+..▪..+"แสง.สุด.ท้าย"+..▪..+|ตอนที่ 15.3| อัพ 28-4-18> P.4 _*|จบแล้ว|*
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: +..▪..+"แสง.สุด.ท้าย"+..▪..+|ตอนที่ 15.3| อัพ 28-4-18> P.4 _*|จบแล้ว|*  (อ่าน 25522 ครั้ง)

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



*************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2018 20:30:02 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
บทนำ





"เชิญชั้นสองห้องสุดท้ายเลยครับ"



   
    คุณอิทธิพล อัศวกรกรรณ์ ผู้เป็นเจ้าของบ้านหรือจะเรียกว่าคฤหาสน์ก็คงจะเหมาะสมมากกว่ากำลังเอ่ยเชิญพันธมิตรที่กำลังคิดวางแผนทำธุรกิจร่วมกันเดินขึ้นไปยังห้องพิเศษ



    คุณเจริญ ตระติมันตรา มาพร้อมลูกชายอย่าง จิณณ์ ตระติมันตราเพื่อให้เรียนรู้งานไปด้วย เพราะ ตั้งแต่ที่จิณณ์เรียนจบ ลูกชายคนนี้ก็ไม่เคยคิดจะเข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัวเลยสักนิด



     จิณณ์ในวัยสามสิบสองปี เป็นผู้ชายรูปหล่อ จมูกโด่ง ตาคม ไม่ว่าเขาจะถูกจับวางไปอยู่สถานที่จรจัดหรือแม้แต่ให้สวมใส่ชุดราคาถูกแสนถูกแค่ไหนเขายังคงดูดี แผ่รังสีแห่งความมีออร่า ดั่งบุรุษรูปงามในยุคสมัยโรมันได้อย่างไม่น่าเชื่อ



    อิทธิพลผายมือให้สองพ่อลูกนั่งโซฟาราคาแพงที่นำเข้าจากยุโรป


    แม้หัวข้อในการสนทนาวันนี้ คือ การนั่งเจรจาทางธุรกิจ แต่อิทธิพลย้ำบ่อยครั้งว่าให้ทำตัวตามสบาย เพราะทันทีที่ทั้งสามนั่งลง อิทธิพลเอ่ยเรียกแม่บ้านหน้าตาสะสวยให้เตรียมเครื่องดื่มมา เพราะภายในห้อง ณ มุมหนึ่งมีบาร์หินอ่อนที่เบื้องหลังมีชั้นวางบรั่นดีหลากหลายยี่ห้อ



    เปิดเรื่องคุยกันเบาๆ ในขณะที่รอแม่บ้านรินบรั่นดีลงแก้วทรงเตี้ย




"ดื่มหน่อยนะครับ จะได้ไม่เกร็งกันเกินไป"



     เสิร์ฟวางตรงหน้าทุกคน อิทธิพลก็เอ่ยเสียงเย็นแต่ใบหน้าค่อยๆคลี่ยิ้มให้สองพ่อลูกผ่อนคลายขึ้น



       ทั้งสามยกแก้วขึ้นจิบ และวางมันลงบนโต๊ะกระจกใสดังเดิม


      อิทธิพลเข้าเรื่องที่สนใจกับคุณเจริญ โดยจิณณ์นั่งเงียบๆอยู่ข้างบิดา



      เมื่อน้ำสีอำพันที่บรรจุอยู่ในแก้วของใครพร่องลง แม่บ้านก็หยิบไปเติมจนเต็มอีกครั้ง




      จิณณ์ดื่มเป็นแก้วที่สอง หวังย้อมใจให้หายเบื่อกับสิ่งที่เขาได้ฟังอยู่บ้าง




     อึดอัดไม่น้อยเลยกับการมองเห็นผู้ใหญ่สองคนคุยงานที่เบื้องหนาปรากฏด้วยรอยยิ้มการค้า แต่ข้างในใครจะรู้ว่าสิ่งที่ต้องการก็คงหนีไม่พ้นว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองได้ผลประโยชน์มากที่สุด   

 

     เขาไม่อยากมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ แต่เพราะบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนเมื่อปลายปีที่แล้วที่มารดาของจิณณ์เสียไป เขาถึงตามใจบิดาที่ร้องขอมาหลายปี เพราะไม่อยากให้พ่อที่อายุมากขึ้นทุกทีๆ เครียดไปกันใหญ่





"พ่อครับ ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ" กระซิบบอกเป็นจังหวะเดียวกับที่คุณอิทธิพลปลีกตัวไปคุยโทรศัพท์พอดี



   เจริญพยักหน้ารับ จิณณ์ลุกเดินไปถามแม่บ้านสาวสวยถึงทางไปห้องน้ำ



   ขายาวพาตัวเองออกมาจากห้องแห่งการค้า ก็ถอนหายใจยาว



   ช่างน่าเบื่อจริงๆ!


   จิณณ์ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัทพ์กรอกเบอร์โทรหาเพื่อน



   จิณณ์หนีบโทรศัพท์แนบหู ขณะที่สองมือล้วงในกระเป๋ากางเกงควานหาบุหรี่และไฟแช็คไปด้วย



    ปึ่ก!



    สบถเสียงดังเมื่อจังหวะที่ปลายสายรับโทรศัพท์ เจ้าตัวก็ทำมันรวงหล่นลงสู่พื้นและลื่นไถลไปหยุดตรงหน้าประตูห้องบานหนึ่งพอดิบพอดี



    จิณณ์เร่งฝีเท้าและก้มเก็บโทรศัพท์ ทันใดนั้นเอง...




กึกกึก!


   หันขวับ มองเสียงเหมือนคนกระชากลูกบิดประตู จากด้านใน



"ช่วยผมด้วย"



     โคลงศรีษะฉงนกับเสียงแผ่วเบาตามหลังที่ฟังไม่ได้ศัพท์ จิณณ์คิดว่าคงหูฝาด เขาส่ายหน้าเบาๆลุกขึ้นและเดินผ่านไปอย่างไม่สนใจ


    ราวสิบห้านาที ที่จิณณ์ก้าวยาวๆกลับมาทางเดิมเพื่อไปห้องส่วนตัวสุดทางเดิน แต่สิ่งที่ทำให้ชะงัก เมื่อตาเหลือบเห็นว่ามีฝาครอบลูกบิดและคล้องด้วยแม่กุญแจอีกชั้นอย่างแน่นหนาราวกับว่ามันเป็นห้องปิดตาย ไร้คนอาศัย



    และเสียงที่จิณณ์ได้ยินจากด้านในล่ะ?
 

    ทำหน้าฉงนแต่ก็ยังเร่งฝีเท้าเข้าห้อง เพื่อกลับมานั่งตามเดิม แต่ตอนนี้สมองกลับยังไม่หยุดคิดเรื่องที่เพิ่งเจอมาก่อนหน้า



     นั่งฟังผู้ใหญ่สองคนคุยกันไปอีกชั่วโมงกว่าๆ ถึงได้เวลาเดินออกมาจากห้อง โดยคุณอิทธิพลก็เดินมาส่งแขกกลับบ้าน



   ความสงสัยใคร่รู้ยังไม่จางหาย จิณณ์อยากรู้ว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นเขาหูฝาดไปเองหรือเปล่า?



     ถ้าอย่างนั้นมันก็ต้องพิสูจน์



    จิณณ์ทำทียกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู



"พ่อเดินไปก่อนนะครับ ผมขอคุยงานสักครู่"



    เจ้าของบ้านและคุณเจริญที่ได้ยินพร้อมกันต่างพยักหน้ารับและเดินคุยงานกันไป


     ในระหว่างนั้น...



      จิณณ์หันซ้ายแลขวาดูว่าใครยังอยู่แถวนี้หรือไม่? เมื่อแน่ใจแล้วว่าทางสะดวก จิณณ์เดินชิดประตูแนบหูลงไป ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเคาะบนประตูไม้สักสองสามครั้ง และพูดขึ้น




"มีใครอยู่ในนั้นหรือเปล่าครับ?"



    หลายนาทีที่ไม่มีเสียงตอบกลับมา



"สงสังเราคงนอนน้อย"
บ่นพึมพำ ที่แท้คงเป็นเพราะตัวเองจริงๆที่เบลอหรือไม่สติก็คงเลอะเลือน



    ถอยห่างออกจากประตูและหมุนตัวเดินเลี่ยงไปยังบันได แต่...จังหวะนั้น...



ฟึ่บ!



    เขาหยุดเท้า ก้มมองกระดาษสีขาวแผ่นเท่าฝ่ามือที่อยู่ตรงพื้น


    กระดาษแผ่นนั้นมันออกมาจากช่องว่างตรงขอบประตูล่าง


    นั่งยองๆลงหยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน



    เบิกตากว้างทันใด เมื่อเห็นข้อความในกระดาษ แต่สิ่งที่ทำให้ตกใจยิ่งกว่าจนเม็ดเหงื่อผุดซึมทั่วใบหน้าและใจเต้นแรงกว่าเดิมเมื่อตัวอักษรที่เห็นตรงหน้าถูกเขียนขึ้นมาด้วยเลือด


"ช่วยผมด้วย - ห้ามบอกใคร"




..............................

ฝากเนื้อ ฝากตัวด้วยค่ากับนิยายเรื่องใหม่
.
และมีนิยายเรื่องอื่นๆด้วยนะคะ ตามลิงค์ด้านล่างเลยค่ะ ขอบคุณมากมายค่ะ

.
.
 ||*...สวัสดี▪นายพล▪ คนธรรมดา...*||

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60981.0#top

ขอบคุณคุณ graciej
สำหรับการช่วยดูคำผิดค่า ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2017 22:03:05 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ graciej

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: "แสง.สุด.ท้าย" ||บทนำ|| อัพ- 9-09-17
«ตอบ #2 เมื่อ10-09-2017 01:19:28 »

รอติดตามเรื่องใหม่ค่ะ :L1:

มีพิมพ์ผิดนะคะ มีชื่อ ฌอณ โผล่มาค่ะ ^^

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
Re: +..."แสง.สุด.ท้าย"...+ ||บทนำ|| อัพ- 9-09-17
«ตอบ #3 เมื่อ23-09-2017 20:48:06 »

แวะมาปูเสื่อรอ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: +..."แสง.สุด.ท้าย"...+ ||บทนำ|| อัพ- 9-09-17
«ตอบ #4 เมื่อ23-09-2017 22:18:13 »

 :katai2-1: :mc4: :katai2-1:

 :3123: :pig4: :3123:

ออฟไลน์ 0%

  • 0percent.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: +..."แสง.สุด.ท้าย"...+ ||บทนำ|| อัพ- 9-09-17
«ตอบ #5 เมื่อ25-09-2017 10:03:59 »

รอจ้า

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
Re: +..."แสง.สุด.ท้าย"...+ ||บทนำ|| อัพ- 9-09-17
«ตอบ #6 เมื่อ26-09-2017 12:11:01 »

รอร้อรอ น่าสนุก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: +..."แสง.สุด.ท้าย"...+ ||บทนำ|| อัพ- 9-09-17
«ตอบ #7 เมื่อ26-09-2017 22:24:44 »

นี่คงไม่ใช่เรื่องสยองขวัญ หรือโรคจิตใช่มั้ยไรท์  :serius2:

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
Re: +..."แสง.สุด.ท้าย"...+ ||บทนำ|| อัพ- 9-09-17
«ตอบ #8 เมื่อ26-09-2017 22:55:55 »

แลดูน่าสนุก

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
บทที่ 1 อิสระ





      คุณคิดว่า อิสระ หมายถึงอะไร?



      การทำอะไรได้ตามความคิด ตามใจปรารถนาของตัวเอง ใช้ชีวิตอย่างเสรีภาพโดยไม่มีใครบังคับหรือบงการ หรืออันที่จริงมันก็คงมีอีกหลายความหมายตามแต่ใครจะตีความออกมาได้



     แต่ความหมายเหล่านั้น คงผิดกับ "อิสระ" ตอนนี้ ที่กลับไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างชื่อที่ถูกเรียกขานสักนิดเดียว...



"คุณอิทธิพลให้เอาข้าวมาให้ค่ะ เป็นของโปรดของคุณอิสด้วยนะคะ"
หญิงวัยห้าสิบตอนปลายบอกเด็กหนุ่มที่คุ้นเคยกันดี



"ขอบคุณครับ ป้าแก้ว"



       เอ่ยเสียงจริงใจกลับไป เพราะตั้งแต่ที่แม่ของอิสระเสียชีวิตได้ราวหกปีก่อน ก็มีป้าแก้วนี่ล่ะที่อิสระสัมผัสได้ว่ามีความรักให้เขาอย่างแท้จริง



     ...อิสระไร้อิสระ...ตั้งแต่เรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย เขายังไม่ทันได้เรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยก็เกิดปัญหาให้เขาต้องโดนกักขังหน่วงเหนี่ยวอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมว่างเปล่า ไม่มีเฟอร์นิเจอร์สักชิ้นมาตกแต่ง หรือแม้แต่หมอน ผ้าห่มก็ไม่มีให้คลุมร่างกายไปจนถึงเครื่องมือสื่อสารก็โดนยึดไปหมด จะมีแค่เพียงเครื่องปรับอากาศที่ยังพอให้ความเย็นแก่ร่างกายก็เท่านั้น



       ช่วงที่โดนขังใหม่ๆ อิสระมีความคิดอยากฆ่าตัวตายแทบทุกวัน เขาทำตัวกบฎไม่ยอมกินข้าว อดจนร่างกายซูบผอม บ้างก็ชกกำแพงจนข้อนิ้วหัก บ้างก็ข่วนแขน-ขาตัวเอง ฝังเล็บลงตามร่างกาย และบางคราวที่เครียดจัดก็ทึ้งหัวตัวเองเหมือนคนบ้า

   


      แต่ที่แย่ยิ่งไปกว่า คือ เมื่อคุณอิทธิพลรู้ข่าวว่าอิสระทำร้ายตัวเองมากเท่าไหร่ เขาจะส่งคนมาทำร้ายหรือไม่ก็ลงมือเองและหนักกว่าเป็นสองเท่า ทั้ง เตะ ต่อย ที่โหดสุดก็คงจะเป็นใช้เทียนลน และจี้ตามตัวจนถึงตอนนี้ก็ยังหลงเหลือรอยแผลเป็นเต็มร่าง



      ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่อิสระทนทุกข์ทรมานและนี่เป็นเพียงส่วนน้อยที่เขาโดนกระทำ ยังมีอีกหลายอย่างที่อิสระไม่อยากจำ หลายต่อหลายครั้งที่เจอหน้ากัน อิสระเคยตั้งคำถามกับคุณอิทธิพลเหมือนกัน



     

"ทำไม คุณพ...คุณอิทธิพล ไม่ฆ่าผมให้ตายครับ ทำแบบนี้เพื่ออะไร"



      ทุกครั้งที่ถาม ก็มักจะได้คำตอบไม่แตกต่างจากเดิม



"หึๆ แกรู้อะไรไหม? ถ้าแกตายไปมันก็เจ็บแค่ครั้งเดียว สู้ให้ฉันทรมานแบบนี้แหละสะใจกว่า"

   


      คิดในใจมาตลอดว่าอิสระไปทำอะไรให้ถึงมีจิตใจเลวทรามและโหดเหี้ยมกับเขาเพียงนี้...


      อิสระท้อถอยจนสภาพจิตใจย่ำแย่ หลังจากทรุดโทรมมาเป็นปีๆ อิสระเริ่มตั้งสติ เฝ้าทบทวนตัวเองและคิดได้ว่า



      เขาไม่ควรคิดทำร้ายตัวเองหรืออยากตายอีกต่อไป เพราะคนที่สมควรตายควรเป็นคนที่ทำกับอิสระแบบนี้มากกว่า



      ทุกวันอิสระยืนมองหน้าต่างผ่านกรงเหล็กแน่นหนา เพื่อดูข้างนอกว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่า? ทุกครั้งที่สายตาทอดมองไปไกลแสนไกล อิสระมองด้วยความหวังว่าสักวัน เขาจะเดินพ้นรั้วประตูบ้านหลังใหญ่แห่งนี้ออกไปได้

     

      การอยู่ในห้องโดยไม่สามารถออกไปชื่นชมวิวหรือมีปฏิสัมพันธ์กับใคร ทำให้เพื่อนคุยของอิสระ จึงมีเพียงป้าแก้วที่แวะเวียนเอาอาหารมาให้ทุกเช้า กลางวัน เย็น เขาจึงมีเวลาคุยกับป้าแก้วได้บ้าง อย่างน้อยห้านาทีก็มีค่าสำหรับอิสระแล้ว



       ความผูกพันของทั้งสองคนก่อตัวขึ้น ทำให้ป้าแก้วและอิสระ ต่างก็รักและไว้ใจกันและกัน



       เวลาได้เจอะกัน ป้าแก้วชอบบ่นให้ฟังบ่อยๆว่าอยากช่วยเหลืออิสระ แต่นึกหนทางไม่ออก เพราะลำพังตัวป้าแก้วเองก็เป็นแค่ลูกจ้างคนหนึ่งที่ทำมาหากินเลี้ยงตัวเองและหลานที่โดนลูกสาวทอดทิ้งไว้ให้..



      อิสระเข้าใจป้าแก้วและรู้สึกดีที่ยังมีคนห่วงใยเขาเสมอ



      ความหวังดีของป้าแก้วนี่เองที่ทำให้หวนไปนึกถึงใครบางคนอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเขาช่างโหดร้าย ก็แค่สิ่งที่อิสระทำลงไปนั้น ในมุมมองเขามันไม่ใช่เรื่องผิดด้วยซ้ำ ทำไมคุณอิทธิพลถึงมองว่ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย จนถึงกับขนาดต้องมากักขังกันอย่างนี้



"ป้าแก้วคิดว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นคนดีและไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกคุณอิทธิพลใช่ไหมครับ?"
ออกจากความคิดในอดีตหันมาอยู่กับปัจจุบันด้วยการถามป้าแก้วถึงเรื่องผู้ชายคนนั้น



       เพราะตอนนี้ผ่านไปสองวันแล้วที่อิสระใจกล้ายื่นกระดาษแผ่นนั้นลอดช่องประตูไป  เพียงเพราะป้าแก้วเข้ามาบอกอิสระว่ามีแขกแปลกหน้ามา และยุให้อิสระลองขอความช่วยเหลือจากคนๆนั้น แต่ทว่า ทุกอย่างยังเงียบเชียบ ไม่มีความเคลื่อนไหว



"ป้าแก้วมั่นใจว่าเขาจะไม่บอกค่ะ และป้าแก้วเชื่อว่าเขาต้องมาช่วยคุณอิส เพราะวันนั้น ป้าจับอาการได้นะ ตอนที่เขาลาคุณอิทธิพล สีหน้าเขาดูมีความกังวลถ้าเขาจะไม่สนใจจริงๆ เขาไม่เห็นต้องทำกิริยาแบบนั้น"



"จริงหรือครับ ป้าแก้ว"



"จริงค่ะ ถ้าป้าแก้วเห็นเขามาหาคุณอิทธิพลอีก ป้าแก้วจะพยายามชวนเขาคุยสร้างความสนิทสนมไว้นะคะ"



"ขอบคุณครับป้าแก้ว"



"ป้าแก้วไปก่อนนะ ยังไง คุณอิสของป้าต้องออกไปได้แน่ๆ"




"ครับ ผมก็หวังอย่างนั้นเหมือนกัน"



      เมื่อป้าแก้วลับตาไป อิสระนั่งถอนหายใจอยู่มุมห้อง เขานึกย้อนไปถึงวันที่เขายื่นกระดาษแผ่นนั้น นึกถึงเสียงคนที่เอ่ยถามว่ามีใครอยู่ไหม? เพียงแค่นั้น มันก็ทำให้เขามีความหวังได้อย่างไม่น่าเชื่อ...



      อิสระไม่รู้หรอกว่าผู้ชายคนนั้นจะกลับมาช่วยไหม? แต่สำหรับคนที่ความหวังริบหรี่เช่นนี้ เขาก็ขอหวังหน่อยแล้วกัน...



   



.............





     ผ่านไปแล้วสองวัน แต่จิณณ์ยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องวันที่ไปบ้านคุณอิทธิพลอยู่เลย



      แม้จะพยายามปัดไล่ความคิด พยายามไม่สนใจเพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่ทำไมมันยังกลับมาวนเวียนอยู่ในสมองด้วยก็ไม่รู้



      หรือเป็นเพราะลึกๆแล้วเขาเองก็มีความอยากรู้ว่าเพราะอะไรถึงมีคนโดนขังอยู่ในห้องนั้น



     จิณณ์ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร แม้แต่พ่อของเขาเอง



      สมองคิดไป สายตาก็จดจ้องมองกระดาษที่เขียนด้วยเลือด ที่เขายังคงเก็บรักษามาจนถึงตอนนี้



      คิดแล้วคิดอีก จนสมองจะระเบิดว่าเหตุการณ์นี้ เขาสมควรปล่อยผ่านหรือควรเข้าไปช่วยเหลือดี



      ทนความคิดตัวเองไม่ไหว ถ้าไม่ไปให้หายข้องใจ จิณณ์คงเป็นบ้าตาย





       ร่างสูงลุกพรวดจากห้องของตัวเองไปหาพ่อที่ห้องทำงาน



      เคาะประตูเรียกและเปิดประตูเข้าไป



"พ่อครับ พ่อจะไปบ้านคุณอิทธิพลอีกไหมครับ?"




"ถามทำไม?"



"พอดีผมมีเรื่องงานอยากปรึกษานิดหน่อย"



"เราไปคนเดียวได้ไหมล่ะ"




"ได้ครับ ถ้างั้นพ่อช่วยพูดให้หน่อยได้ไหมครับว่าผมจะเข้าไป"



"อืม ดูก่อนนะว่าวันนี้ คุณอิทธิพลอยู่บ้านหรือเปล่า?"



"ครับ"



      จิณณ์ยืนรอพ่อคุยโทรศัพท์กับปลายสาย ถือว่าโชคเข้าข้างที่จิณณ์ได้ข่าวดีว่าคุณอิทธิพลอยู่บ้านวันนี้พอดี

 

       หลังจากที่เห็นบาร์เหล้าวันนั้น จิณณ์คิดว่าคุณอิทธิพลน่าจะเป็นพวกมีรสนิยมชอบดื่ม ก่อนไปหา จิณณ์แวะซื้อไวน์แดงเป็นของกำนัลเล็กๆน้อยๆ



       พิถีพิถันเลือกไวน์เรียบร้อย เขามุ่งหน้ามาถึงคฤหาสน์หลังโต จิณณ์เข้ามายังตัวบ้านพร้อมคนงานที่เดินตามประกบมา





"สวัสดี คุณจิณณ์"


"สวัสดีครับ คุณอิทธิพล พอดีพ่อให้ผมนำของเล็กๆน้อยๆมาฝากครับ"
จิณณ์ยกมือไหว้พร้อมยื่นถุงให้



"ไม่เห็นต้องลำบากเลย"


"ไม่ลำบากเลยครับ เพราะคุณพ่อบอกว่าเป็นการขอบคุณล่วงหน้าที่คุณอิทธิพลสนใจจะร่วมลงทุนในธุรกิจของเราครับ"



       จิณณ์พูดนอบน้อม เพราะธุรกิจที่ว่าคือการร่วมลงทุนสร้างคอมมูนิตี้มอล์สำหรับการทำแหล่งช็อปปิ้ง กิน เที่ยวย่านชานเมือง เนื่องจากตอนนี้ ที่ดินของบิดาเป็นทางผ่านรถไฟฟ้าที่เขากำลังก่อสร้างบริเวณนั้นพอดี

 

 "รีบไหม นั่งดื่มด้วยกันก่อนสิ"


      รู้ว่าคุณอิทธิพลอาจชวนเป็นพิธี แต่ก็นั่นแหละ...จิณณ์รีบรับคำ เพราะพอจะสังเกตได้บ้างว่าคุณอิทธิพลน่าจะเป็นนักดื่มตัวยง การมีเพื่อนดื่มย่อมดีกว่าการนั่งดื่มคนเดียวเป็นไหนๆ




"เราจะไปนั่งดื่มกันที่ห้องนั้นใช่ไหมครับ?"



"ใช่สิ ฉันมีห้องเดียวที่มีไว้สำหรับพักผ่อน สนใจผู้หญิงด้วยไหม?"



"หา อะไรนะครับ"



     จิณณ์ถามซ้ำ



"หึๆ อย่าทำเป็นไม่รู้หน่อยเลย สุราเคล้านารี ไม่เคยได้ยินหรือ? ถ้าคุณจิณณ์สนใจ ฉันเดลิเวอร์รี่มาให้ได้ ระดับวีไอพีเชียวนะ"



     ชายหนุ่มยืนนิ่งเงียบ เพราะเดานิสัยคุณอิทธิพลไม่ออก เขาถือว่าเป็นคนอ่านยากพอสมควร จิณณ์จึงได้แต่ส่งยิ้มการค้า



"คุณอิทธิพลพูดซะน่าสนใจเชียว แต่ขอไว้คราวหน้านะครับ วันนี้ผมอยากดื่มเฉยๆมากกว่า"



"ได้ ถ้างั้นก็ไปกันเลย"



      ทั้งสองเดินไปด้วยกัน โดยจิณณ์เดินตามหลังนิดหน่อย ขณะที่ต้องผ่านห้องที่จิณณ์จำได้ขึ้นใจ คุณอิทธิพลดูตกใจไม่น้อยที่พาจิณณ์ขึ้นมาในจังหวะที่แม่บ้านเดินถือถาดเปล่าออกมาจากห้องนั้นพอดี



     คุณอิทธิพลดูเร่งฝีเท้าผิดปกติ ในระหว่างที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังงับประตู ยังพอเหลือช่องว่างเล็กๆให้จิณณ์ได้ส่อง เขาสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อวินาทีที่มองลอดเข้าไป จิณณ์เห็นเด็กหนุ่มนั่งอยู่ที่พื้นสบสายตากับเขาพอดี



      ร่างกายไม่ได้ผ่ายผอมหรือมีโซ่ตรวนล่ามขาอย่างที่จินตนาการเอาไว้ มีเพียงใบหน้าที่ดูเศร้าหมอง ทรุดโทรม ผิดกับสายตาที่ฉายชัดออกมาอย่างคนมีความหวัง



      แค่เห็น จิณณ์กลับใจเต้นแรงกว่าเดิม จู่ๆ จิณณ์ก็รู้สึกอยากช่วยเด็กหนุ่มคนนั้นขึ้นมา



        ขายาวยังคงเดินตามเจ้าของบ้านทั้งๆที่ในใจเต็มไปด้วยความสงสัยว่าเด็กหนุ่มในห้องลึกลับนั้น มีความสำคัญอย่างไรกับคุณอิทธิพลกันแน่....




****1.1****


ต้องขอโทษถ้าใครที่แวะมาแล้วคิดว่าจะเป็นวัยใส วัยหวานละมุนตลอดทั้งเรื่อง  มันก็จะมีความหวาน โรแมนติกแหละค่ะ เพียงแต่มันก็คละเคล้าความหม่นหน่อยๆ

ขอสนองนี้ดตัวเองเนื่องจากอยากเขียนแนวนี้มานานแล้ว ถ้าใครชอบหรือมีสไตล์ที่ตรงกันยินดีต้อนรับสู่ นิยายเรื่องนี้ค่ะ จุ๊บๆ...

**ตามที่มีนักอ่านถามมา มันไม่เชิงโรคจิตโหดร้ายขนาดนั้นนะคะ แค่ผิวๆๆ ^^ 555**
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2017 22:03:25 โดย rinyriny »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
มาลุ้นว่าจะเอาออกมาได้ไหม

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ส่วนตัวยังไม่เคยอ่านพล้อตแบบนี้ น่าสนใจมากๆค่ะ *-*

ออฟไลน์ Malinda

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกดีคะ เอาใจช่วทั้งอิสระ และนักเขียนนะคะ

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
น่าติดตามมากอะ มากจนทำให้ช่วงนี้ที่นิยายเริ่มเอื่อย ๆ สำหรับผมกลายมามีพล็อตที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นมาเลย

ออฟไลน์ JellyKei

  • ✧٩(の❛ᴗ❛ の)۶
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คุณอิทธิพลทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร แก้แค้นอะไรรึเปล่า? แต่โหดร้ายมากเลย ขอให้โดนช่วยออกไปได้นะ
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่ะ ตื่นเต้นไปกับทุกตุวอักษรเลย ฮือ

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ติดตามๆน่าสนุกดีค่ะ หวังว่าคงไม่หม่นจนเกินไป555

ออฟไลน์ 0%

  • 0percent.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ติดตามจ้า  :katai4:

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
บทที่ 1 อิสระ (2)




        จิณณ์นั่งไม่ติด เขาเข้าห้องนั้นเพียงห้านาทีเท่านั้น ก็ทำเนียนขอคุณอิทธิพลไปเข้าห้องน้ำและรีบเดินหาผู้หญิงคนนั้นหวังจะตามให้ทันและอยากถามด้วยความอยากรู้ ระหว่างเดินลงบันได้เจอแม่บ้านสาวสวยอีกคน จิณณ์ถามอย่างระวังตัวและไม่ให้มีพิรุธ



        ยังไม่ทันได้คำตอบ จิณณ์เห็นหลังไวๆกับคุณป้าที่เดินไปทางหน้าบ้าน จิณณ์รีบปรี่ไปหา



หมับ!



"ว้าย!..ตาเถรตก" ป้าแก้วตกใจที่จู่ๆก็มีคนจับต้นแขนและรั้งไว้จนป้าแก้วหยุดเท้าหันขวับ



"ผมขอโทษครับที่ทำให้คุณป้าตกใจ"



"มีอะไรหรือเปล่าคะคุณ"




     จิณณ์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนถาม เขามองสายตาคุณป้าคาดว่า น่าจะเป็นคนดี



"ผมอยากถามอะไรบางอย่าง แต่คุณป้าอย่าบอกคุณอิทธิพลได้ไหมครับ?"



"เรื่องอะไรคะ"



"ห้องที่คุณป้าเข้าไป ผมเห็นมีผู้ชายอยู่ในนั้น เขาเป็นอะไรกับคุณอิทธิพล และทำไมต้องล็อคจากด้านนอก มันเหมือนขังเขาไว้เลยครับ"



"คุณช่วยคุณอิสด้วยนะคะ ช่วยเขาด้วย ป้าขอร้อง ป้าแก้วไปก่อนนะคะ" ตอบไม่ตรงคำถาม แถมพูดล่กๆและรีบเดินหนีห่าง จิณณ์ยืนมองอย่างงงๆจนกระทั่งคุณป้าคนนั้นลับตาไป สายตาของร่างสูงก็ปะทะกับการ์ดร่างใหญ่สองคนที่เดินมุ่งหน้ามาทางนี้



     เขาหมุนตัวรีบเดินไปยังห้องประชุมที่มีคุณอิทธิพลรออยู่ แต่ยังมิวายงึมงำคนเดียว



"เขาชื่ออิสหรือ?"




      เอ่ยชื่อเด็กคนนั้น พลางครุ่นคิดถึงถ้อยคำขอร้องจากคุณป้าที่อ้อนวอนจากใจ



       แววตา น้ำเสียงจากที่จิณณ์ได้เห็นและได้ยินมันตีความหมายได้เลยว่า เด็กหนุ่มคนนั้น คงไม่มีความสุขแน่ๆ



      ถ้าจะพูดกันตามตรง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของจิณณ์ แถมเขาไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรทั้งนั้น แต่เพราะลึกๆจิณณ์ก็ยังมีจิตสำนึกของการเป็นคนดี การเห็นภาพเด็กหนุ่มนั่งหงออยู่ที่พื้น สายตามองมาเต็มเปี่ยมด้วยความหวัง มันก็ทำให้จิณณ์อยากช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ



       แต่แล้วเขาจะช่วยยังไงดี ในเมื่อวันนี้เขามีข้ออ้างในการมาที่นี่ได้ แต่ถ้าคราวต่อไปจะยกเหตุผลอะไรมาอ้างได้อีก




      เดินไป-คิดไปจนถึงหน้าห้อง เปิดประตูเข้าไปก็เห็นคุณอิทธิพลจ้องมองด้วยสายตาเย็นยะเยือก



"บ้านฉันก็ไม่ได้ใหญ่โตขนาดจะหลงจนหาห้องน้ำไม่เจอรึเปล่าครับ คุณจิณณ์"



"เอ่อะ"
จิณณ์ยืนหน้าเสียกับเสียงดุๆ และไม่คิดว่าคุณอิทธิพลจะแขวะเพียงแค่เขาหายไปนานแบบนี้


"ฉันล้อเล่น ทำไมหน้าซีดเลยล่ะ"




"ผมขอโทษครับที่เสียมารยาทปล่อยให้ผู้ใหญ่รอนาน"



"ไม่เป็นไร ฉันก็แค่อำน่ะ ตามสบายเถอะ"




      เริ่มบทสนทนาที่คละเคล้าด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์พอกินไปสักพัก ต่างฝ่ายต่างละลายพฤติกรรมและเริ่มผ่อนคลายกันมากขึ้น และโชคดีที่ดูเหมือนว่าคุณอิทธิพลเริ่มถูกคอ และถูกอกถูกใจจิณณ์หลังจากที่ได้สนทนาทั้งเรื่องธุรกิจและเรื่องทั่วไปด้วย



      กว่าชั่วโมงที่พูดคุยกัน คุณอิทธิพลก็เอ่ยขึ้น




"อื้ม วันเกิดผมจะจัดที่บ้าน คุณมาด้วยสิ"




     ไม่อยากเชื่อว่า ที่จิณณ์กำลังคิดหาโอกาส จะมีจังหวะเข้ามาได้พอดิบพอดีขนาดนี้ จิณณ์ไม่รีรอรีบรับคำ



"ครับ"



"ชวนคุณเจริญมาด้วยนะ"




"ได้เลยครับ"




"อืม ถ้างั้นเดี๋ยวผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่"



"ครับผม"




      เมื่อคุณอิทธิพลออกจากห้องไปแล้ว จิณณ์เริ่มมึนเล็กน้อย แต่ก็พอตั้งสติได้เขาคว้ากระดาษและปากกาในกระเป๋ามาเขียนข้อความเพื่อที่จะส่งให้กับเด็กหนุ่มที่ถูกขัง



       เขียนเสร็จรีบเดินไปยังห้องลึกลับที่อยู่ไม่ไกลกัน จิณณ์รีบสอดกระดาษใต้ช่องประตูด้านล่าง



"ทำอะไรน่ะ"



   เฮือก!!



   จิณณ์ผงะ หน้าเหวอ เขารีบลุกขึ้นยืน เม็ดเหงื่อผุดซึมทั่วใบหน้า มือเย็นเฉียบแต่กลับเต็มไปด้วยเหงื่อชุ่มมือ



    เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก จากนั้นเขาก็พยายามพูดให้ไหลลื่น



"ในห้องไม่มีสัญญาณ ผมเลยออกมาคุยโทรศัพท์ข้างนอกและจดข้อมูล แต่กระดาษดันหล่นลอดเข้าไปในห้องนี่พอดีครับ"



     บอกไปแต่ในใจลึกๆก็กลัวว่าคุณอิทธิพลจะจับได้ เพราะสายตาที่มองมายอมรับเลยว่าน่ากลัว


"อืม สำคัญมากไหมล่ะ ผมจะได้ให้คนมาเปิดประตูเข้าไปหยิบกระดาษให้"




     เหลือบมองใต้ช่องนั้น เม้มปากครุ่นคิดนิดหนึ่ง ก่อนตอบ



"ไม่เป็นไรครับ เกรงใจ เดี๋ยวผมโทรถามเขาอีกทีดีกว่าครับ"



"ตามใจคุณแล้วกัน" ว่าจบอิทธิพลพยักหน้ารับและไม่มีทีท่าเอะใจอะไร เขาเดินผ่านหน้าจิณณ์ไปด้วยอาการนิ่งๆ



     จิณณ์เป่าปากโล่งใจที่ปลอดภัยและไม่โดนฆ่าตายไปเสียก่อน



     นี่จิณณ์กำลังเล่นกับไฟอยู่หรือเปล่า? แล้วตกลงว่าสิ่งที่ทำนั้นเขาคิดถูกแล้วใช่ไหม? ไม่เป็นไรอย่างน้อยวันนี้ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีอีกหนึ่งวัน จิณณ์รีบเดินตามหลังผู้ใหญ่เข้าห้องไปอีกครั้ง



     ในระหว่างที่เสียงด้านนอกเงียบลงแล้ว ด้านในห้องขัง อิสระเหลือบเห็นกระดาษสีขาวแผ่นเล็กวางอยู่ตรงพื้นห้องใกล้ประตู เขาเดินเข่าไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาอ่าน



     คนที่ถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพ คนที่ไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป


      เพียงเห็นข้อความที่คนอื่นอาจมองว่าธรรมดา แต่สำหรับอิสระแล้ว มันช่างมีคุณค่าเหมือนแสงสว่างสาดส่องลงมายังคนที่หมดหวังอยู่ในมุมมืด


     อิสระอ่านจบพร้อมรอยยิ้มและน้ำตาที่ค่อยๆไหลอาบแก้ม



"คุณจะไม่หลอกผมใช่ไหมครับ?"


     มือเรียวกำกระดาษแนบอก กระดาษที่มีข้อความทรงคุณค่าต่อจิตใจ


     ข้อความที่ระบุว่า...

'ผมสัญญา ผมจะมาช่วยคุณ'


.........................................


ดีใจมากๆๆที่มีคนชอบพล็อตเรื่องแบบนี้นะคะ ขอบคุณค่า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2017 22:03:57 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ JellyKei

  • ✧٩(の❛ᴗ❛ の)۶
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คุณอิทธิพลจะแอบสงสัยมั้ยนะ กลัวใจ :serius2:
คุณจิณณ์จะช่วยยังไงล่ะเนี่ย ดูยากอยู่นา รอตอนต่อไปค่า :pig4:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
กลัวจะโดนจับได้

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ติดตามจ้า  :L2:

ออฟไลน์ 0%

  • 0percent.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มาต่อเร็วๆได้ม้าย ลุ้นมาก

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
บทที่ 2 ใกล้กว่าเดิม

   



แกร๊ก!



      เสียงเปิดประตูห้องอิสระดังขึ้น เขาที่นั่งกอดเข่า หลังพิงกำแพง มองออกไปนอกหน้าต่างก็เบนสายตาไปที่ประตูด้วยรอยยิ้มระรื่น ทว่า กลับหุบลงในไม่กี่วินาที เมื่อเห็นว่าเป็นคุณอิทธิพลพร้อมลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาพร้อมเก้าอี้



      เป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้วที่คุณอิทธิพลไม่ได้เข้ามาห้องนี้เลย วันนี้เกิดอะไรขึ้น




"ไงล่ะ คิดถึงฉันไหม?" เดินมาใกล้ ย่อตัวลง จับปลายคางอิสระและยิ้มเยาะ


"ครับ!" ไม่ได้ตอบ สำหรับเขามันคือการขานรับมากกว่า



"อ่อ!...ใช่สิ เห็นแขกของฉันบอกว่าทำกระดาษหลุดมือ ปลิวหล่นเข้ามาในนี้นายเห็นมันบ้างรึเปล่า?" ถามและลุกขึ้นยืนก้าวถอยหลังไปนั่งเก้าอี้ที่คนของเขาเตรียมมาให้



     อิสระชะงัก ส่งสายตาหลุกหลิก แต่สักพักก็กลับมาด้วยใบหน้าปกติ



"ไม่นี่ครับ?"


"เอ้! แขกของฉันโกหกหรือ?"



     อิสระรีบเปลี่ยนเรื่อง



"คุณอิทธิพลเข้ามาทำไมครับ?"


"ก็...วันนี้ ฉันอยากดู?"



"ดูอะไรครับ?" อิสระเอียงคอมองอย่างสงสัย



"ดูนายออรัลเซ็กส์ให้ไอ้ชาย"




      อิสระเบิกตากว้างอย่างตกใจ มันนานมากแล้วที่คุณอิทธิพลเคยบังคับ ขู่เข็ญเขาเรื่องนี้ เพราะโดยปกติ คุณอิทธิพลเกลียดขี้หน้าเขาอย่างกับอะไรดี การทำร้ายร่างกายอย่างป่าเถื่อน ราวกับเขาไม่ใช่มนุษย์ คุณอิทธิพลดูน่าจะชอบใจมากกว่า


     แต่อิสระพอจะจับทางได้ เมื่อใดก็ตามที่คุณอิทธิพลให้เขาทำแบบนี้ มีไม่กี่อย่าง คุณอิทธิพลกำลังสนใจใครบางคนอยู่





      คราวนี้ คุณอิทธิพลชอบใครอีก...



"คราวนี้ ผ...ผมขอไม่...นะครับ"



      หนก่อนที่อิสระยอม เพราะตอนนั้น เขาร่างกายและจิตใจบอบบาง แต่พอตอนนี้ สภาพจิตใจเข้มแข็ง เขาอยากปฏิเสธในสิ่งที่เขาไม่อยากทำบ้าง เพราะเรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ อิสระอยากทำให้เฉพาะคนที่เขารักเท่านั้น



"กล้าปฏิเสธฉันหรือ?"



"ค...คือ"



"นี่!...ฉันอารมณ์ดีอยู่นะ อย่าทำให้อารมณ์เสีย ช่วยไอ้ชายมันเดี๋ยวนี้!!"




       คุณอิทธิพลตวาดและไล่ให้ 'ชาย' ลูกน้องคนสนิทที่มีรูปร่างสูงใหญ่ สมชายชาตรี มีใบหน้าคม คร้าม หล่อเหลา แฝงความเจ้าเล่ห์หรือเจ้าชู้ เดินไปยืนตรงหน้าอิสระที่นั่งอยู่ที่พื้น


"ไอ้ชาย ถอดกางเกงซะ"  สิ้นคำสั่ง ชายพลันเหลือบมอง 'กรณ์' ลูกน้องคนสนิทของคุณอิทธิพลอีกคน ที่ดูทรงแข็งแรงพอกัน ซึ่งมีฉายาว่า 'หน้าตี๋ หน้าตาย' ก่อนจะละสายตาหันมองคนออกคำสั่งพร้อมพยักหน้า



      ชายดึงกางเกงแสลคลงไปกองที่ข้อเท้า เหลือเพียงอันเดอร์แวร์ปกปิดของสงวนไว้

     

       อิสระไม่อยากทำแบบนี้ เขานั่งนิ่งก้มหน้าหนีของสงวนที่อยู่ระดับเหนือศรีษะ



"ลูบ"


      อิทธิพลเริ่มหงุดหงิดจนต้องสั่งลูกน้องอีกคน


"ไอ้กรณ์ จับมือมันมาลูบของไอ้ชายซิ เห็นไหมว่าของมันตั้งแล้ว"



     กรณ์ใจกระตุก  แววตาวูบไหวไปครู่หนึ่งก่อนจะยอมทำตามคำสั่ง ดึงมืออิสระให้มาจับแก่นกายของชาย



     อิสระขืนแรงมือพยายามสะบัดออกแต่ไม่เป็นผล มือของเขาสัมผัสแก่นกายที่ตุงเด่นจนเห็นได้ชัด



     อิสระน้ำตาคลอ เขาเกลียดการบังคับขู่เข็ญ จนกระทั่ง เสียงคำสั่งดังขึ้นอีกครั้ง ให้กรณ์จับมืออิสระดึงอันเดอร์แวร์ของชายให้พ้นตา และแล้วแก่นกายที่แข็งราวกับแท่งเหล็กก็โผล่ให้เห็นเป็นประจักษ์แก่สายตาทุกคน ณ เวลานี้



    จังหวะนั้น อิสระชักมือกลับ เขยิบตัวหนี แต่เมื่อใดที่เจ้าตัวคิดต่อต้าน เขาจะโดนลงโทษทันที



 ผลั่ก!



    อิทธิพลใช้เท้าถีบเข้าที่หัวไหล่อิสระ เมื่อเห็นอีกฝ่ายขัดขืน



"ไอ้กรณ์ไปเอาเทียนไข-ไฟแช็คมา"



"ครับ" รับคำและปล่อยมืออิสระ เดินออกไปจากห้อง



"พูดดีๆไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลังใช่ไหม?"



"ท...ท่านครับ"



    ชายเริ่มจะไม่สนุกแล้วสิ ที่ตัวเองต้องมายืนเปลือยต่อหน้าใครหลายคน



"มึงหยุดพูด ไอ้ชาย!"




      ไม่นาน กรณ์กลับมาพร้อมของที่นายต้องการ



      กรณ์ล็อคแขนคุณอิสระไม่ให้ดิ้นหนี อิทธิพลใช้เทียนไขจุดไฟ ก่อนจะปล่อยให้น้ำตาเทียนหยดใส่ตามแขน ขาและหลังจนทั่วร่างกายอิสระ



      เด็กหนุ่มร้องโหยหวนอย่างทรมาน สุดท้ายเขานึกได้ว่า จะตายไม่ได้ ในเมื่อรอบนี้ เขามีความหวังจากการรอดกว่าทุกครั้ง อิสระตะโกนร้องขอบอกให้พอและจะยอมทำตามความต้องการ



     อิทธิพลยิ้มชอบใจ ก่อนจะเป่าเทียนไขให้ไฟมอดลง กลับไปหย่อนก้นนั่งไขว่ห้าง กอดอกที่เก้าอี้ มองคนสองคนที่กำลังจะเล่นหนังสดให้ดู



     อิสระน้ำตาไหลในขณะที่มือค่อยๆรูดรั้งแก่นกายของชายช้าๆ เสี้ยววินาทีนั้น ชายเหล่มองกรณ์ก่อนจะยิ้มร้าย และใช้มือตัวเองวางทาบบนมืออิสระเพื่อขยับให้มันเร็วขึ้น



     ผ่านไปไม่นาน อิทธิพลออกคำสั่งอีกครั้งด้วยการบังคับให้อิสระทำออรัลเซ็กส์ได้แล้ว



       อิสระกล้าๆ กลัวๆ จนเขาโดนชายกดศรีษะให้ไปใกล้ลูกชายของเขา



       พออิสระลงมือทำมัน ชายถึงกับสูดปาก แหงนหน้าขึ้นหลับตาและเผลอหลุดเสียงครางเบาๆอย่างเสียวกระสัน



"ผมขอออกไปรอข้างนอกนะครับ"
กรณ์ก้มลงกระซิบบอกนาย



"ทำไม? ชัดขนาดนี้ ดีกว่าดูหนังโป๋อีก หรือว่าจริงๆแล้ว นายทนดูไม่ได้หรือ? ฮึ!"


      กรณ์ชะงัก


"เปล่าครับ ผมขอออกไปนะครับ"



    ยืนยันคำเดิม และเดินดุ่มๆไม่สนใจออกไปรอข้างนอก  ส่วนอิทธิพลหัวเราะในลำคอ ส่ายหน้า ก่อนจะหันกลับมามองชายและอิสระที่กำลังแสดงฉากถึงพริกถึงขิง



     ไม่นานนัก อิสระสามารถช่วยชายให้ถึงฝั่งฝัน ชายรีบสวมกางเกงจนเสร็จเรียบร้อย และเดินไปรอด้านนอก ปล่อยให้อิทธิพลอยู่บกับอิสระตามลำพัง



      คนอายุมากกว่าก้าวไปหาเด็กหนุ่มที่ยกมือเช็ดน้ำสีขาวขุ่นที่ไหลเยิ้มจนเลอะขอบปาก



     ย่อตัวลงนั่ง ตบแก้มอิสระเบาๆแล้วเอ่ยขึ้น



"วันนี้ ฉันชอบนะ ถ้าทำตัวดีแบบนี้บ่อยๆ ฉันจะมีรางวัลให้"



     อิสระไม่ตอบ ได้แต่มองคนอายุมากลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วหมุนตัวเดินออกไป



     ฟากอิทธิพลเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ เขาเดินยิ้มอารมณ์ดีและบอกกรณ์ให้ไปตามป้าแก้วมา ในขณะที่เจ้านายเดินทิ้งห่างไปหลายก้าว



      ชายกระชากไหล่กรณ์ให้หันมา



"ตอนอยู่ในห้อง มึงทำหน้าไม่พอใจทำไม?"



"เปล่า?" กรณ์ตอบ



"อยากใช่ไหม? กูทำให้ได้นะ"



"ไม่ใช่เรื่องของมึง" กรณ์สะบัดไหล่หนีแล้วเดินว่องไวอย่างไม่สนคนที่ตั้งใจเล่นสงครามประสาท


"หึๆ ไอ้กรณ์อย่าคิดว่ากูไม่รู้" หัวเราะคนเดียวและตั้งใจเดินตามไปป่วนใครบางคนให้ปวดหัวเล่น



      ถัดมา ด้านในห้องขัง ไม่เหลือใคร อิสระปล่อยโฮทันที



      ทุกอย่างเกือบจะดีอยู่แล้วเชียว...ทำไมมันกลับมาเป็นแบบนี้อีกแล้ว อิสระปาดน้ำตาและพยายามล้วงคออ้วก เขาขยะแขยงและเกลียดตัวเองที่ต้องออรัล เซ็กส์ให้คนที่เขาไม่รัก



     แต่จังหวะนั้น...



"คุณอิส" ป้าแก้ววางกล่องปฐมพยาบาล และถลาไปหาอิสระ



"ฮือๆ ป้าแก้ว ผมไม่ไหวแล้วครับ ผมอยากให้เขาคนนั้นมาช่วยผมแล้ว"



"โถ...คุณอิสของป้า" ป้าแก้วกอดเด็กหนุ่มที่มีแผลพุพองจากน้ำตาเทียน เธอน้ำตารื้นจนต้องรีบซับ



"ป้าแก้ว เห็นคุณอิสเป็นแบบนี้ไม่ไหวแล้วค่ะ คราวนี้ ป้าแก้วจะช่วยเต็มที่ คุณอิสไม่ต้องกังวลค่ะ"



"ครับ ขอบคุณนะครับ"



"ใจเย็นๆนะคะ ไม่นานจะถึงวันเกิดคุณอิทธิพล พ่อหนุ่มคนนั้นต้องมาช่วยคุณอิสของป้าแน่ๆ" ป้าแก้วตอบอย่างมั่นใจ ก่อนจะผละจากการกอดอิสระที่เอ็นดูเหมือนลูกในไส้ และค่อยๆบรรจงทำแผลในขณะที่น้ำตาคลอเบ้า




 
****1.1****
:m15: :monkeysad: :monkeysad: :m15: :sad11: :m15: :monkeysad: :sad11:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2017 22:04:24 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
  :m16: :3125: :m16:


 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
บทที่ 2 ใกล้กว่าเดิม(2)



...............





    และแล้ววันเกิดคุณอิทธิพลก็มาถึง...



     หลังจาก ผ่านพ้นราวหนึ่งเดือน แขกเหรื่อมาตามคำเชื้อเชิญพร้อมของขวัญติดมือไม่มีขาด



      มีหนึ่งคนที่มีจุดมุ่งหมายต่างจากการมาอวยพรทั่วไป ได้แต่สอดส่องหาป้าคนนั้นว่าอยู่ไหน จนกระทั่ง จิณณ์เจอะป้ากำลังยืนสั่งเด็กให้เสิร์ฟเครื่องดื่ม เขาปลีกตัวจากพ่อและปรี่ไปหา



"ป้าครับ"



"คุณ..!"



"น้องคนนั้นเป็นไงบ้างครับ?" จิณณ์ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา



"แย่ค่ะ จะเป็นไปได้ไหม? ถ้าคุณจะพาออกไปวันนี้"



     จิณณ์พยักหน้าน้อยๆ เพราะจุดประสงค์ที่มาก็อยากช่วยอยู่แล้ว จิณณ์ถามป้าแก้วเพิ่มเติมถึงการเข้า-ออกของบ้านหลังนี้ที่นอกเหนือจากด้านหน้า



     เมื่อได้คำตอบว่ายังมีทางออกอื่นๆอีก เขาตกลงกันได้เรียบร้อย จึงเดินออกจากบ้านไปขยับรถให้อยู่ใกล้ทางออกนั้นที่สุด



     เป็นจังหวะดีที่ผู้คนมางานวันเกิดกันคับคั่ง ทำให้จิณณ์เล็ดรอดสายตาจากการ์ดของคุณอิทธิพลได้ เขาเดินออกไปเปลี่ยนตำแหน่งจอดรถเสร็จสรรพก็เดินกลับเข้ามายังส่วนห้องโถงของการจัดงาน กวาดสายตามองว่ามีใครมองจิณณ์ผิดปกติหรือไม่ ปรากฎว่าไม่  ทุกคนยังสังสรรค์ท่ามกลางบรรยากาศอันน่าสนุกสนาน แถมเสียงดังระงมจากการจับกลุ่มคุยสนทนากันเป็นส่วนมาก

     

     หลังจากนั้น จิณณ์เดินไปหาป้าแก้วตามนัด คือ ละแวกห้องน้ำ



     เจอะหน้ากัน ทั้งสองรีบดิ่งไปยังห้องลึกลับ แต่ก็พยายามมองซ้าย มองขวาไปด้วย...



     จิณณ์เริ่มเหงื่อแตก เพราะเอาเข้าจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ใจกล้า บ้าบิ่นทำอะไรแบบนี้ นับว่าเป็นการเสี่ยงตายมากสำหรับความคิดของเขา

 

     ไขกุญแจเสร็จ พอประตูเปิดกว้าง สภาพที่จิณณ์เห็นเต็มสองตาคือ ภาพชายหนุ่มนั่งพิงกำแพง หลับตา ร่างกายมีแผลเต็มตัวจนดูไม่ได้





    จิณณ์ดึงสติกลับเมื่อเสียงป้าแก้วดังขึ้น



"คุณอิสคะ ป้าพาคนที่ช่วยคุณอิสมาได้แล้วนะคะ"



     อิสระลืมตามองผู้มาใหม่และยกมือไหว้



"สวัสดีครับ ขอบคุณนะครับที่คิดจะช่วยผม"



      จิณณ์ยิ้มและก้าวไปข้างหน้าเพื่อให้ใกล้ตัวอิสระสักหน่อย ส่วนป้าแก้วขอตัวออกไปดูลาดเลา จิณณ์ไม่อยากให้เสียเวลา ย่อตัวลง ดึงมืออิสระให้ลุกขึ้น แต่เขากลับโดนผลักอย่างแรง



"คุณเป็นอะไร?" จิณณ์ถาม อิสระชะงัก



     เขาไม่คุ้นชินที่คนแปลกหน้าโดนตัวอาจเพราะยังกลัวๆอยู่



"ข...ขอโทษครับ"



   จิณณ์เอียงคอมอง จนได้คำตอบในใจว่าอิสระน่าจะยังหวาดกลัวอยู่?



   จิณณ์เลือกที่จะไม่แตะตัว...ได้แต่บอกให้อิสระลุกตาม...ขณะที่ สองคนกำลังเดินออกจากห้อง...



ปัง!



   ป้าแก้วงับประตู พอจิณณ์จะเปิดก็เหมือนมีคนจับไว้ ในจังหวะนั้น จิณณ์หยุดเท้า และกลั้นหายใจโดยอัตโนมัติ เมื่อได้ยินเสียงแว่วๆของคนคุยกันด้านนอก เขาจึงแนบหูไปที่บานประตู



"ทำอะไรน่ะ ป้าแก้ว"


"ป้าลืมน่ะสิว่าเอาชุดจานข้าวออกไปหรือยัง วันนี้ งานวันเกิดคุณท่าน ป้าเลยยุ่งจนจำไม่ได้"



"อ่อ...เออ...แล้วป้าแก้วเห็นมีคนขึ้นมาไหม? เมื่อกี้ผมเห็นเงาแวบๆน่ะ"



    สิ้นคำนั้น จิณณ์ใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกจากอก



"ก็ป้าเองไง เอ้! อย่ามาพูดให้ป้ากลัว นายกรณ์"



"อยู่มาตั้งนาน มากลัวอะไรกับคำพูดผม"



"ไปๆ รีบลงไปข้างล่างๆได้แล้ว" ป้าแก้วบ่ายเบี่ยง


"ป้าแก้วลงไปก่อนเถอะ คุณอิทธิพลเพิ่งไล่ผมให้มาเฝ้าคุณอิสระนะ เขาบอกเห็นเหมือนมีคนเดินขึ้นมา"



    ด้านนอกเงียบลง จนจิณณ์ถึงกับหลุดสบถในบำคอ



   ฉิบหายแล้วไง!!



   เพียงได้ยินประโยคหลัง เขาชักหวั่นๆ เมื่อการที่เขาคิดว่าจะรอดสายตากลับไม่เป็นอย่างที่คิด



    ประเด็นสำคัญ ไม่ใช่แค่พาอิสระออกไปไม่ได้เท่านั้น แต่เขายังโดนขังอยู่ในนี้ด้วย แล้วถ้าเขาหายไปในงานแบบนี้นานๆ จะมีใครสงสัยไหม?



    ทันใดนั้น เขารีบส่งข้อความโกหกพ่ออ้างว่ามีธุระด่วนเลยขอออกจากงานเลี้ยงไปก่อน



    ในขณะที่จิณณ์จัดการเรื่องของตัวเองได้ ทางฝั่งอิสระกลับทรุดตัวลงกับพื้นอย่างคนหมดแรง



     และแล้ววันนี้ก็ยังไม่ใช่วันของเขาอีกจนได้ อิสระต้องใช้เวลาอีกเมื่อไหร่ถึงจะหนีนรกนี้ไปให้พ้นๆ



     อิสระถอนหายใจ และฟุบหน้าลงกอดเข่า



"คุณอย่าเพิ่งท้อ คุณต้องออกไปได้แน่ๆ"



"ผ..ม..."



"คุณครับ"



   เอื้อมมือไปแตะหัวไหล่เบาๆ อิสระสะดุ้ง เงยหน้ามองด้วยแววตาของคนหมดหวัง



"คุณโอเคนะ"




   อิสระส่ายศรีษะ


"ผ...ม ขอโทษครับ ที่ทำให้คุณต้องมาติดอยู่ในนี้ด้วย"




   จิณณ์ฝืนยิ้ม ทั้งๆที่ใจก็ไม่อยากยิ้มนักหรอก เขาก็ยังกลัวอยู่



    จากนั้น ต่างฝ่าย ต่างเงียบกินเวลากว่าสิบห้านาที เพราะทั้งสองยังคงเครียดกับเรื่องนี้พอสมควร




     แต่เมื่อรู้ว่ายิ่งเงียบยิ่งเครียดกว่าเดิม แถมดูจะเปล่าประโยชน์อีกด้วย จากที่เดินไปมาในห้องเล็กๆ จิณณ์หย่อนกายลงนั่งข้างๆอิสระ


     ไหนๆก็ติดอยู่ในนี้แล้ว เขาคงทำอะไรไม่ได้อยู่ดี จิณณ์จึงหาเรื่องชวนอิสระคุย



"ผมอยากรู้เรื่องคุณมากกว่านี้ คุณชื่ออะไรครับ?" ถามเพื่อต้องการรู้จักตัวตนอิสระมากขึ้น



"อิส-อิสระครับ"


"ชีวิตคุณคงตลกร้ายไปหน่อยนะ ชื่ออิสระ แต่โดนกักขังแบบนี้ ผมชื่อจิณณ์"




       อิสระแค่นยิ้ม ก่อนตอบ


"ครับ คุณจิณณ์"

   
"ขอถามหน่อย? ว่าคุณเป็นอะไรกับคุณอิทธิพล"



     อิสระเงียบไม่ตอบ จนจิณณ์คิดว่าเขาคงไม่พร้อมจะตอบเรื่องนี้



"ไม่สะดวกตอบ ไม่เป็นไรนะครับ ผมเข้าใจ"



"คุณรู้ไหม ? ผมเคยทำแบบนี้ กับแขกที่มาหาคุณอิทธิพลครั้งหนึ่ง แต่เขาคนนั้นเอาไปฟ้อง วันนั้น ผมโดนซ้อมเกือบตาย"



"จริงหรือ? แล้วทำไมคุณถึงทำแบบนี้อีกล่ะ ไม่กลัวผมจะฟ้องบ้างหรือ?"


"ไม่ครับ ป้าแก้วมาบอกผมก่อนว่าคุณน่าจะเป็นคนดี ให้ลองดู"



    ประโยคธรรมดา แต่จิณณ์กลับรู้สึกดี นี่สินะที่ ว่ากันว่าการเป็นผู้ให้ และได้ช่วยเหลือผู้อื่นมันสร้างคุณค่าต่อจิตใจเราได้ดีจริงๆ



"คุณอายุเท่าไหร่แล้ว?"


"ยี่สิบสอง"



"คุณล่ะ"




   จิณณ์ยิ้มแห้งก่อนตอบ


"เรื่องอายุผมคุณอย่าสนใจเลย มันก็แค่ตัวเลข?"



    คนที่ดูเครียดในตอนแรกกลับหลุดยิ้มจนจิณณ์เผลอยิ้มตาม


"แสดงว่าคุณแก่กว่า"


"ก็ไม่เท่าไหร่หรอกน่า ผมว่าเราควรเปลี่ยนเรื่องนะ"



     ท่ามกลางความทุกข์ ก็ยังมีสิ่งเล็กๆที่สร้างรอยยิ้มได้เหมือนกัน อิสระไม่คิดว่าการได้เปิดบทสนทนาคุยกับคนนี้แล้วทำให้เขารู้สึกว่าสบายใจ



     อิสระยิ้มขำ แต่ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรต่อ จึงเงียบเสียงลง


    จังหวะที่ทั้งสองต่างเงียบไปขณะหนึ่ง จิณณ์ไล่สายตามองตามตัวอิสระ ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะแผลเหล่านั้นอย่างแผ่วเบา อิสระกำลังจะสะบัด เพียงแค่เห็นสายตาอีกฝ่าย และน้ำเสียงที่ฉายชัดถึงความเป็นห่วงจริงใจจริงจัง อิสระกลับปล่อยให้เขาแตะต้องตัวไปอย่างนั้น


"เจ็บไหม?"


     อิสระละสายตาจากใบหน้าหล่อคม ก้มมองมืออุ่นๆที่แตะแผลเขาอยู่


"ชินแล้วครับ"


"ทำไม? คุณโดนมานานแล้วหรือ?"



    อิสระพยักหน้า


"นานแค่ไหน?"


"ตั้งแต่โดนขังก็สี่ปีได้มั้งครับ"



"ห๊ะ!! นานขนาดนั้นเลยหรือ? ผมนึกว่าคุณแค่โดนขัง ไม่ได้โดนทำร้ายร่างกายซะอีก คุณเล่าให้ฟังได้ไหม" อิสระยิ้มเยาะชีวิตตัวเอง


"เรื่องของผมมันน่าสมเพชครับ ผมกลัวคุณฟังแล้วจะหดหู่ใจไปเปล่าๆ"


      จิณณ์ถอนหายใจก่อนจะเลื่อนมือตัวเองไปวางทาบบนมือเด็กหนุ่ม

"ทนอีกนิดนะ อิสระ พี่จะพาเราออกไป"



    อิสระเงยหน้ามองคนที่เปลี่ยนสรรพนาม เพื่อแสดงถึงความสนิทสนม



    จากคำพูดกระดาก กระด้างที่ได้ยินอยู่บ่อยๆ พอได้ยินเสียงนุ่ม รื่นหู น่าฟังมันทำให้หัวใจของอิสระรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก



      ทำไมผู้ชายคนนี้กลับมีจิตเมตตา ยื่นมือเข้ามาช่วยเขา ทั้งๆที่เขาไม่ได้อะไรจากเรื่องนี้เลยสักนิด แถมอิสระเองก็คงไม่มีอะไรให้เขาหลอก ทั้ง ทรัพย์สินเงินทอง หรือสภาพร่างกายก็ไม่ได้ดูดี มีแต่แผลเป็นจนเหมือนตุ๊กแกที่ใครเห็นคงรังเกียจน่าดู


      อิสระยิ้มน้ำตาคลอเบ้า เพราะไม่คิดว่าจะมีคนดีๆแบบนี้อยู่



"ไม่เอาสิ เข็มแข็งนะครับ"  บอกและใช้ปลายนิ้วเกลี่ยรอบดวงตาอิสระ จิณณ์เอ็นดูเด็กคนนี้ การได้เห็นชีวิตของอิสระทำให้รู้เลยว่า บนโลกใบนี้ ยังมีคนที่แย่กว่าเราอีกมาก

 

   จิณณ์สงสารและเห็นใจอิสระที่ไม่มีทางเลือก ต้องถูกคุมขัง โดยไม่สามารถไปไหนได้ จะไปเที่ยวเล่น ช็อปปิ้ง กินอาหารอร่อยๆ ก็คงไม่มีโอกาส กลับกัน จิณณ์สามารถใช้ชีวิตอิสระและได้ทำตามใจชอบ



    จิณณ์ย้อนกลับมามองตัวเองว่าเขาโชคดีแค่ไหน...ที่ไม่ได้เป็นอย่างอิสระ




   จิณณ์สัญญากับตัวเองแล้วว่า ไม่ว่าจะร้ายดียังไง เขาจะพาอิสระออกไปให้ได้



   สองชั่วโมงผ่านไปที่ทั้งสองยังคงคุยกันไปเรื่อยๆ จนเวลานี้ ก็เริ่มจะคุ้นเคยและสนิทสนมมากขึ้น



"ถ้าป้าแก้วพาพี่จิณณ์ออกไปไม่ได้ และต้องติดอยู่ในนี้เป็นสัปดาห์ พี่จิณณ์จะทำยังไงครับ"



"พี่ก็อยู่เป็นเพื่อนอิสไง อิสจะได้ไม่เหงา ไม่ต้องอยู่คนเดียวเหมือนแต่ก่อน"


    อิสระขำ ที่พี่จิณณ์ทำให้เรื่องเครียดกลายเป็นเรื่องตลกได้อย่างไม่น่าเชื่อ


"พี่จิณณ์อยู่แต่ในนี้ มันไม่มีอะไรน่าสนุกหรอกนะครับ น่าเบื่อจะตาย"


    จิณณ์แนบหน้าลงบนหัวเข่า เอียงคอมองอิสระก่อนจะคลี่ยิ้มน้อยๆ


"ถ้ามีอิสระอยู่ พี่ว่ามันคงไม่น่าเบื่อหรอกมั้ง"



   สิ้นคำ อิสระสบตามองคนตอบ เขาเห็นรอยยิ้มละมุนและสายตาอบอุ่น จนอิสระต้องรีบก้มหน้างุด



    กี่ปีแล้วนะที่อิสระไม่เคยได้รับรู้ถึงความห่วงใยอย่างจริงใจแบบนี้



    พี่จิณณ์กำลังทำให้อิสระรู้สึกว่าเขาได้รับการปกป้อง



     หัวใจสีหม่นของอิสระกำลังคลายกลายเป็นสีสดใสจากคำพูดของเขา



"พี่จิณณ์เป็นคนดีจังนะครับ"



     อยู่ดีๆ จิณณ์ก็พูดขึ้นมาโดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำตอบก่อนหน้า แต่ที่ทำให้อิสระชะงักงัน คือ จิณณ์ดึงมืออิสระไปกุมไว้แน่น


"ถ้าอิสจะออกจากที่นี่ไปได้ ก็ต้องเข้มแข็งไว้นะ ส่วนพี่จะช่วยสุดความสามารถ"


     บอกอิสระจริงจัง เพราะจากเหตุการณ์วันนี้ มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย เขามองเห็นโอกาสก็จริง แต่สิ่งที่จิณณ์ต้องไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน คือ ควรวางแผนให้รอบคอบกว่านี้ 





"ครับผม เอ่อ..พี่จิณณ์ครับ ผมง่วงขอนอนก่อนได้ไหม?"



    เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือนี่เพิ่งห้าทุ่มเอง ทำไมอิสระนอนไวจังสงสัยคงเคยชินกับการนอนเวลานี้ เพราะอย่างว่าการอยู่ในห้องว่างเปล่า การนอนหลับคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด



"ได้ครับ"



    พออิสระหลับ จิณณ์คว้าโทรศัพท์มือถือมาดูก็พบว่ามีแบตเตอรี่เหลือไม่ถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ สงสัยเขาคงต้องงีบตามอิสระเสียแล้ว แต่ก่อนหลับ จิณณ์มองคนที่หลับตาพริ้มด้วยรอยยิ้มจริงใจ การได้พุดคุยกับอิสระทำให้รู้ว่าเด็กคนนี้มีความคิด ความอ่านที่ดี มีความฝันเหมือนคนทั่วไปและเป็นเด็กธรรมดาที่ไม่มีพิษ มีภัย จิณณ์เอื้อมมือไปแตะใบหน้าที่เคลือบความโศกเศร้าไว้



    จิณณ์ขยับตัวไปใกล้กว่าเดิม ก้มลงหวังจะกระซิบบอก แต่เพราะกะจังหวะผิด จมูกโด่งจึงเฉียดผิวแก้มเด็กหนุ่ม...จนเขาเองก็เผลอชะงัก จากนั้นก็เอ่ยถ้อยคำ



"ยินดีที่ได้รู้จัก ฝันดีนะครับ"










    ยามเช้าวันใหม่...



    แสงสว่างสาดส่องผ่านผ้าม่านเนื้อบาง อิสระลืมตาขึ้นมาก็เห็นแสงแดดอ่อน ณ เวลานี้ เขาคาดการณ์ไว้ว่าคงเจ็ดโมงเช้า เด็กหนุ่มลุกพรวดจากพื้น กวาดสายตาจนทั่วก็ไม่มีพี่จิณณ์อยู่ในห้องนี้แล้ว



    ป้าแก้วคงพาพี่จิณณ์ออกไปได้



    อิสระรู้สึกแปลกกับตัวเอง เขาใจโหวงๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ เขาก็อยู่คนเดียวในห้องว่างเปล่าแบบนี้ได้ แต่พอรู้ว่าใครคนหนึ่งออกไป ทำไมมันช่างอ้างว้างอย่างบอกไม่ถูก     



    อิสระใช้สองมือโอบกอดตัวเองแนบแน่น ทำไมเวลาแห่งความสุขของเขามันผ่านไปเร็วขนาดนี้ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า เขายังยิ้มหัวเราะกับคนข้างๆอยู่เลย แต่ ณ นาทีนี้ ห้องได้ถูกปกคลุมด้วยความเงียบเหงา เดียวดายอีกครั้ง...


...............................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-10-2017 23:52:47 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ JellyKei

  • ✧٩(の❛ᴗ❛ の)۶
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
กรณ์ถึงขั้นขึ้นกูมึงกับคุณอิทธิพลได้นี่แสดงว่าไม่ได้เป็นแค่ลูกน้องคนสนิทธรรมดาใช่มั้ย?
คุณอิทธิพลนี่ก็จิตเกิน สงสารอิสระมาก แล้วคราวหน้าจิณณ์จะหาทางมาช่วยยังไงล่ะเนี่ย :z3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด