ภัคมีเวลานั่งทบทวนเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ครึ่งค่อนวัน ขณะได้หลานสาวช่วยป้ายยาที่มุมปากและคอยสร้างเสียงหัวเราะให้เป็นระยะ ๆ แต่พอเด็กหญิงก้มหน้าก้มตาลงไปวาดรูปอย่างเก่า ร่างบางก็กลับมาทำสีหน้าเศร้าสร้อย เหม่อลอยตามประสาคนมีเรื่องในใจ ว่างหน่อยเป็นไม่ได้ จิตใจก็เริ่มฟุ้งซ่านจนต้องหางานให้ตัวเองทำ
“รออยู่ในห้องนะคะ เดี๋ยวน้าภัคมา” ร่างบางที่อาสาจะไปเอาขนมมาให้บอกทิ้งท้ายกับหนูดาแล้วค่อยเปิดประตูห้องออกมา แต่เมื่อหมุนตัวกลับหลังหันก็เจอกับภาพชวนเคืองตา นั่นคือภาพของคิมหันต์ที่ก้าวขึ้นบันไดมาขณะอุ้มมินตราที่แสยะยิ้มอย่างผู้ชนะ ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะทราบเรื่องความร้าวฉานของคู่รักไวไฟแล้ว
แววตาถึงได้ปรากฏแต่คำว่าสมน้ำหน้าตอนส่งสายตาหาน้องชาย เธอมีแผนร้ายว่าจะอาศัยช่องว่างระหว่างทั้งคู่เพื่อแทรกแซง วันนี้ยังไม่ทันได้แกล้งสำออยด้วยซ้ำนายตำรวจก็ยอมทำตามใจทุกอย่าง แถมยังรีบพาขึ้นมาด้านบนหลังจากที่บ่นว่าเหนียวตัวและอยากอาบน้ำ
สำหรับมินตรามันคือช่วงเวลาแห่งการตักตวงและกอบโกยโดยไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น
สำหรับคิมหันต์เรียกว่าการเอาคืนคนที่ยืนนิ่งไปราวกับช็อก
ส่วนภัคแทบหยุดหายใจขณะมองทุกอย่างเป็นภาพช้า มันนานโขกว่าพี่สาวจะเปิดประตูให้แทนคนมือไม่ว่างได้แล้วนายตำรวจก็เป็นคนอุ้มพาเข้าห้องไป ร่างบางได้สติอีกครั้งเพราะเสียงล็อกกลอนจากข้างในและสาวเท้าเข้าใกล้ประตูอย่างลืมตัว เกิดความกลัวไปต่าง ๆ นานา แค่คิดว่าชายหญิงอยู่ข้างในห้องสองต่อสอง ไหนจะเคยเป็นของกันและกันมาก่อนจิตใจมันก็ว้าวุ่นแปลก ๆ มือเรียวเกือบจะเคาะประตูไม้และเตรียมโวยวายให้บ้านแตก พร้อมจะแหกอกกันไปข้าง แต่พอตระหนักได้ว่าตนไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะสร้างความวุ่นวายได้จึงต้องหักห้ามใจ ลดมือลงกำไว้ข้างลำตัว
ภัคก้าวถอยหลังออกมาจากตรงนั้นทันทีก่อนจะเดินสวนกับชายที่ตามใบหน้ามีร่องรอยฟกช้ำ กลางดึกเมื่อวานคิมหันต์ไม่ได้ออกไปทำงานอย่างหุนหันพันแล่นเพียงอย่างเดียว แต่ยังต่อยชู้รักจนโหนกแก้มเขียวช้ำทำให้มีสภาพยับเยินพอประมาณ ทั้งสองคนเดินผ่านกันไปเฉย ๆ อย่าว่าแต่เอ่ยคำทักทาย หน้านี่ยังแทบไม่มองกัน
ปฏิบัติตัวฉันท์คนแปลกหน้า ส่วนเรื่องที่ผ่านมาก็ให้มันกลายเป็นเพียงอดีตซะ
ภัคเองก็ไม่ได้อยากจะทำตัวใจไม้ไส้ระกำ แต่ในยามคับขัน อยู่ห่างกันไว้คงเป็นทางออกที่ดี แล้วก็เชื่อว่าคนอย่างธันวาจะเข้าใจในการกระทำที่แสนเย็นชา หวังว่าจะไม่ถือสาที่เบี่ยงมือหลบจนอีกมือคว้าได้แต่ลมเปล่า ๆ
คนนึงแสดงออกว่าอยากจบความสัมพันธ์อันยาวนานเพื่อหันไปคบกับชายคนใหม่ที่รู้จักภายในเวลาช่วงสั้น ๆ หวังพึ่งน้ำบ่อหน้าโดยไม่รู้เลยว่าในน้ำนั้นอาจจะมียาพิษป่นเปื้อน ถึงมีใครเตือนก็ดูท่าจะไม่ฟัง ของอย่างนี้คงต้องปล่อยไปตามยถากรรม ก็ได้แต่หวังว่าจะกลับลำทัน ความจริงแล้วควรจะเข็ดขยาดกับพฤติกรรมโมโหร้ายและล้มเลิกความคิดอยากกลับไปคืนดีให้หมด เลือกคนผิดคิดจนตัวตาย รักผู้ชายที่รู้จักแค่ชื่อเสียงเรียงนาม ระวังสักวันความตายจะถามหา
บางทีอาจเป็นเวรกรรมที่ตามมาทวงคืนในรูปแบบของความรัก มีเหยื่อที่เกิดจากความรุนแรงมากมายแต่ที่คนเหล่านั้นเลือกจะไม่แจ้งความจับก็เพราะคำว่ารัก ภัคยังทำหลายอย่าง ๆ เหมือนปกติทั้งที่รู้ว่าไม่มีอะไรเหมือนเดิมสักอย่าง ยกเว้นการเดินไปหานายตำรวจเองถึงห้อง ไม่มีหน้าจะไปให้อีกคนมองแล้วก็เข้าใจว่าคืนนี้คงไม่มีแขกมาหาที่ห้องเช่นกัน
น้าชายกล่อมหลานสาวพาเข้านอนจนผล็อยหลับไปด้วยกันทั้งคู่ แต่กลางดึก จู่ๆ ก็รู้สึกแน่นหน้าอกและมวนท้อง ลองขยับร่างกายแต่ก็ไม่เป็นไปตามปรารถนา จนเมื่อลืมตาถึงได้รู้ว่าไม่ใช่กำลังโดนผีอำ แต่โดนคนด้วยกันจับเปลืองผ้า รีบดึงกางเกงนอนออกจากช่วงขาอย่างลวก ๆ แล้วตามด้วยการล่วงละเมิดทางเพศอย่างรุนแรง มือใหญ่แหกแข้งแหกขาคนที่อยู่ในอาการตกใจ แล้วสอดใส่อวัยวะสืบพันธุ์อย่างรีบร้อน
ภัคนอนผวาขณะรีบยกมือปิดปาก ระหว่างถูกกระทำชำเลาราวกับตุ๊กตายางก็ได้กลิ่นเหล้าโชยมาจากร่างกายอีกคนจนนึกว่าไปตกถังแอลกอฮอล์ที่ไหนมา ฤทธิ์น้ำเมาทำเอานายตำรวจขาดสติและมอบความกล้าหาญให้อย่างไร้ขีดจำกัด แทนที่สมรรถภาพทางเพศจะเสื่อมลงอย่างที่โฆษณาเครื่องมึนเมาเตือน เลือดยิ่งร้อน คิมหันต์ยิ่งแสดงถึงพละกำลัง
ส่วนคนเดียวที่เดือดเนื้อร้อนใจก็คือร่างบางที่เหลือบมองด้านข้างเป็นระยะ กลัวหนูดาที่นอนร่วมเตียงจะตื่นขึ้นมาเห็นพฤติกรรมอันหยาบคายของผู้ใหญ่ น้าชายพยายามส่งสายตาอ้อนวอนคนบนร่าง อย่างน้อยผ่อนแรงลงหน่อยก็ยังดี ช่วยปรานีกันสักนิด แต่สงสัยจะขอร้องผิดคน นอกจากจะไม่เพลาการเคลื่อนไหว ยังเสือกแก่นกายเข้าออกเร็วขึ้น
คิมหันต์ฉุดร่างที่พยายามขืนตัวไว้กับที่นอนขึ้นมา ก่อนภัคจะอาศัยจังหวะนั้นดันร่างใหญ่กว่าออกจากตัว นึกอยากจะปกป้องตัวเองขึ้นมา กระวีกระวาดหลบหนีจากการโดนข่มขืน ยืนหลังแนบกับผนังระหว่างนายตำรวจยอมเล่นตามน้ำ กลายเป็นชายโฉดที่มีความโกรธเป็นแรงขับเคลื่อนจนนำไปสู่การกระทำการอุกอาจต่าง ๆ ย่างสามขุมเข้าหาร่างบางที่มองหาทางหนีทีไล่ให้เลิ่กลั่ก นัยน์ตาหวั่นวิตกมองประตูซึ่งเป็นทางออกเดียวสำหรับห้องนี้ไม่วางตา
ก่อนร่างกายใหญ่จะขยับมายืนบดบังทัศนียภาพ คิมหันต์กำลังปลดเสื้อนอกออกจากตัวอย่างใจเย็น ส่วนภัคเหมือนเห็นภาพปัจจุบันซ้อนทับกับอดีตอีกทีขณะมีฉากล่อแหลมบางฉากผุดขึ้นมาในหัว …จุดเริ่มต้นของการมีผัวคนเดียวกับพี่สาว พี่เขยเมามายบุกเข้ามาปลุกปล้ำในคืนเดือนมืด ถูกขืนใจจนอีกฝ่ายสำเร็จความใคร่แล้วน้องเมียก็ตกกระไดพลอยโจน โดนลากเข้าสู่วงจรอุบาทว์และตกอยู่ในสถานะชู้นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ร่างบางค่อย ๆ ปล่อยให้น้ำตาไหลผ่านสันจมูกขณะโดนกดหัวกับชั้นวางของและถูกล่วงเกินช่องทางด้านหลัง กัดปากอดทนจนเลือดซิประหว่างบีบมือกับขอบไม้ ใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวในยามที่แฝดพี่กระทำพฤติกรรมเดียวกับที่แฝดน้องเคยทำอย่างโหดร้าย เอาความสุขตัวเองเป็นใหญ่ ส่วนใครจะเป็นจะตายก็ช่าง
การกระแทกกระทั้นยังคงดำเนินต่อไป นายตำรวจเร่งเครื่องเพื่อทำเรื่องที่ค้างคาให้เสร็จ เห็นอีกฝ่ายไม่คัดค้านก็ยิ่งทำด้วยแรงบันดาลโทสะ เอวสอบขยับรวดเร็วเมื่อเห็นหนทางบรรลุอยู่ร่ำไร ประเคนความบัดซบให้อย่างต่อเนื่อง กระเสือกกระสนจนเสร็จสมอารมณ์หมาย ร่างกายของภัคกระตุกก่อนแล้วคนยืนซ้อนหลังค่อยกระตุกตามแล้วค่อยชักแก่นกายกลับหลังจากหลั่งในจนสารคัดหลั่งไหลย้อยลงตามโคนขา พอเห็นว่าหมดค่าก็ปล่อยมือจากเอวคอดทันควัน คิมหันต์ดึงกางเกงขึ้นมาปิดของลับ ยืนรูดซิปค้ำหัวร่างบางที่กล้ามเนื้อขาอ่อนแรงจนล้มลงไปนั่งกองกับพื้นห้องอย่างหมดสภาพ
ภัคทำแค่มองปลายเท้าใหญ่ด้วยสายตาว่างเปล่าและแม้ว่าสองเท้านั้นจะค่อย ๆ ก้าวเดินจากไป แต่ไออุ่นก็ยังกรุ่นอยู่บนพรมสีน้ำตาล นัยน์ตาเหม่อลอยมองอยู่อย่างนั้นระหว่างระลึกถึงเหตุการณ์อัปยศ ไม่ว่าจะเป็นคนน้องหรือคนพี่พอย่ำยีกันเสร็จก็เดินจากไป ไม่มีการขอโทษสักคำ ร่างบางหลุดขำทำเหมือนมีเรื่องตลกเสียเต็มประดาขณะน้ำตาหยดลงหยดแล้วหยดเล่า ค่อยเปลี่ยนมานั่งกอดเข่าร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลัง เอามือปิดปากตัวเองตอนที่ต้องการกรีดร้องและประคองกอดตัวเองไว้เพื่อคลายหนาวในยามที่แดดส่องเข้าไม่ถึง
แม้เวลาจะล่วงเลยเข้าสู่เที่ยงวันแต่บรรยากาศกลับมืดครึ้มไม่ต่างจากตอนเช้าตรู่ กรมอุตุวิทยารายงานว่าจะมีพายุเข้า ภัคที่มีสีหน้าอิดโรยจึงต้องช่วยหลานสาวเก็บของ ระหว่างเก็บสีไม้เข้ากล่อง จู่ ๆ หนูดาก็พูดถึงความปรารถนาที่ทำเอาคนเป็นน้าชายยิ่งหดหู่ รู้สึกโดนเดี่ยวหลังจินตนาการล่วงหน้าไปคนเดียว “น้าภัค หนูอยากไปโรงเรียน”
“หนูดารู้เหรอคะว่าโรงเรียนคืออะไร”
“โรงเรียนใหญ่กว่าบ้านใช่ไหมน้าภัค แล้วก็มีเพื่อน ๆ ด้วย”
“หนูไม่อยากอยู่กับน้าภัคแล้วเหรอ”
คนเป็นน้าถามเสียงเศร้า พอคิดว่าหลานสาวจะต้องไปมีสังคมใหม่ ๆ ก็เกิดกลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นบุคคลสาบสูญและถูกลืมเลือนไป ร่างบางอยู่ในช่วงอ่อนไหวง่ายเพราะเมื่อคืนฝันร้ายที่ไม่เคยปริปากบอกใครดันถูกย้อนรอย เปราะบางทางอารมณ์ บาดเจ็บทางใจ แล้วหนูดาก็คือยาชนิดเดียวที่เยียวยาความทรมานนั้นได้
ส่วนเด็กหญิงเองก็เหมือนจะรู้ว่าน้าชายต้องการเพื่อนมากกว่าตัวเองเสียอีก “หนูไม่ไปโรงเรียนแล้วก็ได้ค่ะ” จึงยอมตกปากรับคำอยู่เป็นเพื่อนก่อนจะลุกขึ้นยืนบนม้านั่งแล้วรั้งหัวกลมของคนอายุมากกว่าซบกับอก ภัคยกมือโอบเอวเล็กตอบและปล่อยให้เด็กน้อยกอดปลอบใจท่ามกลางสายลมที่พัดแรงขึ้นเป็นระยะ ๆ ก่อนจะสงบลงอย่างน่าประหลาดในตอนที่แขกไม่ได้รับเชิญเดินเข้ามาขัดจังหวะหลังจากยืนสังเกตการณ์เป็นพัก
“เห็นแก่ตัว ไหนว่ารักนักหนาทำไมถึงไม่ปล่อยให้เด็กได้มีอนาคต” นายตำรวจถือวิสาสะนั่งลงข้าง ๆ ฝั่งร่างบางที่ขยับตัวออกห่างแทบในทันที ซึ่งคิมหันต์ก็พอเข้าใจว่าทำไมอีกคนถึงมีท่าทีแบบนั้น ถึงจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวและความทรงจำอันเลือนราง แต่ภาพเหตุการณ์ขืนใจก็ยังชัดเจนอยู่ รู้ตัวว่าผิดแต่ติดที่ไม่อยากขอโทษให้เสียฟอร์ม ถึงยอมพูดจริงก็ใช่ว่าคนฟังจะอภัยให้
“หนูดา เราเข้าไปในบ้านกันดีกว่าค่ะ”
“แต่ว่า”
“ถ้าหนูดาไม่ไป งั้นน้าภัคไปคนเดียวก็ได้” ทำตัวแสนงอนไม่สมเป็นผู้ใหญ่ น้าชายทิ้งหลานสาวไว้กับคนเป็นพ่อที่มองตามไม่คลาดสายตา จนเมื่อเห็นว่าหายไปแล้วถึงได้กลับมาสนใจเด็กหญิงที่ยืนมองนิ่ง ๆ และเว้นระยะห่าง คิมหันต์ใช้เวลาเกือบทั้งวันในการง้อขอคืนดี กว่าลูกสาวจะยอมถอนคำพูดว่าไม่เกลียดคุณพ่อแล้วก็เล่นเอาเหนื่อย
งานจับโจรดูง่ายดายมากนักหากเทียบกับการทำหน้าที่พ่อเลี้ยงเดี่ยวอย่างเต็มรูปแบบ นายตำรวจแทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว อย่างมากก็ได้แค่เข้าห้องน้ำ แต่มันก็เป็นความลำบากที่มีความสุข ลูกสาวเดินตามพ่อต้อย ๆ ติดสอยห้อยตามไปทุกหนทุกแห่ง มีงอแงเรียกหาน้าภัคบ้าง แต่พอบอกว่าจะพาออกไปซื้อขนมข้างนอก เด็กหญิงก็รีบวิ่งออกจากบ้านเป็นคนแรก แต่ถึงจะมีขนมเต็มไม้เต็มมือจนคิมหันต์ต้องช่วยถืออีกแรง หนูดาก็ยังถามหาภัคไม่คาดปากทั้งยังพูดเรื่องความดีความชอบของน้าชายไม่หยุด ส่วนคุณพ่อมีหน้าที่เป็นผู้ฟัง
หากร่างบางคิดส่งเด็กมาเพื่อล้างสมองกันก็ถือว่าได้ผล ความโกรธหดเหลือเท่าเม็ดถั่วและแทนที่ด้วยความรู้สึกผิดมหันต์ที่ดันทำร้ายนางฟ้าผู้แสนใจดีของลูกสาวจนร้องห่มร้องไห้
“เราเอาขนมไปแบ่งน้าภัคกันดีไหมคะ” วางแผนจะใช้เด็กหญิงเป็นสื่อกลางเชื่อมความสัมพันธ์อันสั่นคลอน แต่คิมหันต์ก็ต้องมีอันฝันสลาย ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ยืนคอตกไปตาม ๆ กันเมื่อพบว่าประตูห้องล็อกจากด้านในบ่งบอกว่าไม่ต้อนรับใครทั้งนั้น สองพ่อลูกจึงต้องเดินจูงมือกันกลับอีกห้องและถึงได้เห็นว่ามีคนเตรียมข้าวของเครื่องใช้ของเด็กหญิงไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
แม้แต่แก้วบ้วนน้ำลายเจ้าหญิงก็เตรียมไว้ให้เสร็จสรรพ ที่คิมหันต์ต้องทำมีแค่กางผ้าขนหนูรอรับยามหนูดาเดินตัวปลิวออกมาจากห้องน้ำ พาพัดแป้งแต่งตัวด้วยชุดนอนสีฟ้าก่อนจะช่วยสางผมที่เปียกอย่างเก้ ๆ กัง ๆ มีครั้งหนึ่งกระตุกหวีเสียแรงจนเด็กหญิงร้องด้วยความเจ็บปวด นายตำรวจถึงกลับหน้าเสียและขอแก้ตัวใหม่ ใช้น้ำหนักมือเบากว่าคราวแรก
พ่อแยกจากลูกไปอาบน้ำ แต่แค่สามสี่นาทีให้หลังลูกสาวก็ปีนลงจากเตียงและเดินมาเคาะประตูห้องน้ำเรียกเสียงดัง “คุณพ่อคะ คุณพ่อ…”
คิมหันต์ที่อยู่ในระหว่างสวมเสื้อผ้าตะโกนออกมาว่าจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ แต่เมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาจริง ๆ ก็ได้เห็นว่าเด็กหญิงทำมือกำลังทำไม้ราวกับสนทนาอยู่กับใครบางคนทั้งที่ตรงนั้นมีเพียงความว่างเปล่า
“หนูดา…?”
เด็กน้อยหันตามเสียงเรียกแล้วทำหน้าฉงน ทำไมคุณพ่อมีสองคนล่ะ แต่พอหันกลับมามองตรงหน้าคุณพ่อคนที่ทำแค่ยืนเฉยก็สลายหายไป เป็นเวลาเดียวกับที่นายตำรวจรีบเดินเข้ามาช้อนตัวลูกน้อยออกจากตรงนั้นพลางพูดเสียงดังฟังชัด ประกาศเตือนความจำอย่างไม่มีความเกรงกลัวต่อสิ่งลี้ลับ “ผีก็อยู่ส่วนผีนะ” พี่ชายบอกกับน้องซึ่งไม่รู้ว่ายังวนเวียนอยู่ในห้องหรือเปล่าแล้วค่อยพาหนูดาเข้านอน กอดไว้กับอกอย่างหวนแหน
“น้าภัคอยู่ไหนคะ ให้น้าภัคมานอนกับเราด้วยได้ไหม”
เด็กหญิงรู้สึกไม่ดีอย่างประหลาดและต้องการน้าชายมากที่สุดในชั่วโมงนี้
“อะไร ๆ ก็น้าภัคนะเรา”
“หนูอยากให้น้าภัคเล่านิทานให้ฟัง”
“พ่อก็เล่าได้เหมือนกันนะ สนุกด้วย กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…”
“หนูอยากให้น้าภัคหอมหน้าผากหนูก่อนนอน”
“โอเค ๆ หนูอยากให้ภัคทำอะไรอีกไหม พ่อจะได้ไปบอกเขาทีเดียว”
คิมหันต์ยอมยกธงขาวและทำตามบัญชาลูกสาวแต่โดยดี แต่การเดินมาตามร่างบางให้ไปด้วยกันนั้นใช่ว่าจะราบรื่นตั้งแต่นาทีแรก หลังยืนเคาะประตูอยู่ห้านาทีแล้วคนด้านในยังไม่มีท่าทีว่าจะเปิดประตูให้ สุดท้ายเสียงทุ้มตัดสินใจเอ่ยบอกว่าหนูดาเห็นอะไรบางอย่างเข้า
พอรู้ว่าหลานสาวเพิ่งเจอกับอะไร ภัคก็รีบเปิดประตูและเดินออกมาในทันที ลดทิฐิบ้าบอ แม้จะยังโกรธคนพ่อแต่ก็แยกแยะได้ว่าคนลูกไม่มีความผิดใด ๆ น้าชายเปิดประตูเข้ามาในห้องและเมื่อเห็นหน้า หลานสาวก็ร้องไห้หาด้วยความคิดถึง เพราะเรื่องราวรัก ๆ ใคร่ ๆ และความงี่เง่าของพวกผู้ใหญ่ ตารางเวลานอนของหนูดาจึงได้รวนและกว่าจะหลับก็จวนเข้าสู่วันใหม่ ร่างบางอยู่กล่อมจนเด็กหญิงสลบไสลคาอกและค่อยเอาลงนอนราบกับเตียงอย่างแผ่วเบา
พอดีกับที่มีเงาดำพาดผ่านเตียงนอน คิมหันต์เดินมาหยุดดูผลงานและยืนรอจนน้าชายห่มผ้าให้หลานเสร็จเรียบร้อย ในขณะที่ภัคเหลือบมองการมีอยู่ของนายตำรวจแค่เล็กน้อยแล้วทำเหมือนไม่เห็น ลุกขึ้นเดินตัดผ่านหน้าไปเสียเฉย ๆ “จะไปไหน” จนหัวหลักหัวตอที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลต้องเอ่ยทักเสียงเรียบ
“หนูดาหลับแล้ว ผมก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ”
“กล่อมลูกแล้วไม่คิดจะกล่อมพ่อด้วยเหรอ”
“คุณบอกมาดีกว่าต้องการอะไร ถ้าไม่มีผมจะได้ไปนอน”
“ฉันต้องการภัคคนที่นับจากนี้จะพูดแต่ความจริง ให้ได้ไหมล่ะ” กล้าถามก็กล้าตอบ ขี้เกียจเสียเวลากับการพูดอ้อมไปอ้อมมาเต็มที “มานี่มา”
ภัคมองท่าทางกางแขนออกแล้วถึงกลับหลุดขำก่อนจะขยับปาก “คิดจะตบหัวแล้วลูบหลังกันงั้นเหรอ”
“ถ้าไม่เดินมา งั้นฉันเดินเข้าไปหาเองนะ” ปากว่าขาก็ออกเดินและแม้ว่าร่างบางทำท่าจะหนีแต่ก็ไม่เกินความสามารถ มือใหญ่ทันคว้าตัวแล้วหมุนให้กลับมาคุยกัน “ฉันขอโทษ”
“คุณทำอะไรผิดเหรอถึงต้องมาขอโทษผม” ย้อนถามเสียงสั่น รีบสะบัดตัวให้หลุดจากการเกาะกุม ภัคแทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ในตอนที่รับรู้ถึงอุณหภูมิร่างกายของอีกคน ไม่อยากแสดงออกถึงความอ่อนแอแต่มันอดไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ทุบตีนายตำรวจ หวังจะทำให้ปวดร้าวได้เท่ากับที่ตนประสบ
คิมหันต์ปล่อยให้ร่างบางระดมตบหน้าจนกว่าจะหายโกรธ จนแก้มแดงเถือกไปข้างมือภัคก็เริ่มอ่อนแรงพอกัน เมื่อเหนื่อยจะเล่นงานตามร่างกาย ก็เปลี่ยนจากการประทุษร้ายคนหน้าด้านหน้าทนเป็นพูดประชดประชัน ด่าทออย่างหยาบ ๆ คาย ๆ ด่าว่านิสัยเสียบ้างล่ะ ลามไปถึงไอ้หน้าตัวเมีย พูดสาดเสียเทเสียใส่จนแทบสำลักน้ำลายและหายใจไม่ทัน
แต่ยิ่งดิ้นเชือกก็ยิ่งรัด เถาวัลย์เหนียวเกินกว่าจะใช้แค่มือเปล่าแกะออก ลองได้สวมกอดแล้วไม่มีทางปล่อย คิมหันต์ยืนคอยอย่างสงบ จนภัคอารมณ์เสถียรมากขึ้น ปล่อยระบายความอัดอั้นเต็มที่ “ด่าพอหรือยัง ถ้าพอแล้วจะได้จูบ” ก่อนจะถึงทีตัวเองบ้าง ประกบปากที่พูดไม่หยุดด้วยอวัยวะเดียวกัน แต่ไม่มีการรุกล้ำหรือบุ่มบ่ามทำตามอำเภอใจ กลับเคารพในการเลือกของอีกฝ่าย ถอยได้ทุกเมื่อถ้าอยากถอย แต่ถ้าอยากปล่อยมือคงยากหน่อย
ภัคถอยตัวออกเพราะอยากมองหน้า แต่น้ำตาทำให้เห็นอะไรไม่ชัดและมองพลาดไป บางทีชาติก่อนอาจจะทำร้ายตำรวจไว้เยอะ พอมาเจอกันชาตินี้จึงต้องชดใช้ให้อย่างหนัก ความรักทำให้คนโง่เขลาเบาปัญญา สมองทำงานได้ช้าลง ผิดกับใจที่พร้อมจะอภัยให้กับคนที่ไม่สมควรได้รับโอกาส แค่เพราะคนคนนั้นเอ่ยปากขอโทษ ร่างบางที่เกือบจะหลุดพ้นจากวงจรเดิม ๆ ก็วนลูปกลับมาสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง เป็นคนที่สวรรค์จงเกลียดจงชัง ลิขิตทางเดินให้มาแบบนี้
ท้ายที่สุดกลีบปากก็งับกันอย่างอ้อยอิ่งแล้วนิ่งค้างไป ไม่กี่วินาทีต่อมาก็เกิดการทำซ้ำอยู่เรื่อย ๆ จนปากแทบเปื่อยยุ่ยถึงได้เลิกลาแล้วเปลี่ยนมาคลอเคลียกัน คิมหันต์จูบรอยช้ำที่มุมปากภัคอย่างอ่อนโยน กลัวการที่ปากแตะโดนจะทำให้ระคาย จึงแผ่วเบาให้ได้มากที่สุด
“คืนนี้นอนด้วยกันนะ สัญญาว่าจะไม่ทำอะไร” เอ่ยชวนในขณะที่ช่วยเช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือ ส่วนร่างบางก็ไม่ได้ปฏิเสธถือเป็นอันตกลง ภัคนิ่งเงียบไปขณะยืนคิดว่าจะพูดเรื่องนั้นขึ้นมาดีหรือไม่ กลัวว่าเรื่องของธันวาจะทำลายบรรยากาศดี ๆ ที่มีต่อกัน แต่สุดท้ายก็กลั้นใจพูด “ผมติดหนี้บุญคุณเขา…”
เว้นวรรคให้นายตำรวจได้ทำความเข้าใจว่าเขาในที่นี้คือเขาไหน คิมหันต์ถอนหายใจเสียงดัง
“แต่มันก็มีวิธีตอบแทนบุญคุณคนเป็นร้อยเป็นพันนะภัค”
“คุณก็เห็นว่าผมไม่มีอะไรเลย ทรัพย์สินมีค่าติดตัวสักชิ้นก็ไม่มี”
“แล้วมั่นใจแค่ไหนว่าหมอนั่นไม่ได้กำลังหลอกนายอยู่”
“หมายความว่าไง ผมตามไม่ทัน”
“งั้นฉันจะถามใหม่ หมอนั่นข่มขู่เพื่อให้นายยอมทำตามที่มันต้องการหรือเปล่า”
“เขา…” เข้าใจคำถามอย่างทะลุปรุโปร่งและรู้ดีว่าเรื่องมันจะลงเอยอย่างไรหากไม่ใส่สีตีไข่เข้าไปหน่อยเพื่อทำให้ตัวเองดูน่าสงสาร “ครับ เขาข่มขู่ผม”
“ฉันจะเอามันเข้าคุก”
“ยะ อย่าให้ถึงขั้นต้องเข้าคุกเข้าตะรางเลยนะ ผมขอร้อง”
“ห่วง…?”
“แล้วพี่สาวผมล่ะ เธอจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีคนดูแล”
“มินน่าจะมาได้ยินเองกับหูนะว่าน้องชายห่วงเธอมากแค่ไหน”
“อย่างน้อยก็ขอให้ผมได้มีเวลาหาคนใหม่ เมื่อหาได้เราค่อยไล่เขาไปก็พอ”
“สามอาทิตย์ ฉันให้เวลาแค่สามอาทิตย์”
“แต่ว่า… ก็ได้ครับ”
“ถ้าครบสามอาทิตย์แล้วนายยังทำให้หมอนั่นออกไปเองไม่ได้ ฉันก็จะจัดการด้วยวิธีของฉันเอง”
------------------------------
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นและทุกๆแท็กมากเลยนะคะ ตุ๊กติ๊กมีความสุขมากที่ได้อ่าน เป็นกำลังใจให้กันไปจนจบเรื่องเลยนะคะ ขอบคุณจริงๆค่ะ แท็ก #ลั่น_ดาล
ติดตามข่าวสาร