My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )  (อ่าน 147116 ครั้ง)

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ้ยๆๆๆๆๆ น่ารักใจละลาย เลยยย. คนอะไรหน้ารัก

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
Chapter 9




กิจ‘s  Part




“ เอาเบคอนเยอะๆ  กูชอบกิน “ 

ผมสั่งน้องมันไปครับ  แล้วมันก็หันกลับมามองผมด้วยสีหน้าเหวอๆ  ก่อนจะหลบสายตาผม  แล้วก้นหน้าก้มตาตักเบคอนไปซะจนพูนจาน

นี่มึงประชดกูใช่มั้ยเนี่ย....  เดี๋ยวมึงจะโดนมิใช่น้อย....

ว่าแต่เห็นท่าทีมันแบบนี้แล้ว  ผมไม่สบอารมณ์เอาเสียเลยครับ  พูดด้วยคุยด้วยแม่งก็หลบตาผมตลอด  นี่ผมมันไม่น่ามองขนาดนี้เลยเหรอ....

หรือมึงเป็นไรมากป่ะเนี่ย....ห๊ะ!

คือไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกหงุดหงิดกับท่าทีแบบนี้ของมันอะครับ  กับคนอื่นก็ไม่เป็นนะ  ก็มีแต่มันเนี่ยแหละที่กวนใจผมอยู่ตลอด

“ แปะ!!! “

ผมตีหัวมันไปเบาๆ ครับ

“ นี่มึงจะแดกแต่เบคอนอย่างเดียวเลยรึไง “

“ อ่าว...  ก็พี่บอกให้เอาไปเยอะๆนี่ “

แม่งทำตาใสซื่อตอบมา  ทำเอาผมไปไม่ถูกเลยครับ

“ เยอะก็ไม่ได้หมายความว่ากูจะกินแค่อย่างเดียวนะ “

“ แล้วพี่จะเอาอะไรอีกล่ะ “

“ เดินตามกูมา “ 

จากนั้นผมก็ให้มันถือจานเดินตามผมมาครับ ส่วนผมก็ตักนั่นตักนี่  เอาแต่ที่ตัวเองชอบ  และไม่ถามมันสักคำว่ามันอยากกินอะไร 
แกล้งมันก็สนุกดีนะครับ  ไม่รู้ผมยิ้มออกมาได้ตอนไหน  แต่มันที่เดินตามหลังผมอยู่คงมองไม่เห็นหรอก..

พอของเต็มจานพลาสติกเล็ก 3 ใบที่มันพยายามถืออยู่  ผมก็หันมาถามหน้าบูดๆ ของมันบ้าง

“ ว่าแต่... มึงอยากกินอะไร “

“ ถ้าพี่จะตักเยอะซะขนาดนี้นะ  ไม่ต้องถามผมหรอก...  ไม่มีที่จะใส่แล้วเนี่ย “

แม่งทำเป็นน้อยใจครับ  เห็นแล้วอดยิ้มขำเล็กๆในลำคอขึ้นมาไม่ได้

“ เออ....  ก็บอกมาดิ  เดี๋ยวกูตักให้ “

ผมเดินไปหยิบจานเปล่ามาอีก 1 ใบถือไว้รอมันว่ามา  แล้วคราวนี้มันก็เดินนำผมบ้าง  ผมตักอีก 2-3 อย่างก็พากันกลับโต๊ะไป

ตอนนี้ที่โต๊ะกำลังสนุกเลยครับ  แถมอาหารบนเตาก็กำลังสุกพอดี  ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายมากเลย  ยิ่งตอนนี้ผมกำลังหิวๆ อยู่ด้วย  เพราะจบจากเชียร์มาก็ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยครับ

ไม่นานนักบรรดาอาหารที่ผมกับกันต์มันตักมาก็เริ่มสุก  ผมเห็นมันท่าทางหิวและก็กำลังเล็งหมูชิ้นโตที่ย่างเกรียมกำลังดีอยู่ในตอนนี้  และทันทีที่มันขยับตะเกียบเพื่อจะเข้าไปคีบ  ผมก็...

“ เห้ย!  พี่กิจ  แย่งผมทำไมอะ “

มองหน้าหาเรื่องเลยครับ  สงสัยหิว ฮ่าๆๆ

“ แย่งอะไร... ก็กูเห็นมันสุกพอดี  ก็คีบกินดิวะ  อีกอย่างมึงก็ไม่ได้ติดป้ายจองไว้นี่ว่าเป็นเจ้าของ “

โกรธเหรอคร้าบน้องกันต์  ฮ่าๆๆ

“ เห้ย!!  พี่กิจ “  ผมแย่งต่อครับ  ยิ่งมันทำท่าทางฟึดฟัดหน้าแดงแล้วยิ่งน่ารัก  ทำเอาผมอารมณ์ดีสุดๆ

“ เอาแบบนี้ใช่มั้ย “  ผมเลิกคิ้วตอบรับคำท้ามัน  กลัวซะที่ไหนละ ตัวก็แค่นี้  จะทำอะไรผมได้

“ พี่โอครับ  พี่กิจแกล้งผมอะพี่ “

แสรด!!!  เล่นแบบนี้เลยนะไอ้เปี๊ยก

“ อะไรมึง  แค่นี้ฟ้องพี่เหรอ “  ผมทำเสียงเข้มบอกมันไปครับ  แต่ก็ทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านั้นเพราะสถานการณ์ตอนนี้เหมือนมันกำลังเป็นต่อผมอยู่เลย

“ กิจก็อย่าไปแกล้งน้องมันดิ  ออกห้องเชียร์มาแล้วนะ “  พี่โอว่ามาครับ  ผมหันไปยิ้มให้  ก่อนจะหันกลับมามองยังไอ้ตัวดีที่ตอนนี้มันกล้าเลิกคิ้วท้าทายผมด้วย

ช่างกล้านะมึงอะ  พอมีพวกละทำเก่ง...

“ เออเฮีย  น้องเขาประกวดเดือนคณะด้วยนะ  เฮียช่วยน้องมันด้วยดิ “  น้องรหัสผมจู่ๆ ก็หันมาบอกผมครับ 

ใช่ครับ  ผมในฐานะเดือนปี 3 ผมเลยมีส่วนในการให้คะแนนมัน  แต่เรื่องอะไรละครับผมจะไปช่วยมัน

“ กูว่านะ..  Sec นี้แม่งแปลก  น้องเจมส์สายเราหล่อกว่าไอ้นี่ตั้งเยอะ  ทำไมเขาไม่เลือกกันวะ “  ผมบอกไปพร้อมทั้งหันไปมองน้องเจมส์ที่เป็นคนไม่ค่อยพูด  ก่อนจะชำเลืองมองไปยังคนตรงหน้าที่ทำหน้าบูดกับสิ่งที่ผมพูดมา

สนุกดีครับแกล้งมันแบบนี้  แต่ผมก็พูดความจริงนะครับ  ไอ้น้องเจมส์มันหล่อกว่าไอ้นี่ตั้งเยอะ  ตัวแทนวิศวะเรามันต้องหล่อเท่ห์  ไม่ใช่มาแบ๊วๆน่ารักๆ แบบนี้

“ อะไรพี่กิจ  น้องผมมันไม่หล่อตรงไหน  น่ารักจะตายไป  ใช่มั้ยเอ็กซ์ “  คราวนี้น้องซีแฟนน้องรหัสผมพูดตำหนิผมมาบ้างครับ  น้องซีมันเป็นคนน่ารักครับ  ผมเลยค่อนข้างจะพูดเพราะกับเขา  ไม่เหมือนกับไอ้น้องรหัสผม  ไม่รู้พวกมันไปคบกันได้ยังไงสองคนนี้

“ ใช่ๆ  น่ารักๆ  เหมือนซีปี 1 เลยอะ “  ไอ้เอ็กซ์ครับ  พูดจบก็โดนน้องซีกระทุ้งสีข้างไปแรงๆหนึ่งที   
 
“ อย่างนี้ไม่เรียกว่าน่ารักหรอก  เขาเรียกว่าหน้าตากวนตีน “  ผมบอกไป  แล้วมันก็ยู่หน้าใส่ผม

“ กิจนี่ก็ชอบแกล้งน้องนะ  พี่เห็นเรากวนแต่น้องมันตั้งแต่เข้ามาแล้วเนี่ย “  อีกรอบที่พี่โอตำหนิ  ผมเลยได้แต่ยิ้มๆ ส่งให้ไป

“ เปล่าพี่โอ  ผมไปแกล้งมันที่ไหน “

“ เหรอ..... “

มันทำเสียงเหมือนไม่เชื่อ  ออกจะกวนๆ ด้วยซ้ำ  แต่ผมก็ทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านี้แล้ว  เกรงใจพวกพี่ๆเขา  เลยได้แต่ทำหน้าคาดโทษมันไว้ก่อน 

รอกลับถึงห้องก่อนมึง....  โดนกูแน่...


..........................................


มื้อนี้ผ่านไปด้วยความอิ่มหนำครับ  ผมเดินไปล้างมือที่ห้องน้ำก่อนจะเดินออกมาหน้าร้าน  เห็นไอ้ตัวแสบ  น้องเจมส์และน้องซี  ยืนอยู่กันแค่ 3 คน

พอเดินเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงน้องเจมส์มันบอกว่าเดี่ยวมันจะไปส่งไอ้กันต์เอง  ซึ่งไอ้นี่ก็เออออห่อหมกไปกับเขาง่ายจังนะ

“ ไม่ต้องครับคุณ  เดี๋ยวผมไปส่งมันเอง “

ราวกับสมองผมยังไม่ทันจะได้คิด  ปากผมก็พูดไปแล้ว.... 

ไม่รู้สิครับ  ผมรู้สึกเหมือนผมเป็นเจ้าของมันยังไงก็ไม่รู้  เลยไม่อยากให้ใครมายุ่งกับของๆ ผม...

ส่วนสรรพนามที่ใช้กับพวกปี 1 ผมก็ยังคงต้องใช้  คุณกับผม  อยู่เหมือนเดิม  เพราะมันยังไม่จบช่วงเชียร์  แม้น้องเขาจะเป็นน้องรหัสสายผมก็ตาม  จะมีแต่ก็ไอ้แสบนี่แหละครับที่ผมเผลอใช้สรรพนามอื่นอยู่ตลอดเวลา

พูดจบมันก็มองหน้าผมย่างแปลกใจกึ่งไม่พอใจอีกต่างหาก  แต่ผมสนใจซะที่ไหน  กอดไหล่มันพาเดินออกมาเลยครับ  ถ้าคิดจะดื้อก็ต้องบังคับกันหน่อยล่ะ

ผมเดินมาถึงบิ๊กไบต์คันโปรด  ซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลมากนัก  ก่อนจะขึ้นคร่อมและบอกให้มันซ้อน  กันต์มันดูทำท่าทางอิดออดเล็กน้อย  แต่พอผมเร่งมันด้วยสายตา  มันก็เลยยอมแต่โดยดี

เมื่อมันขึ้นมา  เหมือนมันจะเริ่มรู้แล้วว่าต้องกอดเอวผมเอาไว้เหมือนเช่นทุกที  มือเล็กจึงเข้ามาสวมกอดผมพร้อมกับร่างอุ่นที่เลื่อนเข้ามาชิดผมมากขึ้น

ไม่รู้ทำไม  แต่ผมชอบที่จะให้มันทำแบบนี้นะครับ...

“ แหม...  อะไรอะเฮีย...  มีไปส่งน้องเขาด้วยเหรอ  นี่ถ้าไม่บอก  ผมก็นึกว่าเป็นแฟนกันเลยนะเนี่ย  มีกอดเอวกันด้วย “  ไอ้เอ็กซ์ที่ขับรถเข้ามาจอดเทียบ  เลื่อนกระจกลงมาแซวครับ

“ แฟนพ่องมึงดิ  กูกลับทางเดียวกัน  แล้วรถกูถ้าไม่กอดเอวแม่งก็ตกรถกันพอดี “

“ เหรอ... “

ดูมันครับ  ทำเสียงเหมือนไม่เชื่อแน่ะ

“ แล้วนี่ไปรู้หอน้องเขาได้ไงเนี่ย  เมื่อกี้ก็เห็นกัดกันจะตาย  น่าสงสัยนะเฮีย “

ดูน้ำเสียงและสายตามันสิครับ 

นี่กูเป็นพี่รหัสมึงนะเว้ย!!  ไอ้น้องเลว!!!

“ เออน่า..  เรื่องของกู  มึงอะกลับไปได้แล้ว...  ซีดูแลแฟนด้วยนะ  ท่าทางแม่งจะบ้า “

พูดจบผมเห็นน้องซีหัวเราะคิกคักในรถ  ก่อนที่ไอ้น้องรหัสตัวกวนผมมันจะหันไปพูดอะไรสักอย่างกับคนข้างๆ  แต่ผมไม่สนใจแล้วครับ  ขับรถออกไปจากตรงนี้เลยดีกว่า  เดี่ยวแม่งหยิบเอาอะไรไม่รู้มาแซวผมอีก...


.........................................


ขับรถมาถึงคอนโด  ไอ้คนตัวเล็กกว่าก็ลงรถและเดินเลยไปไม่สนใจผมเลยสักนิด 

แม่งเป็นไรอีกวะเนี่ย  ผมก็ไม่ได้แกล้งอะไรมันแล้วนะ....

ผมเร่งฝีเท้าเดินตามมันที่กำลังเข้าลิฟท์ไปจนตามทัน  ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิด

ตอนนี้ภายในลิฟต์มีเพียงแค่ผมกับมันแค่สองคนเท่านั้น  และผมก็กำลังมองหน้าด้านข้างมันที่กำลังสนใจแค่เพียงไฟลูกศรที่กำลังเลื่อนขึ้นไปยังชั้นต่างๆ

มันไม่มองหน้าผมเลย  และทำเหมือนผมไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้เสียด้วยซ้ำ...

ผมเริ่มหงุดหงิดกับท่าทีที่มันไม่สนใจผมอย่างนี้  ก่อนจะเอ่ยถามมันขึ้นมา

“ มึงเป็นอะไร “

“ เปล่า... “

มันตอบมาแค่นั้น  แต่ก็ยังไม่มองหน้าผมอยู่ดี

“ เปล่าแล้วทำไมไม่มองหน้ากู “

มันไม่ตอบครับ  และประจวบเหมาะกับที่ประตูลิฟต์เปิดออก

มันเลยรีบเดินออกไปเลยครับ  ผมที่เริ่มหัวเสียกับท่าทีที่ไม่แยแสของมัน  ก็เร่งฝีเท้าเดินตามหลังมันไปติดๆ

มันที่เปิดประตูได้ก็ทำท่าว่าจะรีบปิด  ผมเลยดันไว้ก่อนจะแทรกตัวเข้าไป  และปิดประตูลง

จากนั้นมันก็ทำท่าจะรีบเดินหนีเข้าไปในห้อง  ผมเลยรีบคว้าแขนมันไว้  ก่อนจะดันมันไปติดกำแพง  แล้วใช้แขนอีกข้างพิง
กำแพงคร่อมตัวมันไว้  เพื่อที่มันจะได้มาเผชิญหน้ากับผมสักที

ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้มันมากขึ้น  จนมันต้องเบี่ยงหน้าออกไปด้านข้าง

นี่ผมมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอครับ  มันถึงมีปฏิกิริยาแบบนี้กับผม

“ มึงเป็นเหี้ยไร  โกรธไรกูวะ  ทำไมถึงไม่อยากมองหน้ากู  หรือว่ากูมันน่ารังเกียจมากรึไง “

ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ดุดันตามอารมณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้

ผมรู้สึกได้ถึงอาการสั่นเทาเล็กๆ ของมันอยู่บ้าง  จากข้อมือที่ผมกำมันไว้แน่น  กระนั้นมันก็ยังคงไม่หันหน้ามามองผมอยู่ดี

ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อ  และมันเองก็ไม่พูดอะไรด้วยเช่นกัน...


แต่แล้ว...

“ ก็พี่ชอบดุผม  ว่าผม...  ผมทำอะไรพี่ก็ไม่เคยพอใจ  ทำแต่หน้าดุใส่ทุกครั้งที่ผมมอง  พี่เกลียดอะไรผมนักหนาวะ  ทีกับคนอื่นผมไม่เห็นพี่จะทำแบบนี้เลย “ 

จู่ๆ มันก็หันหน้ามาเผชิญหน้าและจ้องตาผมเขม็ง  พร้อมทั้งพูดสิ่งที่น่าจะอัดอั้นอยู่ในใจมาโดยตลอด

แล้วน้ำตามันก็เริ่มไหลออกมาครับ  ผมนี่ใจแป้วไปเลย  ก่อนจะค่อยๆคลายมือที่บีบข้อมือมันไว้แน่น  แต่ก็ยังคงไม่ปล่อยให้มันเป็นอิสระไปนะครับ

นี่ผมทำให้มันรู้สึกแย่ขนาดนี้เลยเหรอ...  ผมไม่ได้ตั้งใจอย่างนั้นนะครับ...  ไม่ใช่ทุกคนที่ผมอยากจะแกล้ง  อยากจะเล่นด้วยแบบนี้...

เพราะมันแตกต่างจากคนอื่นไง....

ผมรู้สึกดีเวลาที่อยู่กับมัน  ได้แกล้งได้แหย่  ได้เห็นมันทำสีหน้าต่างๆ  มันทำให้ผมยิ้มได้...

ผมไม่คิดว่าสิ่งที่ผมทำมันจะทำให้มันรู้สึกแย่ขนาดนี้  ที่สำคัญ...  ผมไม่อยากให้มันรู้สึกเกลียดผม...

ไม่นานผมก็คลายมือที่จับข้อมือมันไว้ออก  ก่อนจะมองมันด้วยสายตาที่รู้สึกผิดเอามากๆ  ที่ทำให้มันร้องไห้แบบนี้

ไม่รู้ทำไม  จู่ๆ ผมก็เอามือไปปาดน้ำตาที่แก้มมันออกเสียอย่างนั้น...  มันเองก็ยืนนิ่งให้ผมทำ  ก่อนจะมองผมด้วยสายตาที่ต่างไปจากเมื่อกี้  ราวกับว่าคาดไม่ถึงว่าผมจะสามารถอ่อนโยนกับมันได้แบบนี้

จากนั้นมันก็เบี่ยงตัวออกไปจากร่างผม  และเปิดประตูหายเข้าไปในห้อง 

ผมได้แต่ยืนทื่อทำอะไรไม่ถูกไปเสียอย่างนั้น...

ผม...  รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำเอามากๆ เลยนะครับตอนนี้...




TBC.



---------------------------------------------------------------------
ตอนที่แล้วลงเลทไป  ตามกำหนดการวันเว้นวันแล้ว  วันนี้ก็เลยลงตอนต่อไปอะครับ
จริงๆแล้ว  ตอนที่ผมเขียน X - C ผมจะเกริ่นเรื่อง กิจไว้ด้วยนะครับ  คือปูทางไว้ก่อน  ถ้าจบแล้วจะได้เขียนเรื่องนี้ต่อเลย (แต่ตอนนั้นเข้า รพ. ไปซะก่อนเลยไม่ทันเขียนจบ)
ตัวอย่างที่ผมเคยเกริ่นตัวละครกิจไว้ก็อย่างเช่น....
ตอนที่กิจมาขอให้ซีช่วยเป็นลีดให้ในงานสปอร์ตเดย์...
-------------

หลังจากที่สั่งเครื่องดื่มและขนมเรียบร้อยแล้ว  ผมเดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้งก็เห็นพี่กิจพี่หัสผมกับพี่ผู้หญิงอีกคนกำลังยืนคุยอะไรสักอย่างกับไอ้ซีมันอยู่ที่โต๊ะครับ
“ เฮียหวัดดี “  ผมทักขึ้นเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ
“ เฮ้ยเอ็กซ์  มึงมาก็ดีแล้ว  ช่วยบอกเพื่อนมึงมาเป็นลีดให้พี่หน่อยดิ “
“ ลีดไรอะพี่ “  ผมถามกลับอย่างแปลกใจครับ  แล้วพี่กิจก็เริ่มอธิบายให้ผมฟังต่อทันที
“ ก็พอดีน้องปี 1 ที่เป็นลีดเมื่อเทอมก่อนซิ่วไปตอนจบเทอมหนึ่งน่ะ  ทีนี้ลีดปี 1 ก็เลยขาดคน  แล้วนี่ก็ใกล้สปอร์ตเดย์แล้วด้วย  พวกพี่ๆ ก็เลยต้องหาคนมาแทน  ซึ่งก็ดูกันแล้วว่าซีน่าจะทำได้และก็เหมาะสมที่สุดแล้ว “  พี่กิจอธิบายมาผมก็พยักหน้าเข้าใจตามถึงความจำเป็นนี้ครับ
“ ผมจะไหวเหรอพี่  พี่ไม่ให้ไอ้เอ็กซ์หรือคนอื่นแทนละครับ “  ไอ้ซีมันทำหน้าไม่มั่นใจถามพี่กิจไป
“ คนที่พอจะเป็นได้ออย่างเอ็กซ์หรือเอสก็เป็นตัวนักกีฬา  แถมยังต้องซ้อมกันเกือบจะทุกวันช่วงนี้  คงไม่มีเวลามาซ้อมให้พวกพี่แน่  ก็มีแต่ซีเท่านั้นแหละที่พอจะช่วยพวกพี่ได้ตอนนี้  นะซี..  ช่วยพวกพี่หน่อยนะครับ “  พี่กิจอธิบายพร้อมกับเริ่มตื้อไอ้ซีต่อครับ  ซึ่งมันก็ได้แต่ทำหน้าลำบากใจ  และผมก็รู้นะครับว่ามันไม่ได้ติดที่จะช่วยหรอก  แต่มันคงกลัวว่าตัวเองจะทำได้ไม่ดีเสียมากกว่าครับ
“ แต่ผมไม่เป็นเลยนะพี่  จะไหวเหรอครับ “
“ สบายมากซี  เดี๋ยวพี่เทรนให้เป็นพิเศษเลย  แต่ว่าช่วงนี้อาจจะต้องอยู่ซ้อมดึกหน่อยนะ  เพราะใกล้วันงานแล้ว “  พี่กิจพูดต่อเมื่อเห็นท่าทีไอ้ซีมันเริ่มใจอ่อนขึ้นมาบ้างแล้ว 
ว่าแต่.. ต้องซ้อมดึกแบบนี้ก็ดีสิครับ  เพราะผมจะได้ใช้เป็นข้ออ้างให้มันมานอนกับผมได้นี่นา  ว่าแล้วก็ไม่ควรจะปล่อยให้เสียโอกาสแล้วละครับ  หึๆ
“ กูว่ามึงช่วยพี่เขาหน่อยก็ดีนะ  เพราะนี่ก็ใกล้จะสปอร์ตเดย์แล้วด้วย อย่างน้อยไปลองดูก่อน  ได้ไม่ได้ยังไงค่อยว่ากันทีหลัง “  ผมบอกไป  ทุกคนก็หันมามองผมในทันที  ยิ่งพี่กิจนี่ยิ้มหน้าบานทันทีที่ผมช่วยเกลี้ยกล่อมให้อีกแรง  ไอ้ซีดูครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย  แต่สุดท้ายมันก็ยอมตกลงช่วยพี่เขาแต่โดยดีครับ
ที่เหลือแค่ผมรอให้ยื่นข้อเสนอให้มันมานอนค้างที่ห้องผมในช่วงนี้ก็แค่นั้น  หึๆ

กว่าที่พวกเราจะทำการบ้านกันเสร็จก็ปาไปกว่า 2 ทุ่มครึ่งแล้ว  และตอนนี้พวกเราก็กำลังจะพากันออกมาจากร้านพี่ทาม  ไอ้เนทและไอ้วินมันขอแยกตัวกลับคอนโด  ส่วนผมขันอาสาไปส่งไอ้ซีมันที่บ้านเอง  ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงปล่อยมันขึ้นรถกลับเองไปแล้วละครับ  แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วล่ะ...
พวกเราแวะกินผัดไทกันที่ร้านอร่อยของผม  ซึ่งเป็นร้านธรรมดาริมถนนเนี่ยแหละครับ  แต่ลูกค้าเยอะมาก  ซึ่งตอนพวกเรามานี่ก็เหลือโต๊ะสุดท้ายเพียงโต๊ะเดียวเท่านั้น
“ เออซี  ศุกร์เสาร์อาทิตย์หน้ามันเป็นวันหยุดยาว  มึงว่างเปล่าวะ “  ผมถามขึ้นขณะรอผัดไทกุ้งสดที่สั่งมาเสิร์ฟ
“ อืม  ก็ว่างนะ  ทำไมวะ “
“ ดีเลย  กูว่าจะชวนมึงไปค่ายชมรมถ่ายภาพกับกูน่ะ “  ผมบอกไปตามจริงครับ
“ แต่กูไม่ได้อยู่ชมรมนะ  ไปได้เหรอวะ  อีกอย่างกูก็ถ่ายภาพไม่เก่งด้วย  กล้องอะไรก็ไม่มีกับเค้า “ 
“ เออได้ดิ  คือปีนี้เขาให้พาคนไปด้วยได้หนึ่งคนน่ะ  กูก็ไม่รู้จะชวนใครดี  มึงไปกับกูหน่อยนะ  ฟรีด้วยนะงานนี้  เหมือนไปเที่ยวอะมึง “  ผมบอกไปและเหมือนมันจะคิดอยู่เล็กน้อยก่อนจะตอบกลับมาครับ
“ ไม่อะ  อาทิตย์หน้าเดี๋ยวมีซ้อมลีดอีก  อาจจะไม่ได้หยุดเหมือนคนอื่นก็ได้  ยิ่งพี่กิจจะซ้อมให้กูเป็นพิเศษอีกด้วย “
“ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง  กูคุยกับพี่เขาเอง  หยุดสักวันสองวันไม่เป็นไรหรอก  แค่มึงตอบตกลง  เรื่องอื่นเดี๋ยวกูเคลียร์ให้  นะมึง...  ไปกับกูนะ “  ผมยื่นข้อเสนอพลางตื้อมันต่อครับ
“ แล้วทำไมมึงไม่ชวนเจนไปละวะ  แฟนกันไม่ใช่เหรอ “  ได้ยินมันพูดแบบนี้ผมนี่ละเซ็งเลยครับ
“ ไม่อะ  เจนเขาไม่ชอบอะไรแบบนี้หรอก  อีกอย่าง...  กูอยากไปกับมึงมากกว่า.. “
“ แล้วทำไมต้อง.. “
“ นะมึง  นะคร้าบ  ไปกับกูน้า “  เมื่อท่าทีมันเริ่มจะใจอ่อน  ผมก็เลยต้องรีบอ้อนเรื่อยๆ  เดี๋ยวไม่นานมันก็ใจอ่อนครับ
“ เออ... “  นั่นไงล่ะ  ไอ้ซีน่ะผมรู้จักนิสัยมันดีครับ
“ น่ารักที่สุดเลยมึงอะ “  ผมบอกไปพลางจ้องตามันและยิ้มกริ่มส่งให้ไป  มันจ้องตอบกลับมาอยู่ครู่หนึ่งด้วยสายตาที่ผมรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น  แต่แล้วมันก็ผลุบตาต่ำลง  เพื่อหลบสายตาผมพร้อมกับเผยยิ้มเล็กๆ ออกมา..
ผมพึ่งรู้นะครับเนี่ย...  ว่าเวลาผู้ชายอาย...  มันก็น่ารักดีไปอีกแบบหนึ่งนะครับ....
--------------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนนะครับสำหรับการติดตาม  ส่วนกันต์จะได้เดือนรึเปล่านี่น่าจะรู้ผลในอีก(นับแปบ) 3 chapters มั้งครับถ้าจำไม่ผิด
ส่วนตอนนี้เดี๋ยวจะปั่น chapter 33 ต่ออีกหน่อยก่อนนอนครับผม
ส่วนตอนหน้าจะลงในวันมะรืนนะครับ  ขอบคุณอีกครั้งนะครับผม  :mew5:

^_____________________________________________^





ออฟไลน์ thyme812

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ diszalove_

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
จะว่าพี่กิจห่ามมากค่ะ คือห่ามโคตรๆ เลย อ่านไปเหมือนรู้สึกอยู่ในห้องเชียร์ตลอด
สงสารน้องนะคะ แต่ถ้าน้องชอบพี่กิจจริงๆ ก็ไม่รู้จะว่าอะไร หวังว่าจะซอฟต์ลงหน่อย
ใจจริง อยากให้น้องทำให้พี่กิจคลั่งได้บ้าง รู้สึกดีกับคนอื่นแทนที่จะเป็นพี่กิจได้บ้าง
สิ่งที่น้องอยากได้ คือ คนที่อ่อนโยนกับน้อง รับฟังน้อง อะไรแบบนี้
เขียนคนนั้นให้น้องหน่อยค่ะ สงสารน้องจริงๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ทำน้องเสียใจจนร้องไห้ แล้วถึงจะรู้ตัวว่าตัวเองทำร้ายน้อง สมน้ำหน้า  :3125:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
นี้รออ่านจริงๆๆนะ

ออฟไลน์ Mamieweiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอนะค่าาาา

ออฟไลน์ Mamieweiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รออ่านค่าาาาา

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
น้องน่าเอ็นดู ไม่ดุน้องเนอะพี่กิจ o7 o7 o7 o7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
คุณหมีขาว ดูแลสุขภาพด้วยนะ

ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ :L2: :pig4:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
แบบนี้ต้อง

ตาต่อตา ปากต่อปาก

ไปเลย 5555


ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
Chapter 10



กันต์'S  Part




ผมเข้ามาในห้องก่อนจะทิ้งตัวลงไปบนเตียง  ผมทั้งกลัวและรู้สึกแย่เอามากๆ ที่พูดกับพี่เขาไปอย่างนั้น

เพราะพี่เขาบีบมือผม  ดุผมเสียงดัง  และกดดันผมซะขนาดนั้น  มันเลยอดไม่ได้ที่จะระเบิดออกไปอย่างไม่ทันจะได้คิดหน้าคิดหลังแบบนั้น

แต่สิ่งที่ผมคาดไม่ถึงก็คือสีหน้า  แววตา  และท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดของพี่กิจ 

ผมเหมือนจะทำให้พี่เขารู้สึกแย่ยังไงก็ไม่รู้สิครับ  ผมไม่ได้ตั้งใจอยากจะให้พี่รู้สึกแบบนั้นเลยนะ  แต่มันอดไม่ได้จริงๆ

เพียงแต่...  ผมยังบอกพี่ไปไม่หมด...

อีกสาเหตุหนึ่งที่ผมไม่อยากจะมองหน้าพี่ก็คือ....

ทุกครั้งที่มองสายตาพี่  มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ  ใจผมเต้นไม่เป็นปกติเอาเสียเลย  ก็ตั้งแต่วันที่พี่เจ็บตัวแทนผมนั่นแหละ
 
ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย  มันไม่ชินอะครับ...  ถ้าเลี่ยงได้ผมขอเลี่ยงจะดีกว่า...

ผมไม่อยากจะต้องมารู้สึกใจสั่นๆ แบบนั้น....

ไม่รู้พี่กิจจะเป็นยังไงบ้างตอนนี้  ผมยันตัวลุกขึ้นมานั่งบนเตียง  แต่แล้วจู่ๆก็มีกระดาษเอสี่สอดเข้ามาผ่านช่องใต้ประตูห้อง  ก่อนจะได้ยินเสียงประตูห้องพี่กิจปิดลง

จากนั้นผมก็เดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมาดู 


-- ขอโทษนะ…
  ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำ  มันจะทำให้คุณรู้สึกแย่ขนาดนี้
  แต่ผมอยากบอกว่า  ผมไม่เคยเกลียดคุณเลยนะ...
  ขอโทษที่ผมเข้ามาวุ่นวายกับคุณมากเกินไป
                                                                     กิจ     --   



ผมอ่านข้อความในกระดาษจบ  จู่ๆ ผมก็รู้สึกใจหายขึ้นมาเสียอย่างนั้น  รู้สึกอยากจะไปขอโทษพี่เขาที่พูดแบบนั้นออกไป 

อยากจะเดินไปเคาะประตูห้องและขอโทษ...

แต่....  มันก็ไม่กล้า....



.....................................



เช้าวันต่อมา

ผมกดปิดเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือ  ลุกจากเตียงอย่างงัวเงีย  ลังเลใจที่จะออกจากห้องไปเผชิญหน้ากับพี่กิจ 

เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองทำเรื่องไม่ค่อยดีกับเขาเอาไว้  เลยไม่ค่อยกล้าจะสู้หน้าสักเท่าไหร่

ไม่นานผมก็ตัดสินใจเปิดประตูห้องออกไป  ก่อนจะเดินไปยังโซนออกกำลังกาย  ซึ่งพี่กิจก็ยังคงทำกิจวัตรประจำวันเหมือนเช่นทุกที 

แต่...  ดูเหมือนพี่เขาจะไม่หันมาสนใจผมเลย

ผมวิ่งเสร็จก็เดินเข้าไปในครัว  เพื่อหามื้อเช้าทาน  ถึงตรงนี้..  ผมก็ยังไม่ได้คุยอะไรกับพี่เขาเลยสักคำ

ผมทอดไส้กรอก  แฮม  และไข่ดาวเป็นมื้อเช้า  และไม่ลืมที่จะทำเผื่อพี่เขาด้วย 

บางทีผมควรจะขอโทษพี่เขาในมื้อเช้านี้นะครับ

ไม่นานนัก  พี่กิจก็เดินเข้าห้องไป  หลังจากที่ออกกำลังกายตอนเช้าเสร็จ  โดยไม่ได้หันมามองผมเลยสักนิด  ทั้งๆที่ปกติพี่เขาจะแวะเข้ามาหาอะไรกินในครัวก่อนอาบน้ำเสมอ

พี่เขา...  คงจะโกรธผมเอามากๆ เลยใช่มั้ย...

หลังจากที่ผมเข้าไปอาบน้ำ  แต่งตัวเพื่อที่จะไปเรียน  พี่เขาก็ออกห้องไปก่อนผมแล้ว  และจานข้าวนั้นก็ยังคงมีอาหารเต็มจานอยู่เหมือนเดิม...


......................................


ตลอดทั้งวันผมดูหงอยๆไปเพราะเรื่องที่เกิดขึ้น  จนไอ้เรย์มันสังเกตได้  แต่มันก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรมากจากผม  เพราะปกติแล้วเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม  ผมก็จะเป็นฝ่ายเล่าให้มันฟังเอง  แต่เรื่องคราวนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเล่าให้มันฟังยังไง  ยิ่งเรื่องความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นด้วยแล้ว  ยิ่งไม่รู้จะอธิบายมันยังไงดี

เย็นนี้พวกที่ต้องเตรียมตัวประกวดดาวเดือนคณะได้เลิกไวกว่าพวกที่เข้าเชียร์ครับ  เพราะแค่ซ้อมบล็อกกลิ้งกันนิดหน่อยจากนั้นพี่เขาก็ปล่อยให้เราไปเตรียมตัวสำหรับการแสดงความสามารถพิเศษกัน

“ หวัดดี..  “ 

ขณะที่ผมกำลังหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายบ่า  จู่ๆก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งทักขึ้นมาพอดีครับ

มันเป็นไอ้หล่อจาก Sec ไหนสัก Sec เนี่ยแหละครับ  ผมจำชื่อไม่ได้อะ  แต่ก็เป็นปี 1 ที่เข้าประกวดเหมือนกันกับผม

“ เราชื่อ ธัน นะ  นายชื่อไรอะ “ 

มันยิ้มทักมาท่าทางเป็นมิตรครับ  ผมเลยยิ้มทักตอบกลับไปด้วยเช่นกัน

“ เรากันต์ “ 

“ แล้วนี่กันต์อยู่ Sec ไหนเหรอ “

“ Sec 1 เลย  แล้วธันล่ะ “

“ เรา Sec 7 อะ  แยกภาคปี 2 แล้วเราอยู่ โยธา  แล้วกันต์อยู่ภาคไหนเหรอ “

“ เรา IE “  ผมหมายถึงวิศวอุตสาหการ อะครับ  มันพยักหน้าเข้าใจเล็กๆ

พอมองดูมันชัดๆ  ไอ้ธันนี่มันหล่อมากนะครับ  ผิวขาว สูง คิ้วเข้ม หน้าเรียวได้รูป  แถมยิ้มทีก็มีลักยิ้มที่มุมปาก  เห็นแบบนี้แล้วผมจะเอาอะไรไปสู้มันได้เนี่ย

แต่มันก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญตอนนี้เลย  เพราะผมไม่ได้สนใจเรื่องการประกวดมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว  ตอนนี้ที่อยู่ในหัวผมก็คือเรื่องไอ้พี่กิจเรื่องเดียวนั่นแหละ 

แม่ง...  เป็นเชี่ยอะไรอีกเนี่ย  แล้วทำไมผมต้องมาหงอยอย่างนี้ด้วยว้า!!!

“ เลิกไวแบบนี้แล้วกันต์จะไปไหนต่ออะ “

“ เราว่าจะกลับห้องเลย “  ผมตอบไปเนือยๆครับ  รู้สึกวันนี้ตัวเองไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่าสักเท่าไหร่

“ ให้เราไปส่งมั้ย “

“ เห้ย!  ไม่เป็นไร เรากลับเองได้ “  ผมบอกไปอย่างเกรงใจ  พึ่งคุยกันแค่ไม่ถึง 5 นาที จะมาใจดีอะไรกันขนาดนี้

“ เอางั้นเหรอ “

“ อืม...  ขอบใจนะ “

“ โอเค  นั้นไว้พรุ่งนี้เจอกันนะ “ 

มันยิ้มและยกมือลา  ผมเลยยิ้มตอบกลับไปให้ด้วยเช่นกัน


....................................


ผมเดินหงอยๆ เรื่อยเปื่อย  เพื่อจะไปยังประตูทางออกด้านข้างมหาลัยฯ  เพราะแถวนั้นจะมีร้านกาแฟน่านั่งอยู่ร้านหนึ่ง  ซึ่งผมนัดกับไอ้เรย์ไว้ให้มันมาช่วยคิดเรื่องการแสดงความสามารถพิเศษของผม

แต่ระหว่างทางที่กำลังเดินผ่านสนามลักบี้อยู่นั้น  สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

“ โอ้ย!!! “

ผมรู้สึกเหมือนอะไรหนักๆมากระแทรกอยู่ที่หัวไหล่ครับ  แรงจนทำให้ผมตื่นขึ้นจากภวังค์ในหัวได้ทันที

ผมมองดูที่พื้น  มันเป็นลูกลักบี้กำลังกลิ้งอยู่  นี่ใครแม่งขว้างมาวะเนี่ย....

“ ขอโทษครับน้อง  เป็นไรมากป่าว “

แล้วร่างใหญ่ที่คาดว่าน่าจะเป็นคนขว้างมาก็กำลังวิ่งเข้ามาหาผมครับ

ผมจำได้ครับว่าพี่เขาคือเพื่อนพี่กิจ  สมาชิกแก๊งจตุรเทพที่สาวๆ พากันกรี๊ดกร๊าด  ที่สำคัญเป็นพี่คณะ  และพี่ภาควิชาด้วย  จากที่คิดว่าจะด่า  เลยต้องเก็บเงียบกริบไปในทันที

“ โทษทีพี่ขว้างมาเองแหละ  ไม่ทันเห็นว่าน้องเดินมาพอดี  แล้วนี่เราเป็นไรมากมั้ย “

พอพี่เขาเข้ามาใกล้ๆ แบบนี้  รู้สึกเหมือนตัวเองเตี้ยไปในทันทีเลยครับ  ใบหน้าหล่อเข้ม  แต่คำพูดกลับนุ่มนวลจนผมนี่ด่าไม่ลงไปเลย 

“ ก็..  ไม่เป็นไรมากครับ  เคล็ดๆนิดหน่อย  เดี๋ยวก็หายครับ “

ผมพูดไปอย่างนั้น  ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วแม่ง...  แทบจุกอกผมเลยครับ  นี่ขนาดโดนที่หัวไหล่ยังสะเทือนซะขนาดนี้  ถ้าโดนหัวมีหวังสลบ....

“ พี่ขอดูหน่อยนะ “  แล้วจู่ๆพี่เขาก็ถลกคอเสื้อนักศึกษาผมลงมาดูบริเวณหัวไหล่พร้อมทั้งก้มดูเล็กน้อย

“ แดงเลย  ไม่รู้ทิ้งไว้จะช้ำรึป่าวเนี่ย “

อ๋อ...  ไม่ต้องห่วงครับพี่  ช้ำแน่นอนงานนี้....

“ เอาไงดี... “ 

พี่เขาพูดมาพลางทำท่าคิด  ว่าแต่เอาไงดีของพี่คืออะไรครับ

“ นั้นรอพี่ตรงนี้แปบนะ  เดี่ยวพี่มา “

พี่เขาพูดจบก็ถือลูกลักบี้วิ่งกลับเข้าไปในสนาม  ผมมองตามไปอย่างงงๆ  ไม่นานพี่เขาก็วิ่งกลับมา  คราวนี้มีเป้สะพายข้างมาด้วยครับ

“ พอดียานวดพี่หมดอะ  เดี๋ยวพี่พาเราไปซื้อยานวดหน่อยละกัน “

“ ไม่เป็นไรครับพี่  ที่หอผมก็มี “

“ เอาน่า  ให้พี่ชดเชยเราหน่อยก็แล้วกัน “

“ ไม่เป็นไรจริงๆครับพี่ “ ผมอดที่จะเกรงใจไม่ได้ครับ  แต่จะว่าไปเพื่อนพี่กิจกับพี่กิจทำไมนิสัยมันต่างกันราวฟ้ากับเหวแบบนี้นะ  พี่พี (ผมจำชื่อได้จากข่าวสารของไอ้แน๊ค) นี่โครตใจดีเลย  ส่วนพี่กิจนี่แม่ง....ทั้งดุ ทั้งแกล้งผมตลอดอะ  ไม่เคยจะใจดีกับผมแบบนี้บ้างเลย

“ นี่พี่ขอเลิกซ้อมก่อนเวลามาแล้วนะ  ยังไงให้พี่ชดเชยเราหน่อยก็ละกัน “  พี่เขายิ้มว่ามาแบบนี้  แล้วผมจะทำไงได้ละครับ  ก็คงต้องตามใจพี่เขาไปแบบนั้น


..........................................

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
ที่หน้าร้านขายยา

“ ขอบคุณนะครับพี่พี “

ผมบอกขึ้นเมื่อซื้อยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“ ไม่เป็นไร  พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษเรา  ว่าแต่..  นี่เรารู้จักชื่อพี่ด้วยเหรอ “  พี่เขาทำหน้าสงสัยถามมา  ผมเลยได้แต่อึกอักเล็กๆ  ก่อนจะตอบกลับไปครับ

“ ก็กลุ่มพวกพี่ดังจะตายไป  ใครไม่รู้จักก็แปลกแล้วครับ “  ผมแถไป  พี่เขาก็ทำหน้างงๆ  แต่ก็พยักหน้าเล็กๆเหมือนว่าจะเข้าใจ

“ แล้วเราล่ะ  ชื่ออะไร “

“ เอ่อ..  ผม กันต์ ครับ “

“ เดี๋ยวรีบกลับป่ะเนี่ย “

“ ไม่อะครับ  พอดีนัดกับเพื่อนไว้ที่ร้านกาแฟตรงโน้นอะครับ “  ผมบอกไปพลางชี้ไปยังร้านกาแฟที่อยู่ห่างออกไปอีกไม่ถึง 100 เมตร

“ อ่อ..  นั้นดีเลย  เดี๋ยวพี่เลี้ยงกาแฟกับขนมเราละกัน “

“ เห้ย!  ไม่เป็นไรครับพี่  ผมเกรงใจ “

“ ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า  ถือว่าเป็นการไถ่โทษก็แล้วกัน “

พี่เขายิ้มว่ามาแบบนี้  ผมก็เลยตามเลยครับ..

ของฟรี...  บางทีก็ไม่มีอะไรเสียหายใช่มั้ยครับ อิอิ


ที่ร้านกาแฟ

“ โหพี่..  เยอะขนาดนี้เลยเหรอ  ผมกินไม่หมดหรอก “

ผมมองขนมนานาชนิดบนโต๊ะ  น่ากินทั้งนั้นเลย  แต่ถ้ากินหมดนี่  ผมคงไม่ต้องกินข้าวยันพรุ่งนี้กันพอดี

“ ก็เผื่อเพื่อนเราด้วยไง “
 
พี่เขาว่ามาก่อนจะจิบอเมริกาโน่รสเข้ม  เข้ากับสไตล์พี่เขาเลย  ในขณะที่คนในร้านต่างก็พากันมองมายังโต๊ะเรา  ยิ่งพี่พีตัวสูงใหญ่  ใส่ชุดกีฬา  แถมหน้าตาดีขนาดนี้อีก  ไม่แปลกเลยครับที่คนจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ

“ เออยังไม่ได้ถามเลย  นี่กันต์อยู่คณะอะไรอะ “

“ วิศวะครับพี่ “

“ อ้าว...  แล้วไม่เข้าเชียร์เหรอ “  พี่เขาทำหน้าแปลกใจถามมาครับ

“ อ๋อ..  พอดีผมประกวดดาวเดือนคณะอะครับ  พวกพี่ๆเขาเลยบอกไม่ต้องเข้าเชียร์ “  พี่พีพยักหน้าเข้าใจเล็กๆ

“ ว่าแต่ดูๆไปเรานี่ก็น่ารักเหมือนกันนะ  ยังไงก็ขอให้ได้ละกัน “

ก็มีแต่พี่เนี่ยแหละครับที่เชียร์ผม  ไม่เห็นจะเหมือนเพื่อนของพี่เลย  ดูถูกผมตลอดเวลาอะ 

“ ขอบคุณครับพี่  แต่...  ไม่ได้ก็ดีนะครับ  อันที่จริงผมก็ไม่ค่อยอยากจะประกวดเท่าไหร่หรอก “

“ อ้าว...  ทำไมล่ะ “

“ ไม่รู้ดิพี่  ไม่มั่นใจอะ  หน้าอย่างผมจะเอาอะไรไปสู้เขาได้  นี่ถ้าเพื่อนมันไม่แกล้ง  ผมก็คงไม่ต้องมาประกวดหรอก “

ผมบอกไปเซ็งๆครับ  แต่จู่ๆพี่พีก็ขำผมขึ้นมาซะงั้น  ไม่เห็นจะมีอะไรน่าขำเลยครับพี่

“ เอาน่า  ตอนรุ่นพี่  พี่ก็ไม่ได้อยากประกวดหรอก  เพื่อนมันบังคับมาเหมือนกัน  ในวันงานก็แค่เดินๆ แสดงๆ  ตอบคำถามนิดหน่อย  เดี๋ยวก็จบแล้ว  มันแค่ประกวดในคณะ  ไม่ได้วุ่นวายเป็นทางการขนาดประกวดดาวเดือนมหาลัยนั่นหรอก “

พี่พีพูดเหมือนมันเป็นเรื่องง่ายๆ สบายๆ เลย  แต่ได้ยินแบบนี้แล้ว  ผมก็ค่อยสบายใจขึ้นมาบ้างนะครับ  รู้สึกไม่ค่อยกดดันเท่าไหร่

แล้วจู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของพี่พีที่วางอยู่ที่โต๊ะก็ดังขึ้น  มันขึ้นชื่อที่โทรเข้ามาว่าเป็นพี่กิจ

“ ว่าไงมึง...  เออเลิกแล้ว  แล้วมึงเลิกเชียร์แล้วเหรอวะ...  เออๆ  เดี๋ยวกูตามไป  ร้านเดิมใช่มั้ย.. โอเค.. “

พี่พีวางสายก่อนจะหันมายิ้มให้ผมทีนึง  ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้นจากโต๊ะ

“ เดี๋ยวพี่ต้องไปแล้วนะ  เพื่อนพี่มันโทรมาชวนไปกินเหล้าน่ะ  ไว้ค่อยเจอกันใหม่นะน้อง “

“ ขอบคุณนะครับพี่  หวัดดีครับ “  ผมยกมือไว้พี่เขา ซึ่งเขาก็รับไหว้ตอบกลับมาด้วยเช่นกัน  ก่อนจะเดินดุ่มๆ ออกจากร้านไป
ว่าแต่....  วันนี้พี่กิจไปกินเหล้าเหรอ

นี่ผมทำพี่เขาเครียดไปรึเปล่าเนี่ย  เพราะเท่าที่อยู่มา  เห็นพี่เขายุ่งอยู่แต่กับกิจกรรมเชียร์และไม่ได้ไปกินเหล้าเลย 

แล้วทำไมจู่ๆ วันนี้ถึงไปกินเหล้าได้

คงไม่ใช่...  เพราะผมหรอกนะ....




TBC.




-----------------------------------------------------

มาแล้วครับตามสัญญา  ขอบคุณมากๆนะครับสำหรับทุกการติดตามและกำลังใจ  มันช่วยให้ผมมีกำลังใจมากเลยจริงๆครับ

ตอบคำถามในเม้นต์ นะครับ ( สปอยนิดๆ )
จริงๆ กิจใจดีนะครับ  แต่ช่วงเริ่มแรกกับกันต์จะดุมากครับ  แต่พอหลังๆจะใจดีมาก
( ตัวอย่างบางส่วน Ch. 26 (แบบยังไม่ได้เรียบเรียงประโยคนะครับ) )

“ กันต์  เป็นยังไงบ้าง  ไหวมั้ย...  “  ไอ้ธันรีบเข้ามาประคองผมและถามไถ่อย่างเป็นห่วง  ผมไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่ส่ายหน้าส่งให้ไปเท่านั้น
“ ขอโทษนะเว้ย...  เสียแต้มเพราะกูอีกแล้ว “  ผมพูดออกไปอย่างอดที่จะรู้สึกโทษตัวเองขึ้นมาไม่ได้  เพราะหลายต่อหลายลูกที่ฝั่งผมเสียแต้มนั้นก็มาจากผม  บางทีถ้าไอ้ธันคู่กับคนอื่น...  มันอาจจะไม่แย่ขนาดนี้ก็เป็นได้นะครับ
“ พูดอะไรอย่างนั้น  กันต์เองก็ทำเต็มที่แล้ว  ดูสิเจ็บหมดแล้วเนี่ย “
ถึงจะได้ยินอย่างนี้  แต่ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนว่าเราไม่มีทางเอาชนะคู่แข่งตรงหน้าได้เลย  ไม่ว่าจะพยายามเต็มที่แค่ไหนก็ตาม....
ผมก้มมองดูที่รักข้อมือที่พี่กิจให้เป็นของขวัญวันเกิด  ผมคงคว้าเหรียญทองมาให้พี่ไม่ได้นะครับพี่กิจ  ทั้งๆที่พี่กิจพยายามเทรนให้ผมตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาแท้ๆ  แต่คู่แข่งมันแข็งแกร่งจริงๆครับ....  ผมไม่มีทางเลยที่จะเอาชนะได้  ไม่มีทางเลยจริงๆ....
............................................................................................
“ กันต์ !  “
แล้วจู่ๆก็เหมือนได้ยินเสียงพี่กิจแว่วเข้ามาในหัว...  แล้วความทรงจำครั้งหนึ่งที่พี่กิจเคยพูดกับผมไว้ตอนที่พี่เขาเทรนให้  และตอนนั้นก้ไม่ต่างกับตอนนี้เลย  ที่ผมแพ้แล้วก็แพ้อีก  ไม่มีทางที่จะชนะพี่กิจได้เลยแม้แต่น้อย....
“ กันต์...  ถ้าแข่งขันกับใครสักคนแล้วแพ้แล้วแพ้อีกมันเป็นสิ่งดีนะ...  เพราะถ้าแพ้ก็เรียนเพื่อแก้ไข  ความอายความขายหน้าเป็นตัวฉุดรั้งไม่ให้เราเอาชนะได้  อย่ารีบร้อน...  ค่อยๆเป็นค่อยๆไป  แล้วประสบการณ์จะสอนให้เราเรียนรู้ที่จะผ่านมันไปได้...  นอกจากนั้น  อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน  หรือบางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไปก็คืออะไรรู้มั้ย...  “
“ ไม่รู้อะครับ “
“ กำลังใจไง...  หากมีกำลังใจเราก็จะมีพลังในการเอาชนะได้... “
“ แล้ว... วันนั้น  พี่กิจจะมาเป็นกำลังใจให้ผมมั้ย “
“ มาสิ...  ต้องมาแน่นอน... “
................................................................................................
ผมดึงสติกลับเข้ามาในการแข่งอีกครั้ง  ในขณะที่ไอ้ธันถอยหลังเยื้องไปทางด้านหลังผมแล้วในตอนนี้
และก่อนที่ไอ้เคจะเสิรฟลูกต่อไปมา  จู่ๆความวุ่นวายที่ประตูทางเข้าโรงยิมก็เกิดขึ้น  จนทุกคนต้องหยุดและหันไปมองยังที่มาของความวุ่นวายนั้น
“ ถอยหน่อยคร้าบๆ !!!  กองเชียร์คณะวิศวะมาแล้วคร้าบ  ของทางหน่อยๆ!!! “
เสียงพี่คิมดังมาแต่ไกล  พร้อมด้วยกลุ่มคนมากมายที่เบียดผู้คนที่ส่วนมากจะเป็นกองเชียร์คณะเภสัทเข้ามา 
ในนั้นมีทั้งกลุ่มจตุรเทพคนดังของมหาลัยฯ  ชมรมบาสที่มีไอ้เรย์ห้อยเหรียญทองนำมากันยกทีม  เพื่อนๆปีหนึ่งอีกหลายคน  รวมถึงพี่ๆปีสูงๆขึ้นไปอีก...  มันเยอะมาก  เยอะมากจริงๆครับ  จนตอนนี้ที่ยืนในโรงยิมแทบจะไม่มีแล้ว  หลายคนต้องเบียดเสียดกัน  ทว่าทุกคนกลับส่งเสียงเชียร์พวกผมกันยกใหญ่และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  พวกเขาไม่สนด้วยซ้ำว่าตอนนี้ผมกำลังจะแพ้หรือว่าชนะ  แต่ก็ยังเชียร์และให้กำลังใจพวกผมไม่ขาด...
“ อ้าวๆๆ  พวกกูมาช้ากันนิดเดียวถึงกลับแต้มตามขนาดนี้เลยเหรอวะ  สู้ๆหน่อยเว้ยมึง  กูรู้ว่ามึงทำได้ “
 เสียงไอ้เรย์มันตระโกนมาครับ
“ สู้ๆนะคุ้ดหล่อทั้งสองคนของพวกพี่ๆ “
นี่เป็นกลุ่มรุ่นพี่ผู้หญิงที่ตระโกนมาครับ
“ ธัน!!  คนอ่อนแอเท่านั้นถึงจะแพ้นะ “
อันนี้แพรเพื่อนสนิทของไอ้ธันมันครับ  เล่นซะเอาไอ้ธันทำหน้าแหยๆเกาหัวยิกๆเลย
“ กันต์  สู้ๆนะพี่เชื่อว่าเราทำได้ “
นี่พี่พีครับตระโกนเสียงเข้มมาเชียว
“ สู้ๆนะไอ้น้อง  ถ้าชนะเดี๋ยว...  ไอ้กิจเลี้ยงให้ชุดใหญ่เลย  ฮ่าๆๆๆ “
พี่คิมตระโกนบอกมาบ้างครับ
ผมเหลือบไปมองพี่กิจที่ยืมส่งยิ้มอยู่ไกลๆมาให้  และเหมือนพี่เขาจะเห็น  เขาเลยเอานิ้วมาชี้ย้ำที่ข้อมือซ้ายของตัวเอง  ผมเลยก้มมองดุที่รัดข้อมือที่พี่เขาให้มา...  นั่นสินะ..  ผมมีพี่เขาเป็นกำลังใจอยู่ด้วยตลอดเวลานี่นา..
ถึงจุดนี้ผมก็ยิ้มออก  แล้วความร้สึกฮึกเหิมมันก็หลั่งไหลมาจากไหนก็ไม่รู้มากมาย  ผมหันไปมองไอ้ธันที่ยิ้มและพยักหน้าส่งมาให้ผม
ผมเข้าใจแล้วล่ะครับพี่กิจ...  ว่ากำลังใจมันมีพลังให้เรามากเช่นไร....
พวกเราพร้อมที่จะสู้แล้วครับ  ไม่ว่าผมจะเป็นยังไงก็ช่าง  พวกผมรับรองว่าเราจะทำมันให้เต็มที่แน่นอน...
“ สู้ๆ น้องกันต์!!!  สู้ๆน้องธัน!!!  สู้ๆวิศวะฯ!!! “
“ สู้ๆ น้องกันต์!!!  สู้ๆน้องธัน!!!  สู้ๆวิศวะฯ!!! “
“ สู้ๆ น้องกันต์!!!  สู้ๆน้องธัน!!!  สู้ๆวิศวะฯ!!! “
.......................................

-----------------------------------
ถึงตรงนี้สรรพนามที่กิจใช้เรียกตัวเองกับกันต์จะเปลี่ยนไปแล้วด้วยนะครับ เปลี่ยนแบบที่เราเองจะไม่รู้สึกตัวเลยว่าเปลี่ยนตอนไหน  มารู้ตัวอีกที สรรพนามระหว่าง 2 คนนี้ก็เปลี่ยนไปแล้ว
ส่วนใครบางคนที่ขอไว้....  มีแน่นอนครับ  CH10 นี่ก็โผล่มาละครับ  แต่ยังจะยังไม่มีบทบาทมากเท่าไหร่  แต่มีเรื่อยๆครับ และรู้สึกได้ทันทีว่าคิดยังไงกับกันต์  ต้องติดตามต่อไปนะครับ 

คุณ Billie ผมจำได้  เคยอ่าน X-C ด้วย ขอบคุณนะครับที่ห่วงใยและยังติดตามเรื่องนี้ 

ขอบคุณทุกๆคนและทุกกำลังใจมากๆนะครับผม  ได้อ่านทุกๆเม้นแล้วอยากจะลงให้ทุกวันเลย  แต่กลัวเขียนไม่ทัน 55+  ขอเป็นวันเว้นวันนะครับ  ตอนนี้พึ่งจบ Ch33 อยู่เลยครับ  แฮ่ๆ

แล้ววันมะรืนจะมาต่อตอนต่อไปนะครับ  ขอบคุณครับผม
^_________________________________________^

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่ะ  สนุกมากกก  ติดตามจ้า

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ติดตามจร้าาาา

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
รอจ้าาาาาา

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เค้าชอบกัน และ กัน แต่เข่ำม้รู้ใจตัวเองยังสับสน

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ปักหมุดติดตาม  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เอ้า..... มากอดกันดีกว่านะเด็ก ๆ อีพี่กิจก็จิตหลุด ทำขวัญอีน้องหาย  ส่วนอีน้องกายก็สติหาย กลัวทำอีพี่กิจติดเหล้า  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ tang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ติดตามจ้าาาาาาาาา

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ใช่แล้ว เราคนเดิม55 ดีใจที่คุณกลับมาเขียนอยู่ด้วยกันไปนานๆ ดูแลสุขภาพดีดี :3123:

ออฟไลน์ maxtorpis

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-4

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
รอๆ

มีคนมาจีบกันต์แล้ว...

พี่กิจหวั่นไหวบ้างยังเนี้ย


ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
Chapter  11



กันต์'s  Part




“ สัด!!! “
 
ไอ้เรย์ครับ  มาถึงมันก็ตบหัวผมซะหน้าเกือบทิ่มใส่แก้วกาแฟตรงหน้าเลย  ก่อนจะโยนกระเป๋าไปยังเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่ฝั่งตรงข้าม

“ เชี่ยไรมึงเนี่ย  มาถึงก็ตบหัวกูเลยนะ !! “ 

ผมด่ามันขึ้นครับ  พร้อมทั้งมองดูสภาพมันตอนนี้...  บอกได้คำเดียวครับว่าหมดสภาพ  อย่างกับมันไปมีเรื่องกับใครมาอย่างนั้นแหละ

มันเล่าให้ฟังว่า  วันนี้ไอดอลของมันแม่งไปกินรังแตนที่ไหนมาก็ไม่รู้ครับ  เล่นปี 1 ที่เข้าเชียร์ซะอ่วมเลย  ส่วนที่มาตบหัวผม  ก็เพราะเห็นว่าผมแม่งโชคดีที่รอดตาย  ไม่ต้องเข้าเชียร์ไปโดนเหมือนพวกมัน

“ แล้วนี่อะไรวะ  ซื้อมาแดกคนเดียวอะไรตั้งเยอะขนาดนี้ “

มันมองดูขนมตรงหน้าที่ไม่ว่าผมจะพยายามกินยังไงมันก็ไม่ยอมหมดลงไปสักที

“ กูป่าวซื้อ  มีคนเขาเลี้ยง “

“ ใครวะ “  มันทำหน้าสงสัยถามมา  แต่ก็เสือกเอาซ้อมตักแบ่งเค้กตรงหน้าเข้าปากไป

“ พี่พี “

“ พีไหนวะ “

“ ก็พี่พีแก๊งจตุรเทพไง “

“ เชร็ดด....  แล้วนี่มึงไปรู้จักพี่เขาได้ไงวะ  แถมยังมีมาเลี้ยงขนมด้วยนะ “ 

มันพูดไปกินไปครับ  ท่าทางมันคงจะเหนื่อยและหิวจริงๆ นั่นแหละ  จากนั้นผมก็เลยเล่าให้มันฟังตั้งแต่ต้นจนจบ

……

“ แล้ววันนี้มึงเป็นเชี่ยอะไรเนี่ย  กูเห็นทำหน้ากลุ้มอยู่ได้ทั้งวัน “

“ เปล่า...  ก็..  เรื่องที่กูเรียกมึงมาช่วยคิดเนี่ยแหละ “
 
ผมอ้อมแอ้มบอกมันไปถึงเรื่องการแสดงความสามารถพิเศษ  ที่จนป่านนี้ผมก็ยังคิดไม่ออกเลยครับ  ในขณะที่อีกเรื่องที่ผมกลุ้ม  ผมกลับยังไม่พร้อมที่จะเล่าให้มันฟังตอนนี้

เพราะผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเริ่มต้นเล่าให้มันฟังยังไงดี....

“ อืม...  แล้วเท่าที่มึงคิดไว้มีอะไรบ้างอะ “

เชี่ยนี่ก็ถามไม่คิด  ถ้าผมคิดออกจะมาขอความช่วยเหลือมันมั้ย

“ ไม่มีสักอย่าง  มึงก็รู้อย่างกูมีความสามารถพิเศษอะไร  ดนตรี ?...  กีฬา ?...   แม่งก็ไม่เอาไหนสักอย่าง “ 

พูดไปผมก็ได้แต่ถอนหายใจทำหน้าเซ็งครับ

“ เออว่ะ “ 

มันเห็นด้วยพลางทำท่าคิดเหมือนกันกับผม  ในขณะที่มันก็ยังคงกินขนมตรงหน้าอย่างไม่วางมือ

“ แม่งเอาแต่แดกอยู่ได้  ช่วยกูคิดเร็วๆดิ  วันมะรืนแล้วนะเว้ย  แถมนี่มันเป็นความผิดมึงด้วยนะ  ที่กูต้องได้มาประกวดแบบนี้อะ “

“ ก็กูหิว  แล้วมันก็อร่อยนี่..  หือ... “

มันทำท่าเหมือนจะคิดอะไรออกครับ

“ ไอ้กันต์  อย่างนึงที่มึงเก่งเว้ย  กูนึกออกละ “ 

มันทำท่าทางตื่นๆ เมื่อคิดขึ้นมาได้  ผมเองก็เช่นกัน

“ มึงทำอาหารเก่งไง  อร่อยด้วย “

“ สาด!!!  เวลาแค่ 5 นาทีกูจะไปทำอะไรทัน  แถมเครื่องไม้เครื่องมือก็...  เห้ย!!  แซนวิชก็ได้นี่  เตรียมของไว้บางส่วนแล้วค่อยเอามาผสมกัน “

เชร็ดดดด  ไอเดียบรรเจิด  รอดแล้วผมงานนี้  ไม่ต้องสวยหรูดูดี  ขอแค่ให้มันผ่านๆไปก็พอ

“ เป็นไงล่ะไอเดียกู “
 
แหม  ทำยืดเลยนะมึง  แต่ก็ถือว่ามันช่วยได้เยอะเลยทีเดียวครับ

“ ว่าแต่  ถ้ามึงเสือกได้เป็นเดือนคณะมานี่มึงจะเป็นเดือนคณะที่มุ้งมิ้งที่สุดเลยนะเว้ย “

“ ทำไมวะ “

“ อ๋าว...  ก็มีอย่างที่ไหน  เดือนคณะแสดงความสามารถพิเศษทำอาหารมุ้งมิ้ง  แทนที่จะเป็นดาวคณะทำ “

“ ไอ้สาด!!!!! “


.............................................


ที่คอนโด

ผมมองนาฬิกาในห้อง  นี่ก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว  พี่กิจยังไม่กลับมาอีก...

แบบนี้ร่างกายพี่เขาจะไหวมั้ยเนี่ย  แม่งเอ้ย!! 

เมื่อวานผมไม่น่าพูดอะไรอย่างนั้นกับพี่เขาไปเลย  ให้ตายเถอะ...

ไม่นานนักผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง  สงสัยพี่กิจคงจะกลับมาแล้ว

ผมทำใจกล้าๆ กลัวๆ ที่จะออกมาเจอหน้าพี่เขา  แต่ก็อยากจะให้เห็นกับตาว่าพี่เขายังโอเคอยู่

ผมเปิดประตูห้องออกไป  เห็นพี่กิจที่กำลังถอดรองเท้าหนังเก็บอยู่  หันมามองผมด้วยสายตาเรียบเฉย  มันเรียบเฉยเกินไปจนผมรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก  เหมือนผมจะไม่ได้เจอพี่กิจที่ชอบกวนตีนผม  ชอบแกล้งผมแบบนั้นอีกแล้ว

เพราะถึงพี่เขาจะแกล้งผม  กวนผม  แต่อย่างน้อยผมก็ยังได้ใช้เวลาร่วมกับเขา

ถ้าเป็นไปได้ผมขอสายตาดุๆ นั้นกลับมาแทนจะได้มั้ย....

พี่กิจหันหน้ากลับไปไม่สนใจผม  ก่อนจะเดินเลยผมเข้าไปในห้องโดยไม่พูดจาอะไรเลย 

ผมได้กลิ่นเหล้าจากตัวพี่เขาโชยมาแรงมาก  ดูท่าพี่เขาคงจะกินไปไม่ใช่น้อยเลยครับ  แต่ก็ยังดีที่เขายังมีสติและกลับมาได้อย่างปลอดภัย

แค่นี้ก็ทำให้ผมสบายใจแล้วล่ะครับ....


...........................


วันต่อมา

ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมระหว่างผมกับพี่กิจ  ผมเริ่มรู้สึกอึดอัดมากขึ้นที่พี่เขาไม่มาอะไรกับผมเลย

เย็นนี้พวกประกวดดาวเดือนยังคงไปตามนัดของพี่ปี 2 ซึ่งพี่ๆเขาก็แค่ย้ำถึงเรื่องสำคัญต่างๆ และนัดแนะให้เรามาพร้อมกันที่อาคารเรียนรวมของคณะตอนบ่ายโมง  เพื่อที่จะเตรียมตัวสำหรับการประกวดในตอนค่ำวันพรุ่งนี้  จากนั้นพี่ๆ เขาก็ปล่อยให้เรากลับไปพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ครับ

ผมนัดไอ้เรย์  ซึ่งจริงๆ อย่าเรียกว่านัดเลยครับ  เรียกว่าบังคับมันดูจะเหมาะมากกว่า  ให้มันขับรถพาผมไปซื้อเครื่องปรุงและของที่จำเป็นสำหรับทำแซนวิช

ผมนั่งรอมันอยู่ที่หน้าหอประชุมคณะ  ได้ยินเสียงเพลงเชียร์ที่ปี 1 พากันร้องรอดออกมาอยู่กลายๆ  ผสมกับเสียงนับเลข ซึ่งเดาว่าคงเป็นบทลงโทษอะไรสักอย่างเป็นแน่  แถมดูจะบ่อยกว่าทุกครั้งที่ผมเข้าเชียร์  สงสัยไอ้พี่กิจคงอารมณ์ไม่ดีแหงๆ

“ อ้าว!!!  โดดเชียร์อีกแล้วเหรอน้อง “

ผมหันขวับไปตามเสียง  ก็เห็นพี่พีกับจตุรเทพอีกสองคนหยุดยืนมองผมอยู่ไม่ไกลจากที่ผมนั่งสักเท่าไหร่

“ โดดอะไรพี่  ก็อย่างที่บอกเมื่อวานอะครับ “ 

ผมรีบแก้ตัวทันทีครับ  เห็นพี่พีกับพี่คิมทำท่ายิ้มขำผมอยู่  ส่วนพี่บิวนี่มองผมนิ่งๆ ครับ

“ เออรู้แล้ว พี่แค่แซวเล่น “  พี่พีพูดต่อ

“ แล้วอยากจะเข้าไปข้างในมั้ยน้อง  เดี๋ยวพี่พาไป “ คราวนี้พี่คิมพูดขำๆ ส่งมาให้

“ ยังอะพี่  ให้ผมพักสักหน่อยเฮ๊ออออ “ 

แล้วผมก็ทำหน้าเหนื่อยๆ ส่งไปให้  พวกพี่เขาก็พากันยิ้มขำ  ซึ่งรอบนี้พี่บิวเองก็ยิ้มๆ ส่งมาด้วยเช่นกัน

“ มึงเข้าไปกันก่อนเลย  เดี๋ยวกูตามไป “

พี่พีพูดกับเพื่อนทั้งสองคนเสร็จ  ก็เห็นพี่คิมกับพี่บิวพยักน้าเล็กๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในหอประชุมที่กำลังจัดกิจกรรมเชียร์กันอยู่  ส่วนพี่พีก็เดินมาร่นตัวลงนั่งข้างๆ ผมครับ

“ แล้วเป็นไง  พร้อมมั้ยพรุ่งนี้อะ “

“ ไม่เลยพี่...  ถอนตัวตอนนี้จะทันมั้ยอะ “

“ เห้ย!!  ใจสู้ดิวะ...  กลัวอะไร “

“ ก็ผมไม่มั่นใจนี่ “

ผมตอบไปพร้อมทั้งหันหน้าไปมองพี่เขาด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ

“ เรานี่นะ...  ไว้พรุ่งนี้  เดี๋ยวพี่มาเชียร์เราเอง “

พี่เขายิ้มบอกมา  ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ ส่งให้ไป 

มันก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีนั่นแหละครับ... 

จากนั้นพี่เขาก็เอามือขยี้หัวผมเบาๆ  ก่อนจะลุกขึ้นยืน

“ สู้ๆนะเว้ย  เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปได้เองนั่นแหละ “

พี่เขาบอกก่อนจะยิ้มและเลิกคิ้วให้ผมอย่างเห็นเป็นเรื่องง่ายๆ  แล้วเดินตามพี่คิมกับพี่บิวเข้าไปข้างใน

ผมนั่งรอไปสักพัก  ไอ้เรย์ ไอ้เจมส์ และ ไอ้แน๊คมันก็ออกมาครับ

ตอนแรกไอ้เจมส์กับไอ้แน๊คมันจะชวนผมไปกินเหล้าเพราะเป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์  จริงๆ ผมก็อยากไปนะครับ  เผื่อจะได้รู้สึกดีขึ้นกว่านี้หน่อย  ถ้าไม่ติดว่ามีธุระที่ต้องทำ  ก็เลยปฏิเสธมันไป  ก่อนจะลากไอ้เรย์ที่ทำท่าอิดออดไม่อยากจะไปส่งผมเพราะมันอยากจะไปแดกเหล้ากับไอ้สองคนนี้มากกว่า  แต่มันก็ต้องยอมครับ  เพราะส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดของมันที่ทำให้ผมต้องเข้าประกวดแบบนี้


.................


ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ

ผมกำลังเดินเลือกของโดยมีไอ้เรย์มันเข็นรถเข็นให้ตามหลัง  ตอนนี้ของใช้จำเป็นก็ซื้อมาจนเกือบครบละครับ  จะเหลือก็แค่วัตถุดิบเท่านั้น

จู่ๆ  ผมก็เกิดอยากถามไอ้เรย์ถึงบางอย่างที่มันกวนใจผมอยู่ตลอดเวลาขึ้นมาเสียอย่างนั้น  อาจเพราะมันเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของผม  เวลาผมมีเรื่องไม่สบายใจก็มักจะระบายกับมันเสมอ  เก็บไว้กับตัวเองไม่ค่อยได้นานหรอกครับ

“ เฮ้ยมึง... “

ผมเอ่ยขึ้น  มันทำหน้าสงสัยรอว่าผมจะพูดอะไรต่อ

“ มึงเคยทำให้ใครโกรธจนเขาไม่พูด  ไม่สนใจมึงเลยรึป่าววะ “

“ เคยดิวะ  แต่ส่วนมากจะเป็นพวกสาวๆ ที่กูบอกเลิกนะ “  มันพูดติดตลกมาเล็กๆ

“ แล้วมึงทำไงวะ “

“ กูก็ไม่ทำไงนะ  เพราะกูไม่ได้สนใจอยู่แล้ว  แต่ถ้าเป็นคนที่กูยังแคร์อยู่อะ  กูก็จะไปขอโทษเขา “

“ แค่นี้เนี่ยนะ.. “ 

ผมถามไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ  อะไรมันจะง่ายขนาดนั้นครับ

“ ก็เออดิ  เวลาที่มึงทำผิดกับใคร  สิ่งที่ดีที่สุด  ที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้นได้  ก็คือการขอโทษนะเว้ย “

มันว่ามาก็ถูกครับ  จริงๆ สิ่งที่มันพูดมา  ไม่ใช่ผมจะไม่รู้  เพียงแต่ผมไม่มีโอกาสและที่สำคัญ..  ผมไม่กล้า...

“ ว่าแต่...  บอกมาซะดีๆ ว่ามึงไปทำอะไรให้ใครโกรธวะ “

คราวนี้มันถามผมกลับมาบ้างด้วยสีหน้าที่คาดคั้นเอาคำตอบสุดๆ

“ เปล่า... “

“ เปล่าเหี้ยไร  ไม่งั้นมึงคงไม่ทำหน้าหงอยอยู่แบบนี้หรอก  บอกกูมาซะดีๆ ไอ้กันต์ “

มันยังคงคาดคั้นไม่เลิก  และถ้าผมไม่เล่ามันก็คงจะตื้อถามผมอยู่ตลอด  จนไม่เป็นอันต้องทำอะไรแน่ๆ  ผมเลยตัดสินใจเล่าให้มันฟัง...

เท่าที่พอจะเล่าได้นะครับ...

“ ก็...  คือว่า..  วันก่อนน่ะ  กูเสือกไปทำให้พี่กิจเขาโกรธ  จนตอนนี้พี่เขาแม่งไม่พูด  ไม่อะไรกับกูเลยอะ “

“ แล้วมึงไปทำอะไรให้พี่เขาโกรธวะ  พี่เขาถึงเป็นแบบนั้น “

“ ก็...  ไม่มีไรมาก  คือพี่เขาขึ้นเสียงกับกูนิดหน่อยว่าทำไมเวลาเขาพูดด้วย คุยด้วย ถึงเอาแต่เดินหนีแล้วไม่มองหน้าเขา  กูก็เลยตระโกนแดกไปประมาณว่ากูไม่ชอบเวลาที่พี่เขาชอบมาแกล้งกู  ดุกู  หรือ ทำหน้านิ่วใส่กูอะ “

“ แค่เนี่ย...  ไม่ใช่มั้ง..  น่าจะมีอะไรอีก “  มันถามต่อราวกับรู้ว่าเรื่องมันต้องมีมากกว่านี้

“ กูก็แค่บอกว่าทำไมทีกับคนอื่นไม่เห็นทำแบบนั้น  เกลียดอะไรกูมากนักหนาวะ “

ไอ้เรย์พยักหน้าเหมือนจะเริ่มเข้าใจเรื่องอยู่กลายๆ  ส่วนผมก็ได้แต่เงียบรอฟังความเห็นจากมัน

“ ก็ถ้ากูเป็นพี่เขา  แล้วมึงตระโกนแดกซะขนาดนี้  ถึงขั้นว่าเกลียดอะไรมึงนักหนา  ถ้าเป็นกู...  ต่อไปกูก็คงไม่กล้ายุ่งกับมึงหรอก “

“ แต่กูไม่ได้อยากจะให้มันเป็นแบบนี้นะเว้ย  ก็ตอนนั้นอารมณ์มันพาไปนี่หว่า “

“ แต่กูสงสัยอย่าง...  คนอย่างมมึงอะ  เรื่องแค่นี้มึงทนได้สบายอยู่แล้ว  ไม่เห็นจำเป็นต้องหลบหน้าพี่เขาเลย  หรือมึงมีอะไรมากกว่านั้น “

ไอ้นี่แม่ง  จะรู้จักนิสัยผมดีเกินไปแระครับ...

“ ก็... “ 

ผมลังเลใจที่จะตอบ  แต่มันก็ใช้สีหน้าและแววตาคาดคั้นไม่ยอมเลิก   

“ คือ..  กูก็ไม่รู้จะอธิบายมึงยังไงดีอะ  กูก็ไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนไง “

“ ยังไงมึง “

“ ก็แบบว่า...  เวลามองตาพี่เขาแล้วมันรู้สึกแปลกๆ อะ  รู้สึกเหมือนตัวกูจะไม่ค่อยมีแรงเลย  แถมยังทำตัวไม่ถูกอีก “

“ เชร็ดดดดด  ไอ้กันต์  อย่าบอกนะว่า....  มึงชอบพี่เขาอะ “ 

แล้วมันก็ยิ้มล้อผมครับ  ชอบพ่องมึงดิ  พี่เขาเป็นผู้ชายและผมก็เป็นผู้ชาย  ผมจะไปชอบพี่เขาได้ไง

“ ชอบพ่องมึงดิ  แค่รู้สึกแปลกๆ  ไม่ได้ชอบเว้ย !! “

ผมฟึดฟัดขึ้นมา  แต่แม่งยังยิ้มกวนตีนส่งมาให้ผมอยู่เลยครับ

“ เนี่ยแหละที่เขาเรียกว่าชอบ  มึงอะไม่เคยชอบใครมาก่อน  มึงไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่มึงเป็นอะ  มันคือการชอบเว้ย... “

“ สัดนี่!!  ก็กูบอกไม่ได้ชอบไง “

ผมด่ามันไปพลางขยับตัวจะไปเตะมันครับ  แต่แม่งหนีซะก่อน  แถมยังขำผมไม่หยุดเลยตอนนี้

อายชิบหาย...  รู้อย่างนี้ไม่น่าเล่าให้มันฟังเลยครับ

“ แต่อีกอย่างนึงนะเว้ย  กูขอเตือนมึงเอาไว้เลย “
 
ไอ้เรย์มันทำหน้าจริงจังว่ามาครับ  ผมเลยหยุดไล่เตะมันพร้อมทั้งฟังมันพูดต่ออย่างตั้งใจ

“ อะไรวะ “

“ ยังไงก็ได้  แต่มึงควรรีบไปขอโทษพี่เขาให้เร็วที่สุด  ไม่อย่างนั้น... “

เชี่ยเรย์..  มึงอย่านิ่งอย่างนี้ดิวะ  ใจคอกูไม่ดีนะเว้ย....

“ ไม่อย่างนั้นทำไมวะ... “

“ ไม่อย่างนั้นพี่กิจก็จะอารมณ์เสียแล้วมาลงกับพวกกูอีก  เหนื่อยชิบหาย  มึงไม่รู้หรอก  ไอ้ห่า... “

คนอุตส่าห์ตั้งใจฟัง  ที่แท้ก็กลัวเหนื่อย  คราวนี้มันต้องโดนตีนผมแน่ๆ ครับ



.............................................

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
ที่คอนโด

ผมให้ไอ้เรย์ขับรถมาส่งผมที่คอนโด  พอเข้ามาในห้อง  ผมเห็นพี่กิจนั่งดูทีวีอยู่ด้านนอก  ดีแล้วล่ะที่พี่เขาไม่ไปกินเหล้าเหมือนเมื่อวานนี้

พี่เขาหันมามองผมเล็กน้อย  ก่อนจะปิดทีวีและเดินเลยผมกลับเข้าไปในห้อง  โดยไม่พูดกับผมเหมือนเดิม

คืนนี้ผมวุ่นอยู่กับการเตรียมน้ำสลัดแช่ไว้ในตู้เย็นและของที่จำเป็นจะต้องใช้ในวันพรุ่งนี้ 

ก่อนเข้านอนผมหยิบเอาคำพูดไอ้เรย์มาคิดโดยไม่รู้ตัว  บางทีผมควรจะหาโอกาสขอโทษพี่เขานะครับ  แต่จะทำยังไงดีละ  แถมไม่มีโอกาสจะได้คุยกับพี่เขาอีกต่างหาก

ว่าแต่...  ที่ไอ้เรย์มันบอกว่าผมชอบพี่เขาเนี่ย  มันจะจริงอย่างนั้นเหรอ...

เป็นไปไม่ได้มั้ง.....


……………………………….


เช้าวันต่อมา

วันนี้ผมตื่นสายมากครับ  เพราะมือถือแบตหมดเลยไม่มีการปลุกผมใดๆ ทั้งสิ้น  รู้ตัวอีกทีก็เกือบเที่ยงแล้วละครับ

ผมเดินงัวเงียออกมาจากห้องนอนมองดูท้องฟ้าด้านนอก 

ชิบหายฝนตก....

ผมรีบอาบน้ำแต่งชุดนักศึกษา  เอาอุปกรณ์สำหรับทำแซนวิชใส่เป้สะพาย  และบางส่วนใส่ถุงหิ้ว

ต้องรีบแล้วละครับ  พี่ๆ เขานัดตอนบ่ายโมง  ร่มผมก็ไม่มี  มาดูข้างนอกห้องก็ไม่มี  สงสัยคงต้องฝ่าฝนไปเรียกแท็กซี่แล้วละครับ

ผมเดินลงมายืนยังหน้าคอนโด  เห็นสายฝนแล้วอ่อนใจเลยครับ  จากตรงนี้ไปป้อมยามก็ไกลโขอยู่  กว่าจะถึงคงเปียกไปทั้งตัวแน่ๆ  ไหนจะของที่ผมเตรียมมาอีก...

“ ปริ๊น!! “

เสียงแตรรถดังขึ้น  ผมหันไปมองตามเสียงก็เห็น BMW สปอร์ตสีดำคันหรูเข้ามาจอดเทียบอยู่ด้านหน้า   จากนั้นกระจกรถก็ถูกเลื่อนลงมา  พร้อมกับน้ำเสียงเรียบๆ ที่ดังขึ้น

“ ขึ้นมา “

ผมมองเลยผ่านเข้าไปยังภายในรถจึงรู้ว่าเป็นพี่กิจ  ผมมองพี่เขาแล้วรู้สึกตัวชา  ไม่รู้ว่าเพราะแปลกใจหรือเพราะดีใจที่พี่เขายังคงสนใจผมอยู่บ้าง

“ เร็ว... “

น้ำเสียงเร่งเร้าอีกครั้งที่ทำให้ผมได้สติ  ก่อนจะรีบเข้ามาภายในรถ

จากนั้นพี่เขาก็ขับรถออกไปจากคอนโด  ท่ามกลางสายฝนที่ไม่รู้ว่ามันจะหยุดตกเมื่อไหร่

ผมไม่รู้มาก่อนว่าพี่กิจเขามีรถหรูแบบนี้จอดไว้ที่คอนโดด้วย  นึกว่ามีแต่บิ๊กไบต์ขับเท่ห์ๆเท่านั้น  คนอะไรแม่งรวยชิบ...

ภายในรถเงียบมาก  ไม่มีการพูดคุยกันตลอดทางจนรถเลี้ยวเข้าประตูหน้ามหาลัยฯ มา  ทั้งๆ ที่ผมอยากจะคุยกับพี่เขามากถึงมากที่สุดก็ตามที

ผมมองใบหน้าด้านข้างของพี่กิจที่กำลังขับรถอยู่ด้วยใบหน้านิ่งๆ  และกำลังรวบรวมความกล้าที่จะเอ่ยปากขอโทษพี่เขา
แต่ไม่รู้ทำไมดันเสือกปากแข็งไปเสียอย่างนั้น

สุดท้ายพี่เขาก็เลี้ยวรถเข้ามาจอดเทียบยังหน้าอาคารเรียนรวม  เพื่อที่จะให้ได้ผมลงรถไปก่อน  จากนั้นพี่เขาก็ขับออกไปยังลานจอดรถที่อยู่ไม่ไกลมากจากตรงนี้

ฝนยังคงตกอยู่...  ผมอดห่วงพี่เขาที่ต้องวิ่งฝ่าฝนออกมาไม่ได้อยู่เหมือนกัน  ผมเลยได้แต่ยืนมองรถหรูอยู่ที่เดิม

ไม่นานพี่เขาก็เปิดประตูรถออกมา  ก่อนจะวิ่งฝ่าฝนจนมาถึงใต้อาคารเรียนรวมที่ผมกำลังยืนอยู่

พี่เขามองผมเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาหา  แล้วพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาเรียบเฉย

“ คุณ....  ไม่รีบขึ้นไปล่ะ  เขานัดบ่ายโมงไม่ใช่เหรอ “

จากนั้นพี่กิจในสภาพชุดนักศึกษาที่ชุ่มฝนบางๆ ก็เดินเลยผมขึ้นบันไดไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหันกลับมามองผมเลยแม้แต่น้อย

พี่เขาไม่ได้ดุผมเลย  แต่ผมกลับรู้สึกใจหายกับสรรพนามที่พี่เขาใช้กับผม

คุณ....

สรรพนามที่เขาใช้กับพวกปีหนึ่งทั่วๆ ไปในเวลานี้...

นี่ผม...  กลายเป็นแค่คนธรรมดาทั่วๆไป  ในสายตาพี่เขาแล้วอย่างนั้นเหรอ......





TBC.



--------------------------------------------------------

ขอบคุณมากๆครับสำหรับทุกๆกำลังใจและการติดตาม  ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนอ่านเยอะขนาดนี้  ขอบคุณมากๆจากใจจริงเลยนะครับ  :mew2: :mew6:

ส่วนพี่กิจกับกันต์ความสัมพันธ์จะเป็นยังไงต่อไปนั้น  อีก 2 Chapters รู้แน่ครับ  ไม่ขอสปอยนะครับ ><

แต่ยังมีอะไรอีกมากมายเลยครับที่ 2 คนนี้ต้องเจอ  แต่เพราะเรื่องราวมากมายความรู้สึกระหว่างกันมันเลยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเราอ่านเองก็จะไม่รู้สึกตัวเลยครับว่ามันมาถึงจุดนั้นได้ยังไง 

ยังไงก็ขอให้ติดตามกันต่อไปนะครับผม  ขอบคุณมากๆนะครับผม

แล้ววันมะรืนจะลงตอนต่อไปนะครับ

^________________________________________________^

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่ะ  สนุกมากกกก  รออ่านต่อนหน้านะคะ

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
อยากอ่านต่อเลยอ่ะ

ลงพรุ่งนี้เลยเถอะนะครับ :)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด