้าซื่อตาใส เล่นเอาเนมแทบพากุ๊กไก่ลงข้างทาง

“-///- สัสพี่สิงห์ มึงสอนอะไรพี่กูเนี้ยะ”

“อ่าวไม่เหมือนกันเหรอ พี่จ๋าบอกว่าถ้าขี่คล่องๆ แล้วจสอนขี่ลูกเจี๊ยบ”

“อิพี่ มึงอย่าไปฟังพี่สิงห์มันมาก มันบ้ากาม เหี้ยเอ้ย รึกูควรพามึงกลับเมกาดีวะ!! ” พูดไปก็โมโหไป รู้อยู่หรอกว่าได้กันนานแล้ว แต่แบบ เหมือนพี่สิงห์มันพรากผู้เยาว์เหมือนตาเฒ้าหลอกเด็กอะ

“อ่าว ทำไม มันไม่เหมือนกันเหรอเนมเนม” ร่างเล็กชะดงกหน้าไปถามด้วยความสงสัย

“ไม่เหมือนเว้ย!!! ”

“งะ”

พอถึงบริษัทเนมก็จูงมือพี่ชายเข้าไปในตึก มีหลายคนเดินเข้ามาทักนะโม

อย่างเป็นกันเอง เรียกความสนใจให้กับพนักงานคนอื่นๆ

“มาหาพี่จ๋าครับ พี่จ๋าอยู่ไหน” นะโมเดินไปที่ประชาสัมพันธุ์แล้วเอ่ยถาม

“คุณสิงห์เข้าประชุมอยู่ค่ะ น้องนะโม แต่ว่าตุณสิงห์สั่งไว้ว่าถ้าหนูมาให้ขึ้นไปรอในห้องทำงานได้เลยค่ะ”

“ขอบคุณครับ” นะโมยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะให้เนมพาไปยังห้องของประธานบริษัท

“เคยมาแล้วเหรอ” เนมเป็นฝ่ายถาม

“อื้อ แต่ไม่บ่อยหรอก ไม่อยยากกวนพี่จ๋า”

“แล้ววันนี้ทำไมถึงมา”

“แหะๆ เราคิดถึงพี่จ๋าเฉยๆ” คนพี่ยิ้มเจื่อน ออกมาอายที่พูดแบบนั้นออกไป

“เหอะจะขิงว่าตัวเองมีคนให้คิดถึงว่างั้น” เนมยื่นมือไปบีบจมูกสวยของพี่ชายด้วยความหมันไส้

“อื้ออ เอ๊บ อ๊ะ อ่า อีบ อี๊” (เจ็บนะอย่าบีบซี่)

“หึหึ ทำไมแรด”

“เอ๊ะ ! นี่พี่ไง พี่นะโม ของเนมเนมงายย”

“= = “

“-3- “

นั่งรอไม่ถึงครึ่งชั่วโมงร่างสูงในชุกสูทสีดำเข้ากับไหล่กว้าง ขาวยาวดูเข้ากันกับสแลกสีดำ สิงห์คลายเน็กไทน์ออก สีหน้าดูเหนื่อยล้า แต่พอเห้นรอยยิ้มหวานๆ ของน้อง เขาก็หายเหนื่อย เหมือนได้ฮีลตัวเอง

“มาแล้วเหรอครับคนเก่ง รอนานไหม?”

“ไม่นานครับ พี่จ๋าเหนื่อยไหม ให้หนูนวดให้ไหม” เพราะสังเกตเห็นถึงความเหนื่อยล้า น้องถึงได้ถามเขาอย่างเอาใจ ร่างสูงยิ้มน้อยๆ ก่อนจะส่ายหน้า

“ไม่เหนื่อยครับ หิวรึยังครับ เดี๋ยวพี่ตรวจงานเสร็จแล้วเราไปกินข้าวกันเนอะ”

“อื้อ หนูยังไม่ค่อยหิว พี่จ๋าทำงานต่อเถอะ”

“ครับ” นะโมถูกร่างสูงดึงตัวเข้าไปกอดไปหอม ไม่แคร์สายตาของใครอีกคนในห้อง

“เหม็นเบื่อพวกมีความรัก” เนมแซะก่อนจะลุกขึ้นบิดกายไล่ความเมื่อยล้า

“-*- ก็รีบหาสิ จะได้ไม่ต้องมาทนเห็นภาพบาดตา” สิงห์เอ่ยเสียงเรียบๆ

“แหม่ พี่นี่ไม่รู้อะไรซะแล้ว ฉายาเนมร้อยเมีย ไม่ได้มาเล่นๆ นะครับ”

“เห้ออ มึงกลับบ้านไปก่อนก็ได้นะ “

“ไล่?”

“เออ กูจะสวีทกับเมีย” สิงห์โบกมือไล่คนน้องให้กลับบ้าน ไม่อยากมี ก้างขวาง คอ

“สวีทให้เต็มที่นะพี่ เพราะพี่จะไม่ได้เจอมันสักพักเลยละ หึหึหึ” เนมบอกก่อนเดินออกไป มันเป็นสิ่งที่เขาคิดมานานแล้ว เรื่องเนมจะพาน้องกลับไปหาพ่อ แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ อย่างน้อยๆ ก็ให้น้องได้เรียนจบก่อน ใบหน้าหล่อเหลาซ่อนความกังวลเอาไว้

“ที่เนมเนม พูดมันหมายความว่ายังไงเหรอครับ?” ใบหน้าน่ารักเงยขึ้นถามเขา

“หนูอยากเจอพ่อไหมครับ” สิงห์ถามพร้อมกับลูบหัวทุยไปด้วย

“อยากเจอครับ”

“แล้วอยากอยู่กับพ่อไหม”

“-*- หมายความว่ายังไงครับ”

“ถ้าหนูต้องไปอยู่กับพ่อหนูจะไปไหม?”

“ไม่ไป หนูจะอยู่กับพี่จ๋า” ร่างเล็กตอบด้วยเสียงที่ดังกว่าปรกติ ดวงตากลมจ้องมองตาคม อย่างนึกโกรธ

“ทำไมหนูต้องไปอยู่กับพ่อด้วย หนูอยู่กับพี่จ๋าไม่ได้เหรอ”

“ได้ครับ พี่เองก็อยากอยู่กับหนู” สิงห์ยิ้มแม้ในใจเขาจะไม่ได้รู้สึกแบบนั้นก็ตาม สิ่งที่เขาเป็นกังวลเริ่มใกล้เขามาทุกที ร่างสูงสวมกอดคนตัวเล็กเอาไว้ อยากกอดแบบนี้ไปนานๆ นานเท่าที่ชีวิตเขาจะมี

“ทำไมกอดแน่นจัง?”

“พี่รักหนูไงเลยอยากกอดแน่นๆ” สิงห์ตอบ

“งั้นหนูก็จะกอดพี่จ๋าแน่นๆ เพราะหนูก็รักพี่จ๋าเหมือนกัน กอดกัน กอดกัน คึคึ”



หลังจากเคลียงานเสร็จ สิงห์ก็พานะโมออกไปกินข้าวแล้วพากลับบ้าน คนตัวเล็กพอท้องอิ่มหนังตาก็หย่อน นั่งรถได้ไม่ถึงห้านาทีก็ผล็อยหลับ เสียงกรนเบาๆ ทำให้ร่างสูงต้องหันมามอง

“หึหึเลี้ยงง่ายจริงๆ” เขาพืมพำก่อนจะหันไปหยิบผ้าห่มด้านหลังมาคลุมร่างบางเอาไว้ พอถึงบ้านเขาก็ต้องอุ้มเด็กขี้เซาเข้าไปในบ้าน ปลุกให้ไปอาบน้ำ

“งืออ ไม่อาบ ไม่อยากอาบ”

“ไม่อาบน้ำ จุ๊ดจู๋เหม็นนะ”

“หงึ...”

“ไปเร็วอาบน้ำ”

“ขี้เกียจอ่า หนูง่วง”

“เดี๋ยวพี่อาบให้ถ้าอย่างนั้น” สิงห์บอกอย่างจนใจ เพราะวันนี้คนตัวเล็กเกิดอาการงอแง อาจจะเพราะเหนื่อยจากการสอบมาด้วย เขาอุ้มน้องไปที่ห้องน้ำ จัดการถอดเสื้อถ้าให้ ทั้งที่เจ้าตัวยังไม่ลืมตา ได้แต่ยกแขนยกขาเหมือนหุ่นเชิดให้ร่างสูงจัดการ สายน้ำอุ่นไหล่ผ่านผิวกายอย่างช้าๆ โดยมีคนตัวสูงยืนช้อนหลังเอาไว้

“งือออ พี่จ๋า” หันหน้าเข้าซุกแผงอกเปลื่อยให้เป็นที่พึ่งยามที่ตัวเองหัวหนักอึ้ง สองมือยกเกาะไหล่เอาไว้

“ลืมตาหน่อยไหม?”

“ม่ายอาวว หนูง่วง พี่จ๋าอาบเร็วๆ สิ” ปากเล็กขมุบขมิบงึมงำ เอ่ยวาจาเร่งให้อีกฝ่ายรีบถูสบู่ให้

“เห้ออ เรานี่น้า ไหนยินดีๆ ก่อน” สิงห์จัดการฟอกสบู่ให้ทั้งน้องและตัวเองอย่างรีบๆ จับแปรงสีฟันบียาใส่แล้วแปรงฟันให้ ราวกับคนในอ้อมแขนเป็นเด็กทารก

“บ้วนออกมาครับ” คนขี้เซาบ้วนฟองยาสีฟันออกมาอย่างว่าง่าย แล้วบ้วยน้ำล้างปากอีกที พอร่างสูงจัดการอาบน้ำจนเสร็จก็เอาผ้าห่มห่อตัวจนกลายเป้นดักแด้ ส่วนเขาก็พันผ้าคาดเอวเอาไว้แล้วอุ้มคนขี้เซาไปแต่งตัว กว่าจะเสร็จก็เกือบหมดแรง

“งืออ กอด กอดหน่อย” ร่างเล็กพลิกตัวเข้าสู่อ้อมกอดอุ่น แล้วหลับลึกเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน ส่วนอีกคนก็ค่อยๆ ตามไปด้วยความเหนื่อยล้า



1 อาทิตย์ต่อมา



ปิง ได้เปลี่ยนชื่อกลุ่มเป็น ปิดเทอมแล้วโว้ย (6)

(7.30น)
[/b]


ปิง

ตื่นเถิดชาวไทยอย่ามัวหลับใหลลุ่มหลง

ตื่นอิพวกไพร่!!

ตื่น!!!

เนม ภิภพ

ไปตายซะ!

คนจะนอน!


ปิง

ทำไมมึงไม่อ่อนโยน

เนม ภิภพ

กูไม่ใช่แลคตาซิส

ถึงจะได้อ่อนโยนต่อจุดซ่อนเล้นแบบมึง

ปิง

ปากคอเราะร้าย

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

ถ้ามึงจะมาเว่นเว้อ

อิปิงรบกวนมึงไปแชทอื่น

อิเหี้ยยยย

ซีตัสคนจริง

“กูให้มึงไปซื้อน้ำเต้าหู้”

ไม่ใช่ให้มึงมากวนแชท

รีบมา

ปิง

จ้าผัว

Yimmy

อื้อ หืออ ผัว เต็มปากเต็มคำ

ปิง

เอ๊ะ อิยิม อย่าแขวะ

@นะโม

ตืนยัง

นะโม

งือออ เราทำงานบ้านอยู่ รอแปปน้า

ปิงปิงมีอะไรหรอ?
ปิง

ป่าวกูเหงาออกมาซื้อน้ำเต้าหู้คนเดียว

นะโม

เห้ออ ปิงปิง ทำไมไร้สาระแบบนี้

ปิง

เจ็บ!

เนม ภิภพ

สม!

ซีตัส คนจริง

สม

Yimmy

สม

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

สมน้ำหน้า!!

ปิง

อิพวกเลว

อิไพร่!!

11.30น.

เนม ภิภพ

ตกลงคิดได้ยังว่าจะไปเที่ยวที่ไหน

ปิง

ไม่รู้วะ

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อยากไปเหนือ

อยากไปสัมผัสอากาศหนาวๆ

แบบฟัน ออกปาก

ซีตัสคนจริง

น่าสน

นะโม

ไปไหม พี่จ๋าให้ถาม

พี่จ๋าบอกว่า มีโรงแรมในเครอกำลังจะเปิดอยากให้พวกเราไปทดสอบ
ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อยากมีผัวแบบพี่สิงห์

ผัวขา!!!

นะโม

ส้มส้ม ไม่ได้! ของเราห้ามแย่ง!!!

เนม ภิภพ

รับรู้ได้ถึงความเกรี้ยวกราด

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

ร้ายนักนะ@นะโม

นะโม

อย่าว่าเรา!

Yimmy

ไปดิ กูจะได้ไปหาพ่อด้วย

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

เออ วะลิมเลยว่ะ พ่อมันทำสวนลำไยอยู่ที่เชียงใหม่

ซีตัสคนจริง

สรุปไปกันหมดนะ

นะโม

ครับ

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

เยป

Yimmy

แน่นวลกูคิดถึงพ่อ

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

คิดถึงพ่อหรือคิดถึงเงินพ่อ เอาให้แน่

yimmy

อิลูกชั่งขัด ชาติก่อนมึงเป้นสก็อตไบร์รึไง

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

อินรก กูขอให้พ่อมึงไล่กลับ ขอให้อิลูกอมไล่ขวิด

นะโม

ลมอม ทำไมต้องไล่ขวิด

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

ลูกอมมันเป็นควายค่ะ

มันไม่ชอบหน้าอิยิมมัน

ปิง

มึงนี่รู้เรื่องมันดีจังเลยเนอะ

Yimmy

รู้ดีกว่าแม่กูอีก

ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

เอ๊ะ!!

ซีตัส คนจริง

กูสรุปเลยนะ ไปเชียงใหม่ บอกพี่สิงห์นัดวันมาเลยนะไอ้เอ๋อ

นะโม

อื้อ

เราไปทำงานต่อนะ

บายๆ



หลังจากนั้นนะโมก็วางมือจากการแชทคุยกับเพื่อนสนิท สิงห์นั่งมองเขาจากโต๊ะทำงาน

“มาหาพี่หน่อยสิครับ” สิงห์ตบมือลงบนตักของตัวเอง นะโมเดินมาหาอย่างว่าง่าย

“ตกลงเพื่อนว่ายังไงบ้าง” เขาถามเสียงนุ่ม สองมือโอบเอวคอดเอาไว้กันหล่น

“ทุกคนตกลงจะไปครับ” นะโมหันไปตอบ

“อืมถ้าอย่างนั้นไว้พี่เคลียงานที่นี่เรียบร้อยเราไปเที่ยวกันเนอะ^^”

“ครับ เราไปเที่ยวกันเนอะ” รอยยิ้มสวยๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าหวาน สิงห์เห็นแล้วก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้เลย นะโมเปรียบเสมือนยาบำรุงของเขาที่ขาดไม่ได้ในการดำรงชีวิต



สองวันต่อมา

สิงห์กำหนดวันที่จะเดินไปเชียงใหม่ ไว้แล้วนั่นก็คืออีกสองวันข้างหน้า และทุกทริบนี้คือฟรีทุกอย่าง เด็กๆ ตื่นเต้นที่จะได้เที่ยวโดยที่ไม่เสียเงินสักบาท เว้นเสียแต่เนมที่ต้องเคลียงานที่ร้านก่อนแล้วจะตามไปทีหลัง

“จัดกระเป๋าเรียบร้อยแล้วนะครับ เอาทุกอย่างไปครบ” สิงห์ถามย้ำกับคนตัวเล็กอีกครั้ง ก่อนจะขนกระเป๋าขึ้นรถตู้จากที่บ้านใหญ่ ที่เขาให้คนรถเอามาส่งพร้อมกับคนขับ เพราะเขาจะไม่ขับเองจะได้มีเวลาดูแลคนรักได้อย่างเต็มที่ ไหนจะเด็กๆ อีก ทุกคนมารวมตัวกันที่บ้านของสิงห์

แปดโมงก็เริ่มออกเดินทาง แวะจอดพักกินข้าว เติมน้ำมันรถแถวๆ นครสวรรค์เป็นที่แรก มีจอดแวะพักตามจุดพักรถบ้างตามความต้องการของคนตัวเล็กที่ดูจะตื่นเต้นไปซะทุกอย่าง แถมยังปวดฉี่บ่อยเพราะเจ้าตัวเอาแต่กินน้ำกับขนม โดยมีผู้ปกครองอย่างสิงห์คอยป้อนคอยเอาใจใส่ไม่ห่าง จนกระทั่งมาถึงที่หมายโยสวัสดิภาพ

โรงแรมใหญ่สวยหรูท่ามกลางขุนเขาและธรรมชาติ ออกแบบให้เอื้อต่อทรัพย์กรโดยที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ตัวอาคารไม่ได้สร้างให้สูงมากนักแต่ก็สามารถเห็นวิวได้รอบๆ มีที่พักแบบเอ็กคูซีพ อย่างบ้านต้นไม้ และคาเฟ่ที่สร้างเชื่อมต่อกับบนยอดไม้ใหญ่ เห็นวิวจากผาสูงลงสู่ด้านล่างที่เป็นหมู่บ้านของชนเผ่าพื้นเมือง สิงห์ช่วยซื้อสินค้าโอท็อบและพืชผลจากชาวบ้านมาใช้ในโรงแรม เป็นการเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน

ที่พักวันนี้เขาเลือกให้พักกันที่บ้านต้นไม้ ที่สร้างเชื่อมกับต้นไม้ใหญ่หลายๆ ต้นที่แข็งแรงโดยที่เขาไม่จำเป็นต้องตัดต้นไม้ออก ทางเดินไม้วนถูกสร้างขึ้นเพื่อให้พวหเข้าได้ขึ้นไปยังตัวบ้านได้อย่างสะดวก พอทุกคนได้เห็นต่างก็ร้องว้าวออกมาเสียงดัง โดยเฉพาะนะโม ถึงกับวิ่งไปรอบๆ ด้วยความตื่นเต้น ปากก็เอาแต่พูด ว้าวๆ ๆ ๆ ๆ ๆ



“ใจเย็นอิลูก” ส้มรีบดึงตัวเด็กซนที่กำลังจะชะโงกลงไปด้านล่างอย่างคนอยากรู้อยากเห็นจนแทบจะล่วงลงไปด้านล่าง

“สวยเนอะส้มส้ม เราชอบเราชอบ”

“เออ สวยจนกูอยากอยู่ที่นี่ไปตลอดเลย” ปิงพูดออกมาอย่างที่ใจคิด มันสวยจนต้องเก็บภาพเอาไว้ ร่างโปร่งยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายไว้แล้วหลายรูป

“กูจะทำรีวิวโรงแรมนี้ด้วย” ปิงบอกพร้อมกับกดชัตเตอร์อีกหลายครั้ง

“ไอ้เนมบอกว่ามันกำลังออกจากบ้าน คงถึงพรุ่งนี้เช้าละมั้ง” ยิมพึ่งวางสายจากเนม

“เออ มันเห็นมันต้องอึ้งแน่เลย” ส้มพูด

“ชอบไหมเด็กๆ” สิงห์เดินเอากระเป๋าเข้าไปเก็บในห้องพักก่อนจะเดินออกมาหาพวกเขาที่ยืนดูวิวยามค่ำคืนอยู่ด้านนอก

“ชอบมากกกกกกกกกกกก” ทุกคนหันมาตอบทพเอาเจ้าของดรงแรมยิ้มแก้มปริ

“ผมจะทำรีวิวให้พี่ด้วย เอาไปลงเพจท่องเที่ยวสไตล์แบกเป้ รับรองยอดจองปังแบบถล่มทลาย” ปิงบอกอย่างมั่นใจ

“ขอบใจมากเด็กๆ พักผ่อนให้เต็มที่ พี่เลี้ยงเอง”

“หูยยยย อยากได้แบบพี่สิงห์ต้องเกิดอีกกี่ชาติวะ” ยิมพูดออกมาอย่างทึ่งๆ



++++++++++++++++++

ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง สิงห์เลยสั่งให้อาหารให้เด็กทานอย่างง่ายๆ ก่อนจะพากันอาบน้ำและเข้านอน เก็บแรงไว้ในวันพรุ่งนี้ วันที่ทุกคนจะไม่มีวันลืม 

++++++++++++++++++



หวัดดีจ้า แหะๆ มันไม่ยอมจบอะ ไม่จบในตอน ไม่อยากยืดเลย ฮรือออ ขอโทษนะ

เจอกันตอนหน้า บั๊ยยยยยย

















หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.46 3/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 03-02-2019 13:23:39
ตามมาให้กำลังใจ :3123:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.46 3/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-02-2019 13:57:18
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.46 3/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-02-2019 17:13:01
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.46 3/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-02-2019 23:28:12
พ่อนะโม มาไทยเร็ว ๆ ซิ  :hao3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.46 3/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 04-02-2019 00:52:13
 เซอร์ไพรส์อะไรนะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.46 3/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 05-02-2019 12:58:20
อีน้องจะยอมมั้ย
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.46 3/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 05-02-2019 13:44:06
 :man1:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.46 3/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 08-02-2019 21:34:34
 :mew5: :hao5:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.46 3/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: Kirana9165 ที่ 10-02-2019 12:34:33
อยากเห็นความสำเร็จในชีวิตของน้องๆ หลังจากนี้ ชอบความสัมพันธ์ของเพื่อนๆ น้องๆ มาก ไม่อยากให้จบเลย อยากอ่านเรื่อยๆ. เป็นกำลังใจให้นะคะ

หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.47 12/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 12-02-2019 08:50:56
47



การเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ ไอ้เอ๋อ เด็กหนุ่มออทิสติกวัยยี่สิบปี เริ่มจากตื่นมาในเช้าของวันใหม่พร้อมกับเพื่อนๆ บนโรงแรมที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาในจังหวัดเชียงใหม่ ข้างกายมีชายร่างสูงเจ้าของโรงแรมคอยประคบประหงมไม่ห่าง หวงราวกับไข่ในหิน

ตอนนี้ฟ้ายังไม่สว่าง พวกเขาออกมานั่งรอดูพระอาทิตย์ขึ้น อากาศบนยอดไม้มันหนาวเสียจนมีควันออกจากปากเวลาพูด

“ฟวันๆ ฟวันๆ ฟุ่วๆ ๆ ดูสิครับ” เสียงแหบๆ พูดไปเรียกให้คนตัวสูงดูควันสีขาวที่ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศเวลาที่ตนเองเอ่ยอะไรออกมา

“หึหึ หนาวมากไหม ตัวสั่นเชียว”

“ไม่ ไม่หนาวครับ ก็พี่จ๋ากอดไว้แบบนี้จะหนาวได้ไง” ใช่มันจะหนาวได้ยังไงเมื่อเขาใช้ทั้งผ้าห่มทั้งตัวเองกอดร่างเล็กเอาไว้จนมิด แทบจะไม่มีช่องว่างให้อากาศเย็นลอดผ่าน

พวกเขานั่งอยู่ตรงระเบียงกว้างที่ยื่นออกไปตรงผาเตี้ยๆ สายตาทุกคนจับจ้องไปยังด้านหน้า ผืนฟ้ากว้างค่อยๆ สว่างขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลา ดวงอาทิตย์กลมโตค่อยๆ โผล่พ้นขอบฟ้า ซีตัสรีบกดชัตเตอร์ระรัวเพื่อเก็บภาพเอาไว้ ส่วนปิงก็ทำการไลฟ์สดผ่านกลุ่มท่องเที่ยว มีหลายคนเข้ามาดูและให้ความสนใจมากพอสมควร ทุกคนดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบตัวจนไม่มีใครพูดอะไรออกมา ได้แต่นั่งดูเงียบๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งคนช่างจ้อประจำกลุ่มอย่างนะโม ที่ตอนนี้ใช้แผงอกของสิงห์เป็นที่พิงตัวไปแล้ว

ใบหน้าหวานหยดเงยขึ้นมองคนที่ตัวเองใช้เป็นกำแพงมนุษย์แล้วส่งยิ้มหวานให้เป็นการขอบคุณที่พามาดูสิ่งสวยงามแบบนี้ หลังจากนั้นก็พากันไปกินมื้อเช้า

สักพักเนมก็มาถึงรายนั้นพอเท้าเหยียบโรงแรมก็ตรงมาหาพี่ชายตัวเองที่นั่งกินลำไยจนแก้มป่อง มากอดมาวอแวจนทำให้สิงห์ต้องเดินมาแยกด้วยความหมันไส้ ของของใครก็หวงโดยเฉพาะไอ้แก้มยุ้ยนี่ด้วยแล้ว บอกตรงๆ กับพี่น้องเขาก็หวง!!!

“คุณสิงห์คะกิจกรรมที่คุณให้ดิชั้นเตรียมการเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ” คุณแก้มผู้จัดการโรงแรม เดินมาบอกขณะที่ทุกคนกำลังนั่งเล่นอยู่ที่จุดชมวิว สิงห์พยักหน้ารับ

“กิจกรรมอะไรเหรอพี่” ซีตัสเริกคิ้วถาม พอเห็นรอยยิ้มของคนอายุเยอะเท่านั้นแหละ

กลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกก

“หึหึ เดี๋ยวก็รู้” ร่างสูงจ้องไปทางเนมแล้วแสยะยิ้มใส่

“หูยย หน้าตาพี่จ๋าไม่น่าไว้ใจเลย” นะโมทำหน้าหวาดๆ

“หึหึ คิดมาก” เพราะไอ้สายตาไม่น่าไว้ใจกับคำว่า คิดมากนี่แหละทำให้คนอื่นๆ เริ่มเห็นลางร้ายเข้ามาใกล้



10.30น.

