[เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] Scum's Wish 11/12/60
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] Scum's Wish 11/12/60  (อ่าน 2752 ครั้ง)

ออฟไลน์ made in june

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
ข้อตกลงเล้าเป็ด และก่อนโพสนิยาย กรุณาอ่านและปฎิบัติตามนะครับ

***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


นิ ย า ย เ รื่ อ ง อื่ น
[เรื่องสั้น] กระทงวิศวะ
[เรื่องสั้น] แฟนดีดี
[เรื่องสั้น] Bite
[เรื่องสั้น] Daddy Issues
คุณงดงามเกินไปที่จะตากฝนคนเดียว (ยังไม่จบ)





  Scum's Wish  

  นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นไม่อ้างอิงจากหลักความเป็นจริงและความสมเหตุสมผลใดใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน คำเตือน : ค่อนข้างไม่ฟีลกู๊ด   
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ made in june

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
Scum's Wish




ถ้าที่นี่คือโพรงกระต่าย ผมก็คงกำลังตกลงไป ดำดิ่งอยู่ในความมืด ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดสิ้นสุด




12 January




แสงแดดให้ความรู้สึกถึงการมีชีวิต ประกายของมันระยิบระยับเมื่อต้องพื้นผิวของวัตถุ เวลาบ่ายของวันศุกร์ บนดาดฟ้าอาคารเรียน ผมเอนหลังพิงโต๊ะเรียนเก่า ทอดสายตาออกไปที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆ เพื่อนสนิทนอนเหยียดยาวอยู่ที่พื้นข้างตัว อาศัยร่มของผนังกั้นเพื่อบังไอแดด


'เลขที่17' ดูน่ารักและสกปรกในเวลาเดียวกัน เขาไม่สนว่าเสื้อผ้าของตัวเองจะเลอะในเมื่อลงนอนไปทั้งตัวอย่างนั้น


เลขที่17แตกต่างกับผมมากพอสมควรในเรื่องลักษณะนิสัย หมอนี่เป็นคนชอบอะไรง่ายๆ กินอยู่ที่ไหนก็ได้ไม่เรื่องมาก เป็นคนอัธยาศัยดีและดูเข้าถึงง่าย สำหรับผมที่เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขา รู้สึกถูกปฏิบัติเหมือนเป็นคนในครอบครัว


"นี่ไอ ถามอะไรหน่อยสิ" เจ้าตัวหันหน้ามาทางผม หน้าตาปกติที่มักจะยิ้มทะเล้นวันนี้ก็ไม่ยิ้มแล้ว แต่แสดงสีหน้าเป็นกังวลออกมา เลยอดเลิกคิ้วตอบไปไม่ได้


"มันเป็นคำถามสำคัญมากเลยเหรอ ปกติไม่เห็นเคยขอนี่"


"อ้าวไอ้นี่ คือด่ากันว่าปกติไม่เห็นมีมารยาทว่างั้น"


ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ "ยังไม่ได้พูดอะไรเลย"


"นายนี่แม่ง หน้านิ่งแต่แอบจิกกัดดีนะ...”
“เอาจริงแล้ว ถามอะไรหน่อยได้มั้ย เป็นเรื่องที่นายอาจไม่สะดวกใจจะตอบมากๆ"


"อืม"


"คือ เรื่องทุนมหาวิทยาลัย...น่ะ" ถึงจะเป็นเรื่องที่คิดไว้ว่าคงจะสำคัญ แต่พอได้ยินชื่อนั้นออกจากปากเพื่อนข้างตัวก็อดชะงักไปเล็กน้อยไม่ได้  คือชื่อมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านวิทยาศาสตร์ เป้าหมายในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยของผม


"...ที่โดนเปลี่ยนทุนน่ะ มันยังไงเหรอ พวกคนอื่นนินทากันให้แซ่ดว่านายไปทำอะไรให้ครูไม่พอใจเลยถูกตัดสิทธิ์ออก"


"จะพูดก็พูดเถอะ ปกตินายเคยทำอะไรใครที่ไหน นอกจากเรื่องโดดเรียนมานอนเป็นเพื่อนฉันก็แทบจะไม่มีเรื่องอะไรให้ว่าได้แล้วนะ"


ผมฟังเลขที่17 พูดเรื่อยๆ สายตาทอดมองออกไปด้านนอกของตึก มีคนมองออกมาจากอาคารเรียนที่อยู่ตรงข้าม ใครสักคนกำลังจับได้ว่าเราโดดเรียน


เลขที่17ไม่รู้สึกตัวยังคงส่งเสียงเจื้อยแจ้ว


"...ก็นะ ฉันว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของนาย ถ้าอยากเล่าก็คงจะเล่าเลยไม่ถาม แต่พอมีคนลือกันมากๆเข้าก็เลยอดสงสัยไม่ได้"


"จริงๆแล้วมันเป็นยังไงแน่?"


"เกี่ยวกับเรื่องรายได้ครอบครอบครัวน่ะ"


"ครูบอกว่า ควรที่จะให้เด็กที่จำเป็นทางการเงินมากกว่า เพราะยังไงฉันก็ต้องได้สิทธิ์เรียนดีอยู่แล้ว แถมยังไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินทอง" ผมตอบคำถาม ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ


"โห ฟังดูไม่ยุติธรรมเลยว่ะ เพราะงั้นสิเลขที่ 23 เลยได้รับไป"


"ก็เขาเป็นอันดับ 2 นี่"


"อา โชคดีโคตรๆ อย่างหมอนั่นน่ะเก่งซะเปล่าแต่ทำตัวโคตรหวงวิชา น่าหมั่นไส้" เลขที่17ทำหน้าเหม็นเบื่ออย่างที่ว่าหมั่นไส้จริงๆ


"เค้าไปทำอะไรให้นายไม่พอใจล่ะ"


"ไม่รู้ ไม่ชอบหน้า"


"อันธพาลแหะ"


"อย่าว่าแต่ฉันเลยเถอะ นายก็ดูไม่กินเส้นกับเลขที่23สักเท่าไหร่นี่ เท่าที่เห็นในห้อง ดูกระอักกระอ่วนกันจะตายชัก มันไปทางไหน นายต้องไปอีกทางตลอด


หงุดหงิดใช่มั้ยล่ะที่คนได้ทุนแทนเป็นหมอนั่น"


ผมอดที่จะเอียงคอถามออกไปไม่ได้ "ดูออกอย่างนั้นเลย"


"ใช่"


พอนึกตามแล้วก็หัวเราะออกมา เลขที่17ขมวดคิ้วมองหน้าผมด้วยความไม่เข้าใจ "ไม่หรอก"


"ถ้าไม่แล้วหัวเราะทำไม"


"ก็นายทำท่าตลก"


"ไอ นายยอมรับมาเถอะว่านายก็ไม่พอใจเหมือนกัน หน้าตาเทวดานี่นายจะจริงจังกับมันเกินไปแล้ว" เลขที่17 ยื่นมือมาผลักหน้าผากผม ‘ทากาฮาระ ไอ’ คือชื่อจริงๆของผมที่ถ้าไม่มีเขา เราก็อาจจะลืมไปแล้ว เพราะที่โรงเรียนแห่งนี้เราเรียกแทนกันตามลำดับที่ มีแค่หมอนี่คนเดียวที่เรียกชื่อจริงๆคนอื่นไปทั่ว



"ฉันไม่ได้ไม่พอใจจริงๆ ยินดีกับเขาด้วยซ้ำ"


"นายพูดแบบนี้ได้ก็เพราะบ้านนายรวย รู้ใช่มั้ย"


"เพราะฉันเป็นคนดีต่างหากล่ะ" ผมอดที่จะยิ้มออกไปไม่ได้ที่เห็นเพื่อนสนิทกลอกตาไปมา


"งั้นคนดีอย่างนายจะเลี้ยงมิ้ลค์เชคเพื่อนหลังเลิกเรียนหน่อยได้หรือเปล่าอ่ะ"


"อืม ได้" ผมชะงัก "ไม่สิ เย็นนี้ไม่ได้ แต่พรุ่งนี้ได้"


"เออๆ พรุ่งนี้ก็ได้ นายตอบตกลงไปทุกอย่างแบบนี้ทุกครั้งเลยเนอะ ทากาฮาระ ไอ นายเป็นคนดีเกินไปจนฉันชักจะรำคาญแล้ว"


"แสดงว่านายจะไม่กินสินะ?"


"ฝันเรอะ ของกินใครเขาจะล้อเล่น เดี๋ยวพรุ่งนี้เลิกเรียนนายรอฉันทำเวรแป้ปนึงแล้วเรานั่งรถไฟไปด้วยกัน ฉันมีร้านเปิดใหม่จะพาไป เลิกเรียนแล้วต้องรอก่อน โอเคมั้ย"


"แล้วแต่นายอยู่แล้ว"


"ดีมาก!"


"เราเข้าห้องเรียนกันดีกว่า ฉันว่าพวกครูที่อยู่ตึกโน้นกำลังจะโทรบอกครูที่ห้องปกครองว่าพวกเราโดดเรียน" ผมแตะบ่าเลขที่17


"เออ ไปๆ" เจ้าตัวรีบลุกขึ้นยืนปัดเสื้อผ้าบิดตัวไปมาด้วยความเกียจคร้าน แต่ไม่วายหันมาสั่ง "พรุ่งนี้อย่าลืมรอกันก่อนนะ"


"โอเค" ผมตอบรับคำแล้วเดินตามเพื่อนสนิทลงบันไดมาพอดีกับเสียงแจ้งเตือนจากกระเป๋ากางเกงดังขึ้นเลยหยุดเดินหยิบโทรศัพท์ออกมาดูข้อความเข้า


เลขที่ 17 เห็นผมหยุดเดินเลยหันมามอง


"นายเข้าห้องก่อนเลย ฉันจะไปห้องน้ำ" คนตัวเล็กกว่าพยักหน้ารับรู้แล้วเดินไปไม่ได้ถามอะไรต่อ นั่นเป็นข้อดีของหมอนี่ ไม่เซ้าซี้


ผมก้มมองข้อความสั้นๆ ประโยคในมือถือที่ส่งมาจากเบอร์ส่วนตัว


From 34.


'ที่ทางหนีไฟชั้นสาม’


ผมพิมพ์ข้อความตอบกลับต้นทางไป เป็นข้อความตอบตกลงสั้นๆ ก่อนจะเดินอย่างอ้อยอิ่งลงไปที่ชั้นสาม


เจ้าของข้อความครึ่งบรรทัดนั่นกำลังยืนพิงกำแพงเมื่อผมเดินลงมาถึง แค่เสียงฝีเท้าที่ดังอยู่ใกล้เจ้าตัวก็หันหน้ามามอง


เลขที่34ก็ยังเป็นคนที่รักษาลักษณะไม่น่าเข้าหาไว้ได้ดีเหมือนเดิม


"เรียกมามีอะไร"


"ของที่นายให้หา เอาไปสิ" เขายื่นซองขนาดเล็กมาตรงหน้าผม


"สาม?"


"ได้มาแค่นี้แหละ นี่ก็ใช้ได้เกือบสิบคนแล้ว จริงๆเขาจะไม่ขายให้ด้วยซ้ำแต่ฉันขอแบ่งมาใช้เอง"


"เขาเชื่อนายด้วยเหรอเนี่ย เฮโรอีนตั้งเกือบ10กรัม" ผมเลิกคิ้วแสดงสีหน้าสนใจ


"เงินต่างหากล่ะที่ทำให้เชื่อ"


"อ้อ" ผมพยักหน้าตาม "เท่าไหร่"


"ให้ฟรี" คำตอบเหมือนไม่ได้คิดของคนตรงข้ามทำให้อดเลิกคิ้วมองไม่ได้ วันนี้เกินความคาดหมายของผมหลายเรื่องเลยนะ


"แลกกับอย่างอื่น"


"อย่าง..."


"อย่างนี้"


"?"


จะว่าตกใจก็ดูจะโกหกไปหน่อย แต่หน้าตาของผมคงแสดงออกไปแบบนั้น เลยได้เห็นประกายตาแบบผู้ชนะมาจากคนตรงหน้า


ศีรษะถูกดันแนบกับกำแพง ริมฝีปากถูกกดทับด้วยริมฝีปากของคนตรงข้าม ขบเม้นเนิ่นนาน ผละออกและบดลงมาอีกครั้ง มุมปากถูกจูบซับไล่เล็มจนถึงปลายคาง


“แปลกแหะ จูบตอบด้วยนี่”


ผมหายใจเอาอากาศเข้าปอด แทบจะสำลักเพราะอาการหายใจไม่ทัน แต่คิดว่ายังสามารถรักษาท่าทางเอาไว้ได้


ได้ยินเสียงหัวเราะต่ำๆอยู่ข้างหู เลขที่ 34 กับสายตาวาววับกำลังมองผมอย่างขบขัน ผมเอียงหน้าหลบ ขบเม้มริมฝีปากฉ่ำชื้น


"อย่างนี้ดีกว่าเงินเยอะ อย่าก้มหน้า ขอดูหน่อย... อ่า ... ปากแตกแหะ" เพราะเขาจ้องปากผมเขม็ง เลยอดแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากไม่ได้ รสเค็มปร่าของเลือดเจืออยู่ที่ปลายลิ้น กลิ่นฉุนกึกชวนอ้วกจนผมอยากเบ้หน้า


"เป็นหมาหรือไง" ผมพูดเสียงนิ่ง อีกคนเลิกคิ้วทำไม่รู้เรื่อง


"ขอโทษที แต่มันอดไม่ได้"
"จริงๆต้องโทษตัวนายเองที่อยากทำหน้าแบบนั้นก่อนนะหัวหน้าห้อง”


เหรอ...


ถ้าถามว่าแบบไหนออกไปก็จะดูเสแสร้งเกินใช่มั้ย


ผมรู้แหละ ว่าใครที่แพ้ใบหน้านี้บ้าง


นอกจากรอยยิ้มเสแสร้งที่มักแสดงออกแล้ว แววตาหลงใหลนั่นก็ปิดผมไม่มิด


"ฉันกลับห้องเรียนล่ะ ขอบคุณสำหรับของ"


"ไม่เป็นไร ...แค่อย่าติดก็พอ
ไอ้นี่มันไม่ได้มาบ่อยๆ ของหายากแบบนี้มันอันตราย"


ผมไม่ได้ใช้เอง เพราะอย่างนั้น "ไม่เป็นไรหรอก"


"อ้อ อีกอย่าง ยังไงก็ระวังหน่อยแล้วกัน ช่วงนี้พวกอาจารย์กำลังจับตามองอยู่ สงสัยจะมีคนคาบข่าวไปบอก"


"ไม่มีหลักฐานใครจะเชื่อ"


"นายก็อย่าทำให้มีล่ะ"
"อย่าพลาด เพราะฉันก็ไม่อยากทำตัวเลว โดยเฉพาะกับนาย"


คนพูดเสียงจริงจังพร้อมกับจ้องเข้ามาในตา


ผมยิ้มรับ


"ไม่อยู่แล้ว"


...ต่อให้ทำพลาด คนที่ต้องได้รับโทษ ยังไงก็ไม่ใช่ผมแน่นอน
.
.
.
.
ผมเข้ามาในห้องเรียนหลังจากคาบเรียนสุดท้ายเลิกไปสักพัก พอเลขที่17หันมาเห็น หมอนั่นก็ส่งสายตาแบบเหลือเชื่อพร้อมคาดโทษมาให้


พอจะเดาออกว่าเพื่อนไม่พอใจที่ผมแอบหลบไปโดยปล่อยให้เขากลับมาห้องเรียนคนเดียว


เจ้าตัวกำลังเก็บกระเป๋าเตรียมกลับบ้านแล้วเหมือนกัน


อีกมุมหนึ่งของห้อง เลขที่ 23 คนในหัวข้อสนทนาของเราเมื่อตอนบ่ายกำลังตั้งหน้าตั้งตาจดจ่ออยู่กับหนังสือ เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมเล็กน้อย คิ้วเลิกขึ้นคล้ายจะถามว่ามองหน้าทำไม พอไม่ได้รับคำตอบจากผมก็ก้มหน้าลงจ้องงานที่กำลังทำเหมือนเดิม


ผมเดินเข้าไปร่วมวงสนทนาของเพื่อนคนอื่นในห้อง บางส่วนกำลังเก็บของจะกลับบ้าน หัวข้อสนทนาไม่ได้เปลี่ยนไปจากทุกวัน เช่น เลิกเรียนแล้วไปกินข้าวที่ไหนดี ใครมีเรียนกวดวิชา ใครจะไปเดินซื้อของต่อบ้าง


"หัวหน้าห้องมาพอดี นายไปกินทงคัตสึกับพวกเรามั้ย เลขที่ 5 มันได้บัตรส่วนลดร้านที่เปิดใหม่ในห้างมา" เพื่อนคนหนึ่งหันมาถามผมที่เดินเข้ามาใหม่ ผมส่ายหน้าตอบช้าๆ


"ไม่ล่ะ พวกนายไปกันเถอะ ตอนเย็นฉันต้องไปทำธุระ"


"น่าสงสาร งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ"


"โอเค"


ผมโน้มตัวลงนอนกับโต๊ะเขียนหนังสือตอนที่ทั้งห้องเหลือนักเรียนอยู่ไม่กี่คน ใช้นิ้วชี้ไล้ตามขอบโต๊ะ ต้องรออยู่ถึงห้าโมงเย็นไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่ตอนไหน มารู้สึกตัวเหมือนอะไรไต่อยู่บนเปลือกตา


ลูกแก้วใสสีดำกำลังจ้องผมจากระยะประชิด


"ทำอะไร" แม้จะบังคับไม่ให้เสียงที่เปล่งออกไปนิ่งเกิน แต่ก็ทำไม่ได้อยู่ดี เลขที่ 23 รีบผละออกจนเกือบหงายหลัง สีหน้าเขาดูตกใจเหมือนถูกจับได้ว่าทำความผิด


"พ...เพื่อนกลับกันหมดแล้ว ผมเห็นนายหลับอยู่เลยมาปลุก"


"ฉันยังไม่กลับ"


"อ่า เหรอ ..." ท่าทางเงอะงะแบบนี้มันอะไรน่ะ
"งั้นขอโทษที่ปลุกนาย นายนอนต่อเลย..."


"ไม่ล่ะ" ผมยืดตัวขึ้นคว้ากระเป๋าพาดบ่า


"งั้นผมขอกลับด้วยนะ"


"..." ผมไม่ได้ตอบ แค่หันไปมองอีกคนนิ่งๆ ตาใสภายใต้แว่นตากรอบสีดำดูไม่รู้เรื่องรู้ราว


รู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อบริเวณท้ายทอยเครียดเกร็งขึ้นมา


ผมเดินกลับบ้านในเส้นทางเดิมเหมือนทุกๆวัน โดยมีคนเดินเดินตามเป็นเงา หมอนั่นค่อยๆสาวเท้าเดินด้วยท่าทางเงอะงะตามมาจากด้านหลัง ผมหยุดทีหนึ่งเขาก็หยุดทีหนึ่ง


น่าหงุดหงิดแหะ


“สนุกมากมั้ย” ผมเอ่ยถามเมื่อเราเดินมาหยุดหน้าประตูรั้วของบ้านหลังหนึ่ง หันไปมองคนด้านหลังอย่างใส่อารมณ์


“หมายถึงเรื่องอะไรเหรอ” เขาถามมองผมที่ขมวดคิ้ว “เข้าบ้านก่อนมั้ย วันนี้พ่อแม่ผมน่าจะกลับค่ำ”


“ที่นายทำอยู่ตอนนี้ ท่าทางเหมือนพวกขี้แพ้นี่มันอะไร”


“เอ๋ พูดเรื่องอะไรน่ะ” ดวงตาใต้แว่นมองมาอย่างไม่รู้สึกรู้สา คนล้วงกระเป๋านักเรียนหยิบกุญแจบ้านออกมาหน้ายังคงฉาบรอยยิ้มซื่อ “เข้าบ้านก่อนสิ ผมอยากให้นายช่วยอะไรนิดหน่อย”


“ไม่ล่ะ”


“นายปฏิเสธได้ด้วยเหรอ หัวหน้าห้อง ...ขอร้องล่ะ”
.
.
.
.

ไอ้สารเลวเลขที่23


มือของหมอนั่นกดที่หลังของผม หายใจไม่ออกทั้งยังต้องกลั้นไม่ให้หลุดเสียงร้องจากการขยับอย่างรุนแรง


เจ็บไปหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาถูกจิกกระชากเส้นผม


“ฮะ... ยังเหมือน เดิมเลยนะ หลังจากครั้งล่าสุด ไม่ได้ไปทำกับใครอีกเลยเหรอ

ดูสิ อ...า ผมทำตั้งขนาดนี้ยังรับได้อยู่อีก


ร่างกายนายนี่มันสุดยอดเลย”


ผมกัดหมอนไว้แน่นไม่ให้เสียงลอดออกมาตามใจคนกระทำ แรงขยับเสือกกายยิ่งรุนแรงมากขึ้น


“อึก”


“ทนได้ก็ทนไป อยากรู้เหมือนกันว่าจะทนได้ซักกี่น้ำ” คนหยิบของสิ่งหนึ่งยื่นมาตรงหน้า ผมเบิ่งตาโพลง


“ฮ ...”


“ผมไม่ได้ยินเสียงนายร้องแสดงว่าไม่เจ็บสินะ ถ้าอย่างนั้น จะใส่ไอ้นี่ไปพร้อมกันก็คงไม่เป็นไรใช่ไหม”


“ไม่! ไม่เอา”


“ปฏิเสธทำไมล่ะ”
“ผมเห็นนะเวลาที่พวกผู้ชายมองนาย ท่าทางเชิญชวนก็เพราะต้องการแบบนี้ไม่ใช่เหรอ  อยากได้จนรัดผมแน่นขนาดนี้แล้วนี่”


“ไอ้โรคจิตน่าสมเพช”


“ฮะๆ ด่าได้แรงสุดเท่านี้เอง... จะใส่เข้าไปเบาๆนะครับ”



“อ....”


“เวลาว่าง่ายๆน่ะน่ารักจะตายครับ ทำไมชอบให้ผมบังคับก็ไม่รู้ ก็รู้นี่ว่าถ้าผมตกใจจนเอาเรื่องต่างๆนาๆไปพูด จะมีคนเดือดร้อน แต่นายชอบทำให้ผมโกรธอยู่เรื่อยเลย”


“รู้อะไรมั้ย เวลาเห็นนายทรมานแทบตายแต่ไม่ยอมร้องออกมามันยิ่งกระตุ้นความอยากเอาชนะของผมนะ... อยากให้คนอื่นมาเห็นสีหน้าตอนถูกกอด


ทากาฮาระ ไอ ที่มีตัวผมอยู่ข้างในต้องทำไอ้พวกนั้นคลั่งตายแน่ๆ”


“รูปตอนเต็มไปด้วยเหงื่อ คงจะขายได้สัก1500”


“รูปตอนนอนหลับน่าจะได้สัก 2000”


“เอ มีรูปตอนคุกเข่าทำให้ผมด้วยนี่...หน้าตาสวยๆเวลาแสดงสีหน้าลามก สัก4000เยนก็น่าจะไหวนะ”


“ซี๊ด รัดแน่นเกินไปแล้วครับ”


คลิ๊ก!


“อื้ออออ”


“ฮ่าๆๆ แบบนี้สิ! หน้าตาแบบนี้แหละที่ผมอยากเห็น ฮะ น้ำลายไหลแล้วนะครับ ลามกจริงๆหัวหน้าห้องเนี่ย”


คนตามมาไล่เลียตั้งแต่ริมฝีปากของผมจนถึงปลายคาง เสียงดูดกลืนได้ยินอยู่ข้างหู


“บอกว่าไม่เอา แต่ตรงนี้ออกมาเยอะขนาดนี้ เป็นคนมาโซคิสแท้ๆเลย”


“เหมือนนายจะสามารถใส่เข้าไปอีกได้เลยนะ แค่สองคงจะไม่พอแล้ว”


“ไอ้ แฮ่ก สารเ อื้ออ เลว สารเลว! อื้อๆๆ”


“ปากดีจริงๆน้า งั้นวันนี้จะเสร็จในปากแล้วกันนะครับ เด็กก้าวร้าวต้องถูกสั่งสอน”


“ฮะ ฮ่าๆ ทำหน้าอะไรอย่างนั้น ด่าผมอยู่ในใจเหรอ แช่งไปผมก็ไม่ตายในเร็วๆนี้หรอก


“เอาล่ะ ที้นี้ก็อ้าปากซะสิครับ

...ผมเห็นนายปากแตกด้วยนิ คงจะแสบหน่อย แต่ทนเอาแล้วกัน

ทำดีๆ อย่าให้โดนฟันล่ะ”


ไอ้ระยำเลขที่23 สวะเอ๊ย


ในความมืดผมมองเห็นมือหนึ่งที่ยื่นมาฉุดรั้งกลับขึ้นไป มองเห็นรอยยิ้มสวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา สะอาดและบริสุทธิ์เสียจนทั้งชีวิตก็ไม่อาจแตะต้อง
.
.
.
.
แม้จะผ่านมาแค่สองเดือน แต่นานเหมือนแรมปีสำหรับบางคน


สถานที่ตรงหน้าของผมเป็นถนนเส้นหนึ่งในย่านเที่ยวยอดนิยม มันคลาคลั่งไปด้วยผู้คน แต่ผู้หญิงและผู้ชายที่เดินกอดซบกันอยู่ตรงหน้านั้นจำได้ดี อาจารย์ที่โรงเรียนของผม และผู้หญิงสวยแต่มีอายุคนนั้นคือคนที่ได้ชื่อว่าแม่


โมเตลราคาถูกคือจุดหมายของทั้งคู่ ผู้ชายคนนั้นทำให้ผมขยะแขยง เพราะเป็นอาจารย์คนที่นึกรักและเคารพจากใจจริง ผู้หญิงคนนั้นทำให้ผมขยะแขยง เพราะเป็นภรรยาที่ฉวยโอกาสลับหลังสามีและลูกมาทำเรื่องน่ารังเกียจได้อย่างไม่สะทกสะท้าน


เสียงหัวเราะดังมาจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมองด้วยความแปลกใจ มันเป็นเสียงของเพื่อนคนหนึ่งในห้อง เรียกได้ว่าจืดจางแทบจะเป็นอากาศสำหรับพวกเรา


เด็กผู้ชายตัวสูง ใส่แว่นทรงเหลี่ยม บ้าเรียน ลักษณะท่าทางเหมือนพวกขี้แพ้ มุมปากเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ถ้าหากเป็นเวลาปกติคงจะดูหล่อเหล่าและน่าคลั่งไคล้


ผมมองรอยยิ้มนั้นนิ่งค้าง เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหมอนี่ใช้น้ำเสียงแบบนั้นออกมา ตาพราวระยับจ้องไปที่คนสองคนที่กำลังเดินกอดเกี่ยวที่ทางเข้าของโรงแรมก่อนจะก้มลงมามองผม


“ฉาวโฉ่ดีแหะ ว่ามั้ยทากาฮาระ”


เป็นประโยคแรกที่ผมคิดว่าออกมาจากใจจริงๆของเขาตลอดการร่วมชั้นมัธยมปลายด้วยกันมา
.
.
.
.
“ถ้านายติดม.โตเกียวแล้วฉันจะทำยังไงดี ฉันไม่มีเพื่อนคนไหนอีกแล้ว”


“วันหยุดก็มาเจอกันได้”


“มันไม่เหมือนกัน ปกติฉันกับนายเราตัวติดกันตลอด ถ้าต้องแยกกันอยู่ ก็ไม่ใช่คู่หูสิ”


“นายก็สอบเข้าม.โตเกียวสิถ้าอย่างนั้น”


“พูดง่ายทำยาก ฉันไม่ได้ฉลาดเหมือนนายนะทากาฮาระ”


“เกนจังก็พยายามมากขึ้นอีกนิดสิ เลิกโดดเรียนได้แล้ว”


“บอกว่าอย่าเรียกเกนจังไง ไม่ใช่เด็กๆแล้ว!”


“ถึงตัวจะเป็นผู้ใหญ่ แต่สมองนายยังเป็นเด็ก”


“ทากาฮาระ ไอ!”


“ฟูจิวาระ ฮิรากิ”


“นี่ฉันจริงจัง นายยังจะพูดเป็นเล่นอยู่อีก เรากำลังจะเสียเพื่อนที่รักที่สุดไปให้กับอุปสรรคทางการศึกษาอยู่นะ”


“ตกลงต้องการจะให้ฉันทำยังไง”


“ไม่รู้ ฉันแค่รู้สึกใจหาย”


“แยกกันอยู่ไม่ได้ตายจากกันสักหน่อย”


“แต่นายเป็นเพื่อนรัก เราแยกกันอยู่ไม่ได้”


“รักมากเลยเหรอ”


“มากกว่าที่นายรักฉันแน่นอน ...สีน้ำตาลในตาของไอกำลังฉายภาพของฉันล่ะ เป็นสีน้ำตาลที่อ่อนจริงๆ เห็นแล้วอยากดื่มชาเลย”


“อืม ...ถึงขนาดที่ตายแทนได้?”


“อ่า เอ่อ ต้องดูก่อนว่าตายแบบไหน”


“หึๆ นึกว่าจะแน่” ผมใช้นิ้วเกี่ยวผมที่หน้าผากของคนตรงข้าม เลขที่ 17 ตาใสเหมือนลูกแก้ว ภาพของผมที่ฉายในดวงตาดูหลงใหล และโง่งมเกินไป ผมหวังว่าคนตรงหน้าจะไม่สังเกตเห็นมันผ่านดวงตาสีดำคู่สวยนี้


“อ่า นายก็รู้นี่ว่าฉันเป็นคนขี้ขลาด ว่าแต่ทำไมคอนายถึงเป็นรอยล่ะ มันช้ำมากเลยนะ รอยอะไรน่ะ...” ผมเบี่ยงตัวหลบมือที่ยื่นมาดูคอเสื้อ ได้เห็นท่าทางชะงักจากเลขที่17 หมอนั่นดูอึ้งไปที่เห็นผมปฏิเสธ


“ภูมิแพ้น่ะ ฉันไปเกามันเลยเป็นแผล”


“ดูแลตัวเองดีๆหน่อยสิ อย่าเจ็บอย่าป่วย”


“แปลกใจเลยที่ได้ยินประโยคนี้จากคนที่เพิ่งขาดเรียนเพราะไข้หวัดใหญ่อย่างนาย”


“นั่นมันสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ต่างหากล่ะ” เลขที่ 17 สูดน้ำมูก ปลายจมูกเล็กเริ่มแดงจางๆเพราะถูกความเย็นกัด ผมเอื้อมมือไปคว้าข้อมืออีกคนแล้วนำมาซุกไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ทด้วยกัน


“เอ๋ หิมะตกล่ะ” มือข้างที่ว่างถูกเจ้าของยกขึ้นรองละอองสีขาว ใบหน้าเล็กแหงนขึ้นมองท้องฟ้า ทันใดนั้นก็หันมายิ้มให้ ประกายในตาระริกเหมือนกำลังเต้นรำ ท่าทางตื่นเต้นดีใจ ใบหน้ายิ้มนั้นซ้อนทับกับภาพในความทรงจำ เย็นจนเสียดแทงข้างในอก


“เลขที่ 17 นายรักแม่มั้ย”


“หืม ฮ่าๆ ทำไมอยู่ดีๆถามขึ้นมาล่ะ นายทะเลาะกับแม่อีกแล้วเหรอ”


“เปล่า แค่อยากรู้”


“รักแน่นอนอยู่แล้ว จริงๆฉันว่า ฉันรักแม่มากกว่ารักพ่อซะอีก”


“สส. ฟูจิวาระต้องร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดแน่ๆถ้าได้ยินลูกชายคนเดียวอย่างนายพูดออกมาแบบนี้”


“ฮ่าๆ พ่อฉันไม่ว่าอะไรหรอก พ่อยอมให้แม่เป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว
สำหรับฉันแม่ก็เป็นที่หนึ่งเหมือนกัน ...”
.
.
.
.
เสียงเรียกในความมืดเป็นเสียงเดียวกับกับที่ผมเคยได้ยินเมื่อ 8 ปีก่อน ร่างกายของเด็กชั้นประถม ยังไม่ทันได้เจริญเติบโตอย่างเต็มที่ก็ได้รับฝากรอยแผลที่หัวเข่าทั้งสองข้าง เสียงตะโกนเรียกนั้นใกล้เข้ามาก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้า เอ่ยคำปลอบใจสารพัด แต่ผมไม่หยุดร้องไห้ ความเจ็บปวดจากแผลที่หัวเข่ากลั่นออกมาเป็นหยดน้ำสีแดง


“หยุดร้องนะไอคนดีของฉัน แค่ปั่นจักรยานเอง นายคนเก่งทำได้อยู่แล้ว”


“ถ้าไอปั่นจักรยานได้ เราจะได้มาโรงเรียนพร้อมกันทุกวันเลย ไม่อยากมาโรงเรียนพร้อมฉันเหรอ”


ผมพยักหน้าทั้งน้ำตา แน่นอนว่าอยาก


“’งั้นก็ทำให้ได้สิ ...นะ...ทำเพื่อฉันนะ”


เข็มฉีดยาที่บรรจุน้ำสีใสถูกฉีดบรรจุกลับลงในขวดแก้ว แทบแยกไม่ออกกับสภาพเดิมที่เคยเป็น ไร้สี ไร้กลิ่น แม้แต่คนที่ใช้เป็นประจำก็คงไม่สังเกตถึงความต่าง ชั่วขณะหนึ่ง ความลังเลและกลัวแล่นเข้ามา มือที่ถือเข็มฉีดยากระตุกเกร็ง



เสียงนั้นยังดังก้องอยู่ในหัว  ผมบังคับให้มือหยุดสั่นได้ในที่สุด




ออฟไลน์ made in june

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
16 January



ในห้องเรียนของเช้าวันจันทร์วุ่นวายเป็นพิเศษ เพื่อนในห้องต่างพูดคุยสนทนาถึงวันหยุดเสาร์อาทิตย์อย่างออกรส สรรพเสียงรอบตัวถูกแยกออกจากกันตอนที่หัวข้อสนทนาเปลี่ยนไป ข่าวดังเมื่อวันเสาร์ถูกยกขึ้นมาพูดอีกรอบจากเพื่อนเลขที่หนึ่งของห้อง วงสนทนาก็กว้างขึ้นทุกที


“ไม่น่าเชื่อเลยว่ะว่าคนอย่างครูจะทำเรื่องแบบนั้น” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในห้องออกความเห็น


“เออ ช็อคไปเลย จริงๆแอบเป็นคนแรงๆนี่หว่า”


“พวกนายนินทาคนตายไม่มีความละอายเลยนะ”


“เป็นครูแต่เสพยาสิควรละอาย นี่ตายเพราะความโง่ของตัวเองแท้ๆล่ะ”


“จริงๆ”


“แค่คิดว่าคนแบบนี้เคยสอนเราในห้องก็ขยะแขยงแทบอ้วก ฉันเคยคิดว่าเขาหล่อไปได้ยังไงเนี่ย”


“ก็อายานะเป็นคนร่านๆไง”


“ฉันไม่นอนกับไอ้ขี้ยาโว้ย”


“ฮ่าๆ ล้อเล่นน่า ว่าแต่ ทำไมต้องเอาเฮโรอีนใส่ไว้ในขวดยาวะ”


“หลบตำรวจมั้ง พอเอาใส่ไว้ในขวดคนก็ไม่สังเกตละ”


“โคตรลึกลับ เห็นในข่าวบอกว่าเสพเกินขนาด มือสั่นเลยนะตอนเห็นรูป ไม่คิดว่าจะเป็นครูโรงเรียนเรา” เลขที่ 5 ก็เข้าไปร่วมวิพากษ์วิจารณ์ด้วยอีกคนหนึ่ง

“อย่าเอาไปลงอินเตอร์เน็ตนะโว้ย ขี้เกียจถูกสอบสวนเหมือนตอนแกล้งกันคราวนั้นอีก”


“เออ ไม่ลงหรอก ใครทำแม่จะจับตีให้มือหัก ... ว่าแต่หัวหน้าห้องดูซึมไปเลยนะวันนี้”


“แหงสิ หัวหน้าห้องสนิทกับอาจารย์ ต้องมีรู้สึกอะไรบ้างแหละ ใครจะไปใจไม้ไส้ระกำแบบพวกแกล่ะ”


“โหย ว่าฉันไม่ดูตัวเองเลยน้าเลขที่7”


“ฮิฮิ แหย่เล่นจ้า”


“เป็นอะไร ทำไมวันนี้เงียบจัง” เลขที่17แตะมือบนไหล่ ผมละสายตาจากนอกหน้าต่างหันไปมอง คนขยับเก้าอี้โต๊ะตัวหน้าถอยมาใกล้โต๊ะเรียนของผม


วันนี้เลขที่17ใส่เสื้อคลุมไหมพรมสีเขียวแก่ ตัดกับสีขาวของผิว และสีดำของเส้นผม พอผมหันมามองสบตา คนก็ยิ้มให้


“คิดเรื่องครูอยู่เหรอ”


“เปล่าหรอก แค่สงสัยว่าทำไมนกตัวนั้นถึงไม่ยอมบินไปสักที” ผมหันหน้าออกไปทางหน้าต่างอีกครั้ง ต้นไม้ใหญ่ข้างอาคารโน้มตัวทอดกิ่งลงมาใกล้กับกระจกห้องเรียน


“ไหน”


“นกพิราบ ตัวสีขาวจุดดำ”


“เอ๋ ไม่เห็นมีเลย” เสียงคนที่ชะโงกหน้ามามองด้วยร้องประท้วง กลุ่มผมสีดำแทบจะชิดกับขมับของผม


“ตรงต้นไม้ หรือบนหลังคาตึกฝั่งนู้น? เอ ฉันว่าฉันมองเห็นแล้วนะแต่....” เสียงพูดค่อยๆเบาลงจากการสดับของผม เลขที่17ผู้เจื้อยแจ้วไม่รับรู้หรอกว่า ปลายผมเส้นเล็กที่สะบัดตามลม ริมฝีปากสีชาด กลิ่นหอมที่ต้นคอให้ความรู้สึกต่อคนใกล้ขนาดไหน


ทั้งหมดนั่น ไม่ใช่สิ่งที่ผมสามารถเป็นเจ้าของ หรือแม้แต่สัมผัส หัวใจของผมเต้นระรัว จนรู้สึกเจ็บ
.
.
.
.
สายตาหลงใหลน่ารักเกียจในความรู้สึกของผม มันเหมือนคนโง่ ผมกลัวว่าตัวเองต่อหน้าเลขที่17จะเป็นแบบนั้น ท่าทางที่ใครปฏิบัติต่อผม ผมแสดงแบบเดียวกันนั้นต่อเลขที่17ออกไปอย่างโจ่งแจ้งหรือเปล่า


เสียงหอบหายใจดังประสานกันคือเสียงของผมและเลขที่23 ผมอ้าปากหอบเอาอากาศเหมือนคนจมน้ำ คนควบคุมแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากอย่างพึงพอใจ ร่างกายขยับอย่างต่อเนื่อง


ผมใช้มือโน้มคอเขาลงมา สอดนิ้วมือเข้าที่เส้นผมสีดำสนิท จินตนาการว่ามันคือเส้นผมอันอ่อนนุ่ม ริมฝีปากเจือกลิ่นบุหรี่  เป็นริมฝีปากสีชาด เสียงดูดกลืนอย่างมูมมามของผมทำให้อีกคนหัวเราะ


“นี่เข้าฤดูของนายแล้วเหรอ”


“ฉันไม่ใช่สัตว์”


“อ่า โทษที เห็นนายทำตัวเหมือนสุนัขติดสัตว์เลยสับสนน่ะครับ”


“ไอ้...”


“อ๊ะๆ อยากปากร้ายนักสิ ...จุ๊บ”


“ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าแบบนี้ไม่ดี หัวหน้าห้องตอนยั่วๆน่ะเร้าอารมณ์สุดๆเลยต่างหาก”


“หุบปากซะที” ผมคำรามในคอแต่ไม่อาจดังเท่าเสียงหอบและเสียงหัวเราะชอบใจ


“ให้หุบปากแล้วจะจูบกับยังไงล่ะครับ” ผมทรุดตัวลงกับพื้นก่อนที่อีกคนจะพูดจบ


“อา ผมจะคลั่งตายอยู่แล้วครับ”
.
.
.
.
ห้องเรียนในวันต่อๆมายังคงเป็นแบบเดิม ต่างออกไปก็แค่ เลขที่34ลาออก


เดิมทีหมอนั่นก็ไม่ได้เป็นคนที่ตั้งใจเรียนอะไรอยู่แล้ว พอออกไปเลยไม่ได้เป็นที่สนใจของทุกคนในห้องเท่าไหร่นัก


ผมจำสีหน้าของเขาตอนที่ถลาเข้ามาหาผมได้ดี ดวงตาจ้องเขม็ง


“ยานั่น ที่นายเอาไป อาจารย์...” เขาพูดเสียงสั่น ทางทางสับสนลังเลใจ


“อือ พอต้มแล้ว สีเหมือนกับอินซูลินเลยนะ”


“นาย เวรเอ๊ย ทำทำไมวะ”
“แก แกฆ่าคน...”


“ฉันแค่เอาใส่ขวด เขาเป็นคนฉีดมันเข้าไปเอง”


“เขาฉีดมันทุกวันอยู่แล้ว คงไม่นึกว่าตัวเองจะตาย”


“ทำไปทำไมวะทากาฮาระ”

“แกฆ่าคนเลยนะ แม่ง ฉันจะซวยเพราะแก”


“บอกแล้วว่าคนที่เดือดร้อนยังไงก็ไม่ใช่ฉันแน่นอน”

“แกมันนรกชัดๆ”


รอยยิ้มของผมยังเป็นแบบเดิม แต่เขามองมันราวกับเห็นภาพปีศาจ
.
.
.
.
เลขที่17เคยถามผมว่า ครั้งสุดท้ายที่ร้องไห้นั่นเมื่อไหร่เหรอ มันนานจนผมเองจำไม่ได้ ผมต้องกอดปลอบคนที่ร้องไห้จนตัวโยน ตาบวมช้ำแดงก่ำจนเห็นเส้นเลือด ร้องไห้จนเหมือนกับว่าจะไม่มีน้ำตาไหลออกมาอีกแล้ว


ผมกอดศีรษะนั่นไว้แนบกับอก พร่ำบอกคำปลอบสารพัดที่คิดว่าอีกคนต้องการฟัง


‘ไม่เป็นไรหรอก’


‘นายจะไม่เป็นไร’


ในความเป็นจริง ไม่มีทางไม่เป็นไรแน่นอนอยู่แล้ว


“ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าแม่จะทำแบบนี้”


“ทำได้ยังไง เราเป็นครอบครัว พ่อกับฉันรักแม่ขนาดนี้ ทำได้ยังไง” เสียงร้องไห้ปริ่มจะขาดใจดังก้องอยู่ข้างหู เสียดแทงจนคนฟังยังเจ็บปวด เลขที่17สะอื้นฮักจนตัวโยน ดูน่าสงสารพร้อมจะแหลกสลายได้ทุกเมื่อ


คำปลอบว่าไม่เป็นไรนะ ของผมไม่สำคัญอีกแล้ว


สส.ฟูจิวาระ กำลังจะถูกภรรยาฟ้องหย่า เหตุผลเพราะสามีติดเหล้าแต่แท้จริงแล้วผมรู้ดีว่าเป็นเพราะอะไร


“ทำไมต้องเป็นแม่ฉันด้วย ... ไอ้สารเลวยาชิม่านั่น”


“แม่รักมันมากกว่าพ่อที่อยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิตได้ยังไง ฮือ ทำได้ ทำได้ยังไง”


“พอได้แล้ว หยุดร้องเถอะ อย่าพูดถึงมันเลยนะ ฮิรากิ”


ไม่แน่ใจว่าคำพูดของผมจะส่งไปถึงใจที่แตกสลายนั่นหรือไม่
.
.
.
.
เช้าของวันสุดท้ายในเดือนมกราคม พระอาทิตย์ได้ส่องแสงมาที่โลกของผม ใบสมัครสอบมหาวิทยาลัยโตเกียวถูกสอดไว้ที่ใต้โต๊ะ เหนือกองสมุด ผมดึงมันและวิ่งด้วยความเร็วเพื่อหาต้นตอที่ทำให้ใจเต้นราวกับจะพุ่งออกมาจากออกนั้น ร่างร่างหนึ่งนอนยาวเหยียดพิงโต๊ะเรียนเก่าๆบนดาดฟ้าที่เดิม


ใบหน้ากระตุกรอยยิ้มยินดีทั้งที่เปลือกตาปิดสนิท


ผมทรุดตัวลงนั่งบนขา โน้มตัวไปมองใบหน้าทะเล้นที่แกล้งหลับ


“ตื่นขึ้นมาอธิบายเดี๋ยวนี้ว่านี่อะไร”


“อะไรอ่ะ คนจะนอน มาปลุกกันแบบนี้ได้ยังไงไม่มีมารยาทเลย”


“ลุกเร็ว”


“ไม่อ่า จะนอน” ริมฝีปากสีชาดกระตุกรอยยิ้ม น่าหมั่นไส้เสียจนผมเบะปาก


“ถ้าไม่ตื่น เจ้าชายจะจูบปลุกนะ” ผมแกล้งกระซิบข้างหู จากนั้นก็ต้องผงะเพราะมือที่ฉวยยึดตรงบ่า ระยะห่างของจมูกเกือบชนกัน


“จูบเลยสิ อัศวินอยากได้จุมพิตจากสาวงาม ฮ่าๆ”


“ประสาท”


“อะไรเล่า ปากนุ่มๆของไอมันน่าจุ๊บนี่นา มาจุ๊บกันดีกว่าๆ”


“เลิกเล่นได้แล้ว ฮ่าๆ จั๊กจี้” ผมดิ้นหนีคนที่ทำท่าทางปากจู๋น่าเกลียดและมือปลาหมึกที่ทำท่ายึกยือ เสียงหัวเราะของเราดังประสาทกัน


“ใบสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวนี่อะไร ไหนบอกว่าจะไม่สอบไงล่ะ”


“ก็กลัวไอเหงานี่ ถ้าได้ไปเรียนที่เดียวกันน่าจะดีกว่า”


“ใครเหงากันแน่”


“ไอแหละ”


“ใช่เหรอ”


“ยอมรับก็ได้ว่าฉัน” มันยากเกินไปที่จะกลั้นยิ้ม ในเมื่อผมรู้สึกมีความสุขขนาดนี้


“ถ้ารู้ว่าฉันสมัครเรียนม.โตเกียวแล้วไอจะดีใจขนาดนี้ คงสมัครไปนานแล้ว นายเพิ่งยิ้มครั้งแรกเลยรู้มั้ยหลังจากงานศพ...งานศพครูยาชิม่า”


“เลิกเสียใจได้แล้วนะ”



“ฉันไม่ได้เสียใจ”



“นายหลอกฉันไม่ได้หรอก”



“เพราะว่าเป็นไอ ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันน่ะนะ...."



“ฉันน่ะ ไม่เสียใจเลยสักนิดที่มันตาย”



“จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ขอบคุณด้วยซ้ำ



...คนแบบนั้นน่ะ ขอบคุณที่ตายไปซะ”




“ฉันรักนาย อย่าเสียใจอีกเลยนะ”



เสียงกระซิบที่ข้างหูปลุกปลอบหัวใจของผมอีกครั้ง สัมผัสลากลูบเบาๆที่เส้นผมข้างขมับ แค่ได้ยินคำพูดนั้น ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีทั้งหมดก็ไม่จำเป็น



ถ้าที่นี่คือโพรงกระต่าย ผมก็คงกำลังตกลงไป ดำดิ่งอยู่ในความมืด ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดสิ้นสุด
.
.
.
.
The end.




มันจะงงๆเพราะย้อนไปย้อนมา ถ้าอ่านตอนอารมณ์ไม่ดีอาจจะรู้สึกว่าแกเขียนอะไรของแก 555555
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 3 แล้วของเซ็ตที่ชื่อเรื่องเป็นภาษาอังกฤษ
เรื่องนี้มี theme song เป็นเพลง Me – The 1975 กับ Robbers – The 1975 เช่นกัน
** ในเนื้อเรื่องที่เรียกเป็นเลขที่เพราะไปดูซีรี่ย์ญี่ปุ่นเรื่องนึง เป็นซีรี่ย์หญิงล้วน ตัวละครในเรื่องเรียกกันเป็นเลขที่หมดเลย
ที่จริงเราคิดชื่อตัวละครไม่ออกค่ะ กรี๊ด ล้อเล่น

ใครที่รอคุณงดงามอยู่อยากกราบขอโทษมากๆที่ไม่สามารถอัพได้ เราไม่ว่างจริงๆ อ่านเรื่องสั้นฆ่าเวลาไปก่อนนะคะ
คอมเม้นท์ติชม หรือที่ทวิตเตอร์ madeinjune520 นะคะ ขอบคุณค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-12-2017 18:17:56 โดย made in june »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
 :a5: o22 :a5:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
 o22 อะไรยังไง...รักเลขที่17 แต่มีซัมติงกับเลขที่23 ? อืมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 :a5:

 :n1:

 o22

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
อะโห...
 :a5:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เป็นความสัมพันธ์ที่อิรุงตุงนังดีค่ะ ไอทำเพื่อเลจที่17ตลอดเลย ฮื่ออ เพราะรักนี่เอง

ออฟไลน์ Nefrit

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณค่ะ อ่านจบแบบงงๆ 55 ต้องอ่านเก็บรายละเอียดอีกรอบซะแล้วว
ขอบคุณคนเขียนค่าาา

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ชอบการเล่าเรื่องค่ะ ทำให้เราต้องตั้งใจอ่านกว่าปกติ อ่านไปแล้วก็วนกลับไปอ่านอีกรอบว่าเข้าใจถูกไหม? ฮาาาา

แต่อ่านจบแล้วแบบ...ห๊ะ

ขอบคุณนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] Scum's Wish 11/12/60
« ตอบ #9 เมื่อ: 16-03-2019 19:46:58 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ทุกคนมีอีกด้านหนึ่งที่ซ่อนเอาไว้สินะ
คิดไม่ถึงเลยคือน้องเลขที่17 น้องคือความน่ารักสดใสน่าเอ็นดูมาทั้งเรื่อง..

 :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด