บ้านสวนของผม มีสิ่งเหนือธรรมชาติอยู่ครับ (Up ตอนชดเชย P.6 28/10/2560)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บ้านสวนของผม มีสิ่งเหนือธรรมชาติอยู่ครับ (Up ตอนชดเชย P.6 28/10/2560)  (อ่าน 23866 ครั้ง)

ออฟไลน์ Velusia

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
รบกวนอ่านกันนิดนึงนะครับ


**************************************************************************************

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
***********************************************************************************
 เปิดเรื่อง 8/9/2560
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2017 22:22:55 โดย Velusia »

ออฟไลน์ Velusia

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
บทนำ

*******************

   หลังแม่ตาย ตัวผมที่เป็นลูกเมียน้อยเลยต้องระเห็จจากบ้านใหญ่ในกรุงเทพฯ มาอยู่บ้านสวนที่ต่างจังหวัดอันเป็นมรดกตกทอดชิ้นสุดท้ายจากแม่ เพราะมันเป็นของแม่  เมียหลวงของพ่อจึงไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่ายผม  โดยที่ผู้ชายที่เป็นพ่อของผมจะรับหน้าที่ส่งเสียเงินค่าเลี้ยงดูตามสมควรเพียงอย่างเดียว

   หึ...คิดว่าไม่มีแม่ผมแล้วพ่อคนนั้นจะหยุดเจ้าชู้อย่างนั้นเหรอ  คุณหญิงพิมผกาฝันเฟื่องเป็นบ้า!

   ผมถอนหายใจขณะขนของขึ้นเรือน  ในตอนนี้ผมมีเงินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งอยู่ในมือ เป็นเงินที่ผมเก็บออมจากงานพิเศษและค่าขนมที่ได้เกินความจำเป็นตั้งแต่เล็กๆ ถ้าใช้ดีๆผมอาจจะอยู่ได้สบายๆโดยไม่ต้องพึ่งพาเงินจากพ่อไปอีกปีสองปี แต่ก็นั่นแหละ  ผมเพิ่งเรียนมัธยมปลายจบ และแม่ฝันอยากให้ผมจบปริญญา จะได้ไม่ต้องลำบากเหมือนแม่  ดังนั้นเงินก้อนนี้คงช่วยยื้อลมหายใจของผมได้ประมาณครึ่งปี  ในกรณีที่พ่อผิดสัญญา

   แต่อย่างน้อยเขาก็โอนในส่วนของเดือนนี้มาให้สองหมื่น  ถ้าหักค่าเทอมกับอะไรต่อมีอะไรที่ต้องจ่าย  ผมก็เหลือเงินอีกไม่กี่พัน

   ผมถอนหายใจ วางสมุดบัญชีสามเล่มลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง  เป็นบัญชีส่วนตัวหนึ่งเล่ม  เล่มที่เปิดให้พ่อโอนเงินมาให้อีกหนึ่งเล่ม และเล่มสุดท้ายเป็นสมุดบัญชีเงินฝากของแม่ที่ตอนนี้บริษัทประกันโอนเงินประกันของแม่มาให้เรียบร้อยแล้ว ผมหยิบสมุดบัญชีของแม่เก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าให้มิดชิดที่สุด  มันเป็นเงินที่แลกมาด้วยชีวิตของแม่  ดังนั้นถ้าไม่คอขาดบาดตายจริงๆผมจะไม่เอามาใช้เด็ดขาด

   ผมเก็บข้าวของเสร็จในตอนบ่ายสี่โมงเย็น  เลยปิดบ้านแล้วจูงจักรยานของตัวเองที่ขนมาด้วยอกมาปั่นไปตลาดเพื่อซื้อของ ผมแวะจอดที่ตลาดคลองถม มีร้านเยอะแยะมากมาย  ผมเดินเลือกซื้อของที่จำเป็นหลายอย่างเพราะที่บ้านโล่งมาก  ในที่สุดผมก็ได้ตู้เย็นเล็กหนึ่งหลังในราคาที่ไม่แพงนัก ออกจะถูกกว่าในเมืองเสียด้วยซ้ำเพราะมันเป็นรุ่นที่เก่าแล้ว  แต่เพราะฉลากเบอร์ห้าทำให้ผมเชื่อว่ามันคงจะไม่สูบค่าไฟของผมมากนัก  ผมได้ฟูกนอนราคาสามร้อยบาทพอเหมาะให้นอนกลิ้งได้สบาย แอบนึกเสียดายที่ไม่ขนผ้าห่มมาจากบ้านใหญ่ ผมเลยต้องจ่ายไปอีกสี่ร้อย แม้ฟูกนอนจะเกรดต่ำแต่ผมก็ควรจะได้ผ้าห่มดีๆเพราะแถบนี้หนาวมากจริงๆในหน้าหนาว  ผมนึกขอบคุณที่ในบ้านมีตู้เสื้อผ้า  โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้กับข้าว แล้วก็โต๊ะกินข้าว ไม่งั้นผมอาจจะต้องเจียดเงินซื้อเพิ่มก็เป็นได้  ผมเสียเงินไปอีกร้อยเพื่อเป็นค่าจัดส่งให้เขาไปส่งให้ที่บ้าน  คนรับส่งมองหน้าผมอย่างแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรผม

   หลังจากจบเรื่องเครื่องเรือน ผมก็ไปต่อกับพวกสบู่ยาสีฟันแปรงสีฟันยาสีฟันยาสระผม แล้วปิดท้ายด้วยซื้อกับข้าวสำเร็จรูปกับข้าวสวยหนึ่งถุงเพราะผมยังได้ซื้อข้าวสารไว้สำหรับกรอกหม้อ จากนั้นจึงปั่นจักรยานกลับบ้าน

*****************   

   ผมตื่นขึ้นมารับเช้าวันใหม่ตั้งแต่ตีห้า  ปั่นจักรยานออกไปซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาเป็นมื้อเช้า  แล้วเริ่มต้นสำรวจบ้านอย่างจริงจัง 

   บ้านของแม่เป็นเรือนไทยประยุกต์สองชั้นติดแอร์มีห้องน้ำเรียบร้อย  รอบด้านเป็นสวนผลไม้ ที่ล้อมรั้วปูนสูงป้องกันการล้ำแดนอย่างดี  ในสวนของผมที่เห็นและนับได้คร่าวๆตอนนี้มีต้นมะพร้าวอยู่สี่ห้าต้น ต้นมะม่วงสี่สิบต้น มังคุดอีกสามสิบต้น ลองกองอีกยี่สิบต้น แล้วก็ทุเรียน เงาะ อย่างละอีกสิบกว่าต้นแบ่งโซนปลูกแยกกันอย่างชัดเจน  มีแปลงเตยหอมที่จงใจให้เห็นว่าปลูกขายอยู่หน้าบ้านเป็นแนวยาวข้างหลังบ้านมีสระเก็บน้ำส่วนตัวขนาดกลางที่ผมเดาๆเอาว่าไว้สำหรับใช้สอยและใช้รดสวนช่วงแล้ง ในสระมีบัวอยู่เต็มและมีเรือพายกับท่าไว้ให้พายเก็บสายบัวสร้างติดกับศาลาไม้ริมสระ รอบสระน้ำเป็นดงกล้วยน้ำว้า  มีกอกล้วยตานีหนึ่งกอใหญ่ๆกับต้นไทรต้นใหญ่ต้นหนึ่งคั่นระหว่างบ้านกับสระน้ำ นอกจากนี้ผมก็มีพื้นที่ว่างข้างบ้านอีกพอสมควร  แต่จะทำอะไรคงต้องคิดทีหลัง

   ดูๆไปทุกอย่างก็ดูลงตัวดี  เว้นเสียแต่ต้นไทรกับกอกล้วยตานี...

   เอาเถอะ...ถ้ามีปัญหาค่อยว่ากันทีหลัง

   ผมถอนหายใจแล้วหมุนตัวเดินเข้าบ้านไปสำรวจว่ายังขาดเหลืออะไรอีกบ้าง


   ...โดยที่ไม่ได้สังเกตว่ามีสายตากำลังจับจ้องอยู่

****************** 

   สองมือของผมพะรุงพะรังไปด้วยข้าวของที่แม้แต่ตัวผมเองก็ยังไม่เข้าใจว่ายัดใส่จักรยานขี่กลับมาบ้านได้ยังไง

   วันนี้ผมใช้เวลาทั้งวันไปกับการจัดบ้านและตรวจสอบดูว่ามีอะไรเสียหายหรือไม่  ผมยอมรับว่าโล่งอกที่ไม่มีอะไรให้ต้องเสียเงินซ่อม แถมที่นี่ระบบน้ำประปาก็เข้าถึง  ผมวางแพ็คน้ำดื่มและถุงหูหิ้วที่ถือติดมาลงบนพื้นข้างตู้เย็นแล้วเดินออกไปเอากระสอบข้าวขนาดห้ากิโลฯเข้าบ้านแล้วค่อยเปิดตู้เย็นก่อนจะนั่งลงบนพื้นจัดของใส่ตู้เย็นอย่างเป็นระเบียบ

   ผมได้หมูสดมาหนึ่งกิโลฯ  ไข่ไก่สดอีกหนึ่งแผง  น้ำหนึ่งแพ็ค  ข้าวสารหนึ่งกระสอบ ผักกะหล่ำ ผักกาด ผักคะน้า-กวางตุ้ง แตงกวาอย่างละนิดละหน่อย ขนมปังปอนด์หนึ่งแถว แยมผลไม้กับนมข้นหวาน แล้วก็ขนมเค้กอีกปอนด์หนึ่ง   ฟังดูเหมือนผมใช้เงินแบบหนักมือมาตั้งแต่เมื่อวาน แต่เชื่อเถอะครับ   อีกหนึ่งสัปดาห์  มันจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว เพราะนอกจากของกินผมคงไม่ต้องซื้ออย่างหรอกถ้ามันไม่จำเป็น

   เพราะบ้านหลังนี้เคยปล่อยให้เช่า  จึงไม่มีแปลกที่จะมีสัญญาณไวไฟ  วันนี้ผมติดต่อเรื่องปล่อยสัญญาณและจ่ายล่วงหน้าไปเรียบร้อย

   ผมไม่มีโทรทัศน์ แต่ผมมีโน้ตบุ๊คกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ  ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้ผมไม่โดนโลกภายนอกทอดทิ้งคือสองสิ่งนี้กับสัญญาณไวไฟ

   เพราะความเหนื่อยผสมกับความขี้เกียจ  ทำให้มื้อเย็นของผมจึงกลายเป็นขนมปังกับแยมไม่ก็ขนมปังกับนมข้นหวาน หลังกินเสร็จผมก็อาบน้ำ ปรับแอร์ แล้วก็ล้มตัวนอนบนฟูกราคาสามร้อยของตัวเองทันที

   ...ไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่แล้วกัน...วันนี้ผมเหนื่อยแล้ว

*******************

   เสียงฝีเท้าก้าวขึ้นบันไดอย่างแผ่วเบากับเสียงเปิดประตูไม่ได้ทำให้เด็กหนุ่มที่นอนขดตัวภายใต้ผ้าห่มรู้สึกตัวแต่อย่างใด


   ร่างในชุดสไบสีตองอ่อนหย่อนกายนั่งลงบนฟูกอย่างเชื่องช้าก่อนจะยกมือลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อน  ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองใบหน้าขาวนวลเหมือนก้อนสำลีของผู้ที่จมอยู่ในห้วงนิทราอย่างแสนจะคิดถึง

   “กลับมาบ้านเราได้เสียทีนะ....ใบตอง”


***********************
         นิยายเรื่องแรกครับ  ยังไงก็ฝากติชมด้วยนะครับ
 

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แค่ intro ก็น่าอ่านแล้ว จะรออ่านนะคะ

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mew1: :mew1: :katai2-1: :katai2-1:
แค่เปิดเรื่องก็น่าสนใจแล้ว
เรารออ่านนะ อยากให้แต่งให้จบ อิอิ

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
ติดตามค่า ชอบ ๆ มีวิญญาณด้วย
นายเอกของเรา ดูเป็นคนสู้ชีวิต ผู้ใหญ่เกินตัวดี ชอบมาก
บ้านสวนน่าอยู่ แต่ถ้าตอนกลางคืนอยู่คนเดียวนี่น่ากลัวมากนะ
รอตอนต่อไปจ้า ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Velusia

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
1.ตานี

**************************


         หลังจากมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์  ทุกวันผมจะตื่นมาด้วยความรู้สึกอบอุ่นในอก  แม้ไม่รู้ว่าทำไม  และผมก็ไม่คิดจะสนใจมันด้วย  ผมดำเนินกิจวัตรเดิมๆคือออกไปซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋  แต่ก็นึกได้ว่าต้องไหว้เจ้าที่เจ้าทางตามที่แม่เคยสอนไว้เลยซื้อมาสองชุด


   บ้านหลังนี้ไม่มีศาลพระภูมิ  อาจจะด้วยเหตุอะไรผมก็ไม่รู้  แต่เมื่อวานผมเห็นแว๊บๆว่ามีก้านธูปเก่าอยู่ที่โคนต้นไทรแล้วก็มีขวดแก้ววางเกลื่อนอยู่ เลยเดาๆเอาว่าต้องเป็นที่ๆเขาเอาไว้ไหว้เจ้าที่ ผมเลยจัดขนมปังทาแยมกับปาท่องโก๋วางเคียงกับนมข้นหวาน และรินน้ำหวานสีแดง จัดเป็นสองชุด เพราะผมไม่รู้ว่าเขาไหว้ที่ต้นไรหรือกอตานี  งั้นผมก็ไหว้มันทั้งคู่นั่นแหละ!


   “ท่านเจ้าที่เจ้าทางครับ  ผมชื่อใบตอง เป็นลูกแม่บัว แม่บัวเพิ่งเสียไปผมเลยย้ายกลับมาอยู่บ้าน  หวังว่าท่านจะเมตตาคุ้มครองผมกับบ้านหลังน้อยๆนี้บ้างนะครับ”


   ผมกล่าวเสร็จก็ปักธูปลงดิน  แล้วค่อยเดินออกมา  วันนี้ผมต้องเข้าไปในตัวเมืองเพื่อซื้อชุดนักศึกษาครับ   ความเป็นจริงผมสอบได้มหาวิทยาลัยที่นี่ตั้งแต่ต้น และตั้งใจจะย้ายมาพร้อมกับแม่  แต่แม่ก็เสียไปเสียก่อน


   ผมสอบเข้าคณะเกษตรศาสตร์ เพราะดูท่าทางว่าน่าจะไปได้ไกล  จริงๆพ่อกับแม่อยากให้ลงวิศวะหรือไม่ก็หมอ แต่หัวผมไม่สู้กับทางนั้นเสียเท่าไหร่  สุดท้ายแล้วเกษตรก็เหมาะกับผมที่สุดอยู่ดี



****************


   ผมฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีขณะตากผ้าอยู่ข้างบ้าน ผมเปิดเทอมได้เกือบสัปดาห์แล้ว  ทุกอย่างราบรื่นดีถึงผมจะยังไม่มีเพื่อนก็เถอะ  เพราะไม่ใช่คนละแวกนี้เลยยังต้องดูกันไปอีกซักพัก     ก่อนที่ผมจะถือตะกร้าผ้าเข้าบ้านผมเห็นคุณยายคนหนึ่งแกมาด้อมๆมองๆอยู่หน้าบ้านผม  ผมเลยละมือจากตะกร้าผ้าแล้วเดินออกไปหาแก

   
   “มีอะไรหรือเปล่าครับยาย”


   “นี่ใบเตยบ้านหนูเหรอลูก”


   “ครับ”


   “งั้นขายให้ยายหน่อย เดี๋ยวอีกสองสามวันยายจะให้หลานมาเอา ยายจะเอาไปทำขนมไปงานบุญหมู่บ้าน”


   ผมร้องอ้อแล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจ


   “ยายอยากได้เท่าไหร่ให้หลานมาตัดเอาเลยนะครับ  ผมไม่คิดเงินหรอก  ถือเสียว่าช่วยๆงานบุญกัน  แล้วก็สระหลังบ้านผมมีกล้วยน้ำว้าอยู่ เมื่อวานผมเดินดูเห็นมีใกล้จะสุกหลายเครือ  ถ้ายายอยากได้ก็ให้คนมาตัดไปได้นะครับผมไม่หวง แต่ผมคงไม่มีเวลาตัดให้เพราะเดี๋ยวผมต้องไปเรียน”


   “จะดีเหรอ  ยายเอาเยอะอยู่นา”


   “ไม่ต้องเกรงใจครับยาย เอาไปเถอะ”


   ผมย้ำอีกครั้ง  ยายแกก็ขอบอกขอบใจผมไม่หยุด แกบอกว่าแกชื่อเพียร  อยู่ถัดไปอีกห้าหลัง แกถามชื่อแซ่ผมไว้แล้วบอกว่าเดี๋ยวแกจะให้หลานมาตัด ผมก็มองส่งแกพร้อมยิ้มให้  งานบุญทั้งทีผมไม่ขายหรอกครับ  ถือเสียว่าช่วยๆกัน  ผังไงผมก็เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านนี้แล้ว  ช่วยกันคนละนิดคนละหน่อยว่ากันไป


***********


   “ข้ามาตัดกล้วยกับใบเตย”


   ชายรูปร่างกำยำที่มาพร้อมกับพรรคพวกเอ่ยขึ้นในเย็นวันหนึ่งที่ผมเพิ่งกลับมาจากมหาลัย  ผมตกใจเล็กน้อย  ยังดีหน่อยที่เขาบอกว่าตัวเองเป็นหลานยายเพียร   ผมพยักหน้าให้พวกเขาแล้วชี้ไปที่แปลงเตยหอม




   “ใบเตยหน้าบ้านตัดเอาเลยนะครับ  ส่วนกล้วยอยู่ที่สระหลังบ้าน  อ้อ ไม่ต้องฟันกล้วยตานีทิ้งนะครับ”


   ผมบอกพร้อมห้ามไว้  ผมเคยเห็นคนตัดกล้วยตานีทิ้งหลายครั้งเพราะเชื่อว่ามันมีผี  ผมก็กลัวนะครับ แต่กอมันใหญ่แถมใบยังสวย ผมเลยว่าจะเก็บไว้เอาใบ  ถ้ามีตานีสิงสู่อยู่จริงๆถ้าขอเขาดีๆเขาน่าจะให้นะ...รึเปล่า??



   “ข้าไม่ตัดของคุณซี้ซั้วหรอก”


   

   พอได้ยินแบบนั้นผมก็เดินเข้าบ้านไปอาบน้ำ  หากแต่สิ่งแปลกตาก็เกิดขึ้นเมื่อผมเดินผ่านเข้าครัวเพื่อดื่มน้ำ


   ...มีจานกับข้าววางอยู่บนโต๊ะครอบด้วยฝาชี  ส่วนข้าวก็ถูกหุงไว้รอแล้ว...


   ผมผวาด้วยความกลัว  ผมปิดบ้านเรียบร้อยแล้วนี่  ใครกันที่มาทำแบบนี้เอาไว้   ผมวิ่งพล่าน สำรวจไปทั่วบ้าน  ไม่มีข้าวของอะไรเสียหาย  หนำซ้ำบ้านยังถูกปัดกวาดเสียดิบดีจนน่าเป็นลมหงายท้อง



   ...แต่ถ้ามองในแง่ดีผมก็อาจจะเป็นคนหุงข้าวทิ้งไว้  กับข้าวในฝาชีผมอาจจะกินเหลือจากเมื่อเช้า ส่วนบ้านผมก็เป็นคนกวาด  ...ภาวนาให้เป็นแบบนั้นแล้วกัน...


*****************


   “พี่กล่ำเห็นเจ้าของบ้านไหมพี่? ข้านึกว่าผู้หญิง ผิวนี่ขาวแบบอื้อหือ”


   “พล่ามอะไรของเอ็งไอ้กาย เร่งตัดเข้า เดี๋ยวยายเพียรแกรอนานแล้วแกจะโมโหเอา”


   “โหย ... อย่าพูดถึงยายเพียรแกเลยพี่  มีอย่างที่ไหนเห็นข้าหิ้วกระเป๋ากลับมาจากโรงเรียน แกก็รีบส่งพร้าใช้ให้ข้ามาตัดไปตอง  แต่เอาเถอะ  ได้มาเจอคนสวยนับว่าเป็นบุญตาข้าแล้ว”


   “คุณเขาเป็นผู้ชาย  สวยเสยอะไรของเอง เร่งๆตัดกล้วยเข้า  เดี๋ยวไอ้เขียดมันจะบ่น  ป่านนี้มันคงตัดใบเตยเสร็จแล้ว”


   นายกล่ำบ่นน้องชายของตนให้เร่งตัดเอาเครือกล้วยสุกออกไปวางหน้าบ้าน  ร่างสูงยกมือขึ้นปาดเหงื่อ กวาดตาคมมองปราดไปทั่วดงกล้วย    ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าที่นี่มีดง กล้วย  แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันจะเยอะแบบนี้  ถ้าเจ้าของบ้านเอาไปขายคงจะได้เงินเยอะพอดู 


   “มาตัดกล้วยหรือจ๊ะพ่อ?”


   “เฮ้ย!?”


   เสียงเย็นๆถามขึ้น  นายกล่ำสะดุ้งเฮือก  หันไปมองด้านหลัง  ชายหนุ่มหน้าตาดีผิวขาวเนียนยืนส่งยิ้มให้เขาจากบนศาลา  นายกล่ำยกมือลูบอกด้วยความตกอกตกใจ  อีกฝ่ายหัวเราะผะแผ่วก่อนจะถามย้ำอีกครั้ง


   “มาตัดกล้วยไปทำอะไรเหรอจ๊ะ”


   “มาตัดกล้วยไปให้ยายเพียรแกทำขนมกล้วยเลี้ยงงานบุญครับ คุณ...”


   “ตานี...ข้าชื่อตานี”


   อีกฝ่ายว่าพลางยกยิ้มบางเบา  เดินเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นหอมดุจดอกแก้วพลางยกผ้าเช็ดหน้าซัดเหงื่อไคลให้  เล่นเอาเสียนายกล่ำไปไม่เป็นเมื่ออีกฝ่ายช้อนตาขึ้นมอง


   “ถ้าจะทำขนมกล้วย  ไม่ลองของน้องใบตองเอาใบกล้วยตานีไปทำกระทงใส่ขนมล่ะพ่อ   ใบมันสวยเหนียวดี”


   “เอ่อ...คุณเขาขอไว้ไม่ให้ตัดน่ะครับ”


   “น้องใบตองเขาคงกลัวพ่อจะตัดกอกล้วยตานีเขาทิ้งเสียเฉยๆน่ะ เขาเสียดาย  ถ้าพ่ออยากได้  ลองขอเขาดูสิ  น้องใบตองเขาไม่หวงหรอก”


   นายกล่ำพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะขอหามเครือกล้วยไปวางหน้าบ้านก่อนค่อยกลับมาเอาใบตอง  เมื่อเดินมาหน้าบ้านก็เห็นเจ้ากายน้องชายของตนกับเขียดที่เป็นเพื่อนของตนนั่งดื่มน้ำหวานกินขนมอยู่บนแคร่หน้าบ้าน


   “อ้าวคุณ  พักดื่มน้ำก่อนสิครับ เห็นน้องกายบอกว่ายังได้กล้วยไม่เท่าที่ยายเพียรต้องใช้เลย”


   นายกล่ำหันขวับไปมองเจ้าตัวดี  เขาตัวใจว่าจะไม่เอาของเจ้าของบ้านเยอะเพราะเกรงใจแท้ๆ  ส่วนเจ้าของบ้านก็หัวเราะน้อยๆอย่างรู้ทัน


   “ไม่ต้องเกรงใจนะครับ  กล้วยบ้านผมมีเยอะ  ปล่อยทิ้งไว้นกก็จิกกินเสียเปล่าๆ ตัดๆเอาไปเถอะ”


   “ไม่คิดจะขายบ้างหรือคุณ”


   กล่ำอดถามไม่ได้  กล้วยกับใบเตยที่พวกเขามาตัดเอากันวันนี้ถ้าคิดเงินก็หลายตังค์อยู่  เจ้าของบ้านส่ายหน้าน้อยๆแล้วยิ้ม


   “ถ้าเป็นที่อื่นมาซื้อคงจะขายครับ  แต่นี่งานบุญคนหมู่บ้านเดียวกัน ช่วยๆกันไปเล็กๆน้อยๆครับ”


   กล่ำพยักหน้าตอบรับเงียบๆ  หันไปบอกเพื่อนกับน้องให้ไปช่วยกันตัดกล้วยเพิ่ม ก่อนที่จะนึกเรื่องใบกล้วยตานีขึ้นได้


   “เอ้อ...คุณ”


   “เรียกใบตองเถอะครับ  เรียกคุณๆแบบนี้ขัดหูพิกล เพราะผมน่าจะอายุน้อยกว่าคุณเยอะอยู่”


   “คุณใบตองอายุเท่าไหร่หรือครับ?”


   “ พี่ตองสิบแปดพี่กล่ำ อายุเยอะกว่าข้าปีเดียวเอง”


   “มารยาทน่ะไอ้กาย  ข้าสอนกี่รอบแล้วว่าอย่าสอดเวลาผู้ใหญ่คุยกัน”


   หันไปแจกลูกมะกรูดให้น้องชายอย่างอดเสียไม่ได้  โดยมีเสียงหัวเราะใสๆของเจ้าบ้านผสมปนเปไปกับเสียงโอดครวญ  กล่ำสังเกตว่าเขียดเงียบไปแปลกๆ แต่อีกฝ่ายก็ส่ายหน้าว่าไม่มีอะไร กล่ำจึงไม่ได้ซักไซ้


   “งั้นเรียกน้องใบตองได้ใช่ไหม?”


   “ครับ  งั้นผมเรียกคุณว่าพี่กล่ำเหมือนน้องกายนะ”


   “ได้ๆ  เอ้อ น้องใบตอง  พี่ขอใบกล้วยตานีหลังบ้านหน่อยได้ไหม? มีคนแนะว่าใบมันเหนียวใช้ทำกระทงสวย”


   “เอาเลยครับไม่ต้องเกรงใจ ขอแค่ไม่ตัดทิ้งก็พอ แต่ไหว้ก่อนนะครับ ผมไม่รู้ว่าเจ้าที่อยู่ที่ต้นไทรหรือกอกล้วย”


   ใบตองพยักหน้าพร้อมเอ่ยบอก  พวกเขานั่งคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนที่เจ้าของบ้านร่างโปร่งจะขอตัวออกไปจ่ายตลาด  ส่วนกล่ำเองก็ลากคอเจ้ากายที่ยังไม่ยอมวางมือจากขนมที่เจ้าบ้านเอามาเลี้ยงไปตัดกล้วยต่อเพราะเดี๋ยวมันจะค่ำเสียก่อน


   เมื่อได้ทั้งกล้วย ทั้งใบตอง ทั้งใบเตยหอมจมพอใจแล้ว  พวกกล่ำก็ช่วยเก็บๆของบนแคร่ให้เรียบร้อยก่อนจะพากันกลับบ้านเอาของไปให้ยายเพียรทำขนม



******************


   “น้องใบตอง  ยายเพียรแกให้เอาขนมมาให้”


   “โห  ขอบคุณครับพี่กล่ำ ให้มาเยอะเชียว”


   “ไม่ต้องขอบคุณหรอก  ถ้าไม่ได้กล้วยจากสวนน้องใบตอง ยายแกลำบากวิ่งไปหาไกลแน่ๆ  แล้วคราวนี้คนที่จะเดือดร้อนมากกว่าคือพี่กับไอ้กาย”


   “ฮะๆ ไม่เป็นไรครับ  เดี๋ยวถ้าผลไม้ในสวนออกลูก พี่กล่ำกับน้องกายอยากกินก็มาเก็บเอาก็ได้นะครับ”


   ผมบอกพร้อมรอยยิ้ม  มองขนมกล้วยในมือที่ใส่ถุงห่อมาอย่างดี  พี่กล่ำท่าทางลุกลี้ลุกลน พยายามชะเง้อคอมองเข้าไปในบ้านผมอย่างมีพิรุธ



   “มีอะไรเหรอครับพี่กล่ำ?”



   “อ้อ  พี่มองหาคุณตานีน่ะ นี่ก็เอาขนมกล้วยมาเผื่อเขาอีกถุง  ยังไงก็ฝากน้องใบตองเอาให้เขาทีนะ  พี่ไปล่ะ”



   ผมหนาวสันหลังวาบ มองตามหลังพี่กล่ำที่เดินจากไปอย่างพูดไม่ออกเหมือนมีอะไรจุกตันอยู่ที่ลำคอ  ผมก้มมองมือของตัวเอง



   ...ที่มีขนมกล้วยอยู่สองถุง...


   
   ...และบ้านหลังนี้ก็มีผมอยู่แค่คนเดียว...

*************************



   แฮ่...ลงแบบถี่ๆจะใครว่าไหม?(ฮา)  พี่ตานีมาแล้วนะครับ มาแบบสวยๆ...อะไรนะ?แกเป็นผู้ชายเหรอ?(ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้)  ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ของทุกคนแล้วก็ขอบคุณคนอ่านด้วยนะครับ  แค่รู้ว่ามีคนอ่านก็มีกำลังใจขึ้นมาแล้ว(ซับน้ำตา-)


   ที่ผมไม่เขียนตอนที่ใบตองไปมหาลัย  มีสาเหตุนะครับ...


   ...ผมเรียน ปวส. ไม่ได้เรียนมหาลัยครับ(กัดผ้าเช็ดหน้า)


   เพราะแบบนั้นอาจจะบรรยายบรรยากาศวันแรกในมหาลัยถูก ตอนนี้หาข้อมูลอยู่ครับว่าคณะเกษตรเนี่ยเขาเรียนอะไรบ้าง  เพราะมาอยู่เมืองชนบทเนี่ยคงไม่ต้องขวนขวายเรียนศิลปะ นิเทศ หรือวิศวะหรอกเนอะ  สมองใบตองไม่อำนวย(พรั่ก) เลยให้เรียนเกษตร พราะใบตองต้องเอามาใช้ประโยชน์ได้ครับ


   ...อะไรนะ?? พระเอกเหรอ?? (เกาหัวแกร่กๆ)


   ไม่รู้สินะครับ(ยักไหล่)


   เรื่องนี้จะไปเอื่อยๆ  เรื่อยๆ อย่าพึ่งรีบเบื่อผมนะครับ(โค้ง)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
มาอัพบ่อยๆไม่โกรธ แต่ถ้าไม่ค่อยมาอัพนี่จะโกรธมาก 55555 :angry2:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 554
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อืม ก็คิดอยู่ค่ะ ว่าไหนพระเอก ฮา
เพราะดูท่าพี่ตานีกับน้องใบตองจะสวยทั้งคู่ ฮา
ว่าแต่ ทำไมตอนแรกพี่ตานีปรากฎตัวแบบใส่สไบล่ะ ผู้ชายนี่เขาใส่สไบกันยังไงหนอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
ใบตองเก่งอ่ะ อายุยังน้อย ก็ดูแลตัวเองได้ รู้จักคิด แถมใจดีมีน้ำใจด้วย
ว่าแต่ พี่ตานีเป็นผู้ชายเหรอเนี่ย ตอนแรกใส่ชุดสไบก็คิดว่าผู้หญิงเนาะ
แต่พี่ตานี เป็นผู้ชายที่สวย น้องใบตอง ก็สวย เอ้ะ ยังไง
คิดว่าพี่ตานี น่าจะรักน้องใบตองแบบน้อง แบบลูกแบบหลานหรือเปล่า
คอยปกป้องคุ้มครอง ดูแลบ้าน หุงหาอาหารให้ แต่แอบมาทำให้แบบนี้
เราเป็นใบตองก็ขนลุกอ่ะ ยิ่งตอนที่พี่กล่ำเอาขนมมาฝากให้พี่ตานีนี่
โห  ถ้าเราเป็นใบตอง จะทำยังไง คือ ยังไงก็ต้องอยู่ที่นี่ ไม่มีที่ไปอยู่แล้ว
แล้วต้องอยู่ร่วมกับสิ่งที่มองไม่เห็น แต่รู้ว่ามีอยู่นี่ โหยยย น่ากลัว
เขียด ไม่มีบทพูดเลยอ่ะ แล้วที่เงียบไปแปลก ๆ เนี่ย หรือว่าเขียดรู้ หรือ เห็นอะไรอยู่
รอตอนต่อไปค่า เอาใจช่วยน้องใบตองมาก ๆ รอคุณพระเอก จะเป็นใครน้อ
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ใบตองเก่งอ่ะ อายุยังน้อย ก็ดูแลตัวเองได้ รู้จักคิด แถมใจดีมีน้ำใจด้วย
ว่าแต่ พี่ตานีเป็นผู้ชายเหรอเนี่ย ตอนแรกใส่ชุดสไบก็คิดว่าผู้หญิงเนาะ
แต่พี่ตานี เป็นผู้ชายที่สวย น้องใบตอง ก็สวย เอ้ะ ยังไง
คิดว่าพี่ตานี น่าจะรักน้องใบตองแบบน้อง แบบลูกแบบหลานหรือเปล่า
คอยปกป้องคุ้มครอง ดูแลบ้าน หุงหาอาหารให้ แต่แอบมาทำให้แบบนี้
เราเป็นใบตองก็ขนลุกอ่ะ ยิ่งตอนที่พี่กล่ำเอาขนมมาฝากให้พี่ตานีนี่
โห  ถ้าเราเป็นใบตอง จะทำยังไง คือ ยังไงก็ต้องอยู่ที่นี่ ไม่มีที่ไปอยู่แล้ว
แล้วต้องอยู่ร่วมกับสิ่งที่มองไม่เห็น แต่รู้ว่ามีอยู่นี่ โหยยย น่ากลัว
เขียด ไม่มีบทพูดเลยอ่ะ แล้วที่เงียบไปแปลก ๆ เนี่ย หรือว่าเขียดรู้ หรือ เห็นอะไรอยู่
รอตอนต่อไปค่า เอาใจช่วยน้องใบตองมาก ๆ รอคุณพระเอก จะเป็นใครน้อ
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:

แหมชื่อคล้องจอง
ใบตอง ตานี
เลยไม่คิดเป็นอื่นนนนนนน  :serius2:
ได้ขนม ก็เอาไปให้ก็จบนะะะะะะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ hoihak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
รอตอนต่อไปค้าบบบบ  o13

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Velusia

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตอนที่ 2 ทำบุญ


          เพราะคำพูดของพี่กล่ำ  ทำเอาคืนนั้นผมนอนไม่หลังไปเสียดื้อๆ บ้านที่อยู่อาศัยมาเกือบเดือนน่ากลัวขึ้นมาทันตา  ยิ่งตอนมองออกไปหลังบ้าน เห็นกอกล้วยกับต้นไทรเป็นเงาตะคุ่มๆแล้วขนทั่วร่างลุกชันแปลกๆ  แม่เคยสอนผมเอาไว้ว่าผีเกิดจากจินตนาการของเราที่เกิดขึ้นมาจากในหัวแล้วส่งผลออกมาเป็นการคิดไปเองว่าได้กลิ่นแปลกๆ  ทุกๆอย่างล้วนมาจากความคิดเราทั้งนั้น เพราะเรากับเขานั้นต่างคนต่างอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว


   ผมพยักหน้าให้ตัวเอง  เอาเป็นว่าผมเชื่อแม่  คิดได้แบบนั้นก็เลยแบกแก้วนมปั่นมานั่งจ๋องอยู่หน้าจอคอมฯ เพราะวันนี้เป็นวันหยุดและผมก็ไม่ได้ลงกิจกรรมอาสาที่ไหนเลยได้อืดอยู่บ้าน  ผมเปิดคลิปดูการทำสวนผลไม้แล้วพยักหน้าให้กับตัวเองหงึกๆ  อืม  ไหนๆที่บ้านก็มีสวนอยู่แล้ว   ถ้ามันออกลูกเมื่อไหร่ค่อยลองเก็บไปขายแล้วกัน ดูไปพักใหญ่ผมถึงได้ปิดคลิปสอนทำสวนแล้วเปิดหนังดู

   
   ...จะว่าไปผมมีที่ว่างอยู่อีกนี่นะ  ช่วงนี้ผักแพง  ปลูกผักดีไหมนะ?


   คิดเองเออเองหมด  ผมก็เดินไปหยิบถุงขนมกล้วยที่ได้มาเมื่อวาน  เดินออกไปด้อมๆมองๆหลังบ้านอย่างหวาดระแวงก่อนจะค่อยๆย่องเดินด้วยปลายเท้าไปที่กอกล้วยตานี นั่งยองๆพนมมือขึ้นเหนือหัว


   “คุณผีครับ   ถ้ามีจริงก็อย่ามาหลอกกันเลยนะครับ  อ้อ  พี่กล่ำให้เอาขนมกล้วยมาฝาก  ทานให้อร่อยนะครับ”


   ผมวางถุงใส่ขนมกล้วยลงตรงโคนต้นกล้วยแล้วขยับลุกไปหาต้นไทร


   “ผมกลัวคุณเจ้าที่น้อยหน้า  ดังนั้นผมจะแบ่งขนมกล้วยส่วนของผมให้  แต่แค่สองชิ้นนะครับ  ถ้าอร่อยแล้วอยากกินอีกต้องไปแบ่งกับพี่ตานีเอาเอง ผมไม่แบ่งของผมให้มากกว่านี้หรอก”


   ผมรีบวางขนมกล้วยลงที่โคนต้นไทรจากนั้นก็จ้ำพรวดๆวิ่งหนีกลับเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว


...และใบตองก็ไม่รู้อีกนั่นแหละว่ามีสายตามองตามด้วยความขบขัน



****************


   เพราะยังรู้สึกไม่สบายใจ  วันต่อมาผมจึงจัดสังฆทานแล้วหิ้วไปวัด  คนค่อนข้างหนาตาเพราะวันนี้เป็นวันพระ  ชาวบ้านแถบนี้เขานิยมมาทำบุญวันพระกัน  เพราะผมยังไม่ค่อยคุ้นกับชาวบ้านคนอื่นเท่าไหร่  ผมจึงมองหายายเพียรเผื่อว่าแกจะมาทำบุญ  แต่จนแล้วจนรอดผมก็ยังไม่เห็น  หรือยายเพียรจะไม่มา?



   “ใบตอง....นั่งกับพี่ไหม?”



   “พี่เขียด? หวัดดีครับ มาคนเดียวเหรอครับ?”



   “อืม  พวกไอ้กล่ำพาตาบุญส่งไปหาหมอ  ยายเพียรแกก็ไปเฝ้า”



   ผมพยักหน้ารับรู้น้อย ตาบุญส่งเป็นสามีของยายเพียรครับ  ได้ข่าวว่าแกเจ็บออดๆแอดๆ  เพราะอายุมากแล้ว   พี่เขียดจับแขนผมแล้วดึงเบาๆให้เดินตามไปนั่งที่เสื่อแถวหน้าสุด  พอวางข้าวของที่เตรียมมาฝากไว้กับพี่เขียดแล้ว  ผมก็หยิบช่อดอกไม้ธูปเทียน ลุกเดินไปไหว้พระประธานแล้วค่อยกลับมานั่งข้างๆพี่เขียด  พอพระมา มัคนายกก็เริ่มนำสวด พอถึงเวลาถวายสังฆทานผมก็ชวนพี่เขียดไปถวายด้วยกัน  พี่เขียดก็ทำหน้าลังเลนิดหน่อยก่อนจะขยับลุกมาจับสังฆทานถวายพระด้วยกัน หลังจากรับศีลรับพร  ชาวบ้านบางส่วนก็ทยอยกลับออกไปจนเริ่มบางตา  บางคนก็อยู่กินข้าวก่อนค่อยกลับ  พระรูปหนึ่งยกมือกวักเรียกมาทางพวกผม  พี่เขียดแกเลยสะกิดให้ผมคลานไปหา



   “แฟนรึโยมเขียด”



   “ไม่ใช่ครับหลวงปู่  น้องน่ะน้อง แล้วน้องมันก็เป็นผู้ชายด้วย”



   พี่เขียดทำหน้ามุ่ย  หลวงปู่หัวเราะน้อยๆยกมือขยี้ผมพี่เขียดอย่างเอ็นดู  ดวงตาที่ฉายแววอบอุ่นหันมาหาผมแล้วเอ่ยถาม



   “ไปยังไงมายังไงล่ะโยม ลูกเต้าหลานใครรึ? อาตมาไม่เคยเห็น”



   “ผมมาจากกรุงเทพฯครับ ชื่อใบตอง ลูกแม่บัวครับ เพิ่งกลับมาอยู่บ้านเมื่อต้นเดือนนี่เองครับ”



   “โฮะ? เจ้าใบตองรึ?  ไหนๆ มาให้หลวงปู่ดูใกล้ๆซิ  ตะก่อนเอ็งยังตีนเท่าฝาหอยอยู่เลย โตเป็นหนุ่มแล้วนี่หว่า หน้าคล้ายแม่เอ็งจริงๆ”



   ผมขยับๆเข้าไปใกล้ๆ  หลวงปู่พูดพลางยกมือขึ้นลูบหัวผม  ท่านให้ศีลให้พรผมเล็กน้อยก่อนที่จะปล่อยให้ผมกับพี่เขียดได้กลับบ้าน




****************



   หลังคล้อยหลังใบตองและเขียด  หลวงปู่ก็เบือนสายตามายังร่างในชุดสไบสีตองอ่อนที่ยังคงนั่งพับเพียบอยู่



   “แล้วโยมล่ะ  มาตามเกาะเจ้าใบตองมันทำไม? จะจับมันทำผัวรึ”



   ตานีอมยิ้มแล้วก้มลงกราบพระชราอย่างมีจริต  ดวงตาพราวระยับก่อนจะเอ่ยตอบอย่างนอบน้อม



   “หามิได้ขอรับพระคุณท่าน  กระผมเป็นพรายตานีที่แม่บัวตองเคยเลี้ยงไว้ก่อนจะไปกรุงเทพฯ กระผมเลยอยู่เฝ้าบ้านเขาที่นี่ให้  มาตอนนี้แม่บัวตองเสียแล้วเลยฝากฝังให้กระผมดูลูกชายเขาที่กลับมาบ้าน”
   


   “งั้นรึ? แล้วเหตุใดเอ็งที่เป็นชายถึงได้ไปนุ่งห่มสไบเหมือนแม่หญิงอย่างนั้นเล่าฮึ? พ่อพรายตานี?”



   “เพราะกระผมสวยขอรับ”



   “บ๊ะ! ใจไอ้พรายตนนี้มันได้จริงๆ  ใครได้ไปเป็นเมียคงปวดหัวพิลึก”



   หลวงปู่ตบเข่าฉาดอย่างถูกใจ ก่อนจะหันไปยกชาขึ้นจิบและกระแอมเบาๆ  ตานีนั่งพับเพียบเรียบร้อยรอฟังหลวงปู่อย่างใจเย็น



   “เอ้อๆ จะว่าไปแล้ว  เจ้าใบตองของเอ็งมันเคยไปตีงูตายหรือเปล่า”



   “คาดว่าจะไม่นะขอรับ”




   “งั้นเอ็งก็ระวังๆน้องเอ็งไว้แล้วกัน  ข้าว่าอีกไม่นานหรอก  เจ้ากรรมนายเวรเขาจะตามมาเจอแล้ว”



หลวงปู่เอ่ยเสียงเรียบ  ตานีชะงักงัน  ร่างนายพรายนั่งค้างอยู่ครู่หนึ่งก่อนก้มกราบลาก่อนจะลุกเดินออกไป แว่วเสียหลวงปู่ว่าไล่หลังมาเบาๆ



   “ตานีเอ้ย...เอ็งช่วยมันไปจนตลอดรอดฝั่งไม่ได้หรอก กรรมมันเป็นของใครของมัน ใช้แทนกันไม่ได้หรอกนะ”



********************



   “ทำไมวันนี้ถึงไปวัดล่ะ?”



   พี่เขียดถามขึ้นหลังออกจากวัดมาไกลพอสมควร  ผมเงยหน้ามองคนตัวสูงกว่า  เหมือนว่าวันนี้พี่แกจะพูดกับผมเยอะทีเดียว  ผมนึกถึงเหตุผลที่มาทำบุญของตัวเองแล้วถอนหายใจ




   “ผมไม่สบายใจครับพี่”




   “ไม่สบายใจอะไรล่ะ?”




   “ผมสงสัยว่าบ้านผมจะมีผีครับ”



   “....”



   พี่เขียดเงียบ  เอียงคอไปข้างหนึ่ง กระพริบตาปริบๆแล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาขยี้หัวผมพร้อมส่งเสียงคราง “อือ”ในลำคอยาวๆ แกขยี้อยู่พักหนึ่งจนผมของผมเริ่มยุ่งฟู พี่แกก็ละมือออก




   “อันนั้นมันก็น่าจะปกติไม่ใช่เหรอ?  ที่ไหนๆก็มีผีทั้งนั้นแหละ”





   พี่เขียดว่าด้วยใบหน้าใสซื่อจนผมจะกระอั่กเลือด  พี่แกเล่นพูดอย่างกับว่าผีมันเป็นอะไรที่เห็นกันได้ง่ายๆทั่วไป




   “อันที่จริงบ้านเราน่ะมันเป็นบ้านสวน  มันก็ดูน่ากลัวอยู่แล้ว  แรกๆพี่เห็นว่าเราอยู่ได้ก็เลยไม่ได้ว่าอะไร  แล้วไปทำอีท่าไหนถึงได้มานึกกลัวผีเอาป่านนี้ล่ะ? พี่ก็เห็นอยู่ได้จะเป็นเดือนแล้ว”




   “พี่กล่ำเขาว่าเห็นคนในบ้านผมครับ  เมื่อวานซืนเขาเอาขนมกล้วยมาฝากให้ผมเอาให้คนชื่อตานี  ผมเลยเอาไหว้กอกล้วยตานีไปแล้ว น่ากลัวอ่ะพี่ ผมผวาไปหมดแล้ว”




   “...เดี๋ยวพี่ไปต่อยปากมันให้ เลิกคิดมากเหอะ”




   พี่เขียดว่าพลางจับหัวผมโยกไปมา  คิ้วพี่แกขมวดมุ่นอย่างใช้ความคิด  ผมกับพี่เขียดเดินไปคุยกันไป  พี่เขียดเป็นคนคุยง่ายครับ  คุยกับพี่เขาแล้วรู้สึกสบายใจดี  พี่เขาเดินมาส่งผมที่หน้าบ้านก่อนจะชี้ให้ผมดูบ้านเรือนไทยที่อยู่ถัดไปอีกสองหลัง




   “นั่นบ้านพี่   มีเรื่องอะไรก็ไปหาแล้วกัน  จะตีสองตีสามก็มาได้”




   “ขอบคุณครับพี่”




   ผมยกมือไหว้  พี่เขาพยักหน้ารับแล้วเดินไปเข้าบ้านตัวเอง  ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก  อย่างน้อยก็มีคนรู้จักอยู่ใกล้ๆ  แต่จะว่าไปบ้านยายเพียรแกก็อยู่ถัดไปอีกหน่อยนี่นา?  ผมคิดก่อนจะส่ายหัว  เอาไว้วันหลังไปเดินทำความรู้จักบ้านใกล้ๆบ้างแล้วกัน  ผมเปิดประตูเดินเข้าบ้าน  พยายามทำใจให้ชินกับความสะอาดของบ้านที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนทำ  ไหนจะผ้าที่รีดและพับวางไว้ที่มุมหนึ่งของบ้าน  พักหลังๆเรื่องนี้เริ่มหลักขึ้นจนผมอดทำใจไม่ให้ไม่กลัวไม่ได้จริงๆถ้าคนที่ทำเป็นผีขึ้นมามันก็น่ากลัวจริงๆ แต่ถ้าคนที่ทำไม่ใช่ผีมันจะยิ่งน่ากลัวมากกว่าเดิม  ผมวางความคิดทุกอย่างลงก่อนจะหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ  เพื่ออาบน้ำเตรียมตัวไปเรียนช่วงบ่าย




   ผมถอนหายใจ  นึกอยากหาสัญญาณกันขโมยมาติดแล้วก็เพิ่มพระขลังๆมาห้อยคอสักองค์ขึ้นมาจริงๆ  ในตอนที่เดินออกมาเจอชุดนักศึกษาแขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า พร้อมกับบนเตียงที่มีกระเป๋าเป้ที่ผมสะพายไปมหาลัยประจำวางอยู่ที่ปลายเตียง พอไปเปิดดูก็พบว่าของข้างในถูกจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วยิ่งอยากจะเป็นลม 




   ...ไม่รู้หรอกนะว่าใครทำ  จะคนหรือผีก็ขอให้หยุดเถอะ  ถ้ามากกว่านี้จิตใจของผมจะรับไม่ไหวเอานะ




   ผมปิดบ้านล็อคกุญแจ เข็นจักรยานออกมาปั่นไปรอรถสองแถวที่หน้าหมู่บ้านเพื่อจะได้นั่งเข้าไปที่มหาลัยที่อยู่ในตัวเมือง



********************* 



   ตานีมองส่งเด็กหนุ่มจากชั้นสองของบ้าน  เมื่อใบตองปั่นจักรยานออกไปไกลจนลับสายตาแล้ว  เขาก็เดินตรวจดูความเรียบร้อยของบ้าน ก่อนจะเดินออกไปหลังบ้าน  กลับเข้าไปอยู่ในต้นกล้วยเพื่อพักผ่อน



   “ถึงน้องตองขอให้หยุด  พี่ก็จะทำอยู่ดีนั่นแหละ  เรายังไม่ได้เก่งขนาดจะอยู่คนเดียวได้อย่างที่คิดนะ”




***************** 



   ผมไปถึงมหาลัยตอนเที่ยง ปกติผมจะนั่งรถหนึ่งชั่วโมงในการมามหาลัย  แต่เพราะวันนี้คนขึ้นน้อย  ผมเลยมาเร็วกว่าปกติสิบห้านาที  ผมเข้าคลาสตอนบ่ายโมง เลยไปเดินหาอะไรกินก่อนเพราะเวลายังเหลือ



   “นั่นใช่ใบตองหรือเปล่า?”




   ผมหันไปมองด้านหลังอย่างแปลกใจ  เด็กสาวรุ่นเดียวกับผมเธอยืนโบกมือให้ผม  เหมือนผมจะจำได้ลางๆว่าเธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นของผม  เธอเดิมมาหาผมด้วยความดีใจ ส่วนผม...ตกใจ




   “ใบตองใช่ไหม?  เราชื่อแก้ว เรียนคณะเดียวกับใบตอง”



   “เอ่อ...สวัสดีครับ”



   “นี่ใบตองจะกินอะไรเหรอ?”



   เธอถามพร้อมคว้าแขนผมข้างหนึ่งไปกอด  ผมสะดุ้งด้วยความตกใจ  เพราะผมไม่คุ้นเคยกับการถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้  ผมตั้งสติแล้วค่อยๆดึงแขนตัวเองออกช้าๆ หันไปรับจานข้าวจากแม่ค้า




   “ข้าวมันไก่ครับ  ยังไงขอตัวก่อนนะครับ เจอกันในคลาสนะ”




   ผมบอกพร้อมขอแยกตัวออกมา  อะไรบางอย่างทำให้ผมไม่ไว้ใจแก้วแบบแปลกๆ  ผมเดินออกมาอย่างรวดเร็วก่อนจะมองเห็นเพื่อนของผมคนหนึ่งนั่งกินข้าวอยู่




   “แตงอ่อน  เรานั่งด้วยได้ไหม?”




   “อ้าวใบตอง? มาแล้วเหรอ?”




   ผมพยักหน้าพลางนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับแตงอ่อน  แตงอ่อนเป็นเพื่อนคนแรกของผมในมหาลัยนี้และตอนนี้คงสถานะเพื่อนคนเดียวไว้ด้วยครับ  เธอเองก็ไม่มีเพื่อนเหมือนกันเพราะเธอบอกผมว่าเธอสวยเกินไปเลยไม่มีคนคบ( แน่นอนว่าผมแค่ยิ้มให้อย่างเดียวไม่ได้ออกความเห็นใดๆทั้งสิ้นครับ)




   ผมลงมือกินข้าวมันไก่อย่างช้าๆ ส่วนแตงอ่อนเธอกินแค่โยเกิร์ตครับ เธอบอกว่ากลัวอ้วน  จนกระทั่งผมกินข้าวเสร็จ เพื่อนสาวของผมก็บุ้ยใบ้ให้ผมมองไปด้านหลัง




   “นายไปเหยียบตาปลายัยแก้วมาหรือเปล่า  เห็นมองนายไม่วางตาเลย”




   ...และผมก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆให้แตงอ่อนเท่านั้น




******************* 




   หลังจบคลาสบ่ายที่มีเพียงวิชาเดียว  ผมก็ถูกแตงอ่อนลากไปเที่ยวต่อ  แม้ใจจริงผมจะไม่อยากไปเท่าไหร่แต่นานๆทีก็คงต้องปล่อยๆบ้าง  ถือเสียว่ามาซื้อของเข้าบ้านแล้วกัน  หลังจากแยกกับแตงอ่อน  ผมก็กลับมาถึงบ้านด้วยรถสองแถวและปั่นจักรยานเข้ามาในหมู่บ้าน กว่าจะถึงหน้าบ้านตัวเองก็เกือบจะทุ่มหนึ่งแล้ว  ทันทีที่เข้าบ้านได้ผมก็ชะโงกหน้ามองเข้าไปในครัว  สำรับกับข้าวแล้วข้าวถูกหุงถูกเตรียมไว้รอจนผมขนลุก  กาหัวไว้ว่าต้องหาพระมาห้อยแล้วก็ติดสัญญาณกันขโมยจริงๆ  แต่ด้วยความเหนื่อยที่มีมากกว่า  ผมเลยเดินผ่านสำรับกับข้าวตรงไปอาบน้ำ



*********************** 




   ตานีนั่งฮัมเพลงอยู่ที่ศาลาริมน้ำหลังบ้าน  เมื่อครู่ใบตองเพิ่งกลับมาถึงบ้าน ตอนนี้กำลังอาบน้ำอยู่  พรายหนุ่มใช้เท้าเตะน้ำไปมาก่อนจะสะดุ้งสุดตัว




   เสียงลากดังครืดๆดังออกมาจากในบ้านทำให้ตานีผุดลุกขึ้นทันที หากแต่เขาก็ไม่สามารถก้าวออกจากศาลาได้เลย ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความสยดสยอง  งูมากมายเลื้อยเต็มพื้นดินไปหมด บางส่วนเลื้อยเปะปะขึ้นไปตามกำแพงบ้านอย่างน่ากลัว  ดวงตาของพวกมันแดงก่ำอีกทั้งยังเรืองแสงได้เป็นสิ่งยืนยันว่ามันไม่ใช่งูทั่วไป  ตานีร้องเรียกไปยังต้นไทรที่อยู่ใกล้บ้านอย่างร้อนรน



   “พี่ภพ! ช่วยด้วย! งูขึ้นบ้านน้องตองเต็มเลยพี่!”



....




   ครืด....




   เด็กหนุ่มในห้องน้ำชะงักมือที่กำลังถูสบู่  ก่อนจะเอื้อมไปปิดฝักบัวช้าๆ 




   ครืด...




   เสียงแปลกๆดังขึ้นอีกครั้ง  ใบตองเร่งกว้าผ้าขนหนูพันตัวแล้วเปิดประตูห้องน้ำออกไปดู



   ฟ่อ...



   “!!!”




   ดวงตากลมโตเบิกกว้าง  หัวของสิ่งที่เป็นต้นเสียงแปลกๆนั้นอยู่สูงในระดับสายตา  มันขู่ฟ่อออกมาอย่างน่ากลัว  ร่างของเด็กหนุ่มนิ่งแข็งอย่างไม่สามารถขยับได้  สิ่งสุดท้ายที่เขาเห็นคือเงาหัวสีดำกำลังพุ่งฉกเข้ามาอย่างรวดเร็ว




ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ว๊ากกกก กลัวววว (เรากลัวงูอ่ะ)
พี่ตานีมั่นมาก (ฮา) แต่ก็คงจะสวยจริง (หัวเราะ)
ว่าแต่ใครเป็นพระเอกหนอ
งูมาเร็วจริง หลวงตาเพิ่งทักไปไม่นาน โผล่ละ (ยกมากันเยอะเสียด้วย)
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แก้ว เป็นไรกับใบตอง
เจ้ากรรมนายเวรหรือเปล่า

คนในเรื่อง ส่วนใหญ่ชื่อต้นไม้ นะ
ใบตอง / ตานี / ไทร /(มะ)กล่ำ / แก้ว / แตงอ่อน
มีเขียด ชื่อสัตว์

งู เจ้ากรรมนายเวร
มาไม่มาตัวเดียว มาเป็นฝูงเลย
แล้วใบตอง จะทำยังไงล่ะ

พี่เขียด นี่จะมาเป็นคู่ใบตองปะเนี่ย  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
นึกตานีจะเป็นพระเอกนะนี

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
โอ้ยยย  ตัดฉับบบ  น้องใบตอง  ฮืออ  :ling1: แต่คิดว่าพี่ตานีกับพี่ภพ ต้องมาช่วยทันแน่ ๆ
พี่ภพ ผู้ที่อยู่ในต้นไทร เป็นเจ้าที่งั้นเหรอ แล้วทำไมพี่ภพ ไม่เคยออกมาปรากฎกายเลยนะ
สายตาที่มองตามน้องตองด้วยความขบขัน ตอนถวายขนมกล้วยนี่ พี่ภพสินะ

งูที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของน้องใบตอง ตามมาจากชาติที่แล้วหรือเปล่า
แล้วจะเกี่ยวข้องยังไงกับแก้วไหม ทำไมใบตองถึงรู้สึกไม่ไว้ใจแก้วแบบแปลก ๆ

ตอนนี้ กำลังนั่งเดาพระเอกของน้องตอง ระหว่างพี่ภพกับพี่เขียด ส่วนพี่ตานีนั้น
ขอจัดให้เป็นพี่ชายแสนสวยของน้องตองแทนแล้วกันนะ ก็พี่มั่นซะขนาดนั้น 555
นี่แอบจิ้นพี่ตานีคนสวยกับพี่กล่ำคนล่ำล่ะ ตั้งแต่ตอนที่แล้ว มีเช็ดเหงื่อให้ด้วย > <

พี่ภพ ยังไม่ออกมา ก็เลยยังให้คะแนนไม่ได้ แต่ตอนนี้ เชียร์พี่เขียดสุด ๆ เลย
ตอนที่แล้วไม่มีบทพูด ตอนนี้พี่เขียดเลยฉายเดียวเคียงคู่น้องตองไปทำบุญ น่ารัก
มีการถวายสังฆทานร่วมกันด้วยอ่ะ  ทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันนะคะ  :-[
ชอบเวลาพี่เขียดโยกหัวน้องตองไปมา รู้สึกถึงความเอ็นดูน้อง น่ารักดี
แล้วก็รู้สึกว่า พี่เขียดเป็นคนมีอะไรจริง ๆ อ่ะ เพราะรู้สึกเฉยมาก ๆ กับเรื่องผีสาง
น่าจะเป็นคนมีเซ้นที่เห็นสิ่งพวกนี้ได้อยู่แล้ว อาจจะช่วยดูแลปกป้องน้องตองได้ในระดับหนึ่งนะ
รอตอนต่อไปค่า เรื่องสนุกมากเลย ภาษาก็ดีด้วย ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
 :hao7: o13 :hao7:

เขียนได้น่าติดตามมากครับ....

 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เชียร์ใครดีนะ ถถถ

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ชอบ เรื่อง นี้ อยากรู้ใครคือพระเอก

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 554
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
อ้าวตานี เราก็นึกว่านายจะเป็นสัมมี

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ยังไม่พบพระเอก

ออฟไลน์ Velusia

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
3


   ฟ่อ!  สวบ!


   งูเห่าสีดำตัวเขื่องอ้าปากโชว์เขี้ยวยาวโค้งของมันพร้อมพุ่งใส่ร่างของเด็กหนุ่มที่เป็นลมล้มพับกองอยู่กับพื้นอย่างรวดเร็ว แต่คมเขี้ยวของมันยังไม่ทันได้แตะถึงร่างของเด็กหนุ่ม  ร่างของมันก็งูจงอางที่มีขนาดตัวไล่เลี่ยกันงับเข้าเต็มเขี้ยวใน บริเวรใกล้ๆกับส่วนหัว  ร่างของงูเห่าโดนกระชากฟาดพื้นเสียงดังตึง  ลำตัวสีดำของมันขดงอและเริ่มถูกงูจงอางรัดแน่น  นานชั่วอึดใจก่อนที่ร่างสีดำจะแน่นิ่งไป  ก่อนจะสลายกลายเป็นละอองฝุ่นสีดำ 


   ตานีวิ่งเข้ามาภายในบ้าน  ช้อนประคองร่างใบตองขึ้นอุ้ม เดินตรงไปยังห้องนอน  บรรจงวางร่างไร้สติลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล  แล้วจึงนั่งลงพับเพียบกับพื้นยกสองมือขึ้นพนมระดับอก  งูจงอางตัวใหญ่เลื้อยตามเข้ามาหยุดอยู่ข้างเตียง   ตานีมองตางูใหญ่ก่อนจะว่าด้วยเสียงสั่นเครือ


   “เมตตาน้องมันเถอะพี่ภพ  เด็กมันไม่รู้เรื่องรู้ราว”


   -มันเป็นกรรมของเด็กมัน  เอ็งอย่าห่วงไปเลยไอ้ตานีเอ๊ย  ตราบใดที่มันอยู่ในบ้านกู ในที่ดินกู ชะตามันจะยังไม่ถึงคาดเร็วๆนี้หรอก  เร่งผลัดเปลี่ยนผ้านุ่งให้มันเถอะ  ประเดี๋ยวจะไม่สบาย แล้วกูจะเปลี่ยนความจำมันให้  สติจะได้ไม่เตลิดไปเสียก่อน-


   “จ๊ะพี่”


   ตานียกมือขึ้นไหว้อีกครั้งก่อนจะรีบไปค้นชุดนอนมาเปลี่ยนให้คนบนเตียง  งูจงอางใหญ่ที่ถูกเรียกว่าพี่ภพ พ่นสิ่งที่คล้ายคลึงกับไอหมอกให้ปกคลุมร่างของเด็กหนุ่มก่อนจะผงกหัวอย่างพึงพอใจแล้วเลื้อยกลับไปอยู่ในโพรงไม้ใต้ต้นไทรของตน



*************************


   ผมลุกขึ้นจากเตียงนอนด้วยความมึนงง  เบือนสายตามองดูนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาตีสาม  ผมคลำหาสวิตช์ไฟอยากยากลำบาก  ผมหยีตาเล็กน้อยตอนที่แสงไฟสว่างขึ้น   ใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าที่สายตาจะปรับให้ชินกับแสง  ผมกวาดตามองรอบๆ ผมนอนอยู่ในห้องของตัวเอง  แต่งตัวเรียบร้อยในสภาพพร้อมนอน  ผมรู้สึกมึนหัว  ผมมานั่งนึกดูว่าเกิดอะไรขึ้น  ผมกลับมาจากมหาลัย  อาบน้ำกินข้าวแล้วก็เข้านอน แต่บางส่วนในจิตใจมันบอกว่ามีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง  ผมล้มตัวลงนอนในหัวยังคงคิดวุ่นวายไปหมดจนจับต้นชนปลายไม่ถูก


   มันต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ


   

***********


   ผมสะดุ้งตื่นในตอนเช้าเพราะเสียงโทรศัพท์  ผมหยีตามองชื่อที่ปรากฏบนจออยู่ครู่หนึ่ง  พอเห็นว่าชื่อคนโทรเข้าเป็น “พระพาย” ผมถึงได้ยอมกดรับแล้วยกโทรศัพท์แนบหู


   “ฮัลโหลพาย  โทรมาทำไมแต่เช้า?”


   -พี่ตองให้พายไปอยู่ด้วยได้ไหม?-


   ผมขยับลุกจากเตียง  อาการปวดตามตัวเล่นงานผมโดยที่ผมไม่รู้สาเหตุ  ผมเดินลากขาไปเปิดหน้าต่างรับลมตอนเช้า


   “พายพูดอะไรน่ะ? พี่ไม่เข้าใจ”


   -พายอยากไปอยู่กับพี่ตอง  พายเกลียดพี่เพลิง-


   ผมส่ายหน้าไปมา  พระพายเป็นลูกของคุณหญิงพิมผกา  เป็นน้องชายต่างแม่ของผมเอง  ส่วนพี่เพลิงที่เจ้าตัวพูดถึงคือคุณพระเพลิง เป็นพี่ชายแท้ๆของพระพาย  ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพระพายถึงได้เกลียดคุณพระเพลิง  พี่น้องท้องเดียวกันแท้ๆ


   “พาย....พายยังต้องเรียนนะครับ  ถ้ามาอยู่กับพี่ตองจะทำยังไงกับโรงเรียนล่ะ  เดี๋ยวแม่พิมของพายก็พาลเกลียดพี่มากกว่าเดิมเพราะหาว่าพี่ทำให้พายเสียการเรียนหรอก”


         -พี่ตองก็รู้ว่าแม่ไม่รักพาย  พายอยู่ไม่ได้แล้วพี่ตอง พายอึดอัด-



          ผมได้ยินเสียงร้องไห้ดังลอดมาตามสาย  ผมถอนหายใจออกมาหนักๆ  ใจหนึ่งก็สงสารน้อง  แต่ลำพังตัวผมเองผมยังไม่รู้ว่าจะไปรอดได้อีกนานเท่าไหร่  ผมฟังพระพายงอแงอีกเล็กน้อยก่อนที่เจ้าตัวจะยอมวางสายไปในที่สุด  ผมเดินลงมาหน้าบ้าน  เจอพ่อค้าผลไม้ที่เคยเห็นในตลาดมายืนรอหน้าบ้าน  ผมยกมือไหว้แล้วถามไถ่ถึงธุระที่เขามาบ้านผม

           
             “อยากได้ผลไม้ในสวนเอ็งน่ะหนุ่ม ลุงให้ราคาดีนะ”


              “แต่ผมไม่สะดวกเก็บให้นะครับ” ผมบอกพ่อค้าไป ซึ่งเขาก็พยักหน้า


               “ลุงมีลูกน้อง  เดี๋ยวสั่งให้มันมาเก็บได้  ตกลงจะขายให้ลุงไหม?”


               “ครับ”


                “งั้นเก็บชั่งน้ำหนักเสร็จเดี๋ยวลุงเอาเงินมาให้”


ผมพยักหน้าแล้วลุงพ่อค้าก็เดินพาลูกน้องไปทางสวนมะม่วงที่ตอนนี้มีลูกมีผลพร้อมขายแบบยังเขียว  ผมหยิบโทรศัพท์มาโทรหาแตงอ่อน เพื่อบอกว่าผมรู้สึกไม่สบายวันนี้เลยจะไม่เข้า  ซึ่งแตงอ่อนก็รับปากว่าจะจดเลคเชอร์ไว้ให้  ผมวางสายแล้วเดินไปดูเขาเก็บมะม่วงจนถึงเจ็ดโมงครึ่ง  มะม่วงชุดแรกของปีก็ถูกเอามาชั่ง  พ่อค้าก็ให้เงินผมมาสามพันสำหรับมะม่วงเขียวเสวยหกสิบกิโลแกให้ผมกิโลละห้าสิบบาท  ผมเปิดเช็คดู  เห็นว่าราคานี้ถือว่ากำลังดีในตลาด เพราะต่ำสุดตอนนี้คือสามสิบห้าบาท  ลุงพ่อค้าบอกว่าถ้าผมเก็บเองจะได้เพิ่มอีกห้าบาทเพราะมะม่วงผมสวยไม่มีตำหนิแล้วก็ลูกใหญ่  ผมก็พยักหน้า  แต่ก็บอกไว้ว่าคราวหน้าคงรบกวนให้คนงานของลุงมาเก็บอีกเพราะผมตัวคนเดียว คงจะเก็บไม่ไหว  ลุงแกก็ถามถึงผลไม้ชนิดอื่นว่าถ้ามันออกลูกผมจะขายไหม  ผมเลยตอบไปว่าขาย  แกเลยให้เบอร์โทรแล้วบอกให้โทรไปเรียกถ้ามันออกลูกแล้ว



   พอรถพ่อค้าผลไม้ไปแล้วผมก็เข้าบ้านไปกินข้าว(ที่มีใครหรืออะไรบางอย่างเตรียมไว้ให้ตอนที่ผมลงไปที่สวน)  หลังจากล้างจานผมก็คว้าผ้าขนหนูเดินไปอาบน้ำ  ผมขมวดคิ้วพลางมองเงาตัวเองในกระจก  ทั้งๆที่ไม่มีร่องรอยฟกช้ำแต่ผมกลับปวดล้าไปทั้งตัวเหมือนโดนอะไรทุบมาเสียอย่างนั้น  ผมถอนหายใจ  ทุกๆอย่างมันแปลกขึ้นมากทุกที  ผมคิดแบบนั้นก่อนจะแต่งตัว


   ตอนบ่ายแก่ๆผมเดินกลับเข้าไปในสวนใช้ตะกร้อสอยมะม่วงสุกที่เห็นเหลืออยู่บนต้นหลายลูกลงใส่ตะกร้าแล้วหิ้วออกจากบ้าน


   “พี่เขียด  ผมเอามะม่วงมาฝาก”


   ผมบอกคนที่กำลังก้มๆเงยๆถอนหญ้าในแปลงผักหน้าบ้าน  พี่เขียดรับตะกร้ามะม่วงไปแล้วบอกให้ผมรอเดี๋ยวก่อนที่จะเดินเข้าบ้านแล้วหิ้วถุงใส่กล่องพลาสติกมาส่งให้


   “สะเดาน้ำปลาหวาน พี่ทำเอง  กินเป็นไหม?”


   “ขอบคุณครับ  กินเป็นสิพี่  เมื่อก่อนแม่ทำให้กินบ่อยๆ”


   “ใบตอง”


   “ครับ?”


   “เมื่อคืนหลับสบายไหม?”


   พี่เขียดถามพร้อมจ้องผมเขม็ง  ผมกระพริบตาแล้วตอบไปตามตรง


   “ตอนนอนก็สบายครับ  แต่ตอนตื่นมาผมปวดไปทั้งตัวเลย”


   พอผมพูดเสร็จ  พี่เขียดก็ถอนหายใจแล้วบอกให้ผมกลับบ้านไปเก็บของ แล้วให้รอที่หน้าบ้าน  เดี๋ยวจะไปรับ  แล้วพี่แกก็วิ่งกลับเข้าบ้านไป  ส่วนผมก็เดินงงๆกลับบ้าน


   

***************





   เขียดพาใบตองที่วัด  ตรงไปที่กุฏิหลังหนึ่ง  เป็นกุฏิของหลวงปู่  ท่านก็ยิ้มรับ  เขียดกับใบตองก้มลงกราบท่านเสียหนึ่งที  แล้วคนอายุมากกว่าก็กล่าวกับหลวงปู่ด้วยท่าทางสำรวม


   “หลวงปู่ครับ  เมื่อคืนผมฝันไม่ดี  แล้ววันนี้น้องมันก็ปวดไปทั้งตัว  หลวงปู่คิดว่ายังไงครับ”


   “แล้วเอ็งฝันอะไรล่ะไอ้เขียด”


   “ผมฝันเห็นงู  งูเห่าสีดำตัวใหญ่ แล้วผมก็ฝันเห็นงูเต็มทั่วบ้าน”


   “แค่นั้นหรือ?”


   เขียดทำท่าทางลุลี้ลุกลน  แล้วขยับเข้าไปกระซิบเบาๆกับหลวงปู่


   “ผม...ฝันเห็นว่าพวกมันมาจากดงพญานาคครับ”


   “เป็นนิมิตที่ไม่เลว  เจ้าเขียด  แล้วเอ็งล่ะว่าไงพ่อตานี”


   หลวงตาหันไปถามที่ว่าข้างตัวเด็กหนุ่ม  ใบตองสะดุ้งเฮือกขยับหนีไปอยู่ข้างหลังเขียดอย่างรวดเร็ว  ร่างบางสั่นระริกพร้อมถามคนที่ตนเองเกาะอยู่ด้วยเสียงที่สั่นไม่แพ้ร่างกาย


   “นะ...นี่มันเรื่องอะไรกันครับพี่เขียด”



   หลวงปู่หันมายิ้มแล้วพยักหน้า  เขียดยกมือขึ้นลูบหัวใบตองเบาๆแล้วชี้ไปตรงที่ว่าง


   “ใบตองมองตามนิ้วพี่  แล้วบอกพี่หน่อยว่าพี่กำลังชี้อะไร”  เขียดถาม  ใบตองมองตามแล้วตอบ



   “เสื่อครับ”  เขียดส่ายหน้าแล้วชี้ให้ดูอีกครั้ง  คราวนี้ชี้มาที่ข้างๆตัวของใบตอง


   “คราวนี้พี่ชี้อะไร?”


   “ผะ...ผมไม่รู้  พี่เขียดผมกลัว”


   เขียดถอนหายใจ  แล้วยกมือลูบหัวคนที่กำลังเกาะแขนเขาตัวสั่น  ชายหนุ่มมองสบกับตานีที่กำลังส่ายหน้าให้อย่างอ่อนใจ


   -ให้ตายก็ไม่เห็นหรอกนายเขียด  แม่บัวเขาสะกดน้องไว้ –


   “เอ้าๆ  ฟังหลวงปู่ก่อนนะ  ทั้งสองคน”  หลวงปู่ยกไม้เรียวตีพื้นดังแปะๆ  ใบตองสะดุ้งเฮือกแต่ยังคงเกาะเขียดแน่นไม่ห่าง  ส่วนตานีก็มองค้อนตาเขียวเพราะไม้เรียวฟาดลงไม่ไกลร่างตนเท่าไหร่


   “ทั้งสองคนกับอีกหนึ่งตนนั่นล่ะ  ฟังหลวงปู่ เรื่องมันจะได้เบาๆลง  ใบตองเอ๊ย  เอ็งอยู่ต่อหน้าพระหน้าเจ้า ยังจะกลัวอะไรอีก”


   “ก็มันกลัวนี่ครับหลวงปู่”


   ใบตองตอบเสียงสั่น  ก่อนจะขยับห่างร่างสูงของเขียดออกมาเล็กน้อย  เขียดถอนหายใจแล้วขยับนั่งขัดสมาธิหลังตรง  ตานีขยับนั่งพับเพียบแอบอิงข้างกายใบตองที่ตอนนี้ยังคงตัวสั่นอยู่  หลวงปู่ยกชาขึ้นจิบ แล้วถาม


   “แล้วเป็นยังไงพ่อตานี  นิมิตไอ้เขียดน่ะมันถูกหรือไม่?” 


   ตานียกมือขึ้นพนมแล้วตอบเสียงหวาน   –จริงขอรับพระคุณเจ้า  อาศัยพี่ภพเขาช่วยไว้ เฉียดไปนิดเดียว ถ้าหากไปไม่ทันไม่แคล้วน้องตองคงได้ลงท้องงูผีเป็นแน่-



   หลวงปู่พยักหน้าแล้วมองตรงมายังร่างของเด็กหนุ่ม  หลับตาลงชั่วครู่แล้วส่ายหน้าไปมา


   “ ใบตองเอ๊ย  ไม่รู้ว่าชาติก่อนเอ็งไปสร้างกรรมไว้กับเขาหรือเพราะดวงเอ็งตกกรรมคนอื่นมันเลยมาลงกับเอ็ง  หลวงปู่ก็ไม่รู้จะช่วยเอ็งยังไงดีเหมือนกัน  วันที่เอ็งเกิดเขาเผาผีกันพอดี  ตอนแรกข้าว่าก็คงจะไม่เกี่ยวหรอก  แต่หวยมันดันมาลงที่เอ็งจริงๆ”


   “มันเกี่ยวอะไรกับวันเผาผีครับหลวงปู่?”


   เขียดถามขึ้นด้วยความสงสัย  พระชราถอนหายใจแล้วยกชาขึ้นจิบ


   “ข้าจะค่อยๆเล่าให้ฟัง  ไอ้ใบตองมันจะได้ตามเรื่องทัน

   ศพผีที่เผาเป็นทวดไอ้ใบตองมัน  ชื่อบุลลา(ดอกไม้)  ตอนเป็นสาวรุ่นแกทั้งสวยทั้งมีเสน่ห์  หัวกระไดเรือนแกนี่ไม่เคยแห้ง  ผู้ชายมาจีบไม่เว้นวัน  แต่แกก็ไม่เคยเอาใครเสียที  จนวันหนึ่ง  มีข่าวว่านางบุลลาไปได้กับหมองู  ผัวแกก็ปลูกเรือนอยู่ในสวน หลังที่เจ้าใบตองมันอยู่นี่ล่ะ  แล้วก็มีไอ้บัวลอยกับนางบัวเผื่อนออกมา  อยู่กันสี่คนพ่อแม่ลูก  เมียเก็บผลไม้กับของป่าขาย  ผัวก็จับงูขายให้พวกคนมีตังค์  สร้างเนื้อสร้างตัวกันมาจนไอ้บัวลอยอายุได้สิบห้า ผัวนางบุลลาก็ตายเพราะโดนงูเห่าฉก  พอมันเหลือสามคนแม่ลูก แล้วอีกห้าปีต่อมาเรื่องมันก็เกิด”


   หลวงปู่หยุดพูด  ยกน้ำชาขึ้นจิบ พลางกวาดสายตามองสองคนกับหนึ่งตนที่ตั้งอกตั้งใจกันฟังอย่างน่าเหลือเชื่อ ก่อนจะกระแอมไอแล้วเล่าต่อ


   “นางบัวเผื่อนตอนนั้นอายุได้สิบแปด ไอ้บัวลอยอายุได้ยี่สิบ  ตอนนั้นไอ้บัวลอยกับข้าเข้าไปหางานทำในเมืองกรุง ช่วงนั้นเงินหายาก  แต่ตอนนั้นพวกคนรวยยังนิยมกินดีงูเห่ากันอยู่ นางบุลลาเลยเอาตำราหมองูของผัวมาศึกษาแล้วออกจับงูเห่าขายเหมือนผัว  แต่ก็นานๆทีจะจับได้เพราะงูมันหายหมด  มีครั้งหนึ่งแม่ข้าเล่าว่านางบุลลาจับงูเห่าเผือกได้  ตัวมันใหญ่เท่าขาผู้ชายวัยกลัดมัน  ชาวบ้านหลายคนก็ว่าถ้าขายเป็นๆมันคงขายได้เงินเยอะน่าดูเพราะพวกคนมีเงินเขาคงอยากได้ไปเลี้ยงเสริมบารมี  ชาวบ้านบางคนเขาก็ว่าเป็นงูเจ้าที่ เป็นพญานาคแปลงตัวมา  อะไรก็ว่ากันไป    แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้โดนขาย เพราะมันหลุดจากกรงแล้วเลื้อยเข้าห้องนางบัวเผื่อน”


   “โดนทวดบุลลาฆ่าตายเพราะไปฉกคุณยายน้อยบัวเผื่อนเหรอครับ?” ใบตองถามขึ้น พลางจ้องพระชราเขม็ง  หลวงปู่ส่ายหน้า


   “งูเห่าเผือกตัวนั้นได้นางบัวเผื่อนเป็นเมีย  แล้วมันก็หนีหายไปในคืนนั้นเลย  นางบุลลาเลยแค้นเพราะงูเป็นสัตว์เดรัจฉาน  แต่ทำงามไส้ได้คนเป็นเมีย แถมเป็นลูกสาวตัวเองอีกเลยยิ่งแค้นหนัก  คนเขาก็เอาไปพูดกันไปสามบ้านแปดบ้าน”



   คนฟังขนลุกพรึ่บ  หลวงปู่พักดื่มน้ำชาอีกยกแล้วเล่าต่อ



   “แต่เหมือนนางบัวเผื่อนมันจะสมยอมด้วย  เพราะตอนที่ข้ากับไอ้บัวลอยกลับมาบ้าน คนเขาก็ว่านางบัวเผื่อนหนีตามผัวงูไปแล้ว  ไอ้บัวลอยมันก็อึ้งๆแต่มันก็ไม่ได้ว่าอะไร  นอกจากไปตามหาน้อง  ข้ากับไอ้บัวลอยไปเจอนางบัวเผื่อนอยู่ที่ถ้ำใกล้ๆแม่น้ำริมป่าท้ายหมู่บ้าน  กำลังท้องโต  ข้ากับพี่ชายมันก็ไปไม่เป็น  ไม่รู้ว่าคนมันท้องกับงูได้  ไอ้บัวลอยก็รักน้องมันมากเลยไม่ยอมบอกแม่  แต่จนได้ฤกษ์กลับไปทำงาน พวกข้าก็ไม่เคยเห็นผัวมันเสียที  พอกลับมาอีกทีนางบัวเผื่อนกับผัวงูมันก็ตายแล้ว  เห็นว่านางบุลลาตามไปเจอเลยใช้มนต์หมอฆ่างูตาย  ส่วนนางบัวเผื่อนก็แท้งลูกตายหลังจากเสียผัวไม่กี่วัน  แล้วน้ำก็ท่วมหมู่บ้าน  คนว่ากันว่าเป็นฝีมือพญานาค  จริงเท็จแค่ไหนข้าก็ไม่รู้ เขาว่ากันแบบนั้น”


   “อ้าว?  แล้วที่หลวงปู่เล่าให้ผมกับใบตองฟังมันเกี่ยวกันยังไงล่ะ”


   เขียดถาม  ใบตองนั่งทำหน้างงๆ ส่วนตานีนั่งเอามือแตะคางพลางหรี่ตาอย่างครุ่นคิด


   -หลวงปู่จะบอกว่างูผีมันแค้นทวดน้องใบตอง  เลยมาเก็บดอกเอากับน้องหรือขอรับ-


   “ข้ายังเล่าไม่ทันจบ  บ๊ะ! พวกเอ็งก็ช่างสอดจริง!”


   พวกช่างสอดสะดุ้งโหยง  ตานีหลิ่วตาให้เขียดส่วนเขียดก็มองค้อนกลับ  ใบตองขยับเข้าไปใกล้พระชราก่อนจะชงชาให้ใหม่


   “ หลังจากน้ำลด  ไอ้บัวลอยมันก็ได้เมียเข้าบ้าน  หน้าตางามหมดจดประหนึ่งนางไม้ พอมันพาเมียมาอยู่บ้าน นางบุลลาแกก็เริ่มเป็นโรคประสาท  หลอนว่าพญานาคจะมาเอาชีวิตแกเพราะแกไปฆ่าลูกนาค  พอเห็นหน้าลูกสะใภ้แกก็จะกรีดร้องแล้วเอาพร้ามาวิ่งไล่ฟัน  ไอ้บัวลอยมันเลยต้องพาเมียมันย้ายหนี  กลับมาหานางบุลลาครั้งเดียวคือตอนนางบัวตองมันเกิด พอไอ้บัวลอยตาย  เมียมันก็พาลูกสาวกลับมาอยู่บ้านสวน ตอนนั้นนางบุลลาแกก็แก่จนไม่มีแรงจะยกพร้าแล้ว  แล้วตอนที่เอ็งเกิดเป็นวันที่ทวดเอ็งเผาพอดีเจ้าตอง  แม่เอ็งน้ำคร่ำแตกหน้าเมรุเผาศพเลยเชียวหามไปโรงพยาบาลแทบไม่ทัน  พระทั้งวัดนี่จีวรแทบจะบินตอนวิ่งหารถเพราะงานเผาผีทั้งงานมีแค่แม่เอ็ง ยายเอ็งแล้วก็พระในวัด  จะเกิดมาทั้งทีก็เล่นเอาพระเกือบอาบัติกันทั้งวัดนะเอ็ง”


   ใบตองยกมือปิดหน้า  ตานีพยักหน้านิ่งๆเพราะตนก็อยู่ในเหตุการณ์  เขียดทำหน้าเหวอก่อนจะหันไปตบหลังเด็กหนุ่มข้างตัวเบาๆ


   “เพราะสถานที่ๆจะออกไม่ค่อยจะเป็นมงคล กับเพราะเอ็งเกิดมาจากการผิดศีลข้อสาม กรรมมันเลยอาจจะมาหาเอ็งตอนนั้นด้วย”


   “กรรมมันส่งต่อกันด้วยเหรอหลวงปู่?”


   “ข้าก็ไม่รู้เขียดเอ๊ย  แต่พอไอ้ตองมันออกจากท้องแม่  ยายมันก็หายตัวไปเลยเหมือนว่ามันทำหน้าที่เสร็จสิ้นเลยหายไปเสียเฉย มันชื่อเสียงเรียงนามอะไรไม่มีใครรู้  พอไอ้ตองมันได้เจ็ดขวบปี  พ่อมันก็มารับไป”


   “ผมก็ยังไม่เห็นจะเกี่ยวกับกรรมน้องเลยหลวงปู่”

   
        “บ๊ะ! ไอ้ช่างสอด  เอ็งนี่สอดได้สอดดีจริงๆ”


   “ก็หลวงปู่ชอบเว้นช่วงนานๆ”


   “ข้าแก่จนเห็นฝาโลงเป็นเตียงทองแล้ว  เอ็งไม่คิดจะให้ข้าพักหายใจหายคอเลยรึ?”


   -หรือจะเกี่ยวกับตอนที่น้องตองยังเล็กขอรับ-


   ตานีเอ่ยถามขึ้นพลางมองไปยังใบตองที่ยังคงหวาดระแวงเรื่องตน  เขียดหันหน้ามองพรายตานีสลับกับหลวงปู่ที่พยักหน้านิ่งๆ


   “ใช่ เพราะเกินมาบนบาปของบรรพบุรุษและบาปของพ่อแม่มัน  มันเลยกลายเป็นเด็กเห็นผี”


   “ผม...ไม่เห็นอะไรเลย”


   ใบตองแทรกขึ้น  กวาดตามองไปรอบๆแล้วหันกลับมามองพระชราอีกครั้ง


   “ไม่เห็นจริงๆครับหลวงปู่”


   “ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี  ยังไงวันนี้ก็กลับๆไปกันก่อนไหม?  ฟ้าเริ่มจะมืดแล้วนะ”


   หลวงปู่บอกพร้อมชี้ไปด้านนอก  เขียดพยักหน้ารับก่อนจะพาใบตองกราบลาแล้วพากันออกไป  ส่วนตานียังคงนั่งนิ่งด้วยท่าทีสงบ  หลวงปู่ล้วงมือลงในย่ามหยิบว่านชนิดหนึ่งขึ้นมา



   “เอ็งจงเอาว่านนี้ไปปลูกที่กอกล้วยของเอ็ง  มันจะช่วยกันงูออกไปได้ระยะหนึ่ง”


   -ขอรับพระคุณเจ้า...พระคุณเจ้าขอรับ  ท่านคิดเห็นเช่นไรเรื่องเจ้ากรรม-


   ตานีรับว่านมาแล้วถาม  หลวงปู่หลับตาถอนหายใจ แล้วโบกมือไล่


   “แล้วทำไมเอ็งไม่ไปถามเจ้าพ่อต้นไทรเอาล่ะ  ข้ายังเป็นมนุษย์ไม่รู้เยอะปานนั้นหรอก”



*************************


   คืนนั้นใบตองฝัน



   เขาฝันเห็นสระน้ำขนาดใหญ่มีปลาตัวเล็กแหวกว่ายอยู่ในน้ำที่ใสจนมองเห็นก้นสระ  เขาถอดเปลื้องเสื้อผ้าออกแล้วก้าวลงไปในน้ำ  แต่เท้าของเขาไม่ได้หยั่งลงที่ก้นสระ   เขาเสียหลักและร่างทั้งร่างก็ร่วงหล่นลงใต้ผืนน้ำ  แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ทรมานอะไรเลย  ราวกับว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆที่จะหายใจใต้น้ำ  ใบตองแหวกว่ายในน้ำอย่างที่ใจปรารถนา แต่แล้วความสนุกของเขาก็หมดลงเมื่อร่างทั้งร่างถูกงูตัวมหึมารัดเอาไว้อย่างแน่นหนา  มันไม่ได้เจ็บปวด  กลับกันมันให้ความรู้สึกเหมือนได้รับการปกป้องและน่าโหยหาอย่างน่าประหลาด  แก้วตาสีแดงของยูยักษ์ฉายประกายอ่อนโยน ก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นแววตาโกรธแค้นในพริบตา  แล้วในวินาทีต่อมา  ปากกว้างๆที่มีเขี้ยวคมของมันจะอ้าออกแล้วฝังเขี้ยวลงบนไหล่ของเขาอย่างรุนแรง



   “อ๊าก!!!!!!”


   ร่างบางผุดลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็วราวกับโดนลวกด้วยน้ำร้อน  ใบตองหอบหายใจถี่ๆด้วยความตื่นกลัว  ยกมือจับไหล่ของตัวเองตามสัญชาตญาณ  ก่อนจะนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด


   ...มีเลือดไหลอาบมือของเขาเต็มไปหมด...


   เด็กหนุ่มถลาวิ่งไปที่ห้องน้ำ  ภาพสะท้อนทำเอาเขาอกสั่นขวัญแขวน


   บนไหล่ของใบตอง...มีรอยเขี้ยว...

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


   ...พระเอกอยู่ไหน...


   เงินยังไม่พอจ้างเลยครับ (ซับน้ำตาสะอื้นฮึกๆ)


   ตอนนี้ขอใช้เพื่อพูดถึงครอบครัวของใบตองก่อนนะครับ  ชาตินี้น้องจะได้เห็นหน้าพี่ตานีไหม?  เดี๋ยวก็ได้เห็นนะครับ  ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะครับ  มีตรงไหนควรแก้ไขแนะนำได้เลยนะครับ


   ...แน่นอนว่าเรื่องคำผิดก็ด้วยครับ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2017 15:17:27 โดย Velusia »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ใบตอง ต้องกลายเป็นเมียงูปะเนี่ย
อ่านไปนึกภาพตามไปแขยงมาก
แฟนตาซี  ผีเต็มเล้า ติดตามคับ

ออฟไลน์ hoihak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ตื่นเต้นสุดๆ ชอบบบบบแนวนี้สุดๆ อยากจะขอบคุณมากกกที่เเต่ง  :mew1:  ติดตามมมมม o13 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด