50% (ต่อจากตอนที่แล้ว)
“เพราะผมชอบขอบคุณหล่ะมั้งครับ”
หันมายิ้มกรุ้มกริ่มใส่กล้องแล้วไลฟ์ก็ถูกปิดไว้แค่นั้น...
เพราะผมชอบขอบคุณหล่ะมั้งครับ...
เพราะผมชอบขอบคุณหล่ะมั้งครับ...
เพราะผมชอบขอบคุณหล่ะมั้งครับ...
เออ พี่มันก็มารยาทดีนะแสดงว่าทางบ้านสอนมาดี
แม่ผมเคยบอกว่าคนพูดขอบคุณจนติดปากจะเป็นเด็กน่ารัก ไม่ยักรู้ว่าจะจริง เกินคำว่าน่ารักไปเป็นหล่อเลยด้วยซ้ำ
“เยะเข้ะ พี่ปลัดแม่งคนจริง”
“เมียมึงเจ๋งมากไอ้คุณณณณ เชี่ยยยย เปิดตัวสัดๆ” อะไรนะใครเมียใคร แล้วมึงก็ตะโกนเสียดังจนเพื่อนได้ยินกันครบทุกคนเชียว เพื่อนๆที่ได้ยินก็เหมือนจะตกใจกระซิบกระซาบกันใหญ่โต
“เปิดตัวอะไรวะมึง”
“อ้าวไอ้สัด ประโยคท้ายสุดไม่เข้ารูหูมึงเลยหรือไง”
“ประโยคไหนวะ”
“โอ้โห นี่หูหรือหาง ไอ้สัด ผมชอบขอบคุณหล่ะมั้งครับไง”
“อ๋อๆ เออๆ ได้ยิน พี่มันมารยาทดีนะมึง”
“…”
“…”
“อะไรกันอ่ะ” ผมมองหน้าไอ้มิตรสลับกับไอ้แทน
“สัด อยากจะถามว่านี่โง่จริงหรือแกล้งโง่แต่ก็เสือกรู้คำตอบอยู่แล้ว”
“เห้อไอ้คุณ ไหนมึงลองตัดทอนคำสิ ผมชอบขอบคุณ ไหนลองตัดคำว่าขอบออก ได้คำว่าอะไร”
“ผมชอบคะ…”
หือ…
เห้ย…
เห้ยยยยยย!!!
ปุ้ง!!
ไม่ใช่เสียงป๊อปคอร์นระเบิดในไมโครเวฟ
หน้าผมเอง!!!
“อ่ะ มันเกทแล้ว แดงยันหูเลย”
“พี่ปลัดแม่งล่มเรือไทมีนกูแรงมาก แต่จิตใจกูสตรอง กูจะมโนว่าพี่ปลัดบอกว่าเพื่อนเพราะอยากให้มีนหึงหวง ถ้าใจเราชิปทุกอย่างก็เป็นไปได้”
“นินิว มึงเมินไอ้ประโยคเพราะผมชอบขอบคุณของพี่ปลัดเขาไปเลยหรอวะ”
“กูยังไม่ค้นพบว่าฟินจากคู่นี้นอกจากอีคุณมาเล่าให้ฟังว่าพาไปแดกหมูย่างแล้วน้ำมันกระเด็นใส่หน้า มึงมีโมเม้นต์ให้กูสิกูจะได้หันมาจิ้นคู่นี้” แล้วนำมันกระเด็นโดนหน้าไม่นับเป็นโมเม้นต์หรอวะ เกือบเสียโฉมเลยนะโว้ย
“โห หยามมาก ไอ้คุณ เป็นกูกูสวนไปแล้วนะ”
“สวนไปว่าทำไมมึงพูดแบบนี้!!!”
“จตุจักร!!!”
ป้าป!!
มุกสวนจตุจักรเป็นหมันภายในสามวิ ยังไม่ทันได้พ่ามๆหน้าไอ้มิตรก็ทิ่มโต๊ะเลคเชอร์ไปแล้วเรียบร้อย ไม่เป็นไรไอ้มิตรเพื่อนรัก เดี๋ยวคราวหน้ากูช่วยตบว่าสวนลุมแทนก็ได้ มีกำลังใจเล่นมุกต่อไปนะเพื่อน
หลังจากคลิปแถลงชื่อพี่ปลัดก็ติดเทรนด์ในทวิตเตอร์อย่างรวดเร็ว ผมก็ได้แต่จิ้มอ่านเงียบๆ ไม่ใช่อะไรครับ เล่นแอพไม่เป็น ขนาดดิสยังเป็นไข่สีม่วงอยู่เลย ถึงไถอ่านดูแล้วส่วนใหญ่จะความคิดเห็นเชิงบวกแต่จิตใจผมตอนนี้ไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวมารับรู้แล้วครับ มันไปอยู่กับ…
เพราะผมชอบขอบคุณหล่ะมั้งครับ...
ไอ้พี่ปลัด...
อยากสะกดคำว่าเขินโว้ยสามหน้ากระดาษแล้วเอาเข้าปากกลืนให้หายฟุ้งซ่าน พี่ปลัดแม่งงงงง ผมที่นับถือพี่นิชคุณเป็นสัญชาติมาทั้งชีวิต จู่ๆก็อยากจะเปลี่ยนไปเป็นขอบคุณแทนก็วันนี้นี่แหล่ะ ฮือๆ ผมได้แต่นั่งกุมแก้มตัวเองไปยันหมดคาบเรียน ไอ้พี่ปลัดเวร ผมจะฟ้องศาลข้อหาทำให้เรียนไม่รู้เรื่อง!!
ถึงจะหมดเวลาเรียนแล้วแต่เราชาวมหาลัยก็ใช่ว่าจะได้กลับเลยนะครับ เราจะต้องชดใช้กรรมที่มาในรูปแบบงานกลุ่มต่อ แต่ไหนๆก็จะต้องคุยงานเลยตัดสินใจคุยต่อในห้องไปเลย แหงครับ ด้านนอกร้อนเหมือนนรก
“ไอ้คุณ!!!”
หือ?
ผมเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนผู้หญิงที่ตะโกนเรียกชื่อผมอยู่ที่ประตู
“ว่าไง?”
“เมียมึงมารอรับอ่ะ”
เมีย?
“เมีย?”
เสียงสงสัยในความคิดผมดังขึ้นพร้อมกับเสียงทุ้มที่แสนคุ้นเคย ไม่สิ ไม่มาแค่เสียง มาพร้อมกายหยาบด้วยเลย พี่ปลัดที่กำลังจับประตูเปิดไว้ให้เพื่อนผมเดินออกพร้อมกับกระดกคิ้วงงข้างเดียวแบบที่ชอบทำบ่อยๆ พี่มันคงรู้ว่าทำออกมาแล้วดูหล่อ ใบหน้าพี่มันนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆยกยิ้มเหี้ยมขึ้นมุมปาก จังหวะนี่กิ๊กสุวัจนียังต้องอาย
“เอ่อ...”
“ไม่ยักรู้ว่ากูเป็นเมียมึงนะคุณ”
“ดะ เดี๋ยว คุณไม่ได้บอกใครว่าพี่เป็นเมียผมนะ” โว้ยยยยย นี่สับสนจนแทนตัวทั้งคุณทั้งผมในประโยคเดียวกันไปแล้ว!!
“อ้าวไอ้คุณ ไหนมึงบอกเองว่ามึงเป็นรุก”
กู...
กูเรอะ!!!!
“เป็นรุก?” เข้าใจฟีลตอนแฮร์รี่เจอผู้คุมวิญญาณมันก็ตอนนี้ ไอ้พี่ปลัดก้าวขายาวๆเข้ามาพร้อมกับจ้องหน้าผมเขม็ง ฮือออออออ ใจเย็นจ้ะพี่จ๋า ยอมแล้ว ท่องคาถาผู้พิทักษ์ไม่เป็น
“ไม่ใช่ๆ เข้าใจผิด มันเป็นการเข้าใจผิด!!”
“กูให้เวลาหนึ่งนาที อธิบายมา”
“อ่า คือว่า ผม ผม... ห๊ะ เดี๋ยว ไม่ดิ ผมว่าผมไม่เคยพูดนะ” จริงๆนะ!!! ผมรีบหันไปขอความช่วยเหลือจากไอ้มิตรทันทีทันใด
“หมดไปแล้วสามสิบวิ”
“เห้ย!!!” ฉิบหาย ผมนี่ล่กอย่างกับอยู่ในรายงานสายฟ้าแล่บ แล้วเล่นชนะกูได้อะไรวะเนี่ย เหมือนจะเห็นแต่บทลงโทษ ไม่ยุติธรรมเลย ฟ้องกระทรวงอะไรได้บ้าง!!!
“พี่ปลัดครับ ผมคอนเฟิร์มมันพูดเองกับปากว่ามันนอนกับพี่แล้ว”
“อันนั้นก็จริงอ่ะ กูนอนกับพี่มันจริงๆ นอนแบบฟรี้ๆอ่ะ ถามพี่มันได้เลย” กลัวไม่เชื่อ ผมเลยประกบมือแนบแก้มให้ดูด้วยว่าฟรี้แบบไหน
“...เอ๊ะ”
“ละ แล้วที่มึงบอกว่ามึงอยู่บนหล่ะ!!!”
“กูอยู่บนจริงๆ กูนอนบนแขนพี่ปลัด ใช่ป่ะพี่!!!”
“...กูว่าแล้ว” ไอ้แทนส่ายหัวทำหน้าเซ็งเบอร์สิบระหว่างที่ไอ้มิตรตบหน้าผากตัวเองดังปั้ก
“กูว่าตับนี้ต้องเสิร์ชกูเกิ้ลคำว่าโง่แล้วขึ้นหน้ามึงได้แล้วคุณ อันนี้พูดจริง” อะไรของพวกมันวะ ระหว่างที่กำลังงงๆ พี่ปลัดก็เดินเข้ามาลูบหัวผม
“ไอ้เด็กเอ๋อ”
“โอ้โห พี่ปลัดคะ ขนาดด่ายังนิ่มเป็นโซฟีเอ็กซ์ตร้าซอฟต์ เพื่อนหนูเลยดูเป็นอันธพาลตอกหมารอดไปเลย” นินิวจีบปากจีบคอพูด อันธพาลก็ไม่ใช่ใครครับ ไอ้มิตรนั่นเอง อยู่ดีๆก็โดนพาดพิงไปซะอย่างนั้น หน้าหนูไปเลยหล่ะสิ
“หึ” พี่ปลัดพ่นลมขำเบาๆพร้อมกับยกมือขึ้นโยกหัวผม
“พี่โอเคไหมเนี่ย” ผมช้อนตามองหน้าพี่ปลัด พยาพยามหาความเศร้าที่พี่มันซ่อนไว้ ใช่แน่ๆ พี่มันต้องซ่อนความเศร้าไว้ใต้หน้ากากคิ้วท์บอยนี่แน่ๆ!!!
“กูต้องไม่โอเคหรอ ทำไมหล่ะ?”
“ก็... ก็เห็นแถลงข่าว”
“ถามจริงเถอะค่ะพี่ปลัด ไหนๆพี่ก็ล่มเรือไทมีนของหนูไปละ ตกลงพี่เป็นอะไรกับเพื่อนหนูกันแน่” นินิวถามแทรกขึ้นมาแบบขัดฟีลสุดๆ พี่ปลัดย้ายตาดำไปมองหน้านินิวก่อนจะเกาหัวแกรกๆ
“พี่ขอไปแล้วนะแต่ได้ตำแหน่งอื่นมาแทน”
“ตำแหน่งอะไรหรอครับ” นอมิเนตออสก้างสาขาขี้เสือกรีบวิ่งมาเกาะขอบเวทีทันทีทันใด ไม่ค่อยเลยนะมึง ไอ้ขี้เสือกฟ้อนต์เบอร์ห้าสิบ
“ตำแหน่งเจ้ามือ”
“โอ้โหอีคุณณณณณ นี่มึงเป็นแค่อีคุณอ่ะมึงเข้าใจป่ะ มึงเป็นอีคุณ ไม่ใช่โพชิหรือมีนนิก้า มึงจะเล่นตัวแบบนี้ไม่ได้!!” นินิวหันมาโบกหัวผมหนึ่งป้าป เล่นเอาเกือบลืมชื่อตัวเอง แต่ก็ยังจำได้ว่าชื่อคุณเพราะชื่อมาจากพี่นิชคุณ
“เป็นกูมันทำไมวะ!!” แล้วเล่นตัวอะไร นี่ลูกมีพ่อมีแม่นะ เดี๋ยวฟ้องคุณชัยยุทธิขึ้นมาแล้วจะหนาว!!
“เอาน่าเป็นเจ้ามือไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวก็ได้เลื่อนขั้นเอง”
“เลื่อนขั้นเป็นอะไรอ่ะ...” จากเจ้ามือมันเลื่อนเป็นอะไรได้อีกวะ เจ้าเมืองหรอ พี่จะยึดครองเมืองนิชคุณคนนี้หรอวะ
“เจ้าของ”
โอโห้ไอ้พี่ปลัด(ขิก)
กลับไปเป็นคิ้วท์บอยพูดน้อยเหมือนเดิมทีซิอะไรซิ!!!!
---
ช่วงนี้ป่วยค่ะ ไข้ขึ้นไป39 ฮืออออ