█ ▌รักเต็มใจ ❤➽ Heart Is Full ▌█ ┠ 37 The End ┨ (2017.11.11) P.36
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: █ ▌รักเต็มใจ ❤➽ Heart Is Full ▌█ ┠ 37 The End ┨ (2017.11.11) P.36  (อ่าน 246727 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ o4u0n7

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :monkeysad: สีส้มไม่อยู่แล้วหรอออ

ปล. เขาให้มาเฝ้าคนไข้ ไม่ใช่ให้มาคิดจะรีดน้ำให้ โว๊ะ  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
โอบคือใครอ่ะ  อิอิ
ติดตามจ้า  รักนี้ไม่มีอุปสรรค  ผู้ใหญ่เคลียร์ให้แล้วจ้า

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
หวังว่าจะหายในเร็ววันนะครับ,,,

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
เออ นี่เราอ่านพลาดอะไรไปป่าวหว่า สีส้มหายไปไหนอ่ะ

โอบคือใคร ถ้าเดาคงต้องบอกว่า พี่น้องกะออมรึป่าว /เดาๆๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ก็โอบไง งงทำไม

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เศร้าอะคิดถึงสีส้ม

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
หายเร็วๆน้า~

ออฟไลน์ มะปรางเปรี้ยว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ไม่นะๆๆ สีส้มๆๆ ช่วยพาสีส้มกลับมาด้วยค่ะ  :mew6:



ก็โอบไง โอบบบบบอะ เต็มพูดถึงโอบออกจะบ่อย โอบพี่ชายออมยังไงล่ะกองทัพพพพพพ  :laugh:


ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ไม่ค่อยชอบบรรยากาศระหว่างสองคนที่เป็นแบบนี้เลยครับ รู้สึกอึดอัดใจยังไงบอกไม่ถูก ขอให้เข้าใจกันเร็วๆ นะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
สีส้มต้องกลับมาสิ

ออฟไลน์ Wrwrwr

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
บรรยากาศพาอึดอัดมาก เศร้าเรื่องสีส้มมากกกกก แต่แอบขำเรื่องโอบนิดนึง

โอบไง ก็โอบไงเล่า ฮ่า

ออฟไลน์ Wrwrwr

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สีส้มต้องกลับมาสิ

พาสีส้มกลับมาเถอะค่ะ อีก 1 เสียง :mew6:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
สีส้มไปแล้วจริงหรอคะ ขอแค่พักร่างสักแปบ แล้วกลับมาน้า เทมป์เต็มรออยู่

โอ๊ยยย กองทัพพลีชีพมาก ถึงกับกินไม่ได้ นอนไม่หลับ
ดีนะ คุณปู่ให้กำลังใจไม่พอ คุณพ่อมาช่วยชีวิต ไม่งั้นเทมป์อาจจะยังบื้ออยู่ที่เดิม
กองทัพอ่อนไหวมากเลยนะ ผู้ชายอบอุ่น ปลื้ม แต่โอบไง โอบน่ะ 55555

เต็มใจน่ารัก จะงอน จะเคืองก็ไม่สุด แต่ต้องมีให้แกล้ง ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ .. โอบไง

แม่กับนายพลเป็นไรมากไหม อาการหนักนะ

ออฟไลน์ Wrwrwr

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มันตื๊ดๆๆ ใจ มันต้องมีดราม่าหนักกว่านี้แน่ๆ  :katai1:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
โอบคือพี่ของออม ใช่ป่ะ :hao4:

ออฟไลน์ Unnie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไม่นะๆๆ สีส้ม ไม่นะ ไม่จริงใช่มั๊ยคะ  :katai1:

ออฟไลน์ Unnie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่อ ลืมขำเรื่องโอบ


โอบนี่เต็มพูดถึงบ่อยนะ
พี่ชายของออมไง
โอบไง
ก็โอบนั่นแหละ  :laugh:

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
สีส้ม ไม่นะ สีส้มหายไปไหน     
 
สีส้มกลับมาาาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เทมป์นี่มึนเนอะ สงสัยก็ถามสิ

ออฟไลน์ PinkCaramel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ทำไมรู้สึกอึดอัด

ออฟไลน์ PinkCaramel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ขอสีส้มกลับมาเถอะค่ะ

ออฟไลน์ duckool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ชอบเรื่องนี้มากกกก
แหวกแนว เฉลยตอนจบมาก่อน
แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อ
กลับน่าติดตามการเล่าเรื่องของคนแต่ง
ภาษาดี อ่านแล้วไหลลื่น
ติดตามมาหลายเรื่อง อ่านสนุกทุกเรื่อง
เป็นกำลังใจให้ค่า
สู้ๆ รออ่านตอนต่อไป อยากให้มาบ่อยๆและเยอะๆ 55

ออฟไลน์ Wrwrwr

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ง่อวววววววววว รู้เลยว่านักเขียนไม่จบดราม่าแค่นี้แน่ :katai4:

แต่ก็ยังตามเพราะสนุกมากค่าาา

ออฟไลน์ simpleyaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮือ อึดอัด อยากอ่านต่อแล้วค่ะ

ออฟไลน์ simpleyaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทำไมเพิ่งเห็นว่ามีต่อด้านล่าง  o22



โอบไง ก็โอบไง พี่ชายออมไงล่ะกองทัพเอ้ยยย ฮ่าาาา

ออฟไลน์ เด็กดอยดาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2
█ ▌รักเต็มใจ ➽ HEART IS FULL ▌█





┠ 16 ┨








“ปกติคุณอาวิริยาเคยสนใจกองทัพซะที่ไหนละคะ.. ไม่เชื่อลองแกล้งถามสิว่า ‘ลูกชายคนเล็กของคุณนายเรียนเกี่ยวกับอะไรเหรอครับ?’ ไม่มีวันตอบได้ถูกหรอกค่ะ”

คิ้วของผมขมวดแทบจะทันที เท่าที่เคยเจอเมื่อครั้งงานเลี้ยงของบริษัทตอนที่เทมป์พาผมไปรู้จักกับคุณแม่ ก็ดูคุณนายวิริยาท่านรักลูกชายของท่านดีนี่นา

“กองทัพไม่เคยเล่าให้อาเต็มฟังใช่มั๊ยละคะ?”

ผมพยักหน้ารับเพราะผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ออมถอนหายใจเฮือกใหญ่

“กองทัพก็ไม่เคยเล่าให้ออมฟังหรอกค่ะ แต่เท่าที่ออมรู้นะคะ.. พี่นายพลเป็นลูกชายและหลานชายคนแรกของตระกูลยังไงล่ะคะ คุณอาวิริยาก็เลยวางความหวังไว้ที่ลูกชายคนนี้ทั้งหมด และเพราะพี่นายทำให้พ่อแม่สามียอมอ่อนลงให้ถึงขนาดที่พ่อแม่สามีเกษียณตัวเองไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจอีกและยังแยกบ้านไปอยู่อีกหลังหนึ่ง คุณนายวิริยาจึงได้เชิดหน้าชูตาอย่างทุกวันนี้ อีกอย่างรูปร่างหน้าตาของกองทัพก็ไม่ถูกใจแม่สักเท่าไหร่ ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้นค่ะตั้งแต่ไหนแต่ไรมาพี่นายพลคือที่หนึ่งของแม่มาตลอด”

เหตุผลแค่นี้เนี่ยนะ?? ผมไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องสลักสำคัญถึงขั้นที่ทำให้คนเป็นแม่รักลูกไม่เท่ากัน แต่ถึงอย่างนั้นเทมป์ก็ไม่เคยแสดงทีท่าหรือพูดจาน้อยใจแม่เลยสักครั้ง และถ้าจะพูดให้ถูกต้องก็คืออีกฝ่ายแทบจะไม่เคยพูดถึงผู้ให้กำเนิดเสียมากกว่า

“แล้วคุณอาดิษฐ์ล่ะ?”

แม่อาจจะรักลูกไม่เท่ากันแล้วคนเป็นพ่อล่ะ?

“คุณอาดิษฐ์ท่านคงจะรักเท่ากันแหละค่ะ คุณอาดิษฐ์หน่ะรู้จักลูกชายทั้งคู่ของตัวเองดีจะตายเพียงแต่ท่านไม่พูดเท่านั้นเอง”

ถ้าเป็นอย่างออมพูดจริงก็ถือว่ายังดีที่อย่างน้อยอีกฝ่ายก็มีคุณพ่อ และที่สำคัญคือมีคุณปู่คุณย่าที่รักและเข้าใจ

“อาเต็มอยู่ห่างๆ พี่นายไว้ก็ดีนะคะ พี่นายหน่ะเขาเป็นคาสโนว่าตัวพ่อ”

เรื่องนี้ผมก็ไม่ได้อยากจะรู้สักเท่าไหร่หรอกครับ

“อ่อ.. อีกอย่างหนึ่ง ดูเหมือนว่าคุณอาดิษฐ์ท่านจะสูญเสียความทรงจำช่วงวัยรุ่นไปนะคะ”

เทมป์เคยบอกผมในเรื่องนี้แล้วเหมือนกัน

“กองทัพเล่าให้ออมฟังเหรอ?”

“เปล่าค่ะ.. คุณอาขวัญต่างหาก”

หลานสาวฉีกยิ้ม ในขณะที่ผมกำลังแปลกใจ

“พี่ขวัญ?”

“ก็คุณอาขวัญเคยเป็นเพื่อนสนิทกับคุณอาวิริยายังไงล่ะคะ”

พี่ขวัญเนี่ยนะ?? แล้วทำไมพี่ขวัญถึงไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังเลย หรือถ้ามองอีกแง่มุมดูเหมือนว่าทุกคนจะไม่อยากให้ผมรับรู้เรื่องพวกนี้เสียมากกว่า แล้วเหตุผลล่ะครับ? แต่ถ้าจำไม่ผิดพี่ขวัญก็เคยเลียบๆ เคียงๆ ถามผมเรื่องคุณอาวิริยาอยู่บ้างเหมือนกัน ถ้าเป็นอย่างนั้นตอนนี้พวกท่านไม่ได้เป็นเพื่อนกันแล้วรึไง?

บทสนทนาระหว่างผมกับหลานสาวจบลงแค่นั้นเมื่อน้าปองจอดรถลงตรงลานหน้าบ้าน คุณพยาบาลพิเศษที่คุณพ่อคุณแม่จ้างมาให้ดูแลผมโดยเฉพาะลงจากรถเพื่อมาช่วยประคองผม

อ่า.. ลืมบอกไปว่าผมออกจากโรงพยาบาลมาหลายวันแล้วครับ ตอนนี้ก็กลับมาเรียนตามปกติแต่อาจจะลำบากสักหน่อยแต่ก็ไม่เกินความสามารถสักเท่าไหร่ แม้คุณหมอจะบอกว่าผมควรจะอยู่ดูอาการต่ออีกสักพักเนื่องจากผมยังมีอาการแน่นหน้าอกเป็นระยะและเหนื่อยง่าย ซึ่งสาเหตุเกิดจากแรงกระแทกส่งผลให้อวัยวะภายในมีอาการบอบช้ำค่อนข้างรุนแรงจึงต้องเฝ้าระวังอาการเป็นพิเศษและต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่ความกังวลเรื่องเรียนทำให้ผมเกิดความเครียด หยุดติดต่อกันหลายวันแบบนี้ต่อให้ซันกับโบว์จะแวะเอาเลคเชอร์มาให้ทุกวันแต่มันก็ไม่เหมือนกับการเรียนจริงด้วยตัวเอง และความดื้อของผมก็ทำให้คุณพ่อที่ไม่เคยมาเยี่ยมผมที่โรงพยาบาลเลยสักครั้งถึงกับต้องมาออกโรงด้วยตัวเอง ตอนแรกผมคิดว่าท่านจะดุผมเสียอีกแต่เปล่าเลยครับ ท่านมาคุยกับคุณหมออยู่นานสองนานจนได้ข้อสรุปว่ายอมให้ผมออกจากโรงพยาบาลโดยยังอยู่ในความดูแลพิเศษจากคุณพยาบาลผู้ชำนาญตลอดเวลารวมถึงตอนไปเรียนด้วย คุณพยาบาลจึงประจำการอยู่คู่กับน้าปองคนขับรถที่ต้องทำหน้าที่ขับรถรับส่งผมกับออมจนกว่าผมจะหายดี

“น้องเต็มเดินช้าๆ ไม่ต้องรีบนะคะ”

ต่อให้กลับมาถึงบ้านดึกดื่นแค่ไหนคุณแม่กับป้าทิพย์ก็จะมาคอยรอรับผมทุกวัน และเพื่อความสะดวกคุณแม่จึงจัดห้องนอนรับรองแขกตรงชั้นล่างให้ผมใช้ชั่วคราว อีกทั้งยังไม่ได้รับอนุญาตให้กลับไปอยู่หอพักจนกว่าคุณพ่อจะอนุญาต

พี่ขวัญ พี่อุ่น แม่ปอและโอบกลับอังกฤษตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว คุณแม่ถึงกับบ่นว่าหลานโอบกลับไปบ้านก็เงียบลงไปเยอะทำเอาผมกับออมถึงกับขำกันจนปวดท้อง โอบเป็นคนร่าเริง พูดเก่งถึงเก่งมาก และค่อนข้างจะมีความมั่นใจในตัวเองสูง เพราะฉะนั้นอยู่กับโอบไม่มีเหงาหรอกครับ คิดถึงโอบทีไรก็นึกขำเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลตอนที่โอบแกล้งเทมป์ไม่หาย บทหึงเงียบของอีกฝ่ายนี่โคตรน่ากลัวอย่าบอกใครขนาดโอบที่ว่าแน่ยังแอบกระซิบถามผม ‘เขาจะฆ่ากูมั๊ย?’

“หิวมั๊ยลูก? ทานโจ๊กร้อนๆ สักหน่อยมั๊ย?”

“ผมอยากอาบน้ำมากกว่าครับคุณแม่”

รู้สึกเหนียวเนื้อเหนียวตัวเหลือเกิน ที่สำคัญแขนและขาที่เข้าเฝือกไว้ก็โคตรจะอึดอัดเลยครับ

“งั้นให้คุณพยาบาลช่วยน้องเต็มล้างเนื้อล้างตัวก่อน เดี๋ยวแม่จะไปหาอะไรให้ทานนะคะ”

พูดจบคุณแม่ก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้คุณน้าพยาบาลทำหน้าที่ดูแลผมแทน ซึ่งเธอก็ทำได้ดีชนิดที่ว่าคุ้มค่าจ้างเลยทีเดียว หลังจากผมได้ล้างเนื้อล้างตัวก็รู้สึกสบายตัวขึ้น แถมยังมีโจ๊กกระดูกหมูอ่อนของคุณแม่ช่วยให้ผ่อนคลายได้เยอะ ทานข้าวทานยาเสร็จทุกคนออกไปจากห้องผมหมดแล้วผมก็เอาเลคเชอร์ของวันนี้ออกมาอ่านทบทวนต่ออีกเล็กน้อย เมื่อรู้สึกว่าร่างกายใกล้ถึงขีดจำกัดผมจึงกดกริ่งเรียกคุณพยาบาลให้ช่วยประคองเข้านอน

ผมรอจนคุณน้าพยาบาลออกจากห้องไป แล้วจึงเอื้อมหยิบไอโฟนมาถือไว้ และเมื่อเข็มนาฬิกาเลื่อนตรงเลขเดิมของทุกคืนและเมื่อเข็มนาฬิกาเลื่อนตรงเลขเดิมของทุกคืนเสียงเรียกเข้าของวีดีโอคอลก็ดังขึ้น ผมกดรับด้วยรอยยิ้ม แต่วันนี้ไม่รู้ว่าเพราะผมเหนื่อยเกินไปหรือเพราะฤทธิ์ยา ผมรู้สึกว่ามีสิ่งมีชีวิตสี่ขาตัวอ้วนตัวหนึ่งนั่งอยู่บนพื้นด้านหลังของร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ มันมองผมด้วยดวงตาใสแป๋วที่แสนคุ้นเคย

“สีส้มกลับมาแล้วเหรอ?”

“หืม?”

คนในหน้าจอเลิกคิ้วสูงเล็กน้อยก่อนจะมองซ้ายมองขวา จากนั้นก็มองหน้าผมนิ่งๆ ต่ออีกครู่หนึ่งก่อนจะระบายยิ้มออกมา

“สีส้มอยู่ที่นี่ตลอด.. เต็มไม่ต้องห่วงนะ สีส้มสบายดี”

ดีจัง.. ผมยิ้มแล้วหลับตาลงและเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยความสบายใจ


.
.
.
.


ชีวิตของผมหมุนเวียนเป็นวงจรแบบนี้ต่อไปอีกเกือบเดือนก็ได้รับอิสระภาพ คุณหมอผ่าเฝือกออกแล้วเปลี่ยนเป็นพันด้วยผ้าพันแผลแบบยืดเพื่อพยุงแขนขาเวลาเคลื่อนไหวและช่วยลดอาการบวม ร่องรอยของแผลตามร่างกายก็แทบจะไม่มีให้เห็น โดยเฉพาะอาการที่คุณหมอเป็นห่วงมากที่สุดอย่างเรื่องหายใจติดขัดตอนนี้ก็หมดห่วงแล้วล่ะครับ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังห้ามเรื่องหักโหมออกกำลังกายหรือทำอะไรที่ส่งผลให้ร่างกายเหนื่อยได้ง่าย ยังไงก็ต้องฟื้นฟูกันอีกพักใหญ่ อีกทั้งต้องกายภาพบำบัดแขนขาที่หัก และหมั่นตรวจเช็คอาการตามนัดเป็นระยะจนกว่าร่างกายจะกลับสู่สภาพปกติร้อยเปอร์เซ็นต์

เนื่องจากอาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงแค่แขนและขาที่ยังลงน้ำหนักมากไม่ได้จึงยังคงใช้ไม้ค้ำช่วยพยุงเวลาเดิน และคุณแม่ก็เห็นว่าผมเพลียและเหนื่อยมากกับการเดินทางไปและกลับระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัย คุณแม่จึงช่วยเกลี้ยกล่อมคุณพ่อให้ผมกลับไปอยู่หอพักจนสำเร็จ ผมจึงได้บุรุษพยาบาลพิเศษคนใหม่มาช่วยดูแลแทน ปั่นจักรยานรับส่งทุกวัน หากวันไหนพักเที่ยงตรงกันก็มาดูแล เลิกดึกแค่ไหนก็นั่งรอไม่มีบ่น แถมยังมีบริการอีกมากมายชนิดที่ว่าไม่ต้องเสียค่าจ้างสักบาทเดียว จะมีก็แค่ผมนี่แหละที่เกือบจะเสียตัวทุกครั้ง

ร่างของผมเปลือยเปล่านั่งอยู่บนฝาชักโครก ขาข้างที่หักพาดอยู่บนหน้าตักของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเตี้ย มือใหญ่ใช้ฟองน้ำล้างเช็ดผิวบริเวณที่เคยเข้าเฝือกซึ่งค่อนข้างจะบอบบางเป็นพิเศษด้วยสบู่เหลวและล้างด้วยนํ้าสะอาดอย่างเบามือ

“เทมป์”

ตีมือลงบนหัวไหล่ไม่หนักไม่เบาเมื่อผมโดนแกล้งด้วยสายตาคู่คมที่ลามก เพราะเป็นผู้ชายด้วยกันจึงรู้สึกในสัญชาตญาณดิบแบบเดียวกัน คนลามกหัวเราะ ‘หึ’ ในลำคอแล้วก้มหน้าก้มตานวดฝ่าเท้าให้ผมต่อ ผมกลั้นยิ้มจนเมื่อยแก้มกับใบหูที่แดงแจ๋ จะมีใครน่ารักเท่าผู้ชายคนนี้อีกแล้วล่ะครับ ถ้าผมไม่ให้ก็ไม่เคยบังคับ ดูสิครับขนาดที่น้องชายยักษ์ชี้โด่ขนาดนั้นก็ยังทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ คงได้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศก่อนวัยแน่นอน

ผมใช้เท้าที่มือใหญ่กำลังนวดผ่อนคลายขยับเข้าหาท่อนเนื้อร้อนแล้วออกแรงบดขยี้เบาๆ

“อื้มมมม”

ไม่ได้ยินเสียงทุ้มต่ำร้องครางแบบนี้มานาน เมื่อได้ยินอีกครั้งเลือดในร่างกายของผมก็พุ่งพล่าน ความร้อนแล่นสู่ส่วนกลางลำตัวจนเจ็บแปลบ ผมตวัดหางตาไปที่เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า และเนื่องจากแขนขวาและขาซ้ายยังไม่สามารถลงน้ำหนักแบบเต็มแรงได้ ร่างสูงจึงช่วยผมจัดร่างกายให้อยู่ในท่าที่ปลอดภัยที่สุด

“อืมมม”

ริมฝีปากของเราประกบกันแนบชิดด้วยความโหยหา มือใหญ่จับท่อนเนื้อของเราทั้งคู่นวดคลึง เบียด และเสียดสีกัน จังหวะที่ริมฝีปากได้รับอิสระให้หอบเอาลมหายใจเข้าปอด ผมเหลือบก้มมองส่วนกลางลำตัวที่อยู่ในกำมือใหญ่ ขนาดที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดทำให้ใบหน้าของผมร้อนผ่าว

“อ่ะ.. ท เทมป์”

ลมหายใจติดขัด ผมได้แต่ซบหน้าลงกับไหล่กว้าง ติ่งหูและผิวเนื้อตรงลำคอโดนขบด้วยฟันคมเบาๆ ไหปลาร้าก็โดนดูดดึงสร้างรอย มือใหญ่อีกข้างบีบขยี้หน้าอก เสียวจนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง

“เต็ม”

“อ๊ะ.. อืม”

ภายในท้องบิดเกร็ง กลิ่นความเป็นชาย มัดกล้ามแข็งแรง และความเชี่ยวชาญของการปรนเปรอ ร่างสูงรู้จุดที่จะทำให้ผมเสียวและตำแหน่งที่จะทำให้ผมมีความสุข จนสมองเริ่มขาวโพลน ผมใกล้จะถึงจุดสูงสุดทั้งที่เพิ่งเริ่มได้ไม่เท่าไหร่

“พร้อมกันสิ”

อารมณ์ของผมโดนสะกัดกั้นด้วยปลายนิ้วของอีกฝ่าย แต่ก็เพียงไม่นานอารมณ์ของเราทั้งคู่ก็ถูกปรับให้อยู่ในระดับที่พุ่งทะยานสูงขึ้นและฉีดความสุขสมออกมาพร้อมกัน ผมหอบหายใจหนักหน่วงจนเจ็บแน่นไปทั้งหน้าอก ร่างสูงคงจะสังเกตเห็นความผิดปกติจึงรีบประคองร่างที่อ่อนปวกเปียกของผมไว้

“โอเคมั๊ย?”

ผมพยักหน้า ตอนนี้หน่ะโอเค แต่ถ้าต่อยกสองคงไม่รอด ใบหน้าคมระบายรอยยิ้มแล้วพรมจูบทั่วไปหน้าจนผมรู้จักจั๊กจี้

“ไว้ทบต้นทบดอกตอนเต็มหายดีทีเดียวละกัน”

พูดจบก็กอดผมไว้แน่นจนแทบจมไปกับอกแกร่ง ส่วนผมนะเหรอ.. จะทำอะไรได้นอกจากหัวเราะขำและรอวันใช้หนี้ตามระบบโฮโมเซ็กส์ชวลเท่านั้น


.
.
.
.


เวลาผ่านไปไวแป๊ปเดียวก็จะหมดเทอมที่สอง ร่างกายของผมก็กลับเข้าสู่สภาพปกติ และเราทั้งคู่ก็ยุ่งอยู่กับเรื่องเรียนเสียจนลืมเรื่องเซ็กส์ไปเสียสนิท อีกฝ่ายตั้งใจอ่านหนังสือและเร่งทำงานให้ทันส่งกับการสอบปลายภาค ส่วนผมแม้ไม่มีการสอบก็จริงแต่แค่เรียนอย่างเดียวก็แทบกระอักแล้วล่ะครับ แต่ถึงเราจะไม่ได้มีเซ็กส์กันก็ใช่ว่าความรักของเราจะลดลง

ทุกวันผมมีเรียนตั้งแต่เช้าและกว่าจะสรุปงานเสร็จก็ค่ำ แต่ไม่ว่าจะฝนตกแดดออกเทมป์ก็ยังคงเป็นเทมป์คนเดิม ต่อให้ตัวเองจะยุ่งแค่ไหนก็ไม่เคยปริปากบ่นและไม่เคยมองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของผม อย่างเช่น ผมเป็นคนติดน้ำหอมยี่ห้อหนึ่ง ใช้อยู่แค่ยี่ห้อเดียวและต้องฉีดทุกครั้งก่อนไปเรียน ผมรู้ว่าน้ำหอมของตัวเองใกล้จะหมดแต่ไม่มีเวลาไปซื้อใหม่สักที ผมเกือบจะลืมมันไปเสียสนิทจนกระทั่งวันหนึ่งที่หยิบน้ำหอมขึ้นมาฉีดจึงเพิ่งได้สังเกตว่ามันคือขวดใหม่ ยี่ห้อเดิม และวางอยู่ตำแหน่งเดิมทุกอย่าง 

ในคืนหนึ่งที่ฝนตกหนักและเราก็อ่อนเพลียจากการเรียนด้วยกันทั้งคู่.. ผมสอดตัวเองเข้าใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับร่างสูง สองแขนของผมโอบกอดรอบเอวสอบไว้แน่นแล้วซุกใบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้าง

“ขอบคุณนะ”

ผมบอก และคำตอบก็คือเสียงหัวเราะเบาๆ ที่ไม่ว่าจะฟังกี่ครั้งก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ และหลังจากนั้นเราก็นอนเตียงเดียวกันมาโดยตลอด ส่วนเตียงของผมก็โดนตุ๊กตาแมวน้อยที่ชื่อ ‘ทีทูเดอะจี’ ยึดครองไปโดยปริยาย กอดตุ๊กตาก็ไม่อุ่นเท่ากอดตัวจริงหรอก คุณคิดเหมือนผมมั๊ยละครับ..


.
.
.
.



วันสุดท้ายที่อีกฝ่ายสอบปลายภาคเสร็จเป็นวันเดียวกับที่ผมเพิ่งกลับมาจากการออกค่าย ซึ่งคุณพ่อให้น้าปองไปรับผมกลับจากค่ายที่นครนายกแล้วตรงกลับบ้านเลย ผมจึงไม่ได้เจอกับเทมป์ ตั้งแต่ผมประสบอุบัติเหตุถ้ามองผิวเผินความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณพ่อทุกอย่างก็ดูเหมือนจะปกติแต่ความจริงแล้วมันเหมือนมีกระจกบางๆ กั้นกลางเราไว้ทั้งคู่ และผมคิดว่าคนอื่นในครอบครัวก็รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ ผมรู้ว่าเป็นเพราะอะไรและเข้าใจในเหตุผลของท่าน

“อาเต็มกลับมาแล้ว”

หลานสาวคนสวยวิ่งมารับผมถึงประตูรถ

“อาคิดว่าออมจะไปฉลองหลังสอบกับเพื่อนๆ เสียอีก”

ออมส่ายหน้าแล้วอมยิ้ม

“ออมจะกลับมาฉลองกับอาเต็มนี่แหละค่ะ เดี๋ยวเราไปต่อกันเลยนะคะ”

หืม? แปลกใจสิครับ แต่ยังไม่ทันจะได้ถามอะไรคุณแม่ก็เดินโปรยยิ้มมาแต่ไกล

“กลับมาแล้วเหรอลูก..”

“กลับมาแล้วครับ”

ผมยกมือไหว้คุณแม่ก่อนจะเข้าไปสู่อ้อมกอด

“ดูสิไปค่ายแค่สามวันแต่คล้ำลงไปเยอะเชียว”

“ออกค่ายอาสาก็แบบนี้แหละครับคุณแม่”

“เหนื่อยแย่เลยสิท่า..”

“แต่ก็สนุกดีนะครับ”

ท่านพยักหน้าตามผมด้วยรอยยิ้ม

งั้นเดี๋ยวไปทำสปากับคุณแม่และน้องออมกันดีกว่านะลูก”

“อ่อ...”

คุณแม่กับออมลากผมขึ้นรถอีกคันโดยไม่รอฟังคำตอบ ร้านสปาใช่ว่าจะไม่เคยไปครับ แต่ผมกลับรู้สึกแปลกๆ ยังไงชอบกล

ร้านสปาที่คุณแม่พาผมมาก็เป็นร้านประจำของท่าน ผมเองก็เคยมานวดสปาอโรมาผ่อนคลายกับคุณแม่ แต่รอบนี้คุณแม่จัดสปาชุดใหญ่ไฟกระพริบวิบๆ วับๆ ให้ผมทั้ง ขัด นวด อบ อะไรที่ว่าเด็ดเอาให้ครบทั้งหน้าและตัว เรียกได้ว่าผิวที่บ่มแดดจากการออกค่ายกลับมาขาวเนียนใสได้แบบเว่อร์วังอลังการภายใน 3 ชั่วโมง

กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็มืดค่ำ เปิดประตูเข้าห้องมาในห้องนอนก็ต้องแปลกใจอีกยกกับกล่องใส่เสื้อผ้าที่ระบุแบรนด์ TJ วางอยู่บนเตียง นี่ก็ไม่ได้อยู่ในช่วงเทศกาลหรือวันเกิดของผมสักหน่อย คอลเล็คชั่นใหม่ของพี่ขวัญก็รอสรุปอีกตั้งเดือนหน้า ผมเอียงคอด้วยความสงสัยก่อนจะเดินไปหยิบการ์ดที่วางอยู่บนกล่องขึ้นมาอ่าน

‘I love you so much.. my bro’

สั้นๆ ง่ายๆ รักน้องชายคนนี้มาก จากพี่ขวัญ เอาละครับ งานนี้มันต้องมีอะไรแน่ๆ และดูท่าทางว่าต่อให้ถามก็คงไม่มีใครจะตอบ ผมเปิดกล่องออกก็ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ กับชุดสูทสีน้ำตาลอมเทาแบบพอดีตัวของผมเป๊ะ และแน่นอนว่ามีตัวเดียวในโลก ผมแขวนชุดสูทไว้หน้าตู้เสื้อผ้า แล้วยืนกอดอกมองชุดนั้นอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งและสุดท้ายผมก็หลุดขำออกมาอีกรอบ ผมคิดว่าผมควรจะไปอาบน้ำดีกว่าครับ

อาบน้ำเสร็จผมก็นั่งอ่านหนังสือต่อ ประมาณ 4 ทุ่ม เวลาเดิมคนเดิมก็วิดีโอคอลเข้ามา ผมยิ้มก่อนจะกดรับ

[ยิ้มหวานแบบนี้มีอะไรรึเปล่า?]

“นั่นสินะ.. มีอะไรดีนะ?”

ไม่รู้ทำไมผมถึงหุบยิ้มไม่ได้ แถมยังจะยิ้มกว้างกว่าเดิมอีก ผมลุกขึ้นจากโต๊ะหนังสือแล้วเดินมาล้มตัวนอนลงบนเตียงจากนั้นก็ดึงหมอนมากอดไว้แก้เขิน ดวงตาคู่คมหรี่ลงมองผมอยู่อย่างนั้นโดยไม่พูดอะไร สักพักก็หัวเราะออกมา

[มีเมียไอคิวเกินสองร้อยแล้วมันก็จะเป็นแบบนี้สินะ]

“ก็แกล้งโง่อยู่นี่ไง”

บางเวลาเราก็ควรจะแกล้งโง่บ้างอะไรบ้างเพื่อเพิ่มสีสันให้ชีวิต อีกฝ่ายยังคงหัวเราะ บ้าจริงๆ เลย แบบนั้นผมก็ยิ่งเขินเข้าไปใหญ่หน่ะสิ นี่ดึงผ้าห่มมาปิดหน้าจนเหลือแค่ลูกกะตาแล้วนะ

[แมร่ม.. น่ารักฉิบหาย]

“หืม? ว่าไงนะ??”

มัวแต่เขินจึงได้ยินไม่ชัด เมื่อกี้ด่าหรือว่าชมกันเนี่ย? ผมมองใบหน้าคมผ่านเครื่องมือสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ กระพริบตาปริบๆ 2-3 ครั้ง ทำเอาอีกฝั่งสตั๊นไปหลายวินาที

[สัส!.. จะจับฟัดให้ลุกไม่ขึ้นเลย]

“หื่น”

ผมหัวเราะ ปลายสายทำท่าหมั่นเขี้ยวแล้วบิดจมูกผม ส่วนผมก็บ้าจี้หดคอยู่จมูกหนีซะงั้น

[ไปค่ายเหนื่อยมั๊ย?]

“มาก.. แต่ก็สนุกดี”
 
ตอนออกค่ายเราไม่ค่อยได้คุยกันสักเท่าไหร่ จะมีแค่ส่งข้อความหากันก่อนนอนเท่านั้น จะว่าไปผมเองก็คิดถึงใบหน้าคมเข้มที่โคตรจะหล่ออยู่เหมือนกันนะเนี่ย

“สอบปลายภาคโอเครึเปล่า?”

[ก็โอเค]

ทำเป็นเชิดหน้าประมาณว่าเรื่องสอบนั้นสบายมากอยู่แล้ว น่าหมั่นไส้ใช่มั๊ยละครับ จากนั้นเราก็มองหน้ากันผ่านเครื่องมือสื่อสารแล้วเงียบกันไปครู่หนึ่ง

[เต็ม..]

“อืม”

[ออมเคยบอกว่าเรียนจบแล้วจะย้ายกลับไปอยู่อังกฤษเลยเหรอ?]

“อ่อ.. ใช่”

คำตอบของผมทำให้คนฟังทำหน้าเศร้าไปชั่วขณะ ผมเองก็ลืมบอกเรื่องนี้กับอีกฝ่าย

อย่างที่เคยบอกว่าเหตุผลที่ผมตั้งใจกลับมาเรียนที่ไทยก็เพื่ออยากจะรู้และศึกษาพื้นฐานของสัตว์ในบ้านเราเพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์ในการทำงานตามความฝันนั่นคือช่วยงานในมูลนิธิโรงพยาบาลสัตว์ของคุณแม่ แต่เมื่อจบปริญญาตรีแล้ว ครอบครัวของผมตั้งใจจะย้ายไปอยู่ที่อังกฤษแบบถาวร ยกเว้นผมครับ ผมตั้งใจว่าจะไปต่อปริญญาโทและอาจจะยาวถึงปริญญาเอกที่โน่น และหอบเอาความรู้จากที่นั่นกลับมาพัฒนามูลนิธิได้อย่างเต็มที่ ต่อให้ผมต้องกลับมาอยู่ไทยคนเดียวก็ยังอยากจะทำตามความฝันอยู่ดี

“แต่ยังไงเต็มก็ต้องกลับมาทำงานที่มูลนิธิ”

ยิ้มให้กับดวงตาคู่คมที่ฉายแววความผิดหวัง แต่เมื่อได้ฟังคำอธิบายเพิ่มเติมจากผม เจ้าตัวก็เลิกคิ้วแล้วยิ้มร่าเหมือนเด็กได้ของถูกใจไม่มีผิด

“ดีใจขนาดนั้น?”

[สุดๆ เลยล่ะ..]

เทมป์เป็นผู้ชายที่ไม่เคยปิดบังความรู้สึก ชอบ โกรธ เกลียด หรือไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหน เจ้าตัวก็มักจะแสดงออกและบอกให้ผมรู้เสมอ แต่ผมก็รู้ครับว่าคนเราทุกคนต้องมีบางเรื่องหรือสักเรื่องที่ไม่สามารถบอกใครได้จนกว่าจะถึงจุดๆ หนึ่งที่มันจะระเบิดออกมาเอง

นิ้วเรียวยาวจิ้มหน้าจอไอโฟนทำเป็นแกล้งสะกิดแก้ม ผมก็ยังคงบ้าจี้ยู่คอหลบอยู่หลายครั้ง จากนั้นผมจึงแกล้งทำแบบเดียวกันกลับไปบ้าง เราเล่นและก็หัวเราะขำกันเหมือนเด็กอยู่ครู่ใหญ่

[เทมป์ไม่กวนแล้วดีกว่า อยากให้เต็มพักผ่อน]

“ก็พักผ่อนอยู่นี่ไง”

นอนอยู่บนเตียงพร้อมจะหลับฝันดีแล้วล่ะครับ

[งั้นหลับตา]

“ถ้าหลับตาแล้วจะลักหลับเหรอ?”

[ไม่ชอบลักหลับ.. ชอบเล่นสด]

“ลามกฉิบหาย”

[ใครเริ่มก่อน?]

ลืมไปได้ยังไงเนี่ยว่าต่อปากต่อคำกับผู้ชายอย่างนายกองทัพไม่มีวันชนะหรอก ผมหัวเราะเบาๆ มองอีกฝ่ายนิ่งๆ อย่างยอมแพ้

“ฝันดี”

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเป็นฝ่ายพูดคำนี้ก่อน นิ้วเรียวเกลี่ยที่หน้าจอ ถ้าอยู่ตรงหน้าฝ่ายนั้นก็คงกำลังเกลี่ยแก้มของของผมอยู่

[คิดว่าเต็มจะพูดว่า.. พรุ่งนี้เจอกันนะ.. เสียอีก]

เสียงทุ้มเอ่ยกลั้วขำออกมาเบาๆ แต่มันกลับทำให้ผมหัวเราะออกมาเสียงดัง

“ก็บอกว่าแกล้งโง่อยู่ไงเล่า”

จะโง่ทำเป็นไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เราจะได้เจอกัน และจะโง่ทำเป็นไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เต็มใจโง่เลยล่ะ และคนโง่อย่างผมก็เขินเสียจนแทบจะมุดตัวเป็นดักแด้อยู่ในผ้าห่มแล้วเนี่ย

ผมวางไอโฟนไว้บนหมอน และนอนยิ้มให้คนในจออยู่แบบนั้นท่ามกลางความเงียบ เรามองตากัน เรายิ้มให้กัน โดยไม่มีคำพูดใดๆ แต่กลับสุขใจอย่างน่าประหลาด จนความง่วงก็เข้ามาครอบงำและผมก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว


.
.
.
.
.
.
.




TBC...  : 222222:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เจอกันพรุ่งนี้นะ  :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด