[สนพ.เฮอร์มิท]Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#แจ้งข่าวรูปเล่มหน้า 12 นะคะ](7/9/61)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [สนพ.เฮอร์มิท]Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#แจ้งข่าวรูปเล่มหน้า 12 นะคะ](7/9/61)  (อ่าน 43251 ครั้ง)

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          Calorie ที่ 7 เผลอตัวเผลอใจ


          ผมที่เดินออกมาจากห้องไอ้เมี่ยง ยืนตั้งสติอยู่ตรงขั้นบันไดเล็กน้อย พลางเดินลงจากชั้นสอง ไปยังห้องครัวที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งโต๊ะกินข้าวก็อยู่ในครัวเช่นกัน

          " อ้าวลูก มาเร็ว พี่เขากินจะหมดจานแล้วนะ " ผมมองพี่โรลที่กำลังโซ้ยมาม่าจนเส้นย้อยคาปาก และส่งยิ้มหวานให้ผม เอ่อ พี่ครับ ตอนกินจะยิ้มทำมะเขืออะไรเล่า 

          ผมนั่งลงตรงข้ามพี่โรล พลางก้มลงกินของที่ผมกำลังอยากกิน ผมชอบฝีมือทำกับข้าวของน้าจันทร์มาก เป็นสาเหตุหนึ่งของพุงกะทิผมเลยทีเดียว

          " พี่ชอบกินเหรอ " ผมมองพี่โรลที่ขอเบิ้ลอย่างไม่เกรงอกเกรงใจเจ้าของบ้านเลยสักนิด

          " ไม่เคยกินเลย " พี่โรลพูดพลางยิ้มน้อยๆ มองผม ทำเอาผมเผลอมองค้างไปเลย

          " ไม่เคยกินมาม่าเนี่ยนะ " ผมเลิกคิ้วจนมันแทบจะหายเข้าไปในเรือนผม

          " ที่บ้านไม่เคยซื้อไว้เลย " ที่ได้ยินว่ารวยนี่ไม่คิดว่าจะขนาดไม่เคยกินมาม่ามาก่อน น่าหมั่นไส้โว้ย

          ไอ้เมี่ยงเดินลงมาพอดีและนั่งลงข้างๆ พลางเหล่มองผมกับพี่โรลด้วยสายตากวนบาทา

          " ลูกพี่กับเพื่อนผมนี่เหมาะกันดีนะ ตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว "  ผมกระทืบทีนไอ้หอกเมี่ยงทันที พูดอะไรของมื๊งง

          พี่โรลไม่พูดอะไร แค่หัวเราะเบาๆ แต่เดี๋ยวนะ พี่แกตักหมูจากจานของตัวเองใส่จานไอ้เมี่ยงจนพูนเลยครับ มันอะไรฟะนั่น รางวัลงั้นเหรอ

          หลังจากกินกันจนเต็มคราบ ผมกับไอ้เมี่ยงก็ช่วยกันล้างจานเก็บโต๊ะ และกันพี่โรลออกจากการช่วยทุกอย่าง เพราะพี่แกนั้นพังของมากกว่าช่วยครับ นี่พี่แกทำอะไรเป็นมั่งเนี่ย 

          ผมเก็บซากจานที่พี่โรลพยายามช่วยล้างทิ้งลงถึงขยะ พลางเหลือบมองพี่โรลที่กำลังนั่งจ้องผมตาเป๋งพลางส่งยิ้มให้กำลังใจ เป็นคนแปลกๆ ดีนะ เหมือนเด็กน้อยเลยล่ะ ถึงอะไรบางอย่างจะไม่น้อยก็เถอะ อ้ากก เรียกได้ว่าภาพในห้องน้ำนั้นติดตาเลยทีเดียว ไอ้ลี่เอ้ย 

          " คืนนี้ทำไรดี " ไอ้เมี่ยงถามผมพลางเช็ดโต๊ะไปด้วย

          " ไม่รู้ดิ เล่นเกมส์ป่ะ " ผมเสนอ

          " แต่มีแค่สองจอยเองนะ " เออว่ะ มีสามคนนี่นา แบบนี้คนนึงก็ต้องรออ่าดิ

          " งั้นดูหนังละกัน " ผมว่ามันเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันได้ดีครับ และก็มีเรื่องที่ผมอยากดูอยู่ด้วย

          สุดท้ายพวกผมก็ขึ้นไปชั้นสองนั่งเรียงกันหน้าทีวี พลางเปิดซีดีเล่นหนังเรื่องหนึ่งที่ผมอยากดูมานานแต่ไม่ได้ดูสักที เพราะมันเป็นหนังผีครับ ผมโครตกลัวผีเลยล่ะ

          เก้าอี้ที่พวกผมนั่งนั้นเป็นเก้าอี้ไม้ตัวยาวที่นั่งกันได้สามคนพอดีเป๊ะ ผมเลือกนั่งริมสุดและลากไอ้เมี่ยงมานั่งคั่นกลางอีพี่โรลนั่น ซึ่งถ้าผมไม่ได้คิดไปเอง ดูเหมือนพี่โรลจะหน้าบูดลงเล็กน้อยตอนที่ไอ้เมี่ยงนั่งลงตรงกลาง งอนอะไรของเขาหรือเปล่านะ 

          ผมที่นั่งอยู่อีกข้าง แต่ก็นั่งพิงพนักและเหลือบๆ มองคนอีกฟากเป็นระยะๆ ซึ่งพี่โรลก็กำลังนั่งดูหนังตาโตเลยทีเดียว น่าจะชอบหนังผีนะ 

          " กรี๊ดดด เชี่ยเอ้ยน่ากลัวสัด " ไอ้เมี่ยงกรีดร้องแต๋วแตกและกอดแขนผมแน่น มันก็กลัวผีครับยิ่งกว่าผมอีก

          " สตอๆ ปล่อยกูเลย นั่งดีๆ สิวะ " ผมที่ถูกไอ้เมี่ยงทั้งดึงทั้งทึ้งก็ได้แต่แกะมือมันออกอย่างรำคาญ แต่ที่ผมรำคาญใจกว่าก็คือ อีพี่โรลกำลังหัวเราะขำผีอย่างสนุกสนาน นี่มันหนังผีนะเฟ้ย เกรงใจผีบ้าง

          " เดี๋ยวกูไปเอาหมอนอิงก่อนปวดหลังว่ะ " ไอ้เมี่ยงพูดพลางลุกขึ้นและเดินไปที่ห้อง เอาล่ะสิ ไอ้ลี่เอ๋ยใจเย็น

          ผมที่นั่งอยู่ริมสุดก็เขยิบตัวชิดริมเข้าไปใหญ่ เวลาต้องอยู่สองคนกับพี่โรลทำไมผมต้องประหม่าขนาดนี้นะ ผมยังคงมองจอทีวีอย่างใจจดจ่อ แต่ก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่มันแปลกๆ ไป

          ผมเหลือบมองพี่โรลที่ยังคงมองจอและยิ้มขำอยู่เช่นเดิม แต่เดี๋ยวนะ ดูเหมือนพี่แกตอนแรกจะไม่นั่งใกล้ผมขนาดนี้นี่นา หรือจะคิดไปเอง ผมมองจอทีวีอีกครั้ง พยายามสนใจหนังมากกว่า แต่ไม่รู้ทำไม ผมนั้นก็ชอบเหลือบมองคนข้างๆอยู่เรื่อย และคราวนี้แม่งชัดเจน อีพี่โรลนี่เข้ามาใกล้ผมมากขึ้นกว่าเดิม เรียกว่าอีกคืบก็จะขึ้นมานั่งทับผมแล้ว 

          ผมหันไปมองพี่โรลตรงๆ แต่อีพี่ผีทะเลนี่ก็ยังมองแต่หนังและทำเหมือนไม่สนใจผม หนอยย ทำเนียนนะ เดี๋ยวเถอะ ผมนั่งตัวเกร็ง และเขยิบจนตัวผมจะขึ้นไปนั่งบนที่พักแขนอยู่แล้ว อีพี่นี่ยังไงฟะเนี่ย แล้วไอ้เมี่ยงมึงไปเอาหมอนหรือไปถอยหมอนฟะเนี่ย นานไปแล้วโว้ย

          แต่ว่าแบบ เอ่อ หอมจัง อ้ากกก ต้องยอมรับว่าพี่โรลนั้นดูดีทุกระเบียดนิ้วจนผมเผลอใจสั่นเลยทีเดียว ตอนนี้พี่เขาใส่เสื้อกล้ามสีขาวโชว์หุ่นนายแบบและกางเกงนอนขายาวสีเข้มที่ดูสบายๆ ผมที่มักจะเซ็ตตั้งขึ้นอย่างเท่ห์ๆ ตอนนี้กลับลู่ลงจนดูแปลกตา แต่ก็ยังหล่อโครตๆ อยู่ดี อิจฉาอ่ะ

          " อ๊าาา อิย๊าาา รู้สึกดีจังเลยค๊าา " เดี๋ยวๆๆ หนังผีไหงมีฉากเรท 18+ ได้ฟะ

          ผมที่กำลังแอบมองพี่โรล กลับต้องรีบหันกลับไปมองจอเพราะเสียงกระเส่าที่ดูเร่าร้อนกันเหลือเกิน มันอื้อหือ นัวเนียกันอย่างกับตายอดตายอยากมาจากไหน นี่หนังผีหรือสารคดีผสมพันธุ์ฟะเนี่ย 

          ผมรู้สึกหน้าร้อนผ่าวเล็กๆ เพราะถ้าผมเดาไม่ผิด และจากหางตา อีพี่โรลนี่กำลังจ้องผมครับ ผมก้มหน้าลงเล็กน้อย และตัดสินใจมองหน้าพี่โรลที่กำลังมองผมอยู่ 

          พี่โรลที่ชอบทำตัวเหมือนเด็กอยู่เสมอ แต่ตอนนี้แววตากลับดูมีประกายแปลกๆ ทำเอาผมหัวใจเต้นรัวเลยทีเดียว นี่พี่คิดอะไรกับผมหรือเปล่านะ ผมสบตาพี่โรลที่ไม่ได้ยิ้ม แต่กลับทำหน้านิ่งๆ และค่อยๆ ยื่นหน้ามาหาผมช้าๆ ผมกลืนน้ำลายลงคอ และหลับตาลงช้าๆ ด้วยหัวใจที่เหมือนกับจะหลุดออกมาจากอก

          " โทษทีแม่งเผลอหลับ " ผมสะดุ้งสุดตัว ผลักพี่โรลออกไปยืนขึ้นและบิดขี้เกียจไปมาแบบเนียนๆ เพราะอยู่ดีๆ ไอ้หอกเมี่ยงก็เดินขยี้หูขยี้ตาออกมา ถ้ามึงง่วงก็นอนไปสิโว้ย กูจะด่าหรือขอบคุณมึงดี กูสับสนเหลือเกิน

          " หนังจบพอดี ไปนอนกันเถอะ " ผมที่เขินหูดำหูแดงก็รีบเดินเข้าห้องไอ้เมี่ยงและปิดประตูอย่างรวดเร็ว

          " ทำอะไรของมึงเนี่ย เปิดประตู นี่ห้องกูนะโว้ย " เออว่ะ ผมที่สมองเออเร่อ ก็เปิดประตูออกพลางยิ้มแหยๆ แบบเขินๆ

          พี่โรลมองหน้าผมพลางส่งยิ้มมีเลศนัยมาให้จากข้างหลังไอ้เมี่ยง โอ้ยย หยุดโปรยเสน่ห์สักนาทีได้ไหมจะบ้าตาย ผมหลบตาพี่โรลด้วยแก้มที่น่าจะแดงสุดๆ และหลบทางให้ไอ้เมี่ยงกับพี่โรลเดินเข้ามา

          " เอาล่ะ โอน้อยออกกันว่าใครจะได้นอนบนเตียง " ไอ้เมี่ยงพูดพลางตั้งท่าเตรียมพร้อม 

          เตียงไอ้เมี่ยงเป็นเตียงเดี่ยวครับ ซึ่งผมกับมันก็ทำแบบนี้เสมอเพื่อว่าใครชนะก็จะได้นอนบนเตียง

          " พี่สละสิทธิ์ " พี่โรลพูดและก้มลงกางฝูกสำหรับสองที่เตรียมพร้อมอย่างรวดเร็ว พลางมองหน้าผมด้วยแววตาแปลกๆ เหมือนกำลังอ้อนวอนผสมสวดภาวนาทางสายตา หนอยย ไม่หลงกลหรอก รู้นะว่าคิดอะไร

          ผมสะบัดบ๊อบและเป่ายิงฉุบกับไอ้เมี่ยงอย่างจริงจัง ต้องชนะ ชนะ ชนะ แพ้ เอ้ยชนะเท่านั้นเฟ้ย 

          " เย้~ " ในที่สุดผมก็ชนะ ผมหันมายิ้มเย้ยหยันคนที่นั่งอยู่ที่พื้น ที่ตอนนี้กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ หนอย ไม่สงสารหรอกเฟ้ย อย่าหวังซะให้ยาก ฮ่าๆ 



          เช้าวันนี้ช่างสดใสซะเหลือเกิน ผมยิ้มหน้าตาชื่นบานและลงมาช่วยน้าจันทร์จัดเตรียมอาหารเช้า 

          " อ้าว พี่โรลตื่นเช้าจังเลยลูก เป็นไงนอนสบายไหม " ผมหันไปมองพี่โรลที่หน้านิ่วคิ้วขมวดและดูเหมือนจะไม่ค่อยได้นอน ก็แหงล่ะ ไอ้เมี่ยงนอนดิ้นจะตาย ฮ่าๆ

          ผมทั้งสงสารทั้งขำอย่างช่วยไม่ได้ แต่ทำไมกันนะ ในส่วนลึกในหัวใจของผมก็อดคิดไม่ได้ว่า ผมอยากจะแพ้การเป่ายิงฉุบเมื่อคืน  ผมเหลือบมองพี่โรลพลางส่งยิ้มให้อย่างตั้งใจ ทำให้พี่โรลที่กำลังหน้าบูดมองผมอยู่นั้น เริ่มอมยิ้มตามไปด้วย มีความสุขจังเลยนะ 

          แต่ผมที่รู้สึกมีความสุขนั้น ในหัวใจกลับมีความเศร้าเพิ่มขึ้นมาด้วย ผมเคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่มันก็จบลงด้วยความผิดหวัง และหยาดน้ำตาที่แสนเจ็บปวด



เพราะฉะนั้น ผมควรจะหยุดหรือเปล่านะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2018 09:49:56 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
น้องมาร์ชเมโล

ออฟไลน์ mirage

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
โอ๋ๆ น้องมาชเมลโล่ อดีตเป็นเพียงแค่บทเรียน มันสำคัญที่ว่าเราจะเดินหน้าอย่างไรในอนาคตนะคะ

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อึดอัดอ่ะ หลานโรลช่วยพูดอะไรก็ได้ทีเถอะ เงียบ ยิ้ม มอง มันอึดอัด   o21

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          Calorie ที่ 8 รอยยิ้มที่ทำให้โลกเปลี่ยนไป


          ผมยังคงคิดมาก และหวาดระแวงทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เสมอ แต่มันก็ไม่แปลกหรอกที่ผมจะคิด เพราะว่าพี่โรลนั้นดูยังไงก็ไม่น่าจะชอบผู้ชาย พี่กำลังล้อเล่นกับผมจริงๆ หรือเปล่านะ พี่น่าจะมีคนอีกมากมายให้เลือก แล้วทำไมพี่ถึงคอยอยู่ใกล้ๆ ผม

          " ลี่ เป็นอะไรวะ ไม่สบายหรือ​เปล่า เมื่อเช้ายังดีๆ อยู่เลย " ไอ้เมี่ยงจ้องมองผมและเอามือมาแตะที่หน้าผากด้วยความสงสัย

          " เปล่าๆ " ผมเหลือบมองพี่โรลที่กำลังมองผมด้วยสีหน้าเป็นห่วงเช่นกัน

          " เมี่ยงเดี๋ยวไปซื้อของให้แม่หน่อย แม่จะทำขนมฝากแม่อาลี่เขา " น้าจันทร์ตะโกนเรียกไอ้เมี่ยงจากหน้าบ้าน

          " มึงไม่ต้องเดี๋ยวกูไปเอง กูจะไปซื้อขนม " ผมพูดพลางลุกขึ้นและหลบตาพี่โรลที่มองมา

          ผมเดินไปตามทางพลางคิดอะไรต่างๆ มากมายด้วยความรู้สึกสับสน ผมนั้นต้องการอะไรกันแน่นะ ผมใช้ชีวิตแบบนี้มันจะดีจริงๆ งั้นเหรอ ผมจะหยุดหรือทำตามใจตัวเองดีนะ

          ผมเดินมาถึงร้านขายของชำ เดินซื้อของที่น้าจันทร์ฝาก พลางซื้อขนมตุนเพิ่มอีกนิดหน่อย จริงๆ ที่ผมออกมาเองเพราะผมอยากอยู่คนเดียวเท่านั้นแหละ เดี๋ยวกลับถึงบ้านไอ้เมี่ยงแล้ว ผมก็จะขอตัวกลับบ้านเลย

          ผมที่ซื้อของเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากร้านเพื่อกลับไปที่บ้านไอ้เมี่ยง

          " เฮ้ย มัดมันดีๆ ดิวะ "

          " มันดิ้นอ่ะ เอาไม้มาดิ๊ "

          ผมหยุดเดินกระทันหันและมองข้างทางดูไอ้พวกเด็กเกรียนหลายคนที่กำลังมัดลูกหมาตัวหนึ่งอยู่ ตรงนี้เป็นทางลัด ซึ่งป่าหญ้าสูงและไม่มีบ้านเรือน จึงไม่ค่อยมีคนผ่านมาเท่าไหร่นัก

          " ทำอะไร หยุดเลยนะ ไอ้พวกเด็กเวร " ผมพูดและเดินดุ่ยๆ เข้าไปแบบไม่เกรงกลัวสิ่งใด เพราะไอ้พวกเด็กนี่ก็แค่เด็กที่ไม่น่าจะอายุเกิน 10 ขวบเท่านั้น

          " ยุ่งไรวะไอ้อ้วน " ไอ้เด็กเปรตหัวเกรียนขว้างก้อนหินใส่ผมและดูไม่เกรงกลัวผมเอาซะเลย

          ผมมองแขนตัวเองตรงที่โดนก้อนหินขว้างใส่ แดงเลยแฮะ หนอย ผมเดินดุ่ยๆ เข้าไปอีกและหาหยิบไม้แถวนั้นๆ ขึ้นมา ต้องหวดสั่งสอนซะหน่อย

          เด็กพวกนี้เมื่อเห็นผมเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นอีก ก็ทำท่าจะขว้างก้อนหินใส่ผมต่อ แต่อยู่ดีๆ ไอ้พวกเด็กเปรตพวกนี้ก็ชะงักและเดินถอยหลังไปด้วยใบหน้าตื่นกลัว ผมขมวดคิ้วด้วยความมึนงง สงสัยมันเพิ่งคิดได้ว่าผมน่ากลัวมั้ง หึหึ

          " ขี้โกงนี่หว่า หัวหน้ามันมาแล้ว แม่งเอ้ย ถอยก่อน " ผมยิ่งขมวดคิ้วหนักขึ้นไปใหญ่ หัวหน้าอะไรของมันฟะ

          และผมก็เริ่มสังเกตุเห็นว่าเงาข้างๆ ผมนั้นมีสองเงา ของผมอันนึง และของ...

          ผมเงยหน้าเหลียวมองไปด้านหลังและก็ต้องตกใจ เพราะว่าพี่โรลนั้นกำลังยืนตระหง่านชิดด้านหลังผมและมองพวกเด็กๆ ด้วยแววตาน่ากลัว ช่างดูสูงใหญ่และน่าเกรงขามยิ่งนัก

          แต่พอพี่โรลสังเกตุเห็นว่าผมนั้นมองอยู่ พี่โรลก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มอย่างรวดเร็ว และหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากถุงสีขาว

          " รับไปซะ ละอ่อนน้อย!! " พี่โรลหัวเราะและเขย่าขวดน้ำอัดลมในมืออย่างแรงหลายครั้ง ไอ้พวกเด็กตั้งท่าเตรียมวิ่งหนี แต่ก็ไม่ทันขายาวๆ ของพี่โรล ที่แค่สองสามเก้าก็ถึงตัวแล้ว

          ผมยืนมองพีโรลวิ่งไล่เด็กๆ ไปมา แลดูเหมือนจะเล่นกันมากกว่านะเนี่ย แต่อยู่ดีๆ ไอ้พวกเด็กเวรทั้งหลายก็วิ่งวกกลับมาหาผมและหลบข้างหลังผมซะงั้น เดี๋ยวๆๆ พี่ครับ สต๊อปปุ ผมยกมือขึ้นเป็นสัญญาณบอกว่าอย่าเชียวนะ แต่ก็เหมือนว่าจะไม่ทันซะแล้ว

          ' พรวดดดดด ซ่าาาาาาาา '

          ผมที่ตอนนี้น้ำหวานไหลเยิ้มและเหนียวหนึบไปทั้งตัว กำลังมองพี่โรลด้วยแววตาเครียดแค้น อ้ากกก นี่คุณพี่ตั้งใจใช่ไหม

          " ฮ่าๆๆ ขอโทษที " เป็นคำขอโทษที่ดูไม่สลดเลยสักนิด

          " ฝากไว้ก่อนเถอะ แล้วจะมาคิดบัญชีแค้น " ไอ้พวกเด็กเปรตชี้หน้าผม และวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

          พี่โรลเดินเข้ามาหาผมที่ตัวเปียกไปด้วยน้ำอัดลม พลางดึงผ้าเช็ดหน้ามาช่วยเช็ดให้

          " เหนียวไปหมดเลย " ผมบ่นเบาๆ พลางแย่งผ้าเช็ดหน้าจากมือพี่โรลมาเช็ดหน้าตัวเอง

          แต่ผมก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ เพราะว่าอยู่ดีๆ พี่โรลก็จับข้อมือผมและเลียเบาๆ ที่ข้อมือนั้น

          " หวานจัง " ผมตัวแข็งทื่อ เลือดที่ไหลเวียนเบาๆ ในร่างกายของผม ตอนนี้มันน่าจะไหลมารวมกันบนหน้าผมหมดแล้ว

          "  ทำอะไรเนี่ย เดี๋ยวใครมาเห็นจะทำยังไง " ผมรีบชักแขนกลับด้วยหัวใจที่เต้นรัว

          " ถ้าไม่มีคน ก็ได้เหรอ " โอ้ยยย มันไม่ใช่แล้ว ไอ้พี่โรล ไอ้บ้า ไอ้หื่นเอ้ย

          ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เดินก้มหน้าก้มตานั่งลงแก้เชือกบนตัวลูกหมาจนมันวิ่งหนีหายไป และเดินดุ่ยๆ หนีพี่โรลที่เดินตามหลังผมมาแบบระยะประชิด

          " อาลี่ "

          ผมหยุดเดินและหันหลังกลับไปมองคนที่ร้องเรียกผม สายลมแผ่วๆ ที่พัดผ่านพวกเรานั้น ทำให้บรรยากาศรอบตัวมันช่าง ทำให้รู้สึกดีเหลือเกิน ผมหยีตาผ่านแสงแดดอ่อนๆ จ้องมองใบหน้าของพี่โรล ที่ตอนนี้กำลังยิ้มให้ผมด้วยรอยยิ้มที่สดใสและอ่อนโยน

          " วันมะรืน ฟังนะ พี่ให้ "

          ผมไม่เข้าใจว่าพี่หมายความว่ายังไง แต่รอยยิ้มของพี่นั้น กลับทำให้ผมลืมเรื่องเลวร้ายต่างๆ และทำให้ผมเริ่มยิ้มอีกครั้งหนึ่ง



          ในตอนเย็น ผมก็กลับมาที่บ้านโดยมีคนสะกดรอยตามมาไม่ห่าง เป็นคนที่แปลก แล้วก็ตลกดี ผมอาศัยช่วงที่เดินผ่านตลาดตอนคนเยอะๆ แล้ววิ่งหนีซะเลย พี่โรลที่เดินไปไหนก็มีแต่คนหยุดมองเกะกะเต็มไปหมดก็คงจะตามมาลำบาก สมน้ำหน้า หึหึ​

          " กินอะไรมาหรือ​ยัง มาม๊ามีขาหมูนะ "

          " ครับ เดี๋ยวลี่ลงมากินนะ "

          ผมขึ้นไปเก็บกระเป๋าใบเล็กของผมเข้าที่ และเดินลงมาเพื่อกินข้าวอีกสักจาน ผมยังกินได้อีกหลังจากที่กินมาจากบ้านไอ้เมี่ยงไปแล้วก็ตาม

          " ม๊าไหนอ่ะขาหม... " ผมเดินมาที่หน้าร้านและก็ต้องหยุดชะงักทันทีที่เห็นคนที่ผมคุ้นเคยดี

          " ลี่ ไปไหนมา พี่มารอตั้งนาน เมื่อวานก็มานะ " พี่นายพูดพลางเดินมาหาผมและส่งยิ้มหวานมาให้

          มาหาตั้งแต่เมื่อวานงั้นเหรอ ดีนะที่ม๊าไม่ได้บอกว่าผมอยู่บ้านเมี่ยง

          " พี่มีธุระอะไรหรือ​เปล่าครับ " มาทำไมกันนะ

          " พูดเหมือนเป็นคนห่างไกลจังเลยนะ " ผมรีบดึงมือพี่นายให้เข้ามาข้างหลังด้วยความจำเป็น เพราะว่าครอบครัวของผมไม่รู้เรื่องผมกับพี่นาย และผมกลัวพี่นายพูดอะไรแปลกๆ ออกมา

          " พี่อยากคุยจริงจังกับลี่ ลี่กำลังหลบหน้าพี่หรือ​เปล่า "

          " ทำไมผมต้องหลบหน้าพี่ด้วย " ผมพูดเสียงเย็น

          " อาลี่ เพื่อนลื้อเหรอ " ผมสะดุ้งตกใจเพราะว่าอยู่ดีๆ ป๊าก็เดินผ่านมา สงสัยเห็นผมทำหน้าเครียดๆ ก็เลยเข้ามาทัก

          " ครับป๊า พี่นายไงครับ รุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่า " เมื่อก่อนพี่นายเคยมาที่บ้านผม ป๊าม๊าก็เคยเห็นแต่คงจำไม่ได้

          " สวัสดีครับคุณพ่อ ยังแข็งแรงดีเหมือนเดิมนะครับ " พี่นายยกมือไหว้อย่างสุภาพและทักทายอย่างเป็นมิตร แต่ป๊าก็แค่หรี่ตาลงเท่านั้น

          " อ่อ อั๊วจำได้ล่ะ ตัวโตกว่าเดิมหล่อขึ้นเป็นกอง " ป๊าเดินมาตบไหล่พี่นายเบาๆ (เหรอ) เล่นเอาพี่นายหน้านิ่วไปเลย ป๊าไปแค้นใครมาหรือ​เปล่าเนี่ย

          " อาลี่ เดี๋ยวไปช่วยม๊าในครัวด้วย ม๊ากำลังยุ่ง " ป๊านี่เหมือนเทพบุตรมาโปรด สุดยอดจริงๆ ขอบคุณคร๊าบ

          " มีอะไรคุยที่มหา'ลัยนะครับ ผมกำลังยุ่ง " ผมพูดพลางดันหลังพี่นายให้ออกไปที่หน้าบ้าน

          " ลี่ ไม่ได้ใช้เบอร์เก่าแล้วใช่ไหม พี่ขอเบอร์ใหม่หน่อยสิ "

          " ก็ได้ครับ "

          ผมคิดว่าถ้าไม่บอกไปพี่แกจะตื้อกว่านี้เลยบอกไปดีกว่า หลังจากได้เบอร์แล้วพี่นายก็ขึ้นรถและขับออกไป ผมรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก พี่ยังต้องการอะไรจากผมอีกกันนะ เรื่องของเรามันจบไปตั้งนานแล้ว



          วันรุ่งขึ้น ผมก็เดินไปมหา'ลัยเหมือนเดิม แต่ไอ้เมี่ยงนั้นไม่เหมือนเดิม มันดูเครียดมาก และเงียบขรึมกว่าทุกวัน ปากบ่นขมุบขมิบอะไรของมันอยู่คนเดียว แต่มันที่เป็นแบบนี้ก็เรียกสายตาสาวๆ ได้ดี เพราะปกติมันไฮเปอร์อย่างกับลิงกินยาบ้า

          " มึงเงียบแบบนี้ก็ดีนะ " ผมพูดแหย่มันที่กำลังกรีดไพ่ไปมา มันกำลังซ้อมการแสดงครับ

          " อะไรลี่ นั่นแน่~ อย่าบอกนะว่า เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ " ผมตบกบาลมันจนหน้าทิ่มไปหนึ่งที ให้เอามึงกูเอาหมาแถวนี้สบายใจกว่า

          " แล้วมึงไม่ไปคณะมึงเหรอ "

          " ไม่อ่ะ กูโดด " ผมขี้เกียจครับ ไหนๆ ก็วันสุดท้ายของการซ้อมของไอ้เมี่ยง ผมเลยอยากอยู่เป็นเพื่อนมัน

          " นั่นแน่ๆ~ มาอยู่เป็นเพื่อนกูหรือว่ามาหาใคร~ " โอ้ย ไอ้ห่ามึงรู้ดี เอ้ยคิดมากเกินไปแล้ว กูมาอยู่เป็นเพื่อนมึงจริงจริ๊ง

          " ถ้ายังไม่เลิกกวนทีนกู กูไม่ช่วยมึงซ้อมนะ " ไอ้เมี่ยงมันแสดงมายากลครับ และเพื่อความเนียน ผมก็เลยนั่งดูมันเล่น และคอยบอกมันว่าควรแก้อะไรบ้าง

          เมื่อมาถึงคณะมัน ผมก็ช่วยมันซ้อม พลางเหลือบตามองไปรอบๆ อยู่ตลอดเวลา จริงๆ แล้วคนคนนั้นแทบไม่ต้องเพ่งมองหาเลยครับ ก็แม่งเด่นหราอยู่ตลอด ทั้งความสูง ความขาว ความเท่ห์ เอาซะโอโม้ยังหมอง แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นเลยแฮะ ไปไหนของเขากันนะ

          " ไอ้โรล โดดไปเหล่สาวบริหารมาอีกแล้วใช่ไหม " ผมรีบหันหน้ากลับมาทันที เพราะพี่โรลกำลังเดินเข้ามาในโรงยิมนี้ด้วยใบหน้าบึ้งตึง เหมือนไปเจอเรื่องขัดใจอะไรมา พี่ไปไหนมากันนะ

          หรือว่า...

          พี่ไปหาผมหรือ​เปล่า

          " มึงจะช่วยกูไหมเนี่ย พอผัวมาก็ลืมเพื่อนเลยนะ " ไอ้เมี่ยงเอาหน้ามาบังสายตาผมและทำหน้ากระลิ้มกระเหลี่ยจนน่าถีบ

          " ผัวโพ่ง อย่ามามั่ว " ผมพูดพลางจ้องมองมือไอ้เมี่ยงที่กำลังเสกผ้าเช็ดหน้าอยู่ แต่ในใจกลับลอยไปไกลแล้ว ไปไหนกันน้า

          สักพักผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาที่ข้างหลังผม หึหึ รู้อยู่แล้วว่าต้องเดินมาหา ผมเอี้ยวตัวหันหลังไปมองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังผมด้วยรอยยิ้ม แต่ว่ารอยยิ้มของผมนั้นก็ต้องหุบลงทันที

          " ลี่ ทำไมไม่ไปที่คณะล่ะ พี่โทรหาก็ไม่รับ " ผมมองหน้าจอมือถือและก็พบว่ามีเบอร์พี่นายโทรมาหลายสายทีเดียว

          ผมเหลือบไปมองด้านหลังพี่นายก็เห็นว่าพี่โรลกำลังค่อยๆ เดินมาหาด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่นยิ่งกว่าเดิม

          " ปล่อยผมไปเถอะครับ วันนี้ผมอยากอยู่ที่นี่ " ผมพูดขอร้องพี่นาย

          " พี่เป็นพี่วินัยนะ จะปล่อยไปได้ยังไง " ผมว่าไอ้เรื่องที่พี่เป็นพี่วินัยมันไม่เกี่ยวมั้ง

          พี่นายจับแขนผมและพยายามดึงผมให้ลุกขึ้น ผมไม่อยากมีปัญหาเลย ผมต้องไปสินะ

          " ปล่อยแขนเพื่อนผมซะ หรือจะให้พูดว่า เลิกมายุ่งกับเพื่อนผมสักที " ผมมองมือไอ้เมี่ยงที่กำลังดึงผมอีกแขน

          " เมี่ยง ปล่อยกูเถอะไม่เป็นไร กูไม่อยากมีปัญหา "

          " มึงได้มีปัญหาใหม่แน่ถ้ามึงไป " ผมเข้าใจในสิ่งที่มันกำลังจะสื่อ

          " มันจะไม่เป็นอย่างที่มึงคิด " ไอ้เมี่ยงปล่อยแขนผมและมองพี่นายด้วยแววตาอาฆาต

          ผมลุกขึ้นยืนช้าๆ ดึงแขนออกจากการเกาะกุมของพี่นายและเดินไปเองเงียบๆ ผมก้มหน้าหลบตาพี่โรลตอนเดินผ่าน พี่โรลนั้นกำลังมองมาที่ผมด้วยแววตาหมองเศร้า



ขอโทษนะ แล้วผมจะรีบกลับมา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2018 09:56:34 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ลี่ทพำตัวน่าลำคานเกลียดนาย แต่กลับไปอย฿ใกล้นาย สมควรเสียใจนะ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มันมีอะไรที่ลับลมคมในมากขนาดนั้นหรือ หลานหลี่  :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          Calorie ที่ 9 ค่ำคืนแห่งงานประกวด


          สุดท้ายผมก็มาเข้าร่วมกิจกรรมของคณะด้วยใบหน้าบูดบึ้ง และไม่ยอมคุยกับพี่นายเลยสักคำ แต่จริงๆ จะโทษพี่นายก็ไม่ได้หรอก ก็ผมโดดกิจกรรมจริงๆ นี่นา ช่วยไม่ได้

          " อาลี่ๆ " ผมมองแพรเพื่อนคนเดียวในคณะของผม กำลังเรียกผมเบาๆ

          " เป็นอะไร หน้าบูดเชียว ทะเลาะกับแฟนเหรอ " ผมขมวดคิ้วทันทีที่แพรพูดจบ

          " แฟนอะไรเหรอ " ผมถามแพรกลับด้วยความไม่เข้าใจ

          " อ่าว ก็วันนั้นอ่ะแพรถามพี่นายว่าชอบลี่ใช่ไหม พี่นายบอกว่าลี่เป็นแฟนพี่นายนะ ตกลงคือไม่ใช่เหรอ " ผมตกใจมาก คงเป็นวันที่ผมเดินหนีออกไปสินะ

          ผมมองพี่นายที่กำลังยืนคุยกับกลุ่มเพื่อนอยู่ แต่ก็มองมาที่ผมอยู่บ่อยๆ นี่มันอะไรกัน พี่คิดจะทำอะไรกันแน่ ผมไม่เล่นด้วยหรอกนะ

          " ขอโทษนะถ้าแพรยุ่งเรื่องส่วนตัวอ่ะ " แพรยกมือพนมไหว้ผมแบบรู้สึกผิด

          " ไม่ๆ ไม่ใช่แบบนั้น " ผมยิ้มน้อยๆ ให้แพร พวกผู้หญิงก็คงประมาณนี้ละมั้ง

          " แล้วตกลงเป็นแฟนกันจริงๆ เหรอ อิจฉาอ่ะ พี่นายหล่อสุดๆ ไปเลย " ผมส่ายหน้าน้อยๆ ให้แพร

          " เคยเป็น แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว " และจะไม่มีวันเป็นอีก แต่จริงๆ จะพูดว่าแฟนก็ไม่ได้เต็มปากเท่าไหร่หรอกนะ

          หลังจากใกล้เลิกกิจกรรม ผมทำตัวลีบและวิ่งหนีพี่นายที่กำลังเผลออย่างรวดเร็วไปยังคณะสถาปัตย์ โอ้ยย ผอมแน่ๆ ไอ้ลี่ ผมหอบแฮ่กๆ อยู่หน้ายิมที่ใช้ซ้อมการประกวดและกิจกรรมของคณะสถาปัตย์

          " ดื่มสิ " ผมมองน้ำหวานที่ถูกยื่นมาตรงหน้า พร้อมรอยยิ้มของผู้ให้ แบบนี้หายเหนื่อยเลยแฮะ

          " ทีหลังอย่าวิ่งนะ " พี่โรลมองผมแบบดุๆ อ่าวอยู่ดีๆ ไม่พอใจที่ผมซะงั้น

          " ทำไมเหรอ " ผมถามด้วยความแปลกใจ

          " เดี๋ยวไม่นุ่มนิ่ม " หือออ เอาล่ะสิ มาแบบนี้อีกแล้ว ผมละมึนกับพี่เขาจริงๆ

          " พี่โรลคะ ขอถ่ายรูปได้ไหม​คะ " ผมมองสาวๆ สองคนที่ดี๊ด๊าเหลือเกินที่เห็นพี่โรลยืนอยู่ วันนี้พี่แกใส่กางเกงขาสามส่วนสีแดงแจ๋เลยครับ เสื้อยืดสีขาว รองเท้าอีแตะแดงคู่เดิม และคาดผ้าอะไรสักอย่างบนหัว ไม่แปลกใจที่คนจะมอง จะมีสักวันที่พี่ไม่หล่อบ้างไหม​ ผมละอยากเห็น

          " ไม่ได้ " ผมมองพี่โรลด้วยความตกใจ ทำไมถึงพูดแบบนั้นเล่าพี่ท่าน สาวๆ ร้องไห้ตายห่า

          " โหดอ่ะ เท่ห์ชิบหาย กรี๊ด " ผมมองสาวๆ ที่เดินจากไปแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้สลดเลยสักนิด กลายเป็นว่าที่ดุไปนั่นเขาชอบกันครับ

          แต่มันแปลกมากเพราะว่าพี่โรลที่หน้าโครตดุเมื่อกี้กำลังฉีกยิ้มหวานให้ผมอีกแล้ว นี่พี่เป็นไบโพล่าทำนองนั้นใช่ไหม​

          " โรล มาช่วยตรงนี้หน่อย " ผมมองรุ่นพี่ผู้หญิงกลุ่มใหญ่ที่กวักมือเรียกพี่โรลอยู่

          " ไม่ไป " อ๊าว อีพี่โรลนี่ จริงๆ เป็นคนแบบนี้สินะ ผมก็ว่าอยู่ว่าบางทีพี่เขาก็จะหลุดทำหน้าโหดๆ และเอาแต่ใจกับคนอื่นอยู่เหมือนกัน แต่กับผมนั้นพี่โรลกลับดูใจดี และยิ้มแย้มเสมอ

          ผมมองพี่โรลที่ถูกลากไปอีกแล้ว ดูเพื่อนๆ พี่แกจะเข้าใจความติสพี่แกดี น่ารักดีนะ ผมหัวเราะขำพลางเดินตามพี่โรลที่ยังหันมามองผมขณะโดนลากไป ผมโบกมือให้พี่โรลน้อยๆ ยิ้มแลบลิ้นกวนและเดินแยกไปหาไอ้เมี่ยงที่กำลังสับไพ่ในมือที่สั่นเทา ทำให้ไพ่ร่วงกระจายไปทั่วพื้น

          " ล.ลี่.มา.แล้...วเหรอ "

          " มึงเป็นอะไรของมื๊งง " ผมเห็นสภาพอันน่าสมเพชของมันแล้วอดขำไม่ได้

          จริงๆ ผมรู้ครับ ไอ้เมี่ยงเป็นพวกประหม่ายิ่งกว่าผมซะอีก ยิ่งใกล้เวลาต้องแสดงแล้ว สมองมันที่รวนอยู่แล้ว ยิ่งรวนเข้าไปใหญ่ สมัยก่อนเวลาออกไปรายงานหน้าชั้น ประโยคนึงมันก็พูดติดอ่างไปหลายนาทีจนเพื่อนขำกันจนปวดท้อง แล้วเสือกเสล่อประกวดเดือน ถรุ๊ยย ความทะเยอทะยานมึงทำพิษแล้ว กร๊ากก

          " กูว่าแค่มึงไม่สั่นจนขาพับลงไปนอนตอนยืนอยู่บนเวทีก็หรูแล้วเพื่อน ฮ่าๆๆ " ผมตบบ่ามันเบาๆ พลางพูดให้มันถอดใจ ผมนี่มันเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ

          " ให้กำลังใจเพื่อนสิ " ผมมองไล่ตามแขนขาวๆ ก็รู้แล้วว่าใครกำลังขยี้หัวผมอยู่ เขินแฮะ

          " โรล ยังไม่เสร็จเลยนะ!! " ผมมองตามเสียงพวกรุ่นพี่ที่กำลังตะโกนเรียกพี่โรลอยู่ สงสัยพี่แกจะหนีมา

          " พี่อยากให้ผมช่วยพี่ไหม​ครับ จะได้เสร็จไวๆ " ผมถามพลางมองพี่โรลด้วยความรู้สึกอยากช่วยจริงๆ แต่พี่โรลกลับนิ่งไปและส่งยิ้มประหลาดๆ มาให้ หยุดทีได้ไหม​ไอ้สายตาแบบนั้นอ่ะ อ้ากกกก

          " อยากช่วยจริงป่ะ " พี่โรลยื่นหน้ามาใกล้ผมพลางเป่าหมากฝรั่งในปาก ไปเอามาเคี้ยวตอนไหนนะ

          ผมพยักหน้าหงึกหงักอย่างจริงจังจนพี่โรลยิ้มขำ

          " อยากช่วยจริงๆ เหรอ " ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย เสียงพี่โรลมีความกระเส่าแปลกๆ ฟังแล้วสยิวเลยทีเดียว แต่ผมก็ยังพยักหน้าอยู่

          " โครตฟิน " หืออออ ผมชะงักมองพี่โรลที่กำลังยิ้มขำและเดินกลับไปยังกลุ่มเพื่อนตัวเอง

          เดี๋ยวๆๆ อย่าบอกนะว่า ผมหน้าแดงเถือกทันทีที่คิดทัน มุกหื่นๆ ของพี่โรลที่เหมือนจะมีแต่พี่แกคนเดียวที่เข้าใจ ไอ้บ้าเอ้ย ไม่ได้ช่วยเรื่องนั้นเฟ้ย แต่ได้ก็ดี เอ้ย ไม่ดีๆ ผมส่ายหัวไปมา นี่มันคนหรือเอเลี่ยนฟะ คุยกันแต่ละทีปวดหัวชะมัด

          " ช..เชิ..ญ..." ผมหันไปมองไอ้เมี่ยงที่กำลังซ้อมบทพูดและเหมือนจะน้ำลายฟูมปากตายคากองไพ่อย่างชวนสังเวช เฮ้อ งั้นเอาแบบนี้ละกัน

          ผมซุบซิบๆ กับมันเพื่อยื่นข้อเสนอบางอย่างให้ และข้อเสนอนั้นก็ทำให้มันเปลี่ยนท่าทางเป็นปลาบปลื้มจนขี้หูขี้ตาเล็ดไปหมด สกปรกชิบหายอย่ามาจับกู

          " มึงเพื่อนรักกูจริงๆ " มันไม่พูดเปล่า หอมแก้มผมดังฟอด โอ้ยยยอี๋หยะแหยง กูจะกลับไปเอาแอลกอฮอล์ผสมน้ำมนต์เจ็ดป่าช้าล้างหน้า

          " หอมด้วยได้ป่ะ " ผมหันไปมองอีพี่โรลที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้กำลังยืนอึ้งและทำท่าอ้อนน้อยๆ ให้ดูน่าสงสาร

          " ไม่ได้!!! " ผมพูดพลางอมยิ้มขำพี่โรลที่ทำตัวเหมือนเด็กน้อย หอมมาหอมกลับนะเฟ้ย อิอิ



          ในที่สุดค่ำคืนอันแสนตื่นเต้นก็มาถึง มันจะไม่ตื่นเต้นเล้ยถ้าผมไม่มีเอี่ยวด้วย ผมที่เสนอตัวเป็นผู้ช่วยให้ไอ้เมี่ยง เพื่อลดความประหม่าของมันลง มีเพื่อนอยู่มันจะอุ่นใจกว่า ยิ่งเป็นผมด้วยแล้ว อาการต่างๆ ของมันจะดีขึ้นจนเหลือเชื่อเลยครับ

          " อ้าวน้องลี่ แต่งตัวสิจ๊ะ " พี่สาวประเภทสองที่แต่งหน้าให้ไอ้เมี่ยงอยู่ดีๆ ก็ดึงตัวผมไปนั่งแต่จัดการแต่งหน้าให้ผมซะงั้น

          " เอ่อ คือผมแค่ไปยืนเล่นเป็นเพื่อนมันแปบเดียวเองครับ ไม่ต้องแต่งตัวหรอกมั้ง " ผมขมวดคิ้วมุ่น ผมไม่อยากเป็นจุดเด่นเลยครับ

          " นิดเดียวเองจ๊ะ น้องลี่ผิวใสแก้มชมพู น่ารักอยู่แล้วแต่งนิดเดียวก็เริศแล้วจ๊ะ "

          " หมูสีชมพู " ผมขว้างหวีในมือใส่หัวไอ้หอกเมี่ยงแบบกลางกบาล หนอย บังอาจว่ากู

          ในที่สุดก็แต่งตัวเสร็จ โอ้ย เปลี่ยนใจยังทันไหม​ หนูอยากกลับบ้าน ผมตอนนี้อยู่ในชุดเอี๊ยมสีดำขาสั้นเสื้อแขนยาวสีขาวมีลูกไม้น่ารักๆ มีหูกระต่าย โอ้ยย ทำไมถึงมีไซส์ผมได้เล่า อ้ากกก อายโว้ยย

          " น่ารักมากเลยยย นี่ขนาดตัวใหญ่นะเนี่ย พี่ไม่อยากจะคิดว่าตอนเราผอมหนุ่มจะแย่งกันแค่ไหน "

          " หนุ่มบ้าอะไรล่ะพี่ ผมผู้ชายนะ " ผมบิดไปบิดมาเขินจริงจังกับชุดที่น่ารักเกินไปแบบนี้

          " แหม ใครเค้าก็พูดกันทั้งนั้น ทั้งเดือนมหา'ลัยปีที่แล้ว รองเดือน และว่าที่เดือนปีนี้ ก็อยู่รอบๆ ตัวเราทั้งนั้น พูดแล้วอิฉา " ผมยิ้มแหยๆ นี่นินทาอะไรกันฟะนั่น มันไม่จริ๊งง

          แต่ผมที่กำลังบิดไปมาเขินตัวเองในกระจก ตอนนี้กลับใจสั่นแบบสุดๆ เหมือนลมจะจับ โอ้ย พ่อคุณ จะหล่อไปไหน หล่อราก หล่อประล้ำประเหลือแต้น้อ ผมยืนมองพี่โรลผ่านกระจกบานใหญ่ ดูเหมือนพี่โรลที่เดินเข้ามาจะยังมองไม่เห็นผม และเหมือนกำลังหาอะไรตามโต๊ะแต่งหน้าอยู่

          วันนี้พี่โรลใส่ชุดนักศึกษาถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้า หน้าตาที่แต่งนิดๆ ขับให้ดวงตายิ่งคม จมูกที่เป็นสันโด่งสวย รับกับคิ้วเข้ม ผิวที่ผ่องส่องสว่างเหมือนนีออนเดินได้ ผมที่เซ็ตกึ่งๆ เรียบร้อย แต่ก็ยังดูเท่ห์เหมือนเดิม

          " แตะแดงอยู่ไหน " พี่โรลคิ้วขมวดมุ่น และก้มลงควานหารองเท้าแตะสีแดง โอ้ย คุณพี่แต่งหล่อขนาดนี้ยังจะห่วงคีบแตะอีก ของรักของหวงสินะ

          " ไม่ใส่สักวันก็ไม่ตายหรอกมั้งครับ " ผมพูดขึ้นเบาๆ ทำให้พี่โรลที่ก้มอยู่ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นช้าๆ

          ดวงตาของเราสองคนประสานกันอยู่ครู่หนึ่ง แต่ว่า เอ่อ เดี๋ยวๆๆๆ อยู่ดีๆ พี่แกก็โกยอ้าวออกไปแบบเหมือนวิ่งหนีผีเลยครับ ทำเอาผมเสียเซลฟ์ไปเลย ฮืออ กูอยากกลับบ้านนน

          แต่ว่าพอผมจะเดินตามออกไป พี่แกก็วิ่งกลับมาที่เดิมและพิงกรอบประตูด้วยสีหน้าแปลกๆ เอ่อ พี่ไม่สบายหรือเปล่า จิตหลุดแบบไอ้เมี่ยงไม่เอานะ ผมมองไอ้เมี่ยงที่เริ่มเขียนคิ้วให้ตัวเองเพิ่มจนเป็นสะพานพระรามแปดไปแล้ว ใจเย็นๆ เพื่อน มึงจะได้เป็นอุกกาบาตก่อนเป็นดวงเดือนนะกูว่า

          " เอ่อ..คือ " ผมมองพี่โรลที่เหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็พูดไม่ออก เหมือนกำลังสำลักน้ำทุกข์ทรมานอยู่ อะไรของเขาฟะ

          " น.น่ารัก.มาก " พอพี่แกพูดจบก็โกยอ้าวออกไปอีกครั้ง เมื่อกี้ว่าไงนะ อะไร น่ารักๆ ห๊าาา น.นี่ชมผมเหรอ

          ผมตอนนี้ก็เริ่มมีอาการตามไอ้พี่ติ๊งต๊องนั่น หน้าแดงจนเลือดจะพุ่งออกลูกกะตาอยู่แล้ว อ้ากกกก

          " เอาล่ะ ได้เวลาแล้วนะเมี่ยง ว๊ายตายแล้ว รีบลบคิ้วเร็ว " ตอนนี้ได้เวลาที่เหล่าเดือนแหละดาวของแต่ละคณะจะต้องไปเจิดจรัสบนเวทีแล้ว แต่ไอ้หอกเมี่ยงมันสร้างวีรกรรมสุดเกรียนจนพี่ๆ ต้องมาลุมทึ้งมัน แต่ก็เสร็จทันจนได้ กูละอายจริงๆ  หวังว่ามึงจะไม่ทำกูขายหน้าบนเวทีนะ

          และผมก็นึกถึงสิ่งที่พี่โรลเคยพูดไว้ในตอนนั้น มันคืออะไรกันนะที่พี่บอกว่าอยากให้ผมฟัง คืนนี้ผมจะได้รู้สินะ ผมยิ้มน้อยๆ และแอบมองพี่โรลที่ยืนอยู่ข้างเวทีด้วยใบหน้าบูดบึ้งแต่ก็ดูเหมือนจะแอบเหล่มองมาเสมอ เดี๋ยวเถอะนะ ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ก็มีความสุขจังเลยนะ



ขอให้คืนนี้ผ่านไปได้ด้วยดีด้วยเถอะ ผมหวังอย่างนั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2018 09:59:30 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
น้องหมูชมพูน่ารัก  :man1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
คนแก่กลุ้มหลานแต่ละคน เอ๋อกันถ้วนหน้า นี่ขนาดแค่เริ่มงานนะ ถ้าระหว่างงานจะขนาดไหน  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
งุยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ฟินนนนน. ลี่น่าจะเป็นรักอรกพบของพี่โรลแล้วลืะม้างงง

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ชอบโรล แปลกดี

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          Calorie ที่ 10 บทเพลงที่มอบให้แด่เธอ


          " เอาล่ะค่ะ ตอนนี้เราจะเข้าสู่ช่วงแนะนำตัวของตัวแทนแต่ละคณะกันนะคะ " ผมที่ตอนนี้กำลังหาที่ยืนดูเหมาะๆ ก็มองเห็นชั้นลอยด้านบนที่ไม่มีคนอยู่สักคน เลยหาทางขึ้นไปจนได้

          ตอนนี้พี่โรลยังไม่ได้ออกไปยืนโชว์ตัวหน้าเวที แต่ยืนหลบอยู่ข้างๆ ให้น้องๆ ได้แนะนำตัวเองก่อน แล้วพี่คงจะปิดท้ายสินะ

          " ต่อไปคณะสุดท้าย ซึ่งปีที่แล้วคณะนี้ควบตำแหน่งทั้งดาวและเดือนของมหา'ลัยเลยทีเดียวนะคะ ขอเชิญพบกับ ตัวแทนจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ กันเลยค่า "

          ผมมองไอ้เมี่ยงที่เดินออกมาด้วยความกล้าๆ กลัวๆ สะดุดพรมตรงนั้นตรงนี้ ทำตาลอกแล่ก ไอ้ห่า นี่มึงมาเดินโชว์ตัวหรือ กำลังดูลาดราวปล้นร้านทองฟะ

          ผมถึงกับกุมขมับกับความเละเทะของมัน และทำเอาพี่โรลเริ่มแทะเล็บด้วยความเครียด แล้วใครใช้ให้เลือกมันเป็นตัวแทนละพี่ ฮ่าๆ ถ้างั้นละก็

          ' วิ๊ววิดดด!!! '

          ผมเป่าปากทำให้ไอ้เมี่ยงหันขึ้นมามองข้างบน ผมส่งยิ้มและชูมือไปมาให้มันผ่อนคลายตัวเองลง แต่สิ่งที่ได้แถมมาก็คือ พี่โรลก็กำลังมองมาที่ผมเหมือนกันด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงอะไรหลายๆ อย่าง ผมส่งยิ้มให้พี่โรลที่กำลังฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี ผมรออยู่นะ จะบอกอะไรผมก็รีบๆ พูดมา หึหึ

          " สวัสดีครับ ผมนายมาธวี เอี่ยมสุข ตัวแทนจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ฝากเนื้อฝากตัวฝากหัวใจด้วยนะค๊าฟ " เอาล่ะ พอไอ้ความประหม่าหายไป ไอ้ความมั่นใจแบบผิดๆ มันจะเริ่มมาแทน ไอ้ห่า เค้าให้แนะนำตัวไม่ใช่หาเสียง ผมมองไอ้เมี่ยงที่พูดและหมุนตัวสามรอบพร้อมทำมือรูปหัวใจ ถรุ๊ยย เสี่ยวชิบหาย



          " ตอนนี้เราก็ฟังการแนะนำตัวของตัวแทนดาวเดือนของแต่ละคณะไปแล้ว และสุดท้ายที่เราภูมิใจนำเสนอก็คือ ดาวและเดือนประจำปีการศึกษาที่แล้ว ที่จะมามอบสายสะพายให้กับผู้ชนะในวันนี้ค่ะ ขอเชิญพบกับทั้งสองคนได้เลยค่า " พี่โรลและสาวสวยดาวมหา'ลัยเดินควงกันมากลางเวทีพร้อมเสียงกรี๊ดกระหึ่มที่ดังจนผมหูอื้อเลยทีเดียว

          ผมมองพี่โรลที่เหมือนพยายามจะเดินออกห่างจากดาวมหา'ลัยที่ควงและกระชากแขนพี่โรลแบบเหมือนว่าวันนี้ต้องเอาให้คุ้มอะไรแบบนั้น โอ้ยย อยากถลกหนังหน้ามัน เอ้ย ไม่ใช่ๆ พี่เขาสวยดีเนอะ แหะๆ

          พี่โรลยืนอยู่หน้าไมค์นานมากและไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้เพราะเสียงกรี๊ดยังคงดังอยู่หลายนาที

          ผมใจเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้น เพราะว่าพี่โรลนั้นเป็นคนที่เรียกได้ว่ามีบุคลิกที่แปลกมาก และผมก็ไม่เคยได้ยินพี่แกพูดอะไรยาวๆ เลยสักที ปีที่แล้วพี่เขาชนะการประกวดได้ยังไงกันนะ นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากรู้สุดๆ ไม่ใช่ว่าแค่หล่อแล้วยืนเฉยๆ หรอกใช่ไหม
         
          " ดี.. " โอ้ยย ไม่ต้องกรี๊ดทุกคำพูดก็ได้มั้ง แต่เสียงกรี๊ดก็ยังคงดังกึกก้องจนผมรำคาญแทนเลยทีเดียว

          " เงียบได้ไหม​ หนวกหู " ฮ่าๆๆ พี่โรลปี๊ดแตกซะแล้ว เสียงกรี๊ดเงียบลงทันที แต่หน้าตาสาวๆแต่ละคนก็ยังยิ้มหวานเคลิ้มฝันอยู่ดี นี่พวกหล่อนเป็นมาโซคิสม์หรือไงฟะ

          " โรมัน กวินพาณิชย์ " เพิ่งรู้ชื่อพี่แกเต็มๆ ก็วันนี้แหละครับ และพี่แกก็ยังคงคอนเซ็ปเหมือนคนขี้เกียจจะพูดเหมือนเดิม นึกว่าจะได้ยินพี่เขาพูดอะไรยาวกว่านี้ซะอีก ผิดหวังนิดๆ แฮะ

          หลังจากแนะนำตัวกันเสร็จ เอาล่ะ คราวนี้ก็ถึงเวลาแล้วสินะ โอ้ย ตื่นเต้นเหมือนกันนะเนี่ย ผมค่อยๆ เดินลงจากชั้นลอยและเข้าไปยังหลังเวที ตอนนี้ไอ้เมี่ยงกำลังแต่งตัวด้วยชุดทักซิโด้ที่ดูหล่อเนี๊ยบ แหมเข้ากับมึงดีเหมือนกันนะ

          " ลี่อยู่ไหนวะ " ไอ้เมี่ยงที่ดูเหมือนจะเริ่มสติแตกอีกแล้วร้องเรียกหาผมเหมือนผมเป็นแม่ลูกอ่อนมันอย่างไงอย่างงั้น

          " กูจะไหวไหม​วะ " ไอ้เมี่ยงกำมือผมแน่นด้วยมือที่เหมือนแช่น้ำแข็งของมัน

          " เออน่ามึงทำได้ ที่กูมองบนเวทีนะ มึงหล่อสุดแล้ว เล่นให้เหมือนที่ซ้อม มึงชนะแน่นอน " ผมพูดให้กำลังใจเหมือนทุกๆ ครั้งที่มันมีปัญหาหรือไม่สบายใจ พวกเราดูแลกันเสมอมา ไม่ว่าตอนนี้หรือเมื่อก่อน มันก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม

          ผมเหลือบมองพี่โรลที่กำลังกอดอกมองพวกเราอยู่ ด้วยรอยยิ้ม และเดินเข้ามาหาพวกเราช้าๆ

          " ถ้าชนะ อยากได้อะไร จัดให้ " ไอ้เมี่ยงที่เมื่อกี้ดูเครียดๆ ตอนนี้กลับตาโตมองพี่โรล ความโลภของมึงแผ่ออกมาทางสายตาแล้วไอ้หอก

          เมื่อไอ้เมี่ยงนั่งลงพูดซ้อมการแสดงของตัวเองต่อ ผมจึงค่อยๆ เดินลัดเลาะไปหาคนที่กำลังจัดสายสะพายของตัวเองอยู่หน้ากระจก จะเรียกจัดก็ไม่ถูกซะทีเดียว เหมือนกำลังจะพังมันมากกว่า

          " ว่าไงครับเดือนมหา'ลัย " ผมยิ้มขำเพราะพี่โรลนั้นหน้ามุ่ยเหมือนจะไม่ชอบที่ตัวเองเป็นเดือน

          " โดนบังคับประกวด " นั่นไงว่าแล้วเชียว

          " แล้วพี่แสดงอะไรเหรอครับปีที่แล้ว " ผมถามด้วยความสงสัยสุดๆ

          " เดี๋ยวก็รู้ " พี่โรลหันมายิ้มให้ผม ผมไม่ค่อยกล้าสบตาพี่โรลเท่าไหร่ ยิ่งนานวันก็ยิ่งเขินหนัก เป็นสาวน้อยหรือไงฟะกู

          ผมแก้เขินด้วยการแกะอมยิ้มที่พกมากินแม่งเลย ตอนนี้รอเวลาขึ้นแสดงครับ ซึ่งไอ้เมี่ยงนั้นได้ขึ้นคนสุดท้าย

          ผมมองไอ้เมี่ยงที่กำลังยกมือบนบานศาลกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พลางพนมมือไหว้เจ้าที่สี่ทิศ ทั้งๆ ที่ในมือถือไม้กางเขน มึงไปเอามาจากไหนฟะ ตอนนี้อะไรมันก็เอาหมด ฮ่าๆ

          แต่อยู่ดีๆ ผมที่มองไอ้เมี่ยงอยู่ก็ต้องสะดุ้งโหยง เพราะว่าพี่โรลนั้นดึงอมยิ้มจากปากของผมไปใส่ปากตัวเองอย่างรวดเร็ว

          " เง้ออ นิสัย " งอนแล้วไอ้พี่โรลบ้านี่

          " อยากน่ากินเองช่วยไม่ได้ " พี่โรลอมยิ้มขำหน้าของผมที่บูดบึ้งจากการโดนแย่งขนม แล้วไอ้ที่บอกว่าน่ากินนั่น หมายถึงขนมจริงๆ ใช่ไหม​

          " อ่ะๆ อ้าปากเร็ว " พี่โรลดึงอมยิ้มออกจากปากตัวเองและบอกให้ผมอ้าปาก

          ผมตาโตส่ายหน้ารัวๆ ไม่อ๊าวว ไม่ใช่อะไรนะ แบบว่ามันเขินอ่ะ

          " นั่น ซานต้าแจกขนม!! " พี่โรลพูดพลางชี้ไปที่เพดาน ซึ่งไอ้ผมก็ง่าวมองตามซะงั้น และในทันที พี่แกก็ยัดอมยิ้มคืนใส่ปากที่อ้าน้อยๆ ของผมตอนมองเพดาน นี่พี่เล่นอะไรของพี๊ โอ้ยย ฟันแทบหัก และแบบนี้มัน อ้ากก จูบทางอ้อมแบบนัวๆ

          " คราวหน้าจะไม่ใช้มือแย่ง " พี่โรลยื่นหน้ามากระซิบข้างหู ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็หน้าขึ้นสีเลือดอีกทันที อ้ากกก

          ผมเดินหนีความหื่นกระหายของอีพี่โรล และกลับไปหาไอ้เมี่ยงที่กำลังมองผมด้วยสายตากระลิ้มกระเหลี่ยกวนบาทาอีกแล้ว

          " ถ้าจะขนาดนั้นมึงไม่ดูดปากกันไปเลยวะ โอ้ยยๆๆ " ผมที่ฟังมันพูดก็แจกส้นทีนให้มันไปแทะเล่นทันที อย่าพูดสิวะ ถ้ากูท้องได้กูคงคลอดไปเป็นโหลแล้ว อีพี่โรลยิ่งรู้จักยิ่งเหมือนใกล้จะเสียตัว หึยยย

          " ต่อไปขอเชิญพบกับการแสดงปิดท้ายจากตัวแทนเดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ได้เลยค่า " เสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดดังขึ้น ไฟบนเวทีได้ปิดลง

          " สู้ๆ นะ " ผมหันไปยิ้มให้พี่โรล พี่ควรจะบอกไอ้เมี่ยงนะ ไม่ใช่ผม หึหึ

          ผมและไอ้เมี่ยงเดินขึ้นเวทีไปจัดข้าวของต่างๆ ที่ใช้ในการแสดง พอทุกอย่างเรียบร้อย ไฟจากด้านบนก็สาดส่องลงมาที่ตัวไอ้เมี่ยง ที่กำลังถอดหมวกทรงสูงและโค้งตัวลงทักทายผู้ชมอย่างสง่างาม

          ไฟดวงที่สองสาดส่องมาที่ผมไอ้เมี่ยงหันมาแนะนำผมที่เป็นผู้ช่วยจำเป็นของมัน ซึ่งการพูดและการเอนเตอร์เทนของมันนั้นจัดว่ายอดเยี่ยมไม่มีสะดุดเลยทีเดียว เรียกเสียงฮา และเสียงกรี๊ดจากผู้ชมได้เป็นอย่างดี จะมามีสะดุดก็คือ ไอ้ห่า กลที่ต้องให้ผมเข้าไปในตู้และใช้เลื่อยหั่นมึงไม่ได้นัดกูไว้ กูไม่เข้าไปเด็ดขาด มึงคิดจะฆ่ากูใช่ไหม​ ผมยิ้มแย้มให้กับผู้ชมทั้งๆ ที่ในใจอยากจะตะปบหน้ามันจริงๆ ให้ดิ้นตาย

          แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ผมเหลือบมองพี่โรลที่ส่งยิ้มหวานมองมาที่ผมตลอดเวลา พี่เป็นเอามากนะเนี่ย

          " ผู้ช่วยน่ารักจัง!! " ใครไม่รู้แม่งตะโกนอยู่ในฝูงชน ทำเอาพี่โรลที่กำลังยิ้มหวานให้ผมรีบหันควับไปหาต้นตอของเสียงด้วยใบหน้าไม่พอใจ พี่ครับใจเย็นๆ ฮ่าๆ

          การแสดงจบลง ด้วยเสียงปรบมือที่ดังกึกก้อง ผมและเมี่ยงจับมือกันและโค้งขอบคุณผู้ชมทั้งหลายที่ตั้งใจดูการแสดงเป็นอย่างดี

          " กูบอกแล้วมึงทำได้ " ผมยิ้มให้ไอ้เมี่ยงที่กำลังยิ้มหน้าบานทั้งๆ ที่เหงื่อแตกเต็มหน้า มันคงตื่นเต้นสุดๆ นั่นแหละ


          " เอาล่ะค่ะ มีข่าวพิเศษสุดๆ จะมาแจ้งให้ทุกคนได้ทราบนะคะ มีรายการแสดงพิเศษที่จะมามอบให้ทุกๆ คนเป็นการขั้นเวลาการรวมคะแนนและประกาศผล ซึ่งการแสดงนั้นก็ไม่ได้มาจากใครที่ไหน แต่เป็นเดือนมหาวิทยาลัยปีที่แล้วของเรานี่เอง ขอเสียงปรบมือให้กับ พี่โรล ของเราด้วยค่ะ " เสียงกรี๊ดและเสียงพูดคุยกันอย่างตื่นเต้นดังไปทั่วทั้งโรงยิม เพราะนี่มันเป็นโชว์ที่พิเศษจริงๆ

          ผมที่ลงมาจากเวทีก็พบกว่าพี่โรลนั้นหายไปแล้ว แต่พอได้ยินประกาศดังนั้นจากพิธีกร ผมก็รีบออกไปจากด้านหลังเวที และเดินแหวกฝูงชนที่กำลังเหมือนจะบ้าคลั่งกันอยู่ตอนนี้จนไปถึงหน้าเวที

          พี่โรลเดินออกมาจากอีกด้านของเวที ในมือถือกีต้าร์โปร่งมาด้วย แค่เพียงเท่านั้น เสียงกรี๊ดที่ดังยิ่งกว่าตอนแนะนำตัวก็ดังสนั่น เรียกได้ว่าพี่แกเป็นขวัญใจของทุกคนจริงๆ ถ้าลงประกวดด้วยในปีนี้ก็คงไม่แคล้วได้ตำแหน่งอีกเช่นเคย

          " อะแฮ่ม เทสๆ มาร์ชแมลโลว์ยอดรัก หนึ่ง สอง สาม โอเค " ผมหัวเราะออกมา นั่นภาษาคนงั้นเหรอ ไอ้พี่เอเลี่ยนเอ้ย ตอนนี้พี่โรลนั่งบนเก้าอี้กลม พลางปรับสายกีตาร์ไปมา ช่างเป็นคนที่เท่ห์ทุกท่วงท่าจริงๆ

          " เสียงอาจจะไม่ดีมาก แต่ว่าร้องด้วยใจ หลังจากคืนนี้ไป ก็ยอมเป็นของพี่ซะดีๆ " เสียงกรี๊ดยังคงดังสนั่น แต่ผมนั้นถึงกับสำลัก นี่พี่พูดอะไรของพี่ห๊าา ไอ้ที่บอกว่าเป็นของพี่นี่มันยังไงกัน ผมยิ้มขำ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ยินพี่โรลพูดยาวขนาดนี้ครับ ทำเอาผมไม่สามารถหุบยิ้มได้เลยทีเดียว

          ' พี่โรลร้องจีบใครอ่ะ '

          ' อิจฉาอ่ะ อย่าให้รู้กูจะตบให้ '

          ' อ่อยโรลท่าไหนวะ '

          เอาล่ะสิครับ อย่าได้เผลอพูดชื่อผมออกมานะ ไม่งั้นผมได้กลายเป็นหมูแผ่นอยู่ตรงนี้แน่นอน อึ๋ย

          ไฟบนเวทีดับลง เหลือแต่เพียงแสงสว่างสีขาวที่ส่องให้เห็นแต่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้น กำลังคล้องแขนดีดกีตาร์เบาๆ ให้เกิดเสียงไพเราะ ด้วยท่วงท่าที่ดูสบายๆ ใบหน้าที่หล่อเหลาราวเทพบุตรนั้นดูเปี่ยมสุข ยิ้มสดใส ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นเหมือนกับ ตกอยู่ในภวังค์

ก็เป็นคนธรรมดา ไม่พิเศษ

ก็เป็นคนที่เดินดิน อย่างคนทั่วไป

ไม่ได้ดี เกินกว่าคนไหน

มีแค่ใจดวงเดียวให้เธอ



ก็เป็นเพียงคนๆ หนึ่งไม่เลิศเลอ

แค่บังเอิญมาเจอเธอ แต่ไม่รู้ทำไม

ยิ่งใกล้กัน ก็ยิ่งหวั่นไหว

อยากค้นใจเธอดูสักครั้ง



หากบังเอิญ ถ้าเธอต้องการใคร

หากวันใดถ้าเธอนั้นอ่อนแอ



ให้ฉันดูแลเธอ รักเธอได้ไหม

ให้ฉันเป็นเพื่อนเธอ เมื่อเธอเหงาใจ

ไม่ต้องกลัว จะไม่ไปไหน

จะไม่ทำให้เธอเจ็บอีกเหมือนเคย จะดูแลอย่างดี



          ผมยิ้มเขิน ยิ้มจนแก้มจะแตก นี่เหรอที่บอกว่าเสียงไม่ดี ทำเอาเคลิ้มผสมอายจนจะหน้าม้วนหน้าอยู่แล้ว >///<



หากว่าเธอยังลังเลไม่แน่ใจ

ก็ปล่อยให้มันเป็นไป ให้ตัวฉันได้พิสูจน์

ว่ารักเธอ มากสักแค่ไหน

โปรดไว้ใจฉันดูสักครั้ง



หากบังเอิญ ถ้าเธอต้องการใคร

หากวันใดถ้าเธอนั้นอ่อนแอ



ให้ฉันดูแลเธอ รักเธอได้ไหม

ให้ฉันเป็นเพื่อนเธอ เมื่อเธอเหงาใจ

ไม่ต้องกลัว จะไม่ไปไหน

จะไม่ทำให้เธอเจ็บอีกเหมือนเคย จะดูแลอย่างดี



          พี่โรลที่กำลังร้องเพลงนั้นสายตาก็จับจ้องอยู่แต่ที่ผม พลางมองมือตัวเองที่ไล่ไปตามเมโลดี้ ไม่ต้องมองมามากก็ได้ ผมจะโดนตื้บแล้วครับ ฮ่าๆ และผมเพิ่งรู้ว่าพี่เล่นหูเล่นตาเก่งมากเวลาจีบใครสักคน แบบนี้ใครจะไม่หวั่นไหวได้เล่า



ให้ฉันดูแลเธอ รักเธอได้ไหม

ให้ฉันเป็นเพื่อนเธอ เมื่อเธอเหงาใจ

ไม่ต้องกลัว จะไม่ไปไหน

จะไม่ทำให้เธอเจ็บอีกเหมือนเคย จะดูแลอย่างดี~~



          เสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดดังกึกก้อง พี่โรลลุกขึ้นจากเก้าอี้ช้าๆ และก้มตัวขอบคุณทุกคนพลางมองหน้าผมที่กำลังหน้าแดงแจ๋ ผมเอามือทั้งสองข้างปิดแก้มตัวเองไว้ เขินจะตายอยู่แล้ว อ้ากกก

          ผมมองพี่โรล เป็นผมจะดีจริงๆ เหรอครับ แต่ถ้าหากว่าพี่มั่นใจแล้วละก็ ลองทำให้ผมเห็นอีกสักนิดนะครับ



แล้วผมจะลองเปิดใจกับความรักครั้งใหม่นี้อีกสักครั้งหนึ่ง































****************************************************************************

Cr. แหนม รณเดช-ให้ฉันดูแลเธอ (Studio Session)

https://youtu.be/TymmIXL7fMA

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2018 10:04:12 โดย Gloomy Sunday »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
เขินแทนลี่่ อร้ายยย  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เอาจริงไม่หลอกลี่นะ

ออฟไลน์ mirage

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
น่ารักอ่า ปม1,2 โผล่ พี่นายกับพี่สาวคนนั้น ผ่านมันไปให้ได้นะน้องลี่

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :z3: คนแก่มึนกับการจีบเด็กของพี่โรล กับอะไรคือของที่เมี่ยงต้องการจากพี่โรล  :hao3:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          Calorie ที่ 11 สาเหตุของความเศร้า


          ผมยังคงยืนอยู่หน้าเวที เขินจนไม่กล้าไปเจอหน้าพี่โรลเลยครับ คือยังไม่รู้จะพูดอะไร ฮ่าๆ ขอแอบอยู่ตรงนี้ก่อนดีกว่า รอดูว่าไอ้เมี่ยงจะได้ที่โหล่หรือเปล่า

          แต่เอ๊ะ ต่อไปป็อปปูล่าโหวตนี่นา ผมที่เพิ่งนึกขึ้นได้ก็รีบวิ่งไปซื้อดอกไม้ทันที ผมซื้อดอกกุหลาบมาช่อใหญ่เลยทีเดียว จบนี่มึงต้องชดใช้กูสิบเท่า หึหึ

          ผมมองไปบนเวทีก็เห็นว่าพี่โรลก็ยังคงยืนอยู่บนนั้นเพื่อเตรียมมอบสายสะพายให้แก่ผู้ที่ได้รางวัล พี่โรลที่ยืนอยู่นั้น กำลังชะเง้อคอไปมาเหมือนกำลังมองหาใครอยู่ ซึ่งน่าจะเป็นผม หึหึ

          ผมแกล้งซ่อนตัวอยู่ในฝูงชน จริงๆ กุหลาบช่อนี้อ่ะอยากให้เดือนปีที่แล้วมากกว่าจริงๆ นะ อิอิ

          และแล้วก็ถึงช่วงการมอบดอกกุหลาบให้แก่ตัวแทนเพื่อหาผู้ที่จะได้รับรางวัลป็อปปูล่าโหวต ผมเดินต่อแถวเข้าไปมอบดอกกุหลาบให้ไอ้เกรียนเพื่อนผม เพราะกลัวมันจะไม่ได้สักดอก แต่ก็ผิดคาด เพราะว่าในมือมันนั้นมีช่อดอกกุหลาบเยอะเหมือนกันครับ ฮอตเหมือนกันนะมึง หมั่นไส้ว่ะ

          ผมแอบหยิกแขนมันตอนส่งช่อกุหลาบให้ จนมันทำหน้าเหยเกเลยทีเดียว สมน้ำหน้ามึง ฮ่าๆ
         
          ผมเดินถอยมาหลังๆ อีกครั้งเพื่อให้คนอื่นได้ยื่นช่อดอกไม้กันโดยไม่เบียดเสียดมากนัก

          แต่ผมที่ยืนอยู่ก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ เพราะรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาสะกิดที่หลังผม และพอผมหันไปมองก็พบช่อดอกกุหลาบที่ใหญ่มากๆ มันซะใหญ่จนมองไม่เห็นคนที่ถือเลยทีเดียว

          " ถ้าจะเอาไปให้ตัวแทนคณะก็เชิญหน้าเวทีเลยครับ " ผมพูดพลางถอยหลบทางให้ แต่ว่าคนที่ถือช่อดอกกุหลาบอยู่นั้นก็ยังเดินตามผมอยู่

          " ไม่ได้เอามาให้ตัวแทนหรอก พี่เอามาให้ลี่ " ช่อดอกกุหลาบถูกถือให้ต่ำลง เผยให้เห็นใบหน้าของคนที่ถือมันอยู่

          " พี่นาย " ผมตกใจก้าวถอยหลังหนี แต่ก็ถูกพี่นายดึงมือไว้

          " พี่หาลี่แทบแย่เลย มาเจอก็ตอนอยู่บนเวทีกับเพื่อนเรานั่นแหละ วันนี้น่ารักจัง ทำไมไม่บอกพี่ว่าเราก็ขึ้นไปด้วย "

          " ผม.. " ผมมองพี่นายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

          " รับไปสิลี่ " พี่นายพูดพลางยื่นช่อกุหลาบให้ แต่ผมก็ไม่รับมัน ผมไม่มีทางรับมันเด็ดขาด

          " ลี่ เราเริ่มต้นใหม่ไม่ได้เหรอ "

          " ไม่ " ผมพูดด้วยเสียงหนักแน่น จนพี่นายเริ่มทำหน้าเครียด

          " ลี่เป็นคนทิ้งพี่นะ พี่ทำอะไรผิด อยู่ดีๆ ลี่ก็หายไป วันปัจฉิมพี่ก็รอลี่อยู่ ที่บอกว่าไม่สบายพี่รู้นะว่าโกหก พี่ตามหาลี่ พี่ไม่เข้าใจเลย " พี่นายเริ่มบีบแขนผมและเขย่าเบาๆ ผมไม่พูดอะไร ผมไม่อยากพูดถึงมัน

          " ลี่จะอ้วนจะดำหรืออะไรพี่ก็ไม่สนหรอก เป็นแฟนพี่ เดี๋ยวพี่จะทำให้ลี่เป็นเหมือนเดิมเมื่อไหร่ก็ได้ "

          " ผมไม่คิดจะลดหรอก แล้วก็อย่ามายุ่งกับผมอีก " ผมยังคงส่ายหน้าปฏิเสธ

          " พี่ไม่เชื่อหรอก ลี่รักพี่มากแค่ไหนทำไมพี่จะไม่รู้ ยังเก็บของๆ พี่อยู่ใช่ไหม พี่รู้นะ " ผมหลบตาพี่นาย เพราะผมยังเก็บของพวกนั้นอยู่จริงๆ

          " ผมจะกลับไปทิ้งมันวันนี้ ทุกอย่างมันจบไปนานแล้ว ผมเคยรักพี่มากก็จริง แต่ไม่ใช่อีกแล้ว " ผมพยายามดึงแขนจากการเกาะกุมของพี่นายที่เพิ่มแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

          " ลี่ลืมพี่ไม่ได้หรอก ให้โอกาสพี่นะ พี่จะรักแค่ลี่คนเดียว " ผมที่ได้ฟังแบบนั้นก็หลุดขำออกมาเลยทีเดียว

          " นี่พี่ไม่รู้จริงๆ เหรอว่าทำไมผมถึงหายไป " ผมเริ่มคิดถึงวันเก่าๆ วันที่เคยมีเรา และมีเธออีกคน

          " พี่ยังจำหนิงเพื่อนผมได้ไหม​ " ผมยิ้มให้พี่นายที่ทำหน้าตกใจที่ได้ยินชื่อนั้น ใช่แล้วล่ะ ผมที่ต้องเสียทั้งเพื่อนและคนรักในเวลาเดียวกัน มันทำให้ผม ไม่เคยลืมว่า ผมจะไม่มีวันกลับไปรักพี่อีกแล้ว



          2 ปีก่อน



          " อาลี่ พี่นายเท่ห์ดีเนอะ โครตใจดีอ่ะ วันนั้นเห็นช่วยคนแก่อยู่หน้าโรงเรียน " ผมยิ้มให้หนิงที่พูดถึงพี่นายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

          หนิงเป็นเพื่อนสมัยเด็กอีกคนของผม เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นประถม เป็นคนที่สวยมาก ตาโตผิวขาว และแก่นแก้วเป็นที่หนึ่ง ถึงบ้านหนิงจะอยู่ไกลจากผมและเมี่ยง แต่พวกเราก็เลือกเรียนด้วยกันเสมอ

          " ชอบก็ไปบอกเขาเลยสิ " ผมพูดแหย่หนิงที่รีบส่ายหัวทันที

          " บ้า ไม่ได้ชอบแบบนั้นจริงๆ " หนิงพูดและทำหน้าจริงจัง

          " งั้นหนิงชอบเมี่ยงแบบนั้นได้ป่ะ " ไอ้เมี่ยงได้ทีจีบหนิงตลอด ซึ่งมันก็จีบมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ แต่ดูแล้วจะแดกแห้วชั่วนิรันดร์

          " จะให้ชอบแก สู้ชอบลี่ดีกว่า เนอะ ลี่โครตน่าร้ากก อยากหน้าใสกิ๊กแบบลี่อ่ะ " หนิงพูดพลางกอดผมและดึงแก้มผมอย่างหมั่นเขี้ยว

          " อิจฉาเฟ้ย " ไอ้เมี่ยงงอแงฟึดฟัด ซึ่งพวกเราสามคนก็เป็นแบบนี้มาเสมอ เป็นช่วงเวลาที่มีค่าสำหรับผม

          จนวันหนึ่งเป็นวันซวยของผมเพราะว่าไอ้เมี่ยงที่อยู่กับผมตลอดมันเสือกไม่มาโรงเรียนเพราะท้องเสีย และมันเสือกบอกให้ผมมาโรงเรียนก่อน มึงหลอกกูนี่หว่า และที่ซวยกว่านั้นก็คือ หนิงก็ไม่มาเหมือนกัน ผมที่เข้ากับใครไม่ค่อยจะได้ ก็รู้สึกว้าเหว่เหลือเกิน เอาวะ ปีนรั้วหนีกลับบ้านแม่งเลย

แต่ความที่รั้วของโรงเรียนนั้นสูงเกินไป ทำให้ความซวยที่ซวยสุดๆ บังเกิด ผมตกลงมาจากรั้ว และลงผิดท่าสุดๆทำให้ขาหักในที่สุด และขณะที่ผมต้องการความช่วยเหลือนั้น คนที่ยื่นมือมาก็คือ พี่นาย...

          " ลี่หมิง เธอกำลังจะโดดเรียนใช่ไหม​ ครูจะเรียกผู้ปกครองของเธอมาพบ " จะมีอะไรซวยไปมากกว่านี้ไหม​

          " ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ผมเป็นคนให้น้องปีนขึ้นไปเอง ผมเห็นมีคนปีนรั้วออกไป เลยให้น้องช่วยปีนขึ้นไปดูเพราะน้องตัวเบากว่าผม คนที่ผิดก็คือผมครับ " ผมตาโตมองคำโกหกของรุ่นพี่ผู้เป็นดาวเด่นของโรงเรียน พี่ทำแบบนั้นเพื่ออะไรกัน

          และหลังจากนั้นมาพวกเราก็สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ พี่นายมักมาช่วยพยุงผมในช่วงที่ผมเดินไม่ได้ ทั้งๆ ที่ตึกเรียนพี่ก็อยู่คนละตึกแท้ๆ ทำเอาไอ้เมี่ยงว่างงานไปเลย

          " อาลี่ หนิงว่าพี่นายเขาชอบลี่นะ " ผมยิ้มน้อยๆ ที่ได้ยินแบบนั้น

          " ได้ข่าวว่าตอนนี้ก็คบเด็กม.4 อยู่นี่ พี่เขาก็ควงไปเรื่อยแหละ " พี่นายเป็นคนใจดีก็จริงแต่เจ้าชู้มากครับ ซึ่งผมก็รู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้เลย

          " แล้วลี่ชอบพี่นายหรือเปล่าล่ะ "

          " ไม่รู้สิ อาจจะละมั้ง แต่ให้คบคงไม่เอาหรอก ไม่อยากไปตบตีแย่งเขามา "

          " หนิงจะช่วยให้ลี่คบกับพี่นายเองนะ " ผมมองหนิงที่ทำหน้าตื่นเต้นซะเหลือเกิน นี่อยากให้เพื่อนมีผัวจริงๆ เหรอ

          ผมก็ตกใจตัวเองเหมือนกัน เพราะว่าเมื่อก่อนผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะชอบผู้ชาย แต่พอได้อยู่ใกล้ๆ พี่นายผมก็คิดว่า ผมไม่ได้ชอบผู้ชายจริงๆ นั่นแหละ ผมก็แค่ ชอบพี่นายเท่านั้นเอง

          " ลี่ ไปกินข้าวกัน " พูดถึงก็มาเลยครับ พี่เขามาหาผมทุกวันช่วงพักเที่ยง มีผม เมี่ยง หนิง พี่นาย สี่คนโต๊ะเดียวกันเสมอ

          ผมไม่รู้ว่าพี่นายคิดยังไงกับผม แต่ผมก็คิดว่าผมอาจจะมีหวัง เพราะว่าพี่เขาดูใส่ใจผมมาก ทั้งๆ ที่พี่เขาก็ไม่ได้ทำให้ผมบาดเจ็บสักหน่อย แถมเป็นคนช่วยผมด้วยซ้ำ เป็นคนใจดีจัง พี่จะชอบผมหรือเปล่านะ ชอบแค่ผมคนเดียวได้ไหม​

          ผมแอบถ่ายรูปพี่นายเก็บไว้เสมอ ในวันเกิด พี่นายก็ซื้อของขวัญให้ผม พวกเราดูเหมือนเป็นคนรักกันถึงแม้ว่าจะไม่ได้สารภาพรักกันเลยก็ตาม ในห้องนอนของผมนั้นมีแต่รูปพี่นายและของที่พี่นายให้เต็มไปหมด ผมชอบพี่นายจริงๆ

          " พี่นายครับ พี่คิดยังไงกับผมเหรอ "

          " ลี่เป็นคนพิเศษของพี่ ลี่ไม่เหมือนใคร " พี่นายมักพูดแบบนี้เสมอ เวลาที่ผมถาม

          " ผมขอพี่เรื่องนึงได้ไหม​ครับ "

          " ว่ามาสิ " พี่นายพูดพลางยิ้มให้ผม

          " มองผมคนเดียวได้ไหม​ครับ " พี่นายถอนหายใจเล็กน้อยแต่ก็กลับมายิ้มเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว

          " พี่จะ..พยายาม คือ พี่รู้จักคนเยอะต้องรักษาน้ำใจคนอื่นนะลี่ เข้าใจพี่ใช่ไหม​ " ผมไม่เข้าใจหรอก

          " ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจนะครับ " ผมพูดพลางยิ้มเศร้าๆ

          " ลี่ ขอเวลาพี่หน่อย พี่จะเลิก พี่จะทำให้ได้พี่สัญญา "

          " ขอบคุณนะครับ สัญญากันแล้วนะ " ผมยิ้มน้อยๆ ให้ผู้ชายคนแรกที่ผมรัก

          เวลาผ่านไปเกือบปี และวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันปัจฉิมอำลาพี่ม.6 ผมเตรียมของขวัญสุดพิเศษเพื่อพี่นายไว้แล้ว พี่นายจะต้องดีใจแน่ๆ ถ้าได้เห็นมัน

          " ลี่เดี๋ยววันนี้ตอนเย็นพี่มีธุระนะ ขอโทษที่ไม่ได้ไปส่ง ลี่ไม่โกรธพี่ใช่ไหม​ " พี่นายเดินมาหาผมในช่วงพัก จริงๆ ผมรู้สึกเซ็งครับ เพราะพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันสุดท้ายที่พวกเราจะได้เจอกันในโรงเรียนแล้วแท้ๆ แต่วันนี้พี่นายกลับจะหนีไปไหนซะนี่

          " ครับ พรุ่งนี้เจอกันนะ " ผมยิ้มให้พี่นายที่เดินออกไป

          " ลี่วันนี้หนิงกลับไวนะ ไม่ต้องรอล่ะ " ผมพยักหน้าให้หนิง เฮ้อ มีแต่คนทิ้งเราเนอะเมี่ยง ผมมองไอ้เมี่ยงที่มองผมด้วยใบหน้าเซ็งๆ เหมือนกัน

          หลังเลิกเรียนผมแวะเอาของขวัญที่สั่งไว้ในร้านๆ หนึ่งที่อยู่ไกลนิดหน่อย แต่ร้านนี้ทำของสวยมาก ผมเลยอุตส่าห์มาถึงนี่เลยทีเดียว ผมมองกล่องของขวัญและยิ้มอย่างมีความสุข พรุ่งนี้ถึงจะเป็นวันสุดท้ายในโรงเรียน แต่มันก็ไม่ใช่วันสุดท้ายของเราสองคนหรอกนะ

          ผมเดินลั้ลลาออกมาจากร้าน แต่เหมือนท้องฟ้าจะกลั่นแกล้ง โอ้ย ฝนบ้ามาตกอะไรตอนนี้ฟะ เดี๋ยวของเสียหายหมด

          ผมกอดกล่องของขวัญแสนรักด้วยความทะนุถนอม พลางมองไปรอบๆ ตอนนี้ผมมายืนหลบฝนอยู่ใต้กันสาดที่ยื่นออกมาจากร้านอาหารร้านหนึ่ง ซึ่งร้านนี้จัดตกแต่งได้น่ารักและโรแมนติกทีเดียว ผมมองบริกรที่แต่งตัวน่ารัก ดอกไม้กระถางนั้นสวยจังและ...

          ผมที่เอี้ยวตัวมองผ่านๆ แต่ตอนนี้กลับหันหน้าช้าๆ เข้าหากระจกของร้านแบบเต็มตา ผมยืนอยู่ตรงหน้ากระจก ตัวชาและสั่นน้อยๆ แต่ไม่ใช่เพราะความหนาวเย็นของสายฝน ริมฝีปากไม่อาจเปร่งเสียงได้ และหัวใจราวกับแตกสลาย

          ดูเหมาะกันดีนะ ผู้หญิงสวย และผู้ชายก็หล่อมาก ใช่ ผู้หญิงกับผู้ชาย สวรรค์สร้างมาเพื่อเป็นคู่กัน ผมหัวเราะเบาๆ ทั้งๆ ที่น้ำตาไหลออกมา คงนานแล้วใช่ไหม​ ผมมองมือของทั้งสองที่ประสานกันดูมีความสุข ผมคงเป็นคนขัดขวางทั้งสองคนนั่น พี่ไม่ได้เลือกผมแต่แรกแล้ว พี่ก็แค่ลังเล พี่ต้องเลือกคนที่ดีกว่าอยู่แล้ว ทุกวันที่พี่มาหาผม พี่ไม่ได้มาเพื่อผม แต่มาเพื่อเธอ

          ผมมองแผ่นหลังของผู้ชายที่บอกว่าผมนั้นสำคัญ กับใบหน้าของผู้หญิงที่คอยอยู่ข้างๆ ผม และบอกผมว่าพี่นายนั้นรักผมมากแค่ไหน แล้วทำไมถึงไม่บอกล่ะ ว่าเธอนั่นแหละที่รักผู้ชายคนนั้น

          ผมมองดูแผ่นหลังของผู้ชายที่ผมรักเดินไปจากโต๊ะ มือที่สั่นเทาของผม มันทำให้กล่องของขวัญที่ผมถืออยู่นั้นพลันร่วงหล่นจนของด้านในแตกกระจาย

          ผู้หญิงที่ผมนั้นไว้ใจมาเป็นเวลาหลายปีสะดุ้งตกใจ และค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ สองมือกุมหน้าตัวเองไว้และร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ผมถอยหลังหนีและพยายามจะวิ่ง แต่เธอก็จับแขนผมเอาไว้

          " อาลี่ หนิงขอโทษ " เพื่อนรักของผมพูดพลางยกมือขึ้นไหว้ผมและร้องไห้อย่างปวดใจ แต่ผมก็ส่งยิ้มให้เธอ

          " ถ้าพี่นายรักหนิง ลี่ก็ดีใจด้วย ไม่ต้องโกหกกันอีกแล้วเนอะ " ผมบีบไหล่หนิงเบาๆ และเดินจากมาด้วยหัวใจที่เจ็บปวดแสนสาหัส

          หลังจากกลับมา ผมเปลี่ยนเบอร์ บอกป๊าม๊าไม่ให้บอกใครว่าผมอยู่ไหน และหนีไปอยู่บ้านยายของเมี่ยงที่ต่างจังหวัด

          ผมเล่าทุกอย่างให้เมี่ยงที่มาอยู่เป็นเพื่อนผมฟัง และมันก็โกรธพี่นายมาก และที่เจ็บที่สุดก็คือหนิงซึ่งเป็นคนที่มันหลงรักและเป็นเพื่อนรักของเรากลับหักหลังผม มันร้องไห้เป็นเพื่อนผม เสียใจ โกรธแค้น ผมต้องห้ามมันไว้หลายครั้งไม่ให้มันไปแก้แค้นพี่นาย และผมก็ไม่ได้ไปโรงเรียนนับตั้งแต่วันนั้น เพราะจริงๆ ก็ใกล้จะปิดเทอมอยู่แล้ว

          และข่าวที่ทำให้ช็อคที่สุดก็คือ หนิงย้ายโรงเรียนไปแล้ว เธอทิ้งพวกเราไปแล้ว และผมไม่ได้รู้เลยว่า พี่นายนั้นยังไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง และไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้หายตัวไป พี่นายที่แรกๆ ก็ตามหาผม และไม่นานก็หายไป เหมือนว่าเรานั้นได้เลิกกันไปแล้วจริงๆ



ปล่อยให้กาลเวลา เป็นตัวทำให้เราแยกจากกัน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2018 10:27:24 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
นี่ๆ หนิง  :beat: พี่นายด้วย  :z6:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เพื่อนเรา เผาเรือน  :3125:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด