#Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-  (อ่าน 223747 ครั้ง)

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:

ออฟไลน์ nolnalnew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai2-1: อ่านรวดเดียวตั้งแต่เริ่มเลยค่ะ สนุกมากก

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นเลยต้องขออภัยนะคะที่มาอัพช้าไปหนึ่งวัน เพราะเมื่อวาน AIS Fiber แถวนี้มีปัญหาเรื่องสายขาดสองรอบเลยค่ะ อินเตอร์เน็ตเลยอืดมากเข้ายากเข้าเย็นจึงต้องปล่อยเลยตามเลยและมาอัพเอาวันนี้ค่ะ เอาล่ะ ไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ ถ้ามีข้อผิดพลาดใดๆก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ หายไปหนึ่งสัปดาห์ทุกคนสบายดีใช่ไหมคะ? หวังว่าจะรักษาสุขภาพกันนะคะ ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลังใจ ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ  :mew1:

+++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 46 Jealousy.


Don’t tell me what I wanna hear
อย่าบอกฉันถึงสิ่งที่ฉันอยากฟัง
Afraid of never knowing fear
กลัวที่จะไม่รู้จักความหวาดกลัวนี้
Experience anything you need
ประสบการณ์ทั้งหมดที่เธอต้องการ
I’ll keep fighting jealousy
ฉันจะเก็บความหึงหวงนี้ไว้
Until it’s fucking gone
จนกว่ามันจะหายไป



        สัปดาห์แห่งการทำงานก็เริ่มต้นอีกครั้ง พระพายที่ลางานไปเมื่อวันเสาร์ก็พบว่ามีงานงอกขึ้นอย่างน่าตกใจทั้งๆที่หยุดไปแค่หนึ่งวันเท่านั้น จึงต้องนั่งทำงานงกๆอยู่อย่างนี้มาทั้งสัปดาห์แล้ว โดยที่มีพี่กล้วยนั่งหัวเราะเยาะเย้ยเป็นกำลังใจในการทำงานโดยที่พระพายไม่ต้องการเลยสักนิด

        แต่เพราะงานเยอะแยะเหล่านี้ทำให้พระพายไม่มีเวลาคิดเรื่องในวันเสาร์ที่ผ่านมาเลย เรื่องของธนิตถูกวางเอาไว้นอกความคิด ตอนนี้คิดแต่เรื่องงานเท่านั้น ทำให้พระพายลืมเรื่องนั้นไปชั่วคราว ไม่คิดมากและหนักใจเท่ากับวันก่อนๆ

“พวกมึง คืนพรุ่งนี้บ้านกูมีปิ้งย่าง ต้องไปทุกคน” พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์วันสุดท้ายของการทำงาน พี่กล้วยพูดขึ้นมาหลังจากที่ทุกคนกลับมาจากทานมื้อเที่ยง ทุกคนได้แต่ส่ายหน้ากับการใช้อำนาจมืดของพี่กล้วย

“พักตับพักไตบ้างก็ดีนะ” พี่ปีว่า

“ใช่พี่ เพิ่งกินไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเอง” มีคนเห็นด้วยกับความคิดของพี่ปี

“มึงไม่รู้สึกแปลกๆเหรอ ว่ามันไม่ครบองค์ประชุมสักที โดยเฉพาะมึงเลยน้องพาย...มึงน่ะไม่ไปเลย มีสาวรึไงวะ” พี่กล้วยหันไปว่าพระพายที่ก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่

“สาวที่ไหน ว่าไปนั่น” พระพายปฏิเสธทันที เขาไม่ได้มีสาวเสียหน่อย...มีแต่ชายหนุ่มต่างหาก

“ไม่รู้แหละ มึงต้องไปและต้องไปค้างด้วย” พี่กล้วยว่า

“ไม่เอาไม่ค้าง” พระพายส่ายหน้า

“ไม่ค้างก็ได้แต่มึงต้องไป ถ้าไม่ไปมึงได้เจอด้านมืดกูแน่” พี่กล้วยว่าพลางวางท่าเป็นตัวร้ายในละครทีวี เรียกเสียงหัวเราะจากคนในแผนกได้ดีเลยทีเดียว

“ไม่รับปาก เดี๋ยวพรุ่งนี้มาบอกล่ะกัน” พระพายแบ่งรับแบ่งสู้

“ทำไม ต้องไปขอเมียก่อนเหรอวะ?” พี่กล้วยว่าพลางหัวเราะถูกใจ

“เรื่องของผมน่า” พระพายพูดปัดแล้วรีบทำงานต่อ


        ก็จริงที่หลังๆมานี้พระพายไม่ได้ไปสังสรรค์นอกเวลางานกับพี่ๆในแผนกเลย เพราะเอาแต่กลับไปขลุกตัวอยู่ในห้องกับพิธานเสียมากกว่า ดูท่ากลับไปคืนนี้คงต้องบอกพิธานว่าจะต้องไปกินปิ้งย่างบ้านพี่กล้วยบ้าง ไม่รู้ว่าพิธานจะตอบตกลงหรือไม่ คิดๆไปพระพายเหมือนมีเมียอย่างที่พี่กล้วยว่าเหมือนกัน คิดได้เช่นนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา ใช่แล้วเป็นเมียที่ดุเสียด้วย

        พระพายทำงานจนในที่สุดก็ถึงเวลากลับบ้าน รีบเก็บข้าวของและบอกลาพี่ๆในแผนก รีบกลับห้องเพราะพิธานเพิ่งส่งข้อความมาว่าวันนี้ไม่ยุ่งและจะกลับห้องเร็ว พระพายไม่รอช้ารีบเดินทางกลับห้องด้วยความรวดเร็ว

        พระพายลงจากรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเพราะวิธีนี้เร็วที่สุดแล้ว เมื่อพระพายเดินจะเข้าไปยังคอนโด ก็เห็นพิธานยืนคุยอยู่กับใครคนหนึ่งที่หน้าเคาน์เตอร์ต้อนรับ เห็นจากมุมนี้ไม่ค่อยชัดนัก พระพายจึงเดินไปแอบตรงกระถางต้นไม้ต้นสูงที่ตั้งอยู่หน้าคอนโด คราวนี้จึงเห็นได้ชัดว่าพิธานยืนคุยอยู่กับใคร

        เป็นผู้ชายร่างเล็กแต่สูงกว่าพระพายนิดหน่อย ใบหน้านิ่งๆที่ดูแล้วรู้สึกว่าดูดี สุขุมทุกท่วงท่า พระพายมองอย่างรู้สึกหลุดเข้าไปในภวังค์ ในสายตาของพระพายผู้ชายคนนี้ช่างน่ามองแม้กระทั่งตอนพูดตอนขยับปากแบบปกติก็ตาม

“ใครกัน?”


            พระพายมองอย่างสงสัยและเพียงครู่เดียวผู้ชายคนนั้นก็ยกมือไหว้พิธาน พิธานตบไหล่นั้นเบาๆ หลังจากนั้นก็เดินขึ้นลิฟต์ไป ด้านผู้ชายคนนั้นก็เดินออกมายังประตูทางเข้า พระพายรีบหันหลังหลบ ก่อนที่จะหันมองตามไปจนสุดสายตา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงต้องมาแอบหลบตรงนี้แทนที่จะเดินเข้าไปหาพิธานตรงๆแต่เมื่อเห็นทั้งสองคนคุยก็รู้สึกแค่ว่าไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะเพียงเท่านั้น..เท่านั้นจริงๆ

           พิธานขึ้นห้องแล้วไปแล้วและส่งข้อความมาหาพระพายด้วยความรวดเร็วว่าตอนนี้อยู่ในห้องแล้ว พระพายจึงเดินขึ้นลิฟต์ไปด้วยความรู้สึกแปลกๆนิดหน่อย ทำไมถึงคันยุบยิบในอกเมื่อเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นและเขาเป็นใครกัน

           พระพายไขกุญแจเข้าไปในห้อง ถอดรองเท้าเก็บเข้าตู้เป็นที่เรียบร้อย เมื่อเดินเข้าไปก็พบว่าพิธานเพิ่งถอดสูทออก พิธานหันมาเห็นพระพายที่เข้ามาพอดี

“มาเร็วนะ” พิธานว่าพลางเดินเข้ามากอดพระพาย

“เป็นอะไร?” พระพายถามอย่างแปลกใจที่พิธานเข้ามากอดแบบไม่ทันตั้งตัว

“เหนื่อย” พิธานตอบเท่านั้น

“จะอ้อน?” พระพายถาม

“เปล่าเสียหน่อย” พิธานพูดเช่นนั้นก็จริงแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยพระพาย

“วันนี้งานยุ่งอีกแล้วเหรอ?”

“ยุ่งอย่างนี้ทุกวัน”

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไหม?”

“อืม”


            พิธานจึงปล่อยแล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พระพายมองแผ่นหลังกว้างที่เดินไปพร้อมกับนึกถึงภาพเมื่อครู่...ทำไมถึงยังรู้สึกสงสัยว่าคนๆนั้นเป็นใคร ถ้าหากไม่ถามก็จะรู้สึกค้างคาใจไปตลอดวันแน่ แค่คิดเรื่องของธนิตก็มากพอแล้ว

            พระพายหยุดคิดทุกอย่างลงและเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยเช่นกัน วันนี้พระพายไม่ได้หอบงานกลับมาทำด้วยเพราะสะสางจนเหลือแค่เพียงนิดหน่อยและคิดว่าจะไปทำต่อในวันพรุ่งนี้  วันนี้จึงคิดจะนั่งดูหนังหรือหาอะไรทำแบบสบายๆแต่ช่างแย้งกับความคิดในหัวที่คิดวกวนจนตียุ่งกันไปหมด

“เป็นอะไร?” พิธานเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นพระพายที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วแต่กลับยืนนิ่งเหมือนกำลังตกอยู่ในห้วงความคิดอะไรสักอย่าง

“หืม? อ๋อ เปล่า” พระพายปฏิเสธทันที

“บอกมา” น้ำเสียงไม่ได้บังคับแต่อยากให้บอกตรงๆ

“ทำไมต้องรู้ทันตลอด แบบนี้ก็โกหกอะไรไม่ได้เลยสิ” พระพายส่ายหน้า

“ไม่เคยบอกรึไง ว่าหน้านายบอกหมดทุกอย่างหมดแล้ว” พิธานว่าและลากพระพายมานั่งยังโซฟาหน้าทีวี

“ไม่จริง คุณนั่นแหละที่รู้ทันเกินไป” พระพายเถียง พิธานยิ้มมุมปาก

“เพราะเป็นนาย ฉันเลยรู้” พิธานว่า พระพายยิ้มออกมาก่อนที่จะซบไหล่พิธาน ซึ่งไม่บ่อยนักที่พะพายจะเป็นเช่นนี้

“ผมอยากรู้..เรื่องคุณกับพ่อ” พระพายเอ่ยมันออกมาในที่สุด

“ฉันรู้อยู่แล้วว่านายจะถามเรื่องนี้”

“ใช่ ผมกำลังรอจังหวะจะถามคุณอยู่ เรื่องนี้มันกวนใจผมมากจนตอนนี้ก็ยังคิดอยู่เลย”

“เครียดเหรอ?” 

“ถ้าบอกว่าไม่ก็จะกลายเป็นโกหก แต่ผมก็ไม่อยากให้คุณหนักใจมากไปกว่านี้เหมือนกัน”

“ฉันเองคิดจะบอกนายเหมือนกัน”

“ตกลงคุณมีเรื่องอะไรกับพ่อคุณ ทำไมถึงไม่ลงรอยกันขนาดนี้” พระพายถามถึงสิ่งที่อยากรู้มาตั้งแต่วันนั้นแล้ว

“จะเล่าให้นายฟัง” พิธานว่า พระพายผละออกจากไหล่ของพิธานและหันไปมองพิธานที่นิ่งเงียบไปเพียงครู่ก่อนจะเปิดปากเล่า

“คุณพ่อ...ทำคุณแม่เสียใจ คุณพ่อนอกใจคุณแม่”

            พิธานบอกถึงเรื่องที่ไม่เคยบอกผู้ใดมาก่อนนอกจากเพื่อนสนิทเท่านั้นที่รู้หากไม่นับเพลงขวัญผู้เป็นพี่สาวที่รู้ทุกอย่างดีอยู่แล้ว พระพายถึงกับชะงักเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“ตอนนั้นฉันเพิ่งอยู่ม.ปลาย เห็นคุณพ่อกำลังนัวเนียกับผู้หญิงคนหนึ่งในบ้าน ตอนนั้นคุณแม่ไปเยี่ยมคุณยายเลยไม่ได้อยู่บ้าน...ฉัน...โกรธมาก”

“และผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใคร คือเลขาที่ทำงานกับคุณพ่อมาโดยตลอด ไม่มีใครเอะใจเลยสักนิด เพราะผู้หญิงคนนั้นเธอใจดีและเป็นคนดีเสมอเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ...ฉัน...เกลียดผู้หญิงแบบนั้นที่สุด” พิธานยังคงเล่าต่อไปด้วยแววตาว่างเปล่า

“ฉันไม่บอกคุณแม่ แต่ฉันเลือกที่จะพูดกับคุณพ่อตรงๆ คุณพ่อไม่ยอมรับและบอกว่าฉันเข้าใจผิดไปเอง”

“นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็น เห็นมันหลายครั้งและบ่อยๆ จนเริ่มเข้ามหาลัย ฉันก็ยิ่งพบว่าฉันไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นจนลามไปถึงผู้หญิงคนอื่นๆ ยิ่งทุกครั้งที่เห็นเลขาคนนั้นแสร้งเป็นคนดี ฉันก็ยิ่งขนลุก”

“ฉันพยายามถามตัวเอง ว่าสรุปไม่ชอบผู้หญิงจริงๆแล้วรึเปล่า สุดท้ายวิธีที่ฉันเลือกคือ พาเด็กผู้ชายรุ่นน้องที่อยู่สถาบันกวดวิชาเดียวกันที่ประกาศตัวว่าชอบเพศเดียวกันมาที่บ้าน”

“ฉันตั้งใจจะทำเรื่องแบบนั้น ทำได้ไม่ถึงครึ่งทางคุณพ่อเปิดประตูห้องนอนฉันและมาเห็นเข้าพอดี”

“เข้าไปได้ยังไง?” พระพายสงสัยทันที เพราะห้องนอนเป็นห้องส่วนตัว

“เด็กรับใช้บอกว่าฉันชวนเพื่อนมาบ้าน เป็นเพื่อนที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน คุณพ่อเลยให้เอากุญแจมาเปิด”

“แล้วจากนั้น คุณพ่อคุณ...ทำยังไง?” พระพายถามขึ้น

“เห็นฉากเด็ดเข้าพอดี โมโหเลือดขึ้นหน้า แล้วก็ตบหน้าฉันจนเลือดกบปาก” พิธานยังคงเล่าด้วยแววตาว่างเปล่าเหมือนเดิม

“ด่าว่าสารพัด ฉันเลยด่ากลับไปถึงเรื่องนั้นบ้าง สุดท้ายคุณแม่มาได้ยินพอดี”

“คุณแม่คุณว่ายังไงบ้าง” มาถึงตรงนี้พระพายยิ่งรู้สึกเรื่องมันเริ่มจะบานปลายมากขึ้น

“คุณแม่ร้องไห้ ตกใจที่เห็นเลือด”

“ฉันไม่เคยเห็นคุณแม่ร้องไห้มาก่อน คุณแม่ที่ร่าเริงมาตลอดกลับร้องไห้..ฉันทำอะไรไม่ถูก ฉันไม่รู้ว่าจะต้องช่วยคุณแม่ยังไง” จนถึงตอนนี้แววตาของพิธานเริ่มเปลี่ยนเหมือนจะมีประกายไฟปะทุขึ้นมา

“ฉันรู้แค่ว่าตอนนั้นฉันหน้ามืดไปหมด รู้ตัวอีกทีตอนฉันเข้าไปผลักคุณพ่อ คนในบ้านรีบห้ามกันวุ่น...ฉันเกือบจะทำร้ายคุณพ่อไปแล้ว” ตอนเล่าพิธานดูเหมือนจะรู้สึกผิดแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้รู้สึกผิดเท่าที่ควร ดูขัดแย้งมากในสายตาของพระพาย

“คุณแม่ออกจากบ้านโดยที่ชวนฉันกับพี่เพลงไปด้วย ไปอยู่บ้านคุณยายและเหมือนจะขอห่างกับคุณพ่อเพื่อทบทวนทุกอย่างที่เกิดขึ้น”

“คุณพ่อคุณทำไงต่อเหรอ?” พระพายถาม

“ไปง้อทุกวันที่บ้านคุณยายและที่ฉันเพิ่งรู้จากนั้นไม่นานคือ..คุณแม่รู้เรื่องเลขามาโดยตลอด ท่านแค่ทำเหมือนไม่รู้แต่ที่ท่านเสียใจเพราะลูกๆดันมารู้เข้า”

“สุดท้ายคนที่เห็นแก่ตัวที่สุดคือคุณพ่อ พ่อที่อยากให้คุณแม่กลับไป พ่อที่เอาแต่ได้ ไม่เคยนึกถึงความรู้สึกคนในครอบครัว นี่ล่ะคนเห็นแก่ตัว”

“ถ้าดูจากตอนนี้ทั้งสองกลับมาคืนดีกันแล้วใช่ไหม?”

“ใช่ หลังจากเกิดเรื่อง คุณแม่ก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่งตัวเปรี้ยว ทำตัวสวยๆ ออกเที่ยวกับเพื่อนๆ จนกลายเป็นคุณพ่อที่เอาแต่ตามติดคุณแม่และไม่ยุ่งกับเลขาอีก แม้ว่าคุณแม่จะให้อภัยแล้วแต่ฉันไม่ให้อภัยคุณพ่อที่เป็นแบบนั้นได้”

“หลังจากที่ทั้งสองคืนดีกัน คุณยายก็ซื้อคอนโดนี้ให้ฉันอยู่ จากนั้นฉันก็ไม่กลับไปบ้านหลังนั้นอีกเลย พี่เพลงก็ด้วย เพราะเราสองคนเสียใจกับสิ่งที่คุณพ่อทำลงไปในครั้งนั้น”

“และคุณไม่คุยกับคุณพ่อคุณเลยใช่ไหม?”

“ใช่ ฉันรับช่วงต่อดูแลเพราะคุณแม่ขอ แต่ฉันไม่ยุ่งกับคุณพ่ออีกเลย จะทำอะไรก็บอกผ่านคนอื่น ฉันจะไม่พูดโดยตรง”

“แปลว่าวันนั้นที่กลับบ้านไป คือครั้งแรกหลังจากที่ออกมาจากบ้านใช่ไหมที่คุณคุยกับพ่อ”

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”


        มาถึงตรงนี้พระพายรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก เป็นเพราะเขาขอร้องให้พิธานกลับไปบ้านหลังนั้น บ้านที่มีความทรงจำที่พิธานไม่อยากกลับไป ธนิตคนเป็นพ่อที่สร้างบาดแผลและความทรงจำไม่ดีให้กับทุกคนในบ้าน รู้สึกผิดไม่น้อยเลยทีเดียวที่ทำให้พิธานต้องกลับไปเผชิญหน้ากับธนิตแบบนั้นอีกครั้ง อีกทั้งยังลงเอยด้วยการสร้างบาดแผลเพิ่มเติมให้อีกคือการที่ธนิตไม่ยอมรับในสิ่งที่พิธานเป็น

“ผมขอโทษ” พระพายพูดขึ้นพลางบีบมือพิธาน

“ขอโทษทำไม?”

“เพราะผม..เพราะผมทำให้คุณต้องไปที่นั่นอีกทั้งๆที่คุณไม่อยากไป” ความรู้สึกผิดนี้ทำเอาหนักอึ้งในใจอยู่เหมือนกัน

 “จะขอโทษทำไม...ดีเหมือนกันที่ไป ฉันหนีมานานเกินไปแล้ว ถึงเวลาที่ต้องกลับไปเผชิญหน้าสักที”

“มันจะดีเหรอ ทั้งๆที่คุณเจ็บปวดกับสิ่งที่พ่อคุณทำ”

“ดีสิ แค่มีนาย..ต่อให้เจออะไรฉันก็พร้อม” พิธานว่า พลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของพระพาย

“คุณคิดว่าเราจะผ่านมันไปได้ไหม?” พระพายถามขึ้นมา

“นายว่ายังไงล่ะ?”

“ผมว่า..มันยาก..แต่ผมจะไม่ยอมแพ้หรอก ผมจะอยู่ข้างคุณ” พระพายยืนยันหนักแน่น

“เป็นพระพายที่เข้มแข็งดี” พิธานว่า

“แน่นอนสิ พระพายเสียอย่างบอกแล้วไงว่าผมจะอยู่ข้างๆคุณเอง”

“พูดจาน่ารักเชียว อยู่ข้างๆแน่ใช่ไหม?”

“อ่า แน่นอน...แต่ข้างซ้ายข้างขวาค่อยว่ากันนะ” พระพายว่าพลางหัวเราะ พิธานบีบจมูกพระพายด้วยความหมั่นเขี้ยว

“มีเรื่องอื่นอีกรึเปล่า?” พิธานถาม พระพายรีบหรุบตาทันที

“ไม่มี” พระพายส่ายหน้าทั้งที่หลบตาอยู่เช่นนั้น

“พระพาย....” พิธานเรียกชื่อราวกับย้ำคำถาม ไม่บ่อยที่พิธานจะเรียกชื่อเขาเช่นนี้

“ผมเห็น..คุณยืนคุยกับใครก็ไม่รู้ก่อนจะขึ้นมา” พระพายว่า พิธานจ้องหน้านั้นพลางนึกคิด

 “หน้าตาดีมากเลย” พระพายยังคงจำใบหน้านั้นได้ดี

 “ทำไม หึงเหรอ?” พิธานถาม พระพายหันขวับมองพิธานทันที

“อะไร ใครหึง เปล่า” ปฏิเสธทันควันจนคนได้ยินเห็นเป็นเรื่องตลกทันที

 “ทำไมต้องปากแข็ง?” พิธานถามพลางเหล่มองราวกับจับผิด

“คุณพูดอะไร ใครหึงที่ไหนกัน แค่สงสัย” พระพายว่าขมวดคิ้วหน้ายุ่งทันที

“สงสัยยังไง?” พิธานถามพลางปรายตามองพระพายที่ทำตาหลุกหลิกเพราะกำลังหาคำอธิบาย

“ก็...ผมไม่คุ้นหน้า เพื่อนๆของคุณไม่มีคนหน้าตาแบบนั้นนี่” พระพายว่า เพื่อนๆของพิธานพระพายก็เคยเห็นหน้ามาบ้าง ถึงจะไม่ได้เจอบ่อยแต่พระพายพอจะจำหน้าทุกคนได้

“ทำไมไม่คิดว่าเป็นเพื่อนใหม่ล่ะ”

“เพื่อนใหม่คุณเหรอ เจอกันที่ไหน?” พระพายถามทันทีด้วยสีหน้ายุ่งๆ

“หึงชัดๆ” ยิ้มมุมปากของพิธานนั้นขัดลูกตาของพระพายที่สุด

“คุณพิธาน!” พระพายพูดเสียงดัง ยิ่งเห็นพิธานสนุกกับท่าทีของเขา พระพายยิ่งหงุดหงิดเข้าไปอีก

“ก็ได้ ไม่แกล้งแล้ว นั่นเลขาต่างหาก” พิธานว่า

“หืม...อย่าบอกนะว่าคนนั้นคือเลขาปอ?” พระพายถามขึ้น

“ใช่ เลขาปอคนนั้นแหละ” พิธานยืนยันความคิดของพระพาย

“เขามีธุระแถวนี้ ฉันเลยให้เขาติดรถมา” พิธานบอก

“แต่..มาส่งคุณถึงข้างในเลย” พระพายขัดเสียงเบาๆแต่พิธานยังคงได้ยิน

“เขาลืมแจ้งเรื่องงาน เลยตามเข้ามา”

“อย่างนั้นเหรอ” พระพายพยักหน้านิดๆ ดูเลื่อนลอยไปหน่อยเพราะยังนึกถึงใบหน้าของเลขาปอ

“รู้ตัวใช่ไหม ว่ากำลังหึง” พิธานว่า

“หึงเหรอ ไม่ใช่เสียหน่อย ผมแค่...แค่” อีกครั้งที่ไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบาย

“แค่อะไร?”

“ไม่ได้เรียกว่าหึง แค่อยากรู้เฉยๆ” พระพายเลือกจะตอบเช่นนั้น พิธานขยับตัวเข้าหาพระพายก่อนที่จะจูบริมฝีปากนั้นและผละออก

“ปากก็นุ่มเหมือนเดิม แล้วทำเมื่อกี้มันถึงแข็งได้ล่ะ?”

            พิธานใช้สายตาวิบวับจ้องมองพระพายที่รู้สึกหน้าเห่อร้อนขึ้นมาเมื่อถูกมองอย่างนั้น แม้จะอยู่ด้วยกันมานานพอสมควรแล้วแต่ยากที่จะชินหากถูกพิธานใช้สายตาแบบนี้จ้องมอง ยังคงรู้สึกเหมือนถูกมองอย่างทะลุปรุโปร่งอยู่เสมอ

“ผมไม่ได้ปากแข็ง อย่าพูดอย่างนั้นสิ” พระพายว่าพลางเสมองไปข้างๆ

“ปากไม่แข็งแล้วอย่างอื่นล่ะ?” พิธานถาม พระพายทำตาโตขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปมามองพิธาน

“อย่างอื่นจะไปรู้ได้ไง” พระพายแหวใส่

“ถ้าอย่างนั้นคงต้องขอดูหน่อยว่าเป็นยังไง”

“ยังไม่ได้อาบน้ำเลย” พระพายร้องขึ้น

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปอาบด้วยกันเลย”

“คุณพิธาน พรุ่งนี้ผมต้องทำงานนะ!” พระพายปรามขึ้น กลัวว่าพิธานยั้งความต้องการของตัวเองไม่ได้และไม่ใช่แค่ของพิธานแต่ของตัวพระพายเองก็เช่นกัน

“ถ้าอย่างนั้นคืนพรุ่งนี้ก็ได้” พิธานไม่อยากให้พระพายไปทำงานในสภาพไม่ดีเสียเท่าไหร่

“อ่า ใช่ พูดถึงคืนพรุ่งนี้....พี่ๆที่ออฟฟิศเขาชวนผมไปกินปิ้งย่าง” พระพายนึกเรื่องนี้ขึ้นได้พอดี

“พี่คนไหน?” ถึงคราวที่พิธานขมวดคิ้วใส่พระพายบ้าง

“พี่กล้วย ที่เสียงดังกว่าคนอื่นเขาไง”


        พิธานไม่เคยเห็นพี่ๆในออฟฟิศพระพายแบบชัดๆ แต่ก็พอจำได้ลางๆว่ามีอยู่คนหนึ่งที่ชอบแหกปากและเป็นเสมือนผู้นำกลุ่มตอนไปเที่ยวกันและพระพายเองก็เคยไปกินปิ้งย่างกับเขาแต่โดนพิธานเรียกตัวกลับเสียก่อนในช่วงแรกๆที่เจอกัน

“คนนั้นน่ะเหรอ?”

“ก็มีคนเดียวนั่นแหละ”

“ถ้าไม่ให้ไปล่ะ?” พิธานมองพระพายที่แสดงสีหน้าลำบากใจนิดๆ

“จริงๆก็ขี้เกียจไปนะ แต่พี่เขาบ่นว่าผมไม่ไปเลย ครั้งนี้เลยไม่ยอม” พระพายบอก พิธานคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ

“ไปได้ แต่..ห้ามดื่มหนัก” พิธานยอมให้ไปได้

“สัญญา จะไม่ให้เมา” พระพายยิ้มแฉ่งออกมาอย่างดีใจ

“และฉันจะไปรับเอง” พิธานเสริมอีกข้อ

“ไม่ต้องหรอก เกรงใจ” พระพายว่า

“ไปรับแฟนกลับห้อง ทำไมต้องเกรงใจ”

“ครับ...” พระพายขานรับเสียงยาว


        การที่ให้พระพายไปได้เที่ยวกับเพื่อนฝูงซึ่งนอกจากเก้าและตัวเขาเองก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยพระพายที่คิดมากในหลายวันนี้จะได้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง ให้โอกาสคนรักได้ปลดปล่อยบ้างก็ดี...


Lyrics: Lounge act by Nirvana.

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
พอรู้เรื่องที่ทะเลาะกันแล้วก็รู้สึกเห็นใจพิธานขึ้นมาเลย
เจอแบบนั้นแล้วต้องเก็บเอาไว้คนเดียวเพราะรักแม่เนี่ยมันคงอึดอัดทรมานมากจริงๆ
แถมคุณพ่อยังทำเหมือนตัวเองไม่ผิดอะไรด้วย เชื่อเขาเลย

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เรื่องคุณพ่อเป็นเราก็โกรธเหมือนกัน เข้าใจพิธานดีเลยล่ะ
ดีใจที่สองคนพูดคุยกันทุกเรื่อง คนอยู่ด้วยกันเนาะ ไม่อยากให้มีความลับ แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ ก็ตาม

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
เราอ่านเพลินหรือตอนมันสั้นหว่า  :z1: เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้พิธานน้า  :กอด1:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เคลียร์กันทุกเรื่องแบบนี้ดีจัง
เครียดเรื่องที่บ้านก็พอแล้วเนอะ
แต่ที่จะไปรับนี่กะจะเปิดตัวเลยมั้ยคุณพิธาน

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
ทำไมรู้สึกสั้น!!หรืออ่านเพลินไป โอ๊ยยชอบ ชอบที่คุยกันทุกเรื่อเคลียร์กันตรงๆ พระพายยังน่ารักเหมือนเดิมมมมมม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Kx0806

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ชอบความมีเหตุผลของทั้งคู่จัง

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เบื่อผู้ชายมักมากจริงๆ ครอบครัวแตกแยกมานักต่อนักก็เพราะความมักมากของคน

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เอาได้รู้เรื่องแล้ว สงสารคุณแม่ที่สุดเลย อดทนและเจ็บมาตลอดคนเดียว แต่พอมารู้ว่าลูกก็รู้ด้วยแล้ว ใจคุณแม่คง....... :hao5:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ swoooaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เห็นใจพิธานมากก คุณพ่อเองก็ทำตัวไม่ดีอยู่แล้ว ยังจะมาทำยัี้กับพิธานอีก

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เข้าใจพิธานเลยว่าทำไมถึงไม่ค่อยโอเคกับพ่อ หวังว่าอะไรๆมันจะดีขึ้น

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ มาช้าอีกแล้ว  :hao5: ขออภัยอย่างสุดซึ้งค่ะ ตอนที่แล้วมีคนอ่านบอกว่าสั้น...จริงๆมันก็เท่ากันกับตอนอื่นๆนะคะ  :o8: ฮ่าๆ เอาล่ะค่ะ ไปอ่านกันเลยดีกว่า ถ้าหากมีคำผิดหรือข้อผิดพลาดใดๆก็ขออภัยไว้ตรงนี้นะคะ ช่วงนี้มีฝนตกบางพื้นที่ ขอให้คนอ่านทุกท่านโปรดระมัดระวังในการเดินทางและรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ รัก  :man1: ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ
++++++++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 47 The life.


It's kinda funny how life can change
มันเป็นเรื่องตลกที่ชีวิตจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขนาดนี้
Can flip 180 in a matter of days
สามารถเปลี่ยนผันได้ถึง 180 เรื่องราวในแต่ละวัน
Sometimes love works in mysterious ways
บางทีความรักก็ดำเนินอย่างลึกลับซับซ้อน
One day you wake up gone without a trace
วันหนึ่งอาจจะตื่นขึ้นมา หายจากไปอย่างไร้ร่องรอย



        พระพายตื่นเช้ามาทำงานตามปกติ เมื่อมาถึงก็เจอพี่กล้วยกับพี่ปีนั่งอยู่แล้ว พระพายจึงใช้โอกาสนี้บอกถึงเรื่องปาร์ตี้ปิ้งย่างในคืนนี้ที่พี่กล้วยชวนเขา

“พี่ ตกลงผมไปนะ” พระพายว่า

“ขอเมียได้แล้วเหรอ?” พี่กล้วยถามพลางหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนานที่ได้แกล้งพระพายตั้งแต่เช้า

“แต่คงไม่ดึกนะพี่ วันอาทิตย์ผมมีธุระอีก” พระพายให้เหตุผลไปเช่นนั้น

“เมียให้กลับเร็วก็บอกเถอะ” พี่กล้วยก็ยังพูดจาอยู่เช่นนั้นจนพระพายเริ่มหน้ามุ่ย

“มึงแกล้งน้อง เดี๋ยวพอน้องไม่ไปแล้วมานั่งบ่นอีก รำคาญ” พี่ปีว่า

“ไอ้ปี เพื่อนชั่ว” พี่กล้วยว่าเสียงดัง

“ใช่ ถ้าไม่ไปแล้วอย่ามางอแงนะพี่กล้วย” พระพายที่ได้ทีขี่แพะไล่ พี่กล้วยทำปากขมุบขมิบ ทุกคนในแผนกที่เริ่มมาก็พอจะรู้ว่าพี่ปีสกัดการแกล้งน้องของพี่กล้วยอย่างเช่นเคย


        การทำงานในวันนี้ออกจะสบายกว่าวันอื่นๆ พระพายทำงานแบบเรื่อยๆเพราะไม่ได้มีงานคั่งค้างแล้ว เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกงาน

“เอาล่ะถึงเวลาปาร์ตี้” พี่กล้วยตะโกนขึ้นมาอย่างดีใจเมื่อถึงเวลาเลิกงาน

“ไปบ้านกูภายในหนึ่งทุ่ม เข้าใจ?” พี่กล้วยหันไปสั่งทุกคน

“รับทราบ” ทุกคนตอบเอื่อยๆอย่างไร้เรี่ยวแรง

“ให้มันกระฉับกระเฉงหน่อย เข้าใจไหม?” พี่กล้วยพูดอีกครั้ง

“ครับ...” เสียงฮึกเหิมเป็นที่น่าพอใจแล้วพี่กล้วยจึงปล่อยให้ทุกคนกลับบ้านได้และเตรียมตัวเดินทางไปปาร์ตี้กัน



        พระพายนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างกลับไปยังคอนโด เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าพิธานยังไม่กลับมา พระพายจึงส่งข้อความถามเพราะคิดไปเองว่าพิธานน่าจะอยู่ที่ห้องแล้ว

“ติดงาน เดี๋ยวจะไปรับ ส่งที่อยู่มาด้วย” พิธานส่งข้อความตอบกลับมาเท่านั้น พระพายรีบไปอาบน้ำแต่งตัวและเตรียมตัวไปบ้านพี่กล้วย


        ตอนนี้ประมาณหกโมงกว่า พระพายเดินทางมาถึงบ้านพี่กล้วยแล้ว บ้านพี่กล้วยยังสวยและน่าอยู่เหมือนเดิมแต่เหมือนจะเงียบๆอีกทั้งไม่เห็นคนอื่นเลย คงจะยังมาไม่ถึง


        ประตูที่ไม่ได้ล็อคทำให้เข้าไปได้โดยง่าย พระพายเดินผ่านห้องนั่งเล่นและกำลังจะเข้าไปในครัวเพื่อนทักทายเจ้าบ้านแต่แล้วก็ต้องชะงัก เพราะสิ่งที่พระพายเห็นทำเอาไม่กล้าขยับตัว    


             พระพายเห็นพี่ปีกับพี่กล้วยยืนจูบกัน พี่กล้วยที่ปกติเป็นคนแก่นกล้าหน้าด้านและแรงเยอะที่สุด แต่กลับไม่มีแรงแม้กระทั่งจะยกมือห้ามพี่ปีเสียด้วยซ้ำไป ดูปวกเปียกไปหมด จูบของพี่ปีที่ดูรุนแรงและรุกเร้าจนแทบไม่อยากเชื่อสายตาว่าพี่ปีที่แสนดีของน้องๆจะดุดันขนาดนี้ พระพายรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนขึ้นมานิดๆทั้งไม่ทันตั้งตัวและแปลกใจกับสิ่งที่เห็น....สองคนนี้มีความสัมพันธ์กันแบบนี้หรือ ผิดคาดไปพอสมควร พระพายจึงรีบเดินถอยหลังและหลบไปเพื่อไม่ให้ทั้งสองรู้ตัวว่าเขาเห็น


        เมื่อหลุดจากตรงนั้นพระพายก็กลับมายังหน้าบ้าน ยืนวนไปวนมาว่าจะเข้าไปในบ้านอย่างไรดีและสองคนนั้นจูบกันเสร็จแล้วหรือยัง ไม่ทันจะได้คิดอะไรต่อ พี่อีกคนในแผนกก็มาถึงพอดี

“พาย ทำไมไม่เข้าไปล่ะ?”

“รอพี่ไง ไปๆ” พระพายว่าก่อนที่จะเดินเข้าบ้านและตะโกนเสียงดัง

“พี่กล้วย...มาแล้ว....” พระพายตะโกนสุดเสียง หวังจะให้สองคนนั้นรู้ตัวว่ามีคนมาแล้ว พระพายและพี่อีกคนเดินเข้าไปก็เห็นแต่พี่กล้วยที่นั่งอยู่ที่โซฟา หน้าตาแดงก่ำจนพี่ที่มาด้วยกันต้องเอ่ยถาม

“พี่กล้วย กินเหล้าก่อนพวกผมได้ไง?” คงคิดว่าที่หน้าแดงเพราะดื่มเข้าไป พี่กล้วยที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะ

“เผาหัวรอพวกมึงไง” พี่กล้วยว่า พระพายยิ้มให้ทั้งที่ในใจก็รู้ดีว่านั่นไม่ใช่เพราะแอลกอฮอล์

“คนอื่นมากันรึยังพี่?” พระพายถามบ้าง

“ปีมาแล้ว มันเตรียมของอยู่” พี่กล้วยพูดแบบปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เดี๋ยวผมไปช่วยพี่ปีนะ” พระพายบอกเช่นนั้นและรีบเดินไปในครัวด้วยความรวดเร็ว เห็นพี่ปีกำลังหั่นผักอยู่เงียบๆ

“พี่ปี มาผมช่วย” พระพายว่า

“ขอบใจพาย ดูสิเจ้าของบ้านนั่งสบายอย่างกับเจ้าชายไม่ยอมมาช่วย” พี่ปีว่า

“เจ้าชายที่ไหนนิสัยเสียอย่างนั้นล่ะพี่” พระพายว่าพลางหัวเราะ มือก็ช่วยทำไปด้วย

“พาย...เมื่อกี้พายเห็นใช่ไหม?” จู่ๆพี่ปีก็พูดขึ้น พระพายที่กำลังล้างผักถึงกับชะงัก

“เอ่อ..เห็นอะไรเหรอครับ?” พระพายถามกลับเสียงเบาๆ

“ที่พี่กับกล้วยอยู่ด้วยกันเมื่อกี้นี้” พี่ปีว่าและยิ้มออกมาน้อยๆ

“ขอโทษครับพี่ปี ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” พระพายรีบปล่อยมือจากผักและยกมือไหว้ขอโทษพี่ปีทันที

“ไม่ใช่ความผิดพายหรอก เป็นความผิดพี่เอง ที่ไม่ยั้งใจตัวเอง” พี่ปีบอก

“พี่สองคน..คบกันเหรอครับ?” พระพายถามตรงๆ

“พี่คิดว่าเราคบกัน แต่สำหรับกล้วยพี่ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง” พี่ปีว่า แม้น้ำเสียงจะดูปกติแต่พระพายกลับรู้สึกได้ว่าพี่ปีกำลังเศร้า

“พี่กล้วย ไม่ชัดเจนเหรอครับ?”

“ไม่ชัดเจนสุดๆเลย แม้มันจะรู้ว่าพี่คิดยังไงแต่มันก็ทำเหมือนไม่รับรู้”

“นานรึยังครับ?” พระพายถามต่อ ไหนๆพี่ปีก็พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว

“ครึ่งปีได้แล้วล่ะ”

“จนป่านนี้แล้วยังไม่ชัดเจนกันอีกเหรอครับ?”

“อ่า....นั่นสินะ จนป่านนี้แล้ว” พี่ปีว่าทั้งที่ยิ้มอยู่อย่างนั้น

“พี่ปี...ถามไปตรงๆสิครับ มัวรออะไรอยู่” พระพายพูดขึ้นอย่างขัดใจ

“ก่อนจะตอบเรื่องนี้ พี่ถามก่อน..พายไม่ตกใจเลยเหรอ?” พี่ปีถาม

“ตกใจ...ตกใจที่พวกพี่เป็นแบบนี้เหรอ..ไม่นี่ครับ” พระพายว่า

“ถ้าเป็นคนอื่นมาเห็นคงไม่เป็นแบบนี้”

“ไม่หรอกพี่ นี่สมัยไหนแล้ว พี่ๆคนอื่นเขาก็เข้าใจนั่นแหละ พี่อย่าคิดมากสิ”

“ถ้าหากกล้วยมันยอมรับพี่ล่ะนะ”

“พี่ปี ผมเอาใจช่วย อย่าปล่อยให้นานไปกว่านี้นะครับ เดี๋ยวมันจะสาย”

“นี่เป็นที่ปรึกษาให้พี่แล้วเหรอ วันนั้นยังมาปรึกษาพี่อยู่แท้ๆ” พี่ปีหัวเราะออกมา

“สลับกันบ้างก็ไม่เป็นอะไรนี่ครับ” พระพายยิ้มให้


        ทั้งสองคนช่วยกันทำต่อไป ใช้เวลานานสักหน่อยเพราะแม่บ้านชาวพม่าหัวใจเกาหลีของพี่กล้วยลาหยุด วันนี้จึงต้องลงมือเตรียมกันเองทุกอย่าง จนในที่สุดตอนนี้ก็ได้มานั่งย่างอาหารล้อมวงทานด้วยกันแล้ว

“เอ้า!! ไม่เมาไม่ให้กลับ” พี่กล้วยว่าพลางยกแก้วชนกับทุกคน ปาร์ตี้ปิ้งย่างแท้จริงแล้วคือข้ออ้าง เหตุผลที่แท้จริงคือจะดื่มกันเสียมากกว่า

        พระพายดื่มนิดๆจิบหน่อยๆส่วนใหญ่จะนั่งกินอาหารเสียมากกว่า ดื่มไปคุยกันทานไปอย่างสนุกสนาน นานแล้วเหมือนกันที่ไมได้มานั่งอยู่แบบนี้กับพี่ๆในแผนก รู้สึกให้ความผ่อนคลายไปอีกแบบ พี่ปีและพี่กล้วยก็ดูเหมือนเดิมเหมือนเพื่อนกันปกติในสายตาของคนที่ไม่รู้เรื่องนี้ แต่สำรับพระพายที่พอรู้เรื่องนี้เข้าก็เหมือนจะเห็นได้ชัดถึงสายตาของพี่ปีที่มองพี่กล้วย มันดูหน่วงๆอย่างบอกไม่ถูก จะยังไงก็แล้วแต่พระพายได้แค่มองห่างๆ


        และเมื่อรับรู้ถึงความรู้สึกและเรื่องราวของพี่ปีและพี่กล้วย แม้จะเพียงสั้นๆและไม่รู้เรื่องราวลึกตื้นหนาบางแต่พระพายก็พบความจริงอย่างหนึ่ง...ชีวิตคนเราจะเจอเรื่องราวมากมายและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา จากคนไม่รักมาเป็นรัก จากคนเคยรักก็เกลียดกัน จากความเป็นเพื่อนกลายมาเป็นความรักที่มากกว่านั้น หรือจากคนเป็นเพื่อนกันแต่สุดท้ายก็บาดหมาง เราไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าชีวิตเราจะพลิกผันเปลี่ยนไปได้เสมอ ความรู้สึกที่เปลี่ยนได้อยู่ตลอดเช่นกัน นั่งคิดๆแล้วก็ได้แต่สรุปกับตัวเอง....ชีวิตคนเราย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คงได้แต่ตั้งรับและปรับตัวเพียงเท่านั้น 


        ผ่านไปสองชั่วโมงเห็นจะได้ที่พระพายนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยและหันไปคุยกับพี่ๆบ้าง จนตอนนี้เริ่มรู้สึกว่ามึนขึ้นมานิดๆแต่แค่เพียงนิดเดียวเท่านั้นเพราะพระพายจิบนิดหน่อยไม่ได้ดื่มเยอะตามที่พิธานขอไว้ จู่ๆมีโทรศัพท์ดังขึ้นมา ทุกคนหันมามองพระพายเป็นตาเดียวโดยเฉพาะพี่กล้วย

“เมียโทรมาตามใช่ไหม มึงห้ามกลับก่อนนะ” พี่กล้วยขู่ทันที พระพายได้แต่ส่ายหน้าและรับโทรศัพท์เพราะก่อนจะดื่มพระพายได้ส่งที่อยู่และเชื่อมกับแผนที่บนโทรศัพท์มือถือให้พิธาน ตอนนี้พิธานคงมาถึงแล้ว

“อยู่หน้าบ้าน” พิธานบอกเช่นนั้น พี่กล้วยที่กลัวว่าพระพายจะชิ่งกลับก่อนจึงตะโกนออกมา

“คนสวย พี่ไม่ให้พระพายกลับก่อนนะจ๊ะ” พี่กล้วยตะโกนขึ้น

“พี่กล้วยไม่ให้กลับ” พระพายบอก ถึงไม่บอกพิธานก็คงได้ยินแล้ว

“เดี๋ยวจะเข้าไป” พิธานว่าและวางสายไป เพียงไม่นานนักก็มีเสียงกดออดดังขึ้น พี่กล้วยชะงักหันมามองพระพาย

“อย่าบอกนะว่าเมียมึงอยู่หน้าบ้าน?” พี่กล้วยว่า พระพายไม่พูดอะไรแต่พี่อีกคนที่เมาได้ที่กลับลุกไปแทน

“อยากเห็นหน้าเมียน้องพายว่ะ”


             พูดเสร็จก็รีบปรี่ไปหน้าบ้านทันที พระพายที่ไม่รู้จะทำอย่างไรดีจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลยและได้แต่ขอโทษพี่คนนั้นในใจที่ไปเปิดประตู เพราะคงจะผิดหวังน่าดูเมื่อได้เห็นหน้าเมียของน้องพายที่ทุกคนคาดหวังไว้เยอะ

             เพียงแค่ครู่เดียวพี่ที่ไปเปิดประตูก็เดินลอยๆกลับมาพร้อมสีหน้าสับสนและงุนงงตามมาด้วยชายหนุ่มร่างสูงหน้าตานิ่งๆมองเหยียดทุกอย่างรอบกาย กับคนไม่รู้จักพิธานจะเป็นเช่นนี้เสมอ

“ไหนวะเมียน้องพาย” พี่กล้วยว่าพลางมองหาและสะดุดสายตาเข้ากับพิธาน

“มีแต่คนนี้ว่ะพี่กล้วย”

“เดี๋ยวนะน้องพาย..นี่เมียมึงเหรอ?”

“มานั่งก่อน” พระพายไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงได้แต่จัดที่จัดทางให้พิธานนั่งข้างตน ซึ่งพิธานก็นั่งแต่โดยดีไม่ได้อิดออดแต่อย่างใด

“เอ่อ....แฟนผมเอง” พระพายตัดสินใจบอกทุกคนอย่างเรียบง่ายและรอลุ้นถึงปฏิกิริยาของพี่ๆว่าจะเป็นอย่างไร


             พี่กล้วยที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับมือลื่นทำตะเกียบหล่นจากมือ พี่ปีตาโตขึ้นมานิดๆก่อนที่จะกลับเข้าสู่ปกติ ส่วนพี่ๆคนอื่นอ้าปากค้างเพราะตกใจมากกับสิ่งที่พระพายบอก

“แนะนำตัวหน่อย” พระพายเองไม่คิดว่ามาได้มาแนะนำพิธานให้พี่ๆรู้จัก ไม่คิดคาดฝันมาก่อน

“ผมพิธาน ขอบคุณที่ดูแลพระพายมาตลอดครับ” พิธานดูนอบน้อมจนพระพายยังแปลกใจ แม้สีหน้าและแววตาจะดูไร้ซึ่งความอัธยาศัยดีแต่คำพูดนั้นฟังดูดีใช้ได้เลยทีเดียว

“น้องพาย...เมียมึงทำไมตัวโตจัง” พี่กล้วยถามและรีบหยิบตะเกียบขึ้นมา

“เลิกพูดเรื่องเมียได้แล้วพี่” พระพายว่าพลางส่ายหน้าอย่างหน่ายใจ

“หรือพายเป็นเมียใช่ไหม?” พี่อีกคนที่นั่งอยู่ถามพลางยิ้มล้อเลียน พระพายค้อนใส่ด้วยความรวดเร็ว

“น้องพายมึงเป็นเบี้ยล่างเหรอวะ?” พี่กล้วยว่าและเริ่มหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางของพระพาย

“เงียบไปเลยพี่กล้วย” พระพายว่า

“แน่สิ ตัวแค่นี้จะเอาแรงที่ไหนไปกดเขาวะ” ทุกคนเริ่มหัวเราะถูกใจกับการฟาดงวงฟาดงาของพระพาย

“ชื่ออะไรนะ พิธานเหรอ?” พี่ปีหันมาถามพิธาน

“ครับ”

“ผมชื่อปีนะ” พี่ปีแนะนำตัวเองบ้าง

“ครับ”

“มากินด้วยกันไหม?” พี่ปีถามไถ่ ไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือหวาดหวั่นกับความนิ่งของพิธานเลย

“ตามสบายครับ ผมแค่มารับพระพายกลับ” พิธานบอกเช่นนั้น

“ทำไมรีบกลับจังวะ?” พี่กล้วยบ่นทันที

“บอกแล้วว่ากลับเร็ว พรุ่งนี้เช้ามีธุระต้องตื่นแต่เช้า” พระพายว่า

“อยู่ต่ออีกนิดได้ไหมน้องพาย อยู่ให้พี่ชื่นใจหน่อย” พี่กล้วยพูดจาหวานหยอด พิธานปรายตามองพี่กล้วยทันควัน

“เบาๆกล้วย เดี๋ยวพิธานก็เอาขวดเหล้าตีหัวเข้าให้” พี่ปีปรามความขี้แกล้งของพี่กล้วย

“มึงก็ต้องช่วยกูสิวะปี”

“ช่วยซ้ำน่ะสิ” พี่ปีว่า

“ใจร้าย โป้งมึงแล้วปี”


             พี่กล้วยกระเง้ากระหงอด ก่อนที่จะหันไปซบไหล่พี่อีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ พระพายรู้สึกได้ถึงประกายไฟเล็กๆจากดวงตาของพี่ปีก่อนที่เจ้าตัวจะคว้าผักบุ้งขว้างใส่พี่คนนั้นที่พี่กล้วยกำลังซบอยู่

“โอ๊ยพี่ปี ทำร้ายผมทำไม?”


        เสียงหัวเราะดังไปทั่ว พระพายที่เห็นภาพนั้นรู้ดีว่าการแสดงออกของพี่ปีคือความรู้สึกที่มากกว่าการหยอกเล่น พี่ปีคงจะแสดงออกไปมากกว่านี้ไม่ได้ เหมือนลูกบอลที่ขว้างออกไปแล้วเด้งสะท้อนกลับมา ส่งความรู้สึกไปไม่ถึงหรืออีกฝั่งไม่รับกันแน่ ก็สุดแต่จะคาดเดาได้


        ทั้งหมดนั่งอยู่อย่างนั้น โดยที่พิธานรับแก้วจากพี่ปีมาดื่มและแค่นิดหน่อย ที่น่าแปลกใจคือพี่ปีกับพิธานนั้นดูเข้ากันได้อย่างน่าตกใจ พิธานที่ไม่ชอบพูดคุยกับใครที่ไม่สนิทแต่กับพี่ปีก็มีพูดถามตอบ ถึงจะไม่มากมายแต่ก็เกินคาดสำหรับพระพาย


        บรรยากาศในวงนั้นดีขึ้นมาก เพราะทุกคนดูสนุกสนานโดยเฉพาะพี่กล้วยที่ดูจะครื้นเครงกว่าใครเพื่อน ร้องเพลงและลุกขึ้นเต้นโดยไม่ได้สนใจคนมาใหม่ว่าจะรับได้หรือไม่ พิธานมองพี่กล้วยด้วยสายตาเรียบเฉยแต่สำหรับพระพายรู้ดีว่าพิธานนั้นออกจะทึ่งในตัวของพี่กล้วยพอสมควร ทึ่งในความบ้าบอที่มากมายจนแทบล้นเพราะคนรอบตัวพิธานไม่ค่อยจะมีคนแบบนี้เท่าไหร่นัก


“ชอบไหม?” พระพายถามพลางคีบหมูที่สุกแล้วให้พิธาน

“หมายถึงหมูหรืออะไร?” พิธานถามกลับ

“ก็ทั้งหมูแล้วพวกพี่ๆ”

“ก็ดี” พิธานพูดเท่านั้น พระพายยิ้มและตักน้ำซุปพร้อมผักให้พิธานเพิ่ม


        เวลาล่วงเลยมาถึงเวลาดึกพอสมควรแล้ว ถึงเวลาที่ต้องกลับแล้ว พระพายอยากจะช่วยพี่ๆเก็บกวาดแต่ก็โดนพี่ปีออกปากไล่เพราะพิธานที่มานั่งรออยู่คงอยากกลับแล้ว

“กลับกันดีๆนะ ไว้เจอกันอีกนะพิธาน” พี่ปีว่าเช่นนั้น พี่ๆคนอื่นๆถึงจะเมาก็ยังโบกไม้โบกมือให้พิธานกับพระพาย


        ทั้งสองคนขึ้นรถมา พิธานนั้นดื่มไปแค่นิดเดียวเท่านั้นคงเพราะห่วงเรื่องการขับรถ ระหว่างขับไปพระพายก็ชวนพิธานคุยไปด้วย

“จะว่าไป ผมตกใจนิดหน่อยเหมือนกันนะที่เห็นคุณคุยกับพี่ปีได้” พระพายชวนคุย

“ทำไมถึงตกใจ?” พิธานถามกลับ

“คุณไม่ใช่คนที่จะพูดกับใครก็ได้นี่” พิธานเงียบไปก่อนจะพูดขึ้น

“ก็แค่...รู้สึกว่ากลิ่นเดียวกัน” พิธานว่า

“หืม....กลิ่นเดียวกัน ยังไง?” พระพายสงสัยในคำพูดของพิธาน

“กลิ่นพวกเดียวกันยังไงล่ะ” พิธานว่าพลางหันไปมองพระพาย

“พวกเดียวกัน....อย่าบอกนะว่าคุณคิดว่าพี่ปีจะมีรสนิยมแบบคุณ”

“รู้สึกได้แบบนั้น” พิธานว่า

“อ่า...คนรอบข้างผมนี่น่ากลัวกันหมดเลย” พระพายว่าพลางลูบแขนราวกับรู้สึกกลัวๆ

“นายก็น่ากลัวไม่แพ้กันหรอก” พิธานยกยิ้มมุมปาก

“น่ากลัวอะไร ไม่เหอะ” พระพายไม่ยอมรับ

“น่ากลัวที่ชอบอะไรแรงๆไง” พิธานว่า พระพายหันไปค้อนวงโต

“ว่าแต่คนอื่น คุณเองก็ชอบทำคนอื่นแรงๆเหอะ”

“ชอบจริง เคยเถียงเหรอ?” พระพายหัวเราะหึ

“พอเลย” เมื่อจนมุมก็รีบจบการสนทนา

“อ่อ..มีของเล่นใหม่ด้วย” พิธานว่า

“หา! เอามาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“หลายวันแล้ว มัวแต่ยุ่ง..อยากลองไหม?” ถามพลางใช้สายตากรุ้มกริ่มมอง พระพายเม้มปากพลางเมินหน้าไปมองข้างทาง

“เคยปฏิเสธด้วยรึไง” พูดในลำคอเบาๆ พิธานละมือจากพวงมาลัยมาขยี้ผมพระพาย

“รับรองว่านายต้องชอบ” พิธานพูดเท่านั้นและหันไปขับรถต่อ ดูท่าว่าคืนนี้คงจะหนักหน่วงและยาวนานแน่นอน...



Lyrics: One love by Blue.
   


ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เชียร์พี่ปีกับพี่กล้วย  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Kx0806

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
บุคลิกคุณพิธานนี่ให้ความรู้สึกเหมือนไซบีเรียน ฮัสกี้เลย ดูเยือกเย็น สง่างาม น่าเกรงขาม เป็นผู้ล่า เวลาออกล่าจะดุร้าย //มโนไปไกล เอิ้กก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ไหนว่ามีธุระเช้าไง อะไรคือสนุกแน่คืนนี้

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เล่นเลยๆ อยากเบิ่งเร็วๆ  :hao6:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เคยสงสัยพี่ปี แต่ไม่คิดว่าจะคู่กับพี่กล้วยนี่เอง คนเรานี่มองเผิน ๆ ไม่รู้เลย พิธานนี่จมูกไวจัง

ออฟไลน์ punpunn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่กล้วยเตรียมตัวไว้นะ พี่ปีเขาเป็นแบบนั้ :-[ :impress2:น5555555

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
กลิ่นเดียวกัน แบบว่าแรงพอกันเหรอ

กล้วยเสร็จแน่

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
แล้วพรุ่งนี้จะได้ไปธุระเหรอพระพายถ้าลองของเล่นไหม่อะ  :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
กลินเดียวกัน!!!!! ตายแน่พี่กล้วย
มีของเล่นไหม!!!! ยาวแน่พระพาย

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
รอของเล่นใหม่ด้วยใจที่จดจ่อเลยจ้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด