แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)  (อ่าน 64953 ครั้ง)

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สนุกมาก...อ่านรวดเดียวเลย :m20: :m20:

ออฟไลน์ missredlip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แอ๊บที่ 11: สุรา เป็นเหตุให้พิการได้



เสียงฟีโน่แล่นเข้ามาในเขตของโรงพยาบาลและค่อยๆ ดับเครื่องลง พี่แมนบิดกุญแจเก็บเข้ากระเป๋า แต่พอทำท่าจะลุกจากเบาะ ข้างหลังก็หนักๆ เหมือนมีผีชัตเตอร์ขี่คอไว้



“อีเอ็มมี่! ลงดิ ถึงแล้ว!”



“ไม่ลงง่ะ พี่แมนขับวนอีกรอบได้ป่ะ?”



ไม่พูดเปล่า มันยังขยับวงแขนกอดเอวแนบชิด แนบกว่านี้อีกนิดก็สมสู่กันบนฟีโน่แล้ว! แกนคณะสุดโหดขยับตัวยุกยิกให้อีตุ๊ดปลาหมึกมันหลุดออกไป แต่มันก็เหนียวได้ใจเหลือเกิน พี่แมนเธอจึงกลอกตามองฟ้า ถอนหายใจอย่างหน่ายเหนื่อยแล้วกระทืบเน้นๆ ไปบนหลังเท้าอีเอ็มมี่แบบเล็งเล็บขบอย่างแม่นยำ



ปึ้ก!



“แอร๊กกก พี่แมนอ้า~!”




กะเทยเสิ่นเจิ้นกระโดดแผล็วไปยืนกุมเท้าเหยงๆ เป็นกระต่ายขาเดียว ส่วนพี่แมนก็วาดขาลงมาจากฟีโน่อย่างแสนเท่ห์แล้วเดินนำเข้าอาคารไปอย่างไม่คิดจะแยแสเมียรักที่ยืนกระเง้ากระงอดโอดโอยอยู่เพียงลำพัง พอเอ็มเห็นว่าพี่แมนเธอไม่ง้อเขาแน่แล้วก็เลยเดินตามไปอย่างจำยอม



เมื่อคืนครับ...พังประตูห้องน้ำเข้าไปได้สำเร็จครับ แถมไอ้พี่แมนไม่ได้จับผมกดชักโครกอย่างที่มันขู่ด้วยครับ...



มันแค่โยนที่นอนหมอนมุ้งของผมเข้าไปในห้องน้ำแล้วบังคับให้ผมนอนในนั้นทั้งคืนเท่านั้นเอง...กุซิก กุซิก!



เมียรักของพี่แมนคิดถึงค่ำคืนอันหนาวเหน็บอย่างทุกข์ระทม นี่มันยิ่งกว่าตอนที่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันอีกไม่ใช่หรือไร? ไอ้เราก็คิดว่าจะได้นอนเตียงเดียวกัน ได้ทำอย่างงั้น ได้ทำอย่างงี้ แล้วก็ได้ทำอย่างงู้นด้วย หึหึ แค่คิดก็ฟินแระ!



“อีเอ็มมี่...คิดไรอยู่วะ? ทำหน้าหื่นๆ นะมึงง่ะ”



“เปล๊า!”



“เสียงสูง...”



พี่แมนหรี่ตาลงอย่างจับผิด เอ็มเลยต้องรีบหาทางเบี่ยงประเด็นก่อนที่จะถูกผัวรักจับได้เสียก่อน ตุ๊ดหุ่นล่ำรีบเดินไปติดต่อคุณพยาบาลตามใบนัดของหมอ วันนี้คุณหมอนัดถอดเฝือก กับตัดไหมที่หัวออก ส่วนที่พุงนั่น...ถ้าน้องเอ็มมี่ยังทำตัวดีรอดมือรอดตีนพี่แมนไปได้ อาทิตย์หน้าก็คงจะหายเหมือนกัน ย้ำว่าถ้ามันรอดไปได้น่ะนะ...



พอถอดเฝือกออกเรียบร้อย พี่แมนก็ให้เมียรักนั่งซ้อนฟีโน่เป็นตุ๊ดสก๊อยกลับหอ พอกลับมาถึง อีเอ็มมี่ก็ทำหน้าที่ศรีภรรยาที่ดีหาข้าวหาปลามื้อกลางวันให้สุดที่รักกินก่อนจะปัดกวาดเช็ดถูห้องหอแล้วลากตะกร้าผ้าไปซักที่ระเบียง แต่วันนี้เครื่องซักผ้าคงจะงอแงซักเล็กน้อย เพราะไม่ว่าจะกดปุ่มเท่าไหร่มันก็ไม่มีทีท่าจะหมุนให้แม่ศรีเรือนคนนี้ได้สมใจ



“พี่แมน เครื่องซักผ้าเจ๊งอ่ะ”



“ไหนกูดูดิ๊”



พี่แมนคว้ากล่องอุปกรณ์ช่างมาจัดการงัดเครื่องซักผ้าออกมาดูท่ามกลางสายตาตกตะลึงของเมียรัก นี่กูเรียกมึงเพราะคิดว่ามึงจะโทรตามช่างนะไอ้พี่แมน มึงซ่อมเป็นด้วยเรอะ?



“พี่แมนซ่อมเครื่องซักผ้าเป็นด้วยเหรอ?”



“เป็นลูกผู้ชายก็ต้องทำเป็นดิ่วะ เหมือนที่มึงต้องทำอาหาร กวาดบ้าน ซักผ้าเป็นนี่แหละ”



มึงจะบอกว่ากูเป็นลูกผู้หญิงใช่มะ?



พี่แมนก็แงะๆ ไขๆ อยู่ชั่วครู่ก็ได้ความว่าสายพานเครื่องมันขาด ห้างที่มีอะไหล่ชิ้นนี้ก็อยู่ไกลพอสมควร ไหนๆ ก็จะไปแล้วก็ค่อยออกไปกินข้าวเย็นทีเดียวเลยดีกว่า



“มึงซักพรุ่งนี้ละกัน”



“ผ้าพี่แมนหมดตู้ละเหอะ!”



“งั้นมึงก็ลงไปหยอดตู้ข้างล่างไป”



“ขี้เกียจแบกอ่ะ ซักมือละกัน”



เอ็มขนเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำใส่กะละมัง เทผงซักฟอก ใช้มือตีจนเกิดฟองอย่างคล่องแคล่ว ฝ่ายพี่แมนที่ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วก็ยืนพิงขอบประตูห้องน้ำมองเมียรักไปเพลินๆ



“มึงนี่...เป็นแม่บ้านที่ดีนะ”



เอ็มที่ง่วนอยู่กับการกดผ้าลงในน้ำแฟ๊บแอบมองพี่แมนที่ชมด้วยน้ำเสียงแปลกๆ อย่างสงสัย พอเห็นพี่แมนมองไปทางอื่นก็พอจะรู้ว่าพี่แมนแม่งกำลังเขิน เลยชมไม่เต็มปากเต็มคำ เห็นแล้วน่ารักน่าจับกดไม่หยอก



“จะชมว่าเป็นเมียที่ดีก็พูดมาเลยดิ”



“เสียตรงที่หลงตัวเองนี่แหละ”



แม่ศรีเรือนทำปากยื่นเป็นเป็ดเมื่อผัวรักไม่ชมดังหวัง ก่อนจะลงมือขยี้ผ้าในกะลังมังด้วยสกิลแม่บ้านระดับเมพ



“พี่แมนไม่คิดจะทำบ้างเหรอ?”



“มันใช่งานของผู้ชายที่ไหนล่ะ?”



อีเอ็มมี่ส่ายหัวค้าน



“งานบ้านเค้าไม่แบ่งหญิงแบ่งชายหรอกพี่ พ่อผมก็ช่วยแม่ซักผ้าตากผ้าออกจะบ่อย ท่านบอกว่าไม่อยากให้คนที่ท่านรักเหนื่อยอยู่คนเดียว”



เอ็มพูดไปก็ซักผ้าไปเพลินๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่รู้ตัวอีกทีพี่แมนก็มานั่งปุอยู่ข้างๆ กันแล้ว อีเอ็มมี่มองพี่แมนที่นั่งมองเสื้อผ้าตัวเองในกะลังมังแล้วหยิบขึ้นมาลองขยี้ๆ อย่างงงๆ



“ทำไรอ่ะ?”



“ซักผ้า...”



พี่แมนตอบเสียงงุบงิบ เอ็มที่สมองยังประมวลผลช้าเช่นเคยก็ได้แต่นั่งหน้าอึนต่อไป ตุ๊ดแรมต่ำใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะนึกย้อนถึงประโยคเมื่อครู่ของตัวเองออก ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างหุบไม่ได้



“พี่แมนอ่ะ...”



ไอ้ตัวดีส่งเสียงล้ออย่างมีเลศนัย ยิ่งทำให้คนแมนผู้แสนหน้าบางยิ่งรู้สึกกระฟัดกระเฟียดเข้าไปใหญ่



“ยิ้มเหี้ยอะไร?”



“ยิ้มให้คนที่ไม่อยากให้คนที่รักเหนื่อยอยู่คนเดียวต่าง...อุ๊บ...ถุย!”



พี่แมนลงโทษคนพูดมากด้วยการปาดฟองแฟ๊บใส่ปากเมียรักให้ชิมรสสะอาดกลมกล่อมไปหนึ่งคำใหญ่ อีเอ็มมี่รีบเปิดน้ำบ้วนปากก่อนจะหันกลับมามองค้อนอย่างเคืองๆ



“มึง...มันขาดอ่ะ”



เจ้าของห้องโชว์กางเกงบอลย้วยๆ ของตัวเองที่ขาดแคว่กคามือ ฝ่ายเมียรักก็ได้แต่กะพริบตาปริบๆ กับความมือหนักตีนหนักของสามีสุดที่รัก



“โห่ พี่แมน ขยี้แรงแบบนั้นก็ขาดดิ ทำแบบนี้ๆ”



ตุ๊ดแม่ศรีเรือนกุมมือพี่แมนไว้มือละข้างแล้วสอนวิธีการขยี้ผ้าแบบถูกต้อง ไม่ต้องออกแรงมากนักแค่ให้คราบต่างๆ มันหลุดออกไปก็พอใช้ได้แล้ว แต่ดูเหมือนพี่แมนจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่



“อย่างงี้เหรอ?”



“ไม่ๆ ขยี้แบบนั้นเดี๋ยวเจ็บมือ ทำแบบนี้”



แล้วเอ็มก็เปลี่ยนท่า โอบตัวพี่แมนจากด้านหลังไว้ทั้งตัวแล้วสอนสุดที่รักซักผ้าไปอย่างแนบชิด ด้วยความที่ตั้งอกตั้งใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ พี่แมนเธอก็ลืมตัวปล่อยให้ตัวเองถูกอีเอ็มมี่ลวนลามซะเต็มคราบ



“ทำแบบนี้เหรอ?”



“แบบนั้นแหละครับ เห็นไหม? คราบหลุดไปแล้ว”



อีเอ็มมี่พูดไปก็เอาคางเกยไหล่พี่แมนไป พอเห็นแก้มใสๆ ลอยไปลอยมาอยู่ปลายจมูก มันก็อดไม่ได้ที่จะหอมไปเต็มฟอด พี่แมนชะงักกึก ปล่อยเสื้อยืดของตัวเองหลุดจากมือแล้วผินหน้ากลับมาหาอีเอ็มมี่อย่างช้าๆ ด้วยสีหน้าเหมือนอยากเชือดคน



“มึงทำอะไร?”



“ทำไมพี่แมนต้องทำหน้าน่ากลัวด้วยอ่ะ เป็นแฟนกันแล้ว หอมนิดหอมหน่อยไม่เห็นเป็นไรเลย”



“ไม่เป็นไรป้ามึงสิ อีหื่น! ปล่อยกูเลยนะ”



อีตุ๊ดหื่นได้ใจ ยิ่งกระชับอ้อมแขนโอบเอวคนแมนไว้แนบกับตัวแล้วหอมไปอีกฟอด



“ไม่ปล่อย”



มันลอยหน้าลอยตาตอบพี่แมนอย่างกวนเบื้องล่าง



“อ๋อ ท้าทาย~ ท้าทายใช่ไหม?”



คนโดนกอดเค้นเสียงขู่ แต่อีกะเทยเสิ่นเจิ้นก็ยังไม่อาจสั่งตัวเองให้ปล่อยวงแขนไปได้



“หอมไม่ได้ งั้นจูบนะ”



“อื้ออออออ~~!!!”



คนใจกล้าประกอบปากสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดรัดพันอย่างชำนาญการ ชั่วพริบตาที่มันทำเยี่ยงนั้น ไอ้พี่แมนก็อ่อนระทวยเป็นโสรยาในอ้อมแขนคุณหฤษฎ์ ยิ่งอีเอ็มมี่เมียรักเอียงหน้าปรับองศาให้ยิ่งลึกยิ่งดูดดื่มมากขึ้น เนื้อตัวพี่แมนก็แดงเห่อยังกับเป็นไข้ ผิวแก้มใสๆ ร้อนผะผ่าวยังกับเตารีด แรงต้านใดๆ ก็ไม่มีเหลือกับเขาได้แต่ปล่อยให้ภรรยาหน้าหื่นตักตวงเอาได้ตามใจ



คนเจ้าเล่ห์เห็นว่าคราวนี้โชคชะตาฟ้าลิขิตให้กูฟินแน่แล้ว จึงฉวยโอกาสสอดมือผ่านเสื้อยืดย้วยๆ ของพี่แมนเข้าไปลูบไล้ผิวเนียนละเอียด เรื่อยขึ้นไปถึงติ่งไตสะดุดมือน่าเขี่ยเล่น ที่พอสะกิด พี่แมนก็หลุดเสียงครางแหลมสูงออกมาทันที



“อ๊ะ!”



เอ็มที่ได้ยินเยี่ยงนั้นก็ได้ใจจะรุกล้ำต่อ แต่มันดันลืมไปว่า พี่แมนเธอร้องได้ก็เพราะปากเธอเป็นอิสระแล้ว และเมื่อปากเธอเป็นอิสระแล้วสติเธอก็จะค่อยเริ่มกลับมาด้วย คนหื่นที่มัวแต่สนุกสนานกับหน่มหน๊มพี่แมนเลยถึงกับเหวอเมื่อเจ้าตัวผุดลุกขึ้นล็อคคอมันไว้ด้วยมือที่แข็งราวกับคีมเหล็ก



“อีตุ๊ดทรพี! มึงคิดจะเคลมกูใช่ไหม? อย่าอยู่เลยมึง!”



“เฮ้ย! พี่แมน! ดะ...บุ๋งๆๆๆ”



ไอ้พี่แมนผัวรักของอีเอ็มมี่ จับหัวเมียทรพีกดกะละมังซักผ้าอย่างโหดเหี้ยม นาทีนี้ถึงอีเอ็มมี่จะคร่ำครวญในใจขอโทษขอโพยอย่างสำนึกผิดเพียงใด ก็ไม่มีเสียงใดหลุดรอดมาได้นอกจาก...



“บุ๋งๆๆๆ”



แล้วอีเอ็มมี่ก็ลาโลกไปอย่างสงบสุข...



.

.

.



“เฮ้ย! อีเอ็มมี่ เป็นไรวะ? ทำหน้าเหมือนหมาแดกแฟ้บ”



คนถูกทักสะบัดสายตาส่งค้อนไปให้สามีเพื่อนดังขวับ โทษฐานที่พูดจาไม่นวลรูหู วันนี้ตุ๊ดเทียมมาหาเพื่อนสาวที่หอเพื่อนหญิง แต่แฝดน้องไม่ได้สถิตอยู่ที่หอ ออกไปแรดกับพี่เงิบสุดหล่อ หลงเหลือแต่แฝดพี่กับพี่งอกสามีของมันที่ลงมากินส้มตำหน้าหอด้วยกันนี่แหละ



“ป้า...ปลาร้าจานนึง พริกสิบเม็ด”



“แปบนะหนู”



อีเมเม่สั่งส้มตำอย่างนึกเปรี้ยวปาก แล้วนั่งลงบนโต๊ะม้าหินในร้านป้าแก โต๊ะหมาหินมันมีสี่ด้าน แต่อีเม่มันนั่งด้านเดียวกับพี่งอกชนิดแขนแนบแขน ขาแนบขา นี่ถ้ามันเอานมแนบหน้าพี่งอกได้มันคงทำไปแล้ว



“ห่างกันหน่อยก็ได้ม้าง?”



“อิจฉากูล่ะสิ หน้าม่อยอย่างนี้ สามีไม่ทำการบ้านเหรอจ๊ะ?”



เอ็มที่โดนแซวด้วยวาจาเสียบหัวใจของเพื่อนกุมาร มองซ้ายมองขวาหาข้าวเหนียวได้ก็ปั้นเป็นก้อนกระสุนแล้วดีดใส่แฝดพี่ทันที



“กูจะแช่งให้ของพี่งอกเหี่ยวเป็นมะเขืออบหม้อดินบ้าง”



“อ้าว อีนี่!”



คนที่เดือดร้อนอย่างพี่งอกเจ้าของมะเขือก็อดไม่ได้ที่จะด่าอีตุ๊ดตรงหน้าอย่างมีน้ำโห ไอ้แมนแม่งไม่อบรมเมีย! ไม่เหมือนน้องเมเม่คนดีของพี่ กิริยาดีไม่มีสะดุด



“ส้มตำได้แล้วจ้ะ”



อาหารหน้าตาน่าน้ำลายสอวางลงมาตรงหน้า คนบนโต๊ะเลยยุติศึกหันมาปรองดองกันได้ด้วยการจ้วงส้มตำจกข้ามเหนียวเข้าปากกันอย่างเอร็ดอร่อย



“กูถามจริงๆ เหอะ ไอ้แมนมันไม่ยอมฟีทเจอริ่งกับมึงใช่ไหม?”



คนถูกถามทำหน้าเหมือนกินส้มตำบูดทันที ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างแกนๆ



“แตะนิดเดียว พี่แมนก็จับกดน้ำแล้ว ชาตินี้จะได้ฟีทฯ กันรึเปล่ายังไม่รู้เลยพี่”



“เอาน่ามึง ไอ้แมนมันเป็นผัวตุ๊ดมือใหม่ มึงก็ต้องให้เวลามันบ้าง”



“มันไม่เห็นวี่แววเลยนะพี่งอก ไหนๆ พี่ก็ช่วยผมมาขนาดนี้แล้ว ถ้าผมกะพี่แมนได้เป็นฝั่งเป็นฝากันไปซักที พี่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพี่แมนจะกีดขวางความรักระหว่างพี่กะอีเพื่อนเลวนี่อีกแล้วนะ”



พี่งอกเกาคางตัวเองอย่างครุ่นคิด ที่อีเอ็มมี่พูดมันก็ถูกอยู่ ช่วยมัน...ผลประโยชน์ก็ย้อนคืน ฟิน-ฟิน กันทั้งสองฝ่าย ชายหนุ่มคิดหาวิธีไปพลาง ตาก็เหลือบไปเห็นซุ้มยาดองข้างร้านส้มตำที่บริหารงานโดยสามีของคุณป้าแกนั่นเอง พี่งอกตบโต๊ะดังป้าบก่อนจะลากเมียตุ๊ดของแกนคณะไปเกาะซุ้มร้านยาดอง



“มึงน่ะปล้ำไอ้แมนไม่ได้หรอก แรงมันเยอะ มึงต้องทำให้มันมีอารมณ์แล้วปล้ำมึงเอง”



“โดยใช้ไอ้เนี่ยอ่ะนะ? พี่แมนจะยอมดื่มเหรอ?”



“โถ...มึงนี่มันโง่สมคำร่ำลือจริงๆ ก็ให้มันกินโดยที่ไม่รู้ตัวสิวะ! ผสมอาหาร ผสมเครื่องดื่ม อะไรก็ได้!”



“อือๆ เอาอันไหนดีอ่ะ?”



แล้วรุ่นพี่รุ่นน้องผู้สมรู้ร่วมคิด ก็ยืนเลือกยาดองกันหน้าเครียด เครียดยิ่งกว่าสอบ O-net ตอน ม.6 เสียอีก ทิ้งให้น้องเมเม่นั่งเขี่ยเส้นมะละกออยู่ที่โต๊ะคนเดียวอย่างเหงาๆ



“อันนี้ไหมพี่? ช้างกระทืบโรง”



“อ่อฮอ...โดนมาตั้งแต่ต้นเทอม มึงยังไม่อิ่มตีนมันสินะ”



อีเอ็มมี่ที่โดนด่าอะเกน ทำปากยู่แล้วหันไปชี้โหลอื่น



“อันนี้ละกัน...นารีรำพึง”



“แต่มึงเป็นตุ๊ด...”



เอ็มทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ท่ามกลางสายตาละเหี่ยใจอย่างพี่งอก รุ่นพี่ท่านได้แต่สงสัยในใจว่าความสัมพันธ์พวกมึงมาไกลขนาดนี้ได้ยังไงวะ?



“เออ...จริง ลุงมีตุ๊ดรำพึงป่ะครับ?”



เอ็มถามคุณลุงเจ้าของร้านอย่างใสซื่อ ลืมไปเสียสนิทว่าเขาไม่ได้เป็นตุ๊ดอย่างที่คนอื่นเข้าใจ ในขณะพี่งอกกุมหัวเครียดอย่างไม่รู้จะพามันไปอัพแรมที่ไหนดี



“มึงพอเห๊อะ ลุงครับ เอาโด่ไม่รู้ล้มครับ”



ลุงแกจัดแจงกรอกยาดองที่ว่าใส่ถุงแกงมัดปากอย่างดีแล้วส่งให้อีเอ็มมี่ที่จ่ายเงินไปอย่างไม่เกี่ยงงอนพร้อมรับคำสั่งสอนสุดท้ายจากพี่งอก



“กลับหอไป ซ่อนให้เนียน ถ้ามันจับได้...อย่าซักทอดถึงกูนะ”



แล้วพี่งอกก็เดินกลับไปนั่งกินส้มตำกับเมียกุมารอย่างมีความสุข ทิ้งให้เอ็มกับถุงยาดองและสายตามุ่งมั่นกลับรังรักไปด้วยแผนเคลมสามีรอบใหม่ที่ร้ายกว่าเดิม



โชคดีของเอ็มนักที่พี่แมนออกไปข้างนอกพอดี มันจึงเสาะหาภาชนะในครัวแล้วก็ได้ขวดแก้วเปล่าๆ มาใบหนึ่ง อีเอ็มมี่จัดการกรอกยาดองลงขวดแล้วตั้งแอบปะปนกับเหล่าเครื่องปรุงอาหารอย่างเนียนๆ พี่แมนไม่เคยคิดจะทำกับข้าวกินเอง ยังไงก็ไม่มีทางผิดสังเกตอยู่แล้ว เห้อ...คราวนี้ล่ะ กูจะได้ฟินเสียที



“เย็นนี้ทำอะไรให้กินดีน้า”



ตุ๊ดเจ้าเล่ห์ทำเสียงลัลล้าอย่างน่าตบ พลางเปิดตู้เย็นคุ้ยหาของสดมาคิดเมนู แต่ยังไม่ทันจะคิดอะไรออก กะเทยเทียมก็หน้าเขียวหลังตรงแด่ว เดินขมิบตูดเข้าห้องน้ำไปอย่างรีบร้อน เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พี่แมนไขประตูห้องเข้ามาพอดี



“อ้าว มึง? เข้าห้องน้ำก็ไม่ปิดตู้เย็น รีบอะไรนักหนา?”



พี่แมนเดินไปปิดตู้เย็นพลางบ่นเบาๆ ก่อนจะย่นจมูกฟุดฟิดแล้วเบ้หน้า เมื่อกลิ่นไม่พึงประสงค์ลอยออกมาจากห้องน้ำ พี่แมนเปลี่ยนชุดเป็นชุดอยู่บ้านแล้วนั่งเปิดคอมเล่นไปครู่ใหญ่กว่าอีเอ็มมี่จะออกมาจากห้องน้ำ



“พ..พี่...พี่แมน”



“อีเอ็มมี่! ท้องเสียเหรอมึง?!”



เห็นสภาพศพคลานออกมาจากห้องน้ำ กางเกงหลุดลุ่ยแล้วพี่แมนก็รีบไปประคองเมียรักให้มานั่งบนเตียง แต่ตูดยังไม่ทันกระทบฟูกนุ่มๆ อีเอ็มมี่ก็ตะกายเข้าห้องน้ำไปอีกรอบเพราะข้าศึกมาจ่อถึงที่



“เฮ้ย! อีเอ็มมี่!”



พี่แมนเดินวนอยู่หน้าห้องน้ำอีกครู่ใหญ่กว่าจะมีเสียงกดน้ำ เสียงเปิดประตูห้องน้ำ และศพตุ๊ดกระดื๊บออกมาจากห้องน้ำอีกครั้ง



“มึงๆ ลุก! มานั่งนี่ มึงไปแดกอะไรมาเนี่ย?!”



ศพตุ๊ดพูดได้ตอบกลับผัวรักอย่างอ่อนระโหยโรยแรง



“ส้มตำ...น...หน้าหออ่ะพี่...ปวด...ท้อง”



“มันใส่อะไรให้มึงกินเนี่ย? เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะไปกระทืบให้ร้านแม่งพังเลย!”



อารามเป็นห่วงเมีย พี่แมนก็พาลไปทั่ว พอเห็นพี่แมนเป็นแบบนั้นแล้วเอ็มก็ยิ้มออกได้อย่างฝืดฝืน



“ยิ้มเหี้ยอะไร? เดี๋ยวกูไปหายาให้มึงกินก่อน”



เจ้าของห้องลุกขึ้นหาหยูกยาตามกล่องหลังตู้เย็นก็ไม่มี ในตู้เย็นก็ไม่มีติดไว้ ก็อีเจ้าของห้องมันแข็งแรงไม่เคยป่วยอะไรกะใครเค้าเลยไม่จำเป็นต้องมียาสามัญประจำบ้าน



“เอ...แต่จำได้ว่าไอ้งอกเคยซื้อยาธาตุน้ำแดงมาทิ้งไว้นี่หว่า”



พี่แมนไล่หาต่อไปถึงในครัว เพราะจำได้ว่ามีอยู่ครั้งไอ้เงิบมันก็ท้องเสีย นอนบิดอยู่ในห้องเขาตอนมาค้างทำรายงานกัน ไอ้งอกเลยลงไปซื้อยาให้เพื่อนมันแล้วก็ทิ้งไว้ในห้องเขานี่แหละ



“เจอแล้ว”



พี่แมนคว้าขวดยาธาตุน้ำแดง มาเปิดดมๆ แล้วก็ได้แต่สงสัยว่ายาธาตุอะไรวะ กลิ่นเหมือนยาดอง? แต่คราวที่แล้วไอ้เงิบมันกินแล้วก็ดีขึ้น...ก็คงกลิ่นงี้ล่ะมั้ง



สรุปเองเออเองเสร็จสรรพพี่แมนก็เดินกลับไปหาเมียที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียง ท่าทางเมื่อกี้จะโดนชักโครกสูบพลังงานไปเสียเยอะ พี่แมนประคองตัวเมียรักไว้แนบอกแล้วจ่อปากขวดยากับปากเมีย



“กินซะมึง จะได้หาย”



อีเอ็มมี่ที่เบลอๆ ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็โดนจับกรอกยาธาตุน้ำแดงไปหลายอึก ก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอีกรอบเพราะข้าศึกชุดใหม่มาประชิดเมือง พี่แมนไม่ให้อีเอ็มมี่ล็อกประตูห้องน้ำเพราะกลัวมันจะเป็นลมตายคาส้วม แต่พี่ท่านก็ช่วยอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ ได้แต่ปล่อยให้มันวิ่งเข้าวิ่งออก ส่วนตัวพี่ท่านก็ลงไปซื้อเกลือแร่มาชงให้เมียดื่มกันขาดน้ำ



“อ่ะ อีเอ็มมี่ ดื่มเกลือแร่หน่อย”



“พ...พี่แมน ร้อน...ร้อน”



ตุ๊ดร่วมห้องร้องครางอย่างทรมาน เหงื่อกาฬแตกพลั่กอย่างผิดสังเกต จนพี่แมนต้องช่วยมันถอดเสื้อ...ไล่ลงมาถึงส่วนล่างที่ตื่นตัวอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดกับคนที่ถ่ายท้องจนแทบเป็นลม



“เฮ้ย! อีป้านั่นมันใส่อะไรให้มึงกินเนี่ย?”



“ไม่รู้...พี่แมน ทำให้หน่อย...”



“ทำบ้าอะไรเล่า?!”



พี่แมนเถียงหน้าแดง แต่พอเห็นสีหน้าทรมานของมันแล้วก็อดสงสารขึ้นมาไม่ได้ เอ็มส่งสายตาอ้อนวอนขอร้องในสิ่งที่มันต้องการ ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือพี่แมนบีบเบาๆ อย่างขอความเห็นใจ



“มึงนี่นะ! นี่ไม่ได้ไปยั่วผัวป้าแกจนแกแค้นอะไรมึงใช่ไหม?”



ถึงจะพูดกลบเกลื่อนไปงั้น แต่มือพี่แมนก็ค่อยๆ เลื่อนลงไปยังจุดหมาย สร้างเสียงครางผะแผ่วจากคนป่วยตลอดทางที่มือลากผ่าน



“เอ๊ะ เดี๋ยวนะ”



มือนิ่มๆ ของพี่แมนชะงักกึกตรงขอบกางเกงเมียรัก สร้างความไม่พอใจให้คนรอเป็นยิ่งนัก



“ผัวป้า? ขายยาดอง?”



พี่แมนรำพึง แล้วค่อยๆ นึกปะติดปะต่อเรื่องราวอย่างนึกขึ้นได้ ก่อนจะละมือไปจับขวดยาธาตุมาเปิดดมอีกครั้งจนแน่ใจ สีหน้าแสนเป็นห่วงเมียรักหายวับไปทันที เหลือเพียงสีหน้าโหดเหี้ยมเหมือนอยากกระทืบคนป่วยตอแหลเสียมากกว่า



“หึ...กูเกือบเสียท่ามึงแล้วไหมล่ะ? คิดจะวางยาดองกูเรอะ?”



“พี่แมน...ร้อนจังเลย”



ยิ่งได้ยินเสียงคราง พี่แมนยิ่งโมโห พอโมโหมากๆ เข้าพี่แมนก็ทนไม่ไหว เปิดขวดยาดองที่เหลือกรอกปากอีเอ็มมี่รวดเดียวหมดขวดจนมันไอแค่กๆ ก่อนจะหาเชือกมามัดมันไว้กับเตียง ไม่ให้ลุกขึ้นมาทำอะไรเขาตอนเผลอหลับได้



“พี่แมนทำไรอ่ะ? ปล่อยเค้า~”



“หึ...ค้างไปเสียเถอะมึง!”



พี่แมนทิ้งเสียงอาฆาตแค้นสุดท้ายไว้ก่อนจะนั่งเล่นคอม ยัดหูฟังเปิดเพลงกลบเสียงครางของตุ๊ดมีกรรมไปอย่างไม่สนโลก



ปล่อยให้อีเอ็มมี่ทรมานกับอาการปวดท้องและ “โด่ไม่รู้ล้ม” ไปเสียทั้งคืน



“งี๊ดดดด พี่แมน~ ทำให้เค้าที๊~~~!!”









โปรดติดตามแอ๊บต่อไป





#แอ๊บรัก



Talk~

พี่แมนเขาไม่ตัดน้องชายเอ็งไปดองเหล้าก็ดีเท่าไหร่แล้ว อีเอ็มมี่!





ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
เมื่อไหร่พี่แมนจะตกเป็นเมียเอ็มสักที ลุ้นทุกตอน 555

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
มั้งฮ่าทั้งสงสารเอ็มมี่ โดนจับได้ตลอด แผนล่มแถมค้าง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ น้ำตาเล็ดเลย กว่าจะได้กินพี่แมน เอ็มมี่คงเหี่ยวก่อน 5555555

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

ออฟไลน์ missredlip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แอ๊บที่ 12: ชุดไทยสไบม่วง



“มึงจะงอนกูอีกนานไหม? อีเอ็มมี่”



เมียรักของพี่แมนที่นั่งยองๆ เข้าหามุมห้องมาเป็นชั่วโมง เหลือบสายตามองสุดที่รักที่ปล่อยให้เขาค้างคากับ “โด่ไม่รู้ล้ม” มาทั้งคืนอย่างสุดแสนจะน้อยใจ พี่แมนแม่งใจร้าย...ใจร้าย...



“มึงเลิกงอนเถอะ กูหิวข้าว นี่มันจะเที่ยงแล้วนะมึง!”



“...........”



“อีเอ็มมี่...”



“...............ฮึก!”



เอาแล้วไง!



พี่แมนนั่งกุมขมับ ดูเมียรักเล่นบทโศกเป็นนางเอกละครหลังข่าวอย่างไม่รู้จะทำยังไง ผู้หญิงน่ะเคยง้อ แต่ตุ๊ดนี่จนปัญญาจริงๆ ที่สำคัญ...มันทำตัวเองใช่ไหม? กูไม่กระทืบไอ้ที่โด่ๆ เมื่อคืนหักก็บุญแล้วรึเปล่า?



“อีเอ็มมี่...”



พี่แมนเดินเข้ามาดึงแขนเมียรักให้ลุกขึ้นมาเผชิญหน้า คนขี้น้อยใจสะบัดสะบิ้งเล็กน้อยพอเป็นพิธี แต่ก็ไม่ได้เล่นตัวมากจนเกินงาม



“กูหิวแล้ว...”



“................”



อีเอ็มมี่ยังคงเบะปากเป็นเป็ด เชิดหน้าไปทางอื่นอย่างแง่งอน



“ไปกินผัดไทยหน้าปากซอยกัน”



“........พี่แมนเลี้ยงเปล่า?”



“.......อีงก”



“......ฮึก!”



“เออ! เลี้ยงๆ กูเลี้ยง!”



พี่แมนรีบรับคำ เมื่อเมียรักเตรียมจะบีบน้ำตาอีกรอบ ไม่ใช่แพ้น้ำตาตุ๊ดนะ แต่ทนมองไม่ได้จริงๆ ทุเรศลูกกะตา!



“....จับมือเดินด้วยได้เปล่า?”



“......อีนี่....ชักเยอะๆ”



แกนคณะสุดโหดชักจะหงุดหงิดกับคำขอแบบได้คืบจะเอาศอกของเมียรัก



“.......ฮึก! กุซิก กุซิก”



“เออ...จับไปเลย จับให้ละลายติดมือมึงไปเลยนะ! จะไปได้รึยัง? กูหิว!!”



เอ็มที่เซื่องซึมเป็นหมาโดนยาเบื่ออยู่เมื่อครู่ เปลี่ยนอารมณ์เป็นระริกระรี้ทันควันรีบปิดห้องตามไอ้พี่แมนที่เดินนำลิ่วไปกดลิฟต์ลงไปชั้นล่างของหอพัก พี่แมนจำต้องยอมให้เมียรักจับมือเดินเคียงไปตลอดทาง แต่ไอ้ตลอดทางที่ว่ามันแค่ประมาณ 20 ก้าวเท่านั้นเอง...



เอ็มผู้ลืมไปว่าหอพี่แมนอยู่ใกล้หน้าปากซอยเพียงกลั้นหายใจเดิน ถึงกับทำหน้าเซ็งเมื่อความสุขที่พี่แมนยอมมอบให้แม่งผ่านไปไวเหมือนรถไฟวิ่งสวนกัน พูดแล้วก็ช้ำ ช้ำแล้วก็หิว สั่งผัดไทยมากินดีกว่า



“ป้า...ผัดไทยสองจาน”



“หอยทอดเพิ่มอีกจานครับป้า”



“โห...พี่แมน กินหมดเหรอ?”



“ไม่หมดแล้วกูจะสั่งเหรอคะ? น้องเอ็มมี่”



เห็นพี่แมนกินเยอะแบบผิดกับรูปร่างแล้ว กะเทยเทียมก็ได้แต่งุบงิบกับตัวเองเบาๆ อย่างรู้สึกทดท้อ



“แม่ง...แรงถึงได้ช้างสาร จับกดไม่ได้ซะที”



“พูดอะไร?!”



“เปล๊าาาาาาาาาา โถ่...ใครจะกล้านินทาพี่แม๊นนนนน”



ไอ้พี่แมนแม่งทำหน้าระอาหัวเราะๆ หึหึ อย่างนึกสมเพชในพิรุธจังเบ้อเริ่มของเมียรัก



“มีคนเคยบอกมึงไหม? ว่าถ้ามึงลงคลาสการแสดงนี่ติด F ชัวร์ๆ อ่ะ”



“เค้าเรียกว่าจริงใจ...ตอแหลไม่เป็น”



“เค้าเรียกว่าตอแหลไม่เนียน!”



พี่แมนแก้คำให้ถูกต้อง ในขณะที่ป้าแกเอาผัดไทยและหอยทอดมาเสิร์ฟพอดี เอ็มจึงได้แต่นั่งบ่นงุ๊งงิ๊งกับแก้วน้ำแข็งไปตามเรื่องตามราวเพราะเถียงอะไรพี่แมนไม่ได้...เดี๋ยวโดนกระทืบกลางร้านผัดไทย



“พี่แมน...หอยทอดอร่อยไหมอ้า?”



“ก็ดี...”



“ป้อนหน่อยดิ”



แกนคณะชะงักช้อนที่กำลังตัดแบ่งหอยทอดแล้วช้อนมองเมียรักอย่างดุๆ เจอสายตาพิฆาตเข้าไปหนึ่งดอกเอ็มก็แทบร้องงี้ดเป็นหมาโดนรถทับ แต่กะเทยเสิ่นเจิ้นซะอย่าง...ถือคติด้านได้อายอดเว่ย!



“นะครับ...คำเดียว...นะ”



“มือมึงไม่มีรึไงห๊ะ?”



“ก็เค้าอยากให้ป้อนอ่ะ เรื่องแค่นี้...แฟนกันก็ต้องทำให้กันได้ใช่ป่ะ?”



เสียงเครือเป็นนางเอกโดนฟันแล้วทิ้งมาเลย พี่แมนนิ่งไป มองหน้าเมียรักที่กำลังจะเข้าสู่โหมดนางเอกบีบน้ำตาอีกรอบอย่างอ่อนใจเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าอนุญาตอย่างเวทนา



“อ่ะ อ้าม~”



“อ้าม~~”



คนว่าง่ายหลับตาพริ้มอ้าปากรับหอยทอดจากสุดที่รักด้วยใบหน้าแสนสุข พี่แมนเธอก็จัดให้เสียเต็มชิ้นเต็มปากเต็มคำ ป้อนแบบร้อนแรงชนิดที่เรียกได้ว่ายัดเข้ากระชากออก แถมอีหอยชิ้นโตนั่นก็ร้อนลวกปากขั้นน้ำตาไหลพรากกันเลยทีเดียว เอ็มหันซ้ายหันขวาหาทิชชู่เตรียมบ้วนทิ้ง แต่พอจะคว้า มือคุณสามีก็ตะปบป้าบเข้ามาห้ามไว้เสียก่อน



“ห้ามคาย!”



“อ๊อนอ่ะ! (ร้อนอ่ะ!)”



“พี่อุตส่าห์ป้อนให้ น้องเอ็มมี่จะคายทิ้งลงเหรอคะ?”



พูดไม่พูดเปล่า...พี่แมนทำตาแบ๊วระริกใส่อีเอ็มมี่ชนิดนางเอกการ์ตูนตาหวานยังชิดซ้าย ถึงจะรู้ว่าพี่แมนมันแกล้งมารยาทั้งที่สิ่งที่พูดออกมามันมีแต่คำขู่ทั้งนั้น แต่คนแพ้ความโมเอ้ก็อดที่จะฟินทั้งน้ำตาไม่ได้ แม่ง...น่ารักว่ะ!



เอ็มจึงจำใจต้องงับและกระเดือกหอยทอดร้อนๆ ป้อนด้วยรักจากพี่แมนลงคอไปด้วยความแสบร้อนทรมานเกินบรรยาย พอจัดการได้หมดชิ้น ชายหนุ่มผู้น่าสงสารก็อยู่ในสภาพปากคอแดงเถือก น้ำหูน้ำตาไหลไม่หยุด เดาได้เลยว่าต่อจากนี้ประสาทรับรสคงเป็นอัมพาตไปสามสี่วัน



“หึหึ”



แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสงสารมันหรอกนะ...



.

.

.



อีกเพียงสามวันก็จะถึงงานเฟรชชี่เกมส์ที่นักศึกษาปี 1 และรุ่นพี่ทุกคนทุ่มเทเตรียมงานมาเป็นเวลาร่วมเดือน ทั้งพี่แมนเองและเพื่อนๆ คนอื่นก็คุมเข้มน้องๆ ที่ขึ้นโชว์บนแสตนด์มากขึ้น ขยายเวลาฟิตซ้อมกันจนดึกดื่น ต่างคนต่างก็เหนื่อยจนแทบขาดใจ แต่ก็ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน



“พี่แมนคะ...”



สาวน้อยใส่แว่นทรงกลม ท่าทางดูเป็นเด็กเรียนที่พี่แมนจำได้ว่าเป็นแกนพาเหรดปี 3 คณะศิลปกรรมเดินทำหน้าลำบากใจเข้ามาหาในขณะที่การฝึกซ้อมบนแสตนด์หยุดพัก 10 นาที เพื่อให้น้องๆ ปีหนึ่งได้ดื่มน้ำทานของว่างแก้เหนื่อย จริงๆ ปีสูงที่รับผิดชอบพาเหรดคือไอ้เงิบ แล้วมัน...ไปไหนวะ?



พี่แมนทำหน้าหงุดหงิดเมื่อหันไปเห็นไอ้เงิบเพื่อนซี้กำลังนั่งป้อนขนมเมียมันอยู่บนแสตนด์ ใกล้ๆ กันก็มีไอ้งอกที่ปฏิบัติภารกิจมิได้ต่าง ส่วนเมียเขาที่เข้าเฝือกไปนานจนไม่ได้มีส่วนร่วมบนแสตนด์ก็หันตัวมาเป็นสวัสดิการช่วยเหลือเพื่อนๆ เมื่อแขนหายดีแทน



“ครับ? น้องมีปัญหาอะไรเหรอ?”



จริงๆ รุ่นน้องไม่ค่อยกล้ามาปรึกษาอะไรพี่แมนเท่าไหร่นัก ยิ่งต่างคณะกันแบบนี้แล้ว น้องคงอยากจะปรึกษาแกนคณะตัวเองมากกว่า ถ้าไอ้แกนคณะที่ว่ามันไม่ลากเมียพี่แมนไปปล้ำจนถูกกระทืบปางตายยังไม่ออกจากโรงพยาบาลล่ะก็นะ



“คือน้องไออุ่น คนถือป้ายของเราปีนี้รถมอ’ไซค์ล้มอ่ะค่ะ”



“เมื่อไหร่ครับ? เจ็บมากหรือเปล่า?”



รุ่นน้องสาวมองหน้าพี่แมนไปก็หน้าแดงไป พี่แมนเวลาพูดครับแล้วเจ๊นท์มากอ่ะ เขินเว่อร์!



“ขาหักเลยค่ะพี่ เราต้องเปลี่ยนคนค่ะ แต่ปีหนึ่งก็ขึ้นแสตนด์กับมีหน้าที่ในพาเหรดไปเยอะแล้ว คนหน้าตาดีๆ หน่อยก็ไม่ค่อยร่วมกิจกรรมค่ะพี่”



“อืม...ปีหนึ่งคณะพี่ก็มีแต่เถื่อนๆ นะ”



ก็จะคาดหวังอะไรกับผู้หญิงเรียนสถาปัตย์ล่ะ ยิ่งปีนี้คอนเซปป์มันออกเป็นสไตล์ไทย คนถือป้ายนี่ชุดไทยสไบม่วงมาเลย เหลียวมองรุ่นน้องแต่ละคนที่ยังว่างๆ อยู่ก็ไม่มีใครสามารถแอ๊บกุลสตรีได้สักคน



“คือ...พวกหนูปรึกษากันว่าจะเลือกน้องเอ็มอ่ะค่ะพี่”



“เอ็มไหนวะ?”



ผู้หญิงคณะเรามีชื่อเอ็มด้วยเหรอวะ?



“น้องเอ็มมี่อ่ะค่ะพี่”



“ห๊ะ?!”



ภาพกุลสตรีไทยสไบม่วงในความคิดพี่แมนถูกเปลี่ยนเป็นใบหน้าเมียรักเข้าไปทดแทน อีเมียรักมันยิ้มหวานมาให้แล้วไหว้ย่อแบบนางนพมาศมารยาทงามโคตร อืม...ถึงมันจะแปลกๆ แต่ก็...อืม...ก็น่ารักดี มันเป็นคนขาว ใส่ชุดไทยยังไงก็ขึ้นอยู่แล้ว แต่ถ้าแบบนั้นแล้ว...มันก็ควรจะเป็นภาพที่กูได้เห็นคนเดียวรึเปล่าวะ?



“เอาจริง?”



พี่แมนหันไปถามแม่รุ่นน้องด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก อยากจะถามแม่รุ่นน้องแว่นกลมนี่นักว่าไปเอาความคิดนี้มาจากไหน? คิดจะเปิดตัวเมียกูต่อหน้าธารกำนัลนี่คืออะไร?



“เอาจริงค่ะพี่ พี่พูดกะน้องเขาให้หน่อยสิคะ”



“.....”



แกนคณะสถาปัตย์ทำหน้าปั้นยาก หรี่ตาลงราวกับจะถามย้ำ แต่ประกายตาแม่แว่นเธอก็ช่างแก่กล้าและแน่วแน่เสียเหลือเกิน พี่แมนเลยต้องกวักมือเรียกอีเอ็มมี่ที่เสร็จภารกิจแจกน้ำให้วิ่งเข้ามาหาอย่างหน้าระรื่น



“พี่แมน...เรียกเค้าเหรอ?”



“เออ...มึง น้องเขาขาดคนถือป้ายอ่ะ”



“อ้าวเหรอ? ผมว่างนะ”



มึงไม่ต้องเสนอตัวขนาดนั้นก็ได้มั้ง?



“ถ้ามึงไม่อยากทำ ก็บอกเขาไปตรงๆ ก็ได้นะ”



“ไม่นะ ผมก็อยากมีส่วนร่วมเหมือนกัน”



แม่สาวแว่นยิ้มแป้นรีบขอบคุณรุ่นน้องเป็นการใหญ่ ในขณะที่พี่แมนทำหน้าเหมือนโลกจะแตกนึกปรามาศความโง่ของเมียรักในใจที่มันไม่อาจรับรู้สัญญาณที่กูส่งให้เลย



“พี่แมน..พี่เขาจะพาผมไปลองชุดอ่ะ เดี๋ยวมานะ”



“เออ!”



แล้วเอ็มก็เดินตามสาวแว่นไปโดยที่ยังไม่รับรู้ถึงความหงุดหงิดของพี่แมน หายกันไปเกือบครึ่งชั่วโมง ตุ๊ดหน้าหล่อก็เดินกลับเข้ามาพร้อมรอยยิ้มรื่นจนน่าหมั่นไส้



“เป็นไงล่ะ?”



บอกสิว่าไม่อยากทำแล้ว อยากใส่ให้พี่แมนเห็นคนเดียว...



“ก็ดีครับ ใส่แล้วก็ดูดี”



เป็นอันจบข่าว พี่แมนเมินหน้าหนีกลอกตามองเพดานยิมอย่างเหนื่อยหน่าย ถ้ามึงจะแต่งตัวสวยให้ชายอื่นเมียงมองโดยไม่สนใจกูก็เรื่องของมึงเห๊อะ! นี่กูไม่ได้หึงนะ กูแค่ไม่พอใจเฉยๆ!



“พี่แมนเป็นไรอ่ะ เครียดเหรอครับ?”



“เออ กูเครียด!!”



แล้วพี่แมนก็เดินสะบัดหน้าสวยๆ ของตัวเองหนีไปพาลใส่พี่งอกพี่เงิบที่นั่งส่งกำลังใจให้เมียแฝดอยู่ไม่ห่าง รวมทั้งบรรยากาศการซ้อมแสตนด์วันนี้ที่ถูกเปลี่ยนเป็นฮาร์ดคอร์แบบฉับพลันชนิดที่ทุกคนก็ไม่เข้าใจและไม่อาจปฏิเสธได้นั่นเอง...



.

.

.



ค่ำคืนแห่งความสนุกสนานได้มาเยือนชีวิตของเหล่าเฟรชชี่แล้ว ทุกสีต่างเตรียมพร้อมทั้งแสตนด์เชียร์ ผู้นำเชียร์และพาเหรด พี่แมนในชุดเสื้อยืดสีม่วงพาสเทลสกรีนลายประจำงานเข้ากันกับกางเกงยีนส์สีเทาและคอนเวิร์สคู่ใจก็ยืนคุมงานอยู่บริเวณแสตนด์ ในมือมีวิทยุสื่อสารและตารางเวลาของงานอยู่ มีรุ่นน้องและรุ่นเดียวกันวิ่งเข้ามาสอบถามและขอคำปรึกษามากมายดูยุ่งวุ่นวายอยู่ไม่น้อย



“แมน...พาเหรดพร้อมแล้วนะ”



เสียงวอจากเพื่อนเงิบที่ไปคุมฝั่งพาเหรดดังลอดมาตามสาย ยิ่งได้ยินอย่างนั้นพี่แมนก็ยิ่งหงุดหงิด นี่ใกล้จะได้เวลาเริ่มขบวนพาเหรดแล้ว สินกำกับถาปัตย์นานครั้งจะวนมาเจอกัน เรียกว่าเจ้าแม่เจ้าพ่อแห่งความครีเอทมันก็อยู่ในสองคณะนี้ทั้งนั้น แค่แสตนด์ที่เห็นอยู่นี่ก็ทั้งเด่นทั้งอลังการจนไม่รู้จะสาธยายยังไง แน่นอนว่าผู้คนก็ต้องให้ความสนใจกับขบวนพาเหรดของสีเรามากกว่าสีอื่นอยู่แล้ว และดรัมเมเยอร์กับคนถือป้ายซึ่งต้องคัดหน้าตามาแบบเต็มพร้อม...มันก็ต้องเป็นที่น่าสนใจมากกว่าสิ่งอื่นน่ะจริงไหม?



แม่ง...แทนที่มึงจะสวยให้กูดูคนเดียว!



แล้วพี่แมนก็ยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียวท่ามกลางรุ่นน้องที่ยืนมองอยู่ห่างๆ อย่างเหงื่อตก ไม่กล้าเขาไปชวนพี่แกคุย...เดี๋ยวพูดอะไรไม่เข้าหูจะโดนจับโยนลงไปนอนเป็นเพื่อนวรนุชเสียเปล่าๆ



“มาแล้วนะครับ กับขบวนพาเหรดสีแรกของปีนี้...สีแดงของแพทยษรคร้าบ~~”



ช่างภาพเกือบ 50 ชีวิตรีบกรูกันเข้าไปแชะภาพของขบวนพาเหรดที่นำโดยดรัมเมเยอร์ดีกรีดาวคณะ และตามด้วยคนถือป้ายเป็นผู้ชายหน้าตาดีมากสองข้างเพราะเป็นป้ายไม้ยาวขนาดค่อนข้างใหญ่ ขบวนพาเหรดเดินวนมาจนถึงแสตนด์สีม่วงของพี่แมนและวนเข้าสนามไปรอเป็นสีแรก ก่อนจะตามด้วยสีอื่นๆ ที่รังสรรค์ผลงานกันมาอย่างเต็มที่แล้วปิดท้ายด้วยสีม่วงที่ทุกคนรอคอย



“สีสุดท้ายของพวกเรานะครับ สีม่วง ศิลปัตย์~~!!”



เสียงเชียร์ดังกึกก้องเมื่อดรัมเมเยอร์ในชุดไทยสไบสีม่วงปักดิ้นทองที่ถูกออกแบบให้โฉบเฉี่ยวล้ำแฟชั่นโดยฝีมือของเด็กพัสตราภรณ์เผยโฉมท่ามกลางเสียงรัวชัตเตอร์ของช่างภาพ น้องใบหม่อนผู้รับหน้าที่ดรัมเมเยอร์ของสีม่วงในค่ำคืนนี้มีดีกรีเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัยคนล่าสุดส่งตรงจากคณะศิลปกรรม



พี่แมนชะเง้อชะแง้มองฝ่าดงช่างกล้องไปด้วยเสียงหัวใจเต้นตึกตัก ถึงปากจะบอกไม่ๆ แต่จริงๆ ใจก็แอบลุ้นอยู่เหมือนกัน ก็เมียเขามันน่ารักน้อยอยู่ซะที่ไหนกันล่ะ?



“ดรัมเมเยอร์ของสีม่วงนะครับ น้องใบหม่อน บูรณิมา แก้วเกตุภพ จากคณะศิลปกรรม เพิ่งได้รับตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัยไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เองนะครับ”



ขบวนพาเหรดที่นำโดยน้องใบหม่อนเคลื่อนตามสีเขียวเข้ามาติดๆ วนมาได้ครึ่งสนามและยังถูกรุมถ่ายรูปไม่เลิกรา



“ค่ะ ส่วนผู้อัญเชิญป้ายประจำสีนะคะ หล่อทั้งคู่เลยค่ะ คนแรก น้องปาล์ม ปวัตร ภู่สอน เดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์”



น้องใบหม่อนเดินนำขบวนมาจนถึงแสตนด์สีม่วงซึ่งน้องๆ บนแสตนด์ก็ส่งเสียงเชียร์กันยกใหญ่กับความงดงามทั้งตัวน้องใบหม่อนเองและศิลปะที่ถูกจัดแต่งบนขบวนนี้



“ผู้อัญเชิญป้ายของสีม่วงอีกคนมาจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ค่ะ คนนี้ไม่มีตำแหน่งการันตี แต่หนังหน้ามาดีการันตีตัวเองได้ค่ะ น้องเอ็ม เอกภพ ผลบุญส่ง!!”



สิ้นเสียงประกาศ พี่แมนก็มองอีผู้อัญเชิญป้ายที่ว่าตาค้าง เมื่อเมียรักสวมชุดไทยสไบม่วงในจินตนาการมันถูกขยี้สิ้นด้วยผู้ชายหน้าไทยในชุดราชปะแตนสีครีมทองโจงกระเบนม่วงเลื่อมแบบผู้ดี กับรอยยิ้มอ่อนโยนที่เจ้าตัวส่งให้ช่างภาพและดูจะอ่อนโยนเป็นพิเศษเมื่อส่งมาทางพี่แมน แกนคณะสุดโหดรีบก้มหน้าหลบทำเป็นหันไปสั่งการรุ่นน้องทันควันด้วยสาเหตุที่ไม่อาจทราบได้



จวบจนขบวนพาเหรดเข้าสนามไปครบทั้ง 6 สี และท่านประธานกล่าวเปิดงาน พี่แมนจึงเดินเลาะริมสนามไปหาเจ้าก้อง หนุ่มรุ่นน้องประธานชมรมถ่ายภาพที่กำลังเช็ครูปที่ตัวเองถ่ายมาได้



“ก้อง เดี๋ยวส่งภาพพาเหรดสีม่วงให้กูด้วยนะ กูจะเอาไปทำจุลสารคณะ”



“อ้าว? พี่แก้วก็มาขอผมตั้งแต่เริ่มงานแล้วนี่พี่”



พี่แมนชะงักไปหนึ่งวิฯ ก็จะตีโหมดดุทำเนียนไป



“เออน่ะ...ส่งมาให้กูด้วยละกัน”



พูดจบก็เดินหนีเข้าไปนั่งเล่นในห้องแต่งตัวของพาเหรดสีม่วง นั่งไปนั่งมาสักพักน้องๆ ที่เดินพาเหรดก็กรูเข้ามานั่งพักผ่อน พี่แมนของเราก็เอ่ยปากชมน้องๆ ว่าทำได้ดีมาก ก่อนจะหลบฉากหนีสายตารู้ทันของไอ้เงิบเพื่อนรักไปคว้าแขนกะเทยหน้าหล่อที่วันนี้ไม่ได้หล่อแค่หน้าหลบมุมไปคุยกันสองคนเงียบๆ



“พี่แมน...วันนี้ผมเป็นไงบ้าง หล่อไหม?”



คนถูกถามก็ทำเป็นมองไปทางอื่นแล้วเกาต้นคอตัวเองเบาๆ ก่อนจะตอบเสียงุบงิบ



“น้อยกว่ากูนิดนึง”



คนหลงตัวเองพูดไปอย่างนั้นแต่ก็ยืนลุกลี้ลุกลนไม่กล้ามองหน้าเมียรักอยู่เป็นนาน จนอีเอ็มมี่ที่ว่าแรมต่ำนักยังสงสัยกับท่าทางประหลาดๆ ของคุณแฟน



“พี่แมน...อยากเข้าห้องน้ำเหรอ? ยืนบิดเชียว”



“ป่าววววววว”



เอ็มขมวดคิ้วงงๆ ตอนนั้นเองที่พี่เงิบวอหาพี่แมนเรียกตัวอีเอ็มมี่กลับไปที่ห้องแต่งตัวพอดี



“แมน...บอกอีเอ็มมี่มารวมที่ห้องนะ”



“เออ”



ตอบกลับไปแล้ว พี่แมนก็ยืนมองชายเสื้อเมียตัวเองอยู่อย่างนั้น พอเอ็มจะขยับหนี พี่แมนก็คว้าหมับเข้าที่ชายเสื้อแต่ก็ยังไม่ยอมสบตาอยู่ดี



“พี่แมนจะเอาอะไรครับ?”



“ไม่ได้เอาอะไร”



เอ็มเหวอแดก คือจะให้กูยืนเฉยๆ เป็นหุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ่ให้มึงเชยชมอย่างนั้นใช่ไหม?



“พี่แมน...”



“อะไรเล่า!”



พอจะเซ้าซี้เข้าก็โดนพี่แมนดุใส่ เจ้าตัวทัดผมที่หูตัวเองอย่างเก้กังจนอีเอ็มมี่เห็นชัดว่าหูพี่แมนแดงขนาดไหน พอเห็นแบบนั้นอีเอ็มมี่ก็เริ่มใช้สมองน้อยๆ ของตัวเองประมวลผลแล้วก้มลงพูดข้างหูพี่แมนเบาๆ



“ชอบชุดนี้เหรอ?”



“อีบ้า!”



พี่แมนแหวใส่ ทั้งที่หน้าแดงแปร๊ด



“งั้นก็...ชอบให้ผมใส่ชุดนี้?”



คนถูกดักทางอ้าปากพะงาบๆ แต่ก็เถียงไม่ออก ได้แต่เสมองไปทางอื่นทั้งที่มือยังจับชายเสื้อเขาไว้อยู่เลย



“พี่แมน...พี่เงิบเรียกผมแล้วนะ”



“ก็ไปสิ”



เออ...แต่มือมึงก็ไม่ปล่อยกูเนอะ?



“พี่แมน...ยืมมือถือหน่อย”



คนถูกขอเลิกคิ้วงงๆ แต่ก็ยอมล้วงมือถือส่งให้เมียรักที่วันนี้หล่อผิดหูผิดตา อีเอ็มมี่เปิดกล้องหน้าถ่ายตัวเองในมุมที่คิดว่าหล่อที่สุดแล้วส่งคืนให้คุณแฟน



“เอานี่ไปก่อน แล้วผมจะรีบไปหาที่แสตนด์นะ”



“อืม...”



พี่แมนแอบมองรูปแวบนึงแล้วเก็บใส่กระเป๋าก่อนจะพยักหน้ารับหงึกๆ อย่างว่าง่าย เห็นแบบนั้นแล้วเอ็มก็แทบเลือดกำเดาไหล แม่ง...โมเอ้จริงว้อย~~~~!!!



“ไปนะ..”



“เลิกแล้ว...อย่าเพิ่งเปลี่ยนชุด...นะ”



เอ็มเคลิ้มแทบลอย เขาอ้อนกูด้วยอ้ะ! โอย...เขาอ้อนกูอ้ะ!



“อื้อ...ไม่เปลี่ยนๆ”



พอรับคำหนักแน่นแบบนั้น พี่แมนเลยยอมปล่อยมือแล้วเดินกลับไปยังแสตนด์สีม่วงเพื่อทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ส่วนอีเอ็มมี่ที่เพิ่งขึ้นสวรรค์ไปเมื่อครู่ก็เดินยิ้มหน้าบานกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วเอ่ยถามพี่ที่ดูแลเรื่องชุดให้อย่างเพ้อๆ



“พี่ครับ...แถวนี้มีร้านเช่าชุดไทยป่ะครับ?”





   โปรดติดตามแอ๊บต่อไป





ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
โอ๊ยยยยยยยยยยเขินอ่ะ พี่แมนทำไมตอนนี้ดูน่ารักจัง
ถึงจะโหดคงที่ก็เตอะ น่ารักกกกกก
รอออออ

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
ขำมากๆกับเรื่องนี้ โอ้ยยย เก๋ไก๋ แหวก แนว อ่านแล้วยิ้มจนจะบ้า

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
พี่แมนหลงอีเอ็มมี่แล้วอะเด๊  :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
พี่แมนโคตรซึนเลยอ่ะ เอ็มมี่ต้องหล่อมากแน่ๆวันนี้  :impress2:

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
พี่แมนโคตรซึนเลยอ่ะ เอ็มมี่ต้องหล่อมากแน่ๆวันนี้  :impress2:
เห็นด้วย
ตะลึงเลยอ่ะดิ
จับได้อย่าง คือ อิพี่แมนน่าจะชอบคนหล่อๆ ในชุดงามๆ
ไลน์ไปบอกเอ็มมี่แต่งคอสเพลย์นอนรอบนเตียง แบบนี้พี่แมนระทวยแน่นวน
 :hao7:

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
จะมายังน่ะ รอๆๆๆๆ

ออฟไลน์ missredlip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แอ๊บที่ 13: รอยด่าง



หลังจากค่ำคืนที่แสนจะสนุกสนานผ่านพ้นไปด้วยการที่สีม่วงกวาดรางวัลชนะเลิศเรียบทั้งแสตนด์ พาเหรดและผู้นำเชียร์ รวมถึงยอมให้พี่แมนได้แชะรูปตัวเองในชุดไทยสุดสง่าจนเป็นที่พอใจแล้ว เอ็มก็จุดประกายความคิดบางอย่างขึ้นมาในหัว ก็ในเมื่อคุณพี่เขาพึงพอใจกับชุดราชปะแตนนัก คืนนี้น้องเอ็มมี่จะจัดให้ พอพี่แมนเคลิ้ม...เราก็จะ...คริคริ...



จะได้ฟีทฯ ก็คราวนี้ล่ะวะ!



เอ็มยิ้มกรุ้มกริ่มมองถุงชุดไทยที่เพิ่งไปเช่ามาสดๆ ร้อนๆ คราวนี้เปลี่ยนโจงกระเบนเป็นสีแดงร้อนแรงฝุดๆ พอพี่แมนเห็นนะ ต้องตัวอ่อนร้อนละลายให้เราได้จับเล่นจับชิม อา...แค่คิดก็ฟินแล้ว



แกร๊ก



“พี่แมนกลับมาแล้ววว”



“ดีใจเหี้ยอะไรนักหนา!”



พี่แมนที่เพิ่งกลับมาถึงหอ ร้อนก็ร้อนแถมต้องแบกไม้หวายที่ทั้งยาวทั้งหนักเป็นกำๆ เข้ามาในห้อง หันไปตวาดใส่เมียรักที่อารมณ์ดีไม่รู้เวล่ำเวลา เอ็มที่โดนดุก็ไม่ได้นึกทดท้อแต่อย่างใดกลับเดินเข้าห้องน้ำแล้วออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำเย็นจัดบิดหมาด เจ้าตัวซับเหงื่อคลายร้อนให้คุณแฟนลามไปถึงเช็ดมือเช็ดไม้ให้จนสะอาดเอี่ยม พอพี่แมนได้รับการเอาอกเอาใจจากเมียรักเธอก็อารมณ์ดีขึ้นซ้ำยังออกจะเขินเบาๆ เสียด้วยซ้ำ



“...ขอบใจ”



พี่แมนพูดไม่เต็มเสียงก่อนจะหันไปเก็บไม้หวายที่ขนมาเข้ามุมห้องให้เรียบร้อยไม่เกะกะ



“พี่แมนเอาหวายมาทำอะไรอ่ะครับ?”



“โจทย์งานกลุ่มอ่ะ อาจารย์เอามาโยนไว้ให้กลางคลาสเลย”



พี่แมนสามีที่รักของอีเอ็มมี่นี่เป็นเด็กสถาปัตย์ก็จริงๆ แต่ลงวิชาของศิลปกรรมเป็นวิชาเลือกเสรี ซึ่งอาจารย์แกก็ขยันหาโจทย์ประหลาดๆ มาให้พี่แมนและผองเพื่อนได้ใช้จินตนาการกันเสียเหลือเกิน



“พี่แมน เค้ามีเซอร์ไพรส์ให้พี่แมนด้วยล่ะ”



“เซอร์ไพรส์ไรวะ?”



“แปบนะ!”



เอ็มยิ้มร่า คว้าถุงชุดไทยที่เช่ามาวิ่งเข้าห้องน้ำไปปล่อยให้พี่แมนยืนส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ เป็นเวลาเดียวกับที่ประตูรังรักของอีเอ็มมี่และไอ้พี่แมนเปิดออก พร้อมกับสองเพื่อนซี้ที่หนีบน้องกุมารสุดที่รักเข้ามาด้วย



“มาแล้วเหรอพวกมึง? ซื้อเหล้ามาป่ะ?”



“แหมะ! ไม่เห็นต้องถาม!”



พี่เงิบชูขวดเหล้า โซดา น้ำแข็งพร้อมสรรพให้หัวโจกได้ยล วันนี้พวกเขานัดกันดื่มเหล้าเค้นไอเดียผลงานศิลปะจากไม้หวายที่เพิ่งได้รับโจทย์กันมานี่แหละ



“เมเม่ซื้อกับแกล้มมาฝากพี่แมนด้วยค่ะ นี่ไม่ได้บอกอีเอ็มมี่เลยนะคะว่าจะมา กะเซอร์ไพรส์เต็มที่เลย”



“เออ...เห็นมันบ่นถึงอะไรเซอร์ไพรส์ๆ อยู่เหมือนกัน พวกมึงเอากับไปเทใส่จานกันไป”



“ค่า...โห...ห้องพี่แมนกว้างจัง”



สองคู่รักพากันเดินเข้าไปในส่วนครัว สองสาวก็เทกับกันไป พี่งอกพี่เงิบก็ช่วยกันเทน้ำแข็งใส่กระติก เตรียมแก้วอย่างคุ้นมือ ปล่อยให้พี่แมนเธอได้เปลี่ยนชุดเป็นชุดอยู่บ้านเสร็จพอดีกับที่อีเอ็มมี่เปิดประตูห้องน้ำออกมาในชุดราชปะแตนเต็มยศ มันย่องเข้ามาเงียบๆ กอดจะกอดหมับเข้าที่เอวพี่แมนจากทางด้านหลัง



“เห้ย!!”



พี่แมนร้องลั่นด้วยความตกใจ พอหันไปเห็นเมียรักแต่งชุดไทยก็ยิ่งงงหนัก และงงต่อเนื่องเมื่ออีตุ๊ดที่ไม่ได้สังเกตถึงบุคคลอื่นภายในห้องเริ่มลวนลามสามีตัวเองด้วยคิดว่าพี่แมนเธอคงกำลังอ่อนระทวยเพราะเห็นความหล่อผ่านชุดนี้เป็นแน่



“พี่แมน...”



“อีเอ็มมี่...มึง! หยุด!!”



พี่แมนพยายามร้องห้ามเมื่อสายตาสี่คู่จากในครัวมองตรงมาอย่างตื่นตาตื่นใจ โดยที่อีกะเทยหน้ามืดนี่ก็ไม่ได้รับรู้อะไรกับใครเขา จ้องแต่จะไซ้คอ ถลกเสื้อพี่แมนอย่างเอาเป็นเอาตาย



“อีเอ็มมี่~!! กูบอกให้หยุ๊ด~!!”



“พี่แมนไม่ต้องเขินนะครับ เดี๋ยวผมจะทำให้พี่แมนมีความสุขเองนะ”



“....กูว่าไอ้แมนมันไม่ได้เขินหรอก มึงหยุดเหอะ”



อีเอ็มมี่ขมวดคิ้วกับเสียงที่แปร่งไปของผัวรัก



“เอ๊ะ...เสียงพี่แมนทุ้มขึ้นนะครับ เป็นหวัดเหรอ?”



“มึงปล่อยเห๊อะ! กูไม่อยากให้ผัวกูแดกเหล้าผสมเลือดมึงนะ”



“แหน๊ะ! คราวนี้เสียงเหมือนอีเมเม่เลยครับ พี่แมนทำได้ไงเนี่ย?”



คนเอ๋อในชุดราชปะแตนเอ่ยถามเสียงตื่นเต้น โดยมิได้สังเกตสุดที่รักที่ยืนกำหมัดแน่น หายใจแรง ปล่อยรังสีอำมหิตปกคลุมเต็มพื้นที่ชนิดที่ว่าโซดาหายซ่ากันไปเลย พี่งอกผู้คาดเดาชะตากรรมมันล่วงหน้าได้แล้วก็ยืนแผ่เมตตาให้อย่างแสนเวทนา ฝ่ายเอ็มที่เพิ่งจะรับรู้ถึงความผิดปกติในห้องก็ค่อยหันหลังมองในครัวแล้วก็พบกับรอยยิ้มเจิดจ้าดุจดอกทานตะวันของคนคุ้นหน้าทั้งสี่



“มึง...”



“พะ...พี่แมน คือเค้า...คือเค้า...”



“พวกมึงไม่ต้องตกใจนะ”



พี่แมนเงยหน้าขึ้นมายิ้มหวานให้สมาชิกในครัว ในขณะที่เมียรักหนาวสันหลังเยือก



“อีเอ็มมี่มันกำลังจะไปแคสบทละครเวทีของอักษร มันให้กูเป็นคู่ซ้อมบทให้เฉยๆ”



สี่ชีวิตที่ฟังคำอธิบายพยักหน้ารับรู้อย่างงงๆ ในขณะที่คนถูกพาดพิงทำหน้าควายเอ๋อมีเครื่องหมายปริศนาปักอยู่กลางกบาล



“อีเอ็มมี่ มึงไม่เห็นบอกกูเลยว่าจะไปแคสบท เรื่องไรวะ?”



“....ห๊ะ?”



เอ็มที่ยังตามบทสนทนาไม่ทันก็ยังสติลเอ๋อต่อไป หน้าที่ตอบคำถามจึงเป็นของพี่แมนผัวรักแทน



“นางทาส”



“อ๋อ....แหม~ ชุดมาเต็มขนาดนี้ มึงเล่นเป็นท่านเจ้าคุณใช่มะ?”



เปล่า...มันเล่นเป็นอีเย็น อีเอ็มมี่...ไหนๆ เพื่อนมึงเพื่อนกูก็อยู่กันพร้อมหน้า เราก็ซ้อมบทกันตรงนี้เลยละกัน จะได้ให้พวกมันติ-ชมด้วยไง... มึงถอดเสื้อสิ



“...ห๊ะ?”



เอ็มรู้สึกได้ถึงการข่มขู่จากประโยคคำสั่งเรียบๆ นั้น แม้มิได้อยากขัดขืน แต่สติก็ยังโหลดไม่ครบ จึงมิอาจปฏิบัติตามคำสั่งของพี่แมนได้ทันที



“กูบอกให้ถอด!”



พอเจอเสียงตวาดเหี้ยมเข้าไปหนึ่งครั้ง เอ็มก็ลนลานถอดเสื้อออกอย่างเร่งร้อน ส่งผลให้พี่แมนแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ



“อีมาม่า มึงไปเอาเชือกรองเท้าตรงระเบียงมา”



“ค...ค่ะ”



แฝดสาวผู้น้องผู้เกรงกลัวบารมีพี่แมนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร รีบวิ่งไปนำของต้องประสงค์มาประเคนให้พี่แมนตามคำสั่ง เอ็มผู้ซึ่งสัมผัสถึงลางร้ายถูกจับนั่งคุกเข่าและพันธนาการข้อมือไพล่หลังไว้ด้วยเชือกอย่างแน่นหนา พี่แมนเธอเดินอ้อมหลังเมียรักไป เลือกหวายที่มุมห้องมาหนึ่งเส้นอย่างพินิจพิเคราะห์ก่อนจะค่อยๆ สาวเท้ากลับมาหาเมียรัก



“อีเย็น มึงขโมยทองลูกกูไปใช่ไหม?!”



เพี๊ยะ!



“โอ๊ย...ซี้ด!”



“ปากแข็งเหรอมึง? ปากแข็งใช่ไหม?!”



เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!



“โอ๊ยยย...เค้าขอโทษ เค้าผิดไปแล้ว”



ต่อไปเค้าจะไม่ปล้ำพี่แมนต่อหน้าธารกำนัลอีกแล้ว...



“ขอโทษเหรอ? ขอโทษตอนนี้มันสายไปไหม? อีหื่น!!”



เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!



ไม้หวายแข็งๆ ถูกใช้ฟาดกระหน่ำลงไปบนหลังอีเอ็มมี่จนขึ้นเป็นแนวเลือดซิบๆ แสดงให้เห็นถึงพละกำลังเกินมนุษย์ของพี่แมนได้อย่างชัดเจน



“เฮ้ย...อีเม่ อีเย็นมันขโมยทองลูก แต่ทำไมท่านเจ้าคุณด่ามันว่าอีหื่นวะ?”



“กูไม่รู้ว่ะ กูก็งง”



“โถ...อีเอ็มมี่ อีเมียทาส”



พี่งอกซึ่งยืนดูอยู่นานแล้วก็ได้แต่สงสารอีเอ็มมี่เบาๆ จะหาทางฟีทเจอริ่งกับสามีแต่ละทีก็มีอุปสรรคตลอด แล้วดู...ไอ้แมนก็โมโหเลือดขึ้นหน้า ดูท่างานนี้ถ้าคุณหญิงแย้มไม่เข้าไปห้าม อีเอ็มมี่...เอ้ย! อีเย็นได้ตายคาหวายท่านเจ้าคุณแน่



“ท่านเจ้าคุณคะ พอเถอะค่ะ อิฉันหากำไลของลูกเจอแล้ว”



พี่งอกที่สวมวิญญาณคุณหญิงแย้มก้าวเข้าไปคว้าข้อมือท่านเจ้าคุณแล้วกล่าวบทได้อย่างถึงจิตวิญญาณ เรียกว่าผู้ชมอีกสามคนที่เหลือถึงกับต้องปรบมือให้อย่างแสนจะชื่นชม



“จิ๊”



“กินเหล้าเห๊อะ!”



พี่งอกคว้าหวายในมือไอ้พี่แมนไปเก็บ ส่วนสองกุมารก็ช่วยกันลากเพื่อนรักไปทำแผล ส่วนพี่งอกก็ยกสารพัดอุปกรณ์การสังสรรค์ออกมาเสิร์ฟ แล้วค่ำคืนของความสนุกสนานครั้งแรกของทั้งหกคนก็เริ่มขึ้น โดยที่พี่งอกพี่เงิบมีเมียรักเอาใจคอยชงเหล้าให้อยู่ข้างๆ ส่วนอีเอ็มมี่ พี่แมนไล่มันไปนั่งให้พ้นหูพ้นตา พอมันจะกระดื๊บเข้ามาง้อ พี่แมนก็ตวัดสายตาใส่จนมันต้องร้องงี๊ดกลับไปนั่งที่เดิม...



“อีเอ็มมี่...อย่าเสียใจไปเลยมึง โอกาสมันไม่ได้มีครั้งเดียวหรอกนะ”



ชายหนุ่มผู้อับเฉาที่นั่งจับเจ่าอยู่คนเดียวมองไอ้พี่งอกตัวดีที่ตบไหล่ปุๆ เหมือนเห็นใจเต็มที่อย่างแค้นเคือง ก็ถ้ามึงไม่ยกโขยงมากันวันนี้กูก็ได้ขยี้พี่แมนแล้วหรือเปล่า? ฮือ...แม่ง...คิดแล้วช้ำ!



.

.

.



เช้าวันรุ่งขึ้น เอ็มตื่นมาเห็นชุดไทยที่เช่ามาโดนเผาเป็นซากอยู่ที่ระเบียงก็ได้แต่ช้ำใจ กว่าจะจับจุดพี่แมนได้เจ็บตัวเข้าขั้นพิการไปไม่รู้เท่าไหร่ แล้วทุกอย่างก็มาพังพินาศลงไปกับตา ยิ่งพี่แมนยังไม่ยอมพูดด้วยซักคำตั้งแต่เมื่อคืน เอ็มก็ยิ่งช้ำหนักแทบร้องไห้เป็นสายเลือด



“พี่แมน...”



“...........”



“พี่แมนครับ”



คนที่นั่งเล่นคอมอย่างไม่สนโลกอยู่บนเตียงเหล่มองคนมีคดีที่คลานเข่าเข้ามาใกล้แล้วแนบหน้าลงบนขาอ่อนตัวเองอย่างไม่ใคร่จะไยดี



“ผมขอโทษจริงๆ นะ”



“.................”



“หายโกรธเถอะนะครับ ทำหน้าบึ้งมากๆ เดี๋ยวไม่หล่อนะ”



“................”



พอเห็นท่าพี่แมนคงไม่เลิกงอนง่ายๆ อีเอ็มมี่ก็ถอนใจอย่างสิ้นหวังก่อนจะลุกขึ้นคว้ากระเป๋าเตรียมตัวจะออกไปเรียน



“เค้าไปเรียนแล้วนะ เดี๋ยวขากลับจะซื้อน้ำแข็งใสมาฝาก รอเค้านะ”



พอสิ้นเสียงประตูห้องปิด พี่แมนยกคอมออกจากตักเพราะเมื่อกี้ก็เปิดเก๊กบังหน้าไว้เท่านั้น จริงๆ ก็ไม่ได้โกรธที่มันหื่นเท่ากับโกรธที่มันโง่ไม่รู้กาลเทศะหรอก แล้วดูมัน...ทำภาพพจน์ชุดไทยที่กูฟินเมื่อคืนป่นปี้หมดแล้ว!



พี่แมนถอนใจให้ความโมโหที่พลุ่งพล่านขึ้นมาหายวับไป ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งที่โต๊ะทำงานเล็กซึ่งมีโมเดลตึกที่พี่แมนยังแต่งไม่เสร็จวางทิ้งไว้อยู่ ไหนๆ วันนี้ก็ไม่มีคลาส พี่แมนเลยกะจะเก็บรายละเอียดที่เหลืออีกนิดหน่อยให้เสร็จ จะได้ส่งอาจารย์ไปเสียที



พี่แมนก็นั่งผสมสี ตัดแต่งอะไรไปอยู่ครู่ใหญ่ รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงเมสเสจจึงเช็ดมือกับผ้าขี้ริ้วแล้วหยิบมือถือขึ้นมาดูข้อความ



‘หายโกรธเค้ายัง?’



พี่แมนหลุดขำออกมาหนึ่งพรืด แทนที่มันจะตั้งใจเรียนนะ ยังหาเวลาส่งข้อความมาหาเขาได้อีก...พอหันกลับไปสนใจงานต่อเมสเสจก็เด้งขึ้นมาอีกรอบ



‘อย่าโกรธเลยนะ เดี๋ยวเค้าซื้อส้มตำไปง้อ’



คนกำลังจะโดนง้อด้วยส้มตำส่ายหัวอย่างระอาปนขำ เป็นแฟนกันมันรู้บ้างไหมเนี่ยว่าเขาไม่ชอบกินส้มตำน่ะห๊ะ? พี่แมนนั่งชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ตอบกลับไป



‘ไม่เอาส้มตำ อยากกินยำมาม่า’



พิมพ์เสร็จก็วางมือถือลงเพื่อรอข้อความตอบกลับ และใช้เวลารอไม่ถึงนาทีเสียงเตือนข้อความก็ดังขึ้น



‘ได้ๆ เดี๋ยวเลิกเรียนจะรีบซื้อไปให้เลย รักพี่แมนนะ!’



พี่แมนรู้สึกว่าตัวเองจินตนาการเห็นอีเอ็มมี่มีหางแกว่งระริกดีใจเหมือนหมาเห็นกระดูกอย่างไรพิกล ไม่รู้ว่าภาพนั้นมันตลกหรือยังไง...พี่แมนถึงได้นั่งยิ้มมองข้อความในมือถืออยู่นานสองนานกว่าจะดึงความสนใจกลับมาที่งานตัวเองต่อได้



พอเริ่มทำงานไปได้อีกสักพักใหญ่ เด็กสถาปัตย์ก็เหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าใกล้จะเที่ยงครึ่งแล้ว คงได้เวลาอาหารกลางวันที่เมียรักกำลังจะซื้อมาฝากพอดี พี่แมนจึงหยัดตัวลุกขึ้นหวังจะเก็บงานก่อน แต่คงเป็นเพราะลุกกะทันหันไปหน่อย ถึงได้เตะปั้กเข้าที่ขาโต๊ะจนทินเนอร์ล้มหกนองโต๊ะไหลลงไปที่ถึงพื้น



“จิ๊! ซุ่มซ่าม”



ด่าตัวเองพอย้ำความผิดพลาดก่อนจะรีบจับขวดทินเนอร์ตั้งขึ้นแล้วหาผ้ามาเช็ดบนโต๊ะขนสะอาดเอี่ยม เช็คผลงานตัวเองว่าไม่เสียหายก็โล่งใจไปเปราะใหญ่ก่อนจะย้ายมาเช็ดทินเนอร์ที่พื้น



“เฮ้ย!”



แต่พอเห็นสภาพทินเนอร์ที่ไหลลงมาจากโต๊ะแล้วพี่แมนก็หน้าซีดเผือด เพราะไอ้ตำแหน่งที่ว่า อีเอ็มมี่เสือกเอากีตาร์ตัวโปรดของมันมาวางพิงกำแพงไว้ ทินเนอร์มันเลยอาบชโลมกัดเนื้อไม้เป็นรอยด่างไปทั้งตัว ถึงพี่แมนจะหยิบมาเช็ดทำความสะอาดก็ไม่สามารถทำให้มันกลับเป็นอย่างเดิมได้แล้ว



“ทำไงดี...”



กีตาร์ตัวนี้อีเอ็มมี่รักอย่างกะลูก ขืนมันรู้ว่าเขาทำของมันเจ๊งล่ะก็...



แกร๊ก



“พี่แมน...เค้ากลับมาแล้ววว”



เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พี่แมนนึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาเสียจริงๆ...





โปรดติดตามแอ๊บต่อไป







Talk~
เค้ามาช้า เค้าขอโทษษษ



ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
หมั่นไส้อีพี่แมนจริงๆเลย ตอนหน้าให้เอ็มงอนบ้างนะคะ55ของอนหนักๆเลย เอาคืนน
เอ็มก็ทนมือทนteen ดีจริงๆเลยน้า สงสารนาง  :katai1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เอาแล้ววววววววววว
กีต้าร์สุดหวงมีรอยด่างซะแล้ว
ยังไงๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
พี่แมนสายแกร่งละลายกะอิเอ็มมี่แล้วพี่
ห่วงของ ของเมียซะลนลานขนาดนี้จะออกหน้าไหนได้อีก
ยำมาม่าอร่อยแน่งานนเน้
 :hao7:

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สงสารเอ็มมี่ 555555

ออฟไลน์ missredlip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แอ๊บที่ 14: เจอตุ๊ดงอน...ให้รีบง้อ



ตุบ!



ถุงยำมาม่าและน้ำแข็งไสในมือหล่นลงพื้นแตกกระจาย เอ็มมองลูกรักในมือพี่แมนที่ถูกทำร้ายจนกลายสภาพเป็นด่างดวงอย่างน่าสงสาร พี่แมนเห็นหน้าเมียรักที่ช็อกน้ำตาคลอเบ้าก็ใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม



“คือ..กู”



“พี่แมน...ทำไมทำแบบนี้”



“ไม่...กู”



เอ็มคว้ากีตาร์สุดหวงมาไว้ในอ้อมกอดของตนแบบก่อนจะตวาดใส่พี่แมนทั้งน้ำตาแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน



“โกรธผมก็ลงที่ผมดิ้ พี่ไปพาลมันใส่มันทำไม?!!”



“กูไม่ได้…! อีเอ็มมี่ จะไปไหน?!!”



พี่แมนผวาลุกขึ้นคว้าแขนเมียรักที่กำลังจะหนีออกจากห้องไว้หน้าตาตื่น เมื่อคนที่กำลังเสียใจขั้นหนักไม่คิดจะฟังคำอธิบายอะไรทั้งนั้น



“มึงฟังกูก่อน กูไม่ได้ตั้งใจนะ มันเป็นอุบัติเหตุ”



พี่แมนละล่ำละลักพูด แต่ดูเหมือนอีเอ็มมี่จะเสียใจเกินกว่าจะรับฟังอะไรได้ทั้งนั้น



“ผมจะกลับบ้าน...”



“อีเอ็มมี่...”



พี่แมนทอดเสียง เมื่อเมียรักใช้ดวงตาแดงก่ำจ้องมาเหมือนกึ่งบังคับกึ่งขอร้อง คนเป็นสามีจึงต้องยอมผละมือออกจากแขนของเจ้าตัวอย่างยอมแพ้



“ละ...แล้วจะไปกี่วัน?”



“ไม่รู้”



เอ็มเก็บของที่จำเป็นใส่กระเป๋าแล้วสะพายบ่า ก่อนจะเดินออกไปจากห้องโดยมีพี่แมนเดินตามเงียบๆ จะอ้าปากพูดอะไรก็ไม่กล้า จนกระทั่งทั้งสองคนลงมาถึงหน้าหอและเอ็มโบกแท็กซี่กลับบ้านไปโดยไม่ยอมแม้แต่จะมองหน้าพี่แมน



ฝ่ายพี่แมนที่หน้าเสียอย่างเห็นได้ชัดก็ได้แต่มองแท็กซี่ไปจนลับตา ไม่ลืมจดจำป้ายทะเบียนไว้ด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะกลับขึ้นไปบนห้องแล้วทำความสะอาดคราบน้ำแข็งไสกับยำมาม่าที่เมียรักมันซื้อมาง้อ...แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้กิน



เจ้าของห้องนั่งๆ นอนๆ ดูเวลาไปอย่างไร้จุดหมาย จะเล่นคอมก็เบื่อ จะทำงานต่อก็ไม่มีสมาธิ พอมองเวลาว่าครบชั่วโมงแล้วก็คว้ามือถือขึ้นมากดพิมพ์ข้อความแล้วส่งออกไปทันที



‘ถึงบ้านรึยัง?’



แล้วพี่แมนก็นั่งรอแล้วรอเล่า ทว่าไม่มีข้อความตอบกลับใดๆ จากคนที่เป็นห่วง พี่แมนเลยตัดสินใจกดโทรออก แต่ปลายสายก็ปล่อยให้สัญญาณเรียกเข้ามันดังอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งสายตัดไป



หลังจากพยายามอยู่สามครั้ง พี่แมนก็มั่นใจแล้วว่าอีเอ็มมี่มันโกรธจนไม่ยอมรับโทรศัพท์ ถึงจะรู้ดีว่าเป็นความผิดของตัวเองจริงๆ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าอย่างน้อยก็น่าจะฟังเขาพูดสักคำ...ไปโดยที่ยังโกรธกันแบบนี้ มันค้างคานะเว่ย!



“เฮ้อ~ ไอ้แมนเอ๊ย ไม่น่าซุ่มซ่ามเลย!”



หลังจากนอนโทษตัวเองไปพักใหญ่ พี่แมนก็ตัดสินใจได้ว่าควรจะใส่เวลาอีคุณแฟนมันได้สงบสติอารมณ์เสียก่อน บางทีอีกเย็นนี้มันอาจจะโผล่หน้ากลับมาที่ห้องก็ได้ มันติดเขาจะตาย...อยู่ห่างเกินวันก็งุ่นง่านอย่างกับขาดยาแล้ว



“กินมาม่าดีกว่า”



เพราะแดดตอนบ่ายมันร้อนจนไม่อยากเดินออกไปหาอะไรกินข้างนอก และตอนนี้เมียรักก็ไม่อยู่ทำข้าวไข่เจียวหอมๆ ให้กินแล้ว พี่แมนก็ต้องพึ่งบะหมี่สำเร็จรูปไปก่อน คนหุ่นบางไม่สมนิสัยเดินเข้าครัวแกะมาม่าใส่ชามเทน้ำร้อนใส่สามนาทีแล้วเปิดจานที่ใช้แทนฝาออกสูดดมควันหอมฉุย ก่อนจะใช้ตะเกียบคีบเส้นที่เด้งดึ๋งกำลังดีเข้าปาก แต่พอเคี้ยวๆ ไปพี่แมนก็ต้องทำหน้ามุ่ยอย่างไม่ถูกใจ ยอมรับเลยว่าอีเอ็มมี่เมียเขาน่ะ สกิลแม่ศรีเรือนมันสูงเลอเลิศจริงๆ ขนาดมาม่าธรรมดามันยังต้มออกมายังไงก็ไม่รู้...อร่อยกว่านี้อ่ะ!



นั่งถอนใจอยู่อีกสามนาทีจนเส้นมันอืดไปทั้งชาม พี่แมนก็ต้องตัดใจกินๆ ให้ท้องหายหิวไปก่อน พร้อมภาวนาในใจให้เมียตุ๊ดอย่างอนนาน รีบกลับมาหากูเสียทีเถอะ...เฮ้อออออ



.

.

.



“ไอ้แมน ทำไมตามึงดำเป็นแพนด้างี้วะ?”



“กูขอใช้ตัวช่วย เปลี่ยนคำถาม”



พี่งอกหน้าเหวอ เมื่อหัวโจกผู้ซึ่งพกขอบตาดำมาเรียนในวันนี้ปัดคำถามเพื่อนทิ้งเสียอย่างดื้อๆ สมุนมือขวาจึงต้องเรียบเรียงคำถามเพื่อต่อกรกับเพื่อนรักใหม่อีกครั้ง



“งั้น...เมื่อคืนทำเหี้ยไรอยู่ ไม่หลับไม่นอน?”



“กูไม่ตอบ”



คราวนี้พี่แมนตัดบทอย่างไร้เยื่อใยกว่าคำถามแรก แต่พี่งอกผู้ซึ่งวันนี้ต่อมเสือกทำงานดีเป็นพิเศษก็มิคิดทดท้อยอมแพ้แต่ประการใด



“ไรวะ? เพื่อนถามแค่นี้ตอบไม่ได้เหรอ?”



พี่งอกทำเสียงน้อยอกน้อยใจให้พี่แมนเหล่หางตามองอย่างหวาดผวา เดี๋ยวนี้มีเมียตุ๊ดต้องทำเสียงเหมือนตุ๊ดตามเมียด้วยอ๋อวะ? มันเป็นเทรนด์เหรอ? กูทำบ้างดีไหม?



“เพื่อนงอก...มึงรู้ไรป้ะ?”



พี่แมนเรียกเพื่อนเสียงแบ๊ว ถามเพื่อนเสียงแบ๊ว เอียงคอ 45 องศา ทำตาใสอย่างน่าจับขึ้นปกนิตยสารวัยรุ่นเพื่ออัพเดทเทรนด์แฟชั่นและความสวยความงาม



“รู้ไรเหรอ? เพื่อนแมน”



“ตอนเนี้ย กู...อารมณ์ไม่ดีอยู่นิดหน่อยอ่ะ”



พี่แมนพูดไปจิกเล็บตัวเองไปอย่างน่ารัก



“แล้วไงอ๋อ เพื่อนแมน?”



“คือ...กูแบบ...อยากได้ ‘เหยื่ออารมณ์’ อ่ะ เพื่อนงอกสนใจเป็นให้กูป้ะ?!”



เพื่อนงอกสดับดังนั้นก็หลับตาแน่นเล่นซีนอารมณ์เหมือนพระเอกละครเวทีผู้ผิดหวังจากความรัก แล้วพูดกับแกนคณะด้วยน้ำเสียงจริงจัง



“แมน...ถ้ามึงพูดกับกูว่า... ‘งอก...เงียบปากไปป่ะ’ กูยังเจ็บน้อยกว่านี้เลยว่ะ!”



พี่งอกพูดแล้วก็สะบัดหน้าหนีอย่างช้ำๆ แต่กระนั้นท่านหัวหน้าแก๊งค์ก็มิได้สนใจจะเยียวยาอารมณ์เพื่อนแต่อย่างใด เจ้าตัวยังให้ความสนใจกับอาจารย์หน้าชั้นกับมือถือที่วางอยู่ข้างหนังสือเรียน



“ไอ้แมน...”



เพื่อนเงิบที่นั่งอยู่ทางซ้าย เรียกชื่อแกนคณะโดยไม่ได้หันมอง เพราะตาก็มัวแต่มองเล็คเชอร์บนกระดาน มือก็จดยิกด้วยกลัวว่าอาจารย์จะลบข้อความไปเสียก่อน



“ไรวะ?”



“น้องมาม่าฝากถามมึงว่า อีเอ็มมี่ไปไหน? ทำไมไม่มาเข้าเรียน”



พี่แมนที่กำลังใช้สมาธิอยู่กับการส่องเฟสบุ๊คเมียรักเผื่อมันจะอัพสเตตัสให้หายคิดถึงได้บ้าง ก็สะบัดสายตาใส่สมุนฝ่ายซ้ายทันทีที่ได้ยินคำถามรบกวนจิตใจ



“มึงนี่ยิ่งกว่าไอ้งอกอีกนะ”



“เอ๊า! กูพูดไรผิดวะเนี่ย?”



พี่เงิบโวยเพื่อน ก็เมียกูฝากถาม กูก็ถาม เดี๋ยวนี้แม่ง...พูดอะไรก็ไม่เข้าหูมึง ใช่สิ...กูมันไม่ใช่อีเอ็มมี่นี่!



“เดี๋ยวนะ...กูว่ามันมีประเด็น ไอ้แมน เมียมึงหายอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย?”



“เมียเมอที่ไหน? วู้ววว”



แกนคณะเฉไฉ แต่สองคู่ซี้ก็ไม่ปล่อยโอกาสขยี้แกนฯหลุดรอดไปได้



“ถึงกูจะดูหน้าโง่ๆ แต่กูไม่โง่นะเว่ย กูเป็นคนทำให้พวกมึงได้สมสู่...”



“สมหวัง!”



พี่งอกตัดมุขพี่เงิบก่อนที่บทสนทนาจะติดเรทไปเสียก่อน



“เออ...สมหวังในความรัก มึงคิดว่าพวกกูจะไม่รู้เหรอว่ามึงกับอีเอ็มมี่อ่ะได้เสียกันไปถึงไหนแล้ว?”



“ใช่ๆ”



พี่งอกพี่เงิบร่วมมือกันเออออห่อหมกรับลูกกันเป็นอย่างดี ไอ้พี่แมนคิดจะปฏิเสธก็จำนนต่อหลักฐานได้แต่ค้านอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียง



“ยังไม่ถึงไหนสักหน่อย”



“เอาน่า...เดี๋ยวก็ได้”



พี่งอกตบไหลาเพื่อนปุๆ คล้ายเห็นใจ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าไอ้แมนมันก็ยังไม่อยากได้เท่าไหร่หรอก แต่อีเอ็มมี่มันก็พยายามของมันอยู่ทุกวัน



“แล้วนี่เมียมึงหายไปไหนเนี่ย? น้องม่าบอกปิดเครื่องไม่รับโทรศัพท์ด้วยนะ โกรธไรกันเปล่าวะ?”



พี่แมนเหล่เพื่อนซ้ายทีขวาที เอาวะ...เผื่อพวกมันจะช่วยได้!



   “คือว่า....เรื่องมันเป็นแบบนี้...”



   .

.

.



หลังจากปรึกษากับเพื่อนงอกและเพื่อนเงิบแล้ว พี่แมนก็ได้ความว่าจะให้แม่สองกุมารกลับบ้านไปสืบให้ว่าอีเอ็มมี่มันอยู่ดีมีสุขหรือเปล่า? หายโกรธพี่แมนหรือยัง? ส่วนพี่แมนก็จะรอฟังข่าวอยู่ที่หอ สรุปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอ....



พี่แมนหยิบมือถือขึ้นมามองอีกครั้ง ตั้งแต่เมื่อวาน...อีเอ็มมี่ก็ไม่โทรมาสักกริ๊ง ข้อความก็ไม่มี เฟสบุ๊คก็ไม่อัพ ทวิตเตอร์ ไลน์  ไอจี ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวสักอย่าง พี่แมนนั่งเขี่ยมือถือเล่นอยู่อย่างนั้นก่อนจะตัดสินใจเปิดหน้าข้อความ...แต่กลับไม่รู้จะพิมพ์อะไรลงไปดี



‘…กินข้าวยัง?’





ส่งไปแล้วก็นั่งลุ้น ลุ้นอยู่นานสองนานก็ไม่มีสัญญาณตอบกลับจากตุ๊ดขี้งอนเสียที พี่แมนเลยตั้งใจใหม่ สงสัยถามสารทุกข์สุกดิบมันจะไม่เพียงพอ



‘กูอยากกินข้าวไข่เจียวฝีมือมึงนะ’



พิมพ์ไปหน้าก็แดงไป นี่ก็ยอมให้สุดๆ แล้วนะอีตุ๊ดโง่! มึงควรจะสำเหนียกตัวได้และกลับมาทำข้าวไข่เจียวให้กูกินได้แล้วนะ! ทว่าผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง...นอกจากจะไม่มีกะเทยหน้าไหนมาทำข้าวไข่เจียวให้กินแล้ว แม้แต่ข้อความตอบกลับยังไม่มี...



พี่แมนมองค้อนมือถือตัวเองต่างหน้าเมียรักอย่างนึกน้อยใจ จะตัดขาดกันจริงๆ ใช่มะ? ทีกูโกรธมึงส่งข้อความมาคำสองคำกูยังหาย แล้วนี่อะไร...??



พี่แมนฮึดฮัดอยู่ไม่นานก็หยิบมือถือขึ้นมาใหม่ เปิดหน้าข้อความ...คิดคำไว้ในใจแล้วพิมพ์



‘คิดถ...’



เจ้าตัวพิมพ์ได้แค่นั้นก่อนจะเม้มปากแน่นแล้วโยนมือถือทิ้งไว้บนเตียง จากนั้นก็ลุกขึ้นไปหยิบงานโมเดลที่คั่งค้างไว้ขึ้นมาทำต่อโดยไม่สนใจอะไรอีก



.

.

.



เช้าวันต่อมา...



ไอ้พี่แมนก็มายืนอยู่หน้าบ้านผลบุญส่งด้วยการช่วยเหลือของสองแฝดผู้อยู่บ้านติดกันจนได้ สองสาวเมเม่และมาม่าเดินนำรุ่นพี่เข้าไปในตัวบ้านอย่างคุ้นเคย บ้านของเมียเขาถือว่าไม่ใหญ่ไม่เล็ก เป็นบ้านเดี่ยวขนาดอบอุ่นสีขาวเทาที่มีสวนเล็กๆ อยู่หน้าบ้าน ภายในบ้านจัดแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นทำให้ดูโล่งและสะอาดตา



“คุณป้าสวัสดีค่ะ”



“อ้าว...หนูเม่ หนูม่า มาหาตาเอ็มเหรอจ๊ะ? แล้วนั่นพาใครมาด้วยล่ะ?”



หญิงวัยกลางคนท่าทางใจดีทักทายเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กของลูกชาย ก่อนจะทอดสายตาอ่อนโยนมายังบุคคลแปลกหน้าที่เดินตามเข้ามา พี่แมนยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างมีสัมมาคารวะทันที



“สวัสดีครับคุณน้า แมนครับ เป็นรุ่นพี่ของ...เอ่อ...เอ็มครับ”



ไม่รู้ว่าแม่มันรู้เรื่องที่ลูกชายเป็นตุ๊ดหรือเปล่า? เซฟไว้ก่อนละกัน...



“หืมม์? เดี๋ยวนี้ตาเอ็มสนิทกับเพื่อนรุ่นพี่ด้วย ดีจัง...มีอะไรก็ช่วยดูๆ ให้ป้าหน่อยนะจ๊ะ ลูกชายป้าคนนี้บางทีก็ดี บางทีก็ดื้อ นี่จู่ๆ ก็หนีกลับบ้านไม่ยอมไปเรียน เห็นว่ากีตาร์ตัวโปรดพัง...ทำตัวเป็นเด็กๆ ไม่มีความรับผิดชอบไปได้ แม่สร้อย...แม่สร้อยอยู่รึเปล่าจ๊ะ? เอาน้ำให้แขกหน่อยซิ”



คุณน้านั่งเด็ดดอกโสนไปก็บ่นลูกชายไป แถมยังสั่งให้แม่บ้านคนสนิทยกน้ำมาให้แขกดื่ม โดยไม่ได้สังเกตสีหน้าพี่แมนที่ไม่สู้ดีเอาเสียทันทีที่ได้ยินเรื่องกีตาร์ ฝ่ายสองแฝดก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนมองหน้ารุ่นพี่สุดโหดที่ตอนนี้หงอยเป็นแมวซึมอย่างเป็นห่วง



“แม่สร้อย...เธอไปตามตาเอ็มให้หน่อยสิ บอกว่าคุณพี่แมนเขามาหา”



“ค่ะ คุณชื่น”



แม่บ้านวัยใกล้เคียงกับเจ้าของบ้านรับคำแล้วเดินขึ้นชั้นสองไปสักพัก ก่อนจะกลับลงมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก



“คุณหนูเธอบอกว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะ ไม่อยากพบใคร”



แม่สร้อยรายงานเสียงอ่อย ยิ่งทำให้สีหน้าของพี่แมนแย่ลงไปอีก น้องกุมารแฝดเลยทนเฉยอยู่ไม่ได้ คล้องแขนคุณป้าคนละข้างแล้วพาไปซุบซิบกันในครัว



“คืออย่างงี้นะคะคุณป้า พี่แมนเนี่ย...เขาเป็นคนทำกีตาร์อีเอ็มมี่พังน่ะค่ะ”



น้องเมเม่อธิบาย



“ตายจริง...เหรอจ๊ะ?”



“ค่ะ คุณป้า แต่พี่แมนเขาไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ ลูกชายคุณป้าน่ะไม่ยอมฟังพี่แมนอธิบายเลย”



“ตายจริง...งอนกันอย่างกับแฟนเลยนะจ๊ะ”



สองกุมารสะดุ้งเฮือก คุณป้าจะเซนส์ไวไปละนะคะ! ฝาแฝดมองหน้ากันอย่างมีเลศนัยก่อนจะหัวเราะกลบเกลื่อน



“คุณป้าขา...คุณป้าช่วยพี่แมนหน่อยนะคะ นะคะ”



แฝดพี่บีบนวดต้นแขนคุณป้าข้างซ้าย ส่วนแฝดน้องก็บีบแขนข้างขวา พร้อมส่งเสียงออดอ้อนอย่างน่ารักให้คนแก่ที่ไม่มีลูกสาวได้รู้สึกสดใสขึ้นมาจนต้องส่งเสียงหัวเราะเบาๆ



“จ้ะๆ ช่วยก็ช่วย”



สองแฝดแท็คมือกันก่อนจะส่งเสียงหัวเราะคิกคักอย่างยินดี แล้วทั้งสามคนก็ควงแขนกันกลับไปหาพี่แมนที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ที่โซฟา



“คุณพี่แมน ตามป้ามาทางนี้จ้ะ”



แล้วพี่แมนก็ถูกแม่ยายลากขึ้นบันไดไปจนถึงหน้าประตูห้องนอนห้องหนึ่ง เจ้าของบ้านเคาะประตูห้องนอนลูกชายตัวดีแล้วส่งเสียงเรียก



“ตาเอ็ม เปิดประตูให้แม่หน่อยลูก”



“จ๋าแม่”



ได้ยินเสียงกุกกักในห้องอยู่ชั่วครู่ก่อนที่ประตูจะเปิดออกจากด้านใน เอ็มมองหน้าพี่แมนที่ยืนอยู่ด้านหลังแม่ตัวเองอย่างตกใจ ผิดกับอีกคนที่แทบจะยิ้มออกมาเมื่อได้เห็นหน้าเมียรักสักที



“คุณพี่แมนเข้าไปค่ะ เข้าไป”



“แม่~”



คุณชื่นฤทัยรุนหลังแขกของลูกเข้าไปในห้องส่วนตัวของเจ้าตัวโดยไม่ฟังเสียงร้องทัดทาน คนเป็นแม่ถลึงตาดุใส่ลูกชายที่เสียมารยาทเป็นเชิงสั่งสอน



“คุยกันให้รู้เรื่องนะจ๊ะ”



แล้วคุณแม่ยายก็ยิ้มให้พี่แมนแทนคำอวยพรก่อนจะปิดประตูให้เสร็จสรรพ ทิ้งไว้เพียงสองผัวเมียที่ยังทะเลาะกันอยู่ยืนมองหน้ากันอยู่หน้าประตูห้อง พี่แมนใช้โอกาสที่ยังเรียบเรียงคำพูดไม่ได้สำรวจห้องของอีกฝ่ายด้วยสายตา ก็จัดเป็นระเบียบดีตามนิสัยมัน แต่ดูเป็นห้องของผู้ชายมากกว่าที่คิด สายตาของพี่แมนเลื่อนมาหยุดอยู่ที่กีตาร์ตัวโปรดของเมียรักที่นอนหมดสภาพอยู่บนเตียงก่อนที่แกนคณะจะถอนหายใจออกมาเบาๆ



“อีเอ็มมี่...”



“............”



“วันนั้นกูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ มันเป็นอุบัติเหตุ มึงคง...ไม่ได้คิดว่ากูจะทำแบบนั้นกับของรักของมึงได้ลงหรอกใช่ไหม?”



เอ็มถอนใจ เบือนหน้าหนีสายตาเว้าวอนของพี่แมนไปทางอื่นก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงไม่อ่อนโยนเหมือนเช่นเคย



“ครับ วันนั้นผมโมโหเลยพูดไปอย่างนั้น จริงๆ ผมก็ไม่ได้คิดว่าพี่แมนตั้งใจทำหรอก”



ได้ยินดังนั้นพี่แมนก็ยิ้มออก รีบก้าวเข้าไปจับมือเมียรักไว้ด้วยความดีใจ



“แปลว่า...มึงหายโกรธกูแล้วใช่ไหม?”



“ไม่ครับ”



เจ้าของกีตาร์ตัวปัญหาดึงมือออกจากการเกาะกุมพร้อมปฏิเสธ เล่นเอาพี่แมนหน้าเสีย



“พี่แมนรู้ไหมว่ากีตาร์ตัวนี้เป็นกีตาร์ตัวแรกของผม ผมเก็บตังค์ซื้อเองตอนม.3 หัดเล่นมันอยู่เป็นปีๆ จนมันทำให้ผมได้แชมป์เยาวชนตอน ม.5 ถึงมันจะไม่ได้มีราคาแพงเท่าตัวอื่นๆ ที่พ่อกับแม่ซื้อให้ แต่มันมีคุณค่าทางความทรงจำนะ”



“..........”



พี่แมนได้แต่ยืนเงียบ ปล่อยให้คนโกรธพรั่งพรูความรู้สึกที่มีต่อกีตาร์ตัวนั้นออกมา



“ผมรักมันมาก ผมเลยโกรธที่พี่ทำมันพัง แต่พี่รู้ไหม? ผมโกรธยิ่งกว่าที่จนถึงตอนนี้พี่ก็เอาแต่พูดว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจโดยไม่ขอโทษผมสักคำ!



“กู...คือ...”



“พี่กลับไปก่อนเถอะ...ขอเวลาผมสักพัก ตอนนี้ผมยังทำใจให้อภัยพี่ไม่ได้หรอก”



อีเอ็มมี่เอ่ยปากไล่พี่แมนก่อนจะหันหลังให้ ยิ่งทำให้คนถูกเมินรู้สึกทั้งแย่ทั้งใจหายมากขึ้นไปกว่าเดิม เพราะตลอดมาเป็นฝ่ายถูกออดอ้อนเอาใจมาตลอด ตอนนี้เลยรู้สึกเหมือนในอกมันวูบโหวงอย่างบอกไม่ถูก



คนเป็นฝ่ายผิดขยับเข้าใกล้ร่างเบื้องหน้า ยื่นมือออกไปขยำชายเสื้อยืดด้านหลังของอีกฝ่ายไว้เหมือนเรียกความสนใจให้หยุดฟัง



“กู...ขอโทษนะ...กูเสียใจจริงๆ”



สิ่งที่ตอบรับประโยคนั้นมาคือความเงียบ และท่าทีนิ่งเฉยจากอีกฝ่าย พี่แมนจึงตัดสินใจปล่อยมือจากชายเสื้อนั้นแล้วเดินออกไปจากห้อง ดวงตากลมโตจ้องมองคนที่ยังโกรธด้วยสายตาวาดหวังจะได้ยินคำรั้ง แต่กลับไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมาจนกระทั่งประตูห้องปิดลง



แกนคณะสถาปัตย์เดินก้มหน้าลงบันไดลงมาชั้นล่าง ยกมือไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งที่หลบสายตา คว้ากระเป๋าแล้วเดินออกจากบ้านไปท่ามกลางความกังวลของสองสาวฝาแฝดที่พอจะรับรู้ได้ว่าทั้งสองคนคงยังเคลียร์กันไม่ได้ ฝ่ายคุณชื่นฤทัยที่เห็นสภาพของรุ่นพี่ก็ก้าวฉับๆ ขึ้นไปบนห้องแล้วเปิดประตูผางเข้าไปหาลูกชายที่นั่งอยู่บนเตียงทันที



“ตาเอ็ม! ลูกพูดอะไรกับคุณพี่แมนเขา?”



“หนูก็แค่ให้เขากลับไปก่อน”



“ไม่ใช่แค่นั้นแน่ ไม่งั้นคุณพี่แมนเขาจะเดินร้องไห้ออกไปแบบนั้นเหรอ!”



เอ็มตกตะลึงไปชั่วขณะ พอจับใจความได้ เจ้าตัวก็รีบวิ่งออกจากห้องลงบันไดออกไปข้างนอกบ้านทันที โชคดีที่ยังเห็นพี่แมนเดินอยู่หลังไวๆ เจ้าถิ่นจึงรีบสาวเท้าเข้าประชิดตัวแล้วคว้าแขนแฟนตัวเองไว้ทันที ฝ่ายที่รู้ตัวว่าถูกไล่ตามมาก็สะบัดหน้าซ่อนน้ำตาแล้วใช้หลังมือเช็ดป้อยๆ



พี่แมนไม่ได้ดิ้นหนีจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย แม้จะไม่ได้สะอึกสะอื้นคร่ำครวญเหมือนพวกนางเอกละครแต่น้ำตาเจ้ากรรมก็ไม่หยุดไหลเสียที ได้แต่ยืนเช็ดอยู่อย่างนั้น ความรู้สึกผิด เสียใจ น้อยใจ มันปะดังปะเดเข้ามาจนสับสนไปหมด



รู้แค่ไม่อยากให้โกรธ ไม่อยากถูกโกรธ ไม่ชอบ...ไม่ชอบ...



เอ็มถอนใจกับภาพตรงหน้าก่อนจะจูงแขนพี่แมนที่เดินก้มหน้าก้มตาให้กลับเข้ามาในบ้านแล้วขึ้นไปยังห้องนอนโดยมีคุณแม่มองภาพนั้นอยู่ห่างๆ ก่อนจะปลีกตัวไปให้ลูกได้จัดการปัญหาเป็นการส่วนตัว



เจ้าของห้องคว้ามือบางที่ปาดเช็ดน้ำตาจนเห่อแดงไปทั้งหน้าไว้แล้วลากเข้าไปในห้องน้ำ คว้าผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำบิดหมาดมาซับหยาดน้ำตาและคราบบนแก้มออกให้อย่างเบามือ



“หยุดร้องนะครับ”



พอได้ยินเสียงอ่อนโยนแบบที่เคยหู พี่แมนก็น้ำตาหยดแหมะอีกรอบ ทำเอาอีกฝ่ายต้องถอนใจแรงอย่างนึกเป็นห่วงตากลมโตที่แดงช้ำไปหมด



“ตาช้ำหมดแล้ว”



“ดีกันนะ”



นิ้วก้อยเล็กๆ ยื่นมาให้ตรงหน้า เสียงพี่แมนที่เคยดุด่ากลายเป็นสั่นเครือ ดวงตาเปื้อนน้ำช้อนมองอย่างเว้าวอนและวาดหวัง เห็นอย่างนี้ใครใจแข็งต่อได้ก็ไม่ใช่มนุษย์แล้ว



“ครับ...ดีกันแล้ว หยุดร้องนะ”



เอ็มคล้องนิ้วก้อยตัวเองกับนิ้วของคุณแฟน แล้วเอ่ยปลอบเหมือนโอ๋เด็กตัวเล็กๆ



“ไม่ได้ร้อง...”



“ครับ ไม่ได้ร้อง แค่น้ำตาไหลเองเนอะ”



พอรู้ตัวว่าโดนล้อ พี่แมนเลยจัดกำปั้นเน้นๆ ทุบปั้กเข้าที่อกเมียรักจนร้องซี้ด ก่อนไอ้ตัวดีจะตีเนียนเข้ามาโอบเอวพี่แมนที่รู้สึกไม่อยากขัดขืนเสียดื้อๆ เข้าสู่อ้อมกอด



“พี่แมนขี้แย”



“หยุดพูดไปเลย”



“ถ้าผมไม่ตามไปพี่แมนจะกลับหอทั้งน้ำตางี้เลยเหรอ?”



“ใช่...แล้วกูก็จะเลิกกับมึงเลยด้วย”



เอ็มหรี่ตาทำสีหน้าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์



“เลิกได้เหรอ? เสียน้ำตาให้กันขนาดนี้ ท่าทางพี่แมนจะรักผมมากนะ”



คนถูกล้อไม่หยุดหน้าแดงเห่อร้อน จะหลบลี้หนีหน้าก็ไม่รู้จะหาหนทางไหนได้ จึงต้องซบลงกับอกล่ำๆ ของเมียเป็นที่หลบภัยไปก่อน



“บอกให้ชื่นใจสักคำสิครับ”



คนร้ายกาจกระซิบเสียงอ้อนข้างหู มิวายทำเสียงงุงิน่ารักไม่สมตัวจนคุณแฟนหลุดยิ้ม



“บอกก่อนเร็ว นะ นะ”



หัวกลมๆ สะบัดไปมาอยู่กับหน้าอกคนอ้อน แต่กระนั้นเอ็มก็ไม่ปล่อยให้โอกาสที่นานทีมีหนแบบนี้หลุดมือไป



“ผมรักพี่แมนนะ”



ได้เห็นใบหูแดงๆ ผ่านไรผมยุ่งๆ หัวใจก็พองจนไม่รู้จะพองยังไงแล้ว



“พี่แมนล่ะ?”



“................................สิ...”



“อะไรนะ?”



เจ้าของห้องได้ยินเสียงจิ๊ปากจากคนในอ้อมกอดเมื่อถูกเซ้าซี้ พี่แมนเงียบไปนานจนอีกฝ่ายนึกว่าวันนี้คงหมดหวังจะได้ยินแล้ว แต่จู่ๆ คนปากแข็งก็พูดเสียงงุบงิบขึ้นมาเบาๆ แต่ก็ยังชัดถ้อยชัดคำ



“...รักสิ ไม่รักจะตามมาง้อเหรอ?”



พูดจบก็แทบจะมุดเข้าอกเขาอยู่แล้ว เมียหื่นของพี่แมนหัวเราะพอใจเบาๆ ก่อนจะไซ้ริมฝีปากไปตามใบหูร้อนๆ แก้มแดงๆ จนถึงริมฝีปากบางๆ ที่ทั้งนุ่ม ทั้งหวาน ทั้งชื้นชวนลิ้มลอง ริมฝีปากได้รูปขบเม้มริมฝีปากของคนในอ้อมกอดย้ำๆ จากนุ่มนวลเป็นเน้นหนักแล้วสอดลิ้นเข้าไปควานไล้ทั่วโพรงปาก จูบคราวนี้ใช้เวลานานเป็นพิเศษ นานแบบที่ว่าพี่แมนสติหลุดจนลืมวิธีหายใจของตัวเองไปแล้วนั่นแหละ เอ็มถึงได้ยอมละปากออก



“พี่แมน...วันนี้ค้างที่นี่นะ?”



คนถูกรุกรานที่กำลังกอบโกยออกซิเจนเข้าปอด รวบรวมสติประมวลคำถามนั้นไปพร้อมๆ กับการสู้รบกับมือซุกซนของอีกฝ่ายที่ยังไม่เลิกลูบไล้ไปทั่วทั้งตัว



“อืม...”



และหลังจากที่ความสับสนตีกันในหัวจนได้ที่ พี่แมนก็เลือกที่จะตอบรับไปเช่นนั้น...







โปรดติดตามแอ๊บต่อไป





#แอ๊บรัก





Talk~

ตอนหน้านี่ยังไงน้า~



ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
กรี๊ดดด ตอนหน้าพี่แมนจะได้เป็นเมียมั้ยนะ 55555555 ตอนนี้ทั้งสะใจ ทั้งสงสาร พี่แมน หงอยเป็นแมวหมดคราบแกนสุดโหดเลย 5555 เอ็มนี่เกางจริงๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สนุกมากเลยอะ แต่งได้ดีมากครับ ภาษาดี บทดี โอ๊ยชอบมากๆๆ เลิฟเลยคนแต่ง

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนหน้า..ตอนหน้า..ตอนหน้า..ชูป้ายไฟ.. :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Pa'veaw

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-1
ตอนหน้าพี่แมนตกเป็นเมีย เอ้ยได้เอ็มมี่เป็นเมียไหมนะ

รอติดตามเลยค่าาาา

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
นั่นสิ ตอนหน้าจะยังไงหนอ

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
เล่นใหญ่รัชดาลัยได้ผลดีเลิศ
ต่อไปกีตาร์ตัวนี้จะสำคัญเพิ่มอีกข้อ คือ ได้พี่แมนเป็นภรรยา โอ๊ะๆ เป็นซะมี ชิมิ
เกาะขอบจอ รอตอนหน้า
 :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด