ll brother next door ღ ll #น้องหญิงของพี่ CH 14 ◄ [04/05/20] p.8
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ll brother next door ღ ll #น้องหญิงของพี่ CH 14 ◄ [04/05/20] p.8  (อ่าน 52878 ครั้ง)

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
น้องหญิงของพี่ตอนที่ 13
 

 
เช้าวันเสาร์ของผมมักจะเริ่มต้นตอนประมาณเที่ยง แต่ตั้งแต่แม่มีไอ้ก้อนน้องชายน่ารำคาญมันก็ถูกรบกวน บางทีก็เจ็ดโมงบ้าง สิบโมงบ้าง แล้วแต่อารมณ์ว่ามันจะบ้าน้ำลายขึ้นมาตอนไหน ตั้งแต่วันที่มันเดินได้เช้าอันแสนสงบสุขของผมก็หายไป หายไปพร้อมกับคอของมันนั่นแหล่ะ แม่งอ้วนจนคอตันไปหมด
 

“พี่พี่ ตื่นมาเล่นกับพ็อจจิหน่อยยยยยยย” ด่าในความคิดไม่ทันขาดคำเสียงโวยวายก็ดังขึ้นมาจากหน้าประตูห้อง ผมหงายยกมือขึ้นเขี่ยขี้ตาพร้อมกับเหลือบตามองนาฬิกาข้างเตียง
 
 
สิบโมงยี่สิบห้านาที
หน้าผมดูเหมือนพี่ชายที่รักน้องมากหรอวะ มันถึงกล้ามาปลุกอะไรตอนเช้าๆ แบบนี้
 
“น่ารำคาญฉิบหาย” ผมบ่นพรางยันตัวลุกขึ้น รำคาญครับ แต่ถึงพยายามหลับต่อเดี๋ยวมันก็จะหาทางบุกเข้ามาในห้องให้ได้อยู่ดี ไม่เตะประตูก็ไปหาพรรคพวก (แม่) มาช่วย ผมเตรียมจะตะโกนด่าแต่ก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงคนอื่นแทรกเข้ามา
 
“พี่ยังไม่ตื่นมั้ง”
 
เสียงหญิง?
 
“งือ พี่หญิง พ็อจจิอยากเล่นกับพี่พี่”
“เดี๋ยวพี่ปลุกให้”
“เย้”
“พ็อจจิไปกินนมให้หมดก่อนเลย กินเสร็จค่อยมาเล่นกับพี่นะ”
“อื้อ ได้เลยพี่หญฺิงเด่ะพ็อจจิไปกินนมให้หมดแก้วแล้วพี่หญิงปลุกพี่พี่นะ”
“ได้ครับ”
 
อุ๊ห์...
ได้ยินอย่างนั้นผมก็ล้มตัวลงนอน พยายามคิดท่านอนให้ดูน่ารัก เผื่อหญิงเข้ามาอาจจะอยากจุ๊บปากผมเป็นการปลุก เอ๊ะ หรือแม่งไม่เนียน เอาใหม่ ทำเป็นนอนโชว์แขนล่ำๆ แทนดีกว่า ละลายใจแน่นอนแบบนี้ แต่เอ๊ะ ขนรักแร้แม่งคิลมู้ดป่ะวะ ดงดิบมาเลย เอาใหม่ เอาเป็นนอนทับมือน่ารักๆ ดีกว่า
 
แอ๊ด
 
“พี่... หลับอยู่หรอ” เสียงของหญิงดังขึ้นพร้อมกับเสียงจังหวะเท้าเบาๆ เดินใกล้เข้ามาที่เตียง ใจผมเต้นรัวเหมือนกลองแต๊ก ตื่นเต้นจังโว้ย ผมเพิ่มความเนียนด้วยกันเคี้ยวน้ำลายแจ๊บๆ เพราะหลับตาอยู่เลยไม่รู้ว่าหญิงเคลื่อนไหวอะไรบาง สักพักหนึ่งก็รู้สึกได้ถึงแรงจิ้มเบาๆ บนแก้ม
“...”
“ตอนหลับดูไม่มีพิษภัยเลย พอตื่นนี่ภัยสังคมเชียว”
 

อ้าว ไอ้ตัวน่ารักนี่...
จากที่คิดว่าน้องอาจจะแอบลวนลาม ที่ไหนได้แอบด่า อยากจะเลิกแกล้งหลับแล้วแกล้งให้ร้องไห้เลย ภัยสังคมอะไรจะหน้าตาเหมือนนายแบบขนาดนี้
 

“...” หญิงขยับตัวเล็กน้อยก่อนที่ผมจะสัมผัสได้ถึงนิ้วที่เกลี่ยเบาๆ ที่จมูก
“หล่อจัง”
“...”
“พี่แม่ง”
 

สิ้นเสียงผมก็ได้รับสัมผัสนุ่มนิ่มประทับลงมาบนแก้ม ใจเต้นแรงจนแทบระเบิด สุดท้ายก็แผนแตก อดไม่ได้ต้องลืมตาขึ้น สิ่งที่แรกที่ผมเห็นก็คือหน้าหญิงที่อยู่ในระยะประชิดมากๆ ตากลมโตนั่นเบิกกว้างพร้อมกับเด้งตัวกลับไปแต่ผมก็ใช้แขนเกี่ยวรั้งไว้บนหญิงเซมานอนทับอยู่บนอกผม
 
นิยามของตัวเท่ามดแต่น่ารักเท่าโลกมันเกิดมาเพราะไอ้ตัวน่ารักตัวนี้แหง
 

“จับโจรลักหลับได้แล้ว”
“พะ พี่”
“แอบขโมยหอมแก้มกูหรอ ให้แม่มาขอกูเลยนะ” หญิงที่หน้าแดงจัดพยายามขมวดคิ้วทำหน้าดุ ซึ่งมันก็ได้แค่นั่นแหละครับ แก้มยุ้ยแบบนี้เอาอะไรมาน่ากลัว
“ปล่อยเลย”
“ไม่ปล่อย”
“พี่ ปล่อยหญิง”
“ไม่ปล่อย”
“ปล่อยเถอะ มะ... มันทิ่ม”
“อะไรทิ่ม”
“...”
 
จะเล่นมุกจัสติน ทิ่มเบอร์เลคหรือเปล่า
แต่ดูท่าทางจะไม่ใช่เพราะหญิงหน้าแดงเป็นมะเขือเทศเลย จริงๆ พอผมถามกลับถึงเพิ่งนึกออกว่ายามเช้าแบบนี้จะเป็นอะไรที่ทิ่มไปได้นอกเสียจาก

... เออ แข็งแรงสุขภาพดีจริงๆ ปึ๋งปั๋งต้อนรับเช้าวันใหม่
ขาที่สามของผมเองแหละ น่ารักน่าชัง
 
“ปกติป่ะ ผู้ชาย”
“ปล่อยเลย”
“ขอทำโทษก่อน”
“ไม่เอา ไม่เล่นแล้ว ปล่อยย” หญิงทำหน้าหงุดหงิดปลอมๆ พยายามจะขืนตัวออกจากอ้อมกอดผม แต่ผมอ่ะ พอได้กอดแล้วมันก็ไม่อยากปล่อยหรอก หญิงเป็นคนตัวบางมากๆ นอนทับบนตัวผมขนาดนี้ยังไม่รู้สึกอึดอัดเลย   
“ผอมไปแล้วไหมช่วงนี้อ่ะหมวย” ผมวางมือลงบนเอวคอด ดูดิ ผู้ชายอะไรวะเนี่ย เอวเป็นตัวเอสเลย
“อย่าลูบพี่”
“ขอลูบหน่อย ช่วงนี้จน หาหวยอยู่”
“พี่!!! “ เสียงแหวมาพร้อมกับหน้าไม่พอใจขั้นสูงสุด นั่นก็คือมีน้ำตาคลอครับ พอเห็นอย่างนั้นผมเลยจำเป็นต้องรีบปล่อยมือ กลัวหญิงโกรธแล้วทะเลาะ ไม่เอาแล้วครับ ทะเลาะกับหญิงแม่งเป็นสิ่งที่ผมไม่ได้ชอบอันดับต้นๆ ในชีวิตเลย
“ปล่อยแล้ว ไม่ทำหน้างอดิหมวย”
“พี่แม่ง”
“แล้วบุกบ้านกูมาทำไมแต่เช้าเนี่ย จะปล้ำหรอ กูสมยอมนะ” พูดจบหญิงก็ยิ่งทำหน้างอเข้าไปใหญ่

ผมก็พูดกวนตีนไปงั้น ไม่สมยอมง่ายๆ หรอกครับ เรื่องนี้จริงจัง ผมควรจะศึกษาทำการบ้านเรื่องนี้ให้มั่นใจก่อนถึงจะค่อยเริ่มรุกน้อง อ่านคร่าวๆ มาแล้วดูเจ็บเลยยังไม่ได้อ่านต่อ

“เพื่อนแม่เขาอยากให้ลูกเรียนมวย แม่เลยให้มาถามพี่พามเรื่องรายละเอียด แต่พี่พามไม่อยู่เลยกะมานั่งรอบนห้องเฉยๆ ”
“มันไปซื้ออะไรสักอย่างกับพี่เพลงมั้ง เดี๋ยวก็กลับ” ผมเด้งตัวขึ้นนั่งส่วนหญิงก็ลงจากเตียงไปยืนเก้ๆ  กังๆ อยู่ปลายเตียง เขินแหละดูออก
“จะว่าไป...”
“...”
“หญิงก็แอบอยากลองเรียนมวยดูนะ ไปบ่อยตั้งแต่เด็กแต่ไม่เคยลองเรียนเลย” ผมขมวดคิ้วมุ่นกับคำพูดหญิง
“อะไรดลใจ”
“พี่คิดภาพหญิงเป็นมวยดิ โคตรเท่”
“กูคิดออกแต่ภาพแมวตบนวม” หญิงหันมาค้อนทันทีที่ผมพูดจบ โดนเปรียบน่ารักหน่อยไม่ได้เลย ไอ้คนแมน
“เดี๋ยวรอพี่พามมา หญิงให้พี่พามสอนก็ได้”   
“พอเลย ถ้ามึงจะเรียนมวยคนสอนต้องเป็นกูเท่านั้น”

 ไม่ยอมหรอกครับ เรียนมวยเวลาสอนท่ามันมีโดนตัว ไหนจะไอ้ขาขาวๆ ของหญิงเวลาเตะอีก แค่คิดภาพใครมาโดนตัวหญิงก็หัวร้อนแล้ว ถึงจะเป็นไอ้พี่พามก็ไม่ชอบอยู่ดี

“อยากลองอ่ะ”
“เออ เดี๋ยวสอน อาบน้ำก่อน รอเป่าผมให้ด้วย” ผมลุกขึ้นยืน ยกมือขึ้นเกาพุงแกร่กๆ แล้วก็หยิบกางเกงบาสเดินเข้าห้องไปอาบน้ำ  พออาบน้ำสระผมเสร็จก็เดินออกมาให้หญิงเป่าผมให้ ผมแกล้งทำหน้าง่วงแต่จริงๆ ก็แอบมองหน้าหญิงผ่านกระจกโต๊ะเครื่องแป้งไปด้วย ใบหน้าน่ารักนั้นจ้องนิ่งที่หัวของผมที่ใช้มือตัวเองสางอยู่
 

พอใจตรงกันแล้ว ไม่ปกปิดสายตาเลยแหะ
มองกันขนาดนี้ มันก็เขินเป็นนะโว้ยหมวย
 

ไม่อยากจะยอมรับแต่ผมก็แอบเขินๆ ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน หญิงมันไม่รู้ตัวหรอกว่ามันเป็นคนแสดงออกจากสีหน้ามากแค่ไหน ยิ่งตอนเผลอๆ เนี่ย ยิ่งชัดเจน ไอ้เวร คนบ้าอะไรแม่งเกิดมาใช้คำว่าน่ารักคุ้มฉิบหาย ทำเหี้ยอะไรก็น่ารัก
 

“หญิง...”
“หือ?”
“ก้มหน้ามาดิ๊”
“มีไร...” หญิงขมวดคิ้วแต่ก็ยอมก้มหน้าลงมาเหมือนคิดว่าผมจะพูดอะไร แต่เปล่า ผมยกมือขวาตัวเองขึ้นจับหัวฟูนั่นไว้แล้วหันหน้าไปจูบริมฝีปากนุ่มนั่น แค่สัมผัสเบาๆ แล้วก็ปล่อยออกไม่ได้ลึกซึ้งอะไร แค่อยากงับด้วยความหมันเขี้ยว ช่วยไม่ได้นี่ครับ หญิงมันน่ารักเกินจะอดใจไหวจริงๆ ผมหันกลับมานานแล้วแต่เหมือนหญิงวิญญาณยังไม่เข้าร่างดี ตากลมนั่นเบิกกว้างอยู่เป็นนาทีหลังจากโดนปล้นจูบ
“เอ้า เป่าผมต่อดิ วันนี้จะได้สอนไหมมวยอ่ะ”
“...”
“หมวย เป่าผม”
“....”
“เขินก็เป่าผมได้นะรู้เปล่า”
“ปะ เป่าเองเลย!!!!”
 


ปั้ก!!!
โอ๊ยยยยยยย เขินแล้วปาไดร์ใส่หัวเลยหรอ!!!

ว่าจะหันไปโวยวายแต่ก็ไม่ทัน หญิงเขินจนวิ่งออกจากห้องไปแล้ว ผมมองประตูห้องก่อนจะยกยิ้มขึ้น เอาวะ เจ็บหัวตุ้บๆ แต่คุ้มดี พอหญิงออกไปแล้วก็หมดเหตุผลที่จะเป่าผมต่อ ปกติผมไม่ใช่คนชอบเป่าผมอยู่แล้ว สะบัดเอาเดี๋ยวก็แห้ง จะเป่าผมก็แค่ตอนหญิงมาทำให้แค่นั้น หยิบเสื้อยืดโง่ๆ มาสวมแล้วก็เดินออกจากห้องไปหาก้อนขี้เขิน
 
แต่ดันได้เจอ
 
ก้อนอ้วน...
 
 
“พี่พี่!!!”
“ไรอ้วน”
“แก้งพี่หญิงหรออออ พี่หญิงโกรธหน้าแดงเลยยย” นิ้วป้อมๆ ยกขึ้นชี้ไปที่ห้องครัว ได้ยินอย่างนั้นผมก็ยิ่งอยากยิ้มออกมากว้างๆ 
“เออ กูแกล้งเอง ก็มันน่ารัก”
“พ็อจจิก็น่ารัก” ไอ้ก้อนอ้วนยกนิ้วชี้ขึ้นจิ้มแก้มตัวเอง โอ้โห จิ้มแก้วทีเดียวนิ้วหายไปเลยป้องหนึ่ง แก้มหรือโมจิวะ
“หน้าอ้วน”
“พ็อจจิไม่อ้วง”
“กูอารมณ์ดีหรอกนะ” พูดจบผมก็ก้มตัวลงอุ้มไอ้ก้อนอ้วนขึ้นมาพาเดินไปที่ครัวซึ่งเป็นที่ซ่อนตัวของอีกก้อน พอเดินถึงห้องครัวก็เจอหญิงยืนกัดปากหน้าแดงพิงโต๊ะกินข้าวอยู่ เขินจนหน้าจะระเบิดแต่ก็พยายามทำหน้าเหมือนโกรธ

“ไง หายเขินยัง”
“พี่!!!”
“ไรวะ เรื่องปกติ ไหนไอ้อ้วน เอาแก้มมาหอมดิ๊” ผมหันไปหอมแก้มก้อนอ้วนในอ้อมกอดหนึ่งฟอด ไอ้พอร์ชเลยกลายร่างเป็นเต้าหู้แข็ง มันหน้าเหวอเหมือนช็อคไปนิดหนึ่งก่อนจะกลายเป็นเบะปาก

เห้ย มึงเบะทำไมเนี่ย

“ฮึก ฮึก แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”
“เห้ย มึงร้องไห้ทำไมเนี่ยอ้วน”
“พี่แกล้งงงงงง พี่หอมแก้มพ็อจจิ แงงงงงงงงง”
“กูแกล้งอะไรเนี่ย กูแค่หอมแก้ม”
“พ็อจจิขนลุกกก แหยงๆ ไม่ชอบๆ แม่ช่วยด้วย แงงงงงง”
 
สิ้นเสียงขอความช่วยเหลือแม่ก็โผล่มาไวกว่าตำรวจพร้อมกับการเงื้อมือขึ้นฟาดผมข้อหาแกล้งน้องจนร้องไห้ โดนเข้าไปสามป้าปบนหลังเน้นๆ
 
อะไรวะ!!! กูผิดอะไรเนี่ย!!!
หญิงจากที่เขินจนหน้าแดงก็เปลี่ยนมาเป็นหัวเราะตาปิดที่เห็นผมโดนแม่ตี เห็นงั้นผมก็เลยโวยวายแม่กลับไปเล็กน้อย ทั้งๆ ที่ในใจกลับรู้สึกอิ่มฟู
 

เนี่ยว่ะคนมีความรัก เจ็บตัวแต่ทำอีกฝ่ายยิ้มได้ก็ยอมได้หมด
เหม็นความรักตัวเองจริงๆ เห้ออออออ

 
ค่ายมวยของบ้านผมเป็นค่ายมวยขนาดใหญ่ เป็นกิจการมาตั้งแต่รุ่นปู่ แต่พ่อผมก็กวนตีนวิญญาณปู่ด้วยการเปลี่ยนจากชื่อค่ายมวยพยัคฆ์โลหิตสุดขลังสู่ค่ายมวยพิมพ์ดาว ใช่ครับ ชื่อแม่ ก็ดูเอาแล้วกันว่าหลงเมียกันมาตั้งแต่รุ่นไหน ส่วนใหญ่ลูกค้าแล้วก็พนักงานก็จะเป็นหน้าเดิมๆ อยู่กันมาจนสนิทเหมือนเป็นครอบครัว จะมีก็แต่ช่วงนี้จะมีพวกลูกค้าผู้หญิงเยอะขึ้นหน่อยเพราะเหมือนจะมีเทรนด์เรียนศิลปะป้องกันตัวขึ้นมา ค่ายมวยก็เลยจะดูสดชื่นขึ้นมาหน่อย

 บ้านผมน่าจะมีแค่พี่พามคนเดียวที่ดูเหมือนจะรับช่วงต่อดูแลค่ายมวยได้ แต่พ่อก็บอกไว้แล้วว่าถ้าไม่มีใครอยากทำต่อก็ไม่เป็นไรแล้วแต่ว่าพวกผมจะตัดสินใจกันเองระหว่างพี่น้อง ถึงอย่างนั้นพ่อก็จับพวกผมเรียนมวยมาตั้งแต่เด็กด้วยความที่ว่าลูกชายบ้านนี้จะต้องช่วยกันปกป้องแม่ที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวของบ้านได้เสมอ
 
หารู้ไม่ ที่บ้านผมหนะ
น่ากลัวสุดก็แม่เนี่ยแหละ
 
“พี่ หญิงยืมนวมพี่นะ” หญิงเดินไปหยิบๆ นวมที่แขวนอยู่ขึ้นมาถือ หญิงนี่ก็เป็นอีกคนที่คนในค่ายมวยเห็นจนชินตา เพราะมาวิ่งเล่นอยู่ตั้งแต่เด็ก แต่พอโตขึ้นก็ไม่ค่อยได้มาเท่าไหร่ จะมีก็นานๆ ทีเวลาเบื่อไม่มีอะไรทำถึงแวะมาดูผมซ้อม
“ไม่ต้องใส่นวมหรอก สอนพื้นฐานก่อน”
“โห่ ไม่เท่เลยอ่ะ”
“ใส่เล่นตั้งแต่เด็กก็ไม่เห็นเคยเท่” พูดจบก็โดนโยนนวมใส่หน้าอย่างรุนแรง หญิงทำหน้าดุขู่เหมือนแมวแล้วก็เดินหนีขึ้นไปรอบนสังเวียน ผมเห็นอย่างนั้นแล้วก็ได้แต่ยกยิ้มแล้วก็เดินตามหญิงไป เอาจริงๆ แล้วสอนพื้นฐานไม่จำเป็นต้องสอนบนสังเวียนหรอกครับ สอนพื้นราบจะง่ายกว่า แต่ผมไม่ได้กะสอนอะไรจริงจังอยู่แล้ว เพราะเดี๋ยวหญิงก็บ่นเจ็บมือแล้วก็หนีกลับบ้านเหมือนปกติที่เคยทำ อีกอย่างหนึ่งเบาะนิ่มๆ ก็ดีแล้ว แกล้งสะดวกดี จับทุ่มได้ง่าย
พอขึ้นมาอยู่บนสังเวียน หญิงที่อยากให้สอนมวยก็กลายเป็นโดดเล่นเป็นเด็กแทน เนี่ย เล่นเหมือนเวลามีเด็กประถมเข้ามาเรียนแรกๆ เลย
 
“มายืนดีๆ ก่อนหมวย”
“อื้อ”
“ยืนแล้วก็ยื่นแขนแบมือมา” หญิงยื่นแขนออกมาแบหน้าผม
“...”
“พับนิ้วชี้กลางนางก้อยแล้วค่อยพับนิ้วโป้ง” หญิงพับตามที่บอก พอกำมือแล้วมือเลยเล็กเข้าไปใหญ่ เหมือนอุ้งตีนแมวเลย
“แล้วไงต่อ”
“ถอยขาขวาไปด้านหลัง ขาขวาไม่ใช่ซ้ายหมวย” พอบอกขาขวาปุ๊ปก็ใช้ขาซ้ายปั๊ปเลย
“อื้อ ผิดนิดเดียว”
“ขาขวาอยู่ด้านหลัง ขาซ้ายวางสี่สิบห้าองศา มือขึ้นตั้งการ์ดเท่าคิ้ว มือขวาหรือข้างที่ถนัดอยู่ด้านใน มือซ้ายอยู่ด้านนอก หมวย... เอานิ้วโป้งไว้ด้านนอก จะเก็บไว้ด้านในทำไม เวลาต่อยนิ้วอื่นก็กดนิ้วโป้งก็หักพอดี” ผมใช้เซทคำพูดที่ใช้สอนพื้นฐานปกติ พูดประโยคนี้จนชิน แต่เสียงที่ใช้กับหญิงดูจะห้วนน้อยกว่าสอนคนอื่นเยอะ พอตั้งท่ามาตรฐานเสร็จผมก็ได้แต่ยิ้มในใจ ขนาดยืนทำหน้าเท่กับขึ้นการ์ดมวยแล้วก็ยังไม่มีความเท่ใดๆ เกิดขึ้นเลย ดูเก้ๆ กังๆ เหมือนตั๊กแตน ผมเป็นผู้ร้ายคงทำร้ายไม่ลง แค่ท่าขู่ก็น่ารักแล้ว ยอมให้ต่อยเลยก็ได้อ่ะแบบนี้   


“พี่ยิ้มทำไมอ่ะ”
“กูยิ้มเรอะ” เวร คิดว่ายิ้มในใจแล้วนะ
“...”
“เห้อ มึงแม่งน่ารักว่ะหมวย”
“...หะ ห๊ะ”
“มึงแม่งเป็นนักเรียนที่สอนยากที่สุดแล้ว มือมึงเนี่ย กูไม่อยากให้กระแทกอะไรเลย แม้แต่นวมก็ไม่อยากให้กระแทก”
“...”
“ไม่อยากให้มึงเจ็บแม้แต่นิดเดียว แต่ก็ไม่อยากให้ใครมารังแก เรียนไว้มันก็ดี”
“...”
“สอนได้แต่ไม่อยากให้มึงได้ใช้วิชาเลยว่ะ หวงมือ” พูดจบผมก็แบมือตัวเองขึ้นกำหมัดเล็กๆ ของหญิงไว้ หน้าหญิงตอนนี้ขึ้นสีแดงระเรื่อไปทั่วแก้มนุ่ม
“กะ ก็ต้องเรียนไว้หน่อยป่ะ”
“เออ รู้”
“ก็... แฟนเป็นมวยก็อยากเป็นด้วย”
 
เห้ย...
ต่อยใต้เข็มขัดว่ะ กรรมการอยู่ไหน
ผมมองหน้าหญิงที่ตอนนี้จากสีแดงระเรื่อกลายเป็นแดงไปจนถึงหู ใบหน้าน่ารักเอนหลบสายตาผมเพราะคำพูดที่เพิ่งพูดออกมา
 

แฟนว่ะแฟน
เชี่ยแม่ง น่ารักฉิบหาย สถานะเสือกกูหมาไปเลย ไม่เอาแม่งแล้วเสือก อยากเป็นแฟน จะเป็นแฟนเท่านั้น!!!
 

“เย็นหน่อยหญิง กูจะตายเอาเนี่ย”
“หญิงก็เขินจะตายแล้วเนี่ย”
“มึงพูดทำไมหละ”
“ก็ ก็ จริงนี่ เห็นพี่ต่อยก็อยากต่อยด้วยป่ะ”
“แล้วมึงจะมาต่อยกับกูทำไม” ผมหลุดหัวเราะออกมา ต่อยกับผมเนี่ยนะ โคตรจะสิ้นคิดที่สุดแล้ว ใครจะไปต่อยกลับลง เห็นหน้าหญิงผมก็พร้อมยกธงขาวแล้ว
“ก็...”
“...”
“เอาไว้ต่อยพี่ตอนทะเลาะกัน”
“โอ้โห เอางั้นเลยหรอหมวย ดุว่ะ”
“เออ ดุมาก” หน้าดื้อนั่นหันกลับมาขู่ผมทั้งๆ ที่ตัวเองเขินจนน้ำตาคลอพร้อมกับแย๊บหมัดมาเบาๆ ใส่อกผม
“ถ้าจะเรียนมวยไว้ต่อยกูอ่ะ ไม่ต้องเรียนหรอก”
“...”
“ต่อยตัวเองดิ กูเจ็บกว่ามึงต่อยกูอีก” พูดจบหญิงก็เขินม้วนฟาดผมไม่หยุด อะไรวะ เขินรุนแรงจัง
 

สรุปวันนั้นก็จบที่ผมไม่ได้สอนอะไรต่อ เพราะมัวแต่วอแวหญิงจนโดนน้องเตะเข้าท้อง จุกลุกไม่ขึ้น เป็นการคอนเฟิร์มในระดับหนึ่งแล้วครับว่าในอนาคตต้องระวังไม่ให้น้องมันหึง ไม่งั้นอาจจะได้หน้าเขียวเข้าโรงพยาบาลเป็นแน่นอน 
 

เห้อ มือหนักตีนหนักจริงๆ


ก็นะ


... สมแล้วที่เป็นแฟนนักมวย 
 
 

 ---

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
น้องหญิงของพี่ 14
 

 
เช้าอันแสนสดใส สดใสดิ เพราะวันนี้คนปลุกผมคือก้อนน่ารักที่กำลังพองแก้มเป่าผมให้ผมอยู่ เอาจริงๆ  ผมของผมเนี่ยมันไม่ได้ยาวขนาดต้องใช้ไดร์หรอก ถึงไม่ได้สั้นแบบเด็กนักเรียนทั่วไปแต่ก็ไม่ได้ยาวขนาดเด็กมหาลัยไว้กัน ไดร์ที่มีติดห้องเพราะสมัยปิดเทอมผมของผมค่อนข้างยาวแล้วแม่ก็ไม่ชอบให้นอนหัวเปียกเลยซื้อมาให้ ซึ่งมันก็นอนตายอยู่ในลิ้นชักมาตลอดจนกระทั่งหญิงมารื้อเจอ หลังจากนั้นหญิงก็คอยมาเป่าๆ เซทๆ ให้ตลอด
 

ก็นะ พอมีไอ้มือนิ่มๆ มาช่วยนวดๆ เป่าๆ มันก็รู้สึกจนเออๆ ให้เป่าไปเถอะ กำไรดีแหละ
 

“เมื่อไหร่พี่จะตัดผม ยาวเกินไปแล้ว เดี๋ยวโดนไถทำไง”
“กูจะตัดก็ตอนที่จารย์ตอบได้ว่าทำไมกูไว้ทรงนี้แล้วยังสอบได้ที่หนึ่งของห้องอยู่” ไม่ได้กวนตีนนะ จะมาตัดผมกันได้ไงวะ
“พี่”
“ป๋าไม่ไถหัวกูหรอกหมวย” วู้ว

 ป๋าคืออาจารย์ห้องปกครองโรงเรียนผม แกก๊งเหล้าอยู่กับพ่อผมบ่อยๆ ผมนี่ติดสินบนด้วยการเดินไปซื้อน้ำแข็งให้ประจำ


“เห้อ”
“ต่อให้ไถแล้วยังไง บอกเลยสกินเฮดกูก็ยังหล่ออยู่ดีนะ”
“อือ หญิงเชื่อ”
“เชื่ออะไรวะ”
“พี่อ่ะ โกนหัวก็หล่อ ยังจำตอนที่หญิงเอาหมากฝรั่งป้ายหัวพี่ตอนเด็กได้ป่ะ” ผมมองหญิงผ่านกระจก แก้มขาวนั้นยกขึ้นเล็กน้อยเพราะเจ้าตัวอมยิ้ม
“ขำไรหมวย เพราะหมากฝรั่งมึงนะ กูถึงต้องโกนผม”
“ก็ปิ้วมันท้า”
“ท้าว่ามึงจะกล้าเอาหมากฝรั่งมาแปะหัวกูแล้วกูจะโกรธไหมแล้วมึงก็แปะมาได้ห้าอันเนี่ยนะ” คิดย้อนกลับไปแล้วมันก็ทั้งขำทั้งโกรธ ไอ้หมวยนี่ทดสอบความรักผมด้วยการเคี้ยวหมากฝรั่งมาแปะหัวผมห้าอันตอนผมหลับ

 
ครับ...
ตื่นมาอีกเหมือนหัวมีราขึ้น เหนียวแห้งติดหนังหัว แม่แทบลมจับตอนเห็นผมเดินออกมาจากห้องนอน


“แต่พี่ก็ไม่โกรธนี่”  ผมกระตุกยิ้ม
ใช่ครับ ตื่นมาหัวเหนียว แต่โจรที่ทำร้ายหัวผมไม่ได้หนีไปไหนไกล แค่ไม่กี่ก้าวจากระยะตัวบ้าน ยืนก้มหน้าน้ำตาคลออยู่แถวรั้วเพราะกลัวผมโกรธ ตัวก็แค่นั้น หัวฟูมัดจุกน้ำพุเหมือนลูกหมาแล้วยิ่งมาน้ำตาคลอมองหน้าผมด้วยตากลมๆ นั่น


 
ใครมันจะไปโกรธลง
จ้างห้าร้อยยังไม่เอาเลย


 
“แค่โกนหัว”
“...”
“มันแย่น้อยกว่าทะเลาะกับมึงเยอะหมวย”
“พี่...”
“หืม?”
 
เสียงไดร์เงียบไปพร้อมกับมือนิ่มที่ผละออก
ผมมองหน้าหญิงที่สบตาผมผ่านกระจก ดวงตากลมนั่นติดเศร้าอยู่เล็กน้อย
 

“วันนั้น...”
“...”
“พี่โกรธหญิงไหม”
“วันไหน” ผมขมวดคิ้วงง
“จูบ”
“...”
“วันที่หญิงจูบกับพี่เป้” หญิงเม้มปากแน่น “วันนั้น… พี่โกรธหญิงไหม”
 

ผมรู้สึกได้ถึงความใจกระตุกไปวูบหนึ่งเมื่อนึกถึงภาพวันนั้นฉายขึ้นมา
โกรธไหมงั้นหรอ?
ผมนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าตอนนั้นตัวเองโกรธรึเปล่า ผมจำไม่ได้ว่าตัวเองได้ใช้สมองประมวลผลก่อนตัดสินใจต่อยออกไปไหม


 
... ที่มาของขาดสติมันคงเป็นแบบนี้


 
“จำไม่ได้”
“พี่...”
“แต่ไม่ได้โกรธมึง”
“...”
“แต่ไหนๆ ก็พูดขึ้นมาแล้ว...” ผมยกมือขึ้นเกาหัวก่อนจะหันไปเผชิญหน้าหญิง
เพราะผมนั่งอยู่แต่หญิงยืนทำให้ผมต้องเป็นฝ่ายเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าน่ารักของหญิงตึงเครียดขึ้นเยอะ ปากเล็กเม้มเข้าหากันแน่น มือที่จับไดร์อยู่ก็สั่นเล็กน้อย
“...”
“เล่าได้ไหม ว่าจูบกับมันทำไม”
“...”
“ไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร”
“พี่...”
“หมวย ไม่เอาแบบนี้”
“หญิงรู้สึกผิด...”
“ส่วนกูเจ็บหัวนมไปหมดแล้ว เห็นหน้ามึงเศร้าแล้วเจ็บกว่าหัวนมดำอีก ไม่เอา ไม่ต้องเล่าแล้ว กูขี้หูตัน ไม่ฟังแล้ว ยิ้มหน่อยหมวย” ผมยกมือขึ้นใช้นิ้วโป้งนวดแก้มน้อง 
“วันนั้นพี่เป้แค่ถามว่าหญิงจะเอายังไงต่อกับพี่”
“หมวย...”
“หญิง.. หญิงตอบไปว่าหญิงจะตัดใจ อย่างน้อยเป็นน้องข้างบ้านก็ยังดีกว่าถ้าบอกออกไปแล้วพี่จะทิ้งหญิง ช่างน้ำหนักกันแล้ว หญิงรู้ว่าอย่างหลังมันแย่กว่าเยอะ” ผมคว้ามือของหญิงที่สั่นระริกมาจับไว้ พร้อมกับจ้องหน้าน้องนิ่ง
 


ไม่ไปไหน...
รักขนาดนี้จะไปไหนได้ยังไง
 


“หญิง...”
“หญิงบอกพี่เป้ว่ายังไงคนอีกเป็นล้านคนบนโลก ถ้ามันเป็นพี่ไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องปล่อยให้เวลามันจัดการ”
“...”
“พี่เป้บอกหญิงว่าคนมีเป็นล้าน แต่ถ้าหญิงชอบไอ้คนนี้ ล้านที่เหลือก็หมาล้วนๆ” ผมอมยิ้มเล็กน้อย เสียใจกับหมาทั้งหลายด้วยแล้วกันนะ
“อาฮะ”
“พี่เป้ถามหญิงว่าถ้าเป็นพี่เป้จากในล้านคน พอจะเป็นตัวเลือกได้ไหม” ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจากหญิงพูดจบ ลองตัดอคติทุกอย่างทิ้งไป ถ้าให้พูดตรงๆ ไอ้เวรหน้าเหมือนกีบเท้าควายที่ทิ่มโคลนอย่างไอ้เป้ก็ไม่ได้แย่อะไรเลย


เพราะผมรู้นั่นแหละ
 ถึงได้หวงน้องกับมันมากเป็นพิเศษ


“...”
“พี่เป้ ถามหญิงว่าอยากลองไหม” ถึงตอนนี้หญิงก็เริ่มน้ำตาคลอ นิ้วเล็กนั่นกำมือผมแน่น
“ลอง...”
“ลองจูบ”
“...”


 อ่า...
เส้นเลือดตรงขมับตึงขึ้นนิดหนึ่งแบบรู้สึกได้เลยแหะ


“หญิงปฏิเสธไปทันที แต่มันด้วยอะไรไม่รู้พี่ หญิง... หญิงสับสน หญิงไม่ได้จะแก้ตัวอะไรนะ แต่ตอนนั้นมันแว่บขึ้นมาเฉยๆ” น้ำตาเม็ดกลมหล่นลงกับแก้มขาว ปากแดงนั่นเม้มเข้าหากันจนซีดขาว “...ว่าจูบมันเป็นยังไง ถ้าไม่ใช่พี่มันจะเป็นยังไง หรือจริงๆ มันอาจจะไม่มีวันที่พี่จะจูบหญิงก็ได้ หญิง-”
“แล้วเป็นไง” ผมถามออกไปเพราะไม่อยากจะฟังหญิงพูดถึงไอ้เวรนั่นแล้ว
“จะอ้วก”
“ฮ่ะๆ” ผมระเบิดหัวเราะออกมาทันที
“แค่ไม่กี่วิเองนะ เพราะจูบไปไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ พี่ก็มาแล้ว ตอนที่หันไปเจอพี่อ่ะ ใจหญิงเหมือนตกไปอยู่ที่ตีนเลย”
“ตอนที่หันหน้ามาเป็นมึงใจกูก็ตกไปอยู่ที่ตีนเหมือนกัน นั่นแหละสาเหตุว่าทำไมตีนกูถึงไปประทับอยู่หน้าไอ้เวรนั่น” ผมยกมือหญิงขึ้นมาจูบ
“พี่...”
“ที่ผ่านมาจะอยากลอง จะสับสน จะอะไรกูไม่ว่าเลย กูไม่ว่าเลยจริงๆ”
“...”
“ปากแดงๆ เนี่ย กูโคตรหวงเลย ขอร้องเลย ให้กราบตีนก็ได้ กูอาจจะดูห้าวมากกับทุกเรื่อง แต่กับมึง... กับเรื่องของมึง ใจกูแม่งบางกว่ากระดาษอีก”
“พี่ ฮึก”
“ต่อจากนี้อย่าเอาไปให้ใครแตะอีกนะ”
 

ผมรั้งเอวหญิงลงมาให้นั่งบนตักผม หนักขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะแต่ก็ยังเบามากถ้าเทียบกับน้ำหนักที่ผู้ชายวัยนี้ควรจะเป็น ใบหน้าน่ารักเบะร้องไห้จ้ากับไหล่ผม ผมกระชับกอดให้แน่นขึ้น ดีแล้ว ดีแล้วจริงๆ ที่น้องยังอยู่ในอ้อมกอดผม ผมไม่ใช่ผู้ชายละเอียดอ่อนที่จะมานั่งบรรยายความรักให้สวยหรู หรือวิเคราะห์ความเป็นเหตุเป็นผลให้กับความรู้สึกตัวเอง ผมรู้แต่ความรู้สึกของผมที่มีกับหญิง มันไม่เหมือนคนอื่น   
 

“หญิงขอโทษ ฮึก”
“เลิกขอโทษได้แล้ว ก็บอกไม่ได้โกรธ”
“ฮึก ถ้าหญิงรู้ ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ หญิงจะเก็บจูบแรกไว้ให้พี่ หญิงรู้สึกแย่ แย่โคตรๆ” หญิงดันตัวออกจากอกผมพร้อมกับยกมือขึ้นถูปากตัวเองไปมาจนผมต้องกระชับเอวบางบนตักด้วยแขนซ้ายแล้วยกแขนขวาขึ้นจับก่อนที่หญิงจะถูปากตัวเองแดงไปมากกว่านี้
“อย่าถูดิ ปากแดงไปหมดแล้ว”
“ฮือ”
“แล้วใครบอกว่ามันเป็นจูบแรกของมึงวะหญิง”
“...”
“จูบแรกของมึงอะ”
“...”
“คือ...”
“...”
“คือ... ไอ้อ้วนพอร์ชต่างหาก น้องกูจูบปากมึงโชว์กูเป็นร้อยรอบ ไอ้เป้เรอะ? หึ ไปขี้”

พูดจริงครับ ไอ้ก้อนอ้วนนั่นชอบบีบแก้มหญิงแล้วก็จุ๊บปาก ทำตั้งแต่ผมยังโกรธจนปัจจุบันผมเริ่มจะชินแล้ว ไม่รู้พ่อกับแม่ไปทำอะไรโชว์ มันถึงได้ติดมาทำกับหญิง     


“กับพอร์ชเค้าเรียกจุ๊บต่างหาก”
“ถ้าเอาลิ้นด้วยก็น่าจะไอ้ไมโล เลียหน้าเก่ง”
“ยี้” หญิงเบะปากเมื่อถึงตอนที่ตัวเองเคยโดนไมโลเลียปาก ผมยังจำได้อยู่เลยว่าน้องวิ่งมาฟ้องว่าไมโลเลียปากโดนลิ้นตัวเองจนต้องกลับบ้านไปแปรงฟันจนปากชา
“ต่อจากนี้ อยากจูบมาจูบกับกูนี่ ปากกูพร้อมมาก”
“อยาก”
“ห๊ะ”
“เนี่ย อยากจูบ”
“เบาได้เบานะหญิง เพิ่งบอกไปว่ากับมึงใจกูบาง”
“ไหนบอกว่าอยากจูบให้บอกไง”
“มึงอย่าใช้หน้าน่ารักพูดจาแบบนั้นได้ไหม”
“แล้วจะทำไม”
“ก็ไม่ไง กูอยากฟัดให้ปากแตก”
“พี่!!!”


พูดจริงทำจริง ผมยอดชายนายพี่พี่ พูดอะไรทำจริงอยู่แล้ว แน่นอนครับว่าหลังพูดจบผมก็โอบตัวหญิงไว้ มืออีกข้างก็จับท้ายทอยรั้งใบหน้าน่ารักนั่นให้ขยับเปลี่ยนองศาก่อนจะฉกหน้าเข้าไปเอาจมูกถูกับจมูกหญิง ถูจนพอใจแล้วก็ขยับไปจิ้มตรงแก้ม สูดกลิ่นแป้งแคร์ของหญิงเข้าปอด
 


โคตรน่ารัก น่ารักกว่าไอ้พอร์ชอีก
ไอ้เด็กเวรนั่นอายุไม่กี่ขวบแต่เสือกมีกลิ่นน้ำมันมวยติดตามตัว
 
“หมวย...” ผมกระซิบข้างหูของหญิงก่อนจะค่อยๆ เลื่อนปากมางับริมฝีปากล่างของน้องเบาๆ แค่พอเป็นการเตือนว่ากูเอาจริงแล้วนะ กูจะจูบ กูจะจูบแน่ๆ หางตาผมเหลือบมองเห็นว่าหญิงกำลังกำเสื้อกล้ามของผมแน่น ตากลมหยีลงหนีความเขินสุดชีวิต


... หนีรอดที่ไหน หูแดงขนาดนั้น


ผมค่อยๆ รุกรานริมฝีปากบางนั่นด้วยการขยับลิ้นไปสัมผัส หญิงสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็สู้กลับด้วยการงับลิ้นผมคืน บอกเลยว่าเพราะไอ้การสู้กลับน่ารักๆ นั่นแหละทำให้ผมหยุดไม่อยุ่
ความตั้งใจแรกที่กะจะให้เป็นจูบน่ารักๆ แต่พอโดนต้อนกลับสัญชาตญาณนักสู้ก็พุ่งพรวด โดยไม่รู้ตัว จากการค่อยๆ ลิ้มลองก็กลายเป็นหยาบโลน เสียงเฉอะแฉะดังข้างหูดูลามกเหมือนหนังเอวีที่เคยดู ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมกับหญิงเปลี่ยนองศาหัวสลับข้างไปกี่รอบ 



เครื่องติด!!!
เครื่องติดแล้ว!!!!
ย้ำ หัวหน้าครับ เครื่องผมติดแล้ว!!!!
เบิ้นเครื่องเต็มกำลังพร้อมรังแกคนไร้ทางสู้ด่วน!!!!

 
แอ๊ด!
 


“ไอ้พี่ เดี๋ยวมึงไปดูยิม... อ่า” เสียงแขกไม่ได้รับเชิญดังขึ้นมาจากหน้าประตูห้อง ทำเอาหญิงสะดุ้งเฮือกเกือบจะผละออกแต่ผมก็ยกมือขึ้นจับท้ายทอยไว้ไม่ให้หนี จากเสียงก็พอเดาได้ว่าเป็นไอ้พี่พาม
 
โล่งอกไปทีที่เป็นพี่พาม
อย่างน้อยพี่มันก็คุยง่ายสุด แบบนี้จูบต่อได้ไหมนะ
 
“พี่พี่! พ็อจจิมาแน้ววววว”
“น้องพอร์ชไม่วิ่งหนีแม่สิลูก!!! อ้าวพาม ยืนงงอะไรอย- ตาพี่!!”
 

ไอ้เวรพอร์ชมึงงงงงงงงงงงงง
 

ผมผละออกจากหญิงทันทีที่ได้ยินเสียงแม่ สภาพผมและหญิงตอนนี้โคตรจะยับเยินทั้งคู่ ทั้งหัวฟู ปากช้ำเปียก ไหนจะไอ้ท่านั่งตักฟัดปากแบบติดเรทนั่นอีก
 


“พี่พี่แก้งพี่หญิงอีกแน้ว!!!”
“...” กูไม่ได้แกล้ง ไอ้อ้วน อยากจะวิ่งไปหยิกแก้มอ้วนๆ นั่นสักสามทีถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ผมได้แต่ยืนนิ่ง รอแม่สติเข้าร่างแล้ววีนต่อ
“พี่พี่งับปากพี่หยิงทำไมมม เอาคืนที่พี่หยิงชอบแก้งงับเวลาพี่พี่หลับหรอ”
 


ห๊ะ...

ผมหันขวับไปหาหญิงทันที ใบหน้าน่ารักนั่นเบิกตากว้าง
 


“มะ มะ ไม่ใช่ ไม่ใช่นะ”
“หญิง มึงเคยแอบจูบกูตอนนอนหรอ”
“เรียกจูบหยอออ”
“มะ ไม่ใช่นะ พี่ เอ่อ ฮือ ทำไงดี”
“พ็อจจิเห็นพี่หญิงทำ พ็อจจิเลยทำกับพี่บ่อยๆ เหมือนกัง”
“มึงก็แอบจูบกูตอนนอนด้วยเรอะไอ้อ้วน!!!”
“หยะ หยุดพูดเรื่องจูบก่อนได้ไหม ขอแม่หายใจก่อน!!!”
 
สงครามจบทันทีที่แม่ตะโกน ผมหุบปากแน่นจนปากเป็นขีดส่วนไอ้พอร์ชก็ยกมือขึ้นอุดปากตัวเองอย่างกล้าๆ กลัวๆ ด้วยความที่บ้านผมเต็มไปด้วยผู้ชาย พ่อกับลูกชายอีกสี่คนกับแม่ที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียว ดังนั้นกฏของบ้านมีอยู่ข้อเดียว


 
แม่คือที่หนึ่ง
บอกไม่ก็คือไม่ บอกให้ทำก็คือต้องทำ
ดังนั้นเมื่อแม่บอกให้หยุดพูดก็แปลว่าต้องหยุดพูดทันที ต่อให้ไม่มีอะไรกั้นก็ต้องหยุด คุณพิมพ์ดาวน่ะ ตีตูดกับหยิกหูเจ็บที่สุดในโลก ผมเคยโดนกระทืบสี่รุ่มหนึ่งยังไม่เจ็บเท่าเลย ไม่ได้เวอร์นะ แต่ผมว่าแม่ผมมีสายเลือดโอดินสัน เป็นญาติห่างๆ ของธอร์ชัวร์ ค้อนโยดานั่นแม่ผมก็น่าจะยกได้ เผลอๆ ยกได้เอามาใช้ตำส้มตำอีก
 


“โอเค หายใจเข้าหายใจออก ดั่งดอกไม้บาน”
“...”
“แม่ตกใจด้วยหรอ ถามจริง” พี่พามที่ยืนกอดอกพิงกรอบประตูอยู่พูดถามด้วยเสียงปนขำ
“ตกใจสิ!!!”
“...”
“เวลาจะมีอะไรกันก็หัดล็อคห้องบ้างนะตาพี่ น้องยังเด็ก!!!” แม่หันมาชี้หน้าผมเล่นเอาหางแทบหด
 


แต่เอ๊ะ...   


 
“อ้าว แม่ไม่ได้ตกใจเรื่องคบกันหรอ”
“อันนั้นต้องตกใจด้วยหรอ”
“...”
“พี่ แม่ไม่ได้โง่นะ ลูกน่ะ ตั้งแต่โตมาก็ตัวติดน้องหญิงมาตลอด ติดกว่าน้องแท้ๆ อย่างเจ้าพอร์ชอีก คิดว่าแม่จะไม่เตรียมใจหรือไง” แม่กอดอกมองหน้าผมสลับกับหญิง “แม่ไม่ว่านะเรื่องเพศสัมพันธ์ แต่ต้องเซฟเซกซ์นะพี่ ถุงยางต้องใส่ทุกครั้ง”
“มะ ไม่นะครับ ไม่ใช่นะ” หญิงหน้าแดงไปยันหู ไอ้ตัวน่ารักรีบโบกไม้โบกมือแก้ข่าว ส่วนผมได้แต่ยืนเกาท้ายทอยแกรกๆ
“ถุงยางคือไยอ่ะพี่พาม”
“ถุงยา หมายถึงถุงใส่ยาแก้ปวดไง จำได้ไหมที่นวดๆ กลิ่นเหม็นๆ”
“อ๋ออออออออ ยานวดๆ”
“ใช่ จริงๆ พี่ก็เริ่มปวดบ่าขึ้นมาหน่อยแล้ว ไปหยิบให้หน่อยได้ไหม”
“ด้ายยยยยย” ก้อนอ้วนกระโดดดึ๋งๆ ก่อนจะออกตัววิ่งออกนอกห้องไป พี่พามแม่งฉลาดจังวะ ไล่ก้อนอ้วนไปได้ง่ายๆ เลย
 


พอไอ้พอร์ชวิ่งออกจากห้องไป แม่ก็ตวัดสายตาชวิ้งใส่ผม
น่ากลัวโว้ยยยยยยย
 


“แล้วนี่บ้านหญิงรู้เรื่องรึยังลูกว่าคบกัน”
“...” หญิงหน้าเจื่อนลงไปทันที
“ตายแล้ว! ไม่ได้นะ ตาพี่ เราต้องเข้าตามตรอกออกตามประตูนะ เอาลูกชายเขามาปู้ย่ำปู้ยีแบบนี้ยังไงก็ต้องไปคุยให้เรียบร้อย”
 

ปู้ย่ำปู้ยี่ คุณพิมพ์ดาวนี่เขาจะพูดไปไกลเกินจริงไปไหม ผมยู่หน้าเล็กน้อย แต่เอาเถอะ ในอนาคตก็น่าจะได้ปู้ย่ำปู้ยีลูกชายเขาจริง ไปทำให้ถูกต้องมันก็ดีอยู่แหละ
 

“เค เดี๋ยวถ้าพร้อมจะเข้าไปคุย”
“ตาพี่”
“แม่ก็รู้ป่ะว่าพี่พร้อมอยู่แล้ว”
“...”
“ให้เวลาน้องมันหน่อย” ผมยกมือขึ้นแปะบนหัวฟูของหญิงแล้วโยกไปมา แม่ขยับปากเหมือนจะพูดอะไรแต่พอเห็นหน้าหญิงก็ต้องยอมพยักหน้า แหง หน้าหงอยเป็นหมาขนาดนี้ ใครก็ต้องยอมทั้งนั้นแหละ
“เอาเถอะ แต่ยังไงก็ใส่ถุงยางด้วยนะตาพี่”
“คร้าบบบ”
“พี่!! “ หญิงศอกป้าปเข้าพุงผม
“แม่ไปแล้ว ฝากดูไอ้หมีนี่ด้วยนะหญิง มันฟังหนูมากกว่าแม่อีก” แม่บ่นงุบงิบแล้วก็เปิดประตูเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้หญิงอ้าปากพะงาบๆ แก้ข่าวไม่ทัน
“พี่...”
“เอาน่า ไว้พร้อมเมื่อไหร่ก็บอก”
“...”
“หมายถึงบอกพ่อแม่นะ ส่วนปู้ย่ำปู้ยีกูบอกเลยว่ารอเรียนจบ”
“พี่!!!”
 


หญิงฟาดมือลงบนไหล่ผมแล้วหันตัวกระแทกขาเดินเข้าห้องน้ำไป ดูท่าจะเข้าไปแก้เขินนั่นแหละ ผมมองภาพนั้นพร้อมกับหัวเราะนิดๆ ก่อนจะลุกบิดขี้เกียจเดินตามหญิงเข้าไปเงียบๆ
 
 
เมื่อกี้โดนขัดจังหวะ แต่เครื่องติดแล้วมันลงยาก
 
 
คราวนี้จะฟัดให้แก้มเป็นรอยเลย ไอ้ตัวน่ารัก
 

 
 ---


ออฟไลน์ Mamamapp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องหญิงน่าฟัดขึ้นทุกวัน

ขอบคุณที่มาต่อนะคะไรท์   :3123:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
  :hao5: คิดถึงน้องหญิงกับพี่พี่มากๆ เลย ขอบคุณที่มาต่อนะคะ

 :laugh: อ่ะเครื่องติดแล้ว พี่พี่อย่าทำรุนแรงกับน้องหญิงเด้อ

ออฟไลน์ อิ๊อ๊ะชะเอิงเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ latafren

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :mew2: รอๆๆๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด