WARNING!! หมอหื่น
ครืดดด ครืดดด
ผมควานหาโทรศัพท์บนเตียงพลางหรี่ตาหันไปมองนาฬิกาดิจิตอลที่บอกผมว่าเข้าสู่เช้าวันใหม่มาได้สามชั่วโมงแล้ว โอ๊ยใครมัน
โทรมา โอ๊ยยย แล้วโทรศัพท์มึงอยู่ไหนเนี่ย
ครืดดดด ครืดดดด
“ฮัลโหล”
(นอนอยู่หรอ)หือออ ใคร ?
‘VIP’
รู้เรื่องเลยกู
“ครับ คุณโทรมามีอะไรหรือเปล่า”หลังจากส่งข้อความมาบอกว่า ‘ช่วงนี้ไม่ว่าง’ ก็เงียบหายไปเลยสองอาทิตย์เต็มๆ พอจะมาก็มา
ตอนคนจะหลับจะนอนเนี่ยแหละ
(ออกมาเจอกันหน่อยสิ)
“ตอนนี้หรอครับ”ตีสองเนี่ยนะ
…
ก๊อกๆๆ
ผมเคาะกระจกรถที่ติดฟิล์มดำสองสามที่ ก่อนจะเปิดประตูแทรกตัวเข้าไปนั่งด้านในที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ผมหันไปทักทายเจ้าของรถ
ที่ดูโทรมๆ
“คุณดูเหมือนคนไม่ได้พักผ่อน ช่วงนี้งานยุ่งหรอครับ”
“ก็นิดหน่อย”พูดจบก็พุ่งตัวเข้ามาจู่โจมปากผมอย่างรวดเร็ว ลิ้นร้อนที่แทรกเข้ากวาดไล่ต้อนอยู่ในปากทำให้สมองผมเบลอไป
หมด กลิ่นมิ้นท์จางๆ จากบุหรี่ยี่ห้อแพงคืออาวุธชั้นดีที่ช่วยกล่อมประสาทผม เขาจูบเก่งมากจนผมตามไม่ทัน
“คุณครับ.ผม..ผมหายใจไม่ทัน…”ผมรีบฉวยโอกาสเมื่อเขาถอนปากออกไปดูดเม้มแถวสันกรามและซอกคอ ได้ยินเสียงหัวเราะ
ต่ำๆ ก่อนจะเขาจะจูบปิดปากผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กับรุนแรงและจาบจ้วงกว่า มือข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นจับทอยท้ายของผมเพื่อบังคับไม่
ให้ผมถอยหน้าหนี อีกข้างก็ล่วงเข้ามาลูบไล้อยู่แถวๆ ช่วงอกให้ผมขนลุกเล่นๆ
“บนรถได้มั้ย”
“ดะ..เดี๋ยวสิคุณ”ผมร้องเมื่อเขาเลื่อนมือจะล้วงเข้าไปในกางเกง ถึงตอนนี้เม้นเป็นเวลาตีสองกว่าๆ เกือบตีสาม แต่บนถนนก็ยังมี
รถลาแล่นผ่านไปเป็นระยะ ริมฟุตบาตรใกล้ๆ ก็เป็นเซเว่นกับร้านข้าวต้มโต้รุ่งที่มีผู้คนนั่งออกันอยู่เต็มร้าน
“ไปโรงแรมเถอะครับ”
“งั้นเธอทำให้ฉันได้มั้ย”เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปดูสดชื่นขึ้นมาทันตาเห็น ใบหน้าใบหน้าแสงสลัวๆ นั้นก็ดูเจ้าเล่ห์จนผม
หมั่นไส้
“ครับ เดี๋ยววันนี้ผมขึ้นให้คุณก็ได้”
ตีห้าแล้วฟ้าก็เริ่มสว่างแล้ว แต่ผมกลับไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ทั้งๆ ที่เหนื่อยจนแทบไม่มีแรงขยับ อาจจะเพราะความรู้สึกเจ็บ
ที่ช่วงล่างลามขึ้นมาถึงไขสันหลัง ว่าแล้วก็หันไปมองค้อนอีกคนที่นอนหลับอย่างสบายอารมณ์อยู่ข้างๆ แน่นอนสิวันนี้เขาบอกจะ
ให้ให้ผมออนท็อปอยู่ข้างบนแต่พอไม่ได้ดั่งใส่ก็เหวี่ยงลงเตียงแล้วใส่มาไม่ยั้ง ถึงแม้เขาจะเป็นแบบนี้ตลอดแต่วันนี้กับรุนแรงจน
ผมเจ็บเสียดไปหมด
ผมค่อยๆ ยกแขนหนักๆ ที่พาดอยู่กลางตัวออก ขยับตัวช้าๆ เพื่อลุกไปทำความสะอาดร่างกายที่ตอนนี้มันเหนอะหนะไปหมด และ
ผมก็ต้องกลับบ้านเพื่อเปลี่ยนชุดอีก
“จะไปไหน”เขาถามเสียงแหบพร่าอย่างคนงัวเงีย ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ผมยกยิ้มให้เขาแก้เก้อพลางชี้ไปทาง
ห้องน้ำ เขาก็พยักหน้าผมเลยพยุงตัวเองเข้าห้องน้ำไป สายน้ำเย็นๆ ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง กลิ่นหอมอ่อนๆ ของครีมอาบ
น้ำก็ทำให้ผมผ่อนคลายจนเริ่มความเจ็บไปชั่วขณะ แต่บรรยากาศของผมก็ถูกทำลายด้วยแขนที่กอดเอวผมจากด้านหลัง
“เดี๋ยวฉันอาบให้”
“ไม่ต้องเลยครับ ผมอาบเองได้”ครั้งล่าสุดที่เขาพูดแบบนี้ และมันก็จบลงด้วยการที่ผมถูกเขากระแทกเจ้าน้องชายที่ไม่เล็กนั้นใต้
ฝักบัวจนผมไข้ขึ้น
“เธอทำความสะอาดตรงนี้ไม่สะดวกหรอก”พูดเฉยๆ ก็ได้มือไม่ต้องเลื่อยตาม ผมเอื้อมมือไปปัดมือของเขาที่กำลังลูบๆ ถูๆ ก้นผม
อยู่ เขินเป็นนะเว้ย ถึงมันจะไม่สมควรเขินแต่ผมก็รู้สึกหน้าร้อนแปลกๆ แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้ผมขัดขืนเพราะเล่นทำการสอดนิ้วเข้า
มาจนผมสะท้านไปทั้งตัว เขาหัวเราะที่เห็นท่าทางของผมก่อนจะบอกให้ผมเอามือยันพนังห้องน้ำเอาไว้
“คุณครับ ผมไม่ไหวแล้วนะครับ”
“ฉันก็ไม่ได้จะทำอะไรนี่ แค่จะทำความสะอาดให้”อย่าพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มน่าขนลุกแบบนั้นเถอะครับ…
แม่ง…หลอกลวง
ผมนั่งนิ่งจ้องคนที่กำลังแต่งตัวด้วยความรู้สึกหลากหลาย แม่งทั้งโกรธ ทั้งอาย โอ๊ยสารพัด ที่บอกจะไม่ได้อะไรคือโคตรหลอกลวง
กันขั้นสุด เพราะพอเขาหลอกให้ผมตายใจเขาก็เล่นเอาเจ้าน้องชายกระแทกเขามาไม่หยุดจนผมแทบไม่มีแรงยืน เขาต้องช่วย
พยุงผมไว้ไม่งั้นก็ลงไปกองกับพื้นแน่ๆ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ”เขาพูดในขณะที่กำลังใส่เข็มขัด วันนี้เขาก็ยังแต่งตัวเนียบเหมือนเดิมและก็ยังเต็มไปด้วยแบนรด์เนมทั้ง
ตัว เขาใส่นาฬิกาเรือนหรูเป็นอย่างสุดท้ายก่อนจะเสยผมขึ้นอย่างลวกๆ แต่เชื่อเหอะเขาแม่งโคตรดูดีเลย
“คุณยังต้องถามผมอีกหรอครับ”ผมมองค้อน เหนื่อยนะเว้ย เจ็บด้วย ช่วงเป็นสั้นๆ แค่ไม่กี่ชั่วโมงเหมือนวิ่งรอบสนามบอลสักสิบ
รอบได้
“ทำหน้าแบบนี้ก็น่ารักดี”เขาว่าก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วโน้มตัวลงมาฉวยหอมแก้มแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าหนังสีดำที่วางอยู่
หน้ากระจกมา ผมมองเขาเงียบๆ จนเขาหยิบแบงศ์สีเทาแล้วเอามายืนให้ผมตรงหน้า ผมมองปึกเงินก่อนจะรับมันมาถือไว้ มันก็ไม่
ได้เยอะอะไรหรอกครับกะจากสายตาก็ประมาณสิบใบได้
เป็นค่าตัวที่สุงใช่ได้เลยใช่มั้ยครับ…
…
“ไอ้กาว ทำไมสภาพมึงดูไม่ได้เลยว่ะ เมื่อคืนไม่ได้นอนหรอ”ผมหันไอ้มองไอ้ตี๋จีน เพื่อนรักที่สุดในชีวิต มันเอามือมาอังๆ แถว
จมูกจนผมต้องปัดมือมันทิ้ง นี่กูยังไม่ตาย
“ไปทำไรมาว่ะ”
“ไปขายตัวมา”มันอ้าปากค้างก่อนจะหันมองรอบตัวเพราะกลัวคนได้ยิน ก่อนจะตวัดสายตามามองผมแล้วดีดปากจนผมสะดุ้งด้วย
ความเจ็บ มันรู้ครับเพราะผมบอกมันเอง และก็มันนี้แหละที่ช่วยผมเลือกลูกค้าจนได้คุณเขามา
“นี่มึง…”ผมรีบเอาเท้าสะกิดขามันให้มันเงียบเมื่อเห็นเพื่อนคนอื่นเดินเข้ามาใกล้ พวกผมทำเป็นพวกคุยเรื่องดินฟ้าอากาศจน
อาจารย์เดินเข้ามาสอน ไอ้จีนก็ไม่มีโอกาสคุยเรื่องนั้นกับผมอีกเลย จนพักเที่ยงมันลากผมขึ้นไปนั่งรับลมดูพวกเด็กมอต้นมันไล่
เตะลูกบอลที่อัศจรรย์
“มึงจะทำแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ว่ะ”
“ไม่รู้ว่ะ”
“กูไม่อยากให้มึงทำแล้วอ่ะ มึงคิดดูนะกาว แม่งเสี่ยงไปหมด มึงอาจจะติดโรค ถ้าโรงเรียนรู้มึงอาจโดนไล่ออก…”โดนไล่ออกก็หา
ที่เรียนใหม่ แต่ถ้าติดโรค…เชี่ย! ผมหน้าเสียทันที แถมยังรู้สึกใจหวิวๆ เมื่อคิดอะไรบ้างอย่างออก
“เป็นไรว่ะทำหน้าแปลกๆ”
“เมื่อคืนเขาไม่ได้ใส่ถุงกับกู”
“เดี๋ยว นี่มึงเอากันสดๆ อ่อ”ไอ้จีนทำหน้าเหมือนโลกทั้งใบกำลังแตก ส่วนผมในหัวแม่งมีแต่คำว่าชิบหายเต็มไปหมด ใจสั่นหวิว
เมื่อผมเผลอคิดอะไรร้ายๆ อย่างการติดโรค ทุกครั้งผมจะไม่พลาดที่จะเตรียมถุงยางไป แต่เมื่อคืนมันกะทันหันจนผมลืมคิด…
…
“มึง กูอาย”ผมพูดเบาๆ เมื่อตอนนี้ทั้งมันแหละผมยืนอยู่กลางโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย นี่มันผ่านมาห้าวันแล้วครับ
หลังจากโนถุงครั้งนั้น ไอ้จีนมันไปคนหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตที่บอกว่าให้รอห้าวันหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดเพื่อความชัวร์
เพราะเชื้อจะฝักตัวระยะเวลานั้น
“ที่ตอนแก้ผ้าให้เขาเอาสดไม่อายนะมึง ตรวจๆ ไปมึงจะได้เลิกจิกตกสักที”ไอ้เอาศอกกระทุ้งสีข้างเมื่อมันพูดออกมา เออ ตอน
เอากันกูไม่อายหรอก เอากับคุณเขามาก็ตั้งกี่ครั้งแล้ว
“ติดต่ออะไรค่ะ”พี่คนสวยในสุดสีขาวสะอาดถามขึ้นด้วยรอยยิ้มเมื่อทั้งพวกผมเดินไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ซึ่งก็มีพี่คนสวย
อีกหลายคนนั่งอยู่ ผมหยิบเอาบัตรประชาชนออกมาแล้วยื่นให้พี่เขาไป
“มาตรวจเลือดครับ”
“ตรวจเลือด?”
“ตรวจเอดส์อ่ะครับ”ไอ้สัสจีน!
ผมดึงฮู๊ดต่ำลงพลางขยับเท้าไปเหยียบเท้าไอจีน มันสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้ผมอย่างลืมตัว ไอ้นี้มันเป็นพวกไม่ชอบ
อะไรอ้อมค้อมครับ มันบอกว่าขัดใจ แต่การที่มันโพล่งออกมาทำให้พี่คนสวยทั้งหลายหันมามองหน้าผมเป็นตาเดียว
“เอ่อ…ตรวจหาเชื้อเอชไอวีนะคะ”พี่คนสวยตรงหน้าพยามปรับสีและน้ำเสียงให้เป็นปกติด้วยการส่งยิ้มหวานๆ มาให้ เขาก้มลงไป
กรอกข้อมูลให้คอมพิวเตอร์ก่อนจะปริ้นใบออกมา
“คนเดียวนะคะ”
“สองครับ”ผมบอกพลางจีนไปที่ไอ้ตี๋ข้างๆ ผม ไอ้จีนหันมาถลึงตาตี๋ๆใส่ผม
“กู?”
“ก็ใช่ไง ก็เรานอนด้วยกันอ่ะ โอ๊ยย!”ไอ้จีนมันหยิกที่ต้นแขนเต็มแรงเมื่อผมพูดผม เอาเลยจีนกูไม่ยอมอายคนเดียวแน่ๆ ไอ้ห่า
ถ้ามึงทำให้กูอายมึงก็ต้องอายไปกับกู
“งั้นขอบัตรประชาชนด้วยนะคะ”พี่คนสวยพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ เหมือนพยามฝืนให้เป็นปกติ ผมหันไปมองพยาบาลสาวคนอื่นๆ
ก็ต่างหันหน้าหนีกันหมดบางคนกลั้นยิ้ม บางคนทำหน้าแปลกๆ ไอ้จีนจำใจต้องหยิบบัตรประชาชนให้ไป
“กูไปนอนกับมึงตอนไหนว่ะไอ้กาว”
“อ้าว เมื่อคืนไงที่กูไปนอนบ้านมึงอ่ะ”ไปทำรายงานครับ แล้วมันดึกขี้เกียจกลับเลยนอนข้างบ้านมัน ไอ้จีนทำหน้าเหมือนอยากจะ
ด่าผมแต่ก็เหมือนคนน้ำท่วมบ้านพูดไม่ออก…
พวกผมถูกส่งไปห้องเจาะเลือด แล้วก็มานั่งรอผลและพบแพทย์ มันจะรู้สึกใจเต้นหน่อยๆ ส่วนไอ้จีนก็นั่งชิลเพราะมันยังชิง ทั้ง
ชีวิตไม่มันเคยมีแฟนหรอกครับ มันบอกตรวจมากคงไม่เจอเชื้อเอชไอวีหรอกแต่ถ้าเป็นพวกเบาหวาน ไม่ก็ไขมันในเส้นเลือดสูงนี้
ก็ไม่แน่ มันชอบกินของหวาน แดกเค้กคนเดียวได้เป็นปอนด์ ไอ้ห่า! ช่วยตื่นเต้นกับกูทีเพื่อน
“กรกนินท์ ธารินทร์ เชิญห้องตรวจสามค่ะ”
ภายในห้องตรวจบรรยายกาศค่อนข้างอึดอัดเพราะคุณหมอตัวสูงกับแมสที่ปิดไปครึ่งหน้า ดวงตาคมๆ อยู่ใต้กรอบแว่นที่ตวัด
มองพวกผมครั้งนึงตอนเดินเข้ามา ผมกับไอ้จีนมองหน้ากันก่อนจะนิ่งๆ ไม่กล้าขยับ คุณมองก็ยังไม่ยอมพูดอะไรนอกจากกวาดตา
ไล่อ่านข้อมูลที่ปรากฏบนจอคอม
“เป็นแฟนกันหรอ”
“เปล่าครับ/ไม่ใช่ครับ”ตอบพร้อมเพียงกันจนหมอชะงัก แล้วเลื่อนสายตามามองพวกผมด้วยสายตาเหมือนจะถามว่าแล้ว ‘ถ้า
ไม่ใช่แฟนแล้วพวกมึงเป็นอะไรกัน’
“คือพวกผมเป็นเพื่อนกันครับ”
“เซ็กส์เฟรนด์งั้นสิ”
“หมอขอถามหน่อยนะว่าใครอยู่โพสิชั่นไหน”พวกผมหันมองหน้ากันงงๆ ก่อนจะมองหน้าหมออีกครั้ง หมอถอนหายใจกอ่นจะถอน
แมสออกแล้วทิ้งตัวพิงพนักพิงเก้าอี้ เขาจ้องมองพวกผมนิ่งๆ อย่าพินิจ
“ใครเป็นคนทำ และใครเป็นคนรับ”
“มันเป็นรับ”ไอ้จีนว่าเสียงดังพลางชี้มาที่ผม แหมมึง ตัวก็เตี้ยเท่าเสาหลักกิโลริอยากเป็นผัวกูรึ อ่า ผมก็เวอร์ครับ มันก็ไม่ได้เตี้ย
ขนาดนั้นครับ แต่เตี้ยกว่าผมประมาณสามเซน ผมสูงร้อยเจ็ดสิบห้ามันประมาณร้อยเจ็ดสิบสอง
คุณหมอมองพวกผมนิ่งๆ ก่อนจะปริ้นใบอะไรสักอย่างออกมาแล้วส่งให้พวกผม มันมีชื่อผมกับไอ้จีนคนละใบ พร้อมข้อมูลที่เป็น
ศัพท์ภาษาอังกฤษที่ผมไม่สามารถอ่านออกได้
“ผลเลือดของพวกเธอเป็นลบ”
“พวกผมไม่ติดเชื้อใช่มั้ยครับ”
“ใช่ แต่ถ้าอยากให้แน่นอนจริงๆ หลังจากนี้อีกสามเดือนค่อยมาตรวจเลือดอีกรอบก็ได้”ผมหันไปดีใจโผล่เข้ากอดไอ้จีนจนเกาอี้มันเลื่อนไถลออกไป มันก็ดีใจเอามือตบหลังผมปุบ จนได้ยินเสียงไอแห้งๆ ของคุณหมอพวกผมเลยต้องผละออกจากกันทันที ลืมตัวครับ
“หลังจากนี้ถ้าก็ป้องกันให้ดีแล้วกัน พวกเธอยังเด็กอย่าคิดแต่รักสนุก”
คุณหมอปิดท้ายด้วยการหยิบเอากล่องถุงยางมาวางบนโต๊ะ จะปฏิเสธก็ถูกตาดุๆ มองจนต้องหยิบกล่องถุงยางมาแล้วเก็บซุกใส่
กระเป๋า พวกผมกล่าวลาหมอทันทีที่เสร็จธุระ…
“คุณพิศครับ ช่วยตามประวัติของคุณลุงบรรจบให้ผมหน่อยนะครับ พอดีคนไข้เพิ่งย้ายโรงพยาบาล…”ผมชะงักกับเสียงคุ้นหูจน
เผลอหันไปมองตามเสียง ใกล้เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์มีพยาบาลสาวที่โคตรสวยกับหมอคนนึงที่ยืนคุยกันอยู่ ร่างสูงสมส่วนใต้เสื้อกาวน์สีสะอาดนั้นแม่งโคตรคุ้น
“ได้ค่ะคุณหมอภัทร เดี๋ยวดิฉันจะรีบตามให้ทันทีเลย”
“รบกวนด้วยนะครับ”ผมสะดุ้งเมื่อผมกับคุณหมอคนนั้นบังเอิญประสานสายตากันพอดี ใบหน้าคุ้นเคยแต่แปลกตาเพราะแว่นทรง
สวยที่ประดับอยู่บนใบหน้า…
ทำไมคุณหมอคนนั้นหน้าเหมือนคุณลูกค้าวีไอพีของผมเลยอ่ะ…
-----------------------------------------------------------------------
ช่วงนี้รู้สึกเหมือนตัวเองไอดัง คุกๆๆๆๆ บ่อยเหลือเกินค่ะซิส
ใครเล่นทวิตเตอร์เข้ามาพูดคุยกันได้ที่แฮชแท๊ก #ทีมหมอหื่น ได้นะคะ
จะถาม จะติ จะทวง ยินดีทุกอย่างและน้อมรับมาปรับปรุงค่า