Calorie ที่ 21 เพื่อนเก่าและรอยคิสมาร์ก วันนี้เป็นวันอาทิตย์ซึ่งผมกับพี่โรลนั้นตกลงกันไว้ว่าเย็นนี้เราจะไปเดินเล่นและหาอะไรกินกันในเมือง ผมซึ่งมีเสื้อผ้าค่อนข้างน้อย ช่วงบ่ายนี้เลยแอบแวะมาหาซื้อเสื้อผ้าเพื่อแต่งหล่อก่อนไปออกเดทนั่นแหละ และผมไม่อยากชวนไอ้หอกเมี่ยง มันจะแซวผมอ่าสิ
ผมเดินดูเลือกซื้อเสื้อที่ดูน่ารักๆ เข้ากับผม ขณะที่เดินเลือกผมก็คิดไปพลางๆ เรื่องร่างกายของผม ผมคิดว่าผมนั้นป่วยและรู้สึกไม่ดีมาตั้งแต่ก่อนที่ผมจะไปนอนคอนโดของพี่โรลแล้ว และอาการก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้น
แต่ผมก็เตรียมตัวที่จะไปหาหมอแล้ว ซึ่งผมคิดว่าจะไปหลังจากวันนี้นี่แหละ น่าจะเป็นพรุ่งนี้ช่วงบ่ายๆ ที่ผมไม่มีเรียน
แต่ผมที่มัวแต่มองรองเท้าสวยๆ อยู่ก็เผลอไปเหยียบเท้าคนคนนึงเข้า
" ขอโทษครับ เจ็บหรือเปล่า " ผมหน้าเสียและรีบเข้าไปถามผู้หญิงคนนั้นทันที
" ไม่เป็นไรค่ะ " แต่ผมที่เดินเข้าไปหาก็ต้องตกใจ ผู้หญิงคนนั้นเมื่อเห็นผมก็หยุดชะงักไปและรีบเดินหนีผมไปอย่างรวดเร็ว
" หนิง " ผมที่เห็นแบบนั้นก็เรียกเอาไว้ หนิงหยุดเดิน แต่ดูลังเลที่จะหันกลับมาหาผม
" อาลี่ " หนิงก้มหน้าและทำหน้าเศร้า ซึ่งนั่นผมรู้ว่าทำไม แต่ว่านั่นมันก็ผ่านมานานแล้ว และผมก็ไม่เคยต้องการที่จะให้หนิงหนีผมไป
" สบายดีไหม ไม่เจอกันนานเลย " หนิงยังคงไม่ยอมสบตาผม
" หนิงสบายดี " หนิงพูดอ้อมแอ้มในปาก
" ไปหาอะไรดื่มกันไหม " ผมเดินเข้าไปช้าๆ และจับไหล่หนิงไว้ หนิงนั้นดูโตขึ้นและเป็นสาวสวยเต็มตัว แต่งหน้าและแต่งตัวดูดีจนผู้ชายต้องเหลียวหลัง ผมดีใจจริงๆ ที่ได้เจอกันอีกครั้ง
" อาลี่ดูสมบูรณ์ขึ้นนะ " หนิงเริ่มคุยและยิ้มให้ผม พวกเรามานั่งอยู่ในร้านกาแฟเล็กๆ ที่บรรยากาศสบายๆ
" จะล้อว่าอ้วนก็บอกตรงๆ เถอะ " ผมหัวเราะเบาๆ ผมอยากตามไอ้เมี่ยงมาจัง มันคงจะดีใจที่ได้เจอหนิง
" ถึงจะเป็นแบบนี้แต่ลี่ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม " ผมยิ้มน้อยๆ ให้คำชมนั้น
" หนิงทำตัวตามสบายเถอะ เรื่องพี่นายมันจบไปนานแล้ว ลี่ไม่ได้เป็นอะไรกับพี่นายอีกแล้ว " หนิงเงยหน้ามองผมและจ้องมองแก้วกาแฟต่อ
" เรื่องพี่นายหนิงขอโทษจริงๆ พี่นายมาจีบหนิงเองนะ แต่วันปัจฉิมพี่นายก็มาบอกหนิงว่าพี่นายจะไม่ต้องการคุยกับหนิงอีก พี่นายรักลี่นะ พี่เขาเลือกลี่ ไม่ใช่หนิง " ผมส่ายหน้าช้าๆ ผมไม่สนอีกแล้ว ไม่ว่าพี่เขาจะเลือกผมหรือไม่ก็ตาม
" ลี่ไม่สนเรื่องนั้นอีกแล้ว ให้มันจบไปเถอะ " ผมพูดและส่งยิ้มให้หนิง ผมยังอยากให้เราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
" แล้วหนิงเรียนที่ไหนเหรอตอนนี้ "
" หนิงเรียนพยาบาลน่ะ ตอนนี้ก็ยังเรียนหนักมากๆ ไม่ค่อยจะได้มีเวลาทำอะไรเท่าไหร่ และก็มีงานต้องดูแลผู้ป่วยทุกวันด้วย "
" ขยันสุดๆ เลยนะ " ผมยิ้มให้หนิง เห็นเพื่อนได้ดีก็ดีใจ
" ก็ต้องขยันหน่อย เพราะว่าเป็นว่าที่แม่สามีน่ะ " หนิงพูดด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขและเขินน้อยๆ
" แบบนี้นี่เอง มีแฟนแล้วก็ไม่บอก อกหักเลยนะเนี่ย " ผมพูดแหย่เล่น
" แหมอาลี่ อย่ามาพูดเลย รู้นะว่ามีหนุ่มอยู่เหมือนกัน หรือว่าเปลี่ยนกลับไปมีสาวอีก " หึหึ หนุ่มสิ หนุ่มหล่อสุดๆ เลยล่ะ
" ไหนๆ ขอดูว่าที่สามีหนิงหน่อย ว่าจะหล่อกว่าแฟนลี่หรือเปล่า " หนิงทำท่าเขินน้อยๆ และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
" ว้าา แบตหมดซะงั้น อดเลยลี่ ฮ่าๆ แต่บอกไว้ก่อนว่าพี่เขาหล่อสุดๆ ไปเลย เป็นนายแบบด้วยนะ "
" ว้าว แบบนี้แฟนลี่คงสู้ไม่ได้แล้วมั้ง " ผมยิ้มขำ แต่ในใจก็ยังคิดว่าพี่โรล หล่อกว่าอยู่ดีแหละ ผมนี่มันคนอวยแฟนของแท้ ฮ่าๆ
แต่หนิงที่ยิ้มอยู่ อยู่ดีๆ ก็ทำหน้าเศร้าขึ้นมา
" มีอะไรไม่สบายใจบอกได้นะ " ผมยื่นมือไปจับมือหนิงไว้ ผมทำแบบนี้เสมอในสมัยก่อน ไม่ว่าจะกับหนิงหรือไอ้เมี่ยง ทุกคนนั้นสำคัญกับผม
" ขอบใจนะลี่ " หนิงยิ้มให้ผม พวกเรายิ้มให้กันและกันเหมือนวันวาน
ผมกับหนิงแลกเบอร์โทรกัน และผมก็กลับมาที่บ้าน อาบน้ำเตรียมตัวเพื่อที่จะไปเที่ยวกับพี่โรล ผมยืนส่องตัวเองหน้ากระจกอยู่หลายนาทีด้วยความไม่มั่นใจ เสื้อผ้าของผมหลวมลงเล็กน้อยเพราะน้ำหนักที่ลดลงนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร เพราะผมจะพยายามกินให้มันเท่าเดิม
พี่โรลนัดผมไปที่ห้างแห่งหนึ่ง ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นที่นี่ และทำไมถึงไม่มารับผมแบบปกติ ไม่รู้คุณพี่คิดอะไรอยู่กันแน่
และเมื่อผมมาถึงที่ห้าง ก็พบว่าตอนนี้ที่ห้างนั้นกำลังมีงานแฟชั่นโชว์อยู่ครับ อะไรของพี่แกฟะ ให้มาทำไมที่คนเยอะๆ แบบนี้งงชะมัด ผมที่เดินหัวเสียและเริ่มหงุดหงิด ก็ยืนมองหนุ่มนายแบบที่เดินร่อนกันไปมาบนแคทวอร์ค แหม่ หล่อล่ำน่าแดกทุกคน ไม่เอาลี่ มีแฟนแล้วนะ ฮึบๆ
แต่แล้วผมก็ถึงกับต้องตะลึงเพราะว่ามีอยู่คนหนึ่งที่ผมรู้สึกคุ้นตาซะเหลือเกิน ผู้ชายคนนั้น กำลังเดินอยู่บนแคทวอร์คด้วยชุดสูทสีแดงดำ ที่ในท่อนบนนั้นมีแต่สูทตัวนอกคลุมไว้หลวมๆ และเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่นๆ และซิกแพคอันสวยงามอลังการ สูงขาวและหล่อเกินหน้าเกินตานายแบบอื่นๆ ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยโทนสีเข้ม ไฮไลท์ที่ทำให้ใบหน้าที่หล่อเหลาสุดๆ อยู่แล้ว ยิ่งหล่อคูณสิบเข้าไปอีก
ผมใจเต้นตึกตักอย่างควบคุมไม่ได้ นี่ใช่ไหม ที่พี่อุตส่าห์ให้ผมมา เพื่อที่จะอวดความหล่อของตัวเองว่างั้น ผมก็ว่าอยู่ว่าตัวพี่นั้นเอาเงินมาจากที่ไหน ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ก็ถือว่าใช้หน้าตารูปร่างให้เกิดประโยชน์สูงสุดดีทีเดียว
ผมยิ้มให้พี่โรลที่เดินโฉบมาหน้าเวทีซึ่งผมนั้นยืนอยู่ ทรงผมของพี่ที่เซตขึ้นและมีปอยสีแดงๆ แซมอยู่นั้นคงถูกใจพี่ไม่ใช่น้อย ไม่ใช่สิต้องบอกว่าทั้งชุดนั่นน่ะ พี่แกคงชอบมาก เพราะแดงเกือบทั้งชุด มันแบบว่าเท่ห์และโครตเอ็กซ์เลยครับ อะไรจะโชว์เนื้อหนังขนาดน้าน
และไม่อยากจะพูดว่าพี่แกมืออาชีพจริงๆ เพราะตอนที่พี่เขาเดินผ่านผมนั้น สายตาพวกเราก็ประสานกัน ไอ้บ้าเอ้ยหล่อชิบหายแฟนใครวะ ผมคิดในใจแต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร ฮ่าๆ แต่พี่แกที่เวลาอยู่กับผมจะเหมือนเด็กน้อยนั้นก็ยังคงสีหน้าเข้มๆ แบบเดิม ไม่มีหลุดยิ้มเลยครับ ฮ่าๆ แม่งแน่จริงๆ ว่ะที่รัก
ไม่นานหลังจากการเดินจบลง พี่แกที่ยังคงใส่ชุดที่เดินนั้นก็ฝ่าฝูงชนเข้ามาลากผมให้เข้าไปยังห้องแต่งตัวด้านหลัง ทำเอาบรรดาหนุ่มๆ นายแบบคนอื่นมองผมด้วยความประหลาดใจ
" เห็นพี่ไหม " พี่โรลเขย่าผมจนหัวสั่นหัวคลอนไปหมด
" ที่นัดมานี่เพื่อมาอวดแค่นี้ป่ะ " ผมยิ้มทำหน้ากวน
" แง่ว คือเซอร์ไพรส์ไง พี่ไม่เคยบอกเรื่องนี้ใช่ไหมล่ะ " พี่โรลที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้กลมก็จับให้ผมยืนตรงกลางหว่างขาและยื่นมือมาดึงแก้มผมเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยว
โอ้ยให้ตาย ผมที่หน้านิ่งๆ แบบนั้นแต่จริงๆ ในใจมันกรีดร้องมาก พี่โรลในลุคแบบนี้ทำเอาผมไม่กล้ามองนานๆเลยครับ ผมเหมือนตัวจะลอยไปในอวกาศอยู่แล้ว ผมนี่มันโชคดีแท้ๆ เขินอ่ะ อยากกอดจังแต่อายคน ฮ่าๆ
" แล้วทำไมไม่บอกอ่ะ " ผมยังคงทำหน้านิ่งๆ และแหย่คนขี้อวดเล่น อวดกับแฟนเท่านั้นนะ ฮ่าๆ
" ไม่ชอบให้ใครมายุ่งไง " ดีแล้วๆ เพราะผมหวงมาก ฮ่าๆ
" เหรอ งั้นไม่ยุ่งดีกว่า "
" โอ้ยยย อย่าป๊ายย " พี่โรลลุกพรวดและกระโดดตระครุบตัวผมแบบไม่สนใจสายตาประชาชีหลังเวทีเลยทีเดียว
" ทำบ้าอะไรเนี่ย อายเขา " ผมตีพี่โรลและหยิกพุง เอ่อ หยิกซิกแพคหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้
" อยากให้มีรอยจ้ำแดงๆ บนตัวจัง " ผมมองพี่โรลที่ทำหน้ายิ้มแบบมีเลศนัย
" ยังไงอ่ะ " ผมเลิกคิ้วถาม
" ทำคิสมาร์กตรงนี้ให้หน่อยสิ นะๆ " ผมตาโตมองจุดที่พี่โรลชี้ซึ่งก็คือที่อกตรงใกล้ๆ จุดสีชมพูของพี่แกครับ ทำเอาผมเลือดกำเดาแทบพุ่ง ไอ้บ้า คนเยอะแยะ เอ้ย ไม่ทำหรอกเฟ้ย
" ไม่อาววว " ผมหน้าแดงและพยายามจะหนีจากเงื้อมมือมารของพี่แก คนบ้าอะไรเหนียวอย่างกับตุ๊กแก
" นะๆ เดี๋ยวพี่จะทำให้ลี่บ้าง " ไม่อ๊าววว แบบนั้นยิ่งไปใหญ่เลยพี่ โอ้ยย
ปัญหามันไม่ใช่แบบน้านน ลองทำกันสองคนในห้องดิ มันจะเลยเถิดนะพี่นะ ผมที่ยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียดความลามกของตัวเองทุกที แต่พี่ชอบชงให้ผมคิดอ่ะ ฮ่าๆ
พี่โรลลากผมมาในมุมที่ไม่มีคนเดินผ่านแถมมืดนิดๆ และยืนกอดผมเอาไว้ ผมใจสั่นและรู้สึกแปลกๆ ทั้งเขินทั้งฟินแบบบอกไม่ถูกเลยทีเดียว
" เดี๋ยวพี่ต้องขึ้นไปอีกรอบพร้อมดีไซน์เนอร์ นะๆ ทำให้พี่หน่อยนะ " ผมว่านั่นมันไม่ใช่เหตุผลในการทำเรื่องแบบนั้นเลยนะ ไม่ต้องมาอ้อน อ้ากกก ใครก็ได้ขอทิชชู่ที เลือดจะหมดตัว
ผมที่กอดเอวพี่โรลอยู่ก็เงยหน้าที่แดงระเรื่อของตัวเองขึ้นจ้องมองพี่โรลที่ส่งยิ้มให้ผม ตัวผมนั้นสูงแค่อกพี่โรลครับ มันช่างเมื่อยคอซะเหลือเกิน
ผมเลื่อนมือช้าๆ จากด้านหลังมายังด้านหน้าของเสื้อสูทสีแดงของพี่โรล พี่โรลที่ยืนนิ่งก็ลูบเบาๆ ที่แก้มและเกลี่ยไรผมอ่อนๆ ของผมเบาๆ ผมหน้าแดงจัดและรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด ถึงเราจะเคยจูบกันหลายรอบแล้ว แต่เรื่องมาร์กคิสนั้นผมยังไม่เคยเลยสักที
ผมเลื่อนใบหน้าช้าๆ เข้าไปหาอกแกร่งนั้น ประทับจูบลงเบาๆ ที่ข้างๆ จุดอ่อนไหวของพี่โรล ผมรู้สึกถึงลมหายใจของพี่โรลที่เหมือนกับจะหยุดนิ่งไป ผมกดจูบลงอีกครั้งตรงที่เดิม แต่เพิ่มแรงและใช้ลิ้นช่วยอีกขั้น ผิวพี่โรลนุ่มมาก ความขาวของพี่โรลช่างตัดกับสีแก้มของผมตอนนี่ซะเหลือเกิน เมื่อผมดูดเม้มจนเกิดรอยแดงเล็กๆ แล้ว ก็ผละริมฝีปากออก และเงยหน้ามองพี่โรลที่กำลังหลับตาและกัดฟันแน่น
" เสร็จแล้วครับ " ผมลูบเบาๆ ที่รอยนั้น ผิวที่ขาวสุดๆ ของพี่โรล ทำให้คิสมาร์กเด่นซะเหลือเกิน
ผมขมวดคิ้วมองพี่โรลที่ยังคงนิ่งอยู่
" เอ่อ คือแย่แล้ว " พี่โรลพูดเบาๆ และทำสีหน้าแปลกๆ จนผมยิ่งขมวดคิ้วยิ่งขึ้นไปใหญ่
" ทำไมเหรอครับ หรือยังไม่ดี " แต่ผมก็ต้องชะงักไป เพราะพี่โรลนั้นตอนนี้กำลังกุมจุดอันตรายของตัวเองอยู่ อ้ากกกก ไอ้บ้า ไอ้หื่นกาม ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ยังจะให้ทำคิสมาร์กอีก ผมตอนนี้เขินจนจะม้วนหน้าอยู่แล้ว
" ก็ลี่เซ็กซี่อ่ะ พี่ก็ของขึ้นเป็นธรรมดา " ผมฟาดพี่โรลแทนคำตอบ โอ้ยย ไอ้บ้า สภาพผมเนี่ยนะ เซ็กซี่ เซ็กส์เสื่อมสิไม่ว่า
" แปบนึงเดี๋ยวก็หาย " พี่โรลพูดพลางดอดหอมแก้มผมเบาๆ ไอ้คนฉวยโอกาส แล้วแบบนี้มันจะลงได้ไงถ้ายังแต๊ะอั๋งผมอยู่อ่ะ
" ทรมานหรือเปล่า ให้ช่วยไหม " อ้ากกก นี่กูพูดอะไรออป๊ายยย ปากดีไปงั้นแต่ไม่รู้จะช่วยยังไงหรอกครับ ฮ่าๆ
" ไม่ได้ พี่คุมตัวเองไม่ไหวหรอก อย่าเสี่ยงเลย " คำตอบของพี่โรลที่จริงจังกับคำพูดเล่นของผม ทำเอาผมหน้าร้อนผ่าวเลยทีเดียว หมายความว่าถ้าผมทำ พี่จะจับกดผมตรงนี้เหรอครับ หึยย น่าลอง เอ้ยน่ากลัว ฮ่าๆ
ไม่นานทุกอย่างก็สงบลงและพี่โรลก็กลับขึ้นไปบนแคทวอร์คอีกครั้งด้วยรอยคิสมาร์กที่เด่นหรา เรียกเสียงฮือฮาสุดๆ จากคนที่มาร่วมงาน
' ว๊ายย ตอนแรกยังไม่มีรอยนี่นา '
' หล่อ แซ่บ ร้อนแรง '
' ใครคือคนทำวะ ตาร้อนเลยกู '
ผมหัวเราะเบาๆ ผมภูมิใจเล็กๆ กับร่องรอยนั้น แหม่ ใช้ได้นะเนี่ยเรา
ให้มันรู้ซะบ้างว่าของใครเป็นของใคร หึหึ