ตอนที่ 31
ปรับความเข้าใจ
ผมรีบปาดน้ำตาอย่างเร่งร้อนก่อนจะเงยมองคนตรงหน้าด้วยความงุนงงว่าทำไมพระเอกชื่อดังถึงได้ยืนควงกับหญิงสาวไม่คุ้นหน้าเหมือนกำลังเตรียมพากลับคอนโด
นิฌานหันไปก้มบอกกับหญิงสาวคนนั้นด้วยใบหน้าเป็นกังวล ถ้าฟังไม่ผิดเหมือนว่าเจอเพื่อนร่วมงานท่าทางไม่ค่อยดีให้เธอกลับไปก่อน หญิงสาวคนนั้นคงรู้จักผมอยู่แล้ว พอได้ยินชื่อจิระก็ยอมเรียกแท็กซี่กลับโดยมีนิฌานคอยมองส่ง
“คนเมื่อกี้คือแฟนเก่าพี่เอง” นิฌานบอกอย่างไม่ปิดบัง “พวกเราไปดื่มกันนิดหน่อยเพราะ....เฮ้อ พูดไปแล้วจิอาจจะไม่เชื่อ แต่พี่โดนดาวหักอกแล้วล่ะ”
ผมมองเขาด้วยความอึ้งตะลึง
“เห็นมั้ยว่าจิไม่เชื่อจริงๆ ด้วย แต่พี่พูดจริงนะ ดาวไม่เชื่อพี่ว่าจะรักดาวคนเดียว หลังคบกันได้ไม่กี่วันก็บอกเลิกเพราะมีคนอื่นมาจีบ คนที่เธอเชื่อว่าจะรักดาวได้มากกว่าคนเจ้าชู้อย่างพี่ พี่เสียใจมาก และก็เหงามากด้วย เลยออกมาดื่มกับแฟนเก่า อย่างน้อยมีเพื่อนสักคนก็ดีกว่าอยู่คนเดียวใช่มั้ยล่ะ”
ผมเผลอพยักหน้ารับ
“จิกลับคอนโดเลยมั้ย จะได้เดินไปด้วยกันเลย”
“เอ่อ ก็ดีครับ” แม้จะรู้สึกแปลกๆ ว่าหน้าเขาไม่เห็นเศร้าหนักเหมือนคนอกหัก แต่ผมก็ยอมพยักหน้ารับเพราะการมีคนอยู่ด้วยย่อมดีกว่าปล่อยให้ตัวเองสติแตกแล้ววิ่งเตลิดไปถึงไหนต่อไหน “แต่พอถึงคอนโดแล้วพี่เข้าไปก่อนนะ ผมไม่อยากเป็นข่าวว่าเดินเข้าคอนโดพร้อมกับนิฌาน”
คำเตือนของคมสันยังจำได้ไม่ลืม
“ได้สิ” นิฌานตอบรับอย่างว่าง่าย “งั้นเดี๋ยวถึงปากซอยตรงนั้นแล้วแยกกันเดิน ค่อยไปเจอกันที่ลิฟต์ โอเคมั้ย”
“ดีครับ” ผมพยักหน้า พอเดินถึงปากซอยก็แยกทางกับนิฌาน ต่างคนต่างเดินเข้าคอนโด ก่อนจะไปเจอกันในลิฟต์
“ดื่มกันหน่อยมั้ยจิ” นิฌานชูถุง เพิ่งสังเกตว่าที่แยกกันเมื่อครู่เขาแวะไปซื้อเหล้ามาด้วย
ผมก้มมองนาฬิกาข้อมือ ป่านนี้เตโชคงใกล้เสร็จงานแล้ว แต่ให้อยู่ห้องคนเดียวก็ไม่รู้ว่าจะเป็นบ้าอะไรอีก ช่วงนี้สภาพจิตใจผมไม่ค่อยปกตินัก เลยยอมพยักหน้ารับโดยไม่ลืมยื่นข้อเสนอเซฟตัวเอง เผื่อว่าเกิดอะไรขึ้นเตโชก็ยังมาช่วยทัน
“ดื่มที่ห้องผมแล้วกัน”
“ตกลง”
ผมแตะการ์ดเพื่อกดลิฟต์ไปชั้นตัวเอง เนื่องจากระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่บังคับให้กดชั้นตามห้องที่อาศัย ก่อนจะส่งข้อความหาเตโชว่าผมอารมณ์ไม่ค่อยดี ส่วนนิฌานอกหัก เลยชวนกันมาดื่มย้อมใจกันที่ห้องของเรา
เปิดประตูเข้ามาโทรทัศน์กับไฟยังอยู่ในสภาพเดิมก่อนผมเดินออกไป รวมทั้งตุ๊กตาจิระที่ล้มกลิ้ง นิฌานผิวปากเมื่อเห็นภาพใส่กรอบของผมแขวนตรงโซฟา
ตอนผมก้มเก็บตุ๊กตาจิระ ซีรีส์เช็กเมทก็จบพอดี เพลงปิดท้ายถูกเปลี่ยนเป็นมิวสิกวีดีโอเพลงเบื้องหลัง ภาพของมิสเตอร์เอสที่ค่อยๆ เลือนหายกลายเป็นละอองดาวในช่วงท้ายนั้นทำให้ผมรู้สึกราวหัวใจถูกบีบ
“โอ้ โปรเจ็กต์ใหญ่เลยนะเนี่ย” นิฌานชวนคุยเมื่อเห็นมีการประกาศโปรเจ็กต์เพลงของเช็กเมทหลังเปิดตัวอย่างเพลงของมิสเตอร์เอสให้รับชม “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะจิ”
“ดื่มกันเถอะครับ” ผมตัดบทเพราะไม่อยากพูดถึง นิฌานเองก็ไม่เซ้าซี้ เปิดเหล้าขณะที่ผมเดินไปหยิบแก้ว “ไม่ต้องเทเยอะขนาดนั้นหรอกพี่”
ตอนไปพัทยาพิสูจน์อย่างดีว่าผมไม่ได้คอแข็งเท่าเมื่อก่อน เลยพยายามห้ามไม่ให้นิฌานเทเต็มแก้ว ผมแค่อยากดื่มปรับอารมณ์แปรปรวนของตัวเอง ไม่ได้ตั้งใจจะดื่มให้เมา
“งั้นพี่ขอซัดเต็มที่เลยนะ” นิฌานเห็นผมดื่มไม่เยอะก็เหมือนจะได้ใจ ซดแก้วแล้วแก้วเล่าก่อนจะเริ่มสะอื้น ผมตกใจ คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ พระเอกคนดังจะร้องไห้ออกมา “พี่ไม่ดีตรงไหนเหรอจิ ดาวถึงทิ้งพี่ไปหาอีกคน ถึงพี่จะโดนหาว่าเจ้าชู้ แต่พี่ก็จริงใจกับทุกคนที่คบ ดาวยังไม่ได้ลองกันให้ถึงที่สุดเลย ยังไม่ได้ศึกษาดูใจกับพี่ให้มากพอเลย แล้วทำไมดาวถึงบอกเลิกพี่”
ผมถึงกับทำอะไรไม่ถูกเมื่อจู่ๆ นิฌานก็ฟูมฟายคร่ำครวญไม่หยุด
“พี่เองก็อยากมีรักแท้ที่สมหวังบ้าง เหมือนเตโชกับจิ” นิฌานพูดไปก็กระดกแก้วไป จนกลายเป็นผมที่ต้องคอยรินเหล้าให้เขาทั้งที่เพิ่งดื่มไปแค่จิบเดียว “ดาว...ฮึก ดาว ทำไมถึงทำกับพี่แบบนี้ ถ้าเราคบกันจนรู้ถึงข้อเสียของกันและกัน พี่จะไม่ว่าเลย แต่นี่ยังคบไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำ ฮึก ดาว...”
ไอ้เราก็ปลอบใจใครไม่เป็นซะด้วยสิ
“พี่ฌานดื่มช้าๆ หน่อย เหล้าจะหมดแล้วนะ”
“ดาว...” คนเมาไม่ฟังกันเลย ผมเลยยอมเสียสละ ให้คนช้ำรักดื่มจนพอใจทั้งที่ตัวเองมีอยู่แค่ครึ่งแก้ว จนกระทั่งนิฌานร้องไห้จนหมดแรง ลงไปฟุบกับพื้นนั่นแหละผมถึงได้ฤกษ์ดื่มบ้าง
พอทุกอย่างเงียบกะทันหันแล้วใจหวิวอย่างบอกไม่ถูก ผมหันไปสะกิดปลุก
นิฌาน ก่อนจะโดนเขาจับข้อมือแน่น กระชากให้ลงไปนอนราบกับพื้นพร้อมร่างสูงที่คร่อมทับ
“ดาว...”
“เดี๋ยวก่อนพี่ฌาน ผมไม่ใช่ดาว!” ผมตกใจจัดเมื่อร่างนั้นก้มหน้าลงมาด้วยท่าทางมึนเมา ผมถีบเขา แต่เพราะข้อมือโดนจับอยู่เลยถูกกระชากกลับลงไปใหม่ คราวนี้ผมต่อยบ่านิฌาน ก่อนจะกลายเป็นโดนจับยึดทั้งสองมือ “ผมไม่ใช่ดาว ผมคือจิระ!”
ตะโกนลั่นอย่างสิ้นหวังก่อนจะถูกจูบร้อนแรงบดเบียดลงมา กลิ่นของเหล้าชวนให้มึนงงอยู่ไม่น้อย แถมนิฌานเองก็มีเทคนิคสมกับเป็นผู้ผ่านประสบการณ์อย่างโชกโชน หากเหยื่อเข้าปากแล้วเป็นต้องสิ้นท่า เคลิบเคลิ้มหลงใหลตามการชักนำ
ซะที่ไหนล่ะ!
โอเค ผมยอมรับว่าเขาจูบเก่ง แต่ผมขยะแขยงมากกว่ามาชื่นชม! และทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตูอะดรีนาลีนก็หลั่งกะทันหัน ถีบนิฌานเต็มแรงพร้อมยันตัวลุก เงยมาสบตากับเตโชที่เห็นภาพน่าเข้าใจผิดพอดิบพอดี
คนหน้ามึนนิ่งมาก นิ่งจนผมใจหาย
“ฉัน...”
“ดาว...ดาว...” นิฌานตามมาคลอเคลียกอดหอมกันไม่เลิก ผมโมโหจัด ไม่ทันจะหันไปตวาดคนหน้ามึนก็ก้าวฉับๆ เข้ามากระชากคอเสื้อดาราหนุ่มขึ้นพร้อมเงื้อหมัด
“อย่านะเตโช! อย่าต่อยหน้านักแสดง!!”
บอกเลยที่พูดเนี่ยเพราะห่วงเขา ห่วงตัวเอง และห่วงนิฌานด้วย ข่าวฉาวของดาราและนักร้องทะเลาะกันเพราะเรื่องเข้าใจผิดเนี่ยไม่น่าดูนักหรอก ต่อให้นิฌานจะไม่เอาเรื่อง แต่หน้าช้ำๆ ตอนเข้ากองถ่ายวันพรุ่งนี้ยังไงก็ไม่พ้นมีเรื่องซุบซิบอยู่ดี
“ไม่ห้ามต่อยหน้านิฌาน?” เตโชหันมาถามผมเสียงเรียบ ผมว่าเขากำลังโกรธจัด...แต่พยายามกดข่มภายใต้ความสงบนิ่งจนน่ากลัว
ขนาดพี่ฌานยังกลายเป็นนิฌานไปแล้ว
“ไม่ห้ามต่อยหน้านิฌาน แต่ห้ามต่อยหน้านักแสดง” ผมยืนยันเพื่อไม่ให้โดนเข้าใจผิดว่าปกป้องนิฌาน แต่ปกป้องอาชีพของเขาที่ส่งผลกระทบต่อพวกเราทั้งหมด “เขาเมามาก เข้าใจผิดว่าฉันคือดาว ฉันก็ส่งข้อความบอกนายแล้วไงว่าพี่ฌานอกหักเลยชวนมานั่งกินเหล้าด้วยกัน เอ่อ...เอาอย่างนี้แล้วกัน”
ผมลุกขึ้น จัดเสื้อให้เรียบร้อย ก่อนจะเปิดน้ำใส่อ่างล้างหน้าจนเต็ม
“จับกดเลย” ผมหันไปให้สัญญาณกับเตโช คนหน้ามึนเลยลากร่างเมาแอ้ของพระเอกชื่อดังมาจ่อตรงอ่างล้างหน้า ก่อนจะกดลงไปอย่างไร้ความปรานีจนคล้ายจะได้ยินเสียงหัวโขกกับก๊อกน้ำ
หายสร่างแน่นอนร้อยเปอร์เซนต์!
“เตโช...จิ...เกิดอะไรขึ้น” นิฌานที่โดนกดน้ำไปสองยกจนดิ้นปัดป่ายเสยผมตัวเองพร้อมมองพวกเราสองคนด้วยความงุนงง
“ไม่มีอะไรหรอก แต่เตโชกลับมาแล้ว พี่เองก็ตัวเปียกไปหมด รีบกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อเถอะเดี๋ยวจะเป็นหวัด” ผมรีบไล่ส่วนเกินทันที ความรู้สึกด้านลบทั้งหลายหายเกลี้ยงเมื่อเห็นหน้าตายๆ ของเตโช แม้ว่าตอนนี้เขากำลังโกรธผมมากก็ตาม
“อืม...งั้น พี่ไปแล้วนะ”
“โชคดีพี่” ผมเดินไปล็อกประตูไล่หลังนิฌานที่รีบออกจากห้องด้วยท่าเดินตรงแน่วไม่เหมือนคนเมาสักนิดอย่างสงสัยเล็กน้อย ก่อนจะปัดเรื่องไร้สาระทิ้งเมื่อถูกรั้งเอวเข้าไปกอดพร้อมจูบที่ประทับลงมาอย่างหนักหน่วง
ผมตบแก้มเขาเบาๆ หวังปลอบโยนอารมณ์ขุ่นมัว
“เล่า” หลังจูบจนพอใจเตโชก็ลากผมไปนั่งบนโซฟา จับกอดให้นั่งทับบนตักไม่ยอมปล่อยพร้อมเอ่ยเสียงเข้มคล้ายออกคำสั่งครั้งแรก ผมฟังแล้วรู้สึกใจอ่อนยวบ บางทีลึกๆ ในใจอาจจะชอบแบบนี้ก็ได้นะเนี่ยถึงได้อารมณ์ดีเหลือเกินตอนเขาโมโห
“ความจริงแล้วมันเป็นความผิดของฉันเอง” ผมเกาแก้มแก้เก้อ “พอดีฉันเกิดประสาทเสียขึ้นมาก็เลยเดินเตลิดไปเจอพี่ฌาน แล้วก็อย่างที่เห็น เราชวนกันมานั่งดื่มย้อมใจที่ห้องจนนายกลับมาเห็น”
เหมือนย้อนภาพบาดตาเข้าให้ เตโชเลยจับผมจูบอีกครั้ง แถมด้วยขบกัดเบาๆ อย่างมันเขี้ยว
“ขอโทษ” เตโชเอ่ยเสียงแผ่ว ความโกรธเกรี้ยวหายไปแล้ว เสียดายจัง
“ไม่ต้องขอโทษ บอกแล้วไงว่าฉันประสาทเสียเอง” ผมลูบอกเขาปลอบโยน เตโชคงรู้สึกผิดที่ไม่อยู่ในช่วงเวลาที่ผมต้องการ ถึงได้ทำหน้าสลด หงอยเป็นหมาน้อยหูตกหางลู่ “นายรู้จักสมศรีมณีฉายรึเปล่า”
เตโชส่ายหน้าทันควัน
“นายนี่มัน...เฮ้อ เอาเป็นว่าสมศรีมณีฉายคือดาราที่ดังมาก เธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตอนยังสาว และเธอก็เป็น...แม่ของฉัน” ผมหลุบตาเล็กน้อยเมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความเจ็บช้ำใจ “แม่ที่ไม่เคยยอมรับว่าฉันเป็นลูกเพราะจะทำให้ชื่อเสียงในวงการเธอเสียหาย ฉันเลยเกลียดการเป็นดารา เกลียดมาก...แม้จะชอบการแสดงก็ตาม”
เตโชจูบผมแผ่วเบา นุ่มนวล อ่อนหวาน
“อืม...ฟังให้จบก่อนสิ เพราะแม่ไม่เลี้ยงฉัน ฉันเลยอาศัยอยู่กับยาย จนกระทั่งยายป่วยด้วยโรคร้าย ฉันก็มาอยู่กับ...เอ่อ กิ๊กเก่า แต่นั่นไม่ใช่ความรัก อย่างน้อย...ฝ่ายนั้นก็ไม่ได้รักฉัน แม้จะมีคนดูแลแต่ก็ไม่ต่างจากอยู่ตัวคนเดียวหรอก”
เตโชมองผมด้วยสายตาเกรี้ยวกราดอีกครั้ง อา...เห็นแล้วกระชุ่มกระชวย
“สรุปแล้วฉันโดนทิ้งมาตลอดจนกลัวการอยู่คนเดียว ถึงได้ออกไปรวมกลุ่มเสพยาหวังคลายเหงา ฉันรู้ว่ามันบ้ามาก แต่เรื่องมันผ่านไปนานมากแล้ว และ...บทของกันย์ก็ทำให้หวนนึกถึงความรู้สึกในตอนนั้นโดยที่ฉันไม่รู้ตัว เลยอาการหนัก ไม่อยาก...โดนทิ้งไว้ข้างหลัง ไม่อยาก...เห็นคนอื่นมีความสุขทั้งที่ตัวเองเจ็บช้ำแทบขาดใจ”
ผมซุกหน้ากับอกเตโช
“ถ้าฉันเป็นกันย์ ฉันจะไม่มีวันให้ตุลย์กับดาวคบกันเด็ดขาด”
ผมเผยความในใจไม่ปิดบัง แม้นั่นจะเป็นความเห็นแก่ตัวก็ตาม
“โดยเฉพาะถ้าคนคนนั้นคือนาย...” เพียงนึกว่าคนหน้ามึนจะหันไปยิ้มแย้มให้คนอื่น ผมก็แทบคลุ้มคลั่ง ความรู้สึกนั้น...คงจะเป็น...
“ฉันรักนาย เตโช”
แขนที่โอบรัดผมหลวมๆ กอดแน่นขึ้น และแน่นขึ้นจนแทบได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน เพิ่งรับรู้ว่าการที่เขาอยู่เคียงข้างผมในทุกวันสำคัญแค่ไหน
“จิระ...”
ผมสูดหายใจเข้าลึก รอฟังคำตอบอย่างคาดหวัง
ไม่บอกก็รู้ว่าเตโชต้องตอบว่ารักผมมากเหมือนกัน รักที่สุดในปฐพี
“จิระไม่สบาย?”
“ไม่สบายเชี่ยไรล่ะ มันใช่เวลามาเล่นเหรอเตโช!” ผมผลักอกอีกฝ่ายออกทันทีอย่างเกรี้ยวกราด จนถึงตอนนี้เตโชยังไม่ทิ้งลาย ให้ผมอาละวาดโวยวายยันหยดสุดท้ายทั้งที่บรรยากาศพาซึ้ง
“ขอโทษ” เตโชรีบดึงผมให้กลับไปนั่งบนตัก ก้มกระซิบแผ่วด้วยท่าทางอ้อยอิ่งอ่อนหวาน “ขอโทษนะ”
ต้องขอบคุณวิชาเตโชวิทยา ที่ทำให้รู้ว่าเขากำลังขอโทษเรื่องกลับมาดูเช็กเมทไม่ทันทั้งที่เคยสัญญาไว้ ทั้งที่รอคอยมากกว่าใคร ทั้งที่ไม่เคยทิ้งให้ผมอยู่คนเดียวในวันที่ต้องการมากขนาดนี้มาก่อน
“ขอโทษขอโพยอะไรของนาย” ผมว่าเสียงดุ “ตอนนี้ควรพูดคำอื่นมากกว่าไม่ใช่รึไง หรือว่าต้องให้ฉันพูดใหม่ ฉันไม่พูดหรอกนะของดีมีครั้งเดียว!”
พลันเตโชคลี่ยิ้ม จุ๊บเหม่งผมเบาๆ ก่อนเอ่ย
“รักจิระ”
ผมพยักหน้าอย่างพอใจ สะกิดอกให้เขาพูดซ้ำอีก
“รักจิระ”
“รักมากแค่ไหน”
“รักมากๆ”
“มากๆ เลยเหรอ”
“มากๆๆ”
เหมือนกำลังเล่นต่อคำชอบกล ผมมองเขาเคืองๆ ก่อนจะยอมยกโทษเมื่อถูกประคองใบหน้าเพื่อประกบจูบ แต่จูบไปจูบมาเปลือกตาผมก็กระตุกถี่ เพราะไอ้ความอ่อนหวานชวนละลายนี้ไม่เพียงพอกับการเติมเต็มความแหว่งเว้าในใจ รู้ตัวอีกทีผมก็เผลอเอื้อมมือไปขยำท้ายทอยเตโช บังคับให้เขาแทรกลิ้นลึกล้ำ
คล้ายไปกดสวิตซ์บางอย่างเข้า เพราะวินาทีนั้นทุกอย่างพลันถูกเร่งจังหวะกว่าปกติ เตโชล้วงมือข้างหนึ่งเข้ามาในเสื้อผม เดี๋ยวบีบเดี๋ยวคลึงสลับหนักเบา ขณะที่อีกข้างกระชากกางเกงผมออกอย่างเร่งร้อน แต่ไม่เร็วสู้ผมที่แทบจะดึงทึ้งเข็มขัดของเขาจนแทบขาด
ส่วนอ่อนไหวสัมผัสกันและกันทันทีที่ต่างปลดเปลื้องเสื้อผ้า ผมรุกจูบเขา เตโชรุกจูบผม พยายามยื้อแย่งการนำจูบอย่างไม่ยอมใคร ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งหลงใหล หัวใจเต้นรัวจนใจแทบขาด ผมครางเบาๆ เมื่อเตโชครอบปากบนยอดอก ดูดดุนอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนผมก็ปลุกปั้นเตโชที่ไม่น้อย สีหน้าท่าทางคงจะยั่วน่าดู คนหน้ามึนถึงได้สอดนิ้วเข้ามาในโพรงปาก ให้ผมเลียจนชุ่ม
ผมบิดตัวเมื่อถูกเตโชก้มกัดตามลำคอ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อนิ้วที่เพิ่งดูดเลียสอดแทรกเข้าในร่างกาย พวกเราจูบกันอีกครั้ง ผมกระดกเอวขึ้นเล็กน้อย ให้เขาจัดการเบิกทางสวรรค์ชั้นเจ็ดให้สะดวก จนเมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง ผมก็ปัดมือเขาออก ก่อนจะเป็นฝ่ายทิ้งตัวลงบนแท่งแข็งที่ดุนหน้าท้องผมไปหลายรอบ
“อืม...”
พวกเราครางออกมาพร้อมกัน รู้สึกถึงความอุ่นร้อนที่เชื่อมประสาน พร้อมกับความเสียดเสียวชวนให้ใจเต้นเร็ว เตโชช่วยประคองสะโพกผม บังคับให้ทิ้งน้ำหนักลงจนกลืนกินเขาทีละน้อยจนหมดจด ผมเลียริมฝีปาก ก้มลงจูบเขาอีกครั้งอย่างอดไม่ไหว คราวนี้ดูดดุนรุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า พร้อมกับตัวที่เริ่มเคลื่อนโขยก เตโชกระทุ้งกระแทกสวนขึ้นมาขณะจับตัวผมกึ่งบังคับให้กดสะโพกลงไป
“อืม...อา...อ๊ะ อ๊า”
เสียงหมูสับดังเป็นระยะ พร้อมกับตัวผมที่เห่อแดงเหมือนกุ้งต้มสุก โดยเฉพาะสะโพกที่ถูกเตโชขยำขยี้เป็นรอยนิ้ว เราสองคนต่างควบคุมจังหวะให้ขับเคลื่อนไปพร้อมกัน แต่มันก็เหลื่อมล้ำกันนิดหน่อย ผมขมวดคิ้วขัดใจ ส่วนเตโชยังทำหน้าตาย ผละจากริมฝีปากของผมมากัดเบาๆ ที่ข้างลำคอและยอดอก ก่อนจะยันตัวลุก ผลักตัวผมให้เป็นฝ่ายนอนหงาย ส่วนเขาขึ้นคร่อม
ภาพของเตโชที่เหงื่อไหลตามโครงหน้าไล่ลงมายันกล้ามเนื้อนั้นเซ็กซี่อย่างร้ายกาจ เขาก้มกัดริมฝีปาก กัดข้างลำคออีกข้าง กัดบนหน้าอก ก่อนจะเริ่มสวนเอวหนักหน่วงจนผมเผลอไขว้ขารอบเอวเขาตามสัญชาตญาณ สะโพกที่ถูกยกสูงกระแทกกับโซฟาเป็นระยะตามแรงกดย้ำ ผมผวากอดเตโช ระบายความเสียวซ่านกับแผ่นหลังของเขา ร้องครางเสียงผะแผ่วเหมือนคนจะขาดใจ
“เต...เต...โช” ความอุ่นร้อนที่เสียดสีจนไฟแทบลุกทำให้ผมหลุดเรียกเขาเพื่อบอกว่า ‘จะไปแล้วนะโว้ย’ ยังดีที่เตโชเข้าใจ เลยรีบเร่งจังหวะ กระแทกกระทั้นตัวคลอนจนโซฟาสะเทือน ลามไปถึงรูปภาพที่แขวนด้านบนจนเกิดเสียงแกว่งไกวเป็นระยะ
ผมหลั่งออกมาเต็มหน้าท้อง ก่อนจะหอบหายใจเหนื่อยหนักเมื่อเตโชโอบสะโพกผมให้ขึ้นนั่งบนตักเขา โดยที่ส่วนนั้นของเรายังประสานแนบแน่น
“อีกรอบนะ”
ในตัวผมรับรู้ถึงของเหลวอุ่นๆ ยามฉีดพุ่ง แต่ถึงอย่างนั้นส่วนแข็งแรงที่ยังปึ๋งปั๋งนั้นก็ส่งสัญญาณพร้อมบุกหนัก ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากจับเขาจูบเป็นการตอบรับ ไล่เม้มไปรอบริมฝีปาก ขบลิ้นเขาเบาๆ เสริมสร้างความเร้าใจ ก่อนจะเป็นฝ่ายผวากอดรอบลำคอเขาแน่นเมื่อช่วงล่างถูกรุกรานอย่างดุดัน
“อีกรอบนะ”
จบอีกยกก็เริ่มอีกยกจนผมชักตาลาย คราวนี้ไม่ทันพยักหน้าตอบเตโชก็จับผมนอนคว่ำแล้วจับควบ โดนจุดกระสันอย่างจังจนผมตัวเหลวยอมให้กระทำตามใจชอบ เตโชคอยรั้งสะโพกผมไว้ กระแทกกระทั้นถนัดถนี่น่าดู ถึงได้สวนโครมสวนโครมจนตัวสะท้านสั่นระริกอย่างน่าสงสาร ผมจิกนิ้วกับโซฟาจนขึ้นข้อขาว ใบหน้าไถไปไถมาตามแรงโยกคลอนจนเส้นผมยุ่งกระเซิง
“อีกรอ...”
“พอแล้วโว้ย!”
พูดจบก็ยกเท้าถีบคนหื่นกามตกโซฟา ผมขดตัวด้วยความเจ็บร้าว โดยเฉพาะตรงช่องทางที่แสบๆ คันๆ แบบว่ามันๆ กำลังดี เอ๊ย ไม่ใช่! เอาเป็นว่าพอถีบเสร็จผมก็ชะโงกมองเตโชที่ล้มไม่เป็นท่า คนหน้ามึนลูบหลังปอยๆ มองผมอย่างตัดพ้อจนต้องถลึงตาใส่ว่าลองขออีกสิพ่อจะถีบของรักของหวงให้โงไม่ขึ้น!
เฮอะ ยอมเข้าหน่อยก็ยิงยาวเชียวนะ เปิดช่องว่างไม่ได้เลยจริงๆยังดีที่คนหน้ามึนรู้ลิมิตกลัวผมเข้ากองพรุ่งนี้ไม่ไหว หรือไม่ก็กลัวว่าตัวเองจะสูญพันธ์ เลยอุ้มผมเข้าห้องน้ำ ช่วยทำความสะอาดให้อย่างดีก่อนจะโอบประคองเข้าห้องนอน ห่มผ้าให้เรียบร้อย
“ทำอะไรน่ะ” ผมเงยมองเขางงๆ เมื่อจู่ๆ เตโชก็ลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น
“ลงโทษตัวเอง”
“ลงโทษทำไม” ผมจะขำก็ขำไม่ออกเพราะอยากให้คนหน้ามึนมานอนกุมมือกันมากกว่านั่งเป็นเงาตะคุ่มข้างเตียงอย่างนี้ มันน่ากลัวโว้ยไอ้บ้า!
“ลงโทษที่ทิ้งจิระไว้คนเดียว”
ผมหลุดหัวเราะพรืด ทั้งที่เป็นหัวข้อน่าหนักใจ แต่พอเห็นเขาจริงจังขนาดนี้ก็อดขำไม่ได้จริงๆ
“เมื่อกี้นายก็ขอโทษแล้วไง พอเถอะ มานี่ มานอนบนเตียงด้วยกัน”
เตโชส่ายหน้า มุ่งมั่นกับการทำโทษตัวเองมาก
“เจ้าตูบ ฉันสั่งให้มานอนก็นอน เดี๋ยวปั๊ดเกรี้ยวกราดใส่เลยนี่!”
เจอผมตวาดเข้าให้คนหน้ามึนเลยยอมปีนขึ้นเตียงแบบหงอยๆ ไอ้ความร้อนแรงเมื่อครู่คืออะไรกัน พริบตาเดียวคนข้างตัวผมก็เป็นตัวสล็อตเอื่อยเฉื่อยที่นอนตัวเหลวอยู่ข้างๆ
“มือล่ะมือ”
ผมแบมือวางหงายบนเตียง เดี๋ยวกำเดี๋ยวแบ เลียนแบบท่าทางคนหน้ามึนตอนป่วย และเขาเองก็คงจำได้ถึงมองผมด้วยสายตาลึกซึ้ง
“รักจิระ”
“รู้แล้วน่า” ผมเอ่ยเขินๆ ขณะประสานนิ้วแนบแน่นกับคนที่นอนตะแคงข้างเข้าหา สบสายตาด้วยความรู้สึกอบอวลชวนอุ่นวาบไปทั้งใจ “เช็กเมทจบแล้ว หลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรอยากดูอีก งั้นหลังเสร็จงานเมื่อไหร่ฉันไปเฝ้านายดีกว่า จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน”
เตโชเหมือนปาฏิหาริย์สำหรับผม
อย่าเพิ่งอ้วก เพราะผมก็อยากอ้วกเหมือนกัน แต่ไม่น่าเชื่อว่าแค่เห็นหน้ามึนๆ ของเขา เรื่องใหญ่จะกลายเป็นเรื่องเล็กทันที ความบ้าบอหนักอกหนักใจก็พลอยผ่อนลงด้วย
เพราะผมน่ะคิดมาก
เลยต้องอยู่คู่กับคนคิดน้อยอย่างเขานี่แหละถึงจะเหมาะสมกันที่สุด
“จิระจะเหนื่อย”
“ฉันขับรถไป นายขับรถกลับ พลัดกันเหนื่อย ค่อยๆ แบ่งเบากันไป ดีมั้ย”
“ดี” เตโชบีบมือผมเบาๆ “ดีมาก”
“ถ้านายว่างก็ต้องมาหาฉันที่กองนะ”
“ครับแฟน”
“อย่ามาเรียกแฟน มันจั๊กจี้!” ผมกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงเพราะขนลุกซู่ “แล้วจะกระเถิบเข้ามาทำไม ฉันไม่ได้ให้นายมาจั๊กจี้ ไอ้บ้า! ถอยออกไปเลย!!”
สรุปแล้วคืนนั้นผมเล่นเตะถีบกับเตโชอีกยก ก่อนจะต่างคนต่างเพลีย นอนจับมือซบกันยันเช้าตรู่
อย่า...อย่าเพิ่งคิดว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี
เพราะยังมีเรื่องสุดหักมุมต่อจากนั้นอีก
เรื่องราวเริ่มต้นในสองวันต่อมา เมื่อผมไปถามดาวว่าทำไมเธอถึงบอกเลิกกับนิฌานด้วยความหวังดีว่าจะช่วยเป็นกาวใจ แต่คำตอบของเธอกลับ...
“พูดอะไรน่ะจิ ดาวกับพี่ฌานไม่เคยคบกันนะ”
“แต่...ตอนนั้นไปดินเนอร์ด้วยกันนี่”
“ใช่ ดาวเคยไปกินข้าวกับพี่ฌาน แต่แค่ครั้งสองครั้งเอง”
“งั้น...เรื่องที่ตึกใบหยกก็...”
“ตึกใบหยกอะไรน่ะจิ ดาวไม่รู้เรื่อง”
ทุกอย่างเป็นอันเฉลย ผมเพิ่งเข้าใจถ่องแท้ถึงคำว่า ‘เจ้าคารม’ ผู้มีฝีปากคมคาย พลิกลิ้นว่องไวจากผิดเป็นถูก จากใช่เป็นไม่ใช่ จากเรื่องหนึ่งเป็นอีกเรื่องได้แจ่มแจ้งชัดเจนก็วันนี้
คำพูดที่คมสันเคยบอกผมดังแว่วขึ้นมาทันที
‘คุณจิระหลงกลแล้วครับ’...นิฌาน...พี่ฌาน
ไอ้ฌาน!!!!
-------------------------
เฉลยกันแล้วค่ะ เป็นไปอย่างที่หลายคนสงสัย นิณานแสร้งหลอกให้ตายใจกะจับกินเนียนๆ จากนิณานก็เป็นไอ้ณานกันเลย แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เพราะงวดนี้หนูจิมีแผนแก้เผ็ดที่ดีกว่านั้น เพราะ....
คนอย่างนิฌาน ชาญชัย ต้องเจอกับจิตริน ทองคำดี!!
เพจนักเขียนที่เอ็นดูเตโชเวอร์ชั่นเกรี้ยวกราดและจบท้ายด้วยการคุกเข่าทำโทษตัวเอง