ตอนพิเศษ 1'
“ จัดการเรียบร้อยดี ?? ”
“ ครับ คุณท่าน ”
ชายวัยชรา ที่นั่งอยู่บนเบาะรองนั่งข้างโต๊ะไม้ญี่ปุ่นใกล้บานเลื่อนกระจกที่เปิดโล่งเห็นหิมะขาวโพลนที่ตกทับถมสูงอยู่ด้านนอก เสียงเนื้อไม้แตกเพราะความร้อน ไม้ที่ใช้เผาเพื่อสร้างความอบอุ่นในหน้าหนาวแบบนี้ ชาในถ้วยกระเบื้องดินเผาที่ส่งกลิ่นหอมหวานอบอวล
“ อากิระ ปีนี้อายุเท่าไร ? “
“ 28 ครับ “
“ ตอนนั้นอายุเท่าไรนะที่พ่อเราเสีย ”
“ 6 ขวบครับ ”
“ เท่ากับเด็กผู้หญิงคนนั้นเลยใช่ไหม “
“ ครับ ”
“ ชั้นชอบเด็กคนนั้น เธอดูละม้ายรินมากเหลือเกิน “ คนสูงวัยเอ่ยเศร้า ๆ
“ แล้วเธอไม่อยากไปทำงานตามที่เรียนมาหรอกหรือ วันๆมาคลุกแต่กับคนแก่ แล้วผู้หญิงที่ไหนเล่าจะได้มาพบเจอกันละ ไม่อยากมีครอบครัวหรือไง “
“ ที่ทำอยู่นี่ก็สบายดีอยู่แล้วครับ ทำอย่างกับว่าแก๊งค์เราอยู่เย็นเป็นสุขอย่างนั้น วันๆหนึ่งก็มีแต่คนเข้ามาทำแผลจนแทบจะไม่ว่างอยู่แล้วครับ ” คนสูงวัยหัวเราะ มองชายหนุ่มตรงหน้าที่เลี้ยงมาตั้งแต่ยังเด็ก
‘อากิระ’ เป็นชื่อที่ถูกเปลี่ยนทีหลังครั้งแรกที่ได้เจอกับเด็กชายนั้นเจ้าตัวชื่อ ‘ตะวันฉาย’ ภาษาไทยเรียกยากนัก จึงถูกเปลี่ยน ซึ่งแปลเหมือนกันว่า แสงสว่าง หรือแสงตะวัน ตะวันฉาย หรือ อากิระ ทาคายามา คือชายหนุ่มสูงเพรียว ผิวขาวที่ได้มาจากเชื้อสายชาวญี่ปุ่น หน้าคมเป็นไทยแท้จากสายเลือดทางแม่จึงเป็นลักษณะเด่นที่หาได้ยากในเมืองนี้ ด้วยหน้าคมผิวขาวสะดุดตาจึงเป็นที่หมายปองและคลั่งไคล้จากพยาบาลสาวและคนไข้จึงทำให้อากิระต้องผันตัวมาช่วยงานที่แก๊งค์อย่างเต็มตัว เขาเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่ว่าใจดี และก็เด็ดขาด ถ้าไม่ก็คือไม่ เป็นการสืบนิสัยที่แทบจะถอดมาจากคนสูงวัยตรงหน้าทีเดียว
“ คนพี่ ดีขึ้นแล้วหรือยัง ? “
“ ครับ ดีขึ้นแต่ว่ายังเหม่ออยู่บ้าง ต้องใช้เวลาทำใจครับคุณท่าน “
“ ส่งคนไปดูแลเอกสารให้ด้วย ให้หายดีเสียก่อนค่อยทำเรื่องส่งกลับ เด็กๆยังต้องเรียนหนังสือ “
“ ............ ” อากิระไม่ได้ตอบ แต่ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง
“ อือ อือ ” เสียงขาด ๆ เดาไม่ออกว่าเป็นเสียงอะไร มันไกลเกินกว่าจะเข้าใจ แต่ก็คงเข้าใจได้ไม่อยากที่นี่จะมีอะไรถ้าไม่ใช่ที่พลอดรักกันของหนุ่มๆสาวๆ ถึงแม้จะเป็นการไม่ให้เกียรติ์คนตายแต่ใครจะแคร์ละในหลุมเหล่านี้ไม่ใช่ญาติตัวเอง !!!
เวลาดึกมากแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับอากิระและคนสูงวัยที่จะเดินมา แต่มาได้ตอนไหนนั่นถึงจะเป็นปัญหามากกว่า งานดูแลคนในแก๊งค์หลายพันคนเป็นงานหนักงานใหญ่ที่ชักจะเกินมือของชายวัยชราเช่นคุณท่านของเขาแล้ว ด้วยวัย ทำให้เริ่มมีปัญหาเรื่องสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง ลูกหลานไม่มี ยิ่งทำให้ไม่มีคนคอยห้ามปรามคนสูงวัยด้วยแล้ว ทำให้เจ้าตัวลุทำงานแทบจะไม่ได้พักผ่อน เขาได้ยินมาว่าคุณท่านยังมีลูกสาวคนเดียวเหลืออยู่อีกแต่ตามหาเท่าไรก็ไม่พบ น่ากลัวว่าเสียชีวิตไปแล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถึงแม้จะมีหลายคนพูดแต่เขาไม่ได้สนใจเท่าไรเรื่องที่ว่าหากนายท่านเสียชีวิตลง ผู้ที่จะได้สืบทอดคงไม่แคล้วจะต้องเป็นเขา อากิระไม่ได้สนใจในตำแหน่งเท่าไรยิ่งเรื่องเงินไม่มีผลกับเขาด้วย ที่ยอมอยู่ใกล้ไม่ห่างไปไหนนี่เกี่ยวพันเพราะความห่วงใยล้วนๆ คนนี้เป็นผู้ที่ให้ชีวิตใหม่กับเขาไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะต้องเดินทางตามในเส้นทางที่ดำมืดนี้ มีแต่จะผลักไสให้ห่างออกไปไกล เขาทั้งเคารพและรัก จนสุดหัวใจจริงๆ
“ อืออือ ” เสียงนั้นดังมาอีกครั้ง ไม่ได้เงียบลงไป เพียงแค่อดกลั้นเอาไว้ จนคนสูงวัยต้องหันไปมองเพราะว่ามันผิดวิสัยจนเกินไป ทำให้อากิระต้องเดินออกมาดูให้เห็นจนได้หากจำเป็นก็ต้องไล่ไปเพราะว่าคุณท่านกำลังเคารพศพพี่ชายอยู่
“ ชู่ ชู่ ไม่เป็นอะไร พี่ไม่เจ็บยูกิไม่ต้องร้อง หลับตาซะคนดีของพี่ “
ถ้อยคำชัดเจนเปี่ยมไปด้วยความรักทำไมคนอย่างเขาจะไม่เข้าใจ มันเป็นถ้อยคำที่คนสูงวัยเคยปลอมเขาตั้งแต่เป็นเด็กเล็กๆมา ความอาทรแบบนั้นเขาเข้าใจยิ่งกว่าใครทั้งหมด ทำไมคนพี่ได้รับบาดเจ็บ ?? ในขณะนั้นด้วยความเป็นหมออดที่จะเป็นกังวลแทนไม่ได้
“ ดีจริงๆ อย่างที่มึงพูดจริงๆด้วย เห็นทีว่าต่อจะต้องมาให้บริการอีกซะแล้ว “ เสียงแหบกระสันอย่างนั้นทำให้อากิระอดจะตกตะลึงไม่ได้ เห็นทีว่าการคาดการของเขาน่าจะผิดมันน่าจะเป็นการซื้อขายเท่านั้น แต่ไม่น่าให้น้องติดมาด้วยเลย เขาเสียใจและดูแคลนคนแบบนี้จริง
“ อย่าทำพี่ปิง พี่ปิงเจ็บ น้าหยุดเถอะ ”
“ ดีแค่ไหนแล้วที่กูไม่ทำมึง พี่มึงออกรับแทนมึงแล้วนี่ไง รอเถอะสักปีสองปีมึงได้มาทำแทนพี่มึงแน่ โอ้ เสียวดีจริง ๆ ”
อากิระหยุดชะงักทันที ตกลงว่ามันเป็นการขืนใจใช่ไหม ?? ความโกธรกรุ่นจนแทบจะระงับไว้ไม่อยู่ เขาแทบจะจำไม่ได้ว่านานเท่าไรแล้วที่เขาไม่เคยโกธรแบบนี้สักครั้ง สัตว์นรกจริงๆ หากจะเห็นว่าอากิระผอมบางแบบนี้แต่ความจริงไม่ได้เป็นดังเช่นที่ตาเห็นเพราะการที่จะต้องตามประมุขของแก๊งค์ได้นั้นอย่างน้อยฝีมือต้องถึงที่สุด แม้อากิระจะเป็นหมอแต่ก็เป็นคนในโลกมืดเช่นเดียวกัน อาวุธต่างๆต้องใช้งานได้ให้เหมือนกับมือของตัวเอง และยิ่งศิลปะป้องกันตัวต่างๆต้องถึงที่สุดเพราะว่า หากพลาด!! มันไม่มีการเริ่มใหม่เพราะมันหมายถึงชีวิต
ภาพอุจาดเบื้องหน้าที่มันย่ำยีคนตัวเล็กอยู่มันยิ่งทำให้ความดิบเถื่อน มันปะทุแตกออกมา!!! มันทั้งเล้าโลมลูบคลำเสียจนน่าขยะแขยง ซ้ำคนตัวเล็กกับไม่ได้ขัดขืนทำเพียงแค่คอยเอาเสื้อคลุมทับน้องสาวเอาไว้ไม่ให้ต้องมาเห็น น้องคนนั้นกัดปากเสียจนเลือดไหลเพื่อที่จะไม่ได้ส่งเสียงร้องออกมา เด็ดเดี่ยวใจแข็งเสียจนอากิระต้องยอมรับ หากเทียบตัวเองเมื่อก่อนคงไม่มีปัญญาทำแบบนี้ได้แน่ ๆ เมื่อไม่สามารถทนได้อีกต่อไปจึงได้แต่เดินเงียบย่องเข้าไปทางด้านหลัง เอามือปิดปากมันจากทางด้านหลัง มีดหมอที่ใช้ช่วยชีวิตคนมาตลอด ตอนนี้มันก็ทำหน้าที่ของมันอีกครั้งต่างกันก็เพียงแค่ช่วยชีวิตคนหนึ่งจากสัตว์นรกอีกตนหนึ่งก็เท่านั้น เพียงการเฉือนบางๆเพียงครั้งเดียวทั้งหลอดลม หลอดเลือดของมันก็ขาด ทำไม่ได้แม้แต่จะส่งเสียงร้องออกมาในเมื่อเพียงครู่เดียวมันก็ตาเหลือกสิ้นใจไปแล้ว
“ ไม่สมกับเป็นเราเลยนะ อากิระ “ อากิระตกใจที่เผื่อปล่อยให้อารมณ์เป็นตัวพาไปทำให้ขาดสติ เขาพลาดแล้วถ้าในฐานะนักฆ่าเขาจะมีอารมณ์ต่างๆไม่ได้ ใจต้องนิ่ง อารมณ์ต้องเฉย ถึงจะสำเร็จแบบเด็ดขาด เห็นทีว่ากลับไปคราวนี้คงต้องหันหน้าเข้ากำแพงจับสมาธิใหม่แล้ว
“ คนพี่ท่าทางจะสลบไปแล้ว ลากศพออกไปแล้วถามความจากคนน้องว่าบ้านอยู่ไหน “ เสียงเด็ดขาดสั่งการลงมา
ไฟฉุกเฉินถูกนำมาใช้เพื่อให้ความสว่าง ที่นี่มันมืดเพราะขาดไฟถึงทำให้เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นมาได้ ชายตัวเล็กถูกห่อด้วยผ้าห่มสะอาด อย่างแรกเพราะไม่อยากทำให้เด็กหญิงตกใจ และช่วยป้องกันความหนาวจากสายฝนที่เริ่มโปรยปราย
“ เด็กๆ ไม่มีพ่อแม่แล้วครับ คุณท่าน พี่ชายเป็นคนเลี้ยงน้องเพิ่งกลับจากขายของกันมา แล้วบอกว่าแถวนี้ไม่ใช่ที่บ้าน ผมว่าคงถูกพามาจากที่อื่นเพราะไอ้นั้นมันเป็นคนขับแท็กซี่ “
“ บาดแผลละ ? ”
“ ข้างล่างฉีก กับรอยเขียวช้ำไปทั่ว ”
“ คนน้องคุยรู้เรื่องอยู่ใช่ไหม ”
“ ครับ ฉลาดรู้ความแล้ว ไม่งอแง “
“ หมอคิดว่าอย่างไร ?? “
“ บาดแผล ไม่น่าจะเป็นปัญหาแต่สภาพจิตใจนี่ท่าทางจะหนักเอาการ เพราะตอนนี้ยังไม่ได้สติ สมองคงสั่งปิดการรับรู้ไปแล้ว “
“ ไม่มีเวลาเสียด้วย ถ้าอย่างนั้นเอากลับไปด้วยแล้วกัน รักษาเสร็จแล้วค่อยส่งกลับ ศพจัดการทำลายซะ “ คนสูงวัยหันไปมองเด็กหญิงที่ยังอยู่กับคนพี่ไม่ห่าง ความรู้สึกที่เหมือนกับรู้จักจึงทำให้ไม่อาจจะปล่อยทิ้งไว้ตามยถากรรม ‘ริน ถ้าหนูมีลูกสาวจะน่ารักแบบนี้หรือเปล่าหนอ’ คนสูงไว้ยิ่งเพ่งพิศยิ่งทำให้นึกถึงลูกสาวที่หาย
จากนั้นครึ่งชั่วโมงต่อมาเครื่องบินส่วนตัวก็ออกจากน่านฟ้าประเทศไทยมุ่งสู่ประเทศญี่ปุ่น ความรับผิดชอบเด็กทั้งสองคนถูกส่งต่อให้อากิระที่เป็นหมอ ส่วนตัวคุณท่านมีงานต่างๆต้องทำอีกมากมาย และเพราะอากิระเป็นคนเดียวที่พูดภาษาไทยได้เด็กสาวตัวน้อยจึงติดอากิระได้ไม่ยาก จนคนในแก๊งค์ต่างก็คิดว่าเป็นลูกที่แอบไปซุกเอาไว้เลยทีเดียว เมื่อคนพี่รู้สึกตัวทีแรกก็ไม่ได้มีอาการจนน่าวิตกมากนัก กับนิ่งเฉยเสียส่วนมาก มากจนน่ากลัว ไม่รู้ว่าใบหน้าหวานแบบนั้นคิดอะไรอยู่ ในฐานะของหมอสภาพร่างกายไม่น่าจะมีปัญหา แต่ในฐานะจิตแพทย์ที่ตัวอากิระเรียนโทจบมาด้วยนั้นกลับส่อให้เห็นชัดๆว่า อาการหนักแน่ๆ ทุกครั้งที่มีผู้ชายเข้าใกล้ ชายตัวเล็กจะตื่นกลัวจนควบคุมตัวเองไม่ได้ถึงกับต้องให้ยูกิต้องมาคอยปลอบ และต้องเปลี่ยนคนดูแลทั้งหมดเป็นผู้หญิง เรื่องก็คือในแก๊งค์นี่หาผู้หญิงได้ค่อยข้างยากเพราะเป็นแหล่งชายโสด ที่ทั้งโฉดและโหด ต้องระดมกำลังต้อนพวกเมียๆลูกแก๊งค์ให้มาช่วยดูแล ซ้ำตัวเขาเองยังต้องแทบฝังตัวอยู่ที่นี่เพราะติดในเรื่องภาษา
ผ่านมาได้อาทิตย์หนึ่งแล้วบาดแผลดีขึ้นมากทั้งรอยเย็บก็สามารถตัดไหมได้แล้ว แต่เรื่องที่กลับเข้ามาใหม่นี่สิแทบจะทำให้ทั้งแก๊งค์แทบแตก
“ อากิระ ตามชั้นมา “ คุณท่านกึ่งวิ่งกึ่งเดินแทบจะลอยไปในเรือนคนไข้ ทำให้อากิระที่เพิ่งจะหลับได้ครู่เดียวต้องลากสังขารตามมาในทันที
“ แปลให้ชั้น ถามให้ชั้น “ อากิระ ไม่เคยเห็นคุณท่านตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่แบบนี้มาก่อน
“ นี่รูปใคร “ อากิระหันไปถาม ปิง กับ ยูกิ
“ รูปแม่ “ เด็กๆ ตอบ
“ แม่ หนูชื่ออะไร “
“ ริน “
“ กระดิ่งลมคู่นี้ละ รู้ไหมแปลว่าอะไร “
“ แปลว่า น้ำแข็ง กับ หิมะ แต่เหมือนกระดิ่งที่บ้านเราเลยเนอะ พี่จ๋า “ ยูกิอดจะเอียงคอสงสัยถามไม่ได้
“ พวกคุณไปเอาของที่บ้านเรามาเหรอครับ ?? “ ปิงที่เห็นรูปแม่ของตัวเองก็จำได้ทันที เพราะว่าเป็นรูปที่ปิงต้องมองอยู่ทุกวัน ซ้ำกระดิ่งลมที่เป็นอักษรจีนและญี่ปุ่นคู่นี้ที่เป็นชื่อของสองพี่น้องนี่คงไม่มีใครที่คิดจะทำซ้ำมาอีกแน่ ๆ
“ ทำไม ริน ถึงตาย ตายไปนานแค่ไหนแล้ว ? “ อากิระที่จับได้ถึงความเสียใจในเสียงของคุณท่านอดที่จะตะลึงไม่ได้ ‘ริน’ ไม่ใช่ลูกสาวของคุณท่านหรอกหรือ ???
“ พ่อกับแม่ ถูกรถขับมาชนเสียไป2 ปีแล้ว “ ปิงที่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่แสนจะเศร้าเห็นยูกิก็แทบจะร้องไห้ตามคนพี่อยู่แล้ว
“ ......................................................................... “
เป็นความเงียบที่แสนเศร้า...........................................................
แต่เขารู้ว่าเพราะอะไร ถึงไม่เคยจะเอยปากออกมาแต่อากิระก็รู้ว่าลึกๆข้างในคุณท่านอยากจะเจอลูกสาวที่หายมากแค่ไหน ที่โหมทำงานหนักอยู่นี่ก็เพราะต้องการไม่ให้ต้องคิดมากนั้นเอง หลายปีที่คุณท่านเฝ้ารอ อากิระรู้ และเห็นมาตลอดคุณท่านไม่เคยปิดประตูเรือนด้านในเลยเพื่อรอแค่ว่า วันหนึ่งลูกสาวที่โกธรตัวเองจะกลับมา
“ คุณท่าน ถ้าอย่างนั้นทั้งสองคนนี้เป็นลูกของคุณริน สินะครับ “ อากิระที่เห็นคุณท่านเงียบจมไปในความคิดของตัวเอง เอยปากทักเบาๆ
“ เมื่อนานมาแล้ว ครั้งล่าสุดที่รินติดต่อมา ขอให้หล่อกระดิ่งลมให้คู่หนึ่งและให้ชั้นสลักชื่อที่ชอบลงไปเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง รินเกิดในวันที่หิมะแรกตก ชั้นจึงตั้งชื่อ ริน ที่แปลว่าความเย็น ส่วนกระดิ่งคู่นั้นชั้นเลยตั้งให้เป็น ปิงกับยูกิ ที่เป็นน้ำแข็งกับหิมะ จะได้เหมือนแม่เขา ทำไมชั้นจะไม่รู้ว่าลูกสาวตัวเองอยากจะทำกระดิ่งลมให้ลูกของตัวเอง หรือหลานของชั้น รู้ไหมกระดิ่งลมคู่นี้ชั้นต้องไปอ้อนวอนเพื่อนเก่าที่ตัดขาดกันไปแล้วให้เป็นคนทำ ซ้ำ!! ตัวชั้นเองยังเป็นคนช่วยหล่อด้วย แค่หวัง หวังว่า ริน จะยกโทษและพาหลานชั้นกลับมาหา แต่.................ไม่ได้อยากให้กลับมาแบบนี้ ลูกสาวตาย หลานโดนทำร้ายแบบนี้ ”
น้ำตา ไม่เคยเห็นมาก่อน อากิระไม่เคยเห็นคุณท่านต้องเสียน้ำตา แม้ค่ำคืนที่คุณท่านเมามายพร่ำเพ้อถึงลูกก็ไม่เคยถึงกับร้องไห้ อากิระเบือนหน้าหนีเพราะคนที่เป็นหัวหน้าสูงสุดย่อมไม่อยากให้ใครต้องมาเห็นน้ำตา แต่มือน้อยๆของยูกิกับส่งผ้าเช็ดหน้าของตัวเองให้คุณท่าน
“ คุณตา รู้จักแม่รินด้วยเหรอ ” ยูกิถาม
“ หนูหน้าตาเหมือนแม่มากเลยรู้ไหม “ คนสูงวัยกลับตอบไม่ตรงคำถาม เมื่ออากิระแปลให้คุณท่านถึงหัวเราะออกมา
“ อากิระ หาคนมาสอนภาษาทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น “
ก่อนจะหันไปขอบคุณยูกิ แล้วเดินจากไปเงียบ ๆ ลางหลังที่เศร้า แต่ตอนนี้ไม่ได้เศร้าแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว
คุณท่านมีงานต้องสะสางแล้ว
และอากิระก็มีงานที่ต้องล้นมือเพิ่มมากขึ้นมาอีกแล้ว
To Be"""""""""