[สนพ.เฮอร์มิท]Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#แจ้งข่าวรูปเล่มหน้า 12 นะคะ](7/9/61)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [สนพ.เฮอร์มิท]Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#แจ้งข่าวรูปเล่มหน้า 12 นะคะ](7/9/61)  (อ่าน 54485 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เค้าจูบ deep  kiss กันแล้ว  เสร็จแล้วก็เข้าหอได้เลย

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
อาเฟย ไปบอกป๊ามาดูเลย เฮียปล้ำผู้ชาย  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สงสัยขนมนายมันใส่ยาอะไรลงไปนะ หรือเอาของใกล้บูดมาให้  :confuse:
แล้วหลานโรลนะ ในกระเป๋ากางเกงมีกกน.หลี่ที่จิกไปกี่ตัว เอาไปมากเด๋วหลี่ไม่มีใส่นะ  :m18:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หวานหยดย้อย

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
บุกมาบ้านเลยค่าาา ด้านต่อไปก็คุณพ่อสินะ :hao5:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          Calorie ที่ 20 อาการป่วยและคำพูดที่ค้างคาใจ


          หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาหลายวัน พวกเราเจอกันและอยู่ด้วยกันเกือบทุกวัน เหมือนกับว่าพวกเรานั้นได้เป็นแฟนกันจริงๆ แล้ว มันช่างเหมือนฝันไปเลยนะ ผมไม่เคยคิดว่าคนแบบพี่โรลนั้นจะชอบผม พี่โรลเป็นคนที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็มักจะถอดใจไว้ก่อนแล้ว มันเหมือนกับกำลังเอื้อมมือคว้าเดือนบนท้องฟ้า

          และถ้าใครคนไหนที่ทำให้พี่ไม่ชอบ พี่โรลก็จะไม่ยุ่งด้วยและเย็นชาใส่เท่านั้น ถ้าวันนึงพี่โกรธผม พี่ก็จะเย็นชาใส่ผมหรือเปล่านะ เพียงแค่ผมนึกถึงสายตาที่แสนเย็นชาของพี่โรลที่มองมาที่ผม ผมก็เจ็บเจียนตายแล้ว

          ผมขึ้นห้องและนอนกอดหมอนข้าง พรุ่งนี้ก็ต้องไปเรียนอีกแล้ว ผมขี้เกียจจัง แต่พอนึกว่าจะได้เจอพี่โรลนั้น ความขี้เกียจของผมก็พลันหายไป

          ในเช้าวันต่อมา ซึ่งก็เหมือนทุกที ผมลงมากินข้าวเช้าพร้อมกับที่บ้านและไอ้เมี่ยงก็มาหาผมและฟาดข้าวที่บ้านผมไปตามระเบียบ ผมที่ปกติจะกินเก่งมากๆ

          แต่ไม่รู้ทำไมช่วงนี้ผมกลับ กินอะไรไม่ค่อยลง ผมรู้สึกคลื่นไส้และปวดท้องอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังไม่อยากบอกให้ใครรู้ เพราะผมไม่ชอบให้ใครเป็นห่วง ผมเลยแกล้งกินข้าวปกติ และก็ไปอ้วกออกที่ห้องน้ำเสมอ ผมเริ่มรู้สึกว่ามันหนักขึ้นทุกที และมันทำให้ผมน้ำหนักเริ่มลดลง

          ผมกับไอ้เมี่ยงเดินมามหาลัยเหมือนทุกทีและเมื่อเดินมาถึงคณะก็ต้องยิ้มขำ เพราะว่าตอนนี้มีคนคนนึงนั่งอยู่ใต้คณะผมเหมือนทุกวัน ซึ่งแม่งเด่นซะเหลือเกิน พี่แกจะคงสภาพเซอๆ แต่เท่ห์ปรอทแตก กางเกงนั่นน่ะ ขาดจนขาที่สามจะโผล่ออกมาอยู่แล้วนะพี่

          ผมยืนหลบหลังเสาแอบมองพี่โรลที่กำลังถูกล้อมโดยบรรดาสาวๆ บ้างขอถ่ายรูป บ้างยืนนินทากันโต้งๆ

          " พี่โรล ทานน้ำไหม​คะ หนูซื้อมาฝาก " ผมมองสาวน้อยคนหนึ่งที่ยื่นแก้วน้ำให้พี่โรล

          " ไม่กิน เดี๋ยวแฟนหึง " โอ้ยย พี่คร๊าบบ ใจร้ายชิบหาย ผมสงสารสาวน้อยคนนั้นที่ถึงกับน้ำตาซึมเลยทีเดียว

          " ลี่ ผัวมึงนี่เหลือเกินจริงๆ ช่วงข้าวใหม่ปลามันสินะ " โอ้ยย ไอ้หอกมึงจะเสียงดังทำม๊ายย

          ว่าแล้วพี่โรลก็หันมาเจอไอ้เมี่ยงและวิ่งเข้าชาร์ตผมทันที อ้ากกก พี่ครับ พี่จะประเจิดประเจ้อไปแล้ว

          " มารอตั้งนานแน่ะ " พี่โรลรีบวิ่งมาแย่งกระเป๋าผมถือ

          " แล้วมารอทำไมละครับ พี่ไปที่คณะพี่เลยก็ได้ ไม่ต้องมารอผมทุกวันหรอก " ผมพูดพลางส่งยิ้มหวานให้

          " อยากเห็นหน้าก่อนเรียน อยากไปรับที่บ้านด้วย " พี่โรลพูดพลางจัดคอเสื้อให้ผม ทำเอาผมหน้าร้อนผ่าวเลยทีเดียว อ้ากก เขินนะเฟ้ย

          " พี่จะขึ้นแท็กซี่มารับผมเหรอ " ผมถามพลางยิ้มกวน ผมว่ามันลำบากไปนะ บ้านก็อยู่คนละฟาก

          " งั้นจะไปซื้อรถแล้ว " พี่ครับ รถนะครับไม่ใช่อมยิ้ม จะได้อันละสองสามบาท

          " โรล จารย์จะเข้าแล้วนะมึง ทำห่าไรตรงนั้นวะ " ผมมองเพื่อนพี่โรลที่เดินผ่านมาและกำลังเรียกพี่โรลกันใหญ่

          " ไปก่อนเลย " พี่โรลโบกมือไล่เพื่อนไปมา ดูพี่แกทำครับ

          ผมมองไปรอบๆ ผมเริ่มเซ็งๆ กับเสียงซุบซิบนินทาและสายตาเหยียดหยาม แต่อีพี่โรลนั้นก็ยังคงยิ้มแป้นร่าเริงสุดๆ

          " พี่ไปเรียนเถอะ แล้วค่อยเจอกันตอนพักก็ได้ครับ " ผมแย่งกระเป๋ากลับมาและส่งยิ้มให้พี่โรล

          " เอางั้นเหรอ " ผมพยักหน้างึกงัก

          " ไม่ต้องห่วงพี่ ผมดูแลอย่างดี " เหรออ ผมมองไอ้เมี่ยงที่ยืดอกเสนอตัวอย่างภาคภูมิใจ มึงก็ดีแต่แย่งของกินกูแหละไอ้หอก

          " ดูแลแป๊ะมึงสิ มึงต้องไปกับพี่เขา " ผมโบกกบาลมันไปหนึ่งที สงสัยมันจะลืมว่ามันอยู่สถาปัตย์

          " เดี๋ยวดูแลให้ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก " ผมที่ได้ยินเสียงแบบนี้รอบที่ล้านแปดก็เริ่มชินชาซะแล้ว ยังไงก็ต้องเจอสินะ ก็คณะเดียวกัน

          พี่โรลที่กำลังยิ้ม ตอนนี้กลับทำหน้าน่ากลัว และเดินเข้าไปหาพี่นายแบบอกชนอกเลยครับ อย่างกับสงครามไททั่น

          " เสือก " พี่โรลพูดเสียงดังและแววตาแข็งกร้าวสุดๆ

          " หยาบคายจริงๆ นะไอ้คุณหนูไฮโซ " พี่นายกับพี่โรลที่เคยสนิทกันกลมเกลียว ตอนนี้เจอกันทีแทบจะวิ่งเข้าใส่กัน เป็นเพราะผมแท้ๆ

          " มึงพอสักทีได้ไหม​ " พี่โรลยังคงชอบพูดคำนี้กับพี่นาย

          " มึงนั่นแหละ คิดว่ามึงดีกว่ากูเหรอ " ผมมองพี่นายที่พูดอะไรแปลกๆ พลางขมวดคิ้วมุ่น

          " มึงก็แค่หวังฟันลี่ " ผมตาโตมองพี่โรลที่พูดอะไรแบบนั้นออกมา นี่พี่นายคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ ผมเนี่ยนะ

          " กูเคยคิดแบบนั้นก็จริง แต่ไม่ใช่แล้ว กูรักลี่ พวกเราเคยรักกันมาก่อน มึงกลับไปหาคนของมึงเถอะ " ผมใจสั่นน้อยๆ มันเรื่องอะไรกัน

          " คนของกูอะไร กูไม่มีใคร " พี่โรลพูดเสียงแข็งและสั่นสุดๆ

          " เหรอ " ผมมองพี่นายที่ยิ้มให้พี่โรลอย่างกวนประสาท

          สักพักพวกเพื่อนพี่โรลก็พากันเข้ามา และมาดึงเพื่อนของตัวเองไป พี่โรลหันมามองผมด้วยแววตาเป็นกังวล แต่ผมก็ยิ้มเป็นสัญญาณบอกว่าผมไม่เป็นไร พี่โรลเลยยอมเดินออกไปจากคณะ

          ผมมองตามพี่โรลจนสุดสายตา และหันไปมองพี่นายที่กำลังเดินเข้ามาหาผม

          " อย่ามาพูดอะไรกับผม ผมไม่อยากฟัง " ผมปิดหูตัวเองและก้มหน้าลง ผมไม่ต้องการฟังเรื่องโกหกจากพี่

          " เมี่ยงมึงไปเถอะ กูไม่เป็นไร " ไอ้เมี่ยงยังคงจ้องมองพี่นายปานอยากฆ่าให้ตาย แต่ก็ยอมเดินตามพวกพี่โรลไป

          " ป่ะ ไปเรียนเถอะ " ผมมองพี่นายที่ทำหน้ายิ้มๆ ให้ผม

          ผมไม่สนใจและรีบเดินหนีพี่นายที่กำลังเดินตามผมอยู่

          " ลี่ " ผมไม่หยุดเดินและเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น

          " ถ้าร้องไห้วันไหนก็มาหาพี่นะ ไม่นานหรอก " ผมหยุดเดินและหันไปมองพี่นายด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมผมจะต้องร้องไห้งั้นเหรอ แต่พี่นายก็ไม่พูดอะไรต่อ และเดินมาหาผม ลูบหัวของผมเบาๆ และเดินจากไป

          ผมนั่งเรียนด้วยสมองที่ไม่รับรู้ใดๆ คำพูดของพี่นายนั้นทำให้ผมเป็นกังวล แต่ยังไงผมก็เชื่อใจพี่โรล พี่โรลนั้นแสดงออกเสมอมาว่าชอบผมแค่ไหน คนแบบนั้นไม่มีทางหลอกผมได้หรอก ผมกล่อมตัวเองแบบนั้น

          ช่วงกลางวันผมที่ยังคงเครียดๆ ก็หมกตัวอยู่ในห้องน้ำ และเพราะผมรู้สึกไม่ค่อยสบายด้วย ก็เลยยิ่งไม่อยากเจอใคร ผมไม่อยากคิดมาก

          ผมมองหน้าจอมือถือที่มีทั้งสายของไอ้เมี่ยงและพี่โรลแย่งกันโทรมา แต่ผมก็ไม่ได้รับ เพราะผมนั้นกำลังนั่งกอดชักโครกอยู่ ผมทรมานเหลือเกิน เหมือนร่างกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

          ' ปึ้งๆๆ '

          " ลี่ กูรู้นะอยู่ในนั้น เปิดประตู " ผมว่าแล้ว ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน ไอ้เพื่อนผมคนนี้มันหาผมเจอตลอด

          " เมี่ยง เอาน้ำให้กูหน่อย " มันหายไปสักพักและกลับมา พลางยื่นน้ำขวดให้ผมใต้ประตู

          " ให้กูเข้าไปหน่อย " ผมยังไม่ยอมเปิดประตู ผมกลัวพี่โรลตามมาด้วย

          " กูมาคนเดียว " ผมเลื่อนตัวขึ้นไปเลื่อนกลอนประตูให้มัน

          " มึงเป็นอะไรเนี่ย " ไอ้เมี่ยงตกใจกับสภาพผมและนั่งลงข้างๆ

          " กูแค่ไม่ค่อยสบาย อย่าบอกพี่โรล เดี๋ยวพี่เขาคิดมาก "

          " วันนี้ไปหาหมอหลังเลิกเรียนกับกู "

          " กูยังไหว จริงๆ " ผมพยักหน้าให้มันที่ทำหน้าเคร่งเครียด

          " ดื้อชิบหาย ตายห่ามากูเหงาพอดี ไม่รู้แหละ ไปตอนนี้เลยดีกว่า "

          " กูหายแล้วจริงๆ มึงไม่ต้องห่วง " ผมพูดและลุกขึ้นยืน พยายามทำตัวเหมือนปกติ ล้างหน้าในอ่างน้ำ และไล่ไอ้เมี่ยงให้กลับไปที่คณะมัน

          ผมเดินไปตามระเบียงเตรียมตัวจะเข้าเรียนคลาสต่อไป แต่ผมที่เดินๆ อยู่นั้น ก็ถูกล็อคตัวจากข้างหลัง และลากเข้าห้องที่ว่างอยู่อย่างรวดเร็ว

          ผมตื่นตกใจและกะจะชกไอ้คนที่ลากผมเข้ามาเต็มที่ แต่พอหันมาก็แทบอยากจะตะกายหน้าหล่อๆ นี่จริงๆ

          " ชอบทำให้ตกใจหมด " ผมง้างมือฟาดอีพี่โรลรัวๆ หนอยย ขวัญเอยไปอยู่ไหนแล้ว

          " ทำไมไม่รับสายพี่ " พี่โรลลากผมมานั่งกอดที่มุมห้อง โดยมีเก้าอี้และโต๊ะบังหลบสายตา

          พี่โรลกอดผมแน่น และฟุบหน้าลงกับหลังของผมและเลื่อนหน้าไปมา งอแงที่ผมไม่รับสาย

          " ผมเข้าห้องน้ำอยู่อ่ะ ขอโทษครับ " ผมเอียงแก้มบอกพี่โรลเบาๆ

          พี่โรลไม่พูดอะไร แต่กำลังก้มลงหอมแก้มและจูบซอกคอผมเบาๆ จนผมหน้าร้อนฉ่าและขนลุกชูชัน

          " พี่ครับ ไม่เอา " ผมดันหน้าพี่โรลออกไป ถ้าปล่อยแล้วเป็นแบบนี้ทุกที อีพี่จอมฉวยโอกาส

          " แล้วพี่นายพูดเรื่องอะไรเหรอครับ " ผมถามพี่โรลที่ย้ายไปฟัดหลังคอผมแล้ว

          " อย่าไปฟังที่มันพูด " พี่โรลเงยหน้าจากหลังคอผมและพูดเสียงเข้ม ผมเอียงคอมองหน้าพี่โรลที่กำลังหน้าบึ้งคิ้วชิดกันอีกแล้ว ผมเลยยื่นมือไปกดตรงกลางระหว่างคิ้วคนงอแงเบาๆ และหัวเราะขำ

          ผมเพ่งมองใบหน้าพี่โรลระยะใกล้ หน้าพี่โรลขาวใสมาก ตัดกับคิ้วเข้มๆ ปากสีแดงธรรมชาติ และตาสีน้ำตาลอ่อน

          " หล่อดีนะ " อุ๊ยยย เผลอหลุดปากไป หึหึ

          " หลงรักพี่อีกแล้วใช่ไหม​ " พี่โรลที่ได้ยินแบบนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าและรีบเสนอหน้า ยื่นหน้าเข้ามาแนบแก้มผมเลยครับ

          " พี่หล่อใจละลายเลยใช่เปล่า " แหม ขอคืนคำได้ไหม​ ไอ้คนหลงตัวเอง ฮ่าๆ แล้วอย่าเอาหน้ามาใกล้มากได้ม๊ายยย หัวใจจะวาย

          ผมขโมยจุ๊ฟแก้มพี่โรลเบาๆ และถามด้วยสีหน้าจริงจัง

          " พี่โรล พี่ไม่มีใครจริงๆ ใช่ไหม​ " ผมพูดและหันพลิกตัวหันหน้าไปกอดพี่โรลไว้ ผมชอบพี่โรลมาก ผมไม่อยากร้องไห้แบบที่พี่นายบอก

          " พี่มีแค่ลี่เท่านั้น " พี่โรลหลับตาลงและกอดผมไว้เช่นกัน

          พวกเรากอดกันเนิ่นนาน ผมไม่อยากออกห่างจากความอบอุ่นนี้ ถ้าหากวันนึงผมต้องสูญเสียอ้อมกอดนี้ไป



ผมก็คงไม่อาจกอดใครได้อีกแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2018 11:20:22 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไม่ใช่ขนมจากนาย งั้นก็โรคเครียดลงกระเพาะ หรือเอาหนักๆ เป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร แต่คิดว่าไม่น่าใช่ หวังว่าอาการคงไม่หนักนะ เมี่ยงพาไปหาหมอหลังเลิกเรียนเลยนะ  :o

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ลี่ควรไปหาหมอนะะ
อาการหนักขึ้นทุกทีแล้วว
พี่โรลยังไม่รู้หรือว่ายังไงละเนี่ย
เราว่าอาจจะโดนที่บ้านจับคู่ไว้รึป่าว
แต่เพราพี่โรลหนีมาอยู่คนเดียวเลยยังไม่มีใครบอกงี้
พี่นายก้แบบอยู่ในวงสังคมเดียวกันอะ
ถ้าไปกะพ่อแม่ตามงานบ่อยอาจจะรู้ข่าวก่อน
เดาล้วนๆๆๆ5555 รอค่าา

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          Calorie ที่  21 เพื่อนเก่าและรอยคิสมาร์ก


          วันนี้เป็นวันอาทิตย์ซึ่งผมกับพี่โรลนั้นตกลงกันไว้ว่าเย็นนี้เราจะไปเดินเล่นและหาอะไรกินกันในเมือง ผมซึ่งมีเสื้อผ้าค่อนข้างน้อย ช่วงบ่ายนี้เลยแอบแวะมาหาซื้อเสื้อผ้าเพื่อแต่งหล่อก่อนไปออกเดทนั่นแหละ และผมไม่อยากชวนไอ้หอกเมี่ยง มันจะแซวผมอ่าสิ

          ผมเดินดูเลือกซื้อเสื้อที่ดูน่ารักๆ เข้ากับผม ขณะที่เดินเลือกผมก็คิดไปพลางๆ เรื่องร่างกายของผม ผมคิดว่าผมนั้นป่วยและรู้สึกไม่ดีมาตั้งแต่ก่อนที่ผมจะไปนอนคอนโดของพี่โรลแล้ว และอาการก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้น

          แต่ผมก็เตรียมตัวที่จะไปหาหมอแล้ว ซึ่งผมคิดว่าจะไปหลังจากวันนี้นี่แหละ น่าจะเป็นพรุ่งนี้ช่วงบ่ายๆ ที่ผมไม่มีเรียน

          แต่ผมที่มัวแต่มองรองเท้าสวยๆ อยู่ก็เผลอไปเหยียบเท้าคนคนนึงเข้า

          " ขอโทษครับ เจ็บหรือเปล่า " ผมหน้าเสียและรีบเข้าไปถามผู้หญิงคนนั้นทันที

          " ไม่เป็นไรค่ะ " แต่ผมที่เดินเข้าไปหาก็ต้องตกใจ ผู้หญิงคนนั้นเมื่อเห็นผมก็หยุดชะงักไปและรีบเดินหนีผมไปอย่างรวดเร็ว

          " หนิง " ผมที่เห็นแบบนั้นก็เรียกเอาไว้ หนิงหยุดเดิน แต่ดูลังเลที่จะหันกลับมาหาผม

          " อาลี่ " หนิงก้มหน้าและทำหน้าเศร้า ซึ่งนั่นผมรู้ว่าทำไม แต่ว่านั่นมันก็ผ่านมานานแล้ว และผมก็ไม่เคยต้องการที่จะให้หนิงหนีผมไป

          " สบายดีไหม​ ไม่เจอกันนานเลย " หนิงยังคงไม่ยอมสบตาผม

          " หนิงสบายดี " หนิงพูดอ้อมแอ้มในปาก

          " ไปหาอะไรดื่มกันไหม​ " ผมเดินเข้าไปช้าๆ และจับไหล่หนิงไว้ หนิงนั้นดูโตขึ้นและเป็นสาวสวยเต็มตัว แต่งหน้าและแต่งตัวดูดีจนผู้ชายต้องเหลียวหลัง ผมดีใจจริงๆ ที่ได้เจอกันอีกครั้ง

          " อาลี่ดูสมบูรณ์ขึ้นนะ " หนิงเริ่มคุยและยิ้มให้ผม พวกเรามานั่งอยู่ในร้านกาแฟเล็กๆ ที่บรรยากาศสบายๆ

          " จะล้อว่าอ้วนก็บอกตรงๆ เถอะ " ผมหัวเราะเบาๆ ผมอยากตามไอ้เมี่ยงมาจัง มันคงจะดีใจที่ได้เจอหนิง

          " ถึงจะเป็นแบบนี้แต่ลี่ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม " ผมยิ้มน้อยๆ ให้คำชมนั้น

          " หนิงทำตัวตามสบายเถอะ เรื่องพี่นายมันจบไปนานแล้ว ลี่ไม่ได้เป็นอะไรกับพี่นายอีกแล้ว " หนิงเงยหน้ามองผมและจ้องมองแก้วกาแฟต่อ

          " เรื่องพี่นายหนิงขอโทษจริงๆ พี่นายมาจีบหนิงเองนะ แต่วันปัจฉิมพี่นายก็มาบอกหนิงว่าพี่นายจะไม่ต้องการคุยกับหนิงอีก พี่นายรักลี่นะ พี่เขาเลือกลี่ ไม่ใช่หนิง " ผมส่ายหน้าช้าๆ ผมไม่สนอีกแล้ว ไม่ว่าพี่เขาจะเลือกผมหรือไม่ก็ตาม

          " ลี่ไม่สนเรื่องนั้นอีกแล้ว ให้มันจบไปเถอะ " ผมพูดและส่งยิ้มให้หนิง ผมยังอยากให้เราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

          " แล้วหนิงเรียนที่ไหนเหรอตอนนี้ "

          " หนิงเรียนพยาบาลน่ะ ตอนนี้ก็ยังเรียนหนักมากๆ ไม่ค่อยจะได้มีเวลาทำอะไรเท่าไหร่ และก็มีงานต้องดูแลผู้ป่วยทุกวันด้วย "

          " ขยันสุดๆ เลยนะ " ผมยิ้มให้หนิง เห็นเพื่อนได้ดีก็ดีใจ

          " ก็ต้องขยันหน่อย เพราะว่าเป็นว่าที่แม่สามีน่ะ " หนิงพูดด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขและเขินน้อยๆ

          " แบบนี้นี่เอง มีแฟนแล้วก็ไม่บอก อกหักเลยนะเนี่ย " ผมพูดแหย่เล่น

          " แหมอาลี่ อย่ามาพูดเลย รู้นะว่ามีหนุ่มอยู่เหมือนกัน หรือว่าเปลี่ยนกลับไปมีสาวอีก " หึหึ หนุ่มสิ หนุ่มหล่อสุดๆ เลยล่ะ

          " ไหนๆ ขอดูว่าที่สามีหนิงหน่อย ว่าจะหล่อกว่าแฟนลี่หรือเปล่า " หนิงทำท่าเขินน้อยๆ และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

          " ว้าา แบตหมดซะงั้น อดเลยลี่ ฮ่าๆ แต่บอกไว้ก่อนว่าพี่เขาหล่อสุดๆ ไปเลย เป็นนายแบบด้วยนะ "

          " ว้าว แบบนี้แฟนลี่คงสู้ไม่ได้แล้วมั้ง " ผมยิ้มขำ แต่ในใจก็ยังคิดว่าพี่โรล  หล่อกว่าอยู่ดีแหละ ผมนี่มันคนอวยแฟนของแท้ ฮ่าๆ

          แต่หนิงที่ยิ้มอยู่ อยู่ดีๆ ก็ทำหน้าเศร้าขึ้นมา

          " มีอะไรไม่สบายใจบอกได้นะ " ผมยื่นมือไปจับมือหนิงไว้ ผมทำแบบนี้เสมอในสมัยก่อน ไม่ว่าจะกับหนิงหรือไอ้เมี่ยง ทุกคนนั้นสำคัญกับผม

          " ขอบใจนะลี่ " หนิงยิ้มให้ผม พวกเรายิ้มให้กันและกันเหมือนวันวาน

          ผมกับหนิงแลกเบอร์โทรกัน และผมก็กลับมาที่บ้าน อาบน้ำเตรียมตัวเพื่อที่จะไปเที่ยวกับพี่โรล ผมยืนส่องตัวเองหน้ากระจกอยู่หลายนาทีด้วยความไม่มั่นใจ เสื้อผ้าของผมหลวมลงเล็กน้อยเพราะน้ำหนักที่ลดลงนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร เพราะผมจะพยายามกินให้มันเท่าเดิม

          พี่โรลนัดผมไปที่ห้างแห่งหนึ่ง ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นที่นี่ และทำไมถึงไม่มารับผมแบบปกติ ไม่รู้คุณพี่คิดอะไรอยู่กันแน่

          และเมื่อผมมาถึงที่ห้าง ก็พบว่าตอนนี้ที่ห้างนั้นกำลังมีงานแฟชั่นโชว์อยู่ครับ อะไรของพี่แกฟะ ให้มาทำไมที่คนเยอะๆ แบบนี้งงชะมัด ผมที่เดินหัวเสียและเริ่มหงุดหงิด ก็ยืนมองหนุ่มนายแบบที่เดินร่อนกันไปมาบนแคทวอร์ค แหม่ หล่อล่ำน่าแดกทุกคน ไม่เอาลี่ มีแฟนแล้วนะ ฮึบๆ

          แต่แล้วผมก็ถึงกับต้องตะลึงเพราะว่ามีอยู่คนหนึ่งที่ผมรู้สึกคุ้นตาซะเหลือเกิน ผู้ชายคนนั้น กำลังเดินอยู่บนแคทวอร์คด้วยชุดสูทสีแดงดำ ที่ในท่อนบนนั้นมีแต่สูทตัวนอกคลุมไว้หลวมๆ และเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่นๆ และซิกแพคอันสวยงามอลังการ สูงขาวและหล่อเกินหน้าเกินตานายแบบอื่นๆ ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยโทนสีเข้ม ไฮไลท์ที่ทำให้ใบหน้าที่หล่อเหลาสุดๆ อยู่แล้ว ยิ่งหล่อคูณสิบเข้าไปอีก

          ผมใจเต้นตึกตักอย่างควบคุมไม่ได้ นี่ใช่ไหม​ ที่พี่อุตส่าห์ให้ผมมา เพื่อที่จะอวดความหล่อของตัวเองว่างั้น ผมก็ว่าอยู่ว่าตัวพี่นั้นเอาเงินมาจากที่ไหน ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ก็ถือว่าใช้หน้าตารูปร่างให้เกิดประโยชน์สูงสุดดีทีเดียว

          ผมยิ้มให้พี่โรลที่เดินโฉบมาหน้าเวทีซึ่งผมนั้นยืนอยู่ ทรงผมของพี่ที่เซตขึ้นและมีปอยสีแดงๆ แซมอยู่นั้นคงถูกใจพี่ไม่ใช่น้อย ไม่ใช่สิต้องบอกว่าทั้งชุดนั่นน่ะ พี่แกคงชอบมาก เพราะแดงเกือบทั้งชุด มันแบบว่าเท่ห์และโครตเอ็กซ์เลยครับ อะไรจะโชว์เนื้อหนังขนาดน้าน

          และไม่อยากจะพูดว่าพี่แกมืออาชีพจริงๆ เพราะตอนที่พี่เขาเดินผ่านผมนั้น สายตาพวกเราก็ประสานกัน ไอ้บ้าเอ้ยหล่อชิบหายแฟนใครวะ ผมคิดในใจแต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร ฮ่าๆ แต่พี่แกที่เวลาอยู่กับผมจะเหมือนเด็กน้อยนั้นก็ยังคงสีหน้าเข้มๆ แบบเดิม ไม่มีหลุดยิ้มเลยครับ ฮ่าๆ แม่งแน่จริงๆ ว่ะที่รัก

          ไม่นานหลังจากการเดินจบลง พี่แกที่ยังคงใส่ชุดที่เดินนั้นก็ฝ่าฝูงชนเข้ามาลากผมให้เข้าไปยังห้องแต่งตัวด้านหลัง ทำเอาบรรดาหนุ่มๆ นายแบบคนอื่นมองผมด้วยความประหลาดใจ

          " เห็นพี่ไหม​ " พี่โรลเขย่าผมจนหัวสั่นหัวคลอนไปหมด

          " ที่นัดมานี่เพื่อมาอวดแค่นี้ป่ะ " ผมยิ้มทำหน้ากวน

          " แง่ว คือเซอร์ไพรส์ไง พี่ไม่เคยบอกเรื่องนี้ใช่ไหม​ล่ะ " พี่โรลที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้กลมก็จับให้ผมยืนตรงกลางหว่างขาและยื่นมือมาดึงแก้มผมเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยว

          โอ้ยให้ตาย ผมที่หน้านิ่งๆ แบบนั้นแต่จริงๆ ในใจมันกรีดร้องมาก พี่โรลในลุคแบบนี้ทำเอาผมไม่กล้ามองนานๆเลยครับ ผมเหมือนตัวจะลอยไปในอวกาศอยู่แล้ว ผมนี่มันโชคดีแท้ๆ เขินอ่ะ อยากกอดจังแต่อายคน ฮ่าๆ

          " แล้วทำไมไม่บอกอ่ะ " ผมยังคงทำหน้านิ่งๆ และแหย่คนขี้อวดเล่น อวดกับแฟนเท่านั้นนะ ฮ่าๆ

          " ไม่ชอบให้ใครมายุ่งไง " ดีแล้วๆ เพราะผมหวงมาก ฮ่าๆ

          " เหรอ งั้นไม่ยุ่งดีกว่า "

          " โอ้ยยย อย่าป๊ายย " พี่โรลลุกพรวดและกระโดดตระครุบตัวผมแบบไม่สนใจสายตาประชาชีหลังเวทีเลยทีเดียว

          " ทำบ้าอะไรเนี่ย อายเขา " ผมตีพี่โรลและหยิกพุง เอ่อ หยิกซิกแพคหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้

          " อยากให้มีรอยจ้ำแดงๆ บนตัวจัง " ผมมองพี่โรลที่ทำหน้ายิ้มแบบมีเลศนัย

          " ยังไงอ่ะ " ผมเลิกคิ้วถาม

          " ทำคิสมาร์กตรงนี้ให้หน่อยสิ นะๆ " ผมตาโตมองจุดที่พี่โรลชี้ซึ่งก็คือที่อกตรงใกล้ๆ จุดสีชมพูของพี่แกครับ ทำเอาผมเลือดกำเดาแทบพุ่ง ไอ้บ้า คนเยอะแยะ เอ้ย ไม่ทำหรอกเฟ้ย

          " ไม่อาววว " ผมหน้าแดงและพยายามจะหนีจากเงื้อมมือมารของพี่แก คนบ้าอะไรเหนียวอย่างกับตุ๊กแก

          " นะๆ เดี๋ยวพี่จะทำให้ลี่บ้าง " ไม่อ๊าววว แบบนั้นยิ่งไปใหญ่เลยพี่ โอ้ยย

          ปัญหามันไม่ใช่แบบน้านน ลองทำกันสองคนในห้องดิ มันจะเลยเถิดนะพี่นะ ผมที่ยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียดความลามกของตัวเองทุกที แต่พี่ชอบชงให้ผมคิดอ่ะ ฮ่าๆ

          พี่โรลลากผมมาในมุมที่ไม่มีคนเดินผ่านแถมมืดนิดๆ และยืนกอดผมเอาไว้ ผมใจสั่นและรู้สึกแปลกๆ ทั้งเขินทั้งฟินแบบบอกไม่ถูกเลยทีเดียว

          " เดี๋ยวพี่ต้องขึ้นไปอีกรอบพร้อมดีไซน์เนอร์ นะๆ ทำให้พี่หน่อยนะ " ผมว่านั่นมันไม่ใช่เหตุผลในการทำเรื่องแบบนั้นเลยนะ ไม่ต้องมาอ้อน อ้ากกก ใครก็ได้ขอทิชชู่ที เลือดจะหมดตัว

          ผมที่กอดเอวพี่โรลอยู่ก็เงยหน้าที่แดงระเรื่อของตัวเองขึ้นจ้องมองพี่โรลที่ส่งยิ้มให้ผม ตัวผมนั้นสูงแค่อกพี่โรลครับ มันช่างเมื่อยคอซะเหลือเกิน

          ผมเลื่อนมือช้าๆ จากด้านหลังมายังด้านหน้าของเสื้อสูทสีแดงของพี่โรล พี่โรลที่ยืนนิ่งก็ลูบเบาๆ ที่แก้มและเกลี่ยไรผมอ่อนๆ ของผมเบาๆ ผมหน้าแดงจัดและรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด ถึงเราจะเคยจูบกันหลายรอบแล้ว แต่เรื่องมาร์กคิสนั้นผมยังไม่เคยเลยสักที

          ผมเลื่อนใบหน้าช้าๆ เข้าไปหาอกแกร่งนั้น ประทับจูบลงเบาๆ ที่ข้างๆ จุดอ่อนไหวของพี่โรล ผมรู้สึกถึงลมหายใจของพี่โรลที่เหมือนกับจะหยุดนิ่งไป ผมกดจูบลงอีกครั้งตรงที่เดิม แต่เพิ่มแรงและใช้ลิ้นช่วยอีกขั้น ผิวพี่โรลนุ่มมาก ความขาวของพี่โรลช่างตัดกับสีแก้มของผมตอนนี่ซะเหลือเกิน เมื่อผมดูดเม้มจนเกิดรอยแดงเล็กๆ แล้ว ก็ผละริมฝีปากออก และเงยหน้ามองพี่โรลที่กำลังหลับตาและกัดฟันแน่น

          " เสร็จแล้วครับ " ผมลูบเบาๆ ที่รอยนั้น ผิวที่ขาวสุดๆ ของพี่โรล ทำให้คิสมาร์กเด่นซะเหลือเกิน

          ผมขมวดคิ้วมองพี่โรลที่ยังคงนิ่งอยู่

          " เอ่อ คือแย่แล้ว " พี่โรลพูดเบาๆ และทำสีหน้าแปลกๆ จนผมยิ่งขมวดคิ้วยิ่งขึ้นไปใหญ่

          " ทำไมเหรอครับ หรือยังไม่ดี " แต่ผมก็ต้องชะงักไป เพราะพี่โรลนั้นตอนนี้กำลังกุมจุดอันตรายของตัวเองอยู่ อ้ากกกก ไอ้บ้า ไอ้หื่นกาม ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ยังจะให้ทำคิสมาร์กอีก ผมตอนนี้เขินจนจะม้วนหน้าอยู่แล้ว

          " ก็ลี่เซ็กซี่อ่ะ พี่ก็ของขึ้นเป็นธรรมดา " ผมฟาดพี่โรลแทนคำตอบ โอ้ยย ไอ้บ้า สภาพผมเนี่ยนะ เซ็กซี่ เซ็กส์เสื่อมสิไม่ว่า

          " แปบนึงเดี๋ยวก็หาย " พี่โรลพูดพลางดอดหอมแก้มผมเบาๆ ไอ้คนฉวยโอกาส แล้วแบบนี้มันจะลงได้ไงถ้ายังแต๊ะอั๋งผมอยู่อ่ะ

          " ทรมานหรือเปล่า ให้ช่วยไหม​ " อ้ากกก นี่กูพูดอะไรออป๊ายยย ปากดีไปงั้นแต่ไม่รู้จะช่วยยังไงหรอกครับ ฮ่าๆ

          " ไม่ได้ พี่คุมตัวเองไม่ไหวหรอก อย่าเสี่ยงเลย " คำตอบของพี่โรลที่จริงจังกับคำพูดเล่นของผม ทำเอาผมหน้าร้อนผ่าวเลยทีเดียว หมายความว่าถ้าผมทำ พี่จะจับกดผมตรงนี้เหรอครับ หึยย น่าลอง เอ้ยน่ากลัว ฮ่าๆ

          ไม่นานทุกอย่างก็สงบลงและพี่โรลก็กลับขึ้นไปบนแคทวอร์คอีกครั้งด้วยรอยคิสมาร์กที่เด่นหรา เรียกเสียงฮือฮาสุดๆ จากคนที่มาร่วมงาน

          ' ว๊ายย ตอนแรกยังไม่มีรอยนี่นา '

          ' หล่อ แซ่บ ร้อนแรง '

          ' ใครคือคนทำวะ ตาร้อนเลยกู '

          ผมหัวเราะเบาๆ ผมภูมิใจเล็กๆ กับร่องรอยนั้น แหม่ ใช้ได้นะเนี่ยเรา



ให้มันรู้ซะบ้างว่าของใครเป็นของใคร หึหึ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2018 11:34:02 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
หนิงหมายถึงพี่โรลสินะ
เป็นคู่เวนคู่กรรมมากแต่ชาตไหนเนี่ย

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อย่าให้เป็นโรลเลย อย่าให้เพื่อนต้องตีกันอีกรอบเลยนะ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3

ออฟไลน์ หิมะขาว

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
แฟนเป็นนายแบบ!!!!!
ว่าที่สามี!!!!!!!
หมั้นกันแล้ว!!!!!!!!

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เอาแล้วๆๆไรท์ต้มมาม่าแล้วววว

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไม Iนาย รู้อะไรดีจังเลยเกี่ยวกับโรลและหนิง  :confuse:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          Calorie ที่ 22 ความเจ็บปวดของอาลี่


          หลังจากวันนั้นผมก็ลืมที่จะไปหาหมอ ทั้งๆ ที่ตั้งใจไว้แท้ๆ แต่วันนี้ผมก็ออกมาและตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะไป หลังจากที่ดื้ออดทนและบ่ายเบี่ยงมานาน

          ผมเป็นคนที่แข็งแรงเสมอมา ผมเลยไม่เคยคิดว่าตัวเองจะป่วยหนักขนาดนี้สักที และผมค่อนข้างเกลียดโรงพยาบาลนั่นแหละ เลยเฉไฉไม่ยอมรักษาอยู่เรื่อย แต่ตอนนี้นั้นไม่ได้แล้ว เพราะทั้งคนที่บ้าน และพี่โรลนั้นก็เริ่มถามผมแล้วว่าผมทำไมถึงกินน้อยลงและดูไม่ร่าเริง

          ผมออกจากบ้านในตอนบ่าย คิดอยู่ว่าจะเรียกไอ้เมี่ยงไปเป็นเพื่อนดีไหม​แต่ก็คิดว่าคงไม่นาน และพี่โรลก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ พี่เขายุ่งมากๆ ในช่วงนี้ จนเราแทบจะไม่มีเวลาเจอกันเลย ผมสังสัยว่าพี่เขาจะแอบซุ่มเก็บเงินทำอะไรละมั้ง แต่ไม่เป็นไร เพราะว่าพวกเราก็เจอกันที่มหา'ลัยทุกวัน และโทรคุยกันทุกคืน พี่โรลงอแงอยากให้ผมไปนอนที่คอนโดพี่โรลอยู่เสมอ รู้นะว่าคิดอะไร ไอ้คนหื่นเอ้ย

          เรื่องหนิง หลังจากที่เจอกันวันนั้นผมก็ไม่ได้ติดต่อหรือพบกันอีก เพราะพวกเราต่างคนก็ต่างมีเรื่องที่ต้องทำ แต่ผมก็อยากเจอหนิงอีกสักครั้งและอยากพาไอ้เมี่ยงไปด้วย ผมอยากให้พวกเรากลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งไม่รู้ว่าไอ้เมี่ยงจะยอมไหม​ เพราะเห็นมันเป็นคนขี้เล่นแบบนั้นก็เถอะ แต่มันเป็นคนรักเพื่อนและเกลียดการหักหลังมาก

          ส่วนพี่นายก็ยังคอยวนเวียนอยู่รอบๆ ผม ถึงจะไม่ได้ทำอะไรก็เถอะ แต่แบบนี้ก็ทำให้พี่โรลแทบคลั่งได้อยู่ตลอดเวลา เป็นคนที่กวนประสาทคนเก่งจริงๆ ผมไม่รู้ว่าพี่ต้องการอะไรจากผมกันแน่ ทำไมพี่ถึงยังคงมาหาผม พี่กำลังคิดว่าผมจะยอมกลับไปคบกับพี่อย่างนั้นเหรอ บอกไว้เลยว่าไม่มีทาง

          ผมเดินมาเรื่อยๆ คิดและเครียดมากๆ กับน้ำหนักที่ลดลงไปของผม พี่โรลนั้นดูเป็นกังวลที่เห็นผมผอมลง และดูไม่สบายใจ แบบนี้ผมยิ่งไม่กล้าพูดไปใหญ่ว่าผมนั้นป่วยอยู่ผมกลัวว่าพี่โรลจะผิดหวัง เพราะพี่เขาชอบผม ที่ผมตัวกลมๆ มากกว่ายังไงล่ะ

          ผมมองตัวเองในกระจกใสที่เดินผ่าน ผมนั้นยังคงตัวอ้วนอยู่ แต่ก็ลดไปจากเดิมบ้าง ผมต้องรักษาระดับไว้ รีบรักษาและหายสักทีเถิด

          ผมยืนสำรวจร่างกายตัวเองไปมาหน้ากระจกร้านเบเกอรี่ที่ดูน่ากิน มีคู่หนุ่มสาวมากมายนั่งจับคู่หันหน้าเข้าหากัน เป็นร้านที่น่ารักมาก อยากพาพี่โรลมานั่งด้วยจัง พี่โรลคงจะเด่นมากถ้ามานั่งบนเก้าอี้เล็กๆ ของร้านนี้ แบบผู้ชายคนนั้นที่ตัวสูงใหญ่และไม่เหมาะกับเก้าอี้ของร้านซะเลย

          ผมมองชายหนุ่มที่นั่งหันหลัง ชายหนุ่มตัวสูงผมสีน้ำตาลอ่อน ใส่เสื้อผ้าที่ดูเรียบง่าย กำลังนั่งอยู่กับผู้หญิงตาโตสวย ผู้หญิงคนนั้นที่...

          มันเหมือนกับช่วงเวลาได้หมุนวนย้อนไป ผมรู้สึกเหมือนช่วงเวลานี้ได้เคยเกิดขึ้นไปแล้ว ผมยืนอยู่ตรงนั้น ตัวชาและไร้เรี่ยวแรงที่จะยืน ผมมือสั่นน้อยๆ มองดูคนทั้งคู่ที่กำลังนั่งคุยกัน

          ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่แสดงออกเสมอว่าพี่รักผมมากแค่ไหน แววตา ท่าทาง การกระทำทุกอย่าง พี่ไม่เคยอยู่ใกล้ใคร ไม่ว่าคนไหนพี่ก็ไม่เคยสน แล้วแบบนี้มันคืออะไรล่ะครับ ถ้าถึงขนาดมานั่งด้วยกันขนาดนี้ ก็คงไม่ธรรมดาแล้วใช่ไหม​ ทำไมล่ะครับ พี่กำลังทำอะไรของพี่อยู่กันแน่

          ผมค่อยๆ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากจากกระเป๋าเป้เล็กๆ ของผม หยาดน้ำตามันทำให้ตาของผมพร่ามัวจนควานหาโทรศัพท์ด้วยความยากลำบาก แต่ในที่สุดผมก็เจอมัน ผมกดเบอร์โทรคนที่ผมรักด้วยมืออันสั่นเทา และมองไปข้างในร้านนั้น

          ' ตื้ดดดดดดด ตื้ดดดดดดด '

          เสียงรอสายที่รอให้เจ้าของมารับนั้นดังขึ้น แต่ก็ไม่เท่ากับเสียงหัวใจของผมที่กำลังสั่นไหวอยู่ภายใน ผมจ้องมองมือถือที่วางอยู่ข้างๆ ผู้ชายคนนั้น และทันที มือถือนั้นก็กำลังสั่น และผู้ชายคนนั้นก็กำลังมองดูมัน แล้วกดรับสาย

          " ว่าไงเอ่ย " ผมได้ยินเสียงจากปลายสายนั้น

          " พี่ครับ พี่อยู่ไหนเหรอ " ผมกัดปากแน่นและกรอกเสียงลงไปให้ดูปกติที่สุด

          " พี่ยุ่งอยู่นิดหน่อย เดี๋ยวพี่โทรกลับนะ "

          ผมกดตัดสายโทรศัพท์นั้นทันที ตอนนี้ผมเข้าใจในสิ่งที่พี่นายพูดแล้ว พี่ทำไมถึงปิดบังผมละครับ ทำไมถึงไม่บอกผม พวกเรารักกันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมกัน ทำไมกับหนิงถึง...

          ผมยืนมองคนทั้งสองคนที่ดูเหมาะสมกันเหลือเกิน ถ้าผมเป็นผู้หญิงคงจะดีกว่าใช่ไหม​ พี่จะได้ไม่อายเวลาที่เรามานั่งร้านนี้ด้วยกัน ผมรักพี่ ผมรักพี่มาก และผมก็เจ็บมากเหลือเกิน

          ผมเช็ดน้ำตาและค่อยๆ เดินออกมาจากตรงนั้น ด้วยหัวใจที่อ่อนล้าและชินชากับการถูกหักหลัง

          ผมเดินไปเรื่อยๆ ไม่สนใจน้ำตาที่กำลังรินไหล ไม่สนใจผู้คนที่กำลังมองผม นินทาผม ใช่แล้วครับ ดูผมสิ ผมมันเป็นไอ้โง่อีกแล้วครับ พอใจแล้วใช่ไหม​

          และก็เหมือนนรกจะเกลียดชังผมมากขึ้นไปอีก คนที่ผมไม่อยากเจอที่สุดก็มายืนขวางทางผม ผมผลักพี่นายออกไปด้วยแรงที่น้อยนิด และเดินต่อไป ไม่สนใจพี่นายที่ดึงแขนผมอยู่

          " ลี่ เป็นอะไรไป " ผมเช็ดน้ำตาและเดินก้มหน้าหนีพี่นายที่ยังคงดักทางผมอยู่

          " อย่ามายุ่งกับผม " ผมแกะมือพี่นายออกและเดินหนีต่อไป

          แต่ผมก็ต้องตกใจ เพราะอยู่ดีๆ พี่นายก็ดึงผมให้เดินตามเข้าไปที่ซอยใกล้ๆ ผมขืนตัวและพยายามแกะมือนั้นออก แต่ก็ไม่อาจต่อต้านได้

          " พี่อยู่มาที่นี่ได้ยังไง " ผมถามด้วยความสงสัย

          " แค่บังเอิญผ่านมา " พี่นายยังคงลากผมและกำรอบข้อมือผมเอาไว้แน่น

          ผมเริ่มร้องไห้อีกครั้ง ผมเหนื่อย ทำไมผมต้องมาเจอพี่อีก แค่นี่ยังไม่พออีกเหรอ จะเอาอะไรกันอีก ผมขืนตัวไว้และนั่งลงกับพื้นไม่ให้พี่นายจูงผมต่อไปได้ ผมนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น ร้องไห้สะอึกสะอื้นให้กับความเฮงซวยทั้งหลาย

          พี่นายที่เห็นแบบนั้นก็หยุดเดินและมานั่งข้างๆ ผม หยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้ผมเบาๆ ผมปัดมือนั้นออกไป และพยายามจะหนีอีก แต่คราวนี้ผมก็ถูกกอดล็อคไว้ และพามาจนถึงรถยนต์ของพี่นายจนได้

          ผมถูกผลักให้ขึ้นรถ และพี่นายก็ขึ้นมานั่งข้างๆ ผมที่เบาะหลัง ผมไม่อยากเจอใครทั้งนั้น ไม่ว่าใครก็เหมือนกันหมด ผมง้างมือตบตีพี่นายที่นั่งนิ่งๆ ไม่ตอบโต้ผม ผมโกรธ ผมไม่พอใจ ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว พี่มันเลว พี่มันไอ้คนไม่เคยพอ

          " พอใจหรือยัง " ผมหันหน้าหนีพยายามจะเปิดประตูรถออกมาแต่ก็ถูกกอดไว้จากด้านหลัง ผมดิ้นไปมาร้องไห้เสียงดัง

          " ปล่อย!! ได้ยินไหม​ " พี่นายไม่ฟังผมและกอดผมแน่นขึ้นและเริ่มจูบคอผม ผมตกใจพยายามหนีจากอ้อมกอดของพี่นาย และผมกลัวมากเพราะพี่นายไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย

          พี่นายจับตัวผมดึงขาผมให้ตัวเลื่อนนอนลงและก้มลงมาจูบผม หอมแก้มผมที่เต็มไปด้วยน้ำตา ผมดิ้นรนอย่างอ่อนแรง เพราะผมนั้นทั้งป่วยทั้งเหนื่อย จะไปมีแรงขัดขืนผู้ชายที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ได้ยังไง

          " ปล่อยผมนะ ผมเกลียดพี่!! " ผมผลักพี่นายและตบฉาดเข้าที่แก้มเสียงดัง ผมมองพี่นายที่นิ่งเงียบไป ผมตบพี่นายแรงมากจนแก้มพี่นายนั้นขึ้นสีแดง

          " ทำไมเหรอลี่ พี่กับมันก็ทำผิดกับลี่เหมือนกัน แต่ทำไมลี่ถึงไม่เคยให้อภัยพี่เลย " พี่นายยังคงหันไปตามแรงตบของผมและน้ำตาไหลลงมาช้าๆ

          ผมที่เห็นแบบนั้นก็เสียใจมาก ผมไม่รู้ว่าพี่นายจะร้องไห้ออกมาแบบนี้

          พี่นายปล่อยผมและนั่งพิงเบาะเหมือนคนหมดแรง ผมเลื่อนตัวไปชิดประตู และนั่งกอดเข่ามองพี่นายที่กำลังร้องไห้

" พี่ต้องทำยังไง ลี่ถึงจะคืนกลับมา " พี่นายพูดพลางหลับตาลง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา ผมมีความรู้สึกหลากหลาย ผมทั้งตกใจและเสียใจเหลือเกินที่เห็นพี่กำลังร้องไห้เพราะผม

          " ผมเคยรักพี่มาก พี่เคยเป็นโลกทั้งใบของผม ผมเคยมีความฝันที่จะได้อยู่กับพี่ิ " ผมพูดเบาๆ และน้ำตาไหลออกมาด้วยความเสียใจ

          " พี่อยากย้อนเวลากลับไป พี่เป็นคนทำทุกอย่างพังเองกับมือ ขอโทษนะลี่ แต่พี่ก็รู้ว่าสายไปแล้ว " ผมมองคนที่ผมเคยรัก ไม่ว่าจะนานแค่ไหน แต่ผมก็ยังคงคิดว่า พี่เป็นเหมือนเดิม ดูใจดีและอบอุ่น แต่ก็ไม่พร้อมที่จะรักใครเพียงแค่คนเดียว

          " เป็นพี่ไม่ได้เหรอลี่ " พี่นายมองผมและจับมือผมไว้ ผมไม่ได้ดึงมือออก และมองมือที่สั่นเทานั้น ผมไม่ได้โกรธพี่อีกแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้รักพี่อีกแล้วเช่นกัน

          " ขอโทษนะครับ อย่าร้องไห้เลย แต่พี่ไม่ได้รักผมจริงๆ หรอกครับ " ผมพูดพลางส่งยิ้มน้อยๆ ให้

          " พี่รักลี่สิ พี่ถึงเสียใจ " ผมส่ายหน้าน้อยๆ ให้คำพูดนั้น

          " ถ้าพี่รักผมจริงๆ พี่จะไม่หยุดตามหาผมจนกว่าจะเจอ พวกเราไม่ได้รักกันอีกแล้ว พี่ก็แค่มาเจอผมอีกครั้ง และอยากกลับไปเหมือนก่อน ถ้าพี่ไม่เจอผม พี่ก็คงไม่เป็นแบบนี้ ผมเคยรอพี่ ให้พี่ตามหาผม ผมคิด ว่าถ้าหากพี่เจอผมละก็ ผมก็จะกลับไปรักพี่เหมือนเดิม แต่พี่ก็หยุดมัน อย่าสับสนเลยครับ พี่จะได้เจอคนที่ดีที่เหมาะกับพี่แน่นอนครับ ให้ความรักของเรา จบลงเท่านี้เถอะครับ "

          พี่นายมองผมและร้องไห้ออกมาอีก ผมก็ร้องไห้ออกมาเช่นกัน วันนี้มันช่างเป็นวันที่เจ็บปวดดีจริงๆ

          " พี่ขอกอดลี่เป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม​ " ผมเคลื่อนตัวช้าๆ เข้าไปกอดพี่นายไว้ เป็นครั้งแรกที่เรากอดกันแบบนี้ ผมชอบความเป็นสุภาพบุรุษของพี่เสมอมา มันจึงเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเรา

          " แค่กๆ " ผมผละออกจากตัวพี่นานและไอเสียงดัง

          " ลี่ เป็นอะไรหรือเปล่า " ผมถอยหลังไปชิดประตูและยื่นมือกันพี่นายไว้

          " ผมไม่เป็นไร " แต่ผมที่พูดแบบนั้นก็ยังคงไม่หยุดไอ

          ดูเหมือนลิมิตร่างกายของผมมันจะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นมันหนักหนาเหลือเกิน ผมมองดูมือที่ปิดปากไอ และก็พบว่ามันมีของเหลวสีแดงอยู่บนนั้น



และนั่นก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2018 11:36:46 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          Calorie ที่ 23 เบื้องหลังของความเจ็บปวดนั้น


          โรล



          ในวันหนึ่งซึ่งผมกำลังยุ่งกับทั้งการเรียนและการทำงาน จดหมายฉบับหนึ่งก็ถูกส่งมาถึงผม ผมซึ่งไม่เคยรับโทรศัพท์จากที่บ้านก็ต้องแปลกใจมาก ที่คุณแม่พยายามจะติดต่อผมถึงขนาดนี้

          ซึ่งเมื่อผมอ่านใจความในจดหมายนั้น ผมก็รีบกลับไปที่บ้านทันที เพราะคุณแม่กำลังทรุดหนักและอาจจะจากไปได้ทุกเมื่อ

          ถึงผมจะเกลียดการตัดสินใจของคุณแม่มาก แต่ยังไงท่านก็เลี้ยงผมมา ผมคงไม่อาจปล่อยให้ท่านตายโดยที่ไม่ได้กลับไปดูใจ

          แต่เมื่อผมกลับมาถึงบ้านใหญ่ที่ไม่ค่อยได้มาซะนาน ผมก็เพิ่งรู้ตัวว่าผมถูกหลอก แขกมากมายและผู้หลักผู้ใหญ่ต่างเดินทางมาร่วมยินดีที่ผมนั้นกำลังจะเข้าพิธีหมั้น ห๊ะ หมั้นงั้นเหรอฝันไปเถอะ

          ผมถูกจับแต่งตัวด้วยชุดสูทหรูและบังคับให้ยืนรับแขกร่วมกับผู้หญิงคนนั้น ผมไม่เคยสนใจเธอเลย ไม่ว่าเธอจะสวยแค่ไหนก็ตาม ทำตัวอ่อนแอ เรียกร้องความสนใจ รู้จักประจบคุณแม่ ทำซื่อตาใส ผมเกลียดคนเสแสร้ง มันทำให้ผมอยากจะอ้วก

          ผมไม่ยอมออกไปจากห้องแต่งตัวและอาละวาดกวาดทุกอย่างลงกับพื้น และพยายามจะปีนหน้าต่างหนีออกไป ผมจะไปหาลี่ ปล่อยกูนะโว้ย แต่ผมก็ต้องสงบลงเพราะว่ามีสายมาจากคุณพ่อ และท่านขอร้องให้ผมทำสิ่งนี้เป็นครั้งสุดท้าย

          ผมถึงกับน้ำตาตก คุณพ่อที่ตลอดชีวิตไม่เคยสั่งผมให้ผมทำอะไร ท่านสอนให้ผมใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง แต่คราวนี้ท่านกลับขอร้องผมในสิ่งที่ผมนั้นตายซะดีกว่าที่จะทำ มันอึดอัดทรมาน ผมจะทำยังไง ผมไม่ยอมหรอก และจะบอกลี่ยังไง ถึงลี่อาจจะเข้าใจและยอมรับได้ แล้วยังไงล่ะ การที่แฟนตัวเองไปหมั้นกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มันจะทำให้ลี่มีความสุขได้ยังไง ลี่จะต้องทุกทรมานเสียใจ ไม่ต่างจากผม ถ้าหากเปลี่ยนเป็นลี่ที่ต้องหมั้นกับไอ้นายล่ะ ผมสาบานเลยว่า ผมจะถล่มงานหมั้นนั้นให้เละ แล้วหัวไอ้นายต้องเละกว่า

          เอาเป็นว่าวันนี้ผมจะยอมไปก่อน แต่เมื่อถึงวันงานหมั้นจริงๆ ผมก็จะทำตามใจตัวเองเหมือนทุกครั้ง ผมจะพังทุกอย่าง ถ้าจะต้องตัดผมออกจากตระกูลก็เอาเลย ผมไม่สน นี่มันชีวิตของผม ผมมันลูกทรพี และผมไม่แคร์

          ผมยืนหน้าบูดเป็นตูดข้างๆ ผู้หญิงที่แต่งหน้าแต่งตัวอ่อยเหยื่อ คงคิดจะอ่อยผมมั้ง ลี่น่ารักกว่าเยอะ พูดแล้วก็ขึ้นเลย ไม่รู้ที่รักผมเป็นยังไงบ้างแล้ว ป่านนี้งอแงที่ผมไม่ได้โทรหาแน่นอน

          ผมเหลือบมองยัยผู้หญิงที่ดูมีความสุขเหลือเกินที่อยู่ใกล้ๆ ผม ที่ผมเกลียดหล่อนนั้นเพราะว่าแรกเริ่มเดิมทีเธอก็เหมือนจะดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ผมก็ได้รู้ว่าเธอคอยพยายามพูดกรอกหูคุณแม่ในทุกๆ เรื่อง เป็นคนที่เข้าใจพูดและมัดใจผู้ใหญ่ได้ดี และหล่อนน่าจะชอบผมมาก เธอทำตัวน่าสงสารเพื่อให้คุณแม่เห็นใจเธอและทำให้คุณแม่ยกผมให้หล่อนโดยไม่ถามผมสักคำ ตลกสิ้นดี

          " พี่โรลคะหนิงเอาน้ำมาให้ " ผมมองผู้หญิงที่ทำตาวิ๊งๆ มองผมเหมือนจะเอาใจผม ผมหยิบแก้วน้ำนั้นขึ้นมาส่องดูน้ำในแก้ว

          " มีขนรักแร้ในแก้วด้วยอ่ะ โสจริงๆ " กร๊ากกก จริงๆ มันของผมเองแหละ ผมพูดจบและปล่อยแก้วตกแตกกระจายเต็มพื้น ทำเอาเจ้าหล่อนหน้าเสียไปเลย

          " เดี๋ยวหนิงเอามาให้ใหม่นะคะ " ผมมองคนที่รีบเก็บเศษแก้วพลางทำน้ำหูน้ำตาไหลไปด้วย โถๆ น่าสงสารจริงๆ ถ้าเธอกำลังคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกในนิยายน้ำเน่าแนวตบจูบนั่นก็เลิกคิดไปเลย นี่มันนิยายวายเฟ้ย และคนที่ผมจะจูบก็มีคนเดียวก็คือลี่ของผม พูดแล้วก็คิดถึงเหลือเกิน อยากฟัดคนน่ารักคนนั้น ผมนี่คิดถึงลี่วันละ 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว อาการหนักและเป็นมานานและคงไม่มีวันหาย หึหึ

          " คุณโรมันหล่อเหมือนคุณพ่อจริงๆ นะเนี่ย ยินดีกับงานหมั้นด้วยนะครับ " ผมมองแขกผู้ใหญ่ที่พูดจาชวนอ้วกอย่างหมั่นไส้ ยินดีบ้าบออะไรล่ะ วันงานก็มาร่วมเป็นพยานในความหายนะด้วยนะครับ ผมคิดในใจ

          หลังจากจบงานผมก็รีบปีนออกหน้าต่างและคลานออกจากรั้วด้วยเส้นทางลับที่ผมใช้หนีประจำแล้วก็โกยอ้าวกลับคอนโดเลยครับจะอยู่ให้เขาจับทำผัวหรือไง ผู้หญิงสมัยนี้น่ากลัว ผมต้องเซฟตัวเองไว้ก่อน ผมยังไม่ได้กินตับลี่เลย ใครก็อย่าหวังจะกินตับผม แฮร่

          ผมกลับมาถึงคอนโดด้วยความรู้สึกเซ็งสุดๆ ผมเลยโทรหาลี่ที่รักสุดสวาทขาดใจของผม ช่วงนี้ผมไม่มีเวลาให้ลี่มากนักเพราะผมวางแผนไว้ว่าผมจะซื้อรถสวยๆ สักคันและข้บพาลี่นั่งรถเล่นขึ้นเหนือล่องใต้ไปกับผม

          และรถที่ผมจะซื้อนั้นค่อนข้างแพงนิดนึงเลยต้องทำงานหนักหน่อย ซึ่งจริงๆ แค่ผมใช้เงินของที่บ้านผมจะซื้อสักสิบคันก็ได้ครับ แต่ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวคุณแม่จะเอามาเป็นข้ออ้างให้ผมทำตามคำสั่งได้อีก



          และผมก็เครียดๆ เรื่องที่ลี่นั้นเหมือนกำลังปิดบังอะไรผมอยู่ ลี่ผอมลงเรื่อยๆ ซึ่งจริงๆ แล้วผมไม่ได้อะไรหรอกนะ ลี่จะอ้วนจะผอมยังไงลี่ก็ยังเป็นลี่ ถึงจะเสียดายแก้มยุ้ยๆ และพุงนิ่มๆ นั่นก็เถอะ เฮ้อ ลี่กำลังทำอะไรอยู่นะ หรือลี่กำลังลดน้ำหนัก แล้วจะทำเพื่ออะไรล่ะ ไอ้นายเหรอ ไม่ใช่ๆ แน่ อย่าคิดแบบนั้น ลี่รักผมครับ ผมมั่นใจ แต่มันที่คอยอยู่รอบๆ ตัวลี่นั้นก็ทำผมประสาทกินเหลือเกิน เข้มแข็งและมองแค่พี่นะลี่ ไม่อย่างนั้นพี่คงขาดใจตายแน่ๆ

          ผมวางสายจากลี่ในตอนดึกและก็มีข้อความแปลกๆ เข้ามาหาผม ผมมองข้อความนั้นที่ถูกส่งมาจากเบอร์ที่ผมไม่ได้เมมไว้ แต่ก็รู้ว่าใคร

          ' ถ้าไม่อยากหมั้น ขอให้มาที่  ร้านxxxเบเกอรี่ ถนนxxx 14.00 น. '

          เหอะ ผมมองข้อความแล้วก็ต้องถอนหายใจ เธอจะมาไม้ไหนอีก แล้วถ้าผมไป เธอจะพูดกับคุณแม่ว่าจะไม่หมั้นกับผมใช่ไหม​ ยัยงูพิษ

          ผมมองข้อความและช่างใจ บางทีเธออาจจะเปลี่ยนใจร่วมกันยกเลิกงานหมั้นกับผมก็ได้มั้ง หรือเธอวางแผนอะไรกัน ผมควรจะบอกลี่ดีไหม​ แต่ถ้าบอกลี่ก็คงจะเครียดแน่ๆ โอ้ย ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยจริงๆ การนอกใจเป็นสิ่งที่ผมไม่มีวันทำ แต่นี่ก็เพื่อพวกเรานะ พี่อาจจะได้เป็นอิสระสักที ผมคิดและเดินวนไปมาอยู่หลายรอบและตัดสินใจที่จะไปที่นั่นในวันพรุ่งนี้

          รุ่งขึ้นในช่วงบ่ายผมก็ได้ไปตามที่นัด สถานที่มันช่างมุ๊งมิ๊งเกินกว่าที่จะมาคุยธุระ ผมแทบไม่อยากก้าวเท้าเข้าไปเลยจริงๆ ผมกลัวคนจะเข้าใจผิดคิดว่าผมกับผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนกัน สำหรับผมแค่ความคิดนั้นก็ถือว่าเป็นการนอกใจแฟนแล้วครับ

          " พี่โรลมานั่งสิคะ ยืนทำอะไรอยู่ " ผู้หญิงคนนั้นที่เห็นผมยืนอยู่ก็รีบมาดึงแขนผมให้เดินเข้าไป แต่ผมก็ดึงแขนตัวเองออกจากมือนั้นทันที อย่ามาจับนะเฟ้ย

          ผมมองสีหน้ามีความสุขของผู้หญิงคนนี้แล้วหมั่นไส้แปลกๆ ยืดทำเบ่งเหมือนกับเป็นเจ้าของผมซะงั้น หน้าไม่อายนะเธอ

          ผมนั่งลงบนเก้าอี้ที่เล็กเกินไปสำหรับผมที่ตัวใหญ่ ทำให้อยากออกไปจากที่นี่เหลือเกินมากขึ้นไปอีก

          " มีอะไรรีบพูด " ผมพูดเสียงเข้ม

          " เอ่อ พี่โรลดื่มอะไรดีคะ เดี๋ยวหนิงสั่งให้ " หนอยนี่เธอจะถ่วงเวลาสินะ แม่งอารมณ์เสีย

          " บอกคุณแม่ยกเลิกงานหมั้น " ผมพูดออกแนวสั่ง และเธอก็มานี่เพื่อจะพูดเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ

          ผมสังเกตุเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของผู้หญิงคนนี้หุบลง แต่ก็รีบกลับมายิ้มอีกครั้ง

          " อย่าฝันไปหน่อยเลย " ห๊าาา เดี๋ยวนะ เมื่อกี้หล่อนว่าอะไรนะ เหมือนได้ยินไม่ชัด

          " หนิงไม่สนว่าพี่มีคนอื่นหรืออะไร แต่พี่ต้องแต่งงานกับหนิง คุณแม่พี่ก็จะตายวันตายพรุ่งอยู่แล้ว ทำเพื่อคุณแม่พี่สักครั้งไม่ได้หรือไงคะ " อ้าวเห้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา ผมถึงกับร้องเพลงนี้ขึ้นในหัว หนอยย ยัยตัวแสบหลอกชวนผมมาออกเดทหน้าตาเฉย กูไปละ เสียเวลาไปหลีลี่หมด

          " อย่างน้อยก็มีหลานให้แก แล้วพี่จะเลิกจะหย่ากับหนิงก็ได้ " ผมถึงกับตาโตมองผู้หญิงหน้าไม่อายที่อยากจะได้ผมจนตัวสั่น

          " จะให้สมสู่กับเธอเหรอ " คำพูดของผมทำเอายัยผู้หญิงนี่น้ำตาแทบเล็ดเลยครับ

          " ขอคืนคำนะ อย่าฝันไปหน่อยเลย " ผมยิ้มหวานให้ผู้หญิงที่ทำหน้าเหมือนกำลังกรีดร้องในใจพลางจิบกาแฟที่เพิ่งมาเสริฟไปด้วยอย่างสบายอารมณ์

          แต่ผมที่กำลังจิบกาแฟรอสายฟ้าฟาดก็มีสายเข้ามาพอดี และจะเป็นใครไม่ได้นอกจากยาหยี โอ้ยยย เอาแล้วไง ซวยชิบ เอาไงดี ถึงสมองจะสั่งว่าอย่ารับเดี๋ยวมีเสียงผู้หญิงแทรกลงไปแล้วลี่จะพิโรธแต่หัวใจผมมันกลับรีบคว้าหมับและกดรับทันทีเพราะผมนั้นไม่อาจต้านทานที่จะได้ยินเสียงลี่ได้ อ้ากกก คนมันอินเลิฟมันห้ามใจไม่อยู่

          " ว่าไงเอ่ย " ผมพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาๆ และลั้ลลานิดๆ

          " พี่ครับ พี่อยู่ไหนเหรอ " ผมเริ่มขมวดคิ้วมุ่นเพราะว่าเสียงลี่นั้นฟังดูแปลกๆ

          " พี่ยุ่งอยู่นิดหน่อย เดี๋ยวพี่โทรกลับนะ " สายถูกตัดไป ผมตัดสินใจว่าจะผมควรรีบออกจากที่นี่และไปหาลี่ด่วนเลยครับ ไม่รู้องค์อะไรลง น่าจะกำลังกริ้วอยู่

          " พี่จะไปไหน " ยัยผู้หญิงนี่พูดขึ้นทันทีที่ผมทำท่าลุกขึ้น

          " ไป หา เมีย " ผมพูดด้วยน้ำเสียงลั้ลลาสุดๆ

          " ไปเถอะ แต่รู้ไว้นะ ว่ายังไงตัวจริงของพี่ก็คือหนิง " ผมถึงกับสำลักกาแฟที่จิบอีกนิดตอนลุกเลยครับ

          " จริง? อย่าพูดให้ขำ นมยังของปลอมเลยมั้ง " ผมพูดพลางกระดกกาแฟอีกอึกและเดินฉิวออกประตูไปก่อนที่เสียงกรี๊ดดด จะดังตามมา ฮ่าๆ



รอก่อนนะลี่ พี่ไปแล้ววว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2018 11:49:28 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :a5:

กรรม

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เข้าใจผิดกันไปใหญ่ แต่ลี่จะไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม?

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น้องลี่อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ มาฟังเหตุผลพี่โรลก่อน

ออฟไลน์ graciej

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
แล้วโรลจะมาเห็นฉากลี่กอดกับนายพอดีใช่ไหม   :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ชะนีหนิงที่จะทำร้ายลี่ไปถึงไหนฟะ เมี่ยงจัดการทีซิ รำคาญสุด ๆ  :m16:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          Calorie ที่ 24 งานหมั้นที่ล่มสลาย


          " อาการแทรกซ้อนมาก คนไข้ไม่ยอมมาพบแพทย์เลย "

          ผมไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่ผมนอนอยู่ที่นี่ ผมลืมตาสู้แสงจ้าในห้องสีขาว นอนอยู่บนเตียงที่มีสายระโยงระยางเต็มไปหมด นี่ผมเป็นหนักขนาดต้องใส่เครื่องช่วยหายใจเลยเหรอ

          ผมตอนนี้ทำได้แค่กรอกตาไปมามองป๊าม๊าที่ยืนคุยกับคุณหมอ พี่นายที่ยืนอยู่ข้างเตียง และไอ้เมี่ยงที่อยู่อีกด้าน แล้วพี่โรลล่ะ ผมกวาดสายตาหาพี่โรลแต่ก็ไม่พบ นี่พี่ไม่รู้หรือกำลังยุ่งอยู่กับหนิงกันแน่ ผมน้ำตาไหลออกมาน้อยๆ อย่างเจ็บปวดใจ

          ผมกระดิกมือด้านที่ไอ้เมี่ยงยืนอยู่ ทำให้มันจับมือผมไว้

          " ว่าไง " มันถามผมและมองพี่นายด้วยแววตาไม่ชอบใจ

          ผมพูดไม่ได้ แต่อยากถามมันว่าผมนอนไปนานหรือยัง
         
          " เอางี้ กูจะพูดเรื่องที่กูรู้ " มึงมันรู้ใจกูจริงๆ

          " มึงนอนไปสามวัน โคม่า ระบบภายในปั่นป่วนติดเชื้อ กระเพาะและลำไส้อักเสบ อีกนิดเดียวมึงก็ไปเจอยมบาลแล้ว " มันที่พูดแบบนั้นก็ถูกอาเฟยที่ยืนอยู่ข้างๆ ฟาดให้อย่างจัง ดีมากน้องเฮีย

          " พี่โรล กูติดต่อไม่ได้ หายไปไม่มาเรียนด้วย " งั้นเหรอ ผมรู้สึกอยากร้องไห้ยิ่งขึ้นไปอีก พี่หายไปไหนกันนะ

          ผมมองหน้าไอ้เมี่ยงที่ดูแปลกๆ เหมือนกับว่ามันรู้อะไรแต่ไม่บอกผมมากกว่า คงเป็นเรื่องพี่โรลสินะ

          หลังจากนั้นอีกสามวันผมก็ถอดสายออกซิเจนออกและทำอะไรเองได้บ้าง ซึ่งคนที่อยู่กับผมก็เหมือนเดิมครับ แต่ป๊าม๊าจะมาหาผมช่วงเช้าๆ เท่านั้นและกลับไปขายของตามเดิม ซึ่งคนที่อยู่กับผมจริงๆ ก็จะมีแต่ไอ้เมี่ยงกับพี่นายเท่านั้น ตอนนี้ผมยังไม่สามารถกินอะไรได้เลยนอกจากทางสายน้ำเกลือ น้ำหนักผมภายในหนึ่งอาทิตย์นั้นตอนนี้หายไปเป็นสิบกิโล ทำให้เรียกได้ว่าผมกลายเป็นเหมือนสมัยก่อนตอนสมัยมัธยมปลายนั่นแหละ ผมเครียดมาก ผมทรมานเหลือเกิน ผมคิดถึงพี่โรล

          พี่โรลทำไมถึงไม่ติดต่อหาผมเลย ผมนอนร้องไห้ทุกคืนเพราะคิดถึงพี่ เพียงแค่ผมนึกถึงพี่กับหนิง ผมก็แทบจะอ้วกออกมาเป็นเลือดอีกรอบ หรือว่าที่พี่หายไป อาจเป็นเพราะพี่ไม่ได้รักผมแล้ว แต่ถ้าไม่ใช่แบบนั้น ก็มาหาผมเถอะครับ ผมอยากเจอพี่เหลือเกิน ผมอยากถามพี่ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่



          " ลี่ กูมีข่าวมาบอก " ในถัดไป อยู่ๆ ไอ้เมี่ยงก็เดินเข้ามานั่งข้างๆ ผมและทำสีหน้าเคร่งเครียด

          " มึงพึ่งจะอยากบอกกูเหรอ มึงไม่ปล่อยให้กูตายไปเลยล่ะ " ผมตัดพ้อด้วยความเสียใจ การที่ผมยังคงผอมลงอีก ไม่ใช่เพราะป่วยร่างกายอีกแล้ว แต่ป่วยใจต่างหาก

          วันนี้พี่นายคงไปเข้าเรียนก็เลยไม่ได้มาหาผม ไอ้เมี่ยงที่ถ้าพี่นายอยู่ละก็ มันก็จะไม่พูดอะไรมาก

          " ไม่ๆ ไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอก เอ่อ จะว่าไม่ดีก็ไม่ได้ กูก็งงเหมือนกัน " มันพูดจบและยื่นหนังสือพิมให้ผมหนึ่งฉบับ

          ผมยื่นมือรับมาช้าๆ และอ่านพาดหัวข่าวในหน้าของสังคมไฮโซ

          ' บุตรชายกวินพาณิชณ์ อาละวาดงานหมั้นล่ม '

          ผมเงยหน้ามองไอ้เมี่ยงและก้มลงอ่านข่าวเล็กๆ ในหนังสือพิมอีกครั้งอย่างตั้งใจ ผมมองดูภาพที่เอ่อ ค่อนข้างจะใช่พี่โรล ที่พี่แกชูนิ้วกลางให้กล้องทุกภาพ ทุกช็อตอย่างเครียดแค้น ผมรู้สึกโล่งใจ น้ำตาไหลออกมาช้าๆ ผมรู้แล้วว่าพี่ต้องเจอกับอะไร พี่คงเครียดจนคลั่งเหมือนกับผมนั่นแหละ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ พี่ถึงระเบิดออกมากลางงานหมั้นขนาดนี้

          " วันแรกที่มึงล้ม กูติดต่อหาพี่โรลแต่ก็ติดต่อไม่ได้ และมารู้ว่าพี่โรลกำลังจะเข้างานหมั้นเพราะหนังสือพิมลงไว้ กูไม่กล้าบอกมึง กูกลัวมึงยิ่งทรุดลงไป แล้วก็มาเจออีกฉบับนึงวันนี้นี่แหละ แต่งานหมั้นจัดตั้งแต่สามวันก่อนแล้ว ตอนนี้พี่แกหนีไปรัสเซียตั้งแต่ล่มงาน อีกไม่นานก็กลับมาแหละ "

          " ขอบใจมึงมาก " ผมร้องไห้เบาๆ เหมือนถูกปลดปล่อยจากความกังวลทั้งปวง มันกอดปลอบผมเบาๆ ที่เห็นแบบนั้น

          " กูคิดอยู่แล้ว ว่าคนที่รักมึงจนแทบบ้าแบบนั้นจะนอกใจมึงได้ยังไง มึงน่ะคิดมาก แต่ว่าทำไมต้องเป็นหนิงด้วยวะ " ผมก็คิดแบบนั้น สวรรค์คงแกล้งเรา ไม่คนใดก็คนหนึ่ง

          แต่ผมที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงโรงพยาบาลก็ต้องสะดุ้ง เพราะอยู่ดีๆ ประตูก็เปิดออก ผมหัวใจเต้นแรง พี่ใช่ไหม​ พี่โรลผมคิดถึงพี่

          แต่ผมก็ต้องหัวใจห่อเหี่ยวลงทันที เพราะคนที่เข้ามาไม่ใช่พี่โรล แต่เป็นคู่หมั้นงานล่มของพี่โรลต่างหาก

          หนิงอยู่ในชุดกระโปรงสีขาวถือตระกร้าผลไม้ในมือและสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ ไอ้เมี่ยงลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีด้วยสีหน้าไม่พอใจและเดินออกไปจากห้อง

          " หนิงไปหาลี่ที่บ้านมา ป๊าม๊าบอกว่ากำลังป่วย เป็นอะไรมากไหม​ " ผมมองหน้าหนิงที่ถามผมเหมือนจะเป็นห่วง แต่สีหน้ากับดูสมน้ำหน้าผม

          " ทำไมอาลี่ ทำไมต้องเป็นอาลี่ " ผมไม่พูดอะไร หนิงคงรู้แล้วสินะ ว่าผมกับพี่โรลเป็นอะไรกัน

          " หนิงคืนพี่นายให้ลี่แล้ว ทำไมต้องมาแย่งพี่โรลไปอีก " ผมเงยหน้ามองหนิงด้วยความไม่พอใจ

          " คืนงั้นเหรอ ไม่ใช่ว่าเขาทิ้งหนิงหรอกเหรอ " ผมไม่ยอมหรอกนะถ้าเป็นเรื่องพี่โรล อย่ามาพูดจาเอาแต่ใจ

          " หนิงกับพี่โรลรู้จักกันก่อนลี่นะ หนิงก็มีสิทธิ์ไม่ใช่เหรอ "

          " แล้วเขารักหนิงไหม​ล่ะ " หนิงตาโตขึ้นทันทีที่ผมพูดแบบนั้น

          " อาลี่ หนิงไม่ได้จะมาหาเรื่องนะ หนิงมาขอร้อง " หนิงพูดและร้องไห้ออกมา

          " คืนพี่โรลให้หนิงเถอะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ เห็นแก่คุณแม่ของพี่โรลที่กำลังจะตายด้วย เขาต้องการเห็นงานหมั้นก่อนเขาจะตาย "

          " ขอโทษนะ แต่เราไม่ได้เอาพี่โรลของหนิงไปหรอก แล้วก็อย่าพูดอะไรแบบนั้นอีกเลย ลี่ไม่เหมือนเมื่อก่อนหรอกนะ พี่โรลเป็นของลี่ พี่เขารักลี่ " หนิงนิ่งเงียบไปแล้วจ้องผมเขม็ง

          " เกย์โสโครก " ผมมองหนิงที่กำลังทำหน้าโกรธแค้นผมอยู่

          " นี่หนิงคิดแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อก่อนเลยใช่ไหม​ " ผมเสียใจจริงๆ ที่ผมนั้นหวังดีกับเธอเสมอมาแต่ลึกๆ เธอกลับเกลียดผม

          " พี่โรลไม่เคยชอบผู้ชาย จนแกนั่นแหละที่ล่อลวงพี่โรลไป "

          " ต้องพูดให้ถูกนะว่า พี่โรลไม่เคยชอบใครต่างหาก และก็ไม่เคยเหลียวแลเธอด้วย ใช่ไหม​ล่ะ " ผมพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย คงไม่ต้องทำตัวเป็นเพื่อนที่แสนดีอีกแล้วมั้ง กับคนเสแสร้งแบบนี้

          " แล้วจะได้เห็นดีกันลี่ คอยดู " หนิงพูดและหันตัวกลับทันทีแต่ก็ไปเจอไอ้เมี่ยงที่ยืนกอดอกพิงประตูอยู่

          " กู่ไม่กลับแล้วนะ กลายเป็นคนน่าขยะแขยงแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ " ไอ้เมี่ยงพูดด้วยแววตาน่ากลัว

          " เมี่ยง " หนิงเดินเข้าไปเกาะแขนไอ้เมี่ยง ทำสีหน้าออเซอะ

          " อย่ามายุ่งกับลี่อีก เธอไม่ใช่เพื่อนของเราอีกแล้ว " ไอ้เมี่ยงพูดพลางดึงมือหนิงออกจากตัวเหมือนมันเป็นสิ่งน่ารังเกียจ

          หนิงกัดฟันแน่นและปึงปังออกจากห้องไป

          " กูเคยชอบคนแบบนี้ได้ไงวะ ดีนะที่แม่งไม่เล่นด้วยกับกู ไม่งั้นแม่งนรกแน่ๆ " ไอ้เมี่ยงเดินมาหาผม พลางนั่งลงอย่างเหนื่อยอ่อน

          ผมนั้นทั้งโล่งใจและเสียใจ ผมเคยคิดว่าพวกเรานั้นเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาเสมอ และไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะเกลียดที่ผมนั้นเบี่ยงเบนไป ผมได้เสียคนที่ผมเคยแคร์ไปแล้ว แต่ก็ได้คนที่รักกลับคืนมา



ผมยังคงรอพี่อยู่นะครับ พี่โรลของผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2018 11:51:57 โดย Gloomy Sunday »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด