ตอนที่ ๑๕
เด็กหนุ่มรู้สึกตัวเบาหวิวเหมือนลอยได้อยู่กลางอากาศราวกับมีปีกงอกสยายขึ้นมากลางหลัง เขาโผบินท่ามกลางแสงตะวันยามเย็นที่อาบไล้ไปทั่วผิวกาย จู่ๆเมฆดำทะมึนก็ปรากฏขึ้นห้อมล้อมตัวเขาแน่นจนหายใจแทบไม่ออก สองมือและสองขาพยายามตะเกียกตะกายออกจากหมอกสีดำนั่นแต่ทำอย่างไรก็ไม่หลุด
“ลินท์..” เสียงเรียกที่คุ้นเคยทำให้เขาสะดุ้งตื่น ดวงตากลมโตกระพริบตาปริบๆมองไปรอบห้อง หน้าต่างบานใหญ่มีแสงแดดลอดเข้ามาจนเขาเริ่มแสบตา ด้านข้างคือชลธีที่กำลังนอนกอดเขาแน่น แน่นเสียจนเขากระดิกตัวไม่ได้เลยสักนิด เจ้าตัวใช้สายตาแปลกๆจ้องมอง จนเขาต้องยกผ้านวมขึ้นมาปิดจนถึงต้นคอ “ฝันร้ายหรือ”
“ก็พี่กอดลินท์ซะแน่น นึกว่าจะหายใจไม่ออกแล้ว” เจ้าตัวบ่นอุบพลางใช้สายตาค้อนไปที่ชายหนุ่ม เวลานอนนายทหารหนุ่มจะไม่ชอบใส่เสื้อเว้นเสียแต่กางเกงผ้าแพรที่ชอบใส่ติดตัวเท่านั้น
“พี่ขอโทษ ก็ลินท์ตัวหอมนี่นา”
“คราวหลังลินท์จะไปนอนกับลูก แล้วให้พี่นอนคนเดียวแล้ว”
“โถ่ เมียจ๋า.. พอหายไข้แล้วเอาใหญ่ ทีเมื่อคืนยังอ้อนพี่อย่างนั้นอย่างนี้”
“โอ๊ย” ชายหนุ่มสูดปากด้วยความเจ็บเมื่อโดนคนรักทุบเข้าให้ “ตีพี่ทำไมครับเนี่ย”
“ชอบล้อลินท์ดีนัก”
เมื่อวานเขาไข้ขึ้งสูงจนชลธีต้องไปรับถึงมหาวิทยาลัย เพราะไม่ยอมไปโรงพยาบาลจึงโดนคนรักบังคับกินยาและเช็ดตัวให้จนเขาอาการดีขึ้น ส่วนไทเกอร์ถูกคุณยายสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้เพราะกลัวจะไข้จากเขา ทำให้เจ้าตัวเล็กร้องงอแงไม่หยุด จนต้องให้คุณยายพาเข้านอนแทน เห็นลูกร้องแล้วก็อดจะสงสารไม่ได้ เขาเลยตั้งใจว่าหากอาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เขาจะไปทำขนมให้ลูกชายทานเป็นของปลอบใจที่คุณแม่ไม่ไปเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนหนึ่งคืน ขณะที่กำลังจะลุกออกจากเตียงแต่ชลธีก็รั้งเอวเขาเอาไว้
“เดือนหน้าพี่ก็ต้องไปแล้ว” ใบหน้าคมคร้ามซุกเข้าที่หน้าท้องเขา นายทหารหนุ่มสูดดมกรุ่นกลิ่นคนรักที่ตัวเองชอบทำ ยิ่งรู้ว่าเมื่อตนเองจะต้องไปทำงานไกลก็อดจะคิดถึงคนรักไม่ได้
“เวลาผ่านไปไวจังเลยนะครับ”
“นั่นสิ” เขารั้งให้มุจลินท์ลงมานอนข้างๆ “ไม่ได้กอดเมียพี่คงเหงาแย่”
“กอดต้นไม้ไปก่อนนะครับ หึหึ” เจ้าลูกเป็ดหัวเราะเสียงใส อาการตัวร้อนไม่มีแล้วแม้จะยังตัวอุ่นๆอยู่บ้างก็เถอะ แต่พูดเสียงใสแจ๋วได้ขนาดนี้คงจะไม่เป็นอะไรมาก ชลธีคิดในใจหากเขาไม่อยู่สักคนใครจะดูแลครอบครัว จะฝากฝังใครที่ไว้ใจได้บ้าง
“ลินท์ไม่คิดถึงพี่เลยหรือ”
“คิดถึงสิครับ มีแฟนหื่นๆอยู่คนเดียว”
“รู้ได้ยังไงว่าพี่หื่น ยังไม่ทันได้พิสูจน์เลย” ชลธีไม่พูดเปล่าส่งนิ้วมือหนาเข้าไปในกางเกงผ้ายืดที่เจ้าลูกเป็ดชอบใส่นอน สะกิดปลายจุดอ่อนไหวที่กำลังแข็งตัวชูชันสู้มือเขา ร่างกายของคนเพิ่งหายป่วยไข้ยังคงอุ่นทำให้ส่วนนั้นร้อนผ่าว เขาลูบไล้จนน้ำสีใสไหลออกชื่นฉ่ำ
“ฮื่อ พี่ฉลาม..” เจ้าตัวมองสบตาเขา เม้มปากแน่นพยายามสกัดกลั้นอารมณ์ที่กำลังพุ่งขึ้นสูง ชลธียิ่งได้ใจรูดรั้งขึ้นลงเป็นจังหวะมากขึ้นจนลูกเป็ดต้องอ้าปากหอบครางแล้วยึดไหล่เขาไว้เป็นที่พึ่ง วงหน้าขาวซุกเข้ามาที่ไหล่หนาของเขาพร้อมทั้งใช้ลิ้นเลียดูดดึงผิวเนื้อเขาจนเป็นรอยแดง เขาช้อนร่างคนรักขึ้นมานอนทับตัวเอง ปลดกางเกงผ้าให้ลงไปกองที่ข้อเท้า มือที่ว่างใช้น้ำหล่อลื่นเมื่อสักครู่ทาให้ชุ่มนิ้วก่อนจะกดเข้าไปในรอยจีบสีชมพูที่กำลังเชิญชวนเขา มุจลินท์ร้องเสียงพร่า “เบาๆ..อ๊ะ พี่”
“เบาพอไหม” เขากดเข้าไปแค่หนึ่งนิ้วแช่แล้วหมุนควงจนมุจลินท์แหงนหน้าเริ่ดด้วยความเสียว นิ้วหนาผลุบเข้าออกเป็นจังหวะและรู้สึกได้ถึงแรงรัดถี่ที่กำลังบีบโอบนิ้วมือเขาอยู่ เขาค่อยๆถอนออกนิ้วออกอย่างเชื่องช้าแล้วสอดเข้าไปทีเดียวสองนิ้ว เด็กหนุ่มกระตุกเฮือกกัดริมฝีปากแน่นไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา “อย่ากัดสิ” เขาใช้นิ้วมือแทรกเข้าโพรงปากนิ่มให้เจ้าตัวเผยอรับก่อนจะดูดดึงจนเขาเองเริ่มจะรู้สึกปวดหนึบที่ช่วงล่างเหมือนกัน ลองได้เห็นเรือนร่างของคนรักที่กำลังคร่อมตัวเขาแถมยังส่งสายตาเชิญชวนอย่างนี้เป็นใครก็ไม่อาจจะทนไหว
มือขาวกอบกุมแก่นกายคนรักที่ดันนูนออกมาทิ่มจนรู้สึกได้ เจ้าตัวใช้สะโพกอวบถูไถเสียดสีจนชายหนุ่มต้องขบกรามแน่นบังคับตัวเองไม่ให้ลุกขึ้นไปจับลูกเป็ดกดลงกับเตียงแล้วฝังร่างเข้าไปเดี๋ยวนั้น
“อื๊อ...” เสียงครวญครางยั่วยวนพร้อมตุ่มไตสีสวยที่กำลังแข็งตึงเชิญชวนให้เขาขบกัด “จะออก..” เขามองคนรักที่กำลังสุขสมเพียงแค่ได้สัมผัสทางด้านหลัง เขาหยุดนิ้วก่อนจะดุนดันแก่นกายที่กำลังร้อนสวนเข้าไป “อ๊า..พี่.. เบาๆ.. อื๊อ” ลูกเป็ดแอ่นรับและดูดกลืนของเขาไปจนหมด ทิ้งตัวลงบนอกเขาพลางหอบหายใจถี่ กำมือทุบเข้ามาที่ไหล่เขาเบาๆพร้อมทั้งทำแก้มพองลมน่าเอ็นดู เขายิ้มแล้วกดจูบลงข้างแก้มซับเหงื่อข้างขมับให้มุจลินท์ก่อจะสวนตัวตนขึ้นไปจนสุด คนที่อยู่ด้านบนจิกไหล่เขาแน่น
“เบาๆหน่อยไม่ได้หรือ..อ๊า” ลูกเป็ดตอบเสียงพร่าพร้อมทั้งช่วยขยับสะโพกให้เข้าจังหวะ ยามที่ปลายแก่นกระแทกโดนส่วนที่ไวต่อความรู้สึก เด็กหนุ่มจะยิ่งโผเข้ากอดเขาแน่น “ฮื่อ ลินท์เสียว” ยิ่งได้ยินเสียงเมียร้องครวญครางยิ่งทำให้อารมณ์นายทหารฮึกเหิมปรับความเร็วจนร่างบางสั่นสะท้านและเสร็จสมทั้งๆที่ไม่ได้สัมผัสด้านหน้าเลยสักนิด
“เมียพี่น่ารักที่สุด” เจ้าลูกเป็ดหน้าแดงตัวแดงไปหมดแล้วทันทีที่สบตากับเขา “รักลินท์ที่สุดเลย”
“ฮื่อ.. คนบ้ากาม” เด็กหนุ่มก้มลงไปรับจูบหวานจากชลธี ยิ่งจูบดุดันมากเท่าไหร่ช่วงล่างก็ยิ่งสวนขึ้นมามากเท่านั้น นี่ชลธีจะฆ่าเขาให้ตายคาเตียงหรือไง
“บ้ากามแล้วรักไหมล่ะ” นายทหารหนุ่มมองคนรักไม่วางตา ดุนดันแก่นกายที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกตรงเข้าจุดอ่อนไหวทำให้เจ้าลูกเป็ดสั่นสะท้าน
“รักสิครับ” ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยริมฝีปากที่แวววาวจากการจูบ ลูกเป็ดกัดงับเข้าที่ใบหูคนรักแล้วกระซิบเสียงเบา “ก็มีอยู่คนเดียว”
“ลองมีหลายคนสิ.. พี่จะเล่นให้เดินไม่ได้เลย” พูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ เห็นมุจลินท์เหงื่อไหลหยดเป็นทางก็เอื้อมไปเช็ดให้ “เหนื่อยมั้ย”
“เหนื่อยสิ มีแรงเท่าไหร่พี่เล่นใส่มาไม่ยั้ง” ตวัดดวงตากลมโตมองเขาอย่างคาดโทษ แต่ก็ครวญครางอยู่ร่างกายเขาด้วยความเต็มใจ
เมียใคร.. น่ารักเป็นบ้า..“ฮ่าๆ ก็เมียพี่น่าฟัดเสียขนาดนี้”
“ฮื่อ” อดไม่ไหวก้มลงไปจูบอีกรอบ คราวนี้เรียวลิ้นกระหวัดดูดดึงจนเกิดเสียงดัง ชายหนุ่มอยากจะฝากรอยเอาไว้ทั่วร่างขาวที่เขาเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว ชลธีตวัดคนรักให้นอนพักบนเตียงบ้าง มองร่างขาวนวลที่นอนเปลือยกายตรงหน้าเจ้าฉลามน้อยก็ยิ่งแข็งแกร่งจนปวดหนึบ เขาก้มลงจูบต้นขาด้านใน ขบเม้มจนเป็นรอยแดงไปทั่ว มุจลินท์เขินอายจนอยากจะเอาหน้ามุดหมอนแต่ก็ละสายตาไปจากตรงหน้าไม่ได้เลย แก่นกายของเด็กหนุ่มที่เพิ่งเสร็จสมไปเริ่มแน่นตึงเป็นสัญญาณพร้อมบรรเลงเพลงรักอีกครั้ง ชลธียกยิ้มที่มุมปาก
ปัง ปัง ปัง“แม๊!! แม่อยู่ไหน” เสียงเคาะประตูจากหน้าห้องทำให้มุจลินท์หันขวับไปตามเสียง ได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกชายพลันทำให้อารมณ์ที่มีหดหายไปทันที “เกอร์จะหาแม่ ฮืออออ แม่จ๋า-----”
“ไทเกอร์ แม่อยู่นี่ลูก” มุจลินท์กระเด้งตัวขึ้นมารีบควานหาเสื้อผ้าที่เมื่อครู่ถอดทิ้งออกไปอย่างไม่ไยดี ตอนนี้สภาพห้องเหมือนเพิ่งเกิดสงครามขนาดย่อม เสื้อและกางเกงกระจัดกระจายไปทั่วจนไม่รู้ของใครเป็นของใคร “พอแค่นี้ก่อนนะพี่”
“เดี๋ยวลินท์!”
“พี่ไปทำเองในห้องน้ำแล้วกันนะ” เขาสวมเสื้อและกางเกงอย่างรวดเร็ว แล้วโยนกางเกงผ้าแพรขึ้นไปบนเตียงให้ชลธีใส่ “ลินท์ขอไปดูลูกก่อน ไม่งอนนะ”
ชลธีมองคนรักที่กุลีกุจอรีบเปิดประตูไปอุ้มลูกชายที่กำลังเบะปากร้องไห้โยเยขึ้นมาอุ้ม
“ไหนๆลูกชายแม่ลินท์ร้องไห้ทำไมครับ” ลูกชายโผเข้ากอดเขาแน่น น้ำหูน้ำตาไหลมารวมกันหมด “ไม่ร้องนะลูก เดี๋ยวให้คุณป๊าพาไปเที่ยวกันเนอะ”
“เกอร์ ฮึก.. เกอร์”
“ไม่ร้องนะครับคนดีของแม่” กดจูบลงแก้มป่องที่กำลังสะอึกสะอื้น “เช้านี้อยากกินอะไรครับ”
“กินข่ายยยยยย” เด็กชายกลั้นก้อนสะอึกแล้วตอบเสียงดัง “คุณไข่แดงแบบไม่สุกได้ไหมฮะแม่”
“ปะ เดี๋ยวแม่พาไปทำคุณไข่นะครับ เกอร์ต้องช่วยคุณแม่ปอกไข่ด้วย ดีไหมครับ”
“เย้ คูนแม่---”
เขามองเมียและลูกชายกำลังเดินออกจากห้องไปอย่างมีความสุข.. ส่วนเขากำลังค้างเติ่งกับฉลามน้อยเดียวดายแต่เพียงผู้เดียว
ยศสูงแค่ไหน.. เมียก็ใหญ่กว่าอยู่ดีชลธีหอบตะกร้าผ้าเปียกที่เพิ่งเอาขึ้นจากเครื่องซักผ้าวางแหมะตรงระเบียงด้านนอกที่มีราวตากผ้ายาวออกไป ลูกชายตัวกลมที่เดินตามเขามากำลังเล่นกิ๊ฟท์หนีบผ้าแล้วหันมายิ้มแฉ่งให้คุณพ่อที่วันนี้ต้องแปลงร่างเป็นพ่อบ้านหนึ่งวันเพราะคนรักไปเรียนที่มหา’ลัยแต่เช้า เขาต้องรับหน้าที่ดูแลบ้านทุกอย่างโดยมีคำสั่งจากลูกเป็ดว่าห้ามเรียกแม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาดเด็ดขาด
“นี่แน่ะ นี่แน่ะ” ไทเกอร์เอากิ๊ฟท์สำหรับหนีบผ้ามาหนีบขากางเกงคุณพ่อแล้วหัวเราะคิกคัก “หูยย เหมือนเม่นเยย”
“ไปนอนเล่นกับคุณยายก่อนนะครับลูก”
“ม่ายยย เกอร์อยากเล่นเครื่องบิน” เด็กชายตัวน้อยยกมือขึ้นสูง สองแขนป้อมอ้ากว้างส่งสายตาออดอ้อนให้คุณพ่ออุ้ม เด็กชายชอบที่คุณพ่ออุ้มขึ้นสูงๆโยกไปมาเหมือนนั่งเครื่องบิน
“งั้นรอคุณพ่อตากผ้า แปบนะลูก ถ้าป๊าทำงานบ้านไม่เสร็จเดี๋ยวโดนคุณแม่บ่น”
“คูนแม่ไม่บ่นหรอกฮะ คูนแม่ใจดีจะตาย” เด็กตัวกลมกระโดดโลดเต้น วิ่งไปหยิบกระดาษปั๊มดาวที่คุณแม่ให้เจ้าตัวเล็กปั๊มไว้แลกของเล่น อีกสองดวงไทเกอร์จะได้กันดั้มตัวใหม่ วันนี้จะต้องช่วยคุณพ่อทำงานบ้านแล้วให้คุณแม่ปั๊มดาวให้ได้
“ครับลูก งั้นนั่งรอคุณพ่อตรงนี้นะ พื้นมันเปียกเดี๋ยวหนูจะลื่นเอา”
“คับ!!” ตะเบ๊ะเลียนแบบรูปคุณพ่อที่ติดฝาผนัง ก่อนจะนั่งจุ้มปุ๊กตรงหน้าประตู “เกอร์รอนะ”
“ดีมากครับ”
“เกอร์รออออออนะป๊า” เด็กชายนั่งรอได้สักพักก็วิ่งเข้าไปในห้องแล้วออกมาเกาะประตูใหม่ “ป๊าค้าบ.. เสร็จยังอะคับ”
“แปบนะลูก เหลืออีกครึ่งตะกร้าแล้ว”
“ค้าบบบบบ” วิ่งหายเข้าไปในห้องอีกสามนาที“ป๊าคร้าบบบ เสร็จยังอะ”
“ครับๆ.. เดี๋ยวพ่อเก็บของก่อน” นายทหารหนุ่มรีบวางตะกร้าเก็บไม้แขวนเสื้อเสร็จก็อุ้มลูกชายขึ้นแนบอก หอมแก้มป่องของลูกชายทั้งซ้ายและขวาจนไทเกอร์ร้องจ๊ากเอาหน้าหนีเป็นพัลวันจนเขาตกใจ
“เป็นอะไรลูก”
“หนวดป๊าทิ่มแก้ม เกอร์จั๊กจี๋ คิๆ” เด็กชายย่นคอเอามือสั้นป้อมจับแก้มตัวเองก่อนจะหัวเราะคิกคัก
“เดี๋ยวเกอร์โตก็จะมีหนวดป๊ะป๋า” ชลธีหลุดหัวเราะมองลูกชายตัวแสบ “หล่อเหมือนป๊าไง”
“ทำไมคูนแม่ไม่มีหนวดมั่งอะ” ไทเกอร์จับแก้มคุณพ่อแล้วดึงไปมา “คูนแม่ตัวข๊าวขาว ไม่เห็นเหมือนป๊าเลย” จะว่าไปเมียเขาขาวเนียนไปทั้งตัวจริงๆ อยากได้ไปนอนกอดที่ค่ายทุกคืน..
“ป๊าทำงานไงลูก ต้องตากแดดทุกวัน”
“ทอทหารอดท๊น! ใช่ไหมฮะ” ตะเบ๊ะใส่คุณพ่ออีกรอบก่อนจะหันมากอด “เกอร์ชอบกอดคูนแม่ คูนแม่ตัวห๊อมหอม” พูดไม่ทันจบประโยคนิ้วสั้นก็ทิ่มเข้ามาตรงคอเขา “ตรงนี้ๆๆ คุณแม่ชอบโดนยุงกัดฮะ เกอร์จะตียุงให้ตายเลยมากัดแม่ลินท์” เขาสะอึกเบาๆ
“คูนพ่อต้องซื้อยามาฉีดนะฮะ เกอร์เห็นที่โรงเรียนเขามาฉีดยุง ยุงตายหมดเลยฮะ”
“ครับลูก” ชลธียิ้มแห้ง รู้สึกว่าลูกชายเขาจะตาดีเสียเหลือเกิน “เดี๋ยวป๊าจัดการให้นะครับ” อุ้มลูกชายวางที่โซฟา คุณยายกำลังนั่งเด็ดผักคะน้าเตรียมทำกับข้าวตอนเย็น
“ฝากเกอร์หน่อยนะครับ เดี๋ยวผมไปถูบ้านแปบเดียว” เขาวางแก้วน้ำอุ่นลงบนโต๊ะให้คุณยายได้จิบระหว่างวัน ส่วนลูกชายผุดลุกผุดนั่งทำท่าจะปีนลงมาจากโซฟา
“ไม่ต้องหรอกลูก เดี๋ยวลินท์ก็มา” คุณยายเงยหน้าขึ้นมาตอบ
“ไม่เป็นไรครับ ลินท์กลับมาเหนื่อยๆจะได้ไม่ต้องทำอีก”
“เกอร์ช่วยนะฮะ!” เด็กชายวิ่งมาเกาะขาเขาไว้หนึบเวลาเขาเดินก็เกาะไปด้วย ไทเกอร์หัวเราะเสียงใสชอบเล่นกับคุณพ่อเป็นที่สุด ยิ่งรู้ว่าคุณพ่อจะไปทำงานเด็กชายจะร้องไห้ไม่หยุด ชลธีรู้ว่าตัวเองไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกก็อยากจะดูแลลูกชายให้ดีที่สุด
“ช่วยอยู่เฉยๆสักสิบนาที ป๊าจะดีใจมากเลย”
“ให้เกอร์ช่วยเถอะน้า เกอร์ทำเป็น ”
“ถูพื้นเนี่ยนะลูก”
“เกอร์เห็นแม่ลินท์ทำบ่อยๆ แค่เอามาจุ่มน้ำแล้วก็ถูๆๆๆๆๆ” เจ้าตัวเล็กหัวเราะคิกคัก วิ่งเข้าไปหยิบไม้ถูที่ยังแห้งมาถูพื้นให้คุณพ่อดู ชลธีกุมขมับไม่รู้ว่ามุจลินท์เลี้ยงยังไงถึงทำให้ไทเกอร์อยู่เฉยๆได้
เขาและลูกชายช่วยกันถูพื้นอยู่ร่วมชั่วโมงกว่าจะเสร็จโดยให้เจ้าตัวเล็กเกาะหลังเอาไว้ เพราะเกรงว่าจะลื่นเอาได้ เด็กชายชอบใจเมื่อเห็นคุณพ่อถูบ้าน ชลธีอุ้มลูกชายที่มอมแมมเพราะลงไปกลิ้งกับพื้นหลังจากถูเสร็จจนต้องจับอาบน้ำ วิ่งไล่จับกันอีกครึ่งชั่วโมงเพราะไทเกอร์ไม่ยอมถอดชุดเก่งที่แม่ลินท์ซื้อมาให้ แถมยังชอบใจที่ได้วิ่งเล่นกับคุณพ่อ ชลธีไม่คิดว่าเลี้ยงเด็กจะยากขนาดนี้ เหลือบมองนาฬิกาเห็นเวลาเพิ่งจะบ่ายโมง ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกคิดถึงคนรักมากเป็นพิเศษ
“แม่บอกว่าผู้ชายจะมีช้างน้อย”
“หรอครับลูก”
“ช้าง ช้าง ช้างน้องเคยเห็นช้างหรือป่าววววว” เด็กชายตีฟองสบู่อยู่ในอ่างอาบน้ำโดยมีเขานั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง “ช้างมันตัวโตไม่เบา ตะหมูกยาวยาวววววววว”
“ดีๆลูก ฟองเข้าปากพ่อหมดแล้ว”
“มีหูมีงาหางยาววววววววววววว”
“ป๊าว่าเกอร์มีช้างน้อยไหมฮะ”
“มีสิครับ ผู้ชายทุกคนก็มีนั่นแหละ”
“แล้วป๊ามีไหมฮะ”
“มีสิ”
“ขอดูหน่อยฮะ!” เด็กชายลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังไปหาคุณพ่อ “หูวววววว ช้างน้อยตรงไหนฮะ แม่โกหก”
“ไม่ได้โกหกลูก เพราะว่าป๊าโตแล้วไงครับ”
“ถ้าเกอร์โต ช้างก็จะโตด้วยใช่ไหมฮะ” เด็กชายถามเจื้อยแจ้วพลางใช้มือจับช้างน้อยของตัวเองไปด้วย คนรักบอกเขาว่าเด็กวัยนี้เริ่มรู้ว่าตัวเองเพศอะไร เริ่มทำความรู้จักกับร่างกายของตัวเอง และจะสังเกตบทบาทของผู้เป็นพ่อเพื่อเลียนแบบพฤติกรรม เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ปิดกั้นหรือปิดบังแต่เราจะเรียนรู้กับลูกไปพร้อมๆกัน
“ใช่แล้วครับ ลูกชายป๊าเก่งมาก” เขาวักน้ำขึ้นมาลูบหน้าที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ ก่อนจะใช้น้ำล้างตัวลูกชายที่กระโดดโลดเต้นไปด้วยร้องเพลงช้างไปด้วย กว่าจะจับอาบน้ำแต่งตัวใส่เสื้อผ้าเขาต้องเสียเวลาไปอีกสองชั่วโมงเต็ม ตอนนี้เขารู้สึกล้าเหลือเกิน..
เมื่อไหร่เมียจะกลับมา ....มุจลินท์ถอดรองเท้าถุงเท้ายังไม่ทันเสร็จดีลูกชายสุดที่รักก็วิ่งมารับถึงหน้าประตู กว่าเขาจะถึงคอนโดก็เกือบสองทุ่มเข้าไปแล้ว เพราะมีงานที่มหาวิทยาลัยทำให้เขาต้องซ้อมการแสดงจนถึงเย็นทุกวัน ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนแต่กลับมาเจอลูกชาย เจอคนรักเขาก็มีแรงฮึดได้ทุกครั้ง เด็กหนุ่มกวาดสายตามองรอบห้อง วันนี้ห้องดูสะอาดกว่าปกติแถมยังเงียบกริบ ปกติชลธีจะนั่งดูสารคดีอยู่ที่โถงรับแขกจนกว่าเขาจะมาถึง ส่วนคุณยายคงเข้านอนไปเรียบร้อยแล้ว
“แม่! แม่ลีนนนนนน”
“จุ๊บ คนเก่ง ไหนคุณพ่อละครับ” หอมแก้มลูกชายดมกลิ่นแป้งหอมกรุ่น ใบหน้ากลมเต็มไปด้วยคราบแป้งเต็มไปหมด นี่คนรักเขาเอาลูกไปชุบแป้งทอดมาหรือ...
“ป๊าบอกว่าให้บอกแม่ว่าป๊าเหนื่อยมากเลยนอนหลับฮะ”
“หะ?” เขาชะงัก “อะไรนะครับลูก”
“ป๊านอนหลับฮะ”
“งั้นแม่ลินท์ไปเรียกป๊ามาทานข้าวก่อน หนูไปอยู่กับคุณยายนะครับ”
“ได้ฮะ!” เด็กชายรับคำเสียงใสมองคุณแม่ที่กำลังเดินเข้าห้องนอนไปพลางลูบท้องกลมที่เต็มไปด้วยข้าวผัดกุ้งจานโปรดที่คุณพ่อสั่งมาจากร้านอาหาร คุณพ่อกำชับว่าหากคุณแม่มาแล้วให้บอกว่าอะไรบ้าง คุณพ่อบอกว่าคุณพ่อจะทำน้องให้เกอร์ “ป๊า เร็วๆนะเกอร์อยากได้น้องแล้ววววววววววววววว”
คืนนั้น มุจลินท์ไม่ได้ออกมาจากห้องอีกเลย...มุจลินท์ใช้ทุกวันศุกร์ที่มีคาบเรียนแค่ช่วงเช้าเดินทางมาโรงเรียนของลูกชายหลังจากเรียนเสร็จ เป็นอันรู้กันในกลุ่มว่าเด็กหนุ่มได้เปลี่ยนสถานะจากพี่เลี้ยงเด็กมาเป็นคุณนายอย่างเป็นทางการเสียที ลูกเป็ดในชุดนักศึกษาถูกระเบียบค่อยๆเปิดประตูห้องเรียนชั้นอนุบาลเข้าไป ห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีกระดานไวท์บอร์ดสีขาวและโต๊ะยาวสีสันสดใสสำหรับให้เด็กๆนั่งเรียน ตอนนี้สมาชิกในห้องกำลังปรบมือร้องเพลงเสียงดังโดยมีคุณครูช่วยนำ เด็กน้อยในชุดนักเรียนกำลังโยกย้ายส่ายสะโพกน่าเอ็นดู มุจลินท์มองหาลูกชายที่กำลังกระโดดโลดเต้นอยู่กลางวง วันนี้ไทเกอร์ร้องเพลงเสียงดังพร้อมเต้นประกอบท่าทางเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นเต็มหน้าขาวแต่เจ้าตัวเล็กก็ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เก้าอี้ไม้สีครีมหลังห้องคือที่ประจำที่เขามักจะมาใช้นั่งมองลูกชายเสมอจนเหมือนเป็นกิจวัตรไปแล้ว พัฒนาการเด็กชายในวัยสี่ขวบสมวัยดี เริ่มหยิบจับดินสอวาดรูป จับช้อนเอง ติดกระดุมเอง ใส่รองเท้าเอง มันรู้สึกดีจริงๆที่เห็นลูกค่อยๆเติบโตขึ้น เขาไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกของคนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นมันเป็นอย่างไร เขาเติบโตมากับยายผู้ที่สั่งสอนเขาจนมาได้ขนาดนี้ จะเรียกได้ว่ายายเป็นทั้งพ่อและแม่ของเขาเลยก็ว่าได้
“สัตว์บก สัตว์ปีก สัตว์น้ำ” ทุกคนปรบมือร้องเพลงเข้าจังหวะ เขาแอบเผลอพึมพำขยับปากตามอยู่บ้างส่วนสายตาจดจ้องไปที่ลูกชายที่กำลังตั้งใจเล่นเกมทายชื่อสัตว์ เด็กๆหัวเราะกันสนุกสนาน เขามองแล้วอดจะยิ้มให้กับภาพตรงหน้าไม่ได้
เด็กช่างเป็นผ้าขาวสะอาด และบริสุทธิ์เสียจริงๆ “สัตว์ปีก!” คุณครูพูดจบเป็นอันว่าทุกคนหยุดร้องเพลง ลูกชายเขายกมือขึ้นสูงก่อนจะตะโกนตอบด้วยความมั่นใจ
“ปลาท๊องงงงงงงงงงงงงง”
พรืดดดดดดด เขาแทบกลั้นขำไม่อยู่ แต่ไม่อยากให้ลูกชายเสียกำลังใจ “ตอบใหม่สิครับ สัตว์ที่อยู่บนพื้นดินมีอะไรบ้าง” เจ้าตัวเล็กหันมามองเขา ดวงตาสีดำกลมโตส่องประกายวิบวับเมื่อเห็นแม่ ปากจิ้มลิ้มสีสดฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเกาหัวอย่างใช้ความคิด มีใครเคยบอกหรือเปล่าว่าเวลาลูกชายเขากำลังทำท่าเหมือนคิดอะไรบางอย่างช่างเหมือนคุณพ่อเสียเหลือเกิน
“แมววววววววววว”
“เย่ๆๆ” เมื่อคุณครูเฉลยว่าคำตอบถูกต้อง เพื่อนๆทุกคนก็ปรบมือกันเกรียวกราว ส่วนเจ้าลูกชายยิ้มโชว์กำแพงฟันที่หายไปสามซี่ไม่หยุด
“เก่งมากครับ” เขาปรบมือให้ลูกชายที่กำลังวิ่งมาหาเขา
“แม่ลินท์” เด็กชายวิ่งมากอดหมับส่วนอีกมือนั้นกำกล่องข้าวที่เขาใส่ข้าวผัดกุ้งไว้ให้เมื่อเช้า แต่ตอนนี้ในกล่องว่างเปล่าเสียแล้ว ไม่เสียแรงที่เขาตื่นมาทำให้ลูกชายทานทุกวัน
“หูย วันนี้ก็กินหมดอีกแล้วนะครับ” เขาชมเปาะพร้อมกับก้มลงไปฟัดแก้มยุ้ยที่กำลังแดงก่ำ
“แบ่งทอฟฟี่กินฮะ” ไทเกอร์หันไปชี้เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักผูกผมเปียที่กำลังมองมาทางนี้ “ทอฟฟี่บอกว่าข้าวผัดอาหย่อยม๊ากมาก”
“น่ารักที่สุดเลยคนเก่งของแม่” เขาจำเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนนั้นได้เมื่อครั้งที่มางานกีฬาสีของลูกชายคราวก่อน “มองแต่สาวอยู่นั่น ไม่สนใจแม่เลย” เจ้าลูกชายมัวแต่หันไปส่งยิ้มให้ก่อนกวักมือเรียกสาวน้อยขี้อายให้เข้ามาหาเขา
“ฮิๆ ทอฟฟี่ ๆ นี่แม่เรา” เด็กหญิงยกมือไหว้ก่อนจะปิดตัวเขินอายไม่ยอมมองหน้าเขา เอ.. หรือว่านี่จะแฟนของลูกชายเขาล่ะเนี่ย
“หนู.. ชะชื่อ ทอฟฟี่ค่ะ”
“พี่ลินท์นะครับ”
“เรียกแม่ลินท์ก็ได้” ไทเกอร์บอกเสียงดังอย่างภาคภูมิใจแล้ววิ่งเข้ามากอดเขาแน่น ทอฟฟี่ที่เขินอายยิ่งเขินเข้าไปใหญ่ก่อนจะเดินมากอดเขาบ้าง
เด็กๆน่ารักจริงๆ“เกอร์ ทำไมแม่เกอร์เป็นผู้ชายล่ะ” เด็กผู้ชายตัวอ้วนกลมและสูงกว่าลูกชายเขามากกว่าคืบที่อยู่แถวนั้นปรี่เข้ามาพร้อมกับถามอย่างใสซื่อ ไทเกอร์ที่กำลังกอดเขาหันไปมองขวับ
“ทำไมล่ะม่อน นายมายุ่งอะไรกับแม่เรา” เด็กชายหันไปบอกเสียงดัง “อย่ามายุ่งกับแม่เรานะ!”
“ม่อนถามเกอร์ดีๆนะ ทำไมต้องเสียงดัง เกอร์มีแม่เป็นผู้ชายจริงๆด้วย เกอร์มีแม่เป็นตุ๊ด เป็นตุ๊ด เป็นตุ๊ด” เด็กชายตัวอ้วนตะโกนเสียงดังจนเด็กๆในบริเวณหันมามองกันเป็นตาเดียว
“ตุ๊ดคืออะไร” เขากุมขมับกำลังจะรั้งเด็กชายให้เข้ามาหา แต่สองคนที่กำลังต่อล้อต่อเถียงไม่ได้ยินเสียงเขาที่กำลังห้ามเลยสักนิด
“ตุ๊ดคือผู้ชายที่อยากเป็นผู้หญิงไง”
“แม่เรามีช้างน้อย แม่เราไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย”
“เป็นผู้ชายแล้วจะเรียกว่าแม่ได้ไง ไอ้ตุ๊ด ไอ้ตุ๊ด”
ผลัวะ!!ไทเกอร์กระโจนใส่ฝ่ายตรงข้ามทันทีและเหตุการณ์เริ่มชุลมุนวุ่นวายหนักกว่าเดิมเพราะลูกชายของเขาใช้เท้าสั้นป้อมถีบเข้าไปที่จุดยุทธศาสตร์ของฝ่ายตรงข้ามอย่างแรงแล้วตามด้วยหมัดคนละตุ้บสองตุ้บแลกกันแบบไม่ยั้ง จนเขาปรี่เข้าไปรีบคว้าลูกชายออกมาแทบไม่ทัน ไทเกอร์ตัวสั่นกำหมัดแน่นจนเขาต้องพาไปนั่งคุยในที่ส่วนตัว
“เกอร์.. ”
“มันมาว่าแม่” เด็กชายน้ำตาคลอเบ้าตัวสั่นไม่หยุด
“ฟังแม่นะครับ แม่รู้ว่าหนูกำลังโกรธ หนูกำลังเสียใจใช่ไหมครับ”
“…” ไทเกอร์พยักหน้าพร้อมกับเม็ดน้ำที่กลิ้งมาบนผิวแก้ม เจ้าตัวรีบปาดมันทิ้งหนำซ้ำยังไม่ยอมส่งเสียงสะอื้นจนเขาอยากจะดึงเข้ามากอดเสียเดี๋ยวนั้น
“ถึงแม้เราจะเป็นผู้ชาย ต้องเข้มแข็ง ต้องอดทน แต่เราไม่ควรใช้ความรุนแรงกับคนอื่นนะลูก” อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะให้เด็กสี่ขวบหัดควบคุมอารมณ์ แต่เขาจะต้องอธิบายให้ลูกได้เข้าใจ
“ฮึก แม่”
“แม่รู้ว่าเกอร์ไม่ชอบ และเกอร์กำลังรู้สึกไม่ดี” เขาลูบผิวแก้มแดงของลูกชายแก้มซ้ายมีรอยถลอกเล็กน้อย ก่อนจะช่วยจัดเสื้อผ้าที่ไม่เรียบร้อยให้เข้าที่ “แล้วแม่ก็รู้ว่าหนูรักแม่มาก”
“ฮึก ฮือ”
“ใช่ไหมครับ”
“ระรัก.. ฮึก”
“ถ้าแม่โกรธที่เกอร์ดื้อแล้วแม่ตีหนู หนูจะชอบไหม”
“มะไม่.. ฮึก แม่อย่าตี” เสียงร้องเริ่มดังขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาพูดจริงจังและไม่ยอมกอดเหมือนทุกที แค่เห็นน้ำตาลูกไหลเขาก็แทบจะทำใจไม่ได้ ไม่อยากจะมองให้ตัวเองใจอ่อนโอ๋ลูก โอบอุ้มลูกอยู่เรื่อยไป
“เกอร์โกรธเพื่อนแล้วเกอร์ไปตีเพื่อนเขาแบบนั้น เพื่อนเขาก็คงไม่ชอบเหมือนกันนะครับ”
“เกอร์ ฮึก จะไม่ตีเพื่อนอีก” เด็กชายชูนิ้วก้อยเป็นเครื่องหมายสัญญาระหว่างเขา เขายื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวก่อนที่ลูกจะโผเข้ามากอดเขาแน่น ซุกซบไออุ่นร้องไห้จนเสื้อเขาชื้นแฉะเป็นวง น้อยครั้งมากที่เขาจะดุไทเกอร์และเลือกที่จะใช้วิธีพูดกับลูกด้วยความเข้าใจ ไทเกอร์เข้าใจที่เขาพูดในบางครั้งทำได้บ้างและทำไม่ได้บ้าง ไม่เป็นไร ตราบใดที่เขาได้มีโอกาสดูแล เขาจะทุ่มเททั้งกายและใจ หล่อเลี้ยงต้นกล้าหน่อเล็กต้นนี้ให้แข็งแรงเอง
“แม่รักหนูนะครับ” เขากดจูบลงกระหม่อมบางของลูกชายเบาๆ ดวงตากลมโตยังแดงก่ำเพราะร้องไห้ไปเมื่อครู่ “อยากให้หนูรู้เอาไว้”
“เกอร์รู้ฮะ”
“น่ารักจังคนดีของแม่” เขาจูงมือลูกชายเข้าไปเอากระเป๋านักเรียนในห้องเรียนหลังจากนั้นจึงพาไปขอโทษเพื่อนตัวโตกว่าที่กำลังร้องไห้จ้าเพราะเจ็บแก้มที่ลูกชายเขาไปต่อยจนฟันน้ำนมที่กำลังโยกนั้นหลุดออกมา เห็นตัวน้อยๆแต่แรงไม่น้อยเลยจริงๆ มุจลินท์พาลูกชายกลับบ้านทันทีไม่ได้แวะซื้อของเหมือนอย่างเคย จนกระทั่งเมื่อเจ้าตัวเล็กกำลังถอดเสื้อผ้าใส่ลงตะกร้าเตรียมอาบน้ำนั่นแหละ คุณพ่อตัวโตถึงได้เห็นรอยถลอกตามตัวลูกชายเต็มตา คิ้วเข้มถึงได้ขมวดเป็นปมแน่น คล้ายกำลังมีคำถาม
“เกอร์.. ไปทำอะไรมาครับ”
“ฮะป๊า” ตัวแสบถอดกางเกงลิงที่ม้วนขดเป็นเลขแปดแล้วเดินต้วมเตี้ยมไปหย่อนใส่ตะกร้า เขาเห็นแล้วอมยิ้มเบาๆดูสองพ่อลูกกำลังคุยกัน “เกอร์เป็นนักรบฮะ”
“หือ?”
“เป็นนักรบก็ต้องมีบาดแผลไงฮะ” เด็กชายชูแขนขวาขึ้นทำท่าเบ่งกล้ามเหมือนซุปเปอร์แมน “เกอร์จะปกป้องแม่ลินท์เอ๊งงงงงง”
“เก่งมากครับลูกชายป๊า” ชลธีอุ้มลูกชายแนบอกหัวเราะคิกคักกันสองคนไม่หยุด
เขารู้แล้วว่าตัวแสบได้นิสัยมาจากใคร… TBCมุ้งมิ้งๆ //เอาความหวานมาฝากค่ะ <3