บทที่ 12 ฮันนีมูน(2) เมื่อทั้งสองปรับความเข้าใจกัน ระหว่างรอเวลาไปดูสัตว์ตามเวลานัดหมาย จิณณ์เลือกจะชวนอิสระถามเรื่องราวเพิ่มเติม เผื่อมีบางเรื่องที่จิณณ์ไม่รู้ เขาจะได้เข้าใจตัวตนคนรักได้มากขึ้น
จนกระทั่งถึงเวลาในยามค่ำ ทั้งสองเดินไปจุดนัดหมาย มีเจ้าหน้าที่ขานเบอร์ที่ระบุในตั๋ว จิณณ์และอิสระเดินไปยังรถกระบะ ปีนขึ้นไปนั่ง โดยข้างหลังมีเด็กน้อยคอยยืนส่องไฟอยู่
เมื่อรถเคลื่อนตัว ก็สัมผัสได้ถึงอากาศหนาวเย็นจนอิสระนั่งขดตัว จิณณ์ที่นั่งซ้อนหลังอิสระสังเกตเห็นจึงกางผ้าห่มที่พกมาเพื่อคลุมตัวทั้งสองคน
"หายหนาวไหม?" เหลียวมองคนถามที่ทำสายตากรุ้มกริ่ม พลันเหลือบมองเด็กวัยประถมที่ยืนส่องไฟเหล่มาเป็นระยะๆ
"ก็ดีขึ้นครับ พี่จิณณ์ มีเด็กอยู่ตรงนี้ด้วยนะ"
บอกห้ามทันทีที่พี่จิณณ์วางคางเกยบ่า เอียงหน้ามอง ก็รู้นะว่าหนาว แต่ไม่ต้องใกล้ชิดกันขนาดนั้นก็ได้
จิณณ์จ้องมองเด็กน้อยด้วยสายตาดุดัน จนเด็กกลัวรีบหันกลับไป ทันใดนั้น...
จิณณ์ใช้มือหนึ่งจับท้ายทอย ส่วนมืออีกข้างวางทาบบนใบหน้าอิสระเพื่อจะประกบจูบได้อย่างถนัดถนี่
จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ...
และไม่ใช่การจูบแบบปากแตะปาก แต่เป็นจูบดูดดื่ม ลึกซึ้ง แต่ไม่นาน จิณณ์ผละออกจากกัน
"เป็นการมาฮันนีมูนที่มีความสุขจัง ได้นั่งรถเปิดประทุน ชมวิวด้วย"
มองหน้าคนพูดเพ้อเจ้อแล้วหน่ายใจ
"พี่จิณณ์อะบ้าที่สุดเลย คิดจะทำอะไรก็ทำ แล้วมาพูดเป็นตุเป็นตะว่าฮันนีมูนอีก"
"ฮ่าๆๆ...เอาน่า มันคือความสุขของพี่"
หลุดยิ้มเมื่อพี่จิณณ์เกาจมูกแก้เก้อและดูเขินที่เล่นมุกอะไรไม่เข้าท่า อิสระจึงหันตัวกลับไปมองหาสัตว์ที่เผื่อจะย่างกรายออกมาให้ยลโฉม จากนั้น ทั้งสองนั่งกอดกันภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวไปตลอดทาง
และแม้ว่าการส่องสัตว์รอบนี้จะผิดหวังนิดหน่อย เพราะไม่เห็นอะไรนอกจากกวาง แต่น่าแปลกที่ทั้งคู่กลับมีความสุขที่ได้นั่งรับลม ตากอากาศในบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ
เสร็จภาระกิจ อิสระและจิณณ์เดินส่องไฟฉายกลับมายังที่พักตนเอง กระทั่ง เดินมาใกล้เต็นท์แล้วทั้งสองเห็นวัยรุ่นนั่งก่อกองไฟล้อมวง ปิ้งย่างและนั่งร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน
จังหวะนั้น อิสระประสานสายตากับป้างที่หันมามองทางเขาพอดี ป้างยักคิ้ว และส่งรอยยิ้มเจ้าชู้แกมทะเล้นในขณะที่เล่นกีตาร์อยู่ ทำให้อิสระเผลอหลุดยิ้มไปโดยไม่คิดอะไร เพียงเพราะรู้สึกว่าป้าง มีความคล้ายมัตถ์ราวกับเป็นพี่น้องกันอย่างไรอย่างนั้น
"อิสครับ!"
"ครับ?" เพียงหันไปเห็นหน้าพี่จิณณ์ที่ดูนิ่งกว่าตอนแรก และหรี่ตามองเหมือนจับผิด อิสระรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน
"ผมไม่ได้คิดอะไรกับป้างนะ"
จังหวะนั้น...
ป้างตะโกนเรียกทั้งสองให้มานั่งร่วมวงด้วยกัน
อิสระส่ายหน้าปฏิเสธทันทีเพราะกลัวพี่จิณณ์น้อยใจ ขณะเดียวกัน จิณณ์กลับพยักหน้ารับและดันแขนอิสระให้เดินนำไป
แปลกใจว่าทำไมรอบนี้พี่จิณณ์ตอบรับ แต่อิสระไม่อยากชวนทะเลาะจึงตามใจ
เด็กๆต่างยิ้มแย้มเป็นมิตรและแหวกที่ แหวกทางให้สมาชิกใหม่ได้นั่งรวมวงด้วยกัน
นั่งไม่ทันไร เด็กสาวยื่นแก้วพลาสติกบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาให้ทั้งสอง จิณณ์และอิสระต่างรับมาดื่มเพื่อไม่ให้เสียมารยาท
พอนั่งรวมกลุ่ม ถึงได้รู้ว่าป้างเป็นคนคุยเก่งมาก จึงไม่แปลกใจที่ป้างถึงกล้าชวนพวกเขาคุยทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน เพราะเด็กหนุ่มมีความเป็นมิตรสูง และช่วงที่ป้างเล่นมุข แซวเพื่อนตัวเองอย่างทะลึ่งตึงตัง ทั้งกลุ่มก็หัวเราะครืน แต่จังหวะที่คนอื่นๆขำก๊ากกัน อิสระเห็นความแตกต่างชัดเจน ก็คือ หญิงสาวในกลุ่มไม่ได้มีอารมณ์ร่วมตาม เอาแต่จ้องพี่จิณณ์อย่างไม่ละสายตา
เห็นอย่างนั้น จึงทำทีหันไปมองทางพี่จิณณ์อย่างเนียนๆ ก็เห็นพี่จิณณ์มองผู้หญิงคนนั้นกลับเช่นกัน และเป็นพี่จิณณ์เองที่เบนหน้าหนีก่อน...
พี่จิณณ์ก็รู้ว่ามีคนแอบมอง...
แล้วทำไมใจต้องวูบหวิวขึ้นมาด้วยก็ไม่รู้ อิสระเม้มปากเงียบ พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
อย่าบอกนะที่อยู่ดีๆอาการอิสระเปลี่ยนไป เพราะหึง
แม้จะเปลี่ยนบทสนทนา แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ตั้งใจมองคนรักของอิสระอย่างให้รู้ว่า...ชอบ...
อิสระซดเบียร์หมดแก้ว ก่อนจะสะกิดน้องที่นั่งข้างกันให้รินเบียร์ต่อ จิณณ์ที่เห็นแฟนตัวเองกระดกเบียร์ไปเมื่อสักครู่ถึงกับตกใจ ยกมือแตะแขน
"อิส ไหวหรอ? พอก่อนไหม? เดี๋ยวเมานะ"
"ไม่เป็นไรครับ นานๆที ให้ผมได้ผ่อนคลายบ้าง"
"ตามใจครับ" เมื่อเวลาผ่านไป อิสระก็อยากดูท่าทีแฟนตัวเองเหมือนกันว่าสนใจหรือเล่นด้วยกับผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า? อิสระหันไปมองพี่จิณณ์ปรากฏว่า พี่จิณณ์พยายามก้มหน้า บ้างก็มองไปยังทิศทางที่ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่
ฟึ่บ!
ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วเป็นปม เมื่อจู่ๆอิสระดึงมือจิณณ์ไปวางบนตัก เอนหัวซบไหล่จิณณ์ ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้หันมองเป็นตาเดียว
"หืม!..อิสเมาแล้วใช่ไหม?" แปลกใจที่อิสระกล้าแสดงออกต่อหน้าคนอื่นกลางที่สาธารณะ
"เมา-ไม่เมาแล้วทำไมครับ? พี่จิณณ์ไม่อยากให้อิสทำแบบนี้หรอ?"
เดี๋ยวก่อนนะ...จิณณ์ถึงกับอึ้ง และงงเป็นไก่ตาแตกที่เห็นอิสระเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ มิหนำซ้ำยังกล้าเล่นหู เล่นตา พูดจาออดอ้อนกว่าทุกที จิณณ์ชักมือกลับและลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
"ดีใจที่ได้รู้จักกับพวกน้องๆนะ แต่ต้องขอโทษด้วย พรุ่งนี้พี่ต้องเดินทางกลับแต่เช้า ขอตัวก่อนนะครับ"
อิสระยังไม่อยากกลับเข้าเต็นท์เลย เพราะอยากแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของพี่จิณณ์ให้ผู้หญิงคนนั้นได้รับรู้มากกว่านี้หน่อย แต่พอพี่จิณณ์มัดมือชกลากอิสระให้ไปด้วย อิสระยิ่งเข้าใจผิดคิดว่าพี่จิณณ์ไม่ชอบที่อิสระเปิดเผยว่าทั้งสองคบกันแบบคู่รัก
เข้าเต็นท์มาได้ อิสระที่ตามมาทีหลัง รูดซิปเต็นท์ หมุนตัวหันไปก็เห็นพี่จิณณ์นั่งขัดสมาธิ-กอดอกจ้องมองอิสระด้วยแววตาเหมือนไม่พอใจ ก็ไม่รู้หรอกว่าโกรธเรื่องอะไร แต่อิสระหาทางง้อด้วยวิธีที่คิดว่าพี่จิณณ์หายโกรธแน่ๆ
กัดปากอย่างยิ้มๆ ปีนขึ้นไปนั่งคร่อมตัก สองมือโอบรอบคอ กดหน้าลงซบบ่าพี่จิณณ์และค่อยๆใช้ปากหยอกเย้า คลอเคลียซอกคอพี่จิณณ์ จนคนตัวโตหายใจผิดจังหวะ รีบตัดบทถาม
"เมาใช่ไหม? อิสไม่เคยเป็นแบบนี้"
"ทำไมล่ะครับ พี่จิณณ์ไม่ชอบหรอ?" ถามเสียงยั่ว
"ใช่ครับ...พี่ไม่ชอบ" เด็กหนุ่มรีบผละมาจ้องตาคนรัก กระพริบตาปริบๆ ทำหน้าน่าสงสาร ฟากจิณณ์พยายามข่มใจ กลืนน้ำลายอยู่หลายรอบ เมื่อคนนั่งตักขยับตัวไปมาจนแก่นกายเขาเริ่มตื่นตัว
เหตุที่จิณณ์ไม่ชอบ เพราะเวลาอิสระเมา ใบหน้าของเด็กหนุ่มโคตรยั่วยวนเลย และจิณณ์ก็ไม่อยากให้เด็กชื่อป้างได้เห็น จึงรีบลากอิสระเข้ามาในเต็นท์ แต่พอเข้ามาจิณณ์แทบบ้า เมื่ออิสระกำลังยั่วจนเขาจะตบะแตก
คิดอยู่ในหัวสมองว่าจะขอน้องดีๆหรือปล้ำซะเลย...เมื่อจิณณ์ทนไม่ไหวแล้ว
ขณะที่คิดอยู่ ไม่กี่นาทีถัดมาจิณณ์เหวอที่อิสระเป็นฝ่ายโน้มหน้ามาประกบจูบเขาก่อน
ไม่คิดว่า พอน้องเมา จะเปลี่ยนเป็นคนละคนขนาดนี้ น้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนทุกอย่าง น้องจูบอ้อยอิ่งเหมือนแกล้ง มือก็อยู่ไม่สุข สอดเข้าใต้กางเกงขายาวของจิณณ์หยอกล้อกับแก่นกายของคนตัวโต ลูบไล้ช้าๆจากโคนถึงปลาย
ในขณะที่มือยังคงลูบคลำของสงวน อิสระถอนริมฝีปากมามองคนรักด้วยสายตาหวานฉ่ำ
"ให้อิสได้ลองบ้างนะ" โอ้ย! อิสระจะรู้ไหมว่าการเล่นหู เล่นตา ขยับโยกตัวไปมาบนตักของเขา โดยยังไม่ทำอะไรไปมากกว่านี้ จิณณ์ก็แย่แล้ว
"มั่นใจนะว่าจะทำให้พี่"
ทำเป็นถามย้ำและวางฟอร์มนิ่งไปอย่างนั้น เพราะกลัวอิสระจะตกใจถ้าเขาแสดงความหื่นกระหายมากเกินไป
"มั่นใจครับ" แม้อิสระไม่ช่ำชอง เชี่ยวชาญขนาดรู้งานไปทุกอย่าง แต่ความใสซื่อของอิสระนี่แหละที่ทำให้จิณณ์หลงรักจนโงหัวไม่ขึ้น จังหวะที่ปากเด็กหนุ่มครอบลงจนสุดแก่นกาย ขยับขึ้นลงช้าๆพร้อมหยาดน้ำใสไหลเยิ้มจนชุ่มด้วยแล้ว มันยิ่งกระตุ้นให้จิณณ์เสียวซ่าน วาบหวามจนไม่สนใจว่าเสียงจะดังรอดไปถึงข้างนอกหรือไม่?
"ซี้ดดด...อาห์ อิส...อาห์..." ลืมตามามองใบหน้าน้องที่แดงก่ำขยับปากและศรีษะไปตามจังหวะขึ้น-ลงส่งผลให้คนที่โดนกระทำมีอารมณ์มากขึ้น มือหนากดล็อคศรีษะเด็กหนุ่มไว้มั่น แอ่นสะโพก และกระแทกตามจังหวะของตัวเองเร็วขึ้นเรื่อยๆ ไม่กี่นาทีถัดมา จิณณ์ก็ถึงฝั่งฝัน ปลดปล่อยความสุขที่ถึงจุดสูงสุด
แค่ก...แค่ก...แค่ก
ตั้งใจให้เด็กหนุ่มรับน้ำของความสุขโดยไม่ยอมบอกก่อนว่าจะสำเร็จความใคร่ พอเด็กหนุ่มผละออกมานั่งเช็ดปากตัวเองลวกๆ จังหวะที่อิสระเอามือออก เลียริมฝีปากตัวเองที่เลอะคราบน้ำสีขาวขุ่น ไหนจะใบหน้าแดงจัดที่ลามไปถึงหู จิณณ์อยากฟัดจนทนไม่ไหว กระเถิบตัวไปใกล้ ดันไหล่อิสระนอนราบกับพื้น จิณณ์โน้มตัวลงตามทาบ ทับบนตัวอิสระ ขบเม้มลงบนต้นคอร้อนผ่าว พลางไล้ปลายนิ้วผ่านเนื้อผ้าจนถึงท้องน้อยถึงจะค่อยสอดมือเข้าใต้เสื้อยืด ลากวนไปมาพร้อมเอ่ยเสียงกระซิบ
"อิสทำให้พี่แล้ว พี่ทำให้อิสบ้างนะครับ"
กัดปาก อมยิ้ม มองพี่จิณณ์อย่างอายๆ จากนั้น อิสระวางข้อศอก ดันกายขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอน ยกมือลูบใบหน้าคนหล่อและพูดเสียงเล็ก เสียงน้อย...
"อิสอยากได้ของพี่มากกว่า"
กึก!
ดวงตาเบิกโต อ้าปากค้างเมื่อได้ยินคำพูดตรงไปตรงมาอย่างไม่มีอ้อมค้อม
ก็ถ้าอิสระจะอนุญาตขนาดนี้...มีหรือจิณณ์จะขัดใจ เพราะมันเป็นสิ่งที่จิณณ์โหยหาเช่นเดียวกัน
"ได้สิครับ ระวังจะติดใจนะ"
ไม่พูดพร่ำทำเพลง จิณณ์บรรจงขมเม้มริมฝีปากช่างพูดนั้นทันทีราวกับว่ามันคือของหวานที่อยากละเลียด เล็ม ลิ้มรสอย่างเชื่องช้า แต่ทว่า อารมณ์ภายในกลับตรงกันข้าม มันร้อนรุ่มจนอ้อยอิ่งไม่ไหว
ไม่กี่วินาทีถัดมา การจูบละมุนก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นจูบดูดดื่ม หนักหน่วง เร่าร้อน จนลูกชายของทั้งสองตื่นตัว ขยายขนาดโตเต็มวัยพร้อมสู้
เพราะเตรียมการมาดีเหมือนรู้ มือหนาควานสะเปะสะปะหากระเป๋าใบเล็กที่วางใกล้หมอน คว้าของสำคัญบีบใส่มือตัวเอง จากนั้น คนเชี่ยวชาญ ยกขาเรียวของเด็กหนุ่มชันเข่า ก่อนจะใช้นิ้วสอดแทรกประตูหลังช้าๆ เมื่อเด็กหนุ่มคลายความเกร็ง จิณณ์เพิ่มนิ้วจากหนึ่งเป็นสอง ขยับเข้าออกซ้ำๆ อิสระสุขซาบซ่าน และเสียวกระสันจนหลุดเสียงร้องครางลั่นเต็นท์
จิณณ์ยกยิ้มชอบใจที่ทำให้คนรักออกอาการ เล้าโลมอยู่นานจนทุกอย่างเป็นใจแล้ว
กิจกรรมแห่งรักก็เกิดขึ้น
แหละเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองมีเซ็กซ์กัน ทว่า มันไม่ใช่เซ็กซ์แค่กายต้องการเพียงอย่างเดียว แต่เพราะหัวใจก็ถวิลหาด้วย มันจึงเป็นเซ็กซ์ที่เติมเต็มความรักได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ท่วงท่า จังหวะจะโคน การสัมผัสกันเนื้อแนบเนื้อ ไออุ่นจากกาย ไหนจะลมหายใจที่เป่ารดกันยิ่งทวีคูณให้การร่วมรักกันครั้งนี้ แฮปปี้อย่างที่ทั้งสองไม่เคยรู้สึกดีขนาดนี้มาก่อน
โดยเฉพาะยิ่งได้ร่วมรักกันในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ยิ่งสร้างความแปลกใหม่ ตื่นเต้นและมันยังไปกระตุ้นอะดรีนาลินทำให้รู้สึกเสียวกระสัน ซาบซ่าน เร้าใจ เร่าร้อนทั้งคู่เป็นอย่างมาก
จิณณ์คิดว่า คืนนี้ เขาจะต้องทำให้อิสระประทับใจและจดจำไม่ลืมแน่นอน และที่สำคัญ มันไม่มีทางจบแค่รอบเดียวแน่ๆ...
.............
พักแรมแค่คืนเดียว ดูเหมือนทั้งสองจะรักและเปิดเผยกันมากขึ้น
และแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับกรุงเทพ
ตั้งแต่นั่งรถกลับมา คนที่ไม่ยอมหันไปทางคนขับ เอาแต่มองออกไปนอกกระจกรถก็มีแต่อิสระที่เขินเมื่อนึกเรื่องเมื่อคืนที่หึงพี่จิณณ์ จนไปอ่อยเขาก่อนและยอมมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง พอตอนเช้า พี่จิณณ์เอาแต่ส่งสายตาล้อเลียน แถมแซวเรื่องตอนมีเซ็กซ์กัน ว่าเสียงของอิสระร้องดังจนเล็ดรอดออกไปนอกเต็นท์ เพราะมีคนข้างนอกตะโกนว่ากลับมา ทำให้อิสระยกมือปิดหน้าด้วยความอาย ฟากจิณณ์ระเบิดหัวเราะอย่างหยุดไม่อยู่
"เมื่อคืนพี่มีความสุขมากเลย โดยเฉพาะตอนที่..." เป็นเรื่องที่แซวได้ยันลูกบวช แม้จะได้นอนแค่สามชั่วโมงก็ต้องเดินทางออกจากเขาใหญ่ แต่สำหรับจิณณ์บอกเลยว่ามีความสุขและคุ้มค่ามากๆ
"พี่จิณณ์ หยุดพูดนะ!"
มันเป็นบทเรียนสอนใจเลยว่าอิสระจะไม่เอาความงี่เง่าหึงหวงบ้าบอ มาเป็นประเด็นอีกแล้วก็ยอมรับว่าตัวเองเริ่มก่อน แต่ก็ไม่คิดหรอกว่า ความเมาจะทำให้อิสระกล้ามีเซ็กซ์กันในเต็นท์ ทั้งๆที่รายล้อมไปด้วยเต็นท์คนอื่นๆอีกนับสิบ แหละในช่วงเข้าด้าย-เข้าเข็ม ใครจะอดทนกลั้นอารมณ์ตัวเองไหว จึงมีบ้างที่อิสระเผลอร้องเสียงดังออกไป ไม่แปลก ที่ตื่นขึ้นมาอิสระรีบไล่พี่จิณณ์ให้เก็บข้าวของ เก็บเต็นท์โดยไวที่สุด ก่อนที่คนในเต็นท์รอบข้างจะตื่นกันขึ้นมา
"อิสอายทำไมครับ เราเป็นแฟนกันนะ เรื่องแบบนี้มันปกติ เดี๋ยวครั้งต่อไปก็ชิน"
"ไม่เอาแล้ว ผมไม่เอาด้วยแล้ว..."
"ฮ่าๆ...ถ้าอิสหึงพี่แล้วเป็นแบบนี้ พี่ทำให้อิสหึงบ่อยๆดีกว่า"
ใช่...พี่จิณณ์รู้แล้วว่า การยั่วยวนของอิสระเมื่อคืนเกิดจากการหึง เพราะอิสระหลุดพูดความจริง
"พี่จิณณ์ เมื่อไหร่จะเลิกแซวเนี่ย ผมอายนะครับ"
"โอ๋ๆ...ก็ได้ครับ แล้วสรุปเราจะไปบ้านป้าอิสคืนนี้เลยใช่ไหม?" จิณณ์รู้เรื่องที่อิสระเจอญาติตัวเอง เพราะอิสระเล่าให้ฟังตั้งแต่เมื่อวานช่วงขับรถไปกินข้าว
"ใช่ครับ ป้านันอยากเจอพี่จิณณ์"
"เพราะ?"
"เพราะป้านันรู้ว่าพี่จิณณ์เป็นคนช่วยผมไงครับ"
"ป้าอิสเห็นคงตกใจแน่ๆ คนอะไร...นิสัยดีแล้วยังหล่ออีก" หันขวับมองแฟนตัวเอง ที่กล้าเล่นมุขชมตัวเองอย่างมั่นใจ ดูเหมือนเมื่อคืน จะเป็นจุดเปลี่ยนหลายๆอย่างรวมถึงการแสดงตัวตนของทั้งคู่ก็ชัดมากขึ้นเช่นเดียวกัน
"พี่จิณณ์ไปเอาความมั่นใจนี่มาจากไหนครับ คิดเองใช่ไหม?" อิสระแกล้งเหน็บ มองคนยิ้มมุมปากก่อนตอบ
"คิดเองไหมไม่รู้ แต่เมื่อคืนก็มีคนหึงพี่ที่มีน้องผู้หญิงแอบมองพี่ จนต้อง..."
"พี่จิณณ์ พอเลยครับ...โอเคๆ ผมไม่เถียงแล้วก็ได้ พี่จิณณ์หล่อมากและนิสัยดีสุดๆ พอใจรึยังครับ" พอเห็นคนรักประชด จิณณ์หลุดหัวเราะอีกรอบ และหยุดแซวกลับเพราะเหนื่อยจะโต้เถียง
แต่เอาจริงๆ จิณณ์ก็ชอบช่วงเวลาสบายๆแบบนี้เหมือนกัน ช่วงเวลาที่คุยเล่นกันอย่างไม่ต้องมีเรื่องให้กังวล ว้าวุ่นใจอีก
"พี่รักอิสนะ" โคลงศรีษะจ้องมองคนอายุมากกว่าที่อยู่ดีๆก็เปลี่ยนบทมาโรแมนติกไม่บอก ไม่กล่าว
"ผมก็เหมือนกันครับ"
"ถ้าวันนั้น พี่ไม่ไปหาคุณอิทธิพลกับพ่อ พี่ก็คงไม่ได้เจออิสและรักกันแบบนี้เนอะ..." นึกเรื่องราวเก่าๆก็อมยิ้ม นั่นสิ ถ้าพี่จิณณ์ไม่มาช่วยอิสระ เขาจะได้รับความรักดีๆแบบนี้ไหมนะ?
"ใช่ครับ ไม่น่าเชื่อเหมือนกัน ถ้าพี่ไม่ช่วยผม เราก็คงไม่มีโอกาสได้เจอได้สานสัมพันธ์กันต่อ ผมอยากรู้วันนั้น ทำไมพี่ถึงตัดสินใจช่วยผมหรอครับ?"
"บอกไม่ถูกเหมือนกัน รู้แค่ว่า ถ้าตอนนั้นพี่ไม่ช่วย พี่จะรู้สึกไม่สบายใจ"
"ทั้งๆที่พี่ไม่รู้จักตัวตนผมมาก่อน พี่ก็ยอมเสี่ยงตายมาช่วย?" อิสระถามย้ำ
"อาจเป็นเพราะพี่รู้อนาคตมั้งครับว่าพี่จะมีคนรักที่น่ารักแบบนี้ เลยคิดว่าคุ้มที่จะเสี่ยง!"
ใจเต้นแรงขึ้นมากับประโยคที่หวานเลี่ยน ทว่า จริงใจ
"โถ่ พี่จิณณ์ผมอยากรู้ความจริงนะ"
"จะอยากรู้ไปทำไม ในเมื่อตอนนี้เรารักกันแล้ว มันไม่ดีหรอกหรอ?อย่าคิดให้ปวดหัวเลยอิส"
"แต่ผม..."
"อดีต ก็คือ อดีต ปัจจุบันพี่รักอิส รู้ไว้แค่นี้ก็พอแล้ว"
คำตอบที่มาพร้อมสายตาละมุน รอยยิ้มอบอุ่น อีกคนจึงทำได้แค่หลบตา และยิ้มกับคำตอบของคนรัก
นั่นสิ จะนั่งเอาอดีตมาคิดมากไปทำไม ในเมื่อปัจจุบัน ทั้งสองรักกันมันก็ดีเกินพอ
.
.
.
ห้าโมงกว่าๆทั้งสองเดินทางมาถึงบ้านป้านัน
เมื่อทั้งคู่ลงรถมา อิสระแนะนำพี่จิณณ์ให้ป้านันรู้จัก ใบหน้าหญิงวัยกลางคนเปื้อนยิ้มทันทีเมื่อได้รู้จักคนใจดีที่ช่วยเหลือและดูแลอิสระทุกอย่าง นอกจากจะเป็นผู้ชายที่รูปร่างหน้าตาดีแล้ว ยังจิตใจดีอีก
เธอเอ่ยขอบคุณหลายรอบ แถมชมจิณณ์ไม่ขาดปากว่าทั้งหล่อและนิสัยดี จนอิสระแอบภาคภูมิใจอยู่ไม่น้อยที่ได้คบกับคนจิตใจงดงามเช่นนี้
หลังจากป้านันเอ่ยว่าเตรียมอาหารมื้อเย็นไว้เรียบร้อยแล้ว เธอเดินเข้าไปก่อน หลังจากป้านันคล้อยหลังไปไม่นาน จิณณ์ยิ้มกว้าง และโน้มตัวไปกระซิบข้างหูอิสระที่เดินมาข้างๆกัน
"ดีใจไหม? ได้แฟนเพอร์เฟกท์แบบนี้"
พอมีคนชมนิด ชมหน่อยล่ะเอาใหญ่ อิสระกลอกตาเป็นเลขแปดกับคำโอ้อวดของแฟนตัวเอง
"เดี๋ยวนี้กล้าพูดจังเลยนะครับพี่จิณณ์ เบื่อคนหลงตัวเองจัง ผมไปหาพี่ทอยดีกว่า อ้ะ!พี่จิณณ์!"
อิสระตกใจ ร้องเสียงหลง เมื่อคนรักกระชากเอวเข้าหาตัวและถามเสียงเข้ม
"นี่ไปแลกเบอร์กันตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมถึงไม่บอกพี่? ห้ะ...อิสเอามือถือมาให้พี่...นี่อิส..."
ทำหน้านิ่ง อันที่จริงกลั้นขำ ที่แฟนตัวเองทึกทักเอาเองแถมโยนคำถามใส่มาเป็นชุด จนอิสระต้องหยุดเล่น
"ผมล้อเล่นครับพี่จิณณ์ อย่าโกรธผมเลยนะ ผมรักพี่จิณณ์คนเดียวจริงๆครับ รักมากด้วย เอ้! แต่จะว่าไป ผมก็เก่งเหมือนกันนะเนี่ย ทำให้คนมั่นใจว่าเพอร์เฟกท์ เสียศูนย์ได้เหมือนกัน...ฮ่าๆ""อิส.."
"ฮ่าๆๆ...ดีใจๆ แกล้งได้สำเร็จแล้ว"
เห็นหน้าคนรักงอนตุ๊บป่อง อิสระมองซ้าย มองขวาว่ามีใครอยู่นอกบ้านบ้างไหม? เมื่อเห็นว่าปลอดคน อิสระรีบจุ๊บปากพี่จิณณ์ไวๆ แล้ววิ่งเข้าบ้านไปก่อน ปล่อยให้คนพี่ส่ายหน้ากับความทะเล้นของแฟนตัวเอง
"จะน่ารักไปแล้วนะอิส"
เมื่อทั้งสองหย่อนกายนั่งลง บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยกับข้าวกับปลาที่ชวนน้ำลายสอ หญิงวัยกลางคนที่ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมานมนาน พอได้เจอหลานและมีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามา ดูป้านันจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เธอเป็นฝ่ายชวนคุยก่อน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการชวนคุยกับจิณณ์มากกว่า ที่สำคัญยังยกยอปอปั้นจนอิสระแอบมองค้อนคนที่เอาแต่อมยิ้มอย่างภาคภูมิใจอยู่บ่อยๆ
คุยได้สักพัก จิณณ์เห็นว่า ป้านันดูชอบอก ชอบใจเขาไม่น้อย พอมีจังหวะ จิณณ์ตัดสินใจพูดความจริง
"ป้านันครับ ผมมีเรื่องจะบอก ผมไม่ใช่แค่คนที่ช่วยน้องออกมาอย่างเดียว ตอนนี้ ผมรักน้องด้วย ผมกับอิส เราคบกันอยู่ครับ" อิสระหันขวับ เขย่ามือพี่จิณณ์ใต้โต๊ะราวกับไม่ให้พูดอะไรอีก
ป้านันนิ่งไปครู่ ก่อนจะผุดรอยยิ้มเอ็นดู
"ป้าก็พอรู้ การกระทำจิณณ์เองก็ดูแสดงออกชัดเจน ถ้างั้นป้าฝากจิณณ์ดูแลอิสด้วยแล้วกันนะ"
"ยินดีครับ ผมจะดูแลอิสให้ดีที่สุดครับ"
"ถ้าเป็นไปได้ ป้าอยากให้อิสมาอยู่กับป้า แต่ถ้าจิณณ์จะย้ายมาอยู่ด้วยป้าก็ไม่ว่าอะไร" ทั้งสองมองหน้ากันยิ้มๆ ก่อนจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณป้านันที่ให้ความกรุณาและเอ็นดูแก่ทั้งคู่...
เวลาผ่านไปจนกระทั่ง ทุกคนหมดเรื่องคุยและจัดการอาหารกันไม่เหลือ ต่างก็แยกย้ายไปพักผ่อน
วางสัมภาระในห้องนอน ก็สลับกันอาบน้ำ กระทั่งทั้งสองทำธุระส่วนตัวเสร็จ เตรียมหลับพักผ่อน จิณณ์ดึงอิสระมาซุกในอ้อมกอดอบอุ่น จูบกลางกระหม่อม ก่อนบอกราตรีสวัสดิ์ และต่างฝ่ายต่างเข้าสู่ห้วงนิทรา
กึก กึก ครืด ครืด...กรี้ดดดด! ฮืออออออ!
ไม่ถึงชั่วโมงดี จู่ๆก็มีเสียงเหมือนของแข็งหล่นกระแทกพื้นปนกับเสียงกรีดร้องอันน่าโหยหวนดังขึ้นมา จนจิณณ์สะดุ้งตื่น เด้งตัวลุกขึ้นนั่ง เหลือบมองคนข้างๆที่ยังหลับสนิท
ใจคอไม่ดี เพราะเสียงที่ได้ยินค่อนข้างน่ากลัว จิณณ์หย่อนเท้าลงพื้น เดินย่องเบาๆไปแนบหูที่บานประตูเพื่อฟังเสียง
"มีอะไรครับพี่จิณณ์" อิสระที่เพิ่งรู้สึกตัว ลืมตาถามเสียงงัวเงีย
"ชู่ววว์" ยกนิ้วชี้แตะปากส่งสัญญาณ ก่อนจะรีบเดินไปหาคนรักหย่อนกายลงนั่งข้างเตียง
"พี่ว่า ขโมยขึ้นบ้าน พี่จะออกไปดู อิสอย่าออกไปนะ" กระซิบเตือนคนรัก
"ไม่เอา ผมไปด้วย" บอกเสียงแหบแห้ง
"อิสอย่าให้พี่เป็นห่วงสิครับ อยู่ในห้องนี่แหละ"
"ไม่!...ผมอยากไปกับพี่ ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ ผมไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว" จิณณ์เกือบดุอิสระแล้วที่ดื้อไม่รู้จักเวล่ำเวลา แต่เพราะตั้งสติ ยั้งปากได้ทัน ว่าสิ่งที่อิสระดึงดันจะไปด้วยให้ได้นั้นเพราะน้องก็รักและเป็นห่วงจิณณ์นั่นเอง
"อิสบอกว่าไม่มีอะไรจะเสีย แต่พี่มี...พี่ไม่อยากเสียอิสไป" สัญชาตญาณมันบอกเขาว่าไม่ได้หูฝาด และเชื่อว่าเสียงที่ได้ยิน มีคนบุกขึ้นบ้านแน่นอน จิณณ์จึงไม่อยากให้อิสระออกไปเพราะไม่รู้ว่าข้างนอกนั้นมันอันตรายแค่ไหน
ชะงักที่พี่จิณณ์บอกเสียงจริงจังอย่างเป็นห่วง แต่อิสระก็เป็นห่วงพี่จิณณ์ไม่น้อยไปกว่ากัน
"แต่ผมเป็นห่วงพี่จิณณ์นี่ครับ" รอยยิ้มผุดบนใบหน้าหล่อเหลา เขาใช้ปลายนิ้วลูบไล้กรอบหน้าเด็กหนุ่ม
จุ๊บ!
และจิณณ์จุมพิตที่ริมฝีปากเด็กหนุ่ม
"พี่เอาตัวรอดได้ เชื่อพี่นะครับ" อิสระไม่ตอบ แต่ยื่นมือไปกุมมือพี่จิณณ์แน่นราวกับไม่อยากให้ไป อิสระใจเต้นตูมตามอย่างกลัวว่าพี่จิณณ์จะตกเป็นอันตราย
ใบหน้าหล่อแต้มยิ้ม ดึงมืออิสระออกและลุกไปหาอาวุธที่ป้องกันตัวได้ เหลือบเห็นไม้เบสบอลวางพิงอยู่ข้างโต๊ะเครื่องแป้ง เขาพกติดตัวไป ในขณะมือที่ว่างจับลูกบิด ค่อยๆเปิดประตูอย่างเบามือที่สุด...
...................................
.
ขอบคุณทุกการอ่านและคอมเมนท์จ้าาา