“เอาจริงดิพี่ นี่พี่หลอกพวกผมมาทำอะไรเนี้ยยยยยย” ปิงลากเสียงยาวพร้อมกับมองไปยังเครื่องเล่นตรงหน้า จังเกิลโคสเตอร์

“เอาน่า ถือว่าช่วยๆ กัน”

“เห้ยพี่ แต่นี่แบบ มันลงเขาไงพี่”

“งืออออ หนูกลัว ส้มส้ม งือกลัว” นะโมเดินไปหลบหลังส้มที่หน้าซีดไม่แพ้กัน

“อิลูกกูก็กลัวไม่ต่างจากมึง” ส้มกอดตอบคนตัวเล็กแล้วส่ายหน้าไปมา บอกให้รู้ว่ากูจะไม่ขึ้นแน่ๆ

“เนม! ลงไปนั่งสิ” สิงห์หันไปบอกด้วยเสียงนิ่งๆ

“เห้ย ทำไมต้องผม! ” เนมเริ่มโวยวาย

“มึงนั่นแหละ แต่เอ รึว่าไม่กล้า? ปอดอ่อ” สิงห์ยกยิ้มนิดเมื่อเห็นสีหน้าที่เป็นกังวล

“ถ้ามึงไม่กล้า ก็ได้นะ นะโมครับ ลองเล่นไหม”

“งะ T^T” นะโมส่ายหน้าวืด

“หนุกนะ พี่ลองแล้วมานั่งกับพี่ก็ได้”

“ฮรือออ เนมเนม พี่กลัว” พอนะโมร้องบอกแบบนั้นคนน้องจำใจก้าวขาลงกับที่นั่งที่เตรียมไว้ให้แค่ที่เดียว ร่างสูงของเนมหันมามองพี่ชายตัวเองที่ยืนน้ำตาซึมอย่างน่าสงสาร ผิดกับอีกคนที่แสยะยิ้มให้เขาเหมือนปีศาจร้าย

“หึหึหึ”

“พี่โกรธผม ที่ผมไปหอมแก้มนะโมใช่ไหม?” เนมกระซิบถามเสียงเครียด

“แล้วแต่มึงจะคิด เกาะดีๆ ละ เพราะกูยังไม่ได้ทดสอบ มึงเป็นคนแรกที่ได้เจิม โชคดีนะน้องเมีย หึหึหึ”

กึก

คะ ครืดดดดดด

“ว๊ากกกกกกกก ไอ้พี่เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” เสียงแหลมกรีดร้องดังโหยหวนลั่นป่าจนหายลับไป

“งือออ เนมเนม” นะโมเอาแต่ชะเง้อมองหาน้องชายหมาดๆ ของตัวเองด้วยความเป็นห่วง

“ปะ เราไปเล่นอย่างอื่นดีกว่า ที่นี่มีอะไรให้เล่นสนุกๆ เยอะเลยครับ” สิงห์ยิ้มหวานส่งให้ทุกคน แต่ทว่ามีแต่คนถอยห่างจากเขา

“เล่นที่พี่ว่านี้คือ?” ซีตัส

“กิจกรรมแอดเวนเจอร์ เอ็กตรีม ^^”

“*0* ไอติมไหนๆ”

“ฟังผิดแล้วมึง เอ็กตรีม อิสัสกูว่าแล้ววววว”

“งะ T^Tพี่จ๋าทำไมทำร้ายหนู”

“หึหึ ไปครับ เราไปโดดผากัน”

“ม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”



ใช่พวกเขาได้โดดผากันจริงๆ แต่เป็นแบบโหนสลิงข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งเท่านั้นและด่านก็มีบ่อน้ำไว้รองรับ สิงห์โหนไปกับนะโม และที่เหลือก็โหนกันไปเป็นคู่ๆ

“แว๊กกกกกกกกกก งืออ พี่จ๋า อ๊ากกกก เร็วไปเร็วไป งื้ออจะฟ้องงงเนมเนม ฮรืออ หนูจะฟ้องยาย!!! ” เสียงร้องแหกปากของนะโมดังลั่นสิงห์ที่กอดเอวเล็กเอาไว้แน่นกลั้นขำจนจมูกบานสุดท้ายก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่มีปิดบัง ส่วนคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ นั่นคือตะโกนออกไปอย่างสุดเสียง พอขาถึงพื้นก็พากันไปนอนกอง สั่นเป็นเจ้าเข้า นะโมหันไปแยกขึ้นวใส่คนพี่ที่นั่งกอดเอวเขาไม่ปล่อย จากนั้นก็ต่อด้วย กิจกรรม Ziplining ที่ทุกคนจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบๆ ตัวผ่านการโหนสลิง ไปตามทางเรื่อยๆ จากตอนแรกที่กลัวตอนนี้เริ่มรู้สึกสนุกขึ้นมาบ้างแล้ว สิงห์คอยประกบนะโมเอาไว้ตลอดเพื่อความปลอดภัย จนถึงตอนนี้เนมเนมก็มาเล่นด้วยแล้ว สนุกจนลืมความกลัว จากนั้นก็เดินบันไดลิง ก่อนจะจบด้วยการขี่รถATVเป็นอย่างสุดท้าย

“สุดทางนี้เราจะเจอน้ำตก มื้อเที่ยงเราจะกินกันที่นั่นแล้วก็เล่นน้ำด้วย” สิงห์บอกขณะที่ตรวจเช็คความปลอดภัยของทุกคน รถเอทีวี หกคันกำลังขี่ไปตามถนนแคบๆ ผ่านฟามโคนมที่ปล่อยเลี้ยงแบบธรรมชาติ

“วู้ว วัว น้องวัว วัว วัว” นะโมชี้ไปที่ฝูงวัวที่แทะหญ้าอ่อนอยู่ริมรั้วสีขาว สิงห์เลยจอดแวะให้เด็กทักทาย

“วัวของที่นี่เหรอพี่สิงห์”

“ป่าวหรอก พอดีเจ้าของไร่มันเป็นเพื่อนพี่”

“ใคร หรอพี่”

“ไอ้พลัสนะ ไร่หัสดินทร์ เพราะมันนี่แหละพี่ถึงได้ที่ดินผืนนี้มา” สิงห์ตอบยิ้มๆ

“หนูจับได้ไหม?”

“เอาสิวัวไอ้พลัสมันเชื่องจะตาย” สิงห์บอกเขาเดินไปที่ข้างๆ รั้วแล้วเรียกวัวมาใกล้ๆ

มอออออออ มออออ

“เฮือกกกก!! “คนอยากรู้อยากเห็นสะดุ้งเฮือก ก้าวถอยหลังไปหลายก้าว ปากบางเริ่มเบะเพราะตกใจ

“หงึ..T^T กลัวแล้วนะ เจ้าวัว เดี๋ยวตีเพี๊ยะๆ เลย” เจ้าตัวทำปากงุยๆ ว่าวัวที่พยายามจะยื่นหัวเข้ามาใกล้ แถมยกมือจะตีอีก

น่ารักฉิบหาย

“หึหึ มาครับ มันไม่มีอะไรน่ากลัวเลย” สิงห์เรียกคนรักเสียงนุ่มแค่สายตาที่มองไปที่นะโม ก็ทำเอาคนที่เห็นละลายได้ สายตาอบอุ่นที่มอบให้แค่คนตัวเล็กเพียงแค่คนเดียว

“ ((สัส ไอ้เอ๋อมันทนสายตาแบบนั้นได้ยังไงวะ) )” ปิงหันไปกระซิบกับซีตัส

“ ((กูก็มองมึงแบบนั้นออกบ่อย) )”

“ ((เหรอมึง เหรอ กูเห็นแต่สายตาหื่นกาม) )”

“ ((มึ้งงงง มึงดู กูไม่ไหว จับกูที) )” ส้มหันไปคว้าแขนของยิมที่ยืนอยู่ข้างๆ

“ ((เชี้ยย กูนี่เป็นอากาศไปแล้ว!! จะหวานอะไรขนาดนั้น อิสัสแค่พี่กูอยากจับวัวจำเป็นต้องประคองกอดขนาดนั้นไหม! ) )” เนมทำท่าจะเข้าไปขวาง ส้มเลยกระชากหัวเอาไว้

“ ((มึงอย่าขัดความสุขลูกกู มึงหยุด! ) )”



หลังจากเล่นกับวัวเรียบร้อยก็ขี่รถกันต่อ จนถึงธารน้ำตก ตรงนั้นมีร้านคาเฟ่เล็กๆ ไว้บริการนักท่องเที่ยว ตกแต่งสไตล์มินิมอลเน้นโทนเขียวขาวเข้ากับบรรยากาศ เราต้องเดินขึ้นบันไดหินที่ขนาบข้างกับน้ำตกเพื่อไปยังคาเฟ่ พอเปิดประตูเข้าไปกลิ่นกาแฟก็หอมโชยมาตีจมูกความจริงคาเฟ่นี้ยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ รอเปิดพร้อมกับโรงแรมเลยแต่วันนี้เป็นกรณีพิเศษเพื่อทดสอบระบบต่างๆ ของร้านด้วย มื้อเที่ยงเลยลงเอยที่นี่ ได้สปาเกตตีกันคนละจานกับของหวานเป็นบิงซูมะม่วง หวานหอมชื่นใจ นะโมติดใจมาก บอกอยากกินอีก ต่สิงห์ไม่ให้กินแล้วเพราะกำลังจะพาไปเล่นน้ำแล้ว

ทุกคนสนุกสนานกับการเล่นน้ำ ถือว่าทริปวันแรกประสบความสำเร็จ กว่าจะเล่นน้ำเสร็จก็เกือบเย็นเลยพากันกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปกินมื้อเย็นกันที่ลานกว้างด้านล่าง

“บาบีคิว!! เยสๆ ๆ ๆ !! ” ยิมที่ใช้พลังงานไปจนหมดเมื่อตอนบ่ายพอเห็นว่ามื้อเย็นเป็นบาบีคิว ก็กระโดดตัวลอย

“เนื้อๆ เนื้อจ๋าพี่มาแว้วววว*0*” ซีตัสเป็นคนแรกที่เดินไปจองเตาย่าง ร่างสูงของเด็กมอปลายกำลังลงมือย่างเนื้อ เพื่อมาบริการทุกคน กินไปคุยกันไปท่ามกลางขุนเขาที่รายล้อม รอบบริเวณถูกตกแต่งด้วยไฟสีหลากสีสวยงาม เนมที่นั่งมองพี่ชายตัวเองยิ้มอย่างมีความสุขเขาเองก็พลอยมีความสุขไปด้วย เสียงหัวเราะเสียงพูดคุยยังคงดังต่อเนื่องไปพร้อมกับมื้ออาหาร เนมมองไปรอบๆ ก่อนจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง เขาขึ้นไปแมคบุค ออกมาแล้วเข้าโปรแกรมสไกด์ติดต่อหาใครบางคนที่อยู่แดนไกล

“นะโม พี่มานี่หน่อย” เนมกวักมือเรียก สิงห์หันมามองเขา สบตาเพียงครู่ก็พานะโมเดินมาหา

“อะไรหรอเนมเนม” มือหนึ่งยังถือไม้เสียบบาบีคิวเอาไว้ ดวงตากลมสบมองน้องชายตัวเองด้วยความสงสัย

“มีคนอยากคุยด้วย” เนมยิ้มพร้อมกับเรียกให้ไปนั่งใบหน้าหวานมองไปยังจอ เห็นใครบางคนที่นั่งในรถเข็น ใบหน้านั้นดูอ่อนแรงและซูบผอม เนื่องจากโรคร้ายที่รุมเร้า

“ใครหรออ”

“นะโม..ฮึก ลูก” แค่คำที่เอ่ยมาก็พาเอาคนที่ฟังหยุดชะงัก ดวงตากลมจ้องไปยังคนอีกฝาก

“พะ พ่อ พ่อ พ่อ” ริมฝีปากบางเรียกคนตรงหน้าซ้ำๆ ดวงตาเอ่อล้นด้วยน้ำใส ก่อนจะไหลออกมาเป็นทาง ตอนนี้ทุกอย่างเงียบลราวกับรู้ถึงสถานการณ์และยืนมองดูอยู่ห่างๆ มือบางยื่นไปจับภาพหน้าจอเหมือนกับจะส่งผ่านไปยังอีกคนได้ นิ้วเรียวลูบลงไปยังโครงหน้า

“ฮึก นะโม พ่อ พ่อขอโทษ ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ฮึก” คำขอโทษจากหัวใจของคนเป็นพ่อตอนนี้กำลังส่งต่อไปยังบุตรชายคนโตทายาทที่หายสาบสูญมานานยี่สิบปี ตอนนี้เขาได้เจอแล้ว

“ฮึก พ่อ พ่อจ๋า พ่อเป็นอะไร ฮึกทำไมต้องนั่งรถเข็น ทำไมไม่หล่อเหมือนเนมเนมเลย” คำบางคำร่างบางก็ไม่อาจจะเรียบเรียงได้ไม่ดีนักแต่น้ำเสียงและแววตาสามารถสื่อออกไปได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้ดีใจมากแค่ไหน และก็เสียใจมากแค่ไหน กับสิ่งที่เห้นอยู่ตรงหน้า นะโมไม่ได้เป็นคนโง่ ดูจากที่เห็นน้องรู้ว่าพ่อตัวเองกำลังป่วยหนัก

“หึหึ พ่อไม่สบายนิดหน่อย หนูอย่าเป็นกังวลไปเลยนะ”

“ฮึก ครับ พ่อจ๋า กินยารึยัง พ่อต้องกินนะจะได้หายไวๆ” ใบหน้าอ่อนแรงยิ้มออกมาอย่างดีใจ เขารู้สึกตื้นตันจนน้ำที่ไหลออกมา เขาคุยกับลูกชายทั้งสองอยู่นานถามถึงเรื่องราวต่างๆ มีบ้างที่อคิณรู้สึกเศร้าเพราะเจ้าตัวเล่าถึงวันเกิดที่ผ่านมาแต่ก็ยังอยากจะฟังเสียงเจี้ยแจ้วที่จ้อไม่หยุด

ขอเพียงคนตรงหน้ามีชีวิตที่ดีเขาก็ตายตาหลับ ตอนนี้ตราบาปในใจเขาได้หายไปจนเกือบสิ้น เหลือเพียงความหวังที่จะยังมีชีวิตต่อ ต่ออีกสักนิดเพื่อให้ได้อยู่ดูลูกชายทั้งสอง อคินฝืนร่างกายตัวเองต่อไปไม่ไหว

“พ่ออย่าลืมกินยานะ อย่าลืมนะ ไปหาหมอด้วยนะ เหมือนหนูหนูก็ไปหาพี่หมอบ่อยๆ พี่หมอบอกว่าหนูจะดีขึ้น เพราะงั้นพ่อจะต้องหายนะ”

“ครับพ่อจะกินยาจะได้หายไวๆ”

“สัญญานะ”



“ครับพ่อสัญญา”

“ฮึกจะมาหาหนูไหม พ่อจะมาหาหนูใช่ไหม?”

“แคกๆ ครับพ่อจะไปหา” เขาได้แต่เพียงสัญญาทั้งที่ตัวเองก็ไม่อาจจะแน่ใจว่าจะไปหาได้หรือไม่

“อื้อ พ่อพักผ่อนนะครับ”

“ครับ เนม พ่อฝากพี่ด้วยนะ”

“หนูรักพ่อนะ”

“ฮึก พ่อก็รักหนูครับ แคกๆ” สายตัดไปแล้วเนมมองหน้าทุกคนที่ตอนนี้น้ำตาซึมกันไปหมด

“เนมเนม ฮึก” คนพี่หันไปกอดคนน้องเอาไว้แน่น พร้อมกับร้องไห้ออกมา

“พี่ไม่โกรธพ่อแล้วใช่ไหม ไม่เกลียดเขาแล้วใช่ไหม”

“ไม่เคยโกรธ เราไม่เคยโกรธ ฮึกเรา แค่ น้อยใจ เนมเนม พ่อเป็นอะไร ทำไมต้องนั่งรถเข็น”

คนน้องอึกอัก ไม่ยอมตอบ

“พ่อไม่สบายไง กินยาไง เดี๋ยวก็หาย” เนมโกหก อาการของอคิณแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด

“เหรอ ไม่โกหกเรานะ”

“ไม่โกหกหรอก บ้าใครจะโกหกกันเรื่องแบบนี้” เนมยกมือเกาท้ายทอยแล้วหันหน้าหนี ถ้าขืนมองตาอีกนิดเขาคงหลุดพูดออกไป สิงห์เลยเบนความสนใจโดยการพาเดินออกไปที่ลานกว้าง แล้วสั่งให้พนักงานปิดไฟโดยรอบ

พรึบ!!

“เห้ยยย ไรวะ ปิงมึงอยู่ไหน!! ”

“อยู่ข้างหลังมึงนี่ไง”

“สัส เหยียบตีนกู”

“อิเนมกูขอโทษ”

พอปรับสายตาได้ก็พากันเงียบ ไม่นาน เสียงไฟดวงเล็กค่อยๆ โผล่ขึ้นมาทีละดวงๆ รอบๆ ต้นลำพูต้นใหญ่และกระจายอยู่ทั่วบริเวณ

“อะไร อะไร หรอพี่จ๋า ผีกระสือหรอ แต่ทำไมตัวเล็กจัง”

“หึหึ ไม่ใช่ครับมันคือหิ่งห้อย สวยไหม”

“สวยจังเลยครับ” สิงห์คว้าหิ่งห้อยตัวหนึ่งเอาไว้แล้วแบมือให้คนตัวเล็กดู ดวงไฟดวงน้อยค่อยลอยขึ้นตรงหน้า นะโมยิ้มกว้างให้กับสิ่งที่เห็น และพยายามจะจับบ้าง

“จับเขาเบาๆ นะครับ”

“ครับ วู้ววว ดูสิพี่จ๋า น้องหิ่งห้อยน่าย๊ากกกก” พูดด้วยเสียงหวานๆ ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยให้หิ่งห้อยเป็นอิสระ ไม่รู้ว่าทุกคนเดินมารวมตัวกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ในมือทุกคนมีโทรศัพท์และยกขึ้นถ่ายรูปเอาไว้ ปิงไลฟ์สดผ่านเฟสบุคอีกครั้งแน่นอนยอดแชร์วีดีโอของเขาตอนนี้ขึ้นเป็นหลักร้อยแล้วและมีแนวโนมจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่บรรยากาศ ประเด็นมันอยู่ที่ภาพด้านหลัง

พี่มึงจะมายืนจูบกันแบบนี้ไม่ได้!!!!

เอาเป็นว่าภาพที่ไลฟ์สดเมื่อคืนกลายเป็นไวรัลเพียงแค่ข้ามคืน เพราะอะไรนะเหรอ เพราะคนตัวสูงที่มีหน้าตาหล่อเหลาคนนั้นยังไงละ หลายคนสืบค้นประวัติของสิงห์ พอได้ข้อมูลก็ยิ่งกรี๊ดเข้าไปใหญ่ และที่สำคัญทุกคนสงสัยว่าสิงห์จูบกับใคร!!

“เป็นไงละ ดังข้ามคืนเลยพี่ชายกู มีแต่คนมาถามว่าใครกันคือผู้โชคดีได้จูบกับเจ้าของโรงแรม ตระกูลดัง อิจฉา!! ” โดนแซวแต่เช้าต่อให้แซวก็ไม่เข้าใจ ร่างบางในอ้อมกอดอุ่นก็ได้แต่หัวเราะชอบใจกับสายตามารร้ายของคนอื่นๆ

“กูเหม็นความรัก!! ” ยิมย่นจมูกใส่อย่างเหม็นเบื่อ

“คึคึคึ ยิมยิมทำหน้าตาตลก”

“จุ๊บ ครับ หน้าตาตลกดี ถ้าอิจฉามากก็รีบบอกเค้าซะสิ ชักช้าก็เสียเวลาหมาคาบไปแดกกุไม่รู้ด้วยนะ” สิงห์จุ๊บแก้มนวลของคนในอ้อมกอดแล้วบอกกับยิมด้วยสีหน้าเหมือนรู้อะไรบางอย่าง

“ก็หาโอกาสบอกอยู่” ยิมตอบเสียงอ้อมแอ้ม พร้อมกับมองคนที่กำลังเดินขึ้นบันไดมา

“โรงแรมกู ออกจะโรแมนติกหาที่ไหนไม่ได้แล้วนะเว้ย”

“รู้แล้วน่าพี่ เชิญสวีทกับเมียไปเถอะ! ”



+++++++++++++++++

ช่วงสาย สิงห์พาเด็กๆ ลงไปที่ไร่สตอเบอร์รี่และไร่ชาของชาวบ้าน ที่กำลังจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งทางโรงแรมของสิงห์กำลังติดต่อรับเอาสินค้าจากชาวบ้านไปใช้ในโรงแรมด้วย นะโมกินสตอเบอร์รี่จนปากเลอะพุงกาง เรียกได้ว่าถล่มไร่เขาซะเกือบเจ้ง หลังจากนั้นก็พาเดินตลาด ได้ของกินแล้วก็ของฝากมาหลายอย่าง ซึ่งทั้งหมดสิงห์เป็นคนจ่ายให้

ไม่เรียกว่าป๋าแล้วจะให้เรียกว่าอะไร?

ตกบ่าย

“พี้....เอาจริงนี่แกล้งพวกผมรึเปล่าเนี้ยะ” เนมยืนมองลูกบอลยักษ์ที่บรรจุน้ำเอาไว้ข้างใน สิงห์พาเด็กๆ ขึ้นมาบนเนินเขาลูกเตี้ยๆ พอมาถึงทุกคนก็ต้องร้องออกมา

“อยากให้ลอง สนุกเชื่อกูดิ”

“พี่ก็พูดแบบนี้ทุกรอบอะ” เนม

“กูก็เห็นมึงเต็มที่ทุกรอบเหมือนกัน ไปไหนใครจะลองก่อน” สิงห์หันไปถาม ทุกคนเอาแต่ก้าวถอยหลังยกเว้น

“หนู หนู หนูอยาก” นะโมชูมือขึ้นสุดแล้วโบกไปมา

“อะ พี่มึง คนแรกเลยงั้น” เนมผลักหลังของสิงห์แล้วก็หัวเราะ

“เห้ออ ก็ได้ครับ หนูปีนเข้าไปเลย” จากนั้นสิ้งห์ก็ตามเข้าไป ร่างบางดูตื่นเต้นเป็นพิเศษเมื่ออยู่ในลูกบอล สิงห์ขยับตัวแล้วโอบกอดนะโมเอาไว้

“จับพี่ไว้ดีๆ นะครับ ไม่กลัวใช่ไหม” นะโมส่ายหน้า

“ไม่กลัว ไม่กลัว” พอพวกเขาพร้อมเจ้าหน้าที่ก็ปล่อยลูกบอลให้ลงจากเขา

“กรี๊ดดด คิกคิก ฮ่า กรี๊ดๆ ๆ ๆ” ทั้งหัวเราะทั้งร้องกรี๊ด แม้ว่าตัวเองจะกลิ้งไปตามทาง นะโมกำลังสนุก กำลังได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ จากกิจกรรมที่สิงห์พาไปทำ ทั้งฝึกความกล้าหาญและความอดทน ให้น้องได้ก้าวข้ามความรู้สึกหวาดกลัว พอเห็นว่านะโมเริ่มเล่นได้ทุกคนก็เอาด้วย

ทุกคนหมดแรงกับกิจกรรมที่ดรงแรมจัดไว้ไห้ ทั้งเพ้นท์บอล ดรายเสลจ นั่งไปกับเรือยาง ไหลลงจากที่สูง อันนี้นะโมเล่นไม่หยุด เล่นจนหมดแรง จนต้องอุ้มกันกลับที่พักกันเลยทีเดียว

ตกเย็นนะโมขอร้องให้เนมติดต่อหาอคิณอีก เนมไม่ขัดอยู่แล้ว เพราะเขาได้โทรไปบอกผู้เป็นพ่อเรียบร้อย พ่อลูกคุยกันเพลิน อคิณมีสีหน้าที่สดใสขึ้น เพราะคำขอของนะโม

“พ่อต้องอยู่กับหนูนะ ต้องมาหาหนูนะ”

สองอาทิตย์ต่อมา



“นะโมครับ ไปอาบน้ำก่อนเร็ว” สิงห์เรียกให้คนรักไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ เพราะวันนี้จะมีแขกมาที่บ้าน

“อาบทำมายยย ไม่อาบบ” เด็กดื้อส่ายหน้าไปมาพร้อมกับพลิกตัวหนี

“เดี๋ยวจะมีคนมาหาเราที่บ้าน ไปอาบน้ำก่อนนะครับ”

“งื้ออ ใครจะมา หนูง่วงงง เมื่อคืนพี่จ๋าทำเยอะ” ใช่เขาทำเยอะทำแรงด้วย เพราะใครละที่ยั่วเขาจนตะบะแตก ไอ้แมวขี้ยั่วเอ้ย

“ลุงทนายครับ ลุงทนายจะมาหา”

“ลุงทนายคือใคร หนูไม่รู้จัก -3- “พูดแล้วก็มุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม

“อย่าดื้อสิครับ ลุกขึ้นมาเร็ว”

“เอ๊ะพี่จ๋านี่” ลุกขึ้นมาแล้วทำหน้าแง้วๆ ใส่ หัวก็ยุ่งหน้าก็บี้

“หึหึ ไปเร็วครับเดี๋ยวลุงเค้าจะมาแล้ว” นะโมปรือตามอง

“ถ้าน้องลุกน้องจะได้อะไรครับ” แหนะมีต่อรอง มันน่าตีจริงๆ

“เจ้าเล่ห์ขึ้นทุกวันแล้วนะครับ” สิงห์ว่ายิ้มๆ พร้อมกับบีบจมูกรั้นนั้นเอาไว้ด้วยความมันเขี้ยว

“งือออ อ่อย อ่อย อ้อง”

“ถ้าปล่อยแล้วหนูต้องไปอาบน้ำแต่งตัวนะครับ”

“ม่ายยยยยเอา คิคิคิ” พอสิงห์ปล่อยเด็กแสบก็พลิกตัวลงจากที่นอนแล้ววิ่งหนีเขา

“แสบจริงๆ”

กว่าจะเกลี้ยกล่อมให้ไปอาบน้ำเขาก็เสียเงินไปหลายบาท กับสติกเก้อไลน์ที่เจ้าตัวเอามาต่อรอง หลังจากนั้นก็กินมื้อเช้าวันนี้สิงห์เรียกเพื่อนๆ ของเขากับต้าร์ และเนมให้เขามาหาด้วย ไม่นานคนที่นัดไว้ก็มาถึง

“สวัสดีครับคุณทนาย” สิงห์ยกมือไหว้ทนายสงกานต์ ทนายของหลวงตาบัว

“สวัสดีครับคุณสิงห์ คุณนะโมอยู่ด้วยแล้วใช่ไหมครับ”

“ครับ น้องนั่งดูสารคดีอยู่ด้านใน”

หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.47.1 12/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 12-02-2019 08:51:27
พอทุกคนอยู่พร้อมหน้ากันแล้ว ทนายก็เริ่มเปิดพินัยกรรมที่หลวงตาบัวได้เขียนเอาไว้ก่อนตาย ว่าทรัพย์สินทั้งหมดของหลวงตาจะตกเป็นของนะโมแต่เพียงผู้เดียว ทั้งเงินในบัญชีที่หลวงตาเก็บหอมรอมริบเอาไว้เป็นจำนวนเลขหกหลัก สิงห์หยิบสมุดบัญชีที่หลวงตาฝากเอาไว้ออกมาแล้วยื่นให้น้อง โฉนดที่ดินจำนวนสี่ไร่ และสุดท้ายเป็นรูปของผู้หญิงคนหนึ่ง รูปของนดา

“และนี่เป็นจดหมายของหลวงตาที่ฝากให้ถึงคุณนะโมครับ” นะโมรับจดหมายมาอ่าน

“นะโม ถ้าเอ็งได้อ่านจดหมายฉบับนี้ นั้นหมายความว่าข้าคงไม่ได้อยู่กับเอ็งแล้ว ข้ารู้ว่าเอ็งอยากรู้ว่าพ่อแม่ของเอ็งเป็นใคร เอ็งไม่ได้เกิดมาจากอีเปรี้ยวนะ เอ็งมีพ่อมีแม่ แต่เพื่อความปลอดภัยของเอ็ง ทำให้นดาต้องทิ้งเอ็งไว้กับข้า เอ็งอย่าไปโกรธไปเกลียดแม่เอ็งเลยนะ ตั้งแต่แม่เอ็งรู้ว่ามีเอ็งมันก็รักมันถนุถนอมมึง แต่โชคชะตามันคงจะเล่นตลกกับชีวิตเอ็ง พ่อเอ็งทิ้งแม่เอ็งแต่งงานใหม่ โดยที่ไม่รู้ว่ามีเอ็งอยู่ในท้อง ตอนนั้น ทางคุณหญิงราตรีเค้าไม่ชอบแม่เอ็ง เขาหาว่าเอ็งเป็นชู้ เขาเลยตามจองล้างจองผลาญแม่เอ็งจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน แม่เอ็งร่างกายไม่แข็งแรงแต่ฝืนที่จะเก็บเองไว้ จนกระทั่งเอ็งคลอดออกมา ไม่นานแม่เอ็งก็สิ้นใจ ก่อนตายแม่เอ็งให้ข้าสัญญาว่าจะไม่บอกใครเรื่องว่าใครเป็นพ่อของเอ็ง ให้เอ็งตายไปพร้อมกับแม่เอ็ง จะได้ไม่มีใครมาตามหา ตามฆ่าอีก เอ็งถึงได้อยู่รอด ข้าไม่มีอะไรจะให้เอ็งนอกจากคำสอนที่ข้าพร่ำสอนอยู่ทุกวัน “คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้” เอ็งจำคำข้าไว้นะ ว่าข้ารักเอ็งที่สุด เอ็งอย่าดื้อกับคุณสิงห์ อย่าเอาแต่ใจ ตั้งใจเรียนให้สูงๆ เอ็งจะได้มีอนาคตที่ดีจะได้ไม่มีใครมาดูถูก จะได้เลี้ยงตัวเองได้ ข้าม่รู้จะบอกอะไรเอ็งแล้ว ถึงข้าจะไม่อยู่แต่ก็ขอให้รู้ไว้ว่าข้าจะปกป้องเอ็งเสมอ จะดูแลเอ็งอยู่ข้างบนนั้น

ปล.หลานรัก

หลวงตาบัว





“ฮึก...” น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลลงบนแผ่นกระดาษจนหมึกแตกซึม มือเล็กสั่นไปหมดไม่มีแรงแม้กระทั่งจะถือกระดาษแผ่นนั้น สิงห์หยิบมันขึ้นมาอ่านแล้วโอบกอดนะโมเอาไว้ เขาเองก็พึ่งจะรู้เรื่องราวทั้งหมด เนมที่เงียบอยู่นานก็พูดขึ้นมา

“พ่อไม่ไดตั้งใจจะทิ้งแม่เล็กนะครับ พ่อไม่รู้ว่าทำไมแม่ถึงหนีไป พ่อเล่าให้ผมฟังว่าหลังจากแต่งานกับแม่ของผม พ่อขอร้องให้พาแม่เล็กเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยฐานะเมียอีกคน ตอนนั้นแม่ผมยอม แต่ไม่รู้ทำไมพ่อถึงหาแม่เล็กไม่เจอ ผมไม่คิดว่าแม่ของผมจะทำกับแม่น้อยแบบนี้ ถ้าตอนนั้นผมไม่บังไปได้ยิน ผมก็ไม่รู้ว่าผมมีพี่ชายอีกคน พอผมเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อ พ่อกับแม่ก็ทะเลาะกันตลอดจนกระทั่งแม่ป่วย แม่ได้ยอมพูดความจริงว่าแม่เป็นคนทำให้แม่น้อยหนีไป เป็นคนสั่งให้ตามฆ่า” น้ำตาของเนมไหลอาบแก้ม เขารู้สึกผิดแทนแม่ของตัวเอง รู้สึกผิดที่ทำให้พี่ชายต้องมาเจออะไรที่เลวร้ายแบบนี้

“พี่ครับ ได้โปรดยกโทษให้แม่ของผมได้ไหม ฮึก ยกโทษให้พวกผมด้วย” เนมนั่งคุคกเข่าลงตรงหน้านะโม

“เนมเนม ฮึก เนมเนม ไม่โกรธ ไม่โกรธเลย” นะโมพุ่งตัวเข้าไปกอดน้องชายตัวเองเอาไว้ รับเอาความรู้สึกผิดเอาไว้กับตัวเอง

“เนมเนมไม่ผิด เรารักเนมเนมนะ อย่าร้องไห้นะเดี๊ยวแม่เราเพี้ยะๆ นะ” ทั้งสองกอดกันแน่นไม่ยอมปล่อย สุดท้ายสิงห์ก็ต้องแยกทั้งคู่ให้ออกจากกัน เพราะยังไม่จบพินัยกรรม

“ให้คุณนะโมเซ็นรับพินัยกรรมพร้อมกับพยานก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ” ทนายสงกานต์บอก พอทุกคนเซ็นครบทนายสงกานต์ก็ขอตัวกลับคนอื่นๆ ก็ด้วย เหลือแค่เพียงเนมที่ยังไม่กลับ

เขาต้องการคุยอะไรบางอย่างกับสิงห์



“พี่ครับผมมีเรื่องจะขอร้อง พี่ช่วยผมหน่อยได้ไหม”

“เรื่องพ่อของน้องใช่ไหม”

“ครับ ท่านเหลือเวลาไม่มากแล้ว ผมอยากให้น้องไปดูใจท่าน”

“อืม พี่เข้าใจ จะไปวันไหนก็บอกพี่จะได้เคลียงานที่นี่”

“ขอบคุณพี่มากๆ เลยนะครับ” เนมบอกจากใจจริง

“พี่อยากให้มีปาฎิหารนะ ถ้านะโมทำได้”

“แค่นี้ก็ปาฎิหารมากพอแล้วครับ พี่ยืดเวลาให้พ่อมามากพอแล้ว พอที่พ่อจะจัดการทุกอย่าง”

“....”

“พ่อได้คุยกับพี่ทุกวัน ได้ยิ้มทุกวันมันยืดเวลาของพ่อออกไปอีกนิด แต่พี่ก็รู้ว่าโรคนี้มันรักต่อไปไม่ได้แล้ว มะเร็งมันเริ่มแพร่กระจายไปทั่วแล้ว พ่อหมดแรงยื้อแล้วครับ” เนมพูดไปเช็ดน้ำตาไป พยายามที่จะไม่ร้องไห้ ต่อไปเขาจะต้องเป็นเสาหลักให้นะโม เป็นเสาหลักให้บริษัท ซึ่งตอนนี้พ่อเขาเทขายไปแล้วหลายที่ โดยที่ยังถือหุ้นอยู่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ เอาไว้ให้ลูกหลายได้กินเงินปันผล ทรัพย์สินทั้งหมดถูกแบ่งออกให้ลูกชายทั้งคู่เท่าๆ กัน

“มึงเป็นคนเข้มแข็ง กูรู้ว่ามึงต้องผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้ บอกกูมาละกันว่าจะไปหาพ่อวันไหน กูจะพาน้องไป”



อาทิตย์ถัดมา

สิงห์ เนม และนะโม นั่งเครื่องบินส่วนตัวของเจ้าสัวอคิณไปที่อเมริกา นะโมตื่นเต้นจนเป็นลม เพราะมองลงจากพื้นที่สูง พอฟื้นขึ้นมาก็ร้องแง้วๆ เอาแต่จ้องออกนอกหน้าต่าง ใช้เวลาสิบกว่าชั่วโมงก็ถึงที่หมาย เนมพาสิงห์กับนะโมไปพักที่คฤหาสน์หลังใหญ่ บ้านของพวกเขาที่ตอนนี้เงียบเหงา เหลือเพียงสาวใช้กับลูกน้องอีกไม่กี่สิบคน เพราะนายใหญ่นอนอยู่ที่โรงพยาบาล

“พวกพี่ขึ้นไปพักเถอะ พรุ่งนี้เช้าผมจะพาไปหาพ่อ”

“อืม ไปครับนะโม ขึ้นไปนอนเนอะ ลืมตาหน่อยครับจะพาขึ้นบันได”

ตกเย็นเนมเรียกให้ทุกคนมาพบที่ห้องโถงใหญ่เพราะจะแนะนำให้ทุกคนรู้จักนะโม เจ้าของบ้านอีกคน ทุกเอ็นดูนะโมเพราะความน่ารักกันหมด

เช้าวันถัดมา พวกเขาไปหาอคิณที่โรงพยาบาล วินาทีแรกที่อคิณเห็นใบหน้าของลูกชายเขาก็ปล่อยโฮออกมา นะโมโผเข้ากอดอีกคนแน่น

“มาแล้วเหรอลูก ฮึก พ่อคิดถึงหนูมากเลยรู้ไหม”

“ฮึก พ่อจ๋า กลับบบ้านกันนะๆ” นะโมไม่อาจจะยอมรับได้ว่าพ่อของตัวเองไม่มีแรงแล้ว

“หึหึ พ่อก้อยากกลับครับ แต่พ่อต้องให้หมอดูแล ยังกลับตอนนี้ไม่ได้”

“หนูรักพ่อนะ หนูไม่โกรธพ่อ ไม่โกรธ”

“ครับพ่อรู้แล้ว พ่อหมดห่วงแล้ว”

“ฮึก อย่า พูดแบบนั้น หลวงตาก็พูดแบบพ่อ แล้วหลวงตาก็ทิ้งหนู ฮึกไม่เอา”

“หึหึหึ นะโมฟังพ่อนะ พ่อไม่ได้ไปไหน พ่อยังอยู่ในนี้ไง” อคิณจับที่หน้าอกของนะโม

“..ฮึก..”

“พ่อเหนื่อยครับ พ่ออดทนเพื่อที่จะได้เจอหนู ตอนนี้พ่อได้เจอแล้ว” อคิณยิ้ม

“...ฮึก...”

แกรกกกก

“พี่คิน!! ”

“อ่า..นนท์มาแล้ว นี่ลูกชายชั้นที่เคยเล่าให้ฟัง”

“....”

“นะโม นี่ลุงอนนท์น้องชายของพ่อ” นนท์มองนะโมอย่างอึ้งๆ

“เหมือนนดามากเลย” นนท์พึมพำ นะโมยกมือไหว้

“ใช่ไหมล่ะเขานะตาเหมือนแม่ อึก” อคิณร่างกระตุก แต่ก็ยังฝืนตัวเองไว้ ร่างกายเขาเริ่มรับไม่ไหว มอฟินที่ให้หมอฉีดไว้กำลังหมดฤทธิ์

“พี่ทำไมต้องมาบอกเอาตอนสุดท้ายตลอด ตอนป่วยผมก็รู้เป็นคนสุดท้าย เวลาจะตายผมยังได้รู้เป็นคนสุดท้ายอีก พี่แมร่งใจร้ายวะ” นนท์ตัดพ้อ ดวงตาเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะพยายามจะกลั้นน้ำตาเอาไว้

“ก็มึงขี้กลัว ขี้กัววล”

“แต่ผมเป็นน้องพี่นะเว้ย”

“หึหึ มากอดกูสิ อยากกอดกูไหม” อคิณกวักมือเรียกให้น้องชายเข้าไปกอดมันเป็นอ้อมกอดสุดท้ายที่เขาจะมอบให้

“หนูอยากกอด ฮึก”

“ผมด้วย” ครอบครัวกำลังกอดลากันเป็นครั้งสุดท้าย

“กูหมดห่วงแล้ว เนมดูแลพี่ให้ดีๆ นนท์กูฝากดูหลานด้วย สำหรับคุณ ชื่อสิงห์ใช่ไหม” อคิณหันไปหาสิงห์ที่ยืนอยู่เงียบๆ เฝ้ามองคนรักด้วยความห่วงใย

“นะโม ผมฝากคุณด้วย อย่าทำให้ลูกผมเสีย อึก ใจ ดูแลเขาแทนผม อึก..ด้วย” ดวงตาคู่คมประสานกันต่างคนต่างมอง

“ครับผมสัญญา”

“พ่อง่วงแล้วครับ พ่อขอนอนก่อนได้ไหม” อคิณส่งยิ้มให้กับทุกคน เนมยิ้มทั้งน้ำตา นะโมกอดอคิณไม่ยอมปล่อย ซบอยู่ตรงหน้าอกฟังเสียงหัวใจที่กำลังเต้นแผ่วลง แผ่วลง

“ฮรืออออ ไม่เอาไม่เอา”

“พี่ครับ ฮึก ให้พ่อนอนนะ” เนมพยายามดึงนะโมออกมา

“ฮึก ปล่อยน้องเถอะเนมให้น้องได้กอดมันไว้”

“^^” อคิณส่งยิ้ม แล้วค่อยๆ หลับตาลง เขาจากไปแล้วจากไปกับความสุขสุดท้าย เขาปลดความทุกข์ใจเอาไว้แล้วจากไปอย่างสงบในอ้อมกอดของลูกชายที่รัก....



“พ่ออออออ ฮรืออออ ม้ายยยยย”

เหลือไว้เพียงน้ำตาที่เวลาจะเยียวยารักษามันเอง



++++++++++++++++++++++++++++++.

ตอนนหน้าจบ ปมหมดแล้ว เย้ หรือใครเจอปมสงสัยทักมาเลยเด้ออ

เราจะร้องไห้ไปด้วยกัน ถ้าไม่อินก็ต้องขออภัยด้วยนะคะT^T









หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.47 12/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 12-02-2019 08:59:54
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.47 12/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-02-2019 09:20:30
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.47 12/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 12-02-2019 09:41:19
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.47 12/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 12-02-2019 10:57:26
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.47 12/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-02-2019 11:24:30
 :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.47 12/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-02-2019 12:12:31
สงสารน้อง :hao5:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.47 12/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-02-2019 18:52:41
ไปเจอพ่อแล้ว  :hao5:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.47 12/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 12-02-2019 20:11:37
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.47 12/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-02-2019 20:20:16
เศร้า ไปกับนะโม  :mew2: :hao5: :m15:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.47 12/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 12-02-2019 21:14:19
แง๊~~~ TT________TT มาทันดูใจจริงๆ อย่างน้อยก็ได้เจอหน้าลูกชาย แต่ก็อดเศร้าไม่ได้ #RIPคุณพ่ออคิณ นะคะ ): ไม่ต้องห่วงนะโม มีทั้งคุณอา น้องชายและพี่สิงห์ดูแล เพื่อนๆก็รัก ไม่เป็นไรนะนะโม ก็ได้รู้ว่านะโมเกิดจากความรักของพ่อแม่ ไม่ได้ตั้งใจทิ้งขว้าง ส่วนเนมก็ไม่ต้องโทษตัวเองนะ ทำดีที่สุดแล้ว นะโมก็ให้อภัยไม่โกรธแม่เนมแล้ว ดี ดีแล้วๆ พี่น้องกันรักกันดูแลกันต่อจากนี้ รอตอนต่อไปส่งท้ายค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาต่ออย่างสม่ำเสมอ สนุกและชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.47 12/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 13-02-2019 06:49:56
เหลือไว้เพียงความทรงจำ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48(END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 19-02-2019 00:06:08
48 The End



ปีต่อมา


“เนมเนม อันนี้ต้องตอบว่าอะไร เอามาลอกหน่อยยยย” เสียงหวานเรียกร้องขอลอกการบ้านจากน้องชายตัวเอง

“ได้ไงทำเองสิ” เนมปฏิเสธ

“งืออ มัน ยากอะ เนมเนม อย่าใจร้ายย” ร่างสุงโปร่งลอบถอนหายใจพร้อมกับหยิบสมุดการบ้านวิชาเลขออกมา เขาแพ้ลูกอ้อนของพี่ชายตัวดีตลอด แพ้หน้าแมวๆ แพ้ปากงุยๆ ที่คอยออดอ้อนเขาเวลาอยากได้อะไร

“เย้ๆ เอามาเร็วจะเข้าแถวแล้ว ส้มส้มเราได้สมุดการบ้านของเนมเนมมาแย้ววววว”

หนึ่งปีที่ผ่านมาเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมายในชีวิต แม้จะสูญเสียอะไรมากมายแต่นะโมก็ผ่านพ้นมันมาได้อย่างดี โดยมีคนรอบกายคอยช่วยเหลือ มีคนรักที่ประคับประคองให้ก้าวเดิน มีพี่น้องให้รู้ว่าตัวไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไป มีเพื่อนเป็นแรงผลักดันให้เป้าหมายในชีวิต

นะโม กำลังจะขึ้นม.6 เป็นเด็กมอปลายปีสุดท้าย ด้วยอายุ ยี่สิบเอ็ด อาจจะช้ากว่าคนอื่นเขาไปมากถ้าหากเทียบกับคนรุ่นเดียวกันแล้ว แต่ทว่านะโมยังไม่ละความพยายาม เพราะตอนนี้มีเป้าหมายแล้ว และตั้งใจจะทำให้มันสำเร็จให้ได้

ถ้าจะให้พูดถึงสิงห์ ตอนนี้การงานกำลังไปได้สวย โรงแรมที่เชียงใหม่ตอนนี้กำลังไปได้สวย ลูกค้าแน่นตลอดทั้งปี ทำให้เขายุ่งๆ จนบางครั้งก็แทบจะไม่มีเวลาให้กับนะโมเลย นะโมเองก็เข้าใจว่าสิงห์ทำงานเพื่ออนาคตของตนเอง เลยไม่งอแงหรือเรียกร้องอะไรจากสิงห์ เป็นเด็กดีไม่ดื้อ เพื่อให้สิงห์ไม่ต้องกังวล แม้บางครั้งจะต้องรู้สึกเหงาแต่ก็ต้องอดทนและเฝ้ารอจนกว่าจะถึงตอนเย็น เพราะไม่ว่าสิงห์จะงานยุ่งขนาดไหน สิงห์จะกลับมากินข้าวเย็นกับนะโมทุกวันไม่มีขาดมีบางครั้งที่ต้องอยู่ประชุมดึก เขาก็จะให้นะโมไปอยู่บ้านเนมก่อนแล้วค่อยไปรับ

ทุกอย่างของนะโมในวันนี้คือสิ่งที่หลวงตาได้หวังเอาไว้ นะโมมีชีวิตที่ดี มีการศึกษา มีเพื่อน มีสังคม และมีคนที่รักจากใจจริง



............................................



“จะเข้ามหาลัยแล้ว คิดไว้รึยังครับว่าเรียนอะไร” ร่างสูงเอ่ยถามคนรักในขณะที่นั่งดูรายการสารคดีสัตว์โลก ร่างนุ่มนิ่มหันไปมองคนข้างกายแล้วยิ้มยิงฟันใส่

“อยากเป็นหมอเหมือนพี่จ๋าครับ”

“ถามได้ไหมว่าเพราะอะไร”

“ได้สิ”

“เพราะอะไรครับ”

“เพราะพี่จ๋า หนูรู้ว่าพี่จ๋าอยากเป็นหมอหมา แต่พี่จ๋าทำไม่ได้แล้ว หนูเลยอยากทำแทน ทำในส่วนตรงนั้น “

“น่ารัก ทำไมหนูน่ารักแบบนี้ จะให้พี่หลงหนูไปถึงไหนกันครับ” สิงห์นะโมเสียเต็มอก เขารู้สึกดีใจและก็ภูมิใจมากที่ได้ดูแลเด็กดีแบบนะโม ไม่ผิดหวังที่มอบหัวใจให้ดูแล ที่ผ่านมานะโมไม่เคยบกพร่องในหน้าที่ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน บ้านและงานบนเตียง นะโมเติมเต็มให้เขาจนเต็ม สิงห์กดจมูกลงบนกระหม่อมของอีกคน

“พี่รักหนูนะ”

“หนูก็รักพี่จ๋าครับ”



วันประกาศผลสอบ แอดมิทชั่น



“เนมเนม เราตื่นเต้น สั่นไปหมดเลยเนี้ยะ”

“โอ้ยยย พี่มึงอย่าเขย่ากู กูเวียนหัว”

“ตัสตัสเราจะได้เรียนที่เดียวกันไหม โอยตื่นเต้น”

“มึงใจเย็น มือกูสั่น” ซีตัสจับเมาส์เอาไว้ แต่ละคนมีแมคบุคกันคนละเครื่อง พร้อมเข้าใช้งานหน้าเว็บประกาศผล

23.55

“โอ้ยยย ใจกู สั่นไม่หยุดเลย”

“เราด้วยส้มส้ม ฮรือออ”

“พวกเราต้องได้เรียนที่เดียวกัน ใช่ไหม มึง ใช่ไหม? T^T”

“มันต้องได้สิ”

23.57

“ตัสมึง..กูกลัว” ปิงกอดแขนซีตัสเอาไว้ พร้อมกับทำสีหน้ากังวล

“กลัวห่าไร มึงทำได้อยู่แล้ว”

“ฮรือออ วิศวะ กูต้องได้”

“กูต้องได้เป็นหมอคน!! ”

“ใช่ยิมเราต้องได้เป็นหมอหมา!! ”

“กูจะเป็นดารา นิเทศต้องการกู!! ”

“เห้อมมมมม พวกมึงนี่นะ” เนมถอนหายใจแรงให้กับความตื่นเต้นเกินเบอร์ของเพื่อนๆ

“ทำแมะ ใครจะไปเก่งเหมือนมึง เด็กบริหาร แหม่”

23.59

“เชี้ยะๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จะถึงแล้ว พวกมึงเตรียมพร้อม” ปิงหันไปบอกเพื่อนๆ ให้เตรียมตัว ทุกคนต่างใจจดใจจ่อ กับผลลัพธ์ที่ต่างคนต่างพยายามทุ่มเทให้กับการสอบ นะโมตั้งใจอ่านหนังสือตั้งใจเรียน ระหว่างนั้นก็ให้สิงห์ช่วยติวให้ แม้จะไม่มั่นใจแต่ก็ทำเต็มที่ นะโมหันไปหาคนรักที่นั่งให้กำลังใจอยู่ข้างไม่ห่าง

00.00น.

คลิกๆ ๆ ๆ ๆ เสียงคลิกเมาส์ระรัวดังไปทั่งทั้งห้องนั่งเล่น นะโมหน้าซีดหลับตาปี๋ไม่มองจอ แต่ก็แอบเหล่มอง จนสิงห์หัวเราะ

“มึ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง กูไม่ดู” พูดจบส้มก็ตบฝาแม็กบุคของตัวเองลง แล้วยกมือปิดหน้า

“เชี้ยะๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ตัสมึง มึงงงงง กูติดแล้วกูได้เรียนแล้ว!! ”

“หึหึหึ กูบอกแล้วว่ามึงทำได้”

“แล้วมึงอะ”

“ชื่อกูก็อย่างใต้ชื่อมึงไง ทำไมง่าว! ”

ทุกคนต่างตื่นเต้นกับผลสอบ ยิมนั่งนิ่งสูดลมหายใจลึก ก่อนจะค่อยๆ เปิดตาขึ้นมอง

“.....”

“ยิมยิม...เงียบทำไม?” นะโมเริ่มใจไม่ดีกับเพื่อน

“....”

“ยิมมึง” ส้มรีบหันมาดูเพื่อนสนิท

“กู กู จะได้เป็นหมอแล้วเหรอวะ จริงเหรอวะ ส้มมึงดูให้กูที”

“*0* อิยิมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมึง มึง ติดติดหมอจริงๆ”

“เหลือไอ้เนมกับนะโม”

“เนมเนม เป็นไงมั้ง” เนมหันมายกยิ้มให้กับพี่ชาย

“อย่างกูนะเหรอจะพลาดดูด้วยสมองระดับนี้แล้ว”

“*0* จริงหรอ เราได้ที่เดียวกันใช่ไหม? ใช่ไหม?”

“เหรอของพี่มึงละ ไหน เปิดดูเร็วๆ”

“หึหึ เปิดตาก่อนสิครับ”

“ไม่อาวว พี่จ๋าดูให้หนูหน่อย” หันไปซุกอกกว้างแล้วหลับตาแน่น

“ไม่เอาหนูต้องดูเอง ดูความสำเร็จของตัวเอง”

“ฮรืออออ ก็ได้” นะโมเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะหันไปคลิกที่หน้าจอก่อนจะไล่ดูชื่อของตัวเอง

“!!!!!!!! ”

“กรี๊ดดดดดดดดด อิลูกมึงได้เป็นหมอหมาแล้ว” พอผลออกมาทุกอย่างก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก ทุกคนยิ้มตะโกนโห่ร้องออกมาอย่างดีอกดีใจ นะโมยังคงยืนอึ้ง พร้อมกับถามคนอื่นๆ ว่าใช่หรอ จริงหรอ พอรู้ว่าได้จริงๆ ก็ปล่อยโฮออกมา ทุกคนกอดกัน แล้วร้องไห้ด้วยกัน ต่อไปนะโมจะต้องเจออะไรที่มันหินกว่ามอปลาย นะโมจะต้องเจอเพื่อนใหม่สังคมใหม่ และต้องปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นๆ

แน่นอนว่าพอเข้ามหาลัยก็ต้องห่างจากสิงห์เป็นธรรมดา นะโมกับเนมพักอยู่ในคอนโดใกล้มหาลัยและแน่นอนสิงห์เป็นคนซื้อให้ทั้งๆ ที่เนมก็ปฏิเสธไปแล้ว เพราะตัวเองก็มีเงินไม่ได้ลำบากอะไร แต่สิงห์บอกว่าไม่ได้ซื้อให้เนม ซื้อให้เมีย ทำให้เนมเถียงไม่ออกพอมีเนมไปอยู่ด้วยสิงห์ก็หายห่วงไปเปลาะหนึ่ง ส่วนเพื่อนๆ ที่เหลือก็อยู่ละแวกใกล้เคียงไม่ได้ห่างกันมาก ดีที่ติดที่เดียวกันยังพอดูแลกันได้ ช่วงแรกของชีวิตวัยมหาลัยนะโมลำบากนิดหน่อยเรื่องการสื่อสาร กับคนแปลกหน้า โดยเฉพาะช่วงรับน้อง วันแรกก็ทำเอาว่าที่สัตวแพทย์ถึงกับน้ำตาร่วง เพราะพี่วากเสียงดังใส่ แถมยังโดนรุ่นพี่แกล้งเล่น เพราะหน้าตาน่ารักบวกกับความใสซื่อทำให้เป็นเป้า แต่ก็ผ่านช่วงนั้นมาได้เพราะมีเพื่อนที่นั่งข้างกันช่วยเอาไว้

“ฮึก ฮึก ทำไมต้องเสียงดังด้วย ฮรือออ เป็นบ้าหรอ ฮึก เราจะกลับบ้านนน” เสียงร้องไห้จ้าของนะโมทำเอารุ่นพี่ถึงกับไปไม่เป็น ต้องให้พี่ฉันทนาการมาปลอบ

“อ๊บอ๊บ ฮึก อ๊บอ๊บพาเรากลับบ้านที ฮรืออ น่ากลัว” กบ หรืออ๊บอ๊บที่นะโมเรียก

ทำหน้าเหวอไปนิดเพราะนะโมเล่นปล่อยโฮใส่ชนิดที่ว่าไม่เก็บเสียงใดๆ พร้อมกับกอดกบไว้แน่นไม่ยอมปล่อย บังเอิญที่ยิมเดินผ่านมาพอดี ยิมรีบเดินไปหา

“นะโม” ยิมเรียก

“แงงงงงงงงงง ยิมยิม เรากลัว ฮึก แงง พี่เค้าเสียงดังใส่เรา” เปลี่ยนจากกอดกบมากอดยิมแทน

“โอ๋ๆ ไม่ต้องกลัว พี่เค้าไม่ได้ว่าอะไร เค้าแค่เสียงดัง พี่เค้าใจดี” ยิมกอดปลอบ

“ไม่เชื่อ พี่คนนั้น” ชี้นิ้วไปที่พี่วากคิ้วเข้ม ดวงตาดุคม ทุกคนหันไปมอง

“เอ่อ พี่ครับอย่าทำหน้าดุแบบนั้น เพื่อผมมันกลัว”

“นี่พี่ถามจริงเถอะเพื่อนน้องอะมันเต็มบาทไหม มันเอ๋อเหรอ เอะอะร้องไห้ๆ

“-*- พี่ครับ เพื่อนผมมันปรกติดี มันแค่ขี้ตกใจแล้วก็ขี้กลัว พี่อย่ามาว่าเพื่อนผมว่าเอ๋อนะครับ” ยิมพูดพร้อมกับทำหน้าไม่พอใจ

“ยิมยิมไม่โกหก เรารู้ตัวเรา ฮึกว่าเราเอ๋ออ ตะ แต่ว่า เราใกล้หายแล้วด้วย” พูดดด้วยเสียงตะกุกตะกัก แล้วเหลือบมองคนรอบๆ กายๆ อย่างกังวลนิดๆ มีหลายคนยกมือขึ้นปิดปาก เพราะไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะไม่ปรกติ เพราะดูผ่านๆ ก็ไม่มีใครสังเกตว่านะโมไม่ปรกติ

“เอ่อ คือ พี่เพื่อนผมมันไม่เหมือนคนอื่นพี่ช่วยใจดีกับมันนิดนึงได้ไหมพี่”

“เออๆ แล้วก็ไม่บอก ว่าแต่น่าตามันน่ารักดีเนอะ”

“ไอ้ขิม มึงนี่หยุดม้อสักวันจะได้ไหม กูรู้นะที่มึงแกล้งน้องมันก็เพราะอยากจีบ” พี่วากอีกนพูดว่าใส่

“เสือกเก่งละเกิน เออๆ เดี๋ยวกูดูให้”

“อ่อ พี่ เพื่อนผมอะดูได้แต่ตานะพี่มือย่าต้องเจ้าของเค้าหวง” ยิมพูดทิ้งท้ายเอาไว้



วันเวลาผ่านไปนะโมเริ่มปรับตัวได้และมีเพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งคน นั้นคือกบ กบเป็นเด็กเหนือ หน้าตาดี ตัวสูง ที่บ้านทำสวนลำไย เป็นเด็กฐานะปานกลาง มีจิตใจที่ดีและตั้งใจเรียนมาก กบคอยสอนในเรื่องที่นะโมไม่เข้าใจ พอสนิทกันกบก็อยู่ในกลุ่มพิทักษ์เอ๋อด้วย ทั้งเนม ยิม ส้ม ซีตัสและปิงผลัดเปลี่ยนกันมาหานะโม พาไปเที่ยว พาไปกินข้าว ใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ส่วนสิงห์จะลงมาหานะโมทุกวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ เรียกได้ว่าคิดถึงเมื่อไหร่ก็มาหา ไม่มีใครออกนอกลู่นอกทางแม้ระยะทางจะไกลกัน แต่หัวใจของคนทั้งคู่ไม่เคยออกห่างกันเลย

พอชั้นปีสูงขึ้นนะโมเรียนหนักขึ้นและมีเวลาให้สิงห์น้อยลง บางครั้งสิงห์ก็เกิดความกังวลจนคิดมากสิงห์ไม่อยากทะเลาะ เขาเชื่อในตัวนะโม ว่าน้องจะไม่นอกใจเขา แต่พอเข้าช่วงปีที่หกที่ต้องเก็บชั่วโมงฝึกงาน ทำให้เขาหายคิดถึงนะโม เพราะเจ้าตัวเลือกมาฝึกที่คลินิกของเขา ส่วนเพื่อนๆ ตอนนี้เรียนจบมีงานทำกันไปหมดแล้ว ส้มแม้จะไม่ได้เดินตามเส้นทางที่ฝันไว้แต่ส้มก็ได้งานที่ตัวเองชอบและถนัดนั่นคือนักเขียนบทละคร ทำงานอยู่เบื้องหลัง ยิมเป็นหมอที่โรงพญาบาลเดียวกับไม้เมือง ซีตัสเป็นวิศวะกรเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง โดยมีปิงช่วยงานด้วย และที่สำคัญทั้งคู่กำลังจะแต่งงานกัน ส่วนเนม จบออกไปแล้วก็ต้องไปต่อโทที่แคนนาดา เพราะเขาต้องขึ้นเป็นผู้บริหารของบริษัทที่เขาเทคโอเวอร์คืนกลับมาจากที่พ่อของเขาได้ขายไป



6 ปี ผ่านไป ไวเหมือนโกหก ในวันที่นะโมเรียนจบ



ร่างบางในชุดครุยที่มีตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ทั้งกบและนะโมยืนยิ้มให้กันที่รายล้อมไปด้วยเพื่อนรักที่มาร่วมยินดี มันเป็นวันสำคัญเป็นวันแห่งความภาคภูมิใจ วันที่เขาจะได้ทำหน้าที่ของหมอหมาได้อย่างเต็มภาคภูมิ ได้สานฝันให้คนรัก และได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักมาตลอด ถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่มีพ่อแม่มาร่วมยินดี เขารู้ว่าพ่อแม่จะต้องภูมิใจในตัวเขาแน่นอน นะโมหยิบรูปหลวงตาขึ้นมาแล้วเรียกให้ต้าร์มาถ่ายรูปให้ ใบหน้าหวานยิ้มแย้ม กอดรูปของหลวงตาที่เปรียบเสมือนพอเอาไว้แน่น

“หลวงตาจ๋าหนูทำสำเร็จแล้วนะ หนูทำได้อย่างที่หลวงตาหวังเอาไว้ หนูเรียนจบแล้ว หนูมีชีวิตที่ดี อย่างที่หลวงตาต้องการแล้ว หลวงตาไม่ต้องห่วงหนูแล้วนะ” พูดจบก็แหงนหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า ตอนนี้เขาลบล้างคำสบประมาท คำดูถูกดูแคลนทั้งหมดได้แล้ว เขาจะกลับบ้านไปอย่างภาคภูมิใจ ไม่ต้องอับอายที่ตัวเองเป็นออทิสติกอีกต่อไป

“ไอ้เอ๋ออ ของกูเก่งที่สุดเลย” ต้าร์เดินมายืนเคียงข้างพร้อมกับดึงคนตัวเล็กมากอดไว้

“ใช่ไหมละ ถ้าพี่ต้าร์ป่วยก็มาหาหนูได้นะรักษาฟรี ^^”

“กวยตีนกูเหรอ กูคนไม่ใช่หมา! ”

“ฮรี่ๆ”

ทั้งช่อดอกไม้ตุ๊กตาป้ายจบการศึกษาวางรายล้อมข้างกายทั้งกบและนะโมทุกคนมาร่วมยินดีกับคนทั้งคู่เรียกได้ว่าไม่ว่าใครๆ ก็ต่างพากันมองมาที่กลุ่มนี้หมด จะไม่ให้มองได้ไง เพราะกลุ่มของนะโมมีแต่คนหน้าตาดีทั้งนั้น ยกเว้นสิงห์ที่ยังมาไม่ถึง เพราะติดงานที่สิงค์โป ร่างเล็กเฝ้าแต่ชะเง้อมองหาคนรักที่ยังมาไม่ถึงจนกระทั่ง เสียงไลน์ดังขึ้น พร้อมกับข้อความขอโทษจากคนรัก นะโมนั่งนิ่งและฝืนยิ้มออกมาก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไปว่าไม่เป็นอะไร เพื่อนอยู่ด้วยเยอะพี่จ๋าไม่ต้องเป็นห่วง ร่างเล็กนอยส์ไปเลยทันที เวลาร่วงเลยจนถึงเวลาที่ต้องกลับบ้านจริงๆ แล้ว

นะโมแอบหวังว่า พี่จ๋าของตัวเองจะกลับมาทันถ่ายรูป แต่ก็ไม่ เนมและคนอื่นๆ พากันสังเกตว่านะโมไม่ยิ้มตั้งแต่รู้ว่าสิงห์จะมาไม่ทันแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พวกเขาทั้งหมดนั่งเครื่องบินกลับมาด้วยกัน

“พี่จ๋ายังไม่กลับเราไปนอนกับเนมเนมนะ”

“อ่า เอ่อ ก็ได้ ไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านก่อนก็แล้วกัน” เพราะจับได้ในน้ำเสียงของคนพี่ว่ากำลังน้อยใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“เอ้อ พี่มึงคืออยากกินข้าวมันไก่อะหิว แวะซื้อก่อนได้ปะ”

“อืม ก็ได้” พูดด้วยเสียงเหนื่อยๆ ใช่วันนี้เหนื่อยมาก เหนื่อยจนจะหลับกลางอากาศ พอคนพี่อนุญาตก็แวะร้านข้าวมันไก่สั่งใส่ห่อ สิบกว่าห่อเผื่อคนที่กำลังตามมาด้วย

“เนมเนม เราง่วงเมื่อไหร่จะเสร็จ”

“เออ ได้ละเนี่ยะ ไปๆ (กำลังจะกลับ อีกห้านาทีถึง) ” ร่างสูงเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปขึ้นรถ

“ช้าอะ เนี้ยะลูกเจี๊ยบคิดถึงเราแย่แล้ว” ปากก็พูดแต่ตานี้ปรือจนจะปิด

“แหม่ เคยขี่ยัง ถามหาบ่อยกว่าผัวตัวเองอีก”

“-3- “

“พี่มึง ถึงบ้านแล้วลงไปเอาเสื้อผ้าไป” เนมเขย่าร่างของพี่ชายที่นอนหลับอยู่ที่เบาะข้างๆ ปลุกให้ไปเอาเสื้อ

“งืมมมม ได้ๆ รอแปปนะ”

“อืม..เอ่อ พี่..โชคดีนะ”

“อะไรของเนมเนม รอนี่นะห้ามทิ้งเรา ถ้าทิ้งเราโกรธ”

“เออ ไม่ทิ้ง”

ร่างบางเดินเข้าไปในตัวที่ปิดไฟมืด แต่พอเปิดประตูเข้าไปกลับพบแสงเทียนสว่างไสว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกลีบกุหลาบรอยฟุ้ง ร่างเล็กดูตกใจกับสิ่งที่ได้เจอ ทางเดินเต็มไปด้วยกลีบดอกไม้ และรูปของตัวเองติดเต็มไปหมดรอบด้าน ทั้งที่ห้อยมากับสายริบบิ้นสีขาว ใจดวงน้อยเต้นระส่ำ มือเล็กจับดูรูปของตัวเองทุกใบ และส่วนใหญ่เป็นรูปที่ถูกแอบถ่ายเกือบทั้งหมด ดวงตากลมใสรื้นน้ำตาขึ้นทันที ภาพที่เห็นตรงหน้าเริ่มพร่าเลือน ร่างสูงของสิงห์อยู่ในชุดสูทสีดำในมือมีช่อดอกไม้ช่อใหญ่ มันเป็นดอกกุหลาบสีขาวและสีแดง

“ฮึก..นี่มันอะไรกันครับ ทำไมพี่ถึงมาอยู่ที่นี่ ฮึก” ร่างสูงไม่ตอบเขาก้าวเดินเข้าไปหาคนรักพร้อมกับยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้

“หนูไม่เหมาะกับน้ำตารู้ไหมครับ” มือหนายื่นออกไปเช็ดน้ำตาบนแก้มนิ่ม เขามอบรอยยิ้มที่อบอุ่นเหมือนพระอาทิตย์ตอนเช้าให้กับคนตรงหน้า ดวงตาคู่คมมองคนตรงหน้าด้วยความรัก นะโมไม่ได้ต่างไปจากเดิม น้องยังน่านัก น่าทะนุถนอมใสสายเขาเสมอ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

“ฮึกพี่จ๋า ทำไมไม่ไปหาหนูที่มหาลัย ฮึกหนูรอถ่ายรูป”

“ขอโทษนะครับที่ทำให้รอ อย่าโกรธพี่เลยนะ”

“ฮึก ไม่โกรธ หนูไม่โกรธหรอก แต่ หนู น้อยใจ ฮึก” พูดตอบคนตัวสูงด้วยเสียงสะอื้นฮัก จนเขาต้องดึงตัวไปกอด

“ไม่โกรธก็ต้องไม่ร้องไห้นะครับ”

“ฮึก...”

“พี่มีอะไรหลายอย่างที่จะบอกหนู หนูพร้อมที่จะฟังพี่ไหมครับ” ร่างสูงกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม

“ครับ” ใบหน้าหวานซุกอยู่กับอกแกร่งพักหน้าเบาๆ

“ถ้าอย่างนั้น ตั้งใจฟังให้ดีนะครับ”

“.....”

“นะโมครับ ..ตอนนี้พี่พร้อม พร้อมที่จะดูแลหนูไปตลอดชีวิต พี่พร้อมที่จะทำทุกๆ อย่างเพื่อหนู พี่อยากใช้ชีวิตร่วมกันกับหนูที่ไม่ใช่สถานะ ผู้ปกครอง แต่ในฐานะสามี ในฐานะคู่ชีวิต แล้วหนูละอยากจะใช้ชีวิตร่วมกันกับพี่ไหม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพี่จะอยู่เคียงข้างหนูเสมอ พี่จะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน ที่ผ่านมาพี่อาจจะดูแลหนูได้ไม่ดี แต่ต่อจากนี้ไป พี่สัญญาว่าจะดูแลหนูให้ดีที่สุด

“....อึก...ฮึก...”

“พี่รักหนูนะ แต่งงานกับพี่นะครับ”

“ฮึก...” มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ แต่มันเป็นน้ำตาแห่งความตื้นตันใจ ดวงหน้าขาวยิ้มรับทั้งน้ำตา

“ฮึก..แต่ง..แต่งสิ ถ้าไม่แต่กับพี่จ๋าจะให้หนูไปแต่งกับใครละ หนูรักพี่จ๋ามากมายขนาดนี้ มากจน ไม่เหลือไว้ให้ใครแล้ว”

“ครับพี่ก็รักหนูจนไม่เหลือไว้ให้ใครแล้วเหมือนกัน” สิงห์จับมือบางขึ้นมาสวมแหวนที่เตรียมไว้ แหวนเงินแท้ฝังเพชรเม็ดงามเอาไว้ตรงกลางเป็นสัญลักษณ์แทนใจและเป็นเจ้าของซึ่งกันและกัน สิงห์ดึงคนตัวเล็กมาจุ่มพิษท่ามกลางสักขีพยานที่แอบหลบมุมดูอยู่ จูบดูดดื่มที่ใครมองก็ต้องเขินหน้าแดง ทั้งคู่ผละออกจากกันก่อนจะส่งยิ้มหวานให้อีกฝ่าย สบตากันเนิ่นนานราวกับสื่อสารผ่านทางใจ สองมือจับกันแน่นและไม่มีวันที่จะแยกจากกัน

“พี่สิงห์...นะโมขอบคุณพี่มากๆ เลยนะครับที่ทำให้นะโมมากมายขนาดนี้ ขอบคุณที่ฉุดรั้งผมขึ้นมาจากโคลนตม ขอบคุณที่เติมเต็มผมจากเด็กเอ๋อที่ไม่มีใครเหลียวแลให้กลายมาเป็นนะโมในวันนี้ มันมีค่าสำหรับผมมาก พี่สอนผมให้รู้จักการใช้ชีวิต พี่สอนผมให้รู้จักความรัก สอนในเรื่องที่ผมไม่รู้ และไม่รังเกียจเด็กปัญญาอ่อนแบบผม พี่เป็นแฟนที่ดี ทั้งชีวิตนี้ผมยกให้พี่หมดแล้ว นะโมรักพี่สิงห์นะครับ”

“ต่อจากนี้เราจะใช้คำว่าแฟนไม่ได้แล้วนะ ต้องใช้คำว่าสามีและภรรยา สามีที่จะรักแต่ภรรยาคนนี้ตลอดไป”

สิ้นเสียงทุกคนก็โห่ร้องยินดี พร้อมกับโปรยดอกไม้ใส่คนทั้งคู่ นาคยืนกอดกรยิ้มหวานอยู่ตรงมุมเสา เขากำลังมีความสุขกับทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้สายตาภาคภูมิใจส่งไปให้ลูกชายคนเล็ก วันนี้ลูกเขาหล่อจริงๆ

มันเป็นคำสัญญาที่ไม่ได้เอื้อนเอ่ยแค่วาจา แต่เป็นสัญญาที่มาจากใจ

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คนทั้งคู่ก็จะจับมือฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน

ตราบจนสิ้นลมหายใจ



......

บทส่งท้าย



หลังจากงานแต่งงานของซีตัสกับปิง ก็ถึงคิวงานแต่งของผม จากเด็กออทิสติกในวันนั้นเด็กชายในชุดมอซอๆ เนื้อผ้าที่ปะแล้วปะอีก จนแทบไม่เหลือพื้นที่ให้ปะ มาในวันนี้เขาได้ใส่ชุดหรูชุดสุทสีขาวมีโบหูกระต่ายสีแดงน่ารักสวมทับตรงปกเสื้อ กำลังส่องกระจกเช็คความเรียบร้อยอีกครั้งก่อจะออกไปพบกับคนที่รักสุดหัวที่รออยู่ด้านนอก เขาตื่นเต้นจนตัวสั่น กังวลจนกัดเล็บตัวเองข้างกายมีเพื่อนร้อมลอบและพยายามจะไม่ให้เขารู้สึกตื่นเต้นจนเกินไป ใบหน้าหวานถูกแต่งแต้มด้วยรองพื้นบางเบาริมฝีปากอวบอิ่มถูกทาทับด้วยลิปมันสีอ่อนดูสุขภาพดี ทรงผมถูกเซตมาอย่างดี เขาหล่อและน่ารักในเวลาเดียวกัน

พอใกล้ถึงเวลาสองขาก้าวไปยืนรอที่ประตูบานใหญ่ ที่ด้านหลังประตูบานนั้นมีหัวใจของเขารออยู่ มือบางค่อยยกและออกแรงผลักมันออก ตอนนี้เขาพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างหัวใจดวงนั้นแล้ว ...



…The End..

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันมาจนถึงบทสุดท้ายนะคะ ไรท์อาจจะทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง เขียนผิดบ้างตกหล่นบ้าง แต่อยากให้ทุกคนได้รู้ว่าไรท์ตั้งใจเขียนนิยายเรื่องนี้มาจากหัวใจ ตั้งใจเขียนมากๆ ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกันนะคะ ถ้าไม่มีทุกคนที่คอยให้กำลังใจ นิยายเรื่องนี้อาจจะไม่ถึงฝั่งฝัน สุดท้ายขอให้ทุกคนมีความสุขกับนิยายของไรท์นะ เจอกันใหม่ กับไม้กันหมา+อสุรา ล่ารักที่ดองไว้จะปีแล้ว ฝากไปให้กำลังใจสองเรื่องนี้ด้วยนะคะ

ปล.

Sp.ของนะโมมีแล้วจะมาบอกนะ

จะเป็นชีวิตหลังแต่งงานของคนทั้งคู่ค่ะ















หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-02-2019 03:23:45
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :L1: :L2: :3123:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-02-2019 03:42:13
 :กอด1: :L2: ทำไมอ่านตอนจบเรื่องนี้แลวน้ำตาแตกนะ ทั้ง ๆ นี้จบแบบสวยงาม  :hao5:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 19-02-2019 06:12:36
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 19-02-2019 08:02:59
จบแล้วกับความน่ารักของนะโมกับเพื่อนๆชอบเรื่องนี้มากๆไม่พลาดตอนอัพเลยค่ะ รอคู่ของไม้เมืองกับต้าร์คู่นี้ต้องแซ่บแน่นวน
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 19-02-2019 11:23:44
จบไปอย่างสวยงาม สมแล้วกับที่ฝ่าฟันอุปสรรคด้วยกันมามากมาย จากวันที่เจอกันจนวันนี้ ขอบคุณในความเข้มแข็งนะนโม ขอบคุณความรักของพี่สิงห์และเพื่อนๆที่มอบให้นะโม มันตื้นตันและปลื้มปริ่มมาก อนาคตข้างหน้าก็หวังว่าจะสดใสในวัยผู้ใหญ่ อีกไม่นานก็จะได้แต่งงาน โฮ่ๆฮิ้วววววว อยากไปแห่ขบวนขันหมากเด้อ 5555 ขอบคุณที่แต่งและแบ่งปันกันเสมอเรื่อยมา สนุกกกกมากกก อ่านแล้วได้ทุกอารมณ์ ครบทุกรสชาติ ชอบบบบบบบบบ รอติดตามผลงานต่อไปนะคะ ไฟท์ติ้งในเรื่องต่อๆไปค่ะ เลิฟ (:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 20-02-2019 01:29:02
น่ารักมากอิลูกกกกก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 21-02-2019 01:35:57
 :กอด1: :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 21-02-2019 15:36:36
น่ารัก  :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 23-02-2019 13:14:38
 :-[
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 24-02-2019 01:52:29
รักเรื่องนี้..อบอุ่นหัวใจดี

ทีแรกอยากเชียร์ต้าร์กับนโม..เพราะพี่ดูน่าหมั่นไส้

แต่หมอไม้มาปราบต้าร์ก็โอเค  o13 รอตามเรื่องไม้กันหมา ท่าจะแซ่บ!!!

ถ้าเปิดเรื่องปิงตัสด้วยจะเริ่ดมาก เพราะปมเรื่องซีเรียลยังไม่คลายเลย

ขอแถมคู่หู..เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออย่างยิมส้มด้วยนะจ้ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: เรื่องนี้สนุกมาก




แต่...ไม่รู้นักเขียนจะกลับมาแก้มั้ย เพราะอยากบอกว่า
1.พ่อนโมเนมตายด้วยโรคมะเร็งแต่แรกที่เจอกันบอกพ่อป่วยเป็นโรคหัวใจ
2.ช่วงแรก ๆ ชื่อของซีตัส เป็นติสละเยอะเลย
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 24-02-2019 14:36:53
ยิ้มพร้อมน้ำตาไปกับตอนจบเลยคร้า ขอบคุณมากๆ นิยายเขียนได้สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 24-02-2019 23:08:14
พี่ต้าคือพี่องงงงงงง  ว้ากกกกกกก
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: miwmiwzaa ที่ 25-02-2019 08:26:50
น่ารักมากๆ ขอบคุณ​นะคะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 25-02-2019 09:10:25
เป็นเรื่องที่น่ารัก  ชอบมากๆ
ความรัก ของพี่สิงห์และนะโม
เป็นสิ่งสวยงาม 
รักมากเลย.....
 :mew1: :mew1: :mew1:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 27-02-2019 06:02:21
น่ารักมากๆ ขอบคุณ​นะคะ
ว่าแต่เรื่องของไม้กับต้าชื่อไรค่ะ
จะอ่านต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 28-02-2019 12:46:48
สนุกนะ น่ารักมากกก ๆๆๆๆ

ขอบคุณคนเขียนมากๆน้าา ชอบมากเลย

ขอให้แก้ไขเรื่องคำผิดนึดนึงน้าาา

คำผิดมันทำให้สับสนและอ่านสะดุดไปเยอะเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 04-03-2019 07:35:38
เนื้อเรื่องน่ารัก สนุกมากเลย
แต่คำผิดก็เยอะมากเช่นกันอ่านแล้วทำให้สะดุด
อยากให้คนเขียนมาแก้ไขส่วนนี้
แต่เราชอบเรื่องนี้นะคะ น่ารักอบอุ่น
นะโมน่ารักมาก ชอบผองเพื่อนของนะโมและเพื่อนๆของพี่สิงห์
รอติดตามอ่านเรื่องไม้กันหมาค่ะ
และก็อยากอ่านคู่ของซีตัสกับปิงด้วย
อยากรู้เรื่องปมแรกๆของคู่นี้
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: N-T ที่ 15-03-2019 14:14:28
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 20-03-2019 09:04:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 07-04-2019 11:06:25
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 21-04-2019 08:33:22
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจ้า
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 22-04-2019 18:52:20
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: PanGii ที่ 01-05-2019 04:24:22
อะโห เล่นซะไม่ได้นอนเลยค่ะ สนุก นะน้องน่ารัก พี่สิงห์ก็โอ๋น้องเก่ง
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 16-05-2019 22:54:40
อ้ายยยยยย น้องน่ารักเวอร์ เราจะไม่ทนนน   :heaven

พี่สิงห์หื่นตลอดเวลา สงสารอิน้อง เจ็บไปทั้งตัว

ชอบทุกละครเลยค้าาา อยากให้มีเรื่องแยกออกมาด้วย :hao3:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 19-05-2019 19:05:04
 สนุกมากเลยนะโมน่ารักประทับใจมิตรภาพของเพื่อน ๆ ที่มีต่อนะโม  :กอด1:
 เป็นกำลังใจให้กับรื่องต่อ ๆ ไปค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 31-05-2019 07:24:36
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 11:18:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {ไอ้เอ๋อ} >>II my stupid boy II<< up ch.48 (END) 19/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: SeventeenCarat ที่ 29-09-2020 19:44:11
เรื่องนี้ดีอยู่นะ ดราม่าไม่ค่อยมีแบบนี้ฉันชอบ
 :impress2: