#Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-  (อ่าน 223823 ครั้ง)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คิดเหมือนพายเลย เรื่องเพื่อนเหมือนเรื่องของเรา 55555

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
อาจจะเป็นน้องไค ชื่อคล้ายๆกันอะไรแบบนี้
ส่วนคุณไคคะ น้องเก้าเขารออยู่นะ
ถึงที่ผ่านมาน้องเขาจะเยอะไปหน่อย แต่คุณก็มาตามน้องเขาเถอะค่ะ
อิชั้นสงสารน้องงงงง

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ตามหน่วงเรื่องของเก้าต่อไป

ออฟไลน์ punpunn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไคน่าจะมีแผนอะไรแล้ว :hao3:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอความจริงจากไค

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เอาใจช่วยไคกับเก้า เข้าใจกันเร็วๆนะ :hao5:

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
คิดว่าคนอย่างไคต้องมีแผน o8

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
 :กอด1:
คิดถึงจังเลยค่ะ

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่า ขออภัยที่ไม่ได้มาอัพเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว  :hao5: วันนี้กลับมาแล้วนะคะ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี เอาเป็นว่าไปอ่านกันเถอะค่ะ ถ้าหากมีคำผิดหรือข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ ขอบคุณทุกๆกำลังใจไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ  :bye2:
++++++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 40 Hurts.


I’m never gonna let you close to me
ฉันจะไม่ให้เธอเข้ามาใกล้ฉันอีก
Even though you mean the most to me
แม้ว่าเธอคือสิ่งที่สำคัญสำหรับฉันก็ตาม
‘Cause every time I open up, it hurts
เพราะว่าทุกครั้งเวลาที่ฉันเปิดใจ มันมักจะเจ็บปวด
So I’m never gonna get too close to you
ฉันจะไม่ใกล้ชิดเธอไปมากกว่านี้
Even when I mean the most to you
แม้ตอนที่ฉันมีความสำคัญกับเธอที่สุดก็ตาม
In case you go and leave me in the dirt
เผื่อเธอจะจากฉันไป แล้วทิ้งฉันไว้กับสิ่งที่ไม่น่าจดจำ

   
            ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น พระพายก็ไม่เห็นวี่แววว่ามันจะมีอะไรดีขึ้น เก้ายังคงเที่ยวเตร่เหมือนเดิมและไม่เห็นหน้าไคอีกเลย ไม่รู้ว่าเจ้าตัวไปที่ไหนอย่างไร ถามพิธานรายนั้นก็ยิ่งไม่ตอบ ส่ายหน้าไม่ก็นิ่งเฉยเป็นการปฏิเสธ พระพายจนปัญญาจนไม่รู้จะต้องทำอย่างไรดี

“คุณพิธาน...จะไม่บอกจริงๆเหรอว่าคุณไคอยู่ที่ไหน?” พระพายถามอีกครั้ง ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังนั่งทานขนมหน้าทีวีกันในคืนวันศุกร์เช่นนี้

“เดี๋ยวก็มานั่นแหละ” พิธานตอบ พระพายได้แต่ถอนหายใจ จู่ๆก็มีเสียงกดออดดังขึ้นมา พระพายหันไปมองหน้าพิธานซึ่งเป็นคนลุกไปดูว่าใครมาหาในเวลานี้

“มาแล้วเหรอ” เสียงพิธานพูดเช่นนั้นและเดินกลับมายังโซฟา พ่วงด้วยผู้มาเยือนคือไคนั่นเอง พระพายที่เห็นก็ทักทายทันทีด้วยความรวดเร็ว

“คุณไค หายไปไหนมา?” ไคยิ้มให้ก่อนตอบ

“เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ไปติดต่อเรื่องงาน” ไคว่าและนั่งลง

“ไปเอานานเลย” พระพายว่า

“ทางนี้เป็นไงบ้าง?” ไคถามขึ้นมือนั้นก็รับขนมจากพิธานมา

“ก็เรื่อยๆครับ แต่ว่า...” พระพายอยากจะเอ่ยเรื่องของเก้าขึ้นมาแต่ใจหนึ่งก็กลัวจะวุ่นวายจนเกินเหตุไป เพราะเป็นเรื่องของทั้งสองคนไม่ใช่เรื่องของเขาเลย

“แต่ว่าอะไรเหรอพระพาย?” ไคถามอย่างสงสัย

“ไม่มีอะไรหรอก” พิธานเป็นคนพูดตัดบท

“ดีจังนะ นายได้อยู่กับพระพายแล้ว” ไคว่าและทานขนมไปเรื่อย

“คุณไค...ติดต่อเก้าบ้างไหม?” ในที่สุดพระพายก็ทนไม่ไหวถามเรื่องเก้าออกมาจนได้ ไคเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ

“ไม่เลย” เมื่อได้ยินเช่นนั้นพระพายเองไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อไปดี

“ไปพักก่อนเถอะ พรุ่งนี้ไปหาอะไรกินกัน” อีกครั้งที่พิธานเป็นคนจบบทสนทนาให้ พระพายถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่สองของวันนี้

“กี่โมงก็บอกมา ไปนะพระพาย” ไคว่าและเดินออกจากห้องไป

“โอ๊ย....ทำไมผมถึงเป็นคนแบบนี้นะ” พระพายขยี้ผมตัวเองเพราะรู้สึกถึงความงี่เง่าของตัวเองได้อย่างชัดเจน

“แบบไหนล่ะ?” พิธานถามพลางเคี้ยวขนม

“ก็เงอะงะ งี่เง่าแบบนี้ไง” พระพายหันไปตอบพิธาน

“คิดมาก”

“ไม่ได้คิดมากนะ แต่เป็นแบบนั้นจริงๆ” พระพายว่า

“พรุ่งนี้จะไปกินข้าวกัน ได้ยินแล้วใช่ไหม?” พิธานถามขึ้น

“ได้ยิน ทำไมเหรอ?” พิธานป้อนขนมให้พระพาย ซึ่งก็อ้าปากรับขนมที่ยื่นมาให้

“รู้ใช่ไหม จะต้องทำยังไง” พิธานว่าพลางใช้นิ้วจิ้มริมฝีปากของพระพายเบาๆ

“ทำอะไรยังไง?” พระพายเงียบไปก่อนจะร้องอ๋อขึ้นมา

“โทรนัดเก้า” พระพายยิ้มกว้างออกมาทันที

“ก็ไม่ได้งี่เง่าแล้วนี่ จริงไหม?” พิธานเหมือนจะเอ่ยชมกลายๆ

“นี่คุณคิดจะช่วยสองคนนั้นใช่ไหม?” พระพายหันไปถามพิธาน

“ไม่สักหน่อย” แม้จะพูดเช่นนั้นแต่รู้ดีว่านี่คือการช่วยแบบอ้อมๆของพิธาน

“จริงเหรอ?” พระพายแหย่ถาม

“ก็จริงสิ” พิธานตอบกลับ


        พระพายได้แต่ยิ้มๆในความปากแข็งของพิธาน ทั้งสองนั่งดูทีวีพลางทานขนมไปและพระพายก็จัดการส่งข้อความหาเก้าเพื่อนัดทานข้าววันพรุ่งนี้ ทีแรกเก้าบ่ายเบี่ยงที่จะไม่ไป อีกทั้งเอาแต่ถามว่าใครจะไปบ้าง คงกลัวที่จะต้องเจอไคอย่างแน่นอน แต่พระพายก็ขอร้องจนในที่สุดก็ยอมแต่โดยดีและแน่นอนว่าพระพายไม่ได้บอกแต่อย่างใดว่าพรุ่งนี้นั้นมีไคไปด้วย เพราะหากหลุดพูดออกไปเก้าต้องไม่มาอย่างแน่นอน

..
.

