#Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-  (อ่าน 223825 ครั้ง)

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ มาลงช้าไปสองวัน ขออภัยด้วยนะคะ  :hao5: มาลงตอนต่อไปแล้ว ถ้ามีคำผิดหรือผิดพลาดอะไรขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจ ไว้เจอกันตอนต่อไปค่ะ  :กอด1:
++++++++++++++++++++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 33 Close.


Cause if I want you, and I want you, babe
เพราะหากฉันต้องการเธอ และฉันต้องการเธอจริงๆที่รัก
Ain’t going backwards, won’t ask for space
จะไม่มีทางถอย จะไม่มีที่ว่างระหว่างเรา
Cause space is just a word made up by someone who’s afraid to get too…
เพราะที่ว่างนั้น เป็นแค่คำที่ถูกสร้างขึ้นมา โดยคนที่หวาดกลัวที่จะ…
Close, ooh
ใกล้กัน
Oh, so close, ooh
ใกล้ชิดเหลือเกิน
I want you close, ooh
ฉันต้องการเธอมาแนบชิด
Oh, I want you close, and close ain’t close enough, no
ฉันต้องการเธอมาแนบชิดฉัน และมันก็ยังไม่ใกล้กันพอเสียที



        หลังจากวันหยุดวันนั้น พระพายก็กลับเข้าสู่วงจรการทำงานเฉกเช่นเคย หลังจากที่ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานและลงเอยด้วยการมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเสียที พระพายก็ต้องมานั่งทำงานอย่างขะมักเขม้นเพราะงานจ่อรอให้จัดการเสียมากมายหลังจากที่ได้หยุดพักผ่อนไป นี่ก็ผ่านมาห้าวันแล้วหลังจากวันหยุด วันนี้เป็นวันศุกร์ซึ่งเป็นวันงานปกติ

        หลังจากที่คบกับพิธานเป็นแฟน พิธานมักจะโทรมาหาพระพายเสมอ เช้า เที่ยง เย็น ก่อนนอน เรียกได้ว่า ทุกเวลาว่างของพระพายคือการคุยโทรศัพท์กับพิธาน แม้จะคุยกันแต่ก็ไม่ได้เจอหน้ากันเลยเพราะพิธานบอกว่างานยุ่ง ปลีกตัวยากมาก เวลาโทรคุยกันก็ระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น พระพายเข้าใจดีว่าโตๆกันแล้วจะมาทำตัวเอ้อระเหยไม่รับผิดชอบงานก็ไม่ถูก ถึงจะได้คุยกันสั้นๆสองสามครั้งต่อวัน แต่ก็รู้สึกดีว่าอย่างน้อยพิธานก็ยังเป็นห่วงและโทรมาหาเสมอทุกครั้งที่มีเวลาที่คุยได้ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

“จะบ้าตาย...” เสียงคนในแผนกโอดครวญมือนั้นก็ยังคงรัวนิ้วลงบนแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง พระพายจึงดึงความคิดกลับมาสู่การทำงานอีกครั้ง

“เอาเวลาบ่นไปทำงานโว้ย” พี่กล้วยที่ตะโกนสวนทันทีที่ได้ยินน้องๆในเผนกบ่น

“บ่นบ้างเหอะพี่”

“มึงดูไอ้พายสิ มันน้องเล็กยังไม่บ่นเลย” พี่กล้วยว่า

“มันดูเริงร่าจนน่าตกใจ ขนาดงานจะท่วมกองหัวมันยังนั่งยิ้มอยู่เลย” เสียงรุ่นพี่ร่วมแผนกอีกคนพูดขึ้น

“เขาเรียกเอ็นจอยกับการทำงานครับ” พระพายว่า

“ไม่จริงๆ กูไม่เคยเห็นมึงนั่งยิ้มแบบนี้ แปลว่าวันหยุดต้องมีอะไรเจ๋งๆเกิดขึ้นแน่นอน แถมมีคนโทรมาทุกเวลาหลังอาหารแบบนี้อีก บอกกูมาพระพายน้องรัก” พี่กล้วยถามทันทีที่มีคนเปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา

“ก็ไปเที่ยว ก็แค่สนุกเอง” พระพายว่า แต่รอยยิ้มนั้นกว้างเสียจนน่ามั่นไส้

“ครับๆ หน้าบานเป็นกระด้งแบบนี้ มากกว่าสนุกล่ะกูว่า” พี่กล้วยเบ้ปากล้อพระพาย

“พระพายเหมือนคนมีความรักเลย” พี่ปีที่นั่งฟังเงียบๆก็พูดแทรกขึ้นมา พระพายสะดุ้งเมื่อได้ยินเช่นนั้น พี่ปีเป็นคนที่เฉียบขาด
มากในเรื่องอ่านความรู้สึกของคน นี่คือสิ่งที่พระพายคิดมาเสมอตั้งแต่รู้จักกันมา

“ว่าไปพี่ปี” พระพายปฏิเสธกลบเกลื่อน

“จริงเหรอ เห็นมีออร่าสีชมพูตั้งแต่กลับมาจากเที่ยวแล้วนะ” พี่ปีว่าพลางยิ้ม สายตาที่ส่งมาดูเหมือนคนรู้ทัน

“ก็นิดนึงครับ” พระพายเลือกที่จะยอมรับกลายๆ

“อะไรวะ พอกูถามแล้วไม่บอก ทีไอ้ปีพูดนี่บอกเร็วเชียวนะ” พี่กล้วยโวย

“ก็พี่ปีถามดีๆนี่หน่า”

“สรุปมึงมีแฟนแล้ว?” พี่กล้วยถามย้ำอีกรอบ

“ก็ครับ..มีแล้ว” พระพายบอก

“อะไรนะ เมื่อไหร่วะ เก็บเงียบเชียวนะมึง” พี่กล้วยร้องเสียงดังเมื่อพระพายยอมรับว่ามีแฟนแล้ว

“ก็...ช่วงไปเที่ยวนั่นแหละ”

“เหรอวะ....ไหนเอารูปมาดูหน่อย..แต่เดี๋ยวนะ มึงไปเที่ยวกับเพื่อนมึงนี่หว่า ตัวผู้ทั้งนั้นไม่เห็นมีสาวๆสักคน” พี่กล้วยนึกสงสัยขึ้นมา

“ไม่พูดกับพวกพี่แล้ว จะทำงานต่อ” พระพายตัดบทไปดื้อๆก่อนที่จะทำงานต่อ

“เดี๋ยวสิได้พาย ตอบกูก่อน!!”


        พระพายไม่ได้สนใจเสียงโวยวายของพี่กล้วยที่ดังอยู่ต่อเนื่อง พระพายเลือกจะทำงานต่อเพื่อจะได้เสร็จเร็วๆให้หมดในวันนี้ เพื่อพรุ่งนี้จะได้ทำงานใหม่และจะได้หยุดพักผ่อนในวันอาทิตย์ได้อย่างสบายใจ

        นั่งทำงานไปเรื่อยๆจนเวลาล่วงเลยมาถึงสี่โมงกว่า ใกล้จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว โชคดีที่งานคืบหน้าไปเยอะเหลืองานอีกไม่มากเท่าไหร่แล้ว จู่ๆโทรศัพท์มือถือก็สั่นขึ้นมา มีคนโทรเข้ามาซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นพิธานนั่นเอง พระพายตัดสายทิ้งเพราะยังอยู่ในเวลางานแม้จะใกล้เลิกงานแล้วก็ตาม จึงเลือกที่จะส่งข้อความบอกว่าจะโทรกลับ ซึ่งพิธานตอบกลับว่าได้ พระพายจึงรีบทำงานต่อจนถึงเวลาเลิกงาน

“กลับบ้านๆ” พี่กล้วยว่าพลางปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองอย่างรวดเร็วก่อนใครเพื่อน

“ตอกบัตรเข้างานคลานเป็นเต่า พอตอกบัตรออกนี่วิ่งเป็นเสือเชียวนะ” พี่ปีแขวะพี่กล้วยที่กำลังเก็บของลงลิ้นชัก

“ใครบอกมึงปี ตอนตอกบัตรกูเร็วกว่าเสืออีก ไม่อย่างนั้นก็โดนหักเงินเดือนสิวะ” พี่กล้วยว่า พี่กล้วยหัวเราะ

“แล้วมึงล่ะพาย รีบกลับไปหาที่รักของมึงไหม?” พี่กล้วยถาม

“เหลืองานค้างอีกนิดหน่อยพี่ ว่าจะทำวันนี้ให้เสร็จ พรุ่งนี้จะได้ทำงานใหม่ที่เพิ่งได้รับมา” พระพายว่า

“เออๆ ทำไปเถอะ กูไปละนะ” พี่กล้วยและคนที่เหลือพากันลุกกลับบ้าน คงเหลือแต่พระพายและพี่ปีที่เลือกจะทำงานต่อ

“พาย จะกลับกี่โมง?” พี่กล้วยถามขึ้น

“น่าจะอีกชั่วโมงครับพี่กล้วย” พระพายบอกตานั้นก็จ้องมองงานในจอคอมพิวเตอร์

“ถ้าอย่างนั้นออกจากออฟฟิศพร้อมกันนะ นั่งคนเดียวมันน่ากลัว” พี่ปีบอก

“พี่ปีกลัวผีเหรอ?”

“ใช่สิ ผีในออฟฟิศในตึกมันก็ต้องมีบ้างแหละ”

“ได้ครับ เดี๋ยวเสร็จงานแล้วผมจะบอกนะ”

“ตามนั้น”


        พระพายนั่งทำงานต่อไปเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันมีสายเรียกเข้ามาอีกครั้ง พระพายมองชื่อคนโทรเข้ามาซึ่งเป็นคนเดิมกับที่โทรมาเมื่อครู่นี้ พิธานนั่นเอง ตอนนี้พระพายอยู่นอกเวลางานแล้วจึงรับสายได้

“ฮัลโหล”

“นี่มันเวลาเลิกงานแล้วไม่ใช่เหรอ?” พิธานพูดเป็นสิ่งแรก

“ผมทำงานล่วงเวลานิดหน่อย มีงานค้าง”

“จะกลับกี่โมง?”

“น่าจะอีกสักชั่วโมง”

“ออกมาแล้วโทรบอกด้วย” พิธานบอกเท่านั้นก่อนจะตัดสายไป

“เดี๋ยว..ฮัลโหล” พระพายพยายามเรียกแต่พิธานก็ตัดสายไปแล้ว

“รวดเร็วจริงแหะ”


        พระพายจึงรีบทำงานต่อ การที่พิธานบอกเช่นนั้นแปลว่าเจ้าตัวกำลังรอคงเพราะอยากคุยแน่นอน พระพายจึงรีบทำงานอย่างน้อยก็ให้เสร็จไวกว่าที่กำหนดไว้ จะได้โทรหาพิธานได้เร็วขึ้น

        นั่งทำงานไปจนเสร็จหมดในส่วนที่ตัวเองกำหนดไว้แล้ว พระพายวางมือลงและลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจเพราะนั่งนานจนเกินไป จากนั้นก็ปิดคอมพิวเตอร์และเก็บของทั้งหมด

“เสร็จแล้วเหรอพาย” พี่ปีถามขึ้น

“ครับ เสร็จแล้ว กลับเลยไหมพี่”

“รอพี่ห้านาที ใกล้เสร็จแล้ว”

“ได้ครับ” พระพายนั่งรอพี่ปีพลางหยิบโทรศัพท์มือถือโทรหาพิธานที่ป่านนี้คงกำลังรออยู่ เพียงแค่ครู่เดียวพิธานก็รับสาย

“เสร็จแล้วเหรอ?” พิธานถาม

“ครับ อีกห้านาทีจะออกจากออฟฟิศแล้ว ว่าแต่คุณมีอะไรด่วนรึเปล่า?”

“เปล่า ถ้าออกจากออฟฟิศก็โทรบอกด้วย”

“ทำไมล่ะ จะนัดผมไปไหนรึเปล่า?”

“ไม่หรอก โทรมาก็พอแล้ว” พิธานบอกเท่านั้น

“ได้ เดี๋ยวผมโทรบอก” ห้านาทีอย่างที่พี่ปีบอกไว้ ตอนนี้ทั้งสองคนลงลิฟต์และเดินออกมาจากออฟฟิศแล้ว

“พาย กลับยังไง ให้พี่ไปส่งไหม?” พี่ปีถามในขณะที่เดินออกมาอยู่หน้าออฟฟิศแล้ว

“รบกวนพี่ปีรึเปล่าครับ?” พระพายถามอย่างเกรงใจ

“ไม่หรอก ไปๆ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พระพายขึ้นไปนั่งบนรถ ในขณะเดียวกันก็โทรหาพิธานไปด้วย พิธานรับสายอย่างรวดเร็วเช่นเคย

“ลงมาจากรถคันนั้นเลย” พิธานพูดคำแรกด้วยน้ำเสียงเข้มจนพระพายตกใจ

“เดี๋ยวนะ คุณพูดว่าอะไร?” พระพายถามอย่างงๆ

“ลงจากรถคันนั้น ฉันจอดรอนายอยู่”

“ผมไม่เห็นคุณเลย” พระพายเปิดกระจกและมองเห็นแค่รถยนต์คันหนึ่งซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน ด้านพี่ปีที่เพิ่งติดเครื่องยนต์ก็สงสัยว่าพระพายเป็นอะไร

“ทำไมเหรอพาย?” พี่ปีถามขึ้นมาทันที

“เอ่อ มีคนมารับผมแล้วครับ ขอโทษนะครับพี่ปี”

“ไม่เป็นไร กลับดีๆนะ” พี่ปีพูดพลางยิ้มให้

“ไว้เจอกันพรุ่งนี้ครับ”


        พูดจบพระพายก็รีบลงจากรถและเดินไปยังรถคันสีดำมันปลาบที่จอดอยู่ เป็นรถยุโรปที่ไม่คุ้นตา พระพายเปิดประตูและพบว่าพิธานนั่งอยู่ในรถ ด้วยใบหน้านิ่งๆของเจ้าตัวที่เห็นจนชินตา

“วางสายสิ” พิธานบอก พระพายมองโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้วางสาย

“โทษที” พระพายบอกเท่านั้น

“ถ้านายโทรหาฉันช้ากว่านี้ นายคงไปกับผู้ชายคนนั้นแล้ว” พิธานว่า มือนั้นเริ่มหมุนพวงมาลัยขับรถออกจากลานจอดรถทันที

“เขาเป็นพี่ที่ทำงาน”

“ไม่ได้ชอบนายใช่ไหม?” พิธานถาม สายตานั้นมองตรงไปยังทางข้างหน้า

“ไม่มีหรอก เรื่องแบบนั้นน่ะ”

“ถ้านายยืนยัน ฉันก็จะเชื่อ”

“ว่าแต่ทำไมวันนี้มารับผมได้ล่ะ”

“คิดถึง...อยากเจอ” พิธานพูดเท่านั้น พระพายที่ได้ยินถึงกับอมยิ้มจนแก้มพองลม

“พรุ่งนี้ผมต้องทำงานอีกวันนี่สิ ที่จริงน่าจะมาเจอกันวันพรุ่งนี้ดีกว่า” พระพายว่า

“ไม่เป็นไรหรอก พรุ่งนี้ก็เจออีก”

“ว่าแต่จะไปไหน?” พระพายถาม

“ไปกินข้าวกัน และก็ไปค้างคอนโดฉัน”

“เดี๋ยวสิ ผมไม่มีเสื้อผ้านะ ของใช้ก็ไม่มี” พระพายร้องเสียงหลงทันทีเพราะไม่มีความพร้อมใดๆสักอย่าง

“ไปซื้อสิ จะยากอะไร”

“แต่ว่า”

“หรือนายไม่อยากค้างคอนโดฉัน?” พิธานถาม สายตาเหล่มองพระพาย

“ไม่ใช่อย่างนั้น..แค่คิดว่ามันสิ้นเปลือง”

“เรื่องแค่นั้นเอง ไม่เห็นจะสิ้นเปลืองตรงไหน”

“ตามใจคุณเลยล่ะกัน”

             พระพายพูดเท่านั้น ก่อนที่จะเอนหลังพิงเบาะเพราะวันนี้รู้สึกเหนื่อยเหลือเกินกับการทำงานที่เร่งรีบเพื่อจะทำให้เสร็จตามกำหนดของตัวเอง มันคงตึงมือจนเกินไปจนรู้สึกล้า

“ง่วงก็นอนไปก่อน เดี๋ยวถึงแล้วจะบอก” พิธานบอก

“ปลุกผมนะ” พระพายพูดและเพียงไม่กี่นาทีพระพายก็หลับลงอย่างรวดเร็ว


        ไม่อาจจะทราบได้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่รู้อีกทีพิธานก็เอาหน้ามาใกล้ๆและจูบลงตรงริมฝีปากเบาๆ นั่นทำเอาพระพายตื่นขึ้นทันที

“ถึงแล้วเหรอ?” พระพายถาม รู้สึกว่าหลับไม่ได้ไม่นานเท่าไหร่ในความรู้สึก

“ถึงแล้ว ไหวรึเปล่า?” พิธานถามพลางมองใบหน้าเหนื่อยๆของพระพาย

“ไหวสิ หิวจนจะกินช้างได้แล้ว”

“ไปกันเถอะ”


        ทั้งสงคนเดินเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าที่มีผู้คนเยอะแยะ เพราะวันนี้เป็นวันศุกร์จึงมีผู้คนมาจับจ่ายใช้สอยกันพอสมควร ทั้งคนเดินไปยังร้านอาหารไทยที่อยู่ในบริเวณห้างสรรพสินค้า พระพายสั่งอาหารไปหลายอย่างโดยที่พิธานนั้นไม่สั่งอะไรเลย

“คุณไม่หิวเหรอ?” พระพายถาม

“หิว แต่ให้นายสั่ง อยากกินอะไรก็ตามใจเลย”


        เมื่อสั่งอาหารเสร็จก็ถึงเวลานั่งรออาหาร ลูกค้าในร้านมีกันหลายโต๊ะแต่ส่วนใหญ่ได้อาหารกันแล้ว จึงคิดว่าอาหารที่จะมาคงไม่ต้องรอนานจนเกินไป ระหว่างนั่งรอพระพายจึงส่งข้อความคุยกับเก้า ซึ่งตอนนี้รายนั้นกำลังนอนเล่นอยู่ที่ห้อง และพรุ่งนี้อยากจะนัดพระพายไปนั่งดื่มกันที่ไหนสักแห่ง แต่ดูเหมือนต้องบอกกล่าวกับคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าก่อน เพราะไม่รู้ว่าพิธานจะยอมให้เขาไปกับเก้าหรือไม่

“เอ่อ พรุ่งนี้...เก้าชวนผมไปนั่งดื่ม” พระพายเกริ่นขึ้นมาพลางมองสีหน้าของพิธาน

“แล้ว?”

“ผมไปกับเก้าได้ไหม” พระพายขอตรงๆ

“แค่เก้าเหรอ?”

“ใช่ แค่เก้าไปกันสองคน”

“ถ้าอย่างนั้นฉันกับไคจะไปด้วย”

“ก็น่าจะได้นะ” พระพายคิดว่าคงไม่มีปัญหาที่จะพาพิธานไปด้วยแต่ไคนี่อีกเรื่อง

             เมื่อนึกถึงไค ก็นึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมาทันที แน่นอนว่าอยากรู้มากกว่าที่เก้าเล่า จึงเลือกที่จะถามพิธานถึงเรื่องนี้ เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็ไม่รอช้าที่จะถามทันที

“เอ่อ คุณ...รู้เรื่องที่คุณไค เอ่อ...” พระพายพยายามจะถามเรื่องของไคและเก้าแต่เริ่มเรื่องไม่ถูก

 “จะถามถึงเรื่องไคจีบเพื่อนนายใช่ไหม?” พิธานถามอย่างรู้ดีว่าพระพายต้องการจะถามอะไร

“คุณอ่านความคิดผมออกรึไง”

“ฉันรู้จักนายดีกว่าตัวนายอีก” พิธานว่า

“ก็เรื่องนั้นแหละ สรุปมันเป็นยังไง?”

“ก็ไม่มีอะไรมาก เพื่อนฉันชอบเพื่อนนายก็เท่านั้น”

“แค่นั้นเองเหรอ เมื่อไหร่ยังไง ทำไมคุณไม่บอกผมล่ะ?”

“มันเป็นเรื่องของคนอื่น ไม่ใช่เรื่องของเรา ฉันเลยไม่อยากยุ่ง มันน่ารำคาญเปล่าๆ”

“ที่จริงคุณน่าจะบอกผมสักคำ” พระพายหน้างอลงเพราะพิธานไม่ยอมบอกเขาสักคำ ปล่อยมาให้มารู้เรื่องนี้คนสุดท้ายแล้ว

“เอาเถอะ ช่างเรื่องของคนอื่น มาพูดเรื่องเราดีกว่า”

“เรื่องเรา..เรื่องอะไรเหรอ?” พระพายถามอย่างสงสัย

“ฉันอยากให้นายย้ายมาอยู่กับฉัน” พิธานบอกเช่นนั้น พระพายได้แต่กระพริบตาปริบๆ

“ให้ผม..ย้ายไปอยู่กับคุณเหรอ?” ถามซ้ำอีกครั้ง

“ใช่ ย้ายมาให้เร็วที่สุด” พิธานยืนยันชัดเจน

“เดี๋ยวนะ ผมว่าอยู่แบบนี้ก็ดีแล้วนะ”

“นายไม่อยากอยู่กับฉันเหรอ?” พิธานถาม

“ไม่ใช่อย่างนั้น..แต่...แต่ผมกลัวคุณรำคาญ ผมอาจจะไม่ใช่ใช่รูมเมทที่ดีนักหรอกนะ”

“นายเป็นรูมเมทที่ไหน นายเป็นแฟนฉัน” พิธานแก้ไขคำพูด เพื่อได้ยินคำว่าแฟน พระพายเริ่มจะใจหวิวๆ

“ไม่อยากบังคับ แต่ฉันอยากให้นายมาอยู่กับฉันจริงๆ” พิธานว่า เสียงนั้นดูอ่อนลงบ่งบอกว่าเป็นคำขอร้องมากกว่าการบังคับ

“ทำไมคุณถึงอยากให้ผมไปอยู่กับคุณล่ะ?” พระพายถามความต้องการที่ชัดเจนของพิธาน

“ฉันต้องการนาย อยากอยู่ใกล้นาย เท่านี้ตอนนี้มันไม่ใกล้พอสำหรับฉัน อยากใกล้กันมากกว่านี้จนไม่มีช่องว่างระหว่างเรา”


        เมื่อได้ยินคำพูดนั้นก็เข้าใจทันทีว่าพิธานกำลังต้องการสิ่งใด พิธานเคยบอกว่าตัวเองเป็นคนยึดติด นั่นคงทำให้พิธานต้องการให้ไปอยู่ด้วยกันเพราะไม่อยากให้ห่างสายตา เป็นอารมณ์ของผู้ชายที่ขี้หวงคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

“ผมขอเวลาคิดหนึ่งวัน พรุ่งนี้ผมจะบอก” พระพายบอกไปเช่นนั้น

“ต้องคิดด้วยเหรอ?” พิธานเลิกคิ้วถามอย่างไม่ชอบใจนัก

“ต้องคิดสิ ขนเสื้อผ้าย้ายที่อยู่แบบนั้น ถ้าผมโดนเขี่ยทิ้งขึ้นมาเท่ากับไร้ที่ซุกหัวนอนเลยนะ” พระพายว่า

“ทำไมนายถึงคิดว่าฉันจะเขี่ยนายทิ้ง?” พิธานถามด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่นัก

“ผม...ไม่รู้อนาคตนะว่าจะเป็นยังไง”

“นายคิดว่าฉันจะทำแบบนั้นเหรอ ขอให้นายไปอยู่ด้วยจากนั้นก็เฉดหัวนายทิ้งเหรอ?” พระพายรู้แล้วว่าตอนนี้พิธานเริ่มไม่ชอบใจแล้ว

“ขอโทษ...แต่ผมก็มีสิทธิ์คิดนี่” พระพายว่า

“จริงของนาย เอากลับไปคิดล่ะกัน พรุ่งนี้มาตอบฉัน แต่ฉันอยากบอกนาย..ฉันต้องการนายจริงๆ” สายตาที่ส่งมานั้นยืนยันว่าคิดเช่นนั้นจริงๆ

“พรุ่งนี้ผมจะบอกนะ”


        หลังจากที่ตกลงกันได้แล้ว อาหารก็มาพอดี ทั้งสองคนนั่งทานกันไปคุยกันบ้าง แต่ไม่ได้รู้สึกถึงความอึดอัดใดๆ แม้พิธานจะเป็นเสือยิ้มยาก แต่ดูมีความสุขเวลาที่พระพายตักอาหารให้ ดวงตาจะเป็นประกายเสมอเวลาที่ถูกเอาใจ เจ้าตัวคงรู้สึกดีไม่มากก็น้อย

        นานเป็นชั่วโมงกว่าจะทานอาหารเสร็จและจ่ายเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็เดินดูนั่นนี่ไปในห้างสรรพสินค้าอยู่สักพักก่อนที่จะกลับไปยังรถที่จอดอยู่

“คืนนี้นายก็กลับห้องนายล่ะกัน ไปคิดมาว่าพรุ่งนี้จะตอบฉันยังไง” พิธานบอก ตอนนี้กำลังขับรถกลับมายังเส้นทางกลับห้องของพระพาย

“ก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าไปนอนห้องคุณ ผมไม่ได้นอนกันพอดี” พระพายว่าพลางหาววอด

“ทำไมไม่ได้นอนล่ะ?” พิธานถาม รอยยิ้มมุมปากดูทะเล้นชอบกลในสายตาของพระพาย

“ก็...ก็...” พระพายอ้ำอึ้งขึ้นมาทันที

“ก็อะไรล่ะ?” พิธานถามอีก

“ก็...เราต้อง..ทำเรื่องแบบนั้นไง” พระพายว่าพลางเสหน้าไปยังข้างทาง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันที่ต้องมาอายอะไรกับเรื่องแค่นี้

“จะอายทำไม เราทำกันจนไม่น่าจะต้องมาอายแล้ว” พิธานว่าและได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของพิธานอีกด้วย

“คุณนี่จริงๆเลย”

“อ่อ เพื่อนฉันส่งของเล่นมาให้ล่ะ พรุ่งนี้มาลองกันไหม?” พิธานพูดขึ้น

“จะบอกผมทำไมเนี่ยะ!!” พระพายร้องเสียงหลงเพราะเหมือนโดนพิธานกำลังแกล้งอยู่

“ก็ต้องบอกสิ ก็ใช้มันกับแฟน และนายเป็นอะไรสำหรับฉันล่ะ ลืมไปแล้วเหรอ?”

“ผมเป็นแฟนคุณ” พระพายย้ำเสียงเบา รู้สึกหน้าเห่อร้อน ไม่ชินเสียทีกับคำว่าแฟน จะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าชินก็ไม่อาจรู้ได้

“ดีที่จำได้”


        พิธานขับรถมาถึงหน้าที่พักของพระพาย และดูเหมือนว่าพิธานต้องกลับไปทำงานหรืออะไรสักอย่างเพราะดูเหมือนจะโดนโทรตามระหว่างทางที่ขับรถอยู่

“ฉันต้องไปแล้ว มีงานเข้า พรุ่งนี้ฉันว่าง ฉันจะไปมารับเหมือนวันนี้” พิธานบอก

“ขอบคุณครับ..พรุ่งนี้ผมจะรอ”

“จูบลากันหน่อยสิ” พิธานพูดในขณะที่พระพายปลดที่คาดนิรภัยออก

“ต้องทำเหรอ?” พระพายถาม

“ใช่สิ ชดเชยที่คืนนี้นายไม่ได้ไปนอนกับฉัน”


        เมื่อได้ยินอย่างนั้น พระพายก็ยื่นหน้าเข้าไปหาพิธานก่อนที่จะจูบลงบนริมฝีปากนั้นแผ่วเบาและผละออก แต่พิธานกลับรั้งไว้และจูบกลับด้วยความรวดเร็ว แน่นอนว่าพระพายก็จูบตอบเช่นกัน คิดถึงเหลือเกินเพราะไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่ตกลงเป็นแฟนกัน แค่คุยโทรศัพท์มันไม่พอจริงๆ ตอนนี้ชักจะเริ่มเข้าใจแล้วว่าพิธานรู้สึกอย่างไรถึงอยากให้ย้ายไปอยู่ด้วยกัน

“รีบอาบน้ำนอนล่ะ” พิธานผละจูบออกก่อนที่จะขยี้ผมพระพายเบาๆ

“ขับรถกลับดีๆนะครับ”

“ถึงแล้วจะบอก”


        พระพายลงจากรถและโบกมือให้พิธานที่ขับรถออกไปแล้ว หลังจากจูบเมื่อครู่นี้และความรู้สึกโหยหาเพราะไม่ได้เจอกันหลายวัน พอจะทำให้พระพายตัดสินใจได้แล้วว่าจะให้คำตอบพิธานในวันพรุ่งนี้ว่าอย่างไร....



Lyrics: Close by Nick Jonas ft. Tove Lo


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หวานๆๆๆ

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
คนซึนเค้าขอแฟนมาอยู่ด้วยแบบนี้นี่เอง
พระพายน่ารักอ่าาาาาา
ขโมยกลับบ้านวันหนึ่งได้ปะ 555555
 :-[

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
หูยยยยย
ของเล่น. เป็นอะไรน้าาาา

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ย้ายเลยๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
รอตอนของเล่นใหม่  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
น่ารักกกกกกก :impress2:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ punpunn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รออออของเล่นใหม่อยู่นะ :mew3: :mew3: :mew3:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ช่วงเป็นแฟนใหม่ ๆ กะลังหวานก็อยากอยู่ด้วยกันเป็นธรรมดา
เรื่องอนาคตยังมาไม่ถึงก็ช่างมันไปก่อนเถอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
สวีทมากกกกก เขินนนน :-[

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
หวานกันตลอด  :-[

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
สวีทกันจริงๆเลยคู่นี้

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเป็นแฟนกันก็อยากอยู่ด้วยกัน เชื่อดิ นี่ไม่ได้คิดอะไรเลยยยย :hao6:

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ  :mew3: วันนี้มาลงวันเสาร์ตามปกตินะคะ เพิ่งสังเกตว่าหลังๆคอมเม้นต์เริ่มน้อยลง มีอะไรยังไงก็บอกได้นะคะ ถ้าไม่ชอบไม่โอเคตรงไหนบอกได้ค่ะ ยินดีจะปรับปรุงและแก้ไขให้นะคะ แต่ก็ขอบคุณสำหรับทุกคนที่ให้กำลังใจเสมอๆ ต่อให้กำลังใจน้อยลงแต่ก็ยังมีอยู่ละเนอะ   :กอด1:  รักทุกคนค่ะ ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ  :mew1:

++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 34 Take me.

See, I like you a lot
เห็นรึเปล่า ว่าผมชอบคุณมากมายแค่ไหน

You make me buzz like an astronaut
คุณทำผมล่องลอยราวกับนักบินอวกาศ

These feels I can't shake off
ความรู้สึกนี้ไม่อาจจะสลัดให้หลุดออกไปได้

I’m in your orbit and I will never drop
ผมอยู่ในการโคจรของคุณแล้ว และจะไม่ปล่อยทิ้งไป

I'm so ready you take me as I am
ผมพร้อมแล้วที่จะให้คุณรับผมไปในแบบที่ผมเป็น

You’re worth every penny, yeah I'll pay all I can
คุณนั้นมีค่าไม่ว่าจะเท่าไหร่ ผมก็จะจ่ายทั้งหมดเท่าที่ผมมีเลย



        วันนี้เป็นวันเสาร์ วันทำงานวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้แล้ว พระพายเริ่มงานอย่างสบายๆเพราะเมื่อวานได้สะสางงานเก่าจนตอนนี้เริ่มงานชิ้นใหม่ เรียกได้ว่าไม่ได้เป็นดินพอกหางหมูให้หนักใจ ผิดกับคนอื่นๆในแผนกที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก่ากันอยู่ โดยเฉพาะพี่กล้วยที่ตอนนี้เริ่มนั่งปั่นงานจนหัวฟูและสงบปากสงบคำเพราะต้องตั้งใจทำงาน

        หลังเลิกงานพระพายได้ตกลงกับเก้าแล้วว่าจะไปนั่งดื่มกัน และบอกเก้าว่าพิธานและไคไปด้วย แม้อ่านแค่ตัวอักษรก็รู้ได้ว่าเก้าหงุดหงิดที่ให้ไคไปด้วย แต่เจ้าตัวก็ตกลงแต่โดยดี ดังนั้นวันนี้พิธานก็จะมารับอย่างที่บอกไว้ และเมื่อเช้าก็ส่งข้อความมาย้ำอีกทีว่าให้พระพายรออย่าขึ้นรถคนอื่นอีก

        การทำงานสบายๆผ่านไปเรื่อยๆจนในที่สุดเวลาก็เลยผ่านมาถึงเวลาเลิกงาน พระพายเป็นคนแรกที่ลุกขึ้น โดยที่คนอื่นๆยังคงทำงานกันอยู่

“อะไรวะพาย จะกลับตรงเวลาเลยเหรอ?” เสียงพี่กล้วยเอ่ยถาม

“อ่อ ครับ แล้วพี่จะกลับตอนไหน?”

“น่าจะช้าหน่อยว่ะ แล้วปี มึงล่ะ?” พี่กล้วยหันไปถามพี่ปี

“สักพักก็จะกลับแล้ว” พี่ปีตอบ

“ถ้าอย่างนั้นผมไปก่อนนะ”


        พระพายลาพี่ๆในแผนก เดินออกมาจากออฟฟิศที่ตอนนี้มีพนักงานคนอื่นๆพากันออกจากออฟฟิศเพราะเป็นเวลาเลิกงาน พระพายโทรศัพท์หาพิธานเพื่อจะบอกว่าตอนนี้ออกมายืนรอแล้ว

        ไม่นานนักรถคันเดิมเหมือนเมื่อวานก็มาจอดเทียบอยู่ พระพายจึงรีบวิ่งไปโดยที่พิธานเดินออกมาจากรถแล้วเดินมาเปิดประตูให้

“ผมเปิดเองก็ได้” พระพายว่า พิธานไม่พูดอะไรและเดินไปเปิดประตูฝั่งตัวเองแล้วนั่งลงแทน

“จะไปไหนก่อน?” พิธานเป็นคนถามขึ้น

“ผมว่าจะไปอาบน้ำก่อน เก้านัดประมาณสามทุ่ม”

“ไปห้องนายสินะ” พระพายพยักหน้ายืนยันคำตอบ


        พิธานจึงขับรถตรงไปยังห้องของพระพาย ซึ่งใช้เวลาไม่มากนักเพราะไม่ได้ไกลจากที่ทำงาน พิธานจอดรถที่ลานจอดรถจากนั้นก็เดินตามพระพายไปยังห้องพัก ซึ่งลุงที่เป็นผู้รักษาความปลอดภัยก็ทักทายพระพาย

“พาเพื่อนมาเหรอ?”

“ครับลุง”

“แล้วคนนั้นล่ะที่มาบ่อยๆหลังๆนี้ไม่ค่อยเห็นเลย” ลุงว่าพลางยิ้ม

“ทำงานครับ” พระพายตอบและยิ้มให้ ผิดกับพิธานที่หน้านิ่งกว่าเดิม ทั้งสองคนเดินขึ้นห้องไปชั้นสอง ทันทีที่พระพายเปิดประตูห้อง คำแรกที่พิธานเอ่ยถามขึ้นคือ....

“เพื่อนคนไหน?” พิธานถาม พระพายหัวเราะทันทีที่ได้ยิน

“ก็เก้านั้นแหละ จะใครมีอีก”

             พิธานเงียบไปไม่พูดอะไร พระพายได้แต่คิดในใจหากวันไหนมีคนแปลกขึ้นห้องมาด้วยคุณลุงที่เฝ้าอยู่ข้างล่างคงได้ทักขึ้นต่อหน้าพิธานแน่ๆ แค่คิดก็รู้สึกหนักใจที่คุณลุงทักแบบนั้น เพราะในอนาคตอาจจะทำพระพายงานเข้าได้

             พระพายวางของทุกอย่างลงบนโต๊ะ ก่อนที่จะถอดถุงเท้าและปลดกระดุมเสื้อออกเพื่อจะอาบน้ำ จู่ๆพิธานเดินมาสวมกอดจากด้านหลัง พระพายจึงชะงัก

“ผมตัวเหม็นนะ” พระพายบอก

“เหม็นตรงไหน?” พูดไม่พอ จมูกก็ดมฟุดฟิดแถวๆลำคอ พระพายย่นคอ

“สรุปได้คำตอบรึยัง?” พิธานถามพลางกอดแน่นขึ้น

“ผมควรตอบยังไงดี?” พระพายยิ้มนิดๆรอว่าพิธานจะพูดว่าอะไร

“ถ้านายไม่อยากไปฉันก็ไม่บังคับ” พิธานพูดเช่นนั้นก่อนที่จะจูบลงบนลำคอเบาๆ

“ไม่บังคับจริงเหรอ?”

“อืม ถ้านายไม่ชอบฉันก็ไม่เซ้าซี้”

“แต่ผมอยากไปอยู่กับคุณนะ แต่ในเมื่อคุณพูดอย่างนั้น ผมก็ไม่ไปล่ะกัน” พระพายอมยิ้มก่อนที่จะดึงให้พิธานปล่อย

“แกล้งฉันเหรอ?”


             พิธานดึงพระพายให้กลับมาก่อนที่จะจับเหวี่ยงลงบนเตียงนอน โดยที่พระพายได้แต่หัวเราะ พิธานโอบกอดพระพายจากด้านหลังทั้งอย่างนั้นโดยที่ไม่ให้คนในอ้อมกอดดิ้นหนีแต่อย่างใด

“คุณนั่นแหละแกล้งผม” ตอนนี้ใบหน้าของพิธานซุกไซ้แถวซอกคอของพระพาย

“ไปอยู่กับฉันนะ” พิธานพูดก่อนที่จะพลิกตัวของพระพายให้หันหน้าเข้าหากัน หยุดนิ่งและจ้องมองดวงตาของพระพายที่นิ่งลงเช่นกัน

“ผมต้องช่วยออกค่าห้องไหม?” พระพายถาม

“ออกทำไม ฉันซื้อห้องนั้นไปแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นมีอะไรที่ผมต้องช่วยออกไหม ค่าน้ำ ค่าไฟ?”

“ไม่ต้องออกอะไรทั้งนั้น แค่มาอยู่กับฉัน นอนด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกันก็พอแล้ว” พระพายที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาทันที รู้สึกอุ่นจางๆในใจเมื่อพิธานพูดออกมาเช่นนั้น

“ไม่รู้คุณรู้รึเปล่านะ แต่ผมทำกับข้าวไม่เก่ง ผมทำได้แต่ของง่ายๆ ถ้าคาดหวังว่าจะทำอาหารเป็นเรื่องเป็นราวผมทำไม่ได้”

“ฉันไม่ได้ให้นายเป็นแม่บ้านสักหน่อย เรื่องอาหารฉันจะทำเอง” พิธานบอก

“คุณทำเป็นเหรอ?”

“ได้ชิมแล้วจะรู้”

“ถ้าอย่างนั้น.....ไปอยู่ด้วยก็ได้” พระพายตอบตกลง แม้จริงๆคิดจะตกลงตั้งแต่แรกหลังจากที่คิดทบทวนเมื่อวาน แต่ก็ไม่วายอยากแกล้งพิธานเล่นๆไปอย่างนั้นเอง

“มันก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว” พิธานยิ้มมุมปาก

 “ผมปฏิเสธคุณได้ที่ไหนล่ะ เคยทำได้ด้วยเหรอ?” พระพายว่า

“นายทำไม่ได้หรอก ในเมื่อนายชอบฉันมากขนาดนี้”

“ทำเป็นรู้ขึ้นมาเชียวนะ ก็ใช่สิ ผมเป็นโลกใบน้อยๆที่โคจรรอบพระอาทิตย์อย่างคุณไง จะหลุดออกจากวงโคจรคงยากทีเดียว”

“ใช่ ไม่มีทางที่จะปล่อยให้นายหลุดออกไปจากฉันหรอก”

“มั่นใจจัง ถ้าผมหลุดออกมาล่ะทำไง?” พระพายเลิกคิ้วถามเชิงแหย่

“ไม่ว่าต้องทำยังไง ด้วยวิธีไหน ฉันจะทุ่มทุกอย่างหมดทั้งตัวฉันก็จะทำ เพื่อให้นายไม่ไปจากฉัน”

“เวลาคุณพูดแบบนี้รู้สึกขนลุกเบาๆเหมือนกันนะ นี่ผมกำลังกลัวใช่ไหม?” พระพายว่าพลางลูบแขนเบาๆ
 
“คิดไปเอง” พิธานว่าก่อนที่จะเลื่อนมือลงไปบีบสะโพกพระพาย

“อย่าจับสิ” พระพายร้องพลางหัวเราะออก

“จะเก็บของเมื่อไหร่?” พิธานถาม

“พรุ่งนี้ก็ได้ แต่ห้องนี้ผมขอเก็บไว้นะ ไม่อยากคืน”

“ทำไม?”

“ก็....ป้าผมเป็นคนเลือกห้องนี้ให้ ผูกพันกับมันจนไม่อยากคืน” นี่คือเหตุผลของพระพาย

“แล้วป้านายอยู่ไหน?” พระพายเงียบไปก่อน

“ท่านเสียแล้ว ผม...ไม่มีญาติเหลือแล้วล่ะ”

“นายมีฉัน อย่าลืมสิ”

“ผมรู้...ตอนนี้ผมมีคุณ มีเก้าและก็คุณไคไง ไหนจะพี่ๆที่ออฟฟิศอีก” พระพายว่าพลางยิ้ม พิธานลูบแก้มของพระพายเบาๆ

“มีเรื่องอะไรอีกไหมที่ฉันยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวนาย?”

“อืม....ก็ไม่รู้ว่ามีอะไรอีกนะ แต่ถ้านึกได้เมื่อไหร่ผมจะบอกคุณล่ะกัน” พระพายว่า

“มีอะไรก็บอก ถึงฉันจะรู้ว่านายคิดอะไรอยู่ แต่ก็อยากให้นายบอกฉันออกจากปากของนายมากกว่า”

“รับทราบ” พระพายว่าพลางยิ้ม

“ไปอาบน้ำเถอะ เรื่องของก็เอาไปเฉพาะที่นายจำเป็นใช้ ขาดเหลือก็ค่อยไปซื้อ” พิธานว่า

“จะให้ไปวันนี้เลยเหรอ?”

“ใช่ ดูจากข้าวของนายก็ไม่ได้เยอะ บางส่วนก็เก็บไว้ที่นี่เหมือนเดิม”

“ถ้าอย่างนั้นผมขอเก็บของก่อนอาบน้ำดีกว่า”


        พูดจบพระพายก็รีบลุกไปรื้อกระเป๋าเก็บของใช้ส่วนตัวและของใช้ที่จำเป็น เอกสารส่วนตัวสำคัญๆทั้งหลาย เก็บใส่กระเป๋าเดินทางใบเล็กที่ซื้อเมื่อปีกลายมาใส่ของทั้งหมดลง ใช้เวลากว่าเกือบสองชั่วโมงโดยที่พิธานก็ช่วยจัดของให้ด้วย ในมุมมองจากตรงนี้ที่พิธานกำลังจัดเรียงของลงในกระเป๋า พระพายสัมผัสได้ว่าพิธานเป็นคนละเอียดอ่อนคนหนึ่ง และดูจะเป็นระเบียบเรียบร้อยมากเลยทีเดียว ทำทุกอย่างอย่างตั้งอกตั้งใจ ซึ่งไม่เคยเห็นพิธานให้มุมนี้มาก่อน รู้สึกได้ว่าพิธานนั้นดูน่าพึ่งพามากเลยทีเดียว

“กว่าจะเสร็จ...” พระพายปาดเหงื่อทั้งๆที่เครื่องปรับอากาศก็กำลังทำงานอยู่

“รีบไปอาบน้ำ เดี๋ยวจะไม่ทันนัดของเพื่อนนาย”

“คุณล่ะ จะไปทั้งอย่างนี้เลยเหรอ?”

“เดี๋ยวค่อยไปอาบที่ห้องทีเดียว”


        เมื่อได้ยินอย่างนั้นพระพายก็รีบวิ่งไปอาบน้ำ เพราะตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว จึงรีบเร่งอาบน้ำแต่งตัวกลัวจะไม่ทันเวลานัด เมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตรวจเช็คของอีกรอบว่าหยิบของที่จำเป็นไปครบหรือไม่และดูรอบๆห้องถึงความเรียบร้อย จากนั้นพิธานก็ลากกระเป๋าเดินทางออกมาและพระพายก็จัดการล็อคห้องเรียบร้อย

             พิธานเก็บกระเป๋าตรงท้ายรถ และขับรถออกอย่างรวดเร็วเพื่อไปยังร้านที่เก้านัด เป็นร้านนั่งดื่มและทานอาหารได้ เปิดเพลงสบายๆและมีวงดนตรีแสดงด้วยซึ่งเก้าบอกมาเช่นนั้น

“เพื่อนคุณคนอื่นๆล่ะ?” พระพายถามขึ้น เมื่อนึกถึงกลุ่มเพื่อนของพิธาน

“ช่วงนี้ยุ่งกันทั้งนั้น เลยไม่ค่อยได้เจอ”

“แล้ว...เพื่อนๆคุณรู้เรื่องผมรึยัง?”

“ไม่ต้องบอกพวกนั้นก็รู้” พิธานว่า

“รู้โดยไม่ต้องบอกก็ได้เหรอ?” พระพายถามอย่างไม่อยากเชื่อ

“จำตอนที่เราคุยโทรศัพท์กันได้ไหม?”

“ตอนไหนนะ...อ่อ ตอนที่พวกนั้นพูดใส่โทรศัพท์ว่า...เมีย ใช่ไหม?” เมื่อนึกคำนั้นขึ้นมาก็อดตลกไม่ได้

“ใช่ ถ้าพวกนั้นไม่รู้ก็แปลกแล้ว”
 
“แต่คนที่คุณสนิทที่สุดคือคุณไคใช่ไหม?”

“ใช่”

“ผมเองก็ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับตัวคุณเท่าไหร่เลย” พระพายว่า

“เดี๋ยวก็จะรู้มากขึ้น เชื่อสิ”


        พิธานขับรถมาถึงร้านที่นัดหมาย โดนที่ช้ากว่าเวลานัดไปสิบนาทีเพราะรถติดพอสมควรเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด เมื่อเดินเข้าไปในร้านพบว่าไคและเก้านั่งรออยู่แล้ว

“มาแล้วเหรอ คู่ข้าวใหม่ปลามัน” เก้าร้องทักทันทีที่เห็นหน้า พิธานมองหน้าเก้าด้วยใบหน้านิ่งๆ ไคได้แต่ส่ายหน้า

“ไปทักอะไรแบบนั้น พระพายอายนะ” ไคพูด

“มันต้องเลิกอายได้แล้ว” มองไปมองมาเหมือนไคเป็นเพื่อนของพระพายมากกว่าเพราะดูจะปกป้องพระพายซึ่งต่างกับเก้า

“สั่งอะไรกันรึยัง?” พิธานเอ่ยถามพลางนั่งลง พระพายเองก็นั่งลงข้างๆเก้า

“สั่งไปแล้ว คิดว่าคงต้องหิวกัน” ไคว่าพลางยิ้ม

“ขอบคุณครับคุณไค” พระพายบอก

“เป็นไงบ้างพระพาย สบายดีใช่ไหม?” ไคถาม

“ครับ สบายดีแต่งานยุ่งมาก”

“เออ หลังไปเที่ยวงานเยอะมาก นี่กูยังทำไม่เสร็จเลย” เก้าพูดขึ้นมา

“ดีนะที่กูทำเสร็จแล้ว ตอนนี้กำลังทำงานตัวใหม่” พระพายเล่าถึงงานของตัวเอง

“แล้วพวกมึงล่ะ ชีวิตวุ่นวายเหมือนพวกกูรึเปล่า?” เก้าหันไปถามไค

“ก็ยุ่งตลอดแหละ แต่ก็ต้องหาเวลาพักบ้าง” ไคบอก

“จริงๆวันนี้กูตั้งใจจะมากับพายสองคนนะ พวกมึงมันตัวแถม” เก้าว่าพลางเหล่มองไปยังพิธาน

“เอาน่า เดี๋ยวค่อยรอบหน้าก็ได้” พระพายว่า

“รอบหน้าฉันก็จะมาด้วย” พิธานบอก

“อะไร มึงจะทำตัวติดกันเป็นเงาเลยรึไง?” เก้าหันไปถามพระพาย

“ใช่” พิธานยอมรับ

“มึงไม่ย้ายไปอยู่ด้วยกันเลยล่ะ จะได้ตัวติดกันสมใจ”

“เอ่อ..พูดถึงเรื่องนี้ เก้า..วันนี้กูจะย้ายไปอยู่กับเขาละนะ” พระพายบอกพลางยิ้มแห้งๆ เก้าตาโตเป็นไข่ห่านทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น พิธานยิ้มอย่างมีชัย

“จริงเหรอ ดีจัง จะได้อยู่ใกล้ๆกัน” ไคดีอกดีใจ

“นี่มึงเอาจริงเหรอพาย?” เก้าถาม

“ก็นะ คิดดีแล้ว” พระพายยืนยันเช่นนั้น

“เอาเถอะ ถ้ามึงตัดสินใจแล้ว กูก็ตามนั้น” 

“นายมีสิทธิ์ไปห้ามพระพายด้วยรึไง?” ไคถามพลางหัวเราะ

“อ้าวมึง พูดจากวนตีน” เก้าหันไปว่าไค

“นี่ มึงก็เพลาๆหน่อย เขาจีบมึงนะ อย่าวางก้ามมากนักสิ” พระพายว่า

 “นั่นสินะ พระพายเองยังเข้าใจอะไรๆมากกว่านายอีก” ไคเห็นด้วยกับพระพายอย่างที่สุด

“แล้วไง มันจีบกู กูต้องอ่อนหวานกับมันรึไง?” เก้าเถียงขึ้นมาทันทีเมื่อรู้สึกได้ว่าตัวเองไม่มีพวก

“ก็ไม่ต้องอ่อนหวานหรอก แต่พูดจาดีๆก็ได้ นี่มึงจะกัดเขาทุกเวลา”

“กูก็เป็นของกูแบบนี้” เก้าว่า

“เออๆ มึงเป็นแบบนี้แหละกูรู้” พระพายว่า จากนั้นอาหารก็มาเสิร์ฟพอดี

“กินข้าว” พิธานพูดแค่นั้นคือระฆังพักยกให้ทุกคนหยุดเถียงกัน


        ทั้งสี่คนทานอาหารกันไป พลางพูดคุยกันบ้าง พระพายกับเก้าก็คุยกันถึงเพลงและเรื่องข่าวสารที่คนกำลังพูดถึงในตอนนี้ การทานอาหารกันครั้งนี้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเพราะวงดนตรีที่กำลังเล่นดนตรีและร้องเพลงนั้น สร้างบรรยากาศที่ดีในการทานอาหารครั้งนี้

“กูชอบเพลงนี้” เก้าว่าขึ้น

“กูจำได้ เมื่อก่อนมึงชอบให้โก๋มันดีดกีต้าร์เพลงนี้” พระพายพูดถึงเรื่องสมัยเรียนมหาวิทยาลัย

“ก็กูดีดไม่เป็นนี่ ไอโก๋มันดีดเก่งที่สุดแล้ว” เก้าว่า

“นายเล่นกีต้าร์ไม่เป็นเหรอ?” ไคถาม

“เออ”

“ฉันเล่นเป็นนะ” ไคบอก

“แล้วไง ใครถามมึง” เก้าสวนทันที

“คุณไคเขาบอกมึงเฉยๆ” พระพายพูดขึ้น

“มึงก็เข้าข้างมัน กูเพื่อนมึงนะ” เก้าว่าขึ้น

“เพื่อนกูทั้งสองคนนั่นแหละ” พระพายว่าพลางตักอาหารให้พิธาน

“เออ ให้มันจริงเถอะ ไม่ใช่เข้าข้างคนอื่นมากกว่ากูหรอกนะ” เก้าค้อนพระพาย

“เก้าเพื่อนรัก อย่ามองเพื่อนอย่างนั้น กินข้าวเถอะ” พระพายว่า ไคถึงกับแอบหัวเราะในสรรพนามที่เรียกเก้าของพระพาย


        ทานอาหารเสร็จถึงเวลาดื่ม ไคสั่งเปิดเครื่องแอลกอฮอล์ขนาดหนึ่งลิตรซึ่งเป็นแบรนด์ที่ชายหนุ่มทั่วไปนิยมดื่ม เก้านั่งดื่มอย่างหน้าชื่นตาบานเพราะได้ดื่มเครื่องดื่มมึนเมาที่แสนจะชื่นชอบ

“ไปเข้าห้องน้ำนะ” ไคบอกก่อนที่จะลุกขึ้น ในขณะเก้าก็ลุกไปคุยโทรศัพท์บอกว่าเพื่อนที่ทำงานโทรมา

         ตอนนี้จึงเหลือแค่พิธานกับพระพาย เมื่อเป็นอย่างนั้นพิธานก็ลุกไปนั่งข้างพระพายแทน พระพายยิ้มออกมาเมื่อเห็นพิธานลุกมานั่งข้างตน

“เดี๋ยวเก้าบ่นจมแน่นอน”

“ไม่สน” พิธานพูดเท่านั้น

“ดื่มแบบนี้ขับรถกลับไหวเหรอ?” พระพายถาม

“ดื่มไม่เยอะหรอก เดี๋ยวคืนนี้จะไม่ไหวเอา” พิธานบอก

“ไม่ไหวอะไร?”

“ก็ลองของเล่นไม่ไหวไง” พิธานบอก พระพายถึงกับเม้มริมฝีปากเพราะไม่รู้จะหาคำไหนมาว่าพิธานดี

“ถ้าอย่างนั้นผมจะดื่มให้เมาเละเลย จะได้ทำไม่ไหว” พระพายว่าพลางยิ้มกริ่ม

“นายไม่รู้ตัวหรอก เวลานายเมานายจะเร่าร้อนกว่าเดิมอีก” พิธานว่า พระพายตาโตขึ้นทันที

“จริงเหรอ?” พระพายไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน

“ไม่อยากนั้นฉันคงไม่ติดใจตั้งแต่คืนแรกหรอก” พิธานว่าพลางยิ้มอย่างเหนือกว่า

“คุณไม่เคยบอกผมเลย ให้ตายเถอะ” พระพายหน้ามุ่ยลง

“จะแบบไหนฉันก็ชอบ ขอให้เป็นนายก็พอ” จบท้ายประโยคด้วยคำพูดที่กระแทกใจจนพระพายแอบหน้าแดงนิดๆ


        ไคกลับมาจากห้องน้ำก็นั่งลงและยิ้มให้พิธานที่ย้ายฝั่งไปนั่งกับพระพายแล้ว ส่วนเก้าที่กลับมาจากคุยโทรศัพท์ก็หน้าบึ้งทันทีที่เห็นพิธานนั่งที่นั่งของตนแล้ว

“ไวเหลือเกินนะมึง” เก้าว่าพลางนั่งลงข้างๆไคอย่างจำยอม

“เขาเป็นแฟนกันก็ต้องนั่งด้วยกันสิ” ไคว่า

“กูไม่เถียงกับมึงแล้ว” เก้าพูดเท่านั้นก่อนที่จะดื่มต่อไป


        ยิ่งดึกเพลงยิ่งสนุกสนานมากขึ้น มีคนลุกไปเต้นหน้าเวทีที่ยกไม่สูงมากนักของทางร้าน พระพายโยกตัวตามจังหวะอย่างสนุกสานและตอนนี้ก็เริ่มเมาบ้างแล้ว ส่วนเก้าเองก็มึนๆเพราะดื่มเข้าไปขวดที่สามแล้ว ด้านพิธานนั้นยังดูสบายๆไม่ต่างจากไคเพราะทั้งสองคนดื่มน้อยๆเรื่อยๆอีกทั้งคงห่วงเรื่องการขับรถด้วย

“เก้ามึงมายังไง?” พระพายถามเสียงเริ่มยาน

“นั่งแท็กซี่มา” เก้าตอบ

“มึงเมาแล้วเหรอ? ปกติมึงคอทองแดงนะ” พระพายว่า

“ไม่เมาแต่ไม่เหมือนเดิมโว้ย” เก้าว่าพลางหัวเราะ พระพายก็หัวเราะตาม


        จนในที่สุดเวลาก็ล่วงเลยมาถึงตีหนึ่งกว่าๆ เพลงยิ่งคึกคักกว่าเดิม ร้านนี้เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์ ซึ่งปิดในเวลาตีสอง พระพายเริ่มเข้าสู่อาการเมาแต่ไม่ได้หนักมาก ส่วนเก้ายังทรงๆไม่ต่างจากพิธานและไคที่ยังคงเหมือนเดิม

“กลับกันเลยดีกว่าไหม?” ไคหันไปถามพิธาน

“อืม” พิธานก็เห็นด้วย จึงเรียกพนักงานคิดเงิน ซึ่งพิธานเป็นคนจ่ายเสร็จสรรพ

“คุณไค....ไปส่งเก้าได้ไหม?” พระพายเอ่ยปากขึ้น

“ไม่ต้อง กูกลับเอง” เก้าว่าพลางลุกขึ้นแต่แอบเซเล็กน้อย

“เดี๋ยวฉันไปส่ง” ไคว่า

“แล้วทำไมไม่ค้างห้องไคล่ะ?” จู่ๆพิธานก็พูดขึ้นมา ทุกคนต่างยืนเงียบกริบทันที

“เป็น..ความคิดที่ดีนะ” พระพายว่าพลางยิ้มกว้างอย่างคนเมาที่มีสติ

“ไม่เอา กูจะกลับห้องกู” เก้าโวยขึ้นมาทันที

“เอาน่า ไปตกลงกันบนรถเถอะ...ไปกันดีกว่าคุณพิธาน” พระพายว่าพลางเกาะไหล่พิธานแล้วผลักให้เดินนำไป


        ทั้งสี่คนเดินไปลานจอดรถ พระพายโบกมือให้เก้าก่อนที่จะขึ้นรถไปโดยที่พิธานก็ช่วยจัดแจงท่านั่งให้เรียบร้อย ด้านเก้าก็ขึ้นรถไปไปพลางบ่นไป

“ต้องไปส่งกูที่ห้องนะมึง” เก้าว่า ไคไม่พูดอะไรก่อนที่จะขึ้นรถไป


        ทันทีที่เก้าขึ้นรถก็หลับตาลงทันทีเพราะเริ่มง่วง อีกทั้งทั้งสัปดาห์ที่ผ่านทำงานมาหนักจึงเหนื่อยสะสม ไคที่หันไปมองคนข้างๆที่หลับแล้วจึงขับรถออกไป โดยที่เส้นทางไม่ใช่ทางกลับห้องของเก้า แต่เป็นเส้นทางกลับคอนโดของตัวเองแทน...



Lyrics: Me &You by HONNE
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-05-2018 11:07:43 โดย kimjuy_o »

ออฟไลน์ Cappello

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
รอตอนต่อไปเลย  :haun4:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ฮิๆ ไปทำอะไรกันนะ :katai5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ swoooaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รอตอนต่อไปเลยจ้าาาา  :hao7:

ออฟไลน์ Kx0806

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไคจะทำยังไงกับเก้าดีน้าาา

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เก้าโดนพาไปซะแล้ว หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะอยากให้มีตอนเก้ามีสติมากกว่า

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ย้ายห้องเถอะเก้า   :hao4:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
รอของเล่นๆๆ  :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เสร็จไคแน่เก้า  :laugh:

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อยากอ่านพาร์ทของพิธานนน รอคอยด้วยความหวัง :impress2: :impress2: พี่เงียบเราต้องพาระทวยแน่นวลล เรามั่นใจ o18 o18

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
จะเกิดอะไรขึ้นมั้ยน้า

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ maicy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-0
คู่น้องพายหวานจังเลย. มารอทุกวันเสาร์ค่ะอ่านตลอดอาจจะลืมเม้นบ้างแต่ติดตามตลอดนะคะ เป็นกําลังใจให้นะคะ :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด