KING ที่ 17 ความรู้สึกที่เริ่มเปลี่ยนไป ตกเย็นวันนั้น ก็คล้ายๆ จะเหมือนกับเมื่อวาน ผมมายืนด้อมๆ มองๆ แอบอยู่แถวจักรยานบ้าง คลืบคลานอยู่แถวรถของใครก็ไม่รู้เพื่อรอคนบางคน หึ ก็ไม่ใช่ว่าอยากกลับด้วยหรอกนะ แต่เผลอหลุดปากชวนไปซะแล้ว โถ ทำไมพูดไม่คิ๊ด
" ทำอะไรน่ะ มาขึ้นรถ " ไอ้ธีร์ที่เดินผ่านมาเพื่อจะไปเอารถก็ยังจะมองเห็นผมที่หมุนล้อจักรยานคนอื่นเล่นอยู่
" เดี๋ยวไปรอหลังโรงเรียนได้ป่ะ " ผมพูดพลางยังนั่งยองอยู่ที่เดิม ทำไมรู้สึกวันนี้คนเดินผ่านแถวนี้เยอะจังฟะ
" มานี่ เดี๋ยวนี้ " ไอ้ธีร์พูดเสียงเข้ม ทำให้ผมค่อยๆ ลุกขึ้นยืนพลางทำหน้ามุ่ย แม่งดุกูอีกละ ไอ้หน้าแมว
" พี่ธีร์ " แต่ผมที่กำลังจะเดินไปหามันก็มีสาวน้อยเดินมาหามันซะก่อน
ไอ้ธีร์มองผมพลาง ทำหน้าเบื่อๆ และหันไปมองสาวน้อยคนนั้นซึ่งไม่มีใคร อีหนูเนย เอ็งนี่ไม่เคยยอมแพ้เหมือนกันนะเนี่ย ดูแล้วก็สงสาร
" พี่ธีร์ วันนี้ไปส่งเนยได้ไหมคะ เพื่อนพี่คนที่หน้าขาวๆ นั่นก็ให้เขากลับเองบ้างสิคะ " อ๊าว ไหงงั้นละอีหนู ผมที่ยืนอยู่ในจุดที่น้องเนยมองไม่เห็น ทำให้เด็กคนนั้นไม่รู้ว่าผมอยู่แถวนี้
" ไม่ได้ " ไอ้ธีร์พูดเสียงเย็นๆ อย่างใจร้าย มึงนี่มันใจร้ายไส้ละมุดจริงๆ
" ทำไมละคะ " เด็กคนนั้นยังคงตื้อสุดๆ ผมเห็นยังเหนื่อยแทน
" พี่มีแฟนแล้ว ถ้าเขาเข้าใจผิด มันจะไม่ดี ขอโทษด้วย " ไอ้ธีร์พูดพลางมองหน้าผม อะไรของมื๊ง
" พี่น้ำคนนั้นเหรอคะ แฟนพี่ " น้องเนยพูดเสียงสั่นเหมือนกำลังจะร้องไห้
" ไม่ใช่... "
" อ้าวธีร์ กำลังจะกลับบ้านเหรอ น้ำขอติดรถไปด้วยได้ไหม " โอ้ววว นี่มันสงครามอะไรกันฟะเนี่ย ผมยืนอึ้งอยู่ในหลืบพลางกลืนน้ำลายลงคอ มึงนี่มันจะฮอตเกินไปแล้วนะเฟ้ย หมั่นไส้ว่ะ แต่มึงจะเอาตัวรอดยังไงวะ
ผมยืนขำมันที่กำลังทำหน้าเหมือนกำลังสวดอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในใจ หึ แบบนี้มึงคงไปกับกูไม่ได้แล้วมั้ง
" ไม่ได้ กับใครก็ไม่ได้ " ผมได้ยินเสียงมันปฏิเสธ
" ทำไมละคะ! " ผมได้ยินเสียงสอดประสานของผู้หญิงสองคนนั่น เฮ้อ คงจะยากละแบบนี้
ผมเงยหน้ามองภายในโรงจอดรถและมองเห็นกำแพงใกล้ๆ พอดี เอาล่ะ กูไปก่อนดีกว่า โทษทีนะไอ้ธีร์ เอาไว้วันหลังละกัน มึงคงออกจากตรงนั้นไม่ได้อีกเป็นพักแหละ สู้ๆ นะ
ผมโยนกระเป๋าออกไปก่อน และค่อยๆ กระดื้บผ่านมุมที่พวกนั้นจะมองไม่เห็นและค่อยๆ ปีนข้ามกำแพงไป ผมที่ตัวค่อนข้างเล็กมาก กว่าจะก้าวขาผ่าน กว่าจะลงไปอีกฟากได้ กูจะได้ขาหักก่อนนะเนี่ย
แต่ผมที่กำลังจะก้าวขาลงก็รู้สึกว่า ทำไมพื้นอีกด้านมันสูงจังวะ ผมเหยียบอยู่บนอะไรสักอย่าง มันทำให้ผมข้ามไปได้โดยง่าย เลือกจุดได้ดีจริงๆ กู
" กำแพงมันสูงมากนะยูว ทีหลังอย่าปีนแบบนี้อีกจะดีกว่า " ผมชะงักขาทันทีที่เห็นว่าผมเหยียบอะไรอยู่ อ้ากกก คนครับ คนตัวเป็นๆ ที่กำลังวางมือให้ผมเหยียบ และพูดบอกผมเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม
ผมสีน้ำตาลอ่อน ดวงตาสีฟ้าเทา นี่มันไอ้ไรอันห้อง 2 นี่หว่า
ผมที่โครตเกรงใจก็รีบจะลงพื้นไปใหญ่ และนั่นก็ทำให้ผมพลาด ผมรู้สึกว่าผมกำลังจะหล่นลงไปที่พื้นแต่ไอ้หนุ่มตาน้ำข้าวนี่ก็เอาตัวรับผมไว้ซะก่อน ทำให้เราทั้งสองคนกลิ้งลงไปกับพื้นทั้งคู่ โอ้ยยย ลำบากคนอื่นแต้กูนิ
" ขอโทษๆ เป็นไรเปล่า " ผมรีบเด้งตัวขึ้น และดึงตัวไอ้ไรอันให้ลุกขึ้นตามและปัดฝุ่นให้โดยเร็ว มึงนี่ทำตัวเป็นพระเอกไปได้
" ไม่เป็นราย ผมชื่อไรอันห้อง 2 ยูวชื่อฟาห้องบ๊วย เอ่อ ห้อง 10 ช่ายไหม " ผมหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย หนอย มึงรู้งี้กูเหยียบกบาลมึงลงมาดีกว่าไอ้ฝรั่งเน่า
" เออ ขอบใจนะ " ผมว่าผมไปดีกว่า เจอคนกวนตีนอีกแล้วชีวิต
" ฮ่ะๆ นายโซคิ้วท์ดีนะ " ผมที่กำลังจะเดินหนีมันก็ชะงักซะก่อน อะไรคิ้วๆ ของมึงฟะ
แต่ผมที่มองตามสายตามันก็แทบจะกรี๊ดแต๋วแตกเลยทีเดียว อ้ากกกก กางเกงกู ขาดตั้งแต่เมื่อไหร่ฟะเนี่ย
" ลายน่ารักมากเลย " ผมรีบปิดก้นของผม ไอ้ฟาย เดี๋ยวกูจกตาแม่ง มองเกงลิงกู
แต่ผมที่ยืนปิดก้นอยู่นั้นก็รู้สึกถึงอะไรสักอย่างที่พันรอบเอวผม และปิดด้านหลังผมพอดี และเมื่อผมเงยหน้าขึ้นไปมองก็แทบจะกรี๊ดอีกหน มึงมาได้ไงวะ แล้วยัยสองคนนั้นอ่ะ นี่มึงถึงกับทิ้งรถเลยเหรอ
" ไง ธีร์ " ผมมองไอ้ธีร์ที่กำลังทำหน้าเหมือนเมียโดนขโมยกางเกงลิงไป
" อืม " ไอ้ธีร์ตอบรับคำทักทายของไอ้ฝรั่งดองนั่นด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์
" วันนี้ไม่ไดร์ฟมาเหรอ " ผมมองมันสองคนที่กำลังคุยกัน สงสัยคงรู้จักกัน ก็ห้องข้างๆ กันนี่นะ
" กุญแจรถหาย " ผมมองดูไอ้ธีร์ที่ชูกุญแจ BMW ขึ้น และปล่อยลงท่อเสียงดังจ๋อมต่อหน้าต่อตา อ๋อ นี่ที่มึงหนีมาได้เพราะบอกยัยพวกนั้นแบบนี้เหรอ มึงถึงกับสละรถเลยเหรอเนี่ย
" ฮ่าๆ โอเค งั้นซียูวนะธีร์ กับ หนุ่มคิ้วท์บอย " ผมมองไอ้ไรอันที่โบกมือส่งยิ้มให้ผมและเดินต่อไปยังถนนหลังโรงเรียน คิ้วๆ อะไรของมึงฟะ
" รู้ไหมว่าทำอะไร ถ้าขาหักไปจะทำยังไง แล้วทำไมถึงปีนกำแพง ทำไม... "
" เออกูขอโทษ! " ผมพูดเบรกมันที่กำลังดุผม พลางทำหน้ามุ่ย และมองเสื้อคลุมสีดำของมันที่กำลังผูกเอวผมอยู่
" ทำไมถึงหนี " มันพูดเสียงเบาลง
" แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ ให้โผล่ออกไปแล้วบอกว่ามึงจะไปส่งกูเหรอ แล้วพวกนั้นจะคิดยังไง กูทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว " ผมพูดและเดินหนีมัน ผมคิดแล้วถึงได้หนี ยังไงมันก็คงไม่เลือกผมหรอก นั่นคือสิ่งแรกที่ผมคิด แต่พอเห็นมันเดินตามผมมาแบบนี้ นั่นแหละที่แปลกจริงๆ
" วันนี้ไม่ไปแล้วนะ ค่อยไปวันหลัง " ผมพูดพลางเดินต่อไปทำท่าจะโบกรถแท็กซี่
แต่เมื่อผมขึ้นมานั่งบนแท็กซี่แล้วก็ต้องตกใจอีกครั้ง เพราะไอ้หอกธีร์กำลังเบียดตัวเข้ามานั่งข้างๆ ผมด้วยสีหน้านิ่งๆ ของมัน
" คอนโด MidTree ครับ " ผมมองไอ้ธีร์ที่บอกทางไปคอนโดของผม
" มึงจะทำอะไรเนี่ย กลับบ้านมึงไปสิ " ผมพูดพลางทำหน้างอ
" ชวนแล้ว ห้ามกลับคำ " มันพูดพลางพิงเบาะด้วยท่าทีสบายๆ หนอย ไม่ได้กลับคำเฟ้ย
ผมมองมันที่นั่งหลับตา แล้วนี่มึงอาบน้ำมาเหรอ เพราะเสื้อนักเรียนของมันเปียกสุดๆ แต่ก็คงเป็นเพราะมันรีบวิ่งออกมานอกโรงเรียนแน่ๆ ทำไมมึงถึงต้องทำแบบนี้ด้วยวะ เมื่อไหร่มึงจะบอกกูสักที
ไม่นานพวกเราก็มาถึงคอนโดของผมที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก จึงใช้เวลาเดินทางไม่นาน ผมมองเสื้อมันที่ยังคงเปียกและยับเยินสุดๆ มึงจะไปสภาพนี้จริงๆ เหรอ
" แล้วมึงมอมเป็นหมาแบบนี้จะทำไง " ผมถามมันตอนที่พวกเรากำลังขึ้นลิฟท์ไปที่ห้องของผม
" เดี๋ยวยืมห้องน้ำหน่อยละกัน " มันพูดพลางยืนพิงลิฟท์
" กูเก็บค่าน้ำนะ " ผมพูดแหย่มัน
" เดี๋ยวจะคืนด้วยน้ำ " ห๊ะ ผมหันควับไปมองมันทันที น้ำอะไรของมึงฟะ
" สั่งขึ้นมากินไหม เห็นมีขายอยู่ข้างล่าง " ฟู่วว ผมแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่าพูดจาสองแง่สามง่ามสิเฟ้ย
" ไม่เอา ค่อยออกไปกิน " ผมพูดพลางเดินนำมันไปที่ประตู
" เออแล้วแบบนี้รถมึงเอาไงน่ะ " ผมหันไปมองมันที่ทำหน้านิ่งๆ
" จอดไว้นั่นแหละ " มันพูดแบบไม่ใส่ใจ แต่จริงๆ ผมคิดว่าไม่เห็นจะต้องทิ้งกุญแจจริงๆ แบบนั้นเลย แค่โกหกว่ากุญแจหายก็ได้ ไอ้บ้า
ผมเดินเข้ามาในห้อง วางกระเป๋าและเดินเข้าไปในห้องน้ำ ผมถอดเสื้อคลุมสีดำที่พันรอบเอวผมเอาไว้ออกมา และถือมันขึ้นมามองใกล้ๆ ไอ้ธีร์นั้นบางวันก็จะชอบใส่เสื้อคลุมทับชุดนักเรียนอีกที มึงคิดว่าเท่ห์หรือไงฟะ เชอะ
แต่ผมที่คิดแบบนั้นก็ค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เสื้อคลุมของมัน อื้อหือ กลิ่นดีว่ะ น้ำหอมยี่ห้ออะไรฟะ หอมสาส
" ดมที่ตัวจะหอมกว่านะ " ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบปาเสื้อมันลงไปกองกับพื้นโดยเร็ว ไอ้ฉิบหาย นี่กูลืมล็อคประตูห้องน้ำเหรอเนี่ย
" มึงออกไปเลย " ผมพูดพลางปาขวดแชมพูใส่มันที่หลบได้ทัน หนอยย นี่ถ้ากูเผลอแก้ผ้ามึงก็คงจะยืนดูจนจบเลยสินะ ผมล็อคประตูและอาบน้ำอย่างหัวเสีย คิดจะแอบดูขาอ่อนกูเหรอ ฝันไปเถอะ
หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ผมก็ใส่ชุดคลุมอาบน้ำออกมาตามเดิมเพื่อที่จะไปแต่งตัวแต่งหน้าที่โต๊ะเครื่องแป้ง แต่เมื่อผมออกมาจากห้องน้ำ ก็ต้องพบว่าไอ้ธีร์กำลังเปิดประตูและพูดคุยกับใครสักคนอยู่ แต่มันเปิดประตูนิดเดียวเท่านั้น ผมจึงไม่จำเป็นต้องแอบอะไร
" ใครน่ะ แล้วให้ขึ้นมาบนห้องกูเนี่ยนะ " ผมถามมันอย่างหัวเสีย นี่มึงถือวิสาสะเกินไปแล้วนะ
" พ่อบ้านคนสนิท ไม่เป็นไรหรอก " มันพูดหลังจากปิดประตูเรียบร้อยแล้ว และถือถุงกระดาษใบใหญ่มาด้วย
ผมที่ทำท่าเหมือนจะไม่สนใจ แต่ก็อดอยากรู้อยากเห็นไม่ได้
" เสื้อผ้าใหม่น่ะ ให้เขาเอามาให้ " ไอ้ธีร์ที่เห็นผมแอบมองจึงพูดขึ้นมา พลางยิ้มน้อยๆ
" กูไม่ได้อยากรู้สักหน่อย " ผมพูดพลางเริ่มลงรองพื้นเบาๆ
" อยากบอก " มันพูดพลางค่อยๆ ปลดประดุมเสื้อนักเรียนตัวเองออก
" มึงจะทำอะไรเนี่ย! " ผมที่เห็นแบบนั้นก็ลุกพรวดทันที
" อะไรล่ะ " มันพูดพลางแก้ผ้าต่อ โอ้ยย หน้าหนาแต้มึงนิ
" ห้องน้ำก็มี " ผมพูดพลางดันหลังมันไปที่ห้องน้ำ และหยิบถุงเสื้อผ้ามันยัดใส่มือมันไปด้วย ฟู่ววว ยังไงก็ปลอดภัยไว้ก่อน
" ผ้าเช็ดตัวล่ะ " สักพักมันก็โผล่หัวออกมาด้วยหน้ามุ่ยๆ ของมัน โอ้ยย มากเรื่องแท้ๆ
ผมเดินจากโต๊ะเครื่องแป้งไปยังตู้เสื้อผ้า และโยนใส่หน้ามันไปผืนหนึ่ง
" อย่าแถมอะไรแปลกๆ ใส่ผ้ากูนะ " ผมจิกตามองมันและเดินไปไปนั่งแต่งหน้าตามเดิม
แต่เดี๋ยวนะ แบบนี้ก็สวยสิวะ ผมยิ้มหน้าบานทันทีและรีบแต่งหน้าทำผมอย่างรวดเร็ว ไอ้ตัวมารจอมบงการไม่อยู่ข้างนอกแบบนี้เสร็จโจร หึหึ
เวลาผ่านไปสักเกือบชั่วโมงได้ ซึ่งก็ดีเหลือเกินที่มันก็อาบน้ำนาน ผมที่รีบร้อนสุดๆ ตอนนี้ก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ผมยืนมองตัวเองในกระจก วิกผมหน้าม้าประบ่าน่ารักๆ ม้วนลอนตรงปลายอีกนิดหน่อย เสื้อปาดไหล่สีขาวที่รัดพอดีอกและเอว และกระโปรงยีนส์สีซีดที่สั๊นสั้น รองเท้าเอาเป็นบูธน่ารักๆ สีน้ำตาลละกัน อ้ากก น่ารักจริงวุ๊ย
ผมยืนโพสท่าอยู่หน้ากระจกสักพัก พลางเงี่ยหูฟังเสียงน้ำในห้องน้ำที่ถูกปิดลง เอาล่ะ ระเบิดจะลงภายใน ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง
" ไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้! " นั่นไง ฮ่าๆๆ
ผมหันไปกะแลบลิ้นปลิ้นตาแกล้งมัน เรื่องอะไรกูจะเปลี่ยน กูชอบแนวนี้เฟ้ย มีของดีต้องอวด แต่เมื่อผมมองเห็นมันนั้นกลับต้องอึ้งชะงักไป
ความสูงใหญ่ของร่างกายมัน และเสื้อผ้าที่ดูเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อเชิ๊ตสีดำที่พับแขนขึ้น กางเกงสแล็คขายาวสีเข้ม ทั้งหมดทำให้มันดูเป็นหนุ่มหล่อที่ดูเหมือนนักธุรกิจหรือพวกดาราไฮโซ นี่มึงแต่งขนาดนี้จะไปงานการกุศลไหนไม่ทราบห๊ะ ไอ้คุณชาย
" แต่งตัวอะไรแบบนี้ เห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว! " มันขมวดคิ้วเข้มและเดินเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว
ผมที่ตั้งสติได้ ก็จะอยู่ทำไมละครับ หนีสิโว้ย ผมรีบวิ่งดุ๊กดิ๊กหนีมันอย่างรวดเร็ว แต่ช่วงขาที่ห่างกันสุดๆ ทำให้ผมถูกจับตัวอย่างรวดเร็ว อ้ากกก ทำไมมึงขายาวจังวะ แขนก็ยาว อะไรจะยาวอีกกูละสงสัยจริงๆ
" กูไม่เปลี่ยนนน! " ผมแหกปากโวยวายทันที และตีแขนมันที่จับผมไว้รัวๆ
" จะเปลี่ยนเองดีๆ หรือจะให้จับแก้ผ้า! " ผมตาโตทันที อย่านะโว้ยย มึงพูดจริงเหรอเนี่ย
Rrrr Rrrr
ผมที่ต่อสู้กับมันอยู่สักพักก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของผมที่ดังขึ้น
" ข..ขอคุยธุระก่อนได้ไหม เดี๋ยวกูเปลี่ยนนะ " ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเห็นว่าเป็นพี่เรียวนั่นเองที่โทรมา ขอบคุณมากครับพี่ จังหวะดีจริงๆ
" ฮัลโหลครับพี่ " ผมจัดเสื้อผ้าและผมตัวเองพลางเหลือบมองไอ้ธีร์ที่กอดอกพิงผนังอยู่
" ฟา ตกลงวันเสาร์ตอนสายๆ เดี๋ยวพี่ไปรับนะ มาแต่งตัวที่ร้านก่อน ค่อยไปพร้อมกัน " พี่เรียวพูดเรื่องงาน MC เครื่องสำอางค์วันเสาร์นี้
" ได้ครับ แล้วตกลงชุดเป็นแบบไหนครับ " ผมที่ได้ทีก็ค่อยๆ เดินเข้าใกล้ประตูห้องมากขึ้นเรื่อยๆ แบบเนียนๆ และรู้สึกว่าไอ้ธีร์ไม่ได้สงสัยอะไร
" เท่าที่พี่ดูแบบ จะเป็นชุดสีครีมคอเต่าแขนกุดนะ ชุดยาวรัดรูปถึงต้นขา อาจจะสั้นหน่อยไม่เป็นไรใช่ไหม แต่ MC หลายคนจะใส่ชุดเดียวกันประมาณ 4 คน ไม่ได้โชว์เดี่ยวหรอก ไม่อายนะ " อื่อหื้อโป๊วุ๊ย จริงๆ ผมไม่เคยมีปัญหากับชุดเลยครับ แบบไหนผมก็ใส่ได้ แต่ไอ้คนที่ยืนข้างหลังผมเนี่ย ถ้ามันรู้มันอาจจะมัดผมติดกับเตียงและไม่ให้ผมได้เห็นแสงตะวันเป็นแน่แท้
ผมเหลือบมองไอ้ธีร์ที่ยังคงยืนกอดอกพิงผนัง ได้เสียละ กูไปแล้ว ผมที่ได้ทีก็ใส่เกียร์หมาวิ่งออกจากห้องทันที กูรอดแล้ว ฮ่าๆ
' หมับ! '
ผมสะดุ้งทันทีที่รู้สึกว่าตัวลอยขึ้นจากพื้น อ้ากกก ปล่อยกูลงนะโว้ย
" ปล่อยกู๊ " ผมที่ยังคงไม่ได้วางสายจากพี่เรียวก็เผลอแหกปากใส่โทรศัพท์ไปซะงั้น
" ฟา เป็นอะไรหรือเปล่า " พี่เรียวทำเสียงตื่นตกใจ และผมก็กำลังทุบไอ้หอกธีร์ที่จับผมพาดบ่ามันอยู่
" คือ ไม่เป็นไรครับ แค่นี้นะ " ผมกดวางสายและทุบหลังไอ้หอกนี่ต่อ
" กูไม่เปลี่ยน " ผมดิ้นรนและตีมันอย่างแรง แบบนี้ไม่ต้องไปกันแล้วมั้ง
" อย่าทะเลาะกันเลยลูก ผัวเมียกันดีกันไว้น้า " ผมชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงของคนอีกคนโผล่ขึ้นมา อึ๋ย นั่นมันคุณยายห้องริมสุดนี่หว่า
ผมรู้สึกว่าตัวผมกำลังถูกวางลงเบาๆ และไอ้ธีร์ก็ช่วยพยุงคุณยายที่ยิ้มอย่างใจดีเดินไปส่งที่ห้อง ฟู่วว คุณยายช่วยชีวิต แต่เดี๋ยวนะ ไม่ใช่ผัวเมียครับคุณยาย ฮืออ
ผมยืนหน้าบึ้งมองมันที่ค่อยๆ เดินกลับมา มึงนี่มันชอบจุ้นจริงๆ
" ถ้ามึงยังยุ่งกับเสื้อผ้ากู กูก็จะไม่ไปแล้ว " ผมพูดพลางเดินเข้าไปในลิฟท์ ผมเหลือบมองมันที่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายแต่ก็ยอมตามมาโดยดี กูว่าอะไรๆ มึงก็ดูยอมอยู่นะ แต่เรื่องเสื้อผ้านี่ตายกันไปข้างเลยจริงๆ
เมื่อมาถึงด้านล่าง ผมก็เตรียมตัวที่จะออกไปเรียกแท็กซี่ แต่ก็ถูกมันดึงแขนเอาไว้
" มานี่ " ผมเดินตามมันไปที่ลานจอดรถ และก็ต้องพบว่ามีรถคันหนึ่งจอดอยู่ ซึ่งไม่ต้องบอก มันเป็นรถหรูสีดำคันงามอีกแล้ว นี่มึงมีกี่คันกันแน่วะเนี่ย
" ขึ้นรถ " มันพูดพลางเปิดประตูรถให้ผม
" ได้ไงวะ " ผมพูดพลางลงไปนั่งตามที่บอก
" อีกคันนึง ให้พ่อบ้านขับมาให้ " ผมเบะปากน้อยๆ ชิ ไอ้คนรวย กูอยากรู้ตัวมึงฝังมุกไว้หรือเปล่า อาจจะฝังเพชรเลยก็ได้นะเนี่ย
ผมมองมันที่ขับรถออกมาเงียบๆ และไม่ว่าจะมองมันสักกี่ครั้ง ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า นี่มึงอยู่ม.ปลายจริงๆ เหรอวะ ดูยังไงมึงก็ไม่ใช่อ่ะ กูไม่แปลกใจที่ผู้หญิงจะอยากได้อยากโดนมึงสักครั้ง มันก็น่าอยู่หรอก
" มองอะไร " ผมที่จ้องมองมันมากเกินไปก็ถูกจับได้ซะแล้ว
" เปล่า " ผมพูดพลางกอดตัวเองเบาๆ รถนี่แอร์เย็นชะมัด
แต่ผมที่ตัวสั่นน้อยๆ นั้นก็รู้สึกว่ามีผ้ามาคลุมที่ขาของผมทันที
" ขอบใจ " ผมพูดและมองมันที่กำลังขับรถต่อไป นี่มันรู้ได้ยังไงกันนะ หรือว่ามันก็สังเกตุผมตลอดเหมือนกัน
" ก็ใส่แบบนี้จะไม่หนาวได้ยังไง " หนอย ผมหันไปจิกตาใส่มัน ไอ้คำขอบคุณเมื่อกี้กูขอคืน รำคาญโว้ย
ผมเอื้อมมือไปเปิดเพลงเสียงดัง พลางร้องเพลงแหกปาก แข่งกับมันที่กำลังสวดผมอยู่ เอาซิ๊ ด่ากูอี๊ก ไม่ร้องเปล่า แต่ผมเริ่มโยกตัวเกรียนๆ ประกอบจังหวะ แต่ขณะที่เริ่มจะเมามันส์จริงๆ นั้น ผมก็เหลือบไปมองมันที่กำลังทำหน้าเหมือนกลั้นขำผมอยู่
เอิ่ม ผมที่เริ่มจะรู้สึกว่า หน้าหนาๆ ได้บางลงแล้ว ก็เอื้อมมือไปปิดเพลง และนั่งสงบเสงี่ยมเจียมตัวขึ้น ใครใช้ให้มึงแอบขำกูอ่ะ หนอย อายวุ๊ย
ไม่นานพวกเราก็มาถึงห้างสรรพสินค้าที่เดิม และแวะร้านเครื่องสำอางค์เดิมเหมือนที่เคยมา จริงๆ จะเรียกร้านก็ดูเล็กไป ต้องเรียกว่าศูนย์รวมเลยดีกว่า มาทีไรต้องแวะ ยิ่งเห็นป้าย Sale นี่ยิ่งแล้วใหญ่
' คู่นั้นอีกแล้วเธอ '
' น่ารักเนอะ '
ผมถอนหายใจและเดินไปที่กระบะขายสีทาเล็บ ไม่รู้ทำไมเวลาเห็นคำว่า Sale ทีไร ขาผมมันมักจะไปหาเป้าหมายนั้นโดยอัตโนมัติ
ผมเปิดขวดออกเพื่อจะลองทาดูสักหน่อยว่าสีมันจะสวยแค่ไหน จริงๆ ผมไม่ค่อยชอบทาเล็บเองหรอก ชอบไปทำที่ร้าน เพราะทาเองแม่งเละทุกที แต่มัน Sale อ่ะ ทำไงได้ หึหึ
แต่ผมที่กำลังเปิดฝาขวดนั้นก็ต้องหยุดชะงัก และมองมือ มือหนึ่งที่ค่อยๆ ยื่นเข้ามาตรงหน้าผม และเมื่อผมมองไล่จากแขนขึ้นไปนั้น ก็พบว่าไม่ใช่ใครอื่น
ผมมองไอ้ธีร์ที่ยื่นมือมาให้ผมด้วยใบหน้านิ่งๆ ของมัน ซึ่งมันทำให้ผมอมยิ้มทันทีที่เห็นแบบนั้น มึงเนี่ย จริงๆ เป็นคนแบบนี้หรอกเหรอ ซึ่งมันแปลกมาก แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกว่า
ผมชอบ...มันที่เป็นแบบนี้ มากขึ้น...มากขึ้นเรื่อยๆ