•:*´¨`*:•ღ ตรวจสอบหัวใจ ღ•:*´¨`*:• แจ้งเลขพัสดุ หน้า51
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: •:*´¨`*:•ღ ตรวจสอบหัวใจ ღ•:*´¨`*:• แจ้งเลขพัสดุ หน้า51  (อ่าน 386502 ครั้ง)

ooICEoo

  • บุคคลทั่วไป
ไปอ่านภาคแรกมาแล้วคร้าบบบบบบบบบบบ  :oni1:

พี่ต่ายเท่ห์จัง  :m1:  :m1: พี่โอมก็น่ารัก  :o8:

งานแต่งนี่จัดที่เล้าเป็ดเป่าคับ สมาชิกเต็มเลย  :m12:

To_Feel

  • บุคคลทั่วไป
อ้าววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

มิน่าล่ะ

วันนั้นพี่กั้งถึงทักว่ากัปตันเรือ

ก็ยังงงอยู่ กัปตันไรฟร่ะ

 :t2: :t2: :t2:

ทำไมพี่ต่ายไม่พาโอมไปลงเรือสำราญล่ะ

กัปตันจะได้ดูดีกับเค้าหน่อย

 :m19: :m19: :m19:

ปล.ตอนนี้อยากเป็นหิ่งห้อยมากกว่าอ่ะ จะได้แอบดูพี่ต่ายกับโอม อะจึ๊ย อะจึ๊ย กันได้สะดวกหน่อย :m25: :m25: :m25:

 o13 o13 o13

 :pig4: :pig4: :pig4:


snowblack

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
แหมๆๆ ชื่อเจ้าบ่าวไม่โดนใจหลายๆคน ต้องขอโทษนะค่ะ แต่คนนั้นน่ะอย่าไปยุ่งกะเค้าเลย :laugh:
ขอบคุณที่ยังติดตามค่ะ คนเขียนแอบเกเรเล็กน้อย ไม่ว่ากันนะค่ะ :n1:
*******************************************
ผมเลือกหนังสือได้แล้วเลยกลับมานั่งข้างๆพี่ต่ายอีกครั้ง พี่ต่ายเงยหน้ามาคุยกับผมว่า
“ฟังทั้งวิทยุทั้งอ่านหนังสือไปด้วย แยกสมาธิได้ไงโอม หึหึ”
“ก็เก่งไงพี่ อิอิ อีกอย่างคนนี้เค้าทำเกี่ยวกับบัญชีเหมือนเราเลยฟังซะหน่อยนึงเพื่อนร่วมวิชาชีพ” :m23:
 พี่ต่ายเลยแค่หัวเราะหึหึ ครับ ไม่ได้สนใจอะไรแล้วก็หันไปอ่านหนังสือต่อ

“หมายความว่าคุณติ่งรู้อยู่นานแล้วว่าเค้ามีคนรัก  แล้วตอนที่รู้ว่าเค้ามีความรักตอนนั้นไม่เจ็บเหรอค่ะ  หรือว่าตอนนั้นไม่ทันได้รัก”พี่อ้อนถามต่อ นั่นซิผมก็อยากรู้เหมือนกัน
“ตอนที่เค้าเป็นแฟนกันไม่ทันได้รู้สึกอะไรค่ะ  กลับรู้สึกดีใจกับเพื่อนด้วยเพราะเค้าสองคนเป็นคนที่เรารักทั้งคู่  ”เสียงคุณติ่งฟังแล้วคุ้นๆครับแต่ผมยังนึกไม่ออกอยู่ดี หรือผมจะเคยรู้จัก :m21:

“แล้วยังไงต่อเหรอค่ะคุณติ่ง”พี่ฉ่องยังคงถามต่อไปเพราะคุณติ่งเงียบไปเฉยๆซะงั้น
“คือตอนนั้นเราลุ้นให้เค้ารักกันสำเร็จมากกว่า  เพราะก็มีคนมาพัวพันเยอะทั้งสองฝ่าย”

ผมชักเริ่มสนุกกับเรื่องชาวบ้านเงยหน้ามองพี่ต่ายว่าฟังอยู่ด้วยไม๊  แต่พี่ต่ายท่าทางไม่สนใจครับอ่านข่าวเครียดเลย  คงเรื่องการเมืองนะครับแต่ผมน่ะชอบเรื่องการมุ้งมากกว่า

“จนเค้าตกลงเป็นแฟนกันตอนนั้นก็เฉยๆนะค่ะ  แต่เราทำงานด้วยกันเรียนโทด้วยกันก็สนิทกันมากเลยค่ะ ก็ยังไม่ได้คิดอะไรเลย ช่วงนั้นคนก็มาจีบเยอะเราก็ไม่สนใจใคร จะติดอยู่กับเพื่อนคนนี้มากกว่ารู้สึกว่าอยู่กับเพื่อนสนุกกว่า”เรื่องเหมือนผมเลย  ผมเริ่มสงสัยก็เลยต้องฟังต่อเรื่องมันคุ้นๆ

“ จนวันนึงที่อยู่ๆแฟนของเพื่อนเค้าหายไปเฉยๆ แล้วเพื่อนก็เศร้ามาก เสียใจมากเพราะอยู่ดีๆพี่เค้าก็หายไปเลย”ผมเอื้อมมือไปเขย่าแขนพี่ต่าย พี่ต่ายผละจากหนังสือพิมพ์มองหน้าผมแล้วเลิกคิ้วสงสัย  ว่าผมเรียกทำไม

“พี่ต่ายฟังเสียงคนนี้ซิพี่ต่ายว่าติงหรือเปล่าอ่ะ”ผมเริ่มแน่ใจครับ แต่ขอความเห็นกับพี่ต่ายอีกทีเพื่อยืนยันครับ
“ไหนๆ...ให้พี่ฟังก่อน....ในวิทยุเหรอ แล้วติงทำไมล่ะ”พี่ต่ายเริ่มตั้งใจฟังบ้าง

“แล้วคุณติ่งรู้สึกยังไงค่ะ ตอนนั้น”ดีเจยังคงถามต่อเนื่องไม่ได้เปิดเพลงอะไรคั่นอีก
“ตอนนั้นสงสารเพื่อนมากค่ะ  แล้ววูบนึงก็คิดขึ้นมาว่าโอ...เอ๊ยเพื่อนคนนี้เป็นคนน่ารัก  ถ้าเป็นเรามีแฟนแบบนี้เราไม่มีทางทิ้งไปเฉยๆเป็นอันขาดเลย”

พี่ต่ายหันมามองหน้าผมครับ พยักหน้าให้ผมแล้วบอกว่า “ติงแน่ๆ เสียงติง”
“ตอนนั้นเพื่อนอาการหนักมาก เหมือนศพเดินได้ แล้วเราก็เหมือนใจจะขาดไปด้วย มันทรมานใจที่เห็นเค้าเป็นแบบนั้น อยากกอด อยากปลอบใจเค้า”  o7
 
เสียงของติงยังคงเล่าไปเรื่อยๆ  ทำให้เหตุการณ์ในอดีตมันย้อนกลับเข้ามาในความคิดผมอีกครั้ง
“ แต่เพื่อนเค้าก็พยายามเข้มแข็งมากๆ  คงไม่อยากให้ใครเป็นห่วง แล้วที่สำคัญตอนนั้นเราก็ไม่รู้สาเหตุที่แฟนเค้าหายไปด้วย”พี่ต่ายดึงมือผมไปบีบเบาๆ เหมือนกับว่ารับรู้ในความเสียใจของผมในครั้งนั้น

“ตอนนั้นเองที่คิดว่า....คงจะหลงรักเค้าเข้าไปแล้ว เกือบจะเอ่ยปากบอกเค้าว่า....ไม่เป็นไรนะฉันนี่แหล่ะที่รักเธอ  ฉันรอเธออยู่ตรงนี้ หึหึ” เสียงหัวเราะของติงช่างเป็นเสียงหัวเราะที่ฝืดเฝื่อนมากครับ :sad2:

“แล้วได้บอกไปไม๊ค่ะ”
“ไม่ได้บอกค่ะ จนตอนนี้หลายปีแล้วก็ยังไม่ได้บอกอะไรเค้าเลย”เสียงของติงฟังดูเศร้ามากเลยครับ

  ที่จริงถึงติงไม่บอกผมๆก็รู้ครับว่าติงรักผม  แต่ผมไม่กล้าที่จะบอกกับติงตรงๆเพราะรู้ว่าจะยิ่งทำให้ติงเจ็บไปมากกว่าเดิม เพราะผมก็ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้เพราะใจผมมีแต่พี่ต่ายเพียงคนเดียวเสมอมา

“งั้นตอนนี้คุณติ่งอยากฟังเพลงอะไรดีค่ะในเบรกนี้ เราจะฟังเพลงนี้แล้วกลับมาฟังเรื่องของคุณติ่งต่อหลังโฆษณาค่ะ”พี่ฉ่องก็จะตัดเข้าโฆษณาอีกแล้วกำลังอยากฟังต่ออยู่เลย  :serius2:

“เพลงรักไม่ได้ค่ะ ของกรูฟไรเดอร์อยากบอกกับตัวเองมากกว่า  จะได้ตัดใจสักที”
เสียงเพลงที่ดังขึ้นมาทำให้ผมซึมไปเลยครับ ที่จริงผมชอบเพลงนี้มาตลอด แต่วันนี้ผมกลับไม่อยากฟัง ผมว่าเพลงมันเศร้าเกินไปครับ

ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถึงไม่ลืมเธอ
มีเธอในใจฉันเสมอไม่เข้าใจ
อยากกอดเธอเอาไว้ สักเท่าไร
แต่หัวใจ ฉันก็รู้ดี จูบเธอได้ในฝัน
เท่านี้ แค่นี้ เพียงแค่นั้นในใจ

*รักไม่ได้บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง
ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว
รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง
ชอบเขาเท่าไหร่ก็ ต้องหยุดไว้เอง

เป็นบททดสอบของเบื้องบน
ให้ค้นหาหัวใจ ส่งมาให้ตัวฉันข้ามไป
อยากจะลองใจฉันหรือเปล่า
จะได้รู้ว่ารักหรือแค่เหงา ให้เห็นเงา
สะท้อนหัวใจ เก็บเธอไว้แค่ฝัน
ได้ไหม เพราะหัวใจฉันกระซิบว่า

รักไม่ได้บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง
ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว
รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง
ชอบเขาเท่าไหร่ก็ รักไม่ได้

บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง
ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว
รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง ชอบเขาเท่าไหร่
ก็ต้องหยุดไว้เอง
http://media.imeem.com/m/6JJwlklHtL

พี่ต่ายเห็นผมซึมไปเลยพูดขึ้นมาว่า “ติงก็น่าสงสาร บุ้งก็น่าสงสาร ที่โอมไม่เลือกที่จะรักเค้าแบบนั้น"
"แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของโอมนะ  เพราะความรักมันบังคับกันไม่ได้ คนเรามันมีแค่หนึ่งกายหนึ่งใจ จะไปแบ่งมากมายแจกจ่ายให้หลายๆคนมันก็ไม่ได้”

ผมพยักหน้าหงอยๆ เอาหัวพิงไหล่พี่ต่ายไว้พี่ต่ายลูบหัวปลอบผมเบาๆ
“แต่พี่ว่าคนที่น่าสงสารกว่าก็ยังมี”
 เสียงพี่ต่ายเรียบๆเย็นๆทำให้ผมแย่มากๆเลยครับ ผมแทบจะน้ำตาไหลออกมา
“ใครเหรอพี่ บุ้งใช่ไม๊ โอมเป็นคนไม่ดีเลย ทำร้ายจิตใจเพื่อน” :o12:

พี่ต่ายหัวเราะหึหึครับ “พี่ไง....น่าสงสารที่สุด มาหลงรักเด็กดื้อ ขี้งอน ต้องคอยเอาใจตลอดไม่งั้นงอนสะบัดตูดสะบัดหน้าหนีตลอด หึหึหึ”  o3
 
ผมฟังแล้วอารมณ์ซึมเศร้าสงสารติง โทษตัวเองหมดกันไปเลยครับ พี่ต่ายมากวนโมโหผมอีกแล้ว ผมก็เลยเอาศอกถองพี่ต่ายไปทีนึง เหอะๆๆ  :โป้ก1:

 “นี่แน่ะ...พูดเล่นอีกแล้ว  งั้นไม่ต้องเลยพี่ไปเก็บเสิ้อผ้ากลับกันดีกว่า เดี๋ยวพี่จะน่าสงสารไปกว่านี้”
“อุ๊บ!!....โอมนี่เล่นอะไรแรงๆนะ ฮ่าๆๆๆ”ยังจะทำมาเป็นขำได้อีกนะพี่ต่ายนี่
เสียงพี่ต่ายหัวเราะดังลั่นเลยครับ คนบร้าอะไรก็ไม่รู้ชอบยั่วโมโหผม  :laugh:

“โอ๋ๆๆๆ ไม่งอนนะครับฟังติงเล่าต่อดีกว่า ไม่รู้คิดยังไงโทรมาเล่าในรายการวิทยุ เฮ้อ”
เสียงพี่ฉ่องถามคำถามออกมา“แล้วคุณติ่งทำไมไม่บอกเพื่อนไปล่ะค่ะว่ารักเค้าช่วงที่แฟนเค้าทิ้งไป”

“ไม่กล้าค่ะ เพราะรู้คำตอบมาตลอดเพราะเพื่อนเค้ารักแฟนเค้ามาก พี่เค้าหายไปปีกว่า  แต่เพื่อนก็ใจแข็งไม่เคยเปิดใจให้ใครเลย  เราสนิทกันจนดูออกว่าเค้าคิดยังไง”ก็จริงของติงครับ

“แล้วเคยคิดที่จะบอกรักไม๊ค่ะ”
“เคยค่ะหลายครั้งมันอัดอั้นตันใจอยากพูดออกไปจะได้จบๆ  มันเหมือนมีหนามที่เราจะดึงออกไปจากใจก็ได้จะได้ไปรักษาแผลให้หาย    แต่เรากลับเลือกที่จะให้หนามมันคาอยู่แบบนั้นให้มันเจ็บอยู่แบบนั้น”
น้ำเสียงที่สั่นเครือของติงทำเอาผมน้ำตาซึม

“อืมมม...แล้วทำไมเราถึงยอมที่จะเจ็บเริ้อรังแบบนั้นล่ะค่ะ”
“คงเพราะขี้ขลาดมั๊งค่ะ หึหึ ไม่รู้ซิค่ะ คงกลัวคำตอบที่เรารู้อยู่แล้ว เลยอยากเก็บความรู้สึกนี้ไว้คนเดียวมากกว่า  ไม่อยากให้เพื่อนลำบากใจเวลาเจอหน้าเรา ไม่อยากเสียเพื่อนไป”

“ที่จริงพี่อ้อนว่าถึงแม้เพื่อนเค้าไม่รักเราแบบนั้น  แต่ก็ใช่ว่าเราจะต้องเสียเพื่อนไปนี่ค่ะ ใช่ว่าเค้าจะเลิกคบเรานี่ใช่ไม๊ค่ะพี่ฉ่อง”
“มันก็พูดยากนะคะอ้อน คือรู้กับไม่รู้การแสดงออกก็อาจจะเปลี่ยนไป เพราะแต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน พี่ฉ่องว่าพี่ฉ่องเข้าใจคุณติ่งนะค่ะ แต่มันเจ็บนะซิเวลารู้ว่าเค้ารักคนอื่น  แถมเจ็บแบบลำพังด้วย”

“เวลาที่เพื่อนมาคุยถึงคนรักเค้าให้เราฟัง ภายนอกเราก็หัวเราะตามเค้า ยิ้มตามเรื่องที่เค้าพูด  แต่ในใจเราน่ะมันจิ๊ดๆ  มันเจ็บนะคะแต่ก็ต้องทน”
ผมฟังที่ติงพูดแล้ว ผมรู้สึกว่าผมทำร้ายติงโดยไม่ได้เจตนาอีกแล้วใช่ไม๊ :a6:

“แล้วคุณติ่งทำยังไงให้หายเจ็บค่ะ มีวิธีจัดการกับอารมณ์ของตัวเองยังไง จนถึงตอนนี้”
ติงเงียบไปพักนึงครับ แล้วก็ตอบคำถามของพี่ฉ่องด้วยน้ำเสียงเย็นๆว่า
“ทำใจค่ะ”
ผมอยากจะนึกว่ามันเป็นมุก แต่ก็ขำไม่ออกครับ ติงเงียบไปชั่วขณะ ผมได้ยินเพียงเสียงถอนหายใจเบาๆ แต่ติงก็เริ่มพูดต่อไปว่า

“แล้วก็พยายามบอกตัวเองว่า...ยังไงเค้าก็ไม่มีทางมาชอบเราแบบนั้นตัดใจซะเถอะ” เสียงของติงเหมือนกับรำพึงให้ตัวเองฟังเลยครับมันทำให้ผมรับรู้ได้ถึงความเศร้าในใจของติง ความสะเทือนใจที่ติงได้รับ

พี่อ้อนพูดเสียงเบาๆว่า “อืมมม พูดง่ายนะค่ะคำสองคำ...ทำใจ...เป็นคำที่พูดง่ายแต่ทำยากมากๆเลยนะค่ะี่พี่ฉ่อง”
“ค่ะพี่อ้อน แล้วตอนนี้คุณติ่งทำใจได้แล้วรึยังค่ะ เพราะผ่านมานานหลายปีแล้วใช่ไม๊ค่ะ”

“ก็พอจะทำใจได้ค่ะ เวลาก็ช่วยให้ความรุนแรงของความรักมันลดลงไป  มันไม่ทรมานใจเท่าตอนนั้นแล้วค่ะ  แต่ถ้าจะบอกว่ายังรักไม๊............. ก็ยังรักนะคะ แล้วก็คงรักต่อไปเรื่อยๆแบบนี้  แต่มันคงมาในรูปแบบของความรักแบบเพื่อนด้วย”

 ผมได้ยินติงพูดแบบนี้ผมก็สบายใจขึ้นมานิดหน่อยครับ  พี่ต่ายบีบมือผมเบาๆ ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่ต่ายครับ พี่ต่ายยิ้มให้ผมแล้วบอกผมว่า
 “โอมไม่ต้องห่วงติงหรอก ติงเค้าเข็มแข็งกว่าที่เราคิดนะโอม”
“ครับพี่ต่าย” ผมพูดไม่ออกจริงๆครับ

“ขอบคุณ คุณติ่งท่านผู้ฟังทางบ้านมากเลยนะคะสำหรับเรื่องราวของคุณติ่งกับเพื่อน คลื่นสีม่วงของเราขอเป็นกำลังใจให้คุณติ่งได้พบกับความรักที่ดีๆนะค่ะ  สำหรับท่านอื่นๆที่มีเรื่องอยากเล่าสู่กันฟังกับเราเชิญเลยนะค่ะหลังจากพักโฆษณาชุดนี้”

เสียงพี่ฉ่องบอกลาติ่ง  พี่ต่ายเลยลุกไปเปลี่ยนคลื่นวิทยุครับเป็นเพลงฟังสบายๆคลื่นอื่น
“โอม ทำใจสบายๆนะ อย่าซีเรียส"
" พี่ได้ยินว่าติงเค้าก็มีคนมาชอบแล้ว เป็นคนดีด้วย อีกหน่อยเค้าก็ไม่เศร้าแล้ว”
 พี่ต่ายขยี้หัวผมเบาๆ ผมทำหน้าเหวอใส่พี่ต่าย ทำไมผมไม่รู้เรื่องเลยล่ะ ทำไมติงไม่บอกผม ปรกติเวลามีใครมาจีบติงจะโทรมาคุยกับผมเสมอๆ  แต่ทำไมคราวนี้ผมไม่รู้เรื่องเลยซักนิด  o12

“อ้าวโอมไม่รู้เหรอ เวรกรรม พลาดไปได้ไงเนี่ย”พี่ต่ายหัวเราะเบาๆ ทำเป็นขำ

แต่สำหรับผมไม่ขำครับความรู้สึกแรกคือ...อะไรกัน คนนั้นเป็นใคร ผมไม่อยากเสียติงไป  :angry2: จะว่าหมาหวงก้างก็ยอมครับ ก็คนเคยเป็นหนึ่งนี่ครับ พอรู้สึกว่าความสำคัญจะลดลงไปก็ต้องรู้สึกหงุดหงิดเป็นธรรมดา แล้วผมว่าคนนี้ต้องมีนัยสำคัญแน่ๆติงถึงปิดปากเงียบไม่เล่าให้ผมฟังเลย แล้วพอได้ยินพี่ต่ายหัวเราะแล้วพูดแบบนั้น ผมรู้สึกเหมือนโดนเยาะเย้ยยังไงไม่รู้ผมเลยหงุดหงิดดับเบิ้ลเข้าไปอีก

ผมเดินไปหยิบโทรศัพท์จะมาโทรหาติง จะถามให้รู้เรื่องครับเรื่องคนที่มาจีบว่าเป็นใครยังไงไปไงมาไงกัน
“โอมจะโทรไปไหนเหรอ” พี่ต่ายมองหน้าผมแล้วเลิกคิ้วสงสัย
“จะโทรไปหาติง  ไปถามเรื่องไอ้คนที่มาจีบติงทำไมผมไม่รู้เรื่องเลย” ผมก้มหน้ากดหาเบอร์ติงครับไม่สนใจพี่ต่ายแล้ว กวนประสาท

“โอม ใจเย็นๆซิ โทรไปไม่กลัวติงเสียใจเหรอ”พี่ต่ายเดินมากดเบอร์โทรศัพท์ที่มือผมทิ้ง
“เฮ้ยยย...พี่ต่ายทำไมมากดเบอร์ออก  ทำไมติงต้ิองเสียใจ  ก็แค่ถามนิดหน่อยเอง”ผมก็ยังไม่เข้าใจที่พี่ต่ายพูดอยู่ดี 

พี่ต่ายส่ายหัวทำหน้าระอาใจกับผม แล้วดึงมือผมให้มานั่งที่เก้าอี้ พี่ต่ายมองหน้าผมแล้วบอกว่า
“โอมคิดว่าที่ติงโทรมารายการวิทยุ มาระบายเรื่องราวเพราะอะไร”พี่ต่ายทำสีหน้าจริงจังรอคำตอบจากผม

ซึ่งผมก็คิดว่า “เพราะ......ติงรักผม แล้วก็คงอึดอัดใจ อยากระบายออกมา”
พี่ต่ายพยักหน้าให้ผม “ก็ใช่....แล้วก็....ติงยังรักโอมอยู่ด้วย...ใช่ไม๊”

อืมมม...ก็จริงของพี่ต่าย  แล้วไงล่ะก็รู้อยู่แ้ล้วนี่นา  ผมพยักหน้ายอมรับกับคำพูดของพี่ต่าย แต่ก็ยังคงขมวดคิ้วสงสัยอยู่
“แล้วถ้าโอมโทรไปหาติงตอนนี้ ไปถามเรื่องคนที่มาจีบเค้า  ซึ่งเค้าอาจจะกำลังตัดใจที่จะลืมโอม  โอมคิดว่าจะยิ่งทำให้เค้าตัดใจไม่ขาดรึเปล่า  เพราะรู้ว่าโอมสนใจเค้าไม่อยากให้เค้าไปมีแฟน”

“มันไม่ใช่ว่าผมไม่อยากให้ติงมีแฟนนะพี่ต่าย ผมแค่..แค่...” ผมแค่รู้สึกหวง แต่ผมจะพูดออกไปได้ยังไง ผมกลายเป็นคนติดอ่างไปง่ายๆซะอย่างนั้น

“โอมแค่...หวงเพื่อน  แล้วก็รู้สึกถูกลดความสำคัญลงไป”ใช่ครับใช่เลย  แต่ผมไม่ได้เป็นคนพูดครับ แต่เป็นคนที่รู้ใจผมมากที่สุดคือพี่ต่ายที่พูดขึ้นมาเมื่อเห็นผมพูดไม่ออก   พี่ต่ายรู้ไปหมดว่าผมคิดยังไง เสียงพี่ต่ายยังคงสอนผมไปเรื่อยๆ

“พี่เข้าใจว่าเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆสำหรับติงที่จะตัดใจจากโอม เพราะมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว  แต่ถ้าติงเค้าทำใจได้แล้วเค้าก็คงมีใครไปแล้ว  เพราะเท่าที่พี่รู้คนมาจีบติงก็เยอะ  แล้วก็เป็นคนดีๆทั้งนั้น  แต่เค้าก็ไม่ตัดสินใจเลือกใคร”

เรื่องนี้ผมก็รู้มาตลอดครับผมแทบจะรู้เรื่องของผู้ชายทุกคนที่มาจีบติง แล้วก็ผมนั่นแหล่ะที่คอยหาข้อตำหนิของผู้ชายพวกนั้น ว่าขี้เหนียวมั่ง เจ้าชู้มั่ง ตะกละมั่ง ขี้เหล้ามั่ง หน้าตาแย่มั่ง  โน้มน้าวไม่ให้ติงคบต่อไปจนในที่สุดติงก็เลยไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนซักที สะใจผมไป ฮ่าๆๆๆๆ  แต่ติงก็ดูมีความสุขดีนี่ครับ ไม่เห็นจะเศร้าอะไรเลย

“พี่ต่ายว่าติงเค้ารอผมเหรอ แต่เค้าก็น่าจะรู้ว่ายังไงมันก็เป็นไปไม่ได้” ผมก็อดคิดเข้าข้างตัวเองนิดหน่อยตามประสาคนหลงตัวเอง แต่พี่ต่ายส่ายหัวไม่เห็นด้วย

“พี่ว่าเค้าคงไม่ได้รอโอมหรอก  แต่เค้าคงรอใจเค้ามากกว่า ให้พร้อมสำหรับคนที่เค้าจะรักได้จริงๆ  แล้วก็อาจจะยังไม่เจอใครที่โดนใจจริงๆด้วยมากกว่า”

“โอมอาจจะยื้อติงไว้กับตัวโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะ  พี่ว่าลองปล่อยติงไปซักพักดีกว่าไม๊โอม  ถ้าติงเค้าไปได้ดีกับคนๆนี้  ติงก็จะได้มีความสุขกับเรื่องความรักสักที  ไม่ต้องมาโทรศัพท์มาระบายความผิดหวังกับรายการวิทยุแบบนี้”

ผมฟังที่พี่ต่ายพูดแล้ว ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัว ผมเป็นคนคิดอะไรน้อยเกินไป ไม่เคยใส่ใจในความรู้สึกของเพื่อนเลย คิดถึงแต่ตัวเองเป็นใหญ่   :เฮ้อ:

เวลามีความทุกข์ก็วนเวียนอยู่กับความคิดตัวเอง  จ่อมจมกับความทุกข์ไม่สนใจใคร  ใครจะทุกข์ไปด้วยก็ไม่สนใจ  พอมีความสุขก็อยู่กับความรู้สึกสุขของตัวเอง  ไม่เคยสนใจว่าใครจะมีความทุกข์จากความสุขของผม  ทั้งที่รู้ว่าติงรักผมแต่ผมก็โทรไปเล่าเรื่องผมกับพี่ต่ายให้ติงฟังบ่อยๆ  ไม่ได้สนใจว่าติงจะรู้สึกเสียใจแค่ไหน  :o7:
 
ผมน้ำตาไหลเมื่อคิดถึงว่าติงจะต้องร้องไห้กี่ครั้งเพราะผม  เมื่อผมทุกข์ติงก็คงร้องไห้เพราะสงสารผม เมื่อผมสุขติงก็คงร้องไห้เพราะเสียใจกับตัวเอง ผมนั่งน้ำตาไหลเงียบๆ เอานิ้วปาดน้ำตาที่ไหลออกมา

พี่ต่ายยื่นมือมาส่งกระดาษทิชชูให้ผม ผมรับไว้แล้วก็สั่งน้ำมูกที่กำลังไหลตามมาพร้อมกับน้ำตา  ยื่นมือรับกระดาษทิชชูเพิ่มมาเช็ดน้ำตาอีก

มืออันอบอุ่นของพี่ต่ายลูบหัวผมเบาๆ  ปลอบโยนผม “โอมอย่าร้องไห้ไปเลย พี่ไม่ได้ว่าอะไรโอมนะ  เพียงแต่พี่อยากจะให้โอมลองมองในมุมของติงบ้างเท่านั้นเอง  ไม่ต้องเข้าใจเพื่อนทั้งหมด  แต่ก็พยายามที่จะเข้าใจบ้าง”

“บางทีเราก็ไม่ได้ตั้งใจจะมองข้ามความรู้สึกเพื่อนเพราะเรานึกไม่ถึง  แต่ถ้าเราใส่ใจมากขึ้นเราก็จะรู้ว่าเราควรทำตัวยังไงให้ถูกต้อง”

ผมก็รู้หมดที่พี่ต่ายสอน แต่ผมลืมไปเอง  ผมว่าเวลาเราทำอะไรลงไป บางทีเราทำไปแล้วเราถึงคิดครับว่ามันถูกหรือเปล่า  หรือบางทีเราก็ทำลงไปโดยไม่เคยคิดถึงผลของมันเลยด้วย เหมือนที่ผมเป็นบ่อยๆ
*************************************************


แหะๆ เปลี่ยนโหมดไปหน่อยไม่ว่ากันนะค่ะ :t2:


ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออีกแว้ววว :เฮ้อ:

สงสารติง

โอมนี่ เนื้อหอมอย่างไม่น่าเชื่อเลยนะเนี่ย555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2008 22:45:12 โดย PoP~Pu »

To_Feel

  • บุคคลทั่วไป
อ่านทันแล้วววววววววววววว

 :a2: :a2: :a2:

วิ่ง วิ่ง วิ่ง :oni1: :oni1: :oni1:

ไปอ่านตอนใหม่

 :t2: :t2: :t2:

madamkung

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อออออออออออออออออ

มันเป็นอะไรที่น่าอึดอัด เขารักเรา เรารักคนอื่น เรารักเขา เขาไม่รัก

แต่ฉันรักเธอ  :c5:

รมณ์ไหนวะนิ
:laugh:

ปล. เพลงเพราะอ่ะคะ ชอบๆ 



ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ฟังเพลงไปด้วยอ่านไปด้วยนี่มันบิ้วท์จริง ๆ ทำเอาเสียน้ำตาไปหลายแหมะเลย  o7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






To_Feel

  • บุคคลทั่วไป
ทันหมดแระ

ทั้งหวาน ทั้งหื่นเลยอ่ะ

 :t2: :t2: :t2:

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
เมื่อ"เพื่อนรัก"กลายเป็นว่า"รักเพื่อน"
ฟังแล้วดูเหมือนว่าใกล้กัน
จริงๆแล้วคำนั้นมันห่างไกล
เมื่อความรักฉันเป็นเหมือนอากาศ
ที่คอยเคียงข้างเธอเรื่อยไป
ไม่เคยเห็นเลยใช่ไหม ว่าใครรักเธอ
 :o11: :o11: :o11:

ตอนนี้มัน...โดนง่ะพี่ฟางงงงง

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

ว่าแล้วว่ามันคุ้นๆ

ที่แท้ก็เพื่อนรัก...รักเพื่อนนี่เอง


 :jul3:


ออฟไลน์ fellow

  • จุ๊บ จุ๊บ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +125/-0
เพลง เข้า กับเรื่องเลย เฮ้ออออ..สงสาร ติง

พี่ต่าย :o8:ก็ยังคงเท่ห์อยู่

 :L2: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2008 23:48:57 โดย fellow »

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

snowblack

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกทะแม่งกับไอ้คลื่นสีม่วงมากกว่านะ  :a5:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เพื่อนที่ดีต้องคอยสนับสนุนและให้กำลังใจเพื่อนนะคับ

เชื่อว่าโอมต้องคิดอย่างนั้นกับติงด้วย

patiharn

  • บุคคลทั่วไป
วันนี้มาโหมดดราม่านะเนี่ย...แต่ก็ชอบจังที่พี่ต่ายสอนน้องโอมให้โตขึ้น


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ SweetSerenade

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ยิ่งอ่านยิ่งปลื้มพี่ต่าย

 :m1:

ชอบติงด้วยค่ะ คิดมาตั้งแต่อ่านภาคที่แล้วว่า

ผู้หญิงคนนี้เข้มแข็งจัง

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้เข้าใจสภาพจิตใจโอมเป็นที่สุด


มัน..... :เฮ้อ:

kurugmin

  • บุคคลทั่วไป
คนที่มาชอบติง??
หรือจะเป็นบุ้ง

 :oni1: :oni1:

ออฟไลน์ สาวตัวกลม

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
ผู้หญิงรักเกย์...มีแต่ช้ำกับช้ำ... :o12:




ออฟไลน์ cartoons

  • "ละอองกอ"
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
รีบนๆเนี่ยมาเล่นอีโมอ่ะไรกัน ความหมายว่าไรชวนบอกหน่อยเซ่ :laugh:

มาต่อกะได้ว่าจะอู้ซักหน่อย อิอิ :t2:
************************************
เราคงจะพูดเรื่องนี้กันต่อไป ถ้าไม่มีเสียงโทรศัพท์กรีดร้องขึ้นมา มันเป็นโทรศัพท์ของผมอีกแล้วครับ พี่ต่ายส่งโทรศัพท์ให้ผมรับ ผมสูดน้ำมูกฮืดๆ ทำหน้าเบ้ไม่อยากรับสาย ถ้ารับสายตอนนี้คนที่โทรมาก็รู้สิว่าผมร้องไห้อยู่
แต่พี่ต่ายพยักหน้า “รับซิโอม รับเถอะ”

ผมยื่นมือดูเบอร์โทรศัพท์เป็นเบอร์ใครไม่รู้ครับ
“ฮาโหล โอมพูดครับ ใครพูดครับ”ผมสูดน้ำมูกเบาๆ พยายามปรับเสียงให้อยู่ในโหมดปรกติ
“โอม เบ็ตตี้เองนะ โอมอยู่ไหน มากรุงเทพฯยังเนี่ย”เสียงใสๆของเบ็ตตี้เองครับที่โทรมา

“เราอยู่กรุงเทพแล้ว  แต่ยังไม่เข้าบ้าน  นี่อยู่ข้างนอก ทำไมเหรอเบ็ต ฮืด..ฮืด”น้ำมูกมันไม่หมดครับ เสียงของผมที่พูดออกไปคงแหบแห้งน่าดู พี่ต่ายขยับตัวเข้ามาใกล้ๆผม   แต่ทำหน้าตาเฉยๆทำเป็นไม่สนใจอะไรครับแต่ผมแอบหันไปเห็นพอดี  ผมขยับตัวออกเล็กน้อยจะได้พูดถนัดๆ

“ตัวเองเป็นไร  ทำไมเสียงแปลกๆ บี้ๆ เป็นหวัดเหรอ”เบ็ตเริ่มสงสัยกับเสียงของผมแล้ว  แต่ถ้าเค้าคิดแบบนั้นก็ดีนี่ครับปล่อยให้เข้าใจแบบนั้นไป
“อืมนิดหน่อยเอง ไม่เป็นไรมาก ตกลงตัวเองมีไรล่ะ”
“อืม....ไม่เป็นไรมากใช่ไม๊ ตกลงตัวเองไปงานนนนี่ใช่ไม๊คืนนี้อ่ะ”

อยู่ดีๆพี่ต่ายลุกไปไหนไม่รู้ครับ เดินเข้าไปในครัว ผมเห็นทางสะดวกเลยเดินออกไปนั่งโทรข้างนอกบ้านตรงระเบียงน่ะครับเย็นดี
“ก็ไปน่ะ เมื่อเช้านนนี่ก็โทรมาเตือนให้ไปให้ได้ เบ็ตไม่ต้องห่วงผมไปแน่ เจอกันคืนนี้”

พอคิดเรื่องจะได้ไปเจอเพื่อนเก่าคืนนี้ค่อยรู้สึกดีหน่อยครับ ไม่น่ามีเรื่องเศร้าเสียใจของติงเลยเฮ้อ ทำให้อารมณ์รื่นเริงมันแผ่วไปเลยครับ
“งั้นตัวเองมารับเบ็ตได้ไม๊  เค้าไม่อยู่กรุงเทพนานไม่กล้าขับรถไปคนเดียวกลัวหลงทาง นะโอมนะ  บ้านเบ็ตโอมจำได้ไม๊  เบ็ตว่าเป็นทางผ่านไปโรงแรมนะ”

เบ็ตพูดออกมาแบบนี้ผมจะปฎิเสธได้ยังไง เพราะก็จริงของเบ็ตทุกอย่าง  ยังไงจากบ้านเราไปโรงแรมก็ต้องผ่านบ้านของเบ็ต  แล้วตอนนี้ก็มีถนนตัดใหม่มากมายขนาดผมอยู่เมืองไทยยังหลงบ่อยๆ  แล้วเบ็ตที่เพิ่งกลับมาเมืองไทยแล้วก็เอ๋อๆขนาดนั้นถ้าหลงทางก็คงไม่แปลก แอบนินทาเพื่อนในใจได้อีกนะผม ฮ่าๆๆๆ เลวจริงๆ :t2:

“อีกอย่างนึงนะโอม เบ็ตเขินนะไม่กล้าเข้างานคนเดียว คือเบ็ตกะจะสวยกว่าปกติหน่อยอ่ะ  อยากมีหนุ่มมาควงแก้เขินหน่อย คริคริ” เสียงของเบ็ตร่าเริงมากครับ
“ไม่เป็นไร  โอมไปรับเบ็ตเองกี่โมงดีครับ งานเค้ากี่โมงนะเบ็ต โอมลืมดู”

“ก็ในการ์ดเริ่ม 6 โมงเย็น แล้วเป็นงานค๊อกเทลไม่ใช่โต๊ะจีน เราก็ไม่ต้องไปจองโต๊ะอะไร  แต่ว่าเบ็ตอยากไปก่อนนะโอม อยากไปคุยกับนนนี่ก่อน  ไปดูหน้าเจ้าบ่าวด้วย อิอิ ว่าจะหล่อขนาดไหน”

 สาวๆนี่เค้าคิดอะไรกันแปลกๆนะครับ จะไปดูก่อนทำไมยังไงก็ต้องได้เห็นอยู่แล้วในงาน จะหล่อขนาดไหนเชียว เจอผมกับพี่ต่ายเข้าไปก็คงจืดสนิท หึหึ

“งั้นเอาไงดี เบ็ตจะให้ผมไปรับกี่โมง” แต่พอบอกกับเบ็ตไปแล้ว ผมเพิ่งนึกได้ว่าพี่ต่ายไปกับผมด้วยนี่หว่า  แต่ก็คงไม่เป็นไรมั๊งพี่ต่ายก็ใจดีออก
“โอมมารับเค้าซัก4โมงครึ่งไหวไม๊ ไปถึงซัก5โมงเย็นได้มีเวลาคุยกันนานๆหน่อย”พี่ต่ายเดินออกมาพอดีครับ มานั่งข้างๆผมแล้วส่งชามะนาวให้ผมดื่มเย็นๆใจ

“แป๊ปนึงนะเบ็ตตี้”ผมปิดโทรศัพท์แล้วหันไปถามพี่ต่าย
“พี่ต่ายครับเพื่อนโอมจะไปงานด้วยเค้าให้ไปรับ4โมงครึ่งไหวไม๊พี่ แต่เป็นทางผ่านจากบ้านเราไปโรงแรมอยู่แล้ว” พี่ต่ายนั่งคิดพักนึงแล้วก็พยักหน้าตกลงครับ ผมยังไม่กล้าบอกรายละเอียดแน่นอนว่าเพื่อนที่ว่าเป็นใครกัน หึหึ ได้แต่ครั่นเนื้อครั่นตัว

“ได้ๆเบ็ตตี้ แล้วโอมไปรับเอง แต่งตัวสวยๆนะครับ แล้วเจอกัน” ประโยคหลังแอบพูดค่อยหน่อยครับ ไม่กล้าซ่ามาก กลัวซ่าไปจะซวยซะก่อน
“จ้าโอม เจอกันนะค่ะ....จำบ้านเบ็ตได้แน่นะ”
“จำได้ซิ ไม่หลงแน่นอน แต่ถ้าไปไม่ถูกจะโทรไปแล้วกัน ฮ่าๆๆๆ”ขำไม่ค่อยออกครับก็พี่ต่ายมานั่งโอบเอวอยู่แบบนี้ จะกะล่อนมากก็กลัวแฟนที่นั่งอยู่จะขย้ำเอา พอเบ็ตวางสายไปเท่านั้นแหล่ะครับ พี่ต่ายก็เริ่มทันที

“ใครโทรมาเหรอ....โอม”
เสียงพี่ต่ายก็ธรรมดาครับ เพียงแต่ช้าๆไปไม๊นะ แต่ผมเริ่มหนาวๆร้อนๆเองแล้วครับ  หรือว่าจะเป็นไข้นะ  ผมตากแดดตากลมมากไปรึเปล่านะ แต่ก็ฝืนๆใจตอบไปก่อน ให้รอดตรงนี้ไปก่อน เจอกันแล้วกับเบ็ตจะเป็นยังไงค่อยว่ากันอีกที

“ก็เพื่อนนนน...น่ะพี่ต่าย เบ็ตตี้”แอบกลืนน้ำลายหน่อยครับ เอื๊อกซ์ซซซ
“เพื่อนที่มหาลัย พอดีเค้าเขินอยากมีเพื่อนไปงานด้วยไง”

พี่ต่ายพยักหน้าอีกทีนึงแล้วก็ถามต่อ“อ๋อเหรอ...อืม...สวยไม๊”
ผมก็นึกว่าพี่ต่ายจะไม่ถามต่อ นึกว่าจะเลิกซักแล้ว แต่คิดอีกทีซักไม่เป็นไรอย่าซ้อมก็แล้วกัน เหอๆๆ
“ก็....สวยยยย...มั๊ง ก็น่ารักอ่ะ ทำไมสนเหรอ”ผมหันไปมองหน้าพี่ต่ายที่ทำหน้ายิ้มละไมอยู่

“ก็...แค่ถามดู”ทำเป็นยักไหล่ ทำหน้ากรุ้มกริ่มครับ กวนนนน
 “พี่ก็ชอบคนสวยเหมือนกันนี่” พี่ต่ายสบตาผม แล้วก็ยังคงยิ้มกวนได้ใจครับพี่ต่ายของผม ทำหน้าเจ้าเล่ห์ด้วย
 ผมเลยอดหน้างอไม่ได้ “อ๋อเหรอ....เพิ่งรู้ว่าชอบคนสวยๆ…เหอะ.”ผมสะบัดหน้าหนีหน้าพี่ต่าย ทำเป็นกลบเกลื่อนหึงไปงั้นเองแหล่ะครับ ที่จริงกลัวเค้าจับได้ว่าเป็นแฟนเก่ามากกว่า

มือของพี่ต่ายที่โอบเอวผมบีบแน่นขึ้นมาทันที “พี่พูดเล่น....”
อ้าว...หยุดพูดไปซะงั้น แล้วมองหน้าผมเหมือนจะบอกสิ่งสำคัญให้ผมรู้ว่า.... “ใครจะไปกล้าจีบแฟนเก่าโอมล่ะ หึหึหึ”

 ผมหันหน้าขวับทันที ทำตาโตเท่าที่ตาตี่ๆของผมจะโตได้มากที่สุด  ลืมตัวเอานิ้วชี้หน้าพี่ต่าย แล้วถามละล่ำละลัก ลิ้นพันกันไปหมด ชี้ไปก็นิ้วสั่นไป จนต้องเอาอีกมือนึงมาจับนิ้วตัวเองลง  ลืมตัวไปหน่อยครับ

“พะๆๆๆ พี่...พี่รู้ได้ไง....ทำไมรู้ล่ะ..ใครบอกกัน...หรือว่าแอบฟัง..”
ผมหน้านิ่วคิ้วขมวด   ใจก็แอบคิดไปด้วย ใครมาเป็นอีกาคาบข่าวอีกล่ะทีนี้ หรือว่่าไอ้บุ้งฟระ แสบจริงๆไอ้เพื่อนเชอร์ล็อคโฮล์ม  ไม่บอกเค้าซักเรื่องจะคันปากมากรึไงกันนะ

พี่ต่ายส่ายหัวยิ้มให้ผมเหมือนเห็นเป็นเรื่องขำๆ
“ทำไมต้องลิ้นพันกันแบบนั้นล่ะโอม ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่เลย  ก็...แค่แฟนเก่านี่นาใครๆเค้าก็มีกันแฟนเก่ากันจริงไม๊ครับ” พี่ต่ายเอามือมาจับมือผมที่เมื่อกี้ลืมตัวชี้หน้าพี่ต่ายไป   แล้วเอามากุมไว้แน่น

“ถ้าแฟนเก่าจะยังคงสถานะไว้แบบนี้ไปตลอด  ก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไรนี่โอม”เน้นตรงคำว่าเก่ามากเลยครับ  ถ้าเป็นภาษาเขียนก็คงเป็นสีแดงแล้วเพิ่มขนาดฟ้อนท์ให้ตัวใหญ่กว่าปกติด้วย

แรงมือที่พี่ต่ายบีบลงมาที่มือ  ผมว่ามันก็อบอุ่นดีครับ แต่มันอุ่นจนร้อน เหมือนโดนเตือนกลายๆเลยว่าอย่าไปเลื่อนสถานะมาเป็นแฟนเฉยๆก็แล้วกัน เอื๊อกซ์ซซซซ
“แล้ว....แล้วพี่ต่ายไม่ว่าอะไรนะที่ผมจะไปรับ..ไปรับ...เอ่อ..เบ็ตตี้”
กรรมจริงๆผมไม่ใช่คนติดอ่าง แต่ตอนนี้กลายเป็นคนพูดติดอ่างไปเลย ก็พี่ต่ายกุมมือผมแล้วจ้องมองหน้าผมเป๋งเลย มันก็เลยแอบกลัวไม่ได้ ขนแขนลุกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

“ไม่ว่าหรอก ก็พี่ก็ไปด้วยทั้งคนนี่  แต่ถ้าพี่ไม่ได้ไปด้วย โอมก็บอกพี่หน่อยนะครับ” o18 พูดก็เพราะพูดไปก็ยิ้มไปเสมือนจะใจดี  แต่ผมก็ไม่รู้(ที่จริงแกล้งไม่รู้มากกว่า )ว่าพี่ต่ายคิดยังไง  ก็พี่เล่นพูดซะขนาดนี้ ถ้าผมไม่บอกพี่เวลาผมไปกับเบ็ตตี้  แล้วพี่มารู้ทีหลัง ผมมิคางเหลืองเรอะ เหอะๆ

พอดีเรายังไม่ทันคุยอะไรต่อครับพี่กั้งกับน้องเดือนก็เดินกลับมาจากข้างนอกพอดี ส่งยิ้มมาให้แต่ไกล
 “รอซักครู่นะครับเดี๋ยวผมทำข้าวคลุกกะปิให้ทานกัน ทานกันได้ไม๊ครับ”พี่กั้งถามมาแบบนี้แล้วมัดมือชก เลือกเมนูให้แล้ว ผมไม่กินจะไม่เสียมารยาทเหรอพี่ กินก็กิน

“ครับทานได้ครับ เราสองคนทานกันง่ายอยู่แล้วครับ” พี่ต่ายผละจากมือของผมหันไปตอบพี่กั้งที่แยกจากไปทำกับข้าว   น้องเดือนเดินเข้ามาร่วมวงสนทนากับเราสองคนครับ
“แล้วน้องเดือนไม่ต้องไปช่วยพี่กั้งเหรอครับ”ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าน้องเดือนน่าจะเป็นแบบผมมากกว่า คือทำกับข้าวไม่เป็น ดีจังมีเพื่อน
“พี่กั้งไม่ยอมให้ช่วยค่ะ เดือนเลยสบาย แต่พี่กั้งทำอร่อยกว่าด้วยค่ะ เดือนเลยปล่อยเลย สบายไป คริคริ” ผู้หญิงฉลาดก็แบบนี้ละครับ อิอิ

“น้องเดือนยังดีนะครับที่ทำเป็นด้วย ไม่เหมือนผมเลยทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง ต้องให้พี่ต่ายทำให้ทานไม่งั้นก็กินไม่ได้แน่ๆ หุหุ”ผมหันไปส่งยิ้มให้พี่ต่าย น้องเดือนหัวเราะเบาๆ ทำตาเป็นประกายล้อเลียน

“พี่ต่ายกับพี่โอมเป็นคู่รักที่น่ารักจริงๆค่ะ น่าอิจฉาจัง”  o22

 ************************************************
น้องเดือนพูดแบบนี้ผมก็สะดุ้งซิครับ รู้สึกเหมือนใครเอาระเบิดมาลง  เปลี่ยนมาเรื่องนี้ได้ยังไงกัน ตกลงน้องเดือนรู้เหรอเนี่ยว่าผมกับพี่ต่ายเป็นอะไรกัน?????

แล้วรู้มาตั้งแต่ต้นเลยเหรอ? แล้วพี่ต่ายไปบอกเค้า ?หรือเค้ารู้เอง? คำถามมากมายลอยมาถามผม แต่ผมก็ให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้ ผมอดหน้าแดงด้วยความอายไม่ได้ บอกไม่ถูกว่าผมอายเพราะอะไรกัน อายที่ผมเป็นชายรักชาย แล้วมาอยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่ผมรู้สึกชอบ หรืออายที่น้องเดือนรู้ว่าผมชอบผู้ชาย แล้วทำไมผมต้องอายด้วย

คงจะเกิดภาวะสูญญากาศไปพักใหญ่เลยครับ เมื่อไม่มีใครเปล่งเสียงใดๆออกมา มันเงียบกริบเลยครับ น้องเดือนก็คงรู้แล้วว่าอาจจะพูดอะไรที่ผมนึกไม่ถึงออกมา  เพราะหน้าผมแดงจนรู้สึกได้ว่าใบหูร้อนไปหมด แต่พี่ต่ายก็ทำลายความเงียบและอึดอัดใจของผมลง

“คู่ของน้องเดือนก็น่าอิจฉานะครับ คุณกั้งรักคุณเดือนมากใครๆดูก็รู้”พี่ต่ายเอามือผมไปบีบแน่นๆ ในขณะที่ผมยังคงพูดอะไรไม่ออก ยังนั่งอึ้งอยู่

น้องเดือนเงียบไปซักครู่ เหมือนตัดสินใจว่าจะคุยต่อไปดีไม๊
“แต่คู่ของพี่ต่ายน่าอิจฉากว่านะค่ะ เดือนพอทราบมาว่าคู่ชายรักชาย ไม่ง่ายเลยที่จะรักกันได้  คงต้องผ่านอุปสรรคมากันเยอะ กว่าจะมีวันนี้ได้”
ผมเงยหน้าขึ้นมองน้องเดือน นี่ก็ท่าทางจะเป็นสาววายอีกคนละมั๊ง แต่ผมก็ยังคงจนด้วยคำพูด

ผมที่เคยพูดจาจ๋อยๆๆต่อหน้าสาวๆ  ก็กลายเป็นคนพูดน้อยไปเลย พี่ต่ายเลยเป็นคนที่เข้าสู่วงสนทนาเพียงคนเดียว
“ก็พอดูเลยครับ ก็ไม่ใช่ง่ายๆอย่างน้องเดือนบอก” พี่ต่ายหันมามองตาผม
“ โอมเองเค้าก็ต้องเสียใจเพราะพี่มากเลยเหมือนกัน”
พี่ต่ายโอบไหล่ผม ดึงตัวผมเข้ามาหาอ้อมอกของพี่ต่าย กริยาของพี่ต่ายที่แสดงออกชัดเจนทำให้ผมเขิน ผมเงยหน้ามองพี่ต่าย แววตาของพี่ต่ายที่มองมาทำให้ผมกล้าที่จะเปิดเผยตัวตนมากขึ้น ผมเผลอถอนหายใจไป ก่อนจะเอ่ยปากพูดออกมาได้

“ผมเกือบแย่ไปจริงๆครับน้องเดือน พี่ต่ายใจร้ายมากๆ” เสียงของผมสั่นเครือนิดหน่อย เฮ้อ...เกิดมาอารมณ์อ่อนไหวอะไรตอนนี้นะ
“แต่ผมก็ดีใจนะที่เราได้มีวันนี้ด้วยกัน” ผมว่าเสียงของผมชักจะสั่นมากไปแล้ว สายตาของผมกับพี่ต่ายมาเจอกัน ผมรู้ว่านี่เป็นคำพูดที่ผมบอกกับพี่ต่ายมากกว่าพูดกับน้องเดือน พี่ต่ายก็คงรู้สึกถึงได้  มือของพี่ต่ายบีบผมเบาๆอีกครั้ง

ผมว่านี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผมได้พูดเรื่องนี้กับคนอื่น  ที่ไม่ใช่ญาติและไม่ใช่เพื่อน ที่รู้เรื่องของเราดีอยู่แล้วอย่างติงกับบุ้ง มันก็ไม่ง่ายครับ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับยากอะไร เพราะน้องเดือนก็ดูจะเข้าใจได้ดี

การที่เราจะแสดงตัวกับคนอื่นๆในเรื่องนี้ผมว่ามันเหมือนกับเวลาเราคุยเรื่องการเมืองครับ  บางครั้งก็ต้องดูท่าทีของฝ่ายตรงข้ามก่อนว่าเค้าคิดยังไง เค้าชอบสีแดงหรือสีเหลือง ถ้าเค้าไม่ใช่นักศึกษา มธ.ที่ชอบทั้งสองสี ก็ต้องเล็งให้ดีๆก่อนครับ  ถ้าเค้ารับความเห็นเราไม่ได้  ถึงพูดไปก็เปล่าประโยชน์  ตีกันตายฟรีๆก็มีมาเยอะแล้ว

ผมยินดีฟังคำตำหนิหรือความเห็นฝ่ายตรงข้ามเงียบๆดีกว่ามานั่งเถียงกันครับ  จะว่าผมเป็นคนขี้ขลาดผมก็ยอม  แต่ถ้าเรียกแบบเพราะๆก็คือผมเป็นคนรักสงบครับ(ออกจะเข้าข้างตัวเองไปหน่อย หึหึ) แต่ถึงรบก็ไม่ขลาด  ถ้ามาตีผมตรงๆผมก็ขอเีถียงแบบสู้ไม่ถอยเหมือนกัน

น้องเดือนเห็นท่าทีและน้ำเสียงของผม เลยหยุดคุยเรื่องนี้ไปเลยครับคงเริ่มจะพอพอรู้ว่าออกจะส่วนตัวไปหน่อยแล้ว  เพราะเราก็ไม่ได้สนิทอะไรมากมายพอที่ผมจะมาเปิดเผยเรื่องของตัวเองด้วย  เมื่อผมและพี่ต่ายต่างก็เงียบไปทั้งคู่ น้องเดือนเลยแทรกขึ้นมาเบาๆว่า
“พวกพี่ๆหิวกันหรือยังค่ะ เดี๋ยวเดือนไปดูพี่กั้งดีกว่า   รอแป๊ปนึงนะค่ะพี่ต่ายพี่โอม”

พอน้องเดือนลุกออกไป ผมก็ถอนหายใจ หันไปหาพี่ต่ายที่ก็มองหน้าผมอยู่เหมือนกัน แล้วผมก็อดถามพี่ต่ายไม่ได้ เปลี่ยนโหมดไปโดยฉับพลัน จนผมชักสงสัยว่านี่อารมณ์ผมมันเปลี่ยนไวนาดนี้เรียกพวกอารมณ์แปรปรวนรึเปล่า  คงจะเป็นคนละแบบกับพวกอารมณ์เปลี่ยวนะ

“พี่ต่าย....บอกน้องเดือนเหรอเรื่องเราเป็นอะไรกัน”
************************************
 :oni1: :oni1: หนีดีกว่า รอตอนต่อไป เมื่อมาลงก็เจอกันค่ะ :laugh:


madamkung

  • บุคคลทั่วไป


ความรักที่มีแต่ความเข้าใจให้กันและกัน นิมันชื่นมื่นจริงๆ อิจฉาวุ้ย

ปล. ถึงนนนี่....ใกล้ๆๆๆๆ เข้ามาอีกนิด


 :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด