#Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-  (อ่าน 223560 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ร้อนแรงมากอ่ะคู่นี้ เลือดจะหมดตัว :haun4:

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
ว้าวววว ทั้งๆ ที่SM แต่ทำไมละมุนจัง
เพราะเป็นแฟนกันแล้วสินะ

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
เพิ่งมีเวลามาอ่าน2ตอนติด หืดหาดมากค่ะ :haun4:
ดับอารมณ์ไคเก้าเลย 555

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
โหดร้ายมากค่ะ.....โหดร้ายกับจิตใจของคนอ่านคนนี้นัก
พิธานจะถนอมพระพายเกินไปแล้วนะ ดูแลกันทั้งบีฟอร์อาฟเตอร์เลยทีเดียว
(ถ้าบอกว่าเหม็นความรักจะเป็นอะไรไหมเนี่ย ><)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jaibang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
กลับมาแล้วค่า  :mc4: กลับมาต่อแล้วค่ะ ตอนที่แล้วเสียเลือดไปเยอะเลยสินะคะ เอฟเฟคคู่นี้แรงจริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็ไปอ่านต่อกันเนอะ ถ้ามีข้อผิดพลาดประการก็ขออภัยไว้ด้วยนะคะ มีอะไรยังไงก็บอกได้ค่ะ ยินดีรับฟัง ยังไงก็ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ รักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ  :mew1:


++++++++++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 38 Coffee.


Coffee in the morning
กาแฟในยามเช้า
I don’t wanna wake you
ฉันไม่อยากปลุกเธอเลย
I just wanna watch you sleep
ฉันแค่อยากมองดูเธอตอนหลับ
It’s the smell of your hair
สูดกลิ่นผมของเธอ
And it’s the way that we feel
และนี่คือความรู้สึกที่เรามี
I’ve never felt comfortable like this
ฉันไม่เคยรู้สึกสบายใจขนาดนี้มาก่อนเลย


        เวลาผ่านไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ทั้งพิธานและพระพายยังคงนอนกอดก่ายกันอยู่อย่างนั้น ขณะนี้บรรยากาศข้างนอกออกจะอึมครึม มีแดดแต่แรงไม่สุดเหมือนฝนจะตกแต่ก็ไม่ รู้แค่ว่าอากาศอบอ้าวพอสมควร

        พระพายพลิกตัวออกจาการกอดของพิธาน นอนตะแคงพลางกอดผ้าห่มอย่างสบายใจ ทำให้พิธานรู้สึกตัวเมื่ออ้อมแขนตัวเองว่างเปล่า ลืมตาขึ้นมาเห็นพระพายนอนหันหลังให้ พิธานจึงเอื้อมมือไปลูบผมของพระพาย

        แม้จะรู้สึกถึงสัมผัสบนศีรษะแต่พระพายที่ยังคงยากหลับจึงพลิกตัวกลับอีกครั้ง พิธานเห็นหน้าของพระพายที่กำลังหลับอยู่ ดวงตาหลับพริ้ม ปากเผยอเล็กน้อย คงกำลังอยู่ในห้วงของคนไม่อยากตื่น พิธานยิ้มออกมาพลางลูบแก้มของพระพายเบาๆ ด้วยท่าทีที่กำลังหลับสบายขนาดนี้จึงไม่อยากปลุก

        นอนมองพระพายด้วยความรู้สึกอะไรบางอย่างขึ้นมาในจิตใจ เป็นภาพที่รู้สึกว่าหากจะให้นอนมองไปทั้งวันก็ยังได้ ตอนนี้เจ้าตัวยิ้มมุมปากออกมาทั้งๆที่ยังคงหลับอยู่ คงกำลังฝันดีอยู่แน่นอน รู้สึกสบายใจที่ตื่นมาแล้วได้เห็นอะไรเช่นนี้และหากได้เห็นมันทุกวันคงจะดีกับชีวิตไม่น้อย

        พระพายยังคงหลับต่อไปโดยไม่อาจจะรู้ตัวได้ว่าตอนนี้พิธานกำลังนอนมองเจ้าตัวอยู่ พลางคิดอะไรหลายๆเรื่อง ถึงเรื่องต่อไปในวันข้างหน้าและเรื่องที่จะทำต่อจากนี้ไป

        เวลาผ่านไปนานพอสมควร พิธานละสายตาไปมองนาฬิกาฝาผนัง ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงกว่า ถึงเวลาต้องตื่นแล้ว เพราะของของพระพายยังไม่ได้จัดให้เข้าที่ พิธานจึงจำต้องลุกขึ้นและเดินไปเข้าห้องน้ำ จัดการธุระส่วนตัวล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้วจึงเริ่มเก็บของทั้งหมดของพระพายให้เข้าที่

        กระเป๋าเดินทางใบเล็กถูกเปิดออก พบของทั้งหมดที่ตัวเองเป็นคนจัดกับมือ สิ่งแรกที่พิธานหยิบออกมาคือเอกสารสำคัญต่างๆ พิธานนำไปเก็บในลิ้นชักที่มุมโต๊ะทำงาน จากนั้นก็เป็นเสื้อผ้า ชุดทำงาน ชุดลำลองที่มีไม่กี่ชุด ชั้นในที่พิธานยิ้มมุมปากเมื่อเห็นมัน จับผึ่งขึ้นดูพลางพิจารณาไปเรื่อยเปื่อย จากนั้นก็นำทั้งหมดไปเก็บในตู้เสื้อผ้าของตัวเอง ยืนมองเสื้อผ้าของตัวเองและเสื้อผ้าของพระพายอยู่ร่วมตู้กันด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย บรรยายไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรแต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจคือความรู้สึกอุ่นขึ้นมาในใจ

        ข้าวของส่วนตัวจำพวกของใช้ในห้องน้ำหรือเครื่องสำอาง แปลกตรงที่พระพายมีของเหล่านี้ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น คือแปรงสีฟัน ครีมกันแดดและโฟมล้างหน้าเท่านั้น ทั้งที่ผิวหน้าผิวกายนั้นดูสุขภาพดีราวกับถูกดูแลรักษามาเป็นอย่างดี แต่กลับไม่มีของพวกนั้นเลยสักนิด เป็นสิ่งที่พิธานแปลกใจพอสมควร พิธานนำโฟมล้างหน้าไปวางไว้ในห้องน้ำ และแปรงสีฟันซึ่งใส่แขวนมันกับที่แขวนที่อยู่ติดกันกับแปรงสีฟันของตัวเอง เห็นแปรงสีฟันคู่กันเช่นนั้นทำเอาพิธานยิ้มออกมาอย่างห้ามตัวเองไม่ไหว แต่เมื่อรู้ตัวก็รีบหุบยิ้มลงทันที

        เดินออกมาจากห้องน้ำก็มาที่กระเป๋าเดินทาง ของชิ้นสุดท้ายคือรองเท้าซึ่งมีรองเท้าสำหรับทำงานและรองเท้าแตะเท่านั้น ส่วนรองเท้าผ้าใบที่สวมเมื่อคืนถอดอยู่แถวๆประตู พิธานจึงนำรองเท้าทั้งหมดไปเก็บที่ตู้เก็บร้องเท้า เรียกได้ว่าจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพโดยที่พระพายไม่ต้องทำอะไรเลย

        จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นไคที่โทรเข้ามา ทั้งที่ปกติไคจะมาหาที่ห้องมากกว่าจะโทรมา เจ้าตัวคงมีเรื่องอยากจะคุย พิธานรับสายฟังสิ่งที่ไคพูดอย่างเงียบๆและพูดตอบกลับไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยที่ไม่อาจจะรู้ได้ว่าทั้งสองคนคุยเรื่องอะไรกัน

        ผ่านไปสักพักไคก็วางสาย นาฬิกาตอนนี้เป็นเวลาใกล้บ่ายโมงแล้ว อาหารมื้อแรกของพิธานที่โปรดปรานและเสพติดคือกาแฟรสขมหอมๆ พิธานจึงเดินเข้าไปในห้องครัวชงกาแฟด้วยเครื่องชงกาแฟ

        เสียงตะกุกตะกักในครัวเรียกให้พระพายตื่น ลืมตาขึ้นมาพลางหันมองไปยังข้างๆพบแต่ความว่างเปล่า แต่เพราะเสียงอะไรสักอย่างที่แว่วมาทำให้พระพายรู้ได้ทันทีว่าพิธานน่าจะอยู่ตรงนั้น

“โอ๊ย” พระพายร้องออกมาเบาๆพลางกุมสะโพกของตัวเอง รอยถูกฟาดน่าจะบวมขึ้นเพราะรู้สึกเจ็บหน่อยๆยามที่กระทบอะไรก็แล้วแต่


        พระพายลุกขึ้นมาแล้วเดินไปดูที่มาของเสียง ปากก็หาววอดๆผมฟูกระเซิงกระเซิงแต่ก็ไม่ได้สนอะไรในตัวเองทั้งนั้น เดินไปยังห้องครัวซึ่งพิธานกำลังยืนมองเครื่องชงกาแฟที่กำลังทำงาน ยืนนิ่งๆราวกับจ้องมองการทำงานของเครื่องนั้นและปล่อยให้ความคิดไหลผ่านไปเรื่อยๆ

“หอมจัง” พระพายเอ่ยขึ้น พิธานจึงหันไปมองที่มาของเสียงทันที

“ตื่นแล้วเหรอ?” พิธานถาม พระพายเดินมายืนข้างๆก่อนที่จะมองเครื่องทำกาแฟแบบที่พิธานมอง

“เผื่อผมด้วยได้ไหม?”

“ชอบแบบไหน?”

“หวานๆ” พระพายว่าพลางยิ้ม

“ไปแปรงฟันล้างหน้า เดี๋ยวจะทำให้” พิธานว่าพลางโยกศีรษะพระพายเบาๆ

“รับทราบ” พระพายจึงเดินไปยังห้องน้ำ


        เมื่อเข้ามาในห้องน้ำก็มองเห็นโฟมล้างหน้าของตัวเองและแปรงสีฟันอยู่ในห้องน้ำอยู่แล้ว พระพายแปลกใจไปนิดแต่ก็ล้างหน้าแปรงฟัน จัดการทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยจนเสร็จแล้วเดินออกมาเช็ดหน้าเช็ดตา ในขณะที่พิธานวางกาแฟรอไว้บนโต๊ะแล้ว

“แปรงสีฟันกับโฟมล้างหน้าของผม..คุณเอาไปวางไว้เหรอ?” พระพายถามพลางนั่งลงเบาๆเพราะกลัวจะโดนแผลที่สะโพก

“ฉันจัดของให้นายหมดแล้ว” พิธานเท่านั้น

“จริงเหรอ..นี่ผมมาเพิ่มงานเพิ่มภาระให้คุณรึเปล่า?” อดไม่ได้ที่จะคิด ในเมื่อพิธานจัดการให้เขาทุกอย่างตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่ด้วยกัน

“ภาระอะไร คิดมาก กินได้แล้ว” พิธานดันจานให้พระพายที่มองจานด้วยดวงตาเป็นประกาย

“หอม” พระพายว่าพลางยกแก้วกาแฟที่พิธานเติมน้ำตาลและนมให้แล้ว จิบมันนิดๆอย่างดื่มด่ำกับรสชาติหวานหอมที่ตนชอบ


         ทั้งสองดั่งดื่มกาแฟกันเงียบๆ กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นรอบๆตัว แม้จะมีแต่ความเงียบแต่บรรยากาศรอบตัวกลับรู้สึกผ่อนคลายไม่มีความอึดอัดแต่อย่างใด พระพายที่ดื่มกาแฟด้วยท่าทีผ่อนคลาย พิธานที่มองพระพายไปด้วยสายตาเป็นประกาย การตื่นมาแล้วเจอใครสักคนนั่งดื่มกาแฟด้วยกัน ทักทายกันยามเช้า เป็นความรู้สึกที่ไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนานแล้ว

“นี่..รู้ไหมผมทำกับข้าวเป็นนะ” จู่ๆพระพายก็ชวนคุย

“อะไรล่ะ?

“มาม่าผัดปลากระป๋องล่ะ เมนูนี้ผมทำอร่อยที่สุดเลยจะบอกให้” พระพายยืดอกอย่างภูมิใจ

“ยังมีไข่เจียวอีกอย่างด้วย” พิธานว่า นึกถึงครั้งนั้นที่ไปค้างห้องพระพาย ได้ทานไข่เจียวที่พระพายทำให้

“ไข่เจียวน่ะธรรมดา แต่เมนูนี้อร่อยว่าเยอะ” พระพายมั่นอกมั่นใจในเมนูนี้มาก เพราะเป็นเมนูที่ทำมันออกมาได้อร่อยมากกว่าอาหารง่ายๆอย่างไข่เจียว แม้แต่เก้าเองยังเคยชมเสียด้วยซ้ำไป

“ได้ ฉันจะรอชิม” พิธานว่า ก่อนที่ลุกขึ้นเก็บแก้วแต่พระพายดึงมือไว้เสียก่อน

“ผมล้างเอง” พระพายว่าและแย่งแก้วจากมือพิธานไปล้างเอง


        พระพายยืนล้างไปพลางฮัมเพลงไปด้วย พิธานมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินเข้าไปกอดพระพายจากด้านหลัง คนถูกกอดสะดุ้งตัวเพราะไม่ทันตั้งตัว

“มีอะไรเหรอ?” พระพายถาม

“เจ็บแผลไหม?” พิธานถาม

“ก็..เจ็บนิดนึง เมื่อเช้าเผลอนั่งทับเลยรู้ว่ายังเจ็บ” พระพาย เมื่อนึกถึงแผลก็นึกถึงความเร่าร้อนเมื่อคืนที่ทำกันจนเกือบเช้าเลยทีเดียว ก็อดไม่ได้ที่จะอายขึ้นมานิดๆ

“เดี๋ยวอาบน้ำแล้วฉันจะทาแผลให้อีกที” พิธานบอก

“วันนี้ก็เป็นวันหยุดคุณเหรอ?” พระพายพยักหน้ารับ จากนั้นก็ถามพิธานพลางคว่ำแก้วแล้วหันมาเช็ดมือให้แห้ง

“วันหยุดฉันไม่ตายตัว วันไหนว่างก็ได้หยุด” พิธานตอบและถอยออกมาให้พระพายเดินออกจากอ่างล้างจาน

“ว่าแต่คุณทำงานอะไร ผมนี่บื้อจังไม่เคยถามคุณเลย” พระพายนึกได้ถึงความบ้าบอของตัวเองที่ไม่ได้ถามเรื่องส่วนตัวของพิธานเลย

“ฉันทำงานของที่บ้าน เป็นธุรกิจของครอบครัว” พระพายนั่งลงช้าๆบนโซฟา พิธานก็นั่งลงข้างๆจากนั้นก็เปิดทีวีดู

“ว้าว ฟังดูดี ทำอะไรเหรอ?” พระพายชวนคุย

“เกี่ยวกับโรงแรม” พิธานตอบ

“บอกชื่อมาได้ไหม เผื่อผมรู้จัก”

“อย่าเลย โรงแรมฉันไม่ได้ดังขนาดนั้นหรอก”

“ไม่จริงหรอก อย่างระดับคุณเลยนะ” พระพายว่า

“ระดับฉันมันยังไง?” พิธานขมวดคิ้วสงสัยในคำพูดของพระพาย

“ระดับคุณพิธาน ผู้หล่อระเบิด เท่เกินใครและรวยสุดๆขนาดนี้ไง” พูดไปหัวเราะจนไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิด

“นายนี่พูดไปเรื่อย” พิธานขยี้ผมพระพาย

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ทำงานไม่เป็นเวลาสินะ”

“ก็แบบนั้นแหละ แต่วันนี้ฉันว่าง”

“คุณอยากไปไหนไหม?” พระพายถาม

“อยากไปซื้อของหน่อย” พิธานคิดอยากจะไปซื้อของเข้าตู้เย็นและของใช้บางส่วนสำหรับพระพาย

“ถ้าอย่างนั้นไปอาบน้ำกันก่อนละกัน”

“นายไปอาบก่อน เดี๋ยวฉันจะไปหายาหลอดใหม่”


        พระพายจึงรีบไปอาบน้ำ ด้านพิธานก็เดินไปหายาทาหลอดใหม่ เพราะเมื่อคืนทายาให้พระพายไปเยอะจึงต้องหาหลอดใหม่เพราะยาใกล้หมดหลอดแล้ว
 
        ผ่านไปไม่นานนักพระพายก็อาบน้ำเสร็จ แต่ยังไม่ได้แต่งตัวเพราะพิธานบอกจะทายาให้จึงนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวออกมา พิธานตบที่นอนเป็นการบอกให้พระพายไปตรงนั้น

“นอนคว่ำ” พิธานบอกเช่นนั้นก่อนที่จะดึงผ้าเช็ดตัวออก พระพายจึงเปลือยและนอนคว่ำอยู่บนเตียง


        พิธานเห็นแผลที่บวมกว่าเมื่อวานและช้ำเลือดอย่างเห็นได้ชัด คงต้องหมั่นทายาให้บ่อยกว่านี้จนกว่าแผลจะดีขึ้น พิธานใช้มือลูบแผลเบาๆจากนั้นก็ก้มลงจูบแผลนั้น พระพายสะดุ้งตัวเพราะลมหายใจของพิธานรดลงบนเนื้อผิว

“ทำอะไรน่ะ?” พระพายเอ่ยถาม

“เจ็บมากรึเปล่า?” พิธานถามก่อนที่จะละใบหน้าออกมา

“นิดหน่อย สบายมาก”

“ครั้งหน้าคงต้องทำให้เจ็บกว่านี้สินะ” พิธานยิ้มมุมปาก

“เวลาแบบนี้คุณต้องพูดว่าครั้งหน้าจะเบามือกว่านี้สิ” พระพายแก้ไขคำพูดนั้น

“นายน่ะไม่ชอบเบาๆหรอก ทำไปก็เท่านั้น” พิธานว่าพลางทายาให้พระพายไปด้วย

“อย่าพูดสิ” พระพายมุดหน้าลงเตียง ทุกครั้งที่พิธานพูดแหย่เรื่องนี้ขึ้นมาทีไร พระพายจะไปไม่เป็นเลยทีเดียว

“เอาล่ะ เสร็จแล้ว รอฉันหน่อย เดี๋ยวจะออกไปซื้อของกัน” พิธานหัวเราะออกเบาๆเพราะรู้ดีว่าตอนนี้พระพายกำลังอายหากเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดในเวลาปกติเช่นนี้


        พิธานเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ พระพายจึงใช้โอกาสนี้แต่งตัวให้เรียบร้อย ใช้เวลาเพียงครู่เดียวพระพายก็แต่งตัวเสร็จ จากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้โทรหาเก้า ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง พระพายจึงเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือมาแล้วรีบโทรหาเก้าทันที เพียงไม่นานนักเก้าก็รับสาย

“มึง เป็นไงบ้าง?” พระพายกรอกเสียงลงไปทันทีที่เก้ารับสาย

“อ่อ นอนเพิ่งตื่นนี่แหละ มึงล่ะเป็นไง ย้ายเข้าห้องแฟนคืนแรก”

“ก็ดี ปกติดี อ่อ แล้วเมื่อคืนคุณไคไปส่งมึงที่ห้องรึเปล่า?”

“อ่อ กูกลับมาเมื่อเช้า เมื่อคืนนอนห้องมันนั่นแหละ”

“จริงเหรอ แล้ว...ทำไมมึงกลับไวจังวะ?”

“ไม่อยากอยู่ต่อ เลยรีบกลับ”

“เสียงมึงแปลกๆ เมื่อคืนไม่ได้เกิดอะไรขึ้นใช่ไหม?”

“มึงก็เพ้อเจ้อ เสียงกูเพิ่งตื่นนอนก็ต้องแบบนี้แหละ” เสียงหัวเราะตบท้ายประโยค

“กูคงคิดมากไป เออ เดี๋ยวกูโทรหานะ มีคนมากดออด” พระพายบอกเช่นนั้น

“เออๆ”


        หลังจากวางสายพระพายก็รีบลุกไปยังและดูทางช่องตาแมวว่าใครมากดออด ปรากฏเป็นไคที่อยู่ตรงข้ามห้องนั่นเอง พระพายจึงรีบเปิดทันที

“คุณไค” พระพายทักทายไคด้วยรอยยิ้ม แต่ไคกลับยิ้มออกมาเพียงนิดเดียวเท่านั้น

“ตื่นกันแล้วเหรอ?”

“ครับ ตื่นแล้ว คุณไคจะเข้ามาข้างในไหม?” พระพายเอ่ยชวน

“ไม่ดีกว่า แค่มาทักทาย” ไคบอก


            สีหน้าดูไม่สดชื่นเลยสักนิดผิดกับไคที่พระพายเห็นมาโดยตลอด ไคที่คุ้นตาคือคนที่ชอบยิ้มแย้มและดูขี้เล่น แม้ในบางครั้งแววตาเหมือนจะไม่ยิ้มเลยก็ตาม แต่ทุกครั้งที่เจอไคจะดูสดใสกว่านี้

“คุณไค...เป็นอะไรรึเปล่า?” พระพายเอ่ยถามขึ้นอย่างอดไม่ได้

“หืม...หมายถึงอะไร?” ยิ้มออกมาอย่างไม่ค่อมเต็มที่นัก

“คุณไคดูไม่ร่าเริงเลย เป็นอะไรรึเปล่า?”

“ดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ?” ไคถามขึ้นอย่างแปลกใจ

“ก็...พอดูอออกครับ”

“ก็แค่....ผิดหวังนิดหน่อยก็เท่านั้น แต่ขอบคุณนะพระพาย พระพายเป็นคนใจดีเสมอเลยนะ” ไคว่า

“ถ้ามีอะไรก็บอกนะครับ ผมยินดีช่วย”

“แน่นอน ขอบคุณนะ” ไคพูดก่อนที่จะเดินกลับเข้าห้องไป


        พระพายปิดประตูพลางขบคิดว่าเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า ไคเครียดเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว หรือเก้าจะมีเอี่ยวด้วย ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวคงต้องถามพิธานสักหน่อย เผื่อรายนั้นจะรู้อะไรบ้าง

“ทำอะไรอยู่?” พิธานที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จมองหาพระพายว่าหายไปไหน ที่แท้ก็มายืนอยู่หน้าประตูนี่เอง

“อ๋อ คุณไคมาครับ เลยคุยกันนิดหน่อย”

“กลับห้องไปแล้วเหรอ?”

“อืม คุณไคดูแปลกๆ ดูเหมือนจะมีเรื่องเครียด หน้าตาไม่ค่อยยิ้มแย้มเลย”

“ทำไมถึงคิดแบบนั้น?” พิธานถาม ขณะที่กำลังเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์และกุญแจรถ

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ปกติผมเห็นคุณไคยิ้มตลอด คุณพอรู้อะไรบ้างไหม?” พิธานเงียบไปนิดก่อนตอบ

“ที่เห็นยิ้มๆน่ะไม่ใช่หรอก เจ้านั่นแค่ทำไปแบบนั้นแหละ” พิธานบอก พระพายทำหน้างงทันที

“หมายความว่าไง?”

“จำตอนแรกที่เจอไคได้ไหมล่ะ ถ้านึกออกก็จะรู้” พิธานพูดไว้ให้คิด


        ทั้งสองคนเดินออกจากห้องลงลิฟต์ไปยังชั้นล่าง ในขณะนั้นพระพายก็เอาแต่นึกถึงไคในครั้งแรกที่เจอ นึกอยู่นานกว่าจะนึกได้ว่าแค่ที่เจอในครั้งแรกนั้นเป็นอย่างไร ท่าทางคุกคาม สายตาดูหื่นกระหาย ท่าทางเหมือนซุกซ่อนอะไรไว้ในความขี้เล่นอีกทั้งเพื่อนๆในกลุ่มตอนนั้นเรียกไคว่าฝรั่งโรคจิต

“ฝรั่งโรคจิตเหรอ?” พระพายเอ่ยขึ้นมา ตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนรถที่เคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถ

“พูดอะไร?” พิธานถามขึ้นมา

“ก็เพื่อนๆคุณในตอนนั้นเรียกคุณไคว่าฝรั่งโรคจิต” พระพายจำได้อย่างเด่นชัดในประโยคนี้ แต่กว่าจะนึกได้ก็นานเอาการ

“นั่นก็ส่วนหนึ่ง เอาเป็นว่ามีอะไรอีกเยอะในตัวของเจ้านั่น รู้เท่านั้นก็พอ” พิธานบอกเท่านั้น

“ดูลึกลับจัง แต่ยังไงคุณไคก็ยังดูใจดีสำหรับผม”

“เพราะนายเป็นแฟนฉันต่างหาก เจ้านั่นเลยใจดีด้วย” พิธานบอก

“อืม..ช่างเถอะ ไปซื้อของกันดีกว่า” พระพายบอก


        พิธานใช้เวลาไม่นานนักเพราะเป็นห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้ที่สุด ทั้งสองคนช่วยกันเลือกซื้อของ อาหารแห้ง รวมไปถึงของใช้ต่างๆ พระพายดูเพลิดเพลินกับการเลือกนั่นนี่จนพิธานได้แต่มองท่าทางสนุกสนานนั้นจนเพลินตา กว่าชั่วโมงที่ทั้งสองใช้เวลาซื้อของกันจนเสร็จ จากนั้นก็ฝากของไว้และไปเดินเล่นกันต่อ เป็นการเดทแบบง่ายๆที่พระพายรู้สึกว่ามันดีจริงๆที่ได้มาอยู่กับพิธานเช่นนี้ พิธานเองก็ดูมีความสุขไม่ต่างกันเห็นได้จากดวงตาเป็นประกายที่เจ้าตัวแสดงออกมา เท่านี้พระพายก็รู้สึกได้ว่าตัดสินใจไม่ผิดจริงๆที่มาอยู่ด้วยกัน... 


Lyrics: Coffee by Miguel.

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
กำลังหวานชื่น

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
เฮ่อทำไมเก้าไม่ถามไคไปตรงๆนะเราปวดหัวแทน  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไค เป็นฝรั่งโรคจิต  :a5:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0
ตกลงไคเป็นแบบไหนแน่? :katai1:
เก้าหึงสินะ หึๆ

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
ห้องนี้โลกเป็นสีชมพู ส่วนห้องตรงข้ามก็ทะมึนมาเลย
เมื่อไหร่จะเข้าใจ เมื่อไหร่จะรักกัน
นี่ลุ้นคู่ไคเก้าแบบจริงจัง
ถึงจะโผล่มาปิดตอนนิดหน่อยก็พกพาความหน่วงในอารมณ์มาให้ด้วย

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
กลับมาแล้ว~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
บรรยากาศละมุนละไมมาก

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
 :o8: บรรยากาศละมุนดีเนอะ

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
หวานซะอีกคู่ยิ่งดูมืดมนไปใหญ่เลย
สู้ๆ นะไคเก้าหนีไปได้ไม่ไกลหรอก

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ มาลงตอนที่ 39 แล้วนะคะ ไม่รู้จะพูดอะไร ไปอ่านกันดีกว่าค่ะ ถ้าหากมีคำผิดหรือข้อผิดพลาดอะไรก็ขออภัยด้วยนะคะ ติชมได้ ยินดีรับฟังค่ะ ขอบคุณทุกกำลังใจไว้เจอกันใหม่ค่ะ  :bye2:

+++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 39 Run-down.


Catch myself
พาตัวเองขึ้นมา
From despair
จากความสิ้นหวัง
I could drown
ฉันอาจจะดำดิ่งแน่ๆ
If I stay here
หากฉันยังอยู่ตรงนี้
Keeping busy everyday
ทำตัวเองให้ยุ่งอยู่ทุกวัน
I know I will be OK
ฉันรู้ว่าจะต้องดีขึ้นมาแน่นอน
But I was
แต่ฉันก็ยัง
So confused,
สับสนอยู่ดี
My heart’s bruised
หัวใจของฉันเจ็บช้ำ
Was I ever loved by you?
เธอเคยรักฉันบ้างไหม?



        ผ่านไปแล้วสองสัปดาห์ตั้งแต่พระพายมาอยู่กับพิธาน ต่างคนต่างทำงานและเมื่อเลิกงานก็จะมากลับห้องมาอยู่ด้วยกันเสมอ หากวันไหนพิธานกลับมาเร็วก็จะทำอาหารทานกัน แต่หากวันไหนพระพายกลับมาก่อน พระพายก็จะทำอาหารง่ายๆไว้ให้ อีกทั้งหลังๆมานี้พิธานจะนำงานมาทำที่ห้องเสมอ ดูเหมือนเจ้าตัวอยากใช้เวลาอยู่ร่วมกับพระพายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

        วันนี้เป็นวันเสาร์ หลังจากดื่มกันวันนั้น เก้าก็ติดต่อมาตลอด โทรมาบ้างส่งข้อความคุยกันบ้าง แต่ไม่ได้นัดเจอกันเลยเพราะเก้าบอกว่างานยุ่ง แต่ความรู้สึกของพระพายเหมือนเก้าจะอ้างเสียมากกว่า เพราะเห็นเก้าโผล่ไปในเฟสบุคของเพื่อนร่วมงานแทบจะทุกวัน ทานข้าว ไปเที่ยวกัน ตลอดทั้งสองสัปดาห์มานี้

“มึงบอกกูว่าไม่ว่าง แต่มึงเที่ยวตลอดเลยนะเก้า” พระพายส่งข้อความไป ตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนรถโดยที่พิธานพาไปส่งที่ทำงาน

“กูยุ่งจริงๆ”

“ไม่รู้แหละ วันนี้มึงต้องมาเจอ ถ้าไม่มา กูจะโกรธมึงมากเลย” พระพายส่งตอบกลับไป

“อย่าโกรธกูสิ”

“ถ้ามึงไม่มากูโกรธแน่”

“ก็ได้ เดี๋ยวกูจะบอกมึงอีกที” เก้าตอบมาเช่นนั้น พระพายจึงเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋าไป

“คุยกับใคร?” พิธานถามขึ้นในขณะที่ขับรถอยู่

“คุยกับเก้า หลังๆมานี้ไม่ยอมมาเจอผมเลย แต่ไปเที่ยวกับเพื่อนที่ทำงานตลอด”

“งอนเพื่อนเหรอ?”

“ก็ใช่สิ เหมือนหลบหน้ายังไงไม่รู้ บอกให้มาหาก็ไม่ยอมมา พอจะไปหาก็ไม่ยอมให้ไป” พูดแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที

“อย่าคิดเยอะ เดี๋ยวก็มานั่นแหละ” พิธานลูบไหล่พระพายจากนั้นก็ขับรถต่อ

“ถ้ามันไม่มาผมจะไปลากมันมาด้วยตัวเองเลย” พระพายหมายหมั้นปั้นมือไว้อย่างนั้น


        พิธานขับรถมาถึงที่ทำงานของพระพาย ซึ่งมาเร็วกว่าปกติมากเพราะวันนี้พิธานออกมาเช้ากว่าปกติ มีงานต้องเข้าไปจัดการแต่เช้า

“เย็นนี้เดี๋ยวจะส่งข้อความไป ไม่มั่นใจว่าจะได้มารับรึเปล่า” พิธานบอกเช่นนั้น

“ไม่เป็นไร ผมกลับเองได้สบายมาก คุณทำงานไปเถอะ” พระพายว่าพลางยิ้มให้

“เดี๋ยวจะบอกอีกที” พระพายเดินลงจากรถพลางโบกมือให้ พิธานยิ้มออกมานิดๆจากนั้นก็ขับรถออกไป


        พระพายตอกบัตรและเดินเข้าไปยังแผนก พบว่าไม่มีใครมากันสักคน คงเพราะเช้าเกินไป พระพายจึงใช้เวลานี้เปิดคอมพิวเตอร์ทำงานทันที เพราะยิ่งเงียบเท่าไหร่ยิ่งดีกับการทำงานมากขึ้น

        และเพียงไม่นานนักคนในแผนกต่างเริ่มเข้ามาทำงาน ความวุ่นวายจึงเริ่มบังเกิดดังเช่นที่ผ่านมา พี่กล้วยเดินมากับพี่ปีพลางพูดคุยเรื่องเกมออนไลน์กันอย่างออกรส

“เฮ้ย มึงมาคนแรกเหรอพาย?” พี่กล้วยถามพลางนั่งลง

“ก็กลัวรถติดเลยออกมาเร็วหน่อยครับ” พระพายนั่งทำงานต่อ

“มึงหวังตำแหน่งพนักงานดีเด่นใช่ไหม?” พี่กล้วยเริ่มต้นวันทำงานวันสุดท้ายด้วยการแกล้งแหย่พระพายเช่นเดิม

“ถ้าพี่ไม่ได้ว่าผมสักวันนี่พี่นอนไม่หลับใช่ไหม?”

“เออสิวะ การได้แกล้งหยอกมึงนี่สนุกสุดยอดแล้ว” พี่กล้วยหัวเราะถูกอกถูกใจคนในแผนกคนอื่นๆเช่นกัน

“มึงเป็นคนโรคจิตคนหนึ่งนะกล้วย” พี่ปีว่า

“อ้าวมึง ว่ากูโรคจิตแต่เช้าเลย”

“เอาน่า ทำงานเถอะ เดี๋ยวก็โดนด่ายกแผนกหรอกพี่” พระพายเป็นคนตัดบท ทุกคนจึงเริ่มทำงานกันอีกครั้ง


        ในเวลาพักเที่ยง เก้าส่งข้อความถามว่าจะเจอที่ไหน พระพายที่ลังเลก็ตัดสินใจได้ เพราะพิธานส่งข้อความมาว่าเย็นนี้จะไม่มารับเพราะติดงาน พระพายจึงใช้โอกาสนี้ขอพิธานไปเจอเก้า ซึ่งพิธานก็ยอมตกลงแต่โดยดีแต่ต้องไปเจอกันที่คอนโดเท่านั้นที่อื่นไม่ให้ไป

“จำเป็นต้องไปที่นั่นเหรอวะ?” เก้าถาม

“คุณพิธานไม่อยู่หรอก บอกว่ากลับช้าหน่อย ไม่มีปัญหา”

“แต่กูไม่อยากไปที่นั่น”

“ทำไมวะ?”

“ไม่อยากไปคือไม่อยากไป”

“ถ้าอย่างนั้นกูถามคุณพิธานแปบ”

“ไอ้คนติดแฟน!!”


        เก้าส่งข้อความว่าพระพายด้วยความรวดเร็ว พระพายก็ยอมรับว่าเขาออกจะเชื่อฟังพิธาน เพราะไม่อยากขัดใจแต่หากลองขอดีๆพิธานก็น่าจะยอม คิดได้แบบนั้นก็ส่งข้อความหาพิธานอีกครั้ง

“เก้าไม่สะดวกมาที่คอนโด ผมขอไปเจอข้างนอกได้ไหม?” พิธานอ่านแล้วแต่เงียบไป

“ได้ แต่ห้ามกลับดึก” พิธานยอมในที่สุด พระพายจึงส่งสติ๊กเกอร์ขอบคุณและส่งจูบไปให้ พิธานอ่านแต่ไม่ตอบอะไรกลับมา

“สงสัยจะอาย” พระพายพูดเท่านั้น จากนั้นก็ส่งข้อความหาเก้าอีกครั้ง

“จะไปเจอที่ไหน ว่ามา”

“ร้านป้าแต๋วล่ะกันมึง” เก้าตอบมาเช่นนั้น

“เออ เลิกงานแล้วจะไปเลย รีบๆนะมึง”

“ครับน้องพระพาย”


        เวลาผ่านไปจนถึงเวลาเลิกงาน พระพายก็รีบเก็บของและออกจากออฟฟิศด้วยความรวดเร็ว นั่งแท็กซี่ไปที่ร้านอาหารเจ้าประจำสมัยมหาวิทยาลัย ระหว่างทางพระพายก็นั่งฟังเพลงในโทรศัพท์มือถือไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงร้านอาหารที่นัดหมาย พระพายเห็นเก้ายืนรออยู่แล้ว

“ทำไมมาเร็วจัง” พระพายแปลกใจที่เก้ามาก่อน

“ก็เลิกงานเร็ว”

“เข้าไปข้างในเถอะ


        ร้านอาหารยามเย็นเช่นนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย พระพายและเก้าเลือกที่จะนั่งบริเวณสวนเฉกเช่นเคย เมื่อนั่งลงก็รีบสั่งอาหารทันทีเพราะหากช้ากว่านี้จะต้องรอคิวอีกนาน

“เป็นไงบ้างมึง ไหนบอกว่ามาซิทำไมถึงไม่ค่อยมาหากู” พระพายเริ่มเปิดประเด็นก่อนทันที

“ก็..กูยุ่งๆ” เก้าตอบแบบขอไปที

“ยุ่งอะไร กูเห็นนู่น ไปกับเพื่อนที่ทำงานตลอด เที่ยวแทบจะทุกคืน แล้วนี่สารรูปอะไรของมึง มึงเที่ยวเยอะไปใช่ไหม?” พระพายบ่นยาวเป็นหางว่าว ยิ่งเห็นหน้าตาโทรมๆของเก้ายิ่งบ่นเข้าไปอีก

“มึงขี้บ่นกว่าเดิมอีกพาย” เก้าว่าพลางเทน้ำดื่มให้พระพายและตัวเอง

“ก็เพราะเป็นห่วงนะสิ ถึงบ่นแบบนี้” พระพายดื่มน้ำอึกใหญ่เพราะพูดจนเหนื่อย

“เอาเถอะ ยังไงก็ขอบใจ”

“เก้า มีอะไรก็พูดสิวะ เป็นอะไรทำไมไม่บอก” พระพายมองหน้าเก้าที่นิ่งเงียบไป

“ทำไมถึงพูดแบบนั้นวะพาย?”

“เหมือนมึงมีอะไรปิดบังเลย และเหมือนจะหลบหน้าไม่อยากมาเจอด้วย”

“เดี๋ยวนี้มึงจับความรู้สึกคนเก่งขึ้นนะ” เก้าเอ่ยชม

“อาจจะใช่ เพราะคุณพิธานเป็นคนเงียบๆ เลยต้องอาศัยดูเอา ทำไปทำมาก็เลยเริ่มดูคนอื่นออกไปด้วย”

“คงปิดมึงไม่ได้สินะ” เก้าว่าก่อนที่จะถอนหายใจและพิงเก้าอี้อย่างคนเหน็ดเหนื่อย

“มีอะไรพูดมา”

“กู....คงจะชอบไอ้ไคเข้าแล้วล่ะ” คำพูดนั้นทำเอาพระพายนิ่งไปครู่ใหญ่เลยทีเดียว

“มึง...บอก...ชอบคุณไคเหรอ?” เก้าทวนประโยคอีกรอบ

“เออ” เก้ายอมรับตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม

“แล้วไม่บอกเขาไปล่ะ ทีของกูมึงยังอยากให้กูไปบอกคุณพิธานเลย” พระพายยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่าเก้านั้นคิดอย่างไรกับไค

“แต่ไม่เหมือนกับของมึงหรอก...” เก้าพูดพลางมองแก้วน้ำที่ตอนนี้น้ำแข็งเริ่มละลาย

“หมายความว่าไง?”

“มันไม่ได้จริงจังเหมือนไอ้พิธาน”

“กูไม่เข้าใจ มันไม่เหมือนยังไง” ยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ

“มัน...เหมือนจะมีคนอื่นอยู่แล้ว เรื่องของกูเหมือนเป็นแค่เรื่องสนุก ปั่นหัวกูก็เท่านั้น”

“มึงรู้ได้ไง มึงเห็นเหรอ?” พระพายออกจะแปลกใจว่าเก้ารู้ได้อย่างไรว่าไคมีแฟนแล้ว

“กูเห็นรูปในห้องคืนนั้น คืนที่มึงย้ายเข้าห้องแฟนมึงคืนแรก” พระพายนึกออกทันทีว่าคืนไหน และจำใบหน้าของไคในเช้าวันถัดมาได้เป็นอย่างดี

“รูปอะไร?”

“รูปถ่ายมันคู่กับใครไม่รู้ เขียนว่ารักฉันคือเธอ” พลางนึกไปถึงคนในรูปที่ชื่อไมค์

“มึงเห็นรูปนั้นเข้า มึงเลยพูดอะไรไม่ดีกับคุณไคไปใช่ไหม?” พระพายถามขึ้นมา เก้าเงียบไปก่อนพูด

“ก็...กูแค่บอกว่าออกไปจากชีวิตกู บอกให้มันเลิกยุ่งกับกู...ก็เท่านั้น” เมื่อพูดถึงประโยคนี้ขึ้นมา เก้าก็ยิ่งรู้สึกแย่ขึ้นมากกว่าเดิม


        ตั้งแต่วันนั้นที่ผ่านมา เก้าพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม ใช้ชีวิตปกติเหมือนตอนที่ไคยังไม่เข้ามา แต่ทุกๆวันเหมือนหลอกตัวเอง ภาพของไคในวันนั้นยังไม่หายใจจากความคิดเสียที เพราะเป็นเช่นนั้นเก้าจึงออกไปเที่ยวกับเพื่อนที่ทำงาน ดื่มและจีบหญิงเหมือนเมื่อก่อน แต่เมื่อยิ่งทำยิ่งรู้สึกว่างเปล่า เท่านี้ก็ชัดเจนแล้วว่าตัวเองเผลอใจไปให้ไคมากขนาดไหนแล้ว มากจนต้องมานั่งคิดและเจ็บปวดใจอยู่อย่างนี้

        สับสนไปหมด สับสนกับความรู้สึกและสับสนกับความคิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตอนนี้ จนวันนี้เลือกที่จะยอมคุยกับพระพายว่าเรื่องทั้งหมดเป็นอย่างไร ฟอร์มและมาดที่รักษามาตลอดก็พลังทลายลง เพียงเพราะไม่อาจจะโกหกตัวเองว่าคิดอย่างไรกับไค แต่มันก็จบลงแล้ว ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้อีกต่อไป สิ่งเดียวตอนนี้คือทำใจและก้าวไปข้างหน้าให้ได้ เก้าคิดได้อย่างเดียวว่าตอนนี้ก็แค่ชอบ เดี๋ยวไม่นานก็จะลืมมันได้ นี่คือสิ่งที่เก้าคิดและพยายามจะเป็นอยู่ในตอนนี้

        พระพายมองมองเก้าที่เงียบไป นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นเก้าเป็นแบบนี้ ครั้งนั้นที่เห็นคือแฟนคนแรกตอนที่คบกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งมาบอกเลิกตอนเรียนปีที่สาม กว่าเก้าจะสามารถดึงตัวเองออกจากความเศร้าได้ก็ใช้เวลาอยู่นาน และตั้งแต่วันนั้นเก้าก็ไม่คบใครเป็นแฟนอีกเลย จีบไปเรื่อย เล่นไปเรื่อย ไม่มีเป็นตัวเป็นตนเลยสักครั้ง เพราะเก้ารู้ดีว่าหากชอบใครจริงจังขึ้นมาอีกครั้ง ความเจ็บปวดจะต้องตามมาในไม่ช้าก็เร็ว

“คำนั้นมันเจ็บปวดมากนะ” พระพายพูดขึ้นมาหลังจากที่เงียบอยู่นาน

“รู้ กูรู้ แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้คนที่จะลำบากคือกู” เก้าพูดด้วยท่าทีนิ่งๆแต่แววตานั้นดูปวดร้าวไม่เบา

“ถ้าเป็นแค่รูป มึงก็น่าจะถามเขาตรงๆนะ”

“แค่นั้นก็ชัดเจนแล้วมึง ถ้าเป็นมึงเห็นล่ะจะทำไง?”

“เป็นกู กูจะถามนะ ถามตรงๆเลย” พระพายว่า เก้าเงียบไปอีกครั้ง

“กูรู้ ที่มึงทำแบบนี้เพราะกลัวจะต้องคบกับคุณไค มึงกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยใช่ไหม?” เก้ายิ่งเงียบไปกว่าเดิม

“มึงเอาเรื่องนี้มาอ้าง เพื่อจะให้คุณไคออกไปจากชีวิตมึง มึงทำแบบนั้นคนที่เจ็บไม่ใช่แค่คุณไค แต่เป็นมึงด้วย” พระพายร่ายยาวทันที

“ใช่ กูไม่อยากจะมีความรักอีกแล้ว กูไม่พร้อมที่จะเป็นแบบนั้น กลัวจะอ่อนแออีก อีกอย่าง..รูปนั้นมันก็มีส่วน ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัวของกูหรอก”

“ทำไมไม่ถามตรงๆไปเลยวะ” พระพายออกจะหงุดหงิดไม่น้อย

“ช่างมันเถอะ เดี๋ยวกูก็ดีขึ้น” เก้าถอนหายใจออกมาพลางยิ้มนิดๆ

“หนีใจตัวเองมันยากนะเก้า” พระพายเริ่มจริงจังขึ้น

“ไม่ยากหรอก ถ้าจะทำก็ทำได้” เก้ายืนยันอย่างนั้น

“มึงนี่มัน...โอ๊ย!!” พระพายไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดกับเก้าได้แล้ว

“กินข้าวดีกว่า” เก้าว่า ซึ่งตอนนี้อาหารมาวางอยู่ตรงหน้าแล้ว


        ทั้งสองคนทานอาหารกันไปเงียบๆ มีพูดคุยกันบ้างเล็กน้อยเพราะต่างคนต่างจมกับความคิดของตัวเอง พระพายซึ่งคิดอยากจะช่วยเพื่อนแต่ก็กลัวจะก้าวก่ายจนเกินไป ส่วนเก้านั้นคิดว่าพรุ่งนี้จะทำอะไรดีที่ทำให้ตัวเองไม่ฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้

        มากกว่านั่งทานข้าวคือเก้าสั่งเบียร์มาดื่มด้วย พระพายเองก็อยากดื่มจึงพากันนั่งดื่มไปเรื่อยๆ เมื่อได้ดื่มเบียร์ก็เริ่มจะคุยกันมากขึ้น จากเวลาเย็นจนตอนนี้เริ่มค่ำแล้ว ทั้งสองดื่มเบียร์กันไปคนละสองสามขวดใหญ่

        จู่ๆก็มีโทรศัพท์ดังขึ้น พระพายยังคงดื่มไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจว่าจะเป็นเสียงโทรศัพท์ของใคร เก้าจึงเรียกพระพายขึ้นมา

“พาย มือถือมึงดัง” เก้าบอก พระพายที่เริ่มกรึ่มๆจึงหยิบมันขึ้นมาดูพบว่าเป็นพิธานโทรมา

“คุณพิธาน” พระพายเอ่ยชื่อและรีบรับสายทันที

“ฮัลโหล”

“อ๋อ อยู่กับเก้า..เดี๋ยวก็กลับ”

“ไม่ต้องมารับ ไว้เจอกันที่ห้อง”


        จากนั้นพระพายก็วางสาย เก้ามองพระพายที่อมยิ้มออกมา ดูเหมือนตอนนี้เพื่อนของเขาจะมีความสุขสุดๆ ดูได้จากสีหน้า แววตาและคำพูดที่พูดกับพิธานเมื่อครู่นี้

“กลับเถอะมึง นี่ก็จะสามทุ่มแล้ว” เก้าว่าพลางดูนาฬิกาข้อมือ

“นี่เรานั่งกันนานขนาดนั้นเลยเหรอวะ?” พระพายไม่อยากจะเชื่อว่านั่งกันนานจนถึงสามทุ่ม

“เออ กลับเถอะ”


        เมื่อจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระพายก็ขึ้นแท็กซี่ไปก่อน จากนั้นเก้าก็ขึ้นแท็กซี่อีกคันกลับห้องพัก พระพายที่ดื่มเบียร์ไปก็มีกลิ่นติดตัวมาพอสมควรแต่โชคดีที่ไม่ได้เมาแค่มึนนิดหน่อยเท่านั้น

        กว่าจะถึงคอนโดก็ปาไปสี่ทุ่มกว่า พระพายเดินขึ้นลิฟต์ไปพร้อมความรู้สึกอยากอาบน้ำมากถึงมากที่สุด เมื่อมาถึงห้องพระพายก็ไขประตูห้องพลางหันไปมองห้องของไคที่อยู่ตรงข้าม ดูท่าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อคลี่คลายเรื่องพวกนี้แล้ว

        เข้ามาในห้องก็พบว่าไปเปิดสว่างอยู่แล้ว ดูท่าพิธานจะมาถึงก่อนและก็เป็นไปอย่างที่คาดไว้ ตอนนี้พิธานนั่งรออยู่ที่โซฟาหน้าทีวี พระพายยิ้มแห้งก่อนที่จะเดินไปใกล้ๆและพบว่าพิธานอาบน้ำเปลี่ยนชุดทำงานมาเป็นชุดลำลองแล้ว

“คุณกลับมาก่อนผมอีกเหรอ?” พระพายถาม

“ใช่ ถึงก่อนนายหนึ่งชั่วโมง” พิธานตอบ

“โกรธผมรึเปล่าที่กลับมาช้า”

“ไม่หรอก นายกินข้าวมาแล้วใช่ไหม?”

“กินแล้วและก็ดื่มเบียร์นิดหน่อย” พระพายยิ้มกว้าง

“รู้ ได้กลิ่นมาตั้งแต่เปิดประตูแล้ว”

“ไม่ได้โกรธผมจริงๆใช่ไหม?” พระพายถามอีกครั้ง

“ไม่..ฉันแค่กำลังทดสอบตัวเองว่าถ้านายกลับช้ากว่านี้ฉันจะทนได้นานสักเท่าไหร่” และนั่นคือคำตอบที่แท้จริง

“กำลังอดทนสินะ” พระพายเข้าใจแล้วว่าตอนนี้พิธานกำลังรอเขาอย่างอดทนแทนที่จะโกรธหรือไปตามด้วยตัวเอง

“ขอบคุณนะ” พระพายแล้วเข้าไปจูบแก้มพิธาน

“ไปอาบน้ำเลย” พระพายหัวเราะออกมาและเดินไปอาบน้ำตามที่พิธานบอก


        ใช้เวลาไม่นานนักพระพายก็เดินมาหาพิธานด้วยชุดนอนของตัวเอง พิธานนั่งดูสารคดีเกี่ยวกับงูอนาคอนด้าที่ลุ่มน้ำอเมซอนอย่างตั้งใจ ภาพที่กำลังฉายนั้นคือภาพงูตัวยักษ์กำลังงาบจระเข้ตัวขนาดกลาง

“น่ากลัว” พระพายพูดพลางนั่งลงข้างๆพิธาน

“มันเป็นธรรมชาติของสัตว์ป่า” พิธานว่าอย่างนั้น

“คุณพิธาน...วันนี้ผมไปกับเก้า” จู่ๆพระพายก็พูดขึ้น

“ฉันรู้”

“นั่นแหละ ผมเลยมีเรื่องจะถาม” พิธานจึงละสายตามามองพระพาย

“เรื่องอะไร?”

“คุณไค...มีแฟนหรือคบกับใครอยู่รึเปล่า?” พิธานส่ายหน้าแทบจะทันที

“ไม่มีเลยเหรอ?” ถามอีกครั้ง

“ไม่มี..ว่าแต่ถามทำไม?” พิธานขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“ก็....เก้าบอกคุณไคมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”

“เหรอ....ไม่เคยรู้มาก่อนเลย” พิธานนั่งคิด

“แต่เก้าเห็น...” พระพายทำท่าจะพูดแต่ก็ชะงักเสียก่อน

“เห็นอะไร?” พิธานถาม

“เอ่อ...เห็น อะไรสักอย่างในห้อง...”


            ใจก็อยากบอกไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ใจหนึ่งก็คิดว่าไม่อยากให้พิธานรู้อะไรเยอะไปกว่านี้เพราะเรื่องบางเรื่องเชื่อว่าเก้าคงไม่อยากให้คนอื่นรู้นอกจากเขา พิธานเงียบไปพลางมองพระพายที่นิ่งเพราะใช้ความคิดก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ผมจะทำยังไงดี ผมสงสารคุณไค และตอนนี้เก้าก็น่าเป็นห่วง”

“ยังไง?”

“เก้าน่าจะ....ชอบคุณไค” พระพายก็ไม่อยากปูดความลับเพื่อนให้กับแฟนฟัง แต่ถ้าไม่พูดก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรได้

“แล้วมันมีปัญหาตรงไหน?”

“มีสิ ก็ตรงที่เก้าคิดว่าคุณไคมีที่ชอบอยู่แล้ว เก้าเลยขอให้คุณไคเลิกยุ่งด้วย” พิธานเงียบไป

“ปล่อยให้ไคจัดการเองเถอะ”

“แต่คุณต้องบอกคุณไคถึงเรื่องนี้สิ ไม่อย่างนั้นก็จะเข้าใจผิดกัน” พระพายเริ่มใส่อารมณ์เข้าไปเพราะอยากให้พิธานช่วย แต่พิธานกลับเฉยเมยเสียอย่างนั้น

“ไม่ต้องเครียดหรอก ไคไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ เดี๋ยวมันก็จัดการเอง รอดูก็พอ”

“คุณนี่ไม่คิดจะช่วยเพื่อนเลยเหรอ?” พระพายไม่เข้าใจในท่าทีที่เฉยชาของพิธานเลยทั้งที่เป็นเรื่องของไคเพื่อนสนิทของตัวเองแท้ๆ

“อย่าเอาเรื่องของคนอื่นมาเป็นเดือดเป็นร้อนสิ” พิธานว่าพลางลูบผมพระพายให้ใจเย็นลง

“ก็ผมอยากช่วยทั้งสองคน” พระพายทำหน้าตูม

“เชื่อฉันสิ รอไคกลับมาก่อน เดี๋ยวเจ้านั่นก็จะมาจัดการเองนั่นแหละ ฉันไม่อยากเข้าไปยุ่งเดี๋ยวเรื่องมันจะพลิก”

“อย่างนั้นเหรอ?”

“ใช่ รอดูเถอะ” พิธานบอกเท่านั้นก่อนที่จะล้มตัวลงนอนหนุนตักพระพายและดูทีวีต่อไป


        พระพายเริ่มใจเย็นลงและเริ่มคิดอย่างที่พิธานพูด ไคน่าจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆและคงต้องจัดการอะไรสักอย่างได้แน่ เท่านี้ก็แค่รอดูว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร หวังแค่ว่าให้เก้ามีความสุขเท่านั้นก็พอแล้ว...



Lyrics: Out of reach by Gabrielle.
   

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
ไม่ต้องห่วงพระพายเป็นเพื่อนพิธานได้ไม่น่าจะธรรมดา

ออฟไลน์ swoooaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไคคงไม่น่าเป็นห่วงแล้วมั้งอย่างงี้ เพื่อนกันคงร้ายเหมือนกัน 555 รอลุ้นให้เก้าโดนจัดการดีกว่า

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
พระพายหัวร้อนอะ 555555555555

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เก้าคิดมากไปปะ  :hao4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด