░ ผมอยากเป็นคิ้วท์บอย ❤️░ ll ตอนที่ 25 บทส่งท้าย [14/06/18] p.23
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ░ ผมอยากเป็นคิ้วท์บอย ❤️░ ll ตอนที่ 25 บทส่งท้าย [14/06/18] p.23  (อ่าน 250871 ครั้ง)

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ได้ลงเพจสมใจแล้ว55555 :mew2: ใกล้จบแล้วหรอยังไม่อยากให้จบเลย

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ mayyiyi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
#ทีมทวงพี่ปลัดคืนจากหมาชิบะ

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
 นู๋คุณไม่ทันพี่ปลัดเลย :katai5:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
น้องคุณคนคิ้ว.. น่าเอ็นดูแบบก๊งๆ เหมือนเดิม 5555

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ห๊ะ!  จะจบแล้วเหรอ :hao7: ดีใจด้วยนะคุณได้ขึ้นเพจสักที

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ชอบน้องคุณน่ารักแบบหมาๆ o13

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :jul3: :ling3: :ling3: พี่ปลัด(ไม่ขิก) เป็นคนตลก คุณเอ๊ยแกถูกปลัดกระทรวงของพี่ปลัดตีเมืองอีกหลายรอบแน่ ๆ  :jul3: :jul3: :jul3:

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เขินแทนน้องคุณก็เรานี่หล่ะ  :-[พี่ปลัดขาาาาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ได้ยินเสียงซาวน์เพลงวันนี้ที่รอคอยยย  :hao7:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
จ้ะ เกลียดความปลัด

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
น่ารักมากรูกกกกก น้องคุณณณ ตอนนี้ดี เพราะความอ๊องไม่ค่อยออกมาเท่าไหร่ 5555555555

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
สำเร็จแล้วนะคุณความฝันเป็นจริงดีใจด้วย :mc4:

ออฟไลน์ Fallinlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ดีใจกับน้องคุณ เย้ๆๆๆๆ   :mc3:
น้องคุณดีใจ แต่พี่ปลัดแอบเครียดสินะ
เดี๋ยวต้องมีคนมาตกหลุมความน่ารักของน้องเพิ่มขึ้นเยอะเลย 555
ยังไม่อยากให้จบเลย T^T  ต้องคิดถึงน้องแน่ ๆ
แต่ยังไงก็รอตอนพิเศษน้า  ขอบคุณค่า ^^

ออฟไลน์ LifePo-YuGu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
หุ้ยยยยยยย ละมุนเชียววว  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ดีใจแทนน้องคุณ ในที่สุดความพยายามของน้องก็สำเร็จแล้ววว
ความฝันหนึ่งเดียวยิ่งกว่าไปอวกาศคือการได้ขึ้นเพจคิ้วท์บอยยย
งี้น้องต้องปิดซอยเลี้ยงฉลองแล้วปะ พี่จะรอกินนะคะน้องคุณณณ

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :mew1: รักน้องคุณ เลิฟพี่ปลัดจ้า ฮาได้ทั้งเรื่อง แก็งค์เพื่อนๆ ก็น่ารัก กวนดีจริงๆ
 :L2:  :pig4:  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
สารภาพตรงๆว่าไม่เขินเลย ฮืออ  :katai1: คุณโว้ยยย

อยากแบ่งยาพารา ยาคลายเครียดให้ปลัดจังเลยค่ะ

ตั้งแต่อ่านมาความดันจะขึ้น  :z3: เกลียดการยิงมุกแห้งๆ

ปวดหัวว  :o12:  เป็นไงล่ะกรุงแตกแล้วนังคุนนี่

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
โอ้ย เกลียดดดดด  :laugh: :laugh: แต่ประโยคสุดท้ายของปลัดนี่ได้อ่ะ  o13

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2

ออฟไลน์ เฉื่อย

  • UNCOMMON AS NORMAL.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
อ่านไปแล้วก็แบบ...ถ้าเราเป็นปลัดคงหมดอารมณ์ไปนานแล้ว
เฮ้อออออออออออออออออออออออ o6

ออฟไลน์ ชายกุมภ์

  • ชายกุมภ์
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ิ่อ่านรวดเดียว ชอบมาก ติดตามครับ
อ่อ..ที่ชอบสุดคือการเล่นมุกนะครับ
มันคือกิจกรรมจริงที่กลุ่มผู้ชายทำกันน่ะ
ได้ฟีลกลุ่มผู้ชายที่แท้ทรูสมจริงดีครับ
เสียงมาภาพมาจังหวะมาฮาทุดเม็ด

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
สมใจแล้วสินะน้องคุณ ได้เป็นคิ้วบอย ได้เป็นแฟนคิ้วบอยด้วย ชักจะหมั่นไส้นิด ๆ

ออฟไลน์ joborcusier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ๋อยยยยคอนเกรทนะคุณ สำเร็จสักที555555

ออฟไลน์ Ploids

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
บทส่งท้าย



ดั่งคำกล่าวที่ว่า
ทุกครั้งที่มีคำว่าวันสุดท้าย มันมักจะตามมาด้วยคำว่าวันแรกเสมอ


เหมือนผมตอนนี้ที่กำลังจะทิ้งวันสุดท้ายของเด็กมัธยม


...เพื่อมาเริ่มต้นวันแรกของมหาลัย


โอเค มันยังไม่ถึงวันแรกหรอก ผมเวอร์ไปเอง แต่มันก็ตื่นเต้นอ่ะ จริงๆวันนี้ผมได้รับภารกิจมาส่งเอกสารรายงานตัวที่มหาลัย มันอาจจะเป็นแค่การส่งเอกสารของใครหลายๆคนแต่บอกเลยว่ามันเป็นตั้งการส่งเอกสารของผม ใช่ครับ ผมผู้ซึ่งเป็นเด็กมัธยมจบใหม่หัวยังเกรียนเพราะเรียนร.ด. ชีวิตมัธยมเพิ่งสิ้นสุดไปไม่นาน เพลงจากวันนี้จะมีเราเราและนายเหมือนเพิ่งซึ้งไปเมื่อวานก็ต้องมาเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว
   
ใช่แล้ว
 ไอ้น้องคุณที่มีไอดอลเป็นพี่นิชคุณคนนี้มีที่เรียนแล้ว!!!
   
มหาลัยที่เลือกผมมาเรียนคือมหาลัยชื่อดังใจกลางอโศกที่ปีหนึ่งโดนบังคับให้ไปใช้ชีวิตที่นครนายก ขอบอกว่าตอนเห็นชื่อตัวเองนี่แม่ผมดีใจขนาดที่ไปปริ้นท์ไวนิลมาแปะหน้าบ้าน ซึ่งปัจจุบันระเห็จไปเป็นที่บังแดดร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยแทนแล้วเรียบร้อย แต่นั่นคือความภูมิใจลำดับต้นๆลองมาจากปั่นจักรยานปล่อยมือได้ 
   ผมกระชับกระเป๋าแน่นเรียกความมั่นใจเมื่อต้องแทรกตัวเข้าไปในขบวนบีทีเอสที่แน่นจนหายใจไม่ออก  อย่าว่าแต่เด็กต่างจังหวัดจะไม่ชินเลยครับ เด็กกรุงเทพมาทั้งชีวิตอย่างผมก็ไม่ชินกับการขึ้นรถไฟฟ้าแล้วคนแน่นจนอยากจะเอาโรลออนมาฉีดฟึ่ดๆใส่คุณอาคนข้างๆ นี่บีทีเอสหรือสวนมะนาว ทำไมเปรี้ยวได้ขนาดนี้ครับอา!!!
   
“อ๊ะ ขอโทษครับ” ผมหันไปผงกหัวให้กับเด็กมหาลัยที่ยืนอยู่ข้างๆเพราะดันเผลอไปเหยียบเท้าพี่เขาเข้าให้  ไม่ได้เห็นหน้าอะไรหรอกครับเพราะพี่แกเล่นปิดแมสก์ไปครึ่งหน้า แหนะๆ กระแสเกาหลีกำลังมาครับ ปิดหน้าปิดตาให้ดูมีอะไร อยากจะบอกว่าผมก็เคยปิดอยู่ช่วงหนึ่ง มีแต่คนคิดว่าเป็นไข้หวัดใหญ่
   
“ไม่เป็นไร” พี่เขาตอบผ่านแมสก์แล้วก็ก้มลงเล่นมือถือต่อ ส่วนผมก็หันมาจ้องไอ้ตัวปิ๊ปๆบอกสถานี ภาวนาให้รีบๆถึงสักที อีกนิดจะเป็นลมเพราะสวนมะนาวแล้ว ผะอืดผะอมจนคิดว่าจะไม่กินชามะนาวไปสามวันขบวนรถก็จอดเทียบสถานีอโศกให้ผมพอดี  ยังครับ ยังไม่ต้องรีบออกครับ เพราะเพียงแค่ประตูเปิด เหล่าปลากระป๋องก็จะดันตัวกันออกตามธรรมชาติ คือกระพริบตารอบเดียวผมก็ถูกดันออกมายืนเอ๋อนอกขบวนแล้วเรียบร้อย
   
อาห์... อากาศอันบริสุทธิ์
   ว่าแล้วก็มาคลำทางไปมหาลัยต่อจากโลเคชั่นพี่เพื่อนพิมพ์บอก
   
“เอ่อ ไปมหาลัย ให้ออกทางออกฝั่งเทอมินอลแล้วต่อวินมอไซต์ อะไรคือเทอมินอลวะ”

รู้จักแต่เทอร์มิเนเตอร์ สงครามเอเลี่ยน แต่เอเลี่ยนคงไม่ยกพวกมาตีกันกลางอโศกหรอก รถติดแย่เลย ผมก้มลงอ่านกระทู้บอกทางไปมหาลัยแล้วก็ได้แต่งง
   
“โหล ไอ้ทิด ที่เพื่อนไลน์มาเดี๋ยวกูแวะซื้อให้ที่เทอมินอล” เอ๊า เหมือนสวรรค์มาโปรด ผมหันขวับไปด้านข้างก็พบพี่มหาลัยปิดแมสก์คนเดิมเดินคุยโทรศัพท์ไปติ๊ดบัตรบีทีเอสออกจากสถานี  คีย์เวิร์ดเทอมินอลนี่ประแทกเข้าหูผมเต็มๆ ผมเลยรีบเดินตามพี่แกไปต้อยๆเพื่อค้นพบว่า อ๋ออออออออออออ เทอมินอลมันเป็นห้างนี่เอง แต๊งกิ้วมากพี่แมสก์ 
   
พี่แมสก์เดินเข้าห้างไปทางซ้ายส่วนผมเดินไปขึ้นวินตีนบีทีเอสแบบงงๆ เสียค่าวินไปยี่สิบเพื่อค้นพบว่าพี่วินมาส่งผมลงตรงตรอกอะไรสักอย่าง
   
“เอ่อพี่วินครับ แล้วทางเข้ามหาลัยอ่ะ”
   
“เนี่ยแหล่ะน้อง ตรงนี่คือประตูห้า เดินตรงไปเลย”
   
“อ่อครับ”
   
โคตรคูล ทางเข้ามหาลัยยังดูลึกลับเยี่ยงตรอกไดอากอนของแฮร์รี่ มหาลัยผมนี่คูลเหมือนผมเลย ตื่นเต้นชะมัด ผมเดินยิ้มกว้างเตรียมจะเดินผ่านประตูมหาลัยแต่ก็โดนดักไว้ก่อน
   
“hello”
   
ฝะ ฝะ ฝะ ฝรั่ง?!
   
“เอ่อ หะ เห่นโล้” เออ ถึงจะติดคณะมุนษย์เอกอังกฤษก็จริง แต่ผมยังไม่ได้เข้าเรียนป่ะวะ จู่ๆเจอชาวต่างชาติก็ลิ้นเปลี้ยขึ้นมาทันที แล้วที่นี่มันทางเข้ามหาลัยย่านอโศกหรืออ็อกฟอร์ด!!! ทำไมมีฝรั่งมาต้อนรับหน้าประตู!!! คูลไม่หยุดไม่หย่อนไปเลย อยากจะไลน์ไปบอกแม่ในความอะเมซิ่งของมหาลัย
   
“นักเรียนใหม่หรอครั่บ” อ้าว... เปิดพากย์ไทยโดยพันธมิตร ฝรั่งอะไรทำไมพูดไทยชัดขนาดนี้ พี่ฝรั่งจริงป่ะเนี่ย
   
“อ่อครับ ใช่ครับ เพิ่งสอบติดเลย”
   
“ว้าวววว ยินดีด้วยมั่กมากเลย congratulations!! แล้วเข้าคณะอะไรหรอครั่บ” ฮือออออออออ ภูมิใจอ้ะ เพื่อนคนแรกของมหาลัยเป็นฝรั่งเลยหรอเนี่ย
   
“เอ่อ คณะมนุษย์ เอกภาษาอังกฤษครับ”
   
“ว้าวววว!! อิงลิช!! อังกฤษ!! เก่งมากเล้ยนะเนี่ย เวรี่กู้ด”
   
“แหะๆ ก็นิดหน่อยครับ” บ้าเอ๊ย เขินเลยกู
   
“ดีเลย แหล่วนี่อยากพัฒนาภาษาอังกฤษหมั่ยครับ”
   
“อยากครับ!! ผมเรียนเก่งอยู่วิชาเดียวเนี่ยพี่”  ไม่อยากจะอวดว่าผมเคยไปแข่งคณิตคิดไวด้วยนะครับ ผลคือเพิ่งมานึกคำตอบออกก็อีกวันแล้ว ขออวดความโง่หน่อย แม่ผมนี่ท้อแท้จนเลิกคาดหวังกับเกรดคณิตไปตั้งแต่อนุบาลแล้วครับ
   
“ดีเล้ยๆ อยากให้ลองมาที่โบสถ์ดูก่อนมีให้ฝึกภาษากับฝรั่งจริงๆ ฟรีเล้ย สนใจบ่” เห้ย มีประโยคคำถามแบบอีสานด้วย!! มันช่างเป็นการผสมผสานกันอย่างเหมือนจะลงตัว 
   
“ได้ครับพี่ แต่เดี๋ยวผมต้องไปส่งเอกสารก่อนอ่ะ”
   
“แป๊ปเดียวๆ โบสถ์อยู่ตรงนี้เองนะ อยากจะบอกเหลื่องคัมภีร์ด้วย”
   
คัมภีร์มานี่ผมขมวดคิ้วเลย เดี๋ยวก่อนเพ่ คัมภีร์อะไร เดาว่าไม่น่าจะหมายถึงพี่ปูพงษ์สิทธิ์ นี่เขามาชักจูงผมเขาศาสนาอะไรหรือเปล่าเนี่ย คัมภีร์มาปัญญาเกิดที่แท้จริง เพราะจำได้รางๆเพื่อนผมก็เคยโดนแบบนี้  เวรแล้วกู กะจะมารายงานตัวเฉยๆดันเกือบจะได้เปลี่ยนศาสนาซะอย่างนั้น!!
   
“เอ่อ มะ ไม่เป็นไรดีกว่าครับ”
   
“ม่ายเปนไร มาก่อนๆ ถ้าไม่ชอบไม่เปนราย ม่ายบังคับเด้อ” ไม่บังคับแต่พี่ตื๊อมากพี่  แถมเริ่มมีภาษาอีสานอีก นี่มันฝรั่งของก็อปเกรดเอชัดๆ แงงงงง ก็รู้นะครับว่าเขาไม่ได้เข้ามาร้ายๆหรอก แต่พอโดนตื๊อเข้าก็เริ่มกลัวแล้ว
   
“ผม เอ่อ ผม...”
   
“ม่ายบังดับมาฟังก้อนๆ” ก้อนไรโว้ยนี่คนไม่ใช่ขี้ ไม่ฟังแล้วอยากจะร้องไห้แทน กลัวแต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ เอาไงดีวะเนี่ย แม่เดินตาสอนเจอหมีให้แกล้งตาย พี่ฝรั่งนี่มันก็ตัวใหญ่เหมือนหมีจริงๆจะใช้มุกนี้เวิร์คป่ะวะ หรือแกล้งว่าไม่เข้าใจภาษาไทยดีไหมวะ ฮือออออออออออ ผมได้แต่น้ำตาคลอมองซ้ายมองขวาก็เห็นพี่ๆในชุดนิสิตเดินผ่านกันไปเหมือนผมไม่มีตัวตน 
   
สนใจกูหน๊อยพี่ๆ นี่คนไม่ใช่วิญญาณณณณณณณณณณ!!
   ทำไงดี!! ทำไงดี!!
   
ระหว่างที่ผมกำลังคิดหาทางหนีด้วยใจหดหู่จู่ๆก็มีมือลึกลับโผล่มาจับต้นแขนดังหมับ บอกตรงๆว่าตกใจจนเกือบกรี๊ดแต่พอหันไปก็พบกับ
   

พี่แมสก์!!!
   
“ไป” พูดสั้นๆแล้วดึงตัวผมออกมาทันที พี่แมสก์ขายาวแล้วก็ตัวสูงมากเล่นเอาฝรั่งผงะหนีเลยทีเดียว ผมถูกกึ่งลากกึ่งจูงเข้ามาในเขตมหาลัย แรงโคตรเยอะเลย ตกลงใส่แมสก์เพราะตามกระแสโอป้าหรือพี่แม่งเป็นโม่งปล้นร้านทองวะเนี่ย
   
“ขะ ขอบคุณมากครับพี่แมสก์”
   
“พี่แมสก์?”
   
“ก็พี่ใส่แมสก์”
   
“... จะเข้าปีหนึ่งหรอ”
   
“ครับ กำลังจะมาส่งเอกสารเลย” ผมชูซองน้ำตาลขึ้นโชว์
   
“อืม... คราวหน้าถ้าโดนตื๊อแล้วไม่ชอบก็ปฏิเสธไม่ก็เดินหนี ไม่ต้องไปฝืนยืนน้ำตาคลอแบบเมื่อกี้ เข้าใจไหม” พี่แมสก์วางมือลงบนหัวผมแล้วขยี้เบาๆ
   
“ขอบคุณมากครับพี่!!!”
   
“เออ ยินดีต้อนรับเข้ามหาลัยแล้วกัน” พี่แมสก์พยักหน้าสองสามทีแล้วก็หันตัวเดินออกไป ถ้าเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นนี่ผมต้องมีตาเป็นประกายชื่นชมในความเท่ของรุ่นพี่แล้ว
   
โคตรคูลเลยยยยยยยยยย!!! คนบ้าอะไรปิดแมสก์ไปครึ่งหน้าล่างหมวกปิดอีกครึ่งหน้าบนแต่ก็รู้ว่าดูดี นี่ถ้าผมใส่แบบนี้พี่แกบ้างยามอาจจะไม่ให้เข้าห้าง เอ้อ นึกขึ้นได้ว่าหน้าด้านไปเรียกเขาพี่แมสก์ได้ไงวะ แล้วพี่มันก็ไม่ท้วงหน่อยหรอว่าไม่ได้ชื่อแมสก์ แถมลไม่ได้ถามชื่อไว้ด้วยเลยไม่รู้เลยว่าพี่มันคือใคร
   
ไว้ถ้ามีโอกาสได้เจอกันคราวหน้าไว้ผมจะขอบคุณแรงๆเลยนะพี่แมสก์!!!


   




 

ปลัด.

“วิศวกรรมมารวมกันทางนี้ครับ!!! “
เสียงตะโกนดังลั่นอาคารแปดเหลี่ยมพร้อมกับเหล่าเสื้อชอปทั้งหลายยืนเรียงกันเด่นโดยที่มีพวกนิสิตปีหนึ่งวิ่งกรูกันเข้าไปหาที่นั่ง

“หวา วิศวะปีนี้เด็กเยอะจังวะ”    

“อีดอกกกก ที่ใส่หมวกยืนแอคอยู่ตรงบันไดนั่นหมอวิศวะใช่ป่ะมึง แซ่บทะลุหมวก กูอยากซิ่วไปเป็นรุ่นน้องเขาเลย” ผมชายตามองไอ้หน้าดุที่เพื่อนผมแห่กรี๊ด มันคืออดีตเดือนวิศวะที่ประกวดปีผม แต่รู้สึกว่ามันจะไม่ได้ขึ้นประกวดวันจริงเพราะไปมีเรื่องกับเดือนอีกคนก่อนแข่ง ฟังแล้วสับสน จำได้ว่าตอนนั้นผมก็สับสนแต่ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่

“จริงมึงงง ตอนปีหนึ่งกูว่าหมอแซ่บแล้วนะ ปีสามแซ่บกว่าเดิมอีก กล้ามเท่าเอวกูอ่ะ”

“ปีหนึ่งถ้าหมอไม่ออกกูว่านางมงเดือนมหาลัยชัวร์”

“ว่าไปรองเดือนก็ดีนะมึงที่ชื่อโย เกาหลีดี”

“กูอยากให้มีแซ่บๆแบบนี้ที่วิทยาเขตเราบ้าง”

“มีอีปลัดไง” ผมหันไปหาพวกมันเมื่อได้ยินชื่อตัวเอง

“โอ๊ยอีปลัดหรอ มึงไม่ดิบพออ่ะ มึงทำตัวเถื่อนหน่อยเดะปลัด”

“กูขออยู่ของกูแบบนี้แล้วกัน” ให้ไปเหมือนพวกมันไม่ไหวหรอก ผมเนี่ยร่วมงานกับพวกเดือนคณะอื่นกับคิ้วท์บอยบ่อยมากครับ ไอ้ลุคโหดที่มันโชว์น้องแบบนี้แทบไม่เคยเห็น เห็นแต่เล่นมุกอะไรของพวกมันทั้งวันทั้งคืน พ่ามพ่ามกันตลอดวัน ดีที่ผมเลี่ยงไปอยู่กับคณะอื่นแทน อยู่ด้วยแล้วอยากหยิบถาดไปฟาดหัวพวกมันเรียงตัว

 “น้องคะทำไมมาสาย!!!” คราวนี้ผมหันหัวไปทางคณะมนุษย์ที่อยู่ใกล้ๆ แทน

พอขึ้นปีสามแล้วการมาดูรับน้องก็เหมือนมาดูคณะอื่นเล่นละครนั่นแหล่ะครับ สนุกดี ยิ่งเจอไอ้พวกรุ่นน้องคุ้นหน้ามาแอ๊บโหดนี่ยิ่งตลก

“เอ่อ ผมไปเข้าห้องน้ำมาครับ”

อ้าว...

ไอ้เด็กมัธยมคนนั้นนี่หว่า อยู่คณะมนุษย์นี่เองหรอ ผมยิ้มให้กับท่าทางเด๋อๆด๋าๆของมัน ขนาดใส่ชุดนิสิตแล้วก็ยังเด๋อด๋าเหมือนเดิม แถมดูท่าจะกลัวรุ่นพี่จริงๆถึงได้หน้าซีดขนาดนั้น แล้วไอ้ป้ายชื่อคุณเป็นรูพรวยนี่พี่ไม่สงสารรุ่นน้องมันบ้างหรอวะ

“วันนี้น้องเข้าสามรอบแล้วนะคะ”

 “ครับ”

 “...คือผม” มันงุบงิบปากพร้อมกับเกาคอไปด้วย

“อะไรนะคะ”

“ผม...”

“ตอบดังๆหน่อยค่ะ!!!”

“ผมท้องเสียครับพี่!!! ส้มตำปูมันเผ็ดครับ!!!” ตะโกนตอบพร้อมกับหน้าแดงแจ๋ได้เสียงฮาไปหนึ่งครืนดังๆซึ่งก็รวมเสียงผมลงไปด้วย

ผมเคยเจอเด็กคนนี้บนรถไฟฟ้าเมื่อหลายเดือนก่อนตอนนั้นมันยังใส่ชุดนักเรียนขาสั้นหัวเกรียนอยู่เลย เห็นหาทางไปมหาลัยแบบงกๆเงิ่นๆก็เลยเข้าไปช่วยนำทาง คิดว่าพาออกถูกประตูก็พอแล้ว ทีไหนได้ไปเจอยืนน้ำตาคลออยู่หน้าประตูเพราะโดนชวนเข้าศาสนาอีก คือถ้าเป็นนิสิตปกติก็คงเลี่ยงแบบชินๆแล้วแหล่ะครับ เจอทุกวัน แต่พอเป็นเด็กใหม่ก็เลยตกใจทำอะไรไม่ถูกตอนแรกก็อยากจะปล่อยไปแต่พอเห็นเด็กมันกลัวเลยต้องเข้าไปช่วยแบบเสียไม่ได้

... เลยได้กลายเป็นพี่แมสก์ของมันเพราะวันนั้นผมปิดแมสก์ไปมหาลัยป้องกันการโดนขอถ่ายรูปบนบีทีเอส

ไอ้เด็กเด๋อได้รับอนุญาตให้นั่งลงเพราะรุ่นพี่ขำกับเหตุผลมันจะเป็นจะตาย มันก้มหน้างุดมุดหลังเพื่อนหนีความจริง แก้มขาวขึ้นสีแดงยาวไปจนถึงหู

“หึ น่ารัก”

“มึงชมใครวะไท” ไอ้ทิดเดินเอาแขนมาวางบนไหล่ผม

“เสือก”

“ไม่อ่อนโยนกับกูหน่อยหรอ ไหนๆคนไหนน่ารัก ขอกูได้ใส่ใจหน่อย”

“ไปหาไรกินกัน กูนัดไอ้พี่ไว้” ผมคว้ากระเป๋าแล้วก็เดินออกมาจากโดมปล่อยให้ไอ้ทิดโวยวายตามหลังมา 


ผมนั่งชิลอยู่โรงอาหารอยู่กับเพื่อนต่างคณะคุยกันสัพเพเหระ มีสาระบ้างไม่มีบ้าง ส่วนใหญ่จะหนักไปทางไม่มี เพราะถึงจะคุยกันแต่งานหลักๆคือช่วยกันสอดส่องเด็กปีหนึ่ง สมมติว่าคุยกันเรื่องเรียนพอมีน้องน่ารักเดินมานี่สะกิดกันเป็นระวิง ผมได้แต่นั่งฟังพวกมันพูดไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรเพราะส่วนใหญ่มันจะคุยกันแต่เรื่องผู้หญิงซึ่งผมไม่ได้มีความสนใจอะไรอยู่แล้ว

“ไอ้พี่กับปลัดนั่งเงียบเลยสัด”

“นับกูเป็นเก้าอี้ไปก็ได้ ไม่ต้องสนกูหรอก” ผมหันไปทำหน้าเซ็งใส่ไอ้ทิด

“กูเฉยๆกับทุกคนที่พวกมึงพูด” ไอ้พี่อดีตเดือนเสดสาดที่นั่งอยู่ข้างผมก็มีแฟนเป็นผู้ชายได้เลยแต่นั่งเงียบเป็นรูปปั้นไม่ต่างอะไรจากผม

“ไรว้า”

“แบบพวกเรามันไม่ได้เว่ยไอ้ทิด พวกแม่งไม่อิน มึงส่องผู้ชายน่ารักแทนดิ๊”

“เสือกเลย” ผมเตะขาไอ้ทิดไปหนึ่งป้าปใต้โต๊ะ 
   
“เจ็บนะโว้ย แล้วกูชื่ออาทิตย์ไม่ใช่ทิดไอ้ห่าไกด์ แล้วผู้ชายน่ารักมันคือแบบไหนวะ แบบกูนี่น่ารักไหม”
   
“ไม่ทิด แบบมึงเรียกหน้าเหี้ย”
   
“หน้าส้นตีน”
   
“หน้าเหมือนหูรูดปลาโลมา”
   
“หน้าเหมือนหัวนมยุง”
   
“หน้าเหมือนสิวบนผักกาด”
   
“ซึ้งเลยกู” โดนเพื่อนด่าไปทีถึงกับหน้าบิดเป็นตูด ผมหันไปแทคไฮไฟว์กับไอ้พี่หนึ่งทีเป็นการขอบคุณ

 หลังจากนั้นพวกมันก็มันก็เริ่มภารกิจชี้ชายหนุ่มให้พวกผมซึ่งหลักๆก็คือการชี้เด็กที่มาซื้อข้าวร้านห้าเพราะใกล้โต๊ะนั่งที่สุด นึกอยากเลิกคบพวกมันขึ้นมาทันที นี่คือกูต้องชอบผู้ชายทุกคนบนโลกที่เดินมาซื้อข้าวร้านห้าหรอวะ
   
“อ่ะมึง ไอ้น้องจุกนั่นอ่ะ ผ่านมะ เรียกน่ารักมะ”
   
ผมมองตามนิ้วไอ้ทิดไปหยุดที่ไอ้เด็กหน้าแป้นแล้น เดินยิ้มกัดฝรั่งในมือตุ้ยๆ ป้ายห้อยคอเขียนคำว่าคุณเป็นรูพรวยตัวใหญ่คุ้นตา เคี้ยวไปเคี้ยวมาสงสัยอร่อยจัดมันเลยหลับตาพริ้มไม่ดูทาง
   
... ผลคือเดินเตะขาโต๊ะสะดุ้งฝรั่งหกหมดทั้งถุง
   
 อยากจะสงวนอาการแต่มันตลกจนทั้งโต๊ะขำ ยิ่งไอ้เด็กเด๋อมัดจุกมันเงยหน้ามาหยิบฝรั่งที่อยู่บนหัวตัวเองกินต่อยิ่งโคตรตลก อะไรมันจะเห็นแก่กินขนาดนั้นวะ
   
“ไอ้คุณเป็นไรป่ะวะ” เด็กตัวใหญ่ที่เดาว่าคงเป็นเพื่อนมันห้อยป้ายว่า ’มิตรมีผอย ’ ความจัญไรของป้ายบ่งบอกได้อย่างดี ไม่ต่างอะไรกับคุณเป็นรูพรวยเลยสักนิด
   
“กูแคทลียาอิงลิช”
   
“อะไรวะ”
   
“กูโอเคนะคะ”
   
ได้ไปอีกหนึ่งฮา เพื่อนร่วมโต๊ะผมขำเป็นบ้าเป็นบอกับได้เด็กคนนี้ น้องมันหันมาเกาคอเขินนิดหน่อยก่อนจะเดินออกไปจากโรงอาหารปล่อยให้พวกผมขำค้างกันเป็นแถบ ไอ้ทิดกับเพื่อนร่วมโต๊ะผมคงขำจนลืมไปแล้วว่าถามอะไรผมทิ้งไว้

แต่ผมก็ยังคงอยากตอบอยู่ดี...

ว่าไอ้เด็กมัดจุกคนนั้น...

   “น่ารัก”



   ผมมีแพลนมาอยู่รับน้องที่นครนายกแบบไปแล้วกลับ ไม่ได้กะค้างคืน แต่เป็นเพราะไอ้เด็กมัดจุกหน้าเด๋อนั่นทำให้ทุกอย่างรวนไปหมด ผมขอนอนต่ออีกคืนหนึ่งเพื่อที่จะรวบรวมความกล้าเข้าไปทักมันสักครั้งก่อนกลับวิทยาเขตกรุงเทพ สืบมาจากเพื่อนคณะมนุษย์ก็รู้มาแค่ว่าชื่อคุณอยู่หอสามยังไม่มีแฟนแต่ก็ไม่มีข้อมูลอื่นๆเพราะมันไม่ได้โดนเด่นอะไร เพื่อนยังสงสัยว่าอะไรดลใจให้ผมมาถามถึงมัน

   เออ ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกัน
   เด็กธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่นมันมีอะไรที่ทำให้ผมต้องมายืนเก้อๆอยู่หน้าหอสามแบบนี้วะ

   “ไอ้คุณไม่ลงมาสักทีวะ”

   “มันบอกเลือกทรงผมอยู่ กลัวไม่หล่อสุดในมหาลัย”

   “ไลน์บอกมันซิว่าร้านไก่ทอดที่มันเล็งจะหมดแล้ว”

“เค” ผมยืนมองไอ้เด็กผู้ชายสองคนข้างตัว คนหนึ่งคุ้นๆว่าเป็นเพื่อนที่เดินข้างๆคุณที่โรงอาหาร ส่วนอีกสองคนก็คงเป็นเพื่อนร่วมเอกมัน รอต่อจากที่เพื่อนมันพิมพ์ไลน์ไม่ถึงสองนาที ร่างของไอ้เด็กเด๋อมันก็วิ่งหน้าตื่นจุกน้ำพุสั่นดิ๊กๆลงมา

“ไก่ทอดกูอยู่ไส!!!”

“มึงเป็นจาพนมเวอร์ชั่นบอนชอนเลิฟเวอร์หรอสัดคุณ”

“รีบพาไอ้คุณไปซื้อไก่เถอะมึง กูอยากไปจองที่แถวเวที เดี๋ยวอดดูโลโมโซนิค”

ยังไม่ทันได้เข้าไปทักไอ้เด็กเด๋อของผมก็วิ่งหน้าตื่นไปซื้อไก่ทอดแล้วเรียบร้อย ผมเองก็ไม่กล้าเข้าไปทักทั้งๆที่เพื่อนมันอยู่รอบตัวตลอดเวลา เลยได้แต่เดินตามกลุ่มพวกมันอย่างห่างๆ

ตลอดเวลาที่เดินตามสิ่งที่ผมสังเกตได้คือไอ้เด็กเด๋อคุณมันแทบจะแวะซุ้มขายอาหารทุกร้าน ปากนี่เคี้ยวตลอดเวลาไม่มีว่าง เพื่อนคุยอะไรด้วยก็ไม่สน ตานี่สอดส่องแต่ของกินข้างฟุตบาท เดี๋ยวไก่เดี๋ยวไข่ปลาหมึกเดี๋ยวลูกชิ้นทอด กินเก่งจริงๆ แล้วไอ้แก้มที่ขยับไปขยับมาก็มองเพลินจริงๆ   
   
 จริงๆเวลานี้เพื่อนผมนัดดื่มที่หลังม. แต่ตัดภาพมาผมมาเดินตามเด็กปีหนึ่งต้อยๆ ถ้ามันมาเห็นคงได้โดนล้อยาวไปยันรับปริญญา
   
พอหมดโซนของกินก็มาถึงบริเวณลานคอนเสิร์ต คงเพราะเสียเวลากับการแวะซื้อของกินตามรายทาง ตอนนี้ที่เลยแน่นจนแทบไม่มีที่ยืน
   
“สาดดดดด คนเยอะว่ะ”
   
“ไปตรงนั้นกัน สาวสังคมอย่างเด็ด”
   
“มึงดูเอไอคนนั้น ที่กูชี้ที่วงเวียนไง โคตรน่ารักเลย มึงว่าไงวะคุณ”
   
“กูว่ากูอยากกินไข่ปลามึกผัดอีกถ้วย”
   
“สัด พอ!!!”
   
มันหน้างอที่โดนด่าก่อนจะโดนเพื่อนลากเข้าไปในหมู่มวลมหาชน ผมจับหมวกดึงลงมาปิดหน้าพร้อมกับค่อยๆเบียดตามกลุ่มพวกมันเข้าไป สุดท้ายก็ได้ตำแหน่งที่ต้องการคือหลังไอ้เด็กเด๋อพอดิบพอดี ยิ่งเพลงสนุกเด็กก็ยิ่งเบียดกันมาเยอะจนทำให้ตัวเล็กๆของมันเบียดเข้ากับอกผมโดยไม่รู้ตัว จุกผมมันส่ายไปส่ายมาแถวหน้าผมดูน่ารักจนออกแอบยิ้มออกมา
   
คอนเสิร์ตวันเปิดหอจะเป็นหนึ่งในความทรงจำดีๆของเด็กปีหนึ่งเพราะเป็นวันที่ได้กอดคอเพื่อนร้องเพลงอย่างสุดเสียงเหมือนระบายความเหนื่อยจากการเดินทัวร์ทำกิจกรรมรอบมหาลัยที่ผ่านมาทั้งอาทิตย์  ผมคงจะเป็นแค่ส่วนน้อยที่เป็นนิสิตปีที่สามแล้วแต่ก็มามีความทรงจำดีๆในงานของเฟรชชี่แบบนี้
   
ไม่ใช่เพราะระบายความเหนื่อยเหมือนปีหนึ่ง
   
แต่เพราะตกหลุมรักเด็กธรรมดาคนหนึ่งที่อยู่ปีหนึ่ง...
    

   วันคอนเสิร์ตนั้นคนเยอะเกินไปจนผมหาโอกาสทักมันไม่ได้ทั้งที่ยืนเต้นอยู่ข้างกันยันคอนเสิร์ตเลิกแท้ๆ เสียดายโอกาสแทบตาย แต่ยังดีที่ผมได้เจอมันอีกทีตอนจะขับรถออกจากมหาลัย มันยังคงมัดจุกหน้าแป้นแล้นเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือขี่จักรยาน ขี่แบบทุลักทุลกลัวจะวิ่งไปชนต้นไม้ มันขี่จักรยานตัดหน้ารถผมไปด้วยใบหน้าร่าเริง ปากเล็กที่กินนู่นกินนี่เมื่อวานฉีกยิ้มกว้างจนตาแทบปิด มันดูสดใสจนทำให้ผมใจเต้นแรงและไม่สามารถละสายตาไปจากรอยยิ้มของมันได้

...อาจจะฟังดูโรแมนติก

แต่ไม่เลย

เพราะหลังจากนั้นมันแอบเบนสายตาไปมองนมเด็กคณะพยาบาลคันข้างๆ ทำตาโตอู้หู้อย่างชัดเจนก่อนจะลืมเบรค ชนกับเพื่อนคันข้างหน้า ล้มระเนระนาดไปทั้งมันและเพื่อน

ผมรู้ว่าไม่ควรขำแต่มันก็ขำออกมาจนได้ ยิ่งไอ้หน้าเด๋อด๋าที่ลุกขึ้นมานั่งงงยิ่งทำให้ผมต้องยิ้มตาม  เสียดายเล็กๆที่ปีหนึ่งมันต้องเรียนอยู่นี่ไปเลยทั้งปี คงไม่มีโอกาสได้เจอกันเท่าไหร่ ได้แต่หวังว่าปีหน้ากลับเข้ากรุงเทพมันจะยังไม่ตกหลุมรักใคร ผมมองคุณที่กำลังยกจักรยานขึ้นตั้ง


... เด๋อไปแบบนี้เรื่อยๆ อย่าให้ใครมาชอบหรือไปชอบใครเลยนะ


วันเวลาผ่านไปเป็นปีที่ผมสามารถตามมันได้จากแค่เพียงในโลกโซเชี่ยลด้วยแอคเคาท์ลับ การเข้าถึงมันไม่ยากขนาดนั้นเพราะเล่นกดรับแอตแบบไม่มีการดูอะไรทั้งสิ้น ขนาดเอาเฟสพี่ไอ้ทิดที่รูปโปรเป็นรูปหมายิ้มทักเฟสไปมันก็ยังตอบอย่างเป็นมิตร รูปที่มันลงแต่ละรูปก็เด๋อด๋าจนอดกดเซฟไม่ได้ ไม่ว่าจะรูปยีราฟเลียหัว ถ่ายกับแมวแล้วโดนแมวหัวเลือดซิบ ไปทำกิจกรรมเก็บไข่ไก่แล้วโดนแม่ไก่ไล่จิก ชีวิตมันดูเป็นเด็กตลกที่ธรรมชาติ แต่ธรรมชาติไม่ค่อยรักกลับ

 ผมได้มาเจอมันอีกครั้งที่ห้องสมุด มันดูโตขึ้นนิดหน่อยจากครั้งแรกที่เจอในชุดนักเรียนแต่ความเด๋อด๋ายังเท่าเดิม ดูจากไอ้การส่องหาหนังสือในห้องสมุด ทั้งโค้งตัวย่อตัวอีกนิดหนึ่งคงแอ่นหลังทำสะพานโค้ง ไม่รู้ว่าหาหนังสืออ่านหรือเล่นกายกรรม กะว่าจะแค่ส่องเอาขำๆแต่พอเห็นมันเขย่งจะเอาหนังสือสุดมือก็อดเป็นห่วงกลัวมันล้มจนต้องเข้าไปช่วยมันหยิบเสียไม่ได้


... พอไม่มัดจุกผมแล้วดูเตี้ยลงกว่าเดิมเยอะเลยนะเนี่ย


“ขะ...”
ตากลมโตของมันจ้องมาที่ผมเหมือนชอคไปแล้วก่อนจะบ่นอะไรพึมพำไม่รู้เรื่อง ผมเลยเปลี่ยนมามองสมุดที่เขย่งสุดเท้าเพื่อจะหยิบ   

‘ หล่อได้ภายในสามนาที ’

หนังสือบ้าอะไรวะแค่ชื่อก็ไม่น่าไว้วางใจแล้ว คนประเภทไหนวะจะหยิบหนังสือแบบนี้มาอ่าน
 ...อ่อ ลืม ประเภทนี้สินะ

“เห้ย เพื่อนผมมันให้มาหา ไม่ใช่ของผมนะเว่ยพี่”

“ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย” ผมยิ้มให้กับหน้าตื่นของมัน เห็นแล้วอยากจะตบเหม่ง

“...”

“ทีหลังจะหยิบหนังสือไปหยิบเก้าอี้มาก็ได้ เดี๋ยวล้มไปมันจะลำบาก”

“...” มันมองมาที่ผมนิ่ง กลัวเด็กมันจะคิดว่าผมเข้าหามันเลยต้องรีบแก้ตัวออกไป

“...ลำบากตู้หนังสือ ล้มไปนี่โดมิโน่เลย”

“เออ เอาเป็นว่าขอบคุณครับพี่ปลัด”

“...” มีเบะปากใส่ ถึงจะแอบทำแต่ผมก็เห็นอยู่ดี ว่าแต่มันเรียกผมด้วยชื่อว่าปลัดแสดงว่ามันจำผมได้ด้วยว่าเป็นพี่แมสก์ของมัน

 “เอ่อ พี่ดังจะตาย ปลัดไงปลัดเอง คิ้วท์บอย” 

“หึ”

... อ๋อ รู้จักจากคิ้วท์บอย
โอเคก็คงไม่แปลกเท่าไหร่เพราะวันที่เจอกันครั้งแรกผมใส่แมสก์ปิดหน้า 

“ส่วนผมตอนนี้ยังไม่ดังแต่อนาคตไม่แน่ รับรองเดี๋ยวเพจคิ้วท์บอยก็เอาผมไปลง”    

“มั่นใจขนาดนั้น?”

“เห้ยพี่พูดไป ถ้าของดีมหาลัยคือขนมชอคสติ๊ก ของดีคณะมนุษย์นอกจากตุ๊ดก็ผมเนี่ยแหล่ะ”

“มึงนี่ตลก”

 ตลกยังไงก็ตลกอย่างนั้นด้วย

“ห๊ะ...”

“เอาเถอะ กลับไปอ่านหนังสือเล่มนั้นก็เหมาะกับมึงดี”

“...”

 “หนังสือเล่มนั้นเหมาะกับมึงกูไม่ได้โกหกนะ”

“...”

“แต่แค่สามนาทีไม่พอหรอก” 

แต่ถ้ามันอยากจะน่ารักในสายตาใครสักคน ผมคงจะตอบมันไปว่า

... ตั้งสามนาที มันอาจจะนานเกิน

ผมไม่รู้ว่าคุณนิยามว่าใครสมควรจะเป็นคิ้วท์บอยว่ายังไง ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรกับการเป็นคิ้วท์บอยมากนัก แต่เคยได้มีโอกาสไปนั่งคุยกับพี่แอตมินเพจครั้งหนึ่ง พี่เขาบอกผมว่าคนที่จะมาเป็นคิ้วท์บอยไม่ได้บังคับว่าต้องหล่อต้องสูงต้องบ้านรวยต้องเพอร์เฟคทุกอย่าง ขอแค่มีอะไรบางอย่างที่ดีต่อใจก็เพียงพอแล้ว ได้ยินมาแบบนั้นผมถึงไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงต้องอยากเป็นคิ้วท์บอยอะไรขนาดนั้น

เพราะถ้าจะต้องดีต่อใจถึงได้เป็นคิ้วท์บอย

สำหรับผม


มันคงเป็นคิ้วท์บอยตั้งแต่วินาทีแรกที่เราเจอกัน




-END-


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด