[จบแล้ว]เมื่อผมถูกส่งไปขัดดอก YAOI ประกาศ (26/05/61)#หน้า14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]เมื่อผมถูกส่งไปขัดดอก YAOI ประกาศ (26/05/61)#หน้า14  (อ่าน 69751 ครั้ง)

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตามลุ้นจักรวาลของหมาน้อยด้วยคน

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ชื่อเรื่องวาบหวิว แต่เรื่องน่ารักมากกกกก

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 4

การกลั่นแกล้ง

 

“จะ…จะให้ผมนอนตรงนี้จริงๆเหรอครับ”

หลังจากที่ยืนให้กำลังใจคุณจักรวาลมาพักใหญ่  ฝนก็เทกระหน่ำลงมาซะงั้น  ผมกับเขาเลยรีบพากันกลับเข้ามาในคฤหาสน์  แล้วเขาก็ลากผมกลับมาที่ห้องๆเดิมที่ผมตื่นมาในตอนแรกแล้วเจอว่าตัวเองกำลังโดนล่ามโซ่อยู่นั่นเอง

ทันทีที่มาถึง  เขาก็บอกว่าที่นี่คือห้องนอนส่วนตัวของเขา  และผม…จะต้องนอนกับเขาที่นี่!         

ความจริงผมก็ไม่ได้คิดมากอะไรเรื่องที่ต้องนอนห้องเดียวกับเขาหรอกนะ  เพราะเราก็ผู้ชายทั้งคู่  แต่อีกใจหนึ่งมันก็รู้สึกแปลกๆที่ต้องมานอนกับคนที่โตกว่า  ปกติผมจะนอนแต่กับน้องๆเท่านั้น

“ใช่  นายเป็นหมาน้อยของฉันนะ  ก็ต้องนอข้างๆฉันสิ”

“แต่ผมว่ามันจะดูเป็นการรบกวนเกินไปหรือเปล่าครับ  นี่มันเตียงส่วนตัวของคุณเลยนะ”

อีกอย่าง…ฐานะของผมในตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างไปจากพ่อบ้านแม่บ้านหรือว่าคนรับใช้คนอื่นๆของเขาเลย  เผลอๆจะต่ำเตี้ยกว่าเสียด้วยซ้ำ

“ไม่เป็นไร  ฉันไม่ถือ”

เขาตอบเนิบๆก่อนจะตรงเข้ามาเอาโซ่ล่ามออกจากปลอกคอให้  จริงสิ…ตกลงผมต้องสวมไอ้ปลอกคอนี่ไว้ตลอดเวลาเลยเหรอ

แบบนี้เท่ากับว่ากลายเป็นหมาเต็มตัวเลยสินะ  ฮึก…

“ไปอาบน้ำได้แล้วล่ะ  เดี๋ยวฉันจะให้คนเอาชุดมาให้”

“จริงด้วย  เสื้อผ้าของผม…”

“คนของฉันเอามาให้เรียบร้อยแล้ว  พ่อแม่ของนายเป็นคนจัดให้เอง  มีอะไรจะถามอีกไหม?”

“มะ…ไม่มีแล้วครับ”

“ถ้างั้นก็ไปอาบน้ำได้แล้ว  ฉันจะไปเคลียร์งานที่ห้องทำงานก่อน”

“ครับ”

ผมรับคำก่อนจะเดินไปทางห้องน้ำที่เขาชี้บอกเมื่อครู่

แค่เหยียบย่างก้าวเท้าเข้ามาผมก็ขนลุกซู่  นี่น่ะเหรอห้องน้ำคนรวย  ใหญ่กว่าบ้านผมหลายเท่าเลยนะเนี่ย  แทบจะเตะบอลเล่นในห้องน้ำได้เลยด้วยซ้ำ

“อะ…อ่างอาบน้ำ  มีอ่างด้วยเหรอวะเนี่ย”

วิ่งตรงไปที่อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ซึ่งมีน้ำอุ่นโรยด้วยกลีบกุหลาบอยู่ก่อนแล้ว  ฮะฮ้า… สดชื่นชะมัดเลย  กลิ่นก็หอมอีกต่างหาก

น่าอิจฉาจังแฮะ  คุณจักรวาลใช้ชีวิตหรูหราแบบนี้มาตลอดเลยสินะ  ไหนๆก็ไหนๆแล้ว  ร้อยวันจากนี้ขอใช้ชีวิตความเป็นหมาให้คุ้มหน่อยเถอะ

“ย้ากกกก!”

ตู้มมมม!

ผมแก้ผ้าตัวเองก่อนจะตั้งหลักแถวๆหน้าประตูห้องน้ำแล้วพุ่งกลาวกระโดดลงอ่างประหนึ่งว่ามันคอสระว่ายน้ำ  แต่อันที่จริงความกว้างและใหญ่ของมันก็เกือบจะเท่าสระว่ายน้ำอยู่แล้วล่ะนะ

พ่อครับ  แม่ครับ   รีบกลับมาเร็วๆนะ

 

ภายในห้องทำงานขนาดใหญ่  จักรวาลกำลังนั่งเซ็นเอกสารที่ลูกน้องของเขาเอามาให้  ที่โต๊ะทำงานของเขามีรูปของชายสูงวัยคนหนึ่งตั้งอยู่

“บอสครับ  เมื่อสักครู่ทาง V.9 รายงานมาว่าคุณอวกาศจะบินกลับมาในอีกสามวันครับ”

“กลับ?”

“…”

“หมอนั่นรู้เรื่องแล้วสินะ”

“ใช่ครับ  จะเอายังไงดีครับบอส  จะให้คุณอวกาศเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย  หรือจะให้ผมกันเขาออกไปครับ” 

คำถามของอีกฝ่ายทำให้จักรวาลหยุดนิ่งคิด  ก่อนจะเบนสายตาไปมองรูปชายสูงวัยที่ตั้งอยู่กลางโต๊ะด้วยสายตาขบคิด

“ท่านไม่ต้องเป็นห่วง  ลูกๆของท่าน  ผมจะปกป้องให้ได้ครับ”

เขาเอ่ยเสียงเรียบกับรูปถ่ายนั้น  สายตาที่เย็นยะเยือกเหมือนน้ำแข็งคู่นั้นช่างน่าพิศวงเหลือเกิน

“เตรียมคนไปรอรับคุณอวกาศที่สนามบิน  ถ้าเขามาถึงให้พามาพบฉันทันที  ห้ามพาไปที่ไหนก่อนเด็ดขาด”

“แต่ว่าคุณอวกาศบอกเอาไว้ว่าถ้ามาถึงจะขอไปเห็นหน้าว่าที่เจ้าสาวของบอสก่อนนะครับ”

“ไม่จำเป็น  ถ้าเขาขัดคำสั่ง  ฉันอนุญาตให้ใช้ไม้แข็งได้”

“ครับบอส”

จบการรายงานของวันนี้  จักรวาลลงมือเซ็นเอกสารอีกครั้ง  ขณะที่ในหัวกำลังคิดเรื่องบางเรื่องอยู่  เขากำลังเตรียมพร้อมรับมือปัญหาใหญ่ที่กำลังจะตามมาในไม่ช้า

ปัญหาที่อาจพลิกชีวิตของใครหลายคนได้ในครั้งเดียว…

 

“เดี๋ยวจอดตรงป้ายรถเมล์ข้างหน้าเลยนะครับ  ไม่ต้องขับไปถึงหน้าโรงเรียน  ผมเดินเองได้”

บอกคนขับรถพร้อมกับชี้จุดที่ต้องการจะลงให้ดู  ขืนให้ขับรถคันใหญ่หรูหราขนาดนี้ไปส่งถึงหน้าโรงเรียนมีหวังแตกตื่นกันหมดแน่ๆ

“แต่ว่า…บอสสั่งเอาไว้…”

“เชื่อผมเถอะครับ  เดินอีกไม่ถึงร้อยเมตรก็โรงเรียนผมแล้ว  ไม่เป็นไรหรอก”

“แต่…”

“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น  ผมจะบอกคุณจักรวาลเอง  ขอบคุณมากนะครับที่มาส่ง”

ผมเอ่ยขอบคุณคนขับรถก่อนจะรีบเปิดประตูรถลงมาแล้วเดินต่อไปเอง

สรุปว่าเมื่อคืนคุณจักรวาลก็ไม่ได้กลับมานอนที่ห้อง  แม่บ้านที่เอาเสื้อผ้ามาให้ผมบอกว่าเขามีงานต้องทำและต้องออกไปข้างนอกกะทันหัน  ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนเช้าที่ออกมาโรงเรียน  ผมก็เลยยังไม่ได้เจอเขาเลยสักครั้ง

ซุบซิบๆๆๆๆๆ

นั่นปะไร  ซื้อหวยทำไมไม่ถูกแบบนี้บ้างวะ!  ไม่สิ  ผมเคยมีเงินซื้อหวยเสียที่ไหน  แต่ก็นั่นแหละ  ผมเหลือบตามองไปรอบๆ  พวกนักเรียนและครูอาจารย์ทั้งหลายที่เห็นผมพากันซุบซิบพูดถึงเรื่องเมื่อวานยกใหญ่

คิดถูกจริงๆนั่นแหละที่ไม่ให้คนขับรถของคุณจักรวาลมาส่งถึงหน้าโรงเรียน

“กูว่าแม่งต้องไปติดหนี้มาเฟียมาแน่เลยว่ะ  สงสัยเม่อวานคงโดนอุ้มไปซ้อม  พวกเราอย่าไปเข้าใกล้เลยว่ะ  เดี๋ยวจะโดนหางเลขไปด้วย”

สาบานกับกูว่าพวกมึงกระซิบกันแล้วไอ้เหี้ย!   ได้ยินเต็มสองรูหูเลยเหอะ

“คงจะรอดมาได้อย่างหวุดหวิดแน่ๆเลย  น่ารังเกียจเนอะ  ไม่รู้ว่าจะแอบค้ายาหรือเป็นส่งยาหรือเปล่า”

เดี๋ยวนะครับแม่สาวน้อย  กูแค่เป็นหนี้เว้ย  ไมได้เป็นลูกกระจ๊อกให้พวกมาเฟีย!  ที่สำคัญ…ถึงกูจะจนแต่กูก็ไม่เคยคิดที่จะเรื่องผิดกฏหมาย!

“จนแล้วยังจะเลวอีก  อย่าไปเข้าใกล้เลยพวกเรา”

และอีกสารพัดคำด่าที่ทุกคนต่างก็ติ๊ต่างคิดกันเอาเองว่าผมจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้  ให้ตายสิ  นี่มันหนักกว่าเมื่อก่อนอีกนะเนี่ย ก่อนหน้านี้ผมก็แค่เป็นบุคคลไร้ตัวตนที่ไม่มีใครสนใจ  ทว่าตอนนี้ทุกคนกลับพากันสนใจเรื่องของผม  เพียงแต่…

ประเด็นที่ถูกทำให้สนใจแม่งโคตรจะเลวร้ายเลย!

แค่ถูกมาเฟียมาอุ้มไปวันเดียว  กลับมาอีกทีผมแทบจะกลายเป็นอาชญากรในสายตาของทุกคนไปแล้ว

กว่าจะเดินมาถึงห้องได้ก็เล่นเอาหนาชาไปหมด  ชาเพราะต้องทนกับคำด่าคำดูถูกมากมายที่ไม่มีมูลความจริง  ทั้งห้องเงียบกริบทั้งที่ตอนแรกยังส่งเสียงคุยกันจ้อกแจ้ก  ทุกสายตาหันมาจับจ้องที่ผมเพียงนเดียวราวกับผมเป็นตัวประหลาด

ผมก้มหน้าก้มตา  ไม่สบตาใครทั้งสิ้นเพื่อจะเดินไปที่โต๊ะของตัวเอง  เอาวะ!  อดทนอีกไม่กี่เดือนที่นั้นก็จะจบมอหกแล้ว  ผมต้องทำได้…  ต้องทำได้…

พลั่ก!

โครม!!!

“อั้ก!”

ขาของใครบางคนยื่นมาสกัดผมไว้จังหวะที่กำลังจ้ำอ้าวไปที่โต๊ะ  ผมสะดุดขานั้นจนหน้าทิ่มล้มลงไปกับพื้น  โชคร้ายที่ตรงหน้าผมมีเก้าอี้ของใครไม่รู้ตั้งอยู่ด้วย  คางก็เลยไปกระแทกเข้ากับมันเต็มๆจนรับรู้ได้ถึงกลิ่นคาวเลือดภายในปาก

“โอ๊ะ!  โทษที  พอดีกูเมื่อยขากะทันหัน”

‘เฟี้ยว’  หัวโจกประจำโรงเรียน  เที่ยวมีเรื่องต่อยตีกับคนอื่นไปทั่ว  แต่เพราะแม่เป็นเจ้าของโรงเรียนนี้และบวกกับมันมีหน้าที่ดีมากก็เลยเป็นหนุ่มฮอตคนหนึ่งของโรงเรียน  ต่อให้มันทำเหี้ยแค่ไหนคนก็มองว่าเป็นเรื่องดีตลอด

และครั้งนี้ก็เหมือนกัน…

“เลือดออกด้วยว่ะ  อ่อนแอฉิบหาย  ฮ่าๆๆๆ”

บรรดาลูกกระจ๊อกของไอ้เฟี้ยวพากันหัวเราะสมหน้าผม  เมื่อพวกนี้เริ่มปฏิบัติการกลั่นแกล้งใคร  ร้อยทั้งร้อยจะไม่มีใครสามารถทนได้เกินเจ็ดวัน  พอเข้าวันที่แปดจะต้องลาออกกันไปทุกราย  ที่ผ่านมาเพราะผมใช้ชีวิตแบบไร้ตัวตนมาตลอดก็เลยไม่เคยตกเป็นเป้า  แล้วทำไมจู่ๆ…

ผมเลือกที่จะไม่สนใจทั้งที่คนทั้งห้องกำลังรุมหัวเราะใส่ผม  แต่ยังไม่ทันที่จะยันตัวลุกขึ้นมาได้  ก็มีก้อนกระดาษกลมๆก้อนหนึ่งถูกปามาจากใครสักคนในห้องโดนเข้าเต็มๆหัวผม

ป้อก!

ป้อก!

ป้อก!

ป้อก! ป้อก! ป้อก!

เมื่อมีคนแรกทำ  คนอื่นๆก็เริ่มทำตาม  ผมกำกระเป๋านักเรียนไว้แน่น  พยายามข่มความโกรธเพราะไม่อยากจะสร้างปัญหาให้ชีวิตไปมากกว่านี้  แค่เท่าที่เป็นอยู่ก็นักหนาพอแล้ว  ถ้าผมไม่ตอบโต้  พวกเขาอาจจะเลิกราไปเองก็ได้

พลั่ก!!!

“เฮ้ยย!  โทษทีๆ  กูหยิบผิดว่ะ  กะจะหยิบชอล์ก  แต่เสือกหยิบผิดเป็นแปรงลบกระดาน”

ติ๋ง…

น้ำสีแดงสดไหลย้อยจากหัวลงมาข้างแก้ม  คนที่ปาแปรงลบกระดานใส่หัวผมเมื่อกี้ก็คือ ‘โชเล่’  ลูกน้องคนสนิทของไอ้เฟี้ยว  ความจริงฐานะที่บ้านมันเองก็เข้าขั้นจนไม่ต่างจากผมนักหรอก  แต่เพราะมันเลียแข้งเลียขาเก่ง  ไอ้เฟี้ยวก็เลยให้มันเป็นลูกน้องคนสนิท  พอมีบารมีของไอ้เฟี้ยวคุ้มหัวอยู่  มันก็เลยทำกร่างกับคนอื่นไปทั่วและไม่เคยกลัวใครนอกจากไอ้เฟี้ยวคนเดียว

“พอได้แล้ว!  กูไม่อยากไล่บี้ลูกหมาที่จนตรอก  แค่นี้มันก็กลัวจนตัวสั่นแล้ว”

ไอ้เฟี้ยวตะโกนขึ้น  เมื่อหัวโจกออกคำสั่ง  คนอื่นๆก็พร้อมจะหยุด  ผมไม่รู้เหตุผลเลยว่าทำไมจู่ๆถึงกลายเป็นเป้าให้ไอ้เฟี้ยวเล่นงาน  หรือเป็นเพราะเรื่องที่ผมถูกมาเฟียอุ้มไปเมื่อวาน?  ไม่สิ  ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยสักนิดเดียว

ผมเดินมาถึงโต๊ะของตัวเองในที่สุด  จัดการถลกชายเสื้อขึ้นจนถึงหัวเพื่อซับเลือดเพราะตัวผมไม่มีผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู่ติดตัว  อ๊ะ  จะว่าไป…ผมไมได้เอาข้าวกลางวันมานี่นา  เพราะไม่ได้อยู่บ้านของตัวเองก็เลยลืมไปหมด  เงินก็ไม่มีติดตัวสักบาท  แบบนี้ก็หมายความว่ากลางวันนี้ผมจะต้อง…

…อดข้าวอีกแล้วสินะ

 

ออด….

“เอาล่ะ  ได้เวลาพักทานข้าวแล้ว  เจอกันคาบบ่ายนะทุกคน”

อาจารย์ประจำวิชาบอกเลิกชั้น  ตลอดทั้งคาบเช้า  ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองถูกมองและนินทาอยู่ตลอดเวลา  เลือดที่หัวแห้งไปแล้วก็จริง  แต่ที่ไหลลงมาเปื้อนในตอนแรกมันแห้งเกรอะกรังติดใบหน้าอยู่  ส่วนชายเสื้อก็มีแต่เลือดติดเต็มไปหมด  แน่นอนว่าไม่มีอาจารย์คนไหนกล้าถามหรือช่วยเหลือผมเพราะกลัวอำนาจของไอ้เฟี้ยวกันทั้งนั้น

ทุกคนในห้องพากันลุกเดินออกไปเพื่อซื้อข้าวกินที่โรงอาหาร  ส่วนคนที่เอาข้าวมากินเองก็หยิบกล่องข้าวสวยๆที่ข้างในมีกับข้าวน่าอร่อยออกมา  มีเพียงผมเท่านั้นที่ยังนั่งนิ่ง  บนโต๊ะว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย  ชักจะหิวแล้วสิ  ไม่น่าลืมเลยเรา  เฮ้อ!!!

เผละ!!!

ความคิดยังไปไม่ถึงไหน  ไอ้เฟี้ยวเจ้าเก่าเจ้าเดิมก็เดินเอาสปาเก็ตตี้มาเทลงบนโต๊ะนักเรียนของผม

มึงไม่คิดจะให้กูได้พักหายใจหายคอบ้างเลยหรือไงวะ! หาเรื่องแม่งตลอดวันเลย!

“กูบริจาคให้  คนจนๆอย่างมึงคงไม่เคยแดกสินะ  เอาซิ  แดกเลย  แดกให้อร่อยด้วยนะมึง”

“แดกเลยๆๆๆๆๆ!!!!!”

บรรดาลูกกระจ๊อกของมันเริ่มส่งเสียงเชียร์   ผมกำหมัดแน่น  กัดฟันระงับความโกรธจนเส้นเลือดตรงขมับปูดบวม 

“รออะไรล่ะวะ  นี่อาหารชั้นเลิศเลยนะเว้ย  กูอุตส่าห์เอามาบริจาคให้มึงแทนที่จะเอาไปทิ้งขยะ  มึงก็ควรจะขอบคุณกูแล้วรับไว้ด้วยความดีใจไม่ใช่หรือไง”

ดวงตาสั่นไหวเงยหน้ามองคนพูด  คำถามมากมายถูกส่งผ่านทางสายตา  ผมอยากรู้ว่ามันมีเหตุผลอะไรถึงต้องทำกับผมแบบนี้  ทว่าสายตาที่มองกลับมามันเต็มไปด้วยความสะใจ  ราวกับว่ามันกำลังระบายความโกรธอะไรสักอย่างใส่ผม

“แดกเลยๆๆๆ”

“แดกสิวะ!”

ไอ้โชเล่ตรงเข้ามาบีบแก้มผมจนปากห่อกันเป็นรูปตัวโอ  มืออีกข้างของมันหยิบสปาเก็ตตี้ขึ้นมา  ผมรู้ชะตากรรมตัวเองแล้วว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นในไม่ช้านี้

ทำไม…

ทำไมชีวิตกูต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย!!!

“เอ้า!  แดกเข้าไปซะ!!!”

“!!!”

ผมหลับตาปี๋  นึกน้อยใจในชะตากรรมของตัวเองจนแทบไม่อยากจะอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว…

หมับ…

 

“ถ้าแกยังกล้าแตะต้องหมาน้อยของฉันอีกแม้แต่ปลายเส้นผม   ฉันจะฆ่าแก”

 

เสียงที่ดังขึ้นทำให้ผมต้องรีบลืมตาขึ้นมอง  มือของไอ้โชเล่ที่บีบแก้มผมอยู่ในตอนแรกถูกมือของใครบางคนบีบอาไว้อีกทีจนมันต้องปล่อยมืออกจากหน้าผมอย่างรวดเร็ว  มีเสียงกร๊อบดังตามมาพร้อมๆกับใบหน้าของไอ้โชเล่ที่เหยเกก่อนจะร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด

“คะ…คุณจักรวาล”

 

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพตอนที่สี่แล้วจ้า  พระเอกก็ไม่ค่อยต่างอะไรกับตำรวจ  ชอบโผล่มาจอนจะจบเรื่องอยู่เรื่อย 5555+  ชีวิตของน้องไทม์ช่างน่าสงสารซ้ำซ้อนเสียเหลือเกิน  แต่ว่านะ…ทำไมจู่ๆเฟี้ยวถึงได้กลั่นแกล้งน้องไทม์ขึ้นมาล่ะ?   อย่ามองข้ามตัวละครเฟี้ยวตัวนี้เด็ดขาด  ไม่แน่ว่านานๆไปนักอ่านอาจจะหลงรักเฟี้ยวก็ได้นะ  ขอบคุณที่ติดตามกันนะค้า >__<

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จักรวาล ใส่ไอ้เล่หนักๆ  :z6: :z6: :z6:
มันทำเกินไปแล้ว เล่นถึงเลือด
แล้วจะให้หมาน้อยกินอาหารที่เทบนโต๊ะเรียนด้วย
เขาไม่ใช่หมาจริงๆนี่ งั้นเล่กินก่อนละกัน  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ก็คงอีกนานกว่าจะคิดว่าเฟี้ยวน่ารัก แต่ตอนนี้เอาเปลือกทุเรียนไปก่อนเลย // ปาใส่รัวๆ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
นายเอกรันทดได้อีก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 5

หมาน้อยของจักรวาล

 

ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่า  คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมในตอนนี้จะเป็นคุณจักรวาลจริงๆ  ด้านหลังเขามีบอดี้การ์ดยืนประกบอยู่สองคน  และดูเหมือนว่าที่ด้านนอกก็จะมีอยู่อีก (ขนมากี่คนวะเนี่ย?)  นักเรียนในห้องพากันแตกฮือออกเป็นสองฝั่ง  ไอ้โชเล่รีบวิ่งไปหลบอยู่ข้างหลังของไอ้เฟี้ยวด้วยท่าทีหวาดกลัว  มือข้างหนึ่งห้อยโตงเตงสีหน้าเจ็บปวด

กระดูกข้อมือยังอยู่ดีใช่ไหม?

“ดูเหมือนว่าหมาน้อยของฉันจะบาดเจ็บนะ”

ร่างสูงโค้งตัวลงมาหาผมที่นั่งจ๋องอยู่บนเก้าอี้

มือข้างหนึ่งแตะเข้าที่หัวผมอย่างแผ่วเบาตรงบริเวณที่ถูกไอ้โชเล่ปาแปรงลบกระดานใส่

“คุณ…มาได้ยังไงครับ”

“แม่บ้านโทรมาบอกว่านายไม่ได้เอาปิ่นโตที่เขาทำไว้ให้มา  อีกอย่าง…ฉันไม่คิดว่านายจะมีเงินติดตัวก็เลยรีบประชุมให้เสร็จเพื่อมาหานายนี่แหละ”

คำพูดที่เหมือนผมเป็นคนสำคัญคนหนึ่งของเขาทำให้หัวใจอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก  เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่ต้องการของใครสักคน…

“แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน  บอกฉันได้ไหมว่าทำไมนายถึงบาดเจ็บ”

สิ้นคำถามของคุณจักรวาล  ผมก็เหลือบตามองคนทั้งห้องที่เป็นต้นเหตุของเรื่องเมื่อเช้าทั้งหมด  ทุกคนดูมีสีหน้าหวาดกลัว  นัยน์ตาสั่นระริกราวกับกำลังอ้อนวอนขอให้ผมปกป้องพวกเขา

“คือ…”

“บอกมา  ฉันจะจัดการทุกคนที่บังอาจมาแตะต้องหมาน้อยของฉัน”

แววตาที่เคยว่างเปล่าของเขา  บัดนี้ดูน่ากลัวและจ้องเขม็งไปยังคนในห้องทีละคนๆ  ทำเอาบางคนถึงกับเข่าอ่อนร่ำไห้ขอชีวิตออกมา

“ผะ…ผะ…ผมขอโทษ  ผมไม่ได้ตั้งใจ  ผมแค่ทำตามที่คุณเฟี้ยวสั่งเท่านั้น  เพราะถ้าไม่ทำผมก็ต้องถูกเขม่นแทน  ผมขอโทษ!”

คนที่เป็นคนเริ่มปากระดาษใส่ผมเป็นคนแรกยกมือไหว้ท่วมหัว  คุณจักวาลผละออกจากผมเดินเข้าไปหามันด้วยท่าทีเย็นยะเยือกสุดๆ

หมับ!

ลำคอของมันถูกเขาบีบไว้ด้วยมือเดียว  มันค่อยๆลุกขึ้นตามจังหวะแขนของเขา  แต่จากสีหน้าที่ดูเจ็บปวดของมันแล้ว  ดูท่าคงไม่ใช่การจับคอกันธรรมดาแน่

แบบนี้มันบีบคอชัดๆ!

“ผมขอโทษ  ฮึก…อย่าฆ่าผมเลย  ผมขอโทษ…”

“แก…ทำอะไรหมาน้อยของฉัน”

“ผม…ผม…”

“คุณจักรวาล!  พอเถอะครับ  อย่าให้เป็นเรื่องใหญ่เลย  ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”

ตะโกนห้ามพลางตั้งท่าจะลุกขึ้นไปรั้งเขาเอาไว้  ทว่าบอดี้การ์ดทั้งสองคนของเขากลับกดตัวผมให้นั่งลงที่เดิมจนขยับไปไหนไม่ได้

ไอ้พวกบ้าเอ๊ย!  เจ้านายพวกมึงกำลังจะฆ่าคนตายอยู่รอมร่อแล้วยังทำใจเย็นอยู่อีกเรอะ!

“ตอบมา…”

“…”

“แกทำอะไรหมาน้อยของฉัน!!!”

อย่าว่าแต่ทุกคนสะดุ้งเลย  ตัวผมเองก็สะดุ้งกับเสียงตวาดอันทรงพลังของเขาเหมือนกัน  ความน่ากลัวแผ่รังสีกระจายออกมาจากตัวคุณจักรวาล…

“ผม…ผม…คร่อก!”

ยังไม่ทันได้ตอบคำถาม  มันก็กลัวจนเป็นลมสลบไปเสียก่อน  คุณจักรวาลมองร่างนิ่งของมันต่อไม่ถึงสามวินาทีก็โยนกระเด็นไปที่มุมห้องราวกับมันเป็นแค่ขยะชิ้นหนึ่ง

สาบานได้เลยว่าเขาในตอนนี้ดูน่ากลัวต่างจากปกติมากถึงมากที่สุด  ดูโหดเหี้ยม  ร้ายกาจ  เหมือนปิศาจในคราบของมนุษย์…

“ถ้ามีใครยอมบอกว่าแผลที่หัวของหมาน้อยเป็นฝีมือใคร  ฉันจะไว้ชีวิต”

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

เพียงคำพูดประโยคเดียว  คนทั้งห้องก็พร้อมใจกันชี้นิ้วไปที่ไอ้โชเล่ที่ยังยืนตัวสั่นอยู่ข้างหลังไอ้เฟี้ยว  มันเบิกตากว้างจนลูกตาแทบถลนก่อนจะตะโกนลั่นออกมา

“ไอ้พวกเหี้ย!  ทำไมโยนความผิดให้กูคนเดียวล่ะวะ  คนที่หัวเราะสนุกสนานตอนแกล้งมันก็พวกมึงด้วยไม่ใช่หรือไง!”

“แต่คนที่ปาแปรงลบกระดานใส่หัวไทม์จนหัวแตกก็คือมึงนะ!”

“ไอ้จ๋อง!  ไอ้คนทรยศ!”

“ออกไปให้หมด”

การเถียงกันถูกหยุดลงด้วยคำสั่งนิ่งๆของคุณจักรวาล  บอดี้การ์ดทั้งสองที่ได้ยินคำสั่งนั้นจัดการไล่ทุกคนในห้องออกไปก่อนจะปิดประตูล็อคห้องเรียบร้อย  และแยกย้ายกันไปยืนเฝ้าประตูหน้าคนหนึ่ง  ประตูหลังคนหนึ่ง  ตรงหลังห้องเลยเหลือแค่ผม  คุณจักรวาล  ไอ้เฟี้ยว  และไอ้โชเล่

จะว่าไป  ตั้งแต่ที่คุณจักรวาลปรากฏตัวขึ้น  ไอ้เฟี้ยวก็เงียบไปเลย  มันเอาแต่ยืนจ้องหน้าเขาราวกับมีความแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน

หรือผมจะคิดไปเองนะ?

“ดะ…ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย  ผมไม่รู้จริงๆว่าไอ้ไทม์…”

“…”

“เอ่อ…คุณไทม์…”

มันเปลี่ยนสรรพนามเรียกผมเมื่อเจอสายตาดุดันของคุณจักรวาลเข้าไป  ทำไมกันนะ…ทั้งที่สิ่งที่เขาทำทั้งหมดมันก็เพื่อผม  แต่ผมกลับรู้สึกว่าเขาน่ากลัวเกินไป…

“ผมไม่รู้ว่าคุณไทม์เป็นคนของท่านจักรวาล ผมมันโง่  ผมต้องขออภัยจริงๆครับ!”

“ไม่ใช่คนของฉัน”

“ครับ?”

“หมาน้อยต่างหาก”

“…”

“หมอนี่คือหมาน้อยของจักรวาล  แกได้แตะต้องสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับฉันไปแล้ว  แกคิดว่าฉันสมควรจะปล่อยให้แกมีชีวิตรอดมาทำร้ายหมาน้อยของฉันอีกงั้นเหรอ?”

“ผะ…ผม…”

“คนอย่างฉัน  ไม่เคยไว้ชีวิตใครก็ตามที่ทำร้ายสิ่งสำคัญของฉัน  จำใส่หัวไว้ซะ”

น้ำเสียงที่เย็นชืดเหมือนซากศพนั้นสร้างความผวาให้ผมไปด้วย  ผมนั่งกำหมัดแน่น  ลุ้นจนตัวเกร็งว่าเขาจะทำอะไรไอ้โชเล่

ถึงผมจะเกลียดมันมากในสิ่งที่มันทำกับผม  แต่ว่า…ผมก็ไม่เคยต้องการให้มันตาย  ไม่ได้ต้องการให้มันชดใช้ในสิ่งที่มันทำไว้ด้วยความตายเสียหน่อย!

“ไว้ชีวิตผมด้วย  ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย!!!”

ตึก…

“ถ้าแกกล้าแตะต้องคนของฉันก็ลองดู”

สิ่งที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่าการที่คุณจักรวาลกำลังย่างสามขุมเข้าไปหาไอ้โชเล่ก็คือไอ้เฟี้ยวที่เดินมาดักหน้าไว้ต่างหาก!

มันเข้าไปยืนประชันหน้ากับคุณจักรวาลแบบตาต่อตาฟันต่อฟันอย่างไม่เกรงกลัว!

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย  ถอยไป”

“ไอ้โชเล่เป็นคนของฉัน  ถ้าคิดจะทำอะไรมัน  ก็ข้ามศพฉันไปก่อน”

“เฟี้ยว…”

หือ???

ผมขมวดคิ้วมุ่นเมื่อคุณจักรวาลเรียกชื่อไอ้เฟี้ยวออกมา  แบบนี้ก็เท่ากับว่า…สองคนนี้รู้จักกันงั้นเหรอ!!!

“เอาสิ  จัดการฉันเลย!!  คนที่ออกคำสั่งให้แกล้งไอ้ไทม์ก็คือฉันเอง!”

“อะไรนะ?”

“ทุกสิ่งที่แกให้ความสำคัญ  ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์  หรือว่าสิ่งของ  ฉันจะทำลายมันให้หมด”

“ฉันไม่อยากเป็นศัตรูกับนาย  ถอยไปแล้วส่งตัวมันมาให้ฉัน”

“ไม่มีทาง”

ทั้งสองคนยังคงจ้องตากันต่อไม่ลดละ  ผมมองหน้าคุณจักรวาลสลับกับไอ้เฟี้ยวด้วยความสงสัยมากๆว่าพวกเขารู้จักกันใช่หรือเปล่า  แต่ในสถานการณ์แบบนี้คงไม่ใช่เวลาที่จะมาถามหรอก

ก๊อกก๊อกก๊อก!

“ใครอยู่ข้างในน่ะ  เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ  ทำอะไรกัน!”

เสียงนี้มัน…

“อาจารย์มารีอา!”

ไอ้โชเล่ตะโกนขึ้น  พอได้ยินชื่อของอาจารย์มารีอา  คนสองคนที่ทำท่าเหมือนจะพุ่งเข้าห้ำหั่นกันในตอนแรกก็ดูสงบลงไปเยอะ   พวกเขาผละตัวออกจากกันก่อนที่คุณจักรวาลจะหันไปมองหน้าบอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าประตูหน้าไว้เป็นเชิงบอกให้เปิดประตู

แอ๊ด…

เมื่อประตูห้องเปิดออก  ร่างของอาจารย์มารีอาก็พุ่งเข้ามาทันที

“เฟี้ยว!  กะแล้วเชียว  นี่เธอก่อเรื่องอีกแล้วใช่…”

อาจารย์มารีอาเงียบไปหลังจากที่เดินดุ่มๆเข้ามาถึงตัวไอ้เฟี้ยวแล้วทำให้เห็นหน้าคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามมันไปด้วย  เธอนิ่งชะงักไปราวกับหุ่นยนต์ถูกถอดแบต

“จักรวาล…”

“มารีอา…สบายดีนะ”

“อะ…อื้ม  ฉัน…สบายดี”

เธอตอบกลับด้วยเสียงและใบหน้าที่เศร้าเหมือนคนกำลังจะร้องไห้แต่พยายามกลั้นเอาไว้  ไอ้เฟี้ยวที่ยืนอยู่ด้านหลังเธออีกทีมองหน้าเธอสลับกับคุณจักรวาลด้วยแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความโกรธ

“ขอโทษที่มารบกวน  ฉันแค่มารับหมาน้อยของฉัน  กำลังจะกลับแล้วล่ะ”

“หมาน้อย?”

เธอทวนคำ  คุณจักรวาลไม่ตอบ  แต่เดินตรงเข้ามาฉุดผมให้ลุกขึ้นก่อนจะอุ้มพาดบ่าในทันที!

เดี๋ยวนะเฮ้ย!  มาอุ้มกูแบบนี้ได้ยังไงฟะ!!!

“ปะ…ปล่อยผมลงนะครับ!”

“วันนี้ฉันจะยอมปล่อยไป   แต่อย่าให้ฉันรู้ว่ามีใครรังแกหมาน้อยของฉันอีก  เพราะถ้ามีครั้งหน้า…พวกแกเตรียมบอกลาโลกนี้ได้เลย”

คุณจักรวาลพูดทิ้งท้ายไว้  เขาโฟกัสไปทางไอ้เฟี้ยว  ไอ้โชเล่เป็นพิเศษ  แต่แน่นอนว่าคนอื่นๆที่ยืนอยู่หน้าห้องก็ได้ยินไปด้วย

“กลับ”

ออกคำสั่งกับบรรดาบอดี้การ์ดก่อนจะเดินนำไปเป็นคนแรก  ผมเงยหน้ามองอาจารย์มารีอาที่ยังมองตามมาอยู่ด้วยความอยากรู้แบบสุดๆ

มันต้องมีอะไรแน่ๆ

ระหว่างคุณจักรวาล  ไอ้เฟี้ยว  และอาจารย์มารีอา…

พวกเขาทั้งสามคนรู้จักกัน!

 





หลังจากที่จักรวาลและพวกออกไปแล้ว  ทั้งห้องก็จกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง  มารีอายังคงยืนนิ่งราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่างไป

“ไอ้โชเล่  ปิดประตูห้องแล้วแล้วรออยู่ข้างนอก  อย่าให้ใครเข้ามาได้”

“ได้สิ”

โชเล่ที่เข่าอ่อนทรุดอยู่กับพื้นไปในตอนแรกรับคำแล้วรีบลุกขึ้นไปปิดประตูห้องไว้ตามคำสั่งของเฟี้ยว  ทั้งห้องเหลือแค่เขาและมารีอาสองคน

ความเงียบเข้าเกาะกินนานร่วมนาที…

“เขา…มาได้ยังไง”

หญิงสาวหันมาถามเด็กหนุ่มที่กระโดดขึ้นนั่งบนโต๊ะเรียนอย่างสบายอารมณ์   เหมือนกับว่าก่อนหน้านี้ไมได้มีอะไรเกิดขึ้น

“มันก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่ามารับหมาของมัน  จะสนใจทำไม”

“ฉันไม่คิดว่าคนอย่างจักรวาลจะมารู้จักกับเด็กคนนั้นได้น่ะสิ”

“เรื่องนั้นฉันก็ไม่รู้  แต่ที่แน่ๆ…สำหรับจักรวาล…หมอนั่นต้องสำคัญสุดๆ”

“เจ็บแฮะ…”

มารีอาพึมพำ  หยาดน้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย  เฟี้ยวหน้าเสียเมื่อหญิงสาวตรงหน้าเริ่มร้องไห้หนักขึ้น

หมับ!

“ยัยบ้า  อย่ามาร้องไห้ตรงนี้นะ”

เขาลุกขึ้นไปหาเธอ  มารีอาสูงแค่หน้าอกของเขาเท่านั้น  หญิงสาวปาดน้ำตาทิ้ง  ทว่ามันก็ไหลลงมาอีก  เฟี้ยวขยี้ผมตัวเองอย่างหัวเสียก่อนจะยกมือขึ้นจับหัวของเธอไว้แล้วดันให้ซบลงที่แผงอกเบาๆ

“ห้ามสั่งน้ำมูกเด็ดขาดล่ะ”

ฟืด!!!

“ยัยบ้า!  ก็บอกว่าอย่าสั่งน้ำมูกไงเล่า!”

 

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพตอนที่ห้าแล้วค่า  ความสัมพันธ์ระหว่างจักรวาล  มารีอาและเฟี้ยวเป็นยังไงกันนะ  ดูเหมือนว่าในโรงเรียน  ไม่สิ  ในโลกนี้จะมีแค่เฟี้ยวเท่านั้นที่กล้าต่อกรกับจักรวาล  ไม่รู้ว่าเฟี้ยวจะมีแผนร้ายอะไรในหัวอีก  แต่ดูท่าคนซวยคงจะหนีไม่พ้นน้องไทม์ของพวกเราแล้วล่ะ   มาเอาใจช่วยพวกเขากันต่อไปนะค้า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-08-2017 12:56:14 โดย WwW »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เหมือน จักรวาล เฟี้ยว มารีอา รู้ตัวตนจริงของไทม์กันหมด  ยังไง :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
มารีอาเป็นอาจารย์ไม่ใช่เหรอ ทำไมปล่อยให้เด็กนักเรียนพูดแบบนั้นกับตัวเองที่มีสถานะเป็นอาจารย์  :m28:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
เอ๊ะๆ ซับซ้อนแล้วอะ

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 6

ตัวตนที่แท้จริง

 

“ฉันจะขับรถเอง  พวกนายทุกคนกลับไปรอที่บ้าน”

“แต่ว่าบอส…”

“อย่าขัดคำสั่ง”

คุณจักรวาลที่ยักแบนผมอยู่บนบ่าเอ่ยย้ำอีกครั้ง  บอดี้การ์ดทั้งหมดจำต้องรับคำสั่งแต่โดยดี   หาไม่หัวอาจจะหลุดออกจากคอได้

“เอากุญแจรถมอเตอร์ไซค์มา”

“นี่ครับ”

เมื่อไหร่จะสนทนากันเสร็จสักทีเนี่ย  จับกูห้อยหัวจนเลือดจะไหลลงหัวตายแล้วเฟ้ย!

คุณจักรวาลเดินจ้ำอ้าวข้ามไปยังถนนอีกฝั่ง  ก่อนจะวางผมลงบนฟุตบาตรริมถนนอย่างเบามือ  ข้างๆเรามีรถช้อปเปอร์สีดำคันใหญ่จอดอยู่

“ใส่ซะ”

หมวกกันน็อกที่มีอยู่เพียงอันเดียวถูกส่งมาให้  ผมรับมาถือไว้อย่างงงๆแต่ก็ยังไม่ได้ใส่มัน

“แล้วของคุณล่ะ”

“นายเห็นหรือเปล่าว่ามันมีกี่ใบ”

“ถ้างั้นคุณใส่เถอะ  คุณเป็นคนขับนี่!”

“ฉันบอกให้นายใส่”

น้ำเสียงและสีหน้าที่นิ่งพอๆกันทำให้ผมไม่กล้าปฏิเสธ  รีบยัดหัวเข้าไปในหมวกกันน็อคก่อนที่คนตรงหน้าจะอารมณ์ฉุนเฉียวมากไปกว่านี้

คุณจักรวาลขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์และสตาร์ทรถรอผมที่กำลังตะเกียกตะกายขึ้นไปซ้อนท้ายเขาอยู่อย่างทุลักทุเล  รถเตี้ยๆคันเล็กๆไม่มีขับหรือไงฟะ  ไอ้คันนี้มันทำมาให้พวกคนตัวสูงๆขายาวๆชัดๆ!!!

หมับ!

“เหยียบตรงนั้นแล้วขึ้นมา”

อีกฝ่ายที่คงทนสมเพชผมไม่ไหวเอื้อมมือมาจับแขนผมไว้ข้างหนึ่งเพื่อจะช่วยดึงขึ้นไป  สาบานทีว่ากูกำลังจะขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไม่ได้ปีนตึกใบหยก!  ทำไมถึงดูลำบากลำบนขนาดนี้

ตุ้บ!

ขึ้นมาได้ในที่สุด…

“เกาะแน่นๆล่ะ”

“ครับ!”

สิ้นคำสั่งของเขา  ผมก็เอนตัวลงพิงกับแผ่นหลังกว้างนั้นแล้วจับชายเสื้อไว้แน่น  กะว่าถ้าหงายหลังตกลงไปจริงๆ  อย่างน้อยคงกระชากเสื้อเขาขาดติดมือลงไปด้วยได้  แม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยอะไรผมเลยก็ตามที

“เดี๋ยวก็ตกหรอก”

“เอ๊ะ…ครับ?  เหวอออ!”

แขนทั้งสองข้างถูกดึงไปด้านหน้าเพื่อให้ผมกอดเอวเขาเอาไว้  ด้วยความตกใจก็เลยคิดจะชักแขนกลับแต่เสียงเรียบนิ่งแกมดุก็ดังขึ้นเสียก่อน

“ถ้าเอาแขนออกไปนายโดนตีแน่”

หมับ!

กอดต่ออย่างรวดเร็ว…

รถเคลื่อนตัวออกไปแล้ว  ผมเอนหัวซบบ่าเขาเพราะไม่รู้จะเอาหัวไปวางตรงไหนดีเนื่องจากลักษณะรถเป็นแบบเอนไปหาคนขับ  แถมยังโดนบังคับให้กอดเอวเขาไว้อีก  ให้ตายสิ  รู้สึกแปลกๆยังไงก็ไม่รู้  ทำไมต้องมาอยู่ในโหมดมุ้งมิ้งแบบนี้กับเขาด้วยนะ

เอ๊ะ  เดี๋ยวก่อนสิ  เหมือนผมจะลืมอะไรไปอย่างนะ  ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนเลยนี่หว่า  เท่ากับว่าผมกำลังโดดเรียนวิชาที่เหลือ!!!

อ๊ากกกก!  กูเรียนที่นี่ได้เพราะเป็นนักเรียนทุนนะเว้ยยย  จะมาโดดเรียนแบบนี้ได้ยังไงกันเล่า  เดี๋ยวก็โดนเอาทุนคืนกันพอดี!

“เอ่อ  คุณจักรวาลครับ  คือว่าผมต้องกลับไปโรงเรียน…”

“ฉันให้ลูกน้องจัดการให้แล้ว  นายได้ลากลับบ้านครึ่งวัน”

“งะ…งั้นเหรอครับ”

รอบคอบดีจริงๆ  ป่านนี้ทั้งโรงเรียนคงแตกตื่นกันแย่แล้ว  ถ้าตัดภาพตอนนี้จะเป็นยังไงนะ…

โรงเรียนที่เต็มไปด้วยชายชุดดำ…

บรื๋อออ  แค่คิดก็สยองแล้ว!

รถยังคงเคลื่อนตัวต่อไป  อยากรู้จริงๆว่าเขากำลังจะพาผมไปไหนกันแน่  ยิ่งไปกว่านั้น…ไอ้เฟี้ยว  อาจารย์มารีอา แล้วก็คนๆนี้…  ผมมั่นใจว่าพวกเขาจะต้องรู้จักกัน  แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเป็นรูปแบบไหนนั้น  ผมยังเดาไม่ออกเลย

เฮ้ออ  ช่างมันเหอะ  จะไปคิดเรื่องของคนอื่นให้รกสมองทำไม  อย่าลืมหน้าที่ของตัวเองสิไอ้ไทม์! 

 

‘หมาน้อยของจักรวาล’

 

จู่ๆคำพูดของเขาก็แวบเข้ามาในหัว   ละ…ละ…แล้วทำไมต้องใจเต้นด้วยวะ! เป็นหมาไม่เห็นจะน่าดีใจตรงไหนเลย!

เอี๊ยด!!!

รถจอดที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งห่างจากโรงเรียนมาประมาณสิบกิโลเท่านั้น  เวลาเที่ยงๆแดดร้อนๆแบบนี้ปกติไม่มีใครเขามานั่งที่นี่กันหรอกนะ  แต่ยังดีที่มันพอจะมีร่มเงาของต้นไม้ที่เขาปลูกไว้พอให้หลบแดดได้อยู่บ้าง

“ลงไป”

“ครับ”

ผมรีบปีนลงจากรถตามที่เขาบอกก่อนจะถอดหมวกแล้วส่งคืนให้เขา

“รออยู่ที่นี่ก่อน  เดี๋ยวฉันมา”

“ทะ…ที่นี่เหรอครับ!”

“ไม่ต้องทำหน้าตกใจแบบนั้นก็ได้  ฉันไม่ทิ้งนายไว้หรอก”

มือหนายื่นมาแตะหัวผมก่อนจะยีมันเบาๆ  หลายครั้งที่เขาทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น  ราวกับว่าตัวเองกำลังถูกดูแล  แต่พอนึกถึงสถานะหมาน้อยที่เป็นอยู่ในตอนนี้แล้วภาพความฝันที่มโนขึ้นมาเองมันก็แตกสลายหายไปในพริบตา

ก็แค่หมาเท่านั้นแหละ!

บรืน!

รถเคลื่อนตัวกลับเข้าถนน  ผมยืนมองเขาจนลับสายตาก่อนจะถอนหายใจออกมาเต็มแรง  ยืนรอไปก็เมื่อยขาเปล่าๆ  หาที่นั่งร่มๆรอเขาก็แล้วกัน

ผมเดินตรงไปนั่งที่โคนต้นไม้ใหญ่ซึ่งร่มเงาของมันมีมากพอที่จะนั่งหลบแดดกันได้สองคน  แม้ว่ามันจะไม่ได้อยู่ติดบึงน้ำซึ่งเป็นจุดที่วิวสวยที่สุดของที่นี่ก็เถอะ  ไม่อยากเชื่อเลยว่าภายในเวลาสองวันจะมีเรื่องมากมายเกิดขึ้นกับผมขนาดนี้  ซ้ำยังเปลี่ยนแปลงชีวิตผมครั้งยิ่งใหญ่อีกด้วย

“พ่อกับแม่ไปอยู่ที่ไหนกันนะ  อยากรู้จัง”

เงินสิบล้านบาทกับเวลาแค่หนึ่งร้อยวัน  ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าพ่อแม่จะไปเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากที่ไหน  แล้วถ้าหากว่าพอครบกำหนดพวกท่านยังหาเงินมาให้ไม่ได้  ชะตากรรมของผมและน้องๆทั้งห้าจะเป็นยังไงต่อไป  พวกเราจะถูกส่งไปขายประเทศเพื่อนบ้านเพื่อใช้หนี้ไหมนะ

ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดโว้ยยยย!

อีกอย่าง  ดูจากท่าทางของไอ้เฟี้ยวในวันนี้แล้ว  มันคงไม่ปล่อยให้ผมได้อยู่อย่างสงบสุขในโรงเรียนเหมือนเดิมชัวร์ๆ  ถึงนักเรียนคนอื่นจะกลัวอิทธิพลของคุณจักรวาลเลยอาจจะไม่ร่วมมือด้วย  แต่ลำพังแค่ไอ้เฟี้ยวคนเดียวมันก็จัดการผมได้สบายอยู่แล้วล่ะ

เกิดเป็นกูนี่มีเรื่องให้ปวดกบาลไม่เว้นวันจริงๆ!

หมับ…

ขณะกำลังคิดอะไรเพลินๆ  มือของใครบางคนก็เอื้อมมาปิดตาผมไว้จากด้านหลัง  ถึงจะยังไม่เห็นหน้า  แต่กลิ่นน้ำหอมที่เป็นเอกลักษณ์นี้ก็ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร

“คุณจักรวาล”

“รู้ด้วยเหรอ”

“ไม่รู้ก็แปลกแล้วล่ะครับ”

ร่างสูงเอามือออกก่อนจะเดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆผมแทน  เขายื่นถุงกระดาษบางอย่างส่งให้  มันส่งกลิ่นหอมยั่วยวนแบบสุดๆ

“อะไรครับ”

“มื้อกลางวัน”

ผมยิ้มกว้างรีบรับมาเพราะกำลังหิวจนแทบจะเชือดควายกินได้ทั้งตัว  ข้างในมีแฮมเบอร์ชิ้นใหญ่ยักษ์กับเฟร้นฟรายที่ทั้งชีวิตผมไม่เคยได้กินมาก่อน  กับน้ำโค้กหนึ่งแก้ว

“ขะ…ของผมจริงๆเหรอครับ”

“อืม  กินสิ”

“ขอบคุณมากนะครับ!”

แทบจะยกมือไหว้ท่วมหัวเขา  ผมแกะแฮมเบอร์เกอร์นั้นกินอย่างเอร็ดอร่อย  รสชาติของมันหวานหอมจนผมไม่รู้จะบรรยายยังไงดี  ความอร่อยของมันทำให้น้ำตาผมร่วงกราวลงมาเป็นสาย

“ร้องไห้ทำไมน่ะ?!”

“กะ…ก็มันอร่อยมากเลยนี่ครับ  ผมไม่เคยได้กินของดีๆแบบนี้มาก่อนเลย  ขอบคุณมากนะครับ  มันอร่อยมากจริงๆ”

ตอบเขาขณะที่ในปากยังคงเคี้ยวตุ้ยๆ  แสดงว่าที่บอกให้ผมรอที่นี่ก่อนคงเพราะไปซื้อของอร่อยพวกนี้มาให้ผมกินสินะ

คนอย่างเขา…ไม่อยากจะเชื่อว่าจะเป็นคนใส่ใจคนอื่นมากขนาดนี้

“อย่าร้องนะ  ฉันไม่อยากเห็นหมาน้อยของฉันร้องไห้”

นิ้วมือเรียวปาดน้ำตาออกให้  ผมนั่งนิ่งมองการกระทำที่ดูอ่อนโยนของเขาแล้วแอบปลื้มอยู่ในใจ  ถ้าเป็นหมาให้แล้วเขาจะอ่อนโยนด้วยขนาดนี้ล่ะก็…ตัดสินใจถูกแล้วล่ะไอ้ไทม์ที่ยอมเป็นหมา!

“ทำไมต้องทำปากยื่นแบบนั้นด้วยล่ะครับ  คุณทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ยิ่งกกว่าผมอีกนะ”

“ก็นายร้องไห้นี่”

“อุ๊บ!”

ผมปิดปากกลั้นขำ  กะอีแค่ผมร้องไห้ เขาถึงกับต้องทำปากยื่นปากยาวตีหน้าเศร้าเหมือนจะร้องตามเนี่ยนะ  ทำตัวเหมือนพวกผู้ชายที่แพ้น้ำตาผู้หญิงไปได้

“เลิกหัวเราะแล้วรีบกินต่อได้แล้ว  จะได้ทำแผล”

“ทำแผล?”

“นั่นไง”

คุณจักรวาลชี้ไปยังแพ้ที่หัวของผม  พอมองไปข้างๆตัวเขก็พบว่ามีถุงยาวางอยาอีกหนึ่งถุงด้วย  นะ…นี่เขา…

ไปซื้อยาสำหรับทำแผลมาด้วยงั้นเหรอ?

“ขอบคุณมากนะครับ”

“นายขอบคุณฉันอีกแล้วนะ  เลิกพูดคำนี้สักที”

“ก็คุณดีกับผม…”

“แต่เมื่อกี้ตอนอยู่ในห้อง  สายตาของนายที่มองมาทางฉันยังดูเหมือนกลัวฉันอยู่เลยไม่ใช่เหรอ”

“คุณเห็น…”

“ก็ฉันมองนายอยู่ตลอด”

เอิ่ม…ทำไมเขิน?

ผมหันหน้าหนีเขาไปอีกทางเมื่อรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวที่แก้ม  ใจเย็นไว้ไอ้ไทม์  เขาอาจจะหมายความว่าตอนนั้นเขาหันมามองมึงพอดีก็ได้  มันคงไม่ได้มีความหมายอะไรลึกซึ้งหรอก!

สงบเข้าไว้  สงบ…สติ…สงบ…สติ…

แต่ว่า…เพราะคำพูดของเขา  ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณที่เกิดในห้องเรียนก่อนหน้านี้ขึ้นมาทันที   สีหน้าและสายตาน่ากลัวของคุณจักรวาล…ผมยังจำมันได้ดี

ช่างแตกต่างกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆผมตอนนี้เหลือเกิน

ราวกับเป็นคนละคนเสียด้วยซ้ำ  แต่ก็ไม่ใช่  พวกเขาเป็นคนๆเดียวกัน  ไม่ว่าจะเป็นคุณจักรวาลที่ดูโหดร้าย  หรือคุณจักรวาลที่ดูอ่อนโยนในตอนนี้   ทั้งสองคน…คอคนเดียวกัน  แล้วทำไม…

ตัวตนที่แท้จริงของเขา  คือแบบไหนกันแน่นะ?

จะบ้าตาย  เขาทำผมสับสนชะมัดเลย!

ผมสะบัดหัวตัวเองไปมาเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านทั้งหลายให้ออกไปจากหัว  ก้มหน้าหยิบเฟร้นฟรายขึ้นกินบ้าง  เอาล่ะ  โฟกัสแค่เรื่องกินก็พอไอ้ไทม์!

“อ้า….”

งั่ม!

ผมอ้าปากค้าง  ตั้งใจว่าจะกินเฟร้นฟรายในมือทว่ามันกลับถูกคนข้างๆช่วงชิงเอาไปอย่างง่ายดาย!

คุณจักรวาลที่จู่ๆก็ก้มลงมาชิงเอาเฟร้นฟรายในมือผมไปกินนั่งเคี้ยวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ทั้งที่เขาเพิ่งจะแย่งผมกินไปหยกๆ!

“ทำไมไม่หยิบชิ้นใหม่เอาล่ะครับ  มีตั้งเยอะนะ”

“ฉันอยากให้นายป้อน”

“หา?”

“เร็วสิ  เอาอีก  อ้า…”

“นี่คุณ…”

คิดสภาพสิ  ผู้ชายตัวโตๆหน้านิ่งๆมาทำตัวเป็นเด็กสามขวบ  อ้าปากรอให้เราป้อนอาหารให้…

โธ่เว้ยยยย!  อะไรคือจู่ๆผมก็รู้สึกว่าเขาโคตรน่ารักขึ้นมาล่ะเนี่ย!

“หิวแล้ว  อ้า…”

“นี่ครับ”

แล้วผมก็ต้องหยิบเฟร้นฟรายป้อนเข้าปากเขาจนได้  แถมเมื่อกี้ดันใส่เฟร้นฟรายเข้าปากเขาลึกไปหน่อย  ปลายนิ้วก็เลยไปโดนริมฝีปากเขานิดหนึ่งด้วย

ร้อนเลยแฮะ…

ทำไมมันร้อนอย่างนี้วะ!!!

ยิ่งไปกว่านั้น…

“ทำไมต้องจ้องหน้าผมเวลากินด้วยล่ะครับ”

“เรื่องของฉัน”

เออ!  เรื่องของมึง   แต่กูที่เป็นคนถูกจ้องเนี่ยทำอะไรไม่ถูกแล้วเหอะ!

“อ้า…”

ไม่ไหว…

ผมเอาชนะผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลย!

 

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพตอนที่หกแล้วจ้า  เอาไปเลยสิบคะแนนเต็มกับความน่ารักตะมุตะมิของท่านจักรวาล  อยากจะวาร์ปเข้าไปในนิยายแล้วป้อนอาหารเองมากๆ  ตกลงใครจะเป็นหมาน้อย  ใครจะเป็นทาสหมากันแน่นะเนี่ย  อิจฉาน้องไทม์จริงๆที่มีคนอย่างท่านจักรวาลคอยอยู่ข้างๆแบบนี้  มาช่วยกันตามลุ้นตามเชียร์คู่นี้ต่อไปด้วยนะคะ ^3^

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เป็นจักรวาลที่เอาแต่ใจได้มุ้งมิ้งจริงๆ 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
หวานๆกันนะตอนนี้  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
เข้ามาอ่านกันเยอะๆน้า  ฝากติดตามด้วยจ้าาา

 :mew1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Laliat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ุคุณจักรวาลใจดีกับหมาน้อยมาก
มากแบบรถอ้อยคว่ำแล้ววววววววว
 :hao7:

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 7
กัดไม่ปล่อย
 
“นี่…”
“…”
“ที่ตรงกลางนายจะเอาไว้เล่นฟุตบอลหรือไง”
เสียงเอื่อยเฉื่อยเอ่ยถามพลางมองไปยังที่ว่างตรงกลางระหว่างตัวเองและผม
ทำไงได้ล่ะ   ก็วันนี้เขาทำให้ผมรู้สึกแปลกๆไม่เป็นตัวของตัวเองทั้งวันจนไม่กล้าจะนอนใกล้ๆเลยเนี่ย   ผลก็เลยออกมาว่าผมเขยิบไปนอนอีกฝั่งจนแทบจะตกเตียงโดยเว้นระยะห่างจากเขามามากโข
“ก็…”
“เขยิบมา  เดี๋ยวก็ตกหรอก”
ไม่ได้แค่ออกคำสั่ง  แต่เขายังเอื้อมมาดึงแขนผมอีกต่างหาก  เพียงออกแรงแค่ครั้งเดียว  ตัวผมก็พุ่งเข้าหาเขาอย่างง่ายดาย
นี่กูแรงน้อยหรือมึงมันแรงควายกันแน่ฟะ!
“แบบนี้ก็ใกล้ไปนะผมว่า  เดี๋ยวคุณจะนอนไม่สบาย”
“เลิกพูดแล้วนอนได้แล้ว”
“อ๊ะ เดี๋ยว  เหวอ!”
เป็นอีกครั้งที่ผมต้องร้องเหวอให้กับการกระทำของเขา!
คุณจักรวาลผลักผมให้นอนลงบนท่อนแขนเขาที่กางยื่นออกไปโดยที่ผมนอนตะแคงหันหลังให้เขา   แผ่นหลังชนกับแผงอกกว้างแบบแนบสนิท
ปะ…แป๊บนะ  ขอตั้งสติแป๊บหนึ่ง!
นอนท่านี้มันเสียวสันหลังยังไงชอบกล
“ฝันดีนะ  หมาน้อยของฉัน”
ปลายคางมนเกยเข้ากับหัวของผม  มืออีกข้างที่ว่างพดผ่านลำตัวคล้ายกับจะกอดผมกรายๆ  ในห้องเงียบและมืดสนิท  แสงไฟจากด้านนอกส่องสว่างพอให้เห็นเพียงรำไรเท่านั้น
ฟี้…ฟี้…
เสียงลมหายใจของเขาดังสม่ำเสมออยู่เหนือหัว  ท่าทางจะหลับไปแล้วแน่ๆ  ดูเขาจะเหนื่อยๆ  แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอุตส่าห์รีบทำงานและไปหาผมที่โรงเรียน  ช่วยเหลือผมที่กำลังถูกรังแกเอาไว้  พาผมออกมากินข้าวข้างนอก  ทำแผลให้
ไม่เข้าใจเลยว่าการเป็นหมามันทำให้ผมสบายไดขนาดนี้เลยเหรอ
คิดไปก็เท่านั้น  สิ่งที่ต้องคิดตอนนี้คือทำยังไงผมถึงจะหลับ!  เล่นมานอนกอดกันเหมือนผัวเมียแบบนี้ใครมันจะไปหลับลงวะ!
ไม่สิ  ก็ไอ้คนด้านหลังผมมันหลับไปแล้วนี่นา
เวรกรรมเลยมาตกอยู่ที่กู  ใจเต้นแรงขนาดนี้จะไปหลับได้ยังไงกันเล่า  อ๊ากกกก!
 
“ตายแล้วคุณไทม์  เป็นอะไรไปคะเนี่ย  ทำไมขอบตาคบ้ำเป็นหมีแพด้าอย่างนี้ล่ะคะ”
‘ป้าจี’  แม่บ้านที่คอยดูแลเรื่องอาหารการกินและเตรียมเสื้อผ้าให้พุ่งเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง  ผมนั่งโงนไปโงนมาอยู่ที่โต๊ะอาหารมาได้พักใหญ่แล้ว
จะให้บอกยังไงล่ะว่าเม่อคืนแทบไม่ได้นอนเพราะไอ้คุณจักรวาลมันกอดแน่นไม่ยอมปล่อย!
“ผมคิดเรื่องเรียนมากไปหน่อยนะครับป้า”
“ไม่เอานะคุณไทม์  ถึงจะรักเรียนมากแค่ไหนแต่ก็ต้องมีพักผ่อนกันบ้าง  นี่ถ้าคุณไทม์ไม่สบายขึ้นมา  มีหวังป้าโดนนายท่านดุแย่”
“ผมจะระวังแล้วกันนะครับ”
ได้แต่ยิ้มแหยๆกลับไป  ป้าจียกข้าวต้มกุ้งมาวางไว้ตรงหน้า  มันส่งกลิ่นหอมฟุ้งยัวน้ำลายผมโคตรๆ  รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันเลย  ผมกำลังจะได้กินกุ้งเหรอเนี่ย!
“ทานสิคะ  เดี๋ยวจะได้ไปโรงเรียน”
“ขอบคุณมากนะครับ  น่าอร่อยมากเลย”
ว่าแล้วก็ลงมือจ้วงกินเหมือนคนตายอดตายอยากมาหลายปี
เพียงแค่คำแรกเข้าปาก  ผมก็แทบจะร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจว่า…โอ้  สวรรค์!   รสชาติของกุ้งมันเป็นแบบนี้นี่เอง  อร่อยจนหยุดกนไม่ได้เลย!
“อ๊ะ  นายท่านมาพอดีเลย  จะรับข้าวต้มด้วยไหมคะ  เดี๋ยวป้าไปตักให้”
“ไม่เป็นไร  ฉันมาเพาะมีเรื่องจะคุยกับหมาน้อยนิดหน่อย  เดี๋ยกว็จะไปแล้ว”
“ค่ะ  งั้นเดี๋ยวป้าไปในครัวก่อน  ถ้าคุณไทม์ต้องการอะไรเพิ่มเรียกป้าได้เลยนะคะ”
“อ๋อ  ครับ  ขอบคุณมากนะครับป้าจี”
ป้าจีเดินกลับเข้าไปในครัว  ในห้องอาหารเลยเหลือแค่ผมกับคุณไทม์
วันนี้เขาก็ใส่ชุดสีดำอีกแล้ว  ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันจนถึงตอนนี้  ผมเห็นเขาใส่แต่เสื้อผ้าสีดำ  เวลาไปทำงานก็จะเป็นเชิ้ตสีดำ  กางเกงดำ สูทดำ  รองเท้าดำ  เวลานอนก็จะเป็นชุดนอนสีดำ  แต่งตัวอย่างคนกับไว้ทุกข์
“คุณมีอะไรกับผมเหรอครับ”
“ของนาย”
พูดพลางส่งซองสีน้ำตาลขนาดเท่าซองจดหมายมาให้  ผมรับมาอย่างงงๆก่อนจะเปิดดูข้างใน
“นี่มัน…!”
“เงินเดือนของนาย  จะได้ไม่ต้องเอาข้าวจากที่บ้านไปกิน  แล้วก็เผื่อมีกิจกรรมอะไรที่โรงเรียนหรือว่านายอยากได้อะไร”
“แล้วทำไมคุณต้องให้ผมด้วยล่ะครับ  แถมยังเยอะขนาดนี้อีก!”
แบงก์พันเป็นปึกๆ…
เกิดมาไม่เคยจับเงินเยอะขนาดมาก่อนเลยให้ดิ้นตายเหอะ!
“ฉันให้ก็เพราะนายเป็นหมาน้อยของฉัน”
“แต่นั่นมันก็เพราะผมมาเพื่อขัดดอกหนี้สิบล้านไม่ใช่เหรอครับ!”
ลูกหนี้ที่มาเพื่อขัดดอกแต่กับได้เงินรายเดือนจากเจ้าหนี้เยอะแยะบนโลกนี้มันมีซะที่ไหนกันเล่า!
“ฉันไม่ชอบตอบคำถามซ้ำๆหรืออธิบายอะไรมากมายนะ  เอาเป็นว่ารับไว้  นายจะไม่ได้ถูกใครดูถูกอีก  เพราะฉันคงไม่ว่างไปช่วยนายได้ทุกครั้ง”
“แต่ว่า…มันเยอะเกินไปนะครับ”
“…”
“ถ้าคุณยืนยันที่จะให้ผมจริงๆล่ะก็…”
ผมหยิบเงินในซองออกมาจนเกือบหมด  เหลือไว้แค่สามใบเท่านั้น
“ผมขอแค่นี้ก็พอครับ”
“แน่ใจนะ”
“ครับ   ไว้ถ้าผมมีเรื่องจำเป็นต้องใช้จ่ายจริงๆผมจะบอกคุณ  แต่ว่าตอนนี้น่ะ…ผมขอแค่นี้ก็พอ  นะครับ  นะ…”
ตอนท้ายแอบเล่นเสียงอ้อนเล็กน้อย  ผมเพิ่งอายุแค่สิบแปดและยังไม่จบชั้นมัธยมปลาย  จะให้มีเงินรายเดือนใช้เป็นแสนๆแบบนั้นคงไม่ไหว!
“ก็ได้ๆ ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อนหรอก”
คุณจักรวาลพยักหน้ารับ  เขายอมรับเงินที่เหลือคืนไปก่อนจะมองหน้าผมสลับกับข้าวต้มที่อยู่บนโต๊ะ
“เอ่อ…กินด้วยกันไหมครับ  เดี๋ยวผมไปตักให้”
ถามพร้อมกับลุกขึ้นเตรียมจะไปตักข้าวต้มมาให้เขา  แต่คุณจักรวาลกลับดักผมด้วยการเอามือข้างหนึ่งเท้าไว้กับโต๊ะ  ส่วนมืออีกข้างเท้ากับพนักเก้าอี้ที่ผมนั่งอยู่  จนผมต้องทิ้งตัวลงนั่งอีกรอบ  ร่างสูงก้มหน้าเข้ามาใกล้
“ไม่ต้อง  สำหรับฉัน…”
“…”
“แค่นี้ก็พอ”
แผล่บ…
“!!!”
ดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง  ร่างกายแข็งเป็นหินด้วยตกใจกับการกระทำอันไม่คาดคิดของอีกฝ่าย!  ผมเหลือบตามองคุณจักรวาลที่แลบลิ้นให้ผมดูเล็กน้อย  ตรงปลายลิ้นเขามีเม็ดข้าวจากข้าวต้มที่ผมกินอยู่  มันจะไม่น่าตกใจเลยถ้าไอ้เม็ดข้าวนั่นเขาไม่ได้ใช้ลิ้นมาเลียมันไปจากตรงมุมปากของผม!
กูแค่กินข้าวติดปากหน่อยเดียว  มึงเล่นกันอย่างงี้เลยเรอะ!
“แล้วเจอกัน”
มือหนายีหัวผมเบาๆก่อนจะเดินออกไป  ทิ้งเอาไว้เพียงร่างที่ไร้วิญญาณเพราะสัมผัสที่ได้รับอย่างกะทันหันนั้นมันยังไม่จางหายไป
คล้อยหลังเขาไปแล้ว  ผมยกมือขึ้นปิดหน้าที่ร้อนฉ่าของตัวเอง  สะ…เสียงหัวใจ  เสียงหัวใจมันดังจนเหมือนจะระเบิดเลย!
ที่สำคัญ…มุมปากตรงที่ลิ้นของเขาสัมผัสก็…
“บ้าเอ๊ย…”
ทำไมผมควบคุมตัวเองไม่ได้เลย
 
“จอดที่เดิมใช่ไหมครับคุณไทม์”
“ครับพี่เข้ม”
ตอบรับคนขับรถที่มาส่ง  พี่เข้มเป็นคนขับรถที่คุณจักรวาลให้มาคอยรับส่งผมทุกวัน  รูปร่างหน้าตาพี่เขาเข้มสมชื่อจริงๆนะ
ผมลงจากรถแล้วเดินต่อไปโรงเรียนเหมือนปกติ  จะไม่ปกติก็ตรงที่ผมยังสลัดเรื่องเมื่อเช้าออกไปจากในหัวไม่ได้เลย  คิดยังไงก็ไม่เข้าใจ  ทำไมคุณจักรวาลถึงทำแบบนั้นกับผม  หรือเพราะเขาเห็นว่าผมเป็นน้องหมาจริงๆ   แต่เฮ้ย!  ยังไงผมก็ผู้ชายนะ  มาทำอะไรแบบนั้นกับผู้ชายด้วยกันมันไม่ออกจะแปลกไปหน่อยหรือไง
ไม่หน่อยสิ
แปลกมากกกกกกกกกเลยต่างหาก!
ซุบซิบๆๆๆๆ
อ่า…
อย่างที่คิดไว้เลย  ทันทีที่ผมก้าวเท้าเข้ามาในโรงเรียน  นักเรียนคนอื่นๆรวมถึงครูอาจารย์ก็พากันถอยห่างและกระซิบกระซาบกัน  แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไรไปมากกว่านั้น  บางทีเรื่องที่ผมเป็นหมาน้อยของคุจักรวาลอาจจะแพร่ไปทั่วแล้วก็ได้
ตกลงมันดีหรือไม่ดีกันนะ  ปฏิกิริยาตอบกลับแบบนี้จากทุกคนน่ะ
ไม่สิ  ไม่เหมือนเดิม  ผมรู้สึกว่าสายตาที่พวกเขามองมามันแปลกไป  ไม่ใช่ความหวาดกลัวหรือสมเพชเหมือนทุกที   ให้ตายสิ  สังหรณ์ใจแปลกๆอีกแล้ว!
ฟิ้ววววว~~
แปะ!
“โอ๊ะ!”
อะไรบางอย่างลอยมาแปะเข้าที่หน้าผมอย่างจังจนต้องหยุดเดิน  ผมหยิบเอากระดาษที่ลอยมาจากไหนก็ไม่รู้ออกจากหน้า  ก้มมองดูเนื้อหาที่อยู่ในกระดาษอย่างสนใจ
 
‘ขายตัว!  ไอ้ไทม์ชั้นมอหกขายตัวให้เจ้าพ่อคนดังแลกเงิน  มีเสี่ยกระเป๋าหนักมากมายแห่ซื้อตัวมันในราคา XXX,XXX ต่อคืน’
 
“นี่มัน…”
ในกระดาษไมได้มีแค่เนื้อหาที่หมายถึงผมเท่านั้น  แต่ยังมีภาพที่ตัดต่อผมกับผู้ชายอีกมากมายกำลังมีอะไรกันรวมอยู่ด้วย!
ฟิ้ววววว~~
กระดาษอีกแผ่นที่เนื้อหาเหมือนกันเป๊ะปลิวมาตามลมหยุดอยู่ตรงปลายเท้าอีกแผ่น  ผมก้มลงเก็บมันขึ้นมาก่อนจะขยำกระดาษทั้งสองแผ่นนั้นทิ้ง  แต่ทว่า…
ฟิ้วววววว~
มีกระดาษปลิวมาอีกหนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า…!  ไม่สิ!  กระดาษมากมายที่เนื้อหาเหมือนกันหมดปลิวว่อนอยู่บนฟ้า  กระจายไปทั่วทั้งโรงเรียน!!!
ผมเงยหน้ามองไปด้านบน  ซึ่งข้างหน้าคือตึกเรียนที่มีดาดฟ้าอยู่  และบนดาดฟ้านั่นก็…
ไอ้เฟี้ยว!!!
มันกำลังโปรยกระดาษพวกนี้ลงมาจากบนดาดฟ้า  ต่อให้ผมไล่เก็บเท่าไหร่ก็คงเก็บไม่หมดอยู่ดี  ดูท่าจะมีพิมพ์มาเยอะ
จะเล่นกันแบบนี้ใช่ไหม  มึงกะจะกัดกูไม่ปล่อยเลยสินะ!!!
 
‘ขายตัวด้วยแหละ’
‘ที่แท้ก็ขายตัวให้คุณจักรวาล’
‘ทุเรศ’
‘น่ารังเกียจ’
‘ขยะแขยงชะมัด’
‘คนแบบนี้  ไม่น่ามาอยู่โรงเรียนเดียวกับพวกเราเลย’
‘น่าจะตายไปซะ  รกโลก’
 
ไม่ใช่นะ…
เข้าใจผิดแล้ว…
มันไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อย!!!
 
 
บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพตอนที่เจ็ดต่อแล้วจ้า  ความร้ายกาจของเฟี้ยวยังคงไม่หมดแค่นี้  ไม่รู้ว่าน้องไทม์จะสามารถรับมือได้หรือเปล่า  หรือว่าท่านจักรวาลจะเป็นฮีโร่พิทักษ์น้องไทม์โผล่มาช่วยไว้อีก  อยากรู้จริงๆเลยนะว่าเพราะอะไรเฟี้ยวถึงเกลียดท่านจักรวาลและกกลั่นแกล้งรังแกน้องไทม์ขนาดนี้?
ตอนหน้าห้ามพลาม  การปรากฏตัวของตัวละครสำคัญอีกหนึ่งคนในเรื่อง…จะเป็นใครนั้นต้องรอติดตามจ้า

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
อ้าวๆๆๆ
ใครบังอาจคิดร้ายแล้วกัดไม่ปล่อยกันนี่
คุณจักรวาลมาจัดการอีกรอบทีครับ
ไม่สงบก็ย้ายน้องไปโรงเรียนอื่นเลย
เด๋วเถอะ!!!
 :hao3:

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
ควรเก็บกระดาษพวกนั้นไปแจ้งความนะ ไม่น่าโง่แบบวิ่งหนีไปร้องไห้งี้ แต่ก็ไม่แน่แหะ ='=

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด