[End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)  (อ่าน 4564 ครั้ง)

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2018 18:48:09 โดย ImInDragon »

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ลูกแมวจนตรอก 0






ไม่ว่าสถานที่ที่อยู่จะปลอดภัยแค่ไหน
หรืออยู่กับคนที่รักมากเท่าใด
หากเกิดเสียงที่ทำให้เสียขวัญ
หรือภัยอันตรายมาใกล้ตัว
ก็จะวิ่งหนี..อย่างไม่คิดชีวิต
จนกว่ามัน..จะปลอดภัย




________________________________________________________

สวัสดีค่ะ
StraWBerry_imin เองค่ะ
อยากแต่งเรื่องสั้น 3 ตอนจบ สวัสดีปีใหม่ค่ะ (ฮ่า)
ขอฝากสุและน้ำ ไว้อ้อมอกทุกคนด้วยนะคะ


********************************************************************************************

ฝากผลงานอื่นด้วยนะคะ

เรื่องสั้น
   ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก


เรื่องยาว
   ◇◆ เพียงเสี้ยวสัมผัส ◆◇
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2018 19:09:38 โดย ImInDragon »

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ลูกแมวจนตรอก 1

   ผมตัวสั่นงั่นงกอยู่ในซอกหลืบข้างกล่องลังสูงเหนือหัววางซ้อนกันสี่ห้ากล่องที่กลิ่นไม่ต่างจากกองขยะเหม็นเน่าคนในตลาดต่างมักง่ายโยนเศษอาหารเละ ๆ ทิ้งไว้ อาศัยร่างกายที่ทั้งผอมแห้งและเล็กบางผิดปกติกว่าใครเพื่อนขดร่างเป็นก้อนกลมหลบอยู่ด้านหลัง ใช้กลิ่นตุ ๆ ของอาหารบูดขับไล่ด้านนอกที่วิ่งกันชุลมุนตามหา ‘หัวขโมย’ อย่างผม


   “มันหายไปไหนวะ !”


   “อย่าให้ข้าเห็นนะ จะจับเฆี่ยนซะให้เข็ด !”


   “ทำมากี่ครั้งแล้วเถอะ !! ลากหัวเข้าคุกเข้าตารางไปได้ก็ดี !”


   ยิ่งเสียงเข้ามาใกล้ยิ่งทำให้ผมก้มหัวชิดกับหัวเข่า ลมหายใจของตัวเองติดขัดเหมือนมีคนที่ชื่อว่าความกลัวมาบีบลำคอไว้ ยิ่งได้ยินเสียงโวยวายและไม้ท่อนใหญ่กระแทกลงพื้นมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้ผมหวาดผวามากเท่านั้น


   ใจเย็นไว้เหอะ.. เย็นไว้ ผมได้แต่ปลอบใจตัวเองกับคำ ๆ นี้ สายตาจ้องทางคุณป้าในตลาดสามถึงสี่คนที่ยังเดินวนเวียนอยู่และเตรียมหาที่ซ่อนใหม่หากเขาหาผมเจอ



ครืน ครืน



   ดูวันนี้ท้องฟ้าเป็นใจให้ผม เสียงจากเบื้องบนทำให้พวกป้า ๆ ในตลาดหัวฟัดหัวเหวี่ยงจากห่าฝนเทลงมาเหมือนน้ำประปารั่ว พวกเขาสบถคำหยาบยาวเป็นหลักกิโล ฯ ก้าวฉับ ๆ เข้าตลาดไปดังเดิมเพื่อหลบฝนโดยไม่ลืมทิ้งท้ายประโยคก่นด่าผสมโรมสาปแช่งต่อ


   “ฝากไว้ก่อนเหอะมึง !!”


   ผมรอดแล้ว


   แต่ผมยังไม่ไว้วางใจ สายตากวาดมองรอบด้านตัวเองอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วก้มมองสิ่งของในมือตัวเองที่แอบขโมยมา


   มันคือ.. น้ำปลา

   ฟังไม่ผิดหรอก น้ำปลาแท้ ๆ เลยนี่ล่ะ

   ผมเม้มปากเข้าหากัน ใช้มือแตะ ๆ ลงถุงขยะกองโตที่อยู่ด้านหน้าไว้ พยายามดันออกห่างและกลั้นหายใจเมื่อกลิ่นเน่าเฟะลอยเข้ามาแตะปลายจมูกตัวเอง ภาพด้านหน้าดูพร่ามัวฝนเม็ดใหญ่ที่กระหน่ำตกลงมาจนได้แค่ก้าววิ่งไม่เต็มแรงเพราะกลัวล้ม แต่ก็เพราะฝนนี่แหละที่ช่วยให้ผมรอดตายจากกลุ่มแม่ค้าพวกนั้นได้


   ผมกอดน้ำปลาไว้แน่น วิ่งตรงไปหลังป่าที่บ้านตัวเองตั้งอยู่ทันที รีบปีนเข้ารั้วบ้านเตี้ย ๆ ผลักประตูไปด้านในแล้วเดินฝ่าเข้าบ้านโดยไม่สนว่าแม่แท้ ๆ ตัวเองกับชายอีกสามสี่คนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ในห้องรับแขก


   “อ้าว มาแล้วเหรอ” เธอร้องทัก “ไปหยิบอะไรมา”


   “นั่นลูกเธอเหรอ ?”


   “ผอมใช่ย่อย”


   “สนใจมาร่วมวงไหมอีหนู”


   เสียงหัวเราะครื้นเครงทำให้ผมได้แต่ก้มหัวแล้วก้าวฉับ ๆ ไปหลังครัว เป็นปกติที่แม่แท้ ๆ ของตัวเองจะนอนกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้าและจบท้ายด้วยการฟาดแบงค์แดงๆ มาสักสามถึงสี่ใบ


   รวมมูลค่าก็.. สามร้อย ไม่เกินห้าร้อยหรอก






   แม่ของผมมีค่าไม่ถึงห้าร้อย







   ผมเอื้อมมือไปจับหม้อที่ตั้งอยู่บนเตามาวางแต่ก็ต้องสะดุ้งโหยงเพราะโดนของร้อนเข้าเต็ม ๆ ได้แต่ครางเสียงเบาในลำคอกับความเจ็บปวด มองมือตัวเองที่ขึ้นสีแดงเป็นแถบ ๆ


   “เจ็บ..” พึมพำเสียงเบาพลางเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบน้ำแข็งก้อนหนึ่งมาทาบกับบาดแผลจนรู้สึกชา แม้ว่าจะไม่ใช่หนทางที่ดี แต่ผมก็คงต้องทำ


   ระหว่างที่ผมกำลังรอเวลาให้อากาศปวดแสบปวดร้อนทุเลา สายตาที่มองตามหลังคาบ้านสังกะสีเก่า ๆ เห็นรอยรั่วซึมของน้ำแล้วได้แต่ถอนหายใจ สลับกับเสียงครางของการร่วมรักของมารดาตัวเอง.. กับใครอีกก็มีรู้


   ผมเบื่อ


   เบื่อหน่ายที่นี่เหลือเกิน


   ผมถอนหายใจ ล้มเลิกความคิดจะยกหม้อลงจากเตาแล้วเดินไปหยิบชามกระเบื้องเก่า ๆ แล้วช้อนสั้น ๆ สักคันหนึ่งมาตักข้าว และเปิดฝาน้ำปลาที่ตัวเองได้มา..


   เป็นอีกมื้อที่ผมกินแบบนี้


   แค่เอาตัวรอดไปวัน ๆ ก็เพียงพอแล้วล่ะ



...................................................................................................

   

ทุกวันนี้แค่ผู้หญิงคนนั้นยอมจ่ายค่าเทอมให้ผมก็บุญแล้ว


   เป็นความคิดของตัวเองหลังจากที่ได้รับรู้ถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ของแม่ตัวเอง ก่อนที่พ่อจะทิ้งผมไป พ่อเคยบอกผมว่าแม่เป็นผู้หญิงที่อ้าขาให้ชายอื่นเพื่อได้เงิน และนั่นคือสาเหตุที่พ่อรับไม่ได้กับการนอกกายเช่นนั้น


   แม่ผมให้เหตุผลว่าเพื่อเงิน และเธอไม่มีอาชีพอื่นแล้ว ขายของก็คิดเลขไม่เป็น จะไปล้างจานหรือใครที่ไหน มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ .. สุดท้าย จึงเลือกจะทำทางนี้เอง และเธอก็ไม่ได้นอกใจเสียหน่อย มันแค่นอกกาย


   พ่อผมรับไม่ได้ พวกเขาทะเลาะกันรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนที่ผมเข้านอนไปแล้ว แต่ส่วนใหญ่ผมก็สะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงโหวกเหวกนั่นแหละ


   จนวันสุดท้ายพ่อของผมร้องไห้ออกมา


   เขาเข้ามาในห้องผม จูบหน้าผากผม แล้วหนีไป


   หนีไปแค่คนเดียวตอนผมอยู่สัก ป. 2 ได้..


   และทุกวันนี้ผมได้แต่ถามตัวเอง ว่าทำไมพ่อถึงไม่ยอมพาผมไปด้วย


   “สุ ! ทำไรอยู่น่ะ”


   “หือ ?”


   ผมเงยหน้าตามเสียงเรียกชื่อของผม เห็นเด็กผู้ชายตัวสูงพอ ๆ กับตัวเองแต่แปลกตรงที่มีเนื้อจ้ำม้ำกว่าอย่างคนสุขภาพดี นั่นคือ ‘น้ำ’ เขาเป็นเด็กผู้ชายผิวขาวโพลน แก้มแดง ๆ น่าหยิก ดวงตากลมโตประกายวาววับเหมือนลูกแก้วเลย


   น้ำเป็นเด็กน่ารัก


   และเขาเป็นเพื่อนผม


   “สุไม่ได้ทำอะไร” ผมเอ่ยระหว่างที่ก้มหน้าลง “น้ำล่ะ ?”


   “น้ำเห็นสุนั่งอยู่เลยมาทัก ไปกินข้าวกัน” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม คว้ามือของผมแล้วดึงไปด้วย “แม่ของน้ำชอบบอกนะ ว่าสุน่ะดูผ้อม ผอม มือเล็กกว่าน้ำอีก” ว่าแล้วก็เอามือผมไปเทียบด้วยทันที


   จะบอกว่าเล็กกว่าน้ำก็ไม่ใช่หรอก ต้องพูดว่ามันดูผอมกว่าถึงจะถูก


   “น้ำตัวสูงกว่าสุแล้วด้วย”




   “สูงกว่าแค่นิดเดียวเอง” ผมยิ้ม “น้ำจะไปกินข้าวเหรอ”


   “อื้อ ๆ พาสุไปด้วย ที่โรงอาหารอ่ะไปกันนะ” เด็กผู้ชายตรงหน้ายิ้มตอบจนตาปิด แก้มย้วย ๆ น่าบีบเสียจริง “สุกินข้าวกับน้ำนะ”


   “แต่สุไม่มีเงิน” ผมพูดเสียงอ่อย “แม่ไม่ได้ให้เงินสุไว้”


   น้ำส่ายหัวหวือ “ไม่เป็นไร น้ำเอาข้าวกล่องมา แม่ทำข้าวกล่องให้น้ำ” ผมเห็นเจ้าตัวลุกลี้ลุกลนหยิบกล่องข้าวมาวางไว้ตรงหน้า “กินด้วยกันก็ได้ เดี๋ยวหยิบช้อนจากโรงอาหารเอานะ”


   พอผมคิดจะปฏิเสธ น้ำก็ไม่ยอมอยู่เหมือนเดิมจนสุดท้ายผมก็โดนจูงมือไปโรงอาหารอย่างไม่รังเกียจ ผมนิ่ง มองผิวขาวของหลังคอจนไปถึงเสื้อนักเรียนสีขาวสนิทที่ผลุบโผล่ให้เห็นต้นแขนด้านในเพราะแขนเสื้อที่กว้างกว่าปกติ..


   ปกติผิวของน้ำก็ขาวอยู่แล้ว.. แต่ด้านในขาวกว่าอีก


   ผมเม้มปากเข้าหากัน ภาพที่แม่กับผู้ชายแปลกตายังคงวนเวียนในหัว และเป็นครั้งแรกที่มันสลัดออกไปไม่ได้เสียทีเมื่อผมมองผิวขาว ๆ ของน้ำ




...................................................................................................


   “ไอ้หัวขโมย !”


   “ขโมย ๆ ! แม่กูเล่าให้ฟังว่ามันไปขโมยของที่ตลาด !”


   “น้ำยังไม่เลิกคบมันอีกเหรอ !”


   “คู่รักคู่ตุ๊ด ! กระเทย ๆ ตุ๊ด ๆ !”



   ผมไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้เลย


   ผมรับรู้ถึงแรงบีบจากฝ่ามือของน้ำที่ยังจับมือผมอยู่แล้วก้มหน้าไม่ไปไหน มันเป็นเรื่องปกติอย่างหนึ่งของพวกเราสองคนไปแล้วที่จะถูกรุมล้อมด่าแบบนี้..


   ส่วนใหญ่.. ก็เพราะผมนั่นแหละ


   บางครั้งตอนไปขโมยของ ป้า ๆ ในตลาดก็เป็นแม่ของเด็กโรงเรียนนี้ ลูก ๆ เขาเลยโดนกรอกหูแล้วมาล้อตาม อีกอย่างผมไม่ได้ขโมยแค่ครั้งหรือสองครั้ง ผมทำแบบนี้เกือบทุกเดือน เปลี่ยนตลาดไปเรื่อย ๆ อีกนั่นแหละ


   ผมมองน้ำ เขาตัวสั่นเหมือนระงับอาการโกรธไว้


   “ไม่ได้ขโมยสักหน่อย !! ไม่ใช่ตุ๊ดด้วย !!”


   แล้วนี่ก็เป็นอีกครั้งที่น้ำตะโกนแบบนี้ ส่วนผมก็ได้แต่กระตุกมือน้ำไว้แล้วสั่นหัว


   “ช่างเถอะ หาที่กินข้าวใหม่กัน”


   ผมได้ยินเสียงร้องโห่อยู่รอบด้าน คราวนี้เป็นฝ่ายดึงมือน้ำที่น้ำตาร่วงเผาะ ๆ ก้มหน้าสะอื้นแล้วไปหาที่ทานข้าวอื่นที่ไม่ใช่โรงอาหารแทน


   ผมเดินกุมมือน้ำไปอีกฝั่งหนึ่งของโรงอาหารที่มักมีแต่ผู้หญิงจับกลุ่มนั่งกันอยู่ การติฉินนินทาหรือซุบซิบเงียบ ๆ ดีกว่าการรุมล้อมด่าทอแบบนั้นเมื่อผมอยู่กับน้ำ


   เขายิ้มออกมาเหมือนคนชื้นใจ น้ำไม่ชอบเสียงดัง ๆ และไม่ชอบเป็นจุดสนใจอีกด้วย จึงไม่แปลกที่เขาเริ่มผ่อนคลาย


   “กินข้าวกันนะ” ผมพูด วางกระเป๋าลงแล้วมองน้ำที่หยิบกล่องข้างออกมา พยายามไม่ให้เขาสังเกตรอบตัวหรอก..


   เพราะถ้าสังเกต.. น้ำจะรู้ ว่ามีสายตาหลากหลายคู่จ้องมองมาทางเรา


   เป็นสายตาของพวกผู้หญิงที่เหมือนรุมประณามอยู่กลาย ๆ แล้วหันไปซุบซิบกัน โชคยังดีนักที่น้ำไม่ได้เห็นแล้วเริ่มใช้ช้อนสั้น ๆ ตักข้าวกับแกงเขียวหวานของโปรดเข้าปาก


   “แม่น้ำทำแกงเขียวหวานอร่อย” เสียงเล็ก ๆ ชื่นชมฝีมืออาหารแม่ตัวเองทำให้ผมที่เท้าคางมองอยู่ถึงกับยิ้ม “แกงเขียวหวานของแม่ต้องกินกับไข่ต้มด้วย สุชอบกินไหม”


   “สุไม่ค่อยได้กินไข่ต้มกับแกงเขียวหวาน” ผมสารภาพ หลุบตามองช้อนคันเล็ก ๆ ที่ตักชิ้นไก่และน้ำแกงอยู่ “สุไม่ค่อยมีข้าวกินหรอก”


   “อ้าว แม่ของสุไม่ทำให้เหรอ”


   ประโยคนั้นทำให้ผมได้แต่ยิ้มเยาะ


   “สุทำเองทุกอย่างแหละน้ำ” ฝ่ามือผอม ๆ ยื่นเข้าไปขยี้หัวคนจ้ำม้ำ “หุงข้าวเอง หาอาหารเอง ทำทุกอย่างเลย ต้มไข่ก็ต้มได้นะ”


   “สุทำยังไงถึงหาอาหารเองได้”


   “สุก็หาเงินสิ” จากการ.. ขโมยอ่ะนะ


   “งั้นวันนี้สุได้กินอะไรรึยัง” ผมสั่นหัว เห็นอีกฝ่ายก้มมองชามข้าว ตักไก่กับไข่ต้มและน้ำแกงจนชุ่มในคำเดียวพร้อมยื่นมาตรงหน้าผม


   “กินเลย”


   “แต่มันข้าวน้ำนะ”


   “น้ำบอกให้กินไง เดี๋ยวแบ่งกับน้ำก็ได้” เขาพูดเสียงดุ ดวงตากลม ๆ โต ๆ จ้องผมอย่างไม่ลดละ “นี่ ถ้าไม่กินน้ำจะเคืองแล้วนะ”


   ผมยิ้มออกมา อ้าปากงับช้อนที่อีกฝ่ายยื่นมาจ่อหน้า รสชาติของไก่ น้ำแกงเขียวหวาน และไข่ต้มเข้าด้วยกันพาลให้ผมชวนท้องร้องโครกได้อีกครั้งหนึ่ง น้ำหัวเราะร่วน ตักคำถัด ๆ ไปมจ่อปากสลับกับกินเองต่อ


   น้ำคงไม่รู้หรอก ว่าตอนนั้นเป็นครั้งแรก..


   ที่ทำให้ผมรับรู้ ถึงรสชาติของน้ำใจ



...................................................................................................



   ในวันต่อมา กระเป่านักเรียนของน้ำกลับตุง ๆ ใหญ่ ๆ มากกว่าปกติจนผมต้องร้องทัก อีกฝ่ายดันยิ้มซน ไม่ยอมบอกอะไรจนกระทั่งถึงช่วงพักกลางวันน้ำจึงเฉลย..


   ข้าวกล่อง.. สองกล่อง


   “น้ำไปเล่าเรื่องสุให้แม่ฟัง” ผมก้มมองกล่องข้าวสีฟ้ากับสีขาวที่เป็นสไตล์เรียบ ๆ ในมือ “แม่เลยบอกว่า ต่อไปนี้จะทำกับข้าวให้สุกินด้วย”


   “น้ำ..”


   “มีนมด้วย สุจะได้โต ๆ” คนอ้วนหัวเราะคิกคัก ยื่นกล่องนมจืดมาให้ผม “ดื่มเยอะ ๆ นะ สุผอมจนน้ำทับสุตายได้แล้ว”


   ผมมองใบหน้าใส เขายังคงยิ้มให้อยู่ แล้วตระหนักถึงแสงนำทางที่อาจารย์เคยสอนในวิชาพุทธศาสนา

   ผมไม่สามารถเชื่อถือสิ่งที่ไม่มีตัวตนแบบนั้นได้ หรือพิสูจน์ไม่ได้ แต่ถ้าแสงนำทางของชีวิตมีจริง..


   น้ำ.. คงเป็นหนึ่งในนั้น

   



   ชีวิตของผมดำเนินมาเรื่อยเปื่อยโดยมีน้ำเป็นเพื่อนคุยอยู่ที่โรงเรียนแค่คนเดียวเท่านั้นกระมั้ง เขาไม่สนใจคำด่าทอของใคร สามารถคุยกับทุกคน แถมยังอัธยาศัยดีอีกด้วย


   จนกระทั่งผมขึ้นชั้นมัธยมปีที่ 2 ระหว่างนั่งอ่านการ์ตูนที่น้ำหยิบมาให้ กลับมีกลุ่มผู้ชายที่คาดว่าเป็นคนรู้จักต่างห้องเดินกรู่เข้ามาสองสามคน


   “เฮ้ย.. มึงอ่ะ ไอ้สุเปล่าวะ”

ผมขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียกที่ได้ยิน  “ใช่”

“ใครอ่ะสุ คนรู้จักเหรอ” น้ำถามกลับมาติด ๆ ตอนนี้น้ำไม่ได้ดูอ้วนจ้ำม้ำเหมือนเมื่อก่อนแล้ว น้ำสูงขึ้น และดูเหมือนคนตัวเล็กตามปกติ ส่วนผมเองก็เริ่มมีเนื้อมีหนังขึ้น แล้วพอเทียบกัน.. น้ำกลับกลายเป็นคนที่ตัวเล็กกว่าผมซะงั้น


   “ไม่รู้จัก” ผมสั่นหัว ตอบกลับตามความจริง “มีอะไร ?”


   ผู้ชายแปลกหน้ายิ้มเยาะ


   “แม่มึงอ่ะ..” ประโยคนี้ทำให้ผมเผลอกลั้นหายใจ “ขายตัวใช่รึเปล่าวะ”


   เลือดในกายของผมเย็นเฉียบเหมือนถูกแช่แข็ง ความลับอีกหนึ่งอย่างที่ปกปิดเอาไว้ไม่ให้ใครรู้..ปรากฏออกมาอย่างง่ายดาย


   “กูเห็นแม่มึงไปเดินเตร่ขอให้คนแถวตลาดซื้อมัน” เสียงนั้นยังเอ่ยต่อเรียบ ๆ “สามร้อย... แม่มึงมีค่าแค่สามร้อยว่ะ”


   “...”


   “ไม่ตอบแบบนี้ก็คือเรื่องจริง ?”


   “สุอย่าไปฟัง” น้ำโพล่งขึ้นมาคำแรก แล้วดันแขนผมไปด้านหลัง “มึงอย่ามายุ่งกับพวกกู ไม่มีใครขายอะไรทั้งนั้นแหละ”


   “เฮ้ย เมียมันปกป้องด้วยเว้ย !!” ผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นเริ่มหัวเราะลั่น หันไปสบทบกับกลุ่มเพื่อน “หรือว่าเป็นผัววะ.. แต่หน้าอย่างมึงนี่เมียใช่ปะ”


   “อย่ามาสันดานต่ำแถวนี้ กูไม่ต้อนรับ” คนตัวเล็กกว่าพูดเสียงแข็ง ส่วนผมก็เริ่มดึงสติกลับมาได้แล้ว


   “เอ้า มึงไม่รู้หรือไง ว่าไอ้สุของมึงต่ำกว่าหลายเท่า”


   “มันขโมยของในตลาดเว้ย ! ขโมยทุกเดือน ! ย้ายตลาดไปเรื่อย สุ่มตลาด แล้วแม่มันก็เป็นคนขายตัว แถมถูกพ่อทิ้งอีก !”


   “เออ ใช่ แม่กูก็บอกเหมือนกัน ว่าไอ้สุเป็นเด็กขี้ขโมย”


   “แม่มันขายตัวด้วย สงสัยรอลูกโตก่อนมั้ง แล้วค่อยให้ลูกขายต่อ”


   “แม่ขายตัว ลูกขี้ขโมย ไม่แปลกเลยว่ะทำไมถูกพ่อทิ้ง”


   เสียงก่นด่าและล้อเลียนเริ่มดังขึ้นรอบ ๆ ตัวผมจนรู้สึกเคว้ง ผมเม้มปากเข้าหากันแน่นอย่างอดกลั้น..ไม่ปฏิเสธสิ่งใดทั้งนั้น..



   เพราะว่า.. มันคือความจริง




ผัวะ !!!





   “ไอ้พวกสันดานหมา !!!!!”




   สติของผมกลับมาอีกครั้งเมื่อน้ำ คนที่ทั้งตัวเล็กกว่าผมและเป็นเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตที่ทำให้ผมอยู่ต่อได้ตะโกนลั่น กำปั้นล้วน ๆ ต่อยเข้าที่แก้มซีกซ้ายของเด็กผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นทันที


   “อ้าว ปกป้องแล้วว่ะ สุ มึงจะเป็นไอ้ตุ๊ดแบบนี้เหรอ”


   “ผัวประสาอะไร๊ ให้เมียปกป้อง โคตรหน้าตัวเมียว่ะ”


   “คู่รักแม่งปกป้องกันแล้ว ๆๆ”


   “ไม่ใช่หัวขโมย !! ไม่ใช่ขายตัว !! ไม่ใช่ตุ๊ดด้วย ไอ้เหี้ย !!!”


   น้ำตะคอกออกมาเสียงดัง ก่อนที่เจ้าตัวจะล้มคว่ำเมื่อถูกหมัดของคู่กรณีสวนกลับเข้ามาอีก ผมรีบถลาเข้าไปหา หันขวับจ้องมองใบหน้าของผู้ชายคนนั้นทันที


   “มึงต่อยกู !!!! ไอ้ตุ๊ด !!!”


   “แล้วมึงมาหาเรื่องกูก่อนทำไมล่ะ !!!!!”


   “น้ำ พอเถอะ ไปทำแผลกัน” ผมรีบปราม คว้าแขนของน้ำที่ดิ้นพล่านไม่ยอมอย่างคนจะเอาเรื่องให้ได้ “เชื่อสุ ไม่ต้องไปสนใจพวกนั้น”


   “แม่งหนีว่ะ !!! หรือจะกลับไปฟ้องพ่อฟ้องแม่ล่ะ ไอ้ลูกพลเอกไร้น้ำยา !!!”


   “เหี้ยไร !!!! สุ !!! ปล่อยน้ำ !!! มันด่าสุนะ มันด่าสุ !!! มันลามไปถึงแม่สุด้วย !!!”


   ผมเม้มปาก ดึงแขนน้ำออกมาจากความชุลมุนในห้องจนไปที่บันไดเก่า ๆ ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน แล้วถอนหายใจดังเฮือก พาน้ำนั่งโดยไม่สนใจกลิ่นอับชื้นจากความสกปรกและแสงแดดที่เข้าไม่ถึง


   “น้ำ เจ็บไหม” ผมถาม เห็นเจ้าตัวก้มหน้าจมูกแดง ๆ อยู่ “น้ำ.. พูดกับสุหน่อย”


   “สุห้ามน้ำทำไม”


   “สุไม่อยากให้น้ำเจ็บตัว” ได้ยินเสียงฮึดฮัดจากคนที่แก้มบวมไปข้างหนึ่งเลย “เรามาคุยกันก่อนนะน้ำ พวกนั้นก็เหมือนหมาเห่า ไม่ต้องสนใจหรอก”


   “สุก็ไม่สนมาตั้งแต่ประถม !” น้ำกระชากเสียงใส่ผม เป็นครั้งแรกเลยล่ะที่เขาทำตัวแบบนี้..


   แต่นั่น.. ก็เพราะผมทั้งนั้น


   “สุไม่รู้ว่าจะเถียงไปทำไม”


   “แต่น้ำไม่ชอบให้สุนิ่งแบบนี้” อีกคนกอดเข่าแน่น หัวไหล่เล็ก ๆ สั่นคลอนสลับกับสะอื้นฮัก ๆ “สุไม่ใช่ทุกอย่างที่คนพวกนั้นพูดเลย”


   “หือ ?”


   “น้ำรู้จักสุมาเป็นปีแล้วนะ สุไม่ใช่หัวขโมย” เจ้าตัวสั่นหัว ทำให้ผมนิ่งไป แล้วพูดตอบเสียงเรียบ


 “แล้วถ้าสุขโมยจริง ๆ ล่ะ ?”


   “น้ำก็ไม่เชื่อ สุเป็นคนดี” น้ำเบะปากใส่ผมอีกรอบ “น้ำเถียงให้สุแล้วเพราะน้ำรู้ว่าสุไม่ใช่ขโมย”



   ความรู้สึกผิดเกิดขึ้นเล็ก ๆ ในใจผม



   “ทำไมน้ำถึงเถียงตอนเป็นตุ๊ดล่ะ”

   “เพราะพวกเราไม่ใช่ตุ๊ด”

   เขาพูดเสียงดังขึ้นกว่าเดิมเหมือนโกรธ ๆ ส่วนผมก็พยักหน้าหงึก ใช้จังหวะกลั้นลมหายใจไม่นานเพื่อถามต่อ

   “น้ำเถียงให้สุเรื่องแม่ เพราะน้ำเชื่อว่าแม่สุไม่ได้ทำแบบนั้นใช่ไหม” ผมเห็นเขาน้ำตาไหลพราก ผงกหัวหงึก ๆ อีก

   “ใช่..”

   ประโยคนั้น.. ทำให้ผมยิ้มบางออกมา


   และถามกลับในสิ่งที่สงสัย



   “แล้ว.. ทำไมน้ำไม่เถียง ว่าเราไม่ใช่คู่รัก”


   ผมพูด จ้องดวงตาอีกฝ่ายที่เบิกกว้าง แก้มที่ดูนุ่มนิ่มขึ้นสีแดงจัด


   น้ำไม่ได้ตอบผม แค่ลังเล แล้วก้มหัวลงมองพื้น กระชับกระเป๋าที่บรรจุข้าวกล่องเอาไว้


   เขาไม่ตอบ


   “น้ำชอบสุเหรอ”


   นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมอีกคนถึงชอบชวนผมกินข้าวนักกินข้าวหนา คอยแบ่งข้าวกล่องให้ผม ซ้ำยังช่วยอยู่ด้วยกันมาตลอดด้วย


   “อือ..” เสียงครางในลำคอโต้ตอบกลับมาทั้งที่ยังคงมีคราบน้ำตาเกาะตามแก้มเนียน ผมยิ้ม ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยหยาดน้ำที่เกาะอยู่อย่างทะนุถนอม “สุ... สุไม่รังเกียจเหรอ”


   “ไม่เลย” ผมสั่นหัว โน้มตัวเข้าไปใกล้เพื่อมองใบหน้าน้ำให้ชัด เขาเป็นผู้ชายที่น่ารักจริง ๆ “ปกติคนที่เขาชอบกันทำอะไรบ้าง”


   “ชอบกัน..” น้ำทวน แก้มแดงเปล่งปลั่งเหมือนมะเขือเทศสุก “ก็..กอด..” จบคำพูด สองแขนผอม ๆ ของผมโอบกอดรอบร่างอีกฝ่าย


   “แล้วอะไรอีก”


   ผมเห็นศีรษะเล็ก ๆ ก้มจนปลายคางชิดกับอก “ห..หอมแก้ม”




ฟอด




   “อะไรอีก” น้ำลุกลี้ลุกลน

   “จ.. จูบ”

   ผมหัวเราะ ไม่ยอมทำตามทั้งที่เด็กตัวจ้ำม้ำหลับตาแน่นแล้ว “รอโตกว่านี้แล้วจะขอจูบ”


   “อะไรอ่ะ..”


   แล้วผมก็โดนต่อยเบา ๆ ที่หัวไหล่ จากนั้นพวกเราก็เริ่มทานข้าวกลางวันที่ควรจะทานนั่นแหละ


   ผมยิ้ม มองน้ำที่เริ่มสดใสขึ้นมาหน่อยหนึ่งแล้ว สลับกับทบทวนใบหน้าของคนที่ได้ล้อเลียนผมกับน้ำ ต่อยหน้าน้ำ และทำให้น้ำร้องไห้


   ริมฝีปากตัวเองกระตุกขึ้นมุมปากเมื่อคนข้างกายไม่ทันสังเกต



   ..


   หึ


   ไอ้พวกนั้น..



   จะเอาคืนให้สาเลยล่ะ
   
...................................................................................................



StraWBerry_ImIn

ตอนแต่งได้แต่คิดว่าจะมีคนอ่านไหมน่า
อย่างไรก็ตาม หากใครแวะมาถึงตรงนี้ ก็ขอบคุณค่ะ  :mew3:

เจอกันในพาร์ทสองเร็ว ๆ นี้ค่ะ

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ถ้าน้ำรู้เรื่องเกี่ยวกับสุนี่จะยังหนักแน่นแบบนี้ไหมน้อ

ออฟไลน์ ดาวลูกไก่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
รอดูการเอาคืนของสุค่าา เดาไม่ออกเลยว่าจะใช้วิธีไหน น้ำน่ารักก มีน้ำใจจังเลยลูกก แต่กลัวใจตอนรู้ความจริง ว่าจะเป็นยังไง ก็อุตส่าห์เถียงนี่นะ ว่าไม่จริง

ออฟไลน์ a.amyw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้ำน่ารักจัง อยากอ่านตอนโตกว่านี้อีกอะ ชอบๆๆ รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
รันทดจริงนะแต่ดีที่รักกับน้ำ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
แล้วถ้าน้ำรู้ความจริงจะรู้สึกยังไงอ่ะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ชีวิตของสุนี่..เกินบรรยาย  :sad11:

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
โอ้ สงสารสุอะ //ลูบหัว น้ำน่าระก เด็กดีๆ
ถ้าน้ำรู้ว่าจริงๆแล้วมันจริงอย่างที่พวกนั้นพูด น้ำจะยังรับได้ไหม...
เอาใจช่วยน้าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก [ 1 / 3 shot :: 30 / 12 / 60]
« ตอบ #9 เมื่อ: 30-12-2017 22:21:20 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ขอให้ชีวิตของสุดีขึ้นกว่านี้... :hao5:

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ลูกแมวจนตรอก 2


   ในช่วงบ่ายของวันถัดมา กระเป๋านักเรียนสี่ใบถูกโยนทิ้งลงในคลองหลังโรงเรียน ผมยืนมองวัตถุสีดำสนิทลอยคอไปตามกระแสน้ำ ทำตัวเป็นคนดีด้วยการเทข้าวของเครื่องใช้ไปทิ้งในถังขยะไม่ปล่อยเพื่อคนพวกนั้นจะได้ไม่ต้องไปหาซื้อใหม่.. แต่ต้องคุ้ยขยะหาล่ะนะ



   สมแล้วล่ะกับคนที่ทำแบบนั้นกับน้ำ


   แต่นี่มันแค่เริ่มต้น


   ผมโยนข้าวของชิ้นสุดท้ายลงถังขยะเมื่อได้ยินเสียงกริ่งบ่งบอกเวลาของคาบถัดไป แล้วก้าวเท้ากลับไปที่ห้องเรียนตัวเองแทนทันที



   เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจในห้องยังดังต่อเนื่องไม่หยุดเมื่ออาจารย์ประจำวิชายังมาไม่ถึง ผมกวาดสายตามอง เห็นน้ำยืนหันซ้ายขวาทำหน้ากังวลใจอยู่ก็เดาออกเลยว่า.. ตามหาใคร


   “สุ” เขาเรียกผม โบกมือหยอย ๆ ต่อ “ไปห้องน้ำนานจัง”

   “สุปวดท้อง” ผมพูด นิ่วหน้าแล้วเอามือกุมท้องตัวเอง “เลยเข้าห้องน้ำนานไปหน่อย”

   “ไหวไหม ไปห้องพยาบาลเปล่า”

   “สุโอเค”

   “ถ้าไม่ไหวต้องบอกนะ เดี๋ยวน้ำไปเป็นเพื่อน”

   “ไม่เอาไปเป็นเพื่อนดิ..”

   น้ำชะงัก

   “...”

   “ไปเป็นแฟนแทนได้เปล่า..”


   แล้วแก้มขาว ๆ ก็ขึ้นสีเลือดฝาดต่อ หันกลับไปทางอื่นแทนเลย


   ‘ตึ่ง ติ้ง ติ๊ง ใครพบเห็นกระเป๋าของเด็กชาย.....’



   ผมเลิกคิ้วเมื่อได้ยินเสียงประกาศเสียงตามสายของโรงเรียน นาทีแรกเต็มไปด้วยความสงสัย แต่นาทีที่สองกลับต้องพยายามกลั้นยิ้มจนปวดแก้ม..

   พวกมันรู้แล้วว่ากระเป๋าหายไป

   แต่คงอีกสักพักถึงจะสืบได้ว่าใครเป็นสาเหตุ

   “สุเป็นอะไร ปวดท้องเหรอ”

   เสียงใส ๆ ของน้ำดึงสติผมให้กลับมาอยู่กับตัว สิ่งที่ทำคือการสั่นศีรษะตัวเองช้า ๆ

   “สุกำลังคิดต่างหาก”

   “สุคิดอะไร”

   “คิดว่าน้ำน่ารักดี”

   “หยอดอีกแล้ว !” ผมถูกฝ่ามือเล็ก ๆ ตีดังเพี๊ยะ เจ้าตัวจะหันกลับไปเรียน โดยไม่ลืมพึมพำตอบกลับมาที่ทำให้อารมณ์ดีเสียยิ่งกว่าสะใจกับเรื่องโยนกระเป๋าเรียนคนอื่นทิ้งซะอีก

   ..

   “สุ.. ก็น่ารักเหมือนกัน”

   
...................................................................................................


   เย็นวันนั้นผมไม่ได้กลับบ้านกับน้ำอย่างที่เจ้าตัวชวน

   ร่างของตัวเองยืนอยู่หน้าห้องประจำชั้นของเด็กมัธยมกลุ่มที่มารบกวนผมและน้ำในวันนั้น สายตาตัวเองทอดมองด้านใน กลุ่มนักเรียนอีกสี่คนยังนั่งล้อมวงกันอยู่แล้วสบถคำหงุดหงิดกับการที่กระเป๋าหายไป

   และนั่น.. คือฝีมือของผมเอง

   “ไอ้ลูกคนขายตัวมาว่ะ”

   “มาหาใครมึง”

   “หรือมาขาย ? หน้าอย่างมึงให้ฟรีก็ไม่เอา”

   ผมกัดฟันกรอดเมื่อได้ยินเสียงคำด่าทอดังต่อ สายตาจ้องเขม็งไปยังกลุ่มผู้ชายแต่ละคนแล้วเริ่มไล่รายชื่อจากความทรงจำ

   คนแรก คือ เดช ผู้ชายที่บอกทุกคนว่าแม่ผมเป็นคนขายตัว

   คนที่สอง คือ ตา ผู้ชายที่คอยสนับสนุนเดชอยู่ตลอด

   คนที่สาม คือ ลม ผู้ชายที่เหมือนทำหน้าที่เดียวกับตา

   และคนที่สี่ คือ ปัง.. ผู้ชายที่พูดน้อยที่สุด มันไม่ได้รุมผม มันแค่คอยเดินตามเดช ตา ลม แล้วเงียบ ๆ กดมือถืออยู่แบบนั้นนั่นแหละ

   “ควรหากระเป๋ากันก่อนไหม” ปังพูดเสียงเรียบ เงยหน้าขึ้นจากมือถือปรายตามองผมไม่กี่วิแล้วหันไปมองเพื่อนกลุ่มตัวเองต่อ

   “เฮอะ ไอ้หัวขโมยมันก็มาถึงนี่แล้วไงวะ” เดชพูด หัวเราะหึออกมาอีกหน “ทนไม่ไหวหรือไงที่เห็นกูใช้กระเป๋าดีกว่ามึงน่ะ”

   ดูพวกมันคิดสิ

   ใครกันล่ะจะขโมย

   แต่ผมไม่พูดอะไรหรอก

   ผมเห็นเดชก้าวฉับ ๆ มาตรงหน้า พร้อมกับตาและลม มันจ้องผมเขม็งเหมือนจะกินเข้าไปได้ทั้งตัวแล้ว เดชเป็นผู้ชายตัวสูงกว่าผมอยู่ประมาณห้าถึงหกเซน ฯ ผิวออกไปทางคล้ำ ๆ หน่อยไม่ต่างจากเด็กที่ตากแดดตากลมมานาน เดาว่ามันคงเคยออกไปช่วยงานแม่ตัวเองที่ตลาดเลยได้สภาพผิวแบบนี้มา

   “เอากระเป๋ากูคืนมา” ผมเงียบ จงใจไม่ตอบ แต่ใช้สายตาท้าทายไปแทน “หาเรื่องหรือไงวะ !!!!”

   “จัดมันเลยเดช” เสียงของตาคอยเป่าหูจนพาลให้ผมรู้สึกรำคาญขึ้นมานิดหน่อย “แม่งหาเรื่องมึง”

   “สันดานขี้ขโมยต้องคุยด้วยกำปั้นว่ะ” ประโยคของลมดังขึ้นมาต่อ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมที่ยืนอยู่เคลื่อนไหวไปไหน..

   มันคือความต้องการของผม.. ที่จะทำให้พวกมันโกรธ

   “ตกลงจะคืนไม่คืน” ไอ้เดชขึ้นเสียงอีก “ไอ้เหี้ยสุ !!!!!!”

   “พวกมึงไปบอกให้มันคืน แต่มึงไม่ถามสักคำว่ามันเอาไปรึเปล่า” นั่นไง .. พระเอกพูดน้อยมาแล้ว ไอ้ปัง มันเป็นคนขัดทุกเสียงของพวกมันแทน สายตานิ่ง ๆ ตวัดมองมาทางผม “ตกลงมึงขโมยไปรึเปล่า”

   ผมเหยียดยิ้ม

   “ถ้ากูบอกว่าใช่ล่ะ มึงจะเอาไง ?” ผมจ้องพวกมัน เดชกำมือแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นเหมือนข่มอารมณ์อยู่ “แล้วกูก็ไม่ได้ขโมยไปขายด้วย.. กูขโมยไปทิ้ง ป่านนี้คงประดับคลองหลังโรงเรียนไปหมดแล้วมั้ง”

   “ไอ้เหี้ยมึง !!!!!!”

   “เดช !!!!” เสียงกระชากลั่นของปังยังไม่หมด ผมเห็นมันกดโทรศัพท์สองสามครั้งแล้วเอาเข้ากระเป๋า ก้าวเท้าฉับ ๆ มาตรงหน้า “มึง.. ชื่อไอ้สุใช่ไหม”

   ผมไม่ตอบ เพียงแค่แหงนคอมองหน้ามันไม่วางตา

   “มึงขโมยกระเป๋ากู เดช ตา ลม เอาไปทิ้งใช่ไหม” รับรู้ได้ว่ามันกำลัง ‘โกรธ’ อยู่และคอยย้ำอีกครั้งเพื่อทำให้ตัวเองตั้งสติได้..

   แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ

   ผม.. ต้องการให้พวกมันทุกคน ‘รุม’ ผม

   “ใช่”  ผมจงใจกดเสียงลงต่ำ สายตาท้าทายไม่ปิดบัง “กูเป็นคนเอากระเป๋าพวกมึงทุกตัวไปทิ้งเอง..”


ผัวะ !!


   หมัดล้วน ๆ ของไอ้เดชคนเดิมกระแทกเข้าซีกข้างซ้ายของผมทันทีจนร่างกายตัวเองเซลง จากนั้นก็.. เหมือนรุมยำตีนนั่นแหละ ทั้งไอ้เดช ไอ้ตา ไอ้ลม มันเข้ามาเหมือนหมารุมกัด..

   ผมขดร่างตัวเองเอาไว้ ปล่อยให้พวกมันรุมไป ได้ยินเสียงด่าทอต่าง ๆ นานาจนนึกขำ แต่ความเจ็บปวดที่มากขึ้นมันทำให้ผมหัวเราะไม่ออก

   ผมหัวเราะหึ ไม่ขยับตัวตอบโต้ทั้งนั้น จนพวกมันเดินถ่มน้ำลายใส่หน้า และหันหลังกลับทั้งกลุ่มอย่างหงุดหงิด

   ในวินาทีนั้นผมจึงหยัดร่างกายที่บาดเจ็บขึ้นยืน และหยิบคัตเตอร์ในกระเป๋ากางเกงออกมา

   ใครที่คิดจะทำอะไรน้ำ..

   มันต้องได้รับโทษอย่างสาสม



...................................................................................................

   ผมพาร่างโซซัดโซเซมาที่บ้านขนาดไม่ใหญ่มากหลังหนึ่ง สถานที่คุ้นเคยที่ผมมักจะมาส่ง ‘น้ำ’ ก่อนจะกลับจากบ้านตัวเองเป็นประจำ ด้านหน้ามีสวนเล็ก ๆ ตกแต่งตาสไตล์ยุโรปอย่างลูกคนรวยก็ไม่ปาน

   น้ำเป็นเด็กที่เรียกได้ว่ารวยนั่นแหละ แต่เจ้าตัวชอบจะทำตัวมัธยัสถ์เสียมากกว่า นั่นคือเหตุผลว่าทำไมน้ำถึงน่ารักนักน่ารักหนา

   ผมก้มหน้ายืนอยู่หน้าบ้าน เม้มปากเข้าหากันแล้วกดกริ่งที่ตระหง่านอยู่ตรงหน้าแทน

   “ตายแล้ว ! นั่นใช่เพื่อนน้องน้ำหรือเปล่าคะ !” เสียงตื่นตระหนกของแม่เลี้ยงน้ำดังขึ้นมาทำให้ผมช้อนตาขึ้นมอง ผงกหัวหงึก ๆ ลงช้า ๆ “พี่จำได้ หนูชื่อสุใช่ไหม น้ำเลยเล่าให้พี่ฟังอยู่ ตอนนี้น้องน้ำทำการบ้านอยู่นะ เดี๋ยวพี่เรียกให้”

   “แต่มันจะรบกวนน้ำไหมครับ..”

   “ไม่เลยค่ะคุณ เมื่อเย็นน้องน้ำเดินเศร้า ๆ กลับมาคนเดียว พี่ก็นึกว่าทะเลาะอะไรกันกับคุณสุซะอีก ว่าแต่เนื้อตัวไปทำอะไรมาคะเนี่ย เข้ามาก่อนเร็ว”

   ผมยกยิ้มกับตัวเองเงียบ ๆ เอ่ยขอบคุณพลางเดินเข้าไปด้านในบ้าน



   บ้านของน้ำกว้างกว่าบ้านซ่อมซ่อของผมหลายสิบเท่า ทั้งสะอาดกว่า ทั้งดูดีมีระดับกว่า อบอุ่นกว่าอีกต่างหาก พี่เลี้ยงคนนั้นบอกจะเรียกน้ำให้ และไม่นานเด็กที่ผมถามหาก็เดินลงมา เขาทำตาโต วิ่งเตาะ ๆ มาหาผม

   “ส.. สุ ใครทำอะไรน่ะ รีบขึ้นมาห้องน้ำก่อนนะ” เจ้าตัวว่า วิ่งไปหยิบแอลกอฮอล์ล้างแผลกับสำลีให้วุ่น “น้ำทำแผลให้ ขึ้นห้องก่อน !” ผมเดินตามคนตัวเล็กกว่าไปแล้วเข้าไปนั่งอยู่พื้นห้องนอนของน้ำ

   ห้องนอนของน้ำไม่ได้กว้างมากอย่างที่ผมคิด เป็นการตกแต่งโทนสีฟ้าขาวเรียบ ๆ มากกว่า มองดูแล้วสบายตาชวนง่วงพอควร ตรงผนังมีกรอบรูปติดเอาไว้ด้วย ผมระบายยิ้มออกมาเมื่อพบว่ามันเป็นกระดาษที่.. ผมวาดไว้สมัยเด็กและให้น้ำไป

   “ยังเก็บไว้อยู่เนอะ”

   น้ำหน้าร้อนผ่าว หยิบสำลีมาจุ่มกับแอลกอฮอล์จนชุ่มเก้อเขินแทน “คนเจ็บตัวเงียบเลย.. พอทำแผลเสร็จบอกน้ำด้วยว่าไปโดนอะไรมา”

   ผมหลุบตามองตามปลายนิ้วเล็ก ๆ และสำลีที่กดลงมาบริเวณแผลตรงมุมปากอย่างทะนุถนอมราวกับกลัวเจ็บ ดวงตากลมโตของน้ำไล่ตามรอยแผลและเลื่อนขึ้นไปถึงปลายคางอีก..

   พอมาดูใกล้ ๆ แบบนี้.. ผมพบว่าน้ำ.. ขาวมากจริง ๆ

   น้ำในตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำสนิทและกางเกงขาสั้นอย่างคนใกล้นอน ซึ่งนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เห็นผิวขาววับแวบ..

   รวมถึงยอดอกสีทับทิมที่โผล่ออกมาไม่กี่วินาทีตอนเจ้าตัวก้มหน้า ๆ เงย ๆ กับการทำแผลจนผมเผลอกลั้นหายใจ
..

   “สุ..” คนตัวเล็กกว่าเรียกชื่อผม เขาถอยออกเล็กน้อย “เจ็บรึเปล่า ?”

   “ไม่เลย.. น้ำมือเบามาก..” ผมพึมพำตอบกลับ “แล้ว..พ่อแม่ยังไม่กลับเหรอน้ำ..”

   “พ่อกับแม่ไปงานเลี้ยงที่ทำงานน่ะ เห็นว่าจะค้างคืนด้วยเลยไม่กลับ” น้ำนำสำลีที่ใช้แล้วไปทิ้งสลับกับเก็บของลงกล่องปฐมพยาบาล “สุต่างหาก.. เกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ็บตัวแบบนี้..”

   พอเขาพูดมาเช่นนั้น.. ลมหายใจของผมถึงกับสะดุดไป..

   สายตาของน้ำเหมือนวิงวอนให้บอกกันอยู่

   “ไม่ยอมกลับบ้านกับน้ำ.. แถมยังเจ็บตัวแบบนี้มาอีก” เสียงของอีกคนกระท่อนกระแท่น “น้ำ.. เป็นห่วงนะ”

   ผมยิ้มออกมาบาง ๆ

   ก้มหน้าลงแล้วเม้มปากเข้าหากันแทน

   “สุ.. เป็นอะไร”

   “น้ำเคยถามสุใช่ไหม .. ว่าทำไมไม่ยอมเถียงเรื่องพวกนั้น” คนตรงหน้าผมเหมือนถูกกดพอร์ชค้างไว้ แล้วผงกหัวลงช้า ๆ  “โดยเฉพาะเรื่องแม่.. สุเถียงพวกเขาไม่ได้เลย”

   ใบหน้าที่ขาวอยู่แล้วแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือก

   “ทำไมเหรอ.. เกิดอะไรขึ้น”

   หากนี่คือการแสดง

   ผมคงเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม

   ผมจงใจใช้ความรู้สึกตัวเองที่ฝังลึกอยู่ในอกมานานนับสิบปีเป็นตัวขับกล่อมอารมณ์ให้กลายเป็นหยดน้ำที่ขอบตา

   ริมฝีปากตัวเองเผยรอยยิ้มบาง

   “สุโดนพวกคนที่มาล้อเราคราวนั้นลากไปต่อย” ผมสารภาพเสียงเบา ขณะที่น้ำดูทำอะไรไม่ถูกแล้ว “สุขอโทษที่ไม่ได้บอกน้ำ แต่สุไม่อยากให้น้ำเจ็บตัว..”

   “เขาทำร้ายสุ ! พวกนิสัย..เหี้ย” คำหลังดูน้ำจะพูดออกมาเบาที่สุดเท่าที่พอจะทำได้ เหมือนไม่อยากให้ผมได้ยินคำหยาบหลุดออกมาจากปากเขา

   “ไม่เป็นไรหรอกน้ำ.. ช่างเถอะ”

   “แต่เขารุมด่าสุเรื่องแม่ด้วยนะ มันเกินไปแล้ว” ประโยคนั้นทำให้ผมผงะ ยิ้มเจื่อนจนรอยยิ้มเกือบจางหายไป “.. สุ ?”

   “..ถ้าบอกตอนนี้ น้ำอาจจะรังเกียจสุนะ” เสียงของตัวเองเบาลงไปกว่าเดิม ก้มหน้าลงจ้องพื้น “แต่.. เรื่องแม่ของสุ มันคือเรื่องจริง.. น้ำ”

   คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าผมนิ่งงัน

   “แม่ของสุขายตัวจริง ๆ แต่เขาทำเพื่อสุ” ผมไม่หลุดปากบอกไปแน่ ว่าอันที่จริงก็หาเงินเข้ากระเป๋า ส่วนตัวผมก็ได้แต่วิ่งขโมยชาวบ้านไปทั่วเพราะเงินจากแม่ไม่ถึงปากท้องนี่แหละ “เขาทำให้สุเรียนหนังสืออยู่ได้ถึงทุกวันนี้.. เขาทำให้สุมีข้าวปลาอาหารให้กิน”

   “สุ..”

   “เขารักสุมาก” เห้อม จริง ๆ แม่ผมไม่สนใจผมหรอก “แต่พ่อกับแม่ของสุเลิกกันไปแล้ว สุมีแม่แค่คนเดียวด้วย.. สุเลยไม่เถียงใคร ยิ่งเถียง แม่จะยิ่งโดนว่า แค่โดนว่าว่ามีลูกเป็นหัวขโมยแม่ก็เสียใจแล้ว”

   ดวงตากลมโตของน้ำสั่นคลอน ดูกังวล

   “เพราะงั้นน้ำไม่ต้องเถียงกับพวกคนปากพล่อย ๆ หรอก” ผมยิ้มเจื่อน ยื่นมือไปแตะบนแก้มเนียนของเด็กตรงหน้า แล้วตัดสินใจหยุดมือเอาไว้ก่อน “..ขอโทษ พอน้ำรู้ความจริงแบบนี้ สุก็ไม่กล้าแตะต้องน้ำแล้ว .. สุดูสกปรกใช่ไหม”

   “อย่าคิดแบบนั้น” อีกคนรีบแก้ เขยิบตัวเข้ามาทำให้ระยะห่างระหว่างเราลดน้อยลงอีก “ไม่จริงเลยสุ คิดไปเองทั้งหมดเลย ไม่สกปรกเลยนะ”

   “น้ำรู้ความจริง.. แล้วไม่รังเกียจสุเหรอ”

   เขาส่ายหัวหวือเหมือนเคย สายตาจ้องจริงจัง จับมือที่เอื้อมไม่ถึงมาแนบแก้ม

   “ถ้า.. ถ้าเป็นสุ อะไร ๆ ก็ไม่รังเกียจหรอก” เสียงหวานตะกุกตะกัก เม้มปากเข้าหากัน แล้วพึมพำแผ่วเบา “ไม่เคยรังเกียจสุเลย.. เพราะ..”

   “เพราะ..?”

   ใบหูของคนตรงหน้าเปลี่ยนสีเป็นแดงระเรื่อ

   “เพราะน้ำรัก..”

   สิ้นเสียง.. ความรู้สึกผิดกลับถาโถมเข้ามาในอกอีกครั้งหนึ่ง ..  ที่โกหกไป

เป็นคำบอกรักครั้งแรกที่ผมเคยได้ยิน และไม่รู้ว่าในชีวิตนี้จะได้ยินจากใครอีกนอกจากผู้ชายตรงหน้านี้ทำให้น้ำตาที่ควรจะเป็นสิ่งจอมปลอมเพราะเรื่องบุพการีรื้นขึ้นขอบตา..

กลายเป็นน้ำตาของผมจริง ๆ ..

   ระยะห่างระหว่างใบหน้าของพวกเราเริ่มลดน้อยลงราวกับใช้เวทมนตร์ เมื่อรู้สึกตัวอีกที ผมสัมผัสถึงลมหายใจร้อนที่จรดอยู่เหนือริมฝีปากของกันและกัน ผมเห็นน้ำปรือตา แล้วหลับลง..

   “วันนี้.. คุณแม่ไม่อยู่เนอะ”

   ผมพูด .. ก่อนที่ทุกสรรพเสียงจะเงียบหายไป..

   เหลือเพียงเสียงหอบครางของคนสองคนเท่านั้น


...................................................................................................



   วันต่อมามีข่าวถึงเด็กนักเรียนที่เข้าโรงพยาบาลเหตุเพราะทะเลาะวิวาท แต่สุดท้ายข่าวก็เงียบหายไปเหมือนกระแสลมแบบที่ไม่มีใครสนใจตามเคย มีได้แต่ก้มหน้าลงเหยียดรอยยิ้มที่พยายามกลัดกลั้นเอาไว้สุดขีด


   จนกระทั่งช่วงเวลาของพักกลางวัน..


   ผู้ชายที่ชื่อ ‘ปัง’ มาเรียกผมออกไปคุย


   มันคือคนที่วิ่งหนีการฟาดฟันคัตเตอร์ของผมได้เป็นคนแรก..

   ผมเดินออกมาที่ข้างบันได จ้องมองร่างสูงกว่าตัวเองด้วยแววตาเรียบนิ่ง เนื้อตัวปังไม่มีบาดแผลใด ๆ เลยด้วยซ้ำ

   “ไง” มันทัก เก็บโทรศัพท์ที่ถืออยู่เข้ากระเป๋า “สมใจมึงรึยัง ที่โดนมึงกรีดหน้าหมด”


   สมใจเหรอ..


   ก็ยังนะ


   เดช ลม ตา เข้าโรงพยาบาลไปเพราะแผลกรีดที่หน้า พวกมันโดนผมข่มขู่ว่าถ้าหากพูดใครทำออกไปจะโดนหนักกว่าเดิมอีกร้อยเท่า และถ้าหากยุ่งกับน้ำแม้แต่ปลายนิ้ว.. ชีวิตของมันก็ต่ำกว่า 300 บาทอย่างที่แม่ของผมเคยตีค่าตัวเอง


   ปังยังไม่พูดอะไร มันจ้องผม เว้นระยะห่างไว้พอสมควรอย่างคนระมัดระวังตัวเอง


   “ยัง” ผมพูดเสียงเรียบ เหลือบมองมันแล้วคลี่รอยยิ้มออก “มึงยังไม่โดนอีกอย่างหนึ่งที่กูอยากให้โดน”

   มันขมวดคิ้ว

   “อะไรของมึง” ผมไม่ได้เอ่ยต่อ แค่หันไปมองปังที่ยืนอยู่

   “มึงจำวันที่กูโดนรุมล้อเรื่องหัวขโมยได้ไหมวะ” แม้มันจะเป็นเรื่องจริง แต่ผมเองก็ไม่ชอบอยู่ดี “แล้วมึงจำได้ไหมว่าตอนนั้นกูทำอะไร”

   อีกคนเหมือนหยุดคิด.. แล้วตอบเสียงแผ่ว “มึงเงียบ”

   “ใช่” ใบหน้าของผมประดับด้วยรอยยิ้ม “และกูต้องการให้มึงเจอสิ่งที่กูเจอ”

   “อะไร”

   “มึงบอกว่ามึงเงียบเสมอ ไม่พูด ไม่ล้อ ไม่ช่วย ไม่ยุ่ง ไม่อะไรทั้งนั้น” เสียงหัวเราะของผมดังขึ้นช้า ๆ “เพราะฉะนั้น.. เงียบให้ได้ตลอดแล้วกัน”

   “มึงจะสื่ออะไ...”



   “ไอ้ปัง !!!!!! อย่าทำกู !!!!!!!!”





   ผมตะคอกคำนี้ดังลั่นออกมาอย่างไม่คิดชีวิต ทำให้ชายที่ยืนอยู่ค้างตรงนั้น

   “อย่าทำกู !!!!! กูยอมมึงแล้ว !!!! กูยอมให้มึงล้อเรื่องแม่แล้วปัง !!!! แต่อย่าทำกู !!!! หยุดเหอะ กูเจ็บ !!!!!!”

   ผู้คนเริ่มโหวกเหวกและทยอยวิ่งออกมาในห้อง

   นั่นแหละ ที่ผมต้องการ

   ริมฝีปากของตัวเองกระตุกยิ้มมุมปาก จ้องมองมันเป็นครั้งสุดท้าย

   


        “..อะไร..”






   “เงียบให้ได้ตลอดแล้วกัน”





   ผมทิ้งท้าย


   แล้วถอยร่างตัวเองให้ตกบันไดทันที





   และในเวลาไม่กี่วันหลังจากนั้น ผมถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล แต่แค่ไม่นานหรอก เพราะผมไม่มีเงินจะรักษาให้มากมาย



ส่วนมันก็โดนรุมประณาม



   และจบท้ายด้วยการย้ายออกจากโรงเรียน

...................................................................................................

   ในวันที่ปังย้ายออกจากโรงเรียนหลังเหตุการณ์ทะเลาะกับสุ
   โทรศัพท์มือถือของผมกลับใครบางคนแอดไลน์มา เป็นชื่อที่คุ้นตา
   พร้อมแนบคลิปเสียงสองคลิปมาให้


   P A N G’ : ฟังคลิปนี้ แล้วคิดถึงอนาคตของตัวเองกับสุดูก็แล้วกันนะ น้ำ
   P A N G’ : เราเตือนน้ำได้แค่นี้แหละ


...................................................................................................




___________________________________


TALK ; StraWBerry_imin

หวัดดีค่ะ ตอนหน้าก็จะเป็นบทสรุปแล้วน้าาา  ใจหายมากเลย รู้สึกแต่งเรื่องนี้ไวกว่าปกติ 555555
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะคะ
ฝากสุกับน้ำไว้ด้วยนะ
และน้องปัง เพิ่มมาอีกหนึ่งตลค.  :o8:


สุดท้ายนี้
ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆ ส่งท้ายปีค่า  :mc4:

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
แหม่ ไอ้บรรทัดจะจบนี่มันอะไรคะ ลับมีดรอเลยค่ะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
จะหักมุมไหมเนี่น..ยยยยย รอลุ้น

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
เฮ้ย จบไม่ดีแน่ๆ สุก็นะ...เกินไปอะ น้ำจะตัดสินใจยังไงล่ะเนี่ย  :katai1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อ้าววววว

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
«ตอบ #16 เมื่อ01-01-2018 18:54:54 »

ลูกแมวจนตรอก 3



   เรา.. อยู่ด้วยกันแล้ว



   ผมนอนกอดร่างที่เล็กกว่าของน้ำไว้หลวม ๆ ทอดสายตามองศีรษะกลมซุกบนอกอย่างลูกแมวใฝ่หาความอบอุ่นอยู่ก่อนจะมอบจูบบนหน้าผากเบา ๆ อีกหน


   ผมกับน้ำอยู่ด้วยกันมาสิบกว่าปีแล้ว พวกเราย้ายกันมาอยู่ในคอนโดของน้ำโดยมีผมคอยทำงานพิเศษออกค่าน้ำค่าไฟสม่ำเสมอ..


   ส่วน.. เรื่องขโมยนั่น ผมคิดว่าจะเก็บเป็นความลับไว้ตลอดชีวิต มันคือตราบาปสมัยเด็กที่ติดตัวมานานเพราะขาดแคลนอาหารและต้องการประทังชีวิตตัวเองไปวัน ๆ


   ถ้าหาก.. คนเป็นแม่ของผมใส่ใจมากกว่านี้ คงไม่เกิดเรื่องแย่ ๆ ที่ผมต้องเผชิญแน่


   “น้ำ..” ผมกระซิบเรียก น้ำยังดูน่ารักเสมอไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ บางครั้งเขาขี้อายกว่าที่ผมคิดอย่างเช่นครั้งแรกที่เสียงน้ำเริ่มแตก เขาไม่ยอมพูดอะไรกับผมเกือบสามวัน


   แต่สำหรับผม พอฟัง ๆ ดู ก็น่ารักดีนี่นา


   “อือ..” คนตัวเล็กครางแผ่วเบาในลำคอเมื่อถูกรบกวน ผมอมยิ้ม น้ำพลิกตัวหันหลังให้ผมยิ่งทำให้ง่ายต่อการ.. ลวนลาม


   ผมเข้าไปกอดจากด้านหลัง ฝ่ามือสากลูบไล้วนเวียนบริเวณหน้าท้องแบนราบอย่างชอบใจ เห็นคิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันแล้วก็ยิ่งอยากแกล้ง ไล้มือไปตามผิวขาวเนียน ปลายนิ้วหยอกล้อบนยอดอกสีอมชมพูเด่นหราเล่นต่อเบา ๆ จนน้ำสะดุ้งโหยง


   “ฮื่อ.. สุ อย่าแกล้ง” เขางึมงำ พยายามปัดมือออกแต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก “อย่าหื่นด้วย”


   ผมหอมแก้มนิ่ม ๆ ไปฟอดหนึ่ง “น้ำ ถ้าสายกว่านี้จะอดไปตักบาตรนะ”


   “เหะ ?” เพียงเท่านั้น.. เขาก็ลืมตาโพลง รีบลุกพรวดพราดขึ้นมาทันที “หกโมงครึ่งแล้ว ! เดี๋ยวน้ำไปเปลี่ยนเสื้อก่อนนะ สุก็ด้วย อย่าลืม ๆ”


   “ครับ”


   ผมอมยิ้ม เห็นคนรักลุกลี้ลุกลนไปใส่เสื้อผ้าลวก ๆ ก็เดินไปแต่งตัวบ้าง น้ำเป็นคนที่อยู่ในศีลในธรรมพอสมควร ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ด้วยกันเขาก็มักตื่นเช้าไปตักบาตรเสมอจนกลายเป็นเรื่องเคยชิน ส่วนผมเองก็แค่ติดสอยห้อยตามน้ำไปด้วยเท่านั้นเอง


   “พรุ่งนี้น้ำกลับบ้านนะ พ่อกับแม่ถามหาแล้ว” เป็นประโยคของน้ำหลังจากที่พวกเราใส่บาตรเรียบร้อย ผมเลิกคิ้ว มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วไม่ตอบอะไรแทน “เฮ้ย.. สุ งอนเหรอ”


   “เปล่า.. สุเข้าใจ” ผมเอ่ย เหลือบมองโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะในห้องครัว “น้ำ มีคนไลน์มาน่ะ”

   “เอ๋ ?” เขาหันไปมองมือถือ ที่ขึ้นว่า P A N G’ อยู่..

   ว่าแต่ อะไรวะ.. แล้วมันอ่านว่าอะไร แปงเหรอ ? ใครชื่อแปง

   “ใครน่ะ”

   “เพื่อน เขาไลน์มาสวัสดีปีใหม่” น้ำยิ้ม หยิบมือถือมาแล้วสไลด์ให้ดูข้อความที่ขึ้นเป็นป๊อบอัพ “อย่าเพิ่งกดเข้าไปอ่านนะ น้ำขี้เกียจตอบ”

   “พออ่านแล้วต้องตอบทันทีเหรอ”

   “ตามมารยาทน่ะ”

   ผมร้องอ๋อ แล้วเดินไปห้องครัวแทน เริ่มทำข้าวเช้าง่าย ๆ อย่างทุกที ปกติผมไม่พกโทรศัพท์ หรือจะว่าอีกอย่างคือ.. ผมไม่เล่นโทรศัพท์ก็ได้ ส่วนน้ำมีมือถือตั้งแต่ม.ต้นอยู่แล้ว รายนั้นจึงติดงอมแงม


   แต่เวลาอยู่กับผม เขาก็ไม่ค่อยหยิบขึ้นมาเล่นหรอก


   “จริงสิ เมื่อเดือนก่อนน้ำเอาแบบทดสอบมาให้สุทำทำไมเหรอ” ผมพูดขึ้นเมื่อนึกออกว่าอีกฝ่ายเคยเอาแบบทดสอบอะไรสักอย่างมาให้ด้วย “ผลล่ะ สุอยากรู้ผล”

   น้ำเงยหน้ามามองผมยิ้ม ๆ

   “มันเป็นเกมต่างหาก แค่เล่นหนุก ๆ ว่าเป็นคนอารมณ์ยังไง”

   “แล้วสุได้อารมณ์อะไร ?”

   “อารมณ์.. รักน้ำที่สุดไง”

   ดูสิ.. เล่นแบบนี้ตลอด ผมหัวเราะระหว่างที่ทอดไข่ดาวเป็นข้าวเช้าให้และนำหมูหมักกับนมสดในครัวมาย่าง

“แล้วจะกลับบ้านตอนไหน ?”
   
“กลางวันนี้เลย ต้องไปสวัสดีปีใหม่ เดี๋ยวน้ำเตรียมชุดไป สุก็กลับไปหาแม่ด้วยรึเปล่า ป่านนี้ท่านคงคิดถึงแย่เลย”


   คำพูดของน้ำทำให้ผมผงะ..


   แม่..


   น้ำยังไม่รู้เรื่องนี้

   หากพูดถึงแม่ของผม.. พอผมเริ่มทำงานได้แล้วก็ส่งเงินไปให้เป็นครั้งคราว ถือว่าเป็นค่าเทอมที่เขาเคยออกให้ตอนสมัยเรียน ส่วนการบริหารเงินยังไง ผมให้แม่จัดการเอง

   ตั้งแต่วันที่เข้ามหาลัยและได้ย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกับน้ำ ผมลืมแม่ตัวเองไปเสียสนิท ทุกปีเวลาน้ำไปหาแม่ ผมก็จะนั่งรอที่ห้องเฉย ๆ เว้นแต่เมื่อสามปีก่อนผมก็แวะไปหาแม่ตัวเองอยู่เหมือนกัน

   แล้วสิ่งที่ได้.. ก็ไม่ต่างจากที่คิด

   แม่ผมก็ยังเป็นเหมือนเดิม

   มีเซ็กส์กับผู้ชายไม่เลือกเพื่อแลกเงินไม่ถึงห้าร้อย..

   ซ้ำค่าตัวยังต่ำลงเรื่อย ๆ อีก

   “สุไม่อยากไป” ผมพูดเสียงเบา วางไข่ดาวหน้าตาดูดีบนจานแล้วหันไปย่างหมูต่อ “สุอยากอยู่กับน้ำมากกว่า”

   “ดื้อจัง” ได้ยินเสียงหัวเราะของคนรักดังแว่วมา ผมจึงคีบหมูที่ส่งกลิ่นหอมฉุยลงจานเป็นอันดับต่อไป “สุยังมีบ้านให้กลับนะ ยังมีแม่รออยู่ สุควรกลับไปหาน่า”

   ..ผมเผลอกลั้นหายใจตอนได้ยิน..

   พอนางฟ้าคนเดียวของผมพูดแบบนี้ก็ไม่ค่อยอยากขัดเท่าไหร่

   น้ำนั่งกดโทรศัพท์อยู่ตรงนั้น เขาเป็นผู้ชายที่ผมรัก.. รักมาก เป็นเพียงหนึ่งเดียวของผมที่จะยอมทุกอย่างเลย..
   แต่กับเรื่องครอบครัวแล้ว..

   “แล้วถ้าจู่ ๆ สุไม่มีบ้านให้กลับล่ะ”

   “..อะไรนะ ?”

   ผมนิ่งไป หยิบจานสองจานมาวางไว้บนโต๊ะด้วยรอยยิ้มบาง

   “ถ้าจู่ ๆ สุไม่มีบ้านให้กลับ..” เสียงของตัวเองดังขึ้นเชื่องช้า “ถึงตอนนั้น สุจะอยู่กับน้ำตลอดไปได้ไหม”

   ผมถาม ไม่รู้น้ำเสียงตัวเองเป็นยังไง

   แต่แว๊บแรกที่เห็นคือใบหน้าของน้ำซีดเผือก สองเท้าถอยออกเล็กน้อย ทำให้ผมต้องสาวเท้าเข้าหา

   “ถอยทำไม ?” ผมจ้องตาน้ำ

   “สุ..”

   “ตอบสุสิ”

   อีกฝ่ายดูตกใจ แล้วอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แล้วเก็บประโยคตัวเองลง ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มให้
   เป็นรอยยิ้ม.. ที่คล้ายสงบคลื่นพายุในใจ..

   “น้ำรักสุ”

   เขาตอบผมเพียงเท่านี้ แล้วกระโจนมากอดเอาไว้แน่น ซ้ำยังส่งเสียงงุ้งงิ้ง ๆ ตามประสาคนชอบงอแงอีกด้วย
   ผมหัวเราะออก มอบจูบบนหน้าผากน้ำอย่างทะนุถนอม

   น้ำน่ารัก

   และจะเป็นของผมแบบนี้เสมอไป


...................................................................................................


   ผมไปส่งน้ำที่บ้าน

   ร่างบางที่ยืนอยู่อีกด้านของรั้วดูกังวลเมื่อผมปฏิเสธการเข้าบ้านของเจ้าตัว ดวงตากลมโตมองใบหน้าของผม เขาดูลังเล แล้วถามย้ำอีกทีด้วยเสียงปนขอร้องเหมือนลูกแมวอ้อน

   “สุจะไม่เข้ามาสวัสดีคุณแม่เหรอ”

   “ไม่ดีกว่า” ผมปฏิเสธ เห็นน้ำหงอยลงจึงยื่นมือเข้าไปขยี้หัวกลม ๆ แทน “เดี๋ยวพอสุมีเงินนะ ค่อยสู่ขอทีเดียว”


   พ่อแม่น้ำรู้เรื่องระหว่างพวกเราสองคน แล้วเขาก็ไม่ได้คัดค้านอะไรเพราะเป็นเด็กที่เห็นมาตั้งบ่อย ที่จริงเขาเดาไว้แล้วมากกว่าว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้ พอผมสารภาพกับพ่อแม่เขา สิ่งเดียวที่ท่านพูดคือ ‘หาเงินมาสู่ขอน้ำ’ เท่านั้น..


   หนึ่งในสาเหตุ.. ที่ผมเลิกการขโมยถาวร และพยายามทำงานพิเศษหาเลี้ยงตัวเอง


   ส่วนอีกใจหนึ่งได้แต่บอก.. ว่าทำไมพ่อแม่ตัวเองถึงไม่เป็นแบบนี้บ้างกันนะ


   “บ้า” อีกฝ่ายต่อว่าอย่างไม่จริงจัง แก้มใส ๆ ขึ้นสีเลือดฝาดอีก “งั้นน้ำเข้าบ้านก่อนนะ สุก็อย่าลืมกินข้าวนะ”

   “ได้สิ”

   “อย่ากินข้าวคลุกน้ำปลาด้วย ไม่เอาแบบตอนเด็กแล้ว ไปซื้ออะไรกินเลย”

   “โห ยังจำได้อีกเนอะ”

   “แน่นอน แล้วก็..” เขานิ่งไป “สุ.. จะแวะไปหาแม่ของสุไหม”

   ผมเงียบ

   เมื่อเห็นสายตาของแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวของผม.. จึงตัดสินใจพยักหน้าลงแทน

   “น้ำอยากให้ไปหาเหรอ”

   “อือ”

   “งั้นสุไป”แค่ทำเพื่อน้ำ ผมทำได้อยู่แล้ว “เดี๋ยวจะกลับมารายงานนะว่าเป็นไง”

   “ได้เลย ฝากสวัสดีท่านด้วยนะ เดี๋ยวน้ำเอาขนมมาให้ รอแป๊บนึง” อีกฝ่ายวิ่งกลับเข้าบ้าน ไม่นานนักก็วิ่ง ๆ มาพร้อมกับขนมห่อใหญ่ รวมถึงกระเช้าสก็อตรังนกแท้อีกต่างหาก “อ่ะนี่”

   “เยอะขนาดนี้สงสัยสุต้องช่วยแม่กินด้วย” ผมพูด รับมาแล้วยิ้ม “จะเดินไปไหวไหมเนี่ย”

   “ขับรถน้ำไปก็ได้นะ อ้อ ๆ เอานี่ไปด้วย” พูดจบ น้ำจึงหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งให้ผม มันดูไม่แพงมาก ดูเก่า แต่ก็น่าจะใช้โทรเข้าโทรออกได้ “เนี่ย เครื่องเก่าน้ำสมัยม.ต้น สุเอาไปใช้ก่อนนะ ในนี้มีซิมส์ด้วย น่าจะโทรออกได้อยู่”

   “น้ำให้สุเหรอ” ผมอึ้ง

   “อือ แต่ไม่โกรธกันได้ไหม มันเป็น.. ที่น้ำเคยใช้แล้ว” เขากระแอม “ก็เห็นสุไม่ใช้มือถือสักที.. ตอนแรกว่าจะซื้อเครื่องใหม่ให้เลย แต่สุคงไม่ชอบใจใช่ไหมล่ะ..”

   ถูกของน้ำ ผมไม่ชอบโทรศัพท์เท่าไหร่ ถึงใช้ก็ไม่ค่อยได้พกหรอก

   “ขอบใจนะ..” รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏบนใบหน้าตัวเองแล้วเก็บมือถือลงกระเป๋า “น้ำน่ารัก”

   คนถูกชมหน้าร้อนวูบอีกรอบ

   “งั้น.. งั้นเจอกัน มีอะไรก็โทรมานะ”

   ผมมองจนแผ่นหลังเล็ก ๆ ผลุบหายเข้าไปในบ้าน หมุนตัวแบกของที่น้ำสั่งให้ไปเยี่ยมแม่ตัวเองแทนทันที..

   ใจจริงผมไม่ค่อยอยากจะไปเท่าไหร่หรอก แค่ในเมื่อมันคือน้ำใจของน้ำ ผมก็ต้องขอรับไว้และจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง..

   น้ำคือทุกอย่างของผมจริง ๆ ..

   ผมขับรถของน้ำมาจอดที่หน้าบ้านตัวเองซึ่งไม่ไกลมากนัก บ้านหลังใหญ่ ซ่อมซ่อ ทั้งเก่าและดูเหมือนใกล้ผุพังเต็มทนแล้ว

   แต่.. ก็ยังมีคนอยู่ตรงนั้น..

   ผมมองเห็นร่างของหญิงชราคนหนึ่งเดินโซซัดโซเซมาเกาะที่ประตูด้านในเมื่อมีรถมาจอด ผมถอนหายใจ เดินลงจากรถโดยไม่ลืมหยิบขนมและกระเช้าสก็อตเข้าบ้าน

   รั้วหน้าบ้านผมไม่เคยลงล็อคกุญแจไว้ ส่วนในบ้าน.. ก็เหมือนกันนั่นแหละ ไม่ได้ล็อคกุญแจ

   ครั้งแรกที่ผมเปิดประตู กลิ่นอับชื้นและสกปรกตีเหี้ยนเข้ามาแตะจมูกพาลให้คลื่นไส้ ผู้หญิงคนนั้น.. หรือแม่ของผม เธอมีผิวหนังเหี่ยวย่นผิดกับเมื่อสามปีก่อนที่ได้เจอ ใบหน้าทรุดโทรม ฉีกยิ้มออกมาอีกครั้งหนึ่ง

   “กลับมาแล้วเหรอสุ .. ไม่ได้เจอตั้งนานแน่ะ เงินที่ให้มาเมื่อเดือนที่แล้วไม่พอเลยสุ”

   ผมนิ่งงัน ไม่พูดอะไรตอบนอกซะจากแบกกระเช้าที่น้ำฝากมาวางไว้บนพื้น เห็นเธอย่างเยื้องกายเข้ามาก็ถอยห่าง


   “สุหลบแม่ทำไม.. เงินล่ะสุ เอาเงินมาหรือเปล่า...”

   เขาไม่ถามถึงความเป็นอยู่ผมหรอก..

   มีแค่เรื่องเงินเท่านั้นแหละ..

   เพราะแม่แก่ตัวแล้ว จึงไม่สามารถทำอาชีพอื่นได้อีก

ผมเหลือบมองร่างกายของหญิงวัยราว ๆ ห้าสิบกว่า ๆ ที่ถลาเข้ามามองกระเช้าและขนมต่าง ๆ

   “คนรักของผมเขาฝากมาให้” ผมพูดเสียงเรียบ เผลอเม้มปากเข้าหากันเมื่อได้ยินเสียงร้องต่อ

   “ไหนล่ะ.. ไหน ไหนล่ะเงิน เงินล่ะ เงินอยู่ไหน !!!” เธอเริ่มตะคอกกว่าเดิมราวกับคนเสียสติก็ไม่ปาน “ฉันจะเอาเงิน !!! แกไม่ได้ยินฉันเหรอ !!”

   ผมเบือนหน้าหนี..

   ตั้งแต่แม่ทำงานไม่ได้ เขาก็กลายเป็นแบบนี้

   เรียกร้องหาเงินไปทั่ว ตอนที่ร่างกายของแม่เสื่อมจนคนไม่มีใครมาซื้อถึงบ้านเหมือนเดิม เธอเดินไปขายที่ตลาด แต่สิ่งที่ได้รับคือการถูกทำร้ายร่างกายกลับมาแทน โดนข่มขืนต่อโดยไม่ได้เงินตามที่ต้องการ

   ค่าตัวที่เคยอยู่ประมาณห้าร้อย.. ลดเหลือสี่ร้อย สามร้อย สองร้อย หนึ่งร้อยตามลำดับ.. จนตอนนี้ มันมีค่าไม่ถึงห้าสิบบาท..

   และบางที มันก็ฟรี

   “ไม่ ไม่ ไม่ .. นี่ก็ไม่ใช่ ไม่ใช่” ผมกำหมัดตัวเองแน่น เห็นมือเหี่ยวย่นฉีกพลาสติกที่ห่อกระเช้าอยู่แล้วรื้อขวดลงมา “เอาเงินซ่อนไว้ในนี้เหรอลูก ใช่ไหม” เธอพูดเองเออเอง แหวกกระดาษฟอย ๆ จนกระทั่งลงไปลึกถึงสุด.. แล้วก็จบแค่นั้น

   ไม่มีอะไรเลย..

   ไม่มีเงินอย่างที่ต้องการ

   “แกเอาไอ้ขยะพวกนี้มาให้แม่ทำไม !!!!!!!!” ผมสะดุ้งเมื่อไหล่ถูกมือผอมแห้งคว้าหมับเข้าที่หัวไหล่ เธอเขย่าตัวผมรุนแรง “แกเอามันมาทำไม !!! ฉันอยากได้เงิน !! เงินน่ะ !!! เงิน !!!!”

   ใบหน้าผมซีดเผือก พยายามดันตัวอีกคนออก

   “แม่อย่ามาเขย่าผม !!!”

   “แก.. แก ฉันจะเอาเงิน เงินไงวะ เงิน !!!! มึงเป็นลูกกูไม่ใช่เหรอ !!!! มีรถขับไม่ใช่เหรอ !!!! มีตังซื้อของกินโง่ ๆ ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมไม่เอาเงินมาให้ฉัน !!!”

   ดูเหมือนเขาจะไม่ฟัง เขย่าหัวไหล่ผมจนเจ็บไปหมด

   “มันไม่ใช่ของผม !!!” และของจากน้ำก็ไม่ใช่ของโง่ ๆ ด้วย !!!

   ผมไม่ตอบโต้แม่ ก่อนจะโดนเหวี่ยงไปอีกทาง โทรศัพท์ที่น้ำเพิ่งให้ผมร่วงจากกระเป๋า

   “น.. นี่ไง แกมีเงินซื้อโทรศัพท์ !!! แล้วทำไมไม่เอาเงินมาให้ฉัน !! ดูซิ ..แกดูซิ !!!! สภาพฉันน่ะ !!!”

   ผมหอบหายใจรัวด้วยความกลัว อีกฝ่ายเหมือนไม่ใช่ผู้หญิงคนเดิมที่รู้จัก เธอคลุ้มคลั่ง ม่านตาขยายกว้าง จ้องผมอย่างคนอยากกินเลือดกินเนื้อก็ไม่ปาน

   “เอาเงินมา.. แก.. แกเอาเงินมา แกเอาของพวกนี้มาจากไหน !!!”

   “ก็บอกแล้วไงว่ามาจากคนรักของผม !!” ผมตะคอกเสียงลั่น ขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อเห็นอีกฝ่ายผงะไปเหมือนถูกแช่ค้าง “ม.. แม่”

   “คนรัก.. คนรักของแกรวยหรือ.. ใช่เด็กหน้าหวาน ๆ คนนั้นรึเปล่า” ผมเดาว่าแม่พูดถึงน้ำอย่างแน่นอน.. คนที่เคยมาบ้านผม แล้วผ่านไปมาก็.. มีแค่น้ำ “ดี.. ดีเลย ..ดีเลย”

   “อ..อะไร”

   “มันรวยใช่ไหม เด็กนั่นรวยใช่ไหม ดีเลย ฉันจะจับเด็ก.. จับเด็กนั่น”

   ไม่..

   ทำไมแม่ผมเป็นแบบนี้..

   “แม่.. แม่จะทำอะไรน้ำ”

   “มันรวย ฉันจะจับมันมาไถ่เงิน ไม่ ไม่สิ แบบนั้นจะเสี่ยงเกินไป..แกฟังฉัน นี่คือแผน แผนการของเราสองแม่ลูก” อีกคนพูดเสียงรัวขณะที่ผมถอยกรู่ “ฉันจับเด็กนั่นมาแล้วจะทำแบบที่ฉันทำ ทำแบบที่ฉันเคยโดนทำ จับเด็กนั่นมา ใส่ยา ติดเซ็กส์ ขาย แล้วฉันก็ให้เด็กนั่น เอางี้ไหม แกไปล่อมาให้ฉัน ฉันจะให้ส่วนแบ่งแกถ้าแกทำได้..”

   หัวใจของผมหล่นวูบ..

   เขา.. จะจับน้ำ..ขาย ?

   ทั้งกายของตัวเองเหมือนสั่นริก ผมเห็นแม่ถอยออก หันกลับไปคุ้ยของอะไรสักอย่างที่กองไว้บนพื้น เดาว่ากำลังหาสมุดและปากกาอยู่ พึมพำไม่ได้ศัพท์อยู่คนเดียวขณะที่ร่างกายผมสั่นเทา

   และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่.. ที่มือของผมเอื้อมไปหยิบคัตเตอร์ที่วางทิ้งเอาไว้อยู่ได้...

   มันจับฝุ่น มีสนิท แต่ก็ยังคงใช้งานได้ดีเมื่อผมลองรูดใบมีดออก

   “ฉัน..ฉันรู้จักเจ้าของซ่อง ถ้าเอาเด็กนั่นไปต้องได้ราคาดีแน่  ..แกเชื่อฉัน แล้วเราจะรวย เราจะมีเงิน เงิน เงิน”
   ดวงตาของผมเหมือนไร้ซึ่งแสงใด ๆ

   ไม่ต่างจากถูกอารมณ์เบื้องลึกในจิตใจกลืนกิน..

   มันร้องบอกผม หากใครคิดจะทำร้ายแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวของผม.. ไม่ว่าจะเป็นใคร ..

   ผมจะเอาคืนให้สาสมกับที่มันคิดร้าย หรือทำไว้..

ครืด

   เสียงคัตเตอร์ดังขึ้นอีกครั้งกับเงียบงัน

   สองเท้าของผมก้าวเข้าไปหามารดาตัวเองช้า ๆ

   ผมง้างคัตเตอร์ในมือขึ้น

   ..

   ไม่ว่าจะเป็นใคร

   หากคิดจะทำอะไรน้ำ.. ต้องได้รับผลของความคิดนั่น

...................................................................................................

   ผมเดินออกมาจากร่างกายของมารดาตัวเองที่จมอยู่ในกองเลือด การจ้วงแทงซ้ำ ๆ เป็นการระบายอารมณ์ตัวเองได้ดีกว่าที่คิด เมื่อใบมีดของคัตเตอร์หักสะบั้น ผมเปลี่ยนเป็นใช้สองมือของตัวเองบีบลำคอจนเกร็ง เหยื่อดิ้นทุรนทุราย จบท้ายด้วยหมดลม

วูบหนึ่งความกลัวแล่นเข้ามาในหัวกับการทำร้ายคนอื่น..

   แล้วมันก็ลบหายไป.. เมื่อผมเห็นโทรศัพท์จากน้ำ

   รอยยิ้มของตัวเองปรากฏขึ้นเมื่อนึกถึงใบหน้าที่รู้จัก ผมคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก ไม่นานนักน้ำก็รับสาย

   ‘สุเหรอ ?’

   “น้ำ สุฆ่าแล้วนะ”

   ‘...’

   ผมยิ้ม บอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไร เพราะน้ำรักผม

   ดังนั้น น้ำคงจะไม่ว่าผมหรอก

   ผมทำเพื่อน้ำนี่

   ปกป้องน้ำเอาไว้เหมือนเมื่อก่อนที่ผ่าน ๆ มา แค่คราวนี้ผมบอกน้ำให้ชัดเท่านั้นแหละ

   “สุไม่มีแม่แล้วนะน้ำ” ผมพูดเสียงสดใส ระหว่างที่ก้าวตรงไปห้องครัวตัวเองแล้วหยิบขวดน้ำมันมาราดทั่วพื้น “รู้สึกปลอดโปร่งจัง ฮะ ฮะ แบบนี้น้ำก็ไม่ต้องบอกให้สุไปหาแม่แล้วนะ เพราะสุฆ่าแล้ว”

   ‘อ..อะไรนะ หมายความว่ายังไง’    

   เสียงเขาสั่น

   แต่ผมก็ยังยิ้มต่อ

   “เนี่ยน้ำ สุอดทนมาตลอดเลย ที่โดนว่าตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนสุลำบากมากเลย ต้องขอบคุณน้ำนะที่เหมือนเป็นแสงในชีวิตสุเลย”

   ‘ลำบากเหรอ..’

   เขายังดูไม่เข้าใจ ผมก็ต้องอธิบายต่อ

   “ก็สุน่ะ ต้องขโมยเอาตัวรอดตลอดเลยไง เหมือนที่น้ำเห็นสุล้อตั้งแต่เด็ก ๆ นั่นแหละ เพราะแม่สุแท้ ๆ เลยนะ” ผมพูดสิ่งที่ตัวเองคิดมาตลอด

   ใช่ มันเพราะแม่ผม

   ถ้าแม่ผมเหมือนแม่ของน้ำ หรือเหมือนกับแม่ของคนอื่น ๆ ผมคงไม่มีหนทางแบบนี้

   ชีวิตของผมคงดีกว่านี้ รักกับน้ำ แล้วก็ไม่ต้องลงมือทำอะไรแบบนี้

   “แต่ตอนนี้สุไม่ต้องขโมยแล้วไง ดูสิ ถ้าทำแบบนี้ตั้งแต่เด็กซะก็ดี” ผมหัวเราะต่อ บีบน้ำมันที่อยู่ในมือไล่ตามพื้นบ้าน โชคดีที่บ้านเป็นแค่ชั้นเดียวเลยไม่เปลืองให้มากเลย “แล้วตอนนี้สุก็จะอยู่กับน้ำตลอดไปแล้วนะ”

   ‘หมายความว่ายังไง..’ เสียงของน้ำดูอ่อนแรง เขาคงตกใจเพราะปลาบปลื้มเป็นแน่ ‘สุ สุจะทำอะไร ? สุทำอะไรอยู่ บอกน้ำมาซิ’

   ผมยังคงยิ้ม

   น่าจะเป็นรอยยิ้มที่กว้างที่สุดในชีวิต

   “สุจะทำให้ตัวเองไม่มีบ้านให้กลับ” ผมพูด เขย่าขวดน้ำมันที่หมดขวดในมือเล่น “แล้วสุก็จะได้อยู่กับน้ำ..ตลอดไป”

   ‘สุ..’ ได้ยินเสียงเรียกชื่อจากปลายสายตัวเอง ‘สุ.. จะทำอะไรบ้านตัวเองเหรอ.. บอกน้ำนะ’

   เขาถามเสียงนุ่ม

   ทำให้ผมหัวเราะ

   “เผา” แล้วพูดเสียงราบเรียบ ชัดถ้อยชัดคำ “สุจะเผา.. แต่น้ำมันหมดแล้วล่ะน้ำ น้ำมาช่วยสุไหม ?”
   ปลายสายเงียบลงไปไม่นาน แล้วเสียงตอบรับก็ทำให้ผมโล่ง

   ‘อืม ได้สิ จะเอาน้ำมันกี่ขวด’

   เขาเป็นคนรักที่มีน้ำใจเสมอ

   น้ำใจ..

   เหมือนครั้งแรกที่ผมเจอเขา

   เหมือนครั้งแรกกับข้าวแกงเขียวหวาน

   “สองไม่ก็สาม ฝากซื้อไฟแช็กด้วยสิ สุไม่รู้เลยว่ามันอยู่ไหน” ผมพูด เสียงเป็นกันเอง “ขอบใจมากนะน้ำ..”

   ‘ไม่เป็นไร น้ำจำบ้านสุได้.. เดี๋ยวน้ำจะเอาไปให้นะ’

   “สุรักน้ำ..”

   ผมพูดอีกครั้ง

   อีกฝ่ายเงียบไป แล้วตอบกลับมา ดังจนชัด

   ‘น้ำ.. ก็รักสุเหมือนกัน.. รักมากเลย’


...................................................................................................


(มีต่อ)

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
«ตอบ #17 เมื่อ01-01-2018 18:55:59 »

   “แต่สิ่งที่สุทำ.. มันไม่ใช่ความรักที่น้ำอยากให้เกิดเลย”

   นัยน์ตาของผมพร่ามัว เสียงรถตำรวจ รถพยาบาล รถดับเพลิงจอดอยู่หน้าบ้านผมราวกับคนกำลังเตรียมพร้อมจับกุมใครสักคน

   และ..

   น้ำยืนอยู่ตรงนั้น

   เขาไม่มีแม้กระทั่งน้ำมัน หรือไฟแช็กอย่างที่ตกลงกับผมเลย

   “อะไร..”

   ลำคอของผมแห้งผาก อีกฝ่ายจ้องมองผม ใบหน้าปวดร้าวอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

   “ใครทำให้น้ำร้องไห้” ผมร้องถามเสียงสั่น ก้าวเท้าเข้าไปทีละก้าว “ใครทำให้น้ำรู้สึกเจ็บแบบนี้..” แล้วสายตาตัวเองก็มองไปทางตำรวจ.. “พวกมันเหรอ !!!!”

   “พอเถอะ สุ”น้ำของผมพูดเสียงเบา จ้องมองผม เห็นหยาดน้ำตาใส ๆ คลอเบ้าอยู่ “สุพอเถอะนะ ..พอเถอะ น้ำทำตัวเองทั้งนั้น””

   “น้ำ...”

   หยดน้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นจากใบหน้าคนรัก..

   เหมือนเป็นตัวเรียกสติของผมให้กลับคืนมา..

   “น้ำ.. เป็นคนเรียกพวกเขาเหรอ..” ลำคอของผมแห้งผาก “ทำไมล่ะน้ำ .. ทำไม..”

   “สุฆ่าแม่ตัวเองนะ..” คนรักของผมยังยืนอยู่ตรงนั้น แม้ว่าผมจะเริ่มก้าวไปหา “สุจะเผาบ้านด้วย..”

   “ก็สุจะได้ไม่มีที่กลับไปไง..” ผมอธิบาย “แล้ว.. สุจะได้อยู่กับน้ำตลอดไป”

   คนรักของผมยังคงนิ่งงัน

   “..สุ” เขาพูดอย่งอ่อนใจ “ขอโทษ.. แต่น้ำทำไม่ได้..”

   “...”

   “น้ำขอโทษที่ไม่พาสุไปรักษาก่อน ทั้งที่ตัวน้ำเป็นคนใกล้ตัวแล้วรู้มาตลอด”

   น้ำ.. น้ำพูดเรื่องอะไร..

   “น้ำขอโทษที่กลัว.. กลัวว่าสุไปรักษาแล้วมันจะหนักกว่าเดิม กลัวว่าเขาจะเอาสุของน้ำไป”

   ..ผม.. ไม่เข้าใจ..

   “น้ำรักสุนะ .. รักมาก รักมากจริง ๆ .. แล้วน้ำก็ขอโทษด้วยที่เลือกทางผิดพลาด”

   ..น้ำ.. พูดเรื่องอะไรน่ะ ..

   “หมายความว่ายังไง.. น้ำ” ผมแทบจะเข้าไปกอดคนรัก แต่ปลายเท้ากลับชาจนไม่กระดิก “น้ำ...”

   “สุ.. ป่วย..ทางจิต” 

   “....”

   “น้ำรู้ แต่น้ำคิดว่าการที่น้ำอยู่กับสุ มันจะค่อย ๆ เยียวยา และรักษาเองได้ น้ำสามารถช่วยสุได้โดยไม่
จำเป็นต้องพึ่งหมอ” อีกฝ่ายพึมพำ “แต่น้ำพลาดหมดเลย .. ตัดสินผิดหมดเลย.. จนตอนนี้มันหนักหนากว่าที่น้ำคิด.. หนักหนากว่าที่น้ำจะรับไหว”

   ผม.. ค่อย ๆ เชื่อมทุกอย่างในหัว..

   ..ทุกอย่างเลย

   “.. แบบทดสอบนั้น.. คือแบบทดสอบทางจิตเหรอ..”

   อีกคนผงกหัวลงช้า ๆ

   ผมเหมือนถูกตบหน้า.. น้ำโกหกผมเรื่องแบบทดสอบ

   แต่พอคิดดูดี ๆ .. ผมเองก็เคยโกหกเขาเรื่องแม่เหมือนกัน..

   “คดีนี้.. สุคงถูกส่งไปที่โรงพยาบาล..” ผมได้ยินเสียงอีกคนเอ่ยช้า พร้อมการสะอื้นตัวแรง “แล้ว.. แล้วจากนั้น.. สุคงได้รับการรักษา..”

   “....”

   “แต่สุคงไม่เจอกับน้ำแล้ว..”

   เมื่อได้ยินแบบนั้นยิ่งทำให้ผมพูดอะไรไม่ออก..

   ผมป่วยเหรอ

   ผมเป็นโรคจิตเหรอ..

   “ขอโทษนะสุ.. ขอโทษ ถ้าน้ำเลือกจะบอกสุแต่แรกเรื่องคงไม่เป็นแบบนี้” น้ำตาของคนรักผมไหลจนอาบแก้ม “ถ้าน้ำเลือกที่จะให้สุปรึกษาแพทย์ด้วยกัน ไม่ใช่คอยคุยอยู่คนเดียวคงไม่เป็นแบบนี้”

   ส่วนผม.. ก็ทำได้แค่อยากเข้าไปโอบกอด ปลอบประโลม

   แต่.. กลับไม่กล้าแตะต้องน้ำเลยเมื่อจิตใต้สำนึกกระตุ้นตัวเองว่าทำอะไรไปบ้าง แล้วตอนนี้ตัวเองเป็นอะไรไป..

   และอีกอย่างหนึ่งที่แปลก..

   คือ..

   “ไม่เป็นไร..” ผมพึมพำ

   ความปลอดภัยของน้ำมาก่อนเสมอ

   ถ้าหากผมเป็นโรคจิตอะไรนั่นจริง ผมคงเผลอทำร้ายน้ำไปได้..

   เพราะงั้น มันจะไม่เป็นไร

   “ส..สุ..”

   “น้ำแจ้งตำรวจ แจ้งทุกอย่างเตรียมเอาไว้ก่อนมาที่นี่ใช่ไหม”

   “..อือ”

“ไม่เป็นไรนะ”

   “...” น้ำร้องไห้

   “สุจะยอมมอบตัว แล้วทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของศาล หรือโรงพยาบาล อะไรก็แล้วแต่”

   “ขอโทษ.. ขอโทษ..”

   “จำไว้อย่างเดียว..” ผมตัดสินใจยกสองมือขึ้นช้า ๆ เป็นสัญญาณของการยอมแพ้ พร้อมตำรวจกรู่เข้ามาจับตัวเอาไว้ “สุไม่โกรธน้ำเลย.ที่น้ำทำแบบนี้..”

   หากผมได้อยู่ใกล้น้ำ แล้วเผลอทำร้ายเพราะการควบคุมตัวเองไม่ได้เข้าสักวัน.. มันคงทำให้หัวใจผมขาดวิ่นแน่

   ..

   ผมไม่โกรธน้ำหรอก

   เพราะน้ำ..

   คือคนที่ผมรักมาก.. เกินกว่าจะเห็นแก่ตัว



The End



Special : น้ำ
[/b][/size]

   ผมรู้

   รู้มาตลอดนั่นแหละ ว่าเขาเป็นอะไร

   บ่อยครั้งที่จู่ ๆ อารมณ์ของสุเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่ทันตั้งตัวรวมถึงลักษณะนิสัย น้ำเสียง แววตาและท่าทาง แต่เขาเหมือนไม่รู้ตัวเลยว่าน่ากลัวขนาดไหน

   เขาเคยตะคอก เคยตะโกนใส่ผมเหมือนคนอารมณ์แปรปรวน บางครั้งเขาเคยร้องไห้ สลับขั้วไปหมดจนผมตามไม่ทัน

   แต่ผมก็ยังอยู่

   และปัง..

   ปังคือเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นคนบอกผมว่าให้ระวังสุเอาไว้

   ครั้งแรกที่เขาแอดไลน์มาบอกผม ผมฟังคลิปเสียงจนหมด แล้วตระหนักได้ว่าอีกฝ่าย.. อาจจะผิดปกติ

   ความรู้สึกของผมคือหวาดกลัว


   ผมหวาดกลัว.. ว่าถ้าหากสุเป็นผิดปกติจริง ๆ .. จะมีคนเอาตัวสุไปจากผม..

   

   สุดท้ายผมจึงตัดสินใจเก็บมันไว้ ไม่บอกใครและอยู่กับสุมาเรื่อยมา ปังคือคนเดียวที่คอยถามไถ่ ช่วยให้ผมคุยกับจิตแพทย์แทนเขา ผมได้รับแบบทดสอบมาและลองหลอกล่อให้สุทำในที่สุด

   และผลที่ได้.. ก็ไม่ต่างจากคาดการณ์ไว้เลย

   สุเป็นจริง ๆ..

   ไม่ว่าจะทดสอบกี่ครั้ง ผลก็ออกมาเป็นแบบเดิม คลาดเคลื่อนมากน้อยแต่ก็ไม่หลุดพ้นกับคำว่าผู้ป่วยเบื้องต้นเลย

   จนกระทั่งถึงวันสิ้นปี ระหว่างที่ผมกำลังคิดถึงสิ่งที่ตัวเองต้องทำในเรื่องของสุนั้น.. ความกดดันก็แผ่ซ่านเข้ามาในประโยคอีกฝ่าย..

“แล้วถ้าจู่ ๆ สุไม่มีบ้านให้กลับล่ะ”

   ผมเผลอกลั้นหายใจ เลือดในกายเย็นเฉียบเมื่อเห็นสีหน้าของเขา .. เหมือนไม่ใช่สุคนเดิม

   มันเหมือนคนเก็บกด.. และเคียดแค้น

   ตอนนั้นเขากำลังคิดอะไรอยู่กันนะ

   เขาถามผมด้วยความรู้สึกแบบไหนกัน

   “..อะไรนะ ?”

   อีกฝ่ายวางจานสองจานลงบนโต๊ะ พร้อมรอยยิ้มที่ทำให้ความหวาดกลัวของผมปรากฏขึ้นมาในใจอีกครั้ง..


   “ถ้าจู่ ๆ สุไม่มีบ้านให้กลับ..” ผมเผลอถอยออก “ถึงตอนนั้น สุจะอยู่กับน้ำตลอดไปได้ไหม”

   ใบหน้าของตัวเองซีดเผือก เหมือนโลกเคว้งคว้าง ประโยคนั้นมันไม่ต่างจากการกดดันตัวผมเลย ความกลัวที่ว่าจะมีใครเอาสุไปอยู่ที่โรงพยาบาลปรากฏในจิตใจอีกครั้งหนึ่ง

   สุก้าวมาหาผม

   “ถอยทำไม ?”

   แล้วผมควรจะทำยังไงล่ะ

   ผมไม่อยากให้ใครเอาตัวสุไปเลย ..แต่จะให้ผมบอกสุยังไงว่าสุกำลังป่วยอยู่

   ผมไม่รู้

   ผมเหมือนคนจนมุม ..

   “สุ..” เสียงสั่น ๆของตัวเองเรียกชื่อเขาอย่างคนหลงทาง..

   ไม่รู้เลย.. ว่าจะทำยังไง

   “ตอบสุสิ”

   ประโยคนั้นดูดุดันกว่าปกติจนผมตกใจ อ้าปากจะพูดอะไรสักอย่างแล้วเก็บลงแทน

   สุ..

   ผมไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว..

   สุดท้าย.. จึงตัดสินใจยิ้มออกมา และรอยยิ้มของผมกลับทำให้ใบหน้าสุสงบลงได้ในชั่วพริบตา

   “น้ำรักสุ”

   ผมพูด เป็นสามคำที่กลั่นกรองออกมาจากใจจริง

   สุกดจูบบนหน้าผากผมแผ่วเบา ..

   ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เขาคิดอะไร

   แต่..สักวันหนึ่ง ผมจะรวบรวมความกล้าพาสุไปโรงพยาบาล..

   มันคือสิ่งที่ผมบอกกับตัวเองในใจ


...................................................................................................

   ผมช้าเกินไป..

   ไม่ทันแล้ว..

   ในวันที่เขาโทรมาบอกว่าฆ่าแม่ตัวเองแล้ว เหมือนทำให้แผนการที่ผมวางไว้พังทลาย.. ในหัวของผมขาวโพลน ราวกับคนทำอะไรไม่ถูก

   ผมพลาด..

   พลาดทุกอย่าง พลาดตั้งแต่เริ่มต้น ..

   แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สำหรับผม.. ผมไม่เคยพลาดที่รักผู้ชายคนนี้

   ‘เผา’ ผมเม้มปากเข้าหากัน โดยไม่ลืมกดอัดเสียงตอนโทรเพื่อไว้เป็นหลักฐาน..

   มันจบแล้ว

   ความรักของผมคือการเห็นแก่ตัวแล้วรั้งเขาไว้ให้อยู่ด้วย.. ทั้งที่รู้ว่าเขากำลังป่วย

   ผมควรจะเป็นคนช่วยเหลือเขา คอยค้ำจุนกัน.. นั่นคือความรักที่ควรจะเป็น ไม่ใช่เห็นแก่ตัวด้านเดียว ความกลัวบ้า ๆ ที่ว่าจะมีคนเอาเขาไปเป็นเหตุให้ผมไม่ยอมบอกถึงทุกวันนี้

   ‘สุจะเผา.. แต่น้ำมันหมดแล้วล่ะน้ำ น้ำมาช่วยสุไหม ?’

   เสียงชักชวนของเขาทำให้ผมได้แต่ก้มหน้าลงพิมพ์ข้อความลงไอแพด แล้วส่งให้แม่บ้าน..

   เรียกตำรวจ บอกซะว่ามีการฆาตกรรมเกิดขึ้น และมีการวางแผนวางเพลิงที่ซอย 7 ในหมู่บ้านเรา

   เธอรับคำสีหน้าตื่น ๆ แล้วทำตามคำสั่งผม

   “อืม ได้สิ จะเอาน้ำมันกี่ขวด” ผมถามเสี่ยงแผ่วเบา ยกปลายนิ้วเกลี่ยน้ำตาตัวเองที่เอ่อล้นอยู่ออกจากขอบตา


   พลาด


   พลาด


   พลาด


   พลาดหมดเลย


   ผมคงเป็นผู้ชายที่โง่เขลามากที่สุดแล้ว

   สุดท้ายการที่ผมไม่พาสุไปรักษาให้เร็วกว่านี้ย้อนกลับมาทำร้ายตัวของสุ ยิ่งเขากระทำการร้ายแรงหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนแรกผมโอเคกับมัน เชื่อว่าเราจะสามารถเยียวยารักษาอาการทางจิตพวกนั้นได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ตัวช่วยอะไร

   ผม.. ช่างเห็นแก่ตัว

   ‘สองไม่ก็สาม ฝากซื้อไฟแช็กด้วยสิ สุไม่รู้เลยว่ามันอยู่ไหน’

   ได้ยินเสียงอีกฝ่ายที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตและไว้ใจผมยิ่งทำให้น้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆ ‘ขอบใจมากนะน้ำ..’

   “ไม่เป็นไร น้ำจำบ้านสุได้.. เดี๋ยวน้ำจะเอาไปให้นะ”

   และคราวนี้มันจะจบแล้ว..

   ความเห็นแก่ตัวของผมจะหมดสิ้นลงไปเสียที




   ‘สุรักน้ำ’




   คำพูดเขาสะท้อนในหูทำให้ผมเงียบ อนาคตสุอาจจะเกลียดที่ผมทำ โกรธ หรืออะไรก็แล้วแต่ ..
   ผมคิดว่า ผมควรหยุดเห็นแก่ตัวแล้วทำในสิ่งที่ควรทำ

   รวมถึงเลิกมองข้ามไป.. เพราะนำคำว่ารักของตัวเองมาอ้าง




   “น้ำ.. ก็รักสุเหมือนกัน.. รักมากเลย”




   จากนี้..

   คงจะเป็นรัก.. จากหัวใจจริง ๆ และไม่มีความเห็นแก่ตัว


...................................................................................................


   เวลาผ่านไปมากกว่ายี่สิบปีแล้ว

   ผมยังคงอยู่ที่คอนโดเดิม ๆ ของตัวเองและสุ ในตอนแรกผมติดตามข่าวคราวของเขาอยู่เรื่อง จนกระทั่งสุบอกผมว่าไม่อยากให้ผมเจอเขาในตอนนี้ พวกเราจึงต้องขาดการติดต่อจากการในที่สุด

   ผมไม่มีคนรักใหม่ หัวใจของผมยังคงเป็นเหมือนเดิมและคนเดียวตลอดเสมอมา..

   สุ
   ตอนนี้เขาทำอะไรอยู่นะ ?
   

   ร่างของตัวเองเดินลงมาจากคอนโดพร้อมถุงข้าวที่กำลังจะใส่บาตรและทำเป็นเรื่องประจำ วันนี้มีการทำบุญตักบาตรครั้งใหญ่ พระหลายรูปมาวันนี้ผมจึงเตรียมของมากกว่าปกติ

   จากนั้น.. ก็คอยสวดมนต์อธิษฐาน

   อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ให้พ่อแม่ พี่น้อง ญาติ ๆ ทุกคน ..

   ให้แม่ของสุ

   แล้วก็.. ให้สุ..

   ผู้คนในคอนโดผมต่างลงมาใส่บาตรเหมือนกัน เขาล้อมโต๊ะเป็นวงกลม เห็นพระสงฆ์หลายรูปเดินต่อแถวมาด้วยฝ่าเท้าเปลือยเปล่าอย่างทุกทีผมยกถุงข้าวแกงขึ้นเหนือหัว อธิษฐานแผ่ส่วนกุศลต่าง ๆ นานาอย่างที่ทำบ่อย ๆ จนกระทั่งท่านหยุดเดินและยืนตรงหน้า

   ผมใส่ถุงแกงพวกนั้นใส่บาตร ก่อนจะชะงัก เมื่อเหลือบมองโครงหน้าชาย.. ที่ทำหน้าที่ช่วยหิ้วสัมภาระอยู่

   ทั้งกายของผมนิ่งค้าง..

   หยาดน้ำตาพรั่งพรู่ที่ขอบตา.. แล้วเอ่อล้นออกมา

   ช่างเป็นใบหน้า.. ที่คุ้นเคย..

   เขาไม่ได้แสดงอาการเท่าผม แค่มองมาแล้วยิ้มให้ ก่อนจะเดินออกไปช่วยพระสงฆ์รูปอื่น

   เหลือแต่ผมที่นั่งร้องไห้

   แต่คราวนี้.. คงเป็นน้ำตาของความยินดี

End


TALK ::
ฮ่า
จบแล้ว หักมุมหรือตกใจไหมคะ (หัวเราะ)
สุออกมาจากโรงพยาบาล / คุก ค่ะ ตอนแรก เขาว่าจะบวช แต่กลัวอาการคิดฟุ้งซ่านกำเริบ จึงไม่บวชแทน แล้วเปลี่ยนเป็นคนช่วยถือของให้พระสงฆ์ค่ะ ชดใช้สิ่งที่ตัวเองเคยทำตั้งแต่เด็กยันโตค่ะ
ส่วนน้ำ ได้รับความทุกข์ทรมานจากการขาดสุไปหลายปีเลย ..

และเรื่องราวหลังจากนี้ทั้งสองจะเป็นยังไง รอจินตนาการ(?)เอา ถ้าหากคิดสเปเชี่ยลออกตอนกลับมาอยู่ด้วยกันจะกลับมาแต่งนะคะ
เป็นเรื่องที่ยาวถึง 52 หน้าแบบงง ๆ และแต่งเพลินมากค่ะ

ขอวกกลับมาอธิบายความหมาย “ลูกแมวจนตรอก” นะคะ
เราเปรียบว่าน้ำเป็นลูกแมวค่ะ
แมวเวลาที่ตื่นกลัวอะไรสักอย่าง แม้จะอยู่กับคนที่รัก (สุ) ก็จะวิ่งหนีไปทางที่ปลอดภัยกว่าค่ะ ซึ่งนั่นคือทางเลือกของน้ำที่วิ่งหนีไปด้วยการแจ้งตำรวจค่ะ


หากข้อมูลไหนผิดก็ขอโทษด้วยนะคะะะ  :mew6:

ขอบคุณที่อ่านจนถึงตอนนี้ค่ะ ! :กอด1:


********************************************************************************************

********************************************

ฝากผลงานอื่นด้วยนะคะ

เรื่องสั้น
   ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก

   N (P) C


เรื่องยาว
   ◇◆ เพียงเสี้ยวสัมผัส ◆◇


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2018 19:45:57 โดย ImInDragon »

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
«ตอบ #18 เมื่อ01-01-2018 19:38:23 »

คิดว่าพลิกล็อคนะ :a5: นี่คิดง่ายๆเลยว่าน้ำคงถอยห่างจากสุ แล้วชีวิตสุคงเลวร้ายกว่านี้ ไรท์เก่งมากๆๆ ดำเนินเรื่องมาแบบคาดไม่ถึงเลย จุดจบของเรื่องก็ดีด้วย เรานึกว่าจะจบตั้งแต่ตอนที่2. แต่นี่ยังให้โอกาสเค้าอยู่ด้วยกัน ช่วงพีคของเรื่องคงเป็นตอนที่สุทำแบบทดสอบแล้วมีอาการทางจิตแล้วฆ่าแม่ตัวเอง พีคกว่าที่น้ำแจ้งตำรวจ พีคสุดคือเค้ากลับมาเจอกันอีกค่า โอ้ย หลายมิติมากเว่อร :katai2-1: ทั้งๆที่จะตัดจบตั้งแต่ตอนที่3 ก็ได้ประทับใจมากๆๆ  :hao5: นี่ยังอยากอ่านต่อนะ แต่แบบมันจะลงเอยยังไง คราวนี้จะมีความสุขกันจริงๆใช่ไหม?  :z3: รอติดตามนะคะ อีกเร็วทันใจมากๆ 5555555555555  :hao7:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
«ตอบ #19 เมื่อ01-01-2018 19:51:57 »

ขอบคุณนะคะ สนุกมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
« ตอบ #19 เมื่อ: 01-01-2018 19:51:57 »





ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
«ตอบ #20 เมื่อ01-01-2018 21:28:38 »

น้ำป่วยเบื้องต้นด้วยรึเปล่าอ่ะะะะ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
«ตอบ #21 เมื่อ01-01-2018 21:33:19 »

เยี่ยม

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
«ตอบ #22 เมื่อ01-01-2018 23:32:45 »

 :sad3: :sad3: :sad3:

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
«ตอบ #23 เมื่อ01-01-2018 23:37:09 »

เป็นความรักที่สุขปนเศร้า  :monkeysad:

รักกันมากไม่อยากจากกัน..ก็ต้องปกปิดความลับไว้  :ling1:

คำโกหกมันทรมาณคนทั้งคู่..จนถึงวันที่ต้องจากกัน..ยิ่งตอนจบนี่เหมือนเคียร์ทุกอย่างเลย  :hao5:

น้ำรักสุเลยไม่มีใครใหม่..สุจากไปเพราะไม่อยากทำร้ายน้ำ :m15: เศร้าแต่สนุก

ขอบคุณนักเขียนที่แต่งนิยายดี ๆ ให้อ่านนะจ้ะ  :pig4: :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
«ตอบ #24 เมื่อ01-01-2018 23:51:02 »

 :call:

ออฟไลน์ ดาวลูกไก่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
«ตอบ #25 เมื่อ01-01-2018 23:55:00 »

อยากให้เค้าได้กลับมาอยู่ด้วยกันนน  :katai2-1:

ออฟไลน์ lalun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
«ตอบ #26 เมื่อ03-01-2018 12:18:41 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
Re: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
«ตอบ #27 เมื่อ03-01-2018 22:58:54 »

น้ำก็ป่วยด้วยเปล่านะ?

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
Re: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
«ตอบ #28 เมื่อ28-02-2018 21:48:59 »

 :o12: :o12:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: [End] ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก (1/1/61)
«ตอบ #29 เมื่อ01-03-2018 17:30:00 »

อยากอ่านตอนพิเศษ :call:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด