ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนะครับ
เรื่องของผมเรื่องนี้มันไม่ค่อยสนุกหรอกครับ อิอิ
หลายคนอาจจะงงว่า ทำไมเลิกกัน ผมยังงงเลยครับ 555
เพิ่งรู้ว่าปี้ป้อมเป็นควายธนู นึกว่าแมมมอส แล้วเราก็วิ่งหนีไป
ค๊าบ ป้าหนึ่ง เป็นควายธนูค๊าบ ระวังโดนขวิดนะ เจ็บทีเดียวล่ะ อิอิ
===================================================
-5-วันหนึ่งในช่วงเย็นๆของวันศุกร์ ฝนตกหนักมากๆๆๆๆ ถึงมากที่สุด ผมขับรถไปรับไอ้หมาแถววิภาวดีเพื่อไปหาข้าวเย็นกินแถวๆบ้าน เพราะผมนัดเพื่อนเอาไว้กะจะกินกันขำๆ แต่ไปๆมาๆ เหลือผมกับไอ้หมากันอยู่ 2 คน สั่งข้าวมากินพร้อมเหล้าอีกขวด
“เค้าไม่เคยมานั่งกินเหล้าแบบนี้กับแฟนเลยนะ ไอ้อ้วน”
“อืม ไม่เคยเหมือนกัน ปกติก็กินข้าวอย่างเดียว ไม่ก็ถ้าจะกินเหล้าด้วยก็มากันหลายๆคน”
“นั่นดิ มีแฟนเป็นพวกเที่ยวเหมือนกันก็ดีแบบนี้แหละ 555”
“อ่านะ ไอ้บ้า”
พอเหล้าหมดขวด เราก็แยกย้ายบ้านใครบ้านมันเหมือนทุกที
อย่างที่เคยบอกแหละครับ ดีตรงที่เค้าเคยอ่านเรื่องของผม
รู้ว่าปกติแล้วผมเป็นไง เที่ยวกลางคืนมั๊ย ติดเพื่อนรึเปล่า
ซึ่งไอ้หมาเป็นคนที่ติดเพื่อนมากเหมือนกันครับ เพราะในกลุ่มของเค้าผ่านเรื่องราวกันมาเยอะ
ชื่อหลายต่อหลายชื่อที่ออกมาจากปากทำให้ผมพลอยคุ้นเคยกับเพื่อนๆในกลุ่มเค้าไปด้วย
หลายๆครั้งที่ผมแอบงอนมันเหมือนกัน เรื่องที่แฟนติดเพื่อนเนี่ยแหละ คงเป็นบางส่วนที่ไอ้หมาไม่คิดว่าจะเจอมั๊งครับ
เพราะในเรื่องของผมที่เขียนมา ไม่ค่อยมีอารมณ์นี้สักเท่าไหร่
ก็แฟนผมส่วนใหญ่มันจะอยู่กับผมนี่นา ไม่ได้หนีไปอยู่กับเพื่อน เลยไม่มีอะไรต้องงอนมาก
จนกลุ่มเราสองคนก็มาเจอกันจนได้ มันนัดกลุ่มเพื่อนมันไปที่ร้านประจำของผม "Prop bar"
ส่วนกลุ่มผมไปกันประจำอยู่แล้ว แต่เปลี่ยนมาเป็นคืนวันเสาร์แค่นั้นเอง
คืนนั้น เราแยกโต๊ะกันครับ พร้อมบอกกันเอาไว้ก่อนว่า โสดถึงตีหนึ่งนะ
แต่มันก็มาวนเวียนกับโต๊ะผมบ่อยๆ เมากอดคอกระโดดกับเจ๊บิ๋ม
แถมยังมีกระซิบกระซาบกัน โดยไม่ให้ผมรู้อีก
ซึ่งผมมารู้เอาตอนหลังว่า เจ๊บิ๋มฝากให้ช่วยดูแลผมให้มีความสุขหน่อย
เพราะเค้ารู้สึกว่าตอนนี้ผมสามารถยิ้มได้อย่างเต็มที่เวลาที่ผมอยู่กับไอ้หมา
หลังจากที่เหล้าผ่านไปหลายขวด โต๊ะผมเข้าขวดที่สาม โต๊ะมันเข้าขวดที่สี่
ทั้งสองโต๊ะก็เริ่มเมาได้ที่กระโดดกันซะ
แล้วผมก็หันไปเห็นว่า มีคนเข้ามาเกาะแกะไอ้หมาของผมประมาณตามแบบประชิดหลังเลย ซึ่งไม่ใช่เพื่อนในกลุ่มมันด้วย
เจ๊บิ๋มรีบเข้ามากระซิบว่า “ต๋อง ไปดูไอ้หมามันหน่อยมั๊ย ดูผู้ชายคนนั้นมันแปลกๆนะ”
“ช่างมันเหอะ เจ๊ ไม่มีอะไรหรอก” ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆนะครับ
ผมไม่ใส่ใจหรอก อาจจะมีแอบหึงเล็กๆ แต่ก็นะ อยากลองใจดูเหมือนกันว่าจะเป็นยังไง
แต่ก็ไม่เห็นมันสนใจอะไรผู้ชายคนนั้นเท่าไหร่ ผมเลยสบายใจ
จนตีหนึ่งกว่าๆ เพลงกำลัง Peak ได้ที่ หลังจากที่ผมกระโดดจนเหนื่อยกับเพื่อนในกลุ่ม
หางตาก็บังเอิญหันไปเห็นไอ้หมากำลังกอกับเพื่อนของมันในกลุ่ม แถมมีมันกำลังอยู่ที่เป้ากางเกงเค้าด้วย
แต่แค่แว๊บเดียว เหมือนแอบจับมากกว่า
ผมถึงกับหน้าชาไปเล็กๆ แต่ก็ยังเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่ามันคงเมาหนักมากกว่า
พอร้านปิด หลังจากที่ผมไปส่งเพื่อนขึ้นรถไปหมดแล้ว เลยโทรหาไอ้หมากะว่าจะไปส่ง
“ไอ้อ้วนกลับไปก่อนเลย ยังอยู่หน้าร้านนนน” เสียงยานๆของมันทำให้รู้ว่ามันเมาหนักเลย
“ไหวเปล่าเนี่ย” ผมถามด้วยความเป็นห่วง
“ไอ้อ้วนกลับบ้านไปก่อนเลยไป แค่นี้นะ”
“เออ ถึงบ้านโทรบอกเค้าด้วยล่ะกัน กลับดีๆนะ”