        วันเสาร์วันสุดท้ายของการทำงาน พระพายที่รีบเร่งจัดการงานให้เสร็จอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมไปทานข้าวกับพิธาน ไคและเก้า ซึ่งแน่นอนว่าร้านนั้นเป็นร้านอาหารกึ่งผับเพราะอย่างน้อยก็ต้องได้ดื่มกันบ้างตามประสาผู้ชาย

        พระพายทำงานและทานอาหารเที่ยงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กลับไปทำงานต่อ เพราะงานชิ้นนี้จะต้องเสร็จก่อนเลิกงานตามคำสั่ง พระพายจึงตั้งใจทำงานและไม่คุยเล่นกับพี่ๆในแผนกเลย

        เวลาล่วงเลยมาถึงห้าโมงแล้ว อีกนิดเท่านั้นพระพายก็ใกล้จะเสร็จงานแล้ว จู่ๆมีเสียงสั่นครืดๆจากโทรศัพท์มือถือ เป็นพิธานที่โทรเข้ามา พระพายไม่ได้กดรับใดๆเพราะยังต้องทำงานต่อ

        ครึ่งชั่วโมงให้หลัง พระพายก็ทำงานเสร็จตามกำหนด พรูลมหายใจออกมาแรงๆเพราะเสร็จเสียทีแม้จะเกินเวลาไปนิดหน่อยก็ตาม จากนั้นก็รีบไปส่งให้หัวหน้าแผนกที่นั่งรองานด้วยใบหน้านิ่วคิ้วขมวด พระพายได้แต่ยกมือไหว้ปะลกๆจากนั้นก็ตอกบัตรออกจากออฟฟิศทันที

        สิ่งแรกที่เห็นคือพิธานที่ยืนรออยู่ เวลานี้มีผู้คนเยอะแยะมากมายเพราะเป็นเวลาเลิกงานแต่กระนั้นความโดดเด่นท่ามกลางฝูงชนก็ยังไม่หายไปไหน สาวๆที่เดินผ่านมาต่างพากันสะกิดเพื่อนให้เหล่ดู แต่เจ้าตัวนั้นกลับหน้านิ่งจนถึงขึ้นหน้าบึ้งเลยทีเดียว เมื่อเห็นเช่นนี้จึงพึงตระหนักได้ว่าเขามีแฟนที่ดูโดดเด่นทั้งหน้าตาทั้งบุคลิก เรื่องนี้ทำพระพายเกือบลืมไปเลยทีเดียว เพราะที่ผ่านมามองแต่ความเป็นตัวเองของพิธานเท่านั้น ลืมนึกไปถึงว่าหากเจอกันท่ามกลางผู้คนมากมายจะเป็นเช่นไร

“มารอตั้งแต่เมื่อไหร่?” พระพายเดินเข้าไปหาพิธานที่ยืนรออยู่ รอยยิ้มกว้างของพระพายนั้นทำเอาพิธานที่หน้าบึ้งค่อยๆกลับมาสู่ใบหน้าปกติ

“รอตั้งแต่โทรไปหาแล้ว”

“ขอโทษนะ ผมทำงาน ต้องเร่งให้เสร็จ”

“ไม่เป็นไร กลับห้องกันเถอะ” พิธานว่า คำว่ากลับห้องกันทำเอาพระพายยิ้มออกมาอีกครั้ง การอยู่ร่วมกับใครสักคนเช่นนี้มันก็ดีไม่น้อยเหมือนกัน


        พิธานขับรถมาถึงห้อง ระหว่างทางพระพายก็ส่งข้อความหาเก้า นัดสถานที่กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พิธานที่กลับมาถึงก็นั่งทำงานต่อทันทีเพราะเวลาที่นัดไว้อีกประมาณสองชั่วโมงกว่า

“งานเยอะเหรอ?” พระพายถามพลางมองพิธานที่นั่งทำงานเงียบๆ

“เป็นประจำ” พิธานว่า

“เหนื่อยไหม มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ”

“มีสิ”

“ให้ทำอะไรเหรอ?”

“ทำให้หายเหนื่อยหน่อย” พิธานว่าพลางเอื้อมมือไปลูบสะโพกพระพาย

“มันจะเหนื่อยกว่าเดิมรึเปล่า?” พระพายรู้ดีว่าพิธานกำลังคิดเรื่องอะไร

“ไม่เลย ทำแล้วจะสบายตัว”

“คุณนี่จริงๆเลย ทำงานๆ” พระพายรีบเด้งตัวออกมาพลางหัวเราะ พิธานยิ้มนิดๆก่อนที่จะทำงานต่อ


        จนในที่สุดก็ใกล้ถึงเวลานัด พระพายจึงไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน จากนั้นก็ไปบอกพิธานให้อาบน้ำได้แล้ว ซึ่งพิธานก็วางมือจากงานและเดินไปอาบน้ำทันที ใช้เวลาไม่นานนักทั้งสองก็แต่งตัวเสร็จ พิธานเดินออกไปหน้าประตูและกดออดเรียกไคที่อยู่ในห้อง พระพายยืนมองอยู่หน้าประตูเช่นกัน

“โทษที จะไปช้าหน่อย ไปก่อนเลย” ไคออกมาบอกเช่นนั้น

“อีกนานรึเปล่า?” พิธานถาม

“ไม่น่าจะเกินชั่วโมง เดี๋ยวเจอกัน” ไคบอกและปิดประตูทันที

“เราไปกันก่อนเถอะ” พิธานว่าอย่างนั้น


        พิธานขับรถออกมาจากคอนโด ซึ่งเก้านั้นส่งข้อความมาบอกว่าใกล้ถึงร้านที่นัดกันแล้ว พระพายจึงบอกว่าใกล้ถึงแล้วเหมือนกัน ใช้เวลาไปพอสมควรกว่าทั้งสองคนจะถึง ซึ่งเก้ายืนรออยู่แล้ว

“ทำไมไม่เข้าไปก่อนวะ” พระพายถามหลังลงจากรถ

“กูไม่เคยมาที่นี่ รอเข้าพร้อมมึงนั่นแหละดีแล้วจะได้ไม่เก้อ” เก้าว่า

“เข้าไปกันเถอะ” พระพายว่าและเดินพร้อมกันกับเก้า ด้านพิธานก็เดินตามหลังไป


        ร้านแห่งนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากร้านเดิมที่ไปมามากมายนัก วันนี้คนเยอะเพราะเป็นคืนวันเสาร์ ผู้คนจึงพากันมาสังสรรค์กัน ทั้งสามคนเดินไปยังโต๊ะที่ว่างอยู่พอดี

        เก้าในวันนี้ก็ยังคงดูไม่ต่างจากเก้าที่เห็นเมื่อครั้งล่าสุด ยังคงดูเหนื่อยๆและดูไม่สดใสเช่นเคย แม้เจ้าตัวจะพูดเยอะและพูดเล่นเหมือนทุกๆครั้งแต่กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป เหมือนกลบเกลื่อนทุกอย่างด้วยการกระทำที่เป็นปกติเหมือนเดิม

“เก้า...งานเยอะเหรอ?” พระพายถามขึ้น หลังจากที่พิธานรัวสั่งอาหารไปชุดใหญ่กับพนักงาน

“เยอะสิ ถามทำไมวะ?”

“มึงดูเหนื่อยๆ”

“ก็เหนื่อยตลอดแหละ” เก้าตอบแบบเลี่ยงๆ อีกทั้งพิธานก็นั่งอยู่ด้วยจึงไม่อยากจะพูดอะไรมาก

“ยังไงก็อย่าหักโหมนะมึง” พระพายพูดได้เพียงเท่านั้น


        ตอนนี้อาหารยังไม่มาเพราะลูกค้าเยอะและโต๊ะเต็มทุกโต๊ะ นั่นแปลว่าอาหารอาจจะมาช้าไปสักหน่อย ตอนนี้พระพายจึงนั่งฟังเพลงไปเรื่อยๆบางครั้งก็หันไปคุยกับเก้า ซึ่งนั่งดื่มตั้งแต่อาหารยังไม่มาเลยทีเดียว

“เผื่อท้องกินข้าวด้วยสิ” พระพายว่าขึ้น เมื่อเห็นเก้าดื่มเอาๆ

“คอแห้ง” เก้าบอกเช่นนั้น

“น้ำเปล่าก็มี” พระพายมองอย่างรู้ทัน

“มันไม่สดชื่น” เก้ายิ้มทะเล้นแต่สายตานั้นไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับรอยยิ้ม

“เออๆ เอาที่สบายใจ” พระพายแค่นั้น


        พิธานนั่งกดโทรศัพท์อยู่เงียบๆ พระพายแอบชะโงกดูว่าคุยกับใครซึ่งไม่ใช่ใครแต่เป็นอีกคนที่นัดไว้และกำลังเดินทางมาแล้วในตอนนี้

              พระพายที่นั่งใจเต้นอย่างระทึก ลุ้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ถ้าเก้าเห็นหน้าไคจะทำอย่างไรและทั้งสองจะคุยกันได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่พระพายนึกอยู่ในตอนนี้ ผิดกับพิธานที่ไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น นั่งนิ่งเฉยเมยอย่างเฉกเช่นเคย

        เพียงไม่นานนักอาหารก็เริ่มทยอยวางลงบนโต๊ะ พระพายที่หิวจัดก็เริ่มลงมือทานอาหารทันที ด้านเก้าทานอาหารเพียงนิดหน่อยเท่านั้นและในที่สุดคนสุดท้ายที่จะตามมาสมทบก็มาถึง

“มาแล้วเหรอ?” พิธานเอ่ยขึ้น เก้ารีบหันไปมองว่าใครมาและแน่นอนว่าเป็นไคที่เดินมาพร้อมส่งยิ้มบางๆให้ เก้าผุดลุกขึ้นทันที เมื่อเห็นไคก็รู้ดีว่าพระพายต้องมีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้แน่

“พาย กูกลับละนะ” เก้าบอกเช่นนั้นแต่พระพายรีบดึงไว้ด้วยความรวดเร็ว

“อยู่ก่อนมึง อย่าเพิ่งกลับ”

“กูจะกลับ” เก้าพยายามดึงมือของพระพายออกไปให้พ้น

“นี่....อย่าทำกับพระพายแบบนั้น” พิธานเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจนักที่เห็นเก้าพยายามปัดมือพระพาย

“ก็ปล่อยกูสิ” เก้าร้องขึ้น

“อยู่ก่อนเถอะมึง กูขอ” พระพายยังคงขอร้อง

“แต่...”

“อย่าทำให้พระพายลำบากใจสิ” ไคเอ่ยขึ้นเช่นนั้น เก้าจึงนิ่งลงทันที


        ความเงียบท่ามกลางเสียงเพลงโดยรอบที่กำลังเกิดขึ้น เก้ายืนนิ่งและหลบสายตามองทางอื่นอย่างไม่อยากจะมองไคนัก ไคเองก็ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมาเลย ความอึดอัดนี้ที่กำลังกระจายไปทั่วทำเอาพระพายเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

“นั่งลงเถอะมึง” พระพายเอ่ยทำลายความเงียบ เก้าจึงยอมนั่งลงในที่สุด พระพายรีบย้ายฝั่งไปนั่งข้างเก้า โดยที่ให้ไคไปนั่งข้างพิธานแทน

        เมื่อนั่งลงแล้วเก้าก็เอาแต่ดื่มอย่างเดียวไม่แตะอาหารเลยสักนิด ดื่มชนิดที่ว่าไม่ยอมวางแก้วจนพระพายต้องคอยเติมคอยชงแทนพนักงานเพราะวิ่งมาทำให้ไม่ทัน ไคเหลือบมองเก้าเพียงนิดจากนั้นก็หันไปคุยกับพิธานเป็นระยะๆ

“พอได้แล้ว” พระพายพูดขึ้น

“บ่นอะไรน้องพาย ชงให้พี่ไวๆเลย” อีกครั้งที่เก้ากลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มและครั้งนี้เห็นได้ชัดเจนว่าทำได้ไม่ดีพอ สำหรับพระพายเห็นได้ชัดเจนว่าเก้ากำลังฝืนตัวเองอยู่


        นั่งไปได้สักพัก เก้าก็ลุกขอไปเข้าห้องน้ำ เดินไปด้วยความรวดเร็วโดยที่พระพายไม่อาจจะพูดอะไรได้ทัน เมื่อเข้าไปถึงห้องน้ำที่ว่างเปล่าไม่มีคนใช้เลยสักคน ซึ่งในห้องน้ำมีทั้งโถยืนและห้องน้ำที่แย่งเป็นห้องเล็กๆ เก้าเดินเข้าไปในห้องแรก นั่งลงบนชักโครกและปิดประตูทันที

        ไม่คาดคิดเลยจริงๆว่าจะมาเห็นไคในตอนนี้ หลังจากที่ไม่ได้เห็นกันมาสักพักใหญ่ รู้ตัวดีว่าในตอนนี้ยากลำบากขนาดไหนแม้แต่จะมองหน้ายังไม่ได้ ความปวดหนึบเกิดขึ้นทันที หัวใจเต้นผิดจังหวะจนรู้สึกว่าตัวเองอาจจะออกอาการให้คนอื่นเห็นอย่างแน่นอน

        ไม่อยากจะกลับไปนั่งตรงนั้นแล้ว อยากจะหายตัวไปในตอนนี้ในทันที ครั้นจะให้นั่งหลบในนี้ไปตลอดก็ไม่ได้ เก้าจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องน้ำ คิดจะแอบหนีกลับโดยไม่บอกเพื่อน แต่เมื่อเปิดประตูไปก็พบคนที่ไม่อยากพบมากที่สุดในตอนนี้กำลังยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำของตน

“มึง....” เก้าเอ่ยขึ้นมา ไคจ้องมองเก้าด้วยสายตานิ่งๆ

“สบายดีไหม?” ไคถามขึ้น น้ำเสียงที่ไม่ได้ยินมานานนั้นทำเอาเก้าใจแกว่ง

“อืม”

“จริงเหรอ ดูเหมือนไม่สบายมากกว่า”  ไคมองอย่างพินิจพิจารณาใบหน้าของเก้า

“กูจะออกไปข้างนอก” เก้าพูดแต่ไคกลับใช้มือกั้นไว้ไม่ให้เก้าเดินออกไปได้

“ที่จริงเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”

“แต่กูไม่มี”

“มีเรื่องอะไรที่ปิดบังฉันใช่ไหม?”

“ไม่มี”

“ถ้าไม่มีก็คุยกันก่อน”

“กูไม่อยากคุย ไม่อยากอยู่ใกล้มึง และมึงบอกแล้วนี่ว่าจะไม่มายุ่งกูอีก แล้วนี่มายุ่งกับกูทำไม?” เก้าซัดยาวทันที

“นั่นก็เพราะฉันคิดว่านายต้องการแบบนั้นจริงๆ”

“กูต้องการอย่างนั้นแหละ มึงคิดว่ากูโกหกรึไง?” เก้าขึ้นเสียงทีละนิด

“ใช่ นายโกหก”

“กูพูดความจริงไค”

“นายโกหก นายมีเรื่องปิดบังฉันและฉันทิ้งระยะห่างให้นายหลายอาทิตย์แล้ว วันนี้เราคงต้องพูดกันซะที” ความจริงจังของไคนั้นทำเอาเก้าเริ่มหัวเสียเพราะความพยายามที่ทำมาตลอดกำลังเริ่มจะพังทีละนิดแล้ว

“ไค..กูไม่มีเรื่องอะไรทั้งนั้น กูแค่ไม่ได้ชอบมึง”

            เก้าพูดออกไปอีกครั้ง แม้จะรู้ดีว่าเป็นคำโกหกแต่ก็ต้องพูดมันออกไป แม้จะตรงข้ามกับความรู้สึกในใจแต่เก้าก็จะพูดมันออกไป จะไม่ยอมเปิดใจรับมันอีกแล้วเพราะมันจะเจ็บปวดหากลองได้รักใครอีกครั้ง ไม่อยากจะมีความทรงจำแย่ๆอีกหากได้ลองรักแล้วต้องเจอกับความผิดหวังแน่นอน เก้าจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีกแม้จะรู้สึกดีแค่ไหนก็ตาม

“พูดแล้วมองฉันตรงๆ” ไคว่าพลางเข้าไปใกล้เก้ากว่าเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะยอมแต่อย่างใด จะอย่างไรวันนี้ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง

“มึงห้ามเข้ามาใกล้กูมากกว่านี้นะ” เก้าพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังมากยิ่งขึ้น

“ถ้าไม่ใกล้ นายก็จะหนี”

“ขอร้องเถอะไค อย่ายุ่งกับกูเลย”


        น้ำเสียงเริ่มอ่อนลงและขณะเดียวกันมีคนเดินเข้ามาในห้องน้ำพอดี ไคจึงใช้จังหวะนี้ดึงเก้าเข้าไปยังห้องน้ำที่เก้าเพิ่งเดินออกมาและจัดการล็อคประตูเรียบร้อย

“เดี๋ยว!!” เก้าร้องขึ้นมาและก็พลันนึกขึ้นได้ว่าหากเสียงดังคนอื่นที่เข้ามาในห้องน้ำอาจจะสงสัยได้ว่าเกิดอะไรขึ้น


        ไคยกมือทั้งสองข้างดันประตูไว้ เพื่อกั้นไม่ให้เก้าหลบหนีไปได้ เก้าเสหน้าหลบทันที ใบหน้านั้นใกล้กันจนระยะห่างมีเพียงไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น

“จะคุยที่นี่หรือไปคุยที่อื่น?” ไคถาม เก้าเงียบไม่ยอมตอบ

“ถ้าอย่างนั้นก็คุยกันที่นี่แหละ” เก้าหันมองไคทันที

“ไม่เอา..ไม่คุย”

“เก้า...ฉันให้โอกาสนายอีกครั้ง จะคุยที่นี่หรือคุยที่อื่น”

            สายตาดุดันนั้นส่งมายังเก้า รู้สึกได้ว่าไคไม่ได้เป็นเล่นเหมือนทุกครั้ง เหมือนกำลังคุยกับไคที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ดูน่ากลัวจนเริ่มคิดว่าหากดื้อเพ่งต่อไปไคจะต้องน่ากลัวมากกว่านี้แน่นอน

“ไม่...ไม่เอาที่นี่” เก้าตอบพลางหลบสายตา

“ตามนั้น” ไคว่าและเปิดประตูออกจูงมือเก้าออกมาด้วย

        ลูกค้าคนอื่นที่ใช้โถยืนอยู่ถึงกับตกใจที่เห็นที่เห็นทั้งสองคนออกมาจากห้องน้ำนั้นพร้อมกันและเดินจูงมือกันออกไปอีกด้วย ไคดึงเก้าไปยังโต๊ะที่พิธานและพระพายนั่งอยู่ก่อนจะพูดขึ้น

“กลับก่อนนะ มีเรื่องต้องจัดการ” ไคพูดเท่านั้น พิธานพยักหน้ารับ พระพายได้แต่หน้าตาเหรอหราที่เห็นเก้าถูกไคลากออกไปแล้ว โดยที่เก้าได้แต่มองไปทางอื่นไม่พูดไม่จาอะไรทั้งสิ้น

“คุณพิธาน...เกิดอะไรขึ้น?” พระพายถามอย่างงงๆ

“คงไปคุยกัน ปล่อยไปเถอะ กินข้าวดีกว่า” พิธานพูดเท่านั้น พระพายได้แต่พยักหน้าและภาวนาขอให้ทั้งสองคนปรับความเข้าใจกันด้วยดี..    


Lyrics: Too good at goodbyes by Sam Smith   
   
 



ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ไคสู้ๆ จ้า  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
คุยกันให้รู้เรื่องเถอะนะ  :hao5:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
คุยกันให้เคลียร์ๆไป อึดอัดเหลือเกิน

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
คุยกันให้เข้าใจนะจ๊ะ หรือถ้าจะดีก็นั่งคุยกันบนเตียงเลย :hao3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เคลียร์กันดี ๆ ข้องใจตรงไหนก็ซักให้ละเอียด

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เปิดอกคุยกันให้เคลียร์ไปเลย  :hao3:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ง่าาาาา อยากให้2คนนี้เข้าใจกันเร็วๆ มาต่อเร็วๆนะค๊าาาา :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
เคลียร์ให้จบทุกปัญหาค้างคาใจนะสองคน
มันอึมครึม อึดอัด หมองหม่นมานานแล้ว
โลกจะได้สว่างไสว สดใส เต็มไปด้วยสีชมพูแบบห้องตรงข้ามเขาบ้าง
เอาใจช่วยไคให้จบเคสนี้ได้แบบดีๆค่ะ

อัพตั้งแต่เมื่อไหร่อิฉันไม่รู้เรื่องเลย TT

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่า  :mc4: ตอนที่ 41 มาแล้วนะคะ มาอ่านกันต่อค่ะว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เช่นเคยค่ะ หากมีคำผิดหรือข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขอบคุณทุกๆกำลังใจและคอมเม้นท์ เจอกันตอนต่อไปค่ะ  :bye2:

+++++++++++++++++++++++++++

Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 41 Can’t fight.


You can try to resist
เธอจะพยายามต้านทาน
Try to hide from my kiss
หลบซ่อนจากจูบของฉันก็ได้
But you know
แต่เธอรู้หรือไม่ว่า
Don’t you know that you can’t fight the moonlight
เธอไม่สามารถต่อต้านแสงจันทร์ได้หรอก
Deep in the dark
ลึกลงไปในความมืดมิด
You’ll surrender your heart
ใจเธอจะต้องพ่ายแพ้
But you know
แต่เธอรู้หรือไม่ว่า
But you know that you can’t fight the moonlight
เธอไม่สามารถต่อต้านแสงจันทร์ได้หรอก
No, you can’t fight it
เธอต่อสู้กับมันไม่ได้
It’s gonna get to your heart
มันจะคืบคลานเข้าไปในจิตใจเธอ
   

        เก้าขึ้นรถของไคโดยไม่อาจจะต่อรองได้ ไคขับรถออกไปด้วยความรวดเร็วโดยที่ทั้งสองยังคงมีแต่ความเงียบเชียบ เก้ามองไปยังข้างทางด้วยสายตาที่เลื่อนลอย ไคเองก็ไม่พูดอะไรออกมาสิ่งที่ทำตอนนี้คือตั้งใจขับรถและมองไปยังทางข้างหน้าเท่านั้น

        ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะถึงคอนโด เก้ารู้อยู่แล้วว่าไคต้องพามาที่นี่อย่างแน่นอน รถยนต์จอดสนิท ไคเปิดประตูออกและเดินมาฝั่งของเก้าที่ยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมลงจากรถ

“ลงมา”

             ไคพูดเท่านั้นและเปิดประตูให้เก้าลงมา ซึ่งเก้าก็ยอมลงเพราะจะอย่างไรก็มาถึงที่นี่แล้ว จะอิดออดก็คงสายไปแล้ว เก้าจึงยอมลงจากรถและเดินตามไคไป

        ระหว่างที่เดินไปจนกระทั่งอยู่ในลิฟต์ เก้าเอาแต่คิดว่าจะทำอย่างไร จะเงียบไปไม่พูดหรือพูดให้มันรู้แล้วรู้รอด เพราะหากไม่พูดเก้าก็จะได้ในสิ่งที่ต้องการคือการตัดขาดจากไค แต่หากพูดออกไปเท่ากับว่าต้องยอมรับความรู้สึกของตัวเองที่เอาแต่หนีมาโดยตลอด

        เมื่อมาถึงห้อง ไคก็เปิดประตูและให้เก้าเข้าไปก่อน เก้าถอนหายใจแรงๆออกมาเมื่อต้องกลับมายังห้องนี้อีกครั้ง หลังจากที่คิดเอาไว้ว่าจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกแล้ว เมื่อเก้าเข้าไปในห้องแล้วไคถึงจะเดินตามเข้าไปและปิดประตูลง

        เก้ายืนนิ่งอยู่อย่างนั้นเพราะไม่รู้จะไปนั่งหรืออยู่ตรงจุดไหนของห้อง ไคจึงต้องลากเก้าไปยังโซฟาในห้องและกดบ่าของเก้าให้นั่งลง เก้าสะบัดทันทีที่ไคเริ่มแตะตัวเขา

“รังเกียจกันขนาดนั้นเลย?” ไคถาม เก้าไม่พูดไม่จามีเพียงแต่สีหน้านิ่งๆเป็นคำตอบ

“มีเรื่องอะไรที่ฉันไม่รู้?” ไคถามขึ้นทันทีอย่างไม่ต้องรอเปิดประเด็น

“ไม่มีอะไรทั้งนั้น”

“ไม่จริง จู่ๆหลังจากคืนนั้นนายก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนไปแบบทันทีเลยด้วย”

“กูไม่รู้ว่ามึงพูดเรื่องอะไร แต่กูไม่มีอะไรจะพูดกับมึง” เก้ายังคงยืนกรานอยู่อย่างนั้น

“ฉันรู้นะ..ว่านายคิดว่าฉันไม่ได้ชอบนายจริงๆ” ไคพูดขึ้นมา เก้าชะงักก่อนที่จะทำตัวปกติอีกครั้ง

“มันก็ใช่นี่ มึงไม่ได้ชอบกูหรอก”

“แล้วนายเอาอะไรมาตัดสินล่ะ ว่าฉันไม่ได้ชอบนายจริงๆ” สำหรับไคจะอย่างไรวันนี้ก็ต้องพูดให้รู้เรื่อง


        หลังจากคืนนั้นที่เก้าไปนอนค้าง ไคก็ไม่ได้เจอหน้าเก้าอีกเลย ไม่คิดจะติดต่อหรือไปให้เห็นหน้าเลยสักนิด ไม่ใช่เพราะยอมแพ้หรือตัดใจแต่อย่างใดแต่ไคกลับเลือกที่จะทิ้งระยะห่างและเวลาให้เก้าได้อยู่กับตัวเอง การถอยออกมาจะทำให้เห็นอะไรได้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งตัวของเก้าและของเขาเอง ที่ผ่านมาเขาเชื่อเสมอว่าเก้าหวั่นไหวและเริ่มที่จะเปิดใจให้เขาทีละนิดๆ เชื่อว่าสายตาและท่าทีของเก้าไม่ใช่เรื่องโกหกและยิ่งเป็นคนตรงๆพูดจาโผงผางก็ยิ่งแสดงได้ชัดเจนว่าเป็นคนที่ไม่สามารถปกปิดความรู้สึกได้ดีถึงขนาดนั้น

        แต่สิ่งที่ขัดใจไคคือเพราะเหตุใดเก้าถึงเป็นเช่นนี้ ทำไมเก้าถึงเลือกที่จะโกหกความรู้สึกตัวเองและตัดมันอย่างเร่งด่วนเช่นนี้ จะให้ไปถามพระพายก็ใช่ที เพราะไม่อยากให้คนอื่นวุ่นวายไปกับเรื่องนี้ด้วย

        เก้าเงียบไปเพราะไม่รู้จะเอาอะไรไปโต้เถียงไค จริงอยู่ที่เหมือนคิดเองเออเองและสมควรถามมากกว่าจะผูกเรื่องด้วยตัวเอง แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเก้าไม่อยากจะมีความรู้สึกลึกซึ้งกับใครอีกแล้ว จึงทำให้ต้องตัดไคออกไปเช่นนี้

“ถ้าพูดแค่เรื่องนี้กูก็จะกลับแล้ว” เก้าทำท่าจะลุกขึ้น

“ทำไมนายถึงสงสัยว่าฉันไม่ชอบนาย ทั้งๆที่ฉันไม่มีใครเลย” ไคพูดออกพลางรั้งแขนของเก้าไว้

“มึงมี!!” ในที่สุดเก้าก็ตะโกนออกมาใส่หน้าของไคจนได้ ความอดทนอดกลั้นพังลงทันที

“เอาอะไรมาพูด?” ไคขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจที่ได้ยินเช่นนั้น

“มึงมีคนของมึงอยู่แล้ว มึงจะมายุ่งกับกูทำไม?” เสียงของเก้าดังขึ้นกว่าเดิม

“มีเมื่อไหร่ นายเห็นตอนไหน?”

“หลักฐานโทนโท่ขนาดนั้น มึงยังจะบอกว่าไม่อีก” เสียงของเก้าไม่มีทีท่าว่าจะลดลงด้วย

“หลักฐานอะไร นายเห็นอะไร?” ไคถามยังไม่เข้าใจ

“เขาชื่อไมค์” เก้าพูดพลางมองหน้าไค มองปฏิกิริยาว่าไคจะเป็นอย่างไร

“ไมค์...ไมค์เหรอ?” ไคหน้านิ่วพลางนึก

“อ๋อ..ไมค์น่ะเหรอ นายรู้จักไมค์ได้ยังไง?” ไคถามอย่างสงสัยทันที

“กูไม่รู้จัก รู้แค่ว่าเขาเป็นคนสำคัญของมึง” เก้าว่าพลางเสมองไปทางพื้น ไคชะงักไปครู่หนึ่งก่อนที่จะนึกอะไรขึ้นมาได้

“อืม...รูปไมค์น่าจะอยู่แถวชั้นวางหนังสือนะ” ไคว่าและเดินไปหาค้นรูปที่น่าจะอยู่ตรงนั้น และเมื่อเจอไคก็หยิบมันมา


        ไคดูรูปนั้นพลางยิ้มออกมาแล้วยื่นให้เก้าดู แน่นอนว่าเก้าไม่ยอมดูพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่น ไคหัวเราะออกมาก่อนที่จะพูดขึ้น

“อย่าบอกนะว่านายคิดว่าไมค์คือแฟนของฉัน?” เก้าเงียบแต่ในใจนั้นรู้สึกโมโหที่ไคหัวเราะออกมา ทั้งๆที่เขานั้นรู้สึกอึดอัดใจที่ต้องมานั่งคุยกันในตอนนี้

“นี่นายคิดเองเออเองหมดเลยเหรอ?” ไคหัวเราะอีกครั้งนั่นทำให้เก้าโมโหยิ่งกว่าเก่า

“กูผิดรึไงที่คิดแบบนั้น มึงเขียนข้อความอย่างนี้ ดูก็รู้ว่าใช่” เก้าพูดเสียงดังใส่ไค

“แต่นายต้องถามฉันก่อน ไม่ใช่ไปขี้ตู่เอาเองว่าเรื่องมันเป็นแบบไหน” ไคว่ากลับทันที คราวนี้หยุดหัวเราะและกลับมาจริงจังอีกครั้ง

“ทำไมต้องถาม ดูแค่นี้ก็รู้แล้ว”

“ต้องถาม เพราะที่นายคิดน่ะมันผิด” เก้าชะงักเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“ไมค์ เป็นเด็กกำพร้า ที่แม่ฉันอุปการะต่างหาก” ไคบอก

“มึงจะบอกว่า...” เก้าหันไปมองไคที่กำลังจะอธิบายต่อ

“ใช่ ถ้าว่ากันตามความจริง ไมค์เป็นน้องชายของฉันตามกฎหมาย”

“แต่ความจริงมึงหลงรักน้องมึงเองใช่ไหม?” ยิ่งพูดก็รู้สึกยิ่งเจ็บดิ่งลงไปมากขึ้น

“ไปกันใหญ่ ฉันแค่เป็นพวกบราค่อนน่ะ” ไคว่า

“อะไรคือบราค่อนวะ?” เก้างงทันทีที่ได้ยิน

“ไม่เคยอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นรึไง พวกเห่อน้องน่ะ” ไคจึงต้องอธิบายแม้ว่ามันจะน่าอายก็ตามที เขาไม่ค่อยอยากให้ใครรู้ว่าเขาเป็นพวกเห่อและหวงน้องชาย

“มึงอาการหนักขนาดนั้นเลยรึไง?” เก้ามองอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าไคเป็นคนแบบนั้น

“ก็เลี้ยงกันมาตั้งแต่เด็กๆ เลยหวงเป็นธรรมดา” ไคว่า

“มึงแน่ใจเหรอว่าแค่หวง มึงอาจจะตกหลุมรักน้องโดยไม่รู้ตัวก็ได้” ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันไม่แปลกที่จะคิดเช่นนั้นได้

“ไม่เอาหรอก ไม่เคยคิดเลยสักครั้ง” ไคบอกพลางส่ายหน้ารัวๆ

“เอาเถอะ มึงจะยังไงก็เรื่องของมึง ถ้าคุยจบแล้วกูไปล่ะ” เก้าลุกขึ้น แต่ไคกลับรั้งไว้ทัน

“อย่าหนีสิ ฉันอธิบายเรื่องที่นายเข้าใจผิดไปหมดแล้วนะ”

“แล้วยังไง มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก” เก้าว่า

“มีสิ ที่นายคิดมากเรื่องนี้เพราะนายหึง”

“อะไรนะ! ใครหึงมึง มึงเพ้อไปกันใหญ่แล้ว” เก้าหันไปว่าทันที

“ถ้านายไม่หึง นายจะทำแบบที่ผ่านมาทำไมล่ะ?”

“เพราะ...เพราะกูไม่อยากยุ่งกับมึงก็เท่านั้น” เก้าพูดพลางดึงแขนของตัวเองจากการกอบกุมของไค

“บางครั้งเวลานายปากแข็งก็น่ารักนะ แต่บางทีมันก็กวนโอ๊ยฉันเหมือนกัน” ไคว่าด้วยน้ำเสียงที่ติดจะหงุดหงิดมากขึ้นและดึงเก้าเข้ามากอดไว้อย่างรวดเร็วและรุนแรง

“ไอ้ไค มึงจะทำอะไร ปล่อย!” เก้าร้องขึ้นพลางดันไคให้ปล่อย แต่ก็เท่านั้นไคยิ่งกอดแน่นกว่าเดิม

“นิ่งๆสิ” ไคว่า

“ปล่อย” เก้ายังคงดึงดันไม่ยอมให้ไคกอดแต่โดยดี

“บอกให้นิ่ง”

            ไคบอกด้วยน้ำเสียงไม่ได้ดังมากนัก แต่มันเต็มไปด้วยความดุดันและน้ำเสียงที่คิดว่าหากไม่ทำตามจะต้องเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ เก้านิ่งทันทีที่ได้ยินคำนั้น ไคตอนนี้เหมือนไคในตอนนั้นที่มาตามราวีเขาในช่วงแรกๆ

“มึง..เป็นคนยังไงกันแน่?” เก้าถามพลางสบตามองไคตรงๆ ยิ่งเห็นดวงตาเป็นประกายที่เยือกเย็นทั้งๆที่เหมือนจะยิ้มอยู่กลายๆ

“ก็เป็นคนธรรมดา”

“แบบไหนคือตัวจริงของมึงกันแน่?” 

“ฉัน...พยายามที่จะใจดีและสนุกสนานกับนาย จนบางครั้งก็ลืมไปว่าความเป็นจริงคืออะไร” เก้านิ่งพลางฟังสิ่งที่ไคกำลังพูด

“ที่ผ่านมา....ไม่ใช่ตัวตนมึงเหรอ?”

“มันเป็นแค่ส่วนหนึ่ง มีอีกหลายอย่างที่นายจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับฉัน” เก้าว่าพลางใช้นิ้วแตะแก้มของเก้าเบาๆ

“แต่เรื่องที่จริงที่สุดในตอนนี้คือฉันชอบนาย...ชอบนายจริงๆนะ”

“แต่กู...กูไม่ได้ชอบมึง” เก้าบอก

“ให้โอกาสพูดใหม่อีกรอบ” ไคว่า แม้น้ำเสียงจะไม่ได้กดดันแต่สีหน้านั้นผิดกับน้ำเสียงลิบลับ

 “เก้า....กลัวอะไร?” ไคถามขึ้นอีกครั้ง เก้าเม้มริมฝีปากทันที ไคที่มาในโหมดนี้ทำเอารับมือยากยิ่งกว่าเดิม

 “ไม่...ไม่ได้กลัว” เก้าบอกอย่างนั้น

“ทำไมถึงไม่อยากให้ฉันชอบนาย ทำไมถึงต้องโกหกตัวเอง” ไคถาม

“กูไม่ได้โกหก”

“บอกความจริงฉันมา...นายกลัวอะไร?” ไคถามอีกครั้ง

“มะ..ไม่รู้” เก้าเริ่มตะกุกตะกัก

“พูดสิ”

“กูไม่อยากชอบใครอีกแล้ว” ในที่สุดเก้าก็บอกความจริง เพราะถึงจะหนีอย่างไรไคก็คงตามตัวได้อยู่ดี เพราะครั้งแรกที่เจอกันไคยังตามติดเขาได้ขนาดนั้นแม้ว่าจะหนียังไงก็ตาม

“กลัวความเจ็บปวดเหรอ?” เก้าพยักหน้าเป็นคำตอบ

“คนเก่าทำไว้เจ็บขนาดนั้นเลยรึไง?”

“เจ็บสุดๆเลยล่ะ” เป็นความเจ็บปวดที่ขยาดหากจะต้องโดนอีกครั้ง

“นานไหมกว่าจะทำใจได้?” ไคถามอย่างเข้าใจในสิ่งที่เก้าผ่านมา

“นานพอดูเลย” เก้าตอบ

“กูเลยไม่อยากจริงจังกับใครอีกแล้ว”

“นายคิดแบบนั้นมันผิดนะ”

“ผิดยังไงวะ?” แม้จะถามแต่เก้าก็ยังไม่มองหน้าไคอยู่ดี

“นายจะเอารักครั้งเก่ามาตัดสินคนอื่นไม่ได้ มันไม่เหมือนกัน”

“จะคนเก่าคนใหม่สุดท้ายก็ลงเอยเหมือนเดิม รักนิรันดร์มันไม่มีอยู่จริงหรอก” เก้าเชื่อเสมอว่า คำว่าตลอดไปมันใช้ไม่ได้กับความรักของชู้สาว รักที่เก้าเชื่อคือรักของพ่อแม่ลูกต่างหาก

“โลกแคบไปแล้วนายน่ะ” ไคว่า

“กูไม่ได้โลกแคบ แต่เพราะกูอยู่ในโลกความเป็นจริงต่างหาก ถ้าไม่รักก็ไม่ทุกข์ แล้วทำไมกูต้องเอาตัวเองไปทุกข์ด้วยล่ะ”

“ถึงคิดอย่างนั้นแต่นายก็ยังชอบฉัน....ฉันคิดถูกใช่ไหม?” ไคถาม เก้ากลืนน้ำลายลงคออย่างประหม่า รู้สึกใจเต้นรัวเป็นกลอง

“ตอบฉันมา ว่าใช่ใช่ไหม?” เก้าเม้มปาก จะให้พูดออกไปก็ยิ่งเสียหน้าเข้าไปอีก

“เก้า...” ไคถามอีกครั้ง รังสีกดดันแผ่ออกมาเยอะจนทำตัวไม่ถูก

“ก็เออ แล้วไง กูชอบมึง!!” เก้าตะโกนออกมา ในที่สุดการต่อต้านภายในจิตใจก็จบลง เก้าบอกความจริงออกไปแล้ว เมื่อพูดจบก็รู้สึกอายขึ้นมาดื้อๆที่บอกออกมาโต้งๆแบบนี้

“เห็นไหม เราความรู้สึกตรงกัน”

“แต่มึงเป็นผู้ชายนะไค กับตัวกูที่ชอบแต่ผู้หญิงมาตลอด แค่นี้กูก็เป็นบ้ามากพอแล้ว” ความสับสนที่เกิดขึ้นทำเอาลังเลใจไม่น้อย

“มันไม่เกี่ยวกับหญิงหรือชายหรอก มันเกี่ยวกับความรู้สึกต่างหาก”

“แม้กูจะทำใจเรื่องนั้นได้แล้ว แต่กูยังไม่อยากคบใคร กูยังไม่พร้อม” เก้าบอก

“เราก็เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆก็ได้ จนกว่านายจะพร้อม”

“ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่น่ะเหรอ?”

“คิดว่าฉันรอไม่ได้รึไง?” ไคเลิกคิ้วถาม

“คนอย่างมึงรอกูไม่ไหวหรอก”

“เงยหน้ามาแล้วพูด...ชอบฉันจริงๆใช่ไหม?” ไคถามพลางปล่อยมือจากแขนมาจับหน้าของเก้าแล้วให้เงยหน้ามามองตน


        เก้าจึงต้องเงยหน้าขึ้นมามองไค สบตาของคนตรงหน้าอย่างตรงไปตรงมาและไม่หลบหนีอีก ใบหน้าคมคายแบบชาวตะวันตก ดวงตาที่สุกวาวเป็นประกายต่างจากตอนแรกที่เยือกเย็นนั้นจ้องมองมาที่เก้าตรงๆ แม้จะเคยจูบกันแต่เก้าไม่เคยได้มีโอกาสเห็นใบหน้าของไคชัดๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ชัดจนเต็มสองตาขนาดนี้

“บอกสิเก้า...” เก้ากระพริบตาเพื่อโฟกัสมองใบหน้าของไคก่อนที่จะพยักหน้ารับ

“เออ..ชอบ” เก้ายอมรับออกมาในที่สุด

“เท่านั้นก็พอแล้ว ฉันจะรอจนกว่านายจะพร้อมคบกัน” ไคว่าก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงและจูบริมฝีปากตรงหน้า


        นี่เป็นอีกครั้งที่เก้ายอมให้จูบโดยไม่ขัดขืนหรือดีดดิ้น เก้าหลับตาลงรับความรู้สึกอ่อนนุ่มที่แตะลงตรงริมฝีปาก ไม่มีการรุกล้ำเข้ามาแต่อย่างใดมีแต่เพียงแค่สัมผัสเบาๆซึ่งไม่อยากจะยอมรับเลยว่าทำเอาใจเบาหวิวเลยทีเดียว

“มึงขี้โกง” เก้าว่าหลังจากที่ไคละริมฝีปากออกมาแล้ว

“ตรงไหน?”

“ถามกูสักคำรึยังว่าให้จูบรึเปล่า?”

“ก็ทำหน้าเหมือนอยากให้จูบ ก็เลยทำ” ไคว่าและยิ้มออกมา
 
“เพราะมึงเป็นคนอย่างนี้ไง จะให้กูเชื่อเหรอว่าจะรอกูได้” เก้าถอนหายใจออกมา

“ได้ไม่ได้ก็มาลองดูล่ะกัน อีกอย่าง...นายยังไม่เห็นฉันครบทุกมุมเลย” ไคว่า

“ใช่ คนอย่างมึงมันร้าย ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้เลย”

“ร้ายแล้วชอบไหม?” เก้าหันหน้าไปทางอื่นทันที

“บอกสิ” ไคคะยั้นคะยอ

“ใครเขาพูดกันบ่อยๆวะ” เก้าว่าก่อนที่จะผลักไคออก

“ต่อไปมีอะไรก็ถาม อย่าเก็บเอาไปคิดคนเดียว”

“กูก็เป็นคนแบบนี้แหละ”

“บางครั้งก็ต้องปรับเปลี่ยนนะ ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อนายเอง คิดไปเองมันเจ็บปวดเปล่าๆ” ไคว่า

“เออๆ มีอะไรจะถามก็แล้วกัน”

“เฮ้อ...กว่าจะเคลียร์ได้ รู้ไหมฉันอดทนขนาดไหนที่ไม่ได้เจอหน้านายน่ะ”

“แล้วมึงไปไหนมา?”

“ไปทำงานที่ต่างประเทศมา เพิ่งได้กลับมานี่แหละ” ไคว่า

“กูก็คิดว่ามึง..” เก้าทำท่าจะพูดแต่ก็หยุดตัวเองไว้ก่อน

“คิดว่าอะไร?” ไคถามอย่างสงสัย

“คิดว่าคนอย่างมึงทำไมยอมแพ้ง่ายจัง”

“ปากแข็งแต่ก็คิดถึงฉันตลอดเลยไม่ใช่เหรอ?” ไคเหล่มองอย่างคนรู้ทัน

“อะ..อะไร ใครบอกมึงล่ะ” เก้าตะกุกตะกักทันที

“ไม่ใช่ไม่รู้นะ ว่าหลังจากวันนั้นที่แยกกันนายไปทำอะไรมาบ้าง” ไคว่า

“มึงรู้ได้ไง?” เก้าตาโตขึ้นมาทันทีที่ได้ยินว่าไครู้ความเคลื่อนไหวของเขาตลอด

“ไม่บอกดีกว่าว่ารู้ได้ยังไง” ไคยิ้มจากนั้นก็เดินหันหลังไปนั่งที่โซฟา

“มึงบอกมาสิไค มึงบอกมาเร็ว” เก้าเดินตามไปเขย่าตัวไคทันที

“อย่ารู้เลย” ไคยังคงไม่ตอบอยู่ดี

“บอกกูมานะ!” เก้าร้องออกมาพลางนึกใครกันที่คอยรายงาน

“ไม่บอกหรอก เดี๋ยวนายไหวตัวทัน” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้น

“ไค...กูเกลียดมึง!!!” เก้าร้องออกมาอย่างเหลืออด

“ได้ไง เพิ่งบอกว่าชอบอยู่หยกๆ ไหงมาเกลียดแล้วล่ะ” ไคพูดพลางหัวเราะออกมา

“มึงมันชั่ว” เก้าชกไหล่ไคไปหนึ่งที

“ในที่สุดก็กลับมาต่อปากต่อคำได้ซะที” ไคว่า เก้ารีบหยุดพูดทันที หลุดเถียงและพูดจาเหมือนทุกๆครั้งที่เจอกัน ไคจึงกอดเก้าแนบอกให้แน่นกว่าเดิมเข้าไปอีก

“กูอึดอัด”

“อึดอัดเรื่องอะไร?”

“อึดอัดที่มึงกอดกูนี่แหละ ปล่อย!” เก้าร้องออกมา  ไคหัวเราะออกมาจากนั้นจึงยอมคลายกอด เก้ารีบเหยียบเท้าไคทันทีอย่างไม่ลังเล แต่ไคผู้รู้ทันเสมอก็หลบได้อย่างว่องไว

“เดี๋ยวโดนทำร้ายร่างกายกลับแล้วจะหนาว” ไคว่า

“มึงจะทำอะไรกูได้” เก้าท้าทายในทันที

“ก็ทำอย่างนี้ไง”


        ไคจับตัวเก้าไว้ด้วยความรวดเร็วก่อนที่จะจูบหนักๆบนริมฝีปากนั้นทันที เก้าถึงกับค้างชะงักเพราะไม่ทันตั้งตัว เก้าตวัดสายตามองไคที่ยิ้มมุมปากอยู่ในขณะนี้

“มึงกำลังคิดไม่ซื่อใช่ไหม?” เก้ารู้สึกถึงความกรุ้มกริ่มของไค

“จะไม่ทำมากกว่านี้หรอก จะรอจนกว่านายจะพร้อม”

“เออ...พร้อมแล้วจะบอก” เก้าหลบตาไค รู้สึกร้อนๆแถวหน้า กลายเป็นคนความรู้สึกช้าไปเลยทันที

“หน้าแดงแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย”


        ไคหัวเราะออกมา เก้าไม่พูดอะไรแต่ก็เม้มริมฝีปากกลั้นยิ้มเอาไว้ แม้ใจจริงจะพร้อมไปกว่าครึ่งแต่ก็ไม่อยากจะบอกในตอนนี้ เพราะอยากเห็นไคในมุมอื่นๆก่อนที่จะตัดสินใจลงไป แต่ที่แน่ๆสิ่งหนึ่งที่เก้าได้แต่ยอมรับคือ เขาตกหลุมรักผู้ชายที่สุดแสนจะร้ายกาจเข้าให้แล้ว ผู้ชายที่บทจะดีก็ดี บทจะร้ายก็น่ากลัว ชะตากรรมที่ต้องเจอต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรก็ไม่อาจจะคิดและคาดเดาได้ คงต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้...


Lyrics: Can’t fight the moon light by Leann Rimes



   


ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เก้าตกหลุมเรียบร้อย ปีนขึ้นไม่ได้แน่

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ดีกันแล้ววววว  :hao3:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เย่ๆ เคลียร์กันได้แล้ว  :-[ :-[

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
คดีผลิก

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
เขาดีกันแล้วววววววว
ถึงเก้าจะยังไม่ยอมตกลงคบด้วยแต่ก็แค่คำพูดล่ะนะ
เท่านี้ก็เดินหน้าจัดเต็มไปเลยค่ะคุณไค
ให้มันรู้กันไปว่าจะใจแข็งได้นานสักเท่าไหร่ ><

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เคลียร์กันแล้วก็โอเค
แต่แบบนี้ก็เท่ากับว่าคบกันแล้วนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด