ในเรื่องของความรัก ไม่มีใครอยากจะเป็น
ที่หนึ่งเพราะถ้ามันมี “ที่ 1” เมื่อไหร่ นั่นเท่ากับว่าจะต้องมี “ที่ 2” หรือ “ที่ 3” ตามมา
ตำแหน่งของตายน่ะ... ไม่ว่าใครก็คงไม่อยากเป็น_ _ _ _ _ _“ไอ้พร้อม จะไปไหนวะ?”เสียง
ไอ้ต้องแหกปากแหวกผ่านสารพัดเสียงอื่นภายในห้องเรียนถามขึ้นมา ขณะที่ผมเหวี่ยงเป้ขึ้นพาดไหล่ ไม่สะพาย ...มันไม่เท่
หยิบมือถือขึ้นมารัวนิ้วพิมพ์ข้อความเข้าไปในแชทโหลดฟรี ก่อนหย่อนเก็บลงกระเป๋ากางเกงนักเรียนแล้วยกมือขึ้นโบกอากาศ ..บ๊ายบายเพื่อนที่นั่งอยู่หลังห้อง ก่อนออกมาเห็นมันหยิบมือถือขึ้นมาไถนิ้วสไลด์
“ไอ้เชี่ยยย กวนตีน มึงกลัวดอกพิกุลจะร่วงหรือไง”
ยกยิ้มไม่คิดเดินกลับเข้าห้องไปตอบความมัน เดี๋ยวจะสาวความยืด ..แล้วจะไปช้า
คงต้องแนะนำตัวก่อน
สวัสดีครับ ผมนาย
พร้อมกานต์ ขอสงวนนามสกุล หรือ ‘ไอ้พร้อม’ ที่มักจะชอบเพี้ยนเป็น ‘ไอ้พ่อง’ จากคำเรียกขานของเพื่อนฝูง
ฮายีน่า ไม่ต้องตกใจไปครับนั่นชื่อกลุ่มผมเอง แต่ให้เรียกว่ากลุ่มก็คงจะไม่ถูกหลักพจนานุกรมนักเพราะทั้งกลุ่มก็มีกันอยู่แค่สองคนคือผมกับไอ้ต้อง ที่ตั้งตนเป็นใหญ่อย่างที่เรียกว่าหัวหน้ากลุ่ม รวมถึงเป็นคนตั้งชื่ออีกด้วย
ความจริงไอ้ที่เรียกว่ากลุ่มเพื่อนนี่มีนะครับ กลุ่มที่ไม่ได้มีแค่สองคนแต่เป็นกลุ่มที่มีคนอยู่ร่วม 15 หัว รวมผมกับไอ้ต้องแล้วเรียบร้อย เอาง่ายๆก็ทั้งห้องนั่นแหละ ก๊วนแก๊งเดียวกันหมด แต่พวกมันไม่เอาด้วยกับชื่อกลุ่มที่ไอ้ต้องเสนอ โบกมือบายยกให้กลุ่มฮายีน่านี้เป็นของพวกมึงสองคน เต็มที่กับชีวิตเลยเพื่อน...
‘เพราะเราคือสัตว์ล่าเนื้อโว้ย ฮ่าๆๆ’ อันเชิญมึงเป็นไปคนเดียวเลยครับสัตว์น่ะ... ไม่ได้ขอเลยแต่เห็นมันภาคภูมิใจกับความคิดอันแสนบรรเจิด(ในความคิดของมันคนเดียว)มาก เลยปล่อยๆมันไป ให้มีความสุขอยู่ในโลกชมพูหวานของตัวเองต่อไป ไม่คิดขัดขวางเพื่อน
สั้นๆคือกูขัดไปก็เท่านั้น
ความจริงมันก็น่าจะผิดหลักพจนานุกรมตั้งแต่ใช้คำว่า ‘ฝูง’ แล้วล่ะถ้ามีจะมีกันอยู่แค่สองคนในขณะที่คนอื่นไม่ขอดอง...
ผมเป็นนักเรียนหัวไม่เกรียนเพราะไม่ได้เรียนร.ด. ของโรงเรียนชายล้วนกางเกงน้ำเงินย่านใจกลางกรุงแห่งหนึ่งครับ ตอนนี้เลิกเรียนแล้ว ตามธรรมดาที่จะต้องไปเถรไถลต่อ ถ้าฟ้าไม่มืดแล้วจะกลับบ้านไม่ถูก ..กลุ้มใจมาก
ติ๊ง~
เสียงเตือนพร้อมแรงสั่นสะเทือนตรงหน้าขาไม่ได้ทำให้ผมหยุดเดิน ล้วงหยิบออกมาขณะเดินเลี้ยวมุมตึกไถนิ้วก็เห็นว่าเป็นโปรแกรมแชทที่ผมเพิ่งใช้ตอบไอ้ต้องไป เพียงแต่คนที่ส่งข้อความมาไม่ใช่ไอ้ต้องที่ความรู้สึกช้าเพิ่งตอบกลับมาแต่อย่างใด
RK. :...ออกมาหรือยังครับ?...
...พี่รออยู่หน้าโรงเรียนนะ...
อมยิ้มน้อยๆ หากยังไม่ทันได้โชว์สกิลรัวนิ้วพิมพ์ตอบกลับ หน้าต่างข้อความแชทก็เคลื่อนไหวขึ้นอีกครั้งเสียก่อน
RK. :...คิดถึงจัง...
จากแค่อมยิ้ม ตอนนี้ขำเลย หน้าของ
เขาลอยแวบเข้ามาในหัว จินตนาการได้เลยทีเดียวว่าตอนนี้เขากำลังทำหน้ายังไงแบบไหนอยู่
พร้อมไง พ่องพ่องสิครับ :...ไปบอกจังสิครับ...
...นี่พร้อมไม่ใช่จัง ผิดคนแล้ว...
มุกจังไรสมัยพระเจ้าเหาแค่ไหนก็ยังเล่นออกไปได้ อีกฝ่ายไม่ได้ตอบกลับมา เพราะผมเดินออกมาถึงประตูหน้าโรงเรียนพอดี รถน้อยใหญ่ของผู้ปกครองสลับกันจอดหมุนเวียนรับนักเรียนที่ต่างค่อยๆทยอยกันออกมาจากโรงเรียน ใช้เวลามองหาไม่นานผมก็เห็นรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิวสีดำรุ่นไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าเบาะนิ่มมาก ..และผมก็ชอบเอาหน้าไถเล่นมากด้วยเช่นกัน
ไถจนโดนเจ้าของดุบอกว่าสกปรก ...สกปรกตรงไหนวะ แทบไม่เห็นฝุ่นฝัง สำคัญคือกลิ่นหอมมาก
“เหม่ออะไรเรา”หัวถูกจับโยกเป็นตุ๊กตาติดสปริงหน้ารถ“ขึ้นรถกันก่อนเร็ว ก่อนที่บรรพบุรุษพี่จะถูกสรรเสริญจนสะดุ้งเพราะจอดแช่นานเกินไป”
ผมย่นจมูก มองคนที่เล่นมุกได้หน้าตายและก็หัวเราะมุกตัวเองแบบหน้าตายด้วยเช่นกันด้วยสายตาเนือยๆ
จมูกที่ย่นถูกบีบจนดั้งยุบเข้าไปในหน้า ..อันนี้เว่อร์ แต่บีบแรงมากครับ ไม่แดงให้มันรู้ไป “หน้าแบบนี้คือกำลังด่าพี่ในใจสินะ ไอ้ตัวแสบ”
“ไปๆ ไหนว่ากลัวบรรพบุรุษสะดุ้ง มัวแต่ยืนฝอยไม่หยุดปากอยู่ได้”จับคนร่างสูงหมุนก่อนจะดันหลังไปจนถึงรถ ..โดดขึ้นรถก่อนเจ้าของอีกบอกเลย
“พี่เคยบอกว่าไงเรา ไม่เข็ดเลย”โดนดุทันทีเมื่ออีกฝ่ายขึ้นรถมาแล้วเห็นผมยกสองขา(ที่ถอดรองเท้าเรียบร้อย)ขึ้นกอดเข่าบนเบาะพลางตะแคงข้างเอาหน้าไถๆเบาะที่นั่งซึ่งมีผ้ารองสีน้ำเงินเข้มคลุมทับอีกที
บอกเลยว่านิ่มขั้นกว่ามาก
อ้อ แล้วที่เขาบอกว่าผมไม่เข็ดคือมันเคยมีประเด็นครับ ด้วยความชอบไถ ขึ้นทีไรผมก็ไถทุกทีที่ถ้าไปทำนานี่คงรุ่ง ..ไถไปไถมา สิวเห่อ ไม่เห่อธรรมดามันพาพวกที่เรียกว่าผื่นคันมาขึ้นหน้าผมด้วย ทีนี้มันพ่ะย่ะค่ะ ทั้งผื่นทั้งสิวเกาจนสนุกมือ หน้าแหกไปเลยช่วงหนึ่ง จนสุดท้ายเขาเลยต้องหาผ้าสะอาดมาคลุมทับเบาะอีกที เพราะรู้นิสัยผมดีว่าติดไถของนุ่มติดถูของนิ่มขนาดไหน
ห้ามไปยังไงก็ไม่ฟังหรอก คนมันรั้น...
“พี่เคยบอก พร้อมก็เคยเข็ดเหมือนกันนะเออ”
คราวนี้ไม่ใช่จมูกแต่เป็นแก้มที่ถูกหยิก เอาเลยครับ แน่จริงก็เผยแผ่ความแดงให้มันลามไปทั่วหน้าผมเลยซี่~
และเหมือนว่าเขาจะกลัวผมคิดว่าตัวเองไม่แน่จริง...
สัมผัสอุ่นแนบลงมาพร้อมความร้อนชื้นที่ไล่เลียริมฝีปากก่อนจะขบเบาๆคล้ายหมั่นเขี้ยว ทั้งปากบนทั้งปากล่างโดนอย่างทั่วหน้า ...กลิ่นกุหลาบอ่อนๆคละคลุ้งอวลอยู่รอบปากของผมแม้ว่าเขาจะผละออกไปแล้ว
แดงจริงๆครับ ...ทีนี้ล่ะแดงลามไปทั่วหน้าสมพรความคิดกูเลย
“นั่งดีๆแล้วก็คาดเข็มขัดด้วยครับ”
“ครับ...”รับคำเสียงแผ่วรู้สึกหวิวไปหมดทั้งที่แค่จูบสัมผัสภายนอกเท่านั้น
ผมขยับมาเอนหลังพิงเบาะดีๆ เปลี่ยนเป็นนั่งขัดสมาธิแทนไม่ลืมสาวเข็มขัดนิรภัยมาคาดตัวไว้ตามคำสั่ง แอบเห็นคนสั่งที่เหลือบมองมาส่ายหน้าน้อยๆ
“อะไร ผมนั่งดีๆแล้วนี่ไง คาดเบ้ลแล้วด้วย ที่สำคัญ...วันนี้นั่งเรียนเมื่อยขามากเลยอ่ะ”เผลอทำเสียงอ้อน ...มือเอื้อมเปิดคอนโซลหน้ารถเขี่ยๆถุงสีชมพูที่เปิดไว้อยู่แล้วให้อ้าออก คีบเอาออกมาหนึ่งเม็ด ...เป็นลูกอมรสกุหลาบครับ มักจะมีติดรถไว้ตลอดเพราะเจ้าของติดมาก พาผมที่ไม่ใช่เจ้าของติดไปด้วย แกะเปลือกโยนเข้าปากตามความเคยชิน
“แล้วแบบนี้จะนั่งดูหนังนานๆได้หรอ ไม่ต้องดูแล้วมั้ง”
กำลังจะเคี้ยวกร้วมแทบสำลักให้ลูกอมลื่นลงคอ ดี๊...ดีที่ไอจนมันเลื่อนมาอยู่ตรงลิ้นเหมือนเดิมได้ทัน ...เห็นภาพไหม ผมกลัวจะไม่เห็นภาพกันไงเลยอธิบายให้ฟัง..
“พร้อมกานต์”เสียงขรึมมาตั้งแต่ พ.พาน ....
“ขอโทษครับ ก็ตกใจนี่ จู่ๆจะมาเบี้ยวกันงี้ไม่ได้นะ”รีบท้วง แต่ไม่ลืมระวังในการอมลูกอมมากกว่าเดิม ...ลำบากจัง
“พี่ไม่ได้จะเบี้ยวเราซะหน่อย”
“แค่พูดเล่นก็ไม่ได้ ห้าม ..กับเรื่องแบบนี้น่ะ”ผมยกมือขึ้นลูบอกที่จู่ๆก็รู้สึกหวิวขึ้นมา ไม่ใช่หวิวเหมือนตอนถูกคนฉวยโอกาสแถวนี้ขโมยกัดปาก แต่เป็น
หวิวในอีกความรู้สึกหนึ่ง
“โอเคๆ ไม่คิดมากนะ”มือของผมถูกดึงไปกุมไว้บนตักของเขา ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาถึงกันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก แต่...
“ถ้าจะคิดมาก ก็ให้หันมามองหน้าพี่ เห็นแต่พี่ คิดแต่เรื่องพี่ ใจเป็นของพี่ ตัวเป็นของพี่ เสพสมกายพี่ เสน่หาเพียงพี่”
หือ...
“ตั้งใจขับรถไปเลยครับคุณสารถี โห้ว ถ้าจะมาเป็นอีรำพึงขนาดนี้ ไม่เอาอีแพงมาด้วยเลยล่ะครับ”
“แล้วก็ไม่บอกว่าอยากฟัง โอม..ให้พร้อมลืมโขลง ...”
“เดี๋ยวๆ เดี๋ยววว”ยกมือขึ้นเบรกในทันใด“อะไรคือให้พร้อมลืมโขลงวะพี่ หะ คุณรักคุณ?”
“คุณไม่ได้รักคุณ
แต่คุณรักพร้อม”
น้านนน ไม่น่าหาเรื่องร้อนมาใส่ตัวเลยไอ้พร้อมเอ๊ย
หน้าร้อนหน้าแดงอีกมั้ยล่ะมึง....“ฮ่วย! ข้อยหมายถึงคุณรักคุณ รัก - คุณที่เป็นชื่อของพี่น่ะ ไม่ใช่ในความหมายนั้น ฮ่วยๆ”
ใช่แล้วครับ ผู้ชายที่ขยันโชว์ว่าพี่แน่จริงมากโดยการทำให้ผมเขินจนร้อน ร้อนจนแดงนี่มีชื่อว่า
รักคุณ เก๋กู๊ดไปเลยใช่ไหมล้า~
“หึหึ หรอ พี่ก็นึกว่าเป็นแบบนั้นซะอีก”
ผมเบ้หน้าใส่คนที่ตามองถนนแต่ปากนี่ไฟแลบกับการต่อปากต่อคำกับผมมาก แล้วดู ..หัวเราะจนตีนกาขึ้นแล้วนั่น
“พร้อมครับ”
พอผมเงียบปาก ..หมายถึงสงบปากสงบคำไม่สาวความร้อนมาใส่ตัวต่อ ก็กลายเป็นเขาที่เปิดบทสนขึ้นแทน
“ว่าจะได๋?”
สีหน้าจริงจังมาก เสียงก็จริงจังเหมือนกัน คงจะเป็นเรื่องสำคัญ ...เตรียมหูรอ ตั้งใจฟังเต็มที่
“สรุปจะไม่ให้พี่รับบทเป็นอีแพงจริงๆหรอ?”
....
สีหน้าไอ้พร้อมคือแดกจุดไปแล้วครับ นี่ถ้าเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นคงจะมีอีกาบินผ่านหลังร้อง ‘ไอ้โง่ ไอ้โง่’ เป็นเอฟเฟ็กต์ประกอบไปแล้ว
เอื้อมเปิดคอนโซลรถอีกครั้งแล้วหยิบลูกอมสีหวานออกมาแกะเปลือกจ่อปากเขาซะ ...หมายถึงเม็ดลูกอมนะครับที่จ่อ ไม่ใช่เปลือกลูกอม กลัวเข้าใจผิด ต้องรีบอธิบายดักไว้ก่อน ..ถึงผมจะแอบคิดว่าจะทำแบบนั้นในคราวหน้าไว้ในใจก็เถอะ
สะดุ้งโหยงทันใด
ไม่แค่อ้าปากออกรับเม็ดลูกอมเข้าไป ...ลิ้นน่ะลิ้น ....
จะแลบออกมาตวัดแผล็บทำไม๊“ขอบคุณครับ”
แล้วผมจะตอบอะไรได้
“เออ!”
“อืออ พอก่อน พี่ ...”เสียงหายเพราะถูกตัดฉับด้วยฝีปากบางที่ช่ำชองเสียเหลือเกิน
มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?
โรงหนังชั้นบนสุดของห้างสิที่เขาควรพาผมไป ...ควรไปได้ตั้งแต่เมื่อยี่สิบนาทีที่แล้วเมื่อมาถึง ตั้งยี่สิบนาทีแล้วนะเว้ย!
ไม่ใช่ยังนั่งจ๋องกันอยู่ในรถแลกเปลี่ยนเอนไซม์ข้ามเบาะกันอยู่อย่างนี้
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กระดุมเสื้อนักเรียนหลุดออกยกแผง ทำไมแกะง่ายกว่าตอนใส่อีกวะ? ...หรือคนแกะไม่ใช่คนใส่แต่เป็นคนหื่น มันเลยหลุดออกง่ายดายเพราะคนหื่นมักมือเร็วทำงานอย่างฉับไวเสมอและก็ราวกับแผงกระดุมพร้อมใจเป็นใจจะให้ไอ้พร้อมเสียตัว
“อืม พร้อม...”
ยอมความเสียที่ไหน ไอ้พร้อมเป็นคนแฟร์ๆครับ
นัวมานัวกลับบอกเลย...
เขาใช้จมูกโด่งๆนั่นไถไปตามลำคอของผม ผมไม่ยอมแพ้ขบเลียติ่งหูลามไปตามสันกรามที่มีตอหนวดขึ้นบางๆบ้าง มือที่ไม่ได้ตั้งใจจะวางลงบนกลางกายของเขา แต่มันวางไปแล้ว ...เหมาะเหม็งมาก แต่ขอย้ำอีกทีว่าพร้อมไม่ได้ตั้งใจทำให้เป้าของเขาเป็นที่วางมือจริงๆนะครับ
รู้เลย
ดุนมือกูซะขนาดนี้ ตื่นตระหนกขึ้นแล้วชัวร์ๆ
“ทำไม อื้อ ..มาลงเอยแบบนี้ อ๊า ..ได้วะ?”เออ เลียมันเข้าไปเถอะครับ คอไอ้พร้อมคงจะอร่อยลิ้นพี่มาก...
“พร้อม อืม.. พร้อมพูดไม่เพราะ”คำรามฮึ่มฮั่มเมื่อน้องชายถูกบีบ ...ไม่ได้จะปลุกอารมณ์ให้มันโหมกระพือ หมั่นไส้คนหื่นล้วนๆครับ
“แค่เนี้ย? ซี๊ด! พี่แม่ง โอ๊ย!”
แม้แต่สองเม็ดน้อยๆบนหน้าอกไอ้พร้อมก็ไม่ละเว้น หรือโดนเอาคืน? อืม ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ อะไรนิดอะไรหน่อยไม่ได้เก็บหมดทุกเม็ด
แต่ขยับลำบากมากนะบนรถเนี้ย ...เออจริงสิ นี่บนรถนะเว้ย!
แล้วพี่มึงไปอยู่ตรงเป้ากางเกงนักเรียนผมตั้งแต่เมื่อไหร่? ถูกรูดจนสุดความยาว ..หมายถึงซิปกางเกงนะครับ อย่าเพิ่งคิดลึก
ไม่กล้าแตะต้องหัวเพราะเขาอายุมากกว่า คือแก่แล้วไง เลยแตะไหล่เพื่อดันออกแทน
ทว่า
ปัง!
ปัง!ประตูรถฝั่งผมถูกเคาะ ไม่สิ ทุบเลยมากกว่า ใจหายวาบจากแค่จะดันเลยผลักไหล่เขาให้ถอยไปไกลๆกูเลยมึง รีบก้มลงสำรวจตัวเอง ...ยับยู่มากเสื้อพ่อ ติดกระดุมทั้งที่มือสั่น ผิดบ้างถูกบ้างก็ช่างมัน ส่วนข้างล่าง ...เข็มขัดเข้าวาร์ปหายไปแล้ว เหลือแต่กางเกงที่ถูกปลดกระดุม ซิปรูดลงสุด แต่พร้อมน้อยยังอยู่ดีครับ ...รีบตบๆยัดๆไอ้ที่กำลังจะพองสู้มือคนหื่นเมื่อสักครู่จัดการขังปิดตายไว้ในกางเกงเหมือนเดิม ..แต่สภาพต่างจาก ‘เหมือนเดิม’ ไปเยอะ เพราะเยินมาก
ปัง!
ปัง!ห่านี่ก็ทุบได้ทุบดีจังวุ้ย!
ถ้าเป็นพี่ซิเคียวริตี้ที่ทนความอนาจารไม่ได้กูจะ ...ยกมือไหว้ขอโทษเข้าให้!
ผมหันหน้าไปกะจะประณามการกระทำอันขัดจังหวะ ไม่ๆ ขัดจังหวะน่ะดีแล้ว หมายถึงประณามการคุกคามรถชาวบ้านเขาจนกระจกรถแทบแตกนี้ต่างหาก แต่แค่เพียงเห็นหน้าคนที่อยู่ข้างนอกเท่านั้น
“พร้อมกานต์! ออกมาเดี๋ยวนี้!”“หึ เดี๋ยวนี้ขยับมาถึงขั้นสะกดรอยตามเลยเชียว”
ผมกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ...แสบไปหมด
“เปล่าหรอกครับ เขาไม่ได้สะกดรอยตามเราหรอก”
แสบไปหมดทั้งกระบอกตา
“พร้อม ..จะให้พี่ออกรถเลยมั้ย? เปลี่ยนไปดูหนังที่อื่น...”
ผมจับมือข้างที่วางลงบนไหล่ไว้แล้วหันกลับไปจูบเขา กลืนคำพูดทั้งหมดลงลำคอตัวเอง รักคุณเบิกตาน้อยๆแต่ก็ไม่ได้ขัด แน่ล่ะ ..มีแต่ได้กับได้นี่นะ
เล่นดูดเสียจนปากเจ่อ ไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ตัว
ปัง!
ปัง!“ลงจากรถกันเถอะครับ”ไม่อย่างนั้น
หมอนั่นคงได้ทุบจนไม่มือก็กระจกรถแตกยับกันไปข้าง
หากแค่เพียงประตูรถถูกปลดล็อคเท่านั้น ...ทั้งประตูก็ถูกกระชากเปิดออกโดยฝีมือของคนข้างนอก พร้อมกับตัวของผมที่ปลิวจนถลาไปกระแทกหน้าเข้ากับอกแข็งๆ
“พราน!”เปล่านะไม่ใช่ผมที่เป็นคนเรียก ...มองข้ามไหล่หมอนี่ไปถึงได้เห็นหน้าตื่นๆของมันที่ยืนอยู่ข้างหลังมาตลอด ชัดเจน... บอกแล้วไงรักคุณว่าหมอนี่ไม่ได้สะกดรอยตาม
เหยียดยิ้ม
ไม่รู้ว่าจะสมเพชใครก่อนดี
ระหว่างผมกับ....
“ปล่อยพร้อม คุณพราน”รักคุณที่เสียเวลาเดินอ้อมมาฝั่งผม เมื่อมาถึงตัวผมได้ ..ทั้งตัวผมก็อยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายอีกคนแล้ว
โอ้โห ตัวกู มากับผู้ชายคนหนึ่ง พอถึงที่ก็ถูกผู้ชายอีกคนหนึ่งดึงไปกอดเสียแน่น
“มึงอย่ายุ่ง!”พรานตะคอกเสียงกร้าวใส่รักคุณ ก่อนจะจับไหล่ของผมดันออกจากอกแต่ไม่ยอมปล่อยมือ ..ออกแรงบีบเสียจนผมต้องนิ่วหน้า
“ไม่เอาหน่าพราน อย่าพาล”ถึงหน้าจะนิ่ว แต่เสียงเข้มมากบอกเลย ..กูอยู่ในโหมดเอาจริงนะครับ
“พาล?”ทวนคำเสียงเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง ไม่ใช่แค่เสียงแต่หน้าหล่อๆนั่นก็แสดงออกไปในทิศทางเดียวกันกับน้ำเสียง
ผมพยักหน้า ยืนยันว่าใช่ มึงกำลังพาลไอ้พราน
“เออ ถ้ามึงว่าพาล ก็แน่ล่ะ กูต้องพาลแน่ๆอยู่แล้ว”
“โอ๊ย!”
เจ็บ ...
“พรานครับ ปล่อยพร้อมเถอะนะ ท่าทางพร้อมคงจะเจ็บมาก”ไอ้คนที่ตอนแรกเอาแต่ยืนนิ่งอยู่ข้างหลังพราน รีบปรี่เข้ามาลูบแขนลูบตัวขอร้องทั้งหน้าเสียๆซีดๆนั้นบอกให้ปล่อยผมเพราะกลัวผมจะ ...เจ็บ?
หึ ดี รู้ใจกูมากไอ้
พุฒิ เออ... กูแม่งเจ็บชิบหายเลยล่ะ
เพี้ยะ
เพี้ยะสองมือที่บีบจับไหล่ผมอยู่ถูกปัด ที่ฟังจากเสียงแล้วคนทำคงไม่ยั้งแรง ...รักคุณโอบรอบเอวผมแล้วดึงเข้าหาตัวเขาแทน เลยทำให้ตอนนี้ผมเปลี่ยนมือมาอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายที่พาผมมาบ้าง ส่วนไอ้ผู้ชายอีกคน ..หน้ายิ่งแดง สันกรามขบแน่นจนนูน
โมโห? ...มึงโมโหอะไรหรอพราน?
“ไม่เอานะพราน คนมองกันใหญ่แล้ว”
ข้างตัวมึงก็ยังมีผู้ชายอีกคนเกาะแขนแน่นหนึบทำตัวเป็นชะนีร้องหาผัวอยู่นั่น
“มึงว่ากูพาลใช่มั้ยพร้อมกานต์?”ไม่ฟังชะนีข้างตัวไม่พอ ยังจะคว้าคอเสื้อนักเรียนกูอีก ...ดีนะองค์รักษ์กูเร็วกว่า
รักคุณดึงผมให้หลบอยู่ข้างหลังเขาเลยทำให้ไอ้พรานคนพาลชะงักไป ..ก่อนจะหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังคนเดียว จู่ๆก็หัวเราะ... ขนาดไอ้ชะนีที่เกาะแขนมันอยู่ยังมีสีหน้าหวาดๆเลย
“กูต้องพาลแน่อยู่แล้ว มาเจอ
เมียอยู่กับ
ชู้แบบนี้ ไหนบอกหน่อยสิว่ากูควรจะรู้สึกแบบไหน? หืม ไอ้พร้อม”
“พร้อมเขาไม่ใช่อย่างสรรพนามที่คุณใช้เรียก ให้เกียรติกันหน่อย”ผมเดินมายืนข้างรักคุณ พร้อมยกมือขึ้นลูบแขนเขาเบาๆ ...ใจเย็นๆ ไอ้พรานมันไม่ควรค่าพอให้แลกหรอก
“มึงจะรู้ดีกว่ากูที่อยู่บนเตียงกับมันได้ยังไง!”
ผมหน้าชา นอกจากจะไม่ให้เกียรติ ยังหน้าด้านป่าวประกาศเสียงดังเรียกสายตาคนยิ่งกว่าเดิมอีก
“คนเรามีหัวใจนะพราน ทุกคนมี มึงมี
กูก็มีเหมือนมึง”ผมมองผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเคยรักมากขนาดที่ยอมให้ได้ทุกอย่าง ...สูดลมหายใจลึกๆ เอาหน่าไอ้พร้อม ก็แค่ ‘เคย’
มือของคนข้างกายสอดจับกุมประสาน ..พาให้อุ่นใจ พร้อมทั้งมอบความกล้า
รู้สึกสงบทั้งใจที่ก่อนหน้านี้เต้นเร็วเสียวหวิดจะวาย ทั้งกายที่เย็นเฉียบตั้งแต่เห็นหน้าพวกมันสองคนอยู่ด้วยกัน
ผมเชิดหน้าขึ้น เลิกคิ้วก่อนจะเหยียดยิ้มน้อยๆ ในแบบที่จะทำให้คนมองเดือดยิ่งกว่าเจ้าเข้า
“พอดีเลยนะ อยู่กับพร้อมหน้าพร้อมตา ทั้ง
ชู้กูทั้ง
ชู้มึง”
“พร้อม...”ไอ้พุฒิหน้าซีดปากสั่น อะไร? ก็ว่าพูดเสียงปกตินะ ไม่ได้เน้นคำว่า ‘ชู้’ ฝากไว้ที่ใคร ไม่ค่อยจะร้อนตัวเลยจริงๆสิหน่า
“พร้อมกานต์ มึงกับกูมีเรื่องต้องคุยกัน กลับคอนโดกับกูเดี๋ยวนี้”
ผมยกมือหลบเมื่อไอ้พรานทำท่าจะคว้าแล้วไปจับแขนรักคุณที่ยืนอยู่ข้างกันแทน ส่วนรักคุณก็รับเป็นลูกคู่ยกมือขึ้นกุมทับมือผมอีกที...มันชะงัก สีหน้าแบบนี้อีกแล้ว เห็นแล้วตลกจนอยากจะหัวเราะให้กรามค้าง
สีหน้าเหมือนไม่เชื่อสายตาแบบนั้น
“อะไร? มึง
สอนกูเองนะพราน เห็นกู
ทำบ้างจะตกใจทำไม?”
“ไอ้พร้อม!”
“เห็นมึงไม่เดือดไม่ร้อนเหมือนไม่รู้สึกอะไร กูก็แค่ลองทำตามมึงดูบ้าง เพียงแต่ว่ากูหาได้ดีกว่า มันก็แค่นั้นเอง”ผมปรายตามองไอ้พุฒิที่ตาเริ่มแดง ...น่าจะเป็นอาการที่เรียกว่าเลือดขึ้นตาร้อนไปหมดทั้งตัวมากกว่าจะเรียกว่าเสียอกเสียใจสะเทือนต่อมน้ำตาจนอยากร้องไห้
ผมรู้จักมันดี
รู้จักมันดีทั้งคู่นั่นแหละ
“ไหนๆก็มากันพร้อมหน้าแล้ว งั้นกูจะบอกมึงในสิ่งที่กูอยากบอกกับมึงมานานแล้วนะพราน”
“ไอ้พร้อม มึง ...ไม่ ไม่ต้องพูดอะไร กลับไปเคลียร์กันดีๆที่คอนโด...”
ผมไม่สนใจ ยกยิ้มที่คิดว่าจริงใจที่สุด แล้ว...
“เราเลิกกันเถอะว่ะ”พูดออกไป ในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องเป็นฝ่ายพูดมาก่อน ..ตลอดช่วงเวลาที่คบกับมัน
ไอ้พรานที่ได้ฟังนิ่งค้างพอกันกับไอ้พุฒิ
“ไปกันเถอะครับพี่คุณ สงสัยไม่ทันรอบหนังแล้วแน่เลยว่ะ เสียดายเงินจริงๆ”
จับมือพารักคุณเดินข้ามทางวิ่งรถในลานจอดรถไปยังประตูห้างที่อยู่ไม่ไกล
ไม่สนใจสายตาคนอื่น เพราะคนอื่นไม่ได้มารับมารู้เรื่องราวอะไรกับผมตั้งแต่แรก
ไม่สนใจไอ้พรานที่ไม่แม้แต่จะตามมาตามวิสัยปกติ ...แล้วทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้นอย่างหมดสภาพอยู่ในลานจอดรถ โดยมีไอ้พุฒิคอยฉุดให้ยืนด้วยอับอายสายตาคน
“เป็นแบบนี้ดีแล้วหรอ?”ผมหัวเราะ ถามแบบนั้นทั้งที่หน้าบานเป็นจานดาวเทียมนี่มันยังไงอยู่นะคุณรักคุณ...
“อืม ผมพอแล้วล่ะ ..พร้อมเหนื่อยพอแล้วพี่คุณ”
“ถ้าอย่างนั้น...”
สัมผัสนุ่มนวลปัดผ่านสองแก้มของผม
“ก็อย่าร้องไห้เพื่อเขาอีกเลย”
ผมหัวเราะ
ไม่รู้ตัวสักนิดว่าตัวเองกำลังหัวเราะทั้งน้ำตาตั้งแต่ตอนไหนอย่างที่บอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นที่จบในตอน แน่นอนค่ะตอนนี้จบแล้ว ง่ายๆงี้แหละ
ความจริงมันก็ง่ายมาตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้ว... // คลานหนีฝาหม้อ
ตอนต่อไปก็จะเป็นในมุมมองของพรานบ้างค่ะ แล้วทุกอย่างจะเริ่มชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างขึ